The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม

หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม

วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๗๑ การสมาทานรักษาศีล ๘ คำอาราธนาศีล ๘ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิยาจามะ. ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิยาจามะ. ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิยาจามะ. คำสมาทานศีล ๘ นมัสการ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ หน) สรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. สิกขาบท ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.


๒๗๒ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. อะพ๎รัห๎มะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ, สีเลนะ สุคะติง ยันติ, สีเลนะ โภคะสัมปะทา, สีเลน นิพพุติง ยันติ, ตัส๎มา สีลัง วิโสธะเย. หรือ อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิสะมาทิยามิ. อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิสะมาทิยามิ. อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิสะมาทิยามิ.


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๗๓ การสมาทานรักษาอุโบสถศีล คำประกาศองค์อุโบสถ อัชชะ โภนโต ปักขัสสะ อัฏฐะมีทิวะโส (ปัณณะระสีทิวะโส, จาตุททะสีทิวะโส) เอวะรูโป โข โภนโต ทิวะโส, พุทเธนะ ภะคะวะตา ปัญญัตตัสสะ ธัมมัสสะวะนัสสะ เจวะ ตะทัตถายะ อุปาสะกะอุปาสิกานัง อุโปสะถัสสะ จะ กาโล โหติ, หันทะ มะยัง โภนโต สัพเพ อิธะ สะมาคะตา ตัสสะ ภะคะวะโต ธัมมานุธัมมะปะฏิปัตติยา ปูชะนัตถายะ, อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง, อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง อุโปสะถัง อุปะวะสิสสามาติ, กาละปะริจเฉทัง กัต๎วา ตัง ตัง เวระมะณิง อารัมมะณัง กะริต๎วา อาวิกขิตตะจิตตา หุต๎วา สักกัจจัง อุโปสะถัง สะมาทิเยยยามะ, อีทิสัง หิอุโปสะถัง สัมปัตตานัง อัม๎หากัง ชีวิตัง มา นิรัตถะกัง โหตุ. คำแปล ขอประกาศเริ่มเรื่องความที่จะสมาทานรักษาอุโบสถ อันพร้อมไปด้วยองค์ ๘ ประการ ให้สาธุชนที่ได้ตั้งจิตสมาทานทราบทั่วกันก่อนแต่สมาทาน ณ บัดนี้ ด้วยวันนี้เป็นวันอัฏฐะมีดิถีที่แปด แห่งปักษ์มาถึงแล้ว (ถ้าเป็นวันพระ ๑๕ ค่ำ ว่า “วันปัณณะระสี ดิถีที่สิบห้า” วันพระ ๑๔ ค่ำ ว่า “วันจาตุททะสีดิถีที่สิบสี่”แห่งปักษ์มาถึงแล้ว) ก็แหละวันเช่นนี้ เป็นกาลที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงบัญญัติแต่งตั้งไว้ ให้ประชุมกันฟังธรรม และเป็นกาลที่จะรักษาอุโบสถของอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย เพื่อประโยชน์แก่การฟังธรรมนั้นด้วย


