The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 18 แผน
- หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวิตประจำวัน
- หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ไฟฟ้า
- หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by lava67038, 2022-03-13 04:17:28

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 18 แผน
- หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวิตประจำวัน
- หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ไฟฟ้า
- หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ,วิทยาศาสตร์

๒๕ เด็กหญิงภทรพรรณ อนั ลกู ทา้ ว ๒๘๑
๒๗ เด็กหญิงชลดา บตุ รสาร
๒๗ เด็กหญิงสโรธชิ า รัตนภมู ี ลงช่อื …………………………………………………ผปู้ ระเมิน
๒๘ เด็กหญงิ พัชราภา ทาสดี ำ ( นางสาวพลอยทิพย์ เวียงสมุทร )
๒๙ นางสาวณฐั กฤตา นิลไชย
๓๐ เดก็ หญงิ ศศธิ ร แกน่ วงษา วันท…ี่ ……เดอื น………………..……….. พ.ศ.๒๕๗๕
๓๑ เดก็ หญงิ ปัญญดา บุญเกษม
๓๒ เดก็ หญิงกลอนกวี จดั โสภา
๓๓ เดก็ หญงิ ชนญั ชดิ า หารราชา
๓๔ เด็กหญิงณฐั ธยาน์ สวุ รรณรอด
๓๕ เด็กหญิงนภิ าพร แวดล้อม
๓๗ เด็กหญิงพชั ราภา ธรรมขันธ์
๓๗ เด็กหญงิ พัชริญา งามสงา่
๓๘ เดก็ หญิงพันธวดี ไตรยวงค์
๓๙ เดก็ หญิงสธุ ีธิดา กติ ิอาษา
๔๐ เดก็ หญิงกุลนันท์ จีนะพงษ์

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

๑๒ - ๑๕ ดี

๑๘ - ๑๑ พอใช้

ต่ำกวา่ ๘ ปรับปรงุ

๒๘๒

แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่

ช่อื กล่มุ …………………………………………………………………………………………………………………..ชั้น…………

คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ ง

ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
๓๒๑
๑ การแบง่ หน้าท่กี ันอยา่ งเหมาะสม
๒ ความร่วมมอื กันทำงาน รวม
๓ การแสดงความคิดเห็น
๔ การรบั ฟงั ความคิดเห็น
๕ ความมีน้ำใจช่วยเหลือกนั

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ลงชื่อ…………………………………………………ผปู้ ระเมิน
( นางสาวพลอยทพิ ย์ เวียงสมุทร )
๑๒ - ๑๕ ดี
วนั ท…ี่ ……เดือน………………..……….. พ.ศ.๒๕๗๕
๑๘ - ๑๑ พอใช้

ต่ำกวา่ ๘ ปรับปรุง

๒๘๓

บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้

ผลการจัดกจิ กรรม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ปัญหา/อุปสรรค
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ………………………………………….นกั ศึกษาปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา
(นางสาวพลอยทพิ ย์ เวยี งสมุทร)

วนั ท่.ี ...........เดือน...............................พ.ศ.๒๕๗๕

ความคิดเหน็ ของครูพเี่ ลีย้ ง
เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่

 นำไปใช้สอนได้
 ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ……………………………………..
(นางอรญั ญา บริจาค)

๒๘๔

ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี

 นำไปใช้สอนได้
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ……………………………………..
(นายธนภณ อ่นุ วิเศษ)

ความคิดเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มงานบริหารงานวชิ าการ
๑. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
 องค์ประกอบครบถว้ น  องค์ประกอบไมค่ รบ คือ.........................................................
๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้/กระบวนการเรยี นรเู้ หมาะสม
 เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั กิจกรรมเหมาะสมกบั เนือ้ หา/ส่อื /เวลา
 ไม่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป
๓. การวัด/ประเมินผล
 หลากหลาย เหมาะสม ประเมนิ ตามสภาพจริง
 การประเมนิ ผลควรหลากหลาย และประเมนิ ตามสภาพจริง

ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………………………………..
(นายวิทยา อินกง)

ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นหรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………..
(นางสาวสุภาวดี ผาตะเนตร)
ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลมุ่ งานบริหารงานวิชาการ

๒๘๕

กิจกรรมที่ ๗.๕ ชนดิ ของสิ่งมีชวี ิตในแต่ละระบบนเิ วศแตกต่างกนั อยา่ งไร

สมาชิก

๒๖.ชื่อ ……………………………………………………………………………….. ชน้ั ……………….. เลขที่ ……………
๒๗.ชอื่ ……………………………………………………………………………….. ชั้น ……………….. เลขที่ ……………
๒๘.ชอื่ ……………………………………………………………………………….. ชัน้ ……………….. เลขที่ ……………
๒๙.ช่ือ ……………………………………………………………………………….. ชั้น ……………….. เลขที่ ……………
จุดประสงค์
๑. วิเคราะหข์ อ้ มลู และเปรยี บเทยี บความหลากหลายทางชวี ภาพในระดับชนิดของสง่ิ มชี ีวติ ในระบบนิเวศตา่ งๆ
วสั ด/ุ อปุ กรณ์
-
ขน้ั ตอน
๑. อา่ นสถาการณข์ อ้ มูลเก่ียวกับระบบนิเวศป่าเบญจพรรณ ปา่ เตง็ รัง และป่าดบิ เขา และร่วมกนั อภิปรายชนิด
ของสงิ่ มชี วี ิตท่ีพบในระบบนเิ วศท้ัง ๓ ระบบนเิ วศ บันทึกผล
๒. เปรยี บเทียบความหลากหลายของชนดิ ของพชื และสัตวใ์ นระบบนเิ วศทง้ั ๓ ระบบนเิ วศ บันทกึ ผล
๓. ร่วมกันอภิปรายความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมต่อการดำรงชวี ติ ในระบบนิเวศนั้นๆ บันทึกผล และ
นำเสนอ

ผลการทำกจิ กรรม ปา่ เบญจพรรณ ป่าเตง็ รงั ๒๘๖
รายละเอยี ด
ปา่ ดบิ เขา
องคป์ ระกอบท่ไี ม่มีชวี ติ

สิ่งมีชีวติ

ความหลากหลายของพชื

อภปิ รายผลการทำกจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
วาดภาพสร้างแบบจำลองชนิดของสงิ่ มีชีวติ ในแตล่ ะระบบนเิ วศ

๒๘๗

แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ ระบบนเิ วศและความหลากหลายทางชวี ภาพ

เร่อื งท่ี ๕ ความหลากหลายทางชีวภาพ ๑

คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเขียนเครือ่ งหมาย  หน้าคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งข้อเดยี ว
๑. สงิ่ ใดไมใ่ ช่องคป์ ระกอบของความหลากหลายทางชีวภาพ

