-๑91-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมลู หอเจ้าที่ดงชาวบา้ น
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ ก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝีมอื ด้ังเดิม
การละเล่นพน้ื บ้าน กีฬาพนื้ บ้าน และศิลปะการต่อสู่ป้องกนั ตวั
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู
หอเจ้าที่ดงชาวบ้าน เร่ิมมีต้ังแต่เมื่อต้ังหมู่บ้านในปี พ.ศ.2486 กล่าวไว้ว่า มีผู้เฒ่าผู้แก่ได้หารือเพ่ือ
สร้างท่ียึดเหน่ียวจิตใจให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน จึงร่วมมือกันลงมือสร้างหอเจ้าที่ดงชาวบ้านข้ึนด้านทาง
ทิศตะวนั ออกเฉียงเหนอื เดมิ ทนี ั้นเปน็ วัดเก่าท่ีร้างและได้ตัง้ ระเบียบประเพณีหรือเรียกว่า “ป๋าง” เป็นการเลี้ยง
ปีละสองคร้ัง คือ เดือนเก้าเหนือขึ้น 9 ค่า เพื่อทาพิธีขอฟ้าขอฝนให้ตกตามฤดูกาล ป๋างท่ีสอง เล้ียงเดือนสาม
เหนือ ขึ้น 3 ค่า เพื่อขอให้ข้าวเต็มเม็ดเต็มหน่วยและให้ปกปักรักษาไม่ให้คนในหมู่บ้านเจ็บป่วยเป็นไข้และภัย
พิบัติต่าง ๆ ข้ึนในหมู่บ้านและถือปฏิบัติกันมาทุก ๆ ปี และการใช้ภาษาสื่อสารการเล้ียงป๋าง คือการพูดภาษา
ท้องถนิ่ หรือพูดคาเมือง ส่วนคนท่ีอพยพมาอยูท่ ีหลังใหถ้ อื ปฏบิ ตั ติ ามกันมาจนถึงปัจจุบนั
๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกยี่ วกบั ขอ้ มูล
พิธีกรรมได้จัดขึ้นครั้งท่ี 1 คือเดือน 9 เหนือ ข้ึน 9 ค่า ครั้งท่ี 2 คือ เดือน 3 เหนือ ขึ้น 3 ค่า
เครอ่ื งทาการเซ่นไหว้ประจาปี ไดแ้ ก่ ไก่หลงั คาละ 1 ตัว ดอกไม้ ธปู เทียน การเลยี้ งปลี ะ 2 ครั้ง มขี ้าวจา้ เป็นคน
ทาพิธีการท้ังหมด ส่วนชาวบ้านที่มาบนบาลศาลกล่าวก็จะมีข้าวจ้า (คือคนทาพิธีประจาศาลเจ้าปู่เจ้าย่า)
มาทาพิธีบนศาล กล่าวให้เม่ือสมหวังแล้วก็นาเคร่ืองเซ่นไหว้มาแก้บนตามท่ีตนเองได้บนบาลศาลกล่ าวไว้ เช่น
ไก่ หมู่ ดอกไม้ ธูปเทยี น เปน็ ตน้
๔. ช่ือผู้ที่ถือปฏิบตั ิและผูส้ บื ทอด
๔.๑ ผ้ทู ถี่ อื ปฏิบตั ิ
ชือ่ นายเซน็ แสนคา (ขา้ วจา้ )
วัน เดอื น ปีเกดิ 10 เมษายน 2497
ท่อี ยู่ 148 หมู่ 4 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเมง็ ราย จังหวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ช่อื -
วนั เดอื น ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
-๑92-
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพร่หลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่มีปฏบิ ตั ิแลว้
๖. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-193-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอเวยี งชัย จงั หวดั เชียงรำย
๑. ช่ือข้อมูล ฮ้องขวัญ
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัตเิ กยี่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝมี อื ด้งั เดิม
การละเล่นพนื้ บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สูป่ ้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล
คนไทยในสังคมภาคเหนือสืบต่อความเชื่อเร่ืองขวัญมาช้านาน ทั้งชาวไทยใหญ่ ไทลื้อ ไทเขิน มีความ
เชื่อว่า ขวัญเป็นสิ่งท่ีอยู่ในร่างกายทุกคนขวัญมีลักษณะเบา เคลื่อนไหวได้ ไม่อาจเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้
ขวัญแฝงอยู่ในคน สัตว์ และสิ่งของ เมื่อใดท่ีขวัญอ่อนลงจะทาให้สภาวะของร่างกายและจิตใจของเจ้าของขวญั
จะรู้สึกเสียใจ ตกใจ ท้อใจ เม่ือเจ้าของขวัญมีขวัญดีจะรู้สึกสุขสบายใจและกล้าหาญ มีพลังเต็มเป่ียม
ชาวลา้ นนาเรยี ก “ขวญั อยกู่ บั เนือ้ กับตวั ”
ชาวล้านนามีพิธีกรรมโบราณ เรียกว่า “พิธีฮ้องขวัญ” หมายถึง พิธีเรียกขวัญให้กลับคืนสู่ร่างเดิม
พิธีฮ้องขวัญเป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อเรื่องขวัญกับศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์ และความเชื่อ
ในอานาจเหนือธรรมชาติ พิธีฮ้องขวัญจะทาในโอกาสที่ชีวิตมีการเปล่ียนแปลงหรือมีเหตุต้องจากบ้านไปไกล
มีความเจบ็ ป่วยและเกิดอุบัตเิ หตุหรือในกรณีท่ีมีบคุ คลสาคัญมาเย่ียมเยือนบ้านเมือง พธิ ีกรรมฮ้องขวัญของชาว
ล้านนามักปฏิบัติร่วมกับพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ (ส่งเคราะห์) และพิธีสืบชะตา โดยจะมีปฏิบัติต่อเน่ืองกัน
โดยเรมิ่ จากการสะเดาะเคราะห์ การสืบชะตาและการเรยี กขวญั
พ่อก๋องใจ วงค์น้อย เริ่มต้นจากการเป็นมัคนายกของศาสนสถานในหมู่บ้าน หลังจากนั้นท่านได้เริ่ม
แสวงหาความร้ดู า้ นการเรยี กขวญั (ฮอ้ งขวัญ) ด้วยตนเองผา่ นหนังสอื และเรียนรู้จากผ้เู ช่ยี วชาญแขนงน้ัน ๆ จน
เกดิ ความชานาญ และถือปฏบิ ตั ิมาจนถึงปจั จบุ ัน
๓.๒) ขั้นตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกย่ี วกบั ข้อมลู
อปุ กรณ์ประกอบพิธี
เตรยี มสวยขนั ต้งั ประกอบด้วย สวยดอก ๔ สวย, สวยพลู ๔ สวย, ทาขนั บายศรี ๑ อัน
ในสว่ นของขันบายศรี ด้านในขันบายศรี มีควั่ก (กระทง) ข้าวปนั้ กลว้ ยหนว่ ย (มีกระทงขา้ วเหนยี ว ๑ ปั้น
และกลว้ ย ๑ ลกู ) , หมากกาพลใู บ ๑ ชดุ , บุหร่ี ๑ มวน , เมย่ี ง ๑ อม
ด้านนอกขันบายศรี มีไก่ ๑ ตัว เหล้า ๑ ขวด ค่าขันตง้ั ๑๐๘ บาท (คา่ ขันต้ังแตล่ ะท่ไี มเ่ ท่ากนั ) และ
ด้ายสายสิญจนผ์ ูกข้อมือ
เตรียมขันต้ัง ประกอบด้วย หมากขด ๔ ขด, หมากปอ้ ม ๔ ขด, ควกั่ (กระทง) ขา้ วเปลือก ๑ กระทง
ควก่ั (กระทง) ข้าวสาร ๑ กระทง, หมากหัวพลูมดั ทัง้ หมด ๓๒ ใบ
เร่ิมพิธีฮ้องขวญั โดยการขึน้ สคั เค และกลา่ วนะโม ๓ จบ หลังจากนน้ั จะสวดสรรพคณุ ท่องนะโม ๓ จบ
และทาพธิ ฮี ้องขวัญ ผกู ด้ายข้อมือ ปัดเคราะห์ เป็นอนั เสรจ็ พิธี
-194-
๔. ชอื่ ผทู้ ่ีถือปฏิบัติและผสู้ ืบทอด
๔.๑ ผทู้ ถ่ี ือปฏิบตั ิ
ชอ่ื นายกอ๋ งใจ วงค์น้อย
วัน เดอื น ปีเกดิ ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๔๙๘
ที่อยู่ ๑๓๑ หมู่ ๙ ตาบลเวียงชัย อาเภอเวียงชยั จังหวดั เชยี งราย ๕๗๒๑๐
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๙ ๖๓๔ ๗๙๑๒
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ชือ่ -
วัน เดอื น ปเี กิด -
ทีอ่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั ิแล้ว
๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-195-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี 2565
สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรำย
1. ชื่อข้อมูล ประเพณไี หลเรือไฟ ๑๒ ราศี
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพธิ กี รรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั เิ กีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือดง้ั เดมิ
การละเลน่ พน้ื บ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการต่อสปู่ ้องกันตวั
๓. รำยละเอียดขอ้ มูล
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล
ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีของชาวอีสาน ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “เฮือไฟ” จัดข้ึนในช่วงเทศกาล
ออกพรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้านัมทามหา
นที โดยมีประวัติความเป็นมาดังน้ี กล่าวคือพระพุทธเจ้าเสด็จไปฝ่ังแม่น้านัมทามหานที ซ่ึงเป็นท่ีอยู่อาศัยของ
พญานาค พระพุทธองค์ได้แสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคท่ีเมืองบาดาล และพญานาคได้ทูลขอพระพุทธองค์
ประทับรอบพระบาทไว้ ณ ริมฝ่ังแม่น้านัมทามหานที ต่อมาบรรดาเทวดา มนุษย์ ตลอดจนสัตว์ท้ังหลายได้มา
สักการะบูชา รอยพระพุทธบาท นอกจากนี้ประเพณีไหลเรือไฟยังจัดข้ึนเพ่ือขอขมาลาโทษแม่น้าท่ีได้ทิ้ง
สง่ิ ปฏิกลู และเปน็ การเอาไฟเผาความทกุ ข์ให้ลอยไปกบั สายน้า
เรือไฟ หรือ เฮือไฟหมายถึง เรือท่ีทาด้วยท่อนกล้วย ไม้ไผ่ หรือ วัสดุ ท่ีลอยน้า มีโครงสร้างเป็นรูปต่าง ๆ
ตามต้องการ เมื่อจุดไฟใส่โครงสร้าง เปลวไฟจะลุกเป็นรูปร่างตามโครงสร้างน้ัน “ไหลเรือไฟ” เป็นพิธีกรรม
อย่างหน่ึง ท่ีพุทธศาสนิกชนอีสาน ยึดถือปฏิบัติ สืบทอด กันมาแต่ครั้งโบราณ ประเพณีการไหลเรือไฟ บางที
เรียกวา่ "ลอ่ งเรอื ไฟ" "ลอยเรอื ไฟ" หรือ "ปลอ่ ยเรอื ไฟ" ซง่ึ เป็นลกั ษณะทเ่ี รือไฟเคล่อื นที่ไปเรอื่ ย ๆ
งานประเพณไี หลเรอื ไฟนิยมปฏบิ ตั ิกนั ในเทศกาลออกพรรษา ในวนั ขึน้ ๑๕ ค่า เดือน ๑๑ หรอื วนั แรม
๑ ค่า เดือน ๑๑ ประเพณีไหลเรือไฟ มีความเช่ือเกี่ยวโยง สัมพันธ์กับข้อมูลความเป็นมาหลายประการ เช่น
เน่ืองจากการบูชารอยพระพุทธบาท การสักการะพกาพรหม การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณี การระลึกถึงพระคุณ
ของพระแม่คงคา เปน็ ต้น
3.2 ขัน้ ตอน วิธีการดาเนนิ การเก่ียวกับข้อมลู
ชุมชนบ้านสบคาเป็นชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้าโขง และเป็นชุมชนทมีวัฒนธรรมประเพณีที่ได้รับอิทธิพล
จาก สปป.ลาว จึงมีการสืบสานประเพณีไหลเรือไฟ ๑๒ ราศี มาช้านานสามสิบกว่าปี เริ่มขึ้นคร้ังแรกเม่ือปี
พ.ศ.๒๕๓๐ ประเพณีการไหลเรือไฟของชาวบ้านสบคา จะจัดขึ้นบริเวณลานชมวิวแม่นาโขงของชุมชน พอถึง
วันงาน ชาวบ้าน พระภิกษุสงฆ์และสามเณร จะช่วยกันทาเรือไฟ เพื่อไปลอยที่แม่น้าโขง โดยส่วนมากชาวบา้ น
สบคาจะทาเปน็ เรอื ไฟ ๑๒ ราศี และมขี บวนแห่อย่างสวยงามไปยังบริเวณลานชมวิวแม่น้าโขงของหมบู่ ้าน
ในช่วงเช้าจะมีการประกอบการกุศล โดยการไปทาบุญตักบาตร มีการถวายภัตตาหารเพลแล้ว
เล้ียงญาติโยมท่ีมาในช่วงบ่าย มีการละเล่นต่าง ๆ เพ่ือความสนุกสนาน รวมท้ังมีการราวงเป็นการฉลองเรือไฟ
พอประมาณ ๕ - ๖ โมง เยน็ หรือตอนพลบค่า มกี ารสวดมนตร์ บั ศีลและฟงั เทศน์ ถึงเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ - ๒๐.๐๐ น.
