สงเคราะห์โลก พิธีติดรูปเหรียญหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดย หลวงปู่ลี กุสลธโร เป็นองค์ประธานฝ่ายบรรพชิต ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ 400
พิธีรับมอบอาคาร ๙๖ ปี (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) โดย หลวงปู่ลี กุสลธโร เป็นองค์ประธานฝ่ายบรรพชิต วันที่ ๕-๖ เมษายน ๒๕๕๕ หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม เป็นประธานสงฆ์ในการเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่สาธุชนและสถานที่ บนชั้นสูงสุดของอาคาร โดยมี หลวงพ่อคูณ สุเมโธ หลวงพ่อนิพนธ์ อภิปสันโน และมีครูบาอาจารย์พระสงฆ์จากหลายวัดมาร่วมอนุโมทนาจำ นวนมาก ในคืนวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๕ พระเถระเมตตาออกรับบิณฑบาต เช้าวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕ 401
สงเคราะห์โลก 402
พระเถระที่มาร่วมอนุโมทนา ในงานพิธีรับมอบอาคาร ๙๖ ปี ๖ เมษายน ๒๕๕๕ หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม หลวงพ่อสิงห์ อินทปัญโญ หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ 403
สงเคราะห์โลก หลวงพ่อทองคำ� กาญจนวัณโณ หลวงพ่อคำ�ผิว สุภโน หลวงพ่อหลอ นาถกโร หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสฺสโก หลวงพ่อคูณ สุเมโธ หลวงพ่อคำ�สด อรุโณ หลวงพ่อณรงค์ อาจาโร หลวงพ่อบุญมี ธัมมรโต หลวงพ่อบุญหลั่น กันโตภาโส หลวงพ่อจันทร์ ขันติธโร หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ 404
อาคาร ๙๖ ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี วันศุกร์ขึ้น ๑๕ เดือน ๕ ปีมะโรง พุทธศักราช ๒๕๕๕ อาคาร ๙๖ ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งนี้ เริ่มแรกทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีขอ เมตตาจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สร้างเป็นอาคารผู้ป่วย ๘ ชั้น ต่อมา องค์หลวงตาเมตตาสงเคราะห์ให้สร้างเพิ่มเป็น ๑๐ ชั้น พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการ แพทย์เพื่อใช้ในอนาคตอย่างเพียงพอ โดยเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาในองค์หลวงตาทั้งแผ่นดิน และ ด้วยเจตนาให้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ รวมถึงประชาชนที่เจ็บป่วยทั่วไป ในชั้นที่ ๑ ให้ใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ชั้นที่ ๒-๗ ให้ใช้เพื่อการรักษาผู้ป่วยสามัญ สำ หรับชั้นที่ ๘-๑๐ ให้ใช้เป็นสถานที่เฉพาะในการรักษาพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย อาคารแห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความเมตตาขององค์หลวงตาที่มีต่อโลกอย่างไม่มีประมาณ โดย เฉพาะผู้ได้รับทุกขเวทนาจากความเจ็บป่วย ให้มีสถานที่และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ครบถ้วนทันสมัย เพื่อใช้ในการรักษาอย่างเพียงพอ จึงขอให้คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีร่วม มือร่วมใจกัน ดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยและพระภิกษุสงฆ์อาพาธอย่างเต็มกำ ลังความสามารถ รวมถึง การบำ รุงรักษาอาคาร เครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้เป็นอย่างดี ดังสมบัติวัตถุธรรมที่องค์ หลวงตาได้เมตตาสงเคราะห์ให้ รูปแบบการใช้งานที่กำ หนดไว้สำ หรับอาคารนี้เป็นไปตามเจตนาอันบริสุทธิ์ขององค์พระผู้บริสุทธิ์ พร้อม ขอให้โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีคงรูปแบบการให้บริการในแต่ละชั้นดังที่กล่าวมาข้างต้น หากมี ความประสงค์จะทำการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ขอให้ปรึกษาหารือขอความเห็นชอบจากวัดป่า บ้านตาด และคณะทำ งานติดตามการดำ เนินงานอาคาร ๙๖ ปี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่ได้ รับมอบหมายก่อนการดำ เนินการใดๆ ด้วย หลวงปู่ลี กุสลธโร พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน 405
สงเคราะห์โลก ความเมตตาและสงเคราะห์ โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม อ.เมือง จ.อุดรธานี บริจาครถตู้ และทุนทรัพย์ให้โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ (บ่าย) มีรายการดังต่อไปนี้ พระอาจารย์อุทาน จารุธัมโม และดาบตำรวจรังสรรค์ เกตุนาค เป็นผู้มอบ - มอบรถยนต์ ยี่ห้อ โฟล์คสวาเก้น Volkswagen Caravelle สีบรอนซ์ ๑ คัน - บริจาคทุนทรัพย์เพื่อช่วยเหลือกิจการ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) - ผ้าขาวจำ นวน ๓๐ พับ 406
หลวงตา : ยังจำ ได้อยู่นะ ลำ ตะคอง โยม : ว่าจะมากราบเรียนหลวงตาว่า เขาผลิตไฟฟ้าได้ น้ำ ไม่รั่วแล้วเจ้าค่ะ ปั่นไฟได้แล้ว ไม่รั่วแล้วเจ้าค่ะ ดีแล้ว ต้องกราบขอบพระคุณหลวงตา หลวงตา : อันนี้มีอยู่สองอย่างนะ ถ้าพื้นที่ พวกดินพวกอะไรไม่ดี เราทำ ไม่ดี มันก็มีรั่วมีแตกไป เป็นธรรมดา นี่เป็นอย่างหนึ่ง อย่างหนึ่งถึงจะดีก็ตาม มันมีสิ่งลึกลับแทรกอยู่ในนั้น อันนี้จะไม่มีดี ทำ เท่าไร มันก็เป็นของมันจนได้ เพราะมันมีลึกลับอยู่นั้น สิ่งลึกลับก็มี ธรรมเป็นเครื่องชำ ระล้างกัน แล้วก็เรียบไปเลย โยม : (เอาบาตรพระไปฝังเจ้าค่ะ หลวงปู่ลีท่านแนะนำ ) หลวงตา : ก็ดี เวลานี้ใช้การใช้งานอะไรได้เรียบร้อยแล้วนะ โยม : ปั่นไฟใช้แล้วเจ้าค่ะ หลวงตา : อย่างนั้นก็ดี เมื่อวานมาก็ผ่านมา เวลาขากลับไปก็ผ่าน แต่ไม่แวะนะ อย่าให้แวะนะ เข้าใจเหรอที่ว่ามันมีอยู่สองเรื่อง เรื่องหนึ่ง ที่ดินอันนั้นมันไม่เหมาะสมของมัน ทำ ลงไปแล้วมันก็มีรั่วไหลแตกซึม ทำ อีกมันก็เป็นของมันอีก ถ้าพื้นที่มันไม่ดี แต่เราไม่รู้ ว่ามันไม่ดียังไง แต่มันก็ไม่ดีอยู่ของมันเอง