The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปดุษฎีบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ เรื่อง ละครเพลง เรื่องโทนรัก ณรงค์ฤทธิ์ เชาว์กรรม 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ละครเพลง เรื่องโทนรัก ณรงค์ฤทธิ์ เชาว์กรรม 2566

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปดุษฎีบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ เรื่อง ละครเพลง เรื่องโทนรัก ณรงค์ฤทธิ์ เชาว์กรรม 2566

134 1.3) ทำนองเพลงหญิงไทยใจงาม 2) บรรจุทำนองเพลงไทยเดิมเพื ่อการร้องเจรจาตอบโต้ของตัวละคร จำนวน 5 เพลง คือ 2.1) ทำนองเพลงเขมรอกโครง 2.2) ทำนองเพลงเขมรเอวบาง 2.3) ทำนองเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว 2.4) ทำนองเพลงเขมรกำปอ 2.5) ทำนองเพลงเขมรขอทาน ภาพที่27 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ ผู้บรรจุเพลง ที่มา: ผู้วิจัย จากการสัมภาษณ์ข้อมูลประกอบการบรรจุเพลงของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ ได้ให้เหตุผลในการคัดเลือกเพลงบรรจุในบทละครว่า (1) คัดเลือกจากกลุ่ม ทำนองจากละครร้อง จำนวน 1 เพลง คือ เพลงฝรั ่งตัด เนื ่องจากเป็นต้นเค้าของละครเพลง (2) คัดเลือกจากกลุ่มทำนองเพลงเขมร จำนวน 6 เพลง เนื่องจากมีเสียงหน้าทับกลองที่สอดคล้องสัมพันธ์ กับแนวคิดของละครเพลงในการสอดแทรกการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงรำโทน (3) คัดเลือกจากทำนอง เพลงรำวงมาตรฐาน จำนวน 1 เพลง เพื่อสื่อถึงการพัฒนารำโทนสู่รำวงซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งของละคร เพลง เรื่องโทนรัก


135 ขั้นตอนที่ 2 สร้างสรรค์ทำนองเพลงขึ้นใหม่ จากแนวคิดการกำหนดทำนองเพลงไทยเดิมเป็นทำนองหลักในเพลง ประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยได้มีแนวคิดในการสร้างสรรค์เพลงประกอบการแสดง ขึ้นใหม่ โดยคัดเลือกจากกลุ่มแนวเพลงไทยสากลที่ใช้ในการบรรยายความคิดของตัวละคร ซึ่งผู้วิจัยได้ ประพันธ์ขึ้นใหม่โดยใช้การสร้างสรรค์แบบผสมผสานระหว่างแนวเพลงไทยสากลและแนวเพลงลูกทุ่ง คือเพลงสู ่กรุง ทั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์ในการสร้างสรรค์ทำนองเพลงสู ่กรุงจาก นายนพนรรจ์ แย้มบุญมี นักวิชาการทั่วไป คณะศิลปนาฏดุริยางค์ และนักศึกษาหลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สาขาวิชา ดุริยางคศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ขั้นตอนที่ 3 คัดเลือกเพลงรำโทน จากแนวคิดการสอดแทรกการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงรำโทนลงไปในเนื้อหา ของบทละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยจึงได้นำประสบการณ์จากงานวิจัย เรื่อง การศึกษารูปแบบ ดั้งเดิมสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุ ได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยจากสำนัก งานวิจัยแห ่งชาติ (วช.) ประจำปีพุทธศักราช 2563 ซึ ่งผลการวิจัยครั้งนั้นเป็นการศึกษารูปแบบ การแสดงรำโทนบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี คณะรำโทนดังกล่าวมีเพลงร้องที่มีความน่าสนใจ สะท้อนให้เห็นวัตถุประสงค์ของการละเล่นรำโทนที่มีความเรียบง่ายทางภาษา คำร้องและทำนองเพลง รวมทั้งจังหวัดลพบุรีมีความเชื่อมโยงกับยุคสมัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ของละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยจึงได้คัดเลือกเพลงของรำโทนบัวชุมมาใช้ประกอบการแสดงละคร เพลง เรื่องโทนรัก จำนวน 3 เพลง คือ (1) เพลงสาวอายุสิบห้า (2) เพลงรำโทนบัวชุม (3) เพลงลา และเพลงรำโทนของลพบุรี จำนวน 2 เพลง คือ (1) เพลงแปดนาฬิกา (2) ผู้นำชาติ จากขั้นตอนข้างต้นในการสร้างสรรค์เพลงประกอบการแสดง ประกอบด้วย แนวเพลงทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ 1) แนวเพลงไทยสากล : ใช้สำหรับการร้องเดี่ยวและร้องคู่ บรรยายความคิด ของตัวละคร จำนวน 3 เพลง คือ เพลงรากเรา เพลงมนต์รักนวลนาง เพลงเส้นทางแห่งรัก 2) แนวเพลงไทยเดิม : ใช้สำหรับการร้องตอบโต้ของตัวละครจำนวน 5 เพลง 3) แนวเพลงรำโทน : ใช้สำหรับการร้องหมู่แบบธรรมดา จำนวน 5 เพลง 4) แนวเพลงไทยสากลผสมเพลงไทยลูกทุ่ง : ใช้สำหรับการร้องเดี่ยว จำนวน 1 เพลง คือเพลงสู่กรุง


136 1.3.3 ดนตรีประกอบการแสดง การสร้างสรรค์ดนตรีมีขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบทำนองหลักของเพลง ในแต่ละทำนองของเพลงไทยเดิม ที่ผู้เชี่ยวชาญบรรจุ ว่ามีลักษณะทำนองอย่างไร ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบเมโลดี้(Melody) และเนื้อร้อง โดยการใส ่เมโลดี้ (Melody) ลงไปในเนื้อร้องให้เกิดทำนองเพลงเพื่อเตรียมเข้าสู่การประพันธ์ ขั้นตอนที่ 3 จัดทำดนตรีเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ สำหรับการสร้างสรรค์ ดนตรีประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก เริ่มต้นจากการบรรเลงเพลงด้วยเครื่องดนตรีไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์เพลง โดยผู้วิจัยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ อาจารย์อนิพนธ์ สุขกุล และนายนพนรรจ์ แย้มบุญมีคณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ได้ดำเนินการบรรเลงดนตรีตามบทละครเพลงเรื่องโทนรัก เพื่อเป็นแนวทาง ในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง ภาพที่ 28 การจัดทำดนตรีเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ ที่มา: ผู้วิจัย ขั้นตอนที่ 4 กำหนดแบบร่างของแนวดนตรี ผู้วิจัยได้ดำเนินการกำหนดแบบร่าง ในการสร้างสรรค์ของแนวดนตรี ซึ่งได้จำแนกได้ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 กำหนดแบบร่างของการสร้างสรรค์ดนตรีจากทำนองเพลงไทยเดิม จำนวน 8 เพลง


137 รูปแบบที่ 2 กำหนดแบบร่างของการสร้างสรรค์ดนตรีขึ้นใหม่ แนวเพลง ไทยสากลผสมแนวเพลงลูกทุ่ง จำนวน 1 เพลง ขั้นตอนที่ 5 ออกแบบส่วนนำ (Intro) ของเพลงและวางโครงสร้างเพลง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของเพลง ให้มีความน่าสนใจ และผู้ฟังสามารถจดจำทำนองเพลงจากส่วนนำได้ ขั้นตอนที่ 6 เริ่มเขียนแบบร่างทำนองหลักของเพลงแบบดิจิทัล (Musical Instrument Digital Interface : MIDI) จากโปรแกรม Garage Band ขั้นตอนที่ 7 เขียนทำนองหลักและใส่จังหวะ (Percussion) ขั้นตอนที่8 กำหนดกลุ่มโน้ตดนตรีในเพลง (Chord) เพื่อให้แต่ละเพลงสอดคล้อง กับบทบาทของตัวละครและความไพเราะของบทเพลง ขั้นตอนที่ 9 เรียบเรียงและสร้างสรรค์เพลงด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเสียง สังเคราะห์ เมื่อกำหนดแบบร่างของการสร้างสรรค์แนวเพลงแล้ว จากนั้นดำเนินการสร้างสรรค์ดนตรี ทั้ง 2 รูปแบบ คือ 1) การสร้างสรรค์ดนตรีจากทำนองเพลงไทยเดิม 2) การสร้างสรรค์ดนตรีขึ้นใหม่ แนวเพลงไทยสากลผสมแนวเพลงลูกทุ่ง ซึ่งทั้งสองรูปแบบสร้างสรรค์ด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และ เสียงสังเคราะห์ ตลอดจนการเพิ่มเสียงของเครื่องดนตรีสากลและดนตรีไทย ซึ่งมีกระบวนการดังนี้ ระยะที่ 1 กำหนดระดับเสียงของกลุ่มตัวโน้ตทั้งหมดในบันไดเสียงที่ใช้ใน การสร้างสรรค์โดยกำหนดระดับเพลงที่ใช้ในละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยจำแนกได้ดังนี้ ระดับเสียง G ได้แก่ เพลงรากเรา ระดับเสียง C ได้แก่ เพลงเขมรอกโครง เพลงเขมรเอวบาง ระดับเสียง D ได้แก่ เพลงสู่กรุง เพลงมนต์รักนวลนาง ระดับเสียง F ได้แก ่ เพลงเขมรปากท ่อ เพลงเขมรกำปอ เพลงเขมร ขอทาน ระดับเสียง A ได้แก่ เพลงเส้นทางแห่งรัก ระยะที่ 2 สร้างสรรค์เพลงด้วยอิเล็กทรอนิกส์และเสียงสังเคราะห์ ตลอดจน การเพิ่มเสียงของเครื่องดนตรีสากลและดนตรีไทย ระยะที่ 3 ผู้แสดงฝึกการขับร้องกับดนตรีที่สร้างสรรค์ฉบับร่าง เพื่อให้การ ออกเสียงของผู้แสดงมีความสัมพันธ์กับบันไดเสียง เมื่อผู้แสดงได้ฝึกขับร้องกับดนตรีฉบับร่าง พบว่า


