ทนั ทหี ลังการเจอื จาง ควรบริหารยาชาB ๆ นานกว?า 1 นาทีขนึ้ ไป หรอื ไม?เกิน 0.5
mg/kg/min การบริหารยาเรว็ เกนิ ไปจะกดการหายใจและความดันเลอื ดจะ
สงู ขึน้
• การบริหารยา ketamine แบบ หยดเขBาหลอดเลือดดําอย?างตอ? เนื่อง
(continuous IV infusion) ใหBเจือจางยาจนไดคB วามเขBมขนB 1 mg/mL ดBวย
NSS หรอื D5W ในกรณีทีจ่ ํากัดนา้ํ (fluid-restricted condition) สามารถใชB
ความเขมB ขBน 2 mg/mL ไดB
การตรวจติดตาม • ติดตามความดนั เลอื ดและชีพจรอย?างตอ? เนือ่ ง เนอ่ื งจาก ketamine มีฤทธิ์
เหน่ยี วนาํ ใหเB กิดความดันเลอื ดสงู และ sinus tachycardia ซ่ึงขึน้ กบั ขนาดยา
ketamine โดยเกย่ี วขอB งกับการหลงั่ endogenous catecholamines
• การกดการหายใจ (respiratory depression) และหยดุ หายใจ (apnea) พบ
นBอยแตก? ส็ ามารถพบไดBถาB มีการใหBยาในขนาดสงู และเรว็ เกินไป หรอื ในการใหBยา
สําหรับผทูB ีม่ รี อยโรค/ความผิดปกติของระบบประสาทสว? นกลางอย?เู ดมิ หรือใน
ทารกแรกเกดิ
• ตดิ ตาม bronchial secretion การเกดิ laryngospasm รวมทัง้ airway
obstruction
• ติดตาม intracranial pressure
• ระวังการเกดิ anaphylaxis reaction ผน่ื แบบ maculopapular rash อาการ
เจบ็ บรเิ วณทีบ่ ริหารยา ป†สสาวะไม?ออก กระเพาะป†สสาวะอกั เสบ
เอกสารอางอิง
1. ClinicalKey®. Ketamine [online]. Accessed on Nov 29, 2021. Available from:
https://www.clinicalkey.com/#!/content/drug_monograph/6-s2.0-333
2. The Royal Children’s Hospital Melbourne. Ketamine use for procedural sedation (online).
Accessed on Nov 29, 2021. Available from:
https://www.rch.org.au/clinicalguide/guideline_index/Ketamine_use_for_procedural_sedation/
3. IBM Micromedex® DRUGDEX® (electronic version). IBM Watson Health, Greenwood Village,
Colorado, USA. Available at: https://www.micromedexsolutions.com/ (cited: 11/29/2021).
High Alert Drug คมู อื การใชยาทมี่ ีความเสย่ี งสูง พิมพ#ครัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 245
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
คูมอื ปฏิบตั งิ านเกย่ี วกบั ยาทีม่ คี วามเสีย่ งสงู
โรงพยาบาลศริ ิราช
Midazolam injection
รูปแบบยา
1. Midazolam inj 5 mg/mL
2. Midazolam inj 15 mg/3 mL
3. Midazolam in D5W inj 0.5 mg/mL (20 mL, 30 mL)
4. Midazolam in D5W inj 2 mg/mL (20 mL, 30 mL)
เภสชั จลนศาสตร#ของยา midazolam hydrochloride1-3
ช่ือยา ภาพยา Onset Peak Duration
Midazolam Hameln® IM : ประมาณ IM : 30-60 IM : 2-6
15 นาที นาที ชั่วโมง
inj 5 mg/mL IV : 3-5 นาที IV : 3–5 นาที IV : 2-6
ชั่วโมง
Midazolam Hameln® IM : ประมาณ IM : 30-60 IM : 2-6
inj 15 mg/3 mL 15 นาที นาที ชว่ั โมง
IV : 3-5 นาที IV : 3–5 นาที IV : 2-6
ชั่วโมง
Midazolam in D5W IV : 3-5 นาที IV : 3–5 นาที IV : 2-6
inj 0.5 mg/mL (20 ชว่ั โมง
mL, 30 mL)
Midazolam in D5W IV : 3-5 นาที IV : 3–5 นาที IV : 2-6
inj 2 mg/mL (20 mL, ช่ัวโมง
30 mL)
High Alert Drug คมู อื การใชยาทม่ี คี วามเสย่ี งสูง พมิ พ#ครง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 246
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
ระเบียบปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับยา midazolam hydrochloride1-5
ข้นั ตอน แนวทางปฏบิ ตั ิ
การคดั กรอง ขอบงใช
• ทําใหBสงบระงบั ก?อนการผา? ตัด
• ทาํ ใหBสงบระงบั กอ? นหรอื ระหว?างการทาํ หตั การ
• ทําใหสB งบระงบั สาํ หรับผปูB วm ยในภาวะวิกฤต
• ใชรB ?วมกับยาระงบั ความรBูสกึ เพอ่ื การผ?าตัดหรอื การทําหัตถการท่ี
ก?อใหBเกิดความปวด
• ช?วยเหนีย่ วนาํ ใหBสลบ
ขอหามใช
• หาB มใชใB นผูBทแี่ พBยาน้ี
• หาB มใชใB นผปูB วm ยตBอหินเฉียบพลนั ชนดิ มุมแคบ (acute narrow angle
glaucoma)
• หาB มฉดี เขาB ชอ? งไขสันหลงั หรือเย่อื หุมB สมองและไขสันหลงั ชนั้ นอก
หมายเหต:ุ ในกรณที จ่ี าํ เป]นตBองใชB ใหBอย?ใู นดุลยพนิ จิ ของแพทยn
ขอควรระวงั
• ระวงั การใชBในผทูB แ่ี พBยาในกลม?ุ benzodiazepines
• ระมดั ระวงั การใชBเปน] พเิ ศษในสตรมี คี รรภn สตรีใหBนมบุตร ผBปู mวยโรค
ตบั โรคไต โรคหัวใจ โรคตอB หินชนิดมุมเปŠด (เนอ่ื งจากความดันลกู ตา
อาจเพิม่ ขึน้ ) โรค myasthenia gravis โรคที่ระบบทางเดนิ หายใจ
ทํางานบกพร?อง ภาวะหยดุ หายใจขณะหลับ โรคพิษสุราเร้ือรัง โรค
จติ เวช เชน? โรคจิต โรคซึมเศรBา ผBูที่มปี ระวัตกิ ารตดิ ยาหรือสารเสพตดิ
• อาจเกดิ ผลตรงขBามกับฤทธ์ิของยาทใ่ี หB (paradoxical reactions) ใน
เดก็ หรือผสBู ูงอายไุ ดB
• ระวงั การใชใB นผปBู mวยที่มี albumin ในพลาสมาตํ่า
(hypoalbuminemia)
• ยาน้ีอาจทาํ ใหBง?วงซมึ ควรใชรB ะมดั ระวังในผปูB mวยที่มีความเสย่ี งในการ
หกลBม
• ยาขับออกผา? นทางนา้ํ นม ควรงดการใหBนมบุตรอย?างนอB ย 24 ชว่ั โมง
หลงั ไดรB ับยาน้ี
High Alert Drug คมู อื การใชยาท่ีมคี วามเส่ยี งสูง พมิ พ#ครง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 247
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
การเขยี นสง่ั ยา อนั ตรกริ ยิ าระหวางยาทสี่ ําคญั
• แอลกอฮอลn หรือยาทีม่ ฤี ทธิ์กดประสาทสว? นกลาง ยากล?มุ
barbiturates จะทาํ ใหBฤทธิ์ตอ? ระบบสว? นกลางเพิ่มข้ึน และเพม่ิ ความ
เส่ยี งตอ? ภาวะทางเดินหายใจอุดตัน ภาวะหยดุ หายใจ
• ยาทีม่ ีฤทธ์เิ พ่ิมความเสย่ี งในการเกิดความดนั โลหิตตาํ่ เช?น ยาลด
ความดนั โลหิต, opioid analgesics, ยาในกลุ?ม nitrate, acute
ingestion of alcohol
• ยาท่มี ีฤทธิ์ยบั ยง้ั การทาํ งานของเอนไซมn CYP3A4 ในตับ เช?น
cimetidine, ยาคุมกําเนดิ ชนดิ รับประทาน, ยาปฏิชวี นะกลุม?
macrolide เช?น erythromycin, ยาฆา? เช้อื รากลุม? azole เช?น
itraconazole, ketoconazole, posaconazole, ยาในกล?ุม
protease inhibitors เชน? lopinavir, darunavir เพราะจะทาํ ใหB
ระดับยา midazolam สงู ขน้ึ และออกฤทธิ์นานขนึ้
• Double check ชอื่ ผูปB mวย ชนดิ และขนาดยา
• ตBองเขียนใบยาวัตถอุ อกฤทธ์ติ ?อจิตประสาท (ยว.) กาํ กับทกุ ครั้ง (เป]น
แพทยคn นเดียวกัน)
• ขนาดยาในผูใB หญ?
- ทําใหสงบระงบั กอนการผาตัด (ใหกอนผาตดั 30-60 นาที) :
อายุ <60 ป_
IM : 0.07-0.08 mg/kg
IV : ขนาดยาเร่มิ ตBน 1-2.5 mg ฉดี เขาB หลอดเลือดดาํ ชาB ๆ อยา? ง
นอB ย 2 นาที ติดตามอาการหลังฉีดยาอยา? งนอB ย 2 นาที และปรบั
ขนาดยาตามความจาํ เปน] ขนาดยาสูงสดุ ไม?เกิน 5 mg
อายุ >60 ป_ หรือผปูB วm ยท่มี ีความเสยี่ งสงู
IM : 0.02-0.05 mg/kg
IV : ขนาดยาเริม่ ตBน 0.5-1.5 mg ฉดี เขBาหลอดเลือดดาํ ชBาๆ อยา? ง
นBอย 2 นาที ติดตามอาการหลงั ฉีดยาอย?างนอB ย 2 นาที และปรบั
ขนาดยาตามความจาํ เปน] ขนาดยาสงู สดุ ไมเ? กนิ 3.5 mg
- ทําใหสงบระงบั กอนหรอื ระหวางการทาํ หัตถการ :
อายุ <60 ป_
IV : ขนาดยาเริม่ ตBน 1-2.5 mg ฉดี เขBาหลอดเลือดดาํ ชาB ๆ อย?าง
นอB ย 2 นาที ตดิ ตามอาการหลงั ฉดี ยาอยา? งนBอย 2 นาที และปรบั
High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเส่ียงสูง พมิ พ#ครั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 248
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
ขนาดยาตามความจาํ เปน] ขนาดยาสูงสุดไม?เกิน 5 mg
อายุ >60 ป_ หรอื ผปูB mวยที่มคี วามเสีย่ งสงู
IV : ขนาดยาเรม่ิ ตนB 1-1.5 mg ฉีดเขBาหลอดเลอื ดดําชาB ๆ อยา? ง
นBอย 2 นาที ติดตามอาการหลังฉีดยาอยา? งนBอย 2 นาที และปรบั
ขนาดยาตามความจําเปน] ขนาดยาสูงสุดไมเ? กิน 3.5 mg
- ทําใหสงบสาํ หรับผปู วo ยในภาวะวิกฤต :
ขนาดยาเริม่ ตBน (loading dose) IV 0.01–0.05 mg/kg ประมาณ
0.5–4 mg ใหBยาอย?างชาB ๆ ซํา้ ไดBทกุ 10–15 นาทีจนกระทงั่ อาการ
สงบลง
การรักษาต?อเนือ่ ง (maintenance dose) IV infusion 0.02–0.1
mg/kg/hr (ประมาณ 1-7 mg/hr)
• ขนาดยาในเดก็
- ทาํ ใหสงบระงบั กอนการผาตัด (ใหกอนผาตดั 30-60 นาที) :
IM : 0.8-0.15 mg/kg อาจปรบั ขนาดยาตามความจําเปน] ไม?เกนิ
0.5 mg/kg ขนาดยาสงู สดุ ไมเ? กนิ 10 mg
IV :
อายุ <6 เดอื น ขึ้นกับดลุ ยพนิ ิจแพทยn
อายุ >6 เดอื น ถึง 6 ป_ 0.05-0.1 mg/kg ตดิ ตามอาการหลังฉีดยา
อย?างนBอย 2-3 นาที และปรับขนาดยาตามความจาํ เป]น ไม?เกินครง้ั
ละ 0.6 mg/kg ขนาดยาสูงสุดไมเ? กนิ 6 mg
อายุ >6 ป_ ถึง 12 ป_ 0.025–0.05 mg/kg ตดิ ตามอาการหลงั ฉดี ยา
อย?างนอB ย 2-3 นาที และปรบั ขนาดยาตามความจาํ เป]น ไมเ? กนิ คร้ัง
ละ 0.4 mg/kg ขนาดยาสงู สดุ ไมเ? กิน 10 mg
อายุ >12 ป_ ถงึ 16 ป_ ใชขB นาดยาเดยี วกับผูBใหญ? แต?ขนาดยาสงู สดุ
ไมเ? กิน 10 mg
- ทาํ ใหสงบระงบั กอนหรือระหวางการทําหตั ถการ :
IM : 0.05-0.15 mg/kg อาจปรบั ขนาดยาตามความจาํ เป]น ไมเ? กิน
0.5 mg/kg ขนาดยาสูงสดุ ไม?เกนิ 10 mg
IV :
อายุ < 6 เดอื น ข้ึนกับดลุ ยพินจิ แพทยn
อายุ > 6 เดือน ถงึ 6 ป_ 0.05-0.1 mg/kg ตดิ ตามอาการหลังฉดี ยา
อย?างนBอย 2-3 นาที และปรบั ขนาดยาตามความจาํ เปน] ไมเ? กนิ ครั้ง
High Alert Drug คูมอื การใชยาท่ีมคี วามเส่ยี งสงู พมิ พค# รงั้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 249
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
การจัดยา/ตรวจสอบยา ละ 0.6 mg/kg ขนาดยาสูงสดุ ไม?เกิน 6 mg
การใหยาแกผูปoวย อายุ > 6 ป_ ถึง 12 ป_ 0.025–0.05 mg/kg ตดิ ตามอาการหลังฉีด
ยาอยา? งนอB ย 2-3 นาที และปรบั ขนาดยาตามความจาํ เป]น ไม?เกนิ
ครัง้ ละ 0.4 mg/kg ขนาดยาสงู สดุ ไมเ? กนิ 10 mg
อายุ > 12 ป_ ถงึ 16 ป_ ใชBขนาดยาเดยี วกบั ผใูB หญ? แต?ขนาดยา
สงู สดุ ไม?เกนิ 10 mg
- ทําใหสงบสําหรับผปู วo ยในภาวะวกิ ฤต :
เด็ก (non neonatal)
ขนาดยาเริ่มตBน (loading dose) IV 0.05-0.2 mg/kg คร้งั เดยี ว
ฉดี เขาB หลอดเลอื ดดาํ อยา? งชาB ๆ อย?างนอB ย 2 นาที
การรักษาต?อเนอื่ ง (maintenance dose) IV infusion
0.06–0.12 mg/kg/hr
ทารกอายุ < 32 สปั ดาหnนบั จากวนั ต้ังครรภn IV infusion
0.03 mg/kg/hr
ทารกอายุ > 32 สัปดาหnนบั จากวนั ตั้งครรภn ถงึ อายุ 1 เดือน
IV infusion 0.06 mg/kg/hr
หาB มใหB loading dose ในทารกนBอยกว?า 44 สปั ดาหn นบั จากวัน
ตง้ั ครรภn ควรหยดยาเขBาหลอดเลือดดาํ อย?างเรว็ 2-3 ช่ัวโมงแรกจน
ผูปB mวยสงบ
• ในผูปB วm ย renal impairment ที่ CrCl <10 mL/min แนะนาํ ปรับ
ขนาดยาลดลงรอB ยละ 50
• ในผปูB วm ยสูงอายคุ วรเร่ิมจากขนาดยาต่ําๆ และคอ? ย titrate อยา? งชาB ๆ
• ในเด็กอวB น ควรใชB ideal body weight ในการคาํ นวณ
• Double check ชอื่ ผBูปmวย ชนิดและขนาดยา
• เก็บแยกยาไวใB นทเ่ี ขาB ถึงไดBยากและลอ็ กกญุ แจเสมอ
• ทําสญั ลักษณnเตอื นใหBระวัง
• Double check ช่อื ผูปB วm ย ชนดิ และขนาดยากอ? นใหBยาทุกคร้ัง
• สารนา้ํ ท่ีเขาB ไดB NSS และ D5W
• กรณี continuous infusion ในเด็กความเขBมขBนสูงสุดไม?เกิน 0.5
mg/mL และในผBใู หญค? วามเขBมขนB สงู สุดไมเ? กนิ 1 mg/mL
• กรณี IV push สามารถใหBแบบ undilute หรือเจือจางที่ความเขมB ขนB
High Alert Drug คูมือการใชยาที่มีความเสี่ยงสงู พิมพค# รงั้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 250
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
การตรวจตดิ ตาม 1-5 mg/mL บรหิ ารชาB ๆ 2-5 นาที
• ไม?ควรฉีดยาเขBาหลอดเลือดดําอย?างรวดเร็ว เพราะอาจทาํ ใหBความดนั
โลหิตต่าํ และชักไดB
• ความคงตัวทางเคมแี ละกายภาพของยาภายหลงั เจอื จางดวB ย NSS
และ D5W หลังเจอื จางควรใชBทนั ที หากไม?สามารถใชไB ดทB นั ที แนะนาํ
ไม?ควรใชเB กินกวา? 24 ช่วั โมง (เกบ็ ท่อี ุณหภมู ิ 2-8oC)
• ตดิ ตามผลการใชยB า (therapeutic) ไดBแก? ประเมินระดบั ความสงบ
ระงบั (level of sedation) และระดบั ความรสBู กึ ตัว (level of
consciousness) ระหว?างการใหBยา และหลังจากใหBยาไปแลวB
2–6 ชว่ั โมง
• ตดิ ตามพิษจากการใชยB า (toxicity and overdose) เช?น อาการ/
อาการแสดงของ respiratory depression และ sedation ควรเฝwา
ระวังการหายใจ (RR, oxygen saturation) ชพี จร (HR) และความ
ดนั โลหติ (BP) ของผูBปmวยระหว?างใหBยา
• ตดิ ตามผลขาB งเคยี งอ่ืนๆ ทอ่ี าจเกิดไดB เช?น สะอกึ ไอ กลอ? งเสยี งหด
เกร็ง หลอดลมหดเกรง็ หายใจลาํ บาก หายใจมเี สียงหวีด อตั ราการ
หายใจเร็ว เกดิ การสงบระงบั เกนิ ขดี (excessive sedation) ปวด
ศีรษะ เวยี นศรี ษะ ภาวะกายใจไม?สงบ ควบคุมการเคลอ่ื นไหวไมไ? ดB
ความรูBสึกสัมผัสเพี้ยน (paresthesia) กBาวรBาว กงั วล ภาวะสูญเสีย
ความทรงจําขณะยาออกฤทธ์ิ (anterograde amnesia) ภาวะเคล้มิ
สขุ หลอนประสาท อารมณลn ะเหย่ี นอนไมห? ลับ ฝ†นราB ย คลน่ื ไสB
อาเจยี น ภาวะหลง่ั นา้ํ ลายมาก ปากแหงB ทBองผกู มองภาพไมช? ดั เหน็
ภาพซอB น
• อาจเกิดภาวะกดการหายใจหรอื หยดุ หายใจ และอาจมีภาวะความดัน
โลหิตตํา่ และชักไดหB ากฉดี ยาเขBาหลอดเลือดอยา? งรวดเร็ว
• ติดตามภาวะทางตา ในผูBปวm ย open-angle glaucoma เนอ่ื งจาก
อาจเพม่ิ ความดนั ลกู ตาไดB
• ติดตามอยา? งใกลชB ิดในผปBู วm ยสูงอายุอย?างใกลชB ดิ โดยเฉพาะในผูปB mวยที่
อายมุ ากกวา? 70 ป_ เน่อื งจากอาจมกี ารเปลี่ยนแปลงของการกระจาย
ยา การทํางานของตบั และไตทลี่ ดลง อาจสง? ผลใหBคา? คร่ึงชวี ติ ของยา
ยาวนานขน้ึ
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่ีมีความเสย่ี งสงู พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 251
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
Benzodiazepine intoxication :
• อาการและอาการแสดง ไดBแก? งว? งซมึ สงบระงบั สับสน impaired
coordination กดการหายใจ โคมา?