ก. ความหลากหลายของส่งิ มีชีวติ
ข. ความหลากหลายทางพนั ธุกรรม
ค. ความหลากหลายของระบบนเิ วศ
ง. ความหลากหลายของชนิดของสิง่ มีชวี ิต
๒. ระบบนิเวศท่มี ีความอุดมสมบรู ณ์มากทส่ี ดุ คือระบบนิเวศแบบใด
ก. ท่งุ หญ้า
ข. ป่าดิบชื้น
ค. ปา่ ชายเลน
ง. แนวปะการงั
๓. ข้อใดเปน็ ความหลากหลายของชนดิ พนั ธ์ุ
ก. นกเงอื ก นกกระสา นกเอ้ียง นกเขา
ข. แมลงปอ เตา่ ลกู นำ้ กบ หอยขม ปลา
ค. ทะเลทราย อูฐ ก้งิ กา่ งู หนู นก
ง. แนวปะการัง ป่าชายเลน ทะเล ทงุ่ หญ้า เขตอบอุ่น
๔. สาเหตทุ ี่ทำใหเ้ กิดความหลากหลายทางพนั ธุกรรมคืออะไร
ก. การคดั ลอื กตามธรรมชาติ
ข. การคดั เลอื กพันธโุ์ ดยมนษุ ย์
ค. จำนวนของสิง่ มชี ีวิตในระบบนเิ วศ
ง. การเปล่ียนแปลงโครงสร้างของอวัยวะสืบพันธ์ุ
๕. ความหลากหลายของระบบนิเวศ มีความสำคัญในเร่ืองใด
ก. กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในด้านปัจจัย ๔
ข. ก่อให้เกิดความสมดุลทางธรรมชาติ
ค. กอ่ ให้เกดิ ความหลากหลายของสิ่งมีชวี ติ
ง. ถูกต้องทุกข้อ

๒๘๘

๗. ถา้ นกั เรยี นตอ้ งการวดั ความหลากหลายของชนิดพันธุข์ องส่ิงมชี ีวิตในท้องถิน่ ท่นี กั เรยี นอาศัยอยู่ นักเรยี นจะ
วดั จากสงิ่ ใด

ก. Species richness
ข. Species evenness
ค. Species diversity
ง. ข้อ ก และ ข ถูกตอ้ ง
๗. ประเทศไทยเปน็ ประเทศทมี่ ีความหลากหลายทางชวี ภาพท่สี มบูรณ์ เน่ืองจากอย่ใู นเขตภูมิอากาศแบบใด
ก. แบบหนาว
ข. แบบอบอนุ่
ค. แบบร้อนชน้ื
ง. แบบทะเลทราย
๘. ข้อใดเป็นความหลากหลายของระบบนเิ วศ
ก. นกเงือก นกกระสา นกเอี้ยง นกเขา
ข. แมลงปอ เต่า ลูกน้ำ กบ หอยขม ปลา
ค. ทะเลทราย อูฐ กิ้งก่า งู หนู นก
ง. แนวปะการัง ป่าชายเลน ทะเล ทุง่ หญ้า เขตอบอุ่น
๙. การคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพโดยมนษุ ย์ เป็นการเร่งให้เกดิ ปัญหาใดในธรรมชาติเรว็ ย่งิ ข้นึ
ก. การสูญพันธ์ุของสิ่งมชี ีวิต
ข. การสูญเสียความสมดลุ ทางธรรมชาติ
ค. การทำลายแหลง่ ท่องเทีย่ วทางธรรมชาติ
ง. ชนดิ พนั ธุ์ของพืชและสัตวม์ ปี ริมาณไม่แนน่ อน
๑๐. ในท้องถิ่นหน่งึ ๆ เกิดปญั หาความหลากหลายทางชีวภาพถูกทำลาย มนษุ ย์ทอ่ี าศยั อยู่ในท้องถิ่นน้ันจะ
ไดร้ บั ผลกระทบจากปัญหาน้ใี นเร่อื งใด
ก. ต้องอพยพโยกยา้ ยเพือ่ หาพน้ื ที่ใหม่
ข. ระบบเศรษฐกิจและสังคมหยุดชะงัก
ค. เกดิ สภาพอากาศแปรปรวน ทำใหก้ ารดำรงชวี ติ ยากลำบากขน้ึ
ง. ขาดแหล่งวัตถดุ ิบที่จะนำมาใช้ประโยชนใ์ นดา้ นอาหารและการเกษตร

๒๘๙

คำถาม เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ ๑

ขอ้ ใดเป็นความหลากหลายของชนิดพนั ธุ์ ก. นกเงือก นกกระสา นกเอ้ยี ง นกเขา

ข. ทะเล ทุ่งหญา้ เขตอบอ่นุ

สง่ิ ใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบของความหลากหลายทาง ก. ความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ิต

ชีวภาพ ข. ความหลากหลายของชนิดของส่งิ มีชีวติ

ขอ้ ใดเปน็ ความหลากหลายระดับพนั ธกุ รรม ก. ปลาและเต่าที่อาศยั ในบ่อ

ข. ในสระนำ้ มีบัวหลวง และบัวเผื่อนอยรู่ ว่ มกัน

ในบึงหน่งึ ซงึ่ มี ปลา กบ เต่า และบวั ดำรงชีวติ อยู่ ก. ระดับชนิดพันธ์ุ

จดั ไดว้ ่าเป็นความหลากหลายในระดบั ใด ข. ระดับพนั ธกุ รรม

บนเกาะหนึ่งซง่ึ มีลกั ษณะระบบนิเวศที่หลากหลาย ก. ระดบั ชนดิ พันธ์ุ

จัดไดว้ า่ เป็นความหลากหลายในระดบั ใด ข. ระดบั ระบบนิเวศ

ข้อใดเปน็ การจำแนกสง่ิ มชี วี ิตแบบผิวเผิน ก. การจำแนกโดยอาศัยลักษณะภายนอก หรอื

ลกั ษณะตา่ งๆ ที่สงั เกตได้

ข. การจำแนกโดยอาศยั ถิ่นท่อี ยู่

ความหลากหลายทางชวี ภาพ ตรงกบั คำ ก. biodiversity

ภาษาอังกฤษว่าอะไร ข. biological

ประเทศไทยอยใู่ นเขตภมู อิ ากาศแบบใด ก. แบบอบอนุ่

ข. แบบรอ้ นชน้ื

แมลงปอ เตา่ ลกู นำ้ กบ เปน็ องค์ประกอบของความ ก. ความหลากหลายทางพันธกุ รรม

หลากหลายทางชีวภาพระดบั ใด ข. ความหลากหลายของชนิดของสง่ิ มชี วี ิต

ความหลากหลายทางพนั ธุกรรม เกยี่ วขอ้ งกับอะไร ก. หน่วยพันธุกรรม

ข. สงิ่ แวดล้อม

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑๘

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓

รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน ๖ รหสั วิชา ว๒๓๑๐๒

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๗ เรือ่ ง ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชวี ภาพ ๑๒ ช่ัวโมง