138 เพลงสู่กรุง มีบันไดเสียงที่ไม่สัมพันธ์กับนักแสดง จึงมีการปรับให้มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งจากเดิมเพลง สู่กรุงใช้บันไดเสียง A ปรับเปลี่ยนเป็น C ทำให้เสียงขับร้องของนักแสดงกับบันไดเสียงสัมพันธ์มากขึ้น ขั้นตอนที่ 10 กำหนดเครื่องดนตรีและเรียบเรียงให้เข้ากับแนวคิดของเพลงและ ตัวละคร จำแนกการกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ได้ดัง ตารางที่ 16 ตารางที่ 16 การกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง ฉาก เพลง คีย์เพลง เครื่องดนตรีสังเคราะห์ เครื่องดนตรีไทย หน้าทับ เสียงโทน 1 รากรำโทน รากเรา G - เปียโน - กลองชุด - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เสียงสังเคราะห์ Epic Cloud Formation - เสียงสังเคราะห์ Female Choir - เครื่องบาส - ทิมพานี - ฟลุต - เบสท์ - โทน - ระนาด - ฉิ่ง - ฉาบเล็ก หน้าทับ เขมร


139 ตารางที่16 การกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง (ต่อ) ฉาก เพลง คีย์เพลง เครื่องดนตรีสังเคราะห์ เครื่องดนตรีไทย หน้าทับ เสียงโทน 1 รากรำโทน เขมรอกโครง C - เปียโน - กลองชุด - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เสียงสังเคราะห์ Female Choir - ทิมพานี - ฟลุต - โอโบ - สามเหลี่ยม - โทน - ระนาด - ฉิ่ง หน้าทับ เขมร


140 ตารางที่ 16 การกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง (ต่อ) ฉาก เพลง คีย์เพลง เครื่องดนตรีสังเคราะห์ เครื่องดนตรีไทย หน้าทับ เสียงโทน 2 ต้องมนต์รัก สู่กรุง D - เปียโน - กลองชุด - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เสียงสังเคราะห์ Epic Cloud Formation - เสียงสังเคราะห์ Female Choir - เครื่องบาส - เบสท์ - กีตาร์ - กลองทอม - ระนาด 2 ต้องมนต์รัก มนต์รัก นวลนาง D - เปียโน - กลองชุด - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เสียงสังเคราะห์ Epic Cloud Formation - ทิมพานี - เบสท์ - ระนาด


141 ตารางที่ 16 การกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง (ต่อ) ฉาก เพลง คีย์เพลง เครื่องดนตรีสังเคราะห์ เครื่องดนตรีไทย หน้าทับ เสียงโทน 3 พิทักษ์ศิลป์ เขมรเอวบาง C - เปียโน - กลองชุด - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เสียงสังเคราะห์ Female Choir - ทิมพานี - ฟลุต - โอโบ - สามเหลี่ยม - โทน - ระนาด - ฉิ่ง หน้าทับ เขมร 4 คืนถิ่นโทน เขมรปากท่อ F - เปียโน - ระฆังราว - สามเหลี่ยม - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - โอโบ - ทิมพานี - โทน - ระนาด - ฉิ่ง หน้าทับ เขมร


142 ตารางที่ 16 การกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง (ต่อ) ฉาก เพลง คีย์เพลง เครื่องดนตรีสังเคราะห์ เครื่องดนตรีไทย หน้าทับ เสียงโทน 4 คืนถิ่นโทน เส้นทาง แห่งรัก A - เปียโน - ระฆังราว - กลองชุด - สามเหลี่ยม - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - กีตาร์ - เสียงสังเคราะห์ Epic Cloud Formation - ฟลุต - เบสท์ - ระนาด 5 โชน วัฒนธรรม เขมรกำปอ F - เปียโน - สามเหลี่ยม - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เสียงสังเคราะห์ Epic Cloud Formation - ทิมพานี - โทน - ระนาด - ฉิ่ง หน้าทับ เขมร


143 ตารางที่ 16 การกำหนดเครื่องดนตรีในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดง (ต่อ) ฉาก เพลง คีย์เพลง เครื่องดนตรีสังเคราะห์ เครื่องดนตรีไทย หน้าทับ เสียงโทน 5 โชนวัฒนธรรม เขมร ขอทาน F - เปียโน - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - เสียงสังเคราะห์ Epic Cloud Formation - เสียงสังเคราะห์ Female Choir - ทิมพานี - โทน - ระนาด - ฉิ่ง หน้าทับ เขมร ที่มา: ผู้วิจัย ขั้นตอนที่ 11 กำหนดเสียงของเครื่องดนตรีโทนลงในไปในเพลงประกอบการ แสดง จากแนวคิดของการนำเสียงของเครื่องดนตรีโทนผสมผสานลงไปในดนตรีประกอบการแสดง ละครเพลงเรื่องโทนรัก ตามข้อเสนอแนะของศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กิจขันธ์ ประธานการสอบโครง ร่างวิทยานิพนธ์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2565 ผู้วิจัยได้นำเสียงของในการตีโทน เช่น เสียง “ป๊ะ โท่น ป๊ะ โท่น ป๊ะ โท่น โท่น” และ “ป๊ะ โท่น โท่น ป๊ะ โท่น โท่น” เป็นต้น ลงไปในบทร้องตอบโต้ของ ตัวละคร ขั้นตอนที่ 12 บันทึกเสียงร้อง เนื่องจากระยะเวลาในการซ้อมของตัวละครหลักและ ตัวละครอื่น ๆ มีระยะเวลากำจัด ทำให้ผู้วิจัยนำเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาในการบันทึกเสียงร้องของ นักแสดง เพื ่อให้สะดวกต ่อบันทึกวีดิทัศน์ในเวลาเพียง 1 วัน แต ่ในการพูดเจรจาของตัวละครใช้ รูปแบบการพูดสดเพราะนักแสดงสามารถแสดงอารมณ์และด้นสดตามความรู้สึกในการบันทึกวีดิทัศน์ โดยการบันทึกเสียงร้องประกอบด้วยตัวละครหลักและตัวละครรอง จำนวน 6 คน นักร้องที่ร้องเพลง รำโทนและร้องลูกคู่ 2 คน ดังตารางที่ 17


144 ตารางที่17 การจำแนกเพลงและนักแสดงในการบันทึกเสียงร้อง เพลง ผู้แสดง บทบาท ผลที่เกิดขึ้น/แนวทางแก้ไข เพลงรากเรา นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล โทน ดำเนินการบันทึกเสียงจำนวน 3 ครั้ง เนื ่องจากการร้องเข้า ท ่อนแรกของเพลงไม ่ตรงกับ ทำนองเพลง ผู้วิจัยจึงเสนอ แน ว ท าง ด้ ว ย วิ ธี ก า รใ ห้ นักแสดงซ้อมร้องจนมั ่นใจ และสามารถเข้าร้องเพลงท่อน แรกได้ เพลงเขมรอกโครง นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล นายชวัลวิทย์ ตลิ่งทอง โทน พ่อเทิด ดำเนินการบันทึกเสียง 2 ครั้ง เนื ่องจากเสียงของนักแสดง บทบาทพ่อเทิด มีความกังวล และตื่นเต้นในการร้อง ส่งผล ให้เสียงมีความสั ่น ผู้วิจัยจึง เสนอแนวทางให้นักแสดงทำ สมาธิ สงบอารมณ์ส ่งผลให้ นักแสดงสามารถบันทึกเสียง และถ ่ายทอดอารมณ์ตามบท ละครได้


145 ตารางที่17 การจำแนกเพลงและนักแสดงในการบันทึกเสียงร้อง (ต่อ) เพลง ผู้แสดง บทบาท ผลที่เกิดขึ้น/แนวทางแก้ไข เพลงสู่กรุง นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล โทน ดำเนินการบันทึกเสียง 3 ครั้ง เนื ่องจากเพลงนี้เป็นการ สร้างสรรค์ขึ้นใหม ่ทั้งทำนอง เพลงและเนื้อร้อง จึงทำให้ นักแสดงเกิดความกังวลและ ร้องท่อนเพลงสลับกัน ผู้วิจัย จึงเสนอแนวทางแก้ไขโดยให้ นักแสดงพักซ้อมร้องและสร้าง ความมั ่นใจให้กับนักแสดง ด้วยการให้นักแสดงออกแบบ วิธีการและใช้เทคนิคในการ ร้องอย่างอิสระ เพลงมนต์รักนวลนาง นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล นางสาวฉันท์ชนก พรหมศิริกรรณ นายพิภพ เลิศวิลัย โทน จิตรา อภิวัฒน์ ดำเนินการบันทึกเสียง 3 ครั้ง เนื่องด้วยเพลงนี้ใช้นักแสดงใน การร้อง 3 คน และต้องเว้น ท ำ น องส ำ ห ร ั บ ก า ร พู ด บรรยายสดบนเวทีให้พอดีกับ เวลาและทำนองเพลง จึงทำ ให้เกิดปัญหาเรื่องระยะเวลา ไม่พอดี ผู้วิจัยได้เสนอแนวทาง ใช้วิธีการนับจังหวะเพลงและ ส ่งสัญญาณให้นักแสดงได้ ทราบเมื่อใกล้ถึงทำนองดนตรี ส่งเข้าร้อง