• การรกั ษา ใหBการรักษาตามอาการ เช?น หากมภี าวะกดการหายใจ
ควรมกี าร maintain airway และใชBเครือ่ งชว? ยหายใจหากจําเปน] ถาB
มีความดนั โลหิตตํา่ อาจใหสB ารนาํ้ (IV fluids)
• ยาแกBพิษ คอื flumazenil (specific benzodiazepine receptor
antagonist) ใหทB าง IV แต?ควรระมัดระวังการใชB flumazenil ใน
กรณผี ปBู mวยทเ่ี คยไดรB บั benzodiazepine ตอ? เนื่องมาเป]นเวลานาน
เพราะอาจทําใหเB กดิ การถอนยา ควรระมัดระวังในผูBทไี่ ดรB บั ยาในกล?ุม
tricyclic antidepressant หรือยาอนื่ ๆ ท่อี าจทาํ ใหBชกั และผปBู mวย
โรคลมชักท่ีไดรB บั การรักษาดBวย benzodiazepine เน่ืองจากการ
ไดBรับ flumazenil อาจทาํ ใหBเกิดอาการชักไดB
• แนะนาํ ใหBปรึกษาหน?วยขBอมลู ยาและพษิ วทิ ยา โทร 97007
เอกสารอางอิง :
1. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Midazolam; [cited 2019 Sep 12]. Available from:
https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/F306B5/ND_PR/evidencexpert/
ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/291C6E/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexpert
/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSearc
h?SearchTerm=Midazolam+Hydrochloride&fromInterSaltBase=true&false=null&false=null&=null#.
Subscription required to view
2. Drug information: Midazolam In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham
(MA): UpToDate, Inc.; 2020 [cited 2020 Jan 20].
3. Vallerand AH, Sanoski CA, Deglin JH. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis
Company; 2017. p. 846-9.
4. Midazolam Hameln® [package insert]. Thailand: Apexcela; 2018.
5. Midazolam Sandoz® [package insert]. Thailand: Norvatis; 2019.
High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี คี วามเสีย่ งสูง พิมพค# รง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 252
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
คมู อื ปฏิบตั งิ านเกยี่ วกับยาทีม่ คี วามเสี่ยงสูง
โรงพยาบาลศิริราช
Propofol
รปู แบบยา
1. Propofol inj 1% emulsion (10 mg/mL) ขนาดบรรจุ 20 mL และ 50 mL
เภสชั จลนศาสตรข# องยา propofol1-3 Onset Peak Duration
ชื่อยา ภาพยา IV: 40 วินาที IV: ไมมขี อมูล 3-5 นาที*
Propofol inj. 1%
emulsion
(20 mL)
Propofol inj. 1% IV: 40 วินาที IV: ไมมีขอมูล 3-5 นาที*
emulsion
(50 mL)
*time to recovery ประมาณ 8 นาที (อาจนานถึง 19 นาที ถBามีการใชB opioid analgesics รว? มดวB ย)
High Alert Drug คมู อื การใชยาทีม่ คี วามเสีย่ งสูง พมิ พ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 253
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ยี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
ระเบียบปฏิบตั ิเก่ียวกบั ยา propofol1-3
ขั้นตอน แนวทางปฏบิ ัติ
การคดั กรอง ขอบงใช
• สาํ หรบั การนาํ สลบท่วั ไปทงั้ เหนยี่ วนําและคงสภาพการสลบ (General
anaesthesia; induction and maintenance)
• สาํ หรับการ sedate ผูปB mวยในหอผูปB วm ยวิกฤตท่ีใชBเคร่ืองช?วยหายใจ (ICU
patients with mechanical ventilator)
• การทาํ ใหสB ลบและหมดความรBสู กึ เฉพาะท่ี (sedation and regional
anaesthesia)
• การทําใหBสลบนอกหBองผา? ตดั (off-label use)
• กรณรี ะงบั ชกั ในผทูB ช่ี ักแบบทีไ่ มต? อบสนองตอ? การรักษาดBวยยาอน่ื (refractory
status epilepticus)
ขอหามใช
• แพBหรือไวตอ? ส?วนประกอบของยานี้ เชน? ถว่ั เหลอื ง ถ่ัวลสิ ง กลีเซอรอล เลซติ ิน
ขอควรระวัง
• ใชBสําหรบั ทางหลอดเลือดดําเทา? นน้ั
• ใชBภายใตBการดแู ลของผBูเช่ยี วชาญทางวสิ ัญญวี ิทยา
• ตBองเตรยี มพรBอมในเรื่องการกชBู พี (resuscitation) เพราะสามารถเกิดปฏกิ ิริยา
การแพแB บบ anaphylactoid และ anaphylaxis ไดB
• ใชBดวB ยความระมัดระวังในผทBู ่มี ี compromised myocardial infarction,
volume depletion, vascular tone ผิดปกติ
• เนอื่ งจากยาเปน] ลกั ษณะ lipid emulsion ตอB งระวังการใชใB นผทูB ่มี ีความผดิ ปกติ
ของ lipid metabolism (เชน? เบาหวาน ไขมนั ในเลือดสงู ตับอ?อนอักเสบ)
• ระวงั การเกดิ “Propofol Infusion Syndrome” ซง่ึ มลี กั ษณะคือ severe
metabolic acidosis, hyperkalemia, lipemia, rhabdomyolysis,
hepatomegaly, renal failure, EKG changes และ cardiac failure ซง่ึ
ป†จจัยเสี่ยงของการเกดิ propofol infusion syndrome คอื การไดรB บั
propofol ในขนาดสูง (มากกวา? 5 mg/kg/hr นานกวา? 48 ชัว่ โมง) และไดBรับยา
อืน่ ๆ ร?วม เช?น vasoconstrictors, steroids, inotropes
High Alert Drug คูมอื การใชยาที่มีความเสย่ี งสูง พิมพ#ครั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 254
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
การเขยี นสัง่ ยา • Double check ชอื่ ผปBู mวย ขอB บง? ใชBและขนาดยา
• ขนาดยาในผใู หญ
สาํ หรบั การเรมิ่ monitored anesthesia
ผูBใหญส? ขุ ภาพดที ี่อายนุ อB ยกว?า 55 ป_ ใชขB นาดยาอัตราเร็ว 100-150
mcg/kg/min (6-9 mg/kg/hr) นานกวา? 3-5 นาที หรือ 0.5 mg/kg นานกวา? 3-
5 นาที
สาํ หรับการ maintain MAC sedation
ผใูB หญ?สขุ ภาพดีท่ีอายนุ อB ยกวา? 55 ป_ ใชBขนาดยาในอัตราเรว็ 25-75
mcg/kg/min (1.5-4.5 mg/kg/hr) หรือใชB incremental bolus dose 10-20
mg
ผูBใหญ?อายมุ ากกวา? 55 ป_ ทีม่ ี ASA (American Society of
Anestheologist) risk เกรด III หรอื IV หรือเปน] debilitated ใหBลดขนาดยา
ลงเปน] 80% ของขนาดยาปกติ ใชอB ัตราการหยดยาเปน] 20-60 mcg/kg/min
(1.2-3.6 kg/kg/hr) และหาB มใชB bolus dose
สําหรบั การ sedate ในผBูทใ่ี ส?เคร่อื งช?วยหายใจในหออภิบาลผปBู วm ยหนัก
ขนาดยาขนึ้ กับการตอบสนองของแตล? ะบุคคล, โดยทัว่ ไปเปน] การหยดยา
อย?างตอ? เนอ่ื งเขาB หลอดเลือดดํา อัตราเร็วเร่ิมตBน 5 mcg/kg/min (0.3
mg/kg/hr) เป]นเวลา 5 นาที คอ? ย ๆ ปรบั อัตราเร็วเพอ่ื ใหไB ดBฤทธ์ิสงู สุดโดยไมท? าํ
ใหBเกิดความดันต่ํา (การปรบั ขนาดยาแตล? ะครงั้ ควรท้ิงช?วงห?างมากกวา? 5 นาท)ี
การใหยB าไมค? วรเรว็ เกินกว?า 4 mg/kg/hr ยกเวBนมีประโยชนมn ากกว?าความเสย่ี ง
สาํ หรับการ maintain การ sedation ในผูBท่ีใสเ? ครือ่ งช?วยหายใจในหออภิบาล
หรือ respiratory-controlled
ใชอB ตั ราเรว็ 5-50 mcg/kg/min (0.3-3 mg/kg/hr) หรือสูงกวา? นีใ้ น
ลักษณะการหยดยาอยา? งต?อเนื่องและค?อย ๆ ปรบั จนไดBฤทธ์ิที่ตอB งการ ใชดB วB ย
ความระมัดระวังในอัตราเรว็ ทส่ี งู กว?า 50 mcg/kg/min เพราะอาจทําใหBเกดิ
ความดันตาํ่
สําหรบั การระงบั ชกั อย?างตอ? เนอื่ งที่ดอ้ื ยา (refractory status epilepticus)
ใชBขนาดยา 1-2 mg/kg ฉีดเขBาหลอดเลือดชาB ๆ 5 นาทีขึ้นไป อาจใหซB ้ําไดB
ถBาไม?ตอบสนอง ในกรณีจาํ เปน] สามารถหยดตอ? เน่อื งเขBาหลอดเลอื ดดําไดBใน
อตั ราเร็ว 2-10 mg/hr จนกว?าจะ suppress seizure activity ไดB ในกรณีที่
ควบคุมอาการชกั ไดBแลBวตอB งค?อย ๆ ลดขนาดยาลงเพือ่ ปอw งกันการถอนยา
High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสย่ี งสูง พิมพ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 255
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
การจดั ยา/ตรวจสอบยา • ขนาดยาในเด็ก
การใหยาแกผูปวo ย เพื่อลดอาการปวดในเด็ก ควรบริหาร propofol ผ?านหลอดเลอื ดขนาดใหญ? หรือ
ใหB lidocaine นําไปกอ? น
การตรวจตดิ ตาม การเหนยี่ วนาํ การสลบในเดก็ สขุ ภาพดีทมี่ อี ายุ 3-16 ป_
ขนาดยาขน้ึ กบั การตอบสนองของแต?ละบุคคล สามารถใชBยาในขนาด 2.5-
3.5 mg/kg ใหBนาน 20-30 วนิ าที การเหน่ยี วนําการสลบดวB ย propofol ใหใB ชB
สําหรับเด็กทอ่ี ายมุ ากกวา? 3 ปข_ น้ึ ไปเทา? นนั้ (การเหน่ียวนาํ สลบในเด็กอายุ 2
เดอื น – 3 ป_ จาํ เป]นตอB งใชBยาอนื่ รว? มดBวย เชน? ไนตรสั ออกไซดn 60%-70%)
การ maintain การสลบในเดก็ สขุ ภาพดีต้ังแตอ? ายุ 2 เดือน – 16 ป_
ขนาดยาขนึ้ กับการตอบสนองของแตล? ะบคุ คล และจาํ เปน] ตBองใชยB าอืน่ ร?วม
ดวB ย โดยทว่ั ไปหลงั จากเร่ิมเหนยี่ วนาํ การสลบแลBวใหB maintain ตอ? ดวB ยขนาดยา
125-300 mcg/kg/min (7.5-18 mg/kg/hr) ใหBลดอตั ราเรว็ ลงถBาสัญญาณของ
light anaesthesia ไม?เกิดภายใน 30 นาทหี ลงั จากการ maintain การสลบ
• เก็บแยกยาไวใB นทีเ่ ขBาถงึ ไดBยาก
• ทําสญั ลักษณnเตอื นใหรB ะวงั
• Double check ชือ่ ผBูปวm ย ชนดิ และขนาดยา
• Double check ช่ือผBปู วm ย ชนิดและขนาดยา
• รูปแบบยาเตรยี มทมี่ อี ยูใ? นรปู อมิ ัลชนั (emulsion) ความแรง 1% (10 mg/mL)
2 ขนาดบรรจุ 20 mL และ 50 mL โปรดดขู นาดบรรจกุ อ? นหยบิ ยา
• ควรเขยา? หลอดยาใหดB ีก?อนใชB (เพราะเนอ่ื งจากเปน] emulsion) หาB มใชยB าทเ่ี ขย?า
แลวB ไมก? ระจายตัวทวั่ หรอื emulsion แยกเปน] ชน้ั
• อนุญาตใหเB จือจางยาดวB ย D5W เทา? นน้ั และหาB มเจือจางยาจนมคี วามเขมB ขBนตํา่
กว?า 2 mg/mL
• ไม?แนะนําการ Y-site ร?วมกับยาหรือสารนา้ํ อนื่ รวมท้งั หาB ม Y-site กับเลือดหรอื
ผลติ ภัณฑจn ากเลอื ด
• ตอB งบริหารผา? นเครอื่ งมอื ทีไ่ ดมB าตรฐานและผ?านการสอบเทียบวา? สามารถ
ปลดปล?อยยาไดคB งท่ี
• ก?อนเริม่ ใหยB าตBองตรวจสอบสถานะการขาดนา้ํ (dehydration) ของผBูปmวยก?อน
• ตรวจสอบอาการปวด หรือปฏิกริ ิยาบริเวณท่ีแทงเสนB
• ตรวจตดิ ตามสญั ญาณชีพอยา? งตอ? เนือ่ ง ในช?วง 60 นาทแี รกอาจมีความดนั เลือด
ต่ําลงไดB
High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี คี วามเสย่ี งสงู พิมพ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 256
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
• ใหBผูBปmวยนอนอย?ูทเ่ี ตยี ง (bed rest) อย?างนBอย 3 ชวั่ โมงหลังใหยB า
• ในกรณที ี่ตอB งใหยB าในระยะยาว เชน? ในผปBู mวยในหอวิกฤติ (ICU) อาจตอB งตรวจ
ตดิ ตามระดบั ไตรกลเี ซอไรดnในเลอื ดเปน] ระยะ เพราะใน propofol 1 mL
ประกอบดวB ยไขมนั 0.1 กรัม (พลังงาน 1.1 kcal)
