วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 44
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
"สภาพแวดลอ้ มชมุ ชน"
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีต้ังอยู่ติดกับแม่น้ําเจ้าพระยา โดยสภาพแวดล้อมรอบชุมชน
จะเป็นตรอก ซอกซอยขนาดเล็ก ท่ีไม่สามารถนํารถยนต์เข้ามาได้ มีเพียงการเดินเท้า การป่ ันจักรยาน
หรือรถจักรยานยนต์เท่าน้ันท่ีสามารถใช้เดินทางได้ภายในชุมชน ซ่ึงเสมือนเป็นชุมชนปิดเลยก็ว่าได้
บ้านเรือนท่ีปลูกสร้าง จะมีท้ังบ้านท่ียกใต้ถุนสูง เพราะน้ําจะท่วมชุมชนทุกปี ซ่ึงสร้างก่อนมีการสร้าง
เข่ือน และบ้านท่ีอยู่ติดพื้นดิน ท่ีสร้างหลังเกิดการสร้างเข่ือนป้องกันน้ําท่วม และผู้คนท่ีอาศัยอยู่
ภายในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ท่ีมีความหลากหลายทางศาสนา ผู้คนท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนจะคุ้น
ชินกบั การทม่ี ีนกั ท่องเทย่ี วเดินเข้ามาทอ่ งเทย่ี ว ถ่ายรูปในชุมชนและไมไ่ ดร้ สู้ ึกถกู รบกวนมากนัก
"อาสาสมัครชุมชน"
ในชุมชนจะมี อพปร. หรืออาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จํานวน 23 คน ท่ีได้รับการ
อบรมเก่ียวกับการป้องกันภัย เช่น ไฟไหม้ น้ําท่วม สัตว์บุกรุก และยังได้รับการอบรมเก่ียวกับการ
ชีวิตผู้สูงอายุเบ้ืองต้น เพราะเน่ืองจากเป็นชุมชนท่ีมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่จํานวนมาก และมีความ
ยากลําบากในการเดินทางของรถพยาบาลจึงจําเป็นต้องมีการช่วยเหลือเบ้ืองต้นเพื่อรอเปลสนามเข้า
มารับตัวผู้ป่วย ส่วนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 อพปร. ยังมีส่วนช่วยในการเข้าฉีด
พ่นยาฆา่ เชอ้ื ภายในชุมชนเพื่อป้องกนั การแพร่ระบาดด้วย
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 45
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
"ปฏทิ ินชุมชน"
ปฏิทินของชุมชนส่วนใหญ่ จะข้ึนอยู่กับวันสําคัญทางศาสนาของแต่ละศาสนาในชุมชน เช่น
ศาสนาคริสต์ จะมี 4 วันสําคัญใหญ่ คือ 1. วันอีสเตอร์ (ศุกร์ศักสิทธ์ิ) 2. วันคริสมาสต์ 3.วันฉลอง
พระคริสตกายา 4. วันสถาปนาโบสถ์ซางตาครูช โดยในวันสําคัญของแต่ละศาสนาผู้คนต่างศาสนาจะ
สามารเข้าร่วมกิจกรรมได้ หากกิจกรรมน้ันไม่ขัดต่อหลักศาสนาท่ีตนนับถือ และกิจกรรมท่ี
นอกเหนือจากวันสําคัญทางศาสนาแล้ว แต่ละปีจะมีกิจกรรมท่ีมาจากหน่วยงานภายนอกเข้ามาจัด
กิจกรรมในชุมชนด้วย เช่น กิจกรรมลดความเครียดในผู้สูงอายุ ของนกั ศึกษาพยาบาล
"การบริหารจัดการในชมุ ชน"
มกี ารจัดตง้ั คณะกรรมการยา่ นกฎุ จี ีน ซง่ึ มตี วั แทนจาก 6 ชมุ ชนยอ่ ย ชุมชนละ 5 คน ร่วมเปน็
คณะกรรมการ ซ่ึงส่วนมากเป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุ และมีเจ้าอาวาส หน่วยงานการท่องเท่ียว
กระทรวงวัฒนธรรมและมหาวิทยาราชภัฏธนบุรี เป็นท่ีปรึกษา มีการวางแผนพัฒนาชุมชนเพื่อการ
ท่องเท่ียว และมีการจัดทํารายช่ือ 20 คนแรกท่ีต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อจัดสรร
งบประมาณท่ไี ด้รบั มาให้กบั คนกลมุ่ นก้ี อ่ น
ระบบสุขภาพในชุมชน"
มศี ูนยใ์ ห้ความชว่ ยเหลือทางสุขภาพ คือ ศูนย์ 26 ของวดั ประยรู วงศ์ ซ่งึ เป็นศูนยท์ างสุขภาพ
ระดับปฐมภูมิท่ีไม่มีเตียงนอน สามารถรักษาได้เบ้ืองต้น มี อสส. หรืออาสาสมัครสาธารณสุข คอย
ช่วยดูแลคนในชุมชน และหน่วยงานของโบสถ์ซางตาครูชท่ีจะเข้าไปตรวจเย่ียมผู้สูงอายุ ทุก ๆ คร่ึง
เดือน เรียกว่า พลมารีส่วนในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะมีการอบรมเรียนรู้
เกย่ี วกบั การป้องกัน และการทําความเขา้ ใจ Covid-19 เพ่ือปอ้ งกันการตีตราของผู้ตดิ เชอ้ื ในหมบู่ ้าน
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 46
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ขอ้ มูลและประวตั ิความเป็นมา ผ้บู นั ทกึ : น.ส.สุวชิ าดา แสวงผล 6205610410
ฃ
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีอยู่มาหลายปีแล้ว ผู้คนเร่ิมเข้ามาต้ังถ่ินฐานกันต้ังแต่สมัยท่ีกรุงศรี
อยุธยายังเป็นราชธานี โดยเร่ิมมาจากเรือจนส่งสินค้าท่ีแล่นผ่านแม่น้ําเจ้าพระยา (ปัจจุบันเป็นสะพาน
พุทธ) ซ่ึงมีการสร้างป้อมวิชาเยนทร์อยู่ทางฝ่ ังธนบุรี เรือทุกลําท่ีแล่นผ่านจะต้องหยุดตรวจเรือก่อนท่ี
จะข้ึนฝ่ ังไปยังกรุงศรีอยุธยา การจอดเรือก็จะมีการพักข้ึนมายังจุดน้ีในระหว่างท่ีมีการตรวจเรือ จาก
การอยู่เป็นช่ัวคราวก็เร่ิมเป็นการต้ังถ่ินฐานถาวร เร่ิมมีการสร้างศาลเจ้าของจีนข้ึนโดยมีบันทึกท่ี
ชัดเจนได้กล่าวถึงไว้ด้วย พอเข้าสู่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็เร่ิมมีชาวจีนเข้ามาอยู่เพิ่มมากข้ึน เร่ิมมี
การสร้างศาลเจ้าใหม่เหมือนท่ีเห็นอยู่ในทุกวันน้ี ซ่ึงได้เป็นท่ีเคารพสักการะของชาวจีนท่ีเดินทางมา
ค้าขาย (นฮกเก๊ียน) นอกจากน้ันแล้วยังมีชาวโปรตุเกส มีมัสยิดของชาวอิสลาม (กุฎีขาว) ชุมชนใน
แถบน้ีประกอบไปด้วย 3 ศาสนาอาศัยอยู่ร่วมกัน อันได้แก่ ศาสนาพุ ทธ (นิกายเถรวาทและมหายาน)
คริสต์ และอิสลาม อาจเรียกได้อีกนัยหน่ึงว่าเป็นชุมชนท่ีอยู่ร่วมกัน 3 ศาสนาและ 4 ความเช่ือ ในทุก
วันท่ี 14 กันยายนของทุกปี จะมีการร่วมเฉลิมฉลองการสร้างโบสถ์ ซ่ึงถูกจัดอยู่ใน 1 ใน 4 พิธีกรรม
ทางศาสนาท่ีจัดข้ึนของทุกปีของชุมชนกุฎีจีนอีกด้วย โดยอีก 3 พิธีกรรมทางศาสนาได้แก่ วัน
คริสต์มาส วันฉลองพระคริสต์มายา วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ ซ่ึงในการจัดพิธีกรรมทางศาสนาเช่นน้ี จะเป็น
การเผยแพรอ่ งค์ความร้จู ากรนุ่ สู่รุ่น เพื่อใหล้ ูกหลานในรนุ่ หลงั ไดเ้ รียนรู้และนาํ เอาไปปฏิบตั ติ ่อไป
กุฎีจีนได้นิยามชุมชนของตนเองว่าเป็นหมู่บ้านท่ีมีวิถีการใช้ชีวิตท่ีจริง เป็นเหมือน "life
museum" ท่ีมีชีวิตยาวนานมามากกว่า 200 ปี มาจากความเคยชินในอดีต โดยท่ีไม่มีปัญหากับการ
สัญจรไปมาของนักท่องเท่ียว ภายในชุมชนมีการจัดต้ังพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนข้ึนมาเม่ือ 5 ปีท่ีแล้ว
โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีการดึงเร่ืองราวของประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชุมชนมาเล่าไว้ด้วย
และอีกช้ันนึงของพิพิธภัณฑ์ยังมีการเล่าถึงวิถีชีวิตของผู้ใหญ่ในชุมชน นอกจากน้ันแล้วยังมีการจัด
แสดงอาหารประจําชุมชนอย่าง "ข้าวแกงไก่ค่ัว" และอาหารอีกหลายอย่างท่ีมีเฉพาะชุมชนกุฎีจีนเอาไว้
อีกด้วย ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีสามารถให้ความช่วยเหลือซ่ึงกันและกันได้ตลอด เม่ือมีพิธีกรรมทาง
ศาสนาตา่ งกแ็ ยกยา้ ยไปปฏิบตั ิตามศาสนาทต่ี นเองนบั ถือ เคารพในความแตกตา่ งซ่งึ กันและกนั มีการ
แบ่งปันอาหารกันภายในชุมชนเม่ือทําพิธีกรรมทางศาสนา สามารถเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาของ
กันและกันได้หากไม่ขัดต่อความเช่ือทางศาสนาท่ีนับถืออยู่ ในส่วนของ จาน ชาม หากไม่สามารถใช้
ร่วมกันได้ ก็จะมีการเตรียมของใช้ส่วนตัวกันมาเอง เพ่ือลดภาระของผู้อ่ืน นอกจากอาหารอย่างข้าว
แกงไก่ค่ัวท่ีถือเป็นอาหารประจําชุมชนแล้ว ยังมีขนมท่ีเป็นขนมอย่าง "ขนมฝร่ังกุฎีจีน" เป็นขนมทาง
วัฒนธรรมประจําชุมชนอีกด้วย ขนมฝร่ังกุฎีจีนถือเป็นขนมเค้กก้อนแรกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
โดยในปัจจุบันมีโอกาสสูงท่ีจะหายไปจากชุมซนกุฎีจีน เน่ืองมาจากไม่ทราบว่าลูกหลานจะอยากสานต่อ
ธุรกิจทางบ้านหรือไม่ เพราะเป็นขนมท่ีค่อนข้างทํายากและมีข้ันตอนท่ีซับซ้อน ทางชุมชนเคยมีการจัด
กิจกรรมช่วยสืบสานวัฒนธรรมของทางกุฎีจีน แต่ยังไม่ทราบผลลัพธ์แน่ชัดว่าจะเป็นผลสําเร็จ เพราะ
ในปัจจบุ นั เดก็ ส่วนใหญไ่ ม่คอ่ ยนยิ มรบั ประทานอาหารหรอื ขนมโบราณกันมากเท่าแตก่ อ่ น
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 47
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ปัจจุบันมีการขับเคล่ือนย่านกุฎีจีนอยู่ ซ่ึงมีการจัดต้ังคณะกรรมการประจําแต่ละย่าน โดยมี
ประธานท้ัง6 ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ท่ีปรึกษาคือกลุ่มเจ้าอาวาสของวัดต่าง 1 รวมไปถึงหน่วยงาน
ราชการท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรมท่ีมองว่าชุมชนกุฎีจีนสามารถต่อยอดใน
เร่ืองของการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมได้ ในการจัดต้ังคณะกรรมการจะมีการแบ่งหน้าท่ีการทํางาน
อย่างเป็นสัดส่วน ให้มีการส่งตัวแทนมาชุมชนละ 5 คน เพราะถ้าเยอะเกินกว่าน้ีจะทําให้การตัดสินใจ
แยกย่อยจนหาข้อสรุปท่ีเกือบกลางได้ยาก เม่ือเร่ิมแรกมีการพูดว่าย่านน้ีจะถูกจัดให้เป็นย่านท่องเท่ียว
ก็ไม่เป็นท่ียอมรับมากเท่าไหร่นัก จึงจําเป็นจะต้องมีการพู ดคุยเพื่อประสานงานระหว่างชุมชน ท้ังยัง
ต้องมีการประสานงานจากภายนอกของทางราชการเอง กลุ่มรัฐวิสาหกิจ หรือแม้กระท่ังจักรยานท่ี
เข้ามาในชุมชน ก็มีการเชิญมาพู ดคุยเพื่อถามถึงจุดประสงค์ของการมาเท่ียวว่ามีจุดหมายอะไรไหม
หรือว่าจะไปท่ีไหน เพ่ือท่ีจะได้เอาไปพัฒนาให้ชุมชนสามารถเข้าใกล้ชุมชนท่ีส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิง
วัฒนธรรมได้มากย่ิงข้ึน เน่ืองจากคนในชุมชนท้ัง 6 ชุมชนมีสัมพันธภาพท่ีดีต่อกันอยู่แล้ว เลย
สามารถคุยกันได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นเร่ืองการเปิดรับให้มีการท่องเท่ียวภายในชุมชน พร้อมท้ังการ
นําเสนอโครงการหรือแม้กระท่ังการเบิกของบประมาณก็สามารถทําไปพร้อมกันจนสามารถพัฒนาไป
ด้วยกันโดยท่ีไม่มีการท้ิงชุมชนใดชุมชนหน่ึงไว้ข้างหลัง ทางชุมชนกุฎีจีนเองจะมีการล่ารายช่ือคนท่ี
ได้รับความเดือดร้อนและต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนท่ีสุดไว้ 20 ลําดับ โดยท่ีหากมี
การย่ืนมือเข้ามาช่วย ก็จะพิจารณาไล่เรียงจากรายช่ือ 20 รายการแรกลงไป มีการจัดกิจกรรม
ภายในชุมชนท่ีอาจจะช่วยให้คนในชุมชนห่างไกลโรคซึมเศร้า อาทิเช่น การปลูกผักสวนครัว เพ่ือให้คน
ในชุมชนได้มีกิจกรรมทํา โดยเฉพาะผู้สูงอายุท่ีอาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียวซ่ึงเส่ียงต่อการเป็นซึมเศร้า
จากภาวะเครียด อย่างในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็มีตัวแทนของโรงพยาบาลเข้ามาสอนวิธีการ
ย้ิมหรือหัวเราะเพื่อให้คลายเครียด รวมไปถึงจะได้คลายความกังวลจากการกลัวท่ีจะติดโรคโควิด-19
ชุมชนกุฎีจีนมีการจัดกิจกรรมภายในชุมชนอยู่เสมอ แม้ไม่มีอะไรทําก็จะเร่ิมบูรณะซ่อมแซม หรือทํา
ความสะอาดภายในชุมชน เป็นย่านท่ีได้เปรียบย่านหน่ึงเพราะว่าภายใน 6 ชุมชนจะมีการพู ดคุยถึง
เร่ืองโรควิด-19 โดยเฉพาะ มีการประชาสัมพันธ์อยู่เร่ือย ๆ ว่าการท่ีมีคนติดโควิดไม่ใช่เร่ืองท่ีน่า
รังเกียจ แล้วก็ไม่อยากให้ไปซ้ําเติมคนท่ีติด หากมีคนในชุมชนติดเช้ือโควิด-19 ต้องมีการติดต่อให้รีบ
นาํ ส่งเพื่อท่จี ะได้รบั การรกั ษาอยา่ งถูกวิธี
ความคดิ เหน็ ของผบู้ ันทกึ
จากการท่ีได้ฟงั ข้อมูลและประวัติความเป็นมาจากผู้คนท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนกุฎีจีนรวมไปถึงการ
ทํางานการแบ่งหน้าท่ีการทํางานของคณะกรรมการภายในชุมชนจากผู้นําชุมชนแล้วน้ัน ทําให้
นักศึกษามองเห็นความเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของชุมชนน้ีได้มากย่ิงข้ึนจากท่ีเคยได้ยินแต่เพียงช่ือ
ซ่ึงการศึกษาแบบน้ีเป็นการศึกษาตามแนวทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม อาจกล่าวได้ว่าเป็นผสาน
วิธีการทางประวัติศาสตร์มานุษยวิทยา และโบราณคดีเพื่ออธิบายวิวัฒนาการของวัฒนธรรมใน
ท้องถ่ิน บนพื้นฐานการปรับตัวของวัฒนธรรมการผลิตท่ีมีต่อส่ิงแวดล้อมและระบบนิเวศ ทําให้
สามารถอธิบายวิถีชีวิตของการเปล่ียนผ่านในแต่ละยุคสมัยได้อย่างครอบคลุมต้ังแต่แรกเร่ิมจนถึง
ปัจจุบันอันยังยึดตามวิถีชีวิตด้ังเดิมอยู่ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพั นธ์แบบเครือญาติท่ีมีการ
ช่วยเหลือซ่ึงกันและกันยามยากลําบากท่ียังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน มีพิพิธภัณฑ์ภายในชุมชนท่ีเก็บ
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 48
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
รวบรวมความเป็นมาอันเก่าแก่ของชุมชนชาวสยาม-โปรตุเกส ต้ังแต่สมัยอยุธยาถึงปัจจุบัน และเป็น
แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียน ประเพณี ภาษา ศาสนา และรากเหาของชาวชุมชนกุฎีจีน
เอาไว้ให้บุคคลภายนอกท่ีสนใจได้เข้ามาศึกษาและทําความรู้จักชุมชนท่ีมีเอกลักษณ์อย่างกุฎีจีนได้ตาม
อัธยาศัย มีการจัดต้ังเครือข่ายภายในชุมชนท่ีทํางานร่วมกันเพ่ือเป้าหมายการชับเคล่ือนชุมชนให้เข้าสู่
การท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม แสดงให้ถึงความเป็นอันหน่ึงอันเดียวของชุมชนท่ีตัดสินใจร่วมกันอัน
มองว่าจะช่วยให้ชุมชนได้เป็นท่ีรู้จักท้ังยังสามารถเกิดการพัฒนาไปพร้อมกันได้ เป็นชุมชนท่ียึดโยง
กันด้วยสถาบันทางสังคมอย่างสถาบันทางศาสนา อันประกอบด้วย โบสถ์ วัด มัสยิด แม้จะเป็นการ
นบั ถอื ศาสนาท่แี ตกต่างกันถึง 3 ศาสนา และ 4 ความเชอ่ื ภายในชุมชน แตท่ างชมุ ชนกลับสามารถอยู่
ร่วมกันได้อย่างไม่มีข้อกังขา แสดงให้เห็นว่าผู้คนในชุมชนน้ันให้เกียรติและเคารพถึงความแตกต่างซ่ึง
กันและกัน อีกท้ังยังให้ความใส่ใจแก่กลุ่มเปราะบางภายในชุมชนเป็นอย่างมาก ท้ังในกลุ่มผู้สูงอายุ
หรือกลุ่มผู้ท่ีได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทางชุมชนได้มีการ
จัดสรรทรัพยากรและให้การช่วยเหลือได้อย่างเสมอภาคท่ัวถึง ถือเป็นอีกหน่ึงชุมชนท่ีน่านําเอา
รูปแบบการจัดระเบียบทางสังคมของชุมชนไปเป็นแบบอย่างและประยุกต์ใช้เข้ากับกระบวนการทํางาน