146 ตารางที่17 การจำแนกเพลงและนักแสดงในการบันทึกเสียงร้อง (ต่อ) เพลง ผู้แสดง บทบาท ผลที่เกิดขึ้น/แนวทางแก้ไข เพลงเขมรเอวบาง นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล นายชลธิศ แสนสุข โทน แก้ว ดำเนินการบันทึกเสียง 4 ครั้ง เนื ่องจากเพลงนี้นักแสดงต้อง สื่อสารอารมณ์ที่แสดงถึงความ ตื่นเต้นและดีใจที่ได้พบเพื่อนที่ จ ากกั นม าน าน ซ ึ ่งพบ ว่า นักแสดงถ ่ ายทอดอ า รมณ์ การร้องเพลงไม ่สอดคล้องกับ อารมณ์ของบทละคร ผู้วิจัยจึง เสนอแนวทางให้นายเฉลิมรัฐ จ ุลโลบล (ผู้ชนะเลิศรายการ เพลงเอกซีซั่น 2) เป็นผู้ช่วยใน การฝึกซ้อมให้นักแสดงสื่อ อารมณ์ของเพลงและอารมณ์ ของตัวละคร เพลงเขมรปากท่อ นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล นางสาวฉันท์ชนก พรหมศิริกรรณ นายชลธิศ แสนสุข โทน จิตรา แก้ว ดำเนินการบันทึกเสียง 3 ครั้ง เนื ่องจากการขับร้องเพลงนี้มี นักแสดง 3 คน พบว่านักแสดง ร้องเพลงไม ่ตรงระดับเสียง เพราะมีทั้งระดับของชายและ หญิงผสมกัน ผู้วิจัยจึงได้เสนอ แนวทางให้มีการทดลองซ้อม ร้องให้สอดคล้องเหมาะสมกับ ระดับเสียงของเพลง


147 ตารางที่17 การจำแนกเพลงและนักแสดงในการบันทึกเสียงร้อง (ต่อ) เพลง ผู้แสดง บทบาท ผลที่เกิดขึ้น/แนวทางแก้ไข เพลงเส้นทางแห่งรัก นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล โทน ดำเนินการบันทึกเสียง 3 ครั้ง โดยนักแสดงซึ ่งเป็นนักร้อง อาชีพไม ่พอใจกับผลงานการ ร ้ อง ข อง ต น เ อง ใ น ก า ร บันทึกเสียงครั้งที ่ 1 และ 2 ดังนั้นจึงขอบันทึกเสียงใหม่ใน ครั้งที ่ 3 และสามารถร้องได้ อย่างสมบูรณ์ เพลงเขมรกำปอ นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล นายพิภพ เลิศวิลัย นางสาวชุลีกร อินวัน (ลูกคู่) นายตะวัน คงอิ่ม (ลูกคู่) โทน อภิวัฒน์ ดำเนินการบันทึกเสียง 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เริ่มจากการขับร้อง ตามทำนองเพลง พร้อมทั้งการ แสดงอารมณ์ของตัวละคร พบ ว ่ า นั กแสดงบทบ าท อภิวัฒน์ มีความกังวลในการ แสดงอารมณ์ของตัวละคร ทำให้อารมณ์ของสองตัวละคร ไม ่สมดุลกัน ผู้วิจัยเสนอแนว ทางการบันทึกเสียงขึ้นใหม่ โดยชี้แจงรายละเอี ยดให้ นายพิภพ เลิศวิลัย พร้อมสร้าง อารมณ์ของตัวละครให้สมดุล มากขึ้นในการบันทึกเสียง ครั้งที่ 2


148 ตารางที่17 การจำแนกเพลงและนักแสดงในการบันทึกเสียงร้อง (ต่อ) เพลง ผู้แสดง บทบาท ผลที่เกิดขึ้น/แนวทางแก้ไข เขมรขอทาน นายราเมศวร์ โพธิเวส นางสาวชุลีกร อินวัน (ลูก คู่) นายตะวัน คงอิ่ม (ลูกคู่) ผู้พันเปรื่อง ดำเนินการบันทึกเสียง 2 ครั้ง เนื่องจากนักแสดงได้ทบทวน และฝึกซ้อมมาอย่างดี แต่เมื่อ การบันทึกเสียงเกิดปัญหาใน ก า ร อ อ ก เ สี ยง ต รง ค ำ ว่ า “คงขำคม เหมาะเป็นศิลป์ แผ ่นดินไทย” ซึ่งนักแสดง อ อ ก เ สี ยง ว ่ า “ คง ค ม ข ำ เหมาะเป็นศิลป์แผ่นดินไทย” ผู้วิจัยจึงได้เสนอแนวทาง การบันทึกเสียงใหม่เพื ่อให้ คำร้องตรงกันกับบทละคร เพลงสาวอายุสิบห้า เพลงรำโทนบัวชุม เพลงลา เพลงแปดนาฬิกา เพลงผู้นำชาติ นางสาวชุลีกร อินวัน นายตะวัน คงอิ่ม - ดำเนินการบันทึกเสียง 2 ครั้ง เนื ่องจากเป็นเพลงเฉพาะใน การรำโทนจากจังหวัดลพบุรี ส ่งผลให้นักร้องเกิดความ สับสนในทำนองเพลง แต่เมื่อ ทบทวนและฝึกซ้อม ทำให้เกิด ความถูกต้องแม ่นยำในการ ร้องเพลง ที่มา: ผู้วิจัย จากการบันทึกเสียงทำให้ผู้วิจัยพบว่า ห้องบันทึกเสียงและอุปกรณ์ ตลอดจนเทคนิควิทยาการ มีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการ โดยการบันทึกเสียงการขับร้องของนักแสดง จำนวน 8 เพลง ผู้วิจัย ใช้เวลาในการดำเนินการจำนวน 3 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเวลาเป็นไปตามที่ผู้วิจัยกำหนด นอกจากนี้ปัญหา หลักที ่พบ คือ ลักษณะอาการประหม ่า ตื ่นเต้นและกังวลของนักแสดง โดยเฉพาะนักแสดงที่เป็น


149 นักศึกษาในหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เนื่องด้วยการบันทึกร่วมกับนักแสดงที่เป็นศิลปินมืออาชีพ ส่งผลให้ต้องมีการบันทึกเสียงหลายครั้ง เพื่อความสมบูรณ์ของเพลง ภาพที่29 การบันทึกเสียงสำหรับการฝึกซ้อมและบันทึกวีดิทัศน์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่30 การบันทึกเสียงสำหรับการฝึกซ้อมและบันทึกวีดิทัศน์ ที่มา: ผู้วิจัย ขั้นตอนที่ 13 การปรับดนตรีฉบับสมบูรณ์ปรับเสียงให้มีความสมดุล (balance) และเข้ากับบทบาทและอารมณ์ของตัวละคร เมื่อดำเนินการบันทึกเสียงเสร็จสิ้นแล้ว ผู้วิจัยได้นำเสียง ที่ได้จากการบันทึกสู่การปรับความสมดุลระหว่างเสียงร้องกับเสียงดนตรีด้วยโปรแกรม Garage Band โดยคำนึงถึงบทบาทและอารมณ์ของตัวละครเป็นหลัก เมื่อดำเนินการสร้างสรรค์ดนตรีฉบับร่าง ผู้วิจัยได้ดำเนินการให้นักแสดง ทุกคน ทดลองร้องกับดนตรีที่สร้างสรรค์ฉบับร่างเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับทำนองเพลง นักแสดง


150 ทุกคนได้ทดลองร้องกับดนตรีสร้างสรรค์ฉบับร ่าง พบว ่า เพลงสู ่กรุงที ่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่มีจังหวะ ค่อนข้างช้าไม่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้วิจัย จึงดำเนินการปรับจังหวะให้กระชับและเร็วขึ้น โดยกำหนดให้มีความเร็วในระดับความเร็วปานกลาง (Allegro) เมื ่อทดลองออกแบบลีลาท ่าทาง ประกอบเพลงหลังจากการปรับแก้จังหวะของเพลงสู่กรุงให้มีความกระชับและเร็วขึ้นพบว่าลีลาท่าทาง มีความสัมพันธ์ดีขึ้น ขั้นตอนที่ 14 บันทึกไฟล์เสียงฉบับสมบูรณ์ (Export) เพื่อการนำไปฝึกซ้อมและ บันทึกวีดิทัศน์การแสดง เนื ่องด้วยละครเพลง เรื ่องโทนรัก มีแนวคิดในบันทึกวีดิทัศน์การแสดง จึงต้องมีการบันทึกเสียงร้องไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกต่อการบันทึกวีดิทัศน์การแสดง โดยขั้นตอนนี้ เป็นการบันทึกเสียงในห้องบันทึกเสียง ชั้น 10 อาคารคณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จากขั้นตอนการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก สรุปได้ว่าประกอบด้วย 14 ขั้นตอน ทำให้ผู้วิจัยได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ขั้นตอนการสร้างสรรค์ดนตรี อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ยังพบปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการสร้างสรรค์ ตลอดจนค้นพบแนวทางในการ แก้ไขจนสามารถดำเนินการได้เสร็จสมบูรณ์


151 ตารางที่18 เพลงฉบับสมบูรณ์ที่ใช้ประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก เพลงรากเรา เพลงเขมรอกโครง เพลงมนต์รักนวลนาง เพลงเขมรเอวบาง เพลงเขมรปากท่อ เพลงเขมรเหลือง เพลงเขมรกำปอ เพลงเขมรขอทาน เพลงรากเรา รูปแบบที่ 2 เสียงประกาศ รวมเพลงรำโทนลพบุรี เพลงสู่กรุง ที่มา: ผู้วิจัย


