The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หากท่านใดต้องการ Download file สำหรับอ่านแบบ Offine สามารถคลิกได้ที่นี่

ออกแบบและผลิตรูปเล่มโดย : Natnaree Chouywattana (Line id: k.kiz or 088-1270345)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pinhathai Nunuan, 2021-10-24 06:24:20

บันทึกภาคสนามชุมชนกุฎีจีน

หากท่านใดต้องการ Download file สำหรับอ่านแบบ Offine สามารถคลิกได้ที่นี่

ออกแบบและผลิตรูปเล่มโดย : Natnaree Chouywattana (Line id: k.kiz or 088-1270345)

บนั ทึกภาคสนาม

ชมุ ชนกุฎีจีน

บนั ทึกภาคสนาม

ชมุ ชนกุฎีจีน

บนั ทึกภาคสนาม (ชมุ ชนกฎุ ีจีน) ในช้นั เรียนออนไลน์

บันทึกภาคสนามเป็นเคร่ืองมือสํ าคัญสํ าหรับนักสั งคมสงเคราะห์ในงานภาคสนาม
การทํางานในสนามชุมชนน้ันก็เพ่ือทําความรู้จัก ทําความเข้าใจ และเรียนรู้ชีวิตผู้คนในสังคม (ชุมชน)
ท่ีผู้คนเหล่าน้ันดํารงชีวิตอยู่ บันทึกภาคสนามคือการรวบรวมประเด็นท่ีได้ค้นเจอจากข้อมูล
ท่ีมีท่ีมาหลายรูปแบบ ท้ังจากปากคํา เร่ืองเล่าของสมาชิกกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน / พ้ืนท่ี / สนามน้ัน ๆ
ท่ีนักสังคมสงเคราะห์ได้ร่วมศึกษา คร้ังน้ีเราเรียนรู้สนามด้วยวิธีการออนไลน์ ออกแบบการเรียนรู้กัน
ตามสถานการณ์ท่ีเปล่ียนแปลง ครูจัดกรับวนในการพบปะ พู ดคุย และส่ือสารการเรียนรู้
ในระบบออนไลน์ และเราต่างปรับ รับการเรียนรู้ในวิถีแบบน้ีได้ในอีกมุมท่ีสามารถสร้างการเรียนรู้ชีวิต
ผคู้ นในชุมชนทค่ี นหลายกลุ่มมีชีวติ อยู่

การบันทึกภาคสนามด้วยการนําความรู้จากหลายรูปแบบท้ังข้อมูลปฐมภูมิ ประกอบกับข้อมูล
ทุติยภูมิท่ีผู้บันทึกภาคสนามต่างแสวงหาและนํามาร้อยเรียนเขียนงานในสนามเป็นบันทึกข้อมูล
เพื่อความเข้าใจชุมชนผา่ นเร่อื งราวในมติ ติ ่าง ๆ

การรวบรวมบันทึกภาคสนามในชุมชนกุฎีจีนคร้ังน้ี เพ่ือการศึกษา เรียนรู้ของนักศึกษา
ในช้ันเรียน sw 311 ภาคการศึกษา 1/2564 เป็นอีกบทเรียนหน่ึงท่ีเราได้ร่วมกันผลิตและสร้างข้ึนเพื่อ
การศึกษาร่วมกนั

ครูผูร้ วบรวม
ขอบคณุ ทกุ ชวี ติ และทุกเร่อื งราวท่ใี ห้โอกาสเราไดร้ ว่ มเรียนรู้

# ในช้นั เรยี นนกั เรียนสังคมสงเคราะห์ ผเู้ ร่มิ เรยี นรแู้ ละเร่มิ เขยี นบันทึกภาคสนาม (ชมุ ชน)

สารบัญ หน้า

รายช่ือผบู้ ันทึก 1-3
4-7
น.ส. ฤทยั ณัฐ์ รอดสวสั ดภ์ิ ร 6205490011 8-9
น.ส. ปทั มพร นันทมงคลชยั 6205490029
น.ส. นูรซี นั มะมงิ 6205510016 10
น.ส.กฤติมา ลอย 6205530048 11 - 12
น.ส.ภาณพุ ร จงเจรญิ โภคา 6205610105 13 - 16
น.ส.ปรัชญุ ก์ ร บญุ ปลอด 6205610113 17 – 23
น.ส. ปณั รวรี ์ ศิรวิ ภิ าอนันต์ 6205610121 24 - 32
น.ส. ปญั จรัตน์ จีนมหันต์ 6205610220 33 - 35
น.ส. นษิ ฐา พึ่งจิตต์ 6205610220
น.ส. มลชสร โชติธรรมาภรณ์ 6205610253 36
น.ส. ปภาดา ไชยบุดดี 6205610386 37 - 39
นาย ณฐั กติ ต์ิ พู ลโคก 6205610394 40 - 45
น.ส. สุวิชาดา แสวงผล 6205610410 46 - 48
นาย เจษฎา แสงอมร 6205610493 49 - 52
นาย บุรภทั ร จนั ทรแ์ กว้ 6205610501 53 - 54
น.ส. อวสั ดา แกว้ ขุขนั ธ์ 6205610576
น.ส. ชฎาธาร มะสิโกวา 6205610592 55
นาย ภวัฒน์ ศังขมณี 6205610766 56 - 61
น.ส. ลภสั จติ รว่องไว 6205610774 62 - 68
น.ส. โนรอ์ ัสลีนา่ เปง็ แสนหนู 6205610790 69 - 71
นาย บุรินทร์ เรือนแก้ว 6205680132 72 -73
นาย เชาวว์ ัตน์ ปิงยศ 6205680140 74 - 77
นาย ขจติ ศักด์ิ สุทธิพันธ์ 6205680157 78 - 81
น.ส. ชิดชนก วงษาบตุ ร 6205680223 82 - 86
น.ส. ปุณยภา เพชรไพร 6205680231 87 - 90
น.ส. มนั ตา ปลอดกรรม 6205680249 91 - 96
นาย เตมีย์ วรเดชพิทักษ์ 6205680322 97 - 98
นาย ณัฐวุฒิ ย้มิ วัฒน์ 6205680330 99 - 106
น.ส. เบญจรัตน์ นาดี 6205680355 107 - 109
น.ส. ปารีณา บวั บาน 6205680447 110 - 111
112 - 114

รายช่อื ผู้บันทึก หนา้

น.ส. ปภาดา กลอนกลาง 6205680462 115 - 121
น.ส. พิชญส์ ินี ศิลารตั น์ 6205680470 122 - 124
น.ส. สุพิชชา ถิตยเ์ จอื 6205680561 125 - 128
น.ส. จติ ติยา ปอ้ งศรี 6205680587 129 - 130
น.ส. เฌอธิดา สมชาติ 6205680611
น.ส. รสริน กง่ิ หวา่ กลาง 6205680629 131
น.ส. ฐิติพร อุดมโชคมหาศาล 6205680694 132 - 137
นาย. จริ เมธ อินทร์พลับ 6205680702 138 - 142
น.ส. ปทิตตา ฉตั รสัมฤทธ์ิ 6205680710 143 - 146
น.ส. ณัชมน สื่อปญั ญาทรัพย์ 6205680736 147 - 148
น.ส. ธนั ยพร ต้งั ศิริ 6205680827 149 - 152
นาย ธนวฒั น์ พักวัด 6205680835 153 - 158
น.ส. กฤษณา พลภกั ดี 6205680843 159 – 160
น.ส. วรัญชลี วุฒเิ ขต 6205680850 161 - 163
น.ส. ชลติ า เอ้อื ศิริตระกูล 6205680991 164 - 167
น.ส. ปรยี าพร ธมิ าชัย 6205681023 168 - 170
น.ส. สุภาพร สุขวุฒชิ ยั 6205681130 171 - 176
น.ส. ปาลติ า ปัญจวรกลุ 6205681148 177 - 181
นาย ภัทรดนัย เงินบาท 6205681155 182 - 183
น.ส. ธรชญา จปู ระเสริฐ 6205681254 184 - 185
น.ส. ศิรประภา วชั รพงศ์ชยั 6205681270 186 - 187
น.ส. อภิชยา เจรญิ กิตศิ ัพท์ 6205681296 188 - 190
น.ส. ผลผกา บญุ ทิพย์ 6205681429 191 - 198
น.ส. ณิชกานต์ เรอื งเดชา 6205681437 199 - 206
น.ส. มัณฑิตา บัวสุวรรณ 6205681445 207 - 210
นาย วงศกร หมานมา 6205681510 211 - 214
น.ส. ชนินาถ สีดํา 6205681528 215 - 219
น.ส. บัวบญุ ชเู ช้อื 6205681536 220 - 225
226 - 246

You’re Invited

“ชมุ ชนสามศาสนา สยี่ า่ นความเชอ่ื ” MMEEEETTIINNGG IIDD :: 882233 55554433 00556622
PPAASSSSCCOODDEE :: 883355118899
ชมุ ชนกฎุ จี นี
# SW 311 ในสนาม
OCT 6 09:30 – 12.00
AT ZOOM

อ.กาญจนา อ.ตก๊ั อ.ป่ ิน
SEC. 7800/03 SEC. 7800/02 SEC. 7800/01



วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 1
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

ผู้บันทึก: น.ส. ฤทยั ณฐั ์ รอดสวัสดภ์ิ ร 6205490011 ฃ

นักศึกษาได้ลงพ้ืนท่ีในการศึกษาชุมชนภาคสนามออนไลน์ “ชุมชนกุฎีจีน” ซ่ึงในการศึกษาคร้ัง
น้ีมีวิทยากรท่ีเป็นคนให้ข้อมูลเก่ียวกับการศึกษาชุมชนท้ังในด้านประวัติศาสตร์ความเป็นมา บริบทของ
ชุมชน และสถานการณ์ปัจจุบันของชุมชน โดยผู้ท่ีให้ข้อมูลเก่ียวกับชุมชนได้แก่ พ่ีด้วง พ่ีตอง และพ่ี
ป่ นิ โดยข้อมูลภาคสนามท่ไี ด้ลงศึกษาชุมชนกุฎจี นี มาดังน้ี

ประวตั ิศาสตรช์ มุ ชน

ปอ้ มวไิ ชยประสิทธิ์จุดพักเรือ ภาพจาก : happyoncruise

ผู้ให้ข้อมูล “พี่ด้วง” : ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการเกิดชุมชนกุฎีจีนน้ันเกิดข้ึนมาต้ังแต่
อดีตในสมัยอยุธยาท่ีบริเวรณพื้นท่ีทางภูมิศาสตร์ในสมัยน้ันเป็นเส้นทางการเดินเรือเพื่อขนส่งสินค้า
ผ่านทาง “แม่น้ําเจ้าพระยา” ส่งสินค้าไปตามท่ีต่าง ๆ มีการสร้างป้อมวิไชยประสิทธ์ิสําหรับหยุดตรวจ
เรือขนสินค้า ซ่ึงเส้นทางการค้าและจุดตรวจเรือเป็นจุดกําเนิดดึงดูด นําชาวต่างชาติท่ีเดินทางมากับ
เรือขนสิ นค้ามาอาศั ยในบริเวณย่านน้ันจากเดิมท่ีพั กอาศั ยอยู่ช่ัวคราวก็เร่ิมมีการอาศั ยอยู่ในพื้ นท่ี
บริเวณน้ันอย่างถาวร ทําให้เห็นได้ว่าจุดภูมิศาสตร์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วง ณ เวลาน้ันเป็น
ปัจจัยท่ีทําให้เกิดการไหลเข้ามาของชาวต่างชาติมาพักอาศัยในบริเวณย่านชุมชนกุฎีจีน จากการอยู่
อาศัยอยู่ของชาวต่างชาติท่ีเดินทางเข้ามา “ชาวจีนฮกเก้ียน” เร่ิมมีการสร้างศาสนาสถานข้ึนมา “ศาล
เจ้าเกียนอันเกง” นอกจากน้ียังมีศาสนสถานอ่ืน ๆ จากชาวต่างชาติอ่ืนด้วย เช่น ชาวโปรตุเกสท่ีมา
พร้อมกับชาวจีนท่ีได้สร้าง “โบถส์ซางตาครูส” และศาสนสถานของอิสลาม “มัสยิดบางหลวง” ทําให้
ชุมชนกุฎีจีนกลายเป็นชุมชนท่ีถูกเรียกว่า ชุมชน 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ ท้ังศาสนาพุ ทธสองนิกาย
ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม การสร้างศาสนสถานจากการรวมตัวกันท้ังพุ ทธ คริสต์ อิสลาม ทํา
ให้ชุมชนในย่านกุฎีจีนน้ันเต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมของชนชาติศาสนาต่าง ๆ โดยจะเห็นได้จาก
ตัวงานศิลปกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรมของศาสนสถานศาสนาต่าง ๆ ซ่ึงโบราณสถาน
หรือศาสนสถานของแต่ละศาสนาแม้เวลาผ่านไปเน่ินนาน คนในชุมชนช่วยกันอนุรักษ์และคงสภาพ
ความเป็นโบราณสถานต่าง ๆ เอาไว้เพ่ือให้คนจากพื้นท่ีอ่ืน ๆได้เข้ามาศึกษาความด้ังเดิมของ
โบราณสถาน รวมถึงปัจจุบันได้รับการศึกษาและอยู่ความดูแลจากกรมศิลปากร สิ่งน้ียังสะท้อนให้เห็น

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 2
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

อีกว่านอกจากการมีประวัติศาสตร์จุดเร่ิมต้นการรวมตัวกันของแต่ละศาสนาเกิดข้ึนได้อย่างไรแล้ว ยัง
สะท้อนให้เห็นได้ว่าคนในชุมชน และภาคการปกครองของภาครัฐท่ีเก่ียวข้องเองก็มีส่วนสําคัญในการ
เป็นผู้อนุรักษ์ และสื บทอดวัฒนธรรมด้ังเดิมให้คนรุ่นหลังและคนจากพ้ื นท่ีอ่ืนได้มีโอกาสได้มาเข้าไป
ศึกษาโบราณสถาน กลายเป็นอีกหน่ึงสถานท่ีท่องเท่ียงของชุมชน และเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ให้
สามารถเขา้ ไปศึกษาได้ดว้ ย

ศาสนสถานของศาสนาคริสต์ ภาพจาก : การเก็บภาพบนั ทึกภาพสนามจารย์

ศาลเจ้าเกยี นอนั เกง ชาวจนี ภาพจาก : th.wikipedia.org มัสยิดบางหลวง ศาสนาอิสลาม ภาพจาก : readthecloud.co

พี่ตอง : พู ดถึงประวัติศาสตร์และวิธีชุมชน การเช่ือมโยงจากสมัยอยุธยาเข้ามาสู่กรุงธนบุรี
จากเดิมท่ีชาวจีน ชาวโปรตุเกส ชาวมุสลิมท่ีรอดจากศึกสงครามในอยุธยาได้ อพยพมาอยู่กรุงธนบุรี
ท่ีสมเด็จพระเจ้ากรุงได้มอบท่ีดินย่านกุฎีจีนให้ ได้เล่าถึงท่ีมาของการสร้างโบสถ์ซางตาครูสเพ่ือให้
เกียรติชาวโปรตุเกส และพู ดถึงกิจกรรมวันสําคัญของโบถส์ซานตาครูสคือวันสถาปนาวัดมาตลอด
วันท่ี 14 กันยายนของทุกปีเป็นวันสถาปนาวัด ซ่ึงชุมชนกุฎีจีนมีการใช้ประโยชน์จากวัดโบถส์ซานตา
ครูสจากส่วนต่าง ๆ เช่น หอระฆังใช้สําหรับตีบอกเวลา เหตุการณ์คนในชุมชน สามารถใช้เป็นเคร่ือง
ดนตรีได้ด้วย ส่วนอาคารใช้สําหรับประกอบพิธีทางศาสนา และส่วนท่ีสําหรับเก็บสังฆภัณฑ์สําหรับ
ประกอบพิธีทางศานาของชาวคริสต์ในชุมชน แสดงให้เห็นถึงการสร้างความผูกพันธ์เป็นหน่ึงเดียว
ระหว่างคนในชุมชนกับศาสนสถานของชุมชนกุฎีจีน ทําให้ผู้คนท่ีเดินทางเข้าไปศึกษาชุมชนได้เห็นถึง

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 3
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

วิถีชีวิตท่ียึดโยงกับศาสนาท่ีแท้จริงให้คนสามารถรวมตัวกันมีส่วนร่วมของชุมชนกุฎีจีน เช่น กิจกรรม
เทศกาลทางศาสนา อาหาร รูปแบบการสร้างอาคารอาศัย เส้นทางเดินในชุมชน แต่ปัจจุบันไม่ได้มีแค่
ศาสนาคริสเตยี นเท่านน้ั แตย่ งั รวมถึงศาสนาอ่นื ๆ ด้วยเชน่ กนั

