Best Practice นิเทศ

295

หนา้ กากอนามยั สนุ ัขในโรงเรียนไมม่ ที ี่อยู่ประจำ ส่วนมากจะมาตามนักเรยี น มาเช้าเยน็ กลับ โดยโรงเรยี นได้มี
การประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษาถงึ มาตรการความปลอดภยั ของโรงเรียน และประชาสมั พันธ์แจ้ง
ผปู้ กครองอย่สู มำ่ เสมอ
4. การยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของผู้เรียน

โรงเรียนมแี ผนยกระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ปกี ารศึกษา 2563 และดำเนินการยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิ
ตามแผน มกี ารกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน และมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ครผู สู้ อนนำโครงสร้างข้อสอบ
(Test Blueprint) ไปใช้ในการจดั การเรียนการสอนเพื่อยกระดับผลสมั ฤทธิ์ มีข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และข้อมลู สารสนเทศทเ่ี ปน็ ปัจจุบัน มีการวเิ คราะห์ขอ้ มูลเพอื่ หาจุดเด่น จดุ ควรพฒั นาของผู้เรียนและ
สถานศกึ ษา และนำขอ้ มลู ไปใช้ในการพัฒนาการเรยี นรขู้ องผูเ้ รียน มโี ครงการยกระดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน
O-NET, NT, RT ทีช่ ดั เจน
5. การประกันคุณภาพการศึกษา

โรงเรยี นมมี าตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และกำหนดคา่ เปา้ หมาย ตัวช้วี ัดความสำเร็จ ไว้ชัดเจน
มีแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา มีแผนปฏิบตั ิการประจำปี มีรายงานการประเมินตนเอง(SAR) ที่
เปน็ ปจั จุบนั ครูมวี จิ ยั ในชั้นเรียนเพ่อื แก้ปัญหาและพัฒนานักเรียน มรี ายงานผลการปฏิบัตงิ านและผลการ
ประเมนิ ตนเองเป็นรายบุคคลของครู (SAR) ทเ่ี ป็นปัจจุบัน
6. การนิเทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรยี นเป็นฐานเพอื่ พฒั นาผ้เู รียน

โรงเรยี นมีแผนการนิเทศภายในโรงเรยี น มีปฏิทนิ การนิเทศชัดเจน มกี ารนเิ ทศภายในโรงเรียนตาม
แผน ระบผุ ู้นเิ ทศไว้ชดั เจน และนิเทศถึงห้องเรียนทุกห้อง ได้สะทอ้ นผลการนิเทศ หลังจากได้รบั การนเิ ทศอย่าง
เปน็ กลั ยาณมิตร
จุดเด่น/ผลสำเร็จ ของสถานศึกษาแห่งน้ที ี่ปฏิบตั ิได้เป็นเลิศและเปน็ แบบอยา่ งได้

1. ครมู ีความพร้อม มีความมุ่งมั่นตง้ั ใจในการทำงาน
2. กระบวนการทำงานทเ่ี ป็นระบบ การปฏิบตั ิตามนโยบายได้อยา่ งรวดเร็ว
จุดควรพฒั นาของสถานศึกษาแห่งนี้
1. การปรับปรงุ หลกั สูตรขัน้ พื้นฐาน
2. การฝกึ ทกั ษะทางอาชีพให้แกน่ ักเรยี น
ข้อเสนอแนะและความต้องการของสถานศึกษาแห่งนี้

บุคลากร
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเหน็ ของผู้นิเทศ

1. การพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามจดุ เน้นของสำนักงานเขตพื้นท่ีฯ
2. การพัฒนาการอ่านการเขยี นให้เป็นนวตั กรรม
3. การฝกึ นกั เรียนคัดลายมอื หวั กลม ตัวกลม ตามแบบสพฐ. ในทกุ ระดบั ชั้นเพื่อความเป็นระเบียบ
สวยงาม
4. หลักสูตรปฐมวยั แนะนำใหเ้ พิ่มเติมอัตลกั ษณ์ของโรงเรียนไว้ในหลกั สูตรดว้ ย
5. ควรมแี ผนหรอื แนวทางเพื่อพัฒนาการอ่านการเขียนของนักเรียนบกพรอ่ งทางการเรียนรทู้ ีช่ ดั เจน
แนวทางการแกป้ ัญหาและพัฒนา
1. นเิ ทศ ตดิ ตาม อย่างต่อเนอ่ื ง และสมำ่ เสมอ
2. ขอให้ผู้บรหิ ารระดบั เขตพื้นทีก่ ารศึกษา กำกบั ตดิ ตาม อยา่ งต่อเนอื่ ง

296

3. พัฒนา/ใหค้ วามรู้ ด้านหลักสูตร การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา การนเิ ทศภายใน
โรงเรยี นแกค่ รูผ้สู อน

4. เชญิ วทิ ยากรท้องถิ่นมาให้ความรู้สรา้ งทกั ษะด้านอาชีพใหน้ กั เรยี น
14. โรงเรยี นบ้านมะเกลือเก่า

เปน็ โรงเรียนขนาดเล็ก จำนวนครผู ู้สอน 7 คน จำนวนหอ้ งเรยี น 8 หอ้ ง จำนวนนกั เรยี น 61 คน
นเิ ทศเม่ือวนั ท่ี 18 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00-16.30 น.
สรุปขอ้ มลู ที่ได้จากการนิเทศ

สภาพทวั่ ไป บริเวณโรงเรียนสะอาด ร่มรน่ื เอ้ือต่อการเรยี นรู้ของนักเรยี น ห้องเรยี นสะอาด
บรรยากาศนา่ ดู น่าอยู่ น่าเรียน เสาธงอยูใ่ นสภาพดี ธงชาติไม่ขาด มีปา้ ยข้อหา้ มและมาตรการปอ้ งกนั ความ
ปลอดภัยตามนโยบายจุดเนน้ ของสำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต 4 ส่วนข้อมูลตาม
ประเด็นการนเิ ทศ สรปุ ได้ดังน้ี
1. ด้านการพฒั นาและใชห้ ลักสูตรสถานศึกษา

- ระดับปฐมวัย โรงเรียนได้ปรบั ปรุงหลกั สตู รสถานศึกษาปฐมวัย ในปกี ารศกึ ษา 2563 ให้สอดคล้องกับ
หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560 และได้จัดทำแผนการจดั ประสบการณ์ตามสื่อ 60 พรรษาของ
สมเด็จพระเทพฯ เด็กปฐมวัยมีพฒั นาการสมวยั กลา้ พดู กล้าแสดงออก มีระเบยี บวนิ ยั ใฝ่รใู้ ฝ่เรียน มีความ
รบั ผิดชอบ

- ระดบั ข้นั พื้นฐาน โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 จดั โครงสร้างหลักสตู รไดค้ รบถ้วน โดย
จัดโครงสรา้ งระดับช้ัน ป.1-6 จำนวน 1040 ชัว่ โมง/ปี วชิ าภาษาองั กฤษ ในระดบั ชนั้ ป.1-3 จดั เป็นวชิ า
พื้นฐาน 200 ชั่วโมง/ปี จดั วชิ าหนา้ ทพี่ ลเมืองจดั เป็นวิชาเพมิ่ เตมิ หลกั สูตรต้านทุจริตเปิดเป็นวชิ าเพมิ่ เติมชื่อวา่
วิชาสุจริตศกึ ษา
2. ด้านการพัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้

