-๑41-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย
สำนกั งำนวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอแมส่ ำย จังหวดั เชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมูล ประเพณบี วงสรวงพระเจ้าพรหมมหาราช
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝมี ือดงั้ เดิม
การละเลน่ พนื้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตวั
๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมลู
พระเจ้าพรหมมหาราช พระองค์พรหมราช หรือ พรหมกุมาร เป็นราชบุตรของ พระองค์พังคราช
กษัตริย์เมอื งโยนกนครไชยบรุ รี าชธานีศรชี ้างแสน่ ประสตู ริ าว พ.ศ. 1555 ถงึ พ.ศ. 1632 ซึง่ เป็นเมอื งในที่ลุ่ม
แม่น้ากก แต่มีหลักฐานท้องถิ่นระบุว่าพระองค์ประสูติใน พ.ศ. 1655 ที่เวียงสี่ทวง (ตาบลเวียงพางคา อาเภอ
แม่สาย จังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน) และส้ินพระชนม์ใน พ.ศ. 1732 พระองค์มีพระปรีชาสามารถด้านการรบ
สามารถตีเอาเมืองโยนกนครไชยบุรีราชธานีศรีช้างแส่น คืนได้จากพระยาขอม (ขอมดา จากเมืองอุโมงคเสลานคร)
ซึ่งยกทัพมาชิงเมืองโยนกในสมัยพระองค์พังคราช พระองค์เป็นมหาราชผู้ประเสริฐ ได้ทานุบารุงบ้านเมือง
ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น กว่าแต่ก่อนทุก ๆ ด้านเป็นอันมากในการปกปักษ์รักษาบ้านเมืองให้อยู่รอด มีความมั่นคง
แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับอริราชศัตรู พระองค์ทรงเสริมสร้างป้อมคูประตูหอรบ ขยายอาณาเขตให้กว้างขวาง
ยิ่งข้ึน คุณธรรมความดีอันเป็นพื้นฐานแห่งมหาบารมีบุญญาธิการของพระองค์ จ้าบรรเจิดซาบซึ้งสิงอยู่ในจิตใจ
ชาวไทยลานนา และไทยในทุกแว่นแคว้นแห่งดินแดนสุวรรณภูมิ พระองค์จึงทรงได้รับสมัญญานามจากดวงใจ
อันเบิกบานผ่องใส เต็มไปด้วยความจงรกั ภกั ดีของชาวไทยในยคุ นัน้ และยุคต่อมาวา่ “องคป์ ฐมมหาราชไทย”
ดงั นน้ั จงั หวดั เชยี งราย โดยอาเภอแมส่ ายกาหนดจัดประเพณีบวงสรวงพระเจ้าพรหมมหาราช ระหวา่ ง
วันท่ี ๒๓ - ๒๔ กุมภาพันธ์ เป็นประจาทุกปี บริเวณหน้าพระบรมราชานุเสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช
ณ ท่ีว่าการอาเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ่อค้า
นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวแม่สาย ได้ร่วมกันประกอบพิธีถวายเคร่ืองสักการะแบบล้านนา และ
บวงสรวงพระเจ้าพรหมหาราช สาหรับในพิธีมีการตกแต่งนาเอาเคร่ืองสักการะ ประกอบด้วยเคร่ืองบวงสรวง
บายศรีเทพบานศรพี รหม บายศรีหลัก บายศรีตอ บายศรีปากชาม เคร่ืองสักการะพานพุ่มดอกไม้สดเครื่องบชู า
อญั เชิญ หมากเบ็ง สมุ่ ปู ต้นเทยี น ต้นออ้ ย เครอื่ งเซ่นไหว้ อาหารคาวหวานหลากหลายชนดิ มาถวายสกั การะแด่
พระองค์ท่านอันเป็นเครื่องหมายแห่งความกตัญญูอยู่รู้คุณเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมราลึกถึง
พระมหากรณุ าที่คณุ ของพระองคท์ ่านอีกด้วย
การฟ้อนเพ่ือถวายแด่พระเจ้าพรหมมหาราชเป็นการเทิดพระเกียรติ และน้อมราลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ของพระเจ้าพรหมมหาราชที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้รอดพ้นจากการปกครองของขอมดา และได้รวบรวม
หัวเมืองน้อยใหญ่สร้างบ้านแปลงเมืองเป็นอาณาจักรล้านนา พระองค์ทรงทานุบารุงพระพุทธศาสนาให้
เจริญรุ่งเรืองทรงส่งเสริมการชลประทาน การเกษตร การอาชีพการทหาร และการป้องกันเมือง ทรงขุดคูเมือง
ลอ้ มรอบ เปน็ แบบอยา่ งของการสรา้ งบา้ นแปลงเมืองในยคุ ต่อมาคุณปู การนานปั การ พระองค์ที่มีตอ่ ชาวล้านนา
จนไดร้ ับสมัญญานามพระเจ้าพรหมมหาราชอันเป็นกษัตรยิ ท์ ี่ได้รับสมญั ญานามมหาราชพระองค์แรกของชาติไทย
-142-
๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเก่ียวกบั ข้อมูล
อาเภอแม่สายกาหนดจัดประเพณีบวงสรวงพระเจา้ พรหมมหาราช ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๔ กุมภาพันธ์
เป็นประจาทุกปี บริเวณหน้าพระบรมราชานุเสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช ณ ท่ีว่าการอาเภอแม่สาย
จังหวัดเชียงราย โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า นักเรียน นักศึกษา และ
ประชาชนชาวแมส่ าย ได้รว่ มกนั ประกอบพิธถี วายเคร่ืองสักการะแบบล้านนา และบวงสรวงพระเจ้าพรหมมหาราช
สาหรับในพิธีมีการตกแต่งนาเอาเครื่องสักการะ ประกอบด้วยเครื่องบวงสรวง บายศรีเทพบานศรี
พรหม บายศรีหลัก บายศรีตอ บายศรีปากชาม เครื่องสักการะพานพุ่มดอกไม้สดเคร่ืองบูชาอัญเชิญ หมากเบ็ง
สุ่มปู ต้นเทียน ต้นอ้อย เครื่องเซ่นไหว้ อาหารคาวหวานหลากหลายชนิดมาถวายสักการะแด่พระองค์ท่านอัน
เป็นเครอ่ื งหมายแห่งความกตัญญูอยรู่ ู้คุณเพ่ือเปน็ การเทิดพระเกยี รติและน้อมราลึกถึงพระมหากรุณาท่ีคุณของ
พระองค์ท่านอีกด้วย พร้อมท้ังมีกลุ่มสตรีในอาเภอแม่สาย กว่า 1,000 คน ฟ้อนเพื่อถวายแด่พระเจ้าพรหม
มหาราช เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และน้อมราลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าพรหมมหาราชที่
พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้รอดพ้นจากการปกครองของขอมดา และได้รวบรวมหัวเมืองน้อยใหญ่สร้างบ้าน
แปลงเมอื งเปน็ อาณาจักรลา้ นนา
4. ชอื่ ผู้ท่ีถือปฏิบตั ิและผ้สู ืบทอด
4.๑ ผูท้ ่ีถอื ปฏบิ ตั ิ
ช่ือ นางสาวกฤตพร สุขสกั
วัน เดือน ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ ๖๘ หมู่ ๘ ตาบลแมส่ าย อาเภอแม่สาย จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๗๓๑ ๒๘๘
4.2 ผสู้ ืบทอด
ชือ่ - -
วนั เดือน ปีเกดิ -
ทอี่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอย่างแพร่หลาย เสยี่ งต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏิบัตแิ ลว้
6. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-143-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอเวยี งเชียงรุ้ง จงั หวดั เชียงรำย
๑. ชอ่ื ข้อมูล ประเพณบี ญุ บ้งั ไฟตาบลดงมหาวนั
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝมี อื ดัง้ เดิม
การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั
๓. รายละเอียดขอ้ มูล
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มูล
ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นวัฒนธรรมประเพณีชาวอีสาน ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นความเชื่อใน
ด้านความเป็นอยู่ และวิถชี ีวติ ของชุมชน
ตาบลดงมหาวัน เดิมเป็นหมู่บ้านชาวพื้นเมืองล้านนาเป็น ส่วนใหญ่ และมีชาวอีสานที่อพยพมาจาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทาให้มีวัฒนธรรมของชาวอีสานในตาบลดงมหาวัน คือ ประเพณีบุญบ้ังไฟ เพื่อให้
เป็นการอนุรักษ์ ประเพณีให้ย่ังยืน และสร้างความสามัคคีในชุมชนให้อย่างยืน ตาบลดงมหาวัน ได้ร่วมกันจัด
ประเพณีบุญบ้ังไฟตาบลดงมหาวัน โดยการมีส่วนร่วมของหมู่บ้านท่ีเป็นคนพื้นเมืองล้านนา และคนอีสาน
ตลอดจนเปน็ การสง่ เสริมการท่องเทีย่ วทางวฒั นธรรม โดยมกี ารจดั งานข้นึ ทุกปี ในเดือนพฤษภาคมของทกุ ปี ซง่ึ
จัดเป็นงานบุญเดือนหก ตามฮีตสิบสองครองสิบส่ี ซึ่งจัดในพ้ืนท่ีตาบลดงมหาวัน ซ่ึงเป็นสถานที่ท่ีมีความ
เหมาะสมในการจดั งานในแต่ละปี
ประชาชนในตาบลดงมหาวัน ของแตล่ ะหม่บู า้ นจะจดั เตรียมขบวนแห่ ตกแต่งเอ้หรอื บั้งไฟ โดยการจัด
งานเปน็ เวลา ๒ วัน วันแรกมพี ิธีกรรมทางศาสนา และพธิ บี ชู าพญาแถน, การแห่ขบวนบั้งไฟ ของ ๑๑ หมู่บา้ น,
การประกวดการตกแต่งบ้ังไฟ, การประกวดท้าวผาแดง-นางไอ่คา, การประกวดลาบและส้มตาลีลา, การราเซิ้ง
การละเล่นตา่ ง ๆ และการแข่งขันจดุ บั้งไฟ
ชาวอีสานทาบุญบ้ังไฟตามความเชื่อว่าบนฟ้ามีสิ่งศักด์ิสิทธ์ิหรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “พญาแถน” ซ่ึงก็
คือเทวดาน้ันเองคอยประทานฟ้าฝน ความอุดมสมบูรณ์แห่งฤดูกาล ข้าวปลาอาหารธัญญาหารให้ บั้งไฟคือ
เครื่องบูชาหรืออุปกรณ์ท่ีจะไปบอกกล่าวให้พญาแถนทราบว่าชาวโลกยังให้ความเคารพ นับถือบูชาไม่เคยขาด
ขอจงดลบันดาลหรอื ประทานฟา้ ฝนใหต้ ามต้องการดว้ ย
๔. ชอื่ ผทู้ ่ีถือปฏิบัติและผู้สบื ทอด
๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏบิ ัติ
ชอ่ื องค์การบริหารส่วนตาบลดงมหาวนั อาเภอเวยี งเชยี งรงุ้ จังหวัดเชยี งราย
วนั เดอื น ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ องค์การบรหิ ารส่วนตาบลดงมหาวัน อาเภอเวียงเชยี งรงุ้ จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๑๗๒ ๑๓๐
๔.๒ ผู้สืบทอด -๑44-
ชอ่ื ประชาชน และเครือข่ายศาสนา ศลิ ปวฒั นธรรม ในพ้นื ที่ตาบลดงมหาวนั
วัน เดือน ปเี กดิ
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
-
๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไมม่ ีปฏบิ ัติแล้ว
๖. รปู ภาพภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม
งานบุญบงั้ ไฟตาบลดงมหาวัน และพิธีเปิดงานในแตล่ ะปี
การแสดงศิลปวัฒนธรรม
พิธีทางศาสนา และพธิ ีบชู าพญา ขบวนบั้งไฟ
แถน
ขบวนแห่ การประกวดทา้ วผาแดง - นางไอ่
-145-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอแม่จนั จังหวัดเชียงรำย
๑. ช่ือข้อมูล ประเพณีปใี หมเ่ ขาะจาเว
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั ิเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานช่างฝีมือดง้ั เดมิ
การละเลน่ พ้นื บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู่ป้องกนั ตัว
๓. รำยละเอยี ดข้อมูล
๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของขอ้ มลู
พื้นท่ีตาบลป่าตึงเป็นพื้นท่ีที่มีความหลากลายทางชาติพันธ์ุสูง ประกอบด้วย กลุ่มคนพ้ืนเมืองร้อยละ 50
ของประชากรและกลุ่มชาติพันธ์ุ รอ้ ยละ 50 ของประชากรซ่ึงประกอบดว้ ย อาขา่ (อีก้อ) ลาหู่ (มเู ซอ) อวิ้ เม่ยี น
(เยา้ ) ลซี ู (ลซี อ) ไทยใหญ่ (เงยี้ ว) ปะหล่อง ล๊วั ะ วา้ และจนี ฮอ่ อสิ ระ
ประชากรตาบลป่าตึง สามารถอยู่และดาเนินวิถีชีวิตร่วมกันเรื่อยมาได้ด้วย การใช้ประโยชน์และเห็น
ความสาคัญของวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกัน การจัดประเพณี ปีใหม่ เขาะ จา เว จึงเป็นการสร้างความเข้าใจอันดี
งามระหวา่ งกล่มุ ชาตพิ ันธ์ตา่ งๆในพ้ืนท่ตี าบลปา่ ตึงและเปน็ การส่งเสรมิ การท่องเท่ยี วอีกด้วย
๓.๒) ข้ันตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกี่ยวกบั ข้อมูล
ประเพณี“เขาะจาเว”คือ พิธีฉลองปีใหม่ของชาวไทยภูเขา (พ้ืนที่สูง) ซึ่งเป็นประเพณีหรือ
ขนบธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาของชนเผ่าต่างๆ 9 ชนเผ่า ประกอบด้วย ชนเผ่าอาข่า ชนเผ่าลาหู่(มูเซอ)
ชนเผา่ ลีซ(ู ลซี อ) ชนเผา่ ล๊ัวะ และชนเผ่าจนี โดยแตล่ ะชนเผา่ จะประกอบ พธิ กี รรมประเพณหี รือขนบธรรมเนียม
ที่บรรพบุรษุ ไดส้ ืบทอดกันมาของชนเผ่าน้ัน ๆ โดยจัดขน้ึ ในวนั ขึ้น 1 ค่า เดอื น 3 (กมุ ภาพันธ์) ตามความเช่ือว่า
การได้ทาพิธี“เขาะจาเว”หรือการไหว้เทพพระเจ้าท่ีแต่ละชนเผ่านับถือ (ไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา) ให้ปกปักรักษา
คุ้มครองตนเอง ครอบครัว ให้อยู่อย่างเป็นสุขอย่าได้มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนและรวมถึงการขอบคุณ
ในการให้ความอุดมสมบูรณ์แก่พืชพันธุ์ธัญญาหารของชนเผ่าท่ีมีผลผลิตที่เจริญงอกงามของปีที่ผ่าน พิธีกรรม
พิธีการจะทาหลังตรุตจีนประมาณ ๗ วัน และจะใช้เวลาอีก ๑๕ วันของแต่ละชนเผ่ารวมถึงการเชิญแขก
ต่างบ้านต่างถิ่นมาร่วมงาน มีงานเล้ียงในหมู่บ้านที่เรียกว่า“กินวอ”มีการละเล่นร่ืนเริงหรือการแสดงชนเผ่า
ที่นิยมกันเรียกว่าเต้น“จะคึ”มีกิจกรรมในครอบครัว เช่นการจัดห้ิงบูชาพระเจ้าท่ีตนเคารพนับถือภายในบ้าน
การตาข้าวปุก การตักน้าศักดิ์สิทธิ์ การดาหัวผู้สูงอายุหรือผู้อาวุโสการปลกู ต้นปีใหม่(มีการเต้นรารอบต้นปีใหม่
ทุกคืน การทาพิธีขอพรจากเทพเจ้า (หงื่อชา) สรุปความเป็นมาประเพณี“เขาะจาเว” คือการรวมเอากิจกรรม
ของชนเผ่าทั้ง 9 ชนเผ่า ที่มีพิธีกรรมการไหว้เทพพระเจ้าเชน่ เดียวกันเข้ามาจัดร่วมกันเป็นงานประเพณีประจา
ตาบลหรือท้องถ่ิน ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา โดยมีองค์การบริหารส่วนตาบลป่าตึงสนับสนุนงบประมาณ
ในการจดั งาน
-146-
ควำมมุง่ หมำยของประเพณี
เพื่อเป็นการฟ้ืนฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามด้ังเดิมของชาวไทยภูเขา การส่งเสริมการ
ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การประชาสัมพันธ์เผยแพร่วัฒนธรรมชนเผ่าต่าง ๆ ให้เป็นท่ีรู้จักแก่บุคคลทั่วไป อีกท้ัง
