วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 144
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
รูปภาพ โบสถ์ซางตาครูส้ (ซา้ ย) ในอดตี (ขวา) ปัจจุบัน
โบสถ์ซางตาครู้ส หรือ วัดกฎีจีนเป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ต้ังอยู่ริมแม่น้ํา
เจ้าพระยา โบสถ์ในปัจจุบันน้ีเป็นอาคารหลังท่ีสามซ่ึงสร้างข้ึนเพ่ือทดแทนโบสถ์หลังเดิมท่ีคับแคบ
และซํารุดทรุดโทรมมาก โดยมีคุณพ่อกูเลียลโม ก๊ิน ดา ครู้สเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างในปี พ.ศ.
2459 (ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) และได้รับการปฏิสังขรณ์คร้ังใหญ่
ในปี พ.ศ. 2539 โดยมีคุณพ่อศวง สุระศรางค์ เป็นผู้ริเร่ิมเพ่ือการอนุรักษ์ต่อไป ปัจจุบันวัดหลังน้ีมี
อายุรวมแล้ว 105 ปีวัดซางตาครู้สเป็นศาสนสถานท่ีสําคัญท่ีอยู่คู่กับชุมซนกุฎีจีนเก่าแกริมฝ่ ังแม่น้ํา
เจ้าพะยา โดยบริเวณท่ีต้ังของวัดอยู่ใกล้กับพระราชวังเดิม สมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พ ร ะ ร า ช ท า น ท่ี ดิ น ใ ห้ แ ก่ ช า ว โ ป ร ตุ เ ก ส ซ่ึ ง ร่ ว ม ทํ า ก า ร ศึ ก ต่ อ ต้ า น พ ม่ า จ น ไ ด้ รั บ ชั ย ช น ะ
นั ก บ ว ช ช า ว โ ป ร ตุ เ ก ส จึ ง ไ ด้ เ ร่ิ ม ก่ อ ส ร้ า ง อ า ค า ร วั ด ห ลั ง แ ก ท่ี ส ร้ า ง ด้ ว ย ไ ม้ ท้ั ง ห ม ด แ ล้ ว เ ส ร็ จ
ในปี พ.ศ. 2313 ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้คร้ังใหญ่ในชุมชนในปี พ.ศ. 2376 ทําให้อาคารวัดพังเสียหาย
ท้ังหมด จึงต้องก่อสร้างใหม่ด้วยอิฐถือปูน และได้ก่อสร้างใหม่อีกคร้ังในปี พ.ศ. 2459 ซ่ึงคืออาคาร
วดั หลังทเ่ี ห็นในปัจจบุ นั
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 145
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
รปู ภาพ ทางเดินในชุมชน
ทางเดินในชุมชนมีลักษณะค่อนข้างแคบ และทางชุมชนมีมาตรการณ์การรักษาความสะอาดท่ีดี
และมกี ารทาํ ความสะอาดอยเู่ สมอ
บอร์ดไวส้ ําหรบั การเขยี นตารางกิจกรรม ตารางการจัดการตา่ ง ๆ ของคนในชมุ ชน วันสําคัญตา่ ง ๆ ในชมุ ชน
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 146
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
กล่องอปุ กรณ์สําหรับการทํากิจกรรมต่าง ๆ ของชมุ ชน
รปู ปา้ ยร้านขนมท้องถน่ิ ช่อื ร้านป้าอําพรรณ มีขนมต่าง ๆ คือ ขนมฝร่งั กุฎีจนี ขนมกว๋ ยตัส
ขนมกุสลงั ขนมกะหร่ปี ๊ บั ไส้ไก่ ขนมหนา้ นวล พรอ้ มกบั มกี ารบอกท่ตี ้งั และเบอรโ์ ทร ไลน์ เฟสบุค
รูปภาพการจัดการของชุมชน มีการจัดวางถังขยะให้เป็นมุม เพื่อความสะอาดและภูมิทัศน์
ในชุมชน และมีการติดต้ังถังดับเพลิงเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้เน่ืองจากบ้านมีลักษณะท่ีติดกัน
และถนนทแ่ี คบทาใหร้ ถดับเพลิงเขา้ ถึงไดช้ ้า
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 147
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผูบ้ นั ทึก: น.ส.ปทิตตา ฉตั รสัมฤทธ์ิ 6205680710 ฃ
สค.31 1 หลกั และวิธีการทางสังคมสงเคราะห์ 3
การศึกษาชุมชน ชมุ ชนกฎุ จี นี
ชุ ม ช น กุ ฎี จี น เ ป็ น ชุ ม ช น เ ป็ น ชุ ม ช น เ ก่ า แ ก่ ท่ี มี ม า ต้ั ง แ ต่ ส มั ย พ ร ะ เ จ้ า ต า ก สิ น
เร่ิมต้นใน พ.ศ 2310 – 2311 โดยภายในชุมชนมีการอพยพของกลุ่มชาวโปรตุเกสท่ีได้สืบเช้ือมาจาก
อดีตจนถึงสืบเช้ือถึงปัจจุบัน เป็นส่วนใหญ่ท่ียังอาศัยอยู่ในชุมชน ทําให้ชุมชนกุฎีจีนน้ันเป็นชุมชนท่ี
ส่วนใหญ่นับถือครสิ ต์คาทอลิก แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ประชากรท่ีนับถือศาสนาคริสต์เพียงเท่านั้น ยังมีคน
ในชุมซนท่ีนับถือศาสนาอ่ืน ' ด้วยเช่นกัน และมีความแตกต่างกันในเร่ืองของเช้ือซาติท่ีมีท้ัง โปรตุเกส
สยาม เขมร จี ญวน เม่ือมาอยู่รวมกันเป็นชุมซนทําให้เกิดความหลากหลายและเน่ืองจากคนภายใน
ชุมชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ทําให้เกิดการหลอมรวมกันและทําให้เกิดเอกลักษณ์ทางประเพณี
วัตนธรรมภายในชุมชนท่ีแตกต่างจากท่ีอ่ืน และชุมชนกุฎีจีนมีสถานท่ีสําคัญจํานวนมาก ไม่ว่าจะวัด
ชางตาครู้ส ท่ีได้สร้างข้ึนก่อนรัชกาลท่ี 3 และวัดหลังท่ีสอง ท่ีได้สร้างข้ึนสมัยรัชกาลท่ี 3
เรือนจันทภาพ วัดหลังท่ีสามพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน ท่ีได้เล่าเร่ืองราวเก่ียวกับการเข้ามาอาศัยอยู่ใน
ชุมชนของชาวโปรตุเกส รวมถึงวัฒนธรรมภาษาต่าง ๆ ชุมชนกุฎีจันเป็นชุมชนท่ีเต็มไปด้วยเร่ืองราว
ท่ีสืบทอดมาดจากอดีตและยังคงดํารงรักษาจนถึงปัจจุบันและหวังว่าจะสามารถสืบทอดได้จนถึง
อนาคต โดยเฉพาะ ขนมฝรง่ั กฎีจนี ทม่ี ลี กั ษณะกรอบนอก น่มุ ในทต่ี า่ งจากขนมฝร่งั ทเ่ี น้อื นุ่ม โดยหนา้
ขนมของขนมฝร่ังกุฎีจีนท่ีตกแต่งด้วยเร่ืองลูกเกด ฟกั เช่ือม ลูกพลับแห้ง นิยมโรยน้ําตาลไปด้วย
จากอดีตท่ีใช้เตาถ่านในการทํา มีการพัฒนาการตามยุคสมัยโดยปัจจุบันใช้เตาแก๊สในการทําแทน
เนอ่ื งจากมีความสะดวกสบายและช่วยลดมลภาวะ
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 148
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ภายในชุมชน มีคุณป่ ินทอง วงศ์สกุล เป็นประธานชุมซนกฎีจีนมีท่ีองค์กรต่าง ๆ ท่ี
ประสานงานร่วมทํางานกัน ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ท่ีทํางานเก่ียวกับด้านสุขภาพ
ถ่ายทอดความรู้ทางสุขภาพในแก่คนในชุมชน และประสานงานกับกลุ่มผู้นําชุมชนและองค์กรบริหาร
ส่วนตําบล อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) คอยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยใน
ชุมชน เพื่อความช่วยเหลือด้ายผู้ประสบภัยต่าง ๆ ภายในชุมชน และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นท่ี
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ท่ีจะพัฒนาศักยภาพโดยคนในชุมชนเข้า
ร่วมการฝึกอบรมศึกษาเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด และช่วยสอดส่องเพ่ือดูแลจากข้อความท่ีกล่าว
มาข้างต้นน้ันทําให้เห็นถึงความเข้มแข็งภายในชุมชนและความสามัคคีของคนในชุมชน ความสัมพันธ์ท่ี
ดีต่อกันท่ีเกิดภายในชุมชน ถึงแม้จะนับถือกันต่างศาสนากันแต่คนในชุมชนก็ให้ความร่วมมือและ
ช่วยเหลือกันอย่างดีในกิจกรรมศาสนาของตนเองและคนในชุมชนเอง ทําให้เห็นว่าชุมชนกุฎีจีนมีความ
เป็นเอกลักษณ์ท่ีทางประเพณี วัฒนธรรม เป็นชุมชนเก่าแก่และเป็นชุมชนท่ีมีวิถีชีวิตน่าสนใจ มีความ
หลากหลายทางวัฒนธรรม1 ชุมชน 4 เช้ือชาติ 3 ศาสนา แต่สามารถหล่อหลอมเป็นชุมชนท่ีทําให้คน
ในชุมชนรู้สึกถึงความเป็นหน่ึงเดียวกัน และทําให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ น่าศึกษา รวมถึงการไป
ท่องเท่ียวจากการศึกษาข้อมูลเห็นว่าชุมชนมีบรรยากาศท่ีสวยงาม ร่มร่ืน สะอาด อีกท้ังยังมีท้ัง
พิพิธภัณฑ์ท่ีรวบรวมประวัติต่าง ๆ ภายในชุมชนได้ให้เรียนรู้ศึกษาถึงอดีต และร้านกาแฟ ขนมฝร่ัง
กุฎีจีนทเ่ี ปน็ เอกลักษณ์ของชมุ ชนอกี ดว้ ย
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 149
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผู้บนั ทกึ : น.ส.ณชั มน ส่ือปญั ญาทรัพย์ 6205680736
บนั ทกึ ภาคสนาม ฃ
รปู ภาพ : แผนทบ่ี รเิ วณกุฎีจนี
ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนเก่าแก่ท่ีมี 3 ศาสนาอยู่รวมกัน คือ พุทธ คริสต์ และอิสลาม ซ่ึงศาสนา
พุ ทธ มีท้ังพุ ทธท่ีเป็นเถรวาท และพุ ทธท่ีเป็นมหายาน ส่วนใหญ่คนในชุมชนจะเป็นชาวโปรตุเกส
เน่ืองจาก ในอดีตชาวโปรตุเกสเป็นผู้ช่วยกอบกู้เอกราช ทาให้พระเจ้าตากสินมอบท่ีดินให้เพราะเช่ือว่า
ชาวโปรตุเกสเป็นผู้ซ่ือสัตย์ นอกจากน้ีชาวโปรตุเกสได้สร้างวัดและโบสถ์ข้ึน โดยโบสถ์ท่ีเป็นแลนด์
มาร์คในปัจจุบัน เป็นโบสถ์หลังท่ี 3 มีช่ือว่า วัดซางตาครู้ส (แปลว่ากางเขนศักด์ิสิทธ์ิ) การสร้างเป็น
อิทธิพลสถาปัตย์แบบเรอเนสซองซ์ผสมกับแบบนีโอคลาสสิก โบสถ์จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก
คือหอระฆัง ส่วนท่ี 2 จะเป็นอาคารท่ีใช้ประกอบพิธีทางศาสนา และส่วนสุดท้ายจะเป็นส่วนของ
สังฆภัณฑ์ โดยโบสถจ์ ะอย่ตู รงกลางและลอ้ มรอบไปดว้ ยชุมชน
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 150
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
รูปภาพ : ศาลเจ้าเกียนอนั กง
ศาลเจ้าเกียนอันเกง เป็นงานสถาปัตยกรรมแบบฮกเก้ียน มีตัวอาคารเป็น 4 เรือนล้อมลาน
ตรงกลางซ่ึงเรือนประทานเป็นท่ีประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม นอกจากน้ียังมีงานศิลปกรรม
ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น งานจิตรกรรมฝาพนังท่ีเป็นเร่ืองราว เหตุการณ์สําคัญของสามก๊ก งานไม้
แกะสลักท่ีเป็นเร่ืองราวของสามก๊กเช่นกัน และท่ีพิเศษคืองานไม้แกะสลักน้ีมีท่ีน่ีท่ีเดียวในประเทศไทย
โดยท่ีน่ีจะเน้นการอนุรักษ์ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นความสวยงามของยุคน้ัน ซ่ึงในปัจจุบันศาลเจ้าได้
เป็นโบราณสถานทอ่ี ยใู่ นการดแู ลของกรมศิลปากร
รูปภาพ : ขนมฝรง่ั กุฎีจีน รูปภาพ : ขนมจนี แกงไก่ค่วั
วัฒนธรรมของชุมชนกุฎีจีนท่ีถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นต่อกันมาในเร่ืองของอาหารและขนม ท่ีกุฎี
จีนจะมีอาหารสยาม-โปรตุเกส คือ “ขนมจีนแกงไก่ค่ัว” ซ่ึงเป็นอาหารจากเขมร และยังมี “ขนมฝร่ัง
กุฎีจีน” ท่ีว่ากันว่าเป็นขนมเค้กก้อนแรกของประเทศไทย โดยสูตรของขนมเป็นสูตรด้ังเดิมของชาว
โปรตุเกสท่เี ขา้ มาตง้ั รกรากในชมุ ชน
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 151
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
รปู ภาพ : พิพิธภณั ฑบ์ ้านกฎุ จี นี
พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน ก่อต้ังเม่ือ 5 ปีท่ีแล้ว ผู้ก่อต้ังมีความต้ังใจท่ีจะรวบรวมเร่ืองราว
เก่ียวกับ ความเป็นมา ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา ศาสนา รวมไปถึง
วิถีชีวิตของคนในชุมชนกุฎีจีนด้ังเดิม พิพิธภัณฑ์น้ีจัดข้ึนเพื่อต้องการเผยแผ่ความรู้ให้แก่ผู้ท่ีอยาก
ศึกษาค้นคว้า โดยไมค่ ิดคา่ บรกิ าร
การท่ีชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีประวัติท่ีน่าสนใจ ทาให้มีนักท่องเท่ียว และนักศึกษาข้อมูลเข้า
มาเย่ียมชมท่ีชุมชนกุฎีจีนค่อนข้างมาก แต่ชาวบ้านก็ยังเป็นมิตรและยินดีต้อนรับนักท่องเท่ียวทุกคน
เพราะนักท่องเท่ียวมีความเคารพซ่ึงกันและกัน ไม่สร้างความรบกวนหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่
ชาวบ้าน จงึ ทาให้ทช่ี มุ ชนกุฎีจนี เป็นแหล่งทพ่ี ักอาศัยและเปน็ แหล่งทอ่ งเท่ยี วไปพร้อม ๆ กันได้
แหล่งทรัพยากรภายนอกของชุมชนกุฎีจีนมีท้ัง กลุ่มเจ้าอาวาสของวัดต่าง ๆ หน่วยงานราชการ และ
มีมหาลัยราชภัฏธนบุรี ท่ีเป็นพ่ีเล้ียงให้ชุมชนในการขับเคล่ือนการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม นอกจากน้ี
ยงั มี สานกั งานเขต โรงพยาบาล ภาคเอกชน อีกดว้ ย
ชุมชนกุฎีจีนมีกลุ่ม อปภร.ซ่ึงเป็นกลุ่มสําคัญของชุมชน เพราะบริบทชุมชนเป็นท่ีคับแคบ
บ้านเรือนติดกัน ทําให้ต้องมีกลุ่มอปภร.เพ่ือป้องกันภัย เช่น ไฟไหม้ น้ําท่วม งูเข้าบ้าน จนกระท่ัง
การช่วยเหลอื ปฐมพยาบาลเบ้อื งต้น
ผู้นําชุมชนเน้นเร่ืองการพัฒนาชุมชน มีการประชุมกับหลายฝ่าย เร่ืองการปรับปรุงภายใน
บริเวณชุมชน โดยหลังโควิด-19 ผู้นาคาดหวังเร่ืองการท่องเท่ียว การเปิดร้านอาหารท่ีทาให้คนใน
ชุมชนมีรายได้เพิ่มข้ึน การปรับปรุงเส้นทางในชุมชนเพ่ือให้สะดวกมากข้ึน การทาพิธีศาสนาออนไลน์
การปรบั ปรุงเรอ่ื งสายไฟ ทางเดิน ความสะอาด และบรรยากาศของชมุ ชน
ในช่วงโควิด - 19 ศาสนสถานต้องปิดให้บริการ ในการละหมาดจะมีผ่านเสียงตามสายแทน
และมีการเทศน์ผ่านเสียงตามสายเช่นกัน ขณะเดียวกันคนในชุมชนได้รับผลกระทบจากโควิด – 19
ในเร่ืองของรายได้ นอกจากรายได้หลักจากการรับราชการ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจส่วนตัวลดลงแล้ว
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 152
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
รายได้จากนักท่องเท่ียว ก็ลดลงด้วย ผู้นําชุมชนได้มีการติดต่อประสานงานให้ภาคต่าง ๆ เข้ามา
ช่วยเหลือคนในชุมชน เช่น การติดต่อกับบริษัทเอกชน ให้เขาเข้ามาอุดหนุนแม่ค้าในชุมชนเพ่ือ
ทาํ อาหารไปแจกจ่ายคนในชุมชน ทาํ ให้แมค่ า้ มรี ายได้ และคนในชุมชนอม่ิ ท้อง
คนส่วนใหญ่ในชุมชนจะเป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุ กิจกรรมในชุมชนช่วงโควิด – 19 จะมีการ
ปลูกพื ชผักสวนครัว เพื่ อทําให้คนในชุมชนคลายเครียด เน่ืองจากคนในชุมชนมีภาวะซึมเศร้า
จากโควิด - 19 นอกจากน้ียังมีกิจกรรมซ่อมแซม บูรณะ ทําความสะอาดชุมชน เพื่อให้ชุมชนปลอด
โควดิ - 19 มกี ารสรา้ งความเข้าใจใหก้ บั คนในชุมชนเรอ่ื งโควิด – 19 อกี ดว้ ย
ในด้านสุขภาพ จะมีศูนย์บริการ 26 เป็นผู้ดูแลหลัก โดยในศูนย์บริการจะเปรียบเหมือนเป็น
โรงบาลขนาดเล็ก และมีนักเรียนพยาบาลเข้ามาประสานช่วยเหลือเป็นคร้ังคราว นอกจากน้ียังมี
กลุ่มอภปร. กล่มุ อสส. ช่วยดแู ลสุขภาพของคนในชมุ ชน
ผู้นาชุมชนเน้นเร่ืองการพัฒนาชุมชน มีการประชุมกับหลายฝ่าย เร่ืองการปรับปรุงภายใน
บริเวณชุมชน โดยหลังโควิด-19 ผู้นาคาดหวังเร่ืองการท่องเท่ียว การเปิดร้านอาหารท่ีทาให้คนใน
ชุมชนมีรายได้เพิ่มข้ึน การปรับปรุงเส้นทางในชุมชนเพื่อให้สะดวกมากข้ึน การทาพิธีศาสนาออนไลน์
การปรับปรงุ เร่อื งสายไฟ ทางเดนิ ความสะอาด และบรรยากาศของชุมชน
ในช่วงโควิด-19 ศาสนสถานต้องปิดให้บริการ ในการละหมาดจะมีผ่านเสียงตามสายแทน และ
มีการเทศน์ผ่านเสียงตามสายเช่นกัน ขณะเดียวกันคนในชุมชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19ในเร่ือง
ของรายได้ นอกจากรายได้หลักจากการรับราชการ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจส่วนตัวลดลงแล้ว รายได้จาก
นักท่องเท่ียว ก็ลดลงด้วย ผู้นาชุมชนได้มีการติดต่อประสานงานให้ภาคต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือคนใน
ชุมชน เช่น การติดต่อกับบริษัทเอกชน ให้เขาเข้ามาอุดหนุนแม่ค้าในชุมชนเพื่อทาอาหารไปแจกจ่าย
คนในชมุ ชน ทาใหแ้ มค่ า้ มีรายได้ และคนในชมุ ชนอม่ิ ท้อง
คนส่วนใหญ่ในชุมชนจะเป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุ กิจกรรมในชุมชนช่วงโควิด-19จะมีการปลูก
พืชผักสวนครัว เพื่อทาให้คนในชุมชนคลายเครียด เน่ืองจากคนในชุมชนมีภาวะซึมเศร้าจากโควิด-19
นอกจากน้ียังมีกิจกรรมซ่อมแซม บูรณะ ทาความสะอาดชุมชน เพื่อให้ชุมชนปลอดโควิด-19 มีการ
สร้างความเข้าใจให้กบั คนในชมุ ชนเรอ่ื งโควิด-19อีกด้วย
ในด้านสุขภาพ จะมีศูนย์บริการ26 เป็นผู้ดูแลหลัก โดยในศูนย์บริการจะเปรียบเหมือนเป็นโรง
บาลขนาดเล็ก และมีนักเรียนพยาบาลเข้ามาประสานช่วยเหลือเป็นคร้ังคราว นอกจากน้ียังมี
กลุ่มอภปร. กลุ่มอสส. ช่วยดูแลสุขภาพของคนในชมุ ชน
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 153
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผ้บู นั ทกึ : น.ส.ธันยพร ตง้ั ศิริ 6205680827 ฃ
บนั ทึกภาคสนามชุมชนกุฎจี นี
จากการลงพื้ นท่ีออนไลน์ในชุมชนกุฎีจีนหรือกะตีจีนเป็นชุมชนริมแม่น้ําเจ้าพระยา
ท่ีมีความเป็นมาและวิถีชีวิตท่ีมีเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่นท้ังวิถีชีวิดความเป็นอยู่ของผู้คน ศาสนา
และวัฒนธรรมท่ีมีความหลากหลายอยู่ร่วมกันในชุมชน เม่ือได้มาฟงั เร่ืองราวทําให้เห็นถึงแง่มุมชุมชน
ท่ีกว้างและเข้าใจความเป็นมาของชุมชนมากข้ึนจากแต่ก่อนท่ีได้รู้จักชุมชนกุฎีจีนในฐานะนักท่องเท่ียว