มีการคดั กรองการอา่ นการเขียนของนักเรยี น และมขี ้อมูลด้านการอ่านและการเขียนของนักเรยี นเปน็
รายบุคคลทุกระดับชัน้ มแี ผนพัฒนาการอ่านการเขียน ยังไมม่ ี Model ในการพัฒนาการอา่ นออกเขียนได้ แต่มี
การส่งเสรมิ การคัดลายมือของนักเรยี น การเขียนคำศัพท์ตามคำบอก มีแบบฝกึ อา่ นเขียนคำศัพทต์ ามบัญชคี ำ
พื้นฐาน มแี บบฝกึ การเขียนสรุปใจความสำคญั การเขยี นเรียงความ นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 อ่านออก
เขยี นได้ตามระยะเวลาท่ี สพฐ.กำหนด
3. การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาด้วยเทคโนโลยกี ารศกึ ษาทางไกล (DLTV/ DLIT) และการเตรยี ม
ความพรอ้ ม เพื่อเฝา้ ระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19

โรงเรยี นได้จัดการเรยี นการสอนตาม DLTV เน่ืองจากเปน็ โรงเรียนขนาดเลก็ มีการติดตงั้ อุปกรณ์ได้
ถกู ต้องตามมาตรฐาน สพฐ. รักษาการผูอ้ ำนวยการโรงเรียนเป็นผเู้ ชยี่ วชาญด้าน ICT สามารถซอ่ มบำรงุ อปุ กรณ์
ต่างๆไดเ้ ปน็ อยา่ งดี และยังดูแลใหก้ ับโรงเรยี นอื่นๆ ครูมคี ูม่ ือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และมกี ารบนั ทกึ ผลหลัง
จดั การเรยี นรู้ โรงเรียนมีการคัดกรองวดั ไข้ ให้กับนักเรยี น ครู และผู้เขา้ มาติดตอ่ ก่อนเขา้ สถานศึกษา มีนโยบาย
ใหน้ ักเรยี น ครู และผ้เู ขา้ มาในสถานศกึ ษาทุกคนต้องสวมหน้ากาก มีจดุ ล้างมือดว้ ยสบู่ อยา่ งเพียงพอ มีการจัด
วางเจลแอลกอฮอลส์ ำหรับใช้ทำความสะอาดมอื บรเิ วณทางเข้าอาคารเรยี น หน้าประตหู ้องเรยี น ทางเข้าโรง
อาหารอยา่ งเพยี งพอ หอ้ งเรียนมกี ารจดั โต๊ะเว้นระยะห่างระหวา่ งนักเรียน นักเรียนไมค่ ่อยใสห่ นา้ กากอนามัย
สนุ ัขในโรงเรยี นไมม่ ีท่ีอยู่ประจำ ส่วนมากจะมาตามนักเรียน มาเช้าเย็นกลบั โดยโรงเรยี นไดม้ ีการประชุม
คณะกรรมการสถานศึกษาถงึ มาตรการความปลอดภยั ของโรงเรียน และประชาสัมพนั ธ์แจง้ ผูป้ กครองอยู่
สมำ่ เสมอ

297

4. การยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของผู้เรยี น
โรงเรยี นมีแผนยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ปกี ารศึกษา 2563 และดำเนนิ การยกระดับผลสัมฤทธิ์

ตามแผน มกี ารกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน และมีผูร้ บั ผิดชอบทชี่ ดั เจนครผู สู้ อนนำโครงสรา้ งข้อสอบ
(Test Blueprint) ไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ มขี ้อมูลผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
และข้อมลู สารสนเทศทเ่ี ป็นปัจจุบัน มกี ารวเิ คราะห์ข้อมูลเพือ่ หาจดุ เด่น จุดควรพัฒนาของผู้เรียนและ
สถานศึกษา และนำข้อมลู ไปใช้ในการพฒั นาการเรียนรขู้ องผู้เรยี น มโี ครงการยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียน
O-NET, NT, RT ทชี่ ัดเจน
5. การประกนั คณุ ภาพการศึกษา

โรงเรียนมมี าตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และกำหนดค่าเปา้ หมาย ตัวช้ีวัดความสำเรจ็ ไว้ชัดเจน
มีแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา มแี ผนปฏิบัติการประจำปี มีรายงานการประเมนิ ตนเอง(SAR) ท่ี
เปน็ ปจั จุบนั ครูมวี จิ ัยในชน้ั เรยี นเพือ่ แกป้ ญั หาและพฒั นานักเรียน มรี ายงานผลการปฏบิ ัติงานและผลการ
ประเมนิ ตนเองเป็นรายบุคคลของครู (SAR) ท่ีเปน็ ปัจจุบัน
6. การนิเทศภายในโรงเรียนโดยใชห้ ้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาผเู้ รียน

ใช้การนิเทศแบบกลั ยาณมิตรและ PLC โรงเรียนมีแผนการนิเทศภายในโรงเรียน มปี ฏทิ ินการนเิ ทศ
ชัดเจน มีการนเิ ทศภายในโรงเรียนตามแผน ระบผุ นู้ ิเทศไว้ชดั เจน และนิเทศถงึ ห้องเรียนทกุ ห้อง ไดส้ ะทอ้ นผล
การนิเทศ หลังจากได้รับการนิเทศอย่างเปน็ กัลยาณมติ ร
จุดเด่น/ผลสำเร็จ ของสถานศกึ ษาแห่งน้ที ่ีปฏบิ ัติได้เปน็ เลศิ และเปน็ แบบอยา่ งได้

1. ระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น
2. โครงการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. ครูมีความพร้อม มคี วามมุ่งมน่ั ต้ังใจในการทำงาน
จดุ ควรพัฒนาของสถานศึกษาแหง่ นี้
การปรับปรุงหลักสตู รข้ันพน้ื ฐาน
ขอ้ เสนอแนะและความตอ้ งการของสถานศึกษาแห่งนี้ - ไมม่ ี
ขอ้ เสนอแนะ/ความคดิ เหน็ ของผนู้ เิ ทศ

1. การพฒั นาคุณภาพการศึกษาตามจุดเนน้ ของสำนักงานเขตพืน้ ท่ีฯ
2. การพัฒนาการอา่ นการเขียนใหเ้ ป็นนวตั กรรม
3. การฝกึ นกั เรยี นคัดลายมือหวั กลม ตัวกลม ตามแบบสพฐ. ในทกุ ระดับช้ันเพื่อความเป็นระเบยี บ
สวยงาม
4. หลักสูตรปฐมวัยแนะนำใหเ้ พ่มิ เติมอัตลักษณ์ของโรงเรยี นไว้ในหลักสตู รดว้ ย
5. ควรมีแผนหรือแนวทางเพื่อพฒั นาการอ่านการเขียนของนกั เรยี นบกพรอ่ งทางการเรยี นรูท้ ี่ชดั เจน
แนวทางการแกป้ ญั หาและพัฒนา
1. นิเทศ ตดิ ตาม อยา่ งต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
2. ขอให้ผบู้ ริหารระดบั เขตพื้นที่การศึกษา กำกบั ติดตาม อยา่ งต่อเน่อื ง
3. พัฒนา/ใหค้ วามรู้ ด้านหลักสตู ร การประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา การนิเทศภายใน
โรงเรียนแก่ครผู ้สู อน
4. เชญิ วทิ ยากรทอ้ งถิ่นมาให้ความรู้สรา้ งทักษะด้านอาชีพให้นกั เรยี น

