1 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒
ก หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ คำนำ การจัดการศึกษาเป็นกลไกสำคัญของการพัฒนาคุณภาพของประชากร ซึ่งส่งผลต่อการ พัฒนาประเทศ ในทุกมิติ ด้วยสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่ผันผวน ไม่แน่นอน สลับซับซ้อน ความคลุมเครือ และเปลี่ยนแปลง รวดเร็วตลอดเวลา การจัดการศึกษาโดยเฉพาะในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงจำเป็นต้องเตรียมเด็กและ เยาวชนของชาติให้เข้มแข็งและสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางภาวะ วิกฤติและการเปลี่ยนแปลงทั้งวิถีชีวิต และการทำงาน ดังเป้าหมายการจัดการศึกษาที่กำหนดไว้ ในแผนการศึกษาชาติพ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ และมาตรฐานการศึกษาของชาติพ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ล้วน มุ่งพัฒนา “ผลลัพธ์ที่เกิดในตัวผู้เรียน” กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดทำ หลักสูตรในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของชาติ ได้ศึกษาการจัดการศึกษาของประเทศต่างๆ ที่ผู้เรียนมีผลลัพธ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพระดับโลก ภายใต้โครงการพัฒนาการศึกษาร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รวมทั้งผลการศึกษาและวิจัยของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ให้ ข้อเสนอแนะ ว่า “การพัฒนาสมรรถนะ” เป็นทิศทางของการพัฒนาหลักสูตรใหม่ในการพัฒนาคน ให้รองรับและทันกับการเปลี่ยนแปลงตอบสนองความจำเป็นและความต้องการของประเทศทั้งใน ปัจจุบันและอนาคต กระทรวงศึกษาธิการ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการและอนุกรรมการหลายองค์คณะ เพื่อศึกษา เอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการเรียนรู้รวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับนโยบายและผู้ปฏิบัติเพื่อออกแบบและพัฒนา (ร่าง) กรอบหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .....ระดับประถมศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญที่สร้างการ เปลี่ยนแปลง คือ “สมรรถนะหลัก” เป็นสมรรถนะที่ต้องการพัฒนาบุคคลในฐานะมนุษย์และ พลเมืองที่เข้มแข็ง ที่รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในตน เรียนรู้และเติบโตร่วม สร้างสรรค์การทำงาน การใช้ชีวิตอย่างเห็นคุณค่า และภาคภูมิ ใจในความเป็นไทยบนพื้นฐานความ เข้าใจความแตกต่างและความหลากหลายในสังคม โดยมีความคาดหวังว่า (ร่าง) กรอบหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .… ระดับประถมศึกษา จะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิด แรงจูงใจใฝ่เรียนรู้ ในทุกย่างก้าวของเส้นทางการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสร้างแรงบันดาลใจให้ครูผู้บริหาร บุคลากร ทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ได้ทบทวนรูปแบบและวิธีการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจริงในห้องเรียนจะบ่งชี้ถึงการนำเป้าหมายการเรียนรู้ไปออกแบบกิจกรรมการ เรียนรู้ และจัดประสบการณ์จริงทั้งในและนอกโรงเรียน เพื่อให้เกิดสมรรถนะสำคัญที่ติดตัวไปใช้ใน การดำรงชีวิต สิ่งสำคัญคือ ผู้เรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเนื่องได้ไม่ว่าผู้เรียนจะมีความสามารถ ภูมิหลังทางสังคมและเศรษฐกิจใดๆ ก็ตาม และบรรลุผล สำเร็จนี้ได้ด้วยความมุ่งมั่นและทำงานอย่างมืออาชีพของทุกฝ่าย
ข หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ โรงเรียนบ้านตาบา จึงได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดในการ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน พร้อมทั้งเป็นการเตรียมเยาวชน สำหรับการเผชิญหน้ากับโลกอนาคตที่ไม่แน่นอนต่อไป หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๕ (หลักสูตรฐานสมรรถนะ) สถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส โรงเรียนบ้านตาบาจึงพัฒนาขึ้นตามแนวคิดการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งมีความแตกต่างจาก หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่พัฒนาขึ้นตามแนวคิดหลักสูตรอิง มาตรฐาน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณภาพ โรงเรียนดำเนินการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษา โดยใช้(ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช…. ระดับประถมศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ มีเป้าหมายเพื่อ พัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีสมรรถนะหลักที่สำคัญจำเป็น และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ บ่มเพาะ พัฒนา และต่อยอดสมรรถนะหลักและสมรรถนะอื่นเต็มตามศักยภาพ ตามความจำเพาะเจาะจงของบุคคล (Personalization) ตามความเชื่อที่ว่า มนุษย์มีหน้าที่ในการพยายามค้นหาตัวเอง และเลือกสร้าง ลักษณะของตนเองตามที่อยากจะเป็น การจัดการศึกษาตามแนวคิดนี้ จึงมุ่งให้ผู้เรียนทบทวน พิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญและตรวจสอบ เพื่อให้ค้นพบและรู้จักตนเองอยู่เสมอ เพื่อพัฒนา ศักยภาพของตนเองอย่างเป็นองค์รวม ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติชุมชน ครอบครัว และบุคคล ทั้งภาครัฐและ เอกชน ในการทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อให้หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๕ (หลักสูตรฐานสมรรถนะ) สถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส โรงเรียนบ้าน ตาบา มีความสมบูรณ์และพร้อม สำหรับการนำไปใช้ให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนได้ตาม ความมุ่งหวังสู่การเป็นประชากรที่มีคุณภาพ อันจะเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศสู่ความ รุ่งเรืองอย่างยั่งยืนสืบไป โรงเรียนบ้านตาบา
ค หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐาน ๑ ๑. ข้อมูลทั่วไป ๑ ๒.ข้อมูลนักเรียน ๑ ๓.ข้อมูลบริบทสถานศึกษา ๓ ๔.ข้อมูลระดับชุมชน ท้องถิ่น ๗ ๕.ข้อมูลบริบทระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต ๒ ๙ ๖. ข้อมูลบริบทระดับพื้นที่ จังหวัด ๑๕ ๗.ข้อมูลสถานการณ์ของประเทศและโลกปัจจุบัน ๑๗ ส่วนที่ ๒ ขอบข่ายของหลักสูตรฐานสมรรถนะ ๒๐ ๑. แนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาหลักสูตร ๒๐ ๒. แนวคิดหลักในการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ (School Concept) ๒๑ ๓. วิสัยทัศน์หลักสูตร ๒๑ ๔. หลักการของหลักสูตร ๒๑ ๕. จุดมุ่งหมายของหลักสูตร (DOL) ๒๒ ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๒๒ ๗. สมรรถนะหลัก ๖ ด้าน และระดับสมรรถนะ ๑๐ ระดับ ๒๓ ๘. กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๓๘ ๙. ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะหลักกับสาระการเรียนรู้ ๔๐ ๑๐. โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา ๑๒๒ ๑๑. หน่วยการเรียนรู้ ๑๓๒ ๑๒.คำอธิบายรายวิชา ๒๒๗ ส่วนที่ ๓ การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ๒๘๔ ส่วนที่ ๔ แนวทางการจัดการเรียนรู้และการวัด ประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ ๓๐๒ ๑. รูปแบบ/วิธีการการจัดการเรียนรู้ ๓๐๒ ๒. การประเมินผลการเรียนรู้ ๓. การตัดสินผลการเรียน ๔. รายงานผลการพัฒนาและการเลื่อนชั้น ภาคผนวก
1 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐาน ๑. ข้อมูลทั่วไป โรงเรียนบ้านตาบา ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตําบลเจ๊ะเห อําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ รหัสไปรษณีย์ ๙๖๑๑๐ โทรศัพท์ ๐๘-๒๙๑๐-๖๓๕๙ เว็ปไชต์โรงเรียน www.bantaba.ac.th ปัจจุบันโรงเรียนบ้านตาบามีพื้นที่ทั้งสิ้น ๙ ไร่ ๓ งาน ๖๘.๗ ตารางวา เปิดทำการสอนตั้งแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๓ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ๑ – ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้จัดการศึกษาออกเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา การจัดการเรียนการสอนอิสลามแบบเข้ม และมี เขตพื้นที่บริการ ๒ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านตาบา และหมู่ที่ ๒ บ้านปูลานิบง ๒. ข้อมูลจำนวนนักเรียน (จำแนกตามระดับชั้น จำนวนห้องเรียน และเพศ) ๒.๑ จำนวนนักเรียน ระดับชั้นเรียน จำนวนห้อง เพศ รวม ชาย หญิง อนุบาล ๑ ๑ ๗ ๙ ๑๖ อนุบาล ๒ ๑ ๑๑ ๑๓ ๒๔ อนุบาล ๓ ๑ ๖ ๑๑ ๑๗ รวม ๓ ๒๔ ๓๓ ๕๗ ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๓ ๕๒ ๔๔ ๙๖ ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๓ ๔๖ ๕๑ ๙๗ ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓ ๔๙ ๓๓ ๘๒ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ๒ ๓๒ ๒๗ ๕๙ ประถมศึกษาปีที่ ๕ ๒ ๒๕ ๓๓ ๕๘ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒ ๓๕ ๓๔ ๖๙ รวม ๑๕ ๒๓๙ ๒๒๒ ๔๖๑ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑ ๓o ๘ ๓๘ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ๑ ๑๑ ๗ ๑๘ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ๑ ๓ ๓ ๖ รวม ๓ ๔๔ ๑๘ ๖๒ รวมทั้งหมด ๒๑ ๓o๗ ๒๗๓ ๕๘o ตารางที่ ๑ ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕
2 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ๒.๒ สภาพทางครอบครัว สังคม เศรษฐกิจ สภาพชุมชนของโรงเรียน ประชากรนับถือศาสนาอิสลาม คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ โดยคน ในชุมชนประกอบอาชีพหลากหลายได้แก่ อาชีพค้าขาย รับจ้าง ประมง และอื่น ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ภายในชุมชนมีฐานะปาน กลาง ฐานะทางเศรษฐกิจ/รายได้เฉลี่ยต่อปีครอบครัวละ ๕๐,๐๐๐ บาท ในด้านจารีตประเพณีและกิจกรรมสำคัญ ๆ ทางศาสนาอันดีงามมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเพณีสำคัญ ๆ ได้แก่ การกวนอาซูรอ เมาลิด ดินนาบี วันฮารีรายอ เป็นต้น ด้านภาษา ภาษาที่ใช้ในการติดต่อกันภายในชุมชน ใช้ภาษาภาลายูถิ่น แต่จะใช้ภาษาไทย ในการติดต่อราชการ ด้านการศึกษาคนในชุมชนส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับการศึกษาภาคบังคับ ๒.๓ ความต้องการจำเป็นของนักเรียน นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โรงเรียน บ้านตาบาจึงบริการด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการพัฒนาการเรียนรู้ ทั้งด้านแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ทักษะ อาชีพให้กับนักเรียน การเข้าร่วมแข่งขันต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมหรือพัฒนานักเรียนได้ เรียนรู้ในทุก ๆ ด้าน ๒.๔ ความสนใจของนักเรียน นักเรียนมีความสนใจด้านทักษะอาชีพ ด้านกีฬา ด้านภาษา ด้านวิทยาศาสตร์และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ ด้านศาสนา ๒.๕ ศักยภาพ ความสามารถของผู้เรียน ความถนัด ฯลฯ ที่ รายการ รางวัล หน่วยงานจัดการแข่งขัน ๑ แข่งขันการประกวดสุนทรพจน์ ภาษาอังกฤษ ชนะเลิศ ระดับ เหรียญทอง ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ๒ การทดสอบ I – NET ระดับ ๑oo เต็ม รายวิชา อัลอัคลาก ระดับ ๑oo เต็ม สถาบันทดสอบทางการศึกษา แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ๓ แข่งขันรายการหุ่นยนต์เดินตามเส้น ระดับชั้นมัธยมศึกษา ระดับเหรียญเงิน มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ๔ แข่งขันรายการหุ่นยนต์บังคับ ระยะไกล ระดับชั้นประถมศึกษา ระดับเหรียญเงิน มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ๕ แข่งขันรายการหุ่นยนต์บังคับ ระยะไกล ระดับชั้นมัธยมศึกษา ระดับเหรียญเงิน มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์
3 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ที่ รายการ รางวัล หน่วยงานจัดการแข่งขัน ๖ แข่งขันรายการหุ่นยนต์หลบหลีกสิ่ง กีดขวาง ระดับชั้นมัธยมศึกษา ระดับเหรียญทองแดง มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ๗ แข่งขันรายการหุ่นยนต์หลบหลีกสิ่ง กีดขวาง ระดับชั้นประถมศึกษา ระดับเหรียญทองแดง มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ๘ แข่งขันรายการหุ่นยนต์เดินตามเส้น ระดับชั้นประถมศึกษา ระดับเหรียญทองแดง มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ตารางที่ ๒ ๓. ข้อมูลบริบทสถานศึกษา ● ข้อมูลครู และบุคลากร จำนวนครู ตำแหน่ง เพศ วิชาเอก ความสามารถและความถนัดเฉพาะด้าน (ถึงเกณฑ์ ไม่ถึงเกณฑ์ เพื่อใช้บริหาร จัดการต่อ) ความต้องการในการพัฒนาตนเองของครู ตำแหน่ง เพศ รวม ชาย หญิง ข้าราชการ - ผู้อำนวยการ - ๑ ๑ - รองผู้อำนวยการ ๑ - ๑ - ครู ๙ ๑๙ ๒๘ พนักงานราชการ ๑ ๖ ๗ วิทยากรอิสลามศึกษา ๖ ๔ ๑๐ บุคลากรโรงเรียน - ธุรการ - ๑ ๑ - ครูขั้นวิกฤติ - ๑ ๑ - ครูประชารัฐ ๑ - ๑ - ลูกจ้างชั่วคราว - ๑ ๑ - นักการภารโรง ๑ - ๑ - พนักงานรักษาความปลอดภัย ๓ - ๓ - แม่ครัว - ๕ ๕ รวมทั้งหมด ๒๒ ๓๘ ๕๘ ตารางที่ ๓ ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕
4 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ จำนวนครู แบ่งตามรายวิชาเอก ดังนี้ สาขาวิชา จำนวนคน ๑. บริหารการศึกษา ๔ ๒. การศึกษาปฐมวัย ๕ ๓. คณิตศาสตร์ ๑ ๔. วิทยาศาสตร์ ๕ ๕. ภาษาไทย ๒ ๖. ภาษาอังกฤษ ๔ ๗. สังคมศึกษา ๒ ๘. พละศึกษา ๓ ๙. อื่นๆ ๑๕ รวม ๔๑ ตารางที่ ๔ ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ● ข้อมูล สื่อ คอมพิวเตอร์ และระบบ สารสนเทศของโรงเรียน ที่ ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน ๑. ระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (DMC) ๒. โปรแกรมระบบบริหารจัดการผลการเรียน (SchoolMis) ๓. ระบบบริหารจัดการข้อมูล โรงเรียนเรียนรวม (SET) ๔. ระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน (CCT) ๕. โปรแกรม ปพ.5, โปรแกรม ปพ.6 และโปรแกรมประเมินกิจกรรมผู้เรียน ตารางที่ ๕ ที่ ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับครู ๑. ระบบฐานข้อมูลกลาง สพฐ. (Big Data) ๒. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารการศึกษา (EMIS) ๓. ข้อมูลครุภัณฑ์ (M-OBEC) ๔. ระบบข้อมูลอาคารและสิ่งก่อสร้างโรงเรียน (B-OBEC) ตารางที่ ๖
5 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ● ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของโรงเรียน จำนวนห้องเรียนทั้งหมด ๒๑ ห้องเรียน ชั้น อ.๑ – อ.๓ = ๑ : ๑ : ๑ ชั้น ป.๑ – ป.๖ = ๓ : ๓ : ๓ : ๒ : ๒ : ๒ ชั้น ม.๑ – ม.๓ = ๑ : ๑ : ๑ ข้อมูลทรัพยากรที่จำเป็น ๑) คอมพิวเตอร์ มีจำนวนทั้งหมด ๓๖ เครื่อง ใช้เพื่อการเรียนการสอน ๓๐ เครื่อง ใช้ลืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้ ๓๐ เครื่อง ใช้ในงานบริหาร ๖ เครื่อง ๒) ห้องเรียนทั้งหมด ๑๘ ห้องเรียน ๓) ห้องที่จัดไว้ใช้ปฏิบัติงานกิจกรรมเฉพาะมีทั้งหมด ๗ ห้อง ได้แก่ ๑) ห้องวิทยาศาสตร์ ๒) ห้องปฏิบัติการทางภาษา ๓) ห้องคอมพิวเตอร์ ๔) ห้องศิลปะ ๕) ห้องมัลติมีเดีย ๖) ห้องสมุด ๗) ห้อง BTB Barber (ห้องตัดผมชาย) ๔) พื้นที่ปฏิบัติกิจกรรม/นันทนาการ ได้แก่ สนามกีฬา สนามเด็กเล่น และสนามบาสเกตบอล
6 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ข้อมูลอาคารสถานที่ ที่ แบบ สร้างเมื่อ งบประมาณ ขนาด/จำนวน 1. อาคารเรียน สปช.105/26 ต่อเติมชั้นล่าง 2533 1,120,000 8 ห้องเรียน 2. อาคารเรียน สปช. 2/28 2539 4,422,000 9 ห้อง 3. อาคารเอนกประสงค์ 312 2519 29,000 7 x 18 เมตร 4. อาคารเอนกประสงค์แบบ สปช.205/26 2528 823,000 14 x 32 เมตร 5. อื่นๆ สร้างเอง 2550 300,000 7 x 30 เมตร 6. ส้วม สปช.601/26 2528 20,000 2 ที่นั่ง 7. ส้วม สปช.601/26 2532 50,000 4 ที่นั่ง 8. ส้วม สปช.601/26 2533 90,000 4 ที่นั่ง 9. ส้วม สปช.601/26 2541 110,000 4 ที่นั่ง (ใช้การไม่ได้) 10. ส้วม สปช.604/45 2551 484,000 8 ที่นั่ง 11. ถังเก็บน้ำซีเมนต์ แบบ ฝ30 (พิเศษ) 2535 280,000 4 ถัง สูง 2.4 ม.เก็บน้ำได้ 30 ลบ.ม. 12. รั้วโรงเรียน 2534 663,000 ยาว 552 ม. 13. อาคารเรียนแบบ 105/29 ปรับปรุง 2 ชั้น 4 ห้องเรียน (ใต้ถุนโล่ง) 2558 3,483,100 4 ห้องเรียน 14. อาคารเรียนแบบ 318 ล./ 55-ก 4 ชั้น 18 ห้องเรียน 2558 22,212.900 18 ห้องเรียน ตารางที่ ๗ ● แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน 1. สนามเด็กเล่น 2. ห้องพยาบาล 3. ห้องสหกรณ์โรงเรียน 4. มัสยิด 5. สวนหย่อม 6. บริเวณภายในโรงเรียน 7. ห้องคอมพิวเตอร์ 8. ห้องสมุด ๙. แปลงเกษตร ๑๐. ที่เลี้ยงไก่
7 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ● ปัญหา และความต้องการของโรงเรียน - ด้านอาคารสถานที่ ๑) อาคารเรียน มีแต่ไม่เพียงพอด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เว้นระยะห่าง การ จัดชั้นเรียนสำคัญ ๒) ห้องส้วม ที่มีอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม ใช้ไม่ได้ และไม่พอต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น ๓) ด้านสาธารณูปโภค ไฟฟ้า แหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ ไม่เพียงพอ แหล่งน้ำดื่มสำหรับนักเรียนชำรุดใช้การไม่ได้ ● ศักยภาพของโรงเรียน - โรงเรียนอยู่ในเขตเทศบาลเมือง เป็นโรงเรียนหน้าด่าน การคมนาคมสะดวก แหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนมี หลากหลาย สามารถพัฒนาให้ก้าวหน้าจากการบริหารจัดการที่ดี และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เริ่มจากภายใน โรงเรียนสู่ภายนอกโรงเรียน ● อัตลักษณ์/เอกลักษณ์/จุดเน้นของโรงเรียน ฯลฯ “สะอาด แจ่มใส มีวินัย ใฝ่เรียนรู้” ๔. ข้อมูลบริบทระดับชุมชน ท้องถิ่น (ปรับได้ตามบริบทโรงเรียน) ● สภาพชุมชนโดยรวม ประชากรนับถือศาสนาอิสลาม โดยคนในชุมชนประกอบอาชีพหลากหลาย ได้แก่ อาชีพค้าขาย รับจ้าง ประมง และอื่นๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ภายในชุมชนมีฐานะปานกลาง ในด้านจารีตประเพณีและกิจกรรมสำคัญๆทางศาสนาอันดีงามมา จนปัจจุบัน ซึ่งประเพณีที่สำคัญๆได้แก่ การกวนอาซูรอ เมาลิดดินนาบี วันฮารีรายอ เป็นต้น ด้านภาษา ภาษาที่ใช้ในการ ติดต่อกันภายในชุมชน ใช้ภาษามลายูถิ่น แต่ใช้ภาษาไทยในการติดต่อราชการ ด้านการศึกษาคนในชุมชนส่วนใหญ่มี การศึกษาระดับการศึกษาภาคบังคับ ● แหล่งเรียนรู้ในชุมชน/ท้องถิ่น 1. ตลาดนัด 2. ด่านศุลกากร 3. มัสยิด 4. โรงพยาบาล 5. สถานีตำรวจ 6. เทศบาลเมืองตากใบ 7. ท่าจอดเรือประมง 8. กูโบร์ 9. หาดเสด็จ 10. ศูนย์พิกุลทอง ● แนวโน้มปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ความเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาในอนาคต 1. ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จากภาวะทางเศรษฐกิจที่คนที่มีฐานะระดับกลาง