๒๗๔ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา เชิญเถิดเราทั้งหลายทั้งปวง ที่ได้มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ พึงกำหนดกาลว่า จะรักษาอุโบสถตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่งนี้ แล้วพึงทำความเว้นจากโทษนั้น ๆ ให้ เป็นอารมณ์ คือ เว้นจากฆ่าสัตว์ ๑, เว้นจากการถือเอาสิ่งของ ที่เจ้าของเขาไม่ให้ ๑, เว้นจากประพฤติกรรมที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ๑, เว้นจากเจรจาคำเท็จ ล่อลวง ผู้อื่น ๑, เว้นจากดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑, เว้นจากบริโภค อาหาร ตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์เที่ยงแล้ว ไปจนถึงเวลาอรุณขึ้นมาใหม่ ๑, เว้นจาก ฟ้อนรำขับร้องและประโคมเครื่องดนตรีต่าง ๆ แต่บรรดาที่เป็นข้าศึกแก่บุญกุศล ทั้งสิ้น และทัดทรงประดับตกแต่งร่างกายด้วยดอกไม้ของหอม เครื่องประดับเครื่อง ทาเครื่องย้อม ผัดผิวทำกายให้วิจิตรงดงามต่าง ๆ อันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความกำหนัด ยินดี ๑, เว้นจากนั่งนอนเหนือเตียง ตั่ง ม้า ที่มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่งที่นอน ใหญ่ ภายในมีนุ่นและสำลี และเครื่องปูลาดที่วิจิตรด้วยเงินและทองต่าง ๆ ๑, อย่าให้มีจิตฟุ้งซ่านส่งไปในที่อื่น พึงสมาทานเอาองค์อุโบสถทั้ง ๘ ประการ โดยเคารพ เพื่อจะบูชาสมเด็จพระผู้มีพระภาคพระพุทธเจ้านั้น ด้วยธรรมมานุธรรม ปฏิบัติ อนึ่ง ชีวิตของเราทั้งหลายที่ได้เป็นอยู่รอดมาถึงวันอุโบสถเช่นนี้ จงอย่าได้ ล่วงไปเสียเปล่าปราศจากประโยชน์เลย ฯ คำอาราธนาอุโบสถศีล มะยัง ภันเต, ติสะระเณนะ สะหะ, อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, อุโปสะถัง ยาจามะ. ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต, ติสะระเณนะ สะหะ, อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, อุโปสะถัง ยาจามะ. ตะติยัมปิมะยัง ภันเต, ติสะระเณนะ สะหะ, อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, อุโปสะถัง ยาจามะ.


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๗๕ คำสมาทานอุโบสถศีล นมัสการ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ หน) สรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ. สิกขาบท ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. อะพ๎รัห๎มะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.


๒๗๖ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. (พระนำ) อิมัง อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, พุทธะปัญญัตตัง อุโปสะถัง, อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง, สัมมะเทวะ อะภิรักขิตุง สะมาทิยามิ. อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ, อัชเชกัง รัตตินทิวัง อุโปสะถะสีละวะเสนะ สาธุกัง รักขิตัพพานิ. (ผู้สมาทานรับว่า อามะ ภันเต) สีเลนะ สุคะติง ยันติ, สีเลนะ โภคะสัมปะทา, สีเลน นิพพุติง ยันติ, ตัส๎มา สีลัง วิโสธะเย. คำลาอุโบสถศีล อิมัง อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง พุทธะปัญญัตตัง อุโปสะถัง นิกขิปามิ. ข้าพเจ้าขอเก็บอุโบสถศีล ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้แล้ว พร้อม ด้วยองค์ ๘ ประการนี้ฯ


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๗๗ คำขอบวชชีพราหมณ์-บวชเนกขัมมะ เอสาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง, สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ, ภิกขุสังฆัญจะ, ปัพพัชชัง มัง ภันเต, สังโฆ ธาเรตุ, อัชชะตัคเค ปาณุเปตัง, สะระณัง คะตัง. คำแปล ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอถึงสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้เสด็จ ดับขันธปรินิพพานนานแล้ว กับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะที่พึ่ง ที่ระลึก ขอพระสงฆ์จงจำข้าพเจ้าไว้ว่า เป็นผู้บวชในพระธรรมวินัย, ผู้ถึง พระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฯ อาราธนาศีล ๘ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ. ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ. ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ. ศีล ๘ ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจาก การฆ่าสัตว์) ๒. อะทินนา ทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจาก การลักสิ่งของที่ผู้อื่นมิได้ให้) ๓. อะพ îรัหîมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้น จากการประพฤติผิดพรหมจรรย์) ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจากการ พูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ -นินทาว่าร้ายต่าง ๆ)


๒๗๘ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา ๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจากการดื่มสุราเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท) ๖. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจาก การบริโภคอาหารในยามวิกาล -หลังเที่ยงถึงวันใหม่) ๗. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนะมาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี และประดับร่างกายด้วยดอกไม้ ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม) ๘. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่งที่เท้าสูงเกินประมาณ ภายในมีนุ่นหรือสำลี) (พระสงฆ์นำ) อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ. (ว่าตาม ๓ หน) ข้อควรทราบ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างอุโบสถศีลกับศีล ๘ ๑. อุโบสถศีล กับ ศีล ๘ มีข้อห้าม ๘ ข้อเหมือนกัน คำอาราธนา (ขอศีล) แตกต่างกัน ๒. อุโบสถศีล มีวันพระเป็นแดนเกิด สมาทานรักษาได้เฉพาะวัน พระเท่านั้น ส่วนศีล ๘ สมาทานรักษาได้ทุกวัน ๓. อุโบสถศีล มีอายุ ๒๔ ชั่วโมง (วันหนึ่งคืนหนึ่ง) ส่วนศีล ๘ ไม่มี กำหนดอายุในการรักษา ๔. อุโบสถศีล เป็นศีลสำหรับชาวบ้านผู้ครองเรือน หรือเป็นศีลของ ชาวบ้านผู้บริโภคกาม (กามโภคี) ส่วนศีล ๘ เป็นศีลสำหรับชาวบ้านผู้ไม่ ครองเรือน เช่น แม่ชีฯ


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๗๙ คำลาสิกขาผู้สมาทานรักษาศีล ๘ นโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ หน) ปัณฑะรังคะปัพพะชิตัสสะ, อัฏฐะสิกขาปะทานิ, ปัจจักขามิ, อัชชะตัคเคทานิ, คิหีติ, มัง ธาเรถะ. คำแปล ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอลาสิกขาบททั้ง ๘ ประการ ของ นักบวชผู้นุ่งขาวห่มขาว ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้าไว้ว่า เป็นคฤหัสถ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ ฯ (เมื่อกล่าวคำลาสิกขาแล้ว พึงรับศีล ๕ ตามลำดับไป)


๒๘๐ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา คำอาราธนาพระปริตร วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พ๎รูถะ มังคะลัง. วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พ๎รูถะ มังคะลัง. วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พ๎รูถะ มังคะลัง. คำแปล ขอพระสงฆ์ทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จในสมบัติทั้งปวง และเพื่อให้ทุกข์ทั้งปวงพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งปวง พินาศไป เพื่อให้โรคทั้งปวงพินาศไป ฯ คำอาราธนาธรรม พ๎รัห๎มา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง. คำแปล ท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นอธิบดีของโลก ได้ประนมพระหัตถ์นมัสการกราบ ทูลวิงวอนสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ทั้งหลายที่มีธุลีคือกิเลสใน ดวงตาเบาบางยังมีอยู่ในโลกนี้ ขอพระองค์จงแสดงพระธรรม ทรงอนุเคราะห์หมู่ สัตว์นี้เถิด ฯ


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๘๑ คำสาธุการเวลาจบพระธรรมเทศนา สำหรับอุบากสกว่า อะหัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะโต. อุปาสะกัตตัง เทเสสิง ภิกขุสังฆัสสะ สัมมุขา. เอตัง เม สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมุตตะมัง. เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะเย. ยะถาพะลัง จะเรยยาหัง สัมมาสัมพุทธะสาสะนัง. ทุกขะนิสสะระณัสเสวะ ภาคีอัสสัง อะนาคะเต. (หมอบลงว่า) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, พุทโธ ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ. กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, ธัมโม ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม. กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, สังโฆ ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ.


๒๘๒ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา สำหรับอุบาสิกาว่า อะหัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะตา. อุปาสิกัตตัง เทเสสิง ภิกขุสังฆัสสะ สัมมุขา. เอตัง เม สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมุตตะมัง. เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะเย. ยะถาพะลัง จะเรยยาหัง สัมมาสัมพุทธะสาสะนัง. ทุกขะนิสสะระณัสเสวะ ภาคินิสสัง อะนาคะเต. (หมอบลงว่า) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, พุทโธ ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ. กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, ธัมโม ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม. กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, สังโฆ ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ. คำแปล ข้าพเจ้าถึงแล้ว, ซึ่งพระพุทธเจ้า, พระธรรมเจ้า, พระสงฆเจ้า, ว่าเป็นที่พึ่ง ที่ ระลึกถึง. ข้าพเจ้าขอแสดงตน, ว่าเป็นอุบาสก (หญิงสวด อุบาสิกา), ในที่จำเพาะ หน้าพระภิกษุสงฆ์. พระรัตนตรัยนี้, เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าอันเกษม, พระรัตนตรัยนี้, เป็นที่พึ่งอันสูงสุด. เพราะอาศัยพระรัตนตรัยนี้, เป็นที่พึ่ง, ข้าพเจ้าพึงพ้นทุกข์ทั้ง


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๘๓ ปวง. ข้าพเจ้าจักประพฤติ, ซึ่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, โดย สมควรแก่กำลัง. ขอข้าพเจ้าพึงมีส่วนแห่งพระนิพพาน, อันเป็นที่ยกตนออกจาก ทุกข์, ในอนาคตกาล, เบื้องหน้านี้เทอญ. “ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้าได้ กระทำแล้วในพระพุทธเจ้า ขอพระพุทธเจ้าจงทรงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อการ สำรวมระวังในพระพุทธเจ้า ในกาลต่อไป” “ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้าได้ กระทำแล้วในพระธรรม ขอพระธรรมจงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อการสำรวม ระวังในพระธรรม ในกาลต่อไป” “ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้าได้ กระทำแล้วในพระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อการสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ ในกาลต่อไป” ฯ คำขอขมาโทษ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ หน) ขอขมาพระรัตนตรัย ว่า “ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ, ท๎วาระตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต” (๓ จบ) ขอขมาพระเถระ ว่า “เถเร ปะมาเทนะ ท๎วาระตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต” (๓ จบ) ขอขมาอาจารย์ว่า “อาจะริเย ปะมาเทนะ, ท๎วาระตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง, ขะมะตุ โน ภันเต” (๓ จบ)


๒๘๔ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา คำลาพระสงฆ์กลับบ้าน หันทะทานิ มะยัง ภันเต อาปุจฉามะ พะหุกิจจา มะยัง พะหุกะระณียา. เมื่อพระสงฆ์ผู้รับลากล่าวคำว่า “ยัสสะทานิ ตุม๎เห กาลัง มัญญะถะ.” ผู้ลาพึงรับพร้อมกันว่า “สาธุ ภันเต.” แล้วกราบ ๓ ครั้ง. คำถวายสังฆทาน อิมานิ มะยัง ภันเต, สังฆะทานานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, สังฆะทานานิ, สะปริวารานิ, ปฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ. คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวายสังฆทาน, กับทั้ง บริวารเหล่านี้, แก่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, สังฆทานกับทั้งบริวาร เหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ตลอดกาลนาน เทอญฯ คำถวายสังฆทานอุทิศ อิมานิ มะยัง ภันเต, มะตะกะสังฆะทานานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุ- สังฆัสสะ โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, มะตะกะ-


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๘๕ สังฆะทานานิสะปริวารานิ, ปฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัญเจวะ, มาตาปิตุ- อาทีนัญจะ, ญาตะกานัง, กาละกะตานัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ. คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวายมะตะกะสังฆทาน, กับทั้งบริวารเหล่านี้, แก่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับมะตะกะสังฆทาน, กับทั้งบริวารเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้า ทั้งหลายด้วย, แก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย มีมารดาบิดา เป็นต้น, ผู้ทำกาละ ล่วงลับไปแล้วด้วย, ตลอดกาลนานเทอญ ฯ คำถวายผ้าป่า อิมานิ มะยัง ภันเต, ปังสุกูละจีวะรานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุ- สังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุโน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, ปังสุกูละจีวะรานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ. คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวายผ้าบังสุกุลจีวร, กับ ทั้งบริวารเหล่านี้, แก่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าบังสุกุลจีวร, กับทั้ง บริวารเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้า ทั้งหลาย, ตลอดกาลนานเทอญ ฯ คำถวายผ้าอาบน้ำฝน อิมานิ มะยัง ภันเต, วัสสิกะสาฏิกานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, วัสสิกะสาฏิกานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ.


๒๘๖ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝน, กับ บริวารทั้งหลายเหล่านี้, แด่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, ผ้าอาบน้ำฝน, กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ตลอดกาลนานเทอญ ฯ คำถวายเทียนพรรษา อิมานิ มะยัง ภันเต, วัสสิกะทีปานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, วัสสิกะทีปานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ. คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวายเทียนพรรษา, กับ บริวารทั้งหลายเหล่านี้, แด่พระภิกษุสงฆ์, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, เทียนพรรษา, กับ ทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ตลอดกาลนานเทอญ ฯ คำถวายธูปเทียนดอกไม้ อิมานิ มะยัง ภันเต, ทีปะธูปะปุปผะวะรานิ, สะปะริวารานิ, ระตะนัตตะยัสสะ, ปูชะนัตถายะ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, ทีปะธูปะปุปผะวะรานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ.


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๘๗ คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอน้อมถวายธูปเทียนและดอกไม้, กับบริวารทั้งหลายเหล่านี้, แด่พระภิกษุสงฆ์, เพื่อประโยชน์แก่การบูชาพระ รัตนตรัย, ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ, เทียนพรรษา, กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้, ของ ข้าพเจ้าทั้งหลาย, เพื่อประโยชน์และความสุข, แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ตลอดกาลนาน เทอญ ฯ คำถวายข้าวพระพุทธ อิมัง, สูปะพ๎ยัญชะนะสัมปันนัง, สาลีนัง, โภชะนัง, อุทะกัง วะรัง, พุทธัสสะ ปูเชม. ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี, พร้อมด้วยแกงกับ, และน้ำ อันประเสริฐนี้, แด่พระพุทธเจ้า ฯ คำลาข้าวพระพุทธ เสสัง มังคะลัง ยาจามิ. ข้าพเจ้าขอภัตต์ที่เหลือ อันเป็นมงคลด้วยเถิด ฯ คำถวายต้นดอกผึ้ง อิมานิ มะยัง ภันเต, มะธุปุปผะวะรานิ, สะปะริวารานิ, อิมัส๎มิง วิหาเร, สุปะติฏฐิตานัง, พุทธะเจติยานัง, ปูชะนัตถายะ, ภิกขุสังฆัสสะ,


๒๘๘ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, สะปะริวารานิ, มะธุปุปผะวะรานิ, ปฏิคคัณ๎หาตุ, อัม๎หากัม, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ. คำแปล ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายต้นดอกผึ้ง พร้อมกับ เครื่องบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แก่พระสงฆ์ เพื่อบูชาพระพุทธปฏิมาเจดีย์ทั้งหลาย ที่ ประดิษฐาน ในวิหารอันประเสริฐนี้ ขอพระสงฆ์จงรับ ต้นดอกผึ้ง พร้อมกับเครื่อง บริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานเทอญ ฯ


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๘๙ บทสวดมนต์แปลโดยสรภัญวิธี ติลักขณาทิคาถา (นำ) หันทะ มะยัง ติลักขะณาทิคาถาโย ภะณามะ เส. สัพเพ สังขารา อะนิจจาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา. เมื่อใดบุคคลพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง, เมื่อนั้นย่อมเบื่อหน่ายในทุกข์, นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์. สัพเพ สังขารา ทุกขาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา. เมื่อใดบุคคลพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์, เมื่อนั้นย่อมเบื่อหน่ายในทุกข์, นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์. สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา. เมื่อใดบุคคลพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงมิใช่ตัวตน, เมื่อนั้นย่อมเบื่อหน่ายในทุกข์, นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์. อัปปะกา เต มะนุสเสสุ เย ชะนา ปาระคามิโน อะถายัง อิตะรา ปะชา ตีระเมวานุธาวะติ. ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย, น้อยคนจักเป็นผู้ถึงฝั่ง, คือพระนิพพานหมู่ สัตว์ทั้งหลายนอกนี้, เป็นผู้วิ่งไปตามกระแสแห่งฝั่ง. เย จะ โข สัมมะทักขาเต ธัมเม ธัมมานุวัตติโน


๒๙๐ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา เต ชะนา ปาระเมสสันติ มัจจุเธยยัง สุทุตตะรันติ. ชนทั้งหลายทั้งปวงเหล่าใด, ประพฤติตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสดี แล้ว, ชนเหล่านั้นจักถึงฝั่ง, พึงข้ามพ้นจากทุกข์, ที่ข้ามได้โดยยาก แท้, ดังนี้ แล. ปฐมพุทธภาสิตคาถา (นำ) หันทะ มะยัง ปะฐะมะพุทธะภาสิตะคาถาโย ภะณามะเส. อะเนกะชาติสังสารัง สันธาวิสสัง อะนิพพิสัง เมื่อเรายังไม่พบญาณ ได้แล่นท่องเที่ยวไปในสงสารเป็นอเนกชาติ, คะหะการัง คะเวสันโต ทุกขา ชาติ ปุนัปปุนัง แสวงหาอยู่ซึ่งนายช่างปลูกเรือน, คือตัณหาผู้สร้างภพ, การเกิดทุก คราวเป็นทุกข์ร่ำไป, คะหะการะกะ ทิฏโฐสิ ปุนะ เคหัง นะ กาหิสิ นี่แน่ะ นายช่างปลูกเรือน, เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว, เจ้าจะทำเรือนให้เรา ไม่ได้อีกต่อไป, สัพพา เต ผาสุกา ภัคคา คะหะกูฏัง วิสังขะตัง โครงเรือนทั้งหมดของเจ้าเราหักเสียแล้ว, ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว, วิสังขาระคะตัง จิตัง ตัณหานัง ขะยะมัชฌะคา. จิตของเราถึงแล้วซึ่งสภาพที่อะไรปรุงแต่งไม่ได้อีกต่อไป, มันได้ถึง แล้วซึ่งความสิ้นไปแห่งตัณหา (คือถึงพระนิพพาน).


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๙๑ ปัจฉิมพุทโธวาทปาฐะ (นำ) หันทะ มะยัง ปัจฉิมะพุทโธวาทะปาฐัง ภะณามะ เส. ทันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า, วะยะธัมมา สังขารา สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา, อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด, อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจา. นี้เป็นพระวาจามีในครั้งสุดท้าย ของพระตถาคตเจ้า. อริยธนคาถา (นำ) หันทะ มะยัง อะริยะธะนะคาถาโย ภะณามะ เส. ยัสสะ สัทธา ตะถาคะเต อะจะลา สุปะติฏฐิตา ศรัทธาในพระตถาคตของผู้ใด, ตั้งมั่นอย่างดี ไม่หวั่นไหว, สีลัญจะ ยัสสะ กัล๎ยาณัง อะริยะกันตัง ปะสังสิตัง และศีลของผู้ใดงดงาม, เป็นที่สรรเสริญที่พอใจของพระอริยเจ้า, สังเฆ ปะสาโท ยัสสัตถิ อุชุภูตัญจะ ทัสสะนัง ความเลื่อมใสของผู้ใดมีในพระสงฆ์, และความเห็นของผู้ใดตรง, อะทะฬิทโทติ ตัง อาหุ อะโมฆันตัสสะ ชีวิตัง บัณฑิตกล่าวเรียกเขาผู้นั้นว่า คนไม่จน, ชีวิตของเขาไม่เป็นหมัน,


๒๙๒ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา ตัส๎มา สัทธัญจะ สีลัญจะ ปะสาทัง ธัมมะทัสสะนัง อะนุยุญเชถะ เมธาวี สะรัง พุทธานะสาสะนัง. เพราะเหตุนั้นแล เมื่อระลึกได้ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่, ผู้มี ปัญญาควรพอกพูนศรัทธา ศีล, ความเลื่อมใส และความเห็นธรรม ให้เนือง ๆ. กายคตานุสสติปาฐะ (นำ) หันทะ มะยัง กายะคะตานุสสะติปาฐัง ภะณามะ เส. อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้แล อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา อะโธ เกสะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป ตะจะปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีประการต่าง ๆ อัตถิอิมัส๎มิง กาเย มีอยู่ในกายนี้ เกสา คือ ผมทั้งหลาย, โลมา คือ ขนทั้งหลาย, นะขา คือ เล็บ ทั้งหลาย, ทันตา คือ ฟันทั้งหลาย, ตะโจ คือ หนัง, มังสัง คือ เนื้อ, นะหารูคือ เอ็นทั้งหลาย, อัฏฐีคือ กระดูกทั้งหลาย, อัฏฐิมิญชัง คือ เยื่อ ในกระดูก, วักกัง คือ ม้าม, หะทะยัง คือ หัวใจ, ยะกะนัง คือ ตับ, กิโลมะกัง คือ พังผืด, ปิหะกัง คือ ไต, ปัปผาสัง คือ ปอด, อันตัง คือ ไส้ ใหญ่, อันตะคุณัง คือ ไส้น้อย, อุทะริยัง คือ อาหารใหม่, กะรีสัง คือ


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๙๓ อาหารเก่า, ปิตตัง คือ น้ำดี, เสม๎หัง คือ น้ำเสลด, ปุพโพ คือ น้ำเหลือง, โลหิตัง คือ น้ำเลือด, เสโท คือ น้ำเหงื่อ, เมโท คือ น้ำมันข้น, อัสสุคือ น้ำตา, วะสา คือ น้ำมันเหลว, เขโฬ คือ น้ำลาย, สิงฆาณิกา คือ น้ำมูก, ละสิกา คือ น้ำไขข้อ, มุตตัง คือ น้ำมูตร, มัตถะเก มัตถะลุงคัง คือ เยื่อใน สมองศีรษะ, เอวะมะยัง เม กาโย กายของเรานี้อย่างนี้ อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา อะโธ เกสะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป ตะจะปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน. เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีประการต่าง ๆ อย่างนี้แล ฯ


๒๙๔ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา สัพพปัตติทานคาถา (แปล) พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๔ ปุญญัสสิทานิ กะตัสสะ ยานัญญานิ กะตานิ เม เตสัญจะ ภาคิโน โหนตุ สัตตานันตาปปะมาณะกา ขอสัตว์ทั้งหลายไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ จงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำ ในบัดนี้, แลแห่งบุญทั้งหลายอื่น ที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว เย ปิยา คุณะวันตา จะ คือชนเหล่าใดเป็นที่รักผู้มีคุณ มัย๎หัง มาตาปิตาทะโย มีมารดาและบิดาของข้าพเจ้าเป็นต้น ทิฏฐา เม จาป๎ยะทิฏฐา วา ที่ข้าพเจ้าได้เห็นหรือแม้ไม่ได้เห็น อัญเญ มัชฌัตตะเวริโน สัตตา ติฏฐันติ โลกัส๎มิง แลสัตว์ทั้งหลายอื่นที่เป็นกลาง แลมีเวร กันตั้งอยู่ในโลก เตภุมมา จตุโยนิกา เกิดในภูมิ ๓ เกิดในกำเนิด ๔ ปัญเจกะจะตุโวการา มีขันธ์ ๕ แลขันธ์ ๑ แลขันธ์ ๔ สังสะรันตา ภะวาภะเว ท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยแลภพใหญ่ ญาตัง เย ปัตติทานัมเม สัตว์เหล่าใดทราบการให้ส่วนบุญของ ข้าพเจ้าแล้ว อะนุโมทันตุ เต สะยัง ขอสัตว์เหล่านั้นจงอนุโมทนาเองเถิด เย จิมัง นัปปะชานันติ ก็สัตว์เหล่าใด ย่อมไม่ทราบการให้ส่วน บุญของข้าพเจ้านี้


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๙๕ เทวา เตสัง นิเวทะยุง ขอเทพทั้งหลายพึงแจ้งแก่สัตว์เหล่านั้น มะยา ทินนานะ ปุญญานัง อะนุโมทะนาเหตุนา เพราะเหตุคืออนุโมทนาบุญทั้งหลายที่ ข้าพเจ้าให้แล้ว สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน ขอสัตว์ทั้งปวง จงอย่ามีเวร อยู่เป็นสุข เสมอเถิด เขมัปปะทัญจะ ปัปโปนตุ แลจงถึงทางอันเกษมเถิด เตสาสา สิชฌะตัง สุภา. ขอความหวังอันดีของสัตว์เหล่านั้นจง สำเร็จเทอญ. บทแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน ขอให้สัตว์ทั้งหลาย อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย, จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด กะตัง ปุญญัง พะลัง มัยหัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุเต ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงได้เสวยผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญด้วยกาย วาจา ใจ แล้วนั้น เทอญ


๒๙๖ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา คำอธิษฐานกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนแห่งบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า, ขอให้ญาติ ทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข ฯ ข้าพเจ้า ขอตั้งจิต อุทิศผล บุญกุศล แผ่ไป ให้ไพศาล ถึงบิดา มารดา ครูอาจารย์ ทั้งวงศ์วาน ญาติมิตร สนิทกัน อีกคนเคย ร่วมงาน การทั้งหลาย มีส่วนได้ในกุศล ผลของฉัน ทั้งเจ้ากรรม นายเวร และเทวัญ ขอให้ท่าน ได้ทั่ว ทุกตัวตน ขอกุศล ผลกรรม ที่ทำนี้ จงเป็นที่ ประจักษ์แจ้ง ทุกแห่งหน จงสำเร็จ แก่ญาติมิตร สนิทชน ที่เวียนวน ตายเกิด กำเนิดมา สรรพสัตว์ทุกทั่วหน้า เทพารักษ์ จงประจักษ์ในกุศล ผลนี้หนา พ้นจากทุกข์ประสบสุข ทุกเวลา สมดังข้า อุทิศให้ด้วยใจปอง ปวงข้า สำรวมจิต น้อมอุทิศ แผ่เมตตา แก่สัตว์ ทั่วโลกา บรรดามีชีวีครอง สัตว์ทั้งหลาย อย่าผูกเวร คิดเคี่ยวเข็ญ ตอบสนอง สัตว์ทั้งหลาย อย่าคิดข้อง จิตขุ่นหมอง เบียดเบียนกัน สัตว์ทั้งหลาย จงพ้นทุกข์ประสบสุข เกษมสันต์ ทุกชีวิต มีจิตมั่น เมตตากัน นิรันดร์เทอญ ฯ


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๙๗ คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา พระพรหมวชิรเวที พระเทพดิลก พระเทพญาณวิศิษฏ์ พระเทพสีลาภรณ์ พระราชวัชรปัญญาเมธีพระปริยัติสารเวทีพระกิตติสารสุธี พระอดุลธรรมเมธี พระครูมงคลกิตติธาดา พระครูปัญญาสารสุธีพระครูสุทธิอาจารวัฒน์ พระครูวิบูลอาจารวัฒน์ พระครูสุจินธรรมคุณ พระมหาเกรียงศักดิ์ ปิตโสโต อำนวยการผลิต สำนักงานเลขานุการสำนักเรียนวัดปทุมวนาราม ผู้รับผิดชอบโครงการ พระมหาชาญชัย ชยปุตฺโต รวบรวมข้อมูล-จัดทำต้นฉบับ-ออกแบบจัดรูปเล่ม พระมหาศราวุธ สุนฺทรธมฺโม พระมหานนทรัตน์ ชยานนฺโท พระมหาวิชิต อคฺคชิโต พระมหาสุจินดา นนฺทสุจิตฺโต ตรวจพิสูจน์อักษร/เอื้อเฟื้อข้อมูล พระมหาสหชาติ สหชาโต พระครูปลัดสุวัฒนวิชชาคุณ (สุริยันต์) พระมหาโชคชัย ิตชโย พระมหาสุมน อภิมโน พระครูวิสุทธิวรคุณ (ปกรณ์วินณ์) พระมหาพงศ์ภรณ์ สุนฺทรินฺโท พระครูวิบูลวรกิจ (ธนาศักดิ์) พระมหาพงศธร เขมวํโส พระมหาพิทักษ์ องฺกุรชโย พระมหาชยาวุธ ชยาวุโธ เอื้อเฟื้อภาพ พระครูสังฆวิสิฐ (นารินทร์) พระมหาล้อมพงศ์ ภูริวฑฺฒโน นัฐพนธ์ โพธิ์ประทีป พิมพ์ครั้งที่ ๑ : มกราคม ๒๕๖๒ จำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ครั้งที่ ๒ : เมษายน ๒๕๖๓ จำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ครั้งที่ ๓ : สิงหาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย


๒๙๘ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา เจ้าภาพพิมพ์ครั้งที่ ๓ ครอบครัว MK โดยคุณยุพิน ธีระโกเมน คณะผู้ปฏิบัติธรรมศาลาพระราชศรัทธา


วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร : ๒๙๙


๓๐๐ : หนังสือสวดมนต์ศาลาพระราชศรัทธา


Click to View FlipBook Version