The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการสอบสวนคดีอุบัติเหตุ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by raschaiwud, 2021-03-17 13:05:58

คู่มือการสอบสวนคดีอุบัติเหตุ

คู่มือการสอบสวนคดีอุบัติเหตุ

Keywords: สอบสวน

การสอบสวน

คดีอุบัติเหตุทางถนน

คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน

โดย พนั ตำ� รวจเอก สรุ ศักดิ์ เลาหพบิ ลู ยก์ ลุ และคณะ

ISBN 978-616-8080-23-8
ปที พี่ ิมพ์ พ.ศ. 2562 (พิมพ์ครงั้ ที่ 3) ปรับปรงุ เนื้อหา
จำ� นวนพิมพ์ หนังสือ 2,000 เล่ม
CD 2,000 แผน่
จดั พิมพ์และเผยแพรโ่ ดย
กองบญั ชาการศกึ ษา ส�ำนกั งานตำ� รวจแห่งชาติ
สนบั สนุนโดย
ส�ำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ
ทต่ี ิดตอ่
เลขที่ 100 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร
กรงุ เทพมหานคร 10900
พมิ พท์ ่ี
บริษทั มิตรภาพการพิมพแ ละสตวิ ดโิ อ จาํ กดั
เลขที่ 1 ถนนพระรามเกา ซอยพระรามเกา 59 (อิสสระชยั )
แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรงุ เทพฯ 10250
โทร. 02-1872223 แฟกซ. 02-1872226

คำ� นิยม

หนังสือ “การสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน” เล่ม
นี้ เป็นผลผลิตที่เกิดจากความต้ังใจของทีมงานด้านความ
ปลอดภยั ทางถนน ที่มกี ลุ่มงานอาจารย์ กองบัญชาการศึกษา
เป็นแกนหลักในการรวบรวมชุดความรู้จากข้าราชการต�ำรวจและ
ภาคีเครือข่าย โดยการสนับสนุนจากส�ำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมมือกัน
ศึกษา ค้นคว้า รวบรวม จนเกิดเป็นผลส�ำเร็จเป็นคู่มือให้พนักงานสอบสวน น�ำไปเป็นแนวทาง
ปฏิบัติในการสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนนเพื่ออ�ำนวยความยุติธรรมให้คู่กรณี และสืบค้นไปถึง
สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุเพ่ือน�ำไปสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือการลด
อุบัติเหตุทางถนนท่ีเป็นสาเหตุท�ำให้คนไทยบาดเจ็บ พิการและเสียชีวิต
หนังสือเล่มน้ี ได้พัฒนามาจากเล่มแรกท่ีจัดพิมพ์ เป็นคู่มือวิทยากรการสอบสวนคดีอุบัติเหตุ
ทางถนน ซ่ึงในขณะนั้นผมด�ำรงต�ำแหน่งผู้บัญชาการศึกษา เมื่อได้มาด�ำรงต�ำแหน่ง
ผู้ช่วยผู้บัญชาการต�ำรวจแห่งชาติ ดูแลงานกฎหมายและคดี เห็นว่าควรเป็นคู่มือท่ีมีประจ�ำอยู่
ทุกสถานีต�ำรวจซึ่งจะจัดส่งให้ครบทุกสถานีต�ำรวจต่อไป และขอให้พนักงานสอบสวนถือเป็น
แนวทางปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

พลต�ำรวจโท
(รอย องิ คไพโรจน)์

ผูช้ ว่ ยผบู้ ัญชาการตำ� รวจแหง่ ชาติ

คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน 3

คำ� น�ำ

องคก์ ารสหประชาชาตไิ ดเ้ รยี กรอ้ งใหป้ ระเทศสมาชกิ
ด�ำเนินการตามกรอบปฏิญญามอสโก ซึ่งก�ำหนดให้ ค.ศ.
2011-2020 (พ.ศ.2554-2563) เปน็ ทศวรรษแหง่ การปฏบิ ตั ิ
การเพื่อความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้แต่ละประเทศก�ำหนด
ทศิ ทาง แผนงาน มาตรการในการแกไ้ ขปญั หาอบุ ตั เิ หตทุ างถนน โดยมเี ปา้ หมายลดอตั ราการเสยี ชวี ติ
จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนของทง้ั โลกถงึ รอ้ ยละ 50 ในปี ค.ศ.2020 หรอื พ.ศ.2563 โดยใชก้ รอบแนวทาง
ส�ำหรับแผนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ซ่ึงหน่ึงในห้าเสาหลักของการสร้างเสริมให้เกิด
ความปลอดภัยทางถนน คอื การตอบสนองภายหลงั เกดิ อุบตั ิเหตุ
พนักงานสอบสวน นบั วา่ มบี ทบาทอยา่ งสงู ในการตอบสนองภายหลังเกดิ เหตุ ท้ังน้ี กฎหมาย
ไดใ้ หอ้ ำ� นาจแกพ่ นกั งานสอบสวน ใหม้ หี นา้ ทท่ี ำ� การสบื สวนสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตจุ ราจรทางบก และ
รวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงเพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา จึงเป็นภาระ
หน้าท่ีอันส�ำคัญที่ต้องท�ำความจริงให้ปรากฏ ทั้งนี้ เพ่ืออ�ำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน การ
ท�ำความจริงให้ปรากฏดังกลา่ ว นอกจากจะหาตัวผรู้ บั ผดิ ชอบในทางแพ่งและทางอาญาแลว้ ยงั ตอ้ ง
สามารถเปน็ ขอ้ มูลย้อนกลับไปสูร่ ะบบการบริหารจดั การดา้ น คน รถ ถนนและสงิ่ แวดลอ้ ม เพือ่ ใหม้ ี
ความปลอดภัยสูงขน้ึ ต่อผู้ใชถ้ นนท้งั มวลอีกด้วย เพอ่ื มใิ หเ้ กดิ อุบตั เิ หตซุ ำ�้ ซ้อน เกดิ ขน้ึ แลว้ เกดิ ข้ึนอีก
ในพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบของตน โดยไม่ได้รับการแกไ้ ข
หนังสือ การสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนนเล่มน้ี ได้จัดท�ำขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง
กองบญั ชาการศกึ ษาและศนู ยว์ ชิ าการเพอ่ื ความปลอดภยั ทางถนน โดยการสนบั สนนุ ดา้ นงบประมาณ
จากส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เน้ือหาท่ีปรากฏอยู่ในหนังสือนี้ เช่น
สถานการณก์ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนน การวเิ คราะหส์ าเหตขุ องเกดิ อบุ ตั เิ หตุ การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุ
ทางถนน ไดถ้ กู รวบรวมไวเ้ พอ่ื ตอ้ งการใหพ้ นกั งานสอบสวนผปู้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทไี่ ดใ้ ชเ้ ปน็ แหลง่ ขอ้ มลู อา้ งองิ
ในการท�ำความจริงให้ปรากฏตามท่ีกล่าวมาแล้ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวพนักงานสอบสวนและ
ผู้เกย่ี วขอ้ งโดยตรงตอ่ ไป

พลตำ� รวจตรี
(เอกรกั ษ์ ลมิ้ สงั กาศ)

รองผบู้ ัญชาการศึกษา

4 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน

สารบญั

หนา้
บทท่ี 1 สถานการณ์ และสาเหตขุ องอุบตั ิเหตทุ างถนน 7 - 16
สถานการณแ์ ละสาเหตขุ องอบุ ัตเิ หตุทางถนน
บทบาทของพนักงานสอบสวนตอ่ อุบัติเหตทุ างถนน 7
8
บทท่ี 2 การวิเคราะห์สาเหตกุ ารเกิดอุบตั ิเหตุทางถนน
ความเข้าใจเบื้องตน้ เก่ียวกับหลกั ฐานในท่ีเกดิ เหตุ 17 - 54
การแก้ไขและปรบั ปรุงจดุ เสีย่ ง/จุดอนั ตราย 17
ฝกึ ปฏบิ ตั ิการวเิ คราะห์สาเหตุอุบัตเิ หตุทางถนนจากกรณีศึกษา 40
45
บทท่ี 3 กฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน
ประมวลกฎหมายอาญา 55 - 92
ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ 56
ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา 58
พระราชบญั ญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 59
พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 60
พระราชบญั ญตั ขิ นส่งทางบก พ.ศ. 2522 65
พระราชบัญญัตคิ มุ้ ครองผู้ประสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 65
67
บทท่ี 4 ขน้ั ตอนการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน
บทนยิ ามที่ตอ้ งรเู้ กยี่ วกบั คดจี ราจร 93 - 138
การเตรียมตัวของพนักงานสอบสวน 93
หลกั การตรวจทีเ่ กิดเหตใุ นคดจี ราจร 95
หลักการสอบสวนผู้กล่าวหา ผ้ตู ้องหา และพยานในคดจี ราจร 96
109

คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน 5

สารบญั หนา้
139 - 146

บทที่ 5 การตรวจพิสูจนห์ ลกั ฐานในคดอี ุบัติเหตุทางถนน 139
วงจรงานนติ วิ ิทยาศาสตร์ 141
วงจรการเกิดอุบัตเิ หตุจราจรและการพิสูจนห์ ลกั ฐาน 145
กรณีศึกษา 146
ขอ้ ปฏบิ ตั ิเมอื่ ไปถงึ ทเ่ี กดิ เหต ุ 146
การเขยี นรายงานการตรวจพสิ ูจน์
147
บรรณานุกรม 151
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกับการแกไ้ ขอุบัติเหตทุ างถนน 169
ผนวก ข. ตวั อย่างส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน 361
ผนวก ค. คู่มอื การสำ� รวจอุบตั เิ หตุ โดยสมาคมประกนั วนิ าศภัยไทย 389
ผนวก ง. มนษุ ยป์ จั จัยกับการเกดิ อบุ ัตเิ หตทุ างถนน 409
ผูท้ รงคณุ วุฒแิ ละคณะผจู้ ัดทำ� หนงั สือ

6 คูม่ ือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน

สถานการณ์ และสาเหตุ บทท่ี 1

ของอุบัตเิ หตุทางถนน

1. สถานการณ์และสาเหตุของอุบัตเิ หตุทางถนน

สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยอยูในระดับรุนแรงมาก จากรายงานองค์การ
อนามยั โลกประเทศไทยมผี เู้ สยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนสงู สดุ เปน็ อนั ดบั ทส่ี ามและสองของโลก ใน
ปี 2556 และในปี 2558 ตามลาํ ดับ แมใ้ นรายงานปี 2560 จะลดระดบั ลงเปน็ อันดบั ที่ 9 ของโลก
แตส่ ถติ กิ ารเสยี ชวี ติ จากการขบั ขร่ี ถจกั รยานยนตย์ งั สงู เปน็ อนั ดบั หนงึ่ ของโลก จากรายงานลา่ สดุ ของ
กระทรวงสาธารณสขุ คนไทยยังเสียชวี ิตจากอุบตั ิเหตทุ างถนนในปี 2559 สูงถึง 22,356 คน มผี บู้ าด
เจ็บหนักทีต่ ้องนอนรกั ษาในโรงพยาบาลและกลายเป็น ผู้พิการถาวรถึงรอ้ ยละ 4.6 สถาบนั วิจัยเพอ่ื
การพฒั นาประเทศไทย (ทดี อี ารไ์ อ 2560) ไดค้ าํ นวณมลู คา่ ความสญู เสยี ในชว่ งปี 2554-2556 เฉลยี่
ต่อปีเทา่ กับ 545,435 ล้านบาท คิดเปน็ รอ้ ยละ 6 ของผลติ ภณั ฑม์ วลรวมในประเทศ (GDP) ซงึ่ ระยะ
ยาวจะสง่ ผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศไทยอยา่ งรนุ แรง

โดยปจั จัยหลักในการเกดิ อบุ ตั เิ หตุทางถนน ทงั้ ในต่างประเทศและประเทศไทยส่วนใหญ่เกดิ
จาก คนหรอื พฤตกิ รรมของผขู้ บั ขี่ รอ้ ยละ 95 และ 95.7 ตามลำ� ดบั รองลงมาจะเปน็ ปจั จยั ดา้ นถนน
และสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 28 และ 27.6 ส่วนปัจจัยด้านรถ เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
ประเทศไทยถึงร้อยละ 21.5 ซ่ึงสูงกว่าตา่ งประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตเุ พียงรอ้ ยละ 8