ยังได้ให้เด็ก ๆ และเยาวชนรุ่นหลังได้เห็นคุณค่าและยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันไป เพื่อไม้ให้สูญหาย อีกทั้งยังเป็น
การปลูกฝงั ความรกั ความสามคั คขี องคนในครอบครวั และหมู่คณะอีกด้วย
ควำมเช่ือที่เก่ยี วข้อง
การจดั งานประเพณ“ี เขาะจาเว” มคี วามเชื่อวา่ เปน็ การเรมิ่ ตน้ ปีใหม่ของชนเผา่ ที่ชนเผ่าทั้ง 9 ชนเผ่าได้
ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน เม่ือเร่ิมต้นปีใหม่ก็ต้องประพฤติปฏิบัติตัวแต่สิ่งท่ีดีท่ีเป็นมงคลแก่ตัวเอง
ทาความดี เคารพผอู้ าวุโส (ผูส้ ูงวัย) เคารพส่ิงท่ีบรรพบุรุษนับถือมาแต่ดงั่ เดิม ขอพรปีใหม่จากเทพเจ้าให้อยู่เย็น
เป็นสุข ทาอาชีพอะไรก็ขอให้ได้ดี เช่น ทาอาชีพค้าขายก็ให้ค้าขายดี และหากทาการเกษตรก็ขอให้ได้ผลผลติ ท่ี
งอกงาม ซึง่ เชื่อว่าเทพเจ้าจะให้พรแก่ผู้ขอพรในปใี หม่
๔. ชอ่ื ผูท้ ่ีถอื ปฏิบัตแิ ละผู้สืบทอด
๔.๑ ผู้ท่ถี อื ปฏิบตั ิ
ชอ่ื องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลป่าตึง และกลุ่มชาติพันธใ์ นพื้นที่ตาบลป่าตงึ
อาเภอแมจ่ นั จังหวดั เชยี งราย
วัน เดอื น ปเี กิด -
ทอี่ ยู่ องค์การบริหารสว่ นตาบลป่าตึง
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๑๘๐ ๐๒๒
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ชือ่ องค์การบริหารสว่ นตาบลป่าตึง และกลุ่มชาติพันธใ์ นพ้ืนทต่ี าบลป่าตึง
อาเภอแม่จัน จงั หวดั เชยี งราย
วนั เดอื น ปีเกดิ -
ที่อยู่ องค์การบริหารส่วนตาบลป่าตึง
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๑๘๐ ๐๒๒
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสญู หาย ไมม่ ีปฏิบัติแล้ว
๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-147-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอเวียงเชียงรุง้ จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล ประเพณสี รงน้าพระธาตดุ อยกู่
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ ก่ยี วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือดั้งเดิม
การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมลู
๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มลู
การจัดงานประเพณีสรงน้าพระธาตุดอยกู่ จัดข้ึนเป็นประจาทุกปีในวันวิสาขบูชา โดยชาวบ้านในตาบลป่า
ซาง จะร่วมใจกันเดินขบวนแห่รูปจาลองพระธาตุดอยกู่ จากองค์การบริหารสว่ นตาบลป่าซาง ไปที่วัดดอยกู่ จะ
มีกิจกรรมทาบุญตักบาตร ร่วมกันทาบุญสรงน้า พระธาตุกู่ครูบา ๕ องค์ คือ ครูบาเจ้าชัยยะลังก๋า ครูบาเจ้าศรีวิชัย
หลวงปู่ครูบาเจ้าอินถา ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี และครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา รวมท้ังการแสดงของผู้สูงอายุ
เยาวชน และประชาชนทัว่ ไป
รูปแบบของการจัดประเพณีสรงน้าพระธาตุดอยกู่จะจัดข้ึนเป็นประจาทุกปีในวั นวิสาขบูชา
โดยชาวบ้านในตาบลป่าซางจะร่วมใจกันเดินขบวนแห่รูปจาลองพระธาตุดอยกู่ จากองค์การบริหารส่วนตาบล
ปา่ ซาง ไปท่วี ัดดอยกู่ จะมกี จิ กรรมทาบุญตักบาตร ร่วมกนั ทาบญุ สรงนา้ พระธาตกุ ่คู รูบา
วัดดอยกู่ เป็นวัดท่ีมีอายุเก่าแก่ ของตาบลป่าซาง อาเภอเวียงเชียงรุ้ง และเป็นท่ีสักการบูชาของ
ประชาชนในตาบลป่าซาง เป็นท่ีเก็บพระธาตุของครูบาเจ้าท้ัง ๕ องค์ โดยเฉพาะในวันวิสาขบูชาจะเป็น
ประเพณีของวัดดอยกู่ทุก ๆ ปี จะมีคณะศรัทธาในเขตตาบลป่าซางและใกล้เคียงร่วมแรงร่วมใจกันจัดงาน
ประเพณีสรงน้าพระธาตุดอยกู่ครูบา โดยการนาของกานันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นาทุกภาคส่วน งานพิธีดังกล่าวในช่วง
กลางวัน จะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การเล่นดนตรีพ้ืนเมือง การฟ้อน มีผู้มาร่วมงานอย่าง
มากมาย ซ่ึงมีความผูกพันและเคารพนับถือครูบา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเม่ือได้ยินข่าวว่าวัดดอยกู่จะมีงาน
กม็ าช่วยงานดว้ ยความพรอ้ มเพรียงร่วมจติ รว่ มใจในพธิ ีกุศลกรรมมาตลอดไม่ขาดสายตราบจนถึงปัจจุบันนี้
๓.๒) ขั้นตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกยี่ วกับข้อมลู
การจัดงานประเพณีสรงน้าพระธาตุดอยกู่ จะจัดข้ึนเป็นประจาทุกปีในวันวิสาขบูชา โดยประชาชน
ในตาบลป่าซางจะร่วมใจกันเดินขบวนแห่รูปจาลองพระธาตุดอยกู่ มีกิจกรรมทาบุญตักบาตร ร่วมกันทาบุญ
สรงนา้ พระธาตุกคู่ รบู า การแสดงของผู้สูงอายุ เยาวชน และประชาชนท่วั ไป
-148-
๔. ชอ่ื ผ้ทู ี่ถือปฏิบัติและผูส้ ืบทอด
๔.๑ ผทู้ ี่ถือปฏิบัติ
ชอื่ องค์การบริหารสว่ นตาบลป่าซาง / สภาวฒั นธรรมตาบลปา่ ซาง
วัน เดอื น ปเี กิด -
ทอี่ ยู่ องค์การบริหารส่วนตาบลป่าซาง อาเภอเวียงเชยี งร้งุ จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๑๗๓ ๖๖๑
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ช่ือ ประชาชนในตาบลป่าซาง อาเภอเวยี งเชียงรงุ้ จังหวดั เชียงราย
วนั เดือน ปเี กดิ -
ทีอ่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสญู หาย ไมม่ ีปฏิบัติแลว้
๖. รปู ภาพภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม
อุโบสถวัดดอยกู่ พระธาตุ 5 พระองค์
ขบวนแหเ่ ครอ่ื งสกั การะ
พทุ ธศาสนิกชนสรงน้าพระธาตดุ อยกู่ การแสดงศลิ ปวัฒนธรรม
-149-
ขบวนแห่เครือ่ งสักการะ ขบวนแหเ่ คร่อื งสักการะ
-150-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอแม่จัน จังหวดั เชียงรำย
๑. ช่ือข้อมลู ประเพณสี ืบชะตาแมน่ า้ จัน
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือดง้ั เดิม
การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพืน้ บ้าน และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกันตัว
๓. รำยละเอียดขอ้ มูล
๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มลู
น้าแม่จันเป็นลุ่มน้าขนาดเล็ก โดยต้ังแต่พื้นที่ลุ่มน้าบริเวณส่วนบนซ่ึงเป็นป่าต้นน้าอยู่ในเขตตาบล
ป่าตึงอาเภอแม่จัน และตาบลแม่สลองนอก อาเภอแม่ฟ้าหลวง เน้ือท่ีประมาณ 235 ตารางกิโลเมตร
(146,875ไร่) บริเวณส่วนกลางลุ่มน้าอยู่ในเขตเทศบาลเมืองและเขตตาบลแม่จัน ตาบลศรีค้า ตาบลจอมสวรรค์
ตาบลสันทราย ตาบลป่าซาง อาเภอแม่จัน และส่วนปลายน้าในเขตตาบลจันจว้า อาเภอแม่จัน และเขตตาบล
ป่าสัก อาเภอเชียงแสน เน้ือท่ี ประมาณ 325ตารางกิโลเมตร ความยาวของลาน้าแม่จันประมาณ 85 กิโลเมตร
บรรจบแม่น้าคาท่ีบ้านสันมะเค็ด ตาบลป่าสัก อาเภอเชียงแสน ก่อนไหลลงสู่แม่น้าโขงท่ีบ้านสบคา ตาบลเวียง
อาเภอเชียงแสน และคิดเป็นพื้นที่ของลุ่มน้าแม่จันประมาณ 560 ตารางกิโลเมตร หรือ 350,000 ไร่
“แม่น้าจัน” เป็นแม่น้าสายหลักของอาเภอแม่จันมีต้นกาเนิดมาจากเทือกเขารอยต่อกับสหภาพเมียนมาร์
ทางทศิ ตะวันตก นบั เป็นแม่นา้ ที่สาคัญท่ีหล่อเลย้ี งชีวิตและเอ้ือประโยชน์ให้กับพีน่ ้องประชาชนตาบลป่าตึงและ
ชาวอาเภอแม่จนั โดยไหลผ่านชมุ ชนเมืองแมจ่ ัน และชุมชนหมูบ่ ้านอน่ื ๆ ตลอดจนพืน้ ทเ่ี กษตรกรรมของตาบล
ป่าตึง ตาบลแม่จัน ตาบลสันทราย ตาบลป่าซาง ตาบลจอมสวรรค์ ตาบลจันจว้า และตาบลจันจว้าใต้ ในอดีต
แม่น้าจันมีขนาดกว้างใหญ่และลึก มีน้าอุดมสมบูรณ์ตลอดปี เป็นอู่ข้าวอู่น้า ช่ืออาเภอจึงเรียกว่า “อาเภอแม่จัน”
ตามช่ือแม่น้าสายน้ีปัจจุบันแม่น้าจัน แคบ เล็กและตื้นเขิน มีน้าไหลน้อย เน่ืองจากสาเหตุหลายประการ เช่น
การบุกรุก ตัดทาลายป่าไม้ ต้นน้าลาธาร มีการบุกรุกถมที่ชายตล่ิง มีการท้ิงขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลต่าง ๆ
อย่างขาดความสานึก จึงก่อให้เกิดความเดือดร้อนอย่างสืบเน่ือง ฤดูฝนน้าจะท่วมบ้านเรือนท่ีอยู่อาศัย และฤดูแล้ง
จะขาดแคลนน้า ไม่เพยี งพอตอ่ การเกษตร
๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเก่ยี วกับขอ้ มูล
การประกอบพิธีสืบชะตาแม่น้าจัน เป็นประเพณีประจาปีของชาวตาบลป่าตึงและชาวอาเภอแม่จัน
เพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษา เรียนรู้ และนาไปปฏิบัติสืบต่อกันไปโดยท่ีไม่ให้ประเพณีสืบชะตาแม่น้าจันได้หายไป
และประกอบพิธีได้อย่างถูกต้องสืบไป มีความร่วมมือร่วมใจกันฟ้ืนฟูสภาพแม่น้าจัน ให้เป็นแม่น้า แห่งชีวิต
ของชาวแม่จันสืบไป เครื่องใช้ประกอบพิธีในการสืบชะตาจะส่ือความหมายไปยังสิ่งท่ีเชื่อว่ามีอานาจในการต่อ
อายหุ รอื ตอ่ ดวงชะตาให้ตนได้ ซ่ึงก็คอื อานาจที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ทาให้ทราบถงึ ความคิดความเช่ือที่แฝงอยู่ใน
จิตสานึกของคนในสังคมล้านนาไทยได้พอสมควร แม้ว่าคนท่ีทาพิธีเหล่าน้ีในปัจจุบันจะไม่ได้คานึงถึง
ความหมายที่แท้จรงิ เลยกต็ าม แตจ่ ากความคดิ ความเช่ือท่แี ฝงอยู่ในจิตสานกึ เคร่ืองประกอบพธิ ีเหล่านีจ้ ึงยังคง
มีอิทธิพลต่อจิตใจของคนอยู่มาก อย่างไรก็ตามการตีความหมายของเครื่องใช้ประกอบพิธีเหล่าน้ีย่อม ต้อง
ข้ึนอยู่กับความคิด ความเช่ือของคนท่ีทาพิธีนั้น ๆ ซ่ึงย่อมจะผิดแผกแตกต่างกันไปตามแต่ละสังคมและยังอาจ
ชใี้ หเ้ หน็ ถงึ ความสมั พันธข์ องสงั คมที่ใช้เคร่ืองใช้ประกอบพิธีท่คี ล้ายคลึงกันได้
๔. ชอื่ ผ้ทู ี่ถือปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด -151-
๔.๑ ผู้ท่ีถือปฏิบัติ
ชื่อ องค์การบริหารส่วนตาบลปา่ ตงึ นายอ้าย ชุ่มเมืองเย็น นายสงิ หค์ า ยานะใจ
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ที่อยู่ องค์การบรหิ ารส่วนตาบลป่าตึง อาเภอแม่จนั จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๑๘๐ ๐๒๒
๔.๒ ผูส้ ืบทอด
ช่ือ องค์การบริหารสว่ นตาบลป่าตึง นายอ้าย ชุม่ เมืองเย็น นายสงิ หค์ า ยานะใจ
วัน เดือน ปีเกดิ -
ทีอ่ ยู่ องค์การบริหารส่วนตาบลป่าตึง อาเภอแม่จัน จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๑๘๐ ๐๒๒
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสี่ยงตอ่ การสญู หาย ไมม่ ีปฏิบัตแิ ลว้
๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-152-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอแมจ่ นั จงั หวัดเชียงรำย
๑. ชื่อข้อมูล ประเพณีสู่ขวญั ควาย
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบตั เิ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝีมอื ดั้งเดมิ
การละเลน่ พนื้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสูป่ ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมูล
ตามประเพณีชาวล้านนา เม่ือถึงฤดูทานาตอ้ งใชแ้ รงวัวควายจนเสรจ็ การทานาหลงั จากการปลูกข้าว
แล้ว เพ่ือเป็นการราลึกถึงบุญคณุ ของสัตว์ท่ใี ช้งานหนัก
๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเก่ยี วกบั ขอ้ มลู
พิธีสู่ขวัญควายโดยเริ่มไปเก่ียวหญ้าที่วัวควายชอบมาสักหาบเพ่ือให้วัวควายกิน โดยการเตรียมดอกไม้
ธูปเทียน นาใบตอง ทาเป็นกรวยดอกไม้พร้อมด้วยสายสิญจน์ เพื่อมัดติดเขาวัวควาย นาไก่ต้มหนึ่งหรือสองตัว
พรอ้ มขา้ วเหนียวน่งึ และน้าส้มป่อยมาเตรียมไว้ เรมิ่ ทาพิธสี ู่ขวญั โดยมีการขอโทษขอโพยววั ควายที่ไดด้ ่าเฆ่ียนตี
ในขณะท่ีทาการไถ่นาทผี่ ่านมา โดยกล่าววา่
“ขออยา่ ให้มเี วรกรรมซึ่งกันและกัน ขอให้เจ้าของววั ควายจงอยู่เยน็ เป็นสุขสบายหากพ้นหายจากโลกน้ี
ขอเจ้าจงพ้นจากการเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ขอให้ได้พบสมภารนักปราชญ์เจ้า ขอให้สุขสบาย เต่ียงเต้าตลอดไป
จตั ตาโล ธมั มา วฒั ฒันติ อายุวณั โน สุขงั พลัง”
เม่ือจบแล้วก็นาเอาข้าวนึ่งสักหน่ึงกามือและเน้ือไก่หน่ึงชิ้นวางไว้ระหว่างเขาควาย เอากรวยดอกไม้
ตดิ เขาท้งั สองแลว้ ประพรมนา้ ส้มปอ่ ยเป็นอันเสร็จพิธี
ปัจจุบันวิวัฒนาการในการทาเกษตรพัฒนาไปมาก มักไม่มีการไถ่นาด้วยวัวควายแล้ว การเล้ียงวัว
เล้ยี งควายในปจั จุบันเพื่อการส่งออกเป็นอาหาร การทาพิธีส่ขู วญั ควายเพ่ือเปน็ การรักษาประเพณวี ัฒนธรรมท่ีมี
มาแตเ่ ดิมเท่านน้ั
๔. ช่ือผูท้ ี่ถอื ปฏิบัติและผ้สู ืบทอด
๔.๑ ผทู้ ีถ่ ือปฏิบตั ิ
ชือ่ จ.ส.ต.อทุ ัย สยุ ะศักดิ์
วัน เดอื น ปเี กิด -
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๐ ๕๐๓ ๗๔๗๙
๔.๒ ผ้สู บื ทอด
ชอ่ื นายพิพัฒนะ ซาวคาเขต และเทศบาลตาบลสายน้าคา
วัน เดือน ปีเกดิ -
ที่อยู่ เทศบาลสายน้าคา อาเภอแม่สาย จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๗๗๙ ๑๙๘ , ๐๕๓ ๗๗๙ ๓๘๘
-๑53-
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งต่อการสญู หาย ไม่มปี ฏบิ ตั ิแลว้
๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-154-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอแม่ฟ้ำหลวง จงั หวดั เชียงรำย
๑. ชื่อข้อมลู ปอยส่างลอง
