The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 0830220546jum, 2020-06-17 23:04:11

คู่มือครูโลกดาราศาสตร์และอาวกาศ

รายวิชาวิทยาศาสตร์ ม.5

Keywords: คู่ม,ือครู

คมู่ อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวทิ ยากับการใช้ประโยชน์ 333

กจิ กรรม 10.1 สัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบรเิ วณกวา้ ง

จดุ ประสงคก์ จิ กรรม

แปลความหมายสญั ลกั ษณล์ มฟา้ อากาศบรเิ วณกวา้ งบนแผนทอี่ ากาศผวิ พน้ื และระบุ
สภาพลมฟา้ อากาศ

วัสดอุ ปุ กรณ์

1. เอกสารความรเู้ รอื่ งสญั ลกั ษณแ์ สดงขอ้ มลู สภาพลมฟ้าบรเิ วณกวา้ ง 1 ชุด
2. แผนที่อากาศผิวพืน้ 1 ชุด

หมายเหตุ ขอ้ มลู 1 และขอ้ มูล 2 สามารถดาวนโ์ หลดได้จาก QR Code

เวลา 1 ช่วั โมง

การเตรยี มตัวล่วงหน้า

ครูอาจให้นักเรียนศึกษาเอกสารความรู้เร่ืองสัญลักษณ์แสดงข้อมูลสภาพลมฟ้าบริเวณ
กว้างมาล่วงหน้าโดยดาวนโ์ หลดเอกสารจาก QR Code

วธิ ีท�ำ กจิ กรรม

1. ศกึ ษาเอกสารความรเู้ รอ่ื งสญั ลักษณ์แสดงขอ้ มูลสภาพลมฟ้าบรเิ วณกว้างที่กำ�หนดให้
2. เลือกแผนท่ีอากาศผิวพื้น 1 แผ่น จากน้ันใช้ความรู้ท่ีได้ศึกษามาแปลความหมาย

สัญลักษณ์แสดงข้อมูลสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างที่ปรากฏบนแผนท่ีอากาศผิวพ้ืน
พร้อมทงั้ ระบสุ ภาพลมฟา้ อากาศ
3. เปรยี บเทียบสภาพลมฟา้ อากาศทร่ี ะบไุ ดจ้ ากแผนทีอ่ ากาศผวิ พน้ื แตล่ ะแผ่น
4. น�ำ เสนอและอภปิ รายผลการท�ำ กิจกรรม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

334 บทท่ี 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตนุ ิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ คมู่ อื ครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

ตัวอยา่ งผลการท�ำ กิจกรรม
แผนทอี่ ากาศผิวพนื้ หมายเลข 1

สัญลกั ษณ์ ชอื่ สญั ลกั ษณ์ ความหมายสญั ลักษณ์
และลักษณะลมฟา้ อากาศ
L
เสน้ ความกด บริเวณท่เี ส้นความกดอากาศเท่าอยูห่ ่าง
อากาศเท่า กนั มาก ลมบรเิ วณนั้นจะมีกำ�ลังอ่อน ส่วน
(isobar) บรเิ วณท่ีเสน้ ความกดอากาศเท่าอยู่ใกล้กัน
ลมบริเวณนน้ั จะมีก�ำ ลงั แรง

หากสญั ลกั ษณน์ อ้ี ยเู่ หนอื แผน่ ดนิ หมายความ

ห ย่ อ ม ค ว า ม ก ด วา่ บรเิ วณนน้ั จะมอี ากาศรอ้ นและความชน้ื ต�่ำ

อากาศต�ำ่ แตห่ ากสญั ลกั ษณน์ อี้ ยเู่ หนอื ทะเลหมายความ

( l o w p re s s u re วา่ บรเิ วณนน้ั จะมอี ากาศชนื้ และมโี อกาสเกดิ

cell) เมฆมาก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวิทยากับการใช้ประโยชน์ 335

สญั ลักษณ์ ชื่อสัญลกั ษณ์ ความหมายสญั ลักษณ์
และลักษณะลมฟ้าอากาศ
H บรเิ วณความกด
อากาศสูง มอี ากาศเยน็ ความช้ืนต่ำ� และมักพบทอ้ งฟา้
แจม่ ใส
(high pressure
area) มฝี นฟ้าคะนองและลมแรง

พายุไตฝ้ ุน่
(tropical
typhoon)

แนวปะทะอากาศ มีลมแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง หลังจากนั้น
เยน็ (cold front) อุณหภูมจิ ะลดต�ำ่ ลงและอาจมีหิมะ

แนวปะทะ มีลมแรง เกิดฝนตกพรำ� ๆ และอาจมี
อากาศอุน่ หยาดนำ้�ฟ้าชนิดอ่ืน ๆ ตกเป็นบริเวณกว้าง
(warm front) และเปน็ ระยะเวลานาน หลงั จากนน้ั อณุ หภมู ิ
จะเพ่มิ สงู ขน้ึ

แนวปะทะอากาศ มีลมแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง อาจมีหิมะ
อุ่น หลังจากน้นั อณุ หภูมิจะลดต�ำ่ ลง

(warm front)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

336 บทที่ 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยากบั การใชป้ ระโยชน์ ค่มู อื ครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

สภาพลมฟา้ อากาศ

• บริเวณความกดอากาศสงู ปกคลมุ บริเวณประเทศจนี และประเทศโดยรอบท�ำ ให้มี
อากาศเยน็ ความช้นื ต�ำ่ และท้องฟา้ ค่อนขา้ งปลอดโปรง่

• บรเิ วณประเทศออสเตรเลยี ปกคลมุ ด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำ�เปน็ ส่วนใหญท่ ำ�ให ้
มีอากาศรอ้ นและความชื้นต�ำ่

บรเิ วณมหาสมทุ รอนิ เดยี มพี ายไุ ซโคลนท�ำ ใหบ้ รเิ วณดงั กลา่ วมฝี นฟา้ คะนองและลมแรง

•• เหนอื มหาสมทุ รแปซฟิ กิ ทางตะวนั ออกประเทศญป่ี นุ่ พบแนวปะทะอากาศชนดิ ตา่ ง ๆ
ซ่ึงทำ�ใหเ้ กดิ สภาพลมฟ้าอากาศดังน้ี

• บรเิ วณแนวปะทะอากาศเยน็ มลี มแรงและพายฝุ นฟา้ คะนอง อาจมหี มิ ะ หลงั จากนน้ั
อณุ หภูมจิ ะลดต�ำ่ ลง

• แนวปะทะอากาศอุ่น มีลมแรง เกิดฝนตกพรำ� ๆ และอาจมีหยาดนำ้�ฟ้าชนิดอ่ืน ๆ
ตกเป็นบริเวณกวา้ งและเปน็ ระยะเวลานาน หลังจากน้นั อณุ หภูมิจะเพิม่ สงู ข้ึน

• แนวปะทะอากาศรวม มลี มแรงและพายฝุ นฟา้ คะนอง อาจมหี มิ ะ หลงั จากนน้ั อณุ หภมู ิ
จะลดต�ำ่ ลง

แผนที่อากาศผวิ พ้นื หมายเลข 2

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตุนยิ มวทิ ยากับการใช้ประโยชน์ 337

สญั ลกั ษณ์ ช่อื สภาพลมฟ้าอากาศ
สญั ลักษณ์
L
H เสน้ ความกด บรเิ วณทเ่ี สน้ ความกดอากาศเทา่ อย่หู า่ งกนั มาก
อากาศเทา่ ลมบริเวณนั้นจะมีกำ�ลังอ่อน ส่วนบริเวณที่เส้น
(isobar) ความกดอากาศเท่าอยู่ใกล้กัน ลมบริเวณนั้นจะมี
กำ�ลงั แรง

หย่อมความ หากสัญลักษณ์นี้อยู่เหนือแผ่นดินหมายความว่า
กดอากาศต�ำ่ บรเิ วณนั้นจะมอี ากาศรอ้ นและความชน้ื ต�่ำ
(low pres- แต่หากสัญลักษณ์น้ีอยู่เหนือทะเลหมายความว่า
sure cell) บรเิ วณนน้ั จะมอี ากาศชนื้ และมโี อกาสเกดิ เมฆมาก

บ ริ เ ว ณ มีอากาศเย็น ความชื้นตำ่� และมักพบท้องฟ้า
ความกด แจ่มใส
อากาศสงู
(high pres-

sure area)

พายุดี มฝี นฟ้าคะนองและลมแรง
เปรสชนั
(tropical
depres-

sion)

พ า ยุ โ ซ น

รอ้ น มฝี นฟ้าคะนองและลมแรง
(tropical
storm)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

338 บทท่ี 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวทิ ยากบั การใชป้ ระโยชน์ คูม่ ือครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

สัญลกั ษณ์ ช่อื สญั ลักษณ์ สภาพลมฟา้ อากาศ

แนวปะทะ อาจมีท้องฟ้าจะปลอดโปร่ง หรือมีโอกาสเกิดฝน
อากาศคงที่ หรือหิมะตกตอ่ เนอื่ งเปน็ เวลานาน
(stationary
มฝี นตกชกุ พายฝุ นฟา้ คะนอง และลมกระโชกแรง
front)

ร่องความกด
อากาศต�ำ่
(low pres-

sure trough
line)

สภาพลมฟา้ อากาศ

• บรเิ วณประเทศจนี อนิ เดยี ไทย และประเทศขา้ งเคียง ปกคลุมด้วยหยอ่ มความกด
อากาศต�ำ่ ท�ำ ให้มีอากาศร้อนและความชน้ื ต่ำ�

• บริเวณประเทศออสเตรเลียปกคลุมด้วยบริเวณความกดอากาศสูงทำ�ใหม้ ีอากาศเยน็
ความช้ืนต�่ำ และทอ้ งฟา้ คอ่ นขา้ งปลอดโปร่ง

• ชายฝง่ั ทางตอนใตข้ องประเทศจนี มพี ายโุ ซนรอ้ น และบรเิ วณมหาสมทุ รแปซฟิ กิ มพี าย ุ
ดีเปรสชันท�ำ ให้บริเวณที่ปกคลมุ ดว้ ยพายมุ ฝี นฟา้ คะนองและลมแรง

• เหนอื มหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณใกลป้ ระเทศญปี่ ุน่ พบแนวปะทะอากาศคงท่ีท�ำ ให้อาจ
มที ้องฟ้าจะปลอดโปร่ง หรอื มีโอกาสเกดิ ฝนหรือหมิ ะตกตอ่ เนื่องเปน็ เวลานาน

• บรเิ วณประเทศไทย พม่า และตอนบนของมหาสมุทรอินเดียมรี ่องความกดอากาศต�่ำ
พาดผา่ นทำ�ให้มีฝนตกชกุ พายฝุ นฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอตุ ุนิยมวิทยากบั การใช้ประโยชน์ 339

แผนที่อากาศผิวพนื้ หมายเลข 3

สัญลกั ษณ์ ช่ือสญั ลักษณ์ สภาพลมฟา้ อากาศ

L เสน้ ความกด บริเวณที่เสน้ ความกดอากาศเท่าอย่หู ่างกนั มาก
H อากาศเทา่ ลมบริเวณน้ันจะมีกำ�ลังอ่อน ส่วนบริเวณที่เส้น
(isobar) ความกดอากาศเท่าอยู่ใกล้กัน ลมบริเวณนั้นจะมี
กำ�ลงั แรง
หย่อมความ หากสัญลักษณ์น้ีอยู่เหนือแผ่นดินหมายความว่า
กดอากาศต�ำ่ บรเิ วณน้ันจะมีอากาศรอ้ นและความชนื้ ต�ำ่
(low pres- แต่หากสัญลักษณ์นี้อยู่เหนือทะเลหมายความว่า
sure cell) บรเิ วณนน้ั จะมอี ากาศชน้ื และมโี อกาสเกดิ เมฆมาก
บริเวณความ
กดอากาศสงู มีอากาศเย็น ความชื้นต่ำ� และมักพบท้องฟ้า
(high pres- แจม่ ใส
sure area)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

340 บทท่ี 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอตุ นุ ิยมวทิ ยากับการใช้ประโยชน์ ค่มู ือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

สญั ลกั ษณ์ ชอ่ื สัญลกั ษณ์ สภาพลมฟ้าอากาศ

พายไุ ต้ฝุ่น มฝี นฟา้ คะนองและลมแรง
(tropical
typhoon)

แนวปะทะ มีลมแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง หลังจากนั้น
อากาศเยน็ อุณหภูมจิ ะลดต�่ำ ลงและอาจมีหิมะ
(cold front)

แนวปะทะ มลี มแรง เกดิ ฝนตกพรำ� ๆ และอาจมหี ยาดน�้ำ ฟา้

อากาศอนุ่ ชนดิ อน่ื ๆ ตกเปน็ บรเิ วณกวา้ งและเปน็ ระยะเวลา
(warm front) นาน หลงั จากนัน้ อณุ หภูมิจะเพมิ่ สงู ข้ึน

แนวปะทะ มีลมแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง อาจมีหิมะ
อากาศรวม หลังจากนนั้ อณุ หภูมจิ ะลดต�ำ่ ลง
(occluded

front)

แนวปะทะ

อากาศ ทอ้ งฟา้ จะปลอดโปรง่ หรอื มโี อกาสเกดิ ฝนหรอื หมิ ะ
คงที่(station- ตกตอ่ เนื่องเป็นเวลานาน

ary front)

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใชป้ ระโยชน์ 341

สภาพลมฟา้ อากาศ

• พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหย่อมความกดอากาศตำ่�ซ่ึงบริเวณแผ่นดินที่ปกคลุมด้วย

หย่อมความกดอากาศต่ำ�จะมีอากาศร้อนและความชื้นตำ่� ส่วนบริเวณมหาสมุทรท่ีปกคลุม
ดว้ ยหยอ่ มความกดอากาศต�ำ่ จะมีอากาศชนื้ และมีโอกาสเกิดเมฆมาก

