เอกสารอา้ งองิ
1. Abbott S.L, Janda JM Farmer III J J. Vibrio and Related Organisms. In Versalovic J, Carroll KC,
Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock Dw, editor. Manual of Clinical Microbiology. 10th ed.
Washington, DC: ASM Press; 2011. p.666-676.
2. Atlas RM, Synder JW. Reagents, Stains, and Media: Bacteriology. In: Versalovic J, Carroll KC,
Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW, editor. Manual of Clinical Microbiology, 10th ed.
Washington, DC: ASM Press; 2011. p.272-303.
3. Baron EJ, Thomson RB. Specimen Collection, Transport, and Processing: Bacteriology.
In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW, editor.
Manual of Clinical Microbiology, 10th ed. Vol 1. Washington, DC: ASM Press; 2011. p.228-271.
4. Centers for Disease Control and Prevention. Laboratory Methods for the Diagnosis of Vibrio cholerae,
http://www.cdc.gov/cholera/pdf/Laboratory-Methods-for-the-Diagnosis-of-Vibriocholerae-chapter-6.pdf.
5. Garcia, L.S., 2010, Clinical Microbiology Procedures Handbook, 3rd Edition. ASM Press.
6. Hornema, AJ, Ali A. Aeromonas. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry ML,
Warnock DW, editor. Manual of Clinical Microbiology, 10th ed. Washington, DC: ASM Press;
2011. p.658-665.
7. Jones TF, Keene WE. Investigation of Enteric Disease Outbreaks. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G,
Jorgensen JH, Landry ML,Warnock DW, editor. Manual of Clinical Microbiology, 10th ed. Vol 1.
Washington, DC: ASM Press; 2011. p.85-99.
8. Linscott AJ. Specimen Collection, Transport, and Acceptability. In: Garcia LS. Clinical Microbiology
Procedures Handbook, 3rd ed. Washington, DC: ASM Press; 2010. P 2.1.1-2.1.26.
9. Pezzlo M. Aerobic Bacteriology: Processing and Interpretation of Bacterial Fecal Cultures.
In: Isenberg HD editor. Essential Procedures for Clinical Microbiology. Washington, DC: ASM Press;
1998. p. 90-94.
10. ภารดี สมานชยั . การวินิจฉัยแบคทีเรียจากระบบทางเดนิ อาหาร ในคู่มือการปฏิบัติงานแบคทีเรียสำ� หรับ
โรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลทัว่ ไป. กรุงเทพมหานคร: ส�ำนกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ; 2540.
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทวั่ ไป 79
4.5 การเพาะเชอื้ จากระบบทางเดนิ หายใจ สุดาลกั ษณ์ ธญั ญาหาร
หลักการ
การเพาะเชอื้ จากลำ� คอสว่ นใหญใ่ ชว้ นิ จิ ฉยั Streptococcal pharyngitis และคอตบี แบคทเี รยี ทพ่ี บเปน็ สาเหตุ
ของ pharyngitis ทพ่ี บบอ่ ยคอื Streptococcus pyogenes (Group A Streptococcus ;GAS) การเพาะเชอื้ ในงาน routine
จงึ ควรเปน็ วธิ ที ส่ี ามารถแยกเชอ้ื Streptococcus pyogenes ทมี่ จี ำ� นวนนอ้ ยๆได้ คอตบี เปน็ โรคตดิ เชอื้ เฉยี บพลนั ของ
ทางเดินหายใจสว่ นบน เช้อื ทีเ่ ปน็ สาเหตุคือ Corynebacterium diptheriae ชนิดที่สรา้ งสารพษิ (toxin) ซึ่งทำ� ให้เกดิ
pseudomembrane ท่ี pharynx การยนื ยันอาการทางคลินิกนอกจากจะแยกเชอื้ ใหไ้ ด้แล้วต้องพสิ จู นว์ ่าเชื้อสามารถ
สร้างสารพิษ (toxin) ไดด้ ้วย
แมก้ ารตดิ เชอื้ ของทางเดนิ หายใจสว่ นลา่ งพบเปน็ สาเหตกุ ารตายและพกิ าร แตก่ ารวนิ จิ ฉยั โรคมคี วามยงุ่ ยาก
เพราะสิง่ สง่ ตรวจมกี ารปนเปื้อนของเชอื้ ประจ�ำถิ่นของระบบทางเดนิ หายใจสว่ นบน ซ่ึงเชื้อประจำ� ถน่ิ เหล่าน้ีบาง
ชนดิ อาจเปน็ สาเหตกุ ารตดิ เชอ้ื ของทางเดนิ หายใจสว่ นลา่ ง หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารจงึ ตอ้ งแนใ่ จวา่ สงิ่ สง่ ตรวจทนี่ ำ� มาตรวจ
เป็นส่ิงส่งตรวจท่ีเหมาะสม โดยต้องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์เพ่ือดูคุณภาพของสิ่งส่งตรวจโดยดูเซลล์ท่ีแสดงว่า
มกี ารอกั เสบของระบบทางเดนิ หายใจคือ polymorphonuclear cells
ขอบเขต
การรับสิ่งส่งตรวจ คุณภาพส่ิงส่งตรวจจากทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างที่ส่งเพาะเช้ือ วิธีการเพาะ
เชื้อ การอ่านผลและการรายงานผล
การเพาะเชอื้ จากระบบทางเดินหายใจสว่ นบน
สง่ิ สง่ ตรวจจากทางเดินหายใจสว่ นบน มดี งั นี้
1. สิ่งส่งตรวจปา้ ยจากล�ำคอ (throat swab) ป้ายจากโพรงจมกู (nasopharyngeal swab) เกบ็ ใสใ่ น Amies/Stuart’s
transport media (กรณีหาเฉพาะเช้อื S. pyogenes หรือ C. diphtheriae ซึ่งทนต่อความแห้งได้ดี สามารถสง่ ใน
ลักษณะไมพ้ ันส�ำลีแห้งๆใสใ่ นหลอดหรอื ภาชนะปราศจากเช้อื น�ำสง่ ภายใน 1 วนั
2. ส่ิงสง่ ตรวจท่ีเปน็ sinus aspirate, tracheal suction, nasopharyngeal suction ใส่ในภาชนะปราศจากเชือ้
3. สงิ่ สง่ ตรวจที่เป็น tracheal suction, nasopharyngeal suction สง่ มาในรูป tip (ทอ่ ยาง) ใน transport media
แบคทีเรยี ประจ�ำถน่ิ ในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไดแ้ ก่
- α-hemolytic streptococci - Neisseria spp. ทไ่ี มใ่ ช่ Neisseria gonorrhoeae
- Non-hemolytic streptococci - Moraxella catarrhalis
- Haemophilus haemolyticus - Non-group A β-hemolytic streptococci
- Staphylococcus coagulase-negative - coliform bacilli
- Yeast (รวม Candida albicans) - Diphtheroids
- Anaerobes - Spirochetes
80 คูม่ อื การปฏบิ ัตงิ านแบคทีเรียและรา
แบคทเี รียกอ่ โรคในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ - Burkholderia pseudomallei
- β-hemolytic streptococcus group A - Streptococcus pneumoniae
- Corynebacterium diphtheriae - Haemophilus influenzae
- Neisseria meningitidis (carrier) - Bordetella parapertussis
- Bordetella pertussis - Staphylococcus aureus
- Neisseria gonorrhoeae
- Moraxella (Branhamella) catarrhalis
- Predominate gram-negative bacilli
เช้ือราก่อโรค เชน่ Candida albicans
แผนภูมทิ ี่ 4.5-1 ขนั้ ตอนการเพาะเชื้อจาก throat swab และ nasopharyngeal swab
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลทัว่ ไป 81
กรณตี อ้ งการหาแบคทีเรียก่อโรคบางชนิดโดยเฉพาะ อาหารเลีย้ งเช้ือท่เี หมาะสม
(แพทยร์ ะบเุ พิม่ ในใบส่งตรวจเพอื่ เลือกใชอ้ าหารเลยี้ งเชื้อเพมิ่ )
- หาเชอื้ C. diphtheriae ก่อให้เกิดโรคคอตีบ* CTBA*
-หาเช้ือ N. gonorrhoeae กอ่ ใหเ้ กิด gonococcal pharyngitis ** MTM
- หา carrier ของเช้ือ N. meningitidis ในล�ำคอ ** MTM
- หาเช้อื H. influenzae ในคอของเดก็ ท่เี กบ็ เสมหะไมไ่ ด้ ** CA***
- หาเช้ือ B. pertussis ก่อโรคไอกรน BG
* C. diphtheriae โคโลนสี ีด�ำบน CTBA พสิ ูจน์เชือ้ แลว้ ตอ้ งตรวจวา่ มีการสรา้ ง exotoxin หรือไม่
** N. gonorrhoeae, N. meningitidis, H. influenzae ตอ้ งทดสอบหา enzyme β-lactamase ดว้ ย
*** ถ้าไม่มี CA ใหใ้ ช้เชื้อ S. aureus ขดี บน BA ที่ปลายระนาบแรกและท่รี ะนาบสดุ ท้าย กอ่ นน�ำไป
อบในบรรยากาศ 5% CO2 หรือ candle jar
แผนภูมิท่ี 4.5-2 ขัน้ ตอนการเพาะเชื้อจาก sinus aspirate, tracheal suction, nasopharyngeal suction
จน±ค2รบ 3 วัน
82 คมู่ อื การปฏิบตั งิ านแบคทีเรียและรา
วธิ ีการเพาะเช้ือจาก throat swab, nasopharyngeal swab
1. ป้าย swab ลงบน BA, MAC และอาหารเลยี้ งเชือ้ เพิ่มเติม (ถา้ มี) อย่างละ 1 plate โดยหมุน swab ขณะป้าย
เพอ่ื ให้เช้อื ลงบนอาหารใหม้ ากทส่ี ดุ
2. Streak plate 4 ระนาบ เพอ่ื ใหไ้ ดโ้ คโลนีทแ่ี ยกจากกนั น�ำไปอบท่ี 35 ± 2 °C นาน 3 วนั โดย BA, CA และ
MTM บม่ ในบรรยากาศ 5-10% CO2 หรือใสใ่ น candle jar
วธิ ีการเพาะเชือ้ จาก sinus aspirate, tracheal suction, nasopharyngeal suction
ใช้ Pasteur pipette ปราศจากเชือ้ ดดู สิง่ สง่ ตรวจ หยดลงบน CA, BA , MAC plate ละ 1หยด streak plate และ
น�ำไ(ปกอรณบทสี ี่ง่ 3ม5าใ±น2รปู°Ctiสp�ำหหรรอื บั ทCอ่ ยAางใหในเ้ พtrาaะnใsนpบorรtรmยeาdกiาaศใ5ห%ค้ บี CชOน้ิ 2สายยางใส่ลงใน brain heart infusion broth หรือ
trypticase soy broth ประมาณ 3 ml แล้วนำ� ไป mix ด้วย mixer เพ่อื ให้เชื้อหลุดออกมา แลว้ นำ� ไปเพาะบนอาหาร
เลยี้ งเชอ้ื ต่อไป)
การอา่ นผล
1. หลงั อบที่ 35 ± 2 °C 18-24 ชม. แลว้ ตรวจดวู ่ามีเชื้อเจริญหรอื ไม่ หากไม่มเี ชอ้ื เจริญให้อบต่ออีกจนครบ
3 วันแลว้ รายงาน “No growth after 3 days”
2. plate ท่ีมเี ชื้อเจริญให้ตรวจดวู ่าเชื้อท่เี จริญมีความส�ำคัญหรือไม่ โดยพจิ ารณาชนิดและปรมิ าณเช้ือทีเ่ จรญิ
เปรยี บเทยี บกบั เชอื้ อนื่ แลว้ ทำ� การวนิ จิ ฉยั เชอื้ ทอี่ าจเปน็ สาเหตขุ องโรค โดยรายงานจำ� นวนเชอื้ (numerous,
moderate, few หรือ rare) ชนิดของเชื้อ และทำ� การทดสอบความไวของเชอ้ื ต่อสารตา้ นจลุ ชพี เฉพาะเชอื้ ท่ี
นา่ จะเป็นสาเหตุ สว่ นเชื้อประจำ� ถ่ินท่พี บได้ตามปกตไิ มต่ อ้ งทดสอบความไวต่อสารต้านจุลชพี
การรายงานผล
1. กรณไี ม่พบการเจริญของจลุ ชพี ใดๆ หลังการอบนาน 3 วนั ให้รายงานว่า “No growth after 3 day”
2. กรณตี รวจพบแตเ่ ช้ือประจ�ำถิน่ ไมพ่ บเชื้อก่อโรคทต่ี ้องการตรวจหา ใหร้ ายงานวา่ “No pathogenic bacteria
isolated”
3. กรณพี บเช้อื ก่อโรค ได้แก่ β-hemolytic Streptococcus group A, C. diphtheriae, N. meningitidis และ
B. pertussis ให้รายงานปรมิ าณเชื้อ ชอ่ื เช้ือ และผลทดสอบความไวของเชือ้ ตอ่ สารตา้ นจลุ ชพี ยกเวน้ เชื้อ
Streptococcus group A ไม่ต้องทดสอบความไวของเชื้อตอ่ สารตา้ นจุลชีพ
การเพาะเช้ือจากระบบทางเดินหายใจสว่ นลา่ ง
โดยปกตริ ะบบทางเดนิ หายใจสว่ นลา่ งจะไมม่ แี บคทเี รยี ประจำ� ถนิ่ แตใ่ นการเพาะเชอื้ อาจพบเชอื้ บางชนดิ ซง่ึ เปน็
จลุ ชพี ประจำ� ถ่นิ ในล�ำคอและชอ่ งปากได้ เช่น
- α-hemolytic Streptococci (Viridans streptococci ) - Neisseria spp.
- β-hemolytic Streptococci not group A - Corynebacterium spp.
- Low number of gram-negative bacilli - Lactobacillus spp.