เวลาเราทำแล้ว มันก็มีรั่วไหลแตกซึมของ มันไป อันหนึ่งนั้น ถึงพื้นที่จะดีก็ตาม แต่มันมีสิ่งลึกลับอยู่ภายใน อันนี้ดลบันดาล ได้ทุกอย่างนะ ดีขนาดไหนก็ไม่ดี มันหากมีของมันที่จะต้องทำ ให้พังจนได้ นี่เป็นอีก ประเภทหนึ่ง อันนี้แก้ได้ด้วยธรรม (หลวงตาแก้ให้แล้ว) อย่ามาหาเรื่องนะ เราพูด กลางๆ ต่างหาก ไม่ให้มาข้องแวะเรา ที่เทศน์ตอนเช้าเกี่ยวกับเรื่องเทวบุตร เทวดาแผลงฤทธิ์แปลกๆ ต่างๆ มันเป็นไปได้ สัตว์ประเภทลึกลับ แยกจากเทวบุตร เทวดาไปก็เป็นประเภทลึกลับ แล้วมีทางทำ ได้เป็นได้อีก ที่มองไม่เห็นตัวเลย แต่ฤทธิ์ ศักดานุภาพมีของมันเอง เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ เมื่อค่ำ วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๔๕ (โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) เขื่อนลำ ตะคองไม่รั่วแล้ว หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมตตาเยี่ยมชมเขื่อนลำ ตะคอง อำ เภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา 407
วัดภูผาแดง
ประวัติวัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี วัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ หรือเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในบรรดาศิษยานุศิษย์ทั่วไป มักจะเรียก ชื่อว่า วัดภูผาแดง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอำ เภอหนองวัวซอ เป็นวัดฝ่ายอรัญญวาสี “ธรรมยุต” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พุทธศักราช ๒๕๓๗ เป็นสถานที่จำ พรรษาและบำ เพ็ญสมณธรรม ของหลวงปู่ลี กุสลธโร ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ ของ พระเดชพระคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อำ เภเมือง จังหวัดอุดรธานี จุดที่น่าสนใจภายในวัดมีหลายแห่งมากมาย ได้แก่ ผาแดง ถ้ำ จัน สวนอาสน์ พรานป้อ วัดเก่า ถ้ำ นกยูง อ่าง เก็บน้ำขนาดใหญ่ ถ้ำ น้ำย้อย ซึ่งจะมีน้ำ ไหลตลอดทั้งปี อีกจุดก็คือกุฏิของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สร้างจากไม้ทั้งหลัง ยกพื้นสูงเล็กน้อย อยู่ใต้ผาหิน ข้างๆ มี ถ้ำขนาดใหญ่ที่สวยงาม เรียกชื่อว่า ถ้ำขาม มีค้างคาวมา อาศัยอยู่จำ นวนมาก กุฏิหลวงตามหาบัว ถ้ำาน้ำาย้อย 409
410 วัดภูผาแดง พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เมตตาเล่าถึงวัดภูผาแดง และปรารภถึงหลวงปู่ลี กุสลธโร, หลวงพ่อวันชัย วิจิตโต เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๒ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่ลี กุสลธโร หลวงพ่อวันชัย วิจิตโต ธรรมชาติอันร่มรื่น และสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของวัดภูผาแดง
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมตตามาเยี่ยมหลวงปู่ลี ณ วัดภูผาแดง ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๓ 411
412 วัดภูผาแดง ภาคปฏิบัติเป็นของเล่นเมื่อไร สอนกันสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ จิตสอนจิตนี้ตรงแน่วๆ ขั้นธรรมนี่..เช่น เสกตัวเป็นครูเป็นอาจารย์เขา เขาน้อยกว่าแต่ความรู้เขาสูงกว่าเราสอนไม่ได้นะ อาจารย์น่ะสอนลูกศิษย์ ไม่ได้ ท่านวันชัยก็มาอยู่ที่นี่ เราก็บอกให้มาวัดป่าบ้านตาดเราบอกเลยนะ ซึ่งเราไม่เคยบอกใคร เห็นเร่ๆ ร่อนๆ อยู่มูลนิธิหลวงปู่มั่นฝั่นธน ตอนเราไปนั้น ถามจะไปไหนมาไหน โลเลโลกเลกอยู่ ไม่ได้หลักได้เกณฑ์ เราเลยบอกเลย มาอยู่ที่นี่แล้วมีอะไรก็จะพูดกันให้ได้หลักได้เกณฑ์ มาก็ได้จริงๆ แน่ะอย่างนั้นแล้ว ท่านมาเล่าจุดไหนๆ ถูกต้อง เรายอมรับๆ แล้วอธิบายต่อๆ ท่านก็ยอมรับ เป็นพระที่มีหลักเกณฑ์อยู่ มากท่านวันชัย มาอยู่ที่นี่ เราล่ะให้มาตั้งแต่มูลนิธิหลวงปู่มั่นที่ฝั่งธน เห็นไปเร่ๆ ร่อนๆ อยู่นั้น เราดู ลักษณะไม่มีหลักมีเกณฑ์ เราเลยบอกเลย ธรรมดาเราจะไม่บอกใครง่ายๆ ให้มาอยู่วัดป่าบ้านตาด นี่ความตั้งใจท่านมีแต่หาหลักยึดไม่ได้ ความหมายว่าอย่างนั้น เราเลยบอกให้มาวัดป่าบ้านตาดเลย มาก็ถามถึงเรื่องจิตใจ จากนั้นก็อธิบายให้ฟัง ท่านก็ทำ ด้วยความตั้งใจ ท่านมาพูดให้เราฟังตรงไหนถูก ต้องๆ แล้วออกจากนี้ก็ไปอยู่ที่ภูสังโฆ ท่านก็ดี ท่านได้หลักใจดี ธรรมลีก็เหมือนกัน ธรรมลีนี้เป็นเศรษฐี ธรรมมานานแล้วนะ เรียกว่าเศรษฐีธรรม ถ้าธรรมเต็มเม็ดเต็มหน่วยเรียกว่าเศรษฐีได้แล้ว เศรษฐีธรรม ธรรมภายในหัวอก ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้วไม่จม วัดธรรมลีผาแดงว่ามีฝายอยู่ข้างบน วัดอยู่ข้างล่าง ฝายอยู่ข้างบน เราก็ไม่เคยเห็นแล้ว ไม่เคยคิด พึ่งมีคนมาเล่าให้ฟังเมื่อสองสามวัน เขาได้ตะพาบน้ำแล้วเขาว่าเอาไปปล่อยที่ไหน เขาเอามา ให้วัดนี้ เราก็ไม่ทราบว่าไปปล่อยที่ไหน มีคนบอกว่าไปปล่อยที่วัดอาจารย์ลี ที่ฝายท่าน ว่าอย่างนั้นนะ อยู่ข้างบนนู่น ตะพาบใหญ่นะ เขาเอามาวัดนี้ ตะพาบน้ำ ใหญ่ ดูเหมือนเอาไปแล้วนะ เขาเอามาเราก็ บอกสถานที่ที่ควรจะปล่อยสัตว์นี้ให้เขาอยู่เป็นผาสุก ไม่ถูกทำ ลาย มีผู้บอกว่าฝายธรรมลี อยู่อย่างไรเรา ถามเหตุถามผลได้ความแล้ว อยู่ข้างบน เออเอาไปนั้นแหละ ไม่ค่อยได้ไปวัดนั้นวัดนี้เรา เวลาไม่พอ และกำ ลังก็ไม่พอด้วย วัดท่านวันชัยก็ได้ไป นานๆไปที ธรรมลีก็ไป วัดท่านวันชัยใหญ่ พระเยอะ วัดธรรมลีก็เยอะเหมือนกัน แถวนั้นมีที่ไหนบ้างน้า ท่านวันชัย ทีแรกเราไปกรุงเทพไปพบอยู่ที่มูลนิธิ ไปถามอาการเคลื่อนไหวของท่าน ลักษณะเป็นเร่ๆ ร่อนๆ ไม่มีหลัก เราก็ไม่เคยบอกใครให้เป็นอย่างนั้นนะ เราบอกถ้าอย่างนั้นไปวัดผม เราว่าอย่างนั้น ไม่เคย เราเลยบอก ให้ไปอยู่วัดผม เราสอนตั้งหลักใหม่ ท่านเลยมาเลย ก็ได้หลักจริงๆ มาจากนี้ก็ไปอยู่ที่นั่นนะ ทุกวันนี้นะ เรียกว่าภูสังโฆ คือความตั้งใจมีแต่หาที่เกาะที่ยึดไม่ถูก มันก็ไม่มีประโยชน์นะ เพราะเราเห็นโทษของเรา เราจึงบอก เลย ท่านอยู่ที่มูลนิธิพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นตอนต้น เห็นท่านไปอยู่ที่นั่นถามเหตุถามผล หลักเกณฑ์ยังไม่ได้ เร่ๆ ร่อนๆ เราก็เลยบอกเลย เอาถ้าอย่างนั้นไปวัดป่าบ้านตาด ท่านก็เลยมาที่นี่ มาได้หลักที่นี่นะ เดี๋ยวนี้ท่านได้หลักแล้ว ได้หลักมั่นคง คือท่านพูดเอง เราไม่ได้แนะไปก่อน ท่านพูดเอง แล้วตรงกับความ จริงๆ ตามขั้นของธรรม เราบอกเออใช้ได้ๆ เรื่อยๆ ไป นี่ก็เป็นพระสำ คัญละเดี๋ยวนี้ท่านวันชัยดี ได้หลัก เกณฑ์ดี
