The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วัดบวรนิเวศวิหารได้จัดพิมพ์หนังสือ “วชิรญาณวโรรสานุสรณ์ จดหมายเหตุคราวสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สิ้นพระชนม์” ที่รวบรวมเอกสารชั้นต้น ทั้งหมายกำหนดการ ราชกิจจานุเบกษา บันทึกพระอาการประชวร เอกสารราชการ ภาพถ่ายเก่า ตลอดจนบันทึกความทรงจำ เพื่อรวบรวมและจัดพิมพ์เป็นหนังสือที่แสดงกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ พระองค์นี้ที่ทรงมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานด้านการศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกเมื่อ ๑๐๐ ปีล่วงมาแล้ว นับเป็นการวางรากฐานความเจริญก้าวหน้าของประชาราษฎรแห่งสยามประเทศสืบมาจนทุกวันนี้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panyabalo, 2021-10-21 11:49:00

วชิรญาณวโรรสานุสรณ์

วัดบวรนิเวศวิหารได้จัดพิมพ์หนังสือ “วชิรญาณวโรรสานุสรณ์ จดหมายเหตุคราวสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สิ้นพระชนม์” ที่รวบรวมเอกสารชั้นต้น ทั้งหมายกำหนดการ ราชกิจจานุเบกษา บันทึกพระอาการประชวร เอกสารราชการ ภาพถ่ายเก่า ตลอดจนบันทึกความทรงจำ เพื่อรวบรวมและจัดพิมพ์เป็นหนังสือที่แสดงกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ พระองค์นี้ที่ทรงมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานด้านการศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกเมื่อ ๑๐๐ ปีล่วงมาแล้ว นับเป็นการวางรากฐานความเจริญก้าวหน้าของประชาราษฎรแห่งสยามประเทศสืบมาจนทุกวันนี้

Keywords: จดหมายเหตุ,สมเด็จพระมหาสมณเจ้า,สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส,มนุษยนาคมานพ,งานพระเมรุ,วัดบวรนิเวศวิหาร,พระมหาสมณานุสรณ์,วชิรญาณวโรรสานุสรณ์

วชริ ญาณวโรรสานุสรณ์

จดหมายเหตคุ ราวสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรสสนิ้ พระชนม์
พระมหาสมณานสุ รณ์
เฉลมิ พระเกียรตคิ ุณ

วาระ ๑๐๐ ปีแหง่ การส้นิ พระชนม์
๒ สิงหาคม ๒๔๖๔

วชริ ญาณวโรรสานุสรณ์

จดหมายเหตุคราวสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส สน้ิ พระชนม์

พิมพค์ ร้งั แรก พ.ศ. ๒๕๖๔ -กรุงเทพฯ จ�ำ นวน ๒,๐๐๐ เล่ม
จดั พมิ พ์โดย วดั บวรนเิ วศวหิ าร

ข้อมลู ทางบรรณานกุ รมของสำ�นักหอสมดุ แหง่ ชาติ

ศรณั ย์ มะกรูดอินทร์. เรยี บเรยี ง
วชิรญาณวโรรสานสุ รณ์ จดหมายเหตุคราวสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สน้ิ พระชนม์
--
กรุงเทพฯ : วัดบวรนเิ วศวหิ าร, ๒๕๖๔
๒๘๘ หน้า.
๑. วชิรญาณวโรรส, สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยา, ๒๔๐๓-๒๔๖๔. I. ชอ่ื เรอื่ ง.
294.30922
ISBN: 978-616-586-052-9

ขอบพระคณุ ขอบคุณ ทอี่ นุเคราะห์ดา้ นขอ้ มลู เอ้อื เฟ้ือภาพ ตลอดจนอ�ำ นวยความสะดวกต่าง ๆ จนการจัดท�ำ หนังสือเล่มนี้ลลุ ว่ งด้วยดี
ประสานงานกองบรรณาธกิ าร : พระศวิ ากร อภปิ ญุ โฺ  ออกแบบปก : ชณุ หศ์ ริ ิ ไชยเอยี ออกแบบรปู เลม่ : วชั รนิ ทร์ อ�ำ ภาพนั ธ์
ภาพประกอบ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร, พระมหาปกรณ์ กิตฺติธโร วัดชนะสงคราม,
พระวรชยั ทมวโร วดั บวรนเิ วศวหิ าร, พระครธู รรมธรชยั พร ชนิ วโร วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม, กนั ต์ สสุ งั กรกาญจน,์ ชลทตั สขุ ส�ำ ราญ,
จิรพัฒน์ วัฒนโสภณ และธนภัทร สายพรหม ทปี่ รึกษาทางวิชาการ : พระมหาวโรตม์ ธมฺมวโร, ยุทธนาวรากร แสงอรา่ ม และ
พฒุ พิ งศ์ ฟางศรีสนุ นั ทา

พิมพท์ ่ ี บรษิ ัท พิมพด์ ี จำ�กัด

๓๐/๒ หมู่ ๑ ถนนเจษฎาวถิ ี ตำ�บลโคกขาม อ�ำ เภอเมอื ง จังหวัดสมทุ รสาคร
โทรศัพท์ ๐๒-๔๐๑-๙๔๐๑

คำ�น�ำ

ทป่ี ระชุมสมยั สามัญขององคก์ ารเพอื่ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ
หรือยเู นสโก คร้ังท่ี ๔๐ ณ กรุงปารีส ประเทศฝร่ังเศส ได้มีมตริ บั รองสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา
วชิรญาณวโรรส ว่าเปน็ บคุ คลส�ำ คัญในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ในด้านการศกึ ษา วฒั นธรรม สังคมศาสตรแ์ ละ
มนุษยศาสตร์ ตามทร่ี ัฐบาลไทยโดยกระทรวงศกึ ษาธิการ เสนอประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔ เนื่องใน
วาระครบ ๑๐๐ ปี นบั แต่วนั สน้ิ พระชนม์ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ และองค์การยเู นสโกไดป้ ระกาศยกย่อง
และร่วมเฉลิมฉลองในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้น
ในโอกาสดงั กลา่ วนี้ รฐั บาลรว่ มกบั คณะสงฆ์ จงึ ไดจ้ ดั งาน “พระมหาสมณานสุ รณ์ รฐั บาลไทยและองคก์ าร
ยูเนสโก ร่วมเฉลิมพระเกียรติคุณวาระครบ ๑๐๐ ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ” ขึน้
อนึ่ง วันท่ี ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ นับเป็นวาระครบ ๑๐๐ ปีนับแต่วันสิ้นพระชนม์ของ
สมเด็จพระมหาสมณเจา้ ฯ พระองคน์ ัน้ วดั บวรนเิ วศวิหารจึงได้จัดพิธีบำ�เพ็ญกศุ ลถวาย และจัดกิจกรรม
เฉลมิ พระเกียรติ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดรับการบ�ำ เพ็ญกุศลนไี้ ว้ใน
พระบรมราชปู ถัมภ์ นบั เปน็ สว่ นหน่ึงของงานพระมหาสมณานุสรณ์คร้ังน้ีดว้ ย
นอกจากน้ี วดั บวรนเิ วศวหิ ารไดจ้ ดั พมิ พห์ นงั สอื “วชริ ญาณวโรรสานสุ รณ์ จดหมายเหตคุ ราวสมเดจ็
พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส สนิ้ พระชนม”์ ทร่ี วบรวมเอกสารชน้ั ตน้ ทงั้ หมายก�ำ หนดการ
ราชกิจจานเุ บกษา บันทกึ พระอาการประชวร เอกสารราชการ ภาพถา่ ยเกา่ ตลอดจนบันทึกความทรงจำ�
เพอ่ื รวบรวมและจดั พมิ พ์เปน็ หนังสือทแี่ สดงกตญั ญูกตเวทิตาคุณตอ่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ พระองค์นี้
ที่ทรงมีบทบาทสำ�คญั ในการสร้างสรรค์ผลงานด้านการศึกษา วฒั นธรรม สงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์
อนั เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการพฒั นาประเทศใหเ้ จรญิ กา้ วทนั ตอ่ ความเปลย่ี นแปลงของโลกเมอ่ื ๑๐๐ ปลี ว่ งมาแลว้
นบั เปน็ การวางรากฐานความเจริญกา้ วหน้าของประชาราษฎรแหง่ สยามประเทศสืบมาจนทุกวนั นี้

วดั บวรนเิ วศวิหาร



สารบญั หนา้


พระประวัติ ๒๓
ลายพระหตั ถ์ บันทกึ รับส่ัง และหนงั สอื ราชการ ๘๕
รายงานพระอาการประชวรกอ่ นส้ินพระชนม ์ ๙๓
ราตรีสดุ ทา้ ยแหง่ พระชนม์ชพี ๙๙
พธิ ถี วายน้ำ�สรงและสกุ �ำ พระศพ ๑๒๙
การประดษิ ฐานพระศพ ณ ตำ�หนกั เพ็ชร ๑๓๗
การบำ�เพ็ญพระราชกศุ ลสัปตมวาร ๑๔๗
การบำ�เพญ็ พระราชกศุ ลปญั ญาสมวาร ๑๗๕
การบ�ำ เพญ็ พระราชกุศลสตมาห ๑๙๑
การออกแบบสถาปัตยกรรมพระเมร ุ ๒๕๑
พระราชพธิ พี ระราชทานเพลิงพระศพ ๒๕๙
ตำ�นานวดั บวรนิเวศวิหาร : หนงั สือที่ระลกึ งานพระเมรุ ๒๖๕
เครอ่ื งสังเค็ดงานพระเมร ุ
มนษุ ยนาควทิ ยาทาน : อนสุ าวรียแ์ ห่งพระคุณ

พระเจา้ น้องยาเธอ พระองคเ์ จา้ มนุษยนาคมานพ

พระประวตั ิ 1

สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรสเสดจ็ อบุ ตั ขิ น้ึ ในพระบรมราชจกั รวี งศ์
เพราะทรงอาศยั พระกศุ ลสมบตั ทิ ไ่ี ด้ทรงสรา้ งสมมาแตก่ าลกอ่ นเปน็ ปจั จยั จงึ เสดจ็ อปุ บตั ขิ นึ้ ใน
ราชสกุลอนั อุดม เปน็ ที่นยิ มนบั ถือของประชาชน ต้องดว้ ยพทุ ธนพิ นธภาษิตว่า

“ขตฺตโิ ย เสฏโฺ  ชเน ตสฺม ึ   เย โคตฺตปฏิสารโิ น ฯ”
“กษตั ริย์เปน็ ผปู้ ระเสรฐิ ในหม่คู นผรู้ ังเกียจดว้ ยโคตร”

จึงนบั ว่าพระองคเ์ ป็นชาติวุฑโฺ ฒ ทรงพระเจริญด้วยชาติ น้เี ปน็ พระคุณประการหนงึ่
เม่ือทรงพระเจริญวัยแล้ว ได้ทรงอบรมด้วยการศึกษาทั้งฝ่ายสกสมัยแลไพรัชชสมัย
ตลอดถงึ ขนบธรรมเนยี มราชจรรยาในราชสกลุ เปน็ อยา่ งดี จนเปน็ ทพี่ อพระราชหฤทยั สนทิ สนม
แห่งพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบรมเชษฐาธิราช แต่อาศัยพระบุญญาธิสมภาร ซึ่งได้ทรงอบรมไว้ในทางสมณะ จึงมี
พระอัธยาศัยน้อมไปในบรรพชาอุปสมบท เม่ือพระชนมายุควรแก่ท่ีจะเสด็จออกทรงผนวช
จึงได้ทรงสละกามสุขสมบัติในทางฆราวาสวิสัย เสด็จออกบำ�เพ็ญพรตพรหมจรรย์มั่นคงถาวร
จนตลอดพระชนมช์ พี ช่ือวา่ ได้ทรงด�ำ เนนิ ตามนัยแหง่ พุทธภาษิตท่ีว่า

“กยิรา เจ กยริ าเถนํ    ทฬฺหเมนํ ปรกกฺ เม ฯ”
“ถา้ จะทำ�สิ่งใด พึงพากเพียรกระทำ�ส่ิงนั้นจริง ๆ”
นเี้ ปน็ พระคณุ สมบตั ิอีกประการหนง่ึ

2

3

พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงฉายพระรูปร่วมกับพระอนุชา
ซ่ึงเปน็ พระราชโอรสในรชั กาลที่ ๔

ครั้งนน้ั สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ยังด�ำ รงพระอิสริยยศท่ี
พระเจ้านอ้ งยาเธอ พระองค์เจา้ มนษุ ยนาคมานพ ทรงประทบั น่ังพระเกา้ ออ้ี งคข์ วาสดุ

4
พระเจา้ นอ้ งยาเธอ พระองคเ์ จ้ามนุษยนาคมานพ

ทรงฉายภายหลังทรงท�ำ ทฬั หีกรรม (อุปสมบทซ้ำ�) เมอ่ื วันที่ ๓ มกราคม พุทธศกั ราช ๒๔๒๒

เม่ือพระองค์ซ่ึงเป็นเจ้านายชั้นสูงในราชสกุล เสด็จออกบำ�เพ็ญพรตอยู่ได้ย่ังยืน
เช่นน้ี ชื่อว่าได้ทรงทำ�พุทธศาสนจักรกับราชอาณาจักรให้สนิทสนมกัน สมด้วยคำ�ของ
พระสงฆ์ซ่ึงได้ทูลแด่พระเจ้าอโศกมหาราชบรมบพิตรในข้อว่า “ถ้ามีพระราชประสงค์จะ
ทรงเป็นญาติสนิทกับพระพุทธศาสนา ควรโปรดให้พระราชโอรส หรือพระราชธิดา ทรง
อุปสมบทเป็นภิกษุภาพในพระพุทธศาสนา” พระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้โปรดให้พระมหินท
ราชกุมารออกทรงผนวช ด้วยมีพระราชประสงค์จะทรงเป็นญาติสนิทกับพระพุทธศาสนา
ตามคำ�ถวายพระพรของพระสงฆ์ในกาลน้ัน สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ นับว่าได้ทรงกระท�ำ
ประโยชน์อันสำ�คัญในทางพระราชกุศล ด้วยได้ทรงเช่ือมพระพุทธศาสนากับราชอาณาจักร
ใหก้ ลมเกลยี วประดจุ เปน็ ญาตกิ ัน ตอ้ งดว้ ยพระราชนิยมของสมเดจ็ พระเจา้ แผน่ ดนิ ในกาลก่อน
ดว้ ยประการฉะนี้ นเ้ี ปน็ พระคุณสมบตั ิอกี ประการหน่ึง

5
สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์

เสด็จพระอปุ ัชฌายะ

6

พระจันทรโคจรคุณ (ย้ิม จนฺทรสํ ี)
พระกรรมวาจาจารย์

(ท่มี าภาพ ชลทตั สุขสำ�ราญ)

การทพี่ ระองคเ์ สดจ็ ออกทรงผนวช กม็ เิ ปน็ เพราะทรงขาดแคลนอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ในทาง
ฆราวาส แลมิไดเ้ ป็นเพราะไมท่ รงสามารถในพระราชกรณยี กิจฝา่ ยพระราชอาณาจกั ร แตท่ รง
มงุ่ ประโยชนอ์ ันไพศาลท้งั ๒ ฝ่าย เมือ่ ทรงอุปสมบทแล้ว ได้ทรงศกึ ษาพระธรรมวนิ ัย อันเปน็
กิจเบื้องต้นของนวกภิกษุ ด้วยพระอุตสาหวิริยภาพอันแรงกล้า ทั้งทรงประพฤติม่ันอยู่ใน
ขอ้ ปฏบิ ตั วิ ตั รจรรยานอ้ ยใหญ่ อนั เปน็ กจิ ของภกิ ษใุ หม่ กจิ วตั รทไี่ ดท้ รงปฏบิ ตั นิ นั้ มไิ ดท้ รงเลอื ก
วา่ จะเปน็ การทตี่ �่ำ หรอื สงู โดยทส่ี ดุ ชนั้ การช�ำ ระกระโถนของพระอาจารยก์ ย็ งั ทรงกระท�ำ ไมท่ รง
ถือพระองค์ว่าเป็นเจ้านายท่ีเสด็จออกจากราชสกุล พระจรรยาอันน้ีย่อมสนับสนุนให้พระองค์
เจริญด้วยพระเกียรติคุณ พ้นจากคำ�ครหาแต่ผู้อื่นว่าถือพระองค์เป็นต้น ที่สมเด็จพระผู้มี
พระภาคทรงติว่าเป็นปราภวมุข ปากแห่งความเสื่อมความเสียหายดังพุทธภาษิตบรรยาย
ซงึ่ มมี าในปราภวสตู รว่า

“ชาตถิ ทฺโธ ธนถทฺโธ โคตฺตถทฺโธ จ โย นโร 7
สญฺาตึ อติมญฺเติ ตํ ปราภวโต มขุ ํ ฯ”
“นรชนหยิง่ เพราะชาติ เพราะทรพั ย์ เพราะโคตร แลหม่ินญาติของตน
ความประพฤตขิ องบคุ คลนัน้ เป็นมุข (ทาง) แหง่ ผู้เสยี หาย” ดงั นี้

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ทรงมั่นคงสมควรแก่ความเป็นพระเถระ แม้ในเวลาที่ยังมี
พระชนมายนุ อ้ ย สมด้วยขอ้ ความในพระคาถาทสี่ มเด็จพระบรมศาสดาจารย์ได้ตรสั ไว้วา่

“น เตน เถโร โหติ เยนสสฺ ปลิตสํ ิโร
ปรปิ กฺโก วโย ตสฺส โมฆชณิ โฺ ณติ วจุ จฺ ติ ฯ”
“บคุ คลหาช่ือวา่ เปน็ ผใู้ หญ่ ด้วยเหตวุ า่ เปน็ ผ้มู ีศีรษะหงอก
มีวัยแกไ่ ม่ เรากลา่ วคนชนิดนนั้ ว่าเปน็ ผู้แกเ่ ปลา่ ”

8

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรณุ หศิ สยามมกุฎราชกุมาร 9
ทรงผนวชเป็นสามเณร ทรงฉายร่วมกับพระมหาเถระ
ณ พระพุทธรัตนสถานมนทริ าราม พ.ศ. ๒๔๓๔
ดังมรี ายละเอยี ดจากซา้ ยไปขวา คอื
๑. สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (ศรี อโนมสริ )ิ
๒. สมเด็จพระพทุ ธโฆษาจารย์ (สา ปสุ ฺสเทโว)
ภายหลงั คอื สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช

สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก
๓. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเดจ็ พระปวเรศวรยิ าลงกรณ์

ภายหลังคือ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
๔. พระเจ้านอ้ งยาเธอ กรมหมน่ื วชริ ญาณวโรรส

ภายหลังคอื สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
๕. พระวรวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ พระอรุณนิภาคุณากร
๖. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้ มหาวชริ ุณหศิ สยามมกุฎราชกมุ าร

(ทมี่ าภาพ จริ พฒั น์ วัฒนโสภณ)

“ยมหฺ ิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ อหึสา สญฺ โม ทโม
ส เว วนตฺ มโล ธโี ร โส เถโรติ ปวจุ ฺจติ ฯ”
“สจั จะ ธรรม อหงิ สา สญั ญมะ ทมะ มีอยใู่ นท่านผใู้ ด
ทา่ นผนู้ ้ันแลเป็นผมู้ ปี ญั ญา ปราศจากมลทิน เรากล่าวว่า เป็นผู้ใหญไ่ ด้” ดังน้ี

เม่ือทรงศึกษาพระธรรมวินัย ควรแกท่ ่ีจะรกั ษาพระองค์ได้แลว้ แตน่ น้ั ได้ทรงเริม่ ศึกษา
พระปริยัติธรรม ซึ่งได้เคยทรงศึกษามาแต่ยังทรงพระเยาว์เป็นพื้นมาแล้ว ด้วยพระปัญญา
สอดส่องทั่วถึงพร้อมทั้งอรรถแลพยัญชนะ มิได้ทรงมุ่งลาภยศอย่างใดอย่างหนึ่ง ทรงมุ่งแต่
ความรคู้ วามเหน็ ในอรรถภาษาซง่ึ เปน็ หลกั แหง่ พระพทุ ธศาสนาเปน็ เบอ้ื งหนา้ จงึ ไดพ้ ระปญั ญา
แตกฉานในพระปริยัติธรรมเป็นอย่างดี หาผู้เปรียบได้ยากยิ่ง ได้ทรงเข้าสอบไล่ในท่ีประชุม
พระเถระ ได้ทรงเป็นเปรยี ญ ๕ ประโยค เสมอด้วยสมเดจ็ พระบรมชนกนาถมีพระเกียรตคิ ุณ
สมควรแกภ่ าวะแหง่ อนชุ าตวโรรส โดยฐานทรงเปรอื่ งปราชญใ์ นพระปรยิ ตั ธิ รรม ทง้ั มพี ระปรชี า
ญาณ ฉลาดเฉลยี วหยงั่ ทราบเหตกุ ารณใ์ นทางคดโี ลก เปน็ ทน่ี บั ถอื ของเจา้ นายแลขา้ ราชการได้
10 บางสว่ น แลทรงทราบลัทธแิ ลภาษาของชาตแิ ลศาสนาอน่ื ๆ ดว้ ย จงึ ท�ำ ใหพ้ ระองค์เปน็ มหา

บณั ฑิตท่นี ับถอื ของมหาชน มพี ระเกียรตริ ะบือไปทัง้ ในสยามประเทศ แลในไพรชั ประเทศ นี้
เปน็ พระคณุ พเิ ศษอีกประการหนงึ่

11
ภายหลงั ทรงเข้าแปลพระปรยิ ัติธรรม ได้เปน็ เปรยี ญ ๕ ประโยค
ทรงได้รับสถาปนาพระอสิ ริยยศเป็น พระเจา้ น้องยาเธอ กรมหม่นื วชิรญาณวโรรส

อาศัยพระกุศลสมบัติเป็นพื้นมา แลทรงศึกษาทรงฝึกพระองค์ให้ทรงบริบูรณ์ด้วยวิชา
ความรู้แลพระจรรยาอันดีงาม ต้ังพระองค์สมแกค่ วามเปน็ เจ้านาย แลความเป็นพระมหาเถระ
ผู้ใหญ่ในพระพุทธศาสนา จึงได้ทรงรับพระเกียรติยศ แลสมณศักด์ิขึ้นมาโดยลำ�ดับ จนถึง
ได้ทรงดำ�รงตำ�แหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงปกครองพระสงฆ์ท่ัวสยามรัฐ พระคุณข้อน้ี
นับว่าเป็นอิฐวิบากสมบัติ เสร็จมาแต่การศึกษาแลฝึกพระองค์ดีเป็นเบ้ืองหน้า สมด้วย
พระพทุ ธภาษติ คาถาท่ีมาในอตั ตวรรคแห่งพระธรรมบทว่า

“อตฺตนา หิ สทุ นเฺ ตน   นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ ฯ”
“บคุ คลมตี นอนั ฝึกดแี ลว้ ย่อมไดท้ พี่ งึ่ ทไี่ ดด้ ว้ ยยาก”

พระคณุ สมบตั ขิ องสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ ฯ ตามทไี่ ดย้ กขนึ้ กลา่ วมานี้ เปน็ แตเ่ พยี งสว่ น
อัตตหิตสมบัติ คือความดีส่วนพระองค์ ยังมีพระคุณสมบัติซ่ึงเป็นส่วนสำ�คัญย่ิงขึ้นไป
กวา่ นอ้ี กี กลา่ วคอื เมอื่ ไดท้ รงศกึ ษาเลา่ เรยี นอนั เปน็ ประโยชนส์ ว่ นพระองคส์ �ำ เรจ็ เปน็ อยา่ งดแี ลว้
12 ยังทรงพระมหากรุณาจำ�แนกวิทยาท่ีได้ทรงศึกษานั้นแก่กุลบุตรท้ังหลายเป็นอันมากให้ได้รับ

ความรคู้ วามฉลาดสามารถเปน็ ก�ำ ลงั พระศาสนา ถงึ เปน็ พระเถระผใู้ หญใ่ นบดั นกี้ ม็ หี ลายรปู แล
ทรงเปน็ ครปู ธั ยาจารยแ์ หง่ พระบาทสมเดจ็ พระรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าวธุ พระมงกฎุ เกลา้
เจ้าอยู่หวั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาประชาธปิ ก พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู วั แลพระบรม
วงศานุวงศ์ข้าราชการราษฎรตลอดทุกช้ันชน มิได้ทรงถือพระองค์ เมื่อทรงเห็นสมควรแล้ว
ก็ทรงรับทรงโอวาทานุศาสน์ให้รอบรู้เข้าใจในอรรถธรรมตามสมควรแก่สติปัญญาของเขา
ท้ังเมื่อละเพศพรหมจรรย์แล้ว ก็ยังทรงเป็นพระธุระประทานพระโอวาทตามแต่จะทรงหา
โอกาสได้ คอยทรงตักเตือนสติแลเหนี่ยวรง้ั ใจไว้ ฝกั ใฝใ่ นทางธรรมอนั ควรแกค่ หิ ปิ ฏบิ ตั ิ นเ้ี ปน็
พระคณุ อนั แนช่ ดั ประจกั ษอ์ ยใู่ นใจแหง่ ศษิ ยท์ ง้ั หลายมากดว้ ยกนั ศษิ ยข์ องพระองคก์ ลา่ วเฉพาะ
แตท่ เ่ี ปน็ สทั ธวิ หิ ารกิ มจี �ำ นวนถงึ ๑,๑๐๗ รปู

13
พระเจ้านอ้ งยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส
ทรงฉายพระรปู รว่ มกบั สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชริ าวธุ สยามมกฎุ ราชกมุ าร
สมเด็จพระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้ามหดิ ลอดลุ ยเดช กรมขุนสงขลานครนิ ทร์ ตลอดจน
พระเถรานเุ ถระในคณะธรรมยตุ กิ นกิ าย ในโอกาสที่เดินทางไปนมัสการพระปฐมเจดีย์
ณ วัดพระปฐมเจดยี ์ เมือ่ วันที่ ๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๔๗

อนึ่ง พระองค์ทรงมพี ระปญั ญาสขุ ุมคัมภีรภาพ สามารถหาอุบายฝกึ นิสิตให้มีความรู้ความฉลาด
ไดโ้ ดยรวดเรว็ เชน่ ภิกษใุ หมท่ เ่ี ปน็ ผู้เกยี่ วขอ้ งด้วยราชกิจ เขา้ มาอุปสมบทช่ัวเวลาราว ๓-๔ เดอื น ก็ยัง
ทรงพระอุตสาหะส่ังสอนหาอุบายวธิ ฝี ึกหดั ประทานความร้แู ก่เขา สมแกเ่ วลาทม่ี นี ้อย ไม่ให้เป็นผทู้ ี่เปล่า
ประโยชน์ไปด้วยทรงย่อพระธรรมวินัยซ่ึงมีเนื้อความอันยาวแลกว้างให้ส้ันแลแคบ ท้ังเข้าใจได้ง่าย แล้ว
ทรงเรยี บเรียงขึน้ ไว้ท่ีมชี ่อื เรียกวา่ นวโกวาท หนงั สือน้ีเปน็ ประโยชน์มากแก่นวกภิกษใุ นภายหลัง แลได้
เปน็ หลักสตู รแห่งองค์นกั ธรรมชน้ั ตรี ส�ำ หรบั ภกิ ษสุ ามเณรซึง่ พระองค์ไดจ้ ัดตงั้ ใหม้ ขี ึ้นในบดั นี้ ท้งั ได้ทรง
รจนาหนังสอื อืน่ ๆ ขน้ึ อกี เป็นอันมาก อันเป็นเครอื่ งเก้ือกูลแก่การเรียนในทางนี้

ส่วนการเรียนพระปริยัติธรรมท่ีเรียกว่า เรียนบาลี ก็ได้ทรงเพิ่มเติมแลแก้ไขให้สำ�เร็จประโยชน์
สมแกส่ มัยขน้ึ โดยล�ำ ดับกาล ท้ังไดท้ รงรจนาแบบเรียนขึน้ อีกมปี ระการตา่ ง ๆ เพือ่ ให้ผ้ศู กึ ษารูไ้ ด้เร็วแล
เขา้ ใจไดง้ า่ ย ทรงเก็บรวบรวมตดั เอาแต่สาระจากคัมภรี ์เดิมซึ่งยืดยาวตอ้ งเรียนเสียเวลานาน เปลอ้ื งขอ้ ท่ี
ฝน่ั เฝือออกเสยี รจนาข้นึ เปน็ แบบเรียนอยา่ งย่อ ๆ แต่ไดค้ วามดีเกอื บเทา่ แบบเดมิ ทั้งย่นเวลาเรยี นของ
นักเรียนให้น้อยลงไดม้ าก หนังสอื น้มี ีชอ่ื เรียกว่า บาลีไวยากรณ์ ไดใ้ ชเ้ ป็นเคร่ืองมอื ส�ำ หรบั เรยี นบาลีแพร่
หลายมา ในบดั นกี้ เ็ ปน็ หลกั สตู รแหง่ การสอบไลพ่ ระปรยิ ตั ธิ รรมส�ำ หรบั ภกิ ษสุ ามเณรชนั้ เปรยี ญ ๓ ประโยค
14 ท้งั ได้ทรงรจนาหนงั สอื อันเกอื้ กูลแกก่ ารเรียนทางนข้ี ้ึนอกี เปน็ อนั มาก

การเรยี นธรรมกด็ ี การเรยี นบาลกี ด็ ี เบอ้ื งตน้ ไดท้ รงจดั เฉพาะส�ำ นกั เทา่ ทท่ี รงมสี ทิ ธจิ ะทรงกระท�ำ ได้
ภายหลงั ได้ทรงขยายใหก้ วา้ งขวางออกไป ถึงมีสำ�นักเรียนใหญ่ ๆ แลมีสำ�นักเรียนน้อย ๆ เป็นสาขา ซึ่งมี
นามตามโฆษณาว่า มหามกฏุ ราชวิทยาลยั อนั เป็นบ่อใหญแ่ หง่ การศกึ ษาเล่าเรยี นของกุลบุตร เพราะได้
มพี ร้อมท้งั การสอนการเรียน แลการพิมพห์ นังสือพระธรรมแจกจ่าย ท่ีเรยี กวา่ ธรรมจกั ษแุ ลธรรมสมบตั ิ
เปน็ ต้น ใหพ้ ุทธศาสนกิ ชนไดจ้ กั ษคุ อื ปัญญาความรคู้ วามเข้าใจในพทุ ธศาสนาแจ่มแจง้ ขึ้น ตอ่ มาก็ได้ทรง
เปล่ียนแปลงแก้ไขการศึกษาทางพระศาสนานี้ให้จำ�เริญข้ึนโดยลำ�ดับกาล เช่นได้ทรงตั้งให้มีการเรียน
องคน์ กั ธรรมชน้ั ตรี ชนั้ โทขน้ึ แพรห่ ลายไปทง้ั ในกรงุ แลหวั เมืองต่าง ๆ ซ่งึ เคยมดื มนอนธการมานมนาน
กลบั ไดแ้ สงสวา่ งกลา่ วคือปัญญาความรู้ความเข้าใจในพระธรรมวนิ ัย อันเป็นปัจจัยแห่งความปฏิบตั ิชอบ
พระภกิ ษสุ ามเณรในยุคของพระองค์ จึงนบั ว่าเป็นผ้มู ีความรอู้ ันเปน็ เหตใุ ห้ปฏบิ ตั ดิ ี มหี ริ ิโอตตปั ปะ แลมี
สมณสญั ญาประพฤตเิ รยี บรอ้ ยขน้ึ มาก ทง้ั นก้ี เ็ พราะอาศยั พระปญั ญาแลพระวริ ยิ ภาพอนั มใี นพระองคเ์ ปน็
ปจั จัยสมควรถวายคำ�สรรเสริญไว้ โดยนบั แหง่ พทุ ธภาษิตได้วา่

“โย หเว ทหโร ภกิ ฺข ุ ยุญชฺ ติ พุทธฺ สาสเน 15
โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ อพภฺ า มตุ โฺ ตว จนฺทิมา ฯ”

“ภกิ ษุหน่มุ ผู้ประกอบความเพียรในพุทธศาสนา ชื่อวา่ ยอ่ มยังโลกนใี้ ห้สว่าง
เหมือนดวงจันทร์ท่ีพน้ จากกลีบเมฆ ยงั อากาศทม่ี ืดมวั ใหส้ วา่ งฉะน้นั ”

น้เี ป็นพระคณุ อันยิ่งใหญอ่ กี ประการหนง่ึ
อนง่ึ พระองคท์ รงฉลาดในเทศนาอบุ าย สามารถขยายอรรถทลี่ กึ ใหต้ นื้ เขา้ ทแ่ี คบใหก้ วา้ ง
ออก ทฝี่ ั่นเฝอื ให้หายฝัน่ เฝอื ไดท้ รงเผยแผ่พระธรรมนัน้ ๆ ให้ผสู้ ดบั เขา้ ใจไดท้ ุกช้ัน กล่าวคือ
ทรงเป็นพระธรรมกถึกเหมาะแก่สมัย แลการท่ีทรงแสดงเทศนานัยนั้น มิได้ทรงเห็นแก่ลาภ
สกั การะ แลความบอบช�ำ้ สว่ นพระองค์ ทรงมุ่งแตจ่ ะใหส้ ำ�เร็จผลแลสุขประโยชนแ์ ก่ผูส้ ดบั โดย
ส่วนเดียว เช่นในเวลาเสดจ็ ตรวจการคณะสงฆใ์ นมณฑลตา่ ง ๆ เมื่อสบโอกาส กล่าวคือ มี
ประชาชนชมุ นมุ กนั อยมู่ าก แมจ้ ะทรงเหนด็ เหนอื่ ยในระหวา่ งมรรคา กย็ งั ทรงพระกรณุ าประทาน
พระโอวาทแกเ่ ขาตามควร บางวนั ทรงแสดงหลาย ๆ กณั ฑ์ ซง่ึ ยากทผ่ี มู้ กี รณุ าออ่ นจะพงึ กระท�ำ ได้
ตอ้ งตามนัยแหง่ คาถาภาษิตสรรเสรญิ พระพุทธศาสนาผกู้ อปรด้วยพระมหากรุณาวา่
“มหาการณุ โิ ก นาโถ อตถฺ าย หิตาย สขุ าย สพฺพปาณนิ ํ
ปเู รตวฺ า ปารมี สพฺพา ปตโฺ ต สมฺโพธิมตุ ฺตมํ ฯ”

ทา่ นผู้เป็นนาถะ มีกรณุ ามาก บำ�เพญ็ บารมธี รรมครบทกุ ประการ เพอื่ หวงั ประโยชนแ์ ล
หิตสุขแก่สรรพสัตวท์ ง้ั มวลแลว้ ไดบ้ รรลุสมั โพธิญาณ อันเปน็ ธรรมอยา่ งอุดม” ดงั น้ี

อน่ึงได้ทรงรจนาหนงั สือธรรม เพ่อื เปน็ ประโยชนเ์ กอ้ื กลู แก่การสดับไวอ้ ีกเป็นอันมาก น้ี
เป็นพระคณุ สมบัติอกี ประการหน่ึง
ยังมีพระคุณสมบัติอันสำ�คัญอีกประการหน่ึง คือพระองค์ไม่ทรงเห็นแต่ความสำ�ราญ
เฉพาะพระองค์ทรงมงุ่ ผลอนั ไพศาลแลเปน็ ไปในทางท่ีกวา้ ง กลา่ วคือทรงเอาภาระธรุ ะควบคมุ
ปกครองคณะสงฆ์ อนั เปน็ การเกย่ี วขอ้ งดว้ ยคนมาก ยากทจ่ี ะไดใ้ หส้ งบได้ เพราะคนมากตา่ งคน
ตา่ งมอี ธั ยาศยั ตา่ งกนั เพราะฉะนน้ั ภาระธรุ ะอนั นี้ จงึ เปน็ กจิ ส�ำ คญั ยากทจี่ ะจดั จะท�ำ ใหเ้ รยี บรอ้ ย
ได้โดยสนทิ แตถ่ งึ ดงั นั้นกม็ ิไดท้ รงละ ในเมอ่ื พระกรณยี ะมาถงึ เฉพาะพระองค์ ไดท้ รงจัดท�ำ ไป



กรรมการสภามหามกุฏราชวิทยาลัย เมอ่ื วนั ที่ ๖ ตลุ าคม ร.ศ ๑๑๖ (พ.ศ. ๒๔๔๐) 17
แถวหนา้
๑. พระธรรมปาโมกข์ (ถม วราสโย) วดั มกุฏกษตั รยิ าราม เมื่อครัง้ ยังดำ�รงสมณศกั ดทิ์ ่ี พระราชกระวี
๒. หมอ่ มเจา้ พระศรสี ุคตคัตยานุวัตร (หม่อมเจ้าพร้อม ธมมฺ รโต) วัดเทพศริ ินทราวาส
๓. ส มเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส วดั บวรนิเวศวหิ าร

เม่ือครง้ั ยงั ดำ�รงพระอสิ รยิ ยศท่ี พระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหมน่ื วชิรญาณวโรรส
๔. พ ระเจา้ วรวงศ์เธอ กรมหลวงชนิ วรสิริวฒั น์ สมเดจ็ พระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ สริ ิวฑฒฺ โน)

วัดราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม เมอื่ คร้งั ยงั ด�ำ รงพระอิสรยิ ยศที่ หม่อมเจา้ พระสถาพรพิรยิ พรต
๕. พ ระสาสนโสภณ (ออ่ น อหสึ โก) วดั ราชประดษิ ฐสถติ มหาสมี าราม

เมอ่ื ครั้งยังดำ�รงสมณศกั ดิ์ที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์
แถวกลาง
๑. พ ระราชเมธี (ทว้ ม กณฺณวโร) วดั พิชยญาติการาม

เมื่อครง้ั ยังด�ำ รงสมณศกั ด์ิท่ี พระครปู ลดั อุทิจยานุสาสน์
๒. พระธรรมราชานุวตั ร (ตา่ ย วารโณ) วดั เสนาสนาราม จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา
๓. พระสมทุ รมนุ ี (เนตร สํกนโฺ ต) วัดเครือวัลย์
๔. พ ระอบุ าลีคณุ ูปมาจารย์ (จนั ทร์ สิรจิ นโฺ ท) วดั บรมนิวาส

เมอ่ื ครั้งยังดำ�รงสมณศกั ดทิ์ ่ี พระครวู ิจิตรธรรมภาณี
แถวหลงั
๑. พระราชมนุ ี (ชม สุสมาจาโร) วดั บวรนิเวศวหิ าร
เมือ่ ครงั้ ยงั ด�ำ รงสมณศักดทิ์ ่ี พระครูปลัดจฬุ านุนายก
๒. พ ระธรรมราชานุวัตร (แสง พุทธฺ ทตฺโต) วัดนเิ วศธรรมประวตั ิ จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

เมอ่ื ครง้ั ยังดำ�รงสมณศักดิ์ท่ี พระอมราภิรักขติ
๓. ส มเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชน่ื สุจิตฺโต) วัดบวรนิเวศวหิ าร

เมื่อครั้งยงั ด�ำ รงสมณศักดิ์ท่ี พระสุคณุ คณาภรณ์

เตม็ ตามทที่ รงสามารถ สมแกค่ วามเปน็ มหาปราชญ์ทางพระพทุ ธศาสนา ดงั มีพระพุทธภาษิต
สรรเสริญไว้ในทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย ว่า

“เทวฺ เม ภิกฺขเว ปณฑฺ ิตา กตเม เทฺว ฯ โย จ อาคตํ ภารํ วหติ
โย จ อนาคตํ ภารํ น วหติ อเิ ม โข ภกิ ฺขเว เทวฺ ปณฺฑติ า ฯ”
“ดูก่อนภิกษทุ ้ังหลาย บัณฑิตสองจำ�พวกเหลา่ น้ี คอื ผูไ้ ม่สลัดภาระอนั มาถึงแลว้ ๑
ผไู้ ม่คว้าภาระอันยงั ไม่มาถงึ ๑ ภกิ ษุทัง้ หลาย บณั ฑิตสองจำ�พวกเหลา่ น้ีแล” ดังนี้
กิจการแห่งคณะสงฆ์ ซงึ่ สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้าได้ทรงกระทำ�นั้น ยอ่ มมปี ระการเปน็
อเนกปริยาย พ้นท่ีจะพึงนำ�มากล่าวไว้ในที่น้ีให้ครบถ้วนได้ ผู้ซึ่งเคยอ่านหนังสือแถลงการณ์
คณะสงฆ์ อันเป็นท่ีรวบรวมพุทธศาสนกิจท่ีทรงทำ�คงจะทราบได้ แต่ข้อสำ�คัญที่ควรยกขึ้น
พรรณนาไว้ ก็คือทรงพระปรีชาสามารถในอันจูงนำ้�ใจของภิกษุสงฆ์ ให้เป็นผู้ขยันในการเอา
ภารธรุ ะพระศาสนา ๑ ใหน้ ยิ มในการศกึ ษาเลา่ เรยี น ๑ ใหม้ แี กใ่ จปฏสิ งั ขรณซ์ อ่ มแซมถาวรวตั ถุ
18 ในพระอาราม ๑ ให้มฉี นั ทะในสามคั คีธรรม ๑
อนึ่ง ทรงเป็นผสู้ ามารถในอันทรงวินจิ ฉัยอธิกรณ์ ให้เปน็ ทว่ี างใจแห่งคู่ความท้งั สองลง
ไดส้ นิท อันเปน็ กิจยากทีผ่ ้อู ื่นจะสามารถเสมอเหมอื นดว้ ยพระองค์ได้
สรปุ ความวา่ สมเดจ็ พระสมณเจา้ ฯ ไดท้ รงปกครองคณะสงฆใ์ หพ้ อเหมาะพอควรแกส่ มยั
ทรงน�ำ ทางใหภ้ กิ ษสุ งฆไ์ ดค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจ พรอ้ มทงั้ ทางคดโี ลกแลคดธี รรม เปน็ อนั ประทาน
ความสุขแก่ชนทั่วทุกชั้น นับว่าพระองค์ทรงเป็นสกลมหาสังฆปริณายกท่ีน่าอัศจรรย์แลหาได้
แสนยาก ดงั พุทธภาษิตทส่ี มเดจ็ พระผ้มู พี ระภาคตรัสไวใ้ น ธรรมบท ขทุ ฺทกนกิ ายว่า

“ทุลลฺ โภ ปุริสาชญฺโ   น โส สพฺพตฺถ ชายติ
ยตฺถ โส ชายตี ธโี ร   ตํ กลุ ํ สขุ เมธต”ิ

“บุรุษผู้อาชาไนยหาไดย้ าก เพราะท่านไม่เกดิ ในที่ทุกแห่ง
ท่านเปน็ ผู้มปี ญั ญา เกดิ ข้นึ ในสกุลใด สกุลนัน้ ยอ่ มถึงความสขุ ” ดงั น้ี

อนงึ่ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ ฯ แมพ้ ระองคจ์ ะมพี ระอธั ยาศยั เกยี่ วไปฝา่ ยพระโทสจรติ 19
แตก่ เ็ ป็นส่วนพระองค์ กลา่ วคอื เปน็ ส่วนเอกชน เมอื่ เทียวกบั วิบลุ ผลแลคณุ ประโยชนซ์ ง่ึ ไดท้ รง
กระท�ำ ไว้ ยงั มีจำ�นวนสว่ นพระคุณธรรมย่งิ กวา่ เป็นอันมาก ซง่ึ ยากท่ผี อู้ ่ืนจะท�ำ ไดเ้ สมอเหมอื น
แลเมื่อประชวรหนัก ดูน่าจะทรงประกอบด้วยกิเลสาสวะอันเป็นส่วนปฏิฆานุสัย แต่ก็หาเป็น
เช่นน้ันไม่ กลับทรงมีพระหฤทัยเด็ดเด่ียวบรรเทาเสียได้ ทรงข่มทุกขเวทนาที่เป็นไป ด้วยมี
พระหฤทัยแน่วแน่อยู่ในพระไตรลักษณภาวนา ดังที่ได้ทรงรจนาข้ึนไว้เป็นบทพระบาลีส�ำ หรับ
พระองค์ แลโปรดให้พระเถระบางรปู ทรงจ�ำ ไว้ เพือ่ ได้คอยเตอื นพระองค์ในอวสานวา่

“สงขฺ ารา อนิจจฺ า วปิ ปฺ ริณามธมมฺ า สนฺตติปฏิพทฺธา
สงขฺ ารา ทุกฺขา ตํ กเุ ตตฺถ ลพฺภา

สงฺขารา อนตตฺ า ยถาปจฺจยํ ปวตฺตนตฺ ิ ฯ”
“สังขารทง้ั หลายไมเ่ ท่ียง มีความเปลีย่ นแปลงไปเป็นธรรมดา เนอ่ื งดว้ ยสนั ตติ คือความสืบตอ่

สงั ขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ขอ้ ทีจ่ ะเป็นสขุ จะพงึ ได้ในสงั ขารนน้ั แตท่ ไ่ี หน
สังขารทง้ั หลายเปน็ อนัตตา เป็นไปตามเหต”ุ ดังน้ี

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จอุปบัติข้ึนในโลก ได้ทรง
บ�ำ เพญ็ อตั ตหติ ประโยชน์ แลปรตั ถประโยชน์ มนี ยั สงั เขปตามทไ่ี ดบ้ รรยายมาฉะน้ี ครน้ั ถงึ วนั ท่ี ๒
สิงหาคม พทุ ธศักราช ๒๔๖๔ ตรงกับวนั จันทร์ แรม ๑๓ คำ่� เดอื น ๘ ปีระกา เวลา ๔.๓๕ น.
ได้เสด็จส้ินพระชนม์ด้วยพระอาการอันสงบ ซ่ึงสังเกตเห็นได้ว่า น่าจะทรงทำ�มนสิการอยู่ใน
พระไตรลักษณ์ดังกล่าวแล้ว จึงสมควรเป็นแบบอย่างอันดี ท่ีพุทธศาสนิกสาธุชนท้ังหลายจะ
พึงดำ�เนนิ ตาม๑

๑  สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส, ธรรมวิจารณ์ ส่วนสังสารวัฏ แต่ใม่จบ ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส, ม.ป.ท., ๒๔๖๔ (พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงพรหมวรานรุ กั ษ์ โปรดใหพ้ มิ พใ์ นการพระราชกศุ ลปญั ญาสมวาร
จ�ำ เดิมแตว่ นั ส้ินพระชนมแ์ หง่ สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วันท่ี ๑๙ กันยายน ๒๔๖๔), หน้า ๒ – ๑๔.

20

21
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หัว ทรงฉายพระรปู ร่วมกับพระบรมวงศานวุ งศ์

พระภิกษุสามเณร และข้าราชการทีเ่ กิดรว่ มปสี หชาติ (ฉล)ู
ณ พลับพลายอดพระเกี้ยว ในสวนแง็เต๋ง พระราชวังดสุ ิต
ในการบ�ำ เพญ็ พระราชกศุ ลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา

เมื่อวนั ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๖

สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

ลายพระหตั ถ์ บนั ทึกรบั สั่ง และหนงั สอื ราชการรายงาน 23
พระอาการประชวรกอ่ นสน้ิ พระชนม์

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงเริ่มมีพระอาการประชวร
พระวณั โรคภายในเรอื้ รงั มานาน โดยคอ่ ย ๆ ทรดุ ลงทลี ะนอ้ ย พระอาการของโรคก�ำ เรบิ มากขนึ้
มาตัง้ แตป่ พี ทุ ธศักราช ๒๔๖๑ คราวหน่ึง คร้ังนั้นเสดจ็ ไปเปล่ยี นอากาศที่ชายทะเลตะวนั ออก
แลว้ ทรงพักทีศ่ รมี หาราชา๒

ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๖๓ พระอาการก็เร่ิมทรุดหนักอีกวาระหน่ึง มีพระอาการ
กรรสะ (ไอ) เปน็ พระโลหติ เปน็ อาทิ เหลา่ แพทยไ์ ดป้ ระกอบพระโอสถถวายเตม็ ก�ำ ลงั สามารถ
จนพระอาการทเุ ลา ในครง้ั น้ี ทรงโปรดทจ่ี กั เสดจ็ ไปประทบั ในพนื้ ทต่ี า่ งจงั หวดั โดยกระบวนเรอื
ไปประทับ ณ วดั ใหญ่ จังหวดั นนทบุรี วัดสัมปทวน จังหวดั นครปฐม วังนันทอุทยาน จังหวดั
นครปฐม๓ และค่ายหลวงเมืองราชบุรี

ครั้นต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๖๔ พระอาการเร่ิมกำ�เริบขึ้นอีกคร้ัง ในเวลาที่มีงาน
ทรงบ�ำ เพญ็ พระกุศลฉลองพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา เม่อื เดอื นเมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔ และ
ย่งิ ก�ำ เรบิ มากขน้ึ เรอื่ ยมา คร้นั เมือ่ วนั ที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๔ จึงมพี ระประสงคจ์ ักเสดจ็
โดยกระบวนเรือหลวง เพ่อื เปล่ียนอากาศแถบบรเิ วณชายฝั่งทะเลฝั่งตะวนั ตก พระบาทสมเด็จ
พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทานเรอื รบหลวงพาลรี ง้ั ทวปี พรอ้ มดว้ ยเจา้
พนกั งานประจ�ำ เรอื พระทน่ี งั่ เสดจ็ ไปพรอ้ มดว้ ยพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงพรหมวรานรุ กั ษ์
พระภาดา และหม่อมเจ้าในกรมหลวงพรหมวรานุรักษ์อีกหลายพระองค์ด้วยกัน แพทย์ไทย
แพทย์ฝร่ังประจำ�พระองค์ตามเสด็จด้วยเป็นหลายนาย เสด็จโดยเรือพระที่นั่งไปประทับ ณ
เมอื งชมุ พร เรื่อยไปจนประทับ ณ แหลมทราย จงั หวดั สงขลา

๒  หอจดหมายเหตุแหง่ ชาติ, ร.๖ ศ๘/๑๒, “สมเดจ็ พระมหาสมณะขอถวายพระพรลาเสด็จไปเปลีย่ นอากาศชายทะเลตวนั ออก ขอพระราชทาน
เรอื หลวงกระทรวงทหารเรือรบั ส่งจะเสด็จวนั ที่ ๒๙ เดือนน้,ี ” ๑๓-ม.ค. ๒๔๖๑ – ๑๕ ก.ค. ๒๔๖๔.

๓  จดหมายเหตุพระราชกิจรายวนั ค.ศ. ๑๙๒๑ = พ.ศ. ๒๔๖๓ – ๒๔๖๔ (ม.ป.ท., ม.ป.ป.), หนา้ ๒๑๔.

คร้ังนั้น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมขุนลพบุรีราเมศวร์
อปุ ราชปกั ษใ์ ตเ้ ปน็ อปุ ฏั ฐาก พระอาการมแี ต่
ทรงกบั ทรดุ ทสี่ ดุ จนพระบาท พระหตั ถ์ และ
พระทน่ี ัง่ บวม ทรงพระด�ำ เนนิ ไม่ได้ สมเด็จฯ
เจา้ ฟา้ กรมขนุ ลพบรุ รี าเมศวรท์ รงมพี ระโทรเลข
รายงานพระอาการมาทลู เกลา้ ฯ ถวายเนอื ง ๆ
เม่ือทรงเห็นพระอาการทรุดหนักลง จึงทรง
มีพระโทรเลขมาขอพระราชทานเรือถลาง
ออกไป เพ่ือเป็นเรือที่ประทับสำ�ราญ
พระอริ ยิ าบถ๔

ถงึ ในวนั เขา้ พรรษา ซง่ึ ตรงกบั วนั ที่ ๒๐
24 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ พระอาการประชวร
กย็ ังมคิ ลาย จึงไม่สามารถเชญิ เสดจ็ กลบั เพื่อ
พระเจา้ บรมวงศ์เธอ ประทับจำ�พรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหารได้
กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์

จึงยังทรงประทับ ณ แหลมทราย จังหวัด
สงขลาเร่อื ยมา

จนพระอาการทรดุ หนกั ประจกั ษพ์ ระหฤทยั วา่ กาลทส่ี ดุ ใกลจ้ ะถงึ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้
กรมพระยาวชริ ญาณวโรรสจงึ ทรงพระด�ำ รกิ ารทจี่ ะเสดจ็ กลบั โดยรถไฟสายใต้ จงึ โปรดใหม้ พี ระ
โทรเลขเขา้ มาถวายพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตให้จัดรถไฟขบวนพิเศษตามพระประสงค์

๔  เรื่องเดยี วกัน

โดยในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม เวลา
๗.๓๕ น. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรม
พระยาวชิรญาณวโรรสทรงเก้าอี้หามจาก
แหลมทรายมาขึ้นรถไฟพิเศษที่สถานีสงขลา
เวลา ๙.๑๕ น. รถไฟจึงเคล่ือนขบวนออก
จนถงึ เวลา ๑๕.๐๖ น. ถงึ สถานที ุ่งสง จงั หวดั
นครศรธี รรมราช พกั ๒๐ นาที เวลา ๑๕.๒๖ น.
ออกจากสถานที งุ่ สง เวลา ๐.๑๖ น. ถงึ สถานี
ชมุ พร ประทับแรมบนรถไฟ ณ ท่ีสถานีนัน้
คืนหน่งึ

วนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม เวลา ๖.๑๕ น. 25
รถไฟจึงเคล่ือนขบวนออกจากสถานีชุมพร
เวลา ๑๙.๑๔ น. ถงึ สถานบี างกอกนอ้ ย ธนบรุ ี สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
จะเสด็จลงประทับเรือก็ไม่สะดวก เพราะ เจ้าฟ้ายุคลทิฆมั พร
เวลานที้ ก่ี รงุ เทพฯ ฝนตกชกุ ไมม่ รี ะหวา่ งหยดุ
จึงประทับแรมบนรถไฟท่ีสถานีบางกอกน้อย กรมขุนลพบรุ รี าเมศวร์
อีกคนื หน่ึง

วนั ท่ี ๓๐ กรกฎาคม เวลา ๗.๓๐ น. สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณ
วโรรสทรงเก้าอหี้ ามลงเรอื ยนตม์ าเทยี บทา่ ราชวรดิฐ ทรงรถยนต์เสด็จกลับวดั บวรนิเวศวิหาร๕

๕  เรอื่ งเดยี วกนั

ครั้นเมื่อถึงวัดบวรนิเวศวิหารก็ทรงพระราชดำ�ริว่าหากเสด็จขึ้นไปประทับที่ตำ�หนัก
ชนั้ บน จะล�ำ บากแกผ่ ทู้ ร่ี กั ษาพยาบาล และผทู้ ม่ี าเฝา้ จงึ ประทบั อยทู่ ตี่ �ำ หนกั ใหญ่ (ต�ำ หนกั เดมิ )
ช้ันล่าง พระอาการก็คงทรดุ อยตู่ ามเดมิ แตม่ ีพระอาการอจุ จาระธาตพุ ิการเพ่ิมขึ้น จนถึงวันท่ี
๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ เวลา ๔.๓๕ น. กส็ ิ้นพระชนม๖์
ดังปรากฏหลกั ฐานส�ำ คัญท้งั ลายพระหตั ถ์ บันทกึ รบั สงั่ ตลอดจนหนังสอื ราชการที่ออก
ในชว่ งเวลาดังกล่าว ทส่ี �ำ คญั ดงั ตอ่ ไปนี้

26

ตำ�หนกั ใหญ่ หรือต�ำ หนักเดิม ชน้ั ล่าง

๖  สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส และสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา ด�ำ รงราชานภุ าพ, ต�ำ นานวดั บวรนเิ วศวหิ าร,
พิมพ์โดยพระบรมราชโองการในงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทพ่ี ระเมรทุ ้องสนามหลวง เมอ่ื พ.ศ.๒๔๖๕ (พระนคร :
โรงพิมพ์โสภณพพิ รรฒธนากร, ๒๕๖๕), หนา้ ๑๓๘.

27
ต�ำ หนกั ใหญ่ หรอื ตำ�หนกั เดิม

ที่ ๒๓/๒๔๐ ตำ�หนักจันทร์ วดั บวรนเิ วศวหิ าร
วนั ท่ี ๑๕ สงิ หาคม ๒๔๖๑


พระยาศุภกรณบรรณสาร๗ อธิบดีกรมพระคลงั ข้างท่ี

ฉนั เจบ็ คราวน้ี เรอ้ื รงั มานาน แลไขท้ วขี น้ึ ไมไ่ วใ้ จในชวี ติ กอ่ นแตน่ ม้ี คี วามปรารถนาอยอู่ ยา่ งหนง่ึ วา่
จักซ่อมวอท่ีต้ังรูปเจ้าคุณจันทรโคจรคุณ พระอาจารย์ ที่วัดมกุฏกษัตริย์ แลจักปิดทองรูปใหม่ ความ
ปรารถนาน้ันไม่สำ�เร็จลงได้เลย ในท่ีสุด พระมหานายก๘รับไปทำ� เขียนตัวอย่างแลกะราคาเป็นท่ีพอใจ
แล้ว กม็ ีอุบตั ิเหตมุ าเจบ็ ลงคราวน้ี ขอจงจ่ายกัปปยิ ภัณฑ์รายราชสกุลเปน็ พิเศษ ราคา ๑๒๐๐ บาท เปน็
ค่าซอ่ มวอ อกี ๘๐๐ บาท เป็นค่าปิดทองรูปแลซอ่ มกฏุ ิ รวมเปน็ ๒๐๐๐ บาท (สองพันบาทถว้ น) เปน็
รายบริจาคเพื่อการนี้ แลจงฝากไว้ในมหามกฏุ ราชวิทยาลัย หากว่าฉันไมม่ ชี ีวิตอยู่ พระมหานายกขอเบกิ
ทุนรายนี้เป็นค่าใช้จ่ายในการนี้ ขอจงจ่ายให้ ถ้าไม่พอ ขอจงจ่ายผลประโยชน์เป็นทุนรายทรงอุทิศของ
พระองคเ์ จา้ เจริญศรีเพม่ิ เตมิ ฯ
อน่งึ ฉันมีความปรารถนาจะจัดที่ประดษิ ฐานพระบรมทนต์ในรชั กาลที่ ๔ อันเปน็ ของส�ำ หรบั วัด
28 แลพระบรมอัฐอิ นั เป็นของสว่ นตัว เพ่อื เปน็ หลักฐาน ความปรารถนานี้ก็ไม่สำ�เรจ็ ลงได้เลยเหมอื นกนั จึงได้
ส่ังให้พระมหานายกทำ�ตู้ แลได้ส่ังให้พระยาอเนกนิธิกรรม๙์ ทำ�ปรางค์ปราสาท ด้วยหมายว่า ส่ิงใดแล้ว
เข้ามากจ็ ักต้ังสิง่ นนั้ ถ้าแล้วทงั้ สองอยา่ ง กจ็ ักแยกตงั้ ทัง้ สอง ฯ บดั นีต้ ู้พระมหานายกท�ำ แล้ว แต่ยังจกั ทำ�
โตะ๊ ต้งั เคร่ืองบชู าเพ่มิ เติม ปรางคป์ ราสาทนั้น พระยาอเนกส่งตวั อยา่ งเปน็ ท่พี อใจแลว้ แตจ่ ะไดล้ งมือท�ำ
หรอื ยงั ไม่ทราบ ฯ ถ้าฉนั จกั มีชวี ติ อยไู่ มท่ ันเห็นของเหล่าน้ีสำ�เรจ็ พระมหานายกจักตง้ั เบกิ ค่าต้แู ลค่าโต๊ะ
ขอจงจา่ ยทนุ ตำ�หนักจนั ทร์ ถา้ พระยาอเนกท�ำ ปรางคป์ ราสาทแลว้ เปน็ มูลค่าเทา่ ใด ขอจงจา่ ยทุนต�ำ หนัก
จันทรเ์ หมอื นกัน ถ้าทนุ ต�ำ หนักจนั ทรย์ งั มีไมพ่ อ จงยืมทุนรายอน่ื จ่ายรองไปพลาง ฯ

(ลงพระนาม) กรม - วชิรญาณวโรรส

รับสั่งให้อ่านแลทรงลงพระนามตอ่ หนา้ ข้าพเจ้า ฯ

(ลงนาม) พระญาณวราภรณ.์

๗  พระยาศภุ กรณ์บรรณสาร (นุ่ม วสุธาร) อธิบดกี รมพระคลังขา้ งที่
๘  พระมหานายก (มณี ฉนฺโน) ภายหลงั ดำ�รงสมณศักดิ์ พระเทพกวี
๙  พระยาอเนกนธิ ิกรรม์ (เฉย ศาลิคปุ ต)์

29
วอทต่ี ั้งพระรูปพระจนั ทรโคจรคุณ

ณ วดั มกุฏกษัตรยิ าราม

30
ปรางค์ปราสาท

ประดิษฐานพระบรมอัฐแิ ละพระบรมทนตพ์ ระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี
ศรสี นิ ทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว พระสยามเทวมหามกุฏวทิ ยมหาราช

ณ ห้องพระฉาก ช้นั บนของต�ำ หนกั ใหญ่ (หรือตำ�หนกั เดมิ )

31

พระยาอเนกนธิ กิ รรม์
(เฉย ศาลิคุปต์)

พระยาศภุ กรณบ์ รรณสาร (นุ่ม วสุธาร)
อธบิ ดกี รมพระคลังข้างท่ี

ท่ี ๑๗/๓๘ วดั เทพศิรนิ ทราวาส
วนั ที่ ๒๘ สงิ หาคม พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๑


เกลา้ กระหมอ่ ม พระธรรมไตรโลกาจารย๑์ ๐ ขอประทานกราบทูลแดใ่ ต้ฝ่าพระบาททรงทราบ

ดว้ ยระหวา่ งพรรษานี้ ใตฝ้ า่ พระบาททรงพระประชวร เกลา้ กระหมอ่ มไดล้ าพระมหานายก
แลทูลลาพระวรวงศเ์ ธอ กรมหมื่นชนิ วรสริ วิ ัฒนไ์ ปใหบ้ รรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรอีกตอนหนง่ึ
วันที่ ๑๑ เวลาค่�ำ ไดไ้ ปฟังพระอาการที่ต�ำ หนกั เพช็ ร ทพี่ ระญาณวราภรณ์ วนั ท่ี ๑๒ เดือนนี้
เวลา ๗.๔๕ ก.ท. (กอ่ นเท่ยี ง) ขึน้ รถไฟไปฉะเชิงเทรา แล้วลงเรือกลไฟเล็กชอื่ ถาวรไปจงั หวดั
ชลบุรขี น้ึ ท่วี ัดเขาบางทราย ๓ ล.ท. (หลงั เท่ียง) เศษ ฯ วันท่ี ๑๓ บวชพระ ๒ รูป เณร ๑ รูป
วนั ที่ ๑๔ บวชพระ ๔ รูป วันท่ี ๑๖ บวชพระ ๖ รูป นับทง้ั พระวดั ชอ่ งลมนาเกลอื ดว้ ย ๑ รูป
บวชเณร วดั ชอ่ งลมนาเกลอื ๑ รปู รวมพระ ๑๒ รปู เณร ๒ รปู ฯ เณรในวดั นน้ั พระครเู ขมทสั สี
32 เปน็ บรรพชาจารย์ พระในวนั นนั้ พระวนิ ยั ธรรม (เภา) เปน็ บรรพชาจารย์ สว่ นพระวดั ชอ่ งลม

นาเกลือ พระอธกิ าร (เผอื ก) เปน็ บรรพชาจารย์ พระครูเขมทสั สีเปน็ กรรมวาจารย์รปู เดียว
ทงั้ หมด ฯ วันท่ี ๑๕ เวลา ๙ ก.ท.เศษ ไดร้ ับโทรเลขจากพระครปู ลัดสุตวัฒนะวา่ พระอาการ
มาก รบี จะกลบั วนั ที่ ๑๖ เรอื ไปรบั ไมไ่ ด้ เพราะคลน่ื ใหญล่ มกลา้ ไดโ้ ทรเลขบอกงดการบวชนาค
ในวดั เทพนมิ ติ ร ตอ่ เวลาเชา้ วนั ที่ ๑๗ ลมคลนื่ คอ่ ยสงบจงึ มาได้ ถงึ ฉะเชงิ เทรา เวลา ๑ ล.ท.เศษ
ขน้ึ รถไฟเวลาเยน็ มาเฝ้าในวนั นน้ั แลไดม้ าเฝ้าฟังพระอาการทกุ ๆ วนั ตลอดมาจนบดั น้ี ฯ
วนั ท่ี ๑๙ เวลา ๗ ก.ท. ขน้ึ รถไฟไปวดั สมั ปทวน นครชยั ศรี ตอนเชา้ บวชพระวดั เสนห่ า ซง่ึ มาบวช
ณ วัดนั้น ๖ รูป ตอนบา่ ย บวชพระวดั นนั้ ๑ รปู กับพระวัดเสน่หาอกี ๒ รูป รวมพระ ๙ รูป
พระอธิการ (อาจ) เป็นท้ังบรรพชาจารย์ ทั้งกรรมวาจาจารย์ของพระวัดเสน่หา ส่วนพระ
วดั สมั ปทวน พระครสู ทุ ธสิ นุ ทร ฯ เสรจ็ กจิ แลว้ กลบั รถเยน็ วนั นน้ั ไปฟงั พระอาการทวี่ ดั บวรนเิ วศ ฯ
วันท่ี ๒๒ เวลา ๗.๔๕ ก.ท. ข้นึ รถไฟไปวดั เทพนิมติ ร ฉะเชิงเทรา บวชพระ ๒ รูป เณร ๕ รูป

๑๐  พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจริญ าณวโร) วัดเทพศิรินทราวาส ภายหลงั ดำ�รงสมณศกั ดิ์ท่ี สมเดจ็ พระพทุ ธโฆษาจารย์

พระปลัด (เกต) อธกิ ารเปน็ บรรพชาจารย์แลกรรมวาจาจารย์ ฯ เสรจ็ แล้ว กลับเยน็ วนั นั้น
ถึงวดั ๖ ล.ท. เศษ แล้วไปฟังพระอาการทว่ี ดั บวรนิเวศ ฯ
พระเณรทไี่ ด้ให้บรรพชาอุปสมบทเสรจ็ ในตอนนี้ คอื
จังหวัดชลบุร ี วดั เขาบางทราย พระ ๑๑ รูป เณร ๑ รูป
วดั ชอ่ งลมนาเกลอื พระ ๑ รปู เณร ๑ รูป
จังหวัดนครปฐม วัดเสน่หา พระ ๘ รูป
วัดสัมปทวน พระ ๑ รูป
จังหวัดฉะเชงิ เทรา วัดเทพนิมิตร พระ ๒ รปู เณร ๕ รูป
รวมทัง้ สิ้น พระ ๒๓ รปู เณร ๗ รปู
รวมท้งั พระทัง้ เณร ๓๐ รูป
ขอประทานถวายพระกศุ ล ๚
เกลา้ กระหม่อม (ลงนาม) พระธรรมไตรโลกาจารย์

33

34

ท่ี ๕/๒๐ ตาํ หนกั จนั ทร์ วดั บวรนเิ วศวหิ าร

วันท่ี ๑ พฤษภาคม ๒๔๖๓

เจา้ พระยาธรรมาธกิ รณาธิบดี เสนาบดีกระทรวงวัง๑๑

ต้งั แตค่ นื เร่มิ เปน็ วันที่ ๒๘ มา ฉนั ไอเปน็ โลหิต ออกคราวละมาก ๆ เม่อื วนั ที่ ๒๙ 35
ต่อกับวันที่ ๓๐ ออกถึงสองคร้ัง ไม่มีอาการตัวร้อน เข้าใจว่าหลอดโลหิตเปราะแล้วแลแตก
พระศกั ดาพลรกั ษต์ รวจเหน็ วา่ เสน้ โลหติ ด�ำ ทเี่ บอ้ื งบนแหง่ ปอดขา้ งขวาอนั เคยพกิ ารอยแู่ ตกออก
แนะน�ำ การพักรกั ษาตวั ๚
การจดั ท�ำ หนงั สอื อรรถกถาแลสงั เคด็ ไดว้ างไวเ้ ปน็ รปู แลว้ มเี จา้ หนา้ ทร่ี องลงไปเปน็ ผชู้ ว่ ย
การทาํ อรรถกถา กรมพระจันทบุร๑ี ๒เปน็ เจ้าหนา้ ที่ การทำ�สงั เคด็ แลจา่ ยมลู คา่ ทว่ั ไป พระยา
ศุภกรณ์บรรณสาร๑๓เป็นเจ้าหน้าที่ ฉันได้สั่งพระยาศุภกรณ์บรรณสารแล้ว ส่วนฉันเอง ขอ
พระราชทานพัดจากงานอนั กลา่ วมาแลว้ เพอื่ ไม่มกี ังวลในคราวรักษาตวั ๚
มอี ยอู่ ยา่ งหนงึ่ คอื คา่ ทาํ อรรถกถา กรมพระจนั ทบรุ นี ฤนาถกะประมาณเกนิ กวา่ งบเดมิ
๑๐,๐๐๐ บาทเศษ ค่าท�ำ สังเคด็ ภายหลังความคดิ เร่ืองขนึ้ เติมโน่นเติมนเี่ ขา้ อีก มจี �ำ นวนเกิน
กวา่ งบเดมิ ๑๐,๐๐๐ บาทเศษเหมอื นกนั รายนี้จะตอ้ งต้งั งบประมาณขออนญุ าตเพ่ิม ฉนั สง่ั
พระยาศภุ กรณไ์ ว้เสรจ็ แล้ว ตลอดถงึ วา่ หากจะไมไ่ ดร้ ับอนุญาต ๚
การกะพระสงฆ์ รายสงั เคด็ กะไว้แล้ว เป็นแต่จะเปลี่ยนแปลงบา้ ง ฉันจัดมอบพระยา
วฒุ กิ ารบดี มขี อ้ ยากอยเู่ พยี งกะเร่อื งเทศน์ จัดแนะใหป้ รกึ ษาพระธรรมไตรโลก๑๔ ๚
หนา้ ทีเ่ ฉพาะตวั ฉนั คงมนี ำ�พระบรมศพแลเทศนาศราทธพรตกอ่ นถวายพระเพลงิ จัก
บ�ำ รุงตวั ไว้เผื่อ ๚
พระศักดาพลรักษ์แนะให้แปรสถาน เพื่อได้อากาศดี ฉันทูลลาแลขอพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตไปพกั ทค่ี ่ายหลวงบา้ นโปง่ ถ้าโรคไม่กำ�เริบขึน้ จักไปในวันท่ี ๗ เดอื นนี้ ฉนั
ขอหลวงเทวพรหมาตามไปดว้ ย ถา้ เห็นว่าอาการเรยี บร้อย จึงจกั ให้กลบั มา ๚

(ลงพระนาม) กรม - วชริ ญาณวโรรส

๑๑  เจ้าพระยาธรรมาธกิ รณาธบิ ดี (หมอ่ มราชวงศ์ปุม้ มาลากลุ ) เสนาบดีกระทรวงวงั
๑๒  พระเจา้ พ่ียาเธอ กรมพระจันทบุรนี ฤนาถ ภายหลงั สถาปนาขนึ้ เป็น พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระจนั ทบุรีนฤนาถ
๑๓  พระยาศภุ กรณบ์ รรณสาร (นมุ่ วสุธาร) อธิบดีกรมพระคลังข้างท่ี
๑๔  พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจริญ าณวโร) วดั เทพศิรนิ ทราวาส ภายหลงั ดำ�รงสมณศกั ดิท์ ่ี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

36
เจา้ พระยาธรรมาธกิ รณาธิบดี
(หมอ่ มราชวงศป์ ้มุ มาลากลุ )
เสนาบดีกระทรวงวัง

37
พระเจา้ พย่ี าเธอ กรมพระจนั ทบรุ นี ฤนาถ

ภายหลงั ด�ำ รงพระอสิ รยิ ยศท่ี
พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระจนั ทบรุ นี ฤนาถ

ที่ ๙/๑๓๔ กระทรวงวงั

วนั ที่ ๒ พฤษภาคม พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๓

ขอเดชะฝ่าละอองธลุ ีพระบาทปกเกลา้ ปกกระหมอ่ ม

ดว้ ยสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส พระมหาสมณะ ไดป้ ระทาน
ลายพระหัตถ์แสดงพระอาการประชวรกับที่ได้ทรงจัดเครื่องสังเค็ดงานพระบรมศพสมเด็จ
พระพนั ป๑ี ๕ มายังข้าพระพุทธเจา้ ๆ ขอพระราชทานนำ�ข้ึนทูลเกล้าฯ ถวายทราบใตฝ้ ่าละออง
ธุลพี ระบาท
ในเวลาเชา้ วนั นี้ หมอ่ มเจา้ โชตริ ส๑๖ไดเ้ ชญิ กระแสพระด�ำ รทิ สี่ มเดจ็ พระมหาสมณะมาแจง้
แกข่ า้ พระพุทธเจา้ วา่ ในการท่ีจะเสด็จเปลี่ยนอากาศตามคำ�แนะน�ำ ของแพทยน์ นั้ ในชนั้ ต้นนี้
จะเสด็จโดยกระบวนเรือทางเหนือนำ้�ระหว่างกรุงเทพฯ กับศรีอยุธยา สุดแต่อากาศท่ีใดจะ
38 เหมาะจะดกี ็จะประทบั แรม ณ ทนี่ ้นั กำ�หนดจะเสรจ็ วันท่ี ๗ เดอื นน้ี และจะเสดจ็ กลบั ให้ทนั

ในงานพระเมรพุ ระบรมศพสมเดจ็ พระพนั ปหี ลวง ขอใหข้ า้ พระพทุ ธเจา้ น�ำ ความขนึ้ กราบบงั คม
ทลู พระกรณุ า ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าต ตลอดจนกระบวนเรือที่จะเสด็จ เมอ่ื ถวาย
พระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงแล้ว ซ่ึงจะได้กำ�หนดวันเสด็จค่ายหลวงบ้านโป่ง
ตอ่ ไป
การจะควรประการใดแลว้ แตจ่ ะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหมอ่ ม ขอเดชะ

ขา้ พระพุทธเจ้า
(ลงนาม) เจา้ พระยาธรรมาธกิ รณ์

๑๕  สมเด็จพระศรพี ัชรินทราบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง
๑๖  หม่อมเจ้าโชติรส เกษมสนั ต์

39
พระเมรมุ าศสมเด็จพระศรพี ัชรินทราบรมราชินนี าถ

พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง

ท่ี ๕/๑๑๐ กรมราชเลขาธิการ

วันที่ ๕ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๖๓

เรยี นท่านเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี

ตามหนังสอื กราบบังคมทลู พระกรณุ าที่ ๙/๑๓๔ ลงวันท่ี ๒ เดอื นนี้ ทูลเกลา้ ฯ ถวาย
ลายพระหตั ถส์ มเด็จพระมหาสมณะเรื่องทรงจัดสังเค็ดงานพระบรมศพ สมเดจ็ พระบรมราชินี
พระพนั ปหี ลวง และแสดงพระอาการประชวรมาขอพระบรมราชานญุ าตเสดจ็ เปลยี่ นอากาศโดย
กระบวนเรอื ระหว่างกรงุ เทพฯ กับจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา จะเสด็จกลบั ในงานพระเมรุ แลว้
ก�ำ หนดวนั เสดจ็ คา่ ยหลวงบา้ นโปง่ ตอ่ ไปนน้ั โปรดพระราชทานพระบรมราชานญุ าตทกุ ประการ
ตลอดถงึ กระบวนเรือซึ่งเข้าใจวา่ ทางกระทรวงวังจะได้จดั ถวาย ๚ะ

40 (ลงนาม) พระยาจักรปาณีศรศี ลี วิสทุ ธ๑ิ์ ๗

๑๗  พระยาจักรปาณีศรีศลี วสิ ทุ ธ์ิ (ลออ ไกรฤกษ์) ภายหลงั ไดร้ ับสถาปนาบรรดาศักดขิ์ ้นึ ที่ เจา้ พระยามหิธร

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
เมื่อคร้ังด�ำ รงพระอสิ ริยยศทสี่ มเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ทรงอา่ นพระอภธิ รรมน�ำ พระโกศพระบรมศพสมเดจ็ พระศรีพัชรินทราบรมราชนิ ีนาถ

พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง

สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส
เมอ่ื ครง้ั ด�ำ รงพระอสิ รยิ ยศทส่ี มเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

เสดจ็ ลงจากพระเมรุมาศ ภายหลังทรงสดับปกรณ์พระบรมอฐั ิ
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง


Click to View FlipBook Version