• บ า ง บ ริ เ ว ณ ป ก ค ลุ ม ด้ ว ย บ ริ เ ว ณ ค ว า ม ก ด อ า ก า ศ สู ง เ ช่ น บ า ง บ ริ เ ว ณ ข อ ง

แถบตะวันออกกลาง ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน บางบริเวณเหนือ
มหาสมทุ รแปซฟิ กิ ท�ำ ใหบ้ รเิ วณดงั กลา่ วมอี ากาศเยน็ ความชน้ื ต�่ำ และมกั พบทอ้ งฟา้ แจม่ ใส

• ทางตอนใต้ของประเทศญ่ีปุ่นถึงชายฝ่ังด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนมีแนว

ปะทะอากาศคงทที่ �ำ ใหอ้ าจมที อ้ งฟา้ จะปลอดโปรง่ หรอื มโี อกาสเกดิ ฝนหรอื หมิ ะตกตอ่ เนอื่ ง
เปน็ เวลานาน

• ทางตอนเหนือของประเทศญ่ีปนุ่ พบแนวปะทะอากาศชนดิ ตา่ ง ๆ ซงึ่ ทำ�ใหเ้ กดิ สภาพลม

ฟ้าอากาศดงั นี้
- บริเวณแนวปะทะอากาศเย็น มลี มแรงและพายฝุ นฟา้ คะนอง อาจมหี มิ ะ หลงั จากนนั้
อุณหภมู จิ ะลดต�่ำ ลง
- แนวปะทะอากาศอุ่น มีลมแรง เกิดฝนตกพรำ� ๆ และอาจมีหยาดน้ำ�ฟ้าชนิดอ่ืน ๆ
ตกเปน็ บรเิ วณกว้างและเป็นระยะเวลานาน หลังจากนน้ั อณุ หภมู จิ ะเพ่มิ สงู ขึ้น
- แนวปะทะอากาศรวม มีลมแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง อาจมีหิมะ หลังจากน้ัน
อณุ หภมู จิ ะลดต�ำ่ ลง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

342 บทท่ี 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวิทยากบั การใชป้ ระโยชน์ คูม่ อื ครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

สรปุ ผลการท�ำ กิจกรรม

- บนแผนที่อากาศผิวพ้ืนมีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่แสดงสภาพลมฟ้าอากาศท่ีเกิดข้ึนเป็น
บรเิ วณกวา้ ง ไดแ้ ก่ เสน้ ความกดอากาศเทา่ หยอ่ มความกดอากาศต�ำ่ บรเิ วณความกดอากาศสงู
พายุหมนุ เขตร้อน แนวปะทะอากาศ และรอ่ งความกดอากาศตำ่� สญั ลกั ษณบ์ นแผนทอี่ ากาศ
ผวิ พนื้ แตล่ ะแผน่ ท�ำ ใหท้ ราบสภาพลมฟา้ อากาศเปน็ บรเิ วณกวา้ งครอบคลมุ พนื้ ทร่ี ะดบั ประเทศ
ภูมิภาค และทวปี ดังนี้

- แผนท่ีอากาศผิวพื้นแผ่นที่ 1 บริเวณประเทศจีนและประเทศโดยรอบมีอากาศเย็น
ความช้ืนต่ำ� และท้องฟ้าค่อนข้างปลอดโปร่ง บริเวณส่วนใหญ่ของประเทศออสเตรเลียมี
อากาศรอ้ นและความชนื้ ต�่ำ บรเิ วณกลางมหาสมทุ รอนิ เดยี มฝี นฟา้ คะนองและลมแรงเนอ่ื งจาก
พายุไซโคลน เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณใกล้ประเทศญ่ีปุ่นมีอากาศพบแนวปะทะอากาศ
ชนดิ ตา่ ง ๆ ซ่ึงทำ�ใหเ้ กดิ สภาพลมฟา้ อากาศแตกตา่ งกนั ตามชนดิ ของแนวปะทะอากาศ

- แผนที่อากาศผิวพื้นแผ่นท่ี 2 บริเวณประเทศจีน อินเดีย ไทย และประเทศข้างเคียงมี
อากาศร้อนและความชน้ื ต�่ำ บรเิ วณประเทศออสเตรเลยี มอี ากาศเยน็ ความช้นื ต�่ำ และทอ้ งฟ้า
ค่อนข้างปลอดโปร่ง ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีนและบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกมีฝนฟ้า
คะนองและลมแรง เนอ่ื งจากพายโุ ซนรอ้ นและพายดุ เี ปรสชนั ตามล�ำ ดบั เหนอื มหาสมทุ รแปซฟิ กิ
บริเวณใกล้ประเทศญ่ีปุ่นพบแนวปะทะอากาศคงที่ทำ�ให้มีท้องฟ้าจะปลอดโปร่งหรือมีเมฆ
บางส่วน บริเวณประเทศไทย พม่า และตอนบนของมหาสมุทรอินเดียมีฝนตกชุก พายุฝนฟ้า
คะนอง และลมกระโชกแรงเนอื่ งจากร่องความกดอากาศต�ำ่ พาดผา่ น

- แผนท่ีอากาศผิวพ้ืนแผ่นที่ 3 พื้นท่ีส่วนใหญ่บนแผ่นดินมีอากาศร้อนและความชื้นตำ่�
ส่วนบริเวณมหาสมุทรพ้ืนที่ส่วนใหญ่มีอากาศช้ืนและมีโอกาสเกิดเมฆมาก พ้ืนท่ีบางบริเวณ
มอี ากาศเย็น ความช้ืนต่ำ� และมกั พบทอ้ งฟา้ แจ่มใส บริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ
ออสเตรเลยี มฝี นฟา้ คะนองและลมแรงเนอื่ งจากพายไุ ซโคลน บรเิ วณประเทศญปี่ นุ่ และชายฝงั่
ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนพบแนวปะทะอากาศชนิดต่าง ๆ ซึ่งทำ�ให้เกิดสภาพ
ลมฟ้าอากาศแตกต่างกันตามชนดิ ของแนวปะทะอากาศ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอตุ นุ ิยมวิทยากบั การใช้ประโยชน์ 343

ค�ำ ถามท้ายกจิ กรรม

1. บรเิ วณท่ีเกิดหยาดน�ำ้ ฟ้าจะพบสัญลักษณ์ใดบ้าง
แนวค�ำ ตอบ

2. บริเวณท่ีทอ้ งฟ้าโปรง่ จะพบสญั ลกั ษณใ์ ดบ้าง

แนวค�ำ ตอบ H

3. เส้นความกดอากาศเท่าจะมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างบริเวณที่มีลมกำ�ลังแรง
และบริเวณทีม่ ีลมก�ำ ลังอ่อน
แนวค�ำ ตอบ บรเิ วณทม่ี ลี มก�ำ ลงั แรง เสน้ ความกดอากาศเทา่ จะอยชู่ ดิ กนั และบรเิ วณบรเิ วณ
ทม่ี ลี มก�ำ ลงั แรง เสน้ ความกดอากาศเทา่ จะอยหู่ า่ งกนั

4. หากพิจารณาเฉพาะประเทศไทย แผนที่อากาศผิวพื้นแผ่นใดท่ีแสดงสภาพลมฟ้าอากาศ
ในฤดฝู น ฤดูหนาว และฤดรู อ้ น และทราบได้อย่างไร
แนวค�ำ ตอบ แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื แผน่ ท่ี 1 แสดงสภาพลมฟา้ อากาศในฤดหู นาว เนอ่ื งจาก
บรเิ วณความกดอากาศสงู จากประเทศจนี แผล่ งมาปกคลมุ ประเทศไทย สง่ ผลใหป้ ระเทศ
มอี ณุ หภมู อิ ากาศลดต�ำ่ ลง แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื แผน่ ท่ี 2 แสดงสภาพลมฟา้ อากาศในฤดฝู น
เน่อื งจากพบร่องความกดอากาศตำ�่ พาดผ่านบริเวณประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยมี
ฝนตกชกุ พายฝุ นฟา้ คะนอง และลมกระโชกแรง และแผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื แผน่ ท่ี 3 แสดง
สภาพลมฟ้าอากาศในฤดูร้อน เน่ืองจากพบหย่อมความกดอากาศตำ่�ปกคลุมบริเวณ
ประเทศไทย สง่ ผลใหม้ อี ากาศรอ้ น

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

344 บทที่ 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอุตนุ ิยมวทิ ยากบั การใชป้ ระโยชน์ คมู่ อื ครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

8. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ�เสนอผลการทำ�กิจกรรม และร่วมกันอภิปราย พร้อมตอบคำ�ถามท้าย
กิจกรรม โดยแนวทางการอภปิ รายและการตอบคำ�ถามดงั แสดงดา้ นบน

9. ครูใหค้ วามรู้เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับการตรวจวดั และรายงานคา่ ความกดอาศ ดงั นี้
โดยส่วนใหญ่สารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาจะรายงานเป็นเวลาสากลเชิงพิกัด (Coordinate
Universal Time, UTC) ซ่ึงสามารถแปลงเป็นเวลาท้องถ่ินในประเทศไทย โดยการบวกเพ่ิมอีก 7
ชว่ั โมง ตวั อย่างเช่น 06 UTC คอื เวลา 13.00 น. ของประเทศไทย

10. ครูอาจอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นความกดอากาศเท่าบนแผนท่ีอากาศของ
กรมอุตุนิยมวทิ ยาซงึ่ มีหลายรูปแบบว่า
เสน้ ความกดอากาศเทา่ บนแผนทอี่ ากาศผวิ พน้ื มไี ดห้ ลายลกั ษณะแตกตา่ งกนั ตามวตั ถปุ ระสงค์
ที่กำ�หนด สำ�หรับประเทศไทยมีการใช้เส้นความกดอากาศเท่าทั้งหมด 4 ลักษณะ ซึ่งมีความหมาย
แตกตา่ งกันดังนี้

• เส้นสนี �ำ้ เงินแบบบาง ( ) เป็นเสน้ ความกดอากาศเทา่ ทพี่ บไดท้ ่วั ไปบนแผนทอี่ ากาศ

ผวิ พ้ืน

• เส้นสนี �ำ้ เงนิ แบบหนา ( ) เป็นเส้นที่แสดงความกดอากาศ 1020 hPa หรือ 1040 hPa

ก�ำ หนดขนึ้ เพอ่ื ชว่ ยใหน้ กั อตุ นุ ยิ มวทิ ยาระบขุ อบเขตของอากาศทมี่ อี ณุ หภมู ติ �ำ่ กวา่ อากาศโดย

รอบได้ชดั เจนขึน้

• เส้นประสีน�้ำ เงิน ( ) เปน็ เสน้ ความกดอากาศเท่าท่ปี รากฏขน้ึ ในบางบริเวณเพือ่ ชว่ ย

ในการแบง่ ขอบเขตระหวา่ งมวลอากาศ

• เส้นสแี ดง ( ) มกั ปรากฏข้ึนในแผนที่อากาศช่วงทเี่ ปน็ ฤดหู นาวของประเทศไทย

โดยเปน็ เสน้ ทแี่ สดงความกดอากาศ 1012 hPa

11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติมเก่ียวกับสภาพลมฟ้าอากาศในฤดูกาลต่าง ๆ โดยใช้
ค�ำ ถามดงั ตอ่ ไปน้ี

รูป 10.3 ในฤดูร้อน พบสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างใดบ้างบริเวณ
ประเทศไทย
แนวค�ำ ตอบ สัญลกั ษณ์หยอ่ มความกดอากาศต่ำ�

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอุตนุ ยิ มวทิ ยากบั การใช้ประโยชน์ 345

รปู 10.3 ในฤดรู อ้ น เสน้ ความกดอากาศเทา่ ทอ่ี ยรู่ ะหวา่ งบรเิ วณความกดอากาศสงู เหนอื ประเทศ
จนี และหย่อมความกดอากาศต�่ำ เหนอื ประเทศไทย มลี กั ษณะเป็นอยา่ งไร
แนวค�ำ ตอบ มลี ักษณะคลา้ ยลมิ่ มาทางประเทศไทย

ลกั ษณะดงั กลา่ วบ่งชีว้ า่ อากาศมกี ารเคล่ือนทอี่ ย่างไร
แนวค�ำ ตอบ อากาศกำ�ลงั เคลื่อนทจ่ี ากบรเิ วณประเทศจีนมาทางประเทศไทย

หากอากาศเย็นเคล่อื นท่ีมาถงึ บริเวณทีม่ อี ากาศรอ้ นปกคลุมอยู่ จะเกดิ อะไรข้นึ
แนวค�ำ ตอบ เกดิ พายฝุ นฟา้ คะนองและอาจมลี กู เหบ็ ตก

นกั เรียนจะปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรใหป้ ลอดภัยจากสภาพพายฝุ นฟา้ คะนอง
แนวคำ�ตอบ หลีกเล่ียงการอยู่ในท่ีโล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ท่ี
ไม่แขง็ แรง

ในฤดูฝน หากมีร่องความกดอากาศตำ่�พาดผ่านประเทศไทยจะมีโอกาสเกิดภัยพิบัติใดได้
มากขน้ึ เพราะเหตใุ ดจึงเป็นเช่นนน้ั
แนวค�ำ ตอบ มโี อกาสเกิดนำ้�ทว่ มและแผ่นดินถล่มเนื่องจากไดร้ บั ปริมาณน�ำ้ ฝนมากข้นึ

ในฤดูหนาว (รูป 10.4) เส้นความกดอากาศเทา่ ทีอ่ ยู่รอบบริเวณความกดอากาศสงู มลี ักษณะ
เป็นอยา่ งไร
แนวคำ�ตอบ มีลักษณะเป็นแนวแผ่จากประเทศจีนลงมาปกคลุมประเทศไทยและประเทศ
ใกลเ้ คยี ง

