The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 3 ภาค เรียนที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 3 ภาค เรียนที่ 1

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 3 ภาค เรียนที่ 1

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ สรา้ งสรรค์สารพรอ้ ม แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรือ่ ง ผา่ นถ้อยวาจา (๑) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓
รายวิชาภาษาไทย ๕

-25- - จดุ ประสงคใ์ นการแต่ง

แนวคาตอบ แต่งเพ่ือขายเล้ียงชพี

- พระอภยั มณแี ตง่ ขึ้นในสมัยใด

แนวคาตอบ รัชกาลที่ ๒

- ลกั ษณะคาประพนั ธ์ของพระอภัยมณี

แนวคาตอบ กลอนสภุ าพ

- คาประพันธข์ องสนุ ทรภูม่ คี วามเดน่ เร่อื งการใชค้ าอยา่ งไร

แนวคาตอบ มีสมั ผสั ในปรากฏในแต่ละวรรค

- ตัวละครใดเป็นผหู้ ลงรกั พระอภยั มณตี ัง้ แต่แรกเห็น

แนวคาตอบ ผเี ส้ือสมุทร

- สามีของนางผเี สอื้ สมุทรชื่อวา่ อะไร

แนวคาตอบ พระอภัยมณี

- ลกู ชายของพระอภัยมณมี ชี อ่ื ว่าอะไร

แนวคาตอบ สินสมุทร

- น้องพระอภยั มณีมีช่ือวา่ อะไร

แนวคาตอบ ศรีสุวรรณ

- พระอภัยมณี มีวิชาความร้เู ร่อื งใดทเ่ี ปน็ อาวุธไว้ป้องกนั ตนเอง
และปกป้องผอู้ ่ืน

แนวคาตอบ เพลงปี่

- อานภุ าพเพลงปีข่ องพระอภัยมณีทาให้พราหมณ์ท้ัง

-25-

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ สรา้ งสรรค์สารพรอ้ ม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรือ่ ง ผ่านถอ้ ยวาจา (๑) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓
รายวชิ าภาษาไทย ๕

-26- ๓ คน ทไี่ ด้ฟังเปน็ อย่างไร

แนวคาตอบ หลบั

- ใครเปน็ ผู้อาสาพาพระอภยั มณีหนีนางผีเสอื้

แนวคาตอบ เงอื กเฒ่า

- เหตุผลใดท่ีพระอภัยมณีไมส่ ามารถอย่รู ่วมกับนางผีเส้ือสมุทรได้

แนวคาตอบ ตา่ งเผ่าพันธุ์

- สนิ สมุทรมกี าลงั มากเหมือนกับใคร

แนวคาตอบ นางผีเสื้อสมทุ ร

- จดุ หมายทพี่ ระอภยั มณจี ะหนีนางผีเส้ือสมทุ รคือสถานท่ใี ด

แนวคาตอบ เกาะแกว้ พิสดาร

- ผทู้ แี่ นะนาแผนการหนีนางผีเสือ้ สมุทรให้พระอภัยมณคี ือใคร

แนวคาตอบ เงอื กเฒา่

4.๔ นักเรยี นคนใดมีคาตอบอยใู่ นตารางบิงโกของ
ตนเองใหก้ ากบาทคาตอบ

4.๕ นกั เรียนคนใดท่มี ีคาตอบให้กากบาทช่องคาตอบ
ตารางน้ันๆ ท้งั แนวต้งั แนวทแยง แนวนอน
ท้งั หมดของตารางบิงโกตามตัวอยา่ งในใบงาน
บิงโกจะถอื เป็นผชู้ นะ

4.๖ ใหผ้ ชู้ นะตะโกนวา่ บิงโก

-26-

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ สรา้ งสรรคส์ ารพร้อม แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๕ เวลา ๑ ช่ัวโมง
กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เรือ่ ง ผ่านถอ้ ยวาจา (๑) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
รายวชิ าภาษาไทย ๕

4.๗ นักเรียนและครรู ่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
อกี ครงั้

-27- ข้นั สรุป
นักเรียนและครูชว่ ยกันสรุปเน้ือหาจากใบงาน

“บงิ โกพระอภัยมณี” ดงั นี้
- นทิ านคากลอนตอนพระอภัยมณหี นนี างผเี ส้ือสมุทร
เปน็ ผลงานของสนุ ทรภู่
- แต่งข้ึนในระหว่างติดคุกสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย เป็นการแต่งเพ่ือขายเล้ียงชีพในระหว่างท่ีไม่ได้รับ
ราชการ
- ลกั ษณะคาประพนั ธ์ของเรอ่ื ง คอื กลอนสภุ าพ ทีข่ ้นึ ต้นดว้ ย
วรรครับหรือวรรคที่ ๒ ซงึ่ กลอนเพลงของสุนทรภู่ มีลักษณะเดน่
คือมีสมั ผัสใน (สัมผัสพยญั ขนะและสระ) ท่ีแพรวพราวในแต่ละ
วรรค
- แก่นเร่อื งที่สาคัญของเร่ืองคือความรกั ท่ีไม่ไดเ้ กิดจากความสมัคร
ใจของท้ังสองฝ่าย ยอ่ มไมส่ มหวังและเปน็ รกั ที่ไมย่ ง่ั ยนื และแสดง
ให้เหน็ ถงึ ความสาคัญของปัญญาทตี่ ัวละครใชแ้ ก้ปญั หาต่าง ๆ
ทเ่ี กิดขน้ึ

-27-

ใบงาน
“บงิ โกพระอภยั มณี”

คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบท่ีครกู าหนดให้เตมิ ลงในตารางบิงโก

รัชกาลท่ี ๒ แต่งเพื่อขายเลีย้ งชพี มสี ัมผัสในทกุ วรรค เผ่าพันธ์ุ
กลอนเพลง สุนทรภู่ จับหกั คอ จบั กินเปน็ อาหาร
เงอื กเฒา่ หลบั เกาะแก้วพิสดาร สินสมุทร
ศรสี วุ รรณ เพลงป่ี ผเี ส้ือสมุทร พระอภัยมณี

-๒๘-
-28-

วธิ ีการเล่น “บงิ โกพระอภยั มณี” มีกติกา ดังนี้
๑. นักเรยี นเลอื กคาตอบทีค่ รูกาหนดใหม้ าใสใ่ นช่องตารางบงิ โกของตนเองตามอิสระ
๒. ตวั แทนนกั เรียนจับฉลากคาถามทีละ ๑ คาถาม
๓. นกั เรียนฟงั ครูอา่ นคาถามที่นักเรยี นส่มุ จับทีละ ๑ คาถาม ตอ่ กนั ไปจนครบ ๑๖ คาถาม
๔. นกั เรยี นคนใดมีคาตอบอยใู่ นตารางบงิ โกของตนเองให้กากบาทคาตอบ
๕. นกั เรียนคนใดทีม่ คี าตอบใหก้ ากบาทช่องคาตอบตารางนน้ั ๆ ท้ังแนวตัง้ แนวทแยง แนวนอน ทง้ั หมด

ของตารางบิงโกตามตวั อย่างในใบงานบิงโดจะถือเป็นผู้ชนะ
๖. ให้ผชู้ นะตะโกนวา่ บิงโก
๗. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งอีกคร้ัง

คาถามเกมบงิ โกพระอภยั มณี
๑. ใครคอื ผู้แตง่ พระอภยั มณี ตอนหนนี างผีเส้อื (สุนทรภู่)
๒. จดุ ประสงคใ์ นการแต่ง (แตง่ เพ่ือขายเลยี้ งชีพ)
๓. พระอภยั มณีแต่งขนึ้ ในสมัยใด (รชั กาลท่ี ๒)
๔. ลักษณะคาประพนั ธ์ของพระอภยั มณี (กลอนสภุ าพ)
๕. คาประพนั ธ์ของสนุ ทรภมู่ ีความเดน่ เรือ่ งการใชค้ าอย่างไร (มสี มั ผสั ในปรากฏในแต่ละวรรค)
๖. ตัวละครใดเป็นผูห้ ลงรักพระอภยั มณตี ้งั แต่แรกเห็น (ผเี ส้ือสมุทร)
๗. สามขี องนางผเี สอ้ื สมุทรชื่อว่าอะไร (พระอภัยมณี)
๘. ลกู ชายของพระอภยั มณีมีช่อื วา่ อะไร (สินสมุทร)
๙. นอ้ งพระอภัยมณีมชี ื่อวา่ อะไร (ศรสี วุ รรณ)
๑๐. พระอภยั มณี มวี ิชาความรู้เรอ่ื งใดที่เป็นอาวธุ ไว้ป้องกนั ตนเองและปกป้องผู้อืน่ (เพลงป่)ี
๑๑. อานุภาพเพลงปี่ของพระอภยั มณที าใหพ้ ราหมณ์ทั้ง ๓ คน ทไี่ ด้ฟงั เป็นอย่างไร (หลบั )
๑๒. ใครเปน็ ผอู้ าสาพาพระอภยั มณหี นนี างผเี สือ้ (เงือกเฒ่า)
๑๓. เหตุผลใดที่พระอภยั มณีไมส่ ามารถอยรู่ ว่ มกับนางผเี สื้อสมุทรได้ (ตา่ งเผา่ พนั ธ์)
๑๔. สินสมทุ รมกี าลังมากเหมือนกับใคร (นางผเี สื้อสมทุ ร)
๑๕. จุดหมายที่พระอภัยจะหนนี างผีเสอื้ คือสถานท่ีใด (เกาะแกว้ พสิ ดาร)
๑๖. ผทู้ แี่ นะนาแผนการหนนี างผีเส้ือสมทุ รให้พระอภัยมณีคอื ใคร (เงือกเฒา่ )

-๒๙-

-29-

ใบความรู้
“บทวเิ คราะห์ นทิ านคากลอนเร่ืองพระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณีหนนี างผเี สือ้ สมุทร”

ความรักเป็นเร่ืองดีงามท่ีชักนาให้คน ๒ คนมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่ถ้าเป็นความรักที่มิได้เกิดจาก
ความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายก็ยากท่ีจะครองชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุขหรืออย่างยาวนาน ความคิด
ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในชีวิตคู่ของพระอภัยมณีกับนางผีเส้ือสมุทร ในนิทานคากลอนเรื่อง
พระอภัยมณีซงึ่ เปน็ ผลงานเรื่องเอกของสุนทรภู่

นอกจากนี้ในกรณีท่ีแม่ให้กาเนิดลูกแล้วมิได้สนใจเลี้ยงดู ความผูกพันระหว่างแม่ลูกก็จะมีน้อย
เฉกเชน่ ความสมั พนั ธ์ระหว่างนางผีเส้อื สมทุ รกบั สินสมุทรในนิทานคากลอนเร่ืองนี้

เรอื่ งพระอภยั มณีดที ้งั กลอนและความคิดท่ีผกู เร่อื ง
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราซานุภาพทรงกล่าวว่าสุนทรภู่เร่ิมแต่งเรื่อง
พระอภัยมณีต้ังแต่สุนทรภู่ติดคุกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเป็นการแต่งเพ่ือขาย
ฝีปากเลี้ยงชีวิดในระหว่างติดคุกอยู่น้ัน แต่คงแต่งเพียงไม่กี่ตอนก็หยุด แล้วไม่ได้แต่งต่ออีกจนสิ้นรัชกาล
เรอ่ื งน้ีนา่ จะเป็นความจริงเพราะในสมัยรัชกาลท่ี ๒ สุนทรภู่มักต้องตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ
หล้านภาลัยอย่างใกล้ชิดและแทบจะไม่มีเวลาได้สร้างสรรค์ผลงานของตนเอง โดยมากมักเป็นการต่อ
กลอนพระราชนิพนธ์ หรือแต่งถวาย เม่อื เริ่มรัชกาลใหมแ่ ละสนุ ทรภู่ชงิ ลาออกจากราชการแล้วออกบวชจึง
มีโอกาสแตง่ เรอ่ื งพระอภยั มณีอีกโดยแตง่ ต่อเปน็ ระยะ ๆ
คาประพันธ์ท่ีสุนทรภใู่ ช้แตง่ เรอ่ื งน้ีคอื กลอนเพลง๑ ทม่ี ีคาสมั ผัสในทกุ วรรค เช่น
จะกลา่ วกลบั จับความไปตามเร่ือง ถึงบาทเบ้อื งปรเมศพระเชษฐา
ดกยากอยคู่ ูหามาชา้ นาน๒
องค์อภยั มณีศรีโสภา

คาสัมผัสในดังกล่าวทาให้กลอนของสุนทรภู่มีความไพเราะรื่นหู ท้ังยังเด่นที่รสคาและรสความที่มี
ความหมายลกึ ซ้งึ กนิ ใจ เช่น

ถ้อยคาสานวนทแี่ สดงความรกั อันลึกซ้ึงระหว่างชายหญงิ

แม้นส้นิ สูญบญุ นางในปางน้ี ไม่มีที่พงึ่ พาจะอาศัย
จะกอดศพซบหนา้ โศกาลยั ระกาใจกว่าจะม้วยไปดว้ ยกนั
ฯลฯ
๑ กลอนเพลง คือ กลอนสุภาพท่ีขน้ึ ต้นด้วยวรรครับหรือวรรคที่ ๒ ในเรือ่ งพระอภัยมณีขน้ึ ตน้ ดงั น้ี
แตป่ างหลงั ยงั มีกรุงกษตั ริย์
สมมุตวิ งศ์ทรงนามทา้ วสุทัศน์ ผา่ นสมบตั ริ ัตนานามธานี
๒ เส้นโยงสมั ผัสในกลอนบทน้ี เสน้ ตรงแสดงสัมผัสนอกท่เี ป็นสัมผสั บงั คับ เส้นโคง้ แสดงสมั ผัสใน
เสน้ โค้งด้านบน แสดงสมั ผัสพยัญชนะ สว่ นเส้นโค้งดา้ นลา่ งแสดงสัมผัสสระ

-๓๐-

-30-

จะเกิดไหนขอให้พบประสบกนั อย่าโศกศัลยแ์ คลว้ คลาดเหมอื นชาตินี้
ถอ้ ยคาสานวนการตดั พอ้
เสยี แรงรกั หนกั หนาอตุ ส่าห์ถนอม สู้อดออมสารพัดไม่ขัดขืน
ช่างกระไรใจจดื ไม่ยดื ยืน นางสะอ้ืนอ้าปากจนรากเรอ
ถอ้ ยคาสานวนแสดงความรกั ของลกู ท่ีมตี อ่ แม่
ซึ่งรักลกู ลกู ก็รูอ้ ยู่วา่ รกั มิใช่จกั ลืมคณุ กรณุ า
ถงึ ตัวไปใจลูกยงั ผูกคดิ พอปลดปลดิ เร่ืองธุระจะมาหา
อย่ากรว้ิ โกรธโปรดปรานเถดิ มารดา ไปไสยาอยู่ในถ้าใหส้ าราญ
ถอ้ ยคาสานวนท่พี ระอภัยมณขี อสินสมุทรจากนางผเี ส้ือสมทุ ร
พีข่ อบตุ รสุดใจเอาไปด้วย เปน็ เพ่อื นมว้ ยเหมอื นสุดามารศรี
ขอลาแกว้ แววตาไปธานี อยา่ ราดขี ุน่ ขอ้ งให้หมองมวั
ถ้อยคาสานวนคาสอนของพระฤาษีทีเ่ ตือนสตินางผีเส้ือสมทุ ร
ทง้ั น้ีเพราะเคราะห์กรรมทาให้วนุ่ จงึ สิ้นบุญวาสนาสีกาเอย๋
เหน็ มิได้ไปอยเู่ ป็นค่เู ชย ดว้ ยสองเคยปลกู เล้ยี งกันเพียงนน้ั

ด้วยเหตุที่เรื่องน้ีมีรสคาและรสความท่ีมีความหมายลึกซึ้งกินใจ ทาให้ผู้อ่านจดจาคากลอน
ทเ่ี ปน็ วรรคทองในเรอ่ื งนไี้ ด้หลายตอน

สนุ ทรภู่ผูกเร่ืองพระอภัยมณีขึ้นเองโดยนาเอาเร่ืองที่ได้ยินได้ฟังหรือได้อ่านจากวรรณคดีไทยและ
วรรณคดีต่างชาติมาผสมผสานเข้ากับเรื่องจริงท่ีได้พบเห็นรวมท้ังเรื่องที่สุนทรภู่จินตนาการขึ้นอย่าง
กลมกลืน ทาให้เรื่องพระอภัยมณีมีเน้อื หาสนุกสนาน เป็นเร่ืองที่มลี ักษณะแปลกไปจากเร่อื งจักร ๆ วงศ์ ๆ
ท่วั ไปท่ีเคยมีมา กล่าวคือพระอภยั มณี ซึ่งเป็นตัวเอกฝา่ ยชายไมม่ ีอาวุธวิเศษหรือเวทมนตร์คาถาไว้ป้องกัน
ตวั อย่างพระเอกในเรือ่ งอ่ืน แตม่ ีวชิ าดนตรีคือเพลงป่เี ป็นอาวุธไว้ปอ้ งกันตนเองและคุม้ ครองผู้อืน่ อีกทั้งยัง
มองการณไ์ กล คิดผกู ไมตรีกบั คนต่างชาติ เพอ่ื จะได้กาลงั ของคนเหล่านั้นมาช่วยปอ้ งกนั ภัยใหแ้ ก่บ้านเมอื ง
พระเอกแบบพระอภัยมณีจึงไม่ใช่พระเอกนักรบท่ีชอบใช้กาลงั ในการแก้ไขปัญหา แตเ่ ป็นพระเอกนกั พูดที่
ใช้วาทศิลป์แก้ไขปัญหา เพลงปี่ของพระอภัยมณีเปรียบได้กับถ้อยคาหรือคาพูดเพราะเกิดจากลมปาก
เหมอื นกนั