ด้านสังคมสงเคราะห์ชุมขนในชุมชนอ่ืนร่วมด้วย เพ่ือให้ชุมชนน้ัน ๆ ได้เกิดการพัฒนาเฉกเช่นชุมชน
กุฎีจนี
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 49
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ ันทึก: นายเจษฎา แสงอมร 6205610493 ฃ
บันทกึ สนามวัดกุฎจี นี
แผนที่การทอ่ งเทีย่ วในชมุ ชนกฎุ จี ีน
จากแผนท่ีจะพบว่าสถานท่ีสําคัญจะมี 5 ท่ี (ตามท่ีได้ติดดาวไว้ในแผนท่ี) ซ่ึงจะพบว่า 3 ใน 5
ท่ีจะเป็นสถานท่ีท่ีเอาไว้สําหรับการประกอบพิธีทางศาสนาของศาสนา คริสต์ อิสลาม และพุ ทธ
ซ่ึงในจุดน้ีจะบอกว่าชุมชนน้ีมีการร่วมตัวกันของท้ัง 3 ศาสนาและสามารถดํารงอยู่ได้โดยไม่มีความ
ขัดแย้งกัน ซ่ึงบ่งบอกถึงความเข้าใจกันของคนในชุมชนและการเข้าใจในศาสนาและการเป็นหน่ึงเดียว
ของชมุ ชนอีกดว้ ย
โบสถแ์ ละรปู ป้ นั ซสิ เตอร์
- โบสถ์ที่ใช้ประกอบพิธีทาง
ศาสนาครสิ ต์
- ซิสเตอร์เป็นนักบวชของ
ศาสนาคริสต์
ทั้ง 2 อย่างน้ีบ่งบอกถึงศาสนา
หนา้ หลกั ของชมุ ชนกุฎีจนี
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 50
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ขนมฝร่งั
ขนมประจําชมุ ชนท่มี จี ดุ เรม่ิ ตน้ มาจากชาวโปรตเุ กส
ป้ายบอกทางสถานทีใ่ นชุมชน
บ่ ง บ อ ก ถึ ง ก า ร เ ต รี ย ม ตั ว ที่ ดี ใ น ก า ร ต้ อ น รั บ
นักทอ่ งเทย่ี วท่จี ะมาเทยี่ วในชมุ ชนกฎุ ีจนี
บอรด์ ตารางกจิ กรรมของชมุ ชนในแต่ละวัน หลากหลายอาหาร แต่หนง่ึ เดียว
เป็นการบ่งบอกถึงวิธีการจัดการของชุมชนท่ีมี เ น่ื อ ง จ า ก ใ น ชุ ม ช น จ ะ มี ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ท า ง
การอยู่ร่วมกันของหลาบสัญชาติ หลากศาสนา ศาสนา ทําให้การรับประทานอาหารจึงต้องมีการ
ซึ่งวิธีน้ีจะทําให้การประกอบพิ ธีทางศาสนาไม่ แบ่งแยกกันว่าใครจะกินอะไร ซ่ึงเป็นการแก้ความ
ตรงกัน และทําใหค้ นในชมุ ชนมีส่วนร่วมกนั อีกดว้ ย หลากหลายทางศาสนาของชุมชนวนั นี้
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 51
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผีหนูเลย๊ี บรว่ มวฒั นธรรม
เป็นส่ิงท่ีผู้ใหญ่ในชุมชนแต่งข้ึนมาเพ่ือให้เด็กในชุมชนกลับ
เขา้ กอ่ นทจ่ี ะดกึ หรอื มดื เกินไป ส่ือถงึ วิถีชีวติ ที่ใหค้ วามสําคัญ
กับความปลอดภัยของเด็กในชุมชน (ถึงจะต่างศาสนาและ
สัญชาติ แต่ก็มีความเชือ่ ในเรอ่ื งเดยี วกัน)
พิพิธภณั ฑบ์ า้ นกฎุ จี ีน เช้ือสายโปรตเุ กส
อ ย่ า ง แ ร ก คื อ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ บ้ า น กุ ฎี จี น บ่ ง บ อ ก ถึ ง
ประวตั ิศาสตรต์ ่าง ๆ ของชาวชุมชนกฎุ จี ีน และท่ีมาของกฎุ ี
จี น จ า ก ก า ร ท่ี ช า ว โ ป ร ตุ เ ก ส ไ ด้ ม า ทํ า ม า ค้ า ข า ย แ ล ะ เ จ ริ ญ
สัมพันธไมตรกี บั ชาตสิ นามจนไดร้ บั ท่ดี นิ มา จนกลายมาเป็น
ชุมชนกุฎีจีนในวนั น้ี
ป้ายทแ่ี ปะไว้ในพิพิธภัณฑ์
อย่างทส่ี องคอื ปา้ ยทีแ่ ปะไวใ้ นพิพิธภณั ฑ์ เป็นป้ายทีบ่ ่งบอก
วา่ คนในชมุ ชนไดใ้ ห้ความสําคญั กบั ประวัติศาสตร์ชมุ ชนและ
การเก็บเร่ืองราวต่าง ๆ ซึ่งจะบ่งบอกถึงความเป็นชุมชนที่
เขม้ แข็ง คนในชุมชนมคี วามรักและใหค้ วามสําคญั กบั ชุมชน
เป็นอยา่ งมาก
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 52
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
แผนทีก่ ฎุ จี ีน
จ ะ ทํ า ใ ห้ เ ห็ น ถึ ง ส า เ ห ตุ แ ล ะ ที่ ม า ข อ ง ช า ว
โปรตุเกสที่ได้มาเทียบท่าจากแม่นํ้า และใน
เวลาตอ่ มาก็ได้กลายมาเป็นกุฎจี ีน
แตกตา่ งสไตลแ์ ต่นา่ กินทกุ แบบ
บ่งบอกถึงความแตกต่างและความหลากหลาย
ของวัฒนธรรมทางอาหาร ท่ีมีการกินและการนํา
วัตถุมาใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ทุกจานล้วน
ทาํ ให้อยากลองชมิ ทัง้ นน้ั เลย
การระลึกถึงจุดกําเนดิ ชุมชน
นี่ อ า จ จ ะ เ ป็ น จุ ด สํ า คั ญ ข อ ง ชุ ม ช น ที่ ทํ า ใ ห้ ค น ใ น
ชุมชนมีความรักในชุมชนเป็นอย่างมาก เนื่องจาก
ประวัติศาสตร์และความเป็นมาท่ีเป็นสิ่งกระตุ้นให้
คนในสังคม
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 53
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
บันทึกภาคสนามชุมชนกฎีจีน ผ้บู นั ทกึ : นายบุรภัทร จนั ทรแ์ ก้ว 6205610501
ฃ
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีอยู่อาศัยท่ีมีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งหน่ึง มีต้นกําเนิดต้ังแต่ยุค
สมัยกรุงธนบุรีอีกท้ังยังมีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและศาสนา ได้แก่ คริสต์นิกาย
คาทอลิก พุ ทธ และอิสลาม อีกท้ังยังมากด้วยคนหลายเช้ือชาติ ท้ังไทย จีน โปรตุเกส เขมร ญวน
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและท่ีมาอันหลากหลายน้ีเองท่ีทําให้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนกุฎี
จนี มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และยังคงมรี อ่ งรอยทางประวัตศิ าสตร์หลงเหลอื มาจนถึงปจั จบุ ัน
ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในชุมชนนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก เน่ืองจากมีชาวโปรตุเกสท่ี
เป็นผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในชุมชนด้ังเดิม แต่ด้วยความเข้าใจและความเป็นหน่ึงเดียวกันของคนใน
ชุมชน จึงทําให้ชุมชนแห่งน้ีสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหา ในทางตรงกันข้ามยังก่อให้เกิดการ
หลอมรวมและปรับตัวเข้าหากันทางวัฒนธรรม เช่น อาหาร ประเพณีท่ีผสมผสานอย่างการถอดพระ
ในวันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิของชาวคริสต์ หรืออาหารอย่างขนมจีนแกงไก่ค่ัวท่ีมีการสันนิษฐานกันว่านําเส้น
ขนมจนี มาใส่แทนเส้นสปาเกต็ ต้ี
ส่ิงท่นี า่ สนใจ(1) - อาหารการกิน
ขุมขนกุฎีจีนมีการสร้างสรรค์วัฒนธรรมอาหารท่ีเป็นจุดเด่นของตัวเอง โดยการนําวัตถุดิบท่ี
หาได้ง่ายในไทยมาทําเป็นขนมฝร่ัง โดยใช้ส่วนประกอบหลักเป็นแป้ง ไข่ น้ําตาล และมีส่วนประกอบ
ตกแต่ง เช่น ฟกั เช่ือม ลูกเกด ลูกฟกั แห้ง มีขนมข้ึนช่ืออีกหลายอย่าง เช่น ก๋วยตัส (พายสับปะรด)
ขนมกุสรัง หรือบัวลอยญวณ ส่วนอาหารน้ันมีขนมจีนแกงไก่ค่ัว หรือสัพแหยก และอาหารต่างชาติ
อ่นื ๆ เป็นตน้
ส่ิงทน่ี า่ สนใจ(2) - คริสต์นิกายคาทอลิก
ชุมชนกุฎีจีนมีศาสนาคริสต์เป็นศูนย์กลางของชุมชน เน่ืองจากประชากรส่วนใหญ่นับถือ
คริสต์นิกายคาทอลิก โดยมีวัดซางตาครู้สเป็นเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่นและเป็นท่ีรู้จัก ถึงอย่างน้ันสมาชิก
ชุมชนทุกคนไม่ว่าจะเป็นคริสต์หรือผู้นับถือศาสนาอ่ืนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นปกติสุข ใน
สมัยก่อนผู้ท่ีจะย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชนจะต้องเป็นคาทอลิกเท่าน้ัน แต่ในปัจจุบันมีการผ่อนปรนลงโดย
ให้ลองมาใชช้ วี ติ และทําความเขา้ ใจกับสภาพความเปน็ อยู่ของชมุ ชน
ส่ิงท่นี ่าสนใจ(3) - ผีหวั หริกหรอื ผีหนูเลย๊ี บ
แต่ละภูมภิ าคของประเทศไทยมักมกี ศุ โลบายสําหรับเตือนให้เดก็ ๆ ระวังในสิ่งต่าง ๆ มาตง้ั แต่
โบราณแม้แต่ชุมชนกุฎีจีนก็มีกุศโลบายดังเช่นหนูเล้ียบด้วยเหมือนกัน โดยมีเร่ืองเล่าว่าถ้าหากเด็กคน
ไหนไม่รีบกลับบ้าน หลังจากระฆังวัดตีบอกเวลาหกโมง จะถูกหนูเล๊ียบพาไปเล่นด้วยจนกว่าจะพอใจ
เรอ่ื งเลา่ น้จี ึงเป็นกลวธิ ปี อ้ งกันไมใ่ หเ้ ด็กเล่นซนจนมืดคา่ํ น่นั เอง
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 54
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
สิ่งทน่ี ่าสนใจ(4) - ความสัมพันธ์ภายในชุมชน
ชุมชนกุฎีจีนจัดการะบบชุมชนท่ีดี มุ่งเน้นให้สมาชิกชุมชนเป็นน้ําหน่ึงใจเดียวและมีความรู้สึก
ร่วมในสังคมเดียวกัน ด้วยประวัติศาสตร์ท่ียาวนานและความสนิทชิดเช้ือของคนในชุมชน ทําให้ชุมชน
มีระบบการแบ่งงานภายในชุมชนท่ีแสดงถึงความสัมพันธ์ท่ีแน่นแฟน้ โดยมีการจัดสรรท้ังอาชีพท่ีเป็น
เอกลักษณ์ของชุมชน เช่น ช่างไฟช่างทําขนม ร้านอาหารท่ีสร้างอัตลักษณ์ให้กับชุมชน รวมท้ังการ
แบ่งเป็นหน่วยงานท่ีดูแลความเป็นไปในสังคมอย่างประธานชุมชน กลุ่มท่ีดูแลด้านสาธารณะสุข กลุ่ม
ศาสนา กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มเก่ยี วกับการทอ่ งเท่ยี วในชุมชน เปน็ ตน้
และไม่ว่าจะมีพิธีกรรมหรือวันสําคัญของศาสนาความเช่ือใด คนในชุมชนก็จะร่วมด้วยช่วยกัน
เสมอ และความสัมพันธ์ท่ีดีน้ีเองท่ีทําให้ชุมชนกุฎีจีนสามารถร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมท่ีดีและสร้าง
อาชพี ให้กับสมาชิกในชมุ ได้
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 55
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผู้บนั ทกึ : น.ส.อวัสดา แกว้ ขุขนั ธ์ 6205610576
ฃ
(ภาพบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑบ์ ้านกฎุ ีจีน)
จากการร่วมศึกษาชุมชนกุฎีจีนในช้ันเรียนออนไลน์ทําให้ดิฉันได้รู้จักชุมชนกุฎีจีนในแง่มุมต่าง ๆ
และทราบว่าชุมชนกุฎีจีนน้ันมีมาต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและมีกลุ่มคนจากหลากหลายเช้ือชาติไม่ว่า
จะเป็นชาวจีนฮกเก้ียน ชาวโปรตุเกสรวมถึงชาวอิสลามท่ีเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนน้ีจนทําให้เกิด
ความหลากหลายท้ังในด้านศาสนาวัฒนธรรมความเป็นอยู่ถึงแม้จะมีความต่างแตกต่างกันในด้านต่าง
ๆท่ีกล่าวมาแต่ชาวบ้านในบริเวณน้ันก็ยังสามารถอยู่ร่วมกันในความแตกต่างได้อย่างสงบ สุขจาก
ความร่วมมือกันท้ังสามศาสนาซ่ึงได้แก่ พุ ทธ คริสต์ อิสลาม จึงทําให้เกิดวัฒนธรรมและพิธีกรรมต่าง ๆ
ซ่ึงถ่ายทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในปัจจุบันทําให้ชุมชนน้ีมีวัฒนธรมอาหารและความเป็นอยู่ท่ีโดดเด่น
และนําศึกษาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะโบสถ์ ซางตาครูส ซ่ึงแปลว่า ไม้กางเขนศักด์ิสิทธ์ิ ซ่ึงตัวอาคาร
ของโบสถ์น้ันมีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคและเรเนซองซีท่ีสวยงามเป็นอย่างมาก ทําให้หลายคน
ได้มีโอกาสเข้าไปเย่ียมเยียนซุมชนกูฎีจีนน้ีและเกิดการศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมชีวิตความเป็นอยู่
ของคนในชุมชนมากยง่ิ ข้นึ
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 56
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผู้บันทึก: น.ส.ชฎาธาร มะสิโกวา 6205610592
บนั ทึกภาคสนาม “ชมุ ชนกุฎีจีน” ฃ
จากการศึกษาชุมชนกุฎีจีนแบบออนไลน์นักศึกษาได้เห็นวิถีชีวิตและเร่ืองราวประวัติศาสตร์
ผ่านการเล่าเร่ืองท่ีผู้บรรยายเล่าให้ฟงั นักศึกษาจึงอยากเขียนบันทึกภาคสนามโดยอธิบายทุกอย่าง
ตามความรู้ความเข้าใจท่ีนักศึกษาได้อ่านและฟงั มาจากการบรรยาย โดยใช้เคร่ืองมือต่าง ๆ เช่นรูป
ภาพประกอบ มาอธิบายเพ่ือเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาในคร้ังถัดไปเร่ืองราวของชุมชนกุฎีจีนน้ันมีความ
เก่ียวพันกับประวัติศาสตร์ไทยเป็นอย่างมาก จึงต้องย้อนกลับไปทําความเข้าใจกันต้ังแต่สมัยอยุธยา
เม่ือคร้ังท่ีกรุงแตก หลังจากน้ันทําให้สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงกอบกู้เอกราชและสถาปนากรุงธนบุรี
ข้ึน โดยพระองค์ได้รวบรวมเหล่าไพร่พลท่ีกระจัดกระจายหลังจากศึกสงคราม ท้ังชาวไทย ชาวจีน
ชาวโปรตุเกส ซ่ึงมีเช้ือชาติและศาสนาท่ีแตกต่างกันจึงทําให้เร่ิมมีการต้ังถ่ินฐานเป็นคร้ังแรกในสมัย
กรุงธนบุรี และพระองค์พระราชทานท่ีดินเพื่อให้เป็นท่ีอยู่อาศัยทํามาหากินจึงเกิดเป็นชุมชนเก่าแก่ริม
ฝ่ ังแม่น้าเจ้าพระยา หรือรู้จักกันในนามกุฎีจีน ส่วนในช่ือของกุฎีจีนน้ันจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์
คาดการณ์ว่าน่าจะหมายถึงศาลเจ้าขนาดใหญ่ท่ีต้ังอยู่ริมคลองกุฎีจีน เร่ิมเกิดข้ึนจากการท่ีพ่อค้าชาว
จีนมาหยุดตรวจสภาพเรือและสินค้า ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกรุงศรีอยุธยา ได้มาสร้างศาลเจ้าไว้และ
ในศาลเจ้ามีพระภิกษุจีนมาพานักอยู่จึงเป็นท่ีมาของช่ือกุฎีจีน ต่อมา พ่อค้าฝร่ังและมุสลิม เม่ือต้องมา
พักแรมท่ีน่ี ก็นาเงินท่ีได้จากการค้าขายมาสร้างศาสนสถานของตน ในชุมชนแห่งน้ีจึงมีท้ังวัด ศาล
เจ้า โบสถ์คริสต์ และมัสยิดอยู่ในท่ีเดียวกัน และเม่ือก่อนสมัยพระไชยราชา บริเวณท่ีต้ังศาลเจ้าน้ีเดิม
เป็นส่วนแหลมท่ีแม่น้าเจ้าพระยาไหลเล้ียวไปทางคลองบางกอกใหญ่ เม่ือมีศาลเจ้าจีนมาต้ังอยู่ตรง
ปลายแหลมจึงเป็นจุดสังเกตและกลายเป็นนามท่ีชาวบ้านใช้เรียกบริเวณน้ีติดปากว่า “กุฎีจีน” (คัมภีร์
ผาติเสนะ, 2552 : 3) ซ่ึงจากระยะเวลาทางประวัติศาสตร์นักศึกษาขอสรุปเป็นทามไลน์เพ่ือให้ผู้อ่าน
เกิดความกระจ่างมากยง่ิ ข้นึ
2310 พระเจา้ ตากสนิ มหาราชกอบก้เู อกราช
2312 พระเจ้าตากสนิ มหาราชพระราชทานทดี่ ิน 2313 พระเจา้ ตากสนิ มหาราชเสร็จเย่ยี มวัดซาตาครสู้
2314 พระเจ้าตากสนิ มหาราชพระราชทานทด่ี นิ หลงั แรกและพระราชทานฝาผนงั
2378 สร้างวดั ซางตาครสู้ หลังท่ี 2
2520 ชาวกุฎีจนี บางสว่ นย้ายไปอยพู่ ้ืนท่ีใหมร่ อบ ๆ กรงุ เทพ
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 57
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภาพถ่ายวัดซางตาครู้สท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานท่ีดินให้แก่ชาวโปรตุเกส
ซ่ึงร่วมทาการศึกกอบกู้เอกราช นักบวชชาวโปรตุเกสจึงได้เร่ิมก่อสร้างอาคารวัดหลังแรกท่ีสร้างด้วย
ไม้ท้ังหมดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2313 ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้คร้ังใหญ่ในชุมชนในปี พ.ศ. 2376 ทําให้
อาคารวัดพังเสียหายท้ังหมด จึงต้องก่อสร้างใหม่ด้วยอิฐถือปูน และได้ก่อสร้างใหม่อีกคร้ังในปี พ.ศ.