เอกสารอางอิง
1. Vallerans AH, Sanoski CA. Davis’s Drug Guide for Nurses®. 16th ed. PA: F.A. Davis Company, 2019.
2. Gahart BL, Nazareno AR, Ortega MQ. Gahart’s 2021 Intravenous Medications. 37th ed. MO:
Elsevier, 2021.
3. Drug information: Propofol. In: UpToDate [database on the internet]. Waltham (MA): UpToDate,
Inc.; 2021 [cited 2021 Dec 1]
High Alert Drug คูมือการใชยาที่มีความเส่ียงสูง พมิ พค# รั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 257
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
คมู อื ปฏิบตั ิงานเกยี่ วกับยาทมี่ คี วามเสยี่ งสูง
โรงพยาบาลศิริราช
Adrenaline bitartrate
รูปแบบยา
1. Adrenaline 1 mg/mL (1 mL)
2. Adrenaline Siriraj (PFS) injection 100 mcg/mL (20 mL)
เภสชั จลนศาสตรข# องยา adrenaline1,2 Onset Peak Duration
ชอ่ื ยา ภาพยา
SC: 5-10 นาที SC: 20 นาที SC: <1-4 ชัว่ โมง
Adrenaline IM: 6-12 นาที IM: ไมม? ขี Bอมูล IM: <1-4 ชว่ั โมง
injection
1 mg/mL IV: rapid IV: 20 นาที IV: 20-30 นาที
(1 mL) GPO
Adrenaline IV: rapid IV: 20 นาที IV: 20-30 นาที
Siriraj (PFS)
Injection
100
mcg/mL
(20 mL)
ระเบียบปฎบิ ตั เิ ก่ียวกบั ยา adrenaline1-5
ขนั้ ตอน แนวทางปฏิบัติ
การคัดกรอง ขอบงใช
• รักษาอาการแพBอยา? งรนุ แรง รวมถงึ ภาวะ anaphylactic shock
รกั ษาอาการหลอดลมตีบทงั้ จากกรณีหอบหืด หรอื หลอดลมตีบระหว?าง
การใหBยาสลบ
• รักษาภาวะหัวใจหยดุ เตBน (cardiac arrest)
• ใชBร?วมกับยาชาเฉพาะที่ (เพอื่ ลดอตั ราการดูดซึมของยาชา-เฉพาะที่
High Alert Drug คูมือการใชยาทม่ี ีความเสีย่ งสูง พมิ พ#คร้งั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 258
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ยี นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
เขBาสูเ? สนB เลือด) ใชใB นการผา? ตัด (เพ่อื ปwองกนั ภาวะตกเลอื ด ลดการคดั
จมกู และขยายมา? นตา) และใชเB ฉพาะท่ีเพ่อื ปwองกนั เลือดไหลไมห? ยดุ
ขอหามใช
• หBามใชใB นผูทB มี่ ีภาวะ cardiac dilatation และ coronary
insufficiency
• หBามใชรB ?วมกบั halogenated hydrocarbon anaesthetic (เชน?
halothane) เพราะจะทําใหBหัวใจมคี วามไวตอ? การเกิดการเตBนผดิ จงั หวะ
เมื่อไดBรับยากลมุ? sympathomimetic
• หาB มใชBรว? มกบั ยาชาเฉพาะที่ในบริเวณอวยั วะสว? นปลาย เชน? นวิ้ มือ
นิ้วเทBา ใบหู เพราะจะเพ่ิมความเสย่ี งในการเกดิ หลอดเลือดหดตัวอยา? ง
รุนแรงและเกิดเนอื้ เย่อื ตาย (vasoconstriction and sloughing of
tissue)
• ไมม? ีขอB หBามโดยสมบูรณสn ําหรับการใชB adrenaline สาํ หรับผปBู วm ยที่
มีความจาํ เปน] ตBองไดBรบั การรกั ษา anaphylactic reaction แบบฉกุ เฉนิ
• หBามใชใB นผBูทแ่ี พBยานีห้ รอื สว? นประกอบของยาน้ี หรอื แพB
sympathomimetic amines
• หาB มใชใB นกรณที ีผ่ ูปB mวยมภี าวะทห่ี าB มใชBยากลม?ุ vasopressor เช?น
ภาวะ thyrotoxicosis, diabetes, หญิงคลอดบุตรที่มคี วามดนั มากกวา?
130/80 mmHg, ความดนั โลหติ สูง และความผดิ ปกติของหัวใจหรอื
หลอดเลือด
• หาB มใชBในคนที่กาํ ลังคลอด เพราะอาจจะทาํ ใหBระยะที่สองของการ
คลอดล?าชาB ไดB
• หBามใชใB นผูBปวm ยทมี่ ีภาวะ narrow-angle (congestive) glaucoma
• หาB มใชผB Bปู วm ยทีม่ ี organic brain damage (เฉพาะกรณี
injection)
• หาB มใชใB นผูปB วm ยท่ี shock แบบอน่ื ท่ไี มใ? ช? anaphylactic
• หBามใชBรว? มกบั ยา MAOIs เช?น phenelzine, isocarboxazid หรอื
tranylcypromine เพราะจะเพม่ิ ความเสย่ี งในการเกดิ hypertensive
crisis ควรเวนB ห?างกันอยา? งนBอย 14 วนั
• หาB มใชBผูBปวm ยที่อย?รู ะหวา? งการใชยB าสลบชนิด chloroform,
trichloroethylene, หรือ cyclopropane หาB มใชBยารว? มกับยา
High Alert Drug คูมอื การใชยาทมี่ คี วามเสย่ี งสงู พิมพ#ครั้งที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 259
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
dihydroergotamine และ linezolid (ยกเวBนติดตาม BP อย?างใกลBชดิ )
ขอควรระวัง
• สภาวะท่ีเพมิ่ ความเสี่ยงในการเกดิ ผลขBางเคยี งจากการใชยB าน้ี เช?น
ผูBปmวยสงู อายุ preexisting diabetes และ hyperthyroidism
• หลกี เลย่ี งการฉดี ยาในปริมาณมาก หรือฉีดโดยไมไ? ดBต้งั ใจ เพราะ
เพมิ่ ความเสี่ยงในการเกิดความดนั โลหติ สงู ซ่งึ อาจส?งผลใหเB กดิ cerebral
hemorrhage, angina pectoris, aortic rupture ไดB
• การใชBในผทูB ่มี ี preexisting hypertension, cardiac
arrhythmias, coronary insufficiency, organic heart disease,
ischemic heart disease หรือใชBรว? มกบั ยาทsี่ ensitize heart ใหเB กดิ
arrhythmias เพม่ิ ความเสย่ี งในการเกิด angina pectoris และ
ventricular arrhythmias
• การไหลเวยี นเลอื ดทีน่ ิ้ว มอื หรอื เทาB อาจเสียไป กรณีท่ฉี ดี แบบ
ไม?ไดBตง้ั ใจ
• Hypertension หรือ severe, prolonged hypertension อาจ
เกิดไดใB นผูปB mวยท่ีไดรB บั MAOIs หรอื antidepressants (กลมุ? triptyline
หรือ imipramine) อาจตอB งมีการปรบั ขนาดยา
• ระมัดระวงั การใชBในผูทB ่ีแพB sulfite หรือผลิตภณั ฑnทีม่ ี sodium
metabisulfite เปน] ส?วนประกอบ แตใ? นกรณที ่เี กดิ anaphylaxis
สามารถใชไB ดBโดยไม?ตอB งคาํ นงึ ถงึ เรอื่ งการแพB sulfite
• ระวงั การใชใB นผปูB mวยท่มี ี autonomic dysreflexia โดยเฉพาะ
spinal cord injury (เชน? tetraplegics อาจตBองปรับลดขนาดยา)
• อาการอาจแยล? งไดBใน Parkinson disease
• ระวงั การใชใB นผปูB mวย psychiatric, emotional, psychoneurotic
conditions
• อาจเกดิ ภาวะ oliguria และ renal impairment ไดB
• หญิงต้ังครรภอn าจเกดิ อาการไมพ? ึงประสงคnไดBมากข้ึน
• ระวังการใชBในผปBู วm ย asthma และ emphysema ทีม่ ี
degenerative heart disease
• เพ่ิมความเส่ียงในการเกดิ pulmonary edema หรืออาจเสียชวี ิต
High Alert Drug คมู ือการใชยาทมี่ คี วามเส่ยี งสูง พมิ พ#คร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 260
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
การเขยี นสงั่ ยา จาก peripheral constriction และ cardiac stimulation
• อาจเกดิ pulmonary edema ไดBเนือ่ งจาก peripheral
vasoconstricition
• Double check ชื่อผปBู mวย ขBอบง? ใชแB ละขนาดยา
• ตั้งแต? พฤษภาคม 2016 ISMP (Institute for Safe Medication
Practice) ไม?อนญุ าตใหเB ขียนยาเปน] สดั สว? น และทาง รพ. ไมอ? นญุ าตใหB
เขยี นยาเป]นสดั ส?วนในทกุ กรณี
• ขนาดยา
For anaphylaxis;
ผใBู หญ?
IV infusion 1-2 mcg/min (1-2 mL/min ของ
สารละลาย adrenaline ท่ีเจอื จางเป]น 1 mcg/mL)
สามารถ titrate ไดBตาม hemodynamic response
อตั ราเร็วสงู สดุ ในการบริหารยา คือ 10 mcg/min (10
mL/min)
IM, SC: 0.3-0.5 mg ของ adrenaline 1 mg/mL
ทุก 5-15 นาที
เดก็ (นยิ มใหB IM)
IM, SC: 0.01 mg/kg/dose (0.01 mL/kg/dose ของ
adrenaline 1 mg/mL ) (maximum single dose:
prepubertal child 0.3 mg หรือ adolescent 0.5
mg/dose) ทุก 5-15 นาที
FDA Dosage
นา้ํ หนักตงั้ แต? 30 kg ขน้ึ ไป ใชBยา 0.3-0.5 mg หรอื 0.3-
0.5 mL ของ adrenaline 1 mg/mL (max dose คือ
0.5 mg/dose)
นํา้ หนักนอB ยกวา? 30 kg ใชยB า 0.01 mg/kg หรือ 0.01
mL/kg ของ adrenaline 1 mg/mL (max dose คือ
0.3 mg/dose)
สามารถใหBซ้ําไดทB กุ 5-10 นาทตี ามความจาํ เป]น
IV infusion: ใชBในกรณที ีเ่ ป]น refractory case (กรณที ่ี
ไม?ตอบสนองตอ? IM) ใชB adrenaline ความเขBมขนB 1
High Alert Drug คูมือการใชยาท่มี ีความเส่ียงสงู พิมพค# รั้งที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 261
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
การจัดยา/ตรวจสอบยา mcg/mL ใหBยาขนาดเริ่มตBน 0.1 mcg/kg/min และ
การใหยาแกผูปวo ย titrate จนไดผB ลการรกั ษาทนี่ ?าพอใจ ขนาดปกติ คอื 0.1-
1 mcg/kg/min (max rate คือ 10 mcg/min)
For cardiopulmonary resuscitation
ผูBใหญ?
IV push/Intraosseous ใหB 1 mg ทกุ 3- 5 นาที
เด็ก
IV push/Intraosseous 0.01 mg/kg (0.1 mL/kg ของ 100
mcg/mL solution) (maximum single dose: 1 mg) ทุก 3- 5
นาที
For cardiac arrest-hypotension;
ผูBใหญ?
IV infusion 0.1-0.5 mcg/kg/min ปรับอตั ราเร็วตามการ
ตอบสนองทางคลนิ กิ
เดก็
IV infusion/Intraosseous 0.1-1 mcg/kg/min ปรับอตั ราเร็วตาม
การตอบสนองทางคลนิ กิ
• เกบ็ แยกยาไวใB นทีเ่ ขBาถึงไดยB าก
• ทาํ สญั ลกั ษณnเตือนใหรB ะวัง
• Double check ช่อื ผปูB mวย ชนิดและขนาดยา
• ช่ือพอB งของยา adrenaline คอื epinephrine
• ระวังจะสบั สนกบั ยา noradrenaline หรือ norepinephrine ซ่ึง
เปน] ยาทีม่ ชี อ่ื คลาB ยกนั แตค? นละตัวกนั ดังนนั้ ตBองตรวจสอบความแรงท่ี
เขียนมาทุกครง้ั
• ขนาดยาท่มี ีในโรงพยาบาล คอื 1 mg/mL และ 100 mcg/mL
• Double check ชอ่ื ผBูปวm ย ชนิดและขนาดยา
• สารนาํ้ ท่ีใชBในการเจือจางยา คอื D5W, NSS
• หากไมไ? ดกB ําหนดเป]นอยา? งอืน่ หรือไมไ? ดBกําหนดตามขBอบง? ใชB
ในกรณีทวั่ ไปความเขBมขนB สูงสุด (max conc.) สําหรับเด็ก คือ
64 mcg/mL และสาํ หรับผBใู หญ? คือ 16 mcg/mL
• กรณีทใี่ หB IV injection อาจพบความเขมB ขนB สงู ไดถB ึง 100 mcg/mL
High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี คี วามเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 262
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
การตรวจตดิ ตาม • ถBาใหB IV infusion ควรใชB infusion pump
• ควรใหทB าง central line ถBาไมส? ามารถใหBไดBแนะนาํ เสนB เลือดทมี่ ี
ขนาดใหญ?