ชาวบ้าน จะนาของกิน ผ้า เครื่องใช้ ขนม ข้าวต้มมัด กล้วย อ้อย หมากพลู บุหรี่ ฯลฯ ใส่ลงในกระจาดบรรจุ
ไวใ้ นเรอื ไฟ ครงั้ ถึงเวลา จะจดุ ไฟใหเ้ รอื สว่าง แล้วปล่อยเรอื ใหล้ อยไปตามแมน่ า้
ประเพณีไหลเรือไฟ ของชาวบ้านสบคาที่มีการสืบสานกันมาอย่างช้านานทาให้ได้รับความสนใจและ
ยกระดับเป็นประเพณขี องระดับตาบลและอาเภอเชยี งแสน
-196-
๔. ชอ่ื ผทู้ ี่ถือปฏิบตั แิ ละผู้สืบทอด
๔.๑ ผู้ท่ีถือปฏบิ ัติ
ช่อื ชาวบ้านในชมุ ชนบ้านสบคา
วัน เดือน ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ หมู่ 5 ตาบลเวยี ง อาเภอเชยี งแสน จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 08๑ ๕๓๑ ๙๘๐๕
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชือ่ ชาวบา้ นในชุมชนบ้านสบคา
วัน เดอื น ปเี กิด -
ทอี่ ยู่ หมู่ 5 ตาบลเวยี ง อาเภอเชียงแสน จังหวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 08๑ ๕๓๑ ๙๘๐๕
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไม่มปี ฏบิ ตั แิ ลว้
๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-197-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี 2565
สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรำย
1. ชื่อข้อมูล ประเพณกี ารล่องสะเปา (ย่เี ป็ง) ชุมชนบ้านสบกก
2. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเก่ียวกบั ธรรมชาติและจกั รวาล
งานช่างฝมี อื ดัง้ เดมิ
การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว
3. รำยละเอียดข้อมูล
3.1 ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล
การลอยสะเปาของบ้านสบกกไม่ปรากฏหลักฐานเด่นชัดนักว่ามีมาตั้งแต่สมัยใดเพราะบ้านสบกกเริ่ม
ก่อตั้งเม่ือราว พ.ศ.2480 หรือก่อนหน้าน้ันไม่นาน และหมู่บ้านสบกกเองนั้นเป็นหมู่บ้านท่ีชาวบ้านส่วนมาก
อพยพมาจากหลายๆแห่ง จึงนาประเพณีเดิมของตนเองมาสืบสานที่นี่จนกลายเป็นวัฒนธรรมประเพณีสืบทอด
กันมาจนถึงทุกวันน้ี
ความเชอ่ื ประเพณีล่องสะเปา
ประเพณีล่องสะเปาของคู่บา้ นสบกกกระทากนั ในวันเพ็ญเดือนยเ่ี ป็ง (ตรงกบั เดือน ๑๒ ของภาคกลาง)
หรือวนั ลอยกระทง กระทาเพอ่ื
๑. ขอขมาต่อแม่นา้ คงคา บชู าพระนารายณ์ทรี่ ักษาแมน่ า้ คงคาตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์
๒. บูชารอยพระพุทธบาทท่ีประดิษฐ์ ณ หาดทรายแม่น้านัมมทา อันเป็นการเจริญพุทธานุสติราลึกต่อ
องค์พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้
๓. เพอื่ เป็นการสะเดาะเคราะห์ และไดบ้ ริจาคทาน ในวนั นัน้ ดว้ ย
3.2 ขน้ั ตอน วธิ ีการดาเนนิ การเก่ยี วกับข้อมลู
นิยมทาสะเปากันที่วัด โดยชาวบ้านช่วยกันทาสะเปาเป็นรูปเรือลาใหญ่ วางบนแพไม้ไผ่ และนาสะตวง พร้อม
ด้วยข้าวของตา่ ง ๆ ทัง้ หม้อ ไห เส้อื ผา้ เคร่ืองนงุ่ ห่ม เครือ่ งอปุ โภค บรโิ ภคต่าง ๆ ใส่ลงไปในสะเปา ในชว่ งหวั คา่
ของวันย่ีเป็ง จึงพากันหามสะเปา พร้อมแห่ด้วยฆ้องกลองจากวัดไปลอยท่ีแม่น้าโขงและทาพิธีเวนทานท่ีท่าน้า
ก่อนปลอ่ ยสะเปาลอยลงไป
การทาสะเปารูปเรือลาใหญ่ นาไปลอยในคืนย่ีเป็งท่ีแม่น้าโขงในคืนยี่เป็นน้ัน ท่ีหมู่บ้านสบกกจะใส่
สิ่งของจาพวก เส้ือผ้า ข้าวของเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ลงไปด้วย เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และเป็นการบรจิ าคทาน
หากมีผู้ทามีความลาบากได้เกบ็ นาไปใช้
๔. ชอ่ื ผู้ที่ถอื ปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผู้ทถี่ อื ปฏบิ ตั ิ
ช่ือ พระอธกิ ารอภชิ าติ รตโิ ก เจา้ อาวาสวัดสบกก
วนั เดอื น ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ วดั สบกก หมู่ 7 ตาบลบา้ นแซว อาเภอเชียงแสน จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผูส้ ืบทอด -198-
ช่ือ
วนั เดอื น ปีเกิด ชาวบา้ นในชมุ ชนบา้ นสบกก
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศพั ท์
หมู่ 7 ตาบลบา้ นแซว อาเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งราย
-
5. สถำนกำรณค์ งอยู่ ปฏิบตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงต่อการสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั ิแล้ว
6. รูปภำพปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม
-199-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี 2565
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอเชียงแสน จังหวดั เชียงรำย
1. ชื่อข้อมูล ประเพณีการเล้ยี งเส้ือบา้ น
2. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั ิเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝีมอื ดงั้ เดิม
การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว
3. รำยละเอียดขอ้ มลู
3.1 ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มูล
เส้อื บา้ น หรือหอเส้ือบ้าน เปน็ สว่ นหน่ึงของชุมชนและหม่บู ้าน ซง่ึ ทางภาคเหนือเราน้ันมีกันทุกหมู่บ้าน
เป็นความเช่ือมาต้ังแต่อดีต ลักษณะความเช่ือ เสื้อบ้าน เป็นดวงวิญญาณท่ีทาหน้าท่ีปกปักรักษาสมาชิกในหมู่บ้าน
สถิตอยู่ในเรือนล้านนาขนาดเล็กกลางหมู่บ้าน เรียกว่า หอเส้ือบ้าน คาว่า เสื้อบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ว่าไว้ว่า เส้ือ
มาจากคาว่า เซื้อ แปลว่าบรรพบุรุษ หมายถึงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษท่ีมีความดีหรือมีบุญคุณกับชาวบ้าน
อาจจะเป็นผู้นาในการตั้งหมู่บ้าน หรือคนที่มีความดีเป็นที่เคารพนับถือของหมู่บ้าน หรือดวงวิญญาณดวงใด
ดวงหน่ึงท่ีสถิตอยู่บริเวณน้ันก่อนสร้างหมู่บ้าน ฯลฯ ความสาคัญ เสื้อบ้าน มีหน้าที่และบทบาทสาคัญคือ
เป็นผ้ปู กปักรักษา คมุ้ ครองสมาชิกในหม่บู ้าน แตล่ ะหมู่บา้ นจะมีหอเสื้อบา้ น ชาวลา้ นนาเชือ่ วา่ มีเทวดาอารักษ์
รักษาชาวบ้านในหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นการยอมรับ การเป็นกลุ่มเป็นพวกเดียวกัน สมาชิกในหมู่บ้าน
มีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน หรือเก้ือกูลซึ่งกันและกัน ถือเป็นหน้าที่ท่ีต้องดูแลช่วยเหลือกันต้ังแต่เกิ ด
จนถงึ ตายมคี วามผกู พันกนั
3.2 ขน้ั ตอน วิธกี ารดาเนินการเกย่ี วกับขอ้ มูล
พธิ ีกรรม เม่ือจะทาพธิ ีบวงสรวงเส้ือบ้าน ชาวบ้านในหมู่บา้ นกจ็ ะรว่ มกนั นาเอาสิ่งของต่าง ๆ ทั้งอาหาร
คาว - หวาน ดอกไม้ ธูปเทียน มารวมกันจัดทาเปน็ เครอื่ งสักการะบูชา เจ้าพิธีประจาหมู่บ้านก็จะกล่าวโองการ
เพื่อขอให้ผีเส้ือบ้านช่วยปกปักรักษาให้สมาชิกในหมู่บ้านให้มีความร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากภยันตราย และ
โรคาพยาธิท้ังปวง ซ่ึงบ้านสบกกจะทาพิธีไหว้เส้ือบ้าน หรือเล้ียงเสื้อบ้านทุกปีในวันแรม 9 ค่า หรือ ขึ้น 9 ค่า
เดือน 9 เหนือ หรอื เดอื น 7 ใต้ ในการไหว้บชู าเสอ้ื บา้ นนน้ั ชาวบ้านจะรวมใจกนั ออกคา่ ใช้จ่ายทกุ หลงั คาเรอื น
๔. ช่ือผทู้ ี่ถือปฏิบัตแิ ละผู้สืบทอด
๔.๑ ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ัติ
ชื่อ ชาวบา้ นสบกก
วนั เดอื น ปเี กดิ -
ท่อี ยู่ หมู่ 7 ตาบลบ้านแซว อาเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผู้สืบทอด -200-
ช่อื
วนั เดอื น ปีเกิด ชาวบ้านสบกก
ทอ่ี ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์
หมู่ 7 ตาบลบา้ นแซว อาเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งราย
-
5. สถำนกำรณ์คงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแล้ว
6. รปู ภำพปัญญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-201-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอเวียงแก่น จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล พิธีถวายหนังแดง
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบตั ิเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝีมือดั้งเดิม
การละเลน่ พ้นื บา้ น กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการต่อสู่ป้องกันตัว
๓. รายละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล
“ถวายหนังแดง” เป็นพิธีกรรมการเล้ียงผีป่าของกลุ่มชาติพันธ์ุไทลื้อในอาเภอเวียงแก่น ถือเป็น
ประเพณีพิธีกรรมดั้งเดิมที่ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า ในอดีต
หลายหมู่บ้านได้เกิดโรคห่าระบาดข้ึน ทาให้ผู้คนและสัตว์เล้ียงเจ็บป่วยและล้มตายเป็นจานวนมาก และในช่วง
บางปีฝนก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะถูกผีป่า ผีฟ้า หรือผีร้าย (ผีฮ้าย) มารังควานก่อกวนคน
ในหมู่บ้านให้อยู่ไม่สงบสุข จึงได้บนบานศาลกล่าวกับผีป่า เพ่ือขอให้ช่วยคุ้มครองคนภายในหมู่บ้านให้คลาด
แคล้วจากภัยอันตรายต่าง ๆ และช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านให้อุดมสมบูรณ์ โดยจะขอเซ่นสรวง
ดว้ ยวัวตัวผูเ้ ปน็ ประจาทุกปี
การประกอบพิธีเร่ิมขึ้นอย่างเรียบง่ายในป่าท่ีกาหนดเป็นพื้นท่ีประกอบพิธีกรรม ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจาก
หมู่บ้านมากนัก บรรดาผู้เฒ่าผู้แก่จะช่วยกันทาห้ิงสาหรับเล้ียงผี กว้างประมาณ 2 เมตร เป็นหิ้งไม้ไผ่ยกพื้นสูง
ปูพ้ืนหิง้ ดว้ ยใบตอง สูงจากพืน้ ประมาณสองเมตร จากนั้นจะนาวัวไปผูกตดิ ไวก้ ับตน้ ไม้ ผ้อู าวโุ สในหมู่บา้ นจะ จุด
เทียนแล้วบอกกล่าวต่อส่ิงศักด์ิสิทธ์ิ ก่อนจะให้คนนาวัวไปฆ่า เพื่อทาอาหารมาเซ่นไหว้ในพิธีกรรม เครื่องเซ่น
ไหว้ในพิธีถวายหนงั แดง ประกอบไปดว้ ย ลาบเน้อื สด แกงออ่ ม เน้อื ย่าง ข้าวเหนียว เหลา้ หนงั ววั หางวัว หัววัว
พร้อมด้วยขาท้ัง 4 ขา พร้อมกับทา “จิ๊นหาบ จิ๊นหาม” คือ เอาเนื้อวัวมาหอ้ ยไว้กับไม้ไผ่ ทาให้มีลักษณะคล้าย
กับการหาบและการหาม เชื่อกันว่าเมื่อผีป่ามารับเอาไปแล้วจะหาบหามสิ่งท่ีไม่ดี ออกจากหมู่บ้านไปด้วย เม่ือ
จัดเตรียมเสร็จแล้ว ผู้เฒ่าผู้แก่จะจุดเทียนบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มารับเคร่ืองเซ่นไหว้ จากนั้นประมาณ 20
นาที ผเู้ ฒา่ ผู้แกจ่ ะขอเอาอาหารที่เหลือมารับประทานร่วมกัน ส่วนชาวบ้านท่เี ขา้ ร่วมพิธีกรรมจะแบ่งเอาเนื้อวัว
ไปทาอาหารเล้ียงกันภายในสถานที่ประกอบพิธีกรรม เมื่อเสร็จพิธี ผู้เฒ่าผู้แก่จะ นาหนังวัวท่ีใช้ในการเซ่นไหว้
ไปเก็บไว้ท่ีวดั เพือ่ ทาเป็นหนังหน้ากลองของหม่บู า้ นต่อไป
๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเก่ียวกับขอ้ มลู
ลงพื้นทีจ่ ัดเกบ็ ข้อมลู โดยการสอบถามผูม้ ีความรู้
-202-
๔. ช่ือผทู้ ี่ถือปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผูท้ ีถ่ ือปฏิบตั ิ
ชื่อ นายสวาท รวมจติ ร
วนั เดอื น ปเี กิด -
ทอ่ี ยู่ ๒๖ หมู่ ๕ ตาบลม่วงยาย อาเภอเวียงแก่น จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๐ ๓๑๙ ๒๙๒๗
๔.๒ ผสู้ ืบทอด
ช่ือ -
วัน เดอื น ปีเกิด -
ท่ีอยู่ -
หมายเลขโทรศพั ท์ -
5. สถำนกำรณค์ งอยู่ ปฏิบตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏบิ ัตแิ ล้ว
๖. รปู ภาพภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
การทาพธิ ี “ทา้ วทงั้ สี่” เพื่อเปน็ การขอให้เทพารักษ์ การจัดเตรยี มเครื่องประกอบพิธกี รรม
ท่ีดแู ล ณ สถานท่ีจดั พิธไี ด้รบั รู้ และปกปักรักษาให้พน้ ภยั “พธิ ีถวายหนังแดง”
การประกอบพธิ ีกรรม “พธิ ีถวายหนังแดง” การรับประทานสิง่ ของท่ีถวายฯ หลังจากประกอบ
พิธเี สร็จ โดยมีความเชอ่ื ว่าเป็นของศักดิส์ ทิ ธ์ิ
.
