84 ตารางที่ 6 หน้าที่ความรับผิดชอบของคณะทำงานการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ฝ่ายงาน หน้าที่ ผู้รับผิดชอบ ขอบเขตและความรับผิดชอบ ช่างทำผม นายไพโรจน์ จำปาทอง นายภาณุเดช เทพมณี (นักศึกษาภาควิชานาฏศิลป์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) ทำผมนักแสดงในวันถ่ายทำ ฝ่ายเทคนิคเสียง ที่ปรึกษา อาจารย์นิติพงษ์ ทับทิมหิน (หัวหน้าภาควิชานาฏศิลป์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) ให้คำปรึกษาในการออกแบบการ แต่งหน้าและทรงผมให้มีความ เหมาะสมกับยุคสมัยที่ปรากฏใน ละคร ฝ่ายการถ่ายทำ ถ่ายทำ นายนพนรรจ์ แย้มบุญมี (นักวิชาการทั่วไป คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) นายวิรัตน์ คำเนตร ควบคุม กล้องในการบันทึกภาพ เคลื่อนไหว จำนวน 3 ตัว ฝ่ายการตัดต่อ ตัดต่อ นายนพนรรจ์ แย้มบุญมี (นักวิชาการทั่วไป คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) รวบรวมไฟล์ภาพเคลื่อนไหวแล้ว นำมาตัดต่อ พร้อมทั้งใส่เทคนิค chroma key และบันทึกไฟล์ การแสดง ฝ่ายบันทึกภาพ บันทึกภาพ นางสาวกรกนก ทับจีน (อาจารย์ภาควิชานาฏศิลป์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) นางสาวนะฎีเราะฮ์ มุนี จัดลำดับการถ่ายภาพตัวละคร และถ่ายภาพตัวละครในวันถ่ายทำ
85 ตารางที่ 6 หน้าที่ความรับผิดชอบของคณะทำงานการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ฝ่ายงาน หน้าที่ ผู้รับผิดชอบ ขอบเขตและความรับผิดชอบ ฝ่าย ประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ นางสาวพลอย ปู่รัตนะ (นักศึกษาภาควิชา นาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) ออกแบบโปสเตอร์ เพื่อการ ประชาสัมพันธ์ และออกแบบสูจิ บัตรเพื่อใช้ในการแสดงผลงาน ฝ่ายสวัสดิการ สวัสดิการ นางสาววันวิสา ศิลมั่น (นักศึกษาภาควิชา นาฏศิลป์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) นางสาวเนตรดาว ศักดิ์ศรี (นักศึกษาภาควิชา นาฏศิลป์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) จัดหา เตรียมอาหารว่าง อาหาร กลางวัน และเครื่องดื่มในวันซ้อม วันถ่ายทำ วันประชุมกลุ่มย่อย และวันแสดงผลงาน ที่มา: ผู้วิจัย 4.2.3 การคัดเลือกสถานที่แสดง แนวคิดแรกของผู้วิจัยในการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก มีความมุ่งหมายว่าจะจัดแสดงสด ณ โรงละครวังหน้า สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เนื่องจาก โรงละครดังกล่าวมีความพร้อมในด้านการจัดการแสดง พร้อมทั้งมีเทคนิคและวิธีการที่เหมาะสมกับ การจัดแสดงละคร เช่น ระบบเสียง ระบบไฟ จอ LED และสามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่า 200 ที่นั่ง แต่เนื่องด้วยเกิดวาตภัย ภัยธรรมชาติส่งผลให้โรงละครวังหน้าเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ต้องปิด การซ่อมบำรุงเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผู้วิจัยไม่สามารถจัดแสดงที่โรงละครดังกล่าวได้ จากนั้นผู้วิจัยจึงได้ทบทวนและวางแผนร่วมกับอาจารย์ที่ปรึกษาถึงการปรับเปลี่ยน สถานที่และรูปแบบการจัดแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ซึ่งพบว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของ
86 เชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ทำให้วิถีชีวิตของมนุษย์ได้ปรับเปลี่ยนไป โดยเกิดรูปแบบการดำเนินชีวิต แบบฐานวิถีชีวิตใหม่ หรือ New normal ผนวกกับคณะศิลปนาฏดุริยางค์ มีการดำเนินงานในการ จัดทำรายการศิลปนาฏยวาทิต เผยแพร่ในช่องทางระบบออนไลน์ Youtube โดยเป็นรายการด้าน ศิลปวัฒนธรรมไทย นำเสนอเกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์ ดนตรีและคีตศิลป์ ซึ่งมีระบบการทำงานแบบ การบันทึกวีดิทัศน์การตัดต่อและเผยแพร่ผ่านระบบออนไลน์ผู้วิจัยจึงเกิดแนวคิดในการดำเนินการ ตามแผนงานข้างต้น โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบละครเพลง เรื่องโทนรัก จากเดิมแสดงสด ใช้จอ LED จัดแสดง ณ โรงละครวังหน้า เปลี่ยนเป็นการบันทึกวีดิทัศน์ตัดต่อและใช้เทคนิคโคมาคีย์ และเผยแพร่ในรูปแบบวีดิทัศน์การแสดง โดยกำหนดสถานที่ในการถ่ายทำคือ โรงละครศิลปนาฏ ดุริยางค์ ชั้น 5 คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ด้วยเหตุผลคือ เป็นสถานที่ที่ใช้ใน การถ่ายทำรายการศิลปนาฏยวาทิต มีระบบทั้งเสียง แสงและเวที ทั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดขอบเขตด้าน งบประมาณทั้งหมดไว้ไม่เกิน 100,000 บาท ในการดำเนินการสร้างสรรค์ ภาพที่ 17 โรงละครศิลปนาฏดุริยางค์ ชั้น 5 คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สถานที่ในการถ่ายทำและแสดงผลงานละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย
87 4.2.4 การกำหนดวันในการบันทึกวีดิทัศน์ การประชุมกลุ่มย่อยและวันแสดงผลงาน ผู้วิจัยได้ดำเนินการวางแผนปฏิทินการทำงานครั้งนี้ไว้อย่างเป็นระบบ ด้วย การเข้าปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นระยะถึงการวางแผนในการกำหนดวันในการถ่ายทำ ประชุมกลุ่ม ย่อยและวันแสดงผลงาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 4.2.4.1 วันบันทึกวีดิทัศน์คือ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2566 ด้วย เหตุผลคือ วันและเวลาว่างของศิลปินที่ให้ความอนุเคราะห์มาแสดงเป็นตัวละครหลัก มาได้เพียง 2 วัน คือวันที่ 11 และ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ดังนั้นผู้วิจัยจึงกำหนดให้วันที่ 11 เป็นวันบันทึกเสียงและ การซ้อมใหญ่ วันที่ 18 เป็นบันทึกวีดิทัศน์การแสดง ณ โรงละครศิลปนาฏดุริยางค์ ชั้น 5 คณะศิลป นาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 4.2.4.2 วันประชุมกลุ่มย่อย คือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช2566 นำเสนอผลงานต่อผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อยืนยันข้อมูล ด้านแนวคิด รูปแบบและองค์ประกอบ การแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ณ โรงละครขนาดเล็ก วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยรายละเอียดจะปรากฏในหัวข้อการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) 4.2.4.3 วันแสดงผลงาน คือ วันที่ 3 มีนาคม พุทธศักราช 2566 นำเสนอ ต่อคณะกรรมการในการประเมินคุณภาพผลงานและนำเสนอต่อสาธารณชน ณ โรงละครศิลปนาฏ ดุริยางค์ ชั้น 5 คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 4.2.5 การคัดเลือกนักแสดง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญต่อการสร้างสรรค์ละครเพลงเป็น อย่างมาก เพราะนักแสดงจะต้องร้องเพลงได้ระดับดี ทำให้ผู้วิจัยจึงต้องกำหนดคุณสมบัติให้ครอบคลุม เพื่อคัดเลือกนักแสดง อีกทั้งต้องแจ้งกำหนดวันในการฝึกซ้อม การบันทึกวีดิทัศน์ 4.2.6 การฝึกซ้อมละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยพบว่า นักแสดงส่วนใหญ่เป็น นักศึกษาที่มีพื้นฐานด้านนาฏศิลป์ไทย จึงทำให้นักแสดงมีทักษะการแสดงละคร รวมทั้งการขับร้อง เพลงแบบนาฏศิลป์ไทย ทั้งนี้ผู้วิจัยจึงต้องดำเนินการปรับพื้นฐานด้านทักษะการแสดงละครและ การขับร้องให้มีความสอดคล้องกับละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ รองคณบดีคณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคีตศิลป์ไทย เป็นผู้ขับร้องเพลงเพื่อเป็นแนวทางให้กับนักแสดง นอกจากนี้ อาจารย์เอกลักษณ์ หนูเงิน และอาจารย์ ญาณวุฒิ ไตรสุวรรณ อาจารยประจำภาควิชานาฏศิลป์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เป็นผู้ช่วยสอนการร้องในระหว่างฝึกซ้อม และนายเฉลิมรัฐ จุลโลบล ผู้ชนะเลิศรายการเพลงเอก
88 ครั้งที่ 2 เป็นผู้ช่วยสอนเทคนิคการร้อง ในวันบันทึกวีดิทัศน์การแสดง ทั้งได้มีการกำหนดเป็น การฝึกซ้อม ดังตารางที่ 7 ตารางที่7 การฝึกซ้อมละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผลที่เกิดขึ้น 1 4 มกราคม 2566 อธิบายถึงแนวคิดและรูปแบบการ แสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ให้กับนักแสดงทุกคนเกิดความรู้ ความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน นักแสดงเกิดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแนวคิดและรูปแบบการ แสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก 2 5 มกราคม 2566 อธิบายถึงบุคลิกและความรู้สึก จากภายใน (Inner) ของตัวละคร และทดลองฝึกปฏิบัติ นักแสดงเกิดความเข้าใจบุคลิก และความรู้สึกจากภายใน (Inner) ของตัวละคร นอกจากนี้ นักแสดงยังได้ยกตัวอย่างตัว ละครในภาพยนตร์และละครที่ ตนเองเคยชมมาเป็นกรณีศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการแสดงละคร 3 6 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติร้องเพลง ประกอบการแสดงละครเพลง ครั้งที่ 1 นักแสดงมีทักษะการร้องเพลง ไทยเดิมจากการแสดงนาฏศิลป์ ไทย ทำให้วิธีการร้องยังไม่เป็นไป ตามแนวทางของเพลงไทยสากล 4 9 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติร้องเพลง ประกอบการแสดงละครเพลง ครั้งที่ 2 นักแสดงมีพัฒนาการทักษะการ ร้องเพลงไทยสากลที่ดีขึ้นจาก ครั้งที่ 1 5 1 0 ม ก ร า ค ม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติร้องเพลง ประกอบการแสดงละครเพลง ครั้งที่ 3 นักแสดงมีพัฒนาการทักษะการ ร้องเพลงไทยสากลที่ดี และ สามารถแสดงลักษณะสีหน้า อารมณ์ ไปพร้อมกับการร้อง เพลง
89 ตารางที่ 7 การฝึกซ้อมละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ครั้งที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผลที่เกิดขึ้น/ข้อควรคำนึง 6 12 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติต่อบท ละคร (ร้อง - เจรจา) ครั้งที่ 1 นักแสดงมีความประหม่าและพูด เร็วจนเกินไป ส่งผลให้ฟังไม่ชัดเจน ถึงเรื่องราวที่ต้องการสื่อสาร 7 13 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติต่อบท ละคร (ร้อง - เจรจา) ครั้งที่ 2 นักแสดงมีพัฒนาการทักษะการพูด ที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการปรับจังหวะ การพูดให้ช้าลง และชัดเจนขึ้น 8 16 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติต่อบท ละคร (ร้อง - เจรจา) ครั้งที่ 3 นักแสดงมีพัฒนาการทักษะการพูด ร้องและสามารถแสดงบทบาทตาม บุคลิกของตัวละครได้ แต่ยังมี นักแสดงบางคนลืมบทเจรจา 9 17 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติต่อบท ละคร (ร้อง - เจรจา) ครั้งที่ 4 นักแสดงมีพัฒนาการทักษะการพูด ร้องและสามารถแสดงบทบาทตาม บุคลิกของตัวละครได้ แต่ยังมี นักแสดงบางคนลืมบทเจรจา 10 30 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 1 ครั้งที่ 1 นักแสดงเกิดความเข้าใจในการ สื่อสาร การพูด การร้องและการ แสดงบทบาทตามบุคลิกของตัว ละคร แต่ยังคงต้องมีการบอกบท ละคร 11 31 มกราคม 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 1 ครั้งที่ 2 นักแสดงเกิดความเข้าใจในการ สื่อสาร การพูด การร้องและการ แสดงบทบาทตามบุคลิกของตัว ละคร ยังคงต้องมีการบอกบท ละครแต่ลดน้อยลงจากครั้งที่ 1
