The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by medical, 2022-09-15 06:21:34

คู่มือการใช้ยาที่มีความเสี่ยงสูง High Alert Drug

พิมพ์ครั้งที่ 6 ปี 2565

Keywords: High Alert Drug,ยาที่มีความเสี่ยงสูง

High Alert Drug

คม‹ู อื การใชยŒ าที่มคี วามเสยี่ งสูง

พ�มพค รัง้ ท่ี 6
เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ )

สารบญั

เรื่อง หนา

นยิ ามศัพท#ท่ใี ชในคมู อื นี้ 1
ระเบียบปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับยาท่ีมีความเสยี่ งสงู 2
Antiarrhythmics, IV
12
Lidocaine IV injection
Antithrombotic agents (parenteral and oral) 16

Classical anticoagulants 23
Heparin (Unfractionated) 29
Low Molecular Weight Heparins 34
Bemiparin 39
Enoxaparin 46
Fondaparinux
Tinzaparin 63
Warfarin 67
71
Direct-Acting Oral Anticoagulants 75
Apixaban
Dabigatran 81
Edoxaban 92
Rivaroxaban
97
Thrombolytic agents 102
Alteplase 106
Tenecteplase 110
114
Blood pressure-lowering agents, IV
Esmolol
Labetalol
Nicardipine
Nitroglycerin
Sodium nitroprusside

High Alert Drug คูมือการใชยาทมี่ คี วามเสี่ยงสูง พิมพ#ครงั้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง)
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

Cytotoxic chemotherapeutic agents, parenteral and oral 117
Electrolyte solutions, IV
130
Calcium injection 136
Magnesium sulphate injection 142
Potassium injection 148
Sodium chloride 3% injection
Inotropic drugs, parenteral and oral 152
Digoxin 157
Dobutamine 164
Dopamine 172
Insulin and insulin analogues, parenteral
Neuromuscular blocking agents, IV 186
Atracurium 192
Cisatracurium 197
Pancuronium 202
Rocuronium 207
Succinylcholine
Opioids, parenteral and oral 212
Fentanyl 218
Morphine 228
Pethidine
Sedative drugs, parenteral and oral (for children) 234
Chloral hydrate (oral) 237
Dexmedetomidine (IV) 242
Ketamine (IV) 246
Midazolam (IV) 253
Propofol (IV)
Vasopressor drugs, IV 258
Adrenaline 267
Norepinephrine

High Alert Drug คูมือการใชยาทม่ี คี วามเสี่ยงสงู พิมพค# รงั้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง)
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

ยาเบาหวานชนดิ รบั ประทานกลุม sulfonylureas 274
Glibenclamide, gliclazide, glimepiride, glipizide
282
ยาเบาหวานชนิดรับประทานกลมุ non-sulfonylureas (meglitinides)
Repaglinide 288
295
ยาเบาหวานชนดิ รับประทานกลมุ thiazolidinediones
Pioglitazone

รายนามผจู ัดทํา

High Alert Drug คูมือการใชยาที่มีความเสี่ยงสงู พิมพค# รัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ )
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลยี่ นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

นิยามศพั ท#ท่ใี ชในคมู ือน้ี

Onset หมายถงึ ระยะเวลาตงั้ แต?ใหยB าเขาB ไปในรา? งกายจนถึงเวลาที่ยาเร่ิมออกฤทธิ์
Peak หมายถงึ ระยะเวลาตัง้ แต?ใหBยาเขBาไปในร?างกายจนถงึ เวลาท่มี ีระดบั ยาสูงสดุ อย?ูในรา? งกายหลังจาก Peak แลวB
ยาในรา? งกายจะลดลงตามลาํ ดับ
Duration หมายถึง ระยะเวลาทยี่ ายงั คงมีฤทธอ์ิ ยู?

แหลงขอมลู ทใี่ ชนอกเหนอื จากเอกสารวชิ าการ
การจัดทําคู?มือน้ี เป]นการปรับปรุงจากคู?มือฉบับป_ พ.ศ. 2560 โดยไดBเพ่ิมเติมเน้ือหาและมีขBอมูลเพิ่มจาก

การดําเนินงานในช?วงหลายป_ที่ผา? นมา โดยมแี หล?งที่มาดังน้ี
1. ท่ีมาของตารางขนาดยา

คํานวณโดยเภสัชกรจากฝmายเภสัชกรรม โรงพยาบาลศิริราช
2. ท่มี าของ High Alert Drug Cards

ท่ีประชุมคณะทํางานสหสาขาวิชาชีพแพทยn พยาบาล เภสัชกร ซ่ึงประสานงานโดยงานจัดการความรูB และ
งานพฒั นาคณุ ภาพ คณะแพทยศาสตรศn ิริราชพยาบาล
3. ทีม่ าของ Guidelines การใชB Heparin และ Low Molecular Weight Heparins

ท่ปี ระชุมคณะทาํ งานสหสาขาวิชาชีพแพทยn พยาบาล เภสัชกร เพื่อพัฒนา Concurrent Trigger Tool ซ่ึง
ประสานงานโดยงานจดั การความรBู และงานพฒั นาคณุ ภาพ คณะแพทยศาสตรnศิรริ าชพยาบาล
4. เอกสารอาB งอิงของยาแต?ละชนิดไดใB สไ? วทB าB ยบทของยานนั้

High Alert Drug คูมือการใชยาท่ีมคี วามเสี่ยงสูง พิมพค# รั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 1
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

ระเบยี บปฏิบตั เิ กีย่ วกบั ยาทมี่ คี วามเสี่ยงสูง

1. วตั ถปุ ระสงค#
เพื่อใหBการใชBยาทีม่ ีความเสี่ยงสงู ในการรกั ษาผูBปวm ยของโรงพยาบาลศริ ิราชมคี วามปลอดภยั

2. ขอบขาย
การจดั การยาท่ีมีความเสี่ยงสงู ทุกขัน้ ตอน ตง้ั แต?การจดั ซื้อ การเก็บรกั ษา การสงั่ ใชB การระบฉุ ลาก การจ?าย

ยา การบริหารยา การติดตามผลการใชBยา และการทําลายยา โดยเนBนดําเนินการเป]นทีมสหสาขาวิชาชีพทั้งแพทยn
เภสัชกร พยาบาลและบุคลากรอ่นื ๆทเี่ กย่ี วขอB ง

3. ความรบั ผิดชอบ
3.1 คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช เป]นผูBรับผิดชอบในการพิจารณาและกําหนด
หลักเกณฑnการใชยB าท่ีมคี วามเสยี่ งสงู ในโรงพยาบาลเพ่ือใหเB กดิ การใชBยาอย?างปลอดภัย
3.2 แพทยแn ละบุคลากรของภาควชิ าต?าง ๆ เป]นผรBู ับผิดชอบการสง่ั ใชBตลอดจนการบริหารยาและการเฝwาระวังผลการ
ใชยB าต?อผูBปวm ย ในกรณที ่เี ป]นผบูB ริหารยา และการตดิ ตามผลของการใชยB าที่มคี วามเส่ยี งสูงทมี่ ใี ชBในภาควิชาของตน
3.3 ฝmายเภสัชกรรมเป]นผรBู ับผิดชอบการบริหารจัดการในส?วนของการจัดซ้ือ การเก็บรักษาในคลังยาและหBองจ?ายยา
การระบุฉลาก การจ?ายยา การจัดสง? และการใหBขBอมูลยาท่ีมีความเส่ยี งสงู
3.4 ฝmายการพยาบาลเป]นผBูรับผิดชอบการเก็บรักษายาท่ีมีความเส่ียงสูงในหอผBูปmวย การใหBยาและการเฝwาระวังผล
การใชตB อ? ผปBู mวยและรายงานแพทยเn จาB ของไขB
3.5 ทีมนาํ ทางคลนิ ิก เป]นผูBรบั ผดิ ชอบตดิ ตามประเมนิ ผลของการใชยB าทมี่ คี วามเส่ียงสงู ในผปูB mวยของตน
3.6 ผูBเก่ียวขBองทกุ คนมหี นาB ทใ่ี นการรายงานเหตุการณnผดิ ปกติท่ีเกดิ ข้ึนตามระบบรายงานของโรงพยาบาล

4. คาํ จํากดั ความ
ยาที่มีความเส่ียงสูง (High Alert Drug) หมายถึง กล?ุมยาที่อาจก?ออันตรายอย?างรุนแรงไดBถBานําไปใชBไม?

ถกู ตอB ง หรอื เมือ่ ใชยB าผิดพลาด ซง่ึ อาจจะพบไดBบ?อยหรือไม?ก็ไดB รวมถึงกล?ุมยาที่มีดัชนีการรักษาแคบ หากมีเหตุท่ีทํา
ใหBเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับยาในเลือด แมBจะใชBอย?างถูกตBอง ก็อาจนําไปส?ูเหตุการณnไม?พึงประสงคnในระดับ
รุนแรงตอ? ผูปB วm ยไดB*
หมายเหตุ* รวบรวมและดัดแปลงจากคําจํากัดความขององคการอนามัยโลก (WHO) สถาบันเพื่อการปฏิบัติที่ปลอดภัยด,าน
การใชย, า (ISMP) และสถาบนั รับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.)

High Alert Drug คูมอื การใชยาทีม่ ีความเส่ียงสงู พิมพ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 2
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

5. ความสําคญั และทมี่ า
การพฒั นาระบบบรกิ ารสุขภาพโดยคํานึงถึงความปลอดภัยของผูBปmวย จัดเป]นประเด็นสําคัญพื้นฐานในการ

เสริมสรBางระบบบริการที่มคี ุณภาพ เป]นทไี่ ววB างใจ ตอบสนองต?อความตBองการและความคาดหวงั ของผBูรบั บริการดBาน
สุขภาพ ซ่ึงสถานพยาบาลควรมีการกําหนดเปwาหมายดําเนินการ การติดตามผลลัพธn และการนําผลมาทบทวน
ปรบั ปรงุ แนวทางการใหBบริการอย?างต?อเน่ือง จนเกิดเป]นวัฒนธรรมความปลอดภัยในองคnกร ซ่ึงสอดคลBองกับเกณฑn
เปwาหมายของหน?วยงานที่ใหBการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลทั้งในระดับสากล ไดBแก? International Patient
Safety Goals โดย Joint Commission International (JCI) ซึ่งพัฒนามาจากเปwาหมายความปลอดภัยของผูBปmวย
นานาชาติของ The Joint Commission on Accreditation of Healthcare Organizations (JCAHO) และใน
ระดับประเทศ โดยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) เกณฑnคุณภาพท้ังสองนี้มีขBอกําหนดต?าง ๆ ซ่ึง
คลBายคลึงกัน โดยพิจารณาจากอุบัติการณnหรือเหตุการณnไม?พึงประสงคnดBานสุขภาพท่ีพบไดBบ?อย และหนึ่งในจุดเนBน
ของทั้ง 2 องคnกร คือ สถานพยาบาลตBองมีแนวทางตามบริบทในการเพ่ิมความปลอดภัยสําหรับการใชBยาท่ีมีความ
เสี่ยงสูง หรอื ยาทต่ี Bองระมัดระวงั สูง เพอ่ื ลดอันตรายรนุ แรงที่อาจเกิดแก?ผBรู บั บริการดาB นสุขภาพ

ในบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัดไดBจัดใหBมีการทบทวนเพื่อพัฒนา
แนวทางและข้ันตอนการปฏิบัติงานมาตรฐานเพื่อเสริมสรBางความปลอดภัยจากการใชBยามาเป]นลําดับ รวมถึงการ
กาํ หนดประเด็นความปลอดภัยจากการใชBยาทม่ี คี วามเสีย่ งสูง โดยมวี ัตถปุ ระสงคเn พือ่ ลดเหตกุ ารณไn ม?พึงประสงคn และ
ความคลาดเคลื่อนจากการใชBยาท่ีถูกระบุว?ามีความเส่ียงสูง และอาจก?อใหBเกิดอันตรายรุนแรงหากถึงตัวผBูปmวย
สอดคลBองกับเปwาหมายเร่ืองความปลอดภัยของผBูปmวยที่ประกาศโดยองคnการอนามัยโลกในป_ ค.ศ. 2017 ว?าเป]น
“The Third Global Patient Safety Challenge: Medication Without Harm” รวมถึงขBอกําหนดในกรอบงาน
พนื้ ฐานระบบยาทีจ่ ัดทาํ โดยสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) และที่ สรพ. กําหนดเป]นมาตรฐานสําคัญ
จําเป]นสําหรับความปลอดภัยตาม Patient Safety Goals: SIMPLE Thailand (2018) ซึ่งในเวลาต?อมา ไดBมีการ
ปรับเพมิ่ แนวคิดขึน้ เป]นนโยบายแห?งชาติ Patient and Personnel Safety (2P Safety)

High Alert Drug คมู อื การใชยาที่มีความเสย่ี งสงู พิมพ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 3
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

6. รายการยาทีม่ ีความเสย่ี งสูง โรงพยาบาลศริ ิราช
รายการยาท่ีประกาศเป]น ยาท่ีมีความเสี่ยงสูง ในโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งรวบรวมจากเอกสารอBางอิงและ

รายงานอบุ ัตกิ ารณnดาB นยาทผี่ า? นมามที ง้ั หมด 12 กล?มุ

กลมุ ที่ กลมุ ยา/ชื่อยา (รายการยา)

1. Vasopressor drugs, IV
[adrenaline (epinephrine) และ noradrenaline (norepinephrine)]

2. Inotropic drugs, parenteral and oral
(digoxin, dobutamine และ dopamine)

3. Antiarrhythmics, IV
(lidocaine)

4. Blood pressure-lowering agents, IV
(esmolol, labetalol, nicardipine, nitroglycerin และ sodium nitroprusside)

5. Antithrombotic agents (parenteral and oral)
5.1 Classical anticoagulants
5.1.1 unfractionated heparin
5.1.2 low molecular weight heparin (bemiparin, enoxaparin, fondaparinux และ
tinzaparin)
5.1.3 warfarin
5.2 Direct-acting oral anticoagulants (DOACs) (apixaban, dabigatran, edoxaban และ rivaroxaban)
5.3 Thrombolytic agents (alteplase และ tenecteplase)

6. Cytotoxic chemotherapeutic agents, parenteral and oral
(ยากลุ?ม alkylating agents, angiogenesis inhibitors, anthracenediones (topoisomerase II
inhibitors), anthracyclines, antibiotics, antimetabolites, antimicrotubulars, camptothecins
(topoisomerase I inhibitors), podophyllotoxin derivatives, retinoic acid derivatives และ
miscellaneous)