นอกจากนี้ สุนทรภู่ยังสร้างตัวละครหลากหลายที่มีลักษณะเด่นหรือลักษณะเฉพาะตัวขึ้น
ไว้ในเร่ือง โดยโยงเข้ากับตัวละครเอกของเร่ืองบ้าง หรือโยงเข้ากับตัวละครอ่ืน ๆ ที่มีความสัมพันธ์
เก่ียวข้องกับตัวละครเอกของเรื่องบ้าง ทาให้เพ่ิมความแปลกใหม่และความสนุกสนานให้แก่เนื้อหา จน
ผู้อ่านผฟู้ งั นิทานคากลอนเรอื่ งพระอภัยมณีนยิ มอ่านนิยมฟงั สืบต่อกันมาจนตราบถงึ ทกุ วนั น้ี
รกั แบบจาใจย่อมไม่จรี งั ยงั่ ยืน

พระอภัยมณีและศรีสุวรรณเดินทางออกจากบ้านเมืองหลังจากถูกท้าวสุทัศน์ผู้เป็นพระชนก
เนรเทศดว้ ยเหตุที่เรียนวิชาไมส่ มกับทเี่ ปน็ โอรสกษัตริย์ ทั้งสองได้พบพราหมณ์

-๓๑-
-31-

๓ คน คือ โมรา สานน และวเิ ชยี ร พราหมณท์ ั้งสามแปลกใจท่ีพระอภัยมณีเลือกเรียนวิชาปี่แทนท่ีจะเรียน
ศิลปะการใช้อาวุธอื่น ๆ พระอภัยมณีจึงเป่าป่ือวดอานุภาพของเพลงปี่ มีผลให้พราหมณ์ท้ังสามและศรี
สวุ รรณเคล้ิมหลับ เม่ือนางผีเสื้อสมุทรได้ฟังและเห็นรปู โฉมอันงดงามของพระอภัยมณีกห็ ลงใหล และจับ
ตัวพระอภัยมณีไปอยู่กับตนในถ้าใต้ทะเล นางแปลงกายเป็นหญิงงามด้วยความกลัวว่าพระอภัยมณีจะ
รังเกียจหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวของนาง แม้พระอภัยมณีจะทราบดีว่าหญิงงามที่เห็นเป็นนางผีเสื้อสมุทร
แตก่ ็ไมส่ ามารถปฏิเสธความตอ้ งการของนางได้ จงึ จาใจเป็นสามขี องนางหลังจากท่ีคาดคั้นให้นางสัญญาว่า
จะไม่จับพระองค์กินเป็นอาหาร พระอภัยมณีครองคู่กับนางผีเส้ือสมุทรจนนางให้กาเนิดบุตรชายคนหนึ่ง
ชื่อสินสมุทร พระอภัยมณีเล้ยี งดูและอบรมสินสมุทรจนสินสมุทรมีอายุได้ แปดปีวันหน่ึงสินสมุทรดันหินที่
ปีดปากถ้าออกไปเที่ยวและจับเงือกเฒ่าจากท้องทะเลมาได้ตนหน่ึง พระอภัยมณีช่วยชีวติ เงือกเฒ่าไว้และ
บอกว่าพระองค์คิดจะหนีจาก นางผีเส้ือสมุทร แต่ก็ไม่ทราบว่าถ้าท่ีอาศัยอยู่นี้อยู่ท่ีใด และควรจะต้องหนี
ไปในทศิ ทางใด เงอื กเฒ่าจึงบอกตาแหน่งท่พี ระอภยั มณีอยแู่ ละแนะนาใหห้ นีไปยังเกาะแก้วพสิ ดาร โดยให้
พระอภยั มณลี วงนางผเี ส้ือสมุทรให้ไปอดอาหารเปน็ การสะเดาะเคราะห์ เพ่ือให้นางอ่อนแรงระหวา่ งที่พระ
อภยั มณกี าลังหนีจากนาง เงอื กเฒ่าอาสาพาพระอภยั มณีและสินสมุทรหนี โดยมเี มียและลูกสาวเปน็ ผู้ช่วย
นางผีเส้ือสมุทรตามไปทันและจับเงือกเฒ่าและเมียกินเป็นอาหาร แต่เงือกสาวก็สามารถพาพระอภัยมณี
หนีนางผีเสื้อสมุทรไปจนถึงเกาะแก้วพิสดารได้สาเร็จ นับไดว้ ่าความรักของพระอภัยมณีซ่ึงเปราะบางและ
มีแต่ความหวาดกลัวนางผีเสื้อสมุทรอยู่ตลอดเวลา ได้มาถึงจุดแตกหักและสิ้นสุดความสัมพันธ์นับแต่น้ัน
เปน็ ต้นมา

นางผเี สอ้ื สมุทรผู้หลงรกั สามมี ากกวา่ รกั ลูก
นางผีเส้ือสมุทรเป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่รักสามีมากกว่ารักลูก นางผีเส้ือสมุทรไม่สนใจเล้ียงดูสิน
สมุทรเท่าท่ีควร แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระอภัยมณีซึ่ง“เฝ้าเลี้ยงลูกผูกเปลแล้วเห่ช้า” และยัง “สอน
ให้เจ้าเป่าป่ีมีวิชา เพลงศาสตราสารพัดหัดชานาญ” สินสมุทรผูกพันกับพระอภัยมณีและรักบิดามากกว่า
เพราะพระอภัยมณีเล้ียงดูสินสมุทรอย่างใกล้ชิด และไม่เคยขู่สินสมุทรให้กลัวเหมือนอย่างที่นางผีเส้ือ
สมทุ รทา ดงั ในคากลอนวา่
ฝา่ ยกุมารสนิ สมุทรสุดสวาท ไม่ห่างบาทบิดาอชั ฌาสัย
ความรกั พ่อย่งิ กว่าแม่มาแต่ไร ด้วยมไิ ด้ขู่เข็ญเชน่ มารดา

หลังจากนางผีเส้ือสมุทรติดตามพระอภัยมณีและสินสมุทรมาจนเกือบทัน สินสมุทรได้อาสาพระ
อภัยมณีไปหลอกล่อนางผีเสอ้ื สมุทรให้หลงติดตามตนไปอีกทางหน่ึง เพ่ือให้ครอบครวั เงือกพาพระอภยั มณี
หนีต่อไปได้อย่างปลอดภัย ในตอนน้ีผู้อ่านจะเห็นได้ว่านางผีเส้ือสมุทรไม่มีความรักใคร่ผูกพันกับสินสมุทร
ผู้เป็นลูกมากนัก เมื่อทราบว่าสินสมุทรลวงตนและไม่ยอมบอกว่าพระอภัยมณีอยู่ท่ีใด นางก็คิดแค้นและ
หาทางลวงสินสมุทรให้พาไปหาพระอภัยมณีก่อน แล้วต้ังใจจะจับสินสมุทรหักคอเสีย เม่ือสินสมุทรมิได้
หลงกล นางผเี ส้ือสมุทรก็ไลต่ สี ินสมทุ รให้ว่นุ ไป ดังในคากลอนว่า

-๓๒-
-32-

อสุรผี เี สือ้ เหลอื จะอด แคน้ โอรสราวกับไฟไหม้มงั สา
ชา่ งหลอกหลอนผ่อนผันจานรรจา แม้นจะวา่ โดยดเี ห็นมิฟัง
จะจับไว้ให้พาไปหาพ่อ แล้วหักคอเสยี ให้ตายเม่ือภายหลัง
โกรธตวาดผาดเสียงสาเนยี งดัง นอ้ ยหรือยงั โหยกเหยกเด็กเกเร
ช่างวา่ กลา่ วราวกับกไู มร่ ู้เท่า มาพดู เอาเปรียบผูใ้ หญ่ทาไพล่เผล
เอาบดิ รซ่อนไวใ้ นทะเล ทาโว้เวว้ ่ากลา่ วใหย้ าวความ
ยง่ิ ปลอบโยนโอนอ่อนย่ิงหลอนหลอก แมน้ ไม่บอกโดยดีจะตีถาม
พลางโผโผนโจนโจมเสียงโครมคราม เข้าไล่ตามคลุกคลตี ไี ปพลาง

ลกั ษณะเช่นนีต้ ่างจากเมื่อนางผีเส้ือสมุทรพดู อ้อนวอนพระอภัยมณใี ห้ยอมกลับไปใช้
ชีวติ รว่ มกนั ดังเดมิ เพราะนางพูดอย่างอ่อนหวานโดยไม่มีคาขแู่ ตอ่ ย่างใด ดงั ในคากลอนวา่

นิจจาเอ๋ยเคยอยู่เป็นคชู่ ืน่ ทุกวนั คนื คา่ เช้าไม่เศรา้ หมอง
จนมีลูกปลูกเลยี้ งเคยี งประคอง มิใหข้ ้องเคืองขัดพระอัชฌา
อยู่ดดี ีหนีเมียมาเสียได้ เสยี น้าใจนอ้ งรักเปน็ นกั หนา
จึงอุดส่าห์พยายามสูต้ ามมา ขอเปน็ ขา้ บาทบงส์พุ ระทรงธรรม์
พระเสด็จไปไหนจะไปดว้ ย เป็นเพือ่ นม้วยภัสดาจนอาสญั
ประทานโทษโปรดเลี้ยงแตเ่ พียงนนั้ อยา่ บากบั่นความรกั น้องนักเลย

ดว้ ยเหตุทนี่ างไมส่ ามารถผูกใจลูกไว้ได้ และสินสมทุ รถงึ จะรักนางอยบู่ ้างตามประสาลูก กบั แม่
แตก่ ก็ ลัวมากกว่ารกั ใครผูกพัน ซ้าเมอ่ื ถกู แม่ดีกย็ งิ่ ทาให้เข็ดขยาด
เม่ือนางผเี สื้อสมุทรร้องเรยี กใหไ้ ปหา สนิ สมุทรจึงไม่ยอมไป ดังในคากลอนว่า
สนิ สมทุ รสดุ แสนสงสารแม่ ชาเลืองแลดูหน้าน้าตาไหล
จึงกราบกรานมารดาแล้วว่าไป จะเขา้ ใกล้ทูนหัวลกู กลัวนกั
เม่อื วานนตี้ ขี ้าน้อยไปหรอื ระบมมือเหมือนกระดกู ลูกจะหกั
ซ่ึงรักลกู ลูกกร็ ูอ้ ยวู่ า่ รัก มิใช่จักลืมคุณกรุณา
ถึงตวั ไปใจลูกยังผกู คิด พอปลดปลดิ เร่ืองธุระจะมาหา
อยา่ กร้ิวโกรธโปรดปรานเถดิ มารดา ไปไสยาอยู่ในถา้ ให้สาราญ

แม้นางผีเสื้อสมุทรจะรักพระอภัยมณีมากเพียงใดและยอมทาทุกอย่างเพ่ือให้พระอภัยมณียอมใช้
ชวี ิตร่วมกับตน แต่ความรักของนางก็ไม่อาจมดั ใจพระอภัยมณีไว้ไดเ้ พราะพระอภยั มณีไม่มคี วามสขุ ในชีวิต
คู่ มีแต่นางผีเสื้อสมุทรเท่าน้ันท่ีเป็นสุขแต่เพียงฝ่ายเดียวในท่ีสุดนางจึงต้องตรอมตรมเพราะความรักและ
เสียใจอยา่ งทส่ี ดุ ท่ีพระอภัยมณหี นนี างไปได้

-๓๓-
-33-

พม่ี นุษย์สดุ สวาทเป็นชาตยิ ักษ์
ด้วยเหตุท่ีพระอภัยมณีถูกบังคับขืนใจให้จาต้องอยู่กับนางผีเสื้อสมุทรโดยที่ไม่เคยมีความรักนาง

มาก่อนทาให้ไม่มีความรู้สึกผูกพันรักใคร่ พระอภัยมณีอธิบายแก่นางผีเสื้อสมุทรว่าพระองค์กับนางผีเส้ือ
สมุทรนั้นต่างเผ่าพันธุ์กัน ไม่สมควรใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เพราะพระองค์ไม่ชินกับการอยู่ในถ้าและอยากจะ
กลับไปหาพระชนกชนนแี ละอนชุ าศรีสุวรรณทพี่ ลัดพรากจากกนั ดงั ในคากลอนต่อไปนี้

พระอภยั ใจอ่อนถอนสะอ้นื อตุ สา่ หฝ์ ืนพกั ตร์วา่ นิจจาเอย๋
แมผ่ ีเส้อื เม่ือไม่เห็นในใจเลย พไี่ ม่เคยอยู่ในถ้าให้ราคาญ
คิดถึงน้องสองชนกทีป่ กเกล้า จะสรอ้ ยเศร้าโศกานา่ สงสาร
ด้วยพลดั พรากจากมาเป็นช้านาน ไมแ่ จง้ การวา่ ข้างหลงั เป็นอยา่ งไร
จึงจาร้างหา่ งห้องให้น้องโกรธ จงงดโทษพี่ยาอัชฌาสัย
แม้นไปได้ก็จะพาแก้วตาไป นจี่ นใจดว้ ยนางตา่ งตระกูล
พ่ีมนษุ ย์สดุ สวาทเปน็ ชาติยักษ์ จงคิดหกั ความสวาทใหข้ าดสูญ
กลบั ไปอยูค่ ูหาอยา่ อาดรู จงเพิ่มพูนภาวนารกั ษาธรรม์

จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย วรรณคดวี จิ ักษ์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ หนา้ ๔๒ – ๔๗

-๓๔-
-34-

-35- หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ สรา้ งสรรค์สารพรอ้ ม แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เรื่อง ผา่ นถ้อยวาจา (๒) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด รายวิชาภาษาไทย ๕ แหล่งเรียนรู้
หอ้ งสมุด
บทวิเคราะห์พระอภัยมณี ตอนหนีนางผีเส้ือสมุทร กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื
วเิ คราะห์ให้เห็นถึงคุณธรรมท่ีน่ายกย่องของตัวละครสาคัญใน ขน้ั นา 1. ใบความรู้ “บทวเิ คราะห์
เร่ืองมากมายท้ังความเสียสละของพระอภัยมณีและเงือกเฒ่า นิทานคากลอนเรื่องพระอภัยมณี
ความเมตตาของพระฤาษี และความสาคัญของการใช้ ๑. นกั เรียนลงคะแนนเสียงว่าใครในช้ันเรียนท่มี วี าจาสุภาพ ตอนพระอภัยมณหี นี
สติปัญญาท่ีทาให้เอาตัวรอดจากนางผีเส้ือสมุทรไปได้ ท้ังยัง ไพเราะมากทีส่ ุด นางผเี สื้อสมุทร”
สะท้อนให้เห็นถึงนิสัยของนางผีเส้ือสมุทรที่ไม่มีสัมมาคารวะ 2. ใบงาน “ตอบได้ใหเ้ ลย”
ใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา ในด้านการสรรคาแสดงให้เห็น ๒. นกั เรียนรว่ มกันบอกขอ้ ดีของการเป็นผู้ท่ีมีวาจาสุภาพ ภาระ/ช้นิ งาน
ความสามารถของสุนทรภู่ว่าเลือกใช้คาได้เหมาะสม และเห็น ไพเราะ การทาใบงาน “ตอบได้ให้เลย”
ภาพตัวละครได้อย่างชัดเจน ด้วยข้อดีเด่นดังกล่าว จึงทาให้ ขนั้ สอน
เรอื่ งพระอภยั มณีเป็นทน่ี ิยมมาจนถึงปจั จุบัน และได้รบั การยก การวัดและประเมนิ ผล
ยอ่ งจากวรรณคดีสโมสรให้เปน็ สดุ ยอดแหง่ นิทานคากลอน 3. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ “บทวิเคราะห์ นทิ านคากลอน -
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เรอ่ื งพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณหี นีนางผีเสือ้ สมุทร”
ดา้ นความรู้
4. นกั เรียนอาสา ๒ - ๓ คน แสดงความคดิ เห็นวา่
๑. อธบิ ายถงึ นิสัยตัวละครสาคัญในเร่อื งพระอภัยมณตี อน จากการอา่ นบทวเิ คราะหแ์ สดงใหเ้ หน็ วา่ ตัวละครใดในเรอื่ งมี
หนีนางผีเสอื้ สมทุ ร พฤติกรรมการพดู เหมือนหรือตา่ งกนั อยา่ งไร และจากการพูด
ลกั ษณะดงั กลา่ วจะส่งผลอยา่ งไร
๒. อธบิ ายคุณธรรมทปี่ รากฏในเร่อื ง
5. นกั เรยี นทากจิ กรรมใบงาน “ตอบไดใ้ ห้เลย” วธิ กี ารโดย
5.๑ นกั เรียนจับคู่กบั เพอ่ื น
5.๒ นกั เรยี นตอบคาถามจานวน ๑๐ ข้อ ระยะเวลาใน

การเขยี นตอบข้อละ ๔๐ วนิ าที ต่อขอ้ คาถาม ดังนี้
- สนิ สมุทรมลี กั ษณะรูปร่างหนา้ ตาเป็นอย่างไร