คมู่ อื การสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตุทางถนน 7

บทที่ 1 สถานการณ์ และสาเหตุของอุบตั ิเหตุทางถนน

ทั้งนี้ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในส่วนของคน เช่น เมาแล้วขับ หลับใน ในส่วนของรถ
เช่น ยางรถยนตห์ มดสภาพ เบรกหมดสภาพ และในสว่ นของถนน เชน่ ถนนลน่ื หลงั จากฝนตก มีการ
ซอ่ มถนน (ดูรายละเอยี ดในภาคผนวก ก. เรื่องวศิ วกรรมจราจรกบั การแก้ไขอุบัติเหตทุ างถนน)
- สวนดุสิตโพล ทำ� การส�ำรวจ 10 อันดบั ขา่ วท่ีสะเทือนใจที่สุด พบว่า การตายบนถนน เป็น
เร่อื งสะเทอื นใจ อันดบั 3 รองจากเรอ่ื งอาชญากรรม ฆ่าข่มขืน ซึ่งเปน็ อนั ดับ 1 และ ความแตกแยก
ในสังคม เปน็ อันดับ 2 และได้ส�ำรวจเรอ่ื งความวติ กกังวลของคนไทย ณ วนั น้ี พบว่าอุบตั เิ หตบุ นทอ้ ง
ถนนเป็นเรอื่ งท่ีประชาชนมคี วามกังวลสงู ทส่ี ุดเปน็ อนั ดับ 3 โดยกลมุ่ ตวั อยา่ งเห็นวา่ ควรแก้โดยชว่ ย
กนั รณรงค์ กระต้นุ ใหเ้ กดิ จิตสำ� นึก ปฏิบัติตามกฎจราจร เมาไม่ขบั ขับรถอยา่ งมีสติ ไม่ประมาท รอง
จากเร่ืองชีวิตความเป็นอยู่ ปากท้อง เงินไม่พอใช้ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ค่าครองชีพสูง ของกิน
ของใช้แพง ซงึ่ เปน็ อันดบั 1 และเรือ่ งเศรษฐกิจตกตำ�่ การค้าการลงทนุ ไม่ดี คนตกงาน ตา่ งชาติไม่
ลงทนุ คนไม่มีก�ำลงั ซื้อ ซึ่งเปน็ อันดบั 2
จากข้อมลู ทง้ั หมดข้างต้น จึงเกดิ ค�ำถามวา่ ทำ� อย่างไรจงึ จะให้ความสำ� คัญกับการสวบสวน
หาสาเหตทุ ี่แท้จริงของการเกิดอุบตั เิ หตุ โดยบุคคลท่ีเก่ยี วข้องกับคดอี ุบัติเหตุ คือพนกั งานสอบสวน
ท่ีนอกจากจะตอ้ งหาสาเหตขุ องอุบัติเหตุใหไ้ ดว้ ่าเกดิ จากความประมาทของบุคคลใด เพื่อใหป้ รากฏ
ขอ้ เทจ็ จรงิ ในสำ� นวนการสอบสวน นอกจากนนั้ แลว้ ยงั ควรสนใจเรอื่ งสาเหตอุ นื่ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ
อบุ ตั เิ หตจุ ราจรในคดนี นั้ ๆ ดว้ ย เชน่ รถ ถนน หรอื สง่ิ แวดลอ้ ม ซงึ่ ลว้ นเปน็ สาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ
ทง้ั สน้ิ ตลอดจนควรหาสาเหตขุ องการตายของบคุ คลทป่ี ระสบอบุ ตั เิ หตดุ ว้ ยวา่ ตายดว้ ยสาเหตใุ ด เชน่
หวั กระแทกกบั กระจกหนา้ หนา้ อกกระแทกกบั พวงมาลยั รถ หรอื กระเดน็ หลดุ ออกมานอกรถแลว้ ไป
กระแทกกับต้นไม้ เป็นต้น

2. บทบาทของพนักงานสอบสวนตอ่ อบุ ตั ิเหตทุ างถนน

องคก์ ารสหประชาชาตไิ ดเ้ รียกร้องให้ประเทศสมาชกิ ดำ� เนินการตามกรอบปฏิญญามอสโก ซึง่
ก�ำหนดให้ ค.ศ.2011-2020 (พ.ศ.2554-2563) เปน็ ทศวรรษแห่งการปฏบิ ัติการเพอื่ ความปลอดภัย
ทางถนน เพ่ือให้แต่ละประเทศก�ำหนดทิศทาง แผนงาน มาตรการในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทาง
ถนน โดยมเี ปา้ หมายลดอัตราการเสยี ชีวิตจากอุบตั ิเหตุทางถนนของทงั้ โลกถงึ ร้อยละ 50 ในปี ค.ศ.
2020 หรือ พ.ศ.2563 โดยใช้กรอบแนวทางสำ� หรบั แผนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดย
ยึดแนวคิดเร่อื งระบบทีเ่ ออ้ื ตอ่ ความปลอดภยั (Safe System Approach) เปน็ แนวทาง โดยกรอบ
แนวทางทศวรรษแหง่ ความปลอดภยั ทางถนนของโลก ไดด้ ำ� เนนิ การโดยยดึ หลกั แนวทางตามเสาหลกั
5 ด้าน ดังนี้

8 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน

บทท่ี 1 สถานการณ์ และสาเหตขุ องอุบตั เิ หตทุ างถนน

เสาหลกั ท่ี 1 การบรหิ ารจดั การความปลอดภยั ทางถนน (Road Safety management) สง่
เสรมิ การสรา้ งความรว่ มมอื ของภาคเี ครอื ขา่ ยจากทกุ ภาคสว่ นและกำ� หนดหนว่ ยงานหรอื คณะทำ� งาน
หลกั เพอ่ื พฒั นาและผลกั ดนั ยทุ ธศาสตร์ แผน เปา้ หมายชาตดิ า้ นความปลอดภยั ทางถนนภายใตร้ ะบบ
ฐานขอ้ มลู และฐานงานวจิ ัยที่เปน็ หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เพือ่ ออกแบบนำ� ไปปฏบิ ัติ ติดตาม ประเมนิ
ผล ประสิทธิภาพมาตรการด้านความปลอดภยั ทางถนน
เสาหลกั ที่ 2 ถนนและการสญั จรอยา่ งปลอดภัย (Safer Roads and Mobility) โดยสร้างมิติ
ความปลอดภัยให้เป็นส่วนหน่ึงของระบบโครงข่ายถนนและยกระดับคุณภาพในการป้องกันหรือ
คมุ้ ครองการบาดเจบ็ และสญู เสยี สำ� หรบั ผใู้ ชร้ ถใชถ้ นนทกุ ประเภท โดยเฉพาะกลมุ่ ทมี่ คี วามออ่ นไหว
ต่อการสญู เสียสูง เช่น คนเดนิ เท้า ผู้ใช้รถจกั รยานยนต์ และจกั รยาน ส่งิ เหลา่ น้จี ะเกิดขน้ึ ไดจ้ ากการ
วางระบบติดตามประเมินผลของโครงสร้างพื้นฐานถนน การส่งเสริมการวางแผนออกแบบก่อสร้าง
และสภาพของถนนทใ่ี ห้ความส�ำคัญกับความปลอดภยั
เสาหลกั ที่ 3 ยานพาหนะปลอดภยั (Safer Vehicles) มีการส่งเสรมิ การนำ� เทคโนโลยมี าใช้
งานจรงิ เพอ่ื ทำ� ใหย้ านพาหนะปลอดภยั ขนึ้ ดว้ ยมาตรการทง้ั เชงิ รบั (Passive Safety) และเชงิ ปอ้ งกนั
(Active Safety) ดว้ ยการสง่ เสรมิ มาตรฐานทเ่ี ปน็ ไปในแนวทางเดียวกนั ทว่ั โลก การใหค้ วามรูค้ วาม
เขา้ ใจกับผูบ้ ริโภค และการสรา้ งแรงจูงใจเพื่อส่งเสริมใหเ้ ทคโนโลยีใหม่ ๆ ไดถ้ กู น�ำมาใช้
เสาหลักท่ี 4 ผใู้ ชร้ ถใชถ้ นนปลอดภยั (Safer Road Users) มกี ารพฒั นาแผนงานเพอื่ ปรบั ปรงุ
พฤติกรรมของผ้ใู ช้รถใช้ถนนให้มคี วามปลอดภัย การบงั คบั ใช้กฎหมายควบคู่ไปกับการรณรงค์สร้าง
ความรู้ความเข้าใจ เพ่ือเพ่ิมอัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัย การลดปัญหาการเมา
แลว้ ขับ ความเรว็ และปัจจัยเสี่ยงอน่ื

คูม่ ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน 9

บทท่ี 1 สถานการณ์ และสาเหตุของอบุ ตั เิ หตุทางถนน

เสาหลักที่ 5 การตอบสนองหลงั การเกดิ อบุ ตั เิ หตุ (Post-Crash Response) สรา้ งเสรมิ ความ
พรอ้ มต่อการตอบสนองในสถานการณฉ์ ุกเฉินหลงั เกดิ อบุ ตั ิเหตุ และพัฒนาความสามารถของระบบ
สขุ ภาพและระบบอนื่ ๆ ในการดแู ลรกั ษาภาวการณบ์ าดเจบ็ จากอบุ ตั เิ หตทุ เี่ หมาะสม รวมถงึ การดแู ล
ในระยะยาวเพื่อฟืน้ ฟผู ู้ประสบอบุ ตั เิ หตุ
การตอบสนองภายหลังเกิดอุบัติเหตุเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวนมีหน้าท่ีต้องทำ� ความจริงใน
เรอื่ งอบุ ตั เิ หตจุ ราจรทเี่ กดิ ขนึ้ ใหป้ รากฏเพอื่ อำ� นวยความยตุ ธิ รรมใหก้ บั ประชาชน โดยการหาตวั ผรู้ บั
ผิดชอบในทางแพ่งและทางอาญาให้กับผู้เสียหาย และหาข้อมูลที่เก่ียวข้องท้ังหมดเพ่ือน�ำมาใช้เป็น
ข้อมลู ยอ้ นกลบั ไปสรู่ ะบบการบริหารจัดการด้าน คน รถ ถนน เพอื่ ใหม้ ีความปลอดภัยสูงขนึ้ ต่อผู้ใช้
รถใช้ถนนทุกคนอีกด้วย ทั้งน้ี กฎหมายได้ให้อ�ำนาจพนักงานสอบสวนมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดี
จราจร โดยการแสวงหาขอ้ เทจ็ จรงิ และหลกั ฐาน เพอื่ จะทราบรายละเอยี ดแหง่ ความผดิ และรวบรวม
พยานหลักฐานและด�ำเนินการทั้งหลายอ่ืนซึ่งพนักงานสอบสวนได้ท�ำไปเก่ียวกับความผิดที่กล่าวหา
เพอ่ื ทจี่ ะทราบขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื พสิ จู นค์ วามผดิ และเพอื่ จะเอาตวั ผกู้ ระทำ� ผดิ มาฟอ้ งลงโทษ โดยในคดี
จราจรใหถ้ อื วา่ รฐั เปน็ ผเู้ สยี หาย ดงั นนั้ เมอ่ื พนกั งานสอบสวนไดร้ บั แจง้ เหตแุ ลว้ ตอ้ งรบี ไปทำ� การตรวจ
สถานท่ีเกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้กล่าวหาในความผิดดัง
กล่าวเอง ส่วนฝ่ายใดจะเป็นผู้เสียหายหรือเป็นผู้ต้องหา ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยคดีของพนักงาน
สอบสวน โดยจะต้องมีการสบื สวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเบอื้ งต้นกอ่ นทกุ คร้ัง



จากแผนภาพ เม่ือมีคดอี ุบัติเหตทุ างถนน พนกั งานสอบสวนตอ้ งดำ� เนินการ ดงั น้ี คอื
ดำ� เนนิ การสอบสวนตามระเบยี บและกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื ทำ� ความจรงิ ใหป้ รากฏ และ
คน้ หาผู้รับผิดชอบทัง้ ในทางแพ่งและอาญา ในกรณีที่ไมใ่ ชเ่ หตเุ ล็กน้อย เช่น มีผูไ้ ดร้ ับบาดเจ็บ และ
เสยี ชวี ติ จำ� เปน็ ตอ้ งมที มี เกบ็ พยานหลกั ฐานเขา้ รว่ มดำ� เนนิ การดว้ ย เชน่ การตรวจสอบจดุ ชนรถยนต์
10 คมู่ อื การสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตุทางถนน

บทท่ี 1 สถานการณ์ และสาเหตขุ องอบุ ัติเหตทุ างถนน

คกู่ รณีด้วย จากนั้นจึงสรปุ สำ� นวนคดี และสง่ ฟอ้ งไปตามพยานหลกั ฐานต่อไป
สรุปประเด็นส�ำคัญเร่ืองสาเหตุของอุบัติเหตุทางถนน เพ่ือเสนอแนะต่อหน่วยงานท่ี
เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีท่ีอุบัติเหตุมักเกิดซ้�ำในจุดเดิมบ่อยครั้ง หรือพฤติกรรมแบบเดิมๆ การสรุป
ประเดน็ ดงั กลา่ ว จะทำ� ใหเ้ กดิ การพจิ ารณาแกไ้ ขเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตซุ ำ�้ อนั กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย
ขึน้ อกี ซง่ึ การด�ำเนนิ การดงั กล่าวยอ่ มมผี ลยอ้ นกลบั มาในประการทนี่ า่ จะเปน็ ประโยชน์ต่อพนกั งาน
สอบสวนเองด้วย เนอ่ื งด้วยจะไมต่ ้องท�ำส�ำนวนในเรอ่ื งทเี่ กดิ ข้นึ ในท�ำนองน้ซี �ำ้ อกี

กิจกรรมการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ที่ 1 1

เปิดคลิปวีดีโอ รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ท่ีก�ำลังจะเล้ียวซ้ายเข้าซอย จากนั้นให้ผู้เข้า
รับการอบรมอภปิ รายแสดงความเห็นว่าอะไรคือสาเหตขุ องอบุ ัตเิ หตุ
วิทยากรต้องอธิบายเน้นให้เห็นถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในแบบต่างๆ นอกเหนือจากความ
ประมาท เชน่ การปลอ่ ยใหม้ แี ผงลอยขายของปากซอย และประชาชนผซู้ อื้ จอดรถปากซอย
เพอ่ื ซ้ือของ และอ่นื ๆ