ท่ีเคยไปถ่ายรูปเห็นความเป็นมาในชุมซนแบบผิวเผินแต่เม่ือได้ฟงั และเห็นมุมมองจากบุคคลท่ีเป็นคนใน
พื้นท่ีท่ีมีบทบาทสําคัญและมีความรู้ในด้านต่าง ๆ ท้ัง 3 ท่านท่ีมาแลกเปล่ียนความรู้จึงทําให้สามารถ
สังเกตชุมชนในมติ ติ ่าง ๆ ได้
โดยพี่ตองผู้ท่ีให้ความรู้ได้เล่าเร่ืองราวถึงประวัติความเป็นมาของชุมชนท่ีเป็นการหล่อหลอม
ให้เป็นชุมชนข้ึนโดยในสมัยก่อนเร่ิมจากการท่ีโปตุเกสเป็นชาติแรกท่ีเข้ามาในอยุธยามาค้าขาย
และเผยแพรศ่ าสนา เมอ่ื เกิดสงครามก็ไดม้ หี น้าทเ่ี ปน็ ทหารรับง้างชว่ ยรบแตห่ ลังจากทอ่ี ยงุ ยาเสียกรุง
ชาวโปดุเกสก็มีบทบาทในการการช่วยรบและกอบกู้เอกราชของไทยมาได้ทําให้พระเจ้าตากสินได้ให้
ทด่ี นิ แก่ขาวโปตุเกสจึงเกิดการสรา้ งส่ิงปลกู สรา้ งทส่ี ําคัญต่าง ๆ และมีวิถีชวี ติ ชุมชนมาจนถึงปัจจุบนั
จะสังเกตได้ว่าประวัติศาสตร์ทําให้ขุมชนมีความเป็นมาท่ีโดตเด่นและเป็นจุดเช่ือมโยงคนในชุมชนเข้าไว้
ด้วยกันและทําให้มีความตระหนักถึงการก่อตัวของชุมชนสามารถเล่าเร่ืองราวให้กับคนรุ่นหลังได้ฟงั ได้
เม่ือมีประวัติศาสตร์ท่ีสําคัญท่ีนําพาผู้คนมาอยู่ร่วมกันทําให้เกิดส่ิงก่อสร้างบ้านเรือนท่ีมีลักษณะเฉพาะ
ในพื้ นท่ีโดยสมัยก่อนชุมชนมีน้ําท่วมจึงสร้างบ้านแบบไทยธรมดาแต่มีการยกใต้ถุนสู งเม่ือน้ําท่วมก็
ยกของข้ึนท่ีสู งจึงเป็นการสร้างบ้านท่ีปรับตัวตามสภาพพื้ นท่ีแต่ปัจจุบันมีการสร้างเช่ือนจึงช่วย
แก้ปัญหาได้
มีประวัติความเปน็ มา สามารถอ่านได้ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 154
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
เม่ือมีการเกิดการสร้างส่ิงปลูกสร้างก็นํามาสู่ท่ีจะยึดเหน่ียวจิตใจคือความเช่ือและศาสนาซ่ึง
ชุมชนกุฎีจีนมีศาสนาท่ีหลากหลาย ท้ังศาสนาคริสต์ท่ีมีโบสถ์ซานตาครูชเป็นจุดสําคัญท่ีเสน่ห์แบบ
สถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์ผสมนีโอคลาสสิก ศาสนาพุ ธจะมีการผสมผสานระหว่างพุ ธเถรวาทและ
มหายานท่ีมีจุดรวมสําคัญ เช่น ศาลเจ้าเทียนอันเกงหรือศาลเจ้าแม่กวนอิมท่ีมีความเก่าแก่อยู่คู่ชุมชน
มานานมีจิตกรรมฝาผนังเป็นสามก็งแสดงถึงความเป็นมาได้อย่างดีและศาลมีความมุ้งเน้นในการ
อนุรักษ์ไว้รูปแบบเดิมเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็น เป็นต้น และศาสนาอิสลามท่ีมีมัสยิดบางหลวงหรือ กุฎี
ขาว ทม่ี คี วามสวยงามของชาวมสุ ลมิ
ท่มี า: https://blog.lnw.co.th/201704/12/ทเ่ี ท่ยี วกรุงเทพ/
ถึงแม้จะมีศาสนาท่ีแตกต่างกันแต่สิ่งท่ีเป็นท่ีน่าสนใจคือการอยู่ร่วมกันของศาสนาต่าง ๆ
ท่ีมีการปรับตัวและใช้ชีวิตได้โดยการนําความขัดแย้งมาปรับเพื่อให้สามารถอยู่ด้วยกันได้ จึงทําให้นึก
ถึงตัวอย่างเร่ืองราวของพ่ีตองท่ีสามารถทําให้เห็นภาพคนในชุมชนท่ีอยู่ด้วยกันได้มากข้ึน โดยพี่ตอง
ได้เล่าว่าด้วยการท่ีมีการจัดสัดส่วนชัดเจนเวลามีเทศกาลหรือพิธีกรรมทางศาสนาก็จะมีมาร่วมช่วยได้
อย่างชาวมุสลิมก็มีการทําข้าวหมกไก่มาช่วยวัดได้ไม่ได้มีความขับข้องใจต่อกัน หรือพี่ตองมีเพื่อนเป็น
ชาวมุสลิมเวลามาบ้านกินข้าวก็ไม่ต้องทําอาหารท่ีมีหมูและลดข้อจํากัดต่อกันในเร่ืองอุปกรณ์ท่ีนํามา
ทําอาหารก็สามารถใช้ร่วมกันได้ รวมถึงเร่ืองการไปโรงเรียนเด็กก็มาจากหลายศาสนาแต่ก็สามารถ
อยู่ด้วยกนั ไดเ้ วลามพี ิธใี นโรงเรียนกจ็ ะยนื สงบน่งิ ซ่งึ จากท่พี ี่ตองเลา่ จะทาํ ใหเ้ หน็ ว่าความแตกต่างทาง
ศาสนาไม่ใช่อุปสรรคในการอยู่ร่วมกันด้วยความท่ีชุมชนมีมานานมีความผูกผันจึงมีการปรับตัวได้จึง
ถอื เปน็ เสนห่ ์ท่หี าไดย้ าก
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนนู วล 155
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
จากรูปหลังคาของศาลเจ้ากับวัดแบบไทยอยู่ละแวกใกล้เคียงกันสะท้อนถึงความหลากหลาย
ทางศาสนานอกจากจะมีศาสนาที่เป็นศูนยร์ วมทางจิตใจสิ่งที่ทาํ ให้ชุมชนมีความโดดเดน่ และสร้างความ
ภาคภูมิใจประทับใจคือวัฒนธรรมทางอาหารท้ังขนมจีนแกงไก่ค่ัว ขนมฝร่ังกฎีจีนท่ีมีวิธีการทําท่ี
ละเอียดซ่ึงปัจจุบันเหลือเพียง 3 เจ้าท่ีทําขายสืบทอดมาอย่างยาวนาน รวมท้ังพิพิธภัณฑ์จะเป็น
ช่องทางในการได้รับรู้ประวัติความเป็นมาวัฒนธรรมต่าง ๆ เพิ่มเติมได้เพ่ือเป็นสิ่งท่ีสะท้อนให้เยาวชน
คนรุน่ หลงั ไมล่ มื ว่าเขามีรากเหงา้ มาจากตรงไหน
เปน็ รปู ขนมทม่ี เี อกลักษณ์เฉพาะของชมุ ชนกฎุ จี ีน ท่ปี ัจจบุ ันมีเพียงไม่ก่เี จ้าทท่ี าํ ขายและอนรุ ักษ์ไว้
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 156
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชนท่ีสังเกตเห็นทําให้มองถึงการจัดการชุมชนให้
สามารถดํารงอยู่ใด้อย่างมีความสุขต้องอาศัยการดูแลจัดการของผู้นําชุมชนท่ีมีความเข้มแข็ง สิ่งท่ี
น่าสนใจในการจัดการคือ ผู้นําหญิงพ่ีป่ ินได้เล่าว่าชุมชนไม่เคยมีผู้นําหญิงนํามาก่อนคุณพ่อจึง
มองเห็นถึงความละเอียดรอบคอบ ประสานงาน ดูแลเอาใจใส่และมีความเข็มแข็งอดทนสูง
เช่นเดียวกันผู้ชายจึงทําให้ได้ข้ึนมาเป็นผู้นําและแต่ละชุมชนก็มีผู้นําหญิงเช่นกันซ่ึงพ่ีป่ ินทําให้เรา
มองเห็นภาพผู้นําท่ีสามารถจัดการปัญหาต่าง ๆ และสวัสดิการชุมชนท่ีควรจะได้รับเป็นอย่างดีท้ังการ
พยายามท่ีจะทําให้เป็นย่านท่องเท่ียวแรกๆมีการไม่ยอมรับว่าแหล่งตรงน้ีจะมีอะไรให้เท่ียวแต่ด้วยการ
ปรึกษาประสานงานกลุ่มต่าง ๆ ด้านนอก เช่น การพูดคุยกับกลุ่มจักรยานว่ามีจุดหมายเท่ียวอะไรบ้าง
ท่ีสามารถนํามาปรับได้ เป็นต้น และมีการประกาศเสียงตามสายในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่าง ๆ ให้
ทว่ั ถงึ เปน็ ตน้
รูปน้จี ะสะทอ้ นการวางแผนจัดการงานอย่างมรี ะบบเป็นการจดั ตารางงาน
และส่ิงท่ีสําคัญในช่วงน้ีคือการจัดการดูแลช่วงโควิด- 19 ท่ีมีการประสานงานในการช่วยเหลือ
ท้ังโครงการชุมชนมีรอยย้ิมท่ีมีการแจกอาหารและพู ดคุยกับบริษัทท่ีช่วยให้รับอาหารภายในชุมชน
และมองเห็นว่าถ้าร้านอาหารสามารถเปิดกินได้ปกติก็ต้องยกเลิกโครงการน้ีเพ่ื อหมุนเวียนรายได้
ให้ร้านค้าในชุมชนซ่ึงจะเห็นถึงความเอาใจใส่ท่ีมีของผู้นําชุมชนท่ีสามารถคาดการณ์เหตุการณ์
ล่วงหน้าและสร้างความเป็นธรรมให้กับคนในชุมชน รวมถึงมีการจัดการตรวจโควิด – 19
ให้คนในชุมชนหรือในกรณีท่ีมีเหตุด่วนก็จะมีกลุ่มอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)
ป้องกันดูแลเร่ืองต่าง ๆ เช่น การดับเพลิง เคล่ือนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือเบ้ืองต้นลดการ
สูญเสียก่อนไปโรงพยาบาล และดูแลนําผู้ป่วยโควิด - 19 ไปรักษาต่อ เป็นต้น จึงเป็นหน้าท่ีสําคัญ
เพราะไม่สามารถนํารถใหญ่เข้าไปได้จึงต้องมีหน่วยท่ีช่วยดูแลและศูนย์สาธารณสุข 26 ในกรณี
ท่ีรักษาเบ้ืองต้นจะสังเกตได้ว่าเม่ือมีส่ิงอํานวยความสะดวกทางสุขภาพก็ช่วยลดความเสี่ยงท่ีเกิดข้ึน
ได้ทาํ ใหช้ ุมชนมคี วามไวว้ างใจในกฎรให้ความร่วมมือดูแลสุขภาพและเมอ่ื เกดิ เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ได้
วิชา สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 157
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
มีป้ายในการใหป้ ระชาชนมกี ารป้องกนั ตนเองจากโควิด – 19
นอกจากการดูแลประสานงานอํานวยความสะดวกให้ชุมชนยังมีความตระหนักถึงผู้สูงอายุใน
ชุมชนท่ีมีเยอะและอาจจะมีภาวะของโรคซึมเศร้าทําให้พี่ป่ ินเห็นว่าควรมีการจัดกิจกรรมท่ีช่วยลดความ
เหงาหรือเบ่ือในการอยู่บ้าน เช่น ปลูกผัก พยาบาลมาสอนหัวเราะหายใจให้ดีข้ึนเพื่อคลายเครียดได้
หรือเป็นมัคคุเทศก์สูงวัยในการเล่าเร่ืองราวให้นักท่องเท่ียวฟงั เป็นต้น และมีกิจกรรมสําหรับเยาวชน
คือการพาเด็กเดินดูชุมชนตนเองว่ามีอะไรบ้างเพื่อให้เข้าใจว่ามีความเป็นมาอย่างไร จึงทําให้รู้สึกว่าส่ิง
ท่ีต้องดูแลจัดการในชุมชนไม่ใช่เพียงแค่ผู้นําและผู้ท่ีเก่ียวข้องแต่รวมไปถึงประชาชนท่ีมีความตระหนัก
แ ล ะ เ ห็ น ค ว า ม สํ า คั ญ ใ น ชุ ม ช น ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม พั ฒ น า ชุ ม ช น ข อ ง ต น เ อ ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ กั น จึ ง มี
ความสําคัญมาก รวมถึงการเป็นแหล่งท่องเท่ียวสามารถสร้างจุดเช่ือมโยงคนให้สนใจชุมชนได้ถือ
เป็นชมุ ชนตน้ แบบทม่ี ีประสิทธภิ าพอย่างมาก
จากการได้ฟงั ชุมชนกุฎีจีนสิ่งท่ีทําให้เห็นคือความภูมิใจในชุมชนของตนเอง จากการสะท้อน
การเล่าเร่ืองราวต่าง ๆ รู้สึกว่าคนในชุมชนมีความภาคภูมิใจกับการเป็นคนในชุมชนท่ีมีวัฒนธรรมและ
วิถีชีวิตผูกผันกับนักท่องเท่ียวท่ีเข้ามาชม เช่น เล่าว่าเม่ือก่อนมีนักศึกษาเข้ามาทําวิจัยหรือ
นักท่องเท่ียวไม่เยอะมากแต่ปัจจุบันมีเยอะมากข้ึนแต่ไม่เป็นปัญหาเพราะนักท่องเท่ียวมีคุณภาพ เป็น
ต้น และการไม่ได้ปิดก้ันในการให้คนนอกสามารถเข้ามาเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ ได้ เช่น ขนมฝร่ังกุฎีจีนท่ีมี
การสอนวิธีการทําและสามารถนํากลับไปทํากินได้เพื่ออนุรักษ์ขนมด้วย เป็นต้น รวมท้ังชุมชนมีระบบ
การจัดการท่ีดีซ่ึงคิดว่าการท่ีคนในชุมชนสามารถได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมมีการบริหาร
จัดการท่ีมีคุณภาพทําให้คนในชุมชนน้ีมีความเข้าใจกันและช่วยเหลือกันได้อย่างเต็มท่ีมากข้ึน ถึงแม้
จะมีข้อจํากัดท่ีมีจํานวนคนมากเม่ือเทียบกับขนาดชุมชนแต่ก็สามารถจัดการดูแลได้อย่างท่ัวถึง เช่น
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 158
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ในกรณีของการเกิดโควิด 19 ท่ีมีการควบคุมความแออัดของคนด้วยการส่งตัวแทนเพ่ือเอาอาหารไป
ส่งต่อตามละแวกใกล้เคียงกันและมีผู้ท่ีนําอาหารมาร่วมช่วยเหลือก็เป็นการแบ่งปันได้อย่างดี เป็นต้น
และความเป็นปีกแผ่นเป็นจุดแข็งท่ีทําให้เกิดมุมมองว่าเม่ือได้ฟงั ความสามัคคีกันของคนในชุมชนใน
การดแู ลชมุ ชนของตนเองมีความสําคญั อยา่ งมากเชน่ กนั
มกี ารเตรียมความพร้อมในการจดั การดแู ลตนเองของผ้นู ํา
จากการได้ฟงั การลงพื้นท่ีออนไลน์ทําให้เห็นถึงชุมชนกุฎีจีนในหลายแง่มุมท้ังในวงกว้างและใน
ระดับท่ีย่อยลงมาจากตอนแรกเข้าใจชุมชนแค่ในระดับกว้างว่าเป็นชุมชนท่ีมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมมี
ไอของความเป็นชุมชนเก่าแก่แต่เม่ือได้มาสัมผัสผ่านการฟงั และเห็นรูปภาพจากการท่ีตัวแทนคนในชุม
ขนมาเล่าในเชิงท่ีลึกมากข้ึนก็ทําให้สามารถเกิดการคิดและมองท้ังประวัติความเป็นมา ศาสนาท่ี
หลากหลาย ผู้นําหญิง การจัดระบบท่ีดี กิจกรรมเสริมสร้างพลังในชุมชน สวัสดิการชุมชน การ
แก้ปัญหาโควิด -19 และความเป็นปีกแผ่นของประชาชน ท่ีเป็นจุดแข็งของชุมชนท่ีสามารถขับเคล่ือน
ชุมชนไปในทิศทางท่ีดี รวมท้ังการร่วมมือกันของประชาชนเป็นส่วนท่ีสําคัญท่ีเป็นแรงเสริมในการ
สรา้ งความสุขและความปลอดภยั น่าอยมู่ ากขน้ึ
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 159
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ นั ทึก: นายธนวฒั น์ พักวัด 6205680835 ฃ
จากการศึกษาชุมชนกุฎีจีน กรุงเทพมหานครในคร้ังน้ี ทําให้นักศึกษาน้ันได้แง่มุมต่าง ๆ
ในการนํามาสนอในคร้ังน้ี เพราะเน่ืองจากชุมชนกุฎีจีนน้ัน มีแง่มุมในการให้วิเคราะห์หรือพู ดถึง
ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกัน อาหารการกิน ประวัติศาสตร์
และยังมีพิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า งานท่ีเก่ียวข้องกับศิลปะมากมายให้เราได้ศึกษาและพู ดถึง จึงทําให้
นักศึกษามองเห็นชีวิตการเป็นอยู่ของคนในชุมชนน้ีน้ันเป็นไปอย่างความมีระเบียบ และจากการศึกษา
คร้ังน้ีน้ัน นักศึกษาได้ทําบันทึกภาคสนามในส่ิงท่ีนักศึกษาน้ันได้ฟงั และสนใจ รวมถึงการช่วยเหลือใน
แงม่ ุมต่าง ๆ ได้ ดง่ั ตอ่ ไปน้ี
ประเด็นแรกท่ีทําให้นักศึกษาสนใจในการบันทึกสนามในคร้ังน้ีคือ ประวัติศาสตร์ของชุมชนกุฎี
จีนเพราะเน่ืองจากการท่ีนักศึกษาได้ฟงั แล้วเกิดข้ึนมาจากการเกิดสงครามทางบ้านเมืองจากการท่ี
เคยเป็นจุดพักของหลากหลายเช้ือชาติไม่ว่าจะเป็น ชาวโปรตุเกส ชาวมุสลิม เป็นต้น และตามมาด้วย
ความหลากหลายของการนับถือ ศาสนา พุ ทธ คริสต์ อิสลาม โดยเร่ิมแรกชนชาติท่ีเข้ามาคือ
โปรตุเกส ท่ีเค้ามาเช้ือจุดประสงค์ทางการค้า และเผยแพร่ศาสนา มีพิธีทางศาสนาท่ีคนน้ันได้ยึดถือ
ร่วมกัน ในสิ่งท่ีนักศึกษาคิดว่าในชุมซนกุฎีจีนน้ันเป็นชุมชนท่ีมีวัฒนธรรมท่ีผูกโยงกับเหตุการณ์ทาง
ศาสนา ประวัติศาสตร์ รวมถึงการอพยพ และเป็นการสืบถอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และในปัจจุบันยัง
ทําเป็นการเรียนรู้ในด้านต่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม ด้านอาหาร การสร้างอาชีพ และเป็นการ
สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนในระแวกน้ัน ตัวอย่างเช่น การสร้างแผ่นท่ีท่องเท่ียวในชุมชนกุฎีจีน
ขนมฝร่ัง มีพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เรือนจัทนภาพ สิ่งเหล่าน้ีล้วนแล้วแต่การท่ีแสดงให้เห็นถึงความ
หลากหลายของวัฒนธรรมท่ีเข้ามาอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ทําให้นักศึกษานึกถึงการเป็น รัฐฆราวาส
ท่ีไม่มองแค่ศาสนาใดเป็นศาสนาท่ีสําคัญไปกว่าใคร และมีอิทธิพลมากกว่าใคร เพราะจากศึกษาชุมชน
น้ีแล้ว ถึงแม้จะมีความหลากหลายอยู่มากท้ังวัฒนธรรมและเช้ือซาติ แต่กยังสามารถอยู่ร่วมกันได้
โดยดํารงตามวิธชี วี ติ การเข้าวดั ทําบญุ การเขา้ โบสถ์ทกุ วันอาทติ ย์ การละมาด เป็นต้น
ในส่วนต่อมาท่ีนักศึกษาสนใจคือคือในมุมมองการขับเคล่ือนของสังคม นักศึกษาต้องอธิบาย
ไว้ก่อนว่าการทําความเข้าใจชุมชนน้ัน ไม่เป็นแค่เพียงลงพื้นท่ีลงชุมชนแค่เพียงวันสองวันเท่าน้ัน แต่
เราจะต้องลงไปทราบถึงการใช้ชีวิตประจําวัน การท่ีมีส่ิงท่ีกําหนดใช่ร่วมกัน อย่างเช่นในชุมชนกุฎีจีน
น้ัน ก็จะมีประกาศท่ีติดไว้ถึงรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ในการทํากิจกรรม หรือ การขอความร่วมมือ
รวมไปถึงการแจ้งให้ทราบถึงข่าวสารและข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและคนในชุมชนเพื่อนบ้าน
จากการท่ีเราจะศึกษาชุมชนน้ัน เราจะต้องรู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ การใช้ชีวิต รวมไปถึงความเช่ือ
ความเข้าใจ และสิ่งท่ีนักสังคมสงเคราะห์ทุกคนควรจะต้องทําก็คือ การทราบถึงทรัพยากรท่ีสามารถ
เข้าถึงได้ หรือ หน่วยงานองค์กรท่ีจะสามารถเข้ามาช่วยเหลือให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีข้ึนได้
เม่ือกว่าถึงในชุมชนกุฎีจีนน้ัน นักศึกษาก็ได้เห็นจากการท่ีได้ฟงั บรรยายว่า การขับเคล่ือนของชุมชน
น้ัน มีช้ันตอนคือ การท่ีจะมีการจัดประชุมข้ึนมาและนําตัวแทนในแต่ละ ชุมชน 3 - 5 คน มาพู ดคุยกัน
ถึ ง เ ร่ื อ ง ง ท่ี ต้ อ ง ก า ร จ ะ นํ า เ ส น อ ใ น ชุ ม ช น น้ั น 1 ห รื อ ใ น ใ ด ท่ี ต้ อ ง ก า ร ท่ี จ ะ ไ ด้ รั บ ก า ร แ ก้ ไ ข
หรือ การข้อความช่วยเหลือ จากหน่วยงานต่าง ๆ ซ่ึงนักศึกษามองว่าการทํางานเช่นน้ีน้ัน เป็นส่ิงท่ี
ทําให้การทํางานของแต่ละข้ันตอนน้ันมีความเป็นระเบียบมากข้ึน เพราะเน่ืองจาก การทํางานของ
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 160
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
หวั หน้าในชุมชนต่าง ๆ กท็ ราบความต้องการ หรือ ความช่วยเหลอื ทช่ี มุ ชนของตวั เองน้นั ตอ้ งการอยู่
แล้ว จึงทําให้การทํางานน้ัน มีความเป็นระเบียบมากข้ึน เพราะส่วนในการขับเคล่ือนน้ันจะสามารถ
จัดสรรทรัพยากรได้อย่างถูกต้องตามความต้องการของชุมชนน้ัน ๆ ซ่ึงนํามาเก่ียวโยงกับการทํางาน
ของนักสังคมสงเคราะห์ ท่ีจะต้องทราบและรับรู้ปัญหาของแต่ละกลุ่มหรือชุมชนน้ัน ๆ อย่างแท้จริง
เพ่ื อท่ีจะจัดสรรและแก้ไขปัญหาต่อไป การช่วยเหลือจากกรมทหารท่ีนํากระสอบทรายก้ันน้ํา
