วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 94
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภายในชุมซนน้ันเป็นการช่วยปลูกฝังความคิดท่ีช่วยให้ผู้คนเกิดความตระหนักและหวงแหนใน
วัฒนธรรมจนนําไปสู่การอนุรกั ษ์และสืบทอดวถิ ีชวี ิตอนั ดงี ามใหค้ งอยู่ต่อไปได้
แหล่งทรัพยากรภายในและภายนอก
จากการสอบถามผู้นําชุมชน พบว่าแหล่งทรัพยากรภายในน้ันจะได้รับการสนับสนุนและระดม
ทุนจากผู้ใหญ่ใจดีหรือคนภายในชุมชน ส่วนแหล่งทรัพยากรภายนอกก็จะได้รับการความร่วมมือใน
การสนับสนุนความช่วยเหลอื จากองค์กรภาครัฐ และภาคเอกชนต่าง ๆ
วิธีปฏบิ ตั ิการชุมชน
การจัดการภายในชุมชน ท้ังประธานหมู่บ้านและลูกบ้านต่างให้ความร่วมมือกันในการช่วย
สอดส่องดูแลและฝ้าระวัง ปัญหาต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดข้ึนภายในชุมชน โดยจะมีทีมอาสาสมัครท่ีคอย
ช่วยเหลือ อํานวยความสะดวก และช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นเหตุภัยพิบัติ
เช่น น้ําท่วม ไฟไหม้ หรือการจัดการภายในชุมชน เช่น การทําความสะอาด การจัดระเบียบชุมชน
การบูรณะซ่อมแชมโบราณสถาน เป็นต้นนอกจากน้ีในชุมชนจะมีการประชุมวางแผนเพ่ือรับมือกับ
สถานการณ์ความเปล่ียนแปลงต่าง ๆ และมีการส่งสัญญาณแจ้งเตือนหรือประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้าน
ได้รับร้อู ยู่เสมอ
ระบบสุขภาพของคนในชมุ ชน
มีศูนย์บริการสาธารณสุข จํานวน 2 แห่งได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุขในชุมชนบุปผาราม
และศูนย์บริการสาธารณสุข 26 เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ซ่ึงเป็นศูนย์การให้บริการด้านคลินิกตรวจ
รักษา การป้องกันและควบคุมโรค และคลินิกการทํากายภาพบําบัด นอกจากน้ีภายในชุมชนกุฎีจีนยัง
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 95
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
มีการส่งเสริมสุขภาพผู้คนผ่านการจัดอบรมและให้ความรู้จากผู้เช่ียวชาญ เพื่อให้คนในชุมชนสามารถ
นําความรู้น้นั ไปปรับใชใ้ นการดูแลตนเองได้ต่อไป
เครอื ขา่ ยทางสังคม
ผู้นําชุมชนก็จะมีการติดต่อประสานงานกับเครือข่ายท้ังภาครัฐและเอกชน รวมท้ังทีม
อาสาสมัครต่าง ๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนต่าง ๆ ภายในชุมชน ยกตัวอย่าง
เช่น ในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด - 19 ส่งผลกระทบให้คนในชุมชนมีรายได้ในการทํางานลดลง
มาก ทางผู้นําชุมชนก็มีการติดต่อและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทดีมีรอยย้ิม ท่ีเข้ามาช่วยเหลือด้าน
รายได้ และแจกส่ิงของต่าง ๆ ใหค้ นในชมุ ชน เปน็ ตน้
ขอ้ จํากดั ในการทํางานชมุ ชน
การระดมทุนจากคนภายในหรืองบประมาณจากภาครัฐท่ีส่งมามักจะไม่เพียงพอต่อการจัดการ
ชุมชนดังน้ันจึงมีการพยายามสร้างเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือให้มีความกว้างขวางมากข้ึน
โดยมีการติดต่อกับองค์กรภาคเอกชนภายนอก และมีการเขียนแผนโครงการ จัดทําหนังสือต่าง ๆ
เพื่อนําไปเสนอของบประมาณท่ีจําเป็น นอกจากน้ีข้อจํากัดภายในชุมชนยังมีในเร่ืองของทางเดินท่ีมี
ลักษณะคับแคบ แออดั ซง่ึ ตอนกลางคนื อาจดไู ม่ปลอดภัยทางชมุ ชนควรเขา้ ไปจัดการ เชน่ อาจมีการ
ติดไฟตามทางเดินเพ่ิม ติดกลอ้ งวงจรปดิ ตามจดุ ต่าง ๆ เปน็ ต้น
เป้าหมายและแผนการของชมุ ชน
ภายหลังจากสถานการณแ์ พรร่ ะบาดโควดิ -19 ดีขน้ึ ชมุ ชนกม็ แี ผนการกระตุ้นในเร่อื งของการ
ท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม เพื่ อให้ผู้คนในชุมชนมีรายได้เพิ่ มข้ึน และจะมีแผนการปรับปรุง
สาธารณูปโภคต่าง ๆ ภายในชุมชนไม่ว่าจะเป็นช่องทางการกระจายเสียงหรือการประชาสัมพันธ์ การ
ปรบั ปรุงทางเดนิ จัดการสายไฟตา่ ง ๆ เพ่ือให้บรรยากาศในชมุ ชนมคี วามนา่ อยแู่ ละดูดขี ้นึ
การจัดการของชมุ ชนในช่วงวกิ ฤต
วิกฤตการแพร่ระบาตรโควิด - 19 ได้ส่งผลกระทบต่อคนในชุมชนหลายๆด้าน ท่ีเห็นได้ซัดคือ
ด้านเศรษฐกิจ ผู้คนต่างมีรายได้ท่ีน้อยลง ทางชุมชนก็มีการพยายามช่วยเหลือด้วยการระตมทุนจาก
องค์กรต่าง ๆ ทําข้าวกล่องและแจกจ่ายของใช้ท่ีจําเป็นให้แก่คนในชุมชน นอกจากน้ีผู้คนยังมีปัญหา
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 96
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ความกังวลและความเครียดเก่ียวกับโรคโควิด - 19 โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุท่ีต้องอยู่บ้านนาน ๆ
ทางชุมชนก็มีการจัดหากิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักสวนครัว ปลูกฟา้ ทลายโจร การจัด
กิจกรรมพู ดคุยให้ความรู้จากวิทยากหรือผู้เช่ียวชาญ เพื่อให้ผู้คนในชุมชนรู้สึกผ่อนคลายและมีความ
สบายใจข้ึนจากการบันทึกภาคสนามผ่านการพู ดคุยและสัมภาษณ์จากวิทยากร ทําให้เราได้เรียนรู้
เก่ียวกับวิถีชีวิตในชุมชนมากมาย แม้จะไม่มีโอกาสได้ลงไปสัมผัสพ้ืนท่ีโดยตรงแต่ก็ได้เรียนรู้จากคํา
บอกเล่าและรูปภาพท่ีสื่อถึงความหมายของชุมชนได้เป็นอย่างดี รวมท้ังเรายังมีโอกาสในการไปสืบทา
ข้อมูลจากหลายๆแหล่งเพื่อประกอบการทําความเข้าใจจนทําให้เห็นมุมมองของชุมชนอย่างกว้างมาก
ข้ึน ชุมชนกุฎีจีนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา การศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนในการอยู่
ร่วมกันจึงเป็นสิ่งท่ีน่าสนใจ พวกเขามีการช่วยเหลือเก้ือกูลซ่ึงกันโดยไม่มีการแบ่งแยกศาสนาหรือเช้ือ
ชาติ และยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้อย่างกลมกลืน อีกท้ังในชุมชนกุฎีจีนมีมรดกทาง
วัฒนธรรมท่ีสําคัญมากมายซ่ึงคนในชุมชนก็ได้มีการอนุรักษ์และดูแลรักษา รวมท้ังสืบสานวัฒนธรรม
ผ่านการปลูกฝังเด็กและเยาวชนในพ้ืนท่ี และการแบ่งปันความรู้ให้กับคนภายนอกเพ่ือให้ส่ิงท่ีดีงามคง
อยู่ได้ต่อไป นอกจากน้ีในเร่ืองการจัดการภายในชุมชนก็ยังมีความเป็นระบบ ผู้นําชุมชนมีความ
เข้มแข็งและสามารถวางแผนรับมือกับสถานการณ์ความเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงเป็น
อีกชุมชนหน่ึงท่ีน่าช่ืนชม ซ่ึงถ้ามีโอกาสก็หวังว่าจะได้ลงพื้นท่ีไปสัมผัสบรรยากาศภายในชุมชนจริง ๆ
สักครง้ั หนง่ึ
เอกสารอ้างอิง
สารสนเทศท้องถ่ินธนบุรี. (2561). ข้อมูลประวัติหมู่บ้าน ชุมซน วิถีชุมชน. สืบค้นเม่ือ 7
ตลุ าคม 2564. จากhttp://human.bsru.ac.th/localinformation/page id=486
สลิลทิพย์ สอนศรี และคณะ. (2563). รายงานการศึกษาชุมชนกุฎีจีน. สืบค้ันเม่ือ 7 ตุลาคม
2564. จากfile://C:/Users/USER/Downloads/ชุมชกุฎีจีน%20-%620รายงานการศึกษาชุมชน%
20ส311%20(กลุ.pdf
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 97
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผ้บู ันทกึ : น.ส.มนั ตา ปลอดกรรม 6205680249
ฃ
ชมุ ชนกฎุ จี นี เปน็ 1 ใน ชุมชนท่อี ยรู่ มิ แมน่ า้ํ เจ้าพระยาในย่านกะดีจีน มปี ระวัตศิ าสตร์และความ
เป็นมาอย่างยาวนานต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเป็นชาวจีนและชาวโปรตุเกสเข้ามาอาศัยอยู่ใน
พื้นท่ีน้ี เป็นผู้ท่ีช่วยกอบกู้เอกราช (กรุงธนบุรี)และไม่เบียดเบียนคนไทย พระเจ้าตากเห็นว่าประพฤติ
ตัวดึ จึงให้ข้าไปรับราชการในวังและมอบท่ีดินให้ 32 ไร่ (คือท่ีกุฎีจีน) และอาศัยอยู่สืบเน่ืองมาจน
ปัจจุบัน ซ่ึงเป็นชุมชนอยู่ร่วมกัน 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ ได้แก่ พุทธ(มีท้ังเถรวาท คือวัด และมหายาน
คือ ศาลเจ้า) คริสต์และอิสลาม ซ่ึงส่วนใหญ่คนในชุมชนจะนักถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิค
โดยคนในชมุ ชนเองกส็ ามารถอยรู่ ่วมกนั แบบช่วยเหลอื กัน แบบไมข่ ัดต่อหลักศาสนาของตนเอง
เน่ืองด้วยเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีความเป็นมาอย่างยาวนาน ทําให้มีสถานท่ีสําคัญๆภายในชุมชนอยู่หลาย
ท่ี เช่น วัดซางตาครู้ส (โบสถ์ซางตาครู้ส) ซ่ึงเป็น โบสถ์หลังแรก โดยมีการจัดงานเฉลิมฉลอง
เพื่อระลึกถึงในวันท่ี 14 กันยายนของทุกปี, โบสถ์หลังท่ี3เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์ผสมกับ
นีโอ - คลาสสิก ซ่ึงเป็นแลนด์มาร์กของชุมชนในปัจจุบัน, เรือนจันทนภาพ, พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน
ทส่ี ร้างขน้ึ เพื่อบันทกึ เร่อื งราว ความเปน็ มาของชุมชน
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 98
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
เน่ืองด้วยเป็นชาวโปรตุเกสท่ีเข้ามาอาศั ยอยู่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และอาหารก็จะ
มีความแตกต่างจากอาหารท่ีสามารถหากินได้ท่ัวไป ส่วนใหญ่เป็นอาหารท่ีมาจากโปรตุเกส เช่น
สตูว์ล้ินวัว หมูอบมันฝร่ัง หมูฝอยผัดกับกากหมู สัพพแหยก และนอกจากอาหารแล้วยังมีขนม
อีกด้วย อย่างของข้ึนช่ือของกุฎีจีน "ขนมฝร่ังกุฎีจีน" ท่ีได้ช่ือว่าเป็นเค้กก้อนแรกของประเทศไทย
ซง่ึ ในปัจจุบันสามารถหาซอ้ื ไดแ้ ก่ 3 รา้ นเท่าน้นั
ชุมชนกุฎีจีนน้ัน เป็นชุมชนท่ีมีเอกลักษณ์ในด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นชุมชนท่ี