90 ตารางที่7 การฝึกซ้อมละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ครั้งที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผลที่เกิดขึ้น/ข้อควรคำนึง 12 2 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 2 ครั้งที่ 1 - ซ้อมย่อยเต้นประกอบ เพลงสู่กรุง นักแสดงมาไม่ครบ ทำให้มีการ ซ้อมแทนกัน ส่งผลให้ความรู้สึกไม่ เหมือนกับนักแสดงบทบาทนั้น แต่นักแสดงที่มามีทักษะการร้อง ที่ดี เนื่องจากเพลงที่ใช้ในฉากนี้ นักแสดงได้ฝึกซ้อมร้องก่อน การเข้าซ้อมรวมฉากที่ 2 13 3 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 2 ครั้งที่ 2 -ซ้อมย่อยเต้นประกอบเพลงสู่กรุง ฉากนี้มีการแสดงเต้นหมู่และการ เข้า-ออกของตัวละคร จึงมีจัดลำดับ ให้สัมพันธ์กับเพลง เสียงพิเศษ 14 6 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อมฉากที่ 3ครั้งที่ 1 -ซ้อมย่อยระบำประกอบเพลง เส้นทางรัก ฉากนี้มีการใช้เสียงประกาศควบคู่ ไปกับการแสดง ดังนั้นนักแสดง ต้องคำนึงถึงลำดับการเดินและ การแสดงลักษณะสีหน้าอารมณ์ ตามข้อความเสียงประกาศนอกจากนี้ ในฉากยังปรากฏระบำของนักแสดง มวลหมู่ชายหญิงที่สื่อถึงอารมณ์ ของตัวละครเอก จึงมีความจำเป็นต้อง ฝึกซ้อมลำดับการเข้า - ออกของ นักแสดงมวลหมู่ 15 7 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 3 ครั้งที่ 2 - ซ้อมย่อยระบำประกอบ เพลงเส้นทางรัก ลำดับการแสดง เข้า - ออกของ นักแสดงมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
91 ตารางที่ 7 การฝึกซ้อมละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ครั้งที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผลที่เกิดขึ้น/ข้อควรคำนึง 16 8 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 4 ครั้งที่ 1 นักแสดงยังไม่เข้าถึงบทบาทอารมรณ์ ของตัวละครที่ต้องสื่อสารถึงความโกรธ เสียใจและการอภัย ผู้วิจัยจึงดำเนินการ อธิบายให้กับนักแสดงได้เข้าใจเพิ่มเติม 17 9 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 4 ครั้งที่ 2 นักแสดงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในการ สื่อสารบทบาทอารมรณ์โกรธ เสียใจ และการอภัย 18 10 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 5 ครั้งที่ 1 ฉากนี้เป็นการคลี่คลายเหตุการณ์ของ ละคร จึงมีการแสดงสีหน้าและ อารมณ์ที่หลากหลาย ทำให้นักแสดง ยังเกิดความสับสน โดยเฉพาะนักแสดง มวลหมู่ที่ปรากฏในฉาก ทำให้การแสดง ยังไม่สัมพันธ์ฉากในละคร 19 11 กุมภาพันธ์ 2566 นักแสดงฝึกปฏิบัติซ้อม ฉากที่ 5 ครั้งที่ 2 และซ้อมรวมฉากที่ 1-5 ครั้งที่ 1 -ฉากที่ 5 นักแสดงมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และยังคงต้องฝึกซ้อมให้นักแสดงเกิด ความคุ้นชินและมีการแสดงอารมณ์ ร่วมไปกับฉากในละคร -การซ้อมรวมฉากที่ 1-5 ครั้งที่ 1 พบว่าเกิดปัญหาระหว่างรอยต่อของ ฉาก 2 ไปฉาก 3 ผู้วิจัยจึงได้ดำเนินการ เพิ่มเติมบทละครให้มีความเชื่อมโยง และส่งผลถึงความสัมพันธ์ของ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในละคร โดย จะส่งผลกระทบถึงความรู้สึกการ พัฒนาตัวละคร
92 ตารางที่ 7 การฝึกซ้อมละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ครั้งที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผลที่เกิดขึ้น/ข้อควรคำนึง 20 16 กุมภาพันธ์ 2566 ซ้อมรวมฉากที่ 1-5 ครั้งที่ 2 การพัฒนาตัวละครของนักแสดง ยังไม่สมดุลกัน ทำให้เกิดข้อ แตกต่างของการแสดง อาจเป็น เพราะมีนักแสดงที่มีประสบการณ์ ตรงจากละครเวที และนักแสดง ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ด้าน นาฏศิลป์ไทย ผู้วิจัยจึงปรับความ สมดุลดังกล่าว โดยให้นักแสดงที่มี ประสบการณ์จากละครเวทีเป็น ส่วนหนึ่งในการอธิบายถึงการ แสดงละครเวที 21 17 กุมภาพันธ์ 2566 ซ้อมใหญ่ ผู้วิจัยได้ดำเนินการซ้อมตามแผนที่ วางไว้สำหรับการถ่ายทำ เพื่อ สร้างความเข้าใจให้กับนักแสดง เนื่องจากอาจมีการบันทึกวีดิทัศน์ มากกว่า 1 ครั้งของแต่ละซีน 22 18 กุมภาพันธ์ 2566 ถ่ายทำ การบันทึกวีดิทัศน์ในแต่ละซีนมาก กว่า 1 ครั้ง เนื่องจากมีการบันทึก วีดิทัศน์เสริมเพื่อความสมบูรณ์ ของละคร ทั้งนี้เพื่อการตัดต่อที่ สมบูรณ์ ที่มา: ผู้วิจัย
93 จากตารางที่ 7 นักแสดงรับบทโทน คือ นายเฉลิมรัฐ จุลโลบล (แบงค์) ผู้ชนะเลิศรายการ เพลงเอก ครั้งที่ 2 สามารถมาร่วมซ้อมและถ่ายทำได้เพียง 2 ครั้ง จึงทำให้ผู้วิจัยต้องดำเนินการ วางแผนในการซ้อม บันทึกเสียงและถ่ายทำให้เสร็จสมบูรณ์ โดยวันและเวลาที่มาร่วมซ้อมและ บันทึกเสียงคือ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 – 16.00 น. และวันที่สามารถมาบันทึกวีดิทัศน์ ได้ คือ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 8.00 – 18.00 น. แต่เนื่องด้วยมีการบันทึกวีดิทัศน์ เพื่อการปรับแก้และบันทึกไว้เพื่เป็นซีนสำรอง จึงทำให้การถ่ายทำล่วงเวลาไปสิ้นเสร็จที่เวลา 21.00 น. ด้วยระยะเวลาที่จำกัดในการฝึกซ้อมและการดำเนินการบันทึกวีดิทัศน์ ผู้วิจัยจึงได้ควบคุม การฝึกซ้อมนักแสดงท่านอื่นอย่างละเอียด เพื่อให้เตรียมพร้อมในการร่วมซ้อมของนายเฉลิมรัฐ จุลโลบล โดยเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดเพียง 2 วัน ในการซ้อม บันทึกเสียงและดำเนินการบันทึกวีดิทัศน์ ผู้วิจัยพบว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่หลายจุด แต่เนื่องด้วยเวลาที่ไม่ตรงกันระหว่างนักแสดงนำจึงทำให้ ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของผลงาน ภาพที่ 18 ผู้วิจัยอธิบายแนวคิดและรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย
94 ภาพที่ 19 ผู้วิจัย นักแสดงร่วมอ่านบทละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย จากภาพที่ 18 - 19 ผู้วิจัยได้ดำเนินการอธิบายถึงแนวคิดและรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก เพื่อให้นักแสดงทุกคนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งภาพการแสดงให้เป็นไปในทิศทาง เดียวกัน ทั้งนี้พบว่านักแสดงเกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก นอกจากนี้ผู้วิจัยได้อธิบายถึงบุคลิกและความรู้สึกจากภายใน (Inner) ของตัวละคร และ ทดลองให้นักแสดงฝึกปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงบุคลิกและความรู้สึกจากภายใน (Inner) ของ ตัวละคร ทั้งนี้นักแสดงนำบางคนยังได้ยกตัวอย่างตัวละครในภาพยนตร์และละครที่ตนเองเคยชมมา เป็นกรณีศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการแสดงละคร ภาพที่20 การสร้างความเข้าใจตัวละครรายบุคคล ที่มา: ผู้วิจัย
95 จากภาพที่ 20 ผู้วิจัยได้ใช้วิธีการสร้างความเข้าใจตัวละครให้กับนักแสดงเป็นรายบุคคล โดยให้นักแสดงอ่านบทละคร ต่อบทเจรจาระหว่างกัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนสอบถามประเด็นที่เกี่ยวข้อง กับตัวละครระหว่างผู้วิจัยและนักแสดง เพื่อให้เกิดความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ภาพที่ 21 การฝึกซ้อมระหว่างตัวละครพ่อและโทน ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 22 การฝึกซ้อมระหว่างตัวละครเอก โทน จิตราและอภิวัฒน์ ที่มา: ผู้วิจัย
96 ภาพที่ 23 การฝึกซ้อมการเต้นประกอบเพลงสู่กรุง ที่มา: ผู้วิจัย จากการคัดเลือกและการฝึกซ้อมนักแสดงข้างต้นทำให้ผู้วิจัยพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อ การฝึกซ้อมและการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก คือ ทักษะการแสดงละครของนักแสดงไม่สมดุลกัน เพราะนักแสดงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มที่มีพื้นฐานทางด้านละครเวทีที่ต่างกัน ส่งผลให้การควบคุมเสียง การส่งเสียงและการแสดงลักษณะสีหน้าและอารมณ์มีความแตกต่างกัน กล่าวคือ นักแสดงกลุ่มที่ 1 มีพื้นฐานนาฏศิลป์ทำให้การแสดง การร้อง ตลอดจนท่าทางธรรมชาติที่แสดงออกมามีทิศทาง มีความเป็นนาฏศิลป์ไทย ซึ่งต่างจากนักแสดงกลุ่มที่ 2 มีพื้นฐานละครเวที ทำให้การแสดง การร้อง และการแสดงท่าทางธรรมชาติมีทิศทางที่เหมาะสมกับละครเวที 5. การนำเสนอข้อมูลละครเพลง เรื่องโทนรัก เมื่อกระบวนการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ผู้วิจัยได้ กำหนดการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญผู้ทรงคุณวุฒิ ก่อนเผยแพร่การแสดง โดยมี รายละเอียดดังนี้ 5.1 การประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อยืนยันข้อมูลการวิจัย ซึ่งบุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 20 ปี จำนวน 7 คน คือ
97 5.1 นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย - ละคร) พุทธศักราช 2560 5.2 นางนฤมัย ไตรทองอยู่ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 5.3 นายสถาพร นิยมทอง ผู้เชี่ยวชาญดุริยางค์สากล ข้าราชการบำนาญสำนัก การสังคีต กรมศิลปากร 5.4 อาจารย์เกษม ทองอร่าม ผู้เชี่ยวชาญด้านบทละคร วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 5.5 รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์) พุทธศักราช 2548 5.6 ดร.ชนัย วรรณะลี ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 5.7 ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำกับการแสดง ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบัน บัณฑิตพัฒนศิลป์ 5.8 รองศาสตราจารย์ ดร.อนุกูล โรจนสุขสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านละครเพลง ภาคีสมาชิกราชบัณฑิตยสถานและหัวหน้าภาควิชานาฏยศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ผลการประชุมกลุ่มจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2566 ณ โรงละครขนาดเล็ก วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ได้มีข้อเสนอแนะดังตารางที่ 8 ตารางที่ 8 ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) ลำดับ ผู้เชี่ยวชาญ / ผู้ทรงคุณวุฒิ ข้อเสนอแนะ 1 นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทยละคร) พุทธศักราช 2560 -การนำเสนอมีความชัดเจนทำให้เข้าใจถึงความ เป็นมาของละครเพลง -เทคนิคการสลับนักแสดงทำได้ดี -ควรเพิ่มเสียงพิเศษการแสดงให้สอดคล้องกับ กรุงเทพมหานคร เช่น เสียงหวอเตือนการทิ้ง ระเบิด เสียงระฆัง เสียงรถราง เสียงแตรรถ
98 ตารางที่ 8 ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) (ต่อ) ลำดับ ผู้เชี่ยวชาญ / ผู้ทรงคุณวุฒิ ข้อเสนอแนะ 2 นางนฤมัย ไตรทองอยู่ ผู้เชี่ยวชาญ นาฏศิลป์ไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ -นำเสนอได้ดี -เมื่อรับชมแล้วรู้สึกย้อนยุคได้เป็นอย่างดี -สร้างสรรค์ผลงานออกได้ในระดับนี้ถือว่าดีมาก 3 นายสถาพร นิยมทอง ผู้เชี่ยวชาญ ดุริยางค์สากล ข้าราชการบำนาญ สำนักการสังคีต กรมศิลปากร -ควรเพิ่มเสียงระฆังของรถราง -เพลงรากเรามีเสียง walk base ดังเกินไปทำให้ กลบเสียงของนักแสดงในการร้องและพูด และ เพื่อให้ดนตรีมีความสอดคล้องกับแนวเพลงของ รพีพร -ให้คำนึงถึงภาพและเสียงให้สัมพันธ์กัน 4 อาจารย์เกษม ทองอร่าม ผู้เชี่ยวชาญ ด้านบทละคร วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ -ควรคำถึงการร้องของนักแสดง -ผู้วิจัยต้องการนำเสนอความเป็นมาของราก วัฒนธรรม เรื่องของรำโทนที่พัฒนามาเป็นรำวง ด้วยการประยุกต์ตามค่านิยม ผู้วิจัยเรียงร้อย เรื่องราวด้วยดี -ชื่นชม 5 ดร.ชนัย วรรณะลี อาจารย์ประจำ หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สถาบัน บัณฑิตพัฒนศิลป์ -นำเสนอรายละเอียดของการสร้างสรรค์ละครได้ ละเอียดเป็นอย่างดี -นักแสดงนำสามารถโปรเจคเสียงได้เป็นอย่างดี -ควรตัดคำว่า ไม่จำกัดเพศ ในคุณสมบัติของ นักแสดง 6 รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์) พุทธศักราช 2548 ควรตัดต่อละครให้มีความน่าสนใจ หรืออาจใช้ ภาพมุมกว้างเพื่อให้ผู้ชมได้เห็นภาพรวมบนเวที การแสดง
