นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาำ (5Es Instructional Model) ๓. รัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจุบันกบั การเลือกตั้ง การมีส่วนรว่ ม
ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ ของประชาชน และการตรวจสอบอÓนาจรฐั
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเร่ือง รฐั ธรรมนญู เป็นกฎหมายสงู สุดในการปกครองประเทศ โดยรฐั ธรรมนูญทุกฉบับไดใ้ ห้ความ
ทีจ่ ะเรียนรู จดุ ประสงคการเรยี นรู และผลการ สา� คญั ตอ่ แนวทางการปฏบิ ตั ิ การดา� เนนิ งานตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วกบั การเมอื งการปกครอง เพอ่ื ใหม้ แี บบแผน
เรยี นรู ชดั เจนและเกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ปจั จบุ นั ประเทศไทยประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย
พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ เปน็ ฉบบั ที ่ ๒๐ ได้มีบทบญั ญัตเิ กีย่ วกับการเลือกตั้ง การมีสว่ นรว่ มทางการ
2. ครูนําขาวทางการเมืองมาสนทนา เชน การ เมืองของประชาชน และการตรวจสอบการใชอ้ �านาจรฐั ดังนี้
เลือกตั้ง ประเด็นตางๆ ทางการเมืองของ
ฝายคานและฝายรัฐบาล ครูใหคําแนะนํา 3.๑ การเลอื กตัง้
นักเรียนอยางเปนกลาง และใหนักเรียนใช
วิจารณญาณอยางมีเหตุผล มีขอมูลในการ การไปเลือกต้ังเป็นหน้าท่ีของคนไทยทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง เม่ือมีอายุไม่ต่�ากว่า ๑๘ ปี
รับฟง รับชมขาวทางดา นการเมือง ในวนั เลอื กตง้ั ทง้ั เลอื กตงั้ ในระดบั ทอ้ งถน่ิ และระดบั ประเทศ โดยมคี ณะกรรมการการเลอื กตง้ั (กกต.)
เป็นผูด้ า� เนินการจัดการเลือกต้งั อยา่ งยตุ ิธรรมและโปร่งใส
3. ครูกระตุนนักเรียนดวยการถามคําถามใน
ประเดน็ เชน ๑) ลกั ษณะของการเลอื กตง้ั การเลอื กตง้ั ชว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
• ทําไมประชาชนชาวไทยจึงตองไปใชสิทธิ
เลอื กตง้ั ด�าเนินไปอยา่ งราบร่ืนและมีเสถียรภาพ จะต้องมีลกั ษณะ ดงั นี้
• การตรวจสอบการใชอํานาจรัฐท้ังในระดับ ๑. เป็นการเลอื กตง้ั ทใ่ี ห้สิทธเิ สรภี าพแก่ประชาชนอยา่ งเตม็ ท่ี และเป็นไปตามกา� หนด
ชาตแิ ละระดบั ทอ งถน่ิ สามารถทาํ ไดอ ยา งไร เวลาท่ีบัญญตั ไิ วใ้ นรฐั ธรรมนญู
บา ง ๒. เป็นการเลือกต้ังที่ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ คือ การท่ีประชาชน
ผมู้ ีสทิ ธเิ ลือกตงั้ ลงคะแนนเสียงด้วยตนเอง เพ่อื เลือกคนทีต่ นเองเห็นว่ามคี วามเหมาะสม โดยไม่
เปดิ เผยให้ผู้อ่ืนทราบวา่ ได้ลงคะแนนให้ใคร พรรคใด
๓. มีการโฆษณาประชาสัมพันธต์ ามสอ่ื ต่าง ๆ เชญิ ชวนใหป้ ระชาชนไปใช้สิทธิเลอื กตงั้
อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง เปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ ในหลายประเทศรวมถงึ ประเทศไทย ไดก้ า� หนดใหก้ ารเลอื กตงั้
เป็นหน้าท่ีของประชาชน ซ่ึงถ้าหากผ้ใู ดไม่ไปเลือกตัง้ ก็จะเสยี สิทธบิ างประการ
๔. เปน็ การเลอื กตัง้ ท่ีมคี วามยุตธิ รรมตอ่ บุคคลทุกฐานะ ทุกคนตา่ งมีสทิ ธิเทา่ เทยี มกัน
ในการออกไปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ การเลอื กตงั้ จะตอ้ งด�าเนนิ ไปอยา่ งบรสิ ทุ ธแิ์ ละโปรง่ ใส ดงั นน้ั ในหลาย
ประเทศรวมถึงประเทศไทยจงึ ได้ก�าหนดให้มคี ณะกรรมการการเลือกตัง้ (กกต.) เป็นผดู้ �าเนนิ การ
จดั การเลือกต้งั ควบคมุ ดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเลือกตง้ั และตรวจสอบใหก้ ารเลือกตงั้ มคี วาม
บรสิ ทุ ธิ ์ โปรง่ ใส และเท่ยี งธรรม หากกอ่ นการประกาศผลการเลือกตงั้ คณะกรรมการการเลือกต้ัง
เห็นว่าการเลือกตั้งน้ันไม่โปร่งใสหรือมีการด�าเนินการอย่างทุจริต ก็มีอ�านาจในการส่ังให้นับ
คะแนนใหมห่ รอื ทา� การเลอื กตัง้ ใหมไ่ ด้ หากมหี ลักฐานอืน่ ควรเชือ่ ไดว้ ่ามีการทจุ ริตการเลอื กต้งั
76
เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ
ครูเลาสถานการณการเลือกตั้งระดับประเทศ เชน การเลือกตั้งสมาชิก หลกั การปกครองทีด่ ีทสี่ ุดในทุกระบอบคือขอ ใด
สภาผูแทนราษฎร เพ่ือใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห จากน้ันครูตั้งคําถามวา 1. มรี ัฐบาลท่ตี งั้ ขน้ึ ตามแนวนโยบายแหง รฐั
“ทําอยางไรการซื้อเสียงจึงจะหมดไป และมีการเลือกตั้งอยางบริสุทธิ์ยุติธรรม” 2. มีกฎหมาย มศี ีลธรรม และมคี วามยุตธิ รรม
โดยใหนกั เรยี นรว มกนั แสดงความคดิ เหน็ อยา งหลากหลาย 3. รัฐบาลแถลงนโยบายและวาระแหง ชาติชดั เจน
4. ประชาชนมคี วามรคู วามเขา ใจและเคารพในกฎหมาย
สื่อ Digital
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. กฎหมายเปนกฎเกณฑ กติกา
ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั คณะกรรมการการเลอื กตงั้ (กกต.) ไดท ี่ หรือมาตรฐานที่ใชเปนแนวทางพื้นฐานในการอยูรวมกันในสังคม
https://www.ect.go.th/ect_th/ เพอื่ ใหส มาชกิ ประพฤตปิ ฏิบตั ติ าม ศีลธรรม คือ ความประพฤตดิ ี
ประพฤติชอบ และความยุติธรรม คือ ความเท่ียงธรรม ความ
ชอบธรรม ความชอบดวยเหตุผล หากยึดหลักท้ัง 3 น้ีแลว
การปกครองประเทศไมว า จะระบอบใดกเ็ ปน ไปอยางราบร่ืน)
T86
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๒) การเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรตามรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจ จบุ นั รฐั ธรรมนญู ขนั้ สอน
ก�าหนดให้มจี �านวนสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจา� นวน ๕๐๐ คน มาจากการเลือกตั้ง ๒ แบบ ไดแ้ ก่ ขัน้ ที่ 2 สำารวจคน้ หา
แบบแบง เขตเลอื กตง้ั 1 ๓๕๐ คน แบบบัญชีรายชือ่ิ 2 ๑๕๐ คน 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม ศึกษาคนควาขอมูล
จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจาก
• ทัว่ ประเทศแบง่ เป็น • พรรคการเมืองเสนอรายชอ่ื แหลง การเรียนรอู ื่นๆ เชน หนงั สอื ในหอ งสมดุ
๓๕๐ เขต สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร • ส่งรายช่ือให้คณะกรรมการ เวบ็ ไซตในอินเทอรเ นต็ ในประเดน็ ดงั นี้
• แตล่ ะเขตม ี สส. ๑ คน (สมสา.)จ าจกาํ กนาวรนเ ล๕อื ๐ก๐ต งั้ คน • ราสยกสชา.แร่อื บเตลบ้อือแงกบไตม่งั้ง่ซเ ขา้� กตก่อับนแเบปบิดแรบับง่สเมขัคตร • การเลอื กตัง้
• • การมสี วนรวมทางการเมอื งของประชาชน
ผู้ไดร้ บั คะแนนสูงสุดและคะแนน • การตรวจสอบการใชอาํ นาจรัฐ
สูงกวา่ คะแนนไม่เลอื กผใู้ ด • บทบญั ญัติเกี่ยวกับรฐั บาล
ได้เปน็ สส. • การลงคะแนนเลอื กตง้ั ใชบ้ ตั รใบเดยี วกบั
2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเช่ือถือ
ใหกบั นกั เรยี นเพ่มิ เติม
การเลือกตงั้ แบบแบ่งเขต
• คา� นวณจ�านวน สส.ทไ่ี ด้รับจากการจัดสรร
คะแนนทีป่ ระชาชนเลอื ก สส.ทั่วประเทศ
คุณสมบตั ิ หนา้ ที่
• มีสญั ชาติไทยโดยการเกดิ • อ อกกฎหมายเพอ่ื ประโยชนข์ อง
• มอี ายไุ ม่นอ้ ยกวา่ ๒๕ ป ประเทศชาติและประชาชน
• เปน็ ผเู้ ลอื กบคุ คลทจี่ ะไปดา� รงตา� แหนง่
นบั ถึงวันเลือกตงั้ เป็นนายกรฐั มนตรี
• เป็นสมาชกิ พรรคการเมอื งเดียว
ติดต่อกัน ไมน้อยกวา ๙๐ วนั • ควบคมุ การบริหารราชการแผ่นดิน
นับถงึ วนั เลอื กตั้ง • จ ัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อพัฒนา
• สส.แบบแบ่งเขตเลือกต้ัง จะต้องมี ประเทศ
ลกั ษณะอยา่ งใดอย่างหน่งึ เช่น มชี ่ือ • ดูแลความเป็นอยู่และน�าปัญหาความ
อยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดท่ีสมัคร เดอื ดรอ้ น ความตอ้ งการของประชาชน
ติดต่อกัน ไมน้อยกวา ๕ ป นับถึง เสนอตอ่ รฐั บาล
วันสมัครรับเลือกตั้ง เคยมีชื่ออยู่ใน
ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่ลงสมัคร
ติดตอ่ กัน ไมน อ้ ยกวา ๕ ป
77
ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
ขอใดกลาวถกู ตองเกี่ยวกบั การเลือกตั้งของไทย 1 แบบแบง เขตเลอื กตงั้ ระบบการเลอื กตงั้ แบบแบง เขต หมายถงึ การเลอื กตง้ั
1. การเลอื กต้ังเปน หนา ทอ่ี ยา งหนง่ึ ของคนไทย ท่ีใหความสําคัญกับจํานวนผูแทนท่ีจะไดรับการเลือกต้ังกับเขตพ้ืนท่ีท่ีมีการ
2. การเลอื กตง้ั เปน สทิ ธิเฉพาะของคนกลุมหนึ่งเทานัน้ เลอื กตง้ั ซ่งึ มกี ารนาํ คะแนนทปี่ ระชาชนไดล งคะแนนในเขตนนั้ มารวมกัน เพื่อ
3. การลงคะแนนเสยี งเลือกตัง้ จะตอ งกระทําโดยเปดเผย กาํ หนดวา ใครจะเปน ผูแทนของเขตน้นั
4. การนอนหลบั ทับสิทธไิ์ มมีผลทางกฎหมายแตอ ยางใด 2 แบบบญั ชรี ายชอ่ื การเลอื กตง้ั ระบบบญั ชรี ายชอื่ เปน รปู แบบของการเลอื กตง้ั
แบบสัดสวน ที่มุงเนนความสัมพันธระหวางคะแนนเสียงหรือความนิยม
(วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. การเลอื กตงั้ เปน หนาท่ขี องคนไทย จากประชาชนกบั ทน่ี ง่ั ทพี่ รรคการเมอื งจะไดร บั ในฐานะสมาชกิ รฐั สภา โดยทวั่ ไป
ทกุ คนในระบอบประชาธปิ ไตย ทเ่ี ราตอ งไปใชส ทิ ธลิ งคะแนนเสยี ง อยูในรูปแบบของการเลือกจากบัญชีรายชื่อผูสมัครของพรรค ซ่ึงมีรูปแบบท่ี
เลือกตั้ง เพื่อเลือกตัวแทนเขาไปทําหนาท่ีปกปองผลประโยชน แตกตางกัน
และดแู ลทุกขสุขของประชาชน)
T87
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน เม่ือมีพระราชกฤษฎีกาก�าหนดให้มีการเลือกตั้ง ภาคประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ
จะตอ้ งปฏบิ ัต ิ ดังน้ี
ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (กกต.)1
ภาครัฐ คณะกรรมการการเลอื กตงั้
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู ๑ จดั ใหม กี ารเลือกตัง้ ทใ่ี หสิทธเิ สรภี าพ ๓ ใหค วามรูแกป ระชาชนเขาใจในสทิ ธเิ สรภี าพของ
ระหวางกัน แกป ระชาชนอยา งเต็มทแี่ ละเปนไป ตนเองในการเลือกผูแทน ขอ ดีของการเลอื ก
ตามกําหนดเวลาที่บญั ญัติในรัฐธรรมนญู คนดี คนทชี่ อบ และขอเสียของการไมไปใชส ิทธิ
2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล และการซื้อสทิ ธิขายเสียง
ทน่ี าํ เสนอเพ่ือใหไดข อมูลทถ่ี ูกตอ ง ๒ มกี ารโฆษณาประชาสัมพันธ เชญิ ชวน
ใหประชาชนไปใชส ิทธิเลือกต้งั ๔ จดั ใหม ีการเลอื กตัง้ ทีม่ คี วามยตุ ิธรรม
3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล โปรงใส และตรวจสอบได
หนาชั้นเรียนตามประเด็นท่ีศึกษา อภิปราย
และตอบคาํ ถามรวมกัน ภาคประชาชน ผูม ีสทิ ธิเลือกต้ังตอ งมสี ัญชาตไิ ทย อายไุ มตํ่ากวา ๑๘ ป ในวนั เลอื กตัง้
มีช่ืออยูในทะเบียนบานในเขตเลือกต้ังไมนอยกวา ๙๐ วัน นับถึงวัน
4. ตวั แทนกลมุ : การเลอื กตงั้ ออกมาสรปุ ผลการ เลือกตั้ง
ศึกษา สมาชิกกลุมอื่นๆ รวมกันแสดงความ
คิดเห็นและเสนอแนะ ๑ ตรวจสอบรายชอื่ จากหนงั สือ
ท่ี กกต.แจงไปทีบ่ านและ
5. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายรว มกนั และสมุ ตวั แทน หนาหนว ยเลือกตัง้
นักเรยี นเพ่ือตอบคาํ ถาม เชน
•ï การเลอื กตง้ั มคี วามสาํ คญั ตอ คนไทยอยา งไร ตดิ ตามขาวสารการเลอื กตัง้ ๒ ยืน่ บตั รประจาํ ตัวประชาชน
(แนวตอบ เปนการเลือกตัวแทนเขาไปทํา และผลงานของผสู มัคร เพ่ือแสดงตนใชสทิ ธิ รับบัตร
หนาทบี่ รหิ ารในระดับตา งๆ) จากเจาหนาที่ และลงลายมอื ชื่อ
๓
เดนิ เขาคหู า กา ✗ ลงในชองทํา ๔
พบั บัตรและหยอนใสหีบ
เคร่ืองหมายเบอรท ีต่ อ งการเลือก เลอื กตัง้
๕
๖ ข่าว
ตดิ ตามผลการเลอื กตงั้ ทหี่ นา หนวย ติดตามผลงานของผูแ ทนทีไ่ ด
รับเลือกและตรวจสอบการทาํ งาน
78เลือกตั้งหรือทางสื่อตา ง ๆ
นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด
1 คณะกรรมการการเลอื กตงั้ (กกต.) เหตผุ ลสาํ คญั ของการกําหนดใหมคี ณะ พฤติกรรมใดเปนการแสดงออกทางการเมืองที่ถูกตองตาม
กรรมการการเลือกต้ังขึ้น ก็เพ่ือทําหนาทดี่ ูแลการเลือกต้ังในทุกระดับใหเปนไป รัฐธรรมนูญ
อยางบรสิ ุทธิ์และยตุ ธิ รรม โดยคณะกรรมการการเลือกตงั้ มีอาํ นาจหนาที่ในการ
ควบคุมและดําเนินการจัดหรือจัดใหมีการเลือกต้ัง หรือสนับสนุนการสรรหา 1. ฉีกบตั รเลือกต้ัง
สมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาทองถ่ิน และผูบริหาร 2. วจิ ารณการเมืองดว ยถอ ยคํารนุ แรง
ทองถ่ิน รวมทั้งการออกเสยี งประชามติใหเปน ไปโดยสจุ ริตและเที่ยงธรรม 3. เขา รว มชุมนมุ ทางการเมืองอยางสงบ
4. ทาํ ลายสาธารณสมบัตเิ พื่อประทวงรฐั บาล
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. การเขารวมชุมนุมทางการเมือง
อยา งสงบ เปน การแสดงออกทางการเมอื งทถี่ กู ตอ งตามรฐั ธรรมนญู
เพราะเปนการใชสทิ ธขิ องตนโดยชอบและไมสรา งความเดอื ดรอ น
ใหแ กผอู ่นื )
T88
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
3.๒ การมสี วนรว มทางการเมอื ง1ของประชาชน ขนั้ สอน
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยเปน็ การปกครองเพอ่ื ใหป้ ระชาชนอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งเสมอภาค ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้
เท่าเทียมกันอย่างมีความสุข ดังนั้น การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองของประชาชนจึงมี
ความสา� คัญอยา่ งยง่ิ รัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจุบนั จงึ ไดบ้ ญั ญัตกิ ารมสี ่วนร่วมของประชาชน ดังน้ี 6. ตัวแทนกลุม : การมีสวนรวมทางการเมือง
๑. ประชาชนสามารถเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มโดยตรงในการเสนอกฎหมายและนโยบาย เชน่ ของประชาชน ออกมาสรุปผลการศึกษา
ก�าหนดให้การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การลงประชามติ เป็นหน้าทีข่ องคนไทยทตี่ อ้ งมีหน้าที่ไปใช้สิทธิ สมาชิกกลุมอื่นๆ รวมกันแสดงความคิดเห็น
สามารถเลือกลงมติได้อยา่ งอสิ ระ โดยค�านึงถงึ ผลประโยชน์ของประเทศเป็นส�าคัญ และเสนอแนะ จากน้ันครูสุมตัวแทนนักเรียน
๒. ประชาชนและชุมชนมีสิทธิเข้าชื่อเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐ ให้ด�าเนิน เพื่อตอบคาํ ถาม เชน
การท่ีเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือชุมชน หรืองดเว้นไม่ด�าเนินการส่ิงท่ีจะก่อให้เกิดผลเสียต่อ ï• ถา คนไทยไมใ หค วามสาํ คญั กบั การเลอื กตงั้
ประชาชน ชุมชน และหน่วยงานรัฐต้องพิจารณาข้อเสนอแนะน้ันโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม บา นเมอื งจะเปนอยา งไร
พิจารณาด้วย (แนวตอบ ไมไดคนดีเขาไปบริหารบานเมือง
๓. สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษ ์ ฟนื ฟ ู และสง่ เสรมิ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ทําใหอํานาจตกอยูกับคนบางกลุม ซ่ึง
ศลิ ปวฒั นธรรม และจารตี ประเพณีอันดงี าม ตอ ไปอาจกลายเปน กลมุ ผกู ขาด นาํ ไปสกู าร
๔. ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการด�าเนินการ และได้รับ ปกครองระบอบเผด็จการ)
ประโยชนใ์ นการคมุ้ ครอง บา� รงุ รกั ษาฟนื ฟูทรพั ยากรธรรมชาติ ï• นกั เรยี นเคยเขา รว มกจิ กรรมทางการเมอื งใด
๕. สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนรว่ มรณรงค ์ ปอ้ งกนั ตอ่ ตา้ นการทจุ รติ และชเ้ี บาะแสการทจุ รติ บา ง
๖. สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาประเทศดา้ นตา่ ง ๆ การจดั ทา� บรกิ าร (แนวตอบ เชน เขา รว มกจิ กรรมของทอ งถ่นิ
สาธารณะ การตรวจสอบการใช้อา� นาจรัฐ การตอ่ ต้านการทจุ รติ รวมทง้ั การตดั สินใจทางการเมอื ง เพ่ือรณรงคการใชส ทิ ธเิ ลอื กตั้ง)
และการอื่น ๆ ทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อประชาชน
การมีส่วนร่วมของประชาชนที่กล่าวมา แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทยให้ความส�าคัญต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนเป็นอย่างมาก
ซึ่งเปน็ การสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มทางการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอยา่ งแทจ้ ริง
3.3 การตรวจสอบการใชอาํ นาจรฐั
การตรวจสอบการใชอ้ า� นาจรฐั ตามรฐั ธรรมนญู เปน็ การใชอ้ า� นาจตลุ าการในการพพิ ากษาคด ี
และการท�าหน้าที่ขององค์กรอิสระในการตรวจสอบความถูกต้องของการท�าหน้าท่ีบริหารราชการ
แผ่นดินของรัฐและผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมือง ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและคุ้มครองสิทธิ
เสรภี าพของประชาชน แบ่งออกเป็น ๔ ส่วน ไดแ้ ก่ การตรวจสอบทรพั ย์สิน การตรวจสอบการ
กระท�าที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ การถอดถอนผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมืองออกจาก
ตา� แหน่ง และการดา� เนินคดีอาญาผดู้ �ารงต�าแหนง่ ทางการเมอื ง
79
ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู
บทบาทการมีสวนรวมของประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย 1 การมีสวนรวมทางการเมือง หมายถึง การที่ประชาชนไมวาจะเปนบุคคล
ขอ ใดสาํ คญั ทส่ี ดุ หรือกลุมบุคคลเขามามีสวนรวมในกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงทางการเมือง ใน
ลักษณะของการรวมรับรู รวมคิด รวมทํา ในส่ิงท่ีมีผลกระทบตอตนเองหรือ
1. การจบั กลมุ วพิ ากษว จิ ารณร ฐั บาล ชุมชน และอยูภายใตกฎหมาย ถือเปนส่ิงที่มีความสําคัญอยางมากตอการ
2. การออกไปใชส ทิ ธทิ างการเมอื งในการเลอื กตงั้ ทกุ ครง้ั พัฒนาระบบการเมอื งการปกครอง
3. การแสดงความคดิ เหน็ ของตนผา นสอื่ สงั คมออนไลน
4. การจดั ทาํ แผน พบั รณรงคต อ ตา นการทจุ รติ คอรร ปั ชนั
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. การใชส ิทธเิ ลอื กตง้ั เปน หนาท่ขี อง
คนไทย ผูมีสิทธิเลือกตั้งทุกคนที่จะไดใชสิทธิของตนในการเลือก
คนที่ไววางใจใหเขาไปทําหนาท่ีบริหารบานเมือง ซึ่งเปนบทบาท
ทสี่ าํ คัญในการมสี ว นรวมตามแนวทางประชาธิปไตย)
T89
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน การตรวจสอบทรพั ยสนิ
ผดู้ า� รงตา� แหนง่ ทางการเมอื ง เชน่ นายกรฐั มนตร ี รฐั มนตร ี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร สมาชกิ วฒุ สิ ภา ผบู้ รหิ าร
ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ ทอ้ งถ่ิน และสมาชิกสภาท้องถ่นิ เชน่ นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตา� บล นายก
เทศมนตร ี ประธานสภาจงั หวัด มหี น้าท่ยี น่ื บัญชแี สดงรายการทรัพย์สนิ และหน้ีสินของตน คู่สมรส และบุตร
7. ตัวแทนกลุม : การตรวจสอบการใชอ ํานาจรัฐ ทีย่ ังไมบ่ รรลนุ ติ ภิ าวะ ต่อคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทุกคร้งั ที่เขา้ รบั
ออกมาสรุปผลการศึกษา สมาชิกกลุมอ่ืนๆ ตา� แหนง่ หรอื พ้นต�าแหนง่
รว มกนั แสดงความคดิ เหน็ และเสนอแนะ จากนน้ั
ครสู ุมตัวแทนนกั เรียนเพือ่ ตอบคาํ ถาม เชน การตรวจสอบการกระทา� ทีเ่ ปน การขัดกันแหง ผลประโยชน
• เพราะเหตใุ ดนกั การเมอื ง ขา ราชการระดบั สงู
ตองยื่นบัญชีแสดงทรัพยสิน หน้ีสินของตน การตรวจสอบ ผดู้ า� รงตา� แหนง่ ทางการเมอื งจะตอ้ งไมก่ ระทา� การทเี่ ปน็ การขดั กนั แหง่ ผล
คสู มรส และบตุ ร ตอ สาํ นกั งานคณะกรรมการ การใช้อา� นาจรฐั ประโยชน ์ โดยไมก่ ระทา� การดงั ตอ่ ไปน ้ี เชน่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร
ปองกันและปราบปรามการทุจริตแหงชาติ และสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือต�าแหน่งทางการเมือง
ทกุ คร้ังที่เขา รับและพนจากตาํ แหนง ตาม เข้าไปกา้ วกา่ ยหรือแทรกแซงเพอ่ื ผลประโยชนข์ องตนเอง ของ
(แนวตอบ เพ่ือปอ งกันการทจุ ริตในหนา ท่)ี รัฐธรรมนญู ไทย ผอู้ นื่ หรอื ของพรรคการเมอื ง ไมว่ า่ โดยทางตรงหรอื ทางออ้ ม
• หากรัฐบาลบริหารประเทศโดยขาดความ เช่น การปฏบิ ตั ิราชการ หรอื การดา� เนินงานในหนา้ ทีป่ ระจ�า
ชอบธรรม จะสงผลตอประเทศชาติและ ของข้าราชการ
ประชาชนในทางใด การด�าเนนิ คดีอาญาผูด้ า� รงต�าแหนง ทางการเมือง
(แนวตอบ ทาํ ใหป ระเทศพฒั นาอยา งเชือ่ งชา
สง ผลกระทบตอ คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน
เศรษฐกจิ ขาดเสถียรภาพ)
ส่อผไู้ดป�าใรนงทตา�างแทหุจนริต่งตท่อาหงกนา้ารทเ่ี ม1สือ่องวท่าี่มกีรพะฤทต�าิกครวรามมผร�่าิดรตว่อยตผ�าิดแปหกนต่งิ
หน้าท่ีราชการ ส่อว่ากระท�าความผิดต่อต�าแหน่งหน้าท่ีในการ
ยุติธรรม ส่อว่าจงใจใชอ้ า� นาจหน้าท่ีขดั ต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
หรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่าง
รา้ ยแรง โดยคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาต ิ (ป.ป.ช.)