คนในชุมชนมีความแตกต่างหลายหลายท้ังในด้านเช้ือชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม แต่ก็สามารถ
รวมกันเป็นหน่ึงเดียวท่ีผสมผสานความหลากหลายเหล่าน้ันและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่มีการ
เบียดเบียนหรือต่อต้านบุคคลท่ีมีความต่าง เพียงแค่หากต้องเข้าใจในความเป็นชุมชนกุฎีจีน ว่าเป็น
อยา่ งไร มวี ิถีชวี ติ แบบไหน
โ ด ย ปั จ จุ บั น ไ ด้ มี ก า ร ร่ ว ม มื อ กั น ขั บ เ ค ล่ื อ น ชุ ม ช ม ข อ ง ท้ั ง 6 ชุ ม ช น ใ น ย่ า น ก ะ ดี จี น
เพื่อให้เกิดการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมโดยมีการทํางานร่วมกับหน่วยงานอ่ืน ๆ และตัวแทน 5 คน
ของแต่ละชุมชนมาทํางานร่วมกัน เพื่ อให้พ้ื นท่ีบริเวณชุมชนเป็นชุมชนท่องเท่ียว มีการเปิดให้
นักท่องเท่ยี วเข้ามาท่องเท่ยี ว ศึกษาเกย่ี วกบั ชมุ ชน ซง่ึ กช็ ว่ ยให้ร้านคา้ ในชุมชนไดม้ รี ายไดอ้ ีกด้วย
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 99
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ นั ทกึ : นายเตมีย์ วรเดชพิทกั ษ์ 6205680322 ฃ
บันทึกภาคสนาม ชมุ ชนกฎุ จี นี
ภาพท่ี 1 แผนท่กี ารท่องเท่ยี วในชมุ ชน
ภาพน้ี เม่ือพิจารณาให้เห็นมากกว่าสถานท่ีท่องเท่ียว จะพบว่ามีสถานท่ีท่ีน่าสนใจ 3 ท่ี
คือโบสถ์ซางตาครู้ส, มัสยิดบางหลวง และวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร (ซ่ึงท้ัง 3 สถานท่ีน้ีท้ังหมด
เป็นสถานท่ีประกอบพิธีกรรมทางศาสนา) ซ่ึงแสดงให้เห็นว่า ในชุมชนมีการอยู่ร่วมกันของประชาชน
ทง้ั 3 ศาสนา ชมุ ชนมคี วามเป็นพหุวฒั นธรรม ท้งั หมดใชช้ วี ิตรว่ มกนั
ภาพท่ี 2 และ 3 โบสถ์ซางตาครู้ส
เป็นสถานท่ีท่ีคนท่ีนับถือศาสนาคริสต์ในชุมชนได้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (ซ่ึงส่วนมาก
ประชาชนท่ีนับถือศาสนาคริสต์ในชุมชนน้ีนับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก) มีการทําพิธีท่ีน่ีในวัน
สําคญั ทางศาสนา โดยผ้คู นในชมุ ชนสามารถมีส่วนรว่ มได้ทุกคน
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 100
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ภาพท่ี 4 และ 5 ถนนหนทางในชุมชน
เน่ืองจากชุมชนน้ีเป็นชุมชนเก่า ถนนหนทางในชุมชนจึงมีความคับแคบ โดยรถคันใหญ่
ไม่สามารถขับผ่านได้ รถคันเล็กก็ผ่านลําบากมาก ดังน้ันจึงต้องใช้จักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ใน
การสัญจรไปมาระหว่างกนั หรอื ใช้จกั รยานธรรมดา หรือเดนิ กไ็ ด้ ถอื วา่ ออกกาํ ลงั กายไปในตัว
ภาพท่ี 6 การแยกขยะของชมุ ชน ภาพท่ี 7 สถานกีฬาในชุมชน
ภาพท่ี 6 ชุมชนน้ีมีความพยายามในการแยะขยะ (ถ้าดูจากในภาพ) แต่ในความเป็นจริงก็ท้ิงรวม
แต่กด็ ีทม่ี ีการจดั แจงถงั ขยะไว้ทว่ั ชมุ ชนทําใหช้ ุมชนไมส่ กปรก ไม่มกี ารท้งิ ขยะเรย่ี ราด
ภาพท่ี 7 สภาพพอใช้ได้ เม่อื มกี จิ กรรมก็ทาํ ความสะอาดแล้วค่อยใช้ประโยชนไ์ ด้
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 101
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภาพท่ี 8 ซุม้ พระแม่ชเี ซนต์เทราซา่ ภาพท่ี 9 วดั กัลยาณมติ รวรมหาวิหาร
ภาพท่ี 8 ซุ้มพระแม่ชีเซนต์เทราซ่า แสดงให้เห็นว่าประชาชนท่ีอยู่อาศัยในชุมชนน้ัน มีชาว
คริสต์อาศัยอย่ใู นชมุ ชน
ภาพท่ี 9 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารซ่ึงต้ังอยู่ไม่ห่างมาก สื่อให้เห็นถึงความเป็นพหุ
วัฒนธรรมของชุมชน มีการอยู่ร่วมกันมาหลายช่ัวอายุคน มีสถานท่ีสําคัญทางศาสนาเพ่ือประกอบ
พิธกี รรมตามทแ่ี ตล่ ะคนนับถอื
ภาพท่ี 10 และ 11 อุปกรณ์การทาํ งาน
มีการทําทามไลน์กิจกรรมในชุมชน ประชาชนท่ีอาศัยมีการทํางานร่วมกันเป็นเครือข่าย
เห็นถึงความร่วมมือในการทํากิจกรรมต่าง ๆ และอาจเช่ือมโยงไปถึงการแบ่งงานกันทําตามลําดับข้ัน
ซง่ึ เป็นไปตามโครงสร้างชุมชนท่มี กี ารตกลงกันไว้
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 102
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภาพท่ี 12 และ 13 ป้ายโฆษณาร้านขนม
ด้วยความท่ีชุมชนน้ีเป็นชุมชนพหุวัฒนธรรมจึงมีการแลกเปล่ียนองค์ความรู้กันในหลายด้าน
หน่ึงในน้ันคืออาหารและขนม โดยมีร้านขายของกินหลากหลายชนิด นอกจากน้ียังมีการ Present
ถึงอตั ลกั ษณ์ของชมุ ชนแห่งน้ซี ง่ึ ก็คือพิพิธภัณฑบ์ ้านกฎุ ีจีนอกี ดว้ ย
ภาพท่ี 14 ขนมเรยี กนา้ํ ยอ่ ย ภาพท่ี 15 รา้ นขนม Home Made
ภาพท่ี 14 เปน็ ขนมแปลกหน้าทร่ี ้านคา้ ขา้ งนอกไมค่ ่อยมคี นทาํ (นักศึกษาไม่เคยลองกินเชน่ กนั )
ภาพท่ี 15 เม่ือมีภูมิปัญญาด้านการทําอาหารตกทอดกันมาต้ังแต่รุ่นโบราณ มีการสืบต่อ
ทําใหอ้ งคค์ วามรไู้ มส่ ูญหายไป คอื การนาํ ภูมิปญั ญาหรือองค์ความรู้ทส่ี ะสมมาใช้จรงิ เปน็ รูปธรรม
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 103
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ภาพท่ี 16 เซตอาหารบนโตะ๊ ภาพท่ี 17 สัพพแหยก (SAPAYAK)
ภาพท่ี 16 เซตอาหารบนโต๊ะ คือหน่ึงในม้ืออาหารของคนในชุมชนสมัยก่อนมีการตกแต่งโต๊ะ
อยา่ งสวยงามคลาสสิค
ภาพท่ี 17 สัพพแหยก (SAPAYAK) คืออาหารท่ีได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกสเป็นอาหารท่ีทํา
จากเน้อื สับละเอียด เช่น ไกห่ มู ผัดกับเครอ่ื งเทศ ใส่ขม้นิ และมนั ฝรง่ั หน่ั เป็นช้นิ ลกู เต๋า
ภาพท่ี 18 ตาํ นานผีหนเู ล๊ยี บ ภาพท่ี 19 ทางเดนิ หนง่ึ ในชมุ ชน
ภาพท่ี 18 ตํานานผีหนูเล๊ียบ ถือว่าเป็นกลอุบายท่ีดีมาก เพื่อป้องกันเด็ก ๆ ออกไปเล่นตอน
กลางคนื เพราะถา้ เด็กหายจะตามตวั ยาก เสี่ยงเกดิ อบุ ตั ิเหตถุ ึงชีวติ
ภาพท่ี 19 จินตนาการว่าถ้าเดินทางน้ีตอนหลายคืน อาจไม่ปลอดภัย ไม่มีแสงสว่าง อาจเกิด
อันตรายดังนน้ั กลอุบายหนเู ลย๊ี บจึงเป็นสิ่งทด่ี ี
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 104
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ภาพท่ี 20 แผ่นอธบิ าย ตตู้ ําราบางกอก
เม่ือพิ จารณาจากข้อความในโปสเตอร์แผ่นน้ีจะเห็นได้ว่า ในชุมชนน้ันมีความพยายาม
ท่ีจะอนุรักษ์ความ Unique ของชุมชนไว้ด้วยการสร้างพิพิธภัณฑ์ประจําชุมชน และมีการเก็บรวมรวม
ตําราทางประวัติศาสตร์ไว้ เพ่ือให้ผู้คนรุ่นหลังได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ โดยมีการเปิดรับบริจาคจาก
ผู้คนภายนอกและภายใน (ซ่ึงถือว่าเป็นแหล่งสนับสนุนทางสังคมอีกช่องทางหน่ึง) และไม่ใช่แค่ชาว
ไ ท ย เ ท่ า น้ั น ท่ี ส า ม า ร ถ ม า ศึ ก ษ า ไ ด้ ช า ว ต่ า ง ช า ติ ท่ี ส น ใ จ ก็ ส า ม า ร ถ ม า ศึ ก ษ า ไ ด้ เ ช่ น กั น
เน่อื งจากพิพิธภณั ฑ์นน้ั มกี ารอธิบายความร้เู ปน็ ภาษาองั กฤษควบคู่ไปกับภาษาไทยดว้ ย
ภาพท่ี 21 การศาสนาในยคุ สมยั อยธุ ยา ภาพท่ี 22 กําเนดิ สยามโปรตเุ กส
ภาพท่ี 21 การศาสนาในยุคสมับอยุธยาและ ภาพท่ี 22 กําเนิดสยามโปรตุเกสแสดงให้เห็นถึง
อิทธิพลของชาวโปรตุเกสท่ีเข้ามาทําการค้าในสยาม (ในสมัยน้ัน) ซ่ึงผลพวงท่ีเก่ียวเน่ืองคือ
การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ซ่ึงก็เป็นส่วนหน่ึงท่ีก่อกําเนิดชุมชนแห่งน้ี ข้ึนสังเกตได้จากคําให้การของ
วทิ ยากรว่า โบสถน์ ้นั มีการสร้างมาต้งั แต่สมยั ก่อน
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 105
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ภาพท่ี 23 และ 24 ประวัติเรือนแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการอนุรักษ์วัฒนธรรม
และส่ิงปลูกสร้างท่ีมีค่า พยายามนําเสนอจุดเด่นของชุมชน แต่น่าเสียดายและถือว่าเป็นเร่ืองตลกร้าย
เพราะเงินทุนน้ันมาจากทุนส่ วนตัว โดยไม่มีหน่วยงานใด ๆ มาร่วมลงทุนเลย ซ่ึงภาครัฐ
ควรเขา้ มามบี ทบาทในการอนุรักษ์และทาํ งานร่วมกันใหม้ ากข้นึ
ภาพท่ี 25 อาหารท่ชี ุมชนภมู ใิ จนําเสนอ ภาพท่ี 26 อิทธิพลของชาวโปรตุเกสต่อไทย
ภาพท่ี 25 กค็ อื สัพพแหยกท่ไี ดก้ ลา่ วไปในข้างต้น
ภาพท่ี 26 มีการนําเสนอโดยมีภาพประกอบ ทําให้ผู้ท่ีศึกษาสามารถเข้าใจง่าย มีความเป็น
รปู ธรรมในภาพแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ตวั อยา่ งสินค้าในยคุ ท่กี ารค้าขายกับโปรตเุ กสยังมีความรุ่งเรอื ง
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 106
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภาพท่ี 27-30 ภายในพิพิธภณั ฑ์
แสดงให้เห็นถึงวิถีความเป็นอยู่ ลักษณะของบ้านเรือน ข้าวของเคร่ืองใช้ในสมัยน้ัน และแสดง
ให้เห็นถึงความพยายามในการอนุรักษ์ของผู้ท่ีจัดทําด้วย ซ่ึงเฟอร์นิเจอร์ท่ีเห็นในภาพบางอย่างน้ัน
อาจหาไมไ่ ด้ในปจั จบุ ันแลว้ (ไมน่ ับรวมของเลยี นแบบ)
ภาพท่ี 31 รปู ป้ นั หิน ศาสดาของศาสนาครสิ ต์ ถอื วา่ เปน็ ของเชงิ สัญลกั ษณข์ องส่ิงทผ่ี ูค้ นใน
ชมุ ชนนบั ถือรว่ มกัน
อ้างองิ
ป่ นิ อนงค์ ปานชน่ื . (2560). เปิดสํารบั โปรตุเกส-ไทย บา้ นสกลุ ทอง. กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นั
จากhttps://www.bangkokbiznews.com/ifestyle/ 738059. สืบคน้ั เม่อื 13 ตลุ าคม 2564.
