The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้าง+แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ning.np, 2022-05-23 04:28:25

โครงสร้าง+แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.4

โครงสร้าง+แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ป.4

2) 3,436,067 - 762,426 = □ (2,673,641)
ครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกบั การหาคาตอบของโจทย์ท่กี าหนดเวลาใหค้ ิด คาตอบอาจ ผิดพลาดไต้ หรอื อาจทา
ไม่เสร็จตามเวลาท่ีกาหนด หรือทาเสร็จตามเวลาท่ีกาหนดแต่ไม่รวู้ า่ ถูกตอ้ งหรือไม่ เราจะมีเครอื่ งมอื ชนดิ ใดบา้ งที่จะสามารถ
นามาตรวจสอบคาตอบ ซ่ึงนักเรียนอาจตอบวา่ เราสามารถใช้ เครอื่ งคิดเลขตรวจสอบคาตอบจากการคดิ คานวณได้

ขั้นสอน

1. การสอนการคานวณโดยใช้เครอ่ื งคดิ เลข ครแู นะนาเคร่อื งคิดเลขทั่วไป และเครื่องคดิ เลขวทิ ยาศาสตร์ ให้ นักเรยี น
รจู้ กั ปุ่มต่าง ๆ และวธิ ีการใช้งานเบอื้ งตน้ โดยใช้ ขอ้ มูลจากหน้า 59 ซง่ึ เคร่ืองคดิ เลขแต่ละเครื่องอาจ มีปมุ่ และวธิ กี ารใชง้ านที่
แตกตา่ งกันขึน้ อยูก่ บั จดุ ประสงค์ การใชง้ าน ย่ีหอ้ รนุ่ ในที่นี้จะเนน้ การคานวณโดยใช้ เคร่ืองคดิ เลขแบบทวั่ ไป จากนนั้ ให้
นกั เรียนร่วมกันทากจิ กรรมหนา้ 60

หมายเหตุ
เคร่ืองคดิ เลขท่วั ไป จะแสดงผลลัพธ์ตามลาดบั ของการกดปุ่ม การดาเนินการ เชน่ 7+7÷7 + 7 × 7-7 ผลลัพธ์ทไี่ ด้

เป็น 56 แตเ่ คร่ืองคิดเลขวิทยาศาสตร์ จะแสดงผลลพั ธ์ตามข้อ ตกลงทางคณติ ศาสตร์ ผลลัพธท์ ไ่ี ดเ้ ป็น 50
2. การใชเ้ ครอื่ งคิดเลขหาผลลัพธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ให้นกั เรยี นทากจิ กรรม หน้า 61 โดยใช้ เครอื่ ง

คิดเลขหาผลลัพธต์ ามโจทยท์ ี่กาหนดและกดปุ่มที่ เครอื่ งคิดเลขตามลาดับ

ขอ้ ควรระวัง โจทย์หนา้ 61 ข้อ 3 ถา้ นักเรียน กดตวั เลข และป่มุ การดาเนินการตามลาดับที่โจทย์แสดง ผลลัพธ์ที่ได้ จะไม่
ถกู ต้อง ครแู นะนาใหน้ ักเรยี นคานวณในวงเล็บก่อน แลว้ นาผลการคานวณที่ไดม้ าบวกกบั จานวนทเ่ี หลอื

3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันหาผลลัพธต์ ามโจทย์ หนา้ 62 โดยครแู นะนาการใช้ปุ่มจดจาผลลพั ธ์จากการคานวณ จากนน้ั
ให้นักเรียนร่วมกันทากิจกรรมหน้า 63 แล้วทาแบบฝกึ หัด 2.5 เป็นรายบคุ คล

4. เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ ให้นักเรียนทากิจกรรม หนา้ 64 เปน็ รายบุคคล

ข้ันสรุป

ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปว่าในชีวิตจรงิ เราอาจใชเ้ ครื่องคิดเลขในการหาคาตอบ แตใ่ นข้ันเรยี นเราใช้ เคร่อื งคิดเลขใน

การตรวจสอบคาตอบ หรอื ตรวจสอบความสามารถในการประมาณคาตอบของนกั เรยี น

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือวา่

- ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถอื วา่

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมี - แบบประเมิน 80% ขนึ้ ไป ถือวา่
ความรับผดิ ชอบต่องานที่ส่ัง คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์การ
และสง่ งานได้ทันตามท่ี อันพึงประสงค์ ประเมนิ
กาหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมุง่ มัน่ ใน
การทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี น
2. แบบฝกึ หัด2.5
3. เคร่อื งคิดเลขท่ัวไป

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

แผนท่ี 17-19 สัปดาห์ที่ 5

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ช่อื ผูส้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 3 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวนนับทมี่ ากกว่า 100,000

เร่ือง การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าจากประโยคสัญลักษณ์การบวก การลบ และการหาเลขโดดในหลักตา่ งๆ

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน
ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ช้ีวดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธข์ อง การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อย่าง
สมเหตุสมผล

ตัวชว้ี ัดค1.1ป.4/8 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่า ในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนับ ท่ีมากกวา่ 100,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าของประโยคสญั ลักษณก์ ารบวก และประโยคสัญลักษณ์การลบ อาจทาได้โดยใช้
ความสมั พนั ธ์ ของการบวกและการลบ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.นักเรียนสามารถหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการลบ
ของจานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000 (K)

2. เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถส่ือสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร(์ P)
3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทที่ ี่ได้รบั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น

การหาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนา

ขั้นสอน

คาบ 1 การหาคา่ ตวั ไม่ทราบคา่ จากประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก

1. การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์ การบวก ครใู ชก้ ารถาม-ตอบ ทบทวนความสัมพันธร์ ะหวา่ ง การ

บวกกับการลบ โดยใช้จานวนท่ีนกั เรียนสามารถคดิ คานวณในใจได้ จากนัน้ ครูกาหนด แทน จานวนนับ และ

+ = ให้นักเรียนบอกความ สมั พนั ธ์ระหว่างการบวกกบั การลบ โดยครอู าจใช้คาถาม กระตนุ้ แล้วรว่ มกัน

อภปิ รายจนได้ข้อสรุปวา่ ผลบวกของ จานวนนับ 2 จานวน เมอ่ื ลบด้วยจานวนใดจานวนหนง่ึ ผลลบทไ่ี ด้จะเท่ากับจานวนอกี
จานวนหนงึ่ จากนน้ั ใหร้ ่วมกัน ทากิจกรรม หน้า 65 พร้อมทั้งแนะนาว่า ในประโยค สัญลกั ษณ์ แทนตวั ไม่ทราบคา่

2. ครูกาหนดประโยคสญั ลักษณท์ ม่ี ีตัวไม่ทราบค่า แล้วใช้ การถาม-ตอบประกอบการอธิบาย เพอ่ื หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบ
ค่า โดยใช้ความสมั พันธ์ระหว่างการบวกกบั การลบ เชน่

1) 250,000 + = 400,000

จะได้ = 400,000 - 250,000

แสดงวา่ = 150,000

2) + 1,300,000 = 2,000,000

จะได้ = 2,000,000 - 1,300,000

แสดงวา่ = 700,000

จากน้ันให้รว่ มกนั พจิ ารณาการหาคาตอบจากโจทย์หนา้ 66 โดยครใู ช้คาถามกระตุน้

3. ครใู ชก้ ารถามตอบประกอบการอธบิ ายตวั อย่างหนา้ 67 แลว้ ร่วมกันทากจิ กรรมหนา้ 67 ถึง 68 โดยใชเ้ ครอ่ื งคิดเลข
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นทาแบบฝกึ หัด 2.6 เป็นรายบุคคล

4. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรทู้ ี่ได้ ใหน้ กั เรียน ทากิจกรรมหน้า 69 เปน็ รายบคุ คล

คาบ 2 การหาค่าตัวไมท่ ราบคา่ จากประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ

5. การหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าจากประโยคสญั ลักษณ์ การลบ ครใู ช้การถาม-ตอบ ทบทวนความสัมพันธ์ระหวา่ ง การ

บวกกบั การลบ โดยใช้จานวนทน่ี ักเรยี นสามารถคดิ คานวณในใจได้ จากน้นั ครูกาหนด แทน จานวนนบั และ

- = ให้นักเรียนบอก ความสัมพนั ธ์ระหว่างการบวกกับการลบ โดยครอู าจใช้ คาถามกระตุ้น แล้วรว่ มกนั

อภิปรายจนได้ข้อสรปุ วา่ ผลลบของจานวนนับ 2 จานวน เม่อื บวกด้วยจานวนใด จานวนหนง่ึ ผลบวกท่ไี ดจ้ ะเท่ากับจานวน

อีกจานวนหนึ่ง แลว้ ให้ร่วมกันทากจิ กรรมหนา้ 70 จากนัน้ ครกู าหนด ประโยคสัญลักษณท์ ่ีมีตัวไมท่ ราบคา่ แลว้ ใชก้ าร

ถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ าย เพ่ือหาค่าของตวั ไม่ทราบค่า โดยใช้ ความสมั พนั ธ์ระหว่างการบวกกบั การลบ เช่น

1) 500,000 - = 200,000

จะได้ 500,000 - 200,000 =

หรือ = 500,000 - 200,000

2) - 3,500,000 = 1,500,000
จะได้ = 3,500,000 + 1,500,000
6. ครูใชก้ ารถามตอบประกอบการอธบิ ายตวั อย่าง หน้า 71 แล้วรว่ มกนั ทากจิ กรรมหน้า 72 โดยใช้เคร่อื งคิดเลขตรวจ
สอบความถูกต้อง จากนั้นทาแบบฝึกหดั 2.7 เปน็ รายบคุ คล
7. เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรู้ที่ได้ ให้นกั เรยี นทากจิ กรรมหน้า 73 เปน็ รายบคุ คล

คาบ 3 การหาเลขโดดในหลกั ต่าง ๆ

8. การหาเลขโดดในหลกั ต่าง ๆ จากการเขียนแสดงการบวก แนวต้ัง ครูอาจแนะนาให้นักเรียนนาความสัมพันธร์ ะหว่าง
การบวกกับการลบมาใชใ้ นการหาเลขโดดใน โดยเขียน ความสัมพันธจ์ าก ตัวตงั้ - ตัวบวก = ผลบวก ซึง่ ถ้ามี จานวนใด
จานวนหนึ่งเปน็ ตวั ไมท่ ราบค่าจะได้ความสัมพันธ์ ดงั นี้

- ตัวตั้ง + ตัวบวก =
หรือ = ตวั ตั้ง + ตวั บวก
- ตัวตั้ง + = ผลบวก
หรอื = ผลบวก - ตัวตงั้
- + ตัวบวก = ผลบวก
หรือ = ผลบวก - ตวั บวก

จากนัน้ ครใู ช้การถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ ายการหา เลขโดดใน หนา้ 74