มอี า� นาจไตส่ วนและเสนอเรอ่ื งตอ่ อยั การสงู สดุ เพอื่ ฟอ้ งคดตี อ่ ศาลฎกี าแผนกคดที างอาญาของผดู้ า� รงตา� แหนง่
ทางการเมือง หรือเสนอเรอ่ื งต่อศาลฎีกาแลว้ แตก่ รณี
ทั้งน้ี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมืองมีอ�านาจพิจารณาคดีบุคคลท่ีเป็นตัวการ
ผู้ ใช้ ผู้สนับสนุน ผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมืองในการกระท�าผิดทางอาญาข้างต้น รวมท้ังผู้ ให้ ผู้ขอให้หรือ
รับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นให้กับผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมืองดังกล่าว เพ่ือจูงใจให้กระท�าการ
ไม่กระทา� การ หรอื ประวงิ การกระทา� อนั มชิ อบตอ่ หนา้ ท่ี
80
นักเรียนควรรู กิจกรรม เสริมสรางคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค
1 ทจุ รติ ตอ หนา ท่ี หมายถงึ การกระทาํ อยา งใดอยา งหนง่ึ ไดแ ก 1. การปฏบิ ตั ิ นักเรียนแบงกลุมรวมกันสืบคนการตรวจสอบการใชอํานาจรัฐ
หรอื ละเวน การปฏบิ ตั อิ ยา งใดในตาํ แหนง หรอื หนา ทเ่ี พอื่ แสวงหาประโยชนท ม่ี คิ วร จากรัฐธรรมนูญฉบับปจจุบันที่ไดบัญญัติเก่ียวกับการตรวจสอบ
ไดโ ดยชอบสาํ หรบั ตนเองหรอื ผอู น่ื 2. การปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน การปฏบิ ตั อิ ยา งใดใน อํานาจรัฐไวในประเด็น เชน
พฤติการณที่อาจทําใหผูอ่ืนเชื่อวามีตําแหนงหรือหนาท่ี ทั้งที่ตนมิไดมีตําแหนง
หรือหนาที่นั้น 3. การใชอํานาจในตําแหนงหรือหนาที่เพื่อแสวงหาประโยชนท่ี • การตรวจสอบทรพั ยส นิ
มิควรไดโดยชอบสําหรับตนเองหรือผูอ่ืน และ 4. การกระทําอันเปนความผิด • การตรวจสอบการกระทําที่เปนการขัดกนั แหง ผลประโยชน
ตอตําแหนงหนาที่ราชการ หรือการกระทําความผิดตอตําแหนงหนาที่ในการ • การถอดถอนจากตาํ แหนง
ยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาหรอื ตามกฎหมายอน่ื • การดาํ เนนิ คดีอาญาผูด ํารงตาํ แหนงทางการเมือง
• การดําเนินคดีอาญาตอ เจาหนาท่รี ฐั
ใหแ ตล ะกลมุ นาํ ความรทู ไ่ี ดจ ากการสบื คน มาอภปิ รายแลกเปลยี่ น
ความคดิ กันในหองเรยี น
T90
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
3.4 บทบญั ญัติเก่ยี วกบั รัฐบาล ขนั้ สอน
รัฐบาลประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้น�ารัฐบาลและรัฐมนตรีอ่ืนอีกไม่เกิน ๓๕ คน ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้
ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าท่ีบริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน
รฐั บาลจงึ เป็นสว่ นสา� คัญอย่างยง่ิ ในการปกครองประเทศใหเ้ จรญิ ก้าวหน้าต่อไป 8. ตัวแทนกลุม : บทบัญญัติเกี่ยวกับรัฐบาล
ออกมาสรุปผลการศึกษา สมาชิกกลุมอื่นๆ
๑) ความจา� เปน็ ในการมรี ฐั บาลตามระบอบประชาธปิ ไตย ทกุ ประเทศในโลกอาจมกี าร รวมกันแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะ
ปกครองในระบอบทแี่ ตกต่างกนั ออกไป แต่ไม่ว่าประเทศเหลา่ น้นั จะปกครองด้วยระบอบใดกต็ าม จากนั้นครูสุมตัวแทนนักเรียนเพ่ือตอบคําถาม
ก็จ�าเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลเพื่อบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างย่ิงในการปกครองระบอบ เชน
ประชาธิปไตย รัฐบาลมีความจ�าเป็นอย่างมากเพ่ือขับเคล่ือนในการบริหารประเทศและน�าพา ï• การเปลยี่ นแปลงรฐั บาลบอ ยครงั้ สง ผลกระทบ
เปปรน็ ะอเทยศแู่ ชลาะตคไิณุ ปภสค่าู พวาชมวี เติจ1ขรญิองกปา้ รวะหชนาา้ ชตนอ่ ทไปวั่ ไซปงึ่ รเปฐั บน็ ารลฐั ทบดี่าลนี ทนั้ ไ่ีจมะตท่ อ้จุ งรมติ นีแโลยะบมาคี ยวทาเี่มปมน็ งุ่ปมรน่ัะโใยนชกนาต์ รอ่พคฒั วานมา ตอ ประเทศอยา งไร
ประเทศอย่างแท้จรงิ (แนวตอบ สงผลกระทบตอนโยบายบริหาร
ประเทศ ทง้ั ในดา นการเมอื ง เศรษฐกจิ และ
สังคม)
๒) อา� นาจหนา้ ทแ่ี ละบทบาทของรฐั บาลในการบรหิ ารประเทศ รฐั บาลมหี นา้ ทใ่ี นการ
ยใชุท้อธา� ศนาาสจตบรร์ชิหาาตร2ิเใปน็นกเาปรบ้าหริหมาารยปกราะรเพทัฒศในหาม้ ปคี รวะาเมทสศงอบยเ่ารงยี ยบ่ังรยอ้ ืนยต าปมรหะชลาักชธนรมรมีคาวภามิบสาขุล มเพกี ่ือารใชจดั้เปท็น�า
กรอบในการจดั ท�าแผนพฒั นาตา่ ง ๆ ให้สอดคล้องและบรู ณาการกนั โดยรัฐธรรมนญู ฉบับปจั จบุ ัน
ไดบ้ ัญญตั ิหน้าที่และแนวนโยบายแหง่ รฐั ในการบริหารประเทศ สรุปได้ ดงั นี ้
๒.๑) ดา้ นความมนั่ คงและการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย รฐั ตอ้ งรกั ษาไวซ้ ง่ึ การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ดแู ลให้การปฏบิ ัตติ ามกฎหมายและการบงั คบั
ใชก้ ฎหมายมคี วามเครง่ ครดั ไดร้ บั ความเปน็ ธรรม และใหป้ ระชาชนเขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรมได้
โดยสะดวก รวดเรว็ นอกจากน ี้ รัฐต้องสง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้ความรู้กับประชาชน ท้ังอนั ตรายทีเ่ กดิ
จากการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐและเอกชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรณรงค์
ต่อตา้ น
๒.๒) ด้านการศึกษา ด�าเนินการให้
เดก็ ทกุ คนไดร้ บั การศกึ ษาเปน็ เวลา ๑๒ ป ี ตงั้ แต่
ก่อนเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมี
คุณภาพ โดยไมเ่ กบ็ คา่ ใช้จา่ ย และส่งเสรมิ ให้มี
การเรียนรู้ตลอดชีวิต จัดให้มีและส่งเสริมการ
วิจยั และพัฒนาทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ให้
เกดิ ความร ู้ การพฒั นาและนวตั กรรม เพอ่ื ความ
เขม้ แขง็ ของสงั คมและเสรมิ สรา้ งความสามารถ
ของคนในชาติ รัฐมีหน้าที่จัดการศึกษาให้เด็กไทยทุกคนได้รับการศึกษา
อยา่ งท่วั ถึงและเท่าเทียมกนั 8๑
ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู
การปฏบิ ตั ใิ นขอ ใดชว ยปลกู ฝง คา นยิ มประชาธปิ ไตยใหแ กเ ยาวชน 1 คุณภาพชีวิต องคการอนามัยโลกไดออกแบบเครื่องมือช้ีวัดคุณภาพชีวิต
1. ทงิ้ ขยะใหเ ปน ที่ ของมนุษย โดยแบงคณุ ภาพชีวิตออกเปน 4 ดาน ไดแ ก ดา นรางกาย ดานจิตใจ
2. บรจิ าคเงนิ ชว ยเหลอื นาํ้ ทว ม ดา นความสมั พันธทางสังคม และดานสิ่งแวดลอม
3. ลงคะแนนเสยี งเลอื กหวั หนา หอ ง 2 ยทุ ธศาสตรชาติ คาํ วา ยุทธศาสตรชาติ ถูกเขียนขึน้ อยางเปด เผยคร้ังแรก
4. เรยี นพเิ ศษในชว งปด ภาคเรยี นฤดรู อ น ในรัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2560 หมวด 6 แนวนโยบาย
แหงรัฐ มาตรา 65 ท้ังน้ีการจัดการกําหนดเปาหมาย ระยะเวลาท่ีจะบรรลุ
(วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. การลงคะแนนเสยี งเลอื กหวั หนา หอ ง เปา หมาย และสาระทพี่ งึ มใี นยทุ ธศาสตรช าตใิ หเ ปน ไปตามหลกั เกณฑแ ละวธิ กี าร
เปนกิจกรรมที่ชวยปลูกฝงคานิยมประชาธิปไตยใหแกเยาวชน ทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ ทงั้ น้ี กฎหมายดงั กลา วตอ งมบี ทบญั ญตั เิ กย่ี วกบั การมสี ว นรว ม
ใหเ ยาวชนรจู กั ใชส ทิ ธขิ องตนเองในการเลอื กผทู เ่ี หมาะสมทาํ หนา ท่ี และการรบั ฟง ความคดิ เห็นของประชาชนทุกภาคสว นอยา งท่วั ถงึ ดวย
แทนตน เปนการสง เสริมสังคมประชาธปิ ไตย)
T91
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๒.๓) ด้านการสาธารณสุข ด�าเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มี
ประสทิ ธภิ าพอยา่ งทว่ั ถงึ เสรมิ สรา้ งใหป้ ระชาชนมคี วามรเู้ กยี่ วกบั การดแู ลสขุ ภาพและการปอ้ งกนั
ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้ โรค เข้าถงึ การรกั ษาและพัฒนาภมู ปิ ญั ญาดา้ น
แพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด รัฐต้อง
9. นักเรียนรวมกันอภิปรายถึงหนาที่ของรัฐตอ ด�าเนินการให้มีสาธารณูปโภคขั้นพ้ืนฐานที่
ประชาชนในดา นตางๆ เชน ดานการศึกษา จา� เปน็ ตอ่ การดา� รงชวี ติ ของประชาชนอยา่ งทว่ั ถงึ
ดานสาธารณสุข ดานสาธารณูปโภค จากนนั้ ตามหลกั การพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื
ใหตัวแทนนักเรียนออกมานําเสนอผลการ ๒.๔) ด้านการต่างประเทศ ส่งเสริม
อภปิ รายหนาชัน้ เรยี น สมั พนั ธไมตรกี บั นานาประเทศ โดยถอื หลกั ความ
เสมอภาคในการปฏิบัติต่อกัน ไม่แทรกแซง
10. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นถึงผลดี
และประโยชนท จี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั ประเทศจากการ
ที่รัฐบาลดําเนินการพัฒนาประเทศในดาน
ตางๆ
รัฐมหี น้าที่ด�าเนนิ การด้านสาธารณสุขทม่ี ีมาตรฐาน กจิ การภายในของกนั และกนั ใหค้ วามรว่ มมอื กบั
เพอื่ ให้ประชาชนเข้าถึงการรกั ษาสขุ ภาพที่ดี องคก์ รระหวา่ งประเทศ และคมุ้ ครองผลประโยชน์
ของชาตแิ ละของคนในประเทศ
๒.๕) ด้านครอบครัว เสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว จัดให้มีท่ีอยู่ที่เหมาะสม
ส่งเสริมการพฒั นาสุขภาพ เพ่ือการมสี ุขภาพกายและจติ ใจท่ีเข้มแข็ง สง่ เสรมิ ดา้ นกฬี า ให้ความ
ชว่ ยเหลอื เด๒ก็ .๖ ส) ตดร้า ี นเยสาทิ วธชผิ นบู้ รผโิ ู้สภูงคอ1 าใยหุ ค้ควนาพมกิ คาุ้มรค ผรอู้ยางแกลไระ้ พใหิท้สักาษม์สาทิ รธถิขดอ�างรผงชูบ้ วีรติิโภไดค้อ ยเชา่ ่นงม ีคดณุ้านภกาาพร
รบั รู้ข้อมลู ทีเ่ ปน็ จรงิ ด้านความปลอดภัย ด้านความเป็นธรรมในการทา� สญั ญา และอ่นื ๆ ที่เป็น
ประโยชนต์ อ่ ผบู้ ริโภค
๒.๗) ดา้ นเศรษฐกจิ และการคลงั จดั ระบบเศรษฐกจิ ใหป้ ระชาชนมโี อกาสไดร้ บั ประโยชน์
จากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สามารถพ่ึงพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง จัดหรือด�าเนินการให้มีสาธารณูปโภคขั้นพ้ืนฐานท่ีจ�าเป็นต่อการด�ารงชีวิต
ของประชาชนอย่างทั่วถึงตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้ประชาชนมีความสามารถ
ในการทา� งานอยา่ งเหมาะสมกบั ศกั ยภาพและวยั และการมงี านทา� คมุ้ ครองแรงงานใหไ้ ดร้ บั ความ
ดป�าลรองดชภวี ัยติ แ คลมุ้ะมคสีรขุองอกนาารมใชยั ทแ้ ร่ดี งใี งนากนา รรทักา�ษงาาวนนิ มยั ทรี าายงไกดา้ รสเงวินสั กดาิกราครล แงั 2ลอะยสา่ ทิงเธคิปรรง่ ะคโรยดัช นเพ์ทือ่ี่เหใหมฐ้าาะแนกะทก่ าารง
การเงินการคลงั ของประเทศมเี สถียรภาพและมัน่ คง
นอกจากน ้ี รฐั บาลยงั มบี ทบาทหนา้ ทเ่ี พอ่ื การรกั ษาเสถยี รภาพทางดา้ นเศรษฐกจิ ใหม้ คี วาม
เจรญิ เตบิ โตอยา่ งมน่ั คง ลดความเหลอื่ มลา�้ ของประชาชนในประเทศ วางแผนพฒั นาเศรษฐกจิ สง่ เสรมิ
กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของประชาชนในประเทศ สง่ เสรมิ การลงทนุ ทงั้ ในประเทศและระหวา่ งประเทศ
8๒จดั ใหม้ สี าธารณปู โภคและโครงสรา้ งพนื้ ฐานทจ่ี า� เปน็ เชน่ ถนน ไฟฟา้ ประปา
นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ
1 ดานสิทธิผูบริโภค ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายคุมครองผูบริโภคไดบัญญัติ ขอ ใดแสดงใหเ หน็ ถงึ การมสี ว นรว มทางการเมอื งของประชาชน
สทิ ธขิ องผบู ริโภคทจี่ ะไดร ับความคุมครองตามกฎหมาย 5 ประการ ดงั น้ี ไดถกู ตองท่สี ดุ
1. สิทธิที่จะไดรับขาวสารรวมท้ังคําพรรณาคุณภาพท่ีถูกตองและเพียงพอ 1. ประชาชนรว มกนั เสนอแนวทางพฒั นาประชาธปิ ไตย
เกี่ยวกบั สินคาหรือบรกิ าร 2. ประชาชนท่ีจบปริญญาเทาน้ันสามารถมีสวนรวมทางการ
2. สิทธิท่ีจะมีอสิ ระในการเลือกหาสนิ คาหรือบริการ เมอื งได
3. สทิ ธิที่จะไดรบั ความปลอดภัยจากการใชสนิ คา หรอื บรกิ าร 3. ประชาชนในเขตเมอื งมารวมตวั กันเพอ่ื ตอตานการใชสทิ ธิ
4. สิทธทิ จ่ี ะไดร ับความเปน ธรรมในการทําสัญญา
5. สทิ ธิทจี่ ะไดร บั การพจิ ารณาและชดเชยความเสียหาย เลอื กตง้ั
2 วินัยทางการเงินการคลัง หมายถึง การไมใชจายเกินตัวของภาครัฐ 4. ประชาชนผูม สี ทิ ธิเลือกต้ังจาํ นวน 10,000 คน มีสทิ ธิเขา
การจัดสรรและใชจายเงินงบประมาณอยางเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
การหารายไดใหเพียงพอกับรายจาย การรักษาเงินคงคลังใหอยูในระดับท่ี ชอ่ื ถอดถอนผดู ํารงตําแหนงทางการเมืองได
เหมาะสม และการบรหิ ารหนสี้ าธารณะใหอ ยใู นระดบั ทสี่ ามารถใชค นื ได และไม
เปน ภาระของงบประมาณในอนาคต (วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. ประชาชนมสี ทิ ธทิ จ่ี ะเสนอแนวทาง
หรือนโยบายในการพัฒนาประชาธิปไตยไปยังผูมีอํานาจหนาท่ี
T92 เพื่อแสดงถึงการมีสวนรวมทางการเมือง ทั้งนี้ตามที่รัฐธรรมนูญ
กาํ หนดไว)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๒.๘) ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและ ขน้ั สอน
ศาสนาอนื่ โดยการสนบั สนนุ การศกึ ษาและการเผยแผศ่ าสนา เพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาจติ ใจและปญั ญา
และการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ตสิ ขุ ดา� เนนิ ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้
การอนุรักษ์ ฟืนฟู และส่งเสริมภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม 11. นักเรียนชวยกันเสนอแนะแนวทางการ
ประเพณีอนั ดงี ามของท้องถน่ิ โดยให้ประชาชน ดําเนินการตามแนวนโยบายดานสังคมใหมี
เขา้ ไปมสี ว่ น๒ร.๙ว่ ม) ใดน้ากนิจกการรรเมขข้าอถงึงทข้อ้องมถูลน่ิ ข่าวสาร1 ประสทิ ธภิ าพ และมคี วามยง่ั ยนื ตอ สงั คมไทย
12. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ
แนวนโยบายแหง รฐั ตามทร่ี ฐั ธรรมนญู บญั ญตั ิ
ไว จากนั้นขออาสาสมัครตัวแทนนักเรียน
1 คน ออกมาสรปุ สาระสาํ คญั หนาช้ันเรยี น
รฐั ตอ้ งเปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารทไี่ มเ่ กยี่ วกบั ความ
ม่ันคง ให้ประชาชนได้เข้าถึงและรับรู้ข้อมูลได้
โดยสะดวก
รฐั มหี นา้ ทสี่ ง่ เสรมิ และอนรุ กั ษศ์ ลิ ปวฒั นธรรมอนั ดงี ามของ
ทอ้ งถนิ่ และของชาติ เพอ่ื ด�ารงไว้ซึง่ เอกลักษณ์และความ
ภาคภมู ิใจของคนในชาติ
เรอื่ งนา รู แผนยทุ ธศาสตรช าต ิ ๒0 ป
แผนพัฒนาประเทศไทยไปสูความมั่นคง ม่ังคั่ง ยั่งยืน ประชาชนมีความสุข เปนประเทศที่พัฒนาแลว
ดว ยการพฒั นาคนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ประกอบดวย ๖ ยทุ ธศาสตร ไดแ ก
๑. ดานความมนั่ คง เพื่อประเทศชาตมิ ัน่ คง ประชาชนมีความสขุ เปนการบริหารจดั การสภาวะแวดลอ ม
ของประเทศใหมีความมั่นคง ปลอดภัย เนนการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยี ระบบฐานขอมูลขนาดใหญ
ใหส ามารถรบั มือภัยคุกคามหรือภยั พบิ ตั ไิ ด
๒. ดานการสรางความสามารถในการแขงขัน เพ่ือการนําเทคโนโลยี นวัตกรรม มาประยุกตใชให
สอดคลอ งกบั บรบิ ทของเศรษฐกจิ และสงั คม เพม่ิ ศกั ยภาพผปู ระกอบการ ปรบั รปู แบบธรุ กจิ ใหเ หมาะกบั การแขง ขนั
3. ดานการพัฒนาและเสรมิ สรา งศักยภาพทรัพยากรมนุษย เพือ่ พัฒนาคนในทุกชวงวัยใหเปน คนดี
คนเกง มคี ณุ ภาพ มสี ขุ ภาวะอนามยั ทด่ี ี มที กั ษะทจี่ าํ เปน ในศตวรรษท่ี ๒๑ มนี สิ ยั รกั การเรยี นรู เปน นกั คดิ นวตั กร
และผปู ระกอบการทม่ี ีศักยภาพในการแขง ขนั สูง
4. ดานการสรางโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อดึงภาคสวนทางสังคมทั้งเอกชน ประชา
สังคม ทองถิ่น เพื่อรวมขับเคล่ือนและเสริมสรางสังคมเขมแข็ง พึ่งตนเองได โดยรัฐจัดสวัสดิการใหอยางทั่วถึง
และเทาเทียมกัน
5. ดา นการสรา งการเจรญิ เตบิ โตบนคณุ ภาพชวี ติ ทเี่ ปน มติ รตอ สง่ิ แวดลอ ม เพอื่ การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื
ดานสังคม เศรษฐกิจ และส่ิงแวดลอม โดยการใชพื้นท่ีในการกําหนดยุทธศาสตรในการพัฒนา เนนการมี
สวนรวม และดาํ เนนิ การบนพื้นฐานการเตบิ โตรวมกัน
6. ดา นการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การภาครฐั เพอื่ ปรบั เปลยี่ นการบรหิ ารจดั การ
ภาครฐั โดยยดึ หลักภาครัฐของประชาชน เพือ่ ประชาชนและประโยชนรว มกัน
83
การตรวจสอบการใชอํานาจรัฐตามรัฐธรรมนูญสงผลดีตอ นักเรียนควรรู
ประเทศชาตอิ ยา งไร
1 ดานการเขาถึงขอมูลขาวสาร จากกฎหมายขอมูลขาวสารของราชการ มี
1. ทาํ ใหท ราบจํานวนนกั การเมอื งที่แนนอน เจตนารมณที่ตองการใหประชาชนมีโอกาสในการรับรูขอมูลขาวสารเกี่ยวกับ
2. มุงเนนในการถอดถอนนักการเมอื งออกจากตําแหนง การดาํ เนนิ การตา งๆ ของรัฐ เพื่อทีป่ ระชาชนจะไดส ามารถแสดงความคิดเห็น
3. ปอ งกนั การทจุ รติ คอรร ปั ชนั ของผดู าํ รงตาํ แหนง ทางการเมอื ง และใชสิทธิทางการเมืองไดถูกตองตรงกับความเปนจริง มีโอกาสรูถึงสิทธิและ
4. สงเสริมใหผูดํารงตําแหนงทางการเมืองใชตําแหนงเพ่ือ หนาที่ของตนเองอยางเต็มท่ี สงเสริมใหการบริหารงานของรัฐเปนไปอยางมี
ประสทิ ธภิ าพและโปรง ใส ซงึ่ กฎหมายไดก าํ หนดวธิ ใี นการเปด เผยขอ มลู ขา วสาร
แสวงหาผลประโยชน ไว 4 วธิ ี ดังนี้
(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. การตรวจสอบการใชอํานาจรัฐ
ตามรัฐธรรมนูญสงผลดีตอประเทศชาติในการปองกันการทุจริต 1. เปดเผยโดยการนําขอมูลขาวสารท่ีกฎหมายกําหนดลงพิมพในราช
คอรร ปั ชนั ของผดู าํ รงตาํ แหนง ทางการเมอื ง ทาํ ใหเ กดิ ความโปรง ใส กิจจานเุ บกษา
ในการทํางานและสามารถตรวจสอบได)
2. เปด เผยโดยการตง้ั แสดงไวใ นสถานทท่ี หี่ นว ยงานจดั เตรยี มไวใ หป ระชาชน
เขา ตรวจดูไดด วย
3. เปด เผยตามที่ประชาชนมคี าํ ขอเปนการเฉพาะราย
4. เปดเผยโดยหอจดหมายเหตแุ หง ชาติ
T93
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๒.๑๐) ด้านส่ิงแวดล้อม1 อนุรักษ์ คุ้มครอง บ�ารุงรักษา ฟืนฟู บริหารจัดการในการใช้
ทรพั ยากรใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ ยา่ งสมดลุ และยง่ั ยนื โดยประชาชนเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ ม เชน่ มกี ารวางแผน
ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ การใช้ท่ีดินให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นท่ีและศักยภาพของที่ดินตามหลักการพัฒนาอย่างย่ังยืน
จดั ใหม้ ีมาตรการกระจายการถอื ครองทีด่ ิน เพอื่ ใหป้ ระชาชนมีท่ีดนิ ทา� กินอยา่ งท่ัวถงึ ส่งเสรมิ การ
13. นักเรียนแบงกลุมเพื่อชวยกันจัดทําแผนผัง อนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือก หากการ
ความคิดเก่ียวกับหนาท่ีของรัฐ จากน้ันให ด�าเนินการใดท่ีส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพส่ิงแวดล้อม สุขภาพของประชาชน
ตัวแทนกลุมนําแผนผังความคิดมานําเสนอ รัฐต้องให้มกี ารศกึ ษา ประเมนิ ผลกระทบ จดั ใหม้ กี ารรับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชน
หนา ช้ันเรยี น บทบาทของรฐั บาลในการบรหิ ารประเทศนน้ั กวา้ งขวางมาก รฐั บาลจงึ ตอ้ งมขี า้ ราชการประจา�
และเจา้ หนา้ ทีใ่ นระดับต่าง ๆ เพ่ือรับนโยบายไปปฏบิ ตั ดิ �าเนนิ การและขบั เคลอ่ื นใหเ้ ปน็ ผลส�าเรจ็
14. ครูใหนักเรียนแตละคนจัดทําผังมโนทัศน ด้วยเหตุนี้ บทบาทของรัฐบาลในการบริหารประเทศจึงมีความส�าคัญอย่างมาก เพราะ
เกี่ยวกับบทบาทของรัฐบาล โดยเขียนลง ประเทศจะพัฒนาไปในทศิ ทางใดย่อมข้นึ อยกู่ บั นโยบายและการดา� เนินงานของรฐั บาล รัฐบาลทีด่ ี
กระดาษรายงานสง ครผู สู อน จะต้องสร้างความเจรญิ ก้าวหนา้ ใหก้ ับประเทศ ทา� ใหป้ ระชาชนมีความเป็นอยูท่ ่ดี ี มคี ณุ ภาพชีวติ
ที่ดี และนา� พาประเทศใหเ้ จริญก้าวหน้าสสู่ ากล
รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า มีสาธารณูปโภคพื้นฐานเพียงพอ เพ่ือรองรับการขยายตัว
ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ
84
นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ
1 ดานสิ่งแวดลอม การดําเนินการใดของรัฐ ถาอาจสงผลกระทบตอ การมีสวนรวมทางการเมืองของประชาชนชวยสรางความ
ทรพั ยากรธรรมชาติ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ ม คณุ ภาพชวี ติ รฐั ตอ งดาํ เนนิ การใหม กี าร เขมแข็งใหแกส งั คมประชาธปิ ไตยไดอยา งไร
ศกึ ษาและประเมนิ ผลกระทบ จดั ใหมีการรบั ฟง ความคดิ เห็น และระมดั ระวังให
เกดิ ผลกระทบตอ ประชาชน ชมุ ชน สง่ิ แวดลอ ม และความหลากหลายทางชวี ภาพ (แนวตอบ การมสี ว นรว มทางการเมอื งของประชาชนไมว า บคุ คล
นอยท่ีสุด และใหมีการเยียวยาความเดือดรอนหรือเสียหายใหแกประชาชน หรอื กลมุ บคุ คล ในการเขา ไปมบี ทบาทในกจิ กรรมใดกจิ กรรมหนง่ึ
หรอื ชุมชนท่ไี ดร ับผลกระทบอยา งเปนธรรมและรวดเร็ว ทางการเมือง มีสวนทําใหเกิดการรวมคิด รวมทํา ถือเปนส่ิงท่ีมี
ความสาํ คญั มากในการสรา งความเขม แข็งใหสงั คมประชาธปิ ไตย
เน่ืองจากประชาชนเปรยี บเสมือนรากฐานของประชาธิปไตยอยาง
แทจริง เชน การไปใชส ิทธิเลือกตงั้ การมสี วนรว มในการกาํ หนด
แนวนโยบาย)
T94
นาํ สอน สรปุ ประเมิน
เส้นทางแห่ง รฐั ธรรมนญู ไทย ขนั้ สรปุ
จากอดตี -ปจจบุ ัน๑
๒๗ ม.ิ ย. พ.ศ. ๒๔๗๕ ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
• ฉบบั ท ่ี ๑ พระราชบญั ญตั ธิ รรมนญู
การปกครองแผน่ ดนิ สยามชวั่ คราว ๑๐ ธ.ค. พ.ศ. ๒๔๗๕ 1. ครใู หน กั เรยี นทาํ ใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง การเลอื กตงั้
• ฉบบั ที่ ๒ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรสยาม และการมสี ว นรว มทางการเมอื ง โดยครแู นะนาํ
• พุทธศักราช ๒๔๗๕ • พุทธศกั ราช ๒๔๗๕ ๒ เพม่ิ เติม
ประกาศใช้ในสมัยคณะราษฎร ประกาศใชใ้ นสมัยพระยามโนปกรณน์ ติ ธิ าดา
ทา� การเปลีย่ นแปลงการปกครอง 2. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ หนาที่
พลเมืองฯ ม.3 เกี่ยวกับเรื่อง การเมืองการ
๑๐ พ.ค. พ.ศ. ๒๔๘๙ ๙ พ.ย. พ.ศ. ๒๔๙๐ ปกครองในปจจุบัน เพื่อเปนการบานสงครู
• ฉบบั ที่ ๓ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย ในชวั่ โมงถัดไป
๓ • พุทธศกั ราช ๒๔๘๙ • ฉบับท ี่ ๔ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๔
ประกาศใชใ้ นสมยั นายปรีด ี พนมยงค์ • (ฉบบั ชั่วคราว) พทุ ธศักราช ๒๔๙๐ ขนั้ ประเมนิ
ประกาศใชใ้ นสมยั จอมพล ป. พิบลู สงคราม
ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล
๒๓ มี.ค. พ.ศ. ๒๔๙๒ ๘ ม.ี ค. พ.ศ. ๒๔๙๕
• ฉบับท ่ี ๕ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ
๕ • พทุ ธศักราช ๒๔๙๒ • ฉบับท่ี ๖ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ๖ ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก
ประกาศใช้ในสมัยจอมพล ป. พิบลู สงคราม พทุ ธศักราช ๒๔๗๕ แก้ไขเพ่ิมเติม ๘ สมรรถนะฯ หนาทพ่ี ลเมอื งฯ ม.3
• พทุ ธศักราช ๒๔๙๕ ๑๐
๒๘ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๐๒ ประกาศใชใ้ นสมยั จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม ๑๒ 2. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั
๑๔ ทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชน้ั เรยี น
๗ • ฉบับท ่ี ๗ ธรรมนญู การปกครองราชอาณาจกั ร ๒๐ ม.ิ ย. พ.ศ. ๒๕๑๑ ๑๖
• พุทธศกั ราช ๒๕๐๒ ๑๘ 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงานและแบบฝก
ประกาศใชใ้ นสมัยจอมพล ถนอม กติ ตขิ จร • ฉบับที่ ๘ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ๒๐ สมรรถนะฯ หนาท่พี ลเมืองฯ ม.3
• พุทธศกั ราช ๒๕๑๑
๑๕ ธ.ค. พ.ศ. ๒๕๑๕ ประกาศใช้ในสมยั จอมพล ถนอม กติ ตขิ จร 85
๙ • ฉบับท ี่ ๙ ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร ๗ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๑๗
• พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
ประกาศใชใ้ นสมยั จอมพล ถนอม กิตติขจร • ฉบบั ที ่ ๑๐ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย
• พุทธศักราช ๒๕๑๗
๒๒ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๑๙ ประกาศใชใ้ นสมยั นายสญั ญา ธรรมศกั ดิ ์
๑๑ • ฉบับที่ ๑๑ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ๙ พ.ย. พ.ศ. ๒๕๒๐
• พทุ ธศักราช ๒๕๑๙ • ฉบบั ท ่ี ๑๒ ธรรมนญู การปกครองราชอาณาจกั ร
ประกาศใชใ้ นสมัยนายธานินทร ์ กรัยวิเชยี ร • พุทธศกั ราช ๒๕๒๐
ประกาศใชใ้ นสมยั พลเอก เกรียงศกั ด์ ิ ชมะนนั ทน์
๒๒ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๒๑
• ฉบบั ท ี่ ๑๓ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย
๑๓ • ปพรทุ ะธกศาักศรใาชชใ้ น ๒ส๕ม๒ัยพ๑ลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ๑ ม.ี ค. พ.ศ. ๒๕๓๔
• ฉบับที ่ ๑๔ ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจกั ร
• พุทธศักราช ๒๕๓๔
๙ ธ.ค. พ.ศ. ๒๕๓๔ ประกาศใช้ในสมัยนายอานนั ท ์ ปันยารชุน
• ฉบบั ที่ ๑๕ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย
๑๕ • ปพรุทะธกศาักศรใาชชใ้ น ๒ส๕ม๓ัยน๔า ย อ า น นั ท ์ ปันยารชนุ ๑๑ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๔๐
• ฉบบั ที่ ๑๖ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย
• พทุ ธศักราช ๒๕๔๐
๑ ต.ค. พ.ศ. ๒๕๔๙ ประกาศใช้ในสมยั พลเอก ชวลติ ยงใจยุทธ
• ฉบบั ท ่ี ๑๗ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย
๑๗ • (ฉบบั ช่ัวคราว) พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๙
ประกาศใชใ้ นสมยั พลเอก สรุ ยทุ ธ ์ จลุ านนท์ ๒๔ ส.ค. พ.ศ. ๒๕๕๐
• ฉบับท่ ี ๑๘ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย
พุทธศกั ราช ๒๕๕๐
๒๒ ก.ค. พ.ศ. ๒๕๕๗ • ประกาศใชใ้ นสมัยพลเอก สุรยุทธ ์ จลุ านนท์
• ฉบบั ที่ ๑๙ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย
๑๙ • (ฉบบั ชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗
ประกาศใชใ้ นสมยั พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา ๖ เม.ย. พ.ศ. ๒๕๖๐
• ฉบบั ที ่ ๒๐ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย
• พุทธศกั ราช ๒๕๖๐
ประกาศใชใ้ นสมยั พลเอก ประยุทธ ์ จนั ทร์โอชา
กจิ กรรม ทาทาย แนวทางการวัดและประเมินผล
นักเรียนศึกษาและวิเคราะหเสนทางรัฐธรรมนูญไทย ตั้งแต ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอ่ื ง รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจ จบุ นั
อดีตจนถึงปจจุบันวามีพัฒนาการอยางไร พรอมกับแสดงความ กับการเลือกตั้ง การมีสวนรวม และการตรวจสอบอํานาจรัฐ ไดจากการตอบ
คิดเห็นถึงการพัฒนารัฐธรรมนูญไทยในอนาคตวาจะมีทิศทาง คําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษา
อยางไร จากน้ันเขียนสรุปรายละเอียดลงในกระดาษ A4 แลว เกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบทา ยแผน