อิริยาบถสบายๆ ขององค์หลวงปู่ลี ภาพถ่ายที่ วัดป่าพระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ถ้ำาเกียน้อย) อ.หนองแสง จ.อุดรธานี 413
414 วัดภูผาแดง ผาแดง ผาแดง แห่งนี้เป็นหน้าผาหินที่มีความงดงามตามธรรมชาติสร้างสรรค์ มีน้ำ ไหลย้อยในช่วง ฤดูฝน เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาอันยาวไกล สามารถมองเห็นตัวจังหวัด อุดรธานี และวัดถ้ำ สหายธรรมจันทร์นิมิต เพราะทั้งสองวัดนี้จะอยู่ตรงข้ามกัน บางทีถ้าหากพระ ท่านมีธุระด่วนหรือเรื่องเกี่ยวกับครูบาอาจารย์ท่านก็จะเดินลัดเลาะตามป่ามาทะลุที่ภูผาแดงได้ ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี จะมีฝูงผึ้งหลวงจำ นวนมาก บินมาอาศัยโดยเกาะทำ รังอยู่ที่หน้าผา แดงแห่งนี้เป็นประจำ ภายใต้ความเมตตาธรรมขององค์หลวงปู่ลี ฝูงผึ้งเหล่านั้นจึงอยู่ด้วยความ ผาสุก ปราศจากผู้คนมาเบียดเบียน ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของหน้าผาแดงนี้ จึงเป็นที่มาของวัดภูผาแดง และเป็นชื่อที่ ศิษยานุศิษย์คุ้นเคยกันมากกว่า วัดหนองสวรรค์ ซึ่งเป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ
วัดหนองสวรรค์ (ภูผาแดง) ตั้งอยู่บ้านหนองสวรรค์ ตำ บลหนองอ้อ อำ เภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เป็นวัดที่หลวงปู่ลี กุสลธโร เป็นประธานสงฆ์ และท่านเป็นผู้นำ พาศิษยานุศิษย์บุกเบิก สถานที่แห่งนี้จนสามารถสร้างเป็นวัดป่าฝ่ายอรัญญวาสี ที่ถาวรในพระพุทธศาสนาจนทุกวันนี้ วัดหนองสวรรค์ (ภูผาแดง) เป็นชื่อที่ขึ้นทะเบียนของกองพุทธศาสนสถาน สำ นักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่วนชื่อ วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) หรือบางท่านเรียกชื่อว่า วัดภูผาแดง เป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการเพราะสาธุชนส่วนมากมักจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ สรุปก็คือเป็นวัด เดียวกัน พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เคยกล่าวปรารภถึงวัดภูผาแดง ในวาระต่างๆ หลายครั้งว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ชั้นเอก เป็นมหาวิทยาลัยป่า จึงเหมาะสมเป็นอย่างมากสำ หรับ ผู้ที่ตั้งใจจะมาบำ เพ็ญเพียรภาวนาโดยแท้จริง ถ้ำ�ย่�งไก่ (ถ้ำ�จัน) ในสมัยก่อนเคยมีนายพรานมาล่าสัตว์ต่างๆ ในบริเวณเทือกเขาแห่งนี้ พอยิงสัตว์ได้มา เช่น ไก่ป่า เขาก็จะพากันมาย่างกินเป็นอาหาร ฉะนั้น จึงเป็นเหตุที่มาให้ได้ชื่อว่า ถ้ำย่างไก่ ต่อมาหลวง ปู่ลีท่านได้ปลูกต้นจัน ๓ ต้น ไว้ที่บริเวณหน้าถ้ำ ปัจจุบันจึงได้เรียกชื่อว่า ถ้ำ จัน สมัยก่อนตั้งแต่ครั้งบุกเบิกสร้างวัดภูผาแดงยุคแรกๆ หลวงปู่ลีท่านจะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ ประชุมสงฆ์ เพื่อแสดงพระธรรมเทศนาอบรมพระ-เณร อยู่เป็นประจำ 415
416 วัดภูผาแดง สถานที่แห่งนี้ มีชื่อเรียกว่า พรานป้อ พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านได้เมตตาเล่าเรื่อง พรานป้อขี่เสือ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เออ พอพูดถึงเรื่องเสือแล้วนะมันก็ไปสัมผัส สมัยปัจจุบันนี้เขาขี่เสือได้นะ ที่บ้านธรรมลีอยู่นี้มีคนหนึ่ง เขาเรียกพรานป้อตัวเตี้ยๆ ขี่เสือมา คนร่ำ ลือกันทั้งบ้าน ทีนี้ไปทางบ้านดงหญ้านาง ไปอำ เภอ.. นั้นก็ ขี่เสือ แล้วก็มาเป็นลูกศิษย์พระ เพราะฉะนั้นท่านถึงได้ไล่เบี้ยเอาขี้แตกหมด ไม่มีเหลือขี้ติดตัวเลย ถูกท่านไล่เบี้ยเอาหมด ขี่เสือจริงๆ ใช่ไหม เขาร่ำ ลือกันทั้งบ้านว่าอย่างนั้น ว่าคุณนี้ขี่เสือใช่ไหม ใช่ แล้วทำ ไมถึงได้ขี่เสือล่ะ ก็คิดคึกคิดคะนองนั้นแหละ ไปเรียนวิชามาจากทางฝั่งนู้นพวกโซ่พวกข่า เขามีวิชาขี่เสือ ไปเรียนวิชาขี่เสือกับเขามา ส่วนผาแดงนี้ไม่ทราบมาจากไหน หากขี่เสือได้เหมือนกัน นี่เขาเรียกพรานป้อคนเตี้ยๆ ขี่เสือไป ได้สบาย คนที่อยู่บ้านมายนั้นเขาขี่เสือได้สบาย ทีนี้มาเป็นลูกศิษย์พระ อุปถัมภ์อุปัฏฐากพระกรรมฐาน ท่านเลยซักถามเรียบร้อยจนเข้าใจหมด ว่าท่านไปเรียนวิชาฝั่งนู้นมา วิชาขี่เสือ ไปด้วยกันสี่คน ไปเรียน วิชาขี่เสือ ครูเขามีทางนู้น ครั้นเวลาไปแล้วครูเขาก็พาไป ใครจะกล้าอย่างไรๆ ก็รู้กันตอนนี้ละ ครูก็ไป นั่งร่ายมนต์ นั่นละเก่งไหมครู ร่ายมนต์เรียกเสือมา พอไปนั่งแล้วก็เตรียมตัวนะ บอกเลยให้เตรียมตัวไว้ เสือจะมา ตัวไหนอยู่ใกล้มาก่อน ตัวไหนอยู่ไกลก็มาทีหลัง พอเขานั่งทำ พิธีสวดมนต์ไม่นานเสือก็มา มาก็มานอนเอ๊ะๆ อยู่ตามนี้เหมือนสัตว์บ้าน ไม่ได้กลัวคน แต่คนที่ไปกับหมอนั้นตัวสั่นเลย ขี้ราด แถวนั้น ขี้คงออกหมด ขี้ราด ไปก็ร่ายมนต์ให้มันมา พอมันมาแล้วทีนี้ก็เอาถ้าอยากจะทดลองอยากขี่เสือ เอา ใครกล้าไปขี่เสือตัวนั้น มันนอนอยู่ตามนี้ ถ้าอยู่บริเวณใกล้มีเสือมากมันก็มาหลายตัว สี่ตัวห้าตัวมา