ลักษณะดังกลา่ วบ่งชี้ว่าอากาศมีการเคลอ่ื นทอ่ี ย่างไร
แนวค�ำ ตอบ อากาศกำ�ลงั กำ�ลงั เคล่อื นท่ลี งมายงั ประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง

จากลักษณะการเคลื่อนที่ของอากาศ นักเรียนควรเตรียมพร้อมกับสภาพลมฟ้าอากาศ
อยา่ งไรบา้ ง
แนวคำ�ตอบ เตรียมพร้อมกับอากาศหนาวและระมัดระวังอันตรายจากปริมาณฝนที่เพิ่ม
มากขึ้น

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

346 บทท่ี 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวทิ ยากบั การใชป้ ระโยชน์ คมู่ ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

12. ให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับการระบุฤดูของประเทศไทยโดยสังเกตจากสัญลักษณ์
แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบนแผนท่ีอากาศผวิ พ้ืน โดยใชค้ �ำ ถามในหนงั สอื เรยี นหน้า 254
ดงั นี้

ในช่วงฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ของประเทศไทย จะปรากฏสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้า
อากาศบริเวณกว้างท่แี ตกตา่ งกันอยา่ งไรบา้ ง
แนวค�ำ ตอบ ในชว่ งฤดรู อ้ นจะพบสญั ลักษณห์ ยอ่ มความกดอากาศปกคลุมบรเิ วณประเทศไทย
ในชว่ งฤดฝู นจะพบสญั ลกั ษณร์ อ่ งความกดอากาศต�ำ่ พาดผา่ นบบรเิ วณประเทศไทย และในชว่ ง
ฤดูหนาวจะพบเสน้ ความกดอากาศเท่าเปน็ แนวแผ่จากประเทศจนี ลงมาปกคลมุ ประเทศไทย

13. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพายุหมุนเขตร้อนและ
แนวปะทะอากาศ โดยใชค้ ำ�ถามดังตอ่ ไปนี้

พายหุ มนุ เขตรอ้ นทีป่ รากฏในรปู 10.5 มคี วามรุนแรงอยใู่ นระดับใด
แนวค�ำ ตอบ พายไุ ต้ฝุ่น

พายุดงั กลา่ วเคล่อื นทไี่ ปทางทิศใด

แนวค�ำ ตอบ ทางทศิ ตะวันตกเฉียงเหนอื ค่อนมาทางตะวันตกเลก็ นอ้ ย (WNW)

หมายเหตุ ในแผนที่อากาศผิวพ้ืนรายงานทิศทางการเคลื่อนท่ีของพายุเป็น 16 ทิศ ดังรูป

ดา้ นล่าง

NNW N NNE
NW NE

WNW ENE

WE

WSW ESE
SW SE
SSW S SSE

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใชป้ ระโยชน์ 347

บรเิ วณใดบา้ งได้รับผลกระทบจากพายโุ ดยตรง และสง่ ผลกระทบอย่างไร
แนวคำ�ตอบ เกาะไหหลำ�และชายฝ่ังประเทศเวียดนาม ทำ�ให้เกิดภัยพิบัติ เช่น คลื่มลมแรง
การกดั เซาะชายฝ่ัง นำ้�ทว่ ม ดนิ ถล่ม

บรเิ วณใดของประเทศไทยทไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากพายดุ งั กล่าว และส่งผลกระทบอย่างไร
แนวค�ำ ตอบ บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้รับผลกระทบ
มากท่ีสุด โดยทำ�ให้เกิดฝนตกเป็นบริเวณกว้างซ่ึงทำ�ให้มีโอกาสเกิดอุทกภัยและแผ่นดินถล่ม
มากขน้ึ สว่ นอ่าวไทยและทะเลอนั ดามนั อาจมคี ลนื่ ลมแรง

ครูอธบิ ายเพมิ่ เก่ยี วการสงั เกตทศิ ทางการเคล่อื นท่ขี องแนวปะทะอากาศ โดยแนวปะทะอากาศจะ
เคลื่อนที่ไปทางดา้ นทมี่ ีสัญลกั ษณ์สามเหลี่ยมหรอื คร่ึงวงกลมปรากฏอยูด่ งั รปู

ทางด้านท่มี ีสัญลักษณ์สามเหลีย่ มหรือครง่ึ วงกลมปรากฏอยู่ ดงั รปู

จากรูป 10.6 แนวปะทะอากาศเย็นและแนวปะทะอากาศอ่นุ ก�ำ ลงั เคล่อื นทไี่ ปทางทศิ ใด
แนวค�ำ ตอบ แนวปะทะอากาศเย็นก�ำ ลังเคลือ่ นที่ไปทางทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต้ และแนวปะทะ
อากาศอุ่นก�ำ ลังเคลื่อนท่ไี ปทิศเหนือ

ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและทางตอนเหนือของประเทศญ่ีปุ่นจะมีสภาพลมฟ้าอากาศเป็น
อย่างไร
แนวคำ�ตอบ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นเกิดลมพัดแรง พายุฝนฟ้าคะนอง และอาจมี
หิมะตก หลังจากนั้นอุณหภูมิอากาศจะลดลง ทางตอนเหนือของประเทศญ่ีปุ่นจะมีลมแรง
เกดิ ฝนตกพร�ำ ๆ และอาจมหี ยาดน�ำ้ ฟ้าชนดิ อื่น ๆ ตกเป็นบริเวณกว้างและเปน็ ระยะเวลานาน
หลงั จากน้นั อุณหภูมิจะสูงข้ึน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

348 บทท่ี 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ ุนิยมวิทยากบั การใชป้ ระโยชน์ คู่มอื ครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

14. ครูให้นักเรียนตอบคำ�ถามตามความคิดของตนเองว่า “นอกจากแผนที่อากาศผิวพ้ืนแล้ว
สารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยามีอะไรอีกบ้าง และสารสนเทศเหล่านั้นนำ�มาใช้ประโยชน์อย่างไร”
เพอื่ น�ำ เข้าสู่หัวขอ้ 10.1.2 ขอ้ มูลสารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยาอ่ืน ๆ
15. ครูให้นักเรียนดูวิดิทัศน์เก่ียวกับข่าวพยากรณ์อากาศท่ีมีการนำ�เสนอภาพถ่ายดาวเทียมหรือ
เรดาร์ร่วมด้วย แลว้ ใหน้ ักเรยี นอภปิ ราย โดยใชค้ ำ�ถามดงั ตวั ตอ่ ไปน้ี

ข่าวพยากรณ์อากาศน�ำ เสนอข้อมลู ลมฟ้าอากาศ โดยใชส้ ารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาใดบา้ ง
แนวค�ำ ตอบ เชน่ ภาพถา่ ยดาวเทียม เรดาร์

16. ครูอธิบายเกี่ยวกบั ภาพถา่ ยดาวเทยี มท่ีจะศึกษาในล�ำ ดับต่อไป ดังน้ี
“ภาพถา่ ยดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยา เปน็ ภาพทไี่ ดจ้ ากการตรวจวดั คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ โดยดาวเทยี ม

อตุ นุ ยิ มวทิ ยาและน�ำ ขอ้ มลู จากการตรวจวดั มาประมวลผลเปน็ ภาพ ส�ำ หรบั ภาพถา่ ยดาวเทยี ม
ที่ศึกษาในบทเรียนน้ี คือ ภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคล่ืนอินฟราเรด และภาพถ่ายดาวเทียม
ช่วงคลน่ื ทีม่ องเหน็ ”
17. ครูให้นักเรียนศึกษาหลักการตรวจวัดและการแปลความหมายภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงคล่ืน
อนิ ฟราเรดและช่วงคลื่นทม่ี องเหน็ จากหนงั สอื เรียนหนา้ 257 - 260 จากนนั้ ร่วมกนั อภิปราย
โดยใชค้ ำ�ถามตอ่ ไปน้ี
คำ�ถามอภปิ รายภาพถา่ ยดาวเทียมในชว่ งคล่นื อนิ ฟราเรด

ภาพถา่ ยดาวเทยี มอุตุนิยมวทิ ยาช่วงคลนื่ อินฟราเรด มหี ลักการตรวจวดั อย่างไร
แนวค�ำ ตอบ ตรวจวดั ปรมิ าณของรังสอี นิ ฟราเรดที่แผ่ออกมาจากวตั ถุ

การตรวจวดั รงั สีอินฟราเรดสามารถท�ำ ได้ในช่วงเวลาใด
แนวค�ำ ตอบ ได้ทกุ ช่วงเวลา

ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่นอินฟราเรดมีเฉดสีแตกต่างกันตามสิ่งใด และแปลผล
แตกต่างกัน อยา่ งไร
แนวค�ำ ตอบ แตกตา่ งกนั ตามอณุ หภมู ขิ องพน้ื ผวิ วตั ถุ โดยถา้ ภาพมเี ฉดสขี าวถงึ เทาออ่ นแสดงวา่
วัตถนุ นั้ มอี ุณหภมู ติ �ำ่ ถา้ ภาพมเี ฉดสีเทาเขม้ ถึงด�ำ แสดงวา่ วตั ถุนน้ั มอี ณุ หภูมสิ ูง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอตุ ุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ 349

ภาพถ่ายดาวเทยี มอุตนุ ยิ มวทิ ยาชว่ งคล่นื อนิ ฟราเรดทยี่ งั ไมไ่ ดป้ รบั สมี ีขอ้ จ�ำ กดั อย่างไร
แนวคำ�ตอบ ถ้าวัตถุมีอุณหภูมิใกล้เคียงกันมาก สีของภาพจากการตรวจวัดจะมีความ
แตกต่างกนั น้อย ท�ำ ให้แปลความหมายของภาพได้ยาก

เพราะเหตใุ ด ภาพถา่ ยดาวเทยี มชว่ งคลน่ื อนิ ฟราเรดทปี่ รบั สขี องภาพจงึ ชว่ ยแกไ้ ขขอ้ จ�ำ กดั ของ
ภาพถา่ ยดาวเทียมชว่ งคล่นื อนิ ฟราเรดได้
แนวคำ�ตอบ เพราะมีการปรับสีของภาพในแต่ละช่วงอุณหภูมิให้มีความละเอียดมากขึ้น
จงึ แสดงความแตกต่างของอุณหภมู เิ มฆได้ชัดเจนข้ึน

ค�ำ ถามอภปิ รายภาพถา่ ยดาวเทยี มในชว่ งคลน่ื ทม่ี องเหน็

ภาพถา่ ยดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาชว่ งคลื่นทม่ี องเหน็ มหี ลกั การตรวจวัดอย่างไร
แนวค�ำ ตอบ ตรวจวัดการสะทอ้ นรังสขี องวัตถุ

การตรวจวดั การสะท้อนรงั สีของวตั ถสุ ามารถท�ำ ไดใ้ นชว่ งเวลาใด
แนวค�ำ ตอบ สามารถตรวจวดั ไดใ้ นช่วงท่ีมแี สง

ภาพถ่ายดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยาช่วงคลื่นที่มองเห็นมเี ฉดสีแตกต่างกันตามสิง่ ใด
แนวค�ำ ตอบ เฉดสีแตกตา่ งกันตามอตั ราสว่ นรงั สสี ะท้อนของวตั ถุ

เฉดสีขาว เทาอ่อน เทาเข้ม และดำ� ในภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคล่ืนท่ีมองเห็นมี
ความสมั พันธ์กับอัตราส่วนรงั สสี ะท้อนอย่างไร และแปลความหมายได้อยา่ งไร
แนวคำ�ตอบ เฉดสีขาวจนถึงเทาอ่อน เป็นบริเวณที่มีอัตราส่วนรังสีสะท้อนมาก ซ่ึงหมายถึง
บริเวณท่มี เี มฆมีความหนามาก และเฉดสีเทาเข้มถงึ สีคอ่ นข้างดำ� เป็นบรเิ วณทมี่ อี ตั ราส่วนรงั สี
สะทอ้ นนอ้ ย ซงึ่ หมายถึงบริเวณที่มีเมฆมีความหนาน้อย

การระบุเมฆก้อนและเมฆแผ่นจากภาพถ่ายดาวเทยี มอุตนุ ยิ มวทิ ยาช่วงคล่ืนทมี่ องเห็นสามารถ
ท�ำ ไดอ้ ย่างไร
แนวคำ�ตอบ สังเกตรูปทรงและลักษณะพ้ืนผิวของเมฆ โดยหากสังเกตเห็นรูปทรงของเมฆมี
ลกั ษณะเปน็ กอ้ นและมพี นื้ ผวิ ไมเ่ รยี บแสดงวา่ เปน็ เมฆกอ้ น และหากสงั เกตเหน็ รปู ทรงทรงของ
เมฆไมช่ ัดเจนและมพี ืน้ ผวิ เรียบแสดงวา่ เปน็ เมฆแผ่น

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

350 บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวิทยากับการใช้ประโยชน์ คูม่ อื ครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

18. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจนกั เรยี นเกย่ี วกบั ความรเู้ รอื่ งภาพถา่ ยดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยาชว่ งคลน่ื
ตา่ ง ๆ โดยใชค้ �ำ ถามในหนังสือเรยี นหนา้ 260 ดังนี้