นาํ สงครผู สู อน การจดั การเรียนรหู นวยที่ 5 เรอื่ ง การเมอื งการปกครองในปจ จุบัน
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
คาช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนอื้ หา
2 การลาดบั ขน้ั ตอนของเรื่อง
3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม
รวม
ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............/................./................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ
T95
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาำ (5Es Instructional Model) ๔. ปัญหาที่เป็นอุปสรรคตอ่ การพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย
ขนั้ ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ แมว้ ่าประเทศไทยจะมกี ารปกครองระบอบประชาธิปไตยมากวา่ ๘๐ ป ี มีรัฐธรรมนูญท่เี ป็น
กฎหมายสงู สดุ ในการปกครองประเทศมาหลาย
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ชื่อเร่ือง ฉบับ แต่การเมืองไทยยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร
ทจ่ี ะเรยี นรู จดุ ประสงคการเรียนรู และผลการ รัฐบาลแต่ละสมัยไม่มีเสถียรภาพ อยู่ไม่ครบ
เรยี นรู วาระ ทา� ให้การบรหิ ารบา้ นเมืองไม่ตอ่ เนื่อง ใน
ขณะเดียวกันประชาชนยังขาดความรู้ความ
2. ครูนําขาวหรือเหตุการณที่เปนประเด็นปญหา เข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของตนเองตามระบอบ
ทางการเมืองการปกครองของไทย เชน ขาว ประชาธปิ ไตย ในการเลอื กตวั แทนเขา้ ไปบรหิ าร
การทจุ รติ ของนักการเมอื ง การบรหิ ารจัดการ บ้านเมือง จนส่งผลกระทบต่อความม่ันคงด้าน
โครงการตา งๆ ของรัฐ รวมถึงนโยบายที่อาจ การไปใช้สิทธิเลือกต้ังคนดีเป็นตัวแทนไปบริหารประเทศ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสามารถ
สงผลกระทบตอ การพัฒนาประเทศ จะช่วยพัฒนาประชาธิปไตยของไทยใหม้ ัน่ คง จ�าแนกปัญหาและอุปสรรคต่อการพัฒนา
3. ครูถามคําถามเพ่ือเปนการกระตุนความสนใจ ๑) การซอ้ื สทิ ธขิ ายเสยี ง1 เกดิ จากนกั การเปมรอื ะงชบาาธงปิกไลตมุ่ ยทขเ่ี อหงน็ ไแทกยป่ ไรดะ ้ โดยังชนน้ี ส์ ว่ นตน ตอ้ งการ
ของนักเรียน เชน
• นักเรียนคิดวาอะไรคืออุปสรรคท่ีสําคัญตอ
การพัฒนาการเมอื งการปกครองของไทย
เข้าสู่การเมืองโดยไม่ใช้วิธีการทางประชาธิปไตย จึงพยายามท�าทุกวิถีทางเพ่ือชนะการเลือกต้ัง
เชน่ มกี ารซอ้ื เสยี ง เสนอผลประโยชน ์ ในขณะเดยี วกนั หากประชาชนเหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นตนเพยี ง
เล็กน้อย ไม่ตระหนกั ถึงผลเสยี ท่ีจะตามมา เชน่ ได้นักการเมืองไม่มีคณุ ภาพ ทจุ รติ การเลอื กตั้ง
อาจน�า๒ไป)ส ูก่กาารรททุจุจรรติ ิตในคกอารร์รบัปรชิหันาร2 บเ้ากนิดเจมาือกงกจานรสข่งาผดลคเุณสียธหรรามยตจรอ่ ิยปธรระรเทมศขชอางตนิักการเมืองท่ีเห็นแก่
ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เช่น มีการ
แสวงหาผลประโยชนจ์ ากโครงการพฒั นาประเทศเพอื่ ความอยดู่ กี นิ ดขี องประชาชนและความมน่ั คง
ของประเทศ แตก่ ลบั ใชโ้ ครงการเหลา่ นใ้ี นการทจุ รติ ออกนโยบายตา่ ง ๆ ทเ่ี ออื้ ประโยชนเ์ ฉพาะกลมุ่
สรา้ งภาพลกั ษณ ์ สรา้ งฐานเสยี งใหก้ บั ตนเองและพวกพอ้ ง จนทา� ใหป้ ระเทศชาตเิ สยี หาย นอกจากนี้
การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ยงั เกดิ ขน้ึ ในระบบราชการไทย โดยการใชอ้ า� นาจหนา้ ทข่ี องตนในการแสวงหา
ผลประโยชน ์ อา� นวยความสะดวก การตดิ สนิ บน ท�าให้เกดิ การทุจรติ คอร์รัปชัน
๓) คา่ นิยมและระบบอุปถมั ภ์ของสังคมไทย ค่านิยมในสังคมไทยท่สี ่งผลใหเ้ กิดปัญหา
ทางการเมือง เช่น การยกย่องให้ความส�าคัญกับผู้ที่มีฐานะทางสังคม เช่น มีต�าแหน่งหน้าที่
การงานดี มีอ�านาจบารมี มีฐานะทางการเงินดี บคุ คลเหลา่ นี้สามารถใช้อ�านาจบารมี สถานภาพ
ที่มีอยใู่ นการประพฤตมิ ชิ อบ ทา� การเพอ่ื ผลประโยชนข์ องตนเองและพวกพอ้ งได้
86
นักเรียนควรรู กิจกรรม สรา งเสรมิ
1 การซื้อสิทธิขายเสียง คือ พฤติกรรมการทุจริตเลือกต้ัง โดยการใชเงิน ครูใหนักเรียนจัดอภิปรายกลุมยอยในประเด็นเศรษฐกิจ
หรือเสนอส่ิงตอบแทนในรูปแบบผลประโยชนหรือทรัพยตางๆ เพ่ือแลกเปล่ียน พอเพียงสามารถชวยแกไขปญหาการทุจริตคอรรัปชันไดอยางไร
กบั การไดมาซึง่ คะแนนเสยี งเลอื กตัง้ โดยเปดโอกาสใหนักเรียนรวมคิด รวมแสดงความคิดเห็นอยาง
2 คอรรัปชัน ประเภทของคอรรปั ชัน มีอยู 3 ประเภท ไดแ ก การคอรร ปั ชนั อิสระ จากนั้นใหนักเรียนรวมกันสรุปผลการอภิปรายแลวออกมา
ขนาดเลก็ นอ ย คอื การรบั เงนิ ทไ่ี มช อบธรรม หรอื ไมถ กู ตอ งของเจา หนา ทข่ี องรฐั รายงานหนาช้นั เรยี น
เปนจํานวนเงินทไี่ มมากนัก การคอรร ัปชันขนาดใหญ มกั เปน การคอรร ปั ชนั ของ
เจา หนา ทร่ี ะดบั สงู ทรี่ บั เงนิ ในรปู แบบของสนิ บนเปน เงนิ จาํ นวนสงู และโครงการ
ใหญๆ การใหของขวญั เปนการคอรร ปั ชนั อีกประเภทหนง่ึ เปนการใหต อบแทน
ในรปู แบบสง่ิ ของ หรือการใหตอบแทนในรปู แบบอื่นๆ ซง่ึ เปน การพยายามสราง
ความสัมพันธอ ันใกลชิด
T96
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๔) การไม่ตระหนักในสิทธิ หน้าท่ี และการมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาชน ขน้ั สอน
บางสว่ นขาดความสนใจทางการเมอื ง ไมม่ คี วามรเู้ กยี่ วกบั ความสา� คญั ของการเมอื งกบั การพฒั นา ขนั้ ท่ี 2 สำารวจค้นหา
ประเทศและความเปน็ อยขู่ องตนเอง ทา� ใหล้ ะเลยไมใ่ ชส้ ทิ ธขิ องความเปน็ พลเมอื งไทยในการเขา้ ไป
มีส่วนร่วมทางการเมือง เช่น ไม่ไปเลือกต้ัง ขายเสียง ท�าให้ได้นักการเมืองไม่มีคุณภาพเข้าไป 1. ครูใหนักเรียนแบงกลมุ ศึกษาคน ควา เกย่ี วกบั
บรหิ ารประเทศ ปญ หาทเี่ ปน อปุ สรรคตอ การพฒั นาประชาธปิ ไตย
ของประเทศไทย จากหนังสือเรียนสังคม
๕) ความคิดต่างทางการเมืองน�าไปสู่ความขัดแย้ง ในปัจจุบันประชาชนสามารถ ศกึ ษาฯ ม.3 หรอื จากแหลง การเรยี นรอู น่ื ๆ เชน
หนงั สอื ในหองสมุด เวบ็ ไซตในอินเทอรเน็ต
เข้าถงึ สือ่ ต่าง ๆ ไดง้ า่ ย สะดวก และรวดเร็ว ท�าให้รบั รขู้ อ้ มลู ข่าวสารทางการเมอื งสะดวกขึ้น และ
การมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นท�าให้มีความชอบที่ต่างกัน เมื่อการเมืองมีการแบ่งฝ่าย 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเช่ือถือ
ท�าให้ประชาชนเลือกติดตามคนหรือฝ่ายที่ตนเองช่ืนชอบ น�าไปสู่ความเห็นที่แตกต่างกัน จนใน ใหกับนักเรยี นเพ่ิมเติม
บางคร้งั๖อ)า จกเากรดิ รสฐั ถปารนะกหาารณร1ยท์ ึดนี่ อ�า�าไปนสาคู่จว กามารขปดั กแคยร้งอขงอระงบคอนบในปสรังะคชมาธปิ ไตยในระบบรฐั สภา การไดม้ า ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้
ซึ่งอ�านาจบริหารประเทศมาจากกลไกรัฐสภา มีการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน แต่ใน 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
สังคมไทยยังคงมีการท�ารฐั ประหารยึดอา� นาจเป็นวงจรทางการเมอื งไทยที่ยงั คงดา� รงอย ู่ ซึ่งขัดกบั การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู
แนวทางประชาธิปไตย มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเก่า แล้วจัดท�ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ระหวางกัน
มกี ารเลอื กตง้ั ใหม ่ จดั ตง้ั รฐั บาลบรหิ ารประเทศภายใตร้ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม ่ ลกั ษณะดงั กลา่ วเกดิ ขนึ้
หลายครง้ั สง่ ผลใหก้ ารพฒั นาประเทศหยดุ ชะงกั สง่ ผลกระทบตอ่ การพฒั นาดา้ นเศรษฐกจิ ความเปน็ อยู่ 2. จากน้ันสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล
ของประชาชน ขีดความสามารถในการแข่งขันกบั ตา่ งประเทศลดลง ตา่ งชาตขิ าดความเช่ือม่นั ทน่ี าํ เสนอเพอ่ื ใหไ ดขอ มูลท่ีถูกตอ ง
๗) การขาดคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ท้งั นกั การเมืองและผูม้ ีบทบาทในการบริหารประเทศ
ผทู้ ไ่ี ดร้ บั เลอื กตง้ั จากประชาชนจะตอ้ งมคี วามตระหนกั ในหนา้ ทแ่ี ละบทบาทของตนเองในการบรหิ าร
ประเทศอย่างโปร่งใส ไม่ใช้อ�านาจในทางไม่ถูกต้อง หรือแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเองและ
พวกพอ้ ง การบรหิ ารประเทศในปจั จบุ นั ยงั คงมปี ญั หาการทจุ รติ ในตา� แหนง่ หนา้ ทข่ี องนกั การเมอื ง
และผมู้ อี �านาจหน้าทโ่ี ดยตรง ส่งผลตอ่ การพฒั นาประเทศ
การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยในปัจจุบันยังคงมีอุปสรรค การเมือง
ไมม่ นั่ คง มกี ารเปลยี่ นแปลงบอ่ ย สง่ ผลกระทบตอ่ การพฒั นาประเทศและความเปน็ อยขู่ องประชาชน
ท้ังนี้ หากพลเมืองไทยมีความรู้ความเข้าใจในการเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและเห็นแก่
ผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ตระหนักในความส�าคัญ ใช้สิทธิและหน้าที่ตามวิถีประชาธิปไตย
จะท�าให้การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทยมีความม่นั คงมากขึ้น
87
ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
ความสาํ เรจ็ ในดา นการเมอื งการปกครองของไทยจาํ เปน ตอ งมี 1 การรัฐประหาร พฒั นาการดานประชาธิปไตยของไทยเปนไปอยา งเช่อื งชา
ส่ิงใดเกือ้ หนนุ สิ่งหนง่ึ ซง่ึ เปนปจ จยั สาํ คัญ คือ ประเทศไทยยังมกี ารรัฐประหาร สาํ หรับประเทศ
ที่มีความเจริญทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะไมมีเหตุการณ
1. จารตี ประเพณี รฐั ประหารเกดิ ขนึ้ การทาํ รฐั ประหารสง ผลใหม กี ารยกเลกิ รฐั ธรรมนญู ทใ่ี ชบ งั คบั
2. วฒั นธรรมประชาธปิ ไตย อยูในขณะนน้ั รวมทั้งลมสถาบันการเมอื งตา งๆ เชน รฐั สภา คณะรัฐมนตรี
3. คา นยิ มเดนิ ตามหลงั ผใู หญห มาไมก ดั
4. คา นยิ มเปน ผนู อ ยคอยกม ประนมกร
(วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. ประเทศไทยมีการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย ดังน้นั สงิ่ ที่จะชวยเกอ้ื หนุนใหก ารเมอื งการ
ปกครองของไทยประสบความสําเร็จ คือ การปลูกฝงและปฏิบัติ
ตามวฒั นธรรมประชาธิปไตย ขอ 2. จงึ เปนคําตอบทีถ่ ูกตอ ง)
T97
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน õ. แนวทางการแกป้ ญั หาและการพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย
ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ การพัฒนาประชาธิปไตยให้มีความม่ันคงและย่ังยืน ประชาชนต้องมีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับการปกครองประชาธิปไตยตามหลักการอ�านาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ประชาชนมี
3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล สทิ ธเิ สรภี าพและความเสมอภาค โดยยดึ หลกั กฎหมาย มกี ารปลกู ฝงั ความเปน็ ประชาธปิ ไตยตง้ั แต่
หนาช้ันเรียนตามประเด็นท่ีศึกษา อภิปราย ระดับครอบครัว สถาบันการศึกษา ในขณะเดียวกันผู้ที่เข้ามาท�าหน้าที่เป็นนักการเมืองจะต้อง
และตอบคาํ ถามรวมกัน เหน็ แกป่ ระโยชนข์ องประเทศชาตเิ ปน็ สา� คญั โดยแนวทางการพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย มดี งั น้ี
4. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายรว มกนั เกยี่ วกบั องคก ร เยาวชน ปลูกฝงคานิยมประชาธปิ ไตย
ดานสิทธิมนุษยชน และสุมตัวแทนนักเรียน 1
เพ่ือตอบคําถาม เชน
• การทุจริตของนักการเมืองสงผลกระทบตอ สถาบนั ครอบครวั ปลกู ฝงั แนวคดิ ประชาธปิ ไตยใหส้ มาชกิ
ประเทศชาติและประชาชนอยางไร ในครอบครวั
(แนวตอบ ทําใหตองสูญเสียงบประมาณใน • มอบหมายหน้าท่ี ปลูกฝังการใช้สิทธิและหน้าที่อย่าง
การพัฒนาประเทศเปนจํานวนมาก แทนที่ ถูกตอ้ ง และมคี วามรบั ผิดชอบ
จะนําเงนิ สวนน้นั มาชว ยเหลือประชาชน) • รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว แสดงความ
• ทําอยา งไรถงึ จะลดปญหาการทจุ ริตได คิดเหน็ ไดอ้ ยา่ งเสรี
(แนวตอบ เลือกคนดีเพื่อไปทําหนาท่ีในสภา • รจู้ กั ใชส้ ทิ ธขิ องตนเองอยา่ งถกู ตอ้ งและมคี วามรบั ผดิ ชอบ
สรางเครือขายเพ่ือชวยกันสอดสองดูแล ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หาและยตุ ิข้อขดั แยง้
และไมสนับสนุนพฤติกรรมท่ีเปนการทุจริต • ร ่วมกันก�าหนดกฎระเบียบในครอบครัวและปฏิบัติอย่าง
ตอประเทศชาต)ิ เครง่ ครดั
สถาบนั การศกึ ษา ปลกู ฝงั และถา่ ยทอดคา่ นยิ มประชาธปิ ไตย
ในสถาบนั การศกึ ษา
• ให้การศึกษาเกยี่ วกบั ประชาธิปไตย
• จ ัดกิจกรรมประชาธิปไตย เช่น เลือกประธานนักเรียน
หรอื ประธานชมรมภายในโรงเรยี นไดอ้ ยา่ งเสรี
• เ ข้าร่วมกจิ กรรมประชาธิปไตยของชมุ ชนหรอื ชมรมต่าง ๆ
ได้อยา่ งเสรี
• ป ฏิบัติตามกฎของสถานศกึ ษาอย่างเครง่ ครัด
88
เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด
ครูจัดการเสวนาโตะกลมเร่ือง “กาวตอไปของประชาธิปไตยไทย” โดยมุง การพัฒนาประชาธิปไตยสงผลดีอยา งไร
ประเด็นเกี่ยวกับบทบาทของคนในสังคมในการรวมกันพัฒนาประชาธิปไตย 1. ประเทศชาตมิ ีความม่นั คงปลอดภยั
จากน้ันใหนักเรียนท่ีเปนผูฟงซักถามขอสงสัยหรือชวยกันขยายความรู ครูสรุป 2. ประชาชนถูกบังคับใหอยภู ายใตอ าํ นาจรัฐ
ความรูท ่ไี ดจ ากการเสวนา 3. กลมุ ทนุ เออื้ ประโยชนใหแกพ วกพอ งของตน
4. การเมืองมเี สถยี รภาพและทุกคนรูหนาทีข่ องตน
นักเรียนควรรู
(วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 4. การพัฒนาประชาธิปไตยเปนสิ่ง
1 สถาบนั ครอบครวั เปน สถาบนั พน้ื ฐานของสงั คม มคี วามสาํ คญั ในฐานะเปน ที่คนไทยทุกคนตองชวยกัน โดยผลดีจะเกิดแกประชาชนทุกคน
แหลงถายทอดองคความรู ฝกฝนอบรมสมาชิกในครอบครัวใหเรียนรูระเบียบ ทําใหสังคมมีความเปนระเบียบ การเมืองมีเสถียรภาพม่ันคง
สงั คมหรอื การขดั เกลาทางสงั คม เพอื่ ใหส ามารถมคี วามสมั พนั ธก บั ผอู น่ื ไดอ ยา ง และทกุ คนรูจักหนา ที่ของตนเอง)
ราบร่ืนและปรับตัวเขากบั สงั คมไดอ ยางมคี วามสุข
T98
นาํ สอน สรุป ประเมนิ
ประชาชนทัว่ ไป ปฏิบตั ติ ามหน้าทค่ี วามเปนพลเมืองไทย ขน้ั สรปุ
ปฏิบัติหน้าทพี่ ลเมอื งไทย ตามบทบญั ญัติรฐั ธรรมนูญ ขัน้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ
• พ ิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการ
1. ครูใหนักเรยี นทําใบงานท่ี 5.4 เรอื่ ง ปญ หาที่
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น เปนอุปสรรคตอการพัฒนาประชาธิปไตยของ
ประมขุ ไทย โดยครูแนะนาํ เพ่ิมเติม
• ป อ้ งกันประเทศและพทิ ักษร์ กั ษาผลประโยชน์ของชาติ
• เ คารพและไมล่ ะเมดิ สิทธิเสรภี าพของผอู้ ืน่ 2. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ หนาที่
• ไ ปใชส้ ิทธเิ ลอื กตั้งหรือลงประชามติไดอ้ ย่างเสรี พลเมืองฯ ม.3 เกี่ยวกับเร่ือง ปญหาท่ีเปน
• ไ ม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบในทุก อุปสรรคตอการพัฒนาประชาธิปไตยของไทย
รปู แบบ และปฏิบตั ติ ามกฎหมายอยา่ งเครง่ ครดั เพอื่ เปน การบานสงครูในช่ัวโมงถดั ไป
• เ ข้ารบั การศกึ ษาภาคบังคบั รบั ราชการทหาร เสยี ภาษีอากร
• ไมส่ นับสนนุ การกระทา� ทีข่ ดั ตอ่ วถิ ปี ระชาธปิ ไตย ขนั้ ประเมนิ
• ไ มซ่ ื้อสทิ ธขิ ายเสียง ไมส่ นบั สนนุ สง่ เสริม หรอื เขา้ รว่ ม
การกระทา� ทสี่ อ่ ถึงความทจุ รติ ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล
• ส อดส่องและตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันของผู้มีบทบาท
ทางการเมือง 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ
ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก
การแก้ปัญหาและพัฒนาประชาธิปไตยของไทยจะด�าเนินไปได้อย่างราบรื่นและต่อเน่ือง สมรรถนะฯ หนา ท่พี ลเมอื งฯ ม.3
หากคนไทยมีความตระหนัก มีความเข้าใจ และปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีและสิทธิของตนเอง
ใชส้ ิทธไิ ดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นรวม และผลประโยชนข์ องประเทศชาตเิ ปน็ 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําช้ินงาน/ภาระงาน
ส�าคัญ จะช่วยให้ประเทศชาติด�าเนินไปได้อย่างยั่งยืนภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย (รวบยอด) รายงานเรอ่ื ง การเมอื งการปกครอง
อันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ ในยคุ ปจ จบุ นั
3. ใหนักเรียนทําแบบวัดฯ หนาท่ีพลเมืองฯ ม.3
เร่ือง การเมืองการปกครองในปจจุบัน เพื่อ
ทดสอบความรทู ไี่ ดศ ึกษามา
กลาวโดยสรุป การเมอื งการปกครองในแตละประเทศยอมมคี วามแตกตางกันไปขนึ้ อยู
กับภูมิหลังทางดานประวัติศาสตร แนวคิดหรืออุดมการณของผูนํา ลักษณะทางดานสังคม
วัฒนธรรมของแตละประเทศ ซึ่งการปกครองในระบอบตาง ๆ ยอมมีท้ังขอดีและขอเสียท่ี
แตกตา งกนั ออกไป สําหรับประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ
ทรงเปนประมุข มีรัฐธรรมนูญเปนกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ สงเสริมการมี
สว นรวมทางการเมอื งการปกครองของประชาชน ทําใหม ีการพัฒนามาอยา งตอ เนือ่ ง
89
กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล
นักเรียนแสดงบทบาทสมมติเปนคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครูสามารถวดั และประเมินความเขา ใจเนอ้ื หา เร่ือง ปญ หาท่ีเปนอุปสรรค
โดยจัดกิจกรรมใหความรูแกประชาชนเรื่องการเลือกตั้ง โดยเนน ตอการพัฒนาประชาธิปไตยของไทย ไดจากการตอบคําถาม การรวมกัน
การมีสว นรวม ซ่งึ แนวทางการจัดกิจกรรมจาํ แนกได ดังน้ี ทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและ
ประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบทา ยแผนการจดั การเรยี นรู
• กจิ กรรมการมสี ว นรว มกอนการเลือกต้งั หนว ยท่ี 5 เร่อื ง การเมอื งการปกครองในปจจบุ ัน
• กิจกรรมการมสี วนรวมระหวา งการเลือกต้ัง
• กจิ กรรมการมีสว นรว มหลงั การเลอื กตงั้ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
ทั้งนี้เพ่ือเผยแพรความรูความเขาใจเกี่ยวกับการเมืองการ
ปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยและการเลอื กตงั้ ผา นการรณรงค คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่
กจิ กรรมในรูปแบบตา งๆ ตรงกบั ระดับคะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา
2 การลาดบั ข้นั ตอนของเรื่อง
3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีส่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่
รวม
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง
T99
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
เฉลย คาำ ถามประจำาหน่วยการเรียนรู้ คÓถาม ประจÓหน่วยการเรยี นรู้
๑. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยกบั การปกครองระบอบเผด็จการมีความแตกตา่ งกันอย่างไร
1. ระบอบประชาธิปไตย อํานาจสูงสุดในการ ๒. ป ระชาชนในประเทศท่ีปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยกับประเทศท่ีปกครองด้วยระบอบ
ปกครองประเทศเปนของประชาชน ใชเสียง
สวนใหญและคํานึงถึงเสียงสวนนอย ใชหลัก เผดจ็ การ มีความเหมอื นหรอื แตกต่างกนั อย่างไร
นิติธรรม คือ การนํากฎหมายมาเปนหลัก ๓. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทย รัฐบาล ประชาชน มบี ทบาทหน้าทอ่ี ย่างไร
ในการบริหารประเทศ สวนระบอบเผด็จการ ๔. เ พราะเหตุใดการพัฒนาการเมืองการปกครองของไทยจึงยังประสบปัญหา และมีแนวทางการ
เปนการปกครองท่ีเนนความสําคญั อยทู ผี่ ูนาํ
แก้ปญั หาอยา่ งไรบ้าง
2. แตกตา งกนั ในระบอบประชาธปิ ไตย ประชาชน ๕. จ ากสถานการณ์ทางการเมืองการปกครองของไทยในปัจจบุ นั นักเรยี นจะมีแนวทางอยา่ งไร
มีสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย มีความ
เสมอภาค ประชาชนทกุ คนมคี วามเทา เทยี มกนั เพ่อื การพัฒนาการเมอื งการปกครอง
ไมมีการเลือกปฏิบัติ สวนระบอบเผด็จการ
ประชาชนไมม สี ทิ ธเิ สรภี าพมากนกั และตอ งทาํ กจิ กรรม สรา้ งสรรคพ์ ฒั นาการเรียนรู้
ตามคําสั่งของรัฐโดยเครง ครัด
กิจกรรมท ่ี ๑ แ บง่ กลมุ่ สบื คน้ ขอ้ มลู การเมอื งการปกครองของประเทศสมาชกิ อาเซยี น ๑ ประเทศ
3. รัฐมีหนาท่ีบริหารงานเพ่ือใหเกิดประโยชน
ตอประชาชน และพัฒนาประเทศใหเจริญ ในประเดน็ เชน่ รปู แบบของรฐั รปู แบบการปกครอง ประมขุ ของรฐั ประมขุ ฝา่ ย
กา วหนา สว นประชาชนมบี ทบาทหนา ทใ่ี นการ บรหิ าร รัฐสภา พรรคการเมือง วเิ คราะห์สถานการณ์ทางการเมอื งในปจั จุบนั
ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและสามารถเขา มามสี ทิ ธิ สรปุ สาระสา� คัญ นา� เสนอในช้นั เรยี น
มีสวนในการปกครองประเทศ
กิจกรรมท ี่ ๒ ก ิจกรรมเล่าข่าว ให้นักเรียนศึกษา สืบค้นข่าว สถานการณ์ทางการเมืองการ
4. เพราะมีอุปสรรคตอการพัฒนาประชาธิปไตย
อยูหลายประการ เชน การรัฐประหาร การ ปกครองของไทยในปจั จบุ นั วเิ คราะหส์ ถานการณ์ในประเดน็ เชน่ เหตกุ ารณ์ในขา่ ว
ทจุ รติ คอรร ปั ชนั การซอ้ื สทิ ธขิ ายเสยี ง สามารถ สาเหต ุ ผลกระทบ แนวทางการปอ้ งกันหรือแกไ้ ข สรปุ สาระสา� คัญ เล่าใหเ้ พ่ือน
แกไ ขได เชน ปลกู ฝง คา นยิ มประชาธปิ ไตยให ในช้นั เรยี นฟัง
แกเ ยาวชน ประชาชนตอ งปฏบิ ตั ติ นตามหนา ที่
พลเมอื งที่รฐั ธรรมนูญไดก าํ หนดไว กจิ กรรมท่ี ๓ ก จิ กรรมจา� ลองรฐั สภาไทย ครกู า� หนดสถานการณ์ใหม้ กี ารเลอื กตง้ั ระดบั ประเทศ
5. ไมส นบั สนนุ การกระทาํ ทขี่ ดั กบั วถิ ที างแหง การ โดยแบง่ นกั เรยี นกลมุ่ ท ่ี ๑ เปน็ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร กลมุ่ ท ี่ ๒
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ไมละเมิดสทิ ธิ เป็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และคัดเลือกตัวแทนนักเรียนท�าหน้าที่เป็นคณะ
เสรภี าพของผอู ่ืน ไมใ ชความรนุ แรง กรรมการการเลือกต้ัง จัดให้มีการเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน โดยแต่ละคน
จะต้องแสดงบทบาทสมมติตามบทบาทที่ได้รบั
90
เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพฒั นาทกั ษะ
ประเมนิ ความรอบรู
• ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป
ซง่ึ เปน งาน หรอื ชนิ้ งานทีใ่ ชเ วลาไมนาน สาํ หรับประเมินรูปแบบน้ีอาจเปนคําถามปลายเปดหรือผังมโนทัศน นยิ มสาํ หรับประเมนิ ผูเรียนรายบคุ คล
ประเมนิ ความสามารถ
• ใชในการประเมินความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชทักษะชีวิต และ
ความสามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใช
ในชวี ติ ประจาํ วนั ในฐานะพลเมืองทด่ี ขี องสังคม อาจเปนการประเมินจากการสังเกต การเขยี น การตอบคําถาม การวิเคราะห การแกปญหา ตลอดจน
การทํางานรวมกัน
ประเมินทกั ษะ
• ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนพลเมืองท่ีดีของสังคม ท่ีมีความซับซอน และกอเกิดเปนความชํานาญในการนํามาเปน
แนวทางปฏิบัติจริงในชีวิตประจําวันอยางยั่งยืน เชน ทักษะในการส่ือสาร ทักษะในการแกปญหา ทักษะชีวิตในดานตางๆ โดยอาจมีการนําเสนอ
ผลการปฏิบตั งิ านตอผเู กี่ยวของหรอื ตอสาธารณะ
สง่ิ ทต่ี อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงานหรอื กจิ กรรมทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทต่ี อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน
T100
Chapter Overview
แผนการจัด สอื่ ที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทกั ษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ
การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 1
ตลาดในระบบ - หนังสือเรียน 1. อธบิ ายความหมายและ สืบเสาะหา - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน - ความสามารถใน 1. มวี ินัย
เศรษฐกจิ สังคมศึกษาฯ ม.3 ประเภทของตลาดใน ความร ู้ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ การคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
- แบบฝกึ สมรรถนะ ระบบเศรษฐกจิ ได้ (K) (5Es สมรรถนะและการคดิ - ความสามารถใน 3. มุ่งมั่นในการ
1 และการคิด 2. จ �ำแนกข้อดีและข้อเสีย Instructional เศรษฐศาสตร์ ม.3 การใชท้ กั ษะชวี ติ ท�ำงาน
เศรษฐศาสตร์ ม.3 ของตลาดแตล่ ะประเภท Model) - ตรวจใบงานที่ 6.1
ชว่ั โมง - แบบทดสอบก่อนเรียน ได้ (P) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน
- PowerPoint 3. เหน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา - ตรวจผลงาน/ช้ินงาน
- ใบงานท่ี 6.1 ตลาดในระบบเศรษฐกจิ - สังเกตพฤติกรรม
เพ่มิ มากขึ้น (A) การท�ำงานรายบุคคล
- สงั เกตพฤตกิ รรม
การทำ� งานกลุม่
- ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
อันพึงประสงค์
แผนฯ ท่ี 2 - หนงั สอื เรียน 1. อธบิ ายความหมายและ สบื เสาะหา - ตรวจการทำ� แบบฝกึ - ความสามารถใน 1. มีวินัย
กลไกราคา สงั คมศึกษาฯ ม.3 ความส�ำคัญของกลไก ความร้ ู สมรรถนะและการคิด การคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้
- แบบฝกึ สมรรถนะ ราคาได้ (K) (5Es เศรษฐศาสตร์ ม.3 - ความสามารถใน 3. มุ่งมั่นในการ
1 และการคิด 2. จ ำ� แนกกลไกราคาแตล่ ะ Instructional - ตรวจใบงานที่ 6.2 การใชท้ กั ษะชวี ติ ทำ� งาน
เศรษฐศาสตร์ ม.3 ประเภทได้ (P) Model) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
ชั่วโมง - PowerPoint 3. เ หน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา - ตรวจผลงาน/ชน้ิ งาน
- ใบงานท่ี 6.2
ตลาดในระบบเศรษฐกจิ - สงั เกตพฤติกรรม
เพม่ิ มากขึ้น (A) การท�ำงานรายบคุ คล
- สังเกตพฤติกรรม
การท�ำงานกลุ่ม
- ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
T101
แผนการจดั สื่อท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ
การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์
แผนฯ ที่ 3
การกำ�หนด - หนงั สือเรียน 1. อ ธิบายหลักการก�ำหนด การจัดการ - ตรวจการท�ำแบบฝกึ - ความสามารถใน 1. มวี ินัย
ราคาในระบบ สังคมศกึ ษาฯ ม.3 ราคา การปรบั และ เรยี นรู้แบบ สมรรถนะและการคดิ การคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