-๑๘๗-
.
-๒๐3-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สำนักงำนวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงรำย
๑. ช่ือข้อมลู การทาทองมว้ นกรอบ
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝมี อื ดง้ั เดิม
การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล
ชาวบ้านกล้วยเดมิ มีอาชพี เกษตรกรรม ทาไร่ ทานา หลังจากฤดูกาลทานาชาวบา้ นต้องหาอาชีพรับจ้าง
ทา ทางกลมุ่ แม่บ้านหมู่บ้านบา้ นกลว้ ย หมทู่ ่ี ๕ ตาบลศรีค้า อาเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงราย จงึ ได้รว่ มกล่มุ คิดกัน
หาอาชีพเสริมโดยการทาขนมทองม้วนกรอบ โดยได้รับสูตรการทาขนมจากบรรพบุรุษสืบทอดกันมา
และนามาปรบั เปลยี่ นสูตร และอปุ กรณก์ ารทาใหท้ นั สมยั เหมาะเปน็ อุตสาหกรรมในครัวเรอื นมากข้ึน
๓.๒) ขั้นตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเกี่ยวกับข้อมลู
สว่ นผสม ประกอบด้วย
๑. แปง้ เอนกประสงค์ ๖. ไขไ่ ก่
๒. แป้งมนั ๗. กะทิ
๓. นา้ ตาลปี๊บ ๘. น้าใบเตยตม้ สกุ
๔. นา้ ตาลทราย ๙. เกลือ
๕. เนย ๑๐. งาดาค่วั สุก
ขั้นตอนกำรทำทองมว้ นกรอบ
๑. ผสมแป้งเอนกประสงค์และแปง้ มันใหเ้ ข้ากนั
๒. ต้มเนยใหล้ ะลายพกั รอให้เย็น
๓. ต้มน้าใบเตยใหไ้ ด้สแี ละกลิ่นตามทีต่ ้องการ
๔. นาสว่ นผสม ข้อ ๑ – ๓ มาผสมให้เขา้ กัน
๕. ใส่ไขไ่ ก่ นา้ ตาลทราย นา้ ตาลป๊ิบ และใสเ่ กลอื เล็กนอ้ ยคนให้เข้ากันจนน้าตาลทรายละลาย
๖. ใส่งาดาควั่ สุกแล้วเข้าไปคนใหเ้ ข้ากันพักไว้ รอประมาณ ๒ ชั่วโมง
๗. อ่นุ แผน่ พิมพข์ นมทองม้วนรอใหเ้ ครอ่ื งร้อน
๘. ใส่ส่วนผสมประมาณ ๑ ชอ้ นโตะ๊ ลงในแผ่นพิมพข์ นมทองม้วน
๙. รอสกุ สกั พักใช้ไม้แกะออกกลบั ดา้ น
๑๐. เมอ่ื ขนมทองม้วนสุกท้งั สองด้านพบั เก็บขอบและวางม้วนไปกับไม้ไผ่ให้ไดข้ นาด
๑๑. พกั รอให้เย็นแพ็คใสถ่ ุงรอการจาหนา่ ย
.
-๒๐4-
๔. ชื่อผูท้ ี่ถอื ปฏิบตั ิและผู้สืบทอด
๔.๑ ผทู้ ีถ่ อื ปฏิบตั ิ
ชือ่ นางคาผ่อง ฟ้าคาตนั
วัน เดอื น ปเี กดิ -
ท่อี ยู่ ๖๘ หมู่ ๕ ตาบลศรคี ้า อาเภอแม่จนั จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗ ๓๐๕ ๙๔๘๓
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ช่อื นางสาวสุพรรษา ยานะโรจน์
วนั เดือน ปีเกิด -
ท่ีอยู่ ๖๗ หมู่ ๕ ตาบลศรีคา้ อาเภอแมจ่ นั จังหวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗ ๓๐๕ ๙๔๘๓
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย เส่ยี งต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้
๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
.
-205-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอขุนตำล จังหวัดเชยี งรำย
๑. ชอื่ ข้อมูล การแพทย์แผนไทยสมุนไพรพ้ืนบ้าน (หมอพื้นบ้านลา้ นนา)
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝมี อื ดั้งเดิม
การละเล่นพืน้ บ้าน กีฬาพืน้ บ้าน และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว
๓. รายละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มูล
เจ้าของภูมิปัญญา นายสนน่ั กติ ติศักด์ิเจริญ มีภมู ลิ าเนาอยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 9 ตาบลยางฮอม
อาเภอขุนตาล จังหวดั เชียงราย
ความรู้เรื่องสมุนไพรเป็นภูมิปัญญาท่ีได้สืบทอด โดยมีการศึกษาหาความรู้จากบรรพบุรุษและการ
สืบคน้ การศกึ ษาหาความรู้จากส่ือต่าง ๆ การอบรมเชิงปฏิบตั ิการ การทดลอง ค้นคว้า จนสามารถนามาปฏิบัติและ
ถ่ายทอดแก่อนุชนรุ่นต่อไปได้ จนสามารถเป็นแหล่งศึกษาดูงานได้ ด้วยการเปิดเป็นโรงเรียนสมุนไพรพ้ืนบ้าน
บา้ นหว้ ยสัก
๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกีย่ วกบั ขอ้ มูล
สมุนไพรท่ีจัดทามี สมุนไพรนพคุณ รักษาโรคริดสีดวงทวาร สมุนไพรลูกประคบ รักษาอาการเกี่ยวกับ
กล้ามเน้ือตึง กินอ้อพญ๋า เพ่ือให้มีความจาที่ดี ผลิตสมุนไพรยาหม่อง ยาหอม ยาดม ปัจจุบันเปิดเป็นโรงเรียน
สมุนไพรบ้านหว้ ยสกั สามารถเปน็ แหลง่ ศึกษาดงู านเกีย่ วกบั ดา้ นสมนุ ไพร
๔. ช่ือผ้ทู ่ีถือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด
๔.๑ ผทู้ ถี่ ือปฏิบตั ิ
ชอ่ื นายพุฒ ใจประสทิ ธชิ ยั
วัน เดอื น ปเี กดิ ๒๔๙๒
ทอี่ ยู่ 236 หมู่ 9 ตาบลยางฮอม อาเภอขุนตาล จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 089-516-5417
๔.๒ ผูส้ บื ทอด
ช่ือ -
วัน เดอื น ปเี กดิ -
ท่อี ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสญู หาย ไมม่ ีปฏบิ ัติแล้ว
๖. รูปภาพภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม
- ไม่มี -
.
-206-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย
สภำวฒั นธรรมอำเภอเทงิ จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู แกงฮงั เลหมก
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ กีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝมี ือดั้งเดิม
การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล
เดิมทีมชี าวเงีย้ วเข้ามาอยู่ในหมูบ่ ้านช่อื อ้ยุ จนั ทร์ (เสยี ชวี ติ แลว้ ) เวลาในหมบู่ ้านมีงานเล้ยี งคนเยอะ ๆ
เช่น งานขึน้ บ้านใหม่ งานศพ งานข้นึ พระธาตุ ก็ไดช้ ว่ ยกนั ทาแกงฮงั เลหมกเล้ยี งผูค้ น
๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเก่ียวกับข้อมลู
วธิ ีทา
เอาเนื้อหมูสันคอหรือสามชั้นผสมกับน้าพริกแกงฮังเลคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่กระท้อน (บะต้อง)
สบั ปะรด (บะขนดั ) หรือกระเทยี มดอง เพือ่ ใหเ้ นื้อเปอ่ื ย นุม่ เอาท้งั หมดใส่ใบตองจากนั้นทาการห่อ
เอาน้าใส่กระทะใบใหญ่ แล้วทาตะแกรง วางให้พ้นน้า นาห่อฮังเลวางเรียงจากนั้นเอาใบตองคลุมไว้
ปล่อยให้น้าเดอื ดจนหมสู กุ จะมนี า้ เคร่ืองแกงออกมาจะหอม เวลารบั ประทานหมจู ะนุม่ หอม รสชาติอรอ่ ย
สว่ นผสมของน้าพริกเครื่องแกง
พริกแห้ง กระเทยี ม หอมแดง ข่า ตะไคร้ กะปิ เกลือ
๔. ช่ือผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด
๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั ิ
ชื่อ พ่ออ้ยุ คามา จนั ทรถ์ า
วัน เดอื น ปีเกิด 1 กันยายน 2474
ทอ่ี ยู่ 2 หมู่ 2 ตาบลเวยี ง อาเภอเทิง จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผสู้ บื ทอด
ชือ่ -
วนั เดอื น ปเี กดิ -
ท่ีอยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงตอ่ การสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแลว้
.
-207-
๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
.
-208-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล ขนมจีนน้าเงีย้ ว
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ
การละเล่นพ้ืนบ้าน กีฬาพ้นื บ้าน และศิลปะการต่อสปู่ ้องกันตัว
๓. รำยละเอียดขอ้ มลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมลู
“ขนมจีนน้ำเงี้ยว” เป็นอาหารยอดนิยมของคนล้านนา มีลักษณะเป็นเส้นเหมือนก๋วยเต๋ียว
รับประทานงา่ ยไม่ต้องปรุงรสมาก สว่ นประกอบเคร่อื งปรงุ ประกอบไปดว้ ย เส้นขนมจีน เลอื ดหมสู ด เนือ้ หมูบด
กระดูกหมู มะเขือเทศ เลือดไก่ก้อน ดอกงิ้ว ถ่ัวเน่า เดิมทีขนมจีนไม่ได้ทานพร้อมกับน้าเงี้ยว แต่เพิ่งนามา
ประยุกต์มาทานพร้อมกันเม่ือไม่นานมานี้ น้าเงี้ยว เป็นอาหารของชาวเง้ียว ซึ่งเป็นกลุ่มไทยใหญ่ที่อาศัยอยู่ใน
รัฐฉาน ประเทศพม่า ต่อมาคนพม่าได้หนีการต่อสู้รบกับรัฐบาลพม่า จึงอพยพเข้ามาอาศัยกระจายอยู่
ทั่วพื้นที่ของทางภาคเหนือ ส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนทางจังหวัดแพร่ เน่ืองจากในยุคนั้นมีการสัมปทานพื้นที่
การทาป่าไม้ให้กับบริษัทจากอังกฤษ มีความต้องการแรงงานมาก ชาวเง้ียวจึงพากันหนีไปปักหลักอาศัยเป็น
ชมุ ชนใหญ่ท่นี ้นั ปัจจุบนั ขนมจีนนา้ เง้ียวนยิ มทานควบคูก่ ับ ผกั นานาชนิด แคบหมู ส้มตา ไกย่ า่ ง และเนือ้ ทอด
ขนมจีนน้ำเง้ียว คืออาหารของทางภาคเหนือ มีส่วนประกอบคือดอกงิ้ว ดัดแปลงมาจากน้าพริกอ่อง
น้าพริกแกงจะมีความเข้มข้นคล้ายน้าพริกแกงส้มของทางภาคกลาง คือ ใช้พริกแห้ง แต่ไม่ใส่กระชาย และใส่
ถ่ัวเน่าแผ่นหรือเต้าเจ้ียวหรือทั้งสองอย่าง น้ำแกงน้ำเง้ียว จะมีรสชาติเค็มเผ็ด มีรสเปร้ียวจากมะเขือเทศ
สาหรับใส่ขนมจีนหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว เช่นเดียวกับน้าก๋วยเตี๋ยว หรือขนมจีนน้ายา ซ่ึงชาวไทใหญ่มักจะเรียก
น้าเงี้ยวว่า น้าหมากเขือส้ม ซึ่งถ้าใส่ขนมจีนก็เรียกว่า เข้าเส้นน้าหมากเขือส้ม ซึ่งในการทาน้าเง้ียวน้ันเราจะใช้
เกสรดอกง้ิวป่ำ ซึ่งเป็นงิ้วชนิดดอกแดงตากแห้ง (ในภาษาเหนือ งิ้ว จะหมายถึง ต้นนุ่น ได้ด้วย มักจะเรียกว่า
งิว้ ดอกขาว ใสล่ งไป ซึง่ ดอกงว้ิ เป็นส่วนประกอบสาคญั ในการทาน้าเง้ียว
น้ำเงี้ยว เป็นอาหารท่ีได้รับความนิยมในหมู่ชาวล้านนามาแต่อดีตจวบจนถึงปัจจบุ ัน ชาวบ้านมกั จะทา
น้าเงี้ยวสาหรับจัดเลี้ยงในงานต่าง ๆ ถือว่าเป็นอาหารมงคลอย่างหน่ึงของชาวล้านนา โดยท่ัวไปมักจะทาน
น้าเง้ียวกับขนมจีน (ขนมเส้น) หรือเส้นก๋วยเต๋ียว (เรียกก๋วยเต๋ียวน้าเง้ียว) น้าเงี้ยวเป็นอาหารขึ้นช่ือของจังหวัด
เชียงราย ซ่ึงรสชาติน้าเง้ียวจะมีความเข้มข้นและจัดจ้านมาก ๆ (แต่กินง่าย) ขนมจีนน้าเงี้ยวจะอร่อยหรือ
ไมอ่ รอ่ ยมันอยู่ท่ี การทาพรกิ แกงนำ้ เงยี้ ว และวิธที านา้ พรกิ น้าเง้ยี วภาคเหนือแบบดั้งเดิมจริง ๆ จะต้องมีการใช้
ถั่วเนา่ แผน่ ด้วย (ถวั่ เนา่ แขบ็ ) แต่หากหาไม่ไดจ้ รงิ ก็สามารถใชเ้ ตา้ เจี้ยวทดแทนได้บา้ ง
ดังน้ัน จึงควรต้องมีการสืบทอดการจัดทาขนมจีนน้าเงี้ยวไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานให้ได้เรียนรแู้ ละนามาใช้
ในชีวิตประจาวัน เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับครอบครัวด้วยการทาขาย และควรมีการถ่ายทอดสูตร
ดั้งเดมิ ให้คงไวเ้ พ่ือเปน็ การอนรุ ักษ์มรดกภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ของคนรนุ่ ก่อนมิใหส้ ูญหายไป
.