ถา้ ภาพถา่ ยดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยาชว่ งคลน่ื อนิ ฟราเรด พบบรเิ วณทเี่ ปน็ สขี าวสวา่ งเชน่ เดยี วกบั
ภาพถา่ ยดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยาชว่ งคลน่ื ทม่ี องเหน็ เมฆบรเิ วณนน้ั นา่ จะเปน็ เมฆใด เพราะเหตใุ ด
และสง่ ผลตอ่ ลมฟ้าอากาศอย่างไร
แนวคำ�ตอบ เมฆฝนฟ้าคะนอง เพราะภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคลื่นที่มองเห็นที่ปรากฏเป็น
สีขาวสว่างแสดงว่าเป็นเมฆท่ีมีความหนามาก ส่วนภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่น
อินฟราเรดปรากฏสีขาวสว่าง แสดงว่าเป็นเมฆท่ีมียอดเมฆสูง เมฆดังกล่างส่งผลให้เกิดฝน
ตกหนกั ลมพัดแรง อาจเกิดฟา้ แลบ ฟ้าร้อง และฟา้ ผา่

19. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กยี่ วกบั ภาพถา่ ยดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยา โดยใชค้ �ำ ถามดงั ตวั อยา่ ง
ตอ่ ไปน้ี

ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่นอินฟราเรดและดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคล่ืนที่มองเห็นมี
หลกั การตรวจวดั แตกตา่ งกนั อยา่ งไร
แนวค�ำ ตอบ ดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยาชว่ งคลน่ื อนิ ฟราเรด ตรวจวดั ปรมิ าณของรงั สอี นิ ฟราเรดที่
แผอ่ อกมาจากวตั ถุ ดาวเทยี มอตุ นุ ยิ มวทิ ยาชว่ งคลนื่ ทมี่ องเหน็ ตรวจวดั การสะทอ้ นรงั สขี องวตั ถุ

ภาพถา่ ยดาวเทยี มอตุ ุนิยมวิทยาใหข้ อ้ มูลใดบา้ ง
แนวคำ�ตอบ ตำ�แหน่งที่พบเมฆ ชนดิ และปรมิ าณของเมฆท่ปี กคลมุ ทอ้ งฟา้

20. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายตามความคดิ ของตนเองวา่ “หากตอ้ งการคาดการณค์ วามแรงฝน ทศิ ทาง
การเคลอ่ื นตวั ของกลมุ่ ฝน และปรมิ าณน�ำ้ ฝน นกั เรยี นควรจะศกึ ษาจากสารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยาใด”
จากนั้นให้นักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรม 10.2 เพื่อศึกษาการแปลความหมายข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทที่ 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอุตนุ ิยมวิทยากบั การใชป้ ระโยชน์ 351

กจิ กรรม 10.2 แปลความหมายข้อมลู เรดาร์ตรวจอากาศ

จุดประสงค์กจิ กรรม

1. ระบบุ ริเวณท่ีพบกลมุ่ ฝน ความแรงของกลุ่มฝนจากข้อมูลเรดารต์ รวจอากาศ
2. วเิ คราะหท์ ศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องกลมุ่ ฝนจากขอ้ มลู เรดารต์ รวจอากาศ ณ เวลาตอ่ เนอ่ื งกนั

เวลา 1 ช่วั โมง

วัสด-ุ อุปกรณ์

1. เอกสารความรู้ เรือ่ ง การแปลความหมายข้อมูลเรดารต์ รวจอากาศ
2. ขอ้ มูลเรดารต์ รวจอากาศ
3. ข้อมลู เรดาร์ตรวจอากาศแบบตอ่ เน่อื ง
หมายเหตุ ข้อมูล 1, 2 และ 3 ดาวน์โหลดไดจ้ าก QR Code

แหล่งเรยี นรู้

เวบ็ ไซตก์ รมอุตนุ ยิ มวิทยา > เรดาร์ตรวจอากาศ (http://weather.tmd.go.th/)

การเตรยี มตัวลว่ งหน้า

1. ครเู ตรยี มท�ำ ส�ำ เนาเอกสารทรี่ ะบไุ วใ้ นรายการวสั ด-ุ อปุ กรณ์ และถา้ รปู ไมช่ ดั เจนสามารถ
ดาวน์โหลดเฉพาะรปู มาใช้ในกจิ กรรมได้จาก QR code ของบทในคู่มือครู

2. เตรยี มคอมพวิ เตอรส์ �ำ หรบั ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เรดารต์ รวจอากาศของทอ้ งถน่ิ ตนเอง
ณ เวลาปจั จุบัน จากเว็บไซตก์ รมอุตนุ ยิ มวทิ ยา

3. ศึกษาเอกสารความรู้เกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูลเรดาร์ โดยดาวน์โหลดได้จาก QR code
ของบทในค่มู ือครู

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

352 บทที่ 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวิทยากับการใชป้ ระโยชน์ ค่มู อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

การเตรียมตัวลว่ งหน้า

1. ครูเตรียมทำ�สำ�เนาเอกสารท่ีระบุไว้ในรายการวัสดุ-อุปกรณ์ และถ้ารูปไม่ชัดเจนสามารถ
ดาวนโ์ หลดเฉพาะรปู มาใช้ในกิจกรรมไดจ้ าก QR code ของบทในค่มู ือครู

2. เตรียมคอมพวิ เตอร์ส�ำ หรบั ใหน้ ักเรียนสืบคน้ ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศของทอ้ งถิ่นตนเอง ณ
เวลาปัจจบุ ัน จากเวบ็ ไซต์กรมอตุ นุ ยิ มวิทยา

3. ศกึ ษาเอกสารความร้เู ก่ียวกบั การสบื คน้ ข้อมูลเรดาร์ โดยดาวน์โหลดได้จาก QR code ของ
บทในคมู่ ือครู

ข้อเสนอแนะส�ำ หรับครู

ขอ้ มูลเรดารต์ รวจอากาศทกี่ �ำ หนดให้มีทง้ั หมด 3 ชดุ โดยในข้อมลู 1 ชุดประกอบด้วยข้อมูล
เรดารต์ รวจอากาศจาก 2 สถานี ครูอาจแบ่งนักเรียนกลมุ่ ๆ จากนนั้ ให้นักเรยี นสมุ่ เลอื กข้อมูล
เรดาร์ตรวจอากาศกลุ่มละ 1 ชุด

วธิ ีการท�ำ กจิ กรรม

1. ศึกษาการแปลความหมายข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศจากเอกสารความรทู้ ี่กำ�หนดให้
2. ระบขุ ้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ ในประเดน็ ต่อไปน้ี และบนั ทึกผล
- วนั และเวลาที่ท�ำ การตรวจวัด
- ช่อื สถานเี รดาร์ตรวจอากาศ
- รัศมกี ารตรวจวัด
- พ้นื ท่ที ตี่ รวจพบกลุ่มฝน
- ความเข้มของสัญญาณคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า
3. แปลความหมายขอ้ มลู ความเขม้ ของสญั ญาณคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในขอ้ 2 และระบคุ วามแรง

ของกลมุ่ ฝนโดยประมาณของแตล่ ะภาคในประเทศไทย และบนั ทึกผล

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยากบั การใชป้ ระโยชน์ 353

4. วเิ คราะหข์ อ้ มลู เรดารต์ รวจอากาศแบบตอ่ เนอื่ งตามทกี่ �ำ หนด และคาดการณแ์ นวโนม้ ทศิ ทาง
ของกลมุ่ ฝน และบันทกึ ผล

5. สืบค้นข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศของท้องถ่ินตนเอง ณ เวลาปัจจุบันจากเว็บไซต์กรม
อุตุนิยมวิทยา วิเคราะห์หากลุ่มฝน และถ้าพบให้ระบุข้อมูลพื้นท่ีที่ตรวจพบ ความแรงและ
ทศิ ทางการเคล่อื นทีข่ องกลมุ่ ฝน

6. นำ�เสนอและอภปิ รายผลการทำ�กิจกรรม

ตวั อยา่ งผลการท�ำ กิจกรรม

ชอ่ื สถานเี รดารต์ รวจอากาศและ พ้ืนทีท่ ี่ตรวจพบ ความแรงของฝน
รศั มกี ารตรวจวดั นี กล่มุ ฝน (dBz)

สถานเี รดารเ์ ชยี งราย น่าน พะเยา ลำ�ปาง ∼ 19-26.5
รศั มีการตรวจวดั 120 กโิ ลเมตร
สถานเี รดารส์ มทุ รสงคราม นครปฐม สมทุ รสงคราม ∼ 26-41
รศั มกี ารตรวจวัด 120 กโิ ลเมตร สมุทรสาคร ราชบรุ ี เพชรบรุ ี ∼ 26-41
∼ 26-41
สถานเี รดารส์ ุวรรณภมู ิ นครปฐม สมุทรสงคราม ∼ 26-41
รศั มกี ารตรวจวัด 240 กิโลเมตร สมทุ รสาคร ราชบุรี ชลบุรี
ระยอง ปราจนี บุรี นครนายก
สถานีอบุ ลราชธานี
รัศมีการตรวจวัด 240 กิโลเมตร สรุ นิ ทร์ บุรีรมั ย์
สถานีสุราษฎร์ธานี อบุ ลราชธานี ศรีสะเกษ
รศั มกี ารตรวจวดั 120 กิโลเมตร
ชมุ พร ระนอง สรุ าษฎร์ธานี

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

354 บทที่ 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอตุ ุนิยมวทิ ยากับการใชป้ ระโยชน์ ค่มู ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

การแปลความหมายขอ้ มลู เรดารต์ รวจอากาศ

ภาคของประเทศไทย พืน้ ท่ที ีต่ รวจพบ ความแรงของฝน
กลมุ่ ฝน (dBz)

ภาคเหนอื นา่ น พะเยา ล�ำ ปาง ฝนก�ำ ลังอ่อน หรือ
มฝี นโปรยและฝนตกเลก็ นอ้ ย

ภาคกลาง นครปฐม ฝนกำ�ลังอ่อนถงึ ฝนก�ำ ลงั ปานกลางหรือ
ภาคตะวันตก สมุทรสงคราม มฝี นตกเล็กน้อยถงึ หนักปานกลาง
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื สมทุ รสาคร
ฝนก�ำ ลังอ่อนถงึ ฝนก�ำ ลังปานกลางหรือ
นครนายก มฝี นตกเลก็ น้อยถงึ หนักปานกลาง

ราชบุรี เพชรบรุ ี ฝนก�ำ ลงั ออ่ นถงึ ฝนกำ�ลังปานกลางหรอื
มีฝนตกเล็กน้อยถงึ หนักปานกลาง
สุรินทร์ บรุ รี มั ย์
อุบลราชธานี

ศรีสะเกษ

ภาคตะวันออก ปราจนี บรุ ี ชลบุรี ฝนก�ำ ลังอ่อนถงึ ฝนก�ำ ลังปานกลางหรอื
ระยอง มีฝนตกเลก็ นอ้ ยถึงหนกั ปานกลาง

ภาคใตต้ อนบน ชุมพร ระนอง ฝนก�ำ ลงั อ่อนถึงฝนกำ�ลงั ปานกลางหรือ
สุราษฎรธ์ านี มีฝนตกเล็กนอ้ ยถงึ หนักปานกลาง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอุตนุ ยิ มวิทยากบั การใชป้ ระโยชน์ 355

ทิศทางการเคลอื่ นทขี่ องกล่มุ ฝนจากขอ้ มูลเรดารต์ รวจอากาศแบบต่อเน่ือง

บรเิ วณ ทศิ ทางการเคลือ่ นทขี่ องกล่มุ ฝน
จ.ปทมุ ธานี เคลอ่ื นทไ่ี ปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
จ.ปราจนี บุรี เคลอื่ นทไ่ี ปทางทศิ ตะวนั ตกเฉียงใต้

อา่ วไทย เคล่อื นทไี่ ปทางทศิ ใต้

สรปุ ผลการท�ำ กิจกรรม

ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศให้ข้อมูลบริเวณท่ีพบกลุ่มฝน และความแรงของกลุ่มฝน รวมทั้ง
ขอ้ มลู การตดิ ตามและคาดการณแ์ นวโนม้ ทศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องกลมุ่ ฝน โดยแปลความหมาย
จากสีที่สอดคลอ้ งกบั คา่ ความเข้มของคลืน่ ท่สี ะท้อนกลับซ่งึ มีหนว่ ยเดซิเบล

ค�ำ ถามทา้ ยกิจกรรม

1. หากพบกลมุ่ ฝนสสี ม้ (40 dBZ) ณ บรเิ วณหนงึ่ เปน็ เวลา 30 นาที นกั เรยี นคาดวา่ จะมปี รมิ าณ
น้ำ�ฝนเท่าใด

แนวค�ำ ตอบ พบกลมุ่ ฝนทมี่ คี วามเขม้ ของคลนื่ ทสี่ ะทอ้ นกลบั 40 dBZ แปลความหมายไดว้ า่
มีปริมาณน�้ำ ฝน ประมาณ 12 มม.ชม/. ดังนน้ั ถ้าฝนตกเปน็ เวลา 30 นาที แสดงว่าบรเิ วณ
ดงั กล่าวมปี รมิ าณน�ำ้ ฝนประมาณ 6 มลิ ลิเมตร

2. นกั เรยี นมแี นวทางในการคาดการณแ์ นวโนม้ ทศิ ทางการเคลอื่ นทขี่ องกลมุ่ ฝนจากขอ้ มลู เรดาร์
ตรวจอากาศได้อยา่ งไร

แนวคำ�ตอบ พิจารณาข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศแบบต่อเน่ืองว่ากลุ่มฝนมีแนวโน้มทิศทาง
การเคล่ือนท่อี ยา่ งไร

3. ถา้ หากตอ้ งการศกึ ษากลมุ่ ฝนและเสน้ ทางการเคลอื่ นทขี่ องกลมุ่ ฝนในบรเิ วณทก่ี วา้ งกวา่ รศั มี
การตรวจวดั ของเรดาร์ท่ีกำ�หนด จะมีวิธกี ารอยา่ งไร