7. Neuromuscular blocking agents, IV
(atracurium, cisatracurium, pancuronium, rocuronium และ succinylcholine)

8. Opioids, parenteral and oral
(fentanyl, morphine และ pethidine)

9. Sedative drugs, parenteral and oral (for children)
[dexmedetomidine (IV), ketamine(IV), propofol (IV), midazolam (IV) และ chloral
hydrate(oral)]

High Alert Drug คมู ือการใชยาทีม่ คี วามเส่ียงสงู พิมพค# ร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 4
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

กลุมที่ กลมุ ยา/ชอ่ื ยา (รายการยา)

10. Insulin and insulin analogue, parenteral
(insulin aspart, insulin glulisine, insulin lispro, regular insulin, NPH insulin, insulin glargine,
insulin detemir, insulin degludec, NPH insulin+regular insulin, insulin lispro+insulin lispro
protamine, insulin aspart+insulin aspart with protamine, insulin degludec+insulin aspart
insulin glargine+lixisenatide และ insulin degludec+liraglutide)

11. Electrolyte solutions, IV
(3% sodium chloride, calcium chloride and calcium gluconate, magnesium sulfate,
potassium chloride และ dipotassium phosphate)

12 ยาเบาหวานชนิดรับประทานกลมุ sulfonylureas, meglitinides และ thiazolidinediones
(glibenclamide, gliclazide, glimepiride, glipizide, pioglitazone และ repaglinide)

7. แนวทางการกาํ กับดแู ลยาที่มคี วามเสี่ยงสงู
กรอบแนวคิดเพื่อขับเคลื่อนความปลอดภัยในการใชBยาท่ีมีความเสี่ยงสูง ครอบคลุมการบริหารจัดการและ

กํากับดูแลอย?างมีประสิทธิภาพใน 4 ส?วนที่สําคัญ ไดBแก? 1) ตัวผูBปmวยและสาธารณชน (Patients and the public)
2) บุคลากรสาธารณสุข (Healthcare professionals) 3) ยาที่มีความเส่ียงสูง (Medicines) และ 4) ระเบียบและ
การปฏิบัติในการใชBยาที่มีความเสี่ยงสูง (System and practices of medication) โดยมีรายละเอียดแยกในแต?ละ
ส?วนตามที่องคกn ารอนามยั โลกไดBสรุปไวB ดังแสดงในรูปท่ี 1

รปู ท่ี 1 Strategic Framework of The Third Global Patient Safety Challenge
Source: The Third WHO Global Patient Safety Challenge: Medication Without Harm.
Available at: https://www.who.int/patientsafety/medication-safety/en/

High Alert Drug คมู อื การใชยาที่มคี วามเส่ยี งสูง พิมพ#ครง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 5
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

7.1 ตวั ผปู oวยและสาธารณชน
เปwาหมายสูงสุดในการกํากับดูแลยาท่ีมีความเสี่ยงสูง คือ ทําใหBเกิดความปลอดภัยของผูBปmวย การบริหาร

จดั การเกี่ยวกบั ยาทีม่ ีความเส่ียงสงู ทีโ่ รงพยาบาลศิรริ าชไดBดําเนนิ การ ไดแB ก?
1) การแจกเอกสารคําแนะนาํ ในการใชBยาทีม่ คี วามเสยี่ งสูงบางรายการ ไดBแก? warfarin, heparin, digoxin,

ยากล?มุ DOACs และยากลุ?ม opioids
2) การบริการใหBคําปรึกษาดBานยาและพิษวิทยา โดยเภสัชกรของหน?วยขBอมูลยาและพิษวิทยา ตลอด 24

ชัว่ โมง โดยผรBู ับบรกิ ารสามารถโทรศัพทnเขBามาสอบถามปญ† หาเก่ียวกับยาไดตB ลอดเวลา
3) การใหคB วามรBดู Bานยาแกผ? Bูปวm ยและสาธารณชนในนทิ รรศการตา? ง ๆ ท่จี ัดขนึ้ ในโรงพยาบาล
4) การใชงB านแอปพลเิ คช่ัน RDU รเูB รอื่ งยา ทําใหผB ูปB mวยสามารถเขาB ถึงขBอมลู รายการยาทงั้ หมดทต่ี นเองไดBรับ

และขอB มูลท่ีจาํ เป]นเก่ยี วกับยาที่ตนเองไดBรับ
7.2 บุคลากรสาธารณสุข

บุคลากรสาธารณสุขมีส?วนสําคัญในการปwองกันป†ญหาที่อาจเกิดจากการใชBยาท่ีมีความเสี่ยงสูง ป†จจุบัน
โรงพยาบาลไดดB ําเนินการในโครงการต?าง ๆ เพือ่ ปอw งกันความผิดพลาดจากการใชBยาทม่ี คี วามเส่ียงสูง ไดBแก?

1) การอบรมความรBูเร่อื งยาท่ีมคี วามเสี่ยงสูงสําหรบั เภสัชกรใหม? พยาบาลใหม? และแพทยnประจําบBานป_ที่ 1
เพอ่ื ใหBรบั ทราบนโยบาย ระเบยี บปฏิบตั ิของโรงพยาบาลท่เี กีย่ วขBองกับยาทมี่ ีความเส่ยี งสงู และจุดเนนB ความปลอดภัย
ในการใชBยาทมี่ ีความเสย่ี งสูง

2) การแจกคมู? อื ยาทม่ี คี วามเสย่ี งสงู ไปยังหอผปBู mวย และหนว? ยงานตา? ง ๆ ทีเ่ ก่ียวขอB ง
3) การใชB pre-printed order เพ่ือปwองกนั การเกดิ ความคลาดเคลือ่ นทางยา
4) การใชB standing order ในการสั่งใชBยากลุ?ม inotropes และ ยากล?ุม anti-cancers เพ่ือปwองกันการ
เกิดความคลาดเคล่ือนทางยา
5) การมที มี สหสาขาวชิ าชีพในจุดท่มี ีความเสี่ยงตอ? การเกิดความผิดพลาดในการใชยB าที่มคี วามเสี่ยงสงู ไดBแก?
หBองแพทยเn วร/หอB งฉุกเฉนิ หอผปBู วm ยอายุรกรรมต?าง ๆ และคลินกิ warfarin
6) การมีระบบการรายงานอุบัติการณnท่ีบุคลากรทางการแพทยnสามารถรายงานไดBทันที โดยเม่ือเกิด
อุบตั กิ ารณทn ี่เกี่ยวกบั ยาทม่ี คี วามเสย่ี งสูงจะตอB งมีการวเิ คราะหnสาเหตุราก และมีการรวบรวมและตดิ ตามเป]นระยะ

7.3 ยาทีม่ คี วามเสีย่ งสูง
โรงพยาบาลศริ ิราชมกี ารกํากับดูแลในทกุ กระบวนการทเ่ี ก่ยี วขBองกับยาท่มี ีความเสยี่ งสงู ไดBแก?
1) การคัดเลือกยาเขBามาในโรงพยาบาล จะเสนอนําเขBาตามความจําเป]นโดยตBองผ?านการพิจารณาจาก

คณะทาํ งานยาแต?ละกล?มุ โดยกาํ หนดมาตรการในการปwองกนั อันตรายอยา? งเหมาะสม การปwองกันป†ญหาเกี่ยวกับยาที่
มีชอื่ พBองมองคลาB ย (look-alike, sound-alike medications)

2) การมีสญั ลกั ษณnสีชมพสู ดเตอื นบุคลากรวา? เปน] ยาทม่ี ีความเสี่ยงสูงซึ่งอาจจะเป]นสติ๊กเกอรnรูปกลมหรือใชB
สีสะทBอนแสงสีชมพขู ดี ทช่ี ่ือยา

3) การแยกบรเิ วณในการเก็บรกั ษายาทม่ี คี วามเส่ยี งสงู เพ่ือใหBเหน็ ความแตกตา? งจากยาอืน่ ๆ
4) การนบั จาํ นวนยาคงเหลอื ของยาที่มีความเสีย่ งสงู ทุกวันทาํ การของหอB งยา

High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ ีความเสี่ยงสูง พิมพ#ครั้งที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 6
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

5) นโยบายการอนญุ าตใหBมียาทมี่ ีความเสยี่ งสูงเฉพาะในหนว? ยบริการท่มี ีความจําเป]นตBองมีการสาํ รองยาท่ีมี
ความเสี่ยงสงู เชน? รถ emergency บนหอผปBู mวย และ CPR box เป]นตนB

7.4 ระเบียบและการปฏบิ ัติในการใชยาทมี่ ีความเสี่ยงสูง
เพอ่ื ใหBการใชBยาทมี่ คี วามเสี่ยงสูงในการรกั ษาผูBปวm ยของโรงพยาบาลศิริราชมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ

และคณุ ภาพ ดังนั้นคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั เปน] ผBูกําหนดแนวทางการบรหิ ารจัดการยาท่ีมีความเส่ียง
สงู ทุกข้ันตอน ต้งั แต?กระบวนการจดั ซือ้ การรบั ยาเขาB มาในโรงพยาบาล การเกบ็ รักษา การสั่งใชB การระบุฉลาก การ
จ?ายยา การบริหารยา การเฝwาระวังและติดตามประเมินผลการใชBยา การควบคุมการใชBยา การทําลายยา โดยเนBน
การดําเนินงานเป]นทีมสหสาขาวิชาชีพ ท้ังแพทยn เภสัชกร พยาบาล และบุคลากรอื่นๆที่เกี่ยวขBอง ซึ่งมีหนBาที่
รับผดิ ชอบดังต?อไปน้ี

คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช เป]นผูBรับผิดชอบในการพิจารณา และ
กําหนดนโยบาย หลักเกณฑn และระเบียบปฏิบัติท่ีเก่ียวกับการใชBยาท่ีมีความเส่ียงสูง เพ่ือกํากับดูแลใหBเกิด
การใชBยาอย?างปลอดภัย

แพทยแ# ละบคุ ลากรของภาควชิ าตาง ๆ เป]นผูBรับผดิ ชอบการสั่งใชBตลอดจนการบริหารยาและการเฝwาระวัง
ผลการใชBยาต?อผBูปmวย ในกรณีท่ีเป]นผูBบริหารยา และการติดตามผลของการใชBยาท่ีมีความเสี่ยงสูงท่ีมีใชBใน
ภาควชิ าของตน

ฝoายเภสัชกรรม เป]นผูBรับผิดชอบการบริหารจัดการในส?วนของการจัดซื้อ การเก็บรักษาในคลังยาและหBอง
จ?ายยา การระบฉุ ลาก การจา? ยยา การจดั ส?งและการใหBขBอมูลยาทมี่ ีความเสี่ยงสงู

ฝoายการพยาบาล เป]นผูรB บั ผดิ ชอบการเกบ็ รักษายาทีม่ ีความเสี่ยงสูงในหอผBูปmวย/หน?วยงาน การใหBยาและ
การเฝwาระวงั และตดิ ตามผลการใชตB อ? ผปูB mวยและรายงานแพทยnเจาB ของไขB

ทมี นาํ ทางคลนิ กิ เป]นผรBู บั ผิดชอบติดตามประเมินผลของการใชยB าทีม่ ีความเสี่ยงสงู ในผูปB วm ยที่รับผิดชอบ

8. แนวทางการกํากบั ดแู ลยาท่ีมีความเสย่ี งสงู โรงพยาบาลศิรริ าช มรี ายละเอยี ดดงั นี้
1) การรับยาเขาB มาใชBในโรงพยาบาล
1.1) ยาทมี่ คี วามเสี่ยงสูงจะเสนอนําเขBาตามความจาํ เปน] โดยตอB งผา? นการพจิ ารณาจากคณะทํางาน

ยาแต?ละกล?ุมโดยกําหนดมาตรการในการปwองกันอันตรายอย?างเหมาะสม และไดBรับอนุมัติจากคณะกรรมการเภสัช
กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช

1.2) ยาท่ีมีความเส่ียงสูงท่ีถูกส?งมาเพ่ือใชBในโรงพยาบาลศิริราชไดBรับการตรวจรับตามมาตรฐาน
ทางเภสัชกรรม

High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี คี วามเส่ยี งสูง พิมพค# ร้งั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 7
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

2) การเก็บรักษา
2.1) ยาที่มีความเส่ียงสูงทุกชนิดตBองเก็บรักษาโดยแยกจากยาอื่น ๆ หรือปwองกันการเขBาถึงไดB

โดยงา? ย (ยกเวBนยาของผปูB วm ยเฉพาะราย)
2.2) ตBองมสี ญั ลกั ษณสn ชี มพสู ดเตอื นบุคลากรวา? เปน] ยาท่ีมีความเสี่ยงสูงซ่ึงอาจจะเป]นสต๊ิกเกอรnรูป

กลมหรือใชBสีสะทBอนแสงสีชมพูขดี ท่ีชอ่ื ยา การติดสตกิ เกอรnใน Medication Administration Record (MAR) ใหBอย?ู
ในความรบั ผดิ ชอบของฝาm ยการพยาบาล

2.3) ยาที่มีความเส่ียงสูงกล?ุมยาเสพติดใหBโทษ (opioids) ไดBแก? morphine, fentanyl และ
pethidine ตBองจํากัดการเขBาถึงโดยตBองใส?ในตBูหรือล้ินชักที่ล็อกเสมอ โดยมีผBูควบคุมการนําออกใชBและมีการ
ตรวจสอบจํานวนยาอย?างสม่ําเสมอ

3) การสงั่ จ?ายยาทีม่ ีความเสี่ยงสูง
3.1) ไม?ส่ังยาท่มี คี วามเสย่ี งสูงดBวยวาจาถBาไม?ใช?กรณีเร?งด?วนและหากจําเป]นตBองสั่งดBวยวาจา ตBอง

ปฏิบตั ติ ามระเบยี บท่ีวางไวBอยา? งเคร?งครัด
3.2) ไมใ? ชคB าํ ยอ? ในการส่ังยาที่นอกเหนอื จากระเบียบการสง่ั จ?ายยาของโรงพยาบาลศริ ิราช
3.3) แพทยnระบตุ ัวผBูปวm ยอย?างถกู ตBองกอ? นการเขยี นสงั่ ยา
3.4) แพทยnพิจารณาผลตรวจทางหBองปฏิบัติการ หรือค?าพารามิเตอรnที่สําคัญก?อนส่ังยาที่มีความ

เสยี่ งสงู ใหBแก?ผปBู วm ย
3.5) แพทยnคาํ นวณขนาดยาซ้ํา กรณตี Bองมกี ารคาํ นวณตามน้าํ หนักหรือพ้นื ท่ีผิวเมื่อส่ังยาท่ีมีความ

เสยี่ งสงู และสงั่ โดยระบขุ นาดยาตอ? หนว? ยนํา้ หนกั หรือพน้ื ทผี่ วิ ดวB ย
3.6) แพทยnพจิ ารณาขBอหBามใชBและอนั ตรกิริยาระหวา? งยาท่ีมีความเส่ียงสูงกับยาอ่ืนๆท่ีผูBปmวยใชBอยู?