152 1.3.4 นักแสดง การสร้างบุคลิกของตัวละครนั้นผู้วิจัยนำแนวคิดมาจากการศึกษาละครเพลงของรพี พร ที่กล่าวไว้ในบทที่ 2 เรื่องตัวละคร รวมทั้งการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างบุคลิก ตัวละคร โดย ธัญญา สังขพันธานนท์(2539, น. 174) ได้แสดงทรรศนะเกี่ยวกับตัวละครไว้ดังนี้ “...ตัวละครส่วนใหญ่จะมี “ลักษณะความเป็นมนุษย์” เช่นเดียวกับผู้อ่านหรือผู้ชม เช่น หน้าตา อุปนิสัย ใจคอ สถานภาพทางสังคม อันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปรู้จักกันดีอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้อาจ เรียกได้ว่าเป็น “แบบของคน”...” จากข้อความข้างต้นการสร้างบุคลิกในละครเพลง เรื่องโทนรัก จึงมุ่งเน้นให้ตัวละคร ที่ปรากฏในการแสดงละครเป็นตัวแทนของกลุ่มคนในสังคม เมื่อผู้ชมชมละครเพลง เรื่องโทนรัก จะ สามารถรับรู้และจินตนาการร่วมไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในละครได้ การสร้างบุคลิกของตัวละครใน ละครเพลง เรื่องโทนรัก จำแนกได้ดังนี้ 1. ตัวละครหลัก คือ ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่อง เป็นศูนย์กลาง ของเรื่อง เป็นตัวละครที่ก่อให้เกิดปมปัญหาและการขัดแย้ง ตัวละครหลักในละครเพลง เรื่องโทนรัก ประกอบด้วย 1.1 บทพระเอก อายุประมาณ 20 - 25 ปี เป็นนักดนตรีประจำคณะรำโทน จังหวัดลพบุรี หน้าตาดี มีจิตใจดี มีความมุ่งมั่น กล้าคิด กล้าทำ 1.2 บทนางเอก อายุประมาณ 20 - 25 ปี นักร้องวงดนตรีสากล ทายาท หลวงประสิทธิ์ดนตรีกาล หน้าตาสวย มองโลกในแง่ดี จิตใจงาม มั่นคงในความรัก ชอบช่วยเหลือคน 1.3 บทตัวร้าย อายุประมาณ 20 - 30 ปี นักร้องวงดนตรีสากล มีนิสัยชอบเหยียด หยาม มีความเห็นแก่ตัว ดำเนินชีวิตตามการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมและค่านิยมของสังคม 2. ตัวละครรอง คือ ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญรองจากตัวละครหลัก เป็นตัวละครที่ มีบทบาทในการดำเนินเรื่องในด้านการสนับสนุนบทบาทของตัวละครหลัก ช่วยส่งเสริมการดำเนิน เรื่องรองลงมาจากตัวละครหลัก 2.1 บทพ่อ อายุ70 ปี เป็นหัวหน้าคณะรำโทน จังหวัดลพบุรี เป็นนักอนุรักษ์ นิยม รักและศรัทธาในศิลปวัฒนธรรมไทย 2.2 บทเพื่อนพระเอก อายุประมาณ 20 - 25 ปีเป็นหนุ่มอารมณ์ขัน ขี้ขลาด ชอบพูด ชอบเจรจา 2.3 นายทหารชั้นสูง อายุประมาณ 50 ปีข้าราชการทหาร มีอำนาจ มีหน้าที่ ตอบสนองนโยบายผู้นำชาติ


153 3. ตัวละครประกอบหรือนักแสดงหมู่มวล อายุประมาณ 20 - 40 ปีคือ ตัวละคร ที่มีบทบาทในการดำเนินเรื่องที่สร้างขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสมจริง สร้างบรรยากาศหรือมีส่วนเสริม ให้เรื่องในช่วงเหตุการณ์นั้นดำเนินต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีทำหน้าที่สร้างสีสันให้กับละคร ร่วมร้อง เพลง เต้น เข้าร่วมฉากกับตัวละครหลัก แต่ไม่มีบทพูดเป็นหลัก แต่อาจจะใช้เสียงพูดหรือร้องตามตัว ละครหลัก ผู้วิจัยจำแนกตัวละครในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ดังตารางที่ 19 ตารางที่ 19 ตัวละครในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ลำดับ ประเภท ตัวละคร ตัวละคร ข้อมูลนักแสดง บุคลิก ตัวละคร 1 ตัวละครหลัก โทน มีทักษะในการร้องใน ระดับดีมาก มีทักษะการ แสดงละคร อาย ุประมาณ 20 - 25 ปี เป็นนักดนตรีประจำคณะรำ โทน จังหวัดลพบุรี หน้าตาดี มีจิตใจดี มีความมุ่งมั่น กล้า คิด กล้าทำ 2 ตัวละครหลัก จิตรา มีทักษะในการขับร้องใน ระดับดีมาก มีทักษะ นาฏศิลป์ไทยและ นาฏศิลป์ร่วมสมัย อายุประมาณ 20 -25 ปี หญิง สาวที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือ มีน้ำใจ มองคนจากภายใน 3 ตัวละครหลัก อภิวัฒน์ มีทักษะในการขับร้องใน ระดับดี มีทักษะ นาฏศิลป์ไทยและ นาฏศิลป์ร่วมสมัย อาย ุประมาณ 20 - 25 ปี ชายหน ุ ่มที ่ทะเยอทะยาน และพร้อมทำทุกอย ่างเพื่อ ตนเอง 4 ตัวละครรอง พ่อเทิด มีทักษะในการขับร้องใน ระดับดี มีทักษะ นาฏศิลป์ไทยและ นาฏศิลป์ร่วมสมัย อายุประมาณ 70 ปี หัวหน้า คณะรำโทน จังหวัดลพบุรี เป็นนักอนุรักษ์นิยม รักและ ศรัทธาในศิลปวัฒนธรรมไทย


154 ตารางที่ 19 ตัวละครในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ลำดับ ประเภท ตัวละคร ตัวละคร ข้อมูลนักแสดง บุคลิก ตัวละคร 5 ตัวละครรอง แก้ว มีทักษะในการขับร้อง ในระดับดี มีทักษะ นาฏศิลป์ไทยและ นาฏศิลป์ร่วมสมัย อาย ุประมาณ 20 - 25 ปี ชายหนุ ่มอารมณ์ขัน ขี้ขลาด ชอบพูด ชอบเจรจา 6 ตัวละครรอง ผู้พันเปรื่อง มีทักษะในการขับร้อง ในระดับดี มีทักษะ นาฏศิลป์ไทยและ นาฏศิลป์ร่วมสมัย อายุประมาณ 50 ปีข้าราชการ ทห า ร มีอำน าจ มีหน้ าที่ ตอบสนองนโยบายผู้นำชาติ 7 ตัวละคร ประกอบ ชาวกรุง (ชาย 3 คน หญิง 7 คน) ชาวบ้านรำ โทน (ชาย 3 คน หญิง 3 คน) มีทักษะในการขับร้อง มีทักษะนาฏศิลป์ไทย และนาฏศิลป์ร่วมสมัย อายุประมาณ 20 - 40 ปี เป็น ต ั ว ล ะ ค ร ป ร ะ ก อ บ ห รื อ นักแสดงมวลหมู่ มีหน้าที่ช่วย สร้างสีสัน ร้องเพลง เล่นละคร ที่มา: ผู้วิจัย จากการศึกษานักแสดงที ่ปรากฏในละครเพลงของรพีพร ผสมผสานกับการค้นคว้าข้อมูล การแสดงละครเวที คุณสมบัตินักแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก นอกจากจะมุ่งเน้นถึงทักษะการร้อง เพลงเป็นอันดับแรกแล้วนั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต่อมา คือ การคัดเลือกนักแสดงที่มีทักษะใน การแสดงละคร มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทการแสดงและศิลปะของการแสดง ซึ่ง สดใส พันธุม โกมล ได้อธิบายถึงคุณสมบัติของนักแสดง ไว้ว่า ผู้ที่จะเป็นนักแสดงที่ดีจำเป็นต้องมีความเข้าใจในชีวิตมนุษย์อย่างกว้างขวาง เข้าใจตนเอง และผู้อื ่น มีความเข้าใจในบทบาทที ่จะแสดง และมีความเข้าใจในศิลปะของการแสดงเป็นอย่างดี ความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้นักแสดงสามารถเข้าถึงบทบาทหรือที่เรียกกันในวงการละคร


155 ว่า “ตีบทแตก” เนื่องจากเข้าใจถึงเหตุผลเบื้องต้นจากการกระทำและคำพูดทุกคำของตัวละคร ทำให้ สามารถสวมบทบาทได้อย่างลึกซึ้งแนบเนียนเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ชม (สดใส พันธุมโกมล, 2531, น. 38) ดังนั้นการคัดเลือกนักแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกนักแสดงแบบ เจาะจง (Purposive sampling) โดยกำหนดคุณสมบัติดังนี้ 1) เป็นผู้ที่มีกระแสเสียงที่ไพเราะและมีทักษะด้านการร้องในระดับดี 2) มีทักษะการแสดงละครและทักษะนาฏศิลป์ 3) เป็นผู้ที่มีสุขภาพกายและใจ ที่สมบูรณ์แข็งแรง 4) เป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ จากคุณสมบัติข้างต้นทำให้ผู้วิจัยได้ใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยการคัดเลือกจากนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่า หลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะ ศิลปนาฏดุริยางค์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เนื ่องจากผู้วิจัยเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรฯ และ อาจารย์ผู้สอน ทำให้เล็งเห็นถึงศักยภาพของนักศึกษาที่สามารถร้องเพลง และแสดงละครได้ ทำให้ การคัดเลือกนักแสดงละครเพลงเรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 ได้นักแสดงที่มีคุณสมบัติครบตามที่กำหนดไว้ ข้างต้น โดยนักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 มีรายนามดังต่อไปนี้ ตารางที่ 20 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัว ละคร รายละเอียดนักแสดง 1 โทน นายนิวัฒน์ นาคนวล - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