สำ� หรบั โรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลทั่วไป 83
แบคทเี รยี ก่อโรคในระบบทางเดนิ หายใจสว่ นลา่ ง ไดแ้ ก่
- Staphylococcus aureus - Haemophilus influenzae
- Streptococcus pneumoniae - Burkholderia pseudomallei
- Streptococcus pyogenes - Pasteurella multocida
- Klebsiella pneumoniae - Moraxella (Brahamella) catarrhalis
- Nocardia asteroides
- เชือ้ gram-negative bacilli ท่มี ีจ�ำนวนตั้งแต่ moderate ขึน้ ไป
ชนดิ ของส่งิ ส่งตรวจจากระบบทางเดนิ หายใจสว่ นลา่ ง
ได้แก่ sputum, lung biopsy หรอื aspirate, tracheal suction และ bronchial wash
แผนภมู ิท่ี 4.5-3 ขัน้ ตอนการเพาะเชือ้ แบคทเี รยี จาก sputum และ bronchial wash
สง่ ให้ตรวจใหม่
84 ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานแบคทเี รยี และรา
กรณเี สมหะเหนียวขน้ สามารถละลายเสมหะดว้ ย N-acetyl-L-cystien (Fumacil) ในอัตราส่วน 4:1 และสามารถ
ทำ� การเจือจางใน sterile normal saline เพ่ือหาปรมิ าณของเชื้อได้ (quantitative culture)
การเพาะเช้ือจากเสมหะและไม่พบเช้ือใดให้คิดถึงเช้ือท่ีต้องการอาหารเพาะเชื้อหรือวิธีการเพาะเช้ือพิเศษ เช่น
Mycobacteria, Actinomycetes, Fungus, Virus, Rickettsiae, Chlamydia และ Mycoplasma
ขัน้ ตอนการเพาะเชื้อจาก sputum และ bronchial wash
1. ตรวจดูและบนั ทึกลกั ษณะเสมหะ (sputum) หรอื bronchial wash วา่ เป็นแบบใด
- mucoid (เปน็ มูก) - purulent (เป็นหนอง)
- murco-purulent (มกู ปนหนอง) - blood-stained (มีเลอื ดปน)
- salivary (เหมือนน้�ำลาย)
แลว้ ท�ำการย้อมแกรมทนั ที เพือ่ ตรวจสอบดูความเหมาะสมของสง่ิ สง่ ตรวจโดยยึดหลักเกณฑ์ ดงั นี้
เสมหะที่เหมาะสม ควรมี PMN จำ� นวนมากแต่มี squamous epithelial cells (SEPC) จำ� นวนน้อย
PMN:SEPC ≥10:1 หรอื epithelial cells <25 cells/LPF
เสมหะทมี่ นี ำ้� ลายปนบา้ ง ใหเ้ ลอื กบรเิ วณทเ่ี ปน็ เนอื้ เสมหะ เพอื่ ยอ้ มแกรมและเพาะเชอื้
เสมหะที่ไม่เหมาะสม เปน็ น�้ำลายไม่พบ PMN หรอื พบนอ้ ย มี epithelial cells มาก
PMN:SEPC ≤10:1 หรอื epithelial cells >25 cells/LPF
เสมหะทเี่ กบ็ มาผดิ วธิ ี อาจเกบ็ มาเปน็ swab ตอ้ งแจง้ ผสู้ ง่ ตรวจ เพอ่ื เกบ็ มาใหมใ่ หถ้ กู ตอ้ ง
2. ส่ิงสง่ ตรวจที่เหมาะสม เพาะลง CA, BA, MAC โดยเรียงล�ำดบั กอ่ นหลงั , สำ� หรับ plate CA และ BA ใหอ้ บ
หในลบงั อรรบยนาากนาศ24COชม2 .ทแี่อลณุ ว้ หตภรูมวิ 3จ5ด±วู 2่าม°Cเี ช1้ือ8เจ-2ร4ิญชหมร.ือไม่
3. หากไม่มเี ช้อื เจริญ ใหอ้ บตอ่ จนครบ 3 วัน ถา้ ตรวจ
ไมพ่ บเช้อื ให้รายงาน “No growth after 3 days”
4. plate ทม่ี เี ชอื้ เจรญิ ใหต้ รวจดวู า่ เชอื้ มคี วามสำ� คญั หรอื ไม่ โดยพจิ ารณาชนดิ และปรมิ าณเชอื้ ทขี่ น้ึ เปรยี บเทยี บ
กบั เชอื้ อ่ืน แล้วทำ� การวนิ จิ ฉัยเชื้อท่อี าจเป็นสาเหตขุ องโรค โดยรายงานจำ� นวนเชื้อ (numerous, moderate,
few หรอื rare ) ชนดิ ของเช้ือและ ทำ� การทดสอบความไวของเชอื้ ต่อสารต้านจุลชีพเฉพาะเช้ือที่นา่ จะเปน็
สาเหตุ ส่วนเช้ือประจ�ำถิน่ ทพี่ บไดต้ ามปกติไมต่ อ้ งทดสอบความไวของเชอื้ ตอ่ สารตา้ นจลุ ชพี
5. กรณีทพ่ี บเชอ้ื เพียงชนิดเดยี วใหว้ นิ จิ ฉัยและรายงานแม้จะเป็นเช้ือประจำ� ถ่นิ หรือเชอื้ รา
สำ� หรบั โรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลทว่ั ไป 85
แผนภูมิท่ี 4.5-4 ขั้นตอนการเพาะเชอื้ จาก lung biopsy และ lung aspirate
จน±ค2รบ 3 วนั
1. ในกรณีทีเ่ ปน็ lung biopsy ให้น�ำส่งิ ส่งตรวจบดในโกรง่ ปราศจากเช้อื (ควรทำ� ใน biohazard safety cabinet)
อาจใชท้ รายละเอียดปราศจากเชอื้ ลงไปช่วยในการบด แล้วใช้ pasteur pipette ปราศจากเชื้อ ดดู สิ่งสง่ ตรวจ
ทีบ่ ดแลว้ หยดใส่ plate ละ 1 หยด ท่ีเหลือใส่ thioglycollate broth และทำ� smear เพอ่ื ยอ้ มแกรม ถ้าเปน็ lung
aspirate ใหท้ �ำการเพาะเชือ้ ไดเ้ ลยโดยไมต่ ้องบด
2. การเพาะเช้อื การอ่านผล และการรายงานผล ท�ำเช่นเดียวกบั sputum โดยเพิ่มการลงสงิ่ สง่ ตรวจที่เหลือ
ใน thioglycollate broth ( FTM) เพ่ือหา anaerobic bacteria
3. FTM ควรอบจนครบ 7 วัน ดู growth ทุกวัน ถ้ามีความขุ่นในส่วนล่าง อาจเป็น anaerobes ให้น�ำมาย้อม
แกรม และเพาะบน BA, MAC นาน 2 วัน : ถ้าพบเช้ือจากการย้อมแกรมแต่ไม่มีเชื้อเจริญ ให้รายงานผล
การย้อมแกรมพร้อมรูปร่างและส่งต่อห้องปฏิบัติการท่ีเพาะ anaerobic bacteria ได้ ถ้ามีเชื้อเจริญท�ำการ
จ�ำแนกชนิดและทดสอบความไวต่อสารต้านจุลชีพ พร้อมกับรายงานผล กรณีท่ีพบเชื้อเพียงชนิดเดียวให้
วนิ ิจฉัยและรายงานแม้จะเปน็ เชือ้ ประจำ� ถน่ิ หรอื เชอื้ รา
86 ค่มู อื การปฏิบัติงานแบคทเี รียและรา
เอกสารอ้างองิ
1. Church DL. Aerobic Bacteriology: Processing and Interpretation of Respiratory Tract Cultures.
In: Garcia LS editor. Clinical Microbiology Procedures Handbook, 3rd ed. Washington, DC:
ASM Press; 2007. p.320-408.
2. Keizo M, Tsuyoshi N. Clinical Microbiology of Respiratory Infections. Nagasaki: Nagasaki
University; 1994.
3. จารุภรณ์ กลิ่นแกว้ ณรงค.์ การเพาะเชือ้ จากระบบทางเดนิ หายใจ. ใน: คู่มอื การปฏิบตั ิงานแบคทีเรยี
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลทว่ั ไป กองโรงพยาบาลภมู ภิ าค. กรุงเทพ-มหานครฯ:
ส�ำนกั งาน ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ; 2540. หนา้ 31-37.
4. นชิ า เจรญิ ศร.ี การเพาะเชือ้ จากระบบทางเดินหายใจ. ใน: วิภาวี แมนมนตร,ี อรุณวดี ชนะวงศ์,
โชตชิ นะ วลิ ัยลักษณคณา บรรณาธกิ าร. การตรวจทางแบคทเี รยี วทิ ยาและราวิทยา. ขอนแกน่ :
ภาควชิ าจลุ ชวี วิทยา คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น; 2521. หน้า 15-17.
5. มาลัย วรจิตร. แบคทเี รียกอ่ โรค: Pathogenic Bacteria. กรุงเทพมหานครฯ: สยามศิลปการพมิ พ์; 2545.
6. ภทั รชัย กีรตสิ นิ . ต�ำราแบคทเี รียทางการแพทย์. กรงุ เทพมหานครฯ: ภาควชิ าจุลชีววิทยา
คณะแพทยศาสตรศ์ ริ ิราชพยาบาล มหาวทิ ยาลัยมหิดล; 2549. หน้า 98-100, 206-9.
สำ� หรับโรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลทั่วไป 87
4.6 การเพาะเชอ้ื จากระบบสบื พันธุ์ สมชัย หลกภิชาติ
อนชุ าติ จ๋อมแปง
ระบบสบื พนั ธข์ุ องมนษุ ยม์ จี ลุ ชพี หลายชนดิ ทเ่ี ปน็ เชอ้ื ประจำ� ถน่ิ เกาะอยทู่ ผี่ วิ ของเซลล์ เชอื้ ประจำ� ถนิ่ พบทป่ี ลาย
เปิดองคชาต (surface of penis) และในชอ่ งคลอด (vagina) การตดิ เช้อื ระบบสืบพันธมุ์ สี าเหตจุ ากเชอื้ จลุ ชีพหลาย
ประเภททั้งเช้อื แบคทีเรีย เชอื้ รา ไวรสั ปรสิต เชอ้ื ก่อโรคที่ตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่
- Neisseria gonorrhoeae
- Chlamydia trachomatis
- Gardnerlla vaginalis
- Haemophilus ducreyi
- Treponema pallidum
- Ureaplasma urealyticum
- Mycoplasma hominis
- Trichomonas vaginalis
- Candida albicans
- Molluscum contagiosum
- Human Papilloma Virus (HPV)
- Herpes Simplex Virus (HSV)
- Human Immunodeficiency Virus (HIV)
- Anaerobic bacteria (Mobiluncus spp., Peptostreptococcus spp., Bacteroides spp., Prevotella spp.)
ส�ำหรับเชื้อก่อโรคท่ีสามารถติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ได้แก่ Streptococcus group B (Streptococcus agalactiae),
Escherichia coli, Neisseria gonorrhoeae, Chlamydia trachomatis, Listeria monocytogenes ดา้ นสรรี วทิ ยาการตดิ
เชือ้ ในระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิงจะมกี ารตดิ เช้อื ไดง้ ่ายและบอ่ ยกวา่ ในเพศชาย
บทนจ้ี ะกลา่ วถงึ สงิ่ สง่ ตรวจของระบบสบื พนั ธท์ุ เี่ หมาะสมตอ่ การเพาะเชอื้ อาหารและวธิ กี ารเพาะเชอ้ื ทจ่ี ำ� เพาะ
ส�ำหรบั แตล่ ะเชือ้ เพ่อื เพมิ่ ประสทิ ธิภาพของการตรวจ การอา่ นผลและการรายงานผล โดยมงุ่ เน้นการเพาะเชือ้ กอ่
โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธท์ ส่ี ามารถเพาะเชอ้ื ได้ สำ� หรบั การตรวจหาเชอ้ื กอ่ โรคทหี่ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารไมม่ วี ธิ กี ารอยคู่ วร
ส่งตอ่ หอ้ งปฏบิ ตั ิการอา้ งอิง
สิง่ สง่ ตรวจ
ส่งิ สง่ ตรวจเพ่อื เพาะเชอ้ื ทางระบบสบื พันธ์ุ ได้แก่ urethral swab, vaginal swab, cervical swab, endocervical
swab, genital ulcer swab หรอื อน่ื ๆ ควรใช้ sterile Dacron swab ใส่ Stuart’s หรอื Amies transport medium ทเี่ ติม
หรอื ไมเ่ ตมิ charcoal สิ่งสง่ ตรวจทีเ่ กบ็ ตอ้ งตดิ ฉลากระบุชือ่ ผปู้ ่วย วนั ทเี่ กบ็ ตวั อย่าง ชนดิ สิง่ ส่งตรวจ และรบี นำ� สง่
ห้องปฏบิ ัติการทนั ที หา้ มเกบ็ ที่ 4 °C ควรเก็บสิง่ ส่งตรวจ 2 ชดุ สำ� หรบั เพาะเชือ้ และยอ้ มแกรม กรณีส่งตรวจ wet
smear ให้ใชไ้ ม้พนั สำ� ลปี ราศจากเช้อื เก็บสิ่งส่งตรวจ ใส่น�้ำเกลือปราศจากเช้อื 1 ml
88 คูม่ ือการปฏิบตั งิ านแบคทีเรียและรา
วธิ ีปฏิบัตงิ าน
1. ตรวจสอบความถูกตอ้ งเหมาะสมของสงิ่ ส่งตรวจ ช่อื ผปู้ ่วย ชนิดสิง่ สง่ ตรวจ ปรมิ าณ และวนั ท่ีเก็บตวั อย่าง
2. น�ำส่งิ ส่งตรวจเพาะบนอาหารเล้ียงเชื้อ CA, BA, MTM, และ MAC ตามล�ำดับ ควรเพาะเช้อื ทนั ทหี รือภายใน
20 นาที หลงั รับสิ่งสง่ ตรวจ กรณีทแ่ี พทยส์ ง่ ตรวจหาเชอื้ Streptococcus agalactiae ควรเพาะเชือ้ ใน LIM
broth (Todd-Hewitt broth ทม่ี ี 10 μg/ml colistin และ 15 μg/ml nalidixic acid) ซ่งึ เปน็ selective media ก่อน
เพาะบนจานเพาะเชอ้ื จะชว่ ยใหต้ รวจพบเช้ือได้มากขึ้น
3. ปา้ ยสิ่งส่งตรวจบนสไลดห์ ลงั จากเพาะเชื้อ เพอื่ น�ำมาย้อมแกรม ตรวจดูปรมิ าณและชนิดของเชอ้ื แบคทีเรีย
ปรมิ าณเซลลเ์ ม็ดเลือดขาว และ clue cell เพอ่ื ชว่ ยวินิจฉัยเชอื้ กอ่ โรคจาก normal flora ในเบอื้ งตน้
4. นำ� จานเพาะเช้ือ (และ LIM broth กรณีตรวจหา Streptococus agalactiae) ไปอบ ที่ 35-37 °C ในบรรยากาศ
ห5 ล%งั จCาOก2อหบรนอื าในน1c8a-n2d4leชjมar. ทีว่ างส�ำลีชุบน�ำ้ ให้ความชืน้
5. อ่านผลการเพาะเชื้อบน CA, BA และ MTM ถ้าไมม่ ีเชื้อเจรญิ ให้อบจนครบ 72
ชม. ยกเว้น ยอ้ มแกรมพบ coccobacilli มีลกั ษณะเรยี งตวั แบบฝูงปลาว่ายตามกัน (“school of fish”) ใหอ้ บ
จนครบ 5 วนั กรณี LIM broth ให้เพาะเชอ้ื บน BA นำ� ไปอบ ท่ี 35-37°C ในบรรยากาศ 5% CO2 หรือใน
candle jar ที่วางส�ำลชี ุบนำ�้ ใหค้ วามชน้ื อบนาน 48 ชม. ถ้าไมม่ เี ชอ้ื เจริญใหอ้ บจนครบ 72 ชม.