-209-
๓.๒) ข้ันตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกีย่ วกับขอ้ มลู
วธิ กี ำรทำขนมนจนี นำ้ เงีย้ ว
1. ต้ังกระทะหรอื หม้อใสน่ า้ มัน ลงไปผดั กบั พริกแกงให้หอม ใส่หมูสับลงไปผดั ให้เข้ากนั
2. เตมิ นา้ ซปุ ปลอ่ ยให้เดือด แลว้ ใสม่ ะเขือเทศ ต้มให้มะเขือเทศนม่ิ ใส่กระดูกหมู ปลอ่ ยใหเ้ ดือด ใส่
ดอกเงีย้ วที่แชน่ า้ ไว้บีบนา้ ออกใหห้ มด
3. ใสใ่ นหมอ้ แกงต้องคอยตักฟองออก ปรงุ รสด้วยเกลือ นา้ ปลา ถั่วเนา่
4. เมื่อได้รสชาตทิ ่ตี ้องการใหเ้ ตมิ เลอื ดไก่ แล้วเค่ียวต่อไปจนซโี่ ครงหมูเนื้อนิ่ม
5. ต้ังไฟตอ่ ประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วยกลง นาขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกง (น้าเง้ียว)
6. รับประทานคกู่ ับเครื่องเคยี งได้เลย เสริ ์ฟกับเส้นขนมจีนและผักต่าง ๆ ทงั้ ผักกาดดอง ถ่ัวงอก
กระเทยี มเจยี ว ผักชี ตน้ หอม เตมิ มะนาวเพม่ิ ความเปรย้ี ว โรยหนา้ ดว้ ยแคบหมู
๔. ชื่อผูท้ ี่ถอื ปฏิบัติและผ้สู ืบทอด
๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏิบัติ
ช่ือ นางกุลวดี วิชา
วนั เดือน ปเี กดิ 24 สงิ หาคม 2510
ทอี่ ยู่ 145 หมู่ 11 ตาบลไม้ยา อาเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 085 652 7068
๔.๒ ผ้สู ืบทอด
ชื่อ นางสาวปางเงนิ แสงคา
วนั เดอื น ปเี กดิ 19 กรกฎาคม 2528
ท่อี ยู่ 180 หมู่ 11 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเมง็ ราย จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 061 276 4259
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ล้ว
๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
.
-210-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖5
สำนักงำนวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย
อำเภอแม่ลำว จงั หวัดเชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู ข้าวแตน๋ น้าแตงโม
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัตเิ กี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือดัง้ เดมิ
การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสูป่ ้องกันตัว
๓. รำยละเอยี ดข้อมลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของขอ้ มลู
ข้าวแต๋น เป็นขนมพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองมาตั้งแต่สมัยก่อนไม่สามารถสืบค้นได้ว่ามีมาต้ังแต่เม่ือใด
เดิมชาวบ้านในอดีตมีอาชีพทาไร่ทานา มีรายได้น้อย เวลารับประทานข้าวเหนียวเหลือจึงนาไปตากแห้งเก็บ
เอาไว้ทอดรับประทาน ถือเป็นการนาอาหารเหลือท้ิงมาทาให้เกิดคุณค่าและเกิดประโยชน์มากขึ้น จึงได้จัดตั้ง
เป็นวิสาหกจิ ชมุ ชนขา้ วเกรียบขา้ วแตน๋ แม่ลาว เพ่อื ผลิตข้าวแตน๋ เป็นผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน
๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกีย่ วกบั ข้อมลู
ส่วนผสม ข้าวแตน๋ นา้ แตงโม
1. ขา้ วเหนยี วเขยี้ วงูใหม่ 500 กรมั (น้าหนกั ก่อนน่ึง)
2. น้าแตงโม 200 ml.
3. หัวกะทิ 50 ml. (ใชน้ ้าแตงโมแทนที่ได)้
4. นา้ ตาลทรายไมฟ่ อกสี 3 ชอ้ นโตะ๊
5. เกลอื ปน่ 1/2+1/4 ชอ้ นชา
6. งาดา 2 ชอ้ นโต๊ะ (ไมต่ อ้ งค่วั และจะใสห่ รอื ไม่ใสก่ ็ได้)
อตั ราส่วนน้าตาลโรยหนา้
1. นา้ ตาลมะพร้าว/นา้ ตาลป๊ีบ 450 กรัม
2. น้าตาลทรายแดง 100 กรมั
3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
4. นา้ เปลา่ 40 กรัม
วธิ ที า ขา้ วแต๋นน้าแตงโม
1. นาข้าวเหนียวแช่น้า จากนั้นนาไปนึ่ง โดยนาใบเตยใส่ลงไปในน้าต้มเพ่ือให้มีกลิ่นหอม ใช้เวลานึ่ง
ประมาณ 30 นาที
2. นาแตงโมปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง จากน้ันใส่หัวกะทิ น้าตาลทรายไม่ฟอกสี และเกลือป่น
ลงไป คนให้เข้ากนั นาขา้ วเหนยี วที่น่งึ สุกแล้วเทลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักท้ิงไว้ประมาณ 15 - 20 นาที
3. เมื่อครบเวลา ให้ใส่งาดาลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นอัดใส่พิมพ์และตากแดดไว้ นากระทะ
ใส่น้ามันตั้งไฟแรงเพื่อให้น้ามันร้อน จากนั้นปรับเป็นไฟกลาง นาข้าวท่ีตากแดดมาทอด โดยคีบข้าวไว้แล้วขยับ
ให้โดนน้ามันทั่ว ๆ ก่อนจะปล่อย เพ่ือให้ข้าวฟู ใช้เวลาทอดไม่นาน สังเกตให้มีลักษณะเหลืองกรอบ สามารถ
นาข้นึ ไดเ้ ลย พกั สะเด็ดนา้ มนั ไว้
.
-211-
4. ทาน้าตาลราดหน้าข้าวแต๋น โดยการนาน้าตาลป๊ีบหรือน้าตาลมะพร้าว น้าเปล่า น้าตาลทรายแดง
เกลือป่น ลงหม้อ ใช้ไฟกลางค่อนไฟอ่อน คนผสมให้เข้ากันดี พักไว้ให้อุ่น ๆ จะทาให้ข้นขึ้น แล้วใช้ช้อนตักน้า
และหยอดลงไปบนขา้ วตามชอบ
๔. ชื่อผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผสู้ ืบทอด
4.๑ ผูท้ ่ีถือปฏิบตั ิ
ชือ่ นางฉววี รรณ อดุ ป้อ
วนั เดอื น ปีเกดิ 2505
ที่อยู่ ๒๔ หมู่ ๑๙ ตาบลดงมะดะ อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
4.๒ ผูส้ ืบทอด
ชือ่ นางสาวอัมพร อดุ ป้อ
วนั เดอื น ปีเกิด -
ทีอ่ ยู่ ๒๔ หมู่ ๑๙ ตาบลดงมะดะ อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั ิแล้ว
6. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
วธิ ีทาขา้ วแตน๋ น้าแตงโม
.
-2๑2-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอแมฟ่ ำ้ หลวง จังหวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล ขา้ วแรมฝนื (ป้านวล)
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ ก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝีมือด้งั เดิม
การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตวั
๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู
ข้าวแรมฟืน หรือข้าวแรมคืน เป้นอาหารชนิดหนึ่งท่ีมีรสเปร้ียว เผ็ด หวาน เป็นทั้งอาหารว่างและ
อาหารหลกั หลายสิบปแี ล้ว ถือได้วา่ เป็นอาหารของชาวแมส่ ายไปแลว้ คาว่า "ขา้ วแรมฟืน" คงเพ้ียนมาจาก ขา้ ว
แรมคืน ซึ่งชื่อน้กี ค็ งมาจากวิธีการทาน่นั เอง
ข้าวแรมฟนื เปน็ ได้ท้งั อาหารคาวและหวาน แตท่ ุกอยา่ งเป็นมังสะวิรตั เปน็ อาหารเจ ซึ่งเป็นที่นิยมของ
ชาวไทยใหญ่ ไทลื้อ และไทเขิน นาเข้ามาจากทางสิบสองปันนาประเทศจีน ผ่านมาทางพม่า แล้วเข้ามาทาง
อาเภอแมส่ าย จังหวัดเชียงราย เปน็ เวลานาน
๓.๒) ขั้นตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกี่ยวกับขอ้ มลู
กรรมวิธีในการทาข้าวแรมฟืน ซ่ึงก็มีส่วนประกอบหลักอยู่ 2 อย่าง คือตัวแป้งข้าวแรมฟืน และ
เครื่องปรุง ซึ่งอาหารชนิดนี้สังเกตดูองค์ประกอบคงจะมีลักษณะคล้าย ๆ ก๋วยเต๋ียวของชาวจีนนั่นเอง
ตัวข้าวแรมฟืนเติมมี 2 ชนิด คือข้าวแรมฟืนขาว และข้าวแรมฟืนถั่วลันเตา ปัจจุบันได้เพิ่มข้าวแรมฟืนถ่ัวดิน
(ถ่ัวลิสง) เข้ามาดว้ ย ข้าวแรมฟนื ขาวทาจากการโมข่ า้ วเจ้าแข็งทาแป้ง แล้วนานา้ แป้งทต่ี กตะกอนมาเคี่ยวกับปูน
ขาวจนสุก จากนั้นเทใส่ภาชนะใดก็ได้ ท้ิงไว้ 1 คืน วันรุ่งข้ึนแป้งจะแข็งตัว ตามรูปภาชนะที่บรรจุ
ส่วนข้าวแรมฟืนถั่วน้ันจะมีสีเหลือง ซ่ึงทาจากเม็ดทั่วลันเตาแช๋จนเม็ดขยายแล้วจึงนามาโม่ จากนั้นนาตะกอน
ส่วนหนึ่งมาเค่ียวจนเดือด สังเกตดูว่าตะกอนเริ่มเหนียวจึงเทใส่ภาชนะแต่ไม่นิยมทาค้างคืนหรือแรมคืน เพราะ
หากท้ิงไว้นาน แป้งนี้จะเหลว ไม่จับตัวแข็งเหมือนข้าวแรมฟืนขาว เม่ือได้แป้งข้าวแรมฟืนแล้ว ก็นามาห่ันเป็น
ชิ้นส่ีเหลยี่ มผนื ผ้าเลก็ ๆ เตรยี มไว้
๔. ชอ่ื ผู้ที่ถอื ปฏิบัติและผู้สืบทอด
๔.๑ ผทู้ ถี่ อื ปฏบิ ตั ิ
ชือ่ ร้านจาหน่ายอาหาร ปา้ นวล
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ทอี่ ยู่ 8 หมู่ 1 ตาบลเทอดไทย อาเภอแม่ฟา้ หลวง จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
.
-213-
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชือ่ -
วัน เดอื น ปีเกิด -
ท่ีอยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ล้ว
๖. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
.