พอร่ายมนต์ เอาทีนี้ขั้นฝึกเบื้องต้นฝึกกัน ให้ครูนั่งทางนี้แล้วก็ร่ายมนต์เรียกเสือมา เสือก็มานอน อยู่เหมือนสัตว์บ้าน คนนี้ร่ายมนต์แล้วให้ขี่เสือมา ไปไม่ได้ สี่คนเหลวหมดไปไม่ได้กลัวเสือ เสือมันก็นอน ธรรมดา คนหนึ่งเพราะเชื่อครู เอา ตายเพราะครู มอบให้ครูทั้งหมด เชื่อครู ไปเลยขึ้นขี่เสือมาหาครู ครูนั่งอยู่ตรงนี้เสือมันมานอน นั่นละคาถาไสยศาสตร์ พอไปก็ไปขี่เสือมาจริงๆ มาหาครู นอกนั้นไปไม่ได้เลย สามคนไปไม่ได้ คนที่สี่เชื่อครู ตายก็ตาย เพราะครู เอาตาย เสียสละไปเลยขี่เสือมาได้ มีสี่ตัวขี่มา จากนั้นก็ฝึกกันละที่นี่ คนนี้ได้คนเดียวขี่เสือได้ ฝึกขั้นนี้แล้วทีนี้ก็ให้ไปนั่งอยู่ตรงนั้น ครูจะนั่งที่นี่ ให้ร่ายมนต์เรียกเสือมา มาหาแล้วก็ให้ขี่เสือตัวนั้นมา หาครูเป็นระยะๆๆ จนตายใจแน่ใจแล้วว่าขี่ได้ไม่กลัวแล้วก็ปล่อย ก็ได้วิชาขี่เสือ เรื่องราวเป็นอย่างนั้น นี่เรียกว่าไสยศาสตร์ วิชาขี่เสือขี่ได้ อย่างอีตาพรานป้อแกขี่เสือได้ ได้เห็นชัดๆ ต่อหน้าต่อตาคน ทั้งบ้าน เห็นก็ไม่ว่าแกว่า แต่อย่ากระโตกกระตาก อย่าร้อง ถ้าร้องมันตบเจ้าของ พอร้องมันตบเจ้าของ โดดไป เจ็บว่าอย่างนั้นนะ ถ้าคนไม่ร้องก็ขี่ไปได้ธรรมดา นี่อยู่บ้านหนองแวงบ้านธรรมลี เขาเรียก พรานป้อ นี่ก็ขี่เสือได้ แกพึ่งตาย ขี่เสือได้ อย่างนั้นละวิชาไสยศาสตร์ขี่เสืออะไรๆ ได้ เอาละ วันนี้พูด เท่านั้น ขี่เสือก็ได้ ขี่ช้างช้างอยู่ข้างหลัง ไปขี่เอานะ ไม่พูดละ ช้างอยู่ข้างหลังวัดนี้ มีช้างตัวหนึ่ง จะให้พร ทัศนียภาพอันสวยงาม เมื่อมองลงมาจากลานหินพรานป้อ
418 วัดภูผาแดง ถ้ำานกยูง ณ ถ้ำ แห่งนี้เคยเป็นที่อาศัยของฝูงนกยูงป่า จำ นวนมาก ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยปัจจุบัน ฝูงนกยูงป่าเหล่านีได้มาอาศัยเงื้อมผาถ้ำ นี้เป็นถิ่นที่อยู่ อย่างผาสุก เพราะปราศจากผู้คนมารุกราน ภายใต้ร่ม บารมีธรรมขององค์หลวงปู่ลี ในสมัยก่อนเป็นแหล่ง ชุกชุมไปด้วยงูจงอางอสรพิษแห่งถ้ำ นี้ และถ้ำ นกยูง แห่งนี้ยังเป็นสถานที่วิเวกเงียบสงบ เหมาะแก่การ บำ เพ็ญเพียรภาวนาอีกด้วย
ณ สวนอาสน์แห่งนี้ เป็นจุดที่สูงสุดบนเทือกเขานี้ มีลานหินเป็นลายต่างๆ สวยงามโดยธรรมชาติ เป็นแหล่งที่มีงูเหลือมชอบมาอาศัยอยู่บริเวณแถบนี้ เมื่อมองไปรอบทิศทางก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ อันสวยงามรอบๆ เทือกเขาอันยาวไกล และหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งอยู่ด้านล่าง ที่แห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่หลวง พ่อวันชัย วิจิตโต ท่านเคยขึ้นมาเร่งบำ เพ็ญสมณธรรมด้านจิตตภาวนา ตามอุบายและโอวาทธรรมของ หลวงปู่ลี กุสลธโร อ่างเก็บน้ำาขนาดใหญ่ บนหลังเขาวัดภูผาแดง สวนอาสน์ 419
420 วัดภูผาแดง ท่านผู้เงียบสงบ สยบกิเลสของทุกคนที่ได้พบด้วยธรรมภายใน ยากจะหาครูบาอาจารย์ เช่นท่านได้ ท่านผู้มีธรรมเอกอุ และยังมีชีวิตอยู่ ขุนเขา เงื้อมถ้ำา ป่าทึบ สถานที่เหมาะสม ธรรมชาติโดยรอบ วัดภูผาแดงจึงเป็นที่สุดของธรรม และที่สุดของสถานที่ในการแสวงหาโมกขธรรม ที่สัปปายะที่สุด ณ แดนธรรมแห่งนี้ ได้พบและกราบท่านถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุด วัดเก่า สถานท่ีแห่งเดิมเคยเป็นวัดเก่ามาแต่ก่อน เคยมีพระธุดงคกรรมฐานเที่ยววิเวกผ่านไปมาและได้ พักภาวนาอยู่เป็นประจำ ในสมัยเมื่อครั้งก่อนที่จะบุกเบิกสร้างวัดภูผาแดงขึ้นมา องค์หลวงปู่ลีท่านก็เคย มาพักปฏิบัติธรรม ณ ที่วัดเก่าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในหุบเขาผาแดง เป็นสถานที่สัปปายะมากเหมาะแก่ผู้ที่ ต้องการหลีกเร้นหลบหลีกปลีกตัวเพื่อมาเร่งบำ เพ็ญความเพียร
หลวงตามหาบัว เมตตามาเยี่ยมชมถ้ำาขาม ถ้ำาขาม-ผาแดง เป็นสถานที่เหมาะสมมากทีเดียว วัดผาแดงนี่ก็มาโดนธรรมลีเข้าอีก เราไปซอกแซกขึ้นเขาอ้อมเขาไปทางนู้น เหมาะ ที่นั่นเหมาะ สมมากทีเดียว เหมาะสมทุกอย่างจนได้ออกปากพูด เอ้อที่นี่เหมาะสมมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ผมจะมาตาย ที่นี่ละลี ว่าอย่างนั้นนะ.... เราเห็นว่าเหมาะสมแล้ว ฟังซิท่านอยากฟังมันเหมาะสมแล้ว ผมจะมาตายที่นี่ล่ะเหมาะที่สุด เป็นเอกเทศ... (โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๔ เมษายน ๒๕๕๒ หาความสงัดไม่ได้) (ท่านอยาก ให้ไปนอนที่ถ้ำข้างบน) นั่นแหละ เราไปวัดธรรมลี อ้อมไปนู้นไปเที่ยวดู ไปเห็นถ้ำ สวยงามเหมาะที่สุดกับการตายคนเดียว เอ้อ ที่นี่เหมาะนะ เราถ้าไม่จำ เป็นเหลือวิสัยจริงๆ เราจะมา ตายที่นี่ พอทราบว่าเราจะมาตายที่นี่ เรามาแล้วเบิกออกหมด กว้างขวางเลยที่นี่ เป็นสนามใหญ่เลย... (โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๒ ทุกข์ไม่มีแก่ผู้ไม่เกิด) 421
422 วัดภูผาแดง วัดต่างๆ ที่ควรจะได้รับการสงเคราะห์จากเราก็มีจะว่าไง วันนี้จึงสั่งทางโน้นให้มาเอาของ ในโกดัง เอาไปสองคันรถวันนี้ ให้ไปวัดภูสังโฆก่อน แล้ววันหลังต่อไปถึงจะไปวัดผาแดง วัดภูสังโฆก็ดี วัดผาแดงก็ดี นี่เป็นวัดทองคำ เพชรน้ำ หนึ่ง ทั้งสองวัดนะ เป็นแต่เพียงนิสัยวาสนา ที่มาใช้ในแดนสมมตินี้ต่างกันเท่านั้น ส่วนวิมุตตินั้นเหมือนกัน ลูกศิษย์ของเราทั้งสองเลยนะธรรมลี จะไม่พูดเต็มปากได้ยังไง ท่านวันชัยก็มาพูดต่อปากต่อคำ เรื่องการภาวนาเป็นยังไงๆ ขัดข้องตรงไหน เราเป็นผู้แก้ไขให้ทั้งนั้นๆ จนกระทั่งทะลุ นี่อันหนึ่ง แล้วธรรมลีก็ตั้งแต่วันบวชแล้ว บวชวันถวายเพลิง หลวงปู่มั่น บวชวันนั้นที่วัดป่าสุทธาวาส ตั้งแต่บวชแล้วติดสอยห้อยตาม เราตลอด เหมือนเด็กนะ ธรรมลีนี้เหมือนเด็ก ไม่มีธรรมวินัยอะไรเลย เอาพ่อแม่กับลูกเข้าเลย เป็นใหญ่กว่า เราจะไปไหนติดตาม คือไม่ต้องขออนุญาตนะ เห็นไหม ไปกรุงเทพด้วย ด้อมตาม ถ้าไปขออนุญาตท่าน จะไม่ให้ไป ต้องขโมยไปแบบนี้แหละ เห็นไหมล่ะ เป็นอย่างนั้น ไปทีไร อยากไปไปเลยนะ ปั๊บ ขโมยไปเลย เป็นอย่างนั้น นี่เป็นนิสัยอันหนึ่ง เราก็ทราบ นี่ก็ตั้งแต่ต้นมา เราสอนตั้งแต่ ก.ไก่ ก.