แนวค�ำ ตอบ เลอื กชว่ งรศั มกี ารตรวจวดั ทกี่ วา้ งขน้ึ เปน็ 240 กโิ ลเมตร หรอื เลอื กดขู อ้ มลู เรดาร์
จากสถานีใกล้เคยี ง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

356 บทที่ 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ คู่มือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

21. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำ�เสนอ และร่วมกนั อภิปรายผลการท�ำ กจิ กรรม พรอ้ มตอบคำ�ถามท้าย
กจิ กรรม โดยมแี นวทางการอภิปรายและตอบคำ�ถามดงั แสดงดา้ นบน
22. ให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ โดยใช้คำ�ถามดังตัวอย่าง
ต่อไปนี้

เรดารต์ รวจอากาศมหี ลักการตรวจวดั อยา่ งไร
แนวค�ำ ตอบ สง่ คลน่ื ออกไปโดยรอบ เมอื่ คลนื่ กระทบกบั หยาดน�ำ้ ฟา้ เชน่ กลมุ่ ฝน หมิ ะ ลกู เหบ็
คลื่นบางสว่ นจะสะท้อนกลับมาสตู่ วั รบั สญั ญาณ

การแปลผลข้อมลู เรดารต์ รวจอากาศทำ�ไดอ้ ย่างไร
แนวคำ�ตอบ แปลผลจากสที ่ีแตกตา่ งกัน โดยสีจะสอดคลอ้ งกับคา่ ความเขม้ ของคลน่ื ทสี่ ะท้อน
กลับซึ่งมีหน่วยเดซิเบล และความเข้มของคลื่นท่ีตรวจวัดได้จะแปรผันตามความแรงและชนิด
ของหยาดน�ำ้ ฟ้าทก่ี �ำ หนด

ขอ้ มูลเรดาร์ตรวจอากาศให้ขอ้ มลู ใดบา้ ง
แนวค�ำ ตอบ บรเิ วณทพ่ี บกลมุ่ ฝน และความแรงของกลมุ่ ฝน ทศิ ทางการเคลอ่ื นตวั ของกลมุ่ ฝน

23. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายตามความคดิ ของตนเองวา่ “สารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยาทง้ั แผนท่ี
อากาศผิวพน้ื ภาพถ่ายดาวเทียม และเรดารต์ รวจอากาศ สามารถน�ำ ใชป้ ระโยชนใ์ นการวางแผนการ
ประกอบอาชพี และการด�ำ รงชวี ติ ได้หรือไม่ อยา่ งไร”

แนวทางการวดั และประเมินผล

KPA แนวทางการวดั และประเมนิ ผล

K: 1. การตอบคำ�ถามตรวจสอบความเขา้ ใจ
1. การแปลความหมายสัญลักษณ์แสดงสภาพ 2. การตอบคำ�ถาม และการนำ�เสนอผลกา

ลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบนแผนท่ีอากาศ อภิปราย
ผิวพืน้ 3. แบบฝกึ หัด
2. การแปลความหมายขอ้ มลู ภาพถา่ ยดาวเทยี ม
และเรดารต์ รวจอากาศี

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอุตุนิยมวทิ ยากับการใช้ประโยชน์ 357

KPA แนวทางการวดั และประเมนิ ผล
P:
1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ 1. การแปลความหมายสัญลักษณ์แสดง
2. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะ สภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบน
แผนทอี่ ากาศผวิ พื้น ภาพถ่ายดาวเทยี ม
ผูน้ �ำ และเรดารต์ รวจอากาศ

A: การยอมรับความเห็นต่าง 2. มีส่วนร่วมในการคิด ออกความเห็น
และตัดสินใจรว่ มกับผอู้ ่นื รวมทง้ั มกี าร
แบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบในการ
ทำ�งานกลุ่ม

การรับฟังความเห็นของผู้อ่ืนในการร่วม
อภิปราย

ความร้เู พิ่มเติมส�ำ หรับครู
อากาศที่อยู่ในบริเวณความกดอากาศสูงเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณประเทศญี่ปุ่น
เป็นอากาศที่มีความช้ืนตำ่� เน่ืองจากบริเวณความกดอากาศสูงดังกล่าวมีแหล่งกำ�เนิดมาจาก
แถบละติจูดสูงทำ�ให้มีอุณหภูมิต่ำ� เมื่อเคลื่อนตัวมาปกคลุมอยู่เหนือมหาสมุทรจึงทำ�ให้น้ำ�ระเหย
เขา้ สอู่ ากาศได้นอ้ ยจงึ มคี วามชื้นต�ำ่

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

358 บทท่ี 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตนุ ยิ มวทิ ยากับการใชป้ ระโยชน์ คมู่ ือครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

10.2 การใช้ประโยชน์จากข้อมูลสารสนเทศทางอตุ ุนิยมวิทยา

จุดประสงค์การเรียนรู้
นำ�ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยาต่าง ๆ และพยากรณ์อากาศมาวางแผนการดำ�เนินชวี ติ และ

ประกอบอาชีพให้สอดคลอ้ งกบั สภาพลมฟา้ อากาศ

ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรโลกและอวกาศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
2. กรมอตุ นุ ิยมวิทยา http://www.tmd.go.th

แนวการจดั การเรียนรู้
1. ครูนำ�เข้าสู่บทเรียน โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการใช้ข้อมูลสารสนเทศทาง

อตุ ุนยิ มวทิ ยากบั การดำ�รงชวี ิตหรือการประกอบอาชีพ โดยใช้ค�ำ ถามดงั ตวั ตอ่ ไปน้ี

จากข้อมลู สารสนเทศทางอตุ ุนิมวิทยาสามารน�ำ มาใช้ประโยชน์ในเรือ่ งใดบ้าง
แนวคำ�ตอบ การเกษตร การประมง การเดนิ ทาง

2. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายตามความคิดของตนเองว่า “ข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศมี
ประโยชนต์ อ่ การประกอบอาชพี ตา่ ง ๆ หรอื ไม่ อยา่ งไร” จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 10.3

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนยิ มวทิ ยากับการใช้ประโยชน์ 359

กจิ กรรม 10.3 การใชป้ ระโยชน์จากขอ้ มลู สารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา

จุดประสงคก์ ิจกรรม

วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศอุตุนิยมวิทยาและพยากรณ์อากาศ และนำ�มาวางแผนใน
การประกอบอาชพี ต่าง ๆ

เวลา 1 ชวั่ โมง

วัสดุ-อุปกรณ์

1. เอกสารขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตุนยิ มวทิ ยาประกอบสถานการณ์ที่ 1
2. เอกสารข้อมลู สารสนเทศทางอุตุนยิ มวทิ ยาประกอบสถานการณท์ ี่ 2
3. เอกสารข้อมูลโปรแกรมการทอ่ งเทย่ี วประกอบสถานการณ์ที่ 2
หมายเหตุ เอกสารข้อมูล 1 2 และ 3 ดาวน์โหลดได้จาก QR Code

วิธีการท�ำ กจิ กรรม

1. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลือกสถานการณ์ท่ีก�ำ หนดให้ 1 สถานการณ์
2. ศกึ ษาและวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทจ่ี �ำ เปน็ ในการวางแผนประกอบอาชพี จากสถานการณท์ เี่ ลอื ก
3. วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาจากเอกสารที่กำ�หนดให้และสอดคล้องกับ

สถานการณท์ ีเ่ ลอื ก
4. วางแผนการประกอบอาชีพให้สอดคลอ้ งกบั เงอ่ื นไขของสถานการณ์ท่เี ลอื ก
5. นำ�เสนอผลการทำ�กจิ กรรมและอภปิ รายร่วมกนั

สถานการณท์ ี่ 1

เกษตรกรท่านหน่ึงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องการท่ีจะปลูกข้าวโพดหวาน
ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 จึงได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะปลูก
ดังรายละเอียดต่อไปนี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

360 บทที่ 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวิทยากบั การใชป้ ระโยชน์ คู่มือครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

ขา้ วโพดหวานเป็นพืชทีช่ อบแสงแดด อณุ หภมู ิท่ีเหมาะสมในการเจรญิ เตบิ โตอยใู่ น
ช่วงระหวา่ ง 24 - 35 องศาเซลเซยี ส ดนิ ทใ่ี ชป้ ลกู เปน็ ดนิ รว่ นปนทรายทม่ี กี ารระบายน�ำ้
และถ่ายเทอากาศไดด้ ี โดยขา้ วโพดมรี ะยะการเจรญิ เติบโตดงั น้ี

ระยะการเจรญิ เตบิ โต จ�ำ นวนวันหลังปลูก (วนั )
หยอดเมล็ด -
เร่ิมงอก
สร้างช่อ 3-5
25 - 40
ออกดอกและผสมเกสร 53 -58
สร้างเมลด็ 60 - 75
เกบ็ เก่ยี ว 70 - 75

การปลูกข้าวโพดหวานสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีหากมีการจัดการนำ้�อย่างเพียงพอ
โดยเม่ือหยอดเมล็ดควรให้นำ้�ทันทีหรือเลือกปลูกหลังวันฝนตก และในช่วงระยะการเจริญ
เติบโตควรระวังอย่าให้เกิดการขาดน้ำ�ในช่วงออกดอก ผสมเกสร และสร้างเมล็ด รวมทั้ง
การใส่ปุ๋ยซึ่งควรใส่ในช่วง 20 – 25 วันหลังเพาะปลูก หากข้าวโพดหวานขาดนำ้�ในช่วง
เวลาข้างต้นจะทำ�ให้การเจริญเติบโตชะงักได้ ส่วนอุณหภูมิจะมีผลต่อการสร้างเมล็ด โดย
การสร้างเมลด็ จะไม่ดีเทา่ ท่คี วรถ้าอณุ หภมู ิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส
ปัญหาของสถานการณท์ ี่ 1

1. เกษตรกรควรเรมิ่ หยอดเมล็ดในวันใดไดบ้ ้าง เพราะเหตุใด
2. ระหวา่ งการเพาะปลกู นน้ั เกษตรกรควรจะมกี ารจดั การน�ำ้ หรอื ไมอ่ ยา่ งไร เพราะเหตใุ ด
3. เกษตรกรควรเกบ็ เกี่ยวข้าวโพดหวานในช่วงใด เพราะเหตใุ ด

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใชป้ ระโยชน์ 361

สถานการณท์ ่ี 2
จากข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2561 มีจำ�นวน

นักท่องเท่ียวท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต จำ�นวนมากถึง
1,301,294 คน การท่องเท่ียวในจังหวัดภูเก็ตมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว
ทางทะเล วัฒนธรรม การแสดง ผจญภยั

นกั เรยี นและครอบครวั ไปเยยี่ มญาตทิ จี่ งั หวดั ภเู กต็ ในชว่ งวนั ท่ี 27-29 เมษายน 2561 และ
มเี วลา 1 วนั ในการทอ่ งเทยี่ ว จงึ ไปบรษิ ทั ทอ่ งเทยี่ วแหง่ หนงึ่ เพอื่ เลอื กโปรแกรมการทอ่ งเทย่ี ว
ส�ำ หรบั 1 วนั ซง่ึ มอี ยจู่ �ำ นวน 4 โปรแกรม ดงั เอกสารข้อมลู โปรแกรมการท่องเท่ยี วประกอบ
สถานการณ์ท่ี 2

เง่ือนไขของสถานการณ์ท่ี 2
นักเรยี นจะเลอื กทอ่ งเทย่ี วในวนั ใด โปรแกรมใด เพราะเหตุใด

ตัวอยา่ งผลการท�ำ กจิ กรรม

ช่วงการเพาะปลูกที่ จ�ำ นวนวนั หลงั ช่วงเวลาที่ การวเิ คราะห์สารสนเทศ
ขาดน�้ำ ไมไ่ ด้ ปลูก (วัน) ด�ำ เนินการ อุตุนิยมวิทยา
หยอดเมลด็ - 1 – 6 ก.ย.
มีฝนฟา้ คะนองร้อยละ
ออกดอกและ 50 – 60 29 ต.ค. – 3 40-60 ของพืน้ ที่
ผสมเกสร พ.ย.
60 – 75 เปน็ ช่วงทีเ่ ปลี่ยนจากฤดู
สรา้ งเมลด็ 70 - 75 5 – 20 พ.ย. ฝนเป็นฤดหู นาว บรเิ วณ
เกบ็ เก่ยี ว 15 - 20 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนฝนและ
อณุ หภมู ิจะลดลงและเรมิ่ มี
อากาศเย็นตั้งแต่กลางเดือน
เป็นตน้ ไป อุณหภมู ิเฉลยี่

สูงสุด 31- 33
องศาเซลเซยี ส

ประเทศไทยตอนบนจะ
มีฝนน้อยและอากาศเยน็

ตลอดเดือน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

362 บทท่ี 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอุตุนยิ มวิทยากับการใช้ประโยชน์ คมู่ ือครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

สถานการณ์ที่ 2
จากพยากรณอ์ ากาศระหวา่ งวันที่ 27 – 29 เมษายน ตลอดท้งั สามวันสภาพลมฟ้าอากาศ
มเี มฆมาก ฝนฟ้าคะนอง รอ้ ยละ 60-70 ของพืน้ ที่ ในทะเลมีคลนื่ สูงประมาณ 2 เมตร ดงั น้นั
โปรแกรมการทอ่ งเทย่ี วจงึ ควรเลอื กโปรแกรมทเ่ี ทยี่ วบนเกาะภเู กต็ ในวนั ท่ี 27 หรอื 28 เมษายน
โดยอาจเลอื กโปรแกรมท่ี 1 เที่ยวรอบเมอื งภูเกต็ หรอื โปรแกรมท่ี 2 เท่ียวภูเกต็ เดนิ ชมสัตว์
น�ำ้ สว่ นการทอ่ งเทยี่ วทางทะเลยงั ไมเ่ หมาะสมในชว่ งเวลาดงั กลา่ วเนอื่ งจากยงั มโี อกาสเกดิ ฝน
ฟา้ คะนอง และบรเิ วณทมี่ ีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