ข้อควรระวงั การหาเลขโดดในแตล่ ะหลกั ของโจทย์ การบวก แนวตงั้ จะต้องไม่ลมื ตวั ทดที่ได้จากการหาผลบวกของ
หลัก ท่อี ยูต่ ดิ กนั ทางขวา

9. การหาเลขโดดในหลกั ต่าง ๆ จากการเขียนแสดงการลบ แนวตง้ั ครอู าจแนะนาให้นักเรียนนาความสัมพนั ธร์ ะหว่าง
การบวกกบั การลบมาใชใ้ นการหาเลขโดดใน โดยเขยี น ความสมั พันธ์จาก ตัวตั้ง - ตัวลบ = ผลลบ ซึ่งถา้ มจี านวนใด
จานวนหน่งึ เป็นตัวไม่ทราบค่าจะได้ความสัมพันธ์ ดังนี้

ตัวตั้ง - ตวั ลบ =

หรือ = ตัวต้งั - ตัวลบ

ตวั ตัง้ = ผลลบ

หรือ = ตวั ต้งั - ตวั ลบ

- ตวั ลบ = ผลลบ
หรือ = ผลลบ + ตวั ลบ

จากนัน้ ครใู ชก้ ารถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ ายการหา เลขโดดใน หน้า 75
10. ให้นักเรยี นรว่ มกันทากจิ กรรมหนา้ 76 โดยโจทย์ บางข้อทเ่ี ป็นโจทย์การลบ นกั เรียนอาจไมถ่ นดั ใช้การลบ ครูอาจ
แนะนาให้ใช้การแปลงจากโจทยก์ ารลบเป็นโจทย์ การบวก โดยอาศยั ความสมั พนั ธร์ ะหว่างการบวกกับการลบ

แล้วหาเลขโดดในหลักตา่ ง ๆ โดยใชว้ ธิ กี ารเชน่ เดยี วกับ การหาเลขโดดในหลักตา่ ง ๆ ของโจทย์การบวก จากนัน้ ให้
นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั 2.8 เป็นรายบคุ คล

ข้อควรระวงั การหาเลขโดดในแต่ละหลักของโจทย์ การลบ แนวตัง้ ตอ้ งไม่ลมื ว่า ถ้ามีการกระจายจานวนจากหลักที่
อยู่ ตดิ กนั ทางซา้ ยต้องลบตวั ตั้งออก 1

11. เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรทู้ ี่ได้ ให้นักเรียนทากิจกรรมหน้า 77 เปน็ รายบคุ คล

ขัน้ สรุป

ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ จากประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวก อาจใช้ ความสัมพันธ์ของการบวก
และการลบได้

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมินผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขนึ้ ไป ถือว่า

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถือวา่

การทางานรายบุคคล/กลุม่ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมิน ประเมิน
ความรบั ผิดชอบต่องานท่ีสง่ั คณุ ลักษณะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
และสง่ งานไดท้ นั ตามที่ อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์การ
กาหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันใน
การทางาน

7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

1. หนังสอื เรียน
2. แบบฝึกหดั 2.6 ,2.7 ,2.8
3. เครื่องคิดเลขทั่วไป

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา แผนท่ี 20 สปั ดาหท์ ี่ 5
แผนที่ 21-22 สปั ดาห์ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชือ่ ผสู้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 3 คาบ

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 การบวกและการลบจานวนนับทีม่ ากกว่า 100,000

เร่ือง การวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาและหาคาตอบ

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั

มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวชีว้ ดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของ การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อย่าง
สมเหตุสมผล

ตัวชว้ี ัดค1.1ป.4/8 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่า ในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสัญลักษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก และโจทย์ปัญหาการลบ อาจเริ่ม จากทาความเข้าใจปัญหา วางแผนการแกป้ ัญหา
ดาเนินการ ตามแผน และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์และแสดงวธิ ีหาคาตอบของ โจทย์ปญั หาการบวก โจทยป์ ญั หาการลบของจานวนนับท่ี
มากกวา่ 100,000 (K)

2. เพ่ือให้นักเรยี นสามารถส่ือสาร สื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์(P)
3. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีท่ีได้รับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน

การวิเคราะห์โจทย์และหาคาตอบ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

ครทู บทวนการวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการบวก โจทย์ปัญหาการลบจานวนนับที่น้อยกว่า 100,000 โดยครู ติด
แถบโจทย์ปญั หาบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นอา่ นโจทย์พร้อม ๆ กนั

แดงมีรูปภาพ 30 ใบ ดามีรปู ภาพ 10 ใบ แดงมรี ปู ภาพมากกวา่ ดากีใ่ บ

แล้วตอบคาถาม ดังนี้

1) โจทยถ์ ามอะไร (จานวนรูปภาพท่แี ดงมีมากกวา่ ดาก่ีใบ)
2) แดงมรี ปู ภาพกใ่ี บ (30 ใบ)
3) ดามีรูปภาพกีใ่ บ (10 ใบ)
4) หาจานวนรูปภาพที่แดงมีมากกวา่ ดาได้อยา่ งไร (นาจานวนรูปภาพของดาไปลบออกจากจานวน รปู ภาของแดง)
5) เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์เพอ่ื หาจานวนรปู ภาพทแี่ ดงมีมากกวา่ ดาได้อยา่ งไร

(ประโยคสัญสษั ณ์ 30 - 10 = □)

ข้นั สอน

คาบ 1 การวกิ ารวเิ คราะหโ์ จทย์และหาคาตอบ

การวเิ คราะห์โจทย์และหาคาตอบครูอาจจัดกิจกรรม ดังน้ี

1. ใช้การซกั ถามเพื่อทบทวนการแกโ้ จทย์ปญั หา ซงึ่ ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหา ตามขน้ั ตอน ดงั น้ี

ขั้นที่ 1 ทาความเขา้ ใจปัญหา

ขัน้ ที่ 2 วางแผนแกป้ ญั หา

ข้นั ท่ี 3 ดาเนนิ การตามแผน

ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบหรือมองย้อนกลับ
ครคู วรใช้การซักถามเพ่ือเนน้ ยา้ ให้นักเรียนแปลความ หมาย ตคี วามจากโจทย์ปญั หา พร้อมทง้ั แนะนาให้เขยี นภาพ
ประกอบ เพอ่ื เชือ่ มโยงไปส่กู ารดาเนินการทางคณิตศาสตร์ แตไ่ ม่ควรแนะนาให้นกั เรียนจากคาสาคัญที่ปรากฏในโจทย์ เพราะ
อาจทาใหเ้ ลือกใชก้ ารดาเนินการทางคณติ ศาสตรท์ ี่ ไม่ถูกต้อง เชน่

- แบงคอ์ ่านหนงั สือได้ 15 หนา้ ต่อมาอา่ นเพม่ิ อีก 10 หน้า แบงค์อ่านหนงั สือไดท้ ้งั หมดก่ีหนา้ (แบงค์อ่านได้ทง้ั หมด
15 + 10 = 25 หน้า)

- แบงค์ต้ังใจจะอ่านหนังสือให้ได้ 35 หนา้ แบงค์ อ่านไปแล้ว 20 หน้า ตอ้ งอา่ นเพิ่มอกี กี่หนา้ จงึ จะครบตามท่ีตั้งใจ
(ต้องอ่านเพมิ่ อีก 35 – 20 = 15 หนา้ จงึ จะครบ ตามทต่ี ง้ั ใจ)

ครูควรยกตัวอย่างสถานการณอ์ ื่นเพม่ิ เติมเพ่ือให้ นกั เรียนตระหนกั ถึงข้อผดิ พลาดท่ีอาจเกิดขึน้ จากการจาคาสาคัญ

2. ครใู ช้การถาม-ตอบ ประกอบการพจิ ารณาการวิเคราะห์ และหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาหนา้ 78 - 81 ท้ังน้คี รูควร
ฝกึ ให้นกั เรยี นเขียนภาพประกอบวธิ ีคิดโดยใช้ bar model ในการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาตอบ ควรย้าใหต้ รวจ สอบกับ
โจทย์ทุกคร้งั ถ้าคาตอบนน้ั มีความสอดคล้องกับ เงือ่ นไขของโจทย์แสดงวา่ เปน็ คาตอบที่ถกู ต้อง แตไ่ ม่ควร นาคาตอบทไี่ ดแ้ ทน
ในประโยคสัญลักษณท์ ่ีสรา้ งขึ้น เพราะ ประโยคสญั ลกั ษณ์ท่ีสรา้ งขึ้นอาจไม่ถูกต้อง

หมายเหตุ ครูควรศึกษาวธิ ีการเขียนรูปแสดงวธิ ีคดิ โดยใช้ bar model และวธิ ีการอธิบายความสัมพนั ธ์ ของรูปที่สรา้ งข้ึน

3. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันพจิ ารณาตัวอย่างหน้า 82 จากน้ันรว่ มกันทากิจกรรมหนา้ 83 แล้วให้ทาแบบฝกึ หัด 2.9 เป็น
รายบคุ คล

คาบ 2 การวกิ ารวเิ คราะห์โจทย์และหาคาตอบ

4. การวิเคราะห์โจทยแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ปญั หา หนา้ 84-85 ซ่ึงเปน็ สถานการณ์ปญั หาเกีย่ วกบั การบวก การลบท่ี
ตอ้ งการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ครูควรทบทวน ตาแหนง่ ของตัวไม่ทราบคา่ ( ) ในประโยคสญั ลักษณ์ เช่น

250,000 + = 568,000
+ 156,000 = 785,367

634,800 - = 485,000
- 450,000 = 267,000

จากนั้นให้หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่า โดยใช้ความสมั พนั ธ์ ระหว่างการบวกกับการลบ

การสอนการวิเคราะห์และหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา ใชข้ ัน้ ตอนการแก้ปัญหาเช่นเดยี วกับการวเิ คราะห์และหา คาตอบ
ของโจทย์ปัญหาทผี่ ่านมาก่อนหน้าน้ี โดยอาจแสดง วิธีคิดโดยใช้การวาดรปู เช่น bar model แล้วเขยี นประโยค สญั ลักษณ์ทมี่ ี
ตัวไมท่ ราบค่า และหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ โดยใช้ความสัมพันธร์ ะหว่างการบวกกับการลบ ครูควรย้าให้ นักเรียนตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งของคาตอบทุกคร้ัง

ครูและนกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะหโ์ จทย์และหาคาตอบ หน้า 84-85 และตวั อย่างหนา้ 86 จากนัน้ ให้นักเรยี น ร่วมกัน
ทากจิ กรรมหน้า 87-88 แลว้ ทาแบบฝึกหัด 2.10 เปน็ รายบคุ คล

5. เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ให้นักเรียน ทากิจกรรม หนา้ 89 - 90 เปน็ รายบุคคล

คาบ 3 การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก โจทยป์ ัญหาการลบจากประโยคสญั ลักษณแ์ ละการหาคาตอบ

6. ครูและนักเรียนร่วมกันวเิ คราะหโ์ จทย์ แสดงวิธคี ิด และแสดงวธิ ที าพร้อมตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ จาก
ตัวอยา่ งที่ 1 หน้า 91 และตวั อยา่ งท่ี 2 หนา้ 92

7. ให้นกั เรียนร่วมกันทากจิ กรรม หนา้ 93-94 แลว้ ทาแบบฝึกหดั 2.11 เปน็ รายบคุ คล
8. เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรู้ท่ีได้ ใหน้ ักเรียนทากิจกรรม หน้า 95-96 เปน็ รายบคุ คล

ขนั้ สรปุ

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหาการลบ อาจทาได้โดยอา่ นทาความเข้าใจโจทยป์ ัญหา
วางแผน แก้ปญั หา แสดงวธิ หี าคาตอบ และตรวจความถกู ต้องของคาตอบจากโจทย์ปญั หาน้นั

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึน้ ไป ถอื วา่

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) ประเมนิ

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรียนมี - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถือวา่

ความรบั ผดิ ชอบต่องานท่สี ่งั คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามที่ อนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งม่นั ใน

การทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี น
2. แบบฝึกหัด2.9 ,2.10 ,2.11
3. แถบประโยคสัญลกั ษณ์การบวก

4. แถบประโยคสัญลักษณ์การลบ

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

แผนท่ี 23 - 24 สปั ดาห์ที่ 6

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/……………..……... ชอื่ ผูส้ อน ….……………………………………………..……….…...

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 2 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกและการลบจานวนนบั ทมี่ ากกวา่ 100,000

เรื่อง การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวก โจทย์ปญั หาการลบจากภาพหรอื สถานการณ์ และหาคาตอบ

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตวั ชีว้ ดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของ การบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ อยา่ ง
สมเหตสุ มผล

ตวั ชว้ี ัดค1.1ป.4/8 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการ
ลบของจานวนนับ ท่มี ากกว่า 100,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

1. การแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก และโจทยป์ ญั หาการลบ อาจเรมิ่ จากทาความเข้าใจปัญหา วางแผนการแกป้ ัญหา
ดาเนนิ การตามแผน และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ

2. การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวก โจทย์ปญั หาการลบ ต้องพิจารณาสถานการณ์ทสี่ รา้ งข้ึนใหส้ มเหตุสมผลสอดคล้อง
กบั ความเป็นจรงิ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. นกั เรยี นสามารถสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวก โจทยป์ ัญหาการลบของจานวนนบั ทีม่ ากกว่า 100,000 (K)
2. มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา (P)
3. มคี วามมมุ านะในการทาความเขา้ ใจปัญหาและแก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่ิน

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ และการสรา้ ง
โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้นั นา

1. ครูทบทวนโจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหาการลบ โดยให้อ่านโจทย์ท่ีครูติดบนกระดานพร้อมๆกัน แล้วช่วยกันเขียน
ประโยคสญั ลักษณ์ ดังนี้

1) มารศรีซ้อื สินคา้ 400 บาท รา้ นคา้ คิดภาษีมูลคา่ เพม่ิ 28 บาท มารศรตี ้องจา่ ยเงินซื้อสนิ ค้า ท้ังหมดเทา่ ใด
เขียนประโยคสญั ลกั ษณเ์ พอื่ หาจานวนเงินท่ีมารศรีต้องจา่ ยท้ังหมดไคอ้ ย่างไร (ประโยคสัญลกั ษณ์ 400 + 28 = □)

2) ประกอบเลี้ยงเปิด 46 ตัว เลี้ยงไก่ 54 ตวั ประกอบเล้ียงไก่มากกวา่ เป็ดก่ีตวั เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์เพ่ือหาจานวนไก่
มากกว่าเปด็ ได้อยา่ งไร
(ประโยคสัญลกั ษณ์ 54- 46 = □)

3) นารีมลี ้มโออยจู่ านวนหน่งึ ขายไป 10 ผล ทาให้นารีเหลอื ลม้ โอ 18 ผล เดิมนารีมีสม้ โอกี่ผล เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์
เพือ่ หาจานวนส้มโอทีน่ ารีมีอย่เู ดิมไค้อยา่ งไร
(ประโยคสญั ลกั ษณ์ □ - 10 = 18)

4) ดารงมีไก่ 32 ตวั ซอื้ ไก่มาเพิ่มอกี จานวนหนง่ึ ทาให้ดารงมีไก่ 50 ตัว ดารงซ้ือไกม่ าเพิ่มอีกกต่ี วั เขียนประโยค
สญั ลักษณเ์ พ่ือหาจานวนไก่ที่ซือ้ มาเพ่ิมไค้อย่างไร
(ประโยคสัญลกั ษณ์ 32 + □ = 50)

ขน้ั สอน

คาบที่ 1 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกโจทยป์ ญั หาการลบ จากประโยคสญั ลักษณ์และหาคาตอบ

การสอนการสรา้ งโจทย์ปญั หาและหาคาตอบของ โจทย์ปญั หาการบวก โจทย์ปญั หาการลบ ซง่ึ การสรา้ ง โจทยป์ ญั หา
นั้นสามารถสรา้ งไดจ้ ากสิง่ ต่าง ๆ ทกี่ าหนดให้ ดังน้ี

1. การสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสัญลักษณ์ ครูควร เน้นให้นักเรียนสร้างโจทยโ์ ดยใช้คาหรอื ข้อความท่ีสอดคล้อง
กับการดาเนินการและต้องพิจารณาถึงความสมเหตสุ มผล ของสถานการณ์กบั จานวนทีโ่ จทย์กาหนด ครอู าจยกตัวอยา่ ง โจทย์
ปญั หาท่สี ร้างจากประโยคสญั ลักษณ์

2,359,000 + 1,500,000 =
“พ่อเลี้ยงปลาในสระเป็นปลาตัวผู้ 2,359,000 ตวั ปลาตัวเมีย 1,500,000 ตวั พ่อเลยี้ งปลาทั้งหมดกีต่ วั ” แล้วให้
นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายถึงความเหมาะสมและ ความสมเหตุสมผลของโจทย์ปญั หา ซง่ึ นักเรยี นอาจพิจารณา ว่าไม่
สมเหตุสมผลโดยใหเ้ หตผุ ลว่าเราไม่สามารถนบั ปลา ในสระได้เปน็ ลา้ น ๆ ตวั และเปน็ เรือ่ งยากทจี่ ะระบุของเพศ ปลาในสระได้
จากนัน้ ให้นักเรยี นรว่ มกันทากิจกรรม หนา้ 98

คาบที่ 2 การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกโจทย์ปญั หาการลบ จากจากภาพและหาคาตอบ

2. การสรา้ งโจทย์ปญั หาจากภาพ ครคู วรให้นกั เรียนพิจารณา ภาพและจานวนท่ีกาหนด แลว้ เชอ่ื มโยงใหเ้ ปน็ เรื่องราว
โดยอาจเพิ่มข้อความหรือจานวนได้ตามความเหมาะสม ครูอาจนาสนทนาเกีย่ วกับคาหรือข้อความท่ีแสดงถึงการบวก การลบ
จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันสร้างโจทย์ปัญหา การบวกโจทย์ปญั หาการลบจากภาพ หน้า 99 แลว้ นามารว่ ม กนั อภิปรายถงึ

ความเปน็ ไปได้ ความเหมาะสม และความสม เหตุสมผลของโจทย์ปญั หาทีส่ ร้าง จากน้นั นกั เรยี นร่วมกนั ทากิจกรรมหนา้ 100
แล้วทาแบบฝึกหดั 2.12 เป็นรายบคุ คล

3. เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความร้ทู ี่ได้ ให้นกั เรียน ทากจิ กรรม หนา้ 101 เปน็ รายบคุ คล

ขน้ั สรปุ

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสัญลกั ษณ์ จากรูปภาพหรือ
สถานการณ์ท่กี าหนดให้ โจทยท์ ส่ี รา้ งจะต้องมีความถูกต้องและเหมาะสม สอดคล้องกบั การดาเนนิ การ และตระหนักถึงความ
สมเหตสุ มผลของสถานการณ์กบั จานวนทก่ี าหนด

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือวา่

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์การ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) ประเมนิ

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขน้ึ ไป ถือวา่

การทางานรายบุคคล/กล่มุ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรียนมี - แบบประเมนิ 80% ข้ึนไป ถือวา่

ความรบั ผดิ ชอบต่องานท่สี ่งั คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และสง่ งานไดท้ ันตามที่ อันพงึ ประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งม่นั ใน

การทางาน

7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี น
2. แบบฝึกหัด2.12
3. เครอื่ งคดิ เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

แผนที่ 25 สัปดาห์ที่ 7

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/……………..……... ช่ือผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การคูณ การหาร

เร่อื ง การคณู จานวน 1 หลักกับจานวนที่มากกวา่ 4 หลัก

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผล
ท่เี กดิ ข้นึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และการนาไปใช้

ตัวชี้วัด ป.4/9 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการคูณของจานวนหลายหลัก 2 จานวนที่มีผลคูณไม่
เกิน 6 หลัก และประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการหารทต่ี ัวตงั้ ไม่เกิน 6 หลกั ตวั หารไม่เกิน 2 หลัก

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การคูณจานวน 1 หลัก กบั จานวนมากกวา่ 4 หลัก หาผลคณู ไดโ้ ดยนาจานวน 1 หลกั ไปคูณกบั จานวนท่ี
มากกวา่ 4 หลกั โดยเรมิ่ จากหลกั ทางขวาไปหลกั ทางซ้ายทลี ะหลัก

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. นกั เรียนสามารถคูณจานวน 1 หลัก กบั จานวนมากกว่า 4 หลัก พร้อมท้งั ตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผล (K)
2. มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร ส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P)
3. มรี ะเบียบวนิ ยั ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

การคณู จานวน 1 หลัก กบั จานวนมากกว่า 4 หลัก

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขัน้ นา

1. ครูแจกแผ่นตารางร้อย ตารางสิบ ตารางหน่วยให้นักเรียน จากนั้นให้นักเรียนจัดแผ่นตารางร้อย ตารางสิบ ตาราง
หน่วย แสดงการคูณของ 3 X 24 ครูตรวจสอบความถกตอ้ งจนได้ดงั นี้

2. ครูให้นกั เรยี นหาผลคูณของ 3 X 24 เมื่อไดค้ าตอบ ครูถามนกั เรยี นว่าหาคาตอบไดอ้ ย่างไรบา้ ง เซน่
- นับได้ 6 สิบ กบั 12 หนว่ ย ดงั นน้ั 3 X 24 = 72
- หาผลคณู ไดจ้ าก 3 คณู 4 หน่วย ได้ 3 X 4 = 12 และ 3 คูณ 2 สบิ ได้ 3 X 20 = 60
จะได้ 3 X 24 = (3 X 4) + (3 X 20)
= 12 + 60
= 72
- หาผลคูณดว้ ยการต้ังคูณ

