The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมกฏหมายและระเบียบในการปฏิบัติงานของ อปท.

70 เรื่อง 658 หน้า

กรรมกร สีกากี
30 มิถุนายน 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by makenodown, 2021-09-11 23:52:50

70 กฏหมายและระเบียบในการปฏิบัติงานของ อปท.

รวมกฏหมายและระเบียบในการปฏิบัติงานของ อปท.

70 เรื่อง 658 หน้า

กรรมกร สีกากี
30 มิถุนายน 2563

หน้าท่ี 522

ภ.ด.ส. 11

-ตราองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ -

เลม่ ท่.ี ...............
เลขที.่ ...............

ใบเสรจ็ รบั เงินภาษีทด่ี นิ และสิ่งปลกู สร้าง

วันท่.ี ........... เดือน.............................. พ.ศ. ….
ได้รับเงินค่าภาษีทีด่ ินและสงิ่ ปลูกสร้างจาก................................................................................
อยู่บ้านเลขที่....................หมู่ที่...............ถนน..........................................ตาํ บล/แขวง..........................................
อําเภอ/เขต...............................จังหวัด............................................... ตามหนังสือแจ้งการประเมิน
เลขท.ี่ .........../.................ลงวันท.ี่ .......... เดอื น..................... พ.ศ. .... ประจําปีภาษี พ.ศ. ....

ที่ รายการ จาํ นวนเงนิ หมายเหตุ
บาท สตางค์
๑ ค่าภาษีทีด่ นิ และสิง่ ปลกู สรา้ ง
๒ เบย้ี ปรับ ร้อยละ…..
๓ เงินเพมิ่ กรณชี าํ ระเกินกาํ หนดเวลา..........เดอื น

ตวั อักษร (.......................................................) ลงชอื่ ......................................พนกั งานเกบ็ ภาษี
(........................................)
ลงชอื่ ...............................................ผู้รบั เงนิ
(...................................................)

การเสียภาษีตามพระราชบญั ญตั นิ ไี้ มเ่ ปน็ เหตใุ หเ้ กดิ สทิ ธติ ามกฎหมายอน่ื
(มาตรา ๙ วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญตั ิภาษที ดี่ นิ และส่ิงปลกู สร้าง พ.ศ. 2562)

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 523

หน้า ๙ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ระเบียบกระทรวงการคลงั

ว่าดว้ ยการเบกิ เงนิ จากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน
การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการนาเงนิ สง่ คลงั
พ.ศ. ๒๕๖๒

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนา
เงินส่งคลัง พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้มีความสอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา
โครงสร้างพน้ื ฐานระบบการชาระเงินแบบอิเล็กทรอนกิ ส์แหง่ ชาติ (National e-Payment Master Plan)
ตลอดจนเพื่อรองรับการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังตามระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐ
ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Government Fiscal Management Information System: GFMIS)
เปน็ New GFMIS Thai

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๙ และมาตรา ๖๑ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ
วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบ
ของคณะรฐั มนตรี จึงวางระเบียบไว้ ดังตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง
การรับเงิน การจา่ ยเงนิ การเก็บรกั ษาเงนิ และการนาเงนิ ส่งคลงั พ.ศ. ๒๕๖๒”

ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีให้ใชบ้ งั คับตัง้ แต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป
ขอ้ ๓ ใหย้ กเลิก
(๑) ระเบียบการเบกิ จา่ ยเงินจากคลัง การเกบ็ รกั ษาเงินและการนาเงินส่งคลงั พ.ศ. ๒๕๕๑
(๒) ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลัง (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๑
(๓) ระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลังในหน้าที่ของอาเภอและกิ่งอาเภอ
พ.ศ. ๒๕๒๐

บรรดาระเบียบหรือข้อบังคับอ่ืนใดในส่วนที่กาหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซ่ึงขัดหรือแย้งกบั
ระเบยี บนี้ ให้ใช้ระเบยี บนแี้ ทน

ขอ้ ๔ ในระเบยี บน้ี
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐสภา
ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนญู องคก์ รอสิ ระตามรัฐธรรมนญู องคก์ รอยั การ องค์การมหาชน
ทุนหมุนเวียนท่ีมีฐานะเป็นนิติบุคคล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอ่ืนของรัฐ
ตามทกี่ ฎหมายกาหนด

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 524

หน้า ๑๐ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

“หน่วยงานผู้เบิก” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐท่ีได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายและ
เบกิ เงินจากกรมบัญชีกลางหรอื สานกั งานคลังจงั หวัด แลว้ แตก่ รณี

“ส่วนราชการ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น
และมีฐานะเป็นกรม และให้หมายความรวมถึงจังหวัดและกลุ่มจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
บริหารราชการแผน่ ดินด้วย

“รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่า รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ
และกฎหมายว่าด้วยวิธกี ารงบประมาณ

“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั เทศบาล องค์การ

บรหิ ารสว่ นตาบล กรงุ เทพมหานคร เมืองพทั ยา และองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นอน่ื ทมี่ กี ฎหมายจัดตงั้
“หนว่ ยงานยอ่ ย” หมายความวา่ หน่วยงานในสงั กัดของส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลาง

หรือในราชการบริหารส่วนภูมิภาค หรือท่ีต้ังอยู่ในอาเภอ ซึ่งมิได้เบิกเงินจากกรมบัญชีกลาง
หรือสานักงานคลงั จังหวดั แตเ่ บิกเงินผ่านสว่ นราชการที่เปน็ หน่วยงานผ้เู บกิ

“คลัง” หมายความว่า ท่ีเก็บรักษาเงินแผ่นดินของกระทรวงการคลัง และให้หมายความรวมถึง
บญั ชเี งินฝากท่ธี นาคารแห่งประเทศไทยเพือ่ การนด้ี ว้ ย

“ผู้อานวยการกองคลัง” ให้หมายความรวมถึง เลขานุการกรม หรือผู้ดารงตาแหน่งอื่นใด
ซึ่งปฏิบตั งิ านในลักษณะเชน่ เดยี วกนั ด้วย

“เจ้าหน้าที่การเงิน” หมายความว่า หัวหน้าฝ่ายการเงิน หรือผู้ดารงตาแหน่งอ่ืน
ซึ่งปฏิบัติงานในลักษณะเช่นเดียวกันกับหัวหน้าฝ่ายการเงิน และให้หมายความรวมถึงเจ้าหน้าที่
รับจ่ายเงนิ ของสว่ นราชการด้วย

“สานักงานการตรวจเงินแผ่นดนิ ” ให้หมายความรวมถึง สานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค

และสานักตรวจเงนิ แผน่ ดนิ จงั หวัดด้วย
“งบรายจา่ ย” หมายความว่า งบรายจ่ายตามระเบียบว่าด้วยการบรหิ ารงบประมาณ
“หลักฐานการจ่าย” หมายความว่า หลักฐานท่ีแสดงว่าได้มีการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับหรือเจ้าหน้ี

ตามขอ้ ผกู พันโดยถูกตอ้ งแล้ว
“เงินยืม” หมายความวา่ เงินทีส่ ่วนราชการจ่ายใหแ้ กบ่ คุ คลใดบุคคลหน่งึ ยืมเพ่ือเป็นคา่ ใชจ้ ่าย

ในการเดินทางไปราชการหรือการปฏิบัติราชการอื่นใด ท้ังนี้ ไม่ว่าจะจ่ายจากงบประมาณรายจ่าย
หรือเงนิ นอกงบประมาณ

“ต้นู ิรภัย” หมายความวา่ ตูเ้ หล็กอนั มนั่ คงซึ่งใชส้ าหรับเก็บรักษาเงินของทางราชการ
“เงินรายได้แผ่นดิน” หมายความว่า เงินท้ังปวงท่ีหน่วยงานของรัฐจัดเก็บหรือได้รับไว้
เป็นกรรมสิทธ์ิตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือจากนิติกรรมหรือนิติเหตุและกฎหมายว่าด้วย
เงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ บัญญัติไม่ให้หน่วยงานของรัฐนั้น
นาไปใช้จ่ายหรอื หักไวเ้ พ่ือการใด ๆ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 525

หน้า ๑๑ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา

“เงินเบิกเกินส่งคืน” หมายความว่า เงินงบประมาณรายจ่ายที่ส่วนราชการเบิกจากคลังไปแล้ว
แต่ไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไม่หมด หรือจ่ายไปแล้วแต่ถูกเรียกคืน และได้นาส่งคลังก่อนสิ้นปีงบประมาณ
หรอื ก่อนสิ้นระยะเวลาเบกิ เงินทกี่ นั ไวเ้ บกิ เหลือ่ มปี

“เงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน” หมายความว่า เงินงบประมาณรายจ่ายท่ีส่วนราชการ
เบิกจากคลังไปแล้ว แต่ไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไม่หมด หรือจ่ายไปแล้วแต่ถูกเรียกคืน และได้นาส่งคลัง
ภายหลังสิ้นปงี บประมาณหรอื ภายหลงั ระยะเวลาเบกิ เงนิ ที่กันไวเ้ บิกเหล่อื มปี

“เงินนอกงบประมาณ” หมายความวา่ บรรดาเงนิ ทง้ั ปวงท่ีหน่วยงานของรฐั จดั เก็บ หรือไดร้ ับไว้
เป็นกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือจากนิติกรรมหรือนิติเหตุ หรือกรณีอ่ืนใด
ทตี่ ้องนาสง่ คลงั แตม่ กี ฎหมายอนุญาตให้สามารถเกบ็ ไวใ้ ชจ้ ่ายได้โดยไม่ต้องนาสง่ คลงั

“ระบบ” หมายความว่า ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
(Government Fiscal Management Information System: GFMIS) ซ่ึงปฏิบัติโดยผ่านช่องทาง
ท่ีกระทรวงการคลังกาหนด

“ข้อมูลหลักผู้ขาย” หมายความว่า ข้อมูลของหน่วยงานผู้เบิกหรือเจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงิน
เก่ียวกับช่ือ ท่ีอยู่ เลขประจาตัวประชาชน เลขประจาตัวผู้เสียภาษี ชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารเลขที่สญั ญา
เงอื่ นไขการชาระเงนิ หรือขอ้ มลู อนื่ ใดทีจ่ าเป็นแลว้ แตก่ รณี เพอื่ ใช้สาหรบั การรับเงนิ ทข่ี อเบกิ จากคลงั

ข้อ ๕ ใหป้ ลดั กระทรวงการคลงั รักษาการตามระเบียบนี้

หมวด ๑
ความทั่วไป

ข้อ ๖ บรรดาแบบพิมพ์ เอกสาร ทะเบียนคุม รายงาน ท่ีใช้ในการเบิกเงินจากคลัง
การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนาเงินส่งคลัง ตลอดจนวิธีใช้ให้เป็นไปตามท่ี
กรมบญั ชกี ลางกาหนด

ข้อ ๗ ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือไม่สามารถปฏิบัติ

ตามข้อกาหนดในระเบียบน้ี ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐนั้น ขอหารือเพื่อให้กระทรวงการคลังวินิจฉัย
หรือขอทาความตกลงกับกระทรวงการคลัง แล้วแต่กรณี หรือให้กระทรวงการคลังกาหนดหลักเกณฑ์
วิธีปฏิบัติในการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนาเงินส่งคลัง
เพอื่ เป็นแนวทางให้หนว่ ยงานของรัฐถอื ปฏบิ ตั ิ

ข้อ ๘ การเบิกเงนิ จากคลงั การรบั เงนิ การจ่ายเงิน การเกบ็ รักษาเงิน และการนาเงินสง่ คลงั
ของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม ให้ถือปฏิบัติตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการเงิน
ซึ่งได้รบั ความตกลงจากกระทรวงการคลงั

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 526

หน้า ๑๒ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ ๙ หน่วยงานของรัฐซึ่งมิใช่ส่วนราชการต้องจัดให้มีการวางหลักเกณฑ์และวิธีการ
เก่ียวกับการเบิกเงิน การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงิน ทั้งนี้ ตามท่ีกฎหมายว่าด้วยการน้ัน
บัญญัติไว้ โดยต้องเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล มคี วามโปรง่ ใสและตรวจสอบได้

หมวด ๒
การใช้งานในระบบ

ข้อ ๑๐ ให้หัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกหรือผู้ท่ีหัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกมอบหมายเป็นผู้มีสิทธิ
ในการปฏิบัตงิ านในระบบ ตามชอ่ งทางท่ีกระทรวงการคลงั กาหนด

ข้อ ๑๑ ให้ผู้มสี ิทธติ ามขอ้ ๑๐ ดาเนินการขอเบกิ เงินจากคลัง การอนมุ ตั ิจา่ ยเงินให้เจา้ หนี้
หรอื ผ้มู ีสทิ ธริ บั เงินโดยการจ่ายตรง การนาเงินส่งคลงั การบนั ทึกและปรบั ปรุงข้อมูล และการเรยี กรายงาน
ในระบบ

ข้อ ๑๒ ให้หัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกจัดทาคาสั่งหรือมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร
กาหนดบุคคลที่จะได้รับมอบหมาย กาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบและกาหนดแนวทางการควบคุม
การปฏบิ ัติงานของหนว่ ยงานผ้เู บิก ในการเขา้ ใชง้ านในระบบ

ขอ้ ๑๓ การจัดทา แก้ไข อนุมัตกิ ารใช้ และการดาเนินการอน่ื ๆ เกีย่ วกบั การกาหนดสทิ ธิ
การเข้าใช้งานในระบบ ให้เปน็ ไปตามที่กระทรวงการคลงั กาหนด

หมวด ๓
การเบิกเงนิ

ส่วนท่ี ๑
สถานทเ่ี บิกเงินและผเู้ บกิ เงนิ

ข้อ ๑๔ หน่วยงานผู้เบิกในส่วนกลางให้ส่งข้อมูลคาขอเบิกเงินในระบบไปยังกรมบัญชีกลาง
สาหรับหน่วยงานผู้เบิกที่มีสานักงานอยู่ในภูมิภาคให้ส่งข้อมูลคาขอเบิกเงินในระบบไปยังสานักงานคลัง
จังหวัด

ขอ้ ๑๕ ให้หัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกหรือผู้ท่ีหัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกมอบหมายตามข้อ ๑๐
เป็นผเู้ บิกเงินจากคลงั และอนมุ ตั กิ ารจ่ายเงนิ ใหเ้ จ้าหน้หี รือผู้มีสทิ ธิรบั เงินโดยการจ่ายตรง

ข้อ ๑๖ หน่วยงานผู้เบิกใดซ่ึงเป็นเจ้าของงบประมาณจะมอบหมายให้หน่วยงานผู้เบิกอ่ืน
เปน็ ผเู้ บกิ เงนิ แทนกไ็ ด้ โดยใหถ้ อื ปฏิบตั ติ ามหลักเกณฑท์ ่ีกระทรวงการคลงั กาหนด

สว่ นที่ ๒
หลกั เกณฑ์ทวั่ ไปของการเบกิ เงิน

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 527

หน้า ๑๓ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

ข้อ ๑๗ การขอเบิกเงนิ ทกุ กรณใี หร้ ะบุวัตถปุ ระสงค์ทจ่ี ะนาเงินน้ันไปจา่ ย
เงินที่ขอเบิกจากคลังเพ่ือการใด ให้นาไปจ่ายได้เฉพาะเพ่ือการนั้นเท่าน้ัน จะนาไปจ่าย
เพ่ือการอน่ื ไมไ่ ด้
ขอ้ ๑๘ หน่วยงานผู้เบิกจะจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันได้แต่เฉพาะที่กฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ คาสั่ง กาหนดไว้หรือมติคณะรัฐมนตรีอนุญาตให้จ่ายได้ หรือตามที่ได้รับอนุญาตจาก
กระทรวงการคลงั
การได้รับเงินจากคลังไม่ปลดเปลื้องความรับผิดชอบของหน่วยงานผู้เบิกในการที่จะต้อง ดูแล
ให้มีการจา่ ยเงนิ หรอื กอ่ หนผ้ี ูกพันใหเ้ ป็นไปตามวรรคหน่งึ
ข้อ ๑๙ การขอเบกิ เงินทกุ กรณี หน่วยงานผู้เบกิ มีหนา้ ท่ีตามกฎหมายท่ีจะต้องหกั ภาษีใด ๆ
ไว้ ณ ที่จา่ ย ใหบ้ ันทกึ ภาษีเปน็ รายไดแ้ ผน่ ดินไว้ในคาขอเบิกเงินนั้นด้วย เวน้ แตไ่ ดม้ กี ารหักภาษีไว้แล้ว
ข้อ ๒๐ การเบิกเงินจากคลัง ใหห้ นว่ ยงานผู้เบกิ ปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
(๑) เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจ สาหรับเงินงบประมาณหน่ึงบัญชี
และเงินนอกงบประมาณหนึ่งบญั ชี
(๒) นาข้อมูลตาม (๑) หรือของเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน กรณีจ่ายตรงเจ้าหน้ี ส่งให้แก่
กรมบญั ชกี ลางเพอื่ สรา้ งเป็นขอ้ มูลหลักผู้ขายในระบบ
(๓) ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของคาขอเบิกเงนิ ก่อนส่งคาขอเบิกเงินไปยังกรมบญั ชีกลาง
หรือสานกั งานคลงั จงั หวดั แลว้ แตก่ รณี
(๔) ตรวจสอบการจา่ ยเงินของกรมบญั ชีกลางตามคาขอเบกิ เงินจากรายงานในระบบ

ส่วนท่ี ๓
หลกั เกณฑก์ ารเบิกเงนิ ของหนว่ ยงานผเู้ บกิ ท่ไี มใ่ ช่สว่ นราชการ

ข้อ ๒๑ การขอเบิกเงิน ให้ส่งคาขอเบิกตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
งบประมาณท่ีได้รับความเห็นชอบจากสานักงบประมาณ ยกเว้นกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ที่ได้รับเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ให้เบิกเงินจากคลงั โดยระบุวัตถปุ ระสงค์ทจี่ ะนาเงินนน้ั ไปจ่ายและหา้ มมิให้
ขอเบกิ เงนิ จนกว่าจะถึงกาหนด หรือใกลจ้ ะถงึ กาหนดจา่ ยเงิน

ส่วนท่ี ๔
หลกั เกณฑก์ ารเบิกเงนิ ของสว่ นราชการ

ขอ้ ๒๒ การขอเบิกเงินทุกกรณีห้ามมิให้ขอเบิกเงินจนกว่าจะถึงกาหนด หรือใกล้จะถึง
กาหนดจ่ายเงิน

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 528

หน้า ๑๔ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา

ข้อ ๒๓ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณใด ให้เบิกเงินจากงบประมาณรายจ่ายของปนี ัน้
ไปจ่าย ในกรณีมีเหตุจาเป็นไม่สามารถเบิกจากเงินงบประมาณรายจ่ายของปีนั้นได้ทัน ให้เบิกจาก
เงินงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณถัดไปได้ แต่ค่าใช้จ่ายน้ันจะต้องไม่เป็นการก่อหน้ีผูกพัน
เกินงบประมาณรายจ่ายที่ไดร้ บั อนุมตั ิ และใหป้ ฏิบัติตามวิธีการทก่ี ระทรวงการคลงั กาหนด

ข้อ ๒๔ ค่าใช้จ่ายเงินงบกลาง รายการเงินเบี้ยหวัด บาเหน็จ บานาญ เงินช่วยเหลือ
ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ เงินสารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ
เงินสมทบของลูกจ้างประจา ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานของรัฐ
หรือรายการอื่นที่กระทรวงการคลังกาหนด ถ้าค้างเบิกให้นามาเบิกจากเงินงบกลางรายการนั้น ๆ
ของปีงบประมาณต่อ ๆ ไปได้

ข้อ ๒๕ ค่าใช้จ่ายตามประเภทท่ีกระทรวงการคลงั กาหนดซ่งึ มลี ักษณะเป็นค่าใช้จ่ายประจา
หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้ถือว่าค่าใช้จ่ายนั้นเกิดข้ึนเม่ือส่วนราชการได้รับแจ้งให้ชาระหน้ี และให้นามา
เบกิ จา่ ยจากงบประมาณรายจ่ายประจาปีท่ีได้รับแจ้งใหช้ าระหน้ี

ข้อ ๒๖ ส่วนราชการที่ก่อหนี้ผูกพันเป็นเงินตราต่างประเทศ อาจเบิกเงินไปซ้ือเงินตรา
ต่างประเทศในสกุลเงินตราท่ีจะต้องชาระหน้ีโดยทยอยซ้ือหรือซื้อทั้งจานวนก็ได้ และให้นาเงินไป
ฝากไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจหรือธนาคารท่ีกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ และเมื่อหน้ี
ถึงกาหนดหรือใกล้ถึงกาหนดชาระให้นาเงินตราต่างประเทศที่ฝากธนาคารไปชาระหนี้ดังกล่าว สาหรับ
ดอกเบ้ียท่ีได้รับจากการนาเงินฝากธนาคารให้นาส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ท้ังนี้ ให้รายงานการซื้อเงินตรา
ตา่ งประเทศและการชาระหน้ตี อ่ กระทรวงการคลังด้วย

ข้อ ๒๗ การเบิกเงินเพื่อจ่ายชาระหนี้ผูกพันเป็นเงินตราต่างประเทศให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ
กรณีชาระหน้ีผูกพันเป็นเงินบาท โดยให้ส่วนราชการติดต่อขอซ้ือเงินตราต่างประเทศจากธนาคารพาณิชย์
โดยตรง

สว่ นท่ี ๕
วธิ กี ารเบิกเงินของสว่ นราชการ

ขอ้ ๒๘ การขอเบิกเงินของส่วนราชการสาหรับการซอ้ื ทรัพย์สิน จ้างทาของ หรือเช่าทรัพย์สิน
ตามกฎหมายว่าด้วยการจดั ซอ้ื จดั จ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั ให้ปฏบิ ตั ิ ดงั นี้

(๑) ในกรณีที่มีใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง สัญญาหรือข้อตกลง ซ่ึงมีวงเงินต้ังแต่ห้าพันบาทข้ึนไป
หรือตามท่ีกระทรวงการคลังกาหนด ให้ส่วนราชการจัดทาหรือลงใบส่ังซื้อ หรือใบส่ังจ้างเพ่ือทาการ
จองงบประมาณในระบบ โดยกรมบัญชีกลางจ่ายเงินเข้าบัญชีให้กับเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน
ของส่วนราชการโดยตรง

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 529

หน้า ๑๕ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

(๒) นอกจากกรณีตาม (๑) ส่วนราชการไม่ต้องจัดทาหรือลงใบสั่งซื้อหรือใบสั่งจ้างในระบบ
โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของส่วนราชการเพื่อให้ส่วนราชการจ่ายเงิ น
ให้เจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงินต่อไป หรือหากส่วนราชการต้องการให้จ่ายเงินเข้าบัญชีให้กับเจ้าหน้ีหรือ
ผมู้ สี ทิ ธิรับเงนิ ของส่วนราชการโดยตรงก็ได้

การซ้ือทรัพย์สิน จ้างทาของ หรือเชา่ ทรพั ย์สิน ให้ส่วนราชการดาเนินการขอเบิกเงินจากคลงั
โดยเร็ว อย่างช้าไม่เกินห้าวันทาการนับแต่วันท่ีได้ตรวจรับทรัพย์สินหรือตรวจรับงานถูกต้องแล้วหรือ
นบั แตว่ ันท่ไี ด้รับแจง้ จากหน่วยงานยอ่ ย

