The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Amorn Nanthawikron, 2021-02-14 21:22:18

2313224TM-สังคมรวม-ม3

2313224TM-สังคมรวม-ม3

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ñ. ว ตั ถุประสงค์ ºทºาท áละความสÓคัÞของการรวมกลุ่มทาง

ข้นั ที่ 2 สำารวจค้นหา เศรษฐกจิ

1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม ศึกษาคนควา จาก การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ หมายถงึ การท่ีประเทศต้ังแตส่ องประเทศขึน้ ไปมารวมกลุ่มกนั
หนังสือเรยี นสังคมศกึ ษาฯ ม.3 หรอื จากแหลง อย่างเปน็ ทางการ เพอ่ื ท�าความตกลงร่วมมือกันเปิดเสรกี ารค้าหรือใหส้ ทิ ธิพเิ ศษทางภาษศี ุลกากร
การเรียนรูอ่ืนๆ เชน หนังสือในหองสมุด ระหวา่ งกนั โดยที่ยังคงกีดกันการค้ากบั ประเทศนอกกลุ่ม ประเทศที่จะมารวมกลุ่มส่วนใหญ่มักอยู่
เว็บไซตในอินเทอรเ นต็ ในประเด็น ดงั น้ี ในภมู ภิ าคเดยี วกนั หรอื มอี าณาเขตติดตอ่ หรือประสบปัญหาที่คล้ายคลงึ กัน
• วตั ถปุ ระสงค บทบาท และความสาํ คญั ของ
การรวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ 1.1 วัตถปุ ระสงคของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ
• ลกั ษณะของการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ
วตั ถุประสงคโ์ ดยทัว่ ไป คอื เพ่อื ประโยชน์ด้านการขยายการคา้ สง่ ผลให้เกดิ การผลิต การ
2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเช่ือถือ จา้ งงาน การลดตน้ ทุน การดงึ ดดู การลงทนุ จากต่างประเทศ การถา่ ยทอดเทคโนโลยี ตลอดจนการ
ใหก ับนักเรยี นเพม่ิ เติม สรา้ งอา� นาจการเจรจากบั ประเทศนอกกลมุ่ สง่ ผลใหเ้ กดิ การขยายตวั และการพฒั นาเศรษฐกจิ ในทส่ี ดุ

ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ 1.๒ บทบาทและความส�าคัญ

1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก การรวมกลุม่ ทางเศรษฐกจิ มีความสา� คัญตอ่ การค้าโลกหลายประการ ดังน้ี
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
ระหวา งกนั ทําให้ตลาดขยายตัว โดยมีข้อตกลงเพ่ือลดหรือยกเลิกข้อจ�ากัดทางการค้าระหว่างกัน
เพอ่ื ใหก้ ารคา้ ระหวา่ งประเทศภายในกลมุ่ ไมถ่ กู จา� กดั ดว้ ยอปุ สรรคทางการคา้ มงุ่ ความ
2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ร่วมมือดา้ นสว่ นแบ่งตลาด ท�าใหก้ ารค้าภายในกล่มุ ขยายตวั มากขึ้น
ที่นําเสนอเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอ ง
บทบาท ปจจยั การผลิตเคลอ่ื นยา้ ยไดอ้ ยางเสรมี ากขนึ้ ซึง� ได้แก ่ แรงงาน
3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล และความสา� คัญ ทุน และผ้ปู ระกอบการ สง่ ผลทา� ให้ปัจจัยการผลิตถูกน�าไปใชไ้ ด้
หนาชั้นเรียนตามประเด็นที่ศึกษา อภิปราย ของการรวมกลุม่ อย่างเต็มท่ีมากข้ึน และก่อให้เกิดรายได้แก่เจ้าของปัจจัยการ
และตอบคาํ ถามรวมกนั ทางเศรษฐกจิ ผลิตเพิ�มข้ึน
เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เน�องจากการจัดสรรทรัพยากร
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และเปน็ การสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารรวมตวั ทางการ
เมืองระหว่างประเทศ เพ่ือแก้ปัญหาท้ังภายในและภายนอก
ภูมิภาค ซึ�งเมื่อการเมืองผ่อนคลาย ปริมาณการค้า การผลิต
และเศรษฐกจิ ด้านตา่ ง ๆ กจ็ ะขยายตวั ตามไปดว้ ย

ต้นทุนการผลิตสินค้าลดลง เน�องจากการขยายขนาดของธุรกิจ มีการผลิตมากข้ึน
ทา� ให้ต้นทนุ การผลติ ต่อหนว่ ยลดลง ซง�ึ การขยายธรุ กิจหนงึ� จะสง่ ผลใหส้ าขาเศรษฐกจิ
อืน่ ๆ ขยายตามไปดว้ ย เชน่ เมือ่ มกี ารขยายตวั ของสาขาอตุ สาหกรรม ก็จะดึงสาขา
เกษตรท่ีผลิตวัตถุดิบ และสาขาบริการท่ีเป็นการขนส่งและการธนาคารให้เกิดการ
ขยายตัวตามไปดว้ ย
166

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ

ครูนําขาวการประชุมของกลุมเศรษฐกิจ เชน การประชุมผูนําเอเปก เปาหมายสาํ คญั ของการรวมกลมุ เศรษฐกจิ เพอื่ วัตถปุ ระสงคใด
การประชุมสดุ ยอดผูนาํ อาเซยี น หรือขา วการคาของกลมุ เศรษฐกิจตางๆ มาให 1. ลดการใชทรพั ยากร
นกั เรียนวเิ คราะหเ น้อื หาขาว จากนน้ั ครถู ามคําถามเพมิ่ เตมิ เชน 2. การเมอื งระหวางประเทศ
3. ความตองการเปน เอกภาพ
• จากขาวสงผลดตี อ การคาระหวางประเทศอยางไร 4. ผลประโยชนท างเศรษฐกิจรว มกนั
• ทําไมปจจุบนั ประเทศตา งๆ จงึ มกี ารรวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. การรวมกลุมทางเศรษฐกิจ
เปนการรวมมือกันเพื่อดําเนินการตางๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
เพอื่ บรรลุเปา หมายไดรับผลประโยชนท างเศรษฐกจิ รว มกัน)

T186

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒. ลกั ษณะของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ขนั้ สอน
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ มีหลายลกั ษณะ ดงั นี้
ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้
การจัดทา� ข้อตกลงเพือ่ แลกเปลย่ี นสทิ ธิพเิ ศษ สหภาพเศรษฐกิจ
ทางการคา้ มกี ารกา� หนดนโยบายทางดา้ น 4. ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกันเก่ียวกับ
มกี ารทา� ขอ้ ตกลงรว่ มกนั ทจ่ี ะลดอตั ราภาษศี ลุ กากรใหก้ บั การนา� สนิ คา้ เศรษฐกจิ รว่ มกนั เชน่ นโยบาย วตั ถปุ ระสงค บทบาท และความสาํ คญั ของการ
เขา้ จากประเทศในกลมุ่ ตามการเจรจาตกลง มกี ารวางขน้ั ตอนการลด การเงินและการคลังที่เป็น รวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ และสมุ ตวั แทนนกั เรยี น
อัตราภาษีศุลกากรระหวา่ งกนั แต่จะไมล่ ดลงจนหมดไป หรือมีการ อนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั มหี นว่ ยงาน เพื่อตอบคาํ ถาม เชน
ตกลงลด หรือยกเลิกข้อจ�ากัดทางการค้าท่ีไม่ใช่ภาษีศุลกากร หรือ กลางที่บริหารนโยบายร่วมกัน • เพราะเหตุใดในปจ จบุ ันประเทศตา งๆ จงึ มี
อุปสรรคทางการค้าด้านอ่ืน ๆ แต่ยังคงเรียกเก็บภาษีศุลกากรจาก ท�าให้ความสัมพันธ์ทางการ การรวมกลุมทางเศรษฐกิจ
การนา� สนิ คา้ จากประเทศนอกกลมุ่ ในอัตราที่แต่ละประเทศก�าหนด เมืองเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน • การรวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ มีขอดอี ยา งไร
ตัวอย่างการรวมกลุ่มนี้ คือ
สหภาพเหนือชาติ สหภาพยโุ รป 5. ครูซักถามขอสงสยั ของนกั เรยี นเพิม่ เตมิ
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับท่ีสูงท่ีสุด เป็นการรวมกลุ่มใน
ทกุ ดา้ นของหลายประเทศเพอื่ มงุ่ รวมเปน็ ประเทศเดยี วกนั โดยรฐั บาล สหภาพศลุ กากร ขน้ั สรปุ
ของแต่ละประเทศต่างยินยอมสละอ�านาจอธิปไตยของตน เพ่ือให้ การรวมกลุ่มเศรษฐกิจเหมือน
ส่วนรวมสามารถตัดสินใจก�าหนดนโยบายต่าง ๆ ร่วมกันได้อย่างมี เขตการค้าเสรี โดยประเทศ ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ
ประสทิ ธภิ าพ ซง่ึ ขณะนย้ี งั ไม่มกี ารรวมกล่มุ ของประเทศใด สมาชกิ จะต้องตกลงกันยกเลกิ
การเก็บภาษีศุลกากรและ 1. ครใู หน กั เรยี นทาํ ใบงานท่ี 10.1 เรอ่ื ง การรวมกลมุ
เขตการค้าเสรี มาตรการจ�ากัดการค้าอื่น ๆ ทางเศรษฐกิจ โดยครแู นะนําเพิ่มเติม
การรวมกลุ่มเพ่ือยกเลิกอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก ระหวา่ งกนั เอง ประเทศสมาชกิ
ยกเลิกมาตรการจ�ากัดการน�าเข้าด้านการเก็บภาษีศุลกากรจากการ แต่ละประเทศจะมีข้อตกลง 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร
น�าเข้าสินค้าระหว่างประเทศในกลุ่ม และยกเลิกมาตรการท่ีไม่ใช่ ในเร่ืองการก�าหนดอัตราภาษี ม.3 เกยี่ วกบั เรื่อง การรวมกลุม ทางเศรษฐกจิ
ภาษอี น่ื ๆ และข้อจา� กัดทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก สมาชิก ขาเข้าจากประเทศนอกกลุ่ม เพ่ือเปน การบานสงครูในชวั่ โมงถดั ไป
มีอิสระเต็มที่ในการต้ังอัตราภาษีเรียกเก็บในระดับที่แตกต่างกัน ในอตั ราเดยี วกัน
จากประเทศนอกกลมุ่ ขน้ั ประเมนิ

ตลาดร่วม ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล
มีลักษณะเหมือนสหภาพศุลกากร แต่เพ่ิมเงื่อนไขว่า ไม่เพียงแต่
สนิ คา้ เทา่ นน้ั ทส่ี ามารถเคลอ่ื นยา้ ยไดโ้ ดยเสรรี ะหวา่ งประเทศสมาชกิ 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ
แต่ปัจจัยการผลิตภายในกลุ่มก็สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยเสรีใน ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก
ระหว่างประเทศสมาชกิ สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3

2. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั
ทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน

3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3

167

ขอ สอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล

เม่ือเกิดการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ ผูประกอบธุรกิจจะไดรับ ครูสามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนื้อหา เร่ือง วตั ถปุ ระสงค บทบาท
ผลประโยชนอ ยางไร ความสําคัญ และลักษณะของการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ ไดจากการตอบ
คําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษา
1. สินคา จะขายดขี น้ึ เกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมา
2. ตน ทุนการผลติ สนิ คา ลดลง ทายแผนการจัดการเรยี นรูห นวยที่ 10 เรื่อง การรวมกลุมทางเศรษฐกิจระหวาง
3. สามารถเปน ผูผูกขาดสินคา ในตลาดได ประเทศ
4. ชว ยใหการลงทนุ เกิดความเสย่ี งนอยลง
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เม่ือมีการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ
ผูผลติ สนิ คาจะไดร ับประโยชน คือ ตน ทุนการผลิตสินคา จะลดลง คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี
เนือ่ งจากเขา ถงึ วตั ถุดบิ ไดง า ย มกี ารผลติ ในปริมาณที่สูงขึน้ และ ตรงกบั ระดบั คะแนน
ไมม กี ารเสียภาษนี ําเขา )
ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกต้องของเนอื้ หา

2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง

3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์

4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ

5 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลุ่ม

รวม

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่

ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ

T187

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั นาำ (การจัดการเรยี นรูแบบรวมมอื : ๓. กลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคตา่ งๆ
การรวมกลุม่ ทางเศรษฐกิจในภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก มกั จดั ตัง้ ข้นึ บนพน้ื ฐานวตั ถปุ ระสงค์
เทคนิคคคู ิดสส่ี หาย) ท่ีตอ้ งการรว่ มมือกนั พฒั นาเศรษฐกจิ ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเร่ือง
๓.1 สหภาพยโุ รป (The European Union: EU)
ทีจ่ ะเรยี นรู จุดประสงคก ารเรียนรู และผลการ สหภาพยุโรปเป็นกลุ่มประเทศที่มีบทบาทส�าคัญในการสร้างกระแสและทิศทางการเมือง
เรยี นรู ความมนั่ คงทางเศรษฐกจิ และสงั คมของโลก เปน็ ๑ ใน ๓ ศนู ยก์ ลางเศรษฐกจิ โลก เปน็ มหาอา� นาจ
2. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรูเดิมเกี่ยวกับ ทซง่ึาไงดเศใ้ หรษค้ ฐวกามจิ ชต่วลยาเดหสลนิ ือคแา้กแป่ ลระะบเทรกิศาตรา่ งต ๆล าจด�ากนาวรนเงมนิ า กแ ลระวแมหทล้งั ง่เปท็นม่ี ปาขระอเงทกศาแรมลงข่ ทอนุงบทรส่ี รา� ษคทัญั ขขา้ อมงชโลากต1 ิ
การรวมกลุมทางเศรษฐกจิ ท่ไี ปลงทุนในประเทศต่าง ๆ
3. ครูนําสนทนาเก่ียวกับกลุมทางเศรษฐกิจและ
องคกรระหวางประเทศ
4. ครสู รปุ การแสดงความคดิ เหน็ ของนกั เรยี น โดย
เชอ่ื มโยงใหเ ขากับเนื้อหาเพ่ือนาํ เขาสูบ ทเรยี น

สหภาพยโุ รปเปน็ การรวมกลมุ่ เศรษฐกจิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ กลมุ่ แรกใน พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยประเทศผเู้ รม่ิ
ก่อต้ัง ๖ ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก ฝร่ังเศส เยอรมนี และอิตาลี
ได้รว่ มกอ่ ตง้ั ประชาคมถา่ นหนิ และเหล็กกล้ายโุ รป โดยมีวตั ถปุ ระสงค์หลกั คือ ฟืน้ ฟูอุตสาหกรรม
ท่ีได้รับความเสียหายและมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจเฉพาะด้านถ่านหินและเหล็ก ต่อมาใน
พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้ร่วมมือกันก่อต้ังประชาคมเศรษฐกิจยุโรป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความ
ขัดแย้งและการท�าสงครามระหว่างประเทศ วางรากฐานความร่วมมือระหว่างประเทศในยุโรป
โดยเฉพาะความรว่ มมอื ดา้ นเศรษฐกจิ ใหใ้ กลช้ ดิ กนั มากขนึ้ เพอื่ ยกระดบั ความเปน็ อยขู่ องประชาชน
ให้ดีขึน้ โดยการรวมตัวทางเศรษฐกจิ ใหเ้ ปน็ อนั หนงึ่ อนั เดยี วกนั ลดอปุ สรรคทางการคา้ ระหวา่ งกัน
ร่วมกันขจัดอุปสรรคทางการค้ากับภายนอก รวมทั้งรักษาระดับดุลการค้า และประกันให้มี
การขยายตัวทางเศรษฐกจิ อย่างสม่�าเสมอ และพฒั นาการรวมกล่มุ ตลอดมา โดยใน พ.ศ. ๒๕๑๑
ได้รวมเป็นสหภาพศุลกากรเรื่อยมาจนเป็น
ตลาดเดยี ว ซ่งึ เป็นตลาดร่วมยุโรป
นโยบายทางเศรษฐกจิ ท่สี �าคัญ มดี ังน้ี
๑. นโยบายการค้า มีการยกเลิกภาษี
ศุลกากร มาตรการจ�ากัดปริมาณ ตลอดจน
ค่าธรรมเนียมท่ีเก็บจากการน�าเข้าและส่งออก
เรง่ รดั ดา� เนนิ การปรบั พกิ ดั อตั ราศลุ กากรระหวา่ ง
ประเทศสมาชิกให้เป็นอัตราเดียวกัน เพื่อเป็น
สหภาพศลุ กากร และยกระดบั การรวมกล่มุ จาก
 สหภาพยโุ รปใหค้ วามสา� คญั กบั ความปลอดภยั ของผบู้ รโิ ภค สหภาพศุลกากรเป็นตลาดร่วม หรือท่ีเรียกว่า
อยา่ งมาก สนิ คา้ นา� เขา้ ทกุ ชนดิ จะตอ้ งไดร้ บั การตรวจสอบ
คุณภาพอยา่ งเข้มงวด ตลาดยโุ รปเดียว

168

นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรา งเสรมิ

1 บรรษัทขา มชาติ (Multinational Company) คอื บริษัททีข่ ยายธรุ กิจดว ย ครูนําขาวเศรษฐกิจการคาระหวางประเทศของไทยกับ EU
การสรางบริษัทลูกในตางประเทศ โดยบริษัทลูกจะมีความรับผิดชอบในเรื่อง มาสนทนาและใหนักเรียนวิเคราะหแนวโนมทางการคาจากขาว
การปรับตัว การตอบสนองตอ สงิ่ แวดลอ ม การแขงขนั และความตองการของ สรุปความรทู ไ่ี ดสง ครผู สู อน
ลกู คา ในประเทศนัน้ ๆ ดว ยตวั เอง
กิจกรรม ทา ทาย
ส่ือ Digital
นักเรียนแบงกลุมสืบคนขอมูลการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ
ศึกษาคนควาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสหภาพยุโรป ไดที่ https://europa.eu/ ในภูมิภาคตางๆ ของโลกในประเด็น เชน
european-union/index_en
• วตั ถุประสงคห รอื นโยบายทางเศรษฐกิจ
T188 • บทบาทของประเทศไทยในกลุมเศรษฐกิจ (ถามี) หรือ

ประโยชนท ่ีไทยไดรับ

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒. นโยบายเกษตร เป็นนโยบายส�าคัญท่ีส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตรท่ัวโลก โดยให้มี ขน้ั สอน
การค้าสินค้าเกษตรเสรีภายในกลุ่ม ให้มีสิทธิพิเศษแก่ประเทศสมาชิกได้รับผิดชอบด้านการเงิน
ร่วมกัน มีการก�าหนดราคาประกันไว้สูงกว่า 1. นกั เรยี นกลมุ อนื่ แสดงความคดิ เหน็ หรอื ซกั ถาม
ราคาตลาดโลกและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจาก เพม่ิ เตมิ ในประเดน็ เชน
สนิ คา้ เขา้ เพอื่ เปน็ การปอ้ งกนั มใิ หเ้ ขา้ มาแขง่ ขนั • เพราะเหตุใด EU จึงมีความสําคัญตอ
กับสินค้าในประเทศ เศรษฐกจิ ไทย
(แนวตอบ EU เปน กลมุ ทางเศรษฐกจิ ทม่ี คี วาม
๓. นโยบายการเงิน ได้มีการน�าระบบ มั่นคง เปนตลาดการคาท่ีสําคัญของหลาย
การเงินของยุโรปมาใช ้ โดยการสร้างหนว่ ยเงิน ประเทศรวมถงึ ไทย)
ตรายุโรป ใน พ.ศ. ๒๕๔๒ ประเทศสมาชิก
ท้ังหมด ๑๑ ประเทศ ยกเว้นสหราชอาณาจกั ร 2. ครูใหนักเรียนกลุม : สมาคมการคาเสรีแหง
เเดดนียวมกาันรก์ หสรวือีเดทน่ีเร ียแกลวะ่าก รเซี ง ินไยดูโ้ตรก1 ล(EงใUชRเ้ งOิน)ส กในลุ  สหภาพยโุ รปใชเ้ งินสกลุ ยูโรในการท�าธุรกรรมท่วั ไป ยโุ รป นาํ เสนอผลการศกึ ษา
ธุรกรรมท่ัวไป และเริม่ ใชธ้ นบตั รและเหรียญกษาปณ์สกลุ ยโู ร เมื่อวนั ที ่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๕
เป็นต้นมา ปจั จบุ นั สหภาพยโุ รปมสี มาชกิ รวม ๒๗ ประเทศ เพ่มิ จากประเทศกอ่ ตั้ง ๖ ประเทศเดมิ 3. นกั เรยี นกลมุ อนื่ แสดงความคดิ เหน็ หรอื ซกั ถาม
ได้แก่ ไอรแ์ ลนด์ เดนมาร์ก กรีซ โปรตุเกส สเปน ออสเตรีย ฟินแลนด์ สวเี ดน ไซปรสั เช็ก เพ่มิ เติม
เอสโตเนีย ฮังการ ี ลตั เวยี ลิทวั เนยี มอลตา โปแลนด ์ สโลวาเกีย สโลวเี นยี บัลแกเรยี โรมาเนยี
และโครเอเชยี

๓.๒ สมาคมการค้าเสรแี ห่งยโุ รป
(European Free Trade Association: EFTA)

สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรปจัดตั้งขึ้นตามสนธิสัญญาสตอกโฮล์มใน พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยมี
วัตถุประสงค์หลักในการก่อตั้ง คือ เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่จัดตั้งข้ึนเพ่ือส่งเสริมการค้าเสรี
และบูรณาการทางเศรษฐกิจเพ่ือประโยชน์ของประเทศสมาชิก โดยเน้นด้านการค้าสินค้า
อุตสาหกรรม และเพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปที่ไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมในนโยบายเกษตรร่วม
รวมทงั้ มเี ปา้ หมายทางดา้ นการเมอื งและเศรษฐกจิ แตกตา่ งไปจากประชาคมเศรษฐกจิ ยโุ รปเขา้ รว่ ม
กับสมาคมการคา้ เสรีแห่งยโุ รปได้
สมาคมการคา้ เสรแี ห่งยุโรป มีสมาชกิ ๔ ประเทศ ได้แก่ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน ์ นอร์เวย์
และสวิตเซอร์แลนด์ ท้ังนี้ การด�าเนินงานของกลุ่มน้ีไม่ประสบความส�าเร็จเท่าท่ีควร เนื่องจาก
ประเทศสมาชกิ สว่ นใหญ่ยังคงพงึ่ พาสหภาพยโุ รปและหนั ไปสมคั รเปน็ สมาชิกสหภาพยโุ รป

16๙

ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

ประเทศไทยกบั สหภาพยโุ รปมคี วามสมั พนั ธท างดา นเศรษฐกจิ 1 เงินยูโร สกุลเงินของยุโรป ท่ีประเทศในกลุมยูโรโซน (Eurozone) ตกลง
อยา งไร จะใชเงินสกุลยูโรเปนสกุลเงินรวม และเปนเงินสกุลเดียวที่ชําระหนี้ไดตาม
กฎหมาย นโยบายการเงินของสมาชิกอยูในความรับผิดชอบของธนาคารกลาง
(แนวตอบ สหภาพยุโรปมีขนาดเศรษฐกิจใหญเปนอันดับ 2 ยโุ รป การใชเ งนิ สกลุ เดยี วกนั ชว ยลดตน ทนุ ในทางธรุ กจิ ระหวา งกนั ในกลมุ สมาชกิ
ของโลก อีกทั้งยังเปนคูคาท่ีสําคัญของไทย และเปนนักลงทุน เนอื่ งจากไมตองเสียคา ธรรมเนยี มในการแลกเปลี่ยนเงนิ ขามสกลุ และลดความ
สาํ คญั มคี วามกา วหนา ทางนวตั กรรมและเทคโนโลยใี นดา นตา งๆ เส่ียงจากอตั ราแลกเปล่ยี นผนั ผวน
ทเ่ี กอ้ื หนุนเชิงยทุ ธศาสตรตอการพัฒนาเศรษฐกจิ ของไทย)

T189

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๓.๓ เขตการคา้ เสรอี เมรกิ าเหนือ
(North America Free Trade Agreement: NAFTA)
4. ครใู หน กั เรยี นกลมุ : เขตการคา เสรอี เมรกิ าเหนอื เขตการคา้ เสรอี เมริกาเหนอื หรือนาฟตา เปน็ การรวมกลุ่มเศรษฐกิจในทวีปอเมรกิ าเหนอื
นาํ เสนอผลการศกึ ษา ระหวา่ งสหรัฐอเมรกิ า แคนาดา และเมก็ ซโิ ก ได้ทา� ความตกลงเมอื่ วนั ท่ ี ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ขจดั อุปสรรคที่กีดกันการค้าและบรกิ าร ส่งเสริมการแขง่ ขันท่เี ปน็ ธรรมและ
5. นกั เรยี นกลมุ อน่ื แสดงความคดิ เหน็ หรอื ซกั ถาม ขยายโอกาสการลงทุน สร้างบรรยากาศการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก ตลอดจนก�าหนด
เพ่ิมเติมในประเด็น เชน มาตรฐานคุ้มครองในทรัพย์สินทางปัญญา และจัดตั้งกลไกการยุติข้อพิพาททางด้านการค้า
• ไทยไดรับประโยชนและผลกระทบจาก ที่ยุติธรรมและรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการอ�านวยความสะดวกในการเคล่ือนย้ายข้ามเขตแดน
นาฟตาอยางไรบาง ในการท�าการค้าและบริการระหวา่ งอาณาเขตของประเทศสมาชกิ ส่งเสริมการแขง่ ขันทเ่ี ปน็ ธรรม
(แนวตอบ ไดรับผลกระทบจากการออกกฎ ในเขตการคา้ เสรี และสง่ เสรมิ ความร่วมมอื ในระดบั ตา่ ง ๆ
ในการกีดกันทางการคา เชน เมก็ ซิโก ทม่ี ี นโยบายทางเศรษฐกจิ ที่ส�าคญั มดี งั น้ี
การขึ้นอัตราภาษีศุลกากรเครื่องหนังและ
รองเทาจากประเทศนอกกลุม ทําใหสินคา
ไทยมีราคาสูง สง ออกไดนอ ยลง)

๑. ด้านการค้า มีการยกเลิกภาษีศุลกากรยกเว้นสินค้าเกษตร และลดอุปสรรคทางการค้า
ทีม่ ใิ ชภ่ าษี
๒. ดา้ นทรพั ยส นิ ทางปญ ญา ใชม้ าตรการปกปอ้ งลขิ สทิ ธ ิ์ สทิ ธบิ ตั ร และเครอ่ื งหมายการคา้
เพือ่ ปอ้ งกันการละเมดิ ทรพั ย์สินทางปญั ญา
๓. ด้านสินค้าเกษตร มีการคุ้มครองแก่สมาชิกเป็นพิเศษ เนื่องจากสินค้าทางการเกษตร
เป็นสินคา้ ทม่ี ีความส�าคญั กบั ประเทศสมาชิก
เมอ่ื มกี ารรวมตวั กนั เปน็ เขตการคา้ เสรอี เมรกิ าเหนอื สง่ ผลใหก้ ารรวมกลมุ่ เศรษฐกจิ การคา้
ขยายตวั ออกไปอยา่ งกวา้ งขวางในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ
ของโลก อนั เนอื่ งมาจากการขยายความรว่ มมอื
ทา� ใหเ้ กดิ การแขง่ ขนั ภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ
ขณะเดียวกันมีการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม
เศรษฐกิจการค้าที่มีผลประโยชน์สอดคล้องกัน
อีกด้วย
ท้ังนี้ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ นาฟตาได้มีการ
เCปaลn่ียadนaช Aื่อgใหreมem่เปe็นn t (UUnSitMeCd AS)1 หtaลtงeั จsา-กMไeดxบ้ iรcรoล-ุ
 นาฟตาเปน็ ตลาดนา� เขา้ อญั มณแี ละเครอ่ื งประดบั รายใหญ่ การเจรจาความตกลง NAFTA 2.0 ทย่ี ดื เยอ้ื มา
ของประเทศไทย เปน็ ระยะเวลานาน

170

นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม

1 United States-Mexico-Canada Agreement (USMCA) เปน ขอตกลง นักเรียนศึกษาคนควาเพ่ิมเติมถึงวัตถุประสงคและนโยบาย
ทางการคาใหมท่ีสหรัฐอเมริกาพยายามแกไขรายละเอียดการนําเขา-สงออก ของนาฟตา จากแหลง การเรยี นรูต างๆ จากนน้ั นาํ ความรทู ี่ไดมา
สนิ คา อตุ สาหกรรมในกลมุ ชาตสิ มาชกิ อเมรกิ าเหนอื ทดแทนขอ ตกลงทางการคา อภิปรายรวมกันถึงวัตถุประสงคและนโยบายของนาฟตาที่มีตอ
North American Free Trade Agreement (NAFTA) ฉบบั เดิม เศรษฐกิจของโลก

T190

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๓.4 ค วามรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคเอเชยี -แปซฟิ ก 1 ขน้ั สอน
(Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC)
ความรว่ มมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชยี -แปซิฟกิ หรือเอเปก เป็นการรวมกลุ่มระหวา่ ง 6. ครูใหนักเรียนกลุม : กลุมความรวมมือทาง
ภมู ภิ าคทส่ี า� คญั กอ่ ตงั้ ขน้ึ ใน พ.ศ. ๒๕๓๒ โดยการรเิ รมิ่ ของประเทศออสเตรเลยี เนอื่ งจากภมู ภิ าคนี้ เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟก นําเสนอ
มีประเทศมหาอ�านาจทางเศรษฐกิจและประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เป็น ผลการศึกษา
ตลาดใหญแ่ ละมศี กั ยภาพในการขยายการคา้ และการลงทนุ ระหวา่ งกนั มวี ตั ถปุ ระสงคท์ ส่ี า� คญั ไดแ้ ก่
๑. เพ่อื พฒั นาและสง่ เสรมิ ระบบการคา้ ของหลายฝา ย 7. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ
๒. เพ่ือสนบั สนุนการขยายตวั ทางเศรษฐกิจของภูมภิ าคและของโลก ซักถามเพ่ิมเติมในประเดน็ เชน
๓. เพ่ือลดอุปสรรคและอ�านวยความสะดวกให้การค้า การบริการ และการลงทุนระหว่าง • เอเปกมีความสําคัญตอเศรษฐกิจโลกและ
ประเทศสมาชิก ให้สอดคลอ้ งกับกฎเกณฑข์ ององคก์ ารการค้าโลก ไทยอยางไร
(แนวตอบ เปน ตลาดการคา ทใี่ หญ มกี าํ ลงั ซอื้
มาก มปี ระเทศสมาชกิ ที่มีการขยายตวั ทาง
เศรษฐกิจสูง)

๔. เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการหมุนเวียนสินค้า บริการ ทุน ตลอดจนเทคโนโลยี
ระหว่างกนั โดยเสรี
เอเปกเริ่มก่อต้ังด้วย ๑๒ เขตเศรษฐกิจ2 โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมความเจริญเติบโต
ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การด�าเนินงานของเอเปกในระยะแรกมีลักษณะเป็น
“เวทีปรึกษาหารือ” เพ่ือลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน แต่จากแรงผลักดัน
ทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ท�าให้บทบาทความ
ร่วมมอื เปล่ียนไปเป็นการเปดิ เสรีและเป็นเวทีการเจรจาตอ่ รอง
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้กอ่ ต้งั กลุ่มเอเปกและเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้น�า
ใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ปัจจุบันเอเปกมีสมาชิกรวม ๒๑ เขตเศรษฐกิจ (พ.ศ. ๒๕๖๒) ได้แก่ บรูไน
อินโดนีเซีย มาเลเซยี ฟิลิปปนิ ส์ สิงคโปร ์ ไทย เวียดนาม ญปี่ นุ จนี ไต้หวัน ฮอ่ งกง ออสเตรเลยี
เกาหลีใต ้ นวิ ซแี ลนด ์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก ปาปวั นวิ กนิ ี รสั เซยี ชลิ ี และเปรู

 เอเปกมีเป้าหมายส�าคัญในการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพ่ือน�าไปสู่การค้าและการลงทุนอย่างเสรีและสร้าง
รูปแบบความร่วมมือทางเศรษฐกจิ ทก่ี ้าวหนา้ ข้ึน เพ่ือสรา้ งประชาคมท่ีรวมตวั กนั อย่างใกล้ชดิ ในภมู ิภาค

171

กิจกรรม เสริมสรา งคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค นักเรียนควรรู

นักเรียนศึกษาคนควาเก่ียวกับผลการดําเนินงานของเอเปก 1 ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟก เปนภูมิภาคของโลกที่อยูในหรืออยูใกลมหาสมุทร
เพมิ่ เตมิ จากสอ่ื การเรยี นรตู า งๆ พรอ มระบปุ ระโยชนท ปี่ ระเทศไทย แปซิฟกดานตะวันตก ครอบคลุมพื้นท่ีสวนใหญของเอเชียตะวันออก เอเชีย
ไดรับจากการเปนสมาชิกเอเปกในดานตางๆ เชน ประโยชนใน ตะวันออกเฉียงใต ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ซ่ึงอาจรวมไปถึงเอเชียใต
ภาคธุรกิจ ภาคการเกษตร ภาคสังคม จากน้ันใหนักเรียนนํา สหพันธรัฐรสั เซีย และประเทศในทวปี อเมริกาเหนือและทวปี อเมรกิ าใตทีต่ ดิ กับ
ความรูท่ีไดมาอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็นระหวางกันใน มหาสมทุ รแปซิฟก ตะวนั ออกดวย
ชน้ั เรียน 2 เขตเศรษฐกิจ ในกรอบความรวมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟก จะใช
คาํ วา เขตเศรษฐกจิ แทนคาํ วา ประเทศ เนือ่ งจากสมาชิก ไดแ ก เขตปกครอง
พิเศษฮอ งกง และไตหวันไมไ ดมีสถานะเปน ประเทศ แตไดรบั การยอมรับใหเ ขา
เปนสมาชกิ ในฐานะทเ่ี ปนเขตเศรษฐกิจที่มีความสําคัญ

T191

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๓.๕ กลุม่ ประเทศผูส้ ่งออกน�้ามนั (Organization of the
Petroleum Exporting Countries: OPEC)
8. ครใู หน กั เรยี นกลมุ : กลมุ ประเทศผสู ง ออกนาํ้ มนั กล่มุ โอเปกก่อต้ังข้นึ ใน พ.ศ. ๒๕๐๓ มีสมาชิกก่อตั้ง ๕ ประเทศ ไดแ้ ก ่ ซาอุดีอาระเบยี อริ ัก
นําเสนอผลการศึกษา อิหร่าน คูเวต และเวเนซุเอลา มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวกลางประสานงานด้านนโยบายน�้ามัน
ระหวา่ งประเทศผผู้ ลิตนา�้ มัน ในการรกั ษาระดบั ราคาให้มคี วามเปน็ ธรรม และสร้างความมน่ั คงให้
9. นกั เรยี นกลมุ อน่ื แสดงความคดิ เหน็ หรอื ซกั ถาม แกป่ ระเทศผผู้ ลติ ปโิ ตรเลยี ม กอ่ ใหเ้ กดิ การผลติ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและรกั ษาระดบั ความสมา่� เสมอ
เพม่ิ เตมิ ในประเดน็ เชน ในการผลติ เพอื่ ให้เพียงพอแกค่ วามต้องการของตลาดโลก
• เพราะเหตุใดราคานํ้ามันในประเทศไทยจึง ประเทศในกลุ่มโอเปกมีปริมาณน้�ามันดิบส�ารองที่สามารถขุดขึ้นมาใช้ได้มากที่สุดในโลก
ไมอิงราคานํา้ มนั จากกลุมโอเปก แตตององิ จนึง้�าทม�าันใดหิบ้กสล�าุ่มรโออ1งเมปากกมทีอ่ีสิทุดธ ิพคลือต ่อปรระะบมบาเณศร ษ๑ฐ กใิจนโ ล๔ก โดยซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีปริมาณ
ราคานา้ํ มนั จากสงิ คโปร ของโลก ท�าให้ซาอุดีอาระเบียและดินแดน
(แนวตอบ เน่ืองจากสิงคโปรเปน 1 ใน 3 ของ ตะวันออกกลางเป็นศนู ยก์ ลางของประเทศในกลุม่ โอเปก
ตลาดนา้ํ มนั ของโลก ราคานํ้ามันทนี่ ่ีจึงเปน นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกยังมีบทบาทและความส�าคัญในเชิงยุทธศาสตร์ต่อสังคมโลกเป็น
ตวั เลขทผ่ี คู า นา้ํ มนั ในเอเชยี ไปตกลงซอ้ื ขาย อยา่ งสงู มาโดยตลอดนบั ต้งั แต่ตน้ ครสิ ต์ศตวรรษท ่ี ๒๐ น้�ามนั ก็ได้กลายมาเป็นเชอื้ เพลิงหลกั ของ
ผานตลาดสิงคโปร) โลกแทนทถ่ี า่ นหิน ประกอบกับน�า้ มันมมี ากในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉยี งใตแ้ ละมีคอ่ นข้างจา� กดั
• ถาโอเปกลดกําลังการผลิตจะสงผลกระทบ
ตอ โลกและตอไทยอยา งไร
(แนวตอบ ราคานํ้ามันสูงข้ึน)

ในขณะท่ีความต้องการใช้เพิ่มสูงข้ึนจากการเพ่ิมข้ึนของจ�านวนประชากร การขยายตัวของภาค
อตุ สาหกรรมและการขนสง่ ซง่ึ ตอ้ งใชน้ า้� มนั เปน็ เชอ้ื เพลงิ หลกั ทา� ใหโ้ อเปกเปน็ ฐานการผลติ นา�้ มนั
แหล่งใหญ่ท่สี ุด
ปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๖๒) โอเปกมสี มาชิกรวม ๑๔ ประเทศ นอกจากประเทศสมาชกิ ก่อตั้ง
๕ ประเทศแลว้ ยงั มอี กี ๙ ประเทศ ไดแ้ ก ่ ลเิ บยี สหรฐั อาหรบั เอมเิ รตส ์ แอลจเี รยี ไนจเี รยี เอกวาดอร ์
กาบอง แองโกลา อิเควทอเรยี ลกินี และคองโก

 กลุ่มโอเปกสามารถผลิตน�้ามันได้มากท่ีสุดในโลก จึงท�าให้เป็นกลุ่มท่ีมีอิทธิพลส�าคัญต่อเศรษฐกิจโลกในยุค
ทีต่ อ้ งใช้นา�้ มันเป็นพลงั งานเช้ือเพลงิ

17๒

เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด

ครูใหนักเรียนชวยกันบอกราคาน้ํามัน และวิเคราะหการข้ึน-ลงของราคา ขอใดไมเกย่ี วขอ งกบั กลมุ โอเปก
นํ้ามันในรอบ 1 เดือน วิเคราะหถึงปจจัยการปรับเพิ่มลดของราคาน้ํามัน 1. คูเวตเปนหน่ึงในประเทศผูรวมกอ ต้ัง
พรอมต้ังคาํ ถามใหนกั เรียนรว มกันคิด เชน 2. เปนกลมุ ผูกขาดในตลาดทม่ี ีผูขายนอ ยราย
3. เปน กลมุ ประเทศผูผ ลติ น้ํามันเปน สินคา ออก
• น้าํ มนั เช้ือเพลิงท่ีใชก ันในประเทศไทยและทัว่ โลกมาจากทใี่ ด 4. เปนกลุมความรวมมือทางเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลมากท่ีสุด
• การขึ้น-ลงของราคาน้าํ มันขึ้นอยูกบั ปจ จัยใด
ในโลก
นักเรียนควรรู (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. กลุมโอเปกเปน กลมุ ทางเศรษฐกิจ
ที่กอต้ังขึ้นเพื่อเปนตัวกลางประสานงานดานนโยบายน้ํามัน
1 ปริมาณนํ้ามันดิบสํารอง หมายถึง ปริมาณน้ํามันดิบที่คงเหลือในแหลง ระหวา งกลุมประเทศผผู ลิตนํ้ามัน)
ธรรมชาติที่คนพบแลวมีแผนการผลิต และคาดวาจะผลิตไดอยางคุมคา
เชิงพาณชิ ย