ตอนที่ 5
การสะท้อนผลการนิเทศและการสะท้อนผลการดำเนนิ งาน

การนิเทศการศึกษาครัง้ นี้ เป็นการตดิ ตามผลการดำเนินงานการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา
ของสถานศึกษา ตามประเด็นการนเิ ทศท่ีคณะศึกษานิเทศก์ร่วมกันกำหนดไว้ จำนวน 6 ประเดน็
ไดแ้ ก่ 1) การพัฒนาและใชห้ ลักสตู รสถานศึกษา ระดับปฐมวยั และระดับข้นั พื้นฐาน 2) การพฒั นา
การอา่ นออกเขียนได้ 3) การพฒั นาคุณภาพการศึกษาดว้ ยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล
(DLTV/ DLIT) และการเตรยี มความพร้อมเพื่อเฝา้ ระวงั และป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19
4) การยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน 5) การประกนั คุณภาพการศึกษา 6) การนิเทศ
ภายในโรงเรยี นโดยใชห้ ้องเรียนเปน็ ฐานเพือ่ พฒั นาผ้เู รยี น ซึ่งสอดคล้องกบั นโยบายสำนักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน นโยบาย กลยุทธ์ และจดุ เนน้ ของสำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา
ดำเนนิ การนเิ ทศโดยศกึ ษานเิ ทศกป์ ระจำกลุ่มโรงเรยี น ดำเนนิ การนเิ ทศ ติดตาม ตามเครื่องมือนิเทศ
สรุปผลการนเิ ทศ ดงั น้ี

การสะท้อนผลการนิเทศ
ผลการนิเทศภาพรวมในระดับเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา สรุปตามประเด็นการนเิ ทศ ดังนี้

1. ดา้ นการพัฒนาและใชห้ ลักสูตรสถานศึกษา
- ระดบั ปฐมวัย โรงเรยี นไดป้ รับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวยั ในปีการศึกษา 2563

ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช 2560 โรงเรยี นสว่ นใหญไ่ ด้จดั ทำแผนการจัด
ประสบการณ์ตามสอ่ื 60 พรรษาของสมเด็จพระเทพฯ เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการตามวยั กลา้ พดู กล้า
แสดงออก มรี ะเบียบวินัย

- ระดบั ขนั้ พนื้ ฐาน โรงเรียนมีหลกั สูตรสถานศึกษา ปกี ารศึกษา 2563 ทกุ โรงเรยี น
ส่วนใหญ่จดั โครงสร้างหลกั สตู รไดถ้ กู ตอ้ ง ครบถ้วน ตามท่ีหลกั สูตรกำหนด ส่วนใหญ่จดั โครงสรา้ ง
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 1040 ชั่วโมง/ปี และ 1080 ช่วั โมง/ปี สำหรบั ภาษาองั กฤษ
ในระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1-3 จัด 200 ชั่วโมง/ปี ส่วนใหญ่จดั เปน็ วิชาพ้ืนฐาน 120 ชวั่ โมง/ปี
เป็นวชิ าเพม่ิ เติม 80 ชวั่ โมง/ปี โงเรยี นสว่ นใหญ่จดั วชิ าหน้าที่พลเมืองเปน็ วชิ าเพ่ิมเตมิ และโรงเรียน
ส่วนหนง่ึ จดั บูรณาการในวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สว่ นหลักสูตรตา้ นทุจรติ สว่ นใหญ่
จดั บรู ณาการในวิชาหน้าที่พลเมอื งหรือวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม หรือกิจกรรมลูกเสือ
เนตรนารี แต่มบี างโรงเรียนจดั โครงสร้างหลักสูตรในระดับประถมศึกษาวิชาพ้ืนฐานเกิน 840 ช่วั โมง/ปี
สำหรับระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1-3 สว่ นใหญ่จดั โครงสร้าง 1200 ช่วั โมง/ปี
2. ด้านการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้

โรงเรียนส่วนใหญ่ มีการคดั กรองการอา่ นการเขียนของนักเรียน และมขี ้อมูลดา้ นการอ่าน
และการเขียนของนักเรียนเป็นรายบุคคลทุกระดับช้ัน มแี ผนพัฒนาการอ่านการเขียน จดั กจิ กรรม
พฒั นาการอ่านกาเขยี นตามแผนของโรงเรยี น มกี ารสง่ เสริมการคดั ลายมือของนักเรยี น การเขียน
คำศัพท์ตามคำบอก มีแบบฝกึ อา่ นเขยี นคำศัพทต์ ามบญั ชคี ำพื้นฐาน มีแบบฝึกการเขียนสรุปความ
การเขยี นเรียงความ เขยี นเรื่องจากภาพ นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 ส่วนใหญ่อ่านออกเขยี นได้

299

ตามระยะเวลาท่ี สพฐ.กำหนด นกั เรียนทยี่ งั อ่านไม่ได้ ส่วนใหญ่เกิดจากการผนั เสียงวรรณยุกตไ์ ม่ถกู
จำสระไม่ได้จงึ แจกลกู สะกดคำไม่ได้ และโรงเรียนส่วนใหญ่ยงั ไมม่ ี Model ในการพัฒนาการอา่ น
การเขียน ที่เปน็ เอกลักษณ์ของโรงเรยี น
3. การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาด้วยเทคโนโลยกี ารศึกษาทางไกล (DLTV/ DLIT) และ
การเตรยี มความพร้อม เพอ่ื เฝ้าระวังและป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19

- การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยใช้ (DLTV/ DLIT) พบว่า โรงเรยี นขนาดเล็กมีอปุ กรณ์
และสอ่ื DLTV พร้อมใช้ ตดิ ต้ังอุปกรณ์ครบทุกห้องเรียน และอยใู่ นสภาพงานได้ แต่บางโรงเรียน ใช้
สอื่ DLTV ในบางรายวิชาท่ีครูไมถ่ นัด เช่น การทดลองวิทยาศาสตร์ สำหรับสอ่ื DLIT มีครูนำไปใช้
ในการจดั การเรยี นการสอน

- การเตรยี มความพร้อม เพื่อเฝา้ ระวังและป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19
ทุกโรงเรยี นมกี ารคดั กรองวัดไข้ ให้กับนักเรียน ครู และผู้เข้ามาติดต่อก่อนเข้าสถานศึกษา มนี โยบาย
ให้นักเรยี น ครู และผเู้ ขา้ มาในสถานศกึ ษาทุกคนต้องสวมหนา้ กาก มจี ุดล้างมือด้วยสบู่ อย่างเพียงพอ
มกี ารจดั วางเจลแอลกอฮอลส์ ำหรับใชท้ ำความสะอาดมอื บริเวณทางเข้าอาคารเรยี น หน้าประตู
ห้องเรียน ทางเขา้ โรงอาหารอย่างเพียงพอ ส่วนใหญ่ในห้องเรยี นไมเ่ ว้นระยะหา่ งระหว่างนกั เรียน
สำหรับเร่ืองความปลอดภัยจากสนุ ัขและแมวในโรงเรยี น ส่วนใหญ่มมี าตรการความปลอดภยั ตาม
นโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา มี อ.ส.ม.มาฉดี วัคซีนปอ้ งกนั พิษสุนขั บ้า และ
นักเรียนท่มี ีความบกพร่องทางการเรยี นรู้ไดร้ ับการดแู ลให้สามารถเรียนรว่ มกบั เด็กปกติได้
4. การยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรยี น โรงเรียนมีแผนยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ปีการศกึ ษา 2563 และดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิต์ ามแผน มีการกำหนดระยะเวลาการ
ดำเนินงาน และมผี ูร้ ับผิดชอบท่ชี ดั เจน ครผู ้สู อนนำโครงสร้างขอ้ สอบ(Testblueprint) ไปใช้ในการ
จดั การเรียนการสอนเพ่ือยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิ มีข้อมลู ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนและข้อมลู สารสนเทศที่
เป็นปัจจุบัน มกี ารวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือหาจุดเด่น จุดควรพัฒนาของผูเ้ รียนและสถานศึกษา และนำ
ข้อมลู ไปใช้ในการพฒั นาการเรียนรู้ของผ้เู รียน มีโครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น O-NET,
NT, RT ทชี่ ัดเจน
5. การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา โรงเรยี นมมี าตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และกำหนดค่า
เป้าหมาย ตัวช้ีวดั ความสำเรจ็ ไว้ชดั เจน มแี ผนพฒั นาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา มีแผนปฏิบัติ
การประจำปี มีรายงานการประเมนิ ตนเอง(SAR) ท่เี ป็นปจั จุบัน ครมู ีวิจัยในชน้ั เรยี นเพื่อแก้ปญั หา
และพฒั นานักเรยี น มีรายงานผลการปฏิบตั งิ านและผลการประเมนิ ตนเองเป็นรายบุคคลของครู
(SAR) ทเ่ี ปน็ ปัจจบุ นั
6. การนเิ ทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเปน็ ฐานเพื่อพฒั นาผ้เู รียน โรงเรียนมีแผนการนเิ ทศ
ภายในโรงเรยี น มีปฏิทินการนเิ ทศชัดเจน มีการนิเทศภายในโรงเรียนตามแผน ระบุผู้นิเทศไวช้ ัดเจน
และนเิ ทศถงึ ห้องเรยี นทุกห้อง แตไ่ มค่ ่อยได้สะท้อนผลการนิเทศ หลังจากได้รบั การนิเทศ และยงั ไม่
มี Model การนเิ ทศภายในโรงเรียน ที่เปน็ เอกลักษณ์เฉพาะของโรงเรยี น