นอกจากน้ีในแต่ละชุมซนน้ัน ยังมีกิจกรรมท่ีให้ทําเพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชนของตัวเอง เช่น ทําความ
สะอาด สถานท่ีต่าง ๆ การจัดกิจกรรมเพ่ือสืบทอดความเป็นชุมชนไว้ เช่น กิจกรรมการจัดทําขนม
ฝรง่ั ท่สี ามารถใหเ้ ข้ามาลองทาํ ได้
นักศึกษามองว่าการท่ีชุมชนกุฎีจีนน้ีมีจุดเด่น คือ ในส่วนของประวัติศาสตร์ ท่ีมีความซับซ้อน
และมีความน่าสนใจ และสามารถท่ีจะนํามาแสดงและเผยแพร่ออกมาเพื่อเป็นสถานท่ีท่องเท่ียว และยัง
สามารถท่ีจะทําเงินให้เข้าสู่ชุมชนได้อีก กล่าวคือ การทําขนมฝร่ังขาย การทําอาหารพ้ืนท้องถ่ิน จุดน้ี
ทาํ ใหด้ งึ ดูดความน่าสนใจมากกวา่ ในชมุ ชนอ่นื 1 ( จากรปู ท่อี าจารยไ์ ด้แนบมาและการบรรยาย )
และต่อมาในส่วนของข้อท้าทายของชุมชนกุฎีจีนน้ี ก็คือ อย่างท่ีวิทยากรได้พู ดไป คือ
วัฒนธรรมท่ีในยุคสมัยเปล่ียนไป โลกโลกาภิวัตน์ ทุกอย่างเกิดข้ึนอย่างรวดเร็ว คนในยุคปัจจุบันก็
เลือกส่ิงท่ีอํานวยความสะดวกสบายเข้าตัวเอง และมองเห็นโลกดิจิตอล เทคโนโลยี อย่างชัดเจนกว่า
เม่ือก่อน ทําให้การสืบทอดวัฒนธรรมเช่น อาหารท้องถ่ินของชุมชน น้ันค่อย ๆ เลือนหายไป วิทยากร
ได้พู ดส่วนตรงน้ีไว้ว่า การทําขนมฝร่ังน้ันก็ยาก จะหาคนสืบทอดก็ไม่ค่อยมีกับในยุคสมัยปัจจุบันน้ี
และ หากินไดย้ าก จึงทําใหน้ กั ศึกษามองวา่ เปน็ ข้อทา้ ทายของชมุ ชนน้ี
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 161
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ ันทึก: น.ส.กฤษณา พลภักดี 6205680843 ฃ
ประวัติความเป็นมาของชุมชนกุฎจี นี
• ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนต้ังแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาและอยู่สืบเน่ืองยาวนานมาจนปัจจุบัน
โดยพระเจา้ ตากสินมหาราชไดพ้ ระราชทานทด่ี ินให้กับประชาชนท่รี ว่ มศึกสงคราม
• ภายหลังศึกสงคราม ชาวไทย จีน โปรตุเกส ได้อยู่ร่วมกันท่ีชุมชนแห่งน้ี (ส่วนใหญ่แล้วเป็น
ชาวจนี ฮกเกย้ี น)
• ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ียึดโยงกันด้วยศาสนา เรียกได้ว่าเป็นย่านท่ีรวม 3 ศาสนา 4 ความ
เช่อื พุทธ (เถรวาทและมหายาน) ครสิ ต์ อสิ ลาม
• มศี าลเจ้าเกยี นอนั เกงประจําชุมชน (สรา้ งในสมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้น และได้รบั รางวัล)
• ศาสนสถานภายในบริเวณชุมชนกุฎีจีน ได้แก่ วัดชางตาครู้ส กุฎีจีน วัดกัลยาณมิตร
วรมหาวหิ ารและมสั ยดิ บางหลวง
• การประกอบพิธีกรรมของแต่ละศาสนาจะอยู่ในแต่ละพ้ืนท่ีของชุมชนท่ีได้มีการจัดสันปันส่วนไว้
อย่างเรียบร้อย ทําให้สมาชิกในชุมชนท่ีต่างศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจ แต่
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาย COVID-19 แต่ละศาสนาก็จะมีการปรับรูปแบบพิธีกรรมมา
เป็นแบบออนไลน์ เช่น ศาสนาพุ ทธจะมีการฟงั เทศน์/สวดมนต์ในรูปแบบออนไลน์ หรือเสียง
ตามสายในชุมชน หรือพิธีกรรมการเข้าโบสถ์ท่ีปรับเป็นรูปแบบออนไลน์ ถ้าหากใครต้องการ
รบั ศีลสามารถยืนรอหนา้ บา้ นได้เนอ่ื งจากเปน็ ชมุ ชนปิด
• มีพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน ท่ีบอกเล่าเร่ืองราวในประวัติศาสตร์ของชุมชน รวมถึงวิถีชีวิต และ
วัฒนธรรมต่าง ๆ ภายในชุมชน เช่น วัฒนธรรมทางศาสนา วัฒนธรรมอาหาร (ขนมฝร่ังกุฎี
จีน) วัฒนธรรมทางด้านศิลปะ (ไม้เคร่ืองแกะสลัก จิตกรรมฝาผนัง สถาปัตยกรรมศาลเจ้า
เกยี นอันเกง)
• วันสําคญั ของชมุ ชนได้แก่ วันคริสมาสตร์ วันอีสเตอร์ วนั ฉลองครสิ ต์กายา และวนั ฉลองวัด
• ชุมชนกุฎีจีนจะมีระฆัง 2 ชุดประจําชุมชน โดยระฆังปกติใช้สําหรับการตีบอกเวลา และแจ้งเหตุ
ข่าวสารและระฆังการียองใช้ตีเน่ืองในอกาสสําคัญ เช่น งานฉลองวันคริสต์มาส วันปัสกา
เทศกาลพิเศษ หรอื วนั ปีใหม่
กลไกการทํางานภายในชุมชนกฎีจนี
• ผู้นําชุมชนและคณะกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แสดงให้เห็นว่าเพศหญิงน้ันสามารถมี
บทบาทของผู้นําท่ีดูแลจัดการชุมชนได้ มีความเข้มแข็งและมีความละเอียดอ่อนและใส่ใจใน
รายละเอยี ดของชุมชนไมต่ า่ งจากผู้นาํ ชุมชนทเ่ี ปน็ เพศชาย
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 162
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
• แม้วิถีชีวิตของชุมชนกุฎีจีนในสถานการณ์ปกติจะเป็นชุมชนท่ีถูกนํามาเป็นแหล่งความรู้
และการศึกษาถึงวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของผู้คนท่ีมีความต่างทางศาสนา (Live Museum)
แตส่ มาชิกในชมุ ชนก็สามารถปรบั ตัวเขา้ กับสภาพแวดลอ้ มและหารายไดเ้ ข้าสู่ภายในชมุ ชนได้
• ปัจจุบันชุมชนกุฎีจีนมีกระบวนการในการท่ีจะขับเคล่ือนชุมชนกุฎีจีนให้เป็นชุมชนท่องเท่ียวเชิง
วัฒนธรรมโดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีเป็นพ่ี เล้ียงดูแลให้กับคนในชุมชนในเร่ืองการ
จัดการระบบต่าง ๆ และมีหน่วยงานภาครัฐให้ความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนด้วยกันหลาย
ภาคส่วน
• และมีการจัดการวางแผนการดูแลปรับปรุงพ้ืนท่ีภายในชุมชนเพ่ือให้เกิดความเป็นระเบียบ
เรียบร้อยพร้อมสําหรับการปรับเปล่ียนเป็นชุมชนท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม เช่น การนําสายไฟ
ลงดนิ /จดั ระเบยี บสายไฟเส้นทางการเดนิ ภายในชุมชน และทัศนยี ภาพของชมุ ชน
ชุมชนกฎุ ีจีนภายใตส้ ถานการณ์ COVID - 19
• ชุมชนกุฎีจีนมีประชากรจํานวน 1,850 คน 261 หลังคาเรือน และ 305 ครัวเรือน ประธาน
ชุมชนและคณะกรรมการต้องมีการจัดสรรทรัพยากรและดูแลการจัดการกระจายความ
ช่วยเหลือให้ท่วั ทง้ั พ้ืนท่ี
• ได้รับเงินอุดหนุนช่วยเหลือ ชุมชนละ 40,000 บาท แบ่งการจัดการโดยการเรียงตามลําดับ
ความต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เช่น ครอบครัวท่ีมีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เด็ก ผู้
พิการและสตรีมคี รรภ์
• มีการจัดกิจกรรมในกับสมาชิกในชุมชนและผู้สูงอายุ เพ่ือจัดการกับภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
และผลจากความเครียดและกงั วลจากสถานการณ์ COVID /การได้รบั ผลกระทบทางเศรษฐกจิ
เช่น กิจกรรมบูรณะทําความสะอาดชุมชน กิจกรรมปลูกผักสวนครัว กิจกรรมจากทาง
โรงพยาบาล ในเร่อื งของการหวั เราะจงั หวะการหายใจ และการจัดการกบั ความเครยี ด
• ศาสนสถานภายในชุมชนปดิ ทําการทง้ั หมด แตไ่ ดม้ ีการปรับรปู แบบไปเปน็ แบบออนไลน/์ เสียงตามสาย
• ประสบปญั หาการสูญเสียรายได้จากการทอ่ งเท่ยี วและการใช้จ่ายของผู้ท่มี าเยย่ี มชมชมุ ชน
• มีอาสาสมัครภายในชุมชน เช่น อาสาสมัครจากท้ังภายนอกและภายในชุมชนท่ีมีการช่วยกัน
หมุนเวียนทําอาหารแจกให้กับสมาชิกในชุมชน และอาสาสมัครป้องกันภัยในชุมชน (อปพร.
จํานวน 23 คน ท่ีดูแลในเร่ืองของความปลอดภัย เช่น ไฟไหม้ การจับตัวเงินตัวทอง การ
รับส่งผู้ป่วยและการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น การพ่นยาฆ่าเช้ือในพ้ืนท่ีชุมชนช่วง
COVID-19
• มีการประสานงานกับทางโรงพยาบาลเกษมราษฎ์เพ่ือทําการตรวจเชิงรุกหาผู้ติดเช้ือ COVID
-19 ภายในชมุ ชนเน่อื งจากเปน็ ชมุ ชนท่มี ผี ู้สูงอายุคอ่ นข้างมาก และมผี พู้ ิการ /ผู้ปว่ ยติดเตียง
• ในช่วงน้ําท่วมได้รับการประสานงานดูแลจากหน่วยงานภาครัฐในพื้นท่ีเร่ืองการจัดวาง
กระสอบทรายก้นั นา้ํ และสมาชิกในชมุ ชนก็ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั เปน็ อย่างดี
วชิ า สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 163
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
สถาบันชุมชน สถาบนั ชุมชน เครอื ข่ายภายในชมุ ชน
เครอื ข่ายอาชีพภายในชุมชน ศูนย์การเรียนรู้ในชมุ ชน การสบื ทอดความรู้ของชมุ ชน
ศูนยก์ ารเรียนร้ใู นชมุ ชน ผลิตภณั ฑภ์ ายในชมุ ชน
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 164
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ นั ทึก: น.ส.วรัญชลี วฒุ เิ ขต 6205680850 ฃ
บนั ทกึ ภาคสนาม:ชุมชนกุฎจี นี
ในวันน้ีเน่ืองจากสถานการณ์โควิด-19 ทําให้เราอดได้ลงชุมชนกุฎีจีน แต่ได้มีพี่ๆท่ีน่ารัก
อาจารย์ท่ีประสานงานและได้รับความร่วมมือจากพ่ีๆในชุมชนในการให้ความรู้กับเราผ่านทางออนไลน์
ในตอนแรกน้ัน พี่ด้วงได้เล่าเก่ียวกับประวัติความเป็นมาของชุมชนกุฎีจีนให้กับเรา โดยพี่ด้วงได้เล่าว่า
ในสมัยรัตนโกสินทร์พ้ืนท่ีของชุมชนน้ันเคยเป็นจุดพักเรือของชาวต่างชาติมาก่อน โดยเฉพาะชาวจีน
ฮกเก้ียน เม่ือเวลาผ่านไปมีการพํานักถาวรจึงได้มีการสร้างศาสนสถานของชาวจีนท่ีเรียกว่าศาลเจ้า
เกียนอันเกง นอกจากชาวจีนฮกเก้ียนแล้วยังมีชาวโปรตุเกสท่ีอาศัยอยู่ โดยอาศัยอยู่บริเวณโบสถ์
ซานต้าครสู้ และยังมมี ัสยดิ วงั หลวง ทาํ ใหย้ ่านกุฎจี นี น้นั มีศาสนาถงึ 3 ศาสนาดว้ ยกนั ท้งั พุทธ คริสต์
และอิสลาม นอกจากน้ีพี่ด้วงยังได้เล่าอีกว่า ศาลเจ้าเกียนอันเกงถือเป็นศาสนสถานท่ีสร้างความสงบ
สุขให้กับชาวจีนรวมถึงผู้ท่ีเคารพ ตัวศาลเจ้าน้ันมีความงดงามในด้านศิลปกรรม จิตรกรรมและ
สถาปัตยกรรม ตัวอาคารออกแบบแบบจีน โดยตรงกลางน้ันจะเป็นท่ีประดิษฐสถานของพระโพธ์ิสัตว์
และจิตรกรรมฝาผนังน้ันจะเป็นเร่ืองรวามของสามก๊กในตอนท่ีสําคัญๆ มีการวาดตามแบบรางวงศ์
ชิง โดยตัวศาลเจ้าน้ันมีสีท่ีเป็นสีธรรมชาติ เป็นสีท่ีเด่น สะดุดตา ได้มีการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชม
ความงามและศึกษาประวตั ศิ าสตร์
(ศาลเจา้ เกยี นอนั กง)
หลังจากท่ีพี่ด้วงได้เล่าจบน้ัน มีพ่ีตองท่ีน่ารักอีกคนได้มาเล่าประวัติให้เราฟงั เพิ่มเติม โดยพี่
ตองได้เล่าไปในตอนท่ีพระเจ้ากรุงธนบุรีมอบท่ีดินให้กับชาวโปรตุเกสท่ีเหลือรอดจากสงคราม ให้ได้มีท่ี
อยู่อาศัย พี่ตองยังเล่าอีกว่าในปัจจุบันน้ันคือโบสถ์หลังท่ี 3 โดยมีชุมชนล้อมรอบ มีการสร้างตาม
สถาปัตยกรรมแบบเรเนซองค์ ผสมนีโอคลาสสิก ซ่ึงเป็นความชอบของคนสมัยน้ันคือ คุณพ่อก้ินและ
คุณพ่อแปโร ในการออกแบบ ซ่ึงอีกช่ือของโบสถ์น้ีคือ โบสถ์ซางตราครู้ส เป็นภาษาโปรตุเกสเพ่ือให้
เกียรติชาวโปรตเุ กสในอดตี และมคี วามหมายว่า กางเขนศักดส์ิ ิทธ์ิ
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 165
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
(โบสถซ์ างตราครูส้ )
โดยโบสถ์หลังน้ีมีท้ังหมด 3 ส่วน ส่วนแรกคือหอระฆัง จะมีระฆังท่ีตีทุกวันเพื่อบอกเวลาและ
เร่ืองต่าง ๆ ให้คนในชุมชนได้รับรู้ และมีระฆังท่ีช่ือว่าระฆังกาลียอง เป็นระฆังชุด มีท้ังหมด16ใบ โดย
แต่ละใบมีเสียงท่ีแตกต่างกันตามโน้ต เช่นเดียวกับการเล่นเปียโน มักใช้ในงานสําคัญต่าง ๆ พ่ีตองได้
บอกว่าในตอนน้ีน้ันมีผู้ท่ีสามารถเล่นระฆังกาลียองน้ีได้เพียงสองคนเท่าน้ัน เน่ืองจากเป็นการเล่นแบบ
โบราณ หน่ึงในน้ันคือ พ่ีก๋อย ส่วนท่ีสองคือ อาคารท่ีใช้ในการประกอบศาสนา มีกระจกสีสวยงาม
เก่ียวกับพระคัมภีร์ แต่เม่ือเกิดสงครามโลกคร้ังท่ีสอง ได้รับแรงระเบิดจึงทําให้กระจกแตกไป จึงได้
เปล่ียนเป็นรูปกางเขนปกติ และได้มีการเปล่ียนเป็นพระคัมภีร์เช่นเดิมจนถึงปัจจุบัน และส่วนท่ีสามน้ัน
คือ สังฆภัณฑ์ สําหรับการเก็บของต่าง ๆ ทางศาสนา จากการเล่าประวัติความเป็นมาของพ่ีด้วงและ
พี่ตองน้ัน ทําให้ดิฉันมีความแปลกใจในขณะน้ันว่าชุมชนน้ีสามารถอยู่ร่วมกันโดยมีความแตกต่าง
ในทางศาสนาน้ีได้อย่างไรกัน พี่ตองยังได้เล่าต่ออีกว่า ชุมชนกุฎีจีนน้ันเราสามารถศึกษาชีวิตของคน
ในชุมชนได้ เป็น Life museum ท่ีดิฉันก็คิดว่าเห็นได้ชัด พี่ตองได้อธิบายลักษณะบ้านในอดีตของ
ชุมชนน้ีว่า ในอดีต ทุกบ้านมักจะสร้างบ้านแบบมีใต้ถุนบ้านสูง เน่ืองจากป้องกันน้ําท่วม โดยใต้ถุน
บ้านน้ันสามารถเป็นท่ีเล้ียงสัตว์หรือประกอบอาหารภายในครอบครัวได้ แต่ในปัจจุบันน้ันมีความ
เปล่ียนแปลงไปคือ บ้านส่วนใหญ่ไม่สร้างแบบมีใต้ถุนแล้ว เน่ืองจากทางกรุงเทพฯและหน่วยงานท่ี
เก่ยี วขอ้ งไดม้ ีการสร้างประตกู ันน้าํ เพื่อป้องกันนา้ํ ท่วมเขา้ บา้ นในชมุ ชนรมิ นา้ํ
พี่ตองยังได้อธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับความสัมพันธ์กันในชุมชน โดยได้เล่าว่าชุมชนมีสิ่งสร้าง
ความสัมพันธ์ ยึดเหน่ียวซ่ึงกันและกันไว้ด้วยศาสนา มีเทศกาลสุขศักด์ิสิทธ์ิท่ีเป็นการจําลองการตรึง
ไม้กางเขน เป็นการถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังได้สานต่อ และมีอาหารท่ีถือเป็นอาหารประจําชุมชน ทุก
บ้านต้องทําสิ่งน้ี คือ ขนมจีนแกงไก่ค่ัว โดยเป็นอาหารเขมรท่ีเม่ือได้ลองทานน้ันทุกคนพู ดเหมือนกัน
ว่าอร่อย จึงได้จําวิธีการทํามาทําในชุมชน ทําให้เป็นอาหารท่ีอยู่คู่ชุมชนมาเป็นเวลานาน ขณะท่ีพี่ตอง
กําลังพู ดถึงขนมจีนน้ัน ตัวผู้บันทึกมีความรู้สึกว่าอยากทานมาก และหลายๆคนคงคิดเช่นเดียวกัน
จงึ เปน็ ไปไมไ่ ด้เลยว่าถ้าสถานการณ์ในปัจจุบนั ดีข้นึ นน้ั ก็อยากไปลองขนมจีนแกงไก่คว่ั น้ที ช่ี ุมชนกฎุ จี นี
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 166
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
(ขนมจีนแกงไกค่ ว่ั )
และพี่ตองยังบอกพวกเราอีกว่า ในชุมชนน้ันยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ได้ศึกษา โดยมีท้ังหมดสองช้ัน
ช้ันแรกคือ เล่าเก่ียวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชุมชน ส่วนในช้ันท่ีสองน้ันเป็นการอธิบายวิถี
ชีวิตของชุมชนว่ามีการดําเนินชีวิตกันอย่างไรบ้าง เม่ือพ่ีตองเล่าจบแล้วน้ัน มีการให้เวลาเผ่ือพวกเรา
จะมีคําถามสอบถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ หลังจากน้ันก็ถึงเวลาของพี่ป่ ินทองหรือประธานชุมชนในการมา
เล่าเก่ียวกับการดําเนินงาน การพัฒนาชุมชนให้พวกเราได้ทราบ พ่ีป่ ินทองได้เล่าว่า การดําเนินงาน
หรือพัฒนาสิ่งตา่ ง ๆ น้นั จะมกี ารขบั เคลอ่ื นไปพรอ้ มกนั ๆ มีการแบง่ หน้าท่แี ตล่ ะยา่ น มีการหาตวั แทน
เพื่อจะได้ทํางานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากพอ แต่ในปัจจุบันน้ันเน่ืองจากผู้ท่ีเข้ามาทํางาน
ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเป็นผู้สูงอายุ จึงมีข้อจํากัดในเร่ืองเทคโนโลยี โครงการท่ีพ่ีป่ ินทองได้
ยกตัวอย่างคือ โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในแต่ละชุมชน โดยได้เงินจากภาครัฐจํานวน 4
หม่ืนบาท ซ่ึงดิฉันรู้สึกว่าเป็นจํานวนเงินท่ีน้อยเกินไปในการจัดการชุมชนแต่ละชุมชน ซ่ึงมีจํานวน
ประชากรท่ีมากน้อยต่างกันออกไป ในขณะเดียวกันก็ได้มีการทําเร่ืองขอความช่วยเหลือไปยัง
หน่วยงานเอกชน บริษัทต่าง ๆ ซ่ึงก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี นอกจากน้ียังมีการจัดกิจกรรม
ร่วมกันภายในชุมชน เช่น การปลูกผักสวนครัว โดยกลุ่มเป้าหมายในกิจกรรมน้ีคือ ผู้สูงอายุ
เน่ืองจากผู้สูงอายุมักจะอยู่คนเดียวและมีโรคโควิด - 19 อาจจะเกิดภาวะซึมเศร้า ส่งผลต่อสุขภาพใน
เวลาต่อมา โดยชุมชนน้ันก็ได้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโดยมีการปิดศาสนสถานช่ัวคราว
เพ่ือไม่ให้คนมารวมกันเป็นจํานวนมาก และพ่ีป่ ินทองน้ันยังได้บอกอีกว่า ในชุมชนจะมีอาสาสมัครท่ี
คอยดูแลเร่ืองต่าง ๆ ท่ีสําคัญเลยคือ อภปร. ในปัจจุบันมีประมาณ 23 คน มีการผลัดเปล่ียนมา
ช่วยเหลือคนในชุมชน ไม่ว่าจะการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น การจับสัตว์ท่ีคนไม่พึงประสงค์ ก่อนท่ีจะจบ
การลงชุมชนออนไลน์น้ัน อาจารย์ต๊ักได้สอบถามพ่ีป่ ินทองว่า เม่ือสถานการณ์โควิดดีข้ึน จะทํา
อย่างไรบ้าง พ่ีป่ ินทองได้บอกกับพวกเราว่า จะมีการปรับปรุงเส้นทางในชุมชน บรรยากาศ และเน้นใน
ด้านท่องเท่ียว เน่ืองจากอาชีพของคนในชุมชนส่วนใหญ่คือการขายของ สินค้าต่าง ๆ ให้กับ