ข้อ ๒๙ การขอเบิกเงนิ ท่ไี ม่ใช่การซอ้ื ทรพั ยส์ ิน จา้ งทาของ หรือเชา่ ทรพั ยส์ นิ กรมบัญชีกลาง
จะจ่ายเงินเข้าบัญชีใหก้ บั เจา้ หนห้ี รอื ผู้มีสทิ ธิรบั เงินของส่วนราชการโดยตรง ยกเว้น

(๑) กรณคี ่าไฟฟา้ คา่ ประปา ค่าโทรศพั ท์ คา่ บริการสอื่ สารและโทรคมนาคม ท่ีสว่ นราชการ
ไดร้ ับเงินสมทบจากข้าราชการ สว่ นราชการหรือหน่วยงานอ่ืน เพือ่ จา่ ยเป็นค่าใช้จา่ ยดังกล่าว ใหข้ อเบกิ เงิน
โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของส่วนราชการเพื่อให้นาไปจ่ายแก่เจ้าหนี้หรือ
ผ้มู ีสิทธิรับเงนิ ต่อไป

(๒) การขอเบกิ เงินสวัสดิการ ค่าตอบแทน หรือกรณีอ่ืนใด หรือกรณที ่ีกระทรวงการคลังกาหนด
ให้กรมบัญชีกลางจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของส่วนราชการเพื่อให้ส่วนราชการจ่ายเงินให้แก่
ผมู้ สี ิทธิรับเงนิ ผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Payment) ตามหลกั เกณฑว์ ิธปี ฏิบัติทีก่ ระทรวงการคลงั กาหนด

ขอ้ ๓๐ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้เป็นไป
ตามท่กี ระทรวงการคลงั กาหนด

ข้อ ๓๑ เงินประเภทใดซึ่งโดยลักษณะจะต้องจ่ายประจาเดือนในวันทาการสิ้นเดือน
ใหส้ ่วนราชการส่งคาขอเบกิ เงนิ ภายในวนั ท่สี ิบห้าของเดอื นนั้นหรอื ตามที่กระทรวงการคลงั กาหนด

สว่ นที่ ๖
การเบิกเงนิ ของส่วนราชการทม่ี สี านักงานในตา่ งประเทศ

ข้อ ๓๒ ส่วนราชการท่ีมีสานักงานในต่างประเทศอาจส่งคาขอเบิกเงินเพ่ือซ้ือเงินตรา
ต่างประเทศสาหรับจัดส่งให้สานักงานในต่างประเทศใช้จ่ายได้ทั้งจานวน แต่ในกรณีที่เห็นสมควร
กระทรวงการคลงั อาจกาหนดให้เบิกเปน็ งวด ๆ ตามความจาเป็นก็ได้

กรณีสานักงานในต่างประเทศยังไม่ได้รับเงินงบประมาณรายจ่ายประจาปีตามท่ีได้รับจัดสรร
ให้ปฏิบตั ิตามระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยเงินทดรองราชการของส่วนราชการในต่างประเทศ

ขอ้ ๓๓ เงินที่จัดส่งให้สานักงานในต่างประเทศตามข้อ ๓๒ เม่ือส้ินปีงบประมาณ หากมี
เงนิ เหลือใหน้ าส่งคนื ส่วนราชการเจ้าของงบประมาณภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั สนิ้ ปี

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 530

หน้า ๑๖ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ในกรณีท่ีสานักงานในต่างประเทศมีหนี้ผูกพัน และไม่สามารถชาระหน้ีได้ทันสิ้นปีงบประมาณ
เม่อื ได้รบั อนุมัตจิ ากรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลังแล้ว ใหเ้ ก็บเงนิ ไว้เพ่อื จา่ ยสาหรบั การน้นั ตอ่ ไปไดอ้ กี
ไม่เกินหกเดือน เว้นแต่มีความจาเป็นต้องจ่ายเงินภายหลังเวลาดังกล่าว ให้ขอทาความตกลง
กบั กระทรวงการคลังเพอื่ ขอขยายเวลาออกไปไดอ้ กี ไมเ่ กนิ หกเดือน หากมีเงินคงเหลือใหน้ าเงินสง่ คืนสว่ น
ราชการเจ้าของงบประมาณภายในสามสิบวันนับแต่ครบกาหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติไว้ โดยให้
สว่ นราชการเจ้าของงบประมาณดาเนนิ การเบิกหักผลกั สง่

ขอ้ ๓๔ เงินท่ีได้รับคืนจากสานักงานในต่างประเทศตามข้อ ๓๓ ให้ส่วนราชการ
เจ้าของงบประมาณดาเนินการแลกเปล่ียนเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ให้เป็นเงินบาท
แล้วนาส่งคลังเปน็ รายไดแ้ ผ่นดินประเภทเงนิ เหลอื จา่ ยปเี ก่าสง่ คืนโดยดว่ น

หมวด ๔
การจา่ ยเงนิ ของสว่ นราชการ

สว่ นท่ี ๑
หลกั เกณฑ์การจา่ ยเงิน

ข้อ ๓๕ การจ่ายเงินให้กระทาเฉพาะที่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง กาหนดไว้
หรือมติคณะรัฐมนตรีอนุญาตให้จ่ายได้ หรือตามท่ีได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และผู้มีอานาจ
ได้อนุมัตใิ ห้จ่ายได้

ขอ้ ๓๖ การอนมุ ัตกิ ารจา่ ยเงนิ ให้เปน็ อานาจของบุคคล ดงั ต่อไปนี้
(๑) ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลาง ให้เป็นอานาจของหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
หรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมมอบหมาย ซ่ึงดารงตาแหน่งประเภทบรหิ าร ประเภทอานวยการ
ประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ หรือประเภททวั่ ไป ระดับอาวโุ ส หรือเทียบเท่าข้ึนไป หรอื ผู้ท่ีมียศ
ตั้งแตพ่ นั โท นาวาโท นาวาอากาศโท หรอื พันตารวจโทขนึ้ ไป
ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางท่ีมีสานักงานอยู่ในส่วนภูมิภาคหรือแยกต่างหากจาก
กระทรวง ทบวง กรม หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมจะมอบหมายให้หัวหน้าสานักงานเป็นผู้อนุมัติ
สาหรบั หน่วยงานน้นั กไ็ ด้
(๒) ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ให้เป็นอานาจของหัวหน้าส่วนราชการ
ในภูมภิ าค
ขอ้ ๓๗ ผู้มีอานาจอนุมัติการจ่ายเงินมีหน้าท่ีในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินให้เป็นไป
ตามทีก่ าหนดไวใ้ นกฎหมาย หรอื กฎ หรือตามที่ไดร้ บั อนญุ าตใหจ้ ่าย
ข้อ ๓๘ ให้ผ้มู อี านาจอนมุ ตั ิ สง่ั อนมุ ตั กิ ารจ่ายเงินพร้อมกับลงลายมอื ช่อื ในหลกั ฐานการจ่าย
หรือหลักฐานการขอรบั ชาระหนี้ทกุ ฉบบั หรอื จะลงลายมอื ชอื่ อนุมัตใิ นหนา้ งบหลกั ฐานการจ่ายก็ได้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 531

หน้า ๑๗ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ้ ๓๙ การจา่ ยเงินตอ้ งมีหลกั ฐานการจา่ ยไว้เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ
ข้อ ๔๐ การจ่าย โดยที่ยังมิได้มีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงิน ห้ามมิให้
ผ้มู หี น้าทีจ่ ่ายเงนิ เรียกหลกั ฐานการจา่ ยหรือให้ผรู้ ับเงนิ ลงลายมือชือ่ รบั เงนิ ในหลักฐาน
ขอ้ ๔๑ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือผู้รับบานาญหรือเบ้ียหวัดท่ีไม่สามารถ
มารับเงินได้ด้วยตนเอง จะมอบฉันทะให้ผู้อ่ืนเป็นผู้รับเงินแทนก็ได้ โดยใช้ใบมอบฉันทะตามแบบที่
กระทรวงการคลังกาหนด
การจ่ายเงินให้แก่บุคคลนอกจากท่ีกาหนดในวรรคหน่ึง หากบุคคลนั้นไม่สามารถมารับเงิน
ได้ด้วยตนเอง จะทาหนงั สือมอบอานาจใหบ้ ุคคลอ่นื มารบั เงินแทนกไ็ ด้
การจ่ายเงินในกรณีทมี่ ีการโอนสทิ ธเิ รียกรอ้ ง และการจ่ายเงินชาระหนีใ้ ห้แก่ผู้ขายในตา่ งประเทศ
ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑว์ ิธีการทก่ี ระทรวงการคลงั กาหนด
ข้อ ๔๒ ให้เจ้าหน้าที่ผู้จ่ายเงินประทับตราข้อความว่า “จ่ายเงินแล้ว” โดยลงลายมือช่ือ
รับรองการจ่ายและระบุชื่อผู้จ่ายเงินด้วยตัวบรรจง พร้อมทั้งวัน เดือน ปี ที่จ่ายกากับไว้ในหลักฐาน
การจา่ ยเงินทุกฉบับ เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ
ในกรณีท่ีหลักฐานการจ่ายเป็นภาษาต่างประเทศ ให้มีคาแปลเป็นภาษาไทยตามรายการ
ในข้อ ๔๖ ไว้ด้วย และใหผ้ ้ใู ช้สิทธิขอเบกิ เงนิ ลงลายมอื ช่ือรบั รองคาแปลดว้ ย
ขอ้ ๔๓ การจ่ายเงินทุกรายการต้องมีการบันทึกการจ่ายเงินไว้ในระบบ และให้หัวหน้า
ส่วนราชการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรจากหวั หนา้ ส่วนราชการตรวจสอบการจ่ายเงิน
กบั หลักฐานการจา่ ยทุกส้ินวนั

สว่ นที่ ๒
หลกั ฐานการจ่าย

ข้อ ๔๔ การจ่ายเงินของส่วนราชการ ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินหรือใบสาคัญรับเงิน ซ่ึงผู้รับเงิน
เป็นผู้ออกให้ หรือรายงานการจ่ายเงินจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) หรือใบรับรอง

การจา่ ยเงนิ หรอื เอกสารอน่ื ใดที่กระทรวงการคลงั กาหนดเปน็ หลกั ฐานการจ่าย
ข้อ ๔๕ การจ่ายเงินโดยกรมบัญชีกลาง เพื่อเข้าบัญชีให้กับเจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงิน

โดยตรง ใหใ้ ชร้ ายงานในระบบตามที่กระทรวงการคลังกาหนดเปน็ หลกั ฐานการจา่ ย
ขอ้ ๔๖ ใบเสรจ็ รับเงนิ อย่างนอ้ ยตอ้ งมรี ายการ ดังต่อไปนี้
(๑) ช่ือ สถานทีอ่ ยู่ หรอื ทท่ี าการของผรู้ ับเงิน
(๒) วนั เดือน ปี ทีร่ ับเงนิ
(๓) รายการแสดงการรบั เงินระบุว่าเปน็ คา่ อะไร
(๔) จานวนเงินทั้งตัวเลขและตัวอกั ษร
(๕) ลายมือช่อื ของผรู้ บั เงนิ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 532

หน้า ๑๘ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ ๔๗ กรณีส่วนราชการจ่ายเงินรายใด ซึ่งตามลักษณะไม่อาจเรียกใบเสร็จรับเงินจาก
ผ้รู บั เงินได้ ใหผ้ รู้ ับเงินลงช่ือรับเงนิ ในใบสาคัญรับเงินเพื่อใช้เป็นหลักฐานการจ่าย

ขอ้ ๔๘ กรณีข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการ จ่ายเงินไป
โดยได้รับใบเสร็จรับเงินซึ่งมีรายการไม่ครบถ้วนตามข้อ ๔๖ หรือซ่ึงตามลักษณะไม่อาจเรียก
ใบเสร็จรบั เงนิ จากผู้รบั เงนิ ได้ ใหข้ า้ ราชการ พนกั งานราชการ หรอื ลูกจ้างนน้ั ทาใบรับรองการจ่ายเงนิ
เพอ่ื นามาเป็นเอกสารประกอบการขอเบิกเงนิ ต่อส่วนราชการ

ในกรณีท่ีได้รับใบเสร็จรับเงินแล้วแต่เกิดสูญหาย ให้ใช้สาเนาใบเสร็จรับเงินซ่ึงผู้รับเงินรับรอง
เปน็ เอกสารประกอบการขอเบิกเงินแทนได้

ในกรณีที่ไม่อาจขอสาเนาใบเสร็จรับเงินตามวรรคสองได้ ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ
หรือลูกจ้างน้ัน ทาใบรับรองการจ่ายเงิน โดยช้ีแจงเหตุผล พฤติการณ์ท่ีสูญหายหรือไม่อาจขอสาเนา
ใบเสร็จรับเงินได้และรับรองว่ายังไม่เคยนาใบเสร็จรับเงินน้ันมาเบิกจ่าย แม้พบภายหลังจะไม่นามา
เบิกจ่ายอีก แล้วเสนอผู้บังคับบัญชาต้ังแต่ชั้นอธิบดีหรือตาแหน่งเทียบเท่าข้ึนไปสาหรับส่วนราชการ
ในราชการบริหารส่วนกลางหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสาหรับส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาค
แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาอนุมัติ เม่ือได้รับอนุมัติแล้วให้ใช้ใบรับรองนั้นเป็นหลักฐานประกอบการขอ
เบกิ เงินได้

ขอ้ ๔๙ กรณีหลักฐานการจ่ายของส่วนราชการสูญหาย ให้ถือปฏิบัติตามวิธีการ
ทีก่ ระทรวงการคลังกาหนด

ขอ้ ๕๐ หลักฐานการจ่ายต้องพิมพ์หรือเขียนด้วยหมึก การแก้ไขหลักฐานการจ่าย
ให้ใชว้ ธิ ขี ดี ฆา่ แล้วพิมพ์หรือเขียนใหม่ และใหผ้ ูร้ ับเงินลงลายมอื ช่อื กากับไว้ทุกแหง่

ขอ้ ๕๑ ให้ส่วนราชการเก็บรักษาหลักฐานการจ่ายไว้ในท่ีปลอดภัย มิให้สูญหาย
หรอื เสียหายได้ ทง้ั น้ี เมือ่ สานกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ได้ตรวจสอบแลว้ ใหเ้ กบ็ อยา่ งเอกสารธรรมดาได้

สว่ นที่ ๓
วธิ ปี ฏบิ ัตใิ นการจา่ ยเงนิ

ขอ้ ๕๒ การจ่ายเงินให้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงิน
ที่เป็นข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ ผู้รับบานาญ ผู้รับเบ้ียหวัด หรือบุคคลภายนอก รวมทั้ง
การจา่ ยเงนิ เพื่อชดใชค้ ืนเงินทดรองราชการ ทงั้ น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธปี ฏิบตั ทิ ก่ี ระทรวงการคลงั กาหนด

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 533

หน้า ๑๙ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา

การจ่ายเงินเป็นเช็คหรือเงินสด ให้กระทาได้เฉพาะในกรณีที่มีเหตุขัดข้องหรือมีความจาเป็น
เรง่ ดว่ น ซง่ึ ไม่สามารถดาเนินการตามวรรคหน่งึ ได้

ข้อ ๕๓ ในกรณีท่ีตอ้ งจ่ายเงินเปน็ เช็คตามขอ้ ๕๒ วรรคสอง ให้เขยี นเชค็ สั่งจ่ายเงิน ดงั นี้
(๑) การจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน ในกรณีซื้อทรัพย์สิน จ้างทาของ หรือ
เช่าทรัพย์สิน ให้ออกเช็คส่ังจ่ายในนามของเจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงิน โดยขีดฆ่าคาว่า “หรือผู้ถือ”
ออกและขีดครอ่ มดว้ ย
(๒) การจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงิน นอกจากกรณีตาม (๑) ให้ออกเช็คส่ังจ่าย
ในนามของเจา้ หน้หี รอื ผูม้ ีสิทธิรบั เงนิ โดยขีดฆา่ คาว่า “หรอื ผถู้ อื ” และจะขดี คร่อมหรือไม่ก็ได้
(๓) ในกรณีสั่งจ่ายเงินเพ่ือขอรับเงินสดมาจ่าย ให้ออกเช็คส่ังจ่ายในนามเจ้าหน้าที่การเงิน
ของส่วนราชการ และขีดฆ่าคาว่า “หรือผถู้ ือ” ออก หา้ มออกเช็คส่ังจ่ายเงนิ สด
ห้ามลงลายมือช่ือสั่งจ่ายในเช็คไว้ล่วงหน้า โดยยังมิได้มีการเขียนหรือพิมพ์ช่ือผู้รับเงิน วันที่
ท่อี อกเชค็ และจานวนเงนิ ทสี่ ัง่ จ่าย
ข้อ ๕๔ การเขียนหรือพิมพ์จานวนเงินในเช็คท่ีเป็นตัวเลขและตัวอักษรให้เขียนหรือพิมพ์
ให้ชิดเส้น และชิดคาว่า “บาท” หรือขีดเส้นหน้าจานวนเงินท้ังตัวเลขและตัวอักษร โดยไม่มีช่องว่าง
ท่ีจะเขียนหรือพิมพ์จานวนเงินเพิ่มเติมได้ และให้ขีดเส้นตรงหลังช่ือสกุล ชื่อบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน
จนชดิ คาว่า “หรือผ้ถู ือ” โดยมิให้มีการเขียนหรอื พิมพช์ อ่ื บุคคลอ่นื เพ่มิ เติมได้

หมวด ๕
การเบิกจ่ายเงินยืมของสว่ นราชการ

ขอ้ ๕๕ สญั ญาการยมื เงนิ สัญญาวางหลักทรพั ย์ และสัญญาคา้ ประกนั ให้เป็นไปตามแบบ
ที่กระทรวงการคลังกาหนด

ข้อ ๕๖ ใหผ้ ูม้ ีอานาจอนมุ ัตกิ ารจ่ายเงนิ ตามข้อ ๓๖ เปน็ ผู้มีอานาจอนมุ ตั ิการจา่ ยเงนิ ยืมดว้ ย
ข้อ ๕๗ การจ่ายเงินยืมจะจ่ายได้แต่เฉพาะที่ผู้ยืมได้ทาสัญญาการยืมเงิน และผู้มีอานาจ
ได้อนุมัติให้จ่ายเงินยืมตามสัญญาการยืมเงินนั้นแล้วเท่านั้น โดยจ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
(e-Payment) ตามหลักเกณฑว์ ธิ ีปฏิบตั ทิ กี่ ระทรวงการคลังกาหนด
ขอ้ ๕๘ การยืมเงินของผู้ยืมท่ีไม่มีเงินใด ๆ ที่ส่วนราชการผู้ให้ยืมจะหักส่งใช้คืนเงินยืมได้
ให้ส่วนราชการผู้ให้ยืมกาหนดให้ผู้ยืมนาหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันพร้อมทั้งทาสัญญาวางหลักทรัพย์
หรอื หาบุคคลที่กระทรวงการคลังกาหนดมาทาสญั ญาค้าประกันไว้ต่อสว่ นราชการผูใ้ หย้ มื

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 534

หน้า ๒๐ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๕๙ การอนุมัติให้ยืมเงินเพ่ือใช้ในราชการ ให้ผู้มีอานาจพิจารณาอนุมัติให้ยืมเฉพาะ
เทา่ ท่จี าเปน็ และห้ามมใิ หอ้ นุมัติให้ยืมเงนิ รายใหม่ในเมอ่ื ผยู้ ืมมิไดช้ าระคืนเงนิ ยืมรายเกา่ ให้เสร็จส้นิ ไปกอ่ น

ข้อ ๖๐ การจา่ ยเงินยมื จากเงนิ นอกงบประมาณ ใหส้ ่วนราชการกระทาได้เฉพาะเพ่ือใช้จ่าย
ในการดาเนินงานตามวัตถุประสงค์ของเงินนอกงบประมาณประเภทนนั้ หรือกรณีอน่ื ซ่ึงจาเปน็ เรง่ ดว่ น
แกร่ าชการ และไดร้ บั อนมุ ัตจิ ากหัวหนา้ สว่ นราชการผูใ้ ห้ยมื น้นั

ขอ้ ๖๑ สัญญาการยืมเงินให้จัดทาข้ึนสองฉบับ พร้อมกับมอบให้ส่วนราชการผู้ให้ยืม
เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานหนงึ่ ฉบับ ให้ผยู้ มื เก็บไว้หนงึ่ ฉบับ

ข้อ ๖๒ กรณีที่ต้องจ่ายเงินยืมสาหรับการปฏิบัตริ าชการที่ติดต่อคาบเก่ยี วจากปงี บประมาณ
ปัจจุบันไปถึงปีงบประมาณถัดไป ให้เบิกเงินยืมงบประมาณในปีปัจจุบัน โดยให้ถือว่าเป็นรายจ่าย
ของงบประมาณปปี จั จุบนั และให้ใชจ้ ่ายเงนิ ยืมคาบเกีย่ วปงี บประมาณถัดไป ดงั ต่อไปนี้

(๑) เงินยืมสาหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ให้ใช้จ่ายได้ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่
วันเรม่ิ ต้นปีงบประมาณใหม่

(๒) เงินยืมสาหรับปฏิบัติราชการอื่น ๆ ให้ใช้จ่ายได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันเริ่มต้น
ปีงบประมาณใหม่

ข้อ ๖๓ การเบิกเงินเพื่อจ่ายเป็นเงินยืมให้แก่บุคคลใดในสังกัดยืมเพื่อปฏิบัติราชการ
ใหก้ ระทาได้เฉพาะงบรายจา่ ยหรือรายการ ดังต่อไปน้ี

(๑) รายการค่าจ้างชั่วคราว สาหรับค่าจ้างซึ่งไม่มีกาหนดจ่ายเป็นงวดแน่นอนเป็นประจา
แตจ่ าเป็นตอ้ งจ่ายให้ลกู จ้างแต่ละวนั หรอื แตล่ ะคราวเม่อื เสรจ็ งานท่จี า้ ง

(๒) รายการคา่ ตอบแทนใชส้ อยและวสั ดุ
(๓) งบกลาง เฉพาะท่ีจ่ายเป็นเงินสวัสดิการเก่ียวกับการศึกษาของบุตร หรือเงินสวัสดิการ
เก่ียวกับเงินเพ่ิมค่าครองชีพชั่วคราวสาหรับลูกจ้างชั่วคราวซ่ึงไม่มีกาหนดจ่ายค่าจ้างเป็นงวดแน่นอน
เปน็ ประจา แต่จาเป็นตอ้ งจา่ ยแต่ละวนั หรือแตล่ ะคราวเมือ่ เสร็จงานทจี่ ้าง
(๔) งบรายจา่ ยอืน่ ๆ ทจี่ ่ายในลักษณะเดียวกันกับ (๑) หรอื (๒)
ขอ้ ๖๔ การจ่ายเงินยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ในราชอาณาจักร
ให้จ่ายได้สาหรับระยะเวลาการเดินทางท่ีไม่เกินเก้าสิบวัน หากมีความจาเป็นจะต้องจ่ายเกินกว่ากาหนด
เวลาดงั กลา่ ว สว่ นราชการจะต้องขอทาความตกลงกบั กระทรวงการคลังกอ่ น
ขอ้ ๖๕ ให้ผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายและเงินเหลือจ่ายท่ียืมไป (ถ้ามี) ภายในกาหนด
ระยะเวลา ดงั นี้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 535

