The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sci_informatics, 2023-07-06 23:11:14

บทความ ปีการศึกษา 2565

เล่มรวมบทความ 2565

รวมบทความ โครงงานนัก นั ศึกษา กลุ่มสาขาวิชาวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปีก ปี ารศึก ศึ ษา 2565


ก คำนำ ปการศึกษา 2565 กลุมสาขาวิชาวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ประกอบดวย หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอรสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาวิชาระบบสารสนเทศเพ ื่อการจัดการ ไดจัดการเรียนการสอนรายวิชา410209โครงงานวิทยาการ คอมพิวเตอร411306โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 417410 โครงงานการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อ การจัดการ จำแนกโครงงานออกเปน 6 กลุม ไดแกกลุมที่1 Multimedia/Game/CAI กลุมที่ 2 Windows Application กลุมที่ 3 Web Application กลุมที่ 4 Warehouse/Data Mining/AI/ MachineLearning กลุมท ี่5 Mobile Applicationและกลุมท ี่6 Hardware/Robot/Network/IoT เอกสารรวบรวมบทคัดยอฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพรผลงานทางวิชาการของนักศึกษาชั้นปที่ 4 ปการศึกษา2565 หวังเปนอยางยิ่งวาจะเปนประโยชนสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป กลุมสาขาวิชาวิทยาการสารสนเทศ


ข สารบัญ หนา คำนำ ก สารบัญ ข การพัฒนาเว็บแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการใหบริการศูนยสหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลนราน TTNINTERGROUP 12 ระบบโมบายแอปพลิเคชันสำหรับสั่งอาหารรานลาบยโส 19 การพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ 25 กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา การพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการใหบริการศูนยสหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ 35 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ระบบสนับสนุนการบริการ บริษัทสยาม อีบิสซิเนส 46 การพัฒนาสื่อมัลติมิเดียเสริมการเรียนรู เรื่อง ระบบสุริยะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 4 54 การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นเติมเงินออนไลน 60 การพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อจําหนายสินคา กรณีศึกษา ราน B&C Shop 74 การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยภายในคลังอาวุธกองบัญชาการชวยรบที่ 2 ดวยเทคโนโลยี IOT 81 การพัฒนาแอปพลิเคชั่นสื่อการสอนสำหรับชุดไมโครซอฟต 92 การพัฒนาลานจอดรถยนตอัตโนมัติดวยเทคโนโลยี RFID 98 การพัฒนาเว็บแอปพิเคชั่นระบบจองพื้นที่ขายสินคาตลาดนัดหลังมอลล 111 การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอนแบบมัลติมีเดีย วิชา คณิตศาสตรระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 119 การพัฒนาเกม 3 มิติเพื่อสงเสริมการเรียนรูภาษาอังกฤษ 132 การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเพื่อสนับสนุนการใหบริการศูนยสหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ 140 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา การพัฒนาเกมสยองขวัญตามระดับความกลัว 149 การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันรานปายนวนอารตเพื่อการจัดการขอมูลดวยภาษา PHP 159 การพัฒนาแอปพลิเคชันการจัดการครุภัณฑโรงพยาบาลซับใหญดวยภาษา PHP และ 166 MIT App Inventor แชทบอทสำหรับชวยบริหารจัดการขอมูลการทองเที่ยวบนเสนทางโคราชจีโอพารค 173 ตะลุยคำสั่งโปรแกรมคอมพิวเตอรภาษา java 180


ค สารบัญ (ตอ) หนา การพัฒนาสื่อการสอน เรื่อง ระบบยอยอาหาร 189 เครื่องตรวจจับฝุนละออง 197 ระบบโมบายแอพพลิเคชั่นการจองสนามฟุตบอลหญาเทียมตี๋ใหญ 208 การพัฒนาระบบรานขายกลวยฉาบออนไลนกรณีศึกษา รานเจแขกกลวยฉาบ 215 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตรเบื้องตน สำหรับนักเรียนชั้น 221 มัธยมศึกษาปที่ 1 โดยการสอนเสริมดวยคอมพิวเตอรชวยสอน ระบบแชทบอทสนับสนุนการขายรถยนต กรณีศึกษา หางหุนสวนจำกัดฮอนดาเกริกไกร 226 ระบบการจัดการขอมูลการชำระเงินโรงเรียนโคราชพิทยาคม 235 การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอนรูปแบบมัลติมีเดีย รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปที่ 6 243 การพัฒนาการทองเที่ยวเชิงสรางสรรคเสมือนจริงตำบลทาหลวง 249


การพัฒนาเว็บแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการให้บริการ ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา The Development of Web Applications using React Framework to Support The Cooperative Education and Career Development Center Nakhon Ratchasima Rajabhat University อดิเทพ สุภาพักตร์1 , ธิดานุช พุทธสิมมา2* , อาทิตยา อรุณศรี3 , อนาวิล คำเพ็ชร4 , ภูชิต ภูบาลชื่น5 , ศักดินนท์ หาญพนม6 Aditap Sapapuk2 , Thidanuch Puttasimma2* , Arthitaya Arunsri3 , Anawil Khumpet4 , Puchit Pubanchuen5 , Sakdinon Hanpanom6 สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์1,2*,3,4,5 และสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ6 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา Computer ScienceProgram 1,2*,3,4,5 , Information TechnologyProgram6 , Faculty of Science and Technology, Nakhon Ratchasima Rajabhat University [email protected] , [email protected]* , [email protected] , [email protected] , [email protected] , [email protected] บทคัดย่อ โครงงานวิทยาการคอมพิวเตอร์ เรื่อง การพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจ ศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมามีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อ สนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2) ศึกษาความพึง พอใจในการใช้งานเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพมหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา พัฒนาโดยใช้ Visual Studio Code, XAMPP, React, NodeJS และData base MySQL ตามลำดับขั้นตอนในการพัฒนาระบบแบบ SDLC โดยใช้สถิติในการวิจัยได้แก่ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน ดังนั้นบทความวิจัยนี้เสนอการออกแบบและพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจ ศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ผู้จัดทำได้พัฒนาระบบส่วนต่างๆ จะแบ่งการใช้งาน ออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1) นักศึกษา กรอกใบสมัครสหกิจศึกษา กรอกใบ Job Description ตรวจเช็คสถานะ เอกสาร อัพโหลดไฟล์ และแก้ไขข้อมูลส่วนตัวได้ 2) อาจารย์นิเทศ ตรวจสอบเอกสาร อนุมัติสถานะ เพิ่มสถาน ประกอบการ เลือกนิเทศนักศึกษา อนุมัติสถานะเอกสาร และแก้ไขข้อมูลส่วนตัวได้ 3) สถานประกอบการ ประเมิน นักศึกษา และเปลี่ยนรหัสผ่าน และ 4) เจ้าหน้าที่สหกิจศึกษา โดยเจ้าหน้าที่สหกิจจะดูแลระบบสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข และเปลี่ยนรหัสผ่านได้ 1


คำสำคัญ: เว็บแอพพลิเคชั่น , สหกิจศึกษา, รีแอค ABSTRACT Computer Science Project on Web Application Development to Support Cooperative Education and Career Development Center Service Nakhon Ratchasima Rajabhat University has the objectives of 1) to develop a web application to support the service of the Cooperative Education and Career Development Center. Nakhon Ratchasima Rajabhat University 2) to study the satisfaction of using web applications to support the service of the Center for Cooperative Education and Career Development Nakhon Ratchasima Rajabhat University developed by using React, NodeJS, and Database MySQL according to the development steps. SDLC system using research statistics, including mean and standard deviation. Therefore, this research article proposes a web application design and development to support the cooperative education and professional development center service. Nakhon Ratchasima Rajabhat University The author has developed various parts of the system. It is divided into 4 main parts, namely 1) Students can fill out the cooperative education application form, complete the Job Description form, check document status, upload files, and edit personal information. select student supervision Document status approval and can edit personal information 3) establishment Assess students and password change, and 4) cooperative education officers The cooperative staff will administer the system to be able to add, delete, edit and change the password. Keywords: web application, cooperative education, react บทนำ ในปัจจุบันเว็บไซต์เข้ามามีบทบาทและมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการ เรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งนักศึกษาเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตและ 2


เทคโนโลยีไอที ทำให้วิถีชีวิตต้องการความทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ เว็บไซต์จึงเป็นแหล่งสารสนเทศที่ สำคัญสำหรับทุกคน เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ ข่าว การโฆษณาสื่อต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งสื่อสังคมออนไลน์ Social Network เช่น Facebook หรือ Twitter ที่สามารถตอบโจทย์การติดต่อสื่อสารได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีไอที ทำให้วิถีชีวิตต้องการความทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ดังนั้น เว็บไซต์จึง มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ให้ความสำคัญของการมีเว็บไซต์เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อการประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อการค้าขาย และหากมีการนำเสนอเว็บไซต์ในรูปแบบสวยงาม ค้นหาข้อมูลง่าย มีความน่าเชื่อถือ ก็จะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมหรือลูกค้าได้มากกว่า สื่อประเภทอื่น ๆ อีกด้วย การพัฒนาเว็บไซต์สำหรับกลุ่มนักพัฒนาในปัจจุบันต่างหันมาให้ความสนใจแนวทางการสร้างแอปแบบ ผสมผสาน (Hybrid) กันมากขึ้น ซึ่งเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ React โดยการสร้างแอปขึ้นมาเพียงชุด เดียว แต่สามารถแปลงเป็น Web App หรือ Mobile App ได้ทันที โดยการใช้ JavaScript เพียงภาษาเดียวในการ เขียนโค้ด โดย React เป็นเฟรมเวิร์คที่ออกแบบโดย Facebook ซึ่งสามารถแสดงผลและทำงานตรงกันในทุก แพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีไลบรารีที่สร้างมาสนับสนุนการทำงานให้เลือกใช้มากมาย จากแนวคิดการพัฒนาข้างต้นผู้วิจัยจึงมีความสนใจในการนำการพัฒนาเว็บไซด์ด้วย React มาพัฒนาเว็บแอ พลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนแบบสหกิจศึกษา โดยมี นโยบายให้แต่ละคณะเพิ่มแผนการศึกษาแบบสหกิจศึกษา ซึ่งเป็นการจัดแผนการศึกษาทางเลือกหนึ่งที่บูรณาการ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งสถาบันอุดมศึกษา นักศึกษาและสถานประกอบการ ด้วยเหตุดังกล่าว ตั้งแต่ปีการศึกษา 2551 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาจึงได้กำหนดให้หลักสูตระดับปริญญาตรีของคณะทุก หลักสูตร บรรจุแผนการศึกษาแบบสหกิจศึกษาไว้ควบคู่กับแผนการศึกษาแบบปกติ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับ นักศึกษา 1. วัตถุประสงค์ 1.1 เพื่อพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 1.2 ศึกษาความพึงพอใจในการใช้งานเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษา และพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 3


2. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง DEVELOPING AN INFORMATION SYSTEM SOLUTION WITH REACT BY : Viet Linh Vu (2020) งานวิจัยที่นำเสนอในวิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่ไลบรารี React JavaScript ที่พัฒนาโดย Facebook มี การนำบทความและการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับ React มาใช้เพื่อสาธิตคุณลักษณะเฉพาะ ข้อดี และข้อเสียของ ไลบรารี วิทยานิพนธ์ยังครอบคลุมถึงทฤษฎีเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Frameworks อีกสองรูปแบบที่ได้รับความนิยมและใช้ บ่อยเท่า ๆ กัน นั่นคือ Angular และ Vue เพื่อให้การเปรียบเทียบของเครื่องมือเหล่านี้หัวข้อของ front-end JavaScript frameworks ที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับการสนทนาภายในชุมชน IT เมื่อเร็วๆ นี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเฟรมเวิร์คจำนวนมากออกสู่ตลาด เฟรมเวิร์คเหล่านี้มีความหลากหลายในแง่ของคุณสมบัติและประสิทธิภาพ และ ทั้งหมดนั้นมีตัวเลือกและประโยชน์ที่หลากหลายสำหรับการพัฒนา front-end ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับ นักพัฒนาใหม่ที่จะเลือกเฟรมเวิร์คที่เหมาะสมสำหรับโครงการของพวกเขา งานวิจัยที่นำเสนอในวิทยานิพนธ์นี้เน้น ที่ React ไลบรารี JavaScript ที่พัฒนาโดย Facebook มีการนำบทความและการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับ React มาใช้เพื่อสาธิตคุณลักษณะเฉพาะ ข้อดี และข้อเสียของไลบรารี นอกจากนี้ วิทยานิพนธ์ยังครอบคลุมทฤษฎี เพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟรมเวิร์คอื่นๆ อีก 2 เฟรมที่ได้รับความนิยมและใช้บ่อยเท่าๆ กัน นั่นคือ Angular และ Vue เพื่อ เปรียบเทียบเฟรมเวิร์คเหล่านี้ กรณีศึกษายังใช้สำหรับการวิจัยครั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่างเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการนำ React ไปใช้ การพัฒนาโซลูชั่นไอที วิทยานิพนธ์ได้ผ่านขั้นตอนโดยละเอียดในการอธิบายการใช้ React ใน กรณีศึกษานี้ เพื่อให้การประเมินว่า React ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการอย่างไร จากที่นี่ ประโยชน์ของการใช้ React จะถูกวิเคราะห์และแสดงให้เห็นเพื่อช่วยแยกความแตกต่างของ React ออกจากตัวอื่น ผลสรุปของงานวิจัย ข้อดี React คือ มี Reuse Components กลับมาใช้ทำให้ลดการใช้ทรัพยากรมีระบบ DOM (Document Object Model) ทำให้แสดงผลเร็วมีสังคมที่ใหญ่ ทำให้มีวิธีการแก้ปัญหาหลายรูปแบบ ข้อเสีย React คือJSX ต้องการการพัฒนามากกว่านี้และไม่ใช่ Complete Framework การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันสำหรับค้นหาสถานบริการอู่ซ่อมรถบนระบบแผนที่ออนไลน์ โดย อนัญญา เดชะพันธ์และอติวิชญ์ มิตรงาม (2563) การวิจัยฉบับนี้ได้แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วนตามวัตถุประสงค์ ได้แก่ ส่วนที่ 1 เพื่อจัดทำฐานข้อมูล สถานบริการอู่ซ่อมรถในพื้นที่เทศบาลเมืองเขารูปช้าง และส่วนที่ 2 เพื่อออกแบบและจัดทำเว็บแอพพลิเคชัน 4