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 107
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผูบ้ ันทึก: นายณฐั วุฒิ ย้มิ วฒั น์ 6205680330 ฃ
บนั ทึกภาคสนามชมุ ชนกุฎจี นี
"ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม" ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีความเก่าแก่มีประวัติศาสตร์มา
ยาวนานต้ังแต่ช่วงยุคศรีอยุธยา โดยในสมัยก่อนชุมชนกุฎีจีนเป็นเมืองทําในการแลกเปล่ียนซ้ือขาย
กับชาวต่างชาติและเป็นสถานท่ีในการตรวจสอบสินค้าด่าง ๆ ก่อนไปยังกรุงศรีอยุธยา ในระหว่างท่ีมี
การตรวจเรือก็ให้ชาวต่างชาติได้อาศัยอยู่ภายในบริเวณชุมชนกุฏิจีน จนพัฒนาไปเป็นแหล่งท่ีอยู่
อาศัยในท่ีสุด โดยมีหลายชนชาติและมีการสร้างสถานท่ีประกอบพิธีกรรมทางศาสนาข้ึนมามากมาย
โดยเฉพาะชาวจีนและชาวโปรตุเกสโดยแบ่งส่วนกันอยู่ โดยจะมีท้ังวัด โบสถ์ มันยิส ครบท้ังสาม
ศาสนาด้วยกัน
เน่ืองจากชุมชนได้รับอิทธิพลจากท้ังทางศาสนาและชาวต่างชาติ จึงมีลักษณะของส่ิงต่าง ๆ
ในชุมชนท่ีไม่เหมือนชุมชนอ่ืน ๆ โดยรอบ และในปัจจุบันก็ยังคมมีการอนุรักษ์เอาไว้ ทําให้ชุมชน
สามารถเป็นแหล่งท่องเท่ียวกับกับบุคคลท่ัว ๆ ไปได้เป็นแหล่งศึกษาประวัดิศาสตร์และวัฒนธรรมใน
อดตี ไดเ้ ปน็ อย่างดี
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 108
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
"ชุมชนกุฎีจีนในปัจจุบันกับความแน่นแฟนั ทางศาสนา" จากช่วงกรุงศรีอยุธยาท่ีเกิดการบุก
รุกจากทางพม่าทําให้เสียเมืองไป หลังจากการกอบกู้เมืองได้สําเร็จ พ้ืนท่ีในส่วนกรุงศรีอยุธยาไม่
สามารถใช้งานได้เน่ืองจากภาวะไฟสงครามท่ีเกิดข้ึน ชาวโปรตุเกศท่ีมีชีวิตหลงเหลืออยู่น้ันประมาณ
79 คนจึงได้รับท่ีดินจากกษัตริย์ในสมัยน้ัน ในการมาสร้างท่ีอยู่อาศัยภายในประเทศไทยจนเกิดเป็น
ชุมชนยานกุฎีจีนในปัจจุบัน ซ่ึงช่ือในช่วงแรกน้ันได้ช่ือว่า "ค่ายแม่พระลูกประดํา" หลังจากน้ันก็มีการ
ขอท่ีดินเพ่ิมเพื่อทําการสร้างโบสถ์ไว้สําหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยช่างแรกโบสถ์ได้สร้าง
จากไม้เป็นทรงยกสูง เพราะพื้นท่ีมักจะมีปัญหาน้ําท่วมหลังจากท่ีหลังแรกได้พังไปจึงได้สร้างหลังท่ี
สองด้วยวัดดุอุปกรณ์ท่ีดีข้ึนแต่ก็เกิดไฟไหมั และมาสร้างเป็นโบสถ์หลังท่ี 3 ท่ีอยู่มาจนถึงในปัจจุบัน
โดยโบสถ์หลังท่ี 3 จะประกอบออกเป็นสามส่วนหลักๆด้วยกัน ส่วนท่ี 1 จะเป็นส่วนระฆังมีไว้สําหรับตี
บอกเวลาและเล่นเพลงตามงานฉลอง(ระฆังการิยอง) ซ่ึงในปัจจุบันเหลือผู้ท่ีได้เพียงแค่ 2 คน ระฆัง
แต่ล่ะใบจะมีช่ือเป็นของตนเองด้วย ส่วนท่ี 2 ใช้สําหรับการประกอบพิธีทางศาสนาและเป็นสถานท่ีจัด
แสดงรูปด่างๆ ส่วนท่ี 3 ของโบสถ์จะใช้สําหรับการเก็บสังฆภัณฑ์ต่าง ๆ ในช่วงยุคสมัยก่อนภายใน
ชุมชนจะต้องเป็นบุคคลท่ีนับถือในศาสนาดริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกเท่าน้ันจึงมีสิทธิในการเช่าท่ีดิน
เพื่ออยู่อาศัยภายในชุมชนโดยจะต้องมีการต่อสัญญาใหม่ในทุก ๆ ปีกับหลวงพ่อ ลักษณะบ้านภายใน
ชุมชนจะเป็นลักษณะเหมือนของชาวไทยปกติ คือมีใด้ถุนยกสูงเพราะมีน้ําท่วมทุกปี ไม่สามารถสร้าง
เป็นบ้านติดพ้ืนดินแบบปัจจุบันได้ แต่ในชุมชนปัจจุบันเน่ืองจากมีการสร้างประดูน้ํา ทําให้การสร้าง
บ้านก็เป็นในลักษณะสมัยนิยมดังเช่นบ้านปกติท่ัวไปในปัจจุบัน ในวันอาทิตย์ผู้คนนุมชนก็จะมารวมตัว
กันท่ีโบสถ์เพ่ือร่วมกันประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทําให้คนในชุมชนได้มาพู ดคุยแลกเปล่ียนซ่ึงกันและ
กันเปรียบเสมือนชมรมเล็ก ๆ ภายในชุมชน ในแต่ล่ะปีชุมชนจะมีกิจกรรมอยู่ประมาณ 4 อย่างด้วยกัน
ได้แก่วันคริสมาส วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ วันอีสเดอรั วันฉลองวัด หากในวันกิจกรรมเหล่าน้ีมาถึงคนท่ีไป
อยู่ภายนอกชุมชนก็จะกลับมาท่ีชุมชนกุฎจีน เพ่ือมาเย่ียมคนท่ีอยู่ภายในชุมชน กลับมาเล้ียงอาหาร
ซ่ึงเทศกาลท้ังหลายเหล่าน้ียังเป็นการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่วุ่น อย่างพิธีกรรมทางศาสนา และการ
ประกอบอาหาร เป็นต้น
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 109
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
"การขับเคล่ือนจากย่ายสู่ย่าน" ต้ังแต่สมัยโบราณชุมชนกุฎีจีนมีการขับเคล่ือนไปพร้อมกับ
ชุมชนอ่ืน ๆ โดยรอบอีกหกชุมชนในปัจจุบันจึงมีการจัดต้ังคณะ กรรมการจากผู้นําชุมชนในแต่ละย่าน
ข้ึนมาโดยมีท่ีปรึกษาเป็นเจ้าอาวาสของวัดต่าง ๆ หน่วยงานราชการ เป็นต้น โดยหลักๆ แล้วจะเป็น
การขับเคล่ือนการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม จึงมีการจัดต้ังคณะกรรมการ ประชุมปรึกษาและแบ่ง
หน้าท่ีกันทํางาน โดยแต่ล่ะชุมชนจะส่งตัวแทนมาชุมชนล่ะ 5 คน กลุ่มคนทํางานมักจะเป็นกลุ่มผู้หญิง
สูงวัย ในช่วงแรกชุมชนปฏิเสธการท่องเท่ียวเพราะเน่ืองจากคิดว่าแถวชุมชนไม่มีสถานท่ีท่องเท่ียวอยู่
จึงได้ทําการปรึกษาหารือกันและกันระหว่างชุมชน จึงได้เกิดเป็นการพัฒนาชุมชน ในหกย่านชุมชน
โครงการท่ีขอมักจะขอพร้อม ๆ กันเพ่ือท่ีจะได้งบประมาณพร้อม ๆ กันและเกิดการพัฒนาไปพร้อม ๆ
กัน กรรมการชุมชนมีสิทธิในการตัดสินใจในเร่ืองต่าง ๆ ภายในชุมชนยกตัวอย่างเช่น ในกรณีการ
แพร่ระบาดของโควิด - 19 เม่ือมีบริษัทภายนอกให้ความช่วยเหลือ ก็มีการพู ดคุยติดต่อเพ่ือให้แต่ล่ะ
ชมุ ชนไดร้ บั ทรพั ยากรท่เี ท่าเทียมหรอื ตามความต้องการในแต่ละชมุ ชน
"แหล่งทรัพยากรภายนอกชุมชน" ภายในชุมชนกุฎีจีนจะมีกลุ่มอาสาสมัครจากภายนอกจะเข้า
มาคอยช่วยเหลือภายในชุมชน เช่น กลุ่มอพปร.เข้ามาช่วยในเหตุฉุกเฉินด่างๆ ท่ีเกิดข้ึนภายในชุมชน
เพราะภายในชุมชนกุฎีจีนรถใหญ่หรือรถพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงจําเป็นท่ีจะต้องใช้เปลสนาม
ในการส่งผู้ป่วยออกไปส่งรพ.ภายนอกชุมชน และยังมีการประสานกับรพ.ภายนอกชุมชนต่าง ๆ
ในการขอความช่วยเหลือ ยกตัวอย่างการเขา้ มาตรวจหาเชอ้ื ไวรสั โควิด - 19 ภายในชมุ ชน เป็นต้น
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 110
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผ้บู ันทึก: น.ส.เบญจรัตน์ นาดี 6205680355
ฃ
ชุมชนกุฎีจีน หรือ ชุมชนกะดีจีน เป็นชุมชนริมแม่น้ําเจ้าพระยา ท่ีมีความน่าสนใจและมีเสน่ห์
ในหลากหลายมิติ เพราะในชุมชนแห่งน้เี ปน็ สถานทท่ี ่มี ีความหลากหลายของเชอ้ื ชาติ แหลง่ กาํ เนิดของ
สังคมวัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ ความหลากหลายและความแตกต่างท่ีสามารถอยู่ร่วมกัน
ในชุมชน ได้อย่างสงบสุขและมีความสุข มาเป็นระยะเวลากว่า 200 ปี จึงทําให้เกิดความรู้สึกท่ีอยาก
จะศึกษาเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ในการรู้จักชุมชนกุฎีจีนมากย่ิงข้ึนชุมชนกุฎีจีน เร่ิมมาจากการอยู่
ร่วมกันในชุมชนเพียง 17 นามสกุล ของกลุ่มชาวโปรตุเกศ ท่ีสืบเช้ือสายมาจากเดิม จนถึงปัจจุบัน
มีจํานวนผู้คนในชุมชนมากถึง 83 นามสกุล การเพ่ิมข้ึนของคนในชุมชนจากคนภายนอก ส่วนใหญ่
มากจากการแต่งงานเข้ามาอยู่ในชุมชน ทําให้มีผู้คนท่ีอยู่อาศัยหลากหลายเช้ือชาติ ท้ัง โปรตุเกส
สยาม เขมร จีน และญวน อีกท้ังนอกจากจะมีความหลากหลายทางเช้ือชาติ ก็ยังมีความหลากหลาย
ในเร่ืองของความเช่ือและการนับถือศาสนา ไม่ว่าจะเป็น ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ศาสนาพุ ทธ
และศาสนาอิสลาม ถึงแม้ว่าคนในชุมชนส่วนใหญ่จะมีการนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกมากกว่า
85% แต่ก็สามารถนับถือศาสนาอ่ืนได้อย่างไม่มีข้อจํากัด มีการช่วยเหลือกิจกรรมศาสนาของกัน
และกัน มีการเรียนรู้วัฒนธรรมในชุมชน และมีการเคารพความแตกต่างท่ีเกิดข้ึน ทําให้ไม่เกิดการ
ขัดแย้งและสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายในชุมชนทําให้ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีความหลากหลายของ
เช้ือชาติและศาสนา ท่ีไม่เป็นข้อจํากัดของคนในชุมชนท่ีทําให้ชุมขนเกิดความไม่เข้มแข็ง ดังน้ันมิติด้าน
ประชากรและความเช่ือ จึงเป็นจุดเด่นท่ีทําให้นักท่องเท่ียวและผู้ท่ีสนใจอยากท่ีจะเข้ามาศึกษาสังคม
วัฒนธรรม ในชุมชนกุฎีจีนมากมาย อีกท้ังชุมชนกุฎีจีนยังมีแหล่งโบราณสถานท่ีท่ีโดดเด่นมากมาย
เช่น วัดซางตาครู้ส เรือนจันทุภาพ และพิพิธภัณฑ์กุฎีจีน เป็นต้น แหล่งสถานท่ีเรียนรู้เหล่าน้ีในชุมชน
จึงเป็นเหมือนกับแลนด์มาร์คหรือจุดเด่นทางสถาปัตยกรรมท่ีสวยงาม และด้านประวัติศาสตร์ ท่ีทําให้
ชุมชนมีช่ือเสียงมากย่ิงข้ึน นอกจากน้ีคนในชุมขนมีการช่วยเหลือเอ้ือเพื่อเผ่ือแผ่ต่อกันถ่ายทอด
ความรู้ในด้านขนม หรือด้านอ่ืน ๆ ท่ีมีความถนัดกันในแต่ละคน เพ่ือมาเป็นการช่วยสร้างรายได้ดึงดูด
นักท่องเท่ียวเข้ามาในชุมชน จากการท่ีคนในชุมชนเรียนรู้และปรับใช้นําทรัพยากรท่ีมีอยู่มาประกอบ
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 111
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
อาชีพและหารายได้ จากการขายของ นํานักท่องเท่ียวเรียนรู้ประวัติศาสตร์และสถานท่ีสําคัญในชุมชน
สอนวิธีการําขนมฝร่ัง ซ่ึงเป็นขนมเก่าแก่ของกุฎีจีน เป็นต้น ทําให้เห็นว่าชุมชนกุฎีจีนน้ีมีการเช่ือมโยง
ความสัมพันธก์ บั คนในชุมชนในทุกมิติ รวมถึงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกจิ ร่วมดว้ ย
จากการท่ีได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ภายในชุมชนในหลากหลายมิติ ทําให้เห็นว่าชุมชนกุฎีจีนเป็น
ชุมชนท่ีมีความเข้มแข็งท้ังภายในและภายนอกอย่างมาก มีจุดเด่นท้ังในเร่ืองของมิติความหลากหลาย
ทางเช้ือชาติศาสนา สังคมวัฒนธรรม และรวมไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ แต่ทว่าความหลากหลายในมิติ
เหล่าน้ีไม่เป็นอุปสรรคของความสัมพันธ์ต่อคนในชุมชนเลย อาจจะเป็นเพราะคนในชุมชนมีผู้นําท่ีสร้าง
ความเข้มแข็ง และสร้างความสัมพันธ์ให้คนในชุมชนรู้สึกเป็นส่วนหน่ึงของกันและกัน ไม่เกิดความรู้สึก
แตกต่างแปลกแยก จึงทําให้สามารถเป็นชุมชนท่ีมีความสุขและความเข้มแข็งมายาวนานมากถึง 200
ปีและอกี ต่อไปได้ในอนาคต
เอกสารอา้ งองิ
สลิลทิพย์ สอนศรี, จิตดาภา เหลืองสกุลไทย และคณะ. รายงานการศึกษาชุมชน ชุมชนกุฎี
จนี กรงุ เทพมหานคร.(2563). หน้าท่ี 1 - 75.