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพิธกี รรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบัติเกยี่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานช่างฝีมอื ดั้งเดมิ
การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอยี ดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู
งานบวชลูกแก้ว จัดขึ้นเพื่อบรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนาของชาวไทใหญ่ท่ีอาศัยอยู่ประเทศไทย
เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และในจังหวัดเชียงรายมีชาวไทยใหญ่อาศัยกระจายอยู่ในอาเภอแม่สาย
ส่วนอาเภอแมฟ่ า้ หลวงมชี าวไทยใหญ่อาศัยอยู่ ณ บา้ นห้วยน้าขนุ่ ตาบลแมฟ่ ้าหลวง จงั หวัดเชยี งราย ประชากร
สว่ นใหญส่ บื เชอื้ สายมาจากไทยใหญ่ในประเทศพม่าและยา้ ยถิ่นฐานอบอพยพเขา้ มาในประเทศไทยโดยสืบทอด
งานประเพณีน้ีมาเป็นเวลาช้านาน และถือว่าประเพณี “ปอยส่างลอง” เป็นประเพณีท่ีสาคัญทางพระพุทธศาสนา
ของชาวไทยใหญ่และส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรม ข้ึนเป็นประจาทุกปี ในสมัยก่อนถือว่าการบวชลูกแก้วน้ี
เป็นการให้การศึกษาแก่บุตรหลานของคนไตในช่วงท่ีเก็บเก่ียวข้าวในนาเสร็จแล้ว โดยจัดขึ้นระหว่างเดือน
มีนาคมและเดือนเมษายน ของทุกปพี อถึงเดือนมนี าคมและเมษายน
๓.๒) ข้ันตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกยี่ วกับข้อมูล
ประเพณีปอยส่างลอง มีกิจกรรมท่ียุ่งยาก ซับซ้อน และจัดกิจกรรมต่อเนื่องเป็นเวลานานผู้ท่ีมีส่วน
เก่ียวข้องจะต้องมีการเตรียมงานล่วงหน้าอย่างมีขั้นตอนตลอดจนวิธีการจะต้องยึดถือและปฏิบัติ ตามแนวทาง
จารีประเพณสี บื ทอดมาแต่โบราณ แต่จะมีการประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ หมาะสมกบั สภาวการณ์ในปัจจุบนั การเตรยี มงาน
ตามความเชื่อของชาวไทยใหญ่เป็นการจัดทากันตามประเพณีท่ยี ึดถือปฏิบัติสบื ต่อกันมาซึ่งมีการศึกษา ค้นคว้า
รวบรวมประวตั กิ ารจัดกิจกรรมจากผู้รู้และผลงานการศึกษาวิจัยของผู้ที่สนใจ
๔. ช่อื ผทู้ ี่ถือปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด -
๔.๑ ผทู้ ถ่ี ือปฏิบตั ิ -
ช่อื -
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผสู้ บื ทอด -
ชอื่ -
วนั เดือน ปีเกิด
ทีอ่ ยู่
หมายเลขโทรศัพท์
-๑55-
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้
6. รปู ภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-156-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี 2565
สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอเชียงของ จงั เหวัดเชยี งรำย
1.ช่ือข้อมูล พธิ ีกรรม ประเพณี การฮ้องขวญั สืบชะตา
2.ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ กยี่ วกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝีมอื ดงั้ เดิม
การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการตอ่ สูป่ ้องกนั ตวั
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมูล
การฮ้องขวัญ ซ้อนขวัญ เน่ืองจากบุคคลได้เจ็บป่วยไข้ไม่สบาย เลยให้พ่ออาจารย์มาซ้อนข้าวฮ้องขวัญ
มาสูข่ วัญ และการสืบชะตาจะทาช่วงสงกรานต์ของทุกปี
๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกี่ยวกับขอ้ มูล
การฮ้องขวัญสู่ขวัญให้ดูวันเวลา และเตรียมสวิง+ดอกไม้+เทียน+กล้วย+ข้าว+ฝ้าย+เงิน การสืบชะตา
เตรยี มสะตวงปั้นรปู สัตวต์ ่าง ๆ ของกนิ ทกุ อย่าง ผลละหมากรากไม้ทุกชนดิ
๔. ช่อื ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติและผู้สบื ทอด
4.1 ช่อื ผู้ถอื ปฏิบตั ิ
ชื่อ นายสทุ ศั น์ วงคโ์ กฎ
วนั เดอื น ปเี กดิ 15 มกราคม 2506
ท่ีอยู่ 16 หมู่ 2 ตาบลรมิ โขง อาเภอเชยี งของ จังหวดั เชยี งราย
หมายเลข 081 831 4964
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชือ่ -
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ทอี่ ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงต่อการสูญหาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั แิ ล้ว
6. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
- ไม่มี -
-157-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมลู พิธกี รรมทางศาสนา
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบัติเก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝีมอื ด้ังเดิม
การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกันตวั
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มลู
ความเช่ือดั้งเดิมของชาวล้านนา มีแนวคิดพื้นฐานเก่ียวกับเร่ืองผีผสมผสานกับความเป็นพุทธได้อย่าง
ลงตัว เสมือนหนึ่งว่าผีและพุทธร่วมกันสร้างโลกทัศน์ให้ชาวล้านนามีรูปแบบเฉพาะของตนเอง ดังเช่นในขณะ
ทีม่ กี ารเลี้ยงผีปู่แสะยา่ แสะ กจ็ ะต้องขงึ ภาพพระบฏเพือ่ เป็นสัญลกั ษณก์ ารมาถึงของพระพทุ ธเจ้าดว้ ย
ศาสนพิธี หมายถึง ระเบียบแบบแผนหรือแบบอย่างที่ถือปฏิบัติในศาสนาเม่ือนามาใช้ในพระพุทธศาสนา
จึงหมายถงึ ระเบยี บแบบแผนหรือแบบอย่างท่ีพึงปฏบิ ตั ติ ิในพระพุทธศาสนา ศาสนพิธีตา่ ง ๆ ช่วยทาให้ความศรัทธา
ต่อพระพุทธศาสนิกชนมีความแน่นแฟ้นยิ่งข้ึนเป็นส่ิงตอกย้าใจให้ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยได้อย่างดีเย่ียม
จึงเป็นระเบียบแบบแผนอันดีงามที่ควรรักษาไวค้ ู่กับพระพุทธศาสนาตลอดไปสง่ิ หนง่ึ ที่ทาให้เห็นถึงความสาคัญ
ของพุทธศาสนาในชาวล้านนา คอื ประเพณีต่าง ๆ ท้งั 12 เดือน ลว้ นแลว้ เก่ียวขอ้ งกบั พทุ ธศาสนาแทบท้ังสิน้ แมก้ ระท่ัง
กิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงชีวิตหน่ึงก็ยังมีความสัมพันธ์กับพุทธศาสนาด้วย อาทิ การข้ึนบ้านใหม่ การบวช การสืบ
ชะตา เป็นตน้
นายธรรมรัตน์ มณีคา ได้ศึกษาเรียนรู้พิธีกรรมทางศาสนาตั้งแต่สมัยเยาว์วัย ซ่ึงได้ศึกษาเรียนรู้จาก
การบวชพระ และสบื ทอดมาจากผู้เป็นลุงรวมถงึ ศึกษาค้นควา้ ทางตาราพิธีกรรมตา่ ง ๆ และปฏิบัติสืบต่อมาจนถงึ ปัจจุบนั
๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกยี่ วกับข้อมูล
พิธกี ำรตักบำตร
คือการนาข้าวและอาหารคาวหวานใส่บาตรพระหรือสามเณร โดยอาจทาประจาวันในท้องถ่ินชุมชน
ท่ีมีพระสงฆ์และสามเณรออกบิณฑบาต จะทาในวันเกิดของตนหรอื วันสาคัญทางศาสนา รวมท้ังวัน ๘ ค่า และ
๑๔, ๑๕ ค่า เปน็ ตน้
พธิ ถี วำยสังฆทำน
คือการถวายวัตถุท่ีควรเป็นทานแก่สงฆ์ มิได้เจาะจงแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง หากถวายเจาะจงเฉพาะรูป
เรียกว่า “ปาฏิบุคลิกทาน” ไม่ต้องมีพิธีกรรมอะไรในการถวาย ส่วนสังฆทานนั้นเป็นการถวายกลาง ๆ ให้สงฆ์
เฉลย่ี กนั ใชส้ อย จึงมีพธิ กี รรมเขา้ มาเกีย่ วขอ้ งดว้ ย โดยเฉพาะการถวายและการอนโุ มทนาของสงฆ์
กำรอำรำธนำศลี และสมำทำนศีล
เบื้องต้นของการบาเพ็ญกุศลของพุทธศาสนิกชน ต้องมีพิธีรับสรณคมน์และศีลก่อนแล้วจึงค่อย
อาราธนา พระปริตรถ้าบาเพ็ญบุญเก่ียวกับการเทศนจ์ ึงจะอาราธนาธรรม การท่ขี อเบญจศีลก่อนเสมอไปทุกพิธี
น้ัน เพื่อชาระจิตให้บริสุทธ์ิ ให้เป็นผู้มีศีลสมควรแก่การรอง รับ พระธรรมสรณคมน์ หมายความว่าขอถึง
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นท่ีพ่ึงก่อนอาราธนาควรกราบพระพุทธรูป ที่โตะ๊ หมู่บชู าและบชู าพระก่อนแล้ว
จงึ กล่าวคาอาราธนาตามดว้ ยการสมาทานศีล
-158-
ศำสนพธิ ตี ่ำง ๆ ทำงพระพทุ ธศำสนำ
- การประเคนของ
- การกรวดนา้
- โตะ๊ หมูบ่ ูชา
- ระเบยี บปฏิบัตกิ ารมอบเทียนชนวนผใู้ หญ่
- พิธีกรรมในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา
- ระเบยี บปฏิบัตกิ ารไปรว่ มงานศพ
- วฒั นธรรมชาวพทุ ธที่ปรากฎหลักฐานในพระไตรปิฎก
พิธีกรรมงานบุญต่าง ๆ ของชาวพุทธ สามารถนามาปฏิบัติได้ตามกิจกรรมงานบุญต่าง ๆ ได้พร้อมกัน
ในวันเดียวกัน เช่นในพิธีทอดกฐิน พิธีทอดผ้าป่า พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พิธีทาบุญปุพพเปตตพลีอุทิศบุญ
ให้บรรพบุรุษหรือผู้ท่ีล่วงลับไปแล้วในวันพระขึ้น ๑๔ ค่า ๑๕ ค่า และวันแรม ๑๔ ค่า ๑๕ ค่า พิธีจุดประทีป
ในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา เช่นวนั มาฆบชู า วนั วิสาขบชู า วันอาสาฬหบชู า
๔. ชือ่ ผทู้ ่ีถือปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด
๔.๑ ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ัติ
ชอื่ นายธรรมรตั น์ มณีคา
วัน เดอื น ปเี กดิ 26 สงิ หาคม 2500
ท่ีอยู่ ๑๒๓ หมู่ ๑ ตาบลเวียงเหนื อาเภอเวยี งชยั จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 087-1758161
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ชือ่ -
วัน เดอื น ปีเกดิ -
ทอ่ี ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏบิ ัติแล้ว
๖. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-159-
-160-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4
สำนักงำนวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอแม่จนั จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู พธิ ีกนิ อ้อผะญา๋ ล้านนา
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบตั เิ กี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือด้งั เดมิ
การละเล่นพ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มลู
ไม้อ้อ ตามพจนานุกรม หมายถึง พรรณไม้ล้มลุกชนิด Arundo donax Linn. หรือ Gramineace ขึ้น
เป็นกอตามริมลาธาร ลาต้นแข็ง ปล้องในกลวงต้นอ้อต้นไม้ท่ีชอบขึ้นในพ้ืนท่ีชื้นแฉะ ลาต้น เป็นปล้องแข็ง
ใบเรียวเหมือนต้นแขมหรือหญ้าคา มีดอกสีขาว เวลาบานจะเป็นปุยนุ่นแผ่กระจายสวยงาม แพร่พันธ์ุและแตกกอ
ได้งา่ ย ตายยาก
พิธีกินอ้อผะญ๋ำล้ำนนำ ชาวล้านนามีวิถีชีวิตท่ีควบคู่ไปกับความเช่ือ ทั้งที่มาจากความเช่ือดั้งเดิมและ
ความเช่ือที่เกิดจากคาสอนทางพระพุทธศาสนาหรือเกิดจากการผสมผสานความเชื่อทั้งสองเข้าด้วยกัน
เพอื่ ความสวัสดี ความเจรญิ รุง่ เรอื งของชวี ติ หรอื แมใ้ นยามชีวิตตกอยู่ในห้วงทกุ ข์ ชาวลา้ นนากม็ ีกุศโลบายในการ
ประยุกต์ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ผลทางด้านจิตใจ การเรียนรู้ การศึกษาก็เป็นส่ิงที่ชาวล้านนาให้ความสาคัญ
ไม่น้อยกว่าด้านอ่ืน ๆ ชาวล้านนาตระหนักว่า คนเราเกิดมานั้นระดับสติปัญญา การเรียนรู้ของคนนั้นแตกต่าง
กันไป แต่ถึงถึงกระนั้นก็มีการค้นคิดวิธีการทางจิตวิทยาเพ่ือช่วยเพิ่มกระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพไปด้วย
คนล้านนาในแวดวงการศึกษาของพระสงฆ์สมัยโบราณให้ความสาคัญกับทางพิธีกรรมทางจิตท่ีเรียกว่า
การกินอ้อผะญ๋าอย่างมาก เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยลดปมด้อยของคนท่ีคิดว่าตนเองมีความจาไม่ดี
สติปัญญาไม่ดี ไม่ปรอดโปร่ง และช่วยเพ่ิมความม่ันใจให้กับคนท่ีสมองดีอยู่แล้วด้วย ปัจจุบันพิธีกรรมดังกล่าว
แพร่หลายอย่วู งแคบ ๆ ในหมทู่ ี่ยงั มีความเชื่ออยู่ แต่นับวันจะเลอื นหายจากความทรงจาไปแล้วเพราะวิทยาการ
ในสมัยใหม่มีบทบาทมาก จนทาให้มนุษย์แทบจะไม่ต้องคิดอะไรเพราะมีเครื่องมือช่วยคิด ช่วยคานวณ การ
เรียนรู้จดจาที่ต้องใช้สมองท่องจาแทบจนหมดความจาเป็นไป การกินอ้อผญ๋าน้ัน มีวินัยทางกระบวนการ
ท่ีต้องพิจารณากันเป็นพิเศษ ท้ังสัญลักษณ์ของอุปกรณ์ท่ีก็น่าศึกษาอย่างย่ิง แวดวงศึกษาของชาวบ้านล้านนา
ส่วนหน่ึงเช่ือว่า ผู้ใดผ่านการกินอ้อผญ๋ามาแล้วแม้นว่าสมองทึบ สติปัญญาไม่เอาไหน ก็จะกลายเป็นคนมี
สติปัญญาเป็นเลิศ สามารถท่องจาได้ดี มีการจัดพิธีกรรมดังกล่าวไม่มากหนัก ในปีหนึ่งๆ มีการคัดเลือกคน
เข้าร่วมพิธีด้วยเช่นกัน ผู้ประกอบพิธีกรรมหรือผู้เข้าใจกระบวนการหายาก ส่วนใหญ่จะเป็นพระสงฆ์ท่ีผ่าน
การบวชเรียนมาแลว้
-161-
คุณสมบัติของอ้อมี 5 อย่ำง (ในอ้อ 1 ปล้อง คือ จ่ือ จ๋ำ ผญำ สิเนหำ เต๋ชำ) ให้ตั้งสัจจาธิษฐานอ้อ
หลักไว้ก่อนเช่นเรียนหนังสือตั้งอ้อจ่ือ (จา) จ๋า ผญา สิเนหา เตชา ตามมาเอง โต้วาที หรือช่างซอ คาว จ๊อย
นักร้อง ดนตรี จะนิยมอ้อจ๋า เป็นครู หรือต้องการฉลาดมีไหวพริบปฏิภาณ ลายมือสวย จะนิยมอ้อผญา
(สติปัญญา) หนุ่มสาวมักต้องการอ้อสิเนหา ทั้งฟ้อนรา เล่นดนตรี แสดงละคร ลิเก ค้าขาย จะนิยมอ้อสิเนหา
ร่างกายอ่อนแอ ต้องการเอาไปผสมยา จะนิยมเด๋ชา(สามารถขออาจารย์กากับคาถาเต๋ชาเป็นน้าผ้ึงขวดได้
เหมือนน้ามนต์ใส่น้าต้น หรือกระบอกไม้ (สมัยก่อน) สรุปว่า ถ้าสามเณรหรือพระ หรือครูบาทาอ้อกิน
จะเรียกอ้อธรรม ออ้ อรหันต๋า ถ้าชาวบ้าน จะเรยี กอ้อผญา หรืออ้อภมู ิวิสัย ทั่วไปคอื อ้อทั้ง ๕
วัน เดือน ท่นี ิยมทำพิธีกนิ อ้อผญำ๋
1. วนั พญาวัน(สงกรานต)์ ก่อนเทย่ี ง
2. วนั ที่ 31 ธันวาคม คาบเกีย่ ว 1 มกราคม เท่ยี งคนื หรือ 25 น.