สรปุ ผลการทำ�กจิ กรรม

ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยามีประโยชน์ต่อการนำ�มาใช้ในการวางแผนประกอบ
อาชีพ เช่น เกษตรกรรม การท่องเท่ียว โดยอาชีพเกษตรกร อาจนำ�ข้อมูลปริมาณน้ำ�ฝน
อณุ หภมู ิ ความชน้ื สมั พทั ธ์ พยากรณอ์ ากาศในลว่ งหนา้ ในปนี นั้ ในการคาดการณส์ ถานการณน์ �ำ้
สว่ นกจิ กรรมทม่ี กี ารทอ่ งเทย่ี วทางทะเล มคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งใชข้ อ้ มลู สารสนเทศทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยา
เช่น ความสูงของคล่ืน ปริมาณฝน ทิศทางลม ความเร็วลม ประกอบการตัดสินใจใน
การเดนิ เรือ เพ่อื ความปลอดภยั ตอ่ ชีวติ และทรัพย์สนิ

ค�ำ ถามท้ายกิจกรรม

1. จากสถานการณ์ท่ี 1 ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาในเร่ืองใดบ้าง ใช้ประกอบการ
ตดั สินใจในการเพาะปลกู

แนวค�ำ ตอบ อุณหภมู ิ ปริมาณฝน สภาพลมฟา้ อากาศ ความเร็วลม
2. จากสถานการณ์ที่ 2 ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาในเร่ืองใดบ้าง ใช้ประกอบการ

ตัดสนิ ใจในการเลอื กโปรแกรมการท่องเทย่ี ว
แนวค�ำ ตอบ ความสูงคล่ืน ปริมาณฝน ทศิ ทางและความเรว็ ลม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอุตุนิยมวทิ ยากบั การใช้ประโยชน์ 363

3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ�เสนอผลการทำ�กิจกรรม และร่วมกันอภิปราย พร้อมตอบ
คำ�ถามท้ายกิจกรรม โดยมีแนวทางการอภปิ รายและตอบค�ำ ถามดังแสดงด้านบน

4. ครูให้นักเรียนสังเกตรูป 10.13 ในหนังสือเรียนหน้า 269 จากน้ันร่วมกันอภิปรายโดย
อาจใชต้ ัวอยา่ งคำ�ถามดังนี้

จากรปู แสดงข้อมูลใด
แนวคำ�ตอบ เส้นทางเดนิ พายุไตฝ้ ุ่นเชบี

ขอ้ มูลเสน้ ทางเดินพายุไต้ฝนุ่ เชบีมีประโยชน์หรอื ไม่ อยา่ งไร
แนวคำ�ตอบ ทำ�ให้ทราบพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ และสามารถเตรียมความพร้อม
เพอื่ ลดการสูญเสียทเี่ กิดข้ึน

5. ครูให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นเชบีและการลดผลกระทบ ดังนี้
“พายุไต้ฝุ่นเชบีเคล่ือนที่เข้าสู่ทางชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศญ่ีปุ่น ระหว่างวันที่
4 - 5 กนั ยายน พ.ศ. 2561 พายไุ ตฝ้ ุ่นเชบีไดส้ ร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง อาคาร
บ้านเรือน สนามบินเสียหาย ต้องยกเลิกเท่ียวบินจำ�นวนมากกว่า 700 เท่ียวบิน แต่จาก
การติดตามข้อมูล สารสนเทศดังกล่าว ทำ�ให้สำ�นักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (Japan
Meteorological Agency) ได้ประกาศให้ประชาชนในพ้ืนท่ีท่ีอาจได้รับผลกระทบกว่า
1 ล้านคน เตรียมความพร้อมและอพยพได้ทันจึงลดการสูญเสียชีวิตและความเสียหายใน
ดา้ นตา่ ง ๆ ไดเ้ ป็นอย่างมาก”

6. ค รแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายวา่ ยงั มหี นว่ ยงาน องคก์ ร หรอื อาชพี ใดอกี บา้ งทใี่ ชป้ ระโยชน์
จากขอ้ มูลสารสนเทศทางอตุ ุนิยมวทิ ยา

แนวทางการอภิปราย หน่วยงานท่ีมีภารกิจในการบริหารจัดการนำ้� การทำ�ฝนหลวง
การคมนาคมขนสง่ ทง้ั ทางบก ทางน�ำ้ และอากาศ การปฏบิ ตั กิ ารนอกชายฝง่ั กจิ กรรมกลางแจง้
ต่าง ๆ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

364 บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอตุ ุนิยมวทิ ยากบั การใช้ประโยชน์ คูม่ อื ครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

แนวทางการวัดและประเมนิ ผล

KPA แนวทางการวดั และประเมนิ ผล
K: วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา
เ พ่ื อ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จำ � วั น แ ล ะ ก า ร 1. การตอบค�ำ ถาม และการน�ำ เสนอผลการ
ประกอบอาชีพ อภิปราย
P:
1. การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 2. แบบฝกึ หดั
2. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะ
1. การวิเคราะห์และใช้เหตุผลที่เหมาะ
ผนู้ �ำ สมในการตัดสินใจตามกับสถานการณ์
ท่กี ำ�หนด
A: การยอมรบั ความเห็นต่าง
2. มสี ว่ นรว่ มในการวเิ คราะห์ อภปิ ราย และ
ลงข้อสรุปเกี่ยวกับการหมุนเวียนของ
นำ้�ผิวหน้ามหาสมุทรและผลท่ีมีต่อภูมิ
อากาศ ลมฟ้าอากาศ ส่ิงมีชีวิต และสิ่ง
แวดลอ้ ม

การรับฟังความเห็นของผู้อื่นในการร่วม
อภปิ ราย

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ข้อมลู สารสนเทศทางอุตุนิยมวทิ ยากบั การใช้ประโยชน์ 365

แบบฝกึ หดั ท้ายบท
1 ใชแ้ ผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื ทก่ี �ำ หนดใหป้ ระกอบการตอบค�ำ ถามขอ้ 1.1 – 1.4

(ก) (ข)

(ค)

1.1. รปู (ก) (ข) และ (ค) เปน็ แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื ในฤดใู ดบา้ ง สงั เกตจากอะไร
แนวคำ�ตอบ รูป (ก) เป็นแผนท่ีอากาศผิวพ้ืนในฤดูหนาว สังเกตจากบริเวณ

ความกดอากาศสงู แผล่ งมาปกคลมุ ประเทศไทย รปู (ข) เปน็ แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื ในฤดรู อ้ น
สงั เกตจากหยอ่ มความกดอากาศต�ำ่ ปกคลมุ ประเทศไทย รปู (ค) เปน็ แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื
ในฤดฝู น สงั เกตจากรอ่ งความกดอากาศต�ำ่ พาดผา่ นบรเิ วณประเทศไทย

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

366 บทที่ 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอตุ ุนิยมวทิ ยากับการใช้ประโยชน์ คมู่ ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

1.2. แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื ในรปู ใดบง่ ชว้ี า่ พน้ื ทภ่ี าคใตข้ องประเทศไทยอาจประสบกบั อทุ กภยั
และแผน่ ดนิ ถลม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร

แนวค�ำ ตอบ รปู (ก) เนอ่ื งจากความกดอากาศสงู ทแ่ี ผล่ งมาปกคลมุ ประเทศไทยท�ำ ใหอ้ ากาศ
เคลอ่ื นทผ่ี า่ นอา่ วไทย จงึ เกดิ ฝนตกบรเิ วณภาคใตฝ้ ง่ั ตะวนั ออก นอกจากน้ี พายหุ มนุ เขต
รอ้ นมที ศิ ทางการเคลอ่ื นทม่ี าทางทศิ ตะวนั ตกซง่ึ มโี อกาสเคลอ่ื นทไ่ี ปยงั บรเิ วณภาคใตข้ อง
ประเทศไทย

1.3. แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื ในรปู ใดบง่ ชว้ี า่ บรเิ วณประเทศไทยจะเกดิ ฝนตกอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและมี
ปรมิ าณฝนมากกวา่ ชว่ งอน่ื ของปี ทราบไดอ้ ยา่ งไร

แนวค�ำ ตอบ รปู (ค) เนอ่ื งจากมรี อ่ งความกดอากาศต�ำ่ พาดผา่ นประเทศไทย
1.4. แผนท่ีอากาศผิวพ้ืนในรูปใดบ่งช้ีว่าจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณประเทศไทย

ทราบไดอ้ ยา่ งไร
แนวค�ำ ตอบ รปู (ข) เนอ่ื งจากอากาศเยน็ จากบรเิ วณความกดอากาศต�ำ่ ก�ำ ลงั เคลอ่ื นทม่ี ายงั

บรเิ วณประเทศไทยซง่ึ ปกคลมุ ดว้ ยอากาศรอ้ น และ รปู (ค) เนอ่ื งจากมรี อ่ งความกดอากาศ
ต�ำ่ พาดผา่ นประเทศไทย

2 จากแผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื ทก่ี �ำ หนดให้ บรเิ วณ ก และ ข บรเิ วณใดมลี มพดั แรงและบรเิ วณใดมี
ลมพดั เบา เพราะเหตใุ ดจงึ เปน็ เชน่ นน้ั




แนวคำ�ตอบ บริเวณ (ก) มีลมพัดแรง เน่ืองจากเส้นความกดอากาศเท่าอยู่ชิดกัน
และบรเิ วณ (ข) มลี มพดั เบา เนอ่ื งจากเสน้ ความกดอากาศเทา่ อยหู่ า่ งกนั

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวทิ ยากบั การใช้ประโยชน์ 367

3. จากแผนท่อี ากาศผิวพ้นื ท่กี ำ�หนดให้ นักเรียนควรวางแผนการเดินทางหรือเตรียมตัวไปยัง
บรเิ วณ ก และ ข ของประเทศญป่ี นุ่ อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด





แนวค�ำ ตอบ หากเดนิ ทางไปยงั บรเิ วณ ก ควรเตรยี มอปุ กรณก์ นั หนาว เนอ่ื งจากบรเิ วณดงั
กลา่ วปกคลมุ ดว้ ยบรเิ วณความกดอากาศสงู ท�ำ ใหอ้ ากาศมอี ณุ หภมู ติ �ำ่ และหากเดนิ ทางไป
ยงั บรเิ วณ ข ควรเลอ่ื นก�ำ หนดการเดนิ ทางเนอ่ื งจากพายไุ ตฝ้ นุ่ ก�ำ ลงั เคลอ่ื นทไ่ี ปยงั บรเิ วณ
ดงั กลา่ ว

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

368 บทที่ 10 | ขอ้ มูลสารสนเทศทางอุตนุ ยิ มวิทยากบั การใช้ประโยชน์ คมู่ อื ครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

4. จงเตมิ เครอ่ื งหมาย ( ) และ ( ) ลงในชอ่ งวา่ งเพอ่ื แสดงหลกั การตรวจวดั ชว่ งเวลาทต่ี รวจ
วดั และการแปลความหมายทส่ี มั พนั ธก์ บั ประเภทของภาพถา่ ยดาวเทยี มทก่ี �ำ หนด

ประเภทของภาพถ่ายดาวเทยี ม

ประเดน็

ช่วงคลืน่ อินฟราเรด ชว่ งคล่ืนทตี่ ามองเห็น

การตรวจวัด ป ริ ม า ณ ข อ ง รั ง สี ปริมาณของรงั สีอนิ ฟราเรด
อินฟราเรด ที่แผอ่ อกมาจากวตั ถุ
ช่วงเวลาที่สามารถ ที่แผอ่ อกมาจากวตั ถุ การสะทอ้ นแสงของวตั ถุ
ตรวจวดั คลนื่ การสะท้อนแสงของวตั ถุ
กลางวัน
กลางวัน กลางคนื
กลางคนื

ประเภทของภาพถ่ายดาวเทียม

ประเดน็

ชว่ งคลน่ื อินฟราเรด ชว่ งคลน่ื ท่ีตามองเหน็

การแปลความหมาย 1. เฉดสีขาวถงึ เทาอ่อน 1. เฉดสีขาวสวา่ ง

วัตถทุ ี่มอี ณุ หภูมิต�ำ่ วตั ถุทม่ี อี ตั ราสว่ นรังสีสะทอ้ นสงู

วัตถุทม่ี อี ณุ หภมู ิสงู วัตถทุ ีม่ อี ตั ราส่วนรังสีสะท้อนต่ำ�

เช่น เ มฆช้ันสูง เมฆฝนฟ้า เชน่ เมฆทีม่ คี วามหนามาก

คะนอง 2. เฉดสเี ทาถงึ ด�ำ

2. เฉดสเี ทาเขม้ ถงึ ดำ� วตั ถทุ ่มี อี ตั ราสว่ นรังสีสะท้อนสูง

วตั ถทุ ่มี ีอุณหภมู ิต�่ำ วตั ถุทม่ี ีอตั ราสว่ นรังสสี ะทอ้ นต่ำ�

วัตถุทมี่ ีอณุ หภูมสิ งู เช่น เมฆทีม่ คี วามหนานอ้ ย

เช่น เมฆชัน้ ตำ�่

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทท่ี 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอุตนุ ยิ มวทิ ยากบั การใชป้ ระโยชน์ 369

5. จากภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคล่ืนอินฟราเรด (ก) และช่วงคล่ืนท่ีมองเห็น (ข) ประจำ�วันท่ี
4 กนั ยายน พ.ศ. 2561 เวลา 2:10 UTC

(ก) (ข)