T192

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๓.6 ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ขน้ั สอน

ประชาคมอาเซียนพัฒนามาจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ 10. ครใู หน ักเรียนกลมุ : กลุม ประชาคมอาเซยี น
อาเซยี น (ASEAN) ซ่ึงก่อต้งั ข้นึ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๐ เพ่ือส่งเสรมิ ความร่วมมือในดา้ น นําเสนอผลการศึกษา
เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ การบริหาร สันติภาพ
และเสถียรภาพในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต ้ ใน พ.ศ. ๒๕๕๘ อาเซียน 11. นักเรียนกลุมอื่นแสดงความคิดเห็นหรือ
ได้พัฒนาสู่การเป็นประชาคมอาเซียน เพ่ือสนับสนุน ซกั ถามเพิม่ เติมในประเดน็ เชน
ความร่วมมืออย่างเหนียวแน่น เข้มแข็ง และ • ไทยมีการเตรียมความพรอมเพื่อการเปน
รอบด้าน ซ่งึ ประกอบดว้ ย ๓ เสาหลกั ดังนี้ ประชาคมอาเซียนอยา งไร
(แนวตอบ เชน ศกึ ษาตลาด รสนิยม ความ
๓ เสาหลักประชาคมอาเซียน ตองการในอาเซียน เรยี นรคู ูแ ขง รจู ดุ แขง็
จุดออ น สรางความแตกตา งของสนิ คา )
ประเทศ AAASSEEAANN AASEAN AAASSEEAANN • ไทยไดประโยชนและเสียประโยชนอะไร
สมาชิก PPolitical EEconomic SSSoocciioo จากการเปนประชาคมอาเซียน
ผกู้ ่อตง้ั SSecurity CCommunity CCultural (แนวตอบ เปนสวนหน่ึงของตลาดและฐาน
CCommunity การผลิตรวมของอาเซียน ทําธุรกิจภาค
CCommunity บริการหรือลงทุนในอาเซียนไดอยางเสรี
สง่ิ ท่ีเสยี ประโยชน เชน สนิ คา ราคาถกู จาก
ประชาคมการเมอื ง ประชาคม ประชาคมสงั คมและ เพอ่ื นบา นเขา มาขายไดง าย)
และความม่ันคงอาเซยี น เศรษฐกจิ อาเซยี น วฒั นธรรมอาเซียน

๑) ด้านเศรษฐกิจ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นการรวมตัวกันเพ่ือสร้างความ

แขง็ แกร่งทางเศรษฐกจิ ของประเทศสมาชกิ อยา่ งยัง่ ยืน โดยมีวัตถุประสงค์ส�าคญั ๔ ด้าน ดงั น้ี
๑. การมแี หลง่ การผลิตและตลาดเดียวกัน
๒. การเปน็ ภูมิภาคทางเศรษฐกจิ ท่ีมขี ีดความสามารถในการแขง่ ขนั สูง
๓. การเปน็ ภูมภิ าคท่ีมกี ารพฒั นาทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทยี มกนั
๔. การเป็นภมู ิภาคที่เขา้ ร่วมเป็นสว่ นหน่ึงของระบบเศรษฐกจิ โลกโดยสมบูรณ์

๒) แผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๒๕๖๘ (AEC Blueprint 2025)

ประชาคมอาเซยี นมกี ารกา� หนดทศิ ทางการรวมตวั ทางเศรษฐกจิ ในระยะ ๑๐ ปข า้ งหนา้ (พ.ศ. ๒๕๕๙-
๒๕๖๘) โดยมุ่งเน้นการเพ่ิมประสิทธิภาพการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ และแนวทางการรับมือ
ต่อประเด็นความท้าทายใหม ่ ๆ ซึง่ มีเป้าหมายให้ AEC มคี ณุ ลกั ษณะ ๕ ประการ ไดแ้ ก่
๑. มีการรวมตวั และเชอื่ มโยงในระดบั สงู
๒. มีความสามารถในการแขง่ ขัน นวัตกรรม และพลวตั
๓. สง่ เสรมิ การเชือ่ มโยงดา้ นเศรษฐกิจและการรวมตัวรายสาขา
๔. ความสามารถในการปรบั ตวั ครอบคลมุ ทกุ ภาคสว่ นและมปี ระชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลาง
๕. การเปน็ ส่วนส�าคญั ของประชาคมโลก

ทม่ี า : www.asean2019.go.th ส�านักเลขาธิการอาเซยี น 17๓

ขอสอบเนน การคดิ บูรณาการอาเซียน

อาเซียนมีความสําคญั ตอเศรษฐกิจประเทศไทยอยางไร ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปนเคร่ืองมือสําคัญท่ีจะชวยขยายปริมาณ
การคาและการลงทุนภายในภูมิภาค ลดการพึ่งพาตลาดในประเทศทส่ี าม สรา ง
(แนวตอบ อาเซยี นมคี วามสําคัญตอประเทศไทย เชน สามารถ อํานาจการตอรองและศักยภาพในการแขงขันของอาเซียนในเวทีเศรษฐกิจโลก
สรางความแข็งแกรงในอํานาจตอรอง เนื่องจากการมีสินคา เพ่ิมสวัสดิการและยกระดับความเปนอยูของประชาชนของประเทศสมาชิก
และบริการที่คลายๆ กันสามารถรวมมือสงเสริมซึ่งกันและกัน อาเซียน บนหลกั การของการจดั ตั้งประชาคมเศรษฐกจิ ซง่ึ ไดแ ก การประหยดั
เพอื่ สรา งอาํ นาจตอ รองในการขบั เคลอื่ นทางการคา สง เสรมิ ใหเ กดิ การแบง งานกนั ทาํ และการพฒั นาความชาํ นาญในการผลติ ของประเทศสมาชกิ
การขยายตัวทางการคาของไทย เน่ืองจากยกเลิกอุปสรรคในการ อาเซียน
เขาสูตลาด ซึง่ เปนผลดีตอผปู ระกอบการไทยในการปรบั ตวั และ
สรา งโอกาสในการลงทนุ )

T193

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๓.7 กลมุ่ ประเทศทม่ี กี ารพฒั นาทางเศรษฐกจิ อยา่ งรวดเรว็
(BRICS)
12. ครูใหนักเรียนกลุม : กลุมประเทศที่มีการ
พัฒนาทางเศรษฐกิจอยางรวดเร็ว นําเสนอ กลุ่มประเทศท่ีมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วหรือบริคส์เป็นกลุ่มประเทศท่ีมี
ผลการศึกษา ศกั ยภาพทางดา้ นการผลติ เปน็ แหลง่ ทรพั ยากร แรงงาน แหลง่ พลงั งาน ตลอดจนมจี า� นวนประชากร
นเปอ็นกจจ�าากนนว ี้นยมังาแกส ดจงึงถเงึปก็นาตรลยาา้ ดยอสา��านคาัญจขเศอรงษโลฐกก ิจแโลลกะจเพาก่ือกสลรุ่ม้างพอัฒ�านนาาแจลกว้าอรตย่อา่ งรกอลงมุ่กั บGป7ร1ะ เมทาศสอู่กื่นล ่มุๆ
13. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ ประเทศก�าลังพัฒนา เน่อื งจากการเป็นกล่มุ ที่มีพ้ืนที่ประเทศรวมกันมากกวา่ ๑ ใน ๔ ของโลก
ซกั ถามเพมิ่ เตมิ หรอื ครอู าจใช PPT เรอ่ื งกลมุ จึงส่งเสริมต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจท่ีมีทรัพยากรและเป็นศูนย์กลางการผลิตและการบริโภค
ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคตา งๆ เพอ่ื เปน การสรปุ ท่ีสมบรู ณ์ โดยบริคสม์ ีสมาชกิ ๕ ประเทศ และมีลักษณะโดดเด่น ดงั นี้
ความรเู พมิ่ เตมิ
บราซลิ
เป็นศูนย์กลางการผลิตสินแร่
ของโลก มีทรัพยากรธรรมชาติ
และแรงงานจา� นวนมาก

แอฟรกิ าใต้
มที รพั ยากรมากและเปน็ ตลาดท่ี
สา� คัญในภมู ภิ าค

อนิ เดยี จนี รัสเซยี
มีแรงงานจ�านวนมาก รวมถงึ มี มศี กั ยภาพและเปน็ ผนู้ า� การผลติ เปน็ ประเทศทม่ี แี หลง่ ทรพั ยากร
การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและ ของโลก มีอัตราการขยายตัว พลงั งานทสี่ า� คญั และมปี ระชากร
การส่อื สารทด่ี แี ละรวดเร็ว ทางเศรษฐกจิ สงู จ�านวนมาก

เรอื่ งนา่ รู้

การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ระดบั อนภุ มู ภิ าคของประเทศไทย
1. โครงการพฒั นาเขตเศรษฐกจิ สามฝา่ ยหรอื สามเหลย่ี มเศรษฐกจิ รว่ มกบั อนิ โดนเี ซยี และมาเลเซยี
เพ่อื เกื้อกูลกนั ด้านเศรษฐกิจและสงั คม
๒. โครงการพฒั นาความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ ในอนภุ มู ภิ าคลมุ่ แมน่ า�้ โขงหรอื หกเหลย่ี มเศรษฐกจิ
ร่วมกบั ประเทศที่แม่น้�าโขงไหลผา่ น ร่วมมอื กนั ทางดา้ นการค้า การลงทนุ การเกษตร และอตุ สาหกรรม
๓. ความรเิ รมิ่ แหง่ อา่ วเบงกอลวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื หลากหลายสาขาทางเทคโนโลยแี ละเศรษฐกจิ
หรือบิมสเทค (BIMSTEC) ร่วมกับบังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล และศรีลังกา เพื่อสร้าง
ความเตบิ โตทางเศรษฐกจิ และสงั คมในภูมิภาค

174

นักเรียนควรรู กิจกรรม ทาทาย

1 กลมุ G7 เปน กลมุ ประเทศอุตสาหกรรมชัน้ นําของโลก 7 ประเทศ ไดแก ครูใหนักเรียนสืบคนขอมมูลเพื่อศึกษาเก่ียวกับกลุมประเทศ
สหรัฐอเมรกิ า สหราชอาณาจกั ร ฝรงั่ เศส เยอรมนี อติ าลี แคนาดา และญีป่ ุน ท่ีมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอยางรวดเร็วหรือบริคสเพ่ิมเติม
มวี ัตถุประสงคเ พื่อมงุ ความเจรญิ กาวหนา ทางเศรษฐกจิ ระหวา งประเทศสมาชิก จากน้ันใหสรุปความรูท่ีไดมาเขียนเปนเรียงความเรื่อง “BRICS
สงเสริมการคา เสรี ใหการสนบั สนุนเพอ่ื ชว ยยกระดับประเทศยากจน เปนตน ความสําเร็จของกลุมประเทศกําลังพัฒนาที่เปนอนาคตของ
เศรษฐกจิ โลก”

T194

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ô. องค์กรระหว่างประเทศ ขน้ั สอน
องค์กรระหว่างประเทศมีบทบาทส�าคัญต่อการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของโลกที่ส�าคัญ ใช้เป็น
เวทใี หป้ ระเทศสมาชิกแสดงความคิดเห็น เพือ่ จะได้ก�าหนดทศิ ทางการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคม 14. ครูใหน กั เรียนกลมุ : องคก ารการคา โลก
ให้สอดคลอ้ งและเกิดประโยชนร์ ่วมกัน ในปัจจุบนั องคก์ รการค้าระหว่างประเทศท่ีมีบทบาทสา� คญั นาํ เสนอผลการศึกษา
ตอ่ เศรษฐกิจโลก ไดแ้ ก่ องค์กรดา้ นการคา้ และทรัพยส์ ินทางปญั ญา และดา้ นการเงิน ดังน้ี
15. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ
4.1 องคการการคา้ โลก (World Trade Organization: WTO) ซกั ถามเพ่มิ เติมในประเด็น เชน
ม ีวิวัฒนอางกคา์กรามรากจาารกคข้า้อโตลกกล งเปว่า็นดอ้วงยคภ์กาาษรีศรุละกหาวก่ารงแปลระะกเทารศคด้า้าหนรกือาแรกคต้าตแ1์ ล(ะGทeรnัพeยra์สl ินAทgาrงeปeัญmeญnาt • องคก ารการคา โลกมบี ทบาทสาํ คญั อยา งไร
on Tariffs and Trade: GATT) มีบทบาทหนา้ ที่สา� คญั ดงั น้ี (แนวตอบ เปน เวทเี จรจาการคา โลก ใหค วาม
๑. บรหิ ารข้อตกลงและบันทกึ ความเขา้ ใจที่ประเทศสมาชิกทา� ความตกลงรว่ มกนั ชวยเหลอื ประเทศตางๆ ดา นการคา )
• ประเทศไทยไดรับประโยชนจากการเปน
สมาชกิ องคก ารการคา โลกอยางไร
(แนวตอบ ไดข ยายการสง ออกไปยังประเทศ
สมาชกิ )

๒. เปน็ เวทเี จรจาเพอ่ื ลดอปุ สรรคทางการคา้ ทง้ั ในรปู ภาษศี ลุ กากรและมาตรการทไี่ มใ่ ชภ่ าษี
ศุลกากร
๓. เป็นเวทหี ารือเพื่อแก้ไขปญั หาข้อขดั แยง้ หรอื กรณีพิพาททางการคา้ ของสมาชิก
๔. ติดตามและเฝ้าดูแลสถานการณ์การค้า โดยให้ประเทศสมาชิกมีการทบทวนนโยบาย
การค้าอย่างสมา่� เสมอ
๕. ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ประเทศกา� ลงั พฒั นาดา้ นขอ้ มลู ขอ้ แนะนา� เพอ่ื ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ติ าม
พนั ธกรณีไดอ้ ยา่ งเพยี งพอ
๖. ประสานงานกับองค์การเศรษฐกิจระหว่างประเทศอ่ืน ๆ เช่น กองทุนการเงินระหว่าง
ประเทศ เพื่อใหม้ ีการด�าเนินนโยบายแก้ไขปญั หาเศรษฐกจิ ทีส่ อดคล้องกัน
ปจั จบุ นั องคก์ ารการคา้ โลกนอกจากจะวางกฎระเบยี บ กตกิ า ดา้ นการคา้ แลว้ ยงั ขยายขอบเขต
ไปถึงการบริการ และเร่ืองอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า รวมทั้งมีบทบาทต่อการตัดสินและระงับ
กรณีพิพาททางการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น
ประเทศไทยในฐานะท่ีเป็นสมาชิกของ
องค์การการค้าโลกได้รับประโยชน์จากการเป็น
สมาชกิ คอื การไดโ้ อกาสเปดิ กวา้ งในการสง่ ออก
สินค้าและบริการไปยังประเทศสมาชิก ซ่ึงมี
ระบบการคา้ ทเี่ ปน็ สากลตามกตกิ าทตี่ กลงรว่ มกนั
ทา� ใหต้ อ้ งมกี ารปรบั ตวั ในการผลติ โดยการผลติ
สิ่งทช่ี �านาญหรอื มีความถนัด และใช้เวทกี ารค้า
ระหว่างประเทศเพ่ือแลกเปล่ียนและน�าเข้าสิ่งท่ี  กุ้งแช่แข็งและมังคุดเป็นสินค้าส่งออกที่ส�าคัญของไทย
ไม่สามารถผลิตได้ ไปยังประเทศสมาชกิ ขององคก์ ารการค้าโลก
17๕

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

WTO เปนองคก รทางเศรษฐกิจที่กอ ต้ังขน้ึ เพอ่ื วัตถปุ ระสงคใด 1 ขอตกลงวาดวยภาษีศุลกากรและการคาหรือแกตต การจัดประชุมแกตต
1. แกไ ขปญ หากีดกันทางการคา เกิดจากสถานการณผันผวนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งแตละประเทศใช
2. การขยายเครือขา ยทางการคา นโยบายตั้งกําแพงภาษี และควบคุมปริมาณสินคานําเขาเพ่ือประหยัดเงินตรา
3. แสวงหาพนั ธมิตรเพือ่ การผลติ สินคา ตางประเทศ การคาระหวางประเทศจึงมีอุปสรรคมาก คณะมนตรีเศรษฐกิจ
4. แกไขการกระจายรายไดท ่ไี มเปนธรรม และสังคมของสหประชาชาติจึงพิจารณาใหมีการจัดตั้งองคการการคาระหวาง
ประเทศขน้ึ โดยไดมกี ารนําหลกั การ และแนวทางปฏบิ ตั ขิ องแกตตม ารวบรวม
(วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. องคการการคาโลกกอต้ังข้ึนเพ่ือ เปน เอกสาร และเปนกรรมสารสดุ ทา ย (fiFinal Act) ซึง่ ไดก ลายมาเปน ธรรมนูญ
แกไขปญหาการกีดกันทางการคาท้ังในรูปแบบภาษีศุลกากรและ แมบทขององคการการคาโลก
มาตรการท่มี ิใชภาษีศุลกากร)

T195

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน 4.๒ การประชมุ สหประชาชาตวิ ่าดว้ ยการค้าและการพฒั นา
(United Nations Conference on Trade and
16. ครใู หน กั เรยี นกลมุ : การประชมุ สหประชาชาติ Development: UNCTAD)
วา ดว ยการคา และการพฒั นา นาํ เสนอผลการ
ศึกษา อังคถ์ ดั (UNCTAD) เป็นองคก์ รระหวา่ งประเทศดา้ นการค้าและเป็นสว่ นหนงึ่ ขององคก์ าร
สหประชาชาต ิ จดั ตง้ั ขน้ึ เพอ่ื ใหป้ ระเทศพฒั นาแลว้ หนั มาสนใจตอ่ ปญั หาการคา้ และการพฒั นาของ
17. นักเรียนกลุมอื่นแสดงความคิดเห็นหรือ ประเทศก�าลังพัฒนา ซ่ึงได้แก่ ปัญหาอัตราการค้าท่ีมีแนวโน้มถดถอยลง เน่ืองมาจากประเทศ
ซักถามเพ่ิมเตมิ ในประเดน็ เชน ก�าลังพัฒนาส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าทางการเกษตร ในขณะท่ีน�าเข้าสินค้าประเภทอุตสาหกรรม
• อังคถัดมีบทบาทสาํ คัญอยางไร จากประเทศพัฒนาแลว้ ซึง่ มรี าคาสูง ตลอดจนมปี ญั หาการขาดแคลนเทคโนโลยี และปัญหาด้าน
(แนวตอบ เปนองคการสงเสริมทางการคา การขนส่ง หากประเทศพัฒนาแล้วเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประเทศก�าลังพัฒนาก็จะเป็นประโยชน์
และเจรจาตอรองทางการคาแกประเทศ เพ่ิมมากข้นึ ในฐานะท่เี ปน็ ตลาดรองรบั สนิ ค้าอุตสาหกรรม
กาํ ลังพฒั นา) ข้อเรยี กรอ้ งดังกล่าวได้รบั การพิจารณาจากองค์การสหประชาชาติ และได้กอ่ ตง้ั องั ค์ถดั ขน้ึ
ใน พ.ศ. ๒๕๐๗ โดยมีบทบาทสา� คญั ดังน้ี
๑. สง่ เสรมิ การคา้ ระหวา่ งประเทศทมี่ รี ะดบั การพฒั นาทแี่ ตกตา่ งกนั โดยมงุ่ ขจดั ปญั หาและ
อุปสรรคทางการค้า เพื่อให้ประเทศก�าลังพัฒนาได้รับผลจากการค้าอย่างเต็มที่ ไม่เสียเปรียบ
ประเทศคู่คา้ ที่เป็นประเทศท่ีมอี า� นาจตอ่ รองสงู หรอื มหาอา� นาจทางเศรษฐกิจ
๒. เจรจาต่อรองปญั หาเกี่ยวกบั การคา้ ระหวา่ งประเทศและรว่ มมอื กบั หน่วยงานอื่น ๆ ของ
สหประชาชาติ
๓. เป็นศูนย์กลางด�าเนินงาน ประสานความสอดคลอ้ งด้านนโยบายการค้า และการพัฒนา
ระหวา่ งกล่มุ เศรษฐกจิ ต่าง ๆ

ทง้ั น ี้ การดา� เนนิ งานขององั คถ์ ดั ทผ่ี า่ นมา
ประสบปัญหาจากการท่ีประเทศก�าลังพัฒนา
ไดถ้ ือเอาอังคถ์ ัดเปน็ เวทีเรยี กรอ้ งสงิ่ ต่าง ๆ จาก
ประเทศพฒั นาแลว้ ทา� ใหป้ ระเทศพฒั นาแลว้ ลด
การใหเ้ งนิ บรจิ าค สง่ ผลกระทบตอ่ การดา� เนนิ งาน
ดา้ นการบรหิ าร ปจั จบุ นั องั คถ์ ดั จงึ มบี ทบาทเปน็
เวทีแสดงความคิดเห็นของประเทศต่าง ๆ และ
เนน้ ความรว่ มมอื ไปในดา้ นการวจิ ยั และใหค้ วาม
ชว่ ยเหลือทางด้านวชิ าการเท่าน้ัน

 อังค์ถัดมีบทบาทส�าคัญในการให้ความช่วยเหลือทาง
วิชาการกบั ประเทศต่าง ๆ ในการพัฒนาดา้ นการวิจัย

176

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ

ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสรางการทํางานของอังคถัดวา อังคถัด องคการทางเศรษฐกิจใดท่ีมีบทบาทสงเสริมการคาระหวาง
จดั การประชมุ ระดบั รฐั มนตรขี นึ้ ทกุ 4 ป โดยมธี รรมเนยี มปฏบิ ตั ใิ หป ระเทศกาํ ลงั ประเทศทมี่ ีระดบั การพัฒนาท่ีแตกตางกัน
พฒั นาเปน เจา ภาพจดั การประชุมโดยหมนุ เวยี นไปตามภูมภิ าคตา งๆ นอกจาก
ประชุมระดับรัฐมนตรีแลว ยังจัดการประชุมอื่นๆ ท่ีสําคัญ เชน การประชุม 1. WTO
World Investment Forum (WIF) ซ่ึงเปนเวทีหารือระดับสูงระหวางผูแทน 2. APEC
ภาครัฐ องคกรระหวางประเทศ และเอกชน ในประเด็นทาทายท่ีสําคัญและ 3. ASEAN
ประเด็นอุบัติใหมดานการลงทุน การประชุม Global Commodities Forum 4. UNCTAD
(GCF) เพอ่ื เปน เวทหี รอื หารอื แนวทางแกไ ขปญ หาทเี่ กย่ี วขอ งกบั สนิ คา โภคภณั ฑ
ตา งๆ (วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. UNCTAD เปนองคกรระหวาง
ประเทศท่ีวาดวยการคาและการพฒั นา เปน สวนหนึ่งขององคก าร
สหประชาชาติ มีจุดประสงคเพื่อใหประเทศท่ีพัฒนาแลวหันมา
สนใจตอ ปญ หาและการพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศกาํ ลงั พฒั นา)

T196

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

4.๓ ธนาคารโลก1 (World Bank) ขน้ั สอน
ธนาคารโลก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและ
พฒั นา (International Bank for Reconstruction 18. ครูใหนักเรียนกลุม : ธนาคารโลก นําเสนอ
and Development: IBRD) กอ่ ตง้ั ใน พ.ศ. ๒๔๘๗ ผลการศกึ ษา
เพื่อจัดระบบการเงินและให้กู้ยืมเงินเพื่อบูรณะ
ประเทศภายหลงั สน้ิ สดุ สงครามโลกครงั้ ท ี่ ๒ 19. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ
ต่อมาได้มุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาความ ซกั ถามเพ่มิ เตมิ ในประเดน็ เชน
ยากจน และยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ • ธนาคารโลกไดร บั เงนิ สนบั สนนุ มาจากทใี่ ด
ของประชาชนในประเทศก�าลังพัฒนา โดยยึด (แนวตอบ จากสมาชิกและดอกเบี้ยเงนิ ก)ู
หลักการส�าคัญ คือ ต้องการให้เกิดการพัฒนา
ทางสงั คมและเศรษฐกิจทย่ี ง่ั ยืน 20. ครใู หน กั เรียนกลมุ : กองทนุ การเงินระหวา ง
 ธนาคารโลกมีบทบาทส�าคัญในการให้ความช่วยเหลือ ประเทศ นาํ เสนอผลการศกึ ษา
โดยธนาคารโลกได้ทุนมาจากประเทศ ทางการเงินแก่ประเทศท่ียากจน เพื่อให้เกิดการพัฒนา
สมาชิก ๑๕๑ ประเทศ เงินทุนก้อนใหญ่ได้ ทางสังคมและเศรษฐกิจอยา่ งยัง่ ยนื ในระยะยาว 21. นักเรียนกลุมอื่นแสดงความคิดเห็นหรือ
มาจากกา� ไรสะสมและเงนิ ทล่ี ูกหนชี้ �าระคนื ซกั ถามเพม่ิ เติมในประเดน็ เชน
• IMF มคี วามสาํ คญั ตอ ประเทศกําลังพฒั นา
อยา งไร
(แนวตอบ ใหค วามชว ยเหลอื ทางดา นการเงนิ
เพ่ือนาํ ไปฟน ฟูเศรษฐกจิ ของประเทศ)

4.4 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(International Monetary Fund: IMF)
กองทุนการเงินระหว่างประเทศจัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๘๘ ทา� หนา้ ทีส่ นบั สนนุ ความร่วมมือ
ทางการเงินระหว่างประเทศ สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศให้ขยายตัวอย่างสมดุล เสริมสร้าง
เสถียรภาพอัตราแลกเปล่ียนเงินตราต่างประเทศ สนับสนุนการจัดตั้งระบบการช�าระเงินระหว่าง
ประเทศ และให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับประเทศสมาชิกทปี่ ระสบปัญหาดลุ ช�าระเงนิ
ปจั จุบัน IMF มีบทบาทในการดูแลเศรษฐกิจ รวมทง้ั ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ และทาง
วิชาการแกป่ ระเทศสมาชกิ เพ่ือให้ระบบการเงินระหว่างประเทศมีเสถยี รภาพ ให้ความชว่ ยเหลอื
ประเทศทป่ี ระสบปญั หาดลุ การชา� ระเงนิ เพอ่ื ชว่ ยฟน้ื ฟเู สถยี รภาพและการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ
ผา่ นโครงการเงนิ กปู้ ระเภทตา่ ง ๆ โดยเงนิ ทนุ ของ IMF ไดม้ าจากการชา� ระเงนิ คา่ โควตาของประเทศ
สมาชิกเปน็ หลกั
ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก IMF ใน พ.ศ. ๒๔๙๒ เคยเข้ารับการช่วยเหลือทางการเงิน
จ�านวนทั้งส้ิน ๕ ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายเข้ารับความช่วยเหลือใน พ.ศ. ๒๕๔๐ และได้ช�าระคืน
หมดแลว้ ใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ท�าใหป้ จั จบุ นั ประเทศไทยไม่มภี าระคงคา้ งกับ IMF อีก

177

ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

IBRD มีบทบาทสาํ คญั ทางดา นเศรษฐกจิ อยา งไร 1 ธนาคารโลก ประกอบดว ย 5 สถาบนั ไดแ ก
1. มุงขจัดปญ หาการละเมดิ ลขิ สทิ ธท์ิ างการคา • ธนาคารระหวางประเทศเพอ่ื การบูรณะฟน ฟูและพฒั นา (IBRD)
2. ใหความชวยเหลือเงนิ บรจิ าคระหวางประเทศ • สมาพันธการพฒั นาระหวางประเทศ (IDA)
3. ใหสมาชิกกเู งินเพ่ือนําไปพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศ • บรรษัทการเงนิ ระหวา งประเทศ (IFC)
4. กําหนดและควบคุมมาตรฐานการผลิตสินคาในประเทศกําลัง • สถาบนั ประกนั การลงทนุ แบบพหุภาคี (MIGA)
• International Center for Settlement of Investment Disputes (ICSID)
พฒั นา
(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. ธนาคารโลก มชี ือ่ เรียกอยา งเปน T197
ทางการวา ธนาคารระหวางประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนา
หรือ IBRD มีบทบาทสําคัญทางเศรษฐกิจ คือ การใหกูยืมเงิน
แกประเทศตางๆ โดยเนนไปท่ีการปลอยสินเชื่อเพ่ือการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการยกระดับการครองชีพของ
ประชาชนในประเทศตา งๆ)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน 4.๕ องคก ารเพ่อื ความร่วมมือทางเศรษฐกจิ และการพฒั นา
D(Oervgealonpismaetinotn: OfoEr CEDc1)o nomic Co-operation and
22. ครใู หน กั เรยี นกลมุ : องคก ารเพอ่ื ความรว มมอื
ทางเศรษฐกิจและการพัฒนา นําเสนอ องค์การ OECD ก่อตั้งใน พ.ศ. ๒๕๐๔ สมาชิกส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรป ส่วนในเอเชีย
ผลการศึกษา มีเกาหลใี ตแ้ ละญป่ี ุน มวี ัตถุประสงคเ์ พือ่ ส่งเสริมการจ้างงาน การปรับปรงุ มาตรฐานความเป็นอยู่
อา� นวยความสะดวกในการเจริญเติบโตของการคา้ โลก และการรักษาความมน่ั คงทางการเงนิ โดย
23. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือซัก เชื่อว่าการพัฒนาทางด้านการศึกษาน�าไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดังน้ัน จึงได้มีการ
ถามเพม่ิ เตมิ ประเมินนักเรียนที่จะจบการศึกษาภาคบังคับภายใต้โครงการ (Programme for International
Student Assessment: PISA) มจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื ประเมนิ และเตรยี มความพรอ้ มดา้ นความร ู้ ทกั ษะ
24. ครูใหนกั เรยี นกลุม : ธนาคารเพ่อื การพฒั นา
เอเชีย นาํ เสนอผลการศกึ ษา

25. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ
ซักถามเพ่มิ เตมิ

ทจ่ี า� เปน็ เพอื่ การมชี วี ติ ทด่ี ี ซง่ึ ประเทศไทยไดใ้ หค้ วามสา� คญั และตอ้ งการเปน็ สมาชกิ จงึ รว่ มพฒั นา
การศกึ ษาใหไ้ ด้มาตรฐานขององคก์ าร OECD
การท�างานขององค์การ OECD ที่ส�าคญั คือ การมเี วทสี �าหรับรัฐบาลของประเทศสมาชกิ
เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ รวมท้ังตรวจสอบแนวโน้มทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับ
การค้า เทคโนโลยี ส่ิงแวดล้อม ภาษีอากร และการเกษตร นอกจากนี้ ยงั มีการคาดการณ์การ
พฒั นาเศรษฐกจิ การรวบรวมขอ้ มลู และการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกย่ี วกบั การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ
และสงั คม การเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ และสร้างประสทิ ธภิ าพทางเศรษฐกจิ ใหเ้ กิดขน้ึ กับประเทศ
สมาชิก และช่วยในการสนับสนุนการพฒั นาเศรษฐกจิ ของโลก

4.6 (ธ Tนhาeค Aารsเiaพnอ่ื กDาeรvพelฒัopนmาeเอntเ ชBยี a nk: ADB2)
ธนาคารเพอ่ื การพัฒนาเอเชยี หรอื เอดบี ี เป็นสถาบนั การเงินเพ่อื การพัฒนาประเทศในแถบ
ทวปี เอเชยี กอ่ ตง้ั ใน พ.ศ. ๒๕๐๙ เปน็ แหลง่ สา� คญั ของการจดั หาเงนิ ทนุ ในการพฒั นาสา� หรบั ภมู ภิ าค
เอเชยี แปซฟิ กิ สมาชกิ สว่ นใหญเ่ ปน็ ประเทศกา� ลงั พฒั นาในภมู ภิ าคเอเชยี แปซฟิ กิ และนอกภมู ภิ าค
ซ่งึ เปน็ แหล่งเงินทุนส�าคญั และเป็นประเทศพัฒนาแลว้
ธนาคารเพ่ือการพัฒนาเอเชียมีบทบาทในการช่วยเหลือและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสงั คมของประเทศสมาชกิ โดยใหค้ วามสา� คญั กบั โครงการพฒั นาดา้ นสาธารณปู โภคขน้ั พนื้ ฐาน
ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ท้ังในลักษณะการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและการให้
คา� แนะนา� ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ แกส่ มาชกิ รวมทงั้ บทบาทดา้ นความรว่ มมอื เพอื่ ชว่ ยเหลอื แกก่ ลมุ่ ประเทศ
ในเอเชยี เมื่อเผชิญกับวกิ ฤตเศรษฐกิจ ในปจั จุบันยังเปน็ ตวั เร่งให้เกดิ การพัฒนา โดยใชก้ ารลงทนุ
ในโครงการตา่ ง ๆ มาโนม้ น้าวภาคเอกชนเข้ามารว่ มลงทนุ และจัดการดา้ นการเงนิ รว่ มกนั

178

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด

1 OECD เปนหนวยงานทรี่ เิ ริ่มโปรแกรมประเมนิ สมรรถนะนกั เรยี นมาตรฐาน ประเทศไทยมกี ารพึง่ พาธนาคาร ADB อยางไรบาง
สากล (Programme for International Student Assessment : PISA) เพ่ือ
ประเมนิ คณุ ภาพของระบบการศกึ ษาของประเทศตา งๆ ในการเตรยี มความพรอ ม (แนวตอบ ประเทศไทยเคยขออนุมัติเงินกูเพ่ือฟนฟูเศรษฐกิจ
ใหเ ยาวชนมศี กั ยภาพหรอื ความสามารถพน้ื ฐานทม่ี คี วามจาํ เปน ตอ การดาํ รงชวี ติ ในประเทศใน พ.ศ. 2554 กูเงินเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยมูลคา
ในโลกทีม่ กี ารเปล่ยี นแปลง ประมาณ 300 ลานดอลลารสหรัฐ เพ่ือกระตุนการลงทุนและ
2 ADB เอดีบีตั้งขึ้นมาดวยเงินจากการบริจาค และเงินจากการเปนสมาชิก การเจริญเติบโตในระยะยาว)
ของประเทศตางๆ และจากการกูยืมจากตลาดเงินระหวางประเทศ ผูบริจาค
รายใหญ เชน ญปี่ นุ สหรฐั อเมรกิ า เยอรมนี ออสเตรเลยี และแคนาดา

T198

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

4.7 คณะกรรมาธกิ ารเศรษฐกจิ และสงั คมสา� หรบั เอเชยี และแปซฟิ ก ขนั้ สอน
(Economic and Social Commission for Asia and the
Pacific: ESCAP) 26. ครูใหนักเรียนกลุม : คณะกรรมาธิการ
เศรษฐกจิ และสงั คมสาํ หรบั เอเชยี และแปซฟิ ก
ก่อตั้งข้ึนใน พ.ศ. ๒๔๙๐ มีส�านักงานใหญ่อยทู่ ก่ี รงุ เทพมหานคร เปน็ หน่วยงานของการ นาํ เสนอผลการศึกษา
พัฒนาระดับภูมิภาคของสหประชาชาติส�าหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก และเป็นหน่วยงานที่มี
สว่ นในการกอ่ ตงั้ ธนาคารเพอื่ การพฒั นาเอเชยี การกอ่ สรา้ งถนนสายเอเชยี หรอื เครอื ขา่ ยทางหลวง 27. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ
แห่งเอเชยี ตลอดจนคณะกรรมการพฒั นาแมน่ �า้ โขง ซักถามเพิ่มเติม
ESCAP เป็นองค์กรเพ่ือส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก
อนุภมู ภิ าค ความร่วมมือระดบั ภูมภิ าค และความร่วมมือระดับชาต ิ นอกจากนี้ ยงั ได้มีการพฒั นา 28. ครูใหนักเรียนแตละหมายเลขกลับไปที่กลุม
ควบคู่ไปกับการรักษาส่ิงแวดล้อม การรักษาความม่ันคงด้านพลังงาน การพัฒนาท่ีย่ังยืน เดิมและรว มกนั ทําใบงานท่ี 10.2 เรือ่ ง กลุม
และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติตา่ ง ๆ ทางเศรษฐกิจและองคกรระหวางประเทศ
ปัจจุบนั ESCAP ได้ใหเ้ งนิ เพ่ือชว่ ยเหลือการพฒั นาภมู ิภาค เพื่อพฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐาน
ที่ทันสมัย ท้ังการขนส่ง การพลังงาน เทคโนโลยีและการส่ือสาร แหล่งน�้า สถานประกอบการ 29.ครใู หน กั เรยี นทําแบบฝก สมรรถนะฯ
การบ�ารุงรักษา และการใช้โครงสร้างพื้นฐานเป็นการบังคับ ก่อนเข้าสู่การค้าโลกและกระแส เศรษฐศาสตร ม.3 เพื่อเปนการบานสงครู
การลงทนุ ทเ่ี พม่ิ ขนึ้ เนน้ ความสามารถในการแขง่ ขนั ของสนิ คา้ และบรกิ าร ควบคไู่ ปกบั การกระตนุ้ ในช่ัวโมงถดั ไป
การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจ
30. ครูใหน ักเรียนทําแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.3
กลาวโดยสรุป การรวมกลุมทางเศรษฐกิจในปจจุบันมีวัตถุประสงคหลักเพ่ือประโยชน เรอื่ ง การรวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ ระหวา งประเทศ
ทางการคา เสรมิ สรา งสถานะการแขงขัน เสรมิ สรางอํานาจตอรองในการเจรจาทางการคา กบั เพ่ือทดสอบความรูท่ไี ดศกึ ษามา
ประเทศนอกกลมุ การรวมกลมุ มกี ารดาํ เนนิ การอยา งกวา งขวาง โดยอาศยั ขอ ตกลงในลกั ษณะ
ตาง ๆ แตกลุมเศรษฐกิจที่มีบทบาทมากมีเพียงกลุมสหภาพยุโรปและเขตการคาเสรี ขน้ั สรปุ
อเมริกาเหนือ
ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กย่ี วกบั กลมุ
สําหรบั ประเทศไทย การรวมกลุมทางการคาในยุคทม่ี กี ารคาเสรี ทาํ ใหมีการขยายการ ทางเศรษฐกิจและองคกรระหวางประเทศ หรอื ใช
สงออกมากขึ้น และไดรับสิทธิพิเศษทางการคากับประเทศกลุมสมาชิก แตในขณะเดียวกันก็ PPT สรุปสาระสาํ คัญของเน้ือหา ตลอดจนความ
ตองเผชิญกับการหลั่งไหลของสินคาจากประเทศตาง ๆ ท่ีเพ่ิมเขามา สงผลกระทบตอภาค สําคัญตอการดาํ เนนิ ชวี ิตประจาํ วนั
การผลิต เชน ภาคเกษตรกรรม ท่ีมีสินคาเกษตรราคาถูกจากตางประเทศเขามาขายแขงกับ
ของไทย จึงเปนภาระหนาที่ท่ีรัฐบาลจะตองเรงดําเนินการแกไขและคนไทยตองตระหนัก ขน้ั ประเมนิ
และปรับตวั เพ่อื การแขงขนั กบั ประเทศอ่นื เพมิ่ มากข้นึ
1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย
17๙ การเรยี นรทู ี่ 10 เรอื่ ง การรวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ
และองคก รระหวางประเทศ

2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
หนา ชนั้ เรียน

3. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบฝก
สมรรถนะฯ และแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม.3

กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล

นักเรียนแบงกลุมเพื่อศึกษาเพ่ิมเติมเก่ียวกับการรวมกลุมทาง ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง กลุมทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจในภูมิภาคตางๆ ที่นักเรียนสนใจ โดยครูกําหนดหัวขอ และองคกรระหวางประเทศ ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และ
หรอื ประเด็นที่จะศกึ ษาให ดังน้ี การนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก
แบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจดั การเรยี นรูหนวยที่ 10
• กลมุ หรือองคก รความรว มมือทางเศรษฐกิจทเ่ี ลือก เร่อื ง การรวมกลมุ ทางเศรษฐกิจระหวางประเทศ
• ประวตั ิการกอตัง้
• โครงสรางองคกร แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
• วัตถปุ ระสงค
• กลไกการดาํ เนนิ งาน คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องท่ี
• ผลการดาํ เนินงาน ตรงกับระดบั คะแนน
นาํ ความรทู ่ไี ดจดั ทาํ เปนรูปเลมรายงานสง ครูผสู อน
ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา

2 การลาดบั ข้ันตอนของเร่ือง

3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์

4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ

5 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุม่

รวม

ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่

ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

T199

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

เฉลย คาำ ถามประจาำ หน่วยการเรียนรู้ คÓถาม ประจÓหน่วยการเรียนรู้
๑. การรวมกลุม่ ทางเศรษฐกจิ มวี ตั ถปุ ระสงคแ์ ละความสา� คญั อยา่ งไร
1. เพ่ือใหประเทศตางๆ รวมมือกันกําหนด ๒. เพราะเหตใุ ดสหภาพยุโรปจงึ มีบทบาทสา� คัญต่อเศรษฐกิจของโลก
นโยบายดา นการคา ปรมิ าณการผลติ และการ ๓. กลุ่มโอเปกมีความส�าคัญตอ่ เศรษฐกิจของโลกอย่างไร
ถา ยทอดเทคโนโลยีระหวา งกัน เพื่อประโยชน ๔. ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการเปดิ การค้าเสรีอาเซยี นอย่างไรบา้ ง
ในการขยายการคา การจางงาน ลดตนทุน ๕. การที่ไทยเปน็ สมาชิกองค์การการค้าโลก ส่งผลดีต่อเศรษฐกจิ ของไทยอยา่ งไรบา้ ง
การผลิต สามารถเคลื่อนยายปจจัยการผลิต
ไดม าก ทั้งแรงงาน ทนุ ผปู ระกอบการ กิจกรรม สร้างสรรค์พฒั นาการเรียนรู้

2. เพราะเปน มหาอาํ นาจทางเศรษฐกจิ เปน ตลาด กิจกรรมที่ ๑ น กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ บทบาทสา� คญั ของการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ระหวา่ ง
เงิน ตลาดทุนขนาดใหญ มีบรรษัทขามชาติ
ในประเทศตางๆ ทั่วโลก สามารถกําหนด ประเทศ และสรปุ ผลการอภปิ รายในรูปแบบแผนผังความคดิ แล้วนา� ส่งครูผสู้ อน
นโยบายในดา นตา งๆ เชน การคา การเกษตร
การเงนิ สามารถลดเงอื่ นไขตางๆ ทางการคา กจิ กรรมที่ ๒ น ักเรียนรวมกลุ่มสืบค้นข้อมูลการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลส�าคัญต่อ
ระหวา งประเทศสมาชกิ และตงั้ เงอื่ นไขการคา
การลงทุนกับประเทศนอกกลมุ ได เศรษฐกจิ โลก รวมทง้ั บทบาทและประโยชนท์ ี่ไทยไดร้ บั จากการรวมกลมุ่ เศรษฐกจิ
ดังกลา่ ว แลว้ นา� มาอภปิ รายในชนั้ เรียน
3. เปนฐานการผลิตนํ้ามันที่ใหญท่ีสุดของโลก
และเปน ผกู าํ หนดราคานา้ํ มนั เอง ซงึ่ เปน ปจ จยั กิจกรรมท่ี ๓ น ักเรียนแบ่งกลุ่มท�ารายงาน เรื่อง “ประโยชน์ของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
สาํ คญั ในภาคอตุ สาหกรรม ขนสง และครวั เรอื น
ของโลก ระหว่างประเทศ และการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้” แลว้ นา� สง่ ครูผู้สอน
4. ทําใหไทยสามารถสงสินคาไปขายในกลุม
ประเทศสมาชกิ อาเซยี นไดม ากขน้ึ ลดอปุ สรรค
ทางการคา และสามารถเปนฐานการผลิต
สนิ คา ตา งๆ ไดมากขนึ้

5. ลดปญ หาระหวา งประเทศทไ่ี มเ ปน ธรรม มเี วที
เจรจาขอ ขดั แยง ทางการคา กบั ชาตมิ หาอาํ นาจ
ทางเศรษฐกจิ ไดร บั ความชว ยเหลอื ดา นขอ มลู
ใหคําแนะนําและการดูแลเม่ือเกิดปญหา
ทางการคา

180

เฉลย แนวทางประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้

ประเมนิ ความรอบรู
• ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป
ซ่ึงเปน งานหรอื ช้ินงานทใ่ี ชเวลาไมนาน สําหรับประเมินรปู แบบนีอ้ าจเปน คําถามปลายเปดหรือผงั มโนทศั น นิยมสําหรับประเมินผูเ รยี นรายบุคคล

ประเมนิ ความสามารถ
• ใชในการประเมินความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป ญ หา ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ และความ
สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต
ประจํา วันอันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน
จากการสังเกต การเขยี น การตอบคาํ ถาม การวิเคราะห การแกป ญหา ตลอดจนการทาํ งานรว มกนั

ประเมินทักษะ
• ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเก่ียวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความซับซอน
และกอเกิดเปนความชํานาญในการนาํ มาเปนแนวทางปฏบิ ัตจิ รงิ ในชีวิตประจาํ วันอยา งย่งั ยนื เชน ทักษะในการส่ือสาร ทักษะในการแกปญหา ทักษะ
ชวี ิตในดานตางๆ โดยอาจมกี ารนาํ เสนอผลการปฏบิ ตั ิงานตอผเู กี่ยวของ หรอื ตอสาธารณะ
สงิ่ ทตี่ อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทตี่ อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน

T200

Chapter Overview

แผนการจดั สื่อที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทักษะที่ได้ คณุ ลกั ษณะ
การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 1
ท�ำ เลทต่ี ง้ั - หนงั สอื เรียน 1. ว ิเคราะหท์ �ำเลทตี่ ัง้ กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - การสงั เกต 1. ใฝ่เรียนรู้
อาณาเขต สังคมศึกษาฯ ม.3 ขนาด อาณาเขต และ ทางภมู ศิ าสตร์ - ตรวจการทำ� แบบฝึก - การแปลความ 2. มงุ่ มั่นในการ
และลกั ษณะ - แบบฝกึ สมรรถนะ ลักษณะภูมปิ ระเทศ (Geographic สมรรถนะและการคิด ขอ้ มลู ทาง ท�ำงาน
ภูมปิ ระเทศ และการคิด ของทวปี อเมรกิ าเหนือ Inquiry ภูมศิ าสตร์ ม.3 ภูมศิ าสตร์
ของทวปี ภูมศิ าสตร์ ม.3 ได้ (K) Process) - ตรวจใบงานท่ี 11.1 - การคิดเชิงพ้ืนที่
อเมริกาเหนือ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ใ ชเ้ ครือ่ งมอื ทาง - ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน - การคดิ แบบ
- PowerPoint ภูมิศาสตรส์ บื คน้ ขอ้ มลู - ส งั เกตพฤตกิ รรม องค์รวม
3 - ใบงานท่ี 11.1 เกี่ยวกับท�ำเลท่ีตั้ง การท�ำงานรายบุคคล - การใชเ้ ทคโนโลยี
ขนาด อาณาเขต และ - ส ังเกตพฤติกรรม
ชว่ั โมง ลกั ษณะภมู ิประเทศ การท�ำงานกลุม่
ของทวีปอเมริกาเหนือ - ป ระเมินคุณลกั ษณะ
ได้ (P) อนั พงึ ประสงค์
3. เ ห็นคณุ คา่ ของการ
ศึกษาเก่ยี วกบั ท�ำเล
ทต่ี ั้ง ขนาด อาณาเขต
และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
ของทวีปอเมริกาเหนอื
เพมิ่ มากขึ้น (A)

แผนฯ ท่ี 2 - หนังสือเรียน 1. วิเคราะหล์ กั ษณะ กระบวนการ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ - การสงั เกต 1. ใฝเ่ รียนรู้
ลกั ษณะ สังคมศึกษาฯ ม.3 ภูมิอากาศและ ทางภมู ศิ าสตร์ สมรรถนะและการคิด - การแปลความ 2. มุง่ มน่ั ในการ
ภมู ิอากาศ - แบบฝกึ สมรรถนะ พชื พรรณธรรมชาต ิ (Geographic ภูมิศาสตร์ ม.3 ข้อมูลทาง ทำ� งาน
และพชื พรรณ และการคิด ของทวีปอเมรกิ าเหนือ Inquiry - ตรวจใบงานที่ 11.2 ภูมิศาสตร์
ธรรมชาติ ภมู ิศาสตร์ ม.3 ได้ (K) Process) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - การคิดเชงิ พื้นท่ี
ของทวปี - PowerPoint 2. ใ ชเ้ คร่ืองมอื ทาง - ส งั เกตพฤติกรรม - การคิดแบบ
อเมรกิ าเหนอื - ใบงานที่ 11.2 ภมู ิศาสตรส์ ืบคน้ ขอ้ มูล การท�ำงานรายบุคคล องค์รวม
- การใช้เทคโนโลยี
เกี่ยวกบั ลกั ษณะภูมิ - สังเกตพฤติกรรม
อากาศและพชื พรรณ การท�ำงานกลมุ่
2 ธรรมชาตขิ องทวปี - ป ระเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ
อเมริกาเหนอื ได้ (P) ประสงค ์
ชัว่ โมง

3. เ หน็ คณุ ค่าของการ
ศกึ ษาเกี่ยวกับลักษณะ
ภมู อิ ากาศและพชื
พรรณธรรมชาติของ
ทวปี อเมรกิ าเหนอื
เพ่ิมมากขนึ้ (A)

T201

แผนการจัด สื่อท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทักษะที่ได้ คณุ ลกั ษณะ
การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์

แผนฯ ท่ี 3 - หนังสือเรียน 1. วเิ คราะห์ลกั ษณะ กระบวนการ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - การสงั เกต 1. ใฝ่เรียนรู้
ลกั ษณะ สังคมศึกษาฯ ม.3 ทรัพยากรธรรมชาติ ทางภมู ศิ าสตร์ สมรรถนะและการคดิ - การแปลความ 2. มุง่ ม่นั ในการ
ทรพั ยากร - แบบฝึกสมรรถนะ ของทวปี อเมรกิ าเหนือ (Geographic ภูมิศาสตร์ ม.3 ขอ้ มูลทาง ท�ำงาน
ธรรมชาตขิ อง และการคิด ได้ (K) Inquiry - ตรวจใบงานที่ 11.3 ภมู ศิ าสตร์
ทวีปอเมริกา ภมู ิศาสตร์ ม.3 2. ใ ชเ้ คร่ืองมือทาง Process) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - การคิดเชิงพ้นื ที่
เหนือ - PowerPoint ภมู ิศาสตรส์ ืบค้นข้อมลู - สังเกตพฤตกิ รรม - การคดิ แบบ
- ใบงานที่ 11.3 เกย่ี วกับลักษณะ การทำ� งานรายบคุ คล องค์รวม
2 ทรพั ยากรธรรมชาติ - สงั เกตพฤตกิ รรม - การใช้เทคโนโลยี
ของทวีปอเมรกิ าเหนือ การทำ� งานกลุ่ม
ชว่ั โมง ได้ (P) - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ

3. เห็นคณุ ค่าของการ อนั พงึ ประสงค์
ศึกษาเกี่ยวกบั ลักษณะ
ทรพั ยากรธรรมชาติ
ของทวีปอเมรกิ าเหนอื
เพ่ิมมากขึ้น (A)

T202

แผนการจัด สื่อที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ
การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์

แผนฯ ที่ 4 - หนังสือเรยี น 1. อธิบายการตงั้ ถิน่ ฐาน กระบวนการ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - การสงั เกต 1. ใฝเ่ รียนรู้
ลักษณะ สังคมศกึ ษาฯ ม.3 การกระจายและการ ทางภมู ศิ าสตร์ สมรรถนะและการคิด - การแปลความ 2. มงุ่ มัน่ ในการ
ประชากร สงั คม - แบบฝึกสมรรถนะ ข้อมลู ทาง ทำ� งาน
และวัฒนธรรม และการคิด เปลยี่ นแปลงประชากร (Geographic ภมู ิศาสตร์ ม.3 ภูมศิ าสตร์
ในทวปี อเมรกิ าเหนือได้ Inquiry - ตรวจใบงานที่ 11.4 - การคดิ เชิงพื้นที่
ของทวีป ภูมิศาสตร์ ม.3 (K) Process) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - การคดิ แบบ
อเมริกาเหนือ - PowerPoint องคร์ วม
- ใบงานที่ 11.4 2. อ ธิบายลกั ษณะทาง - สงั เกตพฤตกิ รรม - การใชเ้ ทคโนโลยี
สงั คมและวฒั นธรรม การทำ� งานรายบุคคล
ของประชากรในทวีป - สังเกตพฤตกิ รรม
3 อเมรกิ าเหนอื ได้ (K) การท�ำงานกลมุ่
3. ส�ำรวจและระบทุ �ำเล - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ
ชั่วโมง

ท่ตี ัง้ ของกิจกรรม อันพงึ ประสงค์
ทางสงั คมในทวปี
อเมรกิ าเหนือได้ (K)
4. วิเคราะหป์ จั จยั ทาง
กายภาพและปัจจยั
ทางสงั คมท่ีส่งผลต่อ
ทำ� เลทตี่ ้งั ของกจิ กรรม
ทางสงั คมในทวีป
อเมรกิ าเหนือได้ (K)
5. ใ ช้เคร่อื งมือทาง
ภมู ศิ าสตรส์ ืบคน้ เกย่ี ว
กับลักษณะประชากร
สังคมและวัฒนธรรม
ของทวีปอเมรกิ าเหนอื
ได้ (P)
6. เ ห็นคุณค่าของการ
ศกึ ษาลักษณะประชากร
สงั คมและวัฒนธรรม
ของทวีปอเมริกาเหนอื
เพมิ่ มากขน้ึ (A)

T203

แผนการจดั สื่อที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ
การเรยี นรู้ - หนงั สอื เรยี น อนั พึงประสงค์
แผนฯ ที่ 5 สังคมศกึ ษาฯ ม.3
ลักษณะ - แบบฝึกสมรรถนะ 1. อธิบายลกั ษณะท่ัวไป สบื เสาะ - ตรวจการท�ำแบบฝึก - การสงั เกต 1. ใฝเ่ รยี นรู้
เศรษฐกิจ และการคิด ทางเศรษฐกิจของทวีป หาความร้ ู สมรรถนะและการคิด - การแปลความ 2. มงุ่ ม่นั ในการ
ของทวปี ภูมศิ าสตร์ ม.3 อเมรกิ าเหนือได้ (K) (5Es ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ข้อมูลทาง ท�ำงาน
อเมริกาเหนอื - PowerPoint 2. ส�ำรวจและระบุทำ� เล Instructional - ตรวจใบงานท่ี 11.5 ภมู ศิ าสตร์
- ใบงานท่ี 11.5 ทีต่ ้งั ของกจิ กรรมทาง Model) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - การคดิ เชงิ พืน้ ท่ี
4 เศรษฐกจิ ของทวปี - สงั เกตพฤติกรรม - การคดิ แบบ
อเมริกาเหนอื ได้ (K) การท�ำงานรายบคุ คล องคร์ วม
ชัว่ โมง 3. วิเคราะหป์ ัจจยั ทาง - สังเกตพฤตกิ รรม - การใชเ้ ทคโนโลยี
กายภาพและปจั จัย การท�ำงานกลมุ่
ทางสงั คมท่สี ่งผลต่อ - ประเมนิ คุณลกั ษณะ
ทำ� เลทต่ี ้ังของกิจกรรม อนั พึงประสงค์
ทางเศรษฐกจิ ในทวีป
อเมรกิ าเหนือได้ (K)
4. ใช้เครื่องมือทาง
ภูมศิ าสตรส์ ืบค้น
เก่ยี วกบั ลกั ษณะ
เศรษฐกจิ ของทวีป
อเมริกาเหนอื ได้ (P)
5. เหน็ คณุ ค่าของการ
ศึกษาลักษณะเศรษฐกจิ
ของทวปี อเมรกิ าเหนือ
เพม่ิ มากขนึ้ (A)

T204

แผนการจดั สือ่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลกั ษณะ
การเรยี นรู้ - หนงั สือเรียน อันพงึ ประสงค์
แผนฯ ท่ี 6 สังคมศกึ ษาฯ ม.3
ภัยพิบตั ิและ - แบบฝึกสมรรถนะ 1. วเิ คราะห์ลกั ษณะ กระบวนการ - ตรวจการท�ำแบบฝึก - การสังเกต 1. ใฝ่เรยี นรู้
แนวทางการ และการคดิ ทางกายภาพของทวปี ทางภมู ศิ าสตร์ สมรรถนะและการคิด - การแปลความ 2. มุง่ ม่นั ในการ
จัดการในทวีป ภูมิศาสตร์ ม.3 อเมรกิ าเหนือท่ีสง่ ผล (Geographic ภูมศิ าสตร์ ม.3 ขอ้ มลู ทาง ท�ำงาน
อเมรกิ าเหนอื - PowerPoint ตอ่ การเกดิ ภยั พิบตั ิได้ Inquiry - ตรวจใบงานท่ี 11.6 ภมู ิศาสตร์
- ใบงานที่ 11.6 (K) Process) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - การคดิ เชิงพ้นื ท่ี
2 2. วเิ คราะหผ์ ลกระทบ - สงั เกตพฤตกิ รรม - การคิดแบบ
และแนวทางการ การท�ำงานรายบคุ คล องค์รวม
ชวั่ โมง จัดการภยั พบิ ตั ขิ อง - สงั เกตพฤตกิ รรม - การใชเ้ ทคโนโลยี
ทวปี อเมริกาเหนือ การท�ำงานกล่มุ
ท่ยี ่ังยืนได้ (K) - ป ระเมินคุณลักษณะ
3. ใช้เครอื่ งมือทาง อันพงึ ประสงค์
ภูมศิ าสตรส์ บื คน้ ข้อมลู
เกี่ยวกับภยั พบิ ัติและ
แนวทางการจดั การ
ของทวีปอเมรกิ าเหนือ
ได้ (P)
4. เหน็ คุณค่าของการ
ศึกษาเกย่ี วกับภยั พิบัติ
และแนวทางการ
จัดการของทวีป
อเมริกาเหนอื
เพิ่มมากขึ้น (A)

T205

แผนการจัด สื่อท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คณุ ลักษณะ
การเรียนรู้ อันพงึ ประสงค์
แผนฯ ท่ี 7
ปญั หา - หนงั สอื เรียน 1. ส บื คน้ อภปิ รายประเดน็ กระบวนการ - ตรวจการท�ำแบบฝึก - การสงั เกต 1. ใฝ่เรยี นรู้
ทรัพยากร สังคมศึกษาฯ ม.3 ปัญหาจากปฏิสัมพันธ์ ทางภมู ศิ าสตร์ สมรรถนะและการคดิ - การแปลความ 2. มุ่งมั่นในการ
ธรรมชาติและ - แบบฝึกสมรรถนะ ระหวา่ งสง่ิ แวดลอ้ มทาง (Geographic ภมู ิศาสตร์ ม.3 ขอ้ มูลทาง ทำ� งาน
สิ่งแวดลอ้ มใน และการคดิ กายภาพกบั มนษุ ยท์ เี่ กดิ Inquiry - ตรวจการทำ� แบบวัดและ ภมู ิศาสตร์
ทวปี อเมรกิ า ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ขน้ึ ในทวปี อเมรกิ าเหนอื Process) บันทกึ ผลการเรยี นรู้ - การคิดเชงิ พืน้ ท่ี
เหนือ - แบบวดั และบันทึกผล (K) ภูมศิ าสตร์ ม.3 - การคิดแบบ
การเรยี นรภู้ มู ศิ าสตร์ 2. ว ิเคราะหผ์ ลกระทบและ - ตรวจใบงานท่ี 11.7 องคร์ วม
2 ม.3 แนวทางการจัดการ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น - การใชเ้ ทคโนโลยี
- แบบทดสอบหลงั เรยี น ทรัพยากรและสิง่ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
ชว่ั โมง - PowerPoint แวดล้อมของทวีป - สงั เกตพฤตกิ รรม
- ใบงานที่ 11.7 อเมริกาเหนอื ทย่ี ่ังยืน การท�ำงานรายบุคคล
ได้ (K) - สังเกตพฤติกรรม
3. ใ ชเ้ คร่ืองมอื ทาง การท�ำงานกล่มุ
ภูมศิ าสตรส์ ืบคน้ ข้อมูล - ประเมนิ คุณลกั ษณะ
เกีย่ วกับปัญหา อนั พึงประสงค์
ทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมและ
แนวทางการจัดการ
ของทวีปอเมรกิ าเหนือ
ได้ (P)
4. เหน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา
เกี่ยวกับทรัพยากรและ
สง่ิ แวดลอ้ มและแนวทาง
การจัดการของทวีป
อเมรกิ าเหนือ
เพ่ิมมากข้ึน (A)

T206

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

๑๑หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ Åѡɳзҧ¡ÒÂÀÒ¾ ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process)
ทวีปอเมริกาเหนือ ¢Í§·ÇÕ»ÍàÁÃÔ¡Òà˹×Í
Ê‹§¼Åµ‹ÍÅѡɳзҧ 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช
Êѧ¤ÁáÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอ่ื เรอื่ งทจ่ี ะเรยี นรู
จดุ ประสงคการเรยี นรู
?Í‹ҧäÃ
2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย
การเรียนรูท ี่ 11 เร่อื ง ทวีปอเมริกาเหนือ

3. ครูใหนักเรียนวิเคราะหภาพและคําถาม (Big
Question) หนาหนวยการเรียนรูที่ 11 จาก
หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 แลวรวมกัน
อภิปรายเชื่อมโยงเก่ียวกับความสัมพันธของ
ภาพ และคําถาม

ทวีปอเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่ต้ังอยู่ทางซีกโลกเหนือทั้งหมด ลักษณะ
ภูมิประเทศเป็นท่ีราบกว้างใหญ่ทางตอนกลาง มีเทือกเขาสูงทางด้านตะวันตก และมีหมู่เกาะใน
ทะเลแคริบเบียน ลักษณะภูมิอากาศมีความหลากหลายและมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ ์
เป็นทวีปที่มีกลุ่มคนหลายเชื้อชาติจึงท�าให้มีสังคมและวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกัน และมีการพัฒนา
อยา่ งรวดเรว็ ท้งั ทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี จนมอี ิทธิพลอย่างสูงต่อโลกในปัจจุบัน

ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ส ๕.๑ ม.๓/๑ วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวปี อเมรกิ า • ท ตี่ ้ัง ขนาด และอาณาเขตของทวปี อเมรกิ าเหนอื และทวปี
เหนือและทวีปอเมริกาใต้ โดยเลือกใช้แผนท่ีเฉพาะเร่ือง อเมริกาใต้
และเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์สืบคน้ ข้อมูล • การเลือกใช้แผนท่ีเฉพาะเร่ืองและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์
ส ๕.๑ ม.๓/๒ วเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ ภยั พบิ ตั แิ ละผลกระทบ สืบค้นข้อมูลลักษณะทางกายภาพของทวีปอเมริกาเหนือ
ในทวปี อเมรกิ าเหนือและทวปี อเมริกาใต้ และทวีปอเมริกาใต้
ส ๕.๒ ม.๓/๑ ส�ารวจและระบุท�าเลที่ต้ังของกิจกรรมทาง • ส าเหตุการเกิดภัยพิบัติและผลกระทบในทวีปอเมริกาเหนือ
เศรษฐกิจและสังคมในทวปี อเมรกิ าเหนือและทวีปอเมรกิ าใต้ และทวปี อเมรกิ าใต้
ส ๕.๒ ม.๓/๒ วเิ คราะหป์ จั จยั ทางกายภาพและปจั จยั ทางสงั คม • ท �าเลท่ีต้ังของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น พืน้ ท่ี
ที่ส่งผลต่อท�าเลท่ีต้ังของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน
เพาะปลกู และเลย้ี งสตั ว ์ แหลง่ ประมง การกระจายของภาษา
ทวปี อเมรกิ าเหนอื และทวีปอเมริกาใต้ และศาสนา ในทวปี อเมริกาเหนอื และทวปี อเมริกาใต้
ส ๕.๒ ม.๓/๓ สบื คน้ อภปิ รายประเด็นปญั หาจากปฏิสมั พนั ธ์ • ป ัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมท่ีส่งผลต่อการ
ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับมนุษย์ท่ีเกิดขึ้นในทวีป เปลย่ี นแปลงโครงสรา้ งทางประชากร สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ
อเมรกิ าเหนอื และทวปี อเมรกิ าใต้ สงั คมและวัฒนธรรมในทวีปอเมรกิ าเหนือและทวีปอเมรกิ า
ส ๕.๒ ม.๓/๔ วิเคราะห์แนวทางการจดั การภยั พิบัติและการ ใต้
จัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในทวีปอเมริกาเหนือและ • ป ระเด็นปัญหาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทาง
ทวีปอเมรกิ าใตท้ ยี่ ่งั ยืน
กายภาพกับมนุษย์ที่เกิดข้ึนในทวีปอเมริกาเหนือและทวีป
อเมรกิ าใต้
• แนวทางการจัดการภัยพิบัติและการจัดการทรัพยากรและ
สงิ่ แวดลอ้ มในทวปี อเมรกิ าเหนอื และทวปี อเมรกิ าใตท้ ยี่ งั่ ยนื

๑8๑

เกร็ดแนะครู

ครคู วรจดั การเรยี นรโู ดยเนน ทกั ษะกระบวนการทางภมู ศิ าสตร เพอ่ื ใหน กั เรยี นวเิ คราะหล กั ษณะทางกายภาพ ลกั ษณะประชากร ลกั ษณะสงั คมและวฒั นธรรม
ลกั ษณะทางเศรษฐกิจ ภยั พบิ ตั ิ ปญหาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม และแนวทางการจัดการของทวีปอเมรกิ าเหนือ โดยจัดกิจกรรม ดงั นี้

• ใชเ ครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตรในการศกึ ษาลักษณะทางกายภาพ เศรษฐกจิ ประชากร สังคมและวัฒนธรรม รวมถงึ ภัยพิบัตขิ องทวีปอเมริกาเหนอื
• สบื คนขอ มูลจากแหลงเรียนรูต าง ๆ
• แบงกลมุ ในการจดั ทํารายงาน นําเสนอในชั้นเรยี น
• ต้งั ประเด็นคาํ ถามใหน กั เรียนรว มกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เหน็
• จัดกิจกรรมตางๆ โดยเนนกิจกรรมที่กระตุนความสนใจของนักเรียน ใหนักเรียนรูจักคิดและมีสวนรวมในกิจกรรมตาง ๆ รวมท้ังสงเสริมประสบการณ

และความสามารถของผเู รียน

T207

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั นาํ (Geographic Inquiry Process) ñ. ลักษณะทางกาÂÀา¾ของทวปี อเมริกาเหนือ

4. ครูจัดกิจกรรมเกม “ที่น่ีท่ีไหน” เพื่อกระตุน ทวปี อเมรกิ าเหนอื มเี นอ้ื ท ี่ ๒๔,๒๔๗,๐๓๙ ตารางกโิ ลเมตร หรอื ประมาณรอ้ ยละ ๑๖.๕ ของ
ความสนใจ/กระตุนความคิดเก่ียวกับทําเล เน้ือท่ีแผ่นดินโลก มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๓ รองจากทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกา มีลักษณะ
ที่ต้ัง อาณาเขต และลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นท่ีกว้างทางตอนเหนือแล้วเรียวแคบลงทางตอนใต้ วัดระยะความกว้างของแผ่นดินจาก
ของทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อนําเขาสูการเรียน ชอ่ งแคบเบรงิ ถงึ เกาะนวิ ฟนั ดแ์ ลนดไ์ ด ้ ๔,๘๒๘ กโิ ลเมตร สว่ นทแี่ คบทสี่ ดุ ของแผน่ ดนิ อยทู่ ค่ี อคอด
โดยครูนํา PPT การใบคําจากรูปภาพปริศนา ปานามา กวา้ งประมาณ ๕๐ กโิ ลเมตร
มาใหนักเรียนทายช่ือประเทศ สถานที่ หรือ
ลักษณะภูมิประเทศท่ีอยูในทวีปอเมริกาเหนือ ๑.๑ ท่ีตั้งและอาณาเขต
พรอมทั้งระบุตําแหนงของสถานท่ีดังกลาว
บนแผนท่ีท่ีอยูในหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ทวปี อเมรกิ าเหนอื มีที่ต้ังตามพิกัดทางภูมศิ าสตร์ระหวา่ งละตจิ ดู ๗ � ๑๕’ เหนอื ถงึ ละติจูด
ม.3 ใหถ กู ตอ ง (เชน ภาพสนุ ขั พนั ธแุ ลบราดอร ๘๓ � ๓๘’ เหนือ และระหวา่ งลองจจิ ูด ๑๖๘ � ๐๕’ ตะวนั ตก ถึงลองจจิ ูด ๕๕ � ๔๒’ ตะวนั ตก
กาํ ลงั คาบสมดุ หมายถงึ การใบค าํ ถงึ คาบสมทุ ร มีอาณาเขตจดน่านน้�า คือ มหาสมุทร ทะเล และอ่าวต่าง ๆ ทุกทิศโดยรอบพ้ืนที่ทวีป มีเพียง
แลบราดอร) ภายในระยะเวลาภาพละไมเกิน ทางใตบ้ ริเวณทปศิระเหเทนศอื ป านามาทจดี่มมีพหืน้ าทสตี่ มดิ ทุ ตรอ่ อกาับรก์ทตวกิปี อทเมะเรลกิ โาบใฟตอ้ อรา์ต1ณ อาา่ เวขแตบตฟดิ ตฟ่อนิ 2 มีดงั นี้
2 นาที ใครตอบไดถูกตองและรวดเร็วท่ีสุด
ถอื เปนผูชนะ อา่ วฮดั สัน และทะเลแลบราดอร์
ทศิ ตะวนั ออก จดมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ตอนเหนือ
ขน้ั สอน ทิศใต้ จดมหาสมทุ รแปซิฟกิ ติดตอ่ กับทวีปอเมริกาใต้

ข้นั ที่ 1 การตั้งคาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร จดอา่ วเม็กซิโก และทะเลแครบิ เบยี น
ทศิ ตะวันตก จดมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ อ่าวอะแลสกา และมี
1. ครูตั้งประเด็นคําถามตอยอดจากกิจกรรม ชอ่ งแคบเบรงิ กน้ั ระหวา่ งทวปี อเมรกิ าเหนอื กบั ทวปี เอเชยี
“ท่ีนี่ที่ไหน” ในขั้นนําท่ีผานมาเพ่ือเช่ือมโยง
คาํ ถามทางภมู ศิ าสตรเ กยี่ วกบั ทาํ เลทต่ี งั้ ขนาด
อาณาเขต และลักษณะภูมิประเทศของทวีป
อเมริกาเหนือ เชน
• แอปเปลวอชิงตันที่รูจักกันในไทยมาจาก
สหรัฐอเมริกา จริงหรือไม
• ปอู ะแลสกาเกยี่ วขอ งกบั รฐั อะแลสกาหรอื ไม

๑8๒  เทือกเขาร็อกกตี ้ังอยู่ทางฝัง่ ตะวนั ตกของทวปี อเมริกาเหนอื มแี นวทอดตัวยาวจากแคนาดา สหรัฐอเมรกิ า
จนถึงเมก็ ซโิ ก ยาวประมาณ ๔,๘๐๐ กโิ ลเมตร

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ

1 ทะเลโบฟอรต ทะเลในมหาสมทุ รแอตแลนติก อยทู างตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ขอ ใดกลา วถกู ตอ งเกย่ี วกบั ทต่ี ง้ั และอาณาเขตของทวปี อเมรกิ าเหนอื
ของรฐั อะแลสกา สหรฐั อเมรกิ า ทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ของประเทศแคนาดาและ 1. เสน เมริเดียนแรกลากผานเมืองนวิ ยอรกของสหรัฐอเมริกา
ทางตะวนั ตกของเกาะแบงสใ นกลมุ เกาะอารก ติก ลกึ ประมาณ 4,600 เมตร 2. ประเทศปานามาเปน เพยี งประเทศเดยี วทม่ี พี น้ื ทอี่ ยใู นซกี โลกใต
2 อาวแบฟฟน อาวในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยูระหวางดานตะวันตก 3. ชายฝงดานตะวันตกของทวีปติดตอกับมหาสมุทรแอตแลนติก
ของเกาะกรีนแลนดกับดานตะวันออกของเกาะแบฟฟน เช่ือมตอกับมหาสมุทร
แอตแลนติกทางชอ งแคบเดวิส เหนือ
4. แมน้ํารีโอกรันเดเปนพรมแดนธรรมชาติท่ีก้ันระหวางภูมิภาค

อเมรกิ าเหนอื และอเมริกากลาง

(วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 4. แมน้ํารีโอกรันเดเปนเสนแบงเขต
ดานตะวันตกและตะวันตกเฉียงใตของรัฐเท็กซัส และระหวาง
รัฐเท็กซัสในภูมิภาคอเมริกาเหนือกับประเทศเม็กซิโกในภูมิภาค
อเมรกิ ากลาง)

T208

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

แผนทแ่ี สดงเขตการปกครองของทวปี อเมริกาเหน�อ 20 Wํ 10 ํW 0ํ ขน้ั สอน
160 ํE 170 Eํ 180 ํ 160 ํW 140 ํW 120 ํW100 Wํ 80 Wํ 60 ํW 40 Wํ
N 500 มาต0ราสว น 1 : 50,010,00,00000 1,500 กม. มหาสมุทรอารกติก เ สนอา รก ิตกเซอ รเ ิคล 70 ํN ขั้นที่ 1 การต้งั คําถามเชิงภูมศิ าสตร
80 Nํ
ท7ว0 ปีNํ เอเชียทะเลชุค 2. ใหนักเรียนรวมกันตั้งประเด็นคําถามทาง
ท ะ เ ล โ บ ฟ อ ร ต ก รี น แ ล น ด ภูมิศาสตรเก่ียวกับลักษณะทางกายภาพของ
(ดินแดนปกครองตนเองของประเทศเดนมารก) ทวีปอเมริกาเหนือท่ีเก่ียวของกับทําเลที่ตั้ง
60 Nํ ชองแคบเบรงิ ชี ขนาด อาณาเขต และลักษณะภูมิประเทศ
อ า ว แ บ ฟ ฟ น เพ่ือคนหาคําตอบ โดยครูแบงนักเรียนออก
อะแลสกา 60 ํN เปน 7 กลมุ กลุม ละ 6-8 คน ตามลักษณะ
ภมู ิประเทศของทวปี อเมริกาเหนอื ไดแ ก
ทะเลเบรงิ ชอ งแคบเดวสิ • เขตกลุม เทอื กเขาดา นทศิ ตะวนั ตก
• บริเวณคะเนเดยี นชีลด
ยูคอน นูนาวุต นิวฟนดแ ลทนะดเแลละแแลลบบรราาดอร • เทอื กเขาแอปพาเลเชยี น
• ทีร่ าบเกรตเพลนส
50 Nํ อา วอะแลสก นอรทเวสตเทรร ทิ อรีส • ที่ลุมตํ่าตอนกลาง
• ทรี่ าบชายฝง และอา วดา นมหาสมทุ รแอตแลนตกิ
า อา วฮัดสัน 50 ํN • เกาะและหมเู กาะ
จากนั้นครูนําแผนท่ีแสดงลักษณะภูมิประเทศ
แ ค น า ด าบริติชโคลัมเบยี แอลเบอรตา ดอร ของทวีปอเมริกาเหนือ มาใหแตละกลุมนําไป
ศกึ ษาและรว มกนั ตงั้ ประเดน็ คาํ ถามจากแผนท่ี
มหาสม ซัสแคตเชวัน แมนิโทบา ควิเบก ท่ีแตละกลุมไดรับ กลุมละ 1 คําถาม โดย
คาํ ถามจะตอ งแสดงความสมั พนั ธร ะหวา งทตี่ งั้
ทุ รแปซ40 Nํ วอชงิ ตัน ออนแทรโี อ นิวบรนั สวิก พรนิ ซเ อด็ เวิรดไอแลนด และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนอื
กบั กิจกรรมของประชากรในทวปี
โนวาส.
ฟิ ก ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า30 เมน 40 Nํ
22นฮ00คอิกํNำNํนาสอร1ดหธ4าูร0ิบกรัสฮาฐัวัWํ าเเเแทยอขมขวคหาสเเาตตอืกิมงยญัลาวรปงนรจะง ัฐหลครกิำ้นาเบก1ากัะลเาำ้ห6ไาเมษวว0ะทามโงกณเูอศํWบกาวาาาะฮ1ฮฮู 3าเเกฮว0าาาตมยํWะเเกซฮิ าาานะโวส1ตเ7ดาม20เวย0มาซินอWํนนิWํเี ซติกนคอันติตอสรแมกิแลอเอลนะนเเนตะซวกดเเนานรซอดนอตวมารสิลาแ1ไนิรด1ออูเัตีกชีน0รด6ียาปยิโส0าซํWแบทูโซ กWํฮนอาามฟิมวรนหาาอบาบกทเรนดนวิ าตกี ไอดแรวิีนาวลทาเเโีกแบโมูปคนอลโ็กโดามะลซสงิ รโิ ากเมเโนซดก็เอานซ1รทแทโิ0ดอเมเอเเบกพวว0ทแดโลิินราสอซรอโนค.็ก.าดโสWํร.คติค.โนซ.จกคลีต.ิซัสกาตามาัสโาเออเแเินฮพววมนลิินออสไมนลรดอรตโิาซิแนิกแีจซอโเมลิลวออาิเวัอวลากตนนสิอเยนเวิสรวยุาตยีดรซสวัาคเาคเวจนมเูรซันเิเออยีีนาียตซซนลอลยีเนอซาามลิ ซานซนิ.มาลัเซิตมทอ็ลเัลวีชิ นคนิกวาแิ านเดานดกทด.สนเโซอเกัอบตอซเรรกลอไบิกีจีฮโอโอซู ลมโตฮรกิออแเซีฮเนตวกสัลอจพาสาอซปียตนวเน.นวมรนวาเาเาาาทซพอวิานกินดทรยรนาแนวโจมาอิกทาคฮอา.ูริ.ครรกโเแรชาก.สัะซรวัคิงิาไววตบโล.กรเันปนไาจบวั ลาดลฮนเาปนดาแ.ี ซิวลาามนนาาเเ.ีนาจแมคสมปหแคโแนอาาซิงรอมวอริวกามดสาอรซรมแสนคไาสตาโสียฮซเอซตนานัมาแมิตตแเชปลรสทปีเูุทนเนซเิชิครดฮอตทียรบตัโง สรรดซแตเอ มมอปซิเทนิกเาตรปอนบกิ แวอโอิกนัฟตลีีปซรแโยานโาดคตนใตมนนฮรเิงติกซวโโิ อกกน ร0132000ํ
Nํ แคลฟิ อรเ นยี Nํ
ํN
ฟลอรดิ า ํN
แอละแบมา
มสิ ซิสซปิ ป

เ ม็ ก ซิ
มหาสมทุ รแ

เซเแนหอปตมูงเอมกกราวิาโรละติตเลวนิราอโรกจิน ค

คอสตาริกา กรีเนดา 10 Nํ ว. เวอรม อนต เสนศูนยสูตร
โนวาส. โนวาสโกเชยี
90 ํWCOPYRIGHT © Aksorn C8h0aroํWenTat ACT. Co.,Ltd
Projection: Lambert Conformal Conic