99 ตารางที่ 8 ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) (ต่อ) ลำดับ ผู้เชี่ยวชาญ / ผู้ทรงคุณวุฒิ ข้อเสนอแนะ 7 ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้เชี่ยวชาญด้านการ กำกับการแสดง ผู้ช่วยอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ -ควรแนะนำหลักสูตรและวัตถุประสงค์ของการ วิจัยก่อนการนำเสนอผลงาน -การนำเสนอละครเพลงรพีพร เป็นการนำกลับ มาสร้างสรรค์ใหม่ ซึ่งต้องระบุให้ได้ว่าต้องการ สื่อสารอะไรกับผู้ชม -การบันทึกวีดิทัศน์ทำค่อนข้างยาก ผู้วิจัยต้อง คำนึงถึงการนำวิธีการบันทึกวีดิทัศน์และการตัด ต่อมาผสมผสานกันให้เนียบเนียน -กลุ่มผู้แสดงโดยเฉพาะนักศึกษาควรได้รับการ เรียนวิชาการละครเวที -งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสรรค์ ละคร ซึ่งเข้าใจได้ว่าต้องใช้งบประมาณจำนวน มาก 8 รองศาสตราจารย์ ดร.อนุกูล โรจนสุข สมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านละครเพลง ภาคีสมาชิกราชบัณฑิตยสถานและ หัวหน้าภาควิชานาฏยศิลป์ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย -จากการได้รับชมจากการนำเสนอ วีดิทัศน์การ แสดงและเอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย ต้องขอชื่นชม เนื่องจากการสร้างสรรค์ละครใน ครั้งนี้เป็นกระบวนการทดลอง ซึ่งผลออกมาใน ระดับนี้ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะ วิทยานิพนธ์ระดับดุษฎีบัณฑิตจะต้องมีการ พัฒนาและจัดแสดงในครั้งต่อ ๆ ไป ถึงจะ ตอบโจทย์ได้ -การนำเสนอรูปแบบการแสดงมีความละเอียด -ให้คำนึงถึงกระเป๋าสะพายว่าอยู่ในช่วงยุคนั้น หรือไม่
100 ตารางที่ 8 ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) (ต่อ) ลำดับ ผู้เชี่ยวชาญ / ผู้ทรงคุณวุฒิ ข้อเสนอแนะ -ให้คำนึงถึงแบบการประเมินคุณภาพผลงาน ว่า ผลงานชิ้นนี้ต้องการให้อะไรกับผู้ชม และผู้ชม รับทราบสาระหรือองค์ความรู้ได้หรือไม่ถึงจะทำ ให้ผลงานชิ้นนี้ประสบความสำเร็จ เพราะผลงาน ชิ้นนี้เป็นเพียงแค่การทดลองในการสร้างอาจมี ความยากลำบาก แต่อย่างไรก็ตามผู้วิจัยจะต้อง วัดผลความพึงพอใจที่มีมากกว่าความชอบ หรือไม่ชอบ และต้องวัดว่าผู้ชมได้องค์ความรู้จาก การทดลองสร้างในครั้งนี้หรือไม่ ที่มา : ผู้วิจัย จากนั้นสรุปผลการประชุมกลุ่มย่อย แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบยืนยันข้อมูลด้วย วิธีการเขียนแบบพรรณนาความและปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อ ดำเนินการในลำดับต่อไป ผลจากการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) ได้รับข้อเสนอแนะ ดังตารางที่ 9 ตารางที่ 9การปรับปรุงข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) ลำดับ ข้อเสนอแนะ การปรับปรุงแก้ไข 1 เสียง walk base เพื่อให้ดนตรีมีความ สอดคล้องกับแนวเพลงของรพีพร ผู้วิจัยได้ดำเนินการแก้ไขด้วยการปรับลดเสียง walk base ในช่วงเพลงรากเรา ด้วยโปรแกรม Garage Band เพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับเสียง ของนักแสดงในการพูดและร้อง ที่สำคัญให้ เป็นไปตามรูปแบบเพลงของในละครเพลงรพีพร
101 ตารางที่ 9การปรับปรุงข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) (ต่อ) ลำดับ ข้อเสนอแนะ การปรับปรุงแก้ไข 2 ควรเพิ่มเสียงพิเศษการแสดง เพื่อ ส่งเสริมให้ละครเพลง เรื่องโทนรักมี ความสมบูรณ์ ผู้วิจัยได้ดำเนินการคัดเลือกเสียงพิเศษตาม ข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย เสียงรถไฟ เสียงหวอเตือนการทิ้งระเบิด เสียง ระฆังรถราง เสียงแตรรถ นอกจากนี้ผู้วิจัยได้ ดำเนินการสร้างสรรค์เพลงประกอบอารมณ์ของ ตัวละครแทรกไว้ในช่วงที่ไม่มีบทสนทนาของ นักแสดง 3 ควรตัดต่อละครให้มีความน่าสนใจ หรืออาจใช้ภาพมุมกว้างเพื่อให้ผู้ชมได้ เห็นภาพรวมบนเวทีการแสดง ผู้วิจัยได้ดำเนินการตัดต่อโดยใช้ภาพกว้างเป็น หลัก และลดภาพการถ่ายแบบประชิดตัว นักแสดง เพื่อให้ความรู้สึกดูละครในรูปแบบเวที มากกว่าเป็นละครโทรทัศน์ 4 ควรพิจารณาอุปกรณ์ประกอบการ แสดงว่าอยู่ในยุคสมัยดังกล่าวหรือไม่ ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าความเป็นมาของ กระเป๋าสะพายที่ปรากฏในประเทศไทย โดย พบว่า ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2479 มีการริเริ่ม ให้นักเรียนใช้เครื่องแบบนักเรียน “ชุดยุวทหาร” ซึ่งได้ปรากฏภาพกระเป๋าสะพายของนักเรียน โรงเรียนเทพศิรินทร์ ทำให้ผู้วิจัยได้รับแรงบันดาล ใจผสมผสานกับจินตนาการของผู้วิจัยในการ ออกแบบกระเป๋าสะพายเพื่อนำมาใช้ประกอบ ฉากในละครเพลง ที่มา : ผู้วิจัย
102 5.2 การเผยแพร่การแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก การสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยกำหนดรูปแบบการเผยแพร่ไว้ 2 ลักษณะ คือ 1) รูปแบบเข้าชม ณ โรงละครศิลปนาฏดุริยางค์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (Onsite) 2) รูปแบบการชมผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ (Online) 5.3 ประเมินคุณภาพผลงานและความคิดเห็นของผู้ชมที่มีต่อละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยผู้วิจัยได้จัดทำแบบประเมินคุณภาพผลงานสำหรับผู้ชมทั่วไป จำนวน 50 คน โดยใช้วิธีการ ประเมินผ่านระบบ Google form แบบประเมินคุณภาพผลงาน ละครเพลง เรื่องโทนรัก เป็นแบบสอบถามแบบมาตราประมาณค่า (Rating Scale) มีเกณฑ์ในการให้คะแนนความพึงพอใจ ดังนี้ ตารางที่ 10 การแปลค่าแบบประเมินคุณภาพและความคิดเห็นของผู้ชมที่มีต่อการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ระดับความพึงพอใจ คะแนน ความพึงพอใจมากที่สุด 5 คะแนน ความพึงพอใจมาก 4 คะแนน ความพึงพอใจปานกลาง 3 คะแนน ความพึงพอใจน้อย 2 คะแนน ความพึงพอใจน้อยที่สุด 1 คะแนน ที่มา: ผู้วิจัย การแปลค่าระดับความพึงพอใจ ประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณค่าสถิติเบื้องต้น (ค่าเฉลี่ย) กำหนดเกณฑ์ดังนี้
103 ตารางที่ 11 การแปลค่าระดับความพึงพอใจแบบประเมินคุณภาพและความคิดเห็นของผู้ชมที่มีต่อ การแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ค่าเฉลี่ย แปลค่า 4.51-5.00 มากที่สุด 3.51-4.50 มาก 2.51-3.50 ปานกลาง 1.51-2.50 น้อย 1.00-1.50 น้อยที่สุด ที่มา: ผู้วิจัย 6. การตรวจสอบข้อมูล การวิจัยครั้งนี้ใช้การศึกษาค้นคว้าข้อมูลชั้นปฐมภูมิ โดยการสัมภาษณ์ข้อมูลแล้วนำมา ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดว่าตรงกับข้อมูลหรือเอกสารที่เคยปรากฏมาแล้วหรือไม่ ซึ่งรายละเอียด คือ เมื่อได้ข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ การสัมภาษณ์ การสังเกตการณ์ ผู้วิจัยจะทำการตรวจสอบ ความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยพิจารณาจากแหล่งที่มาของข้อมูลว่ามีความน่าเชื่อถือมาก น้อยเพียงใด จากนั้นผู้วิจัยได้ดำเนินการตรวจสอบซ้ำอย่างละเอียดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล ตลอดจนความคลาดเคลื่อนของข้อมูล นอกจากนี้เมื่อพบว่าข้อมูลไม่เพียงพอหรือข้อมูลเกิดความ คลาดเคลื่อนหรือขาดหายไปบางส่วน ผู้วิจัยได้ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ศิลปิน ตลอดจนอาจารย์ที่ปรึกษาเพิ่มเติม โดยข้อมูลทั้งหมดผู้วิจัยจะทำความเข้าใจเองรวมทั้ง นำเสนอให้อาจารย์ที่ปรึกษางานวิจัยได้ร่วมตรวจสอบข้อมูลอีกด้วย 7. การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเอกสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องและข้อมูลที่ ได้จากเครื่องมือทุกประเภทที่ใช้ในการวิจัยมาจำแนกข้อมูลและจัดหมวดหมู่ข้อมูลตามประเภทที่ กำหนดไว้และทำการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 7.1 จัดกลุ่มเอกสารที่จะวิเคราะห์ออกเป็นกลุ่มข้อมูลต่าง ๆ ประกอบด้วย ความหมาย กำเนิดวิวัฒนาการ ตลอดจนรูปแบบและองค์ประกอบละครเพลงของรพีพร นอกจากนี้ยังศึกษา
104 ประเด็นศิลปะการแสดง แนวคิดและทฤษฎีงานวิจัยเกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ของการวิจัย 7.2 นำข้อมูลจากการจัดกลุ่มเอกสารมาทำการวิเคราะห์เนื้อหา สรุปประเด็นที่เกี่ยวข้อง 7.3 วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตการณ์แบบสอบถาม โดยการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตีความสร้างข้อสรุปองค์ความรู้ที่ปรากฏในการวิจัยครั้งนี้ 8. การนำเสนอข้อมูล จากการศึกษาผู้วิจัยนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล โดยการเขียนรูปแบบ พรรณนาวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย จัดทำรูปเล่มแบบสมบูรณ์ เผยแพร่และบทความวิจัย ตามลำดับ
บทที่ 4 ผลการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ โดยรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล สู่กระบวนการสร้างสรรค์ นำเสนอผลต่อผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมกลุ่ม ย่อยเพื่อยืนยันข้อมูล และนำเสนอการแสดงสู่สาธารณชน ผู้วิจัยขอนำเสนอตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. การสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.1 แนวคิดการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.2 รูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.3 องค์ประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.4 ขั้นตอนการผลิตและบันทึกวีดิทัศน์ 2. การประเมินคุณภาพและความคิดเห็นของผู้ชมที่มีต่อละครเพลง เรื่องโทนรัก 2.1 การนำเสนอละครเพลง เรื่องโทนรัก 2.2 ปัญหาที่พบและแนวทางในการแก้ไข 2.3 การประเมินคุณภาพและความคิดเห็นของผู้ชมที่มีต่อละครเพลง เรื่องโทนรัก 3. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก 3.1 องค์ความรู้ที่ได้รับและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง 3.2 องค์ความรู้ที่ได้รับและเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาชีพ วิทยานิพนธ์ละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาละครเพลงรพีพร ตามเนื้อหาและ รายละเอียดที ่ปรากฏในบทที ่ 2 โดยทำการศึกษาและวิเคราะห์เพื ่อนำมาเป็นแนวทางในการ สร้างสรรค์การแสดง ซึ่งจากการศึกษาทำให้ผู้วิจัยจำแนกเนื้อหาได้ดังนี้