หน้า ๒๑ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

(๑) กรณีเดินทางไปประจาต่างสานักงาน หรือการเดินทางไปราชการประจาในต่างประเทศ
หรือกรณีเดินทางกลับภูมิลาเนาเดิม ให้ส่งแก่ส่วนราชการผู้ให้ยืมโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
ภายในสามสบิ วันนบั แต่วันไดร้ บั เงิน

(๒) กรณีเดินทางไปราชการอื่น รวมท้ังการเดนิ ทางไปราชการตา่ งประเทศชว่ั คราว ให้สง่ แก่
สว่ นราชการผใู้ ห้ยืมภายในสบิ ห้าวนั นบั แตว่ นั กลบั มาถึง

(๓) การยืมเงินเพ่ือปฏิบัติราชการนอกจาก (๑) หรือ (๒) ให้ส่งแก่ส่วนราชการผู้ให้ยืม
ภายในสามสิบวนั นับแต่วันได้รับเงิน

การคนื เงินเหลือจา่ ยทยี่ ืม ให้ปฏบิ ัตติ ามหลกั เกณฑว์ ธิ ีปฏิบัติทกี่ ระทรวงการคลังกาหนด
ในกรณที ่ีผู้ยมื ไดส้ ่งหลักฐานการจ่าย เพือ่ สง่ ใชค้ นื เงนิ ยมื แลว้ มเี หตตุ อ้ งทกั ท้วง ใหส้ ว่ นราชการ
ผู้ให้ยืมแจ้งข้อทักท้วงให้ผู้ยืมทราบโดยด่วน แล้วให้ผู้ยืมปฏิบัติตามคาทักท้วงภายในสิบห้าวันนับแต่
วนั ที่ไดร้ บั คาทักท้วง หากผยู้ ืมมไิ ดด้ าเนินการตามคาทักทว้ งและไมไ่ ดช้ แ้ี จงเหตผุ ลใหส้ ว่ นราชการผ้ใู หย้ มื ทราบ
ให้ส่วนราชการผู้ให้ยืมดาเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาการยืมเงิน โดยถือว่าผู้ยืมยังมิได้ส่งใช้คืนเงินยืม
เท่าจานวนท่ีทักท้วงนนั้
ข้อ ๖๖ เมื่อผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายและ/หรือเงินเหลือจ่ายท่ียืม (ถ้ามี) ให้เจ้าหน้าท่ีผู้รับคืน
บันทึกการรับคืนในสัญญาการยืมเงินพร้อมท้ังพิมพ์หลักฐานการรับเงินคืนจากระบบอิเล็กทรอนิ กส์
(e-Payment) ตามที่กระทรวงการคลังกาหนด และ/หรือออกใบรบั ใบสาคัญตามแบบที่กรมบัญชีกลาง
กาหนดให้ผยู้ ืมไวเ้ ป็นหลกั ฐาน
ขอ้ ๖๗ ให้ส่วนราชการเก็บรักษาสัญญาการยืมเงินซ่ึงยังมิได้ชาระคืนเงินยืมให้เสร็จส้ินไว้
ในที่ปลอดภัยอย่าให้สูญหาย และเมื่อผู้ยืมได้ชาระคืนเงินยืมเสร็จส้ินแล้วให้เก็บรักษาเช่นเดียวกับ
หลักฐานการจ่าย
ขอ้ ๖๘ ในกรณีที่ผู้ยืมมิได้ชาระคืนเงินยืมภายในระยะเวลาท่ีกาหนด ให้ผู้อานวยการ
กองคลังเรียกให้ชดใช้เงินยืมตามเงื่อนไขในสัญญาการยืมเงินให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน
สามสบิ วนั นับแต่วนั ครบกาหนด
ในกรณที ีไ่ มอ่ าจปฏบิ ัตติ ามวรรคหน่งึ ได้ ใหผ้ ้อู านวยการกองคลังรายงานให้หวั หน้าสว่ นราชการ
หรอื ผวู้ า่ ราชการจงั หวัด แลว้ แต่กรณที ราบ เพ่อื พจิ ารณาส่ังการบังคับใหเ้ ป็นไปตามสญั ญาการยมื เงินตอ่ ไป

หมวด ๖
การรบั เงนิ ของส่วนราชการ

สว่ นท่ี ๑
ใบเสรจ็ รับเงนิ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 536

หน้า ๒๒ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ขอ้ ๖๙ ใบเสร็จรับเงิน ให้ใช้ตามแบบท่ีกระทรวงการคลัง กาหนด และให้มีสาเนา
เยบ็ ตดิ ไว้กับเลม่ อยา่ งนอ้ ยหน่ึงฉบับ หรอื ตามแบบท่ีได้รบั ความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง

ใบเสรจ็ รับเงินทอ่ี อกดว้ ยคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามทกี่ ระทรวงการคลงั กาหนด
ขอ้ ๗๐ ใบเสร็จรับเงิน ให้พิมพ์หมายเลขกากับเล่ม และหมายเลขกากับใบเสร็จรับเงิน
เรียงกันไปทกุ ฉบบั
ขอ้ ๗๑ ให้ส่วนราชการจัดทาทะเบียนคุมใบเสร็จรับเงินไว้เพื่อให้ทราบ และตรวจสอบ
ได้ว่าได้จัดพิมพ์ข้ึนจานวนเท่าใด ได้จ่ายใบเสร็จรับเงินเท่าใด เลขที่ใดถึงเลขที่ใด ให้หน่วยงานใด
หรือเจา้ หน้าทีผ่ ้ใู ดไปดาเนินการจัดเก็บเงินเมือ่ วัน เดอื น ปีใด
ขอ้ ๗๒ การจ่ายใบเสร็จรับเงิน ให้หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ไปจัดเก็บเงิน ให้พิจารณาจ่าย
ในจานวนทีเ่ หมาะสมแก่ลักษณะงานที่ปฏบิ ัติ และให้มีหลักฐานการรับส่งใบเสรจ็ รับเงนิ น้นั ไวด้ ว้ ย
ข้อ ๗๓ ใบเสร็จรับเงินเล่มใด เมื่อไม่มีความจาเป็นต้องใช้ เช่น ยุบเลิกสานักงานหรือ
ไม่มีการจัดเก็บเงินต่อไปอีก ให้หัวหน้าหน่วยงานท่ีรับใบเสร็จรับเงินนั้นนาส่งคืนส่วนราชการ
ท่ีจา่ ยใบเสร็จรับเงนิ นน้ั โดยดว่ น
ข้อ ๗๔ เม่ือสิ้นปงี บประมาณ ให้หัวหนา้ หน่วยงานซงึ่ รบั ใบเสร็จรบั เงนิ ไปดาเนินการจดั เก็บเงนิ
รายงานให้ผู้อานวยการกองคลัง หรือหัวหน้าส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาคทราบว่า
มีใบเสร็จรับเงินอยู่ในความรับผิดชอบเล่มใด เลขที่ใดถึงเลขที่ใด และได้ใช้ใบเสร็จรับเงินไปแล้วเล่มใด
เลขทใ่ี ดถึงเลขทีใ่ ด อย่างชา้ ไมเ่ กินวันท่ี ๓๑ ตลุ าคมของปงี บประมาณถัดไป
ข้อ ๗๕ ใบเสร็จรับเงินเล่มใดสาหรับรับเงินของปีงบประมาณใด ให้ใช้รับเงินภายใน
ปีงบประมาณน้ัน เม่ือข้ึนปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้ใบเสร็จรับเงนิ เล่มใหม่ ใบเสร็จรับเงินฉบบั ใดยังไมใ่ ช้
ให้คงติดไว้กับเล่มแต่ให้ปรุ เจาะรู หรือประทับตราเลิกใช้ เพื่อให้เป็นที่สังเกตมิให้นามารับเงิน
ได้อกี ตอ่ ไป
ข้อ ๗๖ หา้ มขูดลบเพือ่ แก้ไขเพ่ิมเติมจานวนเงนิ หรือช่อื ผู้ชาระเงนิ ในใบเสรจ็ รบั เงนิ
หากใบเสร็จรับเงินฉบับใดลงรายการรับเงินผิดพลาด ให้ขีดฆ่าจานวนเงินและเขียนใหม่
ท้ังจานวนโดยให้ผู้รับเงินลงลายมือช่ือกากับการขีดฆ่านั้นไว้ หรือขีดฆ่าเลิกใช้ใบเสร็จรับเงินนั้นท้ังฉบับ
แล้วออกฉบับใหม่ โดยใหน้ าใบเสรจ็ รบั เงนิ ท่ีขีดฆ่าเลิกใชน้ ั้นติดไวก้ บั สาเนาใบเสรจ็ รับเงนิ ในเลม่
ขอ้ ๗๗ ให้ส่วนราชการเก็บรักษาสาเนาใบเสร็จรับเงินซ่ึงสานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ยังมิได้ตรวจสอบไว้ในท่ีปลอดภัย อย่าให้สูญหายหรือเสียหายได้ และเมื่อได้ตรวจสอบแล้วให้เก็บไว้
อย่างเอกสารธรรมดาได้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 537

เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง หน้า ๒๓ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ราชกจิ จานเุ บกษา

ส่วนท่ี ๒
การรบั เงนิ

ข้อ ๗๘ การรับเงนิ ให้รับผ่านระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Payment) ตามหลักเกณฑ์วธิ ปี ฏิบตั ิ

ที่กระทรวงการคลังกาหนด เว้นแต่กรณีที่มีเหตุขัดข้องหรือมีความจาเป็นเร่งด่วนซึ่งไม่สามารถรับ

ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ได้ ให้รับเป็นเงินสดหรือเช็ค หรือเอกสารแทนตัวเงินอ่ืน

ทก่ี ระทรวงการคลังกาหนด

ข้อ ๗๙ ในการจัดเก็บหรือรับชาระเงิน ให้ส่วนราชการซึ่งมีหน้าท่ีจัดเก็บหรือรับชาระเงินน้ัน

ออกใบเสร็จรับเงิน หรือพิมพ์รายงานซ่ึงเป็นหลักฐานการรับชาระเงินจากระบบอิเล็กทรอนิกส์

(e-Payment) ตามท่ีกระทรวงการคลังกาหนด เว้นแต่เป็นการรับชาระเงินค่าธรรมเนียม ค่าบริการ

หรือการรับเงินอื่นใดท่ีมีเอกสารของทางราชการระบุจานวนเงินท่ีรับชาระอันมีลักษณะเช่นเดียวกับ

ใบเสร็จรบั เงิน โดยเอกสารดังกล่าวจะต้องมีการควบคมุ จานวนทร่ี ับจา่ ยทานองเดยี วกันกับใบเสรจ็ รบั เงนิ

หรือเป็นการรับเงินตามคาขอเบิกเงินจากคลัง หรือเป็นการได้รับดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากธนาคาร

ของส่วนราชการ
ในกรณีที่มีความจาเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ไปจัดเก็บหรือรับชาระเงินนอกท่ีต้ังสานักงานปกติ

ให้ปฏบิ ตั ิเช่นเดยี วกบั วรรคหน่ึง
ขอ้ ๘๐ ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินเล่มเดียวกันรับเงินทุกประเภท เว้นแต่เงินประเภทใดท่ีมีการ

รับชาระเป็นประจาและมีจานวนมากราย จะแยกใบเสร็จรับเงินเล่มหน่ึงสาหรับการรับชาระเงิน
ประเภทนัน้ กไ็ ด้

ข้อ ๘๑ ให้ส่วนราชการบนั ทกึ ขอ้ มูลการรับเงนิ ในระบบภายในวนั ทไี่ ดร้ บั เงิน
เงินประเภทใดท่ีมีการออกใบเสร็จรับเงินในวันหน่ึง ๆ หลายฉบับ จะรวมเงินประเภทนั้น
ตามสาเนาใบเสร็จรับเงินทุกฉบับมาบันทึกเป็นรายการเดียวในระบบก็ได้ โดยให้แสดงรายละเอียด
ว่าเป็นเงินรับตามใบเสร็จเลขท่ีใดถึงเลขท่ีใดและจานวนเงินรวมรับทั้งส้ินเท่าใดไว้ด้านหลังสาเนา
ใบเสรจ็ รบั เงินฉบบั สดุ ทา้ ย
ในกรณีทมี่ กี ารรับเงินเป็นเงินสดหรอื เช็คหรือเอกสารแทนตัวเงินอืน่ ภายหลังกาหนดเวลาปิดบัญชี
สาหรบั วันนน้ั แลว้ ใหบ้ นั ทึกข้อมูลการรับเงินนั้นในระบบในวนั ทาการถดั ไป
ขอ้ ๘๒ เมื่อส้ินเวลารับจ่ายเงิน ให้เจ้าหน้าท่ีผู้มีหน้าท่ีจัดเก็บหรือรับชาระเงิน นาเงินสด
หรือเช็ค หรือเอกสารแทนตัวเงินอ่ืนท่ีได้รับ พร้อมกับสาเนาใบเสร็จรับเงินและเอกสารอ่ืนที่จัดเก็บ
ในวนั นัน้ ท้ังหมดส่งตอ่ เจ้าหนา้ ทก่ี ารเงนิ ของสว่ นราชการนน้ั
ข้อ ๘๓ ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้า
ส่วนราชการตรวจสอบจานวนเงินที่จัดเก็บและนาส่งกับหลักฐานและรายการท่ีบันทึกไว้ในระบบว่า
ถูกตอ้ งครบถว้ นหรอื ไม่

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 538

หน้า ๒๔ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา

เมื่อได้ตรวจสอบความถูกต้องตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ผู้ตรวจแสดงยอดรวมเงินรับตามใบเสร็จ
รบั เงินทกุ ฉบับและ/หรือรายงานซึ่งเปน็ หลกั ฐานการรบั ชาระเงินจากระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ (e-Payment)
ท่ไี ด้รับในวนั นนั้ ทุกฉบับ ไวใ้ นสาเนาใบเสรจ็ รับเงนิ หรอื รายงานซงึ่ เปน็ หลกั ฐานการรับชาระเงนิ จากระบบ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Payment) ฉบบั สุดทา้ ย และลงลายมือชอ่ื กากับไวด้ ว้ ย

หมวด ๗
การเกบ็ รกั ษาเงนิ ของส่วนราชการ

ส่วนที่ ๑
สถานทเ่ี ก็บรกั ษาเงิน

ขอ้ ๘๔ ให้ส่วนราชการเก็บรักษาเงินท่ีจัดเก็บหรือได้รับเป็นเงินสดหรือเช็คหรือเอกสาร
แทนตวั เงินอน่ื ไวใ้ นตนู้ ิรภัยซ่ึงตั้งอยู่ในที่ปลอดภยั ของส่วนราชการน้นั

ขอ้ ๘๕ ตูน้ ิรภยั ให้มีลูกกญุ แจอย่างนอ้ ยสองสารบั แตล่ ะสารบั ไมน่ ้อยกวา่ สองดอกแตไ่ มเ่ กนิ
สามดอกโดยแต่ละดอกตอ้ งมีลักษณะตา่ งกัน โดยสารับหน่ึงมอบให้กรรมการเกบ็ รักษาเงิน ส่วนสารับที่เหลอื
ให้นาฝากเก็บรกั ษาไว้ในลกั ษณะหีบหอ่ ณ สถานท่ี ดงั น้ี

(๑) สานักบริหารเงินตรา กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง สาหรับส่วนราชการในราชการ
บรหิ ารส่วนกลาง

(๒) สาหรับส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางท่ีมีสานักงานอยู่ในส่วนภูมิภาคและ
สว่ นราชการในราชการบริหารสว่ นภูมภิ าค ใหเ้ ก็บรกั ษาในสถานทท่ี ีป่ ลอดภยั

สว่ นที่ ๒
กรรมการเก็บรกั ษาเงิน

ข้อ ๘๖ ให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาแต่งตั้งขา้ ราชการซ่งึ ดารงตาแหน่งประเภทวชิ าการ
ระดับปฏิบัติการ หรือประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน หรือเทียบเท่าข้ึนไป ในส่วนราชการนั้น
อย่างน้อยสองคน เป็นกรรมการเก็บรักษาเงนิ ของสว่ นราชการน้ัน

ขอ้ ๘๗ ให้กรรมการเก็บรักษาเงินถือลูกกุญแจตู้นิรภัยคนละหน่ึงดอก ในกรณีที่ตู้นิรภัย
มีลกู กญุ แจสามดอกและมกี รรมการเก็บรักษาเงนิ สองคน ใหก้ รรมการเกบ็ รกั ษาเงนิ ถอื ลกู กญุ แจคนละดอก
ส่วนลูกกุญแจท่ีเหลือให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะมอบให้กรรมการเก็บรักษาเงิ น
ผู้ใดถอื ลูกกุญแจน้นั

ในกรณีที่มีห้องมั่นคงหรือกรงเหล็ก การถือลูกกุญแจห้องม่ันคงหรือกรงเหล็กให้นาความ
ในวรรคหนง่ึ มาใช้บงั คบั โดยอนุโลม

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 539

หน้า ๒๕ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ขอ้ ๘๘ ถ้ากรรมการเก็บรักษาเงินผู้ใดไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้ ให้หัวหน้าส่วนราชการ
พจิ ารณาแต่งตัง้ ข้าราชการตามนัยข้อ ๘๖ ปฏิบัติหนา้ ทีก่ รรมการเก็บรกั ษาเงินแทนใหค้ รบจานวน

การแต่งต้งั ผูป้ ฏิบตั หิ น้าท่ีกรรมการเก็บรักษาเงนิ แทนจะแตง่ ต้ังไว้เป็นการประจาก็ได้
ขอ้ ๘๙ ในการส่งมอบและรับมอบลูกกุญแจระหว่างกรรมการเก็บรักษาเงินกับผู้ปฏิบัติหน้าที่
กรรมการเก็บรักษาเงินแทน ให้บุคคลดังกล่าวตรวจนับตัวเงินและเอกสารแทนตัวเงินซึ่งเก็บรักษาไว้ใน
ตู้นิรภัยให้ถูกต้องตามรายงานเงินคงเหลือประจาวัน แล้วบันทึกการส่งมอบและรับมอบพร้อมกับ
ลงลายมือช่ือกรรมการเก็บรักษาเงินและผู้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการเก็บรักษาเงินแทนทุกคนไว้ในรายงาน
เงินคงเหลือประจาวนั นนั้ ด้วย
ข้อ ๙๐ กรรมการเกบ็ รักษาเงินหรือผู้ปฏบิ ตั ิหนา้ ทีก่ รรมการเกบ็ รักษาเงนิ แทน ตอ้ งเก็บรักษา
ลูกกุญแจไว้ในที่ปลอดภัยมิให้สูญหายหรือให้ผู้ใดลักลอบนาไปพิมพ์แบบลูกกุญแจได้ หากปรากฏว่า
ลูกกุญแจสูญหาย หรือมีกรณีสงสัยว่าจะมีผู้ปลอมแปลงลูกกุญแจ ให้รีบรายงานให้หัวหน้าส่วนราชการ
ทราบเพื่อส่ังการโดยด่วน
ข้อ ๙๑ ห้ามกรรมการเก็บรักษาเงินหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการเก็บรักษาเงินแทนมอบ
ลกู กุญแจให้ผูอ้ น่ื ทาหน้าทกี่ รรมการแทน

ส่วนท่ี ๓
การเกบ็ รกั ษาเงนิ

ข้อ ๙๒ ให้ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาค แล้วแต่กรณี
จัดทารายงานเงินคงเหลือประจาวันเปน็ ประจาทุกวันทม่ี ีการรับเงนิ สด หรอื เชค็ หรอื เอกสารแทนตวั เงินอืน่

ในกรณีท่ีวันใดไม่มีรายการรับจ่ายเงินตามวรรคหน่ึง จะไม่ทารายงานเงินคงเหลือประจาวัน
สาหรับวนั นัน้ กไ็ ด้ แต่ให้หมายเหตไุ ว้ในรายงานเงินคงเหลอื ประจาวันทม่ี ีการรบั จา่ ยเงินของวนั ถัดไปดว้ ย

รายงานเงินคงเหลือประจาวันให้เป็นไปตามแบบทีก่ รมบญั ชีกลางกาหนด
ขอ้ ๙๓ เมื่อสิ้นเวลารับจ่ายเงินให้เจ้าหน้าท่ีการเงินนาเงินที่จะเก็บรักษาและรายงาน
เงนิ คงเหลือประจาวันส่งมอบให้คณะกรรมการเกบ็ รกั ษาเงิน
ให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงินร่วมกันตรวจสอบตัวเงิน และเอกสารแทนตัวเงิน กับรายงาน
เงินคงเหลือประจาวัน เม่ือปรากฏว่าถูกต้องแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ีการเงินนาเงิน และเอกสารแทนตัวเงิน
เก็บรักษาในตู้นิรภัย และให้กรรมการเก็บรักษาเงินทุกคนลงลายมือช่ือในรายงานเงนิ คงเหลือประจาวนั
ไวเ้ ปน็ หลักฐาน
ข้อ ๙๔ รายงานเงินคงเหลือประจาวัน เมื่อกรรมการเก็บรักษาเงินได้ลงลายมือช่ือแล้ว
ใหผ้ ู้อานวยการกองคลงั หรอื เจ้าหน้าที่การเงนิ เสนอหัวหนา้ สว่ นราชการเพื่อทราบ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 540

หน้า ๒๖ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ข้อ ๙๕ ในกรณีที่ปรากฏว่าเงินท่ีได้รับมอบให้เก็บรักษาไม่ตรงกับจานวนเงินซ่ึงแสดงไว้
ในรายงานเงินคงเหลือประจาวัน ให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงินและเจ้าหน้าที่การเงินผู้นาส่ง
ร่วมกันบันทึกจานวนเงินทตี่ รวจนบั ไดน้ ้นั ไว้ในรายงานเงินคงเหลือประจาวนั และลงลายมือชอ่ื กรรมการ
เกบ็ รักษาเงินทุกคนพร้อมดว้ ยเจ้าหนา้ ทีก่ ารเงนิ ผ้นู าส่ง แลว้ นาเงนิ เก็บรักษาในตนู้ ริ ภัย และใหก้ รรมการ
เกบ็ รักษาเงนิ รายงานใหห้ วั หนา้ ส่วนราชการทราบทันทเี พ่ือพิจารณาส่งั การต่อไป

ขอ้ ๙๖ เม่ือนาเงินและเอกสารแทนตัวเงินเก็บในตู้นิรภัยเรียบร้อยแล้ว ให้กรรมการ
เก็บรักษาเงินใส่กุญแจให้เรียบร้อย แล้วลงลายมือชื่อบนกระดาษปิดทับ ในลักษณะท่ีแผ่นกระดาษปิดทับ
จะตอ้ งถกู ทาลายเมือ่ มีการเปิดตนู้ ริ ภัย

ในกรณีที่ตู้นิรภัยตั้งอยู่ในห้องมั่นคงหรือกรงเหล็ก การลงลายมือช่ือบนกระดาษปิดทับ
จะกระทาท่ีประตูหอ้ งม่ันคงหรือกรงเหลก็ เพยี งแหง่ เดยี วก็ได้

ข้อ ๙๗ ในวันทาการถัดไป หากจะต้องนาเงินออกจ่าย ให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงิน
มอบเงินที่เก็บรักษาท้ังหมดให้ผู้อานวยการกองคลังหรือเจ้าหน้าท่ีการเงิน แล้วแต่กรณี รับไปจ่าย
โดยให้ผู้อานวยการกองคลังหรือเจ้าหน้าท่ีการเงิน แล้วแต่กรณี ลงลายมือชื่อรับเงินไว้ในรายงาน
เงินคงเหลอื ประจาวนั ก่อนวันทาการท่ีรับเงนิ ไปจา่ ย