300

การสะท้อนผลการดำเนินงาน
จากการวางแผนการดำเนนิ งาน การปฏบิ ตั กิ ารนิเทศตามปฏิทนิ การนิเทศ และการ

สรุปผลการนเิ ทศ พบจดุ เดน่ จุดควรพฒั นา และประเด็นที่เปน็ ปญั หา อุปสรรค ในด้านต่าง ๆ ดังน้ี
1. การวางแผนการนเิ ทศ (Plan)

1.1 ด้านงบประมาณ ตามโครงการได้กำหนดงบประมาณเปน็ คา่ พาหนะในการเดนิ ทางสำหรับ
ผนู้ ิเทศไว้ จำนวน 29,893 บาท แตใ่ ชจ้ ริง 27,080 บาท เนื่องจากศึกษานเิ ทศกบ์ างคนติดราชการ
ไมไ่ ด้ไปนเิ ทศโรงเรียนตามปฏิทินที่กำหนด ทำใหก้ ารใช้งบประมาณไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด

1.2 ประเดน็ การนิเทศ เนอื่ งจากสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานได้กำหนดประเด็น
การนเิ ทศมาให้หลายประเด็น และยังมปี ระเด็นการนิเทศที่มาจากนโยบายและจุดเน้นของสำนกั งาน
เขตพ้ืนท่กี ารศึกษาอีกด้วย จงึ มหี ลายประเดน็ คณะศกึ ษานิเทศก์ไดร้ ว่ มกันคดั เลอื กประเดน็ สำคัญ
ทตี่ ้องนิเทศ ตดิ ตาม จำนวน 6 ประเด็น แตใ่ นการปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศในสภาพจรงิ ผู้นิเทศใช้เวลานิเทศ
วันละ 2 โรงเรียน สำหรับโรงเรียนท่ีอยไู่ กล ต้องใช้เวลาในการเดนิ ทาง ทำให้นิเทศไดไ้ ม่ครอบคลุม
รายละเอียดทกุ ประเดน็

1.3 การกำหนดชว่ งเวลาในการนเิ ทศ เป็นชว่ งเปิดภาคเรียนใหม่ มีความเหมะสม จะได้ช่วยเหลือ
โรงเรยี น และนเิ ทศ ตดิ ตามในเรอื่ งตา่ ง ๆ ให้โรงเรยี นมีพร้อมสำหรับจดั การเรียนการสอน
2. การดำเนินการนิเทศ (Do)

2.1 ระยะเวลาการปฏบิ ตั กิ ารนเิ ทศ ตามโครงการได้กำหนดปฏทิ ินการนเิ ทศไว้ในช่วงระหว่าง
วนั ท่ี 3-18 ธันวาคม 2563 มีเวลาในการนิเทศโรงเรียน 10 วัน โดยกำหนดให้นเิ ทศวันละ 2 โรงเรียน
ซ่ึงเพยี งพอตอ่ จำนวนโรงเรียนในแต่ละกลุ่ม แต่เนื่องจากมีงานราชการอน่ื เปน็ เรื่องดว่ นมาแทรกซ้อน
ทำให้นิเทศโรงเรยี นไม่ทันตามเวลาทก่ี ำหนด ได้แก้ปญั หาโดยการขยายเวลาเพิ่มอีก 5 วนั ถึงวันท่ี
25 ธันวาคม 2563 จึงทำใหน้ ิเทศได้จำนวน 164 โรงเรียน คดิ เป็นร้อยละ 92.13 ไม่ไดร้ ับการนเิ ทศ
ในช่วงเวลาทีก่ ำหนด จำนวน 14 โรงเรยี น คิดเป็นรอ้ ยละ 7.87

2.2 การปฏิบัติการนเิ ทศ ศึกษานเิ ทศก์ ออกนิเทศโรงเรียนตามปฏิทนิ กำหนด แตโ่ รงเรียน
มีกจิ กรรมแขง่ กฬี ากลมุ่ หยุดเรียน 3 วัน ทำใหน้ เิ ทศไม่ทันตามเวลาทก่ี ำหนด สง่ ผลให้โรงเรยี น
ทย่ี งั ไม่ได้รับการนิเทศเสียโอกาส และไม่ไดร้ บั เอกสาร หนงั สือ คูม่ ือ ที่แจกไปพรอ้ มวนั นิเทศ

2.3 เวลากับจำนวนประเดน็ ในการนเิ ทศ ตามที่กำหนดให้ปฏบิ ัตกิ ารนิเทศวันละ 2 โรงเรยี น
แตเ่ นอื้ หาตามประเด็นการนิเทศ ติดตาม มจี ำนวนมาก ประกอบกบั บางประเด็นต้องตรวจสอบ
ความถกู ต้อง เชน่ โครงสรา้ งหลักสูตร และการทดสอบการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้น ป.1 ซ่งึ
ใช้เวลานาน จงึ ทำให้นเิ ทศ ติดตาม ไม่ครอบคลมุ เหน็ ควรปรบั ปรุงประเด็นการนิเทศ หรอื เวลา
ในการนิเทศในครงั้ ตอ่ ไป
3. การตดิ ตามผลการนเิ ทศ (Check)

เมือ่ ผู้นิเทศปฏิบตั กิ ารนิเทศโรงเรยี นตามระยะเวลาท่ีกำหนดแลว้ จึงกำหนดวันสรุป
และรายงานผลการนิเทศโรงเรยี นตามประเดน็ การนเิ ทศ พบจดุ ควรพฒั นา ดงั น้ี

3.1 ผู้นเิ ทศบางคน ไม่นิเทศตามเคร่ืองมือนิเทศที่กำหนดให้
3.2 ผนู้ ิเทศบางคน รายงานข้อมลู รายละเอยี ดไม่ครอบคลมุ ตามประเด็นการนิเทศ
3.3 ผนู้ ิเทศบางคน สรปุ ผลการนเิ ทศไมต่ รงตามประเดน็ การนิเทศ

301

4. การปรับปรงุ แกไ้ ข (Act)
4.1 กำหนดระยะเวลาในการนิเทศให้ช่วงเวลายาวขนึ้ เผือ่ มีผูน้ เิ ทศบางคนตดิ ราชการอื่น จะได้

ปฏบิ ตั กิ ารนเิ ทศได้ครบทุกโรงเรยี น ส่งผลใหโ้ รงเรยี นไดร้ ับการพฒั นาอยา่ งทว่ั ถงึ และการใช้
งบประมาณกจ็ ะเปน็ ไปตามแผนทก่ี ำหนดไว้

4.2 การกำหนดประเด็นการนิเทศ จะกำหนดให้เหมาะสมกบั ระยะเวลาในการปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศ
จะทำให้ผูน้ ิเทศ นิเทศได้อยา่ งครอบคลุม ไดร้ ายละเอียดครบทกุ ประเดน็ ได้รู้ปญั หาของโรงเรยี น
และหาทางชว่ ยเหลือได้ทนั เวลา

4.3 ก่อนการนเิ ทศ จะต้องประชมุ ชี้แจงและทำความเขา้ ใจเน้อื หาการนเิ ทศและเครื่องมอื นิเทศ
จะทำใหผ้ ู้นิเทศเข้าใจตรงกนั และสามารถสรปุ ผลการนเิ ทศได้ตรงตามเคร่ืองมือนเิ ทศ

ภาคผนวก

303

แบบนเิ ทศตดิ ตามการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา ครั้งท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2/2563
สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 4

โรงเรยี น…………………………..............…………………........................กล่มุ โรงเรยี น……………..........…..................……................……..