คลิปวีดีโอนี้ เปน็ คดอี บุ ัติเหตบุ ริเวณปากซอยก่งิ แก้ว จงั หวัดสมทุ รปราการ พื้นทสี่ ถานตี ำ� รวจ
ราชาเทวะ ระหว่างรถยนตน์ ่ังส่วนบุคคล (รถเก๋ง) และรถจักรยานยนต์ ชนกัน เปน็ คลปิ เหตกุ ารณท์ ี่
รถยนตข์ บั นำ� หนา้ ในชอ่ งทางเดนิ รถท่ี 2 จากซา้ ย และกำ� ลงั จะเลยี้ วเขา้ ซอยซง่ึ อยดู่ า้ นซา้ ย แตร่ ถยนต์
ไมส่ ามารถอยใู่ นชอ่ งทางดา้ นซา้ ยได้ เนอื่ งจากมรี ถจอดแวะซอื้ สนิ คา้ ซงึ่ วางขายอยบู่ นทางเทา้ บรเิ วณ
ปากซอย รถจักรยานยนตท์ ีข่ ับตามมา ไมท่ ันระวงั จึงชนท้ายรถยนต์ท่กี �ำลงั จะเล้ยี วเขา้ ซอย

คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน 11

บทที่ 1 สถานการณ์ และสาเหตุของอบุ ตั เิ หตทุ างถนน

ตัวอยา่ งการอภปิ ราย
สาเหตขุ องอบุ ตั เิ หตุตามคลปิ น้ี
1. รถยนตน์ งั่ สว่ นบคุ คล (รถเกง๋ ) ไมเ่ ปดิ ไฟเลยี้ วเมอื่ เปลยี่ นชอ่ งทางการขบั รถเปน็ ระยะทางไม่
น้อยกวา่ 30 เมตร ผดิ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 36
2. มรี ถยนต์ 2 คนั จอดรถหนา้ ปากซอย กีดขวางการจราจร
3. รถจกั รยานยนตม์ รี ะยะประชดิ รถยนตน์ งั่ สว่ นบคุ คล (รถเกง๋ ) มากไป ใหม้ รี ะยะปลอดภยั ใน
การขับขย่ี านพาหนะ
4. บรเิ วณปากซอยมีรา้ นขายของ อาจต้องให้เทศกจิ เข้ามาเกี่ยวขอ้ ง หรือ ริมถนนให้ทาสีขาว
แดงเพอ่ื ปอ้ งกันอุบัติเหตซุ ำ้�
5. สายรดั คางหมวกกันน็อคหลดุ จากศรี ษะ
ผู้เก่ยี วข้องควรมีบทบาทอย่างไร
1. ตำ� รวจ เชน่ รมิ ถนนใหท้ าสขี าวแดงเพอ่ื ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตซุ ำ้� หรอื ไมอ่ นญุ าตใหจ้ อดรถปากซอย
2. เทศกจิ เชน่ ควบคุมการขายของข้างทาง
กรณมี โี จทกร์ ว่ ม เชน่ ตำ� รวจและทอ้ งถนิ่ เขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง ปจั จบุ นั มขี อ้ สง่ั การจากนายกรฐั มนตรี
ไปยังหน่วยงานในระดับท้องถิน่ ตง้ั แต่วนั ที่13 กรกฎาคม 2559 และข้อสงั่ การกระทรวงมหาดไทย
ให้ทุกทอ้ งถิน่ ตั้งศนู ย์ปฏิบัตกิ ารความปลอดภยั ทางถนน (ศปถ. อปท.) โดยใหแ้ ต่งต้ังคณะกรรมการ
และใช้งบประมาณของท้องถิ่นในการนี้ได้ตลอดท้ังปี กรณีที่ต้องมีการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทาง
กายภาพรว่ มดว้ ย เชน่ ซ่อมถนน ซ่อมปา้ ยจราจร ตัดต้นไมข้ ้างทาง ก็สามารถนำ� ขอ้ สงั่ การดงั กลา่ ว
มาปรับใชไ้ ด้

12 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตทุ างถนน

บทท่ี 1 สถานการณ์ และสาเหตุของอุบตั ิเหตทุ างถนน

การส่งั ฟ้องผตู้ ้องหาในสำ� นวนการสอบสวนของพนกั งานสอบสวน จะเก่ยี วข้องระหว่าง ผูข้ บั ขี่
จกั รยานยนต์ และ รถยนตน์ ั่งสว่ นบคุ คล (รถเก๋ง) แต่สามารถสงั่ ฟ้องผูจ้ อดรถกีดขวางปากซอยทัง้ 2
คันไดด้ ว้ ย เนอื่ งจากกระท�ำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
พนกั งานสอบสวนควรมีบทบาทอยา่ งไร
1. กรณดี งั กล่าว ในส�ำนวนของพนักงานสอบสวน ตอ้ งสั่งฟ้องผู้ที่ขับขีร่ ถโดยประมาท ไดแ้ ก่
รถยนตน์ งั่ สว่ นบคุ คล (รถเกง๋ ) ทไี่ มใ่ หส้ ญั ญาณไฟเลยี้ วในระยะทป่ี ลอดภยั และรถจกั รยานยนตท์ ขี่ บั
รถประชดิ คันหนา้ มากเกินกว่าท่จี ะหยุดไดท้ ัน รวมถึงรถยนต์ที่จอดรถขา้ งทาง ฐานจอดกีดขวางการ
จราจร ตาม พระราชบัญญัตจิ ราจรทางบก อย่างครบกระบวนการ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ตัวอยา่ งในการบงั คบั
ใชก้ ฎหมาย
2. นอกจากน้ี ยงั ตอ้ งมบี ทบาทในการแจ้งไปยังผู้บังคบั บัญชา ระดับสถานตี �ำรวจ เพ่อื ส่ังการ
หรอื ประสานหนว่ ยเกย่ี วขอ้ งบงั คบั ใชก้ ฎหมายหา้ มขายสนิ คา้ บรเิ วณปากซอยเพอื่ ความปลอดภยั ของ
ประชาชนโดยรวม

กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรยี นรูท้ ี่ 2

คลปิ คดอี บุ ตั เิ หตุ รถบรรทกุ พว่ งเลย้ี วเขา้ ซอย หรอื เลย้ี วเขา้ ประตสู ถานประกอบการในระยะ
ประชดิ ชนกบั รถจกั รยานยนตท์ ่ขี บั ตามหลงั มา
ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมอภปิ รายถงึ สาเหตขุ องอบุ ตั เิ หตุ และวทิ ยากรเนน้ ความสำ� คญั ของสาเหตุ
อน่ื ๆ นอกจากความประมาทดว้ ย

คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน 13

บทที่ 1 สถานการณ์ และสาเหตขุ องอุบตั เิ หตุทางถนน

คลิปนี้ เป็นคลปิ วดี ีโอท่รี ถบรรทุกพ่วงคันหนึง่ กำ� ลงั เลี้ยวเข้าประตูสถานประกอบการ โดยทาง
ดา้ นซา้ ย แตเ่ นือ่ งด้วยความยาวของรถบรรทุกพ่วง ท�ำใหไ้ มส่ ามารถเลีย้ วได้ หากขบั ในช่องทางด้าน
ซ้ายสุดท่ีติดกับทางเท้า ผู้ขับข่ีรถยนต์บรรทุก จึงต้องขับในช่องทางที่ 2 จากซ้าย ท�ำให้ชนกับรถ
จกั รยานยนตท์ ข่ี ับมาในช่องทางด้านซ้ายทต่ี ิดกบั ทางเทา้
ตัวอย่างการวเิ คราะห์
สาเหตขุ องอบุ ตั เิ หตุ
1. รถบรรทุกพ่วงขับรถตัดช่องทางรถอ่ืนในระยะประช้ันชิด ซึ่งรถบรรทุกอยู่ในช่องทางท่ี 2
ต้องชะลอดูรถที่ตามมาว่าก่อนเล้ียวซ้ายรถอยู่ในระยะปลอดภัยหรือไม่ และร้องเปิดไฟเล้ียวเม่ือ
เปล่ียนช่องทางการขับรถเปน็ ระยะทางไมน่ ้อยกว่า 30 เมตร
2. ประตสู ถานประกอบการ (โกดงั ) มีการเชื่อมทางแคบท�ำใหเ้ กดิ ปัญหาในการเล้ยี วรถ เพื่อ
เข้า – ออก ในสถานประกอบการ (โกดงั )
3. กฎหมายท่ีเกีย่ วข้องกับการเชือ่ มทางจะประกอบดว้ ยดังตอ่ ไปน้ี
3.1 พระราชบญั ญัติจราจรทางบก
3.2 พระราชบญั ญตั ทิ างหลวง ประเด็นการเชอื่ มทาง
3.3 พระราชบญั ญตั ิการขนส่งทางบก
3.4 พระราชบัญญัตคิ วามปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการท�ำงาน
บทบาทของพนักงานสอบสวน
รอ้ ยละ 28 ของอบุ ตั เิ หตทุ างถนน เกดิ ขนึ้ จากถนนและสงิ่ แวดลอ้ ม เพอื่ ใหป้ จั จยั นล้ี ดลงพนกั งาน
สอบสวนตอ้ งมกี ารบนั ทกึ สาเหตทุ เ่ี กดิ อบุ ตั เิ หตทุ มี่ รี ายละเอยี ดทค่ี รบถว้ น เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ขอ้ มลู แกห่ นว่ ย
14 คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตทุ างถนน

บทท่ี 1 สถานการณ์ และสาเหตุของอุบตั เิ หตุทางถนน

งานท่ีเก่ียวข้องกับถนน หรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เช่น เม่ือกระทรวง
คมนาคมรับทราบข้อมูลถนน หรือสิ่งแวดล้อมก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อาจมีการทบทวนการสร้างถนน
หรือการเชื่อมทางที่ผิดหลักความปลอดภัย หรือวิศวกรทางหลวงผู้ออกแบบถนน ให้ได้รับข้อมูล
ประกอบในการก่อสร้าง ส่วนตัวผู้ประกอบการเอง ต้องทบทวนวิธีการป้องกันหน้าสถานประกอบ
การ เชน่ มกี ารตง้ั กรวยเปน็ จดุ สงั เกต และมพี ลขบั ผชู้ ว่ ยในการชว่ ยเลยี้ วเขา้ สถานประกอบการเปน็ ตน้
กรณีตวั อยา่ งการเชอ่ื มทางท่กี อ่ ให้เกิดอุบัติเหตซุ �ำ้ ซอ้ น เช่น
- จังหวัดอดุ รธานี รถเลี้ยวหน้าโรงไฟฟา้ ถนนมิตรภาพก่อนเข้าอดุ ร ชนรถตูต้ ายยกคนั
- จังหวดั สพุ รรณบรุ ี การเลย้ี วเขา้ โกดังเกบ็ ไม้ รถพว่ งไม่สามารถเล้ยี วด้วยชอ่ งทางด้านในได้
จึงต้องหกั เลย้ี วในช่องทางที่ 2
- จังหวัดอบุ ลราชธานี คลปิ เกาะกลางถนน หน้าโรงพยาบาล อ.วารนิ ทรช์ �ำราบ เกาะกลาง
สร้างแล้วถนนไม่เท่ากัน บางกรณีก็กว้าง บางกรณีก็แคบ เป็นเหตุให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
วนั ละ 2 คดี
- เคสชนทา้ ย มคี นตายจากการจอดรถขา้ งทางเป็นข่าวตามสือ่ มวลชนอยู่เสมอ และท�ำให้มี
ผู้เสียชีวิตอาทิตย์ละศพ ซ่ึงสาเหตุเกิดจากการจอดรถริมทางแต่ไม่มีเคร่ืองหมายแจ้งเตือน
ซึง่ ตามกฎหมายต้องมีการแสดงเคร่อื งหมาย 150 เมตรกอ่ นถึงรถจอดเสียดงั กล่าว
- รถบรรทกุ พว่ งไมม่ ีระบบจดุ จอด จอดในป๊ัมน�้ำมนั ไม่ได้ เมอื่ ไมม่ ที ่ีจอด เพ่ือความปลอดภยั
จงึ ตอ้ งจอดรถรมิ ทางแหลง่ ชมุ ชน เมอ่ื นำ� เสนอกระทรวงคมนาคม กม็ แี นวคดิ จะทำ� ทางจอดรถ
แต่ปัจจุบันกย็ งั ไม่มีความคบื หนา้
- กรณีรถบรรทุกพ่วงเลี้ยวเข้าประตูสถานประกอบการไม่ได้ต้องท้ิงลูกพ่วงไว้และมีรถ
ตามมาชน ฝง่ั รถบรรทกุ แจง้ วา่ มกี ารเตอื นโดยการหกั กงิ่ ไมเ้ สยี บทา้ ยรถ ซง่ึ ทถ่ี กู ตอ้ งจะตอ้ ง
แจ้งให้ทราบก่อนถึงลกู พว่ ง 150 เมตร
การปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตุในรถบรรทุกของตา่ งประเทศ มตี วั อย่างดงั ตอ่ ไปนี้
- ประเทศมาเลเซยี รถบรรทกุ ตอ้ งมสี ตกิ๊ เกอรข์ นาดใหญส่ ะทอ้ นแสงตดิ อยดู่ า้ นหลงั ตวั รถ หรอื
มี Under run ไมใ่ หร้ ถใดๆ สามารถมดุ ใต้ทอ้ งรถได้
- ประเทศญีป่ นุ่ ในปี ค.ศ.2001 มคี ดีอบุ ตั เิ หตุ และมีการย่ืนเรื่องใหแ้ ก้กฎหมาย กรณขี บั รถ
โดยประมาท – อันตราย (Dangerous Driving Resulting in deaths and injuries)
ขอให้มีการเพมิ่ บทลงโทษ กรณขี ับรถโดยประมาท ซึง่ มกี ารแก้ไขกฎหมายสำ� เร็จปี 2001
ประกอบด้วย 5 กรณี ดังตอ่ ไปนี้
1. การขับข่ีรถทีไ่ ดร้ ับผลกระทบจากแอลกอฮอล์ และยาหรือสารกระตุ้น
2. การขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้ ในกรณที ่ขี บั รถด้วยความเรว็ สงู
3. ขบั รถแซงอยา่ งนา่ กลวั หรือขับจีก้ ดดับรถคันหนา้