บรบิ ท สถานการณป์ ัจจุบนั ของชุมชน

พ่ีป่ ินทอง ประธานชุมชนกุฎีจีน : ได้พูดถึงปัจจุบันมีการทําโครงการขับเคล่ือนย่านกุฎีจีน โดย
โครงการท่ีจัดทําขับเคล่ือนอาศัยทรัพยากรคนในชุมชนเป็นประธานและตัวแทนท้ัง 6 ชุมชนย่อยในกุฎี
จีนเข้ามาเป็นคณะกรรมการ รวมถึงมีเจ้าอาวาสจากวัดต่าง ๆ เป็นท่ีปรึกษา เน่ืองจากชุมชนมีความ
เก่ียวข้องกับศาสนาและวัดทําให้เห็นว่าย่านกุฎีจีนมีการดึงทรัพยากรท่ีตนเองมีอยู่ในย่านชุมชนมาใช้ใน
การขับเคล่ือนพัฒนาชุมชน รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
เก่ียวกับกรมการท่องเท่ียวเข้ามาเป็นส่วนสนับสนุนเร่ืองการอนุรักษ์ชุมชนเพ่ือดึงดูดให้กลายเป็นย่าน
นักท่องเทย่ี ว นอกจากนป้ี ัจจุบนั ในช่วงสถานการณโ์ ควดิ -19 ประธานชมุ ชนไดเ้ ห็นถึงความสําคัญของ
การติดต่อกันในชุมชน บริหารจัดการร้านค้าในชุมชนให้มีรายได้จากการได้รับความช่วยประสานความ
ช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก (ดึงทรัพยากรข้างนอกมาใช้) ประสานงานข้าวกล่องบรรเทาความ
เดอื ดร้อนท้งั จากช่องสาม กองทัพเรือ ขา้ วกลอ่ งพระราชการเพื่อเยยี วยาคนในชมุ ชน
กิจกรรมท่ีช่วยให้คนในชุมชนมีกิจกรรมทํา เช่น การปลูกผักสวนครัว เน่ืองจากคนในชุมชนส่วนใหญ่
ท่ีพู ดถึงเป็นผู้หญิง ผู้สูงอายุท่ีมีท้ังโรคซึมเศร้า ทางชุมชนได้เห็นถึงความสําคัญของกลุ่มเปราะบาง
ในชุมชนท่ีควรได้รับความสําคัญ และเพ่ื อให้กิจกรรมเป็นตัวบรรเทาอาการซึมเศร้าจากช่วง
สถานการณ์โควิด-19 ท่ีออกไปทํากิจกรรมอย่างอ่ืนไม่ได้ ลดภาวะความเครียดจากสถานการณ์โรค
วิธีการบําบัดสุขภาพจิตวิธีคลายความเครียด กิจกรรมทําความสะอาดชุมชน กลุ่มอาสาสมัคร
หน่วยงานต่าง ๆ ในการมาช่วยพ่นฉีดฆ่าเช้ือให้สะอาดปลอดภัย มีการประชาสัมพันธ์ความรู้ วิธีการ
ป้องกนั และวิธีให้กําลังใจหากมคี นตดิ โรค มกี ารปรับรูปแบบบรกิ ารเสียงตามสาย

สําหรับกิจกรรมตามศาสนาต่าง ๆ เน่ืองจากไม่สามารถรวมตัวกันได้ทําให้ชุมชนได้ไม่ขาดการ
ซึมซับจากศาสนา จะเห็นได้ว่าในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันท่ีชุมชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของ
โรคโควิด-19 ท่ีเป็นอุปสรรคในการทํากิจกรรมทางเศรษฐกิจ เปล่ียนแปลงวิถีชีวิตคนในชุมชน การ
สร้างรายได้ กิจกรรมทางศาสนาท่ีเป็นส่วนหน่ึงของชุมชน การเดินทางเข้ามาท่องเท่ียว โควิด-19เป็น
เสมือนการเปล่ียนแปลงท่ีเข้ามาส่งผลกระทบต่อคนในชุมชนเป็นอย่างมาก แต่ผู้นําชุมชนผู้เป็น
ประธานชุมชนท้ัง 6 ย่านในชุมชนกุฎีจีนได้เห็นถึงความสําคัญและร่วมหาวิธีการในการบริหารจัดการ
ชุมชนให้สามารถปรับตัวอยู่รอดในสถานการณ์โควิด-19 โดยคํานึงถึงกลุ่มเป้าหมายทุกคนในชุมชน
โดยการจัดสรรท้ังดึงทรัพยากรท้ังจากภายภายในไม่ว่าจะเป็นคนในชุมชนคน ผู้มีความรู้ทางด้าน
ศาสนา พระจากศาสนาต่าง ๆ รวมถึงติดต่อหน่วยงานภายนอก รับความช่วยเหลือท้ังจากหน่วยงาน
อาสาสมัคร หน่วยงานรายการ รัฐวิสาหกิจ ประสานงานกับวิชาชีพต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนทําให้เกิด
real change ท่ีสมาชิกคนในชุมชนสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในสถาวการณ์ท่ียากลําบากและมีความสุข
สุขภาพจิตสดใส

วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 4
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผ้บู ันทกึ : นางสาวปัทมพร นันทมงคลชยั 6205490029 ฃ

การเขยี นบนั ทึกภาคสนาม
การบริหารจัดการชมุ ชน สามศาสนา ส่ีย่านความเชอ่ื ชมุ ชนกุฎจี ีน

การลงสนามคร้ังน้ีใช้การศึกษาแบบผสมผสาน คือ การนําเอาวิธีการต่าง ๆ ในการศึกษา
ชุมชนมาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยเร่ิมต้นท่ีการลงสู่ชุมชน เป็นเคร่ืองมือสร้างความไว้เน้ือเช่ือ
ใจให้เกิดข้ึนกับชุมชนและตัวผู้ศึกษาเอง มีการสังเกตการณ์เพื่อท่ีจะเข้าใจลักษณะธรรมชาติและ
ขอบเขตของการเก่ียวข้องสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ของปรากฏการณ์ทางสังคมและ
พฤติกรรมคนในชุมชน มีการสัมภาษณ์เพื่อรวบรวมข้อมูลแบบเผชิญหน้ากัน ท้ังพู ดคุยอย่างเป็น
ทางการและไม่เป็นทางการกับตัวชาวบ้านและผู้นําชุมชน มีการใช้ข้อมูลเอกสารในการศึกษาหาประวัติ
ของชุมชน ได้แก่ป้าย สัญลักษณ์ และพิพิธภัณฑ์ในตัวชุมชน ช่วยให้ผู้ศึกษาได้รับทราบข้อมูล
ข้อเท็จจริงของชุมชนได้มากท่ีสุดในมุมมองท่ีหลากหลาย และยังมีการสัมภาษณ์เจาะลึก (Key
Information) ก่อนส่งผ่านความรู้ให้นักศึกษา และได้แลกเปลี่ยนกรณีศึกษา ครอบครัว หรือเครือ
ญาตขิ องชุมชนทล่ี งสนามกบั ชมุ ชนแวดล้อมทน่ี กั ศึกษาอาศัยอยแู่ ละเคยพบเจอ

ปา้ ย สัญลกั ษณ์ และพิพิธภณั ฑใ์ นตัวชุมชน

ชุดความรู้ท่ีใช้ประกอบการลงสนามคร้ังน้ี รวมไปถึงแลกเปล่ียนกรณีศึกษาประกอบไปด้วย
วิธีการมองชุมชนด้านมานุษยวิทยา ชุมชนประจักษ์ ประวัติศาสตร์ คุณค่า วาทกรรม ด้านสังคม ด้าน
จิตวิทยาสังคมเศรษฐศาสตร์การเมือง และมีแนวคิดพ้ืนฐานท่ีใช้ในการทําความเข้าใจชุมชน ได้แก่
แนวคิดทางสังคมวิทยากับชุมชน แนวคิดเก่ียวกับชุมชนเข้มแข็ง แนวคิดการมีส่วนร่วมของชุมชน
และแนวคิดการทํางานเปน็ ทีม

ป้าย สัญลกั ษณ์ และพิพิธภณั ฑใ์ นตวั ชุมชน

วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 5
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

อัตลักษณ์ของชุมชนกุฎีจีนแห่งน้ีประกอบไปด้วยประชากรท่ีนับถือ 3 ศาสนา ได้แก่ ศาสนา
คริสต์นิกายคาทอลิก ศาสนาพุ ทธ และศาสนาอิสลาม โดยส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกาย
คาทอลิกคิดเป็น 85% อีกท้ังชุมชนยังมีชุดความรู้ทางประเพณีวัฒนธรรมการกิน ท้ังอาหารว่างของ
ชาวโปรตุเกส จะมีขนมปังหน้าสัพแหยก ป๋วยต๊ัส และอาหารแนะนําในชุมชนคือขนมจีนแกงไก่ค่ัว
เป็นของกลุ่มคนญวนท่ีเข้ามาอยู่ท่ีชุมชนแห่งน้ี และมีการสันนิษฐานว่ากินกับเส้นสปาเก็ตต้ี ฝ่ ังไทย
เรามีการทาํ เส้นขนมจนี ขายเปน็ ร้านค้าเพ่ือเป็นรายได้ในชมุ ชน ให้คนในชุมชนได้หารายไดย้ ังชีพ

ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลกิ

ข้อมลู อาหาร
ชุมชนกุฎีจีนแห่งน้ีเป็นชุมชนสีขาว ได้รับเป็นแชมป์เร่ืองปลอดยาเสพติด ในสมัยก่อนน้ันมี
เด็กในชุมชนท่ีติดยาแต่ว่าทุกคนในชุมชนก็ช่วยให้ไปเข้ารับการบําบัดให้หาย แล้วช่วยสร้างอาชีพให้
จากน้ันก็ให้ผู้ท่ีบําบัดหายแล้วมาบอกต่อสู่รุ่นเด็กกว่าในชุมชน ว่าการบําบัดยาเสพติดมีกระบวนการท่ี
น่ากลัวอย่างไร ถึงไม่อยากให้คนรุ่นหลังน้ันต้องมาลองยาเสพติด ส่วนถ้าเกิดว่าคนท่ีไม่ยอมเลิกน้ัน
ทางชุมชนก็มีมาตรการเด็ดขาดในการไล่ออกจากชุมชน ในจุดน้ีจึงเป็นจุดแข็งของชุมชนและทําให้ทุก
คนในชุมชนดาํ รงอยู่รว่ มกนั ได้อยา่ งมีคณุ ภาพ

ปา้ ยยนื ยนั ชุมชนปลอดยาเสพติด

วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 6
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

ถึงแม้ชุมชนจะมีอัตลักษณ์โดดเด่นและแตกต่างจากชุมชนแวดล้อมรอบข้าง แต่ก็มีข้อจํากัด
ในหลายด้านหลายมุมมอง เช่น ชุมชนกุฎีจีนมีชาวบ้านนับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่ อาจส่งผลให้
คนท่ีนับถือศาสนาอ่ืน ๆ ซ่ึงเป็นคนส่วนน้อยอาจไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหน่ึงของชุมชน อีกท้ังอัตลักษณ์
ของชุมชนดึงดูดคนเข้ามาท่องเท่ียวจํานวนมาก อาจส่งผลให้ต้องมีการระมัดระวังและคํานึงถึงความ
ปลอดภัยท่ีมากข้ึน เพราะตอนลงสนาม บ้านเรือนหลาย ๆ หลังจะมีการนําขวดแก้วท่ีแตกแล้วมาทํา
เป็นร้ัวต้ังไว้ข้างบนกําแพงบ้าน ซ่ึงอาจใช้สําหรับการป้องกันขโมยท่ีจะปีนเข้ามาในบ้าน และภูมิศาสตร์
ชุมชนมีช่องทางเดินเข้าไปในซอยค่อนข้างแคบ และในบางคร้ังมียานพาหนะขับสวนกันไปมา ทําให้ไม่
ค่อยปลอดภยั ตอ้ งเพิ่มความระมัดระวงั ในการเดนิ

ชุมชนกุฎีจีนน้ันมีพิพิธภัณฑ์ท่ีเป็นพื้นท่ีเปิดกว้าง สามารถเข้าชมได้ฟรี และมีข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง
กับชุมชนในหลาย ๆ ด้าน ส่งผลให้ง่ายต่อการศึกษาและรวบรวมข้อมูล ผ่านท้ังผังเครือญาติในชุมชน
สัญลักษณ์ต่าง ๆ ภาพประมวลกิจกรรม และสื่อกลางท่ีอาจจะไม่ใช่รูปธรรมในด้านศาสนา และการ
บอกเลา่ ผา่ นผนู้ าํ ชมุ ชน

ประวตั ิศาสตรช์ มุ ชนในพิพิธภณั ฑ์

ตามแนวคิดทางสังคมวิทยากับชุมชน ชุมชนกุฎีจีนมีการแบ่งพื้นท่ีในการใช้ตามวัตถุประสงค์
ของคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นพื้นท่ีของท่ีอยู่อาศัย โรงเรียน ศาสนสถาน หรือพ้ืนท่ีส่วนกลางของ
ชุมชน การรวมตัวกัน ประชากรในชุมชนเชิงประจักษ์ มีพื้นท่ีการเรียนรู้ร่วมกัน มีการติดต่อส่ือสาร
ก า ร จั ด ก า ร แ ล ะ ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ร่ ว ม กั น ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ห รื อ ก า ร พั ฒ น า ภ า ย ใ น ชุ ม ช น
ตลอดจนกันผลกระทบสู่ภายนอกชุมชน พยายามให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมของชุมชนแม้ประชากรจะต่าง

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 7
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ศาสนากัน ส่วนตัวนักศึกษามองว่าเพราะการมีอยู่ของศาสนา ทําให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้มากกว่าท่ีจะ
มองหาจุดอ่อนหรือความแตกต่าง ต่อให้แต่ละศาสนามีคําสอนหรือทัศนะความเช่ือท่ีต่างกันกันออกไป
แต่เพราะทุกคนมีหลักยึดในใจ การมาเผชิญหน้ากันเพ่ือทําข้อตกลง เป็นหนทางนําไปสู่สันติและการ
พัฒนาคุณภาพชีวติ อยา่ งย่งั ยนื ได้

ในเร่ืองของเศรษฐศาสตร์การเมือง โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การประกอบอาชีพท่ี
หลากหลายภายในชุมชน ไม่ว่าจะการรับอาชีพราชการหรือการทํางานในวังหลวงท่ีสืบต่อกันมาต้ังแต่
ในอดีต อาชีพช่างไฟ อาชีพการทําขนม นอกจากน้ีได้มีการร่วมมือกับกระทรวงการท่องเท่ียวแห่ง
ประเทศไทยเพ่ือเป็นชุมชนท่ีเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย โดยกลุ่มอาชีพทําขนมในชุมชน
น้ันถือเป็นจุดเด่นของชุมชนในด้านการท่องเท่ียว จุดน้ีทําให้มองเห็นว่าประชากรในชุมชนมีวิถีชีวิตท้ัง
ส่วนตัวและการทํางานคงเส้นคงวาอย่างยาวนาน คนรุ่นก่อนได้ท้ิงประวัติศาสตร์เอาไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้
สืบทอด แม้เทคโนโลยี ภูมิศาสตร์ หรือความก้าวหน้าต่าง ๆ จะเข้ามามีส่วนในการเปล่ียนแปลงวิถี
ประกอบอาชีพกับหลาย ๆ อาชีพ แต่วัฒนธรรมเดิมท่ีได้รับการสนับสนุนท้ังจากคนในชุมชนเอง และ
จากภาครัฐ ยังทําให้คนในชุมชนดํารงชีวิตอยู่ได้แม้จะยึดหลักการผลิตเพื่อยังชีพ ไม่ได้ค้าขายเป็น
หลักโดยเฉพาะเร่ืองของอาหารการกิน ถ้าหากข้อตกลงน้ียังคงดําเนินอยู่โดยท่ีไม่มีทุนนิยมหรือความ
เส่ียงอ่ืนเข้ามาแทรกแซง เช่น การขาดลูกหลานสืบทอดวิชาอาหาร หรือเกิดภัยพิบัติในพ้ืนท่ี ชุมชน
แห่งน้ีก็จะมีจุดแข็งในเร่ืองของวัฒนธรรมดํารงอยู่ ไม่สูญหายหรือคงไว้แต่เพี ยงพิ พิ ธภัณฑ์
ท่มี ีเพียงแตช่ ุดความร้ใู หเ้ รยี นรู้แต่สัมผัสรปู ธรรมไมไ่ ดใ้ นชวี ติ จริง

วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 8
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผูบ้ นั ทกึ : นางสาวนรู ีซนั มะมิง 6205510016



(ภาพถ่ายจากอาจารย์ป่ ิน)

จากการร่วมศึกษาชุมชนในช้ันเรียนออนไลน์ ชุมชนกุฎีจีน ในเวลา 9.30 น. ท้ังน้ี คุณดวล
ได้เล่าถึงการรวมตัวเป็นย่าน โดยการเล่าถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นมาชุมชนกุฎีจีน ซ่ึงเป็นชุมชน
เก่าแก่ของชาวไทยท่ีมีหลายเช้ือชาติและศาสนา โดยส่วนใหญ่จะมีชาวโปรตุเกสอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่
ต้ังอยู่ริมแม่น้ําเจ้าพระยาฝ่ ังธนบุรี โดยในสมัยก่อนคนโปรตุเกสเป็นผู้กอบกู้เอกราชจึงทําให้พระเจ้า
ตากสินไว้ใจเพราะพระเจ้าตากสินเช่ือว่าซาวโปรตุเกสซ่ือสัตย์ จึงได้มอบท่ีดินให้แก่ชาวโปรตุเกสอยู่ใน
วันท่ี 14 กันยายน จนกลายเป็นชุมชนกุฎีจีนโดยชาวโปรตุเกสได้สร้างวัดและสร้างโบสถ์ ซ่ึงมีโบสถ์
หลังท่ีสาม และได้ฝังศพของบรรพบุรุษไว้หลังโบสถ์เพื่ อเป็นการระลึกถึง ในปัจจุบันซ่ึงโบสถ์
กลายเป็นประวัติศาสตร์ของชาวคาทอลิกให้จดจําหลายอย่างมากมาย คําว่า "ซางตาครู้ส "เป็นภาษา
โปรตุเกส แปลว่า "กางเขนศักด์ิสิทธ์" โดยตัวอาคารของโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมแบบน้ีโอคลาสสิก
และเรเนอซองซ์ ลักษณะโดดเด่น คือ หอระฆังทรงแปดเหล่ียมประดับด้วยไม้กางเขงบนยอดตัว
อาคารก่ออิฐประดับลายรูปป้ ัน และมีความโดดเด่นในเร่ืองของอาหารการกิน โดยเฉพาะ "ขนมฝร่ัง
กุฎีจีน"ซ่ึงถือว่าเป็นขนมโบราณท่ียังคงยึดสูตรตามต้นตํารับด้ังเดิมของชาวโปรตุเกส เม่ือพู ดถึง
ขนมแล้วทําให้นักศึกษาเกิดความรู้สึกอยากจะลองชิมขนมฝร่ังกุฎีจีนข้ึนมาเลยค่ะ ซ่ึงจะเห็นว่าชุมชน
กุฎีจีนยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีด้ังเดิมต่าง ๆเอาไว้ เพื่อต้องการสืบทอดให้รุ่นต่อไปเป็นระยะ
เวลานานกว่า 200ปี เพื่อต้องการให้เด็กๆและคนในชุมได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ของ
ชุมชนในสมัยอดีตมีความเป็นมาอย่างไร โดยในชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีผู้นําและคนในชุมชนมีความ
เข้มแข็งและมีความปรองดองสมานฉันท์ ทําให้ชุมชนเป็นชุมชนเข้มแข็ง และยังเป็นแหล่งการเรียนรู้
ในด้านต่าง ๆ ท่ีมีลักษณะโดดเด่นของชุมชน ในด้านของวัฒนธรรม วิถีชีวิตแบบด้ังเดิมและเร่ืองราว
ต่าง ๆท่ีน่าสนใจมากมายท่ีนักศึกษามีความสึกอยากจะไปลงดูชุมชนด้วยตนเองสักคร้ังหลักจากน้ัน
พ่ีป่ ินซ่ึงเป็นประธานชุมชน ได้มาพู ดคุยแลกเปล่ียนกับนักศึกษาในช้ันเรียนออนไลน์นักศึกษาเร่ิมมี

วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 9
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ความรู้สึกต่ืนเต้นในการท่ีเรียนรู้จากพี่ป่ ิน ในด้านของความเป็นอยู่ของคนในชุมชน การประกอบ
อาชีพ ภัยพิบัติ และวัฒนธรรมประเพณี ขนมท่ีโดดเด่น และองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆท่ีมีบท
สําคัญในชุมชนและการขัดเคล่ือนย่านไปพร้อมๆกัน ในชุมชน โดยมีประธานท้ังหมด 6 ชุมชน ชุมชน
ละ 5 คน เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจในการประชุมพู ดคุยกัน ซ่ึงกลุ่มจะเป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุ ท้ังน้ี
นักศึกษาได้เกิดการจินตนาการจากการฟงั และความรู้สึกของวิทยากร ทําให้เข้าใจถึงความเป็นชุมชน
เข้มแข็งเพราะว่าจากการฟังพี่ป่ ันเล่ามาชุมชนแห่งน้ีคนในสังคมอยู่กันอย่างสงบสุข ช่วยเหลือกัน
และเข้าใจกัน เน่ืองจากเป็นชุมชนท่ีมีความเก่าแก่และผู้คนมีความหลากหลายทางเช้ือชาติและศาสนา
โดยมีถึง 3 ศาสนา คือ ศาสนาคริสต์ อิสลาม พุทธ ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของคนในชุมชน
ท่ียึดเหน่ียวกันอีกท้ังพ่ีป่ ันได้พู ดเก่ียวกับ องค์กรในชุมชน โดยมีท้ังอสส. คืออาสาสมัครสาธารณสุข,
อสย. คอื อาสาสมคั รป้องกนั ยาเสพตดิ , อปพร. คือ อาสาสมคั รป้องกนั ภยั ฝา่ ยพลเรอื น และกระทรวง
ต่าง ๆ ซ่ึง อปพร. เป็นกลุ่มสําคัญในชุมชนท่ีจะเข้าให้ความช่วยเหลือภายในชุมชน และเป็นกลุ่มแรกท่ี
ไปถึงท่ีเกิดเหตุก่อนกลุ่มอ่ืน ๆรวมท้ังการมีจุดเด่นภายในชุมชนท่ีสามารถทํารายได้เข้าสู่ชุมชนและ
สร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชนได้ อาจเป็นเพราะมีการบริหารท่ีดี และทําให้นักศึกษาได้สังเกตอารมณ์
ความรสู้ ึกจากท่ไี ดฟ้ งั มาท้งั แสดงใหเ้ หน็ ถึงความรักใคร่ กลมเกลยี วของคนในชุมชนกุฎีจนี แห่งน้ี

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 10
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผ้บู นั ทึก: น.ส. กฤตมิ า ลอย 6205530048 ฃ

ข้อจํากัดในการเขียนบันทึกภาคสนามในคร้ังน้ี เน่ืองจากข้าพเจ้าเป็นนักศึกษาพิการทาง
สายตาจึงไม่สามารถท่ีจะสังเกตการณ์และเรียนรู้ได้เต็มท่ี ทําได้แต่เพียงการรับฟังและอ่านข้อมูล
ประกอบได้เพียงเท่า น้ันจึงส่งผลให้การเขียนข้อมูลอาจไม่ครบถ้วนหรือขาดไปในรายละเอียดบาง
ประเด็น

ชมุ ชนกดุ จี ีนน้นั ถอื ไดว้ ่าเป็นชมุ ชนทม่ี ปี ระวตั ศิ าสตรอ์ นั ยาวนาน และมวี ฒั นธรรมประเพณีทง่ี ดงาม

ส่ิงท่ีข้าพเจ้าสัมผัสได้ผ่านการหาข้อมูลและการบรรยายของวิทยากรคือความเรียบง่ายในการ
ดําเนินชีวิตรวมไปถึงการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆทางศาสนา ถึงแม้ว่าตอนน้ีด้วยข้อจํากัดท่ีเกิดข้ึนจาก
โรคระบาทจะส่งผลให้ผู้คนภายในชุมชนไม่สามารถท่ีจะเข้าไปปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาได้ แต่การท่ีมี
วิธีการประกอบพิ ธีให้คุณพ่ อสามารถเดินไปให้ศี ลและพรแก่ผู้คนได้ถึงท่ีอยู่อาศั ยของแต่ละบุคคล
นน้ั สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ การปรับตวั ใหเ้ ข้ากบั การเปลย่ี นแปลงและชวี ิตวิถีใหม่ไดเ้ ปน็ อย่างดี

เร่ืองราวต่อมาท่ีข้าพเจ้ารู้สึกประทับเป็นอย่างมากคือ การสืบทอดวิธีการทําขนมฝร่ังท่ีสืบ
ทอดกันมาต้ังแต่อดีต ซ่ึงขนมฝร่ังน้ันถือเป็นขนมท่ีข้าพเจ้ามีความชอบมาต้ังแต่สมัยเด็ก และหาก
ข้าพเจ้ามีโอกาสท่ีจะสามารถไปรับรู้รสชาติของขนมฝร่ังแบบโบราณน้ันคงเป็นเร่ืองท่ีดีไม่น้อยเลย
ทีเดยี ว

จากการหาข้อมูลประกอบกับการรับฟงั การบรรยายของข้าพเจ้าพบว่าชุมชนกุดีจีนเป็นชุมชน
วิถีการท่องเท่ียวท่ีเป็นการท่องเท่ียวแบบเรียนรู้วิถีชีวิตและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านสภาพแวดล้อม
ภายในชุมชนไม่ว่าจะเป็น การศึกษาผ่านสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่านสถาปัตยกรรมทาง
ศาสนา ผ่านแบบบ้านเรือนของผู้คนในชุมชน ในความคิดเห็นของข้าพเจ้าน้ัน ข้าพเจ้ามีความคิดเห็น
ว่าการจัดการท่องเท่ียวเชิงการเรียนรู้วัฒนธรรมและเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์ น้ันจัดเป็นการ
กระจายรายได้ไปสู่ชุมชนไดเ้ ป็นอยา่ งดสี ่งผลใหผ้ คู้ นในชมุ ชนมรี ายไดแ้ ละสามารถช่วยเหลือตนเองได้

สรปุ สิ่งทข่ี า้ พเจ้าไดจ้ ากการศึกษาชมุ ชนกุดจี ีน

1. ไดร้ บั รูเ้ ร่อื งราวทางประวตั ศิ าสตร์จากการบอกเล่าของวิทยากร
2. ไดเ้ ขา้ ใจถึงวธิ ีการประกอบพิธีทางศาสนาครสิ ตท์ ถ่ี กู ต้อง
3. ได้รับทราบถึงรปู แบบบ้านเรือนต่าง ๆภายในชุมชน
4. ได้รับทราบถึงเรอ่ื งเล่าและตาํ นานต่าง ๆท่เี ลา่ สืบต่อกนั มา ไม่ว่าจะเป็นดา้ น ความเชอ่ื การใชช้ ีวิต เป็นตน้
5. ไดร้ ับรถู้ งึ ขอ้ เทจ็ จริงทางประวัติศาสตรใ์ นมมุ มองตา่ ง ๆมากย่งิ ขน้ึ

สิ่งท่ีข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายเป็นอย่างย่ิงคือ วิธีการทําอาหารและขนมแบบโบราณ ซ่ึงการบอก
เล่าของวิทยากรน้ันกล่าวไว้ว่าเม่ือเวลาผ่านไปกลุ่มคนท่ีสามารถทําอาหารและขนมโบราณต่าง ๆ
เร่มิ ลดน้อยลงไปทกุ ที

ข้าพเจ้าคิดว่า คงน่าเสียดายไม่น้อยเลยท่ีอาหารและขนมต่าง ๆท่ีได้รับการสืบทอดมาอย่าง
ยาวนานจะต้องหายไปในซักวันหน่ึงข้างหน้า แต่หากมีการศึกษาและสืบทอดรวมไปถึงการอนุรักษ์
ไวใ้ หล้ ูกหลานรุ่นต่อๆไปไดม้ โี อกาสไม่รับรูร้ สชาตทิ เ่ี ปน็ ตําหรบั โบราณแท้ คงเปน็ การดีมิใช่น้อย

วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 11
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผู้บนั ทึก: น.ส.ภาณพุ ร จงเจริญโภคา 6205610105



การฟังบรรยายในวันท่ี 6 ตุลาคม 2564 ในชุมซนกุฎีจีน เร่ิมจากการฟังบรรยายในเร่ือง
บริบทของชุมชนท่ัวไปจากผู้ท่ีอยู่ในชุมชนกุฎีจีน ประวัติศาสตร์ของชุมชนกุฎีจีน เร่ิมมีผู้คนเข้ามา
อาศัยต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เร่ิมจากการเดินทางค้าขายทําให้มีคนหลากหลายเช้ือชาติเข้ามา
ต่อมาเร่ิมมีการต้ังถ่ินฐาน เร่ิมมีการสร้างศาสนสถานข้ึน ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เร่ิมมีการ
ย้ายเข้ามาของชาวจีนมากข้ึน โดยเฉพาะชาวจีนฮกเก้ียน ในสมัยน้ันจึงมีการสร้างศาสนสถานใน
ปัจจุบันคือ ศาลเจ้าเกียนอันเกง ท่ีเป็นท่ีเคารพบูชา และยังมี กุฎีขาว ซ่ึงนอกจากชาวจีนท่ีเข้ามาอยู่
ในบริเวณน้ีแล้ว ยังมีชาวโปรตุเกศท่ีเข้ามาพร้อม ๆ กัน เป็นชาวตะวันตกชาติแรกท่ีเข้ามา ทําให้
ภายในชุมชนน้ีมีคนท่ีอยู่ร่วมกันสามศาสนา มีความเช่ือท้ังสามศาสนา รวมกันอยู่อย่างกลมกลืนกัน
เข้าใจกัน ทําให้เป็นชุมชนตัวอย่างท่ีได้รับความสนใจในการศึกษาการอยู่ร่วมกันของคนในชุมชน
นอกจากเร่ืองศาสนาแล้ว ภายในชุนชนยังเด่นเร่ืองประติมากรรม สถาปัตยกรรมต่าง ๆ มากมาย มี
ศาลเจ้าท่ีมีงานศิลปะ งานฝีมือต่าง ๆ ท่ีหาดูได้ยากท่ีสะท้อนถึงเร่ืองราวต่าง ๆ ต้ังแต่อดีตจนถึง
ปัจจุบัน ซ่ึงชุมชนน้ีได้อนุรักษ์ส่ิงน้ีไว้ เป็นโบราณสถานท่ีให้ผู้คนได้เข้ามาชมและศึกษา เป็นคุณค่าท่ี
สรา้ งความภาคภูมิใจให้แกค่ นในชุมชน

เม่ือจบการบรรยายเก่ียวกับประวัติศาสตร์ในเร่ืองบริบทท่ัวไปของชุมชนกุฎีจีน ต่อไปเป็นการ
พูดถงึ พิพิธภัณฑบ์ า้ นกุฎจี นี ทอ่ี ยูบ่ ริเวณทต่ี ้งั ของวัดใกล้กับพระราชวงั เดิมสมยั ธนบรุ ี สมเด็จพระเจา้
ตากสินมหาราชพระราชทานท่ีดินให้แก่ชาวโปรตุเกสในการต้ังถ่ินฐาน ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการ
สร้างโบสถ์มาหลายรอบโดยรอบแรกก่อสร้างอาคารวัดหลังแรกท่ีสร้างด้วยไม้ ต่อมาเกิดเพลิงไหม้
จึงสร้างคร้ังท่ีสองด้วยอิฐ และได้ก่อสร้างใหม่อีกคร้ังในปี พ.ศ. 2459 ซ่ึงคืออาคารวัดหลังท่ีเห็นใน
ปัจจุบัน คือโบสถ์ซางตาครูส ท่ีเป็นสถานท่ีสําคัญมีจุดเด่นท่ียอดโดมแบบอิตาลีซ่ึงมีลักษณะ
คล้ายคลึงกับโดมแห่งมหาวิหารฟลอเรนซ์ และการใช้เสาลอยรับน้ําหนักของผ้าเพดานแบบโค้ง
รวมถึงกระจกสีท่ีเป็นเร่ืองราวเก่ียวข้องกับคริสต์ศาสนา นอกจากอาคารวัดท่ีสําคัญแล้ว ยังมีศาลา
ซางตาครัสอีกด้วย โบสถ์ซางตาครู้สรายล้อมไปด้วยชุมชนกุฎีจีน ชุมชนเก่าแก่ด้ังเดิมของกรุงธนบุรี

วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 12
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

เป็นท่ีอยู่อาศัยของคนไทยหลากหลายเช้ือสาย ทําให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านต้ังแต่อดีตจนถึง
ปัจจบุ นั คลา้ ย ๆ LifeMuseum

ต่อมาเป็นการเป็นการฟังบรรยายจากพ่ีป่ ัน ประธานของชุมชนกุฎีจีน ได้ทําการขับเคล่ือน
ชุมชนเพ่ือส่งเสริมการท่องเท่ียวภายในชุมชน จัดต้ังคณะกรรมการมาจัดการดูแลในการขับเคล่ือน
เน้นการพัฒนาชุมชน ในการดําเนินการ เป็นไปได้อย่างราบร่ืนเน่ืองจากคนภายในชุมชนมีความรักใคร่
เข้าใจ และพร้อมพัฒนาชุมชนไปพร้อมๆกัน ทําให้ชุมชนเป็นแหล่งท่องเท่ียว คนในชุมชนมีรายได้ ซ่ึง
ในช่วงโควิด รายได้ตรงส่วนน้ีลดลงไปมากมีการช่วยเหลือกันภายในชุมชน และจากภาครัฐ คนท่ีขาด
รายได้ มีการจัดทําโครงการช่วยเหลือ มีเงินเยียวยา หรือคนท่ีอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ประกอบอาชีพ หรือ
ผู้สูงอายุ ได้มีการหากิจกรรม หรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ข้ึน เพ่ือป้องกันการเป็นโรคซึมเศร้า และยังมี
การดูแลกัน ในเร่ืองการเฝ้าระวังโควิด ท้ังในเร่ืองการทํากิจกรรมทางศวุสนา หรือการอยู่ร่วมกัน จัด
ระเบียบภายในชุมชนให้ปลอดโควิด เช่น การแบ่งสัดส่วนคนในการทํากิจกรรมต่าง ๆ การเข้าแถวเว้น
ระยะห่างรับอาหาร หรือการนําอาหารไปส่งท่ีบ้านคนกักตัว เป็นต้น ซ่ึงในปัจจุบัน ภายในชุมชนมีการ
พัฒนาเด็กเยาวชนในการร่วมพัฒนาชุมชน โดยการจัดทําครงการต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เข้าร่วม และ
ซมึ ชับวถิ ไี ดเ้ รยี นรแู้ ละนํามาตอ่ ยอดชมุ ชนไดต้ อ่ ไปในอนาคต

จากการฟงั บรรยายคร้ังน้ี สะท้อนให้เห็นถึงการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ ท่ี
ทําสืบทอดกันมาต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกว่า 200 ปี ได้เห็นถึงการดําเนินของคนในชุมชนท่ีเร่ิมจาก
การมาจากต่างท่ี ต่างศาสนาแต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน และมีความสุข ร่วมกันพัฒน้า
อนุรักษ์ชุมชนต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการปรับตัวตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เช่น
ในสถานการณ์โควิด19 และนอกจากการท่ีเราได้เห็นภาพรวมของชุมชนกุฎีจีนแล้ว การฟงั บรรยายใน
คร้งั น้ี ยงั สะท้อนใหเ้ หน็ บทบาทของผนู้ าํ หญงิ ในการบรหิ ารชมุ ชนทม่ี คี วามละเอียดออ่ นและใส่ใจ ลึกซ้งึ
นอกจากน้ี ผู้หญิงก็สามารถมีความเข้มแข็ง ตัดสินใจได้ไม่ต่างจากผู้ชายสามารถพัฒนาชุมชนได้และ
ดํารงอยู่จนมาถึงปัจจุบันและประสบความสําเร็จ ทําให้ชุมชนกลายเป็นแหล่งเท่ียวและเป็นท่ีศึกษา
เรยี นรแู้ กค่ นภายนอก และเปน็ โบราณสถานทส่ี ําคัญ

วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 13
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผู้บันทกึ : น.ส.ปรัชญุ ์กร บุญปลอด 6205610113



บันทึกภาคสนามคร้งั ท่ี 1 : ชมุ ชนกุฎีจนี

วทิ ยากรท่านท่ี 1 : คณุ บณุ ยนิธย์ สิมะเสถยี ร (ตระกลู เก่าแก่ของชมุ ชน)

ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชนเร่ิมต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
การค้าทางเรอื มกี ารเดนิ เรือเพ่ือขนส่งสินค้าจากชาวต่างซาติ ซง่ึ บริเวณนจ้ี งึ กลายเป็นจดุ พักช่วั คราว
ของเรือขนสินค้าจํานวนมากและต่อมาได้กลายเป็นท่ีอยู่อาศัยถาวรในท้ายท่ีสุดและเร่ิมมีการสร้าง
ศาสนสถานข้ึนคือ ศาลเจ้าเกียนอันเกงหรือศาลเจ้าแม่กวนอิม ในสมัยกรุงธนบุรีได้มีบันทึกของ
นักพฤษศาสตร์กล่าวถึงพัฒนาการด้านวัฒนธรรมของชุมชนท่ีพระภิกษุจากจีนเร่ิมมาเผยแผ่ศาสนา
ซง่ึ เดินทางมาพรอ้ มกับเรือขนส่งสินคา้

ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ชาวจีนฮกเก้ียนได้มาอาศัยเพ่ิมมากข้ึน จึงได้มีสร้างศาลเจ้า
เกียนอังเกงข้ึนมาใหม่ในสมัยรัชกาลท่ี 3 เน่ืองจากความทรุดโทรมของตัวอาคาร นอกจากน้ันชุมชน
กุฎีจีนยังมีชาวโปรตุเกสเข้ามาอาศัยจึงได้มีการสร้างวัดชางตาครู้ส (Santacruise Church) ข้ึน
และชาวมสุ ลิมเขา้ มาอาศัยรว่ มดว้ ยจึงได้มีการสรา้ งศาสนสถานเป็นมสั ยิดบางหลวงหรอื กฎุ ีขาว

ความรทู้ ไ่ี ด้จากการบนั ทกึ ภาคสนาม
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีเอกลักษณ์และจุดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมวิถีชีวิตท่ี

หลากหลายปัจจุบันชุมชนน้ีจึงเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวเชิงประวัติศาสตร์ศาสนาและแหล่งความรู้ด้านวิถี
ชีวิตความเป็นอยู่ท่ีสําคัญแสดงให้เห็นถึงชุมชนตัวอย่างท่ีผู้คนท้ัง 3 ศาสนา (ศาสนาพุ ทธ ศาสนา
คริสต์และศาสนาอิสลาม) 4 ความเช่ือ (นิกายมหายาน นิกายเถรวาทนิกายโรมันคาทอลิกและนิกาย
ซนุ นี) สามารถอาศัยอยรู่ ่วมกันมาได้อยา่ งยาวนาน

วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 14
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

วัดกัลยาณมติ รวรมหาวหิ าร วัดซางตาครู้ส

มสั ยิดบางหลวง ศาลเจา้ เกยี นอันเกง

วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 15
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

วทิ ยากรท่านท่ี 2 : คณุ นาวนิ ี พงษ์ไทย (ครอบครัวทหารโปรตเุ กส)

ชาวโปรตุกสเป็นชาวตะวันตกกลุ่มแรกท่ีเดินทางมาอยุธยาจึงทําให้เกิดวัฒนธรรมท้องถ่ิน
ท่ีน่าสนใจเกิดข้ึนมากมาย เช่น ระฆังการียอง (carillon) ของวัดซางตาครู้สเป็นระฆังชุด 16 ใบ
ท่ีโน้ตเสียงท่ีต่างกันสามารถบรรเลงเป็นเพลงได้งานฉลองหรือเทศกาลซ่ึงเป็นการเล่นแบบโบราณ
ขนมฝร่ังกุฎีจีนท่ีตัวขนมเป็นต้นตํารับของโปรตุเกสเป็นต้น นอกจากน้ันยังมีเทศกาลงานเล้ียง
อาหารสยามโปรตุเกส อาหารต้นตํารับด้ังเดิมจากเขมรขนมจีนแกงไก่ค่ัวและเร่ืองของผีหนูเจ๊ียบ
ถ้า 6 โมงเยน็ ไมก่ ลับบา้ นจะมาเลน่ ดว้ ย ทกุ อยา่ งลว้ นกลายเป็นเสน่ห์ของชมุ ชนกฎุ จี นี

ระฆงั การยี อง ขนมฝร่งั กฎุ ีจนี ผหี นเู ลย๊ี บ
(The Little Liab Ghost)

ความรู้ท่ไี ด้จากการบนั ทึกภาคสนาม
การอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนเป็นสิ่งท่ีสําคัญอย่างมากโดยเฉพาะด้านศิลปะ ดนตรี การ

ทําขนมหรืออาหารด้ังเดิม เป็นตัน การเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่าน้ีหรือพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าจาก
วัฒนธรรมด้านศิลปะ ดนตรี และอาหารสามารถสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจได้อย่างมาก ยกตัวอย่าง
เช่นขนมน้ําตาลแผ่นของประเทศเกาหลีใต้ซ่ึงสามารถกลับมาเป็นท่ีนิยมและสร้างรายได้อีกคร้ังใน
ปัจจุบันจากการนํามาใช้ในซีรีส์ เป็นต้น ปัจจุบันขนมฝร่ังกุฎีจีนเหลือเพียงแค่ 3 เจ้าเท่าน้ันและการ
เล่นระฆังการียองท่ีผู้สามารถเล่นได้มีเพียง 2 ท่านซ่ึงท้ัง 2 อย่างน้ีต้องใช้ทักษะหรือความเช่ียวชาญ
ซ่งึ อาศัยเวลาในการฝึกฝนจึงควรเร่มิ สานต่อและพัฒนาความรเู้ หลา่ น้ใี นแกค่ นร่นุ ใหม่

แต่บางวัฒนธรรมอาจสูญหายไม่สามารถทําต่อไปได้เพราะการเปล่ียนแปลงไปตามยุคสมัย
ของคนรุ่นใหม่เช่น เร่ืองผีหนูเจ๊ียบซ่ึงเม่ือก่อนสามารถทําได้จริง แต่ยุคสมัยท่ีเปล่ียนแปลงไป
เทคโนโลยีความรู้ก้าวหน้ามากข้ึนจึงไม่สามารถท่ีจะกํากับเด็กๆด้วยวิธีน้ีได้และกลายเป็นเพียงเร่ืองเล่า
ในสุดท้าย

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 16
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

วทิ ยากรท่านท่ี 3 : ป่ นิ ทอง วงษ์สกลุ (ประธานชมุ ชนกุฎจี ีน)

โครงสร้างเดิมของชุมชนเป็นชุมชนท่ีมีความสามัคคีเน่ืองจากประวัติศาสตร์ท่ีมีร่วมกันมา
อย่างยาว้นานแต่ปัจจุบันชุมชนกุฎีจีนเป็นสถานท่ีท่ีผู้คนสนใจมาท่องเท่ียวศึกษาเชิงประวัติศาสตร์
อย่างมาก จึงทําให้เป้าหมายของการพัฒนาชุมชนมุ่งเน้นไปสู่การท่องเท่ียวเชิงประวัติศาสตร์ นําไปสู่
การประสานกับหน่วยงานท้ังภาครัฐและภาคเอกชน แต่เน่ืองจากสถานการณ์โควิดทําให้ต้องวางแผน
จัดการเร่ืองความเป็นอยู่ท่ีดีของคนในชุมชนเป็นหลักมีการจัดการดูแลท้ังด้านสุขภาพกายและ
สุขภาพจิต เช่น ผู้สูงอายุท่ีมีภาวะเส่ียงป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทางชุมชนได้มีการจัดกิจกรรมอยู่ตลอด
ทง้ั กิจกรรมปลกู พืชผักสวนครัว กจิ กรรมเสริมสร้างรอยย้มิ สุขภาพจิต เปน็ ต้น

ประชากรส่วนใหญ่ในชุมชนเป็นผู้สูงอายุจึงต้องเสริมสร้างและพัฒนาชุมชนในต้านเทคโนโลยี
ให้มากข้ึนเพ่ือมุ่งไปสู่เป้าหมายการเป็นชุมชนท่องเท่ียวเชิงประวัติศาสตร์ รวมไปถึงการพัฒนา
มัคคเุ ทศก์รนุ่ ใหม่ของชมุ ชน

ความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการบนั ทกึ ภาคสนาม

วิสัยทัศน์ของผู้นําชุมชนเป็นสิ่งสําคัญเห็นได้จากแผนการการมุ่งไปสู่ชุมชนท่องเท่ียวและการ
รับมือจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันเช่น น้ําท่วมและสถานการณ์โควิด การประสานงานกับหน่วยงาน
ภายนอกชุมชนเป็นส่ิงจําเป็นเช่น การประสานงานภาครัฐเพื่อจัดการส่ิงแวดล้อมท้ังถนน สายไฟเพ่ือ
ทัศนียภาพสําหรับนักท่องเท่ียวการขอเงินสนับสนุนจากหน่วยงานเอกชนเพื่อนํามาสนับสนุนผู้คนใน
ชุมชน เป็นต้น การวางแผนไปถึงทิศทางอนาคตสามารถวิเคราะห์จุดเด่นและจุดท่ีควรแก้ไขของชุมชน
ได้ สมาชิกในชุมชนมีความร่วมใจกันสามัคคีกันทําให้กระบวนการจัดการชุมชนเป็นไปได้อย่างดี ผู้คน
ช่วยเหลือกันเม่ือพื้นท่ีส่วนรวมของชุมชนเกิดปัญหาอุปสรรคข้ึนแน่นอนว่าเน่ืองจากประวัติศาสตร์ท่ีมี
มาร่วมกันแต่การบริหารจัดการในปัจจุบันก็เป็นสําคัญให้ผู้คนในชุมชนเกิดความสามัคคีและพัฒนา
อย่างต่อเน่อื ง

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 17
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผบู้ นั ทกึ : น.ส.ปณั รวีร์ ศิริวิภาอนันต์ 6205610121 ฃ

ในการศึกษาชุมชนกุฎีจีนคร้ังน้ี ได้รับเกียรติจากวิทยากรท้ังสามท่าน คือ พี่ด้วง พี่ตอง
และพ่ีป่ ิน ผู้เป็นตัวแทนของชุมชนในการบอกเล่าเร่ืองราวความเป็นกุฎีจีนต้ังแต่ในอดีตมาจนถึง
ปัจจุบัน โดยเน้ือหาท่ีบันทึกน้ีเป็นการสรุปความเข้าใจจากการลงภาคสนามออนไลน์ท้ังหมด และมีการ
นํารปู ทอ่ี าจารยไ์ ด้รวบรวมไวใ้ หม้ าใชอ้ ธบิ ายร่วมด้วย

"ถือกําเนดิ "

ชุมชนในย่านกุฎีจีน เร่ิมต้ังแต่สมัยอยุธยา ชาวต่างชาติผู้ค้าขายต้องเดินทางผ่านแม่น้ํา
เจ้าพระยา หรือบริเวณสะพานพุ ทธในปัจจุบัน ในการจะเดินทางผ่านไป โดยมีการให้เจ้าพระยา
วิไชยเยนทร์สร้างป้อมวิไชยประสิทธ์ิ ซ่ึงปัจจุบันยังเห็นบางส่วนของป้อมอยู่ เรือทุกลําท่ีต้องใช้
เส้นทางน้ี ต้องหยุดจอดในการตรวจสอบเรือชาวต่างชาติบางประเทศเลือกข้ึนจากเรือมาอยู่พักเป็น
การช่ัวคราว ซ่ึงเวลาต่อมาอยู่พักอาศัยนานข้ึน จึงได้สร้างศาสนสถานของตนเองข้ึนมา เป็นวัด
หรือศาลเจ้าของจีนในบริเวณน้ี โดยมีผู้บันทึกไว้เป็นนักพฤกษศาสตร์ชาวเดนมาร์กท่ีเข้ามาในสมัย
กรุงธนบุรี และมีการกล่าวถึงพระภิกษุจีนท่ีเคยมาเผยแพร่ศาสนา โดยมีกรมศิลปากรเป็นผู้แปล
บันทกึ ของนกั พฤกษศาสตร์

“แตกตา่ ง รว่ มกัน”

วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 18
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

เม่ือเข้าสู่สมัยรัตนโกสินทร์ บริเวณน้ีก็มีชาวจีนฮกเก้ียนมาอยู่เพ่ิมมากข้ึน ในช่วงรัชกาลท่ี 3
จึงมีการสร้างศาลเจ้าใหม่แทนศาลเจ้าเดิมท่ีทรุดโทรม ช่ือ ศาลเจ้าเกียนอันเอง นอกจากชาวจีนแล้ว
ยังมีชาวโปรตุเกสท่ีเข้ามาอยู่อาศัยบริเวณโบสถ์ชางตาครู้สท่ีเป็นตัวแทนของศาสนาคริสต์ และมีการ
ก่อสร้างมัสยิดของศาสนาอิสลาม ซ่ึงเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันของหลายศาสนาท้ังพุ ทธ
คริสต์ และอิสลาม โดยพุ ทธน้ันมีสัญลักษณ์ท่ีปรากฏเป็นวัดต่าง ๆ เช่น วัดกัลยาณมิตร วัดประยูร
วงศาวาส อันเป็นตัวแทนของพุ ทธเถรวาท รวมไปถึงศาลเจ้าท่ีถือเป็นของพุ ทธมหายาน อันเป็น
ตวั แทนของความหลากหลายท่หี ลายหน่วยงานใหส้ นใจ

"การเล่าเรอ่ื งผ่านศิลปะ"
ในบริเวณศาลเจ้ามีการเล่าเร่ืองราวสามก๊กผ่านการวาดภาพจิตรกรรมในแต่ละตอน โดยตอน
สําคัญจะวาดบนปูนเปียก เป็นฉบับเดียวกับเจ้าพระยาพระคลังหน งานเหล่าน้ีเป็นของผู้มีฝีมือ มี
ความสามารถ หรือได้รับการยกย่อง โดยมีบันทึกไว้ เช่น ภาพวาดจะลักษณะเดียวกับราชวงศ์ชิง
นอกจากภาพวาดยังมีงานไม้ท่ีอยู่บนคานของโถงด้านหน้า เล่าเร่ืองของสามก๊กเช่นเดียวกัน โดยเล่า
เป็นตอนยุทธการเปิดเมือง ตีพิมพ์บนกําแพงเมืองเพ่ือหลอกทัพของสุมาอ้ี สถานท่ีแห่งน้ีได้รับการ
อนุรักษ์และใส่ใจอย่างดี จนได้รับรางวัลพระราชทานอนุรักษ์ดีเด่นปี 2551 มีกรมศิลปากรช่วยศึกษา
ดแู ล และจดั ให้เปน็ โบราณสถานในการดูแล

"ศูนยร์ วมใจของคนกฎุ ีจีน"

เดิมหมู่บ้านน้ีช่ือค่ายแม่พระลูกประคํา สมัยท่ีมีการศึกสงครามเกิดข้ึน คนบริเวณน้ีมีความ
เพล่ียงพล้ํามีคุณพ่อท่านหน่ึงไปขอท่ีดินกับพระเจ้าตากสินในการสร้างโบสถ์คริสต์บริเวณน้ีจนได้มา
เบสถ์หลังแรกเป็นไม้เน่ืองจากขณะน้ันมีทุนทรัพย์ไม่สูงนัก จนกระท่ังผุพังตามกาลเวลา โบสถ์หลังท่ี
สองอยู่ในช่วงเร่ิมมีทุนทรัพย์แล้ว จึงได้สร้างเป็นอิฐและปูน แต่เกิดไฟไหม้ จึงทรุดโทรมไปตาม
กาลเวลา จนมาถึงการสร้างโบสถ์หลังท่ีสามท่ีเป็นจุดสังเกตและเป็นจุดเด่นในปัจจุบัน โดยมีชุมชน
ล้อมรอบ เป็นศิลปะแบบเรอเนสชองส์ผสมกับนีโอกราฟกิ โดยสร้างข้ึนตามความนิยมของในสมัยน้ัน
มีช่ือว่าซางตาครู้ส เป็นภาษาโปรตุเกส มีความหมายว่ากางเขนศักด์ิสิทธ์ิ ปัจจุบันมีอายุกว่า 200 กว่าปี
และในวันท่ี 14 กันยายนของทุกปี มีการฉลองการถือกําเนิดของโบสถ์ โดยเลือกฉลองในวันอาทิตย์ท่ี
ใกล้เคียงวันจัดต้ังท่ีสุด โดยโบสถ์ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นระฆังท่ีมีโน้ตครบจํานวน 16 ตัว

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 19
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

จึงมีการสร้างเพลงข้ึนมาและกลายเป็นเพลงของพ้ืนท่ีแห่งน้ี ปัจจุบันมีผู้บรรเลงได้เฉพาะกลุ่ม ส่วนท่ี
สองคืออาคารท่ีประดับด้วยกระจกเป็นรูปพระคัมภีร์ท้ังเก่าและใหม่ ใช้สําหรับประกอบพิธีกรรมทาง
ศาสนา และส่วนท่ีสามใช้สําหรับเก็บอุปกรณ์ สิ่งของ เคร่ืองแต่งกายท่ีเก่ียวกับการประกอบพิธีกรรม
ทางศาสนา ซ่งึ เปน็ สถานท่ที ส่ี ามารถเข้าเย่ยี มชมไดเ้ สมอื นเป็นพิพิธภัณฑ์มีชวี ติ

“การเติบโตของวถิ ชี ีวติ ”

ในอดีตผู้อยู่อาศัยในชุมชนแห่งน้ีนับถือศาสนาโรมันคาทอลิกท้ังหมด เน่ืองจากสามารถ
แต่งงานได้กับผู้ท่ีมีศาสนาโรมันคาทอลิเท่น้ัน และผู้ถือกรรมสิทธ์ิท่ีดินแห่งน้ีต้องเซ็นสัญญากับท่ีวัด
ซางตาครู้สทุกปี โดยผู้เซ็นต้องเป็นโรมันคาทอลิกเท่าน้ันเช่นกัน โดยมีการระบุอยู่ในกฎหมาย
เม่ือเวลาผ่านเลยไปทางนครวาติกันมีการปรับปรุงศาสนา อนุญาตให้สามารถแต่งงานกับคนศาสนา
อน่ื ได้ จงึ ทาํ ให้ผ้อู ยู่อาศัยในปัจจบุ นั มศี าสนาทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป ผ้ทู ไ่ี ม่ใชโรมนั คาทอลิกมคี วามจําเปน็ ต้อง
เรยี นรู้วิถชี ีวติ ของคนในพื้นทเ่ี หล่าน้ี เพื่อให้เกิดความเคารพ เขา้ ใจซง่ึ กนั และกัน

ชุมชนกุฎีจีนมีพ้ื นท่ีไม่กว้างนัก ท่ีอยู่อาศั ยของชุมชนในอดีตมีลักษณะยกใต้ถุนสู ง
จึงไม่มีปัญหาเร่ืองน้ําท่วมแม้จะอยู่ติดน้ําก็ตาม หากมีน้ํามาก็สามารถยกของข้ึนสูงได้ ภายหลัง
เปล่ียนไปสร้างบ้านตามความนิยมแต่หลาย ๆ ท่ียังคงยกใต้ถุนสูง ไม่ว่าจะผ่านไปนานเพียงใดแต่การ
สัญจรของชุมชนน้ียังคงใช้เส้นทางเดิม ปัจจุบันทางหน่วยงานภาครัฐมีการสร้างเข่ือนก้ันน้ําไว้แล้ว
บ้านภายหลังจึงพัฒนาเป็นบ้านติดพ้ืนดินเป็นส่วนใหญ่ หากมีน้ําเกินความจุเข่ือน ภาครัฐจะนํา
กระสอบทรายมาให้และช่วยดูแลบางส่วน นอกจากท่ีอยู่อาศัยแล้วยังมีส่วนของสถานศึกษาอย่าง
โรงเรียนวัดชางตาครสู้ เป็นการเรียนรคู้ วามเป็นครสิ ตแ์ ละความรู้ท่วั ไปไดเ้ ป็นอยา่ งดี

วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 20
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

“พิธีกรรม พิธกี าร”

ในแต่ละปีมีพิธีกรรมทางศาสนาท่ีจัดข้ึนเป็นประจํา เช่น วันคริสมาสต์ วันฉลองพระคริสตกายา
วันสิทธ์ิวันฉลองวัด คนท่ีเคยอยู่บริเวณน้ีและย้ายออกไปจะมีการกลับมาเย่ียมเยียน ซ่ึงทุกการ
ถ่ายทอดเหตุการณ์ผ่านการแสดงในเร่ืองราวเก่ียวกับพระเยซู ต้ังแต่ช่วงท่ีถูกตรึงกางเขนจนมาถึง
การนําพระเยซูลงมา มีการส่งต่อไปยังคนร่นุ หลังใหถ้ ่ายทอดตอ่ ไป

“อ่มิ ทอ้ ง สุขใจ ในชุมชน”

ในอดีตผู้ท่อี ยู่อาศัยบรเิ วณน้จี ะไมร่ ับประทานอาหารไทยแท้ แตร่ ับประทานเปน็ สตูว์ ของอบ ของทอด
ซ่ึงไม่ทราบถึงวัฒนธรรมการกินของพื้นท่ีอ่ืน หลังจากท่ีได้ออกไปศึกษาเรียนรู้นอกพ้ืนท่ีทําให้ทราบ
ถึงวัฒนธรรมการกินของพ้ืนท่ีอ่ืน ซ่ึงในพื้นท่ีแห่งน้ีมีการรับประทานอาหารสยามโปรตุเกสแทบทุกวัน
หากมาเย่ียมเยียนพื้นท่ีแห่งน้ี จะได้ทานคือขนมจีนแกงไก่ค่ัวท่ีเป็นอาหารของกัมพู ชา สาเหตุท่ีมีให้ได้
ทานเน่ืองจากรัชกาลท่ี 1 ทําศึกกับเชียงกราน มีชาวเขมรติดตามมาด้วย และมีการอัญเชิญรูปแม่พระ

วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 21
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ขนมจีนมา เม่ือเวลาผ่านไปก็อาจมีคนแต่งงานและเป็นคาทอลิกย้ายเข้ามาในพื้นท่ีแห่งน้ี เม่ือทราบว่ามี
รสชาติดีก็มีการปรุงอาหารและพัฒนาต่อมาเร่ือย ๆ จนในปัจจุบันอาจเป็นอาหารท่ีมีเพียงท่ีเดียวใน
พื้นทแ่ี ห่งน้ี

“เรยี งรอ้ ยเร่อื งราว”

ในชุมชนแห่งน้ีมีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ข้ึนมา เพื่อถ่ายทอดเร่ืองราวให้แก่คนรุ่นหลังไม่ให้
ความเป็นกุฎีจีนเลือนหายไป โดยประกอบด้วยพื้นท่ีช้ันแรก เป็นเร่ืองราวประวัติศาสตร์ ช้ันท่ีสองเป็น
วิถีชีวิตคนกุฎีจีนท้ังหลาย ๆ ด้าน เช่น วัฒนธรรมการกิน การอยู่อาศัย บอกเล่าต้ังอดีตจนถึง
ปัจจุบัน การมีพิพิธภัณฑ์จึงกลายเป็นเสมือนการยึดโยงเร่ืองราวท่ีมีโอกาสถูกลืมเลือนไปได้ทุกเม่ือ
การเข้าชมพิพิธภัณฑ์สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากน้ียังมีของท่ีระลึกไว้เป็นตัวแทน
ความทรงจาํ ดี ๆ จากพ้ืนทแ่ี ห่งนอ้ี กี ดว้ ย

“การขับเคล่อื นความเป็นกุฎีจนี ”

ปัจจุบันกฎีจีนมีผู้นําชุมชนเป็นประธานชุมชน ซ่ึงมีมุมมองว่าในอดีตชุมชนน้ีสามารถขับเคล่ือน
ตัวเองไปได้อยู่แล้ว เม่ือเวลาผ่านไปเล็งเห็นถึงความสําคัญของการมีผู้นําขับเคล่ือนชุมชน

วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 22
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

เพ่ือให้ความเป็นกุฎีจีนได้เติบโตไปพร้อม ๆ กับชุมชนข้างเคียงด้วย จึงมีการจัดต้ังคณะกรรมการ
ประกอบด้วย ประธานจาก 6 ชุมชนรวมถึงกุฎีจีน, ท่ีปรึกษาชุมชนคือเจ้าอาวาสของวัดต่าง ๆ ,
หน่วยงานราชการท่ีเก่ียวข้อง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กรมการท่องเท่ียว เน่ืองจากเป็นการ
ขับเคล่ือนการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม มีการปรึกษาหารือ แบ่งหน้าท่ีตามความเหมาะสม โดย
กําหนดให้มีตัวแทนชุมชนท่ีละ 5 คน รวม 30 คน เพื่อให้เกิดการพู ดคุยร่วมกันได้อย่างท่ัวถึง มีมหา
ลัยราชภัฎธนบุรีเป็นผู้เอ้ือสถานท่ีการพู ดคุยหรือเอ้ืออุปกรณ์เทคโนโลยีท่ีทางชุมชนมีไม่เพียงพอ
เน่อื งจากผูท้ าํ งานส่วนนส้ี ่วนใหญเ่ ป็นผหู้ ญิงและผ้สู ูงวยั

“ความเข้มแข็งทา่ มกลางวิกฤต”

ในชว่ งสถานการณC์ OVD- 19เช่นน้ี ทง้ั 6 ชมุ ชน หรอื เรียกว่าย่านกะดจี นี ไดร้ ับการชว่ ยเหลือ
จากภาครัฐและประชาสังคมบางส่วน เช่น อาหาร เงินช่วยเหลือ โดยผู้นําชุมชนจะคอยประสานงาน
กัน ซ่ึงเป็นการทํางานท่ีสะดวกเน่ืองจากทุกชุมชนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน หากได้รับการช่วยเหลือ
ก็จะช่วยและแบ่งปันกันและกัน ในการช่วยเหลือจากภาครัฐแต่ละคร้ังอาจไม่ท่ัวถึง จึงมีการจัดลําดับผู้
ท่ีมีความต้องการความช่วยเหลือมากท่ีสุด 20 ลําดับแรก เพื่อให้รวดเร็วและช่วยเหลือได้ทันเวลา
โดยวดั จากความยากลาํ บากทแ่ี ต่ละคนเผชญิ เชน่ มีอาการป่วยมีความรุนแรง เปน็ ตน้

สิ่งท่ีหลีกเล่ียงไม่ได้คือความเครียดอันเกิดจากความวิกฤตน้ี เป็นผลให้ทางชุมชนมีการทํา
กิจกรรมชุมชน เช่น ปลูกพืชผักสวนครัว บูรณะซ่อมแซม ทําความสะอาดชุมชน ไม่ให้เกิดความเหงา
ลดความเครียดเน่ืองจากผู้สูงอายุในชุมชนน้ีมีแนวโน้มท่ีจะเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน นอกจากน้ียังมี
การจัดกิจกรรมของบุคลากรการแพทย์ เช่น การสอนย้ิม หัวเราะ การหายใจ เพื่อเข้าถึงการคลาย
เครียดได้มากข้ึน และในการเพิ่มความปลอดภัย จะมีกลุ่ม อภปร. ท่ีผ่านการฝึกอบรมในการดูแลความ
ปลอดภยั คอยชว่ ยเหลือเร่อื งการฆา่ เช้อื ในพื้นทต่ี า่ ง ๆ ดว้ ยความเชอ่ื มน่ั ว่า ต้องรักษาชมุ ชนใหด้ ที ส่ี ุด
ท้งั 6 ชมุ ชนคอยประชาสัมพันธ์ทง้ั ความรู้ ความเข้าใจ ทศั นคติแกค่ นในชุมชน จงึ เปน็ ส่วนใหช้ มุ ชนยง่ิ
มคี วามเข้มแขง็ อกี ดว้ ย

วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 23
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

จากการลงภาคสนามออนไลน์ข้างต้น ผู้บันทึกมีความคิดเห็นว่า ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชน
ท่ีมีความเข้มแข็งและมีการเติบโตไปได้อย่างต่อเน่ือง คนในชุมชนคอยเรียนรู้ความเป็นไปท้ังใน
และนอกชุมชน เพ่ือปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมท่ีเกิดข้ึน อีกท้ังยังมีผู้นําชุมชนท่ีให้
ความสนใจความเป็นไปของชุมชน ใส่ใจผู้อยู่อาศัย คอยวางแผ่นการช่วยเหลือแต่ละอย่างได้อย่าง
เหมาะสม ถือเป็นจุดแข็งของชุมชน แม้จะต้องเผชิญวิกฤตและมีความเส่ียงท่ีเพ่ิมข้ึนในเร่ืองของช่วง
วัย แต่ยังคงทําหน้าท่ีได้อย่างเต็มท่ี การลงภาคสนามในคร้ังน้ีไม่เพียงเรียนรู้ความเป็นไปเป็นมาของ
ชุมชนต้ังแต่อดีตถึงปัจจุบันเท่าน้ัน แต่ยังได้เรียนรู้ความร่วมมือร่วมใจ การปรับตัวของชุมชน
ท่ีเป็นทักษะสําคัญและนํามาปรับใช้กับชีวิตประจําวันของผู้บันทึกได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการเรียนรู้
ในวิชาน้ี ทําให้รู้สึกดีใจท่ีได้มีโอกาสเรียนรู้ความเป็นชุมชนจริง ๆ แม้จะไม่สามารถลงพ้ืนท่ีจริงได้
ซ่ึงหากสถานการณ์ COVD- 19 มีความรุนแรงลดลง และเปิดให้เข้าถึงได้ ชุมชนกุฎีจีนจะเป็นหน่ึงใน
ตัวเลือกท่ผี บู้ นั ทึกอยากลองเดินทางไปเรียนรดู้ ้วยตนเอง

วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 24
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

ผบู้ ันทึก: น.ส.ปัญจรตั น์ จนี มหนั ต์ 6205610220



- การยา้ ยถ่นิ เป็นหลกั ฐานหน่งึ ของการยา้ ยถน่ิ ของชาวต่างชาติ
- การก่อต้ังสถานท่ีสําคัญ เป็นการก่อสร้างศาสนสถานเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

สําหรับชาวโปตุเกสท่อี พยพมาจากอยธุ ยาหรอื มติ รสหายร่วมรบกับพระเจ้าตากฯ
- การเขา้ ใจและเปดิ รบั ความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม
- เป็นส่ิงยดึ โยงผคู้ น หลงั เลิกวดั กจ็ ะได้รวมตวั พบปะพูดคยุ กัน
- สถาปัตยกรรมของชมุ ชน มคี วามเกา่ แก่ มคี วามงดงาม และมีคณุ คา่ ทางสถาปตั ยกรรม
- จุดแรกของการท่องเท่ียวชุมชนกุฎีจีน เปรียบเหมืนสถานท่ีท่ีทุกคนต้องมาเย่ียมชมทางหาก

มาท่องเทย่ี วชมุ ชนกุฎจี นี และยังเปน็ สถานทแ่ี รกตามแผนทก่ี ารทอ่ งเทย่ี วชมุ ชนอีกดว้ ย
- สัญญาณเสียงตา่ ง ๆ ของชมุ ชนผ่านเสียงระฆงั
- ถ่ายทอดประวัติศาสตรใ์ ห้คนร่นุ หลงั

วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 25
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

- การจัดระบบ การท่องเท่ียวท่ีมีประสิทธิภาพ เพื่อความต่อเน่ือง และ ครอบคลุมทุกเร่ืองท่ีได้
เรียนรู้จากชมุ ชน

- สร้างความสะดวก ให้แก่ผู้ท่ีมาท่องเท่ียวในชุมชนคร้ังแรกเข้าใจได้ง่าย อ่านง่าย และมี
ภาพประกอบท่ชี ดั เจน

- ความเป็นสากล เห็นได้จากการมีรายละเอียดภาษาอังกฤษเพื่อต้อนรับและให้ความสะดวกแก่
นักทอ่ งเท่ยี วต่างชาติ

- ศึกษาภาพรวมชมุ ชน ได้อย่างครา่ วๆผ่านมมุ มองแบบ bird's eye view
- การทอ่ งเท่ยี วเชงิ วัฒนธรรม

- การศึกษาชุมชน ผ่าน worm's eye view สังเกตได้จากการบอกระยะทางท่ีสั้นลงเป็นหน่วย
เมตร แสดงให้เห็นถึงการเดินเท้าสํารวจพื้นท่ีในชุมชน และยังเป็นการสร้างความสะดวกไม่ให้
ผ้ศู ึกษาหรอื นักท่องเท่ยี วหลงกลอกี ด้วย

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 26
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

- การปรับตัวตามสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึน เน่ืองจากชุมชนกุฎีจีนเป็นแหล่งท่องเท่ียว จึงต้องมี
การจัดระเบยี บตามมาตราการลดการเผยแพร่โควิด-19

- วถิ ีใหม่ ของคนในชมุ ชนเองและผู้ทม่ี าเย่ยี มชุมชน

- ความปลอดภัยในชุมชน มีอุปกรณ์ดับเพลิงติดไว้ในชุมชนนเน่ืองจาก ชุมชนบ้านนนเรือนอยู่
ตดิ กัน และ มลี กั ษณะของบา้ นเรอื นท่มี วี สั ดุจากไม้คงอยขู่ ้าง จงึ ควรมีอุปกรณป์ ้องกนั ไว้

- เทคนิคการทําความสะอาดของคนในชุมชน สําหรับการทําความสะอาดมูลสุนัข โดยใช้ถัง
ดบั เพลงิ ท่มี ีแรงดันมากจงึ ทาํ ความสะอาดไดด้ ี

- ความช่วยเหลือจากภายนอก หรือกลุ่มในชุมชน เช่น อภปร. สําหรับการจัดสรรอุปกรณ์
ดับเพลงิ ทค่ี วรมีติดไว้

วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 27
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

- การนาํ เข้าวฒั นธรรมดา้ นขนม ซ่งึ เป็นต้นตํารบั ของขนมจากโปตุเกส ท้งั ยังเปรยี บเสมือนขม
เคก้ แบบแรกของไทยอีกดว้ ย

- ความภาคภมู ิใจในช่อื ท่เี ปน็ เอกลกั ษณ์ เน่อื งจากช่อื ขนมเปน็ ช่อื เดียวกับช่อื ของชมุ ชน
- จุดขาย ของชุมชนคือขนมฝร่ังกุฎจีนท่ีมีความเป็นต้นตํารับ นักท่องเท่ียวต้องซ้ือติดไม้ติดมือ

กลบั ไปกนั ทกุ คน
- การอนุรกั ษ์ สานต่อจากรุ่นสู่รนุ่ เพื่อทําขนมหาทานยาก
- การสร้างรายไดข้ องคนในชมุ ชน
- ธุรกิจครอบครัว การทําขนมฝร่ังกุฏิจีนนิยมถ่ายทอดให้แก่คนในครอบครัว และ การมีหน้า

ร้านขายขนมอยูใ่ นบริเวณบ้านตัวเองกแ็ สดงให้เห็นถงึ ธรุ กิจของครอบครวั

- วัฒนธรรมอาหารสยามโปตเุ กส
- การรวมตัว หรือ การรวมญาติ มักจะได้เห็นอาหารข้ึนต๊ะครบสํารับอาหารโปตุเกส เม่ือญาติ

ไดม้ ารวมตวั กัน

วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 28
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

- การพบปะพู ดคุย การทําอาหารเน่ืองในวันสําคัญของคนในชุมชน จะทําให้คนในชุมชนได้มา
เจอกนั อาจจะมาช่วยทําอาหาร มารบั แจก หรือ มาซอ้ื อาหาร

- สัมพันธ์ทางการทูตผ่านอาหาร ทูตจากโปตุเกสเคยมาเย่ียมและทานอาหารท่ีชุมชนกุฎจีน
ชมุ ชนทาํ ให้อาหารโปตุเกสมีช่อื เสียงมากขน้ึ

- การสืบต่อ การทาํ อาหารรสชาตโิ ปตุเกสตน้ ตาํ รบั
- แหล่งเรียนรวู้ ฒั นธรรมของโปตเุ กส

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 29
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

- พิพิธภัณฑช์ ุมชน การประวตั ขิ องชุมชนผ่านขอ้ มลู ในพิพิธภัณฑ์
- การสรา้ งสัญลักษณ์ ของพิพิธภัณฑ์ท่ที ําให้โดดเดน่ และจําไดว้ ่าหมายถงึ ทไ่ี หน
- แหลง่ เรียนรขู้ อ้ มูลดา้ นนิเวศวทิ ยาของชมุ ชน
- เรียนรู้พื้นทข่ี องชุมชน ในมุมมอง bird's eye view
- การสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก ในการทําป้าย เห็นได้จากสัญลักษณ์ลางๆบนหัวมุม

บนและหัวมุมด้านนล่างของป้าย แต่เน่ืองจากความเก่าของป้ายทําให้เข้าได้อีกว่าหน่วยงาน
ภายนอกยังไมไ่ ดเ้ ขา้ มาปรับปรงุ ป้ายใหมใ่ หห้ รือไมไ่ ดท้ าํ อยา่ งต่อเน่อื ง
- แหลง่ เรยี นรูร้ ว่ มกัน ผ่านห้องสมดุ ในพิพิธภัณฑ์
- แหล่งคน้ ควา้ ข้อมูล ของผู้ทส่ี นใจจะศึกษาชมุ ชนกุฎจี นี
- แหล่งสร้างรายได้ / การปรับตัวต้อนรับการท่องเท่ียว นอกจากจะปรับบ้านดังเดิมให้เป็น
พิพิธภณั ฑก์ ไ็ ดท้ าํ เปน็ รา้ นกาแฟเพ่ิมด้วย
- ความเช่อื ด้านผีสาง ของคนในหมบู่ ้าน
- กุศโลบาย ในการดแู ลเด็กของผูใ้ หญ่ชมุ ชน

- ความรว่ มมือในชุมชน
- การจดั ระเบยี บ
- อาสาสมัคร /จิตอาสาในชุมชน
- การชว่ ยเหลอื กันในชุมชน
- กระบวนการทาํ งานในชมุ ชน คณะทาํ งานในชุมชนจะเป็นผู้ดาํ เนนิ เร่อื งต่าง ๆในชมุ ชน
- ความเป็นระเบียบของชุมชน / การจัดการท่ีเป็นระเบียบของชุมชน ชุมชนมักได้รับคําชม

จากการต่อควิ รบั ของตา่ ง ๆได้อยา่ งมรี ะเบียบ

วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 30
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

- ปฏทิ นิ ชมุ ชน แสดงถึงกําหนดการ / กจิ กรรมต่าง ๆท่จี ะมีขน้ึ ในชุมชน
- การแจ้งข่าวสารในชุมชน มีการแจ้งขอความร่วมมือ การแจ้งถึงงานท่ีหน่วยงานภายนอกจะ

เข้ามาปฏิบัติงานในชุมชน มีการแจ้งถึงช่ือของผู้ดูแลชุมชนท่ีติดธุระ เพื่อคนในชุมชนต้องการ
พูดคยุ ด้วยจะไดร้ วู้ า่ วนั ไหนทผ่ี ดู้ ูแลชุมชนว่างหรอื ไมว่ า่ ง
- กลไกการทํางาน ของคณะทํางานในชมุ ชน
- มผี สู้ ูงอายใุ นชุมชน จึงมีการแจง้ ขา่ วโดยการเขยี นไวทบ์ อร์ดด้วย

- ความสัมพันธ์ของชมุ ชนผา่ นสามสถานบันหลกั ได้แก่ บา้ น วดั โรงเรียน หรือท่เี รยี กยอ่ ๆ ว่า บวร
- การเกอ้ื กลูในชุมชน ผ่านบ้าน วดั โรงเรียน
- ความย่งั ยืนในชุมชน องคป์ ระกอบทง้ั สามสร้างใหช้ ุมชนเขม้ แขง็ และอยไู่ ด้อยา่ งยาวนานถึง 200 ปี

วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 31
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

- การเข้ามาของหน่วยงานภายนอก เห็นได้จากสัญลักษณ์ของหน่วยงานต่าง ๆบริเวณป้าย
'ท่ีทําการชุมชนกุฎีจีน'อีกท้ังการเข้ามาของของหน่วยงานต่าง ๆเป็นการยกระดับ สร้างความ
ภมู ิใจ หรือเป็นการสรา้ งเกณฑต์ ่าง ๆใหช้ ุมชนตัวอยา่ งเช่น ปา้ ยชมุ ชนสีขาวปลอดยาเสพติด

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 32
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

อา้ งองิ

Made in Thailand. (3 พฤษภาคม 2563). ไทยทง่ี เร่อื งเด็ดเกรด็ เมืองไทย ตอน ชมุ ชนกุฎจี นี #
ท่มี าขนมฝรง่ั กฎุ จี ีน. [วิดิโอ], สืบค้นจากhttps://www.youtube.com/watch?v=psln91016-
w&t=2187s

'กูฎจี นี ' ชุมชนเลก็ ๆ ทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยเรอ่ื งราว ค้นหาเสนห่ ช์ ุมชนกบั Dusit Local Experience.
(2563). สืบคน้ จากhttps://thematter.co/entertainment/local-experience/129810

เท่ยี วกรงุ เทพ 1 วนั ย่านเก่าฝ่ งั ธน ชมุ ชนกฎุ ีจนี วัดชางตาครสู้ วัดกัลยาณมิตร. (2562). สืบค้นจาก
https://travel.trueid.net/detail/o8LJA4m 1pDez

สลลิ ทิพย์ สอนศรี ,จิดาภา เหลอื งสกลุ ไทย ,ปัญฑิตา ปรดี าผล และ คณะ. (2563). รายงาน
การศึกษาชุมชน ชมุ ชนกฎู จี ีน กรุงเทพมหานคร. สืบคน้ จาก
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/13PSYO-RiB030Jz9-
VG-9iupC193tOZwj?usp=sharing

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 33
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผู้บันทกึ : น.ส.นษิ ฐา พ่ึงจิตต์ 6205610246

จากการศึกษาชุมชนกุฎีจีนผ่านทางออนไลน์ เร่ิมแรกพ่ีด้วงได้เล่าถึงประวัติศาสตร์ของชุมชน ฃ
โดยกล่าวถึงสมัยอยุธยาท่ีบรรดาชาวต่างชาติได้เข้ามาค้าขายโดยการเดินเรือ สมเด็จพระนารายณ์
มหาราชจึงโปรดเกล้า ฯ ให้พระยาวิไชเยนทร์สร้างป้อมวิไชยเยนทร์ข้ึน เพื่อให้เรือทุกลําท่ีเข้ามาในกรง
ศรีอยุธยาหยุดจอดเพื่อให้ทางอยุธยาได้ตรวจเรือ การจอดเรือน้ันทําให้พ่อค้าหรือคนท่ีมากับเรือต้อง
ข้ึนมาอาศัยอยู่บริเวณน้ีเป็นการช่ัวคราว โดยเร่ิมจากชาวจีนกลุ่มหน่ึง ต่อมาการอยู่แบบช่ัวคราวจึง
เป็นการอาศัยอยู่แบบถาวร มีการสร้างศาสนสถานข้ึนมา ท้ังวัด ศาลเจ้า ซ่ึงศาลเจ้าในปัจจุบันคือ
ศาลเจ้าเกียงอันเกง จากบันทึกของนักประวัติศาสตร์ชาวเดนมาร์กท่ีเดินทางเข้ามาในกรุงธนบุได้
บันทึกไว้ว่า พ้ืนท่ีบริเวณน้ีในอดีตเป็นศาลเจ้า 2 หลัง มีขนาดเล็กกว่าปัจจุบัน มีพระมาเผยแผ่ศาสนา
และมากับเรือสินค้ามาอาศัยอยู่บริเวณศาลเจ้า ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ชุมชนบริเวณศาลเจ้าก็มี
ชาวจีนมาอาศัยอยู่เพิ่มมากข้ึน โดยเฉพาะซาวจีนฮกเก้ียน จึงทําให้ตาสนสถานท่ีเคยทรุดโทรมก็ได้รับ
การปรับปรุงอย่างท่ีเห็นในปัจจุบัน ซ่ึงเป็นสถานท่ีเคารพสักการะของชาวจีนท่ีเดินทางเข้ามาค้าขาย
นอกจากน้ียังมีชาวโปรตุเกสท่ีเข้ามาพร้อมกับชาวจีนส่วนหน่ึงท่ีมาช่วยตอนเสียกรุงคร้ังท่ี 2 พระเจ้า
ตากสินมหาราชจึงให้ขาวโปรตุเกสมาอาศัยในบริเวณท่ีมีชาวจีนอยู่ แล้วชาวโปรตุเกสจึงสร้างโบสถ์
ซางตาครู้ส นอกจากจะมีศาลเจ้าจีน โบสถ์ ก็ยังมีมัสยิดวังหลวงหรือกุฎีขาวของอิสลาม จึงทําให้
ชุมชนแถบน้ีมี 3 ศาสนา 4 ความเช่ืออยู่ร่วมกัน ท้ังศาสนาพุ ทธนิกายเถรวาท นิกายมหายาน คริสต์
อิสลาม จึงทําให้ชุมชนเป็นตัวอย่างท่ีส่วนราชการหรือสถานศึกษาเข้ามาให้ความสนใจ มาศึกษาหา
ข้อมูลในการอย่รู ว่ มกนั ของคนในชุมชนทม่ี คี วามเช่อื แตกตา่ งกนั

ส่วนแรก - เป็นหอระฆังท่ีใช้บอกเวลา และมีระฆังอีกชุดคือกาลียอง มี 16 ใบ สามารถเล่นเป็นเพลง
ได้มักจะตตี อนจดั งานเทศกาลเฉลิมฉลอง
ส่วนท่ี 2 - เป็นอาคารท่ีคนในชุมชนใช่ประกอบพิธีทางศาสนา จะประดับไปด้วยกระจกสีสวยงาม
ในอดีตจะเป็นรูปเก่ียวกับพระคัมภีร์ แต่เม่ือเกิดสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ตัวอาคารได้รับแรงระเบิดจน
กระจกแตก ทาํ ใหต้ ้องเปล่ยี นกระจกเป็นรปู กางเขน
ส่วนสุดทา้ ย - เปน็ ส่วนทใ่ี ช้เกบ็ ของท่เี กย่ี วขอ้ งกบั พิธีกรรมทางศาสนา
ในอดีต คนในชุมชนเป็นคาทอลิก 100% คนท่ีจะมาเช่าท่ีดินต้องเซ็นสัญญากับทางโบสถ์ทุกปี และคน
ท่ีเซ็นต้องเป็นคาทอลิก 100% ตามกฎหมายในปี 2457 ในสมัยโบราณบ้านในชุมชนจะเหมือนกันกับ
บ้านไทย มีใต้ถุนสูงเพราะชุมชนประสบปัญหาน้ําท่วมทุกปี จึงทําให้คนในชุมชนสามารถปรับตัวได้
ช่วงหลังคนในชุมชนก็สร้างบ้านตามความนิยม แต่ก็ยังคงลักษณะใต้ถุนสูงไว้เผ่ือเจอปัญหาน้ําท่วม
โดยใต้ถุนสูงประมาณ 1 เมตร แต่เม่ือทางกรุงเทพมหานครสร้างประตูน้ํา บ้านของคนในชุมชนจึงเร่ิม
สร้างติดกับพ้ืนดิน ถ้าเกิดน้ําท่วมทางกทม.จะนํากระสอบทรายมาให้ไว้ป้องกันไม่ให้น้ําท่วม แในปัจจุบัน
มีคนต่างศาสนาเข้ามาอยู่ในชุมชน เน่ืองจากทางวาติกันได้มีการปรับกฎ สามารถให้คาทอลิกแต่งงาน
กบั คนตา่ งศาสนาได้

วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 34
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

สําหรับวัฒนธรรมของชุมชนจะยึดโยงกันด้วยศาสนา คนในชุมชนไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ มี
การพบปะกันหลังเลิกพิธีกรรม โดยแต่ละปีจะมีพิธีทางศาสนา 4 คร้ัง ได้แก่ วันคริสต์มาส วันฉลอง
พระคริสตกายา วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ และวันฉลองการสร้างโบสถ์ ซ่ึงวันฉลองการสร้างสร้างโบสถ์จะจัด
ข้ึนวันท่ี 14 กันยายนหรือวันอาทิตย์ท่ีใกล้กับวันท่ี 14 กันยายน เม่ือชุมชนเกิดเหตุร้าย บาทหลวงจะนํา
พระแม่มารีเดินแห่รอบหมู่บ้าน แต่ละบ้านจะมีแท่นวางไว้หน้าบ้าน บาทหลวงก็จะหยุดเพ่ืออวยพรให้คน
ในชุมชนรู้สึกดีข้ึน ส่วนมากจะเป็นพิธีตอนกลางคืนนอกจากน้ียังมีเร่ืองของวัฒนธรรมทางอาหาร ใน
อดีตคนในชุมชนจะรับประทานอาหารจําพวกสตูว์ อาหารอบอาหารทอด และจะมีอาหารสยาม -
โปรตุเกส จนกระท่ังคนในชุมชนได้ออกไปเรียนข้างนอกถึงเร่ิมเห็นอาหารไทยในชุมชนจะมีอาหารท่ีเป็น
เอกลักษณ์ คนท่ีเข้ามาเท่ียวชมจะต้องได้นับประทาน คือ ขนมจีนแกงไก่ค่ัว ซ่ึงเป็นอาหารจากกัมพูชา
ท่ีเป็นอาหารจากกัมพู ซาเน่ืองจากในอดีตสมัยรัชกาลท่ี 1 ไปตีเขมร ตอนกลับมาสยามจึงมีชาวเขมร
ติดตามมาด้วยและได้เชิญแม่พระขนมจีนมา ทุกปีจะมีการเฉลิมฉลองโดยชาวเขมรจะเล้ียงขนมจีนทุก
ปี แล้วคนในชุมชนกับชาวเขมรจะมีปฏิสัมพันธ์กัน มีการแต่งงานกันแล้วย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชน จึงทํา
ให้ขนมจีนเป็นอาหารท่ีใครเข้ามาในชุมขนต้องได้ชิม และชุมชนยังมีขนมฝร่ังกุฎีจีน เป็นขนมโบราณ
ท่ีว่ากันว่าเป็นเค้กก้อนแรกของสยาม ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 3 เจ้าท่ีทําขายในชุมชน จึงมีการเปิด
สอนทําขนมให้แก่เยาวชน แต่เน่ืองจากเป็นขนมท่ีต้องใช้ฝีมือ กระบวนการต่าง ๆ มีความยาก ทําให้
คนในชุมขนบางส่วนก็กลัวว่าขนมจะไม่มีคนสานต่อไปในอนาคต และชุมชนน้ียังมีพิพิธภัณฑ์ท่ีจัดต้ัง
ข้ึนมาเม่ือ 5 ปีท่ีแล้ว เพราะคนในชุมชนคิดว่าเด็กรุ่นหลังจะลืมเสือนวัฒนธรรม จึงมีการจัดทํา
พิพิธภัณฑ์ข้ึนเพื่อนําเร่ืองราวในประวัติศาสตร์มาไว้ในพิพิธภัณฑ์ โดยช้ันแรกจะเป็นประวัติศาสตร์
ของชุมชน อีกช้ันจะเป็นเร่ืองวิถีชีวิตของคนในชุมชน ซ่ึงไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และ
ชุมชนถือเป็น (Ive museum คนท่ีเข้ามาเท่ียวในชุมชนก็จะให้เกียรติและไม่รบกวนคนในชุมชน
เน่ืองจากชุมชนรถยนต์ไม่สามารถเข้าได้ ต้องเดินเท้าเท่าน้ัน ทําให้คนในชุมชนไม่ได้รู้สึกลําบากใจและ
ไม่มีปัญหาเน่ืองจากมีการอยู่ร่วมกันหลายศาสนา เวลามีเทศกาลทางศาสนาคนในชุมชนจะไม่มีการ
วิพากษ์วิจารณ์กัน คนในชุมชนท่ีนับถือต่างศาสนาก็จะนําอาหารมาร่วมในพิธี แต่เม่ือเกิดเหตุการณ์
ฉุกเฉิน คนในชุมชนก็จะคอยช่วยเหลือกันตลอด เพราะคนในชุมชนท่ีอยู่มาแต่ต้ังแต่เดิมเสี่ยงชีวิตมา
ด้วยกัน จึงมีความผูกพันกัน แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 การทําพิธีกรรมทาง
ศาสนาจะเป็นแบบออนไลน์ มีการถ่ายทอดสด กระจายเสียงรอบหมู่บ้าน ถ้าบ้านไหนต้องการรับศีลก็
ให้มาย่นื รอหน้าบ้าน ทส่ี ามารถทําแบบนน้ั ไดเ้ พาะชุมชนเป็นชุมชนปดิ

สําหรับการทํางานในชุมชนยุคปัจจุบัน พี่บ่ินได้บอกว่าชุมชนมีการจัดต้ังคณะกรรมการข้ึน
เพ่ือให้แต่ละย่านในชุมชนสามารถชับเคล่ือนไปพร้อมกัน โดยมีประธาน 6 ชุมชนเข้ามาเป็นกรรมการ
และมีท่ีปรึกษาเป็นกลุ่มเจ้าอาวาสจากวัดต่าง ๆ (คนในชุมชนจะเรียกศาสนสถานว่าวัด หน่วยงาน
ราชการ เพราะชุมชนมีการชับเคล่ือนเป็นการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม มีการประชุม ปรึกษาหารือ
แบ่งหน้าท่ีงาน และส่งตัวแทนชุมชนมาชุมชนละ 5 คนเพ่ือมาคุยกันในการขับเคล่ือนชุมซน โดยมี
สถานท่ีปนะชุมคือ มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี ซ่ึงเป็นพ่ีเล้ียงของคณะกรรมการ โดยเน้นเร่ืองการ
พัฒนาชุมชน อย่างในช่วงการแพร่ระบาดของโควิ - 19 ก็จะมีบริษัทเอกชนเข้ามาแจกอาหาร โดย
ไม่ให้คนในชุมขนต้องออกไปข้างนอก เพื่อลดโอกาสในการติดเช้ือ โดยให้บริษัทจ้างแม่ค้าในชุมชน ทํา
ให้แม่ค้าในชุมชนมีรายได้ในช่วงโควิ - 19 และคนในชุมชนก็ได้รับอาหารฟรี ซ่ึงมีการดําเนินการได้ 2

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 35
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

เดือนจึงยุติลง เน่ืองจากทางภาครัฐได้ประกาศให้ร้านค้าเปิดขายของได้ตามปกติ ถ้ายังมีบริษัทคอย
แจกอาหารจะทําให้ร้านค้าในชุมชนขายไม่ดี เพราะคนในชุมชนได้กินฟรีทุกวัน นอกจากน้ียังมีการทํา
โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในชุมชนท่ีสภาองค์กรเขตธนบุรีได้เข้ามาช่วย ทางชุมขนแต่ละ
ชุมชนได้ย่ืนขอความช่วยเหลือจึงทําให้แต่ละชุมชนได้งบประมาณมา 40,000 บาพ/ชุมชน ซ่ึงเป็น
การช่วยเหลือเบ้ืองตัน ผู้นําชุมชนจึงต้องจัดสรรงบประมาณให้ท่ัวถึง ส่วนใหญ่เวลาหน่วยงาน
ราชการเข้ามาจืดทําโครงการมักจะตอบสนองส่ิงท่ีชุมชนขอไปไม่ครบ เช่น ชุมชนขออาหารจํานวน
200 ซุด แต่ทางหน่วยงานจะจัดสรรมาให้แค่ผู้สูงอายุในชุมซนเท่าน้ัน ส่วนชุมชนก็จะมีการทํา
กิจกรรมปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกฟา้ ทลายโจร การทําความสะอาดชุมซนเบ้ืองต้น เพื่อให้คนในชุมชน
ได้มีกิจกรรมร่วมกัน เพราะตอนน้ีผู้สูงอายุในชุมชนมีภาวะซึมเศร้า เพราะมีความเครียดจาก
สถานการณ์โควิด - 19 ในชุมชนก็จะมีโรงพยาบาลต่าง ๆ เข้ามาพ่นยาฆ่าเช้ือและเข้ามาสอน มาให้
ความรู้เก่ียวกับวิธีต่าง ๆ เพื่อให้คลายเครียด และทางชุมชนก็จะจัดกิจกรรมทุกวันเพ่ือไม่ให้คนใน
ชุมชนรู้สึกเหงา ให้คนในชุมชนได้ออกมา ชุมชนจะมีการประชาสัมพันธ์เก่ียวกับโรคโวิ - 19 และทาง
ชุมชนต่องมีการปิดศาสนสถานเพ่ื อลดโอกาสในการแพร่ระบาดและทางชุมชนมีกลุ่มอภปร.ท่ีคอย
ช่วยเหลือผู้ป่วยในชุมซน มีการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น ซ่ึงจะเป็นอาสาสมัครท่ีสลับหมุนเวียนกัน และ
ทางชุมชนก็ได้ประสานงานกับทางโรงพยาบาลเกษมราษฎร์เพ่ือให้มาตรวจโควิตแบบ ATK ให้กับคน
ในชุมชน โดยใหท้ มี แพทยเ์ ขา้ มาตรวจในชุมชน

สําหรับผู้ป่วยติดเตียงจะมีเจ้าหน้าท่ีมาจากศูนย์26 เข้ามาตรวจสําหรับอนาคตเม่ือสามารถ
เปิดชุมชนได้ ทางชุมชนจะมีการปรับปรุงเส้นทางการท่องเท่ียวในชุมชน เตรียมเปิดร้านอาหาร
ต้อนรบั นักท่องเทย่ี ว จัดการความสะอาดในชุมชนใหม้ ีความพร้อมสําหรบั การทอ่ งเทย่ี ว

(แผนทีช่ มุ ชนกุฎจี นี ) (อาหารประจําชมุ ชน)

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 36
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

ผู้บันทึก: น.ส.มลชสร โชตธิ รรมาภรณ 6205610253 ฃ

ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีประวัติความเป็นมายาวนานต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นเส้นทาง
ผ่านในการค้าขายทางเรือ มีชาวจีนอยู่เป็นการช่ัวคราวแต่ต่อมามีการอยู่อาศัยแบบถาวรจึงมีการ
สร้างศาลเจ้าข้ึน พอในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็มีชาวจีนฮกเก้ียนเข้ามาอยู่อาศัยเพ่ิมมากข้ึน
ในสมัยรัชกาลท่ี 3 ก็ได้สร้างตัวอาคารใหม่ข้ึนมาเน่ืองจากความทรุดโทรม ซ่ึงในปัจจุบันก็คือศาลเจ้า
เอียนนันเก็งท่ีเป็นศาสนสถานท่ีสร้างความสงบสุขและความร่มเย็นให้ชาวจีนฮกเก้ียนและผู้ท่ีมากราบ
ไหว้ เป็นท่ีเคารพบูซาของชาวจีนท่ีเดินทางมาก่อนจะเดินทางไปค้าขาย งานศิลปกรรมของศาลเจ้าก็
เป็นท่ีเล่ืองลือและเป็นสถานท่ีท่ีให้ผู้อ่ืนได้มาศึกษา นอกจากชาวจีนก็ยังมีชาวโปรตุเกสท่ีเข้ามาเพ่ือ
การค้าและเผยแพร่ศาสนา ในชุมชนน้ีมีอยู่ร่วมกัน 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ ได้แก่ พุ ทธ คริสต์ และ
อิสลาม และท่ีโดดเด่นอีกอย่างก็คือขนมฝร่ังกุฎีจีนท่ีเป็นขนมโบราณท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ตามสูตร
ด้ังเดิมของชาวโปรตุเกส และขนมพื้นบ้านอ่ืน ๆ ท่ีทางชุมชนอยากจะสานต่อให้กับเด็ก ๆรุ่นใหม่ใน
ชุมชนเพ่ือไม่ให้สูญหายไปในอนาคตในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การเข้าร่วมพิธีทางศาสนามีการ
เปล่ียนไปในรูปแบบออนไลน์ท่ีมีการถ่ายทอดสดให้กับศาสนิกชนได้เข้าร่วมผ่านทางออนไลน์และเสียง
ตามสาย รวมไปถึงชุมชนกุฎีจีนเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม แต่ในช่วงสถานการณ์เช่นน้ีทําให้
ไม่มีนักท่องเท่ียว และร้านค้าก็ไม่สามารถเปิดได้กลไกการทํางานของผู้คนกับชุมชนกุฎีจีนจะมีประธาน
ชุมชนกุฎีจีนซ่ึงเป็นผู้นําในการขับเคล่ือนย่านกุฎีจีนท่ีมีคณะกรรมการท้ัง 6 ชุมชนเข้าร่วมในการ
ขับเคล่ือนไปด้วยกันโดยมีการแบ่งหน้าท่ีกันอย่างชัดเจน มีการพั ฒนาด้านการท่องเท่ียว
มีอาสาสมัครเข้ามาช่วยกันทําอาหารและแจกอาหาร คัดครองคน มีกลุ่มอพปร.ท่ีเป็นกลุ่มสําคัญของ
ชุมชนเพ่ือป้องกันภัยต่าง ๆ ทําหน้าท่ีเกือบทุกอย่างในชุมชน เช่น จับตัวเงินตัวทอง ปฐมพยาบาล
ผู้ป่วยรอรถพยาบาล ขนย้ายผู้ป่วยด้วยเตียงสนาม ดูแลเร่ืองผู้ป่วยโควิด-19 พ่นยาฆ่าเช้ือในชุมชน
เปน็ ต้น

มีอสส.คอยรับเร่ืองและดําเนินการต่อ รวมไปถึงมีการหากิจกรรมให้คนในชุมชนทําเพื่อคลาย
ความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น ปลูกพืชผักสวนครัว ทําความสะอาด ซ่อมแซมชุมชน
มีพยาบาลเข้ามาคอยดูแลเร่ืองความเครียด เป็นต้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีข้ึนก็จะพัฒนา
ด้านการท่องเท่ียวปรับปรุงเส้นทาง ความสะอาด เพ่ือให้คนในชุมชนมีรายได้เพ่ิมจากคําบอกเล่าของ
พ่ี ๆ วิทยากรท่ีได้เล่าเร่ืองราวของชุมซนกุฎีจีน นักศึกษาคิดว่าคนในชุมชนมีการทํากิจกรรมร่วมกัน
ค่อนข้างเยอะ มีความเป็นส่วนหน่ึงช่ึงกันและกัน มีความสัมพันธ์ท่ีแน่นแฟนั มีความสามัคคีไม่ว่าจะ
เป็นการเข้าร่วมกิจกรรมสําคัญต่าง " ของชุมชน การเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา การทําขนม
การค้าขาย การท่องเท่ียว เป็นต้น นักศึกษาคิดว่าการทํางานของชุมซนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีความ
เข้มแข็งท้ังผู้นําและสมาชิกในชุมชน มีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน มีการจัดการบริหารท่ีดีทําให้
ชุมชนมีการพัฒนาท่ีดีย่ิงข้ึน จากภาพการลงพ้ืนท่ีท่ีอาจารย์ได้รวบรวมให้ดูแสดงให้เห็นว่าชุมชนกุฎี
จีนมีการรักษาความสะอาดมาก ป้ายบอกสถานท่ีมีความเป็นระเบียบ ถือเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวท่ีมีความ
เป็นระเบียบและน่าเดินมาก นักศึกษาคิดว่าเป็นผลมาจากการบริหารจัดการทรัพยากรและบุคคลท่ีดี
ของชมุ ชนน้ี ซ่งึ ถอื ว่าเป็นจุดแข็งของชมุ ชนกุฎจี นี

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 37
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

ผบู้ ันทกึ : น.ส.ปภาดา ไชยบดุ ดี 6205610386

ในวันท่ี 6 ตุลาคม 2564 จากการฟังบรรยายผู้นําชุมชนท้ังในด้านท่ีมาของชุมชน ประวัติ ฃ
ศาตร์ชุมชนลักษณะภายใน ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน โดยเร่ิมจากในส่วนของท่ีมาชุมชน ซ่ึง
ผู้บรรยายกล่าวถึงการเข้ามาต้ังรกรากถ่ินฐาน เป็นการพักอาศัยช่ัวคราวของชาวจีนท่ีรอการตรวจ
เรือ/การถ่ายสินค้า/พักเรือ ทําให้มีบางคนอพยพข้ึนมาพักอยู่บนฝ่ ังเป็นการช่ัวคราว แต่ต่อมาก็มีส่วน
หน่ึงท่ีย้ายข้ึนมาอย่างถาวร มีการสร้างศาสนสถานเป็นศาลเจ้าของจีนด้วย ซ่ึงศาสนสถานหรือศาล
เจ้าน้ีเป็นส่วนน่ึงท่ีสําคัญเลยของชาวจีน มีพระโพธิสัตว์กวนอิมท่ีแกะสลักจากไม้ และปิดทองทับ ถือ
เป็นงานฝีมือท่ีงดงามมาก แต่ก็ไม่เพียงแต่ชาวจีนท่ีอพยพข้ึนมาบนฝ่ ัง ยังมีชาวโปรตุเกสท่ีอยู่ทาง
โบสถ์ชันตาครูส ในส่วนของโบสถ์จะอยู่เป็นศูนย์กลางของชุมชน องค์ประกอบภายในโบสถ์จะมี 3
ส่วนคือ ระฆังการียอง 16 ใบ สามารถเล่นเป็นเพลงไป ใช้ในยามฉลองเทศกาล ต่อมาคืออาคาร
ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และในส่วนสังฆภัณฑ์ต่าง ๆเพื่อใช้ในการเก็บของทางศาสนา รูปแบบ
สถาปัตยกรรมของโบส์จะเป็นแบบ Renaissance ผสมกับ Neo Classic ซ่ึงจะมีเทศกาลฉลองวัน
โบสถ์ในช่วง 14 กันยายนของทุกปีด้วย ( หรืออาจจะวันอาทิตย์ท่ีใกล้เคียงกับวันท่ี 14 ) คนในชุมชน
จะไปวัดกันในช่วงวันอาทิตย์ ทําให้คนในชุมชนมีการพบปะกันตลอด มีสโมสรเล็กๆ หลังทําพิธีกรรม
ทางศาสนาเสร็จด้วย ประมาณ 1 ช่ัวโมง ในประวัติของชุมชนส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่ศาสนาคริสต์นิกาย
คาทอลิค แต่ปัจจุบันท่ีมีการปรับปรุงกฎหมายบ้างแล้วทําให้นิกายคาทอลิคสามารถแต่งงานนอก
ศาสนาได้ แต่คู่แต่งานก็ต้องเข้าใจและไม่ขัดขวางวัฒนธรรมของคาทอลิคเดิม จึงทําให้มีความ
หลากหลายเพ่ิมมากข้ึน คนในชุมชนกุฎีจีนน้ีมีท้ังศาสนาคริสต์ อิสลาม พุทธแบบเถรวาทและมหายาน
จึงเรียกได้ว่าเป็น 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ พิธีกรรมทางศาสนาท่ีสําคัญของชาวคริสต์ คือ วัน
คริสต์มาส วันอีสเตอร์ วันฉลองวัดวันฉลองพระคริสตกายา ซ่ึงพิธีทางศาสนาน้ีก็ถือเป็นการ
ถ่ายทอดวัฒนธรรมอย่างหน่ึงด้วยเน่ืองจากจะมีการถ่ายทอดความรู้ วิธีการทําให้คนในชุมชนได้เห็น
แม้จะมีหลากหลายความเช่ือแต่เม่ือถึงกิจกรรมทางศาสนาก็จะช่วยเหลือกันและกันเหมือนเดิม เช่น
การทําอาหารร่วมกัน สําหรับช่วงน้ีท่ีมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทําให้การรวมตัวประกอบพิธีกรรม
ทางศาสนาเป็นไปได้ยาก จึงมีการถ่ายทอดสดพิ ธีกรรมออนไลน์บ้าง หรือ เสียงตามสายไป
ตามบ้านเรอื น ถา้ หากคนในชุมชนไดย้ นิ ก็สามารถออกมารบั พร ภาวนาไดจ้ ากหนา้ บ้านของตนเอง

เอกลักษณ์อย่างหน่ึงคืออาหารของชุมชน ทีมีท้ังขนมฝร่ัง ขนมจีนแกงไข่ค่ัว (อาหารประจํา
หมู่บ้าน) ซ่ึงขนมฝร่ังน้ันจะเป็นลักษณะของแป้ง ข่ น้ําตาลท่ีมาผสมกันและอบด้วยเตาถ่าน การทํา
ขนมฝร่ังค่อนข้างจะใช้ความประณีตสูงมาก เน่ืองจากต้องใช้น้ําหนักมือเป็นหลักในการผสม
ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ เ พ่ื อ ใ ห้ ข น ม มี ค ว า ม อ่ อ น นุ่ ม ฟู อี ก ท้ั ง ก า ร อ บ ด้ ว ย เ ต า ไ ฟ ถ่ า น ย่ิ ง ทํ า ใ ห้ ข น ม
มีความคลาสิกด้วย ผู้นําชุมชนก็มีความกลัวว่าวัฒนธรรมการทําขนมฝร่ังจะหายไป เน่ืองจากใน
ปัจจุบันเหลือผู้ขายเพี ยง 3 ร้านเท่าน้ัน จึงมีกิจกรรมให้เรียนรู้วิธีการทําขนมดังกล่าวด้วย
แต่นา่ เสียดายที่ไม่ไดไ้ ปเยี่ยมชมและลองชมิ ขนมฝรั่งจริงๆ เพราะเปน็ ขนมที่บง่ บอกถงึ เอกลักษณ์ของ
ชุมชนและหาทานไดย้ าก แต่ในช่วงออนไลนจ์ งึ น่าเสียดายท่ไี ม่ได้ลองรบั ประทาน

วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 38
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

ชุมชนกุฎีจีนมีท้ังผู้มาเย่ียมเยียน ท้ังนักศึกษา นักท่องเท่ียว ชาวต่างชาติ หน่วยงานราชการ
เข้ามาศึกษาดูงาน เย่ียมชมวัฒนธรรมของชุมชนท่ีรวมตัวกันภายใต้ศาสนา 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ
การเย่ียมชนของบุคคลภายนอกน้ีชาวบ้านค่อนข้างจะคุ้นเคยอยู่แล้ว ลักษณะของชุมชนท่ีเป็นถนน
เล็ก รถยนตร์ไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ ทําให้ไม่มีความแอดอัดมาก อีกท้ังผู้เย่ียมชมค่อนข้างท่ีจะเข้าใจ
วา่ เปน็ ชมุ ชนท่ตี ้องการความเงยี บสงบดว้ ย จงึ เกรงใจกันและกัน ทาํ ใหไ้ มค่ ่อยมีปญั หา

รปู ภาพ โบสถซ์ างตาครสู้

ชุมชุนกุฎีจีนมีประวัติศาสตร์ท่ียาวนาน เป็นชุมชนท่ีเช่ือมโยงกันด้วยความหลากหลายทาง
ศาสนา มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมมากันอย่างยาวนานด้วยวิถีชีวิตของคนในชุมชน จึงค่อนข้างมี
เอกลักษณ์และความโดดเด่นท้ังด้านความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน ศาสนสถาน อาหาร
การกิน เป็นต้น องค์ประกอบเหล่าน้ีท่ีเป็นเร่ืองราวน่าหลงไหลทางประวัติศาสตร์จึงสร้างความน่า
ดึงดูดให้กบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว ผูเ้ ย่ยี มชมไดเ้ ป็นอย่างมาก

ชุมชนกุฎีจีน ประชากร 1,850 คน 261 หลังคา 305 ครัวเรือน ในชุมชนจะมีคณะกรรมการ
ย่าน โดยมีประธานท้ัง 6 ชุมชน ได้แก่ 6 ชุมชน ย่านกะฎีจีน ประกอบด้วย กุฎีจีนประชากรมากสุด
วัดกัลยา กุฎีขาว วัดประยูร บุบผาราม นงคราม มีการส่งตัวแทนชุมชนละ 5 คน รวมเป็นจํานวน 30
คน มีการแบ่งหน้าท่ีและความรับผิดชอบท่ีชัดเจน อยู่ภายใต้ความดูแลของมหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี
ด้วย และมีท่ีปรึกษากลุ่มเป็นเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ /หน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม
กรมการท่องเท่ียว เป็นต้น และกลุ่มทํางานเหล่าน้ีจะเป็นผู้หญิงสูงวัยชะส่วนใหญ่ เน่ืองจากพูดคุยกัน
ง่าย เข้าใจกันมาต้ังแต่เร่ิมต้น มีความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ และกลุ่มอพอร. ท่ีคอยช่วยเหลือคน
ในชุมชนอย่างสมัครใจและต้องได้รับการอบรมก่อนเพ่ือการป้องกันภัยท่ีถูกต้อง เช่น น้ําท่วม ไฟไหม้
สั ตว์ร้าย การช่วยชีวิตเบ้ืองต้น ฯลฯ ในช่วงโควิดก็จะช่วยฉีดยาพ่ นฆ่าเช้ือภายในชุมชน
ทําความสะอาด ในส่วนของกลุ่มน้ีจะได้รับเงินเป็นสินน้ําใจจากผู้ใหญ่ในชุมชนบ้าง เป็นการสนับสนุน
และช่วยเหลือกันและกันด้วยความสมัครใจท้ังสองฝ่าย อีกท้ังกลุ่มอาสาสมัครท่ีมาช่วยจัดร้านค้า

วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 39
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

ทําอาหารแจกคนในชุมชน บริการกรองในช่วงโคงิด-19 การตรวจ ATK จากกลุ่มโรงพยาบาลเกษม
ราษฎ์ ด้วยลักษณะประชากรในชุมชนสูงวัยส่วนใหญ่ จึงอาจจะมีความเครียด เหงา เม่ือต้องอยู่บ้าน
ทางชุมชนจึงมีกิจกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้สูงวัย เช่น ปลูกผักสวนครัว ทําความสะอาด
ชุมชนร่วมกัน การบูรณะ การซ่อมแซมชุมชนกุฎีขาว มัสยิด มีพยาบาลให้ความรู้ในการคลาย
ความเครียดด้วย ในส่วนของศูนย์สุขภาพก็จะมีโรงพยาบาลเล็ก ๆ เป็นศูนย์สุขภาพ 26 ท่ีเป็นการ
รักษาในลักษณะปฐมภูมิก่อนในเบ้ืองต้น และกลุ่มนักเรียนพยาบาลท่ีเข้ามาบริการ/ ให้การดูแล
ลักษณะความเป็นอยู่ของตนในชุมชนช่วงโควิดน้ีก็จะมีท้ังคนท่ีตกงาน โดนลดเงินเดือน เข้าไปทํางาน
ไม่ได้ แต่ก็จะได้ความช่วยเหลือจากบริษัทชุมชนดีมีรอยย้ิม เป็นทุนสนับสนุนให้คนในชุมชนมีขวัญ
กําลังใจ ซ่ึงชุมชนก็มีความคาดหวังในเร่ืองการท่องเท่ียวหลังจากโควิดเร่ิมบรรเทาลงว่าจะปรับปรุง
ภูมิทัศน์ บรรยากาศโดยรอบของชุมกระจายเสียง และกิจกรรมทางศาสนาในรูปแบบออนไลน์ ท่ีต้อง
ไดร้ บั การสนับสนนุ ดา้ นเทคโนโลยีอกี ด้วย

รปู ภาพ ลักษณะถนนภายในชุมชนท่ีบางจุดรถใหญ่จะเข้ายาก

จะเห็นได้ว่าการบริหารจัดการภายในชุมชนจะอาศัยความช่วยเหลือและการประสานงานร่วมกันกับ
องค์กรภายนอก เช่น รฐั วิสาหกิจ สํานกั งานเขต ภาคเอกชน โรงพยาบาล มหี นว่ ยอพอร. ประจําชุมชนในการ
ช่วยเหลืออุบัติเหตุหรือเหตุร้ายต่าง ๆในเบ้ืองต้น และมีอสส. ในการประสานงานรับส่งผู้ป่วยต่อไป บทบาทของ
ผู้นําชุมชนค่อนข้างแสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่า แม้จะเป็นผู้หญิงแต่ก็มีความเข้มแข็งในการนําพาชุมชนให้พัฒนา
ไปในทางที่ดีมาโดยตลอด และอีกประเด็นหน่ึงคือลักษณะความสัมพันธ์ของคนในชุมชนจะเป็นไปในเชิง
ช่วยเหลือกันและกันไม่ว่าจะศาสนา เพศ อายุ ท่ีแตกต่างแต่ก็มีความกลมเกลียวกันอย่างมาก มุมมองของ
ชุมชนเหล่านี้เป็นส่ิงท่ีส่งผ่านไปยังบุคคลภายนอก จึงกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งท่ีน่าดึงดูดและควรค่าแก่การ
รักษาความสัมพันธ์ท่ีเหนียวแน่นเหล่าน้ีไว้ ด้วยลักษณะประชากรในชุมชนท่ีเป็นผู้สูงวัยมากกว่า ในชุมชนจึงมี
มัคคุเทศน์สูงวัยด้วยเพ่ือส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชนนําไปสู่การสร้างรายได้ และเน่ืองจากประชากรใน
ชุมชนจะเป็นสูงวัยมากกว่าเด็กเล็ก ๆ การสืบสานวัฒนธรรมเช่น การทําอาหาร ขนม ก็ไม่ค่อยมีมากมายเท่า
แต่ก่นแล้ว เนื่องจากความอยากรู้อยากเห็นของเด็กก็เปลี่ยนไป อีกทั้งข้ันตอนของอาหารเก่าแก่นั้นทํายาก แต่
ก็ยังมีสอนทําสํ าหรับผู้ที่ให้ความสนใจในวัฒนธรรมดังกล่าวแต่ต้องมีการนัดหมายล่วงหน้าก่อนเพ่ื อความ
สะดวก

วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 40
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

ผบู้ นั ทึก: นายณฐั กติ ต์ิ พูลโคก 6205610394 ฃ
บนั ทึกภาคสนามชุมชนกฎุ ีจีน

"ประวัตชิ ุมชน"
สมัยกรุงธนบุรี ได้มีชาวโปรตุเกสเข้ามาค้าขายท่ีอยุธยา และมีชาวโปรตุเกสท่ีเป็นทหารรับจ้าง

เม่ืออยุธยาแตกและพระเจ้าตาก ได้เข้ามากอบกู้เอกราช โดยมีทหารโปรตุเกสเข้าร่วมด้วย เม่ือกอบกู้
ได้ จึงพระราชทานท่ีดินให้กับทหารโปรตุเกส ซ่ึงคือบริเวณชุมชนกุฎีจีนในปัจจุบัน สมัยน้ัน ถูก
เรียกวา่ "คา่ ยแมพ่ ระลูกประคํา"

"ศูนย์กลางชุมชน"

เม่ือคุณพ่อกอลมเบต์ กลับมาจากการกอบกู้เอกราช จึงพาชาวคาทอริกกลับมาด้วย และได้ขอ
พระราชทานทด่ี นิ เพื่อสรา้ งโบสถ์ ซง่ึ ก็คือโบสถ์ ท่เี ป็นโบสถข์ องศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอรกิ

- โบสถ์หลังแรกท่ีถูกสร้าง เป็นโบสถ์ไม้ ขนาดเล็ก ๆ เน่ืองจากไม่มีงบประมาณและเป็นโบสถ์ท่ี
มีใต้ถนุ สูงเพ่ือหนีนา้ํ ท่วมทเ่ี กิดขน้ึ ในทุกปี

- เม่ือโบสถ์หลังแรกทรุดโทรมลง จึงบูรณะใหม่ เป็นการก่ออิฐ ฉาบปูน เพราะมีงบประมาณ
มากข้ึนแต่โบสถ์ก็ถูกไฟไหม้ จึงมีการสร้างใหม่คร้ังท่ี 3 เกิดข้ึน โดยเป็นสถาปัตยกรรมแบบ
เรเนซองส์ ผสมนีโอคลาสสิค โดยเป็นการออกแบบของคุณพ่อก้ิน และคุณพ่อแปโร ซ่ึงดํารง
ตําแหน่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะน้ัน และต้ังช่ือโบสถ์ว่า "ซางตาครูซ" ซ่ึงเป็นภาษาโปรตุเกส
แปลว่า "กางเขนศักสิทธ์"ิ วันสถาปนาโบสถ์ คือ วนั ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2312 ซึ่งนับแต่นน้ั มา
จะมีการฉลองวันสถาปนาโบสถ์ข้ึนในทุกวันอาทิตย์ ท่ีใกล้วันท่ี 14 กันยายน ของทุกปี ภายใน
โบสถ์จะมีระฆังการิออง ท่ีมี 16 ใบ 16 เสียง ตามโน้ตดนตรี ในวันฉลองสถาปนาจะมีการตี
ระฆังเป็นพลง ในส่วนพื้นท่ีประกอบพิธี จะตกแต่งด้วยกระจกสี เป็นรูปพระคัมภีร์ แต่ในช่วง
สงครามโลกคร้ังท่ี 2 โดนแรงอัดจากระเบิดจนแตก จึงตกแต่งเป็นไม้กางเขนธรมดา

วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 41
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

จนกระท่ังบูรณะใหม่จึงตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นรูปพระดัมภีร์เก่า-ใหม่ และภายในโบสถ์ยัง
กระจกสีท่เี ปน็ รปู พระเยชตู รึงกางเขน ซง่ึ เป็นรูปทเ่ี หลอื รอดมาไดต้ ้งั แต่สมยั ก่อต้งั โบสถ์
- พื้นท่ีบริเวณรอบโบสถ์ซางตาครูซ มีเน้ือท่ี 32 ไร่ ในสมัยก่อนผู้คนท่ีอาศัยอยู่บริเวณรอบ
โบสถ์จะนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอริก ท้ังหมด เพราะใน พ.ศ. 2457 ได้มีกฎหมาย
ห้ามโอนย้ายกรรมสิทธ์ิพื้นท่ีให้คนนอกศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอริก ผู้คนท่ีจะอาศัยอยู่
บริเวณโบสถ์ซางตาครูช จึงจําเป็นต้องเซ็นสัญญาเช่าท่ีกับโบสถ์ซางตาครูช และผู้เซ็น
จะต้องเป็นคาทอริกเท่าน้ัน จึงเปรียบได้ว่า โบสถ์ซางตาครูซ เป็นศูนย์กลางของชุมชนของ
ผคู้ นท่อี าศัยอยู่บริเวณนน้ั

"แผนท่เี ดนิ ดนิ "

ในแผนท่ีเดินดินของชุมชนจะเน้นสถานท่ีสําคัญหลักเป็นศาสนสถานเน่ืองจากชุมชนกุฎีจีน มี
ชาวโปรตุเกส ชาวจีนฮกเก้ียน ท่ีเข้ามาอาศัยในสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จึงมีการ
ก่อต้ังศาสนสถานของตนเอง คือโบสถ์ซานตาครูช ของศาสนาคริสต์ ศาลเจ้าเกียนอันเกง ของ
ศาสนาพุ ทธนิกายมหายาน (เกียน แปลว่า ฮกเก้ียน, อัน แปลว่า ความสงบร่มเย็น, เกง แปลว่า
ศาสนสถาน ในปัจจุบัน มีมัสยิดของศาสนาอิสลาม คือ มัสยิดบางหลวง หรือ กุฎีขาว และวัด
กัลยาณมิตรของศาสนาพุ ทธ นิกายเถรวาท ทําให้ชุมชนน้ีมี 3 ศาสนา และศาสนาพุ ทธ 2 นิกาย จึง
เป็นชมุ ชนทม่ี คี วามหลากหลายทางศาสนารวมอยู่ดว้ ยกัน

วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 42
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

รปู จาก https://www.sanook.com/travel/9467911

"สถาปตั ยกรรม"
นอกจากโบสถ์ซางตาครูชท่ีมีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมแบบเรเนชองส์ น้ีโอคลาสสิค

แล้ว ศาลเจ้าเกียนอันเกงก็เป็นอีกหน่ึงสถานท่ี ท่ีโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรม ซ่ึงถูกสร้างมาต้ังแต่
สมัยรัชการท่ี 3 เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนฮกเก้ียน หรือเรียกว่า หนาน เป็นอาคาร 4 เรือนล้อมรอบ
ลานตรงกลาง เน่ืองจากเป็นศาสนาพุ ทธ นิกายมหายาน จึงมีรูปแกะสลักไม้แล้วปิดทองของพระโพธิ
ศักด์ิประดิษฐานอยู่ ภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเร่ืองราวของสามก๊ก วาดบนปูนเปียก
ตามฉบับของเจ้าพระยาพระคลังหน เป็นรูปท่ีคัดลอกมาจากสมัยราชวงศ์ชิง ท่ีมีฝีมือช้ันครู และนอก
ศาลเจ้าจะมีคานไม้ท่ีแกะสลักเป็นเร่ืองสามก๊ก ตอนยุทธฎารเปิดเมือง และตอน สงครามระหว่างเล่าปี
กับโจโฉ ซ่ึงความโดดเด่นด้านศิลปะสถาปัตยกรรมน้ี ทําให้ปัจจุบันศาลเจ้าได้กลายเป็นโบราณสถาณ
ท่อี ยูใ่ นการดแู ลของกรมศิลปากร

"วัฒนธรรมอาหารประจําชมุ ชน"
ชุมชนกุฎีจีนชุมชนท่ีมีความหลากหลายทางเช้ือชาติ และศาสนา จึงทําให้เกิดวัฒนธรรม

อาหารทแ่ี ตกต่างจากชมุ ชนทว่ั ไป คือ ขนมฝรง่ั โปรตเุ กส เปน็ ขนมท่มี าจากชาวโปรตุเกสท่เี ข้ามาอาศัย
อยู่ในชุมชนแห่งน้ีต้ังแต่สมัยธนบุรี และอีกเมนูคือขนมจีนแกงค่ัวไก่ ม้าจากชาวเขมรท่ีติดตามพระ
พุ ทธยอดฟา้ จุฬโลกมหาราชกลับมาจากสงคราม ซ่ึงในสมัยก่อนวันมิซาจะมีการเล้ียงขนมจีนค่ัวไก่
จากแม่พระขนมจีน และจะมีการเปิดสอนการทําอาหารในวันพุธ พฤหัสบดี เพื่อไม่ให้เอกลักษณ์น้ีเลือน
หายไป หากสนใจสามารถตดิ ตอ่ นัดล่วงหน้าได้

วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 43
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

"แหลง่ การเรยี นรู้ชุมชน"
เน่ืองจากชุมชนมีความเป็นเอกลักษณ์ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซ่ึงถือว่าเป็นความ

ภาคภูมิใจของคนในชุมชน ผู้คนในชุมชนจึงมีความต้องการถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ของชุมชน
ให้คนรุ่นใหม่ได้มาศึกษา เพื่อไม่ให้ถูกลืมเลือนหายไป จึงก่อต้ังพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนข้ึนเป็นพิพิธภัณฑ์
ท่ีบอกเล่าเร่ืองราวต่าง ๆ รวมถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนต้ังแต่สมัยธนบุรี ในบรรยากาศบ้านแบบ
สยาม โปรตเุ กส โดยจะเปดิ ให้เข้าชมวนั องั คาร - วันอาทิตย์ ปดิ วันจนั ทร์ เวลา 09:30 18:00 น. เขา้ ชมฟรี

รูปจาก https://voicetv.co.th/read/AZBz9zvMn
"สัญลกั ษณ์เฉพาะชมุ ชน"

ระฆังการิยอง ในโบสถ์ซางตาครูซ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ทางชุมชนอย่างหน่ึงเพราะนอกจาก
จะใช้บรรเลงในวันสถาปนโบสถ์แล้ว ยังใช้เพื่อเป็นสัญญาณเตือนภัย เช่น ไฟไหม้ หรือน้ําท่วม
ให้กับชุมชนอีกด้วย โดยเสียงแต่ละสัญญาณจะไม่เหมือนกัน ซ่ึงคนในชุมชน จะรู้ความหมาย
ของแตล่ ะเสียงว่าหมายถึงอะไร


Click to View FlipBook Version