กา เรื่อยมา ท่านวันชัยนี้ก็มาอยู่กับเราหลายปี เวลาท่านอยู่ที่มูลนิธิหลวงปู่มั่น ที่ฝั่งธนฯ พอดีเราไปนวดเส้น ก็ไปเจอท่านวันชัยที่นั่น ถามเหตุถามผล จะไปไหนมาไหนหลักเกณฑ์ไม่ค่อยมี เราก็ไม่เคยได้บอกใครให้ มาอยู่กับเรา นี่ได้บอกเลย พอได้ความว่า เหมือนว่าหลักลอย ว่างั้นเถอะน่ะ จะไปไหนมาไหน พูดยากๆ ตอบยากๆ ลำ บากการตอบ นี่แสดงให้เห็นว่าหลักลอย เราก็บอกว่า ถ้างั้นให้ไปอยู่วัดป่าบ้านตาดกับผม ที่วัด พอเรามาท่านก็ตามมา มาอยู่ที่นี่แล้วเข้าๆ ออกๆ จากนี้ก็ไปตั้งที่วัดนั้น เราก็ให้ไปอยู่ที่วัดภูสังโฆเรื่อยมา สักเท่าไรปีแล้ว มาอยู่กับเราตั้งแต่ปี ๒๕๒๓ มันก็ ๒๓ ปีแล้ว ตั้งแต่เกี่ยวข้องกันมา ใกล้ชิดติดพันจริงๆ ๒๓ ปี นี่เราก็สอนมาตั้งแต่ต้นเหมือนกันกับท่านลี ต่อปากต่อคำ เราเอง เราเป็นคนสอนเอง เล่าเรื่อง อะไรมาให้เราฟังเองๆ เพราะฉะนั้นเราถึงพูดได้เต็มปาก นี่เราฟังแล้ว ว่าทั้งสองนี้เป็น เพชรน้ำ หนึ่งด้วยกัน ต่างกันแต่นิสัยวาสนาที่ใช้ในแดนสมมตินี้เท่านั้น ส่วนวิมุตตินั้นเหมือนกันหมด กรุณา ทราบเอาไว้ ...นี่เราก็พูดถึงเรื่องพระวัด ๒ วัดนี้ เป็นพระวัดน้ำ หนึ่ง เพชรน้ำ หนึ่ง เราพูดตามนั้นนะ (โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๒ มิถุนายน ๒๕๔๖ เป็นตามนิสัยวาสนา) วัดผาแดง วัดภูสังโฆ เป็นวัดทองคำ
เขตปฏิบัติธรรมฝ่�ยพระภิกษุ เขตปฏิบัติธรรมฝ่�ยอุบ�สิก� 423
424 วัดภูผาแดง กฎระเบียบของวัดภูผาแดง เวลา ข้อวัตรปฏิบัติ ๐๔.๐๐ น. ทำ วัตรเช้า – สวดมนต์ เสร็จแล้วนั่งสมาธิภาวนา หรือออกไปเดินจงกรมตามอัธยาศัย (หากตรงกับวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ พระทุกองค์จะต้องมาประชุมกันที่ศาลาหอฉัน เพื่อลงอุโบสถสังฆกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน) ๐๕.๐๐ น. เตรียมตัว เตรียมบริขาร บาตร กาน้ำ ปิดประตู หน้าต่างกุฏิให้เรียบร้อย รวมกันศาลาหอฉัน เพื่อจัดอาสนะที่นั่ง - จัดบาตร เตรียมน้ำ ใช้น้ำฉันให้เรียบร้อย ๐๖.๐๐ น. หรือเมื่อได้เวลารุ่งอรุณของวันใหม่ ออกบิณฑบาต เดินบิณฑบาตด้วยอาการสำ รวม อินทรีย์ ๖ ๐๗.๐๐ น. กลับถึงวัด เตรียมจัดภัตตาหาร รับประเคนอาหารถวายครูบาอาจารย์ จัดอาหารใส่บาตร และอนุโมทนาให้พรแก่ญาติโยม ก่อนจะฉันต้องปฏิสังขาโยฯคือพิจารณาอาหารก่อน เพื่อไม่ให้หลงลืมตัว และฉันด้วย ความสำ รวมระวัง มีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ ๐๘.๐๐ น. ฉันภัตตาหารเสร็จ–ล้างบาตร–เช็ดบาตรเก็บบริขารเสร็จเรียบร้อยแล้วปัดกวาดเช็ดถู ศาลาหอฉัน แยกย้ายกลับกุฏิ ๑๒.๐๐ น. ฉันน้ำ ร้อน น้ำ ปานะ ที่โรงต้มน้ำ ร้อน ๑๕.๓๐ น. กวาดใบไม้ ทำ ความสะอาดเสนาสนะต่างๆ กุฏิ ห้องน้ำ ศาลาหอฉัน เสร็จแล้วแยกย้ายกลับกุฏิ เพื่อบำ เพ็ญเพียรภาวนาต่อไป ๑๘.๐๐ น. ประชุมพระสงฆ์ สามเณร ณ ถ้ำย่างไก่(ถ้ำ จัน) เพื่อฟังพระธรรมเทศนา ทุกๆ ๖ ค่ำ และ ๑๒ ค่ำ พระสงฆ์กำลังปัดกวาดลานวัด และทำความสะอาดบริเวณศาลา ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำ วัน ที่วัดภูผาแดง
ในด้านธรรมปฏิสันถาร องค์หลวงปู่ลีท่านมีความเมตตา สูงต่อคณะศรัทธาญาติโยมที่มาทำ บุญให้ทาน รักษาศีล และ ปฏิบัติธรรมที่วัดภูผาแดง คณะต่างๆ ท่านจะเมตตาอบรมธรรมะ พร้อมทั้งเล่าประสบการณ์ออกเที่ยวธุดงค์และด้านการภาวนาของ ท่านให้ฟัง บางครั้งก็เล่าเรื่องนิทานก็มี ท่านจะดูแลเอาใจใส่อย่าง ทั่วถึงเกี่ยวกับญาติโยมที่มารักษาศีลและปฏิบัติธรรม ทั้งเรื่อง ที่พักและอาหารการกิน ทุกคณะที่มาบำ เพ็ญภาวนา ต่างพากัน สรรเสริญคุณธรรมข้อนี้ขององค์หลวงปู่เป็นอย่างยิ่งว่า ได้รับ ความอบอุ่น สบายจิตสบายใจมากเมื่อมาปฏิบัติธรรมที่วัดภูผา แดงแห่งนี้ เมื่อถึงกำ หนดผู้มาปฏิบัติธรรมจะมาลากลับ ท่านจะ เมตตาให้โอวาทธรรมส่งท้ายเกือบทุกครั้ง ผู้ที่มาแล้วมักจะกลับ มาอีก พร้อมกับแนะนำ ผู้สนใจปฏิบัติธรรมมาเป็นลูกศิษย์ท่านอยู่ เรื่อยๆ ตราบจนเท่าทุกวันนี้ ธรรมปฏิสันถาร การใช้สอยปัจจัยสี่นั้น องค์หลวงปู่ลีท่านใช้อย่างประหยัด มัธยัสถ์เสมอ เช่น ผ้าต่างๆ ของท่านจะปะชุนแล้วปะชุนอีก ผ้าอาบน้ำ บางผืนเก่าจนขาดรุ่งริ่ง ท่านก็ไม่ยอมทิ้ง ยังใช้นุ่งอยู่ทั้งที่ผ้าอาบน้ำ มีเยอะมากในวัด เวลากลางคืนท่านจะจุดตะเกียงโป๊ะเล็กๆ หรี่ลงเสียจนจะไม่มี แสง ท่านไม่ยอมใช้ของฟุ่มเฟือย เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกศิษย์ อีกประการ หนึ่งท่านไม่ชอบงานก่อสร้างทุกชนิด เช่น สร้างกุฏิ วิหาร หรืออะไรต่ออะไร ในวัด งานต่างๆ ท่านไม่ยอมให้มี ท่านชอบให้พระเณรสร้างด้านจิตใจ คือเดิน จงกรม นั่งสมาธิภาวนา เพื่อทางแห่งมรรคผลนิพพานมากกว่าสร้างสิ่งของวัตถุ ภายนอกท่านว่าการก่อสร้างนั้นเป็นเหตุให้เสียการภาวนา (เว้นแต่มีเหตุธุระที่ สำ คัญและจำ เป็นจริงๆ เท่านั้น) การใช้สอยปัจจัยสี่ 425
426 วัดภูผาแดง ปฏิปทาด้านข้อวัตรปฏิบัติขององค์หลวงปู่ลีนั้น เป็นเช่นเดียวกันกับปฏิปทาของครูบา อาจารย์สายกรรมฐานทั้งหลาย คือองค์ท่านจะปฏิบัติตนให้ลูกศิษย์ดูเป็นตัวอย่างเสมอ อาทิเช่น การรักษาศีลโดยเคร่งครัด องค์หลวงปู่จะเทศน์อบรมและควบคุมปฏิปทาด้านการรักษาศีลของ ลูกศิษย์ของท่านอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งดุด่าว่ากล่าวเมื่อลูกศิษย์ทำ ผิดพลาดด้านศีล เพราะการที่ ลูกศิษย์จะก้าวหน้าทางด้านสมาธิภาวนานั้น ต้องมีพื้นฐานทางด้านศีลเป็นที่รองรับ ส่วนการทำ ความ พากเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนานั้น ท่านจะปฏิบัติให้ลูกศิษย์ได้เห็นอย่างสม่ำ เสมอทุกวัน คือ ตอนเช้า ท่านจะเดินจงกรมก่อนออกบิณฑบาต ฉันจังหันเสร็จท่านจะพักประมาณเที่ยง จะลงเดิน จงกรมหรือนั่งสมาธิภาวนา ครั้นถึงเวลาปัดกวาดลานวัด ท่านจะไม่ยอมขาดถ้าไม่มีธุระจำ เป็นจริงๆ ตอนพลบค่ำ ๕-๖ โมงเย็น ท่านจะเดินจงกรมเป็นประจำ ทุกวัน จะขึ้นจากทางจงกรมประมาณ ๒ ทุ่ม ทุกวัน บางครั้งท่านไปธุระทางไกลมา พระเณรไปจับเส้นถวายพอจับเส้นเสร็จแล้ว