ขอ้ มลู ขา้ งตน้ ภาคใดของประเทศไทยมโี อกาสเกดิ ฝนมากทส่ี ดุ เพราะเหตใุ ด
แนวคำ�ตอบ ภาคใต้ จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคล่ืนอินฟราเรด พบภาพท่ีมี

สีขาวสว่างกว่าบริเวณอ่ืน แสดงว่าเป็นเมฆท่ีมีอุณหภูมิตำ่� ประกอบกับข้อมูลภาพถ่าย
ดาวเทยี มในชว่ งคลน่ื ทม่ี องเหน็ บรเิ วณภาคใตพ้ บกลมุ่ เมฆทม่ี คี วามหนา มรี ปู ทรงชดั เจน และ
มเี ฉดสขี าวมากกวา่ บรเิ วณอน่ื ๆ แสดงวา่ เปน็ เมฆกอ้ น ดงั นน้ั ขอ้ มลู ภาพถา่ ยดาวเทยี มทง้ั สอง
ชว่ งคลน่ื แสดงใหเ้ หน็ วา่ ภาคใตข้ องประเทศไทยมโี อกาสเกดิ ฝนมากกวา่ ภาคอน่ื ๆ

6. ภาพถา่ ยดาวเทยี มชว่ งคลน่ื อนิ ฟราเรดทป่ี รบั สแี ลว้ ประจ�ำ วนั ท่ี 26 กนั ยายน พ.ศ. 2561
เวลา 07:40 UTC

จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ ใหต้ อบค�ำ ถามตอ่ ไปน้ี

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

370 บทท่ี 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตนุ ิยมวทิ ยากับการใชป้ ระโยชน์ คู่มือครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

6.1. ภ าคใต้ของประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียพ้ืนท่ีใดท่ีมีโอกาสเกิดฝนตกมากท่ีสุด
ทราบไดอ้ ยา่ งไร

แนวค�ำ ตอบ ประเทศมาเลเซยี เพราะพบบรเิ วณทม่ี สี เี หลอื งถงึ สสี ม้ แสดงถงึ บรเิ วณท่ี
มเี มฆอณุ หภมู ใิ นชว่ ง -60 ถงึ -50 องศาเซลเซยี ส ซง่ึ เปน็ เมฆทม่ี อี ณุ หภมู ติ �ำ่ กวา่ เมฆท่ี
ปกคลมุ บรเิ วณโดยรอบและต�ำ่ กวา่ เมฆทป่ี กคลมุ ภาคใตข้ องประเทศไทย จงึ มโี อกาสเกดิ
ฝนตกมากกวา่ บรเิ วณภาคใตข้ องประเทศไทย

6.2. ในวนั ดงั กลา่ วพบพายหุ มนุ เขตรอ้ นหรอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
แนวค�ำ ตอบ พบพายหุ มนุ เขตรอ้ น เนอ่ื งจากพบแนวเมฆทเ่ี ปน็ ลกั ษณะของพายหุ มนุ

ปกคลมุ ในมหาสมทุ รแปซฟิ กิ

7. จากภาพเรดารต์ รวจอากาศประจ�ำ วนั ท่ี 24 พฤษภาคม 2561

(ก) 1:50 UTC (ข) 2:50 UTC

(ก) (ข)

7.1. กลมุ่ ฝนบรเิ วณอา่ วไทยมกี ารเคลอ่ื นทห่ี รอื ไม่ อยา่ งไร
แนวคำ�ตอบ มีการเคล่ือนท่ี โดยเม่ือเวลา 1:50 UTC กลุ่มฝนปกคลุมอยู่ในบริเวณ

อ่าวไทย และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดชลบุรี และเม่อื เวลาผ่านไปถึง 2:50 UTC
กลุ่มฝนเคล่ือนท่ีเข้าปกคลุมจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพฯ และทางเหนือของ
จงั หวดั ชลบรุ ี เชน่ บรเิ วณอ�ำ เภอพานทอง อ�ำ เภอพนสั นคิ ม และอ�ำ เภอบอ่ ทอง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ บทที่ 10 | ขอ้ มลู สารสนเทศทางอุตนุ ยิ มวิทยากบั การใช้ประโยชน์ 371

7.2. กลมุ่ ฝนบรเิ วณอา่ วไทยทวคี วามรนุ แรงขน้ึ หรอื ออ่ นก�ำ ลงั ลง พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ
แนวค�ำ ตอบ กลมุ่ ฝนออ่ นก�ำ ลงั ลง เพราะเมอ่ื เวลา 2:50 UTC พน้ื ทท่ี เ่ี คยปรากฏเปน็

เขยี วลอ้ มรอบสเี หลอื งและสสี ม้ เปลย่ี นมาเปน็ ปกคลมุ สเี ขยี วทง้ั หมด แสดงถงึ ความเขม้
ของคลน่ื ทต่ี รวจวดั ไดล้ ดลงเหลอื ประมาณ 19 - 26 เดซเิ บล ซง่ึ หมายความวา่ มฝี นโปรย
จนถงึ ไมม่ ฝี น
8. จากข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ ประจำ�วันท่ี 19 กันยายน 2561 ณ สถานีเรดาร์ระยอง
ทก่ี �ำ หนดให้ ถ้านักเรียนวางแผนจะไปเท่ยี วทะเลท่จี ังหวัดระยองในวันดังกล่าว นักเรียนจะ
วางแผนการทอ่ งเทย่ี วอยา่ งไรไดบ้ า้ งและตอ้ งเตรยี มตวั อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด

เกาะเสม็ด

แนวค�ำ ตอบ ควรวางแผนเทย่ี วบนชายฝง่ั และเตรยี มอปุ กรณก์ นั ฝน ไมค่ วรเดนิ ทางไปยงั เกาะ
เสมด็ เนอ่ื งจากอาจเกดิ พายฝุ นฟา้ คะนองระหวา่ งเดนิ ทางขา้ มไปยงั เกาะเสมด็

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

372 ภาคผนวก คูม่ อื ครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

ภาคผนวก

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ ภาคผนวก 373

ตัวอย่างเครื่องมือวดั และประเมนิ ผล

แบบทดสอบ

การประเมินผลด้วยแบบทดสอบเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการวัดผลสัมฤทธิ์ในการ
เรยี นโดยเฉพาะดา้ นความรแู้ ละความสามารถทางสตปิ ญั ญา ครคู วรมคี วามเขา้ ใจในลกั ษณะของแบบ
ทดสอบ รวมท้ังขอ้ ดแี ละขอ้ จำ�กดั ของแบบทดสอบรปู แบบต่าง ๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการสรา้ งหรอื เลือก
ใชแ้ บบทดสอบใหเ้ หมาะสมกบั สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั โดยลกั ษณะของแบบทดสอบ รวมทง้ั ขอ้ ดแี ละขอ้ จ�ำ กดั
ของแบบทดสอบรูปแบบต่าง ๆ เปน็ ดังน้ี
1) แบบทดสอบแบบทีม่ ีตวั เลือก
แบบทดสอบแบบทมี่ ตี วั เลอื ก ไดแ้ ก่ แบบทดสอบแบบเลอื กตอบ แบบทดสอบแบบถกู หรอื ผดิ และ
แบบทดสอบแบบจับคู่ รายละเอียดของแบบทดสอบแต่ละแบบเป็นดังน้ี
1.1) แบบทดสอบแบบเลือกตอบ
เปน็ แบบทดสอบทมี่ กี ารก�ำ หนดตวั เลอื กใหห้ ลายตวั เลอื ก โดยมตี วั เลอื กทถ่ี กู เพยี งหนง่ึ ตวั เลอื ก
องคป์ ระกอบหลกั ของแบบทดสอบแบบเลอื กตอบมี 2 สว่ น คือ ค�ำ ถามและตวั เลือก แต่บางกรณอี าจ
มีส่วนของสถานการณ์เพิ่มขึ้นมาด้วย แบบทดสอบแบบเลือกตอบมีหลายรูปแบบ เช่น แบบทดสอบ
แบบเลอื กตอบค�ำ ถามเดยี่ ว แบบทดสอบแบบเลอื กตอบค�ำ ถามชดุ แบบทดสอบแบบเลอื กตอบค�ำ ถาม
2 ชนั้ โครงสร้างดังตวั อยา่ ง

แบบทดสอบแบบเลือกตอบแบบค�ำ ถามเดีย่ วที่ไม่มสี ถานการณ์

คำ�ถาม…………………………………………………………………….

ตวั เลือก
ก................................................
ข................................................
ค................................................
ง................................................

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

374 ภาคผนวก คมู่ อื ครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

แบบทดสอบแบบเลอื กตอบแบบค�ำ ถามเดย่ี วทมี่ ีสถานการณ์

สถานการณ…์ …………………………………………………………......................

ค�ำ ถาม…………………………………………………....................………………….

ตวั เลือก
ก................................................
ข................................................
ค................................................
ง................................................

แบบทดสอบแบบเลือกตอบแบบคำ�ถามเปน็ ชดุ

สถานการณ…์ …………………………………………………………......................

ค�ำ ถาม…………………………………………………....................………………….

ตวั เลือก
ก................................................
ข................................................
ค................................................
ง................................................

ค�ำ ถามท่ี 2 ……………………………………………………………..................

ตัวเลือก
ก................................................
ข................................................
ค................................................
ง................................................

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ ภาคผนวก 375

แบบทดสอบแบบเลือกตอบแบบคำ�ถาม 2 ชั้น

สถานการณ…์ …………………………………………………………......................

ค�ำ ถาม…………………………………………………....................………………….

ตวั เลอื ก
ก................................................
ข................................................
ค................................................
ง................................................

ค�ำ ถามที่ 2 (ถามเหตุผลของการตอบค�ำ ถามที่ 1)
……………………………………………………………........................................
……………………………………………………………........................................

แบบทดสอบแบบเลือกตอบมีข้อดีคือ สามารถใช้วัดผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนได้ครอบคลุม
เนอื้ หาตามจดุ ประสงค์ สามารถตรวจใหค้ ะแนนและแปลผลคะแนนไดต้ รงกนั แตม่ ขี อ้ จ�ำ กดั คอื ไมเ่ ปดิ
โอกาสให้นักเรยี นได้แสดงออกอยา่ งอิสระจงึ ไม่สามารถวดั ความคิดระดบั สูง เช่น ความคดิ สร้างสรรค์
ได้ นอกจากนีน้ กั เรียนทีไ่ ม่มีความรสู้ ามารถเดาค�ำ ตอบได้

1.2) แบบทดสอบแบบถกู หรือผดิ
เปน็ แบบทดสอบทมี่ ตี วั เลอื ก ถกู และผดิ เทา่ นน้ั มอี งคป์ ระกอบ 2 สว่ น คอื ค�ำ สงั่ และขอ้ ความ
ให้นกั เรยี นพจิ ารณาวา่ ถูกหรอื ผิด ดังตวั อย่าง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

376 ภาคผนวก คู่มือครู วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

แบบทดสอบแบบถูกหรือผดิ

ค�ำ สั่ง ใหพ้ ิจารณาว่าข้อความต่อไปน้ีถกู หรือผดิ แล้วใสเ่ ครือ่ งหมาย หรอื หนา้
ขอ้ ความ

………… 1. ขอ้ ความ……………………………………………..……………..………………….....
………… 2. ขอ้ ความ……………………………………………..……………..………………….....
………… 3. ขอ้ ความ……………………………………………..……………..………………….....
………… 4. ขอ้ ความ……………………………………………..……………..………………….....
………… 5. ขอ้ ความ……………………………………………..……………..………………….....

แบบทดสอบรูปแบบนี้สามารถสร้างได้ง่าย รวดเร็ว และครอบคลุมเนื้อหา สามารถตรวจได้
รวดเรว็ และใหค้ ะแนนไดต้ รงกนั แตน่ กั เรยี นมโี อกาสเดาไดม้ าก และการสรา้ งขอ้ ความใหเ้ ปน็ จรงิ หรอื
เป็นเทจ็ โดยสมบรู ณ์ในบางเน้ือท�ำ ไดย้ าก
1.3) แบบทดสอบแบบจบั คู่
ประกอบด้วยสว่ นท่ีเปน็ คำ�สงั่ และข้อความ 2 ชุด ที่ใหจ้ บั คกู่ ัน โดยขอ้ ความชุดท่ี 1 อาจเป็น
ค�ำ ถาม และขอ้ ความชดุ ท่ี 2 อาจเปน็ ค�ำ ตอบหรอื ตวั เลอื ก โดยจ�ำ นวนขอ้ ความในชดุ ท่ี 2 อาจมมี ากกวา่
ในชดุ ที่ 1 ดังตัวอย่าง

แบบทดสอบแบบจบั คู่

ค�ำ สัง่ ใหน้ �ำ ตวั อกั ษรหนา้ ขอ้ ความในชดุ ค�ำ ตอบมาเตมิ ในชอ่ งวา่ งหนา้ ขอ้ ความในชดุ
คำ�ถาม

ชดุ คำ�ถาม ชดุ คำ�ตอบ

……… 1. ………………………………… ก. …………………………………
……… 2. ………………………………… ข. …………………………………
……… 3. ………………………………… ค. …………………………………
ง. …………………………………

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครู วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ ภาคผนวก 377

แบบทดสอบรูปแบบนี้สร้างได้ง่ายตรวจให้คะแนนได้ตรงกัน และเดาคำ�ตอบได้ยากเหมาะ
สำ�หรับวัดความสามารถในการหาความสัมพันธ์ระหว่างคำ�หรือข้อความ 2 ชุด แต่ในกรณีท่ีนักเรียน
จับคู่ผิดไปแล้วจะทำ�ให้มกี ารจบั คู่ผดิ ในคอู่ ืน่ ๆ ดว้ ย