3. วันสมโภชพระประธาน หรือพระธาตุ สมโภชสวดมนต์ต๋ัน และสวดเช้า หลังถวายข้าวมธุปายาส
กย็ กออ้ มาแจก (เสร็จพิธ)ี
4. วันตั้งธรรมเดือนยี่เป็ง(เพ็ญเดือน 12) ต้ังธรรมมหาชาติ หรือมหาชาติย่อ แต่ต้องอ่านคาถาพันให้
จับท้ังพันคาถา มนต์คาถาพันกากับ จะท้งั 3 ผกู รวดเดยี ว หรือกากับทลี ะผูก รวดเดียวจบหลงั เทยี่ งก็แจกได้
5.วันต้ังธรรม แต่เป็นธรรมมนต์ท้ัง 5 คือ มหาทิพย์มนตร์ สารากริวิชานสูตร อุณหิสสวิไชยสูตร
โลกวุฒิ คาถาพนั (ไชยสงั คหะ)
5.วันท่ีเกิดจันทรรุปราคา หรือสุริยุปราคา (เร่ิมไปหาขณะท่ีกาลังเกิดเหตุ และกินทันทีขณะที่ราหูพ้น
จากเดือน ,ดวงตะวัน
6.ท่ัวไปส่วนตัวถ้าเรียนธรรมถือเอาวันพฤหัสบดี แต่สมัยท่ีเป็นเด็กวัดหรือสามเณรสมัยก่อนจะเอาทั้ง
วนั ทีต่ วั เองคลอด จะถามแม่วา่ คลอดเวลาไหน กจ็ ะทากินเอง หรือใหอ้ าจารย์เสกให้
วธิ ีกนิ ออ้
ถ้าทาพิธีหมู่นักเรียนเปิดเรียน จะมีซุ้มขาจ๋า (ยอ) ลอดซุ้มแล้วกิน สถานท่ีโล่ง ไม่มีส่ิงบดบัง เม่ือเงยหน้า
ยกดื่มแล้ว พอดีได้จังหวะจะโยนข้ามหัว หรือออกปล่อง (หน้าต่าง) หรือไหลท่ีร่องน้า เด็กวัดจะแข่งกันท่อง
หนังสือ จะเสกเอง หรือใหอ้ าจารยก์ ากับเสกให้
สถานที่อ้อข้ึน ห้ามเอาอ้อที่ข้ึนอยู่มาทาพิธี คือ แม่น้าที่น้าคดไปมาหรือน้ามาชนกัน ใต้ต้นไม้
ริมสะพานทางรถ-คน-สตั ว์เดนิ ขา้ ม
๓.๒) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกี่ยวกับข้อมูล
พธิ กี นิ อ้อผะญา๋ จะต้องเตรยี มอุปกรณ์ดงั ต่อไปนี้
1. ไม้อ้อท่ีตัดทั้งข้อ คือ เหลือข้อยาว ๓ น้ิว ตามจานวนผู้เข้าร่วมพิธีให้ผู้เข้าพิธี กราบพระรัตนตรัย
กราบครูอาจารย์ ผู้ประกอบพิธีกล่าวโอกาส ว่าคาถาต่าง ๆ ท่ีอยู่ในกระบวนการใชน้ ้ามนต์ประพรมกระบอกไม้
อ้อท่ีบรรจุน้าผ้ึง เม่ือจบกระบวนการกล่าวโอกาสของผู้ประกอบพิธีแล้วก็อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมพิธีดื่มอ้อปัญญา
ตามจานวนที่กาหนดให้ซึ่งอ้อท้ัง ๕ จะมีคาถากากับทั้ง ๕ บทคือ ๑. อ้อจ่ือ (จาแม่น) ๒.อ้อจ๋า (อู้แกว่น)
๓. อ้อผะญา๋ (คิดแล่น) ๔. ออ้ เสน่ห์ (คนแหน) ๕. อ้อเตจ๋ า เดชา (ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ)
2. พิธีกินอ้อผะญ๋า ในอ้อ 1 จะมีคาถาทั้ง ๕ ให้ตั้งสัจจกิริยาก่อนกิน ถ้ากินเป็นหมู่คณะคนมาก จะใช้
ถังแล้วนาไปราดที่โคนต้นโพธ์ิ หรือกินกลางแจ้งแล้วโยนข้ามหัว หรือยืนใกล้หรือคล่อมแม่น้า กินแล้วโยนไปน้าไป
หรือถ้ากินในบ้านให้โยนออกหน้าต่าง(ปล่อง) ข้อสาคัญต้องอธิษฐานก่อนกิน แล้วแต่วัตถุประสงค์ของผู้กิน
วา่ ต้องการ จาแมน่ พูดเกง่ มปี ญั ญาฉลาด คนรกั และป้องกันโรคภยั ไข้เจบ็
-๑62-
4. ช่ือผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติและผู้สบื ทอด
4.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏบิ ตั ิ
ชอ่ื พระครปู ระสิทธิ์บุญญาคม
วัน เดือน ปีเกดิ ๔ มถิ นุ ายน ๒๔๘๘
ทอี่ ยู่ วัดก่วิ พร้าว ๖๔ หมู่ ๔ ตาบลจนั จว้าใต้ อาเภอแม่จัน จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 094 757 7637
4.๒ ผู้สืบทอด
ช่อื นายสุเมธ ทนุ กาศ
วัน เดือน ปีเกดิ -
ท่ีอยู่ เทศบาลตาบลจันจวา้ ตาบลจันจวา้ ใต้ อาเภอแมจ่ ัน จังหวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 098 902 5505
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัติอย่างแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสูญหาย ไม่มีปฏิบัตแิ ล้ว
6. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
ต้นอ้อ ทีน่ ามาใช้ในพิธี
การเตรยี มออ้ ผญา๋ และการท่องคาถาเสกออ้ ผญ๋า
การนาเสนอพธิ กี ินออ้ ผะญ๋าในการจดั กิจกรรมแสดงมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น
ภายใตโ้ ครงการจดั ทาฐานขอ้ มูลดา้ นศาสนา วฒั นธรรม และจารีตประเพณีทอ้ งถิ่น
ประจาปี ๒๕๖๔ วันศุกรท์ ่ี ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๔
ณ โรงเรียนแมจ่ นั วทิ ยาคม อาเภอแม่จนั จงั หวัดเชียงราย
-163-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอพญำเม็งรำย จังหวัดเชียงรำย
๑. ช่ือข้อมลู พธิ บี ายศรสี ่ขู วัญ
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝมี อื ดัง้ เดิม
การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพืน้ บ้าน และศิลปะการตอ่ สูป่ ้องกันตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของข้อมูล
พิธีบำยศรีสู่ขวัญ เป็นพิธีกรรมอย่างหน่ึงของคนไทย บางคร้ังก็เรียกว่า พิธบี ายศรี, พธิ สี ขู่ วญั , พิธีทาขวัญ,
พิธีรับขวัญ ด้วยความเช่ือท่ีว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับสิ่งนามธรรมอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า “ขวัญ” ซ่ึงมีหน้าท่ี
รกั ษาประคับประคองชีวติ และติดตามเจา้ ของไปทุกหนแห่ง การทาพิธสี ขู่ วัญจึงเป็นการเชิญขวัญท่ีหนหี ายไปให้
เข้ามาอยู่กับตัว และเช่ือว่าเป็นการส่งเสริมพลังใจให้เข้มแข็ง มีสติและไม่ประมาทประเพณีบายศรีสู่ขวัญใช้
เคร่ืองเชิญขวัญที่เรียกว่า บายศรี ทาด้วยใบตอง รูปคล้ายกระทง เป็นชั้น ๆ มีขนาดใหญ่เล็กสอบข้ึนไป
ตามลาดับ เป็น 3 ชัน้ 5 ช้นั 7 ชั้น หรอื 9 ชน้ั มีเสาปกั ตรงกลางเป็นแกน มีเครือ่ งสงั เวยวางอยูใ่ นบายศรี และ
มีไข่ขวัญ (ไข่ต้ม) เสียบอยู่บนยอดบายศรี มีหลายประเภท เช่น บายศรีตอง บายศรีปากชาม บายศรีใหญ่
(ภาษาเขมร บาย = ข้าว + ศรี = สิริ หมายความว่า ข้าวอันเป็นสิริหรือข้าวขวัญ) มีการพันสายสิญจน์ไว้
โดยรอบเพื่อใชผ้ ูกข้อมือผ้รู บั ขวญั ผ้นู าทาพธิ เี รยี กวา่ หมอขวญั
บายศรี น้ันมีข้อสันนิษฐานว่าได้ประดิษฐ์ขึ้นมาจากคติความเชื่อของพราหมณ์ พิจารณาจากการนา
ใบตองมาประดิษฐ์บายศรี เน่ืองด้วยใบตองนั้นเป็นของสะอาดบริสุทธิ์ไม่มีมลทินของอาหารเก่าให้
แปดเป้ือน และอีกประการหน่ึงก็คือ รูปร่างลักษณะของบายศรีที่ได้จาลองเขาพระสุเมรุซ่ึงเป็นที่สถิตของ
พระอิศวร ตลอดจนเคร่ืองสังเวยก็มีความเช่ือมาจากคติพราหมณ์เช่น ไข่ แตงกวา มะพร้าว รวมถึงพิธีการ
เช่น การเวียนเทียน การเจิม และพิธีการต่าง ๆ เหล่าน้ีพราหมณ์เป็นผู้ประกอบพิธีท้ังส้ิน โดยในภาคเหนือ
จะเรียก บายศรีว่า ใบสี, ใบสรี หรือ ใบสีนมแมว และจะเรียก พานบายศรีว่า ขันใบสี เพราะชาวล้านนา
จะเรยี กพานวา่ ขนั แล้วเรียกขนั ว่า สลงุ ซง่ึ บายศรีสามารถแยกเป็น 4 ประเภท คอื
1. บายศรีหลวง 3. บายศรปี ากชาม
2. บายศรีนมแมว 4. บายศรกี ล้วย
"พิธบี ำยศร"ี หรอื "บำยศรีสู่ขวัญ" เป็นพิธีกรรมสาคญั อยา่ งหน่ึง ส่วนใหญ่พิธีกรรมสูข่ วญั ทากนั แทบ
ทกุ โอกาส ทงั้ ในมลู เหตุแห่งความดแี ละไมด่ ี เปน็ พิธีเรียกขวัญให้มาอยู่กับตัว พธิ สี ขู่ วญั น้ีเปน็ ได้ทงั้ การแสดง
ความชืน่ ชมยนิ ดี ช่วยใหเ้ กิดสิรมิ งคลตอ่ ผู้ทเี่ ขา้ ร่วมพธิ ี และเชอื่ กันว่า พธิ นี ้ีเปน็ การต่อชวี ิตคนใหม้ ีอายุยืนยาว
เปน็ การเสริมบารมี สะเดาะเคราะห์ ให้พน้ จากโชคร้าย โรคาพยาธิ เพ่ือรับโชคลาภ รา่ รวย และจะมีความสขุ
ความเจริญ และเป็นการปลอบใจให้เจา้ ของขวญั จากคณะญาติมิตรและบคุ คลทัว่ ไป นยิ มทากนั ในโอกาส
อันเป็นมงคลตา่ ง ๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ บวชนาค แตง่ งาน เลื่อนยศ เลอื่ นตาแหนง่ พระภิกษเุ ลอ่ื นสมณศกั ดิ์ หรือ
ผูใ้ หญ่ที่เคารพนบั ถือมาสู่ท้องถิ่น จะตอ้ งเดินทางไกล ยา้ ยที่อยู่ เป็นต้น
-164-
๓.๒) ข้ันตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกย่ี วกับข้อมลู
พิธีสู่ขวัญ หรือที่ชาวบ้านห้วยก้างนาล้อมเรียกว่า “บายศรี” มีขั้นตอนการดาเนินการ กล่าวคือ ผู้เฒ่าผู้แก่
จะช่วยกันทาพานขวญั (พานบายศรี) นิยมใช้ใบตองจับจบี ตามแบบโบราณจดั ใส่พาน จะเป็นพานขวัญธรรมดา
3 ชน้ั 5 ชั้น โดยช้ันล่างมีบายศรดี อกไม้ ขา้ วต้ม ขนม กลว้ ย ชน้ั ที่ 2 , 3 , 4 มีบายศรีดอกไม้ สว่ นชนั้ ที่ 5 จะมี
บายศรีดอกไม้ ฝ้ายผูกแขน เทียนเวียนหัว 7 ชั้น จัดพานรอง 3 ชั้น บายศรี 4 ช้ัน แล้วจัดพานอีกใบหน่ึง
สาหรับใส่ผ้าผืนแพรวา กระจก หวี น้าอบ น้าหอม สร้อย แหวน ส่วนประกอบอ่ืนๆ เพิ่มเติม ได้แก่ หมาก พลู
บุหร่ี อาหาร ข้าวต้ม ขนมหวาน ไก่ต้ม สุรา จัดวางประกอบไว้อย่างสวยงาม พร้อมดว้ ยเส้อื ผ้าเครื่องแตง่ ตัวของ
ผู้เปน็ เจา้ ของขวญั พธิ จี ะเร่มิ ด้วยการแห่พานบายศรีเป็นขบวนฟ้อนนาพานบายศรีออกมาต้งั บนตัง่ (โต๊ะ) ท่ปี ผู ้า
ขาวรองไว้ จากน้ันหมอขวัญ จะเป็นผู้ประกอบพิธีด้วยการสวดชุมนุมเทวดา จุดเทียนเวียนหัว จุดธูปส่องธรรม
หน้าพระพุทธรูป และพระสงฆ์ มีคู่สู่ขวัญเอามือขวามาจับด้ายสายสิญจน์ เจ้าของขวัญจับพานขวัญ หมอขวัญ
ทาพิธีสวดด้วยบทสวดเป็นภาษาพื้นเมืองล้านนา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นหมอขวัญก็ผูกข้อมือด้วย
ฝา้ ยท่ีจดั เตรียมไว้ เป็นอนั เสร็จพิธบี ายศรสี ่ขู วญั
๔. ช่ือผทู้ ่ีถอื ปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด
๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏิบตั ิ
ชื่อ พ่ออาจารยห์ นานพิน บญุ หมั้น
วนั เดอื น ปีเกิด 30 กรกฎาคม 2490
ทอ่ี ยู่ หมู่ 11 ตาบลไม้ยา อาเภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 080 665 9815
๔.๒ ผสู้ บื ทอด
ช่ือ พอ่ อาจารยห์ นานคา ใจยา
วัน เดือน ปเี กดิ -
ทีอ่ ยู่ หมู่ 11 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 062 263 4584
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เส่ียงต่อการสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ล้ว
๖. รูปภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-165-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอพญำเม็งรำย จังหวัดเชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมูล พธิ สี ่ขู วัญ/อา่ นค่าว
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ตั ิเก่ยี วกับธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝีมอื ดงั้ เดิม
การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว
๓. รำยละเอียดขอ้ มลู
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู
พิธีกรรมความเชื่อของคนโบราณพ้ืนเมืองท่ียึดถือกันมานาน เชื่อว่าเมื่อมีการเจ็บป่วยหรือตกใจเสีย
ขวัญจากเหตุการณ์ต่างๆ ตามท่ีได้ประสบพบมา หลังจากหายป่วยแลว้ มักจะมีการทาพิธสี ู่ขวญั ฮ้องขวัญ (เรียก
ขวัญ) โดยผ้ทู ี่มคี วามรคู้ วามสามารถเฉพาะด้านซึ่งเรียกวา่ “หมอสขู่ วัญ” ซงึ่ หมอสู่ขวญั น้ีตอ้ งผ่านการบวชเรียน
มาแลว้ เพราะถือว่ามวี ชิ าคาถาทน่ี ่าเช่อื ถือและยอมรบั จากคนทัว่ ไป โดยเครอื่ งสู่ขวญั นัน้ จะประกอบไปดว้ ยวัสดุ
ท่ีจาเป็นและมีความสาคัญท่ีสอดคล้องกับความเช่ือของคนท่ีสามารถหาได้ในหมู่บ้าน ประกอบไปด้วย ขันดอก
ซงึ่ ทามาจากใบกล้วย ดอกไมเ้ ก้ายอด ไก่ต้ม 1 คู่ เหล้าขาว-เหล้าแดง /บหุ ร่ี เครอ่ื งประดบั หวี กระจก แป้ง
และเส้ือผา้ ของคนทห่ี ายปว่ ยท่จี ะใหห้ มอเรียกขวญั ให้ (สขู่ วัญ)
การอ่านค่าว เป็นคาประพันธ์ท่ีมีแบบแผนของชาวล้านนามีฉันทลักษณ์ท่ีระบุจานวนคาในวรรค
และสัมผัสระหว่างวรรค สรุปเป็นคากล่าวสั้นๆ “สามตัวเหลียว เจ็ดตัวเตียว บาทหลัง บาทหน้า” การเล่า
ค่าวจ๊อย เป็นวิธีขับลานาโดยใชค้ ่าวเป็นเนอ้ื หาหลัก บางทีเรียกว่า จ๊อยค่าว วิธีขับจ๊อยมักจะดาเนินท่วงทานอง
ไปอย่างช้า ๆ มีการเอ้ือน อาจมีเคร่ืองดนตรี บรรเลงคลอประกอบหรือไม่ก็ได้ ลีลาและทานองจ๊อยท่ีนิยมใช้
ได้แก่ โก่งเฮียวบ่ง ม้าย่าไฟ และทานองวิงวอน การอ่านค่าว มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันไม่ค่อยมีคน
สืบทอด เดก็ ๆ คนรุน่ ใหมไ่ ม่ค่อยรจู้ กั หาฟงั ไดย้ าก จะมเี ฉพาะผสู้ ูงอายเุ ท่าน้ันท่อี ่านค่าว ควรต้องมกี ารสง่ เสริม
สบื สานและต่อยอดมรดกภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรมในเร่อื งน้ีเพื่อใหค้ นรนุ่ หลงั ได้ร้จู ัก
๓.๒) ขนั้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเก่ยี วกับข้อมูล
การทาพิธีกรรมการสู่ขวัญให้กับผู้ท่ีหายจากอาการเจ็บป่วยตามความเช่ือของคนโบราณล้านนานั้น
เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีความสามารถในการเรียกขวัญ หรือ “หมอสู่ขวัญ” เป็นผู้กาหนดโดยให้ญาติทางผู้ป่วยเป็น
ผ้จู ัดเตรียมวัสดอุ ุปกรณใ์ นการทาพิธแี ละให้จดั เตรียมเงินคา่ ทาพิธีให้กับ “หมอส่ขู วัญ” หรือ “คา่ หมอครู”
ข้นั ตอนและวธิ ีการเลา่ คา้ ว มีดังน้ี
1. ก่อนท่จี ะเลา่ ค่าวจอ๊ ย จะต้องมีแต่งค่าวข้ึนมาก่อน โดยผู้แต่งค่าวจะแต่งค่าวออกมาตามงานท่จี ะไปเลา่
ใหเ้ หมาะสมกบั โอกาสนั้น ๆ
2. ก่อนท่ีจะร้องค่าวในแต่ละครั้งนั้น จะเร่ิมร้องข้ึนตามเนื้อหาท่ีได้จากการแต่งข้ึนมา โดยมีการแบ่ง
วรรคในการรอ้ ง มีการเออื้ นลกู คอ เพื่อใหเ้ นอ้ื รอ้ งมคี วามนา่ สนใจ
3. การอ่านค่าวนิยมในงานข้ึนบ้านใหม่ งานแต่งงาน บวชลูกแก้ว (บวชเณร) และงานปอยเข้าสังข์
(งานทาบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ) ได้แก่ วรรณพราหมณ์ หงส์หิน จาปาสี่ต้น บัวระวงศ์หงส์อามาตย์
เจา้ สวุ ตั รนางบวั คา ก่ากา๋ ดา เป็นต้น
-166-
๔. ชอ่ื ผทู้ ี่ถอื ปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏบิ ัติ
ชื่อ นายหว่ ง ทศิ พรม
วัน เดอื น ปเี กิด 5 กนั ยายน 2489