-214-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
สำนกั งำนวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอแม่สำย จังหวดั เชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมูล ข้าวแรมฟืนหรือข้าวฟืน
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ
การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดข้อมูล
๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล
ข้าวแรมฟืน นับเป็นอาหารของชาวไทใหญ่ซึ่งอพยพมาจากสิบสองปันนา ว่ากันว่าชื่อเพี้ยนมาจาก
“ข้าวแรมคืน” บางคนก็ว่าช่ือข้าวแรมฟืนนั้นเพี้ยนมาจากคาว่า "Liang Fen" (เหลียงเฟิ่น) ซ่ึงเป็นภาษาจีน
เพราะท่ีจีนกม็ ีอาหารลักษณะแบบนีเ้ ช่นกัน ถ้าไปเดนิ ตลาดเช้าที่แมส่ ายจะเหน็ ข้าวแรมฟนื หลายสี เพราะทามา
จากวัตถุดิบต่างกัน สูตรดั้งเดิมจะเป็นข้าวเจ้า ซึ่งเป็นข้าวแรมฟืนสีขาว ถ้าทาจากถ่ัวลันเตาหรือถั่วเหลืองจะได้
ข้าวแรมฟืนสเี หลือง และถ้าทาจากถัว่ ลสิ ง จะไดข้ า้ วแรมฟนื สีมว่ งอ่อน
ข้าวแรมฟืนทามาจากข้าวเจ้า ถั่วลันเตา หรือถั่วลิสง เตรียมโดยนามาแช่น้าจนอ่อนตัว จากนั้นนามา
บดจนละเอียด แล้วนามาผสมกับน้าให้มีความเข้มข้นพอควร โดยสาหรับข้าวแรมฟืนข้าวต้องมีการผสมกับน้า
ปูนใสหรือแคลเซียมคลอไรด์เพ่ือช่วยในการแข็งตัว จากนั้นนามาต้มจนสกุ และมีความข้นหนืดพอเหมาะแล้วจึง
ต้ังทิ้งไว้ข้ามคืนหรือแรมคนื (ซึ่งอาจเป็นท่ีมาของคาว่าข้าวแรมฟืนนัน่ เอง) ในระหว่างน้ีแป้งจะเย็นตัวลงจนแข็ง
เป็นเจลขุ่นและมีสีตามธรรมชาติของวัตถุดิบ เวลารับประทานก็เพียงนามาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ราดน้าปรุงรส
ขลุกขลิกรสชาติออกเปรี้ยวหวาน อาจเพ่ิมพริกค่ัวและถั่วบด สาหรับข้าวแรมฟืนถ่ัวลนั เตายังนิยมนามาทอดใน
น้ามนั ไดเ้ ปน็ ข้าวแรมฟืนทอดที่กรอบนอกนุ่มในและมีรสชาติอรอ่ ย จนบางคนเรยี กว่า “เฟร้นชฟ์ รายไทลื้อ”
๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเก่ียวกับขอ้ มูล
ข้าวแรมฟืน มีสว่ นประกอบด้วยกัน 3 ส่วน คือ
1) ตัวแป้งที่ทาจากการโม่ข้าวเจ้าจนเปน็ น้าแปง้ (ปัจจุบันนี้ใชแ้ ป้งข้าวเจ้า สะดวกตามยุคสมัย) นามา
เคี่ยวกับไฟอ่อนๆจนเหนียว และใส่ชามหรือภาชนะก้นลึก ทิ้งเอาไว้ข้ามคืน (จึงเป็นชื่อเรียกว่า "ข้าวแรมคืน"
แต่ผู้คนเรียกเพ้ียนไปมาตามกาลเวลา เลยกลายเป็น "ข้าวแรมฟืน") จากนั้นนามาตัดเป็นก้อนสี่เหล่ียม
ขนาดใหญ่กว่าลกู เตา๋ พอประมาณ
2) น้าราด แบ่งออกเป็น 5 น้า คือ น้าผักกาดดองเปรี้ยว (น้าส้มผักกาด) น้าสู่หวาน น้าส้ม ทามาจาก
น้าตาลอ้อย (สตู รสบิ สองปันนา) และนา้ ตาลอ้อยหมักจนเปรีย้ ว นา้ มะเขอื เทศ นา้ ขิง และนา้ ถว่ั เน่า
3) เคร่ืองเคียงและเคร่ืองปรุง ได้แก่ พริกค่ัวกระเทียม ถ่ัวลิสงป่น ผักลวก (ถั่วงอก กะหล่าปลี
ถั่วฝกั ยาวซอย) ผักชซี อยละเอียด เกลอื ป่น ซอี วิ๊ ขาวและซอี ิ๊วดา
ขั้นตอนการทา
ข้าวแรมฟืนทามาจากข้าวเจ้า ถ่ัวลันเตา หรือถ่ัวลิสง เตรียมโดยนามาแช่น้าจนอ่อนตัว จากน้ันนามา
บดจนละเอียด แล้วนามาผสมกับน้าให้มีความเข้มข้นพอควร โดยสาหรับข้าวแรมฟืนข้าวต้องมีการผสมกับ
น้าปูนใสหรือแคลเซียมคลอไรด์เพื่อชว่ ยในการแข็งตัว จากนัน้ นามาต้มจนสกุ และมีความข้นหนืดพอเหมาะแล้ว
จึงต้ังท้ิงไว้ข้ามคืนหรือแรมคืน (ซ่ึงอาจเป็นท่ีมาของคาว่าข้าวแรมฟืน) ในระหว่างนี้แป้งจะเย็นตัวลงจนแข็ง
เป็นเจลขุ่นและมีสีตามธรรมชาติของวัตถุดิบ เวลารับประทานก็เพียงนามาตัดเป็นช้ินเล็ก ๆ ราดน้าปรุงรส
ขลุกขลิกรสชาติออกเปร้ียวหวาน อาจเพิ่มพริกคั่วและถั่วบด สาหรับข้าวแรมฟืนถั่วลันเตายังนิยมนามาทอด
ในน้ามันได้เป็นข้าวแรมฟนื ทอดทีก่ รอบนอกนุ่มในและมีรสชาตอิ ร่อย
.
-215-
4. ชอื่ ผทู้ ่ีถอื ปฏิบตั ิและผู้สบื ทอด
4.๑ ผ้ทู ่ถี ือปฏบิ ตั ิ
ชอ่ื นายมานิตย์ ประกอบกิจ
วัน เดือน ปีเกิด -
ที่อยู่ 76/2 หมู่ 5 ตาบลเวยี งพางคา อาเภอแมส่ าย จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 085 722 1383
4.๒ ผ้สู บื ทอด
ชอ่ื -
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ทีอ่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสยี่ งตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏิบตั ิแล้ว
6. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
ข้าวแรมฟนื สมี ว่ งที่ทาจากถัว่ ลสิ ง ขา้ วแรมฟนื สเี หลืองท่ีทาจากถวั่ ลนั เตา/ถว่ั เหลอื ง
เครอื่ งเคียงและเคร่ืองปรงุ ข้าวแรมฟืนแบบเส้น แบบทอด
ขา้ วแรมฟนื ทป่ี รุงสาเร็จ
.
-216-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอแมส่ ำย จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล ข้าวหมาก
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือดง้ั เดมิ
การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว
๓. รำยละเอียดข้อมูล
๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู
ข้าวหมาก อาหารหมักพ้ืนบ้านของไทย เกิดจากภูมิปญั ญาของคนท้องถ่นิ ซง่ึ ถูกสบื ทอดต่อกนั มาจวบ
จนถึงปจั จุบนั
ข้าวหมาก (Kaomak Or Sweetened Rice) เป็นอาหารท่ีคนโบราณคิดค้นกระบวนการหมักจนได้
แบคทีเรียและจุลินทรีย์ท่ีมีประโยชน์ หรือโพรไบโอติก ที่นมเปร้ียวในปัจจุบันนามาเป็นจุดขายน่ันเอง แท้จริง
แล้วข้าวหมากก็คือขนมหวานชนิดหน่ึง ที่ทามาจากการนาข้าวเหนียวมานึ่งแล้วหมักกับราและยีสต์ในรูปของ
แป้ง หรือท่ีเรียกกันว่า “แป้งข้าวหมาก” เพื่อให้ราและยีสต์เปลี่ยนเป็นน้าตาล หรือเป็นแอลกอฮอล์เพียง
เลก็ น้อย ข้าวหมากจึงไม่จดั วา่ เป็นของหวานมนึ เมา หรือ และไม่ใชส่ ุรา
ข้าวหมาก คือ ข้าวท่ีหมักได้จะนุ่มและมีรสหวาน ส่งกลิ่นหอม นอกจากข้าวหมาก จะรับประทานเพ่ือ
เพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังสามารถบาบัดอาการของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ เช่น ช่วยเร่ืองระบบขับถ่าย บารุงธาตุ
ต้านโรคอัมพฤกษ์ ต้านมะเร็ง ต้านโรคหัวใจ ต้านความดันโลหิต แก้ปัญหาวัยทอง ช่วยให้นอนหลับได้ดีข้ึน
นอกจากนีย้ ังช่วยทาใหผ้ ิวพรรณดี ผิวใส อีกดว้ ย
ลกู แป้งขำ้ วหมำก
ลูกแป้ง หรือบางคนเรียกว่าแป้งข้าวหมาก มีลักษณะเป็นก้อนแห้งทรงครึ่งวงกลม สีขาวนวลเนื้อแป้ง
โปร่ง มเี ส้นใยของเช้ือราเกาะอยู่ เมือ่ เก็บไวน้ านสจี ะเข้มขึ้น ลกู แปง้ แตล่ ะเจ้าที่ขายตามท้องตลาดจะมีสว่ นผสม
ท่ีแตกต่างกันออกไป โดยใช้ยีสต์และเชื้อราต่างสายพันธ์ุกัน ลูกแป้งท่ีดีจะต้องใช้เชื้อท่ีดี สะอาด ควบคุม
อุณหภูมิและความชืน่ ขณะทาอย่างพอเหมาะ
ประโยชน์ของขำ้ วหมำก
- ในขา้ วหมากมี จลุ ลินทรยี ์และแบคทีเรียทีม่ ีประโยชน์ ท่เี รียกว่า โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ชนิด
เดียวกับในนมเปรย้ี ว ที่มีสว่ นชว่ ยเร่อื งระบบขบั ถ่าย
- มสี ารทช่ี ว่ ยใหร้ า่ งกายผลิตกรดอินทรยี ์ ทาให้กระดูกและเมด็ เลือดตา่ ง ๆ แขง็ แรง
- มสี ารตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยกะจดั สารก่อมะเร็งต่าง ๆ ในร่างกาย
- ช่วยบาบดั โรคเร้อื รังต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะ โรคหวั ใจ โรคความดนั โลหติ สงู เบาหวานและภมู แิ พ้
- มีสังกะสี ช่วยบารงุ ผวิ พรรณ บารุงเลอื ด ทาให้ผิวพรรณสดใส
- แก้ปญั หาวยั ทอง ทาให้นอนหลับไดด้ ีข้ึน
.
-217-
เคล็ดลบั กำรทำขำ้ วหมำก
- ความสะอาดสาคญั มากเพราะมีผลตอ่ รสชาติของขา้ วหมาก ถา้ มีสิง่ ปนเปื้อนจะทาให้ข้าวหมากมีรส
เปร้ียวปนหวาน
- ข้าวเหนียวควรเลอื กอยา่ งดี คือไม่มเี มล็ดขา้ วอ่ืนปนมาเยอะ เพราะจะทาให้ข้าวเหนยี วสกุ ไม่ทว่ั ถงึ
ทาให้ข้าวเหนียวบางเมลด็ เปน็ ไต
- ลกู แปง้ ข้าวหมากท่ีคุณภาพดกี ็มีผลต่อรสชาติของขา้ วหมาก ข้าวหมากจะหวานมากหรือหวานนอ้ ย
รวม ทั้งไมม่ รี สเปรี้ยว ก็ขึน้ อยู่กับลกู แปง้ ข้าวหมากด้วย
- อปุ กรณ์ท่ีใชท้ าข้าวหมาก ควรแยกตา่ งหากจากอปุ กรณ์ที่ใช้ประจาทว่ั ไป
- นา้ ต้อยข้าวหมากออกมากหรอื นอ้ ยขึ้นอยู่กบั เมลด็ ข้าวทีค่ ลกุ เคล้า เมลด็ ขา้ วท่ีคลกุ เคล้าลกู แป้งขา้ ว
หมากแล้วค่อนขา้ งมีเมลด็ ติดกนั น้าตอ้ ยจะออกมามาก แต่ถา้ เมลด็ ขา้ วท่ีคลกุ เคล้าลกู แป้งข้าวหมาก ค่อนแลว้
ข้างแห้งเมลด็ ไมต่ ิดกนั นา้ ต้อยจะออกมาพอดี
๓.๒) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มูล
สอบถามจากผูส้ ืบทอด คน้ คว้าเพม่ิ เติม จากแหลง่ ทม่ี าต่าง ๆ
๔. ช่อื ผทู้ ่ีถือปฏิบตั แิ ละผ้สู ืบทอด
๔.๑ ผู้ท่ีถอื ปฏบิ ัติ
ชอ่ื . นางศรพี รรณ์ วงคส์ าย
วนั เดอื น ปเี กิด -
ท่ีอยู่ 2 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแมส่ าย จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 081 883 8727
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ช่ือ -
วนั เดอื น ปเี กิด -
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพร่หลาย เสี่ยงต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั แิ ลว้
๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
.
-218-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอแม่ฟำ้ หลวง จงั หวดั เชียงรำย
๑. ชื่อข้อมูล เครือ่ งดื่มชา
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล
งานช่างฝมี ือด้ังเดมิ
การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกนั ตัว
๓. รายละเอยี ดข้อมลู
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มลู
ประเภทของชา “ชา” ผลิตจากยอดอ่อนของต้นชา Camellia sinensis (L.) สายพันธุ์ชาท่ีปลูกใน
ประเทศไทยแบ่งได้เป็น 2 สายพันธ์ุใหญ่ ๆ คือ ชาสายพันธุอ์ ัสสัม (Camellia sinensis var. assamica) และ
ชาสายพันธ์ุจีน (Camellia sinensis var. sinensis) ชาอัสสัมเป็นชาพื้นเมืองด้ังเดิมของไทยท่ีพบได้ตามภูเขา
สูงในแถบภาคเหนือ ส่วนชาจีนเป็นชาท่ีนาเข้ามาจากประเทศไต้หวัน และจีน เป็นสายพันธุ์ท่ีได้จากการ
ปรบั ปรุงพันธุ์ ไดแ้ ก่ พนั ธอ์ุ ่หู ลงเบอร์ 17 หรืออูห่ ลงกา้ นออ่ น อหู่ ลงเบอร์ 12 หรือชิงซนิ อ่หู ลง พันธ์สุ ่ฤี ดู พันธ์ุถิ
กวนอิม เป็นต้น ใบชาสดท้ังสายพันธุ์อัสสัมและสายพันธุ์จีนที่นิยมนามาผลิตชาเพ่ือให้ได้คุณภาพดีจะใช้เฉพาะ
ยอดอ่อนของต้นชา นามาเข้ากระบวนการผึ่ง หมัก คั่ว นวด และอบท่ีแตกต่างกัน ทาให้ได้ผลิตภัณฑ์ชาท่ีมีสี
กล่ิน และรสชาติของน้าชาที่แตกต่างกันไป ข้ันตอนการผลิตที่หลากหลาย ซับซ้อน ประกอบกับความชานาญของ
ผู้ผลิตชาแต่ละราย รวมท้ังสายพันธ์ุชา สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้า
ตลอดจนองค์ประกอบทางเคมใี นใบชาสดจะเปน็ ตัวกาหนดคุณภาพและลักษณะเฉพาะของชาชนิดต่าง ๆ
๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเก่ียวกบั ข้อมลู
วิธีการ ประกอบอาหาร (บรรยายพร้อมแนบภาพนิ่งเป็นไฟล์นามสกุล JPEG หรือ TIFF ไม่น้อยกว่า
กระบวนการผลิตชาเรม่ิ จากการเกบ็ ใบชาสด (tea plucking) และนามาเข้ากระบวนการ (processing) ท่ีทาให้
เกิดการหมกั ในระดับที่แตกต่างกนั ไป เมอื่ จัดแบง่ ประเภทชาตามระดบั ของการหมักจะสามารถแบ่งชาได้หลัก ๆ
3 ประเภท คือ ชาเขยี ว (green tea) ชาอู่หลง (oolong tea) และชาดา (black tea)
๔. ช่อื ผู้ทถี่ ือปฏบิ ตั แิ ละผู้สืบทอด
๔.๑ ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ัติ
ชอื่ สหกรณ์การเกษตรแม่สลอง
วนั เดอื น ปเี กดิ -
ทอ่ี ยู่ 73 หมู่ 1 ตาบลแมส่ ลองนอก อาเภอแม่ฟ้าหลวง จงั หวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 053 765 138
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชื่อ -
วนั เดือน ปีเกดิ -
ทอ่ี ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
.