เศรษฐกจิ - แบบฝึกสมรรถนะ เปลย่ี นแปลงราคาสนิ คา้ รว่ มมือ : เศรษฐศาสตร์ ม.3 - ความสามารถใน 3. มงุ่ มน่ั ในการ
และการคดิ และบริการได้ (K) เทคนิคคู่คิด - ตรวจการท�ำแบบวัดและ การใชท้ กั ษะชวี ติ ท�ำงาน
1 เศรษฐศาสตร์ ม.3 2. อธบิ ายการกำ� หนดราคา ส่ีสหาย บันทึกผลการเรยี นรู้
- แบบวัดและบันทกึ ผล ในทางปฏบิ ัตไิ ด้ (K) เศรษฐศาสตร์ ม.3
ชวั่ โมง การเรียนรู้ 3. จ ำ� แนกการกำ� หนดราคา - ตรวจใบงานท่ี 6.3
เศรษฐศาสตร์ ม.3 ในระบบเศรษฐกิจได้ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน
- แบบทดสอบหลังเรยี น (P) - ตรวจผลงาน/ชิน้ งาน
- PowerPoint 4. เ หน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา - สังเกตพฤตกิ รรม
- ใบงานท่ี 6.3 การกำ� หนดราคาเพมิ่ การท�ำงานรายบคุ คล
มากขน้ึ (A) - สงั เกตพฤติกรรม
การท�ำงานกลุ่ม
- ประเมินคณุ ลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
T102
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๖ กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิหนว่ ยการเรยี นรทู ่ี ขน้ั นาำ (5Es Instructional Model)
¡Åä¡ÃÒ¤ÒÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ ข้ันที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ
µ‹ÍÃкºàÈÃɰ¡Ô¨
Í‹ҧäà 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเรื่อง
ทีจ่ ะเรยี นรู จุดประสงคก ารเรยี นรู และผลการ
? เรยี นรู
2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน
หนวยการเรียนรูท ี่ 6 เร่อื ง กลไกราคาในระบบ
เศรษฐกจิ
3. ครนู าํ แผน พบั โฆษณา ใบปลวิ ของหา งสรรพสนิ คา
ใหน กั เรยี นดู แลว สมุ ถามนกั เรยี นวา “สนใจจะ
ซอื้ สนิ คา ใด เพราะเหตใุ ด และจะไปซอ้ื ทไี่ หน”
ในระบบเศรษฐกจิ มีท้งั ผู้บริโภคกบั ผ้ผู ลิต ผบู้ รโิ ภคเปน็ ผ้ทู ีม่ ีความตอ้ งการสนิ ค้าและบรกิ าร
ไปใช้ในการอุปโภคบริโภค ความต้องการบริโภคจะมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับราคาสินค้า รายได้
จ�านวนผู้ซื้อ การศึกษา และการโฆษณา ส่วนผู้ผลิตเป็นผู้ผลิตสินค้าและบริการออกมาจ�าหน่าย
ซ่งึ ความตอ้ งการของผผู้ ลติ จะมีมากหรือน้อยข้ึนอยูก่ ับราคาสนิ คา้ ท่ขี าย จา� นวนผู้ผลิต เป้าหมาย
ของผ้ผู ลติ ราคา ปัจจัยการผลติ และเทคนิคของการผลิต การซื้อขายจึงเปน็ การตกลงกันระหว่าง
ผบู้ ริโภคกับผผู้ ลติ หรอื ผู้ขาย
ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ส ๓.๑ ม.๓/๑ อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ • ความหมายและประเภทของตลาด
• ความหมายและตัวอยา่ งของอุปสงคแ์ ละอุปทาน
• ความหมายและความส�าคัญของกลไกราคาและการก�าหนด
ราคาในระบบเศรษฐกจิ
• หลกั การปรับและเปลี่ยนแปลงราคาสนิ ค้าและบริการ
9๑
เกร็ดแนะครู
ครคู วรจดั กจิ กรรมการเรยี นรโู ดยใหน กั เรยี นมคี วามรคู วามเขา ใจเกยี่ วกบั กลไกราคา และเพอื่ ใหเ ขา ใจการทาํ งานของกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ และเลอื ก
ซ้อื สนิ คา ไดอ ยางเหมาะสม โดยการจดั กจิ กรรม เชน
• ครูใหนกั เรยี นสํารวจราคาสินคาและบรกิ ารในตลาด
• ครใู หนักเรียนวิเคราะหราคาสนิ คาและบริการในปจจุบัน
• ครูใหนกั เรียนแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับการเลอื กซอื้ สนิ คาและบรกิ ารใหเ หมาะกับภาวะเศรษฐกิจและรายได
T103
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาำ ๑. ตลาดในระบบเศรษฐกจิ
ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ ตลาด (market) หมายถึง การที่ผู้ซ้ือและผู้ขายมีทางติดต่อกันได้โดยสะดวกจนสามารถ
ทา� การแลกเปลยี่ นซ้ือขายสนิ ค้ากนั ได้
4. ครูถามคาํ ถามนักเรียนเพิม่ เติม เชน จากคา� จ�ากดั ความดงั กล่าว ตลาดจงึ มคี วามหมาย ๒ นยั คอื
• โดยปกติแลวนักเรียนไปซ้ือของใช สินคา
ตางๆ ท่ีไหน และตลาดที่ไปซ้ือสินคามี นยั แรก หมายถึง สถานท่ีท่มี ีผ้ซู อื้ และผขู้ ายมาติดต่อท�าการซ้อื ขายกนั เช่น ตลาดท่าเตยี น
ลกั ษณะอยา งไร กรงุ เทพมหานคร ตลาดหวั รอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(แนวตอบ ครใู หนักเรยี นชวยกนั บอกลักษณะ การซ้ือนขัยาทยอีส่ ออนง ไหลมนา์ ยผถ่างึ น กแาอรปตพดิ ลติเ่อครชะันหตว่า่างงผ ๆซู้ ้อื ตกลบั าผดู้ขในายค วเาชม่นห ทมาางยจนดี้จหึงมมาีขยอ บโทเขรศตพัขทอง์ โตทลราสด1าทร่ี
ของตลาด เชน ตลาดนัดขายสินคา กว้างขวางมากขนึ้
หลากหลาย ตั้งแตอาหารสด กับขาว
เสือ้ ผา ของใช) ๑.๑ ลกั ษณะโดยทวั่ ไปของตลาด
5. ครูเช่ือมโยงเขาสูบทเรียน เก่ียวกับลักษณะ ตลาดโดยท่ัวไปอาจแบ่งออกได้หลายลักษณะ ทั้งน้ี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการแบ่ง
ของตลาดในระบบเศรษฐกิจ โดยครูซักถาม ว่าตอ้ งการพจิ ารณาอะไร และใช้เกณฑใ์ ด ดังนี้
และอธิบายขยายความจากสิ่งท่ีนักเรียนตอบ
จากนั้นอภิปรายความรูรว มกัน แบง่ ตามลักษณะการขายสินคา้ แบ่งตามลักษณะการแขง่ ขันท่มี อี ยู่ในตลาด
• ตลาดขายส่ง ท�าการซ้ือขายสินค้าจ�านวนมาก • ตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณ์ เป็นตลาดท่มี ีการแข่งขัน
ขนั้ สอน
โดยผู้ขายจะขายส่งสินค้าให้พ่อค้าขายส่งใน อย่างเต็มท่ีระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ราคาสินค้า
ข้นั ท่ี 2 สาำ รวจค้นหา ระดบั รองลงไป หรอื ขายใหพ้ อ่ คา้ ปลกี แตไ่ มข่ าย ถูกก�าหนดโดยกลไกตลาด
ใหผ้ บู้ ริโภคโดยตรง • ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ เป็นตลาดท่ีผู้ซ้ือหรือ
1. ครใู หนักเรยี นแบงกลมุ ศกึ ษาคนควา เกีย่ วกับ • ตลาดขายปลีก ท�าการซ้ือขายสินค้าให้กับ ผู้ขายมีอิทธิพลในการก�าหนดราคาหรือปริมาณ
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ จากหนังสือเรียน ผ้บู ริโภคโดยตรง สินค้าทที่ �าการซ้ือขายในแต่ละ ซ้ือขายสินค้า มากบ้างน้อยบ้างตามความไม่
สังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหลงการเรียนรู ครั้งมจี �านวนไม่มากนัก สมบูรณ์ของตลาด
อื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน
อินเทอรเ น็ต การ
แบ่งตลาด
2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเชื่อถือ แบง่ ตามชนิดสินคา้ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้สินคา้
ใหกับนักเรียนเพมิ่ เตมิ • ตลาดสินค้าเกษตร ท�าการซ้ือขายสินค้าเกษตร • ตลาดสินค้าผู้บริโภค เป็นตลาดท่ีผู้บริโภค
เช่น ขา้ ว ผลไม้ เนือ้ สัตว์ ซ้อื สนิ คา้ ไปบรโิ ภคโดยตรง เช่น เสอื้ ผา้
• ตลาดสินค้าอุตสาหกรรม ท�าการซื้อขายสินค้า • ตลาดสินค้าผู้ผลิตหรือตลาดปัจจัยการผลิต
อตุ สาหกรรม เช่น เคร่ืองจักร รถยนต ์ เคร่ืองใช้ เปน็ ตลาดทผี่ ซู้ อื้ นา� ไปใชใ้ นการผลติ อกี ทอดหนงึ่
ไฟฟ้า มักอยู่ในรูปของวัตถดุ บิ เช่น นา้� มัน
• ตลาดบริการ มีการซื้อขายบริการต่าง ๆ เช่น • ตลาดเงินและตลาดทุน ตลาดเงินเป็นตลาดท่ี
การขนสง่ ประกันภยั ธนาคาร มีการระดมทุนและให้กู้ยืมระยะสั้นไม่เกิน ๑ ป ี
ส่วนตลาดทุนเป็นตลาดท่ีมีการระดมทุนและให้
กยู้ ืมระยะยาวเกนิ ๑ ปี
92
นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสรมิ
1 ขอบเขตของตลาด เปนเร่ืองของการดําเนินการติดตอซ้ือขายสินคาและ ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ตลาดตามความเขาใจ
บริการระหวา งผผู ลิตกับผบู รโิ ภค ยงิ่ ชอ งทางการตดิ ตอ มีมากขึ้น จะชว ยทําให ของนักเรียนมีลักษณะสําคัญอยางไร และโดยปกติแลวนักเรียน
ขอบเขตของตลาดขยายตัวมากยิง่ ขน้ึ เลือกซอ้ื สินคา จากตลาดประเภทใด เพราะเหตใุ ด
บูรณาการอาเซียน
ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา การรวมกลุมเปนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเปน
ตัวอยางหน่ึงที่ทําใหเกิดตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตขนาดใหญ
โดยมีจุดมุงหมายใหเกิดการเปนตลาดเดียวและฐานการผลิตเดียว นอกจากน้ี
การเปนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะชวยใหประเทศสมาชิกมีความเปน
ปกแผน และชว ยสรา งอํานาจการตอรองในเวทกี ารเมืองระหวา งประเทศมากข้ึน
T104
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑.2 ตลาดตามลกั ษณะการแข่งขัน ขนั้ สอน
พจิ ารณาจากจ�านวนของผขู้ าย ผซู้ ือ้ และลักษณะของสนิ ค้าในตลาด โดยแบ่งตามลักษณะ ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้
การแขง่ ขนั ได้ ๒ ประเภท คอื ตลาดแขง่ ขันสมบูรณแ์ ละตลาดแขง่ ขันไมส่ มบรู ณ์
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
การกา� ห๑น) ดตราลคาาดจแงึ ขเกง่ ดิ ขขัน้นึ สจมากบทูรั้งณผ ์ูซ้ เื้อปแน็ ลตะลผา้ขู ดาทยม่ี โกี ดายรไแมข่มง่ ีปขจันั จกยัันออ่ืนย1ม่างาเมตีอม็ ิททธรี่ ิพะลหใวนา่ รงาผคู้ซาือ้ สกนิ บั คผา้ ูข้ าย การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู
ระหวา งกนั
๑.๑) ลักษณะสา� คญั ของตลาดแข่งขนั สมบรู ณ ์ ประกอบดว้ ย
๑. มผี ู้ซือ้ และผ้ขู ายจ�านวนมาก ผซู้ ้อื และผู้ขายแต่ละรายต่างไม่มอี ทิ ธพิ ลเหนือ 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล
ราคาสินค้า ที่นาํ เสนอเพื่อใหไดขอมูลท่ีถกู ตอ ง
๒. สินค้าท่ีซื้อภายในตลาดจะมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ คือ สามารถใช้
ทดแทนกัน ไดอ้ ย่า๓งส. มผบซู้ รูอื้ ณแล์ ะผขู้ ายตา่ งรถู้ งึ สภาพการณใ์ นตลาด2เปน็ อยา่ งด ี เชน่ รรู้ าคาซอื้ ขายสนิ คา้ 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล
ภาวะการผลติ สนิ คา้ ความตอ้ งการสินค้าในตลาด หนาช้ันเรียนตามประเด็นที่ศึกษา อภิปราย
๔. การติดต่อซ้ือขายจะต้องกระท�าโดยสะดวก ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถติดต่อ และตอบคําถามรว มกัน
ซื้อขายกนั ไดอ้ ย่างสะดวกรวดเร็ว
๕. หนว่ ยธรุ กจิ สามารถเขา้ หรอื ออกจากธรุ กจิ การคา้ ไดโ้ ดยเสร ี โดยไมม่ ขี อ้ จา� กดั 4. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายรว มกนั และสมุ ตวั แทน
ในการเข้ามาประกอบธุรกิจของนกั ธุรกจิ รายใหม่ นกั เรยี นเพ่ือตอบคาํ ถาม เชน
๑.๒) ขอ้ ดีและข้อเสียของตลาดแข่งขันสมบรู ณ์ มีดงั นี้ • การทมี่ ผี ขู ายและผซู อ้ื เปน จาํ นวนมาก สง ผล
ใหตลาดมสี ภาพอยา งไร
ข้อดี ข้อเสยี (แนวตอบ ทําใหมีการแขงขันกันสูง ผูที่มี
• ด้านการผลิต ผู้ผลิตจะท�าการผลิตสินค้าอย่างมี • ใ นระยะยาวผูผ้ ลติ จะได้กา� ไรนอ้ ยมาก หรือไดเ้ พยี ง ศักยภาพในการแขงขันต่ําตองเสียเปรียบ
ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ เพอ่ื ใหต้ น้ ทนุ ตา�่ ทสี่ ดุ การแขง่ ขนั เท่าทุน ตลาดน้ีจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในสภาพ และราคาสินคาไมคงท่ี ผูผลิตไมสามารถ
เปน็ การกระตุ้นใหม้ ผี ู้ผลิตรายใหมเ่ ข้ามาแขง่ ขนั • ค ไมว่มามีกเาปรน็แจขร่งิงข ันเนระื่อหงจว่าางกผไมู้ผม่ลิตีก3อา� ไยร่าเงปแน็ ทแ้จรรงิงก รผะตู้ผ้นุลิต กําหนดราคาไดโดยเด็ดขาด ทําใหกําไร
• ด้านการบริโภค ผบู้ ริโภคจะได้รับความพอใจสูงสดุ ไมแนนอน หรืออาจไมมีกําไรเพราะมีการ
ในการเลอื กซอ้ื สนิ ค้าและบรกิ าร และโอกาสในการ แต่ละรายมีความสามารถไม่เท่ากัน ท�าให้ผู้ท่ีมี แขง ขันสงู )
เลอื กซอ้ื สนิ คา้ ในราคาที่ต่�าทส่ี ดุ ความสามารถในการบริหารจัดการน้อยไม่สามารถ • นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไร หากราคา
• ระบบเศรษฐกจิ โดยรวม ท�าใหก้ ารจัดสรรทรัพยากร ลดตน้ ทนุ การผลติ ได ้ อาจประสบปญั หาการขาดทนุ ของสินคาหรือบริการถูกกําหนดโดยผูผลิต
มปี ระสทิ ธภิ าพ การกระจายรายไดค้ อ่ นขา้ งเสมอภาค ต้องเลิกกิจการไปในท่ีสุด ท�าให้ไม่มีการแข่งขัน หรือผบู รโิ ภคเพยี งฝา ยเดยี ว
ผู้ผลิตจะไม่ได้ก�าไรเกินควร และผู้บริโภคสามารถ ระหว่างผูผ้ ลิตที่แทจ้ รงิ (แนวตอบ คําตอบไมมีถูกหรือผิด แตเนนที่
เหตุและผลที่นํามาสนับสนุน ตองมีความ
สอดคลองถึงผลดี-ผลเสียท่ีมีตอผูผลิตหรือ
ผบู ริโภค)
ซื้อสินค้าได้ในราคาท่ีสมเหตุสมผล รวมท้ังมีการ • ผผู้ ลติ มกั จะไมล่ งทนุ จา� นวนมาก หรอื ไมม่ กี ารลงทนุ
ปรบั ปรงุ การผลิตของผผู้ ลิตอยู่เสมอ ขนาดใหญ่ เน่ืองจากการผลิตมีก�าไรน้อย ท�าให้
สภาพการลงทุนใหม่ ๆ มีไม่มากเม่ือเปรียบเทียบ
กับตลาดอน่ื ๆ
93
ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู
“ราคาสินคา ถูกกาํ หนดโดยกลไกตลาด” จัดเปน ตลาดประเภทใด 1 ปจจัยอื่น อาจหมายถึง การที่รัฐบาลเขามาแทรกแซงตลาด โดยการใช
1. ตลาดสนิ คาบรโิ ภค มาตรการตา งๆ เชน การประกันราคา การกําหนดจํานวนการซอื้ การขาย ฯลฯ
2. ตลาดแขงขันสมบรู ณ 2 สภาพการณใ นตลาด เปน เรอื่ งของภาวะของปรมิ าณการผลติ การนาํ สนิ คา
3. ตลาดเงนิ และตลาดทุน ออกจําหนาย ความตองการบริโภคสินคา ภาวะการแขงขันของท้ังตลาด
4. ตลาดแขง ขนั ไมสมบูรณ ในประเทศและตลาดตา งประเทศ
3 การแขงขันระหวางผูผลิต เปนการแขงขันในการผลิตของเอกชนอยางเสรี
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. ตลาดแขง ขนั สมบรู ณ เนอ่ื งจากเปน โดยมีรปู แบบการแขงขันแบบหลากหลาย เชน การลดราคาสนิ คา การสงเสริม
ตลาดทมี่ กี ารแขง ขนั อยา งเตม็ ทร่ี ะหวา งผซู อ้ื และผขู าย ราคาสนิ คา การขาย โฆษณา ใชเทคโนโลยีสมัยใหมใ นการผลติ ฯลฯ
จึงถูกกําหนดโดยกลไกตลาด ซ่ึงเปนการแบงตลาดตามลักษณะ
การแขงขันที่มีอยูในตลาด ท่ีแบงเปนตลาดแขงขันสมบูรณและ
ตลาดแขงขันไมส มบรู ณ)
T105
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๒) ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ เป็นตลาดท่ีผู้ซื้อหรือผู้ขายมีอิทธิพลในการก�าหนดราคา
ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ หรือปริมาณสินค้าในตลาด เนื่องจากสินค้าส่วนมากมีลักษณะไม่เหมือนกัน ท�าให้ผู้ซ้ือเกิด
ความพึงพอใจสินค้าของผู้ขายคนหนึ่งมากกว่าอีกคนหนึ่ง นอกจากน้ี ผู้ซื้อหรือผู้ขายในธุรกิจมี
5. ครูซักถามขอสงสัยของนักเรียนเพิ่มเติม นอ้ ยเกนิ ไป ท�าใหม้ ีอิทธพิ ลเหนอื ราคา และเปน็ ผูก้ า� หนดราคาเสยี เอง หรืออาจมีปจั จัยอนื่ เชน่
หรือต้ังประเด็นเพื่อใหนักเรียนรวมกันคนหา การเคล่ือนย้ายสินค้าไม่สะดวก การติดต่อส่ือสารกันได้ยาก ผู้บริโภคไม่ค่อยมีความรอบรู้ใน
คําตอบเพ่ิมเตมิ เชน ภาวะตลาด
• ตลาดแขงขนั ไมสมบรู ณม ลี ักษณะอยา งไร ๒.๑) ประเภทของตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ โดยพิจารณาจากที่ผู้ขายมีอิทธิพลในการ
• ตลาดแขงขันไมสมบูรณผูขายมีบทบาท ก�าหนดราคาหรือปริมาณสนิ คา้ ในตลาด ดงั น้ี
อยา งไร
• ตลาดแขงขันไมสมบูรณมีขอดี-ขอเสีย
อยางไร
• ต ลาดก่ึงแขง่ ขนั กึง่ ผูกขาด มีผูข้ ายเปน็ จา� นวนมากและมีอสิ ระในการวางนโยบายการขาย
โดยสินค้าท่ีผลิตมีลักษณะหรือมาตรฐานท่ีแตกต่างกัน คือ เป็นสินค้าอย่างเดียวกันแต่มี
หลายย่ีห้อ ท�าให้ผู้ขายสามารถก�าหนดราคาเองได้ ท้ัง ๆ ที่ต้องแข่งขันกับผู้ขายรายอื่น
ดา นผู้ขาย เชน่ สบ ู่ ยาสีฟนั
• ตลาดท่ีมผี ู้ขายน้อยราย มีผู้ขายไมก่ ร่ี ายแต่ขายสินคา้ จ�านวนมากเม่อื เทยี บกับตลาดทัง้ หมด ถา้ ผ้ขู ายมกี าร
• เตปลลาี่ยดนผแกู ปขลาดงร1 าเปคน็าจตะลสาง่ ดผทลม่ี กผี ร้ขูะทายบเตพอ่ ียผงูผ้รลายติ เรดาียยวอ ืน่ ท �าเใชหน่ ้ผ ู้ขบารยษิ มัทอี โรทิ งธกพิ ลลน่ั เนหา้�นมือนั ราคา เชน่ โรงงานยาสบู รถไฟ
ยาสูบเปน็ สินค้าผกู ขาดชนิดหนง่ึ เพราะผู้ปลูกตอ้ งขายใบยาสดใหส้ ถานีบ่มใบยา และสถานีบ่มใบยาต้องขายใบยาแหง้ ให้
ผลโรตงองาผนซู้ยาือ้ สบู เท่านั้น
94
เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด
ครูอาจใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางตลาดแขงขันไมสมบูรณที่เกิดขึ้นจริง ทกุ ขอ เปน ลักษณะของตลาดแขง ขันไมสมบรู ณ ยกเวนขอใด
3-4 ตวั อยา งทไ่ี มซา้ํ กัน แลว ใหวิเคราะหถงึ ขอ ด-ี ขอ เสีย 1. มีผซู อื้ และผูขายจํานวนมาก
2. สนิ คา สวนมากมีลักษณะไมเ หมอื นกนั
นักเรียนควรรู 3. ผซู อ้ื และผูข ายมีอิทธพิ ลในการกําหนดราคาในตลาด
4. ผูซ อื้ และผขู ายมอี ทิ ธิพลในการกําหนดปรมิ าณสนิ คาในตลาด
1 ตลาดผูกขาด มีผูขายรายเดียวเปนผูมีอํานาจในการกําหนดราคาสินคา
และบริการของตน การแขงขนั มนี อย ทาํ ใหผบู รโิ ภคตอ งซือ้ สินคาในราคาแพง (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากตลาดแขงขันไมสมบูรณ
เกนิ ควร หรอื ตองซอ้ื สินคาท่มี คี ณุ ภาพตาํ่ โดยไมมที างเลอื ก แตถ าตลาดผูกขาด เปนตลาดท่ีผูซ้ือและผูขายในธุรกิจมีนอยเกินไป ทําใหมีอิทธิพล
เปนของรัฐ การซื้อขายสินคาของรัฐอาจจะอยูในรูปของการกําหนดราคา เหนือราคา จึงมีอิทธิพลในการกําหนดราคาหรือปริมาณสินคา
พอสมควร เพ่อื ใหเปน สวสั ดิการของประชาชนในประเทศ ในตลาด)
T106
นาํ สอน สรุป ประเมิน
การผูกขาดในตลาดแขง่ ขนั ไม่สมบรู ณอ์ าจไม่ได้เกดิ จากผู้ผลิตรายเดยี ว แตอ่ าจรวมตัวกัน ขน้ั สรปุ
หลายรายเพอ่ื กา� หนดราคารว่ มกนั เชน่ นา�้ มนั ถกู กา� หนดราคาจากกลมุ่ โอเปก ทา� ใหไ้ มม่ กี ารแขง่ ขนั
ด้านราคา ถึงแม้คุณภาพสินค้าเท่ากัน ในการก�าหนดราคาไม่ได้หมายความว่าผู้ผลิตมีอ�านาจ ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
เดด็ ขาด แตจ่ ะมมี ากหรอื นอ้ ยขนึ้ อยกู่ บั ลกั ษณะของอตุ สาหกรรมนน้ั ซงึ่ มคี วามแตกตา่ งดา้ นจา� นวน
ขนาดของผู้ให้บริการ และอิทธิพลของผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาดด้วย เช่น ตลาดน�้าอัดลม 1. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 6.1 เร่ือง
ตลาดหนังสือพิมพ์ ซึ่งการก�าหนดราคามักจะเท่ากัน แม้ต้นทุนการผลิตต่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ โดยครแู นะนาํ เพมิ่ เตมิ
การแข่งขันดา้ นราคา จงึ มักก�าหนดราคาตามผผู้ ลิตรายใหญห่ รือก�าหนดราคารว่ มกัน
๒.๒) ขอ้ ดีและข้อเสยี ของตลาดแขง่ ขนั ไม่สมบรู ณ ์ มีดงั นี้ 2. ครใู หน ักเรยี นทาํ แบบฝกสมรรถนะฯ
เศรษฐศาสตร ม.3 เกยี่ วกบั เรอื่ ง ตลาดในระบบ
ข้อดี เศรษฐกจิ เพอ่ื เปน การบา นสง ครใู นชวั่ โมงถดั ไป
• ส ามารถควบคมุ การบรโิ ภคและการใหส้ วสั ดกิ าร เปน็ กจิ การทรี่ ฐั เขา้ ไปผกู ขาดการผลติ เพอื่ ควบคมุ การบรโิ ภค ขนั้ ประเมนิ
เชน่ สุรา สลากกินแบ่งรัฐบาล หรอื กิจการบางประเภททีร่ ฐั เขา้ ไปดา� เนินการชว่ ยเหลือและใหส้ วสั ดิการแก่
ประชาชน เพอ่ื ให้ไดบ้ รโิ ภคสินค้าในราคาตา�่ เชน่ กิจการรถไฟ องคก์ ารขนสง่ มวลชน ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล
• ส ามารถควบคุมสภาพแวดลอ้ ม กิจการบางประเภทรฐั ต้องเข้าไปควบคุมไมใ่ ห้มีผ้ผู ลติ มากเกนิ ไป เนอื่ งจาก 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ
เกรงว่าจะเกิดปัญหาสภาพแวดลอ้ ม และรัฐสามารถเข้าควบคุมได้โดยสะดวก ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก
สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3
• ส ง่ ผลดตี อ่ การผลติ สนิ ค้าพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สว่ นใหญ่เป็นสินค้าท่ีตอ้ งใช้เงนิ ลงทนุ มากแตผ่ ลตอบแทนตา�่
เชน่ ไฟฟา้ ประปา รฐั ตอ้ งเขา้ ไปดา� เนนิ การเพอ่ื ใหป้ ระชาชนบรโิ ภคสนิ คา้ ในราคาทเ่ี ปน็ ธรรม 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
• ส รา้ งแรงจงู ใจใหภ้ าคเอกชน เนอ่ื งจากรฐั บาลมกี ารจ�ากดั จา� นวนธรุ กจิ เชน่ การสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารกอ่ ตงั้ โรงงาน หนาช้นั เรียน
เหล็กแผน่ รีดรอ้ นและรดี เย็น โดยไม่มีคู่แข่งในชว่ งระยะเวลาหน่ึง
3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3
ข้อเสยี
• ก ารจดั สรรทรพั ยากรไมเ่ ปน็ ธรรม เมอื่ มผี ผู้ ลติ ผกู ขาดหรอื ผผู้ ลติ นอ้ ยราย ทา� ใหผ้ ผู้ ลติ เลอื กซอ้ื ปจั จยั การผลติ
ทีด่ อ้ ยคุณภาพ เอาเปรยี บแรงงาน แต่จา� หนา่ ยสินค้าในราคาสงู
• ส่งผลกระทบตอ่ การบริโภค ท�าใหผ้ ูบ้ ริโภคขาดทางเลอื กในการบริโภคสินคา้
• ม ีการแข่งขันน้อย เน่ืองจากการกีดกันจากผู้ผลิต ท�าให้ผู้ผลิตรายอื่นไม่สามารถเข้ามาท�าการแข่งขันได้
ผ้บู ริโภคจงึ ต้องบริโภคสินคา้ ราคาสูง และเม่อื มผี ูผ้ ลติ จ�านวนน้อย การจ้างงานจึงมีน้อย
โดยภาพรวมสามารถเปรยี บเทยี บลกั ษณะการแข่งขนั ในตลาดลกั ษณะตา่ ง ๆ ได ้ ดังน้ี
ตลาด จ�านวนผขู้ าย ลกั ษณะสนิ ค้า ความยากง่ายในการเข้าสตู่ ลาด
แขง่ ขนั สมบูรณ์ มาก ทดแทนกันไดอ้ ย่างสมบูรณ์ เข้ามาได้โดยงา่ ย
แข่งขนั ไมส่ มบูรณ์ น้อย ทดแทนกนั ไดไ้ ม่สมบูรณ์ เขา้ มาได้ยากมาก
95
ขอสอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล
ตลาดแขง ขนั กึง่ ผกู ขาดคอื อะไร ยกตวั อยางประกอบ ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอื่ ง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ
ไดจากการสืบคนและนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัด
(แนวตอบ ตลาดแขงขันกึ่งผูกขาด คือ ตลาดท่ีมีผูขายสินคา และประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบทายแผนการจัดการ
หรือบรกิ ารจาํ นวนนอย มกี ารโฆษณาสินคา หรอื บรกิ ารน้ัน ราคา เรยี นรูหนว ยท่ี 6 เรือ่ ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
ใกลเคียงกัน แตจะแตกตางกันบางในปจจัยประกอบอื่นๆ เชน
ยห่ี อ สญั ลกั ษณข องสนิ คา รปู แบบการใหบ รกิ ารเสรมิ ตา งๆ เชน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
ตลาดบะหมก่ี งึ่ สาํ เรจ็ รปู ตลาดโทรคมนาคม)
คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเร่ือง
3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์
4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีส่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่
รวม
ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง
T107
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาำ (5Es Instructional Model) ๒. กรลาคไากสินรคา้าคแลาะบริการท่ีผลิตข้ึนในระบบเศรษฐกิจ1จะถูกก�าหนดข้ึนโดยอุปสงค์ ซ่ึงแสดง
ปรมิ าณความตอ้ งการซอ้ื สินค้าของผ้บู รโิ ภค และอปุ ทาน แสดงปริมาณเสนอขายสนิ คา้ ของผู้ผลิต
ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ เรยี กวา่ “กลไกราคา”
กลไกราคา (price mechanism) หมายถงึ การเปลีย่ นแปลงในระดบั ราคาสนิ ค้า ซึง่ เกิดข้นึ
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเรื่อง จากแรงผลักดันของอุปสงค์ตลาดและอุปทานตลาด เมื่อผู้ผลิตพยายามท�าการปรับปรุงการผลิต
ทจี่ ะเรียนรู จุดประสงคก ารเรยี นรู และผลการ ของตนใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคในตลาด เมอื่ ใดทปี่ รมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารทผี่ ผู้ ลติ
เรียนรู ได้ผลิตขึ้นมเี ปน็ จ�านวนมาก ขณะท่ปี ริมาณความต้องการของผ้บู ริโภคยงั คงมีเทา่ เดิม ระดบั ราคา
สนิ ค้าชนดิ นัน้ จะลดลง
2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นวา มนี กั เรยี นคนใดเคยสงั่ กลไกราคามีความส�าคัญในระบบเศรษฐกิจ จะเป็นตัวที่ช่วยในการตัดสินใจของผู้บริโภค
ซอื้ สนิ คา ผา นทางระบบอนิ เทอรเ นต็ บา งหรอื ไม และผผู้ ลติ กลา่ วคอื ถา้ เมอื่ ใดทร่ี ะดบั ราคาสนิ คา้ สงู มาก แสดงวา่ ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคมมี าก
และมวี ธิ กี ารซอื้ สนิ คา อยา งไร มปี จ จยั ใดทท่ี าํ ให ทางผผู้ ลติ จะดา� เนนิ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารเพม่ิ ทา� ใหป้ รมิ าณสนิ คา้ ในตลาดเพม่ิ ขนึ้ ระดบั ราคา
นักเรียนตัดสินใจซื้อสินคา รวมถึงใหนักเรียน สนิ ค้ากจ็ ะลดลง
บอกช่ือเว็บไซตที่มีการซื้อ-ขายสินคาและ ถ้าเมื่อใดที่ระดับราคาสินค้าต�่ามาก แสดงว่าสินค้าน้ันมีปริมาณเกินความต้องการของ
บรกิ ารตาง ๆ ทนี่ กั เรยี นรูจักมาพอสังเขป ผู้บริโภค ทางผู้ผลิตก็จะด�าเนินการลดปริมาณการผลิตลง ระดับราคาสินค้าก็จะมีแนวโน้มสูงข้ึน
ดังน้ัน กลไกราคาจึงอาศัยกระบวนการท�างานของอุปสงค์ตลาดและอุปทานตลาดของสินค้าและ
3. ครูยกตัวอยางสินคาท่ีมีราคาแพงข้ึน เชน บรกิ ารในระบบเศรษฐกิจเปน็ ส�าคญั
อาหาร อปุ กรณเคร่อื งเขยี น ทองคาํ และถาม
นกั เรียนวา 2.๑ อุปสงค์
• ถา ราคาปรบั เพมิ่ ขนึ้ อกี นกั เรยี นจะซอื้ หรอื ไม อปุ สงค ์ (demand) หมายถึง ปริมาณสินค้าและบรกิ ารทผ่ี ้บู ริโภคตอ้ งการและสามารถซ้ือ
เพราะเหตุใด สนิ คา้ ในระยะเวลาหนึ่ง ณ ระดบั ราคาต่าง ๆ ของสินคา้ และบริการชนดิ นน้ั
• นักเรียนคิดวา เพราะเหตุใดราคาสินคาจึง
ปรับเพม่ิ สูงข้นึ ๑) เส้นอุปสงค์และกฎของอุปสงค์
4. ครเู ชอ่ื มโยงเขา สบู ทเรยี น เกย่ี วกบั ความสาํ คญั
ของกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ โดยครซู กั ถาม
และอธิบายขยายความจากสิ่งที่นักเรียนตอบ
จากนน้ั อภิปรายความรูรว มกัน
การซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคข้ึนอยู่กับ
ราคาสนิ คา้ และบรกิ ารนน้ั ๆ การศกึ ษาเรอื่ งของ
อปุ สงคเ์ ปน็ การศกึ ษาเพอ่ื อธบิ ายพฤตกิ รรมของ
ผู้บริโภคเกี่ยวกับการเลือกซ้ือสินค้าและบริการ
ซ่ึงโดยปกติแล้ว เส้นอุปสงค์จะมีลักษณะท่ี
ลาดลงจากซ้ายไปขวา และมีความชันของเส้น
เป็นค่าลบ บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของความ
การเลอื กบรโิ ภคสนิ คา้ ขนึ้ อยกู่ บั ความตอ้ งการ ความพอใจ ต้องการซ้ือสินค้ากับราคาสินค้าในทิศทางตรง
และความจา� เปน็ ของผบู้ รโิ ภค กันขา้ ม เช่น การเลอื กซ้ือดนิ สอของปยิ ะ ดังน้ี
96
นักเรียนควรรู กิจกรรม ทา ทาย
1 ระบบเศรษฐกิจ เปนกระบวนการทางเศรษฐกิจที่เกิดจากความรวมมือกัน ครูยกตัวอยางสถานการณในชวงวิกฤตโควิด-19 แลวให
ของมนุษยในการสรางและใชทรัพยากร เพ่ือสนองความตองการระหวางกัน นกั เรยี นยกตัวอยา งสินคา ทีม่ ีราคาแพงขน้ึ ในชว งนี้ เชน หนา กาก
ของสมาชกิ ในสังคมท่ีมกี ารปฏิบัตคิ ลายคลึงกัน อนามัย เจลลา งมือ ไขไ ก ฯลฯ แลว ใหนกั เรยี นรวมกันวิเคราะหว า
สื่อ Digital • เพราะเหตุใดราคาถงึ แพงข้นึ
• ถาราคาเพิ่มขึ้นมากนักเรียนจะซื้อสินคาดังกลาวหรือไม
ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั “กลไกราคา” ไดท ่ี https://curadio.
chula.ac.th/ เพราะเหตใุ ด
• กลไกราคาเกีย่ วขอ งกับสถานการณด ังกลาวอยางไร
