The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักดิ์
รหัสนักศึกษา 60100143117
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์(ฟิสิกส์) คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aoraor109, 2022-03-06 01:14:45

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2

นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักดิ์
รหัสนักศึกษา 60100143117
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์(ฟิสิกส์) คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

246

แบบบนั ทึกหลังสอน

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 15
ผลการจัดการเรียนการสอน
1. ด้านความรู้ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
………………………………………………………..............................................................………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอปุ สรรคในการจัดการเรียนการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนวทางแก้ไขปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………… ……… ลงชื่อ………………………………………………
(……………………………………….…………) (นางสาวกัญญาณฐั จำเรญิ ภกั ดิ์)
………/………/………. ครูผ้สู อน

247

ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของครูพ่เี ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอ่ื ……………………..…………………………
(……………………………………….…………) (นางสุภาพร สิงหน์ ลนิ ธร)
………/………/………. ครูพ่เี ลี้ยง

ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ………………………………… ลงช่ือ……………………..…………………………

(……………………………………….…………) (นายธีระพงษ์ พลสงู เนิน)

………/………/………. หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอ่ื ……………………..…………………............)
(…………………………………….…………) (นายราเชนทร์ พมุ่ แจ้)

รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอุดรพิชัยรกั ษ์พิทยา

248

แบบประเมินพฤตกิ รรมนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/6

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15 เร่อื ง กฎการอนุรักษ์โมเมนตมั
คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นของผ้เู รยี นลงในตารางตามหวั ข้อที่กำหนดให้

รายการประเมนิ สรุปผล
การประเมิน

เลข ช่อื - สกุล ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม ไม่
ที่ กิจกรรม (3) คะแนน ผ่าน
(12) ผ่าน
การแสดงความ ิคดเห็น
ตอบคำถาม (3)

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

1 นายกฤตานนท์ ภาโนมัย
2 นายนพรัตน์ โคตรชมภู
3 นายบรรพต ทองเหล็ก
4 นายดนชุ า มุขะกัง
5 นายพีรพฒั น์ ดสี เกษ
6 เด็กชายฐปนวฒั น์ พรหมสารา
7 นายกฤษฎา ธะราวฒุ ิ
8 นายกษิดิศ ถึงศรปี ั้น
9 นายกอ้ งภพ ศรบี รุ ินทร์
10 นายชนิ ดนยั ยงยนื
11 นายปฏภิ าณ ตะหน่อง
12 นายพรหมวิจักขณ์ พสุชาธัญภทั ร์
13 นายพัชรพล บตุ รเลน
14 นายพิชติ พล ภานนท์
15 นายภควตั หมโู่ ยธา
16 นายภรี ภัทธ์ ขำสม
17 นายไวทิน ธญั ธรทิวฒั น์
18 นายสรวิศ บญุ สอาด
19 นายอนุการต์ มงคลเพญ็
20 นายอภวิ ชิ ญ์ ดว้ งนลิ
21 นายอศั นยั จติ กลาง
22 นางสาวปารฉิ ัตร คำภาษี

249

รายการประเมิน สรุปผล
การประเมิน

เลข ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม
ที่ กิจกรรม (3)
ช่ือ - สกลุ คะแนน ไม่
การแสดงความ ิคดเห็น (12) ผา่ น
ตอบคำถาม (3) ผ่าน

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

24 นางสาวปทุมมา ดวงมาลา

25 นางสาวกรวีร์ บัวชา

26 นางสาวกัณฐกิ า ไชยเลิศ

27 นางสาวจริ าพร ศรีสธุ รรม

28 นางสาวชนเนษฎ์ พนั ธเ์ พยี ร

29 นางสาวฐิตวิ รดา อปุ มา

30 นางสาวธิดาพร สิมสน

31 นางสาวธิติกาล จนั บง

32 นางสาวนภิ าพร ปดั ถาวะโร

33 นางสาวพรนภสั ศรเี สริม

34 นางสาวพรวลยั ภาอุดม

35 นางสาวภริ าภรณ์ แกว้ พิมพผ์ า

36 นางสาวมยรุ ี บุญเลิศ

37 นางสาวฤามเม วงศธ์ รรมกูล

38 นางสาววริษฐา ตนุ่ ลำ

39 นางสาวศศกิ านต์ โคตรเมือง

40 นางสาวสุตาภทั ร ผอ่ งใส

41 นางสาวเสาวลกั ษณ์ พระสว่าง

42 นางสาวอภญิ ญา หงษ์ทอง

43 นางสาววิภาษณี ไกรกจิ ราษฎร์

44. นายจกั รภทั ร จนั ทรแ์ กว้

45. นายศักดินนท์ จันทร์ย้ิม

ลงชอ่ื ………………………………………..ผู้ประเมิน
(นางสาวกัญญาณัฐ จำเรญิ ภกั ด์)ิ
ครูผสู้ อน

250

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง
ไมผ่ า่ น
สรปุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ น
คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน

251

แบบฝึกหัด
เร่ือง การอนุรักษ์โมเมนตมั

คำชแ้ี จง จงแสดงวิธีทำอย่างละเอียด
1. วัตถุมวล 10 กิโลกรัม เคลื่อนที่บนพื้นลื่นไปทางขวาด้วยความเร็ว 2.0 เมตรต่อวินาที ชนวัตถุมวล
5 กิโลกรัม ที่อยู่นิ่ง หลังชน วัตถุทั้งสองติดกันไป วัตถุทั้งสองที่ติดกันไปมีขนาดความเร็วเท่าใดและ
มที ศิ ทางใด

2. พจิ ารณาการดีดตวั แยกออกจากกันของมวล 1 กโิ ลกรมั และมวล 2 กโิ ลกรัม ท่ีอัดสปริงเบาไวแ้ ละ
เดิมมวลท้ังสองอยูน่ ิ่ง ดังรูป

ถ้ามวล 1 กิโลกรมั เคล่ือนท่ีไปทางซ้ายด้วยความเร็ว 10 เมตรตอ่ วินาที มวล 2 กิโลกรัม จะเคล่ือนที่
ด้วยความเรว็ เท่าใด ในทิศทางใด

3. เมล็ดพชื ชนิดหน่งึ ขณะกำลังตกลงพืน้ ด้วยขนาดความเรว็ ตามแนวดิ่ง v เกดิ การดดี ตวั แยกเป็นสอง
ส่วนเท่ากัน ส่วนหนึ่งของเมล็ดมีขนาดความเร็ว v ในทิศทางเคลื่อนที่ขึ้น อีกส่วนหนึ่งจะมีขนาด
ความเร็วเท่าใด

252

เฉลยแบบฝกึ หดั
เรอ่ื ง การอนุรกั ษโ์ มเมนตมั

คำช้ีแจง จงแสดงวิธที ำอย่างละเอยี ด
1. วัตถุมวล 10 กิโลกรัม เคลื่อนที่บนพื้นลื่นไปทางขวาด้วยความเร็ว 2.0 เมตรต่อวินาที ชนวัตถุมวล
5 กิโลกรัม ที่อยู่นิ่ง หลังชน วัตถุทั้งสองติดกันไป วัตถุทั้งสองที่ติดกันไปมีขนาดความเร็วเท่าใดและ
มที ิศทางใด
วธิ ีทำ เนื่องจากไม่มีแรงภายนอกกระทำ ดังน้ัน จงึ ใช้กฎการอนุรกั ษ์โมเมนตัมได้

p f = pi

โดยโมเมนตัมหลังชนหาได้จาก ผลคูณระหว่างมวลของวัตถุสองก้อนรวมกนั คณู กับความเร็วทวี่ ัตถุ
ท้ังสองเคลือ่ นท่ีไป ใหว้ ัตถุทั้งสองที่ติดกนั ไป เคลอื่ นท่ีด้วยความเร็ว v

แทนคา่ จะได้
(mv) f = (mv)i

(10kg)(20m s) = (10 + 5kg)(v)

v = 20
15

v = 1.3m s

ตอบ วัตถทุ ้ังสองทีต่ ิดกันไปเคล่ือนที่ด้วยขนาดของความเร็ว 1.3 เมตรต่อวนิ าที

2. พิจารณาการดีดตวั แยกออกจากกนั ของมวล 1 กิโลกรัม และมวล 2 กิโลกรัม ท่ีอดั สปริงเบาไวแ้ ละ
เดมิ มวลท้งั สองอย่นู ิ่ง ดังรูป

ถา้ มวล 1 กโิ ลกรัม เคล่ือนท่ีไปทางซา้ ยด้วยความเร็ว 10 เมตรตอ่ วินาที มวล 2 กิโลกรัม จะเคล่ือนท่ี
ดว้ ยความเรว็ เท่าใด ในทิศทางใด
วิธีทำ จากกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม
(mv) f = (mv)i

0 = (1kg)(−10m s)+ (2kg)v

v = +5m s

ตอบ มวล 2 กโิ ลกรัมจะเคล่ือนทีไ่ ปทางขวา ด้วยความเรว็ 5 เมตรต่อวินาที

253

3. เมล็ดพืชชนิดหนงึ่ ขณะกำลังตกลงพ้ืนด้วยขนาดความเร็วตามแนวดิ่ง v เกดิ การดีดตัวแยกเปน็ สอง
ส่วนเท่ากนั ส่วนหน่ึงของเมล็ดมขี นาดความเรว็ v ในทศิ ทางเคล่ือนทีข่ น้ึ อีกส่วนหนึ่งจะมขี นาด
ความเรว็ เท่าใด
วธิ ที ำ กำหนดให้ 2m เปน็ มวลของเมลด็ พืชขณะยงั ไม่แยกเป็นสองส่วน

v f เปน็ ความเรว็ ของเมล็ดพืช
กำหนดให้ ทศิ ทางความเร็วของวตั ถุในทศิ ข้นึ มเี คร่อื งหมาย +
ทิศทางความเรว็ ของวตั ถใุ นทิศลงมเี ครือ่ งหมาย –
เนื่องจากไม่มแี รงภายนอกกระทำตอ่ เมล็ดพืช จึงใชก้ ฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตมั ได้

p f = pi
− 2mv = mv + mv f
v f = 3v

ตอบ อีกสว่ นหนง่ึ ของเมลด็ จะมคี วามเร็วเท่ากับเปน็ 3 เท่าของความเร็วเดิมและเคล่ือนทีล่ ง