156 ตารางที่ 20 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร รายละเอียดนักแสดง 2 จิตรา นางสาวจิรชยา สินธุชัย - พนักงานราชการ ตำแหน่งนักแสดงและนักร้อง กองดุริยางค์ทหารอากาศ - ศิษย์เก่าหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 3 อภิวัฒน์ นายพิภพ เลิศวิลัย - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 4 พ่อเทิด นายชวัลวิทย์ ตลิ่งทอง - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


157 ตารางที่ 20 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัว ละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 5 แก้ว นายชลธิศ แสงสุข - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 6 ผู้พัน เปรื่อง นายราเมศวร์ โพธิเวส - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 7 ชาวกรุง 1 นางสาวจิราภา อินทบุหรั่น - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 8 ชาวกรุง 2 นางสาวนฤพร เบิกบาน - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


158 ตารางที่ 20 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัว ละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 9 ชาวกรุง 3 นางสาวผกามาศ ยิ้มย่อง - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 10 ชาวกรุง 4 นางสาวเกศรินทร์ นามเสน - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 12 ชาวบ้าน รำโทน 2 นายสมาพล ไชยสมบูรณ์ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 13 ชาวบ้าน รำโทน 3 นายสหสวรรษ มีบุญ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


159 ตารางที่ 20 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัว ละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 14 ชาวบ้าน รำโทน 1 นางสาวรัชชมนต์ เพ็งเขียว - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 15 ชาวบ้าน รำโทน 2 นายพีรศิลป์ ผาดดี - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 16 ชาวบ้าน รำโทน 3 นายศุภชัย ศาลางาม - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย ที่มา: ผู้วิจัย จากการคัดเลือกนักแสดงของละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 การคัดเลือกนั้นเกิดขึ้นใน เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2565 เป็นการกำหนดนักแสดงตามบุคลิกของละคร กำหนดใช้วิธีการ คัดเลือกแบบเจาะจง โดยนักแสดงทุกคนมีคุณสมบัติตรงตามที่ผู้วิจัยได้กำหนด แต่เนื่องด้วยนักแสดงส่วน ใหญ่เป็นนักศึกษาที่เรียนชั้นปริญญาตรีปีสุดท้าย และเรียนจบการศึกษาในเดือนตุลาคม พุทธศักราช 2565 (หลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย เป็นหลักสูตรที่ใช้ระยะเวลาในการเรียนกับหลักสูตร 3 ปีครึ่ง) ส ่งผลให้นักแสดงบางคนจบการศึกษาและบางคนกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ นักแสดงบางคนติดภารกิจในช ่วงที่ผู้วิจัยกำหนดวันในการฝึกซ้อม ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ดำเนินการเลือก นักแสดงขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยมีรายนามดังต่อไปนี้


160 ตารางที่ 21 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 2 ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร รายละเอียดนักแสดง 1 โทน นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล - ผู้ชนะรายการเพลงเอก ครั้งที่ 2 - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดีมาก - มีทักษะการแสดงละครเวที 2 จิตรา นางสาวฉันท์ชนก พรมศิริกรรณ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 3 พ่อเทิด นายชวัลวิทย์ ตลิ่งทอง - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 4 อภิวัฒน์ นายพิภพ เลิศวิลัย - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


161 ตารางที่ 21 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 2 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร รายละเอียดนักแสดง 5 แก้ว นายชลธิศ แสนสุข - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 6 ผู้พันเปรื่อง นายราเมศวร์ โพธิเวส - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 7 ชาวกรุง นายภูวดล เหลืองพราวฤทธิ์ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 8 ชาวกรุง นายวัศพล อินตา - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


162 ตารางที่ 21 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 2 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 9 ชาวกรุง นายปิยกรณ์ เปี่ยมสุข - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 10 ชาวกรุง นางสาวชาลินี วรรณโณนาม - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 11 ชาวกรุง นางสาวประกายเพชร เมธาวิริยะวณิช - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 12 ชาวกรุง นางสาวณัฐฏณิชา บุญขันตินาถ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


163 ตารางที่ 21 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 2 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 13 ชาวกรุง นางสาวมะลิซ้อน โพสาลี - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 14 ชาวกรุง นางสาวณัชชา สิทธิสินธุ์ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 15 ชาวกรุง นางสาวธันย์ชนก รุ่งสว่าง - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 16 ชาวกรุง นางสาวธนัณญา ม้าวิ่ง - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


164 ตารางที่ 21 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 2 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 17 ชาวบ้านรำ โทน นายพลพล เชื้อวังคำ - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 18 ชาวบ้านรำ โทน นายพลากุล ด่านระห่าน - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 19 ชาวบ้านรำ โทน นายศุภโชค อยู่รอด - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 20 ชาวบ้านรำ โทน นางสาวสรชา ทัพมาก - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 21 ชาวบ้านรำ โทน นางสาวสุคนธา อินนะสถิต - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย


165 ตารางที่ 21 นักแสดงประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 2 (ต่อ) ลำดับ ภาพนักแสดง ชื่อตัวละคร ชื่อนักแสดง รายละเอียดนักแสดง 22 ชาวบ้านรำ โทน นางสาวศุภาพิชญ์ จันทร - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย 23 ชาวบ้านรำ โทน นางสาวจุฑามณี แซ่เยี่ยง - นักศึกษาหลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - มีทักษะการร้องเพลงในระดับดี - มีทักษะการแสดงละครและนาฏศิลป์ไทย ที่มา: ผู้วิจัย จากการคัดเลือกนักแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ตามคุณสมบัติที่กำหนด ครั้งที่ 2 ผู้วิจัย ได้รับคำแนะนำและการประสานงานเบื้องต้นจาก อาจารย์ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบัน บัณฑิตพัฒนศิลป์ ในการติดต่อผู้ชนะการขับร้องเพลงในรายการเพลงเอก ครั้งที่ 2 คือ นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล (แบงค์) ซึ่งเป็นผู้ที่มีทักษะการร้องเพลงและทักษะการแสดงละครเวทีในระดับดีมาก ทั้งนี้ พื้นฐานของนักแสดงคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตรงกับการเรียนดนตรีไทย ประเภทระนาด จากวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ อันเป็นคุณสมบัติที่ครบถ้วนแล้วนั้น ยังมีภูมิหลังที ่มีความเกี ่ยวข้องกับดนตรีไทยใกล้เคียงกับตัวละครเอกของละครเพลงเรื ่องโทนรัก ที่ผู้วิจัยได้กำหนดบุคลิกตัวละครไว้ข้างต้น


166 ภาพที่31 นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล ผู้ชนะเลิศรายการเพลงเอก ครั้งที่ 2 ที่มา: เพลงเอก (2565, ออนไลน์) 1.3.5 ลีลาท่าทาง การสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก เป็นการแสดงที่ดำเนินเรื่องราวด้วยเพลงและ การพูดเจรจา ผู้วิจัยออกแบบลีลาจากท ่าทางการเคลื ่อนไหวในชีวิตประจำวัน (Everyday Movement) ผสมผสานลีลาท่าทางแบบนาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัย ให้สอดคล้องกับบท ละคร และเพื่อให้เกิดภาพการแสดงที่มีความสมจริง ตามที่ พรรัตน์ ดำรุง (2557) ได้แสดงทรรศนะ เกี่ยวกับการออกแบบลีลาไว้ว่าการพัฒนา ปรับเปลี่ยนสาระ รูปแบบ และวิธีการแสดงเพื่อให้งาน ศิลปะการละครนั้นคงอยู่อย่างมีชีวิต ดำรงไว้ซึ่งความหมายและความงามทางศิลปะ อันเป็นที่ยอมรับ ของผู้ชมร่วมสมัย นอกจากนี้ รัจนา พวงประยงค์ (2565) ได้กล่าวว่า การสร้างสรรค์งานทางนาฏศิลป์ นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นเมื่อผู้คิดสร้างสรรค์ได้สะสมความรู้ จนมีความสามารถที่ประดิษฐ์ชุดรำต่าง ๆ เชิงอนุรักษ์ หรือ อนุรักษ์เชิงสร้างสรรค์ หรือสร้างสรรค์เฉพาะ อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้หลงประเด็น ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายผู้สร้างสรรค์ควรกำหนดกรอบแนวคิดในการตอบงานสร้างสรรค์ โดยการตั้ง คำถาม 5 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1) What ทำเพื่ออะไร, หัวข้ออะไร, สนใจอะไร แล้วในอดีตทำอะไรมาแล้วบ้าง 2) Where ทำที่ไหน, ใครคือผู้ชม ซึ่งในอดีตทำที่ไหน 3) When ทำเมื่อไร, ทำในโอกาสไหน ในอดีตทำเมื่อไร