แผนทแ่ี สดงเขตการปกครองของทวปี อเมรกิ าเหนอื ๑8๓

กิจกรรม สรางเสรมิ เกร็ดแนะครู

ครูนําแผนท่ีโครงรางของทวีปอเมริกาเหนือมาใหนักเรียน ครูควรนําแผนท่ีแขวนขนาดใหญที่แสดงที่ต้ังและอาณาเขตของประเทศ
ระบายสี พรอ มเขยี นรายละเอยี ดตา งๆ ลงแผนที่ เชน ชอื่ ประเทศ ในทวปี อเมรกิ าเหนอื มาใชป ระกอบการเรยี นการสอน เพอื่ ใหน กั เรยี นไดเ หน็ ภาพ
เมอื งหลวง ทะเล อา ว เกาะ หมเู กาะ มหาสมทุ ร ที่ชดั เจนและเขาใจในรายละเอยี ดของแผนท่ีไดง ายขึน้

กิจกรรม ทา ทาย สื่อ Digital

ใหนักเรียนฝกทักษะการใช การอานแผนท่ี โดยใหจับสลาก ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับแผนที่ท่ีต้ังและอาณาเขตของทวีป
ชอ่ื ประเทศในทวปี อเมรกิ าเหนอื คนละ 1 ประเทศ แลว ใหอ อกมาช้ี อเมริกาเหนือ ไดที่ https://legacy.lib.utexas.edu/maps/americas.html
ตาํ แหนง ในแผนที่ พรอ มบอกอาณาเขตตดิ ตอ ของประเทศดงั กลา ว

T209

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๑.๒ ลักษณะทว่ั ไป
ทวปี อเมรกิ าเหนอื แบง่ ออกเปน็ ประเทศตา่ ง ๆ ๒๒ ประเทศ แบง่ ยอ่ ยออกเปน็ ๓ สว่ น ไดแ้ ก ่
ข้ันท่ี 1 การต้งั คาํ ถามเชิงภมู ศิ าสตร ภมู ภิ าคตอนเหนอื ของทวปี ภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง และกลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี นหรอื หมเู่ กาะ
เวสตอ์ นิ ดสี
3. ครูตัง้ คาํ ถามแนะนาํ เพมิ่ เตมิ เชน เนอ้ื ท*่ี (ตร.กม.) ประชากร** (ล้านคน)
• ลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศ ภูมภิ าคตอนเหนอื ของทวปี เมืองหลวง
สงผลตอ กจิ กรรมของคนในทวีปอยางไร
• ปจจัยใดท่ีทําใหลักษณะท่ัวไปของทวีป แคนาดา ๙,๙๗๖,๑๘๕ ๓๗.๒ ออตตาวา
อเมรกิ าเหนือแตล ะพ้ืนทแ่ี ตกตางกนั สหรัฐอเมริกา ๙,๓๗๕,๗๒๐ ๓๒๘.๐ วอชงิ ตัน ด.ี ซี.
• ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิประเทศ รวม ๑๙,๓๕๑,๙๐๕ ๓๖๕.๒
ท่ีโดดเดนแตกตางจากทวปี อนื่ อยางไร
• ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิประเทศ เบลซี ภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง ๐.๔ เบลโมแพน
ที่คลายคลึงกับประเทศไทยบางหรือไม คอสตาริกา ๒๒,๙๖๕ ๕.๐ ซานโฮเซ
อยางไร เอลซลั วาดอร์ ๕๐,๘๙๙ ซานซัลวาดอร์
(เชน แกรนดแคนยอนในสหรัฐอเมริกากับ กวั เตมาลา ๒๑,๓๙๓ ๖.๕ กวั เตมาลาซติ ี
ออบหลวงที่จังหวัดเชียงใหม มีกระบวนการ ฮอนดรู ัส ๑๐๘,๘๘๙ ๑๗.๒ เตกูซกิ ลั ปา
เกดิ เหมือนกนั หรือไม) เมก็ ซโิ ก ๑๑๒,๐๘๗ ๙.๐ เมก็ ซโิ กซิตี
๑,๙๖๗,๑๘๓ ๑๓๐.๘
ข้ันท่ี 2 การรวบรวมขอมลู นกิ ารากัว ๑๒๘,๔๑๐ ๖.๓ มานากัว
ปานามา ๘๗,๑๗๗ ๔.๒ ปานามาซิตี
1. จากประเด็นคําถามทางภูมิศาสตรในขั้นท่ี 1 รวม ๒,๔๙๙,๐๐๓ ๑๗๙.๔
ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล
ประกอบการใชเ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรเ กยี่ วกบั กลุ่มประเทศในทะเลแครบิ เบียนหรือหมู่เกาะเวสตอ์ ินดีส เซนต์จอนส์
ทต่ี ง้ั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ แอนทีกาและบาร์บวิ ดา ๔๔๓ ๐.๑
ของทวีปอเมริกาเหนือ ตามเขตภูมิประเทศท่ี บาฮามาส ๑๓,๙๕๐ ๐.๔ แนสซอ
กลมุ รบั ผดิ ชอบ จากหนงั สอื เรยี นสงั คมศกึ ษาฯ บารเ์ บโดส ๔๓๐ ๐.๓ บริดจท์ าวน์
ม.3 หรือแหลงเรียนรูอ่ืนๆ รวมท้ังแตละกลุม ควิ บา ๑๑๐,๘๖๒ ๑๑.๑ ฮาวานา
จะตองศึกษาและตอบประเด็นคําถามทาง ดอมนิ ีกา ๗๔๙ ๐.๐๗ โรโซ
ภมู ิศาสตรจากข้นั ท่ี 1 ดว ย สาธารณรฐั โดมนิ กิ นั ๔๘,๓๒๒ ๑๐.๘ ซานโตโดมิงโก
กรีเนดา ๓๔๔ ๐.๑ เซนตจ์ อรเ์ จส
2. ครูอาจแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนา เฮติ ๒๗,๗๔๙ ๑๐.๘ ปอร์ โตแปรงซ์
เชื่อถือประกอบการศึกษาและรวบรวมขอมูล เซนตเซค์จนาติ ตเสม์ล์แกเูลชาะียเน2วสิ 1 ๑๑,๕๘๐ ๒.๙ คิงสตัน
เพม่ิ เติม เซนตว์ นิ เซนตแ์ ละเกรนาดนี ส์ ๒๖๙ ๐.๐๕ บาสแตร์
๖๑๖ ๐.๒ แคสตรสี ์
๓๘๙ ๐.๑ คงิ สทาวน์

รวม ๒๑๕,๗๐๓ ๓๖.๙๒

ทม่ี า : *ขอ้ มูลเนอ้ื ที่จากพจนานุกรมชื่อภมู ิศาสตรส์ ากล เล่ม ๑ (อกั ษร A-L), ๒๕๔๙
๑84 และพจนานุกรมชอ่ื ภูมิศาสตรส์ ากล เล่ม ๒ (อักษร M-Z), ๒๕๕๐
**ขอ้ มูลจา� นวนประชากรจาก www.prb.org (๒๐๑๘ World Population Data Sheet)

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ

1 เซนตค ติ สแ ละเนวสิ ประเทศในหมเู กาะเวสตอ นิ ดสี ตง้ั อยใู นหมเู กาะลเี วริ ด ขอ ใดกลา วถงึ ดนิ แดนในทวปี อเมรกิ าเหนอื ทอี่ ยใู นการปกครอง
ประกอบดว ยเกาะ 2 เกาะ คอื เกาะเซนตค ิตสห รอื เกาะเซนตค รสิ โตเฟอรและ ของชาติตะวันตกไดถกู ตอ ง
เกาะเนวสิ โดยทง้ั 2 เกาะมชี อ งแคบเดอะแนรโ รวก นั้ กลาง เดมิ เคยเปน อาณานคิ ม
ขององั กฤษ และไดร ับเอกราชใน ค.ศ. 1983 1. กรีนแลนด : สหรัฐอเมริกา
2 เซนตล เู ชยี ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศเปน เกาะทเี่ กดิ จากภเู ขาไฟ มดี นิ อดุ มสมบรู ณ 2. อารูบา คูราเซา ซาบา : ฝรั่งเศส
สงเมล็ดโกโก เครื่องเทศ มะพราว กลวย และปศุสัตวเ ปน สนิ คาออก มกี ารผลิต 3. เกาะคลปิ เปอรตนั กวาเดอลูป : เดนมารก
ชนิ้ สวนอิเล็กทรอนกิ ส เครอ่ื งดื่ม เสื้อผา และมอี ุตสาหกรรมการทองเที่ยว 4. เบอรมิวดา แองกวิลลา : สหราชอาณาจกั ร

(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เบอรม วิ ดา แองกวลิ ลา เปน ดนิ แดน
ในการปกครองของสหราชอาณาจกั ร และยงั มอี กี 3 ดนิ แดน ไดแ ก
หมูเกาะเวอรจินของอังกฤษ มอนตเซอรรัต และหมูเกาะเติรก
และเคคอส)

T210

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๑.๓ ลกั ษณะภมู ิประเทศ ขน้ั สอน

ทวปี อเมรกิ าเหนอื มลี กั ษณะทางกายภาพเปน็ แผน่ ดนิ ใหญแ่ ละเกาะขนาดตา่ งกนั จา� นวนมาก ขนั้ ที่ 3 การจดั การขอ มลู
มพี นื้ ท่เี ป็นอ่าว ทะเล ซ่ึงเป็นส่วนของมหาสมทุ รอารก์ ตกิ มหาสมทุ รแอตแลนตกิ และมหาสมทุ ร
แปซฟิ ิก บนแผน่ ดนิ ใหญม่ ีพ้ืนทีเ่ ป็นเทือกเขา ทิวเขา ท่ีราบสงู ทีส่ ูง ท่รี าบ และอนื่ ๆ แบง่ ลกั ษณะ 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
ภูมิประเทศได ้ ๗ เขต ดงั น้ี การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู
ระหวา งกนั
๑) เขตกลมุ่ เทอื กเขาดา้ นทศิ ตะวนั ตก (Western Cordillera) เป็นเทือกเขาสูงขนาด
2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถ่ี กู ตอ ง
ใหญส่ ลบั ซบั ซอ้ น ทอดแนวตอ่ เนอ่ื งจากชายฝง่ั มหาสมทุ รแปซฟิ กิ ในรฐั อะแลสกาของสหรฐั อเมรกิ า นา เชอื่ ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไี่ มจ าํ เปน
ล(Cงoไปasทtา Mงใoตuจ้ nนtaสiดุnดs)นิ ทแวิดเนขปารแะคเสทเศคปดา น(Cาaมsาc aไดdeแ้ กR ่ aเทnอืgeก)เ ขเทาออื ะกแเขลสาเกซายี (รAร์ lาaเsนkวaา ดRาa1 n(Sgeie)r rทaวิ Nเขeาvโaคdสaต) ์ ออก
แ(Bลrะoมoรีkะsบ Rบaขnอgงeเ)ท ใือนกรเัฐขอาะรแ็อลกสกก ี (าR ลoงcไkปyม Mีเทoอืuกnเtaขiาnแsม) กอเยคู่ลนกึ ซเขี (า้Mไปacในkeแnผz่นieด Rนิ a นngบั eจ)า เกททอื วิกเเขขาาบรอ็รุกกกส2์ ี
แล้วต่อเนื่องไปในประเทศเม็กซิโก ได้แก่ เทือกเขาเซียร์รามาเดรออกซิเดนตัล (Sierra Madra ข้ันท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอมูล
Occidental) เทือกเขาเซยี ร์รามาเดรโอเรียนตัล (Sierra Madra Oriental) และเทือกเขาเซยี ร์รา
มาเดรเดลซรู ์ (Sierra Madra del Sur) 1. นักเรียนแตละกลุมวิเคราะหขอมูลรวมกัน
พื้นที่ระหว่างระบบเทือกเขาร็อกกีกับทิวเขาชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกมีภูมิประเทศแบบ จากนั้นสมาชิกแตละกลุมรวมกันตรวจสอบ
ทร่ี าบสงู และแอง่ แผน่ ดนิ ทสี่ า� คญั คอื ทร่ี าบสงู โคโลราโด (Colorado plateau) กบั แอง่ ทรี่ าบเกรตเบซนิ ความถูกตอ งของขอมูล
(Great Basin) ซ่งึ บรเิ วณนมี้ ที วิ ทศั น์สวยงามเป็นท่ีรจู้ ักกนั ทัว่ ไป คือ แกรนด์แคนยอน (Grand
Canyon) เปน็ โกรกธาร (gorge) ทแี่ มน่ า้� โคโลราโดไหลกดั เซาะหนิ และดนิ จนเปน็ หบุ ผาลกึ ชนั และแคบ 2. ครูใหน กั เรยี นใชสมารต โฟนสอ งดู QR Code
เขตกลมุ่ เทอื กเขาดา้ นทศิ ตะวนั ตกเกดิ จากแผน่ เปลอื กโลกแปซฟิ กิ เคลอื่ นทช่ี นแผน่ เปลอื กโลก เร่ือง ทะเลทรายยปิ ซมั ทส่ี วยท่สี ดุ ในโลก จาก
อเมรกิ าเหนอื เมอื่ ประมาณ ๘๐ ลา้ นปที ผ่ี า่ นมา ทา� ใหแ้ ผน่ ดนิ ยกตวั สงู ขนึ้ เกดิ เปน็ ภมู ปิ ระเทศแบบ หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 ประกอบการ
ตา่ ง ๆ และยงั สง่ ผลทา� ใหเ้ กดิ ปรากฏการณธ์ รรมชาตใิ นปจั จบุ นั เชน่ แผน่ ดนิ ไหว ภเู ขาไฟปะท ุ พนุ า�้ รอ้ น วเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู เพ่ิมเตมิ
กยี เ์ ซอร์ (geyser)
3. ครูใหแตละกลุมต้ังคําถามจากขอมูลลักษณะ
 ทะเลทรายสขี าว (White Sands Desert) เปน็ ทะเลทรายยปิ ซมั ภมู ปิ ระเทศตามประเดน็ หวั ขอ ทกี่ ลมุ ของตนเอง
ตง้ั อย่ใู นรฐั นวิ เมก็ ซโิ ก สหรฐั อเมรกิ า มพี นื้ ทป่ี ระมาณ ๗๘๐ รบั ผิดชอบกลมุ ละ 10 คาํ ถาม
ตารางกโิ ลเมตร นบั เปน็ แหลง่ ยปิ ซมั ท่ีใหญท่ ส่ี ดุ ในโลก

ทะเลทรายยปิ ซมั ทีส่ วยทีส่ ุดในโลก ๑8๕

ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

เขตกลุมเทือกเขาดานทิศตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือมี 1 เทอื กเขาเซียรร าเนวาดา เทือกเขาในรัฐแคลิฟอรเนีย สหรฐั อเมริกา อยูทาง
ลกั ษณะสาํ คัญอยา งไร ตะวนั ออกของรฐั ขนานไปกบั เทอื กเขาชายฝง มคี วามยาวประมาณ 645 กโิ ลเมตร
ยอดสูงสุดชื่อ เมานตวทิ นีย สงู 4,418 เมตร
1. เมานตวทิ นยี เปนยอดเขาท่สี งู ทส่ี ุดในเขตนี้ 2 เทอื กเขารอ็ กกี ระบบเทอื กเขาในทวปี อเมรกิ าเหนอื อยทู างตะวนั ตกของทวปี
2. บรเิ วณท่ีราบสงู มีแมน าํ้ มิสซรู ีไหลผา นเพยี งสายเดียว ทอดยาวจากเขตแดนประเทศเมก็ ซโิ กไปจนถงึ มหาสมทุ รอารก ตกิ ผา นรฐั ตา งๆ
3. เปนเขตเทือกเขาหินใหมมีชื่อเรียกอีกอยางวาเขตเทือกเขา ของสหรฐั อเมรกิ า ไดแ ก แอรโิ ซนา นวิ เมก็ ซโิ ก โคโลราโด ยทู าห เนวาดา ไวโอมงิ
ไอดาโฮ และมอนแทนา จากน้ันเขาไปในประเทศแคนาดาผานรัฐแอลเบอรตา
รอ็ กกี รฐั บริติชโคลมั เบีย และดินแดนยคู อน ไปจนถงึ รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมรกิ า
4. เปนเขตกลุมเทือกเขาท่ีวางตัวเปนแนวยาวไปตามชายฝง

มหาสมุทรแปซิฟก

(วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. กลมุ เทอื กเขาดา นทศิ ตะวนั ตกหรอื
เทอื กเขารอ็ กกี เปน เขตเทอื กเขาหนิ ใหม ประกอบดว ยเทอื กเขาสงู
สลับซบั ซอ น มยี อดสูงสุด คือ เมานตแ มกคินลยี )

T211

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน แผนทีแ่ สดงลักษณะภูมิประเทศและโครงสรางของทวีปอเมรกิ าเหนอ� 0ํ
160 Eํ 170 Eํ 180 ํ 160 Wํ 140 Wํ 120 Wํ 100 ํW 80 ํW 60 Wํ 40 Wํ 20 Wํ 10 Wํ
ขน้ั ที่ 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอ มลู N 500 มาต0ราสวน 1 : 50,0010,0,00000 1,500 กม. มหาสมุทรอารกติก ชองแคดบเด เนสมนาอารรกกติกเซอ รเ ิคล 70 ํN
80 ํN
4. ครูนําจิ๊กซอวแผนที่แสดงท่ีตั้งและอาณาเขต ท7ว0 ปีํN เอเชียทะเคล.ชชุคคุ ชี
ของทวปี อเมรกิ าเหนอื ทมี่ รี ปู ภาพสถานทสี่ าํ คญั 7 77 1 5 4 52 6 7 3 7ม51431293685271เก00242ม00000000000000000.ต000000000000อํN0000000000000000ระ0ลP22ทรกมลก213มออูเ00ะrชคาะ,,,า.ก.เกหoว02004ลดยีํNวอำํN00000เ.j1.าบะบนeับอนหแกเ0000000สรรกาcทธคงิคิสหลดมมNํมกtาีรบิ.ตเแทภภวiมุอลุทเูo.ขะกอโ8าาหกะาููเเมเะnครต0ลขขแม.ยกงาลเแ:ดลมภกาานสWํกะาสคงปีแสLง.นไเะมูญัคำ้แรงูนกกอำกaซฟคก.วิเตเา.กิปยมบย้ำมmนลมอิฟบ.(.เนสทคลจเาูาคอบีเรกเเา1กัตานฮกนฮbามร..อ.ท..ะ6รงิบกาวตษเตอeดนื0เทแคเตมชา6.อาแแทอแทรโrณี1กฮกามบรอเWํtมะแวมก9ะลศือ.าวกบา)เลกคC4นาอ.แมลาโา.กเ็กคนาสลคฮกฮนลำ้oกชาสเไนิขซต4าเยบปมก.ูมวมสสอnทากขล9ไโลากเาิร.กากน9ะร.กนุทลf.ยีขนก.บเานิลอโoโร6มล.5.อวิแกคกมฮเร9กะ.นาลอrิพกด.บเโกว5ิสแmเ.ลกโกตนลลทเรลอีลเ4บส9ด.นีากอ.มมป.บ.ลอ.บไ6แตฮร็กอaซเน.สาากอมบว77แนระารนินโิอดlร1เงิเงั0กอาวเนซุเโดโาีตรโแนCซลรเกาก.ยกกนเทนอํWวเลแย.ตลปซoลวสลอซตนืฟเนิสอราาอาเnรรฮสบ4นเ2 โรนเiกเ35วแcตลโ4เียี95เมตบาทนเ3ร2อ0มยาเ2รขมอยนูจก2นิโราฟเตกีเเ4แ.นมกนเ4ทแม3อวตาียร1ชน9อนกอนรง8ติสล5สออ็ต.รทแ.4.ลเาตมโจเบวลรบี่รอวเีกีาคิตนิวสหสอาีซตสรริเนโาตนั.บ6ลนปดาตนิทเโลมแยี0ก.คสซกซัซนรี่รลรมโํWาาดอาฟนิตกลนโบเลทุแด.ตซรกลแตสรากูบิกนนงูโมัสง.ดเ4มส4แมเ3ก2อกิสาก9็ม0ซน3ทนซ9.ค7.ิ9เวตรเดูลรน9เกิชูคซเแนซูีเ3ตมตสัอรียตยี ตอกรลวโพัลพรเปเน.ีีกรบสากีน.โยีรมิรเปฟ1ต3621475า5กเ0เ4อดา05อเรรเกเทเททบต0หทกนดเชํWดลเรลรร่่่ีีีวปล.ารออืลอเาาิกมมุุสตัปิะงวเเาซกซ5บบ.ิรมซซแซเลตแมณ7กตีูรทเอคตชเอซล0ำล่ทุขกรอบลล0อ.าืคาซตโะเราราัลแบตรอยกะอซหอคอโแตลเเเูวเกฮตทจเฝอเเูรงนมวอนกเม.ียขเบคอแปีเงพนากกเปซูรเัอมาคดแเสเกาลดตกิลตดลาทดสพ.เมุลมซวิลาียเวีาแนปเาาปทกตพาุะะกกฮนทงนกสเ.ออเะลเีเยชมลชรบเัด.รเทาอาลยลีปลเแลีวงส.ศิชรสมเกตดชาดชบาตันายีันออนา็บโละวนกรตฟงนก.เสว9ซเแนก..ชชาแม0นัฟ(าคนเสคมอ.รนอกกหตซบน.โ.ํWบงานานตอบชสเอะชนยCวแกสนา2กิัง.ลิเอฮอกูอสรตคก1ส.ลฟOาีสัอโเอิรซ4าาารโเ2งพบีกมมีPวอน3าตีอ0แลนอฟสาฮากลY3ทานดุดกคลนรวักน7ัด2รูRินแบเเรติต.ซนม2สัแดสทIแฟมช35ลาทรนGิสมัน89นีรดิตอาลโล1อูนH2ลกจรลตเ6.อกตช0คลเอโีกTท.5าคกะรรวล.าป.แก2ปต.ชนูบิี่ดสมลครนนลคเ©กลาดิาคว).อกาาอูวิงเรเนเ.กเเกินฟเแค.ซชบันดลAสวลาลกยอยีตยอกรอเีามยกkบล2ดมนึรดสรงsกริ2.านีมโกเตอนอจาลoม5ลตป.ดลา.6าบrบ.หาแปคเเอnดาอนเบอีเา3อคารมอ3นีโตาาฮตา6รCดอนท3ลริากต9ววโาคส8ส6hนอามอล4ฟมะันาเ0ด0aมมฟง.สาเเาเแrรรสานลาเสoฟํWรกุทยชลกน ศeแลแรอ.ิ.อทนฮnรนูเลดลงกวบรTสิแิว.อแยบ.ลชเอเคaปฟสลบามอรปบtนกนูตลนทาเอกแAต.สโรกดดรเรคอทยCปแ.วมบแบอไลิกิTอฟลออิวลลาปี.ีรตดนซแานโCลยคาดตแีใตoนสรล.เตโิิ,กนซLนกอtdร5324610000000ํก.อัไกฮเ เบก.เอล สเมียร
ของทวีปอเมริกาเหนือซอนอยูดานหลัง มา
ประกอบการวิเคราะหพรอมท้ังนําเสนอขอมูล ค.ซูเอิ ทิ ว ชอ งแคบ
ของนักเรียน ผานการทํากิจกรรม “บอกใบ 60 ํN
ทายภาพ” ชอ กค.อพ.อโรบฟนิ รเซวเลดคสออ.ารบว ูเคท.ียเมลวิลล Nํ
ิทวเขาแคสเคด น.แมกเคนซา แ ม บร ท่ี ร า ชอ งแคบเดวสิ อร Nํ
5. ตัวแทนกลุมนําเสนอขอมูลหนาช้ันเรียนทีละ น.ยูคอน Nํ
กลุม โดยครูใหนักเรียนถามคําถามกลุมอื่น ะแลส ํN
หากตอบถูกจะสามารถเปดปายตามจิ๊กซอว ํN
แผนท่ีที่ครูเตรียมมาได และไดตอบคําถาม ก ํN
ขอ ตอ ไปเรอ่ื ยๆ มคี ะแนนขอ คาํ ถามละ 1 คะแนน ก
จนสามารถเห็นภาพท่ีซอนอยูและทายไดวา
เปนภาพอะไร จะไดรับคะแนนพิเศษเพ่ิมอีก เ
ภาพละ 5 คะแนน จากน้ันสมาชิกกลุมอ่ืน า
ผลดั กนั ใหข อ คดิ เหน็ หรอื ขอ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ
ตลอดจนอภปิ รายความรูร วมกัน ค





ซที ื ค ะ เ นส.วนิ นเิ พก

ทิ









ขา

โ อาวเจมส

ค ค.โนวาสโกเล ีชอย ว อเารวนเ ซซน ต

กเ เน.เชีซยน ตนลอ วเรนซ

กส.แตว นคเู วอร

บ รีเโลอ



เ า

ก ส. ิม ิชแกนฮรู อน
โอ
า าแอปพ

น.ส

ร น.มสิ ซิส ซิปป

ตเพล น.มิส รค ัน ไฮ

ร็ อ ก

เซียรราเนวาดา




น น.แนอ.ลแะซแตบทมาา ูฮ ีชน.เเททื

กี มหาสมทุ รแสทคี่ .รบโีาาอฮเซกาเบซรก3ียนัรา3อรสโล4เาดรร8ูีฟวางแรโอมรมคเราาเอลมเนมดิโฟิา�ย็นรเอกดอรรรอาโซเ กนอิ เยีโรยีกนตลั ค.ฟลอรดิ า

ค. ูยกาต อา
รีเอน

มก.วนิ ดเ วริ ด

๑86 แผนที่แสดงลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทวีปอเมริกาเหนอื

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด

ครูใหนักเรียนศึกษาลักษณะภูมิประเทศทวีปอเมริกาเหนือเพิ่มเติม โดยใช ขอ ใดกลา วถงึ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนอื ไดถ กู ตอ ง
โปรแกรม Google Earth เพอ่ื ชวยใหนักเรยี นเขาใจและเห็นความแตกตางของ 1. ทะเลสาบซุพเี รยี รอยใู นเขตกลมุ เทือกเขาดา นทิศตะวนั ตก
เขตภูมิประเทศทวีปอเมริกาเหนือไดเดนชัดมากยิ่งข้ึน แลวรวมกันอภิปรายใน 2. เกรตเลกส ประกอบดว ย ทะเลสาบซุพีเรียร มชิ แิ กน ฮรู อน อิรี
ชัน้ เรยี น
และออนแทรีโอ
บูรณาการอาเซียน 3. แมน้ํามิสซูรีและแมนํ้ามิสซิสซิปปเปนแมนํ้าสายสําคัญของ

ครูใหนักเรียนสืบคนลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ จากนั้นให ประเทศแคนาดา
นกั เรยี นรว มกนั วเิ คราะหเ ปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา งกบั ลกั ษณะ 4. แมน้ํามิสซิสซิปปเปนเสนก้ันพรมแดนระหวางสหรัฐอเมริกา
ภูมปิ ระเทศของอาเซยี น
กบั เมก็ ซิโก
T212
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เกรตเลกส หรือทะเลสาบทั้ง 5
ประกอบดว ยทะเลสาบซพุ ีเรียร มิชแิ กน ฮูรอน อิรี และออนแทรีโอ
เปน กลมุ ของทะเลสาบนา้ํ จดื ทม่ี ขี นาดใหญท สี่ ดุ ในโลก อยรู ะหวา ง
พรมแดนสหรฐั อเมรกิ าและแคนาดา มเี พยี งทะเลสาบเดยี วทอี่ ยใู น
สหรัฐอเมริกา คอื ทะเลสาบมชิ ิแกน)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒) บรเิ วณคะเนเดยี นชลี ด์ (Canadian Shield) เปน็ พ้นื ทขี่ องหินฐานทวีปซ่ึงก�าเนิดใน ขน้ั สอน

มหายคุ พรีแคมเบรยี น (Precambrian) มอี ายมุ ากกวา่ ๕๔๑ ล้านปมี าแล้ว ครอบคลมุ พืน้ ทีเ่ ป็น ข้ันที่ 4 การวิเคราะหแ ละแปลผลขอ มลู
บริเวณกว้าง นับตง้ั แตล่ ุ่มน้า� แมกเคนซไี ปทางตะวนั ออกจนถึงคาบสมทุ รแลบราดอร์ เนอ่ื งจากมี
ธารน�้าแข็งปกคลุมพ้ืนที่มาเป็นระยะเวลานาน จึงผ่านการครูดถูบนผิวหินจากการกระท�าของธาร 6. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและเช่ือมโยงขอมูล
นา้� แข็ง ทา� ใ๒ห.๑ใ้ น)ปทจั ร่ีจาบุ บนั รเอกบดิ อเปา่ วน็ ฮภดั ูมสปิ นั 1ร มะเตีทะศก อ๓น เแปบน็ บเศ ดษังหนนิ ี้ ทราย และดนิ ทธ่ี ารนา้� แขง็ พามาสะสม เพ่มิ เติมผา นการทาํ ใบงานท่ี 11.1 เรื่อง ทาํ เล
อยใู่ นพืน้ ทรี่ าบ ทตี่ งั้ ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
ของทวีปอเมริกาเหนือ และรวมกันเฉลย
๒.๒) ทะเลสาบ มที ะเลสาบขนาดเล็กและใหญบ่ ริเวณตอนใต้ของทรี่ าบอ่าวฮัดสัน เกดิ คําตอบ โดยครูแนะนําเพม่ิ เตมิ
จากกระบวนการกระท�าของธารน�า้ แข็ง ได้แก่ กลุม่ ทะเลสาบเกรตเลกส์ ทะเลสาบเกรตแบร์ และ
ทะเลสาบวนิ นิเพก 7. ครูถามคําถามเพ่ือใหนักเรียนไดวิเคราะห
ขอมูลเพิ่มเติมเพื่อตอยอดประเด็นความคิด
๒.๓) ทสี่ ูงลอเรนเชียน (Laurentian) เป็นพน้ื ทที่ มี่ ีความสูงเหลืออยจู่ ากการกรอ่ นโดย ตลอดจนการนาํ มาประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ ประจาํ วนั
ธารนา้� แขง็ มภี ูเขาสงู และทะเลสาบจา� นวนมาก ในประเด็น เชน
• จากตําแหนงท่ีตั้งและลักษณะภูมิประเทศ
๓) เทือกเขาแอปพาเลเชียน (Appalachians) ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของทวีป ของทวีปอเมริกาเหนือสงผลตอลักษณะ
ภูมอิ ากาศของทวปี อยา งไร
ทอดแนวขนานกบั ชายฝง่ั มหาสมทุ รแอตแลนตกิ กา� เนดิ จากการยกตวั ขนึ้ ของชนั้ หนิ ทา� ใหเ้ ปลอื ก
โลกสูงข้นึ เป็นเทอื กเขาแอปพาเลเชียน เมื่อประมาณ ๔๐๐ ล้านปที ีผ่ ่านมา ประกอบดว้ ยทวิ เขา
ต่างๆ ได้แก ่ ทวิ เขาไวต์ ทิวเขากรนี ทิวเขาแคตสกิลล์ ทวิ เขาแอลลเิ กน ี ทวิ เขาบลรู ดิ จ์ และทวิ เขา
คัมเบอรแ์ ลนด์

๔) ทร่ี าบเกรตเพลนส์ (Great Plains) เปน็ ทรี่ าบเชงิ เขากวา้ งใหญด่ า้ นทศิ ตะวนั ออก

ของระบบเทือกเขารอ็ กก ี เกิดจากเศษหิน ทราย และดินทีแ่ ตกกระจดั กระจายอยเู่ ชิงเขาแล้วถูก
กระแสน้�าของแมน่ า้� สายต่าง ๆ พาตะกอน กรวด หิน และทรายสะสมตัวท้งิ ไว้ เน่ืองจากกระแสน้า�
ลดปริมาณและความเร็วลง

๕) ทล่ี มุ่ ตา่� ตอนกลาง (Central Lowlands) เป็นบริเวณที่มีภูมิประเทศเป็นที่ลุ่มต่�า

ต่อเนื่องลงมาจากที่ราบเกรตเพลนส์ ในพ้ืนที่ประเทศแคนาดาแม่น�้าไหลลงสู่ท่ีลุ่มต�่าแล้วลงสู่
ทะเลสาบ ในสหรัฐอเมริกาแม่น้�าท่ีไหลจากที่ราบเกรตเพลนส์ ได้แก่ แม่น้�ามิสซูรีและแม่น้�า
ซอางึ่ พร์คาันตะซกออ นแลมง่นส้า�ทู่ ทรี่ ไ่ีาหบล ๒ม าฝจง่ั าแกมเน่ ทา้� อื มกสิ เซขสิาซแอปิ ปป พี เกาดิเลเปเชน็ ยี ทนรี่ าไบดต้แะกก ่อแนมนน่ า�้ พ้า� โาอ2 ไ(aฮllโuอvแiaลl ะpแlaมinน่ )้�า ขเทนนาดเนใหสญซ ี่

๖) ทร่ี าบชายฝง่ั และอา่ วดา้ นมหาสมทุ รแอตแลนตกิ (Gulf Atlantic Coastal Plain)

มีลักษณะเป็นที่ราบ ๒ แบบ ดงั นี้
๖.๑) ทร่ี าบชายฝง่ั ทะเลดา้ นมหาสมทุ รแอตแลนตกิ นบั จากคาบสมทุ รฟลอรดิ าขนึ้ ไปเปน็

ทีร่ าบชายฝง่ั ทเี่ กดิ จากคลื่นพัดพาตะกอนทรายไปทับถมเปน็ หาดทรายเกือบตลอดชายฝ่ัง บริเวณ
ทม่ี แี มน่ �า้ ไหลออกจากแผ่นดินมีลกั ษณะเป็นชายฝงั่ หาดเลน

๑87

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

ขอ ใดกลา วถงึ เขตคะเนเดยี นชลี ดข องทวปี อเมรกิ าเหนอื ไดถ กู ตอ ง 1 อา วฮดั สนั หรอื ฮดั สนั เบย ทะเลภายใน ในประเทศแคนาดา อยทู างตอนกลาง
1. เขตหมูเกาะมีแผน ดินไหวเสมอ คอ นไปทางตะวนั ออกของประเทศ ทศิ เหนอื และทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ตดิ ตอ กบั
2. เขตทีร่ าบใหญม แี มน า้ํ หลายสาย ดนิ แดนนอรท เวสตเ ทริทอรีส ทศิ ตะวันตกเฉียงใตต ิดตอกบั รัฐแมนิโทบา ทศิ ใต
3. เขตหนิ เกาผานการสกึ กรอ นมานาน ตดิ ตอ กับรฐั ออนแทรีโอ และทิศตะวันออกตดิ ตอ กบั รัฐควิเบก มีเนือ้ ทป่ี ระมาณ
4. เขตที่ราบสงู มีแองแผนดนิ หลายแหง 1,243,200 ตารางกิโลเมตร ลึกสดุ 867 เมตร
2 ท่ีราบตะกอนนาํ้ พา ทร่ี าบหรอื คอ นขา งราบขนาดใหญ 2 ฝง แมน ้าํ ในฤดู
(วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เขตคะเนเดียนชีลดหรือเขต นา้ํ หลากนํา้ จะไหลลน 2 ฝง แมน้าํ ทวมบรเิ วณดังกลา ว และนําตะกอนมาสะสม
หินฐานทวีปคะเนเดียน เปนเขตหินเกาอยูทางตอนบนของทวีป ถาเปน ทร่ี าบขนาดเลก็ เรียกวา ที่ลุมราบตะกอนน้ําพา
อเมรกิ าเหนอื โครงสรา งเปน หนิ ทมี่ คี วามแขง็ แรง ผา นการสกึ กรอ น
มานานจากการกระทาํ ของธารนาํ้ แขง็ ลกั ษณะพน้ื ผวิ จงึ เปน ทร่ี าบ
และเนินตะกอนธารนํา้ แขง็ แองทะเลสาบ และอาว)

T213

นาํ สอน สรุป ประเมิน

ขน้ั สอน ๖.๒) ทร่ี าบดนิ ดอนสามเหลยี่ มปากแมน่ า้� ดา้ นอา่ วเมก็ ซโิ ก มแี มน่ า้� หลายสายและแตล่ ะ
สายมลี า� นา�้ สาขาจา� นวนมาก จงึ พาตะกอนมาทบั ถมอยตู่ รงปากแมน่ า�้ ไดม้ ากและตลอดเวลา พนื้ ที่
ข้ันที่ 5 การสรุปเพ่อื ตอบคาํ ถาม บริเวณดังกล่าวจึงเป็นพ้ืนดินท่ีจะเพิ่มข้ึนเป็นบริเวณกว้าง ได้แก่ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น�้า
ต่าง ๆ อาท ิ แม่นา้� มสิ ซสิ ซปิ ปี แมน่ ้�าแอละแบมา แม่น�า้ แซตทาฮชู ี แม่น้�ารีโอกรันเด
1. นักเรียนในช้ันเรียนรวมกันสรุปเก่ียวกับทําเล
ทตี่ งั้ ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ๗) เกาะและหมเู่ กาะ (Islands) นา่ นน�้าท่ีมีเกาะและหมเู่ กาะเรยี งรายอย ู่ ๓ บริเวณ ดงั น้ี
ของทวีปอเมริกาเหนือ
๗.๑) เกาะกรีนแลนด์และหมู่เกาะตอนใต้ของมหาสมุทรอาร์กติก เป็นเกาะขนาดใหญ ่
2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ มเี กาะกรีนแลนดเ์ ปน็ เกาะใหญท่ ่สี ุดของทวปี และของโลก เกาะใหญต่ อนเหนอื ของแคนาดา ไดแ้ ก่
สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร โดยครู เกาะแบฟฟิน เกาะเอลสเ์ มียร์ เกาะวกิ ตอเรยี หม่เู กาะควีนเอลิซาเบท เกาะตา่ ง ๆ มีโครงสร้างทาง
แนะนําเพ่ิมเติม ธรณวี ทิ ยาเปน็ หนิ ฐานธรณ ี เคยมพี ดื นา้� แขง็ ปกคลมุ พน้ื ทมี่ ายาวนาน จงึ มลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศแบบ
ฟอี อร์ด (fiord) หรอื ฟยอร์ด (fjord) คือ แนวชายฝงั่ ของเกาะมีอา่ วเลก็ ๆ เวา้ ลกึ เขา้ ไประหว่าง
3. นกั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3 แผน่ ดนิ สงู ชัน
เร่อื ง ทําเลท่ตี ัง้ ขนาด อาณาเขต และลักษณะ
ภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนอื เพอ่ื ทดสอบ ๗.๒) หม่เู กาะฮาวายและหม่เู กาะอะลูเชียน เปน็ หม่เู กาะในมหาสมทุ รแปซิฟิก ตงั้ อย ู่
ความรูทีไ่ ดศ กึ ษามา ในแนวเขตสันเขากลางสมุทรและแนววงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก จึงมักเกิดแผ่นดินไหวและพบ
ภเู ขาไฟมีพลังจ�านวนมาก
ขน้ั สรปุ
๗.๓) หมู่เกาะเวสตอ์ ินดสี หมเู่ กาะในทะเลแครบิ เบียนแบ่งได ้ ๓ แบบ ดงั นี้
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ (๑) หมู่เกาะเกรตเตอรแอนทิลลีส มีลักษณะเป็นเกาะขนาดใหญ่ ประกอบด้วย
ทําเลที่ตั้ง ขนาด อาณาเขต และลักษณะ
ภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ ตลอดจน เกาะควิ บา เกาะฮสิ ปันโยลา เกาะจาเมกา และเกาะเปอร์โตรโิ ก
ค ว า ม สํ า คั ญ ท่ี มี อิ ท ธิ พ ล ต  อ ก า ร ดํ า เ นิ น ชี วิ ต (๒) หมู่เกาะเลสเซอรแอนทิลลีส มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็กวางตัวเรียงราย
ของประชากร หรืออาจใช PPT สรปุ สาระสําคญั
ของเนื้อหา เป็นรูปโค้ง ประกอบด้วยหมเู่ กาะยอ่ ย เชน่ หมู่เกาะเวอรจ์ นิ หมเู่ กาะวนิ ด์เวริ ์ด หมเู่ กาะลีเวิร์ด
(๓) หมเู่ กาะบาฮามาส มีลกั ษณะเป็นเกาะขนาดกลาง ประกอบด้วยเกาะส�าคัญ
ขนั้ ประเมนิ
เชน่ เกาะนิวพรอวิเดนซ ์ เกาะแอนดรอส เกาะอะบาโก เกาะซานซัลวาดอร์
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม ภูมิประเทศแบบเกาะภูเขาไฟมีอยู่ในพ้ืนที่หมู่เกาะเกรตเตอร์แอนทิลลีสและหมู่เกาะ
การรว มกันทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน เลสเซอร์แอนทิลลีส เนื่องจากตั้งอยู่ในแนวรอยเล่ือนมีพลังของแผ่นธรณีแคริบเบียน จึงยังมี
ปรากฏการณ์แผ่นดนิ ไหวและภูเขาไฟปะทใุ นพ้ืนท่ ี ๒ หม่เู กาะนี้
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3