8 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ จนถึงระดับสูงมีรายได้สูงขึ้น แต่คนที่มีรายได้ต่ำ หาเช้ากินค่ำ มีรายได้ที่ไม่แน่นอน ความแตกต่างนี้ทำให้คนเหล่านั้นมี ความสามารถในการเลือกโอกาสทางการศึกษาที่แตกต่างกันให้กับนักเรียน 2. ปัญหาด้านเทคโนโลยี จากปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ทำให้เกิดปัญหาการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ มีความสามารถในการเรียนรู้จากสื่อต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทำให้นักเรียนที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีจะมีความสามารถ ที่สูงกว่านักเรียนที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้น้อยกว่า 3. ปัญหาด้านการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ในการเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ โดยนักเรียน จะมีการเลือกใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ต่อได้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงความรู้ที่จะ ใช้ในอนาคตได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น นักเรียนไม่ได้ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นหาข้อมูลต่าง ๆ และไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนักเรียนมักจะใช้เทคโนโลยีไปกับสื่อบันเทิงเท่านั้น และปัญหานี้ยังทำให้นักเรียนไม่สามารถคิดวิเคราะห์ข่าวสารที่ต่าง ๆ ที่มีทั้งข่าวสารที่จริงและข่าวสารที่เป็นเท็จ ทำให้มีการแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่ได้มีการกรองความถูกต้องก่อนการแชร์ข้อมูล ส่งผลให้เกิดความไม่สงบในสังคมจากการใช้เทคโนโลยีอย่างไม่รอบคอบ 4. ปัญหาด้านสื่อสาร จากการการใช้เทคโนโลยี มีนักเรียนมากมายที่ไม่ได้มีการใช้ภาษาที่ ถูกต้องในการสื่อสาร และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้เรียนรู้การใช้ภาษาในระดับต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับกาลเทศะ ทำให้เกิด ปัญหาที่การเข้าใจความหมายของเนื้อหาสารที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างกันและกัน 5. ปัญหาด้านสังคม จากปัญหาการสื่อสารที่ไม่ถูกต้องตามกาลเทศะ ทำให้เกิดปัญหา ระหว่างกันและกัน ทั้งที่ฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่ได้สื่อสารไปในทางที่ไม่ดี ส่งผลให้มีความบาดหมางระหว่างกันในสังคม 6. ปัญหาต่าง ๆ จากครอบครัว ทั้งการหย่าร้าง การให้ลูกหลานอยู่กับปู่ย่า ตายายที่ไม่ สามารถดูแลลูกหลานอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงการทิ้งลูกให้กับศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทำให้เด็กเหล่านั้น ส่วน ใหญ่มีปัญหาขาดความอบอุ่น และเป็นปมด้อยในใจที่ทำให้เด็กเหล่านั้นเกิดปัญหาได้ในระยะยาว เช่น ปัญหายาเสพติด โรคซึมเศร้า ปัญหาการใช้ความรุนแรง ทั้งกับตนเองและผู้อื่น 7. ปัญหาการไม่ใส่ใจกับการเรียนรู้ของลูกหลานโดยปล่อยให้ครูเป็นฝ่ายสั่งสอนวิชาความรู้ ให้ลูกหลานเพียงฝ่ายเดียว โดยภาคกลางวันพ่อแม่วางเงินให้ลูกไปเรียนหนังสือ แล้วพ่อแม่ออกไปหารายได้เข้าครอบครัว แต่พอกลับมา ภาคกลางคืนพ่อแม่ก็นอนหลับโดยไม่ได้อยู่ดูแลลูก ๆ เลยก่อนจะเข้านอนหลับไป ทำให้ลูก ๆ ขาดความ อบอุ่นจากครอบครัว เมื่อนักเรียนโตขึ้น และจากบ้านไปไกล พวกเขาจะไม่ย้อนคืนกลับมาดูแลพ่อแม่วัยชรา เนื่องจากไม่ เห็นความสำคัญของการมีพ่อแม่ที่ต้องดูแล ส่งผลให้เกิดปัญหาที่สังคมวัยชราถูกทอดทิ้งเหมือนที่เขาเหล่านั้นได้ทอดทิ้งลูก ๆ ของพวกเขาในอดีต 8. ปัญหายาเสพติดจากการพัฒนาของสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไป คนบางคนไม่สามารถที่ จะก้าวตามความเปลี่ยนแปลงได้จึงเลือกวิธีการใช้แก้ปัญหาด้วยยาเสพติด ทั้งการค้าขายยาเสพติด เพื่อให้ตนเองมีฐานะที่ดี ขึ้น และการเสพยาเสพติดที่ต้องการจะหนีปัญหา ออกห่างจากสังคมของความเป็นจริง 9. ปัญหาจากสื่อโซเชียลมีเดียร์ที่มีการสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ในโลกสังคมออนไลน์และสังคม เสมือนจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยอาจจะมีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่มีความชื่นชอบ เนื่องจากสื่อเหล่านี้สามารถทำให้คน ๆ นั้นเป็นที่สนใจ และได้รับความชื่นชอบจากคนจำนวนมาก อาจทำให้นักเรียนคนนั้นเลือกที่จะสนใจกับสื่อเหล่านี้ แล้วเลือก ที่จะทิ้งการเรียนรู้ภายในห้องเรียนและโรงเรียนที่ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาเหล่านั้นได้ 10. ปัญหาด้านจิตใจ จากการที่นักเรียนหมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยีหรือสื่อต่าง ๆ ทำให้ นักเรียนไม่ค่อยเวลาในการออกกำลังกาย ดูแลร่างกายให้แข็งแรง และอีกด้านของสังคมออนไลน์ มีสิ่งที่เป็นลบ ไม่ดีต่อ สุขภาพร่างกายและจิตใจของนักเรียน ส่งผลให้นักเรียนเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าเข้าสังคม แล้วอาจส่งผลต่อเป็นโรคซึมเศร้า ได้
9 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ จากปัญหาที่กล่าวมาจึงเป็นที่มาในการจัดทำหลักสูตรสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบาขึ้น เพื่อดูแล เอาใจใส่ บรรดานักเรียน ชุมชน รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่โรงเรียนกับชุมชนต่อไป ๕. ข้อมูลบริบทระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ ข้อมูลพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีภารกิจหลักที่สำคัญ คือ จัดการ ศึกษาในเขตพื้นที่ ๕ อำเภอ ของจังหวัด นราธิวาส ได้แก่ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอตากใบ อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน โดยจัดการศึกษาใน ระดับต่าง ๆ ดังนี้ ๑. จัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ๒. จัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับให้เด็กไทยทุกคน สภาพภูมิศาสตร์ ที่ตั้ง : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ ตั้งอยู่ 38/4 หมู่ 3 ตำบลปาเสมัส อำเภอ สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ห่างจากกรุงเทพมหานครโดยทางรถยนต์ 1,115 กิโลเมตร และทางรถไฟ 1,116 กิโลเมตร และห่างจากพรมแดนประเทศมาเลเซีย 1 กิโลเมตร ภูมิประเทศ : พื้นที่ประมาณ 2 ใน 3 เป็นป่าและภูเขา ซึ่งมีภูเขาหนาแน่นแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้จด เทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นแนวสันพรมแดนไทย - มาเลเซีย ลักษณะของพื้นที่มีความลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศ ตะวันออก พื้นที่ราบส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณติดกับอ่าวไทย โดยเฉพาะอำเภอตากใบ และมีที่ราบลุ่มบริเวณแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก และแม่น้ำตากใบ มีพื้นที่พรุประมาณ 200,000 ไร่ ภูมิอากาศ : เป็นแบบมรสุมเขตร้อน แบ่งฤดูกาลออกเป็น 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน ซึ่งจะมี ฝนตกชุกในช่วง เดือนพฤศจิกายน - มกราคม และฤดูร้อน ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ -เมษายน สภาพสังคม เศรษฐกิจ การปกครอง สภาพสังคม : ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 85 นับถือศาสนาอิสลาม การติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน ส่วน ใหญ่ใช้ภาษามลายูท้องถิ่นและใช้ภาษาไทยในบางส่วน เศรษฐกิจ : รายได้ประชากรส่วนใหญ่ ขึ้นอยู่กับผลผลิตทางด้านการเกษตร และการค้า อาชีพหลัก คือ การ ทำสวนยางพารา การปลูกผลไม้ การทำนา การทำสวนมะพร้าว การประมง และการเลี้ยงสัตว์ การปกครอง : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 เป็นหน่วยงานการบริหารราชการ ส่วนกลาง ที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค มีพื้นที่รับผิดชอบ ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแว้ง อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอสุคิริน สภาพการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 มีการจัดการศึกษาหลายระดับ ทั้งระดับก่อน ประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตลอดจนการจัดการศึกษาให้กับนักเรียนที่ด้อยโอกาสอีก ด้วย ในการบริหารจัดการศึกษาในปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ มีการตื่นตัวทางการศึกษาสูง ชุมชนและองค์กรต่าง ๆ เข้ามา มีส่วนร่วมมากขึ้น มีการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้อง กับความต้องการของท้องถิ่น ตลอดถึงการศึกษาเพื่อพัฒนาสู่ อาชีพของนักเรียน ทำให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถในด้านต่าง ๆ เป็นการเพิ่มศักยภาพของนักเรียนอย่างมีคุณภาพ
10 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ปัญหาอุปสรรคในการบริหารจัดการศึกษา ได้แก่ การขาดแคลนครูและบุคลากรทาง การศึกษา ความไม่ มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของครูและบุคลากรทางการศึกษา สืบเนื่องมาจากปัญหาสถานการณ์ความไม่ สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส อันมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษา จากปัญหาอุปสรรคดังกล่าว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 มีความมุ่งมั่นที่จะ ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาการจัดการศึกษา โดยกำหนดกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ เพื่อเป็น เครื่องมือในการดำเนินงาน สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๒ พุทธศักราช ๒๕๔๕ และฉบับที่ ๓ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ที่ตั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต ๒ แผนภาพที่ ๑ ที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 การพัฒนาคุณภาพการบริหารและการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นราธิวาส เขต ๒ โดยใช้รูปแบบการบริหาร GACER Model แผนภาพที่ ๒ แสดงการพัฒนาคุณภาพการบริหารและการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ โดยใช้รูปแบบการบริหาร GACER Model
11 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ การพัฒนาคุณภาพในการบริหารและการจัดการศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นราธิวาส เขต 2 โดยใช้ รูปแบบการบริหาร GACER Model ประกอบด้วย 6 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 มุ่งเป้า (Goals) การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นราธิวาส เขต 2 มีกรอบในการกำหนดนโยบายการบริหารการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยมุ่งเป้าใน 5 ด้าน ได้แก่ ๑) ด้านคุณภาพผู้เรียน ๒) คุณภาพครู ๓) คุณภาพผู้บริหาร ๔) คุณภาพสถานศึกษา และ ๕) คุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา การดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การพัฒนาระบบบริหาร การศึกษา การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพ การจัดการเรียนการสอนของครู และการปฏิบัติงานของบุคลากรทาง การศึกษา การให้ความสำคัญต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใน ทุกภาคส่วนในการร่วมปฏิบัติภารกิจพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุเป้าหมาย ดังนี้ ๑) นักเรียนในวัยเรียนทุกคนได้รับโอกาสในการเรียนอย่างมีคุณภาพ ๒) เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา ผ่านเกณฑ์การประเมิน คุณภาพระดับ ๓ (ดี) ขึ้นไป ทั้ง ๔ ด้าน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test: RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ สูงกว่าปีการศึกษา ๒๕๖3 ๔) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) สูงกว่าปีการศึกษา ๒๕๖3 ๕) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) สูงกว่าปีการศึกษา ๒๕๖3 ๖) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 7๓ มีผลการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน อยู่ในระดับดี ขึ้นไป ๗) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 8๕ มีผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ อยู่ในระดับดี ขึ้นไป ๘) ครูมีการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) ๙) ครูมีการพัฒนาวิชาชีพตนเอง ด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(Professional Learning Community : PLC) ๑๐) โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีนวัตกรรมหรือใช้วิจัยเป็นฐานในการแก้ปัญหา นักเรียนเป็นรายบุคคล ๑๑) โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาตามบริบทของ โรงเรียน ๑๒) โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) สามารถเป็น แบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่นได้ 1๓) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใช้วิจัยเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 1๔)การติดตามและประเมินผลการบริหารและจัดการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อยู่ในระดับดีเยี่ยม 1๕) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา ให้บริการแก่ผู้รับบริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One stop service) ขั้นที่ 2 สร้างความตระหนักรับรู้ (Awareness) การสร้างความตระหนักรับรู้ เป็นขั้นตอนการนำนโยบายสู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อผู้มี ส่วนเกี่ยวข้อง ดังนี้
12 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 1) ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษากับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ของ โรงเรียนในสังกัดและบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยการประชุมชี้แจงคณะทำงานระดับเขตพื้นที่ และ ดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย 2) กำหนดปฏิทินการประชุมชี้แจงภารกิจการพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับ ศูนย์เครือข่ายอำเภอ ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ใน ขั้นที่ 1 มุ่งเป้า (Goals) ๓) ประชุมชี้แจงสร้างการรับรู้และความตระหนักให้กับบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้ ทราบเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๔) ประชุมชี้แจงสร้างการรับรู้และความตระหนักให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากร ทางการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดตามศูนย์เครือข่ายระดับอำเภอ เพื่อให้ทราบเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้อง 5) ติดตามการนำนโยบายสู่การปฏิบัติของสถานศึกษาด้วยรูปแบบการลงพื้นที่ การประชุมทางไกล และการพบปะทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ขั้นที่ 3 การปฏิบัติแบบร่วมมือ (Cooperative Action) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ได้กำหนดแนวปฏิบัติภารกิจตามนโยบายต่าง ๆ โดยเน้นกระบวนการปฏิบัติแบบร่วมมือที่ตอบสนองเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้เรียน และชุมชน เป็นสำคัญ ดังนี้ 1) แต่งตั้งผู้รับผิดชอบในแต่กลุ่มงานที่รับผิดชอบในแต่ละแผนงาน โครงการ และกิจกรรมต่างๆและ ประชุมชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 2) ปฏิบัติงานแบบร่วมมือภายในกลุ่มงาน ระหว่างกลุ่มงานในสำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษา และเปิด โอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาร่วมในการขับเคลื่อนการศึกษา ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย 3)สร้างเครื่องมือการนิเทศ กำกับ ติดตาม เพื่อใช้ในการติดตามการดำเนินงานพัฒนา คุณภาพการศึกษา ทั้งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนในสังกัด ตามนโยบาย 4) ดำเนินการนิเทศ กำกับ และติดตาม ตามแผนการนิเทศ ที่กำหนดไว้ 5) สะท้อนผลการดำเนินงาน ในขั้นก่อนปฏิบัติ ระหว่างปฏิบัติ และหลังการปฏิบัติตามภารกิจอย่าง ต่อเนื่อง และนำผลการดำเนินงานมาปรับปรุงและพัฒนา 6) สรุปและรายงานผลการดำเนินงานร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขั้นที่ 4 การประเมิน (Evaluation) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ดำเนินการประเมินผลการพัฒนาคุณภาพ การศึกษา โดยใช้วิธีการประเมินที่หลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมคุณภาพทั้ง 5 ด้าน คือ ด้านคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณภาพ ครู ด้านคุณภาพผู้บริหาร ด้านคุณภาพสถานศึกษา และด้านคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่ ดังนี้ 1) แต่งตั้งผู้รับผิดชอบและประชุมชี้แจงจัดทำเครื่องมือการประเมินตามสภาพจริง 2) ดำเนินงานประเมินตามสภาพจริงของคุณภาพทั้ง 5 ด้าน 3) ดำเนินการประเมินตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ 4) สะท้อนผลการประเมิน 5) สรุปและรายงานผลการประเมิน