167 4) Why ทำไมต้องทำ, สนใจเรื่องอะไรในหัวข้อนั้น ๆ ซึ่งในอดีตทำไมต้องทำ 5) How ทำอย่างไร, สร้างสรรค์, อนุรักษ์เชิงสร้างสรรค์, อนุรักษ์ ซึ่งในอดีตทำ อย่างไร จากนั้นเมื ่อผู้สร้างสรรค์สามารถตอบคำถามเหล ่านี้ได้แล้ว อาจจะศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งอาจจะเกิดความสับสน โดยบางครั้งผู้สร้างสรรค์อาจจะเลือกความเหมือนหรือความต่างมากำหนด โจทย์ (รัจนา พวงประยงค์, สัมภาษณ์, 24 มีนาคม 2565) ซึ ่งการออกแบบลีลาท ่าทางในละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยกำหนดรูปแบบการแสดงออกเป็น 4 ประเภท คือ “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” ซึ่งมี รายละเอียดดังนี้ ร้อง หมายถึง การเคลื่อนไหวด้วยท่าทางในชีวิตประจำวัน (Everyday Movement) ให้มีความสอดคล้องกับบทละคร โดยผู้แสดงอาจไม่ปฏิบัติความหมายทุกคำร้อง แต่ให้นักแสดงใช้ ท่าทางลักษณะดังกล่าวในการอธิบายเสริมเพิ่มเติม เพื่อเน้นย้ำ ส่งสาระหรือการขยายความจากคำร้อง เล่น หมายถึง การดำเนินเรื ่องแบบอย ่างละคร โดยใช้การเคลื ่อนไหวท ่าทางใน ชีวิตประจำวัน (Everyday Movement) เต้น หมายถึง การใช้ท ่าทางแบบนาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร ่วมสมัยผสมผสาน การเคลื่อนไหวท่าทางในชีวิตประจำวัน (Everyday Movement) ระบำ หมายถึง การใช้ท่าทางนาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัย โดยใช้ผู้แสดง 2 คนขึ้นไปหรือเป็นหมู่คณะ อาจทำท่าทางเดียวกันพร้อมเพรียงกัน หรือแตกต่างกันตามทำนองเพลง จากรูปแบบการแสดงทั้ง 4 ประเภท คือ “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” ทำให้ผู้วิจัยกำหนดโครงสร้าง ลีลาท่าทางประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก เพื่อให้ความสอดคล้องกับรูปแบบการแสดง โดยนิยามความหมายตามลีลาการแสดง ดังนี้ ท่าทางในชีวิตประจำวัน (Everyday Movement) หมายถึง การแสดงกิริยา ท ่าทางตามธรรมชาติที ่ปรากฏในชีวิตประจำวัน มุ ่งนำเสนอให้มีความสุนทรียะ สอดคล้องกับบท ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในละคร ลีลาท่าทางนาฏศิลป์ไทย หมายถึง การแสดงนาฏยศัพท์หรือลีลาท่าทางในการใช้ มือจีบ ตั้งวง ตลอดจนลักษณะกิริยาในการย่ำเท้า ย่อ-ยืดเข่า การจรดเท้า ร้อยเรียงกันเป็นท่าทาง นาฏศิลป์ไทย ตัวอย่างเช่น ท่าสอดสร้อย ท่าชักแป้งผัดหน้า ท่าแขกเต้า ท่าผาลา เป็นต้น ลีลาท่าทางนาฏศิลป์ร่วมสมัย หมายถึง การเต้น การแสดงท่าทาง กิริยา การใช้ ร่างกายและการเคลื่อนที่ผสมผสานการแสดงสีหน้าอารมณ์ตามท่าทางที่แสดงออก


168 ภาพที่ 32 โครงสร้างการแสดงลีลาท่าทางประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย จากนั้นผู้วิจัยได้ทำการศึกษาหลักการและแนวคิดทฤษฎีเพื่อนำมาวิเคราะห์สู่การ ออกแบบลีลาท่าทางประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก มุ่งเน้นให้มีความสุนทรียะ สอดคล้อง กับแนวคิด รูปแบบการแสดง ตลอดจนบุคลิกตัวละคร โดยมีหลักการในการออกแบบลีลาท่าทางดังที่ ชมนาด กิจขันธ์ ได้แสดงทรรศนะการสรุปวิเคราะห์ท่ารำ ไว้คือ 1) ส่วนของร่างกาย (Body Part) หมายถึง การพิจารณาว่าอวัยวะส่วนใดบ้าง ของร่างกายที่เคลื่อนไหว 2) อากาศวิถี (Space) หมายถึง การพิจารณาว่าอวัยวะที่เคลื่อนไหวนั้นไปใน ทิศทางใด ระดับสูง-ต่ำเพียงใด เพราะการเคลื่อนไหวของอวัยวะนั้น ดำเนินไปในอากาศที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา 3) เวลาหรือจังหวะ (Time) หมายถึง การพิจารณาความมาก-น้อยของจังหวะ หรือเวลาที่อวัยวะนั้น ๆ เคลื่อนที่ไป 4) รูปแบบ (Style) หมายถึง การพิจารณาลักษณะของการเคลื ่อนไหวของ อวัยวะว่าเป็นเช่นไร เช่น เชื่องช้า นุ่มนวล คึกคักหรือฉวัดเฉวียน เป็นต้น 5) ทิศจุดหมายปลายทาง (Direction Destination) หมายถึง การพิจารณา ทิศทางของอวัยวะที่เคลื่อนไหวไปนั้นเคลื่อนไปในทิศทางใด โดยเน้นที่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของ แต่ละท่าทาง มากกว่าเน้นที่กิริยาของอวัยวะที่เคลื่อนไหว 6) จุดกึ่งกลางของน้ำหนักและการทรงตัว (Center of Weight Balance) เป็น การวิเคราะห์หารายละเอียดของการเคลื่อนไหวร่างกายในการทรงตัว ตลอดจนอวัยวะที่รับน้ำหนัก ลีลาท่าทาง ประกอบการ แสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ท่าทางใน ชีวิตประจ าวัน นาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์ร่วมสมัย


169 และการถ ่ายโอนน้ำหนักตัวในแต่ละจังหวะ ท ่วงท ่า ซึ ่งมีทั้งลักษณะที ่เรียบง ่าย สลับซับซ้อนและ รวดเร็ว 7) ระดับ (Level) หมายถึง ระดับความสูงต่ำของอวัยวะที่เคลื่อนไหวและการ จัดวางตำแหน่งของร่างกาย เช่น แนวราบ คุกเข่า ย่อตัว ยืนตรง ยืดตัว กระโดด 8) ทาง (Path) หมายถึง การเคลื่อนไหวร่างกายด้วยลักษณะเส้นทางแบบใด เช่น ตรง โค้ง โค้งงอ โค้งคด เส้นงอ ซิกแซก ไม่มีทิศทางที่แน่นอนหรือแบบสุ่ม (Random) 9) จุดเด่น (Focus) คือ การสร้างจุดดึงดูดสายตา เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย จุดเด่นนี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับทิศทาง การเปลี่ยนตำแหน่ง ความใกล้-ไกล การเคลื่อนที่เข้า-ออก ฯลฯ (ชมนาด กิจขันธ์, 2553, น. 12 - 13) เมื่อผู้วิจัยได้กำหนดแนวคิดการแสดง รูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก จากนั้นศึกษา หลักการออกแบบลีลา แล้วนำมาวิเคราะห์ประกอบกับแนวคิดและทฤษฎี ทำให้สามารถกำหนดเป็น หลักการออกแบบลีลาท่ารำประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ดังนี้ 1) การออกแบบลีลาท ่าทางในชีวิตประจำวันประกอบบทร้องและพูด คือ การออกแบบลีลาการแสดงกิริยาท่าทางตามธรรมชาติที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน แต่มีการปรับปรุงให้ มีความสวยงาม สอดคล้องกับบทละคร อารมณ์ของตัวละคร ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในละคร 2) การออกแบบลีลาแบบผสมผสานระหว ่างท ่าทางในชีวิตประจำวันและ ท่าทางนาฏศิลป์ประกอบบทร้อง คือ ออกแบบลีลาการแสดงกิริยาท่าทางตามธรรมชาติที่ปรากฏใน ชีวิตประจำวัน ผสมผสานกับการแสดงนาฏยศัพท์หรือท ่าทางในการใช้มือจีบ มือตั้งวง ตลอดจน ลักษณะกิริยาการย่ำเท้าและย่อเข่า นำมาร้อยเรียงกันเป็นท่าทางนาฏศิลป์ไทย 3) การออกแบบลีลานาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัยประกอบดนตรี คือ การออกแบบลีลาการแสดงนาฏยศัพท์หรือท่าทางในการใช้มือจีบ มือตั้งวง ตลอดจนลักษณะกิริยาที่ ในการย่ำเท้าและย่อเข่า นำมาร้อยเรียงกันเป็นท ่าทางนาฏศิลป์ไทย ผสมผสานการออกแบบลีลา ท่าทางในการเต้น การแสดงท่าทาง กิริยา การใช้ร่างกาย การเคลื่อนไหวร่างกายแบบสากล และ การแสดงสีหน้าอารมณ์ตามท่าทางที่แสดงออก หลักการทั้ง 3 รูปแบบข้างต้นผู้วิจัยคำนึงและตระหนักถึงสุนทรียะทางนาฏศิลป์เป็น สำคัญ โดยการออกแบบลีลาประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่ผู้วิจัย คำนึงควบคู่ไปด้วยนั่นคือ การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์การพูด การขับร้องเพลงของนักแสดงที่ จะต้องมีความสอดคล้องสัมพันธ์กับลีลาท่าทางและบทละคร