2459 ซง่ึ คืออาคารวัดหลังทเ่ี ห็นในปัจจุบนั
เรือนจําลองคาร์แรก็ ของโปรตุเกสที่เดินทางเข้ามาในอยธุ ยา
จากความหลากหลายทางชนชาติที่อาศั ยอยู่ในพ้ื นท่ีเดียวกันก่อให้เกิดความหลากหลายทางศาสนา
ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกของชาวโปรตุเกส ศาสนาอิสลามนิกายสุนีของชาวมุสลิม ศาสนา
พุ ทธมหายานของชุมชน ชาวจีนแต้จิ๋วและฮกเกี้ยน ศาสนาพุ ทธนิกายหินยาน หรือเถรวาทของชุมชนชาวไทย
ก็นําไปสู่สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมและภูมิปัญญาทางด้านวิถีชีวิตกว่า 200 ปี จนสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 58
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ซ่ึงขอยกตัวอย่างวัฒนธรรมทางด้านภูมิปัญญาที่ยังคงดํารงอยู่ ได้แก่การทาขนมฝรั่งท่ีเป็นท่ีเล่ืองลือของ
ชาวโปรตุเกสตั้งแต่ในสมัยอยุธยา โดยท่านท้าวทองกีบม้าได้ประดิษฐ์ขนมไทยท่ีได้รับอิทธิพลจากอาหาร
โปรตุเกส มีทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, ทองม้วน และหม้อแกง ซึ่งในชุมชนกุฎีจีนชาวโปรตุเกสก็ได้ทํา
ขนมหลากหลายชนิดจนสืบทอดมาในยุคปัจจุบัน ขนมที่เล่ืองช่ือของชุมชนก็คือ“ขนมฝรั่งกุฎีจีน” ซ่ึงถือได้ว่า
เป็นขนมโบราณท่ียังคงยึดสูตรตามตํารับดั้งเดิมของชาวโปรตุเกส เป็นลูกผสมระหว่างจีนกับฝร่ัง มีลักษณะ
คล้ายขนมไข่ ตัวขนมเป็นต้นตํารับของโปรตุเกส ขณะท่ีหน้าของขนมเป็นแบบจีน ท่ีประกอบไปด้วยฟกั เชื่อม
ซ่ึงคนจีนเช่ือกันว่าถ้าทานแล้วจะทาให้อยู่เย็นเป็นสุข ทาให้ชาวบ้านชุมชนกุฎีจีนมีรายได้จากการทาขนมให้
นักทอ่ งเท่ยี วทเ่ี ข้ามาเยีย่ มชมได้ซอ้ื และนาํ กลับไปเป็นของฝาก
หน่ึงในร้านท่ีขายขนมฝร่ังของชาวบ้านในชุมชนกุฎีจีน ซ่ึงประกอบด้วยขนมหลากหลายชนิด
เช่น ขนมฝร่ังกุฎีจีน ขนมหน้านวล ขนมกะหร่ีป๊ ัปไก่ ขนมกุสลัง ขนมกรอบเค็ม ขนมก๋วยตัส
ซ่ึงเป็นขนมอบด้ังเดิมสายพันธ์ุโปรตุเกสจากถ่ินวัฒนธรรมจีน - โปรตุกีส เช่น สิงคโปร์ มะละกา
ปนี งั และภเู ก็ต
นอกจากภูมิปัญญาทางด้านขนมแล้วยังมีภูมิปัญญาทางด้านอาหารของชาวโปรตุเกส
ยกตัวอย่างเช่น สัพพแหยกซ่ึงได้สูตรมาจากชาวอินเดีย-โปรตุเกสเพราะประกอบด้วยเน้ือ หมู หรือไก่
สับละเอียดผัดกับเคร่ืองแกงกะหร่ีสดและพริกแดงบดผัดพร้อมมันฝร่ังและปรุงรสเปร้ียว เค็ม หวาน
ให้กลมกลอ่ ม เดิมเปน็ กับขา้ วหรือจะทานกับขนมปงั หรอื ขนมปงั ป้ งิ กจ็ ะไดร้ สชาตอิ ร่อยไปอกี แบบ
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 59
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
นอกจากร้านขนมฝร่ังแล้ว ชุมชนกุฎีจีนยังมีการขายอาหารท่ัวไปสําหรับนักท่องเท่ียวให้เลือก
รับประทานได้ตามชอบ โดยการแบ่งหน้าท่ีกันของคนในชุมชนว่าใครจะขายอะไร เพื่อเป็นการสร้าง
รายได้ให้กับคนในชุมชน อีกท้ังยังเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเท่ียวหากอยากรับประทานอาหารอย่าง
อน่ื นอกเหนอื จากขนมของทางชมุ ชน
จากเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์นําไปสู่การเป็นชุมชนแหล่งท่องเท่ียว นอกจากการขายขนม
และอาหารแล้ว ชุมชนกุฎีจีนยังมีพิ พิ ธภัณฑ์ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์แก่นักท่องเท่ียว คือ
" พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ บ้ า น กุ ฎี จี น " พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ท่ี เ ก็ บ ร ว บ ร ว ม ค ว า ม เ ป็ น ม า อั น เ ก่ า แ ก่ ข อ ง ชุ ม ช น
ชาวสยาม - โปรตุเกส ต้ังแต่สมัยอยุธยาถึงปัจจุบัน โดยสร้างจากทุนส่วนตัวของชุมชนไม่ได้รับ
การสนบั สนุนจากภาครัฐ
ภาพถ่ายยืนยนั การจดั ตั้งพิพิธภัณฑ์กุฎีจนี ไมไ่ ด้รับเงินสนบั สนนุ จากหน่วยงานหรอื องคก์ รใด ๆ
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 60
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
นักศึกษาจึงขอยกตัวอย่างความเช่ือท่ีได้ความรู้มาจากพิพิธภัณฑ์ คือ “ผีหัวพริก หรือผีหนูเลี๊ยบ”
ผีน้อยน่ารักประจําหมู่บ้านกุฎีจีนเป็นกุศโลบายอันเฉียบแหลมและล้าลึกของผู้ใหญ่ประจําหมู่บ้าน ในอันที่จะ
กํากับเวลาลูก ๆ หลาน ๆ ท่ีวิ่งไปเล่นตามท่ีต่าง ๆ ของหมู่บ้านต้องรีบกลับบ้านทันทีท่ีได้ยินเสียงระฆังวัดตี
บอกเวลาหกโมงเย็น มิฉะนั้นจะถูกผีหัวพริก หรือผีหนูเลี๊ยบข้ีเหงาจับตัวไปซ่อนไว้ ให้อยู่เป็นเพื่อนเล่นจนกว่าจะ
พอใจถึงจะปล่อยตัวกลับบ้าน นอกจากพิพิธภัณฑ์จะให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีความรู้อื่น ๆ แทรก
อยู่ด้วยเช่นประวัติครอบครัวของชาวกุฎีจีน ภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เป็นแหล่งที่ให้ความรู้อย่างดีแก่
นกั ท่องเทย่ี วในการทาความเขา้ ความเป็นมาของชมุ ชนและวัฒนธรรมภูมิปญั ญาทถ่ี กู สืบทอดมาจนถึงปจั จบุ ัน
จากการเล่าเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมภูมิปัญญาที่ตกทอดมาแล้ว ในประเด็นสุดท้าย
จะเล่าถึงลักษณะของชุมชนบ้าง ว่ามีลักษณะทางกายภาพเป็นไปอย่างไรเพ่ือให้ผู้อ่านได้ทราบหากจะเดินทางไป
เยี่ยมชม ลักษณะของชุมชนน้ันวัดซางตาครู้สเป็นศูนย์กลางเหมือนในอดีต และมีทางเดินหลักทุกเส้นเชื่อมจาก
ชมุ ชนเขา้ หาวดั ดงั ภาพแผนทท่ี ่องเท่ียวด้านลา่ ง
ซึ่งวัดชางตาครู้สเป็นที่ทํากิจกรรมหลักโดยตรง ชุมชนมีลักษณะปิด เน่ืองจากทางเท้าท่ีเดินเข้าออก
ชุมชนกับ ภายนอกนั้นต้องผ่าน ศาสนสถาน อาคารหันหน้าเข้าสู่โบสถ์ ยกเว้นท่ีติดแม่น้ํา จะหันหน้าไปทาง
แม่น้ําสภาพการต้ังบ้านเรือนค่อนข้างกระจุกตัวหนาแน่น ลักษณะอาคารส่วนใหญ่ในชุมชนเป็นอาคารไม้
มีบางส่วนเปล่ยี นเป็นแบบตึก และแบบครงึ่ ตกึ ครึ่งไม้
ภาพประกอบท่ีแสดงถงึ ทางเดนิ ในชมุ ชนทมี่ ีลักษณะแคบมาก รถใหญ่ไมส่ ามารถผา่ นได้ ทาํ ให้นกั ทอ่ งเที่ยว
ต้องเดินเท้าเขา้ ไปในชมุ ชน
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 61
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ในชุมซนกุฎีจีนมีพื้นท่ีโล่งเพียงบริเวณสนามเด็กเล่น และลานสาธารณะรอบ ๆ วัด ซึ่งเป็นบริเวณท่ี
คนในชมุ ชนมาทํากจิ กรรมต่าง ๆ
ภาพถ่ายสนามเด็กเล่นซึ่งเปน็ พ้ืนท่ที ํากจิ กรรม
จะเห็นได้ชาวบ้านกุฎีจีนพยายามปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อคงประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
กว่า 200ปี ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา รวมถึงวิถีชีวิตท่ีเรียบง่ายของชุมชน ยิ่งสะท้อนให้เห็นความรักความหวง
แหนท่ีมีต่อบรรพบุรุษของตน หากนักศึกษาได้มีโอกาสไปเย่ียมชม คงจะไม่พลาดเพราะอยากไปสัมผัส
บรรยากาศทีน่ ่าหลงใหลอยา่ ลมื ไม่ลงดว้ ยตนเอง
อา้ งองิ
ไทยรัฐออนไลน์. (2560). ย้อนอดตี ..โปรตุเกสในสยาม ผ่านวถิ ชี ุมชน 'กุฎจี ีน'. สืบคนั 11 ตุลาคม
2564, จาก https://www.thairath.co.th/ifestyle/traveV/1056740
สารสนเทศทอ้ งถ่นิ ธนบรุ ี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
เจ้าพระยา.(2562). ข้อมูลประวตั ิหมูบ่ ้าน ชุมชน วถิ ีชมุ ชน. สืบค้น 11 ตลุ าคม 2564, จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page id=486
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 62
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ นั ทึก: นายภวฒั น์ ศังขมณี 6205610766 ฃ
ด้านภูมิศาสตร์ ชุมชนกุฎีจีนต้ังอยู่ริมแม่น้ําเจ้าพระยาฝ่ ังธนบุรี ลักษณะชุมชนเป็นแบบรวมศูนย์กลาง
แล้วกระจายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยมีจุดศูนย์กลางของชุมชน คือ โบสถ์ซางตาครู้ส ซ่ึงมีลักษณะผังเมือง
คล้ายยุโรป โดยเส้นทางเดินหลักทุกเส้นในชุมชนสามารถเดินเช่ือมไปถึงโบสถ์ได้ ลักษณะการก่อต้ังบ้านเรือน
ค่อนข้างกระจุกตัวหนาแน่น ถนนท่ีใช้ในชุมชนค่อนข้างแคบ เน่ืองมาจากขอบเขตท่ีจํากัดของสถานที่และ
จํานวนประชากรที่มีจํานวนมาก ลักษณะอาคารบ้านเรือนเป็นบ้านไม้ท่ียกใต้ถุนสูงเน่ืองจากอยู่ติดแม่นํ้า
เจ้าพระยาจึงต้องมีการยกใต้ถุนสูงเพ่ือป้องกันนํ้าท่วมในช่วงฤดูฝน แต่ปัจจุบันลักษณะบ้านเร่ิมมีการ
เปลี่ยนแปลงไป บ้านไม้มีจํานวนลดลงและเร่ิมไม่มีการยกสูงแล้ว เน่ืองจาก ทางกรุงเทพมหานครได้มีการ
ก่อสร้างเข่ือนกั้นน้ําไว้ทําให้น้ําไม่ท่วมชุมชนแล้ว ซ่ึงจากการเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนแสดงให้เห็นว่าการพัฒนา
จากองค์กรหรือหน่วยงานภายนอกมีส่วนทําให้ชุมชนมีการเปล่ียนแปลงไป แต่ในการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นก็
ไม่ได้เป็นการเปล่ียนแปลงอย่างสิ้นเชิง ชุมชนยังมีการอนุรักษ์หรือรักษาส่ิงเดิม ๆ ไว้ เช่น บ้านไม้ท่ีถึงแม้จะไม่
มนี ํ้าท่วมในชมุ ชนแล้วแตบ่ า้ นในชมุ ชนก็ยงั สรา้ งด้วยไม้เปน็ ส่วนใหญ่
ภาพที่ 1 แผนทีช่ ุมกฎุ ีจีน
ท่ีมา : รูปภาพจากอาจารยป์ ่ ินหทยั หนนู วล
ภาพที่ 2 ลักษณะบ้านเรอื นที่ทําจากไม้ ภาพท่ี 3 แสดงเส้นทางในชมุ ชน
ทม่ี า : รายงานการศึกษาชมุ ชนของนกั ศึกษาสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ ทม่ี า : รูปภาพจากอาจารย์ป่ นิ หทัย หนนู วล
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 63
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ด้านประวัติศาสตร์ของชุมชน จากท่ีนักศึกษาได้ฟังพ่ีด้วง พี่ตอง และศึกษาจากรายงาน
การศึกษาชุมชนของรุ่นพี่ โดยชุมชุนกุฎีจีนได้มีการก่อต้ังมาต้ังแต่สมัยอยุธยา แต่เดิมเป็นป้อมตรวจ
เรือท่ีใครจะมาทําการค้าก็ต้องมาตรวจเรือท่ีป้อมก่อน ซ่ึงสมัยน้ันอยุธยาก็ทําการค้ากับชาวจีนและชาว
โปรตุเกส ทําให้มีการแวะเวียนมาท่ีป้อมอยู่ตลอด จนเม่ือเหตุการณก์ อบกูเ้ อกราชซ่ึงชาวโปรตุเกส
ได้มีส่วนช่วยเหลือเป็นอย่างมาก จนสามารถต้ังกรุงธนบุรีเป็นราชธานีได้ ทําให้พระเจ้าตากสิน
ตัดสินใจพระราชทานท่ีดินบริเวณป้อมให้ชาวโปรตุเกสให้สามารถต้ังถ่ินฐานอยู่ได้ถาวร และได้สร้าง
วัดช่ือว่า วัดซางตาครู้ส ท่ีแปลว่ากางเขนศักด์ิสิทธ์ิให้มาเป็นศูนย์กลางติดกับหมู่บ้านแม่ลูกประคํา ซ่ึง
โบสถ์นก้ี ไ็ ดม้ กี ารปรบั ปรุงมาเรอ่ื ย ๆ ปจั จบุ นั โบสถท์ ่เี หน็ กันอยเู่ ป็นโบสถ์หลังท่ี 3 แล้ว
ภาพที่ 4 ภาพแสดงประวตั ิศาสตรค์ วามเปน็ มาของชมุ ชนกุฎจี นี ท่จี ัดไว้ในพิพิธภัณฑบ์ า้ นกุฎจี นี
ท่มี า : รปู ภาพจากอาจารยป์ ่ นิ หทยั หนนู วล
ด้านเช้ือชาติศาสนา ชาวบ้านในชุมชนกุฎีจีนมีความหลากทางเช้ือชาติและศาสนามาก ท้ังชาว
ไทย จีนฝร่ัง ญวน มอญ และมีถึง 3 ศาสนา คือ ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก อิสลาม และพุ ทธ
ถึงแม้ในอดีตจะมีกฎหมายกําหนดไว้ว่าท่ีดินในชุมชนกุฎีจีนมีเพียงชาวคริสต์นิกายคาทอลิกเท่าน้ันท่ี
สามารถมีกรรมสิทธ์ิในท่ีดินได้ ทําให้ในอดีตชุมชนกุฎีจีนจะไม่เปิดรับหรือยอมให้แต่งงานกับคนใน
ศาสนาอ่ืนเลย ถือว่าเคร่งในเร่ืองน้ีเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันสังคมเปล่ียนแปลงไปแล้ว ป้าตอง
เจ้าของพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนได้เล่าว่าปัจจุบันการแต่งงานกับคนนอกชุมชนหรือการแต่งงานจากคน
ข้ามศาสนาสามารถทําได้ตามปกติ ไม่มีเคร่งครัดเหมือนเม่ือก่อนแล้ว พี่ป่ ินประธานชุมชนกุฎีจีนเองก็
ไม่ได้เป็นคนในชุมชนด้ังเดิม พ่ีป่ ินเคยอยู่นครราชสีมา อีกท้ังยังนับถือศาสนาพุ ทธมาก่อน แต่พอมา
แต่งงานกับสามีท่ีเป็นชาวกุฎีจีนและนับถือศาสนาคริสต์ พ่ีป่ ินเองก็เปล่ียนมานับถือคริสต์แต่ไม่ได้เกิด
จากการบังคับ แต่พี่ป่ ินรู้สึกว่าคําสอนของศาสนาคริสต์มันตรงใจกว่า ซ่ึงเห็นได้ชัดว่าชุมชนกุฎีจีน
เองก็มีความหลากหลายอย่างมาก หากเทียบกับชุมชนอ่ืน ๆ แต่ท่ีนักศึกษารู้สึกแปลกใจมากคือ พ่ีป่ ิน
และป้าตองบอกว่าชุมชนน้ีไม่เคยมีการทะเลาะกันในเร่ืองของศาสนาและความต่างของเช้ือชาติเลย
ท้ัง ๆ ท่ีนักศึกษามองว่าเร่ืองศาสนาและความเช่ือส่วนบุคคลเป็นเร่ืองละเอียดอ่อนมาก การทะเลาะกัน
บ้างคงเป็นเร่ืองท่ีพอจะเข้าใจได้ แต่ในชุมชนน้ีไม่เกิดข้ึนเลย แสดงว่าคนในชุมชนน้ีมีการให้เกียรติและ
เคารพถึงความแตกต่างกัน โดยเฉพาะเร่ืองท่ีป้าตองเล่าว่าในสมัยก่อนท่ีชุมชนยังมีความเคร่งอยู่บ้าง
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 64
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
แต่เด็กท่ีนับถือคนละศาสนากัน ต่างเช้ือชาติกัน ก็มาเล่นกันได้ ผู้ปกครองท่ีเคร่งเขาก็ไม่มีการห้าม
ซ่ึงนักศึกษามองว่ามันคือการขัดเกลาและเป็นส่วนหน่ึงท่ีทําให้ชุมชนน้ีกลายเป็นชุมชนท่ีให้อิสระในการ
นับถือศาสนาและความเช่ือท่ีต่างกันได้ และพ่ีป่ ินเองก็ได้พูดเสริมถึงเร่ืองศาสนาอีกว่า คนท่ีน่ีเขามอง
ว่าศาสนาเป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจร่วมกัน สถานท่ีสาธารณะพวกลานชุมชนก็ไม่ได้มีกฎว่าให้เพียงศาสนา
ใดศาสนาหน่ึงเท่าน้ัน แต่ทุกคนสามารถใช้ร่วมกันได้ อีกท้ังหากมีงานของต่างศาสนาทุกคนก็พร้อมท่ี
จะช่วยเหลือกันโดยไม่เก่ียงศาสนา ซ่ึงความร่วมมือเหล่าน้ียังเป็นส่วนท่ีช่วยยึดโยงให้เกิดความ
สามคั คใี นชมุ ชนอีกดว้ ย
ภาพท่ี 5 รปู ป้ นั พระแม่มารี รูปเคารพของคนท่ีนบั ถือศาสนาครสิ ต์ นกิ ายโรมนั คาทอลิก
ทม่ี า : รปู ภาพจากอาจารย์ป่ นิ หทัย หนนู วล
ด้านสถาปัตยากรรม สถาปัตยากรรมท่ีโดดเด่นของชุมชนกุฎีจีนก็คือ โบสถ์ซางตาครู้ส
ซ่ึงเป็นโบสถ์ท่ีสร้างแบบนีโอคลาสสิคและเรเนอซองซ์ ลักษณะท่ีโดดเด่น คือ เป็นหอระฆังทรงแปด
เหล่ียมประดับด้วยไม้กางเขนบนยอด ตัวอาคารก่ออิฐประดับลายปูนป้ ัน ส่วนล่างห้องโถง
ประกอบด้วยซุ้มท่ีโค้งสอดรับกัน ตกแต่งด้วยกระจกสีท่ีถ่ายทอดเร่ืองราวจากพระคัมภีร์ แม้บางส่วน
จะแตกต่างจากตอนเร่ิมก่อสร้างเพราะถูกระเบิดจากสงครามโลกคร้ังท่ีสอง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังรักษา
ความสวยแบบด้ังเดิมไว้ได้อยู่ ส่วนต่าง ๆ ของโบสถ์ก็มีหน้าท่ีท่ีต่างกัน เช่น หอระฆัง ใช้บอกเวลาและ
บอกเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้กับชาวบ้าน การียอง ซ่ึงเป็นกระด่ิง 16 ใบ ท่ีใช้เล่นในงานสําคัญต่าง ๆ
โดยป้าตองได้บอกว่าปัจจุบันคนเล่นการียองเป็นน้อยลงมาก เด็ก ๆ ในชุมชนเองก็ไม่สามารถเล่นกัน
ได้แล้ว ด้วยความยากและความเก่าของมันป้าตองยังเชิญชวนให้คนท่ีสนใจไปฝึกกับคนเก่าแก่ท่ี
หมู่บ้านด้วย โบสถ์ซางตาครู้ส นอกจากจะมีความสวยท่ีสามารถดึงดูดให้นักท่องเท่ียวเข้ามาเท่ียวชม
ในหมู่บ้านแล้ว ยังเป็นสถานท่ีท่ีใช้ประกอบพิธีหรือรวมตัวในวันสําคัญของชุมชน เช่น วันคริสมาสต์
วันฉลองเปิดโบสถ์ซางตาครู้ส ซ่ึงเป็นวันสําคัญเฉพาะของชุมชนกุฎีจีน วันอีสเตอร์ วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ
ท่ีจะมีการท่องบทสวดถ่ายทอดความรู้ เร่ืองเล่า ประสบการณ์ต่าง ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ในชุมชน อีกท้ัง
มีพิธีกรรมทจ่ี ะเอาพระเยซูลงมาจากไมก้ างเขน
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 65
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภาพท่ี 6 โบสถซ์ างตาครูส้
ทม่ี า : รายงานการศึกษาชุมชนของนักศึกษาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
ภาพท่ี 7 การียอง ภาพที่ 8 ภายในโบสถ์ซางตาครู้ส