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 112
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผู้บนั ทึก : น.ส.ปารีณา บัวบาน 6205680447 ฃ
บนั ทกึ ภาคสนามชมุ ชนกฎุ จี นี
เดิมทีแล้วชุมชนน้ีมีช่ือว่าค่ายแม่พระลูกประคํามาก่อน แล้วจึงเปล่ียนมาเป็นชุมซนกฎีจีน โดย
ชุมซนน้ีมีความเป็นมาต้ังแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับพระราชทานท่ีดินจากสมเด็จพระเจ้า
ตากสินมหาราชจากการรบชนะสงครามจนสามารถกอบกู้เอกราชได้ ซ่ึงชุมชนน้ีได้มีชาวโปรตุเกส
ชาวมุสลิม และชาวจีนอาศัยอยู่ โดยมีชาวจีนฮกเก๊ียน เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากข้ึน จนทําให้สร้างศาสน
สถานข้ึนมา โดยเป็นวัดหรือศาลเจ้าซ่ึงปัจจุบันก็คือศาลเจ้าเกียนอันเกง ซ่ึงหมายถึงความสงบสุข
ความรม่ เยน็ อกี ดว้ ย
ในชุมชนเองมีถึง 3 ศาสนาอยู่ด้วยกัน น่ันคือ ศาสนาพุ ทธ ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และ
ศาสนาอิสลาม โดยส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก โดยสถาปยกรรมทางด้านศาสนาน้ัน
มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่มาก เช่น จิตรกรรมฝาผนังภายในศาลเจ้า ท่ีได้มีภาพวาดของเร่ืองราวสาม
กัก หรือเคร่ืองแกะสลัก เป็นต้น โดยสิ่งเหล่าน้ีนับเป็นเอกลักษณ์และความงดงามหน่ึงของศาลเจ้าท่ี
ผู้คนในชุมชนได้อนุรักษ์เอาไว้ จนทาํ ใหศ้ าลเจ้าได้รับรางวัลพระราชทานอนรุ กั ษ์ดเี ด่นในปี 2551
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ชุมชนได้มีการปรับตัวในด้านการประกอบพิธีกรรมทาง
ศาสนาเพ่ือลดความเส่ียงในการแพร่เช้ือ เช่น การละมาดเสียงตามสาย หรือการเทศน์ของศาสนา
พุทธก็มเี สียงตามสายเชน่ กนั
แผนท่ที ่องเที่ยวชมุ ชนกฎุ จี ีน
แผนท่ีน้ีแสดงให้เห็นถึงพ้ืนท่ีต่าง ๆ ภายในชุมซน ทําให้เราได้ทราบว่าในพื้นท่ีน้ันมีอะไรบ้าง
สถานท่สี ําคัญของชุมชนคือท่ไี หน
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 113
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ทางเขา้ ชมุ ชนกุฎจี ีน
ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ทําให้ทางชุมชนจําเป็นต้องมีมาตราการให้การท่องเท่ียวในชุมชน
มากข้ึน เพ่ือลดความเส่ียงในการแพร่ระบาดของเชื้อโดยชุมชนมีการรับมือต่อสถานการณ์น้ีเป็นอย่างดี
มีกลุ่มให้การช่วยเหลือผู้ป่วย มีการทําความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่ มีจิตอาสาเข้ามาช่วยในการคัดกรอง
จุดเข้าออก มีการให้ความรู้ในเรื่องโควิด การป้องกันโรค และท่ีสําคัญ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับคนที่ติดโรค
โควิด ว่าไม่ใช่เร่ืองน่ารังเกียจ นับว่าเป็นการให้ความรู้ที่ดีและสําคัญมาก เพราะยังมีคนเข้าใจผิดค่อนข้างเยอะ
ซ่ึงอาจนาํ มาสู่การตตี ราในสังคมได้
ความปลอดภยั ของชมุ ชน
ในชุมชนมีการจัดตั้งกลุ่ม อปพร. ขึ้นมา เพื่อป้องกันภัยอันตรายในชุมซน โดยสมาชิกในกลุ่มได้รับการ
อบรมมาแล้ว 23 คน และหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น คนกลุ่มนี้จะเข้าไปช่วยเหลือทันที โดยมีการส่ือสารกัน
ในชุมชนอยา่ งรวดเร็ว เน่อื งจากชุมชนมีความคับแคบ บา้ นเรือนมีลักษณะติดกัน ทาํ ให้เกดิ เปน็ กลุ่มนี้ขนึ้ มา
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 114
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
รา้ นขนมภายในชมุ ชน
ในชุมชนได้มีการทําขนมท้องถ่ิน เช่น ขนมฝร่ังกุฎีจีน ขนมก๋วยตัส ขนมกุสลัง ขนมกะหร่ีป๊ ับ
เพื่อใหค้ นในชุมชนมีรายได้ โดยขนมเปน็ สิ่งท่สี ืบตอ่ กนั มาภายในตระกูลจากรุ่นสู่รนุ่
รายได้ของคนในชุมชนส่วนใหญ่น้ัน ไม่ได้มาจากการท่องเท่ียวเพียงอย่างเดียว แต่คนใน
ชุมชนส่วนใหญ่ยังมีรายได้มาจากการประกอบอาชีพ เช่น การรับราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือธุรกิจ
ส่วนตวั เปน็ ต้น
การทํางานของชุมชนน้ัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้สูงอายุ เพศหญิง ท่ีได้ช่วยกันร่วมมือในการ
พัฒนาชุมชน ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงบทบาทของการท่ีมีเพศหญิงเป็นผู้นํา ทําให้เราเห็นถึงว่าในชุมชนน้ีไม่
มีการจํากัดด้านเพศ ซ่ึงการทํางานต่าง ๆ จะเน้นการวางแผน การพัฒนา การดําเนินงานโดยเฉพาะ
ในด้านการท่องเท่ียวของชุมชน และในชุมชนน้ันมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่มาก ทางกลุ่มการทํางานของ
ชุมชนจึงได้มีกิจกรรมเพ่ือป้องกัน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ เช่น กิจกรรม
ปลูกผักสวนครัว ปลูกฟา้ ทะลายโจรโดยมีการทํากิจกรรมทุกวัน หรือกิจกรรมการบูรณะ ซ่อมแชมพื้น
ท่ีต่าง ๆ การทําความสะอาดชุมชน เป็นต้นซ่ึงในความเห็นของนักศึกษา ชุมชนน้ีเป็นชุมชนท่ีมีความ
เอาใจใส่กันเป็นอย่างมาก และมีพัฒนาชุมชนในทางท่ีดีมาโดยตลอด มีความช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน
อย่างดีของคนในชุมชนด้วยกันเอง นับเป็นตัวอย่างท่ีดีในการศึกษาดูงานของชุมชนอ่ืน ๆ เพื่อนําไป
เปน็ แบบอย่างได้อย่างดี
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 115
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผู้บันทกึ : น.ส.ปภาดา กลอนกลาง 6205680462
ฃ
การเขยี นบนั ทกึ ภาคสนาม : ชุมชนกฎุ จี ีน
แผนท่ใี นชุมชน
แผนทีช่ มุ ชน/แผนท่ีตงั้ โตะ๊ บอกจุดต่าง ๆ ในชุมชน
แผนทกี่ ารทอ่ งเที่ยวในชมุ ชน บอกจดุ สถานท่ีตา่ ง ๆ ท่สี ําคัญในชุมชน
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 116
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
แผนทท่ี อ่ งเทย่ี ววถิ ีถน่ิ ของยา่ นกะดจี นี รวมท้งั หมด 6 ชมุ ชน มกี ารบอกเส้นทางการทอ่ งเท่ยี ว
เส้นตา่ ง ๆ และบอกจุดสถานทท่ี ่สี ําคัญตา่ ง ๆ
ปา้ ยบอกทางไปยงั สถานท่ตี ่าง ๆ ในชุมชน
(1) (2)
ป้ายบอกทางสําหรับเดินทางไปจุดต่าง ๆ ในชุมชม รูป (1) จะเป็นป้ายบอกทางไปร้านขนม
ฝร่ังป้าเล็ก,พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน,ร้านขนมฝร่ังธนูสิงห์,เรือนจันทนภาพ รูป (2) จะเป็นป้ายบอกซอย
ในชุมชนในรูปเปน็ ซอย9 และเส้นทางไปรา้ นเต๋ยี วเนอ้ื โบราณ
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 117
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
การจดั หารภายในชุมชน : การดแู ลความสะอาด ปลอดภยั ภูมทิ ศั นต์ ่าง ๆ
ทางเท้าในซอยต่าง ๆ ในชุมชนกุฎีจีน ทางชุมชนมีการรณรงค์เร่ืองความสะอาด และมีการทํา
ความสะอาดอยู่เสมอ โดยมีกลุ่มอาสาสมัครประจําชุมชนหรือ อพปร. คอยช่วยดูแลและช่วยปรับภูมิ
ทัศนชมุ ชนรว่ มกันกบั ชาวบ้านในชุมชน เพื่อให้ชมุ ชนมคี วามสะอาด เป็นระเบยี บ และมีภมู ิทศั นท์ ่ดี ี
(1) (2)
มีการจัดวางถังขยะให้เป็นมุมท้ิงขยะเพื่อความสะอาดและภูมิทัศน์ในชุมชน(รูปท่ี 1 และมีการ
ติดต้ังถังดับเพลิงในหลายๆจุดในชุมชน(รูปท่ี2) เน่ืองจากถนนในชุมชนมีขนาดเล็กรถใหญ่สัญจร
เข้าถึงได้ยาก อีกท้ังลักษณะชุมชนน้ันมีสักษณะท่ีบ้านจะอยู่ติดๆกัน ทําให้เม่ือเกิดเหตุไฟไหม้น้ันจะเข้า
ไปทํางานดับไฟใด้ช้า ทางชุมชนจึงมีการติดต้ังถังดับเพลิงไว้ในจุด 1 ต่าง 1 ของชุมชนเพื่อเป็นการ
ปอ้ งกันการไฟไหมแ้ ละซะลอการลกุ ลามของไฟก่อนท่เี จา้ หน้าทด่ี ับเพลิงจะไปถึง
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 118
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
การจัดการภายในชมุ ชน : การจัดหารชมุ ชนในสถานการณ์โควดิ – 19
ในชุมชนมีการแจกข้าวกล่องให้แก่คนในชุมชน มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงาน
ด้านสาธารณสุขในการเข้ามาต้ังจุดตรวจหาเช้ือโควิด – 19 แก่ผู้คนในชุมชน มีการเสริมสร้างความรู้
ความเข้าใจในตัวโรคและเสริมสร้างความรู้เร่ืองการไม่ตีตราผู้ป่วยโควิด - 19ในชุมชน มีระบบการ
จัดการในการส่งข้าวส่งน้ําให้กับคนในชุมชนท่ีต้องกักตัว อีกท้ังยังมีการเสริมสร้างกําลังใจใน
ผู้ สู ง อ า ยุ เ ผ่ื อ ป้ อ ง กั น ไ ม่ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม วิ ต ก กั ง ว ล เ ร่ื อ ง โ ร ค แ ล ะ ป้ อ ง กั น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า ใ น ผู้ สู ง อ า ยุ
มีการกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชนในส่วนของการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแต่ละศาสนาในชุมชนน้ัน
มีการปรับตัวต่อสถานการณ์โควิด-19โดยจะมีการเปีดเสียงตายสายบทสวดหรือการทําพิธีต่าง ๆ
ของแต่ละศาสนาเพ่ือให้คนในชุมชนได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ อย่างเช่นศาสนาคริสต์ในชุมชน
เม่ือการทําพิธีกรรมทางศาสนาในเสียงตามสายจบลง คุณพ่อหรือบาทหลวงจะมาเดินแจกศีลให้แก่
คนในชุมชนท่ีนับถือศาสนาบ้านไหนต้องการรับศีลก็มายืนรอท่ีหน้าบ้านได้ หรือการทําเสมสร้าง
กําลังใจโดยบาทจะทําการอุ้มรูปป้ ันของพระผู้เป็นเจ้ามาประทานพรแก่ผู้คนในชุมชน เพื่อเสริมสร้าง
กาํ ลงั ใจ
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 119
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
สถาบัน/ทรพั ยากรในชุมชน : รา้ นขนมท้องถ่นิ และร้านอาหารทอ้ งถ่นิ
(1) (2) (3)
รูป (1) รูปป้ายร้านขนมท้องถ่ินช่ือร้านป้าอําพรรณ ในป้ายมีรูปของขนมต่าง ๆ ภายในร้าน
ขนมฝร่ังกุฎีจีนขนมก๋วยตัส ขนมกุสลัง ขนมกะหร่ีป๊ ับไส้ไก่ ขนมหน้านวลมีการบอกท่ีต้ังร้าน
ท่ตี ้งั อยู่กฎจี นี ซอย3 พรอ้ มทง้ั บอกชอ่ งทางการติดตอ่ สั่งซ้อื ท้งั เบอร์โทร/LINE/FACEBOOK
รูป (2) รูปภาพของร้านขนม โดยลักษณะจะเป็นบ้านพักของคนในชุมชน และมีขนมท้องถ่ิน
ต่าง ๆ ต้งั วางขายอยู่หนา้ บ้าน
รูป (3) รูปป้ายร้านบ้านสกุลทอง ร้านอาหารประจําชุมชมขายอาหารสไตล์สยาม – โปรตุเกส
ท่ีเป็นอาหารท้องถ่ินประจําชุมชนท่ีมีต้ังแต่โบราณ ในป้ายไวนิลก็จะมีการบอกถึงเวลาเปิด-ปิด
ลกั ษณะการใหบ้ ริการมที ง้ั การ walk in และ private course พร้อมทง้ั แนบเบอร์โทรการติดตอ่ ร้าน
สถาบัน/ทรพั ยากรในชมุ ชน : ทท่ี ําการชมุ ชน
(1) (2) (3)
(1) ทท่ี าํ การกฎุ จี ีน
(2) บอร์ดสําหรับเขียนตารางกิจกรรม ตารางการจัดการต่าง ๆ ของคนในชุมชน วันงาน
กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชุมชน
(3) กล่องอุปกรณส์ ําหรบั การทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ของทางชมุ ชน
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 120
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
สถาบนั /ทรพั ยากรในชุมชน : พิพิธภณั ฑบ์ ้านกุฎีจีน
พิ พิ ธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน ตัวพิ พิ ธภัณฑ์น้ันต้ังอยู่ในบ้านของคนในขุมชนท่ีช่ือว่าพ่ี ตอง