แนวคาตอบ

-35-

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ สร้างสรรคส์ ารพร้อม แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๖ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรือ่ ง ผ่านถ้อยวาจา (๒) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
ด้านทักษะกระบวนการ รายวิชาภาษาไทย ๕

อา่ นจบั ใจความสาคัญของบทวิเคราะห์คณุ ธรรมท่ปี รากฎ มหี น้าตาเป็นมนษุ ยเ์ หมอื นพระอภยั มณี แต่มดี วงตา
และการใชภ้ าษาของเร่ือง เป็นสแี ดง มเี ขย้ี วและมกี าลงั มากราวช้างสารเหมือน
นางผีเสื้อสมทุ ร
สมรรถนะทีต่ ้องการใหเ้ กดิ กับผู้เรียน
1. การสอ่ื สาร - นกั เรียนคิดวา่ พระอภยั มณีมีคุณธรรมใดท่โี ดดเด่น
2. การคิดขน้ั สงู มากทส่ี ุด

-36- แนวคาตอบ
คณุ ธรรมท่ีโดดเด่นของพระอภัยมณี คอื ความเมตตา
ดังเหตุการณ์ทพ่ี ระอภยั มณีเมตตาสงสารเงอื กเฒา่
และความเสยี สละ ดงั เหตกุ ารณท์ ี่ยอมเสยี สละชีวติ
ตนเองเพือ่ ความอยู่รอดของผอู้ ่นื และให้หนีไป

- “ดูรปู รา่ งอยา่ งเปรตสมเพชใจ ชา่ งกระไรราศีไม่มี
งาม” จากข้อความข้างต้นใครพูดถึงใคร

คาตอบ สินสมุทรพดู ถงึ แม่ (นางผเี สอ้ื สมทุ ร)

- เพราะเหตุใดเม่ือสินสมทุ รเหน็ รา่ งจรงิ ของแม่จึง
หวาดกลัวอยา่ งมาก

แนวคาตอบ
เพราะสนิ สมุทรไมเ่ คยเหน็ ร่างแทจ้ ริงของแม่มาก่อน
เมื่ออยู่ในถา้ เคยชินรูปร่างหน้าตาท่งี ดงามอย่างมนุษย์
ของนางผเี สอื้ สมทุ รผ้เู ป็นแม่ ทแ่ี ปลงร่างไมใ่ หพ้ ระ

-36-

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ สรา้ งสรรค์สารพร้อม แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เร่อื ง ผา่ นถอ้ ยวาจา (๒) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓
รายวิชาภาษาไทย ๕
-37-
อภัยมณหี วาดกลวั เมอื่ เหน็ ร่างแท้จรงิ ของมารดาจงึ
ตกใจกลวั

- อะไรเป็นหลกั ฐานชิน้ สาคัญท่ีทาให้นางผเี ส้ือสมุทรรู้
ว่าพระอภยั มณีได้หนีไป

คาตอบ ปี่ของพระอภัยมณหี ายไป

- เงอื กเฒา่ สองผวั เมยี มคี ณุ ธรรมทน่ี า่ ยกย่องในเร่ืองใด

แนวคาตอบ
ความเสยี สละ เช่นตอนที่เงอื กเฒา่ สองผวั เมียรู้
ว่าจะไมร่ อกจากนางผีเสือ้ สมทุ ร ทั้งค่กู ็แสดงน้าใจดว้ ยการ
สละชวี ิตของตนเพอ่ื หลอกล่อนางผีเส้ือให้ติดตามไปอกี ทาง
หน่งึ เพอื่ ใหล้ กู สาวพาพระอภยั มณีหนนี างผีเสอ้ื สมุทรไปได้
อยา่ งปลอดภัยแตใ่ นท่ีสุดนางผีเส้อื สมุทรกร็ คู้ วามจริงจึงถกู
จับกินเปน็ อาหาร ฯลฯ (ตามดุลยพนิ ิจครผุ สู้ อน)

- ใครเป็นคนชว่ ยเหลอื พระอภยั มณแี ละเงอื กสาวใหร้ อด
พน้ จากนางผีเส้อื

คาตอบ พระฤาษี /พระโยคี

- เหตกุ ารณ์ตอนใดที่แสดงให้เหน็ ถึงความมีสตปิ ัญญา
ของเงอื กเฒ่า ยกตัวอย่างมา ๑ ตอน

-37-

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ สรา้ งสรรค์สารพรอ้ ม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๖ เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรอื่ ง ผ่านถ้อยวาจา (๒) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
รายวิชาภาษาไทย ๕
-38-
แนวคาตอบ
ตอนที่เงอื กเฒา่ วางอุบายให่นางผเี สอื้ ถอื ศีลอด
อาหารเพอื่ ไมม่ แี รงตามพระอภยั มณี, ตอนวางแผน
การเดินทาง ก่อนเดินทางไมป่ ระมาท ประมาณกาลงั
ของตนในการเดินทางและรอบรสู้ ภาพภมู ิศาสตร์,
ตอนเงอื กเฒา่ หลอกล่อนางผเี สอ้ื สมทุ รใหต้ ามพระ
อภัยมณไี ปอีกทาง เพ่ือให้ลกู สาวเงอื กพาพระอภัย
มณหี นีไดส้ ะดวก)

- พระฤาษแี หง่ เกาะแก้วพิสดารทาอยา่ งไรนางผเี สอ้ื
สมทุ รจงึ หนไี ป

คาตอบ
พระฤาษีซัดทรายเสกคาถาใส่นางผเี สอ้ื สมทุ รจนหนีไป

- เพราะเหตใุ ดพระฤาษจี ึงโกรธนางผีเสื้อสมทุ ร

แนวคาตอบ
เพราะนางผเี สอ้ื สมุทรบรภิ าษ (ดา่ ) พระฤาษดี ว้ ยถอ้ ยคาที่
รุนแรง เช่น บวชหนรี าชการ, ไม่ถือศลี , ยุ่งเรอ่ื งสามีภรรยา
คนอื่น และพรากสามไี ปจากภรรยา)

5.๓ นกั เรียนและครูรว่ มกันเฉลย (คู่ใดได้คะแนนมาก
ที่สดุ จะไดร้ บั คะแนนเตม็ ในกิจกรรมน)ี้

-38-

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ สร้างสรรค์สารพรอ้ ม แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๖ เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรอ่ื ง ผ่านถ้อยวาจา (๒) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓
รายวิชาภาษาไทย ๕

ขัน้ สรุป
นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ วา่ นกั เรยี นคิดวา่ ข้อคดิ ท่ี

ไดจ้ ากเร่ืองข้อใดท่นี ักเรยี นสามารถนาไปปรบั ใชไ้ ด้ใน
ชีวติ ประจาวนั มากที่สดุ เพราะเหตใุ ด

-39-

-39-

ใบความรู้
“บทวิเคราะห์ นิทานคากลอนเรอ่ื งพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณหี นีนางผเี ส้อื สมทุ ร”

พระอภัยมณีผู้เสยี สละ
นิทานคากลอนเร่ืองพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร สะท้อนลักษณะนิสัย

ประการหนึ่งของพระอภัยมณี คือ การยอมสละชีวิตตนเองเพ่ือความอยู่รอดของผู้อ่ืน
ดงั ปรากฎในตอนทเี่ งือกเฒ่ากลา่ วแก่พระอภัยมณีว่า ผีเสื้อสมุทรคงจะคิดตามมาทันและทุกคคงจะไม่
รอดชีวิต พระอภัยมณีได้ขอให้เงือกเฒ่าส่งพระองค์ไว้ที่เกาะหนีไปเสีย ต่อจากน้ันก็ส่ังสินสมุทรให้
กลับไปกับนางผีเสื้อสมุทร พร้อมทั้งส่ังลาสินสมุทรเป็นการลาตาย แสดงว่าพระอภัยมณีคิดว่า
ถ้านางผีเสื้อสมุทร์ได้ตัวพระอภัยมณีแล้วคงเลิกติดตามทาร้ายผู้อื่น การกระทาของพระอภัยมณี
เท่ากับว่ายอมสละชวี ติ ตนเองเพ่อื ให้เงือกและสินสมทุ รรอดไปได้ ดงั ในคากลอนวา่

จะไปไหนไมพ่ น้ ผีเสือ้ น้า ท่านสง่ เราเข้าท่เี กาะละเมาะนี้
วิบากกรรมกจ็ ะส้อู ยเู่ ป็นผี แล้วว่าแก่สนิ สมทุ รสุดทร่ี ัก
แล้วรบี หนีไปในน้าแตล่ าพัง แมน้ นางยกั ษจ์ ะมารับจงกลบั หลงั
อนั ตัวพ่อขอตายวายชีวัง กนั แสงสั่งลกู ยาดว้ ยอาลัย

สินสมุทรผู้สบื ทอดพันธุกรรมจากพ่อแม่ และยดึ ตดิ กบั รา่ งลวงของแม่
สินสมุทรเป็นตัวละครท่ีสุนทรภู่สร้างขึ้นด้วยความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ โดยสืบทอดลักษณะ

เด่นทางพันธุกรรมของท้ังฝ่ายพ่อและแม่ได้อย่างน่าสนใจ กล่าวคือ มีหน้าตาเป็นคนเหมือน
พระอภัยมณี แต่ดวงตาเป็นสีแดง มีเข้ียว และมีกาลังราวกับช้างสารเหมือนนางผีเส้ือสมุทร
ดงั บทพรรณนาวา่

ไมค่ ลาดเคลื่อนเหมือนองคพ์ ระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดดู ังสรุ ิย์ฉาย
ทรงกาลงั ดงั พระยาคชาพลาย มเี ขยี้ วคลา้ ยชนนมี ีศักดา
นอกจากนั้นยังมผี มหยิกเหมือนยักษ์ ดังดาของนางสุวรรณมาลีดราวที่เรือแตกและแวะเข้าไป
ขออาศัยพระฤาษีอยู่ที่เกาะแก้วพิสดาร นางตั้งข้อสังเกดเร่ืองหน้าตาของสินสมุทรว่า "ดูผิวพักตร์
ลกั ษณาก็นา่ ชม เสียแต่ผมหยิกนกั เหมือนยกั ษ์มาร"

นับต้ังแต่สินสมุทรเกิดก็เคยชินกับรูปร่างหน้าตางดงามอย่างนางมนุษย์ของนางผีเส้ือสมุทรผู้
เป็นแม่ ด้วยแม่แปลงร่างเป็นหญิงงามเพื่อมิให้พระอภัยมณีหวาดกลัวเม่ือสินสมุทรได้เห็นร่างแท้จริง
ของนางผีเสื้อสมุทรทตี่ ดิ ตามพระอภยั มณีไป สินสมทุ รกป็ ระหลาดใจ ดังบทบรรยายว่า

สนิ สมทุ รหยดุ อย่ดู ูนางยักษ์ เห็นผดิ พักตร์มารดานา่ สงสยั
ด้วยเห็นแม่แต่รปู นมิ ติ ไว้ สงสยั ใจออกขวางกลางคงคา
แลว้ ร้องถามตามประลาเป็นทารก น่ีสัตวบ์ กหรอื สัตวน์ า้ ดานักหนา
โจนกระโจมโครมครามตามเรามา จะเล่นข้าท่าไรจะใครร่ ู้

-40-
-40-

ด้วยเหตุทีย่ ึดติดกบั รา่ งงามซ่ึงเป็นร่างลวงของแม่ ทาให้สินสมทุ รผดิ หวงั ที่เหน็ ร่างจรงิ ของนาง
ผเี สื้อสมุทรและรู้สึกอับอายท่ีมีแม่อัปลักษณ์เช่นน้ัน ดงั ปรากฎความรู้สึกของสินสมุทรที่มีต่อแม่ว่า "ดู
รูปร่างอย่างเปรดสมเพชใจ ช่างกระไรราศีไม่มีงาม" ต่อมาเม่ือสินสมุทรพบนางสุวรรณมาลี จึงขอให้
นางเป็นแมข่ องตนเพอื่ ชดเชยความรู้สกึ ผดิ หวังดงั กล่าว

สินสมทุ รพูดจาประสาซอ่ื ลกู นหี้ รอื จะไม่รักอย่าพักถาม
อยากจะใครได้แม่ทร่ี ูปงาม พ่ึงสมความปรารถนาเวลานี้
จะหาไหนได้เหมือนพระรปู โฉม งามประโลมลา้ ฟ้าในราศี
แม้นหาคสู่ ไู้ ดฉ้ นั ใหด้ ี จรงิ นะจาฟ้าผเี ถิดมารดา

สนิ สมทุ รบรรยายความปลกั ษณข์ องแม่ผีเส้ือสมุทรโดยกล่าวเปรยี บกับนางสุวรรณมาลี ดังน้ี

กุมาราวา่ ทีน่ ่ีไม่มเี ท่า โตกวา่ ลาสาเภาเป็นไหนไหน
ชื่อผีเส้ือเนือ้ หนงั รังข้ไี คล ท้งั สูงใหญ่เขย้ี วยาวราวสกั วา
ไม่นึกรักสักนิดจงึ คดิ หนี แม่เด๋ียวนีแ้ ลลูกรกั เปน็ นักหนา
สมกบั องค์ทรงฤทธ์ิพระบิดา ไดง้ ามหนา้ ลูกแก้วแล้วคราวนี้

ความเสียสละของเงือกเฒา่
ในเนื้อหาตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร ตัวละครหลายตัวแสดงน้าใจต่อกันอย่างน่า

ประทับใจ นอกจากพระอภัยมณีท่ีแสดงเจตจานงสละชีวิตตนเองเพื่อให้เงือกน้าและสินสมุทรหนีพัน
จากเง้ือมมือของนางผีเสื้อสมทุ รแลว้ เงือกเฒ่าท้ังคกู่ ็แสดงน้าใจด้วยการสละชีวิตของตนเพ่ือหลอกล่อ
นางผีเส้ือสมุทรให้ติดตามไปอีกทางหนึ่ง ลูกสาวจะได้พาพระอภัยมณีฟันจากเงื้อมมือของนางผีเสื้ อ
สมุทรไปได้ แม้นางผีเสื้อสมุทรจะขู่ตะดอกถามหาพระอภัยมณีแต่ทั้งสองก็ยอมตายโดยไม่ยอมบอก
ความจริง ดังในคากลอนว่า

ท้งั สองเงือกเสือกกายหมายไม่รอด ถงึ ม่วั ยมอดมิให้แจ้งแห่งนสุ นธ์ิ
จงึ กล่าวแกล้งแสร้งเสดว้ ยเลห่ ์กล เธออยบู่ นเขาขวางริมทางมา
ขา้ จะพาไปจบั จงกลับหลัง ให้ไดด้ งั มุง่ มาดปรารถนา
ไมเ่ หมือนคาราพันทส่ี ัญญา จงเข่นฆ่าใหเ้ ราม้วยไปด้วยกนั
ยุดเอามือขวาซ้ายใหผ้ ายผัน
อสุรผี ีเส้อื ก็เชอ่ื ถือ แกลง้ ราพนั พูดล่อให้ต่อไป
เงอื กกพ็ ามาถึงได้ครง่ึ วนั จึงว่ามงึ ตอแหลมาแก้ไข
นางผีเสือ้ เบ่ือหูรเู้ ท่าถึง แล้วนางยักษ์หักขาฉีกสองแขน
มาถึงน้ขี ้โี น่นเนื่องกันไป ไม่หายแค้นเค้ยี วกินส้นิ ทั้งคู่
แกลังจะให้หา่ งผัวไม่กลวั กู ออกวา่ ยวแู่ หวกน้าด้วยกาลงั
แล้วกลับตามขา้ มทางท้องสินฐ

จะเห็นได้ว่าเงอื กเฒ่าเอาชีวิตตนเป็นเดิมพันเพ่ือหลอกให้นางผีเส้ือสมุทรหลงเชื่อและตามไป
ผดิ ทิศทาง ทาให้นางผีเสื้อสมุทรเสียเวลาถงึ ครึ่งวนั เมื่อรู้ความจริงจึงโกรธและฉีกร่างเงือกท้ังคู่กินเป็น
อาหารด้วยความแต้นใจ มีข้อน่าสังเกตว่าตอนท่ีนางผีเส้ือสมุทรฆ่าเงือกสุนทรภู่บรรยายว่า "หักขาฉีก
สองแขน" การใช้ดา "หักขา" ตรงนี้น่าสนใจเพราะปกตเิ งอื กไม่มขี าให้หักเพราะท่อนลา่ งมีลักษณะเป็น

-41-
-41-

หางปลา สุนทรภู่คงจะสื่อความอย่างเดียวกับคาว่า "หักแขนหักขา" โดยเปรียบท่อนล่างของเงือกกับ
ขาของคน

ความเมตตาของพระฤๅษีแห่งเกาะแก้วพสิ ดาร
ถา้ ไมไ่ ดร้ บั ความช่วยเหลอื จากพระฤาษแี หง่ เกาะแกว้ พิสดารท่มี ายนื รอรบั พระอภัยมณี

กับนางเงือกท่ีหาดทรายและว่ายดาถาขู่นางผีเส้ือสมุทรให้กลัว พระอภัยมณีและนางเงือกก็คงไม่
สามารถพันเง้ือมมือของนางผีเสื้อสมุทรมาได้ สุนทรภู่บรรยายการรอดพ้นของพระอภัยมณีกับ
นางเงอื กจากการไล่ตดิ ตามอยา่ งฉิวเฉยี ดของนางผีเสอื้ สมุทรว่า

พระอภยั มณีเหน็ ผีเสอ้ื ความกลวั เหลือวา่ ยคว้างอยู่กลางหน
ยักษ์กระโจมโถมจับแทบอบั จน พอเห็นคนอยู่ทหี่ าดตวาดครืน
เขา้ ถึงที่ผเี สอื้ ก็ถึงด้วย กระชั้นฉวยผิดเสือกเกลือกเข้าต้ืน
พอโยคีมคี าถาลงมายนื ผเี สื้อตน่ื ตวั ส่นั ขย้นั ย้ัง
พระอภัยภูมนิ ทร์กบั สินสมุทร ชว่ ยกันฉดุ นางเงอื กเสือกเขา้ ฝั่ง
แลว้ กราบกรานโยคมี ีกาลัง แขกฝร่งั พรง่ั พร้อมล้อมพูดจา
จงึ ว่าท่านหนีตายหมายมาหา
พระโยคีมีจิตคดิ สงสาร แตก่ จิ จาไมก่ ระจา่ งยังคลางแคลง
เราลงมาคอยช่วยด้วยเมตตา ฯลฯ

พระโยดมี ีญาณว่าหลานรัก จงสานกั อย่ใู หส้ มอารมณห์ มาย
อนั ยักษีผสี างสมทุ รพราย มาถูกทรายชายหาดก็ขาดใจ
เราลงเลขเสกทาไวส้ าเรจ็ ดงั เขอ่ื นเพชรภตู ปีศาจไม่อาจใกล้
มนั อยู่แต่ห่างห่างช่างเปน็ ไร ทาไม่ไดน้ ดั ดาเจ้าอย่ากลวั

เพราะความช่วยเหลอื ของพระฤาษี นางผเี ส้ือสมุทรจึงไมอ่ าจนาตัวพระอภัยมณีกลบั ไปได้
นางบรภิ าษพระฤาษีอยา่ งรุนแรง พระฤาษโี กรธจึงซัดทรายเสกไปถูกนางผีเสื้อสมุทรจนนาง
ต้องหนีไปจากชายหาดเกาะแก้วพิสดาร

ความสาคัญของปญั ญา
นิทานคากลอนเร่ืองพระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณหี นนี างผเี สือ้ สมุทร สะทอ้ น

ให้เหน็ ความสาคญั ของสติปัญญาอยมู่ าก ไมว่ ่าจะเปน็ สติปญั ญาของเงือกเฒา่ ของพระอภยั มณี
ของนางผเี สื้อสมุทร หรอื ของสินสมุทร

พระอภยั มณีได้รับคาแนะนาจากเงอื กเฒ่าให้หนีไปยังเกาะแกว้ พสิ ดารโดยลวงนางผีเสื้อสมทุ ร
ให้อดอาหารเพื่อให้อ่อนแรงเสียก่อน เป็นการตัดโอกาสนางผีเส้ือสมุทรไม่ให้ตามพระอภัยมณีได้ทัน
เหตุการณ์ตอนนี้แสดงให้เห็นความสาคัญของการวางแผนก่อนลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่เป็นการหนีตาม
ยถากรรม เงือกนั้นรู้สภาพภูมิศาสตร์ และรู้กาลังของตนว่าจะสามารถพาพระอภัยมณีหนีการติดตาม
ของนางผีเส้ือสมุทรได้นานเท่าใด การรู้เขารู้เราเช่นนี้ทาให้ประมาณกาลังตนเองได้โดยไม่ประมาท

-42-
-42-

นอกจากนยี้ ังมองการณ์ไกลหาทางให้พระอภัยมณมี ีโอกาสโดยสารเรอื ที่พลัดเข้ามายังเกาะแก้วพิสดาร
กลับไปยังบา้ นเมืองของตนไดอ้ ีกด้วย ดงั ปรากฏในคาพูดทเี่ งือกเฒ่ากลา่ วแกพ่ ระอภัยมณีดังน้ี

แม้นพระองคท์ รงฤทธิ์จะคดิ หนี ถงึ โยคเี ข้าสานักไมต่ กั ษัย
เผือ่ สาเภาเขาซดั พลดั เข้าไป ก็จะไดโ้ ดยสารไปบา้ นเมือง
แตท่ างไกลไม่น้อยถึงร้อยโยชน์ ล้วนเขาโขดคิรีรัตนข์ นดั เน่ือง
กลางคงคาสารพัดจะขดั เคือง จงทราบเบ้ืองบงกชบทมาลย์
แม้นกาลงั ดังขา้ จะพาหนี เจด็ ราตรีเจยี วจึงจะถงึ สถาน
อสรุ มี ีกาลังดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวนั จะทันตวั

เม่ือนางผีเสื้อสมุทรเล่าเร่ืองฝันร้ายให้ฟังว่าเทวดาท่ีอยู่เกาะนั้นทาลายถ้าของนางทาร้ายนาง
และควักดวงตาของนางแล้วเหะหายลับไป พระอภัยมณีจึงฉวยโอกาสหาทางให้นางไปอุดอาหารถึง ๓
คืน ๓ วันเพ่ือสะเดาะเคราะห์เสีย เป็นการตัดกาลังของนางผีเส้ือสมุทรตามอุบายของเงือกเฒ่า
เหตุการณต์ อนนีแ้ สดงให้เหน็ ความฉลาดของพระอภยั มณี ดงั ในคากลอนวา่

พอได้ช่องลองลวงดูตามเล่ห์ สมคะเนจะได้ไปดังใจหมาย
จงึ กล่าวแกลง้ แสรง้ เสเพทบุ าย เจา้ ฝนั รา้ ยนกั น้องต้องตารา
อันเทวัญนั้นคือมจั จรุ าช จะหมายมาดเอาชวี ติ ริษยา
แลว้ เสแสรง้ แกล้งทาบบี นา้ ตา อนิจจาใจหายเจยี วสายใจ
แม้นสน้ิ สญู บุญนางในปางน้ี ไมม่ ีที่พึ่งพาจะอาศัย
ระกาใจกว่าจะมว้ ยไปด้วยกนั จะกอดศพซบหนา้ โศกาลัย
นกึ จะใคร่สะเดาะพระเคราะห์เจา้ พอบรรเทาโทษาทีอ่ าสัญ
เหมอื นงอนง้อขอชีวิตแกเ่ ทวัญ กลวั แต่ขวญั เนตรพีจ่ ะมิทา

ฯลฯ

พระฟงั คาสาราญสาเร็จคดิ จึงว่าผดิ สายสมรหาสอนไม่
ตารานั้นแตค่ รั้งต้ังเมรุไกร ว่าถา้ ใครฝนั ร้ายจะวายปราณ
ให้ไปอยผู่ ู้เดยี วท่ีดีนเขา แล้วอดขา้ วอดปลากระยาหาร

ถ้วนสามคนื สามวนั จะบันดาล ใหส้ าราญรอดตายสบายใจ
ฝา่ ยนางผีเสื้อสมุทรเมื่อกลับจากการอดอาหารสะเดาะเคราะห์ แล้วพบว่าประตูถ้าเปิดทิ้งอยู่
โดยไม่มีหินปิดปากถ้าไว้ และไม่พบท้ังพระอภัยมณีและสินสมุทร อีกท้ังไม่เห็นปีของพระอภัยมณี
กท็ ราบทันทีว่าพระอภัยมณีคงหนีนางไปแล้วฝ่ายสินสมุทรก็ฉลาดที่ใช้สติปัญญาในการลวงแม่ให้ตาม
ไปอีกทิศทางหนึง่ เพือ่ เปดิ โอกาสใหเ้ งือกพาพระอภัยมณีหนีได้อยา่ งปลอดภัย

-43-
-43-

การสรรคาของสุนทรภู่
นิทานคากลอนเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร ท่ีคัดมาให้นักเรียน

อ่าน แสดงให้เห็นความสามารถในการใช้คาของสุนทรภู่ว่าเลือกคาได้เหมาะแก่ตัวละคร ดังจะเห็นได้
จากบทบรรยายสภาพความใหญโ่ ตและนา่ กลัวของนางผีเสือ้ สมุทร กิริยาอาการที่เต็มไปดว้ ยพละกาลัง
ของนางที่เปรยี บได้ดงั กาลงั มหาศาลของปลาวาฬ หรือคาพดู ของนางท่ีกลา่ วแก่ตวั ละครต่างๆ

สุนทรภู่ให้ภาพนางผีเสื้อสมุทรท่ีอดอาหารจน “โซเซา” คืออดอยากจนไม่มีเรี่ยวแรงต้องนั่ง
จับเจ่าอยู่ตรงน้ัน เมื่อดรบ ๓ วันจึงหมดแรง คร้ันออกเดินก็ทรงตัวแทบจะไม่อยู่มีลักษณะ
“เซช้งชวนทรง” จนเดินไม่ตรงทาง เมื่อรู้วา่ เงือกพาพระอภัยมณีหนีไป นางผีเสือ้ สมุทรโกรธมาก นาง
ลุยทะเลเสียงดังโครมคราม และทุ่มกาลังท่ีมีอยู่อย่างเต็มท่ีจนทาให้มหาสมุทรแทบจะถล่มทลาย นาง
ทาลายทุกส่ิงที่ขวางหน้า จนกระท่ัง "ภเู ขาหักหินหลุดทรดุ สลาย"การเลือกใช้ดา "ทะม่ืน" เมื่อบรรยาย
ภาพนางผีเสื้อสมุทรท่ีติดตามพระอภัยมณีมาอย่างกระชั้นชิด สื่อความใหญ่โตและดามะเมื่อมของร่าง
นางผีเส้ือยักษ์ได้เป็นอย่างดี ส่วนคาว่า “ตีอกตูม” แสดงความรุนแรงของการตีอกเพราะความเสียใจ
อยา่ งยงิ่

คาพดู ของนางผเี สอ้ื สมุทรก็เป็นไปตามอารมณ์ของนาง เม่ือพูดกับพระอภัยมณซี ง่ึ เปน็ บุคคลท่ี
นางหลงรกั นางใช้คาพูดอ่อนหวาน แต่เม่อื พูดกับสินสมทุ รก็มีทง้ั ปลอบและข่มขู่ ส่วนเมื่อพูดกับพระ
ฤาษีแห่งเกาะแก้วพิสดารก็ใช้วาจาจาบจ้วงเพราะโกรธพระฤาษีที่ขวางทางรักของนาง ทาให้ผ้อู ่านเห็น
อารมณ์หลากหลายของนางยักษ์และเห็นว่านางรู้จักเลือกถอ้ ยคาท่ีจะพดู กับคนแต่ละคน คนไหนท่ีคิด
ว่าไม่มคี วามจาเปน็ ตอ้ งพดู ดดี ว้ ย นางก็จะใชว้ าจารุนแรงหรอื ตอ่ วา่ ต่อขานอยา่ งไม่เกรงใจ

เชน่ ในกรณีที่พดู กับพระฤาษีวา่ ซ่อติต่างๆ ไวเ้ ปน็ บริวาร กล่าวหาพระฤาษวี ่าคงบวชหนี
ราชการ และไม่นา่ จะเปน็ มิหนาซา้ ยังเขา้ มายุ่งกับเรอ่ื งสามีภรรยาของคนอื่น พรากสามีไปจากภรรยา
ทาใหไ้ ม่นา่ นบั ถือนางผีเส้ือสมุทรยังพูดจาระรานนางเงอื กเพราะหงึ หวงเกรงวา่ พระอภยั มณจี ะท้งิ
นางเงือก ดังในคากลอนตอ่ ไปน้ี

นางผีเส้อื เหลอื โกรธพิโรธรอ้ ง มาตง้ั ชอ่ งศีลจะมีอยทู่ ่ีไหน
ช่างเฉโกโยคีหนเี ขาใช้ ไม่อยู่ในศลี สตั ย์มาตัดรอน
เขาว่ากนั ผวั เมยี กบั แม่ลกู ยืน่ จมกู เข้ามาบ้างชว่ ยสง่ั สอน
แม้นคบคู่กูไว้มิใหน้ อน จะราญรอนรบเร้าเฝ้าตอแย
แล้วช้ีหนา้ คา่ องึ หึงนางเงอื ก ทาซบเสือกสอพลออตี อแหล
เห็นผัวรักยักคอทาท้อแท้ พอ่ กบั แม่มึงเขา้ ไปอยใู่ นท้อง
ทาป้นั เจอ๋ เย่อหย่งิ มาชงิ ผัว ระวงั ตวั มึงใหด้ ีอจี องหอง
พลางเขน่ เขยี้ วเคย้ี วกรามคารามร้อง เสียงกกึ ก้องโกลาลูกตาโพลง

คาพดู ของนางผีเสื้อสมุทรข้างต้นแสดงให้เหน็ วา่ นางไม่มีสัมมาคารวะ และพดู ตามอารมณโ์ ดย
ไม่ยงั้ คิดวา่ เหมาะสมหรือไม่

เหตุการณ์ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือสมุทร แม้จะเต็มไปด้วยเร่ืองราวร้ายๆ ที่ชวนให้
ระทึกใจว่าพระอภัยมณีจะหนีพันจากการติดตามของนางผีเส้ือสมุทรหรือไม่ แต่ก็มีบางตอนท่ีให้
อารมณ์ช่ืนบานแก่ผู้อ่าน เช่น ตอนพระอภัยมณีชมทะเล อันเป็นช่วงต้นของการเดินทางหนีจากนาง
ผีเสื้อสมุทร มีการพรรณนาปลาชนิดต่าง ๆ และให้ภาพปลาแต่ละชนิดที่ว่ายคลอกันอยู่เป็นคู่ ๆ หรือ

-44-
-44-

เป็นฝูงๆ ซ่ึงเป็นภาพที่น่รื่นรมย์ การใช้ดาพรรณนา เช่น “เคล่ือนคลาคล้ายคล้าย” “โบกหาง”
“เลี้ยวลอด” ส่ืออาการเคลื่อนไหวไปมาอย่างสวยงามของปลาชนิดต่างๆ คาว่า “ผุดพ่นฟองน้า”
“ดาจร” “วนเวียน” “เลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน” สื่อความเคล่ือนไหวและความมีชีวิตชีวาของปลา
ชนิดต่าง ๆ เหลา่ นไ้ี ดเ้ ปน็ อย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของบทพรรณนา สุนทรภู่ให้ภาพความรู้สึกท่ีตัดกันหรือขัดแย้งกับ
ความรู้สึกรื่นรมย์ในช่วงแรก โดยพรรณนาความกว้างใหญ่ของทะเลที่เว้ิงว้างสุดสายตา ทาให้คนท่ีอยู่
กลางท้องทะเลมีความรู้สึกอ้างว้างและหวาดหว่ันต่อภัยอันตรายท่ีอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ความรู้สึกนี้
ทวีข้ึนเมื่อต่ามืดมากย่ิงขึ้น ทาให้พระอภัยมณีต้องบอกเงือกให้หาที่พักแรมเพราะไม่อยากเส่ียงภัย
เดินทางในเวลากลางคืน

ในตอนนี้มีการเล่นเสียงพยัญชนะที่ท้ายวรรคกลอน เช่น “ถล่มทลาย” “เสลือกสลน”
“ถีบถอน” “นักหนา” “”ผายผนั ” “แห่งหน” “หลอนหลอก” และมีการใช้ภาพพจน์อยู่มากทาให้ได้
ความรู้สึกหรือเห็นภาพท่ีชัดเจน นอกจากน้ีมีการใช้ดาเลียนเสียงธรรมชาติต่างๆ เช่น “เสียงโครม
คราม” “ผางผาง” หรือใช้ดาให้ภาพ เช่น “พลางสะบัดโบกหางไปกลางคลื่น” และ “ออกกลางชล
โบกหางผางผางไป” ซึ่งให้ภาพของการวาดหางไปในท้องทะเลอย่างสวยงามและการว่ายน้าอย่างเร่ง
รีบของเงอื กไดอ้ ยา่ งชัดเจน

ดว้ ยข้อดีเด่นต่าง ๆ ดังได้กล่าวมานี้ ผ้อู ่านผู้ฟังนิทานคากลอนเร่อื งพระอภัยมณี จึงนิยมอ่าน
นิยมฟังสืบต่อกันมาตราบทุกวันน้ี ด้วยเหตุนี้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ
จึงทรงยกย่องเร่ืองพระอภัยมณีของสุนทรภู่ว่า “เป็นหนังสือเร่ืองยาวแต่งดีทั้งกลอนท้ังความคิด
ท่ผี กู เร่อื ง”

จากหนงั สือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวจิ กั ษ์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ หนา้ ๔๘ - ๕๕

-45-
-45-

ใบงาน
“ตอบได้ใหเ้ ลย”

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี.
๑. สินสมทุ รมลี กั ษณะรปู ร่างหนา้ ตาเปน็ อย่างไร
............................................................................................................................. ............................
....................................................................................................................... ..................................
............................................................................................................................... ..........................
.......................................................................................................................................... ...............
๒. นกั เรียนคดิ วา่ พระอภัยมณีมคี ุณธรรมใดทโี่ ดดเด่นมากท่ีสดุ
............................................................................................................................. ............................
....................................................................................................... ..................................................
๓. “ดูรปู ร่างอยา่ งเปรตสมเพชใจ ชา่ งกระไรราศีไม่มงี าม” จากข้อความข้างตน้ ใครพดู ถึงใคร
.................................................................................................................... .....................................
................................................................................................................................ .........................
๔. เพราะเหตุใดเมื่อสนิ สมุทรเห็นร่างจริงของแมจ่ งึ หวาดกลัวอยา่ งมาก
........................................................................................................................... ..............................
.........................................................................................................................................................
......................................................................................................... ................................................
.........................................................................................................................................................
........................................................................................................... ..............................................
๕. อะไรเป็นหลักฐานชิ้นสาคัญที่ทาใหน้ างผเี สื้อสมุทรรวู้ ่าพระอภัยมณีได้หนไี ปแลว้
......................................................................................................... ................................................
.......................................................................................................... ...............................................
...................................................................................................... ...................................................
6. เงอื กเฒา่ สองผวั เมียมีคณุ ธรรมที่น่ายกย่องในเรือ่ งใด
......................................................................................................... ................................................
.......................................................................................................... ...............................................
............................................................................................. ............................................................

-46-
-46-

7. ใครเป็นคนช่วยเหลอื พระอภัยมณีและเงือกสาวใหร้ อดพ้นจากนางผเี สอ้ื
......................................................................................................... ................................................
.......................................................................................................... ...............................................
.........................................................................................................................................................
8. เหตุการณ์ตอนใดทีแ่ สดงให้เหน็ ถึงความมสี ติปัญญาของเงอื กเฒ่า ยกตัวอยา่ งมา ๑ ตอน
............................................................................................ .............................................................
.......................................................................................................... ...............................................
.........................................................................................................................................................
9. พระฤาษีแหง่ เกาะแก้วพสิ ดารทาอย่างไรนางผีเสื้อสมุทรจึงหนีไป
................................................................................. ........................................................................
.......................................................................................................... ...............................................
.........................................................................................................................................................
๑0. เพราะเหตใุ ดพระฤาษจี งึ โกรธนางผเี สอ้ื สมทุ ร
...................................................................................... ...................................................................
.......................................................................................................... ...............................................
........................................................................................................... ..............................................

-47-
-47-

(เฉลย) ใบงาน
ตอบไดใ้ ห้เลย

คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี

๑. สนิ สมทุ รมลี กั ษณะรปู ร่างหนา้ ตาเป็นอย่างไร
แนวคาตอบ มีหน้าตาเป็นมนุษย์เหมือนพระอภัยมณี แต่มีดวงตาเป็นสีแดง มีเขี้ยวและมี

กาลังมากราวชา้ งสารเหมือนนางผีเสอื้ สมุทร
๒. นักเรียนคิดวา่ พระอภัยมณีมีคุณธรรมใดที่โดดเด่นมากท่สี ุด

แนวคาตอบ คณุ ธรรมที่โดดเดน่ ของพระอภัยมณี คือความเสียสละ ยอมเสียสละชวี ิตตนเอง
เพ่ือความอยู่รอดของผู้อื่น เช่น ตอนที่เงือกเฒ่ากล่าวกับพระอภัยมณีว่านางผีเส้ือสมุทรรู้ว่า
พระอภัยมณีหนี และอีกไม่นานคงจะตามมาทัน และทุกคนคงจะไม่รอดชีวิต พระอภัยมณีได้ขอให้
เงอื กเฒา่ ส่งพระองคไ์ วท้ ี่เกาะ แพละให้ทุกคนรบี หนไี ป
๓. “ ดรู ปู รา่ งอยา่ งเปรตสมเพชใจ ช่างกระไรราศีไม่มีงาม ” จากข้อความขา้ งต้นใครพดู ถงึ ใคร

คาตอบ สินสมทุ รพดู ถึงแม่ (นางผีเส้อื สมุทร)
๔. เพราะเหตุใดเม่ือสินสมทุ รเห็นรา่ งจริงของแมจ่ งึ หวาดกลัวอยา่ งมาก

แนวคาตอบ เพราะสินสมุทรไม่เคยเห็นร่างแท้จริงของแม่มาก่อน เม่ืออยู่ในถ้าเคยชินรูปร่าง
หน้าตาที่งดงามอย่างมนุษย์ของนางผีเสื้อสมุทรผูเ้ ป็นแม่ ที่แปลงร่างไม่ให้พระอภัยมณีหวาดกลัว เมื่อ
เห็นร่างแท้จริงของมาจึงตกใจกลัว
๕. อะไรเปน็ หลักฐานช้ินสาคญั ที่ทาใหน้ างผีเส้ือสมุทรรู้วา่ พระอภัยมณีไดห้ นีไปแลว้

คาตอบ ป่ี พระอภยั มณหี ายไป
๖. เงือกเฒา่ สองผัวเมียมีคณุ ธรรมที่นา่ ยกยอ่ งในเร่ืองใด

แนวคาตอบ ความเสียสละ เช่นตอนท่ีเงือกเฒ่าสองผัวเมียรู้ว่าจะไม่รอกจากนางผีเสื้อสมุทร
ท้ังคู่ก็แสดงน้าใจด้วยการสละชีวิตของตนเพื่อหลอกล่อนางผีเส้ือให้ติดตามไปอีกทางหน่ึง เพื่อให้ลูก
สาวพาพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรไปได้อย่างปลอดภัยแต่ในที่สุดนางผีเส้ือสมุทรก็รู้ความจริ งจึง
ถกู จับกนิ เป็นอาหาร ฯลฯ ตามดุลยพนิ จิ ครุผู้สอน
๗. ใครเปน็ คนชว่ ยเหลอื พระอภยั มณีและเงอื กสาวใหร้ อดพ้อนจากนางผีเส้ือ

คาตอบ พระฤาษี /พระโยคี
๘. เหตการณต์ อนใดท่แี สดงให้เหน็ ถึงความมสี ตปิ ัญญาของเงอื กเฒา่ ยกตัวอย่างมา ๑ ตอน

แนวคาตอบ - ตอนท่เี งอื กเฒ่าวางอุบายให่นางผเี สอ้ื ถือศลี อดอาหารเพ่ือไม่มแี รง
ตามพระอภยั มณี

- ตอนวางแผนการเดินทาง ก่อนเดินทางไม่ประมาท ประมาณกาลงั ของ
ตนในการเดินทางและรอบรู้สภาพภมู ิศาสตร์
- ตอนเงอื กเฒ่าหลอกล่อนางผเี สอ้ื สมทุ รใหต้ ามพระอภยั มณีไปอกี ทาง เพื่อให้
ลูกสาวเงือกพาพระอภยั มณีหนไี ด้สะดวก

-48-
-48-

๙. พระฤาษีแหง่ เกาะแก้วพิสดารทาอยา่ งไรนางผเี ส้ือสมุทรจงึ หนไี ป
คาตอบ พระฤาษีซดั ทรายเสกคาถาใส่นางผีเสอื้ สมุทรจนหนีไป

๑๐. เพราะเหตุใดพระฤาษจี งึ โกรธนางผเี สือ้ สมทุ ร
แนวคาตอบ เพราะนางผเี ส้อื สมุทรบริภาษ (ด่า) พระฤาษดี ้วยถอ้ ยคาท่รี นุ แรง เชน่ บวชหนี

ราชการ /ไม่ถือศลี /ยุ่งเร่ืองสามีภรรยาคนอน่ื /พรากสามีไปจากภรรยาไมน่ ่านับถอื

-49-
-49-

-50- หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ สรา้ งสรรคส์ ารพรอ้ ม แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๗ เวลา ๑ ช่ัวโมง
กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย เรอ่ื ง ภาษาในวรรณคดี (๑) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด รายวชิ าภาษาไทย ๕ แหล่งเรียนรู้
หอ้ งสมดุ
เน้ือเรอ่ื งพระอภัยมณี เฉพาะตอนทศ่ี ึกษาน้ี กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื
เปน็ เหตกุ ารณ์ตอนต้นเรื่องที่นางผเี ส้อื สมทุ รพบพระ ขัน้ นา 1. ใบความรู้ “นทิ านคากลอน เร่อื ง
อภัยมณีจนถึงเหตกุ ารณ์เงือกเฒ่าวางแผนหนีให้พระ พระอภยั มณี ตอนพระอภัยมณหี นีนาง
อภัยมณี เปน็ เนื้อหาสว่ นสาคัญของเรื่องทจ่ี ะนาไปสู่ ๑. นักเรยี นสนทนากับครู ในหวั ขอ้ “ความรกั ทาให้คน ผีเสื้อสมทุ ร”
ความสนกุ สนานตามลักษณะของนิทาน ตาบอด” จริงหรือไม่ 2. ใบงาน “สรุปความรพู้ ระอภัยมณี”
จุดประสงค์การเรียนรู้ ภาระ/ช้ินงาน
ด้านความรู้ ๒. ครเู ชอ่ื มโยงเข้าสู่บทเรียนวา่ “เมื่อเขา้ ส่เู นอ้ื เรื่อง การทาใบงาน “สรุปความรู้
นักเรยี นลองมาดวู า่ จากที่พวกเราได้แสดงความคดิ เห็นนัน้ พระอภัยมณ”ี
1. อธิบายเรื่องพระอภัยมณตี อนพระอภยั มณี ตวั ละครในเรอื่ งมีพฤติกรรม ทรี่ กั จนทาใหต้ าบอดหรือไม่” การวัดและประเมินผล
หนนี างผีเส้อื สมุทรในตอนท่ีเรียน แบบประเมินการทางานกลมุ่
แนวคาตอบ
2. อธิบายความหมายของคาศัพทย์ าก ตัวละครท่ีมีพฤติกรรมรกั จนตาบอด คือ นางผเี สอื้ สมทุ ร
ด้านทกั ษะกระบวนการ ทร่ี กั พระอภยั มณขี ้างเดียว ความรักทาใหน้ างทาผดิ
ศลี ธรรมไดห้ ลายตอน ดังนี้ ตอนที่นางเห็นพระอภยั
อา่ นแปลความและจบั ใจความสาคญั จากคา ครง้ั แรกกต็ กหลมุ รกั จบั พระอภยั มณมี าขงั ไว้ในถ้า, ตอนที่
ประพันธเ์ ร่อื งพระอภัยมณตี อนหนนี างผเี สือ้ สมุทร นางผเี ส้อื สมุทรรู้ความจรงิ วา่ สนิ สมทุ รหลอกตนเอง
เพือ่ ให้พระอภัยมณหี นีไป ก็คิดจะจบั หกั คอ และตอนท่ี
นางผเี ส้อื สมุทรโกรธพระฤาษที ีช่ ่วยพระอภยั มณกี บั นาง

-50-

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ สร้างสรรคส์ ารพรอ้ ม แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๗ เวลา ๑ ช่วั โมง
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เร่ือง ภาษาในวรรณคดี (๑) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี
๓ รายวิชาภาษาไทย ๕
ดา้ นสมรรถนะ
เงอื กจึ่งบรภิ าษตอ่ วา่ ดว้ ยถ้อยคาทร่ี นุ แรงไมก่ ลวั บาปกรรม
๑. การส่อื สาร
๒. การคิดขั้นสูง ขน้ั สอน
3. นักเรยี นศึกษาคาศัพทแ์ ละเนื้อเรื่องจากใบความรู้
-51-
“นทิ านคากลอน เรื่องพระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณีหนีนาง
ผเี สื้อสมทุ ร”

4. ครสู มุ่ นกั เรยี นจานวน ๑๐ คน อธิบายคาศัพท์ยาก
ทป่ี รากฎในคาประพนั ธ์ คนละ ๑ คาศัพท์ ดงั น้ี

- ธามรงคท์ รงมาค่าบรุ ี หมายถึง แหวนทพ่ี ระอภัยมณี
ใส่มีค่ามากคู่ควรกับเมอื ง
- เพลงศาสตรา หมายถึง เพลงอาวุธ
- ผนดิ หมายถงึ ปิดแนน่
- สาชล หมายถงึ สายนา้
- ถอื เพทไสย หมายถงึ เข่ียวชาญเรอื่ งเวทย์มนต์
คาถา
- นางมารจะนานมา หมายถงึ อีกไมน่ านนางผเี ส้ือ
สมุทรจะมา
- เลิกศลิ า หมายถึง ยกหินขนึ้

-51-

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ สรา้ งสรรคส์ ารพรอ้ ม แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ เวลา ๑ ช่ัวโมง
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย เรอ่ื ง ภาษาในวรรณคดี (๑) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓

-52- รายวิชาภาษาไทย ๕
- มะซาง หมายถึง ผลไมช้ นดิ หนงึ่ ผลขนาด
ลูกหมากดิบ สเี ขียว มยี างมาก รสหวานเยน็
- ทารกั หมายถงึ ทาเปน็ รกั ใคร่ คือพระอภัยมณี
แกลง้ ทาเป็นรักนางผีเสอ้ื สมทุ ร
- ภูเขาหลวง หมายถึง ภูเขาใหญ่
ขน้ั สอน (ตอ่ )
5. ครูใหผ้ ้เู รียนแบ่งกล่มุ โดยนับเลข ๑ ถึง ๕ จนครบ
และให้ผู้เรยี นเข้ากล่มุ ตามท่ผี ้เู รียนนับ
6. ครูอธิบายหลกั การถอดคาประพันธโ์ ดยตดิ แผ่นป้าย
ข้อความหลักการถอดคาประพันธ์บนกระดาน ดงั นี้

-52-

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สร้างสรรค์สารพร้อม แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๗ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย เร่อื ง ภาษาในวรรณคดี (๑) ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓

-53- รายวิชาภาษาไทย ๕
- อ่านคาประพันธ์ใหจ้ บ
- คาศัพท์ต้องหาคาสามัญทม่ี ีความหมายตรงกนั มาแทน
- ถอดคาประพันธ์ให้ตรงกับคาประพันธ์
- เรียงลาดับตามเนือเร่ือง อย่าสลบั
- ถอดคาประพนั ธ์เสรจ็ อ่านตรวจทาน ปรบั แกไ้ ขสานวน
ให้สละสลวย

7. แบง่ กลุ่มนักเรยี น ดังนี้
กลุ่มท่ี ๑ ต้ังแต่บท “จะกลา่ วกลับจบั ความไปตาม

เรือ่ ง” จนถงึ “กินสาราญร่ืนเรงิ บนั เทงิ ใจ” จากใบความรู้
กลุ่มที่ ๒ ต้งั แต่ “ฝ่ายกุมารสินสมุทรสดุ สวาท” จนถงึ

“ไม่พอทช่ี วี นั จะบรรลัย” จากใบความรู้
กล่มุ ท่ี ๓ ตง้ั แต่ “สินสมุทรกุมารชาญฉลาด”

จนถงึ “ท่สี ิ่งมจี ะเอามาสารพัน” จากใบความรู้

-53-

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ สร้างสรรค์สารพร้อม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรอื่ ง ภาษาในวรรณคดี (๑) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓

-54- รายวิชาภาษาไทย ๕
กลมุ่ ที่ ๔ ตง้ั แต่ “พระฟังเงือกพูดไดใ้ ห้สงสาร”
จนถงึ “ไปหาดทรายหาข้าจะมาฟงั ” จากใบความรู้
กลมุ่ ท่ี ๕ ตง้ั แต่ “ฝา่ ยผเี สื้อเม่ือขนึ้ จากฝง่ั นา้ ”
จนถึง “จะมาถ้าเทยี่ วหาพฤกษาหาร” จากใบความรู้
8. นกั เรยี นเขียนสรปุ ความรลู้ งใบงาน “สรุปความรู้
เรือ่ ง พระอภยั มณี”
9. ครสู ุม่ เลอื กงานการเขียนถอดคาประพนั ธข์ อง
นักเรียน ๑ กลุ่ม เพื่อนาเสนอเป็นตวั อย่างใหเ้ พื่อนร่วมช้นั ฟัง
ขน้ั สรปุ
นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความร้แู ละขอ้ คิดท่ีได้จากคา
ประพันธ์

-54-

ใบความรู้
“นิทานคากลอนเร่อื งพระอภัยมณี
ตอนพระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือสมุทร”

จะกลา่ วกลบั จบั ความไปตามเรอื่ ง ถงึ บาทเบ้ืองปรเมศพระเชษฐา
องค์อภยั มณีศรีโสภา ตกยากอยูค่ หู ามาชา้ นาน
กับดว้ ยนางอสรุ ีนรี มิต เปน็ คู่ชิดเชยชมสมสมาน
ตอ้ งรกั ใครไ่ ปตามยามกันดาร จนนางมารมีบุตรบรุ ุษชาย
ไม่คลาดเคล่อื นเหมือนองค์พระทรงเดช แตด่ วงเนตรแดงดดู ังสรุ ิย์ฉาย
ทรงกาลงั ดังพระยาคชาพลาย มเี ขีย้ วคลา้ ยชนนีมศี ักดา
พระบติ รุ งค์ทรงศกั ดิ์กร็ กั ใคร่ ด้วยเน้ือไขมไิ ด้คดิ รษิ ยา
เฝ้าเล้ยี งลกู ผูกเปลแล้วเหช่ ้า จนใหญก่ ล้าอายุได้แปดปี
จึงใหน้ ามตามอย่างขา้ งมนุษย์ ช่ือสนิ สมุทรกมุ ารชาญชยั ศรี
ธามรงคท์ รงมาค่าบรุ ี พระภมู ีถอดผูกใหล้ ูกยา
เจียระบาดคาดองคก์ ็ทรงเปลื้อง ให้เปน็ เครื่องนุ่งหม่ โอรสา
สอนให้เจ้าเปา่ ปี่มวี ิชา เพลงศาสตราสารพดั หัดชานาญ
วนั หนึ่งนางอสรุ ผี เี ส้ือนา้ ออกจากถา้ เท่ยี วหาภักษาหาร
จับกระโห้โลมากุมภาพาล กินสาราญรน่ื เรงิ บันเทิงใจ
ไมห่ า่ งบาทบิดาอชั ฌาสยั
ฝ่ายกุมารสนิ สมุทรสดุ สวาท ดว้ ยมิไดข้ ู่เข็ญเช่นมารดา
ความรกั พ่อย่ิงกว่าแม่มาแต่ไร หนไี ปวง่ิ เลน่ อยใู่ นคหู า
เหน็ ทรงธรรม์บรรทมสนทิ นง่ิ เหน็ แผน่ ผาพิงผนิดปดิ หนทาง
โลดลาพองลองเชงิ ละเลิงมา เข้าลองผลักดว้ ยกาลงั ก็พังผาง
หนักหรอื เบาเยาว์อยไู่ ม่ร้จู กั ทะเลกว้างขา้ งขวาล้วนป่าดง
เห็นหาดทรายพรายงามเปน็ เงินราง
พระกุมารเพลินจติ พศิ วง
ไมเ่ คยเห็นเป็นน่าสนุกสนาน แล้วโดดลงเล่นมหาชลาลัย
ออกวง่ิ เตน้ เลน่ ทรายสบายองค์ ดาไม่ผุดเลยท้ังวนั กก็ ลั้นได้
ดว้ ยหนอ่ นาถชาติเชือ้ ผีเส้ือสมทุ ร เทย่ี วเล้ียวไลข่ ป่ี ลาในสาชล
ยิ่งถกู น้ากาลงั ยงิ่ เกรียงไกร ลอดออกตามซกี เหงอื เสลือกสลน
ระลอกซดั พลัดเขา้ ในปากฉลาม คิดว่าคนมหี างเหมือนอย่างปลา
เหน็ ฝงู เงือกเกลอื กกลิง้ มากลางชล