106 1. การสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.1 แนวคิดละครเพลง เรื่องโทนรัก จากข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับละครเพลงรพีพรข้างต้นทำให้ผู้วิจัยได้แรงบันดาลใจจากความ นิยมของละครเพลงรพีพรเมื่อ ปีพุทธศักราช 2496-2538 ประกอบด้วยรูปแบบและองค์ประกอบการ แสดงที่มีสุนทรียศิลป์ นำสู่การสร้างสรรค์ละครเพลงเพื่อเป็นแนวทางการสร้างสรรค์การแสดงที่มุ่งเน้น ประโยชน์สู่สาธารณชนอย่างหลากหลาย ทั้งด้านความงามทางสุนทรียะ ความบันเทิง และเพื่อเป็น แนวทางในการอนุรักษ์ต่อยอดศิลปวัฒนธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมและกระตุ้นให้คนในชาติตระหนักรู้ และภาคภูมิใจในความเป็นไทย จากแนวคิดของละครเพลงรพีพร ผู้วิจัยได้นำมาสร้างแนวคิดการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ประกอบด้วย 1.1.1 กำหนดแก่นเรื่อง (Theme) ผู้วิจัยตระหนักถึง การเห็นคุณค ่าในตนเอง (Self-esteem) โดยศึกษาแนวคิด ดังกล่าวของ Coopersmith (1984) กล่าวว่า การเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-esteem) มีบทบาทที่สำคัญ มากต ่อบุคคล เนื ่องจากมีความสัมพันธ์ต ่อการสร้างมโนทัศน์ของบุคคล (Self-Concept) ซึ ่งเป็น ลักษณะของการประเมินคุณค่าและความสามารถของตนเอง ส่งผลให้บุคคลเกิดความรู้สึกว่าตนเป็นที่ ยอมรับและเป็นที่ต้องการของผู้อื่น มีความสามารถ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อ สังคม ลักษณะดังกล ่าวเปรียบเสมือนพลังที ่ช ่วยส ่งเสริมให้บุคคลสามารถเผชิญกับปัญหาและ ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตได้ด้วยความมั่นใจ ตลอดจนสามารถดำรงอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าหากบุคคลใดบุคคลหนึ่งสามารถเห็นคุณค่าในตนเองได้ บุคคลนั้นมักจะเป็นผู้ที่มี ภาวะแห่งความสุข คือ มีอุปนิสัยร่าเริง วิตกกังวลต่ำ ปรับตัวได้ดี ช่างสังเกต มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีใน กลุ่มสังคม ส่งผลให้สามารถลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ภายใน ร่างกายหรือจิตใจ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแก่นเรื่องของการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้วิจัยจึงได้ กำหนดคำสำคัญ (Keyword) ในละคร คือ คำว่า “อย่าลืมราก ความเป็นเรา” ซึ่งมีความหมายว่า การเห็นคุณค่าในตนเอง บรรพบุรุษ ตลอดจนวัฒนธรรมที่หล่อหลอมสร้างคุณค่าให้กับชีวิต โดยการ เห็นคุณค่าที่ปรากฏในละครสามารถตีความคุณค่าได้หลายมิติ ประกอบด้วย คุณค่าของตัวเราที ่มี ความสามารถ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อสังคม คุณค่าของบรรพบุรุษในการสร้างฐาน รากด้านศิลปวัฒนธรรมให้เป็นสมบัติของชาติและที่สำคัญคุณค่าของเอกลักษณ์ไทย (Thai Identity) ที่มาจากศิลปวัฒนธรรมสำคัญของแผ่นดินที่สั่งสม ก่อให้เกิดเป็นความภาคภูมิใจของคนในชาติ
107 1.1.2 กำหนดช่วงเวลาของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในละคร ผู้วิจัยได้ทำการศึกษายุคสมัยของละครเพลงรพีพร พบว่าละครเพลงของไทยถือ กำเนิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2474 โดยคณะละครเอกชน ชื่อว่าคณะจันทโรภาส เป็นละครของนาย จวงจันทน์ จันทร์คณา (พรานบูรพ์) ซึ ่งทำให้รพีพร หรือ นายสุวัฒน์ วรดิลก ศิลปินแห ่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช 2534 ได้แรงบันดาลใจจากการชมละครเพลงของพรานบูรพ์แล้วนำมา สร้างละครเพลงเป็นของตนเอง ต่อมาในปีพุทธศักราช 2483 เป็นช่วงของการก่อตั้งโรงละครศาลา เฉลิมไทยขึ้น จากนั้นกำเนิดละครเพลงรพีพรเกิดขึ้นในปีพุทธศักราช 2496 จากเส้นทางของช่วงเวลา ที่เกิดขึ้นประกอบกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในสังคมไทย คือ การเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครอง วัฒนธรรมและค่านิยม รวมทั้งเหตุการณ์ของสงครามโลก ครั้งที่ 2 ส่งผลให้ผู้วิจัยนำข้อมูลข้างต้นมา เป็นปัจจัยหลักในการกำหนดช่วงเวลาของเรื่องราวที่ปรากฏในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ให้เกิดขึ้น ในปีพุทธศักราช 2480 – 2490 1.1.3 การอนุรักษ์ศิลปะการแสดงรำโทน จากการกำหนดช ่วงเวลาของเรื ่องราวที ่ปรากฏในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ให้เกิดขึ้นในปีพุทธศักราช 2480 – 2490 ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาพลวัตของสังคมไทย ในยุคสมัยดังกล่าวพบว่า พัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในยุคสมัยข้างต้นได้ปรากฏ เหตุการณ์สำคัญที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและส่งผลถึงปัจจุบัน คือ การพัฒนารำโทนสู่รำวง มาตรฐาน เป็นการสะท้อนทัศนคติทางสังคมการเมืองที ่ปลูกฝังตามยุคสมัย รวมทั้งการส ่งเสริมให้ ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐนิยม อาจกล่าวได้ว่า รำโทนเป็นเครื่องมือทางวัฒนธรรมในการส่งเสริมให้คน ในชาติเกิดการตระหนักในการรักชาติ รำโทนได้มีการพัฒนา ปรับปรุงให้มีแบบแผนมีมาตรฐานและมี ความเหมาะสม จึงได้มีการพัฒนาจาก รำโทน สู ่ รำวง และ รำวงมาตรฐาน ตามลำดับ ด้วย ความสำคัญข้างต้นทำให้รำวงมาตรฐานได้ถูกกำหนดให้เป็นไปตามนโยบายรัฐนิยม มุ่งเน้นการแต่ง กายให้สุภาพ กำหนดให้มีการรำวงของข้าราชการทุกวันพุธ รวมทั้งอนุญาตให้สามารถจัดแสดงในงาน รื่นเริง นอกจากนี้ยังปรากฏนโยบายกำหนดให้แสดงก่อนลีลาศ การแสดงต้อนรับแขกคนสำคัญของ ประเทศ รวมทั้งบรรจุอยู่ในการเรียนการสอน (มณิศา วศินารมณ์, 2561, น. 2394) นอกจากนี้ผู้วิจัย ได้นำประสบการณ์เกี่ยวกับรำโทน คือ ผู้วิจัยได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยจากสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประจำปีพุทธศักราช 2563 งานวิจัย เรื่องการศึกษารูปแบบดั้งเดิมสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุ มาประยุกต์ใช้ในการกำหนดแนวคิดการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงรำโทน ซึ่งเป็นองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านศิลปวัฒนธรรม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสาน
108 1.1.4 บันทึกวีดิทัศน์และใช้เทคนิคพิเศษ ราชบัณฑิตยสภา (2563) ได้ทำการพิจารณาศัพท์บัญญัติและนิยามของคำว่า New normal เนื่องจากได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 คำว่า New normal โดย Oxford Dictionary ได้ให้คำนิ ย ามว ่ า A previously unfamiliar or atypical situation that has become standard, usual, or expected ห ม า ย ถ ึง ส ถ าน ก า รณ ์ ห รื อ ปรากฏการณ์ ที่แต่เดิมเป็นสิ่งที่ไม่ปรกติ ผู้คนไม่คุ้นเคย ไม่ใช่มาตรฐาน ต่อมามีเหตุหรือเกิดวิกฤติ บางอย่าง จึงมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้สถานการณ์หรือปรากฏการณ์นั้นกลายเป็นสิ่งที่ปรกติและเป็น มาตรฐาน จากข้อความข้างต้นให้ความเห็นว่าคำจำกัดความของคำว่า New normal เป็นพลวัตทาง สังคมอย ่างหนึ ่ง อย ่างไรก็ตามคณะกรรมการบัญญัติศัพท์นิเทศศาสตร์ได้บัญญัติคำนี้ไว้แล้วว่า ความปรกติใหม่ ฐานวิถีชีวิตใหม่ (ราชบัณฑิตยสภา, 2563, ออนไลน์) ฐานวิถีชีวิตใหม่ หรือ New normal ได้แพร่หลายไปในสังคมโดยทั่ว ทำให้เกิด การปรับเปลี ่ยนรูปแบบในการดำเนินชีวิตเป็นอย ่างมาก โดยเฉพาะการดำเนินชีวิตด้านต ่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ เช่น Work From Home การอยู่บ้านพร้อมทำงาน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายใน บ้านของตนเอง, Online Business การดำเนินการทางธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์, Online Medical Consulting การแพทย์และสาธารณสุข (ที ่ปรึกษา) และ Online Learning/Entertainment การ เรียนและการชมสื่อบันเทิงผ่านระบบออนไลน์ เป็นต้น (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, 2563, ออนไลน์) เมื่อฐานวิถีชีวิตใหม่ (New normal) ได้เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ ทำให้ผู้วิจัยได้ตระหนักถึงการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก ให้สอดคล้องกับแนวทางฐานวิถีชีวิต ใหม่ หรือ New normal เพราะเนื่องจากระบบออนไลน์เป็นช่องทางหนึ่งให้กับผู้ชมสามารถรับชม ผ ่านหน้าจอโทรศัพท์หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอโทรทัศน์ผู้วิจัยจึงได้นำเทคนิคการตัดต่อ วิดีทัศน์และเทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey) คือ การถ่ายวีดิทัศน์โดยใช้ฉากหลังเป็นสีใดสีหนึ่ง และ ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เจาะหรือตัดสีนั้นออกไปจากวีดิทัศน์ทำให้ภาพในวีดิทัศน์ส่วนนั้นโปร่งใส สามารถที่จะนำภาพนิ่งหรือวีดิทัศน์อื่น ๆ มาใส่เป็นฉากหลังได้ การบันทึกวีดิทัศน์ด้วยเทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey)จึงมีประโยชน์ด้านความประหยัดที่ไม่ต้องสร้างฉากจริง หรือไม่ต้องเดินทางไปบันทึก วีดิทัศน์ในสถานที่จริง หรือเป็นสถานที่ที่เข้าถึงได้ยากหรือเข้าถึงไม่ได้ หรือแม้แต่ฉากจำลองที่ทำจาก โปรแกรมสามมิติและแอนนิเมชั ่น ประโยคที ่สรุปประโยชน์ของเทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey) ได้ดีที ่สุดก็คือ “การสร้างสิ ่งที ่เป็นไปไม ่ได้” (ธันวิน ณ นคร, 2565) ผู้วิจัยได้ศึกษารูปแบบของ เทคโนโลยีประเภทดังกล่าว พบว่า เทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey) สามารถนำมาใช้ในการออกแบบ ฉากในการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยการนำสถานที่ต่าง ๆ ที่ปรากฏในบทละครมาเป็น
109 ฉากประกอบการแสดงละครได้ดังนั้นจึงสามารถสรุปแนวคิดในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ได้ดังภาพที่ 24 ภาพที่ 24 แนวคิดของการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย จากการศึกษาแนวคิดและรูปแบบการแสดงละครเพลงรพีพรที ่ได้รับความนิยม เมื่อปีพุทธศักราช 2496 - 2538 โดยผู้วิจัยมุ่งเน้นศึกษาความสำคัญดังกล่าวเพื่อนำมาเป็นแนวทางใน การสร้างสรรค์การแสดงละครเพลง เรื ่องโทนรัก เพราะละครเพลงเป็นศาสตร์ที ่ผสมผสาน ศิลปะการแสดงหลายแขนง และสามารถมุ่งประโยชน์ทั้งเพื่อสุนทรียะความบันเทิงและเพื่อการอนุรักษ์ ต่อยอดวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ชมได้ตระหนักรู้การเห็นคุณค่า ในตัวเอง พร้อมทั้งให้ผู้ชมทุกวัยที่อาศัยในประเทศไทยและอาศัยอยู่ทั่วมุมโลก ร่วมภาคภูมิใจในคุณค่า ของเอกลักษณ์ไทย (Thai Identity) เมื่อได้รับชมละครเพลง เรื่องโทนรัก ผ่านระบบออนไลน์ 1.2 รูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก จากการศึกษาองค์ประกอบการแสดงละครเพลงของรพีพร ซึ่งประกอบด้วย แนวคิด รูปแบบการแสดง ผู้แสดง บทละคร ดนตรี เพลง เครื่องแต่งกาย และฉากที่ใช้ในการแสดง เพื่อเป็น แนวทางในการสร้างสรรค์รูปแบบละครเพลง เรื่องโทนรัก ดังนี้ 1) รูปแบบการแสดงตามแนวทางของ ละครเพลงรพีพร คือ ประกอบด้วยผู้แสดงชายและหญิง 2) เรื่องราวเกี่ยวกับความรักสอดแทรกการ ตระหนักรู้คุณค่าของการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม 3) การเห็นคุณค่าในตนเอง ตลอดจนการสะท้อนให้ การเห็นคุณค่าในตัวเอง, เรื่องราวชีวิต, ความรัก แนวคิดของการแสดง ละครเพลง เรื่องโทนรัก ละครเกิดขึ้นประมาณ ปีพ.ศ.2480-2490 ศิลปะการแสดงพื้นบ้านรำโทน เทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey) รูปแบบการแสดง “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” องค์ประกอบ การแสดง ละครเพลง เรื่องโทนรัก
110 เห็นถึงวัฒนธรรมและค ่านิยมของประเทศไทย ในช ่วงปีพุทธศักราช 2480 - 2490 ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ กำหนดรูปแบบการแสดงของละครเพลง เรื่องโทนรัก ไว้คือ “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” ดังนี้ 1.2.1 ร้อง คือ การดำเนินเรื่องราวไปตามบทละครด้วยการร้องเพลงสลับการพูดและ เจรจา 1.2.2 เล่น คือ การเล่นหรือการดำเนินเรื่องตามบทละคร โดยนักแสดงเป็นผู้แสดงออก ทางการร้อง การพูด แสดงลีลา ท่าทาง รวมไปถึงลักษณะสีหน้าและอารมณ์ 1.2.3 เต้น คือ การเต้นโดยนักแสดงใช้ท่าทางในชีวิตประจำวัน ลีลาท่าทางแบบนาฏศิลป์ ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัย 1.2.4 ระบำ คือ การที่นักแสดงใช้ท่าทางนาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัย ด้วยลีลา ท่าทางเดียวกันพร้อมเพรียงกันหรือแตกต่างกันตามทำนองเพลง การใช้รูปแบบ “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” ผู้วิจัยมุ่งเน้นให้ผู้ชมทุกวัยสามารถชมการแสดงละคร เพลง เรื่องโทนรัก ได้อย่างเข้าใจง่าย อีกทั้งผู้วิจัยในฐานะผู้ที่อยู่ในศาสตร์ด้านนาฏศิลป์ไทย จึงนำ รูปแบบการแสดงของละครรำหรือศิลปะการแสดงละครไทยเข้ามาผสมผสานกับการสร้างโครงเรื ่อง รวมทั้งการเล่าเรื่องโดยกำหนดให้บุรุษที่ 1 เป็นผู้เล่าเรื่อง (Narrator) ตามรูปแบบละครเวที ผู้วิจัยกำหนดรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยเปรียบเทียบกับละครเพลงของ รพีพรดังตารางที่ 12
111 ตารางที่ 12 การกำหนดรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก รูปแบบการแสดง ละครเพลงรพีพร รูปแบบการแสดง ละครเพลง เรื่องโทนรัก แนวคิด 1) คุณธรรม จริยธรรม 2) เรื่องราวความรัก 3) เรื่องราวที่เกิดขึ้นในละคร ได้แก่ ทั้ง การย้อนยุค และสถานการณ์ปัจจุบัน (ปีพุทธศักราช 2490) แนวคิด 1) แนวทางละครเพลงรพีพร 2) การเห็นคุณค่าในตัวเอง 3) เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2480-2490 4) การอนุรักษ์ศิลปะการแสดงรำโทน รูปแบบการแสดง ดำเนินเรื ่องด้วยการร้องเพลงสลับการพูด เจรจาด้วยร้อยแก้วและคำกลอนในรูปแบบการ แสดงละครเพลง รูปแบบการแสดง ดำเนินเรื่องด้วยการร้องเพลงสลับการพูดเจรจา ด้วยร้อยแก้วและคำกลอน ตามแนวทางละคร เพลงรพีพร โดยกำหนดรูปแบบการแสดง “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” คือ 1) ร้อง คือ การดำเนินเรื่องราวไปตามบท ละครด้วยการร้องเพลงสลับการพูด และเจรจา 2) เล่น คือ การเล่นหรือการดำเนินเรื่อง ตามบทละคร โ ดยนักแสดงเป็น ผู้แสดงออกทางการร้อง การพูด แสดง ลีลา ท่าทาง รวมไปถึงลักษณะสีหน้า และอารมณ์ 3) เต้น คือ การเต้นโดยนักแสดงใช้ท่าทาง ในชีวิตประจำวัน ลีลาท่าทางแบบ นาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัย 4) ระบำ คือ การที่นักแสดงใช้ท่าทาง นาฏศิลป์ไทยและนาฏศิลป์ร่วมสมัย ด้วยลีลาท่าทางเดียวกันพร้อมเพรียง กันหรือแตกต่างกันตามทำนองเพลง
112 ตารางที่ 12 การกำหนดรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) รูปแบบการแสดง ละครเพลงรพีพร รูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ผู้แสดง นักแสดงที่มีคุณสมบัติดังนี้ 1) พื้นฐานความรู้ยิ่งมากยิ่งดี 2) บุคลิกเด่น (ไม่จำเป็นต้องหล่อหรือสวย) 3) ร้องเพลงได้ในเกณฑ์ดี 4) น้ำเสียงพูดหรือร้องชัดเจนค่อนข้างดัง 5) มีจิตวิญาณของศิลปิน (อยู่บ้าง) ผู้แสดง นักแสดงที่มีคุณสมบัติดังนี้ 1) เป็นผู้ที่มีกระแสเสียงที่ไพเราะและมีทักษะ ด้านการร้องในระดับดี 2) มีทักษะนาฏศิลป์และทักษะการแสดงที่ดี 3) เป็นผู้ที่มีสุขภาพกายและใจ ที่สมบูรณ์ แข็งแรง 4) เป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์สามารถทํางาน ร่วมกับผู้อื่นได้ บทละคร ใช้ลักษณะคำประพันธ์ที่ประกอบด้วย ร้อย แก้ว ร้อยกรอง (กลอนสุภาพ กาพย์ฉบัง 16 และกวีนิพนธ์) บทละคร ประพันธ์บทขึ้นใหม่แบบนวนิยาย โดยคงการใช้ ลักษณะคำประพันธ์ คือ ร้อยแก้ว ร้อยกรอง (กลอนสุภาพ) และกลอนเพลง ตามแนวทางละคร เพลงรพีพร นอกจากนี้ยังใช้วิธีการพูดผสมการร้อง ในเพลงและการใช้บุรุษที่ 1 เป็นผู้เล่าเรื่อง (Narrator) ดนตรี บรรเลงเพลงด้วยดนตรีสากลประเภทแจ๊ส (JAZZ) ดนตรี บรรเลงเพลงด้วยดนตรีสากล ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทดนตรีสากล ผสมผสานดนตรีไทย คือ โทน ระนาด ขลุ่ยโดยกำหนดทำนองเพลงไทยเดิมเป็น ทำนองเพลงหลัก พร้อมทั้งสร้างสรรค์ทำนองเพลง ขึ้นใหม่ การขับร้อง แนวเพลงไทยสากล การขับร้อง 1) แนวเพลงไทยสากล 2) แนวเพลงไทยเดิม 3) แนวเพลงรำโทน 4) แนวเพลงไทยสากลผสมแนวเพลงลูกทุ่ง
113 ตารางที่ 12 การกำหนดรูปแบบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) รูปแบบการแสดง ละครเพลงรพีพร รูปแบบการแสดง ละครเพลง เรื่องโทนรัก การออกแบบลีลาท่าทาง ใช้ลีลาธรรมชาติและนาฏศิลป์ การออกแบบลีลาท่าทาง ใช้ลีลาธรรมชาติและนาฏศิลป์โดยจำแนก ออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1) ท่าทางในชีวิตประจำวัน (50%) 2) ลีลานาฏศิลป์ไทย (30%) 3) ลีลานาฏศิลป์ร่วมสมัย (20%) ฉาก ใช้ฉากกึ่งเสมือนจริง บางครั้งไม่ปรากฏการ ใ ช้ ฉ า กป ร ะกอบ ก า ร แ ส ดง เป็น ก า ร จินตนาการตามความคิดของผู้ชมการแสดง ฉาก ใช้ฉากกึ่งเสมือนจริงผสมผสานสื่อประสม มัลติมีเดีย และเทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey) เครื่องแต่งกาย แต่งกายตามบุคลิกและฐานะของตัวละคร เครื่องแต่งกาย แต ่งกายตามบ ุคลิกและฐานะของตัวละคร โดยกำหนดเครื่องแต่งกาย การแต่งหน้าและ ทรงผม ในปีพุทธศักราช 2480 - 2490 (คริสต์ศักราช 1940 - 1950) ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางที่ 12 ทำให้เห็นว่าผู้วิจัยได้กำหนดแนวทางการสร้างสรรค์ละครเพลง เรื่องโทนรัก ตามแนวทางละครเพลงของรพีพร แต ่ในขณะเดียวกันผู้วิจัยก็ได้เพิ ่มเติมในการสร้างแนวคิดและ กำหนดรูปแบบการแสดงจากประสบการณ์ของผู้วิจัย ซึ่งประกอบด้วย การสร้างแนวคิดการแสดงให้ ปรากฏเรื่องราวของการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงพื้นบ้านรำโทน สอดแทรกข้อคิดการเห็นคุณค ่าใน ตัวเอง กำหนดรูปแบบการแสดงที่มุ่งเน้นลีลาท่าทางในชีวิตประจำวันและลีลานาฏศิลป์ อีกทั้งการใช้ ฉากกึ่งเสมือนจริงผสมผสานสื่อประสม มัลติมีเดีย และเทคนิคโครมาคีย์ (Chromakey) เข้ามาเป็น ส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ละครเพลงอีกด้วย
114 1.3 องค์ประกอบการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก 1.3.1 บทละคร การสร้างสรรค์ในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการประพันธ์บทละครขึ้นใหม่โดยใช้ฉันท ลักษณ์ที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย ร้อยแก้ว กลอนแปด กลอนสุภาพและกลอนเพลงพร้อมทั้ง แนวคิดการแสดงที่ปรากฏในละครเพลงของรพีพร ประกอบด้วย แนวคิดเรื่องราวชีวิต ที่แสดงให้เห็น ถึงความรัก ฐานะ อาชีพ และบทบาททางสังคมของตัวละคร เรื่องราวเกิดขึ้นประมาณปีพุทธศักราช 2480 - 2490 (ประมาณคริสต์ศักราช 1940 - 1950) ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของละครเพลงรพีพร การสร้างสรรค์บทละครในครั้งนี้ผู้วิจัยได้สร้างโครงเรื ่องจากเรื ่องราวความรัก หน้าที ่ ตลอดจนความรับผิดชอบที ่ต้องเลือกกระทำของตัวละคร เหตุการณ์ สถานที่สำคัญต ่าง ๆ ตามบทละครที่ได้ประพันธ์ขึ้นใหม่ ทั้งนี้ได้กำหนดการดำเนินเรื่องละครเพลง เรื่องโทนรัก ดังตารางที่ 13 ตารางที่ 13 การดำเนินเรื่องของละครเพลง เรื่องโทนรัก ลำดับ ตัวละคร/ช่วงเวลา/สถานที่ เหตุการณ์ 1 ตัวละคร พระเอก พ่อ เพื ่อน และ ชาวคณะรำโทน เวลา หัวค ่ำ ประมาณ 18.00 – 20.00 น. สถานที่ งานวัด เปิดฉากด้วยบรรยากาศงานวัดต ่างจังหวัด โดยพระเอกและคณะ กำลังทำการแสดงรำโทน 2 ตัวละคร พระเอก พ่อ เพื่อน เวลา กลางคืนประมาณ 21.00 น. สถานที่ งานวัด หลังจากเสร็จงานมีคนบริจาคเงินให้กับคณะและ กล ่าวคำเหยียดหยามด้อยค ่าต ่อการแสดงรำโทน ที่ล้าหลังไปตามยุคสมัยและความไร้อารยะต่อสังคม ทำให้ตัวละครเกิดข้อขัดแย้งทางความคิด ส่งผลให้ เกิดการวิวาทกัน ทำให้พระเอกหนีออกจากบ้าน เข้าสู่เมืองกรุง 3 ตัวละคร พระเอก เวลา กลางคืนประมาณ 21.00 น. สถานที่ขบวนรถไฟ พระเอกหนีออกจากบ้านโดยเดินทางเข้าเมืองกรุง ด้วยรถไฟ อย่างมีความสุขและเพลิดเพลินกับการ เดินทางที่พบเจอสถานที่สำคัญต่าง ๆ 4 ตัวละคร พระเอก นางเอกและวง ดนตรีสากล เวลา กลางวัน ประมาณ 13.00 น. สถานที่ โรงภาพยนตร์เฉลิมไทย พระเอกสมัครเป็นนักดนตรีในวงดนตรีสากล และ ได้พบนางเอก
115 ตารางที่ 13 การดำเนินเรื่องของละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ลำดับ ตัวละคร/ช่วงเวลา/สถานที่ เหตุการณ์ 5 ตัวละคร พระเอก นางเอก ตัวร้าย เวลา กลางวัน ประมาณ 18.00 น. สถานที่ โรงภาพยนตร์เฉลิมไทย พระเอกได้เป็นนักดนตรีสากล มีชื่อเสียงและมีฐานะ ที่ดีขึ้น โดยพระเอกปกปิดภูมิหลังของตนเองที ่เป็น ทายาทคณะรำโทนเพราะกลัวถูกล้อเลียนและกลัว การด้อยค่าว่าเป็นคนบ้านนอก 6 ตัวละคร พระเอกและนางเอก เวลา กลางวัน ประมาณ 20.00 น. สถานที่ โรงภาพยนตร์เฉลิมไทย ความสัมพันธ์ของพระเอกและนางเอกได้พัฒนา ระหว ่างเหตุการณ์ของสงครามโลก ทำให้ทั้งสอง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้พระเอกมีเรื่องกับตัวร้าย คือ ชายที่แอบรักนางเอก ทำให้เกิดปมการเหยียด หยามและด้อยค่า เพราะตัวร้ายคือคนที่บริจาคเงิน ให้กับคณะรำโทน ขณะกำลังจัดแสดงในงานวัด 7 ตัวละคร พระเอก พ่อ เวลา กลางวัน ประมาณ 19.00 น. สถานที่ชุมชนบ้านบาตร งานแสดงรำโทนถูกจัดขึ้น ณ ชุมชนบ้านบาตร โดย มีคณะโทนเทวา ลพบุรีเข้าร ่วมการแสดง ทำให้ พระเอกและพ่อได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบ กันหลายปี พระเอกได้พบกับพ่อได้ทำการขออภัยในสิ่งกระทำ และหนีออกจากบ้าน ในขณะเดียวกันเกิดการทิ้ง ระเบิด ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ทำให้พ่อเกิด อุบัติเหตุที่แขนทำให้ไม่สามารถขึ้นตีโทนได้ 8 ตัวละคร พระเอก เวลา กลางวัน ประมาณ 19.00 น. สถานที่ชุมชนบ้านบาตร พ ่อขอร้องให้พระเอกขึ้นตีโทนแทน พระเอกเกิด ความกังวลใจและปฏิเสธการขึ้นตีโทน เพราะ เหตุผลของค ่านิยมในสังคมเรื ่องของนโยบายของ ผู้นำชาติ 9 ตัวละคร พระเอก นางเอก และวง ดนตรี เวลา กลางวัน ประมาณ 19.00 น. สถานที่ชุมชนบ้านบาตร ขณะทำการแสดงรำโทน ตัวร้ายได้เชิญที ่ปรึกษา ทางวัฒนธรรมของผู้นำชาติ มาดำเนินการยุติการ แสดงรำโทน แต ่สถานการณ์ได้เปลี ่ยนไป คือ ที่ ปรึกษากล ่าวว ่าจะนำเรื ่องรำโทนนำเสนอต ่อผู้นำ ชาติ เพื่อยกระดับและปรับปรุงให้มีความสากล โดย เปลี่ยนชื่อจากรำโทน เป็นรำวง