ก?อนการส่ังใชBยาทม่ี ีความเส่ยี งสูง
3.7) ถาB มีแบบฟอรมn สําเร็จรปู ใหBแพทยใn ชBแบบฟอรมn สาํ เร็จรูปในการส่ังยาท่ีมีความเส่ยี งสูง
3.8) ถาB มกี ารใชยB าทีม่ คี วามเสยี่ งสงู นอกเหนือจากแบบแผน (protocol) ทีก่ าํ หนดไวBโดยทีมนําทาง

คลินกิ ของภาควิชา ใหแB พทยเn ขียนหมายเหตุความจําเปน] ไวBเป]นหลกั ฐานในคาํ สง่ั การรกั ษาและใบส่ังยา
3.9) หาB มใชคB ําสั่งเกย่ี วกับวิธกี ารเจอื จางยาเปน] สัดสว? น (เช?น 2:1, 4:250) เนอื่ งจากทาํ ใหBเกิดความ

สับสนในการปฏิบัติ อาจทําใหBเกิดความคลาดเคลื่อนทางยาไดB โดยควรส่ังวิธีการเจือจางยาดBวยหน?วยสากล เช?น
mg/mL, mcg/mL

4) การจ?ายยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง
4.1) เมื่อไดBรับใบส่ังจ?ายยาท่ีมีความเสี่ยงสูง เภสัชกรตBองตรวจสอบซ้ําช่ือนามสกุลผBูปmวย ชื่อยา

ขนาดยา อันตรกิริยาระหว?างยา (drug interaction) และผBูปmวยตBองไม?เป]นผูBที่มีขBอหBามใชBยาท่ีมีความเส่ียงสูงนั้น ๆ
(contraindication) ในผปBู วm ยเด็ก เภสัชกรตอB งคํานวณขนาดยาซํ้า กรณีที่พบป†ญหาเภสัชกรตBองติดต?อแพทยnผูBส่ังยา
ทันที

4.2) การจา? ยยาท่มี คี วามเสย่ี งสงู ใหBกระทาํ โดยมีการตรวจสอบซํ้าจากบุคคลอีกคนหนึ่งเสมอเพื่อ
ความถูกตBองของชื่อนามสกลุ ผBปู mวย และความถกู ตอB งของยาทจ่ี ะจา? ย

High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ ีความเส่ียงสงู พมิ พ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 8
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

4.3) การจ?ายยาท่มี ีความเสย่ี งสูง ซ่งึ มเี คร่อื งหมาย **** ที่ช่ือยา ตBองติดฉลากช?วย ขBอควรระวังไวB
ท่ีซองยาหรอื ขวดยาหรือมีเอกสารแนะนําผูBปวm ยประกอบการส?งมอบยาทุกคร้ัง

4.4) สําหรับผูBปmวยนอก เภสัชกรเป]นผูBตรวจสอบ ส?งมอบใหBความรBูในการใชBยาและการเฝwาระวัง
ผลขาB งเคียงของยาทมี่ ีความเสยี่ งสงู ใหผB ปBู mวยทราบ

5) การบริหารยา
5.1) เมอื่ ตอB งใหBยา แพทยnหรอื พยาบาลผBใู หยB าตBองตรวจสอบช่ือนามสกุลผูBปmวย ช่ือยา ขนาดยาใหB

ถกู ตอB งซํ้าก?อนใหBยาผูปB วm ย (ตรวจสอบทุกขนั้ ตอนรวมท้ังคํานวณขนาดยาซา้ํ )
5.2) การเตรยี มยาใหปB ฏิบตั ติ ามทร่ี ะบใุ นคู?มอื ของยาแต?ละชนดิ
5.3) พยาบาลอกี คนหนึง่ เป]นผตBู รวจสอบซ้าํ กอ? นใหยB าแก?ผูBปmวย

6) การเฝาw ระวังผลการใชBยาท่มี คี วามเสย่ี งสงู
6.1) พยาบาลเฝwาระวังอาการของผูBปmวยตามค?ูมือ ติดตามและลงบันทึกผลการใชBยาหรือความ

เปลีย่ นแปลงหลังการใชBยาทมี่ ีความเสี่ยงสงู ไวBในแฟมw ผBปู mวยหรอื เวชระเบียน
6.2) พยาบาลแจBงแพทยnเจBาของไขBทันทีเมื่อพบความผิดปกติหรือความผิดพลาดจากการใชBยาท่ีมี

ความเสยี่ งสูง
6.3) แพทยnเป]นผรูB ับผดิ ชอบการส?งตรวจ สบื คนB เพือ่ ตดิ ตามผลการใชยB าทมี่ คี วามเสี่ยงสงู ตามคมู? ือท่ี

ไดกB ําหนดไวB
6.4) เม่ือเกิดอาการไม?พึงประสงคnรุนแรง หรือเกิดความผิดพลาดที่ถึงตัวผBูปmวยจากการใชBยาท่ีมี

ความเส่ยี งสูง ผพูB บเหตกุ ารณnตBองรายงานอุบัตกิ ารณทn นั ที
7) การทําลายยาท่ีเหลอื หรือยาหมดอายุ
7.1) ยาท่ีมีความเสี่ยงสูงท่ีเหลือจากหอผBูปmวยหรือหมดอายุแลBว ใหBส?งคืนฝmายเภสัชกรรมเพ่ือ

ทาํ ลายต?อไป
7.2) ฝmายเภสัชกรรมจําแนกยาที่ตBองการทําลายเป]นหมวดหม?ูและส?งทําลายตามกระบวนการท่ี

คณะกรรมการบรหิ ารจดั การความปลอดภัยดาB นสารเคมกี าํ หนด
7.3) ยาเสพติดที่เปŠดใชBแลBวมียาเหลือ ใหBพยาบาลทําลายทิ้งโดยมีพยานรBูเห็นและจดบันทึกชื่อยา

จํานวนที่ทาํ ลายและลงนามไวBทงั้ สองคนเพอื่ เปน] หลักฐาน
8) การประกนั คุณภาพ
8.1) ตอB งมีการสม?ุ ตรวจสอบการจัดการยาที่มีความเส่ียงสูงทุก 6 เดือน เพื่อใหBม่ันใจว?าการใชBยาท่ี

มีความเสยี่ งสูงถูกตอB งตามมาตรฐานโรงพยาบาลคุณภาพและนโยบายของโรงพยาบาลศริ ริ าช
8.2) เมื่อเกิดอุบัติการณnผิดพลาดถึงผBูปmวยตBองมีการวิเคราะหnสาเหตุราก (root cause analysis/

RCA) รว? มกนั ในทีมสหสาขาวิชาชีพเพื่อการแกBไขเชิงระบบและวางแนวทางปฏิบัติท่ีรัดกุมข้ึนเพ่ือปwองกันอุบัติการณn
ซํ้าโดยส?งรายงานผลการวิเคราะหnและปรับปรุงถึงประธานคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัดโรงพยาบาลศิริ
ราช หรอื ผBูอาํ นวยการโรงพยาบาลศิริราช ภายในระยะเวลา 1 เดือน

High Alert Drug คมู อื การใชยาท่มี คี วามเส่ยี งสูง พมิ พ#ครงั้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 9
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

9. ขอควรปฏิบัติ และขอหามปฏิบัติ
9.1 ขอควรปฏบิ ัติ

5.1.1 ใหBมี patient Identification ในทุกข้ันตอนของการใชBยาโดยเร่ิมต้ังแต?กระบวนการสั่งยา จ?ายยา
และบริหารยา

5.1.2 ในกรณมี ีชดุ คาํ สัง่ การรักษามาตรฐาน/คูม? อื ปฏิบตั สิ ําหรับยาทีม่ ีความเสยี่ งสูง ใหแB พทยnใชBชุดคําสั่งการ
รักษามาตรฐานในการสั่งใชBยาที่มีความเส่ียงสูง ตามท่ีคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
เปน] ผกBู ําหนด โดยมีการปฏบิ ตั ดิ ังนี้

- กรณีท่ีมีการส่ังยา/การรับคําส่ังยาที่มีความเส่ียงสูงตBองมีการทบทวนว?ามีการส่ังยารายการนั้น
ก?อนหนBาหรือไม? (ทบทวนเปน] พเิ ศษกรณใี หBยาฉดี insulin)

- คํานวณขนาดยาซ้ํา กรณีตBองมีการคํานวณตามน้ําหนักตัวหรือพ้ืนท่ีผิวกายเมื่อส่ังยาท่ีมีความ
เสย่ี งสูงและส่ังโดยระบุขนาดยาต?อหนว? ยน้ําหนกั ตัวหรอื พน้ื ท่ีผิวกายดวB ย

- พจิ ารณาผลตรวจทางหอB งปฏิบัตกิ าร หรือค?าพารามิเตอรnที่สําคัญก?อนสั่งยา จ?ายยา และบริหาร
ยาทมี่ คี วามเส่ยี งสูงใหBแกผ? Bูปวm ย โดยระบคุ า? พารามิเตอรnที่สาํ คัญกาํ กับไวBกับคําสั่งการใชBยา เช?น ส่ังใชB insulin ใหBระบุ
ค?า POCT ส่ังใชB KCl ใหBระบุค?า K+ เพ่ือประโยชนnในการตรวจสอบซํ้าของเภสัชกรและพยาบาลผูBรับคําสั่งในการ
รกั ษา

- พิจารณาขBอหาB มใชแB ละปฏิกิริยาระหว?างยาท่ีมคี วามเส่ียงสูงกับยาอ่ืนๆ ที่ผBูปmวยใชBอย?ูก?อนการส่ัง
ใชB การจา? ยยา และบรหิ ารยาท่มี ีความเสยี่ งสูง

5.1.3 การเตรียมยาใหปB ฏิบตั ิตามท่ีระบุในคมู? ือยาทีม่ ีความเส่ยี งสงู ของยาแตล? ะชนิด
5.1.4 ตดิ ตามผลจากการใชBยาโดยใชเB ครื่องมอื Modify Early Warning Sign (MEWS)
5.1.5 ถBามีการใชBยาที่มีความเส่ียงสูงนอกเหนือจากแบบแผน (protocol) ท่ีกําหนดไวBโดยทีมนําทางคลินิก
ของภาควชิ า ใหแB พทยเn ขียนหมายเหตุความจําเป]นไวBเป]นหลกั ฐานในคาํ ส่ังการรกั ษาและใบสั่งยา
9.2 ขอหามปฏิบัติ
5.2.1 หBามสั่งยาเปน] อตั ราส?วน เน่ืองจากอาจทําใหBรับคําส่ังการรักษาผิด และเกิดความคลาดเคล่ือนในการ
ผสมยา
5.2.2 หBามใชคB าํ ยอ? ในการสงั่ ยาท่ีนอกเหนือจากระเบยี บการสง่ั จ?ายยาของโรงพยาบาลศริ ริ าช
5.2.3 หBามสั่งยาท่ีมีความเส่ียงสูงดBวยวาจา ยกเวBนกรณีฉุกเฉินและหากจําเป]นตBองส่ังดBวยวาจา ตBองปฏิบัติ
ตามระเบยี บทีว่ างไวอB ย?างเคร?งครดั

High Alert Drug คูมือการใชยาทมี่ คี วามเสย่ี งสงู พิมพ#ครั้งที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 10
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

เอกสารอางอิง

1. Institute for Safe Medication Practices. High-Alert Medications in Acute Care Settings
[Internet]: Institute for Safe Medication Practices; 2018 [cited 2020 Nov 21]. Available from:
https://www.ismp.org/recommendations/high-alert-medications-acute-list

2. Institute of Healthcare Improvement. High-Alert Medication Safety [Internet]: Institute of
Healthcare Improvement; 2018 [cited 2020 Nov 21]. Available from:
http://www.ihi.org/Topics/HighAlertMedicationSafety/Pages/default.aspx

3. World Health Organization. Strategic Framework of The Third Global Patient Safety
Challenge: Medication Without Harm: [Internet]: World Health Organization; 2021[cited
2021 Apr 20]. Available from: https://www.who.int/patientsafety/medication-safety/en/

4. สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องคnการมหาชน). เปwาหมายความปลอดภัยของผBูปmวยของประเทศ
ไทย พ.ศ. 2561 Patient Safety Goals: SIMPLE Thailand 2018. นนทบุรี: เฟมัส แอนดn ซัคเซ็สฟูล;
2561.

5. สถาบนั รับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องคnการมหาชน). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับท่ี
4. นนทบรุ ี: หนงั สอื ดีวัน; 2561.

7. ภาคผนวก
ดคู ู?มอื ปฏบิ ตั งิ านเก่ยี วกบั ยาทมี่ คี วามเส่ียงสูง โรงพยาบาลศิริราช

High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ คี วามเส่ียงสูง พิมพค# รัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 11
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

คมู อื ปฏิบตั งิ านเกี่ยวกบั ยาท่ีมคี วามเสย่ี งสูง
โรงพยาบาลศิริราช

Lidocaine hydrochloride IV injection

รปู แบบยา
1% Lidocaine IV inj
2% Lidocaine IV inj

เภสัชจลนศาสตรข# องยา lidocaine hydrochloride IV inj1-2

ช่ือยา ภาพยา Onset Peak Duration
IV: ทันที IV: 10-20 นาที
1% Lidocaine IV: ทันที
IV: ทนั ที IV: 10-20 นาที
IV Injection

20 mL

(preservative

free)

2% Lidocaine IV: ทันที
IV Injection
2 mL (GPO
preservative
free)

High Alert Drug คูมอื การใชยาที่มคี วามเสีย่ งสงู พมิ พ#ครงั้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 12
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**

ระเบยี บปฏิบตั ิเก่ยี วกับยา lidocaine hydrochloride IV injection1-4

ขน้ั ตอน แนวทางปฏิบัติ

การคดั กรอง ขอบงใช

• ใชใB นผูปB วm ยทมี่ ภี าวะ ventricular arrhythmia

ขอหามใช

• หBามใชยB านใ้ี นผปูB mวยทแี่ พยB าชาทมี่ ีโครงสราB งทางเคมเี ปน] กล?มุ amino

amides ไดแB ก? lidocaine, mepivacaine, prilocaine, bupivacaine,

etidocaine, ropivacaine และ levobupivacaine

• หาB มใชยB าน้ีในผปูB วm ยที่มีภาวะ heart block อย?างรนุ แรง

ขอควรระวงั

• การบริหารยา lidocaine ทางหลอดเลือดดํา หBามใชBยา lidocaine inj ท่ีมี

สารกันเสียเปน] ส?วนประกอบ

อันตรกริ ยิ าระหวางยาท่ีสําคัญ

• หBามใชBยาน้ีรว? มกบั ยากล?ุม ergot alkaloids, dronedarone, และ

saquinavir

การเขียนสงั่ ยา • Double check ชอ่ื ผูปB mวย ชนิดและขนาดยา

• ตBองระบุ route ในการบริหารยาเป]นฉดี เขาB หลอดเลือดดํา หรือ IV ในคาํ ส่งั

ทางการรักษาอยา? งชดั เจน

• ตBองระบุวิธีการบรหิ ารยาว?าเปน] IV slowly push หรือ IV continuous

infusion ในคําสง่ั ทางการรักษาอยา? งชดั เจน

• ตอB งระบุความแรงของยาทต่ี อB งการใหผB Bูปวm ยอยา? งชดั เจน ทัง้ นยี้ า lidocaine

IV injection ความแรง 1% และ 2% เท?านัน้ ทสี่ ามารถบริหารยาทางหลอด

เลือดดาํ โดยไมต? BองเจือจางยาดวB ยสารนาํ้ เพ่มิ เติม

• ขนาดยาสําหรบั ผBูปวm ยผใBู หญ? คอื loading dose 1-1.5 mg/kg IV slowly

push สามารถใหซB ้าํ ไดอB ีกครง้ั ละ 0.5-0.75 mg/kg

ทุก 10 นาที (ขนาดยารวมกนั ไมเ? กิน 3 mg/kg) และใหยB าต?อไปดBวยวิธี IV

continuous infusion ตอ? ไปดวB ยอตั ราเรว็ 1-4 mg/min

• ขนาดยาสาํ หรับผBูปวm ยเด็ก คือ loading dose 1 mg/kg (ขนาดยาสงู สุดไม?