ขัน้ สอน

1. ครทู บทวนความหมายของการคูณ โดยยกตัวอยา่ งงา่ ยๆ เชน่
3 × 10 = 10 + 10 + 10 = 30
2 × 100 = 100 + 100 = 200
4 × 1,000 = 1,000 + 1,000 + 1,000 + 1,000 = 4,000

2. ให้นกั เรยี นร่วมกนั พิจารณาการหาผลคูณหน้า 107–108 ซึ่งเรม่ิ จากการใชค้ วามหมายของการคูณ แลว้ อธิบาย
เชื่อมโยงไปสู่หลักการคณู ทว่ี ่า การคูณจานวน 1 หลกั กบั จานวนมากกว่า 4 หลักใชห้ ลกั การเดยี วกนั กับการคูณจานวน 1 หลกั
กับจานวนไมเ่ กนิ 4 หลกั โดยนาจานวน 1 หลัก คูณกบั จานวนในหลักหนว่ ย หลกั สิบ หลักร้อย ... ตามลาดบั ถ้าผลคูณใน
หลักใดครบสิบ หรือมากกวา่ สบิ ใหท้ ดจานวนทคี่ รบสิบไปรวมกบั ผลคูณในหลกั ถัดไปทางซา้ ย

3. ครอู ธบิ ายยกตัวอยา่ งการคูณเพ่ิมเตมิ เก่ยี วกบั จานวน 1 หลัก กับจานวนมากกว่า 4 หลัก จนนักเรยี นเกิดความ
เข้าใจ

4. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมหน้า 109
5. ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั 3.1 และ 3.2 เปน็ รายบคุ คล

ขัน้ สรุป

ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เก่ียวกบั การคูณจานวน 1 หลกั กับจานวนท่มี ากกว่า 4 หลัก ดังน้ี การคณู จานวน 1 หลัก กบั
จานวนไมเ่ กนิ 4 หลัก โดยนาจานวน 1 หลกั คณู กบั จานวนในหลักหน่วย หลกั สบิ หลักรอ้ ย ... ตามลาดบั ถา้ ผลคูณในหลกั ใด
ครบสิบ หรือมากกวา่ สบิ ใหท้ ดจานวนท่ีครบสิบไปรวมกับผลคณู ในหลักถัดไปทางซ้าย

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การ

คุณลักษณะนสิ ยั (A) ประเมิน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมิน 80% ขึน้ ไป ถือวา่

ความรบั ผดิ ชอบต่องานท่สี งั่ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทนั ตามท่ี อนั พงึ ประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการม่งุ มั่นใน

การทางาน

7. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.4 เลม่ 1
2. แบบฝึกหัด 3.1-3.2

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู ูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

ใบงาน

เรอื่ ง การคูณจานวนหน่ึงหลักกบั จานวนท่ีมากกว่าส่ีหลัก

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนหาผลคูณของจานวนต่อไปน้ี

1. 8,257 × 9 =  2. 4,126 × 8 =  3. 7,048 × 9 = 

4. 10,751 × 5 =  5. 36,412 × 3 =  6. 54,037 × 6 = 

7. 32,321 × 4 =  8. 85,036 × 9 =  9. 37,814 × 7 = 

10. 701,852 × 5 =  11. 219,234 × 6 =  12. 215,887 × 3 = 

13. 812,317 × 8 =  14. 5,236,007 × 4 =  15. 4,369,782 × 9 = 

ใบงาน เฉลย

เรอื่ ง การคณู จานวนหนง่ึ หลักกบั จานวนทมี่ ากกว่าส่หี ลัก

คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นหาผลคูณของจานวนตอ่ ไปน้ี

1. 8,257 × 9 =  2. 4,126 × 8 =  3. 7,048 × 9 = 
8 2 5 79x
4 1 2 6 x 7 0 4 8 x
8 9

74313 33008 63432

ตอบ ๗๔,๓๑๓ ตอบ ๓๓,๐๐๘ ตอบ ๖๓,๔๓๒

4. 10,751 × 5 =  5. 36,412 × 3 =  6. 54,037 × 6 = 

1 0 7 5 1 x 3 6 4 1 23x 5 4 0 3 7 x
5 6

53755 109236 324222
ตอบ ๕๓,๗๕๕
ตอบ ๑๐๙,๒๓๖ ตอบ ๓๒๔,๒๒๒

7. 32,321 × 4 =  8. 85,036 × 9 =  9. 37,814 × 7 = 

3 2 3 2 1 x 8 5 0 3 6 x 3 7 8 1 4 x
4 9 7

129284 765324 264698
ตอบ ๑๒๙,๒๘๔
ตอบ ๗๖๕,๓๒๔ ตอบ ๒๖๔,๖๙๘

10. 701,852 × 5 =  11. 219,234 × 6 =  12. 215,887 × 3 = 

7 0 1 8 5 2 x 2 1 9 2 3 4 x 2 1 5 8 8 7 x
5 6 3

3509260 1315404 647661
ตอบ ๓,๕๐๙,๒๖๐
ตอบ ๑,๓๑๕,๔๐๔ ตอบ ๖๔๗,๖๖๑

13. 812,317 × 8 =  14. 5,236,007 × 4 =  15. 4,369,782 × 9 = 
5 2 3 6 0 0 74x
8 1 2 3 1 7 x 4 3 6 9 7 8 2 x
8 20944028 9
ตอบ ๒๐,๙๔๔,๐๒๘
6498536 39328038

ตอบ ๖,๔๙๘,๕๓๖ ตอบ ๓๙,๓๒๘,๐๓๘

แผนที่ 26 สปั ดาหท์ ่ี 7

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ช่ือผสู้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การคณู การหาร

เรือ่ ง การคณู จานวนมากกวา่ 2 หลัก กบั จานวนที่เป็นพหุคณู ของ 10

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเี่ กดิ ข้ึนจาก

การดาเนินการสมบตั ิของการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวช้วี ัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่าง

สมเหตุสมผล

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การคณู จานวนที่มีหลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหนง่ึ ตามคา่ ประจาหลัก แลว้ นาจานวนใน
แตล่ ะหลกั ไปคณู กับอีกจานวนหนง่ึ จากนนั้ นาผลคูณท่ีได้มาบวกกนั

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1) เข้าใจหลกั การคูณจานวนที่มีสองหลักกบั จานวนที่มสี ามหลัก (K)
2) แสดงวิธกี ารหาผลคูณจานวนท่มี สี องหลกั กบั จานวนทีม่ ีสามหลกั ได้ (P)
3) หาผลคณู ของจานวนสิง่ ของต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวันได้ (P)
4) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ

การคณู

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชว่ั โมงที่ 1

1. ครูกล่าวทกั ทายนักเรียน จากน้นั ครทู บทวนความรู้เร่ืองการคูณจานวนทม่ี ากกวา่ ส่หี ลกั กับจานวนทม่ี ีหน่งึ หลกั โดยครู
ติดรปู ภาพตอ่ ไปนี้บนกระดาน

2. ครถู ามนักเรียนดว้ ยคาถามต่อไปน้ี
- ถา้ ต้องการซ้ือขา้ วสาร 3 กระสอบ และต้องการทราบจานวนเงินทตี่ อ้ งจ่ายจะมีวธิ ีคิดอย่างไร
(แนวตอบ นา 175 คูณ 3)
จากนน้ั ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันหาคาตอบโดยครูสุ่มตัวแทนนกั เรยี นออกมาแสดงวิธกี ารหาผลคูณตามแนวตั้งบนกระดาน
- หากมีเงิน 1,000 บาท และต้องการซอ้ื น้ามันพชื 5 ขวด และขา้ วสาร 5 กระสอบ จะมวี ธิ กี ารหาจานวนเงนิ ที่

เหลอื ได้อย่างไร จากนั้นใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบคาถามโดยใหน้ กั เรยี นที่ตอ้ งการตอบยกมือขน้ึ และครจู ะเป็นผเู้ รียกให้ตอบ
พร้อมทง้ั แสดงวธิ ที าหน้าชัน้ เรียน

3. ครูใหน้ ักเรยี นตอบคาถามจากหนงั สอื เรยี น คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 หน้า 65 ท่ีถามวา่ “จานวน 256 บวกกัน 10
ครง้ั จะมีวิธีหาคาตอบอยา่ งไร เพื่อให้ไดค้ าตอบเร็วทสี่ ดุ ”

4. ครอู ธิบายใหน้ กั เรียนฟังว่า ในช่วั โมงเรียนที่แล้วนักเรียนไดเ้ รียนรวู้ ธิ ีการคูณจานวนทมี่ ีหลายหลักกับจานวนท่ีมี
หนึ่งหลกั แต่ถา้ ต้องการซอ้ื ขา้ วสาร 13 กระสอบ และน้ามันพืช 25 ขวด จะมีวิธีการหาคาตอบดว้ ยการคูณได้อยา่ งไร วิธีการ
หาผลคณู จะเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรกับการคูณด้วยจานวนที่มีหน่ึงหลัก

5. ครูติดแผนภาพบนกระดาน จากน้นั ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันเขียนประโยคสัญลักษณ์การคณู โดยครูอธิบายวา่ มีแผนภาพ
ตาราง 115 ช่อง จานวน 50 กลมุ่ ดงั นั้นเราสามารถเขียนประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณได้วา่ 50 × 115

6. ครใู หน้ กั เรยี นจับคู่กัน และช่วยกันระดมสมองเก่ยี วกับวธิ ีการหาคาตอบขา้ งตน้ โดยครูให้นักเรียนศกึ ษาวธิ กี ารคูณ
จานวนทมี่ สี องหลกั กับจานวนที่มีสามหลักในหนังสือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หนา้ 65 โดยครใู ห้เวลาประมาณ 5 นาที

7. ครสู มุ่ นกั เรยี นประมาณ 2-3 คู่ เพอ่ื บอกส่งิ ทไี่ ดเ้ รียนรจู้ ากการศึกษาความรู้ในหนงั สือเรียน
8. ครูเสนอแนะวธิ ีการหาผลคณู เพ่ิมเติม โดยครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายในประเด็นต่างๆ ต่อไปน้ี

- จากภาพจะเหน็ วา่ มีแผนภาพ เรยี งกนั อยู่กี่แถว (แนวตอบ 5 แถว)
- หากเราต้องการหาจานวนแผนภาพใน 1 แถว จะทาได้อยา่ งไร (แนวตอบ 5 ×115) และไดเ้ ทา่ ไร

(แนวตอบ 575)
- แตล่ ะแถวประกอบด้วยแผนภาพก่ีกล่มุ (แนวตอบ 10 กลมุ่ )
- จะมีวธิ ีการหาจานวนแผนภาพทง้ั หมดได้อย่างไร (แนวตอบ 10 × 575) และได้เท่าไร

(แนวตอบ 5750)
9. ครตู ดิ แผนภาพและต้ังคาถามในลกั ษณะเดิมเพ่ือให้นักเรยี นแตล่ ะคู่ช่วยกันคน้ หาคาตอบอีก 1 ข้อ ดังน้ี

10. ครเู สนอแนะวิธกี ารหาผลคูณเพม่ิ เตมิ โดยครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายในประเดน็ ต่างๆ ตอ่ ไปน้ี
- แผนภาพ 1 กลุ่มมีกชี่ ่อง (แนวตอบ 200 ช่อง) ประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณเป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ 23×200)
- สว่ นที่ 1 มีแผนภาพก่กี ลุ่ม (แนวตอบ 10 กล่มุ ) มีจานวนทัง้ หมดกีช่ อ่ ง (แนวตอบ 10 × 200=2,000)
- ส่วนท่ี 2 มแี ผนภาพกก่ี ลุ่ม (แนวตอบ 10 กล่มุ ) มจี านวนท้งั หมดกีช่ อ่ ง (แนวตอบ 10 × 200=2,000)
- สว่ นท่ี 3 มีแผนภาพกก่ี ลุ่ม (แนวตอบ 3 กลมุ่ ) มีจานวนทัง้ หมดกช่ี ่อง (แนวตอบ 3 × 200=600)
- จะมชี อ่ งท้ังหมดก่ชี ่อง (แนวตอบ 2,000 + 2,000 + 600 = 4,600)

11. ครูยกตัวอย่างเพ่ือให้นักเรียนแต่ละคู่ได้ลองหาคาตอบด้วยตนเองอีก 2 – 3 ข้อ เพิ่มเติม จากนั้นครู
จึงเสนอแนะวิธีการหาคาตอบคล้ายเดิม เพือ่ ให้นกั เรียนได้เรียนร้แู ละศึกษาวิธกี ารคูณจานวนดว้ ยตนเอง

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึน้ ไป ถือว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขึ้นไป ถอื วา่
ความรับผิดชอบต่องานทส่ี ่ัง คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์การ
และส่งงานได้ทนั ตามท่ี อันพึงประสงค์ ประเมนิ
กาหนด
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการม่งุ มนั่ ใน
การทางาน

7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

1) หนงั สือเรียน คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การคูณ
2) แบบฝกึ หัด คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การคูณ
3) รปู ภาพสินค้า
4) แผนภาพการคูณ
5) กระดาษแข็งรปู สามเหล่ียม

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผูส้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

แผนที่ 27 สปั ดาหท์ ่ี 7

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ช่อื ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การคณู การหาร

เร่อื ง การคูณจานวนมากกว่า 2 หลกั กับ จานวนท่ีเปน็ พหคุ ูณของ 100 1,000 10,000

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้ ค1.1เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนินการของจานวนผลที่เกิดขึ้นจาก

การดาเนินการสมบตั ิของการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวชวี้ ดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคณู การหารจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่าง

สมเหตุสมผล

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การคณู จานวนท่ีมีหลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหนึ่งตามคา่ ประจาหลัก แล้วนาจานวนใน
แตล่ ะหลักไปคูณกับอกี จานวนหน่งึ จากนั้นนาผลคูณที่ไดม้ าบวกกัน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) เข้าใจหลักการคณู จานวนที่มีสองหลกั กับจานวนที่มีสามหลัก (K)
2) แสดงวธิ กี ารหาผลคูณจานวนที่มีสองหลักกับจานวนที่มีสามหลกั ได้ (P)
3) หาผลคณู ของจานวนส่ิงของต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั ได้ (P)
4) รับผดิ ชอบต่อหน้าท่ีท่ไี ด้รับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน

การคณู

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวตงั้

ขน้ั นา

1. ครเู ขียนโจทยก์ ารคณู บนกระดาน 158 × 50 จากน้นั ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกวธิ ีการเขียนแสดงวิธที าตาม
158
×
50

จากน้ันใหน้ ักเรยี นร่วมกันอภิปรายว่า วธิ กี ารคณู ตามแนวตั้งมีวธิ อี ย่างไรบ้าง
2. ครแู นะนานักเรยี นวา่ เทคนคิ การคูณตามแนวตง้ั เรยี กว่าเทคนิค “Many Zoo Many Animals”

ประกอบด้วยการคณู 4 ขน้ั ตอนหลัก ดงั น้ี

1) Many = Multiply = คณู โดยครอู ธิบายวา่

ขน้ั ที่ 1 นาเลขโดดในหลกั หน่วยของตวั คูณไปคูณกบั ต้งั ตงั้ ทุกตวั พร้อมทัง้ เขยี นแสดงวิธีทา

158
×

50
000

ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ว่า เป็นการนา 158 คณู ดว้ ย 0 น่นั เอง

2) Zoo = Zero = ศูนย์ โดยครูอธบิ ายว่า

ขน้ั ที่ 2 เติมเลขโดด 0 ในหลักหนว่ ยในบรรทัดถดั ไป พร้อมทง้ั เขียนแสดงวิธที า
158
×
50
000

0

3) Many = Multiply = คณู โดยครอู ธิบายว่า

ขน้ั ที่ 3 นาเลขโดดในหลักสบิ ของตัวคูณไปคูณกับตวั ตง้ั ทุกตวั พร้อมท้ังเขยี นแสดงวธิ ที า
158
×
50
000

7900

ครอู ธิบายเพิ่มเติมวา่ เป็นการนา 158 คูณด้วย 50 น่ันเอง

4) Animal = Add = บวก โดยครูอธบิ ายวา่

ขัน้ ท่ี 4 การนาผลคูณมาบวกกัน พรอ้ มท้งั เขยี นแสดงวิธที า

158 ×

050
0 0 00+
7 9
7900

3. ครูเสนอตัวอย่างโจทย์การคูณดว้ ยพหุคณู ของ 10 โดยใชเ้ ทคนคิ “Many Zoo Many Animals” เพิ่มเตมิ อกี 2-3
ตัวอย่าง จากนัน้ ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายว่า เราจะมีวิธกี ารหาผลคณู ของโจทยก์ ารคูณดว้ ยพหุคณู ของ 10 ให้เรว็ ข้ึนได้
อยา่ งไร จนสรุปได้ว่า เราสามารถหาผลคูณไดโ้ ดยนาเลขโดดในหลักสิบคูณกับจานวนนั้น แล้วเตมิ 0 หนงึ่ ตัวตอ่ ท้ายผลคณู

4. ในทานองเดียวกันการคูณจานวนท่มี ีสองหลกั กับพหุคูณของ 100 จะหาผลคูณไดโ้ ดยนาเลขโดดในหลกั ร้อยคณู กบั
จานวนนัน้ แลว้ เติม 0 สองตัวตอ่ ทา้ ยผลคูณ

5. ครูให้นักเรียนเตรียมดินสอและยางลบของตนเองมาน่ังรวมกันเป็นวงกลม จากนั้นครูแจกกระดาษแข็ง
แผน่ เล็ก ใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผ่น แล้วให้นักเรียนเขียนโจทย์การคูณโดยมีตัวต้ังเป็นจานวนท่ีมี 3 หลักและตัวคูณเป็นพหุคูณ
ของ 10 จากนัน้ เขียนแสดงวิธีทาตามแนวตง้ั ลงในกระดาษใหเ้ รียบรอ้ ย

6. เมื่อทุกคนเขียนเสร็จ ครูจะร่วมทากิจกรรมกับนักเรียนด้วย ซ่ึงครูจะเล่นเป็นคนแรก โดยผู้เล่นยืนข้ึน
จากวงและบอกโจทย์การคูณ พร้อมท้ังอธิบายวิธีการคูณตามแนวต้ังและคาตอบให้เพื่อนในว งฟัง และ
ทุกคนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นจะวง่ิ นากระดาษแขง็ ของตนไปวางข้างหลงั เพ่ือนคนถดั ไป
(และนั่งเรียนในวงรอ้ งเพลงอีมอญซอ่ นผ้า) ทาเชน่ นีไ้ ปเรอื่ ยๆ จนครบวง

7. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันติดกระดาษแข็งคาตอบของนักเรยี นรอบๆ ห้องเพ่ือเป็นแหลง่ เรียนรใู้ นชั้นเรยี น
8. ครูเขยี นโจทยก์ ารคูณบนกระดาน เชน่ 286 × 37 จากนน้ั ให้นักเรียนช่วยกนั บอกวธิ ีการเขียนแสดงวิธีทาตาม
แนวตง้ั โดยครูแนะนาใหน้ ักเรียนใชเ้ ทคนิค “Many Zoo Many Animals” ดงั นี้

1) Many = Multiply = คูณ โดยครอู ธิบายวา่

ขนั้ ท่ี 1 นาเลขโดดในหลักหน่วยของตัวคณู ไปคณู กับตวั ต้งั ทกุ ตัว พร้อมท้ังเขยี นแสดงวธิ ีทา

2 86 ×
37
2002

ครูอธบิ ายเพิ่มเติมว่า เปน็ การนา 286 คูณดว้ ย 7 นั่นเอง

2) Zoo = Zero = ศูนย์ โดยครูอธบิ ายว่า

ขน้ั ที่ 2 เติมเลขโดด 0 ในหลักหน่วยในบรรทดั ถัดไป พร้อมท้ังเขยี นแสดงวิธีทา
2 8 6
3 7 ×

2002

0

3) Many = Multiply = คณู โดยครอู ธบิ ายว่า

ขั้นที่ 3 นาเลขโดดในหลักสบิ ของตัวคูณไปคูณกับตัวตงั้ ทุกตวั พร้อมทั้งเขียนแสดงวธิ ีทา
2 8 6
3 7 ×

2002

8580

ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมว่า เปน็ การนา 286 คณู ดว้ ย 30 น่ันเอง

4) Animal = Add = บวก โดยครูอธิบายว่า

ข้นั ท่ี 4 การนาผลคูณมาบวกกนั พร้อมทัง้ เขียนแสดงวิธีทา
2 8 6
2 03 27 ×
8 0 8 0 +
5
10582

9. ครยู กตัวอย่างโจทยก์ ารคูณของจานวนที่มีสองหลกั และจานวนท่ีมสี ามหลักเพ่มิ เติมอีก 2 – 3 ตัวอย่างโดยสุ่มให้
นกั เรยี นออกมาเขยี นแสดงวิธีทาหนา้ ช้ันเรยี น

10.ครูใหน้ ักเรียนจับคู่กับเพอื่ น จากนั้นอธบิ ายข้ันตอนการทากิจกรรม ดังนี้
- ครแู จกกระดาษรูปสามเหล่ียมให้นกั เรยี นคลู่ ะ 15 แผ่น โดยกระดาษ 1 แผ่น มจี านวนและโจทย์
การคูณกากบั อยู่ ดังภาพ

69 × 12
- จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นนากระดาษรูปสามเหลยี่ มทเ่ี หลอื มาคานวณหาผลคณู หรอื โจทย์การคูณและเขยี นลง
กระดาษ โดยดา้ นของรปู สามเหลีย่ มที่อยตู่ ิดกันจะต้องมีค่าเทา่ กนั ดงั ตวั อย่าง

69 × 12
828

- ครูบอกนกั เรียนเพมิ่ เติมวา่ ให้นักเรียนชว่ ยกนั ใชค้ วามคิดสรา้ งสรรคต์ ่อกระดาษรูปสามเหลีย่ มให้เป็น
รูปต่าง ๆ ตามจินตนาการด้วย

- เม่อื แต่ละคทู่ าเสรจ็ เรียบรอ้ ย ครูใหน้ ักเรยี นนาชน้ิ สว่ นติดลงบนกระดาษเพ่อื เก็บเป็นผลงาน

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขึน้ ไป ถือว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์การ

คุณลักษณะนสิ ยั (A) ประเมนิ

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถือวา่

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สังเกตจากการเรียนมี - แบบประเมิน 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่

ความรับผิดชอบต่องานท่สี ่ัง คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และสง่ งานไดท้ ันตามท่ี อันพึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่นใน

การทางาน

7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 การคูณ
2) แบบฝึกหัด คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การคูณ
3) รปู ภาพสนิ คา้
4) แผนภาพการคณู
5) กระดาษแขง็ รูปสามเหลย่ี ม

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ูส้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

แผนที่ 28 สปั ดาหท์ ่ี 7

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/……………..……... ช่อื ผสู้ อน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การคณู การหาร

เรอ่ื ง การคณู จานวนมากกวา่ 2 หลกั กับจานวน 2 หลัก

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเ่ี กดิ ข้นึ จาก

การดาเนินการสมบัติของการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวช้ีวดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคณู การหารจากสถานการณต์ า่ ง ๆ อยา่ ง

สมเหตสุ มผล

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การคณู จานวนท่ีมีหลายหลักสองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหน่งึ ตามค่าประจาหลัก แล้วนาจานวนใน
แตล่ ะหลักไปคณู กับอกี จานวนหน่ึง จากน้นั นาผลคณู ที่ได้มาบวกกนั

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) เขา้ ใจหลกั การคูณจานวนที่มีสองหลกั กบั จานวนท่ีมีสามหลัก (K)
2) แสดงวธิ ีการหาผลคูณจานวนทม่ี สี องหลักกับจานวนท่ีมสี ามหลักได้ (P)
3) หาผลคณู ของจานวนส่งิ ของต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวันได้ (P)
4) รับผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ

การคณู

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปวิธีการคูณจานวนที่มีสามหลกั กับพหคุ ณู ของ 10 วา่ สามารถหาผลคูณได้โดยนเลขโดดใน
หลักสิบคูณกบั จานวนนั้น แลว้ เตมิ 0 หนง่ึ ตวั ตอ่ ทา้ ยผลคูณ สว่ นวธิ ีการคณู จานวนทมี่ ีสองหลักกบั ท่ีมสี ามหลกั สามารถใช้
วธิ ีการคณู อาจอาศัยการกระจายจานวนหนึ่งตามค่าประจาหลัก แล้วนาจานวน ในแต่ละหลักไปคูณกบั อีกจานวนหนึ่ง จากนั้น
นาผลคณู ที่ได้มาบวกกัน

2. ครตู ิดรปู ภาพทีเ่ คยใช้ในชั่วโมงแรกอกี คร้ังบนกระดาน จากน้ันถามนักเรียนว่า ถ้าต้องการซ้ือข้าวสาร 13 กระสอบ
และนา้ มันพชื 25 ขวด จะมีวิธกี ารหาคาตอบด้วยการคูณอย่างไร วธิ กี ารหาผลคูณจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรกับการคูณ
ด้วยจานวนท่ีมหี นึ่งหลกั พร้อมท้ังสุ่มตัวแทนนักเรียน 1 คน ออกมาเขียนแสดงวิธีการคูณตามแนวต้ังบนกระดานดา พร้อมทั้ง
ใหเ้ พอ่ื นในชั้นเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ดงั ภาพ

3. ครูแจกตารางบงิ โกให้นกั เรียนคนละ 1 แผ่น จากนน้ั ครูเขยี นโจทยก์ ารคูณบนกระดาน และใหน้ กั เรยี นเลือกโจทย์
การคูณและหาผลลพั ธ์ แลว้ เขียนลงตาราง ดงั ภาพ

4. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยโจทยก์ ารคูณบนกระดาน แล้วเร่ิมเลน่ เกมบงิ โก
5. นกั เรยี นทากิจกรรมฝึกทักษะ จากหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 เสร็จแลว้ รว่ มกนั เฉลยคาตอบ
6. ครูให้นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง การคูณจานวนท่ีมีสองหลักกบั จานวนท่ีมสี ามหลกั หากนกั เรยี นคนใดทาไม่เสร็จ ให้
ทาเป็นการบา้ นและนามาส่งในชัว่ โมงถัดไป

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื วา่

ทักษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์การ

คณุ ลักษณะนิสยั (A) ประเมิน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขน้ึ ไป ถือว่า

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขนึ้ ไป ถอื ว่า

ความรบั ผดิ ชอบต่องานทีส่ ง่ั คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และสง่ งานได้ทันตามที่ อันพึงประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่นใน

การทางาน

7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 การคณู
2) แบบฝึกหัด คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 การคณู
3) รูปภาพสนิ ค้า
4) แผนภาพการคณู
5) กระดาษแข็งรปู สามเหลี่ยม
6) ตารางบิงโก

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครูผ้สู อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

ใบงาน

เรอ่ื ง การคูณจานวนที่มีสองหลักกบั จานวนทม่ี ีสามหลัก

คาช้ีแจง : ให้นักเรียนแสดงวิธีหาผลคณู ตามแนวตง้ั ลงในกระดาษ และระบายสลี งในรูปลกู ศรที่มีคาตอบตรงกบั
ผลคูณต้ังแตจ่ ดุ เร่ิมต้นถงึ เส้นชยั

ใบงาน เฉลย

เร่อื ง การคูณจานวนทม่ี สี องหลักกบั จานวนทีม่ ีสามหลกั

คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนแสดงวิธหี าผลคณู ตามแนวตั้งลงในกระดาษ และระบายสีลงในรปู ลกู ศรทมี่ ีคาตอบตรงกับ
ผลคณู ตงั้ แตจ่ ดุ เร่ิมต้นถึงเสน้ ชยั

1. 46 × 17 =  2. 24 × 36 =  3. 35 × 67 =  4. 36 × 71 =  5. 59 × 43 = 
59×
46 × 2 4 × 3 5 × 3 16× 43
17 3 6 6 7 7 1 7 7+

322 144+ 245 2 5 3 60+ 2360
460 + 720 2100+ 2 2537

782 864 2345 2556

6. 11 × 65 =  7. 48 × 99 =  8. 77 × 17 =  9. 73 × 93 =  10. 29 × 61 = 
29 ×
1 1 × 4 8 × 77× 73× 61
6 5 9 9 17 93 29 +

5 50+ 4 4 3 02+ 5 3 9 + 6 2 1 9 + 1740
66 3 2 7 7 0 5 7 0 1769

715 4752 1309 6789

11. 72 × 29 =  12. 19 × 39 =  13. 63 ×61 =  14. 97 × 26 = 

7 2 × 1 9 × 6 3 × 9 7 ×
2 9 3 9 6 1 2 6

648 1 7 1 + 6 3 + 582
5 7 0 8 0 1940 +
1 4 4 0+ 3 7

2080 741 3843 2522

แผนที่ 29 สปั ดาหท์ ี่ 8

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……………..……... ชื่อผ้สู อน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การคูณ การหาร

เรื่อง การคูณจานวนมากกว่า 2 หลกั กบั จานวนมากกวา่ 2 หลกั

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้ ค1.1เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนินการของจานวนผลทเ่ี กิดขึ้นจาก
การดาเนินการสมบตั ิของการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตัวช้วี ัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธข์ องการบวก การลบ การคณู การหารจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่าง

สมเหตสุ มผล

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การคณู จานวนที่มีหลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหน่ึงตามค่าประจาหลกั แลว้ นาจานวนในแต่
ละหลักไปคูณกับอีกจานวนหน่ึง จากน้นั นาผลคณู ที่ไดม้ าบวกกนั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1) เขา้ ใจหลกั การคณู จานวนสองจานวนทีม่ หี ลายหลัก (K)
2) แสดงวิธีหาผลคูณของจานวนสองจานวนท่มี หี ลายหลกั ได้ (P)
3) หาผลคูณของจานวนส่งิ ของต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวันได้ (P)

4) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ

การคูณ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครกู ลา่ วทักทายนักเรยี น และทบทวนความรู้เก่ยี วกับความคิดรวบยอดของการคูณกับนักเรียน โดยครเู ขียนโจทย์การคณู บน
กระดาน เชน่ 4×3 และใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้

- 4 คูณ 3 หมายความว่าอะไร (แนวตอบ มสี ่ิงของ 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ชิ้น)
- สามารถเขยี นในรูปการบวกไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ 4 + 4 + 4)
- สามารถเขียนแผนภาพแสดงการคณู ได้อย่างไรบา้ ง
แนวตอบ

หรือ

- ไดผ้ ลคณู เท่ากับเทา่ ไร (แนวตอบ 12)

2. ครยู กตวั อยา่ งโจทย์การคูณ พรอ้ มทั้งตัง้ คาถามถามนักเรียนเพมิ่ เติมอีก 2 – 3 ตวั อยา่ ง

3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมกลุ่ม โดยแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 5 คน มขี นั้ ตอนการทากจิ กรรม ดังน้ี

- ครแู จกกระดาษฟลบิ ชาร์ตให้นกั เรียนกล่มุ ละ 1 แผน่

- ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันคดิ โจทยก์ ารคูณ 5-8 ข้อ และนาเสนอโจทยก์ ารคูณแตล่ ะข้อประกอบด้วย

1) ความหมายของโจทย์การคูณ

2) การเขยี นในรูปของการบวก

3) แผนภาพแสดงโจทย์การคณู

4) ผลคูณ

- ให้นกั เรยี นระดมสมองโดยใช้ความคิดสรา้ งสรรค์ออกแบบรูปแบบการนาเสนอให้มีความนา่ สนใจ เช่น นาเสนอ

ในรูปตาราง

- ครใู ห้นกั เรียนนาผลงานไปติดรอบ ๆ ห้องเรยี น จากนน้ั ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ หมุนเวยี นกันตรวจสอบความถูก

ต้องของเพือ่ น

- หากครูพบว่ามีนักเรียนกลุ่มใดทาผดิ ครจู ะนามาอธบิ ายหน้าชน้ั เรียนพร้อมกัน เพื่อตรวจสอบวา่ มีนักเรยี นคนใด

เข้าใจความคดิ รวบยอดเกยี่ วกับการคณู ผิดหรือไม่

4. ครทู บทวนการหาผลคูณของโจทย์การคูณจานวนกับพหคุ ณู ของ 10 จานวน 1 ขอ้ การคูณจานวนทมี่ สี องกับจานวน

ท่มี สี ามหลัก จานวน 1 ข้อ และการคูณจานวนที่มีสามหลักกบั จานวนที่มีสามหลัก จานวน 1 ข้อ โดยใชห้ ลกั Many Zoo

Many Animals เชน่

- ครูเขยี นโจทยก์ ารคณู บนกระดาน เชน่ 386 × 27 และสมุ่ นกั เรยี นออกมาเขยี นแสดงวิธีทาหน้า

ช้ันเรยี น ดังนี้

1) Many = Multiply = คูณ โดยครอู ธิบายว่า

ข้ันท่ี 1 นาเลขโดดในหลักหน่วยของตัวคณู ไปคูณกับตง้ั ตง้ั ทุกตัว พรอ้ มทงั้ เขยี นแสดงวิธีทา
3 8 6
2 7 ×

2702

ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ ว่า เป็นการนา 386 คณู ด้วย 7 นัน่ เอง

2) Zoo = Zero = ศูนย์ โดยครอู ธบิ ายวา่

ขัน้ ที่ 2 เติมเลขโดด 0 ในหลักหนว่ ยในบรรทดั ถัดไป พรอ้ มทง้ั เขยี นแสดงวธิ ที า
3 8 6
2 7 ×

2702

0

3) Many = Multiply = คูณ โดยครอู ธิบายวา่

ขัน้ ที่ 3 นาเลขโดดในหลกั สิบของตัวคูณไปคณู กับตวั ตง้ั ทุกตัว พรอ้ มท้ังเขียนแสดงวิธที า
3 8 6
2 7 ×

2702

7720

ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมวา่ เปน็ การนา 386 คณู ด้วย 20 น่ันเอง

4) Animal = Add = บวก โดยครูอธบิ ายว่า

ข้ันที่ 4 การนาผลคูณมาบวกกนั พร้อมทง้ั เขยี นแสดงวธิ ที า

7237782026720+×
10422
5. หากมีเวลาเหลือ ครูอาจยกตัวอยา่ งโจทยก์ ารคณู เพ่ิมเติมอีก และให้นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ หลกั การคูณวา่ การคูณ
จานวนทม่ี หี ลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหนึ่งตามคา่ ประจาหลกั แล้วนาจานวนในแต่ละหลักไปคณู กับ
อกี จานวนหน่ึง จากนนั้ นาผลคูณท่ีไดม้ าบวกกัน

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึ้นไป ถือว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การ

คุณลักษณะนิสยั (A) ประเมิน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ขึ้นไป ถอื วา่

การทางานรายบุคคล/กลมุ่ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สังเกตจากการเรียนมี - แบบประเมนิ 80% ขึ้นไป ถอื วา่

ความรบั ผดิ ชอบต่องานท่สี ั่ง คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และสง่ งานไดท้ นั ตามท่ี อนั พงึ ประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สังเกตจากการมุ่งมน่ั ใน

การทางาน

7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรียน คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การคูณ
2) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 การคณู
3) ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง การคณู จานวนสองจานวนทีม่ หี ลายหลัก
4) กระดาษ A4
5) กระดาษฟลิปชารท์

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

แผนที่ 30 สปั ดาห์ท่ี 8

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/……………..……... ชือ่ ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การคูณ การหาร

เรื่อง การคณู จานวนมากกวา่ 2 หลักกับจานวนมากกว่า 2 หลัก

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทเ่ี กิดขนึ้ จาก
การดาเนินการสมบตั ิของการดาเนินการและนาไปใช้

ตัวชว้ี ัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลพั ธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ ง

สมเหตสุ มผล

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การคูณจานวนท่ีมีหลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหนึง่ ตามค่าประจาหลกั แล้วนาจานวนในแต่
ละหลกั ไปคณู กับอีกจานวนหนงึ่ จากนั้นนาผลคูณที่ไดม้ าบวกกัน

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) เขา้ ใจหลักการคณู จานวนสองจานวนทมี่ ีหลายหลัก (K)
2) แสดงวิธีหาผลคณู ของจานวนสองจานวนทีม่ ีหลายหลักได้ (P)
3) หาผลคณู ของจานวนสิง่ ของต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (P)

4) รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ

การคณู

5. กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครใู หน้ ักเรยี นทากจิ กรรมกลุ่ม “เปดิ ร้านขายของ” โดยใหน้ ักเรยี นจบั กลมุ่ กลุ่มละ 7 คน จากนนั้ ชว่ ยกนั คิดวา่ จะ
ขายสนิ คา้ ประเภทใด และให้นกั เรยี นชว่ ยกนั หาข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็ หรือแหล่งขอ้ มลู ต่างๆ ว่าสินคา้ ชนิดนัน้ ๆ ในท้องตลาด
ขายในราคาเทา่ ไร พรอ้ มทัง้ ปร้ินรูปภาพสินค้าออกมาเพ่อื จัดทารายการสนิ ค้า

2. ครแู จกกระดาษ A4 กล่มุ ละประมาณ 3-4 แผน่ เพ่ือให้นักเรียนช่วยกันจัดทาแคตาลอคสินค้า ประมาณ
10 รายการ ดงั ตวั อย่าง

รายการสนิ คา้

ราคาใบละ 359 บาท

ราคาใบละ 780 บาท

ราคาใบละ 660 บาท

3. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ นับจานวน เพอื่ เป็นหมายเลขแทนนกั เรยี นแต่ละคนในกลุ่ม จากน้ันอธิบายวา่ รอบท่ี 1

นักเรียนหมายเลข 1 ของแตล่ ะกล่มุ จะเป็นคนขาย สว่ นนกั เรยี นหมายเลข 2-7 จะไดเ้ ปน็ ผซู้ ื้อ ส่วนในรอบท่ี 2 นกั เรยี น

หมายเลข 2 ของแตล่ ะกลมุ่ จะเป็นคนขาย สว่ นนักเรียนหมายเลข 1 และหมายเลข 3-7 จะไดเ้ ปน็ ผซู้ ื้อ และจะผลัดกันไป

เรอ่ื ยๆ

4. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมว่า นักเรียนแตล่ ะคนจะต้องซื้อสินคา้ ในราคาไม่ต่ากวา่ 5,000 บาท ในแตล่ ะครง้ั และการเลือก

ร้านคา้ ทต่ี ้องการไปซื้อนน้ั ห้ามเลือกซ้ากัน (1 กลุ่ม/1 ร้านจะมีลกู ค้า/ผูซ้ อ้ื ครง้ั ละ 1 คนเท่านน้ั )

5. สาหรบั ผู้ขาย จะตอ้ งจดบันทึกการขายลงในกระดาษ A4 ที่ครูแจกให้ ดงั ตวั อยา่ ง

รอบที่ 1 สมมุตวิ ่าเพอ่ื นซ้อื สินค้า 23 ช้ิน ชิ้นละ 579 บาท
จะไดเ้ งนิ 1 1157572389370×+

13317

ดงั นัน้ ขายสินคา้ ได้เงินทั้งหมด 13,317 บาท

6. เมอ่ื เสร็จกิจกรรม ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายเก่ียวกับการทากิจกรรมในประเดน็ ต่างๆ ต่อไปนี้

- นักเรยี นมหี ลักในการตงั้ ราคาสินคา้ อยา่ งไร

- นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ขายสนิ ค้าไดเ้ งินทง้ั หมดเท่าใด

- พบปัญหาหรือข้อสงสัยในการหาผลคณู หรอื ไม่

- การใชก้ ารคูณในชวี ิตประจาวัน
7. ครใู ห้นักเรียนสง่ กระดาษท่ีใช้บันทึกรายการขาย แล้วนาไปตรวจ หากพบวา่ มนี ักเรยี นทาผดิ ครจู ะนามาอภิปราย
ร่วมกับนักเรยี นในชัน้ เรยี นชวั่ โมงถัดไป

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมินผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์การ

คุณลักษณะนสิ ัย (A) ประเมิน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ขึน้ ไป ถือวา่

การทางานรายบุคคล/กลุ่ม กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่

ความรับผิดชอบต่องานทีส่ ่งั คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และสง่ งานได้ทนั ตามท่ี อันพึงประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุ่งมั่นใน

การทางาน

7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

1) หนงั สอื เรียน คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การคณู
2) ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง การคูณจานวนสองจานวนท่ีมหี ลายหลกั
3) กระดาษฟลิปชารท์

8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู สู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

แผนที่ 31 สัปดาหท์ ี่ 8

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/……………..……... ชื่อผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การคูณ การหาร

เรอื่ ง การคณู จานวนมากกว่า 2 หลักกบั จานวนมากกวา่ 2 หลัก

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค1.1เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวนการดาเนนิ การของจานวนผลทีเ่ กดิ ขนึ้ จาก
การดาเนนิ การสมบัตขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้

ตวั ชี้วัดค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธข์ องการบวก การลบ การคณู การหารจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่าง

สมเหตสุ มผล

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การคณู จานวนท่ีมีหลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวนหนงึ่ ตามคา่ ประจาหลัก แลว้ นาจานวนในแต่
ละหลักไปคณู กับอีกจานวนหน่ึง จากนั้นนาผลคณู ที่ไดม้ าบวกกัน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) เข้าใจหลกั การคูณจานวนสองจานวนท่ีมหี ลายหลัก (K)
2) แสดงวธิ หี าผลคูณของจานวนสองจานวนทม่ี หี ลายหลักได้ (P)
3) หาผลคณู ของจานวนสง่ิ ของต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (P)

4) รับผิดชอบต่อหน้าที่ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่

การคูณ

5. กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครูเขยี นโจทยก์ ารคณู บนกระดาน ดังนี้

 7 × 9 7 ×
2 6 2 6

58 582

14 0 + 1940 +
 2522

จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเพือ่ เตมิ เลขโดดทีห่ ายไป

2. ครูใหน้ ักเรยี นเล่นเกม โดยแบ่งกลมุ่ ตามเพศชายและเพศหญงิ โดยครูอธบิ ายกติกาให้นักเรยี นฟงั ว่า ครจู ะเขียนโจทย์

การคณู บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนแขง่ กันหาเลขโดดที่หายไป โดยจะเร่มิ จากการเป้า ยงิ ฉุบ ผู้ชนะจะไดเ้ ปน็ ฝ่ายเรมิ่ ตอบ

คนแรก สลบั กนั ไปเรือ่ ย ๆ หากใครตอบเลขโดดถูกต้อง 1 ตัวไดร้ บั รางวัล 1 คะแนน และฝ่ายใดได้คะแนนมากทส่ี ดุ จะเป็นผู้

ชนะ

โจทยท์ ใ่ี ช้ ดังน้ี

7 × เฉลย 1. 97 × 26 = 
2 9 7
2 6 ×
8 2 +
1 9 4 5 8 2 +
9 4 0
 1

2522

 2 5  × เฉลย 2. 4250 × 126 = 
1 2 6
4 250 ×
126
25500
8 5 00 +
2 5 0 0 0 25 500 +
85 000

 425000

535500

789× เฉลย 3. 7809 × 235 = 
35
7 8 0 9 ×
9 0 4 5 2 3 5
2 3 4 2 7 +
1618 0 0 39045

234270 +

1561800

1835115

3. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัด จากแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 โดยใหท้ ากนั เป็นคู่

4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยพร้อมกนั ทั้งห้อง

5. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปหลักการคูณว่า การคูณจานวนท่มี หี ลายหลกั สองจานวน อาจอาศยั การกระจายจานวน

หน่ึงตามค่าประจาหลกั แล้วนาจานวนในแต่ละหลกั ไปคูณกับอีกจานวนหนึง่ จากนัน้ นาผลคณู ที่ไดม้ าบวกกัน และครใู ห้

นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกับการนาความรูเ้ รื่องการคูณไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั

6. ครูแจกใบงาน เรอื่ ง การคณู จานวนท่ีมีหลายหลกั ใหน้ กั เรียนทาเปน็ การบ้าน และนามาส่งครูในช่วั โมงถัดไป

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์การ

คุณลักษณะนสิ ยั (A) ประเมนิ

- สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะและ 80% ข้นึ ไป ถือวา่

การทางานรายบุคคล/กลุม่ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า

ความรับผิดชอบต่องานท่ีส่ัง คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์การ

และส่งงานได้ทันตามท่ี อนั พึงประสงค์ ประเมิน

กาหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝ่

เรยี นรู้

3. สังเกตจากการมงุ่ มั่นใน

การทางาน

7. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การคณู
2) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 การคณู

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

ใบงาน

เรอื่ ง การคูณจานวนท่มี ีหลายหลกั

คาชแี้ จง : ให้นักเรียนแสดงวธิ กี ารหาผลคณู ตามแนวตั้ง เพื่อหาจานวนเงินทแี่ ตล่ ะคนออมได้ จากนั้นเรยี งลาดบั
คนทีเ่ งนิ มากที่สดุ ไปหาน้อยท่ีสุด

คนที่ 1 ฝากเงินคร้ังละ 1,257 บาท จานวน 284 ครง้ั คนท่ี 2 ฝากเงนิ คร้งั ละ 5,027 บาท จานวน 172 ครั้ง

คนท่ี 3 ฝากเงินครั้งละ 10,663 บาท จานวน 39 ครง้ั คนที่ 4 ฝากเงินคร้งั ละ 64,217 บาท จานวน 42 คร้งั

คนที่ 5 ฝากเงินครั้งละ 32,712 บาท จานวน 134 คร้ัง คนที่ 6 ฝากเงินคร้ังละ 45,128 บาท จานวน 271 ครงั้

เรยี งลาดบั จากมากไปน้อยได้ ดังนี้

ใบงาน เฉลย

เรือ่ ง การคูณจานวนสองจานวนทมี่ ีหลายหลกั

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นแสดงวิธกี ารหาผลคูณตามแนวตั้ง เพ่ือหาจานวนเงนิ ท่ีแต่ละคนออมได้ จากนั้นเรียงลาดับ
คนท่เี งินมากท่ีสดุ ไปหาน้อยท่ีสุด

คนที่ 1 ฝากเงินครงั้ ละ 1,257 บาท จานวน 284 ครง้ั คนท่ี 2 ฝากเงนิ ครง้ั ละ 5,027 บาท จานวน 172 ครง้ั
1,257 × 284 = 
5,027 × 172 = 

12 57 × 5 0 2 7 ×
2 84 1 7 2

5028 10054
100560 +
351890 +
251400
502700

356988 864644

คนท่ี 3 ฝากเงินครง้ั ละ 10,663 บาท จานวน 39 ครง้ั คนที่ 4 ฝากเงนิ ครั้งละ 64,217 บาท จานวน 42 คร้ัง
10,663 × 39 =  64,217 × 42 = 

1 0 6 6 3 × 6 4 2 1 7 ×
3 9 4 2

95967 128434
319890 + 2568680 +

415857 2697114

คนท่ี 5 ฝากเงินครั้งละ 32,712 บาท จานวน 134 ครง้ั คนที่ 6 ฝากเงนิ ครัง้ ละ 15,128 บาท จานวน 123 คร้งั
32,712 × 134 = 
15,128 × 123 = 
3 2 7 1 2
1 3 4 × 1 5 1 2 38×
1 2
130848
45384
981360 +
3271200 302560 +
1512800
4383408
1860744

เรยี งลาดับจากมากไปน้อยได้ ดังนี้ คนท่ี 3 คนที่ 1
คนที่ 5 คนท่ี 4 คนที่ 6 คนท่ี 2

แผนท่ี 32 สปั ดาห์ท่ี 8

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/……………..……... ช่อื ผู้สอน ….……………………………………………..……….…...

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การคณู การหาร

เร่ือง การประมาณผลลัพธ์ของโจทยป์ ัญหาการคูณ

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการและนาไปใช้

ตวั ชี้วดั ค1.1ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง

สมเหตุสมผล

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การประมาณผลลัพธ์ของการคูณ สามารถนาความรู้เรื่องการหาค่าประมาณจานวนนับเป็นจานวนเต็มสิบ
เต็มร้อย เตม็ พนั เตม็ หม่นื เต็มแสน เตม็ ลา้ นมาช่วยในการประมาณคา่ ผลลพั ธ์ได้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1 เขา้ ใจหลกั การประมาณผลลพั ธ์ของการคูณ (K)
2) ประมาณผลลัพธ์ของการคูณจานวนสองจานวนได้ (P)
3) ประยุกต์ใช้หลักการประมาณผลลพั ธ์กับสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (P)

4) รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน

การประมาณผลลัพธข์ องการคูณ

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ครูกล่าวทกั ทายนักเรยี น และทบทวนความรู้เดิมเกยี่ วกบั การคูณท่ีได้เรียนไปแล้วในชั่วโมงทผี่ า่ นมา โดยการขอตวั แทน
นกั เรยี น 1 คน ออกมาเขียนโจทย์การคูณบนกระดาน จากนั้นให้เพอ่ื นในชัน้ เรียนช่วยกนั วิธีการหาผลคูณตามแนวต้ัง
ทถี่ ามว่า “254,622 ประมาณคา่ ใกลเ้ คยี งจานวนเตม็ พนั จานวนเตม็ หมืน่ และจานวนเตม็ แสนไดเ้ ท่าใด”

2. ครูตดิ รูปภาพสินค้าต่าง ๆ บนกระดาน ดงั นี้

49,980 บาท 23,570 บาท 21,490 บาท

7,538 บาท 5,170 บาท 34,560 บาท

3. ครใู หน้ ักเรียนเล่นเกม “ราคาพารวย” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม แล้วให้นักเรียนช่วยกันทายราคาสินค้าครั้ง

ละ 1 ชิ้น นักเรียนในกลุ่มปรึกษากันและออกมาเขียนราคาใต้รูปภาพ จากนั้นครูจะเฉลยราคาสินค้า กลุ่มใดทายราคาสินค้า

ใกลเ้ คยี งท่ีสดุ ให้สง่ ตัวแทนออกมาจับฉลากคะแนนทจ่ี ะไดห้ น้าชนั้ เรียน เพอ่ื เปน็ คะแนนสะสม

4. ครทู าเช่นนจ้ี นครบทั้งหมด 6 ภาพ จงึ สรุปคะแนนผู้ชนะ

5. ครูตั้งสถานการณ์ข้ึนว่า ถ้าโรงงานผลิตเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแห่งหน่ึงขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในเวลา 1 ปี

ได้ ดังน้ี

- ต้เู ยน็ จานวน 350 เครอ่ื ง

- โทรทัศน์ จานวน 1,230 เครือ่ ง

- เครอื่ งปรับอากาศ จานวน 565 เครือ่ ง

- ไมโครเวฟ จานวน 799 เครอ่ื ง

- เคร่อื งทานา้ อนุ่ จานวน 28 เครอื่ ง

- เครอ่ื งดูดฝนุ่ จานวน 125 เครอ่ื ง

ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาถามต่อไปน้ี

- สินค้าชนดิ ใดบา้ ง ขายได้ประมาณ 50,000 บาท

- สนิ ค้าชนิดใดบา้ ง ขายได้ประมาณ 100,000 บาท

- เจ้าของโรงงานจะไดเ้ งินประมาณกีบ่ าท

- ถา้ เจา้ ของโรงงานตั้งเปา้ หมายไว้วา่ จะไดเ้ งินประมาณ 1 ลา้ นบาท เจา้ ของโรงงานไดต้ ามเปา้ หมาย

หรอื ไม่ (ถา้ ได้ ไดเ้ กินมาประมาณเทา่ ไร ถ้าไม่ได้ ขาดอกี ประมาณเทา่ ไร)

6. ครูให้นักเรยี นจัดกล่มุ กล่มุ ละ 4-5 คน และน่ังเปน็ กลมุ่ ใหเ้ รียบร้อย

7. ครแู จกกระดาษฟลิปชาร์ตให้นักเรียนกลุ่มละ 1 แผ่น จากน้ันให้นักเรียนช่วยกันต้ังสมมุติฐานเพ่ือตอบคาถามแต่ละ
ข้อ และเขยี นลงในกระดาษให้เรยี บร้อย พร้อมทัง้ บอกเหตุผลสนับสนนุ การตัง้ สมมตุ ิฐานดังกล่าว โดยครูให้เวลาประมาณ 15
นาที

8. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ นากระดาษมาสง่ จากน้ันรว่ มกันอภปิ รายคาถามแต่ละข้อวา่ นักเรียนมคี วามคิดเหน็ อย่างไร
และใชห้ ลกั การใดในการตงั้ สมมุติฐาน โดยครูพิจารณาวา่ นักเรียนตั้งสมมตุ ิฐานตามหลกั เหตุผล และหลกั ความเป็นจริง
หรือไม่ และเน้นยา้ กับนกั เรยี นวา่ ในการตง้ั สมมุติฐานทกุ ครั้ง เราควรยึดหลักเหตผุ ล และนาความรเู้ ดิมท่ีมีอยู่มาใชใ้ ห้เกดิ
ประโยชน์ จะทาใหไ้ ดส้ มมุตฐิ านท่ีดี

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรู้ความเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) ประเมิน

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินทักษะและ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า

การทางานรายบุคคล/กล่มุ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

1. สังเกตจากการเรยี นมี - แบบประเมนิ 80% ขนึ้ ไป ถอื วา่

ความรบั ผิดชอบต่องานทีส่ งั่ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์การ

และสง่ งานไดท้ นั ตามที่ อันพงึ ประสงค์ ประเมนิ

กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุง่ มั่นใน

การทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การคณู
2) แบบฝกึ หัด คณติ ศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 การคณู
3) ใบงาน เรื่อง การประมาณผลลัพธข์ องการคูณ
4) กระดาษฟลปิ ชาร์ท
5) รปู ภาพ


Click to View FlipBook Version