ขอ้ ๙๘ การเปิดประตูห้องม่ันคง หรือประตูกรงเหล็ก หรือตู้นิรภัยให้กรรมการเก็บรักษาเงิน
ตรวจกญุ แจ ลายมอื ช่อื บนแผน่ กระดาษปดิ ทับ เมอ่ื ปรากฏว่าอยใู่ นสภาพเรยี บรอ้ ยจงึ ใหเ้ ปิดได้

หากปรากฏว่าแผ่นกระดาษปิดทับอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย หรือมีพฤติการณ์อื่นใดที่สงสัย
ว่าจะมกี ารทจุ ริตให้รายงานใหห้ วั หน้าสว่ นราชการน้ันทราบเพอ่ื พิจารณาสัง่ การโดยดว่ น

หมวด ๘
การนาเงนิ ส่งคลงั และฝากคลัง

สว่ นท่ี ๑
การนาเงนิ สง่ คลงั และฝากคลงั ของสว่ นราชการ

ขอ้ ๙๙ เงินที่เบิกจากคลัง ถ้าไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไม่หมด ให้ส่วนราชการผู้เบิกนาสง่ คืนคลงั
ภายในสิบหา้ วันทาการนับแต่วนั รบั เงินจากคลงั

ในกรณีท่สี ว่ นราชการมกี ารรบั คนื เงินท่ไี ดจ้ า่ ยไปแลว้ เป็นเงนิ สดหรือเชค็ ใหน้ าสง่ คนื คลงั ภายใน
สิบห้าวนั ทาการนับแตว่ ันท่ีไดร้ บั คนื ยกเวน้ กรณมี ีการรบั คืนเงินท่ไี ด้จ่ายไปแล้วดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกส์
(e-Payment) ให้นาส่งคนื คลงั ตามระยะเวลาท่กี ระทรวงการคลงั กาหนด

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 541

หน้า ๒๗ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพเิ ศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

การนาเงินส่งคืนคลังตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้นาส่งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)
ตามหลกั เกณฑ์วธิ ีปฏิบตั ิทก่ี ระทรวงการคลังกาหนด

ขอ้ ๑๐๐ การนาเงินส่งคลัง ถ้านาส่งก่อนสิ้นปีงบประมาณหรือก่อนส้ินระยะเวลาเบิกเงิน
ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ให้ส่วนราชการนาส่งเป็นเงินเบิกเกินส่งคืน แต่ถ้านาส่งภายหลังกาหนดดังกล่าว
ให้นาส่งเปน็ รายไดแ้ ผน่ ดนิ ประเภทเงินเหลอื จา่ ยปเี กา่ สง่ คืน

ขอ้ ๑๐๑ เงินท้ังปวงท่ีอยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการให้นาส่งหรือนาฝากคลังภายใน
กาหนดเวลา ดงั ต่อไปน้ี

(๑) เช็ค หรือเอกสารแทนตัวเงินอื่น ให้นาส่งหรือนาฝากในวันที่ได้รับหรืออย่างช้าภายใน
วนั ทาการถดั ไป

(๒) เงินรายได้แผ่นดินที่ได้รับเป็นเงินสด ให้นาส่งอย่างน้อยเดือนละหน่ึงครั้ง แต่ถ้า
ส่วนราชการใดมีเงินรายได้แผน่ ดนิ เก็บรักษาในวันใดเกนิ หนง่ึ หม่นื บาท ก็ให้นาเงนิ สง่ โดยดว่ นแตอ่ ย่างช้า
ตอ้ งไม่เกนิ สามวันทาการถัดไป

(๓) เงนิ รายได้แผ่นดินท่ีรบั ดว้ ยระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Payment) ให้นาสง่ ภายในระยะเวลา
ทีก่ ระทรวงการคลังกาหนด

(๔) เงินเบิกเกินส่งคืน หรือเงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน ให้นาส่งภายในสิบห้าวันทาการนับแต่
วนั รับเงินจากคลงั หรือนบั แต่วันทไ่ี ดร้ บั คืน

(๕) เงินนอกงบประมาณทร่ี บั เป็นเงนิ สด ใหน้ าฝากคลังอย่างน้อยเดอื นละหน่งึ ครงั้ แต่สาหรบั
เงินที่เบกิ จากคลังเพื่อรอการจา่ ย ใหน้ าฝากคลงั ภายในสบิ หา้ วนั ทาการนบั แตว่ นั รับเงนิ จากคลงั

ส่วนที่ ๒
วิธีการนาเงนิ สง่ คลงั และฝากคลัง

ขอ้ ๑๐๒ ให้หวั หน้าหน่วยงานของรฐั หรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเปน็ ผูน้ าเงินสง่ คลงั
ขอ้ ๑๐๓ วิธีการนาเงินส่งคลังหรือฝากคลัง ให้หน่วยงานผู้เบิกในส่วนกลาง หรือในส่วน
ภูมิภาค นาส่งหรือนาฝากเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติ
ท่ีกระทรวงการคลงั กาหนด เพอ่ื เข้าบัญชีเงนิ ฝากธนาคารของกรมบัญชกี ลาง หรอื ของสานกั งานคลังจังหวดั
แล้วแตก่ รณี
กรณีท่ีเป็นเงินสด หรือเช็ค หรือเอกสารแทนตัวเงินอ่ืน ให้จัดทาใบนาฝากเงิน พร้อมท้ัง
นาเงินสด หรือเช็ค หรือเอกสารแทนตัวเงิน ฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมบัญชีกลาง หรือ
ของสานักงานคลงั จังหวดั แลว้ แตก่ รณี โดยปฏบิ ัติตามวิธกี ารทก่ี ระทรวงการคลงั กาหนด
ขอ้ ๑๐๔ หน่วยงานผู้เบิกท่ีใช้วิธีการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าระบบหรือวิธีการอ่ืน ให้ถือปฏิบัติ
ตามทีก่ ระทรวงการคลงั กาหนด

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 542

หน้า ๒๘ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา

หมวด ๙
การกนั เงนิ ไว้เบกิ เหลอ่ื มปี

ขอ้ ๑๐๕ หน่วยงานของรัฐใดได้ก่อหน้ีผูกพันไว้ก่อนส้ินปีงบประมาณและมีวงเงินตั้งแต่
หนึ่งแสนบาทขึ้นไปหรือตามที่กระทรวงการคลังกาหนด กรณีที่ไม่สามารถเบิกเงินไปชาระหน้ีได้ทัน
ส้ินปีงบประมาณให้ขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีต่อไปได้อีกไม่เกินหกเดือนของปีงบประมาณถัดไป เว้นแต่
มีความจาเป็นต้องขอเบิกเงินจากคลังภายหลังเวลาดังกล่าว ให้ขอทาความตกลงกับกระทรวงการคลัง
เพ่ือขอขยายเวลาออกไปได้อกี ไม่เกนิ หกเดือน

ข้อ ๑๐๖ การขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี หน่วยงานของรัฐต้องดาเนินการก่อนส้ินปีงบประมาณ
โดยปฏบิ ัตติ ามวธิ กี ารทีก่ ระทรวงการคลงั กาหนด

หมวด ๑๐
หนว่ ยงานยอ่ ย

ขอ้ ๑๐๗ การเบิกเงิน การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนาเงินส่งคลัง
ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์วธิ ปี ฏิบตั ิท่ีกระทรวงการคลังกาหนด

หมวด ๑๑
การควบคมุ และตรวจสอบของหนว่ ยงานผเู้ บิกที่เปน็ สว่ นราชการ

ข้อ ๑๐๘ ทุกส้ินวันทาการ ให้เจ้าหน้าท่ีการเงินของส่วนราชการตรวจสอบจานวนเงินสด
และเช็คคงเหลอื กับรายงานเงนิ คงเหลือประจาวนั ทีก่ รมบญั ชกี ลางกาหนด กรณีการรับจ่ายเงนิ ผ่านระบบ
อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-Payment) ให้ส่วนราชการจัดใหม้ ีการตรวจสอบการรบั จา่ ยเงินจากรายงานในระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ตามหลกั เกณฑ์วธิ ปี ฏิบตั ทิ ่ีกระทรวงการคลังกาหนด

ขอ้ ๑๐๙ ให้หน่วยงานผู้เบิกที่เป็นส่วนราชการมีหน้าที่ให้คาช้ีแจงและอานวยความสะดวก
แก่เจ้าหน้าท่ีของสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินในการตรวจสอบรายงานการเงินและหลักฐานการจ่าย
กรณีทไ่ี ดร้ ับการทกั ทว้ ง จากสานกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ถา้ หน่วยงานผเู้ บิกไมเ่ หน็ ด้วยกบั ข้อทักทว้ ง
ให้ชี้แจงเหตุผลและรายงานให้กระทรวง ทบวง กรม เจ้าของงบประมาณ แล้วแต่กรณี ทราบภายใน
สิบวันนับแต่วันท่ีได้รับแจ้งข้อทักท้วงจากสานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หากเจ้าของงบประมาณ
ดังกล่าวเหน็ ว่าคาช้แี จงนั้นมีเหตุผลสมควร ให้พิจารณาดาเนินการขอใหก้ ระทรวงการคลงั วินจิ ฉยั ภายใน
สิบวันนับแต่วันท่ไี ด้รบั แจ้งจากหน่วยงานผเู้ บกิ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 543

หน้า ๒๙ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา

ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคาขอจากเจ้าของงบประมาณ เมื่อกระทรวงการคลัง
ได้วินิจฉัยคาช้ีแจงเป็นประการใดแล้ว ให้แจ้งให้กระทรวง ทบวง กรม เจ้าของงบประมาณ และ
สานักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบ ในกรณีท่ีเจ้าของงบประมาณดงั กล่าวจะต้องปฏิบัตติ ามคาวนิ ิจฉยั
ของกระทรวงการคลัง ให้ปฏิบัติให้เสร็จสิ้นพร้อมท้ังแจ้งสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบภายใน
สบิ วันนบั แตว่ นั ทไ่ี ด้รับทราบผลการวินจิ ฉยั

ข้อ ๑๑๐ เม่ือปรากฏว่าส่วนราชการแห่งใดปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน
การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนาเงินส่งคลังไม่ถูกต้องตามระเบียบ ให้หัวหน้าส่วนราชการ
ระดบั กรม หรือผวู้ ่าราชการจงั หวัด แลว้ แต่กรณี พจิ ารณาสั่งการให้ปฏบิ ัตใิ ห้ถกู ต้องโดยด่วน

ข้อ ๑๑๑ หากปรากฏว่าเงนิ ในความรบั ผิดชอบของส่วนราชการแห่งใดขาดบญั ชี หรือสูญหาย
เสียหายเพราะการทุจริต หรือมีพฤติการณ์ท่ีส่อไปในทางไม่สุจริตหรือเพราะเหตุหน่ึงเหตุใดซึ่งมิใช่
กรณปี กติ ให้หัวหน้าส่วนราชการระดบั กรมหรอื ผู้วา่ ราชการจงั หวัด แล้วแตก่ รณี รบี รายงานพฤติการณ์
ให้กระทรวงเจ้าสังกัดทราบโดยด่วน และดาเนินการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้
ในระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยหลักเกณฑ์การปฏิบตั เิ ก่ียวกับความรับผิดทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ที่
ในกรณที ่เี ห็นว่าเปน็ ความผดิ อาญาแผ่นดินให้ฟ้องร้องดาเนินคดแี ก่ผู้กระทาความผิดด้วย

ประกาศ ณ วนั ที่ 19 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖2
อภิศกั ด์ิ ตนั ตวิ รวงศ์

รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการคลัง

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 544

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๑ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

ระเบยี บกระทรวงการคลงั

วา่ ด้วยการจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๐

โดยทีเ่ ปน็ การสมควรมีระเบียบว่าดว้ ยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อกําหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
ใหเ้ หมาะสมสอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญัติการจดั ซ้ือจดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๑ วรรคสอง มาตรา ๑๒ วรรคสอง
มาตรา ๑๕ มาตรา ๒๕ วรรคส่ี มาตรา ๔๓ วรรคสาม มาตรา ๕๖ วรรคสี่ มาตรา ๕๗ มาตรา ๕๘
วรรคสอง มาตรา ๕๙ วรรคสอง มาตรา ๖๐ วรรคสอง มาตรา ๖๑ วรรคสอง มาตรา ๖๒
วรรคสามและวรรคส่ี มาตรา ๖๕ วรรคสามและวรรคหก มาตรา ๖๗ วรรคหน่ึง (๒) มาตรา ๖๘
มาตรา ๗๐ วรรคสาม มาตรา ๗๑ มาตรา ๗๒ มาตรา ๗๔ วรรคสอง มาตรา ๗๖ วรรคสอง
มาตรา ๗๗ มาตรา ๗๘ มาตรา ๘๔ มาตรา ๘๕ มาตรา ๘๖ มาตรา ๘๘ มาตรา ๘๙ วรรคสอง
มาตรา ๙๑ มาตรา ๙๒ มาตรา ๙๙ มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง มาตรา ๑๐๑ วรรคสอง
มาตรา ๑๐๒ วรรคสอง มาตรา ๑๐๓ วรรคหน่ึง (๔) และวรรคสาม มาตรา ๑๐๕ มาตรา ๑๐๖ วรรคส่ี
มาตรา ๑๐๘ มาตรา ๑๐๙ วรรคส่ี มาตรา ๑๑๐ วรรคหนงึ่ (๓) และวรรคสอง และมาตรา ๑๑๓
แห่งพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลงั จงึ วางระเบยี บไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหาร
พัสดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐”

ขอ้ ๒ ระเบยี บนี้ใหใ้ ชบ้ งั คบั ตงั้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปน็ ผู้รกั ษาการตามระเบียบน้ี

หมวด ๑
ขอ้ ความทวั่ ไป

ส่วนท่ี ๑
นิยาม

ขอ้ ๔ ในระเบียบน้ี
“หวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั ” หมายความว่า ผ้ดู าํ รงตาํ แหนง่ ในหนว่ ยงานของรัฐ ดังต่อไปนี้
(๑) ราชการส่วนกลาง หมายถึง อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการท่ีเรียกช่ืออย่างอ่ืนและมีฐานะ
เป็นนิติบคุ คล

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 545

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หน้า ๒ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

(๒) ราชการสว่ นภูมิภาค หมายถงึ ผู้วา่ ราชการจงั หวัด
(๓) ราชการส่วนท้องถ่ิน หมายถึง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี
นายกองค์การบริหารส่วนตําบล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา หรือผู้ดํารงตําแหน่ง
ที่เรียกช่ืออย่างอืน่ ท่มี ฐี านะเทยี บเท่า
(๔) รัฐวิสาหกิจ หมายถึง ผู้ว่าการ ผู้อํานวยการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือผู้ดํารงตําแหน่ง
ทเ่ี รียกชือ่ อย่างอ่นื ทมี่ ีฐานะเทยี บเท่า
(๕) องคก์ ารมหาชน หมายถงึ ผอู้ าํ นวยการ หรือผู้ดํารงตําแหน่งที่เรียกช่ืออย่างอ่ืนที่มีฐานะ
เทียบเท่า
(๖) องค์กรอิสระ หมายถึง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกต้ัง เลขาธิการสํานักงาน
ผู้ตรวจการแผ่นดิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ว่าการ
ตรวจเงินแผ่นดิน เลขาธกิ ารคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ
(๗) องค์กรตามรัฐธรรมนูญ หมายถึง อัยการสูงสุด
(๘) หน่วยธุรการของศาล หมายถึง เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสํานักงาน
ศาลปกครอง เลขาธกิ ารสาํ นักงานศาลรัฐธรรมนูญ
(๙) มหาวิทยาลยั ในกาํ กบั ของรฐั หมายถงึ อธกิ ารบดี
(๑๐) หนว่ ยงานสงั กดั รฐั สภาหรอื ในกํากับของรัฐสภา หมายถึง เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการ
สภาผ้แู ทนราษฎร เลขาธกิ ารสถาบันพระปกเกลา้ เลขาธกิ ารสํานกั งานสภาพัฒนาการเมือง
(๑๑) หน่วยงานอิสระของรัฐ หมายถึง เลขาธิการ หรือผู้ดํารงตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอ่ืน
ทม่ี ฐี านะเทยี บเทา่
(๑๒) หน่วยงานอ่ืนตามที่กําหนดในกฎกระทรวง หมายถึง ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน
ตามกฎหมายจัดต้ังหน่วยงานนน้ั
“หัวหน้าเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าสายงานซึ่งปฏิบัติงานเก่ียวกับ
การจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุตามท่ีกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐ
น้นั กําหนด หรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐให้เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าท่ี
“ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลท่ีเข้าเสนอราคา
หรือเข้ายื่นข้อเสนอในการจัดซ้ือจัดจ้างต่อหน่วยงานของรัฐใด เป็นผู้มีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรง
หรือทางอ้อมในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอ่ืนท่ีเข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อ
หน่วยงานของรฐั นน้ั ในคราวเดยี วกนั
การมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดังกล่าวข้างต้น
ได้แก่ การที่บคุ คลธรรมดาหรือนิติบุคคลดงั กลา่ วมคี วามสมั พันธ์กนั ในลักษณะ ดงั ต่อไปนี้
(๑) มีความสัมพันธ์กันในเชิงบริหาร โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ
ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือของนิติบุคคลรายหนึ่ง
มีอํานาจหรือสามารถใช้อํานาจในการบริหารจัดการกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของนิติบุคคลอีกรายหน่ึง
หรอื หลายราย ท่เี ขา้ เสนอราคาหรอื เข้ายน่ื ข้อเสนอตอ่ หน่วยงานของรัฐนน้ั ในคราวเดยี วกนั

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 546

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๓ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(๒) มีความสัมพันธ์กันในเชิงทุน โดยผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือผู้เป็นหุ้นส่วน
ไม่จํากัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด
เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัด
หรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ท่ีเข้าเสนอราคาหรือเข้าย่ืนข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ
นนั้ ในคราวเดียวกัน

คําว่า “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่” ให้หมายความว่า ผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นเกินกว่าร้อยละย่ีสิบห้า
ในกิจการน้ันหรือในอัตราอื่นตามที่ผู้รักษาการตามระเบียบเห็นสมควรประกาศกําหนดสําหรับกิจการ
บางประเภทหรอื บางขนาด

(๓) มีความสัมพันธ์กันในลักษณะไขว้กันระหว่าง (๑) และ (๒) โดยผู้จัดการ หุ้นส่วน
ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดา
หรือของนิติบุคคลรายหนึ่ง เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ท่ีเข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอ
ต่อหนว่ ยงานของรัฐนัน้ ในคราวเดยี วกนั หรอื ในนยั กลบั กนั

การดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วน หรือการเข้าถือหุ้นดังกล่าวข้างต้นของคู่สมรสหรือบุตร
ที่ยงั ไม่บรรลนุ ิตภิ าวะของบคุ คลใน (๑) (๒) หรือ (๓) ให้ถือว่าเป็นการดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วน
หรือการถอื หนุ้ ของบคุ คลดังกลา่ ว

ในกรณีบุคคลใดใช้ช่ือบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร
ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นโดยท่ีตนเองเป็นผู้ใช้อํานาจในการบริหารท่ีแท้จริง หรือเป็นหุ้นส่วน
หรือผู้ถือหุ้นที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด แล้วแต่กรณี และห้างหุ้นส่วน
หรือบรษิ ทั จาํ กดั หรอื บริษทั มหาชนจาํ กัดทเี่ กย่ี วข้องได้เข้าเสนอราคาหรือเข้าย่ืนข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐนั้น
ในคราวเดียวกนั ใหถ้ ือว่าผู้ยน่ื ขอ้ เสนอน้นั มคี วามสัมพันธก์ นั ตาม (๑) (๒) หรือ (๓) แล้วแตก่ รณี

“การขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม” หมายความว่า การที่ผู้ยื่นข้อเสนอรายหนึ่งหรือหลายราย
กระทําการอย่างใด ๆ อันเป็นการขัดขวาง หรือเป็นอุปสรรค หรือไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขัน
อย่างเป็นธรรมในการเสนอราคาหรือยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะกระทําโดยการสมยอมกัน
หรือโดยการให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อ่ืนใด
หรือใช้กําลังประทุษร้าย หรือข่มขู่ว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือแสดงเอกสารอันเป็นเท็จ หรือส่อว่า
กระทําการทุจริตอ่ืนใดในการเสนอราคา ท้ังนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ท่ีจะแสวงหาประโยชน์ในระหว่าง
ผู้ยื่นข้อเสนอด้วยกัน หรือเพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้ย่ืนข้อเสนอรายหนึ่งรายใดเป็นผู้มีสิทธิทําสัญญา
กับหน่วยงานของรัฐนั้น หรือเพื่อหลีกเล่ียงการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือเพ่ือให้เกิดความได้เปรียบ
หน่วยงานของรฐั โดยมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกจิ ปกติ

“ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ” หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๕๕ คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคาตามข้อ ๗๐ คณะกรรมการซ้ือหรือจ้าง

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 547

เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๔ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

โดยวิธีคัดเลือกตามข้อ ๗๔ คณะกรรมการดําเนินงานจ้างท่ีปรึกษาโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
ตามข้อ ๑๑๔ คณะกรรมการดําเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือกตามข้อ ๑๒๐ คณะกรรมการ
ดําเนินงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปตามข้อ ๑๔๖
คณะกรรมการดําเนินงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีคัดเลือกตามข้อ ๑๔๙ และ
คณะกรรมการดําเนินงานจา้ งออกแบบงานกอ่ สร้างโดยวิธปี ระกวดแบบตามข้อ ๑๕๕

“ระบบข้อมูลสินค้า” (Electronic Catalog : e - catalog) หมายความว่า ข้อมูลรายละเอียด
ของสินค้าที่ผู้ประกอบการได้ลงทะเบียนไว้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic
Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง โดยแสดงรายละเอียดของสินค้า
ภาพสินค้า พร้อมคาํ บรรยายประกอบตามท่ีกรมบญั ชีกลางกําหนด และให้หมายความรวมถึงงานบริการ
หรอื งานจา้ งตามประเภทท่ีกรมบญั ชกี ลางกาํ หนด

สว่ นท่ี ๒
การมสี ว่ นได้เสยี ในเร่อื งที่ประชุมพิจารณา

ข้อ ๕ ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรสงสัยว่าประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการนโยบาย
คณะกรรมการวินิจฉัย คณะกรรมการราคากลาง คณะกรรมการ ค.ป.ท. และคณะกรรมการพิจารณา
อุทธรณม์ สี ่วนได้เสยี โดยตรงหรอื โดยอ้อมในเรื่องซึ่งท่ีประชุมพิจารณาหรือไม่ ให้พิจารณาตามหลักเกณฑ์
ทกี่ ําหนดในกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง

สว่ นที่ ๓
ผู้มีอาํ นาจและการมอบอาํ นาจ

ข้อ ๖ ผู้มีอํานาจดําเนินการตามระเบียบน้ี ได้แก่ ผู้ซ่ึงดํารงตําแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เว้นแต่กระทรวงกลาโหมหรือหน่วยงานของรัฐอ่ืนที่ผู้รักษาการตามระเบียบประกาศกําหนดให้
หน่วยงานของรัฐนั้นสามารถกําหนดหน่วยงานระดับใด ผู้บังคับบัญชาช้ันใด ตําแหน่งใด มีอํานาจดําเนินการ
ตามระเบียบนี้ก็ให้กระทําได้ และเมื่อได้กําหนดเป็นประการใดแล้ว ให้แจ้งผู้รักษาการตามระเบียบ
และสาํ นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบด้วย