เกิน 100 mg) IV slowly push และใหBยาต?อไปดวB ยวิธี IV continuous

infusion ต?อไปดวB ยอตั ราเร็ว 20-50 mcg/kg/min (0.02-0.05

mg/kg/min)

การจัดยา/ตรวจสอบยา • Double check ชอื่ ผBปู วm ย ชนิดและขนาดยา

High Alert Drug คูมือการใชยาท่ีมีความเสยี่ งสงู พมิ พ#คร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 13
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

การใหยาแกผูปวo ย • เกบ็ แยกยาไวใB นที่เขBาถงึ ไดยB าก
การตรวจติดตาม
• ตาํ แหนง? ที่จัดเก็บยา lidocaine IV injection ท้งั ทห่ี อB งยา และหอผูBปmวย
ไม?ควรวางใกลกB บั ยา lidocaine ทีใ่ ชBเปน] ยาชา

• ทาํ สญั ลกั ษณเn ตอื นใหBระวัง

• Double check ชอ่ื ผูBปmวย ชนดิ และขนาดยา

• การบริหารยา lidocaine ทางหลอดเลอื ดดาํ หาB มใชยB า lidocaine inj ทม่ี ี
สารกันเสยี เปน] ส?วนประกอบ

• 1% lidocaine IV inj มีความเขBมขBนของตวั ยาสาํ คญั 10 mg/mL
(หลอดละ 20 mL ผลิตโดยงานผลิตยาปราศจากเช้อื ฝาm ยเภสชั กรรม
รพ.ศริ ริ าช)

• 2% lidocaine IV inj มีความเขBมขBนของตวั ยาสาํ คัญ 20 mg/mL
(หลอดละ 2 mL ผลติ โดยองคnการเภสัชกรรม)

• สามารถเขาB กนั ไดBกบั D5W, LRS, NSS, NSS/2, D5S และ D5S/2

• กรณีบริหารยาดBวยวิธี IV slowly push สามารถบรหิ ารยา lidocaine IV
injectionความแรง 1% และ 2% โดยไมจ? าํ เปน] ตBองเจอื จางในสารนา้ํ
เพมิ่ เติม แนะนําใหฉB ีด IV slowly push ชาB ๆ อย?างนBอย 2-3 นาที

• กรณีบริหารยาดBวยวธิ ี IV continuous infusion แนะนาํ ใหB เจอื จางใน
สารนา้ํ ทีเ่ ขาB กันไดB โดยทว่ั ไปแนะนําใหBเจอื จางยาดวB ยสารนาํ้ NSS และ
D5W เจือจางยาใหBไดคB วามเขมB ขนB สดุ ทBาย 4-8 mg/mL

• ตดิ ตามคลนื่ ไฟฟาw หวั ใจ (EKG continuous monitoring) ของผูปB วm ยอย?าง
ต?อเน่ือง รว? มกบั ตดิ ตามคา? สญั ญาณชีพอนื่ ๆ เชน? ความดันโลหติ (BP) และ
อัตราการหายใจ (RR)

• ตดิ ตามอาการแสดงที่เกดิ จากภาวะพษิ ของยา lidocaine ไดแB ก? อาการ
สับสน (confusion) ตื่นเตนB (excitation) การมองเหน็ ภาพไมช? ดั เจน
(blurred vision) คล่ืนไสB (nausea) อาเจยี น (vomiting) ไดยB นิ เสยี ง
ผิดปกติ (ringing in the ear) อาการส่นั (tremor) การกระตุก (twitching)
อาการชัก (seizure) หายใจลําบาก (dyspnea) เวียนศีรษะ (dizziness)
เปน] ลม (fainting) และชีพจรเตนB ชาB (bradycardia)

• หากผBูปmวยมอี าการแสดงทเี่ กิดจากภาวะพิษของยา lidocaine ใหBแจBงแพทยn
เพอื่ พจิ ารณาหยดุ ใหBยา lidocaine ทนั ที ร?วมกบั ใหBการรักษา และติดตาม
อาการของผูBปmวยอยา? งใกลชB ิด

High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี คี วามเสยี่ งสูง พมิ พค# รัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 14
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

เอกสารอางอิง:

1. Vallerand AH, Sanoski CA, Deglin JH. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis

Company; 2017. p. 767-70.
2. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Lidocaine; [cited 2019 Dec 26]. Available from:

https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/1DB07A/ND_PR/evidencexpert/

ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/5899BD/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexper

t/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSear

ch?SearchTerm=lidocaine#. Subscription required to view

3. Corbett AH, Dana WJ, Fuller MA, Gallagher JC, Golembiewski JA, Gonzales JP, et al. editors. Drug
Information Handbook. 26th ed. Hudson, OH: Lexi-Comp; 2017. p. 1358-60.
4. Trissel LA. Handbook on injectable drugs. 19th ed. Bethesda (MD): American Society of Health-

System Pharmacists; 2017. p.750-8.

High Alert Drug คมู อื การใชยาทม่ี คี วามเสี่ยงสงู พมิ พค# ร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 15
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิริราช**

คูมอื ปฏิบตั งิ านเกย่ี วกับยาท่มี คี วามเส่ยี งสูง
โรงพยาบาลศริ ิราช

Heparin (unfractionated)

รูปแบบยา
1. Heparin 5000 units/mL (5 mL/ขวด)
2. Heparin PFS 100 units/mL (5 mL/syringe)
3. Heparin PFS 50 units/mL (5 mL/syringe)

เภสชั จลนศาสตรข# องยา heparin1-2 onset peak duration
SC: 20-60 นาที SC: 2 ช่วั โมง SC: 8-12 ชั่วโมง
ช่ือยา ภาพยา IV: 5-10 นาที IV: 2-6 ชวั่ โมง
IV: ทนั ที
Heparin
LEO®
5000
units/mL
(5 mL)

Heparin IV: ทันที IV: 5-10 นาที IV: 2-6 ชว่ั โมง
100 units/mL
(5 mL)

Heparin PFS IV: ทันที IV: 5-10 นาที IV: 2-6 ชวั่ โมง
50 units/mL
(5 mL)

High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี คี วามเสี่ยงสูง พมิ พค# รงั้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 16
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

ระเบยี บปฏิบตั เิ กย่ี วกบั ยา heparin1-4

ขนั้ ตอน แนวทางปฏิบัติ

การคดั กรอง ขอบงใช

• ใชเB ป]นยาตาB นการแข็งตัวของเลือดในกรณตี ?าง ๆ ไดแB ก? ผปูB วm ยทต่ี Bอง
เปล่ียนถา? ยเลือด ผBปู วm ย atrial fibrillation การรกั ษาและปwองกนั การเกิด
venous thomboembolism ผBูปmวยท่ีตBองทํา hemodialysis และ
ปอw งกนั การอุดตนั ของ venous catheter เปน] ตBน

ขอหามใช

• หBามใชใB นผูปB วm ยที่ uncontrolled bleeding, severe
thrombocytopenia หรอื แพBยา หรือสว? นประกอบของตาํ รบั

ขอควรระวัง
• ไมค? วรใหยB าถาB เกล็ดเลือด (platelet) ต่ํากว?า 100,000/mm3 เนื่องจากมี

รายงาน thrombocytopenia จากยา heparin

• ระมดั ระวงั การใชใB นทารก และสตรมี ีครรภเn น่ืองจากในผลติ ภัณฑnมี

benzyl alcohol เปน] สว? นประกอบ (ขBอมูลจากผลติ ภณั ฑn Heparin
LEO®)

• ระวังการใชใB นผปBู วm ยท่ีมคี วามเสย่ี งในการเลอื ดออก : subacute
bacterial endocarditis, severe hypertension, gastrointestinal
ulceration, continuous tube drainage ของ stomach หรือ small
intestine, congenital หรือ acquired bleeding disorders
(hemophilia, thrombocytopenia และ vascular purpuras), liver
disease ทีม่ ี impaired hemostasis, menstruation

อันตรกริ ยิ าระหวางยาที่สําคญั

• ไม?มีอนั ตรกิริยาระหว?างยากับยาทีม่ ีความรุนแรงระดบั contraindication

การเขยี นสัง่ ยา • Double check ชอ่ื ผปูB วm ย ชนิดและขนาดยา

• ไมเขยี นคํายอ U เพราะอาจดูเหมือนเลขศนู ย# ควรใช unit แทน

• ขนาดยาขน้ึ กับ indication

การจัดยา/ตรวจสอบยา • Double check ชอ่ื ผูปB วm ย ชนดิ และขนาดยา

• เก็บแยกยาไวBในท่เี ขาB ถึงไดยB าก

• ทําสญั ลักษณnเตอื นใหBระวงั

• แยกเกบ็ ในตูBเย็นช?องธรรมดา 2-8 องศาเซลเซียส

• ระวงั การหยบิ สลบั กบั insulin

High Alert Drug คมู ือการใชยาที่มีความเสีย่ งสูง พมิ พ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 17
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

การใหยาแกผูปoวย • Double check ชอ่ื ผปูB วm ย ชนดิ และขนาดยา
การตรวจติดตาม • ระวังการหยิบสลบั กับ insulin
• การผสมในขวดหรอื ถุงสารนาํ้ ตอB งพลิกกลับไปมาใหBเขาB กนั ดีกับสารนา้ํ

ก?อนใหBผูBปmวยเสมอ
• สารนาํ้ ท่เี ขาB กนั ไดBคือ D5W, NSS
• Usual concentration ท่แี นะนาํ ในการบริหารยาทาง IV drip คือ 50-

100 units/mL
• ควรหลีกเลย่ี งการฉดี แบบ IM เนื่องจากอาจทาํ ใหBเกดิ hematoma และ

ปวดบรเิ วณทฉ่ี ีดยา
• ควรใหBยาผา? น infusion pump
• สําหรบั การฉดี SC ทิศทางการปก† เข็มใชB 2 แนวคือ 45 องศา และ 90

องศา ก?อนฉีดใหBดึงหนังขน้ึ ใหตB ึง ไมต? อB งนวดคลึงผิวหนังหลงั การฉีดยา
การเกบ็ รักษายา
• แบบ vial ความแรง 5,000 units/mL กอ? นเปดŠ ใชB เกบ็ ท่อี ุณหภูมิ 2–8

องศาเซลเซยี ส หลังเปŠดใชBแลวB เก็บไดB 14 วัน ทอี่ ุณหภมู ิ 2–8 องศา
เซลเซียส (ขBอมลู จากบรษิ ทั ยา) กรณยี าท่ีเจือจางในสารนา้ํ D5W หรือ
NSS แลBว ควรใชภB ายใน 24 ช่ัวโมง ที่อุณหภมู ิ 15-25 องศาเซลเซียส
• แบบ prefilled syringe ทั้ง 2 ความแรง ก?อนเปดŠ ใชBเก็บทีอ่ ณุ หภมู ิ 2–8
องศาเซลเซียส และใชBครั้งเดียวทง้ิ (single use)

• ควรตรวจสอบ infusion pump สมา่ํ เสมอ อยางนอยทุก 2 ชั่วโมง
• ตรวจ aPTT กอนใหยา หลงั ใหยา และ ระหวางทใ่ี หยาอยู ตาม

แนวทางการใชยา heparin
• หากมกี ารปรับเปลี่ยนขนาดยา ควรตรวจ aPTT ซ้าํ หลังปรับขนาดยาไป

แลBว 6 ชว่ั โมง
• ตรวจ CBC ก?อนใหBยา หากใหยB าเกิน 7 วนั ควรตรวจซาํ้ การตรวจเกล็ด

เลอื ดควรตรวจทกุ 2 – 3 วันระหวา? งการใชยB านี้
• ตรวจตดิ ตาม neurological signs และอาการแพBยา
• ตรวจติดตามอาการขาB งเคียง เชน? เกล็ดเลือดตาํ่ เลอื ดออกง?าย
• ตรวจติดตาม ค?า potassium level เนอ่ื งจากอาจเกดิ hyperkalemia

จากการ suppressing aldosterone production
• Heparin-induced thrombocytopenia (HIT) และ

thrombocytopenia/thrombosis (HITT) อาจเกดิ ไดB ใหBหยุดยาและ

High Alert Drug คูมือการใชยาทมี่ คี วามเสยี่ งสูง พมิ พค# ร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 18
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

หลกี เล่ียงการใชBในอนาคตโดยเฉพาะภายใน 3-6 เดือนหลังตรวจพบหรือ
ในขณะที่ผปBู mวยมีผล HIT antibodies เป]นบวก
• ยาตานพษิ (antidote) คือ protamine sulphate

High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ คี วามเสย่ี งสงู พมิ พ#ครั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 19
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลีย่ นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 20
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 21
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

เอกสารอางองิ
1. Vallerand AH, Sanoski CA, Deglin JH. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis
Company; 2017. p. 629-32.
2. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Heparin; [cited 2019 Dec 26]. Available from:
https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/1DB07A/ND_PR/evidencexpert/
ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/5899BD/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexper
t/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSear
ch?SearchTerm=heparin#. Subscription required to view
3. Corbett AH, Dana WJ, Golembiewski JA, Gonzales JP, Johnson S, Lowe JF, et al. editors. Drug
Information Handbook. 26th ed. Hudson, OH: Lexicomp; 2017. p. 1111-5.
4. คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิรริ าช. High Alert Drug คม?ู ือการใชBยาท่ีมีความเสย่ี งสูง
โรงพยาบาลศริ ิราช. พมิ พnคร้ังที่ 4. กรงุ เทพฯ: 2560. หนBา 50-4.