13 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ขั้นที่ 5 เชิดชูเกียรติ(Reward) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 เน้นการสร้างขวัญกำลังใจและ เชิดชูเกียรติ ให้แก่บุคลากรในสังกัด โดยดำเนินการดังนี้ 1) แต่งตั้งผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรในสังกัด 2) ศึกษาแนวปฏิบัติที่ดี ด้านคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู คุณภาพผู้บริหารสถานศึกษา คุณภาพ สถานศึกษา และคุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่ 3) สรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ดังนี้ 3.1) นำเสนอข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ เพื่อนำไปในการพัฒนาคุณภาพการ ศึกษาในปี การศึกษาต่อไป 3.2) ยกย่องเชิดชูเกียรติโดยการมอบเกียรติบัตร โล่รางวัลให้แก่ผู้เรียน ครู ผู้บริหาร สถานศึกษา และ บุคลากรทางการศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป้าหมายการพัฒนาคุณภาพในการบริหารและการจัดการศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 โดยใช้รูปแบบการบริหาร GACER Model สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 โดยใช้รูปแบบการบริหาร GACER Model เพื่อพัฒนาคุณภาพในการบริหาร และการจัดการศึกษาให้เกิดคุณภาพที่ยั่งยืน ๕ ด้าน (Qualities : ๕ Q) ดังนี้ Q๑ : คุณภาพผู้เรียน (Learners Qualities) • นักเรียนระดับปฐมวัยมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ตามวัย • นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา • นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดี • นักเรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และสามารถแก้ปัญหาได้ • นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ • นักเรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี • นักเรียนมีทักษะชีวิตที่สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข • นักเรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม มีการนำไปใช้และเผยแพร่ • นักเรียนมีสามารถอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม Q๒ : คุณภาพครู(Teachers Qualities) (ปรับปัจจุบันแล้ว) ➢ครูมีการบริหารจัดการผู้เรียนโดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก “ครูรักเด็ก ให้ เด็กรักครู” ➢ครูสามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-2019) และนำไปตรวจสอบการเรียนรู้อย่างเป็น ระบบ ➢ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหน่วยการจัดการเรียนรู้ในหลักสูตร สถานศึกษาและนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้จริง ➢ครูจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการเชิงรุก (Active Learning) ➢ครูมีนวัตกรรมหรือใช้วิจัยเป็นฐานในการแก้ปัญหานักเรียนเป็นรายบุคคล
14 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ➢ครูมีชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ➢ครูใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้ ➢ครูมีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการจัดการเรียนรู้ที่สามารถเป็น แบบอย่างได้ Q๓ : คุณภาพผู้บริหารสถานศึกษา (Administers Qualities) • ผู้บริหาร มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ที่สถานศึกษากำหนดชัดเจนสอดคล้อง กับบริบทของ สถานศึกษา ความต้องการของชุมชน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติเป็นไปได้และทันต่อการเปลี่ยนแปลง • ผู้บริหาร มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจนมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา • ผู้บริหาร มีความเป็นผู้นำทางวิชาการและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง • ผู้บริหารมีความรอบรู้ในภาระขอบข่ายงานของสถานศึกษาอย่างชัดเจน • ผู้บริหารมีทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาตนเองในศตวรรษที่ ๒๑ • ผู้บริหารมีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการบริหารและจัดการ ศึกษาที่สามารถ เป็นแบบอย่างได้ Q๔ : คุณภาพสถานศึกษา (Schools Qualities) • โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และ มีความปลอดภัย • โรงเรียนมีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา • โรงเรียนมีการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ • โรงเรียนมีจุดเน้น และอัตลักษณ์ที่สอดคล้องตามบริบทของโรงเรียน และท้องถิ่น • โรงเรียนมีเครือข่ายการพัฒนาจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก • โรงเรียนมีความพร้อมรับการตรวจสอบ ติดตาม และการประเมินจากหน่วยงาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ อย่างเป็นปัจจุบัน Q๕ : คุณภาพสำนักงานเขตพื้นที่ (Area Office Qualities) • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์เป้าประสงค์ • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีการบริหารจัดการที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีและ ดิจิทัล • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีการจัดเก็บข้อมูล สำหรับใช้ในการบริหารจัดการ ได้อย่างครบถ้วน และมีคุณภาพ • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้การสนับสนุนการบริหารจัดการของโรงเรียน ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้การบริการแก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้องใน ด้านต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีการนิเทศ กำกับ ติดตามอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
15 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีการประสานงาน และสร้างเครือข่ายกับองค์กรหน่วยงาน ที่ เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีการบริหารและจัดการคุณภาพการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและ เป็นรูปธรรม • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใช้วิจัยเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา ให้บริการแก่ผู้รับบริการแบบจุดเดียว เบ็ดเสร็จ (One stop service) • สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) สามารถเป็นแบบอย่างได้ ๖. ข้อมูลบริบทระดับพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส การกำหนดอนาคตของการจัดการศึกษาในจังหวัดนราธิวาสมีประเด็นสำคัญคือการกำหนดความหมายในการทำงาน ใหม่ และกำหนดบทบาทใหม่ในการทำงาน โดยการปรับนโยบายให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปรับบทบาท ของผู้บริหาร ปรับบทบาทในการจัดการเรียนรู้ของครู จัดระบบสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ของครู และให้เชื่อมโยงกับ ชุมชนโดยให้คนในชุมชนได้มีบทบาทร่วมในการจัดการเรียนรู้ อันมีจุดมุ่งหมายสำคัญไปที่สมรรถนะในการเรียนรู้ของ ผู้เรียนที่ได้คุณภาพ มาตรฐาน ตอบโจทย์ชุมชนและตอบความยั่งยืนของการจัดการเรียนรู้ได้ ภาพที่ ๓ ภาพการสร้างความหมายใหม่และบทบาทใหม่ในการจัดการเรียนรู้ของ จ.นราธิวาส
16 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ วิสัยทัศน์การศึกษาจังหวัดนราธิวาส จัดการศึกษาเพื่อความรักและสันติสุข วิสัยทัศน์หลักสูตร มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ดำรงชีวิตบนความหลากหลายของศาสนาและวัฒนธรรมอย่างสันติสุข อุดมการณ์หลักสูตร สร้างพลเมืองที่เข้มแข็ง ท้องถิ่น รักชาติ และมีความเป็นพลโลก สามารถเรียนรู้เพื่อนำตนเอง สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ รัก และภาคภูมิใจในถิ่นที่อยู่อาศัย รักชาติ มีชีวิตที่ดีบนแผ่นดินเกิด หลักการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะของจังหวัดนราธิวาส แนวคิดหลักของโรงเรียนกำหนดมาจากสภาพจริงที่เป็นลักษณะเด่นของโรงเรียนที่ก่อรูปไปสู่การมุ่งอุดมการณ์ที่ มาดหมาย อุดมการณ์ คือ พื้นฐานความเชื่อ ความศรัทธาที่มีต่อสิ่งที่มุ่งหมายแนวคิดหลักจะสะท้อนอัตลักษณ์ (ความเป็น ตัวตน) ของโรงเรียน และการมุ่งความสำเร็จพร้อมกัน การมุ่งความสำเร็จจะปรากฏชัดเจนที่เป้าหมาย เป้าหมาย กำหนดโดยใช้สมรรถนะผู้เรียนเป็นที่ตั้ง ซึ่งสมรรถนะของนักเรียนมีความหมายต่อความสำเร็จในการใช้ชีวิต การอยู่ ร่วมกับชุมชนและสังคม “จัดการศึกษาบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่กลมกลึง ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงการศึกษา เพื่อสังคมสันติสุข” ภาพที่ ๔ ภาพเนื้อหาในหลักสูตรจากความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและชุมชน เป้าหมายหลัก
17 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ๑. ผู้เรียน ครู และผู้บริหารมีค่านิยม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักศาสนาบนพื้นฐานหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ๒. การสร้างพลเมืองรุ่นใหม่ที่เข้มแข็งในยุคของการเปลี่ยนแปลง ๓. ผู้เรียน ครูและผู้บริหารเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ รู้ทันโลก ก้าวทันเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ๔. เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเสมอภาค ๕. การส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นและสนับสนุนทรัพยากรและการนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อ ยกระดับคุณภาพการศึกษา ๖. การพัฒนานวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ค่านิยมร่วม (Core Value) การอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างกลมกลึง ๗. ข้อมูลสถานการณ์ของประเทศและโลกปัจจุบัน ช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่โลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและ ผันแปร อย่างรวดเร็วของโลก การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เป็นผลจากการขับเคลื่อนของ 3 กระแสหลัก ซึ่งประกอบด้วย 1) กระแส โลกาภิวัตน์ (Globalization) ที่หลอมรวมสังคมทั้งโลกให้เป็นสังคมเดียว เชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าด้วยกัน ผู้คนสามารถ ติดต่อสื่อสารหรือเดินทางถึงกันได้ทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว 2) กระแสการพัฒนาเทคโนโลยี(Big Bang of Technology) ที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ก่อให้เกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีขึ้นในโลกอย่างมากมาย และทำให้โลกมีการ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และ 3) กระแสความเป็นใหญ่ของเงินทุน (Financialization) ที่เงินเข้ามามี บทบาทมากขึ้นในโลกสมัยใหม่ โลกาภิวัตน์และเทคโนโลยีทางการเงิน ทำให้เงินเป็นตัวขับเคลื่อนโลกในแทบทุกด้าน พร้อมกับการพัฒนารูปแบบเป็นดิจิทัลมากขึ้น (ธานินทร์ เอื้ออภิธร, 2017) 3 กระแสหลักของโลกที่ได้กล่าวมาข้างต้นได้ สร้างปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในโลกสมัยใหม่ ที่เรียกว่า VUCA World ซึ่งหมายถึง โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง พลิกผันอย่างรวดเร็ว VUCA เป็นคำย่อของความผันผวน (volatility) ความไม่แน่นอน (uncertainty) ความสลับซับซ้อน (complexity) และความคลุมเครือ (ambiguity) เดิมเป็นคำที่กองทัพสหรัฐอเมริกาใช้เรียกสถานการณ์ในสงครามที่แอฟริกาและอิรักที่ สับสนและผันผวน แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้อธิบายโลกปัจจุบันที่มีแต่ความสับสนและผันผวน ราวกับอยู่ในสงคราม และ สภาวะแวดล้อมเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Giles, 2018) ความเปลี่ยนแปลงที่พลิกผัน และรวดเร็วนี้ ส่งผลให้สภาพสังคม การเมือง และเศรษฐกิจที่ผู้คนคุ้นเคย เปลี่ยนไป ด้วย กรณีที่เห็นชัด คือ การที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีผลต่อพฤติกรรมมนุษย์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลต่อ การเลือกตั้งต่อ พฤติกรรมการบริโภค หรือทำให้ธุรกิจหรืองานอาชีพบางประเภทต้องปรับตัวหรือหายไป และยังมีผลต่อเนื่องกับอารมณ์ ความคิดและการใช้ชีวิตของคนในสังคมด้วย การเปลี่ยนแปลงนี้ อาจจะเรียกรวม ๆ ว่าเป็นการเกิดขึ้นของ Disruption นั่น คือ สิ่งที่เราเคยเข้าใจ เคยเป็น เคยชิน จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วไปสู่สิ่ง ที่ซับซ้อน คาดเดาไม่ได้ ธุรกิจ งานอาชีพจำนวน
18 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ มากหายไปและเกิดขึ้นใหม่ จะเกิดการว่างงาน การฝึกฝนเรียนรู้ทักษะใหม่ และการจัดระเบียบใหม่ทางสังคม ท่ามกลาง โลกอันผันผวน VUCA World ถือว่าเป็น The New Normal หรือเป็นสภาวะปกติแบบใหม่ของโลกที่ผู้คนในสังคม จำเป็นต้อง หาเทคนิค วิธีการหรือเครื่องมือในการอยู่กับ VUCA World ให้ได้ เพื่อให้ทันหรือนำการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเข้าถึง โอกาสใหม่ ๆ ที่เข้ามา ด้วยการสร้างความพร้อมในการรับมือความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือให้ได้ (Namprom, 2019) ในการรับมือกับกระแสโลกที่ผันผวน หรือ VUCA World นี้ ทุกคนต่างพุ่งเป้าไปที่การศึกษาซึ่งเป็น รากฐานสำคัญ ในการพัฒนาคน จึงเป็นความจำเป็นที่การศึกษาจะต้องทบทวนและปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างผู้เรียน ให้มีทักษะและสมรรถนะ ที่สำคัญจำเป็น สามารถปรับตัวให้อยู่ในสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พลิกผัน ไม่แน่นอน ซับซ้อนและคลุมเครือได้ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นจึงถึงเวลาที่การศึกษาต้องปรับเปลี่ยนจากการให้ความสำคัญกับความรู้มาเป็นการให้ความสำคัญกับ กระบวนการคิดของผู้เรียน ซึ่งหนึ่งในทักษะที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงในการพัฒนาการคิดของผู้เรียน คือ ทักษะการ เรียนรู้ตามแนวทางการพัฒนาในศตวรรษที่ 21 (ศศิมา สุขสว่าง, 2562)ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กรอบการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Framework for 21st Century Learning) เป็นแนวคิดสำคัญในการจัด การศึกษาที่ได้กำหนดทักษะที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนไว้ 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม คือ มีความคิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหาเป็น ใส่ใจนวัตกรรม มีการสื่อสารที่ดี รู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณ และมีความร่วมมือร่วมใจ 2. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี คือรู้จักติดตามข้อมูลข่าวสาร รอบรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รู้เท่า ทันสื่อ และฉลาดในการสื่อสาร 3. ด้านชีวิตและอาชีพ คือ มีความยืดหยุ่น รู้จักปรับตัว มีภาวะผู้นำ มีความคิดริเริ่ม ใส่ใจตัวเอง เรียนรู้วัฒนธรรม รู้จักเข้าสังคม มีความขยันหมั่นเพียร รับผิดชอบ และรู้จักพัฒนาตัวเอง การส่งเสริมผู้เรียนตามแนวทางของศตวรรษที่ 21 จึงตอบโจทย์ในการพัฒนาคนท่ามกลางกระแสของ โลกยุค VUCA เพราะจะช่วยอุดช่องโหว่จากผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการเคลื่อนตัวของกระแส VUCA ดังนี้ V (Volatility) คือ ความผันผวน การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ไม่สามารถคาดเดาได้ สามารถ อุดรอยโหว่จาก ผลกระทบนี้ด้วยการรู้จักติดตามข่าวสาร การรู้เท่าทันสื่อ และการรู้จักปรับตัว U (Uncertainly) คือ ความไม่แน่นอน ยากต่อการตัดสินใจ สามารถอุดรอยโหว่จากผลกระทบนี้ด้วยการใช้ ความคิดอย่างมีวิจารณญาณ และมีภาวะผู้นำกล้าตัดสินใจ C (Complexity) คือ ความซับซ้อนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ในเชิงระบบ สามารถอุดรอยโหว่จาก ผลกระทบนี้ด้วยการใช้ ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยในการทำเกิดการทำงานที่ง่ายขึ้น A (Ambiguity) คือ ความคลุมเครือไม่ชัดเจน ไม่สามารถคาดเดาผลได้ชัดเจน ซึ่งเราสามารถอุดรอยโหว่จาก ผลกระทบนี้ด้วยการรู้จักสื่อสาร ฉลาดสื่อสาร และรู้จักที่จะทำงานแบบร่วมมือ (PlookTeacher,2562) หลักสูตรฐาน สมรรถนะทางออกของการศึกษาไทย
19 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความสามารถของผู้เรียน โดยมีหลักสูตร เป็นพิมพ์ เขียวหรือกรอบในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุจุดหมายที่กำหนด โดยมีรูปแบบ หลักสูตรที่ ปรับเปลี่ยนไปตามบริบทในแต่ละช่วงเวลา ดังเช่น หลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2503 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่อิงเนื้อหา (Content-based Curriculum) ที่มุ่งถ่ายทอดเนื้อหาวิชาให้ผู้เรียน หลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521 เป็นหลักสูตร บูรณาการเนื้อหา (Integrated Curriculum) ที่หลอมรวมเนื้อหาที่ใกล้เคียงกันมาสอนรวมกันเป็นกลุ่มวิชา จนมาถึง หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เป็นหลักสูตรอิง มาตรฐาน (Standard-based Curriculum) ที่ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เป็นตัวกำหนดคุณภาพ แต่ถึงแม้จะมี การปรับเปลี่ยนรูปแบบของหลักสูตรไปเช่นใด ผู้เรียนไทยก็ยังไม่มีคุณภาพ ตามที่พึงประสงค์ มีผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ตกต่ำ ดังจะเห็นได้จากผลการทดสอบระดับชาติ (O–NET) และระดับนานาชาติ(PISA) รวมทั้งยังขาดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลายประการ อาทิเช่น มีความรู้แต่ไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการทำงานหรือการดำเนินชีวิต เรียนรู้โดยจดจำความรู้ จึงเข้าใจในระดับผิวเผิน ไม่รู้จักตนเอง ไม่รู้ศักยภาพและความถนัดของตนไม่เห็นคุณค่าของการเรียน และการเรียนไม่มี ความหมายต่อตนและชีวิตของตน (คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา, 2562) เมื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่า สาเหตุสำคัญมาจากการจัดการเรียนการสอนและการวัดประเมินผลตาม หลักสูตรที่กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่อิงเนื้อหาจำนวนมาก ทำให้ครูมุ่งสอนและวัดผลตามเนื้อ หาในตัวชี้วัด อีกทั้งการจัดการเรียนการสอนของครูยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้แต่ขาดสมรรถนะในการใช้ ความรู้ ไม่สามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับ หลักสูตรให้สามารถพัฒนาผู้เรียนไป ในแนวทางที่ต้องการ นั่นคือ หากต้องการผู้เรียนที่มีสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 การปรับหลักสูตรให้มุ่งสู่การพัฒนา สมรรถนะจึงเป็นความสำคัญจำเป็น อีกทั้งหลักสูตรที่ใช้กันอยู่ปัจจุบัน มีการใช้ประมาณ 10 ปี แล้ว ถึงเวลาที่ต้องมีการ ปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกศตวรรษที่ 21 หลักสูตรฐานสมรรถนะ จะเป็นทางออกสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมรับและมีสมรรถนะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกยุค VUCA อย่างมี คุณภาพ จะเห็นได้ว่า ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษ 21 คืออาวุธชิ้นสำคัญในการพัฒนาคนในระบบการศึกษา เพื่อต่อกรกับ กระแส VUCA ที่กำลังเข้ามาควบคุมโลกใบนี้อยู่ทุกขณะ ถึงเวลาแล้วที่การศึกษาไทยควรให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อ การพัฒนาในศตวรรษที่ 21 อย่างจริงจัง เพราะไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกกระแส VUCA กลืนกิน ให้หายไปจากโลกยุคใหม่ และเมื่อวันนั้นมาถึงจริง ๆ เราจะต้องสูญสลายไปโดยที่ไม่มีเวลาแม้กระทั่งมานึกเสียใจทีหลังเลย ก็เป็นได้