ขอ้ ๗ ผู้มีอํานาจดําเนินการตามข้อ ๖ หรือผู้มีอํานาจส่ังซื้อหรือสั่งจ้างตามระเบียบนี้จะมอบ
อํานาจเป็นหนังสือให้แก่ผู้ดํารงตําแหน่งใดก็ได้ซึ่งสังกัดหน่วยงานของรัฐเดียวกัน โดยให้คํานึงถึงระดับ
ตาํ แหนง่ หนา้ ท่ีและความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับมอบอาํ นาจเปน็ สาํ คญั

เม่อื มีการมอบอํานาจตามวรรคหนง่ึ ผรู้ บั มอบอํานาจมีหน้าที่ต้องรบั มอบอาํ นาจนั้นและจะมอบ
อาํ นาจน้นั ให้แก่ผดู้ ํารงตําแหน่งอืน่ ต่อไปไมไ่ ด้ เว้นแต่

(๑) การมอบอาํ นาจใหแ้ กผ่ วู้ า่ ราชการจงั หวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจมอบอํานาจน้ันต่อไปได้ในกรณี
ดงั ตอ่ ไปนี้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 548

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๕ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(ก) กรณีมอบอํานาจให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด
หรอื หวั หน้าส่วนราชการประจาํ จงั หวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งให้ผมู้ อบอํานาจช้ันตน้ ทราบด้วย

(ข) กรณีมอบอํานาจให้แก่บุคคลอื่น นอกจากที่กล่าวใน (ก) จะกระทําได้ต่อเมื่อได้รับ
ความเห็นชอบจากผมู้ อบอํานาจช้นั ต้นแลว้

(๒) การมอบอํานาจและการมอบอํานาจต่อตามระเบียบหรือคําส่ังของกระทรวงกลาโหม
หรอื ของหน่วยงานของรฐั อืน่ ทีร่ ฐั มนตรีประกาศกําหนดตามขอ้ ๖

ในกรณีท่ีมีกฎหมายกําหนดเร่ืองการมอบอํานาจและการมอบอํานาจต่อไว้เป็นการเฉพาะ
ก็ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายว่าด้วยการน้นั

เพ่ือความคล่องตัวในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมอบอํานาจในการสั่งการ
และดําเนินการจดั ซ้ือจัดจา้ ง ให้แกผ่ ดู้ าํ รงตําแหน่งรองลงไปเปน็ ลําดบั

ให้ผ้มู อบอํานาจส่งสําเนาหลักฐานการมอบอาํ นาจให้สาํ นักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบทกุ ครั้ง
ขอ้ ๘ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อประโยชน์ของภาครัฐโดยรวม หน่วยงานของรัฐใด
จะมอบอํานาจให้หน่วยงานของรัฐแห่งอ่ืนดําเนินการจัดซ้ือจัดจ้างแทนก็ให้กระทําได้ โดยให้ผู้มอบอํานาจ
สง่ สาํ เนาหลกั ฐานการมอบอาํ นาจใหส้ ํานกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบด้วย

ส่วนที่ ๔
การดาํ เนนิ การด้วยวิธกี ารทางอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๙ การดําเนินการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุตามระเบียบนี้ด้วยวิธีการ
ทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
ผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP)
ตามวธิ กี ารท่ีกรมบัญชีกลางกําหนด

ให้หน่วยงานของรัฐใช้เอกสารที่จัดพิมพ์จากระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
เป็นเอกสารประกอบการดาํ เนนิ การจดั ซ้อื จัดจา้ งตามวธิ ีการที่กาํ หนดในระเบียบน้ี

ขอ้ ๑๐ ให้กรมบัญชีกลางจัดทําแนวทางปฏิบัติในการดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างผ่านทางระบบ
จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐและผู้ประกอบการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ
ในการดาํ เนนิ การ

ส่วนท่ี ๕
การจดั ทาํ แผนการจัดซ้อื จัดจา้ ง

ขอ้ ๑๑ เม่ือหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณท่ีจะใช้ในการจัดซ้ือจัดจ้าง
จากหน่วยงานที่เก่ียวข้องหรือผู้มีอํานาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับ
มอบหมายในการปฏิบัติงานนั้นจัดทําแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจําปีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เพอ่ื ขอความเห็นชอบ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 549

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๖ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

แผนการจดั ซื้อจดั จา้ งประจาํ ปใี หป้ ระกอบดว้ ยรายการอยา่ งนอ้ ย ดังต่อไปนี้
(๑) ช่ือโครงการทจี่ ะจดั ซอ้ื จดั จ้าง
(๒) วงเงินท่ีจะจดั ซ้อื จดั จ้างโดยประมาณ
(๓) ระยะเวลาท่คี าดวา่ จะจัดซื้อจดั จ้าง
(๔) รายการอื่นตามท่กี รมบัญชีกลางกําหนด
เม่ือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจําปีตามวรรคหนึ่งแล้ว
ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศเผยแพร่แผนดังกล่าวในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
และของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการท่ีกรมบัญชีกลางกําหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย
ณ สถานทป่ี ิดประกาศของหน่วยงานของรัฐน้ัน เว้นแต่กรณีทีบ่ ญั ญัติไว้ตามความในมาตรา ๑๑ วรรคหน่ึง
หากหน่วยงานของรัฐไม่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซ้ือจัดจ้างโครงการใดในระบบเครือข่าย
สารสนเทศของกรมบญั ชกี ลาง จะไม่สามารถดําเนินการจดั ซอ้ื จัดจ้างในโครงการน้ันได้
ขอ้ ๑๒ หลังจากที่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจําปีตามข้อ ๑๑ แล้ว
ให้หน่วยงานของรัฐรีบดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามแผนและข้ันตอนของระเบียบน้ี ในหมวด ๒
หมวด ๓ หรือหมวด ๔ แล้วแต่กรณี เพื่อให้พร้อมท่ีจะทําสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันทีเม่ือได้รับอนุมัติ
ทางการเงนิ แลว้
ข้อ ๑๓ ในกรณีท่ีมีความจําเป็นต้องเปล่ียนแปลงแผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจําปี
ใ ห้ เ จ้ า ห น้ า ที่ ห รื อ ผู้ ท่ี ไ ด้ รั บ ม อ บ ห ม า ย ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น นั้ น จั ด ทํ า ร า ย ง า น พ ร้ อ ม ร ะ บุ เ ห ตุ ผ ล
ที่ขอเปลี่ยนแปลงเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ และเม่ือได้รับความเห็นชอบแล้ว
ใหด้ าํ เนนิ การตามขอ้ ๑๑ วรรคสาม ต่อไป

สว่ นที่ ๖
การตรวจสอบผูม้ ีผลประโยชน์ร่วมกัน

ขอ้ ๑๔ เพ่ือเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ให้ผู้มีหน้าท่ีตรวจสอบ
คุณสมบัติดําเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายว่าเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน
หรือไม่ หากปรากฏว่ามีผู้ย่ืนข้อเสนอเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน ให้ผู้มีหน้าท่ีตรวจสอบคุณสมบัติ
ตัดรายชอื่ ผยู้ ืน่ ข้อเสนอดงั กล่าวทกุ รายออกจากการเป็นผูย้ น่ื ขอ้ เสนอในคร้ังนน้ั

ข้อ ๑๕ ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายตามข้อ ๑๔ ให้เจ้าหน้าที่
กําหนดให้ผู้ยน่ื ข้อเสนอยนื่ เอกสารแสดงคุณสมบตั ิแยกมาต่างหาก โดยอย่างน้อยต้องมีเอกสารดังตอ่ ไปน้ี

(๑) ในกรณีผู้ยน่ื ขอ้ เสนอเป็นนติ บิ ุคคล
(ก) ห้างห้นุ ส่วนสามัญหรือห้างหุ้นสว่ นจาํ กดั ให้ยื่นสาํ เนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน

นิติบคุ คล บญั ชรี ายช่อื หุ้นส่วนผจู้ ดั การ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) พรอ้ มทัง้ รับรองสําเนาถูกตอ้ ง

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 550

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หน้า ๗ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

(ข) บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน
นิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายช่ือกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) และบัญชีรายชื่อ
ผ้ถู อื หนุ้ รายใหญ่ (ถา้ ม)ี พร้อมท้ังรบั รองสําเนาถูกต้อง

(๒) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสําเนา
บัตรประจําตัวประชาชนของผู้นั้น สําเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สําเนาบัตรประจําตัว
ประชาชนของผเู้ ป็นหุน้ สว่ น พร้อมทงั้ รับรองสาํ เนาถูกตอ้ ง

(๓) ในกรณีผู้ย่ืนข้อเสนอเป็นผู้ย่ืนข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสําเนาสัญญา
ของการเข้าร่วมค้า สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีท่ีผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใด
เป็นบุคคลธรรมดาท่ีมิได้ถือสัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสําเนาหนังสือเดินทาง หรือถ้าผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคล
ให้ยื่นเอกสารตามทร่ี ะบไุ ว้ใน (๑)

(๔) เอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐกําหนด เช่น สําเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สําเนาใบทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพิม่

การยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นมาพร้อมกับการยื่นข้อเสนอตามวิธีการ
ทก่ี ําหนดในระเบยี บน้ี

สว่ นท่ี ๗
การจดั ทําบันทกึ รายงานผลการพิจารณา

ขอ้ ๑๖ เม่ือสิ้นสุดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละโครงการ ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มี
การบันทึกรายงานผลการพิจารณา รายละเอียดวิธีการและข้ันตอนการจัดซื้อจัดจ้างพร้อมทั้งเอกสาร
หลกั ฐานประกอบ ตามรายการดังตอ่ ไปนี้

(๑) รายงานขอซ้ือหรือขอจ้างตามความในหมวด ๒ ส่วนท่ี ๒ หมวด ๓ ส่วนท่ี ๒
และหมวด ๔ ส่วนท่ี ๒ แลว้ แต่กรณี

(๒) เอกสารเก่ียวกับการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ของพสั ดุทจ่ี ะซ้ือหรือจา้ ง และผลการพิจารณาในคร้งั น้ัน (ถา้ มี)

(๓) ประกาศและเอกสารเชิญชวน หรอื หนังสือเชญิ ชวน และเอกสารอน่ื ทเ่ี กยี่ วข้อง
(๔) ข้อเสนอของผู้ยนื่ ขอ้ เสนอทกุ ราย
(๕) บันทกึ รายงานผลการพจิ ารณาคดั เลือกขอ้ เสนอ
(๖) ประกาศผลการพิจารณาคดั เลือกผ้ชู นะการจัดซื้อจดั จ้างหรอื ผไู้ ด้รับการคดั เลือก
(๗) สญั ญาหรือขอ้ ตกลงเป็นหนังสอื รวมทง้ั การแก้ไขสญั ญาหรอื ข้อตกลงเป็นหนงั สือ (ถ้าม)ี
(๘) บันทกึ รายงานผลการตรวจรับพสั ดุ
การจัดซ้ือจัดจ้างโครงการใดจะต้องมีเอกสารหลักฐานใดให้เป็นไปตามวิธีการจัดซ้ือจัดจ้างน้ัน
ทั้งนี้ การจัดซ้ือจัดจ้างที่ได้ดําเนินการผ่านระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยงานของรัฐ
สามารถใช้เอกสารท่ีจัดทําในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์เป็นเอกสารประกอบบันทึก
รายงานผลการพิจารณาตามวรรคหนึ่งได้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 551

เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๘ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

หมวด ๒
การซื้อหรือจ้าง

ส่วนที่ ๑
บทท่ัวไป

ขอ้ ๑๗ การดําเนินการในหมวดน้ีไม่ใช้บังคับกับงานจ้างที่ปรึกษาและงานจ้างออกแบบ
หรือควบคมุ งานกอ่ สรา้ ง

ข้อ ๑๘ ในกรณีท่ีมีการซื้อหรือจ้างเพ่ือจัดทําพัสดุเอง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ัง
ผู้ควบคุมรับผิดชอบในการจัดทําเองนั้น และแต่งต้ังคณะกรรมการตรวจการปฏิบัติงานโดยมีคุณสมบัติ
และหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐท่ีกําหนดให้มีผู้รับผิดชอบ
โดยเฉพาะอยูแ่ ล้ว

ขอ้ ๑๙ หน่วยงานของรัฐแห่งใดประสงค์จะซ้ือหรือจ้างให้กับหน่วยงานของรัฐแห่งอ่ืน
ให้กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และรายละเอียดการดําเนินการซื้อหรือจ้าง ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
ประเภทหรือชนิดของพัสดุท่ีต้องการซ้ือหรือจ้าง วิธีการซื้อหรือจ้าง และการทําสัญญาหรือข้อตกลง
เป็นหนังสือเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเพ่ือขอความเห็นชอบ และเม่ือได้รับความเห็นชอบแล้ว
ให้หน่วยงานของรฐั ดําเนนิ การตามวิธกี ารที่กาํ หนดตอ่ ไป

ในกรณีท่ีเห็นสมควร คณะกรรมการนโยบายอาจประกาศกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และรายละเอียดการดาํ เนนิ การซ้ือหรอื จ้างตามวรรคหน่งึ เพ่อื ใหห้ น่วยงานของรัฐปฏิบตั กิ ็ได้

ข้อ ๒๐ การแบง่ ซื้อหรอื แบ่งจ้างโดยลดวงเงนิ ท่ีจะซอ้ื หรือจ้างในคร้ังเดียวกันเพ่ือให้วิธีการซ้ือ
หรอื จ้างหรอื อํานาจในการส่ังซอ้ื ส่ังจา้ งเปลยี่ นแปลงไป จะกระทาํ มไิ ด้

กรณีใดจะเป็นการแบ่งซ้ือหรือแบ่งจ้างให้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการซื้อหรือจ้างคร้ังนั้น
และความคุ้มคา่ ของทางราชการเปน็ สําคญั

ส่วนท่ี ๒
กระบวนการซื้อหรอื จ้าง

การจัดทําร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการ
งานก่อสรา้ ง

ขอ้ ๒๑ ในการซื้อหรือจ้างท่ีมิใช่การจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ัง
คณะกรรมการข้ึนมาคณะหน่ึง หรือจะให้เจ้าหน้าท่ีหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบในการจัดทํา
ร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง รวมท้ังกําหนด
หลักเกณฑก์ ารพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอดว้ ย

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 552

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หน้า ๙ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

เพือ่ ให้การกาํ หนดรายละเอยี ดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีจะซือ้ หรอื จ้างมีมาตรฐาน และเป็น
ประโยชน์ต่อทางราชการ หากพัสดุท่ีจะซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกําหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว
ให้กําหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซ้ือหรือจ้าง หรือรายการในการก่อสร้าง
ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือเพื่อความสะดวกจะระบุเฉพาะหมายเลขมาตรฐานก็ได้
หรือในกรณีพัสดุท่ีจะซ้ือหรือจ้างใดยังไม่มีประกาศกําหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มีผู้ได้รับ
การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ไว้กับกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว ให้กําหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ของพัสดุท่ีจะซ้ือหรือจ้างหรือรายการในการก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ตามที่ระบใุ นค่มู ือผ้ซู อ้ื หรอื ใบแทรกค่มู ือผูซ้ ้ือที่กระทรวงอุตสาหกรรมจดั ทาํ ขนึ้

ในการจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง
หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหน่ึงจัดทําแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือจะดําเนินการจ้าง
ตามความในหมวด ๔ งานจา้ งออกแบบหรอื ควบคมุ งานก่อสรา้ งกไ็ ด้

องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหน่ึง
และวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่หวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั กาํ หนดตามความจําเปน็ และเหมาะสม
รายงานขอซือ้ หรือขอจา้ ง

ขอ้ ๒๒ ในการซ้ือหรือจ้างแต่ละวิธี นอกจากการซื้อท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างตามข้อ ๒๓
และข้อ ๗๙ วรรคสอง ให้เจ้าหน้าที่จัดทํารายงานขอซื้อหรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหนา้ ที่ ตามรายการดงั ต่อไปนี้

(๑) เหตุผลและความจําเปน็ ท่ีตอ้ งซอ้ื หรอื จา้ ง
(๒) ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการ
งานกอ่ สร้างท่ีจะซอ้ื หรอื จา้ ง แลว้ แต่กรณี
(๓) ราคากลางของพสั ดทุ ีจ่ ะซ้อื หรอื จ้าง
(๔) วงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงิน
ท่ปี ระมาณว่าจะซ้ือหรอื จ้างในครัง้ นั้น
(๕) กาํ หนดเวลาทต่ี ้องการใช้พสั ดนุ น้ั หรือให้งานนนั้ แลว้ เสรจ็
(๖) วิธที ่จี ะซอ้ื หรอื จา้ งและเหตุผลท่ตี ้องซอ้ื หรือจ้างโดยวธิ นี น้ั
(๗) หลักเกณฑ์การพจิ ารณาคดั เลอื กขอ้ เสนอ
(๘) ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งต้ังคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จําเป็นในการซื้อ
หรอื จา้ ง การออกประกาศและเอกสารเชิญชวน และหนังสือเชญิ ชวน
การซ้ือหรือจ้างกรณีจําเป็นเร่งด่วนอันเน่ืองมาจากเกิดเหตุการณ์ท่ีไม่อาจคาดหมายได้
ตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๑) (ค) หรือกรณีมีความจําเป็นต้องใช้พัสดุน้ันโดยฉุกเฉิน มาตรา ๕๖
วรรคหน่ึง (๒) (ง) หรือกรณีการซื้อหรือจ้างท่ีมีวงเงินเล็กน้อยตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวงที่ออก
ตามความในมาตรา ๙๖ วรรคสอง ซึ่งไม่อาจทํารายงานตามปกติได้ เจ้าหน้าที่หรือผู้ท่ีรับผิดชอบ
ในการปฏบิ ตั งิ านน้ันจะทํารายงานตามวรรคหน่งึ เฉพาะรายการทเ่ี หน็ ว่าจาํ เปน็ ก็ได้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 553

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๑๐ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ ๒๓ ในการซ้ือที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้เจ้าหน้าที่จัดทํารายงานเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
โดยเสนอผ่านหัวหนา้ เจา้ หน้าท่ี ตามรายการดังตอ่ ไปน้ี

(๑) เหตุผลและความจาํ เป็นที่ต้องซ้อื
(๒) รายละเอียดของท่ีดนิ หรอื สิง่ ปลูกสร้างที่ตอ้ งการซือ้ รวมทง้ั เนอ้ื ท่ีและท้องท่ที ่ตี อ้ งการ
(๓) ราคาประเมนิ ของทางราชการในทอ้ งท่นี ัน้
(๔) ราคาซ้ือขายของที่ดินหรอื ส่งิ ปลกู สรา้ งใกล้เคียงบริเวณที่จะซ้อื ครั้งหลังสุดประมาณ ๓ ราย
(๕) วงเงินที่จะซ้ือ โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงิน
ทีป่ ระมาณว่าจะซือ้ ในครัง้ นั้น
(๖) วิธีทจ่ี ะซื้อและเหตผุ ลท่ีต้องซอื้ โดยวธิ นี นั้
(๗) ขอ้ เสนออื่น ๆ เช่น การขออนมุ ตั แิ ตง่ ต้ังคณะกรรมการตา่ ง ๆ ท่ีจาํ เปน็ ในการซอ้ื
ข้อ ๒๔ เม่ือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบตามรายงานที่เสนอตามข้อ ๒๒
หรือข้อ ๒๓ แลว้ ให้เจา้ หนา้ ทดี่ าํ เนนิ การตามวธิ ีซื้อหรือจา้ งนน้ั ต่อไปได้

คณะกรรมการซ้อื หรอื จา้ ง
ข้อ ๒๕ ในการดําเนินการซ้ือหรือจ้างแต่ละครั้ง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ัง

คณะกรรมการซื้อหรือจ้างขึ้น เพ่ือปฏิบัติการตามระเบียบน้ี พร้อมกับกําหนดระยะเวลาในการพิจารณา
ของคณะกรรมการ แล้วแตก่ รณี คือ

(๑) คณะกรรมการพจิ ารณาผลการประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกส์
(๒) คณะกรรมการพจิ ารณาผลการสอบราคา
(๓) คณะกรรมการซอ้ื หรือจ้างโดยวธิ คี ัดเลือก
(๔) คณะกรรมการซอ้ื หรือจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
(๕) คณะกรรมการตรวจรบั พัสดุ
ให้คณะกรรมการซ้ือหรือจ้างแต่ละคณะ รายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ภายในระยะเวลาที่กําหนด ถ้ามีเหตุที่ทําให้การรายงานล่าช้า ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณา
ขยายเวลาให้ตามความจําเป็น
ขอ้ ๒๖ คณะกรรมการซื้อหรือจ้างตามข้อ ๒๕ แต่ละคณะประกอบด้วย ประธานกรรมการ
๑ คน และกรรมการอย่างน้อย ๒ คน ซ่ึงแต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจํา พนักงานราชการ
พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอ่ืน โดยให้
คํานึงถึงลกั ษณะหนา้ ทแี่ ละความรบั ผิดชอบของผทู้ ่ีไดร้ ับแตง่ ต้ังเป็นสาํ คัญ
ในกรณีจําเป็นหรือเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐจะแต่งต้ังบุคคลอื่นร่วมเป็นกรรมการด้วยก็ได้
แตจ่ ํานวนกรรมการทีเ่ ปน็ บคุ คลอื่นนน้ั จะตอ้ งไม่มากกว่าจํานวนกรรมการตามวรรคหนึ่ง

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 554

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๑๑ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

ในการซ้ือหรือจ้างครั้งเดียวกัน ห้ามแต่งต้ังผู้ท่ีเป็นกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ กรรมการพิจารณาผลการสอบราคา หรือกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก
เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ

คณะกรรมการซื้อหรือจ้างทุกคณะ ควรแต่งตั้งผู้ชํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเก่ียวกับงานซ้ือ
หรอื จ้างนนั้ ๆ เข้ารว่ มเป็นกรรมการด้วย

ขอ้ ๒๗ การประชุมของคณะกรรมการแต่ละคณะ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่า
ก่ึงหนง่ึ ของจํานวนกรรมการท้ังหมด ให้ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีเสียงหนึ่งในการลงมติ
โดยประธานกรรมการต้องอยู่ด้วยทุกครั้งในการประชุม หากประธานกรรมการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่
ได้ให้หัวหน้าหน่วยงานของรฐั แตง่ ตงั้ ประธานกรรมการคนใหมเ่ ปน็ ประธานกรรมการแทน

มติของคณะกรรมการให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการออกเสียง
เพมิ่ ขนึ้ อีกเสยี งหนง่ึ เป็นเสยี งชีข้ าด เว้นแต่คณะกรรมการตรวจรบั พัสดุใหถ้ ือมตเิ อกฉนั ท์