ทม่ี า : https://voicetv.co.th/read/AZBz9zvMn ท่ีมา : https://themomentum.co/santa-cruz-chaopraya-series/
ด้านอาหาร อาหารในชุมชนกุฎีนส่วนใหญ่ไม่ใช่อาหารไทยแท้ แต่จะเป็นอาหารท่ีมีหลาชาติ
ไม่ว่าจะเป็น ขนมฝร่ังกุฎีจีน ท่ีมีสูตรต้นตํารับมากจากชาวโปรตุเกส แต่ก็ได้มีการผสมผสานระหว่าง
จีนกับฝร่ัง คือ มีลักษณะคล้ายขนมไข่ของโปรตุเกส และหน้าของขนมเป็นแบบจีนท่ีทําจากฟกั เช่ือม
ซ่ึงคนจีนเช่ือว่าทานแล้วจะทําให้อยู่เย็นเป็นสุข และเม่ือนักศึกษาลองไปดูวิธีการทําจากรายการ
เทยเท่ียวไทย ท่ีเคยไปถ่ายทําในร้านทําขนมฝร่ังกุฎีจีนภายในชุมชน จะเห็นว่าขนมจะทําจากแป้งและไข่
มาตีให้เข้ากัน ลักษณะของแป้งจะข้นแล้วเอาแป้งสาลีมาผสมท่ีหลัง แล้วนําไปอบกับเต่าอบอิฐก่อ
แต่ในปัจจุบันได้มีการเปล่ียนเป็นเตาอบเหล็กแล้ว ซ่ึงนักศึกษาเห็นวิธีการทําแล้วมองว่าไม่ได้เป็น
วิธีการทําท่ียากลําบาก แต่ส่ิงท่ีทําให้ขนมช้ินน้ีกลายเป็น signature ของชุมชนกุฎีจีนน่าจะเป็นแป้ง
ท่ีข้น กับส่วนผสมไม่ว่าจะเป็นลูกเกด ฟกั เช่ือม ไข่ไก่ท่ีผสมกันแล้วน่าจะเข้ากันได้ดี จนนักศึกษาท่ีเห็น
วิธีการทํายังอยากไปลองล้ิมรสสักคร้ัง และขนมอีกชนิดหน่ึงท่ีมีช่ือเสียงของท่ีชุมชนน้ีก็คือ
ขนมก๋วยต๊ัส ซ่ึงเป็นขนมท่ีเป็นขนมด้ังเดิมของชาวโปรตุเกสเช่นเดียวกับขนมฝร่ังกุฎีจีน
แต่ขนมก๋วยต้ีส จะเป็นขนมท่ีมีลักษณะคล้ายคุ้กก้ี และโรยแยมสับปะรดไว้ด้านบน ซ่ึงดูน่าทานมาก
แต่เป็นท่ีน่าเสียดายท่ีนักศึกษาคงต้องขอผ่านเพราะนักศึกษาแพ้สับปะรด นอกเหนือจากขนมหวาน
แล้วน้ัน ของคาวเองก็มีช่ือเสียงไม่แพ้กันก็คือ อาหารประเภทสตูว์ ของอบ ไม่ว่าจะเป็น สตูว์ล้ินวัว
สตูว์ไก่ สตูว์เน้ือ ท่ีเป็นอาหารท่ีได้รับอิทธิพลมากจากกัมพู ชามาอยู่ท่ีหมู่บ้านในสมัยก่อน แต่ก็นํามา
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 66
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ดัดแปลงให้เข้ากับวัตถุดิบท่ีมีอยู่ ทําให้สตูว์ของท่ีน่ีมีการผสมกันของหลายชนชาติ เช่น จีน มอญ
ญวน ดแู ลว้ นา่ ทานมาก
ภาพท่ี 9 ขนมฝรง่ั กุฎจี นี พรอ้ มทั้งส่วนผสม
ท่ีมา : https://m.facebook.com/tourismdivision/photos/pcb
ภาพท่ี 10 ขนมก๋วยต๊สั ภาพที่ 11 สตูว์ลน้ิ ววั
ทมี่ า : https://www.facebook.com/KrungsriSimple ท่ีมา : รปู ภาพของอาจารยป์ ่ ินหทัย หนนู วล
ด้านโครงสร้างชุมชน ชุมชนกุฎีจีนมีความสัมพันธ์ทางสังคมท่ีหลายมิติ โดยมีแกนกลางของ
โครงสร้างความสัมพันธ์ คือ พ่ีป่ ิน ป่ ินทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนซ่ึงได้รับการเลือกต้ังและความ
ไว้วางใจจางชาวบ้านในชุมชน โดยพ่ีป่ ินมีหน้าท่ีประสานงานต่าง ๆ ท้ังภายในชุมชนและหน่วยงาน
ภายนอกชุมชน ความสัมพันธ์ท่ีพบเจอในชุมชนก็จะมีท้ังความสัมพันธ์แบบเครือญาติ เพราะชุมชนกุฎี
จีนเดิมมีตระกูลเก่าแก่เพียง 17 สกุล มีความสัมพั นธ์ใกล้ชิดกันตลอด แต่พอสังคมเร่ิมมีการ
เปล่ียนแปลงไป ความหลากหลายในชุมชนเร่ิมมีมากข้ึนทําให้เกิดระบบความสัมพันธ์แบบอ่ืนข้ึนมา ไม่
ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มทําอาชีพขนม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่มความสัมพันธ์ท่ี
เป็นทางการ เช่น กลุ่ม อปพร. กลุ่ม ป.ป.ส. กลุ่ม อสส. ซ่ึงกลุ่มส่วนใหญ่ทําหน้าท่ีดูแลสมาชิกใน
ชุมชนโดยมีพ่ีป่ ินเป็นผู้ประสานงานหลัก และกลุ่มความสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรมเป็นกลุ่ม
ความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ ส่วนใหญ่เน้นการกระชับความสัมพันธ์สร้างความเป็นปึกแผ่นใน
ชุมชน จะมีการจัดกิจกรรมเล็ก ๆ เช่น ไปโบสถ์ ไปสโมสร เพ่ือพู ดคุยกัน เป็นต้น โดยกลุ่มน้ีจะ
ประกอบไปด้วยกลุม่ พระเมตตา กลุม่ เด็กและเยาวชน เปน็ ต้น
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 67
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ภาพท่ี 12 แผนภาพแสดงโครงสรา้ งของชุมชนกฎุ ีจนี
ทีม่ า : รายงานการศึกษาชุมชนของนกั ศึกษาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
การปรับตัวของชุมซน ในยุคท่ีสังคมมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอด พี่ป่ ินประธานของชุมชนก็ได้
บอกว่าชุมชนกุฎีจีนก็ได้มีการปรับตัวให้ทันกับสังคมภายนอก โดยชุมชนจะไม่ยึดติดกับสิ่งเก่าๆท่ีมาก
เกินไป แต่จะทําให้ส่ิงเก่าๆของชุมชนมันกลายเป็น signature ท่ีสามารถดึงดูตให้คนจากภายนอกเข้า
มาเท่ียวชมและสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยปัจจุบันชุมชนได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ให้คนภายนอกและ
คนในชุมชนมาเรียนรู้เร่ืองราวต่างๆเก่ียวกับชุมชน มีการสร้าง Facebook เพื่อให้ชุมชนกุฎีจีนเป็น
สถานท่ีท่ีเข้าถึงได้ง่าย ซ่ึงหากเทียบกับสมัยก่อนท่ีพี่ป่ ันบอกว่าในสมัยก่อนคนในชุมชนเขาไม่ค่อย
เปิดรับให้คนภายนอกเข้ามา ไม่อยากทําให้มันเป็นสถานท่ีท่องเท่ียว กลัวคนจะเยอะ สร้างความอึดอัด
ให้คนด้ังเดิม แต่ด้วยความพยายามและการสนับสนุนของหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทาง
กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรีรวมถึงพ่ีป่ ัน จึงสามารถทําให้คนในชุมขนยอมรับมากข้ึน
จนปัจจุบันชุมชนกุฎีจีนถือเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมท่ีมีช่ือเสียงแถบแม่น้ําเจ้าพระยา
ฝ่ ังธนบุรี และในอนาคตชุมชนกุฎีนเองก็มีความคาดหวังว่าการท่องเท่ียวทางวัฒนธรรม สามารถ
ต่อยอดใหช้ มุ ชนมรี ายไดเ้ พ่ิมมากขน้ึ อีก
ความรสู้ ึกโดยรวมของผบู้ นั ทึกทม่ี ตี อ่ ชมุ ชนกุฎจี นี
จากการท่ีได้บันทึกภาคสนามในคร้ังน้ี ทําให้นักศึกษาเห็นว่าชุมชนกุฎีจีนสามารถสร้างความ
Balance ระหว่างความแตกต่าง ท้ังความแตกต่างด้านเช้ือซาติ ศาสนา อายุ ซ่ึงทุกคนในชุมชน
สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ชุมชนมีการปรับตัวอยู่ตลอดเพ่ือให้ตามทันกับสังคม
ภายนอกท่ีมีการเปล่ียนแปลง และยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมด้ังเดิมของชุมชนไว้ได้ แต่ก็มีบางส่วนท่ี
กําลังจะถูกลบเลือนไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ว่าจะเป็น นิทานเก่าแก่ของชุมชนอย่างผีหนูเส้ียบ ท่ีเล่า
เพ่ือให้เด็กสมัยก่อนท่ีไปเล่นตามบ้านต่าง ๆ ได้กลับบ้านให้ตรงเวลา เพราะสมัยก่อนยังไม่มีโทศัพท์ใช้
ในการติดต่อ หรือจะเป็นการเล่นการียอง ซ่ึงเป็นการเล่นท่ียากมาก แม้แต่คนในชุมชนก็มีเพียงไม่ก่ี
คนท่ีสามารถเล่นได้ นักศึกษาท่ีได้ฟังเร่ืองราวต่าง ๆ เหล่าน้ีผ่านป้าตองท่ีเล่าด้วยน้ําเสียงเศร้าๆ
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 68
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ทําให้นักศึกษารู้สึกได้เลยว่า บางส่ิงอย่างในชุมชนถึงแม้จะถูกลดความสําคัญลงตามกาลเวลาท่ีมีการ
เปล่ียนแปลงไป แต่สําหรับคุณค่าทางจิตใจส่ิงเหล่าน้ีถือว่ามีค่ามาก เป็นส่ิงท่ีเตือนใจเสมอว่าในอดีต
เคยเกดิ อะไรขน้ึ
ถึงแม้คร้ังน้ีจะทําให้นักศึกษารู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากท่ีต้องลงพ้ืนท่ีภาคสนามแบบออนไลน์
ไม่ได้ลงพ้ืนท่ีไปสัมผัสวิชีวิตจริง ๆ ของคนในชุมชน ได้ไปเท่ียวโบสถ์ซางตาครูส กินขนมฝร่ังกุฎีจีน
แต่หากในอนาคตนักศึกษามีเวลาว่างชุมซนกุฎีจีนจะเป็นอีกหน่ึงเป้าหมายท่ีนักศึกษาจะต้องมาเท่ียวชม
อยา่ งแน่นอน
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 69
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ นั ทึก: น.ส.ลภัส จิตรวอ่ งไว 6205610774
ฃ
รูปภาพ : โบสถ์ซางตาครู้ส หรอื วดั กฎุ จี นี
ชุมชนกุฎีจีน หรือ กะดีจีน ต้ังอยู่ริมแม่น้ําเจ้าพระยาฝ่ ังธนบุรี เป็นชุมชนท่ีมีการผสมผสาน
ของวัฒนธรรมถึงสามวัฒนธรรม ได้แก่ ชาวพุทธ ชาวคริสต์ และชาวอิสลาม แต่ชาวบ้านในชุมชนอยู่
ด้วยกันได้อย่างลงตัว ตัวอย่างของวัฒนธรรมท่ีหลากหายท่ีมีการผสมผสานของชุมชนกุฎีจีน คือ
ชุมชนกุฎีมีโบสถ์ซางตาครุส ท่ีเป็นโบสถ์คาธอลิกเก่าแก่ คําว่า ซางตาครู้ส เป็นภาษาโปรตุเกส
แปลว่า กางเขนศักด์ิสิทธ์ิ มีประวัติถูกสร้างต้ังแต่ปี พ.ศ.2313 แม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกและมีช่ือ
เรียกนําหน้าว่า โบสถ์ แต่สามารถกเรียกได้ว่า วัดกุฎีจีนได้เช่นกันชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนท่ีมีการตั้ง
รกรากของชาวไทยเช้ือสายโปรตุเกส ภายในชุมชนมีขนมท่ีข้ึนช่ือท่ีสืบทอดวิธีการทําจากชาวโปรตุเกส
คือขนมฝร่ังกุฎีจีน ท่ีหาทานได้แค่ชุมชนกุฎีจีนเท่าน้ัน มีการประยุกต์วิธีการทําแบบไทยเข้าไปรวมด้วย
อย่างการท่ีขนมมีการใช้ไข่เป็ดในการทํา ซ่ึงไข่เป็ดมีเน้ือท่ีแน่นมากกว่าในช่วงสมัยอยุธยามีสงคราม
แป้งสาลีท่ีใช้ทําขนมหายาก ไทยจึงมีการประยุกต์ใช้แป้งข้าวจ้าวแทน ลักษณะของขนมฝร่ังกุฎีจีน
เป็นก้อนขนมสีเหลืองทอง อบในถังทรงสูงขนาดใหญ่ ตอนนําขนมไปอบจะปิดฝาถัง ใช้ถ่านท่ีร้อนจน
แดงเผาดา้ นบน ขนมท่ไี ด้จะมีรสชาตนิ มุ่ นวล แบบทเ่ี ตาไฟฟา้ ไม่สามารถทําได้
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 70
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
รูปภาพ ขนมฝร่ังกุฎีจนี รปู อาหาร “สัพแหยก”
นอกจากเร่ืองขนมท่ีข้ึนช่ือของชุมชนท่ีน่ี ยังมีอาหาร ซ่ึงอาหารเป็นอาหารท่ีมีการรับมาจาก
โปรตุเกสเช่นกัน เช่น สัพแหยก ทํามาจากเน้ือสัตว์ท่ีนําไปสับ เป็นผัดอเนกประสงค์ ทานคู่กับกระทะ
ทอง ขนมปงั ป้ งิ หรอื เปน็ อาหารหลกั คู่กบั ข้าวสวยร้อน ๆ
อย่างท่ีกล่าวไปข้างต้นว่า ภายในชุมชนกุฎีจีนมีการผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมจาก
หลายศาสนา หลายเช้ือชาติในชุมชนจึงมีสถาปัตยกรรมท้ังโบสถ์ วัด ศาลเจ้า เม่ือมีการประกอบ
พิธีกรรมทางศาสนาชาวบ้านในชุมชนจะสามารถประกอบพิธีกรรมตามทีตนเองนับถือได้ ภายในชุมชน
ยังมีตรอกซอยมากมาย พร้อมกับลวดลายบนผนัง มีบ้านไม้เก่า สะท้อนความเก่าแก่ของชุมชนน้ีท่ีมี
วิถีชวี ิตอยทู่ น่ี ม่ี าอยา่ งยาวนาน
รปู ภาพ แผนท่ีชุมชนกุฎจี ีน ท่ีมวี ดั โบสถ์ ศาลเจ้า สะท้อนความหลากหลายของวัฒนธรรมในชุมชน
ความเช่ือ คือชุดของความคิดท่ีหลอมรวมคนในพื้นท่ีให้มีความเป็นหน่ึงเดียวกัน สามารถ
ควบคุมความเป็นระเบียบของสังคมม ในชุมชนกุฎีจีนมีความเช่ือเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผีหัวพริกหรือผี
หนาํ เล๊ยี บ
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 71
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
รปู ภาพ กศุ โลบาย เร่อื งผหี ัวพริก หรือ ผหี นูเลยี๊ บ
เป็นกุศโลบายของผู้นําชุมชน ให้เด็กในชุมชนท่ีไปว่ิงเล่นตามท่ีต่าง ๆ กลับบ้านตามเวาท่ีระฆังตีบอก
ตอน 6 โมงเย็น หากไม่ยอมจะถูกหนูเล๊ียบจับตัวไปเล่นด้วยจนกว่าจะพอใจจึงจะปล่อยตัวมา แต่ใน
ปัจจุบันท่ีเทคโนโลยีพัฒนาข้ึนมา กลับกลายเป็นว่าเด็กติดอยู่กับบ้าน ใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีส่วน
ใหญ่ ทําใหค้ วามเชอ่ื ดังกลา่ วอาจมกี ารสั่นคลอนไป สะทอ้ นการเปลย่ี นผา่ นของสังคม
ความคิดเห็นของผ้บู นั ทึก
จากการท่ีได้เข้าฟังวิทยากรมาเล่าถึงชุมชนกุฎีจีน ผ่านช่องทางออนไลน์ Zoom Meeting
พบว่าชุมชนกุฎีจีนมีเอกลักษณ์ของชุมชนท่ีมีความเป็นพหุวัฒนธรรม มีการผสมผสานวิถีชีวิอยู่
ร่วมกันได้อย่างปกติสุขวิทยากรท่ีเข้ามาบรรยายมีความรู้และประสบการณ์เก่ียวกับชุมซนแน่นหนา ทํา
ให้นักศึกษาท่ีเข้าฟงั ออนไลน์รู้ถึงความเป็นชุมชนได้อย่างเห็นภาพ นอกจากน้ีจากการท่ีฟงั วิทยากร
เล่า ชาวบ้านในชุมชนกุฎีจีนใกล้ชิดสนิทสนม อาจเป็นเพราะชุมชนมักมีกิจกรรมท่ีทําร่วมกันอยู่เสมอ
มีความเช่ือ เร่ืองท่ีผูกไว้ด้วยกันวัฒนธรรมหลายๆอย่างในชุมชนยังคงถูกรักษาให้เหมือนวันแรกๆท่ี
เข้ามา อย่างไรก็ตามด้วยความท่ีโลกไม่ได้หยุดน่ิง มีการพัฒนา อาจทําให้ชุดความคิดบางอย่างหล่น
หายไป ซ่ึงก็ข้ึนอยู่กับการปรับตัวในอนาคตว่าจะสามารถรักษาให้คงอยู่อย่างไรท่ีทําให้คนรุ่นหลังมี
ความรู้สึกรว่ มดว้ ยอยู่
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 72
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
บันทกึ ภาคสนามชุมชนกูฎีจีน ผบู้ นั ทึก: น.ส.โนรอ์ สั ลีนา่ เปง็ แสนหนู 6205610790
ฃ
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีหลายคนอาจเคยได้ยินหรือคุ้นหูมาพอสมควร เพราะเป็นชุมชนท่ีมี
เอกลักษณ์มีประวัดิมายาวนานกว่า 200 ปี ต้ังแต่สมัยพระเจ้ากรงธนบุรีและข้ึนช่ือเร่ืองวัฒนธรรมท่ี
หลากหลาย ต้ังอยู่ในพื้นท่ีติดแม่น้ําข้าพร ะยาใจกลางเมืองกรุงเทพ ซ่ึงเป็น 1 ชุมชนท่ีมี 4 เช้ือชาติ
ได้แก่ ไทย โปรตุเกส จีน และอินเดีย และ 3 ศาสนา ได้แก่ พุ ทธ คริสต์และอิสลาม อยู่รวมกันเป็น
อันหน่ึงอันเดียวภายในชุมชนกุฎีจีน จึงเป็นจุดเด่นท่ีทําให้มีการเปิดให้สามารถเข้ามาเย่ียมชม
บรรยากาศและศึกษาวัฒนธรรมภายในชุมชนจนมีนักท่องเท่ียวท้ังชาวไทยและขาวต่างชาติข้ามาเย่ียม
ชมและทํากิจกรรมในชุมชนกุฎีจีนน้ีอย่างไม่ขาคสาย โดยมีท้ังพิพิธภัณฑ์คาเฟ่ โบสถ์ ศาลเจ้า วัด
มัสยิด และสถานท่ีสวยงามท่ีคงไว้ซ่ึงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ภายในชุมชน รวมท้ังผู้คนในชุมชน
ท่ีสนิทสนม รู้จักกันอย่างท่ัวถึง เป็นมิตรและต่างก็ยินดีต้อนรับนักท่องเท่ียวทุกคนท่ีเข้ามาเพื่อหวังว่า
ชมุ ชนกุฎจี ีนจะเปน็ วัฒนธรรมอนั ดีงามในการศึกษาของคนรนุ่ ใหมไ่ ดต้ อ่ ไป
การศึกษาชุมชนในคร้ังน้ีเป็นไปในรูปแบบออนไลน์ โดยเป็นการบรรยายจาก คนในชุมชน
ได้แก่ พี่ด้วงผู้ท่ีมีความสําคัญในเช้ือสายตระกูลท่ีมีประวัติกับชุมชนกุฎีจีนโดยตรง ได้มาบอกเล่าและ
สะท้อนถึงคุณค่าผ่านประวัติศาสตร์และบอกเล่าถึงศาลเจ้ารวมท้ังประวัติศาสตร์ของประติมากรรม
ต่าง ๆ อีกด้วย พ่ีตอง ได้มาบอกเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนต้ังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและ
เร่ืองราวการเร่ิมต้นต้ังแต่ชาวโปรตุเกส เล่าถึงช่ือเดิมของชุมชน กิจกรรมประเพณีและวันสําคัญทาง
ศาสนาท่ีคนในชุมชนให้ความสําคัญร่วมกันมาโดยตลอด รวมท้ังเร่ืองราวท่ีน่าต่ืนเต้น เช่น การ
ออกแบบศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และการวางผังเมืองและการรับมือภัยพิบัติต่าง ๆ ต้ังแต่ในอดีต
เป็นต้น และ พี่ ป่ ิน ประธานชุมชน มาบอกเล่าในการบริหารจัดการและพัฒนาขับเคล่ือนชุมชน
ด้านต่าง ๆ ในระดับย่านกะดีจีน โดยการบรรยายก็จะเป็นการบรรยายข้อมูลท่ีบอกเล่าให้เห็นถึงบริบท
ประวัติท่ีเก่าแก่ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน และเอกลักษณ์ จุดเด่น ท่ีแฝงอยู่ภายในชุมชน
แทบ ทุกมิติและมุมมองโดยมีภาพประกอบการบรรยายจากท่านอาจารย์ป่ ันหทัยท่ีได้แนบมาเพ่ิมเติม
เพ่ือช่วยให้นักศึกษาได้จินตนาการภาพตามได้อย่างใกล้เคียงและชัดเจนท่ีสุด อีกท้ังในช่วงท้ายการ
บรรยายก็มีการเปีดช่วงให้ถามคําถามท่ีน่าสนใจก็จะเป็นข้อมูลเพิ่ มเติมเร่ืองระบบสุ ขภาพภายใน
ชุมชนในระดับบุคคลและครัวเรือนจาก พ่ีป่ ิน ผู้นําชุมชน เล่าว่ามีองค์กรต่าง ๆ คอยคําเนินการ
จัดการให้ความรู้ บริการและประชาสัมพันธ์เร่ืองระบบสุขภาพ คือ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.)