ตวั พิพิธภัณฑน์ ้จี ะบอกเลา่ เรอ่ื งราวความเป็นมาต่าง ๆ ของชมุ ชมต้งั แต่อดีตจนถึงปจั จุบัน
รูปป้ายบอกรายละเอียดต่าง ๆ ในพิ พิ ธภัณฑ์ : ส่วนแรกจะเป็นการบอกถึงเร่ืองราว
ทางประวัติศาสตร์ต้ังแต่ก่อต้ังชุมชน ส่วนท่ี2เป็นการบอกเล่าถึงวิถีชีวิต การดําเนินชีวิตการใช้ชีวิต
และอาหารการกินของคนในชุมชนต้ังแต่อดีต ส่วนท่ี 3 คือหอเกียรติยศเป็นการบอกเล่าถึงบุคคล
สําคัญทางประวัติศาสตร์ท่เี กย่ี วขอ้ งกบั ชมุ ชนกฎุ จี นี
(1) (2) (3) (4)
รูปภาพท่ี 1 – 4 เปน็ พิพิธภณั ฑส์ ่วนแรกคอื ส่วนของการอธบิ ายประวตั ศิ าสตร์ความเปน็ มาของชมุ ชน
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 121
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
(5) (6) (7) (8)
รูปภาพท่ี 5 – 8 ส่วนท่ี 2 จําลองวิถีชีวิตสมัยก่อน การกินอยู่ อาหารการกินต่าง ๆ ท่ีได้รับอิทธิพล
ท่หี ลากหลาย (ในรปู ท่ี 5 – 6) และจําลองท่อี ยอู่ าศัย (ในรูปท่ี 7 – 8)
สถาบนั /ทรัพยากรในชมุ ชน : โบสถซ์ างตาครสู้ หรือวัดซางตาคร้สู
โบสถ์ซางตาครู้สหรือวัดซางตาครู้ส คําว่าซางตาครู้สน้ัน มาจากภาษาโปรตุเกสหมายความว่า
กางเขนศั กด์ิ สิ ทธ์ิ จึ งนํ ามาต้ั งเป็ นช่ื อโบสถ์ น้ี โบสถ์ ซางตาครู้ สน้ั นได้ ถู กสถาปนาเปิ ดวั ด
ในวันท่ี 14 กันยายน พ.ศ.2312 เดิมท่ีโบสถ์ซางตางครูสน้ันได้มีการสร้างใหม่ตัวอาคารถึง 3 รอบ
โดยโบสถ์ในปัจจุบันเป็นการสร้างคร้ังท่ี 3 โดยโบสถ์หลังแรกน้ันตัวอาคารจะทําจากไม้ ลักษณะยกใต้ถุนสูง
ป้ อ ง กั น น้ํ า ท่ ว ม โ บ ส ถ์ ห ลั ง ท่ี 2 น้ั น ทํ า จ า ก อิ ฐ ปู น แ ต่ เ กิ ด ไ ฟ ไ ห มั ทํ า ใ ห้ ต้ อ ง ส ร้ า ง โ บ ส ถ์
หลังท่ี 3 ข้ึนมาโดยโบสถ์หลังท่ี3น้ีได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ผสมนีโอคลาสสิค โบสถ์
หลังท่ี3ท่ีเป็นโบสถ์หลังปัจจุบันน้ันแบ่งออกเป็น3ส่วน ได้แก่ ส่วนหอระฆังไว้สําหรับตีระฆังบอกเวลาต่าง ๆ
ในชุมชนและระฆังการียองไวส้ ําหรบั ตใี นวนั สําคัญต่าง ๆ ส่วนโถงประกอบพิธีทางศาสนา และส่วนสังฆภัณฑ์
ไว้สําหรบั เก็บของในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและเส้ือคลมุ ตา่ ง ๆ ของบาทหลวง
นอกจากโบสถ์ซางตาครู้สแล้วน้ัน ภายในชุมชนกุฎีจีนน้ันยังมีความหลากหลายทางศาสนาท่ีสามารถ
อยู่ด้วยกันได้ ซ่ึงมีท้ังหมด 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ ได้แก่ศาสนาอิสลาม (มัสยิดบางหลวงหรือมัสยิดกุฎีขาว)
ศาสนาคริสต์โบสถ์ซางตาครู้ส) ศาสนาพุ ทธนิกายเถรวาท(วัดกัลยาณมิตร)และนิกายมหายาน(ศาลเจ้าเกียง
อนั เกง) โดยคนส่วนใหญ่ในชุมชนนน้ั จะนบั ถือศาสนาครสิ ตน์ กิ ายโรมนั คาทอลิก
เป็นส่วนมากแต่ก็อยูร่ ่วมกันได้ทกุ ศาสนา
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 122
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผ้บู นั ทึก: น.ส.พิชญส์ ินี ศิลารัตน์ 6205680470 ฃ
บนั ทกึ ภาคสนามชมุ ชนกุฎีจนี
ชุมชนกุฎีจีนมีจุดเร่ิมตันลากยาวทางประวัติศาสตร์มาต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาท่ีมีการติดต่อ
ค้าขายกับต่างประเทศ น่ันคือซาวโปรดเกส ทําให้ขาวโปรตุเกสได้เข้ามามีบทบาทในอยุธยาสมัยน้ัน จน
เม่ือคร้ังท่ีกรุงศรีฯแตกพ่ายจากการรบกับประเทศพม่า ต่อมาพระเจ้าตากสินได้กอบกู้เอกราชได้โดยมี
กลุ่มคนย้ายถ่ินฐานจากคร้ังกรุงแตกเข้ามาช่วย ทําให้ในสมัยธนบุรี พระเจ้าตากสินมหาราชได้
พระราชทานท่ีดิน(ค่ายแม่พระลูกประคํา)เป็นรางวัลแก่คนกลุ่มน้ัน อันประกอบด้วย ชาวโปรตุเกส ชาว
จีน ขาวไทยพุ ทธ และชาวไทยมุสลิม เพ่ือให้เป็นท่ีอยู่อาศัยทํามาหากิน เห็นได้ว่าการเกิดข้ึนของชุมชน
ผ่านการสะสมเรอ่ื งราว วฒั นธรรมมายาวนานมาก รวมถงึ ผา่ นการณเ์ ปล่ยี นแปลงตา่ ง ๆ เชน่ กนั
ในปจั จุบนั ชมุ ชนกฎุ จี ีนมีพ้ืนท่ี 32 ไร่ มีสถานท่สี ําคญั ภายในชมุ ซน ไดแ้ ก่
- โบสถ์ซางตาครูส (วัดกุฎีจีน) เป็นโบสถ์คาทอสิกเก่าแก่ท่ีอยู่ศูนย์กลางของชุมชน อันผ่าน
เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ และมกี ารบูรณสร้างใหมห่ ลังสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 เน่อื งจากโดนแรงระเบดิ
- ศาลเจ้าเกียนอันกง เป็นศาลเจ้าจีนท่ีมีศิลปะความสวยงามโดดเด่น และศาลเจ้าแห่งน้ีได้รับ
รางวัลอนรุ กั ษ์ศิลปะสถาปตั ยกรรมดีเด่นในปี พ.ศ. 2551
- วดั กลั ยาณมติ รวรมหาวหิ าร เป็นพระอารามหลวงในชุมชน
- มัสยิดบางหลวง (กุฎีขาว) เป็นมัสยิดของชุมชนมุสลิมนิกายซุนนี มัสยิดน้ีเป็นเพียงท่ีเดียว
ถูกสร้างแบบสถาปตั ยกรรมแบบวดั ไทย
- พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นสถานท่ีท่ีรวบรวมข้อมูลและบอกเล่าเร่ืองราวประวัติความเป็นมา
ของชุมชนกุฎีจีน พร้อมจัดแสดงข้าวของเคร่ืองใช้โบราณ ท่ีมีความเก่ียวข้องเป็นเอกลักษณ์
ของชมุ ชน
- บา้ นสกุลทอง เปน็ สถานทร่ี วบรวมอาหารสยาม – โปรตเุ กสใหย้ ังคงอยู่
ชุมชนกุฎีจีนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชาติพันธ์ุ แม้อาจจะมีสัดส่วนและบทบาท
ท่ีมากน้อยแตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้มีการผูกขาดความสําคัญว่าเป็นเพียงของคนกลุ่มใดกลุ่มหน่ึง
เห็นได้จากศาสนสถานท่ีมีอยู่ในน และทางชุมชนยังมีความพยายามท่ีจะรักษา-ส่งต่อเร่ืองราว
วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ให้คงอยู่ต่อไป สิ่งเหล่าน้ีสร้างความน่าสนใจให้กับชุมชนแห่งน้ี
ท่ีสามารถสร้างมูลค่าให้แก่ตัวชุมชนได้ด้วยเร่ืองราวของตัวเองผ่านความเข้มแข็งและภูมิใจของคนใน
ชมุ ชน
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 123
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ชุมชนกุฎีจีนมีประธานชุมชน คือ คุณป่ ินทอง วงษ์สกุล และโครงสร้างหลัก 1 ในชุมชน
ประกอบด้วย ในเชิงความสั มพั นธ์ท่ีเป็นทางการ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุ ข (อสส.)
ท่ีคอยดําเนินงานด้านสุขภาพ, อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) คอยป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยในชุมชน เน่ืองจากตัวชุมชนมีลักษณะของพ้ืนท่ีท่ีคับแคบและอาคารบ้านเรือนอยู่ติดกัน
จึงต้องมีการเฝ้าระวังภัยอย่างใกล้ชิดเพ่ือให้เข้าถึงเหตุให้เร็วท่ีสุดพร้อมท้ังมีการติดต้ังถังดับเพลิงไว้
เผ่ือเหตุเพลิงไหม้ รวมไปถึงการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นและส่งต่อผู้ป่วยจากภายในและคณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซ่ึงในปัจจุบันปัญหายาเสพติดในชุมชนได้หมดไปแล้ว
ชุมชนจึงอยู่ในสถานะปอ้ งกัน
ในเชิงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วย การประกอบอาชีพท่ีหลากหลาย โดยกลุ่ม
อาชีพทําขนมโบราณในชุมชนน้ันถือเป็นจุดเด่นของชุมชนในด้านการท่องเท่ียว อันเป็นภูมิปัญญา
ด้ังเดิมท่ียังหลงเหลืออยู่คือ การทําขนมฝร่ัง ท่ีสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อีกท้ังยังมีกลุ่มร้านกาแฟ
ร้านอาหารตา่ ง ๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ภายในภายหลงั เพื่อต้อนรับนักท่องเทย่ี วท่เี ขา้ มาเย่ยี มชม
ในเชิงความสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่ กลุ่มศาสนาคริสต์ ท่ีมีปริมาณเยอะท่ีสุด
ในชุมชนกิจกรรมทางศาสนาท่ีจัดตามปฏิหินคาทอลิกถือเป็นวัฒนธรรมหลักของชุมชนท่ีคนในชุมชน
ได้ทําร่วมกันอยู่ตลอด หลัก เช่น วันคริสต์มาส วันฉลองพระคริสตกายา วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ และวัน
ฉลองวัดซ่ึงเป็นวันท่ีสร้างโบสถ์ซางตาครูส โดยในถานการณ์โควิด-19 พิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ถูก
ปรับเป็นในรูปแบบออนไลน์ มีการ Live การกระจายเสียง รวมท้ังแจกศีลท่ีเปล่ียนเป็นการแจกตาม
บา้ น ไม่ต้องไปรวมตวั ท่โี บสถ์
มกี ารจัดทําบอรด์ ปฏทิ ินเวลาในการทํางานอย่างชดั เจน และเปน็ ระบบ
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 124
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ในสถานการณ์โควิด-19 ชุมชนได้มีการฉีดพ่ นยาฆ่าเช้ือ ผู้คนในชุมชนร่วมกันบริจาค
อาหารแห้ง และมีอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่าง (ท้ังอาหารและสิ่งของจําเป็น ทางชุมชน
ได้มีการประสานงานกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์เพื่อให้มาตรวจ ATK ในชุมชน ซ่ึงทางชุมชนได้
ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ ใ ห้ ค น ใ น ชุ ม ช น ม า ล ง ท ะ เ บี ย น ไ ด้ ห า ก มี จํ า น ว น ถึ ง เ ป้ า ห ม า ย คื อ 1 0 0 ค น
ทางโรงพยาบาลจะส่งทีมแพทยเ์ ข้ามาใหบ้ รกิ าร ณ ท่ที ําการชมุ ชน เปน็ การปอ้ งกัน
ในด้านความปลอดภัยจากการเข้า - ออกของคนในชุมชนในการดูแลสุขภาพจิตของคนใน
ชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ น่ันจะมีการจัดทํากิจกรรมให้แก่ผู้สูงอายุท่ีไม่มีงานทําและหรืออยู่บ้าน
คนเดียว เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว การเป็นมัคคุเทศก์สูงวัย เป็นตน้ และยังมีการให้ความรู้ในด้าน
การแสดงออกและวิธีปฏิบัติเม่ืออยู่ในสภาวะเครียด จากโรงพยาบาลต่าง ๆ ท่ีเข้ามาทํากิจกรรมคลาย
เครยี ด รวมถงึ มกี ลมุ่ พลมารที ่เี ป็นหน่วยงานของวัดกุฎจี นี ทค่ี อยตดิ ตามผู้สูงอายใุ นความดูแล
เอกสารอ้างอิง
Tourism Thailand. (2563). เทย่ี วชุมชนกูฎจี นี ยอ้ นเวลา เยอื นย่านหลากวัฒนธรรม
สืบค้นเม่อื วันท่ี 14 ตลุ าคม2564 , จ า n shorturl.asia/GUshB
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 125
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผู้บันทึก: น.ส.สุพิชชา ถติ ย์เจือ 6205680561 ฃ
ชุมชนกุฎจี ีน
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมะระยะเวลายาวนานกว่า 200 ปี วิถีชีวิตของชุมชนจะอยู่ริมแม่น้ํา
เจ้าพระยาภายในชุมชนจะมีวัฒนธรรมมท่ีหลากหลายซ่อนอยู่ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องท่ี
เปล่ียนไปตามยุคสมัยแต่ชุมชนกุฎีจีนก็ยังคงอนุรักษ์ความสําคัญของการมีอยู่ชุมชนได้อย่างน่าสนใจ
เช่น การประสานรวมวัฒนธรรมท้ังไทย จีน และโปรตุเกส ซ่ึงจะสื่อออกมาผ่านทางอาหาร พิธีกรรม
หรอื เทศกาลตา่ ง ๆ
จ า ก ภ า พ จ ะ เ ห็ น ไ ด้ ว่ า เ ป็ น โ บ ส ถ์ ท่ี ต้ั ง ต ร ะ ห ง่ า น อ ยู่ ท่ า ม ก ล า ง บ้ า น เ รื อ น ริ ม น้ํ า เ จ้ า พ ร ะ ย า
เป็นสัญลักษณ์ท่ีสําคัญว่าหากจะมองหาว่าชุมชนกุฎีจีนน้ันต้ังอยู่ท่ีใด ส่ิงน้ีก็เป็นส่ิงสําคัญในการบอก
ว่าได้มาถึงชุมชนกุฎีจีนแล้วโบสถ์แห่งน้ีมีช่ือว่าโบสถ์ซางตาครู้ช ซ่ึงซางตาครู้ชหมายถึง ไม้กางเขน
ศักด์ิสิทธ์ิ ในนิกายโรมันคาทอลิก และมีท่ีมาว่า หลังจากท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกู้อิสรภาพได้
