The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พลังงานหลายๆอย่างเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ และหาพลังงานทดแทนที่มีในธรรมชาติและใช้ไม่มีวันหมด มาใช้ทดแทน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khamphan rachada, 2021-09-13 05:49:17

พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

พลังงานหลายๆอย่างเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ และหาพลังงานทดแทนที่มีในธรรมชาติและใช้ไม่มีวันหมด มาใช้ทดแทน

ย เ ร่ิ ม

ลท่ี 5
เจิม

หม่ืน

า 2
หราช

หน้ า

ฟฟ้ า

งแรก ภาพ จอมพลเจ้าพระยาสรุ ศกั ดิม์ นตรี
ปนวนั (เจิม แสงชูโต)



ใวด่าในทวีปเอเชียต่อมาในปี  พ.ศ. 2437
ญของการใช้ไฟฟ้า จึงได้ทาสญั ญาผลิต
ร และถนนหลวง

48

การผลิตกระแสไฟฟ้ าได้ดาเนิ นกา

นครหลวงได้สร้างโรงไฟฟ้าขนึ้ ท่ีวดั เลียบ
ผลิต 1,250-6,000 กิโลวตั ต์ รฐั บาลไท
โดยตรงตงั้ แต่ พ.ศ. 2493 และใน พ.ศ.
เสนเพื่อนาไฟฟ้ าไปใช้ในการผลิตน้าปร

ารโดยหลายบริษทั  จนกระทงั่ การไฟฟ้า
บ เป็นโรงไฟฟ้าพลงั ความร้อนที่มีกาลงั
ทยได้เข้าไปมีหน้ าท่ี ควบคุม  และผลิ ต
. 2455 ได้สร้างโรงไฟฟ้ าอีกแห่งท่ีสาม
ระปา และจ่ายกระแสไฟฟ้ าบางส่วนให้

ประชาชนด้วย สาหรบั ต่างจงั หวดั
ที่จังหวัดราชบุรี มีไฟฟ้ าใช้เม่ือ
พ.ศ. 2460 และจงั หวดั เชียงใหม่มี
ไฟฟ้าใช้เมือ่ พ.ศ. 2474

ภาพ โรงไฟฟ้าวดั เลียบในยคุ ต้น

49

หลงั สงครามโลกครงั้ ที่ 2 สิ้นสดุ ลง
หายาก และมีราคาสูง และโรงไฟฟ้าท่ีม
ศึกษาหาวิธีผลิตกระแสไฟฟ้ าโดยพลงั
พลงั น้าจากเข่ือนภมู ิพล จงั หวดั ตาก 
จงั หวดั ในภาคเหนือ และภาคกลาง ร
ลิกไนต์ท่ีอาเภอแม่เมาะ จงั หวดั ลาปาง 
ผลิตกระแสไฟฟ้าได้กระจายไปทวั่ ประเท
ห ล า ย ป ร ะ เ ภ ท ม า ใ ช้ ใ น ก า ร ผ ลิ ต ก ร ะ แ
พลงั น้า ถ่านหินลิกไนต์ รวมทงั้ พลงั งา
พิภพ และจากชีวมวล

ง พลงั งานท่ีใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
มีอยู่เสียหายจากระเบิด รฐั บาลไทยจึง
งงานอ่ืนๆ ในปี  พ.ศ. 2500 โรงไฟฟ้ า
ได้สร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ า แก่
วม 36 จงั หวดั  ส่วนโรงไฟฟ้ าถ่านหิน
 ได้สร้างขึน้ ในปี  พ.ศ. 2503 ต่อมาการ
ทศอย่างรวดเรว็  และมีการนาพลงั งาน
แสไฟฟ้ า เช่น น้ามนั  ก๊าซธรรมชาติ
านจากแสงอาทิ ตย์ จากความร้อนใต้

50

พลงั งานส่วนใหญ่เม่ือมีการนาม
ขนั้ ตอนต่างๆ รูปแบบสุดท้ายของพล
ร้อน งานกล และไฟฟ้ า ความร้อนจะถ
ผลิตต่างๆ ในอตุ สาหกรรม งานกลจะถ
รถโดยสาร ในระบบขนส่งเครื่องจกั รใ
หรือขดุ ดิน เช่น รถขดุ ดิน ไฟฟ้าจะถกู น
การจาแนกลกั ษณะการใช้พลงั งานในสา