ที่อยู่ 31 หมู่ 11 ตาบลแมต่ า๋ เภอพญาเมง็ ราย งหวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 095 485 7389
๔.๒ ผสู้ บื ทอด
ช่ือ นายชวลติ ย่งั ยนื
วนั เดอื น ปเี กดิ 20 สิงหาคม
ทีอ่ ยู่ 5 หมู่ 11 ตาบลแมต่ า๋ เภอพญาเม็งราย งหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 081 – 2870637
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ยี งต่อการสูญหาย ไมม่ ีปฏิบตั แิ ลว้
๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-167-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4
สำนกั งำนวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอแมล่ ำว จังหวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมลู พธิ ีอญั เชญิ เคร่ืองสักการะ บวงสรวงอนสุ าวรยี ์พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล
งานชา่ งฝมี ือดัง้ เดิม
การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตวั
๓. รำยละเอียดข้อมูล
๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล
ประวัติ และเส้นทางการเดินทพั ของ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ข้อมูลอา้ งองิ บางสว่ น คดั ลอกมาจาก
หนังสือพระราชพิธี บวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เม่ือวันท่ี 25 มกราคม พ.ศ. 2512
ณ หน้าท่ีว่าการอาเภอแม่สรวย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชมหาราชพร้อมด้วยสมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จ มาทาพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
โดยพระองคเ์ อง
จากการศึกษาเส้นทางโบราณท่ีใช้สัญจรกันระหว่างเมืองต่อเมืองของคนโบราณในอดีตและได้
ปะติดปะต่อเร่ืองราวต่างๆให้เป็นข้อมูล ดังต่อไปนี้ ตามประวัติศาสตร์ พระราชพงศาวดาร ได้บันทึกไว้ว่า
ปีมะโรง พุทธศักราช 2147 วันพฤหัสบดี เดือนยี่ แรม 6 ค่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสด็จยกกองทัพหลวง
พร้อมพหลพลพยุหเสนาทับช้าง ทับม้า วัว ควายสาหรับบรรทุกเสบียง และ อุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมคนเดินเท้า
ยกออกจากกรุงศรีอยุธยา จานวน 200,000 คน โดยแยกเป็น 2 ขบวนทัพ โดยสมเด็จพระอนุชาธิราชเอกาทศรถ
คมุ 1 กองทัพ เพอ่ื จะไปตอี งั วะโดยผา่ นเชยี งใหม่
มีพงศาวดาร บางฉบับได้บันทึกไว้ว่า ปี พุทธศักราช 2143 ซึ่งปลายรัชสมัยของพระองค์ท่าน
หัวเมืองทางเหนอื เกิดแตกแยกโดย ไมข่ ้ึนต่อเมอื งเชยี งใหม่ มี เมืองนา่ น เมืองฝาง เมืองชะเลียง และอีก 9 เมือง
โดยมีเมืองศรีสัตนาคนหุตล้านช้าง อยู่เบ้องหลังและตั้งตนเป็นใหญ่ เมื่อกองทัพหลวงยกทัพมา แล้วแยกทัพ
ออกเป็น 2 ขบวนทัพนั้น โดยให้สมเด็จพระเอกาทศรถ มากองหน่ึงโดยผ่านมาทางกาแพงเพชร ตาก ลาปาง
และ เข้าเชียงใหม่ เพื่อมาจัดการบ้านเมืองทางเหนือ และ รวบรวมพลหัวเมืองทางเหนือด้วย ส่วนกองทัพของ
พระองค์ท่าน ซึ่งเป็นทัพหลวง ยกทัพมาทางพิษณุโลก เนื่องจากทุกคร้ังที่พระองค์จะเสด็จ ไปราชการทัพแล้ว
ท่านจะแวะกราบ นมัสการ พระพุทธชินราชทุกคร้ัง ท้ังไปและกลับ และ อาจจะรวบรวมพลท่ีเมืองพิษณุโลก
และ ยกไปตีเมืองศรีสัตนาคนหุตล้านช้าง ตอนนั้น เมืองล้านช้างเกิดการแข็งเมือง ไม่ขึ้นตรงต่อเมืองเชียงใหม่
เพราะเชียงใหม่ ในขณะนั้นเป็นเมืองชายขอบของกรุงศรีอยุธยา โดยผ่านทาง เลย หนองบัวลาภู ตามลาดับ
และเข้าสูเ่ ขตเมืองลา้ นช้างเพราะเส้นทางดังกวา่ นี้ เปน็ เส้นทางโบราณ ที่กรงุ ศรีสตั นาคนหุตล้านช้าง กบั กรุงศรี
อยุธยาใชต้ ิดตอ่ เจริญสัมพนั ธไมตรตี ่อกัน ดงั จะเหน็ ได้จากจารกึ ที่พระธาตุศรสี องรกั จังหวัดเลย เป็นภาษาไทย
ล้านนาหรือ (ตั๋วเมือง) มี ใจความว่า “พระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรี อยุธยา กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่ง
กรงุ ลา้ นช้าง ไดก้ ระทาปฏญิ าณต่อกนั วา่ จะเป็นมติ รไมตรีต่อกนั ตลอดไป
-168-
พระองค์ใช้เส้นทางนี้เพื่อเข้าสู่ กรุงล้านช้าง พอจัดการบ้านเมืองเสร็จพระองค์ได้ยกทัพ กลับโดยใช้
เส้นทางที่พระเจ้าไชยเชษฐา ใช้เป็นเป็นประจา คือ ล้านช้าง – เชียงใหม่ เพราะพระเจ้าไชยเชษฐาเป็นคน
เชียงใหม่ โดยมีพระญาติฝ่ายแม่ และ พระเจ้าโพธิสารซ่ึงครองเมือง ศรีสัตนาคนหุต เป็นเมืองฝ่ายพระบิดา
ท่านจึงเดนิ ทาง ไป – มา ระหว่างสองเมืองนี้เป็นปกตโิ ดยใช้ลานา้ โขง ลาน้ากก และ ลาน้าลาวเป็นหลัก โดยมี
หลักฐาน คือ พระเจ้าทองทิพย์ ที่ประดิษฐาน ยังวัดพระเจ้าทองทิพย์ บ้านทองทิพย์ ตาบลศรีถ้อยอาเภอ
แม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซ่ึงพระพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้นามาจากเมืองศรีสัตนาคนหุตล้านช้าง และ ได้
นามาประดษิ ฐานระหว่างเส้นทางเดนิ -ระหวา่ งเมืองลา้ นนา และ ล้านชา้ งจะเหน็ ไดว้ ่าเสน้ ทางเส้นนี้ เป็นเส้นทาง
โบราณ อีกเส้นทางหนึ่งที่คนสมัยก่อน ได้ใช้ติดต่อกันระหว่างเมืองต่อเมืองโดยมีชุมทาง คือ ปากทางแม่สรวย
ใน ปัจจุบัน และ บริเวณโดยรอบ เพราะพอมาถึงท่ีบริเวณน้ีจะแยกเป็น 2 ทาง ทางหนึ่ง เข้าพะเยา ลาปาง
โดยลาดับทางท่ี 2 เข้าเชียงใหม่โดยตรงดังจะเห็นได้ว่า สมัยอยุธยาตอนปลาย เนเมียวสีหบดี แม่ทัพใหญ่พม่า
ได้เข้ามาทางเหนือของประเทศไทย ตีตั้งแต่เชียงแสนเรอื่ ยมา พอมาถึงตรงน้ีแยกเป็น 2 ทัพ ๆใหญ่แยกไปทาง
พะเยา – ลาปาง และ ได้สรา้ งวัดจองคา ไว้ท่ีอาเภองาว ส่วนทัพรองแยกไปทาง เชียงใหม่ ดังจะเห็นได้ จากการ
พักทัพของพม่า ในเส้นทางน้ีปัจจุบัน คือ บ้านทุ่งม่าน อยู่ในเขตอาเภอเวียงป่าเป้า และอีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง
คือ คราวท่ีเชียงใหม่ ตกเป็นเมืองข้ึนของพม่า ในสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง ท่านได้ส่งราชบุตรองค์เล็ก มังนรธาสอ
มาปกครองเชียงใหม่ ขบวนของท่านก็ได้ใชเ้ สน้ ทางนี้ ในการเดินทาง และ ในสมัยพ่อขุนเม็งรายมหาราชก็ได้ใช้
เส้นทางน้ี การเสด็จไปเชียงใหม่ ดังจะเห็นได้จาก ช่ือของประตูด้านทิศตะวันตกชื่อประตูเชียงใหม่ พอจะสรุปได้ว่า
กองทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชน่าจะใช้เส้นทางเหล่าน้ีในการเคล่ือนทัพ โดยผ่านมาทางกิ่วทัพย้ัง
อาเภอแม่จัน ผ่านเมืองเชียงราย มาทางประตูเชียงใหม่ ผ่านดงมะดะ แม่สรวย เวียงป่าเป้า เข้าเชียงใหม่
ทัพพระองค์ได้เสด็จ ล่วงหน้าไปก่อน ทัพพระอนุชาธิราช เอกาทศรถเสด็จตามหลัง ไปสมทบกองทัพ
พระนเรศวรมหาราชท่ีเมืองงาย แล้วจัดเป็นทัพใหญ่เข้าเวียงแหง เพื่อจะไปตีอังวะ ดอยเวียง ดงมะดะ ก็เป็น
เส้นทางผ่านอีกที่หนึ่งของการยกทัพผ่านของกองทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชโดยภูมิทัศน์โดยรอบ แล้วดอยเวียง
น่าจะเป็นที่ต้ังค่ายพักทัพของกองทัพหลวง ในคราวยกทัพผ่านในครั้งนั้น เพราะเป็นเนินไม่สูงนัก มีลาห้วย
ธรรมชาติไหล ผ่านตรงตนี เขา มพี ้นื ที่ราบเหมาะ แกก่ ารเพาะปลกู เตรยี มเสบียงบนเนนิ เขา จะมรี อ่ งรอยการขุด
เป็นค่าย โดยรอบใน 4 ทิศจะมีการก่อเจดีย์วัดสี่มุม ซ่ึงยังคงเหลือร่องรอย ให้เห็นอยู่จากการสอบถามคนแก่
ในพ้ืนที่ เคยมีคนได้พระเครื่องเป็นพระอบน้าอ้อยของเจดีย์องค์ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซ่ึงมีความนิยมในแถบ
ภาคกลาง และยังมคี นเคยได้ปนื ใหญห่ ลงั ชา้ ง และโซ่ลา่ มช้างในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง
๓.๒) ข้ันตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกี่ยวกับข้อมูล
ในวันท่ี 25 มกราคมของทุกปี ณ บริเวณป่าชุมชนดอยเวยี ง หมู่ท่ี 15 ตาบลดงมะดะ จะมีพิธีอัญเชิญ
เครื่องสักการะ บวงสรวงอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช การบวงสรวงดวงพระวิญญาณของ
สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชนั้น เปน็ การ แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีทมี่ แี ดผ่ ูม้ พี ระคุณต่อบา้ นเมือง
พิธีกรรม
กอ่ นจะเรมิ่ พธิ ี จะต้องมีการเตรยี มการดงั น้ี
๑. จะต้องทาราชวัตร ฉัตร ๔ ธง ๔ สัปปะทน ๑ โต๊ะวางเคร่ืองสังเวย พระเก้าอี้ในบริเวณมณฑลพิธี
ลว่ งหนา้ ๑ วนั
๒. เครือ่ งสงั เวย อนั ประกอบดว้ ย อาหารคาว อาหารหวาน ผลไมต้ ามฤดูกาล ดอกไม้ ธปู เทยี น บายศรีใหญ่
๙ ช้ัน บายศรปี ากชาม
๓. อาหารคาวประกอบดว้ ย หวั หมู ไก่ เป็ด ปลานึง่ ปู อย่างละคู่ ไข่ตม้ เทา่ อายเุ มือง
๔. อาหารหวานประกอบดว้ ย ขนมตม้ ขาว ขนมต้มแดง ถัว่ แดง นม เนย อ้อยควน่ั ถัว่ ทอง อย่างละ ๒ จาน
๕. ผลไม้ตามฤดกู าล ๙ อย่าง ยกเว้นเงาะ ละมดุ
๖. ธปู ๙ ดอก เทียนเงิน เทยี นทอง ๙ คู่
-169-
๗. บายศรีใหญ่ ๙ ชั้น ๑ คู่ บายศรีปากชาม ๑ คู่
๘. เมื่อถึงวันพิธี ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เสร็จแล้วพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีจะกล่าว
โองการ หลังจากน้ันผู้ร่วมพิธีก็จะปักธูปเทียน เครื่องสังเวยถวายดวงพระวิญญาณ เป็นอันเสร็จพิธี อน่ึงเม่ือธูป
หมดดอกแล้วกจ็ ะขอลาเครื่องสังเวยดงั กลา่ ว
ในการทาพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราชน้ัน เป็นความเช่ือในเร่ืองรูปและ
นาม (กายและวิญญาณ) เม่ือหมดรูปนามก็จะเสวยสุขบนสรวงสวรรค์ทิพยวิมาณ นอกจากเป็นการแสดงความ
กตัญญูกตเวทิตาแลว้ ผู้จดั ทาพธิ ีก็จะไดค้ วามม่นั ใจ กาลังใจในการประกอบกิจการงานเพือ่ บ้านเมืองรวมท้ังเป็น
สริ ิมงคลแกต่ นเองตลอดจนเปน็ การรวมพลังสามัคคีในหมู่คณะด้วย
๔. ช่ือผูท้ ี่ถือปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด
4.๑ ผูท้ ่ถี ือปฏบิ ตั ิ
ชื่อ เทศบาลตาบลดงมะดะ
วนั เดือน ปีเกิด -
ทีอ่ ยู่ ๑๑๘ ตาบลดงมะดะ อาเภอแมล่ าว จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 053 184 084
4.๒ ผู้สืบทอด
ชือ่ ชาวบ้านตาบลดงมะดะ และอาเภอแมล่ าว
วนั เดือน ปีเกิด -
ทอ่ี ยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย เสยี่ งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบัติแลว้
6. รปู ภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม (พร้อมบรรยำยใตภ้ ำพ)
-๑70-
-171-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอพญำเม็งรำย จงั หวดั เชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมูล พธิ ีฮ้องขวัญ (สขู่ วัญ/เรียกขวัญ) สะเดาะเคราะห์
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝมี ือดง้ั เดมิ
การละเลน่ พ้นื บ้าน กีฬาพ้ืนบ้าน และศิลปะการต่อสูป่ ้องกันตัว
๓. รำยละเอียดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของข้อมลู
ค ว า ม เ ชื่ อ แ ล ะ พิ ธี ท า ข วั ญ เ ป็ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ แ ส ด ง ค ว า ม ผู ก พั น แ ล ะ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ใ น ร ะ บ บ
เครอื ญาติระหวา่ งบคุ คลกับครอบครวั และบุคคลกับชุมชน ชาวพ้นื เมืองทางภาคเหนือสบื ต่อความเช่ือเร่ืองขวัญ
มาช้านาน ท้ังชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อ ไทยเขิน และมีความเชื่อว่า “ขวัญ” เป็นสิ่งท่ีอยู่ในร่างกายทุกคน
“ขวัญ” มีลักษณะเบา เคลื่อนไหวได้ ไม่อาจเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ ขวัญ แฝงอยู่ในคน สัตว์และส่ิงของ เมื่อใด
ท่ีขวัญอ่อนลงหรือหย่อนจะทาให้สภาวะของร่างกายและจิตใจของเจ้าของขวัญจะรู้สึกเสียใจ ตกใจ ท้อใจ
เม่อื เจ้าของขวญั มขี วญั ดจี ะรู้สึกสขุ สบายใจและกล้าหาญ มีพลังเต็มเปย่ี ม ชาวไทยลา้ นนาเรียก “ขวัญอยู่กับเน้ือ
กับตัว” นอกจากนี้ชาวล้านนามีคาเรียกลักษณะขวัญที่อยู่กับเน้ือกับตัวว่า “รู้คิง” หมายถึงอาการของคน
ท่ีรู้เรื่อง รู้สึกตัว มีความรู้สึกเข้าใจทุกอย่าง ทุกขณะพูดและทาการใดก็รู้สติ ขวัญเป็นพลังแฝงในจิตใจเป็น
นามธรรม ดูแลควบคุมกายจิตใจและวิญญาณให้มีดุลยภาพ ขวัญของชาวล้านนาจัดแบ่งประเภทเหมือนกับ
คนไทยท้องถ่ินอ่ืน คือ มีขวัญคน ขวัญพืช ขวัญสัตว์ และขวัญสิ่งของ (บ้านเรือนและเครื่องใช้ในการเกษตร)
ชาวไทยลา้ นนามีพิธีกรรมโบราณ เรียกวา่ “พิธฮี ้องขวัญ”หมายถงึ พิธีเรียกขวัญให้กลับคืนสู่ร่างเดิม พธิ ีฮอ้ งขวัญ
เป็นการผสมผสานระหว่างความเช่ือเร่ืองขวัญกับศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์ และความเชื่อในอานาจเหนือ
ธรรมชาติ พิธีฮ้องขวัญจะทาในโอกาสที่ชีวิตมีการเปล่ียนแปลงหรือมีเหตุต้องจากบ้านไปไกล มีความเจ็บป่วย
และเกิดอุบัติเหตุหรือในกรณีที่มีบุคคลสาคัญมาเยี่ยมเยือนบ้านเมือง พิธีกรรมฮ้องขวัญของชาวล้านนา
มักปฏบิ ัติรว่ มกับพิธกี รรมสะเดาะเคราะห์ (ส่งเคราะห์) และพิธสี ืบชะตา โดยจะมีปฏิบัตติ ่อเนื่องกัน โดยเรมิ่ จาก
การสะเดาะเคราะห์ การสบื ชะตาและการเรยี กขวัญ
พธิ ีฮ้องขวัญ ยงั คงปฏิบัตกิ ันอยู่ในชมุ ชนลา้ นนา ทงั้ ชนเผ่า เพื่อแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างคนในชุมชน
สร้างเสริมกาลังใจและขัดเกลาจริยธรรมและพฤติกรรมคนในชมุ ชน พิธีเรียกขวัญหรือพิธีทาขวัญของชาวเหนือ
มหี ลายลักษณะ ได้แก่ การเรียกขวัญเด็ก (การทาขวญั ) ขวัญลูกแกว้ (นาค) ขวญั นาค ขวญั สามเณร ขวัญผู้ป่วย
ขวญั บา่ วสาว ขวัญผู้ทจ่ี ะเดนิ ทางไกล ขวัญผทู้ ่ีมาเยือน ขวัญผใู้ หญ่บา้ นและอาจารย์วัด ขวัญขา้ ว ขวญั ชา้ ง ขวญั