20 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ส่วนที่ ๒ ขอบข่ายหลักสูตรฐานสมรรถนะ 1. แนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาหลักสูตร ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการด้านต่าง ๆ ของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงความรู้และ เทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ที่นำไปสู่การเป็นสังคมดิจิทัลอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเกิดปรากฏการณ์สำคัญของโลก เช่น ภาวการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อย่างรุนแรง ส่งผลให้ทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่กระทบวิถีชีวิตของผู้คนอย่างไม่หยุดยั้ง เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมที่ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนั้น ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษายังไม่สะท้อนถึงศักยภาพของผู้เรียนที่สามารถออกไปสู่สังคมและโลก ของการทำงานในอนาคตได้อย่างชัดเจน จึงเป็นความสำคัญจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของชาติ ซึ่งเป็น พิมพ์เขียวและกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ ให้สอดคล้องรับกับความก้าวหน้าทางวิทยาการ และการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน เพื่อสร้างคนไทยให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีความสามารถและศักยภาพในการดำรงชีวิต ปรับ ตนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะแข่งขันและร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในเวทีโลก กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรการศึกษาของชาติฉบับใหม่เพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดใน การพัฒนาเยาวชนของชาติให้มีคุณลักษณะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมทั้งเป็นการเตรียมเยาชน สำหรับการเผชิญหน้ากับโลกอนาคตที่ไม่แน่นอนต่อไป หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ นี้ได้พัฒนาขึ้นตามแนวคิดการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งมีความแตกต่างจาก หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่พัฒนาขึ้นตามแนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ พัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณภาพอย่างน้อยตามที่มาตรฐานกำหนด ส่วนหลักสูตรฐานสมรรถนะ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา ผู้เรียนทุกคนให้มีสมรรถนะหลักที่สำคัญจำเป็น และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้บ่มเพาะ พัฒนา และต่อยอดสมรรถนะหลักและ สมรรถนะอื่นได้ เต็มตามศักยภาพ ตามความจำเพาะเจาะจงของบุคคล (Personalization) ตามความเชื่อที่ว่ามนุษย์มี หน้าที่ในการพยายามค้นหาตัวเอง และเลือกสร้างลักษณะของตนเองตามที่อยากจะเป็น การจัดการศึกษาตามแนวคิดนี้จึงมุ่งให้ ผู้เรียนทบทวน พิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ และตรวจสอบ เพื่อให้ค้นพบและรู้จักตนเองอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาศักยภาพของ ตนเองอย่างเป็นองค์รวม นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัด ปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศ ณ วันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑ เพื่อให้มีกลไกขับเคลื่อนการศึกษาที่เข้มแข็งและมีหน่วยงานภายนอกเข้าไปร่วมพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนและการบริหารให้ ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ส่งเสริมให้สถานศึกษามีอิสระในการจัดหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ การบริหารจัดการที่ คล่องตัว ให้ครูใช้เวลาในการพัฒนานักเรียนอย่างเต็มที่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพสูง มี การคิดค้นพัฒนานวัตกรรมการศึกษาที่เหมาะสมกับบริบทและสามารถขยายวิธีปฏิบัติที่ดี มีประสิทธิภาพของสถานศึกษาใน พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ไปยังสถานศึกษาในพื้นที่อื่นได้จากนั้น วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา ได้ ประกาศพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานอันเป็นรากฐานสำคัญของ การพัฒนาคนไทย ให้มีคุณภาพ มีความใฝ่รู้ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถอยู่และทำงานร่วมกับ ผู้อื่นซึ่งมี ความแตกต่างหลากหลายได้ มีความรู้เท่าทันได้ และมีทักษะในการประกอบอาชีพตามความถนัดของผู้เรียนแต่ละคน
21 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ และให้รัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพ และลด ความเหลื่อมล้ำในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๒๐ (๔) กำหนดให้คณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษามีบทบาทและหน้าที่ นำหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติไปปรับใช้กับการจัดการศึกษาในสถานศึกษานำร่องให้ เหมาะสมกับพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา และมาตรา ๒๕ กำหนดให้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ได้รับการ ปรับเพื่อนำไปใช้ตามมาตรา ๒๐ (๔) ต้องครอบคลุมสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ โดยต้องจัด สาระการเรียนรู้รายวิชาให้หลากหลายและสอดคล้องกับความสามารถ ความถนัดหรือความสนใจของผู้เรียน และสภาพ ภูมิสังคม (พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๔ : หน้า ๑๑๐ – ๑๑๔) ดังนั้น โรงเรียนบ้านตาบา จึงได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดในการพัฒนาผู้เรียน ให้มีคุณลักษณะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน พร้อมทั้งเป็นการเตรียมเยาวชนสำหรับการเผชิญหน้ากับโลกอนาคตที่ ไม่แน่นอนต่อไป หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านตาบา พัฒนาขึ้นตามแนวคิดการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งมีความ แตกต่างจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่พัฒนาขึ้นตามแนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน ซึ่ง มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณภาพ ๒. แนวคิดหลักในการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ (School Concept) ของ ศธจ. “จัดการศึกษาบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่กลมกลึง ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงการศึกษา เพื่อสังคมสันติสุข” แนวคิดหลักในการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ (School Concept) และคำนิยาม School Concept : โรงเรียนแห่งการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในพื้นที่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างแดน ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หมายถึง ผู้ที่มีความคิดใหม่ๆ ริเริ่ม สร้างสรรค์ ความสามารถในการค้นหาโอกาสให้กับ ตนเอง ในด้านการประกอบธุรกิจต่างๆ และใช้โอกาสนั้น ผลิตสินค้า และบริการ เพื่อสู่การเป็นเจ้าของกิจการ ความสัมพันธ์ระหว่างแดน หมายถึง การติดต่อสื่อสาร ที่อยู่บนพื้นฐานตามหลักการอิสลาม ๓. วิสัยทัศน์ โรงเรียนมีคุณภาพและโดดเด่น จัดการเรียนการสอนยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและหลักศาสนา เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการศึกษา 4. หลักการของหลักสูตร โรงเรียนบ้านตาบา ได้กำหนดหลักการของหลักสูตร ไว้ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรที่มีเป้าหมายในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนที่เหมาะสมตามช่วงวัย เน้นการพัฒนา ผู้เรียน รายบุคคล (Personalization) อย่างเป็นองค์รวม (Holistic Development) เพื่อการเป็นเจ้าของการเรียนรู้และพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง (Life-Long Learning)
22 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 2. เป็นหลักสูตรที่เชื่อมโยงระหว่างสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะในการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome) เพื่อการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตและการทำงาน 3. เป็นหลักสูตรที่จัดสภาพแวดล้อมและเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathway) ที่หลากหลาย และ ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพหุปัญญาและธรรมชาติของผู้เรียน 4. เป็นหลักสูตรที่มีกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การใช้สื่อและสถานการณ์การเรียนรู้ ร่วมสมัย มีความหลากหลาย และยืดหยุ่น ตามความสนใจ ความถนัดของผู้เรียน (Differentiated Instruction) บริบท จุดเน้นของสถานศึกษา และชุมชนแวดล้อม 5. เป็นหลักสูตรที่มุ่งใช้การประเมินเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้และสะท้อนสมรรถนะของผู้เรียน ตามเกณฑ์การ ปฏิบัติ(Performance) ที่เป็นธรรม เชื่อถือได้ เอื้อต่อการถ่ายโยงการเรียนรู้และพัฒนาในระดับ ที่สูงขึ้นตามระดับ ความสามารถ 5. จุดมุ่งหมายของหลักสูตร การพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนให้มี คุณลักษณะ ดังนี้ 1. รู้จักรัก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น จัดการอารมณ์และความเครียด ปัญหาและภาวะวิกฤต สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะ สมดุล (Resilience) และมีสุขภาวะและมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น 2. มีทักษะการคิดขั้นสูงอย่างมีคุณธรรม มีความสามารถในการนำ และกำกับการเรียนรู้ของตนเองอย่างมีเป้าหมาย 3. สื่อสารอย่างฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มีพลัง ด้วยความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม 4. จัดระบบและกระบวนการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย มีความเป็นผู้ประกอบการภาวะผู้นำ และ จัดการความขัดแย้งภายใต้สถานการณ์ที่มีความซับซ้อน 5. ปฏิบัติตนอย่างรับผิดชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก 6. เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกและจักรวาล เข้าถึงและรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยีเพื่อการ ดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนของโรงเรียนบ้านตาบา มีดังนี้ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อ บ้านเมือง ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ เคารพสถาบัน พระมหากษัตริย์ และยึดมั่น ในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2) ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรง ตามความเป็นจริงต่อ ตนเองและผู้อื่นทั้งทางกาย วาจาและใจ ยึดหลักความจริงและความถูกต้องในการดำเนินชีวิต มีความละอายและเกรงกลัว ต่อการกระทำผิด 3) มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์และระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งของ ตนเอง ครอบครัว โรงเรียนและสังคมเป็นปกติวิสัย และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
23 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 4) อยู่อย่างพอเพียง เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มี คุณธรรม อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกัน ความเสี่ยงและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มีภูมิคุ้มกันในบุคคลที่ดีและปรับตัว เพื่ออยู่ในสังคม ได้อย่างมีความสุข 5) มีจิตสาธารณะ เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ก่อให้เกิด ประโยชน์แก่ผู้อื่น ชุมชน และสังคม ด้วยความเต็มใจและกระตือรือร้นโดยไม่หวังผลตอบแทน 7. สมรรถนะหลัก 6 ด้าน และระดับสมรรถนะ 10 ระดับ โรงเรียนได้กำหนดสมรรถนะหลัก (Core Competencies) 6 ด้าน เพื่อกำหนดให้เป็นพื้นฐานที่นักเรียนทุกคน ต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นความสามารถติดตัวเมื่อจบการศึกษา มีลักษณะเป็นสมรรถนะข้ามสาระการเรียนรู้หรือคร่อม วิชา สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียน มีดังนี้ 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการคิดขั้นสูง 3. สมรรถนะการสื่อสาร 4. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. สมรรถนะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง (Self-Management: SM) นิยาม การรู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น การพัฒนาปัญญาภายใน ตั้งเป้าหมายในชีวิต และกำกับตนเองในการ เรียนรู้และใช้ชีวิต การจัดการอารมณ์และความเครียด รวมถึงการจัดการปัญหาและ ภาวะวิกฤต สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะ สมดุล (Resilience) เพื่อไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายในชีวิต มีสุขภาวะที่ดีและ มีสัมพันธภาพกับผู้อื่นได้ดี องค์ประกอบ 1. การเห็นคุณค่าในตนเอง หมายถึง การรู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จุดเด่น ข้อจำกัด ความสนใจ ความสามารถ ความถนัด และภาคภูมิใจในตนเอง มั่นใจในตนเอง เห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติและเคารพสิทธิตนเองและผู้อื่น มีความรับผิดชอบในตนเอง 2. การมีเป้าหมายในชีวิต หมายถึง การตั้งเป้าหมายในชีวิต มีวินัยในตนเอง สามารถบริหารจัดการเวลา ทรัพยากร สามารถพึ่งพาและกำกับตนเองให้ไปสู่เป้าหมายในชีวิต และมีสุขภาวะที่ดี 3. การจัดการอารมณ์และความเครียด หมายถึง การรับรู้ เข้าใจ รู้เท่าทัน อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด และ ความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตนเอง เข้าใจสาเหตุและสามารถจัดการอารมณ์ ความรู้สึก และ ความคิดของ ตนเอง 4. การจัดการปัญหาและภาวะวิกฤต หมายถึง การรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัญหาและภาวะ วิกฤต สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะสมดุลได้ สามารถเตรียมการ ป้องกัน และแก้ไข เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน
24 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการจัดการตนเอง
25 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 2. สมรรถนะการคิดขั้นสูง (Higher Order Thinking: HOT) นิยาม สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีวิจารญาณบนหลักเหตุผลอย่างรอบด้าน โดยใช้คุณธรรม กำกับการตัดสินใจได้อย่างมีวิจารณญาณ มีความสามารถคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลด้วยความเข้าใจ ถึงความเชื่อมโยงของ สรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระบบ ใช้จินตนาการและความรู้สร้างทางเลือกใหม่ เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมี เป้าหมาย องค์ประกอบ 1. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking: HOT-CTC) หมายถึง กระบวนการคิด ที่พิจารณา ไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล มีจุดประสงค์เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดควรเชื่อหรือควรกระทำ โดยมีหลักฐาน สนับสนุนซึ่งเป็นผลมาจาก การตีความ ประเมิน วิเคราะห์ สรุปความ และอธิบายตามหลักฐาน แนวคิด วิธีการ กฎเกณฑ์ หรือบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ ข้อมูลที่รวบรวมหรือข้อมูลจากการสังเกต ประสบการณ์ การใช้เหตุผล การสะท้อนคิด การสื่อสาร และการโต้แย้ง นำไป พิจารณาร่วมกับข้อมูลด้านอื่น ๆ เช่น ความเหมาะสม ตามหลักกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม ค่านิยม ความเชื่อและบรรทัด ฐานทางสังคมและวัฒนธรรม 2. การคิดเชิงระบบ (System Thinking: HOT-STM) หมายถึง กระบวนการคิดที่มองเห็น ภาพรวมโครงสร้าง ทั้งหมดที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเป็นระบบ ภายใต้บริบท/ ปัจจัย ของสิ่งแวดล้อมที่เกิดสถานการณ์นั้น ๆ โดยมองสถานการณ์ให้ลึกลงไปกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นแบบแผน หรือรูปแบบที่เกิดขึ้น เห็นรากเหง้าของ สถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น ๆ จนเกิด ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสถานการณ์นั้น นำไปสู่ การออกแบบระบบ เปรียบเทียบแบบจำลองความคิด ทำนาย ผลลัพธ์ของการแทรกแซงระบบ และประเมินระบบได้ 3. การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking: HOT-CRT) หมายถึง กระบวนการคิด ที่หลากหลาย ริเริ่ม ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดความคิด เพื่อการแก้ปัญหาหรือสร้างทางเลือก ที่มีประสิทธิภาพ การสร้าง ความก้าวหน้าในความรู้ หรือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยจินตนาการ และทักษะพื้นฐานด้านการคิดริเริ่ม คิด คล่อง คิดยืดหยุ่น คิดละเอียดลออ คิดหลากหลาย คิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ เพื่อให้ได้สิ่งใหม่ที่ดีกว่า แตกต่างไปจาก เดิม มีประโยชน์ และมีคุณค่าต่อตนเอง ผู้อื่น และ สังคมมากกว่าเดิม ซึ่งสิ่งใหม่ในที่นี้อาจเป็นการปรับหรือประยุกต์สิ่งเดิม ให้อยู่ในรูปแบบใหม่ หรือเป็นการต่อยอด จากสิ่งเดิม หรือเป็นการริเริ่มสิ่งใหม่ขึ้นมาทั้งหมด 4. การคิดแก้ปัญหา (Problem Solving Thinking: HOT-PRB) หมายถึง กระบวนการคิด ที่ใช้ในการ แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกำหนดปัญหา เข้าใจเหตุและผลของปัญหา วางแผน การแก้ปัญหาโดยรวบรวม ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลาย และเลือกวิธีการ แก้ปัญหาที่ดีที่สุด ดำเนินการแก้ไขปัญหา ตามแผนที่วางไว้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน เก็บ และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประเมินและตรวจสอบผลของการแก้ปัญหา ปรับปรุง จนปัญหาได้รับการแก้ไข