170 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย การออกแบบลีลาท่าทางในชีวิตประจำวันประกอบบทร้องและพูด 1 1 ท่าเดิน ความหมาย : การเดินของตัว นักแสดงที่กำลังร้องเพลงรากเราใน ฉากที่ 1 สะท้อนให้เห็นถึงท่าการเดิน ในชีวิตประจำวัน การปฏิบัติ : การเคลื่อนที่ไปด้านหน้า ด้านข้าง หรือการเดินเข้าไปหาผู้ชม 2 1 ท่าผายมือ ค ว ามหม า ย : ก า ร ผ า ยมื อ ข อง นักแสดงที ่กำลังร้องเพลงรากเราใน ฉากที ่ 1 สะท้อนให้เห็นถึงท ่วงท่า การสื ่อสารที ่ หมายถึงการกล ่าวถึง บุคคลที่ 2 หรือ 3 (ผู้ชม) การปฏิบัติ: ยกมือซ้าย แบมือปลาย นิ้วชี้ไปทางด้านหน้าเวที 3 1 การแบมือทั้งสอง ค ว า มห ม า ย : ก า ร ผ า ย มื อ ข อง นักแสดงในฉากที่ 1 สะท้อนให้เห็น ถึงท ่วงท ่าการสื ่อสาร หมายถึงไม ่มี ว่างเปล่า การปฏิบัติ : มือทั้งสองแบหงายฝ่ามือ กางแขนออกข้างลำตัว 4 1 การจับมือ ความหมาย : การจับมือระหว ่าง นักแสดงบทพ่อกับลูก เป็นการสัมผัส ร่างกายเพื่อส่งความรู้สึกจากฝ่ายหนึ่ง สู่อีกฝ่ายหนึ่ง หมายถึงการขอร้องให้ อีกฝ่ายหนึ่งทำตามสิ่งที่ตนต้องการ การปฏิบัติ : มือทั้งสองจับไปที ่ลำ แขนของอีกฝ่าย


171 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 5 2 ท่าทางประกอบการพูดคุย ความหมาย : ลักษณะกิริยาของ บุคคลในสังคมทั ่วไป ที ่มีท ่าทาง แสดงออกระหว ่างการพูดค ุยที่ แตกต ่างกัน หมายถึงการแสดง ท ่าทางของคนในสังคมที ่แตกต ่าง กัน การปฏิบัติ : การชี้ คือ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดไปที่นิ้ว ทั้งสาม แล้วใช้นิ้วชี้ชี้ไปด้านข้าง หรือด้านหน้า การจับไหล่ คือ มือทั้งสองจับที่ หัวไหล่ของบุคคลที่ 2 การจับมือ คือ มือขวาของบุคคลที่ 1 กับมือซ้ายของบุคคลที่ 2 การมองคือ การส่งสายตาไปถึงบุคคล ที่ 2 เป็นต้น 6 2 ท่าทางตกใจ ความหมาย : ตัวละครกำลังตกอยู่ ในสภาวะของสงคราม มีเสียงหวอ เตือนการทิ้งระเบิด ทำให้นักแสดง ตกใขกลัว หม ายถึงก า รแสดง ลักษณะอาการของคนเมื ่อรู้ว ่าตก อยู ่ใน สภ า ว ะห รื อเหต ุ ก า รณ์ อันตราย การปฏิบัติ : มือทั้งสองปิดไว้ที่ใบหู สายตาสอดส่องมองหาถึงต้นเสียง


172 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 7 3 ท่าชี้แบบที่ 1 ความหมาย : ตัวละครชี้ชวนการ ชื ่นชมตามเนื้อหาของเพลง เส้นทางรัก ซึ่งปรากฏในฉากที่ 3 การปฏิบัติ : การใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ ชี้ไปที ่สิ ่งที ่กำลังมอง เพื ่อให้ บุคคลที่ 2 หรือ 3 มองสิ่งเดียวกับ ที่ตนชี้ในระยะไกล 8 3 ท่าชี้ แบบที่ 2 ความหมาย : ตัวละครที่ 1 (ริม ซ้าย) กำลังกล่าวถึงตัวละครที่ 3 (ริมขวา) โดยมีลักษณะอาการ แบบไม่เปิดเผย การปฏิบัติ : การใช้นิ้วหัวแม่มือ ชี้ไปด้านข้างในระยะใกล้ ด้วย อาการแบบไม่เปิดเผย 9 4 ท่าไหว้ ความหมาย : นักแสดงกำลังไหว้ เพื่อขอโทษในสิ่งที่กระทำผิด การปฏิบัติ : ยกมือประกบกัน ระหว่างหน้าอก อาจจะกล่าวคำ ขอโทษห รือส วัสดี ต ามแต่ วัตถุประสงค์ในการปฏิบัติ 10 5 ท่าผลัก ความหมาย : นักแสดงฝ่ายหนึ่ง กำลังผลักไปที ่หน้าอกของ นักแสดงอีกฝ่ายด้วยความโกรธ การปฏิบัติ : นำมือทั้งสองไป ปะทะที่หน้าอกของบุคคลที่ 2 ด้วย ความแรง เพื ่อแสดงอาการโกรธ หรือไม่พอใจ


173 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 12 5 ท่าป้องปาก ความหมาย : นักแสดงกำลังแจ้ง เหตุที่ตนได้พบกับเพื่อน ๆ การปฏิบัติ : แบมือขวา แล้วนำ สันนิ้วชี้มาติดกับมุมปากข้างขวา การออกแบบลีลาแบบผสมผสานระหว่างท่าทางในชีวิตประจำวันและท่าทางนาฏศิลป์ประกอบบท ร้อง 13 2 ท่าเต้นและท่าชี้ไปด้านข้าง ความหมาย : นักแสดงทั้งสอง กลุ่มปฏิบัติลีลาท่าทางที่ต่างกัน ทั้งการเต้นและการแสดงกิริยา ท ่ า ท าง ธ ร ร ม ช า ติ โ ด ย มี ค ว า มห ม า ย ว ่ า มี ค ว า ม สุ ข สนุกสนานและตื่นเต้น การปฏิบัติ : กลุ่มที่ 1 นักแสดง นำ (โทน) ชี้นิ้วไปด้านข้าง กลุ ่มที ่ 2 นักแสดงตัวประกอบ (นักแสดงมวลหมู ่) ฝ ่ายหญิงยก แขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะย่ำเท้า ตามจังหวะเพลง ฝ ่ายชาย ดีดนิ้วทั้งสอง ค้อมตัว เล็กน้อย พร้อมย่อเข่าและย่ำเท้า ตามจังหวะ


174 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 15 3 ท่าเต้นและท่าหัวเราะ ความหมาย : นักแสดงทั้ง สองกลุ่มปฏิบัติลีลาท่าทาง ที ่ต ่างกัน ทั้งการเต้นและ ก า รแสดงกิ ริยาท ่ าทาง ธรรมชาติ โดยมีความหมาย ว่า มีความสุข อิ่มเอมใจ ก า รปฏิบัติ : กล ุ ่มที ่ 1 นักแสดงชาย (โทน) มือซ้าย กำมือหลวม ๆ ระดับปาก ก้มหน้าเล็กน้อย นักแสดง หญิง (จิตรา) มือซ้ายกำมือ หลวม ๆ ระดับปาก ก้มหน้า เล็กน้อย โดยนักแสดงทั้ง คนมองตากัน กล ุ ่มที ่ 2 นักแสดงตั ว ประกอบ (นักแสดงมวลหมู่) ฝ ่ายหญิงมือซ้ายทาบที่ หน้าอก มือขวายกขึ้นระดับ ศีรษะ ยกแขนพร้อมย่ำเท้า ตามจังหวะเพลง ฝ่ายชาย (หันหลัง) มือซ้าย ผายไปด้านข้าง มือขวา ไขว้หลัง ฝ่ายชายและหญิง มองหน้ากันและกัน


175 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 16 2 ท่าเต้นและท่าเสยผม ความหมาย : นักแสดงทั้ง สองกลุ่มปฏิบัติลีลาท่าทางที่ ต่างกัน ทั้งการเต้นและการ แสดงกิริยาท่าทางธรรมชาติ โ ด ย ม ี ค ว า ม ห ม า ย ว่ า มีความสุข สนุกสนาน การปฏิบัติ : กลุ่มที่1 นักแสดง นำ (โทน) มือทั้งสองเสยผม ก ล ุ ่ มที ่ 2 นั ก แ ส ดงตั ว ประกอบ (นักแสดงมวลหมู่) ฝ ่ายหญิงปฏิบัติท ่ าท าง ต่างกัน ได้แก่ ชี้(มือทั้งสองชี้ ไปด้านหน้าระดับอก) ฝ ่ายชาย ก้าวเท้าขวาทั้งนั่ง และยืน มือทั้งสองเสยผม


176 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย การออกแบบลีลานาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัยประกอบดนตรี 18 2 ท่าเต้นหมู่ ความหมาย : การเต้นท ่าขับรถ ตามบทร้อง การปฏิบัติ : นักแสดงตัวประกอบ (นักแสดงมวล หมู่) ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง กำ มือทั้งสองข้าง ยกขึ้นมาด้านหน้า พร้อมทั้งย่อเข่าและวิ่งเคลื่อนที่มา ด้านหน้าเวที ฝ่ายชาย ก้าวเท้าขวา มือขวาแบ มือและยกวาดแขนไปด้านหน้า มือซ้ายไขว้หลัง 19 2 ท่าเต้นหมู่ ความหมาย : นักแสดงทั้งสอง กลุ่มปฏิบัติลีลาท่าทางที่ต่างกัน โดยมีความหมายว่า รุ่งเรืองเฟื่องฟู ตามบทร้อง การปฏิบัติ : กลุ่มที่ 1 นักแสดง นำ (โทน) แบมือขวาและยกขึ้น สูงเหนือศีรษะ กลุ ่มที ่ 2 นักแสดงตัวประกอบ (นักแสดงมวลหมู่) ฝ่ายชายและ ฝ ่ายหญิง กางแขนทั้งสองข้าง แล้วชูขึ้นเหนือศีรษะ โดยนั่งและ ยืนตามลำดับ ใบหน้ามองหน้า ด้านบน