๑88  ทะเลแคริบเบยี นประกอบไปดว้ ยเกาะและหมู่เกาะทส่ี วยงามจ�านวนมาก

แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม Geo - Literacy

ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง ทําเลที่ตั้ง ขนาด ครใู หน ักเรียนใชเคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตรต า งๆ ท่นี กั เรียนสนใจ
อาณาเขต และลกั ษณะภูมขิ องทวีปอเมริกาเหนอื ไดจากการตอบคําถาม การ สืบคนขอมูลลักษณะภูมิประเทศท่ีโดดเดนของทวีปอเมริกาเหนือ
รว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น โดยศกึ ษาเกณฑก ารวดั และ เชน
ประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการ
เรยี นรหู นว ยที่ 11 เร่อื ง ทวปี อเมรกิ าเหนือ • เทือกเขารอ็ กกี
• คะเนเดียนชีลด
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน • แกรนดแ คนยอน
• กลมุ ทะเลสาบเกรตเลกส
คาช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี โดยสืบคนในประเด็นของกระบวนการเกิด และลักษณะทาง
ตรงกับระดบั คะแนน กายภาพท่ีสงผลตอการดําเนินกิจกรรมตางๆ ของมนุษย จากน้ัน
สรปุ ขอมูลและนาํ เสนอหนา ชั้นเรียน
ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา
2 การลาดับขั้นตอนของเร่ือง
3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์

4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ

5 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกล่มุ

รวม

ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่

ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง

T214

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๑.4 ลกั ษณะภมู ิอากาศและพชื พรรณธรรมชาติ ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process)
ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกันหลายเขต เน่ืองจากปัจจัยควบคุม
ภมู ิอากาศทีแ่ ตกต่างกนั 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอื่ เรอื่ งทจ่ี ะเรยี นรู
๑) ปัจจัยควบคุมภูมิอากาศ ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกันตาม จุดประสงคก ารเรยี นรู
อิทธิพลของฤดูกาล โดยมปี ัจจยั ทเ่ี ปน็ ตวั ควบคมุ ลักษณะภูมอิ ากาศในแต่ละเขตภมู ิอากาศ ดังนี้
๑.๑) ต�าแหนง่ ทีต่ ้ังตามละตจิ ดู ทวีปอเมริกาเหนือ 2. ครูและนักเรียนรว มกนั ทบทวนความรเู ก่ยี วกบั
ภตง้ัูมออิ ยารู่กะาหศวแ่า๑บง.๒ลบะ)เขตทติจดูรศิ อ้ ท๗นา1 ง� -เขข๘อต๓งอล � บเมหอปนุ่นรือ2ะ จ แจา�ลงึ ะลมเมขลี ปตักหรษะนณจาา�ะว330 ํ N 60 ํ N เขตหนาว ทําเลท่ีตั้ง ขนาด อาณาเขต และลักษณะ
ภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ ที่ไดศึกษา
90Hํ N เขตอบอุน เมื่อชัว่ โมงทีผ่ า นมา
L ล(eมaขs้วัteโลrliกeฝsาpยoตlaะrวันwอinอdก) L
3. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ ราย
ของทวีปอเมรกิ าเหนอื ไดแ้ ก ่ ลมขวั้ โลก พดั จาก H (wลมesฝtาeยrlตieะsวwนั ตinกd) H เขตรอ น โดยเบ้ืองตน เพ่ือกระตุนความสนใจ/กระตุน
ขว้ั โลกเหนอื นา� ความหนาวเยน็ มาสบู่ รเิ วณตา่ ง ๆ 0 ํ ความคดิ เชน
ลมตะวันตก พดั จากมหาสมทุ รแปซิฟกิ ท�าให้เกดิ • นกั เรยี นคดิ วา ปจ จยั ใดบา งทม่ี ผี ลตอ ลกั ษณะ
ความชมุ่ ช้ืนในบรเิ วณชายฝงั่ ทะเลดา้ นรับลม ส่วน L เสนศูนยสูตรลม(nคoาrtตhะeวaันsLอt อtrกaเdฉe�ยwงเinหdน)อ� L ภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีป
ดา้ นหลงั แนวเทือกเขาเป็นด้านอบั ลมจึงแหง้ แล้ง 30 ํ S (ลsมouคtา hตeะaวsันt อtrอaกdeเฉwย� iงnใdต) อเมริกาเหนอื
และลมค้าตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พัดจากมหาสมุทร เขตรอ น (แนวตอบ ตําแหนงที่ตั้งตามละติจูด ระยะ
แอตแลนตกิ ทา� ใหเ้ กดิ ความชมุ่ ชนื้ และฝนชกุ ใน H เขตอบอุน ความสูงของพ้ืนท่ี ทิศทางของลมประจํา
การวางตวั ของเทอื กเขา พายหุ มนุ ระยะหา ง
บริเวณตะวนั ออกของทวีป  เขตความกดอากาศตามละติจูดและทศิ ทางลมประจ�า จากทะเล กระแสนํ้าในมหาสมทุ ร)
๑.๓) ความสูงของพื้นท่ี เนื่องจาก ซีกโลกเหนือ
บรรยากาศในชนั้ โทรโพสเฟยี ร ์ อณุ หภมู จิ ะลดลงตามความสงู ประมาณ ๖.๔ องศาเซลเซยี ส ตอ่ ระยะ 4. ครูจัดกิจกรรมใชกิจกรรมเกม “ไปปุบเจอ
ความสงู ๑,๐๐๐ เมตร ทา� ใหบ้ รเิ วณเทอื กเขาสงู มีอุณหภูมิต่�ากว่าพ้ืนที่ราบท่ีตั้งอยู่ในแนวละติจูด ปบ” เพ่ือกระตุนความสนใจ/กระตนุ ความคิด
เดียวกนั เกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ
๑.๔) การวางตัวของเทือกเขา กลุ่มเทือกเขาด้านทิศตะวันตกท่ีวางตัวแนวเหนือ-ใต้ ธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อนําเขาสู
ใกลก้ บั ชายฝง่ั มหาสมทุ รแปซฟิ กิ ประกอบดว้ ย เทอื กเขารอ็ กก ี และทวิ เขาอน่ื ๆ รวมทง้ั มที รี่ าบสงู การเรียน โดยใหน ักเรียนกลมุ เดิม (จากชั่วโมง
หลายแหง่ นับเปน็ ตวั ขวางกั้นความชน้ื ทีล่ มพัดพามาจากทะเล ทา� ใหม้ ีความชมุ่ ชน้ื และมีฝนมาก ท่ีแลว) จับคูบัตรภาพพืชพรรณกับลักษณะ
บริเวณด้านรับลม ส่วนด้านที่ราบสูงและด้านปลายลม ได้แก่ ท่ีราบเกรตเพลนส์และที่ราบ ภูมิอากาศ จํานวน 5 ภาพ ภายในระยะเวลา
ตอนกลางมปี ริมาณฝนนอ้ ย กลมุ ละ 1 นาที มคี ะแนนภาพละ 1 คะแนน โดย
๑.๕) ระยะใกล-้ ไกลทะเล ทวปี อเมรกิ าเหนอื มพี น้ื ทก่ี วา้ งมากทางตอนเหนอื และแคบลง เมอ่ื ครบตามกาํ หนดระยะเวลา ครทู าํ การบอก
ทางตอนใต้ ท�าให้ได้รับความช้ืนจากทะเลมากน้อยต่างกัน ทางตอนใต้แถบอเมริกากลางและ คะแนนท่ีแตละกลุมได แตยังไมเฉลยคําตอบ
หมู่เกาะเวสต์อินดีสมีน่านน�้ามหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกขนาบ พ้ืนที่แคบกว่า จากนั้นครูสรุปผลกิจกรรมและเช่ือมโยงเขาสู
ตอนเหนอื และดนิ แดนทางตอนใตอ้ ยใู่ นเขตรอ้ น ดงั นน้ั จงึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลของลมประจา� ทพ่ี ดั ผา่ นได้ บทเรียน

ท่วั ทั้งพื้นที่ ท�าให้มคี วามช้ืนและมีพ้นื ท่ีแหง้ แล้งนอ้ ยกว่าตอนเหนอื ของทวปี ๑89

ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

เพราะเหตุใดบริเวณหมูเกาะเวสตอินดีสของภูมิภาคอเมริกา 1 เขตรอ น เขตทม่ี ภี มู อิ ากาศรอ น โดยกาํ หนดตามละตจิ ดู ตงั้ แตเ สน ทรอปก ออฟ
กลางจงึ มฝี นตกชกุ ตลอดป แคนเซอรถงึ เสนทรอปก ออฟแคปรคิ อรน
2 เขตอบอุน เขตที่มีภูมิอากาศอบอุน โดยกําหนดตามละติจูดตั้งแตเสน
1. มีปาไมคลุมพืน้ ที่ท่ัวหมูเกาะ ทรอปกออฟแคนเซอรถ ึงเสน อารก ตกิ เซอรเ คิล และเสนทรอปก ออฟแคปรคิ อรน
2. ไดรับอิทธพิ ลจากลมคาตลอดป ถึงเสน แอนตารก ตกิ เซอรเคลิ
3. มกี ระแสนาํ้ อนุ ไหลเลียบชายฝง 3 เขตหนาว เขตทมี่ ภี มู อิ ากาศหนาว โดยแบง ตามวธิ กี ารสมยั โบราณซง่ึ กาํ หนด
4. ไดรับผลกระทบจากปรากฏการณล านญี า ตามละติจูดต้ังแตเสนอารกติกเซอรเคิลถึงข้ัวโลกเหนือ และเสนแอนตารกติก
เซอรเคลิ ถงึ ขั้วโลกใต
(วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. หมูเกาะเวสตอินดีสต้ังอยูบริเวณ
เขตรอนในซีกโลกเหนือกลางทะเลแคริบเบียน ไดรับอิทธิพลจาก
ลมคา ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตลอดป ทาํ ใหมฝี นตกชกุ จากความชน้ื
ทะเล)

T215

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ที่เกิดจากอ๑ิท.ธ๖ิพ) ลพขาอยงหุ ลมม1นุ ตาเปมน ฤปดจ ู จเยัพหรนาง่ึะทพท่ีายาํ ใุหหมท ุนวสปี าอมเมารรกิถานเํหาปนรอื ิมมาปี ณรมิฝานณมฝานตเกพปมิ่ รสิมงู าขณน้ึ มจาากกฝไดน
ในชวงเวลาส้ันประมาณ ๓-๕ วัน ซึ่งอาจมีปริมาณฝนสูงกวาฝนตามฤดูท่ีตกถึง ๒-๓ เดือน
ข้นั ที่ 1 การตัง้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร พายุหมุนท่ีสําคัญ ไดแก พายุเฮอรริเคน เกิดขึ้นในทะเลแคริบเบียนและอาวเม็กซิโก และพายุ
ทอรน าโดเกิดบรเิ วณท่รี าบต่าํ ตอนกลางของสหรฐั อเมรกิ า
1. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นเชอื่ มโยงลกั ษณะภมู อิ ากาศ
และพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี อเมรกิ าเหนอื ๑.๗) กระแสนํ้า ในมหาสมุทรแปซิฟก กระแสน้ําอุนอะแลสกาทําใหชายฝงมีอากาศ
จากกิจกรรม “ไปปุปเจอปบ” จากขั้นนํา แอบละอกนุ ระกแรสะแนสาํ้ นเยา้ํ น็อแนุ คแลปฟิ ซอฟิ รก เ นเหยี 2นทอื เี่ กทดิาํ ใกหาชราลยอฝยงตทวั ะขเอลงตมอวนลใตนอา้ํ เา ยวน็อขะแนึ้ ลมสากสาเู มบอค้ืี งวบามนชทน้ื าํ สใงูหเชขาา ยสฝแู งผ ทน ะดเนิล
ที่ผานมา ประกอบการใชแผนท่ีแสดงเขต ไดร บั ความชน้ื ลดลง สว นมหาสมทุ รแอตแลนตกิ กระแสนาํ้ อนุ กลั ฟส ตรมี ไหลเลยี บชายฝง ตะวนั ออก
ภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ (แบบ ของทวีปขึ้นไป ทาํ ใหพืน้ ที่บริเวณนั้นอากาศมีความช้นื ตลอดป ทะเลไมเปนนาํ้ แขง็ กระแสนาํ้ เย็น
แคปเปน -ไกเกอร ปรับปรงุ ) จากหนงั สอื เรียน แลบราดอรแ ละกระแสนาํ้ อนุ กลั ฟส ตรมี ไหลไปบรรจบกนั บรเิ วณแกรนดแ บงส จงึ เปน แหลง ทม่ี ปี ลา
สังคมศึกษาฯ ม.3 แลวตั้งประเด็นคําถาม แจผํานนวทน่ีแมสาดกงกใรกะลแเสกนาำ้ะนในวิ มฟหนาดสแ มลทุ นรดท มี่ ีอทิ ธิพลตอทวปี อเมริกาเหนอ�
ตอยอดเพิ่มเติมเพ่ือกระตุนและเชื่อมโยงให
นักเรียนต้ังประเด็นคําถามทางภูมิศาสตร มหาสมุทรอารกติก
เกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ 7เ0สน ํNอารกตกิ เซอรเคลิ แอตแกลรนนี ตแกิ ลเหนนดอ� 
ธรรมชาติของทวีปอเมรกิ าเหนือ เชน 60 Nํ ราด
• หากนกั เรยี นมโี อกาสไดไ ปเรยี นตอ ทฮี่ ารว ารด
ในชว งเดอื นตลุ าคม จะตอ งเตรยี มตวั อยา งไร 50 Nํ
• จากกรณีที่สโมสรลิเวอรพูลจะมุงหนาสู
สหรฐั อเมรกิ าโดยเปนสวนหนึ่งของปรีซีซั่น โอยะชโิ อะ อะแลสกา แลบ 40 Nํ
ฤดกู าล 2019-20 ในการเตรียมตวั ชวงเดอื น อร
กรกฎาคม โดยจะลงเลน 3 เกม ในสนามที่ 40 Nํ
บอสตนั นวิ ยอรก และอินดแี อนา นักเรยี น
คิดวานักฟุตบอลจะตองปรับตัวอยางไร แคลฟิ อรเ น�ยเหน�อ อา วอะแลสกา อาวฮัดสัน แแกบรงนสด  ตเสสน ทแรมอปุลก ทออนฟแรคตนเิซอร
เพอ่ื ใหพ รอ มตอการแขงขันดังกลาว แปซิฟก
30 ํN ม ห า ส แคนาดา มอนทรอี อล มหาักล ฟสต ีรม 30 Nํ
20 Nํ แ ป ซิ ฟ มุ ท ร แวนคูเวอร นวิ ยอรกซติ ี แอ ก 20 Nํ
ก ฟล าเดลเฟย
แซนแฟรนซิสโก
ฮาวาย ลอสแแซอนนดเจเี อลโิสก สหรัฐอเมรกิ า แอตแลนตา

นวิ ออรลีนส
เม็กซเิโมก็กซิโกซอิตา ี วเมก็ ซิโไกมแอมฮี าวปาอแนราคโตรแปิบรงเซบ ียซซานานนโฮตวโดนมิงโคกำอธศบิ าูนยยสญัสลูตักรษณ 10 ํN
10 Nํ กวั เตซมานาลซาัลซวิตาดี อร มานาซกาัวนโฮเซ เมืองสำคัญ
ปานามาซิตี เขตประเทศ 0ํ
N ศนู ยส ตู รเหนอ�
ศนู ยส ตู รสวนกลบั กระแสนำ้ อนุ
0ํ กระแสน้ำเยน็
110 ํW 100 Wํ 90 ํW C8O0PYWํ RIGHT © Akso7r0nํWCharoenTat ACT6.0CWํo.,Ltd
500มาต0ราสว5น001 1: ,8000,00010,5,00000กม.

Pro1je40ctiํWon: Lambert1C30onํWformal Coni1c20 Wํ

๑๙๐ แผนที่แสดงกระแสนา้ํ ในมหาสมุทรทีม่ อี ิทธิพลตอ ทวีปอเมรกิ าเหนอื

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด

1 ลม อากาศท่ีเคลื่อนท่ีไปบนผิวโลกตามแนวนอนในทุกทิศทุกทางและดวย สาเหตุใดท่ีทําใหชายฝงแคลิฟอรเนียมีลักษณะภูมิอากาศแบบ
ความเร็วตางๆ กัน ทิศทางของลมทราบไดจากทิศซ่ึงลมพัดเขาหาตัวตามที่ แหง แลง
กาํ หนดไวบ นเข็มทิศ
2 กระแสนํ้าเย็นแคลิฟอรเนีย กระแสนํ้าเย็นซึ่งไหลจากเหนือลงใต ใน 1. ทิศทางลมประจาํ
มหาสมทุ รแปซฟิ ก ดา นฝง ตะวนั ตกของทวปี อเมรกิ าเหนอื กระแสนาํ้ นเ้ี กดิ จากการ 2. การวางตัวของเทือกเขา
ลอยตวั ของมวลนาํ้ เยน็ จากระดบั ลกึ ขนึ้ สผู วิ หนา นาํ้ กระแสนา้ํ เยน็ แคลฟิ อรเ นยี น้ี 3. อยูบ รเิ วณเขตละตจิ ดู สงู
มผี ลตอ ภูมิอากาศบริเวณชายฝงของรฐั ออรกิ อนและรัฐแคลฟิ อรเ นยี ตอนเหนอื 4. อิทธิพลจากกระแสน้าํ ในมหาสมทุ ร

(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. กระแสน้ําเย็นเบริงท่ีไหลบริเวณ
ชายฝงแคลิฟอรเนีย ทําใหพื้นท่ีบริเวณชายฝงไดรับความชื้น
นอยลง เนื่องจากอัตราการระเหยมีนอย เปนสาเหตุหน่ึงที่ทําให
เกดิ ความแหง แลง บรเิ วณชายฝง แคลิฟอรเนยี )

T216

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒) เขตภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาต ิ ทวปี อเมรกิ าเหนอื จา� แนกเขตภมู อิ ากาศแบบ ขน้ั สอน

เคปิ เปนิ -ไกเกอร ์ ปรบั ปรงุ แบง่ ตามสภาพภมู อิ ากาศ (อณุ หภมู แิ ละปรมิ าณฝน) ลกั ษณะพชื พรรณ ข้นั ที่ 1 การต้งั คําถามเชิงภมู ิศาสตร
ธรรมชาติ ภายหลงั เมื่อสภาวะของภมู ิอากาศโลกมกี ารเปลยี่ นแปลง นกั วทิ ยาศาสตร์ส่งิ แวดล้อม
จงึ มกี ารนา� ขอ้ มลู ภมู อิ ากาศระหวา่ ง พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๕๙ มาจา� แนกใหม ่ (Hylke et al. 2018) ดงั น้ี 2. ใหนักเรียนรวมกันตั้งประเด็นคําถามทาง
ภูมิศาสตรเก่ียวกับลักษณะภูมิอากาศและพืช
ภมู อิ ากาศเขตร้อน (A: tropical climates) พรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อ
ลกั ษณะเฉพาะ คอื เปน็ เขตทไ่ี มม่ ฤี ดหู นาวทแี่ ทจ้ รงิ มอี ณุ หภมู เิ ฉลย่ี สงู ตลอดปเี กนิ กวา่ ๑๘ องศาเซลเซยี ส คนหาคาํ ตอบ โดยครแู นะนาํ เพม่ิ เติม เชน
มีค่าของอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนไม่แตกต่างกันมาก เนื่องจากชั้นบรรยากาศมีความชื้นสูง • ทาํ ไมทวปี อเมรกิ าเหนอื จงึ มเี ขตภมู อิ ากาศท่ี
ทอ้ งฟ้ามีเมฆมาก และการเปล่ยี นแปลงของแตล่ ะฤดูไม่ตา่ งกนั มาก หลากหลาย
• ลกั ษณะภมู อิ ากาศสง ผลตอ พชื พรรณในทวปี
• ภเฉมู ลอิ ยี่ าเกกานิ ศ ๖แ๐บ บมรลิ อ้ ลนเิ ชมนื้ตแรตถอ่บเศดนู อื ยนส์ จตู ารก(ฝtroนpทicเ่ี กaดิl rจaาinกfกoาreรsพtาcคlimวาaมteร:อ้ น1Aแลf ะ)ฝ มนอีภณุ เู ขหาภจามู กสิ ลงู มแลมะรปสรมุ 2มิ ตาะณวนัฝอนอสกงู อยางไร
• ปจจัยใดบางท่ีทําใหลักษณะภูมิอากาศและ
เฉียงเหนอื พบบริเวณด้านทศิ ตะวันออกของอเมริกากลางและหมู่เกาะเวสต์อินดีส พืชพรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ
พชื พรรณธรรมชาติ มีลักษณะเป็นป่าดิบช้ืน มีพรรณไม้หลายชนิดท่ีมีใบเขียวตลอดปี พรรณไม้ แตละพ้นื ท่แี ตกตา งกนั
• ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิอากาศและ
พนื้ ลา่ งเปน็ จา� พวกบอน หวาย เฟนิ มอสส ์ ถดั ขน้ึ ไปเปน็ จา� พวกปาลม์ และไมพ้ มุ่ ตน้ ไม ้ใหญส่ ามารถสงู เกนิ พชื พรรณทีโ่ ดดเดนอยา งไร
๒๐ เมตร บางพืน้ ทีม่ ตี น้ ไม้ข้นึ หนาแนน่ จนแสงอาทติ ยไ์ ม่สามารถส่องถึงพืน้ ดนิ • พื้นท่ีใดของทวีปอเมริกาเหนือท่ีมีลักษณะ
• ภูมิอากาศเขตมรสมุ (tropical monsoon climate: Am ) ได้รับอทิ ธิพลจากลมมรสมุ มีปริมาณฝนเฉลย่ี ภมู อิ ากาศหรอื พชื พรรณธรรมชาตทิ ค่ี ลา ยคลงึ
เกิน ๑๐๐ มลิ ลเิ มตรต่อเดือน ยกเวน้ ชว่ งเปลย่ี นลมมรสมุ จะมฝี นตกน้อย พบใกลพ้ ืน้ ทภี่ มู อิ ากาศแบบ กบั ประเทศไทย อยางไร
รอ้ นช้นื แถบศนู ย์สูตร

พชื พรรณธรรมชาต ิ มลี กั ษณะเปน็ ปา่ โปรง่ และมกี ารทง้ิ ใบในชว่ งฤดแู ลง้ มพี รรณไมเ้ ดน่ จา� พวกไผแ่ ละปาลม์
• ภมู อิ ากาศแบบสะวนั นา(tropicalsavannaclimate: Aw ) มชี ว่ งฝนตกชกุ จากอทิ ธพิ ลลมมรสมุ ๖ เดอื น

และมีช่วงแล้งฝนอย่างเด่นชัดอีก ๖ เดือน พบบริเวณอเมริกากลางและหมู่เกาะเวสต์อินดีสเป็น
บรเิ วณกวา้ ง

พืชพรรณธรรมชาต ิ มีป่าหญ้าสลับกลุ่มไม้ ใหญ่ท่ีทนต่อความแห้งแล้งกระจายอยู่ทั่วไปในลักษณะ
ป่าละเมาะ

iepo

การจา� แนกเขตภมู อิ ากาศแบบเคปิ เปนิ ไดอ้ า้ งองิ คา่ เฉลย่ี ของอณุ หภมู แิ ละปรมิ าณหยาดนา้� ฟา้ เชน่ ฝน
หมิ ะ ลกู เห็บ ท่ีปรากฏตามพ้ืนท่ ี โดยใช้อักษรโรมันตวั ใหญอ่ ธบิ ายอณุ หภมู ิแบ่งเป็น ๕ เขตหลกั ดงั นี้
A : ภูมิอากาศเขตร้อน B : ภูมอิ ากาศเขตแห้งแล้ง C : ภมู ิอากาศเขตอบอนุ่
D : ภมู ิอากาศเขตหนาว E : ภูมอิ ากาศเขตขวั้ โลก
ภูมิอากาศหลักนี้ ยังแบ่งเป็นกลุ่มย่อย โดยใช้อักษรโรมันตัวเล็กและตัวใหญ่ต่อท้าย แทนการแสดง
ข้อมูลละเอยี ดของอณุ หภูมแิ ละปรมิ าณฝน นอกจากน้ ี การแบ่งเขตภมู อิ ากาศแบบอืน่ มีการเพ่มิ อกั ษร H
แทนเขตภูมอิ ากาศแถบภเู ขาที่ลกั ษณะภูมิอากาศเปล่ยี นแปลงตามความสงู

๑9๑

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

บรเิ วณใดของทวปี อเมรกิ าเหนอื ทมี่ ลี กั ษณะภมู อิ ากาศคลา ยคลงึ 1 ฝนที่เกิดจากการพาความรอน ฝนที่เกิดจากเมฆท่ีกอตัวข้ึนจากการท่ี
กบั ประเทศไทย กระแสอากาศลอยขึ้นสเู บ้อื งบน เชน เมฆจาํ พวกคิวมลู ัสและควิ มโู ลนิมบสั ฝนซู
ก็เปนฝนท่ีเกดิ จากการพาความรอนเชน กัน
1. หมูเกาะเวสตอ นิ ดีส 2 ลมมรสมุ (Monsoon) หรอื ลมประจาํ ฤดู เปนคาํ ท่มี าจากภาษาอาหรบั คอื
2. ชายฝงเกาะกรีนแลนด Mausim แปลวา ฤดูกาล ในคร้ังแรกใชเรียกลมที่เกิดข้ึนในยานทะเลอาหรับ
3. แถบทะเลสาบเกรตเลกส ซ่ึงพดั จากทศิ ตะวันออกเฉียงเหนอื เปนเวลา 6 เดอื น และทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต
4. บริเวณคาบสมทุ รแคลฟิ อรเนีย เปน เวลา 6 เดอื น ตอมาไดน าํ คาํ นีไ้ ปใชเรยี กลมทีพ่ ัดเปลี่ยนทิศทางตามฤดูกาล
ในรอบป อันเนอื่ งมาจากความแตกตา งของหยอ มความกดอากาศเหนอื ภาคพื้น
(วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. หมูเกาะเวสตอินดีส เนื่องจากมี ทวปี กับมหาสมทุ รทอ่ี ยูข างเคยี ง
ภมู อิ ากาศเขตรอ นมฝี นตกชกุ ตลอดป มปี รมิ าณฝนมากกวา 2,600
มิลลิเมตรตอป อุณหภมู เิ ฉล่ยี สูงกวา 27 องศาเซลเซยี ส พชื พรรณ
ธรรมชาตเิ ปน ปา ฝนหรือปาดบิ ชืน้ )

T217

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน แผนท่ีเขตภมู อิ ากาศของทวีปอเมริกาเหนอ� (แบบเคปิ เปน-ไกเกอร ปรับปรงุ )

ข้นั ที่ 2 การรวบรวมขอมูล N 500 มาต0ราสวน 1 : 50,010,00,00000 1,500 กม. มหาสมุทรอารกติก คำอธบิ ายสญั ลักษณ
เขตประเทศ
1. ครูแบงกลุม โดยใหนักเรียนจับสลากเลือก EF กระแสนำ้ อุน
เขตภมู ิอากาศฯ จากบัตรภาพในกจิ กรรมเกม ET EF EF กระแสนำ้ เยน็
“ไปปุบเจอปบ ” ใหไ ดจ ํานวน 5 กลมุ ตามเขต
ภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีป าชี ET ทะเลโบฟอรต ET อ า ว เ สนอา รก ิตกเซอ รเ ิคล
อเมริกาเหนือ ไดแก Dsc ET ET
• ภมู ิอากาศเขตรอน 60 Nํ ทะเลชุค ET แ บ ฟ กรีนแลนดEF
• ภูมิอากาศเขตแหงแลง ทะเลเบรงิ ET Dwc ฟ แลบร
• ภูมอิ ากาศเขตอบอนุ Dfc น 60 ํN
• ภูมอิ ากาศเขตหนาว 50 Nํ
• ภมู อิ ากาศเขตข้วั โลก Dwc Dsc ET
จากนั้นใหแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล อา วอะแลสก ET Dsc ET
ประกอบการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และ Dsc ET าดอร ทะเลแลบราด 50 ํNอร
ใหส อดคลอ งกับ 3 ประเดน็ คอื ปจ จัยควบคมุ
ภูมิอากาศ เขตภมู ิอากาศ พชื พรรณธรรมชาติ Dfc ET Dfc ET
ที่พบ จากหนังสือเรยี นสงั คมศกึ ษาฯ ม.3 หรือ อา วฮัดสัน
แหลงเรียนรอู ่ืนๆ เชน หอ งสมุด อินเทอรเ น็ต เเขขตAตรfภอ ูมนรอิ อ านกชานื้ ศแถบศนู ยส ตู ร1Cfb Dsc
Dfc Dfc Dfb แกรนด
2. ครูอาจแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนา แบงส
เชือ่ ถอื ประกอบการศึกษาและรวบรวมขอมลู
เพิม่ เติม Am เขตมรสุม แปซิฟกเหน� ET
Aw สะวันนา Cfb
40 ํN อ Csb Dsb Dfb 40 ํN
30 ํN
Dsb BSk BSk Dwb Dfb
เขตแหงแลง Csa Dwa ักล ฟสต ีรม
BWh ทะเลทรายเขตรอ น Dfc
BWk ทะเลทรายเขตอบอนุ แคลิฟอรเ นย� BWk BWk Dfa มหาสมุทรแอตแลนติก 30 ํN
BSh ก�ึงแหง แลง เขตรอ น Dfa Cfa

BSk กึ�งแหงแลง เขตอบอนุ

เขCตsอaบอเแนุ มหดงิเแตลองรแเรลเะนรย�อ นนแในบฤบดรู อ น BWh BSk Cfa Cfa

Csb เแมหดง เิแตลองรแเ รลเะนอ�ยบนอแุน บในบฤดรู อน BSh BWk BWh BSh Aw เสน ทรอปก ออฟแคนเซอร20 Nํ
BSk Aw Af
20 ํN Cwa แชหืน้ สงแลลบั งแใลนงฤเดขูหตนอบาวอแุนลแะบรบอ นในฤดูรอน Cwb Cwa อ า ว เ ม็ ก ซิ โAกm
10 Nํ Cwb ชแหืน้ งสแลลับงแใลนงฤเดขูหตอนบาวอแนุ ลแะบอบบอนุ ในฤดรู อ น Aw AmแครAิบf ทเบะียเนลแคริบเบียน
Cfa ชื้นก�งึ เขตรอน Aw Aw
Cfb ชายฝง ตะวันตกภาคพื้นสมุทร ACwwb Af 10 Nํ
CAwmbAf Af
เขตหนาว Aw Aw Am
Dsb ภาคพ้ืนทวปี แบบแหงแลง และอบอุนในฤดรู อ น
Dsc ภาคพื้นทวีปแบบแหง แลงและหนาวในฤดรู อน
Dwa ภาคพื้นทวปี แบบแหง แลง ในฤดูหนาวและรอ นในฤดูรอ น ศูนยส ตู รเหนอ� Af Am
Dwb ภาคพน้ื ทวปี แบบแหง แลง ในฤดูหนาวและอบอุน ในฤดูรอ น Aw
Dwc ภาคพื้นทวปี แบบแหง แลงในฤดูหนาวและฤดรู อน ศนู ยส ตู รสวนกลบั
เขตขวั้ โลก
0ํ Dfa ช้นื ภาคพน้ื ทวีปแบบไมมฤี ดูแลงและรอ นในฤดูรอ น ET ทนุ ดรา เสนศนู ยส ตู ร 0 ํ
Dfb ชน้ื ภาคพนื้ ทวีปแบบไมมฤี ดูแลงและอบอนุ ในฤดูรอน
Dfc ชื้นภาคพ้นื ทวปี แบบไมม ีฤดูแลง และหนาวในฤดูรอน EF ทงุ น้ำแข็ง

Projection: Lamb1e20rt ํWConformal Conic 110 Wํ 100 Wํ 90 ํW COPYRIGHT © Aksorn C8h0aroWํ enTat ACT. Co.,Ltd

แผนที่แสดงเขตภูมอิ ากาศของทวีปอเมรกิ าเหนอื

๑9๒

นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสริม

1 รอนชื้นแถบศูนยสูตร ภูมิอากาศแบบหนึ่ง มีอาณาบริเวณอยูระหวาง ครูใหนักเรียนศึกษาแผนท่ีเขตภูมิอากาศจากหนังสือเรียน
ละติจูด 10 องศาเหนอื กับ 10 องศาใต ใกลระดบั ทะเล ภมู อิ ากาศแบบนมี้ ี จากน้ันแจกแผนท่ีโครงรางทวีปอเมริกาเหนือใหนักเรียนระบายสี
อุณหภูมิและความชื้นสูงอยูเสมอ และมีเวลากลางคืนกับกลางวันใกลเคียงกัน แบง เขตภมู ิอากาศ โดยใหน ักเรียนแบงสกี ันเอง เสร็จแลวนําสงครู
ประมาณ 12 ชั่วโมง การเปลย่ี นแปลงลมฟาอากาศตามฤดูกาลตางๆ คอนขา ง ผูส อน
นอย เนื่องจากดวงอาทิตยโคจรอยูเกือบตรงศีรษะตลอดป ลักษณะอากาศมัก
เปนแบบมวลอากาศฝายทะเลซ่ึงมาคนละทิศพัดเขาหากันจนทําใหเกิดอากาศ กจิ กรรม ทาทาย
ปน ปวนผิดปกติขึน้ และบางคร้งั ก็ทาํ ใหเกิดฝนตกหนัก
นักเรียนแบงกลุมศึกษาคนควาลักษณะภูมิอากาศของทวีป
T218 อเมริกาเหนือจากแหลงการเรียนรูตา งๆ จากนัน้ ครใู หนักเรียนจัด
ปายนิเทศแสดงผลงานหรือเร่ืองนารูเก่ียวกับลักษณะภูมิอากาศ
ที่นักเรียนไดไปศึกษาคนความา และใหนักเรียนนําผลงานเก็บ
รวบรวมใสแ ฟมสะสมผลงานเพอ่ื เปนขอมูลสาํ หรับชนั้ เรียน

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ภมู อิ ากาศเขตแหง้ แลง้ (B: arid climates) ขนั้ สอน

ลักษณะเฉพาะ คือ ไม่มีฝนตกทุกเดือน โดยมีบางเดือนฝนไม่ตกหรือตกน้อยจนวัดปริมาณฝนไม่ได้ ขัน้ ท่ี 3 การจัดการขอมูล
เน่ืองจากชั้นบรรยากาศเหนือเขตแห้งแล้งมีความชื้นน้อย ท�าให้มีอุณหภูมิสูงมากในเวลากลางวันและมี
อุณหภูมลิ ดตา�่ ในเวลากลางคืน ซงึ่ เปน็ ไปตามช่วงฤดูและปริมาณเมฆบนท้องฟ้า 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
• ภมู อิ ากาศแบบทะเลทรายเขตรอ้ น (hot desert climate: BWh ) มอี ณุ หภมู เิ ฉลย่ี สงู กวา่ ๑๘ องศาเซลเซยี ส ระหวา งกัน
อากาศรอ้ นและมปี รมิ าณฝนรายปเี ฉลี่ย ๒๕๐ มลิ ลเิ มตร พบบรเิ วณทะเลทรายโซโนรันท่ีอยโู่ ดยรอบอ่าว
แคลฟิ อรเ์ นีย 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถี่ กู ตอ ง
นา เชอื่ ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไ่ี มจ าํ เปน
พชื พรรณธรรมชาต ิ มีพรรณไมจ้ �าพวกกระบองเพชร ไม้พมุ่ ไมห้ นาม และหญา้ ออก
• ภมู ิอากาศแบบทะเลทรายเขตอบอ่นุ (cold desert climate: BWk ) มอี ณุ หภมู เิ ฉลี่ยต�่ากว่า ๑๘ องศา
ข้นั ที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอ มลู
เซลเซยี ส อากาศเยน็ เนอื่ งจากอยบู่ รเิ วณพน้ื ทส่ี งู และตงั้ อยแู่ นวละตจิ ดู ๓๕ -� ๔๕ เ� หนอื มปี รมิ าณฝนราย
ปตี า่� กวา่ ๒๕๐ มลิ ลเิ มตร พบบริเวณทะเลทรายโมฮาวี รฐั แคลฟิ อรเ์ นียของสหรัฐอเมรกิ า 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ วเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู
รวมกัน จากนั้นใหแตละกลุมนําเสนอขอมูล
พืชพรรณธรรมชาต ิ มีพรรณไม้จา� พวกกระบองเพชร ไม้พ่มุ ไม้หนาม และหญ้า ประกอบการใชแ ผนทเ่ี ขตภมู อิ ากาศทคี่ รเู ตรยี ม
• ภูมิอากาศแบบกึ่งแห้งแล้งเขตร้อน (hot steppe climate: BSh ) มีอุณหภูมิเฉล่ียสูงกว่า ๑๘ องศา มา พรอ มโยงลกู ศรแสดงตาํ แหนงและขอมลู ที่
พบในบรเิ วณเขตภมู อิ ากาศดงั กลา วจนครบทง้ั
เซลเซยี ส อากาศรอ้ นและมีปรมิ าณฝนรายปีตัง้ แต ่ ๒๕๐-๕๐๐ มิลลิเมตร พบบริเวณตอนล่างของทรี่ าบ 5 เขต
เกรตเพลนส์ระหว่างรัฐเท็กซสั ของสหรัฐอเมรกิ ากบั ชายแดนเม็กซิโก
2. สมาชิกกลุมอื่นผลัดกันใหขอคิดเห็น หรือขอ
พชื พรรณธรรมชาต ิ มพี รรณไมจ้ า� พวกกระบองเพชร ปาลม์ ไม้พุ่ม ไม้หนาม และหญา้ เสนอแนะเพิ่มเติม ตลอดจนอภิปรายความรู
• ภมู อิ ากาศแบบกงึ่ แหง้ แลง้ เขตอบอนุ่ (cold steppe climate: BSk ) มีอุณหภูมิเฉลี่ยต�่ากว่า ๑๘ องศา รวมกนั

เซลเซียส มปี ริมาณฝนรายปตี ้ังแต่ ๒๕๐-๕๐๐ มิลลเิ มตร พบบรเิ วณทีร่ าบเกรตเพลนส ์ ซ่งึ เป็นพืน้ ท่ี 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทําใบงานท่ี
อบั ฝนของเทอื กเขารอ็ กกี 11.2 เร่ือง ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ
ธรรมชาตขิ องทวีปอเมริกาเหนอื
พืชพรรณธรรมชาต ิ มพี รรณไมจ้ �าพวกกระบองเพชร ปาลม์ ไมพ้ ุ่ม ไม้หนาม และหญา้