116 ตารางที่ 13 การดำเนินเรื่องราวของละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ลำดับ ตัวละคร/ช่วงเวลา/สถานที่ เหตุการณ์ 10 ตัวละคร พระเอก นางเอก และวง ดนตรี เวลา กลางวัน ประมาณ 19.00 น. สถานที่ชุมชนบ้านบาตร รำโทน ได้ถูกนำเสนอได้พัฒนาเป็นรำวง ทุกคนดีใจ จากผลการแสดงรำโทนในครั้งนี้เป็นอย่างมาก 11 ตัวละคร พระเอก นางเอก เวลา กลางวัน ประมาณ 20.00 น. สถานที่ชุมชนบ้านบาตร พระเอกนางเอกร้องเพลงเกี้ยวพาราสีกัน -จบการแสดงที่มา: ผู้วิจัย ในส่วนของบทละครนั้นเนื่องด้วยละครเพลง เรื่องโทนรัก เป็นเรื่องราวที่สร้างขึ้นใหม่ไม่เคย ปรากฏหรือแสดงที่ใดมาก่อน ทั้งนี้ประพันธ์บทละครเพลงโดยใช้ฉันทลักษณ์ ประกอบด้วย ร้อยแก้ว กลอนแปด กลอนสุภาพและกลอนเพลง สื่อถึงเรื่องราวชีวิตที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ฐานะ อาชีพ และบทบาททางสังคมของตัวละครที่เกิดขึ้นในช่วงประมาณปีพุทธศักราช 2480 - 2490 (ประมาณ คริสต์ศักราช 1940 – 1950) การสร้างสรรค์บทละครในครั้งนี้ดำเนินการตามระบบขั้นตอน ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้ ขั้นตอนที่1 กำหนดโครงเรื่อง จากการกำหนดแนวคิดและรูปแบบการแสดงที่ได้กล่าวมา ข้างต้น ผู้วิจัยจึงได้ดำเนินการกำหนดโครงเรื่องของละครด้วยองค์ความรู้พื้นฐานทางนาฏศิลป์ไทยที่ มุ่งเน้นการนำเสนอละครที่สื่อสารแบบตรงไปตรงมาอย่างละครรำ ซึ่งใช้วิธีการร่างโครงเรื่องจากภาพ จินตนาการของผู้วิจัยที ่กำหนดโครงเรื ่องด้วยตนเอง โดยโครงเรื ่องที ่ผู้วิจัยกำหนดเกิดจาก ประสบการณ์จากภูมิลำเนา การศึกษา การสอน การดำเนินการวิจัย การดูละครและสารคดีรวมทั้ง ประสบการณ์ทั้งทางตรง ทางอ้อมจากละครรำ ละครเวที ละครเพลง ตลอดจนภาพยนตร์ไทยและ ต่างประเทศ จากนั้นนำมาเขียนให้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นโครงเรื่องฉบับร่าง โดยพร้อมที ่จะ พัฒนาสู่โครงเรื่องฉบับสมบูรณ์ ขั้นตอนที่ 2 ลำดับเหตุการณ์ ระบุฉาก ตัวละคร โดยเริ่มจาก การเปิดเรื่อง การดำเนินเรื่อง และการคลี่คลาย นอกจากนี้กำหนดใช้บุรุษที่ 1 เป็นผู้เล่าเรื่อง (Narrator) ตามรูปแบบการแสดงของ ละครเวที
117 ขั้นตอนที่3 เขียนเนื้อเรื่องย่อ ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ การเปิดเรื่อง การแสดงละครเพลงเรื ่องโทนรักเปิดเรื ่องด้วยวิธีการแสดง 2 ลักษณะคือ - การบรรยายหรือใช้วิธีการพรรณนา ด้วยบทร้อยแก้ว เพื่อเป็นการ สร้างบรรยากาศให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ของเรื่อง - การแนะนำตัวละครเอก โดยนำลักษณะเด่นที่สำคัญของตัวละคร เอก ด้วยการเปิดตัวตามท้องเรื่องและเหตุการณ์ การดำเนินเรื่อง ใช้วิธีการดำเนินเรื่องตามแนวทางของละครเพลงรพีพร คือ แบ่งการดำเนินเรื่องไปตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้นและการให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ยึดติดอยู่กับตัวละครเอก (อัจฉราวรรณ ภู่สิริโรจน์, 2543) โดยมีรายละเอียดดังนี้ - การให้ตัวละครดำเนินเรื่องราวไปตามเหตุการณ์หรือสถานการณ์ ของเรื่อง โดยคำนึงว่าดำเนินเรื่องราวเช่นนี้จะให้ทำผู้ชมสามารถเข้าใจเนื้อหาของละครได้ - การสร้างเหตุการณ์สำคัญหรือสถานการณ์สำคัญให้เกิดขึ้นกับ ตัวละครเอก โดยมุ่งให้ตัวละครเอกมีบทบาทสำคัญ การคลี่คลายของเรื่อง เป็นการสร้างเหตุการณ์ให้มาถึงจุดปมปัญหาของ เรื่อง จากนั้นตัวละครจะสามารถแก้ไข คลี่คลายปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ผู้วิจัยยังได้ใช้กลวิธีที่เรียกว่า “มุมมองและผู้เล่าเรื่อง” (Point of View and Narrator) คือ กลวิธีเล่าเรื ่อง (Technique) ตามฐานะของผู้เล่าเรื ่องที ่สัมพันธ์กับเรื ่องที่เล่า โดยการใช้บุรุษที่ 1 เป็นผู้เล่าเรื่อง(ประคอง เจริญจิตรกรรม, 2556, น. 59) คือ ตัวละครเอก ชื่อโทน (พระเอก) ซึ่งเป็นการเล่าประสบการณ์ของตัวละคร รวมทั้งความรู้สึกนึกคิดของตัวละครที่เป็นผู้เล่า ทั้งนี้ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ผม” ในทุก ๆ ครั้งที่เล่าเรื่อง โดยมีรายละเอียดดังภาพที่ 25
118 ภาพที่25 การดำเนินเรื่องของละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย เนื้อเรื่องย่อละครเพลง เรื่องโทนรัก ...อย่าลืม “ราก” ความเป็น “เรา”... (การปฏิเสธตัวตนที่แท้จริง เพื่อแสวงหาสิ่งใหม่และสร้างภาพความสุขให้กับตัวเอง อาจเป็นความสุขเพียงแค่ชั่วคราว) เรื่องย่อ โทน หนุ่มนักดนตรีทายาทคณะรำโทน ผู้มีฝีมือในการบรรเลงจนทำให้คณะรำโทนนี้มีชื่อเสียง แต ่เขากลับไม ่ภาคภูมิใจอีกทั้งปฏิเสธในตัวตนและรากเหง้าของตนเอง ความใฝ ่ฝันของโทน คือ การเป็นนักดนตรีสากล เพราะ คิดว่าการเป็นนักดนตรีสากล คือ จุดหมายปลายทางที ่สำคัญของชีวิต โดยการตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื ่อไปสมัครเป็นนักดนตรีในวงดนตรีชื ่อดังตามวัฒนธรรมและ ค่านิยมของสังคม การเดินทางครั้งสำคัญของชีวิตได้เกิดขึ้นเมื่อโทนตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อเดินทางเข้า เมืองกรุงไปสมัครเป็นนักดนตรีสากลตามความฝัน โทน เดินทางด้วยรถไฟซึ่งการเดินทางครั้งนี้ทำให้ ละครเพลงเรื่อง โทนรัก เปิดเรื่อง ด าเนินเรื่อง การคลี่คลายของเรื่อง ดำเนินเรื่องด้วยการ “ร้อง เล่น เต้น ระบำ” “มุมมองและผู้เล่าเรื่อง” (Point of View and Narrator) การใช้บุรุษที่ 1 เป็นผู้เล่าเรื่อง
119 เขารู้สึกตื ่นเต้น สนุกสนานและเพลิดเพลิน โดยเฉพาะเมื ่อถึงเมืองกรุงทำให้โทนหลงใหลในแสงสี ที่สวยงามตระการตา โทนได้สมัครเข้าทำงานในวงดนตรี และได้พบกับ จิตรา ทายาทครูหลวงประสิทธิ์ดนตรีการ นางเอกสาวสวยของคณะละครเพลง ทั้งสองได้พูดคุยกัน จนทำให้ อภิวัฒน์ นักร้องนำวงโฆษณา การไม่พอใจเพราะเขาก็ได้หมายปองจิตราไว้เช่นกัน ต่อมาโทนได้เป็นนักดนตรีซึ่งเป็นอาชีพที่ใฝ ่ฝัน เพราะได้สร้างความสุข ภาพลักษณ์อันสวยงามให้กับโทน เขาได้ชื่นชมกับความสุขเหล่านี้ด้วยความ ภาคภูมิใจ ในขณะเดียวกันชุมชนบ้านบาตร ได้มีการจัดจัดการแสดงบรรเลงดนตรีรำโทนขึ้น โดยมีคณะรำ โทนจากทั่วสารทิศมาร่วมงาน โทนได้พบกับคณะรำโทนและได้กราบขอขมาพ่อที่หนีจากมา พ่อขอให้ โทนขึ้นตีโทนแทนพ่อ แต่โทนก็ได้ปฏิเสธ และให้ชาวคณะขึ้นตีแทน วันงานขณะที่คณะโทนเทวากำลังบรรเลง อภิวัฒน์ได้พาผู้พันเปรื่อง ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม ของท่านผู้นำชาติมาเพื่อสั่งการให้ยุติการแสดงและขับไล่โทนออกจากวงดนตรีสากลของรัฐที ่โทน ทำงานอยู่ อภิวัฒน์ดูถูกชาวคณะเรื่องความไร้อารยะ จนทำให้โทนไม่สามารถทนฟังการดูถูกได้ เขาจึง ตัดสินใจขึ้นตีโทนในค่ำคืนนั้น อภิวัฒน์ รีบกล่าวต่อผู้พันเพื่อเร่งเร้าให้ยุติการแสดงและขับไล่โทนออก จากวงดนตรีสากล แต่ผู้พันเปรื่องได้ชมรำโทนส่งผลให้เกิดความคิดที่จะนำรำโทนเข้าเสนอต่อท่าน ผู้นำชาติเพื่อยกระดับและพัฒนาให้เป็น “รำวงมาตรฐาน” โทน ได้แสดงฝีมือทักษะการตีกลองโทนอย่างสุดความสามารถ เพราะนี่คือ รากเหง้าที่เขามีความ ผูกพันกับรำโทนมาตั้งแต่เกิด เขามีความสุขอย่างมากที่ได้ทำหน้าที่แทนผู้เป็นพ่อ และในฐานะผู้รักษา รากเหง้าของวัฒนธรรมของแผ่นดินเกิด จากการสร้างโครงเรื่องบทละครผู้วิจัยได้ดำเนินตามแนวคิดของรพีพร โดยมีรายละเอียด ดังภาพที่ 26
120 ภาพที่26 การสร้างโครงเรื่องละครเพลง เรื่องโทนรัก ที่มา: ผู้วิจัย การสร้างโครงเรื่อง ละครเพลง เรื่องโทนรัก การเปิดเรื่อง • การบรรยายหรือ ใช้วิธีการ พรรณนา เพื่อ เป็นการสร้าง บรรยากาศให้ สอดคล้องกับ เหตุการณ์ หรือ สถานการณ์ของ เรื่อง • การแนะน าตัว ละครเอก โดยน า ลักษณะเด่นที่ ส าคัญของตัว ละครเอก การดําเนินเรื่อง • การให้ตัวละคร ด าเนินเรื่องราว ไปตามเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ ของเรื่อง • การสร้าง เหตุการณ์ส าคัญ หรือสถานการณ์ ส าคัญให้เกิด ขึ้นกับตัวละคร เอก โดยมุ่งให้ตัว ละครเอกมี บทบาทส าคัญ การคลี่คลายของ เรื่อง การด าเนินเรื่องใน ลักษณะการสร้าง เหตุการณ์ให้มาถึง จุดปมปัญหาของ เรื่อง จากนั้นตัว ละครจะสามารถ แก้ไข คลี่คลาย ปัญหาดังกล่าวได้
121 ขั้นตอนที่ 4 ประพันธ์บทละคร เมื่อผู้วิจัยได้โครงเรื่องของละครเพลงเรื่องโทนรัก ฉบับสมบูรณ์แล้ว จากนั้นได้นำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบทละครเพลง คือ อาจารย์ศุภวัฒน์ หงสา นักเขียนบท ผู้กำกับละครเวที ซีรีส์ ภาพยนตร์ โฆษณาและอาจารย์พิเศษการสอนการประพันธ์และ กำกับการแสดง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื ่อการประพันธ์บทละครเพลง โดยขั้นตอนใน การประพันธ์บทละครเพลง เรื่องโทนรัก มีรายละเอียดดังนี้ ระยะที่ 1 การสร้างความเข้าใจโครงเรื่อง ผู้วิจัยเข้าพบอาจารย์ศุภวัฒน์ หงสา เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่าง ผู้วิจัยและผู้ประพันธ์ โดยการอธิบายถึงแนวคิด รูปแบบการแสดงและโครงเรื่อง ด้วยการเปิดเรื่อง ดำเนินเรื ่องและปิดเรื ่องอย ่างละเอียด เพื ่อให้เกิดภาพเหตุการณ์ของละครระหว ่างผู้วิจัยและ ผู้ประพันธ์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ระยะที่ 2 ประพันธ์บทละคร จากนั้นผู้ประพันธ์ได้ดำเนินการประพันธ์บทละครเพลง เรื่องโทน รัก และส่งให้ผู้วิจัยตรวจสอบถึงวัตถุประสงค์ เนื้อหาและสาระที่ต้องการสร้างขึ้นในละครเรื่องนี้ เมื่อ ผู้วิจัยได้รับบทละคร พบว่า เพลงไทยสากลที่ปรากฏเป็นเพลงที่มีลิขสิทธิ์ผู้วิจัยจึงดำเนินการประพันธ์ บทเพลงประเภทเพลงไทยสากล ที่ใช้ในการแสดงละครเพลง เรื่องโทนรัก ขึ้นใหม่ ด้วยตนเอง จำนวน 6 เพลง ประกอบด้วย เพลงรากเรา บรรพบุรุษ เราไซร้ ให้รากรวมใจ ให้ไว้คงมั่น สืบสานวัฒนธรรม สายใยสำคัญของแผ่นดิน เปรียบดังสายน้ำชุบชีวิน รวมศิลป์ รวมศาสตร์ วัฒนธรรม ชาติใดไร้ซึ่งดนตรี ชาตินั้นหามีวัฒนธรรมได้ ร้อง เล่น เต้น รำ ทำไป เพราะถึงอย่างไรนั้นคือ รากเรา หลอมรวมชาติไว้ให้ยั้งคงอยู่ ยามรบข้าศึกศัตรู พวกเราขอสู้ มิรู้มิวาย รากเรา ร่วมรัก ร่วมใจ ให้ไว้คงมั่น สืบสานวัฒนธรรม สายใยสำคัญของแผ่นดิน
122 เพลงสู่กรุง ไปซิไปไอ้โทน ร้องตะโกนให้มันสุดเสียง ชื่อข้าจะต้องดังเปรี้ยง มิใช่เพียงความฝัน เมื่อยามหลับไป กลองชุด เปียโน เชลโล่ โอ้โห โคตรเท่ กว่าใคร จะสวมสูท สากล สุดเท่ สุดเก๋ บาดใจ บาดตา เมืองกรุง เมืองฝัน เมืองฟ้า ชื่นตา ชื่นชม สมอุรา แสงสี เมืองหลวง ศิวิไลซ์ แสนสุขใจได้ไปเมืองกรุง วัด วัง งดงาม มากล้น ผู้คนมากมายไทยมุง รถรา เกลื่อนตา เกลื่อนกรุง ข้ามุ่ง รุ่งเรืองเฟื่องฟู เพลงนางฟ้า โอ้นางฟ้า......... สวรรค์สร้างมา เธองามหนักหนา แก้วตาของพี่ เพียงพบสบตาเธอ ใจฝันละเมอ พี่เพ้อ..รำพัน โอ้นางฟ้า......... สวยจริงดารา เธองามโสภา ประทับใจพี่ ทรวดทรงเธองาม ดุจดังราวเพชรมณี ประทับใจพี่..มิรู้ลืม แม้นได้น้องมาครอง....อยู่ร่วมวิวาห์ อยู่ร่วมเรือนรัก อยู่ร่วมชีวา พี่นี้คงสุขประทับตรึงตรา โอ้นางฟ้า....... เธอเยื้องย่างมา ดังดวงนภา เจิดจ้างามเด่น ดวงเนตร แววตา วับวามดังเดือนเพ็ญ ยิ่งพิศยิ่งเพลิน...ชวนมอง เพลงมนต์รักนวลนาง ช......นวลเพ็ญ เชิญชู้ชวนชมชื่น แสงจันทร์ค่ำคืน ส่องฟ้างามยามค่ำ ญ......นวลหน้า สายตาชวนชู้ชัง ให้คิดถึงความหลัง น้องยังชั่งใจคอย ช......นวลนาง ช่างงดงามใจพี่ แสงดาวราตรี ส่องน้องนี้งามปลั่ง ญ......นวลคร่ำ น้ำคำที่ได้ฟัง น้องกลัวรักคืนรัง กลัวรักซ่อนซ้อนจันทร์ ช......นวลน้อง พี่รักเดียวใจเดียว พี่รักน้องแน่เชียว มิคลายรักไปได้ ญ......นวลเชื่อ พี่รักน้องด้วยใจ (พร้อม) ...ขอให้มั่นรักใน ดวงฤทัยเราเอย....