-219-
๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้
๖. รปู ภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม
.
-220-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอเวยี งชัย จังหวดั เชียงรำย
๑. ช่ือข้อมูล แคบหมูแม่จนั ทร์สวย
๒. ลักษณะ
วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกยี่ วกับธรรมชาติและจักรวาล
งานช่างฝมี ือด้งั เดมิ
การละเลน่ พน้ื บ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมลู
๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มูล
แคบหมูเป็นอาหารพ้ืนบ้านที่ชาวล้านนานิยมรับประทานในชีวิตประจาวัน และเป็นส่วนประกอบ
ทส่ี าคัญของอาหารทใี่ ช้ในการต้อนรบั แขกในงานประเพณี งานบุญ งานมงคล งานอวมงคล เปน็ ต้น และยังเป็น
ของฝากที่นักท่องเท่ียวนิยมซื้อติดไม้ติดมือไปฝากญาติผู้ใหญ่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ในทุกโอกาสที่มาท่องเท่ียวทาง
ภาคเหนือ แคบหมูเป็นอาหารที่มคี ุณคา่ ทางอาหารครบถ้วน หากนาแคบหมูมาประกอบอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่
แกงบอน ส้ามะเขือแจ้หรือส้ามะเขือขึ่น ตลอดจนรับประทานเป็นเคร่ืองเคียงกับน้าพริกหนุ่ม น้าพริกอ่อง
นา้ พริกตาแดง ขนมจนี นา้ เง้ียว และสม้ ตา
แคบหมูเป็นอาหารที่ได้จากการนาหนังหมูไปทอดน้ามัน โดยผ่านข้ันตอนต่าง ๆ อันเป็นมรดก
ภูมิปัญญาของชาวบ้านล้านนาไทยสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน แคบหมู คือ หนังหมูทอดกรอบ มีลักษณะ
กรอบพอง มีรสชาตกิ ลมกล่อม และมีกลนิ่ หอมชวนรบั ประทาน
“แคบหมูแม่จนั ทรส์ วย” เรม่ิ ตน้ จากแม่จนั ทร์ และแมส่ วย ท่เี ปน็ เพื่อนกัน ได้เรียนรกู้ ารทาแคบหมูจาก
มารดา และได้มาร่วมมือกนั ทาแคบหมูขายภายในชุมชน ตอ่ มาไดม้ ีการรวมตัวกนั ของกลุ่มแมบ่ ้านภายในชุมชน
ตงั้ กลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชนเพอื่ ทาผลติ ภัณฑแ์ คบหมูมาจาหน่าย นาโดยนางบญุ ตา ขุมเงนิ ซ่งึ เปน็ ทายาทของเจ้าของ
สูตรการทาแคบหมู และเพ่ือเป็นเกียรติต่อเจ้าของสูตรแคบหมู จึงได้นาช่ือของแม่จันทร์ และแม่สวย มาตั้งชื่อ
เป็น “แคบหมูแม่จนั ทร์สวย”
“แคบหมูแม่จันทร์สวย” เร่ิมก่อต้ังมาแล้วกว่า ๒๐ ปี โดยมีผลิตภัณฑ์จาหน่ายอยู่ ๔ รายการ
คือ แคบหมูไร้มัน แคบหมูติดมัน แคบหมูกระจก และแคบหมูป๊อป (โดยใช้ไมโครเวฟในการทาให้สุก) ได้รับ
มาตรฐาน GMP และมี อย.รับรอง เคยได้รับมาตรฐานโอทอป ๕ ดาวระดับประเทศ สามปีซ้อน โดยมีสโลแกน
ของผลิตภัณฑ์ ดังน้ี “แคบหมแู ม่จันทร์สวย กรอบ สะอำด อรอ่ ย”
๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู
ข้นั ตอนการทาแคบหมู
๑. นาหนงั หมูสดมาต้มให้สกุ
๒. ทาการขดู ขนหนังหมอู อกใหห้ มด และนาหนงั หมมู าล้างนา้ ทาความสะอาด
๓. ตัดหนังหมูออกเป็นชนิ้ จากนั้นนาเข้าเครอื่ งตดั ให้เป็นเส้น ๆ
๔. นาเคร่ืองหมูมาปรงุ รสชาติ
๕. นาเครอ่ื งหมูมารวน ด้วยการทอดในนา้ มนั พอให้แตก จากน้ันนามาพัก
๖. นามาทอดในน้ามนั ร้อนใหแ้ คบหมกู รอบ
๗. บรรจุลงในบรรจุภัณฑ์
.
-221-
๔. ชือ่ ผู้ท่ีถือปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผู้ทถ่ี ือปฏิบตั ิ
ช่อื นางบญุ ตา ขุมเงิน
วัน เดอื น ปเี กดิ ๕ สิงหาคม ๒๕๐๕
ท่อี ยู่ ๕๘/๑ หมู่ ๑๙ ตาบลเวียงชัย อาเภอเวียงชยั จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๕ ๒๓๖ ๑๕๕๖
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ชอื่ นางสาวสุภชา ขมุ เงิน
วัน เดอื น ปีเกดิ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๓๙
ทอ่ี ยู่ ๗๘ หมู่ ๑๙ ตาบลเวยี งชยั อาเภอเวยี งชยั จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๕ ๖๘๐ ๓๑๗๗
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสยี่ งตอ่ การสูญหาย ไม่มีปฏบิ ตั แิ ลว้
๖. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
นาหนงั หมมู าตม้ ให้สกุ ทาการขูดขนหนังหมอู อกให้หมด
นาหนงั หมูมาทอดให้กรอบ นาแคบหมูมาบรรจลุ งในบรรจุภณั ฑ์
นางบญุ ตา ขุมเงนิ และผลิตภณั ฑ์
.
-222-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอแม่ฟำ้ หลวง จังหวดั เชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมูล ซาลาเปา ยนู นาน
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัติเกี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝีมอื ดั้งเดมิ
การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตวั
๓. รำยละเอียดขอ้ มลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มลู
ซาลาเปาเป็นอาหารจีนชนดิ หน่ึงทามาจากแป้งสาลีและยีสต์ และนามาผ่านขบวนการนึ่ง ซาลาเปาจะมี
ไส้อยู่ภายในโดยอาจจะเป็นเน้ือหรือผัก ซาลาเปาที่นิยมนามารับประทานได้แก่ ซาลาเปาไส้หมู และ ซาลาเปา
ไส้ครีม สาหรับอาหารท่ีมีลักษณะคล้ายซาลาเปา ท่ีไม่มีไส้จะเรียกว่า หม่ันโถว นอกจากนี้ซาลาเปายังคงเป็น
สว่ นหนึ่งในชุดอาหารตมิ่ ซา ในวัฒนธรรมจนี ซาลาเปาสามารถนามารบั ประทานไดใ้ นทกุ มื้ออาหาร ซง่ึ นิยมมาก
ในม้อื อาหารเชา้
ซาลาเปาได้ช่ือว่าได้รับการคิดค้นข้ึนมาโดย จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง ในคริสต์ศตวรรษท่ี 2 เม่ือจูกัดเหลียง
กลับจากการต่อสู้กับเบ้งเฮ็กแล้วก็เดินทางมากถึงแม่น้าแห่งหน่ึงท่ีคนแถวน้ันเช่ือว่ามีวิญญาณสิงอยู่ใต้น้า
ทหารบอกจกู ัดเหลยี งวา่ ถา้ จะข้ามฟาก ต้องตัดหวั ทหารท้ังหมดเพ่ือบูชาดวงวิญญาณ แต่จูกดั เหลยี งไม่อยากให้
ทหารต้องตายจึงคิดการทาหมั่นโถวขึ้นมา แล้วปล่อยให้ลอยตามน้าเพ่ือบูชาดวงวิญญาณ เม่ือบูชาแล้ว จูกัดเหลียง
ก็พาทหารข้ามสะพานไปยงั พระนครเซงโต๋
๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเกยี่ วกับข้อมูล
ร่อนแป้งสาลี 1-2 ครั้งใส่อ่างผสม เติมยีสต์ผสมให้เข้าด้วยกันแล้วทาแป้งเป็นบ่อตรงกลางพักไว้ผสม
น้าอุ่น, น้าตาลทราย, เกลือป่น คนให้ละลายแล้วเทลงในแป้งท่ีทาเป็นบ่อไว้ค่อย ๆ นวด ผสมแป้งให้เข้ากัน
จากน้ันปิดฝาพักแป้งไว้ให้ข้ึนฟู ประมาณ 40-50 นาที (ทั้งน้ี ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องด้วย ถ้าอากาศเย็นจะทา
ให้ข้ึนช้าหน่อย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการวางอ่างแป้งบนอ่างน้าอุ่น) เม่ือแป้งขึ้นฟู (เป็น 2 เท่า) นาแป้งส่วนท่ี 2
ร่อนกับผงฟู 1 ครั้งเติม ลงในแป้งส่วนที่ 1 ที่ขึ้นฟูแล้วคราวนี้จะต้องนวดแป้ง นวดพอแป้งเข้ากัน เติมเนยขาว
นวดต่อจนเนื้อแป้งเนียนนุ่มและไม่ติดมือ นามาตัดเป็นก้อนๆละ ประมาณ 25-30 กรัม ส่วนนี้ได้ประมาณ
30-35 ลูก แล้วคลึงให้ผิวเรียบเนียน ทาจนหมดทุกลูก วางบนกระดาษขาว คลุมผ้าขาวบางที่ชุบน้าบิดหมาด ๆ
เพ่ือไม่ให้แป้งแห้งวางพักไว้จนขึ้นฟูเป็น 2 เท่า นาไปนึ่งในลังถึงที่น้าเดือดพล่าน (ในลังถึงควรใส่น้า 3/4 ของ
กน้ ลงั ถึง) เวลานง่ึ ประมาณ 10 นาที เปิดลังถงึ แลว้ จงึ ยกลง
๔. ชอื่ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั แิ ละผ้สู บื ทอด
๔.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏบิ ัติ
ช่อื นางเชยี วกุย๋ พรสวรรค์เลศิ
วัน เดือน ปเี กิด -
ที่อยู่ ร้านจาหน่ายอาหารซาลาเปายนู าน บ้านหว้ ยผ้งึ หมู่ ๒ ตาบลแม่สลองใน
อาเภอแม่ฟา้ หลวง จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 053-730 164 , 082 191 5276
.
-๒๒3-
๔.๒ ผ้สู ืบทอด -
ชอ่ื -
วัน เดอื น ปเี กดิ -
ทอี่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพร่หลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ล้ว
๖. รปู ภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
.
-224-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอขนุ ตำล จงั หวัดเชียงรำย
๑. ช่ือข้อมลู ตม้ เต้าหู้ (โจ๊วตะโป่ดับ๊ )
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกี่ยวกับธรรมชาติและจกั รวาล
งานช่างฝีมอื ดั้งเดมิ
การละเล่นพ้นื บา้ น กีฬาพนื้ บ้าน และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล
เจ้าของภูมิปัญญา คือ นางรงุ่ ตพิ ร อาทรประชาชติ ผูใ้ หญบ่ ้าน หมู่ 10 ตาบลยางฮอม อาเภอขุนตาล
จงั หวดั เชยี งราย
ตม้ เต้าหู้ (โจว๊ ตะโป่ดบั๊ ) เป็นเมนูอาหารของชาตพิ ันธอุ์ ิว้ เมี้ยน ที่จะต้องทาในพิธีกรรมต่าง ๆ ซึง่ ได้รับ
การสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
๓.๒) ข้ันตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเก่ยี วกบั ขอ้ มูล
ตม้ เตา้ หู้ (โจ๊วตะโป่ดบ๊ั ) มสี ่วนผสม ดังน้ี
1. เต้าหู้ก้อน
2. เน้ือหมู
3. เกลอื
4. กระเทียม
5. พรกิ ไทยดา
6. รากผกั ชี ตน้ หอม ผกั ชี
7. ขงิ
วธิ ีทา
1. นาหมูมาสบั ให้ละเอยี ด
2. ตาพรกิ ไทย รากผกั ชี กระเทียม ใหล้ ะเอยี ดเข้าด้วยกนั
3. นาข้อ 2 ไปคลกุ กบั เนอื้ หมูท่ีสับไว้แลว้ ใส่เกลือ คลุกให้เขา้ กัน แล้วพักไว้
4. ตัง้ หมอ้ ใช้ไฟกลาง ๆ พอหมอ้ รอ้ นใสน่ ้ามนั หมเู ล็กน้อย พอน้าร้อนใส่นา้ เปลา่ ลงไปพอประมาณ ปรงุ
รสด้วยเกลอื แลว้ ทุบขงิ ใส่ลงไป พอนา้ เดือด นาข้อ 3 ปั้นเป็นคา ๆ ใสล่ งไปในน้าเดือด
5. ใสเ่ ต้าหลู้ งไป เป็นชนั้ ตอนสดุ ทา้ ย ต้มตอ่ ไปจนเดือด แล้วยกลง โรยด้วยต้นหอม ผักชี ตกั ใสถ่ ว้ ย
พรอ้ มรบั ประทาน
.