สำหรับค้นหาตำแหน่งสถานบริการอู่ซ่อมรถบนระบบแผนที่ออนไลน์ โดยผลการศึกษาพบว่าเทศบาลเมืองเขารูป ช้าง จังหวัดสงขลา มีสถานบริการอู่ซ่อมรถทั้งหมด 108 แห่ง ซึ่งเป็นสถานบริการอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์จำนวน 43 แห่ง สถานบริการอู่ซ่อมรถยนต์จำนวน 54 แห่ง และสถานบริการอู่ซ่อมรถบรรทุกจำนวน 11 แห่ง จากการ ออกแบบและจัดทำเว็บแอพพลิเคชัน โดยใช้ Google My Mapsเข้ามาช่วยในการทำแผนที่ดิจิตอล โดยมีการแสดง สถานบริการอู่ซ่อมรถและข้อมูลทั่วไปของสถานบริการอู่ซ่อมรถ ซึ่งได้นำเข้าฐานข้อมูลทั้งหมดลงใน มีการจัดเก็บ ข้อมูลในระบบฐานข้อมูล และมีการนำเสนอผ่านเว็บแอพพลิเคชัน ที่สามารถใช้งานได้ทันทีโดยใช้ชื่อเว็บแอพพลิเค ชัน “คิดจะซ่อม(รถ)...คิดถึงที่นี่” วิธีดำเนินการวิจัย 1. เครื่องมือการวิจัย ฮาร์ดแวร์ 1) Intel(R) Core(TM) i3-8100 CPU @ 3.60GHz 3.60 GHz 2) RAM: 8.00 GB Bus 2400 ซอฟต์แวร์ 1) Visual Studio Code 2) XAMPP 3) React 4) MySQL 5) NodeJS 2. กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาที่ลงทะเบียนวิชาสหกิจศึกษา เจ้าที่สหกิจศึกษา อาจารย์นิเทศ สถานประกอบการ 3. ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ให้ระบุขั้นตอน หรือระยะที่ดำเนินการวิจัยเป็นข้อ ๆ ตามลำดับการวิจัย การพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา โดยการพัฒนาระบบเป็นวงจรที่แสดงถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นลำดับขั้นตอนในการพัฒนาระบบ ซึ่ง SDLC ประกอบด้วยกิจกรรม 5 ระยะด้วยกัน ดังนี้ 1) การกำหนดปัญหา ศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์และเอกสาร คู่มือต่างๆ และงานวิจัยที่เกี่ยว ที่ได้จาก การสอบถามความต้องการจากผู้ใช้งานนอกจากนั้นจะต้องคอยสังเกตดูการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบที่ศึกษา 5


ท้ายที่สุดอาจจะต้องมีการสัมภาษณ์ผู้ที่มีหน้าที่ รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องในระบบ จากนั้นเป็นการรวบรวม แบบฟอร์มและรายงานต่างๆ เพื่อสรุปเนื้อหาและปัญหาในการจัดทำโครงการ 2) การวิเคราะห์ นำข้อมูลที่ศึกษาและรวบรวมมาทั้งหมดนำมาวิเคราะห์และวางแผนการปฏิบัติงาน และกำหนดขอบเขตที่ได้จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการออกแบบระบบ เพื่อให้ตอบสนองความ ต้องการของผู้ใช้อย่างสมบูรณ์ โดยจะแบ่งการทำงานของระบบ ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 สำหรับผู้ดูแลระบบ ส่วน ที่ 2 ผู้ใช้ 3) การออกแบบ ระบบดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดผลตามต้องการ งานออกแบบระบบ ประกอบด้วยงานออกแบบสถาปัตยกรรมระบบที่เกี่ยวข้อง 4) การพัฒนา โปรแกรมตามที่วิเคราะห์ระบบได้ออกแบบไว้ การเขียนชุดคำสั่งเพื่อสร้างเป็น ระบบงานทางคอมพิวเตอร์ขึ้นมา สามารถนำเครื่องมือเข้ามาช่วยในการพัฒนาโปรแกรมได้เพื่อช่วยให้ระบบงาน พัฒนาได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพ 5) การทดสอบ เมื่อโปรแกรมได้พัฒนาขึ้นมาแล้ว ยังไม่สามารถนำระบบไปใช้งานได้ทันทีจำเป็นต้อง ดำเนินการทดสอบระบบก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงเสมอ ควรมีการทดสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อน หากพบข้อผิดพลาด ก็ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง ทดสอบว่าระบบที่พัฒนาตรงตามความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ 4. สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่าสถิติ การพัฒนาระบบเว็บแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เมื่อได้พัฒนาระบบงานเสร็จสิ้นและได้ดำเนินการให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ ระบบงาน จากนั้นได้จัดทำการประเมินเพื่อประเมินหาความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบและประเมินประสิทธิภาพของ ระบบใน 3 ด้าน คือ 1) ด้านความสามารถในการทำงานตามความต้องการของผู้ใช้งานระบบ (Functional Requirement Test) 2) ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) 3) ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) มีผู้ตอบแบบสอบถามนักศึกษา 15 คน อาจารย์นิเทศ 3 คน สถานประกอบการ 2 คน และเจ้าหน้าที่ 1 คน 1) ระบบมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีค่าเป็น 5 2) ระบบมีประสิทธิภาพมาก มีค่าเป็น 4 3) ระบบมีประสิทธิภาพปานกลาง มีค่าเป็น 3 4) ระบบมีประสิทธิภาพน้อย มีค่าเป็น 2 5) ระบบมีประสิทธิภาพน้อยที่สุด มีค่าเป็น 1 6


เกณฑ์การประเมินจะพิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยของความพึงพอใจต่อการใช้งานระบบ และใช้เป็นตัวชี้วัด ประสิทธิภาพของระบบ ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ในการวัดค่าของ ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตหรือค่าเฉลี่ย (Mean) และวัดการกระจาย ของข้อมูลโดยใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยการคํานวน ค่าเฉลี่ยเลขคณิตหรือค่าเฉลี่ย (Mean) ใช้สูตร ̅ = ∑ ……………………………………………………………………………(1) เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม N แทน จ านวนคนในกลุ่ม ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตร .. = √ ∑ 2−(∑ ) 2 (−1) ……………………………………………..……(2) เมื่อ S.D. แทน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด ∑ 2 แทน ผลรวมของก าลังสองของคะแนนแต่ละตัว N แทน จ านวนคนในกลุ่ม ตารางที่ 1 แสดงเกณฑ์การก าหนดระดับความพึงพอใจต่อการใช้งานระบบเว็บแอพลิเคชัน ค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจ ระดับความพึงพอใจ 4.50 – 5.00 มากที่สุด 3.50 – 4.49 มาก 2.50 – 3.49 ปานกลาง 1.50 – 2.49 น้อย 1.00 – 1.49 น้อยที่สุด ผลการวิจัย 7


1. ผลการพัฒนาระบบเว็บแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ ผู้วิจัยได้ดำเนินการพัฒนาระบบเว็บแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและ พัฒนาอาชีพ ตามขั้นตอนการวิจัยในระยะที่ 1 โดยนำข้อมูลจากการศึกษา และวิเคราะห์ มาจัดทำระบบไลน์เว็บ แอพลิเคชัน แสดงดังภาพ ฏ ภาพที่ 1 หน้าเข้าสู่ระบบ ภาพที่ 2 หน้ากรอกใบสมัครสหกิจ 8


ภาพที่ 3 หน้ากรอกใบสมัคร Job description ภาพที่ 4 หน้าอัพโหลดเอกสาร 2. ผลการทดลองใช้ระบบ เว็บแอพลิเคชัน ผู้วิจัยดำเนินการทดลองใช้ระบบการพัฒนาระบบเว็บแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สห กิจศึกษา และพัฒนาอาชีพ ที่พัฒนาขึ้น กับนักศึกษา สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จำนวน 15 คน อาจารย์นิเทศ จำนวน 3 คน สถานประกอบการ จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 1 คน รวมทั้งหมด จำนวน 21 คน โดยมีการ 9


ทดสอบก่อนเรียนหลังการเรียนรู้ และสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อระบบ จากนั้นนำผลการเรียนรู้มา วิเคราะห์ด้วยค่าสถิติพื้นฐานเทียบกับเกณฑ์และสรุปผล แสดงดังตารางที่ 1 ตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจ รายการ ̅ S.D. ระดับความคิดเห็น 1. ด้านใช้งานง่าย 4.14 0.72 มาก 2. ด้านความสวยงาม 4.33 0.73 มาก 3. ด้านข้อมูลถูกต้อง 4.28 0.71 มาก 4. ด้านข้อมูลครบถ้วน 4.09 0.88 มาก 5. ด้านมีประโยชน์ 4.23 0.88 มาก โดยรวม 4.21 0.09 มาก จากตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจของการใช้งาน พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจในทุกคำถามอยู่ในระดับมาก (̅ = 4.21, S.D. = 0.09) สรุปผลการวิจัย การพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา โดยนำเสนอข้อมูลเชิงเว็บแอพพลิเคชั่น ประกอบด้วยขั้นตอนการดำเนินงาน ได้แก่ การวิเคราะห์ การออกแบบ การพัฒนา การดำเนินการ การประเมิลผล โดยสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ เว็บ แอพพลิเคชั่นเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สามารถทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้ โดยมีเนื้อหาดังนี้ ระบบการเข้าสู่ระบบ ระบบเปลี่ยนรหัสผ่าน ระบบประเมิน นักศึกษา ระบบจัดการเอกสาร ระบบจัดการสมาชิก ระบบจัดการสถานประกอบการ ระบบติดตามสถานะ นักศึกษา อภิปรายผลการวิจัย React และ Node.js เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญสำหรับนักพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันในปัจจุบัน เนื่องจาก ทั้งสองเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากในการสร้างแอปพลิเคชันในรูปแบบ Single Page Application (SPA) และ Full Stack Application React เป็นไลบรารีของ JavaScript ที่ใช้สำหรับสร้าง User Interface ในแอป พลิเคชันเว็บ โดย React มีความเป็นมาตรฐานในการใช้ Virtual DOM ซึ่งช่วยให้การอัปเดต UI มีประสิทธิภาพ มากขึ้น และให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าการใช้ DOM แบบเดิม Node.js เป็น platform ที่ใช้สำหรับเขียน 10


แอปพลิเคชันเว็บไซต์ที่ใช้งานฝั่งเซิร์ฟเวอร์ โดย Node.js ใช้ JavaScript เหมือนกับ React และสามารถทำงาน ร่วมกับ React ได้ โดยทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน Full Stack ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Node.js ยังมี การใช้งานแบบ Non-blocking I/O ดังนั้น การใช้ React และ Node.js ร่วมกันจึงช่วยให้สามารถสร้างแอปพลิเค ชันที่มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงได้ โดยทั้งสองมีความสามารถในการทำงานร่วมกันได้สมบูรณ์ และ สามารถใช้เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ข้อเสนอแนะ การพัฒนาเว็บแอพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา ควรมีการได้รับการพัฒนาต่อเพราะบางระบบยังไม่สมบูรณ์เช่น ระบบจัดการหนังสือส่งตัว และ หนังสือขอความอนุเคราะห์ ควรจะสามารถ Export เป็นเอกสารราชการได้ ฝากไว้ให้คิด เอกสารอ้างอิง ชุติมา ปาลวิสุทธิ์. (2562). การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ สำหรับนักเรียน ช่วงชั้นที่ 2 โรงเรียนอนุบาลราชบุรี. การค้นคว้าอิสระนี้เป็นส่วนหนึ่งของ การศึกษาตามหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา แผน ข ระดับปริญญา มหาบัณฑิต ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. วรรณรัตน์ ลาวัง, อุรีรัฐ สุขสวัสดิ์ชน, จักริน สุขสวัสดิ์ชนและ อโนชา ทัศนาธนชัย. (2562). การพัฒนา แอพพลิเคชั่น ‘สมาร์ทการดูแล’ เพื่อสนับสนุนผู้ดูแลคนพิการทางการเคลื่อนไหว. มหาวิทยาลัยบูรพา. อนัญญา เดชะพันธ์และอติวิชญ์ มิตรงาม. (2563). การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันสำหรับค้นหา สถานบริการอู่ซ่อม รถบนระบบแผนที่ออนไลน์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา88. ปี ที่ 2 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม 2563 : หน้า 86-104. Mohammed Jahangir. (2020). Social Awareness Web Application University of Stuttgart. degree of Bachelor of Science in Software Development. Faculty of Engineering and Science Department of Computer Science. CORK INSTITUTE OF TECHNOLOGY. Viet Linh Vu. (2020). DEVELOPING AN INFORMATION SYSTEM SOLUTION WITH REACT. Degree programme in Business Information Technology Bachelor’s Thesis. LAB UNIVERSITY OF APPLIED SCIENCES LTD. 11


การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP Web Application Development for Online TTNINTERGROUP อภิสิทธิ์ นาคไธสง1 * วันเพ็ญโพธิ์เกษม2 สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ 1, 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา [email protected]* บทคัดย่อ โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP และการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบ โดยมีขั้นตอนการดําเนินงานดังนี้ 1) การศึกษาและรวมรวบ ข้อมูล 2) การวิเคราะห์และออกแบบระบบ 3) การพัฒนาระบบ4) การทดสอบระบบ 5) ติดตั้งระบบและจัดทําเอกสาร ประกอบการใช้งานการพัฒนาระบบในครั้งนี้มีระบบดังนี้ ระบบที่ 1 ระบบเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP ใช้ระบบฐานข้อมูล phpMyAdmin MySQL พัฒนาโปรแกรมที่โดย Visual Studio Code โดยมีขอบเขต จัดการข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า จัดการข้อมูลสมาชิก จัดการข้อมูลสินค้า แสดงรายงานข้อมูลพื้นฐาน เช่น รายงานรายได้รายวัน รายเดือน และรายปี ระบบที่ 2 ระบบการเขียนเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ ร้าน TTNINTERGROUP โดยพัฒนาด้วย ภาษา PHP ระบบที่พัฒนาประกอบด้วย การจัดการข้อมูลสินค้า การสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การเข้าสู่ระบบ ตะกร้า สินค้าและตามความต้องการของระบบ โครงงานนี้ได้มีการจัดทำแบบประเมินความพึงพอใจ โดยมีข้อมูลการประเมินความพึงพอใจจากผู้ใช้งานระบบ จำนวน 6 คน แล้วนำผลประเมินความพึงพอใจหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการดำเนินงานที่ได้สามารถสรุป ได้ว่าแบบสอบถามความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อระบบโมบายสำหรับร้าน TTNINTERGROUP โดยรวมอยู่ในระดับดี ABSTRACT Computer Science Projects The objective is to develop TTNINTERGROUP's online web application and system user satisfaction assessment, with the following operating procedures: 1) Study and data collection, 2) Analysis and design of the system, 3) System development4) 5) System testing and documentation for the development of the system is as follows: Which sometimes has to do an assessment of what information must be used from the system of 6 people and then bring the results that have been evaluated It can be concluded who Please follow, please follow the example of a mobile system for the store. TTNINTERGROUP good vocabulary 12


บทนำ ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวันของมนุษย์การนําเอา เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ก็เพื่อที่จะช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มประสิทธิภาพของการดําเนินงานที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นปัจจัยหลักที่สําคัญของการดําเนินงาน การนําเอาคอมพิวเตอร์มา ใช้ก็เพื่อจัดการข้อมูลให้มีความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยํามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทํางาน ที่เกี่ยวกับ การจัดการสินค้าไม่ว่าจะเป็น การสั่งซื้อสินค้า การคํานวณค่าใช้จ่าย อีกทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีส่วนช่วยให้ ผู้ใช้งานสามารถติดต่อกลับผู้ให้บริการที่ง่ายดาย สะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลาในการเข้ารับบริการ เนื่องจากทางร้าน TTNINTERGROUP ไม่มีเว็บไซต์ในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ จึงทำให้ ผู้บริโภคต้อง มาดูสินค้าด้วยตนเองที่หน้าร้านจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นการเสียเวลาพอสมควรหากว่าผู้บริโภค ต้องการที่ จะซื้อสินค้าจากทางร้านแต่อยู่ห่างจากร้านจัดจำหน่ายมากหรือเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดในการเลือก ซื้อ สินค้า ทั้งนี้การที่มีเว็บไซต์ในการซื้อขายสินค้า สามารถซื้อขายสินค้าได้ 24ชั่วโมง จึงขจัดปัญหา ข้อจำกัด ทางด้านเวลาออกไป สามารถทำให้เรานำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ มานำเสนอผ่าน อินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา และหลากหลายรูปแบบเช่นการนำเสนอสินค้าใหม่ๆมาเสนอขายได้ ตลอดเวลา จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้จัดทำจึงได้ทำเว็บพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่สนใจ เยี่ยมชมผ่านทางเว็บไซต์ที่เรา จัดทำขึ้น เพื่อ เป็นอีกทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคเอง ซึ่งเว็บไซต์นี้จะนำเสนอข้อมูล เกี่ยวกับ สินค้าออนไลน์ ร้าน TTNINTERGROUP 1. วัตถุประสงค์การวิจัย 1 เพื่อพัฒนาระบบเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP 2 เพื่อประเมินความพึงพอใจผู้ใช้เว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP 13


วิธีดำเนินการวิจัย 1. ขั้นตอนการดำเนินการวิจัยประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1 รวบรวมความต้องการของระบบ จะเก็บความต้องการของระบบหรือคุณสมบัติที่ระบบควรจะ มี หน้าที่หลักของ ระบบที่จะต้องทําจากการรวบรวมข้อมูล 2 วิเคราะห์และออกแบบระบบ เมื่อได้ความต้องการของระบบจากผู้ใช้งานแล้วเพราะผู้จัดทำวิเคราโดย จะต้อง นํามาทําการออกแบบว่าระบบที่จะทําเป็นอย่างไร มีส่วนติดติอผู้ใช้แบบไหน ฐานข้อมูลเป็นอะไร ใช้เทคโนโลยีใดในการสร้าง ระบบ 3 พัฒนาระบบ จะนําสิ่งที่ได้ออกแบบมาทําการสร้างระบบ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างฐานข้อมูล จะใช้มายเอสคิว แอล (MySQL) ในส่วนของการติดต่อผู้ใช้และการแสดงผลจะใช้แสดงในลักษณะของ เว็บเพจ (Web Page) จะพัฒนาโดยใช้ ภาษา PHP 4 ทดสอบระบบ เป็นการทดสอบว่าระบบที่ได้พัฒนาขึ้นทํางานได้ดี ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น ถ้าพบข้อผิดพลาดก็ จะสามารถแก้ไขในขั้นตอนนี้ได้เลย การทดสอบระบบจะทําการทดสอบด้วยกัน 5 การดูแลปรับปรุงระบบ จะเป็นการดูแลระบบไม่ให้เกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดหรือถ้ามีคุณสมบัติใหม่ที่ผู้ใช้งาน ต้องการ ก็ทําการวิเคราะห์ความต้องการอีกครั้ง 2. เครื่องมือการวิจัย 1. คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่ใช้พัฒนามีดังต่อไปนี้ 1.1 Intel(R) Core(TM) i3-10105f CPU @ 3.70 GHz 1.2 RAM: 16.00 GB Bus 3200 1.3 VGA: Nvidia GTX 1050 IT 4 GB 1.4 Memory: SSD M.2 500 GB , SSD 120 GB 2.โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software) ที่ใช้พัฒนาดังนี้ 2.1 Adobe Dreamweaver CS6 2.2 Adobe Photoshop CS6 2.3 Visual Studio Code 2.4 MySql 2.5 PHP 2.6 Web browser (Google Chrome , Microsoft Edge) 3. กลุ่มเป้าหมาย บุคคลที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าร้าน TTNINTERGROUP 4. สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่าสถิติ (Dependent t-test) โดยนำผลที่ได้เทียบกับเกณฑ์การประเมิน (พิสุทธา อารีราษฎร์. 2550 : 176) ดังนี้ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 – 5.00 หมายความว่า ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50 – 4.49 หมายความว่า ระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.50 – 3.49 หมายความว่า ระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.50 – 2.49 หมายความว่า ระดับน้อย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.00 – 1.49 หมายความว่า ระดับน้อยที่สุด 14


ผลการวิจัย 1. ผลการพัฒนาระบบขายของออนไลน์ ร้าน TTNINTERGROUP ระบบขายของออนไลน์กรณีศึกษาร้าน TTNINTERGROUP ได้ทำการวิเคราะห์ออกแบบระบบการจัดการของ ร้านค้า และหน้าเว็บไซต์โดยแบ่งการทำงานของระบบ และจำแนกส่วนต่าง ๆ ของการทำงานออกเป็น 2 ส่วนที่สำคัญดังนี้ 1 พัฒนาส่วนสมาชิก 2 พัฒนาส่วนผู้ดูแลระบบ ภาพที่ 1 ระบบหน้าหลักของหน้าเว็บไซด์. จากภาพที่ 1 ระบบหน้าหลัก แสดงส่วนแถบเมนูคำสั่ง สมัครสมาชิก, รายการสินค้า, สินค้าในตะกร้า, ค้นหา ข้อมูล สินค้า, ช่องสำหรับเข้าสู่ระบบสำหรับ สมาชิก โดยการกรอก Username, Password แถบหมวดรายการสินค้า แถบรายการ สินค้าพร้อม รายละเอียดของสินค้า ชื่อสินค้า, ราคา, จำนวนสินค้า ดังภาพที่ 4-1 (ซึ่งการจะซื้อสินค้ากับทางร้านจะต้องสมัคร เป็นสมาชิก) 2. ผลการทดลองใช้ระบบขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP ผู้วิจัยดำเนินการทดลองใช้ระบบของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP ที่พัฒนาขึ้น กับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร จำนวน 30 คน โดยมีการทดสอบก่อนเรียนหลังการเรียนรู้และสอบถามความพึง พอใจของนักศึกษาที่มีต่อระบบ จากนั้นนำผลการเรียนรู้มาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติพื้นฐานเทียบกับเกณฑ์และสรุปผล แสดงดัง ตารางที่ 1 15


ตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านฟังก์ชันการใช้งานของระบบ จากตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านฟังก์ชันการใช้งานของระบบ พบว่า ระดับความพึงพอใจ อยู่ใน ระดับ มาก ตารางที่ 2 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านความถูกต้องและแม่นยำของระบบ จากตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านความถูกต้องและแม่นยำของระบบ พบว่า ระดับความพึงพอใจ อยู่ ในระดับ มาก 16


ตารางที่ 3 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานระบบ จากตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานระบบ พบว่า ระดับความพึง พอใจ อยู่ในระดับ มาก อภิปรายผลการวิจัย การพัฒนาของระบบขายสินค้าออนไลน์ กรณีศึกษาร้าน TTN INTERGROUP สามารถรองรับ การใช้งานในด้านการ ซื้อขายสินค้า และในด้านของการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เริ่มต้น ด้วยผู้จัดทำได้เข้าไปศึกษา และเก็บรวบรวม ข้อมูลรายละเอียดปัญหา การด าเนินงานจากการ สอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลจากร้านค้า ทำให้ทราบถึงความต้องการที่ แท้จริงของผู้ใช้งานประกอบกับ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาทั้งหมดถูกนำมาวิเคราะห์และจัดเป็นโครงสร้างของระบบขายสินค้า ออนไลน์ กรณีศึกษาร้าน TTN INTERGROUP โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า และทำให้ ดำเนินงานได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถพัฒนาไปใช้กับกิจการที่มีลักษณะการ ดำเนินกิจการประเภทเดียวกัน โปรแกรมนี้ได้ช่วยทำให้การดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้องมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าผู้จัดทำได้ทราบถึงปัญหาการดำเนินงาน เช่น การจัดเก็บข้อมูลด้วยการจัดเก็บ ซึ่งอาจจะทำให้ข้อมูลสูญ หาย การค้นหาข้อมูลไม่สะดวกเป็นไปอย่างล่าช้าการ จัดทำสต็อกสินค้าบางครั้งอาจตกหล่น การทำบัญชีรายรับ และรายจ่าย อาจมีการคำนวณผิดพลาด เป็นต้น ดังนั้นทางคณะผู้จัดทำจึงได้จัดทำระบบการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นขายของออนไลน์ร้าน TTNINTERGROUP โดยใช้โปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6,เป็นเครื่องมือในการ พัฒนาเว็บไซต์และใช้โปรแกรม SQL Server 2.5.10 ในการจัดการฐานข้อมูลสามารถจัดการกับ ข้อมูลต่าง ๆ ได้ เช่น ข้อมูลผู้ดูแลระบบ, ข้อมูลสินค้า, ข้อมูล ประเภทสินค้า, การสั่งซื้อสินค้า, ข้อมูล การรับสินค้า รวมถึงการออกรายงานต่างๆ ได้ เช่น ข้อมูลผู้ดูแลระบบ, ข้อมูลสินค้า, ข้อมูลประเภทสินค้า, การสั่งซื้อสินค้า, ข้อมูล การรับสินค้า รวมถึงการออกรายงานต่าง ๆ เช่น การออกรายงานสรุปยอดสั่งซื้อ , การออกรายงาน สรุปยอดขาย ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานมีความสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนการด าเนินงาน ลดความ ผิดพลาดในระบบงานเก่า และข้อมูลสูญหาย ช่วยให้การตรวจสอบ หรือค้นหาข้อมูลเป็นไปอย่าง สะดวก และรวดเร็วส่งผลให้ การด าเนินงานมีความน่าเชื่อถือมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อเสนอแนะ 1.ควรทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ และพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม จะ ได้นำความต้องการมา วิเคราะห์และออกแบบ เพื่อจะได้เข้าใจกับรายละเอียดของระบบงานมากขึ้น 2.ควรศึกษาภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากที่โปรแกรมใช้อยู่แล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ ควบคุมและนำเสนอของ ระบบ 17


เอกสารอ้างอิง บทที่ 2 ทฤษฎีการขายไอดาส. [ม.ป.ป.]. [ออนไลน์]. วันที่สืบค้น 20 กันยายน 2560. จาก : http://mycerebrum.blogspot.com/2010/06/aidas.html บทที่ 2 แนวคิด 10 ปัจจัยการขาย. [ม.ป.ป.]. [ออนไลน์]. วันที่สืบค้น 20 กันยายน 2560. จาก : www.hemsleyfraser.co.uk บทที่ 2 พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. [ม.ป.ป.]. [ออนไลน์]. วันที่สืบค้น 21 กันยายน 2560. จาก : http://elearning.northcm.ac.th/it/lesson10.asp บทที่ 2 ระบบจัดการฐานข้อมูล. [ม.ป.ป.]. [ออนไลน์]. วันที่สืบค้น 21 กันยายน 2560. จาก : http://www.pongkorn.net/?article:194 โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาระบบ Sublime Text . [ม.ป.ป.]. [ออนไลน์]. วันที่สืบค้น 22 กันยายน 2560. จาก : https://software.thaiware.com/13452-Sublime-Text-Download.html ภาษาที่ใช้พัฒนาระบบ PHP. [ม.ป.ป.]. [ออนไลน์]. วันที่สืบค้น 21 กันยายน 2560. จาก : http://www.mindphp.com 18


ระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส Mobile Application System for Ordering Food at LAAB YASO Restaurant อรงณ์กรณ์ รัตนา1* วันเพ็ญ โพธิ์เกษม 2 เทคโนโลยีสารสนเทศ1 , 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา [email protected]* บทคัดย่อ โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบ ยโส และประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบ โดยมีขั้นตอนการด าเนินงานดังนี้ 1) การศึกษาและรวมรวบข้อมูลใช้เทคนิคการ สัมภาษณ์ และศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2)การวิเคราะห์ระบบ ด้วย Workflow Diagram, Hierarchy chart, Data Flow Diagram, Data Dictionary และ E-R Diagram 3) การพัฒนาระบบใช้ระบบฐานข้อมูล phpMyAdmin MySQL Visual Studio Code โดยแอปพลิเคชัน App inventor เขียนผ่าน web browser 4) การทดสอบระบบ 5) ติดตั้งระบบและ จัดท าเอกสารประกอบการใช้งาน การพัฒาระบบครั้งนี้มีระบบดังนี้ ระบบที่ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผู้เข้าใช้งาน เพิ่มและแก้ไข ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน จัดการข้อมูลอาหาร เพิ่ม ลบ แก้ไข ท ารายการสั่งซื้อและยกเลิกรายการและ ค านวณราคาอาหาร โครงงานนี้ได้มีการจัดท าแบบประเมินความพึงพอใจ โดยมีข้อมูลการประเมินความพึงพอใจจากผู้ใช้งานระบบ จ านวน 6 คน แล้วน าผลประเมินความพึงพอใจหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการด าเนินงานที่ได้สามารถสรุป ได้ว่าแบบสอบถามความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อระบบโมบายส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส โดยรวมอยู่ในระดับดี (x ̅= 4.2 S.D = 0.6) ค าส าคัญ: แอปพลิเคชัน ABSTRACT This information technology project aims to develop a mobile application system for ordering food at Labyoso restaurant. and assess the satisfaction of system users The procedures are as follows: 1) Study and collect data using interview techniques. and study from relevant documents and research 2) System analysis using Workflow Diagram, Hierarchy chart, Data Flow Diagram, Data Dictionary and E-R Diagram 3) System development using phpMyAdmin MySQL Visual Studio Code database by App inventor application written via web browser 4) Analysis Test the system 5) Install the system and prepare documentation for use. The development of this system has the following systems: a system that can verify user rights Add and edit user personal information Manage food information, add, delete, edit, make purchase orders and cancel items and food price calculator This project has prepared a satisfaction assessment form. There are satisfaction assessment data from 6 users of the system, and the satisfaction assessment results are used to find the mean, percentage, standard deviation. The results of the results can be concluded that the satisfaction questionnaire of the sample group toward the mobile system for ordering food at Labyoso restaurant. overall is at a good level Keyword: Applications 19


บทน า ร้านลาบยโส เป็นร้านอาหารขนาดกลาง ปัจจุบันยังไม่มีการน าเทคโนโลยีใดๆ ที่เข้ามาช่วยในการด าเนินงาน เช่น การสั่งอาหาร การค านวณราคา ปัจจุบันการด าเนินงานเป็นการเขียนด้วยมือ ในการบันทึกรายการอาหาร การค านวณยอดขาย ของแต่ละครั้ง จึงมักเกิดความล่าช้าและเกิดข้อผิดพลาดในการท างาน กระดาษรายการสั่งอาหารหาย ตัวหนังสืออ่านไม่ออก หรือการคิดเงินผิดพลาด ทางร้านจึงต้องการระบบที่จะช่วยให้การ ด าเนินงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น การบันทึกรายการอาหาร ค านวณราคา และจัดท ารายงาน รายได้ของแต่ละวัน ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาของระบบการท างาน ผู้จัดท าจึงได้พัฒนาระบบโมบายแอปลิเคชันส าหรับสั่งอาหาร ร้านลาบยโส ประกอบด้วย การสั่งอาหาร จัดการข้อมูลอาหาร ค านวณค่าอาหาร เข้ามาช่วยในการบันทึกรายการอาหาร ค านวณราคา และจัดท ารายการต่างๆ ส าหรับร้านลาบยโส เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว และเพื่อให้พนักงานท างานอย่างเป็นระบบ เพื่อ ลดภาระความยุ่งยากให้กับผู้ใช้งานในการด าเนินธุรกิจ ลดความ ผิดพลาดให้น้อยที่สุด 1. วัตถุประสงค์การวิจัย 1.เพื่อพัฒนาระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส 2.เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบโมบายแอปพลิเคชั่นส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส 2. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจร้านอาหาร หมายถึง การท าธุรกิจที่เกี่ยวกับการท าอาหาร หรือขนม ทั้งในรูปแบบการขายให้นั่งกินที่ร้าน หรือ ขายให้ซื้อกลับไปกินที่บ้าน แต่ธุรกิจร้านอาหารนี้ไม่ได้นับรวมโรงงานผลิตอาหารที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมมาใช้ในการผลิต 1.1 ประเภทของธุรกิจอาหาร ร้านอาหาร สามารถสรุปตามประเภทอาหารและ ลักษณะการให้บริการ ดังนี้ 1.1.1 การแบ่งประเภทอาหารตามลักษณะการให้บริการได้ 4 ประเภท ได้แก่ อาหารประเภทชุด อาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ อาหารประเภทสุกี้ อาหารประเภทปิ้งย่าง 1.1.2 การแบ่งประเภทอาหารตามขนาดของร้านได้ 2 ประเภท ได้แก่ ร้านขนาดเล็ก และร้านขนาดใหญ่ โดย ก าหนดให้ร้านที่มีพื้นที่ขายโดยมีขนาดต่ ากว่า 100 ตารางเมตรเป็นร้านขนาดเล็ก และร้านที่มีพื้นที่ขายโดยมีขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตร เป็นร้านขนาดใหญ่ 1.1.3 การแบ่งประเภทอาหารตามบรรยากาศของร้านได้ 2 ประเภท ได้แก่ ร้าน บรรยากาศหรูมากและร้านที่มีบรรยากาศหรูน้อย โดยพิจารณาจากการใช้แสงและบรรยากาศภายในร้านลักษณะ การตกแต่งร้าน การศึกษาประเภทของร้านอาหาร เพื่อให้สามารถน าไปสรุปปัจจัยในการออกแบบ และจัดท าเครื่องมือในการ วิจัย เพื่อดูว่าปัจจัยใดที่มีผลต่อการออกแบบสภาพแวดล้อมของร้านอาหารที่ไปส่งผลต่อความน่าเข้าร้าน Android เป็นระบบส าหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ค เริ่มพัฒนา โดยบริษัท Android Inc. จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยGoogleและน า Android ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Alliance ทางกูเกิ้ลได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆด้วยภาษาจาวาและควบคุมอุปกรณ์ผ่านทาง ชุด Java libraries ที่Googleพัฒนาขึ้น 20


โดย Android เป็นระบบปฎิบัติการ OS หรือแพลตฟอร์ม ที่จะใช้ควบคุมการท างานบนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคต่างๆ ส าหรับมือถือและอุปกรณ์พกพา โดยมี Google,T-Mobile,HTC, Qualcomm,Motorola และบริษัทชั้นน าอีกมากมายร่วม พัฒนาโปรเจ็กต์ แอนดรอยด์ ผ่านกลุ่มพันธมิตรเครื่องมือสื่อสารระบบปิด(Open Hendset Alliance) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรชั้น น าระดับนานาชาติด้านเทคโนโลยีและเครื่องมือสื่อสารเคลื่อนที่ ซึ่ง Android ประกอบด้วยระบบปฎิบัติการ ไลบรารี่ เฟรม เวิร์ค และซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่จ าเป็นในการใช้พัฒนา ซึ่งเทียบเท่ากับ Windows Mobie,Palm OS,Symbian,OpenMoKoและ Maemo โดยใช้องค์ประกอบที่เป็นโอเพนซอร์สหลายอย่าง เช่นLinuxKernel,SSL,OpenGL,FreeTypeSQLiteWebKit และ เขียนไลบรารี่เฟรมเวิร์คของตัวเองเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดจะโอเพนซอร์ส ใช้ (Apache License) ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายใน การส่งเสริมนวัตกรรมบนเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่าแพลตฟอร์มโมบายทั่วไปที่มีอยุ่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ การน าเสนอมิติใหม่ของแพลตฟอร์มระบบเปิดให้แก่นักพัฒนาจะช่วยท าให้กลุ่มคนเหล่านี้ท างานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น โดย แอนดรอยด์ จะช่วยเร่งและผลักดันบริการระบบสื่อสารรูปแบบใหม่ไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กู เกิลแอนดรอยด์ เป็นชื่อเรียกของทางการ เนื่องจากปัจจุบันนี้ บริษัทกูเกิลเป็นผู้ที่ถือสิทธิบัตรในตราสัญญลักษณ์ ชื่อ และ รหัส ต้นฉบับ(Source Code) ของแอนดรอยด์ ภายใต้เงื่อนไขการพัฒนาแบบ GNL โดยเปิดให้นักพัฒนา(Developer) สามารถน า รหัสต้นฉบับปพัฒนาแต่งได้อย่างเปิดเผย(Open source) ท าให้แอนดรอยด์มีผู้เข้าร่วมพัฒนาเป็นจ านวนมากและพัฒนาไปได้ อย่างรวดเร็ว วิธีด าเนินการวิจัย 1. ขั้นตอนการด าเนินการวิจัยประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1.1 รวบรวมความต้องการของระบบ 1.2 ความต้องการของระบบ 1.3 ออกแบบระบบโดยท าการออกแบบ 1.4 พัฒนาระบบโดยเริ่มจาก 1.4.1 เข้าใจปัญหา (Problem Recognition) 1.4.2 ศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) 1.4.3 วิเคราะห์ (Analysis) 1.4.4 ออกแบบ (Design) 1.4.5 บ ารุงรักษา (Maintenance) 1.5 เก็บรวบรวมข้อมูล สรุป วิเคราะห์ และจัดท าคู่มือการใช้งานระบบ 2. เครื่องมือการวิจัย 2.1 อุปกรณ์เคลื่อนที่หรือสมาร์ทโฟน 2.2 คอมพิวเตอร์ 2.3 โปรแกรมที่ใช้ Appinventor ใช้ในการเขียนโมบายแอปพิเคชันที่สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ได้ 2.4 ฐานข้อมูล MySQL 3. กลุ่มเป้าหมาย 3.1 พนักงาน และ แม่ครัว ร้านลาบยโส 3.2 กลุ่มตัวอย่าง คือนักศึกษาจ านวน 6 คน 21


4. สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่าสถิติ (Dependent t-test) โดยน าผลที่ได้เทียบกับเกณฑ์การประเมิน (พิสุทธา อารีราษฎร์. 2550 : 176) ดังนี้ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 – 5.00 หมายความว่า ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50 – 4.49 หมายความว่า ระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.50 – 3.49 หมายความว่า ระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.50 – 2.49 หมายความว่า ระดับน้อย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.00 – 1.49 หมายความว่า ระดับน้อยที่สุด ผลการวิจัย 1. ผลการพัฒนาระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส ผู้วิจัยได้ด าเนินการพัฒนาระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโสตามขั้นตอนการวิจัยในระยะที่ 1 โดยน าข้อมูลจากการศึกษา และวิเคราะห์มาจัดท าระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโสและเครื่องมือของ กิจกรรม แสดงดังภาพที่ 1 ภาพที่ 1 ระบบสั่งอาหารร้านลาบยโส จากภาพที่ 1 ระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่มออเดอร์เพื่อสั่งอาหาร หรือ ยกเลิก เพื่อหารายการอาหารใหม่ 2. ผลการทดลองใช้ระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส ผู้วิจัยด าเนินการทดลองใช้ระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส ที่พัฒนาขึ้น กับนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศจ านวน 6 คน โดยมีการทดสอบก่อนเรียนหลังการเรียนรู้และสอบถามความพึงพอใจ ของนักศึกษาที่มีต่อระบบ จากนั้นน าผลการเรียนรู้มาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติพื้นฐานเทียบกับเกณฑ์และสรุปผล แสดงดัง 22


ตารางที่ 1 ด้านความถูกต้องและท างานได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ รายการ S.D. ระดับความคิดเห็น 1. ความถูกต้องของระบบในการเพิ่ม ลบ แก้ไข ค้นหาข้อมูล 4.5 0.5 ระดับมาก 2. ระบบท างานได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน 4 0.6 ระดับมาก 3. ความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลในระบบ 4.33 0.7 ระดับมาก โดยรวม 4.28 0.6 ระดับมาก จากตารางที่ 1 ผลการผลการประเมินความพึงพอใจ พบว่า ความพึงพอใจในระดับคุณภาพมาก (̅̅=4.8) 3. ผลการศึกษาระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโส ผู้วิจัยด าเนินการสอบถามความรู้ความเข้าใจในการใช้ระบบ ของนักศึกษาที่มีต่อระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่ง อาหารร้านลาบยโสหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จสิ้น จากนั้นน าผลการสอบถามมาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติพื้นฐานเทียบกับ เกณฑ์และสรุปผล แสดงดังตารางที่ 2 ตารางที่ 2 ด้านประสิทธิภาพ รายการ S.D. ระดับความคิดเห็น 1. ประสิทธิภาพ / ความรวดเร็วในการตอบสนอง ของระบบ 4.33 0.5 ข้อความ 2. ความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานของระบบ 4.17 0.7 ข้อความ 3. ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ 4 0.8 4. ภาพรวมในการท างานของระบบ 4.33 0.5 ข้อความ โดยรวม 4.21 0.6 ข้อความ จากตารางที่ 2 ผลการประเมินด้านประสิทธิภาพพบว่า ความพึงพอใจในระดับคุณภาพมาก (=4.21) ตารางที่ 2 ด้านประสิทธิภาพ รายการ S.D. ระดับความคิดเห็น 1. ประสิทธิภาพ / ความรวดเร็วในการตอบสนอง ของระบบ 4.33 0.5 ข้อความ 2. ความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานของระบบ 4.17 0.7 ข้อความ 3. ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ 4 0.8 4. ภาพรวมในการท างานของระบบ 4.33 0.5 ข้อความ โดยรวม 4.21 0.6 ข้อความ จากตารางที่ 3 ผลการประเมินด้านประสิทธิภาพพบว่า ความพึงพอใจในระดับคุณภาพมาก (=4.21) 23


อภิปรายผลการวิจัย ระบบโมบายแอปพลิเคชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบยโสได้ด าเนินงานตามแนวทางSDLCดังนี้ 1) การศึกษาและรวม รวบข้อมูลใช้เทคนิคการสัมภาษณ์ และศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2)การวิเคราะห์ระบบ ด้วย Workflow Diagram, Hierarchy chart, Data Flow Diagram, Data Dictionary และ E-R Diagram 3) การพัฒนาระบบ 4) การ ทดสอบระบบ 5) ติดตั้งระบบและจัดท าเอกสารประกอบการใช้งาน การพัฒาระบบครั้งนี้มีระบบดังนี้ ระบบโมบายแอปพลิเค ชันส าหรับสั่งอาหารร้านลาบ ใช้ระบบฐานข้อมูล phpMyAdmin MySQL พัฒนาโปรแกรมโดย Visual Studio Code โดย แอปพลิเคชัน App inventor เขียนผ่าน web browser ระบบที่ พัฒนาประกอบด้วย เพิ่มและแก้ไขข้อมูลส่วนตัวของ พนักงาน จัดการข้อมูลอาหาร เพิ่ม ลบ แก้ไข และค านวณราคาอาหาร ผลการพัฒนาระบบพบว่าระบบสามารถ ตรวจสอบสิทธิ์ผู้เข้าใช้งาน จัดการข้อมูลพนักงาน โต๊ะนั่ง อาหาร และ ประเภทอาหาร ท ารายการสั่งอาหาร รับรายการอาหาร และรายงานตามความต้องการของผู้ใช้ได้ตรงตามขอบเขตของ ระบบงาน ในการทดสอบระบบผู้จัดท าโครงการได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ใช้งานตัวอย่างโดยมีผลการประเมินความพึงพอใช้ ในภาพรวมของผู้ใช้ระบบในระดับมาก คิดเป็นค่าเฉลี่ย 4.2 จากจ านวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 6 คน ข้อเสนอแนะ 1. ควรปรับปรุงการกรอกข้อมูลให้สะดวกและง่ายต่อผู้ใช้มากที่สุด 2. ควรพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้ใช้ได้บนระบบ IOS บรรณานุกรม สุเทพ ยะนิล. (2559). ระบบการจัดการร้านอาหาร. โครงงานสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะ วิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. กิตติ ภักดีวัฒนะกุล และพนิดา พานิชกุล. การวิเคราะห์และออกแบบระบบ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ. บริษัท เคทีพีคอมพ์แอนด์คอนซัลท์ จ ากัด. (2548). วรรณิกา เนตรงาม. พื้นฐานการสร้าง Mobile Applications กรุงเทพฯ : อินโฟเพรส. (2544) จักรกฤษณ์ หมั่นวิชา , กิตติศักดิ์ รักแก้ว , กันยาวีร์ ยีฮอ และสุเมธา ใจเย็น (2562). การพัฒนา ระบบ สารสนเทศส าหรับการสั่งอาหาร, การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 10 แหล่งที่มา : http://www.hu.ac.th/conference.pdf นายธนะวัชร จริยะภูมิ, นายรุ่งโรจน์ สุบรรณจุ้ย (2560). การพัฒนาระบบสั่งอาหารออนไลน์, วารสาร เทคโนโลยีสื่อสารมวลชนมทร.พระนคร, ปีที่2 ฉบับที่2 แหล่งที่มา : https://so05.tci-thaijo.org/index.php 24


การพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียน ออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา Development of a chatbot system for automatic online course promotion and enrollment : Case Study of Faculty of Science and Technology, Nakhon Ratchasima Rajabhat University. อารียา นาแสง 1 และ วีรอร อุดมพันธ์2* Arriya nasaeng 1 and weeraorn udompan2* บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและระบสมัครเรียน ออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2) ศึกษาความพึง พอใจของผู้ใช้งานระบบแชทบอทที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลหลักสูตร โดยกลุ่ม ตัวอย่าง ได้แก่อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี3 คน และนักเรียนและนักศึกษา 29 คน และเครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย ได้แก่ 1) ระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2) แบบสอบถามความความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ระบบแชทบอทที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลหลักสูตร สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติกรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พบว่าระบบแชทบอทเพื่อ การประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติประกอบด้วย ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบโต้ตอบ และระบบแสดงผลมี3 ส่วน ได้แก่ ส่วนการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ส่วนความสะดวกในการใช้งานและส่วน ประสิทธิภาพของระบบ 2) ผลการศึกษาความพึงพอใจระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรแบบอัตโนมัติ พบว่าผู้ใช้งานมีความพึ่งพอใจโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก (X̅=4.54, S.D.=0.55) 1นักศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 340 ถนน สุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 1 Student in Management information System Program, Faculty of Science and Technology, Nakhon Ratchasima Rajabhat University, Nakhon Ratchasima 3000 2 อาจารย์หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 340 ถนน สุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 25


2 Lecturer in Management information System Program, Faculty of Science and Technology, Nakhon Ratchasima Rajabhat University, Nakhon Ratchasima 30000 * Corresponding author: [email protected] Abstract The purposes of this research were 1) to develop a chatbot system for automatic public relations of courses and online enrollment systems. A case study of the Faculty of Science and Technology. Nakhon Ratchasima Rajabhat University 2) to study the satisfaction of users of the chatbot system that has been developed in publicizing and disseminating course information. by sample They are 3 professors of the Faculty of Science and Technology and 29 students and students, and research toolsnamely 1) Chatbot system for automatic publicity of courses and online enrollment, a case study of the Faculty of Science and Technology Nakhon Ratchasima Rajabhat University; The statistics used in the research were mean, standard deviation value. The results showed that majority of the users are greatly satisfied with the development of Chatbot system for public relations of automatic study of courses and online enrollmentof the Faculty of Science and Technology, Nakhon Ratchasima Rajabhat University which composed of data storage system, response system and readout system which divided into three part including design contact user, convenience of usage, the quality of the system. In addition, users are also impressed with the study of user satisfaction evaluation of the Chatbot system (X̅=4.54, S.D.=0.55) คำสำคัญ: ระบบแนะนำหลักสูตร, ระบบประชาสัมพันธ์ออนไลน์,แชทบอท Keywords: Study program suggestion system, online public relations system, Chatbot บทนำ ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์และ อินเตอร์เน็ตได้มีการพัฒนาและการเติบโตขึ้นอย่าง รวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหล่านั้น เข้ามามี บทบาทเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ และ ยังแสดงให้ เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตรา การใช้งานอินเตอร์เน็ต ผ่านสมาร์มโฟนของตนเองที่ เพิ่มมากขึ้น จากผลการสำรวจการใช้อินเตอร์ของ ประชากรไทยโดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) (สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์,2564) ใน ปี 2564 พบว่ามี สถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ปีนี้เป็นปีแรกที่ กลุ่ม Gen Z (อายุน้อย กว่า 21 ปี) ทุบสถิติใช้งานอินเทอร์เน็ตมากที่สุด เฉลี่ย วันละ 12 ชั่วโมง 5 นาที ชนะกลุ่ม Gen Y (อายุ 21- 40 ปี) อดีตแชมป์ 6 สมัยที่ใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุด ซึ่งที่ ปีนี้ Gen Y ใช้อินเทอร์เน็ต เฉลี่ยวันละ 11 ชั่วโมง 52 นาที ส่วน Gen X (อายุ 41-56 ปี) ใช้เฉลี่ยวันละ 9 ชั่วโมง 12 นาที และปิดท้ายด้วย Baby Boomer (อายุ 57-75 ปี) ใช้น้อยที่สุด เฉลี่ยวันละ 6 ชั่วโมง 21 นาที ตามลำดับ สำหรับกิจกรรมออนไลน์ที่กลุ่ม Gen Z ใช้ เวลากับอินเทอร์เน็ตมากที่สุด คือ เรียนออนไลน์เฉลี่ย วันละ 5 ชั่วโมง 23 นาที รองลงมาคือ ดูรายการ โทรทัศน์ ดูคลิป ดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ เฉลี่ยวันละ 4 ชั่วโมง 11 นาที และติดต่อสื่อสารออนไลน์ เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง 39 นาที ตามลำดับ ประชากรไทยมีการใช้ 26


อินเทอร์เน็ตสําหรับโซเชียลมีเดียถึงร้อยละ 77.0 ได้แก่ แอพพลิเคชันยูทูป มีผู้ใช้งานคิดเป็นร้อยละ 62.4 แอพ พลิเคชันไลน์ร้อยละ 70.6 และแอพพลิเคชันเฟซ บุคร้อยละ 65.5 โดยแอพพลิเคชันไลน์ เป็นแอพพลิเค ชันที่คน ไทยส่วนใหญ่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันและติด ตั้งอยู่ในโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว ทําให้ผู้ใช้ของระบบนี้มีความคุ้นเคยกับการใช้งานและ ไม่จําเป็นต้องติดตั้งแอพพลิเคชันอื่นๆ เพิ่มเติมอีกมาก จนเกินไป ประกอบกับโรงเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนปลายจะมีครูแนะแนวเพียงไม่กี่คนและไมเพียงพอ ใน การให้บริการนักเรียนซึ่งมีจํานวนมากกว่าเป็น จํานวนหลายเท่าได้ (ภาวิดา มหาวงศ, 2564) นอกจากนี้การให้บริการสารสนเทศ นั้นจะ ถูกจํากัดอยู่ เพียงระหวางที่มีชั่วโมงเรียนคาบแนะแนวเทานั้น อีก ทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาได้เริ่ม มีกิจกรรม Openhouse ตั้งแต่ปี2563 ในการเปิดรับสมัครการ เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในรูปแบบออนไลน์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดและเพื่อเป็นการ เข้าถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการศึกษาต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง สถิติการรับสมัครนักศึกษา (entrance nrru) คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำปีการศึกษา 2565 ได้แก่ รอบโควตากิกรรม 1คน Portfolio 35 คน โครงการคูปองหลัก 11 คน โควตาเรียนดี16 คน โควตาเพชรราชภัฏ 1 คนโควตาพิเศษ 8 คน ทั้งหมด 87 คน ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ยังไม่มีระบบแช ทบอทในการช่วยในการ ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและ การรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีแนวคิดในการพัฒนาระบบแช ทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัคร เรียน ออนไลน์แบบอัตโนมัติกรณีศึกษาคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา เพื่อ เป็นช่องทางในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการรับนักศึกษา รูปแบบการจัด การศึกษา หลักสูตรที่เปิดสอน รวมถึงศักยภาพการ จัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยให้เป็นที่ ประจักษ์กับครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และบุคคล ทั่วไปได้ทราบ และช่วยลดภาระของอาจารย์ใน หลักสูตรในการประชาพันธ์ข้อมูลต่างๆ นอกจากนี้ ระบบแชทบอทที่พัฒนาขึ้นจะสามารถเป็นระบบตน แบบเพื่อการพัฒนา ต่อยอดหรือเผยแพร่ไปสู่การใช้ งานสําหรับงานประชาสัมพันธ์และการรับสมัครของ มหาวิทยาลัยได้ วิธีดำเนินการวิจัย 1. วัตถุประสงค์การวิจัย 1.1 เพื่อพัฒนาร ะบบ แช ทบ อท เพื ่ อ ก า ร ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 1.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการใช้งานระบบแช ทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัคร เรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษาคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา 2. เครื่องมือการวิจัย 2.1 ระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์ หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2.2 แบบสอบถามความความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ระบบแชทบอทที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใน ก าร ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลหลักสูตร 3. ประชากรและกลุ่มเป้าหมาย ประชากร คือ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีนักศึกษาและนักเรียนทั่วไป กลุ่มเป้าหมาย คือ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี3 คน และนักเรียนและนักศึกษา 29 คน คัดเลือกโดยวิธีการสุ่ม 4. ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ใ น ก า ร พ ั ฒ น า ร ะ บ บ แ ช ท บ อ ท เ พ ื่ อ การ ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และ 27


เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีขั้นตอน วิธีในการดำเนินการวิจัย ดังนี้ 4.1 การศึกษาสภาพปัญหาและเก็บข้อมูลความ ต้องการระบบแชทบอท ในการศึกษาสภาพปัญหาและ เก็บข้อมูลความต้องการระบบแชทบอท ผู้พัฒนาได้ ทำการศึกษาเกี่ยวกับระบบงาน คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จากผู้ที่ เกี่ยวข้องได้แก่ประธานหลักสูตรคณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 4.4 การวิเคราะห์และออกแบบระบบแชทบอท จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลของระบบงานทั้งหมด ผู้พัฒนาได้ทำการการออกแบบภาพรวมในระบบแชท บอท 4.2 การพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อ ก าร ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาผู้วิจัยได้ นำข้อมูลจากการวิเคราะห์และออกแบบระบบมาเป็น แนวทางในการพัฒนา ให้เป็นระบบที่มีความสมบูรณ์ให้ มากที่สุด โดยการพัฒนาระบบนั้นใช้ความสามารถของ การบริการ 1) Dialog flow 2) Google from 3) Google sheets 4)email โดยเป็นการให้บริการของผู้ ให้บริการของ Google ที่อยู่ในรูปแบบของ cloud พร้อมกับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน LINE ซึ่ง สามารถพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานได้ รวมไปถึงการ จัดทำคู่มือการใช้งาน 4.3 ทดสอบและประเมินความพึงพอใจการใช้ งานระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตร และรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ผู้วิจัยได้นำระบบที่พัฒนาเสร็จเรียบร้อย ให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน ประเมินประสิทธิภาพของ ระบบประเมินด้วยวิธี สแกน QR Code ตัวบอทและ ทำแบบฟอร์มการประเมินทำการ ทดส อ บหา ข้อผิดพลาด และทดสอบความสมบูรณ์ของระบบ และ ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของโดยรวมของ โปรแกรม จากนั้นผู้วิจัยได้ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำ ของผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบความถูกต้อง จนมั่นใจว่า ถูกต้องและตรงตามความต้องการที่ออกแบบระบบไว้ 4.5 วิเคราะห์และสรุปผลความพึงพอใจในการใช้ งานระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตร และรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา 5. สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ เปรียบเทียบค่าสถิติ (Dependent t-test) โดยนำผลที่ ได้เทียบกับเกณฑ์การประเมิน ดังนี้(พิชญะ พรมลา และ สรเดช ครุฑจ้อน ,2563) ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 – 5.00 หมายความว่า ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.50 – 4.49 หมายความว่า ระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.50 – 3.49 หมายความว่า ระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.50 – 2.49 หมายความว่า ระดับน้อย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.00 – 1.49 หมายความว่า ระดับน้อยที่สุด ผลการวิจัย 1. ผลการพัฒนาระบบแชทบอทเพื่ อ การ ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 28


1.1 ผลการออกแบบองค์ประกอบและขั้นตอน การทำงานของระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์ หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา แสดงดังรูปที่ 2 รูปที่ 2 ออกแบบองค์ประกอบและขั้นตอนการทำงานของระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบ อัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รูปที่ 2 แสดงภาพรวมการทำงานของระบบสมัคร เรียนผ่านแชทบอท โดยจะผ่าน Dialogflow ไปยัง google forms และเก็บข้อมูลไปยัง google sheets เพื่อส่งการแจ้งเตือนไปยัง email ไปยังผู้สมัครเรียนส่ง แนบแบบฟอร์มสมัครเรียนให้ผู้ที่สมัครเรียนผ่าน Email อัตโนมัติ 1.2 ผลการพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการ ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา โปรแกรมวิชาวิทยาการ สารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ผู้วิจัยได้ดำเนินการ พัฒนาระบบการพัฒนาระบบ แชทบอทเพื่อการ ประชาสัมพันธ์หลักสูตรแบบอัตโนมัติกรณีศึกษา โปรแกรมวิชาวิทยาการสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาตาม ขั้นตอนการวิจัยในระยะที่ 1 โดยนำข้อมูลจาก การศึกษา และวิเคราะห์ มาจัดทำระบบการพัฒนา ระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรแบบ อัตโนมัติกรณีศึกษา โปรแกรมวิชาวิทยาการสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมาและเครื่องมือของกิจกรรม แสดงดังรูปที่ 3 -10 29


รูปที่ 3 หน้า QR Code ScienceTech NRRU รูปที่ 4 หน้าจอหลักของ รูปที่ 5 การตอบกลับแบบรูปภาพ รูปที่ 6 การตอบกลับแบบ ระบบแชทบอท ระบบแชทบอท Flex Message 30


รูปที่ 7 แสดงเว็บหน้า Facebook รูปที่ 8 สมัครเรียนผ่าน รูปที่ 9 การตอบกลับแบบข้อความและลิ้งค์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบบแชทบอท รูปที่ 10 การส่งแนบแบบฟอร์มสมัครเรียนให้ผู้ที่สมัครเรียน ผ่าน Email อัตโนมัติ 2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ แชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรแบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา โปรแกรมวิชาวิทยาการสารสนเทศ คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ผู้วิจัยดำเนินการทดลองใช้ระบบแช ทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัคร เรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมาที่พัฒนาขึ้นกับอาจารย์และนักเรียน นักศึกษา จำนวน 32 คน และสอบถามความพึงพอใจที่ มีต่อระบบจากนั้นนำผลมาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติ พื้นฐานเทียบกับเกณฑ์และสรุปผล แสดงดังตารางที่ 1 31


ตารางที่ 1 ผลการศึกษาความพึงพอใจการใช้ระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รายการประเมิน ̅ SD ระดับความพึงพอใจ 1. ด้านการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ 1.1 การจัดวางรูปแบบวัตถุในหน้าจอมีความเหมาะสม 4.63 0.55 ระดับดีมากที่สุด 1.2 รูปแบบตัวอักษร ขนาด สี มีความเหมาะสม ทันสมัย 4.74 0.57 ระดับดีมากที่สุด 1.3 ภาษาที่ใช้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 4.50 0.57 ระดับดีมากที่สุด 1.4 ความเหมาะสมในการใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพในการสื่อ ความหมาย 4.41 0.50 ระดับดีมาก 2. ด้านความสะดวกในการใช้งาน 2.1 การเข้าถึงการใช้งานระบบง่าย 4.50 0.51 ระดับดีมากที่สุด 2.2 มีการเชื่อมโยงหน้าจอต่างๆอย่างเป็นระบบ 4.53 0.51 ระดับดีมากที่สุด 2.3 สามารถเรียนรู้ในการใช้ระบบได้อย่างรวดเร็ว 4.50 0.51 ระดับดีมากที่สุด 3. ด้านประสิทธิภาพของระบบ 3.1 ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา 4.44 0.50 ระดับดีมาก 3.2 ความถูกต้องในการตอบกลับของข้อมูล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4.50 0.71 ระดับดีมาก 3.3 ความถูกต้องในการแสดงผลเมนูแนะนำ 4.91 0.30 ระดับดีมากที่สุด โดยรวม 4.54 0.55 ระดับดีมากที่สุด จากตารางที่ 1 ผลการสอบถาม ความพึงพอใจ การใช้ระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์ หลักสูตรและรับสมัครเรียน แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาพบว่าผู้ใช้งานมี ความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับดีมากที่สุด (X̅=4.54, S.D.=0.55) เนื่องจากระบบแชทบอท ตอบโต้เนื้อหาของผู้ใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และสามารถประชาสัมพันธ์หลักสูตรได้ดี สรุปผลการวิจัย จากการการพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการ ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ทำให้ ทราบว่า ระบบแแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์ หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ มี ความจำเป็นอย่างมากในการประชาสัมพันธ์และ เผยแพร่ข้อมูลหลักสูตรในระดับปริญญาตรี ของคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา โดยประกอบขั้นตอนในการดำเนินงาน ได้แก่ การศึกษาสภาพปัญหาเดิมและเก็บข้อมูลความ ต้องการระบบแชทบอท การวิเคราะห์และออกแบบ ระบบแชทบอท การพัฒนาระบบ ทดสอบและประเมิน ความพึงพอใจการใช้งานระบบ สรุปและจัดทำรายงาน จากผลการประเมินความพึงพอใจระบบแชทบอทที่ พัฒนาขึ้นพบว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานระบบมีความพึง พอใจในด้านประสิทธิภาพของระบบในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ และ ด้านความสะดวกในการใช้งานอย่างเหมาะสม 32


อภิปรายผล 1. ก า ร พ ั ฒ น า ร ะ บ บ แ ช ท บ อ ท เ พ ื ่ อ ก า ร ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์ แบบอัตโนมัติกรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้ พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ หลักสูตรและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่สนใจศึกษา ต่อโดยใช้บริการผ่าน Line Application พบว่าการใช้ งานระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการใช้ งานและสามารถประชาสัมพันธ์หลักสูตรได้ดีตรงตาม วัตถุประสงค์ ซึ่งสอดคล้องงานวิจัยของ Miri Heo ได้ เ ส น อ ว ิ จ ั ย Chatbot as a new Business Communication Tool เพื่อนำเสนอระบบ TalkTalk ในการให้บริการแก่ลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ รวดเร็วและพึงพอใจแก่บริษัทมากยิ่งขึ้น 2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ แชทบอท พบว่าผู้ใช้งานมีความพึ่งพอใจโดยรวมอยู่ใน ระดับดีมากที่สุด โดย พบว่าผู้ใช้งานมีความพึ่งพอใจ โดยรวมอยู่ในระดับดีมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ (X̅=4.54, S.D.=0.55) สอดคล้องกับ อุษณียภักดี ตระกูลวงศ์ นฤ พล สุวรรณวิจิตร ,ณัฐชัย สุบรรณเกตุ, ศุภาดา ทอง ไทย และสิรินทรรัตน์ ปานประดิษฐ์ (2557) ได้ศึกษา เรื่อง การพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อบริการสารสนเทศ งานแนะแนวการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายสาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐม ได้ใช้หลักการทฤษฎีของวงจรการพัฒนา ระบบ (System Development Life Cycle: SDLC) โดยใช้เป็นแนวทางในการออกแบบและพัฒนาระบบซึ่ง สามารถสรุปความสำคัญของการแก้ไขปัญหาระบบแช ทบอทเพื่อบริการสารสนเทศงานแนะแนวการศึกษาได้ พัฒนาขึ้น ผลการวิจัย พบว่าผู้ใช้งานระบบมีความพึง พอใจเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.50 คือ มีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า กลุ่ม ตัวอย่างผู้ใช้งานมีความพึงพอใจด้านความสะดวกใน การใช้งานมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 (ความพึง พอใจอยูในระดับมาก) รองลงมาคือด้านประสิทธิภาพ ของระบบซึ่งค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 (ความพึงพอใจอยูใน ระดับมาก) และด้านการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 (ความพึงพอใจอยูในระดับมาก ที่สุด) ตามลำดับ ข้อเสนอแนะ การพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อการประชาสัมพันธ์ หลักสูตรและรับสมัครเรียนออนไลน์แบบอัตโนมัติ กรณีศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เพื่อให้บอทมี คุณภาพมากขึ้นและสามารถนําไปพัฒนาต่อยอดได้ใน เรื่องเนื้อหาการเพิ่มลูกเล่นต่างๆในตัวบอทและการ ตอบกลับในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้บอทนำใช้งานมากขึ้น กิตติกรรมประกาศ การวิจัยครั้งนี้ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ปีงบประมาณ 2564 เอกสารอ้างอิง มุกดา บุญสอน (2557). การศึกษาการจัดวิชาชีพชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนประถมศึกษาตาม โครงการขยาย โอกาสทางการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัด อุบลราชธานี (2557).มหาวิทยาลัย รังสิต. RSU Connect แชทบอทบนแอปพลิเคชัน LINE. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา , สืบค้นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ,จาก http://informatics.nrru.ac.th/2017/ kankann (2563) หลักการทำงานแชทบอท, สืบค้น วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563,จาก https://expertsystem.com/wpcontent/up loads/2019/06/ChatbotPost_Picture1.png 33


อุษณีย์ภักดีตระกูลวงศ์, นฤพล สุวรรณวิจิตร , ณัฐชัย สุบรรณเกตุ , ศุภาดา ทองไทย , และสิรินท์รัต์ ปาน ประดิษฐ์(2563). การพัฒนาระบบแช ทบอทเพื่อบริการสารสนเทศงานแนะแนวการ ศึกษต่อสําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย. Development of a chatbot system for information services for further education guidance for students high school สุมนา บุษบก, ณัฐพร เพ็ชรพงษ์ และ จีรนุช สิงห์โต แก้ว (2563). การพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot สําหรับงานบริการนักศึกษากรณีศึกษากอง พัฒนานักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลสุวรรณภูมิ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลสุวรรณภูมิ พิชญะ พรมลา และ สรเดช ครุฑจ้อน (2563). ผลการ ใช้แชทบอทช่วยในการจัดการเรียนรู้แบบ ผสมผสานสำหรับผู้เรียนระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพในสถานศึกษาสังกัดสถาบันการ อาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.วารสารครุ ศาสตร์อุตสาหกรรม,19(2),100-109. Chun Ho Chan, Ho Lam Lee, Wing Kwan Lo, Andrew Kwok-Fai Lui (2018). Developing a Chatbot for College Student Programmed Advisement. School of Science and Technology the Open University of Hong Kong Hong Kong, 52- 26 Miri Heo and Kyoung Jun Lee. (2018). Chatbot as a new business communication tool: The case of naver TalkTalk. Business Communication Research and Practice, 1(1), 41-45 34


การพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการ ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา The Development of Chatbots for The Cooperative Education and Career Development Center Nakhon Ratchasima Rajabhat University อาทิตยา อรุณศรี1 , ธิดานุช พุทธสิมมา2* , อดิเทพ สภาพักตร์3 , อนาวิล คำเพ็ชร4 , ภูชิต ภูบาลชื่น5 , ศักดินนท์ หาญพนม6 Arthitaya Arunsri1 , Thidanuch Puttasimma2* , Aditap Sapapuk3 , Anawil Khumpet 4 , Puchit Pubanchuen5 , Sakdinon Hanpanom6 สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์1,2*,3,4,5และสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ6 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา Computer ScienceProgram 1,2*,3,4,5 , Information TechnologyProgram6 , Faculty of Science and Technology, Nakhon Ratchasima Rajabhat University [email protected] , [email protected]* , [email protected] , [email protected] , [email protected] , [email protected] บทคัดย่อ โครงงานวิทยาการคอมพิวเตอร์ เรื่อง การพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจ ศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อ สนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2) ศึกษาความพึง พอใจในการใช้งานระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา พัฒนาโดยใช้ Official LINE Account, Line Bot Designer, Line Messaging API, Dialogflow, Webhook และ Flex Message ตามลำดับขั้นตอนในการพัฒนาระบบแบบ SDLC โดยใช้สถิติในการวิจัยได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน ดังนั้นบทความวิจัยนี้เสนอการออกแบบและพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจ ศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยใช้ชื่อว่า สหกิจศึกษา บริการหลักของ สหกิจศึกษา ได้แก่ การให้ข้อมูลสหกิจศึกษา เอกสารนักศึกษา เอกสารอาจารย์นิเทศ เอกสารสถานประกอบการ และคำแนะนำ การให้บริการสหกิจศึกษา คำสำคัญ: แชทบอท, สหกิจศึกษา, ไลน์แชทบอท 35


ABSTRACT Computer Science Project on The Development of Chatbots for The Cooperative Education and Career Development Center Nakhon Ratchasima Rajabhat University The objectives are 1) To The Development of Chatbots for The Cooperative Education and Career Development Center Nakhon Ratchasima Rajabhat University 2) Study the satisfaction of using The Development of Chatbots for The Cooperative Education and Career Development Center Nakhon Ratchasima Rajabhat University. Developed using Official LINE Account, Line Bot Designer, Line Messaging API, Dialog flow, Webhook and Flex Message. According to the sequence of steps in the development of the SDLC system using statistics in research, including mean and standard deviation. Therefore, this research paper presents the design and development of The Development of Chatbots for The Cooperative Education and Career Development Center at Nakhon Ratchasima Rajabhat University. By the name of cooperative education, The main services of cooperative education are: providing information on cooperative education student papers supervision teacher documents establishment documents and advice on cooperative education services Keywords: chatbot, cooperative education, line chatbot บทนำ สหกิจศึกษา (Cooperative Education) เป็นระบบการศึกษาที่ผสมผสานการเรียนกับการปฏิบัติงาน (Work Integrated Learning) เพี่อเสริมคุณภาพของบัณฑิตผ่านประสบการณ์ทำงานในสถานประกอบการ ตาม มาตรฐานวิชาการและวิชาชีพ และตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน สหกิจศึกษาจึงเป็นส่วนสำคัญ ในการ เตรียมให้บัณฑิตพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่อาชีพ เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันทีที่จบการศึกษา จึงเกิดประโยชน์ทั้งตัว นักศึกษา มหาวิทยาลัย และสถานประกอบการ บัณฑิตสหกิจศึกษาจึงเป็นบัณฑิตที่รู้จักตน รู้จักคน และรู้จักงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาได้เริ่มนำสหกิจศึกษามาจัดการเรียนการสอนมาแล้วทั้งหมด 13 รุ่น โดยทำหน้าที่ ในการกำหนดนโยบายการพัฒนาสหกิจศึกษาเพื่อให้การดำเนินงานสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยสำเร็จลุล่วงไป ด้วยดี โดยมีบทบาทหน้าที่ตั้งแต่กำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัย ดำเนิน โครงการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัย ประชาสัมพันธ์โครงการสหกิจศึกษา ให้กับนักศึกษา และทำความเข้าใจกับสถานประกอบการเกี่ยวกับหลักการ และวัตถุประสงค์ของสหกิจศึกษา ประสานงานในการจัดหาและสร้างเครือข่ายร่วมกับสถานประกอบการและ สถาบันการศึกษาอื่น จัดอบรมเตรียม 36


ความพร้อมนักศึกษาสหกิจศึกษา ประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานให้นักศึกษาทราบ รับสมัครนักศึกษาสหกิจศึกษา ติดต่อสถานประกอบการหาตำแหน่งงานให้กับนักศึกษาสหกิจศึกษาออกปฏิบัติงานสหกิจศึกษา ประสานงานกับ สถานประกอบการในการคัดเลือกนักศึกษา ปฐมนิเทศและเตรียมความพร้อมด้านวิชาชีพในแต่ละสาขาวิชา นิเทศ งานนักศึกษาสหกิจศึกษา รวบรวมสรุปผลการปฏิบัติงานของนักศึกษาพร้อมแบบประเมินผลนักศึกษาจาก สถานศึกษา คัดเลือกผลงานนักศึกษาสหกิจศึกษาเพื่อส่งประกวดโครงงานสหกิจศึกษาระดับชาติ ประสานงาน เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กำกับมาตรฐานสหกิจศึกษาด้านหลักสูตรและการ เรียนการสอน มาตรฐานการนิเทศ มาตรฐานนักศึกษา มาตรฐานการวัดและประเมินผล ซึ่งจะเห็นว่าขั้นตอนและ ระเบียบปฏิบัติมีความซ้ำซ้อนและยุ่งยาก อีกทั้งยังต้องมีการทำซ้ำในขั้นตอนเดิมทุกปี และเกิดปัญหาและคำถาม เดิมหรือติดต่อปัญหาเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ จากนักศึกษาที่สมัครเข้าร่วมโครงการสหกิจศึกษา จากปัญหาข้างต้นผู้วิจัยจึงได้นำเทคโนโลยีตอบกลับอัตโนมัติ (Chatbot) มาประยุกต์ใช้สนับสนุนการ ให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งการ ประชาสัมพันธ์และช่วยในการตอบคำถามและโต้ตอบกับนักศึกษาหรือผู้ใช้งานอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ สนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยการพัฒนาในครั้ง นี้ได้นำระบบแชทบอทของแอพลิเคชันไลน์ (Line) มาเป็นตัวกลางในการสนทนาระหว่างผู้ใช้งานกับระบบโต้ตอบ การสนทนาอัตโนมัติ โดยข้อความที่ใช้ในการโต้ตอบกับผู้จะถูกประมวลผลโดย Dialog Flow ตามโครงสร้างของ การสนทนา เมื่อมีการสอบถามข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูลจากการสนทนา Dialog Flow จะทำการติดต่อ Webhook ส่งผ่านข้อมูลที่จำเป็นให้กับ Webhook โดยมีการเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลเพื่อจัดการข้อมูลและการ ส่งข้อความแจ้งเตือนผู้ใช้งานหรือผู้ดูแลระบบที่เกี่ยวข้องผ่าน Line Notify 1. วัตถุประสงค์การวิจัย 1.1 เพื่อพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 1.2 ศึกษาความพึงพอใจในการใช้งานระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษา และพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ โดย สุมนา บุษบก, ณัฐพร เพ็ชรพงษ์ และ จีรนุช สิงห์โตแก้ว (2563) การพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงาน บริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ 2) เพื่อหา 37


ประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของพนักงาน และนักศึกษาที่มี ต่อแอป พลิเคชัน Chatbot สำหรับงานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้คือ แอปพลิเคชัน Chatbot ที่ผ่านการประเมินผลจาก ผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศจำนวน 2 คน แบบประเมินรูปแบบการพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot และแบบประเมิน ความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อ แอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนา นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า แอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิที่พัฒนาขึ้นอยู่ในเกณฑ์ระดับ ประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย รวมเท่ากับ 4.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.20 และความพึงพอใจของผู้ใช้ แอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับงาน บริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิอยู่ในเกณฑ์ระดับ มาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.46 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.03 แสดงว่า แอปพลิเคชัน Chatbot ที่พัฒนาขึ้น สามารถลดระยะเวลา การตอบคำถามของเจ้าหน้าที่งานพัฒนานักศึกษาและ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลสุวรรณภูมิได้ อย่างมีประสิทธิภาพ Chatbot สนับสนุนงานสอบสวน กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเบตง โดย ร้อยตำรวจโทเกียรติพันธ์ ศักดิ์ บิลอับดุลล่าห์ (2564) การประยุกต์ใช้ Chatbot สนับสนุนงานสอบสวนกรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเบตงนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบ Chatbot เพื่อสนับสนุนการให้ข้อมูลบริการประชาชนเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ประชาชนของสถานีตำรวจ 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพกระบวนการโดยใช้แนวทางจัดการแบบลีน และประเมิน ความพึงพอใจของผู้ใช้ที่มีต่อการใช้ Chatbot จากปัญหาที่พบในปัจจุบันประชาชนเข้ามาร้องเรียนสอบถามปัญหา ข้อกฎหมายผ่านเพจ Facebook ของสถานีตำรวจซึ่งพบว่ามีความล่าช้า ในการตอบคำถามเนื่องจากอัตรากำลังคน ที่ไม่เพียงพอของเจ้าหน้าที่พนักงานทำให้ไม่สามารถให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวันและเจ้าหน้าที่ พนักงานทุกคนไม่มีความรู้ข้อกฎหมายประชาชน ในทุกเรื่องทำให้เสียเวลาในการสอบถามผู้รู้และค้นหาข้อมูล ส่งผลทำให้เกิดความล่าช้าในการ ให้บริการในแต่ละกรณีค่อนข้างมากผู้วิจัยจึงได้พัฒนาระบบแชทบนแพลตฟอร์ม Facebook Messenger รวมถึงนำแนวทางการจัดการแบบลีนมาช่วยในการออกแบบพัฒนากระบวนการให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกระบวนการใหม่ทำให้สามารถลดระยะเวลาของขั้นตอนที่สูญเปล่าได้ถึง 1,507.98 นาที คิดเป็นร้อยละ 99.80 มีประสิทธิภาพคิดเป็นร้อยละ 99.33 เพิ่มขึ้นร้อยละ 98.94 และจากการศึกษากลุ่มผู้ใช้งาน ภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมากโดยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.09 และ ยังพบว่าเรื่องระบบสามารถโต้ตอบได้ รวดเร็วมีคะแนนค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 4.19 จากการศึกษาสามารถ กล่าวได้ว่าแชทบอทที่พัฒนาขึ้นเป็นระบบที่มี 38


ประสิทธิภาพ ผู้ใช้งานพึงพอใจมีความน่าสนใจต่อการใช้งานสามารถตอบคำถามให้ผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วและ นอกจากนี้ ระบบแชทบอทยังสามารถพัฒนา ปรับปรุงระบบให้มีความหลากหลายตามความต้องการของผู้พัฒนา ได้ วิธีดำเนินการวิจัย 1. เครื่องมือการวิจัย ฮาร์ดแวร์ 1) Processor: AMD Ryzen 5 3500U with Radeon Vega Mobile Gfx 2.10 GHz 2) RAM: 8.00 GB bus 2400 3) คอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งาน Application Line ได้ Spec แนะนำคือ ระบบปฏิบัติการ Windows 7, 8, 10, 11 และหน่วยประมวลผล (CPU) core i5 Gen 8 และหน่วยความจำสำรอง (RAM) ขนาด 4 GB 4) โทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้งาน Application Line ได้ Spec แนะนำคือระบบปฏิบัติการ Android หรือ IOS โดย Version Android 8 หรือ Version IOS 11 และใช้หน่วยความจำสำรอง (RAM) ขนาด 4 GB ซอฟต์แวร์ 1) Dialog flow 2) LINE Messaging API 3) LINE Bot Designer 4) Webhook 5) Official LINE Account 6) Flex Message 2. กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาที่ลงทะเบียนวิชาสหกิจศึกษา เจ้าที่สหกิจศึกษา อาจารย์นิเทศ สถานประกอบการ 3. ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ให้ระบุขั้นตอน หรือระยะที่ดำเนินการวิจัยเป็นข้อ ๆ ตามลำดับการวิจัย การพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา โดยการพัฒนาระบบเป็นลำดับขั้นตอนในการพัฒนาระบบ ซึ่ง SDLC ประกอบด้วยกิจกรรม 5 ระยะด้วยกัน ดังนี้ 1) การกำหนดปัญหา ศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์และเอกสาร คู่มือต่างๆ และงานวิจัยที่เกี่ยว ที่ได้จาก การสอบถามความต้องการจากผู้ใช้งานนอกจากนั้นจะต้องคอยสังเกตดูการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบที่ศึกษา ท้ายที่สุดอาจจะต้องมีการสัมภาษณ์ผู้ที่มีหน้าที่ รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องในระบบ จากนั้นเป็นการรวบรวม แบบฟอร์มและรายงานต่างๆ เพื่อสรุปเนื้อหาและปัญหาในการจัดทำโครงการ 39


2) การวิเคราะห์ นำข้อมูลที่ศึกษาและรวบรวมมาทั้งหมดนำมาวิเคราะห์และวางแผนการปฏิบัติงาน และกำหนดขอบเขตที่ได้จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการออกแบบระบบ เพื่อให้ตอบสนองความ ต้องการของผู้ใช้อย่างสมบูรณ์ โดยจะแบ่งการทำงานของระบบ ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 สำหรับผู้ดูแลระบบ ส่วน ที่ 2 ผู้ใช้ 3) การออกแบบ ระบบดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดผลตามต้องการ งานออกแบบระบบ ประกอบด้วยงานออกแบบสถาปัตยกรรมระบบที่เกี่ยวข้อง 4) การพัฒนา พัฒนาโปรแกรมตามที่วิเคราะห์ระบบได้ออกแบบไว้ การเขียนชุดคำสั่งเพื่อสร้างเป็น ระบบงานทางคอมพิวเตอร์ขึ้นมา สามารถนำเครื่องมือเข้ามาช่วยในการพัฒนาโปรแกรมได้เพื่อช่วยให้ระบบงาน พัฒนาได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพ 5) การทดสอบ เมื่อโปรแกรมได้พัฒนาขึ้นมาแล้ว ยังไม่สามารถนำระบบไปใช้งานได้ทันทีจำเป็นต้อง ดำเนินการทดสอบระบบก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงเสมอ ควรมีการทดสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อน หากพบข้อผิดพลาด ก็ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง ทดสอบว่าระบบที่พัฒนาตรงตามความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ 4. สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่าสถิติ การพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา เมื่อได้พัฒนาระบบงานเสร็จสิ้นและได้ดำเนินการให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ระบบงาน จากนั้นได้ จัดทำการประเมินเพื่อประเมินหาความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบและประเมินประสิทธิภาพของระบบใน 3 ด้าน คือ 1) ด้านความสามารถในการทำงานตามความต้องการของผู้ใช้งานระบบ (Functional Requirement Test) 2) ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) 3) ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 11 คน มีลักษณะคำตอบเป็นมาตรส่วนประมาณค่า 5 อันดับ ดังต่อไปนี้ 1) ระบบมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีค่าเป็น 5 2) ระบบมีประสิทธิภาพมาก มีค่าเป็น 4 3) ระบบมีประสิทธิภาพปานกลาง มีค่าเป็น 3 4) ระบบมีประสิทธิภาพน้อย มีค่าเป็น 2 5) ระบบมีประสิทธิภาพน้อยที่สุด มีค่าเป็น 1 เกณฑ์การประเมินจะพิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยของความพึงพอใจต่อการใช้งานระบบ และใช้เป็นตัวชี้วัด ประสิทธิภาพของระบบ ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ในการวัดค่าของ ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตหรือค่าเฉลี่ย (Mean) และวัดการกระจาย ของข้อมูลโดยใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยการคํานวนค่าเฉลี่ยเลขคณิตหรือค่าเฉลี่ย (Mean) ใช้สูตร 40


̅ = ∑ ……………………………………………………………………………(1) เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม N แทน จำนวนคนในกลุ่ม ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตร .. = √ ∑ 2−(∑ ) 2 (−1) ……………………………………………..……(2) เมื่อ S.D. แทน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด ∑ 2 แทน ผลรวมของกำลังสองของคะแนนแต่ละตัว N แทน จำนวนคนในกลุ่ม ตารางที่ 1 แสดงเกณฑ์การกำหนดระดับความพึงพอใจต่อการใช้งานระบบแชทบอท ค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจ ระดับความพึงพอใจ 4.50 – 5.00 มากที่สุด 3.50 – 4.49 มาก 2.50 – 3.49 ปานกลาง 1.50 – 2.49 น้อย 1.00 – 1.49 น้อยที่สุด ผลการวิจัย 1. ผลการพัฒนาระบบการพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษา และพัฒนาอาชีพ ผู้วิจัยได้ดำเนินการพัฒนาระบบการพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษา และพัฒนาอาชีพ ตามขั้นตอนการวิจัยในระยะที่ 1 โดยนำข้อมูลจากการศึกษา และวิเคราะห์ มาจัดทำระบบ ไลน์แชทบอท แสดงดังภาพ 41


ภาพที่ 1 ติดต่อเจ้าหน้าที่ ภาพที่ 2 เช็คสถานะ 42


ภาพที่ 3 ปัญหาที่พบบ่อย ภาพที่ 4 แบบฟอร์ม 43


2. ผลการทดลองใช้ระบบ Chatbot ผู้วิจัยดำเนินการทดลองใช้ระบบการพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษา และพัฒนาอาชีพ ที่พัฒนาขึ้น กับนักศึกษา สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 คน อาจารย์นิเทศ จำนวน 3 คน สถานประกอบการ จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 1 คน รวมทั้งหมด จำนวน 11 คน โดยมีการทดสอบก่อน เรียนหลังการเรียนรู้ และสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อระบบ จากนั้นนำผลการเรียนรู้มาวิเคราะห์ ด้วยค่าสถิติพื้นฐานเทียบกับเกณฑ์และสรุปผล แสดงดังตารางที่ 1 ตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจ รายการ ̅ S.D. ระดับความคิดเห็น 1. ความถูกต้องครบถ้วนของเนื้อหา 4.18 0.87 มาก 2. ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 3.45 1.03 ปานกลาง 3. การเรียบเรียงเนื้อหาที่เข้าใจง่าย 3.00 0.77 ปานกลาง 4. เนื้อหาสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงงาน 3.54 1.12 มาก 5. เนื้อหามีสาระและประโยชน์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ งานได้ในชีวิตประจำวัน 3.63 1.02 มาก โดยรวม 3.56 0.42 มาก จากตารางที่ 1 ผลการประเมินความพึงพอใจของการใช้งาน พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจในทุกคำถามอยู่ใน ระดับมาก (̅ = 3.56, S.D. = 0.42) สรุปผลการวิจัย บทความวิจัยนี้ได้นำเสนอการออกแบบและพัฒนาระบบแชทบอทเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจ ศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาโดยใช้ชื่อว่า สหกิจศึกษา NRRU ผ่านแอพพลิเคชันไลน์ ภายในระบบมีการใช้ LINE Messaging API เชื่อมต่อไปยัง Dialogflow ที่ทำหน้าที่ประมวลผลภาษาธรรมชาติ เพื่อให้เข้าใจถึงคำถามที่ผู้ใช้ถามมาและตอบข้อมูลกลับไปยังผู้ใช้ ในกรณีที่เป็นการถามคำถามข้อมูลที่เป็น static คำตอบจะถูกตั้งให้Dialogflow ตอบกลับไปยังไลน์ของผู้ใช้ทันที แต่หากเป็นการลงทะเบียนจะเรียกเปิดใช้งานเว็บ แอพพลิเคชันเพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ เมื่อเรียกใช้ข้อมูลเช็คสถานะ Dialogflow จะส่งคำร้องไปที่ Webhook เพื่อเรียกใช้งาน Fulfillment เพื่อดึงข้อมูล การเช็คสถานะในการส่งงเอกสารของนักศึกษาสหกิจศึกษา ชุดคำถามที่ สหกิจศึกษา NRRU รองรับ ได้แก่ การสอบข้อมูลสหกิจศึกษา แบบฟอร์ม เช็คสถานะ วิดีโอ สำหรับการใช้งานสหกิจศึกษา ปัญหาที่พบ ผลงานสหกิจ และการติดต่อเจ้าหน้าที่ รวมถึงความเป็นมาของสหกิจ ศึกษา ความหมายสหกิจศึกษา 44


หลังจากให้ผู้ใช้งานกลุ่มตัวอย่างทดสอบการใช้งาน จำนวน 11 คน พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความพึ่งพอใจกับ การใช้งานที่ง่ายมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.18 อยู่ในเกณฑ์มากและมีความพึงพอใจในด้านข้อมูลครบถ้วนของ ข้อมูลน้อยที่สุดโดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และมีคะแนนความพึงพอใจทั้งหมดของการ ใช้งานอยู่ที่ 3.56 อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.42 ข้อเสนอแนะ การพัฒนาระบบแชทบอท เพื่อสนับสนุนการให้บริการศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา ด้วยการนำเสนอข้อมูล การพัฒนาแอพพลิเคชันสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ในเรื่องการใช้ งานในระบบ IOS เพื่อให้มีการใช้งานที่ง่ายมากขึ้น และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ในเรื่องเนื้อหา ด้านความ ฉลาดของ AI ในการตอบกลับอัตโนมัติแนวทางในการพัฒนาต่อเนื่องจากระบบแชทบอทสหกิจศึกษานี้ ส่วนมาก การทำงานในระบบจะเป็นการสร้างเมนูให้ผู้ใช้กดหรือเลือกใช้งาน ควรจะมีการเพิ่มในส่วนของการพิมพ์ข้อความ แล้วตอบกลับเพื่อให้ความหลากหลายในการใช้งานมากขึ้น เอกสารอ้างอิง [1] สุมนา บุษบก* ณัฐพร เพ็ชรพงษ์ และ จีรนุช สิงห์โตแก้ว.(2563).การพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot สำหรับ งานบริการนักศึกษา กรณีศึกษากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.สืบค้นจาก https://nakhonratchasi-my.sharepoint.com [2] ร้อยตำรวจโทเกียรติพันธ์ศักดิ์ บิลอับดุลล่าห์.(2564).การประยุกต์ใช้ Chatbot สนับสนุนงานสอบสวน กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเบตง.สืบค้นจาก https://nakhonratchasimy.sharepoint.com/personal/thidanuch_p_nrru_ac_th/Documents/NamieDrive/2565%20%E0%B9%80% E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B 2/backup/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1 %E0%B8%A2/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8% A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%872.pdf 45


ระบบสนับสนุนการบริการ บริษัทสยาม อีบิสซิเนส Helpdesk Development of Service for Siam E Business นายอรรถพล เทียนเพิ่มพูล สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา [email protected] บทคัดย่อ โครงงานวิทยาการคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบสนับสนุนการบริการ บริษัทสยาม อีบิสซิเนส ใช้ ในการบันทึกการให้ความช่วยเหลือลูกค้า หลังจากติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว และช่วย แก้ปัญหาการติดตามงานการแก้ไขให้กับลูกค้า รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ การพัฒนาระบบ Helpdesk เพื่อพัฒนาะบบเว็บแอปพลิเคชันด้วย CodeIgniter Framework และ วัดผลความพึงพอใจในการใช้งานของเจ้าหน้าที่ในแผนก โดยวางขอบเขตของระบบโดยมี ระบบหน้า หลัก ระบบยืนยันตัวตนเข้าใช้งาน ระบบเพิ่มข้อมูล ระบบจัดการ ระบบเจ้าหน้าที่ ระบบรายงาน และ ระบบการแจ้งเตือน ขั้นตอนการดำเนินงานใช้ SDLC Model พร้อมทั้งมีการทดสอบระบบก่อน นำไปใช้งานอีกด้วย Abstract Computer Science Project on Service Support System, Siam E-Business Company used to record customer assistance. After installing various devices successfully and help solve the follow-up problem for the customer Including increasing the work efficiency of staff, developing the Helpdesk system to develop web applications with the CodeIgniter Framework, and measuring the satisfaction of staff in the department. By setting the scope of the system with a main page system, authentication system, access Information adding system, management system, staff 46


Click to View FlipBook Version