โดยประสานงานทํางานร่วมกันกับองค์กรท่ีเก่ียวข้องอ่ืน ๆ เช่น อาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน (อป
พร.) ในการช่วยเหลือบรรเทาประสบภัยต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชุมชนอย่างในสถานการณ์การเฝ้าระวังน้ํา
ทว่ มในตอนนอ้ี ีกดว้ ย เป็นต้น
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 73
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
จากการลงภาคสนามในรูปแบบออนไลน์ผ่านการบรรยายจากบุคคลสําคัญในชุมชนท้ัง 3 ท่าน
แล้วน้ันนอกจากจะทําให้ได้รับรู้ถึงประ วัติความเป็นมา และความสําคัญของประวัติศาสตร์ขุมชนกุฎี
จีนท่ีมีมาอย่างยาวนานแล้วน้ัน ยังได้รับรู้ถึงกล่ินอายของวัฒนธรรมท่ีคงไว้ซ่ึงเอกลักษณ์ของศิลปะ
งานสถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมต่าง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ บ้านเรือนของคนในชุมชนท่ียังคง
วัฒนธรรมไว้ ถนนเส้นเล็ก ๆ และสถานท่ีทางศาสนาอย่างศาลเจ้า โบสถ์ วัดและมัสยิด นอกจากน้ียัง
มีจุดเด่นท่ีเรียกได้ว่าเป็นจุดขายของชุมชนกุฎีจีนเลยก็ว่า ได้ น่ันคือ อาหารและขนมสูตรด้ังเดิม
พ้ืนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขนมสูตรของชาวโปรตุเกส "ขนมฝร่ังกุฎีจีน" ท่ีเป็นการผสมผสานระหว่างจีนและ
ฝร่ัง อีกท้ังอาหารเด็ดของคนในชุมชนอ่ืน ๆ ท่ีมีการทําออกมาจําหน่ายมุกนักท่องเท่ียวท่ีได้เข้ามา
เยย่ี มชมภายในพื้นทช่ี ุชน ถือเปน็ การสร้างงานสร้างอาชพี และเพิ่มรายไดใ้ หแ้ กช่ มุ ชน
จุดเด่นของกุฎีจีนไม่ได้มีเพียงเท่าน้ี กล่าวได้เลยว่าแม้ไม่ได้ไปเห็นด้วยตาและสัมผัสด้วย
ตนเองท่ีชุมชนกุฎีจีนในคร้ังน้ี แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นอดีตท่ีคงไว้และได้ถูกต่อยอดมาถึงปัจจุบัน
มีการพัฒนาปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยและเทคโนโลยี และตามบริบทสังคมโลก เหนือสิ่งอ่ืนใด
คือ ความรักใคร่กลมเกลียวและความร่วมมือร่วมใจกันของคนภายใน ชุมชนท่ีมีต่อ กันนับแต่อดีต
จนถึงปัจจุบัน แม้เป็นชุมชนท่ีมีหลากหลายเช้ือชาติ ความเช่ือและศาสนา ก็ไม่ได้เป็นข้อจํากัดในการ
อยู่ร่วมกันในชุมชนเดียวกันแต่อย่างใด ทุกคนต่างยอมรับและเข้าใจในความแตกต่างและปรับตัวให้อยู่
ร่วมกันได้โดยส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น และท่ีสําคัญผู้คนในชุมชนต่างรักและมีความภาคภูมิใจในชุมชนกุฎี
จีน สะท้อนจากการให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมและขับเคล่ือนพัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ
เพ่ือเผยแพร่เอกลกั ษณใ์ นวัฒนธรรมจากชมุ ชนอยอู่ ย่างต่อเน่อื งและอย่างเตม็ ใจมาโดยตลอด
จึงถือได้ว่าชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนต้นแบบท่ีควรค่าแก่การศึกษาและเป็นชุมชนท่ีมีคุณภาพจาก
การมีผู้คนในชุมชนท่ีเข้มแข็งท้ังผู้นําและสมาชิกในชุมชนภายใต้ระบบการบริหารจัดการท่ีดีบนฐาน
วฒั นธรรมจากประวัติศาสตร์ท่พี วกเขาคงไวใ้ หแ้ กค่ นรุ่นหลงั ได้ศึกษาและสืบสานตอ่ ไปอยา่ งงดงาม
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 74
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ นั ทึก:นายบรุ นิ ทร์ เรอื นแกว้ 6205680132 ฃ
จากการศึกษาการลงชุมชนกุฎีจีนของผมในช่วงสถานการณ์โควิดซ่ึงอาจารย์ได้มีการเรียน
การสอนแรกเปล่ียนเรียนรู้ผ่านกระบวนการ Z00M โดยอาจารย์จะลงพ้ื นท่ีในการให้ความรู้
ผ่าน Z00M ร่วมกับผู้นําชุมชนหรือปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนกุฎีจีนโดยเร่ิมต้ังแต่เวลา 9 โมงคร่ึง
ถึง เท่ียงคร่ึง ในวันท่ี 6 ตุลาคม 2564 ข้าพเจ้า มีความรู้สึกต่ืนเต้นท่ีจะได้ลงศึกษาชุมชนกุฎีจีนทาง
ออนไลน์รปู แบบใหม่
ทีม่ าของรูปภาพ : https://travel.mthai.com/blog/115264.html
เม่ือถึงเวลา 9 โมงคร่ึงก็มีการบรรยายจากพี่ๆ วิทยากรชุมชน แต่ผมไปสะดุดตากับพ่ีป่ ินท่ี
เป็นประธานหญิงแห่งชุมชนกุฎีจีน 9 ปี ประธานชุมชนท่ีก่งและแกร่งมากความสามารถและเป็น
ประธานหญิงท่ีทุกคนเคารพและมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างดี พี่ป่ ันเล่าว่า "พ่ีป่ ันนับถือ
ศาสนาคริสต์ มีความสนใจท่ีจะศึกษาเก่ียวกับคําสอนศาสนาคริสต์เป็นอย่างมาก "และพ่ีป่ ินเล่าว่า
"การท่ีพ่ี ป่ ันมาเป็นประธานแห่งชุมชนกุฎีจีนน้ีเพราะผู้หญิงมีความสามารถในการประสานงาน
และบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภายนอกชุมชนได้" และพ่ีป่ ินยังอธิบายถึงลักษณะของ
ชุมชนกุฎีจีนในมิติทางด้านกายภาพ สังคมศาสตร์ ประวัติความเป็นมา เอกลักษณ์ จุดเด่น
การบริหารการทํางาน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในช่วงน้ีสถานการณ์โควิดของประชาชนชุมชนกุฎี
จีน โดยอาจารย์เป็นจุดเร่ิมต้นประเด็นคําถามถึงความเป็นมาของกุฎีจีน โดยพี่ป่ ันอธิบายว่าชาวกุฎีจีน
เกิดข้ึนจากการรวมตัวกันจากการอพยพและมีความสัมพันธ์แบบสายใยประสบการณ์ความรู้ต่าง ๆ
มาอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มชน กลุ่มสังคม ประชาชนส่วนใหญ่ในอดีตจะมีเช้ือสายโปรตุเกสท่ีเข้ามาอาศัย
อยู่ทํามาหากินได้นําประเพณีวัฒนธรรมมาเผยแพร่และสื บสานสื บทอดด้วยสายสั มพั นธ์ท่ีดีงาม
จากโครงสรา้ งเชิงเครือญาติ
ท่ีเช่ือมโยงกันนําไปสู่ความสัมพันธ์ในชุมชนท่ีจัดว่าเป็นทุนทางสังคมทําให้เกิดความสนิทสนม
ความเอ้ืออาทรความช่วยเหลือซ่ึงกันและกันไม่ว่าจะเป็นประเพณีวัฒนธรรมทางด้านศาสนา
ท้ัง 3 ศาสนา แต่ส่วนศาสนาท่ีสําคัญของชุมชนก็ คือ ศาสนาคริสต์โดยจะเป็นคริสต์คาทอลิก แต่ พ่ี
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 75
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ป่ ินยังเล่าว่า "ชุมชนไม่ได้จํากัดว่าทุกคนจะต้องเป็นคาทอลิกท่ีจะเข้ามาอยู่ในชุมชนได้แต่คนท่ีนับถือ
ศาสนาอ่ืนก็สามารถจะมาศึกษาวัฒนธรรมหรือมาอยู่อาศัยแต่งงานกับคนในชุมชนน้ีได้" ยังมีศาสนา
อิสลามและศาสนาพุ ทธ ชาวบ้านในชุมชนยังมีความเช่ือและค่านิยมท่ีมีความแตกต่างทางเช้ือชาติท่ี
ประกอบไปด้วยโปรตุเกส สยาม เขมร จีน และญวน ท่ีมีความแตกต่างทางด้านชาติพันธ์วัฒนธรรม
อย่างมาก โดยจะมีสถานที่ในการยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน เช่น โบสถ์ซางตาครู้สโบสถ์หลังที่สอง
โบสถ์หลังท่ีสาม ที่จะเป็นสถานท่ีสําคัญในการทํากิจกรรมของชาวบ้าน นอกจากน้ีพี่ป่ ินยังพู ดถึงพิพิธภัณฑ์
บ้านกุฎีจีนท่ีเป็นสถานที่ในการถ่ายทอดเรื่องราว ความเป็นมาวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวบ้านกุฎีจีนรวบรวม
เอาไว้จากข้อมูลที่พ่ีป่ ันได้อธิบายผมคิดเห็นว่าศาสนาจะเป็นสิ่งท่ียึดเหน่ียวจิตใจของชาวบ้านหลอมรวมความ
เป็นหน่ึงความเอ้ืออาทรซ่ึงกันและกัน ท่ีผมแอบได้ยินพี่ป่ ันจะมีคําเรียกแทนผู้นําทางศาสนาว่า"คุณพ่อ" แสดง
ให้เหน็ วา่ เขาเคารพ รกั ยดึ มัน่ ศรทั ธากับศาสนาเป็นอย่างยง่ิ
ที่มาของรปู ภาพ : https://travel.mthai.com/blog/115264.html
พี่ป่ ินยังบอกว่า ชุมชนกุฎีจีนเรามีประเพณีและวัฒนธรรมท่ีเช่ือมโยงความสัมพันธ์ ของคนใน
ชุมชนจะมีท้ังหมด 4 กิจกรรม คือ วันฉลองวัด วันคริสต์มาส วันข้าวหม้อแกงหม้อ วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ
ตามปฏิทินคาทอลิกโดยแนวทางการปฏิบัติทุกคนการจะช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในการเตรียมข้าวของ
จัดสถานท่ีเพื่อจะจัดกิจกรรมในชุมชน และยังมีกิจกรรมของชุมชน เช่น จดสูตรอาหารโบราณและ
กิจกรรมปลูกฝังรากเหง้าของชุมชนของกลุ่มเด็กและเยาวชน ประเพณีมิสชา (โรมันคาทอลิก) ใน
สถานการณ์โควิด 19 มีพิธีมิสซาอออนไลน์ถ่ายทอดสด ผ่านหอกระจายเสียง และบาทหลวงจะให้ศีล
กับประชาชนในแต่ละบ้าน ประชาชนจะรอรับศีลหน้าบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัว (คลายเครียด ซึมเศร้า)
โรงพยาบาล (ทํากิจกรรมคลายเครียดท้ังกาย ใจ) มีกิจกรรมขับเคล่ือนงานด้านเด็กและเยาวชน เช่น
มาช่วยงานงานวัด มัคคุเทศก์น้อย มัคคุเทศก์สูงวัย ทําให้ผมเห็นว่าชุมชนกุฎีจีนก็มีปฏิทินชุมชนไว้
กําหนดอย่างเป็นแบบแผนในเดือนต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรมของชุมชนและชุมชนกุฎีจีนยังมีกุศโล
บายของชุมชนร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา เสริมสร้าง พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เช่น "หนู
เ รี ย บ " ไ ม่ เ ด็ ก อ อ ก จ า ก บ้ า น ต อ น ก ล า ง คื น เ ม่ื อ ไ ฟ ไ ห ม้ ห รื อ เ กิ ด เ ห ตุ ร้ า ย บ า ท ห ล ว ง
จะแห่พระรูปพระเยชู ไปแต่ละบ้าน เพ่ือสร้างขวัญกําลังใจให้ชาวบ้าน ระฆังกาลียา (สัญญาณบอก
เหตุบอกสถานการณเ์ ร่ืองราวต่าง ๆ เป็นต้น ผมมองว่าชุมชนกุฎีจีนได้มีการบูรณาการผสมผสานกับ
วัฒนธรรมประเพณีเข้ากับกิจกรรมและสร้างสรรค์ออกมาเป็นกุตโลบาย เพื่อเป็นข้อปฏิบัติของ
ชาวบ้านในชุมชนมีท้ังปฏิทินชุมชนท่ีมีการทํากิจกรรมในแต่ละเดือน และมีกุศโลบายท่ีเป็นข้อปฏิบัติชิง
สรา้ งสรรคใ์ ห้กบั ชาวบา้ นในชุมชน
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 76
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ท่มี าของรปู ภาพ : https://atkitchenmag.com/place-thai-portugal-food-ban-sakulthong-house/
เม่ือถึงเวลาใกล้รับประทานอาหารกลางวัน ผมก็เร่ิมหิวข้าว แต่อาจารย์ก็ยกประเด็นให้ทีม
วิทยากรอธิบายเก่ียวกับวัฒนธรรมทางด้านอาหารของชุมชนกุฎีจีน เม่ือผมฟงั แล้วผมย่ิงหิวตามไป
อีกซ่ึง พี่วิทยากรได้เล่าถึงอาหารประจําชุมชน คือ ขนมจีนแกงค่ัวไก่เป็นอาหารท้องถ่ินท่ีต้องมาชิม
แล้ว ก็ตบท้ายด้วยของหวานท้ังเค้กหน้านวล ขนมกุฎีจีน พายสับปะรดและขนมกุสราง ชวนให้ผมหิว
ข้าวย่ิงข้ึนไปอีก ผมก็จินตนาการกับพ่ี วิทยากร ว่าหากผมได้เข้าไปศึกษาในชุมชนกุฎีจีนได้ไป
รับประทานอาหารและขนมประจําท้องถ่ินเม่ือได้รับประทานไปเรียบร้อยแล้วผมน่าจะระลึกความหลังถึง
ประเพณีวัฒนธรรมและความเป็นมากล่ินอายของเอกลักษณ์ของชุมชนกุฎีจีนผ่านอาหารและขนม
ประจําถ่ิน พ่ีป่ ันเลยค่ันรายการโดยการเล่าถึงการบริหารของชุมชนโดยชุมชนจะจัดคณะกรรมการ
ย่าน 6 ย่าน (มีการประชุม แบ่งงาน วางแผน ประสานงาน) ร่วมทีมประธานชุมชน มีการบูรณาการ
การสนับสนุนผ่านภาคีเครือข่ายท้ังรัฐ เอกชน และ ประชาสังคม เช่น วธ.(งบประมาณ) ม.ราชภัฏ
ธนบุรี (สถานท่ี และเทคโนโลยี) กรมการพัฒนาชุมชน (พช.งบประมาณ) ช่อง 3กองทัพเรือ ข้าว
กล่องพระราชทาน รพ.(ให้ความรู้สุขภาพ) อพปร (แรงกายดูแลความสงบเรียบร้อยความปลอดภัย
ชีวิตและทรัพย์สิน) ไทยเบฟ (งบประมาณ) และในมิติสุขภาพจะมีศูนย์บริการสาธารสุข 26 พร้อม
ทมี สหวชิ า เสมอื น รพสต. (ดแู ลสุขภาพ) เปน็ ต้น
และมีนักศึกษาได้ซักถามถึงแนวทางในอนาคตของชุมชนกุฎีจีนจะขับเคล่ือนไปในทิศทางไหน
รวมถึงอยากให้พี่ป่ ินได้เล่าถึงปัญหา อุปสรรคท่ีชาวบ้านในชุมชนกุฎีจีนได้รับผลกระทบในช่วง
สถานการณ์โควิด ซ่ึงพ่ีป่ ินได้บอกว่าสําหรับแนวทางการขับเคล่ือนชุมชนกุฎีจีน มีดังน้ีกระตุ้น
เศรษฐกิจการท่องเท่ียว และปรับปรุงความสะอาดสภาพแวดล้อม เช่น ถนน สายไฟ ทัศนียภาพ เป็น
ต้น และการประยุกต์เทคโนโลยีมาใช้ในชุมชนให้มากท่ีสุด เช่น การไลฟ์ ออนไลน์ จากแนวทางท่ีพ่ีป่ ิน
ได้กล่าวมาน้ันสะท้อนให้ผมเห็นว่า ผู้นําชุมชนได้เล็งเห็นความสําคัญของคุณภาพชีวิตการเป็นอยู่ของ
ประชาชนในชุมชนกุฎีจีน ผ่านการจัดสวัสดิการท่ีประชาชนทุกคนจะได้รับนอกจากน้ีพี่ป่ ินยังเล่าอีกว่า
ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดชาวชุมชนกุฎีจีนตกงาน ขาดรายได้ทุกครอบครัว แต่ก็มีหน่วยงานเข้า
มาช่วยเหลือในการแจกจ่ายข้าวของอาหารให้กับชาวบ้าน รวมไปถึงการดูแลสุขภาพการตรวจโรค
ระบาดโควิดให้กับชาวบ้านในชุมชน และชาวบ้านในชุมชนก็ช่วยเหลือซ่ึงกันและกันและการทํากิจกรรม
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 77
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ต่าง ๆ ในชุมชนก็ปรับเปล่ียนโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากย่ิงข้ึน ผมคิดว่าทําให้เห็นถึง
ความสัมพันธใ์ นชุมชนในการชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั ในยามวกิ ฤตยากลําบาก