26 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการคิดขั้นสูง ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 1 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวสถานการณ์ หรือ ปรากฏการณ์ ในชีวิตประจำวัน สังเกต จำแนก สำรวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรือทรัพยากร สรุปข้อมูล และ เสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้อย่างอิสระ ตลอดจน สามารถผลิตผลงานอย่างง่ายโดยอาศัยต้นแบบ เริ่มต้น 2 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือ ปรากฏการณ์ ในชีวิตประจำวัน สังเกต จำแนก หรือระบุความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ปรากฏการณ์หรือ สถานการณ์นั้น ๆ ได้ สามารถสำรวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรือ ทรัพยากร สรุปข้อมูล และเสนอ แนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ พร้อมแสดงเหตุผลและ ประเมินความเหมาะสมของคำตอบ สามารถ จินตนาการและเสนอความคิดได้อย่าง คล่องแคล่ว หลายประเภทและหลายทิศทาง ตลอดจน สามารถผลิตผลงานอย่างง่าย โดยอาศัยต้นแบบ กำลัง พัฒนา 3 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือ ปรากฏการณ์ ในชีวิตประจำวัน สังเกต จำแนก หรือระบุความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ปรากฏการณ์หรือ สถานการณ์นั้น ๆ ได้ สามารถสำรวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรือ ทรัพยากร แปลความหมาย ข้อมูลด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และสรุปข้อมูล เพื่อ เปรียบเทียบ ประเมิน ตัดสินใจ หรือเสนอ แนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ พร้อมแสดงเหตุผล โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของการออกแบบ วิธีการแก้ปัญหา สามารถจินตนาการและ เสนอความคิดได้อย่างคล่องแคล่ว หลากหลาย โดยใช้ ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร ตลอดจนสามารถผลิตผลงานตามจินตนาการโดยอาศัยต้นแบบ สามารถ เริ่มต้น 4 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือ ปรากฏการณ์ ในชีวิตประจำวันโดยละเอียด ระบุความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ปรากฏการณ์หรือสถานการณ์ นั้น ๆ ได้ สามารถวางแผนและดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล แปล ความหมายข้อมูลด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และสรุป ข้อมูล พร้อมทั้งประเมินความถูกต้องและ ข้อจำกัดของข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบ ประเมิน ตัดสินใจ หรือเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้อย่างคล่องแคล่ว หลากหลาย โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ ที่ไม่ซ้ำใคร หรือพัฒนาต่อยอดจาก ของเดิม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 5 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาที่ซับซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ใน ชีวิตประจำวันโดยละเอียด สามารถวางแผนและดำเนินการการสำรวจตรวจสอบ เลือก วิธีการเก็บ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูล เพื่อสร้างข้อสรุปที่แม่นยำ และน่าเชื่อถือ พร้อมนำเสนอและเปรียบเทียบข้อสรุปที่เหมือนหรือแตกต่างกับข้อสรุปของ ตน สามารถพัฒนา ชิ้นงานหรือวิธีการ โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อ ยอดจากของเดิม วิเคราะห์องค์ประกอบของชิ้นงานหรือวิธีการเพื่อสร้างแบบจำลองอย่างง่าย สามาร ถ เริ่มต้น 6 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาหรือสถานการณ์ที่ซับซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์หรือ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน ระบุสาเหตุของปัญหา แยกปัญหาเป็นปัญหาย่อย ๆ สามารถ วางแผนและดำเนินการการสำรวจตรวจสอบ เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล เปรียบเทียบ แหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูล ลง ข้อสรุปได้อย่างถูกต้อง นำเสนอข้อสรุปรวมทั้งเปรียบเทียบและประเมินข้อสรุปที่แตกต่าง หรือตรงกันข้ามกับข้อสรุปของ ตน และสามารถปรับปรุงข้อสรุปของตนตามข้อมูลและ หลักฐานใหม่สร้างแบบจำลองเพื่อแสดง โครงสร้างของปัญหาหรือสถานการณ์ได้ พัฒนา ชิ้นงานหรือวิธีการโดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ ซ้ำใคร หรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิม ให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริง เหนือ ความ คาดห วัง กำลัง พัฒนา
27 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการคิดขั้นสูง(ต่อ) ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 7 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยากและซับซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์หรือ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน ระบุสาเหตุของปัญหา แยกปัญหา เป็นปัญหาย่อย ๆ สามารถวางแผน และดำเนินการการสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ หรือเทคโนโลยี เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างข้อสรุปที่แม่นยำ และน่าเชื่อถือ เปรียบเทียบแหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ สามารถลงข้อสรุปได้อย่าง ถูกต้อง เปรียบเทียบและประเมินข้อสรุปที่แตกต่างหรือตรงกันข้ามกับ ข้อสรุปของตน โดยใช้เหตุผลและหลักฐานที่หลากหลายและสามารถปรับปรุงข้อสรุปของตนตามข้อมูล และหลักฐานใหม่ สร้างแบบจำลองเพื่อแสดงโครงสร้างของปัญหาหรือสถานการณ์ได้ พัฒนาชิ้นงาน วิธีการหรือนวัตกรรม โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนา ต่อยอดจากของเดิมให้ เหมาะสมต่อการใช้งานจริง สามารถ เริ่มต้น 8 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยากและซับซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่างๆ สถานการณ์หรือ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน ประเมินคำถามว่าสามารถสำรวจ ตรวจสอบได้หรือไม่ ระบุสาเหตุของ ปัญหา แยกปัญหาเป็นปัญหาย่อยๆ สามารถวาง แผนและดำเนินการการสำรวจตรวจสอบ เลือกวิธีการ เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างข้อสรุปที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ เปรียบเทียบแหล่งข้อมูล และข้อเท็จจริงได้นำเสนอข้อสรุปรวมทั้งเปรียบเทียบและประเมินข้อสรุปที่แตกต่างหรือตรงกันข้ามกับ ข้อสรุปของตน โดยใช้เหตุผลและหลักฐานที่หลากหลายและสามารถปรับปรุงข้อ สรุปของตนตามข้อมูล และหลักฐานใหม่ สร้างแบบจำลองความคิด เพื่ออธิบายแนวคิดที่ใช้ในการ ออกแบบระบบได้ สามารถ พัฒนาชิ้นงาน วิธีการหรือนวัตกรรม โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร หรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมให้ เหมาะสมต่อการใช้งานจริง เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 9 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยากและซับซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์หรือ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวันหรือจากผลที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพื่อหา ข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินคำถามว่าสามารถ สำรวจตรวจสอบได้หรือไม่ ระบุสาเหตุของ ปัญหา สามารถแยกปัญหาเป็นปัญหาย่อย ๆ สามารถวางแผนและ ดำเนินการการสำรวจ ตรวจสอบ เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งประเมินความถูกต้อง วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสร้างข้อสรุปที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ เปรียบเทียบแหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ประเมินผลกระทบของปัญหา โดยใช้วิธีการที่เหมาะสมและครอบคลุมทุกมิติ นำเสนอ ข้อสรุปรวมทั้งเปรียบเทียบและประเมินข้อสรุปที่แตกต่าง หรือตรงกันข้ามกับข้อสรุปของ ตน โดยใช้เหตุผลและหลักฐานที่หลากหลายและสามารถปรับปรุงข้อสรุปของตน ตามข้อมูลและหลักฐานใหม่ สามารถสร้างแบบจำลองความคิดเพื่ออธิบายแนวคิดที่ใช้ในการออกแบบการ แก้ปัญหา สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการปัจจัยอื่นเข้ามา ในระบบ พัฒนาชิ้นงาน วิธีการหรือนวัตกรรม โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร หรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริง เขียนสะท้อน ความคิด เกี่ยวกับเนื้อหาและกระบวนการเรียนรู้ สามารถ 10 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยากและซับซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์หรือ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวันหรือจากผลที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพื่อหา ข้อมูลเพิ่มเติมและหาความสัมพันธ์ของสิ่ง ต่าง ๆ รวมทั้งประเมินคำถามว่าสามารถสำรวจ ตรวจสอนได้หรือไม่ ระบุสาเหตุของปัญหา แยกปัญหาเป็นปัญหา ย่อยๆ สามารถ วางแผนและดำเนินการการสำรวจตรวจสอบ เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้ง ประเมิน ความถูกต้องและข้อจำกัดของข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างข้อสรุปที่แม่นยำ และน่าเชื่อถือรวมทั้งพิจารณา ข้อจำกัดของการวิเคราะห์และตีความหมายข้อมูล สามารถ เปรียบเทียบแหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ นำเสนอ ข้อสรุปรวมทั้งเปรียบเทียบและ ประเมินข้อสรุปที่แตกต่างหรือตรงกันข้ามกับข้อสรุปของตนโดยใช้เหตุผลและ หลักฐาน ที่หลากหลายและสามารถปรับปรุงข้อสรุปของตนตามข้อมูลและหลักฐานใหม่ สร้างแบบจำลองเพื่อ อธิบายแนวคิด ทำนายหรือประเมินผลลัพธ์ พัฒนาชิ้นงาน วิธีการ หรือนวัตกรรม โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ ซ้ำใคร หรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิม ให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริงและส่งผลดีต่อสังคม เขียนสะท้อนความคิด เกี่ยวกับเนื้อหา และกระบวนการเรียนรู้ และระบุสิ่งที่ต้องสิ่งที่จะทำในอนาคตเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของ ตนเอง และพัฒนาสังคม เหนือ ความ คาดหวัง
28 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 3. สมรรถนะการสื่อสาร (Communication: CM) นิยาม มีความสามารถรับรู้ รับฟัง ตีความ และส่งสารด้วยภาษาต่าง ๆ ทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา โดยใช้กระบวนการ คิด ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ ความเข้าใจ ในระบบคุณค่า การแก้ปัญหาร่วมกันผ่านกลวิธีการสื่อสาร อย่างฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มีพลัง โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม องค์ประกอบ 1. การรับสารอย่างมีสติและถอดรหัสเพื่อให้เกิดความเข้าใจ หมายถึง การรับสารด้วยความใส่ใจ ผ่าน ประสาทสัมผัสในการรับสาร ตลอดจนสามารถตีความ1 สารที่ส่งมาได้ทั้งความคิด ความรู้สึก เจตนา ตลอดจนสามารถ ตีความสารและสามารถนำสารมาใช้พัฒนาตนเองและสังคม 2. การรับส่งสารบนพื้นฐานความเข้าใจและความเคารพในความคิดเห็นและวัฒนธรรมที่แตกต่าง หมายถึง การรับส่งสารด้วยวิธีการที่หลากหลาย ทั้งการเจรจาต่อรอง หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล สารสนเทศ องค์ความรู้ ประสบการณ์ ผ่านช่องทางหรือสื่อที่มีความหลากหลาย ทั้งสื่อบุคคล สื่อธรรมชาติสื่อสิ่งพิมพ์สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อระคน โดย ปราศจากความขัดแย้งต่าง ๆ และรู้เท่าทัน บนพื้นฐานความเข้าใจ ในบริบทสังคมที่มีความคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้ง ในระดับชุมชน ชาติ และสากล 3. การเลือกใช้กลวิธีการสื่อสารอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ในการสื่อสาร หมายถึง การเลือกใช้วิธีการสื่อสารในลักษณะต่างๆ ทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา ตลอดจนการสื่อ ความหมายผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสื่อสาร โดยมีความรับผิดชอบ ต่อผลที่จะเกิดขึ้นในสังคม และวัฒนธรรมที่แตกต่างทั้งในระดับชุมชน ชาติ และสากล
29 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการสื่อสาร ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 1 ใช้ประสาทสัมผัสในการรับและส่งสารอย่างตั้งใจ เข้าใจความแตกต่างทางกายภาพที่มีผลต่อการสื่อสาร ใช้ สื่อ ภาพ เสียง คำพูด ท่าทาง สัญลักษณ์ใกล้ตัว และผลงานอย่างง่าย ๆ ในการสื่อสารแบบตรงไปตรงมา เริ่มต้น 2 รับและส่งสารอย่างตั้งใจโดยใช้ประสาทสัมผัส เข้าใจนัยตรง บอกข้อมูลและความรู้สึกที่มีต่อสารในสถานการณ์ใกล้ ตัวแบบตรงไปตรงมา โดยเลือกและผลิตสื่อที่เหมาะสมกับบุคคลผ่านการเคลื่อนไหว ท่าทาง เสียง ภาษา ภาพ สัญลักษณ์ และผลงานแบบง่าย ๆ พร้อมทั้งคำนึงถึงประโยชน์และโทษของการสื่อสารที่มีผลกระทบ ต่อตนเอง กำลัง พัฒนา 3 รับและส่งสารที่เป็นข้อมูล ข้อเท็จจริง และความรู้สึกที่มีรายละเอียดมากขึ้นในสถานการณ์ใกล้ตัว มีความอดทน ใน การรับสารแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสื่อสาร โดยตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างตนเองกับบุคคลใกล้ตัว คำนึงถึงประโยชน์และโทษของสื่อที่มีต่อตนเอง สามารถสื่อสารเรื่องราวใกล้ตัวทั้งที่เป็นภาษา ภาพ เสียง สัญลักษณ์ ท่าทาง การแสดงออกทางศิลปะอย่างง่าย โดยเลือกและผลิตสื่อให้เหมาะกับบุคคล และกาลเทศะ สามารถ เริ่มต้น 4 รับและส่งสารที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่ใกล้ตัว จับประเด็นสำคัญ หรือวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสารได้ อธิบาย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการรับสารประเภทต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น มีความอดทนในการรับ และส่งสาร ใช้สื่อที่มีความหลากหลายขึ้น เข้าใจผลกระทบของสื่อที่มีต่อตนเอง มีจุดมุ่งหมาย และกลวิธีใน การสื่อสารและ การผลิตสื่อ เพื่อสื่อสาระที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองได้อย่างเหมาะสม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 5 รับและส่งสารที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในชุมชน สังคม อย่างมีสติ จับประเด็นสำคัญ ข้อคิด ทั้งเชิงบวก และลบที่ ได้รับตามวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร แลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างมีสติกับบุคคลที่หลากหลายขึ้น ในสถานการณ์ที่มี ความซับซ้อน ทั้งโลกจริงและโลกเสมือน มีมารยาทและจริยธรรมในการสื่อสาร เลือกใช้กลวิธีในการผลิตสื่อและ สื่อสารที่เหมาะสม และเกิดประโยชน์ต่อตนเองและต่อกลุ่ม ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ สามารถ เริ่มต้น 6 รับและส่งสารผ่านสื่อที่หลากหลายโดยปราศจากอคติ สรุปประเด็น ตีความ และประเมินคุณค่า ในมิติความ จริง (ข้อมูลข่าวสาร) ความดี (แก่นแนวคิด) และความงาม (อารมณ์ สุนทรียะ) แบบง่ายได้ สื่อสารอย่าง สร้างสรรค์เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยคำนึงถึงผลกระทบของการสื่อสาร รู้ผลกระทบของสื่อ ประเมิน คุณค่าและ จริยธรรมในการสื่อสาร ผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ มีจุดมุ่งหมายในการสื่อสาร การผลิตสื่อ และ ออกแบบการสื่อสาร เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อกลุ่ม และต่อสังคม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 7 รับและส่งสารผ่านสื่อที่หลากหลาย โดยปราศจากอคติ สรุปประเด็น ตีความ วิเคราะห์ และประเมินคุณค่า ในมิติความจริง ความดี ความงาม ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร สามารถออกแบบการสื่อสารที่ซับซ้อนได้อย่างมีศิลปะ และสร้างสรรค์ในการสื่อสารมากขึ้น โดยคำนึงถึง ประโยชน์ทั้งต่อตนเอง กลุ่ม และสังคมของตนเอง ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ สามารถ เริ่มต้น 8 รับและส่งสารที่มีความซับซ้อนผ่านสื่อที่หลากหลาย โดยปราศจากอคติ ตีความ วิเคราะห์ วิพากษ์จุดเด่น จุดด้อย ประเมินคุณค่าของสารที่เกิดประโยชน์กับคนหมู่มาก หรือที่ทดสอบได้ว่าเป็นประโยชน์จริง หรือที่ เป็นไปตามอุดมการณ์ สื่อสารทางบวก ผลิตสื่อที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ซับซ้อนได้ โดยคำนึงถึง กฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง และสามารถออกแบบการสื่อสารผ่านสื่อหลากหลายประเภทได้อย่างเหมาะสมกับ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ คำนึงถึงสิทธิและประโยชน์ของส่วนรวมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 9 รับและส่งสารที่มีความซับซ้อนและมีนัยแฝงผ่านสื่อที่หลากหลาย โดยปราศจากอคติ ตีความ วิเคราะห์ วิพากษ์จุดเด่น จุดด้อย ประเมินคุณค่าของสารนั้นได้ลึกขึ้น มีพฤติกรรมทางกาย วาจาและใจในการสื่อสาร กับบุคคล ที่มีความต่างอย่างเห็นอกเห็นใจได้อย่างเหมาะสม รู้สึกร่วมและเข้าใจความรู้สึกต่อบุคคลที่มีความ ต่างจากตนเอง มีกลยุทธ์ในการผลิตสื่อและสื่อสารผ่านสื่อหลากหลายประเภทได้อย่างมีศิลปะและมีพลัง ด้วยความรับผิดชอบ ต่อสังคม (Social Responsibility) สามารถ 10 รับและส่งสารผ่านสื่อที่หลากหลายรูปแบบและมีความซับซ้อนหรือมีนัยมากขึ้น เข้าใจ วิเคราะห์ วิพากษ์และนำสาร ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาตนเอง ชุมชน หรือสังคมได้ ใช้กลยุทธ์ในการผลิตสื่อและ สื่อสารได้อย่างมีสติ และวิจารณญาณ และรู้สึกร่วมและเข้าใจความรู้สึก (Empathy) เพื่อสร้างความเข้าใจ โดยคำนึงถึงความแตกต่างใน ทุกมิติด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและการสร้างสังคมที่พัฒนาอย่างยั่งยืน เหนือ ความ คาดหวัง