กรรมการของคณะใดไมเ่ ห็นด้วยกบั มติของคณะกรรมการ ใหท้ ําบันทกึ ความเหน็ แยง้ ไว้ดว้ ย
ประธานกรรมการและกรรมการ จะต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ย่ืนข้อเสนอหรือคู่สัญญา
ในการซ้ือหรือจ้างครั้งนั้น ทั้งนี้ การมีส่วนได้เสียในเร่ืองซึ่งที่ประชุมพิจารณาของประธานกรรมการ
และกรรมการใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายว่าดว้ ยวธิ ปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง
หากประธานหรอื กรรมการทราบวา่ ตนเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาในการซื้อ
หรือจ้างครั้งนั้น ให้ประธานหรือกรรมการผู้นั้นลาออกจากการเป็นประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการ
ท่ตี นได้รับการแตง่ ต้ังนน้ั และให้รายงานหวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ทราบเพือ่ สั่งการตามทเ่ี หน็ สมควรต่อไป

วธิ ีการซื้อหรอื จ้าง
ขอ้ ๒๘ การซ้ือหรอื จา้ ง กระทาํ ได้ ๓ วธิ ี ดังน้ี
(๑) วิธีประกาศเชิญชวนท่วั ไป
(๒) วธิ คี ัดเลอื ก
(๓) วิธเี ฉพาะเจาะจง

วิธปี ระกาศเชิญชวนทั่วไป
ข้อ ๒๙ การซอื้ หรอื จา้ งโดยวธิ ีประกาศเชญิ ชวนท่ัวไป กระทําได้ ๓ วิธี ดังนี้
(๑) วิธตี ลาดอิเล็กทรอนกิ ส์
(๒) วิธีประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ ส์
(๓) วิธีสอบราคา
ขอ้ ๓๐ วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e - market) คือ การซ้ือหรือจ้างท่ีมีรายละเอียดคุณลักษณะ

เฉพาะของพัสดุท่ีไม่ซับซ้อนหรือเป็นสินค้าหรืองานบริการที่มีมาตรฐาน และได้กําหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า
(e - catalog) โดยให้ดําเนินการในระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market : e - market)
ตามวธิ กี ารทก่ี รมบญั ชีกลางกําหนด ซ่ึงสามารถกระทาํ ได้ ๒ ลกั ษณะ ดงั น้ี

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 555

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หน้า ๑๒ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(๑) การเสนอราคาโดยใบเสนอราคา คือ การซ้ือหรือจ้างคร้ังหน่ึง ซ่ึงมีวงเงินเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
แต่ไมเ่ กิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท

(๒) การเสนอราคาโดยการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ คือ การซ้ือหรือจ้างคร้ังหน่ึง ซ่ึงมีวงเงินเกิน
๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท

ข้อ ๓๑ วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - bidding) คือ การซ้ือหรือจ้างคร้ังหนึ่ง
ซ่ึงมีวงเงินเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท และเป็นสินค้าหรืองานบริการที่ไม่ได้กําหนดรายละเอียดคุณลักษณะ
เฉพาะของพัสดุไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e - catalog) โดยให้ดําเนินการในระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Bidding : e - bidding) ตามวธิ กี ารท่กี รมบญั ชีกลางกําหนด

ขอ้ ๓๒ วิธีสอบราคา คือ การซื้อหรือจ้างครั้งหน่ึง ซ่ึงมีวงเงินเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
แต่ไม่เกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้กระทําได้ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐน้ันต้ังอยู่ในพ้ืนที่ที่มีข้อจํากัด
ในการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ทําให้ไม่สามารถดําเนินการผ่านระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบ
ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ระบุเหตุผลความจําเป็นที่ไม่อาจดําเนินการซ้ือหรือจ้าง
ด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ไว้ในรายงานขอซื้อหรือขอจ้าง
ตามขอ้ ๒๒ ด้วย

ขอ้ ๓๓ รัฐวิสาหกิจใดมีความจําเป็นจะกําหนดวงเงินการซ้ือหรือจ้างตามข้อ ๓๐ ข้อ ๓๑
หรือข้อ ๓๒ แตกต่างไปจากท่ีกําหนดไว้ในระเบียบน้ี ให้เสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเพื่อขอความเห็นชอบ
และเมอ่ื ได้รับความเห็นชอบแลว้ ใหร้ ายงานสาํ นักงานการตรวจเงินแผ่นดนิ ทราบด้วย

วิธตี ลาดอิเล็กทรอนิกส์
ขอ้ ๓๔ ใหเ้ จา้ หน้าท่ีจดั ทําเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์พร้อมประกาศเชิญชวน

ตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด
การจัดทําเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหน่ึง ถ้าจําเป็นต้องมีข้อความ

หรือรายการแตกต่างไปจากแบบที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด โดยมีสาระสําคัญตามที่กําหนดไว้ในแบบ
และไม่ทําให้หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ให้กระทําได้ เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะมีปัญหา
ในทางเสียเปรียบหรือไม่รัดกุมพอ ก็ให้ส่งร่างเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนดังกล่าวไปให้สํานักงาน
อยั การสูงสดุ ตรวจพิจารณากอ่ น

การกําหนดวัน เวลาการเสนอราคาในเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหนึ่ง
ให้กําหนดเป็นวันถัดจากวันสุดท้ายของระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้าง
โดยกําหนดเป็นวัน เวลา ทําการเท่านั้น และเวลาในการเสนอราคาให้ถือตามเวลาของระบบจัดซื้อจัดจ้าง
ภาครฐั ด้วยอเิ ล็กทรอนกิ ส์เป็นเกณฑ์

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 556

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๑๓ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

ข้อ ๓๕ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซื้อหรือขอจ้างตามข้อ ๒๒
แล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในระบบ
เครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๓ วันทําการ
และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนน้ั

ข้อ ๓๖ ให้กรมบัญชีกลางจัดส่งประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ไปยังผู้ประกอบการท่ีได้ลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงได้นํารายละเอียด
ของพัสดุลงในระบบข้อมูลสินค้าตรงตามประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ของหนว่ ยงานของรัฐ และจัดสง่ ใหส้ ํานักงานการตรวจเงินแผ่นดนิ ผา่ นทางระบบอิเล็กทรอนิกส์

ในกรณีที่ผู้ประกอบการรายใดมีคุณสมบัติตรงตามประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้างดังกล่าว
และยังไม่ได้ลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หากประสงค์จะเข้าร่วม
เสนอราคาในคร้ังนั้น จะต้องลงทะเบียนในระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์และจะต้อง
นาํ รายละเอยี ดของพัสดลุ งในระบบข้อมลู สนิ ค้าก่อนการเสนอราคา

ขอ้ ๓๗ เม่ือถงึ กาํ หนดวนั เสนอราคาด้วยวธิ ตี ลาดอเิ ล็กทรอนิกส์ ใหด้ าํ เนินการดังนี้
(๑) กรณีเป็นการซื้อหรือจ้าง ตามข้อ ๓๐ (๑) ให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
และใหเ้ สนอราคาภายในเวลาทกี่ ําหนด โดยสามารถเสนอราคาได้เพียงครงั้ เดยี ว
(๒) กรณีเป็นการซ้ือหรือจ้าง ตามข้อ ๓๐ (๒) ให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
โดยต้องลงทะเบียนก่อนเร่ิมกระบวนการเสนอราคา ภายในเวลา ๑๕ นาที พร้อมท้ังให้ทําการทดสอบระบบ
เป็นเวลา ๑๕ นาที และให้เสนอราคาภายในเวลา ๓๐ นาที โดยจะเสนอราคากีค่ ร้งั ก็ได้
กําหนดวันเสนอราคาตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ร่นหรือเลื่อน หรือเปลี่ยนแปลงกําหนดวันเสนอราคา
เว้นแต่เป็นกรณีที่กรมบัญชีกลางแจ้งเลื่อนกําหนดวัน เวลาการเสนอราคา เนื่องจากมีปัญหาข้อขัดข้อง
เก่ียวกับการเสนอราคาผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ และเม่ือได้ดําเนินการ
เป็นประการใดแลว้ ให้กรมบัญชีกลางรายงานคณะกรรมการวนิ ิจฉัยทราบดว้ ย
ขอ้ ๓๘ เมื่อส้ินสุดการเสนอราคาตามข้อ ๓๗ แล้ว หากปรากฏว่ามีผู้เสนอราคาต่ําสุด
เท่ากันหลายราย ให้เจ้าหน้าท่ีพิจารณาราคาตํ่าสุดของผู้ท่ีเสนอราคาเข้าสู่ระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ในลําดบั แรกเปน็ ผชู้ นะการเสนอราคาในคร้งั นั้น
ในกรณีท่ีมีผู้เข้าเสนอราคาเพียงรายเดียว หากเห็นว่าราคาท่ีเสนอมีความเหมาะสมและเป็น
ประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ ให้เจ้าหน้าที่เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ี
เพอื่ พิจารณารบั ราคาของผเู้ สนอราคารายนัน้ ได้
ถ้าไม่มีผู้เข้าเสนอราคา ให้เจ้าหน้าท่ีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่
เพ่ือพิจารณายกเลิกการซ้ือหรือจ้างในคร้ังนั้นและดําเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ใหม่
หรอื จะดําเนินการซ้อื หรือจ้างโดยวธิ ีคดั เลอื กตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๑) (ก) หรือวิธีเฉพาะเจาะจง
ตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๒) (ก) แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดําเนินการซ้ือ
หรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอ่ืน ให้เริ่มกระบวนการซ้ือหรือจ้างใหม่โดยการ
จัดทาํ รายงานขอซ้ือหรอื ขอจา้ งตามขอ้ ๒๒

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 557

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๑๔ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๓๙ ในกรณีที่ปรากฏว่าราคาของผู้เสนอราคารายตํ่าสุดท่ีชนะการเสนอราคายังสูงกว่า
วงเงนิ ทีจ่ ะซอื้ หรือจา้ งตามขอ้ ๒๒ ให้เจ้าหน้าทด่ี ําเนนิ การ ดังนี้

(๑) ต่อรองราคากับผู้เสนอราคารายดังกล่าวผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้ตํ่าสุดเท่าท่ี
จะทําได้ หากผู้เสนอราคารายนั้นยอมลดราคาและยื่นใบเสนอราคาผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
แล้ว หากราคาที่เสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ไม่เกินร้อยละสิบของวงเงิน
ที่จะซ้ือหรือจ้าง หรือต่อรองแล้วไม่ยอมลดราคาอีก แต่ส่วนที่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้างน้ันไม่เกิน
ร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซ้ือหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมก็ให้เสนอซื้อหรือจ้าง
จากผเู้ สนอราคารายนนั้

(๒) ถ้าดําเนินการตาม (๑) แล้วไม่ได้ผล ให้แจ้งผู้เสนอราคาท่ีเสนอราคาถูกต้องตรงตาม
เง่ือนไขท่ีกําหนดไว้ในเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ทุกรายผ่านทางระบบตลาด
อเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ พอ่ื ใหเ้ สนอราคาใหม่พร้อมกัน โดยให้ยื่นใบเสนอราคาผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ภายในเวลาที่หน่วยงานของรัฐกําหนด หากผู้เสนอราคารายใดไม่ย่ืนใบเสนอราคาใหม่ ให้ถือว่าผู้เสนอราคา
รายน้ันยืนราคาตามท่ีเสนอไว้เดิม หากปรากฏว่าผู้เสนอราคาตํ่าสุดในการเสนอราคาคร้ังใหม่เสนอราคา
ไม่สูงกว่าวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซื้อ
หรอื จ้าง ถ้าเห็นวา่ ราคาดงั กล่าวเปน็ ราคาทีเ่ หมาะสมก็ให้เสนอซอื้ หรือจา้ งจากผู้เสนอราคารายนั้น

(๓) ถ้าดําเนินการตาม (๒) แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า
เจ้าหน้าท่ีเพ่ือพิจารณายกเลิกการซ้ือหรือจ้างในคร้ังน้ัน ทั้งนี้ การดําเนินการซื้อหรือจ้างคร้ังใหม่ให้นําความ
ในข้อ ๓๘ วรรคสาม มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม

ขอ้ ๔๐ ภายหลังจากท่ีได้ผู้ชนะการเสนอราคาตามข้อ ๓๘ หรือข้อ ๓๙ แล้ว ให้เจ้าหน้าที่
จัดพิมพ์ใบเสนอราคาและเอกสารการเสนอราคาของผู้เสนอราคารายนั้นจากระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
จาํ นวน ๑ ชดุ และลงลายมือช่ือกาํ กบั ไว้ในใบเสนอราคาและเอกสารการเสนอราคาทุกแผน่

ในกรณีท่ีผู้เสนอราคาตามวรรคหน่ึง เสนอราคาผิดเง่ือนไขตามที่กําหนดไว้ในเอกสารซ้ือ
หรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือเสนอแค็ตตาล็อก (catalog) หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ของพสั ดุไม่ถกู ตอ้ งตรงตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่า
ผู้เสนอราคารายน้ันไม่ผ่านคุณสมบัติตามเงื่อนไขท่ีกําหนดไว้ในเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ให้เจ้าหน้าท่ีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณายกเลิกการซื้อหรือจ้าง
ในคร้ังน้ัน หรือพิจารณาผู้ท่ีเสนอราคาตํ่าในลําดับถัดไปเป็นผู้ชนะการเสนอราคาก็ได้ ท้ังน้ี ให้คํานึงถึง
ความเหมาะสมและประโยชนข์ องหน่วยงานของรฐั เป็นสําคัญ

ขอ้ ๔๑ ให้เจ้าหน้าที่รายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง
ท้ังหมดตอ่ หวั หนา้ หน่วยงานของรัฐผา่ นหวั หนา้ เจ้าหนา้ ท่ีเพื่อพจิ ารณาให้ความเห็นชอบ

ข้อ ๔๒ เมื่อหัวหนา้ หน่วยงานของรัฐให้ความเหน็ ชอบรายงานผลการพิจารณาและผู้มีอํานาจ
อนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้างแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศผลผู้ชนะการซ้ือหรือจ้างในระบบเครือข่าย

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 558

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๑๕ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

สารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกําหนด และให้
ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐน้ัน และแจ้งให้ผู้เสนอราคา
ทกุ รายทราบผา่ นทางจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e - mail) ตามแบบทีก่ รมบัญชีกลางกาํ หนด

วธิ ปี ระกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนิกส์
ขอ้ ๔๓ ให้เจ้าหน้าที่จัดทําเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์

พร้อมประกาศเชญิ ชวน ตามแบบท่ีคณะกรรมการนโยบายกําหนด
การจัดทําเอกสารซ้ือหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหน่ึง ถ้าจําเป็นต้องมีข้อความ

หรือรายการแตกต่างไปจากแบบที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด โดยมีสาระสําคัญตามท่ีกําหนดไว้ใน
แบบและไม่ทําให้หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ให้กระทําได้ เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่า
จะมีปัญหาในทางเสียเปรียบหรือไม่รัดกุมพอ ก็ให้ส่งร่างเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนดังกล่าว
ไปใหส้ าํ นกั งานอัยการสงู สุดตรวจพิจารณากอ่ น

การกําหนดวัน เวลาการเสนอราคาในเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหน่ึง
ให้กําหนดเป็นวันถัดจากวันสุดท้ายของระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้าง
โดยกําหนดเป็นวัน เวลา ทําการเท่าน้ัน และเวลาในการเสนอราคาให้ถือตามเวลาของระบบจัดซ้ือจัดจ้าง
ภาครฐั ด้วยอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ปน็ เกณฑ์

ขอ้ ๔๔ การซ้ือหรือจ้างพัสดุใดที่มีความจําเป็นโดยสภาพของการซ้ือหรือจ้างจะต้องกําหนด
เงื่อนไขไว้ในเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ยื่นข้อเสนอนําตัวอย่างพัสดุ
ท่ีเสนอมาแสดงเพ่ือทดลอง หรือทดสอบ หรือนําเสนองาน ให้หน่วยงานของรัฐกําหนดให้ผู้ย่ืนข้อเสนอ
นําตัวอยา่ งพสั ดนุ ั้นมาแสดงเพ่ือทดลอง หรือทดสอบ หรือนําเสนองาน ตามวัน และเวลา ณ สถานท่ี
ทห่ี นว่ ยงานของรฐั กําหนด

กรณีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์คร้ังใดที่กําหนดให้ต้องมีเอกสารในส่วนที่เป็นสาระสําคัญ
ประกอบการยื่นข้อเสนอของผู้ย่ืนข้อเสนอที่ยื่นผ่านทางระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
หากหนว่ ยงานของรัฐเห็นวา่ เอกสารดังกลา่ วมปี ริมาณมากและเปน็ อปุ สรรคของผู้ยื่นข้อเสนอในการนําเข้า
ระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หน่วยงานของรัฐกําหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอนําเอกสารน้ันพร้อมสรุป
จํานวนเอกสารดังกล่าวมาส่ง ณ ท่ีทําการของหน่วยงานของรัฐในภายหลัง โดยให้ลงลายมือช่ือ
ของผูย้ น่ื ขอ้ เสนอ พรอ้ มประทับตราสําคัญของนิตบิ คุ คล (ถ้ามี) กาํ กับในเอกสารนน้ั ดว้ ย

การกําหนดวันให้ผู้ยื่นข้อเสนอนําตัวอย่างพัสดุที่เสนอมาแสดงเพ่ือทดลอง หรือทดสอบ
หรือนําเสนองานตามวรรคหน่งึ หรือนาํ เอกสารหรอื รายละเอียดมาส่งตามวรรคสอง ให้หน่วยงานของรัฐ
กําหนดเป็นวันใดวันหน่ึงภายใน ๕ วันทําการ นับถัดจากวันเสนอราคา เว้นแต่การดําเนินการ
ตามวรรคหนึ่งที่ไม่อาจดําเนินการวันใดวันหน่ึงได้ ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณากําหนดมากกว่า ๑ วันได้
แต่จํานวนวันดังกล่าวต้องไม่เกิน ๕ วันทําการ นับถัดจากวันเสนอราคา ท้ังน้ี ให้ระบุไว้เป็นเงื่อนไข
ในเอกสารซือ้ หรือจา้ งด้วยวธิ ปี ระกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ สใ์ หช้ ดั เจน

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 559

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๑๖ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ ๔๕ เม่ือผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบตามข้อ ๒๑ ได้จัดทําร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียด
คุณลักษณะของพัสดุท่ีจะซ้ือหรือจ้างแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทํารายงานขอซื้อหรือขอจ้างตามข้อ ๒๒
พร้อมนําร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างเสนอหัวหน้า
หน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่าเพ่ือให้การกําหนดขอบเขต
ของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีจะซื้อหรือจ้างเป็นไปด้วยความรอบคอบ
เหมาะสม เป็นประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐ และไม่มีการกําหนดเง่ือนไขที่เป็นการขัดขวางการแข่งขัน
ราคาอยา่ งเป็นธรรม อาจจดั ให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะ
ของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างพร้อมกับร่างประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคา
อิเลก็ ทรอนิกสจ์ ากผู้ประกอบการกอ่ นก็ได้ ทั้งนี้ โดยมีหลักเกณฑด์ งั น้ี

(๑) การซื้อหรือจ้างคร้ังหน่ึง ซ่ึงมีวงเงินเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐท่ีจะให้มีการเผยแพร่เพ่ือรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ
หรือไม่กไ็ ด้

(๒) การซื้อหรือจ้างคร้ังหน่ึง ซ่ึงมีวงเงินเกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้หน่วยงานของรัฐ
นําร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่เพ่ือรับฟัง
ความคดิ เห็นจากผู้ประกอบการ

รัฐวิสาหกิจใดมีความจําเป็นจะกําหนดวงเงินตามวรรคหน่ึง แตกต่างไปจากที่กําหนดไว้ใน
ระเบียบน้ี ให้เสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเพื่อขอความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วให้
รายงานสํานักงานการตรวจเงินแผน่ ดินทราบดว้ ย

ข้อ ๔๖ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐนําร่างประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธี
ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการตามข้อ ๔๕ ให้หัวหน้า
เจ้าหน้าท่ีดําเนินการนําร่างเอกสารดังกล่าวเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
และของหน่วยงานของรัฐ เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๓ วันทําการ เพ่ือให้ผู้ประกอบการมีความคิดเห็น
ไปยงั หนว่ ยงานของรฐั ท่ีจัดซ้อื จดั จา้ งโดยตรง โดยเปิดเผยตวั

ข้อ ๔๗ กรณีท่ีมีผู้มีความคิดเห็น ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ร่วมกับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจัดทํา
ร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีจะซ้ือหรือจ้างตามข้อ ๒๑ พิจารณาว่า
สมควรดําเนินการปรับปรงุ แก้ไขหรือไม่ โดยให้ดาํ เนนิ การ ดังน้ี

(๑) กรณีพิจารณาแล้วเห็นว่า ควรปรับปรุงร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธี
ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีจัดทํารายงานพร้อมความเห็นและร่างประกาศและ
ร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ท่ีได้ปรับปรุงแล้ว เสนอหัวหน้าหน่วยงาน
ของรัฐเพ่อื ขอความเห็นชอบ เม่ือได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้นําร่างประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้าง
ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
และของหน่วยงานของรัฐอีกคร้ังหน่ึง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๓ วันทําการ และให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ี
แจง้ ผมู้ คี วามคิดเหน็ ทกุ รายทราบเป็นหนังสอื

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 560

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๑๗ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

(๒) กรณีพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ควรปรับปรุงร่างประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธี
ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่จัดทํารายงานพร้อมความเห็นเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เพ่ือขอความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่แจ้งผู้มีความคิดเห็นทุกราย
ทราบเปน็ หนงั สือ

ขอ้ ๔๘ ภายหลังจากท่ีหน่วยงานของรัฐได้ดําเนินการตามข้อ ๔๕ หรือข้อ ๔๖ และข้อ ๔๗
แล้วแต่กรณี เสร็จส้ินแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีดําเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้าง
ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ
ภายในระยะเวลาที่กําหนด

ข้อ ๔๙ การให้หรือการขายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวกับ
คุณลักษณะเฉพาะหรือรายละเอียดให้กระทําไปพร้อมกันกับการเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเข้ายื่นข้อเสนอสามารถขอรับหรือขอซื้อเอกสาร
ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ได้ต้ังแต่วันเร่ิมต้นจนถึงวันสุดท้ายของการเผยแพร่ประกาศและเอกสาร
ประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์

ในกรณที ี่มกี ารขาย ให้กําหนดราคาพอสมควรกับค่าใช้จ่ายที่หน่วยงานของรัฐต้องเสียไปในการ
จัดทําเอกสารนั้น แต่ไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนอ่ืนที่หน่วยงานของรัฐได้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ
เพือ่ ดําเนนิ การดงั กลา่ วแลว้ เชน่ ค่าใช้จ่ายในการจา้ งสํารวจออกแบบ หรือค่าจา้ งที่ปรึกษา

ถา้ มีการยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งน้ัน และมีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่
ให้ผู้รับหรือผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งก่อนมีสิทธิขอรับเอกสาร
ประกวดราคาใหม่ โดยไม่ตอ้ งเสียค่าซื้อเอกสารประกวดราคาอีก

ขอ้ ๕๐ ให้กรมบัญชีกลางจัดส่งประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคา
อเิ ล็กทรอนกิ สข์ องหนว่ ยงานของรฐั ให้สาํ นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดินผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๕๑ การเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ตามข้อ ๔๘ ให้คํานึงถึงระยะเวลาในการให้ผู้ประกอบการเตรียมการจัดทําเอกสารเพื่อยื่นข้อเสนอด้วย
โดยมเี งื่อนไข ดังนี้