ชวนถึงเวลาใกล้จะเลิกใกล้เวลาเท่ียงกว่าๆ อาจารย์ในช้ันเรียนก็สอบถามว่านักศึกษาใครมีข้อ
ซักถามทีมวิทยากรหรือไม่ แต่นักศึกษาก็ตอบว่าไม่มีข้อคําถาม จากน้ันอาจารย์และทีมวิทยากรก็ได้ยุติ
การแลกเปล่ียนเรียนรู้ซ่ึงกันและกันการศึกษาชุมชนกุฎีจีนก็ได้จบลงตรงน้ี แต่ยังสร้างความ
ภาคภูมิใจ ความตราตรีง ความน่าสนใจ น่าค้นหาของผม เม่ือมีโอกาสท่ีจะได้ไปศึกษาชุมชนกุฎีจีนอีก
คร้ัง หลังจากสถานการณ์โควิดได้ลดลงผมจะต้องไปชุมชนศึกษากุฎีจีนให้ได้เพราะการศึกษาเรียนรู้
ชุมชนในคร้ังน้ีผ่านรูปแบบออนไลน์สะท้อนความรู้สึกของผมผ่านหน้าจอโทรศัพท์ท่ีได้รับถึงกล่ินอาย
ความเป็นเครือญาติระบบความสัมพันธ์ของศาสนาวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงกิจกรรมของชุมชน
และได้รับกล่ินอายของความรัก ความสมัครสมานสามัคคี ความช่วยเหลือซ่ึงกันและกันของชาวบ้าน
ในชุมชนอย่างอบอ่นุ จนความรูส้ ึกน้นั ส่งผา่ นและทะลหุ นา้ จอโทรศัพทม์ าถึงผมทส่ี ามารถสัมผัสได้
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 78
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ นั ทกึ : นายเชาวว์ ัตน์ ปิงยศ 6205680140 ฃ
เช้าวันน้ีผมต่ืนนอนมาด้วยความต่ืนเต้น เพราะรู้ว่าวันน้ีจะมีการลงชุมชนออนไลน์อีกคร้ังหน่ึง
จึงเตรียมตัวเข้านอนไวต้ังแต่เม่ือคืน เพื่อท่ีจะต่ืนมาอย่างสดช่ืน เม่ือผมต่ืนมาก็ทําธุระส่วนตัว
มาน่ังรับประทานอาหารเช้า ด้วยเมนูสุดโปรดท่ีแม่ทําให้ คือ ขนมจีนแกงเผ็ด ทันใดน้ันก็มีเสียงไลน์ดัง
ขน้ึ ประมาณ 08.45 น.ซ่งึ ก็คอื ไลนจ์ ากอาจารย์ป่ นั (อาจารยป์ ระจาํ วิชา) ได้ส่งข้อความมาแจ้งเตอื นถงึ
การลงชุมชนออนไลน์วันน้ีในไลน์กลุ่มประจําวิชา ทําให้เพิ่มความต่ืนเต้นในตัวของผมข้ึนอีก ผมจึงรีบ
ทานข้าว ล้างจาน แล้วมาเปิดโน้ตบุ๊กเข้าโปรแกรม ZOOM เพื่อท่ีจะเตรียมลงชุมชน ในคร้ังน้ีเป็นคร้ัง
ท่ี 2 ท่ีเราต้องลงชุมชนออนไลน์เน่ืองจากสถานการณ์โควิดท่ีรุนแรง ทําให้เราไม่สามารถลงพื้นท่ีจริง
ได้ แต่อาจารย์ผู้สอนก็พยายามท่ีจะหาวิธีท่ีจะทําให้พวกเราเข้าถึงการเรียนรู้ในชุมชนให้ได้มากท่ีสุด
ตัวผมเองก็แอบเสียดายอยู่ไม่น้อยท่ีเทอมน้ีไม่ได้มีโอกาสได้ลงพื้นท่ีชุมชน ท้ังท่ีมีเกือบ 3 วิชาในเทอม
น้ีท่ีจะต้องลงพ้ืนท่ีชุมชนเพ่ือศึกษาข้อมูลมาประกอบการเรียน แต่ก็ไม่เป็นไรครับ อาจารย์ของเรา
ก็พยายามเติมเต็มในส่วนน้ีเป็นอย่างมาก ทําให้การเรียนรู้ของเราไม่ได้เป็นเพียงแค่การมองเน้ือหา
หรือภาพจากสไลด์เพียงอย่างเดยี ว
เช้าวันน้ีเรามาลชุมชนออนไลน์กันท่ี "ชุมชนกุฎีจีน" ท่ีเป็นชุมชนเก่าแก่ย่านฝ่ ังธน
กรุงเทพมหานครชนแห่งน้ีมีการผสมผสานวัฒนธรรม 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ เราเร่ิมต้นของ
การลงชุมชนด้วยเสียงของอาจารย์กาญจนา ท่ีมาเปิดคลาสในเช้าวันน้ี พร้อมท้ังส่งไม้ต่อให้กับ
วิทยากร คือ พี่ด้วง (คนในชุมชน) ท่ีมาบอกเล่าเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์ของบริเวณชุมชนกุฎีจีน
ในส่วนน้ีทําให้เราได้ทราบถึงความเป็นมาของชุมชนกุฎีจีน ท่ีเป็นชุมชนท่ีมีประวัติศาสตร์มายาวนานมี
หลายเช้ือชาติ และศาสนา โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนเช้ือสายโปรตุเกสท่ีอาศัยอยู่ เน่ืองจากว่าในอดีต
ชาวโปรตุเกสเป็นผู้ท่ีกอบกู้เอกราชมาในสมัยพระเจ้าตากสินทําให้พระเจ้าตากสินได้พระราชทานท่ีดิน
ให้กับชาวโปรตุเกส ชาวโปรตุเกสก็ได้สร้างวัด และโบสถ์ไว้ท่ีน่ีในปัจจุบันก็มีประชากรอาศัยอยู่อย่าง
หลากหลายเช่นกัน ท้ังกลุ่มชาวจีน โปรตุเกส มุสลิม มีศาสนสถานต่าง ๆมากมาย อาทิ ศาลเจ้า
โบสถ์ มัสยิด วัด เป็นตัน นอกจากน้ีพี่ด้วงก็ได้เล่าถึงศาลเจ้าท่ีอยู่ในชุมชนกุฎีจีน ซ่ึงผมก็ได้ไปหา
ข้อมูลมาเพิ่มเติม ก็ได้ทราบว่า ศาลเจ้าน้ีมีช่ือว่า "ศาลเจ้าเกียนอันเกง" เป็นศาลเจ้าท่ีเก่าแก่หลังเล็ก
หลังหน่ึงของชุมชนกุฎีจีน ต้ังอยู่ริมฝ่ ังแม่น้ําเจ้าพระยา มีอายุมากกว่าร้อยปี ซ่ึงกล่าวกันว่าศาลเจ้า
เกียนอันเกงได้สร้างข้ึนโดยชาวจีนฮกเก้ียนท่ีตามเสด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมา (อชิรัชญ์ ไชยพจน์
พานิช, 2561)
จากน้ันก็มี พ่ีตอง (คนในชุมชน) ได้มาเล่าเร่ืองราวของชุมชนกุฎีจีนเพ่ิมอีก ในส่วนน้ีจะเน้น
ย้อนไปท่ีการต้ังรกรากของชาวโปรตุเกสท่ีมาต้ังถ่ินฐานกันอยู่ในชุมชนกุฎีจีนแห่งน้ีต้ังแต่อดีต
นอกจากน้ียังเล่าถึงการอยู่ร่วมกันของคนแต่ละศาสนาในชุมชนแห่งน้ี พี่ตองได้เล่าว่า ทุกคนได้
ช่วยกันในทุกส่วนเท่าท่ีจะช่วยได้โดยไม่เก่ียงว่าตนเองจะนับถือศาสนาใด ตัวของพี่ตองเองน้ันก็มี
เพื่อนท่ีนับถือศาสนาอิสลามด้วย เวลานัดกันมาพบเจอ พู ดคุย รับประทานอาหารร่วมกัน ก็จะเล่ียง
การทําอาหารเมนูท่ีมีส่วนประกอบเป็นหมู ก็จะไปใช้ปลา กุ้ง หรืออ่ืน ๆ แทน ซ่ึงน่ันก็แสดงให้เห็นถึง
การอยู่ร่วมกันของคนในชุมชนโดยไม่แบ่งแยกศาสนา นอกจากน้ีแล้วยังมีขนมท่ีข้ึนช่ือของชุมซนกุฎี
จีน คือ "ขนมฝร่ังกุฎีจีน" พ่ีตองได้บรรยายถึงรูปร่างหน้าตา และรสชาติของขนมฝร่ังกุฎีจีน จนทํา
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 79
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ให้ผมรู้สึกอยากจะมุดจอเข้าไปในชุมชนเพื่ อไปรับประทาน และทันใดน้ันผมก็รีบเปิด Google
เพื่อคน้ หารปู รา่ งหน้าตาของขนมฝร่งั กฎุ ีจีนทพ่ี ี่ตองกล่าวถงึ ทาํ ใหไ้ ด้เห็น...
ขนมฝรง่ั กฎุ จี นี
(https://mgronline.com/travel/detail/9560000158092)
เม่ือผมเห็นรูปของขนมแล้วน้ัน.... โอ้โหหหห น่าทานมากเลยครับ อยากจะรีบบินจากน่านไปกุฎี
จีนเพื่อไปกินขนมฝร่ังกุฎีจีนเลยครับ ขนมฝร่ังกุฎีจีนน้ีเป็นขนมท่ีอยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนมายาวนาน
มีต้นตํารับมาจากชาวโปรตุเกส ซ่ึงปัจจุบันยังเหลือบ้านท่ีทําขนมฝร่ังกุฎีจีนอยู่เพียงไม่ก่ีบ้านเท่าน้ัน
และผมก็แอบเห็นว่ามีขายอยู่ในแอพพลิเคช่ัน shopee ด้วย แต่ว่าสินค้าหมดแล้ว อดส่ังมาชิมเลย
ครับ นอกจากน้ีแล้วยังมีเพ่ือนสอบถามเก่ียวกับพิธีมิชชาของชาวคริสต์ท่ีต้องทําในช่วงสถานการณ์
โควิดน้ีด้วย ว่าท่ีชุมชนกุฎีจีนมีการจัดการอย่างไร ซ่ึงก็ได้รับคําตอบจากพี่ตองว่า ท่ีน่ีจะใช้วิธีการ
ถ่ายทอดเสียงตามสายของชุมชนไปท่ัวชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนท่ีนับถือศาสนาศริสต์น้ันได้ทําพิธีอยู่
ท่ีบ้านของตน และมีการรับศีลตามบ้านอีกด้วย น่ันทําให้ผมคิดว่าวิธีน้ีก็ถือว่าเป็นอีกวิธีหน่ึงท่ีดีมาก
ท่ีใช้วิธีการถ่ายทอดเสียงผ่านระบบต่าง ๆ ท่ีชุมชนมี เช่น เสียงตามสายท่ีถือเป็นนวัตกรรมอย่างหน่ึง
ท่ีเกือบทุกชุมชนใช้เพ่ือเป็นการสื่อสารจากผู้นําสู่คนในชุมชน ซ่ึงการใช้วิธีดังกล่าวทําให้คนในชุมชนได้
เขา้ ถึงพิธที างศาสนาทต่ี นนบั ถือในรปู แบบใหม่ ทไ่ี ม่ตอ้ งเดนิ ทางไปยงั ศาสนสถานตามศาสนาทต่ี นนับถือ
จากน้ันก็ต่อด้วยการให้ข้อมูลของชุมชน โดย พ่ีป่ ิน ป่ ินทอง วงษ์สกุล ท่ีเป็นประธานชุมชนกุฎี
จีนพี่ป่ ินถือเป็นผู้นําชุมชนหญิงคนหน่ึงท่ีมีความแข็งแกร่ง อุทิศตนในการช่วยเหลือชุมชนในเกือบทุก
ด้านมาโดยตลอด ท้ังกลุ่ม อปพร. และกลุ่ม สส. จนทําให้ได้รับการไว้วางใจจากคนชุมชนกุฎีจีนให้มา
เป็นประธานชุมชนกุฎีจีน พี่ป่ ินได้เล่าให้พวกเราฟงั ถึงการทํางนในชุมชนว่าในชุมชนกุฎีจีนน้ี มีองค์กร
ต่าง ๆภายในชุมชนท่ีร่วมกันขับเคล่ือนการพัฒนาชุมชน แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของคนในชุมชน
ประกอบด้วยอปพร. หรือ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ้ายพลเรือน หรือถ้าเป็นท่ีชุมชนผม (จังหวัดน่าน)
ก็จะเรียกกันติดปากว่าตํารวจบ้าน ท่ีจะคอยดูแลความปลอดภัยในชุมชน การแก้ปัญหายาเสพติดของ
เยาวชนในชุมชน รวมไปถึงการรับมือในการป้องกันภัยจากน้ําท่วม ท่ีเม่ือเข้าสู่ฤดูฝนน้ําก็จะมาก
อปพร. กลุ่มน้ีก็จะเป็นผู้นําในการจัดเตรียมกระสอบทรายเพื่อไปก้ันน้ําไม่ให้ไหลเข้ามาท่วมชุมชน
และมี อสส. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุข (ถ้าเป็นท่ีบ้านผมในต่างจังหวัดก็คือ อสม. น่ันเอง)
ท่ีจะคอยให้ความช่วยเหลือในเร่ืองเก่ียวกับสุขภาพของคนในชุมชน ประสานงานกับศูนย์บริการ
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 80
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
สาธารณะสุข 26 ท่ีรับผิดชอบในพ้ืนท่ีชุมชนกุฎีจีนในการเข้ามาช่วยเหลือทางด้านสุขภาพหากคนใน
ชมุ ชนตอ้ งการ หรือประสบปัญหา
นอกจากน้ีแล้วในชุมชนกุฎีจีนก็ยังมีหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน
ท่ีเข้ามาพัฒนาและส่งเสริมการทํากิจกรรมต่าง ๆ ของคนในชุมชนอยู่เร่ือยมา มีการจัดทําข้อมูล
ชุมชนไว้ เพื่อท่ีจะเป็นข้อมูลพ้ืนฐานของชุมชน หากมีเหตุการณ์ต่าง I เข้ามาก็สามารถใช้ข้อมูลชุดน้ี
ในการอํานวยความสะดวกได้โดยไม่ต้องลงไปสํารวจเก็บข้อมูลอีก ในชุมชนกุฎีจีนน้ีมีประชากร
ประมาณ 1,850 คน 261 หลังคาเรือน และ 305 ครัวเรือน อาชีพส่วนใหญ่ของคนในชุมชนคือ
รับราชการ รัฐวิสาหกิจ และธุรกิจส่วนตัว แต่คนในชุมชนก็มีการทํากิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักสวนครัว การทําความสะอาดชุมชนการบูรณะ ซ่อมแซมศาสนสถานท่ีสําคัญ
ภายในชุมชน และในช่วงน้ีท่ีมีสถานการณ์ของโควิด 19 ซ่ึงอาจจะทําให้คนในชุมชนเกิดอาการวิตก
กังวลได้ ก็มีโรงพยาบาลเข้ามาสอนหัวเราะ เพ่ือท่ีจะช่วยให้คนในชุมชนผ่อนคลายความเครียดในช่วง
น้ลี งไปไดบ้ า้ ง
ชุมชนกุฎีจีน ยังมีการร่วมมือกับชุมชนอ่ืน ๆ ในย่านน้ี ซ่ึงพี่ป่ ันเรียกว่า "ย่านกะฎีจีน" โดยมี
ผู้นําชน 6 ชุมชนในย่านน้ี รวมไปถึงตัวแทนของชุมชน มาร่วมกันพัฒนาชุมชนไปพร้อมกัน โดยมีการ
แบ่งหน้าท่ีรับความรับผิดชอบกันอย่างชัดเจน ซ่ึงน้ันแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจกันของแต่
ละชุมชนในการท่ีจะมาร่วมกันพัฒนาชุมชนให้เจริญ และเป็นสุขมากย่ิงข้ึน โดยไม่แบ่งแยกว่าชุมชน
ใคร ชุมชนมัน เธอก็ทําของเธอฉันก็ทําของฉัน ในส่วนน้ีผมประทับใจมากเลยครับ นอกจากน้ีแล้วผมก็
ได้มีโอกาสถามคําถามพ่ีป่ ินเก่ียวกับแผนพัฒนาชุมชนหลังจากน้ีว่าชุมชนจะมีแผนการพัฒนาอย่างไร
บ้าง เม่ือสถานการณ์โควิด 19 คล่ีคลาย พี่ป่ ันก็ตอบมาประมาณว่า แผนการพัฒนาชุมชนหลังจากน้ี
จะเน้นไปท่ีการท่องเท่ียวในชุมชน เพื่อท่ีจะเพ่ิมรายได้ให้กับสมาชิกในชุมชน เพราะท่ีผ่านมาไม่มี
นักท่องเท่ียวเข้ามา ประกอบกับการปิดชุมชน และก็จะมีการปรับปรุงเส้นทางการกระจายเสียงใน
ชุมชนเพิ่มมาอีกด้วย เพ่ือจะให้การกระจายเสียงน้ันท่ัวถึง ไปท่ัวชุมชนอีกคําถามหน่ึงท่ีผมถามคือ
เก่ียวกับกลุ่มเยาวชนในชุมชนว่าได้เข้ามามีบทบาทอย่างไรบ้างในการพัฒนาชุมชนเพ่ือท่ีจะช่วยให้ทุน
ของชุมชนกุฎีจีนเหล่าน้ียังคงอยู่ต่อไปในอนาคต พี่ป่ ินก็ตอบมาประมาณว่า กลุ่มเยาวชนก็จะมีบทบาท
หน้าท่ีในวัดคาทอลิก ในช่วงเทศกาลก็จะมีหน้าท่ีเฉพาะของตน มีการสอนทําอาหาร ขนมฝร่ังกุฎีจีนท่ี
เป็นของข้ึนช่ือของชุมชน แต่ในปัจจุบันเด็ก และเยาวชนส่วนมากก็ยังไม่ค่อยมีเวลาท่ีจะเข้าร่วม
กิจกรรมท่ีชุมชนพยายามถ่ายทอดความรู้ให้มากนัก แต่ก็ยังมีมักคุเทศก์น้อยของกลุ่มนักเรียน
โรงเรียนวัดประยูรวงศาวาส ท่ีจะคอยให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาของชุมชน แต่ท่ีจะเห็นได้เด่นซัดคือ
มักคุเทศก็สูงวัยท่ีมีอยู่ในชุมชนอย่างมาก เวลาใครท่ีเข้าไปเดินเท่ียวในชุมชนก็สามารถท่ีจะถามข้อมูล
จากผู้สูงอายุท่พี บเจออย่ตู ามบา้ นไดเ้ ลย เพราะคนในชมุ ชนกฎุ จี ีนมคี วามเป็นมติ รอย่างมาก
จากท่ีผมได้ฟังการให้ข้อมูลของพี่ป่ ิน ประธานชุมขนในคร้ังน้ี ก็ทําให้ได้เห็นถึงการบริหาร
จัดการชุมชนท่ีมีรูปแบบอย่างชัดเจน มีการวางแผนงาน แบ่งหน้าท่ี ความรับผิดชอบกันอย่างชัดเจน
ทําให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ปัญหาต่าง ๆ คล่ีคลายลงไป นอกจากน้ีแล้วท่ีน่ียังมีกล่ิน
อายของการรักษาสิ่งท่ีหลงเหลือมาจากในอตีตให้คงอยู่กับปัจจุบันได้อย่างลงตัว แม้สังคมโลกจะ
เปล่ียนไปมากแค่ไหนก็ตามท่ีน่ีมีทุนชุมซนท่ีเห็นได้ชัดอย่างหลากหลาย ท้ังสถานท่ี ท่ีเป็นศาสนสถานท่ี
สําคัญหลายแห่ง มีขนมฝร่ังกุฎีจีนมีผู้นําชุมชนท่ีเข้มแข็ง มีคนในชุมชนท่ีพร้อมกับให้การสนับสนุนใน