254

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 16

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4

วิชา ฟิสิกส์ 2 รหสั วิชา ว31202

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 : โมเมนตมั เวลา 15 ชัว่ โมง

หน่วยยอ่ ยท่ี 5 การทดลองการชนและการดีดตัวแยกออกจากกนั เวลา 2 ชัว่ โมง

ภาคเรยี นท่ี 2/2564 ครผู ูส้ อน นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักดิ์

1. สาระการเรยี นรู้/ผลการเรยี นรู้
สาระฟิสกิ ส์ 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟสิ กิ ส์ ปรมิ าณและกระบวนการวดั การเคลือ่ นท่ีแนวตรง

แรงและกฎการเคลือ่ นทีข่ องนิวตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและ
กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมท้ัง
นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้
ทดลอง อธิบายและคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติทั้งแบบ
ยืดหยนุ่ ไมย่ ดื หยุ่น และการดดี ตวั แยกจากกนั ในหนึ่งมิติซง่ึ เป็นไปตามกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตมั

2. สาระสำคัญ
การชนในหนึ่งมิติ เป็นการชนในหนึ่งมิติ วัตถุอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันทั้งก่อนการชนและ

หลงั การชน การชนทพ่ี ลังงานจลน์ของระบบมีคา่ คงตวั เรยี กว่า การชนแบบยืดหย่นุ การชนที่พลังงาน
จลนข์ องระบบมคี า่ ไมค่ งตวั เรยี กว่า การชนแบบไมย่ ืดหยุน่

การดดี ตัวแยกจากกัน โมเมนตมั ของระบบมคี า่ คงตัว สว่ นพลงั งานจลน์ของระบบมคี ่าเพิ่มขน้ึ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1. อธบิ ายการชนและการดีดตวั แยกออกจากกนั ได้ (K)
3.2. สามารถทำการทดลองการชนและการดดี ตวั แยกออกจากกันได้ (P)
3.3. ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ืน่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคิดเหน็ ของผอู้ ื่นได้ (A)

255

4. สาระการเรยี นรู้
4.1. การทดลองเร่ืองการชนของวัตถใุ นแนวตรง
4.2. การทดลองการดีดตัวแยกจากกนั ของวัตถุ

5. การจัดกิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ (รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)
5.1. ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. ครทู ำการสาธติ การชนกันของลูกทรงกลมของชุดการทดลองเปลของนิวตัน ดังรปู

โดยก่อนการสาธิต ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนคาดคะเนพร้อมให้เหตุผลประกอบ
การคาดคะเนวา่

- จะเกิดผลอย่างไร ถ้าดึงลูกทรงกลม 1 ลูก 2 ลูก 3 ลูก ให้ห่างออกไปแล้วปล่อยให้
แกวม่ าชนลูกทรงกลมทเี่ หลือ

2. ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (นกั เรียนสามารถอธิบายและทำการทดลองการชนและ
การดดี ตัวแยกออกจากกนั ได้)

5.2. ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration)
1. ครูแบง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน คละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน
2. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรม 6.1 การทดลองเร่ืองการชนของวตั ถุในแนวตรง หน้า 179
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านกิจกรรมกิจกรรม 6.1 การทดลองเรื่องการชนของวัตถุ ในแนว

ตรง หน้า 179 พรอ้ มกันจากนนั้ ครูอธิบายเพิม่ เติมในการทำกิจกรรม
4. นักเรียนลงมือทำกิจกรรม 6.1 การทดลองเรื่องการชนของวัตถุในแนวตรง

หนา้ 179
5. ครูให้นักเรียนทำตามขั้นท่ี 2.3 และ 2.4 แต่เปลี่ยนเป็นกิจกรรม การทดลอง เรื่องการ

ชนของวตั ถใุ นแนวตรง (เปล่ยี นแผน่ เหล็กสปรงิ เป็นดนิ นำ้ มันติดที่หน้ารถคันท่ี 1 แทน) หน้า 180
6. จากนน้ั นกั เรยี นทำกิจกรรม 6.2 การทดลองเรื่องการดีดตวั แยกจากกนั ของวัตถุในแนว

ตรง หนา้ 182

5.3 ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. ครูอธบิ ายผลทไี่ ดจ้ ากการทดลอง จากนั้น
2. ครใู ชค้ ำถามสรุปความเข้าใจของนักเรยี น ดงั น้ี

256

- การชนแบบยดื หยุน่ และการชนแบบไม่ยืดหยุน่ เหมือนและแตกตา่ งกนั อย่างไร
(แนวคำตอบ : การชนทั้งแบบยืดหยุ่นและการชนแบบไม่ยืดหยุ่นมีโมเมนตัมของระบบคงตัวหรือ
เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัมเหมือนกัน และการชนแบบยืดหยุ่น มีพลังงานจลน์ของระบบคง
ตัวหรืออนุรักษ์พลังงานจลน์ แต่การชนแบบไม่ยืดหยุ่นพลังงานจลน์ของระบบไม่คงตัวหรือไม่มีการ
อนุรกั ษ์พลงั งานจลน์)

- การชนแบบไม่ยืดหยนุ่ พลังงานจลน์ของระบบคงตวั หรอื ไม่ เปน็ เพราะเหตใุ ด
(แนวคำตอบ : การชนแบบไม่ยืดหยุ่นพลังงานจลน์ของระบบไม่คงตัว เพราะมีการเปลี่ยน
พลังงานจลน์บางส่วนไปเป็นงานของแรงต้าน หรือเปลี่ยนไปเป็นพลังงานชนิดอื่น ๆ เช่น เสียง ความ
ร้อน เป็นต้น)

- การชนกันของวัตถุแล้วติดกันไปเป็นการชนแบบยืดหยุ่นหรือการชนแบบไม่ยดื หยนุ่
เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ : เป็นการชนแบบไม่ยดื หยนุ่ เพราะสญู เสียพลังงานจลน์ภายหลงั ชน)

- ถ้าวัตถุมวลมากชนวัตถุมวลน้อยกว่าที่อยู่นิ่ง โมเมนตัมของวัตถุทั้งสองจะเปลี่ยน
หรอื ไม่อย่างไร (แนวคำตอบ : ไมเ่ ปลยี่ นแปลง เพราะการชนมกี ารอนุรักษ์โมเมนตัมเสมอ ไม่ขึ้นอยู่กับ
มวลของวัตถุ)

5.4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครูให้นักเรียนตอบคำถามท้ายกิจกรรมลงใบงาน เรื่อง การชนและการดีดตัวแยกออก

จากกนั (1)
- คำถามทา้ ยกิจกรรมตอนท่ี 1 หน้า 180
- คำถามทา้ ยกจิ กรรมตอนที่ 2 หนา้ 180
- คำถามท้ายกจิ กรรม หน้า 184

2. นักเรียนและครเู ฉลยคำถามทา้ ยกิจกรรม
1) คำถามท้ายกิจกรรมตอนท่ี 1 หน้า 180
- หลังการชนในแต่ละกรณี รถทดลองทั้งสองคันเคลื่อนที่อย่างไร ขนาดความเร็ว

ก่อนการชนและหลังการชนของรถทดลองแต่ละคันเปน็ อย่างไร
(แนวคำตอบ : เคลื่อนแยกออกจากกัน โดยกรณีมวลเท่ากัน รถคันที่เข้าชนหยุดนิ่ง รถคันที่ถูกชน
เคลื่อนที่ในทิศทางของคันทีเ่ ขา้ ชน กรณีรถเข้าชนมีมวลมากกว่า รถทั้งสองเคลือ่ นทีต่ ามกันไปโดยคนั
ทถี่ กู ชนเคลอ่ื นเร็วกว่าคันทีเ่ ขา้ ชน)

- ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตัมหลังการชนในแต่ละ
กรณเี ป็นอยา่ งไร (แนวคำตอบ : ผลรวมโมเมนตมั ก่อนชนและหลงั ชนมีขนาดเท่ากันโดยประมาณ และ
มีทศิ ทางเดยี วกนั )

- ผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและผลรวมของพลังงานจลน์หลังการชนใน
แตล่ ะกรณีเปน็ อย่างไร
(แนวคำตอบ : ผลรวมพลงั งานจลนก์ ่อนชนและหลังชนมคี ่าเท่ากันโดยประมาณ)

2) คำถามทา้ ยกิจกรรมตอนท่ี 2 หน้า 180

257

- หลังการชนในแต่ละกรณี รถทดลองแต่ละคันเคลื่อนที่อย่างไร ขนาดของ
ความเรว็ ก่อนการชนและหลังการชนของรถทดลองแตล่ ะคันเป็นอย่างไร
(แนวคำตอบ : หลงั ชนรถท้งั สองเคลื่อนที่ไปดว้ ยกนั ด้วยความเรว็ เทา่ กัน ในทิศทเี่ คลื่อนที่เข้าชน)

- ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตัมหลังการชนในแต่ละ
กรณี เป็นอยา่ งไร
(แนวคำตอบ : ผลรวมโมเมนตัมกอ่ นชนและหลังชนมีขนาดประมาณเท่ากัน และมที ศิ เดยี วกนั )

- ผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและผลรวมของพลังงานจลน์หลังการชนใน
แตล่ ะกรณีเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : ผลรวมพลังงานจลนก์ อ่ นชนมากกว่าหลังชนทกุ กรณี)

- เมอ่ื รถทดลองชนกันแล้ว รูปร่างของดนิ น้ามนั เปล่ียนไปหรอื ไม่ อย่างไร
(แนวคำตอบ : รปู ร่างดนิ น้ำมนั เปลี่ยนไป โดยยบุ ตวั ลง)

3) คำถามท้ายกจิ กรรม หนา้ 184
- ก่อนดดี ตัวแยกจากกันในแตล่ ะกรณี รถทดลองท้ังสองมีผลรวมของโมเมนตัมและ

ผลรวมของพลังงานจลน์เท่าใด
(แนวคำตอบ : ก่อนดดี ตวั ผลรวมของโมเมนตัมเป็นศนู ย์ และผลรวมของพลงั งานจลนเ์ ปน็ ศนู ย์)

- รถทดลองทัง้ สองเคลอื่ นท่ีอย่างไร หลังดดี ตัวแยกจากกันในแตล่ ะกรณี
(แนวคำตอบ : หลังดดี ตวั รถทง้ั สองเคลื่อนทแี่ ยกจากกนั ในทศิ ทางตรงข้ามกัน)

- หลังดดี ตวั แยกจากกนั ในแตล่ ะกรณี ขนาดและทศิ ทางโมเมนตัมของรถทดลองทั้ง
สองเป็นอยา่ งไรและผลรวมของโมเมนตมั ของรถทดลองทัง้ สองมีค่าเท่าใด
(แนวคำตอบ : กอ่ นดีดตัว โมเมนตัมของรถท้ังสองมขี นาดเทา่ กันโดยประมาณ แต่มที ิศทางตรงข้ามกัน
และผลรวมของโมเมนตัมของรถทัง้ สองคันมคี ่าเปน็ ศนู ยห์ รือใกลเ้ คยี งศนู ย์)

- ผลรวมของพลังงานจลน์หลังดดี ตัวแยกจากกนั ในแตล่ ะครัง้ เป็นอย่างไร
(แนวคำตอบ : หลังดีดตัว ผลรวมของพลังงานจลน์มคี ่ามากกวา่ ศนู ย์)

5.5. ขั้นประเมิน (Evaluation)
1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และจากการ

นำเสนอผลงาน
2. ครูตรวจสอบแบบทดสอบ เรือ่ ง การทดลองการชนและการดดี ตวั แยกออกจากกัน

6. วัสดุอปุ กรณ์ สือ่ การเรียนการสอน และแหล่งการเรียนรู้
6.1. หนังสอื เรียนรายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เลม่ 2
6.2. ชุดการทดลองเรอื่ งการชนของวตั ถใุ นแนวตรง
6.3. ชุดการทดลองการดดี ตวั แยกจากกนั ของวตั ถุ
6.4. แบบทดสอบ เรื่อง การทดลองการชนและการดดี ตัวแยกออกจากกนั
6.5. โครงการสอนออนไลน์ – Project 14 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี (สสวท.)

258

7. วิธกี ารวัดและการประเมินผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การ

1. อธบิ ายการชนและการดีด วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือวัด ประเมินผล
ตัวแยกออกจากกนั ได้ (K)
- ตรวจ แบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ผ่าน 80%
2. สามารถทำการทดลอง เร่อื ง การทดลองการชน เรือ่ ง การทดลอง
การชนและการดดี ตวั แยก และการดดี ตวั แยกออก การชนและการดีด
ออกจากกันได้ (P) จากกัน ตัวแยกออกจากกัน

- ตรวจ คำถามทา้ ย - คำถามทา้ ย - ผา่ น 80%
กิจกรรม กจิ กรรม

3. ทำงานร่วมกับผู้อ่นื อยา่ ง - การสงั เกต - แบบประเมนิ - ระดับดี
สร้างสรรค์ ยอมรับความ พฤติกรรมการ ข้นึ ไป
คดิ เหน็ ของผอู้ นื่ ได้ (A) เรยี นร้รู ายบคุ คล

259

แบบบันทึกหลังสอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 16

ผลการจัดการเรียนการสอน
1. ด้านความรู้ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
………………………………………………………..............................................................………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนวทางแก้ไขปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………… ……… ลงช่ือ………………………………………………
(……………………………………….…………) (นางสาวกัญญาณฐั จำเรญิ ภักดิ์)
………/………/………. ครูผู้สอน

260

ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของครพู เ่ี ลี้ยง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอื่ ……………………..…………………………
(……………………………………….…………) (นางสุภาพร สิงหน์ ลินธร)
………/………/………. ครพู ีเ่ ลีย้ ง

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชือ่ ……………………..…………………………

(……………………………………….…………) (นายธีระพงษ์ พลสูงเนิน)

………/………/………. หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอ่ื ……………………..…………………............)
(…………………………………….…………) (นายราเชนทร์ พุ่มแจ)้

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอุดรพชิ ยั รกั ษ์พิทยา

261

แบบประเมนิ พฤติกรรมนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/6

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 16 เรื่อง การทดลองการชนและการดดี ตัวแยกออกจากกัน
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินพฤติกรรมการเรยี นของผ้เู รยี นลงในตารางตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้

รายการประเมนิ สรปุ ผล
การประเมนิ

เลข ชือ่ - สกลุ ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม ไม่
ที่ กิจกรรม (3) คะแนน ผา่ น
(12) ผ่าน
การแสดงความ ิคดเห็น
ตอบคำถาม (3)

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

1 นายกฤตานนท์ ภาโนมัย
2 นายนพรตั น์ โคตรชมภู
3 นายบรรพต ทองเหล็ก
4 นายดนุชา มขุ ะกัง
5 นายพีรพัฒน์ ดีสเกษ
6 เดก็ ชายฐปนวัฒน์ พรหมสารา
7 นายกฤษฎา ธะราวฒุ ิ
8 นายกษิดิศ ถึงศรปี ั้น
9 นายก้องภพ ศรีบรุ นิ ทร์
10 นายชินดนัย ยงยนื
11 นายปฏิภาณ ตะหน่อง
12 นายพรหมวจิ กั ขณ์ พสุชาธัญภัทร์
13 นายพชั รพล บุตรเลน
14 นายพชิ ิตพล ภานนท์
15 นายภควัต หมู่โยธา
16 นายภรี ภัทธ์ ขำสม
17 นายไวทิน ธญั ธรทิวฒั น์
18 นายสรวิศ บุญสอาด
19 นายอนกุ ารต์ มงคลเพญ็
20 นายอภวิ ชิ ญ์ ด้วงนลิ
21 นายอัศนยั จิตกลาง
22 นางสาวปาริฉตั ร คำภาษี
23 นางสาวบญุ พทิ ักษ์ ศรแี กว้

262

รายการประเมนิ สรปุ ผล
การประเมิน

เลข ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม
ที่ กิจกรรม (3)
ช่ือ - สกลุ คะแนน ไม่
การแสดงความ ิคดเห็น (12) ผา่ น
ตอบคำถาม (3) ผา่ น

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

24 นางสาวปทุมมา ดวงมาลา

25 นางสาวกรวีร์ บัวชา

26 นางสาวกัณฐกิ า ไชยเลิศ

27 นางสาวจริ าพร ศรีสธุ รรม

28 นางสาวชนเนษฎ์ พนั ธ์เพยี ร

29 นางสาวฐิตวิ รดา อปุ มา

30 นางสาวธิดาพร สิมสน

31 นางสาวธิติกาล จนั บง

32 นางสาวนภิ าพร ปดั ถาวะโร

33 นางสาวพรนภสั ศรีเสรมิ

34 นางสาวพรวลยั ภาอดุ ม

35 นางสาวภริ าภรณ์ แกว้ พิมพ์ผา

36 นางสาวมยรุ ี บญุ เลิศ

37 นางสาวฤามเม วงศ์ธรรมกลู

38 นางสาววริษฐา ตนุ่ ลำ

39 นางสาวศศกิ านต์ โคตรเมือง

40 นางสาวสุตาภทั ร ผอ่ งใส

41 นางสาวเสาวลกั ษณ์ พระสว่าง

42 นางสาวอภญิ ญา หงษ์ทอง

43 นางสาววิภาษณี ไกรกจิ ราษฎร์

44. นายจกั รภทั ร จนั ทรแ์ ก้ว

45. นายศักดินนท์ จันทร์ย้ิม

ลงชือ่ ………………………………………..ผู้ประเมิน
(นางสาวกัญญาณฐั จำเรญิ ภกั ดิ์)
ครูผูส้ อน

263

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง
ไมผ่ า่ น
สรปุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ น
คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน

264

แบบทดสอบ

เรื่อง การทดลองการชนและการดีดตวั แยกออกจากกัน
ตอนท1่ี คำถามทา้ ยกิจกรรมตอนท่ี 1 หน้า 180
1. หลงั การชนในแตล่ ะกรณี รถทดลองท้ังสองคนั เคลือ่ นทอ่ี ย่างไร ขนาดความเรว็ กอ่ นการชนและหลัง
การชนของรถทดลองแตล่ ะคันเป็นอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ผลรวมของโมเมนตมั ก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตัมหลังการชนในแตล่ ะกรณเี ป็นอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและผลรวมของพลังงานจลน์หลังการชนในแต่ละกรณีเป็น
อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ตอนที่ 2 คำถามท้ายกิจกรรมตอนที่ 2 หน้า 180
1. หลงั การชนในแตล่ ะกรณี รถทดลองแต่ละคนั เคล่ือนท่ีอย่างไร ขนาดของความเร็ว กอ่ นการชนและ
หลงั การชนของรถทดลองแตล่ ะคนั เป็นอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตัมหลังการชนในแต่ละกรณี เป็นอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและผลรวมของพลังงานจลน์หลังการชนในแต่ละกรณีเป็น
อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

265

4. เมื่อรถทดลองชนกันแล้ว รปู ร่างของดินนา้ มันเปลี่ยนไปหรอื ไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ตอนท่ี 3 คำถามท้ายกิจกรรม หน้า 184
1. ก่อนดีดตัวแยกจากกันในแต่ละกรณี รถทดลองทั้งสองมีผลรวมของโมเมนตัมและผลรวมของ
พลงั งานจลน์เทา่ ใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. รถทดลองท้ังสองเคลือ่ นที่อยา่ งไร หลังดีดตวั แยกจากกันในแต่ละกรณี
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. หลังดีดตัวแยกจากกันในแต่ละกรณี ขนาดและทิศทางโมเมนตัมของรถทดลองทั้งสองเป็นอย่างไร
และผลรวมของโมเมนตัมของรถทดลองทงั้ สองมีค่าเท่าใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ผลรวมของพลังงานจลนห์ ลงั ดดี ตัวแยกจากกันในแต่ละครง้ั เป็นอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

266

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

วชิ า ฟสิ ิกส์ 2 รหสั วิชา ว31202

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 : โมเมนตัม เวลา 15 ชัว่ โมง

หน่วยย่อยท่ี 6 การชนและการดีดตัวแยกออกจากกนั เวลา 2 ชัว่ โมง

ภาคเรยี นที่ 2/2564 ครูผู้สอน นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักดิ์

1. สาระการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้
สาระฟสิ กิ ส์ 1. เข้าใจธรรมชาตทิ างฟสิ ิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลือ่ นที่แนวตรง

แรงและกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและ
กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมท้ัง
นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ผลการเรยี นรู้
ทดลอง อธิบายและคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติทั้งแบบ
ยดื หยุน่ ไม่ยืดหย่นุ และการดดี ตัวแยกจากกนั ในหน่งึ มติ ิซึง่ เป็นไปตามกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตมั

2. สาระสำคัญ
การชนในหนึ่งมิติ เป็นการชนในหนึ่งมิติ วัตถุอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันทั้งก่อนการชนและ

หลังการชน การชนทีพ่ ลงั งานจลนข์ องระบบมีค่าคงตวั เรยี กวา่ การชนแบบยดื หยุ่น การชนทีพ่ ลังงาน
จลน์ของระบบมีค่าไมค่ งตัว เรยี กวา่ การชนแบบไมย่ ดื หยนุ่

การดดี ตัวแยกจากกนั โมเมนตัมของระบบมีค่าคงตัว ส่วนพลงั งานจลน์ของระบบมคี ่าเพิ่มขน้ึ
การชนและการดดี ตวั แยกออกจากกนั มสี มการใหก้ ารคำนวณ คือ

m1u1 + m2u2 = m1v1 + m2v2

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1. อธบิ ายความหมายของการชนและการดดี ตวั แยกจากกันของวตั ถุได้ (K)
3.2. สามารถคำนวนการชนและการดีดตัวแยกจากกันของวตั ถุได้ (P)
3.3. ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนอย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรับความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ ได้ (A)

267

4. สาระการเรยี นรู้
4.1. การชนและการดดี ตวั แยกจากกนั ของวัตถุ

5. การจดั กิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ (รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
5.1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรูใ้ นเรื่องการทดลองเร่ืองการชนของวัตถุในแนวตรงและการดีดตัวแยก

จากกนั ของวตั ถทุ ไ่ี ด้ทำการทดลองในชวั่ โมงทแ่ี ลว้
2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ (แนวคำตอบ : นักเรียนสามารถคำนวนการชนและการ

ดดี ตวั แยกจากกนั ของวัตถไุ ด้)

5.2. ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration)
1. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน คละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน
2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ศึกษาขั้นตอนการแก้ปัญหาเรื่องโมเมนตัมและการชน ในหน่งึ

มติ ิ ทอ่ี ยใู่ นหนังสอื เรยี น หน้า 187
3. หลงั จากน้นั ครใู ห้นักเรียนศึกษาตัวอย่างที่ 6.11 และ 6.12 หนา้ 188 - 192
4. ครูสอบถามความเข้าใจในการทนี่ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มได้ศกึ ษาตวั อยา่ งที่ 6.11 และ 6.12

5.3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
1. ครูอธบิ ายตัวอย่างที่ 6.11 และ 6.12 หนา้ 188 - 192 เพิ่มเติม
2. ครใู ห้นกั เรยี นแก้โจทยป์ ญั หาดงั ต่อไปนี้
1) มวล 2m วิ่งด้วยความเร็ว 10m s เข้าชนมวล 3m ซึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็ว

4m s ในทศิ มางเดียวกันถ้าในการชนไม่มีการสูญเสียพลังงานจลน์ จงหาความเรว็ ของมวลทัง้ สองชน

วธิ ีทำ  P ก่อนชน =  P หลงั ชน

m1u1 + m2u2 = m1v1 + m2v2

2m(10)+ 3m(4) = 2mv1 + 3mv2

20 +12 = 2v1 + 3v2

32 = 2v1 + 3v2 ………………………… (1)

จาก u1 + v1 = u2 + v2

10 + v1 = 4 + v2

6 = v2 − v1……………………………. (2)

268

(2) 2 12 = 2v2 − 2v1 ……………………….. (3)
(1)+ (3)
44 = 5v2

v2 = 8.8m s

v1 = 2.8m s

ดังนน้ั หลังชนมวล 2m มีความเรว็ 2.8m s มวล 3m มคี วามเร็ว 8.8m s

5.4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัด เร่อื ง การชนและการดดี ตัวแยกออกจากกัน
2. นักเรียนและครเู ฉลยแบบฝึกหัด เรือ่ ง การชนและการดดี ตัวแยกออกจากกัน

5.5. ข้ันประเมิน (Evaluation)
1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และจากการ

นำเสนอผลงาน
2. ครตู รวจสอบแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง การชนและการดีดตัวแยกออกจากกัน

6. วัสดอุ ุปกรณ์ สอ่ื การเรยี นการสอน และแหลง่ การเรยี นรู้
6.1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ ฟสิ กิ ส์ เลม่ 2
6.2. แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง การชนและการดีดตัวแยกออกจากกนั
6.3. โครงการสอนออนไลน์ – Project 14 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี (สสวท.)

269

7. วธิ กี ารวัดและการประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การวดั ผล การ

1. อธิบายความหมายของการ วิธีการวัด เคร่ืองมือวดั ประเมินผล
ชนและการดีดตัวแยกจากกนั
ของวัตถุได้ (K) - ตรวจ แบบฝึกหดั เร่ือง - แบบฝกึ หดั - ผ่าน 80%

การชนและการดดี ตวั แยก เรื่อง การชนและ

ออกจากกนั การดีดตวั แยกออก

จากกนั

2. สามารถคำนวนการชนและ - ตรวจ แบบฝกึ หัด เรอื่ ง - แบบฝึกหดั - ผา่ น 80%
การดีดตวั แยกจากกันของวัตถุ การชนและการดีดตัวแยก เร่ือง การชนและ
ได้ (P) ออกจากกนั การดดี ตัวแยกออก
จากกนั

3. ทำงานร่วมกบั ผู้อื่นอยา่ ง - การสงั เกต - แบบประเมนิ - ระดับดี
สร้างสรรค์ ยอมรบั ความ พฤติกรรมการ ขนึ้ ไป
คิดเห็นของผ้อู น่ื ได้ (A) เรียนรู้รายบุคคล

270

แบบบนั ทกึ หลังสอน

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 17

ผลการจัดการเรียนการสอน
1. ด้านความรู้ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
………………………………………………………..............................................................………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนวทางแก้ไขปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………… ……… ลงชื่อ………………………………………………
(……………………………………….…………) (นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักดิ์)
………/………/………. ครผู ้สู อน

271

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครพู เ่ี ลี้ยง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอื่ ……………………..…………………………
(……………………………………….…………) (นางสภุ าพร สงิ ห์นลินธร)
………/………/………. ครพู ีเ่ ลย้ี ง

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชื่อ……………………..…………………………

(……………………………………….…………) (นายธีระพงษ์ พลสูงเนิน)

………/………/………. หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอ่ื ……………………..…………………............)
(…………………………………….…………) (นายราเชนทร์ พมุ่ แจ้)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอุดรพชิ ัยรักษ์พิทยา

272

แบบประเมินพฤตกิ รรมนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4/6

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 17 เรอ่ื ง การชนและการดีดตวั แยกออกจากกัน
คำช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนประเมินพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียนลงในตารางตามหวั ข้อที่กำหนดให้

รายการประเมนิ สรุปผล
การประเมนิ

เลข ชอื่ - สกลุ ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม ไม่
ที่ กิจกรรม (3) คะแนน ผ่าน
(12) ผา่ น
การแสดงความ ิคดเห็น
ตอบคำถาม (3)

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

1 นายกฤตานนท์ ภาโนมัย
2 นายนพรัตน์ โคตรชมภู
3 นายบรรพต ทองเหล็ก
4 นายดนชุ า มุขะกัง
5 นายพีรพัฒน์ ดสี เกษ
6 เด็กชายฐปนวัฒน์ พรหมสารา
7 นายกฤษฎา ธะราวุฒิ
8 นายกษิดิศ ถงึ ศรปี ั้น
9 นายกอ้ งภพ ศรีบรุ นิ ทร์
10 นายชินดนัย ยงยนื
11 นายปฏภิ าณ ตะหนอ่ ง
12 นายพรหมวจิ กั ขณ์ พสุชาธญั ภทั ร์
13 นายพชั รพล บตุ รเลน
14 นายพชิ ติ พล ภานนท์
15 นายภควัต หมู่โยธา
16 นายภรี ภทั ธ์ ขำสม
17 นายไวทิน ธัญธรทิวัฒน์
18 นายสรวศิ บุญสอาด
19 นายอนุการต์ มงคลเพญ็
20 นายอภวิ ิชญ์ ดว้ งนลิ
21 นายอัศนยั จิตกลาง
22 นางสาวปาริฉัตร คำภาษี
23 นางสาวบญุ พทิ ักษ์ ศรีแก้ว

273

รายการประเมิน สรุปผล
การประเมิน

เลข ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม
ที่ กิจกรรม (3)
ช่ือ - สกลุ คะแนน ไม่
การแสดงความ ิคดเห็น (12) ผา่ น
ตอบคำถาม (3) ผ่าน

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

24 นางสาวปทุมมา ดวงมาลา

25 นางสาวกรวีร์ บัวชา

26 นางสาวกัณฐกิ า ไชยเลิศ

27 นางสาวจริ าพร ศรีสธุ รรม

28 นางสาวชนเนษฎ์ พนั ธเ์ พยี ร

29 นางสาวฐิตวิ รดา อปุ มา

30 นางสาวธิดาพร สิมสน

31 นางสาวธิติกาล จนั บง

32 นางสาวนภิ าพร ปดั ถาวะโร

33 นางสาวพรนภสั ศรเี สริม

34 นางสาวพรวลยั ภาอุดม

35 นางสาวภริ าภรณ์ แกว้ พิมพผ์ า

36 นางสาวมยรุ ี บุญเลิศ

37 นางสาวฤามเม วงศธ์ รรมกูล

38 นางสาววริษฐา ตนุ่ ลำ

39 นางสาวศศกิ านต์ โคตรเมือง

40 นางสาวสุตาภทั ร ผอ่ งใส

41 นางสาวเสาวลกั ษณ์ พระสว่าง

42 นางสาวอภญิ ญา หงษ์ทอง

43 นางสาววิภาษณี ไกรกจิ ราษฎร์

44. นายจกั รภทั ร จนั ทรแ์ กว้

45. นายศักดินนท์ จันทร์ย้ิม

ลงชอื่ ………………………………………..ผู้ประเมิน
(นางสาวกญั ญาณัฐ จำเรญิ ภักดิ์)
ครูผูส้ อน

274

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง
ไมผ่ า่ น
สรปุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ น
คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน

275

แบบฝึกหดั

เร่อื ง การชนและการดดี ตัวแยกออกจากกนั
คำชแ้ี จง จงแสดงวธิ ีทำอย่างละเอยี ด
1. รถทดลอง A มวล 1.0 กิโลกรัม เคลื่อนที่ไปทางขวา ด้วยความเร็ว 0.8 เมตรต่อวินาที เข้าชนใน
แนวตรงกับรถทดลอง B มวล 0.5 กิโลกรัม ที่กำลังเคลื่อนที่ไปทางซ้ายด้วยความเร็ว 0.6 เมตรต่อ
วินาที หลังการชน รถทดลอง A มีความเร็ว 0.3 เมตรต่อวินาที ไปทางขวา รถทดลอง B มีความเร็ว
0.4 วนิ าที ไปทางขวา

ก. กอ่ นชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มโี มเมนตมั เท่าใด

ข. หลงั ชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มโี มเมนตัมเท่าใด

ค. ก่อนชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลงั งานจลนเ์ ทา่ ใด

ง. หลงั ชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลังงานจลนเ์ ทา่ ใด

จ. การชนครง้ั นม้ี ีการอนรุ ักษโ์ มเมนตัมหรือไม่ ทราบได้อย่างไร

ฉ. การชนครง้ั นีม้ ีการอนรุ ักษพ์ ลังงานจลน์หรือไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร

276
2. รถทดลอง A มวล 1.0 กิโลกรัม เคล่อื นท่ีไปทางขวาด้วยความเรว็ 0.6 เมตรตอ่ วินาที เข้าชนในแนว
ตรงกับรถทดลอง B มวล 0.5 กิโลกรัม ที่อยู่นิ่ง หลังการชน รถทดลอง A และรถทดลอง B เคลื่อนท่ี
ตดิ กนั ไป

ก. ความเร็วของรถทดลองทัง้ สองเป็นเทา่ ใด

ข. กอ่ นชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลงั งานจลน์เท่าใด

ค. หลังชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลงั งานจลน์เทา่ ใด

ง. การชนครัง้ นีม้ ีการอนุรักษพ์ ลงั งานจลน์หรือไม่ ทราบไดอ้ ย่างไร

จ. การชนเปน็ การชนแบบยืดหยนุ่ หรอื การชนแบบไมย่ ืดหยนุ่ เพราะเหตุใด

277
3. ในรปู ก. ข. และ ค. แสดงการชนของมวล 2 ช้นิ ซ่ึงขนาดบอกดว้ ยตวั เลขในวงกลมและมหี นว่ ย
กโิ ลกรัม รปู ใดเป็นการชนแบบยืดหยนุ่ เพราะเหตุใด

4. รถทดลองมวล 1.0 กิโลกรัม เคลอ่ื นทีด่ ้วยความเรว็ 0.4 เมตรต่อวนิ าที เขา้ ชนรถทดลองอีกคันหนึง่
ซ่ึงมมี วลเทา่ กนั และอย่นู ่งิ หลังการชน รถทดลองเคลื่อนทีต่ ิดกันไป จงหาพลงั งานท่ีสญู เสียไปจาก
การชน

5. มวล m1 และ m2 วิง่ ตรงเขา้ ชนกนั แบบยืดหยนุ่ หลงั ชนแล้วสะท้อนกลบั ทางเดิม ขนาดความเรง่
หลังชนของมวล m1 และ m2 เทา่ กับ 4 เมตรตอ่ วินาที 2 และ 3 เมตรตอ่ วนิ าที 2 ตามลำดับ จงหา
อตั ราส่วนของ m1 และ m1

278

เฉลยแบบฝกึ หัด

เร่อื ง การชนและการดดี ตัวแยกออกจากกนั

คำช้แี จง จงแสดงวิธที ำอย่างละเอียด

1. รถทดลอง A มวล 1.0 กิโลกรัม เคลื่อนที่ไปทางขวา ด้วยความเร็ว 0.8 เมตรต่อวินาที เข้าชนใน

แนวตรงกับรถทดลอง B มวล 0.5 กิโลกรัม ที่กำลังเคลื่อนที่ไปทางซ้ายด้วยความเร็ว 0.6 เมตรต่อ

วินาที หลังการชน รถทดลอง A มีความเร็ว 0.3 เมตรต่อวินาที ไปทางขวา รถทดลอง B มีความเร็ว

0.4 วนิ าที ไปทางขวา

ก. กอ่ นชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีโมเมนตมั เท่าใด

วิธที ำ กำหนด ให้ทศิ ทางไปทางขวามเี ครอ่ื งหมาย + ทิศทางไปทางซา้ ยมเี คร่ืองหมาย –

mA , v A และ p A เป็น มวล ความเร็ว และโมเมนตมั ของรถทดลอง A ตามลำดบั

mB , vB และ p B เปน็ มวล ความเรว็ และโมเมนตมั ของรถทดลอง B ตามลำดบั
โมเมนตมั ของวัตถหุ าได้จาก p = mv

ก่อนชน โมเมนตัมของรถทดลอง A p A = mA v A

p A = (1kg)(0.8m s)

โมเมนตมั ของรถทดลอง B p A = 0.8kg m s
pB = mB vB

pB = (0.5kg)(− 0.6 m s)

p A = −0.3kg m s

ตอบ ก่อนชน โมเมนตัมของรถทดลอง A เท่ากับ 0.8 กิโลกรัม เมตรต่อวินาที ทิศไปทางขวาโมเม

นตัมของรถทดลอง B เท่ากับ 0.3 กโิ ลกรัม เมตรตอ่ วนิ าที ทิศไปทางซ้าย

ข. หลังชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มโี มเมนตมั เท่าใด

วธิ ที ำ หลังชน โมเมนตัมของรถทดลอง A p A = mA v A
p A = (1kg)(0.3m s)

โมเมนตัมของรถทดลอง B p A = 0.3kg m s

pB = mB vB

pB = (0.5kg)(0.4 m s)

p A = 0.2kg m s

ตอบ หลังชน โมเมนตัมของรถทดลอง A เท่ากับ 0.3 กิโลกรัม เมตรต่อวินาที ทิศไปทางขวาโมเม

นตมั ของรถทดลอง B เทา่ กับ 0.2 กิโลกรมั เมตรตอ่ วินาที ทิศไปทางขวา

279

ค. ก่อนชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลงั งานจลน์เทา่ ใด

วิธที ำ พลังงานจลน์ของวตั ถุ หาไดจ้ ากสมการ Ek = 1 mv 2
2

ก่อนชน พลังงานจลนข์ องรถทดลอง A EkA = 1 m Av 2
2
A

EkA = 1 (1kg)(0.8 m s)2

2

EkA = 0.32 J

พลังงานจลนข์ องรถทดลอง B EkB = 1 mB vB 2
2

E kB = 1 (0.5kg)(0.6 m s)2

2

EkA = 0.09 J

ตอบ ก่อนชน พลังงานจลน์ของรถทดลอง A เท่ากับ 0.32 จูล ส่วนพลังงานจลน์ของรถทดลอง B

เทา่ กับ 0.09 จูล

ง. หลังชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลงั งานจลนเ์ ท่าใด

วิธที ำ พลังงานจลนข์ องวตั ถุ หาไดจ้ ากสมการ Ek = 1 mv 2
2

หลังชน พลงั งานจลนข์ องรถทดลอง A EkA = 1 m v 2
2
A A

EkA = 1 (1kg)(0.3m s)2

2

EkA = 0.045J

พลงั งานจลน์ของรถทดลอง B EkB = 1 mB vB 2
2

EkB = 1 (0.5kg)(0.4 m s)2

2

EkA = 0.04 J

ตอบ หลังชน พลังงานจลน์ของรถทดลอง A เท่ากับ 0.045 จูล ส่วนพลังงานจลน์ของรถทดลอง

B เทา่ กบั 0.04 จลู

จ. การชนครง้ั นมี้ ีการอนรุ ักษ์โมเมนตัมหรอื ไม่ ทราบได้อยา่ งไร
ตอบ การชนครง้ั น้ี มีการอนุรกั ษโ์ มเมนตัม เพราะโมเมนตมั ของระบบกอ่ นชนเท่ากบั โมเมนตมั ของ
ระบบหลังชน เท่ากับ 0.5 กิโลกรมั เมตรต่อวินาที ทศิ ไปทางขวา

ฉ. การชนครงั้ นมี้ ีการอนุรักษ์พลงั งานจลน์หรือไม่ ทราบไดอ้ ย่างไร
ตอบ การชนครั้งนี้ ไม่มีการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานจลน์ เพราะพลังงานจลนข์ องระบบก่อนชน ไม่เทา่ กับ
พลงั งานจลนข์ องระบบหลังชน

280

2. รถทดลอง A มวล 1.0 กโิ ลกรัม เคลอื่ นท่ไี ปทางขวาดว้ ยความเร็ว 0.6 เมตรต่อวินาที เขา้ ชนในแนว
ตรงกับรถทดลอง B มวล 0.5 กิโลกรัม ที่อยู่นิ่ง หลังการชน รถทดลอง A และรถทดลอง B เคลื่อนท่ี
ติดกันไป

ก. ความเร็วของรถทดลองทัง้ สองเป็นเท่าใด
วธิ ที ำ กำหนด ให้ทิศทางไปทางขวามีเครื่องหมาย + ทศิ ทางไปทางซา้ ยมีเคร่อื งหมาย –

mA , v A และ p A เป็น มวล ความเรว็ และโมเมนตัมของรถทดลอง A ตามลำดับ

mB , vB และ p B เปน็ มวล ความเร็ว และโมเมนตัมของรถทดลอง B ตามลำดับ

กอ่ นชน โมเมนตัมของรถทดลอง A p A = mA v A

p A = (1kg)(0.6 m s)

โมเมนตัมของรถทดลอง B p A = 0.6kg m s

pB = mB vB

pB = (0.5kg)(0 m s)

p A = 0kg m s

กำหนดให้ หลังชน p AB เป็นโมเมนตมั ของรถทดลองทงั้ สองท่ีตดิ กนั ไป และ

v AB เปน็ ความเรว็ ของรถทดลองทั้งสองทต่ี ดิ กนั ไป
ถา้ มีการชดเชยแรงเสียดทานของรางไมแ้ ล้ว สามารถพิจารณาไดว้ า่ ไมม่ แี รงภายนอก
กระทำต่อระบบ จึงสามารถใชก้ ฎการอนุรักษ์โมเมนตัม ซ่ึงจะไดว้ า่

p A + p B = p AB

p A + p B = (mA )+ mB v AB

แทนค่า จะได้ 0.6kg m s + 0 = (1kg + 0.5kg)v AB

v AB = 0.4 m s

ตอบ ความเร็วของรถทดลองทั้งสองที่เคลื่อนที่ติดกันไปเท่ากับ 0.4 เมตรต่อวินาที
ในทศิ ทางขวา

ข. ก่อนชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลงั งานจลน์เท่าใด

วิธีทำ พลังงานจลน์ของวตั ถุ หาไดจ้ ากสมการ Ek = 1 mv 2
2

ก่อนชน พลังงานจลน์ของรถทดลอง A EkA = 1 m v 2
2
A A

EkA = 1 (1kg)(0.6 m s)2

2

EkA = 0.18J

281

พลังงานจลน์ของรถทดลอง B EkB = 1 mB vB 2
2

EkB = 1 (0.5kg)(0 m s)2

2

EkA = 0.J รถ

ตอบ ก่อนชน พลังงานจลนข์ องรถทดลอง A เท่ากับ 0.18 จลู ส่วนพลังงานจลนข์ อง

ทดลอง B เท่ากับ 0 จลู

ค. หลงั ชน รถทดลอง A และรถทดลอง B มีพลังงานจลน์เทา่ ใด

หลงั ชน รถทดลองท้งั สองเคลือ่ นที่ตดิ กนั ไปด้วยความเร็ว 0.4 เมตรต่อวนิ าที ในทศิ ทางขวา

แทนค่า จะได้ว่า

วธิ ีทำ พลังงานจลนข์ องวัตถุ หาได้จากสมการ Ek = 1 mv 2
2

หลังชน พลงั งานจลนข์ องรถทดลอง A EkA = 1 m v 2
2
A A

EkA = 1 (1kg)(0.4 m s)2

2

EkA = 0.08J

พลงั งานจลน์ของรถทดลอง B EkB = 1 mB vB 2
2

EkB = 1 (0.5kg)(0.4 m s)2

2

EkA = 0.04 J

ตอบ หลังชน พลังงานจลน์ของรถทดลอง A เท่ากับ 0.08 จูล ส่วนพลังงานจลน์ของ รถ

ทดลอง B เท่ากบั 0.04 จูล

ง. การชนครั้งน้มี ีการอนุรักษพ์ ลงั งานจลนห์ รอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
ตอบ การชนครั้งนี้ พลังงานจลน์ของระบบไม่มีการอนุรักษ์ เพราะหลังการชน
พลังงานจลน์มคี า่ ลดลง จาก 0.18 จูล เหลือ 0.12 จลู

จ. การชนเป็นการชนแบบยดื หยนุ่ หรอื การชนแบบไม่ยืดหยนุ่ เพราะเหตุใด
ตอบ การชนคร้ังน้ี เป็นการชนแบบไมย่ ดื หยุ่น เพราะ ไม่มีการอนรุ กั ษพ์ ลังงานจลน์

3. ในรูป ก. ข. และ ค. แสดงการชนของมวล 2 ชน้ิ ซงึ่ ขนาดบอกด้วยตวั เลขในวงกลมและมหี นว่ ย
กโิ ลกรัม รูปใดเปน็ การชนแบบยดื หยนุ่ เพราะเหตุใด
ตอบ ข. และ ค. เป็นการชนแบบยืดหยนุ่ เพราะ pi = p f และ Ek i = Ek f

282

4. รถทดลองมวล 1.0 กโิ ลกรัม เคลอ่ื นทีด่ ว้ ยความเรว็ 0.4 เมตรต่อวนิ าที เขา้ ชนรถทดลองอีกคนั หนึง่
ซงึ่ มมี วลเท่ากันและอยนู่ ่งิ หลังการชน รถทดลองเคล่ือนท่ีติดกนั ไป จงหาพลงั งานที่สญู เสียไปจาก
การชน

วธิ ที ำ pi = p f

m1u1 + m2u2 = (m1 + m2 )v

(1kg)(0.4m s)+ 0 = (1kg +1kg)v

v = 0.4 m s
2

v = 0.2m s

พลงั งานทส่ี ูญเสยี ไปจากการชน Ek = Ekf + Eki

Ek = 1 m1u12 + 1 m2u 2 − 1 (m1 + m2 )v 2
2 2 2 2

Ek = 1 (1kg)(0.4 m s)2 − 1 (1kg + 1kg)(0.2 m s)2

2 2

Ek = 0.08 − 0.04J

Ek = 0.04J

ตอบ พลังงานทส่ี ูญเสียไปจากการชน 0.04 จูล

5. มวล m1 และ m2 วง่ิ ตรงเข้าชนกันแบบยดื หย่นุ หลงั ชนแลว้ สะท้อนกลบั ทางเดิม ขนาดความเร่ง

หลังชนของมวล m1 และ m2 เท่ากับ 4 เมตรต่อวนิ าที 2 และ 3 เมตรต่อวนิ าที 2 ตามลำดับ จงหา
อัตราสว่ นของ m1 และ m1
วธิ ที ำ ตามกฎข้อท่ี 3 ของนิวตนั ขณะชนจะเกิด F12 = F21

m1a1 = m2a2

m1 = a2
m2 a1

m1 = 3m s
m2 4 m s

ตอบ อตั ราส่วนระหวา่ ง m1 และ m2 เท่ากับ 3
4

283

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7
การเคลอ่ื นทแ่ี นวโคง้

สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ

สาระฟิสกิ ส์ 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟสิ ิกส์ ปรมิ าณและกระบวนการวดั การเคลื่อนท่ีแนวตรง

แรงและกฎการเคลื่อนทีข่ องนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและ

กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนำ

ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ประกอบด้วยแผนการเรียนรู้ดังตอ่ ไปน้ี

แผนท่ี 18 เรื่อง ลกั ษณะการเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ จำนวน 2 ชั่วโมง

แผนท่ี 19 เรอ่ื ง การทดลองการเคลือ่ นที่แบบโพรเจกไทล์ จำนวน 2 ช่ัวโมง

แผนที่ 20 เรอื่ ง การเคลือ่ นทแี่ บบโพรเจกไทล์ 1 จำนวน 1 ช่วั โมง

แผนท่ี 21 เร่อื ง การเคลอ่ื นทีแ่ บบโพรเจกไทล์ 2 จำนวน 1 ชัว่ โมง

แผนที่ 22 เรือ่ ง ลักษณะการเคล่ือนท่แี บบวงกลม จำนวน 2 ชั่วโมง

แผนท่ี 23 เรื่อง การเคลอ่ื นท่แี บบวงกลมสมำ่ เสมอ จำนวน 2 ชั่วโมง

แผนท่ี 24 เรอ่ื ง การเคลอื่ นตวั ของดาวเทียม จำนวน 2 ชว่ั โมง

รวม จำนวน 12 ชัว่ โมง

284

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 18

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4

วชิ า ฟิสกิ ส์ 2 รหัสวชิ า ว31202

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 : การเคล่อื นทแ่ี นวโคง้ เวลา 12 ชั่วโมง

หนว่ ยยอ่ ยที่ 1 ลกั ษณะการเคลอื่ นท่แี บบโพรเจกไทล์ เวลา 2 ชัว่ โมง

ภาคเรียนที่ 2/2564 ครูผู้สอน นางสาวกัญญาณฐั จำเรญิ ภกั ด์ิ

1. สาระการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้
สาระฟสิ กิ ส์ 1. เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟสิ กิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคล่ือนท่ีแนวตรง

แรงและกฎการเคลื่อนทีข่ องนิวตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและ
กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้ง
นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้
อธิบาย วเิ คราะห์ และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกับการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์
และทดลองการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์

2. สาระสำคญั
การเคลื่อนที่แนวโค้งพาราโบลาภายใต้สนามโน้มถ่วง โดยไม่คิดแรงต้านของอากาศเป็น

การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ วัตถุมีการเปลี่ยนตำแหน่งในแนวดิ่งและแนวระดับพร้อมกันและ
เป็นอิสระต่อกัน สำหรับการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งเป็นการเคลื่อนที่ที่มีแรงโน้มถ่วงกระทำจึงมีความเร็ว
ไมค่ งตวั ปรมิ าณต่าง ๆ มคี วามสัมพันธ์ตามสมการ

vy = uy + ayt

∆y = [uy + vy] t
∆y = 2

uyt + 1 ayt2
2

vy2 = u2y + 2ay∆y
ส่วนการเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีแรงกระทำจึงมีความเร็วคงตัว ตำแหน่ง ความเร็ว และเวลา
มคี วามสมั พันธ์ตามสมการ ∆x = uxt

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1. อธบิ ายความหมายของการเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์ได้ (K)
3.2. สามารถสบื ค้นขอ้ มลู เกยี่ วกับการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ได้ (P)
3.3. ทำงานร่วมกับผู้อืน่ อยา่ งสร้างสรรค์ ยอมรับความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ ได้ (A)

285

4. สาระการเรยี นรู้
4.1. ความหมายของการเคล่ือนท่แี บบโพรเจกไทล์

5. การจดั กิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ (รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
5.1. ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement)
1. ครูกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนโดยพดู คุยสนทนาประสบการณเ์ กี่ยวกับการเคล่ือนที่

ของวัตถุต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งที่เป็นไปโดยธรรมชาติ และที่มนุษย์ทำให้เกิดขึ้น เช่น ใบไม้ไหว
ลูกบาสบอลที่กำลังลอยเข้าห่วง สายน้ำที่พุ่งออกจากหัวฉีด รถเลี้ยวโค้งในถนนโค้ง การหมุนของ
พดั ลม ลอ้ รถกำลังหมนุ การเคลอ่ื นทีข่ องดาวเทยี ม เป็นต้น

2. ครูถามคำถามกระตุ้นนักเรียนจากภาพในหนังสือเรียน โดยถามว่า การยิงธนูไปยังเปา้
เป็นการลกั ษณะการเคลือ่ นท่ีแบบใด โดยเปิดโอกาสให้นักเรยี นไดแ้ สดงความคิดเหน็ โดยไม่เนน้ ถกู ผดิ
(แนวคำตอบ : เปน็ ลักษณะการเคลอื่ นทเ่ี ป็นแนวโคง้ หรอื เป็นการเคล่อื นท่แี บบโพรเจกไทล์)

3. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ (นักเรียนสามารถอธิบายหลักการของการเคลื่อนที่แบบ
โพรเจกไทล์ได)้

5.2. ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration)
1. ครูถามนกั เรียนดว้ ยคำถามต่อไปนี้
- จากภาพการเคลื่อนที่ของลูกบาสเกตบอลในหนังสือเรียน ลักษณะการเคลื่อนที่ของ

ลกู บาสเกตบอลทถ่ี ูกโยนลงหว่ งเปน็ อย่างไร
(แนวคำตอบ : การเคลอื่ นที่ของวัตถใุ นลักษณะเปน็ แนวโคง้ หรอื แบบโพรเจกไทล์)

- เหตใุ ดเมอ่ื โยนลูกบาสเกตบอลออกไปแลว้ ลูกจึงโค้งตกลงมาเสมอ
(แนวคำตอบ : มแี นวโน้มถว่ งของโลกกระทำ)

- วัตถทุ ม่ี ีลักษณะการเคล่ือนที่เช่นเดยี วกับลูกบาสเกตบอลมีอะไรอกี บ้าง
(แนวคำตอบ : การรดน้ำต้นไม้ การโยนวัตถใุ นแนวโคง้ และการเลน่ กีฬาหลายชนดิ เช่น วอลเลย์บอล
ฟตุ บอล เทนนสิ ฯลฯ)

2. ตรวจสอบความรู้พื้นฐานเดิมของนักเรียน โดยให้ทำใบกิจกรรม เรื่อง ทบทวนความรู้
พืน้ ฐานเก่ยี วกบั การเคลือ่ นที่

3. ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยใบกิจกรรม เพอ่ื เปน็ การทบทวนความรู้พนื้ ฐานที่เกี่ยวข้อง
กบั การเคลอ่ื นท่ี แล้วจัดกจิ กรรมการเรยี นต่อไป

5.3 ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
1. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ โดยชี้ให้เห็นว่า

“การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ คือ การเคลื่อนที่ของวัตถุในลักษณะเป็นแนวโค้งพาราโบลา
ตวั อยา่ งเชน่ การเคลอื่ นทข่ี องลกู ธนู การเคล่อื นทข่ี องลูกบาสเกตบอล เป็นตน้ โดยเป็นการเคล่ือนที่ใน
ลักษณะ 2 มติ ิ คอื เคล่อื นทใ่ี นแนวระดับและแนวดิ่งพร้อมกันและในเวลาท่ีเท่ากัน โดยการเคล่ือนที่ใน

286

แนวดงิ่ เป็นการเคลอ่ื นท่ีที่มีความเรง่ เน่ืองจากแรงโน้มถ่วงของโลก ในขณะทกี่ ารเคลื่อนท่ีในแนวระดับ
ไมม่ ีความเรง่ ”

2. เปิดโอกาสให้นกั เรยี นได้สอบถามในส่วนที่มีข้อสงสยั เกี่ยวกับการเคลื่อนท่ี แบบโพรเจก
ไทลใ์ นเบื้องต้น

5.4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ให้นักเรยี นสืบค้นข้อมูลเพ่มิ เติมเกย่ี วกับการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ จากแหลง่ เรียนรู้

ตา่ ง ๆ เชน่ หนังสอื วารสาร อนิ เทอรเ์ นต็ E-book เป็นตน้ จดบันทกึ เป็นแผนผงั ความคิดลงในสมดุ
2. ครู นกั เรียนอภิปรายและสรปุ เพมิ่ เตมิ เก่ียวกับการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์ ดงั นี้
- การเคล่อื นทแี่ บบโพรเจกไทล์ คือ การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถทุ ี่เป็นแนวโค้งพาราโบลา
- การเคลื่อนที่สองแนวตั้งฉากกันและเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ได้แก่ การเคลื่อนที่ใน

แนวระดบั และการเคลือ่ นทีใ่ นแนวด่ิง
- กจิ กรรมหลายอย่างที่เห็นในชวี ิตประจำวนั เชน่ การโยนผลไม้ของชาวสวน การโยน

และรับถังปูนของช่างก่อสร้าง และการเล่นกีฬาหลายชนิด เช่น วอลเลย์บอล ฟุตบอล เทนนิส
แชร์บอล หรอื กิจกรรมทตี่ อ้ งมีการโยนหรอื ขว้างวตั ถุ

3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ว่ามีส่วน
ไหนที่ยังไม่เข้าใจและให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั้น เพื่อเป็นความรู้นำไปสู่การศึกษาเกี่ยวกับการ
ทดลองของการเคล่ือนทีแ่ บบโพรเจกไทล์

5.5. ข้ันประเมิน (Evaluation )
1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำผลงาน
2. ครูตรวจสอบใบกจิ กรรม เร่ือง ทบทวนความรพู้ ้นื ฐานเก่ียวกับการเคลื่อนที่ และแผนผงั

ความคิดในสมุด

6. วสั ดุอุปกรณ์ ส่อื การเรยี นการสอน และแหลง่ การเรยี นรู้
6.1. หนังสอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เล่ม 2
6.2. ใบกจิ กรรม เร่ือง ทบทวนความรพู้ ืน้ ฐานเกยี่ วกับการเคลอื่ นที่
6.3. แหล่งสบื ค้นข้อมูลเพิม่ เติม เชน่ หนงั สอื เรียน วารสาร อนิ เทอร์เนต็ E-book เป็นตน้
6.4. โครงการสอนออนไลน์ – Project 14 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี (สสวท.)

287

7. วิธีการวดั และการประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ การวัดผล การ
ประเมินผล
1. อธบิ ายความหมายของการ วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื วดั
เคล่ือนทแ่ี บบโพรเจกไทล์ได้ - ผา่ น 80%
(K) - ตรวจ ใบกจิ กรรม เรื่อง - ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง
ทบทวนความรู้พน้ื ฐาน ทบทวนความรู้
เกยี่ วกบั การเคลือ่ นที่ พ้นื ฐานเกยี่ วกบั
การเคล่อื นที่

2. สามารถสืบคน้ ข้อมูล - ตรวจสมดุ - แผนผงั ความคิด - ผา่ น 50%
เกย่ี วกบั การเคลอื่ นท่ีแบบ
โพรเจกไทล์ได้ (P)

3. ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนอย่าง - การสังเกต - แบบประเมิน - ระดับดี
สร้างสรรค์ ยอมรับความ พฤติกรรมการ ขนึ้ ไป
คิดเหน็ ของผู้อืน่ ได้ (A) เรยี นรู้รายบุคคล

288

แบบบนั ทกึ หลังสอน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 18

ผลการจัดการเรียนการสอน
1. ด้านความรู้ (K)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
………………………………………………………..............................................................………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอปุ สรรคในการจัดการเรียนการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนวทางแก้ไขปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………… ……… ลงช่ือ………………………………………………
(……………………………………….…………) (นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักด์ิ)
………/………/………. ครูผู้สอน

289

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครพู เี่ ลี้ยง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอ่ื ……………………..…………………………
(……………………………………….…………) (นางสภุ าพร สงิ ห์นลินธร)
………/………/………. ครพู เี่ ลย้ี ง

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอ่ื ……………………..…………………………

(……………………………………….…………) (นายธีระพงษ์ พลสูงเนิน)

………/………/………. หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………… ลงชอื่ ……………………..…………………............)
(…………………………………….…………) (นายราเชนทร์ พมุ่ แจ้)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนอุดรพชิ ัยรักษ์พิทยา

290

แบบประเมนิ พฤติกรรมนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/6

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 18 เรอ่ื ง ลกั ษณะการเคลือ่ นที่แบบโพรเจกไทล์
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นของผูเ้ รียนลงในตารางตามหัวข้อท่ีกำหนดให้

รายการประเมิน สรปุ ผล
การประเมนิ

เลข ชื่อ - สกลุ ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม ไม่
ท่ี กิจกรรม (3) คะแนน ผ่าน
(12) ผ่าน
การแสดงความ ิคดเห็น
ตอบคำถาม (3)

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

1 นายกฤตานนท์ ภาโนมยั
2 นายนพรัตน์ โคตรชมภู
3 นายบรรพต ทองเหลก็
4 นายดนุชา มุขะกงั
5 นายพรี พัฒน์ ดสี เกษ
6 เด็กชายฐปนวฒั น์ พรหมสารา
7 นายกฤษฎา ธะราวฒุ ิ
8 นายกษดิ ิศ ถึงศรปี ั้น
9 นายก้องภพ ศรีบุรนิ ทร์
10 นายชนิ ดนัย ยงยนื
11 นายปฏภิ าณ ตะหน่อง
12 นายพรหมวิจักขณ์ พสชุ าธัญภทั ร์
13 นายพัชรพล บุตรเลน
14 นายพชิ ติ พล ภานนท์
15 นายภควัต หมู่โยธา
16 นายภีรภัทธ์ ขำสม
17 นายไวทิน ธัญธรทิวัฒน์
18 นายสรวิศ บญุ สอาด
19 นายอนกุ ารต์ มงคลเพญ็
20 นายอภวิ ชิ ญ์ ดว้ งนลิ
21 นายอัศนัย จิตกลาง
22 นางสาวปาริฉตั ร คำภาษี
23 นางสาวบุญพิทักษ์ ศรีแก้ว

291

รายการประเมิน สรปุ ผล
การประเมิน

เลข ความ ่รวม ืมอในการทำ รวม
ที่ กิจกรรม (3)
ช่ือ - สกลุ คะแนน ไม่
การแสดงความ ิคดเห็น (12) ผา่ น
ตอบคำถาม (3) ผ่าน

ีมความเพียรพยายาม (3)
ความ ้ัตงใจทำงาน (3)

24 นางสาวปทุมมา ดวงมาลา

25 นางสาวกรวีร์ บัวชา

26 นางสาวกัณฐกิ า ไชยเลศิ

27 นางสาวจริ าพร ศรีสธุ รรม

28 นางสาวชนเนษฎ์ พนั ธเ์ พยี ร

29 นางสาวฐิตวิ รดา อปุ มา

30 นางสาวธิดาพร สิมสน

31 นางสาวธิติกาล จนั บง

32 นางสาวนภิ าพร ปดั ถาวะโร

33 นางสาวพรนภสั ศรีเสรมิ

34 นางสาวพรวลยั ภาอุดม

35 นางสาวภริ าภรณ์ แก้วพิมพผ์ า

36 นางสาวมยรุ ี บุญเลศิ

37 นางสาวฤามเม วงศธ์ รรมกลู

38 นางสาววริษฐา ตนุ่ ลำ

39 นางสาวศศกิ านต์ โคตรเมือง

40 นางสาวสุตาภทั ร ผอ่ งใส

41 นางสาวเสาวลกั ษณ์ พระสว่าง

42 นางสาวอภญิ ญา หงษ์ทอง

43 นางสาววิภาษณี ไกรกิจราษฎร์

44. นายจกั รภทั ร จนั ทรแ์ ก้ว

45. นายศักดินนท์ จันทร์ย้ิม

ลงชอ่ื ………………………………………..ผู้ประเมนิ
(นางสาวกัญญาณัฐ จำเริญภักด์ิ)
ครผู ้สู อน

292

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง
ไมผ่ า่ น
สรปุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ น
คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน

293

ใบกจิ กรรม
เร่อื ง ทบทวนความรู้พนื้ ฐานเกีย่ วกบั การเคลอ่ื นท่ี

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นเติมคำลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้องสมบูรณ์
1. ให้นักเรียนเติมคำลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกตอ้ ง

1.1 ระยะทาง คือ ...............................................................................................................
ใช้สัญลกั ษณ์ ............ เปน็ ปรมิ าณ ........................................หน่วยเอสไอ คอื ...................
1.2 การกระจัด คือ...............................................................................................................
ใช้สัญลักษณ์ ............ เป็นปรมิ าณ ........................................หน่วยเอสไอ คอื ...................
1.3 อัตราเร็ว คือ ...............................................................................................................
ใชส้ ัญลกั ษณ์ ............ เปน็ ปรมิ าณ ........................................หน่วยเอสไอ คอื ...................
1.4 ความเร็ว คือ ...............................................................................................................
ใช้สัญลกั ษณ์ ............ เปน็ ปรมิ าณ ........................................หน่วยเอสไอ คือ ...................
1.5 อตั ราเร่ง คือ ...............................................................................................................
ใช้สัญลักษณ์ ............ เปน็ ปรมิ าณ ........................................หนว่ ยเอสไอ คอื ...................
1.6 ความเรง่ คอื ...............................................................................................................
ใชส้ ญั ลักษณ์ ............ เป็นปรมิ าณ ........................................หนว่ ยเอสไอ คอื ...................

2. ให้นักเรียนเติมตัวแปรในชอ่ งว่างให้สมบรู ณ์

ความเรว็ คงที่ ความเรง่ คงท่ี

การเคลอื่ นทีแ่ นวระดบั (a คงท)่ี การเคล่อื นทแ่ี นวดิ่ง (a = g)

v = u + ___ vy = uy + ___

x 1 1
u = ___ x = ___ + 2 ___ ∆y = ___ + 2 ___
v2 = ___ + 2a___ v2y = ___ + 2ay___

u + ___ ∆y = [uy + ___ ___
x = [ 2 ] ___ 2 ]

3. ให้นกั เรยี นอธิบายความหมายของการเคลือ่ นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ (projectile motion)
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

294

เฉลยใบกิจกรรม
เร่อื ง ทบทวนความรู้พืน้ ฐานเกี่ยวกบั การเคลื่อนท่ี

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนเติมคำลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้องสมบรู ณ์

1. ใหน้ กั เรียนเตมิ คำลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง

1.1 ระยะทาง คือ ความยาวตามเส้นทางท่วี ตั ถุเคลื่อนที่ไป

ใชส้ ญั ลักษณ์ เป็นปริมาณ สเกลาร์ มหี นว่ ยเป็น เมตร

1.2 การกระจัด คอื ความยาวของเส้นตรงทลี่ ากระหว่างจุดเรม่ิ ตน้ และจุดสดุ ทา้ ย

ใช้สัญลกั ษณ์ เป็นปรมิ าณ เวกเตอร์ มหี นว่ ยเป็น เมตร

1.3 อัตราเรว็ คอื ระยะทางทเ่ี คลื่อนท่ีได้ในหนึ่งหน่วยเวลา

ใชส้ ญั ลักษณ์ v เป็นปริมาณ สเกลาร์ มหี น่วยเป็น เมตร/วินาที

4. ความเรว็ คอื ระยะกระจดั ที่เปลีย่ นไปในหน่ึงหนว่ ยเวลา

ใช้สญั ลักษณ์ ⃑v เปน็ ปริมาณ เวกเตอร์ มหี นว่ ยเปน็ เมตร/วินาที

5. อัตราเรง่ คอื อตั ราเรว็ ที่เปล่ียนไปในหนึง่ หนว่ ยเวลา

ใช้สัญลกั ษณ์ a เปน็ ปริมาณ สเกลาร์ มหี นว่ ยเป็น เมตร/วินาที2

6. ความเร่ง คอื ความเร็วท่เี ปลีย่ นไปในหนงึ่ หน่วยเวลา

ใชส้ ญั ลักษณ์ a⃑ เป็นปริมาณ เวกเตอร์ มีหน่วยเป็น เมตร/วินาที2

2. ให้นักเรียนเตมิ ตวั แปรในช่องว่างใหส้ มบูรณ์

ความเรว็ คงตวั ความเร่งคงตวั

การเคลอ่ื นที่แนวระดบั (a คงตวั ) การเคลือ่ นทแี่ นวดงิ่ (a = g)

vx = ux + at v = u + gt

∆x ∆x = uxt + 1 at2 ∆y = u t + 1 gt2
ux = t 2 2

v2 = u2x + 2a∆x v2 = u2 + 2g∆y

∆x = [ux + vx] t ∆y = [u + v ] t
2 2

3. ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความหมายของการเคล่อื นที่แบบโพรเจกไทล์ (projectile motion)
การเคล่ือนท่ขี องวัตถุในอากาศทม่ี เี สน้ ทางการเคลอ่ื นท่เี ป็นแนวโค้ง ถา้ ไม่มแี รงต้านของ

อากาศหรือแรงตา้ นทานมผี ลน้อยมากจนไมต่ ้องนำมาคิด

295

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 19

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4

วชิ า ฟสิ กิ ส์ 2 รหัสวิชา ว31202

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 : การเคลอื่ นทแี่ นวโค้ง เวลา 12 ช่วั โมง

หนว่ ยย่อยที่ 2 การทดลองการเคล่อื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ เวลา 2 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นที่ 2/2564 ครูผู้สอน นางสาวกัญญาณฐั จำเรญิ ภกั ด์ิ

1. สาระการเรียนรู้/ผลการเรยี นรู้
สาระฟสิ ิกส์ 1. เข้าใจธรรมชาตทิ างฟิสกิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลือ่ นที่แนวตรง

แรงและกฎการเคลื่อนทีข่ องนิวตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและ
กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้ง
นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้
อธบิ าย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลือ่ นที่แบบโพรเจกไทล์
และทดลองการเคล่อื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์

2. สาระสำคัญ
การเคลื่อนที่แนวโค้งพาราโบลาภายใต้สนามโน้มถ่วง โดยไม่คิดแรงต้านของอากาศเป็น

การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ วัตถุมีการเปลี่ยนตำแหน่งในแนวดิ่งและแนวระดับพร้อมกันและ
เป็นอิสระต่อกัน สำหรับการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งเป็นการเคลื่อนที่ที่มีแรงโน้มถ่วงกระทำจึงมีความเร็ว
ไม่คงตัว ปริมาณตา่ ง ๆ มคี วามสัมพนั ธ์ตามสมการ

vy = uy + ayt

∆y = [uy + vy] t
2

∆y = uyt + 1 ayt2
2

v2y = uy2 + 2ay∆y

ส่วนการเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีแรงกระทำจึงมีความเร็วคงตัว ตำแหน่ง ความเร็ว และเวลา
มคี วามสมั พนั ธ์ตามสมการ ∆x = uxt


Click to View FlipBook Version