2) แบบทดสอบแบบเขียนตอบ
เป็นแบบทดสอบท่ีให้นักเรียนคิดคำ�ตอบเอง จึงมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นและสะท้อน
ความคิดออกมาโดยการเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจ โดยท่ัวไปการเขียนตอบมี 2 แบบ คือ การเขียนตอบ
แบบเตมิ ค�ำ หรอื การเขยี นตอบอย่างสนั้ และการเขยี นตอบแบบอธบิ าย รายละเอียดของแบบทดสอบ
ท่ีมีการตอบแตล่ ะแบบเป็นดังน้ี
2.1) แบบทดสอบเขียนตอบแบบเติมคำ�หรอื ตอบอย่างสน้ั
ประกอบด้วยคำ�สั่ง และข้อความที่ไม่สมบูรณ์ซ่ึงจะมีส่วนท่ีเว้นไว้เพ่ือให้เติมคำ�ตอบหรือ
ขอ้ ความสน้ั ๆ ทที่ �ำ ใหข้ อ้ ความขา้ งตน้ ถกู ตอ้ งหรอื สมบรู ณ์ นอกจากนแี้ บบทดสอบยงั อาจประกอบดว้ ย
สถานการณ์และคำ�ถามที่ให้นักเรียนตอบโดยการเขียนอย่างอิสระ แต่สถานการณ์และคำ�ถามจะเป็น
สง่ิ ทก่ี �ำ หนดคำ�ตอบให้มีความถูกต้องและเหมาะสม
แบบทดสอบรูปแบบนส้ี รา้ งไดง้ ่าย มโี อกาสเดาไดย้ าก และสามารถวนิ จิ ฉัยคำ�ตอบท่นี กั เรียน
ตอบผิดเพ่ือให้ทราบถึงข้อบกพร่องทางการเรียนรู้หรือความเข้าใจท่ีคลาดเคล่ือนได้ แต่การจำ�กัด
คำ�ตอบให้นักเรียนตอบเป็นคำ� วลี หรือประโยคได้ยาก ตรวจให้คะแนนได้ยากเนื่องจากบางคร้ังมี
ค�ำ ตอบถูกต้องหรือยอมรับไดห้ ลายค�ำ ตอบ
2.2) แบบทดสอบเขยี นตอบแบบอธิบาย
เป็นแบบทดสอบทต่ี ้องการใหน้ กั เรียนสรา้ งค�ำ ตอบอย่างอิสระ ประกอบดว้ ยสถานการณ์และ
ค�ำ ถามทส่ี อดคล้องกนั โดยค�ำ ถามเป็นคำ�ถามแบบปลายเปิด
แบบทดสอบรปู แบบนใ้ี หอ้ สิ ระแกน่ กั เรยี นในการตอบจงึ สามารถใชว้ ดั ความคดิ ระดบั สงู ได้ แต่
เนอ่ื งจากนกั เรยี นตอ้ งใชเ้ วลาในการคดิ และเขยี นค�ำ ตอบมาก ท�ำ ใหถ้ ามไดน้ อ้ ยขอ้ จงึ อาจท�ำ ใหว้ ดั ไดไ้ ม่
ครอบคลมุ เนอ้ื หาทง้ั หมด รวมทง้ั ตรวจใหค้ ะแนนยาก และการตรวจใหค้ ะแนนอาจไมต่ รงกนั

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

378 ภาคผนวก คู่มอื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

แบบประเมนิ ทกั ษะ

เมื่อนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงจะมีหลักฐานร่องรอยท่ีแสดงไว้ท้ังวิธีการปฏิบัติและ
ผลการปฏบิ ตั ิ ซงึ่ หลกั ฐานรอ่ งรอยเหลา่ นนั้ สามารถใชใ้ นการประเมนิ ความสามารถ ทกั ษะการคดิ และ
ทักษะปฏิบัติไดเ้ ป็นอย่างดี

การปฏิบัติการทดลองเป็นกิจกรรมท่ีสำ�คัญที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยท่ัวไป
จะประเมิน 2 ส่วน คือ ประเมินทักษะการปฏิบัติการทดลองและการเขียนรายงานการทดลอง
โดยเครอ่ื งมือท่ใี ช้ประเมนิ ดงั ตวั อยา่ ง

ตวั อย่างแบบสำ�รวจรายการทกั ษะปฏบิ ัตกิ ารทดลอง

ผลการสำ�รวจ

รายการทตี่ อ้ งส�ำ รวจ มี ไมม่ ี
(ระบจุ ำ�นวนคร้งั )
การวางแผนการทดลอง
การทดลองตามขนั้ ตอน
การสังเกตการทดลอง
การบนั ทึกผล
การอภปิ รายผลการทดลองกอ่ นลงขอ้ สรปุ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ ภาคผนวก 379

ตวั อยา่ งแบบประเมนิ ทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารทดลองทใ่ี ชเ้ กณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบแยกองคป์ ระกอบยอ่ ย

ทกั ษะปฏบิ ตั ิ 3 คะแนน 1
การทดลอง 2

ก า ร เ ลื อ ก ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ / เ ลื อ ก ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ / เ ลื อ ก ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ / เ ลื อ ก ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ /
เคร่อื งมอื ในการทดลอง เ ค รื่ อ ง มื อ ใ น ก า ร เ ค รื่ อ ง มื อ ใ น ก า ร เ ค ร่ื อ ง มื อ ใ น ก า ร
ท ด ล อ ง ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ทดลองไดถ้ กู ตอ้ งแต่ ทดลองไมถ่ กู ตอ้ ง
เหมาะสมกบั งาน ไม่เหมาะสมกับงาน

การใชอ้ ปุ กรณ/์ เครอ่ื งมอื ใช้อุปกรณ์/เคร่ือง ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ / เ ค ร่ือ ง ใช้อุปกรณ์/เคร่ือง
ในการทดลอง มื อ ใ น ก า ร ท ด ล อ ง มือในการทดลองได้ มอื ในการทดลองไม่
ได้อย่างคล่องแคล่ว ถกู ตอ้ งตามหลกั การ ถูกต้อง
แ ล ะ ถู ก ต้ อ ง ต า ม ปฏิบตั ิ แตไ่ ม่
หลักการปฏบิ ัติ คลอ่ งแคล่ว

การทดลองตามแผนท่ี ท ด ล อ ง ต า ม วิ ธี ท ด ล อ ง ต า ม วิ ธี ท ด ล อ ง ต า ม วิ ธี
ก�ำ หนด การและข้ันตอนที่ ก า ร แ ล ะ ขั้ น ต อ น ก า ร แ ล ะ ขั้ น ต อ น
กำ�หนดไว้อย่างถูก ที่กำ�หนดไว้ มีการ ที่ กำ � ห น ด ไ ว้ ห รื อ
ต้อง มีการปรับปรุง ปรบั ปรงุ แก้ไขบ้าง ดำ � เ นิ น ก า ร ข้ า ม
แกไ้ ขเป็นระยะ ขั้ น ต อ น ที่ กำ � ห น ด
ไว้ ไมม่ ีการปรับปรงุ
แก้ไข

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

380 ภาคผนวก คมู่ อื ครู วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

ตัวอยา่ งแบบประเมนิ ทกั ษะปฏิบตั กิ ารทดลองทใี่ ช้เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบมาตรประมาณค่า

ทกั ษะทป่ี ระเมิน ผลการประเมิน
ระดบั 2
ระดบั 3 ระดับ 1

1. วางแผนการทดลองอย่างเป็น ระดบั 3 หมายถงึ ระดบั 2 หมายถงึ ระดบั 1 หมายถงึ
ข้ันตอน ปฏบิ ตั ไิ ดท้ ง้ั 3 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ดท้ ง้ั 2 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ดท้ ง้ั 1 ขอ้

2. ป ฏิ บั ติ ก า ร ท ด ล อ ง ไ ด้ อ ย่ า ง
คล่องแคล่ว สามารถเลือกใช้
อุปกรณ์ได้ถูกต้อง เหมาะสม
และจดั วางอปุ กรณเ์ ปน็ ระเบยี บ
สะดวกตอ่ การใช้งาน

3. บันทึกผลการทดลองได้ถูกต้อง
และครบถ้วนสมบูรณ์

ตัวอย่างแนวทางการให้คะแนนการเขียนรายงานการทดลอง

คะแนน

321

เขียนรายงานตาม เขียนรายงานการ เขียนรายงานโดย
ลำ � ดั บ ข้ั น ต อ น ทดลองตามลำ�ดับ ลำ � ดั บ ข้ั น ต อ น ไ ม่
ผลการทดลองตรง แ ต่ ไ ม่ ส่ื อ ค ว า ม สอดคล้องกัน และ
ตามสภาพจริงและ หมาย ไมส่ ่อื ความหมาย
สอ่ื ความหมาย

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะดา้ นจิตวทิ ยาศาสตร์

การประเมินจิตวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำ�ได้โดยตรง โดยทั่วไปทำ�โดยการตรวจสอบพฤติกรรม
ภายนอกทปี่ รากฏใหเ้ หน็ ในลกั ษณะของค�ำ พดู การแสดงความคดิ เหน็ การปฏบิ ตั หิ รอื พฤตกิ รรมบง่ ชท้ี ่ี
สามารถสงั เกตหรอื วดั ได้ และแปลผลไปถงึ จติ วทิ ยาศาสตรซ์ ง่ึ เปน็ สงิ่ ทสี่ ง่ ผลใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมดงั กลา่ ว
เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ประเมินคณุ ลักษณะดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ ดังตัวอย่าง

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ ภาคผนวก 381

ตัวอย่างแบบประเมินคุณลักษณะดา้ นจิตวทิ ยาศาสตร์

ค�ำ ชแ้ี จง จงทำ�เครื่องหมาย ลงในช่องว่างท่ีตรงกับคุณลักษณะที่นักเรียนแสดงออก โดยจำ�แนก
ระดบั พฤตกิ รรมการแสดงออกเป็น 4 ระดบั ดังน้ี
มาก หมายถึง นักเรยี นแสดงออกในพฤติกรรมเหลา่ นัน้ อย่างสม่ำ�เสมอ
ปานกลาง หมายถงึ นกั เรยี นแสดงออกในพฤตกิ รรมเหลา่ นน้ั เปน็ คร้ังคราว
น้อย หมายถึง นกั เรยี นแสดงออกในพฤตกิ รรมเหล่านั้นน้อยครง้ั
ไมม่ ีการแสดงออก หมายถึง นักเรียนไม่แสดงออกในพฤติกรรมเหล่านนั้ เลย

ระดับพฤติกรรมการแสดงออก

รายการพฤตกิ รรมการแสดงออก มาก ปาน น้อย ไม่มกี าร

ด้านความอยากร้อู ยากเห็น กลาง แสดงออก
1. นักเรียนสอบถามจากผู้รู้หรือไปศึกษา

ค้นคว้าเพิ่มเติม เม่ือเกิดความสงสัยใน
เรอ่ื งราววทิ ยาศาสตร์
2. นกั เรยี นชอบไปงานนิทรรศการ
วทิ ยาศาสตร์
3. นักเรียนน�ำ การทดลองที่สนใจไป
ทดลองต่อทบ่ี ้าน

ด้านความซอื่ สัตย์
1. นักเรียนรายงานผลการทดลองตามท่ี

ทดลองได้จรงิ
2. เมอ่ื ท�ำ การทดลองผดิ พลาด นกั เรยี นจะ

ลอกผลการทดลองของเพอ่ื ส่งครู
3. เมื่อครมู อบหมายให้ทำ�ชน้ิ งาน

ออกแบบส่งิ ประดษิ ฐ์ นกั เรียนจะ
ประดษิ ฐ์ตามแบบท่ปี รากฏอยใู่ น
หนังสอื

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

382 ภาคผนวก คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

ระดับพฤตกิ รรมการแสดงออก

รายการพฤตกิ รรมการแสดงออก มาก ปาน นอ้ ย ไมม่ กี าร

ดา้ นความใจกว้าง กลาง แสดงออก
1. แมว้ า่ นกั เรยี นจะไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั การสรปุ

ผลการทดลองในกลุ่ม แต่ก็ยอมรับผล
สรุปของสมาชกิ ส่วนใหญ่
2. ถา้ เพอื่ นแยง้ วธิ กี ารทดลองของนกั เรยี น
และมีเหตุผลที่ดีกว่า นักเรียนพร้อม
ท่ี จ ะ นำ � ข้ อ เ ส น อ แ น ะ ข อ ง เ พ่ื อ น ไ ป
ปรบั ปรงุ งานของตน
3. เม่ืองานท่ีนักเรียนต้ังใจและทุ่มเททำ�
ถูกตำ�หนิหรือโต้แย้ง นักเรียนจะหมด
ก�ำ ลงั ใจ

ด้านความรอบคอบ
1. นักเรียนสรุปผลการทดลองทันทีเม่ือ

เสรจ็ สิ้นการทดลอง
2. นักเรียนทำ�การทดลองซ้ำ� ๆ ก่อนที่จะ

สรุปผลการทดลอง
3. นักเรียนตรวจสอบความพร้อมของ

อปุ กรณก์ ่อนท�ำ การทดลอง

ดา้ นความมงุ่ ม่ันอดทน
1. ถึงแม้ว่างานค้นคว้าท่ีทำ�อยู่มีโอกาส

ส�ำ เรจ็ ไดย้ าก นกั เรยี นจะยงั คน้ ควา้ ตอ่ ไป
2. นกั เรยี นลม้ เลกิ การทดลองทนั ที เมอ่ื ผล

การทดลองทไี่ ดข้ ดั จากทเ่ี คยไดเ้ รยี นมา
3. เม่ือทราบว่าชุดการทดลองท่ีนักเรียน

สนใจต้องใช้ระยะเวลาในการทดลอง
นาน นักเรียนก็เปล่ียนไปศึกษาชุดการ
ทดลองท่ใี ช้เวลาน้อยกวา่

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version