-55-
-55-

ครน้ั ถามไถ่ไม่พูดก็โผนจบั ดกู ลอกกลบั กลางน้าปลา้ มจั ฉา
คร้นั จับได้ให้ระแวงแคลงวิญญาณ์ เช่นนป้ี ลาหรืออะไรจะใคร่รู้
ฉดุ กระชากลากหางขึน้ กลางหาด แลประหลาดลักษณามีตาหู
จะเอาไปให้พระบิดาดู แลว้ ลากลู่เขา้ ในถ้าด้วยกาลัง
ถึงหุบหอ้ งร้องบอกบิตุเรศ พระลมื เนตรเหลยี วหาท้ังหนา้ หลงั
เหน็ ลูกลากเงือกน้าแต่ลาพัง จากบลั ลงั ก์มาหา้ มแลว้ ถามไป
เมอื่ กี้เหน็ เล่นอยใู่ นคหู า เงือกนีเ้ จา้ เอามาแต่ขา้ งไหน
พระลกู เล่าตามจรงิ ทุกส่ิงไป พระตกใจจึงวา่ ดว้ ยปรานี
แม้นแมเ่ จา้ เขารู้วา่ แรงนัก กลัวจะลักลอบพาบิดาหนี
จะโกรธเกร้ยี วเค้ียวเลน่ เปน็ ธุลี ไมพ่ อทชี่ วี ันจะบรรลยั
สินสมุทรกมุ ารชาญฉลาด ฟังพระบาทบิตุรงค์ให้สงสัย
จึงทลู ถามความจรงิ ด้วยกรง่ิ ใจ เหตไุ ฉนจงึ จะเปน็ ไปเชน่ น้นั
คิดถงึ ยากยามวโิ ยคยิ่งโศกศลั ย์
พระฟังคาน้าเนตรลงพรากพราก จนพากันมาบรรทมทร่ี ่มไทร
แถลงเล่าลกู ยาสารพนั ขึน้ ไปฉุดฉวยบดิ าลงมาได้
แมข่ องเจา้ เขาเป็นเชื้อผีเสือ้ สมทุ ร จนเจา้ ได้แปดปเี ขา้ น่แี ลว้
จึงกาเนดิ เกิดกายสายสุดใจ ตายหรือเปน็ ว่าไม่ถกู เลยลูกแก้ว
ไปเปดิ ประตคู ูหาถ้าเขาเห็น ไม่รอดแล้วบิตุรงค์ก็คงตาย
แมน้ สินสมทุ รสดุ สวาทพ่อคลาดแคล้ว ราคาญคิดเสียใจมใิ คร่หาย
พระโอรสรู้แจ้งไม่แคลงจิต กฟ็ ูมฟายชลนาโศกาลัย
ด้วยแม่กลบั อัปลักษณ์เปน็ ยักษ์ร้าย กิตติศัพทส์ องแจง้ แถลงไข
ฝ่ายเงอื กน้านอนกลิ้งน่ิงสดับ จะกราบไหว้วอนว่าใหป้ รานี
รภู้ าษามนษุ ย์แน่ในใจ ยังมนึ เหน็บนอ้ มประณตบทศรี
ค่อยเขย้ือนเล่ือนลกุ ขึ้นท้ังเจ็บ ข้าขอชวี ติ ไว้อยา่ ให้ตาย
พระผา่ นเกลา้ เจ้าฟา้ ในธาตรี ดังหนงั เน้อื น้จี ะแยกแตกสลาย
พระราชบตุ รฉดุ ลากลาบากเหลือ ยังแต่กายเกือบจะด้ินสิ้นชวี ัน
ทงั้ ลกู เต้าเผา่ พงศ์กพ็ ลดั พราย เศร้าพระทยั ทุกขต์ รอมเหมอื นหมอ่ มฉนั ขอ
พระองคเ์ ล่าเขาก็พาเอามาไว้ ช่วยผ่อนผันให้ตลอดรอดชวี า
พระองคจ์ งโปรดแกโ้ ทษทัณฑ์ ใหโ้ อรสยกต้ังบังคหู า
ซ่งึ ปากถ้าทาลายลงเสยี หมด จะอาสาเกลี่ยทรายเสียใหด้ ี
ข้าเห็นอย่างนางมารจะนานมา ขอรองบาทบงกชบทศรี
หนึ่งพวกพ้องของข้าคณาญาติ ทส่ี ิง่ มจี ะเอามาสารพนั
แม้นประสงคส์ งิ่ ไรในนที

-56-

-56-

พระฟังเงือกพูดไดใ้ หส้ งสาร จึงว่าทา่ นคิดนด้ี ีขยนั
รเู้ จรจาสารพัดน่าอัศจรรย์ อยูพ่ ูดกันอีกสักหน่อยจึงค่อยไป
เราตรองตรึกนึกจะหนนี างผเี สือ้ แตใ่ ตเ้ หนอื ไม่รแู้ ห่งตาแหน่งไหน
ท่านเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ทากระไรจงึ จะพ้นทนทรมาน
ฝา่ ยเงือกนา้ คานบั อภวิ าท ขา้ พระบาททราบสน้ิ ทกุ ถ่ินฐาน
อนั น้านี้มนี ามตามบรุ าณ อโนมานเคียงกันสที ันดร
เปน็ เขตแคว้นแดนท่นี างผเี ส้ือ ข้างฝ่ายเหนอื ถึงมหิงษะสงิ ขร
ขา้ งทิศใต้ไปจนเกาะแก้วมังกร หนทางจรเจ็ดเดอื นไมเ่ คล่ือนคล
ไปกลางยา่ นบ้านเรือนหามไี ม่ สมุทรไทซึ้งซึกลึกนักหนา
แต่สาเภาชาวเกาะเมืองลงั กา เขาแล่นมามีบ้างอยู่ลางปี
ถ้าเสยี เรือเหลอื คนแลว้ นางเงือก ขนึ้ มาเลือกเอาไปชมประสมศรี
เหมอื นพวกพ้องของข้ารพู้ าที ด้วยเดมิ ทีปู่ยา่ เปน็ มานษุ ย์
อายขุ ้าหา้ ร้อยแปดสบิ เศษ จึงแจง้ เหตแุ ถวทางกลางสมุทร
แม้นจะหนผี ีเสื้อดว้ ยแรงรทุ ร เหน็ ไม่สดุ สนิ้ แดนด้วยแสนไกล
แต่โยคมี ีมนตร์อยตู่ นหนง่ึ อายุถงึ พันเศษถือเพทไสย
อยู่เกาะแก้วพสิ ดารสาราญใจ กินลูกไมเ้ ผือกมันเป็นพรรณผลา
พวกเรือแตกแขกฝรง่ั แลอังกฤษ ขึ้นเปน็ ศษิ ย์อยสู่ านกั นัน้ หนักหนา
ด้วยโยคีมีมนตรด์ ลวิชา ปราบบรรดาภูตพรายไม่กรายไป
แมน้ พระองค์ทรงฤทธจ์ิ ะคิดหนี ถึงโยคเี ข้าสานักไมต่ กั ษยั
เผอ่ื สาเภาเขาซัดพลัดเข้าไป กจ็ ะไดโ้ ดยสารไปบ้านเมือง
แต่ทางไกลไม่นอ้ ยถึงร้อยโยชน์ ล้วนเขาโขดคริ รี ตั น์ขนดั เนื่อง
กลางคงคาสารพัดจะขดั เคือง จงทราบเบ้อื งบงกชบทมาลย์
แม้กาลังดังขา้ จะพาหนี เจ็ดราตรเี จียวจงึ จะถึงสถาน
อสุรมี กี าลังดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวนั จะทันตัว
ถา้ แก้ไขใหน้ างไปคา้ งปา่ ไดล้ ่วงหนา้ ไปเสียบา้ งจะยงั ชวั่
จะอาสาพาไปมิได้กลวั ชีวติ ตวั บรรลยั ไมเ่ สียดาย
แต่พระองคท์ รงคดิ ให้รอบคอบ ถ้าเหน็ ชอบทว่ งทีจะหนีหาย
จงึ โปรดใช้ให้องค์พระลูกชาย ไปหาดทรายหาข้าจะมาฟัง
พระแจ้งความตามคาเงอื กน้าเลา่ คอ่ ยบรรเทาทกุ ขส์ มอารมณ์หวัง
จงึ ว่าพม่ี ีคุณน้องสกั ครัง้ ใหไ้ ด้ดงั ถ้อยคาท่รี าพนั
ซ่ึงลกู รกั หักหาญใหท้ ่านโกรธ จงงดโทษทาคุณอย่าหุนหัน
ชว่ ยไปปิดปากถ้าท่สี าคญั จวนสายัณห์ยักษ์มาจะวา่ เรา

-57-

-57-

จึงบญั ชาวา่ เจ้าสินสมุทร ไปช่วยฉุดศิลาใหญ่ขึน้ ใหเ้ ขา
ขอสมาตาปู่อยา่ ดูเบา ช่วยอ้มุ เอาแกออกไปให้สบาย
กบั ลกู น้อยคอ่ ยพยุงจงู เงอื กน้า มาปากถา้ แลเห็นวนชลสาย
หวนราลกึ ตรึกตรองถงึ น้องชาย พระฟูมฟายชลนาดว้ ยอาลัย
แล้วให้ลูกเลกิ ศิลาเข้ามาปิด เห็นมดิ ชดิ มั่นคงไม่สงสยั
พระกลับมาตาเงือกเสอื กลงไป ลงท่ีในวงั วนชลธาร
ฝา่ ยผเี สอ้ื เมอ่ื ข้ึนจากฝ่ังนา้ จะมาถ้าเทยี่ วหาพฤกษาหาร
เก็บลกู ไม้ใสห่ ่อเห็นพอการ ทั้งเปรย้ี วหวานสารพดั แล้วลดั มา
เหน็ หนิ ปดิ เปดิ ประตูคหู ากว้าง นิมิตอย่างนางมนุษยเ์ สนหา
วรพกั ตร์นารีศรีโสภา ลลี ามาเขา้ ในห้องเห็นสององค์
วางลูกไม้ในห่อใหล้ ูกผวั ท้องของตัวเต็มท้องไม่ต้องประสงค์
พระทรงเลอื กลูกมะซางปรางมะยง ประทานองคโ์ อรสสู้อดออม
คร้นั พลบคา่ ทารักนางยักษร์ ้าย ประคองกายกอดแอบแนบถนอม
ช่ืนแตห่ น้าอารมณน์ ้ันกรมกรอม แต่คดิ อ่านหว่านล้อมจะล่อลวง
ไมเ่ หน็ ชอ่ งตรองตรึกนกึ วิตก ทกุ ขใ์ นอกนั้นสกั เทา่ ภเู ขาหลวง
พระกอดลูกน้อยประทบั ไว้กับทรวง ให้เหงางว่ งงีบหลบั ระงับไป
แต่พลิกตัวกลงิ้ กลับไม่หลบั ใหล
ฝา่ ยผีเส้อื เม่อื จะจากพรากลูกผัว จนเสียงไกแ่ กว้ ขนั สนน่ั เนนิ
ให้หมกม่นุ ขุ่นคลา้ ในน้าใจ

(ยงั มเี น้ือหาตอ่ )

พระสนุ ทรโวหาร (ภู่)
จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย วรรณคดวี จิ ักษ์

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ หน้า ๕๖ - ๕๙

-58-
-58-

กระโจมโจน คาอธิบายศพั ท์และข้อความ
กลน้ั โถมและพงุ่ เข้าใส่เตม็ กาลงั
กาก ในทน่ี ้หี มายความว่า กล้นั หายใจ
กจิ กรม สิง่ ทเี่ หลอื เมื่อคนั้ หรือคดั เอาส่วนดีออกไปแล้ว “รูปก็กาก”
มคี วามหมายว่า รูปรา่ งไมเ่ หลือสิง่ ดไี วเ้ ลย
เกยี น งานท่รี วมกาลงั ไพร่พลของแผ่นดนิ ตามลกั ษณะปกครอง
ขุนไศล สมยั โบราณ เพ่อื ประโยชนใ์ นเวลาเกดิ ศกึ สงครามจะไดเ้ รียก
คลา้ ยคลา้ ย ระดมคนไดท้ นั ทว่ งที ในท่นี ้ีพระฤาษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร
เจา้ ฟ้าในธาตรี ตอบโตน้ างผีเสอื้ สมุทรทีก่ ล่าวหาว่าพระฤาษที าผิด “กิจกรรม”
เฉโก คือซ่องสมุ ผ้คู นไวบ้ นเกาะ
ชักหลงั เป็นคาภาษาเขมร แปลว่า ข้างๆ ใกล้เคียง
ชวี งั ในความวา่ “เหมือนเล่นไลต่ ามละเมาะทุกเกาะเกียน”
ซอ่ ง ภูเขาใหญ่
ซง้ึ ซกึ เคลือ่ นไหวไปเรื่อย ๆ
ตรีชา เจา้ แผ่นดิน ในทน่ี ้ีหมายถึง พระอภยั มณี
ตะโกรง ฉลาดแกมโกง ไม่ตรงไปตรงมา
ตัดษยั ถอยหลงั หนี
ถือเพทไสย แผลงมาจากคาว่า “ชีวา” เพ่ือให้สมั ผัสกบั คาวา่ “หลัง”
แหลง่ มวั่ สุมหรอื ชุมนมุ กันอย่างลบั ๆ
ทะมื่น ในความว่า “มาตั้งซอ่ งศลี จะมีอยทู่ ีไหน”
เป็นคาซ้อน หมายถึง ลึกมาก
ตาหนิ กลา่ วโทษ
ทะเยอทะยาน อยากได้ เต็มไปดว้ ยความอยาก ตะกลาม
คือ ตักษยั มาจากคาเต็มวา่ ชีวติ ตักษัย หมายถึง การสนิ้ ชีวิต
สุนทรภ่ดู ัดแปลงคานเ้ี ป็น ตดั ษัย เพือ่ ใหส้ มั ผัสกับคาวา่
“ประดิพทั ธ์” ในความว่า “จะรองบาทประดพิ ัทธ์จนตดั ษัย”
ถือไสยเวท คือ เชย่ี วชาญเรือ่ งเวทมนตรค์ าถา คาว่า “เพท”
ในที่นี้คือคาวา่ “เวท” หมายถงึ ถอ้ ยคาศักดสิ์ ิทธิ์ทผ่ี ูกขึ้นเปน็
มนตร์หรอื คาถาอาคมที่สามารถใช้เพ่ือให้ร้ายหรอื ดีได้ หรอื
ใช้ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ตามคติไสยศาสตร์
มลี กั ษณะสูงใหญ่และดามดื อยา่ งนา่ กลวั เปน็ คาเดยี วกนั กับ
คาวา่ “ทะมนึ ” มักใชค้ ู้กับคาวา่ “ดา” เปน็ “ดาทะมนึ