(๑) การซื้อหรือจ้างคร้ังหนึ่ง ซ่ึงมีวงเงินเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ใหก้ ําหนดไม่นอ้ ยกว่า ๕ วนั ทาํ การ

(๒) การซ้อื หรอื จา้ งครง้ั หนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ให้กาํ หนดไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐ วันทาํ การ

(๓) การซ้ือหรือจ้างคร้ังหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ใหก้ าํ หนดไมน่ อ้ ยกว่า ๑๒ วันทําการ

(๔) การซ้ือหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป ให้กําหนดไม่น้อยกว่า
๒๐ วนั ทาํ การ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 561

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๑๘ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

รัฐวิสาหกิจใดมีความจําเป็นจะกําหนดวงเงินและระยะเวลาในการเผยแพร่ตามวรรคหน่ึง
แตกต่างไปจากท่ีกําหนดไว้ในระเบียบน้ี ให้เสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเพื่อขอความเห็นชอบ
และเมื่อได้รบั ความเหน็ ชอบแล้วให้รายงานสาํ นักงานการตรวจเงนิ แผ่นดนิ ทราบดว้ ย

ข้อ ๕๒ ในกรณีท่ีโดยสภาพของการซื้อหรือการจ้างน้ันมีความจําเป็นจะต้องมีการสอบถาม
รายละเอียดเพ่ือให้เกิดความชัดเจน ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่จะกําหนดให้
ผู้ประกอบการที่สนใจต้องการทราบรายละเอียดเพ่ิมเติม สอบถามผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
(e-mail) ของหน่วยงานของรัฐหรือช่องทางอ่ืนตามท่ีกรมบัญชีกลางกําหนด โดยให้กําหนดระยะเวลา
ตามความเหมาะสม และให้หน่วยงานของรัฐช้ีแจงรายละเอียดดังกล่าวในระบบเครือข่ายสารสนเทศ
ของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรฐั ก่อนถึงกาํ หนดวันเสนอราคา ไม่นอ้ ยกว่า ๓ วันทาํ การ

ขอ้ ๕๓ การเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกส์ครั้งใด หากหน่วยงาน
ของรัฐไดก้ าํ หนดรายละเอยี ดของประกาศหรอื เอกสารประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรือขอบเขตของงาน
หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีจะซื้อหรือจ้างไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนในส่วนที่เป็น
สาระสําคัญไม่ว่าท้ังหมดหรือแต่บางส่วน ให้หน่วยงานของรัฐยกเลิกการดําเนินการซื้อหรือจ้างในคร้ังนั้น
แล้วดําเนนิ การใหมใ่ ห้ถูกต้องตอ่ ไป

ข้อ ๕๔ เมื่อถึงกําหนดวันเสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ประกอบการ

เขา้ สรู่ ะบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และให้เสนอราคาภายในเวลาที่กําหนด โดยสามารถเสนอราคา

ไดเ้ พยี งครัง้ เดยี ว

กําหนดวันเสนอราคาตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ร่นหรือเล่ือน หรือเปล่ียนแปลงกําหนดวันเสนอราคา

เว้นแต่เป็นกรณีที่กรมบัญชีกลางแจ้งเล่ือนกําหนดวัน เวลาการเสนอราคา เน่ืองจากมีปัญหาข้อขัดข้อง

เก่ียวกับการเสนอราคาผ่านระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ และเมื่อได้ดําเนินการ

เป็นประการใดแล้ว ใหก้ รมบญั ชกี ลางรายงานคณะกรรมการวนิ ิจฉัยทราบดว้ ย

ข้อ ๕๕ เม่ือส้ินสุดการเสนอราคาตามข้อ ๕๔ ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา

อิเลก็ ทรอนิกส์ ดาํ เนินการดังนี้

(๑) จัดพิมพ์ใบเสนอราคาและเอกสารการเสนอราคาของผู้ย่ืนข้อเสนอทุกรายจากระบบ

ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จํานวน ๑ ชุด โดยให้กรรมการทุกคนลงลายมือช่ือกํากับไว้ในใบเสนอราคา

และเอกสารการเสนอราคาของผยู้ น่ื ขอ้ เสนอทุกแผ่น

ท้ังน้ี การซ้ือหรือจ้างท่ีมีการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะท่ีจะต้องคํานึงถึงเทคโนโลยี

ของพัสดุหรือคุณสมบัติของผู้ย่ืนข้อเสนอ ซึ่งอาจจะมีข้อเสนอท่ีไม่อยู่ในฐานเดียวกันเป็นเหตุให้มีปัญหา

ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ ให้หน่วยงานของรัฐกําหนดเป็นเง่ือนไขให้มีการยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค

หรือข้อเสนออ่ืนแยกมาต่างหาก ในกรณีเช่นว่าน้ี คณะกรรมการยังไม่ต้องจัดพิมพ์ใบเสนอราคาจนกว่า

จะดาํ เนินการตามข้อ ๘๓ (๓) แล้วเสร็จ

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 562

เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๑๙ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

(๒) ตรวจสอบการมีผลประโยชน์ร่วมกัน และเอกสารหลักฐานการเสนอราคาต่าง ๆ
และพัสดุตัวอย่าง (ถ้ามี) หรือพิจารณาการนําเสนองานของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย หรือเอกสาร
ที่กําหนดให้จัดส่งภายหลังจากวันเสนอราคาตามข้อ ๔๔ แล้วคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
และย่ืนเอกสารการเสนอราคาครบถ้วน ถูกต้อง มีคุณสมบัติและข้อเสนอทางด้านเทคนิคหรือเสนอพัสดุ
ท่ีมรี ายละเอียดคณุ ลกั ษณะเฉพาะครบถ้วน ถกู ต้อง ตามเงอื่ นไขท่ีหน่วยงานของรัฐกําหนดไว้ในประกาศ
และเอกสารประกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

ในกระบวนการพจิ ารณา คณะกรรมการอาจสอบถามข้อเท็จจริงเพ่ิมเติมจากผู้ย่ืนข้อเสนอ
รายใดก็ได้ แต่จะให้ผู้ย่ืนข้อเสนอรายใดเปล่ียนแปลงสาระสําคัญท่ีเสนอไว้แล้วมิได้ และหาก
คณะกรรมการเห็นว่าผู้ย่ืนข้อเสนอรายใดมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขท่ีหน่วยงานของรัฐกําหนดไว้
ในประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ใหค้ ณะกรรมการตัดรายชอ่ื ของผู้ยื่นข้อเสนอรายน้ัน
ออกจากการประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ สใ์ นครั้งนั้น

ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอรายใดเสนอเอกสารทางเทคนิคหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ของพัสดุท่ีจะซ้ือหรือจ้างไม่ครบถ้วน หรือเสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเง่ือนไขท่ีหน่วยงานของรัฐ
กําหนดไว้ในประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนที่มิใช่สาระสําคัญและความ
แตกต่างนั้นไม่มีผลทําให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบต่อผู้ย่ืนข้อเสนอรายอื่นหรือเป็นการผิดพลาดเล็กน้อย
ให้พจิ ารณาผอ่ นปรนการตดั สทิ ธิ์ผยู้ ืน่ ขอ้ เสนอรายนน้ั

(๓) พิจารณาคัดเลือกพัสดุหรือคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอที่ถูกต้องตาม (๒) และพิจารณา
คัดเลือกข้อเสนอตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้จัด
เรยี งลาํ ดับผทู้ ี่เสนอราคาต่าํ สุดหรอื ไดค้ ะแนนรวมสงู สดุ ไม่เกนิ ๓ ราย

ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอรายท่ีคัดเลือกไว้ไม่ยอมเข้าทําสัญญาหรือข้อตกลงกับหน่วยงานของรัฐ
ในเวลาที่กําหนดตามเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้คณะกรรมการพิจารณาผู้ท่ีเสนอราคาต่ํารายถัดไป
หรือผทู้ ี่ไดค้ ะแนนรวมสูงรายถัดไปตามลําดับ แล้วแต่กรณี

(๔) จัดทํารายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารท่ีได้รับไว้ทั้งหมดเสนอ
หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ท้ังน้ี รายงานผลการ
พิจารณาดงั กล่าว ให้ประกอบดว้ ยรายการอย่างนอ้ ย ดงั ตอ่ ไปน้ี

(ก) รายการพสั ดทุ ีจ่ ะซือ้ หรือจ้าง
(ข) รายช่ือผูย้ ่นื ขอ้ เสนอ ราคาที่เสนอ และข้อเสนอของผ้ยู ืน่ ข้อเสนอทกุ ราย
(ค) รายชื่อผยู้ ่ืนข้อเสนอที่ผา่ นการคดั เลือกว่าไม่เปน็ ผู้มผี ลประโยชนร์ ว่ มกนั
(ง) หลกั เกณฑก์ ารพิจารณาคัดเลอื กขอ้ เสนอ พร้อมเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
(จ) ผลการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอและการให้คะแนนข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย
พรอ้ มเหตุผลสนับสนุนในการพจิ ารณา

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 563

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๒๐ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ ๕๖ ในกรณีท่ีปรากฏว่า มีผู้ย่ืนข้อเสนอเพียงรายเดียวหรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายราย
แ ต่ ถู ก ต้ อ ง ต ร ง ต า ม เ งื่ อ น ไ ข ท่ี กํ า ห น ด ใ น เ อ ก ส า ร ป ร ะ ก ว ด ร า ค า อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ เ พี ย ง ร า ย เ ดี ย ว
ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ี
เพ่ือยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์คร้ังนั้น แต่ถ้าคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผล
สมควรท่ีจะดําเนินการต่อไปโดยไม่ต้องยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้คณะกรรมการ
ดาํ เนนิ การตามข้อ ๕๗ หรือข้อ ๕๘ แลว้ แต่กรณี โดยอนโุ ลม

ในกรณีท่ีไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอหรือมีแต่ไม่ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขท่ีกําหนดในเอกสารประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพ่ือยกเลิกการประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์คร้ังน้ันและดําเนินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ แต่หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
พิจารณาแล้วเห็นว่าการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะส่ังให้ดําเนินการซื้อหรือจ้าง
โดยวิธีคัดเลือกตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๑) (ก) หรือวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง
(๒) (ก) แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดําเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธี
เฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอ่ืน ให้เร่ิมกระบวนการซ้ือหรือจ้างใหม่โดยการจัดทํารายงานขอซ้ือหรือขอจ้าง
ตามขอ้ ๒๒

ขอ้ ๕๗ ในการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ กรณีท่ีหน่วยงานของรัฐเลือกใช้
เกณฑ์ราคา หากปรากฏว่ามีผู้เสนอราคาตํ่าสุดเท่ากันหลายราย ให้คณะกรรมการพิจารณาราคาตํ่าสุด
ของผ้ทู เ่ี สนอราคาเขา้ สรู่ ะบบประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ในลาํ ดบั แรกเปน็ ผ้ชู นะการเสนอราคาในครั้งน้นั

ในกรณีที่ปรากฏว่าราคาของผู้ท่ีชนะการเสนอราคายังสูงกว่าวงเงินท่ีจะซ้ือหรือจ้างตามข้อ ๒๒
ใหค้ ณะกรรมการดําเนนิ การ ดังน้ี

(๑) ให้แจ้งผู้ที่เสนอราคารายที่คณะกรรมการเห็นสมควรซื้อหรือจ้างน้ันผ่านระบบประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อต่อรองราคาให้ตํ่าสุดเท่าท่ีจะทําได้ หากผู้ท่ีเสนอราคารายนั้นยอมลดราคาและย่ืน
ใบเสนอราคาผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ราคาท่ีเสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินท่ีจะซ้ือหรือจ้าง
หรือสูงกว่าแต่ส่วนที่สูงกว่าน้ันไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือต่อรองราคาแล้วไม่ยอม
ลดราคาลงอีกแต่ส่วนท่ีสูงกว่าน้ันไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าว
เปน็ ราคาทีเ่ หมาะสม ก็ให้เสนอซือ้ หรอื จ้างจากผทู้ ีเ่ สนอราคารายน้ัน

(๒) ถ้าดําเนนิ การตาม (๑) แล้วไม่ได้ผล ให้แจ้งผู้ที่เสนอราคาท่ีคณะกรรมการเห็นสมควรซื้อ
หรือจ้างทุกรายผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือมาเสนอราคาใหม่พร้อมกันโดยยื่นใบเสนอราคา
ผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ภายในกําหนดระยะเวลาอันสมควร หากรายใดไม่ย่ืนใบเสนอราคา
ให้ถือว่ารายน้ันยืนราคาตามที่เสนอไว้เดิม หากผู้ท่ีเสนอราคาต่ําสุดในการเสนอราคาครั้งนี้เสนอราคา
ไม่สูงกว่าวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง
ถ้าเหน็ ว่าราคาดงั กลา่ วเปน็ ราคาที่เหมาะสม ก็ให้เสนอซื้อหรอื จา้ งจากผูท้ ่เี สนอราคารายน้ัน

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 564

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๒๑ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

(๓) ถ้าดําเนินการตาม (๒) แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพ่ือประกอบการใช้ดุลพินิจว่าจะยกเลิกการซื้อหรือจ้าง หรือขอเงินเพ่ิมเติม
หรือลดรายการ ลดจํานวน หรือลดเนื้องาน หากการดําเนินการดังกล่าวทําให้ลําดับของผู้ชนะการเสนอราคา
เปล่ียนแปลงไปจากเดิม ถือว่าก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้เสนอราคา ให้ยกเลิกการซ้ือ
หรือจ้างในครั้งน้ัน แต่หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่า การดําเนินการประกวดราคา
อิเล็กทรอนิกส์ใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะส่ังให้ดําเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกตามมาตรา ๕๖
วรรคหนึ่ง (๑) (ก) หรือวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๒) (ก) แล้วแต่กรณีก็ได้
เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดําเนินการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอื่น
ใหเ้ ร่ิมกระบวนการซ้ือหรือจา้ งใหมโ่ ดยการจดั ทาํ รายงานขอซอ้ื หรือขอจา้ งตามข้อ ๒๒

ข้อ ๕๘ ในการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ กรณีที่หน่วยงานของรัฐเลือกใช้
เกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อ่ืน หากปรากฏว่าราคาของผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุด สูงกว่าวงเงินท่ีจะซื้อ
หรือจ้างตามข้อ ๒๒ ให้คณะกรรมการดําเนินการแจ้งผู้ที่เสนอราคารายท่ีคณะกรรมการเห็นสมควรซื้อ
หรือจ้างนั้นผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือต่อรองราคาให้ต่ําสุดเท่าที่จะทําได้ หากผู้ที่เสนอราคา
รายน้ันยอมลดราคาและย่ืนใบเสนอราคาผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ราคาที่เสนอใหม่
ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนท่ีสูงกว่าน้ันไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง
หรือต่อรองราคาแล้วไม่ยอมลดราคาลงอีก แต่ส่วนท่ีสูงกว่าน้ันไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซ้ือ
หรอื จา้ ง ถ้าเหน็ วา่ ราคาดงั กล่าวเปน็ ราคาท่ีเหมาะสม กใ็ ห้เสนอซ้ือหรือจา้ งจากผทู้ ่เี สนอราคารายน้นั

หากดําเนินการตามวรรคหนึ่งแล้วไม่ได้ผล ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจว่าจะขอเงินเพ่ิมเติม หรือยกเลิกการซื้อหรือจ้าง
ในคร้งั นั้นและดําเนินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ แต่หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่า
การดําเนินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะสั่งให้ดําเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธี
คัดเลือกตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๑) (ก) หรือวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๒) (ก)
แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดําเนินการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจง
ด้วยเหตุอ่นื ให้เริ่มกระบวนการซือ้ หรือจา้ งใหมโ่ ดยการจัดทาํ รายงานขอซ้ือหรอื ขอจา้ งตามขอ้ ๒๒

ข้อ ๕๙ ให้นําความในข้อ ๔๒ มาใช้บังคับกับการประกาศผลผู้ชนะการซ้ือหรือจ้างโดยวิธี
ประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ โดยอนุโลม

ขอ้ ๖๐ การซ้อื หรอื จา้ งโดยการประกวดราคานานาชาติ ให้ดาํ เนินการดงั น้ี
(๑) ให้หน่วยงานของรัฐจัดทําร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ
หรือแบบรูปรายการงานก่อสร้างที่จะซอ้ื หรือจ้าง แลว้ แต่กรณี ตามขอ้ ๒๑
(๒) การจัดทําเอกสารซื้อหรือจ้างโดยการประกวดราคานานาชาติพร้อมประกาศเชิญชวน
ใหอ้ ยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐท่ีจะพิจารณาว่าจะจัดทําเป็นภาษาไทยหรือภาษาองั กฤษก็ได้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 565

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๒๒ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

(๓) ให้นําความในข้อ ๔๔ ถึงข้อ ๕๙ มาใช้บังคับกับการประกวดราคานานาชาติ
โดยอนุโลม เวน้ แตก่ ารเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้อื หรอื จา้ งให้เผยแพร่ตดิ ตอ่ กันไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ วนั ทําการ

วธิ ีสอบราคา
ขอ้ ๖๑ ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทําเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีสอบราคาพร้อมประกาศเชิญชวน

ตามแบบท่ีคณะกรรมการนโยบายกําหนด
การจัดทําเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหน่ึง ถ้าจําเป็นต้องมีข้อความ

หรือรายการแตกต่างไปจากแบบท่ีคณะกรรมการนโยบายกําหนด โดยมีสาระสําคัญตามท่ีกําหนดไว้
ในแบบและไม่ทําให้หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ให้กระทําได้ เว้นแต่ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่า
จะมีปัญหาในทางเสียเปรียบหรือไม่รัดกุมพอ ก็ให้ส่งร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างและประกาศเชิญชวน
ดงั กล่าวไปให้สาํ นักงานอัยการสงู สุดตรวจพจิ ารณาก่อน

การกําหนดวัน เวลาการยื่นข้อเสนอในเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหน่ึง
ใหก้ ําหนดเป็นวันถดั จากวนั สดุ ทา้ ยของระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้อื หรือจ้างโดยกําหนด
เป็นวนั เวลา ทําการ เพียงวนั เดียว

การกําหนดวัน เวลาการเปิดซองข้อเสนอ ให้กําหนดเป็นวัน เวลา ทําการ ถัดจากย่ืนข้อเสนอ
ตามวรรคสาม

ขอ้ ๖๒ หน่วยงานของรัฐอาจนําร่างประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีสอบราคา
เผยแพรเ่ พือ่ รับฟังความคิดเหน็ จากผู้ประกอบการกอ่ นกไ็ ด้

ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐนําร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีสอบราคาเผยแพร่
เพอ่ื รบั ฟงั ความคดิ เห็นจากผปู้ ระกอบการ ใหน้ ําความในข้อ ๔๖ และขอ้ ๔๗ มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม

ข้อ ๖๓ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซ้ือหรือขอจ้างตามข้อ ๒๒
และร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีสอบราคาแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีดําเนินการ
เผยแพร่ประกาศและเอกสารสอบราคาในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของ
หน่วยงานของรัฐ เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๕ วันทําการ โดยให้คํานึงถึงระยะเวลาในการ
ใหผ้ ู้ประกอบการเตรียมการจัดทาํ เอกสารเพ่ือยืน่ ขอ้ เสนอด้วย

ข้อ ๖๔ ให้นาํ ความในขอ้ ๔๙ มาใชบ้ ังคับกับการให้หรือขายเอกสารสอบราคา โดยอนโุ ลม
ข้อ ๖๕ ให้กรมบัญชีกลางจัดส่งประกาศและเอกสารสอบราคาของหน่วยงานของรัฐ
ให้สาํ นักงานการตรวจเงินแผ่นดนิ ผ่านทางระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์
ข้อ ๖๖ การซื้อหรือจ้างพัสดุใดที่มีความจําเป็นโดยสภาพของการซ้ือหรือจ้างจะต้องกําหนดเง่ือนไข
ไว้ในเอกสารสอบราคาท่ีจะต้องมีการชี้แจงรายละเอียดหรือการช้ีสถานท่ี ให้หน่วยงานของรัฐกําหนด
วนั เวลา และสถานทใ่ี นการชี้แจงรายละเอยี ดหรือการช้แี จงสถานท่ีในเอกสารสอบราคาด้วย
ก่อนถึงกําหนดวันยื่นข้อเสนอ หากหน่วยงานของรัฐเห็นว่ามีความจําเป็นที่จะต้องกําหนด
รายละเอียดเพิ่มเติมหรือมีการช้ีสถานท่ีอันเป็นการแก้ไขคุณลักษณะเฉพาะท่ีเป็นสาระสําคัญซึ่งมิได้

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 566

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๒๓ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

กําหนดไว้ในเอกสารสอบราคาตั้งแต่ต้น ให้หน่วยงานของรัฐจัดทําเป็นเอกสารสอบราคาเพ่ิมเติมและให้
ระบุวัน เวลา และสถานท่ีในการช้ีแจงรายละเอียดหรือการช้ีสถานที่ไว้ด้วย โดยให้ดําเนินการเผยแพร่
ในระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศของกรมบญั ชกี ลางและของหน่วยงานของรัฐ และให้แจ้งผู้ท่ีได้รับหรือได้ซ้ือ
เอกสารสอบราคาไปแลว้ ทุกรายทราบผ่านทางจดหมายอเิ ล็กทรอนิกสต์ ามแบบที่กรมบญั ชกี ลางกําหนด

การชี้แจงรายละเอียดหรือการชี้สถานที่ตามวรรคสอง ให้ผู้ท่ีรับผิดชอบในการปฏิบัติงานน้ัน
จดั ทําบันทึกการชี้แจงรายละเอยี ดหรือการช้ีสถานท่เี ปน็ ลายลักษณ์อกั ษรไวเ้ ป็นหลักฐานทุกครั้ง

ถ้ามีการดําเนินการตามวรรคสอง ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาเลื่อนวัน เวลาการย่ืนข้อเสนอ
และการเปิดซองสอบราคา ตามความจําเป็นแก่กรณีด้วย

ขอ้ ๖๗ ให้หน่วยงานของรัฐกําหนดวัน เวลา และสถานท่ีในการขอรับหรือขอซ้ือเอกสาร
สอบราคา ณ สถานท่ีท่ีหน่วยงานของรัฐกําหนด โดยให้ขอรับหรือขอซื้อเอกสารสอบราคาได้ตั้งแต่วัน
เริม่ ตน้ จนถงึ วนั สดุ ทา้ ยของการเผยแพรป่ ระกาศและเอกสารสอบราคา ตามข้อ ๖๓

ข้อ ๖๘ ในการย่ืนซองข้อเสนอ ผู้ย่ืนข้อเสนอจะต้องผนึกซองจ่าหน้าถึงประธานคณะกรรมการ
พิจารณาผลการสอบราคาครั้งนั้น และส่งถึงหน่วยงานของรัฐผู้ดําเนินการสอบราคาโดยย่ืนโดยตรง
ต่อหน่วยงานของรัฐ พร้อมรับรองเอกสารหลักฐานที่ยื่นมาพร้อมกับซองใบเสนอราคาว่าเอกสารดังกล่าวถูกต้อง
และเปน็ ความจรงิ ทกุ ประการ