-225-
๔. ชื่อผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผู้สบื ทอด
๔.๑ ผ้ทู ถ่ี อื ปฏิบัติ
ชอ่ื นางรงุ่ ตพิ ร อาทรประชาชิต
วนั เดอื น ปเี กิด -
ทอ่ี ยู่ หมู่ 10 ตาบลยางฮอม อาเภอขนุ ตาล จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผู้สืบทอด
ช่อื -
วัน เดอื น ปเี กดิ -
ทอี่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย เสี่ยงตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏบิ ตั แิ ลว้
๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-ไม่ม-ี
.
-226-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖4
สำนกั งำนวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอแม่ลำว จังหวัดเชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู นวดจบั เส้น หมอสมุนไพร
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือดัง้ เดมิ
การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกันตัว
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู
หมอนวดจบั เส้นเป็นภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินท่ีมีมาชา้ นาน ซงึ่ ในสมัยก่อน ชาวบ้านทอ่ี อกไปทาไร่ทานา มกั มีอาการ
ปวดเม่ือยกล้ามเนื้อเนื่องจากการทางานหนัก ซึ่งในสมัยก่อนไม่มีแพทย์แผนปัจจุบัน ชาวบ้านจึงต้องพึ่ง
"หมอนวดจับเส้น" ซ่ึงเป็นการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อให้หายจากอาการเจ็บปวด ซ่ึงการนวดมีประโยชน์มาก
ต่อสุขภาพ แตค่ วรพจิ ารณาถึงผ้นู วดและขอ้ ควรระวงั ควรมีการออกกาลงั รว่ มด้วย เพราะจะทาให้สุขภาพแขง็ แรงยิ่งขน้ึ
๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเก่ียวกับขอ้ มลู
การนวดแบ่งตามสรรพคุณออกเป็น 3 อย่าง คือ นวดเพ่ือสนุขภาพ นวดเพื่อการบาบัดรักษาและนวด
เพ่ือการฟื้นฟูสรรถภาพ นอกจากน้ีการนวดแผนโบราณยังแบ่งออกได้ตามกรรมวิธีการนวดเป็น 2 อย่างใหญ่ๆ
คือ นวดเชลยศักด์ิ และนวดราชสานัก บางแห่งแบ่งนวดฝ่าเท้าออกมาต่างหาก นวดเพ่ือส่งเสริมสุขภาพนวด
ได้ทุกคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะการนวดสามารถกระตุ้นระบบต่าง ๆ ของร่างกายทาให้สดช่ืน ผ่อนคลาย
นอนหลับสบาย หากนวดเพื่อการบาบัดรักษา จะมีประโยชน์มากในกลุ่มอาการปวด โดยเฉพาะปวดเมื่อย
ปวดกล้ามเนอ้ื ไมว่ ่าจะเป็นปวดหลัง ปวดคอ ปวดคอ โรคเครียด โรคนอนไม่หลบั
การนวดด้วยยาสมุนไพร เป็นการเสรมิ ความลนื่ ทาใหน้ วดไล้ไปตามลาตวั กลา้ มเน้อื ได้ง่ายขึ้น แตค่ วาม
แรงหรือน้าหนักจะควบคุมลาบาก ส่วนการนวดด้วยน้ามัน หมายถึง น้ามันหอมระเหย เรียกว่า สุคนธบาบัด
เป็นการใช้นา้ มันหอมระเหยท่ีเชื่อว่าผลในการบาบัดรักษาโดยการสูดกล่ินหรือซมึ ผ่านทางผวิ หนัง น้ามันระเหย
แต่ละชนิดมีสรรพคุณต่างกัน เช่น น้ามันช่วยบรรเทาอาการปวดเม่ือย น้ามันลดอาการเครียดกระตุ้นอารมณ์
โรแมนติก เปน็ ตน้
๔. ช่ือผทู้ ถ่ี ือปฏิบัติและผู้สืบทอด
4.๑ ผทู้ ถ่ี ือปฏบิ ัติ
ช่อื นายมา มะโนวนั
วนั เดือน ปเี กดิ -
ท่ีอยู่ 26 หมู่ ๔ ตาบลดงมะดะ อาเภอแมล่ าว จังหวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
.
-227-
4.๒ ผู้สบื ทอด
ชอื่ นางจนั ทร์แสง พุธสี
วนั เดอื น ปีเกิด -
ทอ่ี ยู่ ๕๔ หมู่ ๔ ตาบลดงมะดะ อาเภอแมล่ าว จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพรห่ ลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ลว้
6. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
การนวดจบั เส้นและตอกเส้น ยาท่ีใชน้ วดใช้ยาสมนุ ไพร
การนวดใหบ้ รกิ ารแก่ชาวบ้าน
.
-228-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอแม่ลำว จงั หวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล นา้ เงี้ยว
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือดั้งเดมิ
การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สูป่ ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดขอ้ มูล
๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มลู
น้าเงี้ยว หรือขนมเส้นน้าเง้ียว เป็นอาหารของทางภาคเหนือของไทย มีรสชาติคล้ายน้าพริกอ่อง
หรือคล้ายน้าพริกแกงส้มของทางภาคกลาง จุดเด่นของรสชาติจะอยู่ท่ีส่วนผสมของพริกแกง หรือพริกน้าเงี้ยว
ในแต่ละพ้ืนที่มีส่วนผสมท่ีแตกต่างกัน ทาให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นท่ีน้ัน ๆ เมนูน้าเง้ียว มีขั้นตอน
การทาท่ีไม่ยุ่งยาก มักจะทารับประทานกันโดยทั่วไป หรอื เวลามีงานเลี้ยง โดยจะทาเป็นหม้อใหญ่ เหมาะกับงานท่ีมี
คนจานวนมาก
กลุ่มน้าพริกแม่บ้าน ได้เริ่มต้นจากการแบ่งกลุ่มย่อยมาจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่าก่อดาใต้ เพื่อจด
ทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เพื่อดาเนินกิจกรรมตามความถนัดของแต่ละบุคคล เร่ิมต้นมีกันอยู่ประมาณ 10 คน
ปัจจุบันมีทั้งหมด 25 คน ทางกลุ่มแม่บ้านได้ช่วยเหลืองานของชุมชนโดยตลอด เมื่อทางชุมชนมีงานบุญหรือ
งานอวมงคลขึ้น ทางกลุ่มแม่บ้านต้องทาตาน้าพริกกันเองในทุกครั้ง บางคร้ังเกิดความยุ่งยากในการเตรียมงาน
จึงรเิ รม่ิ ความคดิ ในการทาพริกสาเร็จรูปไว้ เพอ่ื ประหยัดเวลาในการปรุงอาหาร
๓.2) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู
ส่วนประกอบนา้ เง้ยี ว
1. พรกิ แกงน้าเงีย้ ว 500 กรัม
2. ซ่ีโครงหมู 500 กรมั
3. หมบู ด 500 กรัม
4. เลอื ดไก่ 3 กอ้ น
5. มะเขอื เทศสดี า 1 กิโลกรัม
6. ดอกง้วิ ตามชอบ
8. กระเทียมเจียว
9. เครื่องปรงุ – น้าปลา นา้ ตาล (ตามชอบ)
7. ผกั เคยี ง – ผักชตี น้ หอม, ถ่ัวงอก, กะหล่าปลซี อย, พริกแหง้ ทอด (ตามชอบ)
สว่ นประกอบพรกิ แกงนา้ เงี้ยว
1.ถว่ั เน่าแผ่น
2.พริกเมด็ ใหญ่ 1 กโิ ลกรัม
3.พริกเมด็ เล็ก 1 กิโลกรมั
4.หอมแดง
5.กระเทยี ม
6.กะปิ
7.นา้ มนั พชื
.
-๒29-
ขน้ั ตอนการทาน้าเงยี้ ว
1. เริม่ เคีย่ วกระดกู อ่อน รอไว้ใหเ้ ปอ่ื ย
2. ถ้าใสด่ อกงว้ิ ใหแ้ ช่ดอกงว้ิ เตรียมไวป้ ระมาณ 1 ชัว่ โมง เพอ่ื เวลาต้มจะไดเ้ ปื่อยเรว็
3. หัน่ เลือดไก่ มะเขือเทศ เตรยี มไว้
4. นาพริกแกงมาผัดกบั นา้ มันจากการเจียวกระเทยี ม ถ้าไม่มีใชน้ ้ามนั พืชได้
5. นามะเขือเทศไปผดั กบั พริกแกงให้มะเขือเทศสุก
6. เทพริกแกงกับมะเขือทผี่ ดั ไว้ ลงในหม้อน้าซปุ เคี่ยวกระดูก ตามดว้ ยหมูบดและเลอื ดไก่
7. คนทกุ อย่างใหล้ ะลายเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้าปลา นา้ ตาลตามชอบ เม่ือนา้ เดือดให้ลดไฟลง
8. ใส่ดอกงวิ้ ที่แช่น้าลงไปเคย่ี วด้วย เพื่อให้เป่ือย
9. เมื่อทุกอย่างเป่ือยเข้ากนั ให้ลดไฟออ่ น
10. จดั เตรยี มเส้นขนมจนี หรือเสน้ ใหญ่ ไวใ้ นถ้วย ตกั นา้ เงี้ยวราด
11. โดยดว้ ยเครอื่ งเคยี ง กระเจยี มเจยี ว ผกั ต่าง ๆ
ข้นั ตอนการทาพรกิ นา้ เงี้ยว
1. นาพรกิ ไปคั่ว 30-40นาที
2. นาพริกคัว่ ถั่วเนา่ แผ่น หอมแดง กระเทยี ม กะปิ ปน่ั ผสมกนั ใหล้ ะเอยี ด
3. นาส่วนผสมทีป่ ่ันละเอียดแล้ว ไปค่วั น้ามัน 1 ชัว่ โมง
4. นาพรกิ นา้ เงยี้ วทีค่ ว่ั แล้ว ข้ึนผึ่งใหเ้ ยน็
5. นาไปประกอบอาหาร หรอื บรรจลุ งบรรจภุ ัณฑ์
๔. ช่อื ผู้ท่ีถอื ปฏิบัติและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติ
ช่อื นางสุพนิ สิงหนาท
วนั เดอื น ปีเกดิ -
ที่อยู่ 222 หม่ทู ี ๘ ตาบลป่ากอ่ ดา อาเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ๒๗๒๕๐
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๔-๖๑๖-๕๔๔๘
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ช่อื อาพร พรหมะศรี
วัน เดอื น ปเี กดิ ปพี .ศ.๒๕๐๘
ท่อี ยู่ ๒๑๘ บ้านป่าก่อดาใต้ หมู่ที่ ๘ ตาบลป่าก่อดา อาเภอแม่ลาว จังหวดั เชยี งราย ๒๗๒๕๐
หมายเลขโทรศัพท์ 087-302-4629
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย เสย่ี งต่อการสูญหาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ลว้
๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
.
-230-
“ตัวอย่างผลติ ภัณฑ์พรกิ น้าเงี้ยว”
“การตากแหง้ พริก และ พรกิ แหง้ ท่ีไดจ้ ากการตาก”
“กลมุ่ แมบ่ า้ นกาลังบรรจุพริกนา้ เงยี้ วลงบรรจุภณั ฑ์”
.
-231-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอเวยี งแก่น จงั หวดั เชียงรำย
๑. ช่ือข้อมลู นา้ พรกิ ซั่มจน้ิ
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ิเกีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือด้งั เดิม
การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดขอ้ มลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล
เมอื่ ประมาณปี พ.ศ.2460 รอ้ ยกวา่ ปที ่ีแล้ว มพี อ่ อยุ้ หม่อนวงค์ รบิ ตะ๊ ท่านเป็นพ่อหลวงบา้ น สมยั แต่
ก่อนในหมู่บ้านมีงานจะมีการล้มวัว ควายหรือหมูชุมกัน ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่เพื่อนาไปประกอบอาหาร
ก็จะนาเน้ือที่ฆ่าไปแจ้งข่าวให้แก่ชาวบ้าน โดยเฉพาะงานวันสาคัญ เช่น ป๋ีใหม่ เมือง , วันเข้าพรรษา ,
ออกพรรษา ได้จี้น (เนื้อ) เยอะมากไม่รู้ทาอย่างไร เน้ือที่มีรับบริโภคไม่ทันเพราะไม่มีท่ีเก็บทาให้จ้ิน (เนื้อ)
มีกลิ่นตุๆ เลยจุดประกายความคิดข้ึนมาโดยการนาเอาจ้ิน (เนื้อ) มาหมักโดยการห่อใบตองแล้วนาไปตากแดด
สองแดด จะมีกล่ินของจิ้น (เนื้อ) ออกมาตุๆ นามาย่างให้สกุ หอม เพือ่ จะมาตาเปน็ “นา้ พริกซม่ั จิ้น”
“น้าพริกซ่ัมจิ้น” เป็นวิธีการถนอมอาหารแบบหนึ่งที่เป็นภูมิปัญญาทางด้านอาหารที่มีการสืบทอด
กันมาต้ังแต่บรรพบุรุษ เนอื่ งจากเน้อื สัตว์ท่ีมีปริมาณที่มาก บรโิ ภคไมท่ นั จงึ ได้คดิ วธิ กี ารถนอมอาหารให้ออกมา
ในรูปแบบน้าพริกจิ้นเก็บไว้รับประทานในครอบครัว โดยมีวัตถุดิบหลักจากเน้ือสัตว์ (วัว ควาย หรือหมู)
ประกอบกบั ผกั สมนุ ไพรในท้องถ่ิน เช่น ขา่ กระเทยี ม หอมแดง นามาแปรรปู เป็น “น้าพริกซ่ัมจิ้น”
เป็นอาหารของชาวไทล้ือ ซึ่งเป็นการการถนอมอาหารวิธีหน่ึง ที่เป็นภูมิปัญญาทางด้านอาหารท่ีมี
การสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีวิถีการดารงชีวิตในการใช้พืชผักสมุนไพรในท้องถ่ิน หรือพืชผักสวนครัว
ท่ีปลกู เองตามฤดกู าล นยิ มประกอบอาหารใช้น้ามันน้อย และใช้เกลอื ในการปรงุ รส
๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเก่ียวกบั ข้อมลู
สว่ นประกอบ
1. เน้ือสตั ว์ 1 กิโลกรมั
2. ขา่ ห่ันฝอย 2 ขดี
3. ใบมะกรูดหนั่ ฝอย 1 ขดี
4. กระเทยี มเจียว 1 ขดี
5. หอมแดง 1 ขีด
6. พริกแห้งคั่วป่น 2 ขีด
7. เกลือปน่ 1 ช้อนโตะ๊
8. ผงชรู ส ½ ชอ้ นชา
.