High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี คี วามเส่ียงสูง พมิ พ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 22
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**

คูมือปฏบิ ตั งิ านเกีย่ วกับยาทม่ี ีความเสี่ยงสงู
โรงพยาบาลศริ ิราช

Low Molecular Weight Heparin (Bemiparin sodium)

รปู แบบยา
1. Bemiparin sodium (PFS) 3,500 IU (anti Xa)/0.2 mL
2. Bemiparin sodium (PFS) 5,000 IU (anti Xa)/0.2 mL
3. Bemiparin sodium (PFS) 7,500 IU (anti Xa)/0.3 mL
4. Bemiparin sodium (PFS) 10,000 IU (anti Xa)/0.4 mL

เภสชั จลนศาสตรข# องยา bemiparin sodium1-2

ช่อื ยา ภาพยา Onset Peak** Duration***
Hibor® 2-3 ช่ัวโมง 2-3 ชั่วโมง ถงึ ประมาณ
3,500* IU/0.2 mL 12 ชัว่ โมง

pre-filled syringe 2-3 ชวั่ โมง 3-4 ช่วั โมง ไมมีขอมลู
Hibor®
5,000* IU/0.2 mL

pre-filled syringe

Hibor® 2-3 ช่ัวโมง 3-4 ช่ัวโมง 20-24 ชวั่ โมง
7,500* IU/0.3 mL

pre-filled syringe

Hibor® 2-3 ช่วั โมง 3-4 ชว่ั โมง 20-24 ชัว่ โมง
10,000* IU/0.4 mL

pre-filled syringe

*ความแรงของผลิตภณั ฑรn ะบุเปน] activity ของ anti-Factor Xa ในหนว? ยสากลตามขอB กาํ หนดขององคกn ารอนามัย

โลก ซง่ึ วเิ คราะหดn Bวยวธิ ี amydolitic anti-Xa method with specific substrata และใชB LMWH (NIBSC)

international pattern
**Peak ท่รี ะบุ เป]น peak ของ anti-Xa activity
***ประเมนิ ดBวย anti-Xa activity

High Alert Drug คมู อื การใชยาท่ีมคี วามเส่ยี งสงู พมิ พ#ครงั้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 23
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิริราช**

ระเบยี บปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั ยา bemiparin sodium1-2

ขน้ั ตอน แนวทางปฏิบัติ
การคัดกรอง ขอบงใช ของ bemiparin sodium 3,500 IU anti-Xa

• ปอw งกนั การเกิดโรคลิ่มเลอื ดอดุ ตันในหลอดเลอื ด (thromboembolic
disease) ในผูBปmวยผา? ตดั ท่ัวไปและผปูB วm ยศัลยกรรมกระดกู

• ปอw งกันการเกิดโรคล่มิ เลือดอดุ ตันในหลอดเลือดในผูปB mวยท่ีไมใ? ชผ? Bปู วm ย
ศัลยกรรมซ่งึ มีภาวะเส่ียงระดบั เล็กนอB ยหรอื มาก

• ใชเB ปน] ทางเลอื กเพื่อปwองกันการกลบั เปน] ซาํ้ ของลม่ิ เลอื ดอุดตันในหลอดเลือด
ดาํ (venous thromboembolism) ในผBปู วm ยทม่ี ี deep vein thrombosis
และไดรB บั ปจ† จยั เสย่ี งช?วงสน้ั ๆ

• ปอw งกนั การเกิดลมิ่ เลอื ดใน extracorporeal circulation ในระหว?างการฟอก
เลือดดวB ยเครือ่ งไตเทียม

ขอบงใชของ bemiparin sodium 5,000 7,500 และ 10,000 IU anti-Xa
• ใชBรกั ษา deep vein thrombosis (DVT) ที่มแี ละไมม? ลี ่มิ เลอื ดอดุ ตันในปอด

(pulmonary embolism)
ขอหามใช
• หาB มใชยB าในผBูท่มี ีประวตั ิแพB bemiparin sodium, heparin หรอื ผลิตภณั ฑn

ทมี่ าจากหมู (ยานไ้ี ดBจากเนอื้ เยอ่ื ช้นั mucosa ของลําไสหB ม)ู

• หาB มใชBยาในผทBู ี่มีประวตั ิภาวะเกล็ดเลือดตา่ํ หลงั จากใชB heparin ท้ังในกรณีที่
ตรวจสอบยนื ยนั แลBวหรอื สงสยั ว?าจะใช?

• หBามใชBยาในผทูB มี่ ีเลือดออก หรือ มคี วามเสยี่ งทจ่ี ะเกิดเลอื ดออกเพมิ่ ขน้ึ
เน่ืองจากมกี ารแขง็ ตัวของเลอื ดผิดปกติ

• หBามใชยB าในผปBู วm ยตบั และตับอ?อนบกพร?องชนดิ รนุ แรง

• ผBูท่ีมีการบาดเจบ็ หรอื มีการผา? ตดั ในสมอง ตา หรอื หใู นชว? ง 2 เดือนที่ผา? นมา

• ผปBู mวย disseminated intravascular coagulation (DIC) เนอื่ งจากมเี กลด็
เลือดตํ่าหลงั ใชB heparin

• ผูปB mวยเยอ่ื หBมุ หัวใจชัน้ ในอกั เสบเฉียบพลันและแบบไมเ? ฉียบพลนั

• มคี วามเจบ็ ปmวยทท่ี าํ ใหเB ลอื ดออกไดBงา? ย เชน? โรคกระเพาะอาหาร
haemorrhagic stroke หลอดเลือดสมองโปmง หรอื มะเร็งสมอง

High Alert Drug คมู ือการใชยาที่มคี วามเสย่ี งสูง พิมพ#คร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 24
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

การเขียนสั่งยา ขอควรระวงั

• หาB มฉีด bemiparin เขาB กลาB มเน้ือ

• ในระหว?างการใชB bemiparin จะมีความเส่ยี งของการมกี อB นเลอื ดใตผB วิ หนัง
(hematoma) เพ่ิมขึน้ จงึ ควรหลีกเลย่ี งการฉีดยาชนดิ อื่นเขBากลาB ม

• ควรใชBยาอยา? งระมัดระวงั ในผทูB มี่ ีการทํางานของตบั หรือไตบกพรอ? ง มคี วามดัน
โลหติ สูงทย่ี งั ควบคุมไม?ไดB มปี ระวัติเป]นโรคแผลในกระเพาะอาหาร ภาวะเกลด็
เลอื ดตาํ่ นิ่วในไต (nephrolithiasis) และ/หรอื นิว่ ในทอ? ไต
(urethrolithiasis) โรคของหลอดเลอื ดในจอตาและ choroid

• ควรระมัดระวังในการใชBยานกี้ ับผทูB ีม่ ีความเส่ียงต?อภาวะเลอื ดออก หรือใน
ผูปB mวยทท่ี ําใหBสลบดBวยการฉีดยาเขาB ไขสันหลงั หรือเขBา epidura และ/หรือ ผูBท่ี
ไดรB บั การเจาะไขสนั หลัง

อันตรกริ ยิ าระหวางยาท่ีสําคญั

• ยังไม?เคยมกี ารศึกษาอนั ตรกริ ยิ าระหวา? ง bemiparin sodium กับยาอ่ืน
โดยตรง ดังนั้นขอB มลู ทปี่ รากฏจะเป]นขอB มูลจากยาตวั อนื่ ในกลุม? LMWH

• ไม?แนะนําใหใB ชB bemiparin รว? มกบั ยาตอ? ไปน้ี:
Vitamin K antagonists ยกเวนในช?วงทผี่ ูBปmวยกาํ ลงั รกั ษาอาการของโรคลม่ิ เลือด
อุดตนั ในหลอดเลอื ดดาํ อยู?

*ยาตาB นการแขง็ ตัวของเลอื ด แอสไพรนิ รวมทั้งยากลม?ุ salicylate ชนดิ อื่น
*ยาตาB นการอักเสบทไี่ มใ? ชส? เตอรอยดn (NSAIDs)
*Ticlopidine clopidogrel และยาตาB นเกลด็ เลอื ดอ่นื ๆ
*ยากลมุ? กลโู คคอรตn คิ อยดn และ dextran เพราะยาเหล?าน้จี ะทาํ ใหฤB ทธทิ์ าง
เภสัชวทิ ยาของ bemiparin เพม่ิ ขึ้นโดยมผี ลโดยตรงต?อการแขง็ ตัวของเลือด
และ /หรอื ผลตอ? การทาํ งานของเกล็ดเลอื ดแลวB ทําใหBเพม่ิ ความเสีย่ งของการ
มเี ลอื ดออก

• ควรใชอB ย?างระมดั ระวังเมื่อใชBร?วมกับยาท่ีมผี ลเพมิ่ ระดับโปแตสเซียมในเลือด
(เนอื่ งจาก bemiparin ลดการหลงั่ aldosterone ทาํ ใหเB กดิ ภาวะโปแตสเซยี ม
ในเลอื ดสูง)

• Double check ชือ่ ผBูปmวย ชื่อยาและขนาดยา

• ขนาดใชBยาในผBูใหญ? แบง? ตามขอB บง? ใชB ดังนี้
: การปอw งกันการเกดิ ลิม่ เลอื ดอุดตันในหลอดเลอื ดดําหลังผ?าตัดท่ัวไปทม่ี คี วามเสี่ยงปาน
กลาง ในวนั ผา? ตัด ใหBฉีดยา 2,500 IU anti-Xa เขBาใตBผิวหนงั กอ? นผ?าตดั 2 ชวั่ โมงหรอื
หลังผ?าตัด 6 ชั่วโมง ในวันถัดไปใหBฉดี ยาตอ? เนอ่ื งไปครั้งละ 2,500 IU anti-Xa ทุก 24
ชวั่ โมง

High Alert Drug คมู อื การใชยาท่ีมีความเส่ียงสงู พมิ พค# ร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 25
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

: การปอw งกันการเกดิ ลม่ิ เลอื ดอุดตนั ในหลอดเลอื ดดําหลังทําศัลยกรรมกระดูกท่ีมีความ
เสย่ี งสูง ในวนั ผา? ตัดใหBฉีดยา 3,500 IU anti-Xa เขBาใตBผวิ หนังก?อนผ?าตดั 2 ชวั่ โมงหรือ
หลงั ผา? ตัด 6 ช่ัวโมง ในวันถดั ไปใหBฉีดยาต?อเน่อื งไปครัง้ ละ 3,500 IU anti-Xa ทุก 24
ชั่วโมง

การใหBยาเพ่ือปwองกันในชว? งทผี่ Bปู วm ยมภี าวะเสย่ี งจนกระทงั่ ผปBู mวยสามารถ
เคลอ่ื นไหวไดเB องนี้ ควรสอดคลอB งกับความเห็นของแพทยn โดยทัว่ ไปมักใหยB าปอw งกนั
ตอ? เนือ่ งไปอยา? งนBอย 7-10 วนั หลังผา? ตัด และจนกระทงั่ ความเสย่ี งต?อการเกิดลม่ิ เลือด
อุดตันในหลอดเลือดลดลง
: การปwองกันการเกิดโรคลมิ่ เลอื ดอดุ ตนั ในหลอดเลอื ดในผBูปวm ยอ่นื ที่ไม?ใชผ? ูปB วm ย
ศลั ยกรรม ขนาดท่แี นะนาํ ใหBใชคB ือ bemiparin 2,500 หรือ 3,500 IU ตอ? วนั ฉีดเขาB ใตB
ผวิ หนงั ข้นึ กับความเสยี่ งทพี่ บในผBปู วm ยวา? เปน] ระดบั เลก็ นBอยหรอื สงู ควรใหBยาปwองกัน
ต?อเน่ืองในระหวา? งท่ผี ปBู วm ยยังมภี าวะเส่ยี ง หรอื จนกระทง่ั ผปูB วm ยสามารถเคลือ่ นไหวไดB
ตามความเห็นของแพทยn
: การปwองกนั การกลบั เปน] ซาํ้ ของโรคล่มิ เลือดอุดตนั ในหลอดเลอื ดดําในผBูปวm ยท่มี ี deep
vein thrombosis และไดรB บั ปจ† จยั เสี่ยงช?วงส้นั ๆ ใหใB ชยB านี้เปน] ทางเลือกท่สี องแทน
การใชยB าตาB นการแขง็ ตวั ของเลอื ดชนดิ รบั ประทาน หรือในกรณที ผ่ี ปBู mวยมีขอB หาB มใชBของ
ยาดงั กลา? ว โดยใชB bemiparin 3,500 IU/วนั ต?อเน่อื งกนั เปน] เวลานานสูงสดุ 3 เดอื น
ในผBูปmวยซงึ่ เคยไดรB ับยาตาB นการแข็งตัวของเลอื ดเพอ่ื รักษาภาวะ deep vein
thrombosis ท้ังท่ีมแี ละไมม? ีภาวะล่ิมเลือดอุดตนั ในปอด (pulmonary embolism)
รว? มดBวย
: การปอw งกันเลือดแข็งตัวใน extracorporeal circulation ในระหวา? งการฟอกเลือด
ดBวยเคร่ืองไตเทยี ม ในผูBปวm ยทีอ่ ย?ูในระหวา? งการฟอกเลอื ดซ่ึงใชเB วลานานกวา? 4 ชัว่ โมง
และไมม? ีความเสย่ี งตอ? ภาวะเลอื ดออก จะใหBยา bemiparin ฉีดแบบ bolus เพียงครง้ั
เดยี วเขBาสสู? ?วน arterial line ในขณะทีเ่ ร่ิมตBนทาํ การฟอกเลือด ในผปBู mวยท่มี ีนาํ้ หนกั
นBอยกว?า 60 กก. จะใชยB าในขนาด 2, 500 IU ในขณะผBูท่มี ีนาํ้ หนักมากกว?า 60 กก. จะ
ใชBยาในขนาด 3,500 IU
: การรกั ษา deep vein thrombosis โดยทั่วไปใหBยาในขนาด 115 IU anti-Xa/
กิโลกรัม/วนั นาน 7 + 2 วนั โดยที่
ใชขB นาด 0.2 mL (5,000 IU anti-Xa) กบั ผปูB วm ยนา้ํ หนกั ตํา่ กวา? 50 กิโลกรัม ใชขB นาด
0.3 mL (7,500 IU anti-Xa) กบั ผBูปวm ยนา้ํ หนัก 50-70 กโิ ลกรัม
ใชขB นาด 0.4 mL (10,000 IU anti-Xa) กับผปูB mวยนาํ้ หนกั 70-100 กโิ ลกรัม และขนาด
0.5 mL (12,500 IU anti-Xa) กบั ผูBปวm ยนํ้าหนัก 100-120 กโิ ลกรมั ในกรณีสดุ ทา, ยที่
ผู,ปว7 ยนํ้าหนักมากกวา9 120 กิโลกรัม ควรปรับขนาดการใชตB ามอัตราสว? นของ 115 IU
anti-Xa/กโิ ลกรัม/วนั ซง่ึ อาจจะตBองเลือกใชขB นาด 25,000 IU/mL