123 เพลงคือเธอผู้เดียว พี่นี้ใฝ่ปองน้องมาแสนนาน พี่แสนทรมานคนงามทรามวัย เจ้ายอดพธูเจ้าชู้ชื่นใจ พี่ขอร่วมรักร่วมใจกับเยาวมาล น้องคือสายใจงดงามโสภาเจ้ายอดชีวานางฟ้าบนวิมาน เพียงแค่ได้พบในจินตนาการ โอ้แม่นงคราญโอ้ยอดดวงใจ น้องคือดวงตา ดวงนัยนา เปรียบคือขวัญตา วิญญาของพี่ ยามหลับนิทราราตรี น้องพี่ติดตรึงฤทัย ขอให้เราสองปองรักคู่กัน ชั่วนิจนิรันดร์ ชั่วฟ้ามลาย หากขาดน้องไปพี่คงสลาย โอ้...ยอดดวงใจ คือเธอผู้เดียว เพลงเส้นทางแห่งรัก เส้นทางสายนี้คือเส้นทางรัก งดงามประจักษ์แน่แท้มิแปรเปลี่ยน ถึงแม้หนทาง ปรับเปลี่ยนวนเวียน ให้เราได้เพียร ได้เรียนรู้ไป เส้นทางเส้นนี้วิถีเที่ยวท่อง เหมือนพี่กับน้องร่วมครองฤทัย มีโศก มีเศร้า คละเคล้ากันไป แต่ความรักในหัวใจมั่นคง เส้นทางสายนี้คือเส้นทางหลัก หากเดินด้วยรักมักยาวยืนยง ขอแค่ให้น้องครองรักมั่นคง ความรักเสริมส่งยืนยงนิรันดร์ ระยะที่ 3 ปรับแก้ไข เมื่อบทละครเพลง เรื่องโทนรัก ได้ประพันธ์เสร็จสมบูรณ์ ผู้วิจัยได้ ดำเนินการตรวจสอบบทละครเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์พร้อมแสดง พบว่ามีเนื้อหาและสาระที่ต้องการ สร้างขึ้นในละครครบถ้วน แต่ปรับเพลงรำโทนที่ปรากฏในละครให้เป็นเพลงรำโทนฉบับของบ้านบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ขั้นตอนที่5 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เมื่อได้บทละครเพลงเรื ่องโทนรัก ฉบับสมบูรณ์ ผู้วิจัยได้นำเสนอต่อ อาจารย์ ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้เชี่ยวชาญงานด้านศิลปวัฒนธรรม ศิลปะการแสดงและการกำกับการแสดง
124 กล่าวว่า บทละครมีการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจ มุ่งเน้นการร้องเพลงทั้งในรูปแบบเพลงไทยสากลหรือ เพลงลูกกรุง เพลงไทยเดิมและเพลงรำโทน ดังนั้นผู้วิจัยต้องนำเสนอแก่นของเรื่องให้ชัดเจน พร้อมทั้ง ตัดทอนบทให้เหมาะสมในการนำเสนอผลงาน ผู้วิจัยได้นำข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำพัฒนาสู่ การตัดทอนบทในแต่ละฉากให้สั้นและกระชับเพื่อการนำเสนอผลงาน ขั้นตอนที่6 การพัฒนาบทละครเพื่อการนำเสนอผลงาน เมื ่อได้บทละครเพลงฉบับสมบูรณ์จากกระบวนการข้างต้น พบว่า หากดำเนินการแสดงเต็มทั้งเรื่องตามที่ได้ประพันธ์มา เวลาที่ใช้การแสดงอาจจะมากกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที แต่ข้อตกลงเบื้องต้นของหลักสูตรศิลปดุษฎีบัณฑิต สาขานาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กำหนดให้นำเสนอผลงานโดยใช้เวลา 45 นาที ซึ่งกระบวนการในการพัฒนาบทละคร ประกอบด้วย รายละเอียดดังนี้ การปรับบทละคร ครั้งที่ 1 : ปรับบทร้องตอบโต้ของตัวละคร ผู้วิจัย ได้นำบทละครฉบับสมบูรณ์มาอ่านเพื่อสร้างความเข้าใจในภาพรวม ตลอดจนรายละเอียดเนื้อหาของ แต่ละฉาก จากนั้นดำเนินการตัดทอนบทละครแต่ละฉากให้มีความกระชับ แต่คงใจความสำคัญไว้ ซึ่งการปรับบทละครครั้งที่ 1 พบว่า เพลงที่ใช้ในการร้องตอบโต้ของตัวละครยังคงปรากฏอยู่ในบท ละครหลายเพลง ซึ ่งจากจำนวนเต็มของบทร้องตอบโต้ของตัวละคร โดย 1 บท ประกอบด้วย ฉันทลักษณ์กลอนสุภาพทั้งหมด 33 บท แบ่งออกได้ดังนี้ ฉากที่ 1 บทร้องตอบโต้ของตัวละคร จำนวน 5 บท ตัดออก 1 บท คงเหลือ 4 บท เนื่องจากในฉากที่ 1 ประกอบด้วยเพลงไทยสากลและบทเจรจาที่เป็นใจความสำคัญใน การดำเนินเรื่อง รวมทั้งเป็นการเปิดเรื่องและกล่าวถึงปมของเรื่อง ซึ่งเป็นใจความสำคัญจึงไม่สามารถ ตัดทอนบทออกมากได้กว่านี้ ผู้วิจัยจึงตัดทอนบทร้องในการตอบโต้ออกเพียงแค่ 1 บท และคงเนื้อหา ของบทละครไว้ตามเดิม ฉากที่ 2 บทร้องตอบโต้ของตัวละคร จำนวน 9 บท ตัดออก 5 บท คงเหลือ 4 บท เนื่องจาก ฉากที่ 2 ผู้วิจัยมุ่งนำเสนอการเดินทางของตัวละครเอกคือโทน ซึ่งจะพบเจอ สถานที่สำคัญรอบเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอกและชั้นใน ดังนั้นจึงดำเนินการตัดทอนบทร้องในการตอบ โต้ของตัวละคร ซึ่งฉากนี้จะเป็นการตัดทอนบทตอบโต้ออกมากที่สุด คือ 5 บท ฉากที ่ 3 บทร้องตอบโต้ของตัวละคร จำนวน 10 บท ตัดออก 4 บท คงเหลือ 5 บท เนื ่องจากฉากที ่ 3 ผู้วิจัยมุ ่งนำเสนอสถานการณ์ของสงครามโลก ครั้งที ่ 2 ให้สอดคล้องกับยุคสมัย ผู้วิจัยได้ใช้เสียงประกาศอธิบายเหตุการณ์ และตัดทอนบทร้องตอบโต้ของตัว ละครออก จำนวน 4 บท
125 ฉากที ่ 4 บทร้องตอบโต้ของตัวละคร จำนวน 3 บท ไม ่ตัดออก เนื่องจากฉากที่ 4 เป็นฉากสำคัญฉากหนึ่งของเรื่อง ผู้วิจัยจึงได้พิจารณาว่าคงเนื้อหา ทั้งเพลง บทตอบ โต้ และบทเจรจา ฉากที ่ 5 บทร้องตอบโต้ของตัวละคร จำนวน 6 บท ไม ่ตัดออก เนื่องจากฉากที่ 5 เป็นฉากแห่งการคลี่คลายปมของเรื่อง รวมทั้งเป็นการนำเสนอเพลงรำโทน เพื่อให้ เห็นถึงพัฒนาการสู่รำวง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ผู้วิจัยต้องการนำเสนอในละคร สรุปได้ว่า การปรับบทละครเพลง เรื่องโทนรัก ครั้งที่ 1 ดำเนินการ ตัดบทร้องโต้ตอบออกจำนวน 10 บท คงเหลือบทร้องตอบโต้ของตัวละครจำนวน 22 บท การปรับบทละคร ครั้งที่ 2 : ปรับเวลาในการแสดง หลังจากการ พัฒนาบทละครเพื ่อการนำเสนอผลงาน ครั้งที ่ 1 ผู้วิจัยได้ทดลองจับเวลาในการฝึกซ้อม รวมทั้ง วิเคราะห์ถึงการร้อยเรียงเรื่องราวให้สอดคล้องสัมพันธ์กันในแต่ละช่วงของการเปลี่ยนฉาก พบว่า (1) เวลาในการแสดง คือ 1 ชั่วโมง 10 นาที เวลาเกินถึง 45 นาที (2) การเชื่อมโยงแต่ละฉากยังไม่ ร้อยเรียงกัน บางฉากขาดความสมจริงของเหตุการณ์และไม่เชื่อมโยงเหตุการณ์ ทั้งนี้ผู้วิจัยจึงได้นำบท มาอ่านทบทวนพร้อมทั้งวิเคราะห์ เพื่อดำเนินการปรับบทละคร ครั้งที่ 2 โดยการปรับบทร้องตอบโต้ ในฉากที่ 2 ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ฉากที ่ 2 จากเดิมในการปรับบทครั้งที ่ 1 บทร้องตอบโต้เหลือ จำนวน 4 บท ในการปรับบทละครครั้งนี้ผู้วิจัยได้ตัดบทร้องตอบโต้ออกทั้งหมด และได้ประพันธ์บท เจรจาขึ้นมาแทนบทร้องตอบโต้ของตัวละคร รวมทั้งเหตุการณ์สรุปช่วงท้ายฉากที่ 2 ก่อนจบ เพื่อให้ สอดคล้องเชื่อมโยงกับฉากที่ 3 จึงทำให้ฉากที่ 2 ไม่ปรากฏบทร้องตอบโต้ของตัวละคร มีเพียงแค่ (1) เพลงไทยสากล (2) เพลงไทยสากลหรือเพลงลูกกรุงผสมเพลงลูกทุ่ง (3) บทเจรจา ดังนั้นจากการปรับบทละคร ครั้งที่ 2 คงเหลือบทร้องโต้ตอบของ ตัวละคร เพียง 18 บท การปรับบทละคร ครั้งที่ 3 : ปรับการร้อยเรียงและการเชื่อมโยงของ แต่ละฉาก จากการฝึกซ้อมบทละครที่ได้ดำเนินการจากการปรับครั้งที่ 2 ทำให้ผู้วิจัยพบว่า บทละครมีความ เหมาะสมในการดำเนินเรื ่องมากขึ้น การร้อยเรียงและเชื ่อมโยงเหตุการณ์ของแต ่ละฉากมีความ สอดคล้องสัมพันธ์กัน แต่เมื่อได้ทดลองขับร้องประกอบดนตรีพบว่า คำร้องในเพลงประกอบละครมี ความยาวมากเกินไป ส่งผลให้นักแสดงเกิดปัญหาในการออกเสียงให้เข้ากับจังหวะการขับร้อง ผู้วิจัยจึง ดำเนินการปรับลด รวมทั้งสลับคำร้องและสลับตำแหน่งให้บทร้องมีความเหมาะสมกับทำนองและการ ออกเสียงของนักแสดง ดังตัวอย่างใน ตารางที่ 14
126 ตารางที่14 เปรียบเทียบการปรับเพลงร้องในบทละครเพลง เรื่องโทนรัก ก่อนปรับคำร้อง หลังปรับคำร้อง เพลงรากเรา บรรพบุรุษ เราไซร้ ให้รากรวมใจ ให้ไว้คงมั่น สืบสานวัฒนธรรม สายใยสำคัญของแผ่นดิน เปรียบดังสายน้ำชุบชีวินรวมศิลป์รวมศาสตร์ วัฒนธรรม ชาติใดไร้ซึ่งดนตรี ชาตินั้นหามีวัฒนธรรมได้ ร้อง เล่น เต้น รำ ทำไป เพราะถึงอย่างไรนั้นคือ รากเรา หลอมรวมชาติไว้ให้ยั้งคงอยู่ ยามรบข้าศึกศัตรู พวกเราขอสู้ มิรู้มิวาย รากเรา ร่วมรัก ร่วมใจ ให้ไว้คงมั่น สืบสานวัฒนธรรม สายใยสำคัญของแผ่นดิน เพลงรากเรา บรรพบุรุษ เราไซร้ ให้รวมใจ หลอมรวมรากเรา หยั่งไว้ ให้คงมั่น สืบสาน วัฒนธรรม สำคัญ คงนิรันดร์ สายใย ของแผ่นดิน วิถีร้อง วิถีเล่น วิถีรำ ดังสายน้ำ รวมศาสตร์ รวมศิลป์ วัฒนธรรม ส่งเสริม ชุบชีวิน ดุจทรัพย์สิน สูงค่า หาประมาณ ร้อง เล่น เต้น รำ ทำไป เพราะถึงอย่างไรนั้นคือ รากเรา ร่วมรัก ร่วมใจ ให้คงมั่น สืบวัฒนธรรม สำคัญของแผ่นดิน เพลงเส้นทางแห่งรัก เส้นทางสายนี้คือเส้นทางรัก งดงามประจักษ์แน่แท้มิแปรเปลี่ยน ถึงแม้หนทางปรับเปลี่ยนวนเวียน ให้เราได้เพียร ได้เรียนรู้ไป เส้นทางเส้นนี้วิถีเที่ยวท่อง เหมือนพี่กับน้องร่วมครองฤทัย มีโศก มีเศร้า คละเคล้ากันไป แต่ความรักในหัวใจมั่นคง เส้นทางสายนี้คือเส้นทางหลัก หากเดินด้วยรักมักยาวยืนยง ขอแค่ให้น้องครองรักมั่นคง ความรักเสริมส่งยืนยงนิรันดร์ เพลงเส้นทางแห่งรัก เส้นทางสายนี้เส้นทางรัก งดงามประจักษ์แท้มิแปรเปลี่ยน ถึงแม้หนทางปรับเปลี่ยน ให้เราได้เพียรเรียนรู้ไป เส้นทางเส้นนี้เที่ยวท่อง เหมือนพี่กับน้องครองฤทัย มีโศก มีเศร้า เคล้ากันไป แต่ความรักในหัวใจนั้นมั่นคง เส้นทางสายนี้เส้นทางหลัก หากเดินด้วยรักมักยืนยง แค่น้องกับพี่รักมั่นคง ความรักเสริมส่งคงนิรันดร์ ที่มา: ผู้วิจัย
127 ตารางที่ 14 แสดงให้เห็นถึงการปรับคำร้องในบทละครเพลง เรื่องโทนรัก โดยผู้วิจัย ได้กำหนดแนวเพลงให้เป็นรูปแบบเพลงไทยสากล เมื่อทดลองขับร้องกับดนตรีทำให้พบว่า นักแสดง สามารถขับร้องได้ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้นักแสดงยังสามารถใช้เทคนิคในการขับร้องได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เพลงมีความไพเราะ สามารถสื่อสารอารมณ์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี การปรับบทละคร ครั้งที่ 4 : ปรับบทละครให้เหมาะสมกับบันทึก วีดิทัศน์เมื่อได้บทละครจากการปรับครั้งที่ 3 แล้วนั้น ผู้วิจัยได้ดำเนินการปรับบทละครเพิ่มเติมเพื่อให้ เหมาะสมต่อบันทึกวีดิทัศน์ผู้วิจัยแบ่งบทออกเป็น 5 ฉาก 21 ซีน (Scene) ตามแนวทางการบันทึก วีดิทัศน์การแสดง ตารางที่15 การจัดเตรียมบทเพื่อการบันทึกวีดิทัศน์ละครเพลง เรื่องโทนรัก ฉากที่ 1 รากรำโทน Scene 1 ในความมืด เห็นเงาของวัดวาอารามเป็นซิลลูเอท โทนเดินออกมามีวงไฟจับ ตัวละคร โทน เสียง เพลงรากเรา (จังหวะปานกลาง คล้ายๆ จังหวะเพลงมาร์ช) ฉากภาพ(Green Screen) ฉายภาพวัดวาอาราม เหตุการณ์บนเวที ตัวละครพระเอก (โทน) พูดกับคนดู Scene 2 : งานวัด ฉากภาพ(Green Screen)ระหว่างที่โทนเล่าเรื่อง ฉากหลังกลายเป็นงานวัด มีเวทีรำโทน คณะโทน เทวา เคลื่อนที่เข้ามา ตามมาด้วยสมาชิกคณะรำโทนและผู้ชม ในช่วงท้ายการเล่า โทนเดินเข้าไปประจำที่คนตีโทนที่กลางเวที เสียง ดนตรีเปลี่ยนเป็นแนวรำโทน เข้าท่อนร้องหมู่ต่อ ตัวละคร โทน เทิด แก้ว อภิวัฒน์ ชาวคณะรำโทน Scene 3 : งานวัด ฉากภาพ(Green Screen)งานวัด มีเวทีรำโทน เสียง เพลงรากเรา ดนตรีเปลี่ยนเป็นแนวรำโทน เข้าท่อนร้องหมู่ต่อ ตัวละคร โทน เทิด แก้ว อภิวัฒน์ชาวคณะรำโทน เหตุการณ์บนเวที การแสดงรำโทนจบลง ผู้ชมปรบมือชื่นชม แต่โทนสีหน้าไม่สู้ดีนัก แก้ว หนึ ่งในสมาชิกคณะเดินถือหมวกรับบริจาค โทนโมโหจนลุกขึ้น คนในคณะตกใจ เทิดผู้เป็นพ่อรั้งเขาไว้