• หลกี เล่ยี ง ankle veins (เพราะมีความเสี่ยงท่จี ะเกดิ gangrene)
หรอื leg veins ในผปูB mวยท่ีมี occlusive vascular diseases (เชน?
diabetic endarteritis, Buerger’s disease, arteriosclerosis หรือ
atherosclerosis)
• การฉีดเขBาบรเิ วณสะโพก อาจไมไ? ดผB ลในกรณีทเี่ ปน] anaphylaxis
• ในขณะท่ฉี ีดยา ไมค? วรเคล่อื นไหว เพราะอาจเกดิ อันตรายไดB มี
รายงานในเด็กพบ การฉีกขาด เข็มงอและฝง† เขBาไปในเนอ้ื ไดB
• มีรายงานการตดิ เชอ้ื บริเวณผิวหนงั หรอื เนื้อเย่ืออ?อน รวมถงึ
necrotizing fasciitis หรือ myonecrosis จาก Clostridia ป†จจยั ที่
อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด Clostridial infections และ gas
gangrene คอื ฉีดยาเขBาสะโพก การใชB alcohol ทาํ ความสะอาดไม?ไดB
ลดความเสีย่ ง จงึ แนะนาํ ใหหB ลกี เลีย่ งการฉดี เขBาสะโพก
• ควรหลกี เลย่ี งการฉีดเขาB หลอดเลือดแดงโดยตรงและการฉดี เขBา
กลBามเนอ้ื บริเวณสะโพก เนอื่ งจากอาจทาํ ใหหB ลอดเลือดตบี จนกลBามเน้ือ
ตาย
• ผลติ ภณั ฑบn างบริษทั อาจไมส? ามารถใหBทาง IV ไดB
• Adrenaline จะถูกทาํ ลายโดยทันทีเมอ่ื สัมผสั กบั ดา? งหรือสารตาB น
ออกซเิ ดชัน ดงั น้ันจึงไม?ควรใชBเม่ือยาตกตะกอน หรือเปลย่ี นเปน] สี
ชมพูออ? นหรอื สนี ํ้าตาลอ?อน
• เก็บทอี่ ณุ หภูมิไม?เกิน 25 องศาเซลเซียส และปwองกันไม?ใหถB กู แสง
• ความคงตวั หลังเจือจางยา 24 ชวั่ โมงในตูเB ย็น
• ตรวจ vital signs (BP, pulse rate) ทกุ 3-5 นาที
• เมอ่ื พบอาการ tachycardia, palpitation, BP สงู แจBงแพทยทn นั ที
เพราะอาจเกิด ventricular fibrillation, pulmonary edema จาก
ความดันสงู หรือจาก peripheral constriction และ cardiac
stimulation อาจถึงแก?ชวี ิตไดB
• บันทึก vital signs โดยเฉพาะ BP และ HR ขณะใหยา
• BP ผBใู หญ?ไม?ควรเกนิ 160/90 mmHg
High Alert Drug คูมือการใชยาที่มคี วามเสย่ี งสงู พิมพ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 263
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
• BP เด็กอายเุ กิน 1 ป_ ไมค? วรเกิน 120/80 mmHg
• BP เด็กอายตุ ํ่ากวา? 1 ปไ_ มค? วรเกนิ 100/70 mmHg
• HR ผBูใหญ?ไมค? วรเกิน 120 beats/min
• HR เด็กอายเุ กนิ 1 ป_ ไมค? วรเกิน 180 beats/min
• HR เด็กอายุตา่ํ กวา? 1 ปไ_ มค? วรเกิน 220 beats/min
• หรอื ตามแพทยสn ง่ั
• อาจตรวจ EKG ในบางกรณี
• ตรวจ urine output เพราะยาทําใหBเกิด renal blood vessel
constriction ไดB
• สงั เกตการเกดิ extravasation ตรวจดู IV site ทกุ 1 ช่ัวโมง เพอื่
ระวงั การเกิดยารั่วออกนอกหลอดเลือด (extravasation) ซ่งึ จะทําใหB
เกิดเน้อื เยอ่ื ตายไดB โดยอาการนาํ คอื ผิวหนังมสี ีขาวซีด (blanching)
หรือมสี เี ทา (graying) ผวิ หนังเยน็
• ถBาเกดิ extravasation แลBวใหหB ยดุ การหยดยาทนั ทีและ
disconnect สาย (cannula/needle) ค?อย ๆ ดูด extravasated
solution ออก (ไม? flush line) คอ? ย ๆ ดงึ needle/cannula ออกและ
ยก extremity ขึ้น ใชB dry warm compresses หรอื ใหB infiltrate
NSS ท่มี ี adrenergic blocking agent : phentolamine (ไมม? ใี น
ประเทศไทย) และควรใหBภายใน 12 ชัว่ โมง
High Alert Drug คมู ือการใชยาที่มคี วามเสยี่ งสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 264
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**
High Alert Drug คูมอื การใชยาทม่ี ีความเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 265
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
เอกสารอางองิ :
1. Corbett AH, Dana WJ, Golembiewski JA, Gonzales JP, Johnson S, Lowe JF, et al. editors. Drug
Information Handbook. 26th ed. Hudson, OH: Lexicomp; 2017. p. 52-5.
2. Vallerand AH, Sanoski CA, Deglin JH. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis
Company; 2017. p. 496-9.
3. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare); c1974-
2019. DRUGDEX® System, Adrenaline; [cited 2019 Dec 26]. Available from:
https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/1DB07A/ND_PR/evidencexpert/
ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/5899BD/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexper
t/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSear
ch?SearchTerm=adrenaline#. Subscription required to view
4. Adrenaline injection [package insert]. Thailand: GPO.
5. คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิรริ าช. High Alert Drug คูม? ือการใชBยาท่ีมีความเส่ียงสูง
โรงพยาบาลศริ ิราช. พมิ พคn รงั้ ที่ 4. กรุงเทพฯ: 2560. หนBา 20-3.
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่ีมีความเสย่ี งสูง พมิ พ#ครั้งท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 266
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
คูมอื ปฏบิ ัติงานเกี่ยวกับยาที่มีความเสีย่ งสงู
โรงพยาบาลศริ ิราช
Norepinephrine bitartrate
รปู แบบยา
1. Norepinephrine bitartrate injection 4 mg/4 mL (NE base 1 mg/1 mL)
2. Norepinephrine in NSS inj 40 mcg/mL (2 mL)
เภสชั จลนศาสตร#ของยา norepinephrine bitartrate 1 Onset Peak Duration
ทนั ที อยางรวดเรว็ 1-2 นาที
ชอ่ื ยา ภาพยา
Norvita® inj
4 mg/4 mL
Norepinephrine ทันที อยางรวดเร็ว 1-2 นาที
bitartrate in NSS inj
40 mcg/mL
2 mL
ระเบียบปฎิบตั เิ กยี่ วกับยา norepinephrine1-8
ข้ันตอน แนวทางปฏบิ ัติ
การคดั กรอง ขอบงใช
• ชว? ยเพมิ่ ความดนั โลหติ ในรายทคี่ วามดันโลหติ ลดตาํ่ ลงอยา? งเฉียบพลนั ใหB
กลบั ส?ูระดบั ปกติ นอกจากนอ้ี าจใชเB ปน] ยาชว? ยในรายที่หวั ใจหยดุ เตนB
และความดนั โลหติ ลดตํา่ ลงมาก
ขอหามใช
• ผปBู วm ยท่มี ีความดันโลหิตตาํ่ เนอ่ื งจากเสียเลอื ดมาก ยกเวนB กรณีฉุกเฉนิ ท่ี
ตอB งทําใหมB เี ลอื ดไปเลย้ี งทส่ี มองและหวั ใจกอ? น ระหว?างทร่ี กั ษาโดยใหB
เลือดและสารนา้ํ ทดแทน (หากใหBยาโดยไมใ? หเB ลอื ดหรอื สารน้ําทดแทน
อาจทําใหหB ลอดเลอื ดหดตัวอย?างรุนแรง นํามาซึง่ เน้อื เยือ่ ขาดออกซเิ จน
High Alert Drug คมู อื การใชยาที่มีความเสีย่ งสูง พิมพ#คร้งั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 267
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
การเขยี นสั่งยา และภาวะ lactic acidosis ตามมาไดB)
• ผปBู mวยท่ีมภี าวะลม่ิ เลอื ดอุดตนั ของหลอดเลอื ดสว? นปลายหรือหลอดเลือด
การจัดยา/ตรวจสอบยา
การใหยาแกผูปoวย มีเซนเตอรกิ (peripheral vascular หรอื mesenteric) เวนB แต?จะใหB
เพ่อื ชว? ยชวี ิต
• ผBูปmวยทก่ี าํ ลงั ไดBรบั ยาสลบ cyclopropane และ halothane เพราะเพม่ิ
ความเสย่ี งของการเกดิ ventricular tachycardia หรือ ventricular
fibrillation
• ผูBปmวย hypoxia หรอื hypercarbia อยา? งรนุ แรง เนอ่ื งจากอาจเกดิ หัว
ใจเตนB ผิดจังหวะไดB
• คาํ เตือนตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ หาB มใชBในผปBู วm ยโรคความดนั
โลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคไทรอยดn
ขอควรระวงั
• ยามี sodium metabisulfite (ทาํ หนBาที่เป]น antioxidant) เปน]
สว? นประกอบ อาจกอ? ใหBเกิดอาการแพแB ละการกําเริบของโรคหดื ไดB
อันตรกริ ิยาระหวางยาทีส่ ําคญั
• หBามใชBยารว? มกับยา linezolid (ยกเวBนตดิ ตาม BP อยา? งใกลBชดิ )
isocarboxazid, phenelzine และ dihydroergotamine เพราะอาจ
ทาํ ใหเB กดิ hypertensive crisis ไดB
• ระวังการใชBร?วมกบั ยากลุ?ม monoamine oxidase inhibitors (MAOIs
เชน? rasagiline, selegiline, moclobemide), ยากลุม? tricyclic
antidepressants (เชน? amitriptyline, nortriptyline, imipramine,
tianeptine, melitracen) เพราะอาจทาํ ใหBความดนั โลหิตสงู อยา? ง
รุนแรงเปน] เวลานานไดB
• Double check ชอ่ื ผูBปวm ย ชนดิ และขนาดยา
• ไม?ควรใชคB าํ ย?อหรืออัตราสว? นในการสงั่ ยา
• ในผูBปวm ยเด็กตBองคาํ นวณซา้ํ ตามนาํ้ หนักตัวอกี ครงั้ เสมอ
• สาํ หรบั ยาฉีด หาB มสั่งยาเป]น mL ควรส่งั เป]น mg หรือ mcg เท?านนั้ และ
ตอB งระบุหน?วยดวB ยทกุ ครัง้
• ทาํ สญั ลกั ษณเn ตอื นใหรB ะวงั
• Double check ชอื่ ผูปB mวย ชนดิ และขนาดยา
• Double check ช่ือผูปB mวย ชนิดยา การคาํ นวณขนาดยา และอัตราการ
High Alert Drug คูมือการใชยาที่มคี วามเสีย่ งสงู พมิ พค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 268
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิริราช**
ใหBยากอ? นบรหิ ารใหBแกผ? Bูปmวยทกุ ครงั้
• ใชB infusion pump ในการบรหิ ารยา
• ถาB ผBูปmวยมปี ริมาตรเลือดลดตาํ่ ลง ควรแกไB ขทดแทนกอ? นทจี่ ะใหยB า
• ตําแหน?งใหBยา: ควรหยดยาเขาB หลอดเลือดดาํ ขนาดใหญ? (เชน?
antecubital vein ซงึ่ เสีย่ งตอ? การเกิดผิวหนงั ตายเฉพาะส?วนนอB ย) หรือ
หลอดเลอื ด femoral vein
• หลีกเลยี่ งการใหBยาโดยวธิ ี catheter tie-in เพราะจะทาํ ใหBเกิดเลือดค่ัง
และความเขมB ขBนของยาในบรเิ วณนั้นสงู มากเกินไป
• หลกี เลย่ี งการใหBยาเขาB ทางหลอดเลอื ดดาํ ทขี่ าในผBสู งู อายหุ รอื ผปBู mวยโรค
หลอดเลอื ดอดุ ตนั (เช?น atherosclerosis, arteriosclerosis, diabetic
endarteritis, Buerger’s disease)
• ตBองเจือจางยาดBวยสารละลายทป่ี ระกอบดBวย dextrose เทา? น้ัน เพอ่ื
ปอw งกันการสญู เสยี ความแรงของยา (potency loss) จากกระบวนการ
oxidation ทีม่ ากเกินไป
• สารนา้ํ ทีเ่ ขาB ไดB: D5W, D5S
• ความเขBมขนB โดยท่ัวไปสาํ หรับ IV infusion:
ผBูใหญ?: 4 mg ใน 250 mL (16 mcg/mL) เมอื่ ใหBยา peripheral line
หรือ 8 mg ใน 250 mL (32 mcg/mL) เมอ่ื ใหยB า central line
อย?างไรกต็ ามอาจมกี ารใชBยาทีค่ วามเขBมขBนสูงกว?าน้ไี ดB (เชน? 64
mcg/mL) ในผปูB วm ยวิกฤตทจ่ี าํ เปน] ตBองใชBยาขนาดสูงและตBองจาํ กดั
ของเหลวอยา? งมากและตอB งบรหิ ารยาทาง central line เท?านน้ั
เดก็ : 8 mcg/mL หรอื 16 mcg/mL
• สารละลายยาที่ pH มากกว?า 6 พบวา? ยาจะสญู เสียประสิทธภิ าพไดB
ดงั น้ันจงึ ไมแ? นะนาํ ใหBผสมยากบั สารละลายดา? งใดๆ เชน? sodium
bicarbonate, ยากลม?ุ barbiturates, alkaline antibiotics
• หาB มใชBเมอื่ สีของยาเปลี่ยนไปเปน] สอี อกชมพู หรอื สเี ขBมกว?าสีเหลอื ง หรอื
มีตะกอนเกิดข้นึ ดังนนั้ ควรตรวจสอบดวB ยสายตาก?อนทกุ ครัง้ ทจ่ี ะใหBยา
แก?ผูปB วm ย
• ระวงั การเกดิ extravasation
• คอ? ยๆ ลดอตั ราการหยดยาลงเพ่อื ปwองกันความดันโลหิตตาํ่ โดยพจิ ารณา
จาก tissue perfusion และความดันโลหติ ไม?ใหBหยุดยาทนั ที และไม?ใหB
High Alert Drug คมู อื การใชยาท่มี คี วามเส่ียงสูง พมิ พค# ร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 269
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ยี นเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
การตรวจตดิ ตาม ยากลับไปใหม? เวBนแต?ความดนั โลหติ ตา่ํ ลงถึง 70-80 mmHg
• ขนาดยาสาํ หรับกรณี hypotension/shock ในเด็ก:
continuous IV infusion เรมิ่ ตBน 0.05-0.1 mcg/kg/min สามารถ
คอ? ย ๆ ปรบั ขนาดยาข้นึ ไดเB พือ่ รกั ษาระดับความดนั ที่ตBองการ อตั ราเร็ว
สูงสุดไมเ? กนิ 2 mcg/kg/min
• ขนาดยาสําหรับกรณี hypotension/shock ในผใู หญ:
continuous IV infusion เรม่ิ ตนB 8-12 mcg/min สามารถค?อยๆ ปรบั
ขนาดยาจนไดBผลท่ตี อB งการ (ขนาดยาทวั่ ไป: 2-4 mcg/min) และตาม
guideline ACLS (Advanced Cardiovascular Life Support, การ
ชว? ยชีวติ ขน้ั สงู ) ขนาดยาหลงั จากผูปB mวยเกดิ cardiac arrest เริ่มตนB ท่ี
0.1-0.5 mcg/kg/min (แลวB ค?อย ๆ ปรบั จนไดผB ลตามท่ีตBองการ)
• ยาทย่ี งั ไมเ? ปดŠ ใชB ใหเB กบ็ รกั ษาที่ 25 OC (อาจเก็บที่ 15-30 OC ไดBในชว? ง
สนั้ ๆ) ปwองกนั แสง
• ความคงตัวหลงั เจือจางยา: 24 ชวั่ โมง ดBวยเหตุผลดาB นการปอw งกัน
การตดิ เชือ้
• วดั ความดันโลหิตทุก 2 นาที จนกระทงั่ ไดBระดบั ความดนั โลหติ ที่ตอB งการ
และวดั ต?อไปทุก 5 นาทกี รณที ี่ยงั ตอB งใหยB าตอ? โดยท่วั ไปใหคB งระดับ
ความดัน systolic (SBP) 80-100 mmHg และตดิ ตามต?อหลงั จากหยดุ
ยาไปแลวB เพ่อื ดวู า? มีความดนั โลหติ ตํา่ ลงหรือไม?