ให้เจ้าหน้าท่ีลงรับโดยไม่เปิดซองพร้อมระบุวันและเวลาที่รับซอง ในกรณีท่ีผู้ยื่นข้อเสนอมา
ย่ืนซองโดยตรง ให้ออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอ และให้ส่งมอบซองเสนอราคาทั้งหมด และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ
ทไ่ี ด้รับไว้ต่อคณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคาครั้งน้ัน เพ่ือดําเนนิ การต่อไป

ข้อ ๖๙ นอกเหนือจากกรณีท่ีกําหนดไว้ในข้อ ๖๖ เม่ือถึงกําหนดวันย่ืนซองข้อเสนอ
หา้ มมิให้รน่ หรอื เล่อื น หรือเปล่ยี นแปลงกาํ หนดวนั ย่นื ซองข้อเสนอ

ข้อ ๗๐ เมื่อถงึ กาํ หนดวนั เวลาการเปิดซองข้อเสนอ ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา
ดําเนินการเปิดซองข้อเสนอ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของผู้ย่ืนข้อเสนอทุกรายแล้วให้
กรรมการทุกคนลงลายมือชื่อกํากับไว้ในใบเสนอราคาและเอกสารประกอบการเสนอราคาของผู้ยื่น
ข้อเสนอทุกแผ่น และให้นําความในข้อ ๕๕ (๒) - (๔) มาใช้บังคับกับการดําเนินการพิจารณาคัดเลือก
ผชู้ นะการซ้อื หรือจา้ งของคณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา โดยอนุโลม

ขอ้ ๗๑ ในกรณีที่ปรากฏว่า มีผู้ย่ืนข้อเสนอเพียงรายเดียวหรือมีผู้ย่ืนข้อเสนอหลายราย
แต่ถูกต้องตรงตามเง่ือนไขที่กําหนดในเอกสารสอบราคาเพียงรายเดียว หรือไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอหรือมี
แต่ไม่ถูกต้องตรงตามเง่ือนไขท่ีกําหนดในเอกสารสอบราคา ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา
ดาํ เนินการตามข้อ ๕๖ โดยอนโุ ลม

ถ้าปรากฏว่าราคาของผู้ยื่นข้อเสนอที่คณะกรรมการเห็นสมควรซ้ือหรือจ้างยังสูงกว่าวงเงิน
ที่จะซื้อหรือจ้าง ให้คณะกรรมการเรียกผู้ยื่นข้อเสนอรายน้ันมาต่อรองราคา โดยให้ดําเนินการตามข้อ ๕๗
หรือขอ้ ๕๘ แล้วแตก่ รณี โดยอนุโลม

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 567

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๒๔ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

ข้อ ๗๒ ให้นําความในข้อ ๔๒ มาใช้บังคับกับการประกาศผลผู้ชนะการซื้อหรือจ้างโดยวิธี
สอบราคา โดยอนุโลม

ข้อ ๗๓ ให้นําความในข้อ ๖๐ มาใชบ้ ังคบั กับการสอบราคานานาชาติ โดยอนุโลม

วธิ คี ัดเลอื ก
ขอ้ ๗๔ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซ้ือหรือขอจ้างตามข้อ ๒๒ แล้ว

ใหค้ ณะกรรมการซอ้ื หรือจ้างโดยวิธีคดั เลอื ก ดําเนินการดังตอ่ ไปน้ี
(๑) จัดทําหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขท่ีหน่วยงานของรัฐกําหนด

ไมน่ ้อยกว่า ๓ ราย ใหเ้ ข้ายืน่ ข้อเสนอ เวน้ แต่ในงานนั้นมีผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตรงตามที่กําหนด
น้อยกว่า ๓ ราย โดยให้คํานึงถึงการไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ที่เข้าย่ืนข้อเสนอ พร้อมจัดทําบัญชีรายช่ือ
ผปู้ ระกอบการที่คณะกรรมการมหี นังสือเชิญชวน

(๒) การยื่นซองขอ้ เสนอและการรับซองขอ้ เสนอ ใหด้ ําเนนิ การตามขอ้ ๖๘ โดยอนโุ ลม
(๓) เมื่อถึงกําหนดวัน เวลาการรับซองข้อเสนอ ให้รับซองข้อเสนอของผู้ย่ืนข้อเสนอเฉพาะราย
ท่ีคณะกรรมการไดม้ ีหนงั สอื เชญิ ชวนเทา่ น้นั พรอ้ มจดั ทําบัญชรี ายชอ่ื ผมู้ าย่ืนข้อเสนอ

เม่ือพ้นกําหนดเวลารับซองข้อเสนอ ห้ามรับเอกสารหลักฐานต่าง ๆ และพัสดุตัวอย่าง
ตามเงื่อนไขท่ีกําหนดในหนังสือเชิญชวนเพิ่มเติมจากผู้ย่ืนข้อเสนอ เว้นแต่ กรณีการซื้อหรือจ้างใด
มีรายละเอียดท่ีมีความจําเป็นโดยสภาพของการซ้ือหรือจ้างท่ีจะต้องให้ผู้ย่ืนข้อเสนอนําตัวอย่างพัสดุ
มาแสดงเพ่ือทดลอง หรือทดสอบ หรือนําเสนองาน หรือให้ผู้ย่ืนข้อเสนอนําเอกสารหรือรายละเอียด
มาส่งภายหลงั จากวนั ยื่นซองขอ้ เสนอ

(๔) เมื่อถึงกําหนดวัน เวลาการเปิดซองข้อเสนอ ให้คณะกรรมการดําเนินการเปิดซองข้อเสนอ
และตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย แล้วให้กรรมการทุกคนลงลายมือชื่อกํากับ
ไว้ในใบเสนอราคาและเอกสารประกอบการเสนอราคาของผู้ย่ืนข้อเสนอทุกแผ่นและให้นําความในข้อ ๕๕
(๒) - (๔) มาใช้บังคับกับการดําเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการซ้ือหรือจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก
ของคณะกรรมการ โดยอนโุ ลม

ข้อ ๗๕ หากปรากฏว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียวหรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายรายแต่ถูกต้อง
ตรงตามเงื่อนไขท่ีกําหนดในหนังสือเชิญชวนเพียงรายเดียว ให้คณะกรรมการดําเนินการตามข้อ ๕๖
โดยอนุโลม

ในกรณีที่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอหรือมีแต่ไม่ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขที่กําหนดในหนังสือเชิญชวน
ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อยกเลิกการคัดเลือกครั้งน้ัน และจะดําเนินการ
ใหมโ่ ดยวธิ เี ฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่งึ (๒) (ก) ก็ได้

ถ้าปรากฏว่าราคาของผู้ย่ืนข้อเสนอท่ีคณะกรรมการเห็นสมควรซื้อหรือจ้างยังสูงกว่าวงเงิน
ท่ีจะซื้อหรือจ้าง ให้คณะกรรมการเรียกผู้ย่ืนข้อเสนอรายน้ันมาต่อรองราคา โดยให้ดําเนินการตามข้อ ๕๗
หรือข้อ ๕๘ แล้วแตก่ รณี โดยอนุโลม

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 568

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๒๕ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๗๖ ในกรณีการจ้างตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๑) (ช) หากไม่สามารถดําเนินการ
ตามปกติได้ ให้คณะกรรมการแจ้งให้ผู้ประกอบการย่ืนซองข้อเสนอด้านเทคนิคเพื่อพิจารณาให้เป็น
ไปตามความตอ้ งการก่อนพิจารณาดา้ นราคา แลว้ ให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอด้านเทคนิค
ท่ีดีที่สุดแล้วจัดลําดับ หลังจากนั้นให้เชิญผู้ท่ียื่นข้อเสนอด้านเทคนิคที่ดีที่สุดมายื่นข้อเสนอด้านราคา
และเจรจาตอ่ รองราคาทีเ่ หมาะสม หากเจรจาไม่ได้ผล ใหเ้ จรจากับผ้ยู นื่ ขอ้ เสนอด้านเทคนิคทด่ี ที ส่ี ุดรายถดั ไป

หากดําเนินการตามวรรคหน่ึง แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเพ่ือพิจารณายกเลิกการจ้างในครั้งนั้นและจะส่ังให้ดําเนินการใหม่โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
ตามมาตรา ๕๖ วรรคหนง่ึ (๒) (ก) กไ็ ด้

ข้อ ๗๗ ให้นําความในข้อ ๔๒ มาใช้บังคับกับการประกาศผลผู้ชนะการซื้อหรือจ้าง
หรอื ผู้ไดร้ ับการคดั เลอื กโดยวธิ คี ดั เลอื ก โดยอนุโลม

วิธีเฉพาะเจาะจง
ข้อ ๗๘ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซ้ือขอจ้างตามข้อ ๒๒ แล้ว

ให้คณะกรรมการซือ้ หรอื จ้างโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ดาํ เนินการดังตอ่ ไปน้ี
(๑) จัดทําหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขท่ีหน่วยงานของรัฐ

กําหนดรายใดรายหน่งึ ให้เข้าย่นื ขอ้ เสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา โดยใหด้ ําเนนิ การดังต่อไปนี้
(ก) กรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๒) (ก) ให้เชิญผู้ประกอบการที่มีอาชีพขาย

หรือรับจ้างนั้นโดยตรงหรือจากผู้ยื่นข้อเสนอในการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปหรือวิธีคัดเลือก
ซึ่งถูกยกเลิกไป (ถา้ ม)ี ใหม้ าย่ืนเสนอราคา ท้ังนี้ หากเห็นวา่ ผู้ประกอบการรายที่เห็นสมควรซ้ือหรือจ้าง
เสนอราคาสูงกว่าราคาในท้องตลาด หรือราคาท่ีประมาณได้ หรือราคาที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ใหต้ ่อรองราคาลงเทา่ ท่ีจะทาํ ได้

(ข) กรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๒) (ค) (ง) ให้เชิญผู้ประกอบการท่ีมีอาชีพขาย
หรือรับจ้างน้ันโดยตรงมายื่นเสนอราคา หากเห็นว่าราคาที่เสนอนั้นยังสูงกว่าราคาในท้องถ่ิน หรือราคา
ที่ประมาณได้ หรอื ราคาทคี่ ณะกรรมการเหน็ สมควร ใหต้ อ่ รองราคาลงเท่าท่จี ะทาํ ได้

(ค) กรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๒) (จ) ให้เจรจากับผู้ประกอบการรายเดิม
ตามสัญญาหรือข้อตกลงซ่ึงยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาส่งมอบ เพ่ือขอให้มีการซื้อหรือจ้างตามรายละเอียด
และราคาที่ตํ่ากว่าหรือราคาเดิมภายใต้เง่ือนไขที่ดีกว่าหรือเงื่อนไขเดิม โดยคํานึงถึงราคาต่อหน่วย
ตามสญั ญาเดิม (ถ้ามี) เพอื่ ให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ ตอ่ หน่วยงานของรฐั

(ง) กรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหนง่ึ (๒) (ฉ) ให้ดาํ เนินการโดยวธิ ีเจรจาตกลงราคา
(จ) กรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๒) (ช) ให้เชิญเจ้าของที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้าง
โดยตรงมาเสนอราคา หากเหน็ ว่าราคาท่เี สนอนั้นยงั สูงกว่าราคาในท้องตลาด หรือราคาที่คณะกรรมการ
เห็นสมควร ใหต้ ่อรองราคาลงเท่าทจี่ ะทําได้
(๒) จดั ทํารายงานผลการพิจารณา โดยใหน้ าํ ความในข้อ ๕๕ (๔) มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 569

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๒๖ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

ข้อ ๗๙ กรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหน่ึง (๒) (ข) ให้เจ้าหน้าที่เจรจาตกลงราคากับ
ผู้ประกอบการท่ีมีอาชีพขายหรือรับจ้างน้ันโดยตรง แล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีซื้อหรือจ้างได้ภายในวงเงิน
ท่ีไดร้ ับความเหน็ ชอบจากหวั หน้าหน่วยงานของรัฐ ตามข้อ ๒๔

การซื้อหรือจ้างตามวรรคหนึ่ง ในกรณีที่มีความจําเป็นเร่งด่วนท่ีเกิดข้ึนโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อน
และไม่อาจดําเนินการตามปกติได้ทัน ให้เจ้าหน้าท่ีหรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นดําเนินการ
ไปก่อนแล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ และเมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ใหค้ วามเหน็ ชอบแล้ว ให้ถอื ว่ารายงานดงั กลา่ วเปน็ หลักฐานการตรวจรับโดยอนุโลม

ข้อ ๘๐ การซ้ือหรือจ้างที่มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กําหนดในกฎกระทรวงตามความในมาตรา ๙๖
วรรคสอง หน่วยงานของรัฐอาจดําเนินการซื้อหรือจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลาง
กาํ หนดกไ็ ด้

ข้อ ๘๑ ให้นําความในข้อ ๔๒ มาใช้บังคับกับการประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกโดยวิธี
เฉพาะเจาะจง โดยอนโุ ลม

การจ้างออกแบบรวมก่อสรา้ ง
ข้อ ๘๒ หน่วยงานของรัฐใดประสงค์จะจัดทําโครงการจ้างออกแบบรวมก่อสร้างที่มีรูปแบบ

และขอบเขตการดําเนินงานครอบคลุมการสํารวจ ออกแบบ ตลอดจนก่อสร้างจนแล้วเสร็จสมบูรณ์
รวมท้ังการบํารุงรักษาในช่วงเริ่มต้นของโครงการโดยผู้ประกอบการเพียงรายเดียว ให้เสนอโครงการ
ต่อคณะรฐั มนตรี เพ่อื ขอความเห็นชอบกอ่ นทีจ่ ะเรม่ิ ต้นดาํ เนินโครงการ

การจ้างออกแบบรวมกอ่ สรา้ งสามารถดาํ เนนิ การได้ ๓ รูปแบบ ดังน้ี
(๑) จ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build Project) คือ โครงการที่มีวงเงินลงทุน
และเทคโนโลยีดําเนินการสูง รวมทั้งสามารถจัดทําโครงการได้หลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่จะเป็น
โครงการใหมท่ ่ไี มเ่ คยมีการดําเนินการมากอ่ นในประเทศ ดังนั้น จึงมีความจําเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาดําเนิน
โครงการที่มีความรู้ ความสามารถ และเทคนิคในการดําเนินการพิเศษ โดยเฉพาะการชําระเงิน
ค่าดําเนินโครงการจะมรี ปู แบบการจ่ายชาํ ระเงินตามความก้าวหน้าของงานเป็นงวด ๆ (installment)
(๒) จ้างก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน (Turnkey Project) คือ โครงการท่ีผู้ว่าจ้างจะจัดหา
ผู้รับจ้างดําเนินโครงการจนแล้วเสร็จ จึงจะมีการชําระเงินค่าดําเนินโครงการ ซึ่งผู้รับจ้างอาจต้องมีหน้าที่
ในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพ่ือดําเนินโครงการด้วย รวมท้ังผู้ว่าจ้างต้องมีวงเงินดําเนินโครงการอ้างอิง
ได้ประกอบการพิจารณาโครงการ (Reference Based Price)
(๓) จ้างออกแบบควบคู่ก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน (หรือจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ)
คือ โครงการท่ีใช้รูปแบบดําเนินโครงการท้ัง ๒ รูปแบบ โดยผู้รับจ้างเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างควบคู่กัน
(Design & Build) รวมทั้งทําหน้าที่จัดหาเงินทุนดําเนินโครงการ ซึ่งผู้ว่าจ้างจะชําระเงินค่าดําเนินโครงการ
เม่ือแลว้ เสรจ็

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าที่ 570

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๒๗ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา

หลักเกณฑ์ วิธีการ และรายละเอียดกระบวนและข้ันตอนการจ้างออกแบบรวมก่อสร้าง
ให้เปน็ ไปตามทีก่ รมบัญชีกลางกาํ หนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบาย
เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกขอ้ เสนอ

ข้อ ๘๓ ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปหรือวิธีคัดเลือก
ให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการโดยพิจารณาถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ และวัตถุประสงค์ของการ
ใชง้ านเปน็ สาํ คญั ตามหลักเกณฑ์ ดงั นี้

(๑) การซื้อหรือจ้างที่มีการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีเป็นมาตรฐาน และมีคุณภาพดี
เพียงพอตามความต้องการใช้งาน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐแล้ว กรณีน้ีหน่วยงานของรัฐ
สามารถใช้เกณฑ์ราคาในการคัดเลือกผู้ที่เสนอราคาต่ําสุดเป็นผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับ
การคัดเลอื ก

(๒) การซือ้ หรอื จา้ งที่มคี วามซบั ซอ้ น มีเทคโนโลยสี งู หรือมีเทคนิคเฉพาะ จําเป็นต้องคัดเลือกพัสดุ
มีคุณภาพดีตามความต้องการใช้งานของหน่วยงานของรัฐน้ัน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐมากที่สุด
กรณีนี้หน่วยงานของรัฐสามารถใช้เกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่นตามความในมาตรา ๖๕ วรรคหน่ึง
ในการพิจารณาคัดเลอื กผูย้ ื่นข้อเสนอทมี่ คี ณุ ภาพและคณุ สมบตั ิถกู ตอ้ ง ครบถ้วน ซึ่งได้คะแนนรวมสูงสุด
เป็นผู้ชนะการซ้ือหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก แต่หากหน่วยงานของรัฐไม่อาจเลือกใช้เกณฑ์อ่ืน
ประกอบและจาํ เปน็ ตอ้ งใช้เกณฑเ์ ดยี วในการพจิ ารณา ใหใ้ ช้เกณฑ์ราคา

(๓) การซ้ือหรือจ้างท่ีมีการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะท่ีจะต้องคํานึงถึงเทคโนโลยีของพัสดุ
หรือคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ซึ่งอาจจะมีข้อเสนอที่ไม่อยู่ในฐานเดียวกันเป็นเหตุให้มีปัญหาในการ
พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอให้หน่วยงานของรัฐกําหนดเป็นเง่ือนไขให้มีการย่ืนข้อเสนอด้านเทคนิค
หรือข้อเสนออ่ืนแยกมาต่างหาก และให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติ
ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งได้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออ่ืน
ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ตา่ํ ตามท่หี น่วยงานของรฐั กําหนด แล้วใหด้ าํ เนนิ การตาม (๑) หรือ (๒) ตอ่ ไป

ในกรณีท่ีเห็นสมควร คณะกรรมการนโยบายอาจกําหนดแนวทางในการพิจารณาคัดเลือก
ขอ้ เสนอเพิ่มเตมิ ตามความจําเป็นและเหมาะสมก็ได้
อาํ นาจในการสั่งซ้อื หรอื สั่งจา้ ง

ข้อ ๘๔ การส่ังซ้ือหรือสั่งจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปคร้ังหนึ่ง ให้เป็นอํานาจ
ของผดู้ ํารงตําแหนง่ และภายในวงเงิน ดงั ต่อไปนี้

(๑) หวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั ไม่เกนิ ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผู้มอี ํานาจเหนือขึน้ ไปหนึ่งชน้ั เกนิ ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ขอ้ ๘๕ การสั่งซื้อหรือส่ังจ้างโดยวิธีคัดเลือกครั้งหนึ่ง ให้เป็นอํานาจของผู้ดํารงตําแหน่ง
และภายในวงเงิน ดังต่อไปนี้
(๑) หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผู้มีอํานาจเหนือขึ้นไปหนงึ่ ช้ัน เกิน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี

หน้าท่ี 571

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หน้า ๒๘ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ้ ๘๖ การส่ังซ้ือหรือส่ังจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงคร้ังหน่ึง ให้เป็นอํานาจของผู้ดํารงตําแหน่ง
และภายในวงเงนิ ดงั ตอ่ ไปน้ี

(๑) หัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผู้มอี ํานาจเหนอื ขน้ึ ไปหน่ึงชน้ั เกนิ ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ขอ้ ๘๗ ผู้มีอํานาจเหนือขึ้นไปหนึ่งช้ันตามข้อ ๘๔ ข้อ ๘๕ และข้อ ๘๖ ให้เป็นไปตาม
บญั ชแี นบท้ายระเบียบนี้
ขอ้ ๘๘ รัฐวิสาหกิจใดมีความจําเป็นจะกําหนดผู้มีอํานาจและวงเงินในการส่ังซ้ือหรือส่ังจ้าง
ตามข้อ ๘๔ ข้อ ๘๕ ข้อ ๘๖ และข้อ ๘๗ แตกต่างไปจากที่กําหนดไว้ในระเบียบน้ี ให้เสนอ
ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเพ่ือขอความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วให้รายงานสํานักงาน
การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบดว้ ย

การจ่ายเงนิ ลว่ งหน้า
ขอ้ ๘๙ การจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้าให้แก่ผู้ประกอบการท่ีเป็นคู่สัญญาจะกระทํามิได้

เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่ามีความจําเป็นจะต้องจ่าย และมีการกําหนดเง่ือนไขไว้ก่อนการ
ทําสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง ใหก้ ระทําได้เฉพาะกรณแี ละตามหลกั เกณฑ์ ดังตอ่ ไปน้ี

(๑) การซื้อหรือการจ้างจากหน่วยงานของรัฐ จ่ายได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบของราคาซ้ือ
หรอื ราคาจ้าง

(๒) การซ้ือพัสดุจากสถาบันของรัฐในต่างประเทศ หรือจากหน่วยงานอ่ืนในต่างประเทศ
ซ่ึงต้องดําเนินการผ่านองค์การระหว่างประเทศ หรือการซ้ือเคร่ืองมือวิทยาศาสตร์ หรือพัสดุอ่ืน
ท่ีผู้รักษาการตามระเบียบประกาศกําหนด ซ่ึงจําเป็นต้องซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้แทนจําหน่ายโดยตรง
ในต่างประเทศ ให้จ่ายได้ตามท่ีตกลงกับสถาบันของรัฐหรือองค์การระหว่างประเทศ หรือตามเงื่อนไข
ทผี่ ขู้ ายกําหนด แลว้ แตก่ รณี

(๓) การบอกรับวารสารหรือการส่ังจองหนังสือ หรือการจัดซื้อฐานข้อมูลสําเร็จรูป
ที่มีลักษณะจะต้องบอกรับเป็นสมาชิกก่อน และมีกําหนดการออกเป็นวาระดังเช่นวารสาร หรือการบอกรับ
เป็นสมาชิกเพื่อการใช้ประโยชน์เรียกค้นหาข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยอาศัยระบบ
เครือขา่ ยสารสนเทศ ใหจ้ า่ ยได้เทา่ ทจี่ ่ายจริง

(๔) การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก และวิธีเฉพาะเจาะจง
นอกจากกรณีตามมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง (๒) (ข) ให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละสิบห้าของราคาซ้ือหรือราคาจ้าง
แต่ทั้งนี้ จะต้องกําหนดอัตราค่าพัสดุที่จะจ่ายล่วงหน้าไว้เป็นเงื่อนไขในประกาศและเอกสารเชิญชวน
หรือหนงั สอื เชญิ ชวน แลว้ แตก่ รณีดว้ ย

ขอ้ ๙๐ การจ่ายเงินตามแบบธรรมเนียมการค้าระหว่างประเทศ โดยเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต
หรือโดยวิธีใช้ดราฟต์กรณีท่ีวงเงินไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท หรือการจ่ายเงินตามความก้าวหน้า
ในการสัง่ ซื้อพัสดุ ใหก้ ระทําไดโ้ ดยไม่ถอื วา่ เป็นการจา่ ยเงินล่วงหน้า

รวบรวมโดย : กรรมกร สีกากี


Click to View FlipBook Version