วัวควาย ขวญั เรือน ขวญั เสา ผู้ท่เี ข้าร่วมพธิ เี รียกขวัญมี หมอขวญั เจา้ ของขวัญญาติพ่ีน้องที่เข้าร่วมพธิ ีเรียกขวัญ
อุปกรณ์ประกอบพิธีกรรมมีเคร่ืองบายศรี (ทาจากใบตองและดอกไม้ที่มีกล่ินหอม ประดิษฐ์เป็นชั้นสวยงาม)
ไข่ต้ม ข้าว กล้วย นา้ ใบพลู หมากเมย่ี ง บหุ ร่ี ด้ายดิบและดา้ ยผกู ข้อมือ
-172-
๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกยี่ วกับข้อมูล
ข้นั ตอนของพิธกี รรมฮ้องขวัญ คือ การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ที่ใชใ้ นพิธกี รรม โดยอุปกรณป์ ระกอบ
พิธกี รรมมีเคร่ืองบายศรี (ทาจากใบตองและดอกไม้ท่ีมกี ลนิ่ หอม ประดษิ ฐ์เป็นชน้ั สวยงาม) ไข่ต้ม ขา้ ว กลว้ ย นา้
ใบพลู หมากเมี่ยง บุหร่ี ด้ายดิบและด้ายผูกข้อมือ พร้อมกับเชิญหมอขวัญมาทาพิธีตามฤกษ์ยามท่ีกาหนดไว้
ในช่วงพิธี หมอขวัญจะทาพิธีเรียกขวัญ โดยเริ่มจากกล่าวคาอัญเชิญเทวดา บทเรียกขวัญ (เป็นสานวนเก่าหรือ
สานวนแต่งขึ้นโดยปฏิภาณในช่วงทาพิธีก็ได้) ช่วงเรียกขวัญจะทาพิธีเสี่ยงทายว่าขวัญมาแล้วหรือยัง จากน้ัน
หมอขวัญจะเอานา้ มนต์มาพรมให้เจา้ ของขวญั พร้อมทงั้ อวยพรให้อยเู่ ยน็ เป็นสุข และใช้ดา้ ยสายสิญจน์มามัดมือ
ซ้ายของเจ้าของขวัญเพ่ือให้ขวัญมา และมัดมือขวาเพ่ือให้ขวัญอยู่กับเน้ือกับตัว จากน้ันผู้ท่ีมาร่วมงานก็จะร่วม
รับประทานอาหารและเจ้าของขวัญร่วมทานอาหารและทานไข่ต้มที่ประกอบพิธี จากน้ันญาติจะนาเคร่ือง
บายศรีไปวางไว้ที่หัวนอนของเจ้าของขวัญโดยคาเรียกขวัญจะมี เน้ือความที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ
พิธกี รรม
๔. ชื่อผู้ท่ีถอื ปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผทู้ ่ีถือปฏบิ ตั ิ
ชื่อ นายสว่ ย มาจักร
วัน เดอื น ปีเกิด 16 พฤษภาคม 2488
ท่อี ยู่ 55 หมู่ 3 ตาบลแมต่ ๋า อาเภอพญาเมง็ ราย จังหวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 082 884 5633
4.๒ ผูส้ บื ทอด
ช่อื -
วัน เดือน ปเี กดิ -
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไมม่ ีปฏบิ ตั ิแล้ว
๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-173-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำยประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย
อำเภอเวยี งชัย จังหวดั เชียงรำย
๑. ช่ือข้อมลู พิธฮี ้องขวัญ หรือ หมอขวัญ
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบตั ิเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือดงั้ เดิม
การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกันตวั
๓. รำยละเอียดขอ้ มูล
๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู
คนไทยในสังคมภาคเหนือสืบต่อความเช่ือเรื่องขวัญมาช้านาน ทั้งชาวไทใหญ่ ไทล้ือ ไทเขิน และชาวไทย
ภาคเหนือตอนล่างมีความเช่ือว่า ขวัญเป็นส่ิงที่อยู่ในร่างกายทุกคน ขวัญมีลักษณะเบา เคลื่อนไหวได้ ไม่อาจ
เห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ ขวัญแฝงอยู่ในคน สัตว์และส่ิงของ เม่ือใดท่ีขวัญอ่อนลงหรือหย่อนจะทาให้สภาวะของ
ร่างกายและจิตใจของเจ้าของขวัญ จะรู้สึกเสียใจ ตกใจ ท้อใจ เม่ือเจ้าของขวัญมีขวัญดีจะรู้สึกสุขสบายใจและ
กล้าหาญ มีพลังเต็มเปี่ยม ชาวล้านนาเรียก “ขวัญอยู่กับเนื้อกับตัว” นอกจากนี้ชาวล้านนามีคาเรียกลักษณะ
ขวัญที่อยู่กับเน้ือกับตัวว่า “รู้คิง” หมายถึง อาการของคนที่รู้เรื่อง รู้สึกตัว มีความรู้สึกเข้าใจทุกอย่าง ทุกขณะ
พูดและทาการใดก็รู้สติ ขวัญเป็นพลังแฝงในจิตใจเป็นนามธรรม ดูแลควบคุมกายจิตใจและวิญญาณให้มีดุลยภาพ
ขวัญของชาวล้านนาจัดแบ่งประเภทเหมือนกับคนไทยท้องถ่ินอื่น คือ มีขวัญคน ขวัญพืช ขวัญสัตว์ และขวัญ
ส่ิงของ (บ้านเรือนและเครื่องใช้ในการเกษตร) ชาวล้านนามีพิธีกรรมโบราณ เรียกว่า “พิธีฮ้องขวัญ” หมายถึง
พิธีเรียกขวัญให้กลับคืนสู่ร่างเดิม พิธีฮ้องขวัญเป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อเรื่องขวัญกับศาสนาพุทธ
ศาสนาพราหมณ์ และความเชื่อในอานาจเหนือธรรมชาติ พิธีฮ้องขวัญจะทาในโอกาสที่ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง
หรือมีเหตุต้องจากบ้านไปไกล มีความเจ็บป่วยและเกิดอุบัติเหตุหรือในกรณีที่มีบุคคลสาคัญมาเย่ียมเยือนบ้านเมือง
พิธีกรรมฮ้องขวัญของชาวล้านนามักปฏิบัติร่วมกับพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ (ส่งเคราะห์) และพิธีสืบชะตา
โดยจะมีปฏบิ ัติตอ่ เนอ่ื งกนั โดยเร่มิ จากการสะเดาะเคราะห์ การสืบชะตาและการเรยี กขวัญ
๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มูล
ขั้นตอนของพิธีกรรมฮ้องขวัญ คือ การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ท่ีใช้ในพิธีกรรม พร้อมกับเชิญ
หมอขวัญมาทาพิธีตามฤกษ์ยามที่กาหนดไว้ในช่วงพิธี หมอขวัญจะทาพิธีเรียกขวัญ โดยเริ่มจากกล่าว
คาอัญเชิญเทวดา บทเรียกขวัญ (เป็นสานวนเก่าหรือสานวนแต่งข้ึนโดยปฏิภาณในช่วงทาพิธีก็ได้) ช่วงเรียกขวัญ
จะทาพธิ เี สี่ยงทายว่าขวัญมาแลว้ หรือยัง จากนน้ั หมอขวัญจะเอาน้ามนตม์ าพรมใหเ้ จ้าของขวัญพร้อมทงั้ อวยพร
ให้อยู่เย็นเป็นสุข และใช้ด้ายสายสิญจน์มามัดมือซ้ายของเจ้าของขวัญเพ่ือให้ขวัญมา และมัดมือขวาเพ่ือให้
ขวัญอยู่กับเนื้อกับตัว จากนั้นผู้ที่มาร่วมงานก็จะร่วมรับประทานอาหารและเจ้าของขวัญร่วมทานอาหารและ
ทานไข่ต้มท่ีประกอบพิธี จากน้ันญาติจะนาเครื่องบายศรีไปวางไว้ท่ีหัวนอนของเจ้าของขวัญโดยคาเรียกขวัญ
จะมเี นอื้ ความที่แตกต่างกนั ไปตามประเภทของพธิ กี รรม
-174-
การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ท่ีใช้ในพิธีกรรม พร้อมกับเชิญหมอขวญั มาทาพิธีตามฤกษ์ยามท่ีกาหนด
ไว้ในช่วงพิธี หมอขวัญจะทาพิธีเรียกขวัญ โดยเริ่มจากกล่าวคาอัญเชิญเทวดา บทเรียกขวัญ (เป็นสานวนเก่า
หรือสานวนแต่งขึ้นโดยปฏิภาณในช่วงทาพิธีก็ได้) ช่วงเรียกขวัญจะทาพิธีเส่ียงทายว่าขวัญมาแล้วหรือยัง
จากน้ันหมอขวัญจะเอาน้ามนต์มาพรมให้เจ้าของขวัญพร้อมท้ังอวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุข และใช้ด้ายสายสิญจน์
มามัดมือซ้ายของเจ้าของขวัญเพ่ือให้ขวัญมา และมัดมือขวาเพื่อให้ขวัญอยู่กับเน้อื กับตัว จากน้ันผู้ที่มาร่วมงาน
ก็จะร่วมรับประทานอาหารและเจ้าของขวัญร่วมทานอาหารและทานไข่ต้มท่ีประกอบพิธี จากน้ันญาติจะนา
เครื่องบายศรีไปวางไว้ที่หัวนอนของเจ้าของขวัญโดยคาเรียกขวัญจะมี เน้ือความที่แตกต่างกันไปตามประเภท
ของพธิ กี รรม
๔. ช่อื ผูท้ ี่ถอื ปฏิบัตแิ ละผู้สบื ทอด
๔.๑ ผทู้ ถ่ี อื ปฏบิ ัติ
ช่อื นายคาปนั ขนั จันทร์แสง
วนั เดือน ปีเกิด 15 มนี าคม 2488
ทอี่ ยู่ 19 หมู่ 9 ตาบลผางาม อาเภอเวียงชัย จังหวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผู้สืบทอด
ช่อื นายทิศ ทิศคา
วัน เดอื น ปีเกิด 3 มนี าคม 2493
ที่อยู่ 11 หมู่ 9 ตาบลผางาม อาเภอเวยี งชัย จงั หวดั เชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 063 378 0292
๕. สถำนะกำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพร่หลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไมม่ ีปฏิบตั แิ ล้ว
๖. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-175-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี 2565
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งรำย
1. ชื่อข้อมูล วถิ ีชีวิตชาวไทยวน
2. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัติเกย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานช่างฝีมือด้งั เดมิ
การละเลน่ พ้นื บา้ น กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว
3. รำยละเอยี ดข้อมูล
3.1 ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล
ชาวไทยวนเชียงแสน ซ่ึงเป็นลูกหลานท่ีมีบรรพบุรุษเป็นชาวไทยวนเชียงแสน ในอดีตมีความรุ่งเรือง
ในด้านการปกครอง สถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และหัตถกรรม ฯลฯ มีประวัติในด้านการ
ปกครองมาย่างยาวนาน มีเมืองหลวงปกครองตนเองที่สืบต่อกันมาต้ังแต่อาณาจักโยนกเชียงแสน ในตานานระบุว่า
พระเจา้ สิงหนวัติ ปฐมกษัตริยท์ รงสร้งเมืองหลวงขนานนามว่า “เมือนาคพันธุ์สิงหนวัตินคร” หรอื “โยนกนคร”
มีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกันมาจนถึงรัชกาลพระมหาไชยชนะ กษัตริย์องค์ที่ 46 เมืองโยนกนาคนครก็ล่มจม
เป็นหนองน้า เหตุเพราะชาวบ้านได้จับปลาไหลเผือก แล้วนาไปแจกจ่ายกินกันท่ัวเมือง จึงเกิดอาเพศวิบัติ
เมืองโยนกจึงเปน็ อนั ส้ินสุดลง และไดแ้ ต่งตั้งขุนคลังเป็นผใู้ หญ่บ้านปกครองแทนราชวงศ์ และสร้างเมืองใหม่ข้ึน
ชื่อ “เวียงปรึกษา” ที่ติดริมฝั่งแม่น้าโขง (บ้านเชียงแสนน้อย) มีผู้ปกครองสืบต่อกันมาได้ 15 คน จึงได้ส้ินสุด
แหง่ การปกครองเวยี งปรกึ ษาลง
ต่อมาถึงสมัยราชวงศ์หิรัญเงินยาง มีลาวจักรราชเป็นปฐมกษัตริย์ ปกครองสืบต่อกันมาอีกถึง
24 พระองค์ องค์สุดท้ายคือราชวงศ์หิรัญเงินยาง ชื่อลาวเป็ง พระองค์มีโอรสทรงพลานุภาพ ทรงพระนามว่า
พญามังราย ประสูติเม่ือปีพุทธศักราช 1839 ทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ นามว่า นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
ส่วนเมืองเชยี งราย ให้ขุนครามโอรสปกครอง นับเป็นจดุ เร่ิมตน้ ของเมืองเชียงราย ดงั นนั้ เชยี งแสนจึงลดบทบาทลง
ในปีพ.ศ. 1871 พญาแสนภู ซ่ึงเป็นโอรสของขุนคราม ซึ่งเป็นหลานของพญามังราย ได้มาสร้าง
เมืองใหม่ท่ีบริเวณเมืองเก่าริมฝั่งแม่น้าโขง ซึ่งเคยเป็นเมืองโยนกมาก่อน ได้ทาพิธีฝังหลักเมือง เม่ือวันศุกร์ เดือน 5
(เดือน 7 เหนือ) ข้ึน 2 ค่า ปีมะโรง มีกษัตริย์ปกครองท่ีเป็นลูกหลานปกครองมาจนถึง พ.ศ. 2102
พระเจ้า หงสาวดี บุเรงนอง ยกทัพมาตีเมืองในล้านนา เมืองเชียงแสนได้ตกเป็นของพม่าตั้งแต่นั้นมา พม่ากับ
กรุงศรีอยุธยาเกิดสู้รบกัน เชียงใหม่ก็รบกับพม่าบ้าง ไทยบ้าง เชียงแสนก็ตกเป็นของพม่าบ้าง อยุธยาบ้าง
ล้านช้างบ้าง เชียงใหม่บ้าง ในที่สุดก็โดนปกครองโดยพม่า เชียงแสนกลายเป็นสมรภูมิท่ีพม่ายึดเป็นเมือง
ประเทศรบกับไทยเร่ือยมาเป็นระยะเวลา 200 ปี
ในปี พ.ศ. 2347 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ให้กรมหลวงเทพบริรักษ์กับพญายมราช
ยกกองทัพร่วมกับเมืองหลวงพระบาง พร้อมด้วยกองทัพจากหัวเมือง ได้แก่ น่าน ลาปาง เชียงใหม่ แพร่ ข้ึนมา
ขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงแสน และเผาเมืองทิ้งเสีย กวาดต้อนผู้คนประมาณ 22,000 ครอบครัว จัดแบ่ง
เป็น 5 ส่วน ให้ไปต้ังถิ่นฐานในเมืองนั้น ๆ ไทยวนเชยงแสนจึงได้เดินทางออกจากเมืองเชียงแสน ดังนั้น เชียง
แสนจึงกลายเป็นเมืองร้าง
-176-
ครอบครัวท่ีมากับกองทัพหลวงลงมาจากกรุงเทพฯ ผ่านเมืองสระบุรี ส่วนหน่ึงขอต้ังถ่ินฐานที่ลุ่ม
แม่น้าป่าสัก ปัจจุบันคือ อาเภอเสาไห้ ส่วนท่ีเหลือมาพักท่ีกรุงเทพฯ และได้โปรดเกล้าฯ ให้ไปต้ังถ่ินฐาน
ท่ีเมืองราชบุรี ริมฝั่งแม่น้าแม่กลอง ปัจจุบันเรียกว่า บ้านไร่นที ตามกองทัพไปเมืองเชียงใหม่บ้าง ที่แพร่ น่าน
อตุ รดิตถ์ พิษณโุ ลก สคี วิ้ ตลอดจนถึงหลวงพระบาง
ต่อมาในสมัยรัชกาลท่ี 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองเชียงแสน ทัพพม่า ล้ือ เขิน
ท่ีมาจากเชียงตุง ชาวป่า ชาวดอย เข้ามาต้ังรกรากในเมืองเชียงแสนอย่างเป็นอิสระ ไม่ข้ึนกับอานาจการ
ปกครองของไทย พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าอินทรไชยานน เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่นากาลังมาขับไล่
(กาลังคน 4,500) เพ่อื ผลกั ดนั ใหค้ นเหลา่ นัน้ ออกไปจากเมอื งเชียงแสน เมอ่ื พ.ศ. 2417
ต่อมาได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าอินต๊ะ บุตรเจ้าบุญมาผู้เป็นหลายของเจ้าอินทรไชยานน ซ่ึงครองเมือง
ลาพูนอยู่ และให้เจ้ากาวะละผู้ครองเชียงใหม่ นาราษฎรท่ีถูกกวาดต้อนไปเม่ือครั้งรัชกาลที่ 1 ขึ้นไปตั้งถ่ินฐาน
ประมาณ 1,500 ครอบครัว ในเมืองเชียงแสน และพระราชทานบรรดาศักดิ์เจ้าอินต๊ะ เป็นพระยาเดชดารง
ตาแหน่งเจา้ เมอื งเชยี งแสน
เม่ือ พ.ศ. 2442 ย้ายศนู ยก์ ลางการปกครองไปที่ตาบลกาสา (อาเภอแม่จนั ในปัจจบุ ัน) เมอื งเชียงแสน
ยบุ เปน็ ก่งิ อาเภอเชยี งแสนหลวง
เมื่อวันท่ี 9 เมษายน พ.ศ. 2500 เมืองเชียงแสนได้ถูกตั้งให้เป็นอาเภออีกคร้ัง จึงเรียกได้ว่า อาเภอ
เชยี งแสน จงั หวัดเชียงราย นับแตน่ นั้ มา
ต่อมา กลุ่มคนไทยยวนที่อพยพไปในสมัยสงคราม กับอีกกลุ่มท่ีอพยพไปก่อนเม่ือเกิดโรคระบาด
เช่น ที่สบแล จ.อุตรดิตถ์ ได้รวมตัวกันราลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนของบรรพบุรุษ เขาเหล่าน้ันยังคงรักษาความ
เป็นเชียงแสน เช่น ไทยวน ราชบุรี ท่ียังมีวัฒนธรรม ภาษา การกิน ขนบธรรมเนียมต่า งๆ การทอผ้าลาย
เชยี งแสน กลุ่มสระบุรี ยงั คงรักษาวัฒนธรรมประเพณที ต่ี ิดตัวไปจากเชียงแสน
สรุปได้ว่า คนไทยยวน มีภาษาพูด ภาษาเขียน การแต่งกาย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม
เปน็ อัตลกั ษณ์ของตนเองและแสดงถึงเผา่ พันธข์ุ องตัวตนไดอ้ ย่างชัดเจน
๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเก่ยี วกบั ขอ้ มลู
ในปี พ.ศ. 2558 ไดม้ กี ารรวมตวั ของกลมุ่ ชาตพิ ันธไุ์ ทยวนทว่ั ประเทศเกิดขน้ึ โดยการนาของ ดร.อดุ ม สมพร