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 81
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ด้านต่าง ๆ น่ันทําให้ชุมชนกุฎีจีแห่งน้ียังคงรักษาความเป็นชุมชนเก่าแก่ท่ีมีกรผสมผสานวัฒนธรรม
3 ศาสนา 4 ความเช่ือเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ส่วนตัวผมคิดว่าท่ีน่ีก็สามารถเป็นอีกหน่ึงชุมชน
ตน้ แบบทส่ี ามารถใหท้ ุกคนเขา้ มาศึกษาการบรหิ ารจัดการชมุ ชนไดอ้ ย่างแน่นอน
การเรียนรู้ชุมชนผ่านระบบออนไลน์ในคร้ังน้ีทําให้ผมได้ตกผลึกความรู้ ได้เห็นการบริหาร
จัดการตนเองของทุกฝ่ายในชุมชนเป็นอย่างมาก ถือว่าการเรียนรู้ในคร้ังน้ีไม่เสียเวลาเลยแม้แต่น้อย
แต่แอบเสียดายนิดหน่อยตรงท่ีว่าเราได้ลชุมซนผ่านระบบออนไลน์ ไม่ได้ลงไปสัมผัสพ้ืนท่ีจริง ๆ และก็
แอบเสียดายท่ีอาจารย์ไม่ได้พาไปดูบรรยากาศรอบชุมชนผ่าน ZOOM ซ่ึงก็อาจจะมีข้อจํากัดต่าง ๆ
เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นต้นแต่วันน้ีผมก็รู้สึกสนุก และได้ความรู้เพ่ิมมากเลยทีเดียว เม่ือเรียน
จบเวลาประมาณ 11.30 น. ผมก็ปิดโปรแกรมzoom เตรียมตัวไปทานข้าวเท่ียง และภารกิจการลง
ชุมชนออนไลน์ครง้ั น้ขี องผมกจ็ งลงเพียงเท่าน้ี เตรียมตัวพร้อมกับการลงชุมชนครง้ั ตอ่ ไปแลว้ ครับ
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 82
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ ันทึก: นายขจติ ศักด์ิ สุทธิพันธ์ 6205680157
ฃ
ในการศึกษาเรียนรู้การลงชุมชนพ้ืนท่ีชุมชนกุฎีจีนในคร้ังน้ี เป็นการลงชุมชนแบบออนไลน์
ซ่ึงกลําวได้ว่าเป็นการลงพื้นท่ีในรูปแบบใหม่ ท่ีเป็นข้อทําทายในการเรียนรู้และการปฏิบัติงานในวิธีการ
แบบสังคมสงเคราะห์ การลงพื้นท่ีออนไลน์ในคร้ังน้ี ข้าพเจ้ามีความต้ังใจในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก
เน่ืองด้วยชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีข้าเจ้าเคยได้ยินและได้รู้จักถึงประวัติศาสตร์ภูมิหลังของชุมชนมา
อย่างคร่าว ๆ และเป็นชุมชนท่ีข้าพเจ้าอยากจะลงไปสัมผัสไปเย่ียมเยือนด้วยตนเองเป็นอย่างมากและ
การศึกษาชุมชนในคร้ังน้ี ถือเป็นโอกาสดีท่ีข้าพเจ้าได้เรียนรู้ถึง วิถีชีวิตของชุมชน การมีปฏิสัมพันธ์
ของคนในชุมชน และสิ่งท่ีขาดไปไม่ได้เลยก็คือความเป็นพหุวัฒนธรรมท่ีมีความหลากหลายแต่ไม่
แตกแยกและยังแทรกซมึ อยูใ่ นการดําเนนิ ชีวติ ของคนในชมุ ชนไดอ้ ยา่ งลงตวั อกี ด้วย
ชุมชนกุฎีจีนหรือกะดีจีน เป็นชุมชนท่ีมีมาอย่างยาวนานเป็นย่านประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี
ท่ีมีความเก่าแก่แห่งหน่ึงของกรุงเทพมหานคร ในบริเวรริมแม่น้ําเจ้าพระยา โดยประกอบด้วยความ
แตกต่างทางเช้ือชาติ ได้แก่ ชาวไทย ชาวไทยเช้ือสายโปรตุเกส ชาวจีน ชาวมุสลิม และมีความเช่ือ
ทางศาสนาอันประกอบด้วยพุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และมุสลิม จึงกล่าวได้ว่า "กุฎีจีนชุมชน
สามศาสนาสี่ความเช่อื "
แผนทท่ี ่องเทย่ี วชุมชนกฎุ ีจีน
จากการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนโดย พ่ีด้วง บุญฤทธ์ิ สิมะเสถียรหนึ่งในตระกูลเก่าย่าน
กัลยาณมิตร ท่ีจะเน้นเล่ากล่าวถึงศาลเจ้าเกียนอันเกง เป็นศาสนาพุ ทธนิกายมหายาน ท่ีได้รับการยกย่องด้าน
สถาปัตยกรรมแบบฮกเกียนที่งดงามและเก่าแก่ พร้อมท้ังด้านในยังประดิษฐ์สถานพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม
ซ่งึ เปน็ องค์ประธานในศาลเจา้
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 83
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ป้าตอง คุณนาวินี พงศ์ไทย ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านกฎีจีน ได้เล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนชุมชน
กุฎีจีนมีมาต้ังสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีหรือพระเจ้าตากสินมหาราช แต่เดิมช่ือชุมชื่อ "ค่ายแม่พระลูกประคํา" และ
เป็นชาวโปตุเกสที่กู้เอกราชให้กับไทยและทําให้พระเจ้ากรุงธนบุรีพระราชทานที่ดินให้ในการสร้างหมู่บ้านของชาว
โปรตุเกส และมีโบสถ์ชางตาครูสหรือว่าวัดกุฎีจีน ซึ่ง ชางตาครูส เป็นภาษาโปรตุเกส แปลว่า กางเขน
ศักดิ์สิทธ์ิ โบสถ์ซางตาครูสเป็นโบสถ์คาธอลิกเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2313 แต่เดิมเป็นไม้สักทั้งหลังแต่
ถูกไฟไหม้จึงได้รับการบูรณะใหม่โดยมีโครงสร้างเป็นปูน สถาปัตยกรรมเด่นของเรอเนสซองส์ผสมนีโอ
คลาสสิก ส่วนยอดโดมสีแดงนัน้ มคี วามเดน่ เปน็ สง่า และถือเป็นแลนดม์ ารก์ ของชุมชนอกี ด้วย
โบสถซ์ างตาครสู หรอื วดั กฎุ จี ีน
จากคําบอกเล่าของป้าตองได้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตสมัยก่อนได้อย่างชัดเจน "ความสุขสมัยก่อนตอน
นํ้าท่วมเด็ก ๆ ก็จะได้เล่นนํ้า ใครชอบตกปลาก็ไปตกปลา แต่ในปัจจุบันนั้นไม่สามารถทําส่ิงเหล่านั้นได้แล้ว
ความสุขท่ีไม่มีวันหวนกลับมา" จากคําบอกเล่าน้ีทําให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชุมชนท่ีอยู่ริมแม่น้ําเจ้าพระยา
สมัยอดีตท่ีคนในชุมชนใช้ชอยู่ร่วมกับธรมชาติแต่ในปัจจุบันกลับต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก
จากท่ีเคยนํ้าท่วมกก็ ลบั ไมท่ ่วมเนอื่ งด้วยกรงุ เทพมหานครได้สร้างเขื่อนก้นั นํา้ เป็นตัน ตง้ั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงก็คือเส้นทางการเดินเท้าในชุมชนที่ยังคงเส้นทางเดิม เพียงแต่จากทางเดินไม้เป็นคอนกรีต
วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในชุมชนถูกยึดโยงด้วยศาสนา การพบปะสังสรรค์และการมีปฏิสัมพันธ์ของคน
ในชุมชนจะเกิดข้ึนในทุกวันอาทิตย์หลังจากไปทําพิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ์คนในชุมชนจะพบปะกันท่ีร้านข้าว
หนา้ วัดเปน็ เวลาประมาณหนง่ึ ถึงสองชั่วโมง
ขนมฝรงั่ กุฎจี นี
อาหารสยามโปรตุเกส วัฒนธรรมทางด้านอาหารท่ีถือเป็นอีกหน่ึงท่ีสําคัญในการแสดงให้เห็น
ถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมท่ีผสมผสานกันอย่างลงตัวต้ังแต่เรียกเรียกก็เห็นถึงความ
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 84
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
หลากหลายแล้วขนมฝร่ังกุฎีจีนเป็นขนมลูกผสมระหว่างจีนกับฝร่ัง รสชาติคล้ายขนมไข่ ตัวขนมน้ัน
เป็นตํารับขนมโปตุเกส มีของแป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ําตาล ท่ีผมให้เข้ากันแล้วนําไปอบในเตาถ่าน
ส่วนหน้าของขนมเกด ลูกพลับ ฟกั เช่ือม และน้ําตาลทราย สไตล์จีน โดยในบริเวณชุมชนมีบ้านท่ียัง
ทําขนมอยู่ 3 บ้าน ได้แก่ร้านหลานแม่เป้า ร้านธนูสิงห์ และร้านป้าอําพัน และขนมกุฎีจีนกล่าวได้ว่าเป็น
"ขนมเค้กกอ้ นแรกของไทยกว็ า่ ได"้ (ป้าตอง คุณนาวนิ ี พงศ์ไทย ผู้ก่อตง้ั พิพิธภัณฑบ์ า้ นกฎจี ีน)
อกี หน่งึ เมนูอาหารทส่ี ังเกตเหน็ ไดว้ ่าปา้ ตองผเู้ ลา่ มีความภมู ิใจในการนําเสนออาหารชนิดน้กี ็คอื
ขนมจีนแกงค่ัวไก่หรือ ขนมจีนโปรตุเกส เป็นอาหารโบราณท่ีสืบทอดกันในหมู่ชาวไทยเช้ือสาย
โปรตุเกสมักจะทํากันในงานฉลองพระแม่ไถ่ทาส เดเมย์เซเดย์ หรือท่ีชาวบ้านคอนเซ็ปชันเรียกว่า
"พระแม่ขนมจีน"และงานมงคลอย่างงานแต่งงานเท่าน้ัน เป็นอาหารท่ีรวมหลากหลายวัฒนธรรมเข้า
ด้วยกนั อย่างลงตวั ทฟ่ี งั แลว้ อยากไปลม้ิ ลองรสชาตเิ ป็นอยา่ งมาก
หลังจากท่ีได้เรียนรู้ถึงภูมิหลังประวัติศาสตร์ของชุมชนกุฎีจีนแล้วส่ิงท่ีขาดไปไม่ได้เลยก็คือ
ต้องเรียนรู้ว่าชุมชนกุฎีจีนท่ีมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา ความเช่ืออยู่ร่วมกันอยู่ร่วมกัน
ได้อย่างไรและมีวิธีการจัดการบริหารและรับมือกับปัญหาท่ีเกิดข้ึนในชุมชนและแนวทางในการป้องกัน
ฟ้ นื ฟูแกไ้ ขกับปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชุมชนไดอ้ ยา่ งไร
ป้าป่ ิน ป่ ินทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนกุฎีจีน มีตําแหน่งประธานชุมชนมีหน้าท่ีคอยช่วยเหลือ
สมาชิกในชุมชนเม่ือมีปัญหาและเป็นผู้ให้ข้อมูลในการจัดการกับปัญหาท่ีเกิดข้ึนในชุมชนและแนว
ทางการป้องกันแก้ไขฟ้ นื ฟู ปัญหาท่ีเกิดข้ึนในชุมชน เม่ือคนในชุมชนมีปัญหา ชุมชนก็มีโครงการแก้ไข
ปัญหาความเดือดร้อนในชุมชน มีการช่วยเหลือเยียวยาเบ้ืองต้นในการช่วยเหลือ โจทย์ในการทํางาน
คือการประสานงานความช่วยเหลือเครือข่ายจากองค์กรภายนอก เช่น กองทัพเรือ องค์กรเอกชน
ต่าง ๆ เป็นต้นในการทํางานประสานขอความช่วยเหลือจากองค์กรภายนอกมักจะมีข้อจํากัดอยู่เสมอ
ในเร่ืองของความไม่เพียงต่อการจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอต่อคนในชุมชน แนวทางในการแก้ไข
ชุมชนมักจะจัดสรรให้กับผู้ท่ีมีความเปราะบางในชุมชนก่อน ไม่ว่าจเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงท่ี
ชมุ ชนสํารวจและเหน็ ควรวา่ ตอ้ งไดร้ ับการชว่ ยเหลอื ก่อนกลุ่มอน่ื ๆ
กิจกรรมท่ีเกิดข้ึนในชุมชนในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นกิจกรรมท่ีเน้นให้คนในชุมชนไม่ซึมเศร้า
โดยเฉพาะผู้สูงอายุท่ีวิตกกังวลจากการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด 19 มีกิจกรรมปลูกผักสวนครัว
ปลูกฟ้าทะลายโจร กิจกรรมสอนให้ผู้สูงอายุไม่ให้ซึมเศร้าและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
หรือถ้าหากไม่มีกิจกรรมแล้วทางชุมชนก็จะให้คนในชุมชน่วมกันทําความสะอาด บูรณะส่ิงก่อสร้าง
บริเวณรอบ ๆ ชุมชน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร. เป็นอาสาสมัครป้องกันและ
บรรเทาสาธารณภัยในชุมชนให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ท่ีประสบภัยในพ้ื นท่ีชุมชนรักษาความสงบ
เรียบร้อยในพ้ื นท่ีและสงเคราะห์ผู้ประสบภัย เช่น ในกรณีท่ีมีน้ําท่วมหรือกรณีท่ีมีเหตุไฟไหม้
อาสาสมัครปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยก็จะเขา้ มาชว่ ยเหลอื ในการดบั ไฟ เป็นต้น
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 85
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ข้าพเจ้าผู้บันทึกภาคสนามในรูปแบบออนไลน์ในคร้ังน้ีมีความคิดเห็นว่า "การอยู่ร่วมกัน
ของคนในชุมชนกุฎีจีนท่ีมีความแตกต่างหลากหลายและมีพหุวัฒนธรรมท่ีแตกต่าง คนในชุมซุนใช้
แนวปฏิบัติทางหลักศาสนาของตนเอง ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน เคารพความแตกต่าง
และยอมรับในความแตกต่างและด้วยวิถีชีวิตท่ีเป็นผู้อพยพมาต้ังแต่สมัยอดีตมาอยู่ด้วยกัน
กล่าวได้ว่าวัฒนธรรมท่ีสืบสานด้วยวิถีผู้คนท่ีอพยพ ทําให้มีความรักและความเข้าใจกันมาต้ังแต่
ส มั ย อ ดี ต จึ ง ทํ า ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม เ ข้ า อ ก เ ข้ า ใ จ กั น แ ล ะ ค ว า ม รั ก ใ ค ร่ กั น ม า จ น ถึ ง ปั จ จุ บั น "
จึงมีการช่วยเหลือกันทุก ๆ ด้าน ท่ีไม่เก่ียวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา ชุมชนมีการถ่ายทอดความรู้
ประสบการณ์ประวัติศาสตร์ชุมซนจากรุ่นสู่รุ่น และชุมชนมีศักยภาพในการบริหารจัดการกับปัญหา
ท่ีเกิดข้ึนในชุมชนได้เป็นอย่างดีและจุดแข็งของชุมชนคือคนในชุมชนมีความเข้าใจความเป็นอันหน่ึงอัน
เดียวกันและช่วยเหลือซ่ึงกันและกันเคารพความหลากหลายท่ีแตกต่าง จึงทําให้ชุมชนกุฎีจีนสามารถ
ดํารงวิถีชีวิตอยู่ได้ในช่วงทุกสถานการณ์และอีกหน่ึงสิ่งท่ีสําคัญคือคนในชุมชนมีความภาคภูมิใจใน
ชุมชนของตนเองอย่างมากน่ีเป็นอีกหน่ึงคุณค่าท่ีข้าพเจ้าได้สัมผัสถึงความภูมิใจในประวัติศาสตร์
ชุมชนกุฎีจากคําบอกเล่าของผู้ให้ข้อมูล ท่ีมีความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงของชุมชนตนเองและอยากสืบทอด
รกั ษาและอนุรกั ษ์ความเปน็ กะดจี ีนหรือกฎุ ีจนี ใหค้ งดํารงอยตู่ อ่ ไปให้เข้ากบั สถานการณใ์ นโลกปจั จบุ นั
(นายขจติ ศักดิ์ สุทธพิ ันธ)์
เลขทะเบียนนักศึกษา 6205680157
ผ้บู ันทึกภาคสนามออนไลน์
6 ตุลาคม 2564
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 86
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
เอกสารอา้ งอิง
ป่ ินอนงค์ ปานชื่น. (2560). เปดิ สํารบั โปรตเุ กส-ไทย บ้านสกลุ ทอง. [ออนไลน์. เข้าถงึ ไดจ้ าก
http://www.bangkokbiznews.com/news/detai/738059. (วันทคี่ น้ ขอ้ มลู : 6 ตลุ าคม 2564).