6. ตรวจแยกชนิดของเชอื้ ก่อโรค และทดสอบความไวของเชื้อต่อสารตา้ นจลุ ชีพ
7. หากตรวจพบเชอ้ื Neisseria gonorrhoeae ไม่ตอ้ งทดสอบการผลติ เอนไซม์ β-lactamase เนอ่ื งจากการรกั ษา
ในปจั จุบนั ใช้ยาท่ีออกฤทธท์ิ �ำลายเอนไซม์ β-lactamase
การย้อมแกรมจากส่ิงส่งตรวจโดยตรง มีประโยชน์ช่วยในการวินิจฉัยโรคหนองใน (gonorrhea) จากเชื้อ
N. gonorrhoeae ถา้ พบ gram-negative diplococci intra และ extra polymorphonuclear (PMN) cells รว่ มกบั PMN
ท่ีสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่ิงส่งตรวจจากระบบสืบพันธุ์เพศหญิง นอกจากนี้ยังช่วยในการวินิจฉัยโรค
bacterial vaginosis ได้ โดยจะพบ lactobacilli ซึ่งเป็นเช้ือประจ�ำถิ่นที่มีจ�ำนวนมากจะลดลง ท�ำให้ pH ใน
ช่องคลอดสูงข้ึน (pH > 4.5) เหมาะต่อการเจริญของเชื้อ Gardnerella vaginalis และเช้ือก่อโรคอื่นๆ ซ่ึงจะมี
metabolism ได้สารประกอบพวกเอมีนและกรดอินทรีย์ ท�ำให้มีกล่ินเหม็นคล้ายคาวปลา (fishy odor) และกลิน่
จะชัดข้ึนเม่ือหยด 10% KOH เน่ืองจาก Gardnerella vaginalis เป็น normal flora ด้วย จึงต้องใช้ปริมาณ
ทีพ่ บ เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาว่าเป็นเช้ือกอ่ โรครว่ มด้วย คือ มเี ชอื้ เจรญิ 3 ใน 4 บนอาหารที่ไมใ่ ช่ selective media
(เชน่ CA)
นอกจากนี้กรดอินทรีย์ยังท�ำให้เซลล์เย่ือบุช่องคลอดท่ีมี gram-negative bacilli และ gram variable bacilli
หลดุ ออกมาเปน็ ตกขาว (vaginal discharge) เมือ่ ย้อมแกรมก็จะพบลักษณะทเี่ รียกว่า clue cell
การตรวจส่ิงส่งตรวจโดยตรงด้วยวิธี wet smear มีประโยชน์ช่วยในการวินิจฉัยการติดเช้ือ Trichomonas
vaginalis, budding yeast cells และ clue cells ได้
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป 89
แผนภูมทิ ่ี 4.6-1 ขั้นตอนการวินิจฉยั เช้อื กอ่ โรคในระบบสบื พนั ธ์ุ
ตารางที่ 4.6-1 ตารางการวนิ ิจฉยั เชอื้ ก่อโรคในระบบสืบพนั ธุ์
เชือ้ กอ่ โรค การวนิ จิ ฉยั เบื้องต้น การวนิ จิ ฉยั
เพอื่ แยกชนดิ ของเชอ้ื
Neisseria gonorrhoeae 1. เจรญิ บน MTM และ CA ลกั ษณะโคโลนี ขนาดเลก็ สเี ทาขอบ CTA :
เรยี บเหนียว ไมเ่ จริญบน BA และ TSA glucose บวก,
2. ติดสีแกรมลบ เปน็ diplococci lactose ลบ,
3. oxidase บวก maltose ลบ
4. catalase บวก โดยใช้ 30% H2O2
Haemophilus ducreyi 1. เช้ือต้องการ hemin (X factor) จงึ เจรญิ บน CA เท่านนั้ ยอ้ มแกรมพบลกั ษณะ
หรอื อาจเจริญรอบ staphylococci colony บน BA เรียงตัวแบบฝูงปลา
ลักษณะโคโลนี สีเทานนู ผวิ เรียบ อาจเยิ้ม วา่ ยตามกนั
2. ติดสีแกรมลบ coccobacilli ขนาดเลก็ (“school of fish”)
3. catalase ลบ oxidase บวกชา้ (15-20 วินาท)ี
Streptococcus group B 1. เจรญิ บน CA และ BA ลกั ษณะโคโลนี เลก็ ใสให้ β-hemolysis CAMP บวก
(Streptococcus มีโซนแคบ hippurate บวก
agalactiae) 2. ตดิ สีแกรมบวก cocci เรียงตวั เป็นคู่ หรอื สาย PYR ลบ
3. catalase ลบ
90 คู่มือการปฏิบตั ิงานแบคทีเรียและรา
ตารางที่ 4.6-1 ตารางการวินิจฉัยเชอ้ื กอ่ โรคในระบบสบื พันธ์ุ (ต่อ)
เช้ือก่อโรค การวินิจฉยั เบ้ืองต้น การวนิ ิจฉยั
เพ่ือแยกชนิดของเชอ้ื
Gardnerella vaginalis 1. ลักษณะโคโลนี เล็ก ให้ β-hemolysis hippurate บวก
2. ตดิ สแี กรม variable coccobacilli หรือ rod ขนาดเล็กมาก พบ clue cell
3. catalase ลบ
Listeria 1. เจรญิ บน CA และ BA ลักษณะโคโลนี เลก็ แบน สีเทาขาวให้ bile-esculin บวก
monocytogenes β-hemolysis มโี ซนแคบ CAMP บวก
Yeast cells 2. ตดิ สีแกรมบวก rods motility บวกที่ 25 ํC
3. catalase บวก เปน็ รูปรม่ กาง
4. motile (tumbling) in wet mount แตล่ บท่ี 35 Cํ
เจริญบน CA และ BA ลักษณะโคโลนี สีครีม สีขาว มีกลิ่น Candida albicans
ขนมปัง ขอบโคโลนยี นื่ คลา้ ยเท้า (“feet” extending form) ให้ germ tube บวก
การอา่ นผล
อา่ นผลการเพาะเช้อื ที่ 18-24 ชม. ถา้ ไม่เจริญใหอ้ บต่อจนครบ 72 ชม. และอ่านผล CA, BA และ MTM
การรายงานผล
1. กรณีไม่มเี ชื้อเจรญิ ใหร้ ายงาน “no growth in 3 days”
2. กรณีมเี ชอื้ ประจ�ำถนิ่ เจริญให้รายงาน “normal genital flora” และประเมนิ จ�ำนวนเชอื้
3. กรณีมีเช้ือก่อโรคเจริญให้รายงานชนิดของเชื้อก่อโรคทุกชนิดท่ีพบ และประเมินจ�ำนวนเชื้อ (rare or 1+,
few หรือ 2+, moderate หรือ 3+, many (numerous) หรือ 4+) พร้อมผลการทดสอบความไวของเชื้อต่อ
สารตา้ นจลุ ชีพ
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลท่ัวไป 91
เอกสารอา้ งอิง
1. Baron EJ, et. al. Bailey & Scott’s Diagnostic Microbiology, 9th ed. Missouri: Mosby; 1994. p.258-73.
2. Braude AL, et. al. Infectious Diseased and Medical Microbiology, 2nd ed. Philadelphia: W.B. Saunders
Company; 1981. p.1009-59
3. Mary K.York. Sharon L. Hillier, and deirolve L. Church. Guidelines for Performance of Cenital Cultures.
In:GS Lynne (ed). Clinical Microbiology Procedures Hardbook. 3rdedition. ASM Press, Washington DC;
2010. p.3.9.1.1-3.9.4.5
4. Murray PR, Baron EJ, Pfaller MA, Tenover FC, Yolken RH editors. Manual of Clinical
Microbiology 7th ed. Washington, DC: ASM Press; 1999. p.64-104, 777-806.
5. Pezzlo M. Aerobic Bacteriology: Processing and Interpretation of Genital Cultures. In: Isenberg HD
editor. Essential Procedures for Clinical Microbiology. Washington, DC: ASM Press; 1998. p. 81-89.
6. กลมุ่ โรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์, ส�ำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพันธ์, กรมควบคมุ โรค,
กระทรวงสาธารณสขุ . คมู่ อื การชนั สตู รโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ.์ กรงุ เทพมหานครฯ: โรงพมิ พส์ ำ� นกั งาน
พระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ; 2541
7. วชั รนิ ทร์ รงั สภี าณรุ ตั น,์ อสิ ยา จนั ทรว์ ทิ ยานชุ ติ , พรทพิ ย์ พงึ่ มว่ ง, สมหญงิ งามอรุ เุ ลศิ , สมุ ลรตั น์ ชวู งษว์ ฒั นะ.
การวนิ จิ ฉยั โรคตดิ เชอื้ แบคทเี รยี ทางการแพทย,์ พมิ พค์ รง้ั ท่ี3.กรงุ เทพมหานครฯ: สำ� นกั พมิ พแ์ หง่ จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลยั ; 2553. หน้า 159-71.
8. วรรณา เพ่งเรืองโรจนชัย. การเพาะเช้ือจากเลือด. คู่มือการปฏิบัติงานแบคทีเรียส�ำหรับโรงพยาบาล
ศูนย์และโรงพยาบาลท่วั ไป. นนทบุรี: กองโรงพยาบาลภูมิภาค; 2540. หนา้ 19-22
9. สวรรยา พงศป์ ริตร. แบคทเี รยี วิทยาทางการแพทย.์ ปทมุ ธานี: ศนู ยเ์ ทคโนโลยที างการศึกษา มหาวทิ ยาลยั
รังสิต; 2556.
92 คู่มอื การปฏบิ ตั งิ านแบคทเี รยี และรา
4.7 การเพาะเช้ือจากหนอง แผล ฝี ต่างๆ หทั ยา ธัญจรญู
หลกั การ
จลุ ชพี ทเ่ี ปน็ สาเหตขุ องการตดิ เชอ้ื ของแผล ฝตี า่ งๆ อาจเปน็ เชอ้ื ประจำ� ถน่ิ ของผวิ หนงั mucous membrane และ
ส่ิงแวดล้อม โดยผา่ นเข้าสบู่ รเิ วณทีภ่ าวะปกตปิ ราศจากเชอ้ื ทางผวิ หนังหรือ mucous membrane เพราะในการกอ่
โรคจุลชีพเหล่านี้อาจไม่ต้องใช้ virulence factor ก็ได้ ในการแปลผลการเพาะเช้ือ จึงต้องอิงเกณฑ์ผลการย้อม
แกรมและการปรกึ ษาร่วมกับแพทย์
ส่ิงสง่ ตรวจ
1. หนองจากแผลลึกหรอื ฝี ทไี่ ด้จากการเจาะดูด เปน็ สงิ่ ส่งตรวจทีด่ รี องจากช้นิ เนื้อท่ีไดจ้ ากการผ่าตดั
เน่อื งจากไมม่ กี ารปนเปื้อนจากจลุ ชพี ประจ�ำถิ่น
2. หนองและส่ิงคัดหลงั่ ท่ีได้จากบรเิ วณตดิ เชื้อระหวา่ งการผ่าตดั
3. swab เป็นสงิ่ สง่ ตรวจท่ีมคี ณุ ภาพดอ้ ยท่ีสุด เนื่องจากมปี รมิ าตรของสงิ่ ส่งตรวจนอ้ ยและมโี อกาส
ปนเป้อื นมาก
การรับสง่ิ สง่ ตรวจ
ขั้นตอนการรบั ส่งิ สง่ ตรวจ ประกอบด้วยการตรวจสอบดังน้ี
1. การตรวจสอบวิธกี ารนำ� สง่ (การป้องกนั การแพรก่ ระจายเช้ือ อุณหภมู ิ ระยะเวลา การปนเปือ้ น) และวิธเี กบ็
รักษา
2. ตรวจสอบขอ้ มลู ทส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่ ชอ่ื อายุ เพศ เลขทผี่ ปู้ ว่ ย แพทยผ์ สู้ ง่ ตรวจ เวลาทเี่ กบ็ สงิ่ สง่ ตรวจ ชนดิ และ
ต�ำแหน่งสิง่ สง่ ตรวจ รายการสง่ ตรวจ เปน็ ตน้ โดยข้อมลู ต้องถกู ตอ้ งตรงกันท้งั ใบสง่ ตรวจและส่งิ สง่ ตรวจ
3. การตรวจสอบคณุ ภาพสิ่งสง่ ตรวจทงั้ macroscopic (ปริมาณ ชนดิ ภาชนะนำ� สง่ สิ่งส่งตรวจ ชนดิ สงิ่ ตรวจ
เหมาะสมกับรายการส่งตรวจ ไม่ใช้ syringe ในการน�ำส่งสิ่งส่งตรวจ) และ microscopic โดยการย้อม
แกรมซ่ึงเป็นวธิ ีการตรวจวิเคราะห์ที่ช่วยการวนิ ิจฉยั ได้อย่างรวดเร็วและทำ� ได้งา่ ย
การย้อมแกรม ให้ขอ้ มูลทเ่ี ป็นประโยชน์ ดงั น้ี
1. การประเมินการติดเชื้อ จากปริมาณ PMN, squamous epithelial cells และจุลชีพที่ตรวจ พบแนวทาง
การแปลผลการย้อมแกรมเชงิ ปริมาณ แสดงในตารางท่ี 4.7-1 และ ตารางท่ี 4.7.2
สำ� หรับโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทวั่ ไป 93
ตารางท่ี 4.7-1 การแปลผลการยอ้ มแกรมเชิงปริมาณส�ำหรับตัวอย่างที่ไม่ใชเ่ สมหะ ไม่ใช่ตัวอยา่ งปา้ ยช่องคลอดท่ี
ใชว้ นิ ิจฉัยช่องคลอดอกั เสบ และไม่ใช่ตัวอยา่ งน�้ำคัดหลัง่ ทผี่ ่านการปัน่
Epithelial or Polymorphonuclear cells ( PMN ) Microorganisms (bacteria , yeast / fungi)
Description Number / LPF Description Number / OIF
1+ , rare < 1 1+ , rare <1
2+ , few 1-10 2+ , few 1-10
3+ , moderate 11-25 3+ , moderate 11-25
4+ , many > 25 4+ , many > 25
Low – power field ( LPF ) (x100) ; high – power oil immersion field ( OIF ) (x1000)
Numbers are based on an average of 10 fields.
(Canadian Coalition for Quality in Laboratory Medicine CCQLM, Microbiology Working Group. Guideline for
Quantitative Interpretation of Gram’s Stains : November 2004)
การแปลผล : ปรมิ าณ PMN และจลุ ชีพยง่ิ มาก แสดงว่ามีโอกาสพการตดิ เช้อื มาก
2. การบริหารการใชย้ าตา้ นจลุ ชีพของแพทย์ เนอ่ื งจากสามารถบอกทงั้ ลกั ษณะการตดิ สี รูปร่าง และการ
เรยี งตัวของเชอ้ื จลุ ชีพ
3. ชว่ ยตดิ ตามการเปล่ียนแปลงของการตดิ เชือ้ ของแผลได้ประหยดั กวา่ การเพาะเชอ้ื
4. ตรวจสอบคณุ ภาพสง่ิ สง่ ตรวจได้ ทำ� ใหส้ ามารถรบั หรอื ปฏเิ สธสง่ิ สง่ ตรวจและเกบ็ ตวั อยา่ งใหมไ่ ดใ้ นวนั
เดยี วกัน ดงั แสดงในตารางท่ี 4.7-2
ตารางที่4.7-2 การแปลผลการยอ้ มแกรมเชงิ ปรมิ าณสำ� หรบั การตรวจสงิ่ สง่ ตรวจหนองโดยตรง(directexamination)
โดยการประเมินผลรว่ มของปริมาณ neutrophil และ squamous cell เพอื่ ตรวจสอบคุณภาพส่ิงส่งตรวจ
Quantity of cells per 10x (objective lens) microscopic field
No. of Q-value for Q-value for squamous epithelial cells present in following no.
neutrophils neutrophils
0 1-9 10-24 > 25
0 -1 -2 -3
00 (1) 0 00
1-9 1+ 10 -1 -2
10-24 2+ +2 +1 0 -1
≥ 25 3+ +3 +2 +1 0
( Microbiology Procedures/Guidelines-2010 Edition Page 42 )
94 ค่มู อื การปฏิบตั ิงานแบคทีเรยี และรา
*** - ส่ิงส่งตรวจท่ีให้ค่า Q-value เป็นบวก โดยบวกยิ่งมากก็จะย่งิ ทำ� ใหต้ รวจพบเช้อื กอ่ โรคไดม้ ากกวา่ และ
ย่ิงลดการตรวจพบเช้ือปนเปอื้ น
- สิง่ สง่ ตรวจทใี่ ห้ค่า Q-value เปน็ ลบหรอื ศูนย์ ดเู หมือนจะปนเป้อื นจุลชพี ประจ�ำถน่ิ
- ส่ิงส่งตรวจที่ตรวจไม่พบทั้ง squamous cells และ PMN (1) จะพบได้ในส่ิงส่งตรวจท่ีได้จาก
neutropenic patient หรอื สิ่งส่งตรวจที่เป็น necrotic หรือ serous secretions สง่ิ สง่ ตรวจเหลา่ นีจ้ ะถกู
ยอมรับในการตรวจวิเคราะหต์ ่อไป
5. การตรวจพบจลุ ชพี ท่ีน่าจะมีความสำ� คัญอยา่ งมากทางคลนิ ิก ทีต่ อ้ งรายงานแบบค่าวกิ ฤติ ไดแ้ ก่
Clostidium-like gram-positive bacilli ในส่ิงส่งตรวจ soft-tissue หรอื aspirate mixed morphologies
ท่อี าจจะเป็น anaerobic bacteria ใน brain abscess
6. เป็นแนวทางส�ำหรบั การแปลผลและการควบคุมคณุ ภาพการเพาะเชอื้
7. ช่วยเปน็ แนวทางในการเลอื กการทดสอบเพมิ่ เตมิ เชน่ การยอ้ มสี modified acid fast stain/ acid fast
stain การเพาะเชื้อรา/ anaerobic bacteria
หมายเหตุ การพบเชื้อจากการยอ้ มแกรม แตเ่ พาะเชอื้ ไม่ขนึ้ อาจเกิดจากมีการปนเป้อื นของน้�ำยาที่ใช้ หรือ
เช้อื ไม่สามารถขนึ้ บนอาหารและบรรยากาศที่ใชใ้ นการเพาะเชอื้ หรือเปน็ เชอ้ื ที่ตายง่ายหรอื ผล
การยอ้ มแกรม ผดิ พลาด
วธิ ีปฏิบตั ิงาน
1. หนองจากแผลลกึ และฝีปิด (Deep wound and abscess pus)
โดยท่ัวไปการตดิ เช้อื ในแผลลึกและฝปี ิด บ่อยครั้งท่เี กดิ จากการติดเชื้อร่วมกนั ของ aerobic และ anaerobic
organism
ตารางท่ี 4.7-3 อาหารเลย้ี งเชือ้ สภาวะ อณุ หภมู ิและเวลาเพาะเชื้อจากหนองจากแผลลึกและฝปี ดิ
อาหารเล้ยี งเชือ้ สภาวะ อุณหภูมิ เวลาเพาะเชื้อ
Blood agar (BA) CO2 35 ํC 48 ชม.