177 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 20 3 ท่าทางในระบำ ความหมาย : นักแสดงทั้งกลุ่ม ปฏิบัติลีลาท ่าทางที ่ต ่างกัน โดยมี ความหมายว่า ความรัก ความผูกพันธ์ การปฏิบัติ : กลุ ่มที ่ 1 นักแสดงนำ (โทนและจิตรา) สวมกอดกัน กล ุ ่มที ่ 2 นักแสดงตัวประกอบ (นักแสดงมวลหมู ่) ฝ ่ายชายและ ฝ่ายหญิง มือทั้งสองประสานกันไว้ที่ ด้านหลังบริเวณต้นคอ 21 5 ท่าทางในระบำ ความหมาย : นักแสดงทั้งสองกลุ่ม ปฏิบัติลีลาท ่าทางที ่ต ่างกัน โดยมี ความหมายตามบทร้องว ่า ร้องเล่น เต้นรำ ทำไป การปฏิบัติ : กลุ ่มที ่ 1 นักแสดงนำ (โทนและจิตรา) ยืนตรง กล ุ ่มที ่ 2 นักแสดงตัวประกอบ (นักแสดงมวลหมู ่) นักแสดงฝั ่งขวา มือป้องปาก พร้อมทั้งนั่งตามลำดับ กลุ่มที่ 3 นักแสดงกลุ่มกลาง มือทั้งสอง ยกขึ้นแขนตึงระดับศีรษะแบมือ ปลายนิ้วชี้ลง ก้าวเท้าขวา กลุ่มที่ 4 นักแสดงฝั่งซ้าย มีการปฏิบัติ มือ 3 รูปแบบ โดยรูปแบบที ่ 1 มือ ทั้งสองจีบที ่หัวไหล่ รูปแบบที ่ 2 มือ ขวาจีบหักข้อมือที่ไหล่ซ้าย มือซ้ายจีบ หักข้อที่บริเวณเอวด้านซ้าย รูปแบบที่ 3 มือขวาจีบหงายระดับชายพกมือ ซ้ายแบมือทาบไว้ที่แก้มด้านซ้าย


178 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 22 5 ท่ารำโทน ความหมาย : การละเล่นรำโทน การปฏิบัติ : ฝ ่ายหญิง มือขวา จีบหงายระดับชายพก มือซ้ายแบ มือทาบไว้ที่แก้มซ้าย ฝ่ายชาย มือซ้ายจีบหงาย มือขวา ตั้งวงกลาง โดยปฏิบัติสลับข้าง ไปมา พร้อมทั้งย่ำเท้าตามจังหวะ 26 5 ท่ารำวง ความหมาย : ท่ารำสอดสร้อย การปฏิบัติ : ฝ ่ายชายและหญิง กลุ่มที่ 1 นักแสดงฝั่งซ้าย มือขวา ตั้งวงบน มือซ้ายจีบหงายระดับ ชายพก กลุ่มที่ 2 นักแสดงฝั่งขวา มือซ้าย ตั้งวงบน มือขวาจีบหงายระดับ ชายพก 27 5 ท่ารำวง ความหมาย : ท่ารำแขกเต้าเข้ารัง การปฏิบัติ : ฝ ่ายชายและหญิง กลุ่มที่ 1 นักแสดงฝั่งซ้าย มือซ้าย จีบปรกข้าง มือขวาจีบหงายต่อ ศอกซ้าย เท้าขวาจรด กลุ ่มที ่ 2 นักแสดงฝั ่งขวา ปฏิบัติ ตรงข้าม


179 ตารางที่ 22 การออกแบบลีลาประกอบรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ภาพ ที่ ฉาก ที่ รูปภาพ/คำอธิบายประกอบ คำอธิบาย 28 5 ท่ารำวง ความหมาย : ท่าผาลา การปฏิบัติ :ฝ่ายชายและหญิง กลุ่มที่ 1 นักแสดงฝั ่งซ้าย มือซ้ายตั้งบน มือขวาแบมือปลายนิ้วชี้ลงพื้น เท้าขวาจรด กลุ ่มที ่ 2 นักแสดงฝั ่งขวา ปฏิบัติ ตรงข้าม ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางที ่ 22 แสดงให้เห็นถึงการออกแบบลีลาที ่มีความหลากหลาย มุ ่งเน้น ความเรียบง ่ายไม ่ซับซ้อน ประกอบด้วยท ่าทางธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ท ่าทางนาฏศิลป์ไทย ท่าทางนาฏศิลป์ร่วมสมัย โดยการออกแบบปรากฏทั้งรูปแบบเดียวและแบบผสมผสาน ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ ทำการออกแบบลีลานาฏศิลป์เพื่อเพิ่มเติมสุนทรียะทางนาฏศิลป์ในละครเพลงมากยิ่งขึ้น ตามแนวคิด และรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.3.6 เครื่องแต่งกาย การแต่งหน้าและทรงผม การสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่อง โทนรัก เป็นการสร้างสรรค์การแสดงละครเพลงที่มี เรื่องราวและเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณปีพุทธศักราช 2480 -2490 (ประมาณคริสตศักราช 1940 - 1950) ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาเครื่องแต่งกายที่ปรากฏในยุคสมัยดังกล่าว พบว่า เครื่องแต่งกายของคนไทยหรือ แฟชั ่นเครื ่องแต ่งกายมีการพัฒนาและร ่วมสมัยที ่ชัดเจนในช ่วงของการพัฒนาประเทศ ในช ่วงปี พุทธศักราช 2484 เป็นต้นมา การเปลี ่ยนแปลงเป็นไปอย ่างรวดเร็วจากเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ที่ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ อิทธิพลจากการสื่อสาร การเห็น การได้ยินและ การตามอย่างที่คนเมืองหลวงปฏิบัติที่สำหรับคนในประเทศไทยถือว่าเมืองหลวงเป็นผู้นำทางด้าน แฟชั่น เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การแพร่ขยายแฟชั่นในประเทศไทยเกิดขึ้นหลากหลาย(รวิเทพ มุสิกะปาน, 2554, น. 23) การออกแบบเครื่องแต่งกายประกอบละครเพลง เรื่องโทนรัก จึงเป็นการออกแบบจาก วัฒนธรรมและค่านิยมการแต่งกายหรือแฟชั่นที่เฟื่องฟูเป็นที่นิยม เพราะในยุคสมัยนั้นมีการรับเอา วัฒนธรรมอันหลากหลายของชาติตะวันตกเข้ามา เป็นช่วงที่ผู้คนเริ่มแสดงตัวตนผ่านแฟชั่นการแต่งตัว


180 รวมถึงรสนิยมการแต่งกายต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้ การออกแบบเครื่องกายในครั้งนี้สอดคล้อง กับ กาญจนา แก้วเทพ (2541, น. 240) กล่าวว่า Flashback การแสดงให้เห็นถึงวิธีการแต่งกายแบบ ย้อนกลับไปนิยมชุดในสมัยก่อน(ย้อนยุค) แสดงให้เห็นถึงยุคสมัยผ่านเครื่องแต่งกายของตัวละครใน การดำเนินเรื่อง ทั้งนี้ขั้นตอนการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกาย มีรายละเอียดดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 กำหนดช่วงยุคเวลาในละคร จากแนวคิดของละครเพลง เรื ่องโทนรัก พบว ่า เป็นช ่วงเหตุการณ์ที ่เกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2480 เป็นต้นมา โดยในช่วงยุคดังกล่าวเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน หลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการแต่งกาย ซึ่งประกาศโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรัฐนิยม ฉบับที่ 10 เรื่อง การแต่งกายของประชาชนชาวไทย ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2484 ประกอบด้วย 2 รายการหลัก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (2484) คือ 1) ชนชาติไทยไม ่พึงปรากฏตัวในที ่ชุมชน หรือสาธารณสถาน ในเขตเทศบาล โดยไม่แต่งกายให้เรียบร้อย เช่น นุ่งแต่กางเกงชั้นใน หรือไม่สวมเสื้อ หรือนุ่งผ้าลอยชาย เป็นต้น 2) การแต่งกายที่ถือว่าเรียบร้อยสำหรับประชาชนชาวไทย มีดังต่อไปนี้ 2.1) แต่งเครื่องแบบตามสิทธิและโอกาสที่จะแต่งได้ 2.2) แต่งตามแบบสากลนิยมในทำนองที่สุภาพ 2.3) แต่งตามประเพณีนิยมในทำนองที่สุภาพ จากการประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรัฐนิยม ฉบับที่ 10 เรื่อง การแต่งกายของประชาชนชาวไทย วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2484 ผู้วิจัยได้นำประเด็นสำคัญเรื่องการ แต่งกายของประชาชนชาวไทยมาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบเครื่องแต่งกายประกอบการแสดง ละครเพลง เรื่องโทนรัก


181 ภาพที่33 ประกาศโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรัฐนิยม ฉบับที่ 10 เรื่อง การแต่งกายของ ประชาชนชาวไทย ในราชกิจจานุเบกษา ที่มา: สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, 2484


182 ภาพที่ 34 นโยบายทางสังคมและวัฒนธรรมของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่มา: อนุสรณ์ครบรอบ 100 ปี ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ภาพที่35 ป้ายโฆษณาในวัฒนธรรมใหม่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่มา: อนุสรณ์ครบรอบ 100 ปี ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม


183 นโยบายการแต่งกายของยุสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ ไทยที่ทำให้เกิดรูปแบบการแต่งกายที่รัฐได้กำหนด โดยมีอิทธิพลจากชาติตะวันตกเข้ามาผสมผสาน ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัด คือ การสวมหมวกของสตรี ภาพที่36 การแต่งกายของสตรีสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่มา: สุเจน กรรพฤทธิ์ (2557) นอกจากนโยบายการแต่งกายของไทยตามรัฐนิยมแล้ว ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาการแต่งกายที่ ปรากฏในช่วงสมัยนั้น จากชาติตะวันตก ทั้งการแต่งกายของผู้ชาย และผู้หญิง เพื่อนำมาวิเคราะห์ ร่วมกับการแต่งกายของไทยในยุคสมัยดังกล่าว


Click to View FlipBook Version