าใช้ประโยชน์โดยมีการแปรรูปตาม
ลงั งานท่ีได้มกั จะอยู่ในรูปของความ
ถกู นาไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการ
ถกู นาไปใช้ในการขบั เคล่ือนรถยนต์
ในการผลิ ต และใช้ในการยกสิ่ งของ
นาไปใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้ าแบบต่างๆ
าขาเศรษฐกิจต่างๆ มีดงั ต่อไปนี้

51

ภาพ พลงั งานเพอื่

อการพฒั นาประเทศ

52

1 การใ
2

3 การใ

ใช้พลงั งานในภาคขนส่งและคมนาคม
การใช้พลงั งานในภาคอตุ สาหกรรม

ใช้พลงั งานในอาคารพาณิชย์

53

มนุษย์มีการใช้พลงั งานมาตัง้ แ
พลงั งานจากชีวมวล และพลงั งานจากธรรมชา
ลม การใช้ระหดั วิดน้าต่อมาเมื่อมนุษยม์ ีการผ
มาใช้ เช่น ถ่านหิน กา๊ ซธรรมชาติ น้ามนั เป็นต

สาหรบั ประเทศไทย การใช้พลงั ง
นาพลงั งานมาใช้ในกิจการรถไฟ เรือกาปัน่ รถย

พระบรมมหาราชวงั ถนนหลวง และส่วนราชกา
ปัจจุบนั มีการใช้พลังงานอย่า

ชีวิตประจาวนั และพฒั นาประเทศในสาขาต่างๆ
ตลอดจนการพาณิชย์ และบา้ นที่อยอู่ าศยั

แต่อดีต การใช้พลงั งานในอดีตเป็ นการใช้
าติ เช่น การใช้ไม้เป็ นเชื้อเพลิง การใช้กงั หนั
ผลิตเครื่องจกั รจึงมีการนาพลงั งานจากฟอสซิล
ต้น
งานได้พฒั นาเป็นสมยั ใหม่ในรชั กาลท่ี 5 มีการ
ยนต์ และเริ่มมีการใช้ไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างใน
าร
างมากมายในการอานวยความสะดวกใน
ๆ เช่น การคมนาคมขนส่ง การอตุ สาหกรรม

54





พลงั งานท่ีใช้กนั มากในแต่ละป
พลงั งานไฟฟ้ามีกระบวนการผลิตซ่ึงใช้เช

ประเทศ คือ พลงั งานไฟฟ้า การผลิต
ชื้อเพลิงท่ีสาคญั ๆ ดงั นี้

56

เป็นเชือ้ เพลิงผลิตพลงั งานไฟฟ้
ต่อส่ิงแวดล้อม ผลกระทบที่เกิดเร่ิมต
แต่งแร่ สรปุ ได้ดงั นี้

ฟาอาจก่อให้เกิดปัญหา และผลกระทบ
ตัง้ แต่กระบวนการทาเหมืองแร่และ

57

ประเทศไทยแหล่งน้ามนั ดิบมีน
ร้อยละ 3 ของความต้องการใช้ในประเท
นาเข้ามาจากต่างประเทศทาให้สญู เสียเง

น้ อย โดยที่ แหล่งสิ ริ กิ ต์ ิ ผลิ ตได้เพียง
ทศ น้ามนั ดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในประเทศ
งินตราต่างประเทศเป็ นจานวนมาก

58

เป็นแหลง่ พลงั งานที่มีการขดุ เจาะมา
อยู่ในอ่าวไทย แต่ปริมาณที่มีในประเท
ต้องมีการซือ้ จากเมียนมามาเลเซีย แล

าใช้ประโยชน์มากว่า 10 ปี แล้ว แหลง่ ใหญ่
ทศไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ จึง
ละอินโดนีเซียในระยะต่อไป

59

การผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลงั งานจากน
อาศยั การปล่อยให้น้าไหลออกผ่านกงั ห
กาเนิ ดไฟฟ้า (Generator) ดงั นัน้ การผลิต
เข่ือนสาหรบั เกบ็ กกั น้า ซ่ึงก่อให้เกิดผลก

น้าที่เก็บกกั อยู่ในอ่างเกบ็ น้าหรือเขื่อน
หนั  (Turbine) เพ่ือให้ไปขบั เคลื่อนเคร่ือง
ตไฟฟ้าจากน้า จึงจาเป็ นต้องมีการสร้าง
กระทบต่อส่ิงแวดล้อมได้

60

พลงั งานนิ วเคลียร ์ เป็ นพลงั งานท่ีม
ในการผลิตไฟฟ้ า พลงั งานนิ วเคลียร์ได
Fission) ซึ่งจะมีกากของเสียเป็นสารกมั ม
ตวั ใหม่ และมีการปลดปล่อยรงั สีประเภ
ส่ิงมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม การใช้พลงั งาน
ท่ีมีความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีซึ่งมีขีด
และความเส่ียง