• ตดิ ตามอัตราการไหลของยาอย?างสมา่ํ เสมอ
• ตรวจติดตาม: อัตราการเตนB หัวใจ, intravascular volume status ,
electrolytes, urine output, EKG, central venous pressure
(CVP), intraarterial pressure, pulmonary artery diastolic
pressure, pulmonary wedge pressure (PCWP), cardiac output
• ตรวจตําแหน?งใหยB าบ?อยๆ เพอื่ ดูวา? ยายงั คงไหลไดBตามปกติ และไมเ? กิด
ยารัว่ ออกนอกหลอดเลอื ดซงึ่ มีผลทาํ ใหเB นือ้ เยอื่ ตายเฉพาะส?วนไดB
• อาจพบผวิ หนงั และเนอ้ื เยือ่ ตามเสBนหลอดเลอื ดดําท่ใี หยB าซดี ขาวไดB แมB
จะไมม? ยี ารว่ั ออกนอกหลอดเลือด จงึ ควรเปลีย่ นตาํ แหน?งใหยB าเป]น
ระยะๆ เพือ่ ใหหB ลอดเลอื ดไดฟB ©¨นตวั
• Signs ของ extravasation และ vasoconstriction (บริเวณทใี่ หBยาจะ
มลี ักษณะซีด ขาว และเยน็ )
High Alert Drug คูมือการใชยาทม่ี คี วามเสยี่ งสงู พมิ พ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 270
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลีย่ นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
• ผลขาB งเคยี ง เชน? ปวดศรี ษะ (อาจบง? บอกวา? ผปูB วm ยไดBรับยามากเกนิ ไป)
ความดนั โลหิตสูง กระวนกระวาย หายใจลําบาก หวั ใจเตนB ชาB หรอื เตนB
ผิดจังหวะ คลน่ื ไสอB าเจยี น ป†สสาวะค่ัง extravasation injury,
necrosis
• หากไดBรับยาเกินขนาด จะทาํ ใหหB ลอดเลอื ดสว? นปลายหดตัวอยา? งรนุ แรง
แลBวตามมาดวB ยการขาดเลอื ดและ necrosis ของเนอื้ เย่ือสว? นปลาย
ดังนั้นตBองประเมิน peripheral circulation อย?างสมาํ่ เสมอ
เอกสารอางอิง
1. Vallerand AH, Sanoski CA, Deglin JH. Davis’s drug guide for Nurses. 15th ed. PA: F. A. Davis
Company; 2017. p.911-3.
2. Levophed® [package insert]. Thailand: Pfizer Parke Davis; 2018.
3. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare); c1974-
2019. DRUGDEX® System, Norepinephrine; [cited 2019 Dec 20]. Available from:
https://www.micromedexsolutions.com/micromedex2/librarian/CS/0890E6/ND_PR/evidencexpert/
ND_P/evidencexpert/DUPLICATIONSHIELDSYNC/EC6339/ND_PG/evidencexpert/ND_B/evidencexpert
/ND_AppProduct/evidencexpert/ND_T/evidencexpert/PFActionId/evidencexpert.DoIntegratedSearc
h?SearchTerm=norepinephrine&UserSearchTerm=norepinephrine&SearchFilter=filterNone&navitem
=searchALL#. Subscription required to view
4. Drug information: Norepinephrine (noradrenaline). In: UpToDate [database on the Internet].
Waltham (MA): UpToDate, Inc.; 2019 [cited 2019 Dec 24].
5. Thai resuscitation council/ Thai cardiac electrophysiology club. Update Thai CPR algorithms
2017: adult rapid post-cardiac arrest care algorithm [Internet]. 2017 [cited 2019 Dec 26]. Available
from: https://thaicpr.org/get_attachment.php?attachment_id=4475&passcode=60dcc0d0012f
3056175c01d54c2e1722
6. คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช. High Alert Drug คู?มือการใชยB าทีม่ คี วามเสีย่ งสงู .
พิมพnครัง้ ที่ 4. กรงุ เทพฯ: 2560. หนาB 128-32.
7. ASHP. Standardize 4 Safety: Standardized concentrations: adult continuous IV infusion version
1.01 [Internet]. 2016 [cited 2019 Dec 26]. Available from: https://www.ashp.org/media/assets/
pharmacy-practice/s4s/docs/s4s-iv-adult-continuous-infusion-guiding-principles.ashx
High Alert Drug คูมือการใชยาทีม่ คี วามเสยี่ งสงู พิมพ#คร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 271
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
8. Phelps SJ, Hagemann TM, Lee KR, Thompson AJ, editors. Pediatric injectable drugs (The teddy
bear book): norepinephrine bitartrate. 11th ed. Bethesda, MD: American Society of Health-System
Pharmacists; 2018. p. 657.
High Alert Drug คูมอื การใชยาที่มีความเสีย่ งสูง พมิ พค# รัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Page 272
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี ีความเส่ียงสงู พมิ พค# รัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ )
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช*
** Page 273
คมู ือปฏิบตั งิ านเกี่ยวกับยาทม่ี คี วามเสย่ี งสงู
โรงพยาบาลศิริราช
ยาเบาหวานชนดิ รับประทานกลุม sulfonylureas
(glibenclamide, gliclazide, glimepiride และ glipizide)
รูปแบบยา
1. Glibenclamide 5 mg Tablet
2. Gliclazide 80 mg Tablet
3. Gliclazide MR 60 mg Tablet
4. Glipizide 5 mg Tablet
6. Glimepiride 2 mg Tablet
7. Glimepiride 3 mg Tablet
8. Glimepiride 4 mg Tablet
9. Glimepiride 2 mg + Metformin 500 mg SR Tablet
เภสัชจลนศาสตร#ของยารบั ประทานกลุม sulfonylureas 1, 2
ช่อื ยา ภาพยา Onset Peak Duration
30 นาที 2-6 ช่ัวโมง 15-24 ชว่ั โมง
Glibenclamide Tab
5 mg ไม?มีขอB มลู 2-3 ชั่วโมง 6 ช่วั โมง
(Benclamin®)
Gliclazide Tab 80 mg
(Gliclabit®)
Gliclazide MR Tab 60-120 นาที 6 ช่วั โมง 24 ชั่วโมง
60 mg
(Diamicron MR®) 30 นาที 1-3 ช่ัวโมง 8-10 ชั่วโมง
Glipizide Tab 5 mg
(Glycediab®)
High Alert Drug คมู อื การใชยาที่มคี วามเส่ยี งสงู พมิ พค# รัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 274
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
Glipizide Tab 5 mg 30 นาที 1-3 ช่ัวโมง 8-10 ชวั่ โมง
(Glizide®)
Glimepiride Tab 2 mg 30-60 นาที 2-3 ชว่ั โมง 24 ช่ัวโมง
(Amaryl®) 30-60 นาที 2-3 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง
30-60 นาที 2-3 ชว่ั โมง 24 ชั่วโมง
Glimepiride Tab 2 mg 30-60 นาที 2-3 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง
(Diaglip®) 30-60 นาที 2-3 ช่ัวโมง 24 ช่วั โมง
30-60 นาที 2-3 ชว่ั โมง 24 ชว่ั โมง
Glimepiride Tab 3 mg ไมม? ีขBอมูล ไม?มขี Bอมูล ไมม? ีขBอมูล
(Amaryl®)
Glimepiride Tab 3 mg
(Losu®)
Glimepiride Tab 4 mg
(Amaryl®)
Glimepiride Tab 4 mg
(Diaglip®)
Glimepiride +
Metformin SR Tab
(Amaryl® M SR 2/500)
ระเบียบปฏบิ ตั ิการสัง่ ยากลมุ sulfonylureas
ขน้ั ตอน แนวทางปฏบิ ตั ิ
การคดั กรอง
ขอบงใช 3
• โรคเบาหวานชนดิ ท่ี 2 (type 2 diabetes mellitus)
ขอหามใช 3
• หBามใชBในผูBปวm ยโรคเบาหวานชนดิ ท่ี 1 (type 1 diabetes mellitus)
• หBามใชBในผทBู ี่มีภาวะ diabetic ketoacidosis
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่ีมคี วามเสยี่ งสงู พมิ พ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 275
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
• หBามใชBในผทBู ีแ่ พยB านห้ี รอื ส?วนประกอบของยาน้ี
• หBามใชBในหญิงต้ังครรภหn รือใหนB มบุตร
ขอควรระวงั 3
• ระมดั ระวงั การใชBในผูปB mวย G-6-PD เนื่องจากอาจทาํ ใหเB กิดโลหิตจางชนดิ เมด็
เลือดแดงแตก (hemolytic anemia)
• ระมดั ระวงั การใชBในผทูB ม่ี ีประวตั แิ พยB าซัลโฟนาไมดn (sulfonamides)
อนั ตรกิริยาระหวางยา 1
1. ยาท่ีเพมิ่ ฤทธใ์ิ นการลดระดบั นํ้าตาลในเลือด
- ยาทส่ี ามารถแทนที่ sulfonylureas จากพลาสมาโปรตนี ไดแB ก? salicylate,
sulfonamides, warfarin, phenylbutazone, fibric acid derivatives โดย
ยาเหล?านไ้ี ปแย?งแทนที่ sulfonylureas ทาํ ใหBยาอยร?ู ูปอสิ ระมากข้นึ และออก
ฤทธไ์ิ ดBมากขน้ึ
- ยาทม่ี ีผลลดการทาํ ลายยาทต่ี ับ ไดแB ก? warfarin, monoamine oxidase
inhibitors, phenylbutazone, chloramphenicol รวมถึงยาทมี่ ฤี ทธิ์ CYP
enzyme inhibitors
- ยาท่ีออกฤทธ์ลิ ดการขบั ออกของ sulfonylureas ทางไต ไดBแก? salicylates,
probenecid และ allopurinol
- ยาที่มีฤทธ์ิเสริมการลดระดับนาํ้ ตาลในเลือด ไดBแก? salicylates, alcohol,
monoamine oxidase inhibitors
2. ยาที่ลดฤทธใ์ิ นการลดระดบั นํา้ ตาลในเลอื ด
- ยาที่มผี ลเพมิ่ ระดบั นํา้ ตาลในเลอื ด ไดแB ก? corticosteroids, thiazides,
sympathomimetics, diuretics และ estrogens
- ยาทอี่ อกฤทธ์ิเพม่ิ การทาํ ลายยาทต่ี บั ไดแB กย? าท่มี ีฤทธ์ิ CYP enzyme
inducers
แนะนําใหใชยา sulfonylureas ท่มี ีระยะเวลาการออกฤทธส์ิ ้ัน เช?น glipizide,
gliclazide เนอ่ื งจากความเส่ยี งการเกดิ ภาวะนาํ้ ตาลในเลือดตาํ่ (hypoglycemia)
ไดBตํ่ากวา? sulfonylureas ทม่ี ีระยะเวลาการออกฤทธย์ิ าว เชน? glibenclamide 4, 5
High Alert Drug คมู อื การใชยาทมี่ ีความเสีย่ งสูง พมิ พ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 276
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพือ่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
การใชยาควรคํานงึ ถงึ การทํางานของไต ดงั น้ี 5
ชนดิ ยา ขนาดยาทแ่ี นะนําในผปู วo ย CKD ขนาดยาทแ่ี นะนําในผปู วo ย
ระดบั 3, 4 หรือไดรับการเปล่ยี น CKD ระดับ 5 และ 5D
ไต
Glibenclamide ไมค? วรใชใB นโรคไตระยะ 3 หามใช
หามใชในโรคไตระยะ 4
Glipizide ไมจ? ําเป]นตBองปรบั ขนาดยา หลีกเล่ียงใน 5ND
Gliclazide ไม?จาํ เป]นตBองปรับขนาดยา หลีกเลยี่ งใน 5D
Glimepiride เริ่มขนาดตํา่ 1 mg ต?อวัน หามใช
หามใชในโรคไตระยะ 4
5ND = CKD ระยะ 5 non-dialysis dependent, 5D = CKD ระยะ 5 didlysis dependent
การเขียนสั่งยา • Double check ชือ่ ผปู วo ย ชนดิ และขนาดยา
การจัดยา/ตรวจสอบยา
• ระวงั ! ช่ือยาที่มชี อื่ พอง (synonym) เชน? glibenclamide -glyburide
• ระวงั ! ช่ือสามญั ทางยาทีเ่ หมือนกัน ช่อื การคาตางกัน มีความแรงของยาท่ี
แตกตางกนั ไดแB ก?
- glimepiride 2 mg ชอื่ ทางการคาB คอื Amaryl® และ Diaglip®
- glimepiride 3 mg มีช่ือทางการคBาคือ Losu® และ Amaryl®
- glimepiride 4 mg มีชอื่ ทางการคBาคือ Diaglip® และ Amaryl®
• ระวัง ! ยาท่มี ีช่ือสามญั ทางยาตางกัน ช่อื การคาตางกัน แตมีความแรงของ
ยาเทากัน ไดBแก?
- glibenclamide 5 mg (Benclamin®) กับ glipizide 5 mg
(glizide®)
• ระวัง ! ยารปู คลายเสยี งพอง (look alike sound alike)
- glipizide อาจสับสนไดกB ับ glimepiride, glyburide
• ระวัง ! ยาท่ีมรี ปู แบบการปลดปลอยยาแบบพิเศษ ไดแB ก?
- gliclazide MR 60 mg (Diamicron® MR) กบั gliclazide 80 mg
(Gliclabit®)
- glimepiride 2 mg (Amaryl®) กบั glimepiride 2 mg
+metformin 500 mg (Amaryl® M SR 2/500)
• เกบ็ แยกยาไวในท่ีเขาถึงไดยาก
• ทําสัญลักษณ#เตือนใหระวัง (pink dot)
• Double check ชื่อผปู oวย ชนิดและขนาดยา
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี ีความเส่ียงสงู พิมพ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 277
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
การใหยาแกผูปวo ย • ระวัง ! ชอื่ ยาท่ีมีช่ือเดยี วกนั (synonym) เชน? glibenclamide -glyburide
การตรวจตดิ ตาม
• ระวัง ! ยาชอื่ พองมองคลาย (look alike sound alike)
- glipizide อาจสับสนไดกB ับ glimepiride, glyburide
• ระวัง ! ชื่อสามัญทางยาท่ีเหมอื นกัน ชือ่ การคาตางกนั มีความแรงของยาท่ี
แตกตางกนั ไดBแก?
- glimepiride 2 mg ชอื่ ทางการคาB คอื Amaryl® และ Diaglip®
- glimepiride 3 mg มีชอื่ ทางการคาB คอื Losu® และ Amaryl®
- glimepiride 4 mg มีช่ือทางการคBาคอื Diaglip® และ Amaryl®
• ระวัง ! ยาที่มชี อ่ื สามัญทางยาตางกัน ชอื่ การคาตางกนั แตมคี วามแรงของ
ยาเทากัน ไดBแก?
- glibenclamide 5 mg (Benclamin®) กับ glipizide 5 mg
(glizide®)
• ระวงั ! ยาท่ีมรี ูปแบบการปลดปลอยยาแบบพิเศษ ไดBแก?