ประธานสมาพันธ์สมาคมไทยวนแห่งประเทศไทย ได้มาเยือนเชียงแสน และชาวไทยวนท่ีแยกย้ายกันไปอยู่ที่ต่าง ๆ
ไดม้ ารวมตวั กนั จดั กิจกรรมรว่ มกันและชว่ ยกันอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมประเพณีของไทยวนไว้ให้ลกู หลานสืบทอดต่อกนั ไป
สาหรับชมรมไทยวนเชียงแสนไดก้ ่อต้ังข้นึ เมื่อ พ.ศ. 2558 โดยมี นายบุญสง่ เช้อื เจด็ ตน เป็นประธาน
พระพทุ ธญิ าณมุนี เจา้ อาวาสวดั พระธาตุผาเงา (เจา้ คณะจังหวัดเชยี งราย) เปน็ ที่ปรึกษา
การจัดกิจกรรมของไทยวน มีดังน้ี
1. ผ้าจก ผ้าลายสายใจยวนเชียงแสน (เร่ิมทอ พ.ศ. 2555) โดยมีการจัดมอบผ้าทอที่ทาทอร่วมกัน
โดยมีจงั หวดั ราชบุรี ทอจกลายดอกแกว้ แลว้ สง่ ต่อไปยงั ไทยวนสระบุรี อาเภอเสาไห้ จังหวัดเชียงใหม่ที่อาเภอ
แม่แจ่ม จังหวัดอุตรดิตถ์ท่ีอาเภอตรอน จังหวัดน่านท่ีอาเภอท่าวังผา บ้านดอนแก้ว จังหวัดแพร่ท่ีอาเภอลอง
และจังหวัดเชียงราย อาเภอเชียงแสนบ้านสบคา ได้รวบรวมผ้าจกมอบไว้ให้พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ อยู่ท่ี
วัดพระธาตุผาเงา เม่ือวันที่ 16-17 มีนาคม พ.ศ.2558 เพ่ือเป็นสัญลักษณ์ของเผ่าพันธ์ุไทยวน ที่ไม่เคยขาด
จากกัน และอนรุ กั ษ์ไวส้ ืบทอดต่อไป
2. การจัดงานยวนคืนเมอื ง
มีการจัดช้างสาหรับข่ีเข้าเมืองเชียงแสน และมีการฟ้อนต้อนรับไทยวนทั่วประเทศท่ีเข้ามาร่วมงาน
และมพี ีน่ ้องไทยวนจากบา้ นปากแวกจากหลวงพระบาง สปป.ลาว เข้าร่วมดว้ ย
-177-
3. การปลดปลอ่ ยวิญญาณ
มีทา่ นผรู้ คู้ ือ อาจารยพ์ ษิ ณุ ทรัพย์สุวรรณ ผู้เช่ียวชาญในการทาสมาธจิ ิต สือ่ สารกับจติ วญิ ญาณของเด็ก
ในหนองน้า หรือชาวเชียงแสนเรียกว่า หนองกลางเกียง (หนองกลางเวียง) อยู่ห่างจากแม่น้าโขงประมาณ
800 เมตร ไดก้ ลา่ ววา่ มีดวงวญิ ญาณเด็กขอใหช้ ว่ ยปลดปล่อยดวงวญิ ญาณออกจากหนองนา้ แหง่ น้ี เพราะทุกข์
ทรมานมานานกว่า 213 ปีแล้ว สืบเน่ืองมาจากตอนเชียงแสนแตก พวกที่ติดตามกองทัพไปมีแต่ผู้ใหญ่
ท่ีแข็งแรง ต้องเร่งรีบหนี เพราะเกรงว่าพม่าจะกลับมาถ้านาเด็กไปด้วยจะทาให้เสียเวลาและไม่มีใครดูแล
บางคนพอ่ แม่ บางคนพอ่ แมก่ ต็ ายในสงคราม จาเปน็ ตอ้ งเอาเดก็ ลงเรอื ปล่อยลงนา้ ท่หี นองกลางเวียงระหว่างนั้น
เรือเกิดล่ม เด็กเหล่าน้ันจึงจมน้าตายหมด เม่ือเวลาผ่านไป 200 กว่าปี วิญญาณเด็กเหล่าน้ันจึงมาส่ือสาร
เพ่อื ขอความช่วยเหลอื (อาจเป็นเพราะพวกทีก่ ลบั มาเชียงแสนอาจเป็นญาตพิ ่นี ้องของเขาเหลา่ นนั้ )
ดังน้ัน นายบุญส่ง เชื้อเจ็ดตน ประธานไทยวนเชียบแสน ร่วมกับ ดร.อุดม สมพร นายกสมาพันธ์
สมาคมไทยวนแหง่ ประเทศไทย และสมาชกิ ไทยวนแตล่ ะจังหวัด ไดจ้ ดั ทาพิธขี น้ึ เมอ่ื วันท่ี 29 ธนั วาคม 2559
4. จัดประชุมไทยวน ที่วัดไชยมงคล ตาบลน้าอ่าง อาเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ เพ่ือพบปะประจาปี
ของพ่ีน้องไทยวนทั่วประเทศ เม่อื วนั ที่ 18-19 พฤศจิกายน 2560
5. การจัดงานต้อนรับพ่ีน้องไทยวนทั่วประเทศ (ประชุมประจาปี) ท่ีวัดพระธาตุผาเงา เมื่อวันที่ 16-
17 มถิ ุนายน พ.ศ. 2561
6. จัดงาน ยวน เยือน ยวน ประจาปี พบปะพ่ีน้องไทยวน ท่ัวประเทศทีอาเภอเสาไห้ จังหวัดราชบุรี
เมอ่ื วันที่ 9-10 ธันวาคม 2561
7. จดั งาน ยวน แยง ยวน ครงั้ น้ีทเ่ี ชยี งแสนเปน็ เจา้ ภาพ จัดงานที่บริเวณวดั เจดียห์ ลวง และพพิ ิธภัณฑ์
เมอื งเชียงแสน เพอ่ื พนี่ อ้ งไทยวนได้พบปะแลกเปล่ียนเรียนรู้กนั เมือ่ วันที่ 6-8 ธนั วาคม 2562
ตอ่ มาปี พ.ศ. 2563-2564 ได้งดจัดกจิ กรรม เน่อื งจากสถานการณโ์ ควิต-19
ดงั น้นั ประโยชน์ของการจดั ตั้งชมรม ไทยวน ในเชียงแสนข้ึนมามดี งั น้ี
1. เพ่ือสืบสายสัมพนั ธ์กับพ่ีน้องไทยวนทัว่ ประเทศ
2. จัดกิจกรรมพบปะและประชุมประจาปขี องไทยวนเชยี งแสน
3. ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจกับผูม้ าเยือนเมอื งเชยี งแสนเชงิ ประวตั ิศาสตร์และชาติพันธุ์ไทยวน
4. เผยแพร่การแต่งกายของชาวไทยวนในวาระและเทศกาลต่าง ๆ
5. เผยแพรท่ ีม่ าของชาติกาเนิดของไทยวนท่มี ที ี่มาที่ไปอยา่ งไร
6. มีพิพิธิภัณฑ์ผ้าทอไทยวน อยู่ท่ีวัดพระธาตุผาเงา เป็นศูนย์การเรียนรู้ผ้าจก และเป็นท่ีจัดการแสดง
ผา้ จก รวมลายสายใจยวนเชียงแสน ทอเปน็ ผนื เดยี วกนั แตม่ ลี ายของแตล่ ะจงั หวดั อยคู่ รบทกุ ลายในผืนเดียวกัน
๔. ช่อื ผทู้ ี่ถือปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด
๔.๑ ผ้ทู ่ีถือปฏบิ ตั ิ
ชอ่ื นายบุญส่ง เชือ้ เจด็ ตน
วนั เดอื น ปเี กดิ 12 มถิ นุ ายน 2492
ทอ่ี ยู่ 119/1 ตาบลเวยี ง อาเภอเชียงแสน จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 082 758 0882
๔.๒ ผู้สบื ทอด
ชื่อ สภาวฒั นธรรมเทศบาลเวียงเชียงแสน และ สภาวฒั นธรรมอาเภอเชยี งแสน
วัน เดือน ปีเกดิ -
ที่อยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
-178- ไมม่ ีปฏิบตั แิ ล้ว
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอยา่ งแพร่หลาย เส่ียงตอ่ การสญู หาย
๖. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
พธิ ีกรรมปลดปล่อยดวงวิญญาณเด็ก (ทีห่ นองกลางเวียง)
กจิ กรรมงาน ยวน แยง ยวน อาเภอเชยี งแสน เป็นเจ้าภาพ
กจิ กรรมงาน ไท ยวน ทห่ี อวัฒนธรรมพื้นบ้านจงั หวัดสระบุรี
-๑79-
กจิ กรรมงาน ยวน เยือน ยวน ท่แี ม่นา้ ป่าสกั อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
กจิ กรรมงาน ไท ยวน ท่านา้ อ่าง ที่วดั ไชยมงคล อาเภอตรอน จงั หวัดอุตรดิตถ์
ลายผ้าจกเชียงแสน
เชยี งแสนเป็นเจ้าภาพต้อนรบั คณะ ไท ยวน ท่วั ประเทศ ประชุมประจาปี ทว่ี ดั พระธาตผุ าเงา
-180-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี 2565
สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอขุนตำล จงั หวดั เชยี งรำย
1. ช่ือข้อมูล ส่งเคราะห์ส่วนตัว
2. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือดัง้ เดิม
การละเล่นพ้นื บา้ น กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการต่อส่ปู ้องกันตัว
3. รำยละเอียดข้อมูล
3.1 ประวัติความเปน็ มาของข้อมูล
การส่งเคราะห์เปน็ การสบื ทอดปฏบิ ัตกิ นั มาตั้งแต่สมัยโบราณ และนายดวงคา เปน็ หมอเมืองลา้ นนา
เป็นมคั นายกประจาวัด และมีการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษอีกท้ังศึกษา คน้ ควา้ มาอย่างตอ่ เนอื่ งจนกระทง่ั ถงึ
ปัจจุบัน
๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกย่ี วกบั ข้อมูล
การสะเดาะเคราะห์ มีสิ่งที่ต้องเตรียมดังนี้ สะตวงคือ เอากาบกล้วยมาทาเป็นส่ีเหลี่ยมให้เหมือนถาด
ส่ีเหลี่ยม ขนาดกว้าง 1 คืบกว่า ๆ ช่อสีแดง 4 อัน ของใส่ในสะตวงมี หมาก พลู กล้วย อ้อย มะพร้าว ลูกส้ม
ของหวาน อย่างละ 4 ช้ิน พริก เกลือ ปลาแห้ง อย่างละ 4 ช้ิน ข้าวสีแดง 4 ก้อน ข้าวสีดา 2 ก้อน ดอกไม้
เทียน เส้ือผ้าของผู้ป่วย ขันตั้งพ่ออาจารย์ มี หมากหัวพลูมัดเทียนเล่มละ 1 บาท 1 คู่ เทียมเล่มเฟ้ือง 1 คู่
เทยี นเล็ก 8 คู่ ผา้ สีขาว ผ้าสีแดง เงนิ 32 บาท 25 สตางค์ เพ่ือตอบแทนพ่ออาจารยห์ รือแล้วแต่เจตนารมณ์
ของเจ้าภาพ
๔. ช่อื ผู้ท่ีถอื ปฏิบตั ิและผู้สบื ทอด
๔.๑ ผูท้ ถ่ี ือปฏิบัติ
ชอื่ นายดวงคา รุจธิ รรมรตั น์
วัน เดือน ปีเกดิ -
ท่ีอยู่ หมู่ 16 ตาบลต้า อาเภอขนุ ตาล จังหวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผ้สู ืบทอด
ชอ่ื -
วนั เดอื น ปเี กดิ -
ท่ีอยู่ -
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถานะการคงอยู่ ปฏบิ ัติอย่างแพรห่ ลาย เสี่ยงต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ัตแิ ล้ว
๖. รูปภาพภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม/กิจกรรมทางภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรม
- ไม่มี -
-181-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565
สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอเมอื งเชยี งรำย จังหวัดเชียงรำย
1.ชื่อขอ้ มูล สง่ เสริมศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณีท้องถน่ิ (ปีใหม่โลช้ งิ ช้าเผา่ อาขา่ )
2. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏิบตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบตั เิ กย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานชา่ งฝมี อื ดงั้ เดมิ
การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพืน้ บา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกนั ตวั
3. รำยละเอียดข้อมูล
3.1 ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มูล
ด้วยหมูบ่ ้านร่มเยน็ ตาบลหว้ ยชมภู ประชากรสว่ นใหญเ่ ป็นชาวเขา เผา่ อาขา่ มปี ระเพณีทส่ี บื ทอดกันมา
ช้านานโดยชนเผ่าอาข่ามีศิลปวัฒนธรรม และประเพณีท่ีเป็นจุดเด่นคือประเพณีโล้ชิงช้า จะจัดขึ้นทุกปีในช่วง
เดือนสิงหาคม – กันยายนของทุกปี เพ่ือสืบสานประเพณีดังกล่าวให้แก่คนรุ่นหลงั ได้ทราบถึงความเป็นมาและ
เพอื่ สืบทอดประเพณีทีม่ ีมาชา้ นานไม่ให้สญู หายและสบื ทอดให้กับลูกหลานตอ่ ไป
3.2) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกี่ยวกบั ขอ้ มูล
งานปีใหม่โล้ชิงช้า มีการจัดงานท้ังหมด จานวน 4 วัน โดยจัดช่วงปลายเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี
โดยมีรายละเอียดการจัดกิจกรรมในแต่ละวัน ดังน้ี
วันที่ 1 ผู้หญิงทุกคนแต่งกายชุดชนเผ่าอาข่าเต็มยศ แล้วไปตักน้าจากแหล่งน้าศักดิ์สิทธ์ิในหมู่บ้าน
เพอ่ื นามาแช่ข้าวเหนยี วที่จะนามาทาขนม (ขา้ วปุ๊ก) สาหรับการเซน่ ไหว้บรรพบุรุษ
วันที่ 2 ผู้ชายทุกคนจะช่วยกันไปตัดไม้แต่เช้า เพ่ือนามาทาเสาชิงช้าและเมื่อทาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ในตอนคา่ ก็จะมกี ารฉลองดด้วยการเต้นกระทุ้งไม้ไผอ่ ย่างสนุกสนามจนถึงตอนเช้า
วันท่ี 3 จะเป็นวันของการโล้ชิงช้า ทุกคนทั้งชายและหญิงจะแต่งตัวสวยงามมาพบปะพูดคุยกันและ
ผลัดพันดึงชิงช้าร้องเพลงไปด้วย ส่วนเด็ก ๆ ก็จะมีชิงช้าเด็กสาหรับเล่นอยู่ที่บ้าน ในเวลากลางคืนก็จะเต้นกัน
อยา่ งสนกุ สนาน
วันท่ี 4 ทุกคนจะออกมาโล้ชิงช้า เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวท้ังมีการผูกสายชิงช้า
ก่อนตะวนั ตกดินก็เป็นอนั จบเทศกาลอย่างสมบูรณ์
4. ช่ือผูท้ ีถ่ ือปฏบิ ตั ิและผสู้ ืบทอด
4.1 ผู้ทีถ่ ือปฏบิ ตั ิ
ชื่อ นายอาสอ่ แปแจกู่
วันเดือน ปี เกิด 1 มกราคม 2500
ที่อยู่ 85 หมู่ 11 ตาบลหว้ ยชมภู อาเภอเมืองเชยี งราย จงั หวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 089 700 6972
4.2 ผู้สบื ทอด -๑82-
ช่อื
วนั เดอื น ปี เกิด นายอาสอ่ แปแจกู่
ทีอ่ ยู่ 1 มกราคม 2500
หมายเลขโทรศพั ท์ 85 หมู่ 11 ตาบลห้วยชมภู อาเภอเมืองเชยี งราย จังหวดั เชียงราย
089 700 6972
๕. สถานะการคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสญู หาย ไมม่ ีปฏิบตั แิ ลว้
๖. รปู ภาพภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรม
-183-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย
อำเภอพญำเม็งรำย จังหวัดเชยี งรำย
๑. ช่ือข้อมูล สรงนา้ พระธาตุ
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา
ศิลปะการแสดง
แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ ก่ียวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานช่างฝมี ือดั้งเดมิ
การละเล่นพ้ืนบ้าน กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมูล
๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มลู
ทางวัดบ้านร่องกอก และศรัทธาของวัดร่องกอก ได้ร่วมกันทาการก่อสร้างพระธาตุ เมื่อปี พ.ศ.2563
แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2564 และได้ทาการถวายให้เป็นปูชนียวัตถุในบวรพุทธศาสนาสืบต่อไป ตามประเพณีของ
คนภาคเหนือ ถ้าวัดใดมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ ทางวัดและชาวบ้านจะต้องทาพิธีสรงน้าพระธาตุประจาปี
ซ่ึงการทาพิธีสรงน้าพระธาตุน้ันจัดข้ึนเพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และเป็นการทาบุญของ
พุทธศาสนิกชนทั้งหลายเป็นประจาทุกปี ดังนั้นต้ังแต่ปี พ.ศ.2565 เป็นต้นมาทางวัดร่องกอกจึงกาหนดเอา
เดือนเป็ง 15 ค่า หรอื เดือน 4 เปง็ 15 คา่ ของทกุ ปี เป็นงานประเพณสี รงนา้ พระธาตทุ ถี่ ือปฏบิ ตั ิมา
๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเก่ียวกับขอ้ มลู
เดอื นเปง็ 15 คา่ คณะศรทั ธาวัดรอ่ งกอก เร่ิมช่วยกนั ตกแต่งสถานที่และตกแต่งไทยธรรม
เดอื น 4 เป็ง 15 คา่ เรม่ิ ทาพิธี ดังน้ี
เวลา 07.00 น. พิธที าบญุ ตักบาตร
เวลา 08.30 น. หวั วดั ต่าง ๆ นาเคร่ืองไทยธรรมเข้ามาถวายพระสงฆ์
เวลา 10.00 น. พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ และสรงนา้ พระธาตุ
เวลา 1100 น. ถวายภตั ตาหารเพลแดพ่ ระสงฆ์
เวลา 12.00 น. คณะศรัทธาที่มาร่วมงานรบั ประทานอาหารร่วมกัน
เวลา 13.00 น. คณะศรัทธาวดั รอ่ งกอก นาเคร่ืองไทยธรรมถวายพระสงฆ์
เวลา 19.00 น. พิธเี วียนเทียนรอบองค์พระธาตุ 3 รอบ
เวลา 20.00 น. จดุ ดอกไมไ้ ฟ และพลุ รอบองคพ์ ระธาตเุ พ่ือบชู าองค์พระธาตุ
๔. ช่ือผู้ที่ถือปฏิบัติและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผ้ทู ่ีถือปฏบิ ตั ิ
ชอ่ื นายสวย คิดมาชว่ ย
วนั เดือน ปีเกิด 5 ธันวาคม 2495
ทอี่ ยู่ 31 หมู่ 3 ตาบลไม้ยา อาเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