หน่วยการเรียนรู้ยอ่ ย ๗.๔ เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ ๒ ๒ ช่ัวโมง

ผ้สู อน นางสาวพลอยทิพย์ เวียงสมุทร ตำแหนง่ นกั ศกึ ษาปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา ภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๔

สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ ไมม่ ชี วี ติ กบั ส่ิงมีชีวิต และ
ความสมั พันธ์ระหวา่ งสง่ิ มีชวี ิตกับสง่ิ มีชีวิตตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลงั งาน การ
เปลี่ยนแปลงแทนท่ใี นระบบนิเวศ ความหมาย ของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่มี ีตอ่
ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการ
แก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อม รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ระดบั ชนั้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
 ความหลากหลายทางชีวภาพ มี ๓ ระดับ ได้แก่
ม.๓ ม.๓/๑๐ อธิบายความสำคญั ของความ ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความหลากหลาย
ของชนิดสิ่งมีชีวิต และความหลากหลายทาง
หลากหลายทางชวี ภาพทมี่ ีต่อการรักษา พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพนี้มี
ความสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
สมดลุ ของระบบนเิ วศและต่อมนุษย์ ระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงจะ
รักษาสมดุลได้ดีกว่าระบบนิเวศที่มีความ
ม.๓/๑๑ แสดงความตระหนกั ในคุณคา่ และ หลากหลายทางชีวภาพต่ำกว่า นอกจากนี้ ความ
หลากหลายทางชีวภาพยังมีความสำคัญต่อมนุษย์
ความสำคัญของความหลากหลายทาง ในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นอาหาร ยารักษาโรค
วตั ถดุ บิ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดงั นน้ั จึงเป็นหน้าที่
ชวี ภาพ โดยมสี ่วนร่วมในการดูแลรกั ษา ของทุกคนในการดูแลรักษาความหลากหลายทาง
ชวี ภาพให้คงอยู่
ความหลากหลายทางชีวภาพ

๒๙๑

๑. กาํ หนดเปา้ หมายการเรียนรู้
๑.๑ สาระการเรยี นร้/ู เนือ้ หาการเรยี นรู้
เรอื่ งท่ี ๔ ความหลากหลายทางชีวภาพ ๒
๑) ความสมดุลของระบบนิเวศ
๒) สาเหตุของการเสียสมดุลและแนวทางการรักษาสมดลุ ของระบบนิเวศ
๑.๒ สาระสําคญั /ความคิดรวบยอดของเร่อื งทเ่ี รยี น
ความสมดุลของระบบนิเวศ หมายถึง สภาวะความคงท่ีในการแลกเปลี่ยนความสมั พนั ธ์ระหว่าง

สง่ิ มชี ีวิตกับสิ่งแวดลอ้ ม ซึง่ ในระบบนเิ วศน้ัน สิ่งมีชีวิต และไม่มีชวี ิต จะมีการแลกเปลีย่ นพลังงาน และสสารซ่ึง
กนั และกนั ขณะเดยี วกันความสมั พันธ์ระหวา่ งส่ิงมชี วี ิตด้วยกันคอื การถา่ ยทอดพลังงานไปตามหว่ งโซอ่ าหาร มี
องค์ประกอบภายในระบบทที่ ำหน้าท่ีเปน็ ผู้ผลติ ผบู้ ริโภค และผยู้ ่อยสลาย ซงึ่ ความสมดุลของระบบนิเวศจะคง
อย่ไู ด้ ตราบเทา่ ทม่ี ีความหลากหลายของสิ่งมีชวี ิตภายในระบบ ซง่ึ ความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ิต จะทำให้เกิด
ความสัมพันธ์ที่เป็นระเบียบ และสลับซับซ้อน ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่องค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทำให้
กระทบกระเทือน แมเ้ พยี งเล็กน้อย ผลกระทบอนั นน้ั จะถูกส่งทอดต่อไปถึงองค์ประกอบอ่ืนๆ ทั่วท้ังระบบ แต่
ในความซับซอ้ นของระบบนิเวศ มันกจ็ ะสามารถท่จี ะปรบั ตวั เขา้ สู่สภาวะแห่งความสมดุลไดใ้ หมอ่ กี ครัง้ เพ่ือให้
ระบบคงอยตู่ ่อไปได้ แตห่ ากผลกระทบน้นั รุนแรงเกินกว่าทีร่ ะบบจะปรบั ตวั ให้เขา้ สูส่ มดุลได้ ระบบน้ันทั้งระบบ
ก็จะแตกสลายลง

๑.๓ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้: เม่อื ผ้เู รยี นจบกจิ กรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถ

ดา้ นความรู้ (K: Knowledge)  อธบิ ายความสำคัญของความหลากหลายทาง
ชีวภาพท่ีมตี ่อการรกั ษาสมดลุ ของระบบนเิ วศและต่อ
มนุษย์

๒๙๒

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P: Process)  สามารถสร้างแบบจำลองหลากหลายทางชวี ภาพ

ในระดับชนิดสิง่ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attribute)  ตระหนกั ในคณุ ค่าและความสำคญั ของความ

หลากหลายทางชีวภาพ โดยนำเสนอแนวทางในการ

ดูแลรกั ษาความหลากหลายทางชวี ภาพ

ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Sc.P: Science Process Skills)

 การสงั เกต  การลงความเห็นจากขอ้ มูล

 การวดั  การกำหนดและควบคมุ ตวั แปร

 การคำนวณ/การใช้ตวั เลข  การกำหนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร

 การจำแนกประเภท  การต้ังสมมติฐาน

 การจดั กระทำและสือ่ ความหมายขอ้ มลู  การทดลอง

 การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซ  การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป

และสเปซกับเวลา  การสรา้ งแบบจำลอง

 การพยากรณ/์ การทำนาย

๒. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบ ๕E

๒.๑ ขั้นการสรา้ งความสนใจ (Engagement)

๑. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ งท่ี ๖ ความสมดลุ ของระบบนิเวศ เพื่อวัดความรู้เดมิ
ของนักเรียนก่อนเขา้ สู่กิจกรรม

๒. ครูเปิดประเด็นคำถามโดยให้นักเรยี นพิจารณาเก่ยี วกบั ภาพสายใยอาหารท่ีครไู ด้เตรียมไว้ จากนนั้
ครูตั้งประเด็นคำถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรยี น

๒๙๓

๓. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกนั ระดมสมอง แสดงความคิดเหน็ แล้วช่วยกนั ตงั้ คำถามทีน่ กั เรยี นสงสัย
และที่นกั เรียนสนใจ เกี่ยวกับสายใยอาหารท่ีนกั เรียนได้ศึกษาจากการดูภาพในเบอื้ งตน้ เชน่

- ถา้ จำนวนของผู้ผลติ ลดลง จะเกิดปญั หาใดขน้ึ ในสายใยอาหาร

- ถา้ มปี ระชากรของผีเสื้อเพม่ิ ขน้ึ จะสง่ ผลตอ่ สิง่ มีชีวติ ใด อย่างไร

- ถา้ ประชากรของหนูลดลง จะส่งผลต่อสง่ิ มีชีวติ ใด อยา่ งไร

- หากประชากรของกระตา่ ยลดลง เหยย่ี วสามารถกนิ ส่งิ มชี ีวิตใดทดแทนได้

๒.๒ ข้ันการสำรวจและค้นหา (Exploration)

๑. นกั เรียนจับกลุ่มกับเพ่ือนในช้ันเรียนตามความสมัครใจ กลุม่ ละ ๕-๖ คน จากน้นั ร่วมกนั ศกึ ษา

คน้ คว้าข้อมูลเกี่ยวกบั เรอื่ ง ความสมดุลของระบบนิเวศ จากหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.๓ เล่ม

๒ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๗ ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ หรือแหลง่ การเรยี นรู้ต่าง ๆ เช่น

อินเทอรเ์ น็ต

๒. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันทำกิจกรรมที่ ๗.๖ ความหลากหลายทางชีวภาพเกีย่ งข้องกับการรกั ษา

สมดลุ ของระบบนิเวศอยา่ งไร

กิจกรรมที่ ๗.๖ ความหลากหลายทางชีวภาพเก่ยี งขอ้ งกับการรักษาสมดุลของระบบนเิ วศอยา่ งไร

วสั ด/ุ อุปกรณ์ ข้นั ตอน

- ๑. อ่านสถานการณ์ สังเกตสายใยอาหารในระบบนิเวศ

ทั้ง ๒ ระบบนิเวศ แล้วเปรียบเทียบจำนวนชนิดของ

สิ่งมีชีวิต รวมทั้งวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตใน

สายใยอาหาร บันทึกผล

๒. ร่วมกันอภิปรายและวิเคราะห์ผลกระทบตอ่ สิ่งมีชีวิต

ทั้งหมดในสายใยอาหารและการรักษาสมดุลของระบบ

นิเวศ เมื่อหนูหายไปจากระบบนิเวศทั้ง ๒ ระบบนิเวศ

บนั ทึกผล

๓. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทำกิจกรรมและตอบคำถามในใบกิจกรรม เตรียมนำเสนอผลการทำ
กจิ กรรมหน้าชนั้ เรียน

๒๙๔

๒.๓ ขน้ั การอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)

๑. ใหต้ ัวแทนกลุ่มของแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลของตนเอง เม่ือตัวแทนกลมุ่ นำเสนอจบแลว้ นกั เรยี นคนใด
มีขอ้ สงสัย หรือขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ให้ยกมอื แล้วลุกขึ้นถามคำถามหรือแสดงความคดิ เห็นใหก้ ับผลงานของ
เพ่ือนกลุ่มอนื่ ในระหว่างน้ี ครจู ะประเมนิ ความถกู ต้องและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ให้นักเรียนเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

๒. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า “มนุษย์เป็นองค์ประกอบหนึง่ ของระบบนิเวศในโลก ที่จะ
อยรู่ อดไดก้ ็ต่อเมื่อองคป์ ระกอบอ่ืนๆ มีอยู่ดว้ ยอยา่ งสมบรู ณ์ แตก่ ารทำลายองค์ประกอบในระบบที่มนุษย์อาศัย
อยู่เอง เช่น การทำลายป่า การทำให้คุณภาพของอากาศ น้ำ ดิน เสื่อมโทรมอย่างรุนแรงนั้น เป็นการทำลาย
ความสมดุลของระบบนเิ วศอยา่ งรู้เทา่ ไม่ถึงการณ์ของมนษุ ย์ ดงั นัน้ เพอื่ ท่ีจะรักษาความสมดลุ ของระบบนิเวศใน
โลกนี้ไว้ให้ได้ มนุษย์จึงใช้ทรัพยากรทุกชนิดอย่างถนอมรักษา ฟื้นฟูสภาวะของทรัพยากรธรรมชาติ และ
ส่ิงแวดล้อมท่ีเสื่อมโทรม เพ่อื ทจ่ี ะให้ระบบนิเวศของมนุษย์ได้อยู่ในสภาวะสมดุลได้ตลอดไป”

๓. ครูและนักเรียนร่วมกันอธิบายและลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสมดุลของระบบนิเวศ โดยครูใช้
แผนภาพ วิดทิ ัศน์ หรอื Power Point ประกอบการอธบิ ายและลงข้อสรุป

ตวั อย่างสรปุ ความสมดลุ ของระบบนเิ วศ

สมดุลทางธรรมชาติ เป็นภาวะการณ์ทางธรรมชาติของระบบนิเวศใดก็ตามที่ระบบความสัมพันธ์ระหว่าง
องค์ประกอบเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หมายความว่า บรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ในระบบนิเวศจะต้องทำหน้าท่ี
ครบถ้วน ๓ กลุ่ม คือ มีผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลาย ในส่วนของสิ่งไมม่ ชี ีวิตเองก็ทำหน้าที่สนับสนุนอยา่ ง
ต่อเนื่องไม่ขาดหาย ความสมดุลทางธรรมชาติมีความแตกต่างกันไปตามความแตกต่างของระบบนิเวศ ซ่ึง
ในทางธรรมชาติระบบนิเวศจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นไปโดยธรรมชาติ
หรือมนุษย์ก็ได้ ลักษณ์การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ ๒ แบบ แบบกะทันหัน และแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งการ
เปลี่ยนแปลงระบบนิเวศโดยธรรมชาติแบบกะทันหันทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุล และมีผลกระทบต่อสิ่งมชี ีวติ
ทำให้ตายหรือสูญพันธ์ เช่น การเกิดไฟไหม้ป่า อุทกภัย การเกิดโรคระบาด ฯลฯ สำหรับการเปลี่ยนแปลงแบ
แบบค่อยเปน็ ค่อยไปตามธรรมชาติ เป็นการเปลี่ยนแปลงอยา่ งชา้ ๆ กอ่ ให้เกดิ อันตรายต่อมนษุ ยแ์ ละสิ่งแวดล้อม
น้อยมาก แต่เมื่อระยะเวลานานเข้าการเปลี่ยนแปลงจะมากขึ้น จะเกิดผลกระทบต่อส่ิงมีชีวติ อย่างเด่นชัดข้ึน
เช่น ทุ่งนา หรือไร่ร้าง จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นทุ่งหญ้า และพืชพวกไม้พุ่มในเวลาต่อมา จนในที่สุดหากไม่มี
สิ่งแวดล้อมภายนอกมารบกวน ก็จะกลายเป็นป่าที่สมบูรณ์ได้ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตสามารถปรับตัวให้เข้ากับ
ส่ิงแวดลอ้ มทเ่ี ปล่ียนแปลงได้

๒๙๕

ภาวะสมดลุ ในระบบนเิ วศ เกย่ี วขอ้ งกบั เงอ่ื นไขสำคญั ดังน้ี

๑. โครงสรา้ งและสว่ นประกอบต่าง ๆ ภายในระบบต้องอยู่ในระดับท่ีเหมาะสมทงั้ ชนิดปริมาณสัดส่วน
และการกระจายตวั ส่วนประกอบ ดงั น้ี

๑.๑ ชนิดของส่วนประกอบต่าง ๆ ถ้าระบบนิเวศใดมีชนิดพืช สัตว์มากทำให้ระบบมีระดับ
ความหลายหลายทางชวี ภาพสงู และมเี สถียรภาพมาก

๑.๒ ปริมาณและสัดส่วนประกอบต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะต้องอยู่ในระดับท่ี
เหมาะสมตามโครงสร้างระดับการถ่ายทอดอาหารภายในระบบ เช่น จำนวนท่ีเหมาะสมระหว่างสตั ว์ท่กี ินเนอื้
กบั สตั ว์ทก่ี ินพืช

๑.๓ การกระจายตวั ของส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศต้องเหมาะสมกับสมรรถนะ
การรองรับได้ของระบบ เช่น ไม่อยหู่ นาแน่นเกินไป

๒. กลไกการทำงานของระบบที่คอยปรับโครงสร้างและส่วนประกอบต้องทำหน้าที่ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ เช่น กลไกความสมั พันธ์ระหว่างสัตว์ผู้ถกู ล่า ชว่ ยควบคมุ จำนวนประชากรสัตว์ในธรรมชาติให้มี
จำนวนทเ่ี หมาะสม

๒.๔ ขน้ั การขยายความรู้ (Elaboration)

๑. ครูเปดิ ประเด็นเก่ียวกบั สาเหตุของการเสยี สมดุลของระบบนิเวศ และแนวทางการรกั ษาสมดุลของ
ระบบนิเวศ โดยให้นักเรียนในชัน้ เรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกนั และเขียนไว้บนหน้ากระดานชั้นเรยี น
เป็นองค์ความรู้ของตนเอง และอธิบายเพิ่มเติมว่า “การสูญเสียความสมดุลในระบบนิเวศอาจเกิดขึ้นจาก
ธรรมชาติ หรอื มนษุ ยท์ ำให้องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศถกู เปลย่ี นแปลงไป หากเกดิ โดยธรรมชาติ ระบบนิเวศ
นิเวศจะช่วยแก้ไขด้วยตนเอง แต่ถ้าเกิดจากมนุษย์จะแก้ไขได้ยากมาก เมื่อมนุษย์เพิ่มจำนวนมากขึ้น มีการ
พัฒนาวิถีชีวิตมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี ทำให้ความเป็นอยู่สุขสบายมากขึ้น มนุษย์จึงได้ชื่อว่า เป็นเป็นตัวการ
ทำลายระบบนิเวศมากท่ีสดุ ดังน้นั มนษุ ยเ์ ราจึงควรตระหนกั และเห็นคุณค่าของสิง่ มีชวี ิตและส่ิงแวดล้อมที่อยู่
รอบตัว เมื่อเราทำให้ระบบนิเวศเสยี สมดลุ เราก็ควรทีจ่ ะหาแนวทางเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขให้ระบบนิเวศกลับคนื
มาสมดลุ ใหไ้ ดแ้ บบเดิม”

๒๙๖

๒. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งควรได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
“ระบบนิเวศประกอบด้วยสิ่งมชี ีวิตนานาชนดิ และรูปแบบต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ จุลินทรีย์ที่อยู่รวมกนั
บรเิ วณใดบริเวณหน่ึง โดยสิง่ มชี ีวิตเหล่านั้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมรอบๆ ตัวได้ การปรับตัว
เปลี่ยนแปลงบางอย่างของสิ่งมีชีวิตอาจเกิดขึ้นภายในหนึ่งชั่วอายุ หรือยาวนานหลายชั่วอายุ โดยผ่านการ
คดั เลือกตามธรรมชาติ ตามกระบวนการววิ ัฒนาการ คณุ สมบัติ และความสามารถของสง่ิ มชี ีวิต ส่ิงมีชีวิตและ
สภาวะแวดล้อมต่างก็มีบทบาทร่วมกัน และมีปฏิกริยาต่อกันและกันอย่างซับซ้อนในระบบนิเวศที่สมดุล
โครงสร้างและคุณสมบตั ิของระบบนิเวศเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตชนิดตา่ งๆ รวมทั้งมนุษย์อยู่ร่วมกันได้
อย่างสมดุล เมื่อความเจริญและอารยธรรมของมนุษย์ได้มาถึงจุดสุดยอดและเริ่มเสื่อมลงเพราะมนุษย์เริม่ ทำ
ลายสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ที่เคยช่วยเหลือสนับสนุนตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ที่อยู่อาศัย
เครือ่ งนุ่งหม่ ยารกั ษาโรค หรอื การแสวงหาความสุขและความบนั เทิงบนความทุกข์ยากของส่งิ มชี ีวิตอื่น จนทำ
ให้เกดิ การเสยี สมดลุ ของระบบนเิ วศ ซ่งึ นำไปสูค่ วามเสียหายอย่างใหญ่หลวงของสรรพสิ่งท้งั มวล”

๒.๕ ข้ันการประเมิน (Evaluation)

๑. ครปู ระเมนิ โดยใช้กจิ กรรมการแข่งขนั เป็นกลมุ่ ดังน้ี

ขั้นท่ี ๑ ครูทบทวนบทเรยี นทเี่ รียนมาแลว้ ครัง้ กอ่ น ดว้ ยการซักถามและอธบิ าย ตอบข้อสงสยั ของนกั เรยี น
ขน้ั ท่ี ๒ จัดกลุ่มแบบคละกัน (Home Group) กลุม่ ๓-๔ คน
ขน้ั ที่ ๓ แต่ละทมี ศกึ ษาหัวข้อที่เรยี นในวนั น้ีจากแบบฝึก (Worksheet And Answer Sheet) ทีมจะ

เรมิ่ ทำการแขง่ ขนั ตอบปัญหา
ข้ันที่ ๔ การแขง่ ขันตอบปัญหา (Academic Games Tournament)
๔.๑ ครูทำหนา้ ท่ีเปน็ ผจู้ ัดการหอ้ งเรยี น โดยแบ่งตามความสามารถของนกั เรียน เช่น
โตะ๊ ท่ี ๑ เปน็ โตะ๊ แข่งขนั สำหรบั นักเรยี นท่มี คี วามสามารถเก่งมาก
โตะ๊ ที่ ๒ และ ๓ เป็นโต๊ะแขง่ ขันสำหรบั นักเรยี นท่ีมคี วามสามารถปานกลาง
โต๊ะท่ี ๔ เปน็ โตะ๊ ท่ีแขง่ ขนั สำหรบั นักเรียนทมี่ คี วามสามารถอ่อน
๔.๒ ครูแจกซองคำถามจำนวน ๑๐ คำถามให้ทุกโตะ๊ (เปน็ คำถามเหมอื นกนั )
๔.๓ นักเรยี นเปลี่ยนกันหยิบซองคำถามทลี ะ ๑ ซอง (๑ คำถาม) แล้ววางลงกลางโต๊ะ
๔.๔ นักเรยี น ๓ คนที่เหลือคำนวณหาคำตอบ จากคำถามที่อา่ น
๔.๕ เขยี นคำตอบลงในกระดาษคำตอบท่แี ต่ละคนมอี ยู่
๔.๖ นักเรียนคนทที่ ำหน้าที่อ่านคำถามจะเป็นคนใหค้ ะแนน โดยมกี ติกาการใหค้ ะแนน ดังนี้
๔.๖.๑ ผตู้ อบถกู เปน็ คนแรก จะได้ ๒ คะแนน
๔.๖.๒ ผูต้ อบถูกคนตอ่ ไป จะไดค้ นละ ๑ คะแนน
๔.๖.๓ ถา้ ตอบผิด ให้ ๐ คะแนน

๒๙๗

๔.๗ ทำขนั้ ตอนที่ ๔.๓ - ๔.๕ โดยผลดั กนั อา่ นคำถามจนกว่าคำถามจะหมด
๔.๘ นักเรยี นทุกคนรวมคะแนนของตวั เอง โดยที่ทุกคนควรไดต้ อบคำถามจำนวนเทา่ ๆ กัน
จดั ลำดบั ของคะแนนท่ีได้ ซ่ึงกำหนดโบนัสของแตล่ ะโต๊ะดงั นีโ้ บนัส ผทู้ ่ไี ด้คะแนนสงู สุดที่ ๑ ประจำโตะ๊ แตล่ ะ
โตะ๊ จะได้โบนสั ๑๐ แตม้ ผทู้ ีไ่ ดค้ ะแนนรองที่ ๒ ประจำโต๊ะแตล่ ะโต๊ะ จะไดโ้ บนสั ๘ แต้ม ผู้ที่ได้คะแนนรองที่
๓ ประจำโต๊ะแต่ละโตะ๊ จะได้โบนสั ๕ แต้ม ผู้ที่ได้คะแนนนอ้ ยท่ีสดุ ประจำโตะ๊ แต่ละโต๊ะ จะไดโ้ บนัส ๔ แตม้

ข้นั ที่ ๕ นักเรียนกลับมากลุ่มเดิม (Home Group) รวมแต้มโบนสั ของทกุ คน ทมี ใดทมี่ ีแตม้ โบนัสสูงสดุ จะให้
รางวลั หรอื ตดิ ประกาศไวใ้ นมุมขา่ วของหอ้ ง

๒. นักเรียนทำกิจกรรมและตอบคำถามท้ายกจิ กรรมในใบกิจกรรมที่ ๗.๖ ความหลากหลายทาง
ชีวภาพเกีย่ งข้องกบั การรกั ษาสมดลุ ของระบบนเิ วศอยา่ งไร

๓. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง ความสมดลุ ของระบบนเิ วศ

๓. ส่ือ/อุปกรณ/์ แหล่งเรียนรู้

๓.๑ คู่มือครูรายวชิ าพืน้ ฐาน วิชาวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ (สสวท.)

๓.๒ หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ าวิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ เล่ม ๒ (สสวท.)

๓.๓ Power Point เรื่อง ความสมดุลของระบบนเิ วศ

๔. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๒๙๘

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัดผลการเรียนรู้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
ผ่านเกณฑไ์ ม่นอ้ ยกว่า
ดา้ นความรู้ (K: Knowledge) - การตอบคำถาม ร้อยละ ๘๐

 อธบิ ายความสำคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพทีม่ ีต่อการ ผ่านเกณฑไ์ มน่ ้อยกวา่
รอ้ ยละ ๘๐
รักษาสมดลุ ของระบบนิเวศและต่อมนุษย์
ผา่ นเกณฑ์ไมน่ อ้ ยกว่า
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P: Process) - การตอบคำถาม ร้อยละ ๘๐

 สามารถสร้างแบบจำลองหลากหลายทางชีวภาพในระดบั ชนิด - การทำกิจกรรม ผา่ นเกณฑไ์ ม่นอ้ ยกวา่
รอ้ ยละ ๘๐
ส่งิ มีชีวติ ในระบบนิเวศ

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A: Attribute) - สังเกตพฤตกิ รรมในการ

 ตระหนักในคณุ คา่ และความสำคญั ของความหลากหลายทาง ทำงาน

ชวี ภาพ โดยนำเสนอแนวทางในการดูแลรกั ษาความหลากหลาย

ทางชวี ภาพ

ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - การตอบคำถาม

(Sc.P: Science Process Skills)

 การสงั เกต

 การจดั กระทำและสื่อความหมายข้อมูล

 การลงความเห็นจากขอ้ มลู

 การกำหนดนิยามเชิงปฏิบตั กิ าร

 การตงั้ สมมติฐาน

 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงข้อสรปุ

๒๙๙

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คลชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓
คำช้ีแจง ให้ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนกั เรียนรายบคุ คลในช้ันเรยี นตามแบบประเมินรายการในตาราง แล้วขดี
 ลงในชอ่ งท่ตี รงกับคะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน

ลำดับ ชอื่ -สกุล ความมวี ินยั ความมี การรับฟงั การแสดง การตรงต่อ รวม
ท่ี นำ้ ใจ ความ ความ เวลา ๑๕
เออ้ื เฟอ้ื คิดเห็น คิดเหน็ คะแนน
เสียสละ

๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑

๑ เด็กชายอสิ ระ สะโสม
๒ เดก็ ชายชวกร วฒุ ิสาร
๓ เดก็ ชายคณิศร พรหมพินิจ
๔ เด็กชายวรวชิ นัดทะยาย
๕ เด็กชายอภิญญา เประกนั ยา
๖ เด็กชายชายชาญ อาจอกั ษร
๗ เดก็ ชายอินทรชติ รวมธรรม
๘ เดก็ ชายนธิ กิ านต์ ทบั ทมิ
๙ เดก็ ชายอัครพล ปรุ ธิ รรมเม
๑๐ เด็กชายกันตพชิ ญ์ พรหมดวงดี
๑๑ เด็กชายธเนศพล อะทอยรมั ย์
๑๒ เดก็ ชายมากอส บญุ ทัน
๑๓ เด็กชายปองภพ วงศศ์ รชี า
๑๔ เด็กชายมรพุ งศ์ การินทร์
๑๕ เด็กชายชษิ ณพุ งศ์ วงั ครี ี
๑๖ เด็กหญิงจนั ทมิ า แสงฤทธิ์
๑๗ เด็กหญงิ สุมารินทร์ โตกูล
๑๘ เดก็ หญิงชาลิสา ภญิ ญโภชน์
๑๙ เด็กหญงิ นณศิ รา อุดคำดี
๒๐ เดก็ หญิงวรัญญา ภูบุญคง
๒๑ เด็กหญงิ อมลรุจี ทงุ่ สาร
๒๒ เด็กหญิงวชิ ญาดา สวุ รรณวงษ์
๒๓ เดก็ หญงิ ฐติ าภา มาราช
๒๔ เด็กหญิงศศวิ ิมล มาตผาง

๒๕ เด็กหญิงภทรพรรณ อนั ลกู ทา้ ว ๓๐๐
๒๖ เด็กหญิงชลดา บตุ รสาร
๒๗ เด็กหญิงสโรธชิ า รัตนภมู ี ลงช่อื …………………………………………………ผปู้ ระเมิน
๒๘ เด็กหญงิ พัชราภา ทาสดี ำ ( นางสาวพลอยทิพย์ เวียงสมุทร )
๒๙ นางสาวณฐั กฤตา นิลไชย
๓๐ เดก็ หญงิ ศศธิ ร แกน่ วงษา วันท…ี่ ……เดอื น………………..……….. พ.ศ.๒๕๖๕
๓๑ เดก็ หญงิ ปัญญดา บุญเกษม
๓๒ เดก็ หญิงกลอนกวี จดั โสภา
๓๓ เดก็ หญงิ ชนญั ชดิ า หารราชา
๓๔ เด็กหญิงณฐั ธยาน์ สวุ รรณรอด
๓๕ เด็กหญิงนภิ าพร แวดล้อม
๓๖ เด็กหญิงพชั ราภา ธรรมขันธ์
๓๗ เด็กหญงิ พัชริญา งามสงา่
๓๘ เดก็ หญิงพันธวดี ไตรยวงค์
๓๙ เดก็ หญิงสธุ ีธิดา กติ ิอาษา
๔๐ เดก็ หญิงกุลนันท์ จีนะพงษ์

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

๑๒ - ๑๕ ดี

๑๘ - ๑๑ พอใช้

ต่ำกวา่ ๘ ปรับปรงุ

๓๐๑

แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่

ช่อื กล่มุ …………………………………………………………………………………………………………………..ชั้น…………

คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ ง

ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
๓๒๑
๑ การแบง่ หน้าท่กี ันอยา่ งเหมาะสม
๒ ความร่วมมอื กันทำงาน รวม
๓ การแสดงความคิดเห็น
๔ การรบั ฟงั ความคิดเห็น
๕ ความมีน้ำใจช่วยเหลือกนั

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ลงชื่อ…………………………………………………ผปู้ ระเมิน
( นางสาวพลอยทพิ ย์ เวียงสมุทร )
๑๒ - ๑๕ ดี
วนั ท…ี่ ……เดือน………………..……….. พ.ศ.๒๕๖๕
๑๘ - ๑๑ พอใช้

ต่ำกวา่ ๘ ปรับปรุง

๓๐๒

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้

ผลการจัดกจิ กรรม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ปัญหา/อุปสรรค
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ………………………………………….นกั ศกึ ษาปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา
(นางสาวพลอยทิพย์ เวยี งสมุทร)

วนั ที่............เดอื น...............................พ.ศ.๒๕๖๕

ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลย้ี ง
เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่

 นำไปใช้สอนได้
 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………………………………..
(นางอรญั ญา บรจิ าค)

๓๐๓

ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี

 นำไปใช้สอนได้
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ……………………………………..
(นายธนภณ อ่นุ วิเศษ)

ความคิดเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มงานบริหารงานวชิ าการ
๑. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
 องค์ประกอบครบถว้ น  องค์ประกอบไมค่ รบ คือ.........................................................
๒. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้/กระบวนการเรยี นรเู้ หมาะสม
 เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั กิจกรรมเหมาะสมกบั เนือ้ หา/ส่อื /เวลา
 ไม่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป
๓. การวัด/ประเมินผล
 หลากหลาย เหมาะสม ประเมนิ ตามสภาพจริง
 การประเมนิ ผลควรหลากหลาย และประเมนิ ตามสภาพจริง

ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………………………………..
(นายวิทยา อินกง)

ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นหรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………..
(นางสาวสุภาวดี ผาตะเนตร)
ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลมุ่ งานบริหารงานวิชาการ

๓๐๔

กิจกรรมท่ี ๗.๖ ความหลากหลายทางชีวภาพเกย่ี งขอ้ งกบั
การรักษาสมดุลของระบบนเิ วศอย่างไร

สมาชกิ

๓๐.ช่ือ ……………………………………………………………………………….. ชัน้ ……………….. เลขท่ี ……………
๓๑.ช่อื ……………………………………………………………………………….. ชั้น ……………….. เลขท่ี ……………
๓๒.ชอ่ื ……………………………………………………………………………….. ชน้ั ……………….. เลขท่ี ……………
๓๓.ช่อื ……………………………………………………………………………….. ชน้ั ……………….. เลขท่ี ……………
๓๔.ชื่อ ……………………………………………………………………………….. ชน้ั ……………….. เลขที่ ……………
๓๕.ชือ่ ……………………………………………………………………………….. ชั้น ……………….. เลขท่ี ……………
จดุ ประสงค์
๑. อธบิ ายความสำคญั ของความหลากหลายทางชีวภาพทมี่ ีตอ่ การรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
วัสด/ุ อปุ กรณ์
-
ขัน้ ตอน
๑. อ่านสถานการณ์ สังเกตสายใยอาหารในระบบนิเวศทั้ง ๒ ระบบนิเวศ แล้วเปรียบเทียบจำนวนชนิดของ
ส่งิ มชี ีวิต รวมทัง้ วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของสิ่งมีชวี ติ ในสายใยอาหาร บันทกึ ผล
๒. รว่ มกนั อภิปรายและวเิ คราะหผ์ ลกระทบต่อส่ิงมีชวี ิตทัง้ หมดในสายใยอาหารและการรักษาสมดุลของระบบ
นิเวศ เมื่อหนูหายไปจากระบบนิเวศทง้ั ๒ ระบบนเิ วศ บันทกึ ผล

๓๐๕

ผลการทำกจิ กรรม
นักเรียนเปรยี บเทียบผลกระทบจากสถานการณ์ใน ๒ ระบบนิเวศ โดยพบวา่
ระบบนิเวศท่ี ๑
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ระบบนเิ วศที่ ๒
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

อภิปรายผลการทำกจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
คำถามท้ายกิจกรรม
๑. ในแตล่ ะระบบนเิ วศมีจำนวนชนดิ ของสง่ิ มีชีวติ แตกต่างกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๒. เมื่อหนูหายไป สายใยอาหารในแตล่ ะระบบนิเวศมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๓. เมือ่ หนหู ายไป สายใยอาหารในระบบนเิ วศใดสามารถเขา้ สูส่ มดลุ ไดเ้ ร็วกวา่ กัน เพราะเหตุใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

๓๐๖

แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๗ ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

เรื่องท่ี ๖ ความสมดุลของระบบนเิ วศ

คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นเคร่ืองหมาย  หน้าคำตอบท่ถี ูกต้องที่สุดเพียงขอ้ เดียว
๑. ขอ้ ใดเปน็ ระบบนเิ วศตามธรรมชาติ

ก. ชุมชนเมือง
ข. แหล่งเกษตรกรรม
ค. ปา่ ไม้
ง. ตปู้ ลา
๒. สงิ่ มชี วี ิตขอ้ ใดจัดเปน็ ผบู้ ริโภคพืช
ก. นกเปด็ นำ้
ข. กระตา่ ย
ค. แมว
ง. เสอื
๓. ข้อใดไมเ่ กยี่ วขอ้ งกับความหนาแน่นของประชากร
ก. การเกิด
ข. การอพยพเขา้
ค. การป่วย
ง. การตาย
๔. ขอ้ ใดเป็นปญั หาท่เี กิดจากการเพมิ่ จำนวนประชากร
ก. การขาดแคลนพื้นท่อี ยูอ่ าศยั
ข. พื้นทท่ี างการเกษตรลดลง
ค. ความต้องการปจั จยั ส่ีเพ่ิมข้ึน
ง. ถกู ทุกข้อ
๕. ผลเสียของการทำลายปา่ ทร่ี า้ ยแรงทส่ี ุดคือข้อใด
ก. การขาดแหล่งอาหาร
ข. ทำให้ดนิ สกึ กรอ่ น
ค. เสียสมดุลธรรมชาติ
ง. เกดิ ภยั ธรรมชาติ

๓๐๗

๖. ข้อใดทำให้สัตว์ปา่ เปลยี่ นแปลงมากทส่ี ุด
ก. การล่าสัตว์
ข. ภัยธรรมชาติ
ค. การเก็บของปา่
ง. การลกั ลอบตัดไม้

๗. ในการอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ ต่างๆ ส่ิงสำคัญท่จี ำเป็นต้องคำนงึ ถงึ มากทีส่ ดุ คือขอ้ ใด
ก. เงินทนุ
ข. บคุ ลากร
ค. ผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม
ง. ผลประโยชน์ทจ่ี ะไดต้ อบแทน

๘. นกั เรยี นจะปฏบิ ตั อิ ย่างไรเพอ่ื ช่วยกันอนุรกั ษ์สง่ิ แวดล้อม
ก. นำทรัพยากรมาใชใ้ ห้คมุ้ ค่ามากท่ีสุดและประหยดั ที่สดุ
ข. เขา้ ไปสร้างทีอ่ ย่อู าศยั ในป่า เพื่อชน่ื ชมธรรมชาติ
ค. ไม่ตัดไมห้ รือนำไม้มาใช้โดยเด็ดขาด
ง. การใชส้ ารเคมีท่มี ีประสิทธิภาพสูงกำจดั ศตั รูพชื

๙. ผทู้ ม่ี ีหนา้ ท่ีในการอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสิง่ แวดลอ้ มได้ดีทส่ี ดุ คือใคร
ก. รัฐบาล
ข. ประชาชน
ค. นักวจิ ัยภาวะแวดลอ้ ม
ง. สำนกั งานคณะกรรมการส่งิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ

๑๐. การอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตเิ ป็นมาตรการใด
ก. เพ่อื มิให้เกิดมลพษิ ในโลกของส่งิ มชี ีวติ
ข. เกบ็ รกั ษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่โดยไมใ่ ชป้ ระโยชน์
ค. ทะนุบำรงุ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ ฉพาะทีก่ ำลงั สญู หายให้คงอยู่
ง. ค้มุ ครอง สงวน และบำรุงทรพั ยากรธรรมชาติให้มีอัตราผลิตผลสงู กว่าอัตราการใช้ประโยชน์

๓๐๘

คำถาม เร่ือง ความสมดลุ ของระบบนเิ วศ

ปัจจยั ทีก่ ำหนดใหเ้ กิดความเปล่ยี นแปลงขนาดของ ก. อตั ราการเกิดและการตาย อัตราการอพยพเขา้

ประชากรคือขอ้ ใด อพยพออก

ข. อาหารและที่อยอู่ าศัย

ขอ้ ใดไมจ่ ดั เป็นระบบนิเวศ ก. สนามหญ้าและสระนำ้ หนา้ โรงเรียน

ข. สนามกฬี าในโรงพลศึกษา

ระบบนิเวศทใี่ หญ่ทสี่ ดุ คือระบบนิเวศใด ก. ทะเล

ข. โลกของสงิ่ มชี วี ติ

ถา้ ประชากรเพิม่ มากข้นึ จะสง่ ผลต่อสมดุลของระบบ ก. เกดิ ภาะวะขาดแคลนอาหารโรคตดิ ตอ่

นเิ วศอยา่ งไร ข. ระบบนิเวศมคี วามหลากหลายมากขน้ึ

ข้อใดไมใ่ ช่สาเหตทุ ก่ี อ่ ให้เกดิ ปญั หาส่ิงแวดลอ้ ม ก. การขยายตวั ทางด้านเศรษฐกจิ

ข. ความแปรปรวนของฤดกู าล

โครงสร้างของระบบนิเวศประกอบดว้ ยปจั จัยใหญๆ่ ก. ปัจจัยทางนำ้ และอากาศ

๒ ประการ ได้แก่อะไรบ้าง ข. ปัจจัยทางกายภาพและชวี ภาพ

ส่งิ มชี ีวติ กลุ่มใดทส่ี ามารถเปลี่ยนอนนิ ทรียสารเปน็ ก. พชื สีเขยี ว

อินทรยี สารได้ ข. สัตวก์ นิ เนือ้

ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ้นิ เปลอื ง หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ี่มรี าคาแพงและใช้หมดไปได้

โดยงา่ ย

ข. ทรัพยากรธรรมชาตทิ ีเ่ มอ่ื เปลย่ี นรปู ไปแล้วไม่

สามารถทำให้เหมือนเดิมได้อีก

ความหนาแนน่ ของประชากร หมายถงึ ขอ้ ใด ก. จำนวนตวั ต่อชนดิ

ข. จำนวนตัวต่อชนดิ ตอ่ พน้ื ท่หี รือตอ่ ปริมาตร

ถา้ ประชากรของหนูลดลง ซ่ึงเปน็ อาหารหลักของงู ก. งูขาดแคลนอาหาร

ซงึ่ ประชากรของงูมีมากขน้ึ แตเ่ หยี่ยวซึ่งกินงเู ป็น ข. เหยีย่ วขาดแคลนอาหาร

อาหารมีประชากรลดลง จะส่งผลกระทบต่อสมดุล

ระบบนเิ วศอย่างไร




Click to View FlipBook Version