- gliclazide MR 60 mg (Diamicron® MR) กับ gliclazide 80 mg
(Gliclabit®)
- glimepiride 2 mg (Amaryl®) กบั glimepiride 2 mg +
metformin 500 mg (Amaryl® M SR 2/500)
• Double check ชนิดและขนาดยา
• การบรหิ ารยา
- ยากลมุ? นจี้ าํ เปน] ตอB งรับประทานอาหารใหBตรงเวลาและปริมาณอาหาร
สมํา่ เสมอ เพอ่ื หลกี เล่ยี งการเกิดภาวะนา้ํ ตาลในเลอื ดต่าํ
- glibenclamide, gliclazide, glimepiride รบั ประทานพรอม
อาหาร 6-8
- glipizide รับประทานยากอนอาหาร 30 นาที 9
- glimepiride + metformin + SR Tab (Amaryl® M SR 2/500)
กลืนยาทงั้ เมด็ หามเคีย้ วหรือทาํ ใหเมด็ ยาแตก และหามแบงคร่ึง
เมด็ ยา
- gliclazide MR Tab 60 mg (Diamicron MR®) สามารถหกั คร่ึงได
แตห+ามเคีย้ วหรือทําให+เม็ดยาแตก
การตดิ ตามประสิทธภิ าพ 5
• การตดิ ตามผลการรกั ษาข้นึ อย?กู บั แพทยผn ทูB าํ การรกั ษา ซ่งึ แพทยnจะพิจารณา
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี ีความเส่ยี งสูง พมิ พค# รัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 278
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
จากป†จจัยหลายอยา? งประกอบกนั เช?น ความรนุ แรงของโรคร?วม สภาวะ
ร?างกายของผปูB วm ย พฤติกรรมของผปBู mวย วิธีการและยาท่ีใชBรกั ษา เปน] ตนB
แนวทางเวชปฏบิ ัติสาํ หรับโรคเบาหวาน ป_ พ.ศ. 2560 มคี ําแนะนาํ ดงั นี้
1. ในระยะแรกอาจจะตอB งนดั ผูBปวm ยทุก 1-4 สปั ดาหn เพ่ือใหคB วามรูBเก่ยี วกบั
โรคเบาหวานใหBผปูB mวยสามารถดแู ลตนเองไดB ตดิ ตามระดบั นาํ้ ตาลในเลือด
และปรบั ขนาดของยาจนควบคุมระดับนาํ้ ตาลในเลือดไดBตามเปาw หมาย
ภายใน 3-6 เดือน ระยะต?อไปตดิ ตาม ทกุ 1-3 เดือน
2. ผูBใหญท? ี่เป]นโรคเบาหวานในระยะเวลาไมน? าน ไมม? ภี าวะแทรกซอB นหรือ
โรครว? มอื่น โดยท่ัวไปเปาw หมายการควบคมุ คือ A1C <7 %
3. ผปูB mวยทม่ี ภี าวะนาํ้ ตาลในเลอื ดตา่ํ บ?อยหรือรนุ แรง ผปBู mวยทม่ี โี รคแทรกซอB น
รุนแรงหรอื มีโรคร?วมหลายโรค เปwาหมายระดบั A1C ไม?ควรตาํ่ กวา? 7 %
4. เปwาหมายการควบคมุ เบาหวานสําหรับผูBใหญ? ดงั ตาราง
การควบคมุ เปŒาหมาย
เบาหวาน ควบคุมเขมงวดมาก ควบคมุ เขมงวด ควบคมุ ไม
เขมงวด
ระดบั นา้ํ ตาลในเลือด >70-110 mg/dL 80-130 mg/dL 140-170 mg/dL
ขณะอดอาหาร
ระดบั น้ําตาลในเลือด <140 mg/dL - -
หลงั อาหาร 2 ชั่วโมง
ระดบั น้าํ ตาลในเลอื ด - <180 mg/dL -
สงู สดุ หลังอาหาร
A1C (% of total <6.5% <7.0% 7- 8 %
hemoglobin)
5. ผสBู ูงอายุ (อายุ >65 ป)_ ควรพจิ ารณาสุขภาพโดยรวมของผBูปวm ย และแบง?
ผBปู วm ยเปน] 3 กล?ุมเพ่ือกาํ หนดเปาw หมายในการรกั ษา ดงั ตาราง
สภาวะผปู oวยเบาหวานสูงอายุ เปาŒ หมายระดับ A1C
ผBมู ีสุขภาพดี ไมม? โี รคร?วม <7 %
ผมูB ีโรครว? ม ช?วยเหลอื ตวั เองไดB 7-7.5%
ผูBปmวยที่ตอB งไดรB ับการช?วยเหลอื
มภี าวะเปราะบาง ไม?เกิน 8.5%
มภี าวะสมองเสอ่ื ม ไม?เกิน 8.5%
ผปBู วm ยท่ีคาดว?าจะมีชีวติ อย?ูไดBไมน? าน หลกี เลยี่ งภาวะนํ้าตาลในเลอื ดสงู จนทําใหเB กดิ
อาการ
6. ผปูB วm ยท่ีคาดว?าจะมชี วี ิตอย?ูไดไB มเ? กนิ 1 ป_ (life expectancy <1 ป)_ ผปูB mวย
High Alert Drug คูมอื การใชยาทีม่ คี วามเส่ียงสูง พมิ พค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 279
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
ที่มีความเจบ็ ปวm ยอย?างมาก หรือ เป]นโรคมะเร็ง (ระยะสดุ ทาB ย) การรักษา
โรคเบาหวาน มงุ? เนBนใหBผปBู วm ยรูBสกึ สบายและไม?เกดิ อาการจากภาวะนา้ํ ตาล
ในเลอื ดสูง ใหไB ดBรบั การดูแลทบ่ี าB นทช่ี ว? ยใหมB คี ณุ ภาพชวี ติ ทีด่ จี นวาระ
สดุ ทBายไม?กาํ หนดระดับ A1C
7. ผปูB วm ยเบาหวานเด็กและวัยรน?ุ มีเปwาหมายของการรักษาใหBระดับ A1C
<7.5%
การตดิ ตามดานความปลอดภัย 5
• ภาวะนา้ํ ตาลในเลือดตา่ํ (Hypoglycemia)
ภาวะนาํ้ ตาลในเลอื ดตํา่ คอื การมีระดบั กลูโคสในเลือด ≤70 mg/dL และมี
อาการของภาวะนา้ํ ตาลในเลอื ดตาํ่ ซึง่ มีอาการแสดง 2 ชนดิ ไดแB ก? อาการออโตโน
มิค (autonomic symptoms) และอาการสมองขาดกลโู คส (neuroglycopenic
symptoms)
- Autonomic symptoms ไดแB ก? ใจสน่ั หัวใจเตBนเร็ว รBูสกึ หิว รูสB กึ รอB น
เหงอื่ ออก มอื สน่ั รูBสกึ กงั วล ความดันโลหติ systolic สูง กระสบั กระส?าย
คลื่นไสB และชา
- Neuroglycopenic symptoms ไดBแก? ออ? นเพลยี รูBสกึ รอB นทั้งทผ่ี วิ หนัง
เยน็ และชน้ื อณุ หภูมิกายตาํ่ มนึ งง ปวดศรี ษะ การทํางานสมองดBาน cognitive
บกพรอ? ง ปฏกิ ิริยาตอบสนองชาB ลง สับสน ไม?มสี มาธิ ตาพรา? มวั พดู ชาB งว? งซมึ
หลงลืม พฤตกิ รรมเปลี่ยนแปลง อมั พฤกษnครง่ึ ซีก (hemiparesis) คลBายโรค
หลอดเลอื ดสมอง (stroke) หมดสติ และชกั
• ใหประเมนิ ความรนุ แรงของภาวะนํา้ ตาลในเลือดตาํ่ ซึ่งแบงได 3 ระดบั ดังน้ี
- ระดบั ไมรนุ แรง หมายถึง มีผลตรวจเลือดพบระดบั กลูโคสในเลือดต่าํ แต?ไม?มี
อาการ
- ระดับปานกลาง หมายถึง มอี าการเกดิ ขึ้นเลก็ นBอยหรอื ปานกลาง และ
สามารถทาํ การแกBไขไดBดBวยตัวเอง (เชน? การรับประทานอาหาร)
- ระดับรุนแรง หมายถงึ มอี าการรนุ แรงมากจนไมส? ามารถทาํ การแกBไขไดB ดBวย
ตัวเองและตอB งอาศัยผอูB ืน่ ชว? ยเหลอื เช?น ชกั หมดสติ
• แนวทางการรักษาภาวะนํา้ ตาลในเลือดตํา่
- ระดับไมรุนแรง-ปานกลาง
รับประทานคารโn บไฮเดรตในปรมิ าณ 15 กรมั ไดแB ก? กลูโคสเม็ด 3 เมด็ , นา้ํ สมB
คนั้ 180 mL, นา้ํ อัดลม 180 mL, นํา้ ผงึ้ 3 ชBอนชา, ขนมป†งปอนดn 1 แผน? , นม
สด 1 ถวB ย, ขBาวตBมหรอื โจก° ½ ถวB ย
High Alert Drug คมู ือการใชยาท่มี คี วามเสี่ยงสูง พิมพค# รง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 280
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
- ติดตามระดบั กลโู คสในเลอื ดที่ 15 นาที
- รับประทานคารโn บไฮเดรตในปริมาณ 15 กรมั ซ้าํ ถาB ระดบั กลูโคสในเลอื ด
ยังคง <70 mg/dL ถBาอาการดขี ้นึ และการตรวจวดั ระดบั กลูโคสในเลอื ดซา้ํ
ไดBผล > 80 mg/dL ใหรB บั ประทานอาหารต?อเนอ่ื งทนั ทีเมอื่ ถึงเวลาอาหาร
- ระดบั รุนแรง ใหB glucagon 1 mg IM หรือ SC (ถBามี), glucose 50%
10-20 mL slow IV push ตอ? ดBวย 30-40 mL ทเ่ี หลอื แลBวเปŠดเสนB ตอ? เนือ่ งไวB
ดBวย heparin หรอื saline lock หรอื ใหB dextrose 5-10% หยดต?อเนอื่ งตาม
ความเหมาะสม ตดิ ตามระดบั กลโู คสในเลือดท่ี 15 นาที รักษาระดับกลูโคสใน
เลอื ดทีม่ ากกวา? 80 mg/dL โดยปรับอัตราหยดสารละลาย dextrose
เอกสารอางอิง
1. บุษบา จนิ ดาวิจกั ษณn และคณะ. (2555). Diabetes Educator Training Program for Pharmacist.
พมิ พคn รัง้ ท่ี 1. กรงุ เทพฯ: ประชาชน
2. เนติ สุขสมบูรณ.n (2558). การบรบิ าลทางเภสัชกรรมในผปBู mวยโรคเบาหวาน. พิมพnครงั้ ที่ 1. กรงุ เทพฯ:
ประชาชน
3. ศุภโชค ม่ังมลู . (2557). เภสชั วทิ ยาของยารกั ษาโรคเบาหวาน. พมิ พคn รงั้ ที่ 1. กรงุ เทพฯ: Seaworld
Graphic
4. Sulfonylureas and meglitinides in the treatment of type 2 diabetes mellitus. In: UpToDate
[database on the Internet]. Waltham (MA): UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24].
5. สมาคมโรคเบาหวานแห?งประเทศไทย. (2560). แนวทางเวชปฏบิ ัติสําหรับโรคเบาหวาน 2560. [ระบบ
ออนไลน]n . เขาB ถึงไดจB าก : https://www.dmthai.org/index.php/knowledge/healthcare-
providers/cpg/443-guideline-diabetes-care-2017 (24 พ.ย. 2564)
6. Drug information: glibenclamide. In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham (MA):
UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24].
7. Drug information: glicazide. In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham (MA):
UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24].
8. Drug information: glimepiride. In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham (MA):
UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24].
9. Drug information: glipizide. In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham (MA):
UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24].
High Alert Drug คูมือการใชยาทีม่ ีความเส่ียงสงู พมิ พ#ครัง้ ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 281
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลย่ี นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
คูมอื ปฏบิ ตั งิ านเก่ยี วกับยาทีม่ คี วามเสย่ี งสูง
โรงพยาบาลศิริราช
ยาเบาหวานชนิดรับประทานกลมุ Non-sulfonylureas (Meglitinides)
(Repaglinide)
รปู แบบยา
1. Repaglinide 1 mg Tablet
2. Repaglinide 2 mg Tablet
เภสัชจลนศาสตร#ของยารับประทานกลุม Non-sulfonylureas (Meglitinides) 1, 2
ชือ่ ยา ภาพยา Onset Peak Duration
3-4 ชัว่ โมง
Repaglinide 1 mg Tab 15-30 นาที 1 ชว่ั โมง
(Novonorm®) 3-4 ช่วั โมง
Repaglinide 2 mg Tab 15-30 นาที 1 ช่ัวโมง
(Novonorm®)
ระเบียบปฏบิ ตั ิการสงั่ ยากลมุ Non-sulfonylureas (Meglitinides) 2-5
ข้ันตอน แนวทางปฏบิ ตั ิ
การคัดกรอง ขอบงใช
• โรคเบาหวานชนดิ ท่ี 2 (type 2 diabetes mellitus)
ขอหามใช
• หBามใชBในผปูB วm ยโรคเบาหวานชนดิ ท่ี 1 (type 1 diabetes mellitus)
• หBามใชBในผBทู ีเ่ ปน] โรคตับแบบรนุ แรง (severe hepatic impairment)
• หBามใชBในผูBที่มีภาวะ diabetic ketoacidosis
• หBามใชBในผูทB ่แี พBยาน้ีหรือส?วนประกอบของยานี้
• หBามใชใB นผBูท่ีมอี ายตุ ํ่ากวา? 12 ป_
• หBามใชรB ว? มกบั ยา gemfibrozil
ขอควรระวัง
High Alert Drug คูมอื การใชยาทมี่ ีความเสยี่ งสูง พิมพค# รัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 282
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
การเขยี นสง่ั ยา • ระมดั ระวงั การใชBยาในผปูB mวยทตี่ บั ทํางานผิดปกติ
การจัดยา/ตรวจสอบยา อนั ตรกิริยาระหวางยา
1. กลมุ ยาทเ่ี พิ่มฤทธหิ์ รือประสทิ ธิภาพของ non-sulfonylureas
- ยาท่สี ามารถแทนที่ non-sulfonylureas จากพลาสมาโปรตีน ไดBแก?
salicylates, sulfonamides, warfarin และ chloramphenicol ซ่ึงยา
เหล?านี้จะไปแทนทห่ี รอื แย?งจบั กบั non-sulfonylureas ทาํ ใหB non-
sulfonylureas อยใู? นรูปอสิ ระมากข้นึ และออกฤทธ์ิไดมB ากขึน้ จึงเพ่ิม
ประสิทธภิ าพของ non-sulfonylureas
- ยาท่ีมผี ลลดการทาํ ลายยาที่ตับ ไดBแก? ยาที่มีฤทธิเ์ ปน] CYP450
enzyme inhibitors ไดแB ก? repaglinide กบั CYP2C8 inhibitors เชน?
gemfibrozil หากไดรB ับรว? มกันจะทําใหรB ะดบั ยา repaglinide เพิ่มข้ึน
ดงั นั้นจงึ หBามใชB repaglinide ร?วมกับ gemfibrozil
- ยาทม่ี ีฤทธิ์เสรมิ การลดระดับน้าํ ตาลในเลือด (intrinsic hypoglycemic
activity) ไดแB ก? MAO inhibitors, salicylate และแอลกอฮอลn
2. กลุมยาที่ลดฤทธห์ิ รอื ประสิทธภิ าพของ non-sulfonylureas
- ยาทีม่ ผี ลลดฤทธ์ใิ นการลดระดบั นํา้ ตาลในเลือด ไดแB ก?
corticosteroids, thiazides, sympathomimetics
- ยาทอ่ี อกฤทธเ์ิ พ่มิ กระบวนการเมแทบอลิซึมของ non-sulfonylureas
ทีต่ บั ไดแB ก? ยาทีม่ ฤี ทธ์เิ ปน] CYP450 enzyme inducers
• Double check ช่ือผูปวo ย ชนิดและขนาดยา
• ขนาดยาเร่ิมตนพิจารณาจากคา HbA 1c กรณีคา HbA 1c <8%
เร่มิ ตนขนาด 0.5 mg กอนอาหาร (ใหไดจนถึง 4 ครั้งตอวัน) หรือกรณี
HbA 1c ≥8% เริ่มตนขนาด 1-2 mg กอนอาหาร (ใหไดจนถึง 4 คร้ัง
ตอวัน) และขนาดยาสงู สดุ 4 mg ตอคร้งั หรอื 16 mg ตอวนั
• ระวัง ! ช่ือสามญั ทางยาท่ีเหมอื นกนั ชอื่ การคาเดยี วกัน มคี วามแรงของ
ยาทแ่ี ตกตางกนั โดย Novonorm® มี 2 ความแรงดวB ยกนั ไดBแก?