30 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 4. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม (Teamwork and Collaboration: TC) นิยาม สามารถจัดระบบและกระบวนการทำงาน กิจการ และการประกอบการใด ๆ ทั้งของตนเอง และ ร่วมกับผู้อื่น โดยใช้การรวมพลังทำงานเป็นทีม มีแผน ขั้นตอน ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย มีภาวะผู้นำ มีความโปร่งใส ตรวจสอบ ได้ มีการประสานความคิดเห็นที่แตกต่างสู่การตัดสินใจและแก้ปัญหาเป็นทีม อย่างรับผิดชอบร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ ดีและจัดการความขัดแย้งภายใต้สถานการณ์ที่ยุ่งยาก องค์ประกอบ 1. เป็นสมาชิกทีมที่ดีและมีภาวะผู้นำ หมายถึง มีทักษะการทำงานเป็นทีม รับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ ของตน และของทีม มีความยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกับกลุ่มคนที่แตกต่าง นำจุดเด่นของตนและสมาชิกมาใช้ในการทำงานให้ บรรลุเป้าหมาย สะท้อนการทำงานของตนเองและทีม ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของทีม สร้างแรงบันดาลใจในการ พัฒนาตนเอง ให้เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจ ประสานความร่วมมือภายในทีม และระหว่างทีม สร้างค่านิยมใหม่ในการ ทำงานร่วมกัน และการพัฒนาทีมที่เข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบผู้สร้าง การเปลี่ยนแปลง 2. กระบวนการทำงานแบบร่วมมือรวมพลังอย่างเป็นระบบ หมายถึง สามารถจัดระบบการทำงาน กิจการ และการประกอบการใด ๆ ทั้งของตนเอง และร่วมกับผู้อื่น ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย แผนการทำงาน ขั้นตอน และ กระบวนการทำงานเป็นทีม เห็นภาพความสำเร็จของทีม คำนึงถึงประโยชน์ของทีมก่อนประโยชน์ส่วนตน แบ่งบทบาท หน้าที่ให้เหมาะสมกับศักยภาพของสมาชิก รับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ด้วยความใส่ใจ มีความพยายามในการทำงานและ สนับสนุนช่วยเหลือให้เกิดความสำเร็จ เคารพ รับฟัง แลกเปลี่ยน และ ประสานความคิดเห็นที่แตกต่าง ประยุกต์ใช้ทักษะ การคิดขั้นสูงในการตัดสินใจเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ ประเมินและปรับปรุงกระบวนการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ด้วย ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ร่วมรับผิด และรับชอบต่อผลการตัดสินใจของทีม เห็นคุณค่าของการทำงานแบบร่วมมือ รวมพลัง 3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการจัดการความขัดแย้ง หมายถึง มีทัศนคติเชิงบวกในการทำงานร่วมกับ ผู้อื่น เห็นคุณค่าของสัมพันธภาพที่ดี สร้างและรักษาความสัมพันธ์อันดีในทีม ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วย ความจริงใจ เห็นอกเห็นใจในฐานะที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน เคารพและเห็นประโยชน์ของ ความแตกต่างหลากหลาย มีทักษะ และใช้วิธีการป้องกันและจัดการความขัดแย้งได้อย่างเป็นระบบ
31 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 1 รับรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง มุ่งมั่นทำงานและทำกิจกรรมของตนเอง และ ร่วมกับผู้อื่นได้สำเร็จตามข้อตกลง กฎ กติกา และแสดงออก อย่างเหมาะสม ในสถานการณ์ต่าง ๆ ตามคำชี้แนะ เริ่มต้น 2 รู้และรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ของตนเอง มีความมั่นใจในการทำงาน ตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้สำเร็จ ตามคำแนะนำ และปฏิบัติตามกฎ กติกา ของ ทีม เมื่อได้รับการชี้แนะเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ให้บรรลุผล สำเร็จ สามารถรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นและตอบสนองต่อ สถานการณ์ต่าง ๆ ตามคำแนะนำ กำลัง พัฒนา 3 มีความรับผิดชอบและใช้จุดเด่นในการทำงานให้สำเร็จ รักการทำงาน เป็น สมาชิกทีมที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การกำหนดเป้าหมาย การสร้าง ข้อตกลงและการทำงานของทีม แสดงออกถึงความเข้าใจ ต่อเพื่อนในทีมด้วย ความเป็นมิตรตามคำแนะนำ สามารถ เริ่มต้น 4 เป็นสมาชิกทีมที่รับผิดชอบต่อบทบาทและงานตามที่ได้รับมอบหมาย จัดระบบความคิดก่อนลงมือทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นและปฏิบัติงานจน สำเร็จ รวมทั้งการช่วยเหลือเพื่อนในทีม โดยปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเป็นมิตร เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 5 เป็นสมาชิกที่ริเริ่มกำหนดเป้าหมาย วิธีการทำงานทั้งของตนเองและทีม ใช้ ความคิดสร้างสรรค์ในการวางแผนการทำงานอย่างเป็นลำดับขั้น และ ปฏิบัติงานจนสำเร็จ วิเคราะห์และสะท้อนการทำงาน แสดง ความคิดเห็น และสนับสนุนการทำงานของสมาชิกในทีมให้บรรลุเป้าหมาย สามารถ เริ่มต้น 6 เป็นผู้นำตนเองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการทำงานเพื่อให้บรรลุ เป้าหมายของตนเองและทีม จัดระบบความคิดและการทำงาน สะท้อน ผล การทำงานโดยตระหนักถึงเป้าหมายและสัมพันธภาพเชิงบวกของทีม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 7 เป็นผู้นำตนเอง สร้างการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและกระบวนการ ทำงาน ตรวจสอบและพัฒนางานร่วมกับผู้อื่นอย่างเป็นระบบ มีวิธีการ ทำงานที่ โปร่งใสตรวจสอบได้ สร้างสัมพันธภาพเชิงบวก และจัดการ ความขัดแย้งด้วย ความเข้าใจและยอมรับ ความแตกต่าง ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันโดย ไม่เลือกปฏิบัติ เห็นคุณค่าของทุกคนในทีม อย่างเท่าเทียมกัน สามารถ เริ่มต้น 8 มีภาวะผู้นำ ใช้ทักษะการคิดขั้นสูง เพื่อมองเห็นภาพความสำเร็จ ตัดสินใจ และทำงานอย่างมีส่วนร่วม เพื่อขับเคลื่อนทีมให้บรรลุเป้าหมาย ด้วย กระบวนการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งรักษาสัมพันธภาพ เชิงบวก ในทีม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 9 มีภาวะผู้นำ เสริมสร้างความสัมพันธ์ เชิงบวกและคุณค่าของการรวมพลัง ทำงานเป็นทีม มีความสามารถในการประสานความคิดเห็นที่แตกต่าง และ ทำงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้และสามารถจัดการ ความขัดแย้งได้ สามารถ 10 มีคุณลักษณะของผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างแรงบันดาลใจ เห็นคุณค่า ของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน สร้างพลวัตรของการทำงาน เป็นทีม เพื่อ ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความสำเร็จของงานและของทีม เหนือ ความ คาดหวัง
32 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen: AC) นิยาม การปฏิบัติตนอย่างรับผิดชอบในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก รู้เคารพสิทธิเสรีภาพของตนเอง และผู้อื่น เคารพ ในกฎกติกาและกฎหมาย มีส่วนร่วมทางสังคมอย่างมีวิจารณญาณ อยู่ร่วมกับผู้อื่นท่ามกลาง ความหลากหลาย เห็นคุณค่า ของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีบทบาทในการตัดสินใจและสร้างการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม โดยยึดมั่นในความเท่าเทียม เป็นธรรม ค่านิยมประชาธิปไตย และสันติวิธี องค์ประกอบ ๑. พลเมืองรู้เคารพสิทธิ หมายถึง เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ตระหนักในสิทธิเสรีภาพของตนเอง ช่วยเหลือ ให้เกียรติ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นบนพื้นฐานของการพึ่งพาอาศัยกัน โดยปราศจากอคติ ไม่เลือกปฏิบัติเพื่อการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติ ๒. พลเมืองรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ หมายถึง ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา ข้อตกลง กฎหมาย อย่างถูกต้อง และเหมาะสม รับผิดชอบบทบาทหน้าที่ตนเองในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ๓. พลเมืองมีส่วนร่วมอย่างมีวิจารณญาณ หมายถึง ติดตามสถานการณ์และประเด็นปัญหาของสังคม อย่างมี วิจารณญาณ มีส่วนร่วมทางสังคมด้วยจิตสาธารณะและสำนึกสากล ๔. พลเมืองผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง หมายถึง มีความกระตือรือร้นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ทาง สังคม บนพื้นฐานของความเท่าเทียมเป็นธรรม ค่านิยมประชาธิปไตย และสันติวิธี
33 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4- 6 1 เข้าใจผลกระทบของการกระทำอะไรที่ตามใจตนเอง รับผิดชอบและปฏิบัติตน ตามคำแนะนำอย่างเหมาะสม มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่วนรวมและแจ้ง ผู้เกี่ยวข้อง เมื่อพบปัญหาในชั้นเรียน เริ่มต้น 2 มีความสามารถในการยับยั้งชั่งใจ เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น รู้จักปฏิเสธ ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อได้รับการร้องขอ รับผิดชอบและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่วนรวมต่าง ๆ ที่โรงเรียน จัดขึ้นหรือครูมอบหมายและแจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบปัญหาหรือความขัดแย้ง ใน ชั้นเรียน กำลัง พัฒนา 3 อิสระที่จะคิดและแสดงออกที่รับผิดชอบและไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เคารพ สิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น รับผิดชอบและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง เคารพต่อสถาบันหลักของชาติ ติดตามข้อมูล ข่าวสาร ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว เพื่อนร่วมชั้นเรียน มีส่วนร่วมใน กิจกรรมส่วนรวมต่าง ๆ ในระดับชั้นเรียนหรือโรงเรียน แก้ไขปัญหาความ ขัดแย้งในชั้นเรียนอย่างมีเหตุผล สามารถ เริ่มต้น 4 อดทนอดกลั้นในความคิดเห็นและการแสดงออกที่แตกต่าง ยอมรับความ แตกต่าง หลากหลาย ช่วยเหลือและแบ่งปันกับผู้อื่น รับผิดชอบและปฏิบัติตน อย่างเหมาะสม ตามบทบาทหน้าที่ในฐานะพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพต่อสถาบันหลักของชาติ ติดตาม และตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมเป็นอาสาสมัครใน กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ระดับโรงเรียนและชุมชน หาทางออกร่วมกันกับ ผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา หรือความขัดแย้งอย่างมีเหตุผล เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 5 รู้จักและปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง และผู้อื่น ยอมรับและเคารพ ความ แตกต่างหลากหลาย พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือและแบ่งปันกับผู้อื่น รับผิดชอบและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ในฐานะพลเมือง ใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพต่อสถาบัน หลัก ของชาติ ติดตามและตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร เข้าร่วมกิจกรรมและร่วม เป็นอาสาสมัคร ในกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ระดับโรงเรียนและชุมชน หาทางออกร่วมกัน กับผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการ ปรึกษาหารือตามวิถีประชาธิปไตย สามารถ เริ่มต้น 6 รู้จักและปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง และผู้อื่น พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจ และ ช่วยเหลือผู้อื่น เคารพและปฏิบัติตนตามกฎ กติกาทางสังคม มีความ รับผิดชอบต่อ ผลการกระทำตามบทบาทหน้าที่พลเมืองประชาธิปไตย ติดตาม และประเมิน ความถูกต้องและน่าเชื่อถือของข้อมูล ริเริ่มและมีส่วนร่วมทาง สังคมในประเด็นที่สนใจ ระดับท้องถิ่นและประเทศ ด้วยจิตสาธารณะ กระตือรือร้นในการหาทางออก และร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกันเกี่ยวกับ ประเด็นปัญหา โดยคำนึงถึง ความเท่าเทียมเป็นธรรมด้วยสันติวิธีและวิถี ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา
34 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง (ต่อ) ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 7 รู้จักและปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง และผู้อื่น พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจ ผู้อื่น ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน ให้เกียรติ ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่เลือกปฏิบัติ เคารพและปฏิบัติตนตามกฎ กติกาทางสังคม มีความรับผิดชอบต่อบทบาท หน้าที่ พลเมืองประชาธิปไตย ติดตามและประเมินความถูกต้องและน่าเชื่อถือ ของข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และ วัฒนธรรม ริเริ่มและมีส่วนร่วมทางสังคมในประเด็นที่สนใจระดับท้องถิ่นและ ประเทศ ด้วยจิตสาธารณะ กระตือรือร้นในการหาทางออกร่วมกันและริเริ่มใน การสร้าง การเปลี่ยนแปลงของท้องถิ่น ภูมิภาค และประชาคมโลก เกี่ยวกับ ประเด็นปัญหา โดยคำนึงถึงความเท่าเทียมเป็นธรรม ด้วยสันติวิธีและวิถี ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สามารถ เริ่มต้น 8 ยึดมั่นในหลักสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนบนพื้นฐานของการพึ่งพาอาศัยกันโดยปราศจาก อคติใช้วิจารณญาณในการติดตามสถานการณ์และประเด็นปัญหา ริเริ่มและมี ส่วนร่วม ทางสังคมในประเด็นที่หลากหลายระดับภูมิภาคและประชาคมโลก ด้วยจิต สาธารณะและสำนึกสากล กระตือรือร้นในการร่วมสร้างการ เปลี่ยนแปลงเชิงบวก เกี่ยวกับประเด็นปัญหาของท้องถิ่น ด้วยค่านิยม ประชาธิปไตย เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 9 ยึดมั่นในหลักสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค เคารพและปฏิบัติตามกฎ กติกา ทางสังคม พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่นทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน บน พื้นฐานของการพึ่งพากันโดยปราศจากอคติ ไม่เลือกปฏิบัติ มีความรับผิดชอบ ต่อบทบาทหน้าที่พลเมืองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ใช้วิจารณญาณในการติดตามสถานการณ์ และประเด็นปัญหา ริเริ่มและมีส่วนร่วมทางสังคมในประเด็นที่หลากหลาย ระดับภูมิภาคและประชาคมโลก ด้วยจิตสาธารณะและสำนึกสากล กระตือรือร้น ในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เกี่ยวกับประเด็นปัญหา ของท้องถิ่น ด้วยความเชื่อมั่นในสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม ค่านิยม ประชาธิปไตย และแนวทาง ที่ไม่เกิดความรุนแรงต่อสังคมและต่อตัวเอง สามารถ 10 ยึดมั่นและปกป้องในหลักสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค สื่อสารผ่านช่องทาง สาธารณะระดับภูมิภาคและประชาคมโลก ด้วยจิตสาธารณะ สำนึกสากล ด้วย ความเชื่อมั่นในสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม ค่านิยมประชาธิปไตย และแนวทาง ที่ไม่เกิดความรุนแรงต่อสังคมและต่อตัวเอง แนวทางสันติวิธี เหนือ ความ คาดหวัง
35 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ๖. สมรรถนะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน (Sustainable coexistence with living in the harmony of nature and science: SLNS) นิยาม มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกและเอกภพและความสัมพันธ์ของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ใช้และรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี มีความอยากรู้ อยากเห็น ช่างสังเกต เห็นคุณค่า สามารถแก้ปัญหา หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมได้เพื่อการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน องค์ประกอบ ๑. การเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกและในเอกภพ หมายถึง สืบเสาะ ทำความเข้าใจข้อเท็จจริง สาเหตุ กระบวนการ และผลกระทบที่เกิดขึ้นของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก และในเอกภพ ๒. การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพื่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน หมายถึง มองเห็นปัญหา เชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา หรือสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ๓. การสร้าง ใช้ และรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี หมายถึง สร้างและใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์ รู้เท่าทัน มีความฉลาดทางดิจิทัล คำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคม ๔. การมีคุณลักษณะทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สำหรับการเข้าใจระบบธรรมชาติและ การอยู่ร่วมกัน อย่างยั่งยืน หมายถึง มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกต เข้าใจระบบธรรมชาติ เห็นคุณค่าของ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เพื่อการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