ส าหร ับประเทศไทยปั จจุ บ ัน  มี ก
การแพทย์ (การผลิตเวชภณั ฑ์ปลอดเช
ด้านอตุ สาหกรรม (การตรวจสอบการเช่ือม

มีศกั ยภาพในการใช้เป็ นพลงั งานทดแทน
ด้มาจากปฏิกิริยาการแตกตวั  (Nuclear
มนั ตภาพรงั สีที่กาลงั สลายตวั หรือจดั เรียง
ภทต่างๆ ออกมาทาให้เกิดอนั ตรายต่อ
นนิวเคลียรจ์ ึงแพร่หลายเฉพาะในประเทศ
ดความสามารถในการจดั การกบั ปัญหา

การน าสารกัมม ันตร ังสี มาใช้ ในด้ าน
ชื้อ) การเกษตร (การถนอมอาหาร) และ
อมโลหะ)

61

ภาพ การนาสารกมั มนั ตรงั สีมาใช้ทางการ

รแพทย์

62



63

ภาพตดั ขวางแสดงการเกบ็ กากก

กมั มนั ตรงั สีในระดบั ชนั้ ต่างๆ จากพ้นื ิววดวน

64

การผลิต และการใช้พลงั งานใ
เสียปลดปล่อยออกมา ซึ่งอาจส่งผลกร
ใกล้เคียงกบั โรงงาน สรปุ ได้ดงั นี้

1 น้า
2 ขย

3 มล

ในโรงงานก่ อให้เกิ ดมลพิ ษ และของ
ระทบต่อสงั คม และชุมชนท่ีอาศยั อยู่

าทิ้ง
ยะหรอื กากของเสีย
ลพิษทางอากาศ

65

ปัญหาและผลกระทบจากการคมนา
ฝ่ ุนละอองท่ีปล่อยออกมาจากเครื่องยน
เ กิ ด
เป็นผลมาจากการเผาไหม้ท่ีไม่สมบูรณ์ โด
(เลก็ กว่า 10 ไมครอน หรือ PM 10) เม่ือ
ต่อปอดของมนุษยซ์ ่ึงมีผลต่อชีวิตและส
เป็นอนั ตรายมากสาหรบั ชมุ ชนเมอื งใหญ

าคมขนส่งมาจากกา๊ ซเสีย ไอเสียและ
นต์ ก๊าซเสียบางส่วน และฝ่ ุนละอองที่

ขึ้ น
ดยทวั่ ไปเขม่าฝ่ นุ ละอองมีขนาดเลก็ มาก
อสูดลมหายใจเข้าไปจะเป็นอนั ตราย
สุขภาพ ปัญหาดงั กล่าวมีแนวโน้มจะ
ญ่ท่ีมีการจราจรติดขดั มากๆ

66

การเกิดรรู วั่ ของชนั้ โอโซน (Ozone
เน่ื องจากสารคลอโร ฟลูโอโรคาร์บอน
ความเยน็ เช่น ใช้ในการทาต้เู ยน็  เครื่อ
ในกระป๋ องสเปรยต์ ่างๆ และสารฮาลอน 
ในบรรยากาศจะลอยขนึ้ ไปยงั ชนั้ โทรโพส

บรรยากาศชนั้ นี้จะมีกา๊ ซโอโซน (O3) ซึ่งทา
(UVB) ที่แผ่กระจายมายงั โลกไม่ให้มีปร
มนุษยไ์ ด้ โดยปกติถ้าผิวหนังมนุษยไ์ ด้รบ
โรคมะเรง็ ผิวหนังได้ เม่ือสารจาพวก CF
รงั สีอลั ตราไวโอเลตจะกระตุ้นให้อะตอม
ซึ่งอะตอมคลอรีนนี้จะจบั ตวั กบั ออกซิเ

ทาลายลง

e Depletion) รรู วั่ ในชนั้ โอโซนเกิดขึ้น
น (CFCS) ซ่ึงเป็ นสารที่ใช้ในการทา
องปรบั อากาศและในการอดั ความดนั
 (Halon) สารจาพวกนี้เม่ือปล่อยออกไป
สเฟี ยร ์ และชนั้ สแตรโทสเฟี ยร์ ซ่ึงใน
าหน้าที่เป็นตวั กนั้ รงั สีอลั ตราไวโอเลตบี
ริมาณ มากเกินไปจนเป็ นอนั ตรายต่อ
บั รงั สี UVB มากเกินไปอาจทาให้เกิด
FCS ปะปนอยู่ในชนั้ สแตรโทสเฟี ยร์
มคลอรีนแตกตวั ออกมาจากสาร CFCS
เจนอะตอมในโอโซนทาให้โอโซนถกู