ภูมอิ ากาศเขตอบอุ่น (C: temperate climates)

ลักษณะเฉพาะ คือ เป็นพื้นที่ที่มีฝนตกเกือบทุกเดือน ตามอิทธิพลของมวลอากาศท่ีพัดเข้าสู่แผ่นดิน
อุณหภูมิเฉลยี่ ของเดือนทีห่ นาวทีส่ ดุ ตา่� กว่า ๑๘ องศาเซลเซยี ส และเดือนทร่ี อ้ นท่สี ดุ ไม่ตา�่ กวา่ ๑๐ องศา

•เซภลูมเซิอยี าสกาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน1(mediterranean climate: Cs) ฤดูร้อนอากาศแห้งแล้ง เน่ืองจากมี

ลมพัดออกจากแผ่นดินใหญ่บริเวณท่ีราบสูงโคโลราโดและที่ราบเกรตเบซินสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ท�าใหพ้ น้ื ท่ีชายฝัง่ ตะวันตกร้อนและแห้งแล้ง เมื่อถงึ ชว่ งฤดหู นาวจะไดร้ บั อทิ ธพิ ลของลมประจา� ตะวนั ตก
ทีพ่ ดั จากมหาสมทุ รแปซฟิ ิกเข้าสแู่ ผน่ ดิน จงึ มคี วามชนื้ มากตัง้ แตเ่ ดอื นตุลาคมเปน็ ต้นไป
- ล กั ษณะภมู อิ ากาศแบบ Csa มอี ากาศแหง้ แลง้ และรอ้ นในฤดรู อ้ น พบแถบชายฝง่ั ของรฐั แคลฟิ อรเ์ นยี

ของสหรฐั อเมรกิ าลงไป และบางสว่ นของคาบสมุทรบาฮากาลีฟอรเ์ นียทางตอนบนของเมก็ ซิโก
- ลักษณะภูมิอากาศแบบ Csb มีอากาศแห้งแล้งและอบอุ่นในฤดูร้อน พบแถบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย

ข้นึ ไปจากภูมอิ ากาศแบบ Csa บริเวณพ้ืนทลี่ ะติจูด ๔๐ �- ๔๕ � เหนอื

พืชพรรณธรรมชาต ิ มพี รรณไม ้ใบหนาเลก็ ผิวมัน เพ่ือป้องกันการระเหยของนา�้ เช่น ผลไมส้ กุลส้ม
มะกอก เลมอน
๑9๓

ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

บริเวณใตสดุ ของแหลมฟลอริดาจะพบพืชพรรณธรรมชาติแบบใด 1 ภูมิอากาศแบบเมดิเตอรเรเนียน ภูมิอากาศแบบหน่ึงท่ีมีลักษณะอากาศ
1. ตน เมเปล คอ นขา งรอ นแหง และมแี สงแดดจดั ในฤดรู อ นสว นในฤดหู นาวมอี ากาศอบอนุ และ
2. ตนสนใบยาว ฝนตกคอ นขา งชกุ เหมาะสาํ หรบั การปลกู ไมผ ล เปน อากาศประจาํ ถนิ่ แบบหนงึ่ ท่ี
3. ปาไมไ มผ ลดั ใบ เกดิ ขนึ้ ตามเกาะตา งๆ และตามพนื้ ทช่ี ายฝง สว นใหญร อบทะเลเมดเิ ตอรเ รเนยี น
4. ทุง หญา สะวนั นา รวมทงั้ ทางภาคกลางและชายฝง ทะเลตอนใตข องรฐั แคลฟิ อรเ นยี ในสหรฐั อเมรกิ า
ภาคกลางของประเทศชิลี ภาคใตสุดของสาธารณรัฐแอฟริกาใต และบางสวน
(วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. บรเิ วณใตส ุดของแหลมฟลอริดามี ของประเทศออสเตรเลียตอนใต
ภมู อิ ากาศแบบสะวนั นา พชื พรรณเปน ปา ไมผ ลดั ใบตา งๆ และเปน
ทงุ หญา สะวนั นา ซงึ่ เปน ทงุ หญา ยาวและมไี มพ มุ ปะปนอยู เรยี กวา
ทงุ หญาปนปาโปรง )

T219

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน • ภมู ิอากาศแบบชืน้ สลับแลง้ เขตอบอุน่ (temperate wet-dry climate: Cw) พบในเขตร้อนบรเิ วณพื้นที่สงู
ภจงึมู มอิ อี าุณกาหศภแมู บติ บ่�าสเะสวมนั ือนนาเ1 ขตAอwบ อแนุ่ ต ่ตแ่าตง่มกฝี นั นทตีอ่ กณุ ชห่วภงฤูมดเิ ฉฝู ลนีย่แทล่ตีะมา่� กีอวาา่ก า๑ศ๘แ หอง้ งแศลา้งเใซนลชเซ่วงียฤสดหู นาว คลา้ ยกบั
ข้นั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอมลู - ลกั ษณะภมู อิ ากาศแบบ Cwa คอื มอี ากาศแหง้ แลง้ ในฤดหู นาวและรอ้ นในฤดรู อ้ น พบบรเิ วณทร่ี าบสงู
เม็กซโิ กแถบเทือกเขาเซยี ร์รามาเดรออกซเิ ดนตลั ในเม็กซิโก
4. ครูถามคําถามเพื่อใหนักเรียนไดวิเคราะห - ล กั ษณะภูมอิ ากาศแบบ Cwb คอื มอี ากาศแหง้ แลง้ ในฤดูหนาวและอบอุ่นในฤดูร้อน พบบรเิ วณท่ีสูง
ขอมูลเพิ่มเติมเพื่อตอยอดประเด็นความคิด แถบเทือกเขาเซียร์รามาเดรออกซิเดนตัลในเม็กซิโก และเทือกเขาสูงแถบกรุงกัวเตมาลาซิตีของ
ตลอดจนการนาํ มาประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ ประจาํ วนั กวั เตมาลา
ในประเดน็ เชน
• พืชพรรณธรรมชาติมีความสัมพันธกับ พชื พรรณธรรมชาติ มีพรรณไม้เดน่ เชน่ โอก๊ บีช เฮมลอ็ ก
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศและภูมอิ ากาศอยา งไร
(แนวตอบ ลักษณะพืชพรรณธรรมชาติมี • ไภดูม้ริอับาคกวาาศมแชบ้ืนบตชล้ืนอกดึ่งปเขีจตารก้อมนวล(hอuาmกาidศ2อsุ่นuแbtลroะกpiรcะaแlสcนli�้าmอaุ่นteก:ัลฟC์สfaต)ร ีมล ักใษนณช่วะงอฤาดกูารศ้อทนั่วอไุณปหไมภ่มูมีฤิสดูงูแกลว้ง่า
ความสัมพันธกับลักษณะภูมิอากาศ โดย
ข้ึนอยูก บั อุณหภมู แิ ละความชนื้ ซง่ึ ลกั ษณะ ๒๒ องศาเซลเซยี ส พบบรเิ วณทร่ี าบเหนอื อา่ วเมก็ ซิโกและชายฝง่ั ตะวนั ออกของสหรฐั อเมรกิ า
ภูมิอากาศข้ึนอยูกับทําเลท่ีต้ังและลักษณะ พชื พรรณธรรมชาติ มีพรรณไม้วงศส์ นชนิดต่าง ๆ เชน่ ไพน์ สปรูซ เฟอร์
ภูมิประเทศ เชน ในเขตรอน มีอุณหภูมิ
และความชื้นสูง ทําใหมีลักษณะพืชพรรณ • ภูมิอากาศแบบชายฝั่งตะวันตกภาคพื้นสมุทร (marine west coast climate: Cfb ) มีฝนตกตลอดป ี
ธรรมชาตแิ บบปา ดบิ ชนื้ แตใ นเขตรอ น แถบ ไม่มีฤดูแล้ง ได้รับอิทธิพลจากกระแสน�้าอุ่นแปซิฟิกเหนือและลมตะวันตก ช่วงฤดูร้อนอากาศอบอุ่น
ตะวันตกของทวปี มอี ุณหภูมสิ ูงแตแ หงแลง อุณหภมู ิ ๔ ถงึ ๒๒ องศาเซลเซยี ส พบบริเวณชายฝง่ั ตะวนั ตกเฉียงเหนือรฐั วอชิงตนั ของสหรฐั อเมริกา
ทําใหพชื พรรณเปน แบบทะเลทราย แตหาก และชายฝง่ั ตะวนั ตกเฉยี งใต้รัฐบริติชโคลมั เบยี ของแคนาดา
เปน ในเขตหนาว หรือภูเขาสงู มีอุณหภมู ิต่ํา
ความชนื้ ปานกลาง ทาํ ใหม พี ชื พรรณขน้ึ นอ ย พืชพรรณธรรมชาติ โอก๊ และไม้วงศ์สนชนดิ ตา่ ง ๆ
จําพวกมอสส ไลเคน ท้ังนี้ อุณหภูมิและ
ความช้ืนอาจมีการเปล่ียนแปลงไดจาก ภูมอิ ากาศเขตหนาว (D: cold climates)
ปจ จยั ตา งๆ เชน ทต่ี ง้ั ตามละตจิ ดู ความสงู ตาํ่ ลักษณะเฉพาะ คือ มอี ณุ หภมู ิเฉลีย่ ๐ ถึง -๓ องศาเซลเซียส แตฤ่ ดรู อ้ นมอี ุณหภมู ิเฉลี่ยสงู กว่า ๑๐
ของพนื้ ท่ี กลางวนั กลางคนื ฤดกู าล ทศิ ทาง องศาเซลเซยี ส เปน็ ระยะเวลา ๔ เดือน ลักษณะหยาดน้�าฟ้าท ี่ได้รบั มีทงั้ ฝนและหมิ ะ
ของลมประจํา อิทธิพลจากกระแสน้ํา) • ภูมิอากาศแบบกง่ึ อาร์กตกิ ภาคพ้ืนทวีป (continental subarctic climate: Ds, Dw) มคี วามแหง้ แล้ง

5. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เนือ่ งจากมีฝนตกนอ้ ยและความชื้นที่ได้รับเป็นหิมะจา� นวนน้อย
ภูมศิ าสตร ม.3 เรอื่ ง ลกั ษณะภูมอิ ากาศและ - ลกั ษณะภมู อิ ากาศแบบ Dsb มคี วามแหง้ แลง้ และอบอนุ่ ในฤดรู อ้ น มปี รมิ าณฝนตา่� กวา่ ๔๐ มลิ ลเิ มตร
พชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี อเมรกิ าเหนอื เพอื่
ทบทวนความรคู วามเขาใจ เปนการบา นสงครู พบบรเิ วณพนื้ ทีส่ งู ในรฐั ไอดาโฮของสหรัฐอเมรกิ า
ในชว่ั โมงถัดไป - ล กั ษณะภมู อิ ากาศแบบ Dsc มคี วามแหง้ แลง้ และหนาวเยน็ ตลอดฤดรู อ้ น มอี ณุ หภมู ติ า่� กวา่ ๑๐ องศา

เซลเซยี ส พบบริเวณพื้นท่ีสูงในรฐั ยูคอนของแคนาดา
- ล ักษณะภูมิอากาศแบบ Dwa มีความแห้งแล้งในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อน พบบริเวณตอนกลาง

รฐั เซาท์ดาโคตาของสหรฐั อเมรกิ า
- ล กั ษณะภมู ิอากาศแบบ Dwb มีความแห้งแลง้ ในฤดหู นาวและอบอุ่นในฤดรู ้อน พบบริเวณตอนกลาง

รัฐนอรท์ ดาโคตาของสหรัฐอเมรกิ า
- ลักษณะภูมิอากาศแบบ Dwc มีความแห้งแล้งท้ังในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน พบบริเวณตอนเหนือ

ของแคนาดา
๑94 พชื พรรณธรรมชาติ มีปา่ สนเปน็ สว่ นใหญ่

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ

1 ภูมิอากาศแบบสะวันนา ภูมิอากาศแบบหน่ึงซ่ึงมีฤดูฝนและฤดูแลง สมชายตองการไปทําไรสมทที่ วีปอเมรกิ าเหนอื ควรเลือบริเวณใด
แตกตางกันอยางเห็นไดชัด จึงทําใหพืชพรรณธรรมชาติเปนทุงหญาเขตรอน 1. แหลมฟลอริดา
ประเทศไทยมีภูมิอากาศแบบน้ีอยูสวนใหญของประเทศ ยกเวนภาคตะวันออก 2. คาบสมทุ รแคลฟิ อรเ นยี
และภาคใต 3. ชายฝงตะวนั ตกของรฐั แคลฟิ อรเนยี
2 มวลอากาศ อากาศในบริเวณกวางซึ่งมีสมบัติคลายคลึงกัน โดยเฉพาะ 4. แถบรัฐแอลเบอรต า ประเทศแคนาดา
อณุ หภมู ิและความช้ืน
(วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. ชายฝง ตะวนั ตกของรฐั แคลฟิ อรเ นยี
เหมาะสําหรับปลูกผลไมสกุลสม เนื่องจากมีภูมิอากาศแบบ
เมดเิ ตอรเ รเนยี น ซง่ึ มภี มู อิ ากาศคอ นขา งชน้ื ในฤดหู นาว สว นฤดรู อ น
แหง แลงและอบอนุ )

T220

นาํ สอน สรุป ประเมิน

• ภมู อิ ากาศแบบชนื้ ภาคพนื้ ทวปี (humid continental climate: Df) ลกั ษณะอากาศมคี วามชน้ื สงู ตลอดปี ขนั้ สอน
จากฝนและหิมะ
ขั้นที่ 5 การสรุปเพอื่ ตอบคาํ ถาม
- ล กั ษณะภมู ิอากาศแบบ Dfa ไมม่ ีฤดูแล้ง มอี ากาศรอ้ นในฤดรู อ้ น พบในพ้นื ท่รี ัฐแคนซสั รฐั มิสซรู ี
และรฐั เวอรจ์ ิเนียของสหรัฐอเมริกา 1. นกั เรยี นในชน้ั เรยี นรว มกนั สรปุ เกยี่ วกบั ลกั ษณะ
ภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีป
- ลกั ษณะภูมอิ ากาศแบบ Dfb ไมม่ ฤี ดแู ล้ง อากาศอบอ่นุ ในช่วงฤดรู อ้ น พบบรเิ วณตอนเหนอื ของ อเมรกิ าเหนอื
สหรฐั อเมริกาและตอนใต้ของแคนาดาท่ีตดิ ตอ่ กบั ทะเลสาบเกรตเลกสแ์ ละเกาะนวิ ฟันด์แลนด์
2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ
- ลักษณะภูมอิ ากาศแบบ Dfc ไมม่ ีฤดูแล้ง มีอากาศหนาวในช่วงฤดรู ้อน เน่อื งจากมพี ื้นที่อย่บู ริเวณ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร โดยครู
ละติจดู ๕๐ -� ๖๐ � เหนอื พบเปน็ บรเิ วณกวา้ งในแคนาดา แนะนําเพ่มิ เติม
พชื พรรณธรรมชาต ิ มีป่าสนวงศ์สนเขา ซ่ึงม ีใบเล็กแหลม เชน่ สปรูซ เฟอร์
3. ครอู าจถามคาํ ถามปลายเปด หรอื ใหน กั เรยี นดู
ภมู ิอากาศเขตข้ัวโลก (E: polar climates) PPT ท่ีแสดงขอมูลเกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศ
ลกั ษณะเด่น คอื ไมม่ ฤี ดรู ้อนทแ่ี ท้จรงิ เนอื่ งจากคา่ อุณหภมู ิเฉลีย่ เดือนทสี่ ูงทีส่ ุดตลอดปีตา�่ กวา่ ๑๐ องศา และพชื พรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ
เซลเซียส หยาดนา้� ฟา้ หลัก คอื หมิ ะ แต่ละปีหิมะที่ยงั ไมล่ ะลายจะมีหมิ ะใหม่ตกทับถม อดั ตัวและตกผลึก เพอื่ เปนการสรุปความรูเ พ่ิมเตมิ
เปน็ มวลนา�้ แข็งขนาดใหญ่บนแผ่นดิน เรยี กวา่ “ธารน้า� แขง็ ” (glacier)
• ภมู อิ ากาศแบบทนุ ดรา(tundraclimate: ET ) ไดร้ บั ความชน้ื จากอทิ ธพิ ลของมวลอากาศภาคพนื้ สมทุ ร ขนั้ สรปุ

อากาศหนาวเยน็ ถงึ ขดี เยอื กแขง็ หรอื ตา�่ กวา่ จนมผี ลทา� ใหน้ า�้ ใตด้ นิ ในระดบั ตน้ื กลายเปน็ นา้� แขง็ เรยี กวา่ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ
ช้นั ดินเยอื กแข็งคงตวั (permafrost) ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของ
ทวีปอเมริกาเหนือ ตลอดจนความสําคัญท่ีมี
พืชพรรณธรรมชาต ิ มอสส ์ ไลเคน และหญ้าบางชนดิ อทิ ธพิ ลตอ การดําเนินชวี ติ ประจาํ วัน หรือใช PPT
• ภูมิอากาศแบบทุ่งน�้าแข็ง (icecap climate: EF ) แผ่นดินมีพืดน้�าแข็งปกคลุมพื้นที่ตลอดปี เช่น สรุปสาระสําคญั ของเนอื้ หา

ตอนกลางของเกาะกรีนแลนด์ ขน้ั ประเมนิ
พชื พรรณธรรมชาต ิ ไม่มพี ชื ข้นึ ได้
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
 บริเวณเทือกเขาอะแลสกาในรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา มีหญ้าและดอกไม้บางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ ช่วงระยะ การรวมกันทํางาน และการนาํ เสนอผลงาน
เวลาสัน้ ๆ ในช่วงฤดรู ้อน
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3

๑9๕

ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล

ขอ ใดกลา วถงึ เขตภมู อิ ากาศของทวปี อเมรกิ าเหนอื ไดส อดคลอ ง ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอื่ ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและ
กับลกั ษณะพชื พรรณธรรมชาติ พืชพรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ ไดจากการตอบคําถาม การรวมกัน
ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชน้ั เรยี น โดยศกึ ษาเกณฑก ารวดั และประเมนิ
1. แบบสะวันนา พืชพรรณเปนปา ท่ีมตี น ไมข ึน้ หนาแนน ผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู
2. แบบเมดเิ ตอรเ รเนยี น พชื พรรณเปน ปา ไมผ ลดั ใบผสมปา สน หนว ยที่ 11 เรื่อง ทวปี อเมริกาเหนือ
3. แบบสะวันนา พืชพรรณเปนปาไมไมผลัดใบบางสวนเปน
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
ทงุ หญา
4. แบบอบอุนชื้น พืชพรรณเปน ปา ฝนหรือปา ดบิ ชื้น ลาํ ตนสูง คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
ใหญ ใบหนา
ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
(วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ภูมิอากาศแบบเมดิเตอรเรเนียน 32
มีพืชพรรณเปนปาไมผลัดใบผสมปาสน หรือพืชท่ีมีเปลือกหนา
ลาํ ตน เลก็ ใบมีความมันสเี ทาแกมเขียว ใบดกตลอดป) 1 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา
2 การลาดบั ข้นั ตอนของเร่ือง
3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลุ่ม

รวม

ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่

ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี T221

8 - 11 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process) ๑.๕ ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติ

1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช ทวปี อเมรกิ าเหนอื มคี วามกวา้ งใหญแ่ ละอดุ มสมบรู ณไ์ ปดว้ ยทรพั ยากรธรรมชาตชิ นดิ ตา่ ง ๆ
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอื่ เรอื่ งทจี่ ะเรยี นรู มากมาย จนแทบจะไมต่ อ้ งพง่ึ พาทรพั ยากรธรรมชาตจิ ากพนื้ ทแ่ี หลง่ อน่ื ๆ มาใช ้ในการพฒั นาประเทศ
จุดประสงคก ารเรียนรู ซ่งึ ประเภทของทรัพยากรในทวีปอเมริกาเหนอื จา� แนกไดด้ ังนี้

2. ครูและนักเรยี นรว มกันทบทวนความรเู ก่ยี วกับ ๑) ดนิ ในทวีปอเมริกาเหนือมีดินท่ีมีความแตกต่างกันตามลักษณะของสภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ
ของทวีปอเมริกาเหนือ ท่ีไดศึกษาเมื่อชั่วโมง และวัตถตุ ้นกา� เนิดดิน ซ่ึงอาจจ�าแนกเป็นกลมุ่ ใหญ ่ ไดด้ งั น้ี
ทีผ่ า นมา ๑.๑) ดินขั้วโลก มีช้ันดินแช่แข็งเนื่องจากความเย็น พบบริเวณใกล้ข้ัวโลกเหนือทาง

3. ครใู ชก จิ กรรม “ตอ ความยาวสาวความยดื ” เพอ่ื ตอนเหนอื ของแคนาดาและสหรฐั อเมริกา ชว่ งฤดูร้อนมีระยะเวลาสน้ั จึงไม่สามารถเพาะปลกู ได้
กระตุนความสนใจ/กระตุนความคิดเกี่ยวกับ ๑.๒) ดินภูเขา ดินมีสีน้�าตาล การชะล้างพังทลายหน้าดินท�าให้ดินต้ืนและมีกรวดหิน
ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปอเมริกา
เหนอื เพอ่ื นาํ เขา สกู ารเรยี น โดยครนู าํ ภาพสนิ คา มาก ดนิ ขาดความอดุ มสมบูรณ ์ พบบริเวณทมี่ ีความลาดชันสูงแถบเทอื กเขาร็อกกี กลมุ่ เทอื กเขา
ทมี่ าจากทวปี อเมรกิ าเหนอื (เชน ชอ็ กโกแลต ชสี ในเม็กซโิ ก และเทือกเขาสูงในภูมภิ าคอเมรกิ ากลาง
เนยถัว่ กาแฟ ฯลฯ) แลว ใหน ักเรียนกลมุ เดิม
(จากช่ัวโมงท่ีแลว) รวมกันอภิปรายวาสินคา ๑.๓) ดินทุ่งหญ้าแพรรี มีดินลึก ดินชั้นบนมีสีน้�าตาลเข้มถึงสีด�า เน้ือดินชั้นบนร่วน
ดงั กลา วมคี วามเกยี่ วขอ งกบั ทรพั ยากรธรรมชาติ มีอินทรียวัตถุสูง ดินช้ันล่างมีสีน�้าตาลอ่อนและอาจพบก้อนแคลเซียม ดินเป็นด่างและมีความ
ของทวีปอเมริกาเหนือใดบาง โดยกลุมใด อุดมสมบูรณ์สูง พบบริเวณตอนกลางของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ดินบริเวณท่ีราบเหมาะแก่
ท่ีเช่ือมโยงทรัพยากรธรรมชาติไดมากที่สุด การเพาะปล๑ูก.๔แล) ะดเลิน้ียตงะสกตั อวน์ จนงึ�้าเพปา็น1 แเหกลิดง่จสาา�กคกัญารในทกับาถรมปขลอกู งขต้าะวกโอพนดจแาลกะแขมา้ ว่นส้�าา ลบี นท่ีราบริมแม่น้�า
จะเปนผูชนะ จากน้ันครูสรุปผลกิจกรรมและ ตะพักล�าน�้ามีดินลึก เนอื้ ดินรว่ นปนทราย บนทล่ี มุ่ ต�่ามีเน้อื ดนิ เหนียว ดินมคี วามอุดมสมบูรณ์สูง
เชอ่ื มโยงเขาสูบทเรียน พบบริเวณล่มุ นา้� มสิ ซรู ีและล่มุ น้�ามสิ ซสิ ซปิ ปี พ้ืนทเ่ี ปน็ ท่ีราบใกล้แหล่งน�า้ เหมาะแก่การเพาะปลูก
จึงเป็นแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เช่น บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของแม่น้�า
มสิ ซสิ ซิปปี

๑.๕) ดินท่ีราบชายฝ่ัง เกดิ จากการทบั ถมของน้า� ทะเลและนา�้ กรอ่ ย บริเวณหาดทราย
มีเนื้อดินหยาบ มีอินทรียวัตถุต�่า บริเวณท่ีราบน้�าทะเลขึ้นถึงมีเนื้อดินละเอียด มีอินทรียวัตถุ
ปานกลางและเป็นกรดจัด พ้ืนท่ีลุ่มต่�ามากเป็นดินท่ีมีการทับถมของอินทรียวัตถุ มีความอุดม
สมบรู ณ์สูง พบในเขตรอ้ นบรเิ วณท่ีราบชายฝัง่ ของเม็กซิโก หมเู่ กาะเวสตอ์ นิ ดีส และทางตะวนั ตก
เฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เหมาะแก่การปลูกพืชไร่ บริเวณท่ีเป็นดินอินทรีย์มีการปรับปรุงพ้ืนท่ี
เป็นแหล่งปลูกขา้ วโพดและขา้ วสาลขี องสหรฐั อเมรกิ า

๑.๖) ดนิ ทะเลทราย เน้อื ดินเปน็ ทรายหรอื กรวด ปรมิ าณอนิ ทรยี วัตถตุ ่า� มกั พบเกลือ
ชสะิวสามวาใน1 ดแนิลชะทนั้ าลงา่ ตง ะบวรันเิ วตณกขทออ่ี งาสกหาศรแัฐหอเง้ มแรลิกง้ มา ากมพีบบางเกพลื้นอื ทข่ีสน้ึ ามมาาสระถสพมัฒบนนดานิแ หพลบ่งบนร�้าเิ ใวตณ้ดทินะเเพลื่ทอกราายร
เพาะปลูกผลไม ้ เชน่ การปลกู ส้มแบบไร่ขนาดใหญข่ องสหรฐั อเมรกิ า แต่พนื้ ทส่ี ่วนท่ีเป็นดินทราย
ไม่สามารถเพาะปลกู ได้

๑96

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด

1 ดนิ ตะกอนน้าํ พา หรอื ดินนาํ้ ไหลทรายมูล เกดิ จากน้าํ พาตะกอนไปทบั ถม เพราะเหตใุ ดดนิ ในทวปี อมรกิ าเหนอื จงึ มลี กั ษณะแตกตา งกนั
ยงั แหลงตางๆ ลักษณะสาํ คัญที่แสดงใหเห็น คือ ยังไมคอ ยมกี ารพฒั นาชั้นดนิ
หรือมีการเปลี่ยนแปลงตะกอนที่ทับถม สวนใหญดินมีความอุดมสมบูรณตาม (แนวตอบ เนื่องจากลักษณะภูมิอากาศและวัตถุตนกําเนิดดิน
ธรรมชาตใิ นระดบั คอ นขา งสูง แตกตา งกนั เชน ทางตะวนั ตกของแคนาดาลงมาถงึ เกรตเบซนิ และ
2 ทะเลทรายชวิ าวา ตง้ั อยรู ะหวา งสหรฐั อเมรกิ าและเมก็ ซโิ ก มเี นอ้ื ท่ี 362,600 ตอนกลางของทวีปมีพื้นที่เปนทุงหญาขนาดใหญ ดินจึงมีความ
ตารางกิโลเมตร นบั เปนทะเลทรายที่มีขนาดใหญเปน อนั ดบั ตนๆ ของโลก อุดมสมบูรณมาก สวนพื้นที่ทางตอนบนดินสวนใหญอยูในสภาพ
แชแข็ง เน่ืองจากอุณหภมู ทิ หี่ นาวเยน็ จัด สว นทางตอนใตด ินผาน
การชะลา งมานาน ทําใหม คี วามอดุ มสมบูรณต่าํ )

T222

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒) แร ่ ทวีปอเมริกาเหนือมีแร่กระจาย แผนทแ่ี สดงแหลง แรแ ละแรพ ลงั งานของทวปี อเมรกิ าเหนอ� ขนั้ สอน
N 500 0 1,000 กม.
ขน้ั ท่ี 1 การตั้งคาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร
อยใู่ นทุกประเทศ สว่ นมากพบในสหรัฐอเมริกา 80 Nํ
แคนาดา และเมก็ ซโิ ก เนอ่ื งจากมเี นอื้ ทขี่ นาดใหญ่ เ ทื อ ก เ ข า ร็ อ ก กี 1. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นเชอ่ื มโยงลกั ษณะทรพั ยากร
ทะเลโบฟอรต ธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ จากกิจกรรม
กา “ตอ ความยาวสาวความยดื ” จากขน้ั นาํ ทผี่ า นมา
แร่สา� คญั เช่น 70 Nํ แลวตั้งประเด็นคําถามตอยอดเพ่ิมเติมเพื่อ
กระตุนและเชื่อมโยงใหนักเรียนต้ังประเด็น
• เหล็ก พบมากบริเวณทะเลสาบ 50 ํN อา วอะแลส อาวฮัดสัน คํ า ถ า ม ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร  เ กี่ ย ว กั บ ลั ก ษ ณ ะ
ซพุ เี รยี ร ์ ในรฐั มนิ นโิ ซตาของสหรฐั อเมรกิ า เปน็ ทรัพยากรธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ
แหล่งแร่เหล็กที่ส�าคัญที่สุดในทวีป และยังพบ ประกอบการใชเครอ่ื งมือทางภูมศิ าสตร
มากบริเวณเทือกเขาแอปพาเลเชียน บริเวณ 40 ํN
คาบสมุทรแลบราดอร์ รวมท้ังในเม็กซิโกและ มหาสมทุ ร .แอปพาเลเ ีชยน 2. ครูใชเทคนิคการแบงกลุมตามความสนใจ
ควิ บา แปซฟิ ก มหาสมทุ ร โดยใหนักเรียนแตละคนเลือกภาพตัวอยาง
30 ํN ท แอตแลนติก ที่เก่ียวของกับทรัพยากรธรรมชาติของทวีป
อเมริกาเหนือท่ีครูเตรียมไว จํานวน 1 ใน
• ทองแดง1 พบกระจายโดยทั่วไป 130 ํW อา วเมก็ ซิโก 4 ภาพ เพื่อแบงกลุมตามหัวขอทรัพยากร
แร ทะเลแคริบเบียน ธรรมชาตทิ ง้ั 4 ประเภท ซง่ึ ไดแ ก (ครดู าํ เนนิ การ
เช่น บริเวณเทือกเขาร็อกกีในสหรัฐอเมริกา เหล็ก 120 Wํ เพ่มิ เตมิ เพ่อื ใหแ ตล ะกลุมมีจํานวนเทาๆ กัน)
ทองแดง 20 Nํ • แหลง นา้ํ
• แร
110 ํW • ดนิ
ทะเลสาบเกรตเลกส ์ รอบอ่าวฮดั สันในแคนาดา เงิน แรพลงั งาน • ปา ไมและสตั วป า
ทองคำ ถานหิน
บรเิ วณทรี่ าบสูงในเม็กซโิ ก และในฮอนดรู สั นิกเกิล นำ้ มันดบิ
บ็อกไซต แกส ธรรมชาติ 10 Nํ Wํ 90 Wํ 80 Wํ
100

• เงนิ พบมากบรเิ วณเทอื กเขารอ็ กกี แผนทแ่ี สดงแหล่งแรแ่ ละพลงั งานของ
ในสหรัฐอเมรกิ า และบริเวณทะเลสาบวนิ นิเพก ทวีปอเมรกิ าเหนอื
ใ นแคน าดา• แทลอะตงคอําน2 กพลบางมขาอกงบเมริเ็กวซณิโเกทือกเขาร็อกกี ทะเลสาบเกรตเลกส์ และรัฐอะแลสกาของ
สหรัฐอเมรกิ า บริเวณรัฐยูคอนและบริติชโคลัมเบยี ของแคนาดา บริเวณทีร่ าบสูงในเม็กซิโก และ
ยงั พบในฮอนดรู สั นิการากัว และสาธารณรฐั โดมนิ ิกัน

• นิกเกิล พบมากบริเวณทะเลสาบเกรตเลกส์ รอบอ่าวฮัดสันในแคนาดา เกาะคิวบา
และเกาะฮสิ ปนั โยลา

• บ็อกไซต พบมากในรัฐอาร์คนั ซอบรเิ วณทางใตข้ องสหรฐั อเมรกิ า จาเมกา และเฮติ

• ถ่านหิน พบมากบริเวณเทือกเขาแอปพาเลเชียนและด้านตะวันตกของเทือกเขา
รอ็ กกีในสหรฐั อเมริกา

• นา้ํ มนั ดบิ พบมากบรเิ วณรอบอา่ วเมก็ ซโิ กในรฐั เทก็ ซสั รฐั ลยุ เซยี นา และรฐั อะแลสกา
ของสหรฐั อเมริกา บริเวณตอนใตข้ องทะเลสาบเกรตเลกส์ ภาคกลางตอนลา่ งของแคนาดา และ
ภาคใตข้ องเมก็ ซโิ ก

• แกสธรรมชาติ พบมากบริเวณที่ราบเหนืออ่าวเม็กซิโก ตอนกลางในสหรัฐอเมริกา
และบรเิ วณที่ราบทางตอนใต้ของแคนาดา
๑97

กิจกรรม เสรมิ สรา งคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค นักเรียนควรรู

นักเรียนจับคูวิเคราะหลักษณะเดนของภูมิประเทศ ภูมิอากาศ 1 ทองแดง แรโลหะธรรมชาติชนิดหนึ่ง มักมีสีแดงหรือสีทองแดง วาวแบบ
และทรัพยากรธรรมชาติในทวีปอเมริกาเหนือ จากลักษณะเดน โลหะทบึ แสง ละลายไดใ นกรดหรอื กรดไนทรกิ โดยใหส ารละลายสเี ขยี ว มสี มบตั ิ
ดังกลาวใหเลือกประกอบอาชีพหรือทําธุรกิจในประเทศท่ีสนใจใน พิเศษ คอื ตเี ปน แผน บางๆ หรือยืดเปนเสนไดงาย
ประเดน็ ดงั นี้ 2 ทองคํา โลหะมีคาที่เปนธาตุธรรมชาติชนิดหน่ึง มีสีเหลืองทอง มีความ
ถว งจําเพาะสงู จงึ หนกั มาก สามารถทุบเปน แผนและดงึ เปนเสน ได ละลายไดใ น
• อาชพี /ธุรกจิ ทเี่ ลอื ก กรดกัดทองเทานัน้ อาจผสมกบั ธาตุอน่ื ได เชน เงนิ ทองแดง เหลก็ ประโยชน
• บรเิ วณที่เลือก นํามาทําเคร่ืองประดับมีคา ใชเปนมาตรฐานแลกเปลี่ยนเงินตรา และใชใน
• รูปแบบการประกอบอาชพี อุตสาหกรรมอนื่ ๆ
โดยใชกระบวนการทางภูมศิ าสตรวเิ คราะหแ ละตัดสนิ ใจ

T223

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๓) แหลง่ นา้� ทวปี อเมริกาเหนอื มีแหลง่ นา้� ส�าคญั เชน่
๓.๑) แมน่ �้า แมน่ า�้ สว่ นใหญ่ในทวปี อเมรกิ าเหนอื มีตน้ ก�าเนิดมาจากท่สี ูงและเทือกเขา
ขัน้ ที่ 1 การตงั้ คําถามเชงิ ภูมศิ าสตร สงู ทางตะวนั ตก แลว้ ไหลลงสทู่ ร่ี าบตอนกลางและทางตะวนั ออก กอ่ นจะไหลลงสอู่ า่ วและมหาสมทุ ร
ต่าง ๆ แมน่ ้�าทีส่ �าคญั เช่น
3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันต้ังประเด็น • แมน่ า้ํ แมกเคนซ ี เปน็ แมน่ า�้ ในแคนาดา ไหลจากทางตะวนั ตกสดุ ของทะเลสาบ
คํ า ถ า ม ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร  เ กี่ ย ว กั บ ลั ก ษ ณ ะ เกรตสเลฟไปทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ลงสู่อ่าวแมกเคนซ ีในทะเลโบฟอร์ต ยาวประมาณ ๑,๘๐๐
ทรัพยากรธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ กโิ ลเมตร สว่ นใหญข่ องลา� นา้� ใช ้เดนิ เรอื ได ้ บรเิ วณลมุ่ นา�้ อดุ มสมบรู ณด์ ว้ ยปา่ ไมแ้ ละทรพั ยากรแร่
เพ่อื คน หาคําตอบโดยครูแนะนาํ เพิ่มเตมิ เชน • แมน่ า้ํ เซนตล อวเ รนซ  ไหลจากทะเลสาบออนแทรโี อเปน็ แนวพรมแดนระหวา่ ง
• แมน้ําแตละสายของทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมรกิ ากับแคนาดา ไหลลงสูอ่ ่าวเซนต์ลอว์เรนซ ์ ยาวประมาณ ๑,๒๒๕ กโิ ลเมตร เปน็ แม่น้�า
มคี วามสัมพนั ธก นั หรือไม สายสา� คญั สายหนงึ่ เนอื่ งจากเปน็ เสน้ ทางคมนาคมขนสง่ ระหวา่ งมหาสมทุ รแอตแลนตกิ กบั บรเิ วณ
• ลกั ษณะทรพั ยากรธรรมชาตขิ องทวปี อเมรกิ า ทะเลสาบเกรตเลกส์
เหนอื มคี วามสมั พนั ธก บั ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ • แม่นํ้ามิสซิสซิปป ต้นน�้าเกิดจากทะเลสาบไอแทสกา บริเวณเขตที่สูงทาง
อยา งไร ตอนเหนือของสหรัฐอเมรกิ า ไหลลงสอู่ า่ วเมก็ ซโิ ก ยาวประมาณ ๓,๘๐๐ กโิ ลเมตร จัดเปน็ แม่น�้า
สายยาวที่สุดในทวปี มคี วามส�าคัญด้านการคมนาคมขนส่งไปยังภูมภิ าคต่าง ๆ ของสหรฐั อเมริกา
ขน้ั ที่ 2 การรวบรวมขอ มลู • แม่นํ้ารีโอกรันเด ต้นน�้าอยู่ในทิวเขาแซนฮวน ทางใต้ของเทือกเขาร็อกกี
ไในหสลหลรงฐัสอู่อเ่ามว๓รเ.กิม๒า็ก) ซยทาิโกวะ1เปลรสะามบา2 ณพ ๓บ,ม๐า๓ก๐บ กรเิโิ วลณเมตตอร นเปบน็นแขนอวงพทรวมปี แในดปนรระะเหทวศา่ แงสคหนราฐัดอาเ มเรปกิ น็ าทกะบั เเลมสก็ าซบโิ ทก่ี
1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล เกดิ จากการกระทา� ของนา้� แขง็ ในอดตี นา�้ จากทะเลสาบมาจากแมน่ า้� ลา� ธารและการละลายของหมิ ะ
ประกอบการใชเ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรเ กย่ี วกบั ทะเลสาบสา� คญั ไดแ้ ก ่ เกรตแบรแ์ ละเกรตสเลฟ (แคนาดา) มชิ แิ กนและเกรตซอลต ์ (สหรฐั อเมรกิ า)
ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปอเมริกา เกรตเลกส์ (แคนาดาและสหรัฐอเมรกิ า)
เหนือ โดยใหรับผิดชอบกลุมละ 1 ประเภท ทะเลสาบเกรตเลกส์ ประกอบด้วย
ตามภาพ ไดแ ก ทะเลสาบ ๕ แหง่ ไดแ้ ก ่ ซพุ เี รยี ร ์ มชิ แิ กน ฮรู อน
• แหลง นาํ้ อิรี และออนแทรีโอ อยู่บริเวณแนวเขตแดน
• แร ระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดา มีพืน้ ทีร่ ับนา�้
• ดนิ รวมกันประมาณ ๒๔๔,๑๐๐ ตารางกิโลเมตร
• ปาไมและสตั วป า กลุ่มทะเลสาบน้ีมีทางน้�าธรรมชาติเชื่อมต่อกัน
จากหนงั สือเรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3 หรอื แหลง เป็นที่ราบลุ่มขนาดใหญ่ เรียกว่า “ที่ราบลุ่ม
เรยี นรูอน่ื ๆ เชน หอ งสมุด อินเทอรเ นต็ โดย ทะเลสาบทง้ั ๕ ” ระหวา่ งทะเลสาบอริ กี บั ทะเลสาบ
ขอมูลของแตละกลุมจะตองสามารถตอบ ออนแทรีโอ มีแม่น้�าไนแอการา ซ่ึงมคี วามตา่ ง
คําถามทางภูมิศาสตรและเช่ือมโยงไดวา  นา�้ ตกไนแอการามเี กาะโกตแบง่ นา�้ ตกออกเปน็ ฮอรส์ ชฟู อลส์ ระดับประมาณ ๕๐ เมตร ท�าให้เกิดน้�าตก
เกย่ี วขอ งกบั ภาพท่ีตนเลอื กอยา งไร

2. ครูอาจแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนา
เชือ่ ถือ ประกอบการศกึ ษาและรวบรวมขอ มูล
เพิม่ เตมิ

(หรอื คะเนเดยี นฟอลส)์ และอเมรกิ นั ฟอลส์ ไนแอการา (Niagara Falls) ท่มี ชี ื่อเสยี ง

๑98

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ

1 อาวเม็กซิโก มีเนื้อที่ประมาณ 1,500,000 ตารางกิโลเมตร ความกวาง ทะเลสาบเกรตเลกสม คี วามสาํ คญั ตอ ทวปี อเมรกิ าเหนอื อยา งไร
จากตะวนั ออกไปตะวนั ตกประมาณ 1,600 กิโลเมตร จากเหนอื ไปใตประมาณ
1,250 กิโลเมตร สวนลกึ ท่สี ดุ อยูทางตอนกลางคอนไปทางตะวันตกเฉยี งใต ลึก (แนวตอบ เปน แหลง นา้ํ จดื ทส่ี าํ คญั ของทวปี ทง้ั ยงั มคี วามสาํ คญั
3,732 เมตร อาวนี้เช่อื มตอ กบั มหาสมุทรแอตแลนติกโดยผา นชอ งแคบฟลอรดิ า ในดานเศรษฐกิจ เนื่องจากเปนเสนทางขนสงสินคาจากเมือง
และเชื่อมตอกับทะเลแครบิ เบยี นโดยผา นชอ งแคบยกู าตาน อตุ สาหกรรมขนาดใหญท ต่ี งั้ อยรู ายรอบทะเลสาบออกสมู หาสมทุ ร
2 ทะเลสาบ พ้ืนนํ้าท่ีลอมรอบดวยพื้นดิน มักเกิดข้ึนในบริเวณแองแผนดิน แอตแลนติก ผานทางแมนํ้าเซนตลอวเรนซ นอกจากนี้ ยังเปน
หรือบริเวณท่ีมีนา้ํ ขัง ไมม ีทางไหลออกโดยตรง มที ้ังทะเลสาบนา้ํ เคม็ และนา้ํ จดื ที่ตั้งของนํ้าตกไนแอการาที่ย่ิงใหญและสวยงาม ซึ่งเปนสถานท่ี
มีขนาดและความลกึ ตางกัน ทองเท่ยี วท่สี ําคัญแหงหนึ่งของทวีป)

T224

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

แผนทแ่ี สดงระบบแมน ้ำของทวปี อเมริกาเหน�อ ขนั้ สอน

N 500 มาต0ราสวน 1 : 50,010,00,00000 1,500 กม. มหาสมุทรอารกติก ขน้ั ที่ 3 การจดั การขอ มูล
ชอ
ท7ว0 ปีNํ เอเชียทะเลชุค 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
ชองแคบเด เนสมนาอารรกกติกเซอ รเ ิคล 70 ํN การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู
อา วอะนาดีร น.แทนะนองนแนค..บยอคเูคบัสา รองิโวนชคอี กนะนว..แโิมคลบนยนสุ.กุกโน.นกนแนคนุก...ลซม.วแน.จวทิลนีดคนอ.นิลซรลวลนห..ินาโาอาม.นรเพลคติีลมทักเีนนีีนอดตัสร.ยตสนคทจ.วิเะนพวนไนเพลน.รล.โ.ลตพโฟ.ีคบิวตสฟยม.อเเรบกนรเ ยีรตต.ตโคซนสนเโนอ...กเนลแลกกน.ลินรอต.รเอาาสซทตรโนา.ะทแดเท.กซนเซยสัรน.สัแสตแล..คแมสแกโตอเลคดอเลทซวติสฟนนระสเั.นันโแแนโชเพตบ.ดนนอนลอส.าต.สแกคนสตรบานะ.คบเก็เ.ตรนันอลพี เซนดยนอบัชอ.นยีเน.นนชลอ.เนแลรเอกิงนสดแดนนัรนั.คช.โบนิลอนแบ.นซเ.ลเู ซทเส.างซมีย.อแจสินนคสานิพส..วอซเิกตอพปุฮออ เีลนัดรรอบยีนสา ร.บานซันชี ะววไิสนนา.ชแนอ.เนโนนบงส.อสชแลีน.ซออคาฟสี.ิรแรงอบ.ี อเูแกตฟพฮอครตัดิรนนบนตสาดแฟนวัทนนนนล.าทซ.อ..นะโเบาเอรซน.ลวรแิดนโน.แนนอนันเคยา.ลคนนตเด..น.ดนโบเชซป.จ.จพเคาโีรอดสัอเมรหาินฟโ รนคลอดทสนชยนาาวสอแนิ.แรลโิแม.รเมคนมลว.ฮ เกหอกรคอนน นรานเรเเสานสนีแนชตมนมเ.อบทเทกทุงซกริคแนรอคตั ปตแบกจแอคออตบอนฟอแสตแล คนนตเซิกอร 60 ํN ระหวา งกัน
โค อาว ชอ งแคบเดวสิ 50 Nํ
60 ํN น 40 Nํ 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถี่ กู ตอ ง
ทะเลเบรงิ 30 ํN นา เชอื่ ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไ่ี มจ าํ เปน
น.เทสลิน บร 20 ํN ออก
อาวบริสตอล น.แมกเคนซี
ขัน้ ที่ 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู
50 Nํ า น.จอรจ น.ฮัดสัน
1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ วเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู
40 ํN เ ทื น. ีพซ น.เ .นเรนเดียร ล รวมกัน จากน้ันครูเตรียมแผนที่โครงรางของ
แบสกา  ทวปี อเมริกาเหนือ หรือถายเอกสารแผนท่ีจาก
ม 1 230 ํN หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 เพ่ือใหแตละ
อาวเจมส กลุมนําเสนอขอมูลทรัพยากรธรรมชาติท่ีกลุม
หาสมทุ รแปซฟิ ก อ า ว เ ม็ ก ซิ โ ก20 ํN อ เวิรน ตนเองรบั ผดิ ชอบประกอบการใชแผนท่ี
ัล เฟรเซอ ร ส.วนิ นเิ พก น.เรนด.เจมส ซนสิ ซ.ดิ ปิมมอสิ ยซรู ี น. ิมสซ บี
ก ซวันน.แอสซินิ เน.เลซ เน ชีตลลยอออา ว วเวเเรนรซนนซนซ ต 2. แตละกลุมนําแผนที่ของตนเองมาจัดแสดงใน
วนั รูปแบบ art gallery ทั่วทั้งหองเรยี น และสงตวั
เ น.อ ฮรู อน แทนหรอื หมุนเวยี นกันเพือ่ นําเสนอขอ มูล

า 3. สมาชิกกลุมอื่นผลัดกันใหขอคิดเห็น หรือขอ
เสนอแนะเพิ่มเติม ตลอดจนอภิปรายความรู
ข แ อ ปรีโพอ รว มกนั

า ร็ น.วอแ ส. ิม ิชแกน อ ก เไฮขโาอ

น.ส

น.ยากี น.กรีน อ

ก น.นน..แแิมอสซละิตซแสทบ ิาซม ูนฮปา.นีช.ไปเวทเ ตนทื

บนีส
บรซสั น.รีโอกรั
น.เพ ค

กนี .รีโอก

อา วแคลิฟอรเนีย

น.ซานมเี กล ท(เมสตน.รช.ซ)าาลนานนปเ.นต.อเายวี.าบโอโกัลตรซยดกันัสี .กรอฮี าลัวบกาัมเนป.นเเ.ชลยซูมู ปชนาอ .ซงแาคนอบาฮยววฮกูสนอนา.นนตกิาคดนาโรูกรสั ากวั

อาวม ะ เ ล แ ค ริ บ เ บี ย น
มาซนิ ต
10 ํN คำอธิบายสัญลกั ษณ า .โ 10 ํN
0ํ รีเอน 0ํ
อาวด า
แหลงนำ้ ทีแ่ มนำ้ ไหลลง ระดบั ความสงู อสกีโต ปคานลอามง า
มหาสมุทรแปซิฟก
มหาสมทุ รแอตแลนติก 231,,,2004000000000000 ปอาานวามา ทวีป
อาวฮัดสนั และทะเลโบฟอรต
อา วเม็กซโิ กและทะเลแครบิ เบียน อเมริกาใต

แหลง นำ้ เสนศนู ยส ตู ร

Projection: Lamb12e0rtํWConformal Conic 110 Wํ 100 ํW 90 Wํ COPYRIGHT © Aksorn C8h0aroํWenTat ACT. Co.,Ltd

แผนทีแ่ สดงระบบแม่นา�้ ของทวีปอเมรกิ าเหนอื ๑99

กิจกรรม ทาทาย นักเรียนควรรู

ครูใหนักเรียนสืบคนขอมูลเก่ียวกับแหลงนํ้าในทวีปอเมริกา 1 น.โคโลราโด แมน้ําในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา อยูทางตอนกลางของรัฐ
เหนือ จากน้ันใหนักเรียนนําขอมูลมาวิเคราะหรวมกันในประเด็น ตนนํ้าอยูในดอวสันเคานตี ไหลไปทางตะวันออกเฉียงใตลงสูอาวแมทากอรดา
ดังนี้ ยาวประมาณ 950 กม. ใชเดินเรอื ไดจนถงึ เมอื งออสตนิ
2 น.อารค นั ซอ แมน า้ํ ในสหรฐั อเมรกิ า ตน นาํ้ อยใู นเลกสเ คานต ที างตอนกลาง
• แหลงนา้ํ สาํ คญั ของรฐั โคโลราโด ไหลไปทางตะวนั ออกผานรัฐแคนซสั โอคลาโฮมา ลงสแู มนํ้า
• การใชป ระโยชนจ ากแหลง น้าํ มิสซิสซิปปในเดเชเคานตีของรัฐอารคันซอ มีแควสําคัญ คือ แมนํ้าคาเนเดียน
• สถานการณห รือปริมาณน้ําในปจ จบุ ัน และแมน ํ้าชิมารร อน
นาํ เสนอประกอบการใชเครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร เชน แผนที่
รปู ถายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม และอภปิ รายสรุปรว มกัน

T225

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๔) ปา่ ไม ้ ทวีปอเมรกิ าเหนือมีป่าไม้ในพนื้ ที่ตา่ ง ๆ ดังน้ี

ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอมูล ๔.๑) ป่าดิบช้ืนหรือป่าฝนเขตร้อน พบบริเวณท่ีมีอากาศแบบร้อนช้ืนแถบศูนย์สูตร
บริเวณภูมิภาคอเมริกากลางและแคริบเบียน ในบริเวณที่มีฝนตกชุกจะมีป่าไม้ข้ึนหนาแน่น เป็น
4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทําใบงานท่ี ปา่ ไมไ้ ม่ผลดั ใบ เขียวชอมุ่ ตลอดป ี
11.3 เรื่อง ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของ
ทวีปอเมริกาเหนือ จากนัน้ เฉลย วิเคราะหแ ละ ๔.๒) ป่าผลัดใบ พบบริเวณภูมิอากาศเขตอบอุ่นและเขตหนาวทางด้านตะวันออก
แปลผลขอ มลู รว มกนั เฉยี งเหนอื ของทวปี บรเิ วณตอนใตข้ องทะเลสาบเกรตเลกส ์ ตน้ ไมผ้ ลดั ใบในฤดใู บไมร้ ว่ งเพอื่ เตรยี ม
รบั ความหนาวเย็นในฤดูหนาว เช่น โอก๊ เอล์ม เมเปิล บีช เชสต์นัต
5. ครูถามคําถามเพื่อใหนักเรียนไดวิเคราะห
ขอมูลเพิ่มเติมเพ่ือตอยอดประเด็นความคิด ๔.๓) ปา่ ผสมไมผ้ ลดั ใบกบั ปา่ สน พบบรเิ วณภมู อิ ากาศเขตหนาวและเขตอบอนุ่ ทางดา้ น
ตลอดจนการนาํ มาประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ ประจาํ วนั ตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา และชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของแคนาดา มีไม้ผลัดใบ
ในประเด็นเชน ขึน้ ปะปนกบั สนขนาดใหญ่
• เพราะเหตุใดทวีปอเมริกาเหนือแตละพื้นที่
จงึ มที รพั ยากรไมเหมอื นกนั ๔.๔) ปา่ เมดเิ ตอรเ์ รเนยี น พบบรเิ วณทมี่ ภี มู อิ ากาศแบบเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น บรเิ วณชายฝง่ั
(แนวตอบ เนอ่ื งจากทวปี อเมรกิ าเหนอื มขี นาด แคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา และทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก เป็นป่าไม้พุ่มเตี้ย
พ้ืนท่ีกวางใหญ มีลักษณะภูมิประเทศและ เปลือกหนา๔ ใ.บ๕เ)ล็กป ่าผสวินม1 สัน่ว นเขใหียวญชอ่ อยุ่มู่บตรลเิ วอณดปภ ีาเคชเ่นห นโออื ๊กข อมงะแกคอนกา ดซาีด ซารึ่ง์มีภูมิอากาศเขตหนาว โดย
ความหลากหลายทางชีวภาพสูง สงผลให พบเปน็ บริเวณกว้างตามชายฝง่ั มหาสมทุ รแปซฟิ ิก และในภาคพืน้ ทวีปจนถงึ อ่าวฮัดสนั พรรณไม้
ทรัพยากรธรรมชาติแตละบริเวณมีความ สว่ นมากเปน็ ไมส้ นหรอื ไม ้ใบแหลมเลก็ ชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ ดกั ลาสเฟอร ์ เรดวดู สนแดง สนขาว สปรซู
แตกตางกนั ออกไปตามลักษณะภูมปิ ระเทศ
และลกั ษณะภูมอิ ากาศ เชน บรเิ วณภเู ขาไฟ ๔.๖) ทุ่งหญ้า มีทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นเป็นบริเวณกว้างทางตอนกลางของทวีป ใน
มีหินและแรจากภูเขาไฟจํานวนมาก เมื่อ สหรฐั อเมรกิ าและแคนาดา เรียกว่า ท่งุ หญ้าแพรร ี มีลกั ษณะเปน็ หญ้าตน้ สูง ปจั จุบันเป็นเขตปลูก
สลายตัวจงึ กลายเปน ดินท่ีอดุ มสมบูรณ) ข้าวสาลีที่ส�าคัญของโลก

6. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ๕) สตั วป์ า่ ทวีปอเมริกาเหนือมีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดกระจายอยู่ท่ัวทั้งทวีปตามพื้นท่ี
ภมู ศิ าสตร ม.3 เรอ่ื ง ลกั ษณะทรพั ยากรธรรมชาติ
ของทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อทบทวนความรู ต่าง ๆ ได้แก่
ความเขา ใจ เปน การบา นสง ครใู นชั่วโมงถดั ไป • ทางตอนเหนือของทวีปซ่ึงมีอากาศหนาวเย็น มีสัตว์ป่าส�าคัญ เช่น หมีขั้วโลก
หมกี ริซลี กวางเรนเดียร์ กวางมสู บีเวอร์ หา่ นหมิ ะ
• เขตเทือกเขาสูงทางด้านตะวนั ตก มสี ัตวป์ า่ ส�าคัญ เชน่ แกะเขาใหญ่ เสอื พมู าหรอื
สิงโตภเู ขา •น กเขอตินททงุ่ รหีหญัวาข้ แาพวรร ี มสี ตั วป์ า่ สา� คญั เชน่ ควายไบซนั หมาปา่ โคโยต ี แพรรดี อ็ ก2 แรก็ คนู
• เขตทะเลทราย มีสตั วป์ ่าส�าคัญ เช่น นกโรดรันเนอร์ งูชนิดต่าง ๆ
• บริเวณทะเลสาบและพื้นทช่ี ่มุ นา้� มีสัตวป์ ่าสา� คญั เช่น จระเข ้ ปลาเทราต์
• บรเิ วณอเมรกิ ากลางและหมูเ่ กาะในทะเลแคริบเบียน มสี ตั วป์ ่าสา� คญั เชน่ โอเซลอต
อารม์ าดลิ โล อีกัวนาสเี ขยี ว และสตั วน์ �า้ ชนิดตา่ ง ๆ

๒00

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด

1 ปา สน ปา ซง่ึ มไี มส ว นมากเปน ไมส นหรอื ไมใ บแหลมเลก็ มกั อยใู นเขตอากาศ เพราะเหตุใดพื้นที่ปาไมในเม็กซิโกและอเมริกากลางจึงลด
หนาวหรือแถบภูเขาสูง บริเวณที่มีปาไมประเภทนี้กวางขวางมาก คือ บริเวณ จํานวนลงอยา งมาก
ภาคเหนอื ของแคนาดา และภาคเหนือของทวปี ยโุ รปและเอเชีย
2 แพรรดี อ็ ก เปน สตั วส งั คม อาศยั อยรู วมกนั เปน ฝงู ขนาดลาํ ตวั ยาวประมาณ 1. การขยายตวั ของเมือง
30 ซม. เปนสตั วต ระกูลเดยี วกับกระรอก มีเสยี งรอ งคลา ยลกู สุนัข จงึ เปน ท่มี า 2. ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ
ของชอื่ แพรรีดอ็ ก พบไดใ นบริเวณทงุ หญา แพรรีในอเมริกาเหนอื และเม็กซิโก 3. การทาํ อตุ สาหกรรมปา ไม
4. การเพาะปลกู พืชไรเ พ่ือการคา

(วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. พนื้ ทปี่ า แถบเทอื กเขาเซยี รร ามาเดร
ทางตอนใตของประเทศเม็กซิโก อเมรกิ ากลาง และแถบหมูเกาะ
เวสตอินดีสลดลงมาก เน่ืองจากการบุกเบิกพื้นที่เพ่ือทําการ
เพาะปลกู แบบไรข นาดใหญเพือ่ การคา)

T226

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

แผนท่ีแสดงอุทยานแหงชาติและสตั วป า ที่สำคญั ของทวีปอเมรกิ าเหนอ� ขนั้ สอน

N 500 มาต0ราสวน 1 : 50,010,00,00000 1,500 กม. มหาสมุทรอารกติก ขัน้ ท่ี 5 การสรุปเพือ่ ตอบคาํ ถาม

โยเซมิตีชีท ะ เ ล โ บ ฟ อ ร ต วอลรสั หมีขัว้ โลก เ สนอา รก ิตกเซอ รเ ิคล 1. นกั เรยี นในชนั้ เรยี นรว มกนั สรปุ เกย่ี วกบั ลกั ษณะ
ทรัพยากรธรรมชาติของทวีปอเมรกิ าเหนอื
60 ํN า หานหมิ ะ นกเหย่ียวไจรฟ ลคอน อ า ว แ บ ฟ ฟ น 60 ํN
ทะเลเบรงิ 50 Nํ 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ
ทะเลชุคหมกี ริซลี กวางแคริบู (เรนเดยี ร) ววั มสั ก สําคัญเพ่ือตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร โดยครู
50 ํN แนะนําเพ่มิ เติม
ทะเลแลบราด อร
3. ครอู าจถามคาํ ถามปลายเปด หรอื ใหน กั เรยี นดู
อา วอะแลสก นาฮานน� แมวนำ้อทา า เวรือฮัดสัน หา นแคนาดา PPT ท่ีแสดงขอมูลเก่ียวกับลักษณะทรัพยากร
บเี วอร วูดบฟั ฟาโล กวางมูส ธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ เพ่ือเปนการ
สรุปความรเู พ่มิ เติม
40 Nํ มหาสมทุ รแปซฟิ ก แพะภูเขา แบมฟ หมาปาสีเทา สนุ ัขจ้งิ จอกแดง วูลฟเวอรีน กรอสมอรน
40 Nํ ขนั้ สรปุ
30 Nํ เกลเชอร
หมดี ำ มหาสมุทรแอตแลนติก 30 Nํ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ
นากทเะรเลดวดู เยลโลวสโตน แร็กคูน ปลาเทราตท ะเลสาบ สกังก ลกั ษณะทรพั ยากรธรรมชาตขิ องทวปี อเมรกิ าเหนอื
แพรรีด็อก ตลอดจนความสําคัญท่ีมีอิทธิพลตอการดําเนิน
ชวี ิตประจําวัน หรือใช PPT สรปุ สาระสําคัญของ
(สเงิสโอืตพภูมเู ขาา) ควายไบซนั หมาปา โคโยตี เวอรจเิ นย� พอสซัม เน้ือหา
แกนรนกอดินแทครนีหยวั อขนาว เเมกราตนสตโเมทกนี
ขนั้ ประเมนิ
20 ํN นกโรดรนั เนอร ไกงวง บอบแคต (จอรัละลเขเิ กต เีนตเอปรด ) เสน ทรอปก ออฟแคนเซอร20 ํN
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
คำอธบิ ายสัญลกั ษณ โอเซลอต อ า ว เ ม็ ก ซิ โ ก การรวมกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน

เขตประเทศ อกิ วั นาสีเขยี ว บี ย น 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร ม.3
ทางน้ำ แกะเขาใหญ ท ะ เ ล แ ค ริ บ เ

10 Nํ แหลง นำ้ อารมาดิลโล ปาเลงเก นกปากชอ นสชี มพู 10 Nํ
อทุ ยานแหงชาติ

ระดบั ความสูง (เมตร)

0 ํ 123,,,0400200000000000 ลงิ กระรอกปากดำ

0ํ

เสนศนู ยส ูตร

Projection: Lamb1e20rt WํConformal Conic 110 Wํ 100 ํW 90 Wํ COPYRIGHT © Aksorn C8h0aroWํ enTat ACT. Co.,Ltd

แผนท่แี สดงอทุ ยานแหง่ ชาตแิ ละสตั ว์ป่าของทวปี อเมริกาเหนอื ๒0๑

กจิ กรรม ทา ทาย แนวทางการวัดและประเมินผล

ใหนักเรียนแบงกลุม จับสลากเลือกสัตวปาท่ีสําคัญของทวีป ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ลักษณะทรัพยากร
อเมริกาเหนือจากแผนที่แสดงอุทยานแหงชาติและสัตวปาใน ธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน
หนงั สือเรียน หนา 201 ศกึ ษาและเชือ่ มโยงความสัมพันธระหวา ง และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผล
ลักษณะภูมิประเทศกับถ่ินที่อยูอาศัยของสัตวปาดังกลาว โดยใช จากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร จากน้ัน สรปุ ความรูพรอมทง้ั นําเสนอ หนว ยท่ี 11 เรอ่ื ง ทวีปอเมรกิ าเหนือ
ในช้นั เรยี น
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน

ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา
2 การลาดับขั้นตอนของเร่ือง
3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม

รวม

ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่

ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

12 - 15 ดี T227

8 - 11 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process) ò. ลักษณะประªากรของทวปี อเมริกาเหนอื
ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ ทวีปอเมริกาเหนอื มีจ�านวนประชากรประมาณ ๕๘๒ ลา้ นคน เม่ือเทยี บกบั
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช เน้ือที่ประมาณ ๒๔.๒ ล้านตารางกิโลเมตร มีความหนาแน่นประชากรเฉล่ีย ๒๔.๒ คนต่อ
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอื่ เรอื่ งทจี่ ะเรยี นรู ตารางกโิ ลเมตร เป็นทวปี ที่ความหนาแน่นของประชากรคอ่ นข้างเบาบาง
จุดประสงคก ารเรียนรู
๒.๑ การตั้งถ่นิ ฐานและการกระจายของประชากร
2. ครแู ละนกั เรียนรวมกันทบทวนความรเู กี่ยวกบั
ลักษณะทางกายภาพของทวีปอเมริกาเหนือ ประชากรในทวปี อเมรกิ าเหนืออาศัยอยูต่ ามภูมิภาคท่แี ตกต่างกัน ดงั น้ี
ซ่งึ ไดแก ทําเลทีต่ ั้ง ขนาด อาณาเขต ลักษณะ
ภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ ๑) ภมู ภิ าคตอนเหนอื ของทวีป มีความหนาแนน่ ประชากรโดยเฉล่ียประมาณ ๑๙ คน
ธรรมชาติ และลกั ษณะทรพั ยากร ทไี่ ดศึกษา
เม่ือชว่ั โมงท่ผี า นมา ตอ่ ตารางกโิ ลเมตร เน่อื งจากมเี นือ้ ท่ขี นาดใหญ ่ บรเิ วณทม่ี ปี ระชากรอาศยั อย่หู นาแนน่ ไดแ้ ก่
พ้นื ท่ชี ายฝั่งดา้ นตะวนั ออกของทวีป เนอ่ื งจากมีลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นท่รี าบ เหมาะ

ในการตั้งถนิ่ ฐาน มแี รท่ ี่สง่ เสริมอุตสาหกรรม และมีระบบการคมนาคมขนสง่ สะดวก เมอื งส�าคญั
เชน่ วอชิงตัน ดี.ซ.ี นวิ ยอร์ก ดทิ รอยต ์ ชิคาโก ฟลิ าเดลเฟยี ของสหรัฐอเมรกิ า มอนทรีออล
โทรอนโต ของแคนาดา

พนื้ ทชี่ ายฝง่ั ตะวนั ตกของทวปี เนอื่ งจากเปน็ เขตเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม การคา้ และ
เมืองทา่ ท่ีส�าคญั เชน่ แซนแฟรนซสิ โก ลอสแอนเจลสิ แซนดีเอโก ของสหรฐั อเมริกา
บริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ได้แก่ บริเวณรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา
ทางเหนอื ของแคนาดา และเกาะกรนี แลนด ์ เนอื่ งจากมอี ากาศหนาวเยน็ แผน่ ดนิ มนี า�้ แขง็ ปกคลมุ
เปน็ เวลาหลายเดอื น เขตเทอื กเขาสงู และทรี่ าบสงู ดา้ นตะวนั ตก เขตทะเลทรายทางตะวนั ตกเฉยี งใต้
ของสหรัฐอเมริกา เนอ่ื งจากมอี ากาศรอ้ นและทุรกันดาร

๒) ภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง ความหนาแน่นประชากรโดยเฉลยี่ ประมาณ ๗๒ คนต่อตาราง

กิโลเมตร ประเทศท่ีมีขนาดใหญ่มีเพียงเม็กซิโก บริเวณท่ีมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ได้แก ่
ตอนกลางของประเทศเม็กซิโก และเมืองส�าคัญในประเทศต่าง ๆ เน่ืองจากเป็นศูนย์กลาง
อตุ สาหกรรม การค้า และการขนสง่ เมอื งสา� คัญ เช่น เม็กซโิ กซิตี ของเมก็ ซโิ ก เตกูซิกัลปา ของ
ฮอนดรู สั
บริเวณทมี่ ีประชากรอาศยั อย่เู บาบาง ไดแ้ ก ่ ตอนบนของเม็กซิโก เนือ่ งจากมลี ักษณะ
ภูมปิ ระเทศเปน็ ท่ีสงู และมีลักษณะภมู อิ ากาศแห้งแล้งกงึ่ ทะเลทราย

๓) กลุ่มประเทศในทะเลแคริบเบียน ความหนาแน่นประชากรโดยเฉล่ียประมาณ

๑๗๑ คนต่อตารางกิโลเมตร เน่ืองจากประเทศส่วนใหญ่เป็นเกาะที่มีเนื้อที่ขนาดเล็ก บริเวณที่มี
ประชากรอาศยั อยหู่ นาแนน่ ไดแ้ ก ่ ในเขตเมอื งหลวงและเมอื งสา� คญั ตา่ งๆ เชน่ ฮาวานาของควิ บา
ซานโตโดมิงโกของสาธารณรัฐโดมินิกัน บริเวณท่ีมีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ได้แก่ เมืองและ
เกาะขนาดเลก็ ต่าง ๆ ที่ทรพั ยากรธรรมชาติไม่อดุ มสมบูรณ์

๒0๒

เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด

ครูแนะนําใหนักเรียนเห็นความสําคัญของการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะ พ้ืนท่ีใดท่ีประชากรในทวีปอเมริกาเหนือต้ังถ่ินฐานอยูเบาบาง
ประชากร สงั คม และวฒั นธรรมของทวปี อเมรกิ าเหนอื เพราะจะชว ยใหน กั เรยี น เพราะเหตใุ ด
มคี วามรแู ละเขา ใจความแตกตา งทางประชากร สงั คม และวฒั นธรรม เพอื่ จะได
นํามาปรับใชหากจะตองติดตอกับผูคนในทวีปดังกลาว หรือเปนพ้ืนฐานในการ (แนวตอบ พ้ืนที่ทางตอนเหนือของทวีป เน่ืองจากมีอากาศ
ประกอบอาชพี ในอนาคต เชน นกั การทูต ผทู ําธรุ กิจเก่ยี วกับการทอ งเที่ยว หนาวเยน็ แผนดินมีนา้ํ แข็งปกคลุมเปนเวลาหลายเดอื น ไมเหมาะ
แกการทําการเกษตรและอยอู าศยั เชน บริเวณรฐั อะแลสกา ทาง
ตอนเหนอื ของแคนาดา และเกาะกรีนแลนด บริเวณเขตเทอื กเขา
สงู และทร่ี าบสงู ทางตะวนั ตก และทะเลทรายทางตะวนั ตกเฉยี งใต
ของสหรัฐอเมรกิ า เนอ่ื งจากมีอากาศรอ นและทุรกนั ดาร)

T228

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

แผนที่แสดงการกระจายของประชากรในทวปี อเมริกาเหน�อ ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process)

N 500 มาต0ราสว น 1 : 50,010,00,00000 1,500 กม. มหาสมุทรอารกติก 3. ครใู หน กั เรยี นดแู ผนทแ่ี สดงความหนาแนน ของ
ประชากรในทวปี อเมรกิ าเหนอื จากหนงั สอื เรยี น
ทะเลชุคชี ท ะ เ ล โ บ ฟ อ ร ต อ า ว แ บ ฟ ฟ นก รี น แ ล น ด เ สนอา รก ิตกเซอ รเ ิคล สังคมศึกษาฯ ม.3 แลวรวมกันอภิปรายโดย
เบอ้ื งตน เกย่ี วกบั การตงั้ ถน่ิ ฐานและการกระจาย
ทวปี เอเชีย อะแลสกา ของประชากรในทวีป เพ่ือกระตนุ ความสนใจ/
กระตนุ ความคิด
60 ํN 60 ํN
ทะเลเบรงิ 4. ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถามเกย่ี วกบั ประชากร สงั คม
และวัฒนธรรมของทวีปอเมริกา เพ่ือทํา
ยคู อน นิวฟนดแ ลทนะดเแลละแแลลบบรราาดอร กิจกรรมวิเคราะหคําถาม “สติมาขาไป” เพ่ือ
นูนาวุต กระตุนความสนใจ/กระตุนความคิดเพิ่มเติม
50 Nํ อา วอะแลสก ควเิ บก เกยี่ วกบั ลกั ษณะประชากร สงั คมและวฒั นธรรม
นอรทเวสตเ ทรรทิ อรสี  ของทวปี อเมรกิ าเหนอื และเพอ่ื เปน การนาํ เขา สู
40 Nํ มหาสมทุ รแปซฟิ ก การเรียน โดยมขี ้ันตอนการจัดกิจกรรม ดงั นี้
า อา วฮัดสัน 50 Nํ • ครูจัดสถานท่ีแบงโซนหองเรียนออกเปน
30 Nํ สองสวน คือสว นหนาและสวนทาย
แ ค น า ด าบริติชโคลัมเบีย แอลเบอรตา ดอร • ครูตั้งคําถามเพ่ือสอบถามความคิดเห็น
ในประเด็น “เห็นดวย” หรือ “ไมเห็นดวย”
ซสั แคตเชวัน แมนโิ ทบา เกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคมและ
วฒั นธรรมของทวปี อเมริกาเหนือ
ออนแทรีโอ นิวบรันสวิก • หากนักเรียนเห็นดวยใหกาวไปขางหนา
1 กาว หากไมเ หน็ ดวยใหถ อยหลัง 1 กา ว
โนวาส. 40 ํN • ครสู รปุ ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรม จากลักษณะ
ส ห ร1ั ฐ อ เ ม ริ ก าออรวิกอเอนชนวิงตาดนั าแไออรดยโิ าซทู โนฮามาหอ นนไแิววทโเโมคนอ็กโามลซิงรโิ ากโเนดซเอานรทแทดบแดโารอคาโสคคโนกคลตซาตามาสั โานิ ฮนไมอิโาซอโมอวาติสวสิราซคาคูรันอี ซนออซลิ ิน.เมทอเชิ นคนิ ิแนเดนกท.สนโักอซกไีจีฮอโรอเเนวจสอยี เ.รนวเเทซพอวิ ยราแนจอทค..ิรโแ กรคไวโล.รนไเลามเแนนดนมวิ ลาเราจมแิ แนคโแอลรมหวอรวิ นดรซแสนดไาียฮซเอนมสาแตชปลมทูเนเซชคิุทดตยีตั  สรร แอตแลนติก 30 ํN ตําแหนงการยืนของนักเรียนท่ีมีความ
2 หลากหลาย โดยเชอื่ มโยงกบั ความหลากหลาย
ทางสังคมและวัฒนธรรมของทวีปอเมริกา
แคลิฟอรเนยี เหนอื จากนนั้ ครสู รปุ ผลกจิ กรรมและเชอ่ื มโยง
เขา สบู ทเรียน
ฟลอริดา
แอละแบมา
มสิ ซิสซิปป
เท็กซัส ลุยเซยี นา บ า ฮ า ม าเสน สทรอปกเปอออฟรแโ คตนรเซิโอกร20 Nํ
20 ํN เ ม็ ก ซิ
มหาสมทุ รแ อ า ว เ ม็ ก ซิ โ ก
คิ ว บ า โดมนิ กิ นั

ปซฟิ ก โ ก เบลซี ท ะ เ จลาเแมกคา เฮติ บี ย น

คำอธิบายสญั ลกั ษณ กวั เตมาลา ฮอนดรู ัส ริ บ เ
เขตประเทศ
10 ํN เอลซัลวาดอร นกิ ารากัว 10 Nํ

เขตรฐั คอสตาริกา ปานามา

แหลงน้ำ

ความหนาแนนของประชากร (คน/ตร.กม.) อลิ . อิลลินอยส ทวีป
อินด. อนิ ดีแอนา อเมริกาใต 0 ํ
เวส. เวสตเ วอรจ ิเนยี
0 ํ 1 25 500 เวอรจ.ิ เวอรจิเนีย
เพน. เพนซิลเวเนยี
5 100 1,000 ว. เวอรมอนต เสน ศูนยสูตร
Projection: Lamb1e20rtWํConformal Conic 110 Wํ โนวาส. โนวาสโกเชีย 100 ํW 90 Wํ COPYRIGHT © Aksorn C8h0aroํWenTat ACT. Co.,Ltd

แผนทแ่ี สดงความหนาแนน่ ของประชากรในทวปี อเมรกิ าเหนอื ๒0๓

กจิ กรรม สรา งเสริม นักเรียนควรรู

ครูใหนักเรียนสืบคนเพ่ิมเติมเก่ียวกับรัฐตางๆ ในทวีป 1 ไวโอมิง เปนรัฐที่มขี นาดใหญเ ปนอันดับ 10 ของสหรัฐอเมรกิ า แตกลับมี
อเมรกิ าเหนอื ทม่ี จี าํ นวนประชากรมากทสี่ ดุ 10 อนั ดบั และนอ ยทสี่ ดุ จาํ นวนประชากรนอยท่สี ดุ ประมาณ 570,000 คน มอี ตั ราการเพม่ิ ของประชากร
10 อนั ดบั ในประเดน็ ตา งๆ เชน ชอ่ื รัฐ จํานวนประชากร แลว รอยละ 1.13 เปนรัฐท่ีมีประชากรเบาบางประมาณ 5.85 คนตอตารางไมล
นาํ เสนอหนาช้ันเรยี น ประชากรสวนใหญข องรัฐจะอาศัยอยตู ามเมืองใหญ
2 แคลิฟอรเนีย เปนรัฐที่มีจํานวนประชากรมากท่ีสุดของสหรัฐอเมริกา
กิจกรรม ทา ทาย ประมาณ 39 ลา นคน คดิ เปน รอ ยละ 12 ของจาํ นวนประชากรทงั้ ประเทศ มอี ตั รา
การเพิ่มของประชากรรอ ยละ 6.5 ความหนาแนน ของประชากรประมาณ 25.5
ครูอาจใหนักเรียนแบงกลุมแลวชวยกันปรับรูปแบบการ คนตอตารางไมล พื้นท่ีของเมืองลอสแอนเจลิสและบริเวณอาวแซนแฟรนซิสโก
นําเสนอรัฐที่มีจาํ นวนประชากรมากท่สี ดุ 10 อนั ดับ และนอยทีส่ ุด เปน เขตเมืองทม่ี ีประชากรมากท่ีสดุ
10 อันดับ เปนรูปแบบตางๆ เชน แผนภูมิวงกลม แผนภูมิแทง
กราฟเสน หรือตารางเพื่อใหสามารถเขาใจจํานวนประชากรไดดี T229
ยิง่ ขึ้น

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๒.๒ การเปล่ยี นแปลงโครงสร้างทางประชากร

ข้ันที่ 1 การตั้งคําถามเชงิ ภูมศิ าสตร การเปล่ียนแปลงประชากร คือ การเปลี่ยนแปลงขนาดหรือจ�านวนและโครงสร้างประชากร
ในพื้นทีใ่ ดพน้ื ที่หน่งึ การเปลยี่ นแปลงดงั กลา่ วมอี งคป์ ระกอบทีส่ �าคญั ไดแ้ ก ่ อตั ราเกิด อัตราตาย
1. ครูกระตุนใหนักเรียนเชื่อมโยงระหวางความ และการยา้ ยถิน่
ห ล า ก ห ล า ย ท า ง ค ว า ม คิ ด ที่ ส ะ ท  อ น ผ  า น
ตาํ แหนง การยนื กบั ความหลากหลายทางสงั คม ๑) อตั ราเกดิ และอตั ราตาย อตั ราเกดิ หมายถงึ จา� นวนการเกดิ มชี พี ตอ่ ประชากร ๑,๐๐๐
และวัฒนธรรมของทวีปอเมริกาเหนือจาก
กจิ กรรม “สตมิ าขาไป” จากขน้ั นาํ ทผี่ า นมาแลว คน ในปใี ดปหี นง่ึ สว่ นอตั ราตาย หมายถงึ จา� นวนผเู้ สยี ชวี ติ ตอ่ ประชากร ๑,๐๐๐ คน ในปใี ดปหี นง่ึ
ตั้งประเด็นคําถามตอยอดเพิ่มเติมเพ่ือกระตุน
และเชอ่ื มโยงใหน กั เรยี นตง้ั ประเดน็ คาํ ถามทาง ตารางจา� นวนประชากร อัตราเกดิ และอตั ราตายของประชากรในทวีปอเมรกิ าเหนอื พ.ศ. ๒๕๖๑
ภูมิศาสตรเกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคม
และวฒั นธรรมของทวปี อเมรกิ าเหนอื เชน ภูมภิ าค จ�านวนประชากร อตั ราเกดิ อตั ราตาย
• เพราะเหตุใดทางตอนเหนือของทวีปจึงเปน (ล้านคน) (ต่อ ๑,๐๐๐ คน) (ตอ่ ๑,๐๐๐ คน)
ภูมภิ าคทีม่ ปี ระชากรมากทสี่ ุด
• ภูมิภาคใดของทวีปอเมริกาเหนือมีจํานวน ตอนเหนอื ของทวีป ๓๖๕.๒ ๑๒ ๙
ประชากรนอ ยท่สี ดุ เพราะเหตุใด ๑๙ ๕
• อตั ราเกดิ อตั ราตาย สง ผลตอ การเปลย่ี นแปลง อเมรกิ ากลาง ๑๗๙.๔ ๑๗ ๘
โครงสรางประชากรของทวีปอเมริกาเหนือ
อยา งไร กล่มุ ประเทศในทะเลแคริบเบียน ๓๖.๙