36 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4- 6 1 ช่างสงสัย มีจินตนาการ สังเกต ซักถาม เก็บรวบรวมข้อมูลอย่าง กระตือรือร้น บอก ข้อเท็จจริง ลงความเห็น จากการสังเกต จำแนก ความแตกต่างของข้อมูล นำเสนอ ข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม และอธิบาย สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตนเองและสิ่ง รอบตัว ทำกิจกรรม กิจวัตรต่าง ๆ และแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ/ หรือ เทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและเหมาะสม มีส่วน ร่วมในการ ดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัว ใช้สิ่งของอย่างประหยัด เริ่มต้น 2 ช่างสงสัย กระตือรือร้นในการตั้งคำถามและรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย อ่านข้อมูลและลงข้อสรุปเพื่ออธิบายสาเหตุของ สถานการณ์ใกล้ตัวจากความสัมพันธ์ ของหลักฐานที่รวบรวมได้ แก้ปัญหา จากสถานการณ์ใกล้ตัวหรือสิ่งแวดล้อมโดยใช้ ความรู้คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ และ/ หรือเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย และ เหมาะสม มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนหรือชุมชน ใช้สิ่งของอย่าง ใส่ใจและรู้คุณค่า กำลัง พัฒนา 3 กระตือรือร้นและมีฉันทะในการใฝ่หาความรู้ ตั้งคำถามที่นำไปสู่การหา คำตอบและ รวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย เลือกรูปแบบ การนำเสนอ วิเคราะห์ และ ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อสรุป อธิบาย สาเหตุของปรากฏการณ์จากหลักฐานที่ รวบรวมได้และเชื่อมโยงผลที่มีต่อ ชีวิตและสิ่งแวดล้อมในชุมชน ออกแบบแนวทางและ ลงมือแก้ปัญหา จากสถานการณ์ใกล้ตัวหรือสิ่งแวดล้อมโดยใช้ความรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ/ หรือเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและ เหมาะสม ใส่ใจ ดูแลสิ่งแวดล้อมในบริเวณบ้าน โรงเรียน หรือชุมชน ของตนเอง ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างรู้คุณค่า สามารถ เริ่มต้น 4 รวบรวมข้อมูลอย่างซื่อสัตย์ ออกแบบและเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ประเมินความ น่าเชื่อถือของข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลที่จัดการเพื่อลงข้อสรุป อธิบายสาเหตุและ กระบวนการของปรากฏการณ์จากหลักฐานที่รวบรวม ได้โดยใช้ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ และเชื่อมโยงผลต่อธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมในชุมชน คาดการณ์เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์โดยอาศัยหลักวิชา และไม่มีอคติ ออกแบบแนวทางและลงมือแก้ปัญหา จากสถานการณ์ต่าง ๆ ในธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยใช้ความรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีตามวัตถุประสงค์อย่างคุ้มค่า และปลอดภัย รับรู้และมีจิตสำนึกในการดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 5 ใส่ใจ และมีฉันทะในการใฝ่หาความรู้ สังเกต ตั้งคำถามที่นำไปสู่การหา คำตอบ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ทั่วไป ประเมินและเลือกวิธีการรวบรวม ข้อมูลที่สอดคล้องกับ คำถาม ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล จัดการ และนำเสนอข้อมูลหลายประเภทได้ อย่างเหมาะสม วิเคราะห์และเลือก ชุดข้อมูลที่สอดคล้องกับสมมติฐาน และประเมิน ข้อสรุปและข้อกล่าวอ้าง อธิบายสาเหตุและกระบวนการของปรากฏการณ์จาก หลักฐานที่รวบรวม ได้โดยใช้ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ และเชื่อมโยงผลต่อธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมในชุมชน คาดการณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์โดยอาศัยหลักวิชา อย่างมีเหตุผล และไม่มีอคติ แก้ปัญหาปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในระบบธรรมชาติ โดยใช้ความรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ใช้ เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า ปลอดภัย และเหมาะสม รับรู้และเห็นตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบ ธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติตามความจำเป็น สามารถ เริ่มต้น
37 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน (ต่อ) ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 6 มุ่งมั่นในการหาสาเหตุของปรากฏการณ์ ออกแบบวิธีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และ นำเสนอข้อมูลที่ค่อนข้างซับซ้อนและประเมินความสมเหตุสมผลของข้อสรุปและการ อนุมาน ยอมรับและยินดีเปลี่ยนแปลงข้อสรุป เมื่อมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพียงพอ อธิบายสาเหตุและกระบวนการของ ปรากฏการณ์จากหลักฐานที่รวบรวมได้โดยใช้ ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ และเชื่อมโยงผลต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ อย่างเป็น ระบบ คาดการณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์โดยอาศัยหลักวิชาและข้อมูล รอบ ด้าน แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี และ ปฏิบัติตนเพื่ออยู่ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของ ปรากฏการณ์ในระบบธรรมชาติได้อย่าง เหมาะสม ใช้เทคโนโลยีโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม และ รู้เท่าทัน ในการสื่อสารผ่านโลกดิจิทัล ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง มีความรับผิดชอบ เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา 7 มุ่งมั่น อดทน และจดจ่อในการหาสาเหตุของปรากฏการณ์ที่ค่อนข้าง ซับซ้อน สังเกต ตั้งคำถาม ออกแบบ ประเมิน และปรับปรุงวิธีการ และเครื่องมือในการเก็บรวบรวม ข้อมูล ตรวจสอบและประเมิน ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ประเมินและปรับปรุงการ นำเสนอข้อมูล ให้เหมาะสม ใช้ความรู้ในการประเมินความสมเหตุสมผลของข้อสรุป และการอนุมาน อธิบายสาเหตุและกระบวนการของปรากฏการณ์จากหลักฐานที่ รวบรวมได้ และใช้ความรู้ หลักการ ทฤษฎี หรือกฎ และเชื่อมโยงผลต่อชีวิต ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ อย่างเป็นระบบ พยากรณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์อย่าง สมเหตุสมผลและใช้ข้อมูลรอบด้าน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับการ ดำเนินชีวิต ของมนุษย์สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ด้วยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมีส่วนร่วมในการปกป้องหรือฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน หรือชุมชน โดย เสนอแนวทาง นำไปปฏิบัติ ตรวจสอบผลและปรับปรุง วิธีการ ใช้เทคโนโลยีโดย คำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม และ สิ่งแวดล้อม สร้างและแบ่งปันข้อมูลอย่าง ปลอดภัย สามารถ เริ่มต้น 8 สร้างโครงงานตามหัวข้อที่กำหนด โดยตั้งคำถาม กำหนดขอบเขตที่ศึกษา ออกแบบ ประเมิน และปรับปรุงวิธีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และเลือกการอนุมานที่ ตรงกับเงื่อนไขและข้อจำกัดอย่างมีเหตุผล อธิบาย สาเหตุและกระบวนการของ ปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนจากหลักฐาน ที่รวบรวมได้ โดยใช้ความรู้ หลักการ ทฤษฎี กฎ และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงผลต่อชีวิต สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติอย่าง เป็นระบบ พยากรณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์อย่างสมเหตุสมผล ใช้ข้อมูล รอบด้านและ น่าเชื่อถือ วิเคราะห์ปัญหาในเชิงระบบจากสถานการณ์ที่ซับซ้อนในธรรมชาติ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและมีวิจารณญาณ ด้วยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมีส่วนร่วมสร้างสมดุล เพื่อการดำรงชีวิตในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ ชุมชนโดยเสนอ แนวทาง นำไปปฏิบัติ ตรวจสอบผลและปรับปรุงวิธีการอย่างมุ่งมั่น อดทน ใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายในการทำงาน และจัดการผลที่เกิดขึ้น เคารพ กฎหมาย มีจริยธรรม เห็นคุณค่าของระบบธรรมชาติโดยปรับตัว ให้อยู่ร่วมกันได้อย่าง สมดุล เหนือ ความ คาดหวัง กำลัง พัฒนา
38 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ระดับสมรรถนะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน (ต่อ) ระดับการพัฒนา ระดับความสามารถ ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6 9 สร้างโครงงานตามความสนใจ โดยตั้งคำถาม วิเคราะห์ สังเคราะห์หลักการหรือทฤษฎี อย่างรอบด้านเพื่อออกแบบวิธีการรวบรวมข้อมูล ประเมินและปรับปรุงการนำเสนอ ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการอนุมาน เลือกใช้โมเดลในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่ ข้อสรุป และตอบข้อสงสัย อธิบายสาเหตุและกระบวนการของปรากฏการณ์ที่ซับซ้อน และสนใจโดยบูรณาการความรู้หลากหลายสาขาวิชาและ เชื่อมโยงผลต่อธรรมชาติ วิเคราะห์ปัญหาในเชิงระบบจากสถานการณ์ในระบบธรรมชาติ แก้ปัญหาอย่างเป็น ระบบและมีวิจารณญาณ โดยบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ อย่างแน่วแน่ ไม่ย่อท้อ ปฏิบัติ ตน เพื่อดำรงชีวิตในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล มีส่วนร่วม ในการสร้าง จิตสำนึกของคนในชุมชน โดยเสนอแนวทางในการปกป้อง หรือฟื้นฟู และอยู่ร่วมกับ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและ ยั่งยืน ใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการ สร้างอาชีพและโอกาสในการแข่งขัน รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลย สามารถ 10 วิเคราะห์ สังเคราะห์หลักการหรือทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนด ขอบเขตโครงงานที่ศึกษา ออกแบบวิธีการรวบรวมข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพและ สร้างสรรค์ ประเมินจุดแข็งของชุดข้อมูล สร้าง และยืนยันความถูกต้องของข้อสรุป อธิบายสาเหตุ กระบวนการ และ ความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนในระบบ ธรรมชาติโดยบูรณาการ ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ วิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล ที่เป็น จุดวิกฤตซึ่งมีผลต่อความอยู่รอดของมนุษย์และโลกจากสถานการณ์ในระบบ ธรรมชาติ สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สร้างสรรค์ และมีวิจารณญาณ โดยบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ อย่างมุ่งมั่น และเด็ดเดี่ยว สร้างจิตสำนึกของคนในชุมชน ปกป้องหรือฟื้นฟู และ อยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลและยั่งยืน ใช้ เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพหรือการเพิ่มมูลค่าของผลผลิต และโอกาสในการ แข่งขัน คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน เหนือ ความ คาดหวัง 8. กลุ่มสาระการเรียนรู้ หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านตาบา กำหนดกลุ่มสาระการเรียนรู้ซึ่งประกอบด้วย สมรรถนะเฉพาะ และ ผลลัพธ์การเรียนรู้เมื่อจบช่วงชั้น ดังนี้ ➢ ช่วงชั้นที่ 1 (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - ๓) กำหนด 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ ๑. ภาษาไทย ๒. คณิตศาสตร์ ๓. ภาษาอังกฤษ ๔. ศิลปะ ๕. สุขศึกษาและพลศึกษา ๖. สังคมศึกษา ๗. วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติ
39 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ➢ ช่วงชั้นที่ 2 (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6) กำหนด 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ ๑. ภาษาไทย ๒. คณิตศาสตร์ ๓. ภาษาอังกฤษ ๔. ศิลปะ ๕. สุขศึกษาและพลศึกษา ๖. สังคมศึกษา 7. การจัดการในครัวเรือนและการประกอบการ 8. วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติ 9. เทคโนโลยีดิจิทัล ความหมายขององค์ประกอบกลุ่มสาระการเรียนรู้ สมรรถนะเฉพาะ (Specific Competencies) เป็นสมรรถนะเฉพาะกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ประกอบด้วย ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) เจตคติ (Attitudes) และค่านิยม (Values) ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ กำหนดสำหรับนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น ผลลัพธ์การเรียนรู้เมื่อจบช่วงชั้น (Learning Outcome) เป็นเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้เมื่อจบช่วงชั้น ผลลัพธ์การเรียนรู้ประกอบด้วย พฤติกรรมที่สะท้อนสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะ ที่ครูผู้สอน ต้องนำไปใช้เป็น กรอบแนวคิดในการออกแบบการจัดการเรียนรู้และการวัดผลประเมินผล เพื่อพัฒนาผู้เรียน ผลลัพธ์การเรียนรู้เมื่อจบช่วง ชั้นเป็นภาพรวมความสามารถของนักเรียนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้
40 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ๙. ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะหลักกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับช่วงชั้นที่ 1 (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - ๓) สาระสำคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ความสำคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาษาไทยเป็นเครื่องมือสำหรับการสื่อสารที่สำคัญของคนไทย ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ทั้งระดับบุคคลและ ระดับสังคม เป็นเครื่องมือสำหรับการคิด การรู้คิดด้วยภาษาไทยจะช่วยให้การเรียนรู้และการแสวงหาความรู้ในศาสตร์อื่น ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ภาษาไทยเป็นสำนึกร่วม เป็นมรดก ทางวัฒนธรรม และเป็นเอกลักษณ์ของชาติตลอดจน เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์และการเข้าถึง สุนทรียภาพ ดังนั้น การใช้ภาษาไทยจึงเป็นสมรรถนะที่ต้องศึกษาและ ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ กลุ่มสาระการเรียนรู้นี้มีสมรรถนะเฉพาะ 4 สมรรถนะ ได้แก่ 1) การฟัง การดู และการพูด เพื่อพัฒนาการคิด 2) การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด 3) การเขียนเพื่อพัฒนาการคิด และ 4) การเข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใช้ภาษาไทย ผลลัพธ์การเรียนรู้ช่วงชั้นที่ 1 ทั้ง 9 ข้อ นำไปกำหนดเป็นผลลัพธ์การเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โดยต้อง คำนึงถึงการบูรณาการสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะด้วย เพื่อให้เมื่อผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ชั้นปีแล้ว จะ นำไปสู่การบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ช่วงชั้นตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ ลักษณะเฉพาะ/ ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การเรียนรู้ภาษาไทยในช่วงชั้นที่ 1 เป็นการเรียนรู้การใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องกับบริบทใกล้ตัว เริ่มต้นจาก เรื่องของ ตัวเอง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง สถานการณ์ หรือบริบทใกล้ตัวของนักเรียน ทั้งในและนอกโรงเรียน นักเรียนจะได้รับการ พัฒนาสมรรถนะการฟังจากการฟังและ/ หรือดูสิ่งต่าง ๆเพื่อเรียนรู้คำศัพท์ และสร้างความเข้าใจเรื่องราวไปพร้อม ๆ กับ การพัฒนาสมรรถนะการพูดจากการพูดสนทนาและการเล่าเรื่อง เพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้แสดงความคิดเห็น และความรู้สึก รวมทั้งถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกกาลเทศะ บุคคล รวมทั้งมีมารยาทในการฟัง การดู และ การพูด ในขณะเดียวกัน นักเรียนก็ต้องได้รับการพัฒนาสมรรถนะการอ่านจากการอ่านบทอ่านประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ สามารถอ่านออกและเข้าใจเนื้อหาสาระของบทอ่านไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาสมรรถนะการเขียน เพื่อให้สามารถเขียน สะกดคำได้ถูกต้องตามโครงสร้างภาษา และเขียนข้อความแสดงความรู้ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก โดยใช้คำและ ประโยคง่าย ๆ ตรงตามวัตถุประสงค์ได้อย่างถูกหลักการใช้ภาษาในการสื่อ ความหมาย เพื่อสื่อสารและเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ และมีมารยาทในการอ่านและการเขียน ทั้งนี้ วิธีการสอนอ่านเขียนแบบแจกลูกสะกดคำ และอ่านตามครู ยังคงเป็นวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ สำหรับจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนสามารถอ่านออกและเขียนได้ จุดเน้นการพัฒนา การสอนภาษาไทยในช่วงชั้นที่ 1 เป็นการพัฒนาสมรรถนะการใช้ภาษาของนักเรียน ผ่านการเรียนรู้หลักภาษาไทย และโครงสร้างภาษาไทยพื้นฐานจากสื่อต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดสมรรถนะการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารในบริบทต่าง ๆ และ เกิดสมรรถนะการใช้ภาษาในฐานะเครื่องมือการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ในช่วงชั้นที่ 1 เป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