ย้อนอดีต..โปรตกุ สในสยาม ผา่ นวิถชี มุ ชน 'กุฎีจนี '. [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก
https://www.thairath.co.th/content1056740. (วันที่ค้นข้อมลู : 6 ตุลาคม 2564)
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 87
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผู้บันทึก น.ส.ชิดชนก วงษาบุตร 6205680223
ฃ
"ประวัตศิ าสตรช์ มุ ชน"
ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ําเจ้าพระยาเป็นเวลากว่า 200 ปี ประวัติของชุมชนกุฎี
จีน ในสมัยก่อนชุมชนกุฎีจีนเป็นเพียงพื้นท่ีสําหรับหยุดพักเรือสินค้าเพื่อเตรียมนําของเข้าอยุธยา
เพียงช่ัวคราว แต่หลังจากน้ันก็ได้จัดต้ังเป็นหมู่บ้าน มีชาวโปรตุเกสและทหารรับจ้างเข้ามาค้าขายท่ี
อยุธยา เม่ือเกิดเหตุการณ์กรุงศรีอยุธยาแตก ทําให้พระเจ้าตากสินมหาราชเข้ามากอบกู้เอกราช
พระองค์ได้รวบรวมไพร่พลท่ีกระจัดกระจายจากการศึกสงครามท้ังชาวโปรตุเกส ชาวจีนและชาวไทย
พร้อมท้ังได้พระราชทานท่ีดินให้ทหารโปรตุเกสเน่ืองจากทําคุณประโยชน์ไว้มากเป็นท่ีอยู่อาศัยทําหากิน
แต่เดิมชุมชนน้ีช่ือว่า ค่ายแม่พระลูกประคําเม่ือคุณพ่อกอรร์กลับมาจากการกู้เอกราช จึงพาชาวคาทอ
ลิคมาขอพระราชทานท่ีดินจากพระเจ้าตากเพ่ือสร้างโบสถ์และได้ต้ังช่ือว่าโบสถ์ซางตาครูส (ซ่ึงมีการ
สร้างและบูรณะอยู่ท้ังหมด 3 คร้ัง) ช่วงน้ันเองก็มีชาวโปรตุเกสและชาวจีนเข้ามาอยู่เพ่ิมเป็นจํานวน
มาก ต่อมาในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็มีชาวจีนฮกเก้ียนและยังมีมัสยิดบังหลวง หรือเรียกว่า กุฎี
ขาว เป็นชาวไทยมุสลิมท่ีอพยพจากกรุงศรีอยุธยาแตกเข้ามาอยู่อาศัย จนในสมัยรัชกาลท่ี 3 ก็ได้มี
การบูรณะศาลเจ้าใหม่ใหญ่กว่าเดิม เรียกว่า เทียนอังแกง รวมไปถึงบูรณะมัสยิสบางหลวงด้วย จาก
การน้ีเองชุมชนกุฎีจีนจึงมีความหลากหลายทางเช้ือชาติและวัฒนธรรมจากการเข้ามาของผู้อยู่อาศัย
ในชุมชนตามยุคสมัยท่ีเปล่ียนไป และท่ีสําคัญต้นตระกูลพื้นฐานรากเหง้าของคนท่ีน่ีรักกันมาก ๆ
เพราะอยู่ด้วยกันมาต้ังแต่สมัยลําบาก เส่ียงชีวิตมาด้วยกันต้ังแต่สมัยพระเจ้าตากสิน แม้จะเป็น
เวลานานมากแล้วแต่นักศึกษาเองก็รู้สึกว่าชุมชนน้ีมีความรักใคร่กลมเกลียวเหนียวแน่นต่อบรรพบุรุษ
ของตนอยเู่ สมอ
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 88
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
โบสถ์ซางตาครสู
" ศูนยก์ ลางของชมุ ชน"
เม่ือคุณพ่อกอรร์ได้รับพระราชทานท่ี ดินในการสร้างโบสถ์ซางตาครูส ซ่ึงติดกับท่ีดินเก่าท่ี
เคยพระราชทานใหก้ บั ชาวโปรตเุ กส ในสมัยน้นั ไม่มที นุ มาก โบสถ์ทส่ี รา้ งมีลกั ษณะเหมอื นยุ้งขา้ ว กว้าง
ๆ สรา้ งดว้ ยไม้กระดานไม้ไผ่หลังคามงุ ด้วยใบจาก (เจ.จี เคอนชิ , 2322) เปน็ โบสถ์ไมใ้ ต้ทุนสูง ไว้หนีนา้ํ
ท่วม จนพังทรุดโทรมตามกาลเวลา ซ่อมแซมหลังท่ี 2 พอมีทุน สามารถสร้างก่ออิฐฉาบปูนได้ แต่ก็
เกิดเหตุไฟไหม้ จนหลังท่ี 3สร้างแบบสถาปัตยกรรม Renaissance และ Neo-Classic เป็นจุด
ศูนย์กลางเมือง มีเน้ือท่ีโดยรอบ 32 ไร่ วันสถาปนาโบสถ์ตรงกับวันท่ี 14 กันยายน 2312 และมีการ
ฉลองวันสถาปนาในวันอาทิตย์ท่ีใกล้กับวันท่ี 14กันยายนของทุกปี ภายในโบสถ์จะเห็นกระจกสีรูปพระ
เยซูถูกตรึงกางเขน เป็นรูปเก่าต้ังแต่สร้างโบสถ์แรก ๆ ในโบสถ์จะมีระฆังการิออง มี 16 เสียงตาม
โนต้ ดนตรี และส่วนประกอบพิธจี ะตกแตง่ ด้วยกระจกสีรูปพระคมั ภีรก์ ิจกรรมชมุ ชนรอบโบสถ์ จะมกี าร
พบปะพูดคยุ กันบรเิ วณทางเดินหลงั โบสถ์ 1-2 ช่วั โมง พิธที างศาสนา เช่นวนั Christmas วัน Easter
วันฉลองพระคริสต์กายา วันฉลองสถาปนาวัด ซ่ึงเป็นการรวมครอบครัวให้มาเจอกัน การเย่ียมญาติ
และการถ่ายทอดความรู้
"การบริหารจัดการชุมชน"
พี่ป่ ัน ประธานชุมชนเล่าถึงความเป็นอยู่ในปัจจุบันว่า ชุมชนมีการขับเคล่ือนย่าน โดยการ
จัดต้ังคณะกรรมการย่านโดยมีประธานท้ัง 6 ชุมชนเป็นคณะกรรมการ มีเจ้าอาวาส หน่วยงานการ
ท่องเท่ียวและกระทรวงวัฒนธรรมเป็นท่ีปรึกษาเน่ืองจากกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงนสําคัญท่ี
สามารถขับเคล่ือนตัวแบบของวัฒนธรรมในชุมชนเพื่อการท่องเท่ียวได้ ในการทํางานจะมีตัวแทน
ชุมชนละ 5 คน มาร่วมพูดคุยในการขับเคล่ือนชุมชนท่ีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เน้นเร่ืองการพัฒนา
ชุมชน จัดสรรเร่ืองเงินให้เท่า ๆ กัน ซ่ึงมีประชากรประมาณ 1,850 คน 262 หลังคาเรือน 205
ครัวเรือน ชุมชนจะมีการทํารายช่ือ 20 คนแรกท่ีจําเป็นต้องการความช่วยเหลือเพื่อจัดสรรงบให้กลุ่ม
น้ีก่อน โดยประสานงานไปท่ีต่าง ๆ เพ่ือบรรเทาความเดือดร้อนส่วนใหญ่หน่วยงานราชการท่ีเข้ามา
ช่วยเหลอื มกั จัดสรรใหแ้ กผ่ สู้ ูงอายเุ ปน็ อันดบั แรก
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 89
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
“อาสาสมัครและการดแู ลภายในชมุ ชน”
“สภาพแวดลอ้ มชมุ ชน” “แหลง่ เรียนรขู้ องชุมชน”
กิจกรรมในชุมชน มีกิจกรรมทําเกือบทุกวัน เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกฟา้ ทะลายโจร
มีกลุ่มอาสาสมัครหมุนเวียนกันมาช่วยทําอาหาร บูรณะซ่อมแซมสถานท่ีต่าง ๆ คนสูงอายุเส่ียงเป็น
โรคซึมเศร้าก็จะมีสอนวิธีย้ิม วิธีหัวเราะ มีกลุ่มโรงพยาบาลเข้ามาทํากิจกรรมบําบัด เพ่ื อลด
ความเครียดและความเหงาในผู้สูงอายุ มีท้ังกลุ่มอพปร. เข้ามาช่วยกันภัยต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ น้ําท่วม
สัตว์บุกรุก บริบทชุมชนน้ันคับแคบไม่ใหญ่ เป็นซอย รถจะเข้าไม่ได้ รายได้ส่วนใหญ่ในชุมชนมาจาก
การท่องเท่ียวท่ี ร้านค้าส่วนหน่ึงเปิดรับ ธุรกิจส่วนตัว การรับราชการและรัฐวิสาหกิจ ในสถานการณ์
COVID-19 ก็มีการจัดการเรียนรู้เก่ียวกับการป้องกันการติดเช้ือไวรัส การทําความเข้าใจผู้ท่ีติด
COVID ป้องกันการตีตรา มีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายต่าง ๆ ในช่วงน้ีมักไม่ค่อยให้คนนอกเข้า
ออกภายในชุมชนบ่อยนัก เพราะภายในชุมชนมีผู้สูงอายุเป็นจํานวนมากเน่ืองจากมีผู้สูงอายุเยอะทําให้
มีการบริการถึงท่ี ผู้ป่วยติดเตียงก็จะมาช่วยเหลือถึงเตียงเลย มีท้ังกลุ่มอาสาสมัคร กลุ่มพลมารี
บริษัทชุมชนดีมีรอยย้ิมเข้ามาแจกอาหาร จัดแถวรับคูปองอย่างเป็นระบบ บ้านท่ีกักตัวก็จะมีเจ้าหน้าท่ี
เข้าไปส่งถึงท่ี ส่วนการวางแผนหลังสถานการณ์ COVID-19 ดีข้ึน จะมีการพัฒนาการท่องเท่ียว เปิด
ร้านอาหารต่าง ๆ ให้ผู้คนมีรายได้ ปรับปรุงเส้นทางในชุมชน สายไฟท่ีรกต่าง ๆ บรรยากาศภายใน
ชุมชน ในด้านความช่วยเหลือทางสุขภาพของชุมชน เช่น ศูนย์สุขภาพสาธารณะสุข 2 ของวัดประยูร
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 90
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
วงศาวาส กลุ่มอาสาสมัครต่าง ๆ การช่วยเหลือและการพั ฒนาของเยาวชนในชุมชน เช่น
กลุ่มเยาวชนของโบสถ์วัดคาทอลิก เด็กช่วยพิธีมิสซา อ่านบทอ่าน ขับร้อง มัคคุเทศก็น้อยของกุฎีจีน
(มีส่วนน้อยเพราะเด็ก ๆ ไม่ค่อยมีเวลาว่างกัน) มีกิจกรรมเดินทัวร์ชุมชน แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์
ความเป็นอยู่ พิพิธภัณฑ์ในชุมชนโดยมีประธานชุมชนพาทัวร์เองด้วย ส่วนมัคคุเทศก็น้อยของ
โรงเรียนวัดประยูรฯ และกุฎีขาวจะมีจํานวนและประสบผลสําเร็จมากกว่าเพราะมีกลุ่ม Thai brave
สนับสนุนเบ้ยี เลย้ี ง
“วัฒนธรรมอาหารประจาํ ชมุ ชน”
วัฒนธรรม เน่ืองจากมีคนหลากหลายเช้ือชาติเข้ามาอยู่อาศัย ในสมัยน้ันชาวโปรตุเกสไม่นิยม
สิ่งท่ีนักศึกษาชอบท่ีสุดจากการเรียนรู้คร้ังน้ีคืออาหาร ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีความหลากหลาย
วัตถุดิบง่าย ๆ ในสยามเช่น แป้ง น้ําตาล ไข่ จึงเกิดเป็นขนมฝร่ังกุฎีจีนข้ึนมา ซ่ึงนักศึกษาก็เคยได้
ทานเพราะได้มีโอกาสไปเท่ียวเขตพระนคร เขตธนบุรีบ่อย 1 ขนมจะเป็นหน้ากรอบ ๆ เล็กน้อย มี
น้ําตาลและลูกเกดโรยรสชาติหวานอ่อน ๆ ฟู เบา นุ่ม มีรสสัมผัสคล้ายเค้กหน่อย ๆ อีกท้ัง อาหาร
โปรตุเกสต่าง ๆ เช่น หมูอบมันฝร่ังขนมจีนแกงไก่ค่ัว พ่ีป่ ินบอกว่าทําง่ายหน่อย ใช้เวลาไม่นานมาก
สันนิษฐานมาจากชาวญวนอาศัยอยู่บริเวณน้ันขนมจีนจึงหาง่ายกว่าสปาเก็ตต้ี ในเร่ืองการสืบทอด
อาหาร สมัยก่อนจะมี 2 ครอบครัว คือ มณีประสิทธิและธนูสิงห์ ซ่ึงทํากันเอง ครอบครัวจึงมีความ
เส่ียงท่ีจะถูกลืมและหายไปตามกาลเวลา จึงมีการเปิดสอนในวันพุ ธ พฤหัส จําเป็นต้องนัดล่วงหน้า
อีกท้ังอาหารท่ีมีเอกลักษณ์ในการทําเช่น อาหารคาวโปรตุเกส ต้องใช้เวลาทําถึงข้ามวันอีกด้วย และ
หากจะมาเท่ยี วชมสามารถมาท่ชี ุมชนกุฎีจนี ไดใ้ นวนั อังคาร-ศุกร์
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 91
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ ันทึก: น.ส.ปุณยภา นามสกุล เพชรไพร 6205680231 ฃ
การบนั ทกึ ภาคสนามชมุ ชนกฎุ จี ีน
ประวตั ชิ ุมชน
ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมซนเก่าแก่ริมแม่น้ําเจ้าพระย มีการต้ังรกรากในสมัยกรุงธนบุรี โดยพระ
เจ้าตากสินมหาราชได้พระราชทานท่ีดินให้ผู้คนอยู่อาศัยทํามาหากิน มีกลุ่มคนท่ีเข้าไปอาศัย
หลากหลายเช้ือชาติท้ังไทย จีน โปรตุเกสและชาวมุสลิม ซ่ึงก็มีความเช่ือและการนับถือศาสนาท่ี
แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งได้เป็น3 ศาสนา 4 ความเช่ือ ได้แก่ พุ ทธเถรวาท พุ ทธมหายาน คริสต์
และมุสลิม ในศาสนาพุทธมีวัด 3 แห่ง ได้แก่ณมิตรวรมหาวิหาร วัดประยรูวงศาวาส และวัดบุปผาราม
ศาสนาคริสต์ ได้แก่ โบสถ์ซางตาคเป็นคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และศาสนาอิสลาม ได้แก่ มัสยิด
บางหลวง (กุฎีขาว) และยังมีศาลเจ้าเกียนอันเก๋ง ท่ีเป็นท่ีเคารพนับถือของคนไทยเช้ือสายจีน
ทง้ั หมดจะอย่รู ่วมกนั ใน 6 ชุมชน
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 92
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
วฒั นธรรมชมุ ชน
วิ ถี ชี วิ ต ค ว า ม เ ช่ื อ ป ร ะ เ พ ณี แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น ชุ ม ช น กุ ฎี จี น มี ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย
เน่ืองจากเป็นพื้นท่ีท่ีรวมกลุ่มคนต่างเช้ือชาติ ต่างศาสนา แต่ในทุกวัฒนธรรมก็สามารถผสมผสาน
กลมกลืนและอยู่ร่วมกันได้มีดําเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามแต่ละศาสนา เช่น งานวันคริสต์มาส
งานตรุษจีน ประเพณีเข้าพรรษา การประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นต้น ซ่ึงหลังจากการทํากิจกรรมทาง
ศาสนาในบริเวณรอบวัดก็จะมีพ้ืนท่ีสําหรับการพักผ่อนหรือร้านอาหารต่าง ๆ ท่ีเปิดโอกาสในคนใน
ชุมชนได้มามีปฏิสัมพันธ์ หรือพู ดคุยแลกเปล่ียนร่วมกัน จึงเห็นได้ชัดว่าวัฒนธรรมของชุมชนจะถูก
ยึดโยงกันด้วยศาสนา
นอกจากน้ีภายในชุมชนยังมีวัฒนธรรมในต้านอาหารมากมายท่ีเห็นได้จากภาพประกอบ
ซ่ึ ง อ า ห า ร ส่ ว น ใ ห ญ่ จ ะ ไ ด้ รั บ อิ ท ธิ พ ล ม า จ า ก โ ป ตุ เ ก ส เ ช่ น ข น ม ฝ ร่ั ง กุ ฎี จี น สั พ พ แ ห ย ก
หมูอบมันฝร่ัง สตูล้ินวัว เป็นต้นภายในชุมชนก็จะมีร้านขายขนมและอาหารกระจายอยู่ในพื้นท่ีต่าง ๆ
ส่วนในเร่ืองของสูตรการทําขนมหรืออาหารในสมัยก่อนก็จะมีการส่งต่อเป็นทอดๆจากต้นตระกูล
แต่ปจั จุบนั ไดม้ ีการเปดิ สอนใหค้ วามรกู้ ับคนอน่ื ๆ มากขน้ึ
ปฏิทินชุมชน
ตารางกิจกรรมในชุมชนกุฎีจีน ก็จะมีการจัดข้ึนตามแผนของชุมชนหรือตามโอกาสในวัน
สําคัญต่าง ๆ ของแต่ละศาสนา เช่น ในศาสนาคริสต์ ก็จะมีการลงวันท่ีต้องทํากิจกรรมร่วมกัน
การทําพิธีมิสซา วันเทิดทูนไม้กางเขน วันคริสต์มาส วันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ เป็นต้น ส่วนในแผนการชุมชน
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 93
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ก็อาจมีการกําหนดวันทํากิจกรรมต่าง ๆ ภายในชุมชน เช่น วันท่ีต้องจัดระเบียบภายในชุมชน
วันท่ีวิทยากรจะลงพ้ืนท่ีให้ความรู้แก่คนใน หมู่บ้านวันประชุมของผู้นําชุมชน เป็นต้น ปฏิทินชุมชนน้ันมี
ความสําคัญอย่างมากต่อการศึกษาและการทําความเข้าใจเก่ียวกับวิถีชีวิตของผู้คนและปรากฏการณ์
ตา่ ง ๆ ท่เี กิดข้นึ ภายในชุมชน
แผนท่เี ดนิ ดิน
เป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยทําความเข้าใจเก่ียวกับความหมายของท้ังพ้ืนท่ีทางกายภาพ และพื้นท่ีทาง
สังคมวัฒนธรรมหรือเศรษฐกิจ ซ่ึงนําไปสู่การมองเห็นภาพรวมของชุมชนได้ โดยในการจัดทําแผนท่ี
เดินดินจะต้องนําแผนท่ีชุมชนหรือแผนท่ีต้ังโต๊ะมาประกอบในการทําความเข้าใจ และจะต้องลงพื้นท่ี
เพ่ือสํารวจ สัมภาษณ์หรือพู ดคุยกับคนในท้องถ่ินเพื่อให้ได้ข้อมูลในต้านของความสัมพันธ์ทางสังคม
มีการสังเกตและรวบรวมข้อมูลเพื่อนําไปเขียนอธิบายเพ่ิมเติมในแผนท่ีทางกายภาพต่อไป ซ่ึงจาก
การศึกษาแผนท่ีในเบ้ืองต้นน้ันสะท้อนให้เห็นภาพรวมของชุมชนกุฎีจีนว่าเป็นชุมชนท่ีมีวิถีชีวิตผูกพันธ์
กับศาสนาคอ่ นขา้ งมาก เพราะวดั มักจะเป็นศูนยก์ ลางทม่ี ชี มุ ชนอยูล่ อ้ มรอบ
ความสัมพันธ์กับวิถีชวี ติ ผูค้ นในอดตี
ชุมชนกุฎีจีน มีการรวบรวมเร่ืองราวท่ีสําคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตผู้คน
ในอดีตไว้ในพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและทําความเข้าใจเก่ียวกับความเป็นมา
ของชุมชน นอกจากน้ีในชุมชนกุฎีจีนยังมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่เด็กและเยาวชนผ่านการจัด
อบรมการเป็นมัคคุเทศก์น้อย ซ่ึงในการถ่ายทอดประวัติศาสตร์ ความรู้ หรือประสบการณ์ต่าง ๆ