T108
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ตารางอุปสงค์ในการซื้อดินสอของปยะ ณ ระดับราคาต่าง ๆ ขนั้ สอน
ราค(าบตา่อทแ)ทง่ ปร(มิ แาทณ่ง)ซอ้ื P (ราคา : บาท / แท่ง) ขน้ั ที่ 2 สาำ รวจคน้ หา
๒๐ ๑
๑๘ ๒ ๒๐ 1. ครูใหนักเรียนแบง กลมุ ศกึ ษาคน ควา เกยี่ วกบั
๑๖ ๓ ๑๘ เส้นอุปสงค์ กลไกราคา จากหนงั สอื เรยี นสงั คมศกึ ษาฯ ม.3
๑๖ หรอื จากแหลงการเรียนรูอ ื่นๆ เชน หนังสอื ใน
๑๔ หองสมุด เวบ็ ไซตใ นอินเทอรเน็ต ในประเด็น
๑๒ ดังน้ี
๑๐ • การทํางานของกลไกราคาในตลาด
๑๔ ๔ Demand • ความสัมพันธและความสําคัญของอุปสงค
อุปทาน
๑๒ ๕
2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเชื่อถือ
๑๐ ๖ ๐ ñ ò ó ô õ ö (ปรมิ าณ : แQท่ง) ใหกับนกั เรยี นเพ่มิ เตมิ
เส้นอุปสงค์ในการซ้ือดนิ สอของปยะ
จากความสัมพันธ์ในเรื่องราคากับปริมาณการซื้อสินค้าและบริการของบุคคล สรุปได้ว่า
ผบู้ รโิ ภคจะซอ้ื สนิ คา้ ในปรมิ าณทส่ี งู ขนึ้ เมอ่ื ราคาของสนิ คา้ ชนดิ นน้ั ลดลง และจะซอื้ สนิ คา้ ในปรมิ าณ
ทล่ี ดลงเมอ่ื ราคาของสนิ ค้าชนิดนน้ั สูงขน้ึ ดว้ ยเหตนุ ้ี จงึ ตั้งเป็นกฎของอปุ สงค ์ (law of demand)
ได้วา่ “ถ้าราคาสนิ ค้าและบริการใด ๆ เพมิ่ ขึ้น ความตอ้ งการซ้ือสนิ ค้าและบรกิ ารน้นั จะลดนอ้ ยลง
ตรงกันข้าม ถ้าราคาสินค้าหรอื บริการใด ๆ ลดลง ความต้องการซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ ารนัน้ จะเพม่ิ ขึน้
โดยใหป้ จ จัยอน่ื ๆ คงที่”
๒) ตัวก�าหนดอุปสงค์ คือ ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อจ�านวนหรือปริมาณที่ต้องการซ้ือและมี
อทิ ธพิ ลรตาคอ่ าปสรนิมิ คาณา้ 1ชซนือ้ ดิ มนานั้ กถนา้ อ้ รยาคไมาสเ่ นิทคา่ า้กนั ขึน้ อยู่กบั พฤตกิ รรรมายขไอดง้เผฉู้บลรี่ยโิ ภถค้าแเพติ่มล่ สะูงคขน้ึนแ ลคะวเาวมลา เช่น
สงู ขึน้ ปริมาณซ้อื จะลดลง ถา้ ราคา ตอ้ งการสินคา้ ก็จะสงู ขึ้น หากสนิ คา้
สนิ ค้าลดลง ปรมิ าณซ้อื จะสงู ขึ้น ชนิดนัน้ เปน็ สินคา้ ปกตทิ วั่ ไป
จาำ นวนประชากร ถา้ ประเทศใด ปจั จัยใน ฤดูกาล เช่น ฤดูหนาว ความ
มปี ระชากรเพมิ่ ขน้ึ ความตอ้ งการ การกาำ หนด ต้องการเส้ือกันหนาวเพิ่มข้ึน ฤดู
สนิ คา้ และบริการกเ็ พม่ิ ข้นึ ร้อน ความตอ้ งการน�้าแข็งเพิ่มข้ึน
อุปสงค์
การศึกษาและการโฆษณา เช่น ปจั จยั อน่ื ๆ เชน่ รสนยิ ม ความนยิ ม
การรับรู้ถึงประโยชน์ การโฆษณา การคาดคะเนราคาสนิ คา้
ทีด่ ีจะทา� ใหข้ ายสินคา้ ได้มากขึ้น
ราคาสินค้าชนิดอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง 97
เช่น ราคาสินค้าท่ีใช้ทดแทนกันและ
ราคาสนิ คา้ ทีใ่ ช้ประกอบกัน
ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู
ขอ ใดไมสอดคลองกบั กฎของอปุ สงค ครูควรอธิบายการอานและวิเคราะหเสนอุปสงควา เสนอุปสงคจะทอดลง
1. ฤดฝู นทําใหค นซือ้ รมมากข้นึ จากซายไปขวา เพราะราคาและปริมาณซ้ือขายสินคาเปล่ียนแปลงในทิศทาง
2. เมื่อไขไกม ีราคาแพงขึ้นคนก็จะซอ้ื นอ ยลง ตรงกันขา ม
3. มีดาราดังเปน พรีเซ็นเตอรทําใหส นิ คาขายดีข้ึน
4. หากขา วมรี าคาแพงขนึ้ ทาํ ใหต า งประเทศงดซอ้ื ขา วจากไทย นักเรียนควรรู
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4 กฎของอุปสงค คอื ถา ราคาสนิ คา
1 ราคาสนิ คา ปรมิ าณการซอ้ื สนิ คา จะเปน เทา ไรขน้ึ อยกู บั ราคาสนิ คา แตส นิ คา
และบรกิ ารเพม่ิ ขนึ้ ความตอ งการซอื้ สนิ คา และบรกิ ารจะลดนอ ยลง บางชนดิ เชน สนิ คา เกษตรซง่ึ มคี วามยดื หยนุ ตอ ราคานอ ย การเปลย่ี นแปลงของ
ไมใ ชง ดซอ้ื สนิ คา และบรกิ ารดงั กลา ว สว นขอ อนื่ ตรงตามตวั กาํ หนด ราคาไมมีผลตอปริมาณซื้อมากนัก เนื่องจากเปนสินคาที่มีความจําเปนตอการ
อปุ สงค) ดาํ รงชพี บริโภคไดป รมิ าณจํากัด ปริมาณซอ้ื จงึ เปลี่ยนแปลงไดน อ ย ไมวาราคา
จะเพ่ิมขึน้ หรอื ลดลงก็ตาม
T109
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๓) การเปลยี่ นแปลงของอปุ สงค ์ มี ๒ ลักษณะ ดังนี้
ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ ๓.๑) การเปลี่ยนแปลงปรมิ าณอปุ สงค์ เป็นการเปลี่ยนแปลงปริมาณการซือ้ ทเี่ กิดจาก
การเปลี่ยนแปลงราคาสนิ คา้ ชนดิ นัน้ โดยให้ปจั จยั อน่ื ๆ ที่ไมใ่ ช่ราคาคงที่
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู ตัวอย่าง
ระหวา งกัน
เสอ้ื ราคาตัวละ ๑,๑๐๐ บาท ปรมิ าณความ P (ราคา : บาท / ตัว)
2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ต้องการซอ้ื เสอ้ื จ�านวน ๖๖๐ ตัว เม่อื เสื้อลดราคาลง ๑,๑๐๐ A
ทนี่ ําเสนอเพ่ือใหไดขอ มลู ท่ีถกู ตอง เหลอื ตวั ละ ๕๕๐ บาท ปรมิ าณความตอ้ งการซอ้ื เพมิ่
ขึ้นเป็น ๙๘๐ ตัว ซึ่งจะเห็นไดจ้ ากการเคลอื่ นย้าย ๕๕๐ B
3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล จากจุด A ไปจดุ B บนเส้นอุปสงคเ์ สน้ เดยี วกนั Demand
หนาชั้นเรียนตามประเด็นที่ศึกษา อภิปราย
และตอบคาํ ถามรว มกนั ๐ ๖๖๐ ๙๘๐ (ปรมิ าณ Q: ตัว)
แสดงการเปล่ียนแปลงปรมิ าณอุปสงค์
4. ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกันเกี่ยวกับกลไก
ราคา ประกอบการศึกษาตารางและกราฟ ๓.๒) การเปล่ียนแปลงระดับอุปสงค์ เป็นการเปล่ียนแปลงปริมาณความต้องการซ้ือ
ตา ง ๆ และสมุ ตวั แทนนกั เรยี นเพอ่ื ตอบคาํ ถาม ในขณะท่ีราคาสินค้าและบริการยังคงเดิม แต่เป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคาสินค้าอื่นท่ี
เชน เกย่ี วขอ้ ง รายได้ จา� นวนประชากร ฤดูกาล การโฆษณา ที่ส่งผลใหป้ รมิ าณซ้อื เพ่มิ ขึ้นหรอื ลดลง
• จากตัวอยางการเปลี่ยนแปลงระดับอุปสงค
ปริมาณการซ้ือเส้ือกันหนาวมีปจจัยมาจาก ตวั อยา่ ง
สิ่งใดบาง
(แนวตอบ ฤดกู าล คอื สภาพอากาศทห่ี นาว เดิมเส้ือกันหนาวราคาตวั ละ ๗๕๐ บาท มี P (ราคา : บาท / ตวั )
ลงทาํ ใหต องการซอ้ื เส้อื กนั หนาว ถา อากาศ
รอนขึ้นปริมาณการซ้ือก็ลดลง ถึงแมราคา
จะถกู ลงกต็ าม)
ผตู้ อ้ งการซื้อบนเส้นอุปสงค์ D๐ (ที่จดุ A จ�านวน CA B
๓๐๐ ตัว) เมื่ออากาศเย็นลงมาก ๆ ท�าให้ความ
ตอ้ งการเสอื้ กนั หนาวเพม่ิ ขน้ึ ไปอยบู่ นเสน้ D๑ (ทจี่ ดุ ๗๕๐ ๒๐๐ ๓๐๐ D๒ D๐(ปริมาDณ๑ :Q ตวั )
B จ�านวน ๔๐๐ ตัว) ท้ัง ๆ ที่ราคาเส้ือกันหนาว ๔๐๐
ยงั คงเดมิ ที่ ๗๕๐ บาท และเม่อื อณุ หภมู ิเพ่ิมสูงข้ึน ๐
ท�าให้ความต้องการเส้ือกันหนาวลดลงไปอยู่บนเส้น แสดงการเปลยี่ นแปลงระดบั อุปสงค์
D๒ (ทีจ่ ุด C จ�านวน ๒๐๐ ตัว) โดยเสื้อกนั หนาว
ยังคงราคาเดิม แต่เกิดการเปล่ียนแปลงปริมาณ
การซ้ือเนือ่ งมาจากฤดกู าลนัน่ เองโดยที่ราคาคงเดมิ
98
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ
เทคนคิ ในการสอนเรอ่ื งกฎอปุ สงคแ ละกฎอปุ ทานทใ่ี หน กั เรยี นเขา ใจไดอ ยา ง การเปลี่ยนแปลงระดบั อุปสงคเ กิดจากอะไร และปจจัยใดบา ง
รวดเร็ว คือ หากเปนกฎอุปสงคใหนักเรียนคิดวาตนเองเปนคนซื้อและหาก ทสี่ งผลตอการเปล่ยี นแปลงระดับอุปสงค ยกตัวอยางประกอบ
เปน กฎอปุ ทานใหน กั เรยี นคดิ วา ตนเองเปน คนขาย นกั เรยี นจะสามารถคดิ ไดเ อง
และเขาใจในกฎอุปสงควา ถาราคาสินคาเพ่ิมขึ้น ความตองการซื้อจะนอยลง (แนวตอบ การเปลี่ยนแปลงระดับอุปสงคเปนการเปล่ียนแปลง
ถาราคาสินคาตํ่าลง ความตองการซ้ือจะเพ่ิมข้ึน สวนกฎอุปทานเม่ือนักเรียน ปรมิ าณความตอ งการซอื้ ในขณะทร่ี าคาสนิ คา และบรกิ ารยงั คงเดมิ
มองวา ตวั เองเปน คนขายจะเขา ใจในกฎอปุ ทานวา ถา ราคาเพมิ่ ขน้ึ ความตอ งการ แตเปนผลมาจากปจจัยตางๆ อาทิ ราคาสินคาอื่นท่ีเก่ียวของ
ขายกจ็ ะเพิ่มขึน้ ถา ราคาตํ่าลง ความตอ งการขายกจ็ ะนอ ยลง รายได ฤดูกาล การโฆษณา ที่สงผลใหปริมาณซื้อเพิ่มขึ้นหรือ
ลดลง เชน การโฆษณาที่นาสนใจ สงผลใหปริมาณการซื้อเพิ่ม
มากขน้ึ )
T110
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
2.2 อุปทาน ขน้ั สอน
อุปทาน (supply) หมายถึง ปริมาณสินค้าและบริการท่ีผู้ผลิตหรือผู้ขายพร้อมท่ีจะผลิต ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้
ออกขาย ณ ระดับราคาต่าง ๆ ภายในระยะเวลาท่ีก�าหนด ซ่ึงนอกจากราคาสินคา้ แลว้ ปัจจัยอ่นื ๆ
อีกหลายอย่างก็ส่งผลต่ออุปทานด้วยเช่นกัน ท้ังในด้านต้นทุนการผลิต สภาพดินฟ้าอากาศ • ถา สนิ คา ทซ่ี อื้ เปน ประจาํ ขนึ้ ราคานกั เรยี นจะ
ตลอดจนเทคโนโลยีและเทคนิคท่ีใชใ้ นการผลิตสนิ ค้าและบริการ ซอื้ สนิ คานน้ั อีกหรอื ไม เพราะเหตุใด
(แนวตอบ ครูใหนักเรียนแสดงความคิดเห็น
๑) เส้นอุปทานและกฎของอุปทาน การผลิตสินค้าและบริการขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย อยางหลากหลาย)
ประการ เชน่ ราคาสนิ คา้ ชนดิ นนั้ การศึกษาเรอ่ื งอปุ ทานเปน็ การศกึ ษาเพ่ืออธิบายพฤติกรรมของ • จากตารางอุปทานการผลิตรองเทาของ
ผผู้ ลติ เกย่ี วกบั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร เชน่ การผลติ รองเทา้ ของนายสมงิ เมอ่ื รองเทา้ มรี าคาแพง นายสมิง แสดงใหเห็นวานายสมิงตองการ
กท็ า� การผลิตมาก แต่ถา้ รองเท้าราคาถกู ลงกล็ ดการผลิตลง ดังนี้ ผลติ รองเทาเมื่อใด
(แนวตอบ เม่ือราคาเพ่ิมสงู ขน้ึ )
ตารางอุปทานในการผลติ รองเท้าของนายสมงิ ณ ระดับราคาตา่ ง ๆ
• ปจ จยั ใดบา งทท่ี าํ ใหราคารองเทา เพ่มิ สงู ขึ้น
ราคารองเท้า ปริมาณผลิต P (ราคา : บาท / คู่) Supply (แนวตอบ เชน จํานวนผผู ลติ นอยลง จาํ นวน
(บาท) (คู่) เส้นอุปทาน ผบู ริโภคเพ่มิ ขนึ้ )
๒๐๐ ๔
๑๘๐ ๓ ๑๒๑๘๖๐๐๐๐ 5. ครูซักถามขอสงสัยของนักเรียนเพิ่มเติม โดย
๑๖๐ ๒ ๑๑๔๒๐๐ อาจใช PPT เรื่อง กลไกราคา สรุปความรู
เพ่ิมเติม
๑๔๐ ๑
๑๒๐ ๐ ๐ ๑๒๓๔ (ปรมิ าQณ : คู)่
เส้นอุปทานในการผลติ รองเทา้ ของนายสมงิ
จากความสมั พนั ธใ์ นเรอื่ งราคากบั ปรมิ าณการผลติ รองเทา้ สรปุ ไดว้ า่ ผผู้ ลติ มกั จะผลติ สนิ คา้
มากข้ึนเม่ือราคาสูงขึ้น และผลิตน้อยลงเม่ือราคาลดลง ด้วยเหตุน้ี จึงตั้งเป็นกฎของอุปทาน
(law of supply) ไดว้ า่ “ถ้าราคาสินค้าและบรกิ ารใด ๆ เพิ่มขึ้น ผ้ผู ลติ จะผลติ สินคา้ ออกมาจําหนา่ ย
เพิ่มขึ้น ตรงกันข้าม ถ้าราคาสินค้าและบริการใด ๆ ลดลง ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าออกมาจําหน่าย
ลดลง” โดยก�าหนดให้ปัจจัยอน่ื ๆ คงท่ี
๒) ตวั กา� หนดอปุ ทาน คอื ปจั จยั ตา่ ง ๆ ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ จา� นวนหรอื ปรมิ าณสนิ คา้ ทจี่ ะผลติ
ออกมาจา� หน่าย ดังนี้
99
กิจกรรม เสรมิ สรา งคุณลกั ษณะอันพึงประสงค เกร็ดแนะครู
นกั เรยี นแบง กลมุ 3-4 คน แลว ใหแ ตล ะกลมุ กาํ หนดสถานการณ ครูควรแนะนําการวิเคราะหเสนอุปทานวา จะทอดขึ้นจากซายไปขวา
การขายสินคาในทองตลาด โดยมีปจจัยสนับสนุนการขายหรือไม เพราะปริมาณขายกับราคาสินคาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันเสมอ ทั้งนี้
ขายอยา งไร เพราะเหตใุ ด ครูควรอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวากฎของอุปทานก็มีขอยกเวนเชนกัน
วา จะมีสนิ คา บางอยางท่ีมอี ยูอยางจาํ กัด และไมส ามารถทําการผลิตเพม่ิ ไดใ น
“ยกตัวอยางเชน ตวั อยางสถานการณท ุเรยี นราคาขน้ึ ในชว งนี้ ชวงเวลาจํากัด แมจ ะมีความตองการเพ่มิ มากข้ึน ทําใหราคาสนิ คาชนดิ น้นั ๆ มี
หลายคนชื่นชอบในทุเรียนมาก และเปนที่นิยมในตลาด (เหตุผล ราคาสงู ขน้ึ แตป รมิ าณอปุ ทานจะไมเ พม่ิ ขน้ึ ตาม เชน เพชรทผี่ ลติ ออกมาไดอ ยา ง
ประกอบ)” จาํ กดั มาก ปรมิ าณมนี อ ย แมจ ะมรี าคาสงู ขน้ึ ตามความตอ งการของผบู รโิ ภค แต
ดว ยเงอ่ื นไขทข่ี นึ้ อยกู บั ธรรมชาติ ไมอ าจเพม่ิ ปรมิ าณไดท นั ที ทาํ ใหป รมิ าณเพชร
ตอบสนองไดอ ยา งจาํ กดั
T111
นาํ สอน สรปุ ประเมิน
ขนั้ สรปุ เปา้ หมายของธรุ กจิ ผผู้ ลติ จะกา� หนดเปา้ หมายการ
ผลิตเพ่ือสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละ
ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ ชว่ งเวลา เชน่ ชว่ งภาวะน�้ามนั มรี าคาแพง ผู้ผลิตจะ
ทา� การผลติ รถยนตข์ นาดเลก็ ทป่ี ระหยดั นา�้ มนั มากกวา่
1. ครใู หน กั เรยี นทาํ ใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง กลไกราคา
โดยครูแนะนําเพิม่ เตมิ ราคาสนิ คา้ ทผี่ ลติ ถา้ ราคาสนิ คา้ สงู ขนึ้ การเปล่ียนแปลงของเทคนิคการ
ผู้ผลิตจะผลิตสินค้ามากขึ้น เพื่อให้ได้ ผลิต ให้มคี วามทันสมัยมากขนึ้ โดยใช้
2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร กา� ไรมากขนึ้ ถา้ ราคาสนิ คา้ ลดลง ผผู้ ลติ ปัจจัยการผลิตเท่าเดิม ท�าให้สามารถ
ม.3 เกยี่ วกบั เรอ่ื ง กลไกราคา เพอื่ เปน การบา น จะลดจ�านวนการผลติ ลง ผลิตสนิ คา้ ได้เพม่ิ ขน้ึ
สง ครูในชัว่ โมงถัดไป
ราคาปัจจัยการผลิต ถ้าหากมี ปัจจยั ใน จำานวนผู้ผลิตหรือผ้ขู าย หากมี
ขน้ั ประเมนิ ราคาสงู ขน้ึ ผผู้ ลติ จะไดก้ า� ไรนอ้ ยลง การกำาหนด มากข้ึน ท�าให้อุปทานเพิ่มขึ้น ถ้า
จึงทา� ให้ลดก�าลังการผลิตลง ผผู้ ลติ หรอื ผขู้ ายลดนอ้ ยลง จะทา� ให้
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล อุปทาน อุปทานลดลงด้วย
1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ สภาพดินฟ้าอากาศ เช่น ถ้าอากาศ ปัจจัยอ่ืน ๆ เช่น การเก็บภาษีของ
ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก ไม่แปรปรวน ปริมาณการผลิตสินค้า รัฐบาล อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพ่ือการ
สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3 เกษตรก็เพิ่มขึ้น แต่ถ้าฝนแล้งหรือ ลงทุน ถ้าปัจจัยดังกล่าวสูงข้ึนจะท�าให้
น้า� ทว่ ม ท�าใหป้ รมิ าณการผลิตลดลง อปุ ทานลดลง
2. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั
ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนาชัน้ เรยี น
3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3
๓) การเปลีย่ นแปลงของอุปทาน ม ี ๒ ลกั ษณะ ดังนี้
๓.๑) การเปล่ียนแปลงปริมาณอุปทาน เป็นการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิต
ที่เกดิ จากการเปลีย่ นแปลงของราคาสนิ ค้าชนิดน้ัน โดยใหป้ จั จัยอืน่ ๆ ท่ไี มใ่ ชร่ าคาคงที่
ตัวอย่าง
กระเปา๋ ราคาใบละ ๒๕๐ บาท ผผู้ ลติ จะ P (ราคา : บาท / ใบ) Supply
ทา� การผลติ กระเปา๋ ออกจา� หนา่ ย ๑,๕๐๐ ใบ ณ จดุ
A ตอ่ มาเมอื่ ราคากระเปา๋ เพม่ิ เปน็ ใบละ ๓๐๐ บาท ๓๐๐ B
ผผู้ ลติ จะผลิตกระเป๋าออกจา� หน่าย ๑,๖๐๐ ใบ ณ A
จดุ B ซงึ่ จะเหน็ ว่าเปน็ การเคล่อื นย้ายจากจุด A ๒๕๐
ไปจดุ B บนเส้นอุปทานเส้นเดมิ
๐ ๑,๕๐๐ ๑,๖๐๐ (ปรมิ าณ :Q ใบ)
แสดงการเปลยี่ นแปลงปริมาณอปุ ทาน
๑00
แนวทางการวัดและประเมินผล ขอสอบเนน การคดิ
ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เร่ือง กลไกราคา ไดจาก ปจ จยั ใดสงผลใหเ จาของธุรกจิ ตดั สนิ ใจเพิม่ ปริมาณการผลติ
การตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน 1. อตั ราคาจา งแรงงานขนั้ ตํา่ เพ่มิ ขน้ึ
โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่ 2. ราคาของสนิ คาที่ทดแทนกันไดล ดตาํ่ ลง
แนบทา ยแผนการจัดการเรยี นรหู นว ยที่ 6 เรอ่ื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ 3. อตั ราดอกเบี้ยเงินกเู พือ่ การลงทุนเพ่ิมขึ้น
4. ราคาของวัตถุดบิ ท่ใี ชในการผลติ ลดตํา่ ลง
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4 ถาราคาวัตถุดิบที่ใชในการผลิต
คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ ลดตํ่าลง ตนทนุ ในการผลติ ก็จะลดลง กาํ ไรกจ็ ะมากข้ึน จะเปน
ตรงกบั ระดับคะแนน แรงจูงใจใหเ จา ของธรุ กิจตัดสนิ ใจเพ่มิ ปรมิ าณการผลติ )
ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 ความถกู ต้องของเน้อื หา
2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง
3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่
รวม
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง
T112
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๓.๒) การเปลย่ี นแปลงระดบั อปุ ทาน เปน็ การเปลยี่ นแปลงปรมิ าณการผลติ ในขณะทรี่ าคา ขน้ั นาำ (การจัดการเรียนรูแบบรวมมือ :
และบริการยังคงเท่าเดิม ซ่ึงเป็นไปได้สองทาง คือ เพ่ิมข้ึนและลดลง สาเหตุอาจมาจากการ
เปลยี่ นแปลงของปจั จยั อน่ื ทมี่ ใิ ชร่ าคาของสนิ คา้ ชนดิ นน้ั เชน่ การเปลยี่ นแปลงของเทคนคิ การผลติ เทคนิคคูคิดสี่สหาย)
ราคาปัจจัยการผลติ จา� นวนผูผ้ ลิตหรอื ผ้ขู าย สภาพดินฟ้าอากาศ และปจั จัยอนื่ ๆ
1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอ่ื เรอ่ื งทจ่ี ะ
ตัวอยา่ ง เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู
สมมตวิ ่า ลองกองราคากิโลกรมั ละ ๒๕ บาท ปรมิ าณการผลติ ออกมาจา� หน่าย ๑,๒๐๐ ตนั ท่จี ดุ 2. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรูเดิมเกี่ยวกับ
ไแAดต บ้เ่ถพน้า่มิ สเสเภป้นาน็อพ ุป๑ดท,ิน๕าฟ๐น้า๐ อS ตา๐ก นั ถา ้าทศปไ่ีจมีใุดด่ด ทBี ส่ีป บภรนมิาเพาสณดน้ นินอฟา�้ปุ ม้าทอนี าาอ้นกย Sาจศ๒ะด ี ปรมิ าPณ (รนาา้� คเาห ม: บาะาสทม / ตจันะ)ผลิตลSอ๑งกองSอ๐อกมSา๒จา� หนา่ ย ตลาดในระบบเศรษฐกจิ และกลไกราคา
ผลิตลองกองออกมาจ�าหน่ายได้ลดลงเหลือ ๙๐๐ ๒๕ CAB
3. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางราคาของใช
ตัน ที่จุด C บนเส้นอปุ ทาน S๑ การเคลือ่ นยา้ ยเส้น ๐ ๙๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๕๐๐ (ปรมิ าณQ : ตนั ) อาหารสําเร็จรูป ท่ีวางขายในรานสะดวกซ้ือ
อปุ ทานจงึ เกดิ มาจากสาเหตขุ องสภาพดนิ ฟา้ อากาศ หา งสรรพสนิ คา แลว ชว ยกนั วเิ คราะหว า ตน ทนุ
การผลติ เทา ไร และผผู ลิตนา จะไดก ําไรเทาไร
แสดงการเปลย่ี นแปลงระดับอปุ ทาน
4. ครูนําขาวหรือเหตุการณที่สะทอนถึงราคา
๓. การกÓหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ สินคาในตลาดทเ่ี พมิ่ สงู ขน้ึ หรอื ลดตํ่าลง
การก�าหนดราคาสินค้าในตลาดเป็นไปตามอุปสงค์ตลาด อุปทานตลาด และข้ึนอยู่กับ 5. ครูต้ังประเด็นเพื่อใหนักเรียนรวมกันแสดง
วัตถุประสงค์ของผู้ผลิตหรือของธุรกิจด้วย โดยเฉพาะประเทศท่ีกลไกราคาไม่ได้ท�าหน้าท่ีอย่าง ความคิดเห็นวา นักเรียนคิดวาปจจัยสําคัญที่
สมบูรณ์ ดังนั้น ในตลาดที่ผู้ผลิตมีน้อยราย ผู้ผลิตจึงมีอ�านาจและสามารถก�าหนดราคาได้ตาม จะชวยในการกําหนดราคาสินคามอี ะไรบาง
วตั ถุประสงค์ทต่ี อ้ งการ ซึ่งการก�าหนดราคาของธุรกิจอาจข้นึ อยู่กับวตั ถปุ ระสงคอ์ ย่างใดอยา่ งหน่งึ
หรือหลายอย่าง เช่น เพือ่ สรา้ งก�าไร เพ่ือสร้างยอดขาย หรอื เพอื่ ขยายตลาด การก�าหนดราคา 6. ครูสรุปการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน
โดยทัว่ ไปเพ่ือใหเ้ ปน็ ไปตามกลไกตลาด จงึ กา� หนดตามอปุ สงคต์ ลาดและอุปทานตลาด ดังน้ี โดยเช่ือมโยงใหเขากับเนื้อหาเพ่ือนําเขาสู
บทเรียน
3.๑ หลักการก�าหนดราคา
อุปสงค์ตลาดและอุปทานตลาดของสินค้าและบริการมีความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับราคาสินค้า
ดังน้ัน ปริมาณสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคต้องการซ้ือและผู้ขายต้องการขายจะปรับตัวตามระดับ
ของราคาสินค้าและบริการท่ีเปล่ียนแปลงไป แต่เน่ืองจากการปรับตัวของปริมาณซื้อและปริมาณ
ขายตอ่ ราคาจะมีลกั ษณะตรงกันข้าม กลา่ วคือ ในขณะท่ีราคาสนิ คา้ และบรกิ ารลดลง ผซู้ อื้ จะซื้อ
สินคา้ มากขน้ึ แตส่ า� หรับผู้ขายหรอื ผ้ผู ลิต กจ็ ะน�าสนิ ค้ามาจา� หนา่ ยน้อยลง
การปรับตัวน้ีจะเป็นเหตุให้ปริมาณซ้ือและปริมาณขายเท่ากันพอดี ณ ระดับราคาใดราคา
หปรนิมงึ่ าณซ่ึงสหนิ มคาา้ ยทค่ผี ว้ผู าลมิตวจ่าะ ผณล ิตรอะอดกบั มราาคขาานยในั้ น ขปณรมิะเาดณยี สวกนิ ันคพ้าทอ่ีผด้บู ี นรโิน่ั ภคคือต ้อรางคกาาดรซุลอื้ยขภณาพะ1 นเน้ัชจ่นะเท่ากับ๑0๑
ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู
การกาํ หนดราคาของผผู ลติ ผขู าย และผปู ระกอบการ สามารถ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม มปี จจยั ตางๆ ท่ีทาํ ใหร ะดบั อปุ ทานมีการเปล่ียนแปลง
ทาํ ไดอ ยา งไรบา ง ไปจากเดมิ นอกเหนือจากความตองการของผูบรโิ ภคแลว เชน
(แนวตอบ การกาํ หนดราคาของผผู ลติ ผขู าย และผปู ระกอบการ สภาพดินฟาอากาศ ซึง่ สว นใหญจะเปน สินคาทางการเกษตร เชน สภาพ
มี 4 วธิ ี ไดแก ราคาตนทุนบวกกําไร ราคากําหนดตามบริษัทผนู าํ อากาศท่แี หงแลง ขาดแคลนนํ้า พืชผลเหยี่ วเฉา ไดผลผลิตนอย อุปทานในการ
ราคาทฝ่ี า ยจดั การกาํ หนด และราคากําหนดทจี่ ดุ ตน ทนุ เพม่ิ ) ผลิตสนิ คา มีนอย ราคาผลผลิตจะสงู ขน้ึ
นโยบายของภาครัฐ เชน การเพิ่มอัตราภาษีสินคาบางชนิด ทําใหสินคา
ชนิดนั้นๆ มีราคาแพงมากขึ้น จะสงผลทําใหผูผลิตผลิตสินคาลดนอยลง
เพราะมีตนทุนสูงขนึ้
นักเรียนควรรู
1 ราคาดลุ ยภาพ ราคาทผี่ บู รโิ ภคพอใจทจ่ี ะซอ้ื หรอื ใช มคี า เทา กบั ราคาสนิ คา
ท่ีผผู ลติ ประสงคท ่จี ะผลติ ออกขายในขณะเดยี วกนั พอดี
T113
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ตารางแสดงอปุ สงคต์ ลาดและอุปทานตลาดของเน้อื ไกท่ ั้งหมดในตลาดแหง่ หนึง่
1. ครแู บง นกั เรยี นเปน กลมุ กลมุ ละ 4 คน คละกนั ราคาเนือ้ ไก่ ปริมาณซ้อื ปรมิ าณขาย ผลการด�าเนนิ การ
ตามความสามารถ คอื เกง ปานกลางคอ นขา ง ตอ่ กิโลกรมั (บาท) (กโิ ลกรมั ) (กโิ ลกรมั )
เกง ปานกลางคอ นขา งออ น และออน โดยให สินค้าเหลอื ขาย ๒๒๐ กโิ ลกรัม
สมาชิกแตละคนเลือกหมายเลขประจําตัว ๑๑๐ ๕๐๐ ๗๒๐ สินค้าเหลอื ขาย ๑๐๐ กิโลกรมั
ต้งั แตห มายเลข 1-4 ๑๐๕ ๕๕๐ ๖๕๐ สนิ ค้าจ�าหนา่ ยหมดพอดี
๑๐๐ ๖๐๐ ๖๐๐ สินคา้ ไม่พอขาย ๑๐๐ กิโลกรมั
2. สมาชิกแตละหมายเลขแยกยายไปรวมกลุม ๙๕ ๖๕๐ ๕๕๐ สนิ ค้าไม่พอขาย ๒๒๐ กิโลกรัม
ใหม และรวมกันศึกษาความรู เร่ือง การ ๙๐ ๗๒๐ ๕๐๐
กําหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ ประกอบการ
ใชหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจาก จากตารางจะเห็นได้ว่า ถา้ ราคาเน้ือไกก่ ิโลกรัมละ ๑๑๐ บาท ความตอ้ งการซือ้ ของผูบ้ ริโภค
แหลง การเรยี นรอู ื่นๆ เชน หนงั สือในหองสมุด เท่ากับ ๕๐๐ กิโลกรัม แตผ่ ู้ผลติ น�าเน้อื ไกม่ าขาย ๗๒๐ กิโลกรัม ท�าใหเ้ หลือขายจ�านวน ๒๒๐
เว็บไซตทางอนิ เทอรเนต็ หมายเลขละ 1 เรื่อง กิโลกรัม ในทางเศรษฐศาสตร์ เรียกว่า “อุปทานส่วนเกิน” ผู้ผลิตจึงลดราคาลงเหลือกิโลกรัมละ
ดงั น้ี ๑๐๕ บาท ความต้องการเน้ือไก่ของผู้บริโภคเพิ่มข้ึนเท่ากับ ๕๕๐ กิโลกรัม แต่ผู้ผลิตจะน�ามา
• หมายเลข 1 หลักการกําหนดราคา ขายจา� นวน ๖๕๐ กิโลกรัม ท�าใหเ้ นอ้ื ไก่เหลือขายจา� นวน ๑๐๐ กิโลกรมั ผู้ผลติ จึงลดราคาเหลือ
• หมายเลข 2 การปรบั และเปลย่ี นแปลงราคา กโิ ลกรัมละ ๑๐๐ บาท ความต้องการซ้อื ของผบู้ ริโภคจะเท่ากับ ๖๐๐ กิโลกรัม ผ้ผู ลิตก็จะนา� เน้ือ
สินคา และบริการ ไก่มาขายจา� นวน ๖๐๐ กโิ ลกรมั ท�าให้ขายหมดพอดี
• หมายเลข 3 การกาํ หนดราคาในทางปฏบิ ตั ิ ๖ ๐๐ กโิดลงั กนรนั้ ัม รจางึคเาปเน็นอ้ื “ไปกรก่ ิมโิ าลณกรดมั ลุ ลยะภ ๑า๐พ1๐” แบตาท่ถา้ จตงึ ัง้ เรปาน็ ค า“รกาโิ คลากดรลุมั ยลภะา ๙พ๐” แบลาะทป รคมิวาามณตซอ้ อ้ื งขกาายรจเนา� นือ้ วไนก ่
• หมายเลข 4 ปจจัยอื่นๆ ท่ีมีผลตอการ ๗๒๐ กโิ ลกรมั แตผ่ ผู้ ลติ จะนา� มาขายเพยี ง ๕๐๐ กโิ ลกรมั เนอื้ ไกจ่ งึ ไมพ่ อขาย ในทางเศรษฐศาสตร์
กาํ หนดราคา เรยี กวา่ “อุปสงค์สว่ นเกนิ ” ผ้ซู อ้ื แยง่ กันซ้อื ผผู้ ลติ จงึ เพิ่มราคาจนถงึ กโิ ลกรัมละ ๑๐๐ บาท ปรมิ าณ
ความตอ้ งการซ้ือและความตอ้ งการขายจึงเทา่ กันพอดี คือ ๖๐๐ กิโลกรัม ดงั รปู
ตวั อยา่ ง
จากรูป จุดที่เส้นอุปสงค์ตัดกับเส้นอุปทาน P (ราคา : บาท / กก.)
สินคา้ เหลือขาย S ตลาด
ทีจ่ ดุ E เรยี กว่า “จดุ ดลุ ยภาพ” และทีจ่ ุดดลุ ยภาพ ๑๑๐
ราคาเนื้อไก่กิโลกรัมละ ๑๐๐ บาท ถือเป็นราคา ๑๐๕
๑๐๐ E จุดดลุ ยภาพ
ดลุ ยภาพ และปรมิ าณเน้อื ไก่ทซี่ อ้ื ขายจ�านวน ๖๐๐ ๙๕
กิโลกรมั จึงถือเป็นปริมาณดุลยภาพ ๙๐ สินคา้ ไม่พอขาย D ตลาด
๐ ๕๕๐ ๖๐๐ ๖๕๐ ๗๒๐ (ปรมิ าณQ : กก.)
๕๐๐
ดลุ ยภาพของตลาด
๑02
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ
ครูควรสงเสริมความรูเรื่องราคาดุลยภาพวา ถูกควบคุมโดยกลไกราคา กรณีท่ีสินคาขาดตลาดหรือสินคาลนตลาดเกิดจากสาเหตุใด
ซ่ึงหากของเหลือหรือของขาด หากปลอยใหกลไกราคาทํางานก็จะปรับเขา อธิบายเหตุผลประกอบ
สูดุลยภาพ (ของหมด) ยกเวนกรณีที่ประเทศน้ันๆ ใชระบบเศรษฐกิจแบบ
สังคมนิยมคอมมิวนิสต ซ่ึงกลไกราคาไมมีบทบาทในระบบเศรษฐกิจ เพราะรัฐ (แนวตอบ เนือ่ งจากราคาไมอ ยใู นภาวะดุลยภาพ ซงึ่ กลไกการ
เขามาควบคมุ และเปนเจาของปจ จยั การผลิตทกุ ประเภท ทํางานของอุปสงคและอุปทานจะผลักดันใหราคาท่ีไมอยูในภาวะ
ดลุ ยภาพนกี้ ลบั เขา สดู ลุ ยภาพ โดยปรบั ปรมิ าณความตอ งการซอ้ื ให
นักเรียนควรรู เทา กบั ปรมิ าณความตอ งการขายโดยผา นกลไกราคา และทาํ ใหเ กดิ
ราคาดลุ ยภาพขน้ึ ในทสี่ ดุ )
1 ปริมาณดลุ ยภาพ มีความสําคญั ในทางเศรษฐศาสตร เพราะจาํ เปนตองใช
ทรัพยากรอยางประหยัดและมีประสิทธิภาพในการผลิต การวิเคราะหปริมาณ
ดุลยภาพในการผลิตไดใกลเ คยี งกับความเปน จรงิ จะชว ยลดทงั้ การสญู เสียจาก
สนิ คาที่ผลติ ออกมาเกนิ ลดคา ใชจา ยในการดแู ลเร่ืองสตอ กสินคา หรือไมผ ลติ
Tออกมานอย จนทาํ ใหผบู รโิ ภคตองแยงชิงกนั ซื้อจนเกิดความเดือดรอน
114
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
3.2 การปรบั และเปลยี่ นแปลงราคาสินคา้ และบรกิ าร ขน้ั สอน
การเปลย่ี นแปลงของความตอ้ งการซอ้ื ของผบู้ รโิ ภคและความตอ้ งการผลติ สนิ คา้ ของผผู้ ลติ 3. ครูใหกลุมการกําหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ
ที่ท�าให้ราคาและปรมิ าณดุลยภาพเปลี่ยนแปลงเกิดขน้ึ ได้ ๓ กรณ ี ไดแ้ ก่ : หลักการกําหนดราคา มาเสนอผลการศึกษา
หนาช้นั เรยี น
๑) ความต้องการของผู้บริโภคเปล่ียนแปลงไปและความต้องการผลิตคงท่ี ท�าให้
4. นกั เรยี นกลมุ อนื่ แสดงความคดิ เหน็ หรอื ซกั ถาม
ราคาและปริมาณสินค้าท่ีซ้ือขายเปลี่ยนแปลงไปทางเดียวกับความต้องการบริโภค คือ ถ้าความ ประเด็นตางๆ เพิม่ เติม
ต้องการบรโิ ภคเพ่มิ ขน้ึ ราคาและปริมาณสนิ ค้าท่ซี อ้ื ขายกนั จะเพ่มิ ขึ้น ดงั นี้
5. ครูใหกลุมการกําหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ
ตวั อย่าง : การปรับและเปลี่ยนแปลงราคาสินคาและ
บรกิ าร มาเสนอผลการศึกษาหนา ชั้นเรียน
สมมติว่า เส้นอุปทาน S ตลาด เป็นเส้น P (ราคา : บาท / กก.)