แทนที่ท่านจะ พักผ่อน ท่านจะลงเดินจงกรมอีก นอกจากนั้นท่านจะเดินสำ รวจดูการปฏิบัติ การทำ ความพาก ความเพียรของพระเณร โดยบางครั้งท่านเดินไปมืดๆ ไม่ใช้ไฟฉาย และออกตรวจไม่เป็นเวลาแน่นอน ท่านพยายามขนาบพระเณรให้เร่งทำ ความเพียร พร้อมกับเทศน์อบรมสั่งสอนอยู่เสมอๆ ท่านห้าม พระเณรไปคุยกันตามกุฏิ ฉันน้ำ ร้อนคุยกันเสียงดังหน่อย หรือใช้เวลานานเกินควร ใช้ของไม่ประหยัด เช่น สบู่ ใช้สบู่แล้วทิ้งไว้ตากแดดตากฝน ไม่เก็บไว้ในกล่อง ท่านคอยตรวจตราดูแลข้อบกพร่อง ต่างๆ ของพระเณร และตักเตือนว่ากล่าวอยู่เสมอ ถ้าใครทำ ความเพียรดี ท่านมักจะชมเชยให้กำ ลังใจ ในด้านปฏิบัติแก่ผู้นั้น ปฏิปทาด้านข้อวัตรปฏิบัติ พระสงฆ์กำลังตักน้ำ ร้อนเพื่อไปสรงน้ำถวายหลวงปู่ และปัดกวาดบริเวณวัด ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำ วัน ที่วัดภูผาแดง
อาจาริยวัตร หรือข้อวัตรอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์ เป็นกิจวัตรที่สำ คัญอีกประการหนึ่งของ พระภิกษุสงฆ์ เป็นการแสดงออกถึงความเคารพเทิดทูน กตัญญูรู้คุณของอองค์ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ กราบไหว้ เพราะท่านเปรียบเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างในบุคคลคนเดียว คือ เป็นทั้งพ่อ แม่ และครูอาจารย์ รวมอยู่ในความหมายนั้น (ภาพศิษยานุศิษย์กำ ลังซักผ้าถวายองค์หลวงปู่ ด้วยน้ำ ต้มแก่นขนุน ซึ่งเป็นข้อวัตรปฏิบัติของพระ สายป่า ซึ่งสืบทอดมาช้านานจากรุ่นพระบูรพาจารย์ จะกระทำ ทุกๆ ๑๔ -๑๕ ค่ำ เมื่อถึงวันลงอุโบสถ) 427
428 วัดภูผาแดง ตราตั้งเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ ๑๕ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๗ ให้ พระวันชัย วิจิตฺโต อายุ ๔๖ พรรษา ๑๖ ดำ รงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองสวรรค์ ตำ บลหนองอ้อ อำ เภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
430 วัดภูผาแดง พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต วัดป่าภูสังโฆ อำ เภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เกิดวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ อดีตนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น ๘ และ จปร. รุ่น ๑๙ ท่านได้ทำ งานรับราชการทหารอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นจึงได้ตัดสินใจ ออกบวช ต่อมาได้มีโอกาสพบและฟังธรรมะอันเด็ดเดี่ยวขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตามหา บัว ญาณสัมปันโน เป็นครั้งแรกที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถนนจรัญสนิทวงศ์ ๓๗ ฝั่งธนบุรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หลวงตามหาบัวท่านได้เมตตาต่อพระอาจารย์วันชัยเป็นอย่างมาก โดยให้อุบายธรรมว่า “ไม่ควรอยู่เร่ ๆ ร่อน ๆ ควรจะอยู่กับครูบาอาจารย์” จากนั้นไม่นานท่านก็เดินทางไปขออยู่ศึกษา ปฏิบัติธรรมกับหลวงตามหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี จากครั้งนั้นจนกระทั่งถึง ปัจจุบันนี้ ท่านพระอาจารย์วันชัยจึงถือได้ว่าเป็นลูกศิษย์องค์สำ คัญของหลวงตามหาบัวอีกท่านหนึ่ง ที่จะช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาและธรรมคำ สอนของครูบาอาจารย์ให้แผ่หลายสืบไป (โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ท่านวันชัยครองแต่ธรรมเต็มหัวใจ) “ท่านวันชัยก็ดี มีหลักใจเรียบร้อยแล้ว มาพูดเรื่องจิตตภาวนาให้ฟังทุกอย่างๆ เราก็เพียง คอยแนะๆ เท่านั้น ก็ผ่านไปได้ เรียกว่าผ่านได้แล้วท่านวันชัย ผ่านได้โดยสมบูรณ์ ไม่มีอะไรละ กิเลสตัณหาตัวไหนไม่มี เรียกว่าขาดสะบั้นไปเลย ครองแต่ธรรมเต็มหัวใจ” สภาพธรรมชาติอันร่มรื่น และบรรยากาศทั่วไปภายในวัดภูสังโฆ
431
432 วัดภูผาแดง
433
U พิธีวางศิลาฤกษ์เจดีย์ U ดำ เนินการก่อสร้างจาก แรงพลังศรัทธามหาชน U พินัยกรรมของหลวงปู่ลี พุทธมหาเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เจดีย์ที่น่ากราบไหว้ พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เมตตาเทศนาเรื่อง การก่อสร้างเจดีย์ เมื่อวันที่ ๑๗ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๖ ไว้ดังนี้ว่า ...เพราะนี้จะเรียกว่าถูกต้องตามตำ รา ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็ไม่ผิด เพราะเอาตำ รามากาง ตำ ราคือองค์ศาสดามากาง ก็คือองค์ศาสดาแสดงไว้ว่า บุคคลที่ควรจะก่อเจดีย์ไว้กราบไหว้บูชานั้นมีอยู่ ๔ ประเภท ๑) พระพุทธเจ้า ๒) พระปัจเจกพุทธเจ้า ๓) พระอรหันต์ ๔) พระเจ้าจักรพรรดิ นี่เป็นผู้สมควรแก่การก่อสร้างเจดีย์ไว้กราบไหว้บูชา ในสถานที่เหมาะสมหรือสมควร เช่น ที่ชุมนุม ชนคนหมู่มาก ควรที่ตรงไหนให้ก่อที่ตรงนั้นๆ ไว้ ตำ ราคือองค์ศาสดาแสดงไว้ เพราะฉะนั้นการที่จะก่อ เจดีย์หรืออะไรๆ นี้ บรรดาพี่น้องทั้งหลายไม่ค่อยจะคิดกัน ดูจะไม่ได้เห็นในตำ ราคือองค์ศาสดาประกาศ เอาไว้ อย่างนั้นก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นการก่อเจดีย์จึงมักจะก่อสุ่มสี่สุ่มห้าไปเลย เวลามองเห็นเจดีย์ คนก็ต้องระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอันดับแรก รองลำ ดับลงมาก็พระอรหันต์ พระปัจเจก เวลากราบเข้าไปมับฟาดถูกหมา เช่น ไอ้ปุ๊กกี้ตายแล้ว รักไอ้ปุ๊กกี้ สงสารไอ้ปุ๊กกี้ แล้วก่อ เจดีย์ให้มัน ไม่ได้หมายถึงว่าจะก่อเจดีย์ไว้กราบไหว้หมาไอ้ปุ๊กกี้เรานะ แต่คนพอเห็นเจดีย์ก็นึกว่า พระพุทธเจ้า ไอ้ปุ๊กกี้ก็เลยกลายเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาในเวลานั้น กราบหมาทั้งตัว เอ้า พูดให้มันยันให้ มันเห็นชัดเจนซิ ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นแบบเป็นฉบับที่ถูกต้องดีงาม จึงควรนำ มาปฏิบัติตามแถวแนวที่ ทรงแสดงไว้ จะไม่สุ่มสี่สุ่มห้า แล้วไปกราบหมาทั้งตัว คือก่อเจดีย์ให้หมาไว้ด้วยความรักอะไรนั่น เจ้าของ ก่อเจดีย์ให้ด้วยความรัก แต่เขามากราบ เขานึกว่าไอ้ปุ๊กกี้เรานี้เป็นพระพุทธเจ้า เขาก็กราบถนัดเลย เข้าใจไหม 435