High Alert Drug คมู ือการใชยาท่ีมคี วามเสี่ยงสงู พมิ พ#ครัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 26
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**

การจดั ยา/ตรวจสอบ • ในกรณที ่ีไมม? ีขBอหาB มใชB ควรเริ่มใหยB าตBานการแขง็ ตวั ของเลอื ดชนิด
ยา รับประทานหลังจากเร่มิ ใชยB า bemiparin 3-5 วัน ในขนาดที่ปรับใหมB ี INR
การใหยาแกผูปวo ย เปwาหมายระหว?าง 2-3 เม่อื INR เพ่ิมข้นึ ถงึ เปwาหมายแลวB อาจพจิ ารณาหยุด
bemiparin ในขณะทย่ี งั คงรบั ประทานยาตาB นการแข็งตัวของเลอื ดชนดิ
การตรวจตดิ ตาม รับประทานตอ? อกี อย?างนBอย 3 เดือน

• ในผBปู mวยท่ีมี deep vein thrombosis และไดBรับปจ† จัยเส่ียงอาจใหB
bemiparin ขนาด 3,500 IU/วนั ตดิ ตอ? กันสงู สุด 3 เดอื น เปน] ทางเลือกทสี่ อง
รองจากการใชBยาตาB นการแข็งตวั ของเลอื ดชนดิ รับประทาน หรือในกรณีผปBู วm ย
มขี อB หBามใชขB องยาตาB นการแขง็ ตัวของเลือด

• ขนาดการใชBยาในเด็ก: ไม?แนะนาํ ใหใB ชยB า bemiparin ในเด็กที่อายตุ า่ํ กว?า 18
ป_ เนื่องจากยงั ขาดหลกั ฐานสนบั สนนุ ดาB นประสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั

• ขนาดการใชBยาในผสBู ูงอายุ: ไมจ? าํ เปน] ตอB งปรับขนาดยา

• ขนาดการใชยB าในผทBู ม่ี ีการทาํ งานของตับ/ไตบกพรอ? ง: ยงั มขี อB มูลไม?เพียงพอ
ในการปรบั ขนาดยาในผูBทม่ี กี ารทํางานของตับ/ไตบกพร?อง

• Double check ชอ่ื ผปBู วm ย ชือ่ ยาและขนาดยา

• ตรวจสอบขนาดยาบนภาชนะบรรจุกบั คาํ ส่ังใชBยา ใหตB รงกัน

• Double check ช่ือผปูB mวย ช่ือยาและขนาดยา

• ไมค? วรฉดี ยานเ้ี ขาB กลาB มเน้อื (IM) เพราะอาจทาํ ใหเB กิดเลือดออกในชนั้
กลาB มเน้อื (hematoma)

• กอ? นฉีดยาดวB ยตนเอง ผปBู วm ยจาํ เปน] ตอB งไดรB ับการสอนเกย่ี วกบั วธิ ีการฉดี ที่
ถกู ตอB งจากแพทยnหรือบุคลากรทางการแพทยn

• หBามนวดคลงึ ผิวหนงั บริเวณทฉี่ ีดยาเพื่อหลีกเล่ียงการเกิดรอยชาํ้

• ตาํ แหน?งทแ่ี นะนาํ การฉดี ยาคอื anterolateral หรอื posterolateral
abdominal waist ซึ่งควรหา? งจากสะดือและบรเิ วณรอยแผลเป]น รอยชาํ้
อย?างนอB ย 5 ซม. และใหBทําความสะอาดบริเวณทจ่ี ะฉีดยา

• ควรสลบั เปลย่ี นตาํ แหนง? ที่ฉีดยา ทกุ ครัง้ ทฉ่ี ีด

• หBามกดกBานฉดี เพ่อื ไล?อากาศก?อนฉดี (ทาํ ใหสB ูญเสียปรมิ าณยาไปส?วนหนึ่ง)

• ตรวจวดั ระดบั electrolytes ก?อนเรมิ่ ยาและระหว?างการใชยB าอย?างสมาํ่ เสมอ
โดยเฉพาะถาB มกี ารใชยB านานกวา? 7 วนั

• ตรวจวดั ระดับเกลด็ เลือดกอ? นใหB bemiparin แลวB ตรวจวดั อย?างสม่าํ เสมอทกุ
3-4 วัน ในระหวา? งใชBยา และเมอื่ สนิ้ สดุ การใชBยา ในทางปฏบิ ตั ิ ถBาผูปB mวยมี
เกลด็ เลือดลดลงอยา? งมาก (รอB ยละ 30-50) รว? มกบั การตรวจพบแอนตบิ อดตี ?อ

High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี ีความเสีย่ งสงู พมิ พค# ร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 27
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ยี นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

เกล็ดเลือด หรือในกรณที ี่ไมท? ราบผลการตรวจแอนตบิ อดี ควรหยุดใชยB า
bemiparin ทนั ทแี ลวB เปลี่ยนไปใชB LMWH ชนิดอ่นื แทน
• สังเกตการปรากฎของกBอนเลือดใตBผิวหนงั และ/หรือ รอยจํา้ เขียวตรงบรเิ วณที่
ฉีดยา ซึ่งจะพบไดBประมาณรBอยละ 15 ของผทูB ไ่ี ดรB บั ยาน้ี
การไดรB ับยาเกินขนาด อาการหลกั ทพ่ี บคือ เลอื ดออก ถาB มีอาการเลอื ดออกควรหยุด
การใหยB า bemiparin ทันที ขึ้นกับความรุนแรงของการมเี ลือดออกและความเส่ยี งต?อ
การเกดิ ลม่ิ เลอื ดอดุ ตนั การมีเลือดออกเพียงเล็กนอB ยอาจไม?จําเป]นตBองทาํ การรักษา
อยา? งจําเพาะ ในกรณที เ่ี ลือดออกมาก ควรใหB protamine sulphate ไดBมีการศึกษา
การแกฤB ทธขิ์ อง bemiparin ดBวย protamine sulphate โดยดผู ลต?อการลดลงของ
anti-Xa activity และผลตอ? ค?า activated partial thromboplastin time (aPTT)
หลงั จากฉีด protamine sulphate เขาB หลอดเลอื ดดําในขนาด 1.4 mg ตอ? anti-Xa
100 IU พบวา? ยานี้จะลด anti-Xa activity ไดปB ระมาณ 2 ชว่ั โมง

เอกสารอางอิง
1. Hibor® [package insert]. Madrid/Spain: Rovi Contract Manufacturing, S.L; เมษายน 2556.
2. Sánchez-Ferrer CF. Bemiparin: pharmacological profile. Drugs 2010; Dec 14; 70 (Suppl 2): 19-23.

High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ คี วามเส่ียงสูง พมิ พค# รั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 28
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิริราช**

คูมอื ปฏบิ ตั ิงานเกยี่ วกับยาที่มคี วามเสยี่ งสงู
โรงพยาบาลศิริราช

Heparin, Low Molecular Weight (Enoxaparin)

รปู แบบยา
1. Enoxaparin sodium (PFS) inj 40 mg/0.4 mL
2. Enoxaparin sodium (PFS) inj 60 mg/0.6 mL
3. Enoxaparin sodium (PFS) inj 80 mg/0.8 mL

เภสชั จลนศาสตรข# องยา enoxaparin sodium1 Onset Peak Duration
ไมมีขอมลู SC: 3 – 5 ชว่ั โมง SC: 12 ชั่วโมง
ชื่อยา ภาพยา
Clexane®
(PFS) inj
40 mg/0.4 mL

Clexane® ไมมีขอมลู SC: 3 – 5 ชวั่ โมง SC: 12 ช่ัวโมง
(PFS) inj
60 mg/0.6 mL

Cutenox® ไมมีขอมลู SC: 3 – 5 ชัว่ โมง SC: 12 ช่ัวโมง
(PFS) inj
60 mg/0.6 mL

Clexane® ไมมขี อมูล SC: 3 – 5 ชวั่ โมง SC: 12 ชว่ั โมง
(PFS) inj
80 mg/0.8 mL

*enoxaparin sodium 1 mg (0.01 mL) เทยี บเทา 100 anti-Xa IU

High Alert Drug คมู ือการใชยาทีม่ คี วามเส่ยี งสงู พิมพค# รง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 29
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

ระเบยี บปฏบิ ตั ิเก่ียวกบั ยา enoxaparin sodium1-5

ขนั้ ตอน แนวทางปฏบิ ตั ิ

การคดั กรอง ขอบงใชของ enoxaparin 40 mg

• ใชปB อw งกนั การเกดิ โรคลม่ิ เลือดอุดตนั ในหลอดเลือดดาํ (venous

thromboembolic event) ในเฉพาะในการผา? ตัดท่ีมีความเสยี่ งปานกลาง

หรอื สงู

• ใชปB wองกนั การเกิดลม่ิ เลอื ดในเลอื ดทีไ่ หลเวียนนอกร?างกาย

(extracorporeal circulation) ระหว?างการฟอกโลหติ ดวB ยเครือ่ งไตเทียม

(โดยปกติจะใชเB วลา 4 ชวั่ โมงหรอื นBอยกวา? )

• ใชปB wองกันการเกิดภาวะหลอดเลอื ดดาํ ตบี ตนั (deep vein thrombosis)

ในผปูB mวยอายุรกรรมทไ่ี ม?สามารถลุกเดนิ ไดBเน่ืองจากภาวะความเจ็บปวm ย

เฉยี บพลัน จากโรค ดงั น้ี ภาวะหัวใจลBมเหลว (NYHA class III หรือ IV)

ภาวะหายใจลBมเหลว ภาวะการตดิ เชอื้ โดยเฉียบพลนั หรือโรคเกี่ยวกบั ขBอ

รูมาตคิ โดยเฉยี บพลนั ทม่ี ปี จ† จยั เส่ียงอย?างนอB ยหน่ึงปจ† จัยทเ่ี กยี่ วกับโรค

ลิ่มเลือดอดุ ตันในหลอดเลือดดํา (venous thromboembolic event)

ขอบงใชของ enoxaparin 60 mg และ 80 mg

• ใชBรกั ษาภาวะหลอดเลอื ดดาํ ตบี ตนั (deep vein thrombosis) ที่พบ

หรอื ไม?พบลิม่ เลือดอุดตนั ที่ปอด (pulmonary thromboembolism) ร?วม

ดBวย โดยไม?มีอาการแสดงทางคลินกิ ยกเวนB ในกรณที พ่ี บภาวะล่ิมเลือดอดุ

ตันที่ปอดและตBองรกั ษาโดยการผ?าตัด หรือใชBยาสลายล่มิ เลือด

• ใชรB ว? มกบั ยาแอสไพรนิ ในการรกั ษาภาวะ unstable angina และ

กลาB มเนอ้ื หัวใจตายเฉยี บพลนั แบบ non-Q wave

• ใชBร?วมกับยาสลายล่ิมเลือดในการรักษาภาวะกลBามเนือ้ หวั ใจตายเฉยี บพลนั

แบบ ST-segment elevation ในผBูปmวยท่ีสามารถ หรอื ไมส? ามารถทาํ การ

รักษาโดยใชBสายสวน (angioplasty) ไดB

ขอหามใช

• หาB มใชBในผBูปวm ยท่เี ลือดออกงา? ย, active bleeding, ผปBู mวยทมี่ ปี ระวัติ

Heparin Induced Thrombocytopenia (HIT) และผBูทีแ่ พยB านห้ี รอื

ส?วนประกอบของยาน้ี

ขอควรระวัง

• ระมัดระวังการใชยB ารว? มกับยาทมี ีผลตอ? การแข็งตวั ของเลือด เชน? NSAIDs,

platelet inhibitors, anticoagulant อ่ืน ๆ, การใชยB าในผทBู ไี่ ดรB บั

neuraxial anesthesia, ไดBรับการทาํ spinal puncture, ผูBทใ่ี ชB

High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี ีความเส่ยี งสูง พิมพ#ครั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 30
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**

การเขยี นสั่งยา indwelling epidural catheters และผทBู ่ีมปี ระวัตกิ ารทาํ spinal
การจดั ยา/ตรวจสอบยา surgery เน่อื งจากจะเพิม่ ความเส่ยี งในการเกดิ epidural หรือ spinal
การใหยาแกผปู วo ย hematoma ซ่ึงสง? ผลใหBเกดิ paralysis ไดB จงึ ควร ตดิ ตาม signs และ
symptoms ของ neurological impairment อย?างใกลBชิด

• สภาวะทจ่ี ะเพม่ิ ความเสย่ี งในการเกดิ เลอื ดออก : bacterial
endocarditis, ผูBสงู อาย,ุ active ulcerative และ angiodysplastic
gastrointestinal disease, congenital หรอื acquired bleeding
disorders, hemorrhagic stroke, ผูBท่มี ี renal impairment (อาจ
จาํ เป]นตBองปรับขนาดยาในกรณที ี่ Clcr นBอยกว?า 30 mL/minute), ผหBู ญงิ
ที่มนี ํา้ หนกั ตัวนBอยกว?า 45 กโิ ลกรัมผชBู ายที่มนี าํ้ หนักตัวนBอยกวา? 57
กิโลกรัม หรือผBูปวm ยทเี่ พ่งิ ไดรB บั การผ?าตดั brain, spinal หรอื
ophthalmological

• ระมดั ระวงั การใชBในผปูB วm ยที่ bleeding diathesis, uncontrolled
arterial hypertension, gastrointestinal ulceration, diabetic
retinopathy, renal dysfunction, หรอื hemorrhage

อันตรกิรยิ าระหวางยาท่สี ําคัญ

• ระมัดระวงั การใชB enoxaparin รว? มกบั ยาทีม่ ีฤทธิเ์ พมิ่ ระดบั โปแตสเซียม
เชน? potassium-sparing diuretics