128 ตารางที่15 การจัดเตรียมบทเพื่อการบันทึกวีดิทัศน์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ฉากที่ 2 ต้องมนต์รัก Scene 1 ในความมืด เห็นเงาของวัดวาอารามเป็นซิลลูเอท โทนเดินออกมามีวงไฟจับ ตัวละคร โทน และชาวกรุง ชายหญิง เสียง เพลงสู่กรุง (จังหวะสนุกสนาน) ฉากภาพ(Green Screen)บรรยากาศกรุงเทพฯ (ยุคพุทธศักราช 2480 – 2490) ฉากนำเสนอ สถานที่ สำคัญต่าง ๆ ของกรุงเทพในยุคนั้น เช่น ภูเขาทอง โรงละคร เฉลิมไทย ย่านกินดื่มถนนราชดำเนิน ร้านชื่อดัง ๆ ในยุคนั้น เหตุการณ์บนเวที หมู่มวลชาวกรุงหญิงชาย Scene 2 หน้าโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน จิตราและชาวกรุง ชายหญิง เสียง การพูดคุยของตัวละคร ฉากภาพ(Green Screen)โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที โทนเดินทางมาจนถึงหน้าโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย Scene 3 หน้าม่านเวที ตัวละคร โทน จิตรา เสียง ร้องเพลงมนต์รักนวลนาง (ร้องคู่ 1 ท่อน) ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านภายใน โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที โทนและจิตรา ร้องเพลงคู่ Scene 3.1 หน้าม่านเวที ตัวละคร อภิวัฒน์ และ จิตรา เสียง ร้องเพลงมนต์รักนวลนาง ท่อนโซโล่เพลงมนต์รักนวลนาง อภิวัฒน์ออกมาในชุดนักร้องหล่อเท่ โทน กลับสู่ความจริงที่เขาไม่ได้ร้องเพลงกับจิตรา ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านภายใน โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที อภิวัฒน์และจิตรา ร้องเพลงคู่ Scene 4 หน้าเวที ตัวละคร โทน อภิวัฒน์ และ จิตรา เสียง ผู้ชมปรบมือ ฉากภาพ(Green Screen)หน้าเวที เหตุการณ์บนเวที จิตราและอภิวัฒน์โค้งให้ผู้ชม
129 ตารางที่15 การจัดเตรียมบทเพื่อการบันทึกวีดิทัศน์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) Scene 5 หน้าโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน อภิวัฒน์ และ จิตรา เสียง หวอเตือนทิ้งระเบิด, เสียงระเบิด ฉากภาพ(Green Screen)หน้าโรงละครศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที นักแสดงหมู่มวลชายหญิงชาวกรุง ฉากที่ 3 พิทักษ์ศิลป์ Scene 1 เสียงประกาศจากทางรัฐ ตัวละคร โทน เสียง ประกาศจากทางรัฐ ฉากภาพ(Green Screen)มืด เหตุการณ์บนเวที ในความมืด เสียงประกาศ เนื่องด้วยการที่ฝ่ายสัมพันธมิตรได้เริ่มต้นทิ้งระเบิดในเขตพระนครตั้งแต่เดือน มกราคม พ.ศ.2485 นั้น รัฐบาลขอประกาศให้ทุกครัวเรือนทำการพรางไฟในเวลา กลางคืน ร้านอาหาร สถานบริการต่าง ๆ ให้งดเว้นการเปิดในเวลากลางคืน สถานบันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์ โรงละครทั้งหลายที่มีการเข้าร่วมของคน จำนวนมาก ขอให้งดเว้นกิจกรรมลงก่อนจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ Scene 2 ถนนราชดำเนิน ตัวละคร โทน เสียง โทนพูดกับคนดู ฉากภาพ(Green Screen)ถนนราชดำเนินเวลากลางวัน เหตุการณ์บนเวที โทนเดินมาจากทางหนึ่ง วงไฟจับที่เขาโทน Scene 2.1 ถนนราชดำเนิน ตัวละคร โทน จิตรา เสียง ร้องเพลงคือเธอผู้เดียว ฉากภาพ(Green Screen)ถนนราชดำเนินเวลากลางวัน เหตุการณ์บนเวที โทนกับจิตราเดินเล่นด้วยกัน ชี้ชวนดูสิ่งต่าง ๆ อย่างคนเริ่มจะรักกัน โทน จิตรา เต้นรำคู่กัน
130 ตารางที่15 การจัดเตรียมบทเพื่อการบันทึกวีดิทัศน์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) Scene 3 บ้านบาตร ตัวละคร โทน จิตรา เสียง เสียงซ้อมวงรำโทนแว่วมาเบา ๆ ฉากภาพ(Green Screen)ตรอกบ้านบาตร เหตุการณ์บนเวที โทน จิตรา แก้ว ยืนคุยกัน ฉากที่ 4 คืนถิ่นโทน Scene 1 สำนักดนตรีบ้านบาตร ตัวละคร โทน จิตรา เทิด แก้ว ชาวคณะ เสียง ดนตรี เศร้าบรรเลงคลอ ฉากภาพ(Green Screen)ภายในสำนักดนตรีบ้านบาตร เหตุการณ์บนเวที แสงสว่างขึ้นเผยให้เห็นฉากสำนักดนตรีบ้านบาตร โทนกำลังก้มกราบขอ ขมา เทิด จิตรา แก้วและชาวคณะมองด้วยความชื่นชม อุปกรณ์ เครื่องดนตรีโทน เก้าอี้ ผ้า Scene 2 สำนักดนตรีบ้านบาตร ตัวละคร โทน จิตรา เทิด แก้ว ชาวคณะ เสียง หวอเตือนทิ้งระเบิด ระเบิดดังสนั่น ฉากภาพ(Green Screen)ภายในสำนักดนตรีบ้านบาตร เหตุการณ์บนเวที ทุกคนแตกตื่นตกใจ เทิดไม่สนใจ วิ่งไปหยิบกลองโทนและเครื่องดนตรี อื่นๆ เท่าที่ได้โทนเข้าไปช่วยขน เทิดล้มลงด้วยความตกใจ ชาวคณะตกใจเข้า มา ช่วยเทิดโทนพยุงเทิดนำทุกคนออกจากฉากไป แสงเฟดลงจนมืดสนิท อุปกรณ์ เครื่องดนตรีโทน เก้าอี้ และผ้า ฉากที่ 5 โชนวัฒนธรรม Scene 1 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน เสียง ดนตรีหม่นหมอง ฉากภาพ(Green Screen)ภาพมืด เหตุการณ์บนเวที โทนก็เดินเข้ามา วงแสงจับที่เขาในฐานะผู้เล่าเรื่อง ชาวคณะยืนมองด้วย แวว ตาขอร้อง
131 ตารางที่15 การจัดเตรียมบทเพื่อการบันทึกวีดิทัศน์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) Scene 2 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน จิตรา เสียง ดนตรีคลอ (แนวเพลงความรัก) ฉากภาพ(Green Screen)ภายในโรงละครศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที โทนจับมือจิตรา พร้อมด้วยสายตาแห่งความรัก Scene 3 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน เทิด จิตรา อภิวัฒน์ แก้ว ชาวคณะรำโทน เสียง เสียงปรบมือ ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที ผู้คนรุมรอชมการแสดงของโทนเทวา เทิดกล่าวต้อนรับผู้มาชม ชาวคณะโทนเทวาเริ่มบรรเลงเพลงรำโทนไปหน่อยหนึ่ง อภิวัฒน์เข้ามาพร้อมกับผู้พันเปรื่อง Scene 4 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน เทิด จิตรา อภิวัฒน์ แก้ว ชาวคณะรำโทน เสียง ดนตรีรำโทน ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที ชาวคณะโทนเทวาดีใจ เทิดมองลูกชายอย่างภูมิใจ โทนเดินเข้าประจำที่กลองโทน จิตรามองเขาอย่างชื่นชม การแสดงรำโทนเริ่มขึ้น โทนตีโทนอย่างเก่งกาจ ผู้ชมสนุกสนานมาก Scene 5 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน เทิด จิตรา อภิวัฒน์ แก้ว ผู้พันเปรื่อง ชาวคณะรำโทน เสียง รำโทน (ท้ายเพลง) ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที ผู้พันเปรื่อง สั่งหยุดการแสดงรำโทน
132 ตารางที่15 การจัดเตรียมบทเพื่อการบันทึกวีดิทัศน์ละครเพลง เรื่องโทนรัก (ต่อ) ฉากที่ 5 โชนวัฒนธรรม Scene 6 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน เทิด จิตรา อภิวัฒน์แก้ว ผู้พันเปรื่อง ชาวคณะรำโทน เสียง หวอเตือนทิ้งระเบิดดังขึ้น ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที ทุกคนแตกตื่น ชาวคณะโทนเทวาช่วยกันเก็บของอย่างวุ่นวาย อภิวัฒน์วิ่งหนีไปทางหนึ่ง (โดนระเบิด) ทุกคนทำท่าเสียวสยองนิดนึงแล้วรีบเก็บของกันต่อ แสงเฟดลงจนมืดสนิท ครู่หนึ่ง โทนก็ออกมาในชุดพ่อเพลงรำโทน Scene 7 โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตัวละคร โทน เทิด จิตรา แก้ว ชาวคณะรำโทน เสียง ดนตรีรำโทน ร้องเพลงรากเรา (Repeat) ฉากภาพ(Green Screen)หน้าม่านโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย เหตุการณ์บนเวที ทุกคนเล่นรำโทนส่งท้ายในเพลงรากเรา อย่างสนุกสนาน ที่มา: ผู้วิจัย จากขั้นตอนการประพันธ์บทละครเพลง เรื ่องโทนรัก ที ่ผู้วิจัยได้ดำเนินการตั้งแต่ ขั้นตอนแรกจนได้บทละครฉบับสมบูรณ์ จำนวน 6 ขั้นตอน โดยการประพัน์บทละครในครั้งนี้เป็นการ สร้างประสบการณ์ในการประพันธ์โครงเรื ่องและการประพันธ์เพลง ซึ ่งเป็นการถ ่ายทอดจาก ประสบการณ์ องค์ความรู้จากการศึกษาค้นคว้า ผสมผสานกับการทดลองฝึกปฏิบัติทำให้เกิดผล สัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ลักษณะคำประพันธ์ที่ปรากฏในละครเพลง เรื่องโทนรัก มีรูปแบบที่ หลากหลายตามแนวทางของละครเพลงรพีพร ประกอบด้วย ร้อยแก้ว ร้อยกรอง (กลอนแปด) และ กลอนเพลง ซึ่งบทละครเพลงเรื่องโทนรัก แบ่งออกเป็น 5 ฉาก ดังนี้ ฉากที่ 1 รากรำโทน : กล่าวถึงภูมิหลังของตัวละคร ซึ่งมีเหตุการณ์ที่ส่งผล ให้เกิดเป็นปมสู่การขัดแย้ง ฉากที่ 2 ต้องมนต์รัก : การเดินทางของตัวละครที่สอดแทรกสถานที่สำคัญ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ชั้นในและชั้นนอก ตลอดจนการพบรักกันของคู่พระ-นาง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ เรื่องราวความรัก
133 ฉากที่ 3 พิทักษ์ศิลป์ : การเดินทางเพื่อเชิดชูศิลปะการแสดงพื้นบ้านรำ โทนให้เป็นที่ประจักษ์ในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและค่านิยม ฉากที่ 4 คืนถิ่นโทน : การกลับมาพบกันของตัวละคร หลังจากการพลัดพราก ฉากที่ 5 โชนวัฒนธรรม : ความขัดแย้งและการคลี่คลายปม จบลงด้วย ความสมหวัง ภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นการสื่อถึงจุดเริ่มต้นของรำวงมาตรฐานที่พัฒนามาจากรำโทน บทละครเพลง เรื่องโทนรัก เป็นบทละครที่เกิดขึ้นครั้งแรก โดยการประพันธ์ขึ้นใหม่ ซึ่งไม่เคยปรากฏบทละครหรือการจัดการแสดงมาก่อน เนื่องด้วยผู้วิจัยมุ่งเน้นการสร้างเนื้อเรื่องละคร เรื่องใหม่ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น 1.3.2 เพลงประกอบการแสดง การสร้างสรรค์ดนตรีและการบรรจุเพลงประกอบการแสดง จากการศึกษาละคร เพลงรพีพร พบว่า มุ่งเน้นการใช้แนวเพลงไทยสากลเป็นส่วนหลัก ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้กำหนดแนวเพลง ไทยสากลเป็นแนวเพลงหลักในการร้องประกอบการแสดง รวมทั้งการคัดเลือกทำนองเพลงไทยเดิมมา บรรจุเป็นทำนองหลัก จากนั้นดำเนินการออกแบบร่างโดยใช้ดนตรีสากลและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มา ผสมผสานเพื่อสุนทรียะทางดนตรีทั้งแบบสากลและไทย นอกจากนี้นำแนวคิดเสียงของเครื่องดนตรี โทนมาใช้ในการประกอบการแสดงบรรเลงทำนองดนตรี โดยมีรายละเอียดดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 กำหนดทำนองเพลงไทยเดิมเป็นทำนองหลัก ผู้วิจัยนำบทละครเข้าปรึกษาผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ รองคณบดีคณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ผู้เชี ่ยวชาญด้านคีตศิลป์ไทยเพื ่อขอความ อนุเคราะห์ในการบรรจุเพลงในบทละคร โดยผู้วิจัยได้นำเสนอแนวคิดและรูปแบบของละครเพลงเรื่อง โทนรัก ตลอดจนแนวคิดและรูปแบบการแสดงละครเพลงรพีพร ซึ่งผู้วิจัยได้นำมาเป็นแนวทางในการ สร้างสรรค์ครั้งนี้ จากการนำเสนอแนวคิดและรูปแบบการแสดงข้างต้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ ได้บรรจุทำนองเพลงไทยเดิม จำนวน 8 เพลง โดยจำแนกออกเป็น 2 ส่วนคือ 1) บรรจุทำนองเพลงไทยเดิมเพื ่อการสร้างสรรค์แนวเพลงไทยสากล จำนวน 3 เพลง คือ 1.1) ทำนองเพลงฝรั่งตัด 1.2) ทำนองเพลงเขมรเหลือง