436 พุทธมหาเจดีย์ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรจะให้พลาดไป เดี๋ยวจะไปกราบไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง ไอ้จ้ำ หลอดเราเข้ามันจะ ผิดพลาดไป นึกถึงพระพุทธเจ้านั้นถูก แต่จุดนี้มันผิดไป เข้าใจไหม มันผิดจากความมุ่งหมาย เพราะฉะนั้นการที่จะก่อเจดีย์แต่ละแห่งๆ ที่เป็นไปตามแบบนี้เหมาะสมมาก ตามที่เราเป็นลูก ชาวพุทธ อย่าได้ทำกันสุ่มสี่สุ่มห้า ทำ อย่างนั้นมันผิดพลาดได้อย่างว่านั่นแหละ กบตัวหนึ่งตายก็ก่อเจดีย์ให้ หมาตายก็ก่อเจดีย์ให้ ไก่ตาย กระจ้อน กระแตในวัดนี้ก่อไม่ไหวนะ เจดีย์ในวัดนี้ก่อตายเลยนะ เพราะ กระรอกนี้มีเป็นร้อยๆ กระแตก็เหมือนกัน นกในนี้มีเต็มไปหมด จะก่อเจดีย์ให้ทุกแห่งทุกหนสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว ในวัดนี้จะไม่มีที่ก่อเจดีย์เลยนะ เต็มไปหมดตั้งแต่เจดีย์ของพระพุทธเจ้าที่จอมปลอม ด้วยความผิดพลาด เพราะความไม่เอาไหน ชุ่ยๆ ทำ สุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ถูก ...วันนี้เทศน์ธรรมะเริ่มต้นตั้งแต่ก่อเจดีย์ขึ้นมา สมควรกับอะไรบ้างเจดีย์ก็อธิบายให้ฟัง ไม่สมควร อย่างไรก็อธิบายให้ฟัง ทีนี้อธิบายให้วงราชการงานเมือง ซึ่งเป็นพ่อเป็นแม่ประหนึ่งว่าเป็นเจดีย์ที่กราบ ไหว้บูชาของคนทั้งชาติ ก็ให้ทำ ตัวเป็นเจดีย์ที่ทรงไว้ซึ่งธรรมธาตุ หรืออัฐิธาตุ หรือสิ่งวิเศษอยู่ภายในนั้น อย่าให้มีไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง เข้าไปอยู่ในนั้น มันจะเสียน้ำ ใจ ถ้ากราบเข้าไป ก็ถูกพระพุทธเจ้า หรือพระสงฆ์สาวก พระอรหัตอรหันต์แล้วภูมิใจ... ใจนี่แลเป็นผู้ทรงบุญทรงกุศล การสร้างพระเจดีย์ เราสร้างหวังบุญหวังกุศลต่างหาก มิได้สร้างเพื่อหวังเอาก้อนอิฐก้อนหินปูน ทรายในองค์พระเจดีย์ไปด้วย สิ่งที่เป็นสมบัติของเราในการสร้างพระเจดีย์ก็คือบุญ สร้างได้มากน้อย บุญที่เกิดจากการสร้างนั้นเป็นของเรา จึงไม่ควรเป็นห่วงใยในอิฐในปูนและในพระเจดีย์ ซึ่งเป็นวัตถุที่ หยาบยิ่ง และเป็นสิ่งสุดวิสัยที่จะให้เป็นไปได้ดังใจหวัง ท่านนักสร้างบุญทั้งหลาย ท่านเอาเฉพาะบุญ ติดตัวไป มิได้เอาสิ่งก่อสร้างวัตถุทานต่าง ๆ ที่สละลงเพื่อทานแล้วติดตัวไปด้วย เช่น การสร้างวัด สร้างกุฎีวิหาร ศาลาโรงธรรมสวนะ สร้างถนนหนทาง สร้างถังน้ำ สร้างสาธารณสถาน ตลอดการให้ ทานด้วยวัตถุต่าง ๆ มากมายหลายวิธี สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเครื่องสนองกุศลเจตนาของผู้มุ่งทำ บุญให้ ทานเท่านั้น มิใช่ตัวบุญตัวกุศลตัวสวรรค์นิพพาน และมิใช่ผู้จะไปสู่มรรคสู่ผลสู่สวรรค์นิพพาน สร้างไว้ แล้วนานไปก็ชำ รุดทรุดโทรม และร่วงโรยไปตามฐานะและกาลของมัน สิ่งที่สำ เร็จจากการก่อสร้างและการให้ทานอันเป็นส่วนนามธรรมอยู่ภายในนั้น คือตัวบุญกุศล เจ้าของผู้คิดเป็นกุศลเจตนาขึ้นมาให้สำ เร็จเป็นวัตถุไทยทานต่าง ๆ นั้นคือใจ ใจนี่แลเป็นผู้ทรงบุญทรงกุศล ทรงมรรคทรงผล ทรงสวรรค์นิพพาน และใจนี่แลเป็นผู้ไปสู่สวรรค์นิพพาน นอกจากใจไม่มีอะไรจะไป (จากหนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หน้า ๑๔๘ เรียบเรียงโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
และพิธีเททองหล่อรูปเหมือนบูรพาจารย์ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ พิธีวางศิลาฤกษ์พุทธมหาเจดีย์ 437
438 พุทธมหาเจดีย์
บรรยากาศ ความสามัคคีของลูกศิษย์มาร่วมช่วยสร้างเจดีย์ 439
440 พุทธมหาเจดีย์ แสดงความสามัคคี พร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ของเหล่าศิษยานุศิษย์ทุกคน
หนังสือพินัยกรรมฉบับที่ ๑ 441
442 พินัยกรรมหลวงปู่ลี หนังสือพินัยกรรมฉบับที่ ๒
หลวงปู่ลี กำลังเซ็นพินัยกรรม เพื่อประโยชน์ของมูลนิธีเสียงธรรมเพื่อประชาชน และการสร้างพุทธมหาเจดีย์ 443
อคฺคสฺมึํ ทานํ ททตํ อคฺคํ ปุญญํ ปวฑฺฒติ อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ เมื่อให้ทานในวัตถุอันเลิศ บุญอันเลิศ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุข และกำาลังอันเลิศ ก็เจริญ (พุทฺธ) ขุ. อิติ. ๒๕/๒๙๙. อานิสงส์การสร้างพระเจดีย์ และการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ๑. เป็นที่รักของภรรยาหรือสามี ๒. เป็นเศรษฐีทุกชาติไป ๓. ภยันตรายใดๆ ไม่แผ้วพาน ๔. มียศ บริวารพร้อมพรัก ๕. เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ ๖. ผิวพรรณ ผุดผ่องดั่งทองคำ ๗. เป็นผู้นำาของมวลชน ๘. กุศลดลให้เกิดเป็นพระราชา ๙. จะบรรลุอภิญญาทั้ง ๖ ๑๐. ปิดประตูนรกโลกันต์ ๑๑. ประตูสวรรค์ทุกชั้นเปิด ๑๒. บังเกิดเป็นจอมเทวดา ๑๓. สมความ ปรารถนาทุกประการ (สรุปจาก คัมภีร์ ขุททกนิกายอปทาน และคัมภีร์มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๑) องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร เมตตาให้แนวทางในการสร้างพระเจดีย์ไว้ดังนี้ ๑. ต้องการให้องค์พระเจดีย์มีอายุยืนยาวถึง ๑,๐๐๐ ปี ๒. สามารถมองเห็นองค์เจดีย์ได้จากหมู่บ้านตาด ๓. การก่อสร้างจะใช้แรงศรัทธาจากสาธุชนทั่วไปเป็นหลัก จะไม่ผ่านผู้รับเหมาโดยไม่จำ เป็น องค์หลวงปู่ลี ท่านได้ปรารภให้ลูกศิษย์ฟังว่า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า จะเกิดภัยพิบัติ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จะขึ้นมาอาศัยบารมีธรรมของครูบาอาจารย์ อยู่บริเวณองค์พระเจดีย์ภูผาแดง อานิสงส์การสร้างพระเจดีย์ ๑. ย่อมเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไม่ประมาทมัวเมาในชีวิต ๒. ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ๓. เมื่อใกล้ดับขันธ์ไม่หลงลืม ๔. ย่อมได้เกิดในประเทศที่เหมาะสมสำ หรับสร้างบารมี ๕. เมื่อยังไม่หมดกิเลส ย่อมไปบังเกิดในสวรรค์ ๖. ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพาน โดยง่าย (จากหนังสือ พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระอริยสงฆ์ โดย วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หน้า ๓๗) 445