• ควรหลกี เลยี่ งการใชB enoxaparin ร?วมกบั ยาทมี่ ฤี ทธต์ิ าB นการแข็งตวั ของ
เลอื ด เช?น salicylates, NSAIDs, ticlopidine, clopidogrel, ยาท่ีมฤี ทธ์ิ
เปน] glycoprotein IIb/IIIa antagonists

ในการเปลี่ยนยาจาก heparin มาเปน] enoxaparin นน้ั เมอ่ื หยุดยา heparin
แลวB ควรเร่มิ ใหB enoxaparin ภายใน 1 ช่ัวโมง3

• Double check ชือ่ ผูBปวm ย ชนิดและขนาดยา

• อาจตBองปรับขนาดยาในผBูทีเ่ ปน] โรคไต สตรมี คี รรภn และผูทB ม่ี นี า้ํ หนกั เกิน

• Double check ช่อื ผปBู วm ย ชนิดและขนาดยา

• ระวังการหยบิ สลบั กบั heparin และ insulin

• หBามฉดี แบบ IM

• การฉดี แบบ SC ไมค? วรไลฟ? องอากาศออกจากหลอดบรรจยุ ากอ? นฉีดเพอ่ื
หลีกเลย่ี งการสูญเสียยา

• เพ่ือลดความเส่ียงในการเกิด spinal column bleeding ในผปBู วm ยทไ่ี ดรB ับ
ยา enoxaparin ขนาดปwองกนั (เช?น ปอw งกนั การเกิด deep vein

High Alert Drug คมู ือการใชยาทม่ี ีความเสีย่ งสงู พิมพ#คร้งั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 31
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิริราช**

การตรวจตดิ ตาม thrombosis) ควรชะลอการใสห? รือถอด spinal catheter อยา? งนBอย
12 ชว่ั โมงหลงั จากบรหิ ารยา แตถ? Bาเป]นขนาดยาท่ีใชBในการรกั ษา (1
mg/kg วนั ละสองคร้งั หรือ 1.5 mg/kg วนั ละคร้ัง) ควรชะลอการใส?หรอื
ถอด spinal catheter อยา? งนอB ย 24 ชัว่ โมง หลงั จากบรหิ ารยา

• ส?วนกรณีที่เปน] post-procedure dose น้ันควรบริหารยา enoxaparin
หลังจากถอด spinal catheter อยา? งนBอย 4 ชวั่ โมง

• อย?างไรกต็ ามทุกกรณีควรมกี ารประเมนิ risk กับ benefit ในผปBู mวยแต?ละ
ราย ทั้งเรือ่ ง thrombosis และ bleeding5

• ตรวจ anti- Xa level (แนะนําในผูBปmวยที่มคี วามเสีย่ งสงู ในการเกิด
เลือดออกหรอื เกิดการ recurrent thrombosis ผBูปวm ยที่ใชยB าเป]นระยะ
เวลานานมี renal impairment หญิงมีครรภnและเดก็ รวมถึงคนทม่ี ีภาวะ
นาํ้ หนักตัวนอB ยหรอื มากกวา? เกณฑ)n

• ตรวจ CBC กอ? นใหยB า หากใหยB าเกนิ 7 วนั ควรตรวจซ้ํา

• ตรวจติดตาม serum creatinine

• ตรวจติดตาม potassium level เพราะอาจเกดิ hyperkalemia (อาจเกิด
จากการ suppressing aldosterone production)

• ตรวจตดิ ตาม neurological signs

• ตรวจ stool occult blood

• ตรวจติดตามอาการขาB งเคยี ง เชน? เกลด็ เลอื ดต่ํา เลอื ดออกงา? ย และอาการ
ระบบประสาท

• ควรหยดุ ยาถBาเกล็ดเลือดตํา่ กวา? 100,000 /mm3

• ผBปู mวยทไ่ี ดรB ับ neuraxial anesthesia หรือไดBรับการทาํ spinal puncture
ควรตรวจตดิ ตาม neurological impairment บ?อย ๆ เพือ่ ดวู ?ามี spinal
หรือ epidural hematoma เกิดขน้ึ หรือไม?

• ยาตBานพิษคือ Protamine sulphate โดยมี maximum neutralization
of the anti- Xa activity ประมาณรอB ยละ 60 (แตห? ากใหB enoxaparin
ไปนานเกนิ 12 ชั่วโมงแลBว protamine อาจไมจ? าํ เปน] )

การเก็บรักษายา เกบ็ ยาในอุณหภมู ไิ มเ? กนิ 25 องศาเซลเซียส (ไม?ตอB งเกบ็ ในตBเู ย็น) ไม?สามารถเกบ็ ยาไวBใชBในครง้ั
ตอ? ไปไดB (single use)

High Alert Drug คมู อื การใชยาท่มี คี วามเส่ียงสงู พมิ พ#คร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 32
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

เอกสารอางอิง
1. Deglin JH, Vallerand AH, editors. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis
Company; 2017. P. 632-5.
2. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Enoxaparin; [cited 2020 Nov 2]. Available from:
https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/2E70AC/ND_PR/evidencexpert/
ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/AF4803/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexpert
/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSearc
h?SearchTerm=enoxaparin#. Subscription required to view
3. เอกสารประกอบการประชุม DIS revisit: the next step in patient safety 2556 จัดโดยสมาคมเภสัช-กรรม
โรงพยาบาล ณ โรงแรมวนิ เซอรn วันท่ี 14-16 สงิ หาคม 2556
4. Clexane® [package insert]. Bangkok: Sanofi-aventis.
5. FDA Drug Safety Communication: Updated recommendations to decrease risk of spinal column
bleeding and paralysis in patients on low molecular weight heparins. [Homepage on Internet].
USFDA; [Accessed 13/01/2020]; Available from: http://www.fda.gov/Drugs/DrugSafety/ucm
373595.htm

High Alert Drug คูมือการใชยาที่มีความเส่ยี งสูง พมิ พ#ครงั้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 33
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ยี นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**

คูมอื ปฏิบตั งิ านเกยี่ วกับยาทมี่ ีความเสยี่ งสงู
โรงพยาบาลศิริราช

Heparin, Low Molecular Weight (Fondaparinux)

รูปแบบยา
Fondaparinux sodium (PFS) inj 2.5 mg/0.5 mL (Arixtra®)

เภสชั จลนศาสตร#ของยา fondaparinux sodium1 Onset Peak Duration
เร็ว 3 ช่วั โมง 24 ชว่ั โมง
ชอ่ื ยา ภาพยา
Arixtra® (PFS) inj
2.5 mg/0.5 mL

ระเบยี บปฏบิ ตั ิเกี่ยวกับยา fondaparinux sodium1-4

ขนั้ ตอน แนวทางปฏิบัติ
การคดั กรอง ขอบงใช

• เพื่อปwองกนั ภาวะการอดุ ตนั ของหลอดเลือดดาํ (Venous
Thromboembolic Events (VTE)) ในผปูB mวยทไี่ ดรB บั การผา? ตดั ใหญ?
ทางกระดกู และขอB ของชว? งขา (lower limbs) เช?น
- การผ?าตดั ขอB สะโพกหกั รวมถึงการปอw งกนั ตอ? เนอื่ งหลงั ผา? ตดั
- การผา? ตัดเปลี่ยนขอB เขา?
- การผา? ตัดเปลี่ยนขอB สะโพก

• เพือ่ ปอw งกันภาวะการอดุ ตนั ของหลอดเลือดดาํ (Venous
Thromboembolic Events (VTE)) ในผปBู mวยทไี่ ดBรบั การผา? ตดั
บริเวณชอ? งทอB งทมี่ ีความเสยี่ งทจ่ี ะเกดิ ภาวะอดุ ตันของหลอดเลอื ดดาํ

• เพอ่ื ปอw งกันภาวะการอดุ ตนั ของหลอดเลอื ดดํา (Venous
Thromboembolic Events (VTE)) ในผปBู วm ยโรคทางอายรุ กรรมทม่ี ี
ความเส่ยี งท่จี ะเกดิ ภาวะอดุ ตนั ของหลอดเลือดดาํ เน่อื งจาก
เคลอ่ื นไหวไดอB ยา? งจาํ กัดในระหวา? งเจ็บปmวย

• การรกั ษาภาวะหลอดเลือดดําอดุ ตนั แบบเฉียบพลนั (Acute Deep
Vein Thrombosis (DVT))

• การรักษาภาวะล่มิ เลือดอดุ ตนั แบบเฉยี บพลนั ในหลอดเลือดของปอด
(Pulmonary Embolism (PE))

High Alert Drug คูมอื การใชยาที่มีความเสีย่ งสูง พิมพ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 34
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

• การรักษาภาวะ unstable angina หรือ กลาB มเน้ือหัวใจตายจากการ
ขาดเลอื ดชนดิ ท่มี ี non-ST segment elevation acute coronary
syndrome ท่ีเกดิ ขึ้นอย?างเฉยี บพลนั เพื่อปwองกันการเสยี ชีวติ
กลBามเน้ือหวั ใจขาดเลือด และการลกุ ลามของภาวะขาดเลือดเฉพาะที่
ซงึ่ เกิดจากการอดุ ตนั ของหลอดเลือด (refractory ischaemia)

• การรักษาภาวะกลาB มเนอ้ื หวั ใจตายจากการขาดเลอื ดชนิดทม่ี ี ST
segment elevation (STEMI) acute coronarysyndrome ที่
เกดิ ข้ึนอยา? งเฉยี บพลันเพือ่ ปอw งกนั การเสียชีวิต และกลBามเน้อื หวั ใจ
ตายจากการขาดเลอื ดท่ีเกดิ ข้นึ ซ้ําในผปBู วm ยทไี่ ดBรับการรกั ษาดวB ยยา
ละลายลมิ่ เลอื ด หรือผูปB mวยซงึ่ เรม่ิ แรกไมม? แี ผนทจี่ ะไดBรบั การรกั ษาโดย
การเปŠดหลอดเลือดที่อุดตนั (reperfusion) ในรปู แบบอน่ื

ขอหามใช
• มปี ระวัตแิ พBยา Arixtra® หรอื ส?วนประกอบอน่ื ๆ ในผลติ ภณั ฑn

• กาํ ลังมีภาวะเลือดออกท่มี ีนยั สําคัญทางคลนิ กิ (active clinically
significant bleeding)

• เยอื่ บหุ วั ใจอกั เสบเฉยี บพลันจากแบคทเี รีย (acute bacterial
endocarditis)

• กําลงั มีภาวะเลือดออกท่ีมนี ยั สําคญั ทางคลนิ กิ (active major
bleeding

• bacterial endocarditis

• severe renal impairment (Clcr นBอยกว?า 30 mL/minute) เพราะ
จะเพ่มิ ความเส่ียงในการเกิดเลือดออกมากขึ้น

• ผBูปmวยทนี่ ้ําหนกั นBอยกว?า 50 กก.ทตี่ อB งการใชBเพื่อปwองกนั การเกดิ
venous thromboembolism เพราะจะเพิ่มความเสย่ี งในการเกิด
เลือดออกมากข้นึ

• ผูทB มี่ ี thrombocytopenia อนั เน่อื งมาจากการมี fondaparinux
antibodies

ขอควรระวัง

• ฝาครอบของหลอดแกวB พรอB มฉีด (pre-filled syringe) ประกอบดBวย
ยางดบิ ตามธรรมชาติซ่ึงสามารถทาํ ใหเB กิดปฏกิ ิริยาการแพBในผทBู ไี่ วตอ?
ยางพชื ไดB

• การใหBยาครั้งแรก (initial dose) ควรเร่มิ ใหBภายหลงั หัตถการ

High Alert Drug คมู ือการใชยาทมี่ คี วามเส่ยี งสงู พิมพค# ร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 35
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**

การเขยี นส่งั ยา ประมาณ 6 - 8 ชว่ั โมง การใหยB าเรว็ กว?ากาํ หนด จะเพม่ิ ความเสย่ี งใน
การจดั ยา/ตรวจสอบยา การเกิดเลือดออกอยา? งรุนแรง

การใหยาแกผปู วo ย • ยงั ไม?มีการศึกษาถึงประสทิ ธผิ ลและความปลอดภัยของยานใ้ี นผทูB ่ีมี
อายตุ า่ํ กวา? 17 ป_

• สภาวะทจ่ี ะเพิ่มความเสี่ยงในการเกดิ เลือดออก ไดแB ก? ผูBปวm ยท่มี ี
นํ้าหนักนอB ยกว?า 50 กโิ ลกรัม, ผูBปmวยท่ีมี Clcr นBอยกว?า 50 mL/min,
ผปBู mวยท่มี อี ายมุ ากกว?า 75 ป_ขนึ้ ไป, ใชB vitamin K antagonists
(หยุดยาก?อนเรม่ิ ยา fondaparinux), congenital หรือ acquired
bleeding disorders, active ulcerative และ angiodysplastic
gastrointestinal disease, hemorrhagic stroke, uncontrolled
arterial hypertension, diabetic retinopathy, การผ?าตดั brain,
spinal หรือ ophthalmic

อนั ตรกริ ิยาระหวางยาที่สําคญั

• ระมัดระวงั การใชรB ?วมกบั ยาทม่ี ผี ลต?อการแขง็ ตวั ของเลือด เช?น
NSAIDs, platelet inhibitors, anticoagulant อื่น ๆ การใชBยาใน
ผทูB ี่ไดรB บั neuraxial anesthesia ไดBรับการทาํ spinal puncture
ผทูB ีใ่ ชB indwelling epidural catheters และผทูB ่มี ปี ระวัตกิ ารทาํ
spinal surgery เนอื่ งจากจะเพม่ิ ความเสยี่ งในการเกิด epidural
หรือ spinal hematoma และส?งผลใหเB กิด paralysis จงึ ควรตดิ ตาม
signs และ symptoms ของ neurological impairment อย?าง
ใกลชB ิด

• Double check ชอ่ื ผูปB mวย ชนิดและขนาดยา

• ขนาดยาขน้ึ กับ indication และนํา้ หนักของผปูB mวย

• SC : 2.5 mg วนั ละครง้ั

• พจิ ารณาการปรบั ขนาดยาในผBูทไ่ี ตทํางานบกพร?อง

• Double check ช่ือผูปB วm ย ชนิดและขนาดยา

• เกบ็ แยกยาไวBในท่ีเขาB ถงึ ไดยB าก

• ทาํ สญั ลักษณnเตอื นใหBระวัง
การเก็บรักษายา: ก?อนการเปดŠ ใชB เกบ็ ยาทอี่ ุณหภมู ิ 25 องศาเซลเซียส
ในบางกรณอี นโุ ลมใหเB ก็บท่อี ณุ หภมู ิไมเ? กิน 30 องศาเซลเซยี สไดB แตเ? ป]นช?วง
ระยะเวลาส้ัน ๆ