คูม่ ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน 15

บทที่ 1 สถานการณ์ และสาเหตุของอบุ ตั ิเหตุทางถนน

4. ผขู้ บั ข่ไี มม่ ที กั ษะการขบั ขรี่ ถ
5. ฝา่ สญั ญาณไฟแดง
กรณีตวั อยา่ งทีศ่ าลมคี ำ� ส่ังรบิ รถยนต์ของกลาง กรณรี ถยนต์ยีห่ อ้ โตโยตา้ รุ่นยารสิ สแี ดง
ผขู้ บั รถยนตด์ งั กลา่ วมลี กั ษณะการขบั รถทอี่ นั ตราย ขบั รถปาดไปมา คลปิ การขบั ขมี่ าจากกลอ้ ง
หน้ารถจกั รยานยนต์ผูร้ ว่ มทาง ซึง่ ศาลมคี �ำส่ังใหร้ บิ รถของกลางดงั กลา่ ว เน่ืองจากผูข้ ับขี่รถไม่คำ� นงึ
ถึงความปลอดภัยในการขับรถตามที่พนักงานสอบสวนและอัยการขอให้ศาลริบรถ มาตรการริบรถ
ในประเทศไทยจงึ เปน็ เครอื่ งมือในการแก้ปญั หาได้
กรณีตัวอย่างเด็กนักเรียนชายเดินริมถนน ถูกรถยนต์ที่จอดรถริมถนนเปิดประตูรถกระแทก
ทำ� ใหล้ ม้ ไปลงบนถนน และมรี ถบรรทกุ ตามมาจงึ โดนรถชนในชว่ งเวลาทเี่ ดก็ ไปโรงเรยี น ขอ้ สงสยั คอื
รถบรรทุกดังกล่าวขับเข้ามาได้อย่างไรในช่วงเวลาท่ีเด็กนักเรียนไปโรงเรียน หรือวิ่งเข้ามาในแหล่ง
ชมุ ชนไดอ้ ยา่ งไร
จากกรณดี ังกล่าวพนักงานสอบสวนเป็นผทู้ ่ีหาสาเหตุของการเกดิ อุบัติเหตุ ซ่ึงทางออกทเ่ี ราจะ
ทราบสาเหตมุ หี ลายทาง ทั้งกายภาพ และการศึกษา กล่าวโดยสรุป เรอื่ งอุบตั เิ หตมุ ีปัจจัยท่ีเกิดมาก
กกว่าความประมาท มกี รณรี ถ การเชอ่ื มทาง ถนน ดา้ นกายภาพ และอีกปัจจัยมากมาย ถา้ พนักงาน
สอบสวนสามารถชใี้ หเ้ หน็ เงอื่ นงำ� ในการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ และสามารถสง่ ตอ่ ขอ้ มลู ใหห้ นว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง
รบั ทราบปญั หาจราจรหรอื อบุ ตั เิ หตดุ งั กลา่ ว หรอื สามารถถา่ ยทอดขอ้ มลู ใหก้ บั หนว่ ยงานทไี่ มส่ ามารถ
เขา้ ถงึ ขอ้ มูลนีไ้ ด้ กจ็ ะเป็นการลดปญั หาการเกดิ อุบัติเหตุซำ้� ซ้อนไดเ้ ช่นกนั


อบุ ตั เิ หตทุ างถนนเปน็ สงิ่ ปอ้ งกนั ได้ คนไทยบางสว่ นมองวา่ อบุ ตั เิ หตทุ างถนนเปน็
เรอ่ื งของเคราะหก์ รรม ทท่ี ำ� ใหบ้ าดเจบ็ หรอื เสยี ชวี ติ จงึ อาจสง่ ผลใหก้ ารแกไ้ ขปญั หา
น้ไี มม่ ีประสิทธภิ าพเทา่ ท่ีควร
บางกรณีอาจสงั เกตได้จากการสะท้อนของสือ่ สารมวลชน เวลามผี บู้ าดเจบ็ หรือ
เสียชวี ติ ก็มักจะประโคมข่าวในท�ำนองว่า มหี มอดทู ัก มีลางสงั หรณว์ ่าจะเสียชีวิต
กอ่ นเดินทาง ส่วนคนทร่ี อดก็รายงานวา่ แขวนพระเครอื่ งดี ซึง่ การรายงานดงั กลา่ ว
กลับไมไ่ ดใ้ หค้ วามรแู้ ละความตระหนกั ในการปอ้ งกันอุบตั เิ หตุทางถนนเลย

16 คูม่ อื การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน

การวิเคราะห์สาเหตุ บทท่ี 2

การเกิดอบุ ตั ิเหตุทางถนน

หลกั การสืบคน้ สาเหตุและการฟน้ื ฟสู ภาพการเกดิ อบุ ตั ิเหตตุ ามทฤษฎี Haddon Matrix ของ
William Haddon, Jr. กล่าวว่า “ไมม่ ีระบบใดทีอ่ อกแบบมาไดส้ มบรู ณ์แบบส�ำหรบั มนุษย”์ และ
“ผู้คนมักจะท�ำผดิ พลาดไดเ้ สมอ” ซง่ึ ทฤษฎี Haddon Matrix ประกอบด้วยหลักในการพิจารณา
2 ส่วนสำ� คัญคือ
1) หลกั การ 3 ปัจจยั ของการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ คือ คน รถ และ ถนน
2) หลักการ 3 ช่วงเวลา คือ ก่อนการชน ระหวา่ งการชน และหลงั การชน
กล่าวโดยสรปุ ว่าอุบตั ิเหตุทางถนนเกดิ จาก 3 ปจั จัย คอื คน รถ ถนนและส่งิ แวดล้อม ในการ
วิเคราะห์หาสาเหตุของการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ตอ้ งพิจารณาช่วงเวลาในการเกดิ เหตุ คือ กอ่ นชน ขณะชน
และหลงั ชน เป็นองคป์ ระกอบอย่เู สมอ

Haddon Matrix ตารางพฤติกรรมการเกิดเหตุ

ความเข้าใจเบือ้ งตน้ เกี่ยวกบั หลกั ฐานในที่เกิดเหตุ
การสืบค้นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานจากบุคคลหรือส่ิงของหรือ
สภาพแวดลอ้ มทเี่ กยี่ วขอ้ ง ซงึ่ การสบื สวนในตา่ งประเทศจะมกี ารเรยี นหลกั สตู รการสบื สวน สอบสวน

คู่มอื การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตทุ างถนน 17

บทที่ 2 การวิเคราะหส์ าเหตุการเกดิ อุบตั เิ หตุทางถนน

โดยในสหรัฐอเมริกาจะมีหน่วยงานกลางในการรวบรวมข้อมูล ซึ่งในการลงพ้ืนท่ีรวบรวมข้อมูล
อบุ ตั เิ หตุ ใชเ้ จา้ หนา้ ท่ี 3 คนในการลงพน้ื ที่ เจา้ หนา้ ทค่ี นแรกทำ� หนา้ ทสี่ อบถามบคุ คลผเู้ กย่ี วขอ้ ง สว่ น
เจ้าหนา้ ทที่ ี่เหลือท�ำหนา้ ทีต่ รวจสอบรถ ถนนและส่ิงแวดล้อม

ประเภทขอ้ มูลและเจา้ หน้าที่เก็บข้อมลู
อปุ กรณเ์ พ่ือความปลอดภยั มีการปิดกนั ช่องในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล และแบบฟอรม์ ในการ
เกบ็ ขอ้ มลู และอปุ กรณใ์ นการวดั พน้ื ทเ่ี กดิ เหตุ เชน่ การหาพนื้ ผวิ ความเสยี ดทาน การหาปา้ ยหมายเลข
การถา่ ยรูป ถ่ายวีดโี อ แล้วจึงนำ� ผลไปจำ� ลองเหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขึน้ ทงั้ น้ี อาจระบุอุปกรณ์ที่จ�ำเป็นใน
การเตรียมตวั สำ� หรบั การสืบค้นหาสาเหตกุ ารเกิดอบุ ตั เิ หตุได้ดงั น้ี
1. อุปกรณ์เพอ่ื ความปลอดภยั
- ชดุ ปฐมพยาบาล - กรวยจราจร
- เสอื้ สะทอ้ นแสง - กระบองไฟฟา้

ตัวอย่างการใชอ้ ุปกรณเ์ พอ่ื ความปลอดภยั
18 คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตทุ างถนน

บทที่ 2 การวิเคราะหส์ าเหตุการเกดิ อบุ ตั ิเหตุทางถนน

2. แบบฟอรม์ ในการเกบ็ ข้อมูล
- ข้อมลู ทัว่ ไป - คน
- รถ - ถนนและส่งิ แวดล้อม

ตัวอย่างแบบฟอรม์ การเก็บข้อมลู 19
3. อุปกรณ์ในการวดั แบง่ เปน็ 2 ประเภท คอื
3.1 อุปกรณเ์ พ่ือการวัด ประกอบดว้ ย
- เทปวัด
- ตลบั เมตร
- ล้อวดั ระยะ
- เครอ่ื งวดั ระยะ
- อุปกรณว์ ัดระดับ
- อุปกรณว์ ดั ลมยาง
- อปุ กรณว์ ัดความเสียดทานพ้ืนผิวถนน
3.2 อุปกรณเ์ พอื่ การกาํ หนดตําแหน่ง ประกอบดว้ ย
- สีสเปรย์
- ชอล์ก
- ป้ายหมายเลข

คมู่ อื การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตทุ างถนน

บทท่ี 2 การวเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ อบุ ัติเหตุทางถนน

ตัวอยา่ งการใช้อปุ กรณ์กําหนดตาํ แหนง่
4. อุปกรณ์ในการบนั ทึก
- กล้องถา่ ยรูป
- กล้องวีดโี อ
- เครือ่ งบนั ทึกเสยี ง
- GPS
ข้นั ตอนในการเก็บข้อมูลอบุ ตั เิ หตเุ ชิงลกึ
(1) ขอ้ มลู จาํ เพาะของอบุ ตั เิ หต:ุ วนั เวลา ทเ่ี กดิ เหตุ ลาํ ดบั เหตกุ ารณ์ และความเสยี หาย เปน็ ตน้
(2) รถ: ประเภทของรถ ยหี่ อ้ รนุ่ ปผี ลติ การควบคมุ รถ การควบคมุ รถเพอ่ื หลกี เลยี่ งอบุ ตั เิ หตุ
วตั ถทุ ช่ี น สว่ นทโ่ี ดนชน สว่ นทไ่ี ดร้ บั ความเสยี หาย ชนดิ และความยาวของรอยเบรคทเี่ กดิ
จากลอ้ รถ เป็นต้น
(3) ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุ: เพศ อายุ การบาดเจ็บ ตําแหน่งที่นง่ั การใช้อปุ กรณน์ ิรภัย การใชส้ าร
เสพตดิ หรอื แอลกอฮอล์ เป็นต้น
(4) ถนนและสงิ แวดลอ้ ม: ถนนทเี่ กดิ เหตุ การจราจร ประเภทของผวิ จราจร จาํ นวนชอ่ งจราจร
ความกวา้ งชอ่ งจราจร ความกวา้ งไหลท่ าง สภาพอากาศ อปุ สรรคในการมองเหน็ เปน็ ตน้

20 คู่มอื การสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน

บทที่ 2 การวิเคราะหส์ าเหตุการเกดิ อบุ ัติเหตุทางถนน

ส่ิงแรกทต่ี ้องคาํ นึงถงึ เม่อื อยใู่ นทเ่ี กดิ เหตุ
ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เก็บขอ้ มูล
1. การสวมเสื้อสะทอ้ นแสง
2. การเลอื กพ้นื ท่จี อดรถท่ีมคี วามปลอดภยั
3. การกนั พ้ืนท่ีบริเวณที่จะทำ� การเกบ็ ขอ้ มลู
ความเข้าใจเบอื้ งตน้ เกี่ยวกับหลกั ฐานในท่ีเกิดเหตุ
1. สถานทีเ่ กิดเหตุ - เม่อื ไปถงึ ทเี่ กิดเหตุ ข้อมลู ทีจ่ ะต้องท�ำการเกบ็ ทนั ที คอื
• Reference Point เปน็ ตำ� แหนง่ สำ� หรับอา้ งอิงเพอื่ จดุ อน่ื ๆ
• Point of Impact (POI) เปน็ ต�ำแหน่งทเ่ี กดิ การชน
• Point of Rest (POR) เป็นต�ำแหนง่ สุดท้ายของรถแตล่ ะคนั
• Debris and Mark คือ รอยหรอื หลักฐานบนพื้นทปี่ รากฎในที่เกิดเหตุ
ข้อมลู ท้ังหมดเหลา่ นีจ้ ะถูกร่างลงในแผนภาพแสดงที่เกดิ เหตุ (Accident Scene Drawing)

หัวใจส�ำคัญประการหน่ึงในการสบื ค้นสาเหตแุ ละการฟืน้ ฟู สภาพการเกดิ อบุ ัติเหตุ คือ “การ
คำ� นวณความเรว็ ของรถทเี่ กดิ เหตุ โดยอาศยั หลกั การทางฟสิ กิ ส”์ จงึ จำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งทราบตำ� แหนง่
และทศิ ทาง การเคลอ่ื นท่ีของรถในชว่ งเวลาต่างๆ ต้ังแตก่ ่อนการชน จนถึงต�ำแหน่งสุดทา้ ยทร่ี ถหยดุ
เพ่อื การคำ� นวณที่ถูกต้อง

คมู่ อื การสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน 21

บทท่ี 2 การวเิ คราะห์สาเหตุการเกดิ อุบัตเิ หตุทางถนน

ตวั อย่างการก�ำหนดตำ� แหน่งทเ่ี กดิ การชนแบบ POI

ตัวอยา่ งการกําหนดตาํ แหน่งสุดท้ายของรถ POR ในกรณีท่รี ถยงั อยูใ่ นทเี่ กดิ เหตุ
รอยล้อกบั การเกบ็ ข้อมูลอบุ ตั เิ หตุ
รอยลอ้ (Tire marks) เกิดจากการเสียดทานระหว่าง
ลอ้ รถและพ้ืนถนน แบง่ เป็น 2 แบบ คอื Skid Mark และ
Yaw Mark มรี ายละเอียดดังน้ี
22 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน

บทท่ี 2 การวเิ คราะหส์ าเหตุการเกดิ อุบัติเหตทุ างถนน

Skid Marks รอยท่ีเกดิ จากการเสียดทานระหวา่ งลอ้ กบั พ้นื ถนน โดยท่ลี อ้ ไมห่ มนุ ท้ังอาจจาก
การเบรคหรือการทล่ี ้อถูกลอ็ คเนอ่ื งจากการชน

Yaw Marks รอยทีเ่ กดิ จากการเสยี ดทานระหว่างลอ้ กับพืน้ ถนนโดยที่ลอ้ ไมห่ มุน ทั้งอาจจาก
การเบรคหรอื การทลี่ ้อถูกลอ็ คเนือ่ งจากการชน

ส่วนรถทมี่ ีระบบเบรค ABS นั้นจะดู 2 สว่ น คือ
1) ซากความเสียหายจากการชน คือ วัสดุอุปกรณ์ของรถหรือถนนท่ีกระจัดกระจายอยู่ในที่
เกิดเหตุ
2) ของเหลวจากเคร่อื งยนต์ ได้แก่ นำ�้ มนั เครอ่ื ง น้ำ� ยาหมอ้ นา้ํ น้ำ� กรดแบตเตอร่ี ฯลฯ ทเ่ี กดิ
จากความเสยี หายของเคร่ืองยนต์
ความสำ� คญั การเก็บข้อมูลดังกลา่ วจะช่วยบง่ บอกตำ� แหนง่ ทีเ่ กดิ การชน (ปะทะ) และ ช่วยใน
การบ่งบอกทศิ ทางการเคลอื่ นทข่ี องรถ โดยเฉพาะหลังจากการชน

คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน 23

บทท่ี 2 การวิเคราะหส์ าเหตกุ ารเกิดอุบัติเหตทุ างถนน

แผนภาพแสดงท่ีเกดิ เหตุ (Accident Scene Drawing)

2. ข้อมูลผ้ปู ระสบอบุ ัติเหตุ
ขอ้ มลู ทีต่ ้องการเพอ่ื วิเคราะห์กลไกทีท่ �ำให้เกดิ การบาดเจบ็ ไดแ้ ก่
ความเสยี หายของรถ
ส่วนของรถท่ีโดนกระแทกโดยผ้ปู ระสบอุบัตเิ หตุ
ลักษณะการบาดเจบ็
ทม่ี าของการบาดเจบ็
1. ตรวจสอบความเสียหายของรถ และประเมนิ ทศิ ทางของการชน ของอุบัตเิ หตนุ ้ันๆ

2. พยายามจับคู่ส่ิงท่ีพบกบั การบาดเจ็บจรงิ ๆ จากขอ้ มลู ทางการแพทย์
3. ตรวจเชค็ หลกั ฐานภายในรถอกี คร้ังอย่างละเอยี ด เชน่ กระจกหน้า แผงคอนโซล หลงั คา
พ้ืนถนน ฯลฯ เพอ่ื ตรวจหารอยยบุ รอยบบุ เส้นผม รอยเลือด เศษเส้ือผ้า หรอื สง่ิ อน่ื ๆ ทบ่ี ่งบอกถึง
การกระทบกระท่ัง
24 คู่มอื การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน

บทท่ี 2 การวเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ อบุ ัตเิ หตทุ างถนน

4. สุดท้าย พยายามประเมิน ทิศทางการนั่งและการเคล่ือนท่ี (movement) ของผู้ประสบ
อบุ ัติเหตุท่สี ง่ ผลให้เกิดการบาดเจบ็ เหล่านนั้
ตัวอยา่ งกรณอี ุบตั เิ หตุ
รถเสยี หลักหลุดออกนอกเส้นทางชนต้นไม้ จังหวัดนครสวรรค์ บนทางหลวงหมายเลข 1 วันที่
เกิดเหตุ 28 กันยายน 2550 เวลาเกิดเหตุ 14:30 จำ� นวนผูป้ ระสบเหตุ เสียชีวิต 2 ราย
หลักฐานในท่ีเกดิ เหตุ
หลกั ฐานต่างๆ ในทเี่ กิดเหตุท่ีอาจจะเกยี่ วขอ้ งกบั การเกิดอุบตั เิ หตุ เช่น รอยเบรค รอยลอ้ รอยการ
เคลือ่ นทีข่ องรถ

หลกั ฐานในที่เกดิ เหตุจากแหลง่ อน่ื ๆ ขอ้ มลู จากเจ้าหนา้ ที่อย่ใู นวันทีเ่ กดิ เหตุ
(ตำ� แหนง่ สุดทา้ ยของรถ)

คมู่ ือการสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน 25

บทท่ี 2 การวเิ คราะหส์ าเหตุการเกดิ อบุ ตั เิ หตุทางถนน

หลักฐานในท่ีเกดิ เหตุ ได้แก่ ขอ้ มลู ทางดา้ นถนนและสภาพแวดลอ้ ม
26 คมู่ อื การสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตทุ างถนน

บทท่ี 2 การวเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกดิ อุบตั เิ หตุทางถนน

ขอ้ มลู รถยนต์ ประกอบดว้ ย ขนาด มิติ และสภาพความเสียหายหลังจากการชน
การวัดรอยยบุ ตวั
1. ความกวา้ งของรอยชน
2. ความลกึ ของรอยชน
3. ต�ำแหนง่ ของรอยชน

คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน 27

บทท่ี 2 การวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตทุ างถนน

ตรวจสอบสภาพภายในของรถและอุปกรณ์นิรภัยต่างๆ
ขอ้ มลู ผู้ประสบเหตุ
แหลง่ ขอ้ มลู ปู้ ระสบเหตไุ ดจ้ ากการสอบถามขอ้ มลู การบาดเจบ็ และสาเหตกุ ารเสยี ชวี ติ จากโรง
พยาบาล มลู นธิ ิกภู้ ยั เจ้าหนา้ ทต่ี ำ� รวจ
การบาดเจ็บและสาเหตุการบาดเจ็บ
กรณีกะโหลกศรี ษะเปิด แตก และยุบบางส่วน

28 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตุทางถนน

บทท่ี 2 การวเิ คราะห์สาเหตุการเกดิ อบุ ัติเหตทุ างถนน

กรณอี กข้างขวากดยบุ และมลี มใตผ้ ิวหนงั สนั นษิ ฐานเสยี ชีวติ จากภาวะปอดทะลุ

3. รวบรวม วเิ คราะห์ และสรุป
• ตรวจเชค็ ความถกู ตอ้ งและครบถ้วนของข้อมลู
• ประชุมแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ภายในทมี
• วเิ คราะหห์ าองค์ประกอบของการเกิดอบุ ตั ิเหตุ
• ฟ้ืนฟูสภาพการเกิดอุบัติเหตุ (Accident Reconstruction)
• จดั ท�ำรายงานสรปุ องคป์ ระกอบของการเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นครั้งนี้

ความสําคญั ของการถ่ายภาพอุบัตเิ หตุ

เรื่องราวจากภาพถ่าย
การเกบ็ ขอ้ มลู ในทเ่ี กดิ เหตบุ างครงั้ อาจมขี อ้ มลู บางอยา่ งตกหลน่ ป ภาพถา่ ยจากสถานทเี่ กดิ เหตุ
และรถทเ่ี กดิ อบุ ตั เิ หตมุ สี ว่ นสำ� คญั ในการศกึ ษารปู แบบการชน หรอื การฟน้ื ฟสู ภาพการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ
การถา่ ยภาพสามารถแสดงใหเ้ หน็ ถอึ งคป์ ระกอบตา่ งๆ เพอื่ ตอ่ เรอ่ื งราวและเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ มสี ว่ น
ชว่ ยให้การวเิ คราะห์มคี วามแม่นย�ำ เพราะองคป์ ระกอบต่างๆ ไดถ้ ูกบัยทึกไวห้ มดแลว้
การถ่ายภาพรถท่ีเกิดเหตุ - ใช้หลักการถ่ายภาพตามเข็มนาฬิกาให้ครอบคลุม 12 ภาพเป็น
อยา่ งนอ้ ย

คูม่ ือการสอบสวนคดีอุบตั เิ หตทุ างถนน 29

บทท่ี 2 การวิเคราะหส์ าเหตุการเกดิ อุบตั ิเหตุทางถนน

การฟืน้ ฟูสภาพการเกดิ อบุ ัติเหตุ Accident Reconstruction

การตรวจสอบสภาพความเสียหายของรถ เป็นการประเมินความเร็วจากสภาพความเสียหาย
ของรถ การตรวจสอบและวัดรอยเบรคของรถ รวมถงึ การประมาณความเร็วจากรอยเบรคของรถ
การวัดรอยยุบตวั ของรถ
องคป์ ระกอบหลักในการวัดรอยยุบตวั ของรถ ประกอบด้วย 3 สว่ น คือ
1. ความกวา้ งของรอยชน
2. ความลกึ ของรอยชน
3. ต�ำแหน่งของรอยชน
ขอ้ มลู เบือ้ งตน้
ข้อมูลขนาดและมติ ิของรถในสภาพปกติ (สภาพกอ่ นชน)

30 คมู่ ือการสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน

บทท่ี 2 การวิเคราะหส์ าเหตุการเกิดอุบตั ิเหตุทางถนน

การประมาณขนาดและมิติของรถในสภาพปกติ ประกอบดว้ ย ประมาณจากระยะดา้ นสดุ ท้าย
ของรถ ประมาณจากระยะฐานลอ้ ของรถ และ การวัดการยบุ ตัวของรถ รายละเอยี ดดงั นี้
1) ประมาณจากระยะด้านสุดท้ายของรถ

2) ประมาณจากระยะฐานลอ้ ของรถ

3) การวดั การยุบตัวของรถ
การวัดการยงุ ตวั ของรถด้านข้าง

คมู่ อื การสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน 31

บทท่ี 2 การวเิ คราะหส์ าเหตุการเกิดอุบัตเิ หตทุ างถนน

การวัดการยุบตัวของรถด้านหน้าหรอื ดา้ นหลงั

วธิ กี ารวัดรอยยบุ ตวั ของรถ
ตวั อย่างการวัดรอยยบุ ตวั ของรถ

32 คมู่ ือการสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน

บทท่ี 2 การวิเคราะหส์ าเหตุการเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนน

Principle Direction of Force (ทิศทางในการชน)
PDOF คือ แนวของแรงท่ีกระท�ำกับรถท่ีเกิดอุบัติเหตุอาจได้แก่ รถคู่กรณี เสาไฟฟ้า ต้นไม้
เป็นตน้

การประมาณความเรว็ จากรอยยุบตัวของรถ
งาน คอื “ผลคณู ของแรงทก่ี ระทำ� และระยะทางทเี่ คลอื่ นที่ ทำ� ใหว้ ตั ถเุ คลอื่ นทไี่ ปดว้ ยงานนน้ั ๆ”
พลงั งาน มสี ูตรในการค�ำนวน ดงั นี้

คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน 33

บทที่ 2 การวเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ อุบัติเหตุทางถนน

การประมาณคา่ ความเรว็ จากรอยยบุ ของรถ



ตวั อย่างการประมาณความเร็วจากรอยยบุ ของรถ
กรณที ี่ 1 รถชนต้นไมข้ ้างทาง
การประมาณความเรว็ จากรอยเบรคของรถ

34 คูม่ อื การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน

บทท่ี 2 การวิเคราะห์สาเหตกุ ารเกิดอุบตั ิเหตทุ างถนน

กฎอนุรักษ์โมเมนตัม เม่ือนํากฎการอนุรักษ์โมเมนตัมมารวมกับกฎข้อที่สองและข้อท่ีสามของ
นวิ ตนั สมการอนรุ กั ษ์โมเมนตัมจะเท่ากับ
สมการโมเมนตมั : การชนด้านข้าง

คู่มือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน 35

บทที่ 2 การวิเคราะห์สาเหตุการเกดิ อุบตั เิ หตุทางถนน

Skid Marks: Speed Equations for Skidding

ตัวอย่างการวิเคราะห์ความเรว็
อบุ ัตเิ หตรุ ถชนสะพาน
วนั ท่ี 7 ธนั วาคม 2553
ทางหลวงหมายเลข 3061 จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา
- รถกระบะโตโยตา้ VIGO เสียหลกั ชนสะพาน
- เหตุเกดิ เม่อื เวลา 02:00 น.

36 คมู่ อื การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน

บทท่ี 2 การวิเคราะหส์ าเหตกุ ารเกิดอุบตั เิ หตทุ างถนน

- ผู้ประสบเหตุเสยี ชีวติ 1 ราย
แผนผังการเกดิ อุบตั ิเหตุ
- รอยล้อ 2.7 เมตร บริเวณไหลท่ างก่อนถงึ สะพาน
- ชิ้นส่วนหลงั คาของรถกระบะ
- ชิ้นส่วนของตัวรถกระบะท่ีไดร้ ับความเสียหาย

ประมาณขนาดและมติ ขิ องรถในสภาพปกติ

คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน 37

บทที่ 2 การวิเคราะห์สาเหตุการเกดิ อุบตั ิเหตุทางถนน

ตารางแสดงสถานการณจ์ ำ� ลองช่วงเวลาก่อนชน ขณะชน และหลังชน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ขอ้ มูลทจ่ี ะต้องทำ� การเกบ็ ทนั ที มดี งั ตอ่ ไปน้ี
1. Reference Point เปน็ ต�ำแหน่งส�ำหรบั อ้างอิงเพ่ือจุดอื่นๆ
2. Point of Impact (POI) เปน็ ตำ� แหนง่ ทเ่ี กดิ การชน
3. Point of Rest (POR) เปน็ ตำ� แหนง่ สดุ ทา้ ยของรถแต่ละคัน
4. Debris and Mark คอื รอยหรือหลักฐานบนพืน้ ทีป่ รากฏในทเี่ กิดเหตุ
ความสำ� คัญ การค�ำนวณโดยอาศยั หลกั ฟิสกิ ส์
ตวั อยา่ งการกำ� หนดตำ� แหนง่ ทเ่ี กดิ การชน POI วทิ ยากรนำ� เสนอภาพตำ� แหนง่ ทเี่ กดิ การชน ตาม
หลกั ฟสิ ิกส์ ใหพ้ จิ ารณาจากแหลง่ ท่เี กิดเหตุ เชน่ รอยเบรก
ตัวอยา่ ง POR การกำ� หนดตำ� แหนง่ สุดท้ายของรถ วิทยากรนำ� เสนอภาพต�ำแหนง่ ท่เี กดิ การชน
ตามหลกั ฟสิ กิ ส์ ใหพ้ จิ ารณาจากแหลง่ ทเ่ี กดิ เหตุ เชน่ ใหพ้ ยายามเคลยี รก์ ารจราจร รอ่ ยรอยรอยนำ�้ มนั
เครอ่ื ง น�ำกล่ัน
รอยล้อตามหลกั สบื สวนอบุ ัติเหตุเชงิ ลึก Skid Marks รอยล้อตรง Yaw Marks รอยลอ้ เป็นโคง้
วทิ ยากรเปดิ ภาพรอยลอ้ ของอบุ ตั เิ หตุ สนิ้ สดุ รอยลอ้ คอื จดุ สนิ้ สดุ ภาพรอยลอ้ ตอ้ งมกี ารจบั คกู่ นั วา่ ลอ้
ใดเป็นลอ้ ใด

38 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน

บทที่ 2 การวเิ คราะหส์ าเหตุการเกิดอุบัตเิ หตทุ างถนน

กจิ กรรมการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ท่ี 3

รถทมี่ ี ABS มรี อยลอ้ หรอื ไม่ วทิ ยากรเปดิ คลปิ การทดสอบ ระหวา่ งรถทม่ี ี ABS และรถทไี่ มม่ ี
ABS รถทีม่ ี ABS เม่ือเบรกในระยะ ลอ้ จะยงั ว่งิ ไดห้ รือไม่ ให้ผูเ้ ข้ารบั การอบรมอภิปราย

ข้อมูลผู้ประสบอุบัติเหตุน�ำมาวิเคราะห์ว่าบาดเจ็บอย่างไร การบาดเจ็บแต่ละแบบมาจากผู้
โดยสารเป็นอย่างไร นง่ั อยู่ ณ จดุ ใดของรถ
ท่มี าของการบาดเจ็บ
1. ตรวจสอบความเสยี หายของรถ และประเมนิ ทศิ ทางของการชนของอบุ ัติเหตุนนั้ ๆ
2. พยายามจบั คสู่ ง่ิ ทีพ่ บกับการบาดเจบ็ จรงิ ๆ จากข้อมูลทางการแพทย์
3. ตรวจเช็คหลักฐานภายในรถอีกคร้ังอย่างละเอียด เช่น กระจกหน้า แผงคอนโซล หลังคา
พื้นถนน ฯลฯ เพอื่ ตรวจหารอยยุบ รอยบุบ เสน้ ผม รอยเลือด เศษเส้อื ผ้าหรือส่ิงอนื่ ๆ ทบี่ ่งบอกถึง
การกระทบกระทั่ง
4. สุดท้าย พยายามประเมิน ทิศทางการนั่งและการเคลื่อนท่ี (movement) ของผู้ประสบ
อบุ ัตเิ หตทุ สี่ ง่ ผลใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ เหล่าน้นั

กจิ กรรมการแลกเปลี่ยนเรยี นรทู้ ี่ 4

วิทยากรเปิดคลิปจักรยานยนต์พุ่งชนรถยนต์ ซ่ึงวัยรุ่นผู้ขับข่ีไม่สวมหมวกนิรภัยและขับรถ
โดยประมาท สว่ นใหญอ่ ุบัตเิ หตรุ ถจกั รยานยนตจ์ ะเกิดบรเิ วณทางรว่ มทางแยก
วทิ ยากรเปดิ คลปิ การชนกนั ของรถจกั รยานยนตท์ ม่ี กี ารนำ� เดก็ นงั่ ซอ้ นทา้ ย เดก็ เจบ็ หนกั และ
กรณนี �ำเดก็ นัง่ ข้างหน้า เด็กเจ็บหน้าอก และเสยี ชีวิต ใหผ้ ู้เข้ารบั การอบรมอภปิ ราย

กจิ กรรมการแลกเปลย่ี นเรยี นรทู้ ี่ 5

วทิ ยากรเปดิ คลปิ กรณนี กั รอ้ งชอื่ ดงั ประสบอบุ ตั เิ หตเุ มอื่ ปี 2550 รถเสยี หลกั ชนขา้ งทาง เมอื่
ลงพน้ื ทต่ี รวจสอบหาหลกั ฐานประกอบการเกดิ เหตุ เมอ่ื เดนิ ไปเรอ่ื ยๆ พบเจออะไรตอ้ งสงสยั
ก็วางปา้ ยหมายเลขกำ� กับไว้ โดยเมอ่ื เดนิ เจอวา่ รถออกนอกเส้นทางไปชนตน้ ไม้ เบ้อื งต้นน่า
จะเกดิ จากการหลบั ใน ซง่ึ กรณดี งั กลา่ วรถผปู้ ระสบเหตชุ นกบั ตน้ ไมเ้ สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางเกนิ 10
ซม. ถือวา่ ตน้ ไมด้ งั กลา่ วเปน็ ส่ิงแวดลอ้ มทอี่ นั ตรายตอ่ รถ และระยะห่างของถนนและต้นไม้
ต�ำ่ กวา่ 2.5 เมตรจากถนน ใหผ้ ูเ้ ขา้ รบั การอบรมอภิปราย

ค่มู อื การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน 39

บทที่ 2 การวิเคราะห์สาเหตุการเกดิ อบุ ัติเหตทุ างถนน

ตวั อยา่ งการอภปิ ราย การตรวจสอบเขม็ ขดั นริ ภยั ถา้ มกี ารใชง้ านแลว้ ชนทางดา้ นหนา้ เซน็ เซอร์
ท�ำงานจะล็อค ถ้าพบเข็มขัดนิรภัยกองอยู่แสดงว่ามีการใช้งาน แต่ถ้าเข็มขัดนิรภัยล็อคอยู่ไม่ถูกดึง
ออกมาแสดงว่าไม่มีการใช้งาน ทั้งนี้ข้อมูลผู้ประสบเหตุ การบาดเจ็บและสาเหตุการบาดเจ็บ เม่ือ
รวบรวมข้อมูลตลอดการเดินทางแล้วพบว่า คุณกุ้งเดินทางจาก จ.สงขลา เวลาโดยประมาณ 22
นาฬกิ า มาถงึ จ.นครสวรรค์ เวลาโดยประมาณ 14 นาฬกิ าของอกี วนั เพ่ือเดนิ ทางไปแสดงดนตรีที่
จ.เชยี งใหม่ ในสถานทป่ี ระสบเหตรุ ถไม่มีรอยเบรก แต่เป็นการขบั ลงเอยี งข้างทางเจอตน้ ไม้ ซงึ่ คาด
การณเ์ บอ้ื งต้นผขู้ บั ข่อี าจหลับใน
ความสำ� คัญของการถา่ ยภาพอบุ ัติเหตุ เป็นการบอกเร่อื งราว ถา่ ยตามเข็มนาฬิกา ถา่ ยทั้งหมด
เป็นกรณๆี ไป เพ่ือนำ� มาท�ำการวิเคราะห์ และเพอ่ื การฟน้ื ฟูสภาพการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ มีความเสยี หาย
เท่าใด ประเมินความเรว็ จากสภาพความเสยี หายของรถ การตรวจสอบและวดั รอยเบรคของรถ การ
ประมาณความเร็วจากรอยเบรคของรถการวัดรอยยุบตัวของรถ วัดจุดท่ีเกิดการยุบตัวของรถเทียบ
กับขนาดรถปกติ การประมาณขนาดและมติ ขิ องรถในสภาพปกติ วดั จากเพลาหลงั วัดจากจุดทีร่ ถ
เสียรปู แลว้ นำ� ไปเทียบกับขนาดรถปกติ
ทศิ ทางในการชน PDOF แรงท่กี ระทำ� ผา่ น คือแนวของแรงท่กี ระทำ� กับรถท่ีเกดิ อบุ ัติเกตุ อาจ
ได้แก่ รถคู่กรณี ถา้ ชนแลว้ เอยี ง มมุ สามารถนำ� มาค�ำนวณหาความเรว็ ได้
การประมาณความเรว็ งานและพลงั งาน รถแต่ละรนุ่ จะมีค่าเฉพาะไมเ่ ทา่ กนั ค่าความแขง็ ของ
รถจะไม่เท่ากันมาจากการทดสอบของรถแต่ละรุ่น ค่าความแข็งจ�ำเพาะ พอได้ค่าน้ีมาค�ำนวณก็จะ
เจอว่ารถคนั นม้ี ีความเรว็ เทา่ ใด ซ่ึงคา่ จ�ำเพาะไม่เปน็ ขอ้ มูลทหี่ ายาก สามารถหาได้โดยท่วั ไป
การประมาณความเร็วจากรอยเบรคของรถ Momentum รอยล้อ และสัมประสิทธ์ิแรง
เสยี ดทาน ตัวอยา่ ง ค�ำนวณหาความเร็วของรถทเี่ กดิ เหตไุ ดอ้ ยา่ งไร
1. กอ่ นชน
2. ขณะชน
3. หลงั ชน

การแก้ไขและปรับปรงุ จุดเสีย่ ง/จดุ อนั ตราย

กอ่ นหนา้ นมี้ อี บุ ตั เิ หตุ ในตา่ งประเทศกแ็ กย้ าก แตท่ ท่ี ำ� ไดค้ อื ทำ� ถนนใหม้ คี วามปลอดภยั มากยง่ิ
ข้นึ และมีเทคโนโลยที ปี่ ลอดภัยมากย่งิ ขน้ึ น�ำเอาข้อมลู มาวิเคราะหเ์ พ่อื ลดอบุ ตั ิเหตุ ทางถนน และ
มมี าตรการทางด้านความปลอดภัยทางถนน

40 คูม่ อื การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน

บทที่ 2 การวเิ คราะหส์ าเหตุการเกดิ อบุ ตั เิ หตุทางถนน

จดุ เสย่ี ง/ จดุ อนั ตรายบนถนนทางวิศวกรรมจราจร ได้แก่ จดุ หรือบริเวณถนนทีม่ อี บุ ัตเิ หตเุ กิด
ขน้ึ อย่างน้อย 3 ครั้งในรอบปี อาจเปน็ ได้ทงั้ ทางแยก ทางตรง ทางโคง้ หรือจุดกลับรถ
การแก้ไขจุดเส่ยี ง ให้วิเคราะห์รายละเอียด เน้นเชงิ รับ เพอื่ หามาตรการป้องกัน
จดุ เส่ียงอนั ตราย
การท่ีจะกำ� หนดบรเิ วณหรอื สถานท่ใี ดๆ เป็น จุดเสี่ยงอันตราย (Black Spot) นนั้ โดยทั่วไปจะ
อาศัยสถิติการเกิดอุบัติเหตุเป็นดัชนีในการก�ำหนด เช่น ประเทศออสเตรเลีย ได้ก�ำหนดเกณฑ์ให้
บริเวณท่ีมอี บุ ตั ิเหตุซ่ึงมีผูไ้ ดร้ บั บาดเจบ็ หรือเสยี ชวี ติ (Casualty Crashes) 3 ครง้ั ใน 1 ปใี ดๆ ภายใน
ช่วงเวลา 3 - 5 ปี
การปรบั ปรุงจุดเส่ยี งอนั ตรายบนถนน
คือ การปรับปรุงหรือแก้ไขด้วยวิธีทางด้านวิศวกรรมจราจร เช่น การใช้ดัชนีความอันตราย
(Hazardous Index) จากความสมั พันธ์ ระหวา่ งจำ� นวนครงั้ ของอุบตั เิ หตุและโอกาสรอดชีวิตของผู้
ประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น
ตวั อยา่ ง ประเทศออสเตรเลยี มกี ารทำ� ตามแผนในการลดจำ� นวนผเู้ สยี ชวี ติ เชน่ การทำ� ถนนให้
ปลอดภยั การน�ำเทคโนโลยมี าปรับใช้ และการปรับเปลย่ี นพฤติกรรมของคน
ข้นั ตอนการแกไ้ ขและปรับปรุงจดุ เสย่ี งอนั ตราย
1. ตั้งเปา้ หมายในการทำ� งาน
- ควรมีการตงั้ เปา้ หมายในการลดจ�ำนวนอบุ ตั ิเหตุ ผเู้ สยี ชวี ติ และผู้บาดเจ็บ
- เปา้ หมายทตี่ ้งั ไว้มีความเป็นไปได้
- เริม่ จากความเขา้ ใจในสถานการณข์ องอุบัตเิ หตุ โดยอาศัยฐานข้อมลู อบุ ัตเิ หตุ

คูม่ ือการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน 41

บทที่ 2 การวเิ คราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตทุ างถนน

- พอพูดถึงตัวเลขชัดๆ ควรมีการต้ังเป้าหมายที่เป็นไปได้ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา
10/100000 คน ทำ� อย่างไรกไ็ ดใ้ ห้ลดจุดเสี่ยง เพอ่ื ให้ลดจำ� นวนผูเ้ สียชวี ติ ได้
2. การกำ� หนดจุดเสยี่ งอนั ตราย
เชน่ หากในพืน้ ทมี่ จี ุดเสีย่ งอนั ตราย 10 จุด ตอ้ งพิจารณาถงึ ข้อมลู ไดแ้ ก่
- ข้อก�ำหนดหรือเกณฑ์ในการก�ำหนดจุดเส่ียง เช่น การน�ำจ�ำนวนท่ีเกิดอุบัติเหตุบ่อย
มาเรยี ง จดั ลำ� ดบั ความเสยี่ งวา่ แยกใด จดุ ใดมจี ำ� นวนผเู้ สยี ชวี ติ บอ่ ย หรอื มอี บุ ตั เิ หตเุ ปน็
จ�ำนวนมาก หรือรถยิ่งเยอะย่ิงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุบ่อยคร้ัง ฉะนั้นจะท�ำอย่างไรให้มี
มาตรฐานทเ่ี ท่าเทยี มกนั
- เอาปรมิ าณการจราจรมากำ� หนดจดุ เสย่ี งดว้ ย เชน่ การนบั จำ� นวนรถทใ่ี ชง้ านในจดุ เสยี่ ง
น้ัน ๆ เทียบกับจ�ำนวนอุบัติเหตุท่ีเกิดขึ้น เพ่ือจะได้วิเคราะห์ข้อมูลและก�ำหนดเป็น
จดุ เสีย่ งตอ่ ไป
3. การวเิ คราะหจ์ ุดเสยี่ งอนั ตราย
- นำ� ขอ้ มูลท่ีไดม้ าวิเคราะหโ์ ดยละเอียดเพอ่ื ตรวจสอบวา่ ถนนมคี วามผิดปกติหรอื ไม่ เช่น
ประเทศองั กฤษมกี ารจดั รปู แบบใหเ้ ขา้ ใจงา่ ยในทกุ กรณศี กึ ษา ในรปู แบบเดยี วกนั ขอ้ มลู
1 ปี จะได้ข้อมลู สรุปออกมาเปน็ จ�ำนวนเปอร์เซน็ ตว์ ่าเกดิ ขนึ้ กับใคร รถประเภทใด
ตวั อยา่ งอกี อนั คอื นำ� กรณศี กึ ษาตา่ งๆ มาเปน็ ขอ้ มลู ในการกำ� หนดจดุ เสยี่ งนนั้ แลว้
วิเคราะห์หาสาเหตุว่ามาจากสิ่งแวดล้อม คน หรือสาเหตุอ่นื ใด
ขอ้ มูลอบุ ตั เิ หตุ ณ บริเวณจดุ เส่ยี ง
• รวบรวมข้อมูลอุบัตเิ หตุ ณ จดุ เสี่ยงในช่วงเวลาอย่างนอ้ ย 3 ปี
• วิเคราะห์หาสาเหตกุ ารชนจากขอ้ มูลการชน ณ บรเิ วณจดุ เส่ียงอนั ตราย
• จดั ทำ� แผนผังการชน (Collision Diagram)
มีการใช้สัญลกั ษณ์ Collision Diagram เพ่อื จำ� แนกระดับความรุนแรงในการชน ข้ึนอยู่กับรูป
แบบของการชน เชน่ มกี ารเสียหลกั หมนุ ด้วยหรือไม่ ซึ่งพอเราจำ� แนกสาเหตุ ตัวอยา่ งสาเหตกุ ารชน
รปู แบบต่างๆ บางครงั้ จะมกี ารชนในรูปแบบทแี่ ตกต่างกัน

42 คูม่ อื การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน

บทที่ 2 การวิเคราะหส์ าเหตกุ ารเกิดอุบตั เิ หตทุ างถนน

ตวั อย่าง Collision Diagram

สญั ลกั ษณ์ที่ใช้ใน Collision diagram 43
การชนท้ายทบ่ี ริเวณทางแยกท่ีไม่มีสัญญาณไฟจราจร
• คนขบั รถไมท่ นั สังเกตเหน็ ทางแยก
• ผวิ ถนนล่นื
• มีปรมิ าณรถเล้ยี วมาก
• แสงสวา่ งไมเ่ พียงพอ
• รถวิ่งเข้าทางแยกด้วยความเร็วสูง
• การเวน้ ระยะหา่ งระหว่างรถไม่เพียงพอ

คู่มอื การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน

บทที่ 2 การวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอบุ ตั เิ หตทุ างถนน

ข้นั ตอนการวเิ คราะหจ์ ดุ เสีย่ ง/จดุ อันตราย

4. การแก้ไขและการปรับปรงุ จดุ เส่ียง/จุดอันตราย
o พิจารณาวิธีการแกไ้ ขปญั หาทร่ี อบด้าน
o เลือกวิธกี ารแกไ้ ขปัญหาทมี่ ีความคุม้ คา่ มากทส่ี ุด
o จดั ล�ำดับความส�ำคัญของวธิ ีการทใี่ ช้ในการแก้ปญั หา
5. การตดิ ตามและประเมนิ ผล
ควรมีการติดตามและประเมินผลถึงวิธีที่ใช้ในการแก้ไขและปรับปรุงจุดเสี่ยงว่าได้ผลท่ีดีมี
ประสทิ ธิภาพ
ตวั อย่าง การฝกึ ปฏิบัติ การวเิ คราะหอ์ ุบตั เิ หตุ โดยนำ� ข้นั ตอนตา่ งๆ ทบ่ี รรยายมาทั้งหมด
มาวเิ คราะห์ มแี บบฟอรม์ ศกึ ษารายละเอยี ดอบุ ตั เิ หตุ สาเหตใุ ดไดบ้ า้ งทจ่ี ะเกดิ อบุ ตั เิ หตุ เชน่ ผวิ ถนน
ลืน่ แสงสว่างไมเ่ พียงพอ มสี งิ่ บดบังหรอื กีดขวางบนถนน
วิทยากร น�ำเสนอภาพตามแยกต่างๆ ที่มีจุดเส่ียง จุดบดบังต่างๆ อาจต้องมีมาตรการ
แนวทางแก้ไข เพื่อน�ำมาระบุปญั หา ทางดา้ นความปลอดภยั
Work shop
วทิ ยากรสมมตปิ ัญหามา 10 สถานการณ์ มรี ปู แบบการชนให้ ใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรมทุกท่าน
น�ำรูปแบบการชนลงไปในทางแยกทใ่ี ห้มา เชน่ กรณีรถเก๋งชนกนั
นำ� ขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าวเิ คราะห์ เชน่ แตล่ ะเดอื นทเี่ กดิ เหตุ ชว่ งเวลาเกดิ เหตุ ทดลองจำ� แนกขอ้ มลู
ตามวนั เวลา ซงึ่ มตี วั แปรปรากฏอยแู่ ลว้ วเิ คราะหก์ รณสี ภาพพน้ื ผวิ ถนนวา่ เปน็ อยา่ งไร มรี ปู แบบการ
ชนอย่างไร
44 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน

บทที่ 2 การวเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกิดอบุ ัตเิ หตทุ างถนน

นำ� กรณตี วั อยา่ งตา่ งๆ ตามโจทย์ มาวเิ คราะหแ์ ละจำ� แนกแลว้ สรปุ วา่ เหตสุ ว่ นใหญเ่ กดิ ขน้ึ แบบใด
วิทยากรเฉลย Work Shop โดยน�ำโจทยท์ ีใ่ ห้ผ้เู ขา้ รับการอบรมมาน�ำวเิ คราะหแ์ ละใสล่ งในแยกท่ี
ใหม้ า เมอื่ นำ� มาใสแ่ ลว้ ดคู วามถขี่ องเหตทุ เ่ี กดิ ขน้ึ เปน็ สมมตุ ฐิ าน เพอื่ ใหเ้ หน็ ภาพ และจำ� แนกตามวนั
เชน่ เหตเุ กดิ ในวนั เสารเ์ ยอะ ดชู ่วงเวลา มีการเกิดเหตุในตอนกลางคืน ชนรนุ แรง เสยี ชวี ติ ชว่ งมดื
พนื้ ผวิ ถนนอาจลนื่ รปู แบบการชนเปน็ อยา่ งไร สรปุ วา่ รถคนั เดยี วชนสงิ่ ของในเวลากลางคนื อาจเกดิ
จากแสงสวา่ งไม่เพยี งพอ ค่อยๆ สรปุ หาสาเหตุว่าเกดิ จากอะไร

ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารวเิ คราะหส์ าเหตุอุบัติเหตุทางถนนจากกรณีศกึ ษา

การรับรู้เหตกุ ารณอ์ บุ ตั เิ หตุนัน้ นอกจากมีผแู้ จ้งเหตแุ ล้ว ยังสามารถทราบเหตกุ ารณอ์ ุบตั ิเหตุ
ไดจ้ ากสอ่ื มวลชน โดยสาเหตมุ กั เกดิ จากการประมาทของบคุ คลเสมอ เชน่ บางครง้ั เราขบั รถผา่ นแยก
แตอ่ าจไมร่ ู้ตัวว่าผา่ นแยกน้ันมาไดอ้ ย่างไร แสดงว่าไมม่ สี มาธิในการขบั รถบนทอ้ งถนน หลายๆ ครง้ั
ทหี่ าข้อมลู เชงิ ลกึ แลว้ พบว่าขอ้ มูลอาจไม่ไดต้ รงกบั ทส่ี ือ่ รายงานกเ็ ปน็ ได้

กรณีศึกษาที่ 12R 25550206 077: รถบสั นักทอ่ งเทย่ี วชนรถตู้รับสง่ นักเรียนแล้วเสยี หลักชนรถ
SUV และรถจกั รยานยนต์ บนทางหลวงหมายเลข 107 กโิ ลเมตรท่ี 18+300 อ.แมร่ มิ จ.เชยี งใหม่
มีผเู้ สียชวี ิต 1 ราย และบาดเจ็บ 11 ราย สถานท่ีเกิดเหตหุ า่ งจากบริเวณตัวเมอื งเชียงใหม่ ไมถ่ ึง 1
กิโลเมตร เน่อื งจากเปน็ ถนนบรเิ วณทางโคง้ (มีการกลา่ วกันวา่ เปน็ โคง้ 100 ศพ)

คูม่ อื การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน 45

บทท่ี 2 การวเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกดิ อุบตั ิเหตุทางถนน

ผังบรเิ วณแสดงต�ำแหน่งสุดทา้ ยของรถตู้ (POR.1) หลงั การชนกบั รถบัสท่องเท่ยี ว ตำ� แหนง่ ที่
รถบสั ทอ่ งเทย่ี วชนกบั รถตู้ (POI.1) หลังชนกบั รถตู้ รถบัสท่องเทีย่ วเสยี หลัก ข้ามเลนมาชนรถคันที่
3 คอื รถ SUV ที่ตำ� แหน่ง POI.2 แลว้ เขา้ มาชนกบั ร้วั บา้ นจนกระทั่งหยดุ อยู่ท่ตี �ำแหนง่ POR.2 ใน
ลกั ษณะขวางถนน POR.4 แสดงตำ� แหน่งรถจกั รยานยนตห์ ลังการชนด้านข้างคอ่ นไปทางทา้ ยรถบสั
ทอ่ งเท่ียว
รอ่ งรอยความเสียหายของรวั้ ปูน สังเกตแนวทางวง่ิ ของรถบัสท่เี สียหลัก (หลังการปะทะกับรถ
ตู้และรถ SUV) ขา้ มเสน้ ศนู ยก์ ลางกลางไปยงั ฝง่ั ตรงข้าม
การคาดการณ์ความเรว็ รถบัส ถ้าสมมติให้สมั ประสทิ ธ์แิ รงเสียดทานระหวา่ งลอ้ รถยนตก์ ับผิว
แอสฟลั ต์แห้ง = 0.50 และระหวา่ งตวั รถจักรยานยนต์กับผิวแอสฟลั ต์ = 0.6 และปรากฏรอยเบรก
ของรถบสั ทอ่ งเทย่ี วกอ่ นชนยาวประมาณ 6 เมตร หลงั การชนรถบสั เบรกบางสว่ น จนกระทง่ั หยดุ นงิ่
หลงั การชนกบั กำ� แพงรัว้ บ้าน จะประมาณความเรว็ รถบสั เมื่อจะชนรถตู้ (V2) เทา่ กบั 79 กิโลเมตร
ตอ่ ช่ัวโมง และประมาณความเร็วรถบัสเม่อื เห็นรถตู้ (V1) เทา่ กับ 107 กิโลเมตรต่อช่วั โมง
ข้อมูลทางเทคนิคและส่งิ ทีไ่ ดจ้ ากตวั รถ และขอ้ มลู ผขู้ บั รถคันท่ี 1
- รถตโู้ ดยสาร 14 ทนี่ งั่ เครอื่ งยนตด์ เี ซล 2,500 ซซี ี กำ� ลงั สงู สดุ 102 กำ� ลงั มา้ , 4 สบู , 2 เพลา,
4 ลอ้ ยาง 4 เสน้ , น�ำ้ หนักรถโดยประมาณ 1,600 กิโลกรัม
- ขนาดรถยนต์ กว้าง 1,695 มลิ ลิเมตร ยาว 4,695 มลิ ลเิ มตร สงู 1,980 มิลลิเมตร ชว่ งหา่ ง
ฐานล้อหน้ากวา้ ง 1,470 มิลลิเมตร ชว่ งห่างฐานล้อหลงั กว้าง 1,465 มลิ ลิเมตร ความยาว
ช่วงล้อ 2,570 มิลลิเมตร
- ขับเคล่ือน 2 ลอ้
- ระบบเกียร์ธรรมดา (Manual) 5 เกียรเ์ ดนิ หน้า และ 1 เกยี ร์ถอยหลงั
- เบรกหนา้ เปน็ ดิสก์เบรก เบรกหลงั เปน็ ดรมั เบรก
- ใชย้ างขนาด 195 R14C สภาพพอใช้ ดอกยางสภาพดี
- ตัวรถอยู่ในสภาพเก่า มเี ขม็ ขัดนิรภัยแบบ 3 จดุ x 2 ต�ำแหน่ง
- ยางชนดิ เดียวกนั ทง้ั 4 เส้น มีขนาด และสภาพ
ขอ้ มลู ผู้ขบั รถคันท่ี 1
- เพศชาย อายุ 49 ปี
- มีประสบการณ์ขบั รถมานาน 30 ปี โดยทำ� การขับรถทกุ วนั
- กอ่ นหนา้ นนั้ เคยขบั รถสองแถวและรบั จา้ งบรรทกุ ของประมาณ 30 ปี และมใี บขบั ขป่ี ระเภท
ทัว่ ไป (ตลอดชีพ)
- ผ้ขู ับขี่ปฏเิ สธการมีโรคประจำ� ตัว เชน่ ลมชัก เบาหวานและโรคหัวใจ

46 ค่มู ือการสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน

บทที่ 2 การวเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกดิ อุบัตเิ หตทุ างถนน

- สายตายาว
- ดม่ื แอลกอฮอลเ์ ป็นบางคร้งั เม่อื มีงานเลีย้ ง
ข้อมลู ทางเทคนคิ และส่ิงท่ีได้จากตัวรถ และขอ้ มูลผูข้ บั รถคนั ที่ 2
- รถบัสท่องเที่ยวชน้ั เดยี ว สีขาว คาดแถบสเี หลอื งและเขียว หมายเลขทะเบียน 30-XXXX
เชยี งใหม่ มาตรฐาน ม.1 (ข) จดทะเบยี นเมือ่ เดอื นกมุ ภาพันธ์ 2555
- ความยาวตัวรถ 11,800 มิลลเิ มตร ความกวา้ งตวั รถ 2,500 มิลลิเมตร ความกวา้ งฐานลอ้
6,250 มลิ ลิเมตร ระยะห่างระหว่างล้อ 2,000 มลิ ลิเมตร ความจุ 40 ทนี่ ัง่
- เคร่ืองยนต์ ดีเซล 6 สบู ขนาด 290 แรงมา้ น้ำ� หนักรถประมาณ 11,800 กิโลกรมั
- ขับเคลือ่ นล้อหลัง
- ระบบพวงมาลัยธรรมดา
- ระบบเกยี ร์ธรรมดา 5 เกยี รเ์ ดินหน้า พรอ้ ม 1 เกยี รถ์ อยหลัง
- มี 2 เพลา 6 ล้อ ยาง 6 เสน้ มขี นาดและเปน็ ยางย่หี อ้ เดียวกนั ท้ัง 4 เส้น

ขอ้ มลู ผขู้ ับรถคนั ที่ 2
- เพศชาย อายุ 44 ปี
- มีใบอนญุ าตขับขี่รถประเภทที่ 2 ไม่เคยมปี ระวตั ขิ บั รถเกิดอบุ ตั ิเหตุ
- ผขู้ บั ขป่ี ฏิเสธการมีโรคประจำ� ตวั เชน่ ลมชกั เบาหวานและโรคหัวใจ
- สายตายาว
- จะด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟและเคร่ืองดื่มชูก�ำลังเป็นประจ�ำ ไม่ใช้สารเสพติดหรือ
ใชย้ าประจำ�
- ขณะขับรถไม่ใชเ้ ข็มขดั นริ ภัย เนือ่ งจากรถรุ่นนไี้ ม่มเี ข็มขดั
- ปกติขณะขบั รถจะคุยกบั ผู้โดยสารท่ีน่ังมาในรถ
ข้อมลู ทางเทคนคิ และสิ่งทไ่ี ดจ้ ากตวั รถ และข้อมูลผขู้ บั รถคันท่ี 3
- รถเอนกประสงค์ สีเทาด�ำ ทะเบียนป้ายแดง เคร่ืองยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2,477 ซีซี
2 เพลา 4 ล้อ ยาง 4 เสน้ น้ำ� หนกั รถเปล่า 2,070 กิโลกรัม

คูม่ อื การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน 47

บทท่ี 2 การวเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ อุบตั ิเหตทุ างถนน

- ขนาดรถกว้าง 1,815 มลิ ลเิ มตร ยาว 4,695 มิลลเิ มตร ความสงู 1,840 มิลลิเมตร ความ
กวา้ งฐานล้อ 2,800 มลิ ลเิ มตร ระยะระหวา่ งลอ้ หน้า 1,520 เมตร ระยะระหว่างลอ้ หลัง
1,515 มลิ ลเิ มตร
- ระบบเกียรธ์ รรมดา 5 เกียร์เดนิ หน้า 1 เกียร์ถอยหลงั
- ระบบเบรก เบรกหนา้ เปน็ ดิสกเ์ บรก เบรกหลังเปน็ ดรัมเบรก
- ระบบช่วงล่างคู่หน้าแบบอิสระดับเบ้ิลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบ
ชว่ งลา่ งคหู่ ลังแบบทรลี ิงค์ทอร์คอาร์ม คอยลส์ ปรงิ พร้อมเหล็กกันโคลง
- ยางท้ัง 4 มียห่ี อ้ เดียวกัน ขนาดและสภาพยางของรถ SUV. ดังแสดงในตาราง

ขอ้ มลู ผู้ขบั รถคนั ท่ี 3
- เพศชาย อายุ 61 ปี
- ขบั รถมานาน 30 ปี ขับข่ีทุกวัน
- มใี บขบั ขป่ี ระเภทตลอดชีพ กอ่ นหน้านไ้ี ม่เคยมีประวัติการขับรถเกิดอบุ ัติเหตุ
- ปฏเิ สธการมโี รคประจ�ำตัวใด ๆ เชน่ เบาหวาน ลมชัก โรคหัวใจ แตม่ ีสายตาทั้งส้ันและยาว
จะสวมใส่แว่นตาทงั้ สองเลนส์ตลอดเวลาทงั้ ในขณะขบั ขี่และไม่ขับขร่ี ถ
- รดั เขม็ ขดั นริ ภยั ทุกครง้ั ในขณะขับรถ
- ดื่มเคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์และกาแฟเป็นประจ�ำ (ขณะเกิดเหตุหรือคืนก่อนเกิดเหตุไม่
ไดด้ ม่ื ) สว่ นเคร่อื งด่มื ชูกำ� ลังจะดม่ื เปน็ บางครง้ั ไม่เคยใช้สารเสพติดหรอื ใชย้ าประจำ� ใด ๆ
- วันเกิดเหตุขับรถออกจากแม่แตงรับพ่อ-แม่เพื่อจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในเมือง
เชียงใหม่ ผขู้ ับขีค่ ุ้นเคยเสน้ ทางนเี้ ปน็ อยา่ งดี
- ไมม่ ีกจิ กรรมใด ๆในขณะขบั ขี่ จะใชส้ มาธแิ ละระมดั ระวงั ในการขบั ขีร่ ถมาก
ขอ้ มลู ทางเทคนิคและส่ิงท่ไี ดจ้ ากตวั รถและขอ้ มูลผู้ขบั รถคนั ที่ 4
- รถจกั รยานยนต์ สนี ำ�้ เงนิ ดำ� หมายเลข xxx xxx เชยี งใหม่ เครอื่ งยนต์ 4 จงั หวะ ขนาด 110 ซซี ี
2 ลอ้ ยาง 2 เสน้ น้�ำหนกั รถเปลา่ 95 กโิ ลกรัม
- ความยาวตัวรถ 1,919 มิลลิเมตร ความกว้างตัวรถ 709 มิลลิเมตร ความสูงของเบาะ
756 มลิ ลเิ มตร ความสงู ทง้ั หมด 1,080 มลิ ลเิ มตร ระยะหา่ งชว่ งลอ้ 1,219 มลิ ลเิ มตร ระบบ
เกียร์โรตาร่ี (เกียรว์ น) 4 เกียร์
48 คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน

บทที่ 2 การวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอบุ ัติเหตทุ างถนน

- ระบบเบรก เบรกหนา้ เปน็ ดิสก์เบรก เบรกหลงั เปน็ ดรมั เบรก
- ระบบช่วงล่างหนา้ และหลัง เปน็ แบบโชค๊ อารม์ คู่
- ยางทงั้ 2 มยี ่หี อ้ เดียวกนั
ขอ้ มูลผูข้ บั รถคนั ท่ี 4
- เพศชาย อายุ 23 ปี
- เป็นนักเรยี นโรงเรยี นเทคนคิ แห่งหนงึ่ ในเมอื งเชยี งใหม่ (ปวช.ปี3)
- กอ่ นเกดิ เหตุ ขบั รถออกจากบา้ นแมแ่ ตงเวลาประมาณ 7.40 น. เพอ่ื จะไปโรงเรยี น (โรงเรยี น
เข้า 9.00 น.)
- รถทขี่ บั ข่ีเป็นรถของน้า ใช้ขับขไ่ี ปโรงเรยี นทุกวันเปน็ ระยะเวลากวา่ 2 ปี

ปจั จัยทีค่ าดว่าเปน็ สาเหตุอุบตั เิ หตุ
ปัจจยั คน
คนขบั รถตรู้ บั -สง่ นกั เรยี นตดั สนิ ใจออกจากซอยเพอ่ื ตดั เขา้ ถนนหลกั โดยประมาท ประมาณการ
ความเร็วของรถบัสท่องเท่ียวผิดพลาด จึงเกิดเหตุดังกล่าว และคนขับรถบัสท่องเท่ียวก็ขับรถด้วย
ความเร็วสงู เกิน ไม่สามารถหยดุ รถได้ทันเมอื่ มีรถตู้ตดั หน้า การหลบเลีย่ งอุบัตเิ หตุโดยการตัดสินใจ
หกั พวงมาลยั ไปทางขวา ซง่ึ ขา้ มไปในเลนทม่ี รี ถกำ� ลงั ขบั สวนมา ทำ� ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตตุ อ่ เนอ่ื งกบั ยวดยาน
มากถึง 4 คนั
ปัจจัยถนนและสภาพแวดลอ้ ม
ถนนและสภาพแวดลอ้ มบรเิ วณทเี่ กดิ เหตไุ มเ่ ปน็ ปจั จยั เสรมิ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตรุ ายนