ย่อขอพระบรมราชานญุ าต
ทลู เกล้าฯ ถวายที่ ๓/ ๘/ ๖๓ พระราชทานออกมาที่ ๔/ ๘/๖๓
หนงั สอื เรื่อง พระราชกระแส
ขอเดชะ อนญุ าต
เสนาบดีกระทรวงวังกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สมเด็จพระมหา
สมณทรงมีลายพระหัตถ์ขอให้นำ�ความกราบบังคมทูลพระกรุณา
วา่ ไม่ใครท่ รงสบาย จะแปรทปี่ ระทับ และขอพระบรมราชานุญาต
ประทับที่วงั นันทอุทยาน จงั หวัดนครปฐม ก�ำ หนดจะเสดจ็ วนั ที่ ๖
เดอื นนี้
43
ที่ ๙/๒๒ ต�ำ หนกั จันทร์ วัดบวรนิเวศวหิ าร
วันท่ี ๓๐ ตุลาคม ๒๔๖๓
เจ้าพระยาธรรมาธกิ รณาธิบดี เสนาบดีกระทรวงวัง
ในเวลาทีฉ่ ันอยู่จ�ำ พรรษาทนี่ ่ี มีอาการไมส่ บายลงโดยล�ำ ดับ นอนกลางคืน กว่าจะหลับ
ต่อจวนรุ่งเปน็ พืน้ บางคืนกไ็ มห่ ลบั ตลอดรุ่ง แตย่ งั นอนกลางวนั ใชไ้ ด้อยู่ อาหารลดมานานแล้ว
พง่ึ จบั ดีขึน้ ยงั ไปเสมอ เปน็ แตบ่ างวันมากบางวนั น้อย บัดนีอ้ อกพรรษาแลว้ คดิ จะแปรสถาน
ไปรักษาตัว ในเมื่อรับพระกฐินวัดนี้แล้ว ฉันใคร่จะไปอยู่พักท่ีนันทอุทยาน นครปฐม ขอจง
ช่วยทูลลาให้ แลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอยู่ที่นั่นช่ัวคราว กำ�หนดจะไปวันที่ ๖
พฤศจิกายน เม่อื พระราชทานพระบรมราชานญุ าตแลว้ ขอจงสงั่ การให้ตลอด
44 (ลงพระนาม) กรม - วชิรญาณวโรรส
ที่ ๖๕/๑๒๓๗ กระทรวงวงั
วันท่ี ๑ พฤศจกิ ายน พระพทุ ธศักราช ๒๔๖๓
ขอเดชะฝ่าละอองธลุ ีพระบาทปกเกลา้ ปกกระหมอ่ ม
สมเด็จพระมหาสมณะมีลายพระหัตถ์มายังข้าพระพุทธเจ้าว่า ไม่ใคร่ทรงพระสบาย
จะแปรท่ีประทับ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้านำ�ความข้ึนกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตประทับที่วังนันทอุทยาน จังหวัดนครปฐม กำ�หนดจะเสด็จวันที่ ๖
พฤศจกิ ายน ขอพระราชทานทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายตน้ ลายพระหตั ถส์ มเดจ็ พระมหาสมณ
ทราบฝา่ ละอองธุลีพระบาท
การจะควรประการใดแลว้ แตจ่ ะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ควรมคิ วรแลว้ แตจ่ ะทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ขอเดชะ 45
ข้าพระพุทธเจา้
(ลงนาม) เจา้ พระยาธรรมาธิกรณ์
46
หมอ่ มเจา้ โชตริ ส เกษมสนั ต์
วันท่ี ๑๔ มิถนุ ายน พระพุทธศกั ราช ๒๕๖๔
ขอประทานเรยี น ฯพณฯ เสนาบดกี ระทรวงวัง
สมเดจ็ พระมหาสมณะเจา้ รบั สง่ั ใหเ้ กลา้ กระผมเรยี นวา่ ทพ่ี ระองคท์ รงพระประชวรครงั้ น้ี 47
มากกว่าท่ีแล้ว ๆ มา จึงทรงพระปรารภถึงการท่ีได้เคยเสด็จเปล่ียนอากาศชายทะเลในครั้ง
กอ่ น วา่ ไดท้ รงรบั ผลบรรเทาพระโรคทเี่ ปน็ อยอู่ ยา่ งศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ จงึ ทรงพระดาํ รใิ นครง้ั นวี้ า่ ถา้ พระ
อาการประชวรทเุ ลาขน้ึ พอทจี่ ะเสดจ็ ได้ วนั ท่ี ๒๓ เดอื นน้ี ใครจ่ ะขอถวายพระพรลาเสดจ็ เปลยี่ น
อากาศชายทะเลตะวันตกระหวา่ ง ๗ ถึง ๑๐ วนั และขอพระราชทานเรอื หลวงในกระทรวง
ทหารเรือเป็นพาหนะในการเสด็จ ขอให้ใต้เท้าช่วยนำ�ความข้ึนกราบบังคมทูลพระกรุณา
ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตดว้ ย เม่อื ไดพ้ ระราชทานพระบรมราชานุญาตแลว้ รับสงั่
ให้เกล้ากระผมไปทำ�ความตกลงในเรื่องเรือและกำ�หนดระยะทางกับกระทรวงทหารเรือตาม
พระประสงคต์ ่อไป
ด้วยความเหน็ ส่วนตวั ของเกล้ากระผม เหน็ ว่าคงเสด็จไมไ่ ด้ เพราะพระอาการเวลานม้ี ี
แตท่ รงกบั ทรุด และยังไมไ่ ด้ปรึกษากับแพทย์ วนั นี้เกล้ากระผมจะได้ปรกึ ษากับแพทยถ์ งึ การที่
จะเสดจ็ ระหวา่ งนแ้ี พทยไ์ ดถ้ วายยาฉดี ชพู ระก�ำ ลงั ฉดี วนั เวน้ สองวนั แพทยป์ ระจ�ำ มพี ระศกั ดา
นายกาเยต้ี พระเทวพรหมา พระสาราจนี ากร กบั หมอ่ มเจา้ กรรมสทิ ธิ์ พระศกั ดาใครจ่ ะประชมุ
แพทย์ แตย่ ังไม่มีตวั เพราะหมอสมธิ ยงั มาไมถ่ ึงกรงุ เทพฯ มหี มอปวั กไ็ มโ่ ปรดใหเ้ ก่ียวข้องโดย
รบั ส่งั กบั เกล้ากระผมไวแ้ ต่คร้งั ก่อน
เมอื่ คนื วนั ท่ี ๑๓ พระศักดา หมอกาเยต้ี พระยาวิบูลย์ ได้พร้อมกัน ตรวจพระศอทเี่ จ็บ
ใช้โคเคนทาใหช้ าและใชเ้ คร่อื งตรวจ วา่ ที่ในพระศอขา้ งขวามีแผน่ เป็นเหมือนแผลทเ่ี ปน็ หนอง
วนั นต้ี อนเชา้ ได้ถวายยาเปา่ พระศอ อาการทีท่ รงพระกาสะยงั คงเปน็ พกั ๆ ตามเคย ยงั ไม่มี
อาการทเุ ลา ๚ะ
ควรมคิ วรแล้วแตจ่ ะโปรด
(ลงพระนาม) หม่อมเจา้ โชตริ ส
ที่ ๒๒/๔๘๕ กระทรวงวัง
วันท่ี ๑๕ มถิ ุนายน พระพทุ ธศักราช ๒๕๖๔
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหมอ่ ม
ด้วยสมเด็จพระมหาสมณเจ้าได้ทรงพระปรารภถึงอาการที่ทรงพระประชวรและการ
ที่จะเสด็จเปล่ียนอากาศชายทะเลตะวันตก ขอให้ข้าพระพุทธเจ้านำ�ความข้ึนกราบบังคมทูล
พระกรุณา ขอถวายพระพรลาและขอพระราชทานเรอื หลวงในกระทรวงทหารเรอื ส�ำ หรบั การ
เสด็จครั้งน้ี มีข้อความแจ้งตามจดหมายหม่อมเจ้าโชติรสที่ข้าพระพุทธเจ้าได้นําข้ึนทูลเกล้าฯ
ถวายทราบใต้ฝา่ ละอองธลุ พี ระบาท ณ บัดน้ี
การจะควรประการใดแลว้ แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อม ขอเดชะ
48 ขา้ พระพุทธเจา้
(ลงนาม) เจา้ พระยาธรรมาธกิ รณ์
วนั ท่ี ๑๖ มถิ ุนายน พุทธศักราช ๒๔๖๔
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกลา้ ปกกระหม่อม
พระอาการสมเด็จพระมหาสมณเจ้าในเวลานี้ มีทรงพระกรรสะเป็นพ้ืน บางคราวถี่ 49
ไมใ่ คร่จะเวน้ ถึง ๑ นาทีไปนาน ๆ แตบ่ างคราวก็หยดุ ทอดไปได้ถงึ ๒ - ๓ ชว่ั นาฬิกา และ
รบั สง่ั วา่ มกั จะเปน็ ประจำ�เป็นเวลา ยอ่ มกระท�ำ ให้ถอยพระกำ�ลงั บรรทมหลับไมเ่ ป็นปรกติ แม้
บรรทมหลบั เม่อื ถงึ เวลาทรงพระกรรสะขึ้นมากต็ อ้ งตื่น เปน็ เครอ่ื งทอนพระกำ�ลงั ให้ตกถอยลง
ไปทกุ ทีอยา่ ง ๑
อีกอยา่ ง ๑ มพี ระอาการเจ็บพระศอ กลืนอาหารไมส่ ะดวก เสวยไดแ้ ตข่ องเหลวข้น ๆ
หรอื ส่งิ ทม่ี ีธาตุลืน่ เชน่ ไขไ่ กล่ วก ขา้ วแขก และเยลลี่ เป็นต้น สำ�หรบั ของคาว สว่ นของหวาน
มสี าคูเปียกหรอื ขนมฝรง่ั อย่างออ่ น ๆ เป็นตน้ แต่บางทีกเ็ สวยเน้อื นก เน้ือสุกรไดบ้ ้าง แต่ต้อง
เอาเครอ่ื งลื่น ๆ เชน่ นำ�ข้าวแขกช่วยผสม หรือขา้ วผัดเนยอย่างเปียก ๆ พอเสวยได้ ถ้าเป็น
พระอาหารเหลว เชน่ นำ�้ ซุปใส รับส่ังว่า พออมเข้าไปยงั ไมท่ ันกลนื กไ็ หลลงพระศอ ทำ�ใหส้ �ำ ลกั
หรอื อาหารแหง้ ๆ เชน่ เนอื้ ไก่ แมส้ บั ใหล้ ะเอยี ด บางทกี ต็ ดิ พระศอ จะกลนื ไมไ่ ด้ คายไมอ่ อก ท�ำ ให้
เสวยอะไรไม่ได้ พระอาหารกเ็ ลยเสยี ไปทง้ั วัน เป็นเคร่อื งทอนพระก�ำ ลังใหต้ กถอยลงไปทุกที
สว่ นพระอาหารท่ีเสวย ก็อยู่ข้างจะเปล่ียนกลับตรงกนั ขา้ ม ซ่ึงผ้ทู ีจ่ ะปฏิบัตติ ามไมท่ นั
เชน่ แต่กอ่ นน้ี เนอื้ สุกรต้มเค็ม ต้องต้มจนใหเ้ กลอื ขน้ึ เกลด็ แต่บัดนี้ ข้าวแขกหรืออะไรใส่เกลอื
นอ้ ยทส่ี ดุ เกอื บจะไมใ่ ครแ่ ลเหน็ บางทกี ถ็ กู ตวิ า่ เคม็ แสบพระศอ น�้ำ ไกท่ เี่ คยเสวยไดแ้ ตไ่ หนแตไ่ รมา
เวลานีก้ ็ถูกติว่าเปน็ ของแสลงกระทำ�ใหแ้ สบพระศอ นมเนยซง่ึ แต่กอ่ นรบั สงั่ ว่าเหม็นเสวยไม่ได้
แตเ่ ดยี๋ วนจี้ ะท�ำ อะไรตอ้ งใชเ้ นยไปเกอื บจะทง้ั หมด ถงึ จมิ้ ขนมปงั จ�ำ พวกเวเฟอรก์ เ็ สวยได้ ในขอ้
น้ีแพทย์อยขู่ ้างจะชอบมาก วา่ เป็นพระอาหารท่ชี ว่ ยชูพระกำ�ลงั ได้อย่าง ๑
เม่อื วันท่ี ๑๓ เดอื นน้ี พระศกั ดาพลรกั ษ์ หมอกาเอ็ตตี้ และพระยาวบิ ูลย์อายรุ เวท ได้
ประชุมกันตรวจพระศอ ใช้ไฟฟ้าฉาย เหน็ ท่ีพระศอมีแผลแดง ๆ และมีฝา้ ไม่สู้โตนกั เห็นว่า
แผลนีเ้ น่ืองมาจากพระปัปผาสะพิการนั่นเอง ส่วนพระปัปผาสะพระศักดาพลรกั ษ์วา่ แหง้ ไมไ่ ด้
ก�ำ เรบิ ขนึ้ อกี แตม่ คี วามวติ กอยวู่ า่ แผลทพ่ี ระศอนถี้ า้ ก�ำ เรบิ ปดิ ทางพระอาหาร กย็ ากทจี่ ะรกั ษา
50
โขนเรอื รบหลวงพาลรี ั้งทวปี
และการทท่ี รงพระกรรสะถ่ี บางทจี ะท�ำ ใหเ้ สน้ พระโลหติ แตกถงึ เอาไวไ้ มอ่ ยกู่ ไ็ ด้ หรอื การทถ่ี อย 51
พระก�ำ ลงั ลงไป จะเกดิ อนั ตรายดว้ ยลมจรขน้ึ ในปจั จบุ นั กไ็ ด้ หมอไดต้ กลงกนั รกั ษาแผลทพี่ ระศอ
ในชนั้ ตน้ น้ีได้ใชน้ �้ำ เกลอื กับไบคาบอรเ์ นตโซดาเป็นยาพ่น ตอ่ ไปจะได้ตรวจพระศออกี เม่อื เห็น
ให้ผลประการใด จงึ จะได้เปลยี่ นยาไปตามกาล หมอกาเอต็ ต้ีไดเ้ ริ่มฉีดยาถวายมาหลายคราว
ทรงรู้สึกวา่ ยาฉีดนน้ั ให้ผลดี
รวมพระอาการในเวลานี้ จะนับทางบรรทมก็ดี เสวยพระอาหารทด่ี ี เมอ่ื รวมเขา้ ทั้งวัน
กเ็ ปน็ อนั พอส�ำ หรบั ชว่ั วนั ๑ เมอ่ื พระอาการเปน็ ปรกติ แตถ่ า้ มพี ระอาการไอหรอื ส�ำ ลกั ขน้ึ คราวใด
ก็เป็นอันขาดทุนลงไปไม่ใคร่จะได้คืน แต่ยังทรงฝืนพระกำ�ลังทรงพระดำ�เนินตามพ้ืนวัดได้
ในเวลาบ่ายเสมอแทบทุกวัน แต่ถ้าประทับอยู่บนตำ�หนัก สังเกตดู จะทรงนั่งไม่ใคร่ได้นาน
ถงึ ๑๕ หรือ ๒๐ นาที พระสุรเสียงแตก่ ่อนน้ีแหบแหง้ บัดนี้แจ่มใสดี เว้นแต่เบา เพราะไมม่ ี
พระกำ�ลัง เวลานีท้ รงปรารภว่าจะเสด็จไปตากอากาศชายทะเลฝง่ั ตะวนั ตกโดยทางเรอื และ
ก�ำ หนดวา่ จะเสด็จวันที่ ๒๓ เดือนน้ี แต่เสดจ็ ไดห้ รือมิไดข้ ้าพระพุทธเจา้ ยงั สงสัยอยู่ แตถ่ ้าจะ
เสดจ็ ไปชายทะเลหรอื ทหี่ นง่ึ ทใ่ี ดไดเ้ มอ่ื ใดกด็ ี ขา้ พระพทุ ธเจา้ ขอพระราชทานกราบถวายบงั คมลา
ตามเสดจ็ ไปประจำ�อยดู่ ว้ ยเสมอทุกคราวไป
ควรมคิ วรแล้วแตจ่ ะทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ
(ลงพระนาม) ขา้ พระพุทธเจา้ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ขอเดชะ
52
พระมหานายก (มณี ฉนฺโน)
ภายหลังด�ำ รงสมณศกั ดิ์ พระเทพกวี
บันทกึ พระดำ�รัสสงั่ 53
วนั ท่ี ๒๖ มถิ นุ ายน ๒๔๖๔ เวลาย�ำ่ ค�ำ่ ๒๐ นาที สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยา
วชริ ญาณวโรรสเสดจ็ ประทบั อยใู่ น ร.ร.ล. พาลรี ง้ั ทวปี ซง่ึ จะทอดสมออยใู่ นอา่ วจงั หวดั ชมุ พร ในคราว
เสดจ็ เปลย่ี นอากาศทางชายทะเลตะวนั ตก ไดม้ พี ระกระแสด�ำ รสั สง่ั แกพ่ ระมหานายก๑๘ ตอ่ หนา้
พระมหาชน้ื ๑๙ ผเู้ ปน็ พยานวา่ ในคราวทรงประชวรเมอ่ื ตน้ ศก ๒๔๖๓ ไดท้ รงมอบสมณบรกิ ขาร
แก่คณะกรรมการ ในใบมอบสมณบริกขารน้ัน มีอยู่ข้อหน่ึงว่า ถ้าหม่อมเจ้าหญิงจรัสโฉม
ในกรมหลวงพรหมวรานรุ กั ษ์ ไดท้ รงรบั หนา้ ทอ่ี ปุ ฐายกิ าในพระองคไ์ ปจนตลอดพระชนมายขุ อง
พระองคแ์ ลว้ ใหค้ ณะกรรมการยกตกึ บนั ไดทอง ต�ำ บลหวั เมด็ ใหเ้ ปน็ สทิ ธแ์ิ กห่ มอ่ มเจา้ หญงิ จรสั โฉม
บดั น้ี หมอ่ มเจา้ หญงิ จรสั โฉมไดอ้ อกจากหนา้ ทอ่ี ปุ ฐายกิ าในพระองคแ์ ลว้ เพราะเหตนุ น้ั
ถา้ พระองค์สิน้ พระชนม์แล้ว หม่อมเจา้ หญงิ จรสั โฉมก็เปน็ อนั หมดสทิ ธิ์ท่ีจะไดร้ ับตกึ บนั ไดทอง
ตามขอ้ ความทไี่ ด้ทรงปรกิ ัปไวใ้ นใบทรงมอบสมณบริกขารน้นั
บดั นี้ ทรงเกรงวา่ คณะกรรมการจะไมใ่ สใ่ จความขอ้ นใี้ หเ้ ปน็ ไปถกู ตอ้ งตามพระประสงค์
จึงได้มีพระดำ�รัสสั่งแสดงพระประสงค์ให้เป็นที่เข้าใจโดยชัดเจน แลทรงแสดงพระประสงค์ไว้
อกี ขอ้ หนง่ึ วา่ ถา้ พระองคส์ น้ิ พระชนมไ์ ปกอ่ นทจี่ ะไดท้ รงท�ำ ใบสงั่ เรอ่ื งนใ้ี หเ้ ปน็ หลกั ฐานแลว้ ให้
คณะกรรมการขายตกึ บนั ไดทองรายน้แี ก่มหามกุฏราชวิทยาลยั ไดผ้ ลประโยชนเ์ ท่าไร ให้แจก
แก่หม่อมเจ้าในกรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ผู้ท่ีเอาเป็นธุระขวนขวายต่อกิจการในพระองค์ มี
หม่อมเจา้ โชติรส เปน็ ต้น แจกตามท่เี อาธรุ ะมากแลนอ้ ย หม่อมเจ้าโชติรสเอาพระทยั ใสว่ ิง่ เตน้
มาก ควรให้ได้รบั แจกมีจ�ำ นวนงาม ๆ ถ้ารายตึกบนั ไดทองไม่เพียงพอให้เอารายสมบตั เิ ดิมแจก
เพิม่ เติม ฯ
บนั ทกึ พระด�ำ รสั สั่งนี้ พระมหาชื้นเป็นผเู้ รยี บเรยี งแลเขียนไดล้ งช่ือผรู้ ับ ๆ สงั่ แลพยาน
ไว้เปน็ ส�ำ คญั ฯ
๑๘ พระมหานายก (มณี ฉนโฺ น) ภายหลังดำ�รงสมณศกั ดิ์ พระเทพกวี
๑๙ พระมหาช้ืน ปหฏฺโ เปรียญ ๖ ประโยค เลขานุการในพระองค์ ภายหลังลาสิกขา และเป็นผู้แต่งพระประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ลงตพี มิ พน์ ติ ยสารธรรมจกั ษุ ตั้งแตป่ ี พ.ศ.๒๔๙๙ - ๒๕๐๓
54
หมอ่ มเจา้ หญงิ จรสั โฉม เกษมสนั ต์
แจ้งแก่ภกิ ษุทง้ั หลายผู้ตามเสด็จ
บดั นี้ขึน้ ฝ่งั แลว้ นำ้�อาบหางา่ ย นำ�้ เค็มกม็ ี น้ำ�จืดกม็ ี ตามแต่ละเลือก ขอจงมเี มตตาแก่
เราผเู้ จบ็ มากอยู่ จงอาบน�ำ้ เคม็ ถตู วั ใหบ้ ริสทุ ธิ์ นำ�้ เค็มจะได้ล้างโสมมอันหมักมาในเรอื เม่ือ
ช�ำ ระโสมมหมดแล้ว จึงใชต้ ามล�ำ พงั น้�ำ จดื นาน ๆ จงึ ล้างนำ�้ เค็มคราวหน่ึงก็ได้ ขอจงอย่า
เบยี ดเบยี นคนไขด้ ว้ ยกลน่ิ ตวั ของตน ภกิ ษใุ ดมโี รคในปอด จะอาบน�้ำ ไมไ่ ด้ ขอจงใชผ้ า้ หรอื สปนั ช์
ชบุ น้ำ�เชด็ แต่ตอ้ งหมนั่ ทำ� ฯ
สว่ นมหาดเล็ก พระมหานายก จงกำ�กบั ใหไ้ ดช้ ำ�ระตวั ตามน้ี ฯ
(ลงพระนาม) กรม - วชิรญาณ
แหลมทราย สงขลา
วนั ที่ ๓๐ มิถนุ ายน ๒๔๖๔
55
56
57
บนั ทกึ พระด�ำ รสั ปลงบรขิ าร
บันทึกพระด�ำ รสั สงั่
ดว้ ยเมอ่ื วนั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๔๖๓ ขา้ พเจา้ ไดย้ กมอบสมณบรกิ ขารแลสมบตั ติ า่ งอยา่ ง
ให้เป็นสิทธ์แิ ก่คณะกรรมการผ้จู ัดธุระส่วนพระองค์ ต้งั แต่น้นั มาคณะกรรมการได้จับจ่ายธุระ
สว่ นพระองคต์ ลอดมา ตลอดถงึ วนั ท่ี ๑๗ มถิ นุ ายน ๒๔๖๔ กปั ปยิ ภณั ฑไ์ มพ่ อจา่ ย มแี ตร่ ายใหมท่ ่ี
ตง้ั ไวเ้ ปน็ สว่ นพระองค์ บดั น้ี อาพาธยงั ไมท่ เุ ลา ขา้ พเจา้ ยกมอบสมณบรกิ ขารแลสมบตั ติ า่ งอยา่ ง
ทง้ั ทางกรมพระคลงั ขา้ งท่ี ทง้ั ทางกรมธรรมการ ทง้ั ทางไวยาวจั กรทว่ี ดั บรรดาทไ่ี ดข้ น้ึ ไมภ่ ายหลงั
แตว่ นั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๔๖๓ มา แลจดั ตง้ั ไวเ้ ปน็ สว่ นของขา้ พเจา้ ใหเ้ ปน็ สทิ ธแ์ิ กค่ ณะกรรมการ
ผจู้ ดั ธรุ ะสว่ นพระองคเ์ พม่ิ เตมิ อกี ฯ
อนง่ึ ขอเตอื นคณะกรรมการวา่ เนอ่ื งดว้ ยการยกมอบสมณบรกิ ขารแลสมบตั ใิ หเ้ ปน็ สทิ ธ์ิ
นน้ั เมอ่ื วนั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๔๖๓ ขา้ พเจา้ ไดบ้ นั ทกึ ความปรารถนา เพอ่ื กรรมการรไู้ ว้ ขอ้ หนง่ึ ได้
ปรารภถงึ ตกึ บนั ไดทองวา่ ปรารถนาจะใหไ้ ดแ้ กห่ มอ่ มเจา้ หญงิ จรสั โฉม (ถา้ เธอไดเ้ ปน็ อปุ ฐายกิ า
58 อยจู่ นตลอดชวี ติ ขา้ พเจา้ ) ตอ่ มานน้ั เธอไมไ่ ดบ้ �ำ รงุ ขา้ พเจา้ ใหไ้ ดค้ วามพอใจขา้ พเจา้ จงึ ใหเ้ ธอออกเสยี
จากหนา้ ทอ่ี ปุ ฐายกิ า เธอขาดจากสว่ นไดต้ กึ รายนน้ั แลว้ บดั น้ี ขา้ พเจา้ ปรารถนาวา่ เมอ่ื ขา้ พเจา้
สน้ิ ชวี ติ แลว้ ขอคณะกรรมการใหก้ รมพระคลงั ขา้ งทต่ี รี าคาตกึ นน้ั รบั ซอ้ื ไวด้ ว้ ยทนุ รายทรงอทุ ศิ ของ
พระองคเ์ จา้ เจรญิ ศรชี นมายุ มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ราคาทไ่ี ดน้ น้ั แบง่ แจกแกห่ มอ่ มเจา้ แลหมอ่ มหา้ ม
ในกรมหลวงพรหมวรานรุ กั ษ์ ผเู้ ปน็ อปุ ฐาก อปุ ฐายกิ า เรยี บรอ้ ยตลอดมาถงึ เวลาขา้ พเจา้ สน้ิ ชวี ติ
การแจกนน้ั ไมป่ รารถนาจะใหเ้ ทา่ กนั หรอื แจกพรา่ ไปอยา่ งต�ำ น�ำ้ พรกิ ละลายแมน่ �ำ้ ปรารถนา
จะแจกใหเ้ ปน็ สว่ นมากบา้ งนอ้ ยบา้ งตามสมควรแกอ่ ปุ การทไ่ี ดท้ �ำ ขอระบชุ อ่ื หมอ่ มเจา้ โชตริ สไว้
องคห์ นง่ึ วา่ ในคราวทข่ี า้ พเจา้ อาพาธใหญ่ ๓ ครง้ั มาน้ี ไดเ้ อาธรุ ะทกุ คราว คราวนเ้ี ปน็ อยา่ งมาก
ปรารถนาใหไ้ ดส้ ว่ นแจกอยา่ งล�ำ่ สนั ฯ
แหลมทราย สงขลา
วนั ท่ี ๔ กรกฎาคม ๒๔๖๔
แหลมทราย สงขลา
วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๔๖๔
พระยาบรบิ รู ณราชสมบัติ อธิบดีกรมพระคลังขา้ งท่ี
ดว้ ยคณะกรรมการผจู้ ดั ธรุ ะสว่ นพระองคไ์ ดเ้ สนอหนงั สอื ท่ี ๑/๖๑๗ แจง้ วา่ กปั ปยิ ภณั ฑ์
ท่ีคณะกรรมการได้รบั มอบเปน็ สทิ ธ์นิ นั้ ถึงวันที่ ๑๗ มถิ ุนายน ศกนี้ ไมพ่ อจา่ ยตามใบสัง่ ของ
ของคณะกรรมการ ไดเ้ อากปั ปยิ ภณั ฑท์ ไี่ ดใ้ หมต่ งั้ ไวเ้ ปน็ สว่ นพระองคจ์ า่ ยรองไปพลางนนั้ บดั นี้
อาพาธยังไม่ทุเลา ฉันได้ทำ�พระมหาสมณศาสน์ยกมอบสมณบริกขารแลสมบัติต่างอย่างท่ีได้
ภายหลังแต่น้ัน รวมท้ังที่กรมพระคลังข้างที่ด้วย ให้เป็นสิทธิ์แก่คณะกรรมการเพิ่มเติม
มคี วามพสิ ดารแจง้ ในส�ำ เนาพระมหาสมณศาสนท์ สี่ ง่ มา รายทท่ี ดรองไปนนั้ กเ็ ปน็ อนั เสรจ็ กนั ฯ
59
60
พระญาณวราภรณ์
ภายหลังทรงไดร้ ับสถาปนาข้นึ เป็น
สมเด็จพระสงั ฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
แหลมทราย สงขลา
วนั ท่ี ๔ กรกฎาคม ๒๔๖๔
เรยี น เจา้ คณุ ญาณวราภรณ๒์ ๐
ดว้ ยสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ ท�ำ พระมหาสมณศาสน์ ไดท้ รงมอบสมณบรกิ ขารแลสมบตั ิ
ต่างอย่างเพ่มิ เติมแกค่ ณะกรรมการแลทรงแสดงพระประสงคเ์ นื่องด้วยตกึ บนั ไดทอง ทรงแนะ
กรรมการไวเ้ พ่อื จดั การตามพระประสงคใ์ นเวลาท่ีพระองคส์ ิน้ พระชนม์แลว้ กับมคี วามพิสดาร
แจ้งในสำ�เนาพระมหาสมณศาสน์ท่ีส่งมา แลได้ส่งสำ�เนาพระอักษรท่ีทรงมีถึงพระยาบริบูรณ
ราชสมบัติ อธิบดีกรมพระคลังข้างท่ี เน่อื งด้วยเร่ืองนี้ถวายมาเพื่อให้ทราบความไวด้ ว้ ย
61
๒๐ พระญาณวราภรณ์ (หม่อมราชวงศ.์ ชน่ื สจุ ติ โฺ ต) ภายหลังทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์
62
แผงท้ายเรอื รบหลวงพาลีร้งั ทวปี
บนั ทึกพระด�ำ รสั สง่ั
สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ ตรสั แกผ่ ตู้ ามเสดจ็ ใหท้ ราบทั่วกนั วา่ เสดจ็ ทะเลตะวนั ตกเพอ่ื
หาพระส�ำ ราญคราวน้ี ตง้ั พระหฤทยั วา่ อยา่ งชา้ เพยี ง ๑๕ วนั แตเ่ มอื่ เสดจ็ มาตามทางถกู อากาศ
ไมด่ ี ๓ วนั พระโรคเดมิ ก�ำ เรบิ แลประชวรไขเ้ พมิ่ ขนึ้ ดว้ ย จะเสดจ็ อยรู่ กั ษาพระองคใ์ นเรอื พาลกี ม็ ี
สง่ิ เปน็ อสปั ปายะหลายอยา่ ง จงึ เสดจ็ ขนึ้ ประทบั ทแ่ี หลมทราย จงั หวดั สงขลา ตงั้ แตน่ นั้ มาจงึ ไดม้ ี
ทางแกไ้ ข พระอาการคอ่ ยทเุ ลาขน้ึ กวา่ เมอ่ื ประชวรอยใู่ นเรอื พาลี แตย่ งั ไมด่ เี หมอื นเมอื่ เสดจ็ ออก
จากกรงุ เทพฯ บดั นท้ี รงพระด�ำ รเิ หน็ วา่ เปน็ การจ�ำ เปน็ แทท้ จี่ ะตอ้ งเสดจ็ อยรู่ กั ษาพระองคท์ นี่ ย่ี าว
ไปกว่าทีก่ �ำ หนดไวเ้ ดิม กว่าพระอาการจะทุเลาข้ึน อยา่ งนอ้ ยกเ็ ทา่ เม่ือเสด็จออกจากกรงุ เทพฯ
เชน่ นี้ จงึ ทรงปรารภถงึ ผตู้ ามเสดจ็ จะตอ้ งมาอยแู่ อง้ แมง้ ดว้ ย ยงั ไมม่ กี �ำ หนดกลบั ผมู้ คี รอบครวั
ย่อมจะระส�่ำ ระสาย จึงทรงจดั การผ่อนผันดงั ตอ่ ไปนี้
เม่ือเรือถลางมาถึงแล้ว จะโปรดให้เรือพาลีกลับเข้าไป โปรดให้บรรดาผู้มีครอบครัว 63
ตลอดถงึ มหาดเลก็ ในพระองคก์ ลบั กรงุ เทพฯ โดยเรอื พาลี ทลู เชญิ เสดจ็ กรมหลวงพรหมวรานรุ กั ษ์
กับหม่อมเจ้าในกรมผู้มีหม่อมห้ามเสด็จกลับกรุงเทพฯ โดยเรือพาลีนั้น ส่วนผู้มาด้วยราชการ
ด้วยคำ�ส่งั ของกระทรวงวัง โปรดให้กลบั ไปเย่ียมครอบครวั ได้ชั่วคราว แลว้ จงึ กลบั มาใหม่ หมอ
แลผพู้ ยาบาลแผนกวิชาฝรั่งให้กลับเลย จกั ทรงขอผู้อ่ืนมาผลัด ฯ
ภกิ ษผุ ตู้ ามเสดจ็ เปน็ พรหมจารี ไมม่ หี ว่ งใย ขอจงนอ้ มใจถว้ ยเมตตาจติ ร ตงั้ ใจอยอู่ ปุ ฐาก
ต่อไป ฯ
มหาดเล็กผู้เป็นโสดแลคนทำ�เครื่องให้อยู่ประจำ�ต่อไป เว้นแต่คนที่รับจ้างมา ถ้าเขา
พอใจจะกลับ ฯ
มพี ระด�ำ รสั ไว้ ณ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๖๔ (ลงพระนาม) กรม - วชิรญาณ.
64
65
66
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟา้ ภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณพุ นั ธุวงศ์วรเดช
พระรปู นี้ประทานแดส่ มเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
เมือ่ ครัง้ ดำ�รงพระอิสริยยศที่ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืนวชิรญาณวโรรส
ทูลสมเด็จเจา้ ฟา้ กรมพระยาภาณุพันธ๒์ุ ๑
หมอ่ มฉนั ยังรักษาตวั อยทู่ ี่สงขลาต่อไป แลไดเ้ รอื ถลางมาอยปู่ ระจำ�แล้ว ขอประทานส่ง
เรอื พาลกี ลบั คนื ไป แลขอโปรดใหก้ รมหลวงพรหมวรานรุ กั ษก์ บั ชดุ ของทา่ นเสดจ็ กลบั โดยเรอื พาลี
นั้นด้วย ฯ
๒๑ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ภายหลังทรงสถาปนาข้ึนที่ สมเด็จพระราชปิตุลา
บรมพงศาภมิ ุข เจ้าฟ้าภาณุรังษสี ว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพนั ธวุ งศว์ รเดช
67
สมเด็จพระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจ้าฟา้ บริพัตรสขุ ุมพันธุ์ กรมหลวงนครสวรรค์วรพนิ ติ
พระรปู นี้ประทานแดส่ มเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส
เมอื่ คร้งั ด�ำ รงพระอิสรยิ ยศท่ี พระเจ้านอ้ งยาเธอ กรมหม่นื วชริ ญาณวโรรส
ทูลสมเดจ็ เจ้าฟา้ กรมหลวงนครสวรรค๒์ ๒
ขอประทานแพทย์สภากาชาดผู้รู้จักตรวจโรคภายในมาผลัดคนเก่าที่จะส่งกลับ ถ้าได้
หลวงไกร บุตรพระยาไกรเป็นดี แตจ่ ะถนัดหรือ หาทราบไม่ ฯ
๒๒ สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ บรพิ ตั รสขุ มุ พนั ธุ์ กรมหลวงนครสวรรคว์ รพนิ ติ ภายหลงั ทรงสถาปนาขนึ้ ท่ี สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้
บริพัตรสขุ ุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรคว์ รพนิ ติ
บันทกึ พระดำ�รสั สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้
ปรารภภกิ ษุคนั ถธรุ ะผมู้ าเยี่ยมประชวรทสี่ งขลา
๑. เหน็ ภิกษุทงั้ หลายยังบกพร่องในการเยี่ยมไขเ้ จบ็ อยู่มาก ฯ เรามาเจบ็ อยูท่ น่ี ่ี อนั มิใช่
ถ่นิ ฐานของเรา ภกิ ษุอาคนั ตกุ ะพากนั มาเยี่ยมจากต่างถ่นิ หลาย ๆ รปู ต้องเปน็ ภาระของ
เจา้ ไขผ้ จู้ ะท่ีอย่แู ลอาหารเลี้ยง ย่ิงอยหู่ ลายวัน ภาระก็ยิง่ มากออกไป ฯ
๒. เพราะอย่างนภ้ี ิกษอุ าคนั ตุกะผปู้ รารถนาจะมาเยยี่ ม พงึ ใคร่ครวญฐานะของตนก่อน
ว่า เข้ามาเยย่ี มแล้ว เจ้าไขจ้ ักได้ประโยชน์จากการทที่ ่านมา คมุ้ การทตี่ ้องเป็นภาระ หรือต้งั
อยู่ในฐานะอันสูง จ�ำ จะตอ้ งแสดงสามีจกิ รรม เชน่ นมี้ าแล้ว ไม่ควรอยู่ช้า หรือผ้มู ีจงรักภักดีใน
พระองค์ ใคร่จะร้ขู ่าวประชวรมาโดยลำ�พังแลว้ ควรไปอาศยั วัดอยโู่ ดยล�ำ พงั อยา่ งต้องให้เป็น
ภาระแก่เจา้ ไข้ มาฟงั พระอาการเปน็ เวลาแล้วกลบั ไป ฯ
๓. อนึ่ง เมือ่ จะเสดจ็ ขา้ งไหน เพอ่ื ทรงพระส�ำ ราญ ไม่ควรจะตามหอ้ มลอ้ มไปด้วยให้
เป็นทร่ี �ำ คาญ ควรจะอยเู่ ฝา้ ตามท่ี ฯ
68 ๔. สว่ นภิกษุผอู้ ยู่ในทอ้ งถ่นิ เห็นวา่ พระอโนมคณุ มนุ ๒ี ๓ ท�ำ สมควรแท้ มาอยคู่ อยฟังวา่
จะต้องการอะไร ชว่ ยขวนขวายหา แลตอ้ นรบั ชาวเมอื งผู้มาถามขา่ ว สว่ นภิกษุอืน่ รู้วา่ ตอ้ งการ
สิง่ ใด ชว่ ยขวนขวายหาสิ่งนนั้ ใหเ้ ปน็ ผทู้ ำ�สมควรตามกัน เสียแตเ่ พียงวา่ หอ้ มล้อมตามเสด็จใน
เม่ือตอ้ งการพระสำ�ราญเท่านัน้ ฯ
ใหส้ ัง่ บนั ทึกนี้ไว้แกพ่ ระอโนมคณุ มนุ ี เพ่ือช้แี จงแก่ภกิ ษอุ าคันตกุ ะแลภิกษเุ จ้าของถ่ิน ฯ
แหลมทราย สงขลา พระมหาชืน้ บนั ทึกโดยกระแสรับสัง่
วันท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๔๖๔
๒๓ พระอโนมคณุ มุนี (จู อิสสฺ ราโณ) ภายหลงั ดำ�รงสมณศกั ดิ์พระราชาคณะชนั้ ธรรมทพ่ี ระรตั นธชั มุนี
69
พระอโนมคณุ มุนี (จู อสิ สฺ ราโณ)
ภายหลังดำ�รงสมณศกั ด ์ิ
พระราชาคณะช้ันธรรมทพี่ ระรัตนธชั มนุ ี
วนั ที่ ๒๓ กรกฎาคม พระพุทธศกั ราช ๒๔๖๔
ขอประทานเรยี น ฯพณฯ เสนาบดีกระทรวงวงั
ก่อนท่ีเกล้ากระผมจะได้เรียนถึงการเสด็จเปลี่ยนอากาศของสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า
ครั้งนี้ เห็นควรเรยี นใหใ้ ตเ้ ท้าทราบพระประสงคใ์ นเบอ้ื งต้นเสียก่อน ดังน้ี
เดมิ ไดท้ รงพระปรารภถึงการท่ีทรงพระประชวรกบั เกล้ากระผมวา่ มากกว่าครั้งก่อน ๆ
เมอ่ื กลางเดอื น ๖ ไดท้ รงพระสบุ นิ ในเวลาทเ่ี คลม้ิ พระสตวิ า่ มผี รู้ อ้ งตะโกนทพ่ี ระกรรณโดยดงั วา่
อกี ๕๐ วนั กต็ กพระทยั สะดงุ้ จงึ ทรงเลา่ ประทานและใหเ้ ขา้ ใจความเอาเอง จงึ ทรงพระปรารภ
วา่ กอ่ นทจี่ ะถงึ ก�ำ หนด ควรจะไดท้ รงรบั ความสขุ ตามพอพระทยั สดุ แตจ่ ะหาได้ คอื เสดจ็ ประพาส
เพื่อเปล่ยี นอากาศเสยี ช่ัวคราว ๑ แลว้ เสด็จกลบั ก่อนกำ�หนดนั้น เดมิ ทรงพระดำ�ริจะเสดจ็ ตาม
ลำ�น�้ำ ประทบั ในเรือ เกล้ากระผมกราบทูลว่าเป็นฤดฝู น ถ้าไปถกู พายหุ รอื ฝนเข้าระหวา่ งทาง
หาทางป้องกนั ยาก จงึ งดจะทรงพระดำ�รติ อ่ ไปใหม่ ถงึ วนั ท่ี ๑๑ มถิ ุนายนจงึ ประทานพระด�ำ ริ
70 ว่าจะเสด็จชายทะเลตะวันตก ที่สุดเพียงสงขลา ทางสงขลาไม่มีคล่ืนลมและยังไม่มีฝน
จึงโปรดให้เกลา้ กระผมเตรยี มการเสดจ็ วนั ท่ี ๒๓ มถิ นุ ายน ขอให้ใต้เท้ากราบบงั คมทลู ขอถวาย
พระพรลา และไดท้ รงสั่งไว้วา่ ระหวา่ งเสด็จถ้าพระอาการไมด่ ีขึ้นไปหนกั ลง กจ็ ะเสด็จกลบั ไป
สิ้นพระชนม์ที่วัด ท้ังการเสด็จได้กำ�หนดไว้ว่าจะประทับในเรือ ไม่ข้ึนประทับบนบกนอกจาก
ประพาสทบ่ี างแหง่ ช่วั ครัง้ คราว
ครนั้ เมอ่ื เสดจ็ ออกจากกรงุ เทพฯ ถงึ ชมุ พร พระอาการไขส้ งู ขนึ้ ทรงใชใ้ หเ้ กลา้ กระผมขนึ้ ไป
โทรเลขเรียกพระศักดา รุ่งขึ้นได้ทรงเล่าถึงเร่ืองวัดเกาะสมุย ว่าเม่ือเสด็จครั้งก่อนได้ทรงติ
พระประธานที่วัดนั้นไว้ บัดน้ีได้ทรงทราบว่าเจ้าอาวาสราษฎรได้จัดการสร้างข้ึนใหม่เพื่ออวด
พระองค์ จงึ มีพระประสงค์ว่าถงึ แม้จะเสด็จขน้ึ ไม่ได้ กจ็ ะทรงส่งสมณทูตขนึ้ ไปปฏิสันถารตาม
สมควร แตไ่ ดม้ ผี ขู้ ดั ขวางท�ำ ลายพระประสงคเ์ ดมิ เสยี จงึ โปรดใหง้ ดการแวะเกาะพะงนั เสยี ดว้ ย
แลว้ แตใ่ นเวลาทเี่ กลา้ กระผมขนึ้ ไปทเี่ มอื งชมุ พร โดยนยั แหง่ พระกระแสน้ี เกลา้ กระผมสงสยั วา่
เก่ียวกับเสด็จพอ่ ขณะทีส่ มเดจ็ พระมหาสมณะรับสง่ั อยู่กับเกลา้ กระผมท่ใี นห้องบรรทมในเรือ
กไ็ ดย้ นิ เสดจ็ พอ่ รบั สง่ั ขน้ึ ขา้ งบนวา่ แวะเกาะสมยุ ไมเ่ หน็ มปี ระโยชนอ์ นั ใด แวะเกาะพะงนั ทหาร
จะได้อาบน�ำ้ ซกั เส้ือผา้ สมเด็จพระมหาสมณะทรงได้ยินเขา้ ก็ฉุนเป็นการใหญ่โตเกือบจะเสด็จ
ขน้ึ บกเสยี ที่น่ันครง้ั ๑ ตา่ งชว่ ยกันแก้เปน็ อนั ระงับไปคราว ๑
ตอ่ นไ้ี ปไดท้ รงพระปรารภในเรอ่ื งทท่ี รงร�ำ คาญเสดจ็ พอ่ ตา่ ง ๆ ทส่ี ดุ สมเดจ็ พระมหาสมณะ 71
รับสั่งว่าจะต้องเปล่ียนโปรแกรมเดิมหมดเพ่ือให้ห่างกันออกไปกับเสด็จพ่อ คือจะเสด็จข้ึนบก
เมอ่ื จะลงเรอื กจ็ ะแยกเปน็ คนละล�ำ ใหเ้ กลา้ กระผมเตรยี มแยกการท�ำ เครอื่ งไว้ เมอื่ เรอื ถลางถงึ
สงขลากจ็ ะไดแ้ ยกได้ ระหวา่ งทขี่ นึ้ ประทบั บนพลบั พลาปา่ สนกม็ เี รอ่ื งทที่ รงร�ำ คาญบา้ งเลก็ นอ้ ย
ครั้นเรือถลางถึงสงขลา พระอาการประชวรก็กลับหนักลง
เมอ่ื วนั ท่ี ๑๐ กรกฎาคม เวลาเสวยแลว้ ไดท้ รงเลา่ กบั เกลา้ กระผมวา่ ทรงไดย้ นิ มผี บู้ น่
อยากใหเ้ สดจ็ กลบั วนั หนง่ึ จงึ ทรงถามความเหน็ พระเทวะพรหมาดู วา่ ควรจะเสดจ็ กลบั หรอื ยงั
พระเทกราบทลู วา่ ควรเสดจ็ กลบั ทรงถามวา่ เหตใุ ด พระเททลู ตอบวา่ ชา้ วนั ไปคลน่ื ลมจะแรงขน้ึ
คร้ันทรงถามว่าฤดูน้ีทางตะวันตกไม่ใช่ฤดูมรสุมจะเกิดคล่ืนลมข้ึนได้ด้วยเหตุใด พระเทก็ตก
ทลู ตอบไมไ่ ด้ เมอ่ื เชน่ นจ้ี งึ เขา้ พระทยั วา่ คงเปน็ ความคดิ คนอน่ื หนนุ ใหพ้ ระเทออกความเหน็ ถา้
เปน็ ความเหน็ ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ พระองคแ์ ลว้ กค็ วรจะทลู วา่ ดว้ ยมพี ระอาการอนั นา่ วติ กอยา่ งใด
อยา่ งหนง่ึ กจ็ ะไดท้ รงปฏบิ ตั ติ าม จงึ ไดท้ รงท�ำ ค�ำ สง่ั ไวใ้ หก้ ลบั ทง้ั หมดตลอดจนตวั เกลา้ กระผมดว้ ย
สว่ นเกลา้ กระผมเมอ่ื ไดก้ ลบั ถงึ กรงุ เทพสง่ั การตามพระประสงคแ์ ลว้ ใหร้ บี กลบั ออกไปสงขลาพรอ้ ม
กบั พระเทวะพรหมา แตย่ งั ไมป่ ระทานอนญุ าตใหเ้ ปดิ เผยขอ้ ความจนกวา่ เรอื ถลางจะถงึ สงขลา
เมอ่ื ออกจากเฝา้ เกลา้ กระผมสอบถามพระเท ๆ วา่ ไดก้ ราบทลู และรบั สง่ั ถามสกั ๑๐ วนั มาแลว้
วันท่ี ๑๘ กรกฎาคมเวลากลางคืน ได้รับสั่งถึงเร่ืองการท่ีเกล้ากระผมกับคนอื่น ๆ
เดินทางกลับ รู้สึกว่าทรงอาลัยอยู่บ้าง วันที่ ๑๙ เกล้ากระผมทูลลาก็ประทานพรในการ
เดนิ ทางกลับมาท�ำ ธุระสว่ นพระองคแ์ ล้วใหร้ บี ไปสงขลา
ส่วนพระอาการที่ได้เห็นด้วยตาแล้ว เป็นท่ีน่าวิตกมาก เกล้ากระผมได้เคยกราบทูล
ปรึกษาสมเดจ็ อปุ ราชถงึ การทจ่ี ะเชิญเสดจ็ กลับตามพระประสงคท์ ีท่ รงสง่ั ไว้ ทรงเห็นว่ากลัวมี
เหตขุ น้ึ ในเรอื จะล�ำ บากใหป้ ระทบั อยทู่ ี่สงขลาจนทสี่ ดุ ดกี วา่ แตย่ งั มไิ ด้ทลู ถงึ เรอื่ งกลบั ทางรถไฟ
เม่ือเกลา้ กระผมไปถึงสงขลาได้ตกลงในเรื่องท่จี ะเสด็จกลับประการใดแลว้ จะได้โทรเลขเรียน
ใตเ้ ทา้ ให้ทราบโดยเรว็
ควรมิควรแลว้ แต่จะโปรด
(ลงพระนาม) หม่อมเจา้ โชติรส.
วันท่ี ๒๔ กรกฎาคม พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๔
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกลา้ ปกกระหมอ่ ม
เวลาเชา้ เมอื่ วานน้ี หมอ่ มเจ้าโชตริ สไดพ้ บแก่ขา้ พระพุทธเจา้ ได้เล่าบอกว่ากลบั มา
กบั กรมหลวงพรหมโดยเรอื พาลี ตามกำ�หนดทีส่ มเดจ็ พระมหาสมณเจา้ มรี ับสั่งใหก้ ลบั สว่ นตวั
หม่อมเจา้ โชตริ สนน้ั รับสงั่ ใชใ้ หม้ าจดั การท่ีตําหนกั จันทรเ์ ป็นเร่อื งทปี่ ระทับเตรยี มสน้ิ พระชนม์
เพราะทรงรู้สกึ พระองคว์ ่าพระอาการมแี ตท่ รดุ เสมอไป และให้หม่อมเจ้าโชติรสรบี กลบั ออกไป
พรุง่ นก้ี บั รถไฟ แลว้ จงึ จะทรงกำ�หนดการเสดจ็ กลับ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ไดถ้ ามอืน่ ๆ ตอ่ ไปคงได้
ความวา่ เรือ่ งราวทีท่ �ำ ใหส้ มเดจ็ พระมหาสมณะมีแตไ่ ม่สบายต้องกรวิ้ อยู่เสมอ ๆ นั้น เปน็ เรื่อง
เกดิ จากกรมหลวงพรหมชงิ การสง่ั การและแกก้ �ำ หนดตา่ ง ๆ ของสมเดจ็ พระมหาสมณะทท่ี รงไว้
จงึ เปน็ เหตทุ ใี่ หใ้ คร ๆ พลอยกนั มวั หมองไปหมด ขา้ พระพทุ ธเจา้ ใหท้ า่ นโชตทิ �ำ รายการอกี ฉบบั
หนง่ึ ตามเวลาทท่ี า่ นโชตไิ ดไ้ ปตามเสดจ็ จงึ ขอพระราชทานน�ำ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายมาใน
72 คราวน้ี
ควรมคิ วรแลว้ แตจ่ ะทรงพระมหากรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ขอเดชะ
ขาั พระพทุ ธเจ้า
(ลงนาม) เจ้าพระยาธรรมาธกิ รณ์
ต�ำ หนักจนั ทร์ 73
(สำ�เนา) โทรเลขจากสงขลา มมี าทลู เกลา้ ฯ ถวายทบี่ างปะอิน วันท่ี ๒๕ กรกฎาคม เวลา
๑๐.๔๐ ล.ท. ถวายเวลานน้ั
สมเด็จพระมหาสมณเจ้าเป็นอันตกลงพระทัยว่า จะเสด็จกลับกรุงเทพฯ รถไฟพิเศษ
ออกจากสงขลา วันพธุ ที่ ๒๗ เร่ืองนต้ี ัวข้าพระพุทธเจา้ เองเห็นดว้ ยเกลา้ ฯ วา่ เป็นเร่อื งยอม
แลว้ แตจ่ ะเปน็ ไป ขา้ พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ ฝา้ โดยรบั สง่ั ทลู คดั คา้ น ในการทว่ี า่ รถไฟกระเทอื น คลนื่ ลม
ในทะเล ด้วยคลื่นลมในทะเลคงสงบ เพราะไมใ่ ชห่ นา้ มรสมุ ทรงนงิ่ อยู่ แตไ่ มถ่ ึงกับกร้ิว แล
ประทานพระรูปแก่ขา้ พระพุทธเจ้าเป็นท่ีระลึกไว้ ขา้ พระพทุ ธเจา้ จะได้จดั เร่ืองเสดจ็ กลับตาม
พระประสงคท์ ุกประการ
(ลงพระนาม) ยคุ ล
ที่ ๗๓/๖๘๘ กระทรวงวงั
วันท่ี ๒๖ กรกฎาคม พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๔
ทูล มหาเสวกตรี หม่อมเจา้ ธานนี วิ ัต๒๔
ผูช้ ว่ ยราชเลขาธกิ าร ทรงทราบ
ดว้ ยสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ มรี บั สง่ั วา่ จะเสดจ็ กลบั กรงุ เทพฯ ขอใหจ้ ดั กระบวนรถไฟ
พเิ ศษรับเสด็จออกจากจังหวัดสงขลาในวนั ท่ี ๒๘ เดือนน้ี ในหนา้ ท่ีราชการกระทรวงวังใหส้ ่ัง
กรมรถไฟหลวงแลว้ กรมรถไฟหลวงไดก้ ำ�หนดดงั น้ี วนั ท่ี ๒๘ เดอื นน้ี ออกจากจังหวัดสงขลา
เวลา ๙ นาฬกิ า
ถึงทงุ่ สงเวลา ๑๕ นาฬกิ า ๖ นาที ออกจากทุ่งถึงเวลา ๑๕ นาฬิกา ๒๖ นาที ถึงชุมพร
วันท่ี ๒๙ เดอื นน้เี วลา ๑๖ นาที ออกจากชมุ พรเวลา ๖ นาฬกิ า ๔๕ นาที ถึงบางกอกนอ้ ย
เวลา ๑๙ นาฬกิ า ๑๔ นาที เปน็ เวลาเดนิ รถประมาณ ๒๗ ชวั่ โมงครงึ่ นบั ทง้ั เวลาทตี่ อ้ งหยดุ พกั
74 ด้วยเป็นเวลา ๓๔ ชั่วโมง ๑๔ นาที
ถา้ มโี อกาสขอไดน้ �ำ ความขน้ึ กราบบงั คมทลู พระกรณุ าใหท้ รงทราบฝา่ ละอองธลุ พี ระบาท
ด้วย.
ควรมคิ วรแล้วแต่จะโปรด
(ลงนาม) เจ้าพระยาธรรมาธกิ รณ์
เสนาบดี
๒๔ หมอ่ มเจ้าธานนี วิ ตั โสณกุล ภายหลงั ทรงสถาปนาขนึ้ ท่ี พระวรวงศ์เธอ กรมหมนื่ พทิ ยลาภพฤฒยิ ากร
75
หม่อมเจา้ ธานนี วิ ตั โสณกุล
ภายหลังทรงสถาปนาขึน้ ที่
พระวรวงศเ์ ธอ กรมหม่นื พิทยลาภพฤฒิยากร
(สำ�เนา) โทรเลขจากสงขลาที่ ๔๘๐ มีมาทูลเกล้าฯ ถวายรับท่ีบางปะอิน วันท่ี ๒๖ กรกฎาคม
เวลา ๑๕.๓๐ ล.ท. ถวายเวลาน้นั
ตามทข่ี า้ พระพทุ ธเจา้ กราบบงั คมทลู พระกรณุ าวา่ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ จะเสดจ็ กลบั
กรุงเทพฯ วันพธุ ที่ ๒๗ น้นั ผิดไป แตแ่ ทจ้ ริงเสดจ็ กลับวนั ที่ ๒๘ พระราชอาณาไม่พน้ เกลา้ ฯ
(ลงพระนาม) ยุคล
ท่ี ๖๑/๘๖๔ กรมราชเลขาธกิ าร
พระราชวงั บางปะอนิ
76 วนั ท่ี ๒๘ กรกฎาคม พุทธศกั ราช ๒๔๖๔
เรียน เจา้ พระยาธรรมาธิกรณาธบิ ดี
ตามหนังสอื ท่ี ๗๓/๖๘๘ ลงวนั ท่ี ๒๖ เดอื นนี้ รายงานเรือ่ งสมเดจ็ พระมหาสมณเจ้าจะ
เสดจ็ กลับกรุงเทพฯ วนั ท่ี ๒๘ เดือนนี้โดยรถไฟพเิ ศษน้ัน ไดน้ �ำ ความกราบบังคมทูลพระกรณุ า
ทราบฝา่ ละอองธุลพี ระบาทแลว้
(ลงพระนาม) ธานีนิวตั
ลงนามแทนราชเลขาธกิ าร
กระทรวงวงั
วนั ท่ี ๒๘ กรกฎาคม พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๔
ขอเดชะฝา่ ละอองธลุ พี ระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ขอพระราชทานเรียนพระราชปฏิบัติล่วงหน้าไว้เพื่อให้ทันท่วงทีการที่จะมาถึงในเรื่อง
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า
๑. ถา้ สิ้นพระชนม์แล้วจะโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมใหใ้ ช้ค�ำ ว่า “สนิ้ พระชนม์” ตาม
ธรรมดา ฤๅจะโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมเป็นค�ำ อน่ื จงึ มาคดิ ดว้ ยเกลา้ ด้วยกระหม่อมถงึ คำ�เก่า
ซง่ึ เคยได้ยินมา ช้นั เจา้ นายพูดกนั ว่า “นิพพาน” โดยมาก
๒. ก�ำ หนดไวท้ กุ ข์ ตามพระราชก�ำ หนดชน้ั พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอสนิ้ พระชนม์ พระบรม
วงศานวุ งศ์แลข้าในพระราชสำ�นกั ไวท้ กุ ข์ ๑๕ วนั
ยังข้อ ๑ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าเป็นประมุขของสมณะแห่งพระพุทธศาสนา
ทางราชการจะโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหม้ กี ารไวท้ กุ ขด์ ว้ ยฤๅไม่ ถา้ โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม 77
ให้มี ๆ ก�ำ หนดเพยี งใด
๓. ฉัตรแขวนพระศพพระราชวงศช์ ั้นสงู ตามทีเ่ ปน็ ก�ำ หนดมาแลว้ ดงั น้ี
(๑) กรมหมื่น โหมดเหลือง
(๒) กรมขนุ โหมดขาว
(๓) กรมหลวง ตาดเหลือง
(๔) กรมพระ ตาดขาว
(๕) กรมพระยา กำ�มะลอ
(๖) เจา้ ฟ้าทรงกรม ฤๅมทิ รงกรม ฉตั รผ้าขาว
คร้ังน้ีถ้าจะถือตามหลักเดิมต้องเป็นฉัตรกำ�มะลอ แต่ท่านได้มหาสมณุตมาภิเษก
ได้ฉัตรผ้าขาวอยู่แล้ว แต่เมื่อพระศพสมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ตั้งที่วัดหาได้
แขวนฉัตรไม่ เพราะทไ่ี ม่พอ ตอ่ ออกพระเมรจุ งึ พระราชทานฉัตรผ้าขาว ในครง้ั น้ีจะโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมประการใด
๔. การพระศพตงั้ แตส่ รงจนตลอดการ ขอพระราชทานเทียบอยา่ งสมเด็จกรมพระยา
ปวเรศวริยาลงกรณ์ แต่ลดผ้าไตรผ้าขาวพับ สวดพระอภิธรรมลงให้ต้องตามกาลซ่ึงเป็นมา
ในปัจจุบันนี้ ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายบาญชีรายเทียบทราบฝ่าละออง
ธลุ พี ระบาท ทั้งนจ้ี ะควรประการใดแลว้ แต่จะทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อม
ควรมิควรแลว้ แตจ่ ะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
(ลงนาม) ขา้ พระพทุ ธเจา้ เจ้าพระยาธรรมาธกิ รณ์
ขอเดชะ
78
79
พระราชพิธีมหาสมณตุ มาภิเษก พ.ศ.๒๔๕๓
สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ตรสั ประกาศไวว้ า่ ตง้ั แตเ่ สดจ็ ขนึ้
รักษาพระองคท์ ส่ี งขลา ได้ทรงรับอุปการะของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟา้ กรมขนุ ลพบรุ ี
ราเมศวร์เปน็ อย่างดีทส่ี ุด ฯ ในสว่ นพระอาหาร ได้ทรงจดั เคร่ืองถวายประจ�ำ วันแลเวลา ได้
ทรงเสาะหาผลไมอ้ ันมีโอชารสไม่มใี นสงขลามาแตต่ า่ งเมอื ง เพอ่ื จะไดท้ รงรับอัสสาทะ น�้ำ เสวย
ได้ทรงจดั หาน้�ำ เพชรบรุ มี าไวส้ �ำ หรบั นอกจากนี้ ยงั ได้ทรงเลย้ี งพระภิกษุผู้อปุ ฐากแลเจ้านาย
ข้าราชการตลอดถึงมหาดเล็กผตู้ ามเสด็จ ฯ ในส่วนกจิ การ ไดท้ รงตรวจตราจดั หาเครอื่ งใชส้ อย
เคร่ืองต้งั สำ�หรบั ทีป่ ระทบั แลอ่ืน ๆ โดยทส่ี ดุ ทรงจัดเกา้ อีห้ ามเพื่อเสดจ็ ไปขา้ งไหน ๆ ในท่สี ุด
ส่งเสดจ็ ถงึ สถานรี ถไฟสงขลา ทรงเอาพระธุระมาก ไดย้ ินวา่ จนถงึ ทรงลองหามเอง ฯ ในเวลาที่
ประทบั อย่ทู ่สี งขลา ไดเ้ สดจ็ มาเฝา้ บ้าง ฟงั พระอาการบา้ ง ไมว่ ่าจะเป็นเวลาดกึ ดื่น เกอื บเรียก
ไดว้ า่ ไมเ่ ป็นอนั เสวยแลประธม ฯ คร้ันเสดจ็ กลบั จากสงขลาโดยทางรถไฟ ยังเสดจ็ ตามมาสง่
จนถงึ กรุงเทพฯ ฯ สามหมวดน้ี เทา่ ทไ่ี ด้ทอดพระเนตรเหน็ เองแลมาถึงพระโศรต นอกจากนี้
คงจะมอี ยา่ งอนื่ อกี เปน็ อนั มาก ฯ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ ไดท้ รงรบั อปุ การะดว้ ยพระกรณุ าอารี
ของสมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ โดยฐานสมณญาตสิ งั คหะครงั้ นจ้ี บั พระหฤทยั จกั ทรงลมื เสยี มไิ ด้
80 จนตลอดพระชนมายุ ฯ ทรงประสาทพระพรถวายแดส่ มเดจ็ พระเจ้านอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ กรมขนุ
ลพบรุ รี าเมศวรว์ า่ ขอเดชานภุ าพพระรตั นตรยั คมุ้ ครอง แลพระกศุ ลของสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้
ที่ได้ทรงบำ�เพ็ญมาอุปถัมภ์ จงทรงสุขสำ�ราญปราศจากพระโรค หาภัยจากท่ีไหน ๆ มิได้
ทรงพระชนมายยุ นื นาน ถึงความเจริญทกุ เม่อื เทอญ ฯ
ตรสั ประกาศไว้ ณ วนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๖๔ ฯ
โปรดใหป้ ระทบั พระลญั จกรโพธบิ ลั ลงั กไ์ วเ้ ปน็ ส�ำ คญั ฯ
ที่ ๖๒/๘๘๑ กรมราชเลขาธิการ
พระราชวังบางปะอิน
วนั ที่ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศกั ราช ๒๔๖๔
เรียน ท่านเจ้าพระยาธรรมาธกิ รณาธิบดี
ตามหนังสือกราบบังคมทูลพระกรณุ าลงวนั ที่ ๒๘ เดอื นน้ี เรียนพระราชปฏบิ ัตสิ �ำ หรับ 81
การที่จะมาถึงในเรือ่ งสมเด็จพระมหาสมณเจ้าเป็นขอ้ ๆ น้นั โปรดเกล้าฯ วา่
(๑) เร่อื งค�ำ ใหใ้ ชค้ ำ�ว่า “สน้ิ พระชนม”์ เพราะค�ำ วา่ นพิ พาน ออกจะตะขดิ ตะขวง
(๒) ก�ำ หนดไวท้ ุกขใ์ นพระราชสำ�นกั ๑ เดอื น นอกพระราชส�ำ นักไมต่ ้อง
(๓) แขวนฉัตรผา้ ขาว เพราะท่านได้อย่แู ล้ว
(๔) การพระศพเทียบอย่างสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
ก็ดีอยู่ แต่ท่านเป็นวังหน้า ส่วนสมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นี้เป็นวังหลวง ควรเพิ่ม
พระเกียรตยิ ศอีกสกั หนอ่ ย คือ ประกอบโกศทองนอ้ ยตั้งทีเดียว
(ลงนาม) ธานีนิวัต
ลงนามแทนราชเลขาธิการ
82
สมดุ เซ็นเย่ยี มพระประชวร สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส
กรมวงั กระทรวงวัง
วนั ที่ ๑ สงิ หาคม พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๔
ขอเดชะฝ่าละอองธลุ ีพระบาทปกเกลา้ ฯ
ขา้ พระพทุ ธเจา้ เสวกโท พระอักษรสมบรู ณ์ ขอพระราชทานเชญิ พระอาการ สมเดจ็ 83
พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส พระมหาสมณะเจา้ ขน้ึ กราบบงั คมทลู พระกรณุ า
ทรงทราบฝา่ ละอองธลุ ีพระบาท
วนั ท่ี ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ เวลา ๖.๑๗ ล.ท. นายพันตรี หลวงแสนพลรักษ์ให้
ตรวจพระอาการ พระชีพจรเดินนาทีละ ๙๐ เดินเรียบเสมอกันดี แต่อ่อนกว่าเม่ือวันวานน้ี
เล็กน้อย ปอดข้างขวามสี ่วนแหง้ มากกว่าช้นื ปอดข้างซา้ ยมีช้นื มากกวา่ แหง้ พระอาการวนั นม้ี ี
ออ่ นเพลียกว่าวนั กอ่ น เวลา ๖.๕๐ ล.ท. ไม่ควรจะกราบบังคมทลู ได้ไปพระบังคนหนัก เป็น
มูลโคเหลวประมาณได้ ๑ ตะคัน มีสีมันระคนมวก เวลา ๘.๐๐ ล.ท. ได้ไปพระบังคนหนักอกี
เปน็ มลู โคขน้ ประมาณ ๒ ตะวนั มสี ดี าํ มวั กลน่ิ กลา้ แลพระบงั คนเบาประมาณ ๑ ออนซส์ ชี าแก่
เวลา ๑๐.๐๐ ล.ท. ลงพระบงั คนหนกั เปน็ มลู โคประมาณครงึ่ ตะคนั มสี มี วั ระคนมวก กลน่ิ ออ่ นลง
แล้วเสวยพระโอสถประสะเน้ือไมข้ องพระเทวพรหมา บำ�รงุ พระทยั กับสมานล�ำ ไส้
วนั ที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ เวลาเทย่ี งคืน ๔๐ นาที ไมค่ วรจะกราบบังคมทลู ได้
ไปพระบงั คนหนักประมาณครึ่งตะคนั สเี หลอื งระคนโลหิตกับพวกกล่ินน้อยลงมาก แล้วเสวย
พระโอสถกลอ่ มนางนอนของพระเทวพรหมา บ�ำ รุงพระทัย
พระอาการต้งั แต่เวลา ๖.๐๐ ล.ท. วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ถงึ เวลา ๖.๐๐ ล.ท. วันที่ ๑
สงิ หาคม พระอาการอ่อนเพลียยงั ทรงอยู่
ดว้ ยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
(ลงนาม) ขา้ พระพทุ ธเจา้ เสวกโท พระอกั ษรสมบรู ณ.์
สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ราตรสี ดุ ทา้ ยแหง่ พระชนมช์ พี 85
วาระอวสานกาลของสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรสน้ัน ปรากฏ
บันทึกความทรงจำ�ของพระยาสจั จาภริ มย์ (สรวง ศรเี พญ็ ) เรอ่ื ง “เล่าให้ลกู ฟัง” ปรากฏเร่อื ง
ราวเหตกุ ารณ์ในราตรีก่อนสน้ิ พระชนม์ ซง่ึ มีความนา่ สนใจ แลควรยกมาไวใ้ นที่น้ี ความวา่
“...ตอนนถ้ี งึ คราวท่ีพอ่ [พระยาสัจจาภิรมย]์ จะเลือกอปุ ัชฌาย์ นกึ ขน้ึ ได้ว่าเมื่อคราวพอ่
รบั เสดจ็ สมเดจ็ พระมหาสงั ฆราชเจา้ (กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส) เสดจ็ ตรวจราชการคณะสงฆ์
จังหวดั ราชบุรี ทา่ นเคยรบั สัง่ ถามพอ่ ว่าบวชแล้วหรอื ยงั
พอ่ กราบทูลว่า "ยงั "
ทา่ นรบั ส่ังวา่ "ถ้าแกบวช เราจะบวชให"้
พ่อก็เข้ามากรุงเทพฯ ไปที่วัดบวรนิเวศ ก็ทราบว่าท่านทรงประชวรมากอยู่ พ่อก็ไป
พบเจ้าคุณมหานายก๒๕ ท่านบอกว่าสมเด็จฯ จะน่ังอุปสมบทให้ไม่ได้ แต่ท่านจะให้พ่อบวช
วดั บวรนเิ วศ โดยให้สมเด็จพระสงั ฆราชเดี๋ยวนี้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ (แต่เวลานนั้ ยังไมไ่ ด้
เป็นสงั ฆราช)๒๖ เป็นอุปชั ฌายบ์ วชให้
พอ่ เรยี นแกท่ า่ นวา่ พอ่ ไมเ่ คยรจู้ กั กบั ทา่ นเลย เมอื่ สมเดจ็ ฯ ทรงประชวรเชน่ นี้ พอ่ ขอตรกึ
ตรองเลอื กอุปัชฌาย์เอาเอง เพราะการเปน็ อุปชั ฌาย์น้ี ไมใ่ ช่ถือเพยี งวา่ ให้ส�ำ เรจ็ การอปุ สมบท
เทา่ น้ัน พ่อจะตอ้ งนบั ถือท่านตลอดชีวติ
๒๕ พระมหานายก (มณี ฉนฺโน) ภายหลังดำ�รงสมณศกั ดิ์ พระเทพกวี
๒๖ ครงั้ นั้นยังด�ำ รงสมณศกั ดิท์ ่ี พระญาณวราภรณ์
86
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจริญ าณวโร)
วัดเทพศริ ินทราวาส ภายหลังด�ำ รงสมณศกั ดท์ิ ่ี
สมเด็จพระพทุ ธโฆษาจารย์
ฉะนั้น จะต้องหาอุปัชฌาย์ที่พ่อรู้ว่าทรงคุณธรรมดีจริง ๆ จึงจะยอมตัวให้บวชได้ 87
เจา้ คณุ มหานายกกเ็ อออวยตาม แลว้ พอ่ ก็ลากลบั
ต่อมาตกลงใจเลือกได้สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ [เจริญ าณวโร] (ครั้งนั้นเป็น
พระธรรมไตรโลกาจารย์) เป็นอุปัชฌาย์ ได้อุปสมบทที่วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันท่ี ๑๗
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ขณะทีบ่ วชอยไู่ ด้ประมาณสักเดือนเศษ สมเด็จพระมหาสมณเจา้ องค์
สังฆนายก กำ�ลงั ประชวรคอ่ นข้างหนกั มาก จะทรงทราบทางใดวา่ พอ่ บวชอยไู่ ม่ทราบ จงึ รับส่งั
มาทางเจ้าคณุ อุปัชฌายใ์ หห้ าพอ่
ครนั้ เวลาเกือบ ๑ ทุม่ พอ่ ก็ไปเฝา้ พร้อมกับเจ้าคณุ อปุ ัชฌาย์ เวลานั้นเปน็ เวลาประชวร
หนักอยู่ มีพระมหาเถระผู้ใหญ่ผู้น้อยมาคอยเฝ้าฟังพระอาการอยู่ท่ีตำ�หนักเพ็ชรไปนานมาก
ส่วนสมเด็จฯ ประชวรอยู่ตำ�หนกั จนั ทร์ ต�ำ หนักท้งั ๒ นต้ี ้งั อยตู่ ดิ ๆ กัน ถา้ ไมม่ รี บั สงั่ ใหเ้ ฝ้า
แลว้ ขอ้ หา้ มไมใ่ หใ้ ครเขา้ เฝา้ เจา้ คณุ อปุ ชั ฌายข์ องพอ่ บอกพระสงฆซ์ ง่ึ เปน็ เลขานกุ ารของสมเดจ็
พระมหาสังฆราชวา่ สมเดจ็ ฯ รบั ส่งั ให้หาพระพระยาสัจจาภิรมยฯ์ ท่านน�ำ มาคอยเฝา้ อยู่แล้ว
เม่ือพระเลขานุการไปกราบทูลพระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็โปรดให้เข้าเฝ้าได้
เจา้ คณุ อปุ ชั ฌายไ์ ปขา้ งหนา้ พอ่ ตามหลงั ถงึ ทใ่ี นหอ้ งพระบรรทม พอ่ คลานเขา้ ไปไดร้ ะยะพอควร
พ่อกน็ ง่ั กระหยง่ กราบด้วยเบญจางคประดษิ ฐ์ ๓ คร้ังแลว้ หมอบสงบอยู่ เจ้าคณุ อปุ ชั ฌาย์เขา้ ไป
นง่ั ใกลพ้ ระองคท์ า่ น รบั สง่ั อะไรกนั บา้ ง พอ่ จ�ำ ไมไ่ ด้ เหน็ ทา่ นรบั สง่ั ใหเ้ จา้ คณุ มหานายกประคอง
ท่านพลิกตะแคงซ้าย ท่านทอดพระเนตรเห็นพ่อแล้วยกพระหัตถ์กวัก พ่อก็คลานเข้าไปใกล้
พระวิสูตรเบ้ืองปลายพระบาทแล้วหยุด พระองคท์ า่ นยังกวกั พระหตั ถ์อยู่อีก พ่อกค็ ลานเข้าไป
จนเข้าในร่วมพระวิสูตรแล้วก็หมอบน่ิงอยู่ใกล้กับพระบาทท่านราว ๒ ศอกเท่านั้น แล้วทรง
รับส่ังวา่ “เรารวู้ า่ แกบวช เราต้งั ใจจะบวชให้ แต่เราบวชใหไ้ ม่ได้ ก็ให้นึกวิตกวา่ แกจะไปบวช
รุ่มรา่ มท่อี น่ื ครั้นร้วู ่าอยู่กบั ธรรมไตรโลก ก็คลายวติ ก”
88
พระยาสจั จาภริ มย์ เม่อื ครง้ั ผนวชเป็นพระภกิ ษุ
ไดร้ บั ฉายาวา่ “ธมฺมาภิรโม”
พ่อมิได้ทูลตอบ เป็นแต่กราบลง แล้วพระองค์ท่านก็รับสั่งประทานโอวาทแก่พ่อถึง 89
ขอ้ ปฏบิ ัติในทางศาสนาอีกหลายองค์ พอ่ จ�ำ ไม่ได้ ตอนสดุ แหง่ พระดำ�รัสก็สงั่ เจ้าคณุ มหานายก
ใหเ้ อาหนงั สอื เรยี นธรรมวนิ ยั ชดุ หนงึ่ ประทานแกพ่ อ่ สว่ นพอ่ นน้ั ตง้ั แตเ่ ขา้ เฝา้ จนทลู ลา ไมไ่ ดพ้ ดู
อะไรสกั คำ� ได้แต่กราบรบั กระแสรบั ส่งั เป็นหลายหน
พอ่ ได้เหน็ พระวรกายเวลาน้ีเสมอพระตโจ (หนัง) หุ้มพระอฐั ิ (กระดกู ) หลงั พระหตั ถ์
เบอ้ื งขวาพาดอยบู่ นขอบพระแทน่ บรรทม บวมใสเปน็ เงา พอ่ นกึ วา่ คงจะสน้ิ พระชนมใ์ นเรว็ วนั นี้
แตพ่ ระกระแสรับส่งั ยงั สดใสชัดเจน ท้ังพระสติกย็ งั ดยี ่งิ
เมอ่ื เจา้ คณุ อปุ ชั ฌายแ์ ละพอ่ ไดเ้ ขา้ เฝา้ สมควรแกเ่ วลาแลว้ กก็ ราบถวายบงั คมลาจากทเี่ ฝา้
ต่อมารุ่งขึ้นอีกวันเดียว จะเป็นเวลาเท่าใดจำ�ไม่ได้ พ่อก็ทราบว่าสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส มหาสงั ฆปรณิ ายก สน้ิ พระชนมเ์ สยี แลว้ พอ่ ไดร้ ะลกึ ถงึ พระกรณุ าธคิ ณุ
ต้ังแต่คร้ังเสด็จตรวจการคณะสงฆ์มณฑลราชบุรี ซึ่งได้ประทานเหรียญสมณุตมาภิเษก
และเหรียญอริยสัจ และพระรูปขนาดใหญ่แก่พ่อ ที่สุดจนก่อนวันส้ินพระชนม์เพียงวันเดียว
ยังประทานปัจฉิมโอวาทและประทานหนังสือธรรมะชุดหนึ่งแก่พ่ออีกด้วย ท้ังนี้ ทำ�ให้พ่อ
มคี วามอาลัยในพระองค์ทา่ นเปน็ อย่างมาก...”
เหรียญสมณตุ มาภเิ ษก
90
เหรียญอรยิ สจั
นอกจากนี้ ยังปรากฏหลักฐานพระอวสานกาลในพระประวัติจากความทรงจำ�ของ 91
นายช้นื ยอดเศรณี ซ่ึงในเวลานัน้ ยงั เป็นพระมหาช้นื ปหฏฺโ เปรียญ ๖ ประโยค เลขานุการ
ในพระองค์ ความตอนหนงึ่ วา่
“...เปน็ ทปี่ รากฏแกผ่ ถู้ วายการพยาบาลอยา่ งหนง่ึ วา่ ตงั้ แตท่ รงแนพ่ ระทยั วา่ พระอาการ
ของโรคหมดหนทางที่แพทย์จะถวายการรักษาให้หายได้แล้ว ได้ทรงมนสิการแน่วแน่อยู่ใน
กัมมัฏฐานภาวนาเป็นอารมณ์ตลอดเวลา ทรงปล่อยพระอาการเคล่ือนไหวทางพระวรกายทุก
อยา่ ง ตลอดถึงการเสวยพระกระยาหาร พระโอสถ การลงพระบงั คนหนักเบา ใหอ้ ยู่ในความ
ประคบประหงมของแพทย์และผู้รักษาพยาบาล ทรงตั้งพระสตสิ ัมปชญั ญะมน่ั อยูใ่ นกมั มฏั ฐาน
ภาวนาดว้ ยพระอาการอันสงบไม่กระสบั กระสา่ ยทรุ นทุรายไปตามอาการของทุกขเวทนา ทรง
มนสกิ ารภาวนาอยู่ในพระไตรลกั ษณเ์ ป็นอารมณต์ ลอดเวลาจนถงึ อวสานว่า
“สงขฺ ารา อนจิ ฺจา วิปรณิ ามธมฺมา สนฺตติปฏิพทธฺ า
สงฺขารา ทุกฺขา ตํ กุเตตถฺ ลพภฺ า
สงฺขารา อนตฺตา ยถาปจฺจยํ ปวตตฺ นฺต”ิ
ซึง่ แปลความว่า “สงั ขารทง้ั หลายไมเ่ ที่ยง มอี ันแปรไปเปน็ ธรรมดา เน่ืองดว้ ยสนั ตติ
สังขารท้ังหลายเป็นทุกข์ จะพึงได้สขุ ในสังขารเหลา่ น้ีแต่ไหน สงั ขารทั้งหลายเปน็ อนัตตา ยอ่ ม
เปน็ ไปตามปจั จัย”