repaglinide 1 mg และ repaglinide 2 mg
• ระวัง ! repaglinide ไมใชรวมกบั sulfonylureas เนอื่ งจากเป•นยาท่ี
ออกฤทธ์คิ ลายกัน
• เก็บแยกยาไวในที่เขาถึงไดยาก
• ทําสญั ลกั ษณ#เตือนใหระวงั (pink dot)
High Alert Drug คูมือการใชยาที่มคี วามเสี่ยงสูง พมิ พค# ร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 283
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
การใหยาแกผปู วo ย • Double check ช่ือผูปวo ย ชนดิ และขนาดยา
การตรวจติดตาม
• ขนาดยาเริ่มตนพิจารณาจากคา HbA 1c กรณีคา HbA 1c <8%
เรมิ่ ตนขนาด 0.5 mg กอนอาหาร (ใหไดจนถึง 4 คร้ังตอวัน) หรือกรณี
HbA 1c ≥8% เร่ิมตนขนาด 1-2 mg กอนอาหาร (ใหไดจนถึง 4 ครั้ง
ตอวัน) และขนาดยาสงู สดุ 4 mg ตอคร้งั หรือ 16 mg ตอวัน
• ระวงั ! ช่ือสามัญทางยาทีเ่ หมอื นกัน ชือ่ การคาเดียวกนั มคี วามแรงของ
ยาท่ีแตกตางกัน โดย Novonorm® มี 2 ความแรงดวB ยกนั ไดแB ก?
repaglinide 1 mg และ repaglinide 2 mg
• ระวัง ! repaglinide ไมใชรวมกบั sulfonylureas เนื่องจากเปน• ยาที่
ออกฤทธค์ิ ลายกัน
• Double check ชนิด ขนาดยา และชื่อผปู วo ย
• การบรหิ ารยา ใหยาภายใน 30 นาทกี อนรับประทานอาหาร
repaglnide ถูกดูดซมึ ไดBดีและออกฤทธิ์ไดเB ร็ว พบว?าระดบั ยาในเลือดจะ
เพม่ิ ขน้ึ สงู สดุ ภายใน 1 ชว่ั โมง จงึ นิยมใชรB ักษาผBูปmวยเบาหวานทม่ี รี ะดับ
นํ้าตาลในเลอื ดหลงั อาหารสูงผดิ ปกติ ภาวะน้าํ ตาลในเลอื ดตา่ํ อาจเกิดขน้ึ
ไดB หากม้ือนัน้ ไมไ? ดBรบั ประทานอาหารหรอื รบั ประทานอาหารทม่ี ี
คารโn บไฮเดรตนอB ยเกนิ หรอื มอื้ อาหารถูกเลอ่ื นออกไป
การตดิ ตามประสิทธิภาพ
• การตดิ ตามผลการรักษาขึน้ อยก?ู บั แพทยผn ูBทาํ การรักษา ซึ่งแพทยจn ะ
พิจารณาจากปจ† จัยหลายอย?างประกอบกนั เช?น ความรนุ แรงของโรครว? ม
สภาวะรา? งกายของผปูB วm ย พฤตกิ รรมของผูปB mวย วิธกี ารและยาทใ่ี ชรB กั ษา
เป]นตนB แนวทางเวชปฏบิ ัตสิ าํ หรับโรคเบาหวาน ป_ พ.ศ. 2560 มคี าํ แนะนาํ
ดังน้ี
1. ในระยะแรกอาจจะตอB งนดั ผูปB วm ยทุก 1-4 สัปดาหn เพื่อใหBความรูB
เกีย่ วกับโรคเบาหวานใหBผปูB วm ยสามารถดแู ลตนเองไดB ตดิ ตามระดบั
นํา้ ตาลในเลือดและปรบั ขนาดของยาจนควบคุมระดบั นํา้ ตาลในเลือด
ไดBตามเปาw หมายภายใน 3-6 เดือน ระยะตอ? ไปติดตาม ทุก 1-3 เดอื น
2. ผูใB หญท? เ่ี ปน] โรคเบาหวานในระยะเวลาไมน? าน ไมม? ภี าวะแทรกซอB น
หรือโรครว? มอนื่ โดยทั่วไปเปาw หมายการควบคุมคอื A1C <7.0%
3. ผBูปmวยที่มีภาวะนาํ้ ตาลในเลือดตา่ํ บอ? ยหรือรุนแรง ผปBู วm ยท่มี โี รคแทรก
ซBอนรนุ แรงหรอื มีโรครว? มหลายโรคเปwาหมายระดบั A1C ไมค? วรตํ่า
High Alert Drug คูมอื การใชยาที่มีความเสยี่ งสงู พมิ พค# ร้ังที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 284
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
กว?า 7.0%
4. เปwาหมายการควบคมุ เบาหวานสาํ หรับผBใู หญ?เป]นดงั ตาราง
การควบคุม เปาŒ หมาย
เบาหวาน ควบคุมเขมงวดมาก ควบคมุ เขมงวด ควบคุมไม
เขมงวด
ระดบั นา้ํ ตาลในเลือด >70-110 mg/dL 80-130 mg/dL 140-170 mg/dL
ขณะอดอาหาร
ระดบั น้ําตาลในเลอื ด <140 mg/dL - -
หลังอาหาร 2 ช่วั โมง
ระดับนาํ้ ตาลในเลอื ด - <180 mg/dL -
สูงสดุ หลังอาหาร
A1C (% of total <6.5% <7.0% 7.0 - 8.0 %
hemoglobin)
5. ผBูสูงอายุ (อายุ >65 ป_) ควรพิจารณาสขุ ภาพโดยรวมของผปBู วm ย
กําหนดเปาw หมายในการรักษาดงั ตาราง
สภาวะผูปวo ยเบาหวานสูงอายุ เปŒาหมายระดับ A1C
ผูมB สี ุขภาพดี ไม?มโี รครว? ม <7 %
ผBูมโี รครว? ม ชว? ยเหลือตัวเองไดB 7.0-7.5%
ผปBู mวยที่ตอB งไดBรับการช?วยเหลือ
มีภาวะเปราะบาง ไมเ? กนิ 8.5%
มีภาวะสมองเสือ่ ม ไม?เกิน 8.5%
ผBูปวm ยที่คาดวา? จะมีชวี ติ อยู?ไดไB ม?นาน หลีกเลี่ยงภาวะนา้ํ ตาลในเลอื ดสงู จนทาํ ใหเB กิด
อาการ
6. ผBปู วm ยที่คาดว?าจะมีชวี ิตอยู?ไดไB มเ? กิน 1 ป_ (life expectancy <1 ป)_
ผBปู mวยทมี่ คี วามเจ็บปmวยอย?างมาก หรอื เป]นโรคมะเรง็ (ระยะสดุ ทาB ย)
การรักษาโรคเบาหวาน มงุ? เนนB ใหBผปูB mวยรBูสึกสบายและไม?เกดิ อาการ
จากภาวะนา้ํ ตาลในเลอื ดสงู ใหไB ดรB ับการดูแลที่บาB นทีช่ ว? ยใหมB ีคณุ ภาพ
ชีวติ ทด่ี จี นวาระสุดทาB ยไม?กาํ หนดระดับ A1C
7. ผBูปmวยเบาหวานเด็กและวัยรุ?นมเี ปาw หมายของการรักษาใหรB ะดบั A1C
<7.5%
การติดตามดานความปลอดภยั
• ภาวะน้าํ ตาลในเลือดตาํ่ (Hypoglycemia)
ภาวะนา้ํ ตาลในเลือดตํา่ คือการมรี ะดบั กลโู คสในเลอื ด ≤70 mg/dL
สําหรบั อาการของภาวะนา้ํ ตาลในเลอื ดต่าํ มี 2 ชนิด ไดBแก? อาการออโตโนมิค
High Alert Drug คูมือการใชยาท่ีมคี วามเส่ียงสูง พิมพค# รัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรงุ ) Page 285
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลี่ยนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
(autonomic symptoms) และอาการสมองขาดกลโู คส (neuroglycopenic
symptoms)
- Autonomic symptoms ไดแB ก? ใจส่นั หวั ใจเตนB เรว็ รสBู กึ หิว รสBู กึ รBอน
เหง่อื ออก มอื สนั่ รBสู กึ กังวล ความดันโลหติ systolic สูง กระสบั กระส?าย
คลืน่ ไสB และชา
- Neuroglycopenic symptoms ไดBแก? อ?อนเพลีย รสBู ึกรอB นทัง้ ท่ี
ผวิ หนังเย็นและชนื้ อณุ หภูมกิ ายตํ่า มนึ งง ปวดศรี ษะ การทํางานสมอง
ดาB น cognitive บกพรอ? ง ปฏิกริ ยิ าตอบสนองชBาลง สบั สน ไมม? สี มาธิ ตา
พรา? มัว พดู ชาB งว? งซึม หลงลมื พฤติกรรมเปลีย่ นแปลง อัมพฤกษnครึง่ ซีก
(hemiparesis) คลBายโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) หมดสติ และชัก
• ใหประเมนิ ความรุนแรงของภาวะนา้ํ ตาลในเลือดตาํ่ ซึง่ แบงได 3 ระดับ
ดงั นี้
- ระดับไมรุนแรง หมายถึง มผี ลตรวจเลอื ดพบระดบั พลาสมากลูโคสตาํ่ แต?
ไม?มีอาการ
- ระดบั ปานกลาง หมายถึง มีอาการเกดิ ขน้ึ เลก็ นอB ยหรอื ปานกลาง และ
สามารถทาํ การแกไB ขไดBดวB ยตัวเอง (เช?น การรับประทานอาหาร)
- ระดบั รนุ แรง หมายถึง มอี าการรนุ แรงมากจนไมส? ามารถทาํ การแกไB ขไดB
ดวB ยตัวเองและตอB งอาศยั ผBูอนื่ ชว? ยเหลอื
• แนวทางการรกั ษาภาวะน้ําตาลในเลอื ดตํา่
- ระดบั ไมรนุ แรง-ปานกลาง
รับประทานคารโn บไฮเดรตในปรมิ าณ 15 กรมั ไดBแก? กลโู คสเมด็ 3 เมด็ ,
นาํ้ สมB คน้ั 180 mL, น้าํ อัดลม 180 mL, นํา้ ผง้ึ 3 ชBอนชา, ขนมป†งปอนดn 1
แผน? , นมสด 1 ถวB ย, ขาB วตBมหรือโจก° ½ ถวB ยชาม
- ตดิ ตามระดบั กลูโคสในเลือดท่ี 15 นาที
- รบั ประทานคารโn บไฮเดรตในปรมิ าณ 15 กรมั ซา้ํ ถBาระดบั กลูโคสในเลอื ด
ยงั คง <70 mg/dL ถBาอาการดขี ึ้นและการตรวจวัดระดบั กลูโคสในเลือดซํา้
ไดBผล > 80 mg/dL ใหรB บั ประทานอาหารต?อเนื่องทนั ทเี มอื่ ถึงเวลาอาหาร
- ระดับรนุ แรง ใหB glucagon 1 mg IM หรือ SC (ถาB มี), glucose
50% 10-20 mL slow IV push ตอ? ดวB ย 30-40 mL ทเี่ หลอื แลBวเปŠดเสBน
ตอ? เนื่องไวBดวB ย heparin หรอื saline lock หรอื ใหB dextrose 5-10%
หยดตอ? เน่อื งตามความเหมาะสม ติดตามระดบั กลูโคสในเลือดที่ 15 นาที
รกั ษาระดบั กลูโคสในเลอื ดท่ีมากกว?า 80 mg/dL โดยปรบั อตั ราหยด
High Alert Drug คูมือการใชยาทมี่ ีความเส่ียงสงู พมิ พ#คร้งั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 286
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
สารละลาย dextrose
เอกสารอางอิง
1. เนติ สขุ สมบูรณ.n (2558). การบรบิ าลทางเภสชั กรรมในผปBู mวยโรคเบาหวาน. พมิ พnครั้งท่ี 1. กรงุ เทพฯ:
ประชาชน
2. ศภุ โชค มั่งมูล. (2557). เภสัชวทิ ยาของยารกั ษาโรคเบาหวาน. พิมพคn รง้ั ที่ 1. กรงุ เทพฯ: Seaworld
Graphic
3. Novonorm® [package insert]. Germany: Boehringer Ingelheim; 2004.
4. Drug information: repaglinide. In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham (MA):
UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24]
5. สมาคมโรคเบาหวานแห?งประเทศไทย. (2560). แนวทางเวชปฏบิ ตั ิสําหรับโรคเบาหวาน 2560. [ระบบ
ออนไลน]n . เขBาถึงไดจB าก : https://www.dmthai.org/index.php/knowledge/healthcare-
providers/cpg/443-guideline-diabetes-care-2017 (24 พ.ย. 2564)
High Alert Drug คมู อื การใชยาท่ีมีความเสย่ี งสงู พมิ พค# รง้ั ท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรับปรุง) Page 287
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลยี่ นเพ่ือใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
คูมือปฏบิ ตั งิ านเกี่ยวกับยาที่มีความเส่ียงสูง
โรงพยาบาลศิริราช
ยาเบาหวานชนดิ รับประทานกลุม Thiazolidinediones
(Pioglitazone)
รปู แบบยา
1. Pioglitazone 15 mg Tab
2. Pioglitazone 30 mg Tab
3. Pioglitazone 15 mg + Alogliptin 25 mg Tab
4. Pioglitazone 30 mg + Alogliptin 25 mg mg Tab
เภสัชจลนศาสตรข# องยารับประทานกลมุ Thiazolidinediones 1-2
ช่อื ยา ภาพยา Onset Peak Duration
หลายสัปดาหn 2 ช่ัวโมง 24 ช่ัวโมง
Pioglitazone 15 mg Tab (several week)
(Utmos®)
Pioglitazone 30 mg Tab หลายสัปดาหn 2 ชว่ั โมง 24 ชว่ั โมง
(Utmos®) (several week)
Alogliptin 25 mg + 2-3 ช่ัวโมง* / 1-2 ชั่วโมง / 24 ชว่ั โมง** /
หลายสัปดาหn 2 ช่ัวโมง 24 ชัว่ โมง
Pioglitazone 15 mg Tab (several week)
(Oseni® 25/15)
Alogliptin 25 mg + 2-3 ชั่วโมง* / 1-2 ชวั่ โมง / 24 ช่วั โมง** /
หลายสัปดาหn 2 ชวั่ โมง 24 ชั่วโมง
Pioglitazone 30 mg Tab (several week)
(Oseni® 25/30)
หมายเหตุ
* การยบั ยั้งเอนไซมn Dipeptidyl Peptidase-4 (DPP-4) ในระดบั สูงสดุ (peak inhibition) ไดภB ายใน 2-3 ชว่ั โมง หลงั ไดรB ับยาแบบ single dose
** ระยะเวลาการยบั ยั้ง Dipeptidyl Peptidase-4 (DPP-4) ในระดบั มากกวา? 80 % ที่ 24 ช่วั โมง ดวB ยขนาดยาที่มากกว?า หรือเทยี บเทา?