-184-
๔.๒ ผูส้ ืบทอด นายพร ปนคาปิน
ช่ือ 19 มถิ ุนายน 2499
วัน เดือน ปเี กดิ 144 หมู่ 3 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชียงราย
ท่ีอยู่
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งต่อการสญู หาย ไม่มปี ฏิบัตแิ ลว้
๖. รปู ภำพภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-185-
แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย
อำเภอพญำเม็งรำย จงั หวัดเชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู สรงนา้ พระธาตุกู่หนิ
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล
งานช่างฝมี ือด้ังเดมิ
การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดข้อมลู
๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมลู
วัดพระธาตุกูห่ นิ ต้ังอยู่ ณ หมู่ 8 บา้ นสนั ตน้ ดู่ ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเมง็ ราย จงั หวดั เชียงราย บริเวณ
วัดตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตป่า ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน เดิมเป็นโบราณสถานอยู่ในสภาพปรักหักพัง สร้างในปี
พ.ศ.ใดไมป่ รากฏหลักฐาน มเี จดยี ร์ ูปทรงโบราณ 2 องค์อย่หู า่ งกันประมาณ 50 เมตร โดยเจดียอ์ งค์แรกตั้งอยู่
ทางทิศใต้ สว่ นอีกองคต์ ้ังอย่ถู ดั ไปทางทศิ เหนือ
แต่เดิมวัดแห่งน้ีเป็นป่าละเมาะสาหรับเลี้ยงสัตว์คือ วัว ควาย และเป็นแหล่งหาของป่าของชาวบ้าน
ต่อมาในปี พ.ศ.2535 ได้มีพระธุดงค์องค์หน่ึงนามว่า “พระอานวย” ไม่ทราบฉายา เดินทางจาริกแสวงบุญมา
เร่ือย ๆ และเข้ามาปักกรดในบริเวณป่าดังกล่าว ท่านได้นั่งวิปัสสนากรรมฐาน คงจะสัมผัสได้ถึง
ส่ิงศักดิ์สทิ ธิ์บางอย่างทส่ี บื เน่อื งในอดีต จึงดาริทีจ่ ะทาการบรู ณะสถานทีด่ งั กล่าวใหเ้ ปน็ ปชู ณยี สถาน จงึ ได้เขา้ มา
หารือกับคณะกรรมการหมู่บ้าน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านในขณะน้ันคือ นายสี อิ่นคา ซึ่งก็เห็นชอบด้วยเพราะก่อนนั้นก็
เคยมีคนพบเห็นลูกไฟจากโบราณสถานแห่งนี้ลอยไปหาวัดพระธาตุปูล้าน โดยลูกไฟจะลอยไปหากันในช่วง
เข้าพรรษาเท่าน้นั ชาวบ้านสันโค้ง หมู่ 8 และชาวบา้ นหมบู่ ้านใกล้เคียงจึงไดพ้ รอ้ มในกันขุดดนิ ปรบั สภาพพืน้ ท่ี
บริเวณนั้นเพ่ือเตรียมก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่ ครอบเจดีย์องค์เดิม และสร้างอารามช่ัวคราวขึ้นมา ในการ
ขุดปรับสภาพพ้ืนที่ในคร้ังน้ันได้ขุดพบโบราณวัตถุหลายช้ิน อาทิเช่น พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินโบราณ
ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ (ปัจจุบันยังคงเก็บรักษาไว้ ณ วัดพระธาตุกู่หินและบางส่วนได้นาเข้าบรรจุไว้
ในพระธาตุองค์ใหม่) นอกจากน้ียังพบกระดูกลิงฝังไว้พร้อมไหโบราณ มีเคร่ืองป้ันดินเผา ซึ่งเป็นภาชนะที่ใช้
ในชวี ติ ประจาวนั ของคนยุคนั้นอย่หู ลายช้ิน
ต่อมาเมื่อรวบรวมปัจจัยได้จานวนหน่ึง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก พ่อกานัน ป๋ัน ไกลถิ่น
อดีตกานันตาบลไม้ยาในสมัยน้ัน เป็นประธานในการจัดหาทุนทรัพย์ และได้รับบริจาคส่ิงของเงินทองจาก
ผู้มีจิตศรัทธาในตาบลและสาธุชนทั่วไป จึงลงมือสร้างอารามชั่วคราวมุงด้วยหลังคาขึ้นเพ่ือใช้เป็นท่ีประกอบ
พิธีกรรมทางศาสนาขึ้นและวางศิลาฤกษ์สรา้ งองค์พระธาตุกู่หิน พร้อมกับต้ังชื่อให้ใหม่ว่า “วัดพระธาตุจอมเจ้า
จฬุ ามณ”ี แต่ยังไมไ่ ดร้ ับอนญุ าตยกฐานะใหเ้ ป็นวัดโดยสมบรู ณ์อยา่ งถูกต้องตามเงือ่ นไขของกรมการศาสนา
ต่อมา พระอานวย ได้ลาจากอารามนี้ไปเดินธุดงค์ต่อไป ชาวบ้านบ้านสันโค้ง หมู่ 8 จึงได้อาราธนา
พระสงฆ์จากวัดอื่นๆ มาจาพรรษา ต่อจากพระอานวย ซ่ึงได้แก่ หลวงพ่อปล่ัง และได้ย่ืนขออนุญาตยกฐานะให้
เป็นวัดมาโดยลาดับ
กระท่ังในปี พ.ศ. 2538 เจ้าคณะอาเภอพญาเม็งราย เห็นว่าช่ือ “พระธาตุเจ้าจอมจุฬามณี” เป็นชื่อ
ท่ีไม่เหมาะสมกับองค์พระเจดีย์ซึ่งต้ังอยู่ในป่า จึงได้ขอเปลี่ยนช่ือเป็น “วัดพระธาตุกู่หิน” และยังคงใช้ช่ือนี้
จนถงึ ปจั จบุ ัน
-186-
วดั พระธาตุกูห่ ิน เป็นวัดราษฎร์ สงั กัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตง้ั อย่บู ้านส้นโค้ง หมู่ 8 ตาบลไม้ยา อาเภอ
พญาเม็งราย จังหวัดเชยี งราย ก่อตั้งวัดข้ึนเมื่อวันท่ี 22 ตุลาคม 2556 ประเพณีสรงน้าพระธาตุกาหนดจัดขน้ึ
เป็นประจาทุกปี ในวนั เพญ็ ขึน้ 15 คา่ เดอื น 4 หรือ เดือน 6 เหนอื เพื่อเป็นการอนุรกั ษ์ส่งเสริม สบื สาน รักษา
ตอ่ ยอดภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมด้านประเพณีไม่ให้สูญหาย มคี วามมน่ั คงและย่ังยนื สบื ไป
รายนามเจา้ อาวาสวดั พระธาตกุ ่หู นิ ตัง้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ดงั น้ี
1. พระอานวย
2. พระทองหล่อ
3. พระสมบรู ณ์
4. พระยนต์ อตโิ ก
๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกี่ยวกบั ข้อมลู
1. ศึกษาข้อมลู
2. สารวจพื้นท่ี
3. ลงพ้นื ท่ี สงั เกตการณ์และสัมภาษณ์
4. บันทกึ ขอ้ มูล และจดั ทารายงาน
๔. ชื่อผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผูส้ ืบทอด
๔.๑ ผูท้ ี่ถอื ปฏบิ ัติ
ช่ือ นายฑรู ย์ เป็กธนู
วัน เดอื น ปเี กดิ 21 มีนาคม 2511
ท่ีอยู่ หมู่ 8 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ 061 796 6768
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชือ่ นางบุญหลา้ ธรรมสาร
วัน เดือน ปีเกดิ 16 มิถนุ ายน 2521
ทอี่ ยู่ 136 หมู่ 2 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 061 796 6768
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงต่อการสญู หาย ไมม่ ีปฏิบตั ิแลว้
๖. รปู ภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-187-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖4
สำนักงำนวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย
อำเภอแมล่ ำว จังหวัดเชยี งรำย
๑. ชื่อข้อมลู สรงน้าพระธาตจุ อมหมอกแก้ว
๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั ธรรมชาติและจกั รวาล
งานชา่ งฝีมือด้ังเดมิ
การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตวั
๓. รำยละเอยี ดข้อมลู
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มลู
พระธาตุจอมหมอกแก้ว ตั้งอยู่ท่ี บ้านดงมะเฟือง ตาบลจอมหมอกแก้ว อาเภอแม่ลาว ตามตานาน
กล่าวไว้ว่า เม่ือ ๑๐๐ ปีท่ีแล้ว ชาวบ้าน ได้เข้าไปหาของป่า ได้พบจอมปลวกมีลกั ษณะคล้าย พระธาตุตั้งอยู่บน
เนนิ เขาเตย้ี ๆ จึงได้พากันกราบไหว้และเชอ่ื วา่ จอมปลวกนนั้ เป็นท่บี รรจุอฐั ิ ของเชอ้ื พระวงศใ์ นสมัยโบราณ และ
ได้มีการสร้างเจดียข์ นึ้ มาครอบจอมปลวกภายหลงั ในวนั ขึน้ ๑๕ คา่ เดือน ๖ หรือเดือน ๘ จะมีการสกั การะบูชา
สรงน้าพระธาตุ จอมหมอกแกว้ ทกุ ปี
ประวัติพระธาตุ พระธาตุจอมหมอกแก้ว ถูกสร้างข้ึนมาในสมัยใดยังไม่มีปรากฏหลกั ฐาน แต่มีเร่ืองเลา่
ว่า เม่ือ ๑๐๐ กว่าปีท่ีแล้ว ชาวบ้าท่ีตั้งถิ่นฐานอยู่แถบนั้นได้เข้าไปหาของป่า และได้พบจอมปลวกมีลักษณะ
คล้ายพระธาตุ ต้ังอยู่บนเนินเต้ียๆลูกหน่ึง และในบริเวณนั้นมีต้นไม้ที่ ชาวเหนือเรียกว่าต้นส้มป่อยอยู่มากมาย
มีลักษณะโน้มเอียงเหมือนพญานาค และได้พบเคร่ืองป้ันดินเผาที่แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ชาวบ้าน
จึงได้พากันกราบไหว้จอมปลวกนั้น ใครจะเข้าไปทาอะไรในป่าบริเวณนี้ต้องมาต้องมากราบไหวบ้ ูชาขออนุญาต
เสียก่อน ไม่เช่นน้ันก็จะมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา ชาวบ้านแถบนั้นเช่ือว่าจอมปลวกน้ันเป็นที่บรรจุอัฐิของ
เช้อื พระวงศ์ในสมัยโบราณ สนั นษิ ฐานว่าเจดียถ์ กู สร้างขน้ึ มาครอบจอมปลวกภายหลัง
คาบูชาพระธาตุจอมหมอกแกว้
“อะหงั วันทามิ อธิ ะ ปติฏฐติ า อะระหัตตะ ธาตุโย ตสั สะ นุภาชนะ สะทา โสตถี ภะวันตเุ ม”
๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเก่ยี วกบั ข้อมลู
ประเพณีสรงน้าพระธาตุจอมหมอกแก้ว หมู่ท่ี ๙ บ้านดงมะเฟือง ตาบลจอมหมอกแก้ว อาเภอแม่ลาว
จังหวัดเชียงราย จะจัดขึ้นในช่วงเดือน ๘ เหนือ (ตรงกับเดือนพฤษภาคม) ขึ้น ๑๕ ค่า ของทุกปี โดยมีเจ้าภาพ
ในการจดั งานคอื องคก์ ารบริหารส่วนตาบลจอมหมอกแก้ว การสรงน้ามีดว้ ยกัน ๒ ลักษณะ คอื
๑. สรงน้าองค์พระบรมสารรี กิ ธาตหุ รือพระธาตุโดยตรง
๒. สรงนา้ ภาชนะหรือสถานที่บรรจุองค์พระบรมสารีรกิ ธาตุ
สว่ นนา้ ท่ีใช้ในการสรงพระนน้ั มี ๒ อยา่ ง คือ
๑.น้าสะอาดบรสิ ทุ ธิ์ มผี อู้ ธบิ ายวา่ สาเหตุท่ตี อ้ งใช้นา้ บรสิ ุทธใ์ิ นการสรงน้าองคพ์ ระธาตนุ นั้ เนือ่ งจากว่า
องค์พระธาตุนั้น เกิดมาแตผ่ ู้บรสิ ทุ ธ์ิ ธาตุเหลา่ น้ันจงึ เป็นของบริสุทธิ์ ไมส่ มควรจะเอาส่งิ ใดๆ ก็ตาม เจือปนลงไป
แปดเป้อื นองค์พระธาตุ แตอ่ กี เหตุผลกลา่ วว่า ในนา้ หอมหรือดอกไม้ อาจมสี ารใด ๆ กต็ ามเจอื ปน จนอาจทาให้
องคพ์ ระธาตหุ มองลงได้
-188-
๒. น้าสะอาดเจือด้วยสิ่งบูชา น้าลักษณะน้ีนิยมใช้สรงน้าพระธาตุโดยท่ัวไป นัยว่าได้ถวายเป็น
อามิสบูชาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระอรหันตสาวกท้ังปวง ซ่ึงสิ่งบูชาท่ีเจือลงในน้าก็แล้วแต่
ความชอบ และความเชื่อในแตล่ ะท้องถ่ิน ยกตัวอย่างเช่น น้าหอม น้าอบ ดอกไม้ กลีบดอกไม้ ฝักส้มป่อย หรือ
แก่นไม้จันทน์ฝน เปน็ ตน้
ความเชื่อ ในการไหว้พระธาตุดอยจอมหมอกแก้ว เชื่อกันว่าอุปสรรคท่ีเปรียบเหมือนหมอกควัน
สีดาถ้ากราบไหวแ้ ละตง้ั จติ อธิฐาน อุปสรรคทง้ั หลายกจ็ ะจางใสเหมอื นหมอกแกว้ และประสบความสาเร็จ
๔. ชื่อผทู้ ีถ่ ือปฏิบัติและผสู้ บื ทอด
4.๑ ผู้ทถี่ อื ปฏบิ ตั ิ
ชื่อ กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารสว่ นตาบลจอมหมอกแกว้
วนั เดอื น ปีเกิด -
ทอี่ ยู่ องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลจอมแกว้ อาเภอแมล่ าว จังหวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ 053 184 101-3
4.๒ ผูส้ ืบทอด
ช่อื ชาวบา้ นตาบลจอมหมอกแก้ว และหม่บู า้ นใกล้เคยี ง
วัน เดือน ปเี กิด -
ทอ่ี ยู่ ตาบลจอมแก้ว อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย เส่ยี งต่อการสูญหาย ไม่มปี ฏบิ ตั แิ ลว้
6. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม (พรอ้ มบรรยำยใตภ้ ำพ)
แหผ่ า้ ผ้าหม่ พระธาตุ ชาวบา้ นรว่ มถวายปจั จยั ต้นสลาก แหผ่ ้าผ้าหม่ พระธาตุ
พธิ ีกรรมทางศาสนา การฟอ้ นถวายพระธาตุ
-189-
แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕
สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย
อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวัดเชียงรำย
๑. ชื่อข้อมลู สรงนา้ พระธาตุมหามงคล 5 ยอด
๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล
งานช่างฝีมอื ดัง้ เดิม
การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกนั ตัว
๓. รำยละเอียดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มูล
ทางวัดสันสะอาด และศรัทธาของวัดสันสะอาด ได้ร่วมกันทาการก่อสร้างพระธาตุมหามงคล 5 ยอด
แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2557 และได้ทาการถวายให้เป็นปูชนยี วตั ถุในบวรพุทธศาสนาสืบต่อไป ตามประเพณีของ
คนภาคเหนือ ถ้าวัดใดมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ ทางวัดและชาวบ้านจะต้องทาพิธีสรงน้าพระธาตุประจาปี
ซึ่งการทาพิธีสรงน้าพระธาตุนั้นจัดขึ้นเพ่ือเปน็ พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เป็นการทาบุญของพุทธศาสนกิ ชน
ทั้งหลายเป็นประจาทุกปี ดังนั้นต้ังแต่ปี พ.ศ.2558 เป็นต้นมาทางวัดสันสะอาด จึงกาหนดเอา
วนั ขน้ึ 8 คา่ หรอื เดือน 6 เหนือ เปน็ งานประเพณีสรงน้าพระธาตมุ หามงคล 5 ยอด ทีถ่ ือปฏิบตั ิกันมาทุกปี
๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเก่ียวกบั ขอ้ มูล
วันขนึ้ 7 ค่า เดอื น 6 เหนอื คณะศรทั ธาวดั สนั สะอาด เร่ิมช่วยกนั ตกแตง่ สถานทแ่ี ละตกแตง่
ไทยธรรม
วนั ข้นึ 7 ค่า เดอื น 6 เหนือ เร่ิมทาพิธี ดงั นี้
เวลา 07.00 น. พธิ ที าบญุ ตกั บาตร
เวลา 08.30 น. หัววัดตา่ งๆ นาเครือ่ งไทยธรรมเข้ามาถวายพระสงฆ์
เวลา 10.00 น. พระสงฆเ์ จริญพระพุทธมนต์ และสรงนา้ พระธาตุมหามงคล 5 ยอด
เวลา 1100 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์
เวลา 12.00 น. คณะศรัทธาทมี่ ารว่ มงานรบั ประทานอาหารรว่ มกัน
เวลา 13.00 น. คณะศรัทธาวดั สนั สะอาด นาเครือ่ งไทยธรรมถวายพระสงฆ์
เวลา 19.00 น. พธิ เี วียนเทียนรอบองค์พระธาตุ 3 รอบ
เวลา 20.00 น. จดุ ดอกไม้ไฟ และพลุ รอบองค์พระธาตเุ พื่อบชู าองคพ์ ระธาตุ
๔. ชอื่ ผทู้ ่ีถือปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด
๔.๑ ผูท้ ถ่ี อื ปฏบิ ตั ิ
ชื่อ นายคามลู ผาลม
วนั เดือน ปีเกดิ 29 สิงหาคม 2500
ทอี่ ยู่ 132 หมู่ 4 ตาบลไม้ยาอาเภอพญาเมง็ ราย จังหวัดเชยี งราย
หมายเลขโทรศัพท์ -
-190-
๔.๒ ผูส้ บื ทอด นายเดช ผาลม
ชอ่ื 4เมษายน 2501
วัน เดอื น ปีเกิด 71 หมู่ 4 ตาบลไม้ยา อาเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชยี งราย
ทอี่ ยู่
หมายเลขโทรศัพท์ -
๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้
๖. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม