The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้าง+แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ning.np, 2022-05-23 04:28:25

โครงสร้าง+แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.4

โครงสร้าง+แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.4

กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4

แผนกประถมศึกษา
โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ัฒนา

โครงสรา้ งการสอน วิชาคณติ ศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โปรแกรมESC
ภาคเรียนที่……1.…. ปกี ารศึกษา....2565.... จำนวน 80 ชว่ั โมง

หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
ที่ การเรียนรู้ ตัวช้วี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน

1 จำนวนนับที่ มาตรฐานที่ ค 1.1 เข้าใจความ จำนวนนับท่มี ากกว่า 10 10

มากกว่า หลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบ 100,000 สามารถ (ส.1-3) 10

100,000 จำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลท่ี เขยี นและอา่ นเป็น

เกดิ ขน้ึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ อง ตัวเลขฮินดูอารบกิ

การดำเนนิ การ และนำไปใช้ ตวั เลขไทย และ

ตัวชว้ี ดั ท่ี ป.4/1 อา่ นและเขยี นตวั เลข ตัวหนงั สือ เขียนแสดง

ฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื จำนวนในรูปกระจาย

แสดงจำนวนนบั ทม่ี ากกวา่ 100,000 ซงึ่ เปน็ การเขยี นตามคา่

ตวั ชว้ี ัดที่ ป.4/2 เปรยี บเทียบและ ของเลขโดดในแตล่ ะ

เรียงลำดับจำนวนนบั ท่ีมากกว่า หลัก เปรยี บเทียบ

100,000 จากสถานการณต์ ่าง ๆ จำนวนทีเ่ ทา่ กันหรือ

ไมเ่ ท่ากนั มากกว่า

หรอื นอ้ ยกว่า และ

เรียงลำดบั จำนวนจาก

มากไปน้อย และจาก

นอ้ ยไปมาก ตลอดจน

หาค่าประมาณเป็น

จำนวนเตม็ สบิ เตม็ รอ้ ย

เต็มพนั เต็มหม่ืน เต็ม

แสน และเตม็ ลา้ น

2 การบวก การลบ มาตรฐานท่ี ค 1.1 เข้าใจความ การบวกและการลบ 12

จำนวนนบั ท่ี หลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบ จำนวนมีวิธีการที่ (ส.3-6)

มากกว่า 100,000 จำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่ หลากหลายและใช้

เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัตขิ องการ ทกั ษะกระบวนการทาง

ดำเนนิ การ และนำไปใช้ คณติ ศาสตร์ในการหา

ตัวชี้วัดท่ี ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของ คำตอบ การหาตัวไม่

การบวก การลบ การคณู การหารจาก ทราบค่าในประโยค

สถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตสุ มผล สญั ลกั ษณต์ ้องใช้

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.4/8 หาคา่ ของตัวไม่ทราบ ความสัมพนั ธข์ องการ

คา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวก บวกและการลบหรือใช้

และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบของ ความสัมพนั ธ์แบบ

จำนวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 และ 0 สว่ นย่อย-ส่วนรวม
ตัวชวี้ ัดที่ ป.4/11 แสดงวิธหี าคำตอบ และการประมาณ
ของโจทย์ปญั หา ๒ ขน้ั ตอน ของจำนวน ผลลพั ธข์ องการบวก
นบั ท่มี ากกว่า 100,000 และ 0 และการลบช่วย
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป.4/12 สรา้ งโจทย์ปัญหา ๒ ตรวจสอบความถูกต้อง
ขัน้ ตอน ของจำนวนนบั และ 0 พรอ้ มทั้ง ของคำตอบ สว่ นการ
หาคำตอบ แก้โจทยป์ ญั หาการ
บวกและการลบ ต้อง
วิเคราะหโ์ จทย์ และ
แสดงวธิ ที ำเพื่อหา
คำตอบ รวมท้ัง
ตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของ
คำตอบ

3 การคณู มาตรฐานท่ี ค 1.1 เข้าใจความ การคณู จำนวนมวี ธิ ีการ 14 10
(ส.6-9)
หลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบ ท่ีหลากหลายและใช้

จำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลท่ี ทกั ษะกระบวน การ

เกดิ ข้ึนจากการดำเนนิ การ สมบตั ขิ อง ทางคณิตศาสตรใ์ นการ

การดำเนนิ การ และนำไปใช้ หาคำตอบ การหา

ตวั ชี้วดั ท่ี ป.4/7 ประมาณผลลพั ธ์ของ ตวั ไม่ทราบค่าใน

การบวก การลบ การคูณ การหารจาก ประโยคสัญลักษณ์ตอ้ ง

สถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งสมเหตุสมผล ใช้ความสมั พนั ธข์ อง

ตวั ชว้ี ัดที่ ป.4/9 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบ การคณู และการหาร

คา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคูณ และการประมาณ

ของจำนวนหลายหลกั 2 จำนวน ผลลพั ธข์ องการคณู

ทีม่ ผี ลคูณไมเ่ กิน 6 หลกั และประโยค ชว่ ยตรวจสอบความ

สญั ลกั ษณ์แสดงการหารท่ีตวั ตง้ั ไม่เกนิ 6 ถกู ต้องของคำตอบ

หลกั ตัวหารไมเ่ กิน 2 หลัก ส่วนการแก้โจทย์

ตัวชว้ี ัดท่ี ป.4/11 แสดงวิธหี าคำตอบ ปญั หาการคูณ ต้อง

ของโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอน ของจำนวน วเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละ

นบั ที่มากกว่า 100,000 และ 0 แสดงวิธีทำเพ่อื หา

ตัวชว้ี ัดท่ี ป.4/12 สรา้ งโจทยป์ ัญหา 2 คำตอบ รวมทั้งต้อง

ขั้นตอน ของจำนวนนับและ 0 พร้อมท้ัง ตรวจสอบความ

หาคำตอบ สมเหตุสมผลของ

คำตอบ

สอบกลางภาคเรยี นที่ 1 (ส.10).....10.......คะแนน

3 การหาร มาตรฐานที่ ค 1.1 เขา้ ใจความ การหารจำนวนมี 14 16
(ส.11-
หลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบ วธิ กี ารที่หลากหลาย 14)

จำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลท่ี และใช้ทกั ษะและ

เกิดข้นึ จากการดำเนินการ สมบัติของ กระบวนการทาง

การดำเนินการ และนำไปใช้ คณติ ศาสตร์ในการหา

ตัวช้วี ดั ท่ี ป.4/7 ประมาณผลลพั ธข์ อง คำตอบ

การบวก การลบ การคณู การหาร จาก การหาตัวไม่ทราบคา่

สถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตุ สมผล ในประโยคสญั ลกั ษณ์

ตวั ชี้วัดท่ี ป.4/9 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบ ต้องใช้ความสัมพันธ์

ค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคณู ของการคูณและการ

ของจำนวนหลายหลัก 2 จำนวน ท่ีมผี ล หาร และการประมาณ

คณู ไมเ่ กิน 6 หลกั และประโยค ผลลพั ธ์ของการหาร

สญั ลกั ษณแ์ สดงการหารท่ีตวั ตั้งไมเ่ กนิ 6 ชว่ ยตรวจสอบความ

หลกั ตวั หาร ถกู ต้องของคำตอบ

ไม่เกนิ 2 หลัก และการแก้โจทย์

ตวั ชีว้ ดั ท่ี ป.4/11 แสดงวธิ หี าคำตอบ ปัญหาการหาร ต้อง

ของโจทย์ปญั หา 2 ข้นั ตอน ของจำนวน วเิ คราะห์โจทยป์ ญั หา

นับท่มี ากกวา่ 100,000 และ 0 และแสดงวธิ ีทำเพ่ือหา

ตวั ช้วี ัดที่ ป.4/12 สร้างโจทยป์ ัญหา 2 คำตอบรวมท้งั ต้อง

ข้นั ตอนของจำนวนนบั และ 0 พรอ้ มท้งั ตรวจสอบความ

หาคำตอบ สมเหตุสมผลของ

คำตอบ

4 การบวก ลบ คูณ มาตรฐานที่ ค 1.1 เขา้ ใจความ การบวก ลบ คณู หาร 10 12

หารจำนวนนับ หลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบ ระคน เปน็ การดำเนิน (ส.14-

จำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่ การทม่ี ากกว่าหน่ึง 16)

เกิดขน้ึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ อง ขน้ั ตอน และการแก้ปั

การดำเนนิ การ และนำไปใช้ ญหาการบวก ลบ คูณ

ตัวช้ีวัดท่ี ป.4/10 หาผลลพั ธ์การบวก หารระคน สามารถทำ

ลบ คณู หารระคนของจำนวนนบั และ 0 ไดห้ ลายวธิ ี ควรเลอื ก

ตัวช้ีวดั ที่ ป.4/11 แสดงวธิ ีหาคำตอบ วธิ แี กป้ ัญหาทเี่ หมาะ

ของโจทยป์ ัญหา 2 ข้ันตอนของจำนวน สมและดำเนนิ การ

นับทีม่ ากกว่า 100,000 และ 0 ตามขน้ั ตอนของการ

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.4/12 สรา้ งโจทยป์ ัญหา 2 แกป้ ัญหา รวมถึงการ

ขัน้ ตอน ของจำนวนนบั และ 0 พรอ้ มทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุ

หาคำตอบ สมผลของคำตอบ

5 เวลา มาตรฐานท่ี ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐาน การบอกระยะเวลา 12 12
(ส.17- 100
เกย่ี วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาด ตอ้ งใชค้ วามสัมพนั ธ์ 19)

ของสิ่งท่ีต้องการวัด และ นำไปใช้ ของหน่วยเวลาและ 80

ตัวชว้ี ดั ที่ ป.4/11 แสดงวิธหี าคำตอบ การดำเนินการของ

ของโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั เวลา จำนวน ตารางเวลาจะ

ช่วยให้อ่านข้อมูลได้

สะดวกและชัดเจนขน้ึ

และนำไปแกป้ ัญหา

เก่ยี วกบั เวลา

สอบปลายภาคเรียนที่ 1 (ส.20)...20…คะแนน

รวมภาคเรยี นที่ 1

แผนท่ี 1 สปั ดาห์ท่ี 1

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ชอ่ื ผ้สู อน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 จานวนนบั ท่มี ากกว่า 100,000

เรือ่ ง การอา่ น การเขยี น จานวนนบั ที่มากกว่า 100,000 แต่ไมเ่ กิน 10,000,000

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั

มาตรฐานการเรียนรู้ ค1.1เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเ่ี กิดขึน้ จาก

การดาเนินการสมบตั ขิ องการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั ค1.1ป.4/1 อ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตวั หนังสอื แสดงจานวนนบั ท่ีมากกว่า100,000

ตวั ชว้ี ัดค1.1ป.4/2 เปรียบเทียบและเรียงลาดบั จานวนนับท่มี ากกว่า 100,000 จากสถานการณ์ตา่ งๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

1. จานวนนบั ที่เขียนแสดงด้วยตัวเลข ที่มหี กหลัก เลขโดดทางซ้ายของ หลกั หมน่ื อยู่ในหลกั แสน
2. จานวนนับทเี่ ขียนแสดงด้วยตัวเลข ทมี่ เี จด็ หลกั เลขโดดทางซ้ายของ หลักแสนอยู่ในหลักล้าน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) เข้าใจหลกั การอา่ นจานวนนบั มากกวา่ 100,000 (K)
2) เขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจานวนนบั ทก่ี าหนดได้ถูกต้อง (P)
3) รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ีทไี่ ด้รับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

การเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทยและ พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
ตัวหนังสือแสดงจานวนนับ และการอ่าน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั นา

1. ทบทวนความรเู้ ก่ียวกับจานวนนับไมเ่ กิน 100,000 โดยใชส้ ถานการณ์เกีย่ วกบั ปรมิ าณการนาเขา้ สินค้าของไทย ใน

ปี พ.ศ. 2559 ดังน้ี

องุ่นแห้ง 4,914 ตนั ลกู เดอื ย 8,143 ตนั น้ามนั ถ่ัวเหลอื ง 17,904 ตนั

ชอ็ กโกแลต 21,034 ตนั ชาและกาแฟ 75,412 ตนั เครอื่ งเทศ 82,914 ตนั

ให้นกั เรยี นอา่ นหรือเขียนตัวหนังสอื แสดงจานวนเหล่าน้นั จากนน้ั ใชข้ ้อมลู จากหนา้ เปิดบทนาสนทนา เพอื่ กระต้นุ
ความสนใจของนักเรยี นเก่ียวกบั จานวนนบั ท่ีมากกวา่ 100,000 โดยอาจเช่อื มโยงจากสถานการณข์ ้างตน้ แลว้ ให้นักเรยี น ลอง
ตอบคาถามต่อไปน้ี

- สนิ ค้าชนดิ ใดมมี ูลคา่ การนา เขา้ มากทสี่ ดุ
- สนิ คา้ ชนดิ ใดมีมลู ค่าการนา เขา้ น้อยทสี่ ุด
- เรยี งลา ดับสนิ ค้าตามมลู ค่าการนาเข้าเขา้ จากมากไปน้อยได้อยา่ งไร
- เขยี นตวั เลขแสดงมูลคา่ การนาเข้าสนิ ค้าแตล่ ะชนดิ ได้อย่างไร
ซง่ึ ครูไมจ่ าเปน็ ต้องเฉลยคาตอบที่ถูกต้อง แตค่ วรใหน้ กั เรยี นเปน็ ผ้หู าคาตอบเองหลังจากเรียนเร่ือง การเปรียบเทยี บและ
เรียงลาดบั จานวนแลว้
2. เตรยี มความพร้อมเปน็ การตรวจสอบความรพู้ นื้ ฐาน ท่จี าเปน็ สาหรบั การเรียนบทน้ี โดยมีสว่ นท่ีเปน็ เนอ้ื หาและ สว่ น
ท่ีเป็นคณติ คิดทา้ ทาย ซง่ึ เป็นการนาความรู้ไปใช้ ในสถานการณป์ ัญหา

ถา้ พบวา่ นกั เรียนยงั มคี วามร้พู ื้นฐานไมเ่ พยี งพอ ควรทบทวนก่อน แล้วให้ทาแบบฝกึ หดั 1.1 เป็นรายบคุ คล

ขน้ั สอน

1. ครจู ัดกิจกรรมเกย่ี วกับการอา่ นและการเขยี นจานวนนับ ทม่ี ากกว่า 100,000 แต่ไมเ่ กิน 1,000,000 โดยใชข้ ้อมูล
เก่ยี วกบั จานวนประชากรในหนา้ 5 ให้นกั เรียนพจิ ารณา ตัวเลขฮินดูอารบกิ แสดงจานวน หลักและจานวนลูกคดิ ทอ่ี ย่ใู นแต่ละ
หลกั การเขยี นเป็นตัวเลขไทยและตวั หนังสอื ซง่ึ ครูอาจใชล้ ูกคิดประกอบการอธบิ ายจากน้ันร่วมกนั ทากจิ กรรมเกยี่ วกับจานวน
ประชากรของจังหวดั กาฬสนิ ธุ์ และครคู วรยกตวั อย่างจานวนนับอน่ื เพิ่มเตมิ เพอื่ ฝกึ ทักษะ การอา่ นและการเขียนจานวนนบั ที่
มากกว่า 100,000 แต่น้อยกว่า 1,000,000

ขอ้ ควรระวงั ในการแรเงาลกู คิดแตล่ ะหลัก ครูควรแนะนาให้นกั เรยี นเร่มิ แรเงาลูกคิดจากลา่ งขึ้นบน
2. การสอนจานวน 1,000,000 นกั เรยี นตอ้ งเกดิ ความคิดรวบยอดวา่ 10 แสน เทา่ กับ 1 ลา้ น และหลักที่ อยตู่ ิดกนั

ทางซ้ายของหลักแสนคือ หลกั ลา้ น ซึ่งครคู วร ทบทวนคา่ ประจาหลกั ของหลกั ท่อี ยูต่ ิดกันจากหลักหนว่ ย ไปถงึ หลักแสน เพอ่ื
เช่ือมโยงคา่ ประจาหลักของหลักแสน ไปสหู่ ลักลา้ น ซงึ่ อาจใช้ลกู คดิ ประกอบการอธบิ าย จากน้นั ตรวจสอบความเขา้ ใจโดย
อาจใชค้ าถาม เช่น

- 10 แสน เท่ากับกีล่ า้ น และ 1 ล้าน เทา่ กบั กี่แสน
- หลกั ที่อยตู่ ิดกนั ทางซ้ายของหลักแสนคือหลักใด และหลักที่อย่ตู ดิ กันทางขวาของหลักล้านคือหลักใด

แล้วจงึ ขยายไปสู่จานวน 7 หลกั อื่น ๆ เช่น
- 30 แสน เท่ากบั กี่ลา้ น
- 5 ลา้ น เทา่ กับก่แี สน
3. การสอนการอ่านและการเขียนจานวนเดยี วกันที่มี หลักตา่ งกัน ควรใหน้ ักเรียนมคี วามเข้าใจเกีย่ วกบั จานวน ในแต่

ละหลักโดยอาจใชค้ าถามและใช้ลูกคิดประกอบ การอธิบาย เช่น

- 2,300 เท่ากับก่ีร้อย หรือ เทา่ กบั ก่สี ิบ
- 32 รอ้ ย เทา่ กับกี่พัน

- 46,000 เท่ากับกี่พัน หรอื เทา่ กับกีร่ ้อย
- 370,000 เท่ากบั กีห่ มนื่ หรอื เทา่ กบั กี่พนั
- 56 แสน เทา่ กับกลี่ ้าน หรอื เทา่ กบั ก่ีหม่นื

ขั้นสรุป

1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุป การอ่าน และการเขียนตวั เลขแสดงจานวนนบั ท่ีมากกว่า 100,000 แตไ่ ม่เกนิ
10,000,000
- จานวนนบั ที่เขยี นแสดงดว้ ยตัวเลข ทม่ี ีหกหลัก เลขโดดทางซ้ายของหลักหมืน่ อยู่ในหลกั แสน
-จานวนนบั ทเ่ี ขียนแสดงด้วยตัวเลข ทีม่ ีหกหลัก เลขโดดทางซา้ ยของหลกั แสนอยู่ในหลกั ล้าน

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมินผล

ความรู้ความเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ขึ้นไป ถอื วา่

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์การ

คุณลักษณะนสิ ยั (A) ประเมนิ

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขึ้นไป ถือวา่

การทางานรายบุคคล/กล่มุ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรียนมี - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถอื ว่า

ความรับผดิ ชอบต่องานที่สัง่ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และสง่ งานได้ทนั ตามที่ อันพึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่นใน

การทางาน

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. ลูกคิด
2. หนงั สอื เรยี น
3. แบบฝกึ หดั

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผูส้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

แผนท่ี 2 สัปดาหท์ ี่ 1

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/……………..……... ชือ่ ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 จานวนนับทม่ี ากกว่า 100,000

เร่อื ง การอา่ น การเขยี น จานวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้ ค1.1เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนินการของจานวนผลทเี่ กดิ ขน้ึ จาก

การดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ชี้วดั ค1.1ป.4/1 อ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนังสอื แสดงจานวนนบั ทีม่ ากกว่า100,000

ตวั ช้ีวดั ค1.1ป.4/2 เปรียบเทียบและเรยี งลาดบั จานวนนับทมี่ ากกวา่ 100,000 จากสถานการณต์ า่ งๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

จานวนนบั ที่เขียนแสดงด้วยตัวเลข มากกวา่ เจ็ดหลกั เลขโดดทางซ้ายของ หลกั ลา้ นเรยี งลาดบั จากขวาไปซา้ ย อยู่ใน
หลักสิบลา้ น หลักรอ้ ยล้าน หลักพนั ล้าน ...

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) เขา้ ใจหลกั การอ่านจานวนนบั มากกว่า 10,000,000 (K)
2) เขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวนนบั ทีก่ าหนดได้ถูกต้อง (P)
3) รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ไี ด้รับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่

การเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
ตวั หนังสอื แสดงจานวนนบั และการอา่ น

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้ันนา

1. ครูทบทวนจานวนนบั ท่ีมากกว่า 100,000 แต่ไม่เกิน10,000,000 เกีย่ วกับการอ่าน และการเขยี น แสดงตัวเลขฮนิ ดูอารบิก
ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือ แสดงจานวนตงั น้ี

ครใู หน้ ักเรยี นใช้ลกู คิดแสดงจานวน 3 ลา้ น กบั 1 แสน กับ 6 หมน่ื กบั 4 พนั กับ 5 รอ้ ย กบั 1 สิบ กับ 2 หน่วย
แลว้ เขียนแสดงดว้ ยตัวเลขและตัวหนังสือบนกระดาน ซ่ึงจะได้

เขยี นแสดงดว้ ย ตวั เลขไทย (๓,๑๖๔,๕๑๒)
ตัวฮินดูอารบกิ (3,164,512)
ตวั หนังสอื (สาฺ มลฺ ้านหฺนี้งแสฺนหฺ กหมนื่ ส่พี ฺนหา้ เอยฺ สฺ บิ สฺองฺ )___

2. ครูตดิ รปู นบ้ี นกระดาน ให้นักเรยี นมาแรเงาแสดงจานวน 6 ลา้ น กับ 1 แสน กับ 0 หม่ืน กับ 2 พัน กบั 0 ร้อย กบั 0 สบิ กับ
0 หนว่ ย พรอ้ มท้ังเขยี นแสดงดว้ ย ตวั เลข และตัวหนังสือ จากน้นั ใหเ้ พื่อนๆ ตรวจสอบความถูกต้อง

ข้นั สอน

1. การสอนจานวน 10,000,000 นักเรยี นต้องเกดิ ความ คดิ รวบยอดวา่ 10 ลา้ น เท่ากับ 1 สิบล้าน และหลกั ทอ่ี ยู่
ตดิ กันทางซ้ายของหลกั ล้านคือ หลกั สิบล้าน ซ่งึ ครูควร ทบทวนค่าประจาหลักจากหลักแสนไปหลกั ล้าน เพื่อเชือ่ มโยง ไปสู่
หลักสบิ ล้าน จากน้นั ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยอาจใช้ คาถาม เชน่

- 10 ลา้ น เท่ากบั ก่สี บิ ลา้ น และ 1 สิบล้าน เทา่ กบั กี่ลา้ น
- หลักทอี่ ยู่ติดกนั ทางซ้ายของหลักล้านคือหลักใด และหลักที่อยตู่ ดิ กนั ทางขวาของหลักสิบล้าน คอื หลักใด แล้วให้ทา
แบบฝึกหดั 1.2 เปน็ รายบุคคล
2. ครูจัดกจิ กรรมเกย่ี วกับการอ่านและการเขยี นจานวนนับ ที่มากกว่า 10,000,000 แต่ไม่เกิน 100,000,000 โดยใช้
ข้อมลู เกยี่ วกบั ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในหน้า 8 ซ่งึ อาจทบทวนความรเู้ กย่ี วกับการอ่านจานวนนับไมเ่ กนิ
10,000,000 โดยใหน้ ักเรยี นตอบคาถามเก่ียวกบั ปรมิ าณ การปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจกของเมยี นมาร์ ลาว กัมพชู า และบรไู น
จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นพิจารณาปรมิ าณการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกของสงิ คโปร์ แล้วรว่ มกนั ทากจิ กรรม เกีย่ วกบั ปรมิ าณการปล่อย
กา๊ ซเรอื นกระจกของฟลิ ิปปนิ ส์ ในหนา้ 9 และครูควรยกตวั อย่างจานวนนับอนื่ เพิ่มเตมิ เพื่อฝึกทักษะการอ่านและการเขียน
จานวนนับทมี่ ากกว่า 10,000,000 แตไ่ มเ่ กนิ 100,000,000
3. การสอนจานวน 1 ร้อยล้าน 1 พนั ลา้ น 1 หมื่นล้าน ... นักเรยี นตอ้ งเกดิ ความคดิ รวบยอดวา่

10 สบิ ล้าน เทา่ กับ 1 ร้อยลา้ น

10 รอ้ ยล้าน เทา่ กับ 1 พนั ลา้ น

10 พันล้าน เทา่ กบั 1 หมนื่ ลา้ น

.
.
หลกั ท่ีอยูต่ ิดกนั ทางซา้ ยของหลกั สิบล้านคือ หลักร้อยลา้ น และหลกั ถัดไปเปน็ หลกั พันลา้ น หมื่นลา้ น ... ตามลาดับ ซงึ่ ครู
ควรทบทวนคา่ ประจาหลกั จากหลักลา้ นไปหลกั สิบลา้ น เพ่ือเช่อื มโยงไปสู่หลกั ร้อยล้าน พันล้าน หมืน่ ล้าน แสนล้าน ลา้ นล้าน
สบิ ลา้ นลา้ น รอ้ ยลา้ นล้าน ... ตามลาดบั จากนัน้ ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยอาจใชค้ าถาม เชน่

- 10 สิบลา้ น เทา่ กับก่รี ้อยล้าน และ 1 รอ้ ยลา้ น เท่ากบั กี่ สิบล้าน
- หลกั ทอ่ี ยตู่ ดิ กันทางซ้ายของหลกั ร้อยลา้ นคือหลักใด และหลักทีอ่ ยู่ตดิ กนั ทางขวาของหลกั พันลา้ นคือหลักใด

แลว้ จึงขยายไปสจู่ านวนท่มี ากกว่า 1 ร้อยลา้ น อ่ืน ๆ เช่น

- 70 พนั ล้าน เท่ากับกีห่ มนื่ ล้าน
- 4 ล้านล้าน เท่ากบั ก่ีแสนลา้ น

จากนั้นร่วมกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมหน้า 10–11 แลว้ ให้ทาแบบฝึกหัด 1.3 เปน็ รายบคุ คล
หมายเหตุ การเขยี นตอบในหนา้ 10–11 ไม่ตอ้ งเขยี น หน่วยตัน หรอื ลิตร

4. เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น ให้นกั เรยี นทากิจกรรมหน้า 12–13 เป็นรายบคุ คล ซ่งึ กิจกรรมข้อ 2 ครู
อาจให้นักเรียนทาบัตรตวั เลขเพื่อใช้ประกอบการแก้ปัญหา และข้อ 3 นักเรียนอาจเขยี นตอบโดยใสห่ นว่ ย “บาท” หรือ ไม่ใส่
หนว่ ยก็ได้

ข้นั สรุป

1. ครใู หน้ กั เรียนสรุปความรูท้ ่ีไดเ้ รยี นรู้ จากการเรยี นในบทเรยี นน้ี ซง่ึ ครูอาจจดั เป็นกจิ กรรมโดยให้ นกั เรยี นสรา้ งบัตร
ตวั เลข พร้อมเขียนเป็นตวั หนังสือและ ตกแต่งให้สวยงาม แลว้ นาเสนอหน้าชั้นเรียน

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือวา่

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การ

คุณลักษณะนิสยั (A) ประเมนิ

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ข้ึนไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรียนมี - แบบประเมิน 80% ขนึ้ ไป ถอื ว่า

ความรบั ผิดชอบต่องานทสี่ งั่ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และส่งงานไดท้ นั ตามท่ี อนั พงึ ประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุ่งมั่นใน

การทางาน

7. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. ลกู คิด
2. หนังสือเรยี น
3. แบบฝกึ หัด

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผูส้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

แผนที่ 3 สปั ดาหท์ ี่ 1

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชือ่ ผ้สู อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 จานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000

เรือ่ ง หลัก ค่าประจาหลัก คา่ ของ เลขโดดในแต่ละหลัก และการเขยี น แสดงจานวนในรปู กระจาย

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.4/1 อา่ นและเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนังสือแสดงจานวนนบั ทมี่ ากกว่า 100,000
ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.4/2 เปรยี บเทียบและเรียงลาดับจานวนนับทม่ี ากกว่า 100,000 จากสถานการณต์ า่ งๆ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

1. คา่ ประจา หลกั ของหลักท่ีอยทู่ างซ้ายเป็น 10 เทา่ ของคา่ ประจาหลักของหลักท่ีอยตู่ ิดกนั ทางขวา

2. เลขโดดในหลกั ต่าง ๆ มคี า่ ตามค่าประจาหลัก

3. การเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจายเปน็ การเขียน ในรูปการบวกของจานวนในแตล่ ะหลกั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1) เข้าใจความหมายและความแตกตา่ งระหว่างค่าประจาหลักและคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก (K)
2) บอกหลักของเลขโดดในแตล่ ะหลักของจานวนนบั ได้ถูกต้อง (P)
3) บอกค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลักของจานวนนบั ได้ถูกต้อง (P)
4) รับผิดชอบต่อหน้าท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น

หลกั ค่าประจาหลักและ คา่ ของเลขโดดในแต่ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

ละหลกั และการเขยี นตัวเลขแสดง จานวนในรูป

กระจาย

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้นนา

1. ทบทวนค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั โดยใช้หลกั ลูกคดิ แสดงจานวน 32,145 บนกระดาน แล้วให้ นักเรยี นใช้ลูกคิด
และหลกั ลกู คิดแสดงจานวน ครถู ามนักเรยี นวา่ ทราบไดอ้ ย่างไรวา่ ลกู คดิ แสดงจานวน 32,145 (หลกั หมื่นมลี ูกคดิ 3
ลกู หลักพนั มลี ูกคิด 2 ลกู หลักรอ้ ยมีลูกคดิ 1 ลูก หลักสิบมีลูกคดิ 4 ลูก หลกั หน่วยมีลูกคิด 5 ลูก) และบอกว่า

ตัวเลข 3 2 1 4 5 อยใู่ นหลักใด มคี ่าเทา่ ใด ซึ่งจะได้ดังน้ี

หมืน่ พัน รอ้ ย สบิ หน่วย

2. ครเู ขยี น 862,189 บนกระดาน ให้นกั เรยี นบอกว่า เลขโดดที่ขีดเส้นใต้ อย่ใู นหลักใดและมีค่าเทา่ ใด (2 ในหลักพัน มี
คา่ 2,000 และ 9 ในหน่วย มีคา่ 9 )

3. ครูถามว่า จากจานวน 862,189 เลขโดด 8 มีคา่ เทา่ ใด (8 ในหลกั แสน มคี ่า 800,000 และ 8 ในหลักสิบ มีค่า 80)

ขัน้ สอน

1. การสอนเรอ่ื งหลักและค่าประจาหลกั นักเรยี นตอ้ งเกดิ ความคิดรวบยอดวา่ คา่ ประจาหลกั ของหลักทางซา้ ย
เป็น 10 เทา่ ของค่าประจาหลกั ของหลักทอ่ี ยู่ตดิ กัน ทางขวา ซึ่งครอู าจจดั กจิ กรรมโดยใหน้ ักเรียนพจิ ารณา ความสัมพันธ์
ของคา่ ประจาหลักของหลกั ที่อยตู่ ดิ กันจาก ตารางแสดงหลักและคา่ ประจาหลัก จากนน้ั ร่วมกันทากิจกรรมเติมคา่ ประจาหลกั
ของหลักสิบลา้ น รอ้ ยลา้ น พันลา้ น ... สิบล้านล้าน และครูอาจใหน้ ักเรยี นตอบคาถาม เพ่มิ เตมิ เพื่อฝึกทักษะเกย่ี วกบั หลกั และ
ค่าประจาหลกั เช่น

- คา่ ประจา หลักของหลักร้อยลา้ นล้านเป็นเท่าใด
- หลกั ใดทม่ี ี คา่ ประจาหลกั เป็น10,000,000,000,000,000
2. การสอนการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรปู กระจาย นักเรยี นตอ้ งมีความเข้าใจว่า เลขโดดในหลักต่าง ๆ มคี ่าตาม
ค่าประจาหลัก และการเขียนตวั เลขแสดง จานวนในรูปกระจายเป็นการเขยี นในรูปการบวกของ จานวนในแตล่ ะหลกั ซง่ึ
ครอู าจทบทวนความรเู้ กีย่ วกับ คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักและการเขยี นตัวเลขแสดง จานวนไมเ่ กิน 100,000 ในรูปกระจาย
โดยอาจใช้ลูกคดิ ประกอบการอธิบาย จากน้ันใหน้ กั เรยี นพิจารณาการเขียน ตัวเลขแสดงระยะห่างระหว่างดวงอาทิตย์กบั ดาว
พุธซ่งึ เปน็ จานวนที่มากกว่า 100,000 ในรูปกระจาย แลว้ รว่ มกันทากจิ กรรมเกยี่ วกับระยะห่างระหวา่ งดวงอาทิตย์กับดาวศุกร์
ในหนา้ 16 และครคู วรยกตัวอย่าง จานวนทม่ี ากกวา่ 100,000 เพิม่ เตมิ เพือ่ ฝึกทักษะการเขียนตัวเลขแสดง จานวนในรูป
กระจาย จากนนั้ ให้ทาแบบฝกึ หดั 1.4 เปน็ รายบุคคล
3. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความร้ทู ่ีได้ ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมหนา้ 17 เปน็ รายบคุ คล

ข้นั สรปุ

ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเกี่ยวกับหลัก ค่าประจาหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตวั เลขแสดงจานวน
ในรูปกระจาย ดงั น้ี

1. คา่ ประจาหลกั ของหลกั ท่ีอยู่ทางซา้ ยเป็นสิบเท่าของคา่ ประจาหลกั ของหลักที่อยถู่ ัดไปทางขวา
2. เลขโดดในหลกั ตา่ ง ๆ มีค่าตามค่าประจาหลัก เซ่น 5 ในหลักลา้ น มีค่าหา้ ลา้ น 5 อยูใ่ นหลัก สิบลา้ น มีค่า หา้ สิบ
ลา้ น
3. การเขยี นตวั เลขแสดงจานวนนบั ใดๆ ในรูปกระจายเป็นการเขยี นในรปู การบวก คา่ ของเลข โดดในหลักตา่ ง ๆ
ของจานวนนับ

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึ้นไป ถอื ว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) ประเมิน

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ข้ึนไป ถือว่า

การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมิน 80% ข้ึนไป ถือวา่

ความรับผิดชอบต่องานท่ีสัง่ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามที่ อนั พึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุ่งมั่นใน

การทางาน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

1.หนงั สือเรียน
2.แบบฝึกหัด

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

แผนที่ 4 สปั ดาห์ท่ี 1

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ช่ือผสู้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 จานวนนับท่ีมากกว่า 100,000

เร่ือง การอา่ น การเขยี น จานวนนบั ที่มากกว่า 100,000

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน
ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการและนาไปใช้

ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.4/1 อา่ นและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและตวั หนังสอื แสดงจานวนนับทีม่ ากกวา่ 100,000
ตวั ช้วี ดั ค1.1ป.4/2 เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั จานวนนบั ท่ีมากกว่า 100,000 จากสถานการณต์ า่ งๆ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

1. จานวน 2 จานวนเม่อื นามาเปรียบเทยี บกัน จะเทา่ กนั มากกว่ากนั หรือนอ้ ยกวา่ กนั อยา่ งใดอยา่ งหนึง่ เพยี ง อย่าง
เดยี วเท่านั้น

2. การเปรยี บเทยี บจานวนนบั 2 จานวน ให้เปรียบเทียบ คา่ ของเลขโดดในหลักซา้ ยสุดของแตล่ ะจานวนก่อน ถ้าไม่
เทา่ กนั จานวนนบั ที่มคี า่ ของเลขโดดมากกว่า จานวนนน้ั จะมากกวา่ ถา้ เทา่ กัน ให้เปรยี บเทยี บค่าของ เลขโดดในหลกั ถัดไป
ทางขวาทลี ะหลัก ถา้ พบวา่ คา่ ของ เลขโดดของจานวนใดมากกว่า จานวนน้ันจะมากกว่า

3. การเรยี งลา ดบั จานวนหลาย ๆ จานวน ทาได้ โดยการ เปรียบเทียบจานวนทลี ะคู่ แลว้ เรียงลาดบั จากนอ้ ยไปมาก
หรอื จากมากไปนอ้ ย

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. เข้าใจค่าของจานวนแต่ละจานวนและวธิ เี ปรียบเทียบจานวน (K)

2. เข้าใจค่าของจานวนจากสถานการณแ์ ละเรยี งลาดบั ได้ (K)

3. นักเรยี นสามารถเปรยี บเทยี บและเรยี ง ลาดบั จานวนนับที่ มากกวา่ 100,000 (P)

4. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่

การเปรียบเทยี บและ เรยี งลาดบั จานวน พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

1. ครูทบทวนการเปรียบเทียบจานวนนบั ทไ่ี ม่เกนิ 100,000 โดยเขยี นจานวนสองจานวนบนกระดาน
ดงั นี้

- ใหเ้ ปรยี บเทยี บ 24,312 กับ 8,564
- จานวนใดมากกว่า (24,312)
- เพราะเหตใุ ด (เลขโดดในหลักซ้ายสดุ ของ 24,312 คือ 2 มีค่า 20,000
และเลขโดดในหลกั ซ้ายสดุ ของ 8,564 คือ 8 มคี ่า 8,000
และ 20,000 มากกว่า 8,000)
ดงั น้ัน จงึ สรปุ ว่า 24,312 มากกวา่ 8,564 หรือ 24,312 > 8,564
- ข้อสังเกตเพม่ิ เติมระหว่างสองจานวนนี้ คอื อะไร (มีจานวนหลกั ไม่เท่ากัน ถา้ นักเรียนตอบไม่ได้
ครอู าจถามว่า แต่ละ'จานวนมีก่ีหลัก จานวนหลกั เทา่ กันหรือไม่ ซ่ึงอาจทาใหน้ ักเรียนสรปุ ได้วา่
24,312 > 8,564 เพราะมจี านวนหลกั มากกวา่ )

ขัน้ สอน

1. การสอนการเปรียบเทยี บจานวน นักเรียนตอ้ งมี ความเข้าใจเก่ยี วกบั หลกั การเปรียบเทียบจานวนนบั 2 จานวน ซึ่งอาจ
เริม่ จากทบทวนการเปรยี บเทียบจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถาม เชน่

- 71,946 กบั 8,691 จานวนใดมากกวา่

- 23,184 23,418 ควรเติมเคร่อื งหมาย > < หรือ = ใน

- 15,824 < จานวนท่ีเตมิ ใน เปน็ จานวนใดบ้าง

แลว้ ใหน้ ักเรยี นพิจารณาการเปรยี บเทยี บปริมาณการสง่ ออก สินค้าเกษตรในหนา้ 18–19 และรว่ มกนั อภปิ รายเพ่ือนาไปสู่
ขอ้ สรปุ ท่วี ่า การเปรยี บเทยี บจานวนนบั 2 จานวน ให้เปรยี บเทยี บคา่ ของเลขโดดในหลักซา้ ยสดุ ของแตล่ ะ จานวนก่อน
ถา้ ไม่เท่ากันจานวนนับทม่ี ีคา่ ของเลขโดด มากกว่า จานวนนน้ั จะมากกวา่ ถ้าเท่ากนั ให้เปรยี บเทียบ ค่าของเลขโดดในหลัก
ถดั ไปทางขวาทีละหลกั ถ้าพบวา่ คา่ ของเลขโดดของจานวนใดมากกว่าจานวนน้นั จะมากกว่า จากน้ันตรวจสอบความ
เข้าใจโดยอาจใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบ จานวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 เพิม่ เติม หรอื ใหต้ อบคาถาม จากขอ้ มลู หน้า 18 เชน่

- ปริมาณการส่งออกถ่วั เหลืองมากกวา่ หรือนอ้ ยกว่า แอปเปิล
- แอปเปลิ กบั สาคู สนิ คา้ ใดมีปริมาณการสง่ ออกมากกวา่
ครูอาจจดั กจิ กรรม “ชบู ตั ร” เพ่อื ฝึกทกั ษะการเปรยี บเทียบ จานวนนับท่ีมากกว่า 100,000 เพ่ิมเตมิ
กิจกรรมชูบตั ร

วธิ ีจัดกจิ กรรม

ใหน้ ักเรียนสร้างบัตรตัวเลขแสดงจานวนทม่ี ากกว่า 100,000 คนละ 1 ใบ จากนัน้ ครเู ขียนโจทยบ์ นกระดาน ทีละข้อ
เช่น

- 1,345,612 <

- จานวนท่มี ากกว่า 2,436,872 แตน่ อ้ ยกวา่ 9,019,310
แลว้ ให้นักเรียนชูบตั รตัวเลขแสดงจานวนท่สี อดคล้องกบั โจทย์ โดยใหเ้ พือ่ น ๆ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

2. การสอนการเรยี งลาดับจานวน นักเรยี นต้องมีความเข้าใจ วา่ การเรยี งลาดบั จานวนใช้หลักการเปรียบเทียบ
จานวน ทีละคูแ่ ลว้ จึงเรียงลาดบั จากมากไปน้อย หรือจากน้อย ไปมาก ซงึ่ ครูควรทบทวนการเรียงลาดับจานวนนับไม่เกนิ
100,000 โดยอาจยกตัวอยา่ งจานวนนบั 3 จานวน ให้นกั เรียนเปรียบเทยี บจานวนนับทลี ะคู่ แล้วเรยี งลาดบั จากมากไปนอ้ ย
จากนั้นใหน้ ักเรียนพิจารณาการเรียงลาดับ ปริมาณการสง่ ออกสินค้าเกษตร และตรวจสอบความเข้าใจ โดยอาจใหน้ ักเรียน
เรียงลาดบั จานวนนับทีม่ ากกว่า 100,000 อีก 3–4 ตัวอยา่ ง แล้วใหท้ าแบบฝกึ หัด 1.5 เป็นรายบคุ คล

3. ใหน้ ักเรยี นช่วยกันตอบคาถามในหนา้ เปดิ บทอกี ครั้ง ครูตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นใหท้ ากจิ กรรมหนา้ 21 เป็น
รายบคุ คล เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความรทู้ ่ีได้

ขน้ั สรปุ

1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและสรปุ ความรู้เร่ือง การเปรียบเทียบจานวนนบั ทัง้ กรณีทจี่ านวนท้ังสองมีจานวน

หลักไม่เท่ากัน และกรณีทจี่ านวนทัง้ สองมีจานวนหลกั เทา่ กัน
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปหลกั การเรยี งลาดับจานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อย
3. ครใู ห้นกั เรยี นบอกประโยชนข์ องการเรียนเรื่องการเรยี งลาดับจานวน ที่สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้
(แนวตอบ สามารถเรยี งลาดับคะแนน จานวนประชากร จานวนเงนิ ได้อย่างถูกตอ้ งและรวดเร็ว)

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขนึ้ ไป ถือวา่

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) ประเมิน

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ข้นึ ไป ถอื วา่

การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมิน 80% ขึน้ ไป ถือวา่

ความรับผิดชอบต่องานทสี่ ั่ง คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามที่ อันพงึ ประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุง่ ม่ันใน

การทางาน

7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้

1.หนงั สือเรียน
2.แบบฝกึ หัดบตั รตวั เลข
3. แถบประโยค
4. ภาพสนิ ค้า

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

แผนที่ 5 สัปดาห์ที่ 2

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ชอื่ ผูส้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การประมาณ

เรื่อง การหาคา่ ประมาณเปน็ จานวน เตม็ สิบ เต็มรอ้ ย

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.4/1 อา่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนังสอื แสดงจานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000
ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.4/2 เปรียบเทยี บและเรียงลาดับจานวนนบั ท่มี ากกว่า 100,000 จากสถานการณต์ า่ งๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การหาค่าประมาณของจานวนนบ เปน็ จานวนเต็มหลักต่าง ๆ เป็นการหา จานวนเตม็ สบิ เต็มรอ้ ย เต็มพัน ...
ทใ่ี กลเ้ คยี งจานวนที่ตอ้ งการประมาณ เพ่ือความสะดวกในการคานวณ หรอื นาไปใช้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. เข้าใจหลักการประมาณค่าของจานวนนับ (K)
2. เม่อื กาหนดจานวนให้ สามารถบอกค่าประมาณใกลเ้ คยี งจานวนเตม็ สิบ เต็มร้อยได้ (P)
3. รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีที่ได้รบั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน

ค่าประมาณของจานวนนับและการใช้ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
เครอื่ งหมาย ≈

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

1. การสอนการประมาณ นกั เรียนต้องมีความเขา้ ใจ ความหมายของการประมาณและค่าประมาณ ครอู าจ จัด
กจิ กรรมโดยใชส้ ถานการณ์ในหน้า 22 นาสนทนา เก่ยี วกบั การใช้การประมาณในชีวิตจรงิ หรอื อาจยกตวั อยา่ ง สถานการณ์
รอบตัว เชน่

- ดนิ สอยาว 18 เซนติเมตร เราอาจบอกว่า ดินสอยาว ประมาณ 20 เซนติเมตร
- หนงั สือเรียนวิชาคณิตศาสตร์มี 257 หน้า เราอาจบอกวา่ หนงั สือเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์มีประมาณ 300 หนา้

แล้วร่วมกนั อภิปรายเพ่ือนาไปสู่ข้อสรุปวา่ การประมาณเป็น การบอกจานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ อยา่ งคร่าว ๆ นยิ มบอก เปน็
จานวนเตม็ สิบ จานวนเตม็ ร้อย จานวนเตม็ พนั ... ซ่งึ จานวนท่ีไดจ้ ากการประมาณเรยี กว่า ค่าประมาณ

จากน้ันให้นกั เรียนช่วยกันยกตวั อยา่ งสถานการณ์อืน่ ๆ ท่ีมีการนาคา่ ประมาณไปใช้

ขน้ั สอน

1. การสอนคา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มสบิ นักเรียนตอ้ ง เข้าใจวธิ ีการหาค่าประมาณเป็นจานวนเตม็ สบิ โดยเริ่มจาก
การแนะนาให้นกั เรียนรู้จักจานวนเตม็ สบิ แลว้ ใหย้ กตัวอย่าง เพม่ิ เติม หรืออาจใหต้ อบคาถาม เชน่

- 115 30 42 150 66 มีจานวนใดบ้างเป็น จานวนเตม็ สบิ
- ระหว่าง 105 กบั 165 มจี านวนเต็มสบิ กี่จานวน อะไรบา้ ง

จากน้ันให้นักเรยี นพิจารณาการหาคา่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มสบิ ของจานวนตน้ ไมช้ นดิ ตา่ ง ๆ โดยใชเ้ สน้ จานวน
ประกอบการอธิบาย และให้สังเกตความสัมพันธ์ของเลขโดด ในหลกั หนว่ ยกับคา่ ประมาณท่ีได้ พรอ้ มทั้งร่วมกันอภปิ ราย เพอ่ื
นาไปสู่วธิ ีการหาค่าประมาณเป็นจานวนเต็มสิบว่า ให้ พจิ ารณาค่าของเลขโดดในหลกั หนว่ ย ถา้ น้อยกวา่ 5 หน่วย ให้คา่
ของเลขโดดในหลักสบิ คงเดิม ส่วนคา่ ของเลขโดดใน หลักหนว่ ยเป็น 0 ถา้ มากกว่าหรอื เทา่ กบั 5 หน่วย ให้เพ่ิม คา่ ของ
เลขโดดในหลกั สิบอกี 1 สบิ สว่ นคา่ ของเลขโดดใน หลกั หนว่ ยเป็น 0 แล้วรว่ มกันทากิจกรรมหน้า 24–25 ครูควรให้
นกั เรียนฝึกหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเตม็ สิบ เพ่มิ เติม จากนั้นใหท้ าแบบฝึกหัด 1.6 เปน็ รายบุคคล

ขอ้ ควรระวงั สาหรบั จานวนเต็มสิบต้ังแต่ 100 ข้ึนไป ครคู วรเนน้ ยา้ เก่ยี วกบั การบอกจานวนนน้ั วา่ เท่ากับก่สี บิ
เชน่ 100 เทา่ กับ 10 สบิ 1,250 เท่ากับ 125 สบิ ซึง่ จะเป็นประโยชน์ในการหาคา่ ประมาณโดยใช้เสน้ จานวน

2. เพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรทู้ ่ีได้ ใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรมหน้า 26–27 เปน็ รายบุคคล ซง่ึ
ในการเติมจานวนที่มคี า่ ประมาณเป็นจานวนเต็มสิบ ตามที่กาหนด นกั เรียนแตล่ ะคนอาจตอบไมเ่ หมือนกัน แต่
ครคู วรอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ คาตอบท่เี ป็นไปได้มีจานวน ใดบา้ ง

3. การสอนคา่ ประมาณเป็นจานวนเตม็ รอ้ ย นักเรยี นตอ้ ง เข้าใจวธิ ีการหาค่าประมาณเป็นจานวนเต็มรอ้ ย โดยเรมิ่ จาก
การแนะนาใหน้ ักเรยี นรจู้ ักจานวนเต็มร้อย แล้วให้ยกตัวอย่าง เพิม่ เติม และครคู วรทบทวนการบอกจานวนนับท่เี ป็น จานวน
เต็มร้อยตง้ั แต่ 1,000 ขน้ึ ไป ว่าเทา่ กบั กร่ี ้อย เช่น 1,000 เท่ากบั 10 ร้อย 20,300 เท่ากับ 203 รอ้ ย

จากนั้นให้นกั เรียนพิจารณาการหาค่าประมาณเปน็ จานวนเต็มร้อยของระยะทางจากกรงุ เทพฯ ถึงจังหวดั ต่าง ๆ โดย
ใช้เส้นจานวนประกอบการอธิบาย และให้สงั เกต ความสมั พันธ์ของเลขโดดในหลักสบิ กับค่าประมาณท่ีได้ พร้อมทัง้ ร่วมกนั
อภิปรายเพ่ือนาไปสู่วธิ กี ารหาคา่ ประมาณ เป็นจานวนเตม็ รอ้ ยวา่ ให้พจิ ารณาค่าของเลขโดดในหลักสิบ ถ้านอ้ ยกวา่ 5 สบิ
ให้คา่ ของเลขโดดในหลกั ร้อยคงเดิม สว่ นค่าของเลขโดดในหลกั สบิ และหลักหน่วยเป็น 0 ถ้ามากกวา่ หรอื เทา่ กับ 5 สบิ ให้
เพิม่ ค่าของเลขโดดใน หลักร้อยอกี 1 ร้อย สว่ นค่าของเลขโดดในหลกั สบิ และ หลักหน่วยเป็น 0 แลว้ ร่วมกนั ทากจิ กรรม
หน้า 29 ครูควรใหน้ กั เรยี นฝึกหาคา่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มรอ้ ย เพิ่มเตมิ และอาจใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบคาถามท้าทาย เชน่

- จานวนนับท่ีมีค่าประมาณ 500 มที ง้ั หมดกีจ่ านวน (99 จานวน คอื จานวนนับตง้ั แต่ 450-499 และ 501-549)

- จานวนนับทนี่ อ้ ยทส่ี ดุ และจานวนนบั ทม่ี ากทสี่ ดุ ทม่ี ีคา่ ประมาณ 300 คอื จานวนใด (จานวนนบั ทน่ี ้อยทสี่ ดุ คือ 250
และจานวนนบั ที่ มากท่ีสุด คือ 349)
จากนนั้ ใหท้ าแบบฝึกหัด 1.7 เปน็ รายบคุ คล

4. ให้นักเรยี นท่เี รียงลาดบั จานวน ในแตล่ ะขบวนรถไฟ ช่วยกันนาคาตอบท่ีพูดคุยกันในข้อ 4
ตรวจสอบอีกคร้งั วา่ เรียงลาดับจานวน ถกู ตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ถกู ให้นกั เรยี นแก้ไข หรอื เรียงลาดบั ใหม่

ขอ้ ควรระวัง

นกั เรยี นบางคนอาจหาค่าประมาณเปน็ จานวนเตม็ ร้อย โดยประมาณเปน็ จานวนเต็มสิบก่อน เช่น 2,447 นกั เรียน
อาจ ประมาณเป็นจานวนเตม็ สบิ ได้ 2,450 แลว้ จงึ ประมาณเปน็ จานวนเตม็ รอ้ ยได้ 2,500 ซงึ่ ค่าประมาณเปน็
จานวนเต็มร้อย ของ 2,447 คือ 2,400
นกั เรยี นบางคนอาจประมาณเป็นจานวนเต็มร้อย โดยตอบเฉพาะหลกั รอ้ ย เชน่ 29,653 หาคา่ ประมาณเป็น
จานวนเต็มรอ้ ยได้ 700
ซง่ึ ทง้ั สองกรณีน้ี ครคู วรอธิบายชี้แจงใหน้ กั เรียนเขา้ ใจถึงวิธีการประมาณและควรฝกึ ใหน้ ักเรียนเกดิ ทักษะในการหา
คา่ ประมาณอย่างเพยี งพอ

ขัน้ สรุป

ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ เกี่ยวกบั การหาค่าประมาณของจานวนนับเป็นจานวนเตม็ สบิ จานวน เต็มรอ้ ย

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขึ้นไป ถอื ว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์การ

คุณลักษณะนิสัย (A) ประเมิน

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรียนมี - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถือวา่

ความรบั ผิดชอบต่องานท่ีส่งั คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามที่ อันพึงประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุ่งมน่ั ใน

การทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1.หนงั สือเรียน
2.แบบฝกึ หัด
3.บตั รจานวน

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

แผนท่ี 6 สปั ดาหท์ ่ี 2

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชอ่ื ผูส้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การประมาณ

เร่อื ง การหาค่าประมาณเป็นจานวนเต็มพนั

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน
ผลทเี่ กดิ ข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการและนาไปใช้

ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.4/1 อ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจานวนนับที่มากกว่า 100,000
ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.4/2 เปรียบเทียบและเรยี งลาดับจานวนนับทมี่ ากกวา่ 100,000 จากสถานการณ์ต่างๆ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การหาคา่ ประมาณของจานวนนับ เปน็ จานวนเต็มหลักตา่ ง ๆ เปน็ การหา จานวนเตม็ สิบ เตม็ ร้อย เตม็ พัน ...
ทีใ่ กล้เคยี งจานวนท่ีตอ้ งการประมาณ เพ่อื ความสะดวกในการคานวณ หรือ นาไปใช้

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. เข้าใจหลกั การประมาณค่าของจานวนนับ (K)
2. เม่อื กาหนดจานวนให้ สามารถบอกค่าประมาณใกล้เคียงจานวนเตม็ พนั ได้ (P)
3. รบั ผิดชอบต่อหน้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น

ค่าประมาณของจานวนนบั และการใช้ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
เคร่ืองหมาย ≈

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้ันนา

1. ครทู บทวนการหาค่าประมาณเป็นจานวนเตม็ สิบ เตม็ ร้อย ดังน้ี
- ครเู ขยี นจานวน 85 874 2,749 ให้นกั เรยี นบอกค่าประมาณเป็นจานวนเต็มสิบ (90 870 2,750 ตามลาดบั )
- ครเู ขียนจานวน 85 874 2,749 ให้นกั เรียนบอกคา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มร้อย (100 900 2,700

ตามลาดับ)
- ครูถามนักเรียนว่ามีวธิ ีการหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มสิบ เตม็ ร้อย ไต้อยา่ งไร (พจิ ารณาจาก เลขโดด) การหา

ค่าประมาณเป็นจานวนเต็มสิบ ให้พิจารณาเลขโดดในหลักหน่วย ดังน้ี

- ถา้ จานวนนั้นมีเลขโดดในหลกั หน่วยเป็น 1 2 3 หรอื 4 จะประมาณเป็นจานวนเตม็ สิบที่นอ้ ยกวา่
- ถา้ จานวนน้ันเลขโดดในหลกั หน่วยเป็น 5 6 7 8 หรอื 9 จะประมาณเป็นจานวนเต็มสบิ ท่มี ากกว่า
การหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มรอ้ ย ให้พจิ ารณาเลขโดดในหลกั สบิ
- ถ้าจานวนน้นั มีเลขโดดในหลักสบิ เป็น 0 1 2 3 หรือ 4 จะประมาณเป็นจานวนเตม็ ร้อยท่ีนอ้ ยกว่า
- ถ้าจานวนนน้ั เลขโดดในหลักสิบเป็น 5 6 7 8 หรือ 9 จะประมาณเป็นจานวนเต็มร้อยท่ีมากกวา่

ข้นั สอน

1. การสอนคา่ ประมาณเป็นจานวนเตม็ พัน นกั เรยี นต้อง เข้าใจวธิ ีการหาคา่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มพนั โดยเร่ิมจาก

การแนะนาใหน้ กั เรียนรจู้ ักจานวนเตม็ พัน แลว้ ใหย้ กตัวอยา่ ง เพม่ิ เติม จากนัน้ ใหน้ ักเรียนพิจารณาการหาค่าประมาณเป็น
จานวนเตม็ พนั ของพ้นื ทป่ี ่าท่ถี ูกไฟไหม้ และรว่ มกันอภิปราย เพอ่ื นาไปสู่วิธกี ารหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเตม็ พนั ว่า

ให้พิจารณาคา่ ของเลขโดดในหลักร้อย
- ถา้ นอ้ ยกวา่ 5 รอ้ ย ใหค้ ่าของเลขโดดในหลักพันคงเดิม
- ถา้ เลขโดดในหลกั รอ้ ย หลักสิบ และหลกั หน่วยเปน็ 0
- ถา้ มากกวา่ หรอื เทา่ กบั 5 รอ้ ย ให้เพิม่ คา่ ของเลขโดดใน หลักพนั อีก 1 พัน
- ส่วนคา่ ของเลขโดดในหลกั ร้อย หลกั สบิ และหลกั หนว่ ยเป็น 0
แล้วรว่ มกนั ทากิจกรรม หน้า 32 ครูควรใหน้ กั เรียนฝึกหาค่าประมาณเป็น จานวนเต็มพันเพิ่มเติม จากนัน้ ให้ทา
แบบฝกึ หัด 1.8 เปน็ รายบคุ คล
2. เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรูท้ ี่ได้ ให้นกั เรียนทากจิ กรรมหนา้ 33 เป็นรายบคุ คล

ขั้นสรุป

ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ เกี่ยวกับการหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มพนั

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ขึ้นไป ถอื ว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์การ

คุณลักษณะนิสยั (A) ประเมิน

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขนึ้ ไป ถอื วา่

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ

1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ข้นึ ไป ถือวา่

ความรบั ผิดชอบต่องานที่สัง่ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทนั ตามที่ อนั พึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการม่งุ ม่นั ใน
การทางาน

7. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้

1.หนังสอื เรยี น
2.แบบฝกึ หัด
3.บัตรจานวน

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

แผนท่ี 7 สปั ดาหท์ ่ี 2

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชื่อผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 การประมาณ

เร่ือง การหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มหมน่ื

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.4/1 อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและตวั หนงั สอื แสดงจานวนนับที่มากกว่า 100,000
ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.4/2 เปรยี บเทยี บและเรียงลาดับจานวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 จากสถานการณ์ตา่ งๆ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การหาค่าประมาณของจานวนนับ เป็นจานวนเตม็ หลักต่าง ๆ เปน็ การหา จานวนเต็มสิบ เต็มรอ้ ย เตม็ พนั ...
ทีใ่ กลเ้ คียงจานวนที่ตอ้ งการประมาณ เพอ่ื ความสะดวกในการคานวณ หรือ นาไปใช้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. เข้าใจหลกั การประมาณค่าของจานวนนบั (K)
2. เมือ่ กาหนดจานวนให้ สามารถบอกค่าประมาณใกลเ้ คียงจานวนเตม็ หมืน่ ได้ (P)
3. รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิน่

ค่าประมาณของจานวนนับและการใช้ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
เครื่องหมาย ≈

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขนั้ นา

1. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกับการประมาณวา่ จานวนนับท่ีนอ้ ยทีส่ ุด ทป่ี ระมาณเป็น 20 คือจานวนใด (15) และ
จานวนนบั ทมี่ ากที่สดุ ทปี่ ระมาณเป็นจานวนเต็มสิบ 20 คือ จานวนใด (24)

- จานวนนบั ท่นี ้อยทสี่ ุด ท่ีประมาณเปน็ จานวนเตม็ พนั ได้ 23,000 คือจานวนใด
- จานวนนับทีม่ ากทีส่ ดุ ทีป่ ระมาณเป็นจานวนเตม็ พนั ได้ 23,000 คือจานวนใด
แล้วให้นักเรียนร่วมกนั อภิปราย และหาคาตอบ ซึ่งจะได้
- จานวนนับทน่ี ้อยทส่ี ุด ทป่ี ระมาณเป็นจานวนเตม็ พันได้ 23,000 คอื 22,500
- จานวนนับทม่ี ากทส่ี ดุ ทป่ี ระมาณเป็นจานวนเตม็ พันได้ 23,000 คือ 23,499

ขั้นสอน

1. การสอนค่าประมาณเปน็ จานวนเตม็ หมนื่ จานวนเตม็ แสน และจานวนเต็มลา้ น นักเรียนตอ้ งเข้าใจว่า วธิ ีการ หาคา่ ประมาณ
ใหพ้ ิจารณาจากเลขโดดในหลกั ที่อย่ตู ดิ กัน ทางขวาของหลกั ทต่ี อ้ งการประมาณ ถา้ นอ้ ยกว่า 5 ใหป้ ดั จานวนที่อยู่ทางขวา
ท้ังหมดทิ้ง ซ่ึงทาใหจ้ านวนใน หลกั ทางขวาท้ังหมดเป็น 0 ถ้ามากกว่าหรือเท่ากับ 5 ใหป้ ัดจานวนที่อยใู่ นหลักทางขวา
ท้งั หมดขึน้ ซึง่ จะทาให้ จานวนในหลกั ท่ีต้องการประมาณเพ่ิมขนึ้ อกี 1 หมน่ื หรอื 1 แสน หรอื 1 ล้าน และจานวนในหลกั
ทางขวาท้งั หมด เป็น 0 ครจู ัดกิจกรรมการหาค่าประมาณโดยใช้ข้อมลู เกีย่ วกับจานวนนักทอ่ งเทย่ี วในหนา้ 34

2. การสอนหาคา่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มหมื่น ครคู วร เริ่มจากการแนะนาให้นักเรียนรู้จกั จานวนเตม็ หมนื่ แลว้ ให้
ยกตัวอย่างเพมิ่ เติมจากนน้ั ให้นกั เรียนพิจารณาการหา คา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มหมน่ื ในหน้า 34-35 แลว้ รว่ มกนั สรปุ
เก่ียวกับวิธีการหาค่าประมาณเปน็ จานวนเตม็ หม่นื และร่วมกันทากจิ กรรมหนา้ 35 ครูควรใหน้ ักเรยี นฝกึ หา ค่าประมาณเป็น
จำนวนเตม็ หมื่นเพม่ิ เตมิ

ขั้นสรุป

ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั การหาค่าประมาณเป็นจานวนเตม็ หม่ืน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือว่า

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์การ

คุณลักษณะนิสัย (A) ประเมนิ

7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขึ้นไป ถอื วา่

1.หนังสือเรยี น การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ
2.แบบฝึกหดั
3.บตั รจานวน ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถือวา่

ความรับผดิ ชอบต่องานทสี่ งั่ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และส่งงานไดท้ ันตามท่ี อนั พึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่นั ใน

การทางาน

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา แผนที่ 8 สัปดาหท์ ี่ 2
แผนท่ี 9-10 สปั ดาหท์ ี่ 3
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/……………..……... ชอื่ ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จานวน 3 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การประมาณ

เร่อื ง การหาค่าประมาณเป็นจานวนเตม็ แสน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตวั ชีว้ ดั ค 1.1 ป.4/1 อ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนงั สือแสดงจานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000
ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.4/2 เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับจานวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 จากสถานการณ์ตา่ งๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การหาคา่ ประมาณของจานวนนับ เปน็ จานวนเต็มหลกั ตา่ ง ๆ เปน็ การหา จานวนเต็มสิบ เตม็ รอ้ ย เต็มพัน ...
ทใ่ี กลเ้ คยี งจานวนท่ตี อ้ งการประมาณ เพือ่ ความสะดวกในการคานวณ หรือ นาไปใช้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เข้าใจหลักการประมาณค่าของจานวนนบั (K)
2. เมอื่ กาหนดจานวนให้ สามารถบอกค่าประมาณใกลเ้ คียงจานวนเตม็ แสนได้ (P)
3. รับผิดชอบต่อหน้าทท่ี ี่ได้รบั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ

ค่าประมาณของจานวนนับและการใช้ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
เคร่อื งหมาย ≈

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนา

1. ครสู นนากับนกั เรยี นเร่ืองการประมาณ แล้วให้นกั เรียนบอกว่า จานวนนับท่นี ้อยทีส่ ดุ ท่ีมคี ่าประมาณ เปน็ จานวน
เตม็ รอ้ ยไต้ 300 คือจานวนใด (250) และจานวนนับทีม่ ากท่สี ดุ ที่ประมาณเปน็ จานวนเต็มร้อย ไต้ 300 คือจานวนใด (349)
จากนั้นครูเขียนบนกระดาน ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายและหาคาตอบ

- จานวนนับทีน่ ้อยทส่ี ดุ ท่ปี ระมาณเปน็ จานวนเตม็ พนั ไต้ 23,000 คือจานวนใด (22,500)
- จานวนนับท่ีมากท่สี ุดทมี่ ปี ระมาณเปน็ จานวนเต็มพันไต้ 23,000 คือจานวนใด (23,499)

ขั้นสอน

คาบที่ 1

1. การสอนหาค่าประมาณเป็นจานวนเต็มแสน ครูควร เร่ิมจากการแนะนาใหน้ ักเรียนรู้จักจานวนเตม็ แสนแล้วให้
ยกตัวอย่างเพม่ิ เติม จากนัน้ ให้นักเรยี นพิจารณาการหา คา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มแสน แล้วร่วมกันสรปุ เกีย่ วกบั วธิ กี ารหา
คา่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มแสน และร่วมกนั ทากจิ กรรม ครคู วรให้นกั เรียนฝึกหาค่าประมาณเป็น จานวนเตม็ แสนเพ่ิมเติม

คาบที่ 2

2. การสอนหาคา่ ประมาณเป็นจานวนเตม็ ลา้ น ครูควร เรม่ิ จากการแนะนาใหน้ ักเรยี นรจู้ ักจานวนเต็มลา้ น แลว้ ให้
ยกตัวอยา่ งเพิม่ เติม จากนั้นให้นกั เรียนพิจารณา การหาค่าประมาณเปน็ จานวนเตม็ ล้าน แลว้ ร่วมกันสรุป เก่ียวกับวิธีการหา
ค่าประมาณเปน็ จานวนเต็มลา้ น และ ร่วมกนั ทากจิ กรรมครูควรให้นกั เรยี นฝึกหาค่าประมาณ เปน็ จานวนเตม็ ลา้ นเพ่ิมเตมิ
จากน้นั ให้ทาแบบฝึกหดั 1.9 เปน็ รายบุคคล

เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรทู้ ี่ได้ ให้นกั เรียนทากจิ กรรมหน้า 38 เป็นรายบุคคล

หมายเหตุ ในสว่ นของส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ ถา้ นกั เรยี นยกตัวอยา่ ง จานวนท่นี ้อยกว่า 500,000 ค่าประมาณเป็นจานวนเต็มล้าน ของ
จานวนน้นั จะเทา่ กบั 0 ครูควรแนะนาว่า จานวน ทน่ี อ้ ยกวา่ 500,000 ไมเ่ หมาะสมทจ่ี ะประมาณเป็น จานวนเต็มลา้ น

คาบที่ 3

3. การสอนการนาคา่ ประมาณไปใช้ ควรสอนให้นักเรียน เกดิ ความตระหนักว่า การเลือกใช้คา่ ประมาณเปน็ จานวน
เตม็ ใด จะต้องเลอื กให้เหมาะสมกับสถานการณ์น้นั ๆ ครอู าจจดั กจิ กรรมโดยใหพ้ ิจารณาสถานการณ์ท่ีมกี ารนาค่าประมาณ
ไปใช้ และสถานการณ์ทีไ่ ม่ควรใชค้ ่าประมาณ ในหนา้ 39-41 และครูควรยกตวั อยา่ งสถานการณ์ที่มีการนาค่าประมาณไปใช้
และสถานการณท์ ี่ไม่ควรใชค้ ่าประมาณ เพม่ิ เติม จากนนั้ ใหท้ าแบบฝึกหดั 1.10 เปน็ รายบคุ คล

เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรทู้ ่ีได้ ให้นกั เรียนทากิจกรรมหน้า 42 เป็นรายบคุ คล

ข้นั สรปุ

1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปเก่ียวกับการหาคา่ ประมาณจานวนเตม็ แสน เตม็ ล้าน
2. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกับการนาคา่ ประมาณเปน็ จานวนนบั เปน็ จานวนเตม็ ไปใชไ้ ดว้ ่า การนาค่าประมาณไป

ใชต้ ้องเลือกใช้คา่ ประมาณให้เหมาะสมกบั สถานการณ์

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื วา่

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ

คุณลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ความรับผิดชอบต่องานทส่ี ั่ง คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ
และส่งงานไดท้ ันตามท่ี อนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ
กาหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมุง่ ม่นั ใน
การทางาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

1.หนังสอื เรียน
2.แบบฝึกหดั
3.ใบงาน
2.บัตรจานวน

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

แผนท่ี 11 สปั ดาหท์ ี่ 3

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/……………..……... ช่ือผสู้ อน ….……………………………………………..……….…...

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกและการลบจานวนนับทมี่ ากกวา่ 100,000

เรอื่ ง การบวกจานวนที่มหี ลายหลัก

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ดั

มาตรฐานการเรียนรู้ ค1.1 เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการ

ดาเนนิ การสมบัตขิ องการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ชี้วัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธข์ อง การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อยา่ ง
สมเหตสุ มผล

ตวั ชีว้ ัดค1.1ป.4/8 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนบั ทม่ี ากกวา่ 100,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การหาผลบวกจานวนท่มี ีหลายหลกั ทาได้โดยนา จานวนท่ี อยู่ในหลกั เดียวกนั มาบวกกัน ถ้าผลบวกในหลกั ใดครบสบิ
หรือมากกวา่ สิบ ใหท้ ดจานวนท่คี รบสบิ ไปรวมกับผลบวก ในหลักถดั ไปทางซา้ ย

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1.นกั เรียนสามารถหาผลบวกของจานวนนับ ท่ีมากกวา่ 100,000 และแสดงวิธที าพร้อมท้งั ตระหนักถงึ
ความสมเหตุสมผล (K)
2. เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถสื่อสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์(P)
3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทีท่ ี่ได้รบั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถ่ิน

การประมาณผลลัพธ์ ของการบวก การลบ และ พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
การแก้โจทยป์ ญั หาและ การสรา้ งโจทยป์ ัญหา พร้อม
ทั้งหาคาตอบ

5. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนา

1. ครใู ห้นักเรียนยกตัวอย่างสถานการณ์การบวกทีใ่ ช้ในชวี ิตจรงิ แล้วร่วมกนั อภิปรายวา่ เราเรยี นเรอ่ื งการ บวกไปทาไม เราใช้
เร่ืองการบวกเกี่ยวกับเรอ่ื งใดบ้าง
2. ครูทบทวนการบวกจานวนนับสองจานวนที่ผลบวกไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ปีญหาที่ครูติดบน กระดาน แล้วให้
นกั เรียนอา่ นโจทยแ์ ละตอบคาถาม เซ่น

หอ้ งสมดุ โรงเรียนมีหนังสือ 3,542 เล่ม มผี บู้ ริจาคหนังสือใหอ้ กี 375 เลม่ ห้องสมุดโรงเรียนมีหนังสอื รวมกเี่ ล่ม
1) หลงั จากไดร้ บั บริจาคหนงั สือแลว้ จานวนหนังสอื จะเพิม่ ข้ึนหรอื ลดลง(เพิ่มขึน้ )
2) จะหาคาตอบไดอ้ ย่างไร (นาจานวนหนังสอื ที่มีอยรู่ วมกบั จานวนหนังสอื ทีม่ ผี ูบ้ ริจาค)
3) ครูและนกั เรยี นช่วยกนั หาคาตอบโดยใช้หลักลูกคิดทแ่ี สดงจานวนแต่ละจานวนยา้ ยมารวมกนั แล้ว เขียนแสดงผลบวก

ในแนวตัง้ ตงั นี้
ข้ันที่ 1 บวกในหลักหน่วย 2 บวกกับ 5 ได้ 7 เขียน 7 ในหลักหน่วย
ข้นั ท่ี 2 บวกในหลกั สิบ 4 สิบ บวกกับ 7 สิบ ได้ 11 สบิ 11 สบิ คอื 1 ร้อย กับ 1 สิบ เขียน 1 ในหลกั สิบ
และทด 1 ในหลักร้อย
ขั้นท่ี 3 บวกในหลกั ร้อย 5 ร้อย บวกกับ 3 ร้อย ได้ 8 ร้อย รวมกบั ทีท่ ดมาอีก 1 ร้อย เบ้น 9 ร้อย เขยี น 9 ในหลกั

ร้อย
ขน้ั ท่ี 4 บวกในหลักพัน 3 พัน บวกกับ 0 พนั ได้ 3 พัน เขียน 3 ในหลักพนั

ดงั น้ันห้องสมุดโรงเรียนมหี นังสอื รวม 3,917 เล่ม
ครูและนกั เรียนช่วยกันสรปุ ว่า การบวกจานวนนบั สองจานวนในแนวต้งั ทาไดโดย เขียนตัวเลขให้

หลักเดียวกันอยู่ตรงกัน แล้วนาจานวนที่อยู่ในหลักเดียวกันมาบวกกัน ถ้าผลบวกในหลักใดครบสิบหรือ มากกว่าสิบให้ทด
จานวนทคี่ รบสิบไปรวมกับผลบวกในหลักถัดไปทางซ้าย

ขน้ั สอน

1. ใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมเก่ยี วกบั การซื้อขายทองรูปพรรณ หนา้ 47 โดยใหน้ กั เรยี นสังเกตลกู คิดทรี่ ะบายสกี บั ผลบวก
ทไ่ี ด้ในแต่ละหลักวา่ มีความสัมพนั ธก์ ันอยา่ งไร จากนัน้ ร่วมกนั อภิปรายเพ่ือนาไปสู่ข้อสรปุ ท่ีว่า การบวกจานวน 2 จานวน ใช้
วิธบี วกจานวนในหลักเดียวกันเข้าด้วยกัน จากนนั้ ให้นักเรียนรว่ มกนั ทากจิ กรรมหนา้ 48 เพื่อฝึก การบวกจานวนนับท่ี
มากกว่า 100,000 ทไ่ี ม่มกี ารทด โดยครแู นะนาการเขียนแสดงการบวกในแนวตัง้ ใหเ้ ขยี น ตวั เลขในหลกั เดียวกันอยู่ตรงกัน
แลว้ นาจานวนท่ีอยู่ใน หลักเดยี วกนั มาบวกกนั

2. ครจู ดั กจิ กรรมเก่ยี วกบั การบวกจานวนนบั 2 จานวน ท่ีมีการทด โดยใช้สถานการณ์เก่ียวกับจานวนรถยนต์ ทจ่ี ด
ทะเบยี นในจงั หวัดบึงกาฬและจังหวดั เลย หนา้ 49 มาอธิบายวธิ หี าผลบวกทมี่ กี ารทด โดยครูแนะนาให้นักเรียน ใชห้ ลักการ
เดียวกับการหาผลบวกของจานวนนับไม่เกนิ 100,000 ที่มีการทด ซง่ึ เรียนมาแลว้ ในช้นั ป.3 กล่าวคือ นาจานวนทอ่ี ยู่ในหลัก
เดียวกันมาบวกกัน ถ้าผลบวกใน หลักใดครบสบิ หรอื มากกวา่ สิบ ให้ทดจานวนทค่ี รบสิบไป รวมกบั ผลบวกในหลกั ถัดไป
ทางซ้าย จากนน้ั ให้นักเรยี น รว่ มกันทากิจกรรม แลว้ ทาแบบฝึกหัด 2.2 เปน็ รายบคุ คล

3. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรุปสิง่ ท่ีได้เรียนรู้ ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรม หนา้ 50

ขนั้ สรปุ

ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปใหไ้ ดว้ า่ การบวกจานวนท่มี หี ลายหลกั ใชห้ ลักการเดยี วกบั การบวกจานวน ทมี่ ีส่ีหลกั

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมินผล

ความรคู้ วามเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) ประเมนิ

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขน้ึ ไป ถือว่า

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขนึ้ ไป ถือว่า

ความรบั ผิดชอบต่องานที่ส่งั คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามท่ี อันพงึ ประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการม่งุ มั่นใน

การทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน
2. แบบฝึกหัด 2.1-2.2

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

แผนท่ี 12 สปั ดาห์ที่ 3

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/……………..……... ชือ่ ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับทมี่ ากกวา่ 100,000

เร่ือง การลบจานวนทีม่ ีหลายหลัก

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเี่ กดิ ข้นึ จากการ

ดาเนนิ การสมบัตขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของ การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อยา่ ง
สมเหตุสมผล

ตัวชี้วัดค1.1ป.4/8 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนับ ท่ีมากกวา่ 100,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การหาผลลบจานวนท่มี ีหลายหลัก ทาไดโ้ ดยนา จานวนทอ่ี ยู่ ในหลกั เดียวกนั ของตัวตงั้ ลบด้วยจานวนท่เี ปน็ ตัวลบ ถา้
ใน หลักใดตัวตง้ั นอ้ ยกว่าตวั ลบ ให้กระจายตวั ต้ังในหลกั ถดั ไป ทางซา้ ยรวมกับตัวตั้งในหลักนัน้ ก่อนแลว้ จงึ หาผลลบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.นักเรยี นสามารถหาผลลบของจานวนนับ ทีม่ ากกว่า 100,000 และแสดงวิธีทาพร้อมท้ังตระหนกั ถึง
ความสมเหตสุ มผล (K)
2. เพ่ือให้นักเรียนสามารถสื่อสาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์(P)
3. รับผดิ ชอบต่อหน้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถนิ่

การประมาณผลลัพธ์ ของการบวก การลบ และ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
การแกโ้ จทย์ปัญหาและ การสร้างโจทย์ปญั หา พรอ้ ม
ท้งั หาคาตอบ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนา

1. ครใู ห้นักเรียนยกตัวอย่างสถานการณก์ ารลบท่ีใช้ในชวี ติ จริงแลว้ รว่ มกันอภิปรายวา่ เราเรยี นเรอ่ื งการลบ

ไปทาไม เราใช้เรือ่ งการลบเก่ียวกบั เรอ่ื งใดบ้าง
2. ครทู บทวนการลบจานวนนบั สองจานวนท่ผี ลลบไม่เกนิ 100,000 โดยใชห้ ลกั ลูกคิด จากสถานการณ์ ปัญหาทีค่ รูตดิ บน
กระดาน แลว้ ให้นักเรียนอ่านโจทย์และตอบคาถาม

ลงุ ดาเพาะกล้าไมไ่ ว้ 2,410 ดน้ ขายไป 1,575 ด้น ลงุ ดาเหลือกล้าไม้ก่ีด้น
1) หลังจากขายไปแล้ว กลา้ ไมจ้ ะมีจานวนเพ่ิมข้นึ หรือลดลง (ลดลง)
2) จะหาคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (นาจานวนกลา้ ไม้ที่ขายไป ไปลบออกจากกล้าไมท้ ่ีมีอยู่)
3) เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้อย่างไร (ประโยคสัญลกั ษณ์ 2,410 - 1,575 = □)
ครูแสดง 2,410 - 1,575 โดยใช้หลักลกู คดิ ที่แสดงการเอา 1,575 ออกจาก 2,410 ทีละหลัก จากหลักหน่วย หลักสิบ หลกั รอ้ ย
หลักพัน ตามลาดบั ตังนี้
ข้นั ท่ี 1 ลบในหลกั หนว่ ย เนอื่ งจาก ตัวต้งั 0 น้อยกว่าตวั ลบ 5 จงึ กระจายตัวตงั้ จากหลักสิบมา 1 สบิ หรอื 10 หนว่ ย มารวม
กับ 0 หน่วย เปน็ 10 หน่วย แล้วลบออก 5 หนว่ ย เหลอื 5 หนว่ ย

ขน้ั ท่ี 2 ลบในหลักสิบ เน่ืองจากตัวต้งั เหลือ 0 สิบ นอ้ ยกว่าตวั ลบ จึงกระจายตัวตั้งจากหลกั ร้อยมา 1 ร้อย หรือ 10 สิบ มารวม
กบั 0 สบิ เป็น 10 สบิ แล้วลบออก 7 สิบ เหลอื 3 สิบ

ขน้ั ท่ี 3 ลบในหลักร้อย เน่ืองจากตัวตั้งเหลือ 3 ร้อย นอ้ ยกวา่ ตัวลบ จึงกระจายตวั ตั้งจากหลกั พนั มา 1 พนั หรอื 10 ร้อย มา
รวมกับ 3 รอ้ ย เป็น 13 ร้อย แล้วลบออก 5 ร้อย เหลอื 8 ร้อย

ขนั้ ท่ี 4 ลบในหลักพนั เนื่องจากตัวตั้งเหลอื 1 พนั ลบออก 1 พัน เหลอื 0พัน เหลอื 0ในหลักพัน

จากน้ันครูให้นักเรียนเขยี นแสดงวธิ ีหาผลลบในแนวต้งั ซ่งึ จะไดต้ ังน้ี

ดังนัน้ ลงุ ดาเหลอื ต้นไม้ 835 ต้น
ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรปุ ว่า การลบจานวนนบั สองจานวนในแนวตง้ั ทาได้โดยเขยี นตวั เลขใหห้ ลักเดยี วกันอยู่ตรงกัน แล้ว
นาจานวนทอ่ี ยใู่ นหลกั เดียวกันมาลบกนั ทลี ะหลัก โดยนาจานวนที่เปน็ ตัวต้ังลบด้วยจานวนท่ีเป็นตัวลบ ถ้าตัวต้ังน้อยกว่าตัวลบ
ใหก้ ระจายตัวตั้งในหลักถัดไปทางซา้ ยมารวมกบั ตัวต้ังในหลักนนั้ ก่อนแลว้ จึงหาผลลบ

ขั้นสอน

1. ใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมเก่ียวกบั การรับซ้ือผลผลิตทาง การเกษตร หนา้ 51 โดยให้ระบายสีลกู คิดเพื่อหาคาตอบ
แลว้ สงั เกตผลลบทไ่ี ด้ในแต่ละหลกั ว่ามีความสัมพนั ธ์กนั อยา่ งไร จากน้ันอภิปรายรว่ มกนั จนได้ข้อสรปุ ว่า การลบ จานวนท่ีมี
หลายหลัก ใช้วธิ ีการนาจานวนในหลักเดยี วกัน ของตวั ตั้งลบด้วยจานวนในหลักเดยี วกนั ของตัวลบ จากนนั้ ใหน้ กั เรียน
รว่ มกนั ทากจิ กรรม หนา้ 52 เป็นรายบคุ คล

2. ครจู ดั กจิ กรรมเกยี่ วกบั การลบจานวนนับ 2 จานวน ท่ีมีการกระจาย โดยใชส้ ถานการณ์เกย่ี วกบั ราคา
รถจักรยานยนต์และรถยนต์ หน้า 53 โดยครแู นะนาว่า การหาผลลบของจานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000 ใชห้ ลกั การ
เดียวกบั การหาผลลบจานวนนบั ท่ไี ม่เกิน 100,000 ทม่ี ีการกระจาย และการลบจานวนนับ 2 จานวนในแนวต้งั ทาไดโ้ ดย
เขยี นตวั เลขให้หลกั เดียวกันอย่ตู รงกัน แล้วหาผลลบทลี ะหลกั โดยนาจานวนท่ีเป็นตวั ตงั้ ลบด้วยจานวนท่เี ปน็ ตัวลบ ถา้
ในหลกั ใดตวั ตัง้ นอ้ ยกวา่ ตัวลบ ให้กระจายตัวต้งั ในหลักถัดไปทางซ้ายมารวมกบั จานวนในหลกั นน้ั กอ่ น แลว้ จึงหาผลลบ
จากนนั้ ให้นักเรียนรว่ มกันหาผลลบ หน้า 53 แลว้ ทาแบบฝึกหดั 2.3 เปน็ รายบคุ คล

3. เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจ และสรุปความรู้ท่ีได้ ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรม หน้า 54 เป็นรายบคุ คล

ขั้นสรุป

ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุป การลบจานวนทม่ี ีหลายหลกั ใช้หลกั การเดยี วกันการลบจานวนท่มี สี ี่หลกั

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขึ้นไป ถือวา่

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) ประเมนิ

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถอื วา่

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขน้ึ ไป ถือวา่

ความรบั ผิดชอบต่องานที่สั่ง คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และสง่ งานได้ทันตามท่ี อนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สงั เกตจากการม่งุ มัน่ ใน

การทางาน

7. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี น
2. แบบฝกึ หัด 2.3

3. หลักลกู คิด
4. กระดาษ

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

แผนที่ 13-14 สปั ดาหท์ ่ี 4

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชอ่ื ผ้สู อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 2 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวนนบั ทม่ี ากกว่า 100,000

เร่อื ง การหาคา่ ประมาณผลลพั ธ์ของ การบวกและการลบ จากสถานการณ์ต่างๆ อย่างสมเหตสุ มผล

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั

มาตรฐานการเรียนรู้ ค1.1 เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเี่ กิดขึน้ จากการ
ดาเนินการสมบตั ขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวช้วี ัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของ การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อย่าง
สมเหตสุ มผล

ตัวชว้ี ัดค1.1ป.4/8 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่า ในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนับ ทมี่ ากกวา่ 100,000 และ 0

2.สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การประมาณ เปน็ การบอกจานวน ของสง่ิ ตา่ ง ๆ อยา่ งครา่ ว ๆ ไมต่ อ้ งการ ความละเอียดมากนกั การบอกจานวนโดย
ใชก้ ารประมาณ นิยมบอกเปน็ จานวนเต็มสิบ จานวน เตม็ รอ้ ย จานวนเต็มพนั ... จานวนเตม็ ลา้ น

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถหาผลบวก และผลลบของจานวนนบั โดยใชค้ ่าประมาณ พร้อมทงั้ ตระหนกั ถึงความ
สมเหตสุ มผล (K)

2. เพ่อื ให้นักเรยี นสามารถส่ือสาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร(์ P)
3. รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ี่ได้รับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ

การประมาณผลลพั ธ์ ของการบวก การลบ และ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
การแก้โจทยป์ ัญหาและ การสร้างโจทยป์ ัญหา พร้อม
ท้ังหาคาตอบ

5. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั นา

1. ครทู บทวนการหาค่าประมาณเปน็ จานวนเต็มสบิ จานวนเต็มรอ้ ย จานวนเต็มพัน โดยใหน้ ักเรียน พิจารณาบัตร
ภาพทค่ี รตู ิดบนกระดาน และตอบคาถามดังนี้

1) จากภาพนักเรียนเห็นอะไรบา้ ง (ภาพที่ 1 ปน่ สงู 89 เซนติเมตร ภาพท่ี 2 แอปเปลิ หนัก 620 กรัม ภาพที่ 3 พดั ลม
ราคา 990 บาท)

2) ถา้ จะประมาณความสงู ของป่น ควรประมาณเปน็ จานวนเต็มใด (ประมาณเป็นจานวนเต็มสบิ ) เพราะเหตใุ ด
(เพราะ 89 อยู่ใกล้ 90ซ่ึงเหมาะสมกับสถานการณ์) มีหลกั การประมาณอยา่ งไร
(89 อยู่ใกล้ 90 มากกวา่ 80 ดงั นั้น ค่าประมาณเปน็ จานวนเตม็ สิบของ 89 คือ 90 หรือพิจารณาเลขโดดในหลกั หนว่ ยเป็น9 จึง
ประมาณเปน็ จานวนเต็มสิบที่มากกวา่ )

3) ป่นสงู ประมาณเทา่ ใด(ปน่ สูงประมาณ 90 เซนติเมตร)
4) ถา้ จะประมาณน้าหนักของแอปเปลิ ควรประมาณเปน็ จานวนเตม็ ใด(ประมาณเปน็ จานวนเต็มร้อย) เพราะเหตุใด (เพราะ

620 เป็นจานวนเต็มสบิ ดังนน้ั จึงประมาณ 620 เป็นจานวนเต็มร้อย) มีหลักการ ประมาณอย่างไร (620 อยู่ใกล้ 600
มากกว่า 700 ดังนั้น ค่าประมาณเป็นจานวนเต็มร้อยของ 620 คือ 600 หรือพิจารณาเลขโดดในหลักสิบเป็น 2 จึง
ประมาณเป็นจานวนเต็มร้อยที่นอ้ ยกว่า)
5) แอปเปิลหนกั ประมาณเทา่ ใด(แอปเปิลหนักประมาณ 600 กรัม)
6) ถา้ จะประมาณราคาของพดั ลมควรประมาณเปน็ จานวนเต็มใด(ประมาณเปน็ จานวนเตม็ รอ้ ย) เพราะ เหตใุ ด (เพราะ
990 อยู่ใกล้ 1,000ซึ่งเหมาะสมกบั สถานการณ์) มหี ลกั การประมาณอย่างไร
(990 อยใู่ กล้ 1,000 มากกว่า 900 ดงั นั้น คา่ ประมาณเป็นจานวนเต็มร้อยของ 990 คือ 1,000 หรอื พจิ ารณาเลขโดดในหลัก
ร้อยเปน็ 9 จงึ ประมาณเปน็ จานวนเตม็ รอ้ ยท่ีมากกวา่ )
7) พดั ลมราคาประมาณเท่าใด(พัดลมราคาประมาณ 1,000 บาท)
ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ การประมาณเปน็ การบอกจานวนของสิ่งต่างๆ อย่างคร่าวๆ ไมต่ อ้ งการ ความละเอียดมาก
นกั จึงใชค้ า่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มสิบ จานวนเตม็ ร้อย จานวนเต็มพนั ...แทนไต้ และ จะเลอื กใชค้ า่ ประมาณใดขน้ึ อยู่กับ
ความสะดวกในการคิดคานวณ เราใช้สญั ลกั ษณ์ « แทนคา่ ประมาณ แล้วให้นักเรียนบอกว่าเคยใชก้ ารประมาณในเร่ืองใดบ้าง

ข้นั สอน

1. การหาผลบวก ผลลบโดยใช้คา่ ประมาณ อาจจัดกจิ กรรม โดยให้นกั เรยี นพิจารณาตวั อยา่ ง หนา้ 55 แล้วรว่ มกัน
อภปิ รายเพื่อหาข้อสรุปเก่ียวกับการหาผลบวกโดยใช้ ค่าประมาณว่า การเลอื กใชค้ า่ ประมาณเปน็ จานวนเต็มใด ขนึ้ อยู่กับความ
สะดวกในการคิดคานวณและความละเอียด ของการนาไปใช้ เราสามารถนาการหาผลบวก ผลลบโดย ใช้คา่ ประมาณไปใช้

พจิ ารณาความสมเหตุสมผลของคาตอบ ทไ่ี ด้จากนัน้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั ทากิจกรรมหนา้ 56 ถงึ 57 แลว้ ทาแบบฝกึ หดั 2.4 เป็น
รายบคุ คล

2. เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจ ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม หนา้ 58 เปน็ รายบุคคล

ขัน้ สรุป

ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั การหาผลบวกโดยใช้ค่าประมาณ ทาไดโดยประมาณจานวนใด จานวนหนึ่ง หรือทั้ง
สองจานวนใหเ้ ป็นจานวนเตม็ สิบ เต็มรอ้ ย เต็มพนั ....หรือเต็มล้าน การเลอื กใช้ ค่าประมาณใดข้นึ อยกู่ ับความสะดวกและความ
เหมาะในการคิดคานวณ และค่าประมาณที่ได้ควรใกล้เคยี ง กบั ผลบวกจรงิ เราสามารถนาการประมาณไปใช้พจิ ารณาความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบได้

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื วา่

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์การ

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) ประเมิน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขนึ้ ไป ถอื วา่

การทางานรายบุคคล/กล่มุ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขน้ึ ไป ถือว่า

ความรบั ผิดชอบต่องานทีส่ ่ัง คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และสง่ งานไดท้ นั ตามท่ี อนั พึงประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุง่ มั่นใน

การทางาน

7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้

1. บัตรภาพ
2. แถบโจทย์ปัญหาการบวก
3. กระดาษแผน่ ใหญ่
4. แบบ'ฝกึ หดั 2.4

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

แผนท่ี 15 สัปดาหท์ ่ี 4

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชือ่ ผ้สู อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับทมี่ ากกวา่ 100,000

เร่ือง การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใช้คา่ ประมาณ

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้วี ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการ
ดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ชีว้ ัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของ การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อยา่ ง
สมเหตุสมผล

ตัวชี้วัดค1.1ป.4/8 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่า ในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การเลือกใช้คา่ ประมาณต้องเลือก'ใชใ้ ห้เหมาะสมกบั สถานการณ์

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1.เพือ่ ให้นกั เรียนสามารถหา ผลบวก ผลลบของจานวนนับ โดยใช้ ค่าประมาณ พรอ้ มท้ังตระหนกั ถึงความ
สมเหตุสมผล (K)
2. เพ่อื ให้นักเรียนสามารถส่ือสาร สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์(P)
3. รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

การประมาณผลลัพธ์ ของการบวก การลบ และ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
การแก้โจทย์ปญั หาและ การสรา้ งโจทย์ปัญหา พร้อม
ทั้งหาคาตอบ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

1. ครูทบทวนการหาค่าประมาณเป็นจานวนเต็มพัน เตม็ หม่นื เต็มแสน เตม็ ล้าน จากสถานการณท์ ่คี รูติด บนกระดาน ให้
นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี

พลอยมเี งินฝากธนาคาร 3,815 บาท
1) พลอยมีเงินฝากธนาคารประมาณกีพ่ นั บาท (พลอยมเี งินฝากธนาคารประมาณ 4,000 บาท)
แมน่ า้ แยงซีเกียงเป็นแมน่ ้าทยี่ าวทส่ี ุดในประเทศจีนและทวีปเอเชยี ยาว 6,380 กิโลเมตร
2) แมน่ ้าแยงซีเกียงยาวประมาณก่ีพนั กิโลเมตร (แมน่ า้ แยงซีเกยี งยาวประมาณ 6,000 กโิ ลเมตร)
ทะเลสาบสพุ ีเรียมีพืน้ ที่ 82,350 ตารางกโิ ลเมตร
3) ทะเลสาบสุพีเรียมีพนื้ ทปี่ ระมาณก่ีหม่ืนตารางกโิ ลเมตร (ทะเลสาบสุพเี รยี มีพื้นท่ปี ระมาณ 80,000 ตารางกิโลเมตร)
ทวีปยุโรปมพี ้ืนท่ี 9,957,000 ตารางกิโลเมตร
4) ทวีปยุโรปมีพืน้ ท่ีประมาณ 10,000,000 ตารางกโิ ลเมตร)

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการประมาณเป็นการบอกจานวนของสิ่งต่างๆ อย่างคร่าวๆ ไม่ต้องการ ความละเอียดมาก
นกั ในชวี ิตจริงคา่ ประมาณถูกนาไปใชเ้ พอ่ื ใหเ้ กิดความสะดวกในการสื่อสาร

ขัน้ สอน

1. ครูจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเร่ืองการนาคา่ ประมาณไปชว่ ยหาคาตอบของโจทย์ปัญหา โดยครูติด แถบโจทย์
ปญั หาบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นอ่านโจทย์พร้อม ๆ กันและตอบคาถาม ดงั นี้

- จงั หวดั นครราชสมี ามีพ้ืนที่ 20,494 ตารางกโิ ลเมตร กรุงเทพมหานครมีพื้นที่ 1,569 ตารางกโิ ลเมตร
จงั หวดั นครราชสีมามีพ้ืนที่มากกว่ากรุงเทพมหานครประมาณกต่ี ารางกิโลเมตร

- จากสถานการณ์เขียนประโยคสญั ลักษณ์เพ่ือหาคาตอบได้อยา่ งไร
(ประโยคสญั ลักษณ์ 20,494 - 1,569 =□)
- คาตอบควรประมาณเท่าใด (อาจไดค้ ่าประมาณทแ่ี ตกตา่ งกนั ตามความคดิ ของนักเรียน)
เชน่ ถ้าประมาณเปน็ จานวนเต็มพัน
จะได้ 20,494 ≈ 20,000 และ 1,569 ≈ 2,000
เน่ืองจาก 20,000 — 2,000 = 18,000
ดงั น้นั 20,494 - 1,569 ≈ 18,000
-จังหวดั นครราชสีมามีพนื้ ท่ีมากกว่ากรุงเทพมหานครประมาณ 18,000 ตารางกิโลเมตร
ถา้ ประมาณเป็นจานวนเตม็ ร้อย
จะได้ 20,494 ≈ 20,500 และ 1,569 ≈ 1,600 เนื่องจาก 20,500 — 1,600 = 18,900
ดังน้ัน 20,494 - 1,569 ≈ 18,900
จงั หวดั นครราชสีมามีพน้ื ท่มี ากกว่ากรงุ เทพมหานครประมาณ 18,900 ตารางกโิ ลเมตร

ครใู หน้ ักเรียนหาผลลบของ 20,494 -1,569 จะได้ 18,925 ดงั น้ันถ้าประมาณเป็นจานวนเตม็ รอ้ ยจะได้ ค่าประมาณทีได้
ใกลเ้ คยี งกับผลลบทีค่ านวณไดจ้ รงิ แตถ่ ้าประมาณเป็นจานวนเตม็ พันจะสะดวกในการคิดคานวณ

ครแู นะนาเพ่ิมเตมิ วา่ การเลือกใช้ค่าประมาณใดชน้ิ อยู่กบั ความเหมาะสมและความสะดวกในการคดิ คานวณ
2. ครูแบ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 3 - 4คน แจกกระดาษแผ่นใหญ่ให้นักเรยี นกลุ่มละ 1 แผ่นใหแ้ ต่ละ กลุ่มลุ่มหยบิ
บตั รโจทยป์ ัญหาท่ีครูตดิ บนกระดานกล่มุ ละ1 ข้อ ให้แต่ละกล่มุ ช่วยกันเขียนประโยค สญั ลักษณ์และหาคาตอบโดยประมาณ
แล้วใหต้ วั แทนออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
3.ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัดเพิ่มเตมิ

ขน้ั สรปุ
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปเร่ืองการเลอื กใช้คา่ ประมาณต้องเลอื กให้เหมาะกบั สถานการณ์

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์การ

คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) ประเมิน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถือวา่

ความรับผดิ ชอบต่องานทีส่ ั่ง คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามที่ อันพึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการม่งุ ม่ันใน

การทางาน

7. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

1. แถบโจทย์ปัญหา
2. กระดาษแผน่ ใหญ่
3. แบบฝึกหดั เพิ่มเติม

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู สู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

แผนท่ี 16 สัปดาหท์ ่ี 4

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ชอ่ื ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับที่มากกว่า 100,000

เร่อื ง การคานวณโดยใช้เคร่อื งคดิ เลข (ขัน้ ตอนเดียว)

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1 เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการ

ดาเนินการสมบตั ขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตวั ชวี้ ดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลพั ธข์ อง การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อย่าง
สมเหตุสมผล

ตัวชว้ี ดั ค1.1ป.4/8 หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนบั ท่ีมากกวา่ 100,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การสอนการคานวณโดยใชเ้ ครื่องคดิ เลข เพ่ือให้ความ รแู้ ละทกั ษะพ้นื ฐานในการใช้เคร่ืองคดิ เลขสาหรบั ชว่ ยหา
คาตอบ (ในบางกรณี) หรือตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาตอบ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1.นกั เรียนสามารถใช้เคร่อื งคิดเลขในการคานวณหาผลลัพธ์ (K)
2. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสามารถสื่อสาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร(์ P)
3. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ที ี่ไดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน

การคานวณโดยใชเ้ ครื่องคิดเลข พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้ันนา

ครูทบทวนการการบวก การลบจานวนนับท่ีมากกว่า 100,000 ให้นักเรียนแข่งขันหาคาตอบจากโจทย์ ท่ีครูเขียนบน
กระดาน(กาหนดเวลา 5 นาที) เม่ือหมดเวลาให้นักเรียนบอกคาตอบและให้ตัวแทนนักเรียน ออกมาเขียนแสดงวิธีทาบน
กระดาน

1) 5,247,086 + 753,412 = □ (6,000,498)


Click to View FlipBook Version