MacConkey agar (MAC) ambient air 35 ํC 48 ชม.
Chocolate agar (CA) CO2 35 ํC 48 ชม.
Anaerobic agar (BRUC) AnO2 35 ํC 72-96 ชม.
หมายเหต ุ - ใหเ้ พมิ่ FTM/chopped meat medium ถา้ เปน็ หนองจากแผลลกึ หรอื ฝี และตอ้ งการเพาะเช้อื
anaerobe ถ้า plate - แต่ broth + ต้อง subculture
- ถา้ มีค�ำส่งั สง่ ตรวจ Actinomyces spp. หรือ Nocardia spp. หรือตรวจพบ branching หรือ
beaded gram-positive organisms จากการยอ้ มแกรมควรทำ� การยอ้ มสี Modified acid fast stain เพมิ่
- ถา้ สงสยั Actinomyces spp. ไม่ว่าจากค�ำสงั่ ส่งตรวจ หรอื จาก direct smear anaerobic culture
ต้องอบนาน 7 วัน
ส�ำหรับโรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลทั่วไป 95
การอา่ นผล
ตรวจสอบ aerobic plates ทุกวัน และ anaerobic plates ภายหลงั 48 ชม. และ 4 วนั จำ� แนกชนดิ ของเช้อื ก่อโรค
และทดสอบความไวของเชื้อต่อสารตา้ นจลุ ชพี potential pathogens ไดแ้ ก่ S. aureus, β-haemolytic streptococci,
Pasteurella spp., Capnocytophaga spp. (animal bites), Eikenella spp. (human bites, Enterobacteriaceae,
P. aeruginosa, anaerobic bacteria)
การรายงานผล
- Negative report: No growth/ตรวจพบจุลชีพประจำ� ถ่นิ ทง้ั ชนดิ aerobic และ anaerobic
- Positive report: รายงานปรมิ าณการตรวจพบ potential pathogens และผลการทดสอบ
ความไวของเช้อื ต่อสารต้านจุลชีพ
2. หนองจากแผลเปิด ฝีเปดิ และผ่ืน (Superficial skin swabs)
ในการเก็บ superficial skin swabs ถ้าไม่ระมัดระวัง มักปนเปื้อนจุลชีพประจ�ำถ่ินร่วมด้วย นอกจากนี้
superficial skin swabs เปน็ สิง่ ส่งตรวจที่ไมเ่ หมาะสมส�ำหรับ anaerobes
ตารางที่ 4.7-4 อาหารเล้ียงเชือ้ สภาวะ อณุ หภมู ิและเวลาเพาะเช้อื จากหนองจากแผลเปิด ฝเี ปดิ และผื่น
อาหารเลีย้ งเชอ้ื สภาวะ อณุ หภูมิ เวลาเพาะเชื้อ
Blood agar (BA) CO2 35 ํC 48 ชม.
MacConkey agar (MAC) ambient air 35 ํC 48 ชม.
CO2 35 ํC
Colistin nalidixic acid agar (CAN)/ 48 ชม.
phenyl-ethyl alcohol (PEA ) CO2
Azide BA (Option) 35 ํC 48 ชม.
เพิม่ Chocolate agar (CA) หากตวั อยา่ งเปน็ tracheal
swab หรอื เก็บจาก chest tube site (option)
หมายเหตุ CAN / PEA / Azide BA เปน็ selective medium สำ� หรับ gram-positive bacteria มปี ระโยชน์ เมอื่ มี
การ overgrowth ของ enteric flora หรอื swarming Proteus spp.
การอา่ นผล
ตรวจสอบ plates ภายหลังการเพาะเชอ้ื 24 และ 48 ชม. potential pathogens ได้แก่ S. aureus,
β-hemolytic Streptococcus spp., P. aeruginosa จุลชีพอ่ืน ๆ ท่ตี รวจพบเพียงชนิดเดียว หรือพบเปน็ จ�ำนวนมาก
และผลเขา้ กันได้กับการยอ้ มแกรมถือว่ามนี ยั ส�ำคญั ในการกอ่ โรค ถา้ ตรวจพบ PMN ≥1 รว่ มด้วย ท�ำการทดสอบ
ความไวของเช้อื ต่อสารตา้ นจุลชีพ
96 คูม่ อื การปฏบิ ัติงานแบคทเี รียและรา
การรายงานผล
- Negative report: No growth หรอื ตรวจพบจลุ ชพี ประจำ� ถิน่
- Positive report: รายงานปรมิ าณจลุ ชพี ทม่ี นี ยั สำ� คญั พรอ้ มผลการทดสอบความไวของเชอื้ ตอ่ สาร
ต้านจุลชีพ ถ้าตรวจพบเชอื้ ทน่ี ่าจะเป็นเชอ้ื ประถ่ินใหร้ ายงานแต่ปริมาณการตรวจพบ
3. Conjunctival swab
การเกบ็ Conjunctival swab เพอ่ื การวนิ ิจฉัยโรคเยือ่ ตาขาวอกั เสบ (Conjunctivitis) โดย swab ควรถกู น�ำส่งจาก
ตาท้ัง 2 ข้างคือข้างท่ีติดเชื้อและข้างที่ไม่ติดเชื้อ เพ่ือการวิเคราะห์เปรียบเทียบว่าเช้ือที่ถูกตรวจพบเป็นเชื้อประจ�ำ
ถิน่ หรอื เช้ือก่อโรค
ตารางท่ี 4.7-5 อาหารเลยี้ งเช้ือ สภาวะ อณุ หภมู ิและเวลาเพาะเช้อื จาก Conjunctival swab
อาหารเลี้ยงเชือ้ สภาวะ อุณหภมู ิ เวลาเพาะเชอ้ื
Blood agar (BA) CO2 35 ํC 48 ชม.
Chocolate agar (CA) CO2 35 ํC 48 ชม.
G.C. Selective agar (neonates) CO2 35 ํC 72 ชม.
การอา่ นผล
ตรวจสอบ BA และ CA ภายหลังการเพาะเชื้อ 24 และ 48 ชม. และ G.C. ภายหลงั การเพาะเช้อื 48 และ
72 ชม. เปรยี บเทียบผลระหวา่ ง swab ขา้ งท่ตี ดิ เชอ้ื และข้างทไี่ มต่ ิดเชอ้ื เพอ่ื ชว่ ยการวนิ ิจฉยั เชื้อกอ่ โรค
potential pathogens ได้แก่ S .aureus, H. influenzae, M. catarrhalis, N. gonorrhoeae, S. pyogenes,
S. pneumoniae, Moraxella spp. และ P. aeruginosa สำ� หรบั เชอื้ ชนดิ อน่ื จะมนี ยั สำ� คญั ถา้ ตรวจพบปรมิ าณปานกลาง
ถึงมาก ซงึ่ เข้ากนั ได้กบั ผลการย้อมแกรมและควรมีการตรวจพบ PMN ≥1 รว่ มด้วย แลว้ ท�ำการทดสอบความไว
ของเชือ้ ต่อสารต้านจลุ ชพี
การรายงานผล
- Negative report: No growth (จุลชพี ที่พบในการย้อมแกรมแต่ไมพ่ บใน culture อาจจะเป็น fastidious
organisms เช่น N. gonorrhoeae ) หรอื ตรวจพบเฉพาะจุลชีพประจ�ำถิ่น
- Positive report: รายงานปริมาณการตรวจพบ potential pathogens และผลการทดสอบความไวของ
เชื้อต่อสารต้านจุลชพี ถ้ามเี ชอื้ ประจ�ำถิน่ รว่ มดว้ ย รายงานชนดิ และปรมิ าณการตรวจพบ เท่านั้น
ส�ำหรับโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทว่ั ไป 97
4. Ear swab
การเกบ็ Ear swab เพอื่ การวนิ จิ ฉยั โรค otitis externa ซงึ่ เปน็ โรคตดิ เชอ้ื แบคทเี รยี ของ external auditory canal
ส�ำหรับ Tympanocentesis fluid เป็นส่ิงสง่ ตรวจ เพ่ือการวินจิ ฉัย otitis media ซง่ึ จะถกู ปฏิบตั ิเช่นเดยี วกบั หนอง
จากแผลลึก
ตารางท่ี 4.7-6 อาหารเล้ียงเชื้อ สภาวะ อุณหภูมิและเวลาเพาะเช้ือจาก Ear swab
อาหารเล้ยี งเช้ือ สภาวะ อณุ หภมู ิ เวลาเพาะเชอื้
Blood agar (BA) CO2 35 ํC 48 ชม.
MacConkey agar (MAC) ambient air 35 ํC 48 ชม.
Chocolate agar (CA) CO2 35 ํC 48 ชม.
Fungal plate (เชน่ Sabouraud dextrose agar, ambient air 30 ํC 48 ชม.
Fungal selective agar, Phytone)
อาจอบตอ่ ถงึ 4 สปั ดาห์
การอา่ นผล
ตรวจสอบ culture plates ภายหลังการเพาะเชื้อ 24 และ 48 ชม. potential pathogens ได้แก่ S. aureus,
P. aeruginosa, Group A Streptococcus, H. influenzae, S. pneumoniae, M. catarrhalis หรือ yeast เฉพาะสง่ิ สง่
ตรวจจากทารกแรกเกิดเช้ือก่อโรคท่ีตอ้ งตรวจวเิ คราะหแ์ ละรายงานด้วย คอื Group B Streptococcus ส�ำหรับเชือ้
ชนิดอน่ื จะมนี ยั สำ� คญั ถ้าตรวจพบปริมาณปานกลางถึงมากซ่งึ เขา้ กันไดก้ ับผลการย้อมแกรม และควรมีการตรวจ
พบ PMN ≥1 ร่วมดว้ ย แล้วทำ� การทดสอบความไวของเชอื้ ต่อสารต้านจุลชพี
การรายงานผล
- Negative report: No growth (จลุ ชีพทพ่ี บในการย้อมแกรม แต่ไม่พบใน culture อาจจะเปน็
fastidious organisms เช่น S. pneumoniae), หรอื ตรวจพบเฉพาะจลุ ชีพประจำ� ถ่ิน
- Positive report: รายงานปรมิ าณการตรวจพบ potential pathogens และผลการทดสอบความไว
ของเช้ือต่อสารต้านจุลชีพ ถ้ามีเช้ือประจ�ำถ่ินร่วมด้วย รายงานชนิดและปริมาณการตรวจ
พบเทา่ นัน้
98 ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานแบคทเี รยี และรา
แผนภมู ิท่ี 4.7-1 ขั้นตอนการเพาะเชอ้ื จากหนองต่างๆ
+ Option + Option
(pathogen/sig) (pathogen/sig
(pathogen/sig)
(pathogen/sig)
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลทัว่ ไป 99
เอกสารอ้างอิง
1. Baron EJ, Thomson RB. Specimen Collection, Transport , and Processing : Bacteriology. In:
Versalovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW, editor. Manual
of Clinical Microbiology 10th ed. Vol 1. Washington, DC: ASM Press; 2011. p.228-71.
2. Canadian Coalition for Quality in Laboratory Medicine CCQLM, Microbiology Working
Group. Guideline for Quantitative Interpretation of Gram Stains. 2004. p.1-4.
3. College of Physicians and Surgeons of Saskatchewan Laboratory Quality Assurance Program.
Procedures/Guidelines for the Microbiology Laboratory. 2010. p. 1-60.
4. Linscott AJ. Specimen Collection, Transport, and Acceptability. In : Garcia LS. Clinical
Microbiology Procedures Handbook, 3rd ed. Washington, DC: ASM Press; 2010. P 2.1.1-
2.1.26.
5. Pezzlo M. Aerobic Bacteriology: Processing and Interpretation of Skin and Subcutaneous-
Tissue Specimens. In: Isenberg HD editor. Essential Procedures for Clinical Microbiology.
Washington, DC: ASM Press; 1998. p. 102-10.
100 คู่มือการปฏบิ ัติงานแบคทีเรียและรา
บ5ทท่ี
การวินจิ ฉัยแบคทีเรีย
กอ่ โรคกลมุ่ ตา่ งๆและเช้อื รา
ท่ีพบบ่อย
5.1 การวินจิ ฉัยแบคทเี รยี ชนิด Gram-Positive Cocci สมศักด์ิ ราหลุ
อนุศักดิ์ เกดิ สิน
เชอื้ กลมุ่ gram-positive cocci มคี วามยากในการแยกชนดิ ได้อย่างครบถว้ น แตค่ วรต้องสามารถบอกชนิดของ
เชอ้ื กอ่ โรคทพ่ี บบอ่ ยได้ ปจั จบุ นั พบวา่ มกี ารเปลย่ี นแปลงของเชอ้ื และมกี ารพบเชอ้ื ใหมๆ่ เปน็ เชอ้ื กอ่ โรคมากขน้ึ ซงึ่
อาจยงุ่ ยากในการวนิ จิ ฉยั การนำ� commercial kit มาชว่ ยวนิ จิ ฉยั ชนดิ ของเชอื้ กลมุ่ นี้ เชน่ viridans group streptococci,
enterococci แมว้ ่าจะทำ� ไดส้ ะดวกและง่าย แตม่ ีข้อจำ� กดั ในดา้ นความแม่นย�ำ (accuracy)
สง่ิ สำ� คัญทีส่ ดุ ในการวนิ จิ ฉยั ชนิดของเชอ้ื แบคทเี รยี คือ รปู ร่างลกั ษณะและการติดสแี กรมของเชอ้ื ส�ำหรบั เชื้อ
กลุ่มน้ีก็เช่นเดียวกัน การย้อมสีแกรมมีความจ�ำเป็นอย่างมาก เพื่อใช้แยกรูปร่างลักษณะและชนิด เพราะลักษณะ
โคโลนขี องเชือ้ gram-positive cocci มคี วามคล้ายคลึงกนั ไม่สามารถแยกชนดิ ไดอ้ ยา่ งชัดเจน เช่น โคโลนขี องเชอื้
Streptococcus และ Aerococcus แต่สามารถแยกชนิดจากกันได้โดยดูลักษณะการเรียงตัวจากการย้อมสีแกรม
โคโลนขี อง Group B streptococci และ Listeria กเ็ ช่นเดียวกนั มคี วามคลา้ ยกนั มากจนอาจสบั สนได้ หากไมย่ อ้ ม
แกรม เพอื่ ดูรปู รา่ งดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์
gram-positive cocci แบง่ การเรียงตวั เปน็ กลุม่ (cluster) เช่น Staphylococcus เปน็ ส่ี (tetrad) เช่น Micrococcus
เป็นสาย (chain) เช่น Streptococcus เป็นคู่ เชน่ Streptococcus pneumoniae เป็นตน้
การทดสอบแรกทีใ่ ช้เม่อื พบ gram-positive cocci คือ catalase ซงึ่ จะทำ� ให้แยกออกเปน็ 2 กลุ่มคือ catalase บวก
และ catalase ลบ กลุ่ม catalase บวกที่พบก่อโรคบ่อยคือ Staphylococcus ที่พบได้น้อยคือ Micrococcus กลุ่มท่ี
catalase ลบ ทพี่ บกอ่ โรคได้บ่อยได้แก่ Streptococcus และ Enterococcus
Staphylococcus และ Micrococcus เปน็ เชอื้ ประจ�ำถ่ินของผิวหนงั เยือ่ บุตา่ งๆ และในช่องปากของมนษุ ย์และ
สตั ว์ บาง species เชน่ S. aureus, S. lugdunensis อาจกอ่ โรคท่สี �ำคัญและรนุ แรง
Staphylococcus
แบ่งตามความรุนแรงในการก่อโรคตามความสามารถในการสร้างเอนไซม์ coagulase เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
1. กลมุ่ ทส่ี รา้ งเอนไซม์ coagulase ได้ เรียก Staphylococcus coagulase positive หรอื coagulase positive
Staphylococcus ซ่ึงประกอบด้วยหลาย species ได้แก่ aureus, schleiferi, intermedius, delphini และ
hyicus (บางสายพันธุ์) แต่เนื่องจาก species อื่นนอกจาก aureus อาจพบก่อโรคของแผลถูกสัตว์กัด
เท่านนั้ การติดเช้ือ Staphylococcus coagulase positive ส่วนใหญจ่ ึงเป็น S. aureus หากตอ้ งการท�ำการ
วินิจฉัย species ให้ท�ำเฉพาะเช้ือ Staphylococcus coagulase positive ที่แยกได้จากแผลถูกสัตว์กัด
2. กลมุ่ ท่ไี ม่สรา้ งเอนไซม์ coagulase เรยี ก Staphylococcus coagulase negative หรอื coagulase negative
Staphylococcus (CNS) ประกอบด้วยหลาย species แต่จะมี species ที่พบบ่อยและห้องปฏิบัติการ
น่าจะวินิจฉัยได้ ในกรณีพบเชื้อจากต�ำแหน่งท่ีปราศจากจุลชีพประจ�ำถิ่น ประมาณ 4 species ได้แก่
epidermidis, haemolyticus, lugdunensis, saprophyticus (เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในทางเดิน
ปัสสาวะท่พี บบ่อยในสตรีวยั เจรญิ พนั ธ์)ุ
102 คู่มือการปฏิบัตงิ านแบคทเี รียและรา
การวินจิ ฉยั species ของ CNS มีความสำ� คญั กล่าวคือ
2.1 ชว่ ยวินิจฉยั วา่ เปน็ ชนิดทก่ี อ่ โรคที่เคยมีรายงานหรือไม่ และเมือ่ พิจารณารว่ มกบั ขอ้ มูลของผปู้ ว่ ยจะชว่ ย
ยนื ยนั วา่ เปน็ เชอ้ื กอ่ โรคจรงิ หรอื ไมใ่ นกรณที แี่ ยกเชอื้ ไดจ้ ากเลอื ดหรอื สงิ่ สง่ ตรวจอนื่
2.2 Staphylococcus lugdunensis เป็น CNS ท่ีมีความรุนแรงในการก่อโรค endocarditis สูงเทียบเท่า
S. aureus แมจ้ ะยังไมม่ รี ายงานการพบเชอื้ กอ่ โรคชนิดน้ีบ่อยก็ตาม อกี ทง้ั การทดสอบความไวของเชือ้ นี้
ตอ่ methicillin ใชเ้ กณฑใ์ นการแปลผลแบบเดียวกนั กับ S. aureus จงึ ควรให้ความสำ� คญั ในการวนิ จิ ฉัย
ถึงระดับ species อกี ทงั้ การทดสอบทางชีวเคมี เพอื่ ช่วยแยกเปน็ การทดสอบที่ไมย่ ่งุ ยาก และมีใช้อยู่ใน
ห้องปฏิบัติการจุลชีววทิ ยาทว่ั ไป
Micrococcus
ประกอบด้วยเชื้อแกรมบวกรูปกลม มกั เรียงตวั แบบ tetrads และเปน็ กลุ่มเชื้อท่ีมโี คโลนสี ีเหลือง แตกต่างจาก
Staphylococcus คือ Micrococcus ไวต่อ bacitracin 0.04 U ไม่ ferment glucose และ modified oxidase บวก ห้อง
ปฏบิ ตั กิ ารจลุ ชวี วทิ ยาทวั่ ไปไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งวนิ จิ ฉยั วา่ เปน็ M. luteus หรอื M. lylae สามารถรายงานผลเชอ้ื ทม่ี ลี กั ษณะ
น้เี ปน็ Micrococcus spp.
ตารางท่ี 5.1-1 การวนิ จิ ฉยั เชอื้ gram-positive cocci, catalase บวก ทม่ี โี คโลนขี นาดใหญส่ ขี าวหรอื เหลอื งทพี่ บบอ่ ย
Organisms คุณลกั ษณะเฉพาะ Slide Tube Baciracin Polymycin B PYR
coagulase coagulase (0.04 U) (300 U)
Micrococcus groupa often yellow S SV
Staphylococcus aureus VP + V+R R -
S. intermedius (dogs) VP - V+R S +
S. delphini (dolphins) VP - - + R NA NA
S. hyicus (pigs) VP - - V R R -
S. lugdunensis OD + V - R R +
S. schleiferi OD - + -+ R S +
S. saprophyticus urine; novobiocin (5 µg) - R; - - R S -
urease +; non-hemolytic
S. epidermidis urease + non-hemolytic - - R R -
S. haemolyticus urease -, VP +, DNase - - - R S +
S. caprae urease +, DNase + - - R S +
Other coagulase-negative novobiocin (5 µg) -/V; - - R S V
staphylococci urease V; non-hemolytic or
delayed hemolysis
+SVPanoP==dly=msg1urV0yes%ccoaietgnepeprBtsoi-tbshPrileaterison.vissBe9kt;a0aanc-u%t+iet=rro;=aifcOnimhsnDtirobsa=siuittnisoocsnpterronpzasitoitiinhnbtsieilvne<aeer=1ied0neinnmc4hea8mgirhbba.;iottiixavo-yeInnl=abczslguoeurtn;deePrianaYt1gree0RrK-tp2=yho5taopsnmicrtooi9mvdc0ecu,%ucNssttiooraoafvnnidosnotbsKrfiaoeopicnxcyiuirnsnrrtoie;ragle.iNasditoAsivntaey=n;ltVa=rnyio=nltahrmiaebpsiidputiallotisnceaa;rzbeRolenb=eeot≤rrwea1sve6ieisantmabnm9let0;;,
สำ� หรบั โรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลทว่ั ไป 103
Streptococcus
Streptococcus เปน็ แบคทเี รยี แกรมบวกทใี่ หผ้ ลการทดสอบ catalase เปน็ ลบ รปู รา่ งกลม เรยี งตวั เปน็ คหู่ รอื เปน็
สาย ขน้ึ อยกู่ บั แตล่ ะ species เชอ้ื Streptococcus สามารถใหก้ ารยอ่ ยสลายเมด็ เลอื ดแดง (hemolysis) บนอาหารเลย้ี ง
เช้ือทีม่ เี ลอื ดแกะเป็นสว่ นผสม (sheep BA) เปน็ 3 แบบ ไดแ้ ก่ alpha-hemolysis,beta-hemolysisและgamma-hemolysis
ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารแบง่ กลมุ่ Streptococcus เปน็ pyogenic และ non-pyogenic group ซง่ึ non-pyogenic group ประกอบ
ด้วย angiosus group, mitis group, salivarius group, bovis group และ uncertain group เชน่ S. suis อยา่ งไรก็ดกี าร
วินิจฉัยเช้ือ Streptococcus เพ่ือประโยชน์ในการดูแลผู้ป่วยในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์โดยใช้ปฏิกิริยาชีวเคมี
เพอ่ื แบง่ กล่มุ ท่มี คี วามส�ำคญั ในการกอ่ โรคแสดงดงั ตารางที่ 5.1.2
ตารางที่ 5.1-2 ปฏิกิรยิ าท่ใี ช้ในการวนิ จิ ฉัยเชื้อ Streptococcus group ตา่ งๆ
Organisms Group A
Group B
Non Group A, B or D
Group D Enterococcus
Group D not Enterococcus
Viridans group
S. pneumoniae
Hemolysis β β β α,β or Υ α α α
PYR (pyrrolidonyl aminopeptidase) + - - + - - -
Bacitracin susceptibility 0.04 unit
(at any zone size) + -* -* - - -* -
CAMP reaction - + - - - -* -
Bile esculin hydrolysis - - - + + -* -
Tolerance to 6.5% NaCl --- + ---
Optochin susceptibility (≥14mm.) - - - - - - +
* บางครง้ั อาจให้ผลบวก
การทำ� grouping กับ antisera และ PYR test สามารถใช้ในการวินจิ ฉยั Streptococcus group A (โดยเฉพาะ S.
pyogenes) อยา่ งรวดเร็ว เช้อื Enterococcus ใหผ้ ล PYR บวกเช่นเดียวกบั Streptococcus group A สามารถแยกโดย
ดู bile esculin hydrolysis และการขน้ึ ในอาหารท่มี ี 6.5% NaCl การวนิ จิ ฉยั เชอ้ื ในกรณีทแ่ี ยกได้จากสิ่งสง่ ตรวจท่ี
ไมม่ เี ชอื้ ประจำ� ถนิ่ มคี วามจำ� เปน็ ทตี่ อ้ งแยกถงึ ระดบั species เพอ่ื ประโยชนใ์ นการทำ� นายโรคและการตดิ ตามระบาด
วทิ ยาของเชอื้ เช่น แยกไดจ้ ากเลอื ดหรอื น�ำ้ ไขสนั หลงั ถา้ เป็น Streptococcus viridans group (α-hemolysis) ตอ้ ง
วนิ จิ ฉยั วา่ เปน็ Streptococcus suis หรอื ไม่ โดยการสง่ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารอา้ งองิ /ใชช้ ดุ การทดสอบ/ใชเ้ ครอ่ื งวนิ จิ ฉยั เชอื้
อัตโนมตั ิตามความเหมาะสม ถา้ พบจาก throat swab ต้องท�ำ grouping วา่ เป็น group C หรอื group G หรอื ไม่ เพราะ
104 คมู่ ือการปฏบิ ัติงานแบคทีเรียและรา
group C และ group G สามารถท�ำให้เจ็บคอและเกิดอาการรุนแรงเช่นเดียวกบั group A ถ้าพบเชื้อ Streptococcus
group D not Enterococcus ตอ้ งวนิ จิ ฉยั ให้ไดว้ ่าเป็น Streptococcus bovis หรอื ไม่ เพราะเชื้อนม้ี ีความสัมพนั ธ์กับ
การเกิดมะเร็งในลำ� ไสส้ งู แพทยจ์ ะไดท้ ำ� การตรวจ ซ่งึ จะทำ� ให้สามารถพบเชอื้ ไดเ้ รว็ จะช่วยให้รกั ษาไดผ้ ลดกี วา่ การ
พบเชอ้ื ในระยะหลัง
ตารางท่ี 5.1-3 การวินิจฉยั เชอ้ื Streptococcus กลมุ่ pyogenic ด้วยปฏิกริ ยิ าทางชวี เคมี
Organisms Bacitracin
CAMP
PYR
VP
Trehalose
Sorbitol
Lancefield
group
Source
S. pyogenes +-+-+- A Human
S. phocae + - - - ND - C, F Animal
S. agalactiae -+- -v- B Human,
Animal
S. porcinus - + + + + + E, P, U, V, Human,
None Animal
S. pseudoporcinus - + v v ND + (B), None Human
S. canis - v+ - - v - G Human,
Animal
S. iniae - + + - ND - None Human,
Animal
S. dysgalactiae subsp. v+ - - - + v+ C, L Animal
dysgalactiae
S. dysgalactiae subsp. equisimilis v - - - + - A, C, G, L Human,
Animal
S. equi subsp. equi ------ C Animal
S. equi subsp. zooepidemicus - - - - - + C Human,
Animal
S. anginosus group - - - + + - A, C, G, F, Human
None
S. didelphis - - - - ND - None Animal
+ = positive reaction (≥95%); - = negative reaction (≤5%); v + = variable reaction, but most strains positive;
v - = variable reaction, but most strains negative; v = variable reaction
สำ� หรับโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลท่วั ไป 105
ตารางท่ี 5.1-4 การวนิ จิ ฉยั เชื้อ Streptococcus กลุ่ม non-pyogenic ดว้ ยปฏกิ ิรยิ าทางชวี เคมี
Organisms VP
Bile esculin
Esculin
Arginine
Mannitol
Sorbitol
Urea
Optochin
Lancefield group
Remark
S. suis - v - + v + - v - - - R, S, T มปี ระวตั กิ ารรบั ประทาน
หมูดิบหรืออาหารที่มี
สว่ นผสมของหมดู บิ หรอื
เลอื ดหมหู รอื มกี ารสมั ผสั
กบั สุกรหรอื เนือ้ หมู
S. sanguinis group - - + + - v - - - None
S. mitis group - - - * - - - - - None
S. pneumoniae - - - - - - - + None ควรยืนยันด้วย bile solu
bility test ถา้ พบ zone มี
เสน้ ผา่ นศูนย์กลาง น้อย
กว่า 14 mm
S. mutans group + - + - + + - - None
S. salivarius group + - v - - - v - None
S. anginosus group + - + + - - - - A, C, G,
F, None
S. bovis group + +** + - - * - - - D
+ = positive reaction (≥95%); - = negative reaction (≤5%); v + = variable reaction, but most strains
positive; v - = variable reaction, but most strains negative; v = variable reaction
* บางคร้งั อาจใหผ้ ลบวก ; ** บางสายพันธ์อุ าจให้ผลลบ (S. infantarius)
106 คู่มือการปฏบิ ัตงิ านแบคทเี รยี และรา
ตารางที่ 5.1-5 การวินจิ ฉยั เชอื้ ในกลุ่มของ S. bovis group ดว้ ยปฏกิ ริ ิยาทางชวี เคมี
Organisms Bile esculin
Esculin
Lactose
Mannitol
Raffinose
Trehalose
Inulin
Urea
Lancefield group
Formerly synonym
Source
S. equinus / + + -/+ - - v -/+ - D S. bovis Animal
S. bovis
S. gallolyticus subsp. + + + + + + + - D S. bovis biotype I Human,
gallolyticus Animal
S. gallolyticus subsp. + + + - v + - - D S. bovis biotype II.2; Human
pasteurianus S. pasteurianus
S. gallolyticus subsp. - - + - v - - - ND S. macedonicus Dairy
macedonicus product
S. infantarius subsp. - v + - + - - - D S. bovis biotype II.1 Human,
infantarius Animal
S. infantarius subsp. + + + - - - - - D S. lutetiensis Human,
coli Animal
S. alactolyticus v + - - - - - + D S. intestinalis Animal
+ = positive reaction (≥95%); - = negative reaction (≤5%); v + = variable reaction, but most strains positive;
v - = variable reaction, but most strains negative; v = variable reaction
Enterococcus
เดมิ เปน็ Streptococcus ทม่ี ี Lancefield Group D antigen แตม่ ปี ฏกิ ริ ยิ าทางชวี เคมหี ลายประการทตี่ า่ งจาก genus
Streptococcus กลา่ วคือ เจริญไดท้ อ่ี ุณหภูมิ 10 และ 45 °C ท่ี pH 9.6 อาหารทมี่ ีเกลือความเข้มขน้ สงู 6.5% สามารถ
ขน้ึ ในอาหารท่มี ีนำ�้ ดี 40% และ hydrolyse esculin ทอี่ ยูใ่ นอาหารนไี้ ด้ และให้ผลการทดสอบ PYR บวก จงึ ถูกจัด
เปน็ genus ใหม่ บน BA plate มกี ารเจริญเปน็ โคโลนีสขี าวใส โปร่งแสง อาจพบ hemolysis ได้ทุกรูปแบบ คือ ไมม่ ี
hemolysis หรือ α หรอื β กไ็ ด้
Enterococcus เปน็ เช้อื ประจำ� ถ่นิ ในระบบทางเดินอาหาร และ อาจพบเปน็ สาเหตสุ �ำคญั ของการติดเชือ้ ในทาง
เดินปสั สาวะ รวมทง้ั แผลติดเช้ือของผู้ป่วยในโรงพยาบาลท่ีพบบอ่ ยเปน็ อันดบั สองรองจาก Escherichia coli และ
Pseudomonas aeruginosa ดื้อ aminoglycoside ระดบั ต่ำ� แบบ intrinsic resistant เชื้อท่พี บในโรงพยาบาลอาจเป็น
เชอื้ ด้ือสารต้านจุลชีพหลายชนิด เช่น penicillin, cephalosporin เช้ือ Enterococcus ดอ้ื ยาท่ตี อ้ งเฝา้ ระวงั การแพร่
กระจาย คือ vancomycin resistant Enterococcus (VRE) faecium และ E. faecalis ดังน้นั หากพบ Enterococcus ท่ี
สำ� หรบั โรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลทัว่ ไป 107
ดอื้ vancomycin จงึ ตอ้ งวินจิ ฉยั ระดบั species ต่อวา่ เปน็ สอง species ดงั กล่าวหรอื ไมเ่ พราะถา้ เปน็ E. faecium หรอื
E. faecalis จ�ำเปน็ ตอ้ งแยกผปู้ ว่ ย เพอื่ ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายของยนี สด์ อ้ื vancomycin เชอ้ื Enterococcus ทีด่ อ้ื ตอ่
vancomycin โดยธรรมชาติ คือ E. casseliflavus และ E. gallinarum ซึ่งสามารถแยกจาก E. faecium และ E. faecalis
ได้โดยทดสอบ motility ของเชอ้ื E. casseliflavus และ E. gallinarum เคลอ่ื นทีไ่ ด้ แต่ E. faecium และ E. faecalis
ไมเ่ คลอื่ นท่ี เช้ือ E. casseliflavus เปน็ Enterococcus ทม่ี ี pigment สเี หลือง แบคทีเรยี แกรมบวกรูปกลมทีเ่ คล่ือนท่ี
ไดอ้ ีก species หนึ่งคือ Vagococcus fluvialis ส่วน Enteroccus ทม่ี ีสีเหลืองอกี species หน่ึงคอื E. mundtii
ตารางท่ี 5.1-6 การวินิจฉัยเชื้อแบคทีเรีย gram-positive cocci, catalase negative, PYR positive ที่ไม่ใช่
Streptococcus group A
Organisms
Motilityb
Pigmentc
MGP
AD
Arabinose
Mannitol
Lactose
Raffinose
Sorbitol
Tellurite
Pyruvate
45 ํC Growth
Vancomycin
E. avium - -V-+++-+-++S
E. raffinosus - -V- +++++ - ++V
Vagococcus fluvialis +-+- -+- -+- - -S
E. faecium - - - + + +d + V V - - + V
E. gallinarum +d - + +d + + + + D - - + R
E. casseliflavus +d +d + +d + + + D V -d V + R
E. mundtii - + - +++++V- - +S
E. faecalis - - - +d - +d +d - + + + + V
Lactococcus garvieae - - -+-++- - - - -S
E. durans - - -+- -+- - - -+S
E. hirae - - -+- -++- - -+S
E. dispar - -++- -++- -+-S
108 คมู่ ือการปฏิบตั งิ านแบคทีเรียและรา
Gram positive cocci catalase negative ทีพ่ บไมบ่ อ่ ย
1. Streptococcus-like organisms
1.1 Nutritionally Variant Streptococcus (NVS)
เปน็ Streptococcus ท่ีตอ้ งการสารอาหารพิเศษในการเจริญ เช่น pyridoxal หรือ vitamin B6 ซงึ่ เป็นสว่ น
ผสมใน CA, cysteine, NAD มกั พบเปน็ สาเหตขุ อง endocarditis ดงั นั้น ถา้ พบเชอ้ื gram-positive cocci in chain ท่ี
ไมข่ น้ึ บน BA แต่เจริญบน CA ได้ และ ใหล้ ักษณะ satellite phenomenon กบั Staphylococcus บน BA ควรนึกถงึ
เชอื้ น้ี ซงึ่ ในขณะนถี้ กู จดั เปน็ genus ใหม่ คอื Abiotrophia และ Granulicatella ซง่ึ สามารถแยกจากกนั โดย Abiotrophia
จะ ferment นำ้� ตาล lactose, trehalose, raffinose แต่ Granulicatella ไม่ ferment ซง่ึ ค่อนข้างยงุ่ ยากในการทดสอบ
เน่ืองจากเชื้อเปน็ fastidious organism ดงั นน้ั ในเบื้องต้น ห้องปฏิบตั กิ ารอาจรายงานผลเป็น Nutritionally variant
Streptococcus
แบคทีเรยี แกรมบวกรูปกลมอกี genus หนง่ึ ที่อาจต้องการสารอาหารพเิ ศษในการเจริญ หรือให้ผล satellite
phenomenon เปน็ บวกกบั Staphylococcus บน BA แตอ่ าจมกี ารเรยี งตวั เปน็ สายหรอื เปน็ กลมุ่ กไ็ ด้ คอื Ignavigranum
ซงึ่ นอกจากจะเปน็ เชือ้ ทีม่ กี ารเรยี งตัวทัง้ สองแบบแล้ว เชอื้ genus น้ี มกั ไม่ให้ hemolysis บน BA และเจรญิ ได้ใน
อาหารทม่ี ีเกลือที่มคี วามเข้มข้น 6.5% ซ่งึ แตกต่างจาก Abiotrophia และ Granulicatella
1.2 Aerococcus
เปน็ เชอ้ื แกรมบวกรปู กลมเรยี งตวั แบบ tetrads หรอื cluster แบบStaphylococcus ทมี่ โี คโลนเี หมอื น Viridans
group Streptococcus ดังนั้น การยอ้ มแกรมของเชื้อท่เี ลี้ยงใน broth จะช่วยแยก Aerococcus จาก Streptococcus ได้
บางสายพนั ธุ์ของ Aerococcus viridans อาจ hydrolyse bile esculin และใหผ้ ลบวกกบั PYR แต่ A. urinae ใหผ้ ล
ลบกบั ปฏกิ ิริยาท้ังคู่
1.3 Facklamia
เป็นเช้ือแกรมบวกรูปกลมเรียงตัวแบบ pairs, tetrads หรือ cluster ท่ีมีโคโลนีเหมือน Viridans group
Streptococcus แตม่ กั ใหผ้ ลบวกกับ urease test และ hippurate hydrolysis
1.4 Gemella
เปน็ เช้อื ทมี่ โี คโลนเี หมือน Viridans group Streptococcus แม้บางสายพนั ธุ์อาจไม่ให้ hemolysis แตล่ ักษณะ
เดน่ ของเช้ือน้ี คอื เปน็ เชอ้ื แกรมบวกท่ถี ูก decolourize ได้ง่าย ท�ำใหเ้ หน็ เปน็ gram-negative cocci ทเ่ี รยี งตวั เปน็ คู่
คลา้ ย Neisseria
2. Enterococcus-like organism (Globicatella, Lactococcus, Dolosigranulum)
เชอ้ื ทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ย Enterococcus ทง้ั รปู รา่ งใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศนแ์ ละลกั ษณะโคโลนที ม่ี องเหน็ ดว้ ยตาเปลา่ และ
hydrolyse bile esculin ได้ Globicatella และ Lactococcus อาจแยกจาก Enterococcus ได้ โดยการเจรญิ ที่ 45°C
ซึง่ ทั้งสอง genus นี้ ไม่สามารถขึน้ ไดท้ ่อี ุณหภูมิ 45°C ส่วน Dolosigranulum เป็นแกรมบวกรูปกลมทใี่ ห้ผล PYR
เปน็ บวก และ เจรญิ ไดใ้ นทค่ี วามเขม้ ขน้ เกลอื 6.5% แตม่ กี ารเรยี งตวั เปน็ กลมุ่ และไมส่ ามารถเจรญิ ทอ่ี ณุ หภมู ิ 10 °C
และ 45°C
3. Pediococcus, Leuconostoc, และ Weissella
ทงั้ สาม genus เปน็ เชอ้ื แกรมบวกรปู รา่ งกลมทดี่ อื้ vancomycin เชอื้ Pedicoccus มกั เรยี งตวั เปน็ กลมุ่ หรอื tetrads
บางสายพันธอ์ุ าจเจรญิ ที่ 45 °C arginine เปน็ ลบ LAP เป็นบวก บางคร้งั อาจสบั สนกบั Streptococcus group D และ
Enterococcus เนื่องจากเป็นเช้อื ทีม่ ี Lancefield group D antigen จึงอาจให้ผล bile esculin เป็นบวก หรอื เจรญิ ใน
สำ� หรบั โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป 109
ทม่ี ีเกลอื 6.5% ได้ แต่ PYR ของเชอ้ื นเ้ี ป็นลบ เช่นเดยี วกบั Leuconostoc และ Weissella แต่สอง genus หลงั นเี้ ปน็
แกรมบวกรปู รา่ งกลมท่ีมกั เรียงตัวเป็นสาย หรือบางครง้ั อาจเหน็ เปน็ แกรมบวกรปู แท่งได้ Leuconostoc ไมข่ ึน้ ที่
45 °C argimine เปน็ ลบ LAP เป็นลบ สว่ น Weissella เจรญิ ท่ี 45 °C ได้ และ LAP เปน็ ลบ
4. Dolosicoccus, Helcococcus
ทั้งสอง genus น้ีเป็นแบคทีเรียรปู กลมท่ีใหผ้ ลบวกกับ PYR แต่ไม่สามารถเจรญิ ในทมี่ ีความเข้มข้นเกลือ 6.5%
และที่อุณหภูมิ 10 °C และ 45 °C แต่ Dolosicoccus เรียงตัวเป็นสาย โคโลนีเป็น α-hemolysis บน BA ส่วน
Helcococcus เรียงตวั เปน็ กลุ่ม ไมม่ ี hemolysis บน BA
ตารางที่ 5.1-7 การวนิ ิจฉยั เชือ้ gram-positive cocci (excluding Streptococcus pyogenes), catalase negative or
weakly positive, PYR-positive
Organisms
Gram stain
CAT
LAP
6.5% NaCl
10 ˚C
45 ˚C
Colony on BAP
Hemolysis
Bile-esculin
Enterococcus (some motile) CH - + + + + Large α,γ,β +
+
Lactococcus CH - + V + - Large α,γ +
+
Vagococcus (motile) CH - - + + - Large α,γ +
-
Abiotrophia/Granulicatella CH - - - - - Satellite α,γ -
-
Globicatella CH - V + - - Small α V
+
Dolosicoccus CH - + - - - Small α NA
Aerococcus viridans CL/T -,W + - - Large α V
Helcococcus kunzii CL/T - V - - Tiny γ-
Gemella CL/T/CH - - - - Tiny, 48h α,γ -
Facklamia (hippurate +) CL/CH - + - - Small γ -
Alloiococcus otitis CL/T W,+ + - - Tiny, 72h α NA
Ignavigranum (hippurate -) CL/CH - + + - - Satellite (V) γ -
or small
Rothia mucilaginosa CL -,W,+ + - NA NA Sticky γ V
Dolosigranulum CL/T - +
+ - - Small γ NA
CAT = catalase production; LAP = production of Leucine aminopeptidase; CL = clusters; T = tetrads; CH =
scthraeipntso;cWocc=i.w+e=akg.rLeaatregrethcoanlo9n0ie%s aorfesatprapirnopxoimsiatitveelyin1 4m8mh;; s-m=agllrecaotleorntiheasnar9e0a%boouftstthraeisnizneegoaftvivirei;dVan=s grerosuulpt
are between 90 and 10% positive; NA = not applicable or aviable
110 คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานแบคทีเรียและรา
ตารางที่ 5.1-8 การวนิ ิจฉัยเช้ือ gram-positive cocci, catalase negative and PYR-negative
Organisms Gram stain LAP 6.5% NaCl VAN Arginine 45 ํC
-
Leuconostoc CH, rods - VR - +
Weissella confusa CH, rods - VR + V
Pediococcus CL/T +VR - V
Streptococcus +-S +
Aerococcus urinae CH ++S
CL/T
Van = vancomycin; LAP = production of leucine aminopeptidase; CL = clusters; T = tetrads; CH = chains; +
= greater than 90% of strain positive in 48h; - = greater than 90% of strain negative; V = result are between 90
and 10% positive; R = resistant; S = susceptible
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศูนยแ์ ละโรงพยาบาลทัว่ ไป 111
เอกสารอ้างองิ
1. Becker K, von Eiff, C. Staphylococcus, Micrococcus, and other catalase-positive cocci. In:Versalovic J,
Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW editor. Manual of Clinical Microblology
10th ed. Vol 1. Washington, DC : ASM Press; 2011. p.308-330.
2. Bekal S, Gaudreau C, Laurence R A, Simoneau E, Raynal L. Streptococcus pseudoporcinus sp. nov., a
Novel Species Isolated from the Genitourinary Tract of Women. J. Clin. Microbiol. 2006;44: 2584-86.
3. Duarte RS, Barros RR, Facklam RR, Teixeira LM. Phenotypic and Genotypic Characteristics of
Streptococcus porcinus Isolated from Human Sources. J. Clin. Microbiol. 2005;43: 4592- 4601.
4. Facklam R. What happened to the streptococci: overview of taxonomic and nomenclature changes. Clin
Microbiol Rev. 2002;15:613-30.
5. Facklam R, Elliott J. Identification, classification, and clinical relevance of catalase-negative,
gram-positive cocci, excluding the streptococci and enterococci. Clin Microbiol Rev. 1995;8:479-495.
6. Gangone R, Findlay I, Lakkireddi PR, Marsh G. A very rare spontaneous group-C
Streptococcal constellatus spondylodiscitis: A case report. J. Orthopaedics. 2009;6(3):e7.
7. Garcia LS, editor. Clinical Microbiology Procedures Handbook, 3rd ed. Washington, DC: ASM
Press; 2011. p.3.9.2.1-3.11.8.1.
8. Köhler W. The present state of species within the genera Streptococcus and Enterococcus. Int J Med
Microbiol. 2007;297:133-50
9. Ruoff K. Aerococcus, Abiotrophia and other aerobic catalase-negative, gram-positive cocci.
In:Versolovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW editor. Manual of
Clinical Microbiology 10th ed. Vol 1. Washington, DC : ASM Press; 2011. p. 365-376.
10. Schlegel L, Grimont F, Ageron E, Grimont PA, Bouvet A. Reappraisal of the taxonomy of the
Streptococcus bovis /Streptococcus equinus complex and related species: description of
Streptococcus gallolyticus subsp. gallolyticus subsp. nov., S. gallolyticus subsp. macedonicus subsp.
nov. and S. gallolyticus subsp. pasteurianus subsp. nov. Int. J. Syst. Evol. Microbiol. 2003;53: 631-645
11. Spellerberg B, Brandt C. Streptococcus. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry
ML, Warnock DW editor. Manual of Clinical Microbiology 10th ed. Washington, DC: ASM Press;
2011. p. 331-349.
12. Teixeir LM, Carvalho MGS, Shewmaker PL, Facklam RR. Enterococcus. In:Versalovic J, Carroll KC,
Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW editor. Manual of Clinical Microbiology 10th ed.
Vol 1. Washington, DC : ASM Press ; 2011. p. 350-369
112 คมู่ ือการปฏบิ ัติงานแบคทีเรยี และรา
5.2 การวินิจฉยั แบคทีเรียชนดิ Gram-Positive Bacilli นติ ยา ธีระวัฒนสุข
แบคทีเรียกลุ่มน้ีแบง่ ตามความสามารถในการสร้างสปอรเ์ ป็น 2 ชนดิ ได้แก่
1. แบคทีเรียแกรมบวกชนิดแท่งที่ไม่สามารถสร้างสปอร์ (Aerobic non-spore forming Gram-positive
bacilli) ประกอบด้วย genus ที่สำ� คัญไดแ้ ก่ Corynebacterium, Listeria, Erysipelothrix และ Rhodococcus
2. แบคทีเรยี แกรมบวกชนดิ แท่งทสี่ รา้ งสปอร์ (Aerobic spore-forming Gram-positive bacilli) ประกอบดว้ ย
Bacillus, Geobacilus และ Paenibacillus ส�ำหรบั genus ทส่ี ำ� คญั คือ Bacillus ส่วน Geobacillus (Bacillus)
stearothermophilus ใช้ในการควบคุมประสิทธิภาพของ autoclave
Aerobic non-spore-forming Gram-positive bacilli
Corynebacterium and related bacteria เปน็ แบคทเี รยี แกรมบวกทม่ี รี ปู รา่ งไมส่ มำ่� เสมอ ปลายดา้ นหนง่ึ หรอื สอง
ดา้ นป่องออก ลักษณะคล้ายกระบอง (club shape) เซลล์มักเรียงตวั ขนานกันตามแนวยาว หรืออาจมกี ารเรยี งตัวท่ี
ไมแ่ น่นอน เช่น เปน็ คู่ เปน็ รปู ตัววี รูปตัววาย หรอื เรียงตัวคล้ายอักษรจนี (Chinese letter appearance) species ท่ีมี
ความสำ� คญั คอื C. diphtheriae ซึ่งก่อโรคคอตบี (Diphtheria) ในการแยก C. diphtheriae จากสง่ิ สง่ ตรวจท่มี เี ช้ือ
ประจ�ำถนิ่ ปนเปื้อน ควรเลอื กใช้ selective medium เชน่ Cystine tellurite blood agar (CTBA) เช้ือจะใหโ้ คโลนสี ี
เทาดำ� และบน Tinsdale (TIN) agar เชอ้ื C. diphtheriae, C. pseudotuberculosis และ C. ulcerans จะใหโ้ คโลนีสี
เทาดำ� ที่มีวงสนี �้ำตาลเขม้ รอบๆ (halo)
Listeria ทท่ี �ำให้เกิดโรคในคน คือ L. monocytogenes เปน็ แบคทีเรยี รูปแทง่ พบเปน็ เซลลเ์ ดีย่ ว หรอื เรียงตวั เปน็
สายสน้ั ๆ เคลอื่ นทไี่ ดท้ อี่ ณุ หภมู ิ 22-28 °C เมอ่ื ดโู ดยวธิ ี hanging drop จะเหน็ การเคลอ่ื นไหวแบบตลี งั กา (tumbling)
ซึ่งเกดิ จากการหมุนรอบตัวเองทมี่ ีแกนหมุนตง้ั ฉากกบั แนวยาวของเซลล์ แต่ถ้าใช้ semisolid medium จะเห็นการ
เคลื่อนไหวเป็นรูปรม่
Erysipelothrix เปน็ แบคทเี รยี รูปแทง่ สั้น ไมเ่ คล่อื นไหว ไมส่ ร้างเอนไซม์ catalase และ oxidase มีรายงานการ
ก่อโรคในคนเฉพาะเชื้อ E. rhusiopathiae เชื้อน้ีแยกจากแบคทเี รียแกรมบวกอื่นๆ คอื เมอ่ื เจรญิ เตบิ โตบน TSI จะให้
H2S Rhodococcus สว่ นใหญ่พบเปน็ แท่งสน้ั (coccobacilli) ยอ้ มตดิ สี partially acid fast สามารถเจริญเติบโตไดบ้ น
อาหารเพาะเชอ้ื ทว่ั ไป เมอ่ื เกบ็ เชอ้ื ไวห้ ลายวนั โคโลนจี ะมสี ชี มพอู อ่ น (pale salmon pink) species ทกี่ อ่ โรคในคนโดย
เฉพาะผู้ปว่ ยที่มภี มู ิตา้ นทานต่�ำ คอื R. equi
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทัว่ ไป 113
ตารางท่ี 5.2-1 การวนิ ิจฉยั Aerobic non-spore forming gram positive bacilli ทสี่ ำ� คัญ
Test Corynebacterium L. monocytogenes E. rhusiopathiae R. equi
Gram stain Gram positive
Gram positive Gram positive Gram positive coccobacilli
Catalase bacilli, Chinese bacilli bacilli
Motile at 25 ํC letter appearance +
Esculin hydrolysis + _ _
H2S in TSI + + _ +
Modified AFB _ + _ _
_ _ +
_ _ +
_ _
ตารางท่ี 5.2-2 การแยกชนดิ ของ Corynebacterium
Species Catalase Urea Nitrate Glucose Maltose Sucrose Reverse
CAMP
C. diphtheriae bv. gravis + _ +++__
C. diphtheriae bv. intermedius + _ +++__
C. diphtheriae bv. mitis + _ +++__
C. diphtheriae bv. belfanti + _ _++__
C. xerosis + _ V+ + + _
C. jeikeium + _ _ +V_ _
C. striatum + _ + + _VV
C. bovis + _ _+___
C. pseudotuberculosis +
C. pseudodiphtheriticum + + V++V+
C. ulcerans + + +____
C. urealyticum + + _++_+
+ _____
114 ค่มู ือการปฏบิ ตั ิงานแบคทีเรยี และรา
การทดสอบการสร้าง Toxin ของ C. diphtheriae (Elek’s test)
1. เตรยี ม sterile Elek agar 20 ml รอให้เย็นลงจนอณุ หภมู ิประมาณ 50 °C เติม fresh serum 2-5 ml ผสมให ้
เข้ากนั แลว้ เทลงใน sterile plate
2. จมุ่ กระดาษกรองปราศจากเช้อื ขนาด 1x8 cm ลงใน diphtheria antitoxin ทีม่ ีความเขม้ ขน้ 100 unit/ml
3. วางกระดาษกรองท่ีชุบ antitoxin ลงบนจานอาหาร Elek agar ทจี่ วนจะแข็ง กดกระดาษกรองลงบนผวิ
อาหารเล็กนอ้ ย
4. เม่อื Elek agar แขง็ และผิวหนา้ แหง้ แล้ว ใหใ้ ชเ้ ช้อื ทต่ี อ้ งการทดสอบลากตัง้ ฉากกบั แผ่นกระดาษกรอง
5. ใชเ้ ช้ือสายพันธุท์ ่ีสรา้ งสารพิษ (positive control) และไม่สร้างสารพิษ (negative control) ทดสอบควบคู่กนั
6. อบเช้ือท่ี 35-37 °C เป็นเวลา 1-3 วนั ตรวจดู precipitin lines ซงึ่ จะท�ำมมุ 45 องศากับแนวเชอ้ื ทล่ี ากไว้
Aerobic spore-forming Gram-positive bacilli
Bacillus เป็นแบคทเี รียแกรมบวกรูปแท่งขนาดใหญ่ หัวทา้ ยตดั บางสายพันธุ์เรียงตวั ต่อกนั เป็นสายยาว สรา้ ง
สปอรภ์ ายในเซลล์ เชอื้ ในกล่มุ น้ีทมี่ ีความสำ� คัญได้แก่ B. anthracis และ B. cereus ซ่งึ จดั อยู่ในกล่มุ Bacillus cereus
group โดยเชื้อกลุม่ นจ้ี ะมีเซลล์ขนาดใหญก่ ว่ากลุ่มอื่นๆ
ตารางท่ี 5.2-3 การแยกเชื้อ Bacillus cereus group
Species Mean diam. β-Hemolysis Motility Lecithinase Penicillin
of cell >1µm
B. anthracis - - + S
B. cereus + + + + R
B. thuringiensis + + +,V + R
B. mycoides + V - + R
B. megaterium + V +,V - S
Other Bacillus spp. + -,+ +,V - V
And related groups -
ถา้ พบแบคทีเรียแกรมบวกรูปแท่งขนาดใหญเ่ คลื่อนทีไ่ ด้ มเี ส้นผา่ นศนู ย์กลางของเซลล์ > 1µm สลายเมด็ เลือด
แดงได้ ดือ้ เพนนซิ ิลนิ lecithinase positive ใหร้ ายงาน “B. cereus group, not B. anthracis”
ถา้ พบแบคทเี รยี แกรมบวกรปู แทง่ ขนาดใหญเ่ คลอื่ นทไี่ ด้ แตไ่ มส่ ลายเมด็ เลอื ดแดง และ/หรอื lecithinase negative
รายงาน “Bacillus, not B. anthracis or B. cereus”
สำ� หรับโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทวั่ ไป 115
แผนภมู ิที่ 5.2-1 ขน้ั ตอนการตรวจวินิจฉัย Bacillus
เอกสารอา้ งองิ
1. Funke G, Bernard KA. Coryneform Gram-Positive Rods. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G,
Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW editor. Manual of Clinical Microbiology 10th ed. Vol 1.
Washington, DC: ASM Press; 2011. p. 413-442.
2. Logan NA, Hoffmaster AR, Shadomy SV, Stauffer KE. Bacillus and Other Aerobic Endospore-Forming
Bacteria. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW editor.
Manual of Clinical Microbiology 10th ed. Vol 1. Washington, DC: ASM Press; 2011. p. 381-402.
3. Synder JW. Corynebacterium diphtheria Cultures. In: Garcia LS, editor. Clinical Microbiology
Procedures Handbook. 3rded. Vol 1. Washington, DC: ASM Press; 2007. p.3.11.7.1-3.11.7.10.
4. York MK, Ruoff KL, Clarridge III J, Bernard K. Identification of Gram –Positive Bacteria. In: Garcia
LS editor. Clinical Microbiology Procedures Handbook. 3rd ed. Vol 1. Washington, DC: ASM Press;
2007 Update. p. 3.18.1.1- 3.18.1.17.
116 คมู่ อื การปฏิบัตงิ านแบคทีเรียและรา
5.3 การวนิ จิ ฉัยเช้อื แบคทเี รีย Gram-Negative Cocci วันทนา ปวีณกิตติพร
เช้ือแบคทีเรีย Gram-negative cocci ท่ีพบในคนมี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นแบคทีเรียใน genus Neisseria ได้แก่
N. gonorrhoeae, N. meningitidis, N. lactamica, N. cinerea, N. flavescens, N. polysaccharea, N. mucosa,
N. sicca, และ N. subflava อีกกลุ่มเป็นแบคทีเรียใน genus Moraxella ได้แก่ M. catarrhalis (Branhamella
catarrhalis) และ M. canis (ตดิ เชอื้ จากการถกู สนุ ขั หรอื แมวกดั ) แตแ่ บคทเี รยี Gram-negative cocci ทม่ี คี วามสำ� คญั
ทางการแพทย์ โดยพบเป็นสาเหตุของโรคติดเชือ้ ท่ีมีความรนุ แรงได้บ่อยคอื N. gonorrhoeae, N. meningitidis, และ
M. catarrhalis เม่ือย้อมแกรมแบคทเี รยี ทง้ั 3 species จะเหน็ เซลลร์ ปู ร่างคล้ายเมล็ดถั่ว ส่วนใหญอ่ ย่เู ป็นคู่โดยหนั
ส่วนที่เวา้ เขา้ หากัน เหมือนรปู ไต จงึ เรียกว่า diplococci และอาจเห็นแบบ 4 cell (tetrad) ได้ ท้งั 3 species เป็น
แบคทีเรียชนิดที่ไม่เคล่ือนไหว ให้ผลบวกของการทดสอบ oxidase และ catalase ซ่ึงเป็นลักษณะที่พบได้ในเชื้อ
Neisseria species และ coccoid moraxellae อืน่ ดว้ ย จงึ จ�ำเปน็ ต้องแยกเชอ้ื ก่อโรคดังกลา่ วในระดบั species เพื่อชว่ ย
ในการวินิจฉยั และรกั ษาโรคของแพทย์
Neisseria gonorrhoeae
เป็นแบคทีเรียท่ีจัดเป็นเชื้อก่อโรคโดยมีคนเป็น host เท่านั้น ส่วนใหญ่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ท�ำให้เกิดโรค
หนองใน (Gonorrhea) และการติดเชอ้ื ท่ีเย่ือเมือกของ pharynx (pharyngitis และ tonsillitis) และตาของเด็กแรก
คลอด (gonococcal conjunctivitis) การติดเชอ้ื ในกระแสเลือดพบได้นอ้ ยกว่า 2 กรณีขา้ งต้น N. gonorrhoeae เจริญ
ไม่ดีบน BA การเพาะเช้อื ควรใชท้ ้ัง selective (Modified Thayer martin medium, MTM) และ non-selective media
ม(CันAว)าวอบมทีขี่ 3น5า-ด3เ7ส°้นCผา่ ในนศภูนาวยะก์ ทลมี่างี 51-1m0m%เปCน็Oแ2 บนคาทนเี ร2ีย4ท-7ีไ่ ว2ตช่อมค.วลากัมษแณหะง้ โแคลโละนกรบี ดนไขCมAนั กในลเมส้นเรใยี ยบฝา้มยสี กขี าารวเอกมบ็ เสทิ่งา
ส่งตรวจโดยใช้ swab จึงตอ้ งเป็นชนดิ Dacron หรือ Rayon swab น�ำสง่ ใน Amies’ หรือ Stuart’s transport medium
และสง่ ห้องปฏิบัติการโดยไม่แช่เย็น การทำ� direct smear ควรหมุน swab อยา่ งเบาๆ บนสไลด์ เพอื่ ไม่ใหเ้ ซลล์ย่น
หรือขาด
Neisseria meningitidis
เป็นแบคทีเรียที่ก่อโรคเย่ือหุ้มสมองอักเสบ (meningitis) หรือโรคไข้กาฬหลังแอ่นและการติดเช้ือในเลือด
(meningococcemia) ส่งิ สง่ ตรวจสว่ นใหญ่จึงเปน็ CSF และเลอื ด หรอื body fluid สามารถเจริญได้ท้งั บน BA และ
คCวAบใคน่ไู ภปาดวว้ ะยทโี่มคี 5โล-1น0ีม%ีลCักOษณ2 ถะ้าแกยลกมเชขอื้อจบาเกรียnบasสopีเทhaาrมynันgวeาaวl swab เพอ่ื ตรวจหาคนท่ีเปน็ พาหะควรเพาะบน MTM
บางสายพนั ธุ์ให้โคโลนเี ย้ิม (mucoid) ได้ มขี นาดเสน้
ผา่ นศนู ยก์ ลาง 1 mm เชื้อ N. meningitidis มี 12 serogroup ไดแ้ ก่ A, B, C, H, I, K, L, X, Y, Z, W135 และ 29E แบ่ง
ตามชนดิ ของ antigen บน capsule การหา serogroup ของเช้ือมีประโยชนท์ างระบาดวทิ ยา สามารถส่งตรวจที่หอ้ ง
ปฏบิ ตั ิการอา้ งองิ เช่น ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบนั วิจยั วทิ ยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การ
แพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี
ส�ำหรบั โรงพยาบาลศูนยแ์ ละโรงพยาบาลท่ัวไป 117
Moraxella catarrhalis
เป็นแบคทีเรียทเ่ี ปน็ ได้ทงั้ normal flora และเช้ือกอ่ โรคในระบบทางเดนิ หายใจของคน พบในผปู้ ่วย bronchitis,
bronchiectasis, chronic obstructive pulmonary disease (COPD), otitis media (สว่ นใหญ่พบในเด็ก) sinusitis และ
pneumonia นอกจากนย้ี ังพบเปน็ สาเหตขุ อง endocarditis และ meningitis M. catarrhalis เจริญไดด้ ีบน NA, BA
และ CA รวมทั้ง MTM โคโลนีมีสขี าวขุ่น ถงึ เทา ขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลาง 1-3 mm เมอื่ ใช้ loop เขี่ยเช้ือจะหลดุ มา
ท้ังโคโลนี เช้ือไม่ย่อยสลายน�้ำตาล สายพันธุ์ส่วนใหญ่สร้างเอ็นไซม์ β-lactamase สามารถแยกได้จาก Neisseria
species โดยคณุ สมบตั ิการสร้างเอ็นไซม์ DNase
แผนภมู ิที่ 5.3-1 ขั้นตอนการตรวจวนิ ิจฉยั เชอ้ื Gram-negative cocci
primary isolation plate (MTM, CA, BA)
+/+ oxidase / catalase test
Neiserria spp., Moraxella spp., +/-
Paracoccus yeei,Oligella spp.
Gram negative diplococci, cocci Neiserria spp. M. catarrhalis
Neisseria spp., M. catarrhalis
5.3.1
118 ค่มู อื การปฏบิ ัติงานแบคทเี รียและรา
ตารางที่ 5.3-1 Differentiation of Neisseria spp. and M. catarrhalis
Organisms Morphology Growth on Acid production from DNase Nitrate
NA, 35 °C reduction
N. bacilliformis rod GAL MAL LAC
N. cinerea diplococci ND --- -v
N. elongata - --- --
N. gonorrhoeae rod + v-- --
N. lactamica diplococci - +- - --
N. meningitidis diplococci - +++ --
N. mucosa diplococci - ++ - --
N. polysaccharea diplococci + ++ - -+
N. sicca diplococci + ++ - --
N. subflava diplococci + ++ - --
N. weaveri diplococci + ++ - --
M. catarrhalis + --- --
rod + --- ++
diplococci
NA = nutrient agar; ND = not determined; GAL = glucose; MAL = maltose; LAC= lactose; v = variation
เอกสารอา้ งองิ
1. Elias J., Frosch M., and Vogel U. 2011. Neisseria. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G, Jorgensen
JH, Landry ML, Warnock DW editor. Manual of Clinical Microbiology 10th ed. Vol 1. Washington,
DC: ASM Press; 2011. p. 559-573.
2. Koneman EW, et al. Neisseria species and Moraxella catarrhalis. In: Koneman EW. Koneman’s Color
Atlas and Textbook of Diagnostic Microbiology 6th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins;
2010. p. 566-622.
3. Vaneechoutte M, Dijkshoorn L, Nemec A, Kampeer P, Wauters G. Acinetobacter, Chryseobacterium,
Moraxella, and other Nonfermentative Gram–Negative Rods. In: Versalovic J, Carroll KC, Funke G,
Jorgensen JH, Landry ML, Warnock DW editor. Manual of Clinical Microbiology 10th ed. Vol 1.
Washington, DC: ASM Press; 2011. p.714-738.
สำ� หรบั โรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลท่ัวไป 119
5.4 การวนิ ิจฉยั เช้ือแบคทีเรีย Family Enterobacteriaceae วรดา สโมสรสุข
แบคทีเรียใน Family Enterobacteriaceae เปน็ แบคทีเรียทพ่ี บไดบ้ ่อยๆ จากส่งิ ส่งตรวจผปู้ ว่ ย แบคทเี รยี กลุม่ นี้
เปน็ เชอื้ แกรมลบ รปู ร่างแทง่ ไม่สรา้ งสปอร์ เชื้อสว่ นใหญ่เจรญิ ไดด้ ที ี่อุณหภูมิ 30 °C แม้ว่าบางชนิดจะเจริญได้ดี
กวา่ ทอ่ี ุณหภูมิ 25-30 °C เชอื้ มชี วี ิตอยู่ไดใ้ นสภาวะ facultative anaerobe สามารถหมักยอ่ ยน�้ำตาลกลโู คส และบาง
ชนดิ ใหแ้ กส๊ ดว้ ยนอกจากนเี้ กอื บทงั้ หมดใหผ้ ลลบตอ่ การทดสอบoxidaseยกเวน้ Plesiomonasshigelloidesนอกจาก
น้ี เชอ้ื ในกลุ่มนส้ี ่วนใหญ่ให้ผลบวกตอ่ การทดสอบ catalase ยกเวน้ Shigella dysenteriae type 1 (Karas et al., 2007)
การแยกชนดิ ของเชื้อใน Family Enterobacteriaceae บนอาหารเล้ียงเชอ้ื สามารถแบ่งไดเ้ ปน็ 2 กลมุ่ ยอ่ ย คือ กล่มุ ที่
สามารถหมักยอ่ ยน�้ำตาลแลคโตส (lactose fermenter) และกลุ่มทไี่ ม่หมกั ยอ่ ยน�้ำตาล (non-lactose fermenter) ซ่งึ
สามารถดไู ดจ้ ากการเจรญิ บน MAC เชื้อทีส่ ามารถหมักยอ่ ยน้ำ� ตาล lactose ได้จะใหล้ ักษณะโคโลนเี ปน็ สชี มพู เชื้อ
ทไ่ี มส่ ามารถหมักยอ่ ยน้�ำตาลแลคโตสจะให้โคโลนีไม่มีสี (แผนภูมิที่ 5.4-1)
แผนภูมิที่ 5.4-1 เชื้อทส่ี งสยั Family Enterobcateriaceae
เช้ือที่สงสัยอยู่ใน family Enterobacteriaceae ท่ีมีความส�ำคญั ทางคลนิ ิก มีหลายสายพันธุ์ ทำ� ให้การแยกพสิ จู น์
เช้ือต้องใช้วิธีการทดสอบเพ่ิมข้ึน อย่างไรก็ตาม ในบทน้ีได้ท�ำการเลือกวิธีทดสอบที่ควรมีใช้อยู่ในห้องปฏิบัติการ
เพ่ือใหก้ ารจ�ำแนกเช้ือได้ถกู ต้องมากข้นึ ดงั นี้ TSI (ดกู ารสร้างแกส๊ , การสร้างไฮโดรเจนซัลไฟด)์ PDA, LDC, ODC,
indole, motility, methyl red, VP, citrate, urea, malonate, gelatin/DNase, esculin, ONPG, yellow pigement, red
pigment, การหมกั ยอ่ ยนำ�้ ตาล ไดแ้ ก่ lactose (สามารถดไู ดจ้ ากโคโลนที ข่ี นึ้ บน MacConkey agar), sucrose, maltose,
mannitol, adonitol, sorbitol และ arabinose
120 ค่มู ือการปฏบิ ัตงิ านแบคทเี รยี และรา
เชือ้ family Enterobacteriaceae สามารถแยกกลมุ่ เบอ้ื งต้นออกจากกันโดยการใช้ Triple Sugar Iron (TSI) Agar
ไดด้ งั น้ี
เม่ือกกกกทลลลล�ำุ่่มุมุ่มุ่มกททททารี่่่ีี่ี 2431ท ดสอบTTTTSSSSเบIIIIื้อ====งKAKAต้////นAAAAแหหหหละรรรรแออือืือื ยKAKAก////อAAAAอGGGGก,,,,ดHHHH้ว2222ยSSSSผ+-+-ล TSI แล้ว จะท�ำการแยกกลุ่มเช้ือต่อไปด้วยผลของการสร้าง
เอนไซม์ deaminase ของเช้อื โดยใชก้ ารทดสอบที่เรียกวา่ phenylalanine deaminase (PDA)
เชอื้ ในกลุม่ ท่ี 1 TSI : A/A หรอื A/AG, HHHH2222SSSS+-+- จะถูกพิสจู น์ ดงั ตารางที่ 5.4-1 ถงึ 4 และ แผนภูมทิ ี่ 5.4-2 ถึง 5
เชอื้ ในกลุ่มท่ี 2 TSI : A/A หรอื A/AG, จะถกู พิสจู น์ ดงั ตารางที่ 5.4-5 และแผนภมู ทิ ี่ 5.4-6 ถงึ 10
เชื้อในกลุม่ ที่ 3 TSI : K/A หรอื K/AG, จะถกู พิสจู น์ ดงั ตารางท่ี 5.4-6 ถึง 9 และแผนภมู ิท่ี 5.4-7-
เช้อื ในกล่มุ ที่ 4 TSI : K/A หรอื K/AG, จะถกู พิสจู น์ ดังตารางที่ 5.4-10 และแผนภูมิที่ 5.4-11
ตารางท่ี 5.4-1 การแยกพิสจู นเ์ ชือ้ กลุ่มท่ี 1 TSI : A/A หรอื A/AG, H2S- , PDA (+)
Fermentation of
Phenylalanine deaminase
Organisms Lysine decarboxylase
Ornithine decarboxylase
Yellow pigment
Indole production
Motility
D-Glucose, gas
Lactose
Sucrose
Maltose
D-Mannitol
Cronobacter sakazakii V - + + V + + + + + +
Pantoea agglomerans V - - V V + V V V + +
Proteus penneri + - - - - +V- ++ -
Proteus vulgaris + - - - ++V- ++ -
Providencia spp. + - - - +VVVV - V
Rahnella aquatilis +- - - - -++++-
Tatumella ptyseos +- - - - - - -+- -
V, >11 - <80% positive
ส�ำหรับโรงพยาบาลศนู ยแ์ ละโรงพยาบาลทัว่ ไป 121
แผนภมู ทิ ่ี 5.4-2 การแยกพิสจู นเ์ ชื้อกล่มุ ท่ี 1 TSI : A/A หรอื A/AG, H2S- , PDA (+)
122 คมู่ อื การปฏิบตั ิงานแบคทเี รยี และรา
ตารางที่ 5.4-2 การแยกพิสูจนเ์ ชือ้ กลุ่มที่ 1 TSI : A/A หรอื A/AG, H2S- , PDA (-), LDC (+)Phenylalanine deaminaseLysine decarboxylaseOrnithine decarboxylase Gelatin hydrolysis (22 °C) Fermentation of
Organisms
Indole production Voges-Proskauer Citrate (Simmons)
Yellow pigment Motility Urea hydrolysis DNase (25 °C) D-Glucose, gas Lactose
Sucrose
Edwardsiella spp. - ++ -V+ - - - - -V- +
Enterobacter spp. - ++ - - +++V- - +V+
Escherichia coli - +V- ++ - - - - - ++V
Escherichia coli (inactive) - V V - + - - - - - - - V V
Escherichia vulneris - + -V- + - - - - - +V-
Klebsiella oxytoca -+- -+-+++- -+++
Klebsiella ozaenae - V - - - - - + - - - VVV
Klebsiella pneumoniae - + - - - - + + + - - + + +
Kluyvera spp. -V+ - ++ - + - - -V++
Raoultella ornithinolytica - + + - + - V + + - - + + +
Raoultella terrigena - +V- - - +V- - - +++
Serratia spp. - VV - VVV+VV+V - +
Serratia fonticola - ++ - - + - +V- -V+V
V , >11 - <80% positive
สำ� หรบั โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทวั่ ไป 123
124 คมู่ อื การปฏิบัตงิ านแบคทเี รยี และรา แผนภมู ทิ ี่ 5.4-3 การแยกพสิ ูจนเ์ ช้อื กล่มุ ท่ี 1 TSI : A/A หรอื A/AG, H2S-, PDA (-), LDC (+)
ตารางท่ี 5.4-3 การแยกพสิ จู น์เชื้อกลมุ่ ที่ 1 TSI : A/A หรอื A/AG, H2S- , PDA (-), LDC (-) Fermentation of
Organisms
Phenylalanine deaminase
Lysine decarboxylase
Ornithine decarboxylase
Yellow pigment
Indole production
Motility (25°C)
Motility
Voges-Proskauer
Methyl red
Urea hydrolysis
Gelatin hydrolysis (22°C)
DNase (25°C)
Esculin hydrolysis
Malonate utilization
D-Glucose, gas
Lactose
Sucrose
Cedecea davisae - -+- - - - +V++- - - V + V
- +
Cedecea sp. 3 ----- - - +V++- - - + V +
V +
Citrobacter spp. - - + - - V - V - + VV - - - V +
V +
Cronobacter sakazakii V - + + - - - + + - + - - - + - -
+ +
Enterobacter spp. - -V - - - - V V VVV - - V V V
- V
Enterobacter cloacae - -+ - - - - + + - +V - - V
Escherichia coli (inactive) - V V - - + - - - + - - - - -
สำ� หรับโรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลท่วั ไป 125 Kluyvera cryocrescens - V + - - + - + - + + - - - +
Serratia spp. - VV - V - - V V V V - V + +
Yersinia spp. - -V - - V + - - VVV - - V
V , >11 - <80% positive
126 คมู่ อื การปฏิบัตงิ านแบคทเี รยี และรา แผนภมู ทิ ี่ 5.4-4 การแยกพิสจู น์เช้อื กล่มุ ท่ี 1 TSI : A/A หรือ A/AG, H2S-, PDA (-), LDC (-)
motility (25˚C)
(25˚C)
ตารางที่ 5.4-4 การแยกพิสูจน์เช้อื กลุ่มท่ี 1 TSI : A/A หรือ A/AG, H2S-, PDA (-), LDC (-), motility 25 °C (-), DNase 25 °C (-), red pigment (-), ODC (-)
Fermentation of
Organisms
Phenylalanine deaminase
Lysine decarboxylase
Ornithine decarboxylase
Yellow pigment
Indole production
Motility
Voges-Proskauer
Citrate (Simmons)
Urea hydrolysis
Gelatin hydrolysis (22 °C)
Esculin hydrolysis
Malonate utilization
ONPG test
D-Glucose, gas
Lactose
Sucrose
Maltose
Adonitol
L-arabinose
สำ� หรับโรงพยาบาลศนู ย์และโรงพยาบาลท่วั ไป 127 Budvicia aquatica - - - - -V- - V - - - + V + - - -+
Buttiauxella gaviniae - - - - - + - V - - + + + V V - V++
Cedecea spp. - -V- -+V+ - - + V+ + VV+--
Citrobacter spp. - - - - VV - V V - - V V V V V + - +
Pantoea agglomerans V - - VV+ VVV - V V + V V V + - +
Enterobacter amnigenus biogr.1 - -V- -++V - - + + + + V+ +-+
Escherichia coli inactive - VV - + - - - - - - - + - VV + -+
Ewingella americana - - - - -V++ - - V - + - V0V--
Klebsiella ozaenae - V - - - - - V - - + - + V VV +++
Klebsiella rhinoscleromatis - - - - - - - - - - V + - - - V +++
Leclercia adecarboxylata - - - - +V - - V - + + + + + V +++
Moellerella wisconsensis - - - - - - - + - - - - + - + + V+-
Serratia marcescens biogr. 1 - VV - -VVV - V + - V - - + VV-
V, >11 - <80% positive
128 คมู่ อื การปฏิบัตงิ านแบคทเี รยี และรา แผนภมู ิท่ี 5.4-5 การแยกพิสจู นเ์ ชื้อกล่มุ ที่ 1 TSI : A/A หรอื A/AG, H2S-, PDA (-), LDC (-), motility 25 °C (-), DNase 25 °C (-), red pigment (-), ODC (-)