67

ภาพ การเกวดรรู

รวั ่ ในชนั้ โอโซน

68

เนื่องจากก๊าซโอโซนเป็ นตวั กรองร
ต่อผิวหนังมนุษย ์ ย่ิงก๊าซโอโซนถกู ทาล
โลกจะได้รบั ความเสี่ยงจากอนั ตรายขอ
เกิดรรู วั่ ของชนั้ โอโซนนี้ จาเป็นต้องมีการ

ภาพ รรู วั่ ของชนั้ โอโซนในบรรยากาศชนั้ สแตรโทสเฟี ยรท์ ีพ่ บ

รงั สี UVB ซึ่งเป็ นรงั สีที่เป็ นอนั ตราย
ลายมากเท่าไร กแ็ สดงว่าส่ิงมีชีวิตบน
องรงั สี UVB มากขึน้ ดงั นัน้ ปัญหาการ
รป้องกนั โดยการลดการใช้สาร CFCS

บเมอื่ ปี พ.ศ. 2543 69

ฝนกรด (Ac
โดยมีสภาพเป็ นกรด
เกิดจากการเผาไหม้ถา่ นห

(ซลั เฟอร)์ จากโรงไฟฟ้าแ
การเผาไหมเ้ ชื้อเพลิง โดย

รถยนต์ เมอ่ื ซลั เ
ออกไซดล์ อ
กลายเป็ นก
เป็ นฝนท

โลหะ ส่ิ

cid Rain) คือ ฝนหรือหิมะที่ตกลงมา
ดจากสารซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ สารนี้
หินท่ีมีส่วนประกอบของกามะถนั
และสารไนโตรเจนออกไซด์ ซ่ึงเกิดจาก
ยเฉพาะการเผาไหม้เชื้อเพลิงใน
เฟอรไ์ ดออกไซด์ และไนโตรเจน
อยขึน้ ส่อู ากาศกจ็ ะรวมตวั กบั ไอน้า
กรดซลั ฟรู ิก และกรดไนตริก ตกลงมา
ที่มีสภาพเป็นกรดเป็นอนั ตรายต่อ
สงก่อสร้าง พืช และมนุษย์

70

สภา
สภาวะท่ีม

โลกเป็ นจ
จากโลกไม
ได้ทาให้ส
ความรอ้ น

อากาศใน
ลกั ษณะเช

ภายในเร
ทางการเก

าวะโลกร้อน (Global Warming) เป็น
มีกา๊ ซบางชนิดสะสมอย่ใู นบรรยากาศ
จานวนมาก ทาให้รงั สีความร้อนที่แผ่
มส่ ามารถกระจายออกไปนอกบรรยากาศ
สภาพภมู ิอากาศโดยรวมของโลกมี
นสะสมอยมู่ ากเป็นผลให้อณุ หภมู ิของ
นโลกสงู ขนึ้ เร่ือยๆ ปรากฏการณ์นี้มี
ช่นเดียวกบั การรกั ษาความรอ้ น
รอื นเพาะชากระจก (GreenHouse)
กษตร

71

พลงั งานเป็ นสิ่ งจาเป็ นสา
ในการดารงชีวิตประเทศไทยมีแหล่งพล
เมื่อเทียบกบั ประเทศอื่นๆ พลงั งานหลก
ไฟฟ้ า การคมนาคมขนส่ง ตลอดจนเป็ น
 การผลิตและการใช้พลงั งานได้ส่งผลก
ป่ าไม้จากการสร้างเขื่อน การเกิดมล
ฟอสซิ ล มลพิ ษทางน้ าจากโรงงานอุต
ของสภาพภมู ิอากาศจากการเกิดปรากฏ
การเกิดฝนกรด

าหรบั มนุษย์ และเป็ นปัจจยั พื้นาาน
ลงั งานหลายประเภท แต่มีปริมาณน้อย
กั ท่ีใช้คือ น้ามนั  ทงั้ เพื่อใช้ในการผลิต
นวตั ถดุ ิบในการผลิตภาคอตุ สาหกรรม
กระทบต่อส่ิงแวดล้อม ทงั้ การทาลาย
ลพิ ษทางอากาศจากการใช้ เชื้อเพลิ ง
ตสาหกรรมรวมทัง้ การเปล่ียนแปลง
ฏการณ์เรือนกระจกโอโซนที่ลดลง และ

72


Click to View FlipBook Version