• Double check ช่อื ผูปB วm ย ชนดิ และขนาดยา

High Alert Drug คูมือการใชยาที่มคี วามเสยี่ งสงู พิมพค# ร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 36
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

• หามฉดี เขากลามเนื้อ (IM)

• การบรหิ ารยาใชวB ธิ เี ขาB ใตผB วิ หนงั (SC) เทา? นน้ั โดยฉดี เขาB fatty

tissue และสลับตาํ แหนง? กนั ทั้งฝ†งœ ซาB ยและขวา ทงั้ หนาB ทBองและบัน้

เอว (antero-, posterolateral abdominal wall)

• ทิศทางการป†กเขม็ ตอB งตงั้ ฉากกบั ผวิ หนงั ก?อนฉีดใหดB ึงหนังขนึ้ ใหBตึง

ไม?ตอB งนวดคลงึ ผิวหนงั หลังการฉีดยา

• ไม?ควรไลฟ? องอากาศออกจากหลอดฉีดยาก?อนการฉีด เพอื่ หลกี เล่ยี ง
การสูญเสยี ยา2

การตรวจติดตาม • ตรวจตดิ ตามอาการขBางเคยี งทเ่ี ก่ยี วกับ bleeding เชน? เลอื ดออกที่

เหงอื ก เลือดกาํ เดาไหล เกิดจํา้ เลอื ดอย?างผดิ ปกติ ถ?ายอุจจาระดํา มี

เลือดไหลบริเวณแผลผา? ตดั หากพบอาการดงั กลา? วใหBรีบแจBงแพทยn

ทนั ที

• ควรหยดุ ยาถาB เกล็ดเลอื ดตํ่ากว?า 100,000 /mm3

• ตรวจตดิ ตาม

CBC

plasma anti-factor Xa ในผูBปmวยทีม่ ี significant renal

impairment ผBูทเ่ี คยเกดิ bleeding หรือมี coagulation

parameters ทีผ่ ดิ ปกติ หญงิ มคี รรภn ผBูทมี่ ีนํา้ หนักตวั มากหรือนอB ย

ผดิ ปกติ

blood pressure

hepatic function

renal function, stool occult blood tests

ผปูB วm ยที่ไดรB บั neuraxial anesthesia หรือไดBรบั การทํา spinal

puncture ควรตรวจตดิ ตาม neurological impairment บอ? ย ๆ เพอ่ื ดู

วา? มี spinal หรือ epidural hematoma เกิดขึ้นหรอื ไม?
ขอควรระวงั : Fondaparinux (Arixtra®) ไมส9 ามารถใช,สลบั สบั เปลีย่ นหรือทดแทนกบั ยา heparin หรือ ยาในกลมุ9

low molecular weight heparin ได, ความแรงของยา (unit) ขนาดยา (dose) ไมส9 ามารถเทยี บขา, มชนดิ ได, ตอ, ง

ใช,ตามขนาดยาท่ีระบตุ ามชนิดยานนั้ ๆ เปนT สาํ คญั

High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ คี วามเสย่ี งสงู พมิ พค# รั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 37
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

เอกสารอางองิ

1. Deglin JH, Vallerand AH, editors. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis

Company; 2017. p. 589-91.
2. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Fondaparinux; [cited 2020 Nov 2]. Available from:.

https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/PFDefaultActionId/evidencexpert.D

oIntegratedSearch?navitem=headerLogout#. Subscription required to view
3. Arixtra® [package insert]. Thailand: GlaxoSmithKline.

4. Corbett AH, Dana WJ, Golembiewski JA, Gonzales JP, Johnson S, Lowe JF, et al. editors. Drug
Information Handbook. 26th ed. Hudson, OH: Lexicomp; 2017. pp. 807-9.

High Alert Drug คมู อื การใชยาท่มี คี วามเส่ียงสูง พิมพค# ร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 38
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**

คูมอื ปฏิบตั งิ านเก่ยี วกบั ยาทมี่ คี วามเสีย่ งสงู
โรงพยาบาลศริ ิราช

Heparin, Low Molecular Weight (Tinzaparin)

รปู แบบยา
Tinzaparin sodium inj 10,000 anti-Xa IU/mL 2 mL (Innohep®)

เภสัชจลนศาสตร#ของยา tinzaparin sodium1

ชื่อยา ภาพยา Onset Peak Duration
Innohep® SC: 2-3 ชัว่ โมง SC: 4-6 ชวั่ โมง SC: 16-24
IV: 0.25 ชั่วโมง IV: ไมมีขอมลู
10,000 ช่วั โมง
IV: 12 ชั่วโมง
anti-Xa IU/mL

บรรจุ 2 mL

ระเบียบปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกับยา tinzaparin sodium1-3

ข้ันตอน แนวทางปฏิบัติ

การคัดกรอง ขอบงใช

• ใชรB ักษาอาการลม่ิ เลือดอดุ ตันในหลอดเลอื ดดาํ (deep vein thrombosis)

และเสนB เลอื ดทไี่ ปเล้ยี งปอดอุดตนั (pulmonary embolism)

• ใชBปwองกันอาการล่ิมเลือดอดุ ตนั ในหลอดเลือดดําหลงั การผ?าตดั ในผBูปวm ยท่ี

ไดรB ับการผา? ตัดทั่วไป และผา? ตัดเกย่ี วกบั กระดูก

• ใชBปwองกนั การแขง็ ตัวของเลือดในสาย IV ขณะทําการถ?ายเลือด และการ

ลBางไตดBวยเคร่ือง (hemodialysis)

ขอหามใช

• หBามใชใB นเดก็ ทมี่ ีอายตุ ํ่ากวา? 2 ป_ เพราะในผลิตภณั ฑมn ี benzyl alcohol
เปน] ส?วนประกอบ2

• หBามใชใB นผปูB วm ยทเ่ี ลอื ดออกง?าย ผปBู mวยท่ีมปี ระวตั ิ Heparin Induced

Thrombocytopenia (HIT)

• หBามใชใB นผBูที่มี active bleeding

• หBามใชใB นผูBทีแ่ พยB านีห้ รอื ส?วนประกอบของยานี้

• หาB มใชBในผทูB ใ่ี ชยB า defibrotide เพราะจะเพม่ิ ความเสยี่ งในการเกิด

High Alert Drug คมู ือการใชยาทม่ี คี วามเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 39
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

การเขยี นส่ังยา เลอื ดออก
การจดั ยา/ตรวจสอบยา ขอควรระวัง

• หลกี เล่ียงการใชยB าในผBูปmวยที่มอี ายุมากกว?า
70 ป_ และมีการทํางานของไตบกพร?องนอกจากมีความจําเปน]

• ระมัดระวงั การใชยB าร?วมกับยาทมี ีผลต?อการแข็งตวั ของเลอื ด เช?น NSAIDs,
platelet inhibitors, anticoagulant อนื่

• การใชยB าในผทBู ไี่ ดรB บั neuraxial anesthesia, ไดBรับการทาํ spinal
puncture, ผูBท่ีใชB indwelling epidural catheters และผูทB ีม่ ปี ระวัติการ
ทาํ spinal surgery หรอื spinal deformity เน่ืองจากจะเพิม่ ความเส่ียง
ในการเกดิ epidural หรือ spinal hematoma จงึ ควร ติดตาม signs
และ symptoms ของ neurological impairment อย?างใกลBชิด

• ระมัดระวังการใชใB นหญิงมคี รรภnเนอ่ื งจากในผลติ ภณั ฑมn ี benzyl alcohol
เปน] สว? นประกอบ (ขอB มูลจาก innohep®)

• ระวังการใชBในผปูB วm ยที่มีภาวะ uncontrolled arterial hypertension,
bleeding diathesis, diabetic retinopathy หรอื gastrointestinal
ulceration

• สภาวะทเี่ พิ่มความเส่ียงในการเกดิ เลือดออก : bacterial endocarditis,
congenital หรอื acquired bleeding disorders (hepatic failure
หรือ amyloidosis), เพ่ิงไดBรบั การผา? ตดั brain, spinal หรือ ตา,
hemorrhagic stroke, uncontrolled severe hypertension หรือ
ulcerative และ active angiodysplastic gastrointestinal disease

อนั ตรกิริยาระหวางยาทสี่ าํ คัญ

• ยาตBานการแขง็ ตัวของเลอื ดทอ่ี อกฤทธ์ิตBานวิตามนิ เค (vitamin K
antagonists) อาจเพม่ิ ฤทธ์ิ tinzaparin

• Dextran อาจเพม่ิ ฤทธขิ์ อง tinzaparin

• Double check ชือ่ ผูBปวm ย ชนดิ และขนาดยา

• ไมเขยี นคํายอ U เพราะอาจดเู หมอื นเลขศนู ยn ควรใช unit แทน

• ขนาดยาขนึ้ กับ indication และน้าํ หนัก อาจมีการปรบั ขนาดยาในผปBู วm ย
พิเศษ

• Double check ชอื่ ผBูปวm ย ชนดิ และขนาดยา

• เก็บแยกยาไวใB นท่เี ขาB ถงึ ไดBยาก

• ทําสญั ลกั ษณเn ตอื นใหรB ะวงั

High Alert Drug คูมือการใชยาที่มีความเสยี่ งสูง พิมพค# รั้งที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 40
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลีย่ นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

การใหยาแกผปู oวย • ระวงั การหยิบสลบั กบั heparin และ insulin
การตรวจตดิ ตาม การเกบ็ รกั ษายา Tinzaparin: แบบ vial ความแรง 10,000 anti-Xa IU/mL
(2 mL) ก?อนเปดŠ ใชB เกบ็ ท่ีอณุ หภูมไิ ม?เกิน 30 องศาเซลเซียส เปŠดใชBแลวB เกบ็ ไดB
14 วนั ที่อณุ หภมู ิ 2-8 องศาเซลเซียส

• Double check ชือ่ ผปูB mวย ชนิดและขนาดยา

• ระวังการหยบิ สลบั กบั heparin และ insulin

• ฉีดยาแบบ subcutaneous เทา? นน้ั และไม?ควรนวดบริเวณท่ฉี ดี

• ตรวจ anti - Xa level (แนะนาํ ในผBปู mวยที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิด
เลอื ดออกหรือเกิดการ recurrent thrombosis ผปBู mวยทใ่ี ชยB าเปน] ระยะ
เวลานาน มี renal impairment หญงิ มีครรภnและเดก็ รวมถึงคนที่มภี าวะ
นํ้าหนักตวั นBอยกวา? 50 กโิ ลกรมั หรือมากกวา? 80 กโิ ลกรัม) สามารถตรวจ
ตดิ ตาม anti-Xa level ท่ี 4- 6 ชวั่ โมงหลงั ไดรB บั ยา

• ตรวจ CBC กอ? นใหBยา หากใหยB าเกนิ 7 วนั ควรตรวจซา้ํ

• ควรนบั จํานวนเกล็ดเลอื ดกอ? นเริม่ ตนB การรกั ษา และนบั ซา้ํ อกี อาทิตยnละ
2 ครง้ั ในระหว?างทาํ การรกั ษา ถาB เกล็ดเลือดตํ่ากว?า 100,000/mm3
ใหหB ยุดยา

• ควรตรวจค?า renal และ liver function

• ตรวจติดตาม neurological signs

• ตรวจติดตามอาการขาB งเคยี ง เชน? เกลด็ เลือดตํ่า เลือดออกง?าย และอาการ
ทางระบบทางประสาท

• ตรวจ potassium level ในผทูB เี่ ส่ยี งจะเกดิ hyperkalemia (diabetes,
renal dysfunction, preexisting metabolic acidosis, ใชรB ?วมกบั ยา
potassium-sparing diuretics หรือpotassium supplements, การใชB
tinzaparin เป]นระยะเวลานาน และมี hematoma ใน body tissues)

• ถBาใชBยาน้ีในระยะยาวใหตB รวจตดิ ตาม bone mineral density

• ยาตBานพษิ คอื Protamine sulphate โดยมี maximum neutralization
of the anti- Xa activity ประมาณรอB ยละ 60

High Alert Drug คูมือการใชยาทมี่ ีความเสย่ี งสูง พมิ พค# รงั้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 41
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**

เอกสารอางอิง
1. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Tinzaparin; [cited 2020 Nov 2]. Available from:

https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/3F1C25/ND_PR/evidencexpert/

ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/3B2230/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexpert

/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSearc

h?SearchTerm=tinzaparin&UserSearchTerm=tinzaparin&SearchFilter=filterNone&navitem=searchAL

L# Subscription required to view
2. Innohep® [package insert]. Denmark: Leo.

3. Corbett AH, Dana WJ, Golembiewski JA, Gonzales JP, Johnson S, Lowe JF, et al. editors. Drug

Information Handbook. 26th ed. Hudson, OH: Lexicomp; 2017, pp. 2254-7.

High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี คี วามเสย่ี งสงู พมิ พ#ครั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 42
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**

High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 43
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 44
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 45
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**

คมู ือปฏิบัติงานเกี่ยวกับยาทม่ี คี วามเสย่ี งสงู
โรงพยาบาลศริ ิราช
Warfarin sodium

รูปแบบยา
1. Warfarin sodium 2 mg tablet
2. Warfarin sodium 3 mg tablet
3. Warfarin sodium 5 mg tablet

เภสัชจลนศาสตร#ของยา warfarin sodium1 Onset Peak Duration
ชื่อยา ภาพยา 24-72 ชัว่ โมง Time to peak : 4 ช่ัวโมง 2-5 วนั

Maforan® Full therapeutic effect :
2 mg tablet 5-7 วัน

Orfarin® 24-72 ชว่ั โมง Time to peak : 4 ชวั่ โมง 2-5 วนั
3 mg tablet Full therapeutic effect :
5-7 วัน

Orfarin® 24-72 ชวั่ โมง Time to peak : 4 ช่วั โมง 2-5 วัน
5 mg tablet Full therapeutic effect :
5-7 วนั

ระเบียบปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับยา warfarin sodium1-5

ขน้ั ตอน แนวทางปฏบิ ตั ิ
การคัดกรอง ขอบงใช

• ใชBรักษาและปwองกันการเกิดลิม่ เลอื ดของหลอดเลือดดําทอ่ี ยูล? กึ (deep
vein thrombosis) และการอุดตนั ของหลอดเลือดทปี่ อด (pulmonary
embolism)

• ใชBปwองกันชนิดทตุ ิยภูมสิ าํ หรบั การเกิดกลาB มเน้อื หวั ใจตาย และปwองกัน

High Alert Drug คูมือการใชยาที่มคี วามเสีย่ งสงู พิมพ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 46
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**


Click to View FlipBook Version