อุปทานของการผลิตผักกาดที่อยู่คงที่ เส้นอุปสงค์ 6. ครูยกตัวอยางราคาสินคาที่มักปรับเพิ่มขึ้น
D๐ เป็นเสน้ อุปสงค์เดมิ ราคาดุลยภาพ คือ ราคา S ตลาด เปนประจาํ ทกุ ป เชน นํ้ามันพืช เนือ้ หมู ไขไ ก
กิโลกรัมละ ๓๕ บาท ปริมาณการซอ้ื ขายดุลยภาพ ๔๐ E๑ จากน้ันใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหแนวโนม
และความตองการสนิ คา ของผูบ รโิ ภค
จ�านวน ๓,๐๐๐ กโิ ลกรมั ตอ่ มาในช่วงเทศกาลกนิ เจ ๓๕ E๐ D๑ตลาด
ประชาชนตอ้ งการบรโิ ภคผกั กาดมากขนึ้ เสน้ อปุ สงค ์ 7. ครอู าจต้งั ประเด็นการเรยี นรเู พ่ิมเตมิ เชน
D๐ จึงเคลือ่ นไปเพม่ิ ขึ้นเปน็ เสน้ D๑ ราคาดลุ ยภาพ • การปรับและเปลี่ยนแปลงราคาสินคา
และปริมาณดุลยภาพจึงเปล่ียนไป คอื ราคาผักกาด ๐ ๓,๐๐๐ ๔,๐๐๐ (ปรDมิ ๐าตณลQา ด: กก.) และบริการมีสาเหตุมาจากอะไร และมี
หลักเกณฑอยางไร
ข้ึนเป็นกิโลกรัมละ ๔๐ บาท ปริมาณการบริโภค
เพมิ่ เป็น ๔,๐๐๐ กโิ ลกรัม กรณเี ส้นอุปทานคงท่แี ละอุปสงคเ์ พ่มิ ขึน้
ในบางกรณีอุปสงค์ในสินคา้ และบรกิ ารจะลดลง เชน่ ในชว่ งฤดูร้อน ปริมาณความตอ้ งการ
ซื้อเสอ้ื กันหนาวลดลง ทา� ให้ราคาและปริมาณเส้ือกันหนาวลดลง ดังนี้
ตวั อยา่ ง
จากรูป เส้นอุปทานของเสื้อกันหนาว คือ P (ราคา : บาท / ตัว)
เส้น S ซง่ึ คงท ่ี อุปสงค์ของเส้อื กันหนาว คอื เสน้
D๐ ราคาดลุ ยภาพของเสอื้ กนั หนาวตวั ละ ๖๐๐ บาท S ตลาด
ปรมิ าณการจา� หนา่ ย ๒,๐๐๐ ตวั ตอ่ มาเมอ่ื อณุ หภมู ิ ๖๐๐
สงู ขนึ้ เสน้ อปุ สงคข์ องเสอื้ กนั หนาวจะเคลอื่ นตวั ลดลง ๕๐๐ E๑ E๐
เปน็ เสน้ D๒ สง่ ผลใหร้ าคาดลุ ยภาพของเสอ้ื กนั หนาว ๙๐๐ ๒,๐๐๐
ลดลงเหลือตวั ละ ๕๐๐ บาท และปรมิ าณดุลยภาพ ๐ D๐ ตลาด
ลดลงเหลอื ๙๐๐ ตวั D๒ ต(ลปารดิมาณQ : ตวั )
กรณเี สน้ อุปทานคงทแ่ี ละอปุ สงค์ลดลง
๑03
กจิ กรรม สรางเสรมิ เกร็ดแนะครู
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับการปรับและ ครูอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมวา การศกึ ษาเร่ืองการเปล่ียนแปลงของอุปทาน
เปล่ียนแปลงราคาสินคาและบริการวา เกิดขึ้นไดในกรณีใดบาง หรือความตองการขายสินคาและบริการมีประโยชน คือ หากเปนผูผลิตรูกฎ
แตละกรณีเหมือนหรือแตกตางกันอยางไร มีสาเหตุและผล ของอุปทานจะสามารถปรับกลยุทธการผลิตได เชน หากรูวาชวงน้ีอุปทานใน
อยางไร โดยยกตัวอยางสินคาที่พบเห็นไดในชีวิตประจําวัน ตลาดสูง อาจจะลดกําลังการผลิตเพ่ือลดภาระคาใชจาย รอจังหวะที่อุปทาน
ประกอบการอธิบาย ในตลาดมนี อ ยจงึ เพม่ิ กาํ ลังการผลติ และนาํ ออกมาจาํ หนายจะไดก าํ ไรมากกวา
T115
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๒) ความตอ้ งการบรโิ ภคคงทแ่ี ละความตอ้ งการผลติ เปลยี่ นแปลงไป ในกรณที อ่ี ปุ สงค์
8. ครูยกตัวอยางการข้ึน-ลงของราคาน้ํามัน อยู่คงท่ีและอุปทานเปลี่ยนแปลงไป ปริมาณสินค้าท่ีซื้อขายกันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกับ
ภายในประเทศ ซงึ่ มกี ารเปลย่ี นแปลงบอ ยครงั้ อปุ ทาน แต่ราคาจะเปล่ยี นแปลงไปในทางตรงกนั ขา้ ม เช่น ในปีนีก้ ารผลติ ทเุ รียนเพิ่มขนึ้ ปริมาณ
จากนั้นตั้งคําถามเพื่อกระตุนการคิดของ การซ้อื ขายจะเพิ่มขึน้ แต่ราคาทุเรียนจะลดลง ดงั น ้ี
นักเรยี น เชน
• เพราะเหตใุ ดราคานา้ํ มนั จงึ มกี ารเปลย่ี นแปลง ตวั อย่าง
บอยคร้งั
(แนวตอบ สาเหตทุ รี่ าคานา้ํ มนั มกี ารเปลย่ี นแปลง P (ราคา : บาท / ตนั ) จากรปู เมอ่ื เสน้ D๐ คอื เสน้ อปุ สงคข์ องทเุ รยี น
บอยครั้งมีหลายปจจัย เชน สภาพอากาศ ซรา่งึ คอายดคู่ ลุ งยทภ่ ี าแพลขะเอสง้นท เุ รSยี ๐น จเปะอ็นยเสทู่ น้กี่ อโิ ลปุ กทรามั นลขะอ ๘งท๐ ุเบรียาทน
ในฤดหู นาวความตอ งการใชน า้ํ มนั ดเี ซลและ S๐ S๑ และปรมิ าณดุลยภาพทีซ่ ้อื ขายกันจะเท่ากับ ๑๕๐ ตัน
น้ํามันเตาจะเพ่ิมข้ึนเพื่อใชในการทําความ ต่อมาเมื่อผลิตทุเรียนได้เพ่ิมขึ้น เส้นอุปทานของ
อบอุน กําลังการผลิตของกลุมประเทศ ๘๐ E๐ E๑ ทเุ รยี นจะเพม่ิ จากเสน้ S๐ เปน็ เสน้ S๑ การผลติ ทเุ รยี น
OPEC หากผลิตนอยราคายอ มสงู ข้นึ ) ๗๕ เพิ่มข้ึนก่อให้เกิดอุปทานส่วนเกิน จึงจ�าเป็นต้องลด
ราคาทเุ รยี นลงเพอื่ จา� หนา่ ยไดม้ ากขนึ้ ราคาดลุ ยภาพ
D๐ ของทุเรียนใหม่จะอยู่ที่กิโลกรัมละ ๗๕ บาท และ
ปริมาณดลุ ยภาพใหมท่ ีซ่ อ้ื ขายกนั จะเท่ากับ ๒๐๐ ตนั
๐ ๑๕๐ ๒๐๐ (ปรมิ าณQ : ตนั )
อปุ สงคค์ งทแี่ ละอปุ ทานเพิม่ ขึ้น
ตัวอยา่ ง
ส�าหรับบางกรณีท่ีตรงกันข้าม ถ้าสภาพ P (ราคา : บาท / ตนั )
ดินฟ้าอากาศไม่เหมาะสม ปริมาณอุปทานของ
ทเุ รยี นจะลดลงจากเสน้ S๐ ไปเปน็ เสน้ S๒ การผลติ S๒ S๐
ทุเรียนได้น้อยลงจะท�าให้เกิดอุปสงค์ส่วนเกิน จึง
จา� เปน็ ตอ้ งเพมิ่ ราคาทเุ รยี น จะทา� ใหร้ าคาดลุ ยภาพ ๘๕ E๑ E๐
ของทุเรียนเพม่ิ ขึ้นจากกโิ ลกรมั ละ ๘๐ บาท เป็น ๘๐
กโิ ลกรมั ละ ๘๕ บาท และปรมิ าณดลุ ยภาพลดลง
จาก ๒๐๐ ตนั เหลือเพยี ง ๑๕๐ ตนั D
๐ ๑๕๐ ๒๐๐ (ปรมิ าณQ : ตัน)
อปุ สงค์คงทแี่ ละอปุ ทานลดลง
๑04
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ
ครูอธิบายนักเรียนพิ่มเติมวา ปจจัยที่มีผลทําใหอุปทานเพ่ิมหรือลด หรือ ถา ปกตฝิ รง่ั ราคากิโลกรัมละ 35 บาท ตอ มาราคาลดลงอยา ง
ทําใหเ สนอปุ ทานเคลื่อนที่นนั้ มีดังนี้ รวดเร็วเหลือกิโลกรัมละ 15 บาท ภาวะเชนนี้บงบอกใหผูผลิต
ทราบวา เกดิ ปญ หาอะไรขึน้
• ราคาของทรพั ยากรการผลติ
• เทคโนโลยีการผลิต 1. ผบู รโิ ภคเลิกกินฝรั่ง
• จาํ นวนหนว ยผลติ 2. มีผลไมอ น่ื มาแทนฝรัง่
• นโยบายรัฐบาล 3. ปรมิ าณสินคามีมาก ลนตลาด
• สถานการณท างการเมอื งและสภาวะอากาศ 4. ปริมาณสินคามนี อ ย ขาดตลาด
T116 (วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3.เนอ่ื งจากถา ปกตฝิ รงั่ ราคากโิ ลกรมั ละ
35 บาท “ราคาดลุ ยภาพ ซอ้ื = ขาย = ของหมด” ตอ มาราคาลดลง
เหลือกิโลกรัมละ 15 บาท “ราคาต่ํากวาดุลยภาพ ซ้ือ ‹ขาย =
ของเหลือ” กรณีท่ีราคาสินคาปรับตัวลดลงอยางรวดเร็ว สาเหตุ
สําคัญมาจาก อุปทาน ›อุปสงค หรือขาย ›ซื้อ ทําใหของเหลือ
ลนตลาด ราคาจึงลดลง)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๓) ความต้องการบริโภคและความต้องการผลิตเปล่ียนไปพร้อมกัน ตามสภาพ ขนั้ สอน
ความเปน็ จรงิ ทั้งอปุ สงค์และอปุ ทานมักมกี ารเปล่ียนแปลงไปพร้อม ๆ กัน เช่น ถ้าสภาพดินฟ้า 9. ครใู หก ลมุ การกาํ หนดราคาในระบบเศรษฐกจิ
อากาศเปล่ยี นแปลงไป การผลติ ขา้ วในประเทศลดลง ผูบ้ ริโภคคาดวา่ ข้าวจะขึ้นราคา จงึ พยายาม : การกําหนดราคาในทางปฏิบัติ มาเสนอ
ซ้ือข้าวเก็บกักตุนไว้ ส่วนพ่อค้าเม่ือเห็นว่าอุปทานของข้าวน้อย คนต้องการซื้อเพิ่ม ก็พยายาม ผลการศึกษาหนา ช้ันเรียน
เก็บกักตุนข้าวเพ่ือหวังผลก�าไรในอนาคต ในกรณีน้ีอุปทานของข้าวจะลดลง แต่อุปสงค์ในข้าว
เปลย่ี นแปลงไปเพม่ิ ขึ้น 10. นักเรียนกลุมอ่ืนแสดงความคิดเห็นหรือ
ซักถามประเดน็ ตางๆ เพมิ่ เตมิ เชน
ตัวอย่าง • หากนักเรียนเปนผูประกอบการจะมีวิธีการ
อยางไรในการกําหนดราคา เพื่อใหไดรับ
จากรูป สภาพดินฟ้าอากาศไม่เหมาะสม ผลตอบแทนที่คุมคาจากเงินลงทุน และ
ท�าให้เส้นอุปทานของข้าวลดลงจากเส้น S๐ เป็น สามารถแขง ขันในตลาดได
P (ราคา : บาท / ตนั ) • การกาํ หนดราคาขายใหต า งกนั มผี ลในการ
ตัดสินใจซื้อสินคาหรือบริการของผูบริโภค
เสน้ S๑ แตป่ ระชาชนตอ้ งการซอื้ ขา้ วมาเกบ็ ไวเ้ พราะ S๑ อยางไร
เกรงว่าจะขาดแคลน ท�าให้เส้นอุปสงค์ของข้าว S๐
เพมิ่ ขึน้ จากเส้น D๐ เป็นเส้น D๑ ในกรณีดังกลา่ วจะ ๒๐,๐๐๐ E๑ 11. ครใู หก ลมุ การกาํ หนดราคาในระบบเศรษฐกจิ
D๑ : ปจจัยอ่ืนๆ ที่มีผลตอการกําหนดราคา
ท�าให้ราคาดุลยภาพและปริมาณดุลยภาพของข้าว ๑๗,๐๐๐ E๐ D๐ (ปรมิ าณQ : ตัน) มาเสนอผลการศึกษาหนา ชน้ั เรียน
เปล่ียนไป จากเกวียนละ ๑๗,๐๐๐ บาท เป็น
๒๐,๐๐๐ บาท และปริมาณซ้ือขายเปลี่ยนไปจาก 12. นักเรียนกลุมอื่นแสดงความคิดเห็นหรือ
๖,๐๐๐ ตัน เปน็ ๗,๐๐๐ ตนั ซกั ถามประเด็นตา งๆ เพิม่ เตมิ
๐ ๖,๐๐๐ ๗,๐๐๐
อปุ ทานลดลงแตอ่ ุปสงคเ์ พิ่มขน้ึ กวา่ อุปทาน
การเปล่ียนแปลงของอุปสงค์และอุปทานมีหลายลักษณะนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว
เชน่ ในช่วงเทศกาลตรษุ จีน ความตอ้ งการซือ้ เนอ้ื หมเู พิม่ ขน้ึ จากภาวะปกติท่ไี ม่มเี ทศกาลรวมท้ัง
ประเทศจา� นวน ๘๕,๐๐๐ กิโลกรมั แต่ปริมาณการผลติ เนอ้ื หมขู องผูป้ ระกอบการผลิตไดเ้ พ่ิมข้ึน
เพยี ง ๕๕,๐๐๐ กโิ ลกรมั ทา� ใหป้ รมิ าณเนอื้ หมไู มเ่ พยี งพอ ๓๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั สง่ ผลใหร้ าคาเนอื้ หมู
เพม่ิ ขึ้น
3.3 การก�าหนดราคาในทางปฏิบัติ
การก�าหนดราคาในทางปฏบิ ตั ิ มีวัตถุประสงค์หลายประการ เช่น เพ่อื การสร้างกา� ไร เพือ่
การสร้างยอดขาย เพื่อการขยายตลาดให้กว้างขวาง เพ่ือรักษาระดับราคาสินค้าท่ีต้ังให้อยู่อย่าง
ยาวนาน และเพ่ือให้ราคาเป็นเครื่องช้ีคุณภาพ เช่น สินค้าท่ีคุณภาพดีจะก�าหนดราคาให้สูงกว่า
สินค้าที่มีคุณภาพต่�ากว่า การก�าหนดราคาสินค้าในทางปฏิบัติจึงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจของ
ธุรกจิ อย่างมาก
๑05
ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู
ผูบริโภคที่ฉลาดและรูเทาทัน ควรตัดสินใจเลือกซ้ือสินคาและ ครูอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมวา การศึกษาเร่ืองการเพ่ิมข้ึนและลดลงของ
บริการ โดยใชห ลกั เกณฑขอ ใด อุปสงคมีประโยชน เชน ผูประกอบการสามารถมองหาโอกาสในการทํากําไร
โดยการเพมิ่ กาํ ลงั การผลติ ใหเ พียงพอตอ ความตองการของตลาด หากทราบวา
1. เลอื กซือ้ สินคา ทีส่ ามารถตอรองราคาไดตํ่าท่ีสดุ อุปสงคข องตลาดกาํ ลงั จะเพิ่มข้ึน
2. เลอื กซอ้ื สนิ คา ที่ตอบสนองความพึงพอใจมากทสี่ ุด
3. เลือกซ้อื สนิ คา โดยพิจารณาจากกระแสนยิ มของสังคม ผปู ระกอบการสามารถลดกาํ ลงั การผลติ หากทราบวา อปุ สงคก าํ ลงั จะลดลง
4. เลอื กซอื้ สนิ คา ท่มี ีการรบั ประกันและมบี รกิ ารหลังการขาย เพ่อื ปอ งกนั การขาดทุน หรอื มสี นิ คา คา งสต็อกไวมาก
(วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. ผูบริโภคท่ีฉลาดและรูเทาทัน
ตอ งรจู กั เลอื กซอ้ื สนิ คา ทม่ี กี ารรบั ประกนั และมบี รกิ ารหลงั การขาย
เพราะหากสินคาหรือบริการมีปญหา ผูบริโภคจะไดรับความ
ชวยเหลือในการแกปญหาได)
T117
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๑) ปจั จยั ทค่ี วรคา� นงึ ในการกา� หนดราคาในทางปฏบิ ตั ิ นอกจากจะคา� นงึ ถงึ วตั ถปุ ระสงค์
13. ครูใหนักเรียนแตละหมายเลขกลับไปท่ี ของธรุ กิจแลว้ ยงั ตอ้ งค�านึงถึงปจั จยั ต่าง ๆ ดังน้ี
กลุมเดิมและรวมกันทําใบงานท่ี 6.3 เร่ือง
การกําหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ สภาวะทางเศรษฐกจิ ชว่ งเศรษฐกจิ รุง่ เรอื ง ประชาชนมรี ายได้ด ี ปรมิ าณเงนิ ในท้องตลาดมีมาก
อาจมกี ารกา� หนดราคาสงู เพราะกา� ลงั ซอ้ื ของประชาชนมมี าก แตใ่ นชว่ งทเี่ ศรษฐกจิ ตกตา�่ อา� นาจซอื้
14. นักเรียนแตละกลุมชวยกันตรวจสอบความ
ถกู ตอ งของใบงาน ของประชาชนมีนอ้ ย ธรุ กจิ อาจก�าหนดราคาไม่สงู มาก หรอื ใช้กลยุทธ์ชว่ ยในการขาย
15. ครใู หอาสาสมัครนกั เรียน 2-3 กลุม นาํ เสนอ ปจั จัยท่คี วร การแขง่ ขนั ของตลาด
ผลงานในใบงานหนา ชน้ั เรยี น และใหก ลมุ อน่ื คาำ นึงในการ ถ้าในตลาดมีผู้ขายสินค้าชนิดเดียวกันและสินค้ามีลักษณะคล้ายกัน การ
ท่ีมผี ลงานที่แตกตา งกันไดน ําเสนอเพมิ่ เติม กำาหนดราคา กา� หนดราคาสนิ คา้ ก็มักจะจ�าหน่ายราคาเทา่ ๆ กนั กับผ้ผู ลติ รายอนื่ แตถ่ ้า
ในตลาดมผี ขู้ ายเพยี งรายเดยี วกอ็ าจกา� หนดราคาสนิ คา้ ใหส้ งู ขน้ึ ไดใ้ นระยะ
16. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมที่เก่ียวกับการ สน้ั ๆ
กําหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ ในแบบฝก ตน้ ทนุ การผลิตและการจาำ หน่าย สนิ ค้าหลายชนดิ จะกา� หนดราคาขาย
สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3 เพอ่ื เปนการ โดยบวกเพ่ิมไปกับตน้ ทนุ เชน่ ต้นทุนสนิ ค้าหน่วยละ ๑๐ บาท หากต้องการ
บา นสง ครใู นช่วั โมงถัดไป
กา� ไรรอ้ ยละ ๓๐ ผู้ขายหรอื ธุรกจิ ก็จะตั้งราคาขายสนิ ค้า ๑๓ บาท
17. ใหนักเรียนทําแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม.3
เร่ือง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ เพ่ือ กลมุ่ เปา้ หมาย สนิ คา้ ทีจ่ ะขายใหก้ ลมุ่ ลกู คา้ ทมี่ ีรายไดส้ ูงเปน็ สนิ ค้าทม่ี คี ณุ ภาพดี ก็จะกา� หนดราคา
ทดสอบความรูทไี่ ดศ ึกษามา สินค้าให้สงู แตถ่ า้ จะขายใหก้ บั กลมุ่ ลูกคา้ ทมี่ รี ายได้ต�่า สนิ ค้ามีคณุ ภาพปานกลาง กจ็ ะก�าหนดราคา
สินคา้ ให้ตา�่ ลง
และสภ๒าพ) แววธิ ดกี ลาอ้ รมกภา� าหยนนดอรก1า ซค่งึาวใิธนกี ทาารงกป�าหฏนบิ ดตั ร ิ าขคนึ้ าอมยหี กู่ ลบั ากยลวยธิ ทุ ี ดธ ์ังเนปี้า้ หมาย การแขง่ ขนั ของธรุ กจิ
๒.๑) การก�าหนดราคาโดยก�าหนดส่วนบวกเพ่ิมเข้าไปกับต้นทุน เป็นวิธีการท่ีธุรกิจ
คา� นวณต้นทุนต่อหน่วยทัง้ หมด ทเี่ รยี กว่า “ต้นทนุ มาตรฐาน” จากนั้นก็จะมีการก�าหนดอตั ราสว่ น
บวกเพ่ิมของก�าไรทจี่ ะบวกเพ่มิ เข้าไปกบั ต้นทุน โดยใช้สูตรง่าย ๆ ดงั น้ี
ราคาขายสินค้า ตน้ ทนุ ท้งั หมดเฉล่ียตอ่ หนว่ ย(๑ + ส่วนบวกเพม่ิ จากตน้ ทุน)
ตวั อยา่ ง
ธุรกิจผลิตรองเท้าหนังแห่งหนึ่ง มีต้นทุนทั้งหมดเฉล่ียต่อรองเท้าหน่ึงคู่เท่ากับ ๔๐๐ บาท ธุรกิจ
ต้องการส่วนบวกเพ่ิมจากต้นทุนร้อยละ ๔๐ หรือ ๐.๔๐ ธุรกิจจะต้องก�าหนดราคาสินคา้ ดงั น้ี
ราคารองเทา้ ต่อค่ ู = ๔๐๐(๑ + ๐.๔๐)
ดังน้นั จะตอ้ งกา� หนดราคารองเทา้ = ๕๖๐ บาท/คู่
๑06
นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม
1 สภาพแวดลอมภายนอก เชน สภาพดนิ ฟา อากาศ ฤดกู าล ปรมิ าณสินคา ครใู หน กั เรียนรวมกันอภปิ รายเรอื่ ง กลไกราคาและดลุ ยภาพ
ชนิดเดียวกันจากผูผลิตรายอ่ืน ซึ่งการกําหนดราคาหรือการเปล่ียนแปลงของ โดยมปี ระเดน็ ดังนี้
ราคาตองคํานึงถึงคูแขงขันที่อยูในตลาดนั้นๆ การเขาสูตลาดของคูแขงขัน
รายใหมๆ และไมเ ฉพาะราคาเทานั้นตอ งพิจารณาถึงตนทุน คุณภาพของสินคา • เพราะเหตุใดราคาสินคาและบริการจึงมีการเปลี่ยนแปลง
หรอื บริการท่คี ูแ ขงขันเสนอใหกับลกู คาดวย อยูตลอด
ส่ือ Digital • ถาหากสินคาและบริการที่นักเรียนตองการซื้อมีการ
เปลี่ยนแปลง โดยอาจจะสงู ข้นึ หรือต่าํ ลง จะมีผลตอการตัดสินใจ
ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับ “กลยุทธการตั้งราคา” จากกรมสงเสริม ซอื้ หรอื ไม เพราะเหตใุ ด ยกตัวอยางประกอบ
อุตสาหกรรม ไดท่ี https://bsc.dip.go.th/th/category/marketing2/qs-
settingprice
T118
นาํ สอน สรุป ประเมนิ
๒.๒) การก�าหนดราคาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนตามเป้าหมาย เป็นวิธีการ ขนั้ สรปุ
กา� หนดราคาเพ่ือใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนจากเงนิ ลงทนุ ตามทต่ี ้องการ คา� นวณไดจ้ ากสูตร ดงั น้ี
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ
ราคาขายต่อหนว่ ย ต้นทุนคงทีท่ ัง้ หมด + ก�าไรทีว่ างแผน ตน้ ทุนแปรผันเฉลีย่ การกําหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ หรือใช PPT
ปริมาณการผลิต สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอ้ื หา ตลอดจนความสาํ คญั
ตอ การดาํ เนินชีวิตประจาํ วนั
ตวั อย่าง
ขน้ั ประเมนิ
โรงงานตดั เยบ็ ชดุ ท�างานผลติ ชดุ ท�างานจ�านวน ๑,๒๐๐ ชดุ โดยมตี น้ ทนุ คงทท่ี งั้ หมด ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ต้นทนุ แปรผันเฉล่ียชุดละ ๔๐๐ บาท หากโรงงานตอ้ งการก�าไรรวม ๔๐,๐๐๐ บาท โรงงานควรกา� หนดราคา 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย
ขายชดุ ท�างาน ดังนี้ การเรียนรูที่ 6 เรื่อง กลไกราคาในระบบ
เศรษฐกจิ
ราคาขายชดุ ท�างาน = ๒๐๐,๐๐๐ + ๔๐,๐๐๐ + ๔๐๐
2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
๑,๒๐๐ การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
ดงั นนั้ ตอ้ งก�าหนดราคาขายชุดทา� งาน = ๖๐๐ บาท/ชุด หนา ช้นั เรยี น
3. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบฝก
สมรรถนะฯ และแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.3
๒.๓) การก�าหนดราคาขายให้ต่างกัน สินค้าหลายชนิดมีการก�าหนดราคาขายให้
แตกตา่ งกนั ทัง้ น ี้ ขึน้ อย่กู ับลกั ษณะของสนิ ค้าและลักษณะของผู้ซ้อื เชน่
๑. ขายสนิ คา้ ใหก้ บั ลกู คา้ แตล่ ะรายราคาไมเ่ ทา่ กนั ในสนิ คา้ ชนดิ เดยี วกนั เชน่ ขาย
ใหแ้ ก่ลูกคา้ ประจ�าราคาตา่� กวา่ ขายใหก้ ับลูกคา้ ขาจร หรอื ขายให้แก่ลกู ค้าทเี่ ปน็ สมาชิกถูกกวา่ ขาย
ใหก้ ับผู้ท่ไี มไ่ ดเ้ ป็นสมาชกิ
๒. ขายสินค้าให้กับลูกค้าแต่ละคนจ�านวนราคาไม่เท่ากัน เช่น ขายปลีกราคา
สูงกว่าขายส่ง เชน่ ขายนมกลอ่ งละ ๑๐ บาท แต่ถ้าขายแบบแพก็ มี ๑๐ กลอ่ ง ราคา ๙๐ บาท
๓. ขายสนิ คา้ ให้ลูกค้าแต่ละรายไมเ่ ทา่ กนั เชน่ ขายตว๋ั รถไฟฟ้าใหก้ ับนกั เรยี นใน
ราคาถูกกว่าผใู้ หญ่
กลา่ วโดยสรปุ การศึกษาการก�าหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ ของตลาดเสรีทกี่ ารซ้อื ขาย
สินค้าในตลาดขึ้นอยู่กับการท�างานของกลไกราคา เพ่ือให้เข้าใจเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน
โดยอุปสงค์เป็นการศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับการเลือกซ้ือสินค้าและบริการ
ส่วนอุปทานเป็นการศึกษาเพื่ออธิบายพฤติกรรมของผู้ผลิต ในการตัดสินใจผลิตสินค้าและ
บริการเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีการตกลงซ้ือขายสินค้าใน
ตลาด ซึง่ ราคาในการซ้อื ขายข้ึนอยกู่ บั ความพงึ พอใจของผซู้ อื้ และผูข้ าย
๑07
กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล
ครูใหนักเรียนจับคูกัน แลวชวยกันวางแผนออกแบบสินคา ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง การกําหนดราคา
จากวัสดุทองถนิ่ 1 ชนิด ใหม คี วามนา สนใจ เพ่ือขายสนิ คาดังกลา ว ในระบบเศรษฐกจิ ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรวมกนั ทํางาน และการนําเสนอ
โดยมีรายละเอยี ด ดังนี้ ผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมิน
การนําเสนอผลงานท่ีแนบทา ยแผนการจัดการเรียนรูหนว ยท่ี 6 เรือ่ ง กลไกราคา
• ชื่อผลิตภัณฑ ในระบบเศรษฐกจิ
• วัสดุและอปุ กรณ
• ขนั้ ตอนการทํางาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
• กาํ หนดตนทุนการผลิต ราคาขาย และกลยุทธก ารขาย
ครูใหนักเรียนนําผลงานท่ีไดจากการวางแผนออกแบบสินคา คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี
มานําเสนอหนา ชั้นเรยี น ครูและนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น ตรงกับระดับคะแนน
และขอ เสนอแนะ เพอ่ื นําไปปฏิบตั จิ รงิ ในโอกาสตอ ไป
ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ต้องของเนอื้ หา
2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง
3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่
รวม
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน
............/................./................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง
T119
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
เฉลย คาำ ถามประจำาหนว ยการเรยี นรู้ คÓถาม ประจÓหน่วยการเรยี นรู้
๑. ตลาดมีความส�าคญั ตอ่ ระบบเศรษฐกจิ อย่างไร
1. สถานทที่ ผี่ ซู อื้ และผขู ายไดแ ลกเปลยี่ นสงิ่ ของ ๒. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์กับตลาดแข่งขนั ไม่สมบูรณ์มลี กั ษณะส�าคญั อย่างไร
สินคา หรือบรกิ ารตา งๆ ๓. กลไกราคาคอื อะไร และมีความส�าคัญต่อระบบเศรษฐกิจอยา่ งไร
๔. ปัจจัยในการกา� หนดอปุ สงค์และอุปทานมีอะไรบ้าง
2. เชน ตลาดแขง ขันสมบรู ณ สนิ คา ทซี่ ้ือขายกัน ๕. การปรบั และเปลย่ี นแปลงราคาสนิ คา้ และบรกิ ารเกดิ จากสาเหตุใดบ้าง
มีลักษณะเหมือนกันทุกประการหรือสามารถ
รถใชทดแทนกนั ได เชน ตลาดสนิ คา เกษตร กิจกรรม สรา้ งสรรค์พัฒนาการเรยี นรู้
สวนตลาดแขงขันไมสมบูรณ สินคาที่ผลิต
แมช นดิ เดยี วกนั แตม ีลกั ษณะหรอื มาตรฐาน กิจกรรมท ่ี ๑ น กั เรยี นแบง่ กลมุ่ อภปิ รายในประเดน็ รปู แบบของตลาดในปจั จบุ นั และความสา� คญั
ที่แตกตางกัน เชน ยี่หอ หรือแบรนดของ
สินคา ตลาดประเภทน้ี เชน ผูใหบริการใน ของตลาดตอ่ ระบบเศรษฐกิจ
ตลาดโทรคมนาคม ผูผ ลติ บะหม่กี ่ึงสาํ เรจ็ รปู
กิจกรรมท่ ี ๒ น ักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงหลักในการก�าหนดราคาในทางปฏิบัติ พร้อมยก
3. กลไกราคา คือ ราคาของสินคาและบริการ
ซึ่งถูกกําหนดขึ้นโดยอุปสงคและอุปทาน ตัวอย่างราคาสนิ ค้าทน่ี กั เรยี นตอ้ งบริโภคเป็นประจ�า
มีความสําคัญในระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม
ผสมบทบาทสําคัญของกลไกราคา คือ การ กจิ กรรมที ่ ๓ น กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ “การทา� งานของกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ ”
กําหนดใหผูผลิตสินคาออกมาใหพอดีกับ กจิ กรรมที่ ๔ นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงของอุปสงค์ อุปทาน ราคา
ความตอ งการของผบู รโิ ภค หรอื เปน ตวั กาํ หนด
ราคาดุลยภาพของตลาด ดลุ ยภาพ และปรมิ าณดลุ ยภาพ ในกรณเี กดิ ภาวะฝนแลง้ ในประเทศไทยตดิ ตอ่ กนั
ถงึ ๒ ป ี โดยทีค่ วามตอ้ งการบริโภคขา้ วยังคงเท่าเดมิ จะส่งผลกระทบตอ่ ราคา
4. ปจ จัยในการกําหนดอุปสงค เชน ราคาสินคา และปริมาณดุลยภาพของสินคา้ ข้าวอย่างไร
จํานวนประชากร รายไดเฉล่ียของครัวเรือน
ฯลฯ ปจ จัยในการกําหนดอปุ ทาน เชน ราคา
สนิ คาท่ผี ลติ จํานวนผูซอ้ื ผขู าย สภาพดนิ ฟา
อากาศ ฯลฯ
5. เชน การเปล่ียนแปลงตนทุนการผลิต หาก
ตนทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ราคาสินคาก็ตอง
ปรับเพ่ิมขึ้น ถาตนทุนการผลิตลดลง ราคา
สินคา กล็ ดลง
๑08
เฉลย แนวทางประเมนิ กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้
ประเมินความรอบรู
• ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป
ซึ่งเปนงานหรือช้นิ งานทีใ่ ชเวลาไมน าน สําหรับการประเมินรูปแบบนี้อาจเปนคําถามปลายเปด หรือผงั มโนทัศน นิยมสําหรับประเมนิ ผูเรยี นรายบคุ คล
ประเมินความสามารถ
• ใชในการประเมนิ ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชทักษะชีวิต และความ
สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต
ประจําวัน อันมีความเก่ียวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรที่มีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน
จากการสงั เกต การเขียน การตอบคาํ ถาม การวิเคราะห การแกป ญหา ตลอดจนการทาํ งานรวมกัน
ประเมินทกั ษะ
• ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรที่มีความซับซอน
และกอ เกิดเปนความชาํ นาญในการนาํ มาเปน แนวทางปฏบิ ตั ิจริงในชวี ติ ประจาํ วันอยางยง่ั ยนื เชน ทกั ษะในการสือ่ สาร ทักษะในการแกปญ หา ทกั ษะ
ชวี ิตในดา นตา งๆ โดยอาจมกี ารนาํ เสนอผลการปฏิบตั ิงานตอผูเกย่ี วของ หรอื ตอสาธารณะ
สงิ่ ทต่ี อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทต่ี อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน
T120
Chapter Overview
แผนการจัด สอื่ ที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ
การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - หนงั สอื เรยี น 1. อธบิ ายปัญหาท้องถ่นิ สืบเสาะ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ความสามารถใน 1. มวี นิ ยั
ปัญหาทอ้ งถนิ่ สงั คมศกึ ษาฯ ม.3 ของไทย แนวทางการ หาความรู้ - ตรวจการท�ำแบบฝึก การคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
ของไทย แนวทาง - แบบฝกึ สมรรถนะ แก้ปัญหาและแนวคิด (5Es สมรรถนะและการคิด - ความสามารถใน 3. มงุ่ มนั่ ในการ
การแก้ปญั หา และการคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงกบั Instructional เศรษฐศาสตร์ ม.3 การใชท้ กั ษะชวี ติ ท�ำงาน
และแนวคิด เศรษฐศาสตร์ ม.3 การพัฒนาประเทศได้ Model) - ตรวจใบงานที่ 7.1
ของเศรษฐกจิ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน (K) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
พอเพียงกับการ - PowerPoint 2. จำ� แนกปญั หาท้องถิน่ - ตรวจผลงาน/ชิน้ งาน
พัฒนาประเทศ - ใบงานท่ี 7.1 ของไทย แนวทางการ - สังเกตพฤติกรรม
แก้ปญั หาและแนวคดิ การท�ำงานรายบคุ คล
เศรษฐกจิ พอเพียงกับ - สังเกตพฤตกิ รรม
2 การพฒั นาประเทศได้ การท�ำงานกลมุ่
ชั่วโมง (P) - ประเมนิ คุณลักษณะ
3. เ หน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา อันพงึ ประสงค์
ปัญหาทอ้ งถ่ินของไทย
แนวทางการแก้ปญั หา
และแนวคิดเศรษฐกิจ
พอเพียงกบั การพฒั นา
ประเทศเพิม่ มากขน้ึ
(A)
T121
แผนการจัด สอ่ื ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ
การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์
แผนฯ ท่ี 2 - หนงั สอื เรียน 1. อ ธิบายหลักการส�ำคัญ การจดั การ - ตรวจการท�ำแบบฝกึ - ความสามารถใน 1. มวี นิ ัย
ความสมั พนั ธ์ สงั คมศึกษาฯ ม.3 ของระบบสหกรณ์ได้ เรยี นรู้แบบ สมรรถนะและการคดิ การคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
ของแนวคดิ - แบบฝกึ สมรรถนะ (K) รว่ มมือ : เศรษฐศาสตร์ ม.3 - ความสามารถใน 3. มงุ่ มนั่ ในการ
เศรษฐกจิ และการคดิ 2. ว ิเคราะห์ความสัมพันธ์ เทคนิคคูค่ ิด - ตรวจการท�ำแบบวัดและ การใชท้ กั ษะชวี ติ ทำ� งาน
พอเพียงกบั เศรษฐศาสตร์ ม.3 ระหวา่ งแนวคดิ เศรษฐกจิ ส่ีสหาย บันทึกผลการเรียนร ู้
ระบบสหกรณ์ - แบบวัดและบันทึกผล พอเพยี งกบั ระบบสหกรณ์ เศรษฐศาสตร์ ม.3
การเรยี นร ู้ ได้ (K) - ตรวจใบงานที่ 7.2
เศรษฐศาสตร์ ม.3 3. เ ปรียบเทยี บความ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน
- แบบทดสอบหลงั เรียน สมั พันธร์ ะหวา่ งแนวคิด - ตรวจผลงาน/ชิ้นงาน
2 - PowerPoint เศรษฐกิจพอเพยี งกับ - สังเกตพฤติกรรม
ชั่วโมง - ใบงานท่ี 7.2 ระบบสหกรณ์ได้ (P) การท�ำงานรายบคุ คล
4. เหน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา - สงั เกตพฤตกิ รรม
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง การท�ำงานกลุ่ม
แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง - ประเมินคุณลกั ษณะ
กบั ระบบสหกรณเ์ พิม่ อนั พงึ ประสงค์
มากขึน้ (A) - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
T122
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
๗ เศรษฐกิจพอเพยี งหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model)
กบั การพัฒนาประเทศ
ËÒ¡·ŒÍ§¶èÔ¹ä·Â¹íÒ ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ
àÈÃɰ¡Ô¨¾Íà¾Õ§ÁÒ㪌
ᡌ»˜ÞËÒàÈÃɰ¡Ô¨ 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเร่ือง
¨ÐÊ‹§¼Å´Õµ‹Í¡Òà ท่จี ะเรียนรู จุดประสงคก ารเรยี นรู และผลการ
?¾Ñ²¹Ò»ÃÐà·ÈÍ‹ҧäà เรียนรู
2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย
การเรียนรูที่ 7 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับ
การพัฒนาประเทศ
3. ครูและนักเรียนสนทนาถึงการใชชีวิตแบบ
พอเพยี งและกระตุนดว ยคาํ ถาม เชน
• นักเรียนนําหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง
มาใชอยางไรบาง
• เศรษฐกิจพอเพียงเหมาะสมกับคนไทย
อยา งไร
การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยท่ีผ่านมาเป็นการเติบโตเชิงปริมาณท่ียังมีปัญหาในระบบ
เศรษฐกิจ เนื่องจากการผลิตยังต้องพ่ึงพาปัจจัยภายนอก น�าไปสู่ปัญหาท้องถิ่นทางด้านสังคม
เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการน�าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งมุ่งพัฒนาบนหลักความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน
ในตวั ทด่ี ีของครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาต ิ โดยร่วมกนั แกป้ ัญหาเศรษฐกิจและสงั คม
ให้ประชาชนในสังคมอย่ไู ด้ด้วยตนเอง มคี วามอยดู่ กี นิ ด ี และมคี วามสุข
ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ส ๓.๑ ม.๓/๒ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา • ส �ารวจสภาพปจั จุบันปัญหาท้องถ่ินทง้ั ด้านสงั คม เศรษฐกจิ
ทอ้ งถ่นิ ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และสงิ่ แวดล้อม
• วิเคราะห์ปัญหาของท้องถ่ินโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจ
ส ๓.๑ ม.๓/๓ วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง
พอเพยี งกบั ระบบสหกรณ์
• แนวทางการแกไ้ ขและพฒั นาท้องถน่ิ ตามปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
• แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาในระดับตา่ ง ๆ
• หลกั การสา� คัญของระบบสหกรณ์
• ค วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั หลกั การ
และระบบของสหกรณ ์ เพอ่ื ประยกุ ต์ใชใ้ นการพฒั นาเศรษฐกจิ
ชมุ ชน
๑09
เกร็ดแนะครู
ครคู วรจดั กจิ กรรมการเรยี นรโู ดยใหน กั เรยี นมคี วามรคู วามเขา ใจเกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การพฒั นาประเทศ และเพอ่ื ใหน กั เรยี นเขา ใจสภาพปญ หาของ
ทองถนิ่ ไทย และมสี ว นรว มในการแกป ญหาโดยใชห ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการจัดกิจกรรม เชน
• การแสดงความคิดเหน็ ในประเดน็ ทางสังคม เชน ปญหาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน
• การสํารวจสภาพชุมชนของตนและวเิ คราะหส ภาพปญ หา พรอมหาทางปองกันแกไ ข โดยใชห ลักการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
• การยกตวั อยา งการดําเนินงานของสหกรณตามแนวทางของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
T123
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาํ ñ. »Þ˜ ËÒ·ÍŒ §¶¹èÔ ¢Í§ä·Â
ขัน้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ การพัฒนาประเทศท่ีผ่านมามุ่งเน้นการขยายการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งเป็น
เพียงการเตบิ โตเชงิ ปรมิ าณ ไม่ใช่การเติบโตท่ยี ่งั ยนื เพราะตอ้ งพ่ึงพาปัจจยั จากภายนอก และมี
4. ครใู หน กั เรยี นสนทนาเกย่ี วกบั สภาพความเปน การนา� ทรพั ยากรมาใชจ้ า� นวนมาก นา� มาสปู่ ญั หาความเสอื่ มโทรมของสภาวะแวดลอ้ มและคณุ ภาพ
อยขู องคนในทองถนิ่ และตงั้ คําถาม เชน ชวี ติ ของคนในท้องถน่ิ โดยปญั หาทอ้ งถิ่นของไทยสามารถกลา่ วเปน็ ดา้ น ๆ ในภาพรวมได้ ดงั นี้
• บุคคลในทองถิ่นมีวิถีชีวิตความเปนอยู
อยา งไร ปญ หาทางดา นสังคม
• มปี ญ หาอะไรบา งทจ่ี ะตอ งชว ยกนั รบี เรง แกไ ข
• แนวทางการแกป ญ หาทยี่ ง่ั ยนื สามารถทาํ ได สภาพของปญั หา
อยางไรบา ง • ปญั หาความยากจน ภาระหนี้สนิ น�าไปส่ปู ัญหาสงั คม เชน่ การขาดการศกึ ษา การวา่ งงาน ปัญหาสิง่ เสพตดิ
5. ครูเชื่อมโยงเขาสูบทเรียน โดยอธิบายขยาย • ปปัญัญหหาาแครรงองบาคนรตวั า่ งดา้ ว1เน่อื งจากเข้ามาท�างานในไทยในหลายธรุ กิจ เชน่ ก่อสร้าง ประมง งานบา้ น มที ัง้
ความจากสิ่งที่นักเรียนตอบ จากนั้นอภิปราย
รวมกนั การเข้ามาอย่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตท�างาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทยในด้านต่าง ๆ
เช่น ปญั หาอาชญากรรม ปญั หาส่งิ แวดลอ้ ม ปญั หาการลักลอบเขา้ เมือง ปญั หาผู้หญิงและเด็ก
• ปัญหาการบริหารจัดการของท้องถ่ินเพ่ือน�าไปสู่การพ่ึงตนเอง การรวมกลุ่มบุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ใน
ทอ้ งถ่ินยงั ทา� ไดไ้ มท่ ัว่ ถึง ทา� ให้ตอ้ งพง่ึ พาปจั จยั ภายนอก เชน่ ทนุ ความรู้ เทคโนโลยี
สาเหตุของปัญหา
• การขาดแคลนทดี่ นิ ทา� กนิ โดยสว่ นใหญไ่ มม่ กี รรมสทิ ธทิ์ ด่ี นิ ท�าใหต้ ้องเสียค่าใช้จา่ ยไปกับการเช่าท่ีท�ากิน
• สภาพภูมิอากาศ ธรรมชาตไิ ม่เออื้ อ�านวย เช่น ฝนแล้ง น�า้ ท่วม กจ็ ะไดผ้ ลผลิตน้อยลงหรือไมไ่ ด้เลย
• ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยสงู เชน่ คา่ ปยุ สารเคม ี ทา� ใหต้ น้ ทนุ การผลติ สงู ในขณะทรี่ าคาผลผลติ ในแตล่ ะปไ มค่ งท ่ี ทา� ให้
มรี ายไดน้ ้อย ไมพ่ อใช้จ่าย และเกิดหนสี้ นิ ตามมา
• ขาดแคลนวทิ ยาการสมยั ใหม ่ เพอื่ ชว่ ยเพม่ิ ผลผลติ เนอื่ งจากมตี น้ ทนุ สงู ทา� ใหต้ อ้ งทา� การเกษตรแบบดง้ั เดมิ
ในขณะที่ตน้ ทนุ เพมิ่ สงู ข้ึน
แนวทางการปองกนั และแกไ้ ขปญั หา
• นา� หลกั การของแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการดา� เนนิ ชวี ติ เชน่ ในระดบั ครอบครวั โดยสมาชกิ ตอ้ งรจู้ กั
พึ่งตนเอง ลดรายจ่าย ไม่สรา้ งหนี้ และเก็บออมเงิน
• ภาครฐั ควรเขา้ มาใหค้ วามชว่ ยเหลอื เชน่ การจดั สรรทด่ี นิ ทา� กนิ การใหค้ วามรแู้ ละสง่ เสรมิ การประกอบอาชพี
• ลเพด่ือตใน้ หทค้ นุนกในารทผ้อลงติถ น่ิ เชมน่รี า ยปไลดกู ้ ผจักะไปดล้ไอมดเ่ ปสา็นรหพนษิ แ้ี 2 ลใชะไป้ มุย่ตจอ้ างกยธ้ารยรถมน่ิชมาตาทเิ พ�าอื่งาลนดใกนาเรมใือชงส้ ใาหรญเค ่ ๆมี
๑๑0
นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสรมิ
1 แรงงานตางดาว คือ คนท่ีไมไดมีสัญชาติไทยท่ีเขามาทํางานในเมืองไทย ครูใหนักเรียนชวยกันบอกปญหาทองถ่ินของนักเรียนใน
เชน คนเมียนมา ลาว เขมร หรอื แมแตชนกลมุ นอ ยตางๆ รวมทัง้ คนอเมรกิ ัน ปจ จุบันวา มอี ะไรบาง โดยใหอ ธิบายตามประเด็น ดังน้ี
คนองั กฤษ คนเกาหลี คนญป่ี นุ หรอื คนจนี ซงึ่ บคุ คลเหลา นสี้ ามารถเขา มาทาํ งาน
ในประเทศไทยไดอยางถูกกฎหมาย ข้ึนอยูกับใบอนุญาตท่ีไดรับตามกฎหมาย • สภาพของปญ หาในปจ จบุ นั
ฉบับตา งๆ • สาเหตุของปญ หา
2 ผักปลอดสารพิษ คือ ผักที่มีระบบการผลิตที่ใชสารเคมีในการปองกัน • แนวทางการปอ งกันและแกไขปญ หา
และปราบศตั รพู ชื รวมทง้ั ปุย เคมีเพอ่ื การเจรญิ เตบิ โตของพืช แตใ หเวน ชวงการ จากน้ันใหสรุปเปนแผนผงั ความคิด แลวนาํ สง ครผู ูสอน
ใชสารเคมีกอนการเก็บเก่ียว ซึ่งผลผลิตจะมีสารเคมีตกคางไมเกินในปริมาณ
ทก่ี ําหนด เพื่อความปลอดภัยของผูบริโภค
T124
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ปญหาทางดา นเศรษฐกิจ ขนั้ สอน
• สภาพของปัญหา 1 ขนั้ ท่ี 2 สาํ รวจคน้ หา
ปญั หาความเหลอ่ื มลา้� ของการกระจายรายได ้ จากการขยายตวั และการเปลยี่ นแปลงโครงสรา้ งเศรษฐกจิ ทไี่ ม่ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม ศึกษาคนควาจาก
สมดลุ ระหวา่ งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม ทา� ใหเ้ กษตรกรไทยมคี วามเป็นอยแู่ ละรายได้ไมม่ น่ั คง หนงั สอื เรียนสงั คมศกึ ษาฯ ม.3 หรือจากแหลง
เพราะข้ึนอยู่กับความไม่แน่นอนของการเกษตรตามฤดกู าล และมผี ลตอบแทนทางด้านราคาทไ่ี มเ่ ป็นธรรม การเรยี นรอู น่ื ๆ เชน หนงั สอื ในหอ งสมดุ เวบ็ ไซต
ขาดแคลนทีด่ นิ ทา� กินและแหลง่ นา้� จนเกดิ ปญั หาหน้ีสินของเกษตรกรในชนบท ในอนิ เทอรเ นต็ ในประเด็น ดงั น้ี
• ปญั หาคา่ ครองชพี จากคา่ แรงขน้ั ตา่� หรอื ตน้ ทนุ การผลติ ทเ่ี พมิ่ สงู ขนึ้ ทา� ใหค้ า่ ใชจ้ า่ ยมากขน้ึ ในขณะทรี่ ายได้ • ปญ หาทอ งถิ่นของไทย
ของคนในทอ้ งถิ่นเทา่ เดิมหรือลดนอ้ ยลง • แนวทางการแกปญหาและพัฒนาทองถ่ิน
ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
สาเหตขุ องปัญหา • แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การพฒั นา
• การพฒั นาเศรษฐกจิ ที่มุ่งการเติบโตทางการผลติ โดยไมไ่ ดค้ า� นึงถงึ คุณภาพและการวางรากฐานใหย้ งั่ ยนื ประเทศในระดบั ตา งๆ
• การพงึ่ พาปจั จยั ภายนอกมากเกนิ ไป เชน่ การพงึ่ พาเงินทุน เทคโนโลยี
• โครงสรา้ งดา้ นการผลติ จากภาคการเกษตร จากการขยายพน้ื ทเ่ี พาะปลกู ซงึ่ ทา� ไดใ้ นขอบเขตจา� กดั เนอ่ื งจาก 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเช่ือถือ
ใหก บั นักเรยี นเพิม่ เตมิ
ที่ดินมจี �ากัด ประกอบกบั การผนั ผวนของอากาศและราคาผลผลติ ในแตล่ ะป
• ความผันผวนของภาวะเศรษฐกจิ โลก เนื่องจากการมุ่งการผลติ เพ่ือส่งออก โดยเมอื่ เศรษฐกจิ ประสบปญั หา
สง่ ผลใหก้ ารส่งออกและแรงงานประสบปัญหาตามดว้ ย
• การบริโภคที่ฟุมเฟอย ซ่ึงได้รับอิทธิพลจากสังคมภายนอกและค่านิยมการบริโภคท่ีไม่ถูกต้อง ท�าให้เกิด
คา่ ใชจ้ า่ ยที่เพิ่มมากขนึ้
แนวทางการปอ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
• สร้างชุมชนเข้มแข็ง เช่น การตั้งกลุ่มอาชีพ สหกรณ์ มีการผลิตเพ่ือการบริโภคในครัวเรือนและจ�าหน่าย
การสร้างความรว่ มมอื กบั องคก์ รอนื่ ๆ เพ่ือแลกเปลีย่ นความรู้และเทคโนโลยี
• สร้างศักยภาพทางการแข่งขัน เพื่อลดความเสียเปรียบจากการค้าโดยการปรับปรุงกระบวนการผลิต
เทคโนโลยี และการเพิ่มมลู คา่ สนิ คา้
• ปรับเปลย่ี นคา่ นยิ มในการบรโิ ภค โดยการบริโภคสินคา้ ที่จ�าเปน็
ตอ่ การด�ารงชวี ิต คา� นึงถึงรายได้ที่พึงมี ไมใ่ ช้จ่ายเกินตวั ไม่กอ่
หนสี้ นิ ทีไ่ ม่สามารถชา� ระคืนได ้ ซงึ่ ผู้ผลิตกจ็ ะไดล้ ดการผลิตสนิ คา้
ฟุมเฟอย และช่วยลดการใช้ทรพั ยากรอีกทางหน่งึ
• ลดการพง่ึ พาจากภายนอก ทัง้ ในด้านการบริโภคและการผลติ
๑๑๑
กิจกรรม ทาทาย นักเรียนควรรู
ครูใหนักเรียนสืบคนขาวหรือบทความเก่ียวกับปญหาดาน 1 ปญหาความเหล่ือมลํ้า ความยากจนและความเหล่ือมลํ้าของรายไดใน
เศรษฐกจิ ของประเทศไทยในปจ จบุ นั โดยใหว เิ คราะหต ามประเดน็ สังคมไทยเปนเร่ืองสําคัญท่ีอาจทําใหยุทธศาสตรการขับเคล่ือนประเทศเปนไป
ดงั น้ี ไดไ มเ ตม็ ท่ี โดยหากปญ หาดงั กลา วไมไ ดร บั การแกไ ขอยา งจรงิ จงั อาจทาํ ใหเ กดิ
อุปสรรคตอ ความยัง่ ยนื ของการพัฒนาประเทศ และยังอาจนําไปสูป ญหาสงั คม
• สภาพของปญ หาในปจจบุ ัน และคณุ ภาพชีวติ ในทส่ี ุด
• สาเหตุของปญ หา
• แนวทางการปอ งกนั และแกไขปญ หา สื่อ Digital
จากน้นั นําขอ มลู ดงั กลา วมาอภปิ รายรวมกันในช้ันเรยี น
ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั “ภาวะเศรษฐกจิ ของไทย” จากธนาคาร
แหง ประเทศไทย ไดท ี่ https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/Econom-
icConditions/Pages/default.aspx
T125
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ปญ หาทางดานสิง่ แวดลอม
ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ สภาพของปญั หา
• ความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ จากการพัฒนาประเทศท่ีมุ่งเน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและ
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู การลงทนุ ดา้ นอตุ สาหกรรม ทา� ให้ต้องเพม่ิ ปรมิ าณการใช้วัตถุดบิ ในการผลติ จึงตอ้ งนา� ทรพั ยากรมาใช้มาก
ระหวางกัน เกินไป จนอาจเกดิ การขาดแคลนได้ในอนาคต รวมทั้งสง่ ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถิน่ จากการปล่อย
ของเสยี ออกจากโรงงานอตุ สาหกรรม เชน่ ควนั พษิ น�้าเสยี รวมท้งั มลภาวะทางเสยี ง
2. จากน้ันสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล
ทีน่ ําเสนอเพือ่ ใหไดขอ มลู ทถ่ี ูกตอง สาเหตุของปัญหา
3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล • กค่าานรพิยฒัมกนาารเบศรรษิโภฐคก1ขจิ อทงมี่ คุง่ นขใยนาสยังเชคงิมปทร่ีเิมพาิ่มณม าโกดขย้ึนไม ่ไทด�าค้ ให�าน้ตึง้อถงึงผสล่งิ ิตแสวินดคล้า้อตม่าง ๆ เพ่ือตอบสนองความต้องการ
หนา ชนั้ เรยี นตามประเดน็ ทศ่ี กึ ษา โดยเรม่ิ จาก •
กลมุ ปญ หาทองถิน่ ของไทย เพม่ิ มากขึ้น
• การมงุ่ ใชเ้ ครอ่ื งจกั รในการผลติ สนิ คา้ แทนการใชแ้ รงงานจากคน ทา� ใหม้ ขี องเสยี จากการใชพ้ ลงั งานนน้ั เชน่
4. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายรว มกนั เกยี่ วกบั ปญ หา
สังคมและแนวทางแกไข และสุมตัวแทน เกิดควนั พษิ จากโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการปลอ่ ยน้า� เสยี ขยะ และสงิ่ ปฏกิ ูล
นกั เรยี นเพื่อตอบคาํ ถาม เชน
• ปญหาสังคมใดท่ีสังคมไทยตองตระหนัก แนวทางการปองกันและแกไ้ ขปญั หา
และรวมมือปองกันแกไขอยางเรงดวน • พัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาส่ิงแวดล้อม ซึ่งต้องอาศัยระบบการศึกษาทุกระดับ ส่ือมวลชน การ
เพราะเหตใุ ด
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถตอบไดห ลากหลาย ประชาสมั พนั ธ์ และความรว่ มมือจากทงั้ ภาครฐั และเอกชน
ขนึ้ อยกู บั เหตผุ ล เชน ปญ หายาเสพตดิ เพราะ • สรา้ งค่านิยมในคณุ ภาพชวี ติ ใหม้ ีนิสัยรกั ความสะอาด ความเรียบร้อย ส่งเสริมใหป้ ระชาชนมีค่านยิ มในการ
มีการแพรกระจายไปทั่วประเทศ ทําให
เด็กและเยาวชนไดรับผลกระทบจากโทษ พฒั นาสขุ นสิ ยั และมีการบรโิ ภคแบบพอดี
ของยาเสพติดจํานวนมาก) • ใชเ้ ครื่องจักรและเทคโนโลยีในการผลิตอย่างเหมาะสม และค�านึงถึงสงิ่ แวดลอ้ มใหม้ ากทส่ี ุด
• หากเกิดปญหาส่ิงแวดลอมข้ึนในทองถิ่น • ฟนฟสู ง่ิ แวดลอ้ ม ทอ่ี ยู่ในทอ้ งถ่นิ และในสังคมใหด้ มี ากขึน้
นกั เรยี นจะชวยแกป ญ หาไดอยางไร
(แนวตอบ นกั เรยี นสามารถตอบไดห ลากหลาย การใช้เครื่องจักรในการพัฒนาและลงทุนด้านอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดมลพิษและเป็นปัญหาส่ิงแวดล้อมหลักของไทย
ขน้ึ อยกู บั เหตผุ ล เชน สรา งความตระหนกั ให ท่ีต้องเรง่ แกไ้ ขในปัจจุบัน
คนในชมุ ชนเหน็ ความสาํ คญั ของสง่ิ แวดลอ ม
และชว ยกนั อนุรกั ษ)
๑๑2
นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ
1 คานยิ มการบรโิ ภค ในยคุ โลกาภิวัตนม ีการบรโิ ภคตามกระแสคานยิ ม เพอ่ื ในปจ จบุ นั ปญ หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มใดสาํ คญั
ตอบสนองความตอ งการทเี่ กนิ ความจาํ เปน ของตนเอง จนทาํ ใหเ กดิ มพี ฤตกิ รรม ท่ีสดุ เพราะเหตใุ ด และมแี นวทางในการแกปญหาอยางไร
การเลียนแบบดวยความหลง เพราะเช่ือวาถาไดบริโภคตามความตองการแลว
จะดูโกเกและทันสมัย บางครั้งอาจจะประสบกับปญหาทางดานการเงินจนตอง (แนวตอบ นกั เรยี นสามารถตอบไดห ลากหลายขึน้ อยกู บั เหตุผล
ยอมกูเ งินเพอื่ พยงุ ฐานะและรกั ษาภาพลกั ษณของตนเอง โดยไมต องการใหใคร เชน ปญ หาการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เนอ่ื งจากเปน ปญ หา
มามองวาตวั เองยากจนลําบากหรอื ตํา่ ตอ ยกวา คนอ่นื ที่ทัว่ โลกไดรบั ผลกระทบ มสี าเหตจุ ากการปลอ ยแกสเรือนกระจก
สูชนั้ บรรยากาศในปรมิ าณมาก ซึง่ แกส เรอื นกระจกทาํ ใหอณุ หภูมิ
โลกสูงข้ึน นําไปสูการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ
ตา งๆ แนวทางการแกปญ หา เชน การลดการใชเ ชือ้ เพลิงฟอสซลิ
สนบั สนนุ การใชพลังงานสะอาด สงเสริมการปลกู ปาฯลฯ)
T126
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ò. á¹Ç·Ò§¡ÒÃᡌ»˜ÞËÒáÅоѲ¹Ò·ŒÍ§¶Ôè¹µÒÁ»ÃѪÞҢͧ ขน้ั สอน
àÈÃɰ¡Ô¨¾Íà¾Õ§ ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรชั ญาทช่ี ถี้ งึ แนวทางการดา� รงอยแู่ ละการปฏบิ ตั ติ นของ 5. ตัวแทนกลุมแนวทางการแกปญหาและพัฒนา
ประชาชนตง้ั แตร่ ะดบั ครอบครวั ชมุ ชน จนถงึ ระดบั ประเทศ ทงั้ ในการพฒั นาและการบรหิ ารประเทศ ทอ งถน่ิ ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งออก
ให้ดา� เนนิ ไปในแนวทางสายกลาง โดยการพฒั นาทางดา้ นการศึกษา สังคม เศรษฐกจิ การเมือง มานาํ เสนอผลการศกึ ษาหนา ชน้ั เรียน
การปกครอง และสง่ิ แวดลอ้ มอย่างยงั่ ยืน เพ่อื ใหท้ ันตอ่ การเปลย่ี นแปลงของโลกในยคุ โลกาภิวัตน์
การพัฒนาท้องถิ่นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาซ่ึงตั้งอยู่บน 6. ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกันหรือซักถาม
รากฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยค�านึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล เกย่ี วกับประเดน็ ดังกลา ว เชน
การสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี ตลอดจนใชค้ วามร ู้ ความรอบคอบ และคณุ ธรรมประกอบการวางแผน • ทอ งถน่ิ ควรสง เสรมิ การนาํ ภมู ปิ ญ ญามาสรา ง
ชกามุ รชตนดั เสขนิ้มใแจข ็งแ1 ลละดกกาารรลพง่งึมพือาปปฏัจบิ จตัยั ิภโาดยยนมอีเกป า้ แหลมะาปยลสูกา� ฝคงั ญั ใหเพ้คนื่อใใหน้คทน้อใงนถท่ินอ้มงคี ถณุ น่ิ ลพักึง่ ษตณนเะอตง่าไงด ๆ้ สดรังา้ นง้ี เปน รายไดเล้ยี งคนในชมุ ชนไดอ ยางไร
(แนวตอบ ควรมกี ารถา ยทอดใหค นรนุ ใหมน าํ
ทางสายกลาง วตั ถดุ บิ ในทอ งถน่ิ มาผลติ เปน สนิ คา เพอื่ ขาย
ใหกับคนในทองถ่ินและชุมชนอื่น รวมถึง
พอประมาณ ควรมีการบริหารจัดการตนทุน แรงงาน
และเพม่ิ มลู คาใหก บั สนิ คา )
มเี หตุผล มภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ทดี่ ี • คนไทยสามารถนาํ แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง
มาใชไดอยางไรบาง
เงอ่ื นไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม (แนวตอบ นกั เรยี นสามารถตอบไดห ลากหลาย
(รอบร ู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง) (ซอ่ื สัตย์สุจรติ ขยัน อดทน สตปิ ญั ญา แบง่ ปนั ) ข้นึ อยูกับเหตผุ ล เชน ใชจ ายอยางประหยัด
ประกอบอาชีพสุจริต พ่ึงพาตนเองใหมาก
นา� สู่ ท่ีสดุ )
• คนในชมุ ชนสามารถมสี ว นรว มในการพฒั นา
ชวี ติ /เศรษฐกิจ/สังคม/สิง่ แวดล้อม ชุมชนใหเ ขมแข็งไดอยางไรบาง
(แนวตอบ เชน สรา งอาชพี ใหกบั ตนเองและ
รวมกลุมอาชีพ สรางเครอื ขา ยกับชมุ ชนอ่นื )
สมดลุ /มน่ั คง/ยั่งยืน
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ี่ไมน่ ้อยเกินไปและไม่มากเกนิ ไป ไม่เบยี ดเบยี น
ตนเองและผู้อื่น
ความมเี หตผุ ล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกยี่ วกบั ระดบั ความพอเพยี งนน้ั จะตอ้ งเปน็ ไปอยา่ งมเี หตผุ ล
การมีภูมิคุมกันในตัวท่ีดี หมายถึง การเตรียมพร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลง
ด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึน ท้ังนี้ ต้องมีเงื่อนไขส�าคัญ ๒ ประการ ได้แก่ มีความรู้และมีคุณธรรม
ในการดา� เนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ
๑๑๓
กจิ กรรม สรางเสริม นักเรียนควรรู
ครใู หน กั เรยี นไปศกึ ษาดงู านแหลง เรยี นรแู ละพฒั นาตามหลกั 1 ชุมชนเขมแข็ง การพัฒนาคนในชุมชนใหมีความรู ความสามารถในดาน
เศรษฐกิจพอเพียงหรือโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริที่มี การจัดการเกี่ยวกับการผลิต การตลาด การสงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
อยูในชุมชน หรือชุมชนอื่นๆ หรือศึกษาจากหนังสือในหองสมุด การไมเอารัดเอาเปรียบ และสามารถพ่ึงตนเองและครอบครัวได สังคมไม
อนิ เทอรเ นต็ ฯลฯ แลวนําขอมูลมารว มกันอภปิ รายในชน้ั เรียน เดอื ดรอ น
ส่ือ Digital
ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพิ่มเตมิ เกีย่ วกับ “ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง” จาก
มลู นิธชิ ัยพฒั นา ไดที่ https://www.chaipat.or.th/site_content/item/3579-
2010-10-08-05-24-39.html
T127
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน 2.๑ กำรบริหำรจัดกำรกระบวนกำรชุมชนเขม้ แขง็
ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ ชุมชนเข้มแข็ง หมายถึง ศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจและ
ความเป็นอยู่ได้ด้วยตนเอง ท�าได้ด้วยการส่งเสริมการรวมตัวในการเรียนรู้ ร่วมคิด ร่วมทดลอง
7. ครูสนทนากับนักเรียนวาชุมชนของนักเรียน ปฏิบัติจริง เน้นศักยภาพความพร้อมของชุมชน โดยเชื่อมโยงกับการประกอบอาชีพของคน
มีเอกลักษณหรือลักษณะเดนอยางไรบาง ให ในชมุ ชน คา� นึงถึงความพอประมาณ การสร้างเครอื ข่ายการเรียนร้ทู ัง้ ภายในและภายนอกชุมชน
อาสาสมคั รมาเลาหนา ชนั้ เรียน
2.2 กำรสร้ำงควำมมั่นคงของเศรษฐกิจชมุ ชน
8. ครมู อบหมายใหน ักเรยี นแบง กลมุ ศกึ ษาชมุ ชน
ท่ีสนใจ โดยตั้งประเด็นในการศึกษารวมกัน การสรา้ งความมนั่ คงของเศรษฐกจิ ชมุ ชน ดว้ ยการบรู ณาการการผลติ บนฐานศกั ยภาพและ
และลงพนื้ ทสี่ มั ภาษณห รอื สงั เกตปญ หา รวมถงึ ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนอยา่ งสมดลุ เนน้ การผลติ เพอื่ การบรโิ ภคอยา่ งพอเพยี งภายในชมุ ชน สรา้ ง
พฤติกรรมของคนในชุมชน หลังจากนักเรียน ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการลงทุนสร้างอาชีพ มีการจัดสรรผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม
ลงพ้ืนที่แลว ใหนักเรียนสรุปเอกลักษณของ แก่ชุมชน โดยมีแนวปฏบิ ัติ ดังนี้
ชุมชนน้ัน แลว มานําเสนอหนา ชนั้ เรยี น
๑) สนบั สนนุ ใหช้ มุ ชนมกี ารรวมกลมุ่ แบบตา่ ง ๆ เชน่ สหกรณ ์ เพอ่ื พฒั นากจิ กรรมทาง
เศรษฐกจิ ใหห้ ลากหลาย มกี ารแปรรปู และผลติ บนฐานทรพั ยากรในชมุ ชนใหเ้ พยี งพอกบั การอปุ โภค
บรโิ ภค และนา� ไปแลกเปล่ียนระหวา่ งชุมชนหรอื ตลาดภายนอก โดยมกี ารตกลงที่เป็นธรรม
๒) รณรงคแ์ ละสง่ เสรมิ การผลติ ในทอ้ งถน่ิ มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ และจ้างงาน
ให้คนในชมุ ชน เพือ่ ลดการเคล่อื นยา้ ยแรงงานสเู่ มืองใหญ่
๓) สง่ เสรมิ การรว่ มลงทนุ ระหวา่ งเครอื ขา่ ยองคก์ รชมุ ชนกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่
กหารรือทหอ่ นง่วเทยง่ียาวนเชทิง้ังนภิเาวคศ1รัฐและเอกชนในท้องถิ่นอย่างโปร่งใส โดยใช้ฐานทรัพยากรในพ้ืนท่ี เช่น
คุณค่าข๔อ)งสสินนคับ้าสแนลุนะบกราิกรานร�าทภี่มูมีโอิปกัญาสญทาาไงทกยารแตลละาวดัฒสูงน2 ธเรชร่นม ทอ้อาหงถาร่ินสมุขาภใาชพ ้ ในสินกาคร้าสหรัต้าถงกสรรรรมค์
ผา้ ทอมอื เคร่ืองจกั สาน
2.๓ ก ำรเสริมสร้ำงศักยภำพชุมชนในกำรอยูรวมกันกับธรรมชำติ
และสง่ิ แวดล้อมอยำ งย่ังยนื
จากการพัฒนาประเทศท่ีเน้นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม และการเพ่ิมขึ้นของประชากร
ท�าให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ถูกน�ามาใช้มากจนเกินไป ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและความ
เสอื่ มโทรม ดงั นน้ั จงึ เปน็ ภาระหนา้ ทขี่ องคนในทอ้ งถนิ่ ในการชว่ ยกนั บรหิ ารการใชท้ รพั ยากร และ
รว่ มกนั อนรุ กั ษแ์ บบยงั่ ยนื ดว้ ยการสง่ เสรมิ สทิ ธชิ มุ ชน ตลอดจนการมสี ว่ นรว่ มในการสงวน อนรุ กั ษ ์
ฟน ฟ ู พฒั นา และบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง เพอื่ การ
อยูร่ ว่ มกนั อย่างยัง่ ยืน
๑๑๔
นักเรียนควรรู กิจกรรม ทา ทาย
1 การทองเท่ียวเชิงนิเวศ คือ การทองเที่ยวตามแหลงอนุรักษทางธรรมชาติ ครูนักเรียนยกตัวอยางสถานการณท่ีเปนปญหาในชุมชนของ
หรอื วัฒนธรรมอยา งมีความรับผดิ ชอบ รวมไปถึงการสนับสนุนคนพน้ื เมอื งใหม ี นกั เรียนในดานตา งๆ 2-3 ปญหา เชน การวา งงาน ขยะมูลฝอย
ความเปน อยทู ด่ี ี และการศกึ ษาและแบง ปน ความรทู งั้ คนในพน้ื ทแี่ ละผเู ยย่ี มเยอื น การตัดไมท าํ ลายปา การไมใ สใ จในวัฒนธรรมที่ดงี ามของทอ งถิ่น
การทอ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศจงึ เปน การหลอมรวมกนั เปน หนง่ึ เดยี วระหวา งการอนรุ กั ษ แลวชวยกันวิเคราะหสาเหตุและแนวทางแกปญหารวมกัน โดย
ชุมชน และการทองเท่ยี วอยางยั่งยนื อาศยั พนื้ ฐานหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชเ ปน แนวทาง
2 โอกาสทางการตลาดสูง เปนโอกาสของการนําสินคาที่ผลิตในทองถิ่นออก ในการแกปญหาและพัฒนา จากนั้นจัดทําโครงงาน แลวนําสง
จําหนายไดอยางแพรหลาย เนื่องจากสินคาที่ผลิตเปนความตองการโดยทั่วไป ครผู ูส อน
ของสงั คม
T128
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
2.๔ กำรเสรมิ สรำ้ งทนุ เพือ่ กำรพฒั นำประเทศอยำงยั่งยนื ขนั้ สอน
การพฒั นาทอ้ งถน่ิ ตามแนวทางของเศรษฐกจิ พอเพยี งประการหนงึ่ คอื จะตอ้ งมกี ารบรหิ าร ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้
จดั การทุนท่มี ีอย่ใู นทอ้ งถ่นิ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ซึง่ ประกอบดว้ ยทนุ สังคม ทนุ เศรษฐกิจ และทุน
ทรัพยากรธรรมชาต ิ ดงั นี้ 9. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมรวมกันแสดงบทบาท
สมมติ เพื่อสะทอนใหเห็นถึงเอกลักษณ
๑) การเสริมสร้างทุนสังคม โดยการให้ความส�าคัญกับการพัฒนาศักยภาพของคน สภาพของชุมชน และจําลองวิถีชีวิตความ
เปนอยู สภาพปญหาตางๆ เชน ปญหาดาน
ทง้ั ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ และสตปิ ญั ญา โดยเสรมิ สรา้ งสขุ ภาวะและความรใู้ หม้ ภี มู คิ มุ้ กนั พรอ้ มเผชญิ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของคน
การเปล่ียนแปลงและก้าวสู่สังคมฐานความรู้ มีจิตส�านึกในการด�ารงชีวิตบนพื้นฐานของศีลธรรม ในชุมชน และแนวทางการพัฒนาของคนใน
อันดีงาม ครอบครัวมีความอบอุ่น ม่ันคงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ชุมชนมีความเข้มแข็ง ชุมชนนั้น
มีการรวมตัวเป็นเครือข่ายเพ่ือการพัฒนา ตลอดจนมีการใช้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและ
ภูมิปัญญาท่ีมีอยู่ในแต่ละท้องถิ่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์คุณค่าทางเศรษฐกิจ
รวมทง้ั ดแู ลรกั ษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม
๒) การเสรมิ สรา้ งทนุ เศรษฐกจิ โดยให้ความส�าคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น
ให้มีการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ มีคุณภาพ มีโครงสร้างการผลิตที่มีการเพิ่มคุณค่าบนฐาน
พแคลวฒั าะนภมามูรพู้แคิ ลลุม้ ะงั กคงนัาวนขาทอมงาเปเงศเ็นลรไษอื ทกฐย1ก ร ิจวกฐมาาทรนบงั้ รปราิหรกบัา เปรพอรือ่งงุ กคกร์ฎคะวหจามามยารยผู้ ทลกเ่ีปการรยี่ ะเวโพยขิ่มชอ้ ปนงคร์จะวาสบกิทกคธาไู่ ปิภรพกาพบัฒั กกนาาารรอเใสยชร่า้พมิงลเสปังรง็นา้ าธงนศรแรกั มลย2ะภกาาพร
๓) การเสรมิ สรา้ งทนุ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม โดยใหค้ วามสา� คัญกบั การ
พัฒนาบนฐานความหลากหลายทางสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสิทธิชุมชนในการเข้าถึงและจัดการ
ทรพั ยากร เพอื่ สงวนรกั ษาใหท้ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มคงความอดุ มสมบรู ณ ์ เปน็ รากฐาน
ท่มี น่ั คงของการพัฒนาและการดา� รงชวี ิตของคนในท้องถ่ินใหม้ ีความสุขอยา่ งย่งั ยืน ขณะเดียวกัน
มีการเสริมสรา้ งคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มท่ีดี โดยปรับแผนการผลิตและพฤตกิ รรมการบรโิ ภค เพือ่ ลด
ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ีมีคุณภาพ ถือเป็นทุนเสริมสร้างให้เกิดการพัฒนาท้องถ่ินและประเทศที่ส�าคัญ
ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๑๑5
กจิ กรรม สรางเสริม นักเรียนควรรู
นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา ทําอยางไรจึงจะนํา 1 พลังงานทางเลือก (Alternative Energy) คือ พลังงานท่ีนอกเหนือจาก
ทรัพยากรที่มีอยูอยางจํากัดในชุมชนมาใชในการพัฒนาชุมชน พลังงานหลักท่ีใชอยูในปจจุบัน ท้ังน้ี ขึ้นอยูกับสถานการณของแตละประเทศ
ใหพอมี พอกิน พ่ึงพาตนเองไดอยางยั่งยืน เพื่อปลูกฝงใหคนใน เชน ถา นหิน เปนพลังงานทางเลอื กในการผลติ ไฟฟาของประเทศไทย
ชุมชนมีสวนรวมในการพัฒนาและสรางชุมชนใหเขมแข็ง แลว 2 การพัฒนาอยางเปนธรรม เปนการพัฒนาเพื่อสรางความเจริญเติบโต
จดั ทําเปน ขอสรปุ สง ตัวแทนออกมานาํ เสนอหนา ช้ันเรยี น อยางสมดุลและมีเสถียรภาพระยะยาว โดยผลประโยชนของการพัฒนาจะ
กระจายไปยงั กลุมบคุ คลตา งๆ อยา งเหมาะสมและยุตธิ รรม
T129
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๓. แในนรวะคดิดับขตอา่ งงเๆศรษฐกจิ พอเพยี งกับการพฒั นาประเทศ
ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ ระบบเศจราษกฐสกภจิ าแพบสบังทคมุน นเิยศมร1ษ ไฐดก้สิจง่ ผกลรกะรแะสทโลบกตาอ่ ภววิิถัตีกนาร ์ ดค�าวเานมนิ เจชรวี ญิ ิตขกอ้าวงหคนนใ้าน แสงัลคะกมา รทขัง้ ยสางั ยคตมวัเมขือองง