41 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ โดยคำนึงพัฒนาการการเรียนรู้ภาษาของนักเรียนเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นวัยที่เพิ่งก้าวออกมาจากระดับปฐมวัย หรือ ครอบครัว นักเรียนจึงมีความแตกต่างระหว่างบุคคล ทั้งด้านการใช้ภาษา การเรียนรู้ร่วมกับเพื่อน และการใช้ชีวิตกับผู้อื่นที่ ไม่ใช่คนในครอบครัว ในเบื้องต้นครูควรจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสามารถในการรับรู้และการเรียนรู้ของนักเรียน ปรับพื้นฐานของนักเรียน แต่ละคน โดยออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนบนฐานของสถานการณ์ หรือบริบทใกล้ ตัวของนักเรียน ทั้งในและนอกโรงเรียน เช่น การใช้ภาษาพูดเพื่อสื่อสารในห้องเรียน ห้องสมุด โรงอาหาร เป็นต้น รวมทั้ง ออกแบบ กิจกรรมการอ่านและ การเขียนโดยใช้วิธีการสอนหลากหลาย เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้และสื่อสารได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับช่วงวัยของนักเรียน โดยใช้บทอ่านในหนังสือหรือสื่อประเภทต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น บทอ่านสำหรับเด็ก วรรณคดีไทย ป้ายโฆษณา ประกาศ การนำไปใช้ในชีวิตจริง การเข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใช้ภาษาไทยในช่วงชั้นนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้นักเรียน ได้ฝึกการฟัง การดู การพูด การอ่าน และการเขียน ผ่านการเรียนรู้หลักการใช้ภาษาและโครงสร้างภาษาไทย พื้นฐานจากสื่อต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดสมรรถนะการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารในบริบทต่าง ๆ และเกิดสมรรถนะ การใช้ภาษาในฐานะเครื่องมือการ เรียนรู้ ทั้งนี้ การสอนอ่านเขียนในเบื้องต้นเพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านเขียน ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ยังคงเน้นการสอนอ่าน เขียนโดยการแจกลูกสะกดคำเป็นหลัก จากนั้นจะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้าใจความหมายของคำ การนำไปใช้แต่ง ประโยคอย่างง่ายในบริบทและสถานการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งการใช้ภาษาไทยได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ การใช้ภาษาไทยเพื่อให้สามารถสื่อสารได้ในบริบทต่าง ๆ ทั้งการเรียนในชั้นเรียนและทุกเวลาที่ต้องมี การ ปฏิสัมพันธ์สื่อสารกับผู้อื่น นักเรียนจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาหรือฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การสื่อสาร เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ การเรียนรู้ภาษาไทยในช่วงชั้นที่ 1 นี้ นักเรียนจะได้เรียนรู้ผ่านการรับสารต่าง ๆ ทั้งจากการฟัง การดูและการ อ่าน เพื่อให้สามารถส่งสาร คือ การเขียนและการพูดได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ด้วยเหตุนี้ การออกแบบ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนอกจากจำเป็นต้องเชื่อมโยงบนฐานของสถานการณ์หรือบริบทใกล้ตัวแล้ว ยังต้องมี การบูรณาการร่วมกับวิชาอื่น ๆ เช่น คณิตศาสตร์อ่านและเขียนแผนภาพแผนภูมิ แผนผัง ฟัง ดู และอ่านโจทย์คณิตศาสตร์ ตีความ แก้ปัญหา พูด นำเสนอ แสดงวิธีคิด เขียนคำที่สื่อความหมายถึงการบวก การลบ การคูณ การหาร แสดงความสัมพันธ์ของจำนวนที่เป็น รูปธรรม รับฟังและอธิบายให้เหตุผลความสัมพันธ์ของจำนวน ภาษาอังกฤษ เรียนรู้ ฟัง ดู และพูดคำศัพท์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ศิลปะ วาดภาพประกอบคำ ประโยค เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว และชุมชน แล้วเขียน เรื่องราวเกี่ยวกับภาพที่ตนวาดขึ้น สุขศึกษาและพลศึกษา พูดนำเสนอความรู้ที่ได้จากการดูคลิปสถานการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับ ชีวิตประจำวัน เช่น การดูแลสุขภาพ การรักษาสิ่งแวดล้อม ฟัง ดู และอ่านวิธีการใช้วัสดุ อุปกรณ์ ฉลากต่าง ๆ การปฏิบัติตนเกี่ยวกับสุขอนามัย อ่านสัญลักษณ์ หรือป้ายเตือนในโรงเรียนและชุมชน สังคมศึกษา อ่านแผนผังโรงเรียน แผนผังหมู่บ้าน ชุมชนที่ตนเองอยู่ อ่าน และเขียนบันทึก รายรับ - รายจ่ายใน ครัวเรือน เรียนรู้เรื่องราวจากบทอ่านที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวันสำคัญประเพณีและวัฒนธรรม ชุมชน ท้องถิ่น สภาพแวดล้อม
42 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ศาสนา พิธีกรรม ประวัติของท้องถิ่น นิทานในท้องถิ่น เพลงพื้นบ้าน อ่านข้อมูล จากแผ่นพับสำหรับโฆษณาหรือป้าย โฆษณาสินค้า หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น สภาพอากาศ แผนที่ การเดินทาง วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติสืบค้น หาแหล่งข้อมูลที่ต้องการศึกษาได้สอดคล้องกับ ความต้องการ หรือได้ ตรงตามสถานการณ์ หรือข้อความที่กำหนดให้ สังเกต พูด เขียน หรือวาดภาพเกี่ยวกับ พืชและสัตว์ที่มีในท้องถิ่น สรุป ความเข้าใจในสิ่งที่ได้เรียนรู้จากปรากฏการณ์ ธรรมชาติ สถานการณ์ ในรูปแบบต่าง ๆ ตามความสนใจ ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะหลัก 1. การฟัง การดู และการพูดเพื่อพัฒนาการคิด 1.1 ฟังและ/ หรือดูอย่างตั้งใจแล้วปฏิบัติตามคำสั่ง คำชี้แจง และ คำแนะนำได้ ถูกต้องเหมาะสม 1. การจัดการตนเอง 2. การคิดขั้นสูง 3. การสื่อสาร 5. การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 1.2 ฟังและ/ หรือดูสื่อต่าง ๆ อย่างตั้งใจแล้วพูดเล่าเรื่อง บอกรายละเอียด และ สาระสำคัญ รวมทั้งแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกอย่าง สร้างสรรค์ 1.3 พูดสื่อสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างเหมาะสม 1.4 พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับการพูดของตน ได้อย่างเป็น กลาง 1.5 สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์กับผู้อื่น ใน สถานการณ์ต่าง ๆ โดยเคารพในความหลากหลาย 2. การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด 2.1 อ่านออกเสียงคำในบทอ่านและสื่อประเภทต่าง ๆ ที่กำหนดให้อย่างตั้งใจ และถูกต้อง รวมทั้งเข้าใจความหมายของคำ แล้วสามารถ อ่านออกเสียง ตลอดจนทำความเข้าใจบทอ่านและสื่อที่พบ ในชีวิตประจำวัน 1. การจัดการตนเอง 2. การคิดขั้นสูง 3. การสื่อสาร 5. การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ๖. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 2.2 อ่านบทอ่านและสื่อประเภทต่าง ๆ แล้วลำดับเหตุการณ์ ตั้งคำถาม และ ตอบคำถามเพื่อสรุปเรื่องและบอกข้อคิด ตลอดจนคาดคะเน เหตุการณ์จาก เรื่องที่อ่านอย่างมีเหตุผล 2.3 อ่านบทอ่านและสื่อประเภทต่าง ๆ แล้วนำความรู้และข้อคิด ไปปรับใช้ให้ เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น 2.4 อ่านบทอ่านตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องที่อ่าน ได้อย่าง สร้างสรรค์ 3. การเขียนเพื่อพัฒนาการคิด 3.1 คัดลายมือและเขียนคำอย่างตั้งใจและถูกต้อง แล้วสามารถนำไปใช้ในการ เขียนสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม 1. การจัดการตนเอง 2. การคิดขั้นสูง 3. การสื่อสาร 5. การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 3.2 เขียนสื่อสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์และรูปแบบการเขียน โดยไม่ละเมิด สิทธิ์ของผู้อื่น 3.3 เขียนเรื่องตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ 3.4 เขียนแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับงานเขียนของตน ได้อย่าง เป็นกลาง
43 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะหลัก 4. การเข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใช้ภาษาไทย 4.1 ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ 2. การคิดขั้นสูง 3. การสื่อสาร 5. การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 4.2 ใช้ภาษาไทยมาตรฐานได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ เรียนรู้ ภาษาถิ่นเพื่อให้เกิดความเข้าใจในความหลากหลาย 4.3 อ่านและเขียนสะกดคำตามหลักการได้ถูกต้องและนำไปใช้อ่าน และเขียน สะกดคำใหม่ในชีวิตประจำวัน 4.4 แต่งประโยคอย่างง่ายตรงตามเจตนาในการสื่อสารและเหมาะสมกับบริบท ผลลัพธ์การเรียนรู้เมื่อจบช่วงชั้นที่ 1 1. มีสมาธิในการฟังและการดูเข้าใจและตอบสนองต่อสิ่งที่ฟังและดู สามารถถ่ายทอดเนื้อหาของสิ่งที่ฟังและดู รวมทั้งแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม 2. พูดเพื่อสื่อสารข้อเท็จจริง ความคิดเห็น ความรู้สึก ได้ถูกต้องเหมาะสมและเป็นกลาง โดยเคารพในความ หลากหลาย 3. อ่านออกเสียงคำได้ถูกต้อง เข้าใจความหมายของคำที่อ่านออกเสียง สามารถอ่านออกเสียงและเข้าใจตัวบท ได้ หลากหลายมากขึ้น 4. มีสมาธิในการอ่าน เข้าใจสิ่งที่อ่าน มีนิสัยรักการอ่าน สามารถวิเคราะห์สิ่งที่อ่านและนำข้อคิดจากการอ่าน ไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสร้างสรรค์ 5. คัดลายมือและเขียนคำได้ถูกต้อง แล้วสามารถนำไปใช้ในการเขียนเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ชัดเจนและ เหมาะสม 6. เขียนสื่อสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์ เขียนแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับงานเขียนของตน ได้ เหมาะสมเป็นกลางโดยไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น 7. เขียนเรื่องตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ 8. ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ 9. มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
44 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ สาระสำคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ความสำคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาความคิดของนักเรียนในช่วงชั้นที่ 1 ทำให้สามารถ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ให้กับนักเรียนจะส่งผลให้นักเรียน มีความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล สื่อสารนำเสนอ คิดสร้างสรรค์ และ สามารถเลือกใช้เครื่องมือในการนำไปใช้ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ตลอดจนศาสตร์อื่น ๆ เพื่อให้มีความเข้าใจ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ใกล้ตัว อยู่ร่วมกับธรรมชาติและผู้อื่น ในสังคมได้อย่างมีความสุข ลักษณะเฉพาะ/ ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ การคิด และการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 1 จะได้เรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ การเรียนรู้ มาก่อน ได้แก่ จำนวน การดำเนินการของจำนวน การวัด รูปเรขาคณิต แบบรูปและความสัมพันธ์และสถิติ ที่เป็นความรู้ เบื้องต้น โดยใช้การให้เหตุผลที่สมเหตุสมผลสร้างองค์ความรู้ต่าง ๆ ขึ้น และนำไปใช้อย่างเป็นระบบ คณิตศาสตร์มีความถูกต้องเที่ยงตรง คงเส้นคงวา มีระเบียบแบบแผน เป็นเหตุเป็นผล เพื่อให้ได้ข้อสรุปและ นำไปใช้ประโยชน์ คณิตศาสตร์มีลักษณะเป็นภาษาสากลที่ทุกคนเข้าใจตรงกันในการสื่อสาร สื่อความหมายและถ่ายทอด ความรู้ระหว่างศาสตร์ต่างๆ จุดเน้นการพัฒนา ในกลุ่มสาระการเรียนรู้นี้ สำหรับนักเรียนในช่วงชั้นที่ 1 มีจุดเน้นในการพัฒนา ดังนี้จำนวนและการดำเนินการ เป็นการเริ่มต้นพัฒนากระบวนการคิดโดยให้นักเรียนใช้จำนวนนับ และ การดำเนินการของจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 บูรณาการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ผ่านกิจกรรมแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ จนเกิดความคล่องแคล่ว และนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้คณิตศาสตร์เนื้อหาอื่น หรือวิชาอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบบรูปของจำนวนและแบบรูปซ้ำของรูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ เป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ใน ลักษณะแบบรูปผ่านกิจกรรมบูรณาการกับธรรมชาติและชีวิตประจำวัน ให้นักเรียนใช้การค้นหาความสัมพันธ์ สื่อสารและ นำเสนอข้อสรุปและขยายแนวคิดนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงาน ตามจินตนาการ การวัดความยาว น้ำหนักและปริมาตร เน้นทักษะเกี่ยวกับการวัดโดยการลงมือปฏิบัติ ให้นักเรียน สังเกตเครื่องวัด และใช้เครื่องวัดให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัด สื่อสารและเชื่อมโยงการวัดกับความรู้เรื่องจำนวนและการดำเนินการ บูรณาการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันผ่านกิจกรรมแก้ปัญหาคณิตศาสตร์จนเกิดความคล่องแคล่วและใช้เป็น ทักษะพื้นฐานในการสืบเสาะหาความรู้ในศาสตร์แขนงอื่น เงินและการวางแผนเกี่ยวกับเงิน เน้นการสื่อสาร นำเสนอ และเชื่อมโยงความรู้เรื่องเงินกับความรู้เรื่องจำนวน และการดำเนินการบูรณาการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันผ่านกิจกรรมแก้ปัญหา คณิตศาสตร์จนเกิดความ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
45 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ คล่องแคล่ว นำไปใช้ในชีวิตประจำวันและใช้เป็นทักษะพื้นฐานในการวางแผนการเงิน เพื่อนำไปสู่การจัดการเรื่องเงินอย่าง มีประสิทธิภาพ เวลาและระยะเวลาเป็นการบูรณาการให้นักเรียนใช้การสื่อสารเรื่องเวลาและระยะเวลาผ่านการทำ กิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว เพื่อนและผู้เกี่ยวข้อง ชุมชนและสังคม แก้ปัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะ เพื่อนำไปสู่การจัดการเกี่ยวกับ เวลาของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการบันทึกกิจกรรมที่ระบุเวลา ข้อมูลและการนำเสนอข้อมูลเป็นการบูรณาการให้นักเรียนใช้การตั้งคำถามในสิ่งที่สนใจ ในชีวิตประจำวัน เก็บ รวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมูลผ่านกิจกรรมแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และสามารถ วิเคราะห์ แปลความหมายจากแผนภูมิ รูปภาพ แผนภูมิแท่ง ตาราง และนำไปใช้แก้ปัญหาได้อย่าง สมเหตุสมผลเพื่อนำไปสู่กระบวนการแก้ปัญหาทางสถิต การนำไปใช้ในชีวิตจริง เมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนและเรียนรู้คณิตศาสตร์ในช่วงชั้นที่ 1 จะทำให้นักเรียนมองเห็นปัญหา และ วิเคราะห์ปัญหา ด้วยมุมมองของตนเองอย่างมีเหตุผลและมีแนวคิดที่หลากหลายและยืดหยุ่น ต่อยอดแนวคิด ในการแก้ปัญหาเพื่อสร้าง แนวคิดใหม่หรือแก้ปัญหาในสถานการณ์อื่นซึ่งนักเรียนนำไปใช้ทำความเข้าใจปัญหา ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แก้ปัญหา ด้วยความมุ่งมั่น ค้นหาข้อมูล หรือเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนเองสนใจและ อยากหาคำตอบหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ สำหรับ ตนเอง นอกจากนี้นักเรียนสามารถสื่อสาร สื่อความหมาย และนำเสนอแนวคิดต่าง ๆ ของตนเองเพื่อสนับสนุนแนวคิดของ ตนเอง หรือโต้แย้งแนวคิดของผู้อื่นอย่าง สมเหตุสมผลซึ่งนำไปใช้ในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ ภาษาไทย/ ภาษาต่างประเทศ สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ หรือเรื่องราว ต่างๆ โดยใช้คำศัพท์ทางคณิตศาสตร์ เช่น อ่านและเขียนแสดงจำนวนของสิ่งต่าง ๆ หรือจำนวนเงิน บอกเวลา บันทึก กิจกรรมที่ระบุเวลา รวมทั้งควรส่งเสริมการอ่าน การเขียนและการใช้ภาษา เพื่อนำเสนอเรื่องราวในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ศิลปะ สามารถใช้แบบรูปของรูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ตามจินตนาการ และสื่อสาร สื่อความหมายและนำเสนอแนวคิดของตนเองหรือเรื่องราวผ่านงานศิลปะ สุขศึกษาและพลศึกษา สามารถนำความรู้เกี่ยวกับจำนวน แบบรูป การอ่านข้อมูลจากตาราง และเวลา ไปใช้ใน การกำหนดจำนวนครั้งและท่ากายบริหาร กำหนดตารางการแข่งขัน เวลาและระยะเวลา ในการแข่งขัน สังคมศึกษา สามารถนำความรู้เกี่ยวกับเงิน เพื่อวางแผนการใช้จ่ายเงินและทรัพยากรให้คุ้มค่า และการอ่าน ปฏิทิน การคำนวณเวลาเพื่อเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรมประเพณีในรอบปีและการทำความเข้าใจ ประวัติความเป็นมาของครอบครัว โรงเรียนและชุมชน วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติสามารถนำความรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ไปใช้เป็นเครื่องมือ ในการสืบเสาะหา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น ใช้การวัดและเลือกเครื่องวัดที่เหมาะสม เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้การนับ จำนวนข้อมูล ใช้แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง และตารางในการนำเสนอ ข้อมูล
46 หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของโรงเรียนบ้านตาบา สพป.นธ. ๒ ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะหลัก 1. การแก้ปัญหา 1.1 มีความอยากรู้อยากเห็น สามารถมองเห็นปัญหาทางคณิตศาสตร์ ในชีวิตจริงด้วยมุมมองของตนเอง (thinking mathematically) 1. การจัดการตนเอง 2. การคิดขั้นสูง 3. การสื่อสาร 4. การรวมพลังทำงานเป็นทีม 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 1.2 แก้ปัญหาในชีวิตจริงผ่านการลงมือแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ และเรียนรู้คณิตศาสตร์ผ่านการสะท้อนความคิด (reflect) จาก ประสบการณ์ 1.3 มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ 1.4 ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้คณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหา 2. การสื่อสาร และนำเสนอ (Communication and presentation) 2.1 สื่อสารแนวคิดทางคณิตศาสตร์ของตนเองอย่างมั่นใจ โดยใช้การ แสดงแทนทางคณิตศาสตร์ที่หลากหลาย ด้วยสื่อของจริง รูปภาพ งานศิลปะ แผนภาพ ภาษา หรือสัญลักษณ์ 1. การจัดการตนเอง 3. การสื่อสาร 4. การรวมพลังทำงานเป็นทีม 5. การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 2.2 รับฟัง เข้าใจความหมาย และเห็นคุณค่าแนวคิดของผู้อื่น 2.3 นำเสนอข้อมูลทางคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม 3. การให้เหตุผล 3.1 ให้เหตุผลสนับสนุนแนวคิดของตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล โดยมี ข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ 2. การคิดขั้นสูง 3. การสื่อสาร 4. การรวมพลังทำงานเป็นทีม 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 3.2 รับฟัง พิจารณาแนวคิดของผู้อื่นหรือข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ประกอบการตัดสินใจเพื่อสนับสนุนหรือโต้แย้งอย่างเหมาะสม 3.3 ระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญในการให้เหตุผล 4. การสร้างข้อสรุปทั่วไป และขยายแนวคิด (Generalization & Extension) 4.1 สร้างข้อสรุปทั่วไป (generalization) โดยสังเกต ค้นหา ลักษณะร่วม ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ (pattern) จากมุมมองทาง คณิตศาสตร์ ทั้งด้านความรู้และวิธีการเรียนรู้ (how to learn 2. การคิดขั้นสูง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 4.2 ขยายแนวคิด (extension) จากข้อสรุปทั่วไป โดยนำไปใช้ แก้ปัญหา ในสถานการณ์ต่างๆ 5. การคิดสร้างสรรค์ 5.1 คิดได้อย่างหลากหลาย แตกต่างจากเดิม คิดริเริ่ม 2. การคิดขั้นสูง 6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 5.2 ประยุกต์ และนำไปใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ยืดหยุ่นในการ แก้ปัญหา 5.3 ต่อยอดแนวคิดหรือแนวทางแก้ปัญหา เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ หรือ แก้ปัญหาในสถานการณ์อื่นในชีวิตจริง