แผนที่ทางไปวัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) เส้นทางไปวัด เดินทางจากตัวจังหวัดอุดรธานี ไปตามเส้นทางอุดรธานี-หนองบัวลำาภู ถึงกิโลเมตร ที่ ๒๔ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข ๒๓๑๕ ไปอำาเภอหนองวัวซอ ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ทางเข้าวัดจะอยู่ซ้ายมือ มีป้ายชื่อวัดป่าเกษรศีลคุณ ธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) (เส้นทางเข้าวัดจะอยู่ ระหว่างบ้านโคกศรีแก้ว-บ้านหนองอ้อ) จากทางแยก เข้าไปในวัดประมาณ ๖ กิโลเมตร ¡Á.òô
๙๐ ปี เศรษฐีธรรม หลวงปู่ลี กุสลธโร (พระอริยสาวกแห่งภูผาแดง) ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๓๐๕-๑๙๗-๔ พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กันยายน ๒๕๕๕ จำ�นวน : ๑๕,๐๐๐ เล่ม กราบขอบพระคุณ : พระเทพสารเวที (ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช) พระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จันททีโป), หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก, หลวงพ่อคูณ สุเมโธ หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน, หลวงพ่อวันชัย วิจิตโต หลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร, หลวงพ่อคำ บ่อ กันตวีโร พระอาจารย์อุทาน จารุธัมโม, พระอาจารย์มหานันโท ฐิตเมธี ที่ปรึกษา : หลวงพ่อบุญจันทร์ กตปุญโญ, หลวงพ่อนิพนธ์ อภิปสันโน ผู้รวบรวมและเรียบเรียง : พระอาจารย์อำ พล ฐานุตตโร คณะทำ�งาน : พระอาจารย์โอเค ปภากโร, พระอาจารย์นกหวีด กิตติวุฑโฒ สามเณรพงษ์ศักดิ์, คุณพรรณี นรินทร์, คุณวิชิต สืบจิต คณะผู้จัดพิมพ์ : คณะศรัทธาและศิษยานุศิษย์ ขอขอบคุณ : พระอาจารย์นรา กตรักโข พระอาจารย์ศรณรงค์ ธีรปัญโญ พระอาจารย์สมบัติ คเวสโก พระอาจารย์สงบ กุสลจิตโต พระชัยพฤกษ์ ทิดบู(วัดถ้ำ บูชา) คุณเจ๋ง(วัดป่านาคำ น้อย) คุณวีระ ห.จ.ก.เพื่อนศิลป์ อุดรธานี, คุณอาระดิน(วัดป่าบ้านตาด) เอื้อเฟื้อภาพ และข้อมูลต่างๆ : พระอาจารย์ประเวศ สัญญจิตโต, พระประกิต ธัมมาวุโธ, พระอาจารย์ฉัตรแก้ว ญาณรังสี, คุณยายก่อง ชาลีเชียงพิณ ดาบตำ รวจรังสรรค์ เกตุนาค, คุณณรงค์ คำธิศรี แบบปก/รูปเล่ม : ไทยชบา กราฟฟิค เฮ้าส์ เอเจนซี่ ๐๔๒-๓๒๔๓๖๐, ๐๘๒-๓๐๔๘๘๘๗ / [email protected] คุณสิริมณีกร อังศรา แหล่งข้อมูล : www.Luangta.com & www.watpa.com พิมพ์ที่ : บริษัท ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จำกัด ๔๙ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร ๐-๒๔๔๔-๓๓๕๑-๙ E-mail.: [email protected] ท่านผู้ใดต้องการพิมพ์เผยแผ่เป็นธรรมทาน โปรดติดต่อขออนุญาตทางวัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) อำาเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ขอสงวนลิขสิทธิ์ ๒๕๕๕
สู้ ไม่ ถอย : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พิมพ์เมื่อ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร : ชีวประวัติและพระธรรมเทศนา พิมพ์เมื่อ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ครั้งที่ ๒ พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม : ประวัติและบทสวดมนต์ ทำวัตร พิมพ์เมื่อ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ครั้งที่ ๒ เขมาภิรโตเถระ : ชีวประวัติหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต พิมพ์เมื่อ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๑ ท่านเพียร ศิษย์ก้นกุฏิของเรา : ชีวประวัติหลวงปู่เพียร วิริโย พิมพ์เมื่อ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑ พระอาจารย์บุญพิน กตปุญโญ : ชีวประวัติหลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ พิมพ์เมื่อ ๒๕๔๗ ครั้งที่ ๑ ธรรมะทะลุโลก : ท่านพ่อลี ธัมมธโร พิมพ์เมื่อ เมษายน ๒๕๕๐ ครั้งที่ ๑ รอยเท้าพ่อ : พระมี ปมุตโต พิมพ์เมื่อ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๑ สันติธัมโมบูชา : ชีวประวัติหลวงปู่ฟัก สันติธัมโม พิมพ์เมื่อ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๑ พระธุตังคเจดีย์ : เจดีย์แห่งพระอรหันต์ พิมพ์เมื่อ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๑ ครั้งที่ ๑ ท่านพ่อลี ธัมมธโร : พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้า พิมพ์เมื่อ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๑ ครั้งที่ ๑ มหาวีโรวาท : ชีวประวัติ หลวงปู่ศรี มหาวีโร พิมพ์เมื่อ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๕ครั้งที่ ๑ ธรรมพเนจร : หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อำาเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ด้วยเดชพระเมตตา : ชีวประวัติคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ พิมพ์เมื่อ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ครั้งที่ ๑ ธรรมลี นี่ล่ะเศรษฐีธรรม : หลวงปู่ลี กุสลธโร พิมพ์เมื่อ เมษายน ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ สมุดบันทึก พระคาถาฯลฯ และตำ รายาสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