สําเร็จท่านก็ได้ประทานท่ีดินแปลงหน่ึงให้สร้างโบสถ์หรือวัดข้ึนมา การเรียกช่ือเป็นวัดหรือโบสถ์ได้น้ัน
ก็มาจากการท่พี ยายามจะผสมผสานความเปน็ คริสต์และไทยอยดู่ ว้ ยกนั
ด้วยความท่ีเป็นชุมชนผ่านเร่ืองราวประวัติศาสตร์สมาชิกภายในชุมชนจึงมีพิพิธภัณฑ์เกิดข้ึน
ซ่ึงผู้ท่ีให้ความรู้ก็มักจะเป็นผู้ท่ีรู้เร่ืองประวัติศาสตร์เก่ียวกับชุมชนมากท่ีสุดเช่น คนภายในครอบครัว
ก็จะเป็นข้อมูลท่ีน่าเช่ือถือให้กับผู้ท่ีต้องการศึกษาเพ่ิมเติม และจัดเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวท่ีสามารถ
ท่จี ะแสวงหารายไดแ้ ละกระจายรายไดส้ ู่ชุมชนนไ้ี ด้
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 126
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าภายในชุมชนจะมีตรอก ซอยอยู่ค่อนข้างเยอะ บ้านแต่ละหลังจะอยู่
ใกล้ ๆ กัน รูปแรกจะมีป้ายบอกทางไปสถานท่ีต่าง ๆ แสดงให้เห็นได้ว่าการจัดการของผู้นําชุมชน
เล็งเห็นถึงความสํ าคัญของการพั ฒนาชุมชนให้เป็นชุมชนท่ีให้เป็นสถานท่ีท่องเท่ียวอย่างเต็มท่ี
แต่ก็ยังคงความมีชีวิตของชุมชน เพราะผู้ขับเคล่ือนชุมชนสําคัญก็คือชาวกุฎีจีนเอง การมีป้ายบอก
ทางก็ทําให้บุคคลภายนอกสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกมากข้ึน ส่วนภาพท่ีสองจะเป็นร้านอาหาร
สยาม โปรตุเกส บ้านสกุลทอง เป็นร้านอาหารท่ีมีอาหารโปรตุเกสท่ีสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
ซ่งึ บ้านสกุลทองกเ็ ปน็ ตระกุลทม่ี เี ชอ้ื สายโปรตุเกสอยดู่ ้วย
ส่ิงเหล่าน้ีเป็นอาหารโปรตุเกสท่ีเม่ือชิมแล้วก็อาจจะคุ้นเคยกับรสชาติ อย่างสัพพแหยก
ก็จะคล้ายกับไส้ไก่ท่ีอยู่ในกะหร่ีป๊ ับ แต่สัพพแหยกจะใช้ขม้ินและเคร่ืองเทศต่าง 1 เป็นส่วนผสม
ส่วนกะหร่ีป๊ ับจะใช้แกงกะหร่ีหรือผงกะหร่ี ซ่ึงจะเป็นอาหารทางตอนใต้ของประเทศไทยท่ีชาวมุสลิมนิยม
แต่รวม ๆ แล้วรสชาติก็จะออกมาคล้าย ๆ กัน สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากแหล่งเดียวกันก็เป็นได้
แคป่ รบั ส่วนผสมเลก็ นอ้ ย
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 127
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
และมีขนมชนิดหน่ึงท่ีโด่งดังในชุมชนกุฎีจีนน่ันก็คือขนมฝร่ังกุฎีจีน เป็นขนมท่ีผสมผสาน
ความเป็นตะวันตกหรือโปรตุเกสคือตัวส่วนผสมหรือตัวขนม และความเป็นจีนคือการนําลูกเกดมาตก
แตง่ หนา้ เค้ก
ในส่ วนของศาสนาท่ีนับถือส่ วนใหญ่จะมีเช้ือสายจีน และโปรตุเกสรวมอยู่ด้วยกัน
เน่ืองจากสมัยก่อนก็มีท่ีอาศัยอยู่ของพระจีนด้วย น่ันก็คือท่ีมาของช่ือกุฎีจีน ท่ีมาจากคําว่า กุฏิ
ท่ีแปลว่าท่ีอยู่อาศัยของพระ และก็มีการสร้างโบสถ์ซางตาครู้สด้วย ไว้หรับผู้ท่ีนับถือศาสนาคริสต์
นิกายโรมันคาทอลิกเข้ามาทําพิ ธีกรรมทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็น พิ ธีมิสซา ขอบคุณพระเจ้า
หรือเทศกาลคริสต์มาส อย่างท่ีเห็นในรูปท่ี 3 จากจะเห็นได้ว่าผ้าท่ีใช้เข้าร่วมพิธีมิสชา เรียกเป็นผืนผ้า
สามวัฒธรรม คือการใช้ผ้าแพรของจีน และการอัดจีบของไทย นําไปคลุมแบบตะวันตก สิ่งน้ีก็เป็นอีก
ตวั อย่างทแ่ี สดงถงึ การผสมผสานของวัฒนธรรมอย่างชัดเจนและ
ส่วนมากจากภายในชุมชนน้ีจะนับถือนิกายโรมันคาทอลิกก็จะมีรูปเคารพเป็นพระแม่มารีย์ต้ังไว้
อยู่แทบทุกบ้าน เพื่อท่ีจะเป็นสิ่งยึดเหน่ียวจิตใจให้กับชุมชน รวมถึงกุศโลบายของหนูเล๊ียบไว้บอกเล่า
กับเด็ก ๆ ให้เล่นอย่างรู้เวลา เม่ือถึงเวลาหกโมงเย็นก็ต้องกลับบ้าน เน่ืองจากสมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์
จะตามกลบั ก็เปน็ ไปได้อยา่ งยากลาํ บาก จึงใช้กุศโลบายน้เี รอ่ื ยมา
จากการศึกษาในชุมชนน้ีมีความน่าสนใจมาก ทําให้รู้ถึงประวัติความเป็นมาเก่ียวกับชุมชนมาก
ข้ึน อีกท้ังวิเคราะห์ได้ว่าชุมชนทุกชุมชนก็มีประวัติศาสตร์ร่วมกัน อย่างชุมชนกุฎีจีนจะมีเอกลักษณ์
และลักษณะเด่นท่ีใคร ๆได้ไป หรือได้ฟงั ก็ต้องรบั รู้ถึงความน่าสนใจของชุมชนน้ีอยู่ เพราะกว่าจะมาถึง
ปัจจบุ ันก็ไดม้ ีการเปล่ยี นแปลงทางสัคม วฒั นธรรมมาตามกาลเวลา
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 128
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
แต่ในชุมชนกุฎีจีนมีสํานึกทางวัฒนธรรมร่วมกันมาต่อรุ่นสู่รุ่น ซ่ึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการ
สื บทอดการทําอาหารโปรตุเกสจากรุ่นสู่ รุ่นเพ่ื อท่ีจะให้ลูกหลานได้สื บทอดจนเกิดเป็นร้านอาหาร
เป็นความรู้ให้กับผู้สนใจต่อไปอีกท้ังในทุกเทศกาลคริสต์มาส ก็จะมีพิธีมิสซาในโบสถ์ มีการเฉลิมฉลอง
กันภายในชุมชน ร่วมกันทําอาหารโปรตุเกสรับประทานภายในบ้าน ทําให้เกิดกิจกรรมในครอบครัว
และชุมชนร่วมกันความแน่นแฟนั ท่ีเกิดข้ึนภายในชุมชนชนส่งผลให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง หรือสร้าง
ความเข้มแข็งได้ง่ายเพราะด้วยสถานท่ีท่ีเป็นตรอก ซอย ท่ีสามารถพบปะกันได้ง่าย รวมถึงจํานวน
สมาชกิ ภายในชมุ ชน ทจ่ี ะสามารถชว่ ยเหลือเก้อื กลู กันได้ ดว้ ยความมีปฏิสัมพันธซ์ ่งึ กนั และกนั ตลอดมา
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 129
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ ันทกึ : น.ส.จติ ติยา ปอ้ งศรี 6205680587 ฃ
บนั ทกึ ภาคสนามชุมชนกุฎจี นี
ชุ ม ช น กุ ฎี จี น เ ป็ น ชุ ม ช น ท่ี เ ก่ า แ ก่ แ ห่ ง ห น่ึ ง เ ป็ น ชุ ม ช น ท่ี ก่ อ ต้ั ง ม า ร า ว ๆ 2 0 0 ปี
โดยมีความหลากหลายท้ังทางเช้ือชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม ชุมชนกุฎีจีนประกอบไปด้วย 3 ศาสนา
4 ความเช่ือ ท้ัง คริสต์ อิสลาม และพุ ทธ ซ่ึงมีหลากหลายนิกายและความเช่ือ แต่ชุมชนกุฎีจีน
ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ แม้จะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมความเช่ือ และวิถีชีวิต ส่ิงท่ีเป็น
เอกลักษณ์ของชุมชนกุฎีจีนคือ โบสถ์ ท่ีมีช่ือว่า โบสถ์ซางตาครู้ส ซ่ึงมีความหมายว่า กางเขน
ศักด์ิสิทธ์ิ ในภาษาโปรตุเกส โบสถ์หลังน้ีสร้างโดยชาวโรตุเกส เน่ืองจากสมเด็จพระเจ้าตากได้มอบ
ท่ีดินไว้ให้แก่ชาวโปรตุเกส โบสถ์ซางตาครู้สได้เป็นแหล่งสถาปัตยกรรมท่ีทรงคุณค่าแก่การศึกษา
เรียนรู้ถึงความเก่าแก่และความสวยงามของโบสถ์ โดยเฉพาะ หอระฆังแปดเหล่ียมท่ีมีไม้กางเขนบน
ยอดซ่ึงปัจจุบันคทอโบสถ์หลังท่ี3 นับว่าเป็นแลนด์มาร์คของชุมชนกุฎีจีน โบสถ์จะมีการเฉลิมฉลอง
พิธีสําคัญประจาํ ปอี ยู่4ครง้ั ด้วยกนั คือ พิธีคริสตม์ าส พิธวี นั ศุกรศ์ ักด์สิ ิทธ์ิ พิธพี ระคริสตก์ ายา พิธีวัน
ฉลองวัดจะตรงกับวันท่ี14กันยายนของทุกปี แต่ในปัจจุบันจะจัดให้ตรงกับวันอาทิตย์ท่ีใกล้กับ
วันท่ี 14 กันยายน โดยพิธีประจําปีไม่เพียงแต่เป็นพิธีทางศาสนา แต่ยังเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรม
ข้ันตอนการทําพิธี จากรุ่นสู่รุ่น ซ่ึงเป็นการรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมทางศาสนาให้คงอยู่ไว้แม้ใน
ปัจจุบันจะมีการเปล่ียนแปลงของวิถีชีวิตไปมากและปัจจุบันชุมชนกุฎีจีนได้เป็นสถานท่ีท่องเท่ียวเชิง
อนุรักษ์วัฒนธรรม ไม่เพี ยงแต่สถาปัตยกรรมท่ีมีเร่ืองราวความเป็นมา ความหลากหลายทาง
วัฒนธรรมความเช่ือ และอีก1สิ่งท่ีเป็นเอกลักษณ์และหาท่ีไหนไม่ได้นอกจากท่ีชุมชนกุฎีจีน คือขนม
ฝร่ังกุฎีจีน ท่ีเป็นขนมโบราณของโปรตุเกส ท่ีมีสูตรเฉพาะท่ีหากไม่ใช่ชาวชุมชนกุฎีจีน จะไม่สามารถ
ทําได้ หรือแม้แต่พยายามทําตามสูตรแล้ว หากขาดประสบการณ์ความรู้ท่ีสะสมมา ก็ไม่สามารถทํา
ขนมน้ไี ด้ ซง่ึ ขนมฝรง่ั กฎุ ีจนี เป็นขนมสูตรลับเฉพาะ คือจะถ่ายทอดสูตรจากรุ่นสู่รุ่นของแต่ละตระกลู
ในความเห็นของผู้บันทึก ในฐานะท่ีนักศึกษานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค สิ่งหน่ึง
ท่ีเห็นได้จากชุมชนกุฎีจีนและเหมือนจะหาจากท่ีไหนไม่ได้ คือความเก้ือกูลกันถึงแม้จะมีความเช่ือ
ท่ีแตกต่าง ในชุมชนท่ีนักศึกษาอาศัยอยู่ ครอบครัวของนักศึกษาเองนับว่าเป็นครอบครัวเดียว
ในระแวกชุมชนท่ีนับถือศาสนาคริสต์ และในแต่ละปีทางครอบครัวจะจัดงานเล้ียงวันคริสต์มาส
และเชิญชวนคนในชุมชนมาร่วมฉลอง เพื่อให้คนในชุมชนได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตความเช่ือท่ีมี และร่วมถึง
ความเป็นมิตร และความเก้ือกูลกัน ซ่ึงในสังคมปัจจุบันนับว่าหาได้ยาก ทําให้นักศึกษารู้สึกช่ืนชมใน
ด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนกุฎีจีนเป็นอย่างมาก ถึงแม้ชุมชนกุฎีจีนจะมีความแตกต่างและ
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเช่ือ แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและพึงพา
ช่วยเหลือเก้ือกูลซ่ึงกันและกัน จะเห็นได้จากการท่ีเม่ือศาสนาใดศาสนาหน่ึงมีการจัดงานเล้ียง
จะมีการช่วยเหลือของศาสนาอ่ืน ๆ สะท้อนให้เห็นความสามัคคีช่วยเหลือกลมเกลียวกัน
และความเข้มแข็งในชุมชนท่ีถ่ายทอดออกมาผ่านทางการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะนับถือศาสนาพุ ทธ คริสต์
หรืออิสลามหรือแม้แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ชุมชนก็ยังคงความเข้มแข็ง
ในการช่วยเหลือเก้ือกูลดูแลคนในชุมชน ให้สามารถผ่านวิกฤตในช่วงน้ีไปได้ โดยอาศัยความร่วมมือ
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 130
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ของคนในชุมชน แสดงออกให้เห็นถึงความร่วมมือกันของคนในชุมชน นักศึกษาเองคิดว่าชุมชนกุฎี
จีนนับว่าเป็นชุมชนท่ีเป็นต้นแบบได้ดีให้แก่ชุมชนอ่ืน ๆ ในสังคมหากสามารถเรียนรู้และนําไปประยุกต์
ได้ยังชุมชนอ่ืน ๆ จะสามารถสร้างชุมชนท่ีเข้มแข็งในด้านของการร่วมมือซ่ึงกันและกันได้อีกหลาย
ชุมชน
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 131
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผู้บนั ทกึ : น.ส.เฌอธิดา สมชาติ 6205680611 ฃ
การเขยี นบันทกึ รายงานภาคสนามชุมชนกุฎีจนี
ภาคสนามกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีติดริมแม่น้ําเจ้าพระยา นานกว่า 200 ปี โดยเข้าไปน่ังพู ดคุย
สังเกตการณ์และสัมภาษณ์ชาวบ้านในพ้ืนท่ี เพื่อศึกษาชุมชนกุฎีจีน ท่ีถือว่ามีประวัติความเป็นมาท่ียาวนาน
ของชุมชน ท่ีทราบได้ว่า 85 9 ของสมาชิกในชุมชนน้ันนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิก และอีก 15 % ก็มีศาสนา
อ่นื เช่นกนั โดยมกี ฎภายในว่าห้ามใส่บาตรกันอย่างโจ่งแจง้ แต่ยงั คงสามารถทําบญุ ได้ ซง่ึ ส่วนตวั ของผเู้ ขียน
ค่อนข้างสนใจในส่วนน้ีมาก เน่ืองจากในปัจจุบัน ทุกคนในสังคมมีสิทธ์ิท่ีจะนับถือศาสนาอะไรก็ได้ และสามารถท่ี
จะทําตามหลักศาสนาของตนได้ โดยท่ีไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน ซ่ึงหากมองในมุมของสิทธิน้ัน คนท่ีจะทําบุญตัก
บาตรก็สามารถทําได้หากมีพระสงฆ์มาบิณฑบาต แต่หากมองในมุมของสังคมท่ีจําเป็นต้องอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนใน
ชุมชน และมีกฎดังกล่าวเกิดข้ึนท่ีห้ามตักบาตรอย่างโจ่งแจ้ง ก็จําเป็นท่ีต้องปฏิบัติตามกฎ แต่อย่างไรก็ตาม
ตัวผเู้ ขยี นก็ยังมองวา่ มนั ขดั ๆ อยนู่ ดิ หน่อยคะ่
โดยในชุ มชนน้ั นมี หลากหลายเช้ื อชาติ และศาสนาอาศั ยอยู่ แปลว่ าจํ าเป็ นท่ี จะต้ องเปิ ดกว้ าง
ด้านวัฒนธรรม และจําเป็นต้องศึ กษาศาสนาอ่ืน 1 ในชุมชน เพ่ื อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ในชุมชนเล็ก ๆ น้ีน้ัน มีนามสกุลอาศัยอยู่ในชุมชนถึง 80 นามสกุล และมีหลายคนท่ีอยากจะเข้ามา
อยู่ในชุมชนน้ี เน่ืองจากเป็นขุมชนสี ขาวท่ีปราศจากสารเสพติด เพราะทางชุมชนน้ันมีมาตรการ
ท่ีค่อนข้างเด็ดขาด ท่ีเป็นท่ียอมรับโดยท่ัวกันชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนท่ีมีผู้นําท่ีเข้มแข็งวางแผนนโยบายการ
ทํางานอย่างครอบคลุม และมีวัฒนธรรมประเพณีท่ีโดดเด่น มีบรรยากาศรอบข้างท่ีดีและสะอาด แต่เน่ืองจาก
ชุมชนแห่งน้ีเป็นชุมชนท่ีนักท่องเท่ียวเข้ามาเท่ียวเป็นจํานวนมากจึงอาจทําให้ต้องมีการระมัดระวังมากยางข้ึน
และเป็นซอยแคบท่ีอาจจะไม่สะดวกสบายในการสัญจร มีสถานท่ีต่าง ๆ ในชุมชนท่ีเยอะ อาทิ โบสถ์ซางตาครู้ส
โบสถ์หลงั ทส่ี อง โบสถห์ ลงั ทส่ี าม และมีโรงเรยี นอกี 3 แห่ง เปน็ ตน้
มีความเช่ือ เน่ืองจากมีหลากหลายเช้ือชาติ และความเช่ือ ทําให้เกิดมิติทางศาสนาและความเช่ือต่างกัน
อย่างท่ไี ดก้ ลา่ วไปในขา้ งต้นเร่อื งของการนับถอื ศาสนา ในชุมชนส่วนใหญ่เป็นศาสนาคริสต์ 85 % และอาจทําให้
ศาสนาอ่ืน ๆ ในชุมชนน้ัน รู้สึกเข้าร่วมกับชุมชนไม่ได้ ขอยกข้ึนมาพู ดคุยถึงประเด็นในส่วนน้ี ทุกส่ิงทุกอย่าง
สามารถทําให้เป็นกลางได้ ไม่ว่าจะเป็นกับคนหมู่น้อยหรือหมู่มาก หากอยู่ในอยู่จุดท่ีทุกคนในชุมชนสบายใจ เช่น
การห้ามตักบาตร เพราะมันโจ่งแจ้ง แต่ให้ทําบุญได้ แล้วการตักบาตรไม่ใช่การทําบุญหรือ ? คิดว่าทุกศาสนา
น้ันควรจะเปิดใจ เป็นกลาง ถึงแม้ว่านทุกคร้ังท่ีมีประเพณี คนในชุมชนจะล้วนมาช่วยงานบุญน้ัน ๆ และ
สนับสนุนการทําพิธีกรรม เช่นวันสําคัญของศาสนาอะไรก็ตาม คนในชุมชนจะมาช่วยเหลือเตรียมสถานท่ี แต่
กลับไปติดเร่อื งของการตกั บาตร ซ่งึ คิดวา่ เป็นเร่อื งท่ยี อมรับได้อยา่ งงา่ ยดายมากกวา่ การทาํ พิธีกรรมเสียอกี
โดยส่วนตัวจากการมองในมุมของผู้ฟงั และผู้ท่ีได้ศึกษาในส่วนของทางออนไลน์ ก็สามารถสัมผัสได้ว่า
เป็นชุมชนท่ีมีเอกลักษณ์ และโดดเด่น ไม่แปลกใจท่ีนักท่องเท่ียวส่วนใหญ่จะให้ความนิยมเข้าไปเย่ียมชมชุมชน
อยู่เสมอ และผู้นําชุมชน ท่ีมีความเข้มแข็งสามารถนําชุมชนกุฎีจีนก้าวหน้าและเป็นหน่ึงเดียวกันได้น้ัน ถือเป็น
เร่ืองท่ีน่ายินดีกับชุมชนเป็นอย่างมาก การอยู่ร่วมกันของหลากหลายเช้ือชาติทําให้เกิดเสน่ห์ท่ีน่าค้นหา
บางอย่าง ท้ังเร่ืองของความเช่ือ วัฒนธรรม อาหาร ขนมท่ีเป็นของในพื้นท่ีเองหรือแม้กระท่ังศาสนาและความ
เป็นอยู่
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 132
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผูบ้ นั ทกึ : น.ส.รสริน ก่งิ หวา่ กลาง 6205680629 ฃ
บนั ทกึ ภาคสนามชมุ ชนกุฎีจนี
ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเช้ือสายโปรตุเกส ริมแม่น้ําเจ้าพระยาฝ่ ังธนบุรี
นับว่าเป็นย่านประวัติศาสตร์ริมน้ําท่ีเก่าแก่ท่ีสุดแห่งหน่ึงของกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต
และเร่ืองราวท่ีน่าสนใจโดยเฉพาะความสัมพั นธ์ภายใต้ความแตกต่างของเช้ือชาติ ศาสนา
และวัฒนธรรมในชมุ ชนทป่ี ระกอบไปด้วยชาวจนี อินเดยี และยุโรป
ซ่ึงเป็นท่ีนิยมสําหรับการท่องเท่ียว และสะดวกต่อการเดินทาง สามารถเดินทางได้หลากหลาย
รปู แบบเชน่ เรอื รถเมล์ รถไฟฟา้ BTS เป็นต้น
(ซ้าย) แผนท่ยี า่ นกะดีจนี (ขวา) แผนท่ที ่องเทย่ี วในชุมชนกฎุ ีจีน
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 133
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
(ซา้ ย) ด้านหนา้ โบสถ,์ (กลาง) ดา้ นหลังโบสถ,์ (ขวา) โบสถ์มองจากมุมไกล
โบสถ์ซานตาครูซ (Santa Cruz Church) เป็นศูนย์กลาง มีทางเดินหลักทุกเส้นเช่ือมจาก
ชุมชนเข้าหาโบสถ์ ซ่ึงเป็นท่ีทากิจกรรมหลักโดยตรง ถือเป็นตาสนสถานสําคัญท่ียืนหยัดอยู่คู่ชุมชม
กฎุ ีจีนมายาวนาน
จากประวัติพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ระบุว่า เม่ือพระเจ้าตากสินสถาปนากรุง
ธนบุรีเป็นราชธานีแล้ว คุณพ่อกอร์ บาทหลวงชาวฝร่ังเศส ซ่ึงอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาและพา
พวกเข้ารีตหลบหนีไปอยู่เขมรเม่ือกรุงแตก ได้กลับมาพร้อมพวกเข้ารีตและได้พบหมู่คริสตังจํานวน
ไม่น้อยอาศัยอยู่รวมกันใกล้ป้อมท่ีบางกอก จึงได้ขอพระราชทานท่ีดินบริเวณน้ีจากพระเจ้ากรุงธนบุรี
เพ่ือสร้างโบสถ์ ต้ังช่ือว่า "โบสถ์ซางตาครูช"เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกเก่าแก่อันดับ 2 รองจากวัดคอน
เซป็ ชญั ทส่ี ามเสนฝ่ งั ตะวนั ออก
ป้ายบอกทางท่ีมีเคร่ืองหมาย (สัญลักษณ์) บอกทางและซอยต่าง ๆ พ้ืนท่ีในชุมชนเป็นซอย
แคบ ๆ เชอ่ื มต่อกนั ชมุ ชนมลี กั ษณะปดิ และบา้ นเรอื นของชุมชนมกั ปลกู ติดกัน
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 134
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
รา้ นปา้ อําพรรณ
แหล่งรวมขนมหลากหลายชนิด เป็นเอกลักษณ์ในวัฒนธรรมโปรตุเกสของชาวกะดีจีน
ท้ังขนมฝร่ังกุฎีจีน ขนมหน้านวล กุดสลัง ครองแครง กรอบเค็ม มันฉาบ เผือกฉาบ โดยเฉพาะ
ก๋วยต๊ัด ขนมอบด้ังเดิมสายพันธุ์โปรตุเกสจากถ่ินวัฒนธรรมชิโน-โปรตุเกส เช่น สิงตโปร์ มะละกา
ปีนังและภูเก็ตโดยขนมฝร่ังกุฎีจีนถือเป็นขนมโบราณท่ียังคงยึดสูตรตามตํารับด้ังเดิมของชาว
โปรตุเกส มีตัวขนมเป็นตํารับของโปรตุเกสและมีหน้าของขนมเนแบบจีน ท่ีประกอบไปด้วยฟกั เช่ือม
ซง่ึ คน จีนเชอ่ื กนั วา่ หากทานแล้วจะทาํ ให้อยู่เย็นเปน็ สุข
ขนมค้างคาวเผือก เป็นตํารับของว่างชาววัง ต้นตํารับ เจ้าครอกทองอยู่ ไส้ทําจากมะพร้าว
ผัดกับกุ้งสับและมันกุ้ง หอมด้วยส่วนผสม 3 เกลอ คือ กระเทียม พริกไทย และรากผักชี ส่วนตัวแป้ง
ท่ีนํามาห่อไส้ เป็นแป้งสาลีผสมกับเผือกแล้วเติมหัวกะทิไปนิดหน่อยเพื่ อให้มีความหอมมันน่า
รับประทาน กินกับอาจาด
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 135
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ประวัตเิ รอื น (พิพิธภัณฑ์บา้ นกฎุ ีจีน)
พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ บ้ า น กุ ฎี จี น เ ป็ น พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ท่ี เ ก็ บ ร ว บ ร ว ม ค ว า ม เ ป็ น ม า ข อ ง ชุ ม ช น
ชาวสยาม - โปรตเุ กส ตง้ั แตส่ มัยอยธุ ยาถงึ ปัจจุบัน ถอื เปน็ แหลง่ เรยี นรวู้ ัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี นม
ประเพณี ภาษา ศาสนา และรากเหง้าของชาวชุมชนกุฎีจีน ซ่ึงพิพิธภัณฑ์แห่งน้ีสร้างจากทุนส่วนตัว
โดยเจา้ ของบ้านทเ่ี ป็นชาวชุมชนกฎุ จี ีนดง้ั เดิมรปู ภายในพิพิธภัณฑ์ (บางส่วน)
เรอื จําลองคาร์แรก็ ของโปรตเุ กส
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 136
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 137
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
สําหรับชุมชนกุฎีจนี ถือเป็นชุมชนท่ีมีเอกลักษณ์ ท้ังในเร่ืองของเช้ือชาติ ศาสนาท่ีหลากหลาย
อาหารการกิน ขนมต่าง ๆ ท่ีแปลกและมีเอกลักษณ์ รวมถึงวิถีชีวิตและเร่ืองราวท่ีน่าสนใจ โดยเฉพาะ
ความสัมพันธ์ภายใต้ความแตกต่างของเช้ือชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมในชุมชน ถือเป็นแหล่งชุมชน
และแหล่งท่องเท่ยี วท่นี ่าสนใจ หากมโี อกาสกอ็ ยากลองไปเท่ยี วชมดูสักคร้งั
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 138
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผู้บันทกึ : น.ส.ฐิตพิ ร อุดมโชคมหาศาล 6205680694
บันทึกภาคสนามชุมชนกุฎจี นี ฃ
ชุมชนกุฎีจีนคือชุมชนท่ีเป็นการอาศัยอยู่ร่วมกันระหว่างคนหลากหลายเช้ือชาติ ศาสนา
รวมท้ังความเช่ือ แต่คนในชุมชนก็สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างเคารพซ่ึงกันและกัน เม่ือมีการจัด
พิธีกรรมหรือการจัดกิจกรรมตามประเพณีของแต่ละศาสนา ผู้ท่ีไม่ได้นับถือศาสนาน้ันก็จะไม่ก้าวก่าย
หรือมีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดข้ึน ถือเป็นการเคารพซ่ึงกันและกันท่ีทําให้สมาชิกสามารถอยู่ร่วมกันได้
โดยไม่เกิดความขัดแย้ง โดยในการศึกษาชุมชนคร้ังน้ี สามารถเก็บข้อมูลโดยใช้เคร่ืองมือศึกษาชุมชน
คือ ประวัติศาสตร์ชุมชน ปฏิทินชุมชนประวัติบุคคล โครงสร้างชุมชน ระบบสวัสดิการหรือระบบ
สุขภาพของชุมชน แผนท่ีเดินดิน และผังเครือญาติโดยการศึกษาชุมชนกุฎีจีนโดยใช้เคร่ืองมือศึกษา
ชุมชนน้นั จะทาํ ใหส้ ามารถเขา้ ใจและศึกษาสภาพความเปน็ อยขู่ องคนในชมุ ชนได้ดีมากย่ิงข้นึ
จากการศึกษาชุมชนกุฎีจีน จะพบว่าในชุมชนน้ันจะมีสัญลักษณ์ท่ีบ่งบอกชีวิตความเป็นอยู่
ของคนในชุมชนมากมาย เช่น ป้ายประวัติของสิ่งของต่าง ๆ หรือป้ายบอกทาง ท่ีจะเห็นได้ท่ัวไปเม่ือ
เดินไปในชุมชนสามารถบอกได้ว่าน่ีคือชุมชนกุฎีจีน โดยส่วนมากป้ายท่ีบอกประวัติของส่ิงต่าง ๆ
จะอย่ทู พ่ี ิพิธภณั ฑ์บา้ นกุฎจี ีนเพื่อใหผ้ ูท้ ่ไี ปทอ่ งเทย่ี วสามารถศึกษาขอ้ มูลได้
จากการศึกษาชุมชนกุฎีจีนผ่านเคร่ืองมือประวัติศาสตร์ชุมชน สามารถศึกษาได้ว่าส่วนมากคน
ในชุมชนจะเป็นผู้ท่ีนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เพราะในสมัยก่อนจะเป็นการแต่งงาน
ระหว่างผู้ท่ีนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกด้วยกัน จึงจะมีแค่ศาสนาคริสต์นิกาย
โรมันคาทอลิกท่ีอาศัยในชุมชนเท่าน้ันแต่ภายหลังมีผู้ท่ีนับถือศาสนาอ่ืนเข้ามาอาศัยอยู่มากข้ึนแล้ว
โดยมีโปรตุเกสเป็นชาติแรกท่ีเข้ามาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและเพื่อการค้าขาย จนได้รับพระราชทาน
ท่ีดินเพ่ือต้ังชุมชนชาวโปรตุเกส และมีการสร้างโบสถ์คริสต์ศาสนาข้ึนท่ีอยุธยา ประวัติศาสตร์ของ
ชุมชนน้ัน ทางชุมชนจะรวบรวมไว้ท่ีพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เพ่ือให้บุคคลภายนอกหรือผู้ท่ีสนใจสามารถ
ไปศึ กษาข้อมูลด้วยตนเองได้ ประวัติศาสตร์ของชุมชนกุฎีจีนน้ันยังมีประวัติศาสตร์ด้าน
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 139
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
สถาปัตยกรรมและด้านอาหารการกิน โดยด้านสถาปัตยกรรมน้ันจะเห็นได้จากโบสถ์หลังแรกในชุมชน
จะทําด้วยไม้ ยกใต้ถุนสูง หลังต่อมามีการสร้างให้ม่ันคงแข็งแรงมากข้ึน แต่ก็โดนไฟไหม้ จึงสร้าง
หลังท่ี 3 ท่ีเป็นหลังปัจจุบัน เป็นศูนย์กลางของชุมชน ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและเก็บ
สังฆภัณฑ์ทางศาสนา ประกอบด้วยหอระฆังการียอง 16 เสียง กระจกเป็นกระจกสี และบ้านเรือนของ
คนในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นบ้านท่ียกใต้ถุนสูง เพราะในอดีตพ้ืนท่ีน่ีเป็นพื้นท่ีท่ีน้ําท่วมได้ง่าย เม่ือน้ํามา
จึงยกของข้ึนช้ันสอง แม้ในปัจจุบันจะมีการสร้างบ้านตามความนิยมแล้ว แต่ก็ยังยกใต้ถุนบ้านให้สูง
อยู่ ต่อมาคือประวัติศาสตร์ด้านอาหารการกิน คือในชุมชนจะมีขนมท่ีเรียกว่า "ขนมฝร่ัง" เป็นขนมท่ี
ทาํ จากแป้ง นา้ํ ตาล ไข่ และจะใชเ้ ตาถา่ นทาํ เท่าน้นั จงึ จะเรยี กว่าเปน็ ขนมฝรง่ั ของชุมชนกฎุ จี นี
การศึกษาชุมชนจากเคร่ืองมือปฏิทินชุมชน สามารถศึกษาได้ว่าในชุมชนกุฎีจีนน้ันจะมีวัน
สําคัญท่ีจะจัดกิจกรรมหลักๆ อยู่ 4 วันสําคัญ คือ วันฉลองวัด วันสมโภชพระคริสต์สมภพ (วัน
คริสต์มาส) วันข้าวหม้อแกงหม้อ และวันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ (สลิลทิพย์ สอนศรี และคณะ , 2563, น. 30-
31) การจัดกิจกรรมท่ีสําคัญในแต่ละวันน้ันจะเป็นการกําหนดวันและจัดข้ึนในทุกปี โดยวันฉลองวัดคือ
การฉลองวัดท่ีได้รับพระราชทานท่ีดินมา ซ่ึงเป็นวันท่ีพระเจ้าตากสินมหาราชได้พระราชทานท่ีดินแก่
ชาวโปรตุเกส ตรงกับวันท่ี 14 กันยายน วันต่อมาคือวันสมโภชพระคริสต์สมภพหรือวันคริสต์มาส คน
ในชุมชนจะจัดต้นคริสต์มาสไว้หน้าวัดซางตาครูส และมีการเล้ียงอาหารคนในชุมชน ตรงกับวันท่ี 25
ธันวาคม วันต่อมาคือวันข้าวหม้อแกงหม้อ คล้ายกับวันปีใหม่ของไทยท่ีจะตรงกับวันสุดท้ายของปี
คาบเก่ียวกับวันแรกของปีถัดไป คนในชุมชนจะ ทําอาหารมาเพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน และวัน
สุดท้ายคือวันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ เป็นวันท่ีคนในชุมชนจะระลึกถึงวันท่ีพระเยซูโดนตรีงบนกางเขน ตรงกับ
ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ซ่ึงวันสําคัญต่าง ๆ น้ัน คนในชุมชนจะรับรู้และมีส่วนร่วมเพราะ
เป็นกิจกรรมท่ีจัดข้ึนในช่วงเดือนเดียวกันในทุก ๆ ปี สามารถสะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนใน
ชุมชนได้ เพราะเป็นส่ิงท่ีคนในชุมชนปฏิบัติร่วมกันมาเพื่อให้กิจกรรมและประเพณีสามารถสืบต่อไปยัง
รนุ่ ลกู ร่นุ หลานได้
การศึกษาชุมชนผ่านประวัติบุคคล ในชุมชนกุฎีจีนน้ันจะมีผู้นําท่ีเป็นผู้หญิง ช่ือ ป่ ัน ป่ ินทอง
วงษ์สกุลซ่ึงเป็นผู้นําชุมชนท่ีคอยช่วยเหลือและดูแลชุมชนกุฎีจีน คอยประสานงาน คอยควบคุม หรือ
จะรวมไปถึงการพัฒนาชุมชน บทบาทผู้นําหญิงของชุมชนกุฎีจีนน้ันไม่ได้แตกต่างจากผู้ช ายมากนัก
เพราะการเป็นผู้นําชุมชนจะต้องปฏิบัติตามหน้าท่ี เพ่ือไม่ให้สมาชิกในชุมชนเกิดความเดือดร้อน และ
ต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนท่ีเกิดข้ึนในชุมชนด้วย เช่น เม่ือเกิดสถานการณ์โควิด-19 พี่ป่ ิน ผู้ท่ี
เป็นผู้นําชุมชน มีการประสานงานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกเพ่ือให้เข้ามาให้ความ
ชว่ ยเหลือ ไมว่ ่าจะเป็นขา้ วของเคร่อื งใช้ หรือจะเปน็ การนาํ อาหารมาแจกให้กบั คนในชมุ ชน
ต่อมาคือการศึกษาชุมชนผ่านเคร่ืองมือโครงสร้างชุมชน โครงสร้างของชุมชนกุฎีจีนจะมี
พี่ป่ ิน ผู้นําชุมชนท่ีเป็นศูนย์กลางของชุมชน แล้วจะเช่ือมต่อกับกลุ่ม อปพร. (อาสาสมัครป้องกันภัย
ฝ่ายพลเรือน) กลุ่มอสส. (กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข) กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มของวัด และกลุ่ม
สมาชิกในชุมชน โดยกลุ่มอปพร. และกลุ่ม อสส. น้ันจะทํางานประสานกันในเร่ืองของการดูแลเร่ือง
สาธารณสุขและสุขภาพของคนในชุมชน เพื่ออํานวยความสะดวกให้คนในชุมชน เพราะในชุมชนจะมี
ผู้สูงอายุอาศัยอยู่เป็นจํานวนมาก รวมไปท้ังพ้ืนท่ีชุมชนน้ันสามารถเกิดน้ําท่วมได้ด้วย จึงต้องมีการ
ป้องกันภัยท่ีอาจเกิดจากสัตว์ ต่อมาคือกลุ่มเด็กและเยาวชน ท่ีจะมีส่วนร่วมกับคนในชุมชนโดยการทํา
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 140
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
กิจกรรมร่วมกัน คือกิจกรรมท่ีอยู่ในปฏิทินชุมชน หรือจะเป็นกิจกรรมเก่ียวกับการสืบทอดส่ิงท่ีมีใน
ชุมชน เช่น ขนมฝร่ัง ท่ีจะมีกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้ลองทําเพื่อท่ีจะได้สืบทอดขนมฝร่ังให้ส่ง
ต่อไปยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้ ไม่ให้ขนมฝร่ังหายไปตามกาลเวลา ต่อมาคือกลุ่มของวัด หรือจะเรียกว่ากลุ่ม
คนของศาสนสถานในชุมชน ท่ีเม่ือมีการจัดกิจกรรมเก่ียวกับศาสนา กลุ่มคนเหล่าน้ีจะมีส่วนร่วมใน
การประกอบพิธีตามศาสนา เช่น การประกอบพิธีมิสซาออนไลน์ หรือการเปิดเสียงตามสายให้คนใน
ชุมชนได้ประกอบพิธีทางศาสนาไปพร้อม ๆ กันได้ กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มสมาชิกในชุมชน ซ่ึงประกอบไป
ด้วยกลุ่มร้านค้ากลุ่มคนทําขนม เป็นกลุ่มสมาชิกท่ีอาศัยอยู่ภายในชุมชน มีการค้าขายและสืบสานส่ิงท่ี
มีอยู่ในชุมชนไปพร้อม ๆ กัน โดยกลุ่มท่ีกล่าวมาท้ังหมดจะมีความสัมพันธ์เช่ือมโยงกันท้ังหมดมา
ต้ังแต่ก่อต้ังชุมชนจนถึงปัจจุบัน สะท้อนถึงการใช้ชีวิตท่ีเป็นการหลอมรวมกันระหว่างคนต่างศาสนา
ความเช่ือ สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้มาจนถึงปัจจุบันโดยอาศัยโครงสร้างทางชุมชนเพ่ือเช่ือมคนใน
ชมุ ชนเข้าดว้ ยกนั
การศึกษาชุมชนผ่านเคร่ืองมือระบบสวัสดิการหรือระบบสุขภาพของชุมชน สามารถศึกษาได้
ว่าในชุมชนน้ันมีผู้สูงอายุเป็นจํานวนมาก รวมท้ังผู้ป่วยติดเตียงท่ีต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทาง
ชุมชนจะมีระบบการบริการเก่ียวกับด้านสุขภาพ คือจะมีการจัดลําดับผู้ท่ีควรได้รับความช่วยเหลือก่อน
เป็นการจัดทําข้อมูลชุมชนเพื่อให้สามารถให้บริการทางสุขภาพได้อย่างครอบคลุม ให้ทุกคนได้รับการ
บริการทางสุขภาพ โดยเป็นการทํางานร่วมกันระหว่างชุมชนกับ อปพร. (อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย
พลเรือน) อสส. (กล่มุ อาสาสมคั รสาธารณสุข) และศูนย์บริการสาธารณสุข 26 วัดประยรู เป็นการอยู่
ร่วมกันท่ีอาศัยการพึ่งพาและความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกท่ีสามารถช่วยเหลือและบริการ
ทางสุขภาพของสมาชกิ ในชมุ ชนได้อยา่ งทว่ั ถงึ
การศึกษาชุมชนผ่านเคร่ืองมือแผนท่ีเดินดิน จะเห็นว่าในชุมชนน้ันจะมีทางเดินท่ีไม่กว้างมาก
นัก และตามทางเดินนน้ั จะมปี ้ายต่าง ๆ เพื่อบอกทางและบอกสถานท่ี เป็นแผนทท่ี ่บี อกวา่ แตล่ ะสถานท่ี
ในชุมชนน้ันต้ังอยู่ท่ีใด เป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีไปศึกษาชุมชน สามารถศึกษาลักษณะการต้ังสถานท่ี วิถี
ชวี ติ การประกอบอาชพี ลักษณะการสร้างสถาปัตยกรรม
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 141
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ซ่ึงการศึกษาชุมชนผ่านเคร่ืองมือแผนท่ีเดินดินสามารถทําได้ง่ายท่ีสุดคือการเดินลงไปใน
ชุมชนเพื่อเห็นสถานท่ีจริงและสภาพความเป็นอยู่จริง ๆ ในชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีป้ายบอกสถานท่ี
เม่ือเดินไปตามชุมชนจะเจอกับร้านค้า ร้านอาหารท่ีขายอาหารและขนมท่ีเป็นท่ีข้ึนช่ือของชุมชน
และการขายขนมของคนในชุชนน้ันก็ถือเป็นการประกอบอาชีพของคนในชุมชนเช่นเดียวกัน และยัง
เห็นถึงวิถีชีวิตท่ีมีมาต้ังแต่ในอดีต ซ่ึงก็คือการสร้างบ้านใต้ถุนสูง พื้นท่ีใต้ถุนบ้านสามารถใช้ประโยชน์
ได้ และบ้านยกพื้นสูงยังเป็นประโยชน์เม่ือมีน้ําท่วมได้ สะท้อนถึงวิถีชีวิตท่ีมีมาต้ังแต่อดีตเพราะพ้ืนท่ีน้ี
มักจะมนี ้าํ ทว่ ม จึงนยิ มต้งั บ้านแบบยกใตถ้ นุ สูง
การศึกษาชุมชนผ่านเคร่ืองมือผังเครือญาติ เป็นเคร่ืองมือท่ีสําคัญเช่นกัน โดยในชุมชนกุฎี
จีนน้ันมีชาวโปรตุเกสท่ีสืบเช้ือชาติมต้ังแต่อดีต และยังคงดํารงชีวิตอยู่ท่ีชุมชนกุฎีจีน มีท้ังหมด 17
นามสกุล ท่ีในอดีตจะเป็นการสืบเช้ือสายของชาวโปรตุเกสและผู้ท่ีนับถือศาสนาคริสต์นิกาย
โรมันคาทอลิก แต่เม่ือเวลาดําเนินมาเร่ือย ๆ ก็มีการแต่งงานกับผู้ท่ีนับถือต่างศาสนามากข้ึน ทําให้ใน
ชุมชนน้ันไม่ได้มีเพียงผู้ท่ีนับถือศาสนาคริสต์เท่าน้ัน ปัจจุบันในชุมชนจึงเป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างคน
หลากหลายศาสนา หลากหลายความเช่ือ แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยเม่ือปัจจุบันมีการแต่งงานข้าม
ศาสนากันมากข้ึน และมีผู้คนอาศัยในชุมชนมากข้ึน ทําใหปัจจุบันในชุมชนมีการสืบสกุลท้ังหมด 83
นามสกลุ
การศึกษาชุมชนกุฎีจีนผ่านเคร่ืองมือการศึกษาท้ังหมดน้ัน ทําให้สามารถเข้าใจวิถีชีวิตและ
ความเป็นอยู่ของคนในสังคมได้เป็นอย่างดี มีส่ิงท่ีสะท้อนถึงวิถีชีวิตและส่ิงท่ีสะท้อนความเป็นสมาชิก
ของชุมชน และมีการทํากิจกรรมร่วมกันภายในชุมชนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของสมาชิก คนใน
ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กัน ให้เกียรติและเคารพซ่ึงกันและกัน ใน
ชุมชนมีการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง โดยชุมชนมีการพัฒนาเป็นการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม เป็นการ
ขับเคล่ือนชุมชนกุฎีจีนท่ีทําให้คนในชุมชนสามารถเข้าถึงและรับรู้ความเป็นชุมชนของตน รวมท้ังยังได้
ให้ความรู้แก่ผู้ท่ีต้องการหาข้อมูลและสนใจจะเรียนรู้ เพื่อให้ชุมชนและส่ิงท่ีมีในชุมชนน้ันยังคงสามารถ
สืบทอดต่อไปและสามารถส่งไปยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงขนมฝร่ัง ท่ีในชุมชนปัจจุบันน้ี
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 142
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
เหลือเพียงแค่ 3 รายเท่าน้ันท่ียังขายอยู่ ในชุมชนจะปลูกฝังและฝึกฝนคนรุ่นใหม่เพ่ือให้สามารถทํา
ขนมและสามารถสืบต่อให้ขนมฝรง่ั ยังคงอยู่ได้
เอกสารอา้ งองิ
สลิลทิพย์ สอนศรี และคณะ. (2563). ปฏิทินชุมชนกุฎีจีน. รายงานการศึกษาชุมชนกุฎีจีน.
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร,์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์ น. 30-31.
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 143
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผูบ้ นั ทึก: นายจริ เมธ อนิ ทรพ์ ลับ 205680702 ฃ
การเขยี นบนั ทึกภาคสนาม
รปู ภาพ แผนท่กี ารทอ่ งเท่ยี วในชุมชนกฎุ จี ีน บอกสถานทส่ี ําคัญต่าง ๆ ในชุมชน
รูปภาพ แผนท่กี ารทอ่ งเท่ยี ววิถีถ่นิ ยา่ นกะดีจีน รวมทง้ั หมด 6 ชมุ ชน