-232-
ข้นั ตอนกำรทำ
๑. นาเนือ้ ววั หรอื เน้ือควายทผี่ า่ นการหมักเรยี บรอ้ ยแล้ว นามานงึ่ ใหส้ ุก จากนนั้ นาไปยา่ งด้วยไ
ฟอ่อนให้หอม เมื่อยา่ งเสร็จแลว้ นามาทุบหรอื ตาให้ยุย่ เสรจ็ แล้วพักไว้
๒. โขลกกระเทียม ซอยหอมแดง ข่า จากนั้นนามาเจียวด้วยน้ามันให้เหลืองและมีกล่ินหอม
เสรจ็ แล้วพกั ไว้
๓. นาวัตถุดิบทุกอย่าง (เนื้อย่างท่ีทุบหรือตาจนยุ่ย กระเทียม หอมแดง ข่า และพริกป่น) ลงมาผัด
รวมกันด้วยไฟออ่ นจนมกี ล่นิ หอม
๔. ชอ่ื ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั แิ ละผู้สืบทอด
๔.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏิบัติ
ช่อื นางอัมพร แกว้ สุข
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ท่ีอยู่ 25/3 หมู่ 5 ตาบลทา่ ขา้ ม อาเภอเวยี งแกน่ จังหวดั จงั หวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 089 999 6444
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชือ่ อ -
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ท่อี ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอย่างแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ีปฏบิ ัติแลว้
๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
สว่ นประกอบ เน้ือยา่ ง
วิธีทา (การผัดน้าพริก) พรกิ ซมั่ จน้ิ
.
-233-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอแมฟ่ ำ้ หลวง จงั หวดั เชียงรำย
๑. ชือ่ ข้อมลู นา้ พริกทราย
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั เิ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝีมอื ดง้ั เดมิ
การละเล่นพืน้ บ้าน กีฬาพืน้ บ้าน และศิลปะการต่อสู่ป้องกันตวั
๓. รายละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมูล
บ้ำนเทดิ ไทย ตงั้ อยูท่ ีต่ าบลเทอดไทย อาเภอแมฟ่ ้าหลวง จงั หวดั เชยี งราย ประชาชนทพ่ี ักอาศัยอยู่ใน
หมูบ่ ้านสว่ นใหญ่เปน็ ชาวไทยใหญ่ และมีคนพน้ื เมอื งเดิมอย่รู วมกัน
อาหารพื้นบ้านส่วนใหญ่จึงมีลักษณะผสมผสานระหว่างอาหารพื้นเมือง และอาหารไทยใหญ่
โดยเฉพาะนา้ พริกทราย ผลิตขนึ้ เป็นสูตรแบบไทยใหญ่ โดยได้ใช้วตั ถดุ ิบท่ีมีอยู่ในชุมชน เพื่อได้นาไปเป็นอาหาร
รับประทานเวลามีงานพิธีต่าง ๆ เพื่อต้อนรับแขกท่ีมาจากต่างท้องท่ี และเพื่อเป็นของฝาก มีกระบวนการผลิต
ไม่ทาลายธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมผลิตภัณฑ์มีรสชาติอร่อยสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน วัตถุดิบหาได้ง่าย
ในชุมชน
๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเก่ียวกับข้อมลู
นาพริกแห้งทเ่ี ดด็ กา้ น และกระเทียมท่ีแกะเปลือกแล้วมาโขลกจนละเอยี ด หอมแดงแกะเปลอื กซอย
เป็นแผ่นบาง ๆ ถว่ั เนา่ แผน่ ป้งิ ให้หอมแล้วนามาตา กุ้งแห้ง ปลาย่าง ลา้ งแลว้ ผึ่งให้แหง้ แล้วนามาตาให้ละเอยี ด
นากระเทยี ม หอมแดง มาทอดให้เหลอื งแล้วพักทิ้งไว้ให้สะเดด็ น้ามัน โดยใหน้ ้ามันเหลือติดกระทะไว้เลก็ นอ้ ย
นาน้าพริก ถว่ั เน่า และกุ้งทโ่ี ขกละเอยี ดแลว้ มาคั่วรวมกนั โดยใชไ้ ฟอ่อน ๆ เม่ือหอมได้ที่ใส่กระเทียมและหอม
ท่ที อดไวแ้ ลว้ นามาคั่วรวมกัน ใส่เกลอื ปรุงรส คลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กนั จากน้ัน ท้งิ กระทะไว้ให้น้าพรกิ เย็น จงึ ตักใสถ่ ุง
บรรจุจาหนา่ ยตอ่ ไป
๔. ชื่อผทู้ ่ีถือปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด -
๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏบิ ัติ -
ชือ่ -
วัน เดือน ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผู้สืบทอด -
ชอ่ื -
วัน เดือน ปเี กิด
ทอี่ ยู่
หมายเลขโทรศัพท์
.
-234-
๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้
๖. รปู ภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม
.
-235-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอแมส่ ำย จังหวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล นา้ พริกนา้ ผัก
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ กยี่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝีมอื ดง้ั เดิม
การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั
๓. รำยละเอียดขอ้ มลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมูล
น้าพริกน้าผัก เป็นอาหารของกลุ่มชาติพันธ์ ไทยลื้อ เกิดจาก ภูมิปัญญาการถนอมและแปรรูปอาหาร
อย่างหน่ึงของชาวไทลื้อ ได้จากการนาผักในสวนครัว ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ผักกาดจ้อน (ผักกาดกวางตุ้งโดยการ
นาผกั กาดดอก มาลา้ งทาความสะอาด แล้วนามาปัน่ จนละเอยี ด ดองไว้ 3วนั 3 คืน จนมีรสเปรย้ี ว นามาเคยี้ ว
บนไฟออ่ น จนไดท้ ่ี มีนา้ คุกคลิก เก็บไว้ นามาทาเปน็ น้าพริก เรยี กว่านา้ พริกน้าผัก เป็นอาหารเจ หรือจะกินกับ
ปลายา่ ง หรือหมูทอดก็ได้
๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเก่ยี วกับข้อมูล
สว่ นผสม
- กระเทยี ม
- พริกแห้งคัว่ จนหอม
- มะแขว่ น
- เกลือ
- รากผกั ชี/ลูกผักชดี บิ
วธิ ที า
นาส่วนผสมทง้ั หมดมาโขลกรวมกันจนละเอียด แลว้ นานา้ ผกั ทีเ่ คย้ี วไว้มาโขลกรวมกนั ปรงุ รสตามชอบ
๔. ชอื่ ผู้ท่ีถือปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผู้ที่ถือปฏิบตั ิ
ช่ือ นางดี กนั กอบ ผูเ้ ปน็ มารดา
วัน เดอื น ปเี กิด -
ท่อี ยู่ 117 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแม่สาย จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๑ ผทู้ สี่ บื ทอด
ชือ่ นางศริ ิลกั ษณ์ ภเู ช้อื
วนั เดอื น ปเี กิด -
ทอี่ ยู่ 117 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแม่สาย จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
.
-๒๓6-
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไม่มีปฏบิ ตั ิแลว้
๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
.
-237-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4
สำนักงำนวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย
อำเภอแม่ลำว จังหวัดเชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู น้าอ้อยค้ันสด
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัติเกีย่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล
งานช่างฝมี ือดง้ั เดมิ
การละเลน่ พนื้ บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมูล
เมื่อปี 2557 เชียงรายเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ถึงขนาด 6.3 ท่ีอาเภอแม่ลาว เหตุการณ์ครั้งนี้ทาให้เกิด
น้าลาวาและช้นั หินผดุ ทาให้ยากตอ่ การทาเกษตร วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกอ้อยอินทรีย์เชียงรายและสมุนไพรจงึ นา
อ้อยสายพันธ์ุ “สุพรรณบุรี 50” มาปลูกทาให้ได้อ้อยลาใหญ่ รสชาติหวานหอมอย่าง ย“อ้อยลาวา” เริ่มจาก
การคัดเลือกพันธุ์อ้อยจากศูนย์วิจัยพืชไร่อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สายพันธ์ุคั้นน้า “สุพรรณบุรี 50” สามารถ
ให้น้าอ้อยเฉลี่ยได้ถึง 4,913 ลิตรต่อไร่ นามาบ่มควบแน่นให้รากงอก ก่อนนาไปเพาะในถุงด้วยอินทรียวัตถุ
ในสวน เมื่อกล้าอ้อยมีอายุครบ 25 วัน จึงนาไปปลูกบรเิ วณแปลงเพาะปลูกอยา่ งประณีต โดยใช้เทคนิคเฉพาะ
การดูแลใส่ใจด้วยระบบอินทรีย์ นอกจากจะเป็นอ้อยที่ลาใหญ่ รสชาติหอมหวานแล้ว อีกจุดเด่นของอ้อยลาวา
คอื ปลกู ในฟาร์มอินทรยี ์ PGS ORGANIC ท่ไี ดร้ ับรองจากมูลนธิ ิเกษตรอนิ ทรียไ์ ท
การเพาะอ้อยกว่าจะสาเรจ็ ตอ้ งใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก ต้องผิดหวังซ้าแล้วซ้าเล่า การสั่งจองพันธ์ุ
มาแต่ละรอบ ๆ ละ 100 ขอ้ ตา ช่วงฤดหู นาว อากาศหนาวจัด รากไมง่ อก เหลือรอดเพยี ง 7 ถงุ หรือแมแ้ ตก่ าร
รดน้ามากเกินไปก็ทาให้เกิดการเน่าเสียได้ ให้ฝึกการสังเกต ค้นหาสาเหตุ โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ช่วยให้เกิด
การเรียนรแู้ ละลงมือทาอยา่ งสมา่ เสมอ จนสาเรจ็ ได้ลาออ้ ยท่ีสวยสมบรู ณพ์ รอ้ มค้นั นา้ ให้ทกุ คนได้ด่ืม
๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู
วัสด/ุ อุปกรณ์
- ออ้ ยสด - มีด 2 คม - มีดอโี ต้
- เครื่องรดี นา้ อ้อย - มีดพรา้ - สายยาง
- ขวดพลาสติก - ผา้ ขาวบาง - ถงั
- ถังแช่เย็น
ขัน้ ตอน/วธิ ที า
1. ปลอกอ้อย
2. ล้างออ้ ยท่ปี ลอกดว้ ยนา้ สะอาด
3. นาออ้ ยไปผึง่ ใหส้ ะเดด็ นา้
4. นาออ้ ยที่ล้างเสรจ็ สะเดด็ น้าแล้ว นาเข้าหีบหรือเคร่ืองรดี นา้ ออ้ ย เพ่ือรีดน้าอ้อย
5. นาน้าออ้ ยทไ่ี ดไ้ ปกรองดว้ ยผา้ ขาวบาง 2-3 ครั้ง
6. ใชส้ ายยางกรอกนา้ ออ้ ยลงขวด เสร็จแล้วปิดฝา
หมำยเหตุ : ควรคั้นน้าอ้อยในสภาพอากาศท่ีเย็น เช่น ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น เพราะอากาศร้อนจะทา
ให้นา้ ออ้ ยบดู เสยี ได้
.
-238-
๔. ชื่อผ้ทู ่ีถอื ปฏิบัติและผู้สืบทอด
4.๑ ผทู้ ่ถี ือปฏิบตั ิ
ชื่อ ศวิ ตา เตชะเนตร (สวนวมิ านดนิ )
วนั เดือน ปเี กิด -
ท่ีอยู่ 103 หมู่ท่ี 8 ตาบลจอมหมอกแกว้ อาเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 091 0695915 / 085 348 7991
4.๒ ผู้สืบทอด
ชื่อ กลุ่มผูป้ ลูกอ้อยอินทรยี ์เชียงราย จานวน 20 ครอบครวั
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่มีปฏบิ ตั แิ ลว้
6. รูปภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
“อ้อยลาวา”
อ้อยลาวาให้ลาอ้อยท่ีใหญ่ นา้ ออ้ ยค้ันสด
.
-239-
การสาธติ การคน้ั น้าอ้อยและการใหค้ วามรเู้ กี่ยวกับการปลกู ออ้ ยลาวาใหแ้ ก่
กลมุ่ ผปู้ ลกู อ้อยอินทรียเ์ ชียงราย จานวน 20 ครอบครัว