และสงั คมชนบท ทา� ใหค้ นเกดิ ความอยากมอี ยากไดผ้ ลติ ภณั ฑใ์ หม ่ ๆ ทท่ี นั สมยั มาเปน็ เครอ่ื งอา� นวย
10. ตัวแทนกลุมแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง ความสะดวก จนเกดิ หนสี้ นิ การทจุ รติ หรอื ตอ้ งทา� งานหนกั สง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ หรอื แมก้ ระทงั่
กบั การพฒั นาประเทศในระดบั ตา งๆ ออกมา ภาคธรุ กจิ ทม่ี กี ารขยายธรุ กจิ เพอ่ื หวงั ผลกา� ไร อาจตอ้ งกเู้ งนิ จา� นวนมากในการลงทนุ เพม่ิ จนทา� ให้
นาํ เสนอผลการศึกษาหนาชัน้ เรยี น ธรุ กิจประสบปัญหาตามมา
การน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ก็เพ่ือให้รู้จักใช้ชีวิตด้วยความ
11. นักเรียนกลุมอ่ืนรวมกันอภิปรายหรือซักถาม พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี มคี วามร ู้ มคี ณุ ธรรม พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลงทง้ั จาก
เพิ่มเติม เชน ภายในและภายนอก สร้างความมั่นคงใหก้ บั ตนเอง สรา้ งชมุ ชนเข้มแข็งเพ่อื การพัฒนาท่ียง่ั ยืน
• การปฏบิ ตั ติ นตามแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง
สง ผลดตี อ ตนเอง ชมุ ชน และสงั คมอยา งไร ๓.๑ ข้อควรคำ� นงึ ในกำรนำ� ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งมำใช้
• คนไทยสามารถนาํ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงมาใชไดอ ยางไร การนา� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช ้ ตอ้ งคา� นงึ ถงึ สง่ิ ตา่ ง ๆ ดงั น้ี
๑. การพ่ึงพาตนเองเปน็ หลัก ทา� ทกุ อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน รอบคอบ ระมดั ระวัง
๒. พจิ ารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร ตามศักยภาพของประเทศ
๓. การสร้างความสามคั คีใหเ้ กิดขน้ึ บนพืน้ ฐานของความสมดลุ ในสงั คม
๔. ครอบคลุมท้ังด้านจิตใจ สังคม เทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมถึง
เศรษฐกิจ ดงั นี้
ด้านจิตใจ ด้านสังคม
• เอ้อื อาทร ประนีประนอม • ร ู้ รัก สามัคคี
• มีจติ ใจเขม้ แขง็ มจี ิตสา� นึกทดี่ ี • ช่วยเหลอื เก้ือกูลกัน
• ค�านงึ ถงึ ผลประโยชนข์ อง • ส รา้ งความเข้มแขง็ ใหค้ รอบครัว
ส่วนรวม ลักษณะ และชุมชน
ด้านเศรษฐกิจ ของความพอดี
• ไม่เสีย่ งเกนิ ไป ในปรัชญา
• ลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้ ของเศรษฐกิจ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตสิ งิ่ แวดล้อม
• คดิ วางแผนรอบคอบ มภี ูมคิ ุ้มกัน พอเพยี ง • พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมปิ ญั ญา
• ใชท้ รพั ยากรธรรมชาติเทา่ ทจ่ี �าเปน็ อย่าง
ระมดั ระวงั
• ร จู้ กั ใชเ้ ทคโนโลยใี หส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ
และความเหมาะสมกับสภาพแวดลอ้ ม
๑๑6
เกร็ดแนะครู กจิ กรรม สรา งเสริม
ครอู ธบิ ายเสรมิ วา หลายประเทศรวมถงึ องคก ารสหประชาชาตชิ นื่ ชมปรชั ญา นักเรียนรวมกันวิเคราะหวา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในฐานะทเี่ ปน แนวทางการพฒั นาทสี่ อดคลอ งและสามารถ พอเพียงสามารถนํามาใชพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนไดอยางไร
สนับสนุนการบรรลุเปาหมายการพัฒนาทย่ี ่ังยืน (Sustainable Development พรอมยกตัวอยางประกอบ โดยเขียนสรุปการวิเคราะหลงใน
Goals-SDGs) โดยเฉพาะในชวงปจจุบันท่ีโลกกําลังเผชิญความทาทายอยาง สมุดบันทกึ แลวนาํ สง ครูผสู อน
หลากหลาย ทงั้ การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ วกิ ฤตการณผ ลู ภ้ี ยั และผโู ยกยา ย
ถิ่นฐาน ตลอดจนความเหลื่อมลํา้ ทางเศรษฐกจิ ทท่ี วีความรุนแรงขนึ้
นักเรียนควรรู
1 ทุนนิยม เปนระบบเศรษฐกิจท่ีเอกชนมีกรรมสิทธ์ิในทรัพยสิน มีเสรีภาพ
ในการตดั สนิ ใจวาจะผลติ อะไร ผลติ อยา งไร และผลติ เพอื่ ใคร ในการเลือกใช
ทรพั ยากรกเ็ ปน หนา ทข่ี องเจา ของปจ จยั การผลติ แตล ะคนทท่ี าํ การตดั สนิ ใจผลติ
Tทเ่ี หน็ วาเหมาะสมกับเปาหมายมากทสี่ ดุ โดยรฐั บาลไมเขาไปเกีย่ วขอ ง
130
นาํ สอน สรุป ประเมนิ
๓.2 กำรนำ� แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งมำใชใ้ นกำรพฒั นำประเทศ ขน้ั สรปุ
ในระดบั ตำงๆ
ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมคี วามสา� คญั ตอ่ การพฒั นาประเทศในระดบั ตา่ ง ๆ เพอื่ นา� พา
คนไทยไปส่สู ังคมเขม้ แขง็ โดยมีเปา้ หมาย ดงั นี้ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 7.1 เรื่อง
เศรษฐกิจพอเพียงกบั การพฒั นาประเทศ โดย
ผคู นในชุมชนดําเนนิ ชีวติ อยางมีความสุข ครูแนะนําเพ่ิมเติม
เพราะทกุ คนพออยพู่ อกนิ ตามสมควร ไมย่ ากจน ไมม่ กี ารเบยี ดเบยี นผอู้ น่ื สามารถ 2. นักเรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร
ชว่ ยเหลือตนเองและผูอ้ น่ื ได้ ม.3 เก่ียวกับเรื่อง ปญหาทองถ่ินของไทย
แนวทางการแกป ญ หาและแนวคดิ ของเศรษฐกจิ
เปา หมาย สมาชกิ ในชุมชนเกิดความสามัคคี พอเพียงกับการพัฒนาประเทศ เพื่อเปนการ
ของปรัชญา รว่ มมอื กันแก้ไขปญั หาทีเ่ กดิ ขนึ้ ในชมุ ชน บา นสง ครูในช่วั โมงถัดไป
ของเศรษฐกิจ
พอเพียง สรา งความสมดลุ ในทุก ๆ ดา น ขน้ั ประเมนิ
ท้ังในการด�าเนินชีวิต กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ความเจริญก้าวหน้าของ
สงั คม และการจัดการทรพั ยากรท่ยี ัง่ ยืน ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล
เศรษฐกจิ ชมุ ชนเขมแขง็ 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ
ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก
เพราะประชาชนมกี ารประกอบอาชพี มรี ายได ้ ลดการพง่ึ พาจากภายนอก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3
การนา� แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการพฒั นาระดบั ต่าง ๆ สามารถปฏบิ ตั ไิ ด ้ ดังน้ี 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
๑) ระดบั บคุ คล สามารถนา� มาใชใ้ นการดา� เนนิ ชวี ติ เชน่ พออยพู่ อกนิ มเี หตผุ ล พง่ึ ตนเอง หนา ชน้ั เรยี น
หม่นั ศกึ ษาความรู้เพื่อน�ามาพฒั นาอาชพี มคี ณุ ธรรม และมภี มู คิ ้มุ กันท่ีด ี สามารถปรบั ตัวต่อการ 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงานและแบบฝก
เปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงมีจติ สา� นึกรกั ทอ้ งถ่ินและสิ่งแวดลอ้ ม สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.3
๒) ระดบั ชมุ ชน โดยการรว่ มมือจากทุกภาคสว่ น เพื่อพฒั นาเศรษฐกิจใหม้ ีความเขม้ แข็ง
พงึ่ พาตนเองได ้ เชน่ มกี ารอบรมใหค้ วามรเู้ พอื่ พฒั นากลมุ่ อาชพี ผลติ สนิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพเพอ่ื บรโิ ภค
ในชุมชนและแลกเปล่ียนระหว่างชุมชน สร้างเครือข่ายขยายตลาดของสินค้าและแลกเปลี่ยน
ความรู้เพ่อื น�ามาพัฒนาผลติ ภัณฑ์ของชมุ ชน
๓) ระดบั ประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาต ิ ฉบบั ท่ี ๙-๑๒ ไดป้ รบั ทิศทาง
การพัฒนาประเทศ โดยนา� ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นฐาน ดงั นี้
๓.๑) การพัฒนาศักยภาพของคนและความเข้มแข็งของชุมชน โดยยึดปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางควบคู่กับการพัฒนาแบบบูรณาการ โดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง
เพ่อื ให้มีความรู ้ คณุ ธรรม ครอบครัวทอี่ บอุ่น ชุมชนเขม้ แข็ง สังคมสันตสิ ุข เศรษฐกิจ สงิ่ แวดลอ้ ม
และทรพั ยากรมคี ุณภาพอย่างย่งั ยืน ภายใต้การบริหารประเทศทมี่ ธี รรมาภบิ าล
๑๑๗
ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล
เพราะเหตใุ ดแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งจงึ เหมาะสม ครูสามารถวัดและประเมินความเขา ใจเนือ้ หา เร่อื ง ปญ หาทองถิ่นของไทย
ในการนํามาใชในการพัฒนาประเทศไทย แนวทางการแกป ญ หา และแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การพฒั นาประเทศ
ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น
(แนวตอบ เพราะประเทศไทยเปน ประเทศกาํ ลงั พฒั นา ตอ งพงึ่ พา โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่
เครอ่ื งจกั ร เงินทนุ และเทคโนโลยจี ากตางประเทศ ประชากรสว น แนบทา ยแผนการจดั การเรียนรูหนว ยท่ี 7 เร่อื ง เศรษฐกิจพอเพียงกบั การพฒั นา
ใหญประกอบอาชีพเกษตรกรรม รวมทั้งยังมีปญหาความยากจน ประเทศ
และความเหลอื่ มลาํ้ ในการกระจายรายได ซงึ่ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงมีหลักการสําคัญ คือ เนนความพอประมาณ มีเหตุ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
มผี ล และสรา งภมู คิ ุม กันท่ีดีใหแกตนเองและสังคม ซ่งึ สามารถนํา
มาประยกุ ตใ ชไ ดใ นการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมไดอ ยา งยงั่ ยืน) คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเน้อื หา
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเร่ือง
3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............/................./................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้ T131
ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาํ (การจัดการเรียนรูแบบรวมมือ : ๓.๒) การสรา้ งความอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ของสงั คมไทย ดา� รงชวี ติ อยา่ งมคี วามสขุ ทงั้ จติ กาย
ปัญญา ทเ่ี ชอ่ื มโยงกับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดลอ้ มทส่ี มั พันธก์ นั นา� ไปสกู่ ารอยู่รว่ มกนั อย่าง
เทคนิคคูคิดส่ีสหาย) สนั ติและสมดุลระหว่างคน ธรรมชาต ิ และส่งิ แวดล้อม ซ่งึ มอี งคป์ ระกอบส�าคญั เป็นปัจจยั พ้ืนฐาน
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ชื่อเร่ือง ในการสร้างสขุ ได้แก ่ ครอบครวั อบอุ่น การมี
สุขภาวะที่ดี ชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจม่ันคง
ทจี่ ะเรียนรู จุดประสงคก ารเรยี นรู และผลการ และมสี ภาพแวดลอ้ มท่ดี ี
เรียนรู ๓.๓) การสร้างความมีส่วนร่วมของ
2. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรูเดิมเกี่ยวกับ คนในสังคมในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากร
ปญหาทอ งถน่ิ ของไทย แนวทางการแกป ญ หา ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม รวมทั้งสืบสานและ
และแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงกับการ อนุรักษ์ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่
พัฒนาประเทศ คทู่ อ้ งถน่ิ โดยเฉพาะเยาวชนคนรนุ่ ใหมไ่ ดเ้ ขา้ มา
3. ครูนําสนทนาเกี่ยวกับความสําคัญและสินคา การทา� ความสะอาดคราบนา้� มนั บรเิ วณอา่ วพรา้ ว เกาะเสมด็ มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน
ทข่ี ายในสหกรณในโรงเรยี น แลว ถามนกั เรียน จังหวัดระยอง จัดเป็นตัวอย่างกิจกรรมที่ช่วยอนุรักษ์
ในประเดน็ เชน ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม
• นกั เรียนซือ้ สนิ คา ใดจากสหกรณเปนประจํา
• สินคาจากสหกรณในโรงเรียนกับรานคา ๔. ความสมั พนั ธข์ องแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั ระบบสหกรณ์
ปัจจุบันท้องถิ่นต่าง ๆ น�าแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ และจัดต้ังเป็นกลุ่มต่าง ๆ
ท่วั ไป ทใี่ ดราคาถกู กวา กัน
• การซ้ือสินคาจากสหกรณแตกตางจากการ
ซ้อื จากรา นคาทัว่ ไปอยางไร
เพอ่ื สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ชมุ ชน โดยไดน้ า� หลกั การของสหกรณม์ าจดั ตง้ั สหกรณป์ ระเภทตา่ ง ๆ
และมีการบรหิ ารจดั การในรูปแบบของสหกรณ์
๔.๑ สหกรณ์
สหกรณ์ (Cooperative) เป็นองค์กรท่ีเกิดจากกลุ่มบุคคลท่ีมารวมตัวกันโดยสมัครใจ
เพื่อด�าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สนองความต้องการและบรรลุเป้าหมาย
ของสมาชิกท่ีเป็นเจ้าของร่วมกันภายใต้หลักประชาธิปไตย ไม่มุ่งแสวงหากา� ไร และมีการแบง่ ปนั
ผลประโยชน์อยา่ งเปน็ ธรรม
๑) ลกั ษณะสา� คญั ของสหกรณ ์ มีดงั นี้
๑.๑) เกดิ จากการรวมตวั กนั ของกลมุ่ คนดว้ ยความสมคั รใจ เพอื่ รว่ มมอื กนั ในการแกไ้ ข
ปัญหาทางเศรษฐกจิ และสงั คม
๑.๒) มวี ัตถุประสงค์ในการด�าเนินธุรกิจท่ีแน่นอน คือ ชว่ ยเหลือตนเองและช่วยเหลือ
ซ่ึงกันและกนั
๑.๓) มกี ารจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มฐี านะเป็นนติ ิบคุ คล1 มกี ฎหมายเกยี่ วกบั
สหกรณ์และข้อบงั คบั สหกรณ์เปน็ แนวทางในการด�าเนนิ ธรุ กิจ
๑๑8
นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสรมิ
1 นิติบคุ คล คือ กลุมบุคคล องคก ร หรอื ทรัพยสนิ ทจี่ ดั สรรไวเปน กองทุนเพือ่ ครใู หนกั เรยี นชว ยกันยกตวั อยา งสหกรณท ่ีนกั เรียนรจู กั แลว
ดําเนินกิจการอันใดอันหน่ึง ซึ่งกฎหมายบัญญัติใหเปนบุคคลอีกประเภทหนึ่ง ชว ยกันอภิปรายตามประเด็น ดังน้ี
ที่มิใชบุคคลธรรมดา มีสิทธิและหนาท่ีภายในขอบแหงอํานาจหนาท่ีหรือ
วตั ถปุ ระสงคด งั ไดบ ญั ญตั หิ รอื กาํ หนดไวใ นกฎหมาย ขอ บงั คบั หรอื ตราสารจดั ตง้ั • สหกรณดังกลาวจัดเปนสหกรณประเภทใด เชน สหกรณ
การเกษตร สหกรณรานคา สหกรณออมทรัพย สหกรณ
บูรณาการอาเซียน นคิ ม
ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา ประเทศไทยมีการนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง • สหกรณแตกตา งจากธรุ กิจอนื่ อยา งไร
มาใชในการขับเคลื่อนเขาสูประชาคมอาเซียน โดยการเผยแพรความรูและ • สหกรณมปี ระโยชนในการพัฒนาประเทศอยา งไร
ประชาสัมพันธขอมูลขาวสารใหกับทุกภาคสวนของสังคม ท่ีช้ีนําถึงแนวทาง
การดํารงอยูและปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับอยางมีประสิทธิภาพ และ
มีประสิทธิผล รวมท้ังสนับสนุนใหมีการพิจารณาทบทวนกฎบัตรอาเซียนเปน
ระยะๆ เพอื่ ใหท นั ตอ เหตกุ ารณท เี่ ปลยี่ นแปลงไป เกดิ ประโยชนส งู สดุ ตอ ประเทศ
Tสมาชกิ อาเซียน
132
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๒) ความเปน็ มาของสหกรณ ์ เกดิ ขนึ้ ครั้งแรกในทวีปยโุ รป ในครสิ ต์ศตวรรษที ่ ๑๘-๑๙ ขนั้ นาํ
โดยมีมลู เหตมุ าจากเหตกุ ารณก์ ารปฏิวัตอิ ตุ สาหกรรม ที่นักวทิ ยาศาสตร์ประดษิ ฐเ์ ครอื่ งจักรมาใช้ 4. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั อภปิ รายถงึ ความเปน มา
แทนแรงงานคน ทา� ใหเ้ กดิ การวา่ งงาน จงึ มกี ารรว่ มมอื กนั เชน่ สหภาพแรงงาน แตก่ ย็ งั ไมส่ ามารถ ของสหกรณโลกและสหกรณในประเทศไทย
แ กป้ ัญหนาาไยดร้อเบิรต์ โอเวน1 (Robert Owen) นกั ปฏิรูปสงั คมจงึ ไดเ้ สนอแนวคิดใหม ่ โดยใชก้ ล่มุ คน และตงั้ ประเด็นคาํ ถาม เชน
ที่มีปัญหาเศรษฐกิจและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้โดยล�าพัง ร่วมทุนและก�าลังด้วยความ • อะไรทําใหการจัดตั้งสหกรณของโอเวน
สมคั รใจจดั ตง้ั องคก์ ารประกอบกจิ การของตนเองและยดึ หลกั ประชาธปิ ไตย ทกุ คนมคี วามเสมอภาค ประสบความสาํ เรจ็ และแพรห ลายไปทวั่ โลก
เป็นเจา้ ของร่วมกนั ไม่ถอื กา� ลังทรพั ยเ์ ปน็ ใหญ่ ไม่แขง่ ขนั กัน ผลประโยชน์ท่ีได้น�ามาแบ่งปันกนั (แนวตอบ เพราะสามารถชวยเหลือกลุม
อยา่ งยุตธิ รรมในหมผู่ ้มู ีสว่ นร่วมในกจิ การ วธิ ีการน้ี คอื สหกรณ์ แรงงานใหมีความเปนอยูท่ีดี ไมถูกเอารัด
สหกรณแ์ หง่ แรกของโลก คอื สหกรณร์ อชเดลของผนู้ า� อนั เทยี่ งธรรม เกดิ จากคนงานทอผา้ เอาเปรียบ สามารถบริหารจัดการไดดวย
ที่ถูกเอาเปรียบเรื่องค่าจ้าง จัดต้ังเป็นสมาคม มีสมาชิกริเริ่ม ๒๘ คน รวมทุนจัดตั้งร้านค้า ตนเอง)
ขายส่ิงของจ�าเป็นแก่การครองชีพโดยไม่หวังก�าไรและช่วยกันดูแลกิจการ ต่อมาธุรกิจขยายตัว • เพราะเหตใุ ดระบบสหกรณจ งึ สามารถนาํ มา
เพ่มิ ขึน้ หลกั การของสหกรณร์ อชเดลกย็ ังคงยึดถือมาถึงปจั จุบัน ใชใ นประเทศไดอ ยา งเหมาะสมและยาวนาน
ในประเทศไทยสหกรณเ์ ริ่มมบี ทบาทในชว่ งตน้ สมัยรชั กาลท ่ี ๖ โดยไดม้ กี ารจัดตง้ั ธนาคาร (แนวตอบ เพราะหลักการของสหกรณเนน
เงินกู้แห่งชาติ และแนะน�าให้ชาวนาท่ีต้องการกู้เงินรวมตัวเป็นสมาคม มีการช่วยเหลือดูแล การชวยเหลือกัน ไมหวังผลกําไร มีการ
กร่วรมมกหันม ื่นโพดิทยยไดาล้มงีกการรณจัด2์ ตท้ังั้งสนมี้ าเพคม่ือแเปล็นะสสถหากบรันณป์ รซะ่ึงกเันปก็นาคร�าขทอี่บกัญู้ยืมญเัตงินิขข้ึนอโดงชยาพวรนะาร าชโดวยรสวงหศก์เรธณอ ์ บรหิ ารจดั การกนั เอง ประกอบกบั คนไทยยงั
ดงั กลา่ วจะเป็นผมู้ าติดต่อกู้ยมื เงินจากธนาคารเงนิ กู้แหง่ ชาติแทนเกษตรกร และนา� เงินก้ไู ปใหแ้ ก่ คงมีปญ หาเรือ่ งความยากจน การถูกเอารดั
เกษตรกรทต่ี อ้ งการอกี ทอดหนงึ่ และจากการทท่ี รงเปน็ ผรู้ เิ รมิ่ งานสหกรณข์ นึ้ ในประเทศไทย จงึ ได้ เอาเปรยี บจากกลมุ พอ คา นายทุน การรวม
รบั การยกยอ่ งใหพ้ ระองค์ทรงเปน็ “พระบดิ าแห่งการสหกรณ์ไทย” กลุมสหกรณจึงเปนการแกปญหาการถูก
วัดจันทสรห์ไมก่จรา�ณก์แัดหส่งนิ แใรชก3”้ ขจอดงทไทะเยบเียปน็นเสมหือ่ กวรนั ณท์ห่ ี ๒า๖ท ุนก ุมตภั้งาอพยันู่ทธ่ีจ์ ังพห.วศัด. พ๒๔ิษณ๕๙ุโล ตกอ่ มใชา้ชรัฐื่อไวด่าป้ ร“สะกหากศรใณช้์ เอาเปรยี บจากพอคาคนกลาง)
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ๒๔๗๑ นับเป็นกฎหมายสหกรณ์ฉบับแรกที่มีการรับจดทะเบียน
สหกรณป์ ระเภทอนื่ ๆ และมกี ารขยายเพ่มิ เติม 5. ครสู รปุ การแสดงความคดิ เหน็ ของนกั เรยี น โดย
การเปลย่ี นแปลงครง้ั สา� คญั ของสหกรณไ์ ทย คอื การรวมสหกรณห์ าทนุ เขา้ ดว้ ยกนั โดยการ เช่อื มโยงใหเขา กับเนือ้ หาเพอื่ นําเขา สบู ทเรียน
ออกพระราชบัญญตั ิสหกรณ ์ พ.ศ. ๒๕๑๑ ทา� ให้สหกรณ์หาทุนขนาดเล็กที่ด�าเนนิ ธุรกิจเพยี งอย่าง
เดียวรวมเป็นขนาดใหญ่ สามารถขยายธุรกิจเป็นแบบอเนกประสงค์และเป็นประโยชน์แก่สมาชิก
มากกว่า ต่อมากลายเป็นสหกรณ์การเกษตรมาจนถึงปัจจุบัน โดยสหกรณ์ถือเป็นสถาบันทาง
เศรษฐกิจและสังคมท่ีช่วยแก้ปัญหาในการประกอบอาชีพและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน
ให้ดขี น้ึ
๑๑9
ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู
สหกรณม คี ุณคา และมคี วามสาํ คญั อยา งไร 1 นายรอเบริ ต โอเวน เปน นกั เศรษฐศาสตรแ ละนกั ปฏริ ปู ทางสงั คมชาวองั กฤษ
2 พระราชวรวงศเธอ กรมหมน่ื พทิ ยาลงกรณ มพี ระนามเดมิ วา พระองคเ จา
(แนวตอบ คณุ คา ทีส่ าํ คญั ของสหกรณ คือ การท่ีสหกรณต ้งั อยู รัชนีแจมจรัส หรือ น.ม.ส. ทรงเปนปราชญแหงกรุงรัตนโกสินทร และเปน
บนพ้ืนฐานของการชวยเหลือตนเอง ความรับผิดชอบตอตนเอง พระบดิ าของสหกรณไ ทย เปน ตนราชสกุล “รชั นี”
ความเปน ประชาธปิ ไตย ความเสมอภาค ความเทยี่ งธรรม และมี 3 สหกรณว ดั จนั ทรไ มจ าํ กดั สนิ ใช มวี ตั ถปุ ระสงคเ พอ่ื ใหบ รกิ ารเงนิ กแู กส มาชกิ
ความเปนเอกภาพ และในขณะเดยี วกัน สมาชกิ สหกรณก ็มีความ มีสมาชิกแรกตั้ง 16 คน ทุนการดําเนินงาน 3,080 บาท เปนคาธรรมเนียม
เช่ือมั่นในความสุจริต ความเปดเผย ความรับผิดชอบตอสังคม แรกเขา 80 บาท และเงนิ ทุนซึง่ กูจากแบงคสยามกมั มาจลจํานวน 3,000 บาท
และความเอื้ออาทรตอผูอื่น โดยมีการปฏิบัติสืบทอดกันมาจาก มกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั เิ ปนผคู ้ําประกัน
ผรู ิเริม่ การสหกรณ)
T133
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๓) หลกั การสา� คญั ของสหกรณ์ ม ี ๖ ประการ ดงั นี้
1. ครแู บง นกั เรยี นเปน กลมุ กลมุ ละ 4 คน คละกนั ๓.๑) การเป็นสมาชิกด้วยความสมัครใจและไม่กีดกันการเข้าเป็นสมาชิก การจะเข้า
ตามความสามารถ คอื เกง ปานกลางคอ นขา ง หรอื ออกจากการเปน็ สมาชกิ สหกรณต์ อ้ งเปน็ ไปดว้ ยความสมคั รใจ ไมม่ กี ารบงั คบั ขเู่ ขญ็ ไมว่ า่ ดว้ ย
เกง ปานกลางคอนขางออน และออน โดย วิธีการใด ๆ และต้องมีการก�าหนดคุณสมบัติการเข้าเป็นสมาชิกให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ใหสมาชิกแตละคนเลือกหมายเลขประจําตัว ของสหกรณ์ประเภทนั้น ๆ
ต้งั แตหมายเลข 1-4
๓.๒) การควบคุมตามหลักประชาธิปไตยและมีการด�าเนินงานโดยอิสระ ดังนั้น การ
2. สมาชิกแตละหมายเลขแยกยายไปรวมกลุม บรหิ ารจงึ ตอ้ งมาจากบคุ คลทไ่ี ด้รบั เลอื กต้งั หรือแตง่ ตงั้ ตามวธิ ีท่ีสมาชิกไดต้ กลงกนั โดยใหย้ ดึ หลกั
ใหม และรวมกันศึกษาความรู เร่ือง ความ ว่า สมาชกิ มีสทิ ธิออกเสยี งไดค้ นละหนง่ึ เสยี ง และมีความเปน็ อสิ ระในการดา� เนินงาน
สัมพันธของแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกับ
ระบบสหกรณ ประกอบการใชหนังสือเรียน ๓.๓) การจ�ากัดอัตราดอกเบ้ียที่จ่ายให้แก่ทุนเรือนหุ้นในการจัดสรรเงินปันผลให้แก่
สังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหลงการเรียนรู สมาชกิ สหกรณ ์ ควรจา� กดั อัตราผลตอบแทนต่อทุนเรอื นหุ้นมใิ ห้สงู จนเกนิ ไป เพอ่ื เปน็ การปอ้ งกนั
อื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตทาง มิให้มีการแสวงหาก�าไรในสหกรณ์ของผมู้ ีทนุ มาก
อินเทอรเน็ต หมายเลขละ 1 เรื่อง ดงั น้ี
• หมายเลข 1 ลกั ษณะและหลกั การสาํ คญั ของ ๓.๔) การจัดสรรผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ น�ามาแบ่งปันให้แก่สมาชิกในลักษณะ
สหกรณ ของเงินปันผล และน�าไปใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจของสหกรณ์ หรือใช้ในการจัดบริการแก่ส่วนรวม
• หมายเลข 2 ภารกิจและวิธีการดําเนินงาน เพ่อื การพฒั นาสหกรณ์ตอ่ ไป
ของสหกรณ
• หมายเลข 3 สหกรณก บั การพฒั นาเศรษฐกจิ ๓.๕) สง่ เสริมการศึกษา การใหก้ ารศึกษาอบรมแก่สมาชิกถือเปน็ สิง่ จา� เป็นและสา� คญั
• หมายเลข 4 การนําปรัชญาของเศรษฐกิจ อย่างย่ิงต่อการพัฒนางานด้านสหกรณ์ ซ่ึงสหกรณ์จะก้าวหน้าหรือล้าหลังย่อมขึ้นอยู่กับพื้นฐาน
พอเพยี งมาใชกับสหกรณ การศกึ ษาของสมาชกิ โดยสมาชกิ ตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในหลกั และวธิ ดี า� เนนิ ธรุ กจิ แบบสหกรณ์
เปน็ สา� คญั และนา� ความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาอบรมมาใชใ้ นการปรบั ปรงุ พฒั นาการบรหิ ารงานของ
สหกรณ์
๓.๖) การรว่ มมอื ทางสหกรณใ์ นทกุ
ระดับ เพ่ือให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกสหกรณ์
ทั้งในระดับท้องถ่ิน ระดับภูมิภาค ระดับชาต ิ
และระดับนานาชาติ เพราะสหกรณ์มีฐานะ
เป็นองค์กรท่ีจะต้องด�าเนินงานอย่างต่อเนื่อง
สหกรณท์ ง้ั หลายจงึ ตอ้ งชว่ ยเหลอื กนั แตล่ ะแหง่
จะท�างานโดยลา� พังอย่างโดดเดยี่ วไม่ได้ ต้องมี
การสรา้ งเครอื ขา่ ยแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละรว่ มมอื
การรว่ มมอื และใหค้ วามรกู้ นั ในทกุ ระดบั เปน็ หลกั การส�าคญั เพอ่ื สรา้ งความมั่นคงให้กบั สหกรณร์ ว่ มกัน
เพือ่ นา� ไปใช้พัฒนาสมาชิกและธุรกจิ ของสหกรณ์รว่ มกนั
๑20
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ
ครอู ธิบายเพ่มิ เติมวา นอกจากหลกั การสําคัญของสหกรณ 6 ประการแลว บคุ คลใดตอ ไปน้ีมคี วามเหมาะสมท่ีจะเขา รวมในกจิ กรรมสหกรณ
ยงั มหี ลกั การอน่ื ๆ เชน การเออื้ อาทรตอ ชมุ ชน เนอื่ งจากสหกรณเ ปน องคก ารทาง 1. นิสา สนใจลงทุนในธุรกิจรา นสะดวกซือ้
เศรษฐกิจและสังคม และเปนสวนหนึ่งของชุมชนที่สหกรณต้ังอยู เพราะฉะน้ัน 2. จิตดี นิยมซอ้ื สนิ คานําเขาจากตา งประเทศ
การดําเนินงานของสหกรณตองเปนไปเพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนน้ันๆ 3. นิธิ มคี วามประสงคจะกูย ืมเงนิ เพือ่ นาํ ไปขยายกิจการบานเชา
ซึ่งหมายความวา เปนการพัฒนาท่ีไมทําลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอม 4. ณธกร เขารวมเปนสมาชิกนิคมเพ่ือแลกเปล่ียนความรูในการ
และระบบนิเวศ หรือเปนการพัฒนาท่ีสนองความตองการและความใฝฝนของ
คนรนุ ปจ จบุ ัน โดยไมท าํ ลายโอกาส ความสามารถ และอนาคตของคนรุนหลัง ลงทุนการเกษตร
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4 สอดคลองกับหลักการสําคัญ
ของสหกรณมากที่สุด เนื่องจากการใหความรูแกสมาชิกและ
ไมเปนเชิงธุรกิจ สวนขออื่นเปนดําเนินการเพ่ือมุงหวังผลกําไร
ในการดําเนินธรุ กจิ เปน หลกั จงึ ไมใ ชลักษณะกิจกรรมสหกรณ)
T134
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๔) ประเภทของสหกรณ1์ในประเทศไทย มดี ังน้ ี ขน้ั สอน
สหกรณก ารเกษตร 3. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ นาํ เสนอผลการศกึ ษา
โดยเริ่มจากกลุมหมายเลข 1 ลักษณะและ
จัดต้ังข้ึนเพ่ือเกษตรกร มีหน้าท่ีในการส่งเสริมการผลิตและเพ่ิมพูนรายได้ให้แก่เกษตรกรท่ีเป็นสมาชิก เช่น หลักการสาํ คัญของสหกรณ
ใหส้ นิ เชอื่ การเกษตร รับฝากเงนิ จัดหาสินคา้ เครื่องมอื เครอ่ื งใช ้ และอุปกรณก์ ารผลิตมาจ�าหน่าย
4. นักเรียนกลุมอื่นรวมกันซักถามและอภิปราย
สหกรณประมง รวมกัน โดยครูอาจแนะนําเพิ่มเติม เชน
ใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางสหกรณใน
จัดตั้งขน้ึ ในหมชู่ าวประมงเพ่อื แก้ปญั หาและอุปสรรคในการประกอบอาชีพ มีหนา้ ที ่ เชน่ ประเทศไทยที่นักเรียนรูจักหรือเคยไดยินชื่อ
ให้ความรู้ทางวิชาการและธุรกิจการประมง จัดหาวัสดุอุปกรณ์การประมงมาจ�าหน่ายแก่ และบอกลกั ษณะสาํ คัญ หรืออาจใช PPT เรื่อง
สมาชกิ ให้ความสงเคราะห์แก่สมาชกิ และครอบครัวท่ปี ระสบภยั พิบัติ สหกรณ ชว ยในการอธิบายเพ่มิ เตมิ
สหกรณร า นคา
จัดต้ังขึ้นเพ่ือให้บริการในด้านการจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภคมา
จ�าหน่ายให้แก่สมาชิกในราคายุติธรรม เป็นการป้องกันไม่ให้
สมาชิกถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการ
จา่ ยเงินเพื่อซ้อื สินคา้ จากรา้ นค้าท่ัวไป
สหกรณอ อมทรัพย
สหกรณ์ ส�าหรับผู้ท่ีมีรายได้ประจ�าท่ีต้องการออมทรัพย์เป็นประจ�า
โดยใหก้ ูย้ ืมเม่อื จ�าเป็น มักตั้งในโรงงาน บริษัทตา่ ง ๆ หรอื
สถานท่ีราชการ เพ่ือส่งเสริมให้สมาชิกร่วมกันออมทรัพย์
จากรายไดป้ ระจ�าของแต่ละคน ผลตอบแทนทส่ี มาชกิ ไดร้ ับ
คอื ดอกเบี้ย
สหกรณบรกิ าร
ด�าเนินธุรกิจสนองความต้องการของสมาชิกในด้านการบริการ
ทั่วไป เช่น สหกรณ์แท็กซ่ี สหกรณ์ไฟฟ้า สหกรณ์การขาย
ผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรมในครัวเรอื นและอตุ สาหกรรมขนาดย่อม
สหกรณเ ครดิตยเู น่ยีเชน่น2 สหกรณ์มดี อรญั ญกิ
ตั้งขึ้นในกลุ่มผู้ที่มีภูมิล�าเนาหรืออาชีพที่เหมือนกัน มีความปรารถนาท่ีจะช่วยเหลือกัน
โดยน�าเงินมาสะสมเป็นกองทุนมาบริหารให้สมาชิกกู้ยืม และจัดสวัสดิการต่าง ๆ ให้กับ
สมาชกิ และครอบครัว
สหกรณน ิคม
มวี ตั ถปุ ระสงคใ์ นเรอ่ื งการจดั สรรทด่ี นิ ใหแ้ กเ่ กษตรกรทตี่ อ้ งการมที ดี่ นิ เพอื่ การประกอบอาชพี เกษตรกรรม รวมถงึ
การจดั บรกิ ารตา่ ง ๆ ที่จ�าเปน็ ๑2๑
ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
“สหกรณอเนกประสงคท่ีต้ังข้ึนโดยความสมัครใจของสมาชิก 1 ประเภทสหกรณ ประกอบดว ย 2 กลมุ คอื
ท่ีอยูในวงสัมพันธเดียวกัน มุงเนนใหสมาชิกประหยัดและออม” 1. สหกรณภ าคการเกษตร (สหกรณก ารเกษตร สหกรณป ระมง สหกรณน คิ ม)
กลา วถึงสหกรณป ระเภทใด
มี 3,298 แหง
1. สหกรณนิคม 2. สหกรณนอกภาคการเกษตร (สหกรณรานคา สหกรณบ รกิ าร สหกรณ
2. สหกรณบ รกิ าร
3. สหกรณร านคา ออมทรพั ย สหกรณเ ครดติ ยเู น่ยี น) มี 2,855 แหง
4. สหกรณเครดติ ยเู นย่ี น 2 สหกรณเครดิตยูเน่ียน ตั้งขึ้นเปนแหงแรกท่ีจังหวัดอุบลราชธานี มีชื่อวา
สหกรณเครดิตยเู น่ียนแมมลู เมอื่ วนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552
(วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 4. สหกรณเ ครดติ ยูเนยี่ นเปนสหกรณ
ท่ีมุงจะพัฒนาคนใหชวยตนเองและชวยเหลือซ่ึงกันและกันใน
ชุมชนตามหลักการและวิธีการสหกรณ โดยมุงเนนใหสมาชิก
ประหยัดและออม รวมท้ังเพอื่ พฒั นาชมุ ชนใหเกิดความเขมแขง็ )
T135