จำนวนครูผสู้ อนทง้ั หมด ...................... คน จำนวนห้องเรียน..................... หอ้ ง จำนวนนกั เรียน..................คน

คำชีแ้ จง แบบนเิ ทศติดตามฉบบั น้ี เปน็ เครอ่ื งมอื นเิ ทศ สำหรบั ศึกษานเิ ทศก์ใชใ้ นการนิเทศติดตามการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ของสถานศึกษา คร้งั ที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 โปรดบันทึกข้อมลู ตามประเด็นการนเิ ทศ ดงั ตอ่ ไปนี้

1. การพฒั นาและใช้หลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั ปฐมวยั

รายการนเิ ทศ ม/ี ไมม่ /ี ไม่ได้ ขอ้ เท็จจริง/ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ปฏิบัติ ปฏบิ ัติ
1. มกี ารปรับปรงุ หลักสตู รสถานศึกษาปฐมวัย ในปี
การศึกษา 2563 ให้สอดคล้องกับหลกั สตู รการศกึ ษา
ปฐมวยั พทุ ธศักราช 2560 ตามบรบิ ทของสถานศึกษา
และท้องถิ่น
2. มีการจัดทำแผนการจดั ประสบการณ์ใหม้ ีความ
สอดคล้องกับหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย
พทุ ธศักราช 2560
3. มกี ารจดั ประสบการณเ์ พอ่ื สง่ เสรมิ การเรียนร้ใู ห้กบั เด็ก
ได้ครบทุกด้าน (พัฒนาการ 4 ดา้ น)
4. มเี อกลักษณ์ อัตลกั ษณ์ ทีแ่ สดงถึงความเปน็ ตัวตน
ของเด็กได้ชัดเจน

2. การพฒั นาการอ่านออกเขียนได้

รายการนเิ ทศ มี/ ไม่มี/ไมไ่ ด้ ข้อเทจ็ จริง/ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ปฏิบตั ิ ปฏบิ ัติ

1. มกี ารคดั กรองการอ่านการเขยี นของนักเรยี นโดยใช้

เคร่ืองมอื จาก สพฐ. และมขี ้อมูลด้านการอ่านและการเขียน

ของนักเรยี นเป็นรายบคุ คลทุกระดับชั้น

2. มแี ผนพฒั นาการอา่ นการเขียนของสถานศึกษา

ปีการศึกษา 2563 และดำเนินงานตามแผนท่ีกำหนดไว้

อย่างต่อเน่อื งและเปน็ ระบบ

3. มMี odel/รปู แบบ/โครงการ/กิจกรรม/วธิ ีการ/นวตั กรรม

ในการแก้ปัญหาและพัฒนานักเรียนให้อ่านออกเขยี นได้

อา่ นคล่อง เขียนคล่อง และลายมอื สวย โดยมีรอ่ งรอย

การปฏบิ ัตอิ ยา่ งตอ่ เน่ือง เห็นเปน็ รปู ธรรมอยา่ งชดั เจน

304

2. การพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้ (ต่อ)

รายการนิเทศ มี/ ไม่ม/ี ไม่ได้ ข้อเทจ็ จรงิ /ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิ

4. มีกิจกรรมทีส่ ง่ เสริมการคดั ลายมอื ของนักเรียน การเขยี น

คำศัพท์ การเขียนสรุปใจความสำคัญ การเขียนเรียงความ

การเขยี นเร่ืองจากภาพและการเขยี นเชิงสร้างสรรค์

5. มกี ารดำเนนิ การพัฒนานักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1

ใหอ้ ่านออกเขยี นได้ตามระยะเวลาที่ สพฐ.กำหนด ดงั น้ี

- ปลายเดอื นกรกฎาคม 2563 อา่ นและเขยี นคำแม่ ก กา ทป่ี ระสม

สระเสยี งยาว คอื สระอา อี อู เอ แอ ได้

- ปลายเดือนกันยายน 2563 อ่านและเขียนคำ แม่ ก กา ท่ปี ระสม

สระเสียงยาวและ มรี ปู วรรณยุกตไ์ ด้

- ปลายเดอื นธนั วาคม 2563 อา่ นและเขยี นคำทปี่ ระสมด้วยสระ

เสยี งสน้ั และเสียงยาว มรี ปู วรรณยกุ ต์ได้

- ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 อ่านและเขียนคำท่มี ตี วั สะกดตรง

ตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา คำทม่ี ีพยัญชนะควบกล้ำ และคำ

ท่ีมอี กั ษรนำได้

3. การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล (DLTV/ DLIT) และการเตรยี มความพร้อมเพ่ือเฝา้ ระวงั
และปอ้ งกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

รายการนเิ ทศ มี/ ไมม่ /ี ไมไ่ ด้ ขอ้ เท็จจรงิ /ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ตั ิ

1. มรี ะบบข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกบั การใชเ้ ทคโนโลยี

ทางไกล DLTV/DLIT (DLTV สำหรับโรงเรยี นขนาดเลก็ )

2. ห้องเรียนมีการติดตงั้ /ปรับชดุ อุปกรณ์ไดถ้ ูกต้องตาม

มาตรฐานสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน

3. ครูมีและใช้คู่มอื ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

4. ครูมีการบนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

5. มมี าตรการคัดกรองวดั ไข้ ให้กับนักเรยี น ครู และผเู้ ข้ามา

ตดิ ต่อทุกคนก่อนเขา้ สถานศกึ ษา

6. มีนโยบายกำหนดใหน้ ักเรยี น ครู และผเู้ ข้ามา

ในสถานศึกษาทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือ

หนา้ กากอนามัย

7. มกี ารจัดเตรยี มหน้ากากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั สำรอง

ไวใ้ ห้นักเรียนทร่ี ้องขอ หรือผู้ทีไ่ ม่มีหน้ากาก ทเี่ ข้ามา

ในสถานศึกษา

8. มีจดุ ลา้ งมอื ดว้ ยสบู่ อย่างเพยี งพอ มีการจัดวางเจล

แอลกอฮอลส์ ำหรบั ใชท้ ำความสะอาดมือบริเวณทางเขา้

อาคารเรียน หนา้ ประตูห้องเรียน ทางเข้าโรงอาหาร

อยา่ งเพียงพอ

9. มีการทำสัญลักษณแ์ สดงจดุ ตำแหน่งในการเวน้ ระยะหา่ ง

ระหวา่ งกนั อยา่ งชัดเจน

305

3. การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยกี ารศกึ ษาทางไกล (DLTV/ DLIT) และการเตรียมความพร้อมเพ่ือเฝ้าระวงั
และปอ้ งกันการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 (ตอ่ )

รายการนเิ ทศ ม/ี ไมม่ /ี ไมไ่ ด้ ขอ้ เท็จจริง/ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ
ปฏบิ ตั ิ ปฏิบัติ

10. มกี ารกำหนดให้ใช้ของใช้ส่วนตวั ไม่ใชส้ ิง่ ของร่วมกบั

ผอู้ ่นื เชน่ แก้วนำ้ ช้อนส้อม แปรงสีฟัน ยาสีฟนั ผ้าเชด็ หนา้

11. มกี ารตดิ ปา้ ยประชาสมั พันธ์แนะนำการปฏิบตั ิ เพ่ือ

สขุ อนามัยทีด่ ี เชน่ วิธลี ้างมอื ทถี่ ูกต้อง การสวมหนา้ กาก

อนามยั การเว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคลเป็นตน้ หรอื อนื่ ๆ

ทีเ่ กย่ี วกับโรคโควดิ -19

12. มีมาตรการควบคมุ ดูแลสนุ ัข และแมวในสถานศึกษา

ทีช่ ัดเจน

13. มีมาตรการป้องกันความปลอดภยั จากโรคพิษสุนขั บา้

ในสถานศกึ ษา

14. มีมาตรการดูแลนักเรยี นท่ีมีความบกพร่องดา้ น

พัฒนาการ การเรียนรู้ หรือด้านพฤติกรรมอารมณ์ รวมถงึ

ภาวะสมาธิสนั้ และเดก็ ออทิสติก ทีส่ ามารถเรียนร่วมกับ

เดก็ ปกติ

4. การยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผ้เู รียน

รายการนเิ ทศ ม/ี ไม่ม/ี ไมไ่ ด้ ขอ้ เทจ็ จริง/ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ
ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ัติ

1. มีขอ้ มลู ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นและข้อมลู สารสนเทศ

ทเ่ี ปน็ ปจั จบุ นั มกี ารวเิ คราะห์ขอ้ มูลเพ่ือหาจุดเด่น จุดควร

พฒั นาของผ้เู รียนและสถานศึกษา และนำข้อมูลไปใช้ในการ

พฒั นาการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น

2. มแี ผนยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น ปีการศึกษา

2563 และดำเนนิ การยกระดับผลสัมฤทธ์ิตามแผน

อย่างต่อเนอื่ ง มกี ารกำหนดระยะเวลาการดำเนนิ งาน

อยา่ งชดั เจน และมผี ู้รบั ผิดชอบที่ชัดเจน

3. มโี ครงสร้างขอ้ สอบ (Testblueprint) การจดั สอบ

O-NET, NT, RT และครนู ำไปใช้ในการจัดการเรยี นการ

สอนเพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิ ครบทุกระดับชน้ั ท่ีจัดสอบ

4. มแี ผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ในการยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ

ทางการเรียน O-NET, NT, RT ท่ีชดั เจน และดำเนนิ การ

อย่างต่อเนื่อง เหน็ เป็นรูปธรรม

5. จดั ทำเคร่ืองมอื คลังข้อสอบ ท่ีสอดคล้องกบั มาตรฐาน

ตวั ชว้ี ัด และ Test Blueprint ท่ีกำหนด

6. มกี ารเตรียมความพร้อมในการใชเ้ ครอื่ งมือเพ่ือยกระดับ

ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน(Pre Test)ครบทุกระดับชน้ั

อยา่ งหลากหลาย

306

5. การประกนั คุณภาพการศกึ ษา

รายการนิเทศ ม/ี ไมม่ /ี ไมไ่ ด้ ข้อเท็จจรงิ /ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ปฏบิ ตั ิ ปฏิบัติ ข้อเทจ็ จรงิ /ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

1. มีการกำหนดมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา และ

กำหนดคา่ เป้าหมาย ตวั ชี้วดั ความสำเรจ็ ตามบริบทของ

สถานศึกษา

2. มแี ผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา

ท่ีมงุ่ พฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา

3. มกี ารดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้

4. มกี ารตดิ ตาม ตรวจสอบผลการดำเนนิ การเพ่ือพัฒนา

สถานศึกษาใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา

5. มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา

ของสถานศกึ ษา ตามรูปแบบการประเมนิ แนวใหม่

6. มีรายงานการประเมนิ ตนเอง(SAR) ทีเ่ ป็นปจั จบุ นั และ

เผยแพร่ ต่อสาธารณชน หนว่ ยงานต้นสังกัดและหนว่ ยงาน

ทเี่ กย่ี วข้อง

7. มีการนำผลการประเมนิ ไปพฒั นาคุณภาพการศึกษา

อย่างต่อเน่อื ง

8. ครูมีวิจยั ในช้นั เรียนเพือ่ แก้ปญั หาและพฒั นานักเรียน

9. มรี ายงานผลการปฏิบัตงิ านและผลการประเมินตนเอง

เปน็ รายบุคคลของครู (SAR) ทเี่ ปน็ ปจั จุบัน

6. การนเิ ทศภายในโรงเรยี นโดยใชห้ ้องเรียนเป็นฐานเพอ่ื พัฒนาผ้เู รยี น

รายการนิเทศ ม/ี ไม่ม/ี ไมไ่ ด้
ปฏิบตั ิ ปฏบิ ตั ิ

1. มีแผนการนเิ ทศภายในโรงเรียน ปกี ารศกึ ษา 2563

โดยระบุประเดน็ การนเิ ทศ กิจกรรมและปฏิทินการนิเทศ

ภายในโรงเรยี นไวอ้ ย่างชัดเจน

2. มี Model/รปู แบบ/กระบวนการ/กิจกรรม การนิเทศ

ภายในโรงเรยี น ท่ีเปน็ เอกลักษณ์เฉพาะ เหมาะสมกบั

บริบทของสถานศึกษา

3. มกี ารนเิ ทศภายในโรงเรียนตามแผนทก่ี ำหนดไว้อย่าง

ตอ่ เน่อื ง โดยระบผุ นู้ ิเทศไว้ชัดเจน และนเิ ทศถงึ ห้องเรยี น

ทุกหอ้ งอยา่ งสมำ่ เสมอ

4. มกี ารสะท้อนผลการนเิ ทศ ของผู้นเิ ทศและผรู้ บั การนิเทศ

หลังจาก ได้รบั การนเิ ทศภายในโรงเรียน อย่างสม่ำเสมอ

5. ผู้รับการนเิ ทศ(ครู) นำผลการนิเทศไปปรบั ปรงุ พัฒนา

การจัดการเรยี นการสอนสู่การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น

หมาเหตุ ประเดน็ การพัฒนาและใช้หลักสตู รสถานศึกษาระดบั ขั้นพ้นื ฐาน ใหใ้ ช้แบบนิเทศ ทบทวน ตรวจสอบองค์ประกอบ
หลักสตู รสถานศึกษา

307

แบบนเิ ทศ ทบทวน ตรวจสอบองค์ประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา

โรงเรยี น.............................................. กล่มุ โรงเรยี น.....................................สังกัด สพป.นครราชสีมา เขต 4

ลำดับ รายการ การดำเนนิ การ ขอ้ พัฒนา/ปรบั ปรุง หรือ
ท่ี ขอ้ เสนอแนะ
1 ปกหลกั สูตรสถานศึกษา ดำเนินการ ไมด่ ำเนนิ การ
-ตราสัญลกั ษณ์สถานศกึ ษา (logo) Logo
-ช่อื โรงเรียน หลกั สตู รสถานศึกษา
-ปที ่ใี ช้หลกั สูตร โรงเรียน................
-อา้ งอิงหลกั สตู รแกนกลาง พุทธศักราช ...(ปที ป่ี ระกาศใชห้ ลักสตู ร)
ตามหลกั สูตรแกนกลางฯ

สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา..
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2 ส่วนนำ

-ความนำแสดงความเชอ่ื มโยงระหว่างหลกั สตู ร
แกนกลางฯกรอบหลกั สูตรระดับท้องถิน่ จดุ เนน้
และความต้องการของโรงเรยี น มกี ารอ้างองิ คำส่ังฯ
ประกาศฯท่เี กี่ยวขอ้ งเปน็ ปัจจุบนั

วสิ ัยทศั น์โรงเรียน
-เป็นปัจจุบัน
(หลกั สูตรมคี วามสอดคล้องกับวิสัยทศั น์)

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

3 โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาระดบั ประถมศึกษา

มกี ารปรับกลุ่มสาระการเรยี นรู้
1.เดิม กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ปรับเปน็
กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2.เดิม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และ
เทคโนโลยี ปรับเปน็ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงาน
อาชพี

มีการระบุเวลาเรยี นของ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้
ท่ีเปน็ เวลาเรียนพ้นื ฐานและเพิม่ เตมิ จำแนก
แตล่ ะช้ันปอี ย่างชัดเจน

มเี วลาเรยี นรวมรายวิชาพนื้ ฐาน 840 ชัว่ โมงตอ่ ปี

วิชาประวัติศาสตร์ 40 ช่วั โมงตอ่ ปี

การบรหิ ารจัดการเรียนวชิ าภาษาอังกฤษ
ระดบั ป.1-3 รวม 200 ชั่วโมงต่อปี

1. จดั เปน็ รายวิชาพน้ื ฐาน 200 ชั่วโมง/ปี
2. จดั เปน็ รายวิชาพนื้ ฐาน 120 ชว่ั โมง/ปีและ

สาระเพิม่ เติม 80 ชัว่ โมง/ปี

กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 120 ช่ัวโมงต่อปี

308

ลำดับ รายการ การดำเนินการ ข้อพฒั นา/ปรบั ปรงุ หรือ
ขอ้ เสนอแนะ
ที่ ดำเนนิ การ ไมด่ ำเนินการ
(จดั ตามประกาศ
การเปดิ รายวิชาเพิ่มเติมตามจดุ เน้น/ความต้องการ กระทรวงศึกษาธิการ เรอ่ื ง
การเพ่ิมวิชาหน้าท่พี ลเมือง
ของสถานศกึ ษา เปน็ รายวิชาเพม่ิ เติม ใน
หลกั สตู รแกนกลางฯ ลว.28
ระบชุ ่ือวิชาท่เี ปิด พ.ย. 2557)

1. หนา้ ทีพ่ ลเมือง (ระบุต้องมตี ามประกาศฯ)

ระดบั ชน้ั ป.1 - 6จำนวน 40 ช่ัวโมง/ปี)

2. หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา

(ระดับช้ันป.1 – 6 จำนวน (40 ช่ัวโมง/ป)ี

2.1 เปิดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม

ชอ่ื วชิ า........................................................

2.2 ไม่เปิดเป็นรายวชิ าเพ่ิมเติม โรงเรยี นนำไป

บูรณาการกบั ………………………………………….

(ระบุกลุ่มสาระ...../รายวชิ าเพิม่ เติมหน้าที่พลเมือง/

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน)

3. รายวชิ าอนื่ ๆ ท่ีโรงเรยี นเปดิ ตามจุดเนน้ และ

ความต้องการของสถานศกึ ษา มดี ังน้ี

3.1 ชอ่ื รายวิชา...........................................

ระดบั ชนั้ ทเ่ี ปิดสอน......................................

จำนวน....................ชม./ปี

3.2 ชอ่ื รายวชิ า...........................................

ระดบั ช้ันท่เี ปิดสอน......................................

จำนวน....................ชม./ปี

รวมมจี ำนวนรายวชิ าเพิม่ เติม..........................วชิ า

รวมจำนวน...............................ชั่วโมง/ปี

4 โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาระดบั มัธยมศกึ ษา

ตอนต้น

มีการระบุเวลาเรียนของ 8 กลุ่มสาระการเรียนรทู้ ่ี

เป็นเวลาเรียนพ้ืนฐานและเพ่ิมเตมิ จำแนกแตล่ ะ

ชนั้ ปีอย่างชัดเจน (ระบจุ ำนวนชั่วโมงและจำนวน

หนว่ ยกติ )

มเี วลาเรียนรวมรายวชิ าพ้ืนฐาน 880 ช่ัวโมงต่อปี

วิชาประวัติศาสตร์ 40 ชัว่ โมงต่อปี

กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 120 ชั่วโมงตอ่ ปี

ลำดับ รายการ การดำเนนิ การ 309

ที่ ดำเนนิ การ ไมด่ ำเนินการ ข้อพัฒนา/ปรบั ปรุง หรือ
ข้อเสนอแนะ
การเปดิ รายวิชาเพิม่ เติมตามจุดเนน้ /ความต้องการ
(จัดตามประกาศ
ของสถานศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง
การเพ่ิมวิชาหนา้ ที่พลเมือง
ระบุช่อื วชิ าท่เี ปิด เป็นรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ใน
หลักสูตรแกนกลางฯ ลว.28
1. หนา้ ทีพ่ ลเมือง (ระบตุ ้องมตี ามประกาศฯ) พ.ย. 2557)

ระดบั ชั้น ม.1 – 3 จำนวน 40 ช่วั โมง/ป)ี

2. หลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา

(ระดับช้ัน ม.1 – 3 จำนวน (40 ชัว่ โมง/ป)ี

2.1 เปิดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม

ชอื่ วิชา.....................................................

2.2 ไม่เปิดเป็นรายวิชาเพ่ิมเติม โรงเรยี นนำไป

บรู ณาการกับ………………………………………….

(ระบุกลุ่มสาระ...../รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา้ ท่ีพลเมือง/

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน)

3. รายวชิ าอนื่ ๆ ทโี่ รงเรยี นเปดิ ตามจุดเน้นและ

ความตอ้ งการของสถานศึกษา มดี ังนี้

3.1 ชอ่ื รายวชิ า...........................................

ระดบั ชนั้ ที่เปิดสอน......................................

จำนวน....................ชม./ปี(จำนวน ........หนว่ ยกติ )

3.2 ชื่อรายวชิ า...........................................

ระดับชัน้ ทีเ่ ปดิ สอน......................................

จำนวน....................ชม./ปี (จำนวน ......หนว่ ยกติ )

ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………............………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………............………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………............………………………………………………………………………………………………………………………………………..

(ลงชือ่ )...................................................ผูน้ เิ ทศ
(...................................................)

ตำแหน่ง ศึกษานเิ ทศก์ สพป.นม.4
วนั ท่ี......./............/............

คำส่ังสำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 4
ท่ี 323 / 2563

เรือ่ ง แต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศการศกึ ษา
........................................................................................................................ ............................................

ดว้ ยสำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 4 ได้จดั ทำโครงการนิเทศการศกึ ษา
ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือนเิ ทศ ตดิ ตาม การดำเนินงานการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา
ของสถานศกึ ษาในสงั กัด ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหส้ ถานศึกษาพัฒนาระบบนิเทศภายในโรงเรยี นโดยใช้หอ้ งเรียนเป็นฐาน
เพอ่ื พัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี นและดำเนินการนเิ ทศภายในโรงเรียนอย่างเป็นระบบและเขม้ แข็ง ซง่ึ ได้กำหนดปฏิทนิ
การนเิ ทศการศึกษาครัง้ ที่ 1 ประจำภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ในชว่ งระหว่างวนั ท่ี 3.- 18 ธันวาคม 2563
โดยมรี ายช่ือคณะกรรมการ ดังนี้

1. คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย

1. นายดำเนนิ เพยี รค้า ผูอ้ ำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 4 ประธานกรรมการ

2. นายชัยณรงค์ คูณคณะ รองผูอ้ ำนวยการ สพป.นครราชสมี า เขต 4 กรรมการ

3. นายวัชระ นรนิ ทร์นอก รองผ้อู ำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 4 กรรมการ

4. นางจุรรี ตั น์ พินจิ มนตรี รองผู้อำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 4 กรรมการ

5. นายทนิ กร ชาทอง รองผอู้ ำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 4 กรรมการ

6. นายธิติ ใจรักษา ผู้อำนวยการกล่มุ นิเทศ ตดิ ตามฯ กรรมการและเลขานุการ

7. นางพรพจมาลย์ กองทอง ศึกษานิเทศก์ สพป.นม.4 ผู้ช่วยกรรมการและเลขานุการ

8. นางสาวมนชยา ประสงค์ ศกึ ษานิเทศก์ สพป.นม.4 ผู้ช่วยกรรมการและเลขานุการ

9. นางโสริญา เอียดจยุ้ ศึกษานิเทศก์ สพป.นม.4 ผชู้ ่วยกรรมการและเลขานุการ

มีหนา้ ท่ี อำนวยความสะดวก ใหค้ ำปรกึ ษา สนบั สนุนและกำกบั ดูแล แก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้

การดำเนนิ การนเิ ทศการศึกษา เปน็ ไปดว้ ยความเรียบร้อย

2. คณะกรรมการนิเทศการศึกษา “นเิ ทศบูรณาการโดยใชพ้ ื้นที่เปน็ ฐานสกู่ ารนิเทศภายในโรงเรียน” ประกอบดว้ ย

1. นายธติ ิ ใจรกั ษา ผู้อำนวยการกลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตามฯ ประธานกรรมการ

2. นางรุ่งทวิ า ชมชนื่ จิตร์ ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการพิเศษ กรรมการ

3. นางสาวนวรตั น์ รตั นศรีวอ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

4. นางสาวณภาภัช แสงหริ ัญ ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

5. นางสาววรศิ ศรุตา ตามตะคุ ศึกษานเิ ทศก์ชำนาญการพิเศษ กรรมการ

6. นางสาวกญั จนน์รตั น์ นิธนิ นั ธนากร ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

7. นางสาวนนั ทวัน เหดิ ขุนทด ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

8. นางสาวนันท์นภสั วกิ ุล ศึกษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

9. นางจตพุ ร การบรรจง ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการพิเศษ กรรมการ

10. นางพรพจมาลย์ กองทอง ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

11. นางธนกิ า กรีธาพล ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพิเศษ กรรมการ

12. นางสาวศนิชา ปาลวัฒน์ ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการพิเศษ กรรมการ

/13. นางสาวมนชยา ประสงค์

13. นางสาวมนชยา ประสงค์ ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ กรรมการ
กรรมการ
14. วา่ ที่รอ้ ยตรี อรรถพล สวาสดญิ์ าติ ศึกษานิเทศก์ กรรมการและเลขานกุ าร

15. นางโสริญา เอียดจุ้ย ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพิเศษ

มีหน้าท่ี นิเทศ ติดตาม การดำเนนิ งานการพฒั นาคุณภาพการศึกษาตามประเดน็ การนิเทศของสถานศึกษา
ในกลมุ่ โรงเรยี นที่ไดร้ ับมอบหมาย ตามโครงการนเิ ทศการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในช่วงระหว่าง
วันที่ 3.- 18 ธันวาคม 2563 และสรปุ รายงานผลการนิเทศตอ่ ผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาในวันที่
22 ธันวาคม 2563

3. คณะกรรมการฝา่ ยการเงินและพสั ดุ ประกอบด้วย

1. นางประภา ตญั ฑดลิ ก ผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารการเงินและสินทรัพย์ ประธานกรรมการ

2. นางบุญน้อม ชาญสงู เนนิ นักวชิ าการเงินและบญั ชชี ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ

3. นางลักขณา ฝุน่ จันทกึ เจา้ พนักงานพสั ดุ ชำนาญงาน กรรมการ

4. นางสาวอภยั ไร่สูงเนนิ นักวชิ าการเงนิ และบญั ชี ชำนาญการ กรรมการ

5. นางสาววรรณภา สายกระสนุ นักวชิ าการเงนิ และบญั ชี ปฏิบัติการ กรรมการ

6. นางสาวชานัดดา ศรคี ำมา นักวิชาการเงินและบัญชี ชำนาญการ กรรมการและเลขานกุ าร

มหี นา้ ท่ี เบิกจ่ายวสั ดุ และเบิกจ่ายเงนิ งบประมาณในการดำเนินงานตามโครงการนเิ ทศการศกึ ษา ประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบของทางราชการ

4. คณะกรรมการฝ่ายสรุปและรายงานผลการนิเทศ ประกอบดว้ ย

1. นายธติ ิ ใจรักษา ผอู้ ำนวยการกลุ่มนิเทศ ตดิ ตามฯ ประธานกรรมการ
กรรมการ
2. นางสาวจรี วรรณ ผลทวี ลกู จ้างช่วั คราว สพป.นม.4 กรรมการ
กรรมการ
3. จา่ เอก เมธา กวางทอง เจ้าพนกั งานธุรการ ชำนาญงาน กรรมการ

4. นางพรพจมาลย์ กองทอง ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ

5. นางมนชยา ประสงค์ ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการพิเศษ

6. นางโสริญา เอียดจุ้ย ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพิเศษ

มีหน้าที่ รวบรวมผลการนเิ ทศ สรุปและจัดทำรูปเลม่ รายงานผลการนิเทศ รายงานต่อผ้บู ังคับบญั ชา

ใหค้ ณะกรรมการท่ีไดร้ บั แต่งต้งั ปฏิบตั หิ น้าท่ที ี่ได้รบั มอบหมายให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
มีประสทิ ธิภาพ และเกดิ ผลดีแก่ทางราชการ

สั่ง ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

(นายดำเนนิ เพียรค้า)
ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๔

คณะผจู้ ดั ทำ

ที่ปรกึ ษา ผูอ้ ำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 4
รองผู้อำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 4
1. นายดำเนิน เพียรค้า
2. นายทินกร ชาทอง

คณะผูจ้ ดั ทำ

1. นายธติ ิ ใจรักษา ผู้อำนวยการกลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา

2. นางโสรญิ า เอยี ดจุ้ย ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ

3. นางรงุ่ ทิวา ชมชนื่ จติ ร์ ศึกษานเิ ทศก์ชำนาญการพเิ ศษ

4. นางสาวนันท์นภสั วิกลุ ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการพิเศษ

5. นางสาวกัญจนน์รตั น์ นธิ นิ ันธนากร ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพเิ ศษ

6. นางสาวนนั ทวนั เหดิ ขุนทด ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพเิ ศษ

7. นางจตพุ ร การบรรจง ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ

8. นางสาวนวรัตน์ รตั นศรีวอ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ

9. นางสาวณภาภัช แสงหิรัญ ศึกษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ

10. นางพรพจมาลย์ กองทอง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ

11. นางธนกิ า กรีธาพล ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพิเศษ

12. นางสาวมนชญา ประสงค์ ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ

13. นางสาวศนชิ า ปาลวัฒน์ ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ

14. นางสาววรศิ ศรุตา ตามตะคุ ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ

15. ว่าทร่ี อ้ ยตรี อรรถพล สวาสด์ญิ าติ ศึกษานเิ ทศก์

16. จา่ เอก เมธา กวางทอง เจา้ หนา้ ท่ธี ุรการชำนาญงาน

17. นางสาวจรี วรรณ ผลทวี ลูกจ้างช่ัวคราว