ที่มา : www.prb.org (2018 World Population Data Sheet)

จากตาราง พบวา่ ภูมภิ าคท่ีมีประชากรมากท่ีสุด คือ ตอนเหนอื ของทวีป เนือ่ งจากมีเน้ือท่ี
ขนาดใหญ่ และเปน็ ท่ีตงั้ ของสองประเทศใหญ่ คือ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา บรเิ วณชายฝั่งด้าน
ตะวนั ออกของภมู ภิ าคมลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเปน็ ทรี่ าบ มดี นิ และนา�้ อดุ มสมบรู ณ ์ มภี มู อิ ากาศอบอนุ่
สบาย จึงเหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน การท�าเกษตรกรรม นอกจากน้ี ยังมีทรัพยากรแร่ที่ส่งเสริม
อตุ สาหกรรม เชน่ เหลก็ นา้� มนั ดบิ และมรี ะบบการคมนาคมขนสง่ สะดวก จงึ เปน็ แหลง่ อตุ สาหกรรม
ท่ีส�าคัญ ส่งผลให้มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจ�านวนมาก ส่วนภูมิภาคที่มีประชากรน้อยที่สุด คือ
กลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี น เนอ่ื งจากมลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเปน็ หมเู่ กาะ และสว่ นใหญเ่ ปน็ เกาะ
ขนาดเลก็ มที ่รี าบนอ้ ย ประเทศส่วนใหญ่จึงมีจา� นวนประชากรนอ้ ย
ภมู ภิ าคตอนเหนอื ของทวปี มอี ตั ราเกดิ ตา่� กวา่ ภมู ภิ าคอเมรกิ ากลางและกลมุ่ ประเทศในทะเล
แครบิ เบยี น เนอ่ื งจากนโยบายการวางแผนครอบครวั ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั ทศั นคตขิ องประชากร
ที่ไม่นยิ มมบี ตุ รมาก ส่งผลให้อตั ราเกิดลดลง นอกจากน ้ี ทุกภูมิภาคยังมีอตั ราตายตา่� เนอื่ งจาก
การแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ทเ่ี จรญิ กา้ วหนา้ สง่ ผลใหก้ ารเสยี ชวี ติ ของประชากรจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ มนี อ้ ย

๒04

เกร็ดแนะครู กิจกรรม ทา ทาย

ครูอาจใหนักเรียนแบงกลุมแลวชวยกันปรับการนําเสนอขอมูลจํานวน นักเรียนรวมกันวิเคราะหตารางจํานวนประชากร อัตราเกิด
ประชากร อตั ราเกดิ อตั ราตาย เปน รปู แบบตา งๆ เชน กราฟ แผนภมู แิ ทง เพอื่ และอัตราตายของประชากรในทวีปอเมรกิ าเหนือ พ.ศ. 2561 ใน
ใหเกิดความรูความเขาใจเก่ียวกับการนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตรในรูปแบบ หนังสือเรียน จากนั้นเปรียบเทียบจํานวนประชากร อัตราเกิด
ตา งๆ ไดอ ยา งเหมาะสม อัตราตายของแตล ะภมู ภิ าค สรปุ ขอ มูลบันทกึ ลงสมุดสงครผู สู อน

T230

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒) การยา้ ยถนิ่ 1หมายถงึ การเคลอื่ นยา้ ยของบคุ คลหรอื กลมุ่ บคุ คลจากสถานทที่ อ่ี าศยั อยู่ ขนั้ สอน

เดิมไปยังสถานท่ีใหม่ท้ังแบบถาวรและกึ่งถาวร ซ่ึงการย้ายถิ่นเป็นสาเหตุให้เกิดการเปล่ียนแปลง ขน้ั ที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมศิ าสตร
ประชากรเชน่ เดยี วกบั อตั ราเกดิ และอตั ราตาย
แผกนาทรี่กยา้ รยยถานิ่ ยรถะนิ�หรวะา่ หงทวาวงปี ทขวอีปงขปอรงะปชราะกชราโลกกรโลพก.ศพ. ๒.ศ๕.๖๒๐๕๖๐ 2. ใหนักเรียนรวมกันต้ังประเด็นคําถามทาง
ภูมิศาสตรเกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคม
17.2 หนว ย : ลานคน และวัฒนธรรมของทวีปอเมริกาเหนือ เพ่ือ
คนหาคาํ ตอบ หรอื ใหน กั เรยี นดู PPT ประกอบ
20.5 การต้ังคาํ ถาม โดยครแู นะนําเพม่ิ เตมิ เชน
• ทาํ ไมทวปี อเมรกิ าเหนอื แตล ะพนื้ ทจ่ี งึ มคี วาม
อเมร1ิก.า2เหน�อ 71.6 ย4โุ ร1ป 7.1 เ6อ3เช.3ีย หนาแนนของประชากรทแี่ ตกตางกนั
2.6 4.61.3 1 9.3 • การยา ยถน่ิ สง ผลตอ การเปลยี่ นแปลงจาํ นวน
ประชากรของทวีปอเมรกิ าเหนอื อยา งไร
แอฟริกา 4.4 3.2 • ปจจัยทางกายภาพมีผลตอสังคมของทวีป
19.4 อเมรกิ าเหนืออยา งไร
26.4 แลลาะตแนิ ค6อร.1เิบมเรบิกยี าน
1.4 3.1 ออสเตรเลีย
และโอเชยี เนย�
เสน ทางการยา ยถ�นิ 1.1
เอเชยี
ยุโรป
แอฟรกิ า
อเมรกิ าเหน�อ
ลาตินอเมรกิ าและแคริบเบียน
ออสเตรเลยี และโอเชียเน�ย

ทม่ี า : United Nations Department of Economic and Social Affairs

จากภาพ พบว่า พ.ศ. ๒๕๖๐ ทวีปอเมริกาเหนอื (สหรัฐอเมรกิ าและแคนาดา) เปน็ ทวีป
ปลายทางทมี่ ีการรบั ผอู้ พยพเขา้ ไปมากท่สี ุด และมีผู้ย้ายถน่ิ ไปทวีปอ่นื ไมม่ าก ผยู้ ้ายถนิ่ ท่ีมาจาก
ถนิ่ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก ่ จากลาตนิ อเมรกิ าและแครบิ เบยี นประมาณ ๒๖.๔ ลา้ นคน จากทวปี เอเชยี ประมาณ
๑๗.๒ ลา้ นคน จากทวปี ยโุ รปประมาณ ๗.๖ ลา้ นคน และจากทวปี แอฟรกิ าประมาณ ๒.๖ ลา้ นคน
นอกจากน ้ี ทวปี อเมริกาเหนอื (สหรัฐอเมรกิ าและแคนาดา) ยังมีการย้ายถิ่นภายในทวปี ประมาณ
๑.๒ ล้านคน ยา้ ยถิน่ ไปยงั ลาตนิ อเมรกิ าและแคริบเบยี นประมาณ ๑.๔ ล้านคน และยา้ ยถน่ิ ไปยงั
ทวีปยุโรปประมาณ ๑ ล้านคน
ปัจจัยส�าคัญท่ีท�าให้มีการย้ายถ่ินมายังทวีปอเมริกาเหนือ (สหรัฐอเมริกาและแคนาดา)
จ�านวนมาก เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจเป็นส�าคัญ ส่งผลให้ประชากรจาก
ภมู ภิ าคตา่ ง ๆ โดยเฉพาะจากภมู ภิ าคอเมรกิ ากลางและกลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี น ซงึ่ มปี ญั หา
ดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คมอพยพเขา้ ไปตง้ั ถนิ่ ฐานและหางานทา� เพอื่ แสวงหารายได ้ในทใ่ี หมท่ ค่ี ดิ วา่
จะทา� ใหช้ วี ติ ดขี นึ้ เชน่ การเคลอื่ นยา้ ยแรงงานจา� นวนมากจากประเทศเมก็ ซโิ ก และการอพยพของ
ประชากรจากกัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์ ไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อลี้ภัยจากปัญหา
ความยากจน ปัญหาการค้าส่ิงเสพตดิ และปญั หาอาชญากรรม
๒0๕

ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

การยา ยถิ่นสง ผลตอ การเปล่ยี นแปลงประชากรอยา งไร 1 การยายถิ่น การยายถ่ินของประชากรมีผลตอการกระจายของประชากร
(แนวตอบ ทําใหม กี ารเปลย่ี นแปลงขนาด การกระจายตัว และ สาเหตุของการโยกยายสวนใหญมาจากปจจัยผลักดัน คือ ปจจัยตางๆ ท่ี
ทําใหเ กดิ การยายออก เชน คาแรงต่ํา การวา งงาน ความยากจน ทุพภิกขภยั
ความหนาแนน ของประชากร กลา วคอื ชมุ ชนหรอื ประเทศทย่ี า ยถน่ิ ภัยธรรมชาติ ภัยสงคราม และปจจัยดึงดูด คือ ส่ิงท่ีดึงดูดใหคนเขาไปอยูใน
ออกจะมีขนาดหรือจํานวนประชากรลดลง องคป ระกอบดา นเพศ เขตหนง่ึ เชน ทดี่ นิ ราคาถกู คา แรงสงู และโอกาสทดี่ กี วา ทางสงั คมและเศรษฐกจิ
อายุ รวมถงึ การกระจายตวั หรอื ความหนาแนน เกดิ การเปลยี่ นแปลง
ไปในทางลดลง ขณะทชี่ มุ ชนหรอื ประเทศทมี่ กี ารยา ยถน่ิ เขา ขนาด
หรือจํานวนประชากรจะเพ่ิมข้ึน ภาวะประชากรในดานอื่นๆ จะ
เปลีย่ นแปลงไปในทางเพม่ิ ขึน้ )

T231

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๓) พีระมิดประชากร1 เปน็ การจ�าแนกสัดสว่ นประชากรตามอายุและเพศ ซึ่งชว่ ยให้เหน็
สดั สว่ นประชากรในวยั พงึ่ พงิ คอื แรกเกดิ ถงึ ๑๔ ป ี และอาย ุ ๖๕ ปขี นึ้ ไป กบั วยั ทา� งาน คอื อายุ
ข้นั ที่ 1 การต้ังคาํ ถามเชงิ ภูมศิ าสตร ๑๕-๖๔ ปี
อายุ พรี ะมดิ ประชากรทวีปอเมริกาเหนอื พ.ศ. ๒๕๑๑ พรี ะมิดประชากรทวปี อเมรกิ าเหนอื พ.ศ. ๒๕๖๑
3. ครูใหนักเรียนศึกษาพีระมิดประชากรของ อายุ
ทวีปอเมริกาเหนือแลวรวมกันวิเคราะหความ 80+ 0.7% 1.1% 0.0% 0.0%
เปลย่ี นแปลงประชากรจากอดตี ถงึ ปจ จบุ นั และ 100+ 0.0% 0.1%
คาดการณการเปลี่ยนแปลงในอนาคตวาเปน 75-79 0.8% 1.1% 95-99 0.2% 0.4%
อยางไร 70-74 1.1% 1.5% 90-94 0.5% 0.8.%
65-69 1.5% 1.8% 85-89 0.8% 1.1%
4. ครูต้งั คําถามใหนกั เรยี นรว มกนั วิเคราะห เชน 60-64 1.9% 2.1% 80-84 1.2% 1.5%
• หากมปี ระชากรวยั เดก็ และวยั สงู อายมุ ากขน้ึ 55-59 2.4% 2.6% 75-79 1.8% 2.1%
จะสงผลตอสังคมของทวีปอเมริกาเหนือ 50-54 2.6% 2.7% 70-74 2.5% 2.7%
อยางไร 45-49 2.9% 3.0% 65-69 3.0% 3.2%
60-64 3.4% 3.5%
40-44 3.1% 3.1% 55-59 3.4% 3.4%
50-54 3.2% 3.1%
35-39 3.0% 3.0% 45-49 3.1% 3.1%
40-44 3.2% 3.2%
30-34 2.9% 2.8% 35-39 3.5% 3.4%
25-29 3.1% 3.1% 30-34 3.6% 3.4%
20-24 3.8% 3.8% 25-29 3.6% 3.4%
20-24 3.2% 3.1%
15-19 4.5% 4.5% 15-19 3.2% 3.1%
10-14 3.2% 3.0%
10-14 5.1% 4.9% 3.1% 2.9%
5-9 8% 6% 4% 2% 0% 2% 4% 6% 8% 10%
5-9 5.3% 5.1% 0-4
0-4 4.7% 4.6% 10% สัดสว่ นประชากร (รอ้ ยละ)

10% 8% 6% 4% 2% 0% 2% 4% 6% 8% 10%

สัดสว่ นประชากร (รอ้ ยละ)

อายุ พีระมิดประชากรทวปี อเมริกาเหนอื พ.ศ. ๒๖๑๑ พรี ะมดิ ประชากรทวปี อเมรกิ าเหนอื พ.ศ.
100+ 0.1% 0.1% ๒๕๑๑ มีลักษณะเป็นพีระมิดแบบฐานแคบ
95-99 0.3% 0.4% บ่งบอกว่า มีประชากรช่วงอายุ ๐-๔ ปี ต่�า
90-94 0.7% 0.9% เนอื่ งจากอตั ราเกดิ ตา่� กลมุ่ ประชากรทมี่ จี า� นวน
85-89 1.3% 1.5%
80-84 1.9% 2.0%
75-79 2.3% 2.4%
70-74 2.6% 2.6%
65-69 2.6% 2.6%
60-64 2.8% 2.8% มากที่สุด คือ ชว่ งอาย ุ ๕-๙ ปี ซึ่งใกลเ้ คยี งกับ
55-59 2.9% 2.8%
50-54 2.9% 2.9% ชว่ งอาย ุ ๑๐-๑๔ ป ี แสดงใหเ้ หน็ วา่ มปี ระชากร
45-49 3.0% 3.0% วยั เด็กจ�านวนมาก

40-44 3.1% 3.0%

35-39 3.0% 3.0% พรี ะมดิ ประชากรทวปี อเมรกิ าเหนอื พ.ศ.

30-34 3.0% 2.9%
25-29 3.0% 2.9%
20-24 3.0% 2.9%
๒๕๖๑ มีลักษณะเป็นพีระมิดแบบฐานแคบลง
15-19 3.0% 2.8%
10-14 2.9% 2.8%
5-9 2.9% 2.8% บง่ บอกวา่ อตั ราเกดิ ลดต�่าลง ประชากรเพม่ิ ชา้ ลง
0-4 2.9% 2.7% 10% กลุ่มประชากรท่ีมีจ�านวนมาก คือ ช่วงอาย ุ
๒๐-๒๙ ปี และชว่ งอายุ ๕๐-๕๙ ปี และสดั สว่ น
10% 8% 6% 4% 2% 0% 2% 4% 6% 8%

สัดส่วนประชากร (รอ้ ยละ)
ท่ีมา : www.populationpyramid.net

ประชากรทมี่ อี ายุ ๖๕ ปขี น้ึ ไปซงึ่ เปน็ ผสู้ งู อายแุ ละเปน็ วยั พงึ่ พงิ มแี นวโนม้ เพมิ่ มากขน้ึ แสดงใหเ้ หน็
ว่าโครงสร้างของประชากรมแี นวโน้มเปลีย่ นแปลงเข้าสู่สังคมผู้สงู อายุ
การคาดการณพ์ รี ะมดิ ประชากรทวปี อเมรกิ าเหนอื พ.ศ. ๒๖๑๑ จะมลี กั ษณะเปน็ พรี ะมดิ แบบ
ฐานแคบ แสดงใหเ้ หน็ วา่ มอี ตั ราเกดิ ประชากรตา่� ประชากรเพมิ่ ชา้ กลมุ่ ประชากรชว่ งอาย ุ ๐-๖๔ ปี
มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน และกล่มุ ประชากรอาย ุ ๖๕ ปขี ึ้นไปมีจ�านวนเพ่มิ ขึน้ อยา่ งชดั เจน แสดงให้
๒06เห็นว่าโครงสรา้ งของประชากรเป็นสงั คมผู้สงู อายุ

นักเรียนควรรู กิจกรรม สรา งเสรมิ

1 พีระมิดประชากร ลักษณะพีระมิดประชากรของประเทศหรือภูมิภาค ครูใหนักเรียนดูพีระมิดประชากรจากหนังสือเรียนหนา 206
หน่ึงๆ จะสะทอนการเปลี่ยนแปลงประชากรของประเทศหรือภูมิภาคน้ันๆ จากนั้นใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหถึงแนวโนมประชากรของทวีป
พรี ะมดิ แบง ออกตามลักษณะเปน 3 แบบ คือ พีระมิดประชากรแบบฐานกวา ง อเมริกาเหนือในอีก 100 ปขางหนา แลวนํามาอภิปรายรวมกัน
แสดงโครงสรางอายุที่มีอัตราเกิดและอัตราตายสูง พีระมิดประชากรแบบคงท่ี ในชน้ั เรยี น
แสดงโครงสรางอายุท่ีประชากรแตละอายุมีสัดสวนใกลเคียงกัน และพีระมิด
ประชากรแบบฐานแคบ แสดงโครงสรา งอายทุ ม่ี อี ตั ราเกดิ และอตั ราตายลดตาํ่ ลง กจิ กรรม ทาทาย

T232 นักเรียนรวมกลุมกันศึกษาคนควาพีระมิดประชากรของ
ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือท่ีนักเรียนสนใจ 5 ประเทศ โดย
เปรียบเทียบลักษณะของพีระมิดของทั้ง 5 ประเทศในปปจจุบัน
และคาดการณแนวโนมประชากรในอกี 50 ป แลวนาํ เสนอขอ มลู
หนา ช้นั เรยี น

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๔) ประชากรในเมอื งและชนบท เมอื งเปน็ บรเิ วณทม่ี ปี ระชากรอาศยั อยหู่ นาแนน่ เปน็ ขน้ั สอน

ศนู ยก์ ลางทางดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คม สว่ นชนบทมคี วามหนาแนน่ ของประชากรนอ้ ยกวา่ คนชนบท ข้นั ที่ 1 การต้ังคําถามเชงิ ภูมศิ าสตร
สว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม และสภาพแวดลอ้ มมคี วามเปน็ ธรรมชาตกิ วา่ ในเมอื ง
5. ครูใหนักเรียนศึกษาตารางประชากรในเมือง
ตารางประชากรในเมืองและชนบทของทวีปอเมรกิ าเหนอื พ.ศ. ๒๕๕๑ และ พ.ศ. ๒๕๖๑ และชนบทของทวีปอเมรกิ าเหนือ จากหนงั สอื
เรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 จากนั้นใหนักเรียน
พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมตั้งประเด็นคําถามทางภูมิศาสตรโดยครู
แนะนาํ เพิม่ เติม เชน
ภูมิภาค เมือง (%) ชนบท (%) เมือง (%) ชนบท (%) • เพราะเหตุใดทุกภูมิภาคในทวีปอเมริกา
เหนอื จงึ มสี ดั สว นประชากรในเมอื งมากกวา
ตอนเหนอื ของทวปี ๗๙ ๒๑ ๘๒ ๑๘ ชนบท
• การขยายตัวของเมืองสงผลตอการ
อเมรกิ ากลาง ๗๐ ๓๐ ๗๕ ๒๕ เปล่ียนแปลงทางสังคมของทวีปอเมริกา
เหนอื อยา งไร
กลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี น ๖๔ ๓๖ ๗๑ ๒๙

ทีม่ า : www.un.org (2008, 2018)

จากตาราง พบว่า พ.ศ. ๒๕๕๑ ทุกภูมิภาคมสี ดั สว่ นประชากรในเมอื งมากกวา่ ชนบท โดย
เมฉีสพัดาสะ่วภนมู ขภิ อางคเมตอือนงเเพห่ิมนอขื ขึ้นองกทาวรปีขทยาม่ี ยสี ตดั ัวสขว่ อนงปเรมะือชง1าสก่งรผในลใเมหอื้คงวมามากเจทรสี่ ิญดุ ขใยนาพยอ.ศอ.ก๒ไ๕ป๖ช๑านทเกุมภือมูงมภิ าากค
ข้นึ และสง่ ผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาการจราจรติดขดั ปญั หาอาชญากรรม ความยากจน
ปัญหาชมุ ชนแออดั ปญั หาสภาพภมู ิอากาศและมลพิษตา่ งๆ นอกจากนี้ สงั คมเมืองยังท�าใหค้ นใน
เมืองมีแนวโนม้ เปน็ โสดมากขน้ึ แตง่ งานและมลี กู ช้าลง ท�าใหป้ ระชากรวยั ท�างานมนี ้อยลงเรอ่ื ย ๆ
แตลาระาปงรปะรชะาชการกวรยั วสยั ูงเอดาก็ 2ยแมุ ลีมะวาัยกสขงู้นึ อายุในทวปี อเมริกาเหนอื พ.ศ. ๒๕๕๑ และ พ.ศ. ๒๕๖๑

พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๖๑

ภูมิภาค วัยเด็ก (%) วยั สูงอาย ุ (%) วยั เดก็  (%) วยั สงู อาย ุ (%)

ตอนเหนือของทวปี ๒๐ ๑๓ ๑๙ ๑๕

อเมริกากลาง ๓๓ ๕ ๒๙ ๖

กลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี น ๒๘ ๘ ๒๕ ๑๐

ทมี่ า : www.un.org (2008, 2018)

จากตาราง พบว่า พ.ศ. ๒๕๕๑ ทวีปอเมริกาเหนือมีประชากรวัยเด็กสูงกว่าวัยผู้สูงอายุ
ทุกภูมิภาค ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ วัยเด็กมีสัดส่วนลดลงทุกภูมิภาคและวัยสูงอายุมีสัดส่วนเพิ่มข้ึน
ทุกภูมิภาค เน่ืองจากความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข ท�าให้ประชากรมีอายุ
ยืนยาวขึ้น และจะนา� ไปส่สู ังคมผสู้ งู อายุ สง่ ผลใหค้ า่ ใชจ้ า่ ยในการดูแลผูส้ ูงอายุเพม่ิ สูงข้ึน

207

ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

ขอใดเปนสาเหตุหลักที่ทําใหสหรัฐอเมริกามีจํานวนประชากร 1 การขยายตัวของเมือง การที่สัดสวนของประชากรที่อาศัยอยูในเขตเมือง
เพิม่ สูงขึ้นทกุ ป เพ่มิ สูงข้นึ ซ่งึ อาจเนอ่ื งมาจากสาเหตุสาํ คญั คอื 1. ผูคนยายถน่ิ จากชนบทเขา
มาอยูอาศัยในขตเมืองมากขึ้น 2. มีการขยายเขตพ้ืนท่ีท่ีเรียกวาเปนเขตเมือง
1. การอพยพไปทาํ งานและอยอู าศัยจากผูคนทวั่ โลก ออกไป และ 3. นยิ ามของคาํ วา เมืองเปลย่ี นไปจนครอบคลมุ พื้นทีแ่ ละประชากร
2. สภาพภูมิอากาศเอ้ืออํานวยตอการเพ่ิมข้ึนของจํานวน เพมิ่ มากขน้ึ
2 วัยเด็ก ชวงตนของชีวิตซึ่งอยูในภาวะตองพึ่งพิงผูอ่ืน ยังไมมีสถานภาพ
ประชากร ทางสงั คม เศรษฐกิจและทางกฎหมายเทยี บเทาผูใหญ
3. สภาพภมู ปิ ระเทศกวา งขวางเพยี งพอตอ การรองรบั ประชากร
T233
จํานวนมาก
4. มกี ารพฒั นาดา นวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยที ช่ี ว ยเพม่ิ อตั รา

เกดิ ของประชากร

(วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. สหรัฐอเมริกาเปนประเทศเสรี
ประชาธิปไตยที่เคารพในความแตกตางหลากหลายของผูคน มี
ความเจริญกาวหนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี จึงทําใหมีผูคน
จากทั่วโลกอพยพเขา ไปทํางานและเขาไปอยอู าศยั จาํ นวนมาก)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ó. Åักɳะสงั คมáÅะวฒั น¸รรม¢Íง·วปี ÍเมริกาเหนÍ×
ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะสังคมและวัฒนธรรมท่ีหลากหลาย เนื่องจากเป็นทวีปใหม่ท่ีมี
ข้นั ที่ 2 การรวบรวมขอ มูล ผู้คนจากหลายประเทศเข้าไปตัง้ ถิน่ ฐานในพื้นท่ี
ตา่ ง ๆ แบง่ เขตวฒั นธรรมไดเ้ ปน็ ๒ เขตใหญ ่ ดงั น้ี
1. ครจู ดั กลมุ นกั เรยี นจาํ นวน 5 กลมุ จากประเดน็ เขตวฒั นธรรมแองโกลอเมริกา เป็นเขต
คําถามทางภูมิศาสตรท่ีนักเรียนสนใจกลุมละ ทไ่ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลจากองั กฤษ ไดแ้ ก ่ สหรฐั อเมรกิ า
1 ประเดน็ และแคนาดา
เขตวัฒนธรรมลาตินอเมริกา เป็นเขต
2. ครนู าํ ภาพยนตรเ รอื่ ง “The Lone Ranger” ซง่ึ ทไี่ ดร้ บั วฒั นธรรมจากสเปนและโปรตเุ กส ไดแ้ ก่
มีเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของหนุมนักรบ 1 ประเทศเมก็ ซโิ ก ประเทศในภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง
ทฟ่ี น คนื ชพี ชาวอนิ เดยี นพน้ื เมอื งกบั ชายผผู ดงุ
กฎหมาย ในการตอสูกับชนผิวขาวท่ีเขามาสู เช่น กัวเตมาลา ฮอนดรู สั นิการากวั ปานามา
ทวีปอเมรกิ าเหนือ มาใหนกั เรยี นดผู านการทํา และกลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี น เชน่ ควิ บา
กจิ กรรม “เรยี นรจู ากแผน ฟล ม ” โดยใหน กั เรยี น  ชาวอินเดียนพื้นเมืองส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เฮต ิ สาธารณรฐั โดมนิ ิกัน
แตละกลุมรวมกันสืบคนและรวบรวมขอมูล เมก็ ซโิ ก และประเทศอื่น ๆ ในภมู ิภาคอเมริกากลาง
จากการดูภาพยนตร ประกอบการใชหนังสือ
เรยี นสงั คมศกึ ษาฯ ม.3 หรอื รวบรวมขอ มลู จาก ๓.๑ ลกั ษณะท่ัวไปทางสงั คมและวฒั นธรรม
แหลง เรียนรอู ่ืนๆ ตามประเด็นการศกึ ษาดังน้ี ทวีปอเมริกาเหนือมีความแตกตา่ งทางด้านเชอ้ื ชาต ิ ภาษา และศาสนา ดังน้ี
• ลักษณะและบริเวณการต้ังถิ่นฐานและ ๑) เชอื้ ชาต ิ ประชากรในทวปี อเมริกาเหนอื อาจแบ่งออกเปน็ ๕ กลมุ่ ดงั นี้
การกระจายของประชากร อะแลสกาเป๑น็ .ด๑นิ)แดกนลเุ่มดคยี วนกพบั ้ืนทเวมปี ือเองเ ชสยี ัน มน ีิษ๒ฐ กานลมุ่วย่าอ่อยพ ไยดพแ้ มก ่าชจาาวกเอทสวกีปโิ มเอ1 เแชลียะชในาวสอมนิ ัยเดทยี่ีคนาพบน้ืสเมมุทอื งร2
• การเปล่ยี นแปลงโครงสรา งประชากร
• ลักษณะสังคมและวัฒนธรรม (เช้ือชาติ ๑.๒) กลมุ่ เช้ือสายชาวยโุ รป เป็นประชากรท่ีอพยพมาจากทวปี ยโุ รป เช่น ชาวอังกฤษ
ภาษา ศาสนา) ฝรงั่ เศส เยอรมนั สว่ นใหญอ่ าศยั อยใู่ นสหรฐั อเมรกิ าและแคนาดา สว่ นชาวสเปนอาศยั อยใู่ นภมู ภิ าค
• ปจจัยทางกายภาพและปจจัยทางสังคม อเมริกากลาง
ท่ีสงผลตอลักษณะประชากร สังคมและ
วัฒนธรรม ๑.๓) กลุ่มเชอ้ื สายชาวแอฟรกิ า เป็นประชากรดั้งเดมิ ของทวปี แอฟรกิ าทช่ี าวยุโรปนา�
มาขายเปน็ ทาสในยคุ ลา่ อาณานคิ ม ปจั จบุ นั กระจายอยทู่ วั่ ไปในสหรฐั อเมรกิ า ภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง
3. ครูอาจแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นา และเปน็ ประชากรสว่ นใหญ่ของกลมุ่ ประเทศในทะเลแคริบเบียน
เชอื่ ถือ ประกอบการศกึ ษาและรวบรวมขอ มลู
เพ่ิมเตมิ ๑.๔) กลุ่มเชื้อสายชาวเอเชีย เป็นกลุ่มคนที่อพยพไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกาและ
แคนาดาต้ังแต่ยุคตื่นทองในคริสต์ศตวรรษท่ี ๑๙ และมีจ�านวนมากขึ้นหลังสงครามโลกคร้ังที่ ๒
เช่น ชาวจีน ญ่ีปุ่น เกาหลี

๑.๕) กลมุ่ คนเลือดผสม เชน่ พวกเมสตโิ ซ เปน็ การผสมผสานทางชาติพนั ธรุ์ ะหว่าง
ชาวยโุ รปกบั ชาวอนิ เดยี นพนื้ เมอื ง พวกมแู ลตโต เปน็ การผสมผสานทางชาตพิ นั ธร์ุ ะหวา่ งชาวยโุ รป
กับชาวแอฟริกา พวกซัมโบ เป็นการผสมผสานทางชาตพิ นั ธร์ุ ะหว่างชาวแอฟรกิ ากบั ชาวอนิ เดยี น
พ้ืนเมอื ง

๒08

นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสรมิ

1 ชาวเอสกโิ ม เปน ประชากรพน้ื เมอื งในเขตอารก ตกิ พบไดใ นเกาะกรนี แลนด นักเรียนแบงกลุมศึกษาคนควาเก่ียวกับลักษณะสังคมและ
แคนาดา สหรฐั อเมรกิ า และไซบเี รยี ในชว งตน ครสิ ตศ ตวรรษที่ 21 มกี ารประมาณ วัฒนธรรมของทวีปอเมริกาเหนือ ซงึ่ มอี ยู 2 กลมุ วัฒนธรรม คอื
จาํ นวนประชากรเชอ้ื สายเอสกโิ มวา มมี ากกวา 135,000 คน โดยประมาณ 85,000
คนอาศยั อยใู นอเมริกาเหนือ 50,000 คนในกรนี แลนด และทเี่ หลอื อยูในไซบเี รีย 1. กลมุ แองโกลอเมรกิ า
2 ชาวอนิ เดยี นพนื้ เมอื ง ชนเผา ชาวอนิ เดยี นในสหรฐั อเมรกิ า เชน เผา นาวาโย 2. กลมุ ลาตินอเมริกา
เผา โฮป เคยอาศยั อยตู ลอดแนวเขตทางตะวนั ตกเฉยี งใตข องประเทศ แตป จ จบุ นั แลวนําเสนอขอมูลหนาช้ันเรียนและจัดทําเปนรายงานกลุม
ถูกจํากัดใหอยูในเขตท่ีรัฐบาลกําหนด เขตท่ีใหญที่สุดอยูในรัฐแอริโซนาและ สง ครผู ูสอน
รฐั นวิ เมก็ ซโิ ก ดาํ รงชวี ติ ดว ยการประกอบอาชพี เลยี้ งสตั วแ ละผลติ งานฝม อื ตา งๆ
โดยรัฐจดั สวัสดกิ ารชว ยเหลอื

T234

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒) ภาษา ทวีปอเมรกิ าเหนอื มภี าษาที่ใช้แตกตา่ งกนั แบง่ ออกได้ ดังน้ี ขนั้ สอน

N 500 0 1,000 กม. ภาษาองั กฤษ เปน็ ภาษาทางการของสหรฐั อเมรกิ า ขน้ั ที่ 3 การจดั การขอมูล
แคนาดา บางประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง
กา 80 ํN และกลมุ่ ประเทศในทะเลแครบิ เบยี น เชน่ เบลซี 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
70 Nํ บาฮามาส จาเมกา บารเ์ บโดส ดอมนิ กี า กรเี นดา การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
ทะเลโบฟอรต อาวฮัดสัน ภภาาษษาาฝอริน�ังเดเศี ส แอนทกี าและบารบ์ วิ ดา เซนตล์ เู ชยี เซนตว์ นิ เซนต์ ระหวางกันประกอบการใชเทคนิคแบบเลา
ภาษาอินภเาดษียานเอสกิโม ยน เรอื่ งรอบวง โดยเรยี งลาํ ดบั ตามจาํ นวนสมาชกิ
50 ํN อา วอะแลส แภลาะษเากฝรนรง่ัาเดศนี สส ์ เแปลน็ ะภเซานษตาทค์ ติางสก์แาลระขเอนงวริสฐั ควเิ บก1 ภายในกลุม

40 ํN ของแคนาดา และหมเู่ กาะท่ีเคยเป็นอาณานิคม 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถี่ กู ตอ ง
ของฝรงั่ เศส เชน่ เฮต ิ และบางประเทศทใ่ี ชเ้ ปน็ นา เชอ่ื ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไ่ี มจ าํ เปน
มหาสมทุ ร ภาษาองั กฤษ มหาสมทุ ร ออก
30 ํN แปซฟิ ก แอตแลนติก ภภาาษษาาทสส่ีเปองน 2 เชเน่ป ็นเซภนาตษล์ าเู ทชายี ง ดกอามรขนิ อกี าง เกมร็กเี นซดิโกา
ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอมูล
130 ํW 120 ํW ภาษาสเปน อา วเมก็ ซิโก ภาษาสเปน และประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางอื่น ๆ เช่น
ทะเลแคริบเภบาียษนา ฝ ร�ังเศส กวั เตมาลา ฮอนดรู สั สาธารณรฐั โดมนิ กิ นั ควิ บา 1. นักเรียนแตละกลุมวิเคราะหขอมูลรวมกัน
คำอธิบายสัญลักษณ 100 ํW ภาษาอนิ เดยี น มใี ช ้ในกลมุ่ ชาวอนิ เดยี นพน้ื เมอื ง โดยใชแผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ จากนั้นให
ภาษาสเปน ในสหรฐั อเมรกิ าและประเทศกลมุ่ ลาตนิ อเมรกิ า แตละกลุมนําเสนอ ขอมูลประกอบการระบุ
ภาษาองั กฤษ 20 ํN โดยภาษาอินเดียนน้ันมีความแตกต่างกนั ตาม ตาํ แหนงบนแผนที่ โดยครูแนะนําเพมิ่ เตมิ
ภาษาฝร�งั เศส 90 ํW 80 Wํ เผา่ ตา่ ง ๆ ชาวอนิ เดยี นพน้ื เมอื งตา่ งเผา่ กนั จงึ ไม่
สามารถเข้าใจภาษาของกันและกนั ได้ 2. สมาชิกกลุมอื่นผลัดกันใหขอคิดเห็น หรือ
ภาษาสเปน ภาษาเอสกิโม มีใช้ในกลุ่มชาวเอสกิโมใน ขอเสนอแนะเพ่ิมเติม ตลอดจนอภิปราย
แคนาดาและรฐั อะแลสกาของสหรฐั อเมริกา ความรูรว มกนั
ภาษาอินเดียน 10 ํN
ภาษาเอสกิโม 110 ํW 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทําใบงานที่
11.4 เรื่อง ลักษณะประชากร สังคมและ
แผนท่ีแสดงภาษาในทวีปอเมริกาเหนอื วัฒนธรรมของทวีปอเมริกาเหนือ เฉลยและ
อภปิ รายความรูรวมกัน
๓) ศาสนา ประชากรสว่ นใหญน่ บั ถอื คริสตศ์ าสนา มนี ิกายที่สา� คญั ๒ นิกาย ดงั นี้
4. ครูใหนักเรียนรวมกันทํากิจกรรมวิเคราะห
การนบั ถือศาสนาในทวปี อเมริกาเหนอื พ.ศ. ๒๕๖๐ นกิ ายโปรเตสแตนต ์ นบั ถอื มากในสหรฐั อเมรกิ า คาํ ถาม “สติมาขาไป” อกี คร้งั
ศ1า.ส7น%ายดู าห์ พระพทุ ธศ1า.ส3น%า และแคนาดา ซึ่งเป็นเขตวัฒนธรรมแองโกล
ศ1า.ส6น%าอสิ ลาม ไมน่ ับถอื ศาส1น6า.ใ9ด %ๆ อเมริกาทีไ่ ดร้ บั อทิ ธิพลจากองั กฤษ 5. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ
อ2น่ื .2 ๆ% ครสิ ต7ศ์ 6า.ส3น%า นิกายโรมันคาทอลิก นับถือมากในรัฐควิเบก ภมู ิศาสตร ม.3 เรื่อง ลักษณะประชากร สังคม
ประเทศแคนาดา และประเทศในเขตวฒั นธรรม และวัฒนธรรมของทวปี อเมริกาเหนอื
ลาตินอเมริกา รวมท้ังประชากรในเมืองต่าง ๆ
ของสหรัฐอเมริกาที่เคยเป็นอาณานิคมของ
สเปน

ทมี่ า : Y earbook of International Religious Demography 2518, p.94

นอกจากน ี้ ยงั มกี ารนบั ถอื ศาสนาอน่ื ๆ แตส่ ดั สว่ นไมม่ าก เชน่ ศาสนาอสิ ลาม ศาสนายวิ
พระพุทธศาสนา และยังมีผู้ท่ไี ม่นบั ถอื ศาสนาใดอยู่ดว้ ยจา� นวนหน่ึง

๒09

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

ขอใดคอื ลกั ษณะสาํ คัญของประชากรในกลมุ แองโกลอเมริกา 1 รัฐควิเบก ชนพ้ืนเมืองดั้งเดิมท่ีอาศัยอยูในรัฐน้ีประกอบดวยพวกอินูอิต
1. มีเช้อื ชาติเดยี วกัน และพวกอินเดียนเผาแอลกองควิน เผาครี และเผาอ่ืนๆ ตอมาไดมีนักสํารวจ
2. มีวฒั นธรรมแบบอังกฤษ ชาวฝร่ังเศสไดเขามาสํารวจบริเวณคาบสมุทรกัสเปและหุบเขาของแมนํ้าเซนต
3. อยูรว มกนั หลายชาติพันธุ ลอวเรนซ และประกาศใหดินแดนดังกลาวเปนกรรมสิทธ์ิของฝร่ังเศส ตอมา
4. สวนใหญเปน กลุมชนเลือดผสม ใน ค.ศ. 1754-1763 เกดิ สงครามระหวางชาวฝรัง่ เศสกบั ชาวอนิ เดียน สง ผลให
ดนิ แดนควเิ บกตกเปนของอังกฤษ
(วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. กลมุ แองโกลอเมรกิ า ไดแ ก ประเทศ 2 ภาษาสเปน เม็กซิโกเปนประเทศที่มีคนพูดภาษาสเปนมากท่ีสุดในโลก
แคนาดาและสหรัฐอเมริกา มีวัฒนธรรมแบบอังกฤษเน่ืองจาก และมีภาษาพืน้ เมือง 62 ภาษา
ประชากรสวนใหญส ืบเชอ้ื สายมาจากชาวองั กฤษ)

T235


Click to View FlipBook Version