Alogliptin 25 mg
High Alert Drug คูมอื การใชยาท่ีมีความเส่ียงสงู พิมพ#คร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 288
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปล่ียนเพอื่ ใหเหมาะสมและสอดคลองกับบริบทของโรงพยาบาลศิริราช**
ระเบียบปฏบิ ตั ิการส่ังยากลมุ Thiazolidinediones 1, 3-7
ขน้ั ตอน แนวทางปฏบิ ตั ิ
การคดั กรอง ขอบงใช
• โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes mellitus)
ขอหามใช
• หBามใชยB านีใ้ นผBูที่มีหัวใจลมB เหลวในระดับทร่ี นุ แรง (NYHA ในระดบั 3 และ
4)
• หาB มใชBในผทูB ี่แพBยาน้ีหรือสว? นประกอบของยาน้ี
ขอควรระวัง
• หลีกเลยี่ งการใชBยาในผBูท่กี ําลงั เปน] โรคมะเรง็ กระเพาะปส† สาวะ
• คํานึงถงึ ประโยชนnและความเส่ยี งหากใชใB นผูทB ีเ่ คยเปน] โรคมะเร็งกระเพาะ
ปส† สาวะ
• ยานอ้ี าจทาํ ใหเB กดิ ภาวะหวั ใจลBมเหลว
• ยาน้ที าํ ใหBบวมนา้ํ และนาํ้ หนกั เพ่มิ ไดB 2-4 kg
• ยานี้เพมิ่ ความเส่ยี งการเกดิ กระดูกพรนุ และกระดูกหกั
• ยาน้อี าจทําใหรB ะดับเอนไซมตn ับสูงขึ้นมากวา? ค?าปกติและเกดิ ตบั อักเสบไดB
อนั ตรกิริยาระหวางยา
• gemfibrozil (strong CYP2C8 inhibitor)
gemfibrozil มฤี ทธ์ิยบั ยง้ั การทาํ งานของเอนไซมn CYP2C8 มีผลทาํ ใหB
ปริมาณยา pioglitazone ในกระแสเลือด (AUC) เพิม่ รBอยละ 226 เมอ่ื เทียบ
กับการไดBรบั pioglitazone เดีย่ ว
• rifampicin (strong CYP2C8 inducer)
rifampicin มีฤทธิก์ ระตุนB การทาํ งานของเอนไซมn CYP2C8 มีผลใหBปรมิ าณ
ยาทง้ั หมดของ pioglitazone ในกระแสเลอื ดลดลงอยา? งนยั สาํ คัญ
การเขียนส่งั ยา • Double check ช่ือผูปวo ย ชนิดและขนาดยา
• ขนาดยาเริ่มตน 15–30 mg วนั ละครง้ั (ขนาดยาสงู สุด 45 mg ตอวัน)
• ระวัง ! ชื่อสามญั ทางยาทเ่ี หมอื นกัน ชอ่ื การคาเดยี วกัน มคี วามแรงของ
ยาทแี่ ตกตางกนั ไดBแก? Utmos® มี 2 ความแรง ไดแB ก? pioglitazone 15
mg และ 30 mg
• ระวัง ! ยาสูตรผสม (fixed combination drug) ยา pioglitazone มยี า
ท่เี ปน] สูตรผสมชอ่ื การคBา Oseni® ซง่ึ มี 2 ความแรงคือ Oseni® 25/15 และ
High Alert Drug คมู อื การใชยาท่ีมคี วามเสีย่ งสูง พมิ พ#คร้งั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรุง) Page 289
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมลู ขางตนมกี ารปรบั เปลยี่ นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศิรริ าช**
การจดั ยา/ตรวจสอบยา Oseni® 25/30
การใหยาแกผปู oวย • เกบ็ แยกยาไวในที่เขาถงึ ไดยาก
การตรวจตดิ ตาม
• ทาํ สญั ลกั ษณเ# ตือนใหระวงั (pink dot)
• Double check ชอ่ื ผูปoวย ชนดิ และขนาดยา
• ขนาดยาเรม่ิ ตน 15–30 mg วนั ละครง้ั (ขนาดยาสูงสดุ 45 mg ตอวนั )
• ระวัง ! ชอ่ื สามญั ทางยาทเ่ี หมอื นกนั ชอ่ื การคาเดยี วกัน มคี วามแรงของ
ยาทแ่ี ตกตางกนั ไดแB ก? Utmos® มี 2 ความแรง ไดแB ก? pioglitazone 15
mg และ 30 mg
• ระวงั ! ยาสตู รผสม (fixed combination drug) ยา pioglitazone มียา
ที่เป]นสูตรผสมช่อื การคาB Oseni® ซงึ่ มี 2 ความแรงคือ Oseni® 25/15 และ
Oseni® 25/30
• Double check ชอื่ ผูปวo ย ชนิดและขนาดยา
• การบรหิ ารยา รบั ประทานวนั ละ 1 ครง้ั กอ? นหรือหลังอาหาร
การติดตามประสิทธภิ าพ
• การตดิ ตามผลการรักษาขนึ้ อยูก? บั แพทยnผูทB าํ การรกั ษา ซึ่งแพทยจn ะพิจารณา
จากป†จจัยหลายอย?างประกอบกนั เชน? ความรุนแรงของโรครว? ม สภาวะ
ร?างกายของผปBุ วm ย พฤตกิ รรมของผูBปวm ย วิธีการและยาทใี่ ชBรักษา เปน] ตนB
แนวทางเวชปฏบิ ตั ิสาํ หรับโรคเบาหวาน ป_ พ.ศ. 2560 มคี าํ แนะนาํ ดงั นี้
1. ในระยะแรกอาจจะตอB งนัดผปBู mวยทุก 1-4 สัปดาหn เพื่อใหคB วามรเูB ก่ียวกบั
โรคเบาหวานใหBผปูB วm ยสามารถดแู ลตนเองไดB ติดตามระดบั นา้ํ ตาลในเลอื ด
และปรับขนาดของยาจนควบคุมระดับนาํ้ ตาลในเลอื ดไดตB ามเปาw หมาย
ภายใน 3-6 เดอื น ระยะตอ? ไปตดิ ตาม ทกุ 1-3 เดือน
2. ผใูB หญ?ทีเ่ ป]นโรคเบาหวานในระยะเวลาไม?นาน ไม?มีภาวะแทรกซอB นหรือ
โรครว? มอน่ื โดยทั่วไปเปาw หมายการควบคมุ คือ A1C <7.0%
3. ผูปB mวยทม่ี ภี าวะนาํ้ ตาลในเลอื ดต่ําบอ? ยหรอื รุนแรง ผBปู mวยที่มโี รคแทรกซอB น
รนุ แรงหรือมโี รคร?วมหลายโรคเปาw หมายระดบั A1C ไมค? วรต่ํากวา? 7.0%
4. เปาw หมายการควบคมุ เบาหวานสาํ หรบั ผูBใหญ?เปน] ดงั ตาราง
High Alert Drug คมู อื การใชยาทม่ี คี วามเส่ยี งสูง พมิ พ#คร้ังท่ี 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรบั ปรุง) Page 290
คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิริราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลี่ยนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
การควบคุม เปŒาหมาย
เบาหวาน ควบคมุ เขมงวดมาก ควบคมุ เขมงวด ควบคุมไม
เขมงวด
ระดบั น้ําตาลในเลอื ด >70-110 mg/dL 80-130 mg/dL 140-170 mg/dL
ขณะอดอาหาร
ระดบั น้าํ ตาลในเลือด <140 mg/dL - -
หลังอาหาร 2 ชวั่ โมง
ระดับนาํ้ ตาลในเลอื ด - <180 mg/dL -
สงู สุดหลังอาหาร
A1C (% of total <6.5% <7.0% 8.0 - 8.0 %
hemoglobin)
5. ผสูB งู อายุ (อายุ >65 ป_) ควรพิจารณาสขุ ภาพโดยรวมของผปูB วm ย และแบง?
ผปูB mวยเพื่อกาํ หนดเปาw หมายในการรักษาดงั ตาราง
สภาวะผูปวo ยเบาหวานสงู อายุ เปŒาหมายระดับ A1C
ผมBู ีสุขภาพดี ไมม? โี รครว? ม <7 %
ผมูB ีโรครว? ม ชว? ยเหลอื ตวั เองไดB 7.0-7.5%
ผปBู mวยท่ีตอB งไดBรับการช?วยเหลือ
มภี าวะเปราะบาง ไมเ? กนิ 8.5%
มีภาวะสมองเส่ือม ไม?เกนิ 8.5%
ผBูปmวยที่คาดว?าจะมชี ีวิตอย?ไู ดBไมน? าน หลกี เลยี่ งภาวะน้ําตาลในเลือดสงู จนทําใหBเกดิ
อาการ
6. ผูปB mวยท่คี าดวา? จะมชี วี ติ อย?ูไดไB มเ? กนิ 1 ป_ (life expectancy <1 ป)_ ผปูB mวย
ท่มี คี วามเจบ็ ปวm ยอย?างมาก หรอื เปน] โรคมะเรง็ (ระยะสดุ ทาB ย) การ
รกั ษาโรคเบาหวาน มุ?งเนBนใหผB ูปB mวยรูสB กึ สบายและไมเ? กิดอาการจาก
ภาวะนาํ้ ตาลในเลอื ดสงู ใหไB ดBรบั การดแู ลทบี่ Bานที่ช?วยใหมB คี ณุ ภาพชวี ติ ที่
ดจี นวาระสดุ ทาB ยไม?กาํ หนดระดบั A1C
7. ผBปู วm ยเบาหวานเดก็ และวัยรุ?นมีเปwาหมายของการรักษาใหBระดับ A1C
<7.5%
การติดตามดานความปลอดภยั
ภาวะนาํ้ ตาลในเลือดตา่ํ (Hypoglycemia)
ภาวะนาํ้ ตาลในเลอื ดต่ํา คอื การมีระดบั กลโู คสในเลือด ≤70 mg/dL และมี
อาการรของภาวะนา้ํ ตาลในเลือดต่าํ ซึง่ มีอาการแสดง 2 ชนดิ ไดBแก? อาการออโต
โนมิค (autonomic symptoms) และอาการสมองขาดกลโู คส
High Alert Drug คมู ือการใชยาที่มคี วามเส่ยี งสงู พิมพค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบบั ปรับปรงุ ) Page 291
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บัด โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรบั เปลีย่ นเพ่อื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ริ าช**
(neuroglycopenic symptoms)
- Autonomic symptoms ไดBแก? ใจสั่น หวั ใจเตBนเร็ว รูBสึกหวิ รBสู ึกรBอน
เหง่ือออก มอื สนั่ รBูสกึ กงั วล ความดนั โลหิต systolic สงู กระสบั กระสา? ย
คลืน่ ไสB และชา
- Neuroglycopenic symptoms ไดแB ก? อ?อนเพลีย รสBู ึกรBอนทงั้ ทผ่ี วิ หนงั
เยน็ และชน้ื อุณหภมู กิ ายต่ํา มึนงง ปวดศรี ษะ การทาํ งานสมองดาB น
cognitive บกพรอ? ง ปฏกิ ริ ยิ าตอบสนองชาB ลง สบั สน ไม?มีสมาธิ ตาพรา? มวั
พดู ชBา งว? งซมึ หลงลืม พฤติกรรมเปลีย่ นแปลง อัมพฤกษคn รึ่งซีก
(hemiparesis) คลBายโรคหลอดเลอื ดสมอง (stroke) หมดสติ และชัก
• ใหประเมนิ ความรุนแรงของภาวะนํา้ ตาลในเลอื ดตํ่า ซ่งึ แบงได 3 ระดับ
ดงั นี้
- ระดับไมรนุ แรง หมายถงึ มีผลตรวจเลอื ดพบระดบั พลาสมากลูโคสตาํ่ แต?ไม?
มอี าการ
- ระดับปานกลาง หมายถึง มอี าการเกิดขึ้นเลก็ นBอยหรือปานกลาง และ
สามารถทาํ การแกไB ขไดBดวB ยตัวเอง (เช?น การรับประทานอาหาร)
- ระดับรนุ แรง หมายถึง มีอาการรุนแรงมากจนไมส? ามารถทาํ การแกBไขไดB
ดวB ยตวั เองและตอB งอาศยั ผBูอนื่ ชว? ยเหลอื
• แนวทางการรกั ษาภาวะน้ําตาลในเลือดตาํ่
- ระดับไมรนุ แรง-ปานกลาง
รับประทานคารโn บไฮเดรตในปรมิ าณ 15 กรัม ไดแB ก? กลโู คสเมด็ 3 เม็ด,
น้ําสมB คนั้ 180 mL, นา้ํ อัดลม 180 mL, น้ําผง้ึ 3 ชอB นชา, ขนมป†งปอนดn 1
แผ?น, นมสด 1 ถBวย, ขBาวตมB หรือโจ°ก ½ ถวB ยชาม
- ติดตามระดบั กลโู คสในเลอื ดที่ 15 นาที
- รับประทานคารโn บไฮเดรตในปริมาณ 15 กรัม ซํา้ ถBาระดับกลโู คสในเลือด
ยังคง <70 mg/dL ถาB อาการดีขนึ้ และการตรวจวัดระดบั กลโู คสในเลือดซํา้
ไดผB ล > 80 mg/dL ใหBรบั ประทานอาหารตอ? เนอ่ื งทนั ทเี ม่อื ถงึ เวลาอาหาร
- ระดบั รุนแรง ใหB glucagon 1 mg IM หรอื SC (ถBามี), glucose 50%
10-20 mL slow IV push ตอ? ดวB ย 30-40 mL ที่เหลอื แลวB เปดŠ เสBนต?อเน่อื ง
ไวBดBวย heparin หรือ saline lock หรอื ใหB dextrose 5-10% หยดตอ? เน่ือง
ตามความเหมาะสม ติดตามระดับกลูโคสในเลอื ดที่ 15 นาที รกั ษาระดับ
กลูโคสในเลอื ดที่มากกวา? 80 mg/dL โดยปรบั อตั ราหยดสารละลาย
dextrose
High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี ีความเส่ียงสูง พมิ พค# รง้ั ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรุง) Page 292
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศริ ิราช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปล่ียนเพอ่ื ใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บรบิ ทของโรงพยาบาลศริ ิราช**
ภาวะหวั ใจลมเหลว (heart failure)
- ตดิ ตามอาการ และอาการแสดงของภาวะหัวใจลBมเหลวไดแB ก? เหนอ่ื ยออน
เพลยี (ไมวาจะเปน• ขณะพกั หรอื ออกกําลงั กาย) หรืออาการซ่ึงเกดิ จาก
การมนี า้ํ และเกลอื คง่ั ในรางกาย เชน ขาบวม มีนํ้าในชองเย่อื หุมปอดหรือ
ชองทองและหลกั ฐานจากการตรวจรา? งกาย หรือการตรวจพิเศษแลวB พบวา? มี
ความผดิ ปกตขิ องการทาํ หนาB ทขี่ องหวั ใจ
โรคมะเร็งกระเพาะป“สสาวะ (bladder cancer)
- ตดิ ตามอาการ อาการแสดงของโรคมะเรง็ กระเพาะปส† สาวะเชน? ป“สสาวะ
แสบขดั (dysuria) , ปส“ สาวะปนเลอื ด (hematuria), ปวดป“สสาวะรีบ
(urinary urgency)
การบาดเจ็บทตี่ บั (liver injury)
- ติดตามอาการ อาการแสดงของการบาดเจบ็ ที่ตับไดแก อาการเหน่อื ย
(fatigue), ตัวเหลือง (jaundice), ป“สสาวะสีเขม (dark urine) หากพบ
อาการใหหยดุ ยาและตรวจคาการทาํ งานของตับทนั ทีเพื่อหาสาเหตุของ
ความผดิ ปกติ
เอกสารอางองิ
1. ศุภโชค มั่งมลู . (2557). เภสัชวทิ ยาของยารักษาโรคเบาหวาน. พิมพคn รั้งท่ี 1. กรุงเทพฯ: Seaworld
Graphic
2. MICROMEDEX® [Database on the internet]. Colorado: Thomson Reuters (Healthcare);
c1974-2019. DRUGDEX® System, Pioglitazone; [cited 2022 Jan 16]. Available from:
https://www-micromedexsolutions-com.ejournal.mahidol.ac.th/micromedex2/ librarian
/PFDefaultActionId/evidencexpert.DoIntegratedSearch?navitem=headerLogout#indepthpan
elprint. Subscription required to view
3. สมาคมโรคเบาหวานแห?งประเทศไทย. (2560). แนวทางเวชปฏบิ ตั สิ าํ หรับโรคเบาหวาน 2560. [ระบบ
ออนไลน]n . เขาB ถึงไดจB าก: https://www.dmthai.org/index.php/knowledge/healthcare-
providers/cpg/443-guideline-diabetes-care-2017. (24 พ.ย. 2564)
4. American Diabetes Association Diabetes Care 2021 Jan; 44(Supplement 1): S111-S124.
https://doi.org/10.2337/dc21-S009. [cited 2021 Nov 24].
5. Drug information: Pioglitazone. In: UpToDate [database on the Internet]. Waltham (MA):
UpToDate, Inc.; 2021 [cited 2021 Nov 24].
6. Utmos® [package insert]. Thailand: Berlin Pharmaceutical; 2012.
High Alert Drug คูมอื การใชยาท่มี ีความเสยี่ งสูง พมิ พค# รัง้ ที่ 6 เมษายน 2565 (ฉบับปรบั ปรงุ ) Page 293
คณะกรรมการเภสชั กรรมและการบาํ บดั โรงพยาบาลศิรริ าช
**ขอมูลขางตนมกี ารปรับเปลย่ี นเพื่อใหเหมาะสมและสอดคลองกบั บริบทของโรงพยาบาลศริ ิราช**