-59-

-59-

ทาไขหู ทาเปน็ ว่าไม่ไดย้ นิ
ทารัก ทาเปน็ รักใคร่ คือ พระอภยั มณแี กล้งทาเป็นรกั ใคร่
ธามรงค์ทรงมาคา่ บรุ ี นางผเี สอ้ื สมทุ ร
นางมารจะนานมา แหวนทพ่ี ระอภัยมณสี วมนิ้วมีคา่ ควรเมือง หมายความวา่
บัลลงั ก์ มีคา่ มากคู่ควรกับเมือง
บากบ่นั อกี นานกวา่ นางผเี ส้ือสมุทรจะกลบั มา
ในที่น้ีหมายถึง แทน่ หินที่ใช้เป็นทน่ี งั่ หรอื ท่นี อน
ปราย ในท่ีนหี้ มายถึง ตัดรอน ในความวา่
ปล้า “ประทานโทษโปรดเลีย้ งแตเ่ พยี งนัน้ อยา่ บากบ่ันความ
เปราะ รกั น้องนักเลย” บา่ ยเบย่ี ง ในทีน่ ้หี มายถึง เวลาบา่ ยคล้อย
ซัด หวา่ น สาดใหก้ ระจายออกไป
ผนิด สู้ ตอ่ สู้ “ปลา้ มจั ฉา” มีความหมายว่า สู้กบั ปลา
พะเนนิ ในที่นห้ี มายถึง สูก้ ับเงือก
พิษฐาน ใช้ในคาว่า “ปากเปราะ” หมายถึง พดู วา่ คนง่ายๆ โดย
ไม่ยัง้ คิดหรอื ไตร่ตรอง ในความวา่ “รูปกก็ ากปากก็เปราะ
เพลงศาสตรา ไมเ่ หมาะเหมง็ ”
ภูเขาหลวง ปดิ แน่น
มะซาง คอ้ นขนาดใหญท่ ี่ใช้สาหรบั ตเี หล็กหรอื ทบุ หิน เป็นต้น
มานุษย์ มคี วามหมายอย่างเดียวกันกบั คาวา่ “อธษิ ฐาน” คอื
ยักคอทาท้อแท้ ขอร้องตอ่ สงิ่ ศกั ดส์ิ ิทธิ์เพื่อชว่ ยบนั ดาลใหต้ นประสบ
ยุคนุ ธร์ ผลสาเรจ็ ในสิง่ ทม่ี ุ่งหวงั
คอื เพลงศัสตรา หมายความว่า เพลงอาวุธ
ภเู ขาใหญ่
ช่อื ไม้ผลชนิดหน่ึง ผลขนาดหมากดบิ สีเขียว มยี างมากรสหวานเย็น
มาจากคาวา่ “มนษุ ย์” ในท่ีน้ียดื เสยี งสระอะเป็นสระอา
เอียงคอซบและทาทา่ ไม่มีแรง เป็นคาที่นางผเี สอื้ สมทุ รวา่ นางเงอื ก
ว่าทาท่าอ้อนพระอภยั มณี
คือ ยคุ ุนธร เป็นภูเขา 1 ใน 7 ของเทือกเขาสตั ภัณฑห์ รอื
สตั บรภิ ณั ฑ์ ทลี่ ้อมรอบเขาพระสุเมรุอยู่เป็นชน้ั ๆ รวม 7 ช้ัน
ไดแ้ ก่ 1. ยคุ นธรหรอื ยคุ นุ ธร 5. เนมินธร
2. อิสินธร 6. วนิ ันตกะ
3. กรวิก 7. อสั กัณ
4. สุทัสนะ
เขายคุ นธรอยใู่ กล้เขาพระสเุ มรมุ ากท่สี ดุ และมคี วามสงู เปน็
คร่ึงหนึ่งของเขาพระสุเมรุ เขาพระสุเมรุ 82,000 โยชนเ์ ท่านนั้

-60-

-60-

ระลอก คลื่น
แรงรทุ ร เรีย่ วแรงอันนา่ กลัว คาวา่ “รุทร” แปลวา่ น่ากลัวย่งิ
ละเมาะ พุ่มไม้
ลักษณา มาจากคาวา่ “ลักษณะ” ในท่ีนส้ี นุ ทรภูต่ ้องการใหส้ มั ผสั กับ
คาว่า “ตา” จงึ ยดื เสียงสระอะเปน็ สระอา ในความว่า
ลูกไม้ “แลประหลาดลกั ษณามีตาหู”ลยุ อ่อน ในที่นม้ี ีความหมายว่า
เลกิ ศลิ า ลยุ น้าหรือเดินท่องน้าจนไม่มีแรง
โวเ้ ว้ เปน็ คาทีค่ นโบราณใช้ในความหมายวา่ ผลไม้ ปจั จบุ ันพบใน
สมุทรไท คาว่า “ส้มสกู ลกู ไม”้
สาชล ยกหนิ ขนึ้
สานกั พูดหาเรอ่ื ง พดู จาเหลวไหล
หนีเขาใช้ ท้องทะเลอนั กว้างใหญ่
หุบหอ้ ง คือคาว่า “สายชล” มีความหมายวา่ สายน้า สนุ ทรภูช่ อบใช้
เห่ คาว่า “สาชล” ในความหมายนี้ และมปี รากฏในวรรณคดีท่ี
แหง่ นุสนธ์ิ สุนทรภูแ่ ต่งแทบทุกเร่อื ง
อยา่ สญู ใจ เปน็ คาภาษาเขมร แปลว่า พัก อยู่
เปน็ ถอ้ ยคาที่นางผีเส้ือสมทุ รกลา่ วหาพระฤาษีแหง่ เกาะ
แก้วพิสดารวา่ บวชเพื่อหนีการถูกเกณฑ์เข้าทางานในสมัยนั้น
ชายฉกรรจท์ ุกคนจะถูกเกณฑ์เข้าทางานให้แกบ่ ้านเมือง
ถ้า
กลอ่ ม
สถานทีท่ ีจ่ ะตดิ ตาม ในความว่า “ถึงมว้ ยมอดมิใหแ้ จง้ แหง่
นุสนธ์ิ”โหยกเหยกไม่อยกู่ บั ร้องกับรอย ไม่แนน่ อน
อยา่ แลง้ นา้ ใจ

จากหนงั สือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดวี จิ กั ษ์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน้า ๗๓ - ๗๖

-61-
-61-

ใบงาน
“สรปุ ความรู้ เร่ือง พระอภยั มณี”

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นสรุปความรู้และขอ้ คดิ ท่ีได้จากคาประพนั ธ์

......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................
......................................................................................................................................

-62-
-62-

แบบประเมินการทางานกลมุ่

คาชแ้ี จง ให้ครูประเมินการทางานกลุ่มของนักเรียนตามรายการประเมิน (คะแนนเตม็ 12 คะแนน)

รายการประเมิน ๓ ระดบั คะแนน ๑

1. การกาหนดบทบาทหน้าที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ ไมม่ ีการกาหนดบทบาท
2. การมสี ่วนร่วม สมาชกิ อยา่ งชัดเจน กาหนดบทบาทหนา้ ท่ี หน้าที่
มีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิ สมาชกิ ไม่ครบถว้ น มสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ิ
3. การรบั ฟังและแสดงความ งานกลมุ่ มีสว่ นรว่ มในการปฏิบตั ิ งานกลมุ่ นอ้ ยมาก
คดิ เห็น รบั ฟังและแสดงความคดิ เห็น งานกลุม่ บ้าง หรอื ไมม่ ีสว่ นรว่ ม
4. ความรบั ผิดชอบ อย่างมีเหตผุ ลและสร้างสรรค์ รับฟงั และแสดงความคดิ เหน็ รับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ นื่
อย่างสม่าเสมอ อย่างมเี หตผุ ลและสร้างสรรค์ น้อยมากหรอื ไมร่ ับฟงั
รับผิดชอบงานทไ่ี ด้รบั เปน็ บางครงั้ ความคดิ เห็นผูอ้ ื่น
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา รบั ผิดชอบงานท่ไี ดร้ บั ไม่รบั ผิดชอบงานท่ีไดร้ บั
ที่กาหนด มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไมท่ ัน มอบหมาย
ตามกาหนด

* การคิดคะแนน ร้อยละ = (คะแนนที่ได/้ คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมนิ การแปลผล

เกณฑ์ของระดบั คะแนน ดีมาก
ดี
รอ้ ยละ 80 - ๑๐๐
รอ้ ยละ 70 - 79 พอใช้
รอ้ ยละ 50 - 69 ปรับปรุง
ร้อยละ ๐ - 49

-63-
-63-

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ สร้างสรรคส์ ารพร้อม แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย เรือ่ ง ภาษาในวรรณคดี (๒) ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
รายวิชาภาษาไทย ๕

สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด กจิ กรรมการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้
เรื่องพระอภัยมณี เป็นนิทานที่มีเรื่องราวท่ี ขั้นนา หอ้ งสมดุ
น่าสนใจ ชวนให้แสดงความคิดเห็นผ่านพฤติกรรม ๑. นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี สอ่ื
ของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ ซ่ึงการแสดงความ หากนักเรียนเจอสถานการณ์ เพื่อนของนักเรียนมา 1. ใบความรู้ “นิทานคากลอนเร่ืองพระ
คิดเห็นท่ีดีควรมีการแสดงเหตุผลประกอบให้ชัดเจน ขอร้องให้ช่วยเหลือแต่ก็รู้ว่าถ้าช่วยเหลืออาจจะมีปัญหาตามมา อภยั มณี ตอนพระอภยั มณีหนีนางผเี ส้อื
และน่าเชื่อถอื นกั เรียนจะชว่ ยหรือไม่ เพราะเหตใุ ด สมุทร”
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แนวคาตอบ ๒. ใบงาน “หากฉันเปน็ เขา...”
ดา้ นความรู้ ช่วย เพราะ คนที่ขอรอ้ งอาจจะมคี วามเดอื ดรอ้ นจริงๆ
-64- อธิบายเน้อื เรือ่ งพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี และเปน็ การตอบแทนบุญคณุ
ไมช่ ว่ ย เพราะ จะทาให้ตนเองตกอยใู่ นอนั ตราย จึงไม่คุ้ม ภาระ/ช้นิ งาน
หนีนางผีเส้ือสมุมร ที่จะช่วย การทาใบงาน “หากฉนั เป็นเขา...”
ด้านทกั ษะกระบวนการ
๒. ครูเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “จากคาตอบเมื่อสักครู่นี้ การวัดและประเมนิ ผล
เขยี นแสดงความคดิ เห็น มีคาตอบท้ังท่ีช่วยและไม่ช่วย ซ่ึงในคาบน้ีนักเรียนจะพบ แบบประเมนิ การทางานกลมุ่
สมรรถนะที่ต้องการใหเ้ กดิ กับผเู้ รยี น สถาน การณ์ ลั ก ษ ณ ะเดี ย ว กั น นี้ ใน เรื่อ งพ ระ อ ภั ย ม ณี
เรามาดูกนั วา่ ตัวละครในเรือ่ งจะช่วยหรอื ไม่”
การส่ือสาร

ขน้ั สอน
3. นักเรียนอ่านเน้ือเร่ืองในใบความรู้ “นิทานคากลอน

เร่ืองพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือสมุทร”

-64-

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ สร้างสรรค์สารพร้อม แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๘ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เร่ือง ภาษาในวรรณคดี (๒) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓
รายวชิ าภาษาไทย ๕
-65-
4. นกั เรยี นทากิจกรรมใบงาน “หากฉันเปน็ เขา...” วธิ ีการโดย
4.๑ นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละประมาณ ๔ คน

(หรอื ตามจานวนทเ่ี หมาะสมในชนั้ เรียน)
4.๒ นักเรียนในกลุ่มร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ จาก

สถานการณใ์ นใบงานคือ
- หากนักเรียนเป็นสินสมุทรนกั เรียนจะพาพระอภัย

มณีหนหี รือไม่ เพราะเหตใุ ด
- หากนักเรียนเป็นเงือกเฒ่านักเรียนจะให้ความ

ช่วยเหลอื สนิ สมุทรและพระอภัยมณีหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
ข้ันสรปุ

5. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า การแสดง
ความคิดเห็นที่ดีควรมลี ักษณะอย่างไร

แนวคาตอบ ลกั ษณะของการแสดงความคดิ เหน็ ทดี่ ี
ควรจะมีการแสดงเหตผุ ลประกอบทช่ี ดั เจน

6. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าการฝึกแสดง
ความคิดเหน็ ดังกลา่ วมีประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั อยา่ งไร

แนวคาตอบ
เป็นแนวทางท่ีจะช่วยฝึกการส่งสารอย่างมีสัมฤทธิผล
ในลักษณะหน่ึง

-65-

นิทานคากลอนเร่อื งพระอภยั มณี
ตอนพระอภยั มณหี นีนางผเี ส้ือสมทุ ร

จะกล่าวกลบั จับความไปตามเร่ือง ถงึ บาทเบ้ืองปรเมศพระเชษฐา
องค์อภัยมณีศรีโสภา ตกยากอยู่คหู ามาชา้ นาน
กับดว้ ยนางอสุรีนรี มิต เปน็ ค่ชู ิดเชยชมสมสมาน
ตอ้ งรักใคร่ไปตามยามกนั ดาร จนนางมารมีบุตรบรุ ุษชาย
ไม่คลาดเคล่ือนเหมือนองค์พระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดดู ังสุริย์ฉาย
ทรงกาลังดงั พระยาคชาพลาย มเี ขย้ี วคลา้ ยชนนีมีศักดา
พระบติ ุรงคท์ รงศักดิ์กร็ ักใคร่ ด้วยเนอื้ ไขมิได้คดิ ริษยา
เฝ้าเลย้ี งลกู ผกู เปลแลว้ เห่ช้า จนใหญก่ ลา้ อายุได้แปดปี
จงึ ให้นามตามอย่างขา้ งมนุษย์ ช่อื สินสมุทรกุมารชาญชัยศรี
ธามรงค์ทรงมาคา่ บรุ ี พระภมู ีถอดผูกใหล้ กู ยา
เจียระบาดคาดองคก์ ็ทรงเปล้ือง ให้เป็นเคร่อื งนุ่งห่มโอรสา
สอนให้เจา้ เปา่ ปีม่ วี ิชา เพลงศาสตราสารพดั หัดชานาญ
วนั หนึ่งนางอสุรผี เี สอื้ น้า ออกจากถ้าเที่ยวหาภกั ษาหาร
จบั กระโห้โลมากมุ ภาพาล กินสาราญร่นื เรงิ บันเทิงใจ
ไม่หา่ งบาทบิดาอัชฌาสัย
ฝ่ายกุมารสินสมทุ รสดุ สวาท ด้วยมิไดข้ ูเ่ ข็ญเช่นมารดา
ความรกั พ่อย่งิ กว่าแม่มาแต่ไร หนไี ปว่งิ เลน่ อยใู่ นคหู า
เหน็ ทรงธรรมบ์ รรทมสนทิ นิง่ เหน็ แผ่นผาพงิ ผนดิ ปดิ หนทาง
โลดลาพองลองเชิงละเลิงมา เขา้ ลองผลักดว้ ยกาลงั ก็พังผาง
หนกั หรือเบาเยาว์อยู่ไมร่ จู้ กั ทะเลกวา้ งขา้ งขวาล้วนป่าดง
เหน็ หาดทรายพรายงามเปน็ เงินราง พระกมุ ารเพลนิ จติ พิศวง
ไมเ่ คยเห็นเป็นน่าสนกุ สนาน แลว้ โดดลงเลน่ มหาชลาลยั
ออกวิ่งเต้นเลน่ ทรายสบายองค์ ดาไมผ่ ดุ เลยทงั้ วันก็กลน้ั ได้
ดว้ ยหน่อนาถชาตเิ ชอ้ื ผีเสอ้ื สมุทร เที่ยวเลี้ยวไล่ขป่ี ลาในสาชล
ยง่ิ ถูกน้ากาลังยง่ิ เกรยี งไกร ลอดออกตามซกี เหงือกเสลอื กสลน
ระลอกซัดพลัดเข้าในปากฉลาม คดิ ว่าคนมหี างเหมือนอย่างปลา
เหน็ ฝูงเงือกเกลอื กกล้งิ มากลางชล ดกู ลอกกลับกลางน้าปล้ามจั ฉา
คร้นั ถามไถ่ไม่พดู ก็โผนจับ เชน่ นีป้ ลาหรอื อะไรจะใครร่ ู้
คร้ันจบั ไดใ้ หร้ ะแวงแคลงวญิ ญาณ์ แลประหลาดลกั ษณามีตาหู
ฉดุ กระชากลากหางข้ึนกลางหาด แลว้ ลากลเู่ ข้าในถา้ ดว้ ยกาลงั
จะเอาไปให้พระบิดาดู

-66-

-66-

ถึงหุบห้องร้องบอกบติ ุเรศ พระลมื เนตรเหลยี วหาทั้งหน้าหลัง
เห็นลกู ลากเงือกน้าแตล่ าพัง จากบัลลังก์มาห้ามแลว้ ถามไป
เมือ่ กี้เหน็ เลน่ อยใู่ นคูหา เงือกน้ีเจ้าเอามาแต่ข้างไหน
พระลูกเล่าตามจริงทุกสิ่งไป พระตกใจจึงวา่ ดว้ ยปรานี
แมน้ แม่เจา้ เขารู้วา่ แรงนัก กลวั จะลักลอบพาบดิ าหนี
จะโกรธเกรยี้ วเค้ียวเล่นเป็นธลุ ี ไม่พอที่ชีวันจะบรรลัย
ฟังพระบาทบติ ุรงค์ให้สงสยั
สินสมทุ รกมุ ารชาญฉลาด เหตุไฉนจงึ จะเป็นไปเชน่ น้ัน
จงึ ทลู ถามความจริงด้วยกริ่งใจ คดิ ถงึ ยากยามวิโยคย่ิงโศกศัลย์
พระฟงั คาน้าเนตรลงพรากพราก จนพากันมาบรรทมทร่ี ่มไทร
แถลงเลา่ ลกู ยาสารพัน ขึน้ ไปฉดุ ฉวยบิดาลงมาได้
แมข่ องเจ้าเขาเปน็ เชือ้ ผีเส้อื สมุทร จนเจ้าไดแ้ ปดปีเขา้ น่แี ล้ว
จึงกาเนดิ เกิดกายสายสุดใจ ตายหรอื เป็นวา่ ไม่ถูกเลยลูกแก้ว
ไปเปดิ ประตคู หู าถ้าเขาเห็น ไม่รอดแล้วบติ รุ งค์กค็ งตาย
แมน้ สนิ สมทุ รสดุ สวาทพ่อคลาดแคลว้ ราคาญคิดเสียใจมใิ ครห่ าย
พระโอรสร้แู จง้ ไม่แคลงจิต ก็ฟูมฟายชลนาโศกาลัย
ด้วยแมก่ ลับอัปลักษณ์เป็นยกั ษ์ร้าย กติ ติศัพท์สองแจง้ แถลงไข
ฝ่ายเงอื กนา้ นอนกลง้ิ นิง่ สดับ จะกราบไหวว้ อนว่าใหป้ รานี
รู้ภาษามนษุ ยแ์ น่ในใจ ยงั มนึ เหนบ็ น้อมประณตบทศรี
ค่อยเขย้ือนเลื่อนลุกขึน้ ทั้งเจบ็ ขา้ ขอชวี ติ ไว้อย่าใหต้ าย
พระผ่านเกลา้ เจ้าฟ้าในธาตรี ดังหนงั เนือ้ นจี้ ะแยกแตกสลาย
พระราชบุตรฉดุ ลากลาบากเหลอื ยงั แต่กายเกอื บจะดนิ้ สนิ้ ชวี ัน
ทง้ั ลกู เต้าเผ่าพงศ์กพ็ ลัดพราย เศร้าพระทัยทุกข์ตรอมเหมือนหมอ่ มฉนั
พระองคเ์ ลา่ เขาก็พาเอามาไว้ ช่วยผ่อนผนั ให้ตลอดรอดชีวา
ขอพระองคจ์ งโปรดแกโ้ ทษทัณฑ์ ใหโ้ อรสยกตงั้ บังคูหา
ซึ่งปากถ้าทาลายลงเสียหมด จะอาสาเกล่ยี ทรายเสียใหด้ ี
ขา้ เหน็ อยา่ งนางมารจะนานมา ขอรองบาทบงกชบทศรี
หนง่ึ พวกพ้องของข้าคณาญาติ ท่สี ่งิ มจี ะเอามาสารพัน
แม้นประสงค์สงิ่ ไรในนที จงึ ว่าท่านคดิ นดี้ ีขยัน
อย่พู ดู กนั อีกสกั หน่อยจงึ ค่อยไป
พระฟงั เงือกพดู ได้ให้สงสาร แตใ่ ต้เหนือไม่รู้แห่งตาแหนง่ ไหน
รูเ้ จรจาสารพดั นา่ อัศจรรย์
เราตรองตรึกนึกจะหนนี างผีเส้ือ

-67-
-67-

ทา่ นเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ทากระไรจงึ จะพ้นทนทรมาน
ฝา่ ยเงือกนา้ คานบั อภิวาท ข้าพระบาททราบสน้ิ ทกุ ถ่นิ ฐาน
อนั นา้ นม้ี ีนามตามบุราณ อโนมานเคยี งกนั สีทันดร
เปน็ เขตแควน้ แดนทีน่ างผีเสื้อ ข้างฝ่ายเหนือถึงมหิงษะสงิ ขร
ขา้ งทศิ ใต้ไปจนเกาะแกว้ มังกร หนทางจรเจด็ เดอื นไมเ่ คลื่อนคล
ไปกลางยา่ นบ้านเรือนหามีไม่ สมทุ รไทซ้ึงซึกลึกนักหนา
แต่สาเภาชาวเกาะเมืองลงั กา เขาแล่นมามีบา้ งอยลู่ างปี
ถา้ เสียเรอื เหลือคนแลว้ นางเงือก ขนึ้ มาเลือกเอาไปชมประสมศรี
เหมอื นพวกพ้องของขา้ รพู้ าที ดว้ ยเดมิ ทปี ยู่ ่าเป็นมานษุ ย์
อายุข้าหา้ ร้อยแปดสิบเศษ จงึ แจง้ เหตุแถวทางกลางสมุทร
แม้นจะหนผี ีเส้อื ด้วยแรงรุทร เหน็ ไมส่ ุดส้นิ แดนด้วยแสนไกล
แต่โยคมี มี นตร์อยู่ตนหน่ึง อายุถึงพันเศษถือเพทไสย
อยู่เกาะแก้วพสิ ดารสาราญใจ กินลกู ไมเ้ ผอื กมนั เปน็ พรรณผลา
พวกเรือแตกแขกฝรั่งแลอังกฤษ ขน้ึ เป็นศิษย์อยู่สานักนั้นหนักหนา
ด้วยโยคมี มี นตรด์ ลวชิ า ปราบบรรดาภูตพรายไม่กรายไป
แม้นพระองค์ทรงฤทธิ์จะคดิ หนี ถงึ โยคเี ขา้ สานักไม่ตกั ษัย
เผอ่ื สาเภาเขาซดั พลดั เขา้ ไป ก็จะไดโ้ ดยสารไปบ้านเมอื ง
แต่ทางไกลไมน่ อ้ ยถึงร้อยโยชน์ ลว้ นเขาโขดคิรรี ัตนข์ นัดเน่ือง
กลางคงคาสารพัดจะขัดเคือง จงทราบเบ้อื งบงกชบทมาลย์
แม้กาลงั ดังขา้ จะพาหนี เจ็ดราตรเี จยี วจึงจะถึงสถาน
อสุรมี ีกาลังดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวันจะทันตัว
ถ้าแก้ไขให้นางไปค้างปา่ ได้ลว่ งหน้าไปเสียบ้างจะยังชัว่
จะอาสาพาไปมไิ ด้กลัว ชวี ิตตัวบรรลัยไม่เสียดาย
แต่พระองค์ทรงคดิ ให้รอบคอบ ถา้ เหน็ ชอบท่วงทีจะหนหี าย
จงึ โปรดใช้ใหอ้ งค์พระลูกชาย ไปหาดทรายหาข้าจะมาฟัง
พระแจ้งความตามคาเงอื กน้าเล่า ค่อยบรรเทาทกุ ขส์ มอารมณห์ วงั
จึงวา่ พ่มี คี ุณน้องสกั ครั้ง ให้ได้ดังถอ้ ยคาที่ราพนั
ซึ่งลกู รักหกั หาญใหท้ ่านโกรธ จงงดโทษทาคุณอยา่ หนุ หัน
ชว่ ยไปปดิ ปากถา้ ที่สาคญั จวนสายัณห์ยกั ษ์มาจะว่าเรา
จงึ บญั ชาว่าเจา้ สินสมุทร ไปชว่ ยฉดุ ศลิ าใหญ่ขึ้นใหเ้ ขา
ขอสมาตาปูอ่ ยา่ ดูเบา ชว่ ยอมุ้ เอาแกออกไปให้สบาย
กับลูกน้อยคอ่ ยพยุงจงู เงอื กน้า มาปากถ้าแลเหน็ วนชลสาย
หวนราลึกตรกึ ตรองถึงน้องชาย พระฟูมฟายชลนาดว้ ยอาลยั

-68-

-68-

แล้วให้ลูกเลิกศลิ าเขา้ มาปดิ เห็นมดิ ชิดม่ันคงไม่สงสยั
พระกลบั มาตาเงือกเสือกลงไป ลงท่ีในวังวนชลธาร
ฝา่ ยผเี ส้ือเมือ่ ขนึ้ จากฝั่งน้า จะมาถ้าเท่ยี วหาพฤกษาหาร
เก็บลกู ไมใ้ สห่ อ่ เหน็ พอการ ท้ังเปร้ยี วหวานสารพัดแลว้ ลดั มา
เหน็ หนิ ปิดเปิดประตูคหู ากวา้ ง นิมิตอย่างนางมนุษย์เสนหา
วรพกั ตร์นารีศรโี สภา ลีลามาเข้าในห้องเหน็ สององค์
วางลกู ไมใ้ นห่อใหล้ กู ผัว ทอ้ งของตัวเต็มท้องไมต่ อ้ งประสงค์
พระทรงเลอื กลูกมะซางปรางมะยง ประทานองคโ์ อรสสู้อดออม
ครั้นพลบคา่ ทารกั นางยักษร์ ้าย ประคองกายกอดแอบแนบถนอม
ช่นื แตห่ นา้ อารมณ์นน้ั กรมกรอม แต่คดิ อ่านหวา่ นล้อมจะล่อลวง
ไม่เห็นช่องตรองตรึกนึกวิตก ทกุ ขใ์ นอกนนั้ สักเทา่ ภูเขาหลวง
พระกอดลูกนอ้ ยประทับไว้กับทรวง ให้เหงาง่วงงีบหลับระงับไป
ฝ่ายผีเส้ือเมอ่ื จะจากพรากลูกผัว แตพ่ ลกิ ตัวกล้งิ กลบั ไมห่ ลับใหล
ใหห้ มกมุ่นขุ่นคลา้ ในนา้ ใจ จนเสียงไกแ่ ก้วขนั สน่นั เนนิ

(ยังมีเน้ือหาตอ่ )

พระสุนทรโวหาร (ภู่)
จากหนงั สือเรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย วรรณคดวี จิ ักษ์

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๕๖ - ๕๙

-69-
-69-

ใบงาน
“หากฉนั เป็นเขา...”

คาช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี

1. หากนกั เรยี นเป็นสนิ สมทุ รนักเรียนจะพาพระอภัยมณีหนีหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
............................................................................................................................. ....................
............................................................................................................... ..................................
............................................................................................................................. .................

๑. หากนกั เรียนเปน็ เงือกเฒ่านกั เรยี นจะใหค้ วามช่วยเหลอื สนิ สมทุ รและพระอภยั มณีหรือไม่
เพราะเหตุใด
............................................................................................................................. ....................
.................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. .................

-70-

-70-

แบบประเมนิ การทางานกลุม่

คาช้แี จง ให้ครปู ระเมินการทางานกลุ่มของนกั เรยี นตามรายการประเมนิ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมนิ ๓ ระดับคะแนน ๑

1. การกาหนดบทบาทหน้าท่ี กาหนดบทบาทหน้าท่ี ไมม่ ีการกาหนดบทบาท
2. การมสี ว่ นรว่ ม สมาชกิ อย่างชัดเจน กาหนดบทบาทหนา้ ท่ี หน้าที่
มสี ว่ นรว่ มในการปฏิบตั ิ สมาชกิ ไม่ครบถ้วน มีสว่ นรว่ มในการปฏิบตั ิ
3. การรบั ฟงั และแสดงความ งานกล่มุ มีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิ งานกลุม่ น้อยมาก
คดิ เหน็ รับฟงั และแสดงความคดิ เห็น งานกลมุ่ บ้าง หรอื ไมม่ ีสว่ นร่วม
4. ความรบั ผดิ ชอบ อย่างมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์ รับฟงั และแสดงความคดิ เห็น รับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อน่ื
อยา่ งสม่าเสมอ อย่างมีเหตผุ ลและสรา้ งสรรค์ น้อยมากหรอื ไม่รับฟงั
รบั ผิดชอบงานทไี่ ดร้ บั เป็นบางครัง้ ความคดิ เหน็ ผู้อน่ื
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา รับผิดชอบงานที่ไดร้ ับ ไม่รบั ผิดชอบงานท่ไี ดร้ บั
ทีก่ าหนด มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไมท่ นั มอบหมาย
ตามกาหนด

* การคิดคะแนน รอ้ ยละ = (คะแนนทีไ่ ด/้ คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมิน การแปลผล

เกณฑข์ องระดบั คะแนน ดมี าก
ดี
รอ้ ยละ 80 - ๑๐๐
ร้อยละ 70 - 79 พอใช้
รอ้ ยละ 50 - 69 ปรับปรุง
ร้อยละ ๐ - 49

-71-
-71-

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ สรา้ งสรรค์สารพร้อม แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๙ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เร่อื ง วจภี ิรมย์ (๑) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓
รายวชิ าภาษาไทย ๕

สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้
การแสดงความคิดเห็น คือการส่งสารท่ีควรมีการ ขนั้ นา หอ้ งสมดุ
ใช้หลักเหตุผลประกอบในการอ้างอิง เพื่อช่วยให้เกิด นักเรียนแต่ละกลุ่มทบทวนการเขียนแสดงความคิดเห็น สอ่ื
ความ น่ าเชื่อถือแล ะสาม ารถส่งสารได้อย่าง จากใบงาน “หากฉันเปน็ เขา...” ในคาบเรียนทีแ่ ล้ว ใบงาน “หากฉนั เป็นเขา...” (จากแผนการ
สมั ฤทธิผล จัดการเรียนรทู้ ่ี 8)
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขน้ั สอน
ด้านความรู้ ๑. นักเรียนแต่ละคนนาใบงาน “หากฉันเป็นเขา...” ภาระ/ชน้ิ งาน
ไปติดไว้ท่ีกระดานหน้าชั้นเรียน (หรือในพ้ืนที่ท่ีเหมาะสม การพูดแสดงความคดิ เห็น
เขา้ ใจหลักการแสดงความคิดเห็นได้อย่าง ในชั้นเรียน)
-72- เหมาะสม ๒ . นั กเรียนแต่ละคน เดิน อ่าน ผลงานของเพ่ื อน การวัดและประเมนิ ผล
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
ในช้ันเรยี นจนครบทกุ ผลงาน แบบประเมนิ การพูดแสดงความคิดเหน็
สามารถพูดนาเสนอความคดิ เห็นได้อย่าง ๓. นักเรียนแต่ละคนแสดงความคิดเห็นว่าชอบหรือ
เหมาะสม ชื่นชมการเขียนแสดงความคิดเห็นในใบงาน “หากฉันเป็น
สมรรถนะท่ีต้องการใหเ้ กิดกับผ้เู รียน เขา…” ของเพือ่ นคนใด เพราะเหตุใด
๔. นักเรียนร่วมกันสรุปอีกคร้ังว่า การเขียนแสดงความ
การสือ่ สาร

คิดเห็นที่ดีควรมีการแสดงเหตุผลประกอบ มีการลาดับความ
และใชภ้ าษาอา่ นใหเ้ ข้าใจงา่ ย

ขั้นสรุป

-72-

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ สร้างสรรค์สารพร้อม แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๙ เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย เรื่อง วจีภิรมย์ (๑) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
รายวชิ าภาษาไทย ๕

นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า การฝึกเขียนแสดง
ความคดิ เหน็ มีประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวันอยา่ งไร

-73-

-73-

แบบประเมนิ การพดู แสดงความคิดเห็น

คาช้แี จง ให้ครูผู้สอนประเมินการพูดแสดงความคิดเห็นของนักเรียนตามรายการประเมิน
(คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมิน ๕ ๔ ระดบั คะแนน ๒ ๑
1. สาระสาคัญของเร่ืองทพ่ี ดู พดู สาระสาคัญ พูดสาระสาคญั ๓ พดู สาระสาคญั พดู สาระสาคัญ
ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์
1.๑ ลาดับความคดิ อย่างตอ่ เนอื่ ง ครบ ๕ ข้อ ๔ ข้อ พูดสาระสาคัญ ๒ ขอ้ ๑ ขอ้
1.๒ นาเสนอเน้อื หาตรงตามประเด็น ตามเกณฑ์ หรอื ไมไ่ ด้
1.๓ เน้ือหามคี วามสมั พันธ์กับประเด็น ๓ ข้อ ตามเกณฑ์เลย
1.๔ มีความเป็นเหตเุ ป็นผล
1.๕ มกี ารนาเสนอแนวคิดใหม่ คะแนนเตม็ 2 คะแนน ใช้ภาษา ใช้ภาษา
2. การใช้ภาษา ได้ตามเกณฑ์ ได้ตามเกณฑ์
2.๑ ใชภ้ าษาได้ถูกตอ้ งกับกาลเทศะ คะแนนเตม็ 2 คะแนน ๒ ข้อ ๑ ข้อ
2.๒ ใชป้ ระโยคส่อื ความหมายไดช้ ัดเจน ใช้น้าเสยี ง หรอื ไมไ่ ด้
คะแนนเตม็ 3 คะแนน ปฏิบตั ิได้ตาม ได้ตามเกณฑ์ ตามเกณฑเ์ ลย
3. การใช้น้าเสยี ง เกณฑ์ 3 ข้อ ๒ ขอ้ ใช้น้าเสียง
3.1 ใชน้ า้ เสยี งนุม่ นวล ปฏิบัติได้ตาม ได้ตามเกณฑ์
3.2 พูดเสยี งดงั ชดั เจน เกณฑ์ 2 ข้อ ๑ ขอ้
หรอื ไมไ่ ด้
3. มารยาทในการพูด ตามเกณฑเ์ ลย
3.1 ไมพ่ ูดแทรกขณะผู้อืน่ กาลงั พดู ปฏิบตั ิได้ตาม
3.2 เปิดโอกาสใหผ้ อู้ น่ื ได้แสดง เกณฑ์ 1 ข้อ
ความคิดเหน็ หรือไมไ่ ด้
3.3 ใช้กริ ิยาสภุ าพ ไมล่ ้อเลยี นผ้อู ่ืน ตามเกณฑ์เลย

* การคดิ คะแนน รอ้ ยละ = (คะแนนทไ่ี ด/้ คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมิน การแปลผล
ดมี าก
เกณฑข์ องระดับคะแนน ดี
รอ้ ยละ 80 – ๑๐๐ พอใช้
ร้อยละ 70 – 79 ปรบั ปรุง
ร้อยละ 50 – 69
ร้อยละ ๐ – 49

-74-
-74-


Click to View FlipBook Version