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 167
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
นักท่องเท่ียว เม่ือจบการลงชุมชนแล้วน้ัน รู้สึกขอบคุณพ่ีด้วง พ่ีตองและพี่ป่ ินทองในการสละเวลามา
ใหค้ วามรกู้ ับพวกเรา และคดิ วา่ เพื่อนๆคงอยากจะไปชุมชนกุฎจี นี น้สี ักครง้ั รวมถงึ ตัวดิฉันด้วย
ความคิดเห็นของผู้บันทึก ชุมชนกุฎีจีนน้ีทําให้รู้สึกแปลกใจและประหลาดใจกับตนเอง
เน่ืองจากแม้ว่าจะเป็นการลงภาคสนามแบบออนไลน์ แต่พ่ีๆท้ังสาม เล่าเร่ืองความเป็นมาๆต่างได้
อย่างไม่น่าเบ่ือหรือง่วงนอนเลยแม้แต่น้อย ย่ิงได้ฟงั รู้สึกสนุก เห็นภาพตามท่ีพ่ีๆได้เล่า ชุมชนกุฎีจีน
น้ีถือเป็นชุมชนท่ีเก่าแก่ มีประวัติมาอย่างยาวนาน และไม่สงสัยเลยว่าทําไมหน่วยงานต่าง ๆ ถึงพร้อม
จะให้ความช่วยเหลือ เพราะมีท้ังศาสนสถานท่ีเก่าแก่ เต็มไปด้วยเร่ืองราวต่าง ๆ มากมาย รวมถึงคน
ในชมุ ชนไมม่ กี ารแตกแยกกนั เอง เคารพซ่งึ กันและกันในด้านศาสนา อย่รู ว่ มกนั ไดอ้ ย่างมีความสุข
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 168
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
เรอ่ื งเล่าจากพี่ด้วง ผูบ้ ันทกึ : น.ส.ชลิตา เอ้อื ศิรติ ระกูล 6205680991
ฃ
จากการฟังบรรยายชุมชนกุฎีจีน เร่ิมต้นจากประวัติศาสตร์ชุมชน พ่ี ด้วงได้พู ดถึงว่า
ครอบครัวของพี่ด้วง เป็นหน่ึงในตระกูลท่ีอยู่มาหลายร้อยปีในชุมชนกุฎีจีน พ่ีด้วงได้เล่าถึงการเดิน
ทางเข้ามาของหลากหลายชาติ ผ่านการเดินเรือโดยต้องผ่านแม่น้ําสายใหญ่ อย่างแม่น้ําเจ้าพระยา
และจําเป็นจะต้องมีการตรวจสอบสินค้าในป้อมวิชัยประสิทธ์ิ ทําให้มีการแวะพั กของบรรดา
ชาวต่างชาติ อาทิเช่น โปรตุเกส ซาวจีนฮกเก้ียนช่วงแรกเป็นการแวะพักในระยะช่ัวคราว และภายหลัง
ต่อมา บรรดาชาวต่างชาติ พ่อค้า นักเดินเรือ ได้เข้ามาต้ังถ่ินฐานอย่างถาวร และเม่ือมีการอยู่อย่าง
ถาวรก็เกิดเป็ยชุมชนท่ีมีความหลากหลายของชาติพันธ์ุ การก่อต้ังบูรณะศาสนสถาน ผ่านหลักฐาน
การบันทึกของนักพฤกษศาสตร์ชาวเด็นมาร์ค ของการสร้างศาลเจ้าโดยมีพระภิกษุชาวจีนเข้ามา
พํานักท่ีน่ี ต่อมามีการโยกย้ายเข้ามาอยู่มากข้ึนของชาวจีนฮกเก้ียน มีการก่อต้ังศาลเจ้าเกียนอันเกง
ท่ีเป็นศาลเจ้าท่ีมีอายุยาวนานหลายร้อยปี และภายในตกแต่งด้วยศิลปะอันงดงาม ความประณีตของ
เคร่ืองไม้แกะสลัก ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และภายนอกมุงด้วยกระเบ้ืองโค้งตามแบบจีนแท้ โดยเช่ือ
ว่าศาลเจ้า เป็นสัญลักษณ์ในชุมชนอย่างหน่ึงท่ีแสดงถึงความสงบ สร้างความผาสุข ความร่มเย็นต่อ
ชาวจีนฮกเก้ียนรวมถึงผู้ท่ีเข้ามากราบไหว้บูชา นอกจากน้ีก็ยังมีชาวโปรตุเกส เข้ามาอยู่อาศัยภายใน
ชุมชน และมีการก่อต้ังโบสถ์ และมัสยิส ทําให้ชุมชนน้ีมีเป็นชุมชนท่ีมีความหลากหลายทางศาสนา
ท้ังพุทธเถรวาท พุทธมหายานคริสต์ และอิสลาม ทว่าความแตกต่างหลากหลายทางศาสนาน้ีไม่ได้เป็น
อุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกันของสมาชิกภายในชุมชน ท้ังยังเป็นความงดงามในความหลากหลาย
เหล่าน้ตี ามท่ปี รากฎในประวตั ิศาสตร์
เรอ่ื งเล่าจากปา้ ตอง
ในช่วงของพี่ตอง ยังมีการเล่าถึงประวัติศาสตร์ชุมชน ในมิติด้านกายภาพ ประชากร และด้าน
ความเช่ือ โดยพ่ีตองเล่าลงไปถึง การสร้างโบสถ์ซางตาครูส โบสถ์เป็นศูนย์กลางของการแพร่
ขยายตัวของชุมชน สร้างโบสถ์แล้วจึงสร้างชุมชนรอบข้างต่อขยายออกไป ในมิติด้านความเช่ือพี่
ตองได้เล่าถึงงานเล้ียงเฉลิมฉลองเพ่ือให้เกียรติชาวโปรตุเกส ของทุก ๆ วันท่ี 14 กันยายน ของทุก ๆ
ปี ซ่ึงเป็นหน่ึงในปฏิทินชุมชนกุฎีจีนท่ีมีการทําอย่างต่อเน่ือง ยาวนาน ของสมาชิกในชุมชนท่ีนับถือใน
ศาสนาคริสต์ นอกเหนือจากน้ันในเทศกาลอ่ืน ๆ ท่ีไม่เก่ียวข้องทางศาสนา เพ่ือนต่างศาสนาท่ีอยู่ใน
ชุมชนเดียวกันก็จะมีการมาเฉลิมฉลองร่วมกัน แต่ก็เป็นลักษณะของการเข้าอกเข้าใจในการประกอบ
อาหาร การไม่เครง่ มากจนเกินไป เชน่ การใช้ถว้ ยชามของชาวอสิ ลาม เปน็ ลกั ษณะของการอย่รู ่วมกนั
อย่างลงตัว ป้าตองยังเล่าพร้อมอารมณ์ความรู้สึกท่ีนึกย้อนไปก็ยังสามารถทําให้ป้ารู้สึกอบอุ่นหัวใจ
ในสมัยท่ีป้าตองยังเด็ก สภาพบ้านเรือนในเขตน้ีจะเป็นการสร้างท่ีต้องยกใต้ถุนสูงเสมอ เพราะจะมีน้ํา
ท่วมมาในบางช่วง แต่ในสมัยน้ันยังใสมาก เม่ือคร้ันน้ําข้ึน ทําให้เด็ก ๆ พากันกระโดดข้ึนน่ังบนล้อยาง
ลอยลากกันไปมาอย่างสนุกสนาน และเม่ือช่วงน้ําลดแห้งเหือดไป ชาวบ้านบางหลังก็จะนําหมูมาเล้ียง
ใต้ถุนบ้านได้ ดังเดิม เม่ือเวลาผ่านมา ทางกรุงเทพได้มีการสร้างประตูก้ันน้ํา และหากน้ําข้ึนสูง
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 169
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ก็จะมีการแจกจ่ายกระสอบทรายให้แก่สมาชิกในชุมชนเพ่ือป้องกันน้ําในเบ้ืองต้น สําหรับสมาชิกใน
ชุมชน เด็กรุ่นใหม่ๆ หรือผู้ใหญ่วัยทํางาน เม่ือต้องกระจายกันไปทําหน้าท่ี โยกย้ายถ่ินฐานออกจากชุม
ซนกุฎีจีน เม่ือถึงช่วงวันสําคัญทางศาสนาเป็นต้องกลับมา เช่นในช่วงวันศุกร์ศักด์ิสิทธ์ิ วันอิสเตอร์
ก็จะคล้ายกับเทศกาลสงกรานต์ท่ีคนจะกลับบ้านมาเฉลิมฉลองกับครอบครัวของตน อย่างท่ีได้กล่าว
มาข้างต้น นับต้ังแต่อดีตมีการโยกย้ายและเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ หลากหลายชาติพันธุ์
ทําให้ได้รับมาซ่ึงอิทธิพลและวัฒนธรรมท่ีหลากหลายรวมถึง ด้านอาหารของชุมชนกุฎีจีน แต่จะไม่ใช่
อาหารไทยแท้ ส่วนมากจะเป็นสตู ของอบ ของทอด รวมถึงขนมเค้กท่ีเรียกได้ว่าเป็นเค้กก้อนแรก
ของไทย ก็เร่ิมตันมาจาก ณ ท่ีแห่งน้ี "ขนมฝร่ังกุฎีจีน" ท่ีมีส่วนผสมของแป้งและไข่ เป็นมิติเชิงภูมิ
ปัญญาท้องถ่ิน ท่ีทํากับมาเร่ือย ๆ แต่ปัจจุบัน เหลือเพียงไม่ก่ีเจ้าท่ียังคงทําขนมฝร่ังน้ีอยู่ ป้าตองยัง
พูดอีกว่าหวังว่าในภายภาคหน้าขอให้คนรุ่นหลัง ลูกหลานยังคงขนมเหล่าน้ีให้เป็นหน่ึงในสัญลักษณ์ท่ี
แสดงออกถึงความพิเศษของชมุ ชนกฎุ จี ีนน้ตี อ่ ไป
เร่อื งเลา่ จากพี่ป่ นิ
พ่ีป่ ินได้ลงถึงเร่ืองราวและสถานการณ์ในปัจจุบันและกลุ่มผู้ปฏิบัติหน้าท่ีในชุมชน ซ่ึงเป็นหน่ึง
ในโครงสร้างของชุมชนกฎีจีน ท่ีมีการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด และผลกระทบต่อคนในชุมชน
ด้วยความท่ีคนในชุมชนมีกลุ่มผู้สูงอายุจํานวนมาก ทําให้เม่ือเกิดสถานการณ์โควิดก็ต้องปรับเปล่ียน
วิถีชีวิตต่างออกไปผลกระทบท่ีเกิดข้ึนนอกเหนือจากท่ีต้องปิดการท่องเท่ียว หรือจํานวนผู้เข้าชม
นักท่องเท่ียวลดลงทําให้รายได้ของคนในชุมชนลดลงอย่างมากแล้วน้ัน ยังเป็นผลกระทบด้าน
สุขภาพจิต มีภาวะซึมเศร้าของผู้สูงอายุในชุมชนเม่ือชุมชนตระหนักถึงปัญหาเหล่าน้ีก็ได้มีการสร้าง
กิจกรรม นันทนาการ เช่น กิจกรรมฝึกย้ิม การปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างเสริมสุขภาพจิตท่ีดีให้แก่
เหล่าสมาชิกภายในชุมชน พี่นได้กล่าวถึงระบบการจัดการของชุมชนส่วนมากเป็นผู้หญิงสูงวัย
ปัญหาท่ีได้เผชิญก็มีในเร่ืองของการขาดความรู้ความเข้าใจ ในด้านของเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยในช่วง
น้ี การทํางานในระบบออนไลน์เป็นส่ิงท่ีจําเป็นอย่างย่ิง ในส่วนของอาสาสมัครชุมชนกุฎีจีนมาช่วยงาน
จากหลากหลายภาคส่วน หรอื แมแ้ ต่คนในชุมชนเอง กม็ ีกลมุ่ อปพร. (อาสาสมคั รป้องกันภัยฝา่ ยพล
เรือน) จํานวน 23 คนท่ีมีการฝึกอบรม มีการก่อต้ังแต่ในช่วงแรก เหตุท่ีต้องมีกลุ่มอาสาสมัครเหล่าน้ี
เป็นเพราะเม่ือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเช่น ไฟไหม้บ้านเรือน ด้วยลักษณะชุมชนขนาดเล็กทําให้ไม่
สามารถเข้ามาของรถใหญ่ใด้ กลุ่ม่อาสาเหล่าน้ีต้องทําการกู้ชีพ และช่วยเหลือเบ้ืองต้นหากเกิด
สถานการณฉ์ ุกเฉนิ
การรับรู้ผา่ นภาพถ่ายในการลงพ้ืนท่ชี มุ ชนกุฎจี นี ของเหล่าคณาจารย์
บรรดาภาพถ่ายท่ีได้จากคณะอาจารย์ สะท้อนให้เห็นถึงความลักษณะชุมชนกุฎีจีนในปัจจุบัน
จากจินตภาพท่ีได้รับฟงั ท้ังพ่ีด้วง ป้าตอง และพ่ีป่ ิน เรานึกถึงความครึกคร้ืน และการแวะเวียนเข้ามา
ของเหล่านักท่องเท่ียว นักเรียน นักศึกษา แต่ในสภาวะของการแพร่ระบาดโควิด ทําให้ชุมชนท่ีได้เห็น
ผ่านภาพถ่ายมีลักษณะท่ีเงียบกว่าท่ีเคยเป็น ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ี ส่งผลท้ังในด้านของวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ท่ี
เปล่ียนไป รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจการสร้างรายได้ภายในชุมชนลดน้อยลง เช่น ร้านขายของชํา
วชิ า สค. 311 หลักและวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 170
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
อย่างไรก็ดี ลักษณะทางกายภาพ ท่ีเห็นได้ชัดคือโบสถ์ของวัดซางตาครู้สท่ีต้ังตระหง่าน หรือรูปป้ ัน
ของนักบุญเทเรซา พร้อมกับป้ายสัญลักษณ์ในการบอกทิศทางไปยังท่ีแห่งน้ันอย่างชัดเจน ส่ิงน้ีเป็น
สัญลักษณ์ท่ีผู้เข้ามาเย่ียมชมในชุมชน แม้ไม่ได้ศึกษาประวัติของชุมชนมาก็ สามารถอนุมานได้ว่าคน
ในชุมชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ระหว่างทางยังมีป้ายบอกการปฏิบัติตัว เว้นระยะห่างของคนใน
ชุมชน เพ่ือลดความเสี่ยงในการติดเช้ือในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด และอาจารย์ยังมีภาพถ่าย
ของการถังขยะแยกเป็นสัดส่วน พร้อมท้ังมีป้ายติดว่า กุฎีจีน เราอนุมานว่าการติดป้ายชุมชนบนถัง
ขยะเพื่อให้คนให้เฉพาะสมาชิกในชุมชนกุฎีจีน สามารถนําขยะมารวบรวมท้ิงภายในบริเวณน้ีได้ อีกท้ัง
เพ่ือแยกให้เป็นสัดส่วนของแต่ละชุมชนใกล้เคียงไม่ให้นําขยะมาท้ิงไว้ ณ ท่ีแห่งเดียว ในช่วงของการ
แพร่ระบาดโควิด อีกมุมหน่ึงของการปิดชุมชน อาจสามารถมองในแง่ดีว่าเป็นช่วงของการปรับปรุง
ลักษณะสุขอนามัย หรือแก้ไข จัดสรร ความเรียบร้อยในบางพ้ืนท่ี เช่น จากในภาพท่ีมีขยะและม้าหิน
อ่อนท่ีชํารุด หรือกระถางต้นไม้ท่ีแตกหัก (ในหน้าฝนเม่ือฝนตกมีน้ําขังอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและ
เกิดปัญหาทับซ้อนอีกได้) หรือการปรับปรุงลักษณะของสนามบาสเก็ตบอล ให้พร้อมต่อการทํา
กิจกรรมของคนในชมุ ชนเม่อื ผ่านพันสภาวะโรคระบาดนใ้ี นภายภาคหนา้
วชิ า สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนูนวล 171
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ ันทกึ : น.ส.ปรยี าพร ธมิ าชัย 6205681023 ฃ
บนั ทกึ ภาคสนาม
จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้นักศึกษาต้องปรับตัวมาเรียนในรูปแบบ
ออนไลน์ นอกจากน้ียังมีข้อจํากัดในเร่ืองของการลงพ้ืนท่ีชุมชน ทําให้นักศึกษาต้องลงภาคสนาม
ช่องทางออนไลน์ ซ่ึงการลงสนามทางช่องทางออนไลน์น้ันย่อมมีข้อจํากัดท่ีหลากหลาย ทําให้การลง
ภาคสนามอาจไม่ได้รับประสิทธิภาคมากเท่าท่ีควร แต่อย่างไรก็ตาม การท่ีจะเป็นนักสังคมสงเคราะห์ท่ี
ดีในอนาคต ย่อมต้องมีทักษะการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาท่ามกลางสังคมท่ีมีการเปล่ียนแปลง
ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะไม่สามารถลงชุมชนได้จริงแต่เราก็สามารถท่ีจะใช้มโนสัมผัส โดยการ
จินตนาการจากการดู การฟงั เพื่อพยายามท่ีจะเข้าใจถึงชุมชน หรือเรียกว่า การใช้ความรู้สึกอย่างมี
ส่วนร่วมจากการลงชุมชนออนไลน์ แต่หากใช้วิธีน้ีแล้วยังไม่สามารถท่ีจะรับรู้และเข้าใจได้ ก็สามารถท่ี
จะสืบคน้ และคน้ ควา้ ผา่ นสื่อออนไลนเ์ พิ่มเติมได้ เพื่อใหก้ ารเรยี นรู้เกิดประโยชน์สูงสุด
การท่ีเราจะสามารถเรียนรู้และเข้าใจชุมชนได้อย่างแท้จริงน้ัน การศึกษาถึงประวัติศาสตร์
ความเป็นมาของชุมชนก็ย่อมเป็นอีกหน่ึงส่ิงท่ีมีความสําคัญเป็นอย่างมาก เพ่ือให้ได้เข้าถึงโครงสร้าง
และธรรมชาติของชุมชนอย่างแท้จริงและจะง่ายต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ต่อคนในชุมชน ซ่ึงจะ
ก่อให้เกิดผลดีในกรณีท่ีจะเข้าไปศึกษาชุมชนเพื่อเข้าไปต้ังกลุ่ม ช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนน้ัน ๆ
ชาวบ้านจะมีความไว้เน้ือเช่ือใจหากมองว่าเราเป็นหน่ึงเดียวกับพวกเขา และย่อมเกิดประโยชน์ต่องาน
สังคมสงเคราะห์ในภาคชุมชนอย่างแน่นอน โดยในคร้ังน้ี เป็นการลงภาคสนามท่ี “ชุมชนกุฎีจีน” ท่ีไม่
เพียงแต่จะเป็นชุมชนท่ีมีความแตกต่างหลากหลายของวัฒนธรรมจาก 3 ศาสนา 4 ความเช่ือใน
ชุมชน คือ พุ ทธเถรวาท พุ ทธมหายาน คริสต์ และ อิสลาม แต่ยังมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาท่ี
ยาวนานต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและยังมีการได้รับการสนใจเพ่ิมมากข้ึนในทุกปี ก่อนได้มีการลง
สนามนักศึกษาได้มีการเขา้ ไป
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 172
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ศึกษา ชุมชนกุฎีจีน ผ่านอินเทอร์เน็ต เน่ืองจาก อาจารย์ได้พู ดถึงเร่ืองของความแตกต่าง
หลากหลายแต่ไม่แตกแยกของชุมชนแห่งน้ี จึงทําให้นักศึกษาสนใจท่ีจะศึกษามากข้ึน พอได้เข้าไป
ศึกษา ทําให้นักศึกษาได้ทราบว่า ชุมชนแห่งน้ีมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของ
ประวัติศาสตร์ความเป็นมา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ หรือรวมไปถึงเร่ืองของอาหารการกินท่ีมีความโดด
เด่นและมีความเฉพาะตัว นักศึกษาเองมีความสนใจเร่ืองของอาหาร และขนม เป็นอย่างมาก ย่ิงทําให้
รู้สึกต่ืนเต้นในการลงสนามในคร้ังน้ี โดยจากท่ีกล่าวมาท้ังหมด นักศึกษาก็หวังเป็นอย่างย่ิงว่าการลง
สนามชุมชนในคร้ังน้ีจะทําให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจชุมชนมากข้ึน และสามารถท่ีจะนําความรู้ใน
ครง้ั นไ้ี ปตอ่ ยอดในการทํางานชมุ ชนในงานสังคมสงเคราะหต์ ่อไป
บ้านไม้โบราณ ท่ยี งั คงอนุรกั ษ์ไว้
ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเช้ือสายโปรตุเกส ต้ังอยู่ริมแม่น้ําเจ้าพระยาฝ่ ัง
ธนบุรี จากร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชุมชนแห่งน้ี แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและเร่ืองราวมากมาย
โดยเฉพาะสัมพันธภาพภายใต้ความแตกต่างของเช้ือชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมในชุมชนท่ีประกอบ
ไปด้วยชาวจีน อินเดีย และยุโรป ท่ีใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุขมาร่วม 200 ปี จากการร่วมกอบกู้เอก
ราชมากับพระเจ้าตาก จึงทําให้ทุกต้องรักใคร่ กลมเกลียวกัน อยู่กันด้วยความเข้าอกเข้าใจ โดย
ประกอบด้วยย่านเล็ก ๆ 6 ย่าน คือ ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนวัดประยูรวงศ์ ชุมชนบุ
ปผาราม ชุมชนกฎุ ขี าว และชมุ ชนโรงคราม มสี ถานท่นี ่าสนใจ คอื
เป็นทราบกันดีว่าชุมชนแห่งน้ีมีความแตกต่างหลายทางวัฒนธรรม ท่ีมี 3 ศาสนา 4 ความเช่ือ
แต่ในอดีตชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนชาวคริสต์คาทอลิก 100 เปอร์เซนต์ เน่ืองจากมีกฎห้ามแต่งงาน
ข้ามนิกาย แต่ในช่วงหลัง ทางวาติกันได้มีการปรับปรุงกฎทางศาสนา จึงได้มีการเปิดรับผู้คนท่ีนับถือ
ศาสนาอ่ืนเข้ามาในชุมชน แต่ทุกคนต้องเรียนรู้กิจวัตรของศาสนาซ่ึงกันและกันเพื่อให้อยู่ด้วยกันอย่าง
เป็นสุข อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นชุมชนคริสต์ แต่ก็ไม่มีปิดก้ันไม่ให้เด็กในศาสนาอ่ืนเข้ารับการศึกษา
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนนู วล 173
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
เช่น โรงเรียนซานตาครู้สคอนแวนต์มีการรับนักเรียนท่ีนับถือศาสนาอ่ืน ๆ เข้าศึกษา และไม่ได้มีการ
บงั คบั ให้ตอ้ งสวดมนต์ สามารถแสดงออกโดยการยืนสงบนง่ิ ได้
นอกจากน้ี ชุมชนมีสถานท่ีสําคัญทางศาสนาต้ังอยู่ในบริเวณเดียวกัน คือ มีวัด โบสถ์ มัสยิด
และศาลเจ้าอยู่ร่วมกันมาประสานกลมกลืนเป็นสังคมท่ีพ่ึงพาอาศัยกันและทํากิจกรรมร่วมกันทํา และมี
การจัดกิจกรรมของแต่ละศาสนา รวมท้ังสามารถดําเนินงานร่วมกันได้อย่างลงตัว อาทิ การจัดงาน
ลอยกระทง วันคริสตมาส งานอิสลาม วันตรุษจีน ทุกคนสามารถท่ีจะเข้าไปช่วยเหลือในการประกอบ
กิจกรรมท่ีไม่ได้ผิดกฎของศาสนาได้อย่างเสรี เช่นชาวมุสลิม และชาวพุ ทธทําอาหารเพื่อมาช่วยงาน
ฉลองวัดของชาวครสิ ต์ (โบสถ์ซางตาครูส้ )
โบสถ์ซางตาครู้ส
จากท่ีกล่าวมาน้ี สะท้อนให้เห็นว่า การท่ีชุมชนกุฎีจีนมีความน่าสนใจน้ัน ไม่เพียงแต่เป็นชุมชน
เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ท่ียาวนาน แต่คนในชุมชนมีการช่วยเหลือกันเก้ือกูลกัน โดยไม่มีการ
แบ่งแยก ผู้คนในชุมชนจะเคารพในสิทธิส่วนบุคคลในการนับถือศาสนาและการดําเนินชีวิตตามวิถี
ศาสนาของแต่ละคน และไม่ให้ความแตกต่างเร่ืองศาสนาหรือเช้ือชาติเป็นตัวทําลายมิตรภาพ
เพราะการอยู่ร่วมกันหลายศาสนาไม่ใช่ปัญหาของชุมชนน้ี ทุกคนเป็นเพ่ือนกันเป็นครอบครัวเดียวกัน
และมองว่าความแตกตา่ งทางศาสนาไม่ใช่ความแตกแยกหากผคู้ นในชุมชนไมเ่ ปิดใจท่จี ะยอมรับซง่ึ กนั และกนั
อย่างไรก็ตาม นักศึกษามองว่า การท่ีจะเป็นชุมชนท่ีข้ึนช่ือว่ามีความแตกต่างหลากหลายของ
วัฒนธรรมคงเป็นเร่ืองท่ีเป็นไปได้ยาก หากไม่เคารพซ่ึงกันและกันก็ไม่มีทางรวมชุมชนเป็นหน่ึงเดียว
ได้ หากมองในเร่ืองของการเปิดใจและยอมรับกับผู้คนต่างศาสนาน้ัน ก็ยังมีความยากพอสมควร
เน่ืองจาก ข้อบังคับของแต่ละศาสนามีความแตกต่างกันออกไป ดังน้ัน การเปิดใจและยอมรับคงเป็น
ยากสําหรับหลายคน การท่ีจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ต้องหาก่ึงกลางของกันและกัน จึงจําเป็น
จะต้องมีการลดข้อจํากัดของตนเองลงเพ่ือความเป็นหน่ึงเดียวในชุมชนและไม่ก่อให้เกิดปัญหาเช่น
ศาสนาอิสลามไม่สามารถท่ีจะใช้จานเดียวกับคนอ่ืนได้ แต่ในการท่ีจะอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ ก็จําเป็นจะต้อง
ลดข้อจํากัดตรงน้ีลงมาบ้าง เพียงเท่าน้ีทุกคนก็สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข ซ่ึงผู้คนในชุมชน
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 174
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
กุฎีจีนล้วนเป็นเช่นน้ัน จึงชุมชนท่ีใช้ชีวิตท่ีมีความกลมกลืน กลมเกลียว อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ
และได้ถือเป็นชุมชนเชิงวัฒนธรรมท่ีมีช่ือเสียงและมีนักท่องเท่ียวเพิ่มมากข้ึนจนถึงปัจจุบัน สามารถ
สร้างรายได้ให้ผู้คนในชุมชนจากการท่องเท่ียวได้เป็นจํานวนมาก โดยถือเป็นจุดแข็งของชุมชนกุฎีจีน
ท่ีมีทุนทางสังคนในเร่ืองของการเป็นชุมชนท่องเท่ียว หากใช้ประโยชน์จากตรงน้ีเพ่ือสร้างอาชีพและ
รายไดใ้ หผ้ ู้คนในชมุ ชนกจ็ ะทําใหช้ ุมชนน้มี กี ารพัฒนาได้อยา่ งก้าวกระโดดและผคู้ นก็จะมีคุณภาพชวี ติ ท่ดี ี
จากการลงภาคสนาม ได้ทราบว่า สถานการณ์โควิดทําให้ผู้คนในชุมชนได้รับผลกระทบในวง
กว้าง ในเร่ืองของการขาดรายได้เป็นจํานวนมาก แต่ทางชุมชนก็ได้มีแผนของการทํางานชุมชนหลัง
สถานการณ์โควิด คือ จะมีการท่องเท่ียวพัฒนาเร่ืองการท่องเท่ียว เพ่ิมเป็นการสร้างอาชีพและสร้าง
รายได้ให้สมาชิกในชุมชน มีการปรับปรุงเส้นทางเพ่ือให้สะดวกต่อการท่ีเป็นชุมชนท่องเท่ียว และมีการ
กระจายเสียงในชุมชนได้อย่างท่ัวถึง ซ่ึงงจากการวางแผนของทางชุมชน แสดงให้เห็นว่า ชุมชนรับรู้
ถึงทุนทางสั งคมของตนเองและได้มีการนําจุดแข็งตรงน้ันมาพั ฒนาเพ่ื อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน
สูงสุด โดยถือเป็นหลักท่ีสําคัญของการพัฒนาชุมชนท่ีต้องมีการทําให้ชุมชนได้รับรู้ถึงจุดแข็งของ
ตนเองและนํามาพัฒนาต่อยอดเพ่ือพัฒนาชุมชนตอ่ ไปได้อยา่ งกา้ วกระโดด
เน่ืองจากชุมชนย่านกุฎีจีนเป็นชุมชนของผู้สูงอายุ จึงได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับ
ผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดและยังรู้สึกสนุกสนานกับการใช้ชีวิต แต่สิ่งหน่ึงท่ีนักศึกษารู้สึกช่ืน
ชอบและมองว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากคือ การท่ีผู้สูงอายุ มาทําหน้าท่ีเป็นมัคคุเทศก์ หรือ มัคคุเทศก์
สูงวัย โดยถือเป็นการท่ีผู้สูงอายุใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และการเข้าไปช่วยสนับสนุนการท่องเท่ียว
ของชุมชน เน่ืองจาก ในปัจจุบันวัยรุ่นไม่ค่อยมีคนมาเป็นมัคคุเทศน์พานักท่องเท่ียวเย่ียมชมชุมชน
และยังมีมัคคุเทศก์น้อยของย่านกุฎีขาวและวัดประยูร ท่ีเกิดจากการฝึกให้เด็กได้เรียนรู้และรู้จักชุมชน
ของตนเอง และนําส่ิงท่ีเด็กสนใจน้ีไปต่อยอดเป็นงานเพื่อหารายได้ด้วยตนเอง จากประเด็นน้ี
นักศึกษาต้ังข้อสังเกตได้ว่า การรับมัคคุเทศก์สูงวัยถือเป็นการให้โอกาสและไม่ได้ตัดสินผู้สูงอายุ
เน่ืองจาก ในสังคมปัจจุบันจะไม่ม่ันใจในศักยภาพของผู้สูงอายุ และตัดโอกาสในการทํางาน แต่หาก
มองในมุมกลับกัน ผู้สูงอายุคือผู้ท่ีมีประสบการณ์และสามารถท่ีจะทํางานได้อย่างมีประสิทธิไม่น้อยไป
กว่าคนวัยทํางาน ดังน้ัน มัคคุเทศก์สูงวัย จึงเป็นอีกหน่ึงสิ่งท่ีนักศึกษาประทับใจและขอช่ืนชมการ
จัดการของชุมชนน้ี ท่ีไม่เพียงแต่เคารพถึงความแตกต่างหลากหลายของเช้ือชาติ ศาสนาและความ
เชอ่ื แต่ให้เคารพและให้โอกาสกับผู้คนทกุ ช่วงวยั อย่างเท่าเทียม
นอกจากจะมีการบริหารจัดการชุมชนท่ีดีแล้ว ทางชุมชนก็มีการบริการด้านการรักษาพยาบาล
เป็นอย่างดี ย่ิงเป็นชุมชนท่ีมีความเข้มแข็ง ผู้คนก็จะให้ความร่วมมือได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่มี
โรงพยาบาลโดยเฉพาะแต่ก็ยังมีศูนย์ 26 ของวัดประยูรวงศ์ ท่ีจะช่วยดูแลสุขภาพของผู้คนในชุมชน
โดยจะมีทีมแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์อยู่ด้วย เพ่ือทําการรักษาเบ้ืองต้น หากอาการหนักจะมีการเร่ง
ประสานไปท่ีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ นอกจากน้ี ชุมชนจะมีหน่วยงารท่ีเรียกว่า อพปร. ท่ีมีบทบาทเพ่ือ
ป้องกันภัยพิบัติ และในย่านท่ีมีผู้สูงอายุเยอะ ผู้สูงอายุป่วย หน่วยงานกลุ่มน้ีจะเข้าไปช่วยเหลือเป็น
กลุ่มแรก โดยจะมีอุปกรณเ์ ตรยี มพรอ้ มต่อการเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันทว่ งที
จากท่ีกล่าวมาท้ังหมดน้ีจะเห็นได้ว่า ชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีเข้มแข็ง และมีการบริหารจัดการ
ชุมชนเป็นอย่างดีแทบทุกด้าน ไม่เพียงแต่มีผู้นําชุมชนท่ีดีแต่ผู้คนในชุมชนดีก็จะสามารถขับเคล่ือน
สังคมไปได้ด้วยดี เช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักศึกษามองว่า แม้ว่าชุมชนจะมีความเข้มแข็งและดีมากแค่
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 175
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ไหน การสนับสนุนจากทางภาครัฐก็ยังเป้นสิ่งท่ีมีความสําคัญ ไม่ควรท่ีจะต้องเป็นการช่วยเหลือและ
ระดมทุนจากสมาชิกในชุมชนหรือเรียกในช่ือของผู้ใหญ่ใจดี ในเม่ือเรายังต้องจ่ายภาษีให้กับทาง
ภาครัฐก็ควรต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มท่ีเพื่อให้ชุมชนได้พัฒนาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งในสถานการณ์โรคระบาด รัฐยิ่งควรเขา้ มาสนบั สนนุ และชว่ ยเหลือ เนื่องจากหลายคนไมม่ รี ายได้
ในการดํารงชีวิต แม้ว่าจะเป็นชุมชนท่ีมีความเข้มแข็ง แต่หากขาดรายได้จนทําให้เกิดหน้ีสินก็สามารถ
เป็นสาเหตุท่ีจะก่อให้เกิดอาชญากรรมได้ หรือ อาจก่อให้เกิดปัญหาทางจิตในระยะยาวได้ หากเป็น
เช่นน้ัน ชุมชนกุฎีก็อาจจะไม่ใช่ชุมชนท่ีมีความเข้มแข็งอีกต่อไป การท่ีจะขับเคล่ือนชุมชนไปได้น้ันต้อง
เกิดจากความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่ตัวบุคคลและชุมชน ภาครัฐก็คืออีกส่วนท่ีสําคัญในการ
พัฒนาชมุ ชนเพ่ือใหผ้ คู้ นมคี ณุ ภาพชวี ิตทด่ี ี อยดู่ ี มีสุข
นอกจากชุมชนกุฎีจีนจะมีความโด่ดเด่นในเร่ืองของความแตกต่าง หลากหลายทางวัฒนธรรม
แล้ว อีกหน่ึงสิ่งท่ีมีความโดดเด่นคือ เร่ืองอาหารการกินท่ีมีความผสมผสานท่ีหลากหลายชนชาติ คือ
ไทย-โปรตุเกส อาหารท่ีข้ึนช่ือและต้องไปทานให้ได้ คือ ‘ขนมจีนแกงไก่ค่ัว’ เมนูท่ีคาดว่าชาวโปรตุเกส
ซ่ึงเข้ามายังสยามสร้างสรรค์ข้ึนโดยประยุกต์มาจากอาหารโปรตุเกสด้ังเดิม ใช้ขนมจีนแทนเส้น
พาสต้า ทานคู่กับแกงค่ัวไก่ท่ีใส่ท้ังเน้ือ ตับ และเลือดไก่ รสชาติคล้ายอย่างแกงไทยแต่มีรสหวาน
มากกวา่ ขณะทานกไ็ ด้ฟงั ท่มี าท่ไี ปของอาหารแต่ละจานอย่างสนกุ สนานออกรส เร่อื งราวจดั จา้ นไมแ่ พ้
รสชาติอาหารในจาน และยังมีอาหารอ่ืนๆอีกมากมาย ซ่ึงการจะมารับประทานอาหารท่ีน่ีต้องโทรจอง
เพราะในบางเมนูต้องใช้เวลาในการทําข้ามวัน แต่รับรองว่าอร่อยอย่างแน่นอน (Readthecloud.
2563)
ขนมจีนแกงค่วั ไก่
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 176
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ขอปิดท้ายด้วย ขนมฝร่ังกุฎีจีน ท่ีถือเป็นขนมชนิดแรกในสยามและมีช่ือเสียงมากในชุมชนกุฎี
จีน เป็นขนมอีกชนิดท่ีได้รับอิทธิพลมาจากขนมโปรตุเกสอ่ืน ๆ อย่าง ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง
ท่ีเรารู้จักกันดี ท่ีแตกต่างกันก็คือ ขนมฝร่ังกุฎีจีนน้ีเป็นขนมอบ มีส่วนผสมหลักๆ 3 อย่างคือ แป้ง
สาลี ไข่เป็ด และน้ําตาลทรายค่ะ แต่ก็ได้รับอิทธิพลจากจีนด้วยเช่นกันทําให้ ขนมฝร่ังกุฎีจีนน้ีมีการนํา
ลูกพลับอบแห้ง ลูกเกด หรือฟกั เช่ือม มาแปะลงบนหน้าขนมด้วย โดยปกติแล้วขนมฝร่ังกุฎีจีนเป็น
ขนมท่ีหายาก เพราะจะทํากันเฉพาะในช่วงเทศกาลสําคัญทางศาสนา และแจกจ่ายให้ทานกันเองใน
ครอบครัวหรือชุมชนเท่าน้ัน แต่ตอนหลังด้วยความอร่อย และเร่ิมมีคนรู้จักมากข้ึนก็ทําให้ขนมฝร่ังกุฎี
จีนเร่มิ มชี อ่ื เสียงข้นึ ชมุ ชนกุฎจี ีนจงึ มีกรทาํ ขนมขายอย่างทกุ วันนใ้ี หไ้ ด้ทาน (Readthecloud. 2563)
จากการลงชุมชนผ่านทางออนไลน์ในคร้ังน้ี แม้ว่านักศึกษาอาจจะเข้าไปสัมผัสชุมชนจริง ๆ
แต่ก็ทําให้นักศึกษาได้รู้จักชุมชนน้ีเป็นคร้ังแรกและได้ทําการสืบหาข้อมูลเพ่ิมเติม ทําให้นักศึกษา
สามารถสัมผัสได้ถึงกล่ินอายของชุมชนมากข้ึน และได้ตกหลุมรักในชุมชนแห่งน้ี แม้ว่าชุมชนแห่งน้ีจะ
มีช่ือเสียงแต่นักศึกษาไม่เคยได้รู้จัก จนกระท่ังได้มาลงชุมชนในคร้ังน้ี มันทําให้นักศึกษานึกถึงการ
เดินเท่ียวรอบกรุงเทพ การออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระ มันคงจะดีมาก ๆ หากกลับสู่สถานการณ์ปกติ
นักศึกษาจะไปท่ชี มุ ชนกุฎีจนี อยา่ งแน่นอน เพื่อไปศึกษาและเรยี นรชู้ มุ ชนจริงและไปทานขนมฝรง่ั กุฎีจีน
ขนมฝรง่ั กฎุ จี ีน
เอกสารอา้ งองิ
Readthecloud. (2563). กุฎจี นี มุมมองใหม่ สืบคน้ จาก https://readthecloud.co/walk-
with-the-cloud-kudichin/travel.mtha. (2563). เท่ยี วชุมชนกุฎีจีน เสพความคลาสสิก ริมแมน่ า้ํ
เจา้ พระยา สืบคน้ จาก https://travel.mthai.com/blog/115264.html
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 177
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผู้บันทกึ : น.ส.สุภาพร สุขวุฒิชยั 6205681130 ฃ
บนั ทึกภาคสนามชุมชนกฎุ จี ีน
ความเป็นมาของชุมชนกุฎีจีนมีมาอย่างยาวนาน พ่ีด้วง บุญฤทธ์ิ กัลยามิตร ได้เล่าถึงความ
เป็นมาของชุมชนกุฎีจีนท่ีเร่ิมในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยน้ันมีการเดินเรือของประเทศต่างๆเพื่อทํา
การค้าขายผ่านแม่น้ําเจ้าพระยา หรือบริเวณสะพานพุ ทธในปัจจุบัน ในสมัยน้ัน มีป้อมในการตรวจ
สินค้า ซ่ึงในการตรวจสินค้าน้ันจะมีการพักเรือของชาวต่างชาติเพื่อรอการตรวจสินค้า ชาติต่างๆเร่ิม
เข้ามาขายค้าภายในประเทศ หน่ึงในน้ันเป็นชาวจีนท่ีเข้ามาค้าขายในประเทศไทยค่อนข้างมาก จากแต่
เดิมการพั กเรือจะเป็นแค่ช่ัวคร้ังช่ัวคราว กลายเป็นการอยู่แบบถาวร สร้างแหล่งการค้าขาย
ภายในประเทศเพิ่มข้ึน ชาวจีนบางคนมีครอบครัว เร่ิมสร้างครอบครัวภายในชุมชนกุฎีจีน ทําให้ชุมชน
กุฎจี ีนมีชาวจนี อาศัยอยดู่ ้วย
เม่ือมีชาวจีนอาศัยอยู่มากข้ึนในชุมชน เร่ิมมีการสร้างศาสนสถานภายในชุมชนกฎีจีน น่ันคือ
ศาลเจ้าเกียนอันเกง เป็นศาลเจ้าจีนฮกเก้ียนของชุมชนกุฎีจีน ท่ีสร้างถวายพระโพธิสัตวเจ้าแม่
กวนอิม เป็นศาลเจ้าท่ีสร้างความสงบร่มเย็นให้กับชาวฮกเก้ียน และมีศิลปกรรมท่ีสวยงาม เน่ืองจาก
เป็นศาลเจ้าท่ียังคงความสวยงามแบบด้ังเดิมไว้อยู่ ไม่มีการเสริมสร้างหรือแต่งเติมให้ดูมีความ
สมัยใหม่ แต่ยังคงสภาพแบบเดิมไว้ ซ่ึงถือเป็นศาลเจ้าท่ีมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก และต้ังอยู่เป็นเวลานาน
ศาลเจ้าเกียนอันเกง มีงานจิตรกรรมจากวรรณกรรมเร่ืองสามกักภายใน ซ่ึงมีจิตรกรท่ีมี
ความสามารถ ท่ีถ่ายทอดวรรณกรรมจากราชวงศ์ฉิงและคัดลอกจากในหนังสือวรรณกรรมและนํามา
วาดภายในศาลเจ้า อีกท้ังมีงานไม้แกะสลักบนคานศาลเจ้า ท่ีมีความสวยงามจากวรรณกรรมเร่ือง
สามก๊กด้วยเช่นกัน ในชุมชนมีการอนุรักษ์ศาลเจ้าไว้คงเดิม ท้ังสีท่ีเป็นธรรมชาติของศาลเจ้าตัวไม้
การแกะสลัก ยงั คงสภาพไว้เหมือนเดมิ ภายหลงั กรมศิลปากรเขา้ มาดแู ลศาลเจา้ เกยี นอนั เกงต่อไป
ชุมชนกุฎีจีนไม่ได้มีเพียงแต่ศาลเจ้าเกียนอันเกงเพียงเท่าน้ัน แต่ยังมีศาสนสถานอ่ืนๆภายใน
ชุมชนอีกเช่น โบสถ์ซางตาครูส มัสยิดบางหลวง วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ซ่ึงทําให้เห็นว่าภายใน
ชุมชนกุฎีจีน มีหลากหลายศาสนาท่ีอาศัยอยู่ร่วมกัน ท้ังศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนาพุทธ
ซ่ึงศาสนาพุ ทธน้ันก็มีท้ังพุ ทธในรูปแบบไทย และพุ ทธในรูปแบบจีน ทําให้เห็นว่ามีผู้ท่ีอาศัยอยู่ภายใน
ชุมชนมหี ลากหลายชาติ ทง้ั คริสตอ์ สิ ลาม ไทย จีน อาศัยอยู่รว่ มกนั ภายในชุมชนแหง่ น้ี
พ่ีตอง ได้ให้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ในเร่ืองราวเก่ียวกับความเป็นมาภายในชุมชนต่อจากพ่ี
ด้วง พี่ตองเล่าว่า โปรตุเกส เป็นชาติแรกท่ีเข้ามาทําการค้าขายภายในประเทศและเข้ามาเผยแพร่
ศาสนา ซ่ึงศาสนาท่ีเผยแพร่คือ ศาสนาคริสต์ ในช่วงท่ีมีสงคราม ในช่วงน้ันมีการเสียงกรุงศรีอยุธยา
จึงจําเป็นต้องทําการอพยพชาวบ้านให้ออกมาจากสงคราม ซ่ึงมีชาวโปรตุเกส ชาวจีน ชาวมุสลิม และ
ชาวไทย อพยพออกมา ภายหลังมีการกอบกู้เอกราชคืนโดยพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ทรง
พระราชทานท่ีดินให้กับกลุ่มท่ีตามมาด้วยกับพระองค์ และมี 79 คนท่ีเป็นชาวโปรตุเกสตามออกมา
ด้วยในช่วงเวลาน้ัน หลังจากท่ีเร่ิมมีการจัดสรรปันส่วนท่ีดิน ก็มีการขอพื้นท่ีเพ่ิมในการก่อต้ังโบสถ์
ซางตาครูสข้ึน ซ่ึงพระเจ้าตากสินมหาราชได้มอบท่ีดินให้กับชาวโปรตุเกสในการสร้างโบสถ์ คําว่า ซาง
ตาครูส เป็นภาษาโปรตุเกส มีความหมายว่า กางเขนศักด์ิสิทธ์ิ แต่เดิมในสมัยน้ันเรียกว่า ค่ายแม่พระ
ลูกประคํา โบสถ์ซางตาครูสเป็นโบสถ์คาทอลิก แต่เดิมเป็นไม้สักท้ังหลังแต่ถูกไฟไหม้ จึงได้รับการ
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 178
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
บูรณะใหโดยมีโครงสร้างเป็นปูน ซ่ึงเป็นโครงสร้างในปัจจุบัน โบสถ์เป็นแบบเรอเนสซองส์ผสมนีโอ
คลาสสิก มีรูปร่างคล้ายคลึงกับโดมของมหาวิหารฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เร่ิมมีการก่อต้ังภายใน
วันท่ี14 กันยายน พ.ศ. 2312 ทุก ๆ วันครบรอบจะมีการเฉลิมฉลองวันครบรอบการสร้างโบสถ์ภายใน
ชุมชน ภายในตัวโบสถ์แบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ 1. หอระฆัง ซ่ึงมีระฆังชุด ท่ีมีระฆัง 16 ใบ และครบ
ทุกโน้ต จะมีการเล่นโน้ตระฆังแบบโบราณ เรียกว่า แกรียอง คนท่ีเล่นได้มีจํานวนน้อยมากในชุมชน 2.
อาคารในการประกอบพิธีซ่ึงมีกระจกสีประดับตกแต่ง แต่ในสมัยน้ันเกิดสงครามทําให้ได้รับแรงอัด
ของระเบิด ทําให้กระจกแตกและมีการบูรณะซ่อมแซ่มใหม่และทําเป็นกระจกสีเซกาสวงกลม ท่ีมีรูปพระ
เยซูภายในโบสถ์ รวมถึงมีพระคัมภีร์เก่าและพระคัมภีร์ใหม่ 3. ท่ีเก็บของต่างๆในการประกอบพิธี
ภายในโบสถ์ เช่น ชุด หนังสือ โต๊ะ เก้าอ้ี และในการเซ็นสัญญาผู้ถือกรรมสิทธ์ิโบสถ์ จะต้องเป็นผู้ท่ี
นับถือโรมันคาทอลิก การเซ็นสัญญากรรมสิทธ์ิจะต้องเซ็นปีต่อปีผู้ท่ีนับถือศาสนาอ่ืนไม่สามารถเซ็น
สัญญาได้
วัฒนธรรมภายในชุมชนกุฎีจีน ยึดโยงไปด้วยศาสนา ยกตัวอย่าง ชาวคริสต์ท่ีไปโบสถ์ทุกๆวัน
อาทิตย์หลังจากกลับจากโบสถ์ก็จะพู ดคุยกันท่ีร้านอาหารแถวโบสถ์ แต่ภายหลังมีการจัดระเบียบ
ทางเดิน เลยทําให้การพบปะพู ดคุยเป็นการพู ดคุยกันตอนเดินกลับหลังโบสถ์แทน พิธีกรรมทาง
ศาสนาคริสต์ท่ีสําคัญท่ีทําในโบสถ์ซางตาครูส คือ พิธีฉลองวันคริสต์มาส พิธีฉลองวันอีสเตอร์ พิธี
ถอดพระ พิธีมิสซา พิธีวันฉลองโบสถ์ ซ่ึงโบสถ์จะมีการเขียนปฏิทินกิจกรรมประจําเดือนไว้ว่าแต่ละ
เดือนมีกิจกรรมอะไรบ้างท่ีโบสถ์ รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆคนรุ่นก่อนพยายามท่ีจะถ่ายทอด ส่งตา
ให้กับคนรุ่นหลังต่อไป รวมถึงวัฒนธรรมอาหารด้วยเช่นกัน วัฒนธรรมอาหารจะไม่มีความเป็นไทยแท้
จะมีการผสมผสานเข้ากับอาหารประเทศอ่ืนๆ เช่น สตูว์ ของทอด หรือขนมจีนแกงไก่ค่ัว ท่ีได้รับ
อิทธิพลมาจากประเทศกัมพู ชา ท่ีมาของอาหารน้ี เร่ิมจากตอนท่ีพระพุ ทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ประพาสไปท่ีประเทศกัมพูชา ในระหว่างประพาสกลับก็มีชาวเขมรหรือชาวกัมพูชาติดตามและอพยพมา
ด้วย ได้มีการอัญเชิญพระรูปแม่พระไถ่ทาส หรือ พระแม่ขนมจีนมาด้วย ชาวเขมรได้รังสรรค์อาหาร
ชนิดน้ีข้ึน เปรียบเสมือนพระแม่ขนมจีน พระแม่ขนมจีนคือการเปรียบเส้นขนมจีน ท่ีมีความคล้ายคลึง
กับเส้นผมของแม่พระมารีอาหรือแม่พระไถ่ทาส และมีการทําเมนูน้ีในวันฉลองแม่พระไถ่ทาส ประมาณ
วันท่ี 24 กันยายนของทุกๆปี โดยหลังการฉลองจบลงจะมีการเล้ียงขนมจีนค่ัวไก่กัน นอกจากน้ียังมี
ขนมฝร่ังกุฎี ท่ีเป็นขนมท่ีได้รับอิทธิพลมาจากขนมโปรตุเกส ตัวขนมเป็นขนมแบบโปรตุเกส โดยใช้
วัตถุดิบสามอย่าง คือ แป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ําตาลทราย ตีให้ส่วนผสมเข้ากันจนข้ึนฟู และเทลง
แม่พิมพ์ โดยไม่ผสมผงฟู สต์ หรือสารกันบูด จากน้ันโรยด้วยลูกเกด ลูกพลับอบแห้ง ฟกั เช่ือม และ
น้ําตาลทรายลงไป ในปัจจุบันมีเพียงไม่ก่ีเจ้าท่ีทําขนมฝร่ังกฎีจีนอยู่เช่น ร้านขนมฝร่ังปัาเล็ก ร้านขนม
ฝร่ังธนูสิงห์ ร้านป้าอําพรรณ ไม่ได้เพียงแต่ร้านขนมเพียงเท่าน้ัน แต่ยังมีร้านอาหารสยามโปรตุเกส
บ้านสกุลทอง ท่ีสืบสานอาหารของชาวโปรตุเกสคงไว้อยู่ เช่น ขนมจีนแกงค่ัวไก่ ต้มเค็มโปรตุเกส หมู
สับแหยก ขา้ วสามยอด หมูอบมันฝร่งั สตวู ล์ น้ิ ววั เป็นต้น
นอกจากวัฒนธรรมอาหารแล้วยังมีวัฒนธรรมท่ีอยู่อาศัย การใช้ชีวิตของผู้คนในชุมชน
สมัยก่อน มีพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน ท่ีสร้างข้ึนด้วยใจรักจากการใช้ทุนส่วนตัว ไม่ได้รับทุนสนับสนันจาก
หน่วยงานหรือองค์กรใดๆ ด้านบนพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดแสดงและบอกเล่าท่ีมาของชาวคาทอลิก ท่ีมี
เช้ือสายโปรตุเกส ซาวญวน ชาวจีน หรือแม้แต่ชาติอ่ืนๆ ท่ีเข้ามาในสมัยรัชกาลท่ี 3 และมีการเล่าถึง
วชิ า สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 179
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
บุคคลในประวัติศาสตร์อย่างหมอบรัดเลย์หมอบรัดเลย์เป็นนายแพทย์ชาวอเมริกา และมีบทบาทใน
การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ อีกท้ังยังเป็นผู้ท่ีเผยแพร่งานพิมพ์และการแพทย์ให้กับสยาม ในพิพิธภัณฑ์
ยังมีการแสดงความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านข้าวของเคร่ืองใช้จริงท่ีมีอยู่ในยุคน้ัน และแหล่ง
ความรู้ท่ีเก่ียวกับชุมชนกุฎีจีน เช่น ตู้ตําราบางกอก-ธนบุรี เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลต้าน
ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของพ้ืนท่ีในกรุงเทพมหานครและธนบุรี ท้ังรากเหง้าขนบธรรมเนียม
ประเพณีของย่านน้ีไว้ และสร้างความรัก ความหวงแหน ความเข้าใจในการอนุรักษ์วัฒนธรรมให้กับ
คนรุ่นหลัง และยังมีกุศโลบายท่ีคนในย่านน้ีรู้จักกันดี คือ ผีหนูเล๊ียบหรือผีหัวพริก เป็นกุศโลบายของ
ผู้ใหญ่ในสมัยก่อน ท่ีจะไว้คอยกํากับลูกๆ หลานๆท่ีไปว่ิงเล่น ให้กลับมาบ้านให้ทันภายใน 18.00 น. ถ้า
กลับไม่ทัน ผีหนูเล๊ียบจะจับตัวไปซ่อนให้อยู่เป็นเพ่ือนเล่นจนกว่าจะพอใจ แล้วปล่อยตัวกลับบ้าน พี่
ตองได้เล่าถึงวัฒนธรรมท่ีอยู่อาศัย ในสมัยตอนท่ีพ่ีตองเด็กๆ บ้านไทยสมัยน้ันจะยกสูง มีใต้ถุนไว้
น่ังเล่น พักผ่อน หากเกิดน้ําท่วมก็เพียงเก็บของข้ึนบนบ้าน สมัยน้ันน้ําสะอาด เด็กๆจะได้เล่นน้ํา มี
การพายเรือเล่น ตกปลา ผู้ปกครองก็จะพาเด็กๆไปเล่นน้ํา ต่อมาการสร้างบ้านเร่ิมสร้างตามความ
นยิ ม มีการปรบั ทางเดนิ ทางเท้าข้นึ ใหม่ สมัยกอ่ นจะเป็นพ้ืนไม้ ซง่ึ ทําให้เดินตกรอ่ งอย่บู ่อยๆ ในชมุ ชน
เร่ิมมีการปรับเปล่ียนทางเดินเพิ่มข้ึน และในปัจจุบันตัวบ้านและทางเดินจะเป็นปูน และมีสํานักงานเขต
เข้ามาดูแล เช่น มีการสร้างเข่ือนกักเก็บน้ําให้ มีเวลามีน้ําท่วม เขตกับกองทัพเรือ จะเข้ามาวาง
กระสอบทรายกันน้ําให้ ตัวชุมชนเป็นชุมชนท่ีรถใหญ่ไม่สามารถขับเข้ามาได้ จึงต้องอาศัยการเดินเข้า
ในชุมชน การเดินทางเข้าไปจึงถือเป็นลักษณะเด่นท่ีทําให้นักท่องเท่ียวสามารถเดินทางเข้าดู สัมผัส
กับชุมชนได้ ชุมชนกุฎีจีนจึงถือเป็น life museum ท่ีนักท่องเท่ียวสามารถศึกษาชีวิตของผู้คนใน
ชุมชนได้โดยการลงพื้นท่ีสัมผัสกับคนในชุมชน ศึกษาโบราณสถานต่างๆในชุมชน แหล่งอาหารและ
วัฒนธรรม ประเพณภี ายในชมุ ชนได้อย่างดี
ในการอยู่ร่วมกันในชุมชนของทุกๆศาสนา ผู้คนในชุมชนมีความรัก ความเข้าใจต่อกัน
ยกตัวอย่าง ในพิธีเฉลิมฉลองโบสถ์ซางตาครู้ส จะมีการแลกเปล่ียนช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน มีการแลก
อาหาร หรือนําอาหารของแต่ละศาสนาไปช่วยเหลือกัน ซ่ึงอาหารจะไม่ขัดข้องกัน ลดข้อจํากัดลง พ่ี
ตองยกตัวอย่างว่า พี่ตองมีเพ่ือนเป็นชาวมุสลิม เวลาท่ีเพ่ือนพ่ีตองมาท่ีบ้าน มากินข้าวท่ีบ้าน พี่ตอง
ก็จะไม่ทําอาหารท่ีมีเน้ือหมู และเพื่อนพี่ตองก็จะลดข้อจํากัดของตัวเองลง คือการใช้จานของบ้านพี่
ตอง ท่ีถึงแม้จานน้ันอาจจะเคยโดนเน้ือหมูก็ตาม แต่ก็ได้ทําความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เพ่ือนพี่ตองก็
จะลดข้อจํากัดของตนเองลง ทําให้ท้ังสองคนสามารถพู ดคุยและอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่ขัดข้องต่อกัน
เพราะต่างฝา่ ยต่างยอมรบั และทาํ ความเข้าใจกัน
ในชว่ งสถานการณ์ Covid-19 ทางชมุ ชนไดม้ ีการปรบั เปล่ยี นรูปแบบการเผยแพร่ศาสนาทใ่ี ห้
สอดคล้องกับสถานการณ์ย่ิงข้ึน มีการถ่ายทอดสดพิธีกรรมต่างๆภายในโบสถ์ผ่านสื่อ มีการกระจาย
เสียงรอบหมบู่ า้ น คุณพ่อจะเดินตามหมบู่ ้านเพื่อใหศ้ ีลกับผคู้ นในชุมชน
ในส่วนของศาสนสถานของชาวมุสลิมน้ันคือ มัสยิดบางหลวง หรือกุฎีขาว เป็นมัสยิดของ
ชุมชนมุสลิมนิกายชุนน้ีท่ีอพยพมาจากกรุงศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างข้ึนโดยโต๊ะหยี พ่อค้าชาว
มุสลิมในสมัยรัชกาลท่ี 1 ก่อนจะมีการสร้างมัสยิดหลังปัจจุบันข้ึนในสมัยรัชกาลท่ี 3 ลักษณะของ
มัสยิดมีการออกแบบคล้ายๆแบบไทยคือมีหลังคาจ่ัวมุงกระเบ้ือง หน้าบันประดับลายปูนป้ ันดอกโบต๋ัน
มีพาไล ทางเดินโดยรอบ ซ่ึงองค์ประกอบท้ังหมดน้ีเป็นลักษณะของวัดในสมัยรัชกาลท่ี 3 แต่มีความ
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 180
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
แตกต่าง คือ หลังคาจะเป็นสีเขียวและสีขาว ชาวมุสลิมไม่มีการประดิษฐานรูปคารพ ภายในโถง
ละหมาดจะเป็นห้องโล่ง ผนังมีการตกแต่งด้วยชามและกรอบ ภาพท่ีนําเข้ามา ด้านในเป็นท่ีต้ังของมิห์
รอบ เป็นท่ีระบุทิศท่ีหินดํา นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบียด้านหลังของมัสยิดมีสุสานของชาว
มุสลิมอยู่ สุสานของชาวมุสลิมค่อนข้างเรียบง่าย และมีหออะซานท่ีใช้ประกาศเรียกคนในชุมชนให้มา
ละหมาด ซ่ึงถือเป็นองค์ประกอบสําคัญท่ีมัสยิดจะต้องมีและขาดไปไม่ได้และศาสนสถานของศาสนา
พุ ทธท่ีอยู่บริเวณชุมชนกุฎีจีน คือวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงสร้างในรัชกาลท่ี
3 ภายในวัดมีพระพุ ทธไตรรัตนนายก หรือท่ีคนจีนเรียกว่า ซําปอกง ซ่ึงจําลองมาจากวัดพนัญเชิง
อยุธยา ภายในพระอุโบสถมพี ระประธานท่เี ป็นพระพุทธรปู หล่อปางป่าเลไลยก์
พ่ีป่ ิน ป่ ินทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนกุฎีจีน ได้ให้ข้อมูลจากการพู ดคุยกัน พ่ีป่ ินเล่าว่า ย่าน
กะดีจีนหรือชุมชนกุฎีจีน มีประชากรประมาณ 1,850 คน อาชีพหลักของคนในชุมชนส่วนใหญ่ คือ
ราชการรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น ภายในชุมชนมีการจัดต้ังคณะกรรมการชุมชน 6 ชุมชน มี
หน่วยงานราชการกระทรวงวัฒธรรมเข้ามาดูแลการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมของชุมชน ในการจัดต้ัง
คณะกรรมการชุมชน จะมีการปรึกษาหารือ และแต่ละชุมชนส่งตัวแทนมา 5 คนต่อชุมชน มาร่วม
พู ดคุย วางแผนการดูแลชุมชนร่วมกันซ่ึงรวมท้ังหมดจะประมาณ 30 คนต่อการประชุมปรึกษาหารือ
กัน แต่ละคน แต่ละชุมชนจะมีการแบ่งหน้าท่ีกันอย่างชัดเจน ว่าแต่ละคนทําอะไรบ้าง ข้อท้าทายท่ี
เกิดข้ึน คือ การใช้ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆของคณะกรรมการชุมชน อาจไม่มีความคล่องแคล่วหรือ
เช่ียวชาญด้านน้ีมาก แต่ก็มีมหาวิทยาราชภัฏท่ีเข้ามาดูแลเร่ืองน้ีให้ ข้อท้าทายต่อมาคือ ภายในชุมชน
มีผู้สูงอายุจํานวนมากในชุมชน ซ่ึงผู้สูงอายุท่ีอยู่ในชุมชนจะมีภาวะเครียด ซึมเศร้าสมรรถภาพทาง
ร่างกายลดลง จึงถือเป็นข้อท้าทายท่ีทางชุมชนจะต้องดูแลและจัดการ ในข้อท้าทายน้ีมีหน่วยงานท่ี
เก่ียวข้องเข้ามาช่วยทํากิจกรรมเพื่อสร้างความผ่อนคลายในกับผู้สูงอายุในชุมชน อีกท้ังในชุมชนมี
การประสานงานกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ กลุ่มจักรยานท่ีพานักท่องเท่ียวมาเท่ียวในชุมชน
เพ่ือวางแผนการทอ่ งเทย่ี วภายในชมุ ชน
จุดแข็งของชุมชน คือคนในชุมชนรักกันเป็นอย่างมาก เข้าใจและช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน รับ
ฟังและแก้ไขปัญหาร่วมกันง่าย จึงทําให้เวลาท่ีคณะกรรมการชุมชนทํางานร่วมกับชาวบ้าน หรือ
หน่วยงานทํางานร่วมกับชาวบ้านเป็นไปได้ด้วยดี เพราะคนในชุมชนมีความต้องการเดียวกัน ท่ีอยากจะ
ให้ชุมชนพัฒนาต่อไปกิจกรรมในชุมชนท่ีทําร่วมกัน คือ การปลูกผักสวนครัว ฟา้ ทะลายโจร กิจกรรม
ทําความสะอาด บูรณะซ่อมแซ่มทางชุมชนมีการจัดต้ังกลุ่มมัคคุเทศก์น้อย มัคคุเทศก์สูงวัย ในการให้
ข้อมูลและนําเท่ียวให้กับนักท่องเท่ียวท่ีมาเท่ียวภายในชุมชน ชุมชนพยายามถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่ม
คนท่ีเป็นเด็ก เยาวชน ซ่ึงได้ความร่วมกับทางโรงเรียนและวัดประยูรวงศ์ ในการช่วยถ่ายทอดความรู้
ให้กับเด็กๆในชุมชน จุดแข็งอีกอันหน่ึงคือ ผู้นําในชุมชนและคณะกรรมการชุมชนส่วนใหญ่จะ เป็น
ผู้หญิง ในการทํางาน ประสานงานกับหน่วยงานหรือผู้คน จะมีวาทะศิลป์ในการเจรจาพู ดคุย มีความ
ละเอียดอ่อน ประณีตต่อการทํางาน ใส่ใจรายละเอียด ซ่ึงการทํางานของผู้นําหญิงและกลุ่มผู้หญิง มี
รากฐานเดิมจากการทํางานร่วมกับวัด ในส่วนของการของบประมาณท่ีจะทําโครงการใชชุมชน จะ
เขียนโครงการและขอพร้อมๆกันในการของบประมาณ ในการช่วยเหลือชุมชน มีบริษัทเข้ามา
ช่วยเหลือการแจกอาหารภายในชุมชนในช่วงสถานการณ์ Covid-19 และมีหน่วยงานเข้ามาตรวจ
Covid-19 ให้กับคนในชุมชน มีโครงการการแก้ไขความเดือดร้อนในชุมชน ชุมชนละ 40,000 บาท มี
วิชา สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 181
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
กองทัพเรือ ช่อง 3 ข้าวกล่องพระราชทาน เข้ามาช่วยเหลือคนในชุมชน ในส่วนของการช่วยเหลือจะมี
การขอ หน่วยงานต่างๆไป แต่อาจจะไม่ได้ครบ จะได้เพียงบางกลุ่มเป้าหมายเท่าน้ัน ในชุมชนจะมีการ
จัดรายช่ือ 20คนแรกท่ีจะได้รับการช่วยเหลือก่อน เพราะมีความเดือดร้อนมาก บางรายไม่สามารถ
ชว่ ยเหลอื ตนเองได้ ทางชมุ ชนจะจัดสรรให้กับคนท่อี ยใู่ นรายชอ่ื 20 คนแรกได้รับกอ่ น
ชุมชนมีการประชาสัมพันธ์เร่ืองการดูแลตัวเองจาก Covid-19 หากคนในชุมชนติดเช้ือ ให้รีบ
แจ้งทางชุมชน ชุนชมก็จะมีการดูแล อีกท้ังชุมชนยังประชาสัมพันธ์ไม่ให้เกิดการตีตราภายในชุมชนต่อ
ผู้ท่ีติดเช้ือ สร้างความเข้าใจให้กับคนในชุมชนว่าเป็นเพียงแค่โรคชนิดหน่ึง เด๋ียวก็หายได้ แต่
สถานการณ์ Covid-19 ก็ส่งผลต่อรายได้ของชุมชนด้วยเช่นกัน ชุมชนมีรายได้น้อยลง เน่ืองจาก
ขาดนักท่องเท่ียว ร้านค้า ร้านอาหารต้องปิดตัวลงเยอะ ธุรกิจส่วนตัวลงลดอย่างเห็นได้ชัด แต่
สถานการณ์ก็ฟ้ นื ตัวข้ึนหลังจากคลายล็อกดาวน์คร้ังล่าสุด ร้านค้าก็เร่ิมมาเปิดได้ และเลิกรับอาหารท่ี
บริษัทมาแจกภายในชุมชน คณะกรรมการชุมชนมีการวางแผนการจัดร้านค้ามีการจัดบริหารชุมชน
ซ่ึงได้รับการช่วยเหลือจากทรัพยากรภายนอก เช่น หน่วยงาน สํานักงานเขตโรงพยาบาล
มหาวิทยาลัยราชภัฏ ศูนย์บริการสาธารณสุข 26 เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ ท่ีดูแลในเร่ืองของบริการ
ด้านสุขภาพของคนในชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข นักศึกษาแพทย์ พยาบาล และการช่วยเหลือ
จากผ้ใู หญ่ใจดี คอื การระดมทุนของสมาชกิ ในชมุ ชน
หลังจากน้ีทางชุมชนคาดหวังเร่ืองการท่องเท่ียว ร้านอาหารจะสามารถฟ้ นื ตัวได้ดีมากย่ิงข้ึน
มีการปรับปรุงเส้นทาง สายไฟฟา้ ทางเดิน การกระจายข่าวสารทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน
การเพ่ิมรายได้ให้กับคนในชุมชน ให้มีรายได้ท่ีม่ันคง สามารถใช้ชีวิตอยู่ใด้ รวมไปถึงความสะอาด
ภายในชุมชน ความโปร่งของชุมชน บรรยากาศท่ีถ่ายเท น่าเดินทางเข้ามาเท่ียวภายในชุมชน สิ่งท่ี
กล่าวมาข้างต้นน้ัน ทางชุมชนต้องการท่ีจะปรับปรังและพัฒนาชุมชนให้เป็นไปในทิศทางท่ีดีย่ิงข้ึน และ
คณะกรรมการชุมชนก็เข้าใจสภาพปัญหาของชุมชนตนเองและพร้อมท่ีจะแก้ไข เพ่ือให้ชุมชนเป็นไปใน
ทิศทางท่ดี มี ากยง่ิ ขน้ึ
รายการอา้ งองิ
สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ไทยพีบเี อส. (30 กันยายน 2555). ชมุ ชนคอนเซป็ ชญั สืบทอดประเพณี
ฉลอง "แม่พระไถท่ าส". สืบคน้ จากhttps://news.thaipbs.or.th/content/115181
ธนภัทร์ ล้มิ หัสนยั กุล. (30 กันยายน 2562). มัสยิดบางหลวง. สืบค้นจาก
https://readthecloud.co/bang-luang-mosque/
ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม. (9 มรกราคม 2563). เทย่ี วชุมชนกุฎีจนี ย้อนเวลา เยือนย่านหลาก
วัฒนธรรม.สืบค้นจาก
https://thai.tourismthailand.org/Articles/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทยั หนูนวล 182
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผบู้ ันทกึ : น.ส.ปาลิตา ปัญจวรกลุ 6205681148 ฃ
ชุมชนกฎุ จี ีน
ชุมชนกุฎจี ีน ต้งั อยแู่ ขวงวัดกลั ยาณ เขตธนบุรี กรงุ เทพมหานคร ความสําคัญของการศึกษา
ชุมชนกุฎีจีน คือชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีมีผู้นําท่ีgข้มแข็ง ผู้นําภายในชุมชนเสริมสร้างความเข้มแข็ง
ให้คนภายในชุมชน ผู้นํามีความพยายามจะทําให้คนในชุมชนรู้สึกเป็นส่วนหน่ึงของกันและกันทําให้
ชุมชนเกดิ ความเขม้ แขง็ ข้นึ เช่น การทาํ กิจกรรมร่วมกนั และวันสําคญั ของชมุ ชน รวมท้งั ผู้นําชุมชนมี
ความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดี เช่น จากสถานการณ์การระบาดของโคโรน่าไวรัส คน
ภายในชุมชนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ในการป้องกันการติดเช้ือและมีการคํานึงถึงผู้สูงอายุ
เน่ืองจากผู้สูงอายุภายในชุมชนมีภาวะความเครียด และความวิตกกังวลจากโควิด-19 ผู้นําชุมชนจึงมี
การติดต่อกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมาให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ ให้มีการย้ิมหรือทํากิจกรรมเพื่อ
ผ่อนคลายความเครียด เน่ืองจากลักษณะภายในชุมชนเป็นบ้านเรือนก่อนข้างติดกัน มีความแออัด
เน่ืองจากอยู่ในตัวเมืองหลวง จึงอาจจะเสี่ยงต่อการติดเช้ือโคโรน่าไวรัส ทําให้ผู้คนภายในชุมชนอาจ
เกิดภาวะขบั กอ้ งใจหรือกาวะเครียดได้โดยง่าย
ผู้คนภายในชุมชนกุฎีจีน มีหลากหลายเช้ือชาติ ศาสนา และความเช่ือ ทําให้มีมิติค้านความเช่ือ
และศาสนามีความแตกต่างกัน แต่คนภายในชุมชนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ ซ่ึงภายในชุมชนประกอบไป
ด้วย 3ศาสนา ได้แก่ ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ศาสนาพุ ทธนิกายเทรวาดกับนิกายมหายาน และ
ศาสนาอิสลามโดยคนภายในชุมชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก คนภายในชุมชนมี
ความแตกต่างทางชาติพันธ์ุและวัฒนธรรมอย่างมาก แต่หลอมรวมกัน ด้วยคริสต์ศาสนา กลายเป็น
เอกลักษณ์ของคนกุฎีจีนท่ีมีประเพณีและวัฒนธรรมต่างจากท่ีอ่ืน เช่น ประเพณี ถอดพระในวันศุกร์
ศักด์ิสิทธ์ิของชาวโปรตุเกส สมโภชพระคริสต์สมภพ (วันคริสต์มาส) และการจัดท้ิงพระและแขวนรูป
พระตามหอ้ งตา่ ง ๆ ในบ้านแบบโปรตเุ กส
แม้ว่าคนภายในชุมชนจะนับถือศาสนาคริสต์นิกายดาทอลิกเป็นส่วนใหญ่ แต่เม่ือมีประเพณี
วันสําคัญทางศาสนาของศาสนาพุ ทธ และศาสนาอิสลาม คนในชุมชนก็ร่วมช่วยเหลือและสนับสนุน
พิธีกรรมน้ัน ๆ เช่น วันสําคัญทางศาสนาพุทธ ได้มีการช่วยจัดเตรียมสถานท่ีในการประกอบพิธีกรรม
วัดกัลยานิมิตรกับวัดประยุรวงศาวาส มีศาลเจ้าองค์พระโพธิสัตว์ภายในชุมชนท่ีสร้างความสงบสุข
ตัวอาคารมีการสร้างด้วยสถาปัตยกรรมท่ีสวยงาม พระโพธิสัตว์มีการแกะสละไม้ท่ีสวยงาม มีทักษณะ
องค์ไสญ่ีปุ่นให้ผู้คนกราบไหว้ขอพร ภายในชุมชนส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาประกอบอาชีพโดยใช้ทุน
ทรัพยากรท่ีมีอยู่ได้ เช่น การรู้วิธีการทําขนมกุฎีจีน ซ่ึงเป็นขนมท่ีได้ถ่ายทอดวิธีการทําหรือเป็นการ
ถ่ายทอดความรู้ต่อ ๆ กันมาหลายรุ่นหรือ การประกอบอาชีพอ่ืน ๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้าน
เสริมสวย เสรมสร้างอาชีพให้คนในชุมชนเน่ืองจากมีนักท่องเท่ียวหล่ังไหลเข้ามาตลอดเวลา ซ่ึงมี
ขนมฝร่ังกุฎีจีนท่ีเสริมสร้างอาชีพให้คนภายในชุมชนเป็นวัฒนธรรมสืบต่อกันมา ถ้านึกถึงกุฎีจีนขนม
ฝร่ังกุฎีจีนจะหวนให้นึกถึงกันเลยในปัจจุบันชุมชนกุฎีจีนก็เป็นแหล่งท่องเท่ียวท่ีสําคัญในฝ่ ังธนบุรี
เน่ืองจากติดกับโรงเรียนและวัดต่างๆมากมาย ใกล้กับวังหลัง และโรงพยาบาลศิริราช การเดินทาง
คมนาคมขนส่งสามารถเข้าถึง อีกท้ังมีประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ท่ีน่าสนใจ ตอนท่ีผู้เขียนรู้ว่ามีการ
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนนู วล 183
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
เรียนรู้บันทึกภาคสนามชุมชนกุฎีจีน ตัวผู้เขียนก็หวนนึกถึงช่วงสมัยตอนเรียนมัธยมอยู่ย่านฝ่ ังธนบุรี
ในสมัยมัธยมผู้เขียนเคยศึกษาอยู่โรงเรียนศึกษานารี มีเพ่ือนมากมายท่ีเคยเรียนท่ีโรงเรียนแถวย่าน
ชุมชนกุฎีจีน ได้แนะนําให้รู้จักขนมฝร่ัง ใกล้อยู่กับชุมชนกุฎีจีนผู้เขียนเคยได้มี โอกาสเข้าไปเย่ียมชม
ชุมชนกุฎีจีน ได้ล้ิมลองขนมฝร่ังกุฎีจีนในช่วงมัธยม บอกเลยช่วงน้ันมีนักท่องเท่ียวอยู่ค่อนข้างมาก
ขนมฝร่ังกุฎีจีนมีคุณป้า คุณยายเจ้าของร้านใจดี มีให้ชิมล้ิมลองก่อนด้วย ซ่ึงทําให้ผู้เขียนมีความ
ประทับใจ ดีใจท่ีได้มี โอกาสได้ไปท่ีชุมชนกุฎีจีน และสิ่งท่ีตัวผู้เขียนมีความประทับใจมากท่ีสุด คือโบสถ์
ริสตจักร โบสถ์ซางตาครู้ส มีความสวยงคงาม และเงียบสงบ อีกท้ังชุมชนกุฎีจีนยังอยู่ใกล้กับ
สถานท่ีท่องเท่ียวท่ีน่าสนใจอยู่มากมายในย่านน้ัน ทําให้รู้สึกได้รับรู้ถึงการท่องเท่ียวผจญภัยกับเพื่อน
ในช่วงมัธยมหลังเลิกเรียน ถ้ามี โอกาสตัวผู้เขียนอยากกลับไปสัมผัสกับชุมชนกุฎีจีนอีกคร้ังหน่ึง
เน่อื งจากความน่าสนใจภายในชมุ ชน โดยเฉพาะขนมฝรง่ั กฎุ ีจนี มคี วามอร่อยมากเลยทีเดยี ว
ประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตของคนในชุมชนสมัยก่อน ป้าตอง คนภายในชุมชนกุฎีจีน เล่า
เร่ืองหนูเลียบให้ฟงั ว่า ในสมัยก่อนเด็กภายในชุมชุนชอบไปเล่นแล้วกลับบ้านในช่วงเวลาท่ีค่ํา จึงมีการ
บอกถ้าไม่กลับบ้านหนูเลียบ จะพาไปเล่นด้วย ทําให้เด็กทุกคนในชุมชนกลัวหนูเลียบและรีบกลับบ้าน
แต่ในสมัยน้ีป้าตองบอกว่าหนูเลียบจะทําอย่างไรให้เด็กออกไปเล่นนอกบ้าน เพราะการติดมือถือ
เน่ืองจากยุคสมัยท่ีเปล่ียนแปลงไปเทคโนโลยีการส่ือสารเปล่ียนแปลงไป (ปัาตองกล่าว)ภายในชุมชน
มีการเสริมสร้างงานให้กลุ่มผู้หญิงและผู้สูงอายุ แต่เดิมชุมชนกุฎีจีนเร่ิมเป็นย่านนักท่องเท่ียวซ่ึงตอน
แรกคนภายในชุมชนไม่ให้การยอมรับ จึงมีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ และสอบถามถึงคน
ท่ีมาเท่ียวว่ามาเท่ียวต้องการไปท่ีไหนเพ่ือท่ีจะตอบโจทย์ ซ่ึงคนภายในชุมชนเร่ิมเปิดใจยอมรับ
เสริมสร้างอาชีพทําให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ซ่ึงมีผู้นําชุมชนท่ีดีพูดคุยกันอย่างมีเหตุผลคนในชุมชน
เปิดใจรับฟงั และชุมชนกุฎีจีนจึงได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเท่ียวในท่ีสุดภายในชุมชน มีการช่วยเหลือ
ซ่ึงกันและกัน มีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในชุมชน มีกิจกรรมภายในชุมชน เน่ืองจากผู้สูงอายุ
ภายในชุมชนเครียดเร่ืองการระบาคของโควิด-19 จึงมีการทํากิจกรรมต่างๆกันภายในชุมชน
กจิ กรรมคลายเรยี ด การบูรณะ การซอ่ มแซมทาํ ความสะอาดภายในชุมชน
ชุมชนน้ันมีความเป็นเอกลักษณ์ท้ังในด้านในวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิตและสังคมของ
ชุมชนซ่ึงทําให้ชุมชนกุฎีจีนมีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันและมีความสามัคคี ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน
และสามารถเป็นต้นแบบให้กับชุมชนโดยรอบอีกด้วยจะเห็นได้ว่าชุมชนกุฎีจีนเป็นชุมชนท่ีแข็งแรงไม่ว่า
จะเป็นภายในหรือ ภายนอก โดยชุมชนกุฎีจีนน้ันจะปลูกฝังขนบธรรมนียมประเพณี และวัฒนรรมสู่
เยาวชน เช่นขนมฝร่งั กฎุ ีจีน ขนมไทยโบราณต่างๆท่เี ปน็ จดุ ขาย โดยเยาวชนหรอื เด็ก ๆ ภายในชุมชน
น้ันได้มีส่วนร่วมเก่ียวกับกิจกรรม เทศกาลหรืองานต่าง ๆ ของ วัด ชุมชนเพื่อปลูกฝังให้รู้จักกับ
ประเพณี วัฒนธรรมท่ียังคงสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน เพ่ือสามารถพัฒนาชุมชนและนําไป
ประกอบอาชีพสืบต่อกันไป โดยปัจจุบันน้ันชุมชนกุฎีจีนเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวท่ีหน่ึงทําให้คนภายนอก
เข้ามาศึกษาหรือมาท่องเท่ยี ว เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาหรอื ประวตั ขิ องชุมชนกฎุ จี ีนแหง่ นอ้ี ีกดว้ ย
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผูส้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 184
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ นั ทึก: นายภทั รดนัย เงินบาท 6205681155 ฃ
บนั ทึกภาคสนาม กุฎจี นี
จากการท่ีได้ฟงั การบรรยายของวิทยากรท่ีได้ให้ความรู้เก่ียวชุมชนและก็หาข้อมูลจากเว็บไซต์
ตา่ งๆทาํ ใหเ้ ราทําความเขา้ ใจกับชมุ ชนกุฎีจนี นไ้ี ดด้ ีมากขน้ึ โดยจะขอแยกเป็น 3 หัวข้อ
1.ประวัติ
จากการศึกษาประวัติศาตร์ของชุมชนกุฎีจีนน้ันมีความเป็นมาจากชาวโปตุเกสน้ันย้ายถ่ินฐาน
มาในประเทศไทยในยุคท่ีเสียกรุงในสมัยอยุธยา และชาวโปรตุเกสได้ไปช่วยรบสงครามและกอบกู้เอก
ราชของไทยมาได้ ซ่ึงในสมัยน้ันพระเจ้าตากได้เป็นพระมหากษัตริย์ของไทย ได้หมอบท่ีดินให้ชา
โปรตุเกส จนกลายมาเป็นชมชุนกุฎีจีน และมีการสร้างโบสถ์ข้ึนมา โดยปัจุบันน้ีโบสถ์ซางตาครู้ส เป็น
สถานท่ีสําคัญภายในชุมชนอยู่และเหมือนเป็นแลนมาร์คให้กับชุมชน อีกท้ังยังช่วยส่งเสริมการ
ท่องเทย่ี ว
2.สภาพพ้ืนท่ี
จากรูปภาพท่ีอาจารย์ประจําวิชาและบันทึกภาคสนามของรุ่นพี่คณะสังคมสงเคราะห์ ทําให้เรา
เห็นว่าสถาปัตยกรรมต่างๆน้ันเป็นชุมชนท่ีอยู่ติดกลับแม่น้ํา ในรูปจะมีรูปหน่ึงท่ีให้ข้อมูลเก่ียวกับสภาพ
พ้ืนท่ีให้การใช้ช่ือเรียกโดยอย่างกุฎีจีนน้ันจะอยู่ฝ่ ังธน และจะถูกเรียกว่าสวน เพราะว่ามีระบบโครงข่าย
ของคลองมาก ทําให้ความชุมช้ืนน้ันเข้าถึงชุมชนได้ง่ายและก่อให้เกิดระบบนิเวศชุมน้ํา จากท่ีวิทยากร
ได้กล่าวมาเคยประสบกับปัญหาน้ําท่วมในปี54ด้วยสาเหตุท่ีเป็นพื้นท่ีท่ีติดแม่น้ําจึงทําให้น้ําท่วมง่าย
แต่ด้วยบ้านคนในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีเป็นบ้านสมัยก่อนจะมีใต้ทุนสูงเลยสามารถหนีน้ําข้ึนมาข้างบนได้
และจากการได้เห็นถึงภาพสถาพพื้นท่ี ยังใช้แนวคิด “บวร”คือบ้าน วัด โรงเรียน ให้อยู่ภายในชุมชน
อีกด้วย เป็นการโยงกัน ระหว่างสังคมและศาสนาเข้าด้วยกัน และด้วยความท่ีมีสถาปัตยกรรมเก่า
ต่างๆในช่วงท่ียังไม่ระบาดในพื้นท่ีก็จะมีนักท่องเท่ียวน้ันเข้ามาเย่ียมชมอยู่เร่ือยทําให้คนในพื้นท่ีเองก็ได้
ผลประโยชน์จากการท่ีนักท่องเท่ียวมาอีกด้วยถือเป็นรายได้ให้กับทางชุมชนเป็นอย่างดี แต่ปัจจับันก็
จะประสบปัญหากับวิกฤตการณ์โควิด-19 ระบาดจึงทําให้ท้ังทางโบสถ์วัดหรือมัสยิดในพื้นท่ีรวมถึง
พิพิธภัณฑ์น้นั ตอ้ งหยุดให้เข้าชมกนั ไปกอ่ น
3.วฒั นธรรมและศาสนา
จากการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์เราจะพบว่าย่านกุฎีจีนน้ันในปัจจุบันมีหลากเช้ือชาติเช้ือสาย
เข้ามาอยู่จึงทําให้มี คําเรียกว่า ชุมชน 3 ศาสนา 4 ความเช่ือคือ พุ ทธเถรวาท พุ ทธมหายาน คริสต์
และมุสลิม ซ่ึงคนส่วนใหญ่ในชุมชนน้ันจะเป็น คริส 85เปอร์เซ็น ส่วนท่ีเหลือก็จะประปนกันไป จากท่ี
ฟงั วิยากรและมีเพื่อนได้ถามว่า ชุมชนจะมีการทะเลาะกันทางศาสนาหรือเปล่าเพราะความเช่ือคนละ
ความเช่ือกัน โดยวิทยาการกล่าวประมาณว่าไม่มีเร่ืองแบบน้ันเลย ชุมชนเราช่วยเหลือกันถึงแม้ว่าจะ
คนละศาสนาเคารพในสิทธิส่วนบุคคลในการนับถือศาสนา และการดําเนินชีวิตตามวิถีศาสนาของแต่ละ
คน และไม่ใหค้ วามแตกตา่ งเรอ่ื งศาสนาหรือเชอ้ื ชาติเป็นตัวทาํ ลายมติ รภาพ ซ่งึ ก็ได้ยกตวั อยา่ ง การท่ี
วัดมีงานอะไร ชาวคริสก็จะส่งอาหารไปช่วย หรือมุสลิมมีงานก็จะส่งอาหารท่ีไม่ขัดกับศาสนาเขาเป็น
ช่วยเหลือซ่ึงกันละกันตลอด วิทยากรยังพุ ดเร่ืองเก่ียวกับวัฒนธรรมการกินอย่างจะมีขนมของชมชุน
ท่ีเป็นท่ีข้ึนช่ือเป็นขนมต้นตํารับจากโปรตุเกส ช่ือว่าขนมฝร่ังกุฎจีน และจากข้อมูลจากเว็บก็จะเหลือ 3
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ นิ หทัย หนูนวล 185
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ร้านเท่าน้ันท่ีขายขนมชนิดน้ี ร้านหลานย่าเป้า ร้านป้าอําพรรณ ร้านธนูสิงห์ ในส่วนของประเพณีท่ีได้
สืบค้นน้ันมีเยอะ เพราะว่าย่านกุฎีจีนน้ันมีหลายความเช่ือ จึงมีหลายกิจกรรมสําคัญของแต่ละศาสนา
วิทยากรได้ยกตวั อยา่ งเกย่ี วกับวัฒนธรรมของตนเองเพราะวา่ ตน้ เองนับถือคริสต์
วันครสิ ตมาสของชาวกุฎีจนี
จะมีการจัดงานประเพณีวันคริสมาสต์ นอกจากการเฉลิมฉลองท่ีจัดข้ึน เทศกาลน้ียังแฝงไปด้วย
วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตอีกมากมาย ชาวชุมชนกุฎีจีนบริเวณรอบโบสถ์ซางตาครู้ส จะนํา
ดวงไฟและสายรุ้งออกมาประดับตามมุมต่างๆ พร้อมท้ังเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบสําหรับสูตร
อาหารหรอื ขนมเกา่ แก่บางเมนูจะทําข้นึ เพื่อเล้ยี งฉลองกันในแคช่ ว่ งเทศกาลนเ้ี พียงเทา่ น้นั
อา้ งองิ
PPTV Online. "กุฎจี นี " ชมุ ชนเก่าแกเ่ ช้อื สายโปรตุเกส. (2563). สืบค้นเมอ่ื วันท่ี 15 ตลุ าคม
2564. จาก
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C
%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C/131946
สารสนเทศท้องถ่นิ ธนบรุ ี. ขอ้ มลู ภมู ปิ ญั ญาชมุ ชนแขวงวดั กัลยาณ.์ (ไมร่ ะบุป)ี . สืบคน้ เมอ่ื วนั ท่ี
15 ตลุ าคม 2564. จากhttp://human.bsru.ac.th/localinformation/?page id=493
วิชา สค. 311 หลกั และวิธกี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 186
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผูบ้ นั ทึก: น.ส.ธรชญา จปู ระเสรฐิ 6205681254
ฃ
(โบสถค์ าทอลกิ หลังแรก) (สถาบนั ชุมชน : โบสถซ์ างตาครสู้ )
จากการศึกษาชุมชนเม่ือวันท่ี 6 ตุลาคม ในช้ันเรียนออนไลน์ ซ่ึงได้มีการพู ดถึงชุมชนกุฎีจีน
ซ่ึงเป็นคร้ังเรกท่ีข้าพเข้าได้ยินและได้เร่ิมทําความรู้จักกับสถานท่ีแห่งน้ี ซ่ึงชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชน
เก่าแก่ของชาวไทยเช้ือสายโปรตุเกส ต้ังอยู่ริมแม่น้ําเจ้าพระยาฝ่ ังธนบุรี ร่องรอยทางประวัติศาสตร์
ของชุมชนแห่งน้ี แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและเร่ืองราวอันน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะ สัมพันธภาพ
ภายใต้ความแตกต่างของเช้ือชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมในชุมชนท่ีประกอบไปด้วยชาวจีน อินเดีย
และยุโรป ท่ีอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองเป็นเวลานานกว่า 200 ปี นอกจากน้ีในสมัยก่อน ยังเต็มไป
ด้วยความหลากหลายทางชาติพันธ์ุและวัฒนธรรม คนในชุมชนกุฎีจีนนับถือศาสนาคริสต์ นิกาย
คาทอลิกเป็นหลัก ทําให้มีสถาปัตยกรรมอย่างโบสถ์คริสต์อยู่ในหมู่บ้านอย่างโดดเด่น รวมถึงรูปป้ ัน
ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับเร่ืองราวทางศาสนาคริสต์ ซ่ึงจากการเล่าของพี่ด้วง ทําให้เห็นว่าชุมชนน้ีเป็นชุมชน
ท่ีมีเอกลักษณ์มาก มีจุดเด่นในหลายๆอย่าง ทําให้สามารถดึง ดูดนักท่องเท่ียวได้ดี มีผู้นําชุมชนท่ี
เข้มแข็งมาก สามารถบริหารจัดการและควบคุมคนในชุมชน ได้เป็นอย่างดี รวมท้ังคนในชุมชนมีความ
เป็นอันหน่ึงอัน เดียวกัน อาจเป็นผลมาจากการท่ีนับถือศาสนาเดียวกัน มีการทํากิจกรรมร่วมกันอยู่
บ่อยคร้ังในโบสถ์ เพราะตัวโบสถ์อยู่ ในชุมชนเลย ไม่ต้องเดินทางไปไกล จึงทาให้คนในชุมชนรู้จักกัน
สนิทสนมกันสถานท่ีสาคัญของชุมชนกุฎีจีน ประกอบไปด้วย วัดซางตาครัส โบสถ์หลังท่ีสอง โบสถ์
หลังท่ีสามเรือนจันทภาพ พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นต้น ทําให้ชุมชนกุฎีจีนได้เปิดเป็นชุมชนท่องเท่ียว
ใหผ้ คู้ นได้เข้ามาชมสถาปัตยกรรมทม่ี ีการผสมผสานความเป็นครสิ ต์ จีน และไทยร่วมกนั
(เส้นทางการจราจรภายในชมุ ชนกุฎีจนี )
วิชา สค. 311 หลักและวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 187
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
หลังจากนั้นข้าพเจา้ กไ็ ดเ้ รียนรแู้ ละมีความสนใจเกี่ยวกับ "พิพิธภณั ฑ์กฎุ จี นี "ซึ่งสรา้ งขึ้นมาโดย
เจา้ ของบ้านท่เี ป็นชาวชมุ ชนกุฎีจีนดง้ั เดิมเลย และสร้างจากทนุ ส่วนตัวอีกดว้ ย บรรยากาศภายในของ
ตัวพิพิธภัณฑ์ ก็จะเหมือนอยู่บ้านเม่ือคร้ังในอดีตเลย เพราะมีการตกแต่งในสไตล์แบบบ้านด้ังเดิมของ
ชุมชนสมัยแรกเร่ิม เป็นพิพิธภัณฑ์ท่ีมีการสะท้อนถึงพัฒนาการท่ีเป็นส่ิงท่ีส่งผลถึงชุมชนในปัจจุบัน
และได้เห็นภายในพิพิธภัณฑ์มีความสวยงามและน่าศึกษาอย่างมาก และภายในพิพิธภัณฑ์มีความ
ด้งั เดมิ รวมถึงไดก้ ลน่ิ อายของชมุ ชนสมัยก่อน
นอกจากน้ีภายในชุมชนยังมีการพูดคุย สื่อสารซ่ึงแฝงไปด้วยความเช่ือบางอย่าง น่ันคือความ
เช่ือ "ผีหัวพริก" หรือ "ผีหนูเล๊ียบ" ท่ีเปรียบเสมือนกุสโลบายของผู้ใหญ่ในชุมชนในการใช้กํากับ
พฤติกรรมของลูกหลานให้กลับบ้านก่อนเวลาหกโมงเย็น มิเช่นน้ันจะถูกลักพาตัวไป เป็นความเช่ือ
ของชุมชนกุฎีจีนมาแต่ด้ังเดิม มีการปลูกฝังและให้เช่ือฟงั เพื่อท่ีจะได้ไม่ทําให้เด็กออกนอกลู่นอกทาง
นอกจากน้ีชุมชนกุฎีจีน ยังมีจุดเด่นอีกจุดคือ เร่ืองของอาหารการกินโดยมีการรับประทานสตูว์, เมนู
อบ/ทอด (อาหารสยาม-โปรตุเกส) และมีใช่เพียงเท่าน้ัน ยังมีขนมหลากหลายท่ีมีการตกทอดมาถึง
ปัจจุบัน โดยเฉพาะ"ขนมฝร่ังกุฎีจีน" ซ่ึงถือได้ว่าเป็นขนม โบราณท่ียังคงยึดสูตรตามตารับด้ังเดิม
ของชาวโปรตุเกส เป็นลูกผสมระหว่างจีนกับฝร่ัง มีลักษณะคล้ายขนมไข่ ซ่ึงตัวขนมเป็นต้นตารับ
ของโปรตุเกส ขณะท่ีหน้าของขนมเป็นแบบจีน ท่ีประกอบไปด้วยฟกั เช่ือม ซ่ึงคนจีนเช่ือ กันว่าถ้าทาน
แลว้ จะทาใหอ้ ย่เู ยน็ เป็นสุข
แต่ในปัจจุบัน ชุมชนได้พบเจอกับสถานการณ์โควิด -19 ส่งผลให้ชุมชนและชาวบ้านได้รับ
ความเดือดร้อนรายได้ลดลงอย่างมาก ไม่สามารถประกอบอาชีพต่าง ๆ ได้ เน่ืองจากโควิดทําให้
นักท่องเท่ียวน้อยลง เศรษฐกิจแย่ลง ทําให้คนในชุมชนต้องช่วยเหลือกันเอง และมีการจัดทํา
กจิ กรรมภายในเพื่อลดความเครยี ดจากสถานการณโ์ ควดิ - 19 ท่เี กดิ ขน้ึ
(ภาพภายในพิพิธภัณฑก์ ุฎีจีน) (ภาพภายในพิพิธภณั ฑ์กฎุ ีจนี )
อา้ งอิง
https://travel.trueid.net/detail/XOKal4kJDy20
https://news.thaipbs.or.th/gallery/91
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ ู้สอน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 188
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ผูบ้ ันทกึ : น.ส.ศิรประภา วัชรพงศ์ชยั 6205681270
ฃ
ชุมชนกฎีจีนเป็นชุมชนเก่าแก่ท่ีมีหลายเช้ือชาติและศาสนา ท้ังพุทธ คริสต์ และอิสลาม มีพื้นท่ี
ท้ังหมด 32 ไร่ เป็นชุมชนติดแม่น้ําเจ้าพระยา สมัยก่อนคนในชุมชนจะนับถือโรมันคาทอลิกท้ังหมด
แต่ปัจจุบันก็จะมีศาสนาอ่ืนด้วย เพราะสามารถแต่งงานกับศาสนาอ่ืนได้ แต่ต้องเข้ามาเรียนรู้ชีวิตใน
ชุมชนเพ่ือให้เข้าใจและอยู่ร่วมกันได้ ลักษณะบ้านในชุมชนในสมัยก่อนจะเป็นบ้านไทยธรรมดา มีใต้ถุน
สูง เพ่ือป้องกันน้ําท่วม เพราะน้ําท่วมทุกปี ตอนหลังก็จะสร้างบ้านตามความนิยม แต่ใต้ถุนก็ยังสูงอยู่
ถงึ จะมกี ารสรา้ งประตูก้นั นา้ํ แล้วกต็ าม
วัฒนธรรมภายในชุมชน ถูกยึดโยงด้วยศาสนา จะมีการไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ หลังจากเสร็จ
การเข้าโบสถ์ คนในหมู่บ้านก็จะมาเจอกัน สมัยก่อนจะมีร้านขายอาหารท้ังข้างหน้าและรอบ ๆ โบสถ์
คนในชุมชนก็จะไปน่ังกินพู ดคุยกัน แต่ในปัจจุบันคุณพ่อก็จัดระเบียบให้ไปขายทางเดินหลังโบสถ์
พิธีกรรมทางศาสนาครสิ ตจ์ ะมี 4 ครั้งปี คือ วนั ฉลองพระครสิ ตกายา วนั ศุกรศ์ ักดิ์สิทธิ วนั ครสิ มาสต์
และวันอีสเตอร์ ซ่ึงพิธีกรรมเหมือนเป็นการถ่ายทอดความรู้จากอดีตให้เดีกรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ต่อ
และยังมีวัฒนธรรมเร่ืองอาหารของชุมชนกุฎีจีนท่ีสําคัญมาก โดยคนในชุมชนจะไม่กินอาหารไทย
แต่จะกินเป็นสตูว์ต่างๆ อาหารท่ีสําคัญของชุมชนจะเป็น สยามโปรตุเกส และขนมจีนแกงไก่ค่ัว
เป็นอาหารท่ีได้จากชาวเขมร ในสมัยพระพุ ทธยอดฟา้ ไปตีกับเขมญและได้พาหรือมีคนเขมญติดตาม
กลับมาด้วย พามาท่ีชุมชน ซ่ึงคนเขมญจะมีการเล้ียงมจีนทุกปี และยังมีขนมท่ีสําคัญก็คือขนมฝร่ัง
กุฎีจีน เป็นขนมโบราณของซาวโปรตุเกสสูตรด้ังเดิม ตัวขนมเป็นต้นตํารับของโปรตุเกส หน้าขนม
เป็นแบบจีน ซ่งึ คนจีนเชอ่ื กันวา่ ถา้ ทานแลว้ จะทาํ ใหอ้ ย่เู ย็นเปน็ สุข
ภายในชมุ ชนจะมสี ถานท่สี ําคัญทใ่ี ห้ผคู้ นสามารถเข้าไปเย่ยี มชมได้ กจ็ ะมีพิพิธภัณฑ์กฎู จี ีน ซง่ึ
จัดต้ังมาเม่ือ 5 ปีท่ีแล้ว เพ่ือให้เดีกรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา เรียนรู้เร่ืองราวในอดีต รูท่ีไปท่ีมาของ
ชุมชน โดยในช้ัน 1 จะเป็นประวัติศาสตร์ของชุมชน ส่วนช้ัน 2 จะเป็นเร่ืองราวชีวิตของคนในชุมชน
เช่น ลักษณะบ้าน อาหาร เป็นต้น ต่อไปจะเป็นเรือนจันทนภาพ เป็นบ้านไม้สักท้ังหลัง สามารถถอด
บ้านเป็นช้ินๆได้ และสามารถเอนไปข้างหลังแล้วเด้งกลับคืนมาได้ เพราะมีการใช้สลักท้ังตัวบ้าน
รวมถึงมีร่อยงรอยของกระสุนแมนฮัตตัน และยังมีอาวุธประจําร.5 ต่อไปเป็นศาลเจ้าจีนเกียนอันเกง
วิชา สค. 311 หลักและวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผสู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 189
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
เร่ิมมาจากในสมัยอยุธยาท่ีจะมีชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อซ้ือขายสินค้า ผ่านแม่น้ําเจ้าพระยามาท่ีป้อม
วิชัยเยน ซ่ึงเป็นจุดตรวจ หลังจากน้ันชาวจีนก็มาต้ังชุมชนอยู่ถาวรแถวบริเวณน้ี และมีการก่อต้ังศา
สนสถานก็คือศาลเจ้าเพื่อให้คนจีนท่ีเดินทางมาได้มากราบไหว้ ซ่ึงศาลเจ้าเกียนอันเกง มีความหมาย
ว่า ศาลเจ้าท่ีสร้างความสงบสุขและความร่มเย็นโดยเอกลักษณ์ของศาลเจ้าก็จะมีจิตกรรมฝาผนัง
เก่ียวกับเร่ืองราวของสามก๊ก เป็นตอนท่ีสําคัญ เป็นการวาดบนปูนเปียกต้ังแต่สมัยร.3 คัดลอกภาพ
มาจากหนังสือสมัยราชวงศ์ชิง และมีงานไม้แกะสลัก โดยด้านหน้าบนคานอันแรก จะเป็นเร่ืองราวของ
สามก๊กตอนยุทธการเปิดเมือง บนคานท่ีสอง จะเป็นตอนท่ีโจโฉกับเล่าป่ ีสู้กัน ซ่ึงได้รับความนิยมจาก
หลายอาจารย์ และยังเป็นงานไม้แกะสลักท่ีมีแค่ศาลเจ้าเก่ียนอันเกงเพียงท่ีเดียว และศาลเจ้ายังได้
รางวัลพระราชทาน อาคารอนุรักษ์ดีเด่นในปี 2551 ต่อมากรมศิลปากรก็เข้ามาดูแลและให้เป็น
โบราณสถาน ซ่ึงศาลเจ้าได้คงสภาพเดิม รวมถึงสีธรรมชาติของศาลเจ้าทําให้ศาลเจ้าเกียนอันเกงจะ
ไม่มีสีสันสดใสเหมือนศาลเจ้าท่ีอ่ืน ต่อไปจะเป็นวัดกัลยาณมิตร ไหว้หลวงพ่อโต และยังมีระฆังใบใหญ่
ทส่ี ุดในประเทศไทย ตอ่ ไปเปน็ มัสยดิ บางหลวง เปน็ มสั ยดิ แหง่ เดยี วในโลกทเ่ี ป็นทรงไทย
และสุดท้ายโบสถ์ซางตาครัส เร่ิมจากพ่อกอร์ไปกู้เอกราช ได้พาชาวคาทอลิกกลับมาด้วย
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงได้พระราชทานท่ีดิน และนํามาสร้างเป็นโบสถ์หลังแรกลักษณะ
เหมือนโรงนา มีใต้ถุนสูง หลังจากน้ันก็มีการปรับปรุงเป็นหลังท่ีสองใช้เป็นอิฐในการก่อสร้างอย่าง
สวยงาม แต่สร้างได้ไม่นานก็เกิดไพไหม้ ต่อมาจึงสร้างเป็นหลังท่ีสามกลายเป็นแลนด์มาร์คของ
ชุมชนกุฎีจีนในปัจจุบัน โดยโบสถ์จะเป็นศูนย์กลางและมีชุมชนล้อมรอบ ขยายออกไป ในโบสถ์หลังท่ี
สามได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมเรเนซองต์ แบบนีโอคลาสสิก เปิดวัดคร้ังแรกเม่ือวันท่ี 14
กันยายน 2312 คนท่ีดูแลโบสถ์ในสมัยน้ันก็คือคุณพ่อกรินส์ เป็นลูกคร่ึงไทยกับเวียดนาม และคุณพ่อ
แปโร่ ซ่ึงเคยเป็นสถาปนิก จึงได้ช่วยกันออกแบบโบสถ์หลังท่ีสามข้ึนมา ช่ือวัดซางตาครู้ส แปลว่า
กางเขนศักด์ิสิทธิ เป็นภาษาโปรตุเกส เพ่ือให้เกียรติชาวโปรตุเกส ซ่ึงคนต้ังช่ือก็คือคุณพ่อแปโร่
ลักษณะของโบสถ์หลังท่ีสามจะประกอบไปด้วยส่วนแรกคือหอระฆังจะมีการตีทุกวัน เพ่ือใช้บอกเวลา
และเหตุการณ์ให้แก่คนในชุมชน ซ่ึงจะมีการแบ่งระฆังเป็นชุด ๆ โดยระฆังท่ีพี่ตองได้บอกไว้ก็คือการี
ยอง มีท้ังหมด 16 ใบ มีเสียงครบทุกโน้ต สามารถเล่นเป็นเพลงได้ ใช้ในงานฉลองของกูฎีจีน ซ่ึงแต่
วิชา สค. 311 หลกั และวิธีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทยั หนูนวล 190
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
ละใบก็จะมีช่ือเรียกด้วย ส่วนท่ีสองจะเป็นอาคารท่ีใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ประดับด้วยกระจกสี ใน
อดีตจะเป็นรูปเก่ียวกับพระคัมภี ในช่วงสงครามโลกคร้ังท่ีสอง ทําให้โบสถ์ถูกแรงอัดจากระเบิด
กระจกจึงแตก ต่อมาจึงเปล่ียนเป็นรูปกางเขนธรรมดา และในปัจจุบันก็เป็นรูปพระคัมภีร์เก่าและใหม่
เม่ือเข้ามาในโบสถ์แล้วมองข้ึนไปด้านบน จะเห็นกระจกวงกลมข้างบนเป็นรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขน
เป็นรูปเก่ามากต้ังแต่สร้างโบสถ์คร้ังแรก เป็น 1 ใน 3 รูปท่ีเหลือจากการโดนแรงอัดข้องระเบิด อีก
สองรูปจะอยู่ตรงประตูท้ังสองข้างก่อนเข้าพระแท่น และส่วนสุดท้ายคือ สังฆภัณฑ์ เป็นท่ีเก็บของ
เก่ียวกับศาสนา เช่นเส้ือพระสงฆ์ เป็นต้น นอกจากโบสถ์ก็จะเป็นชุมชนโดยรอบ ในเร่ืองของการเป็น
เจ้าของกรรมสิทธ์ิท่ีดิน ต้องเซ็นสัญญากับโบสถ์ซางตาครู้สทุกปี ซ่ึงเป็นสัญญาเช่า คนเซ็นจะต้อง
เป็นคาทอลิกเท่าน้ัน เป็นกฎหมายต้ังแต่ปี 2457 ว่าท้ัง 5 ชุมชนก็คือ กุฎีจีน สามเสนคอนเซ็ปท์ช่ัน
วัดฟรังซิสเซเรีย ตลาดน้อย และพระประแดง จะไม่สามารถโอนกรรมสิทธ์ิการเช่าท่ีดินให้กับคนท่ีไม่ใช่
คาทอลิกได้
ความคดิ เหน็ ของผบู้ นั ทกึ
เป็นชุมชนท่ีมีความน่าสนใจและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองท่ีชุมชนอ่ืนไม่มี มีสถานท่ีสําคัญ
ต่าง ๆ ในชุมชน ทําให้สามารถดึงดูดนักท่องเท่ียวได้ เห็นถึงความร่วมมือ ความเข้าใจกันของคนใน
ชุมชน ทําให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และยังได้รู้ถึงประเพณีและวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น ขนม
ฝร่ังกุฎีจีน ท่ีเป็นขนมท่ีมีท่ีเดียวท่ีทํา และยังคงไว้ซ่ึงสูตรด่ังเดิม และยังมีการเปิดสอนสูตรการทํา
ขนมอีกด้วยให้กับคนท่ีมีความสนใจเพื่อเป็นการถ่ายทอดและนุรักษ์ขนมเอาไว้ และยังรู้สึกถึงความ
เข้มแข็งของชุมชนท้ังผู้นําชุมชนและคนในมชน ท่ีช่วยเหลือกัน มีการจัดการบริหารชุมชนได้อย่างดี
จึงทําให้ชุมชนกุฎีจีนกลายเป็นแหแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเก่าแก่กว่า 200 ปีท่ีน่าสนใจ
อย่างมาก
วชิ า สค. 311 หลักและวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารยผ์ สู้ อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 191
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ผบู้ นั ทกึ : น.ส.อภชิ ยา เจรญิ กติ ศิ ัพท์ 6205681296
บนั ทึกภาคสนาม : ชุมชนกุฎจี นี ฃ
ประวัตภิ ายในชมุ ชน
โบสถซ์ างตาครสู้ Santa Cruz Church
- สรา้ งข้นึ เม่อื ปี พ.ศ. 2312 ในสมัยของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช หลังจากเสียกรงุ ครง้ั
ท่ี 2 พระองค์กไ็ ดพ้ ระราชทานทด่ี ินบรเิ วณ ชุมชมกฎุ ีจนี
- เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกแห่งน้ีข้ึนเพื่อเป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจของชาวคริสต์ทุกคน
แสดงถึงศาสนาท่ีผู้คนในชุมชนน้ีนับถือ และมีความเช่ือในศาสนาคริสต์ท่ีเป็นชาวไทยเช้ือสายโปรตุเกส
ท่อี พยพมาจากกรงุ ศรอี ยธุ ยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซอง นีโอคลาสสิค
- ชางตาครู้ส ท่ีมีความหมายท่ีแปลว่า กางเขนศักด์ิสิทธ์ิ ทุก ๆวันท่ี 14 กันยายน จะมีการ
เฉลิมฉลองในทุกๆปี ภายในโบสถ์มี 3 ส่วน ส่วนแรกมีหอระฆังท่ีช่ือว่าการียอง มีระฆัง 16 ใบ ทุกๆใบ
จะมีช่ือระฆังทุกใบ ส่วนท่ีสอง คือ อาคารประกอบพิธี เป็นอาคารกระจกเม่ือสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ถูก
แรงระเบิดทําให้กระจกแตก ส่วนท่สี าม คอื ส่วนของสังฆภัณฑ์ ทม่ี ีไวเ้ ก็บของพระสงฆ์
• ผู้บันทึกมีความรู้สึกว่ามีความเป็นกล่ินอายของสถาปัตยกรรมของประเทศทางยุโรปไม่ว่าจะ
เป็นการโครงสร้าง หลังคา ท่ีมีการจัดแต่งแบบทางตะวันตกลักษณะโดดเด่นคือหอระฆังทรง
แปดเหล่ียมประดับด้วยไม้กางเขนบนยอด ตัวอาคารก่ออิฐธูประดับลายปูนป้ ัน ส่วนล่างเป็น
ห้องโถงประกอบด้วยซุ้มโค้งท่ีสอดรับกัน ตกแต่งด้วยกระจกสีท่ีถ่ายทอดเร่ืองราวจากพระ
คัมภีร์
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ ีการสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 192
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ลักษณะทางกายภาพของชมุ ชน
- เป็นแผนท่ีนําเท่ียวชุมชุน เพื่อให้เห็นภาพรวมของชุมชนท้ังหมดว่าในแต่ละจุด ชุมชนน้ีเป็นอย่างไร
แต่ละสถานท่ีต้ังอยู่ส่วนไหน ทําแผนท่ีเดินดินน้ัน มีความสําคัญมากและเป็นสิ่งแรกท่ีต้องทํา เพราะ
เป็นวิธีท่ีจะสามารถทําให้เห็นภาพรวมของชุมชนได้ดี รวดเร็ว และได้ปริมาณข้อมูลมากในระยะเวลาท่ี
สั้นท่ีสุด ชุมชนกุฎีจีนต้ังอยู่ในกรุงเทพมหานคร เขตธนบุรี ทางทิศเหนือติดกับแม่น้ําเจ้าพระยา ทิศใต้
ติดกับคลองวังหลวงและชุมชนวัดประยูรวงศ์ ทิศตะวันออกติดกับประตูก้ันน้ําคลองกุฎีจีน ทิศ
ตะวนั ตกตดิ กับคลองก้นั ระหวา่ งชมุ ชนกบั ศาลเจา้
• ผู้บันทึกจึงได้เห็นภาพรวมว่าชุมชนกุฎีจีนเช่ือมกับตรงไหนบ้างและสามารถเดินทางได้สะดวก
ข้ึน เป็นวิธีท่ีจะสามารถทําให้เห็นภาพรวมของชุมชนได้ดี รวดเร็ว และได้ปริมาณข้อมูลมากใน
ระยะเวลาท่สี ั้นท่สี ุด
วิชา สค. 311 หลกั และวธิ กี ารสังคมสงเคราะห์ 3 Section 7800/01 อาจารย์ผ้สู อน ผศ.ดร.ป่ ินหทัย หนนู วล 193
คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคการเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
- เป็นการทําอาชีพเสริม เป็นการทําอาชีพภายในชุมชนท่ีเพ่ือให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้ ขนมฝร่ังกุฎี
จีน เป็นขนมโบราณกว่า 200 ปี ท่ีมีต้นตํารับมาจากชาวโปรตุเกสท่ีมาต้ังถ่ินฐานอยู่ในชุมชนกุฎีจีน
เม่ือสมัยกรุงศรีอยุธยาซ่ึงปัจจุบันยังเหลือบ้านท่ีทําขนมฝร่ังกุฎีจีนอยู่เพียงไม่ก่ีบ้านเท่าน้ัน อีกท้ังยัง
มีอาหารจําพวกอาหารจําพวกสตู หรือเป็นขนมจีนแกงไก่ค่ัวท่ีอาหารท่ีเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนน้ี
นําไปสู่การมีรายได้เสริมหรืออาชีพเสริมจากการทําอหารเหล่าน้ีขายให้กับผู้ท่ีมีเข้ามาชมหรือมา
ท่องเท่ยี วในชมุ ชน
• ผู้บันทึกคิดว่าจากการท่ีได้ฟงั ของผู้คนในชมชนกุฎจีน คนในชุมชนมีความรู้สึกว่าไม่อยากให้
สิ่งเหล่าน้ีหายไป คิดว่าเม่ือเวลาผ่านไป กลัวว่าคนในรุ่นหลังจะไม่สามารถทําขนมฝร่ังกุฎีจีนได้
ท่ีทําจากแป้ง น้ําตาล ไข่เป็ด ตกแต่งหน้าด้วยลูกเกด ฟกั เช่ือม ลูกพลับ และโรยน้ําตาลและ
จะไมส่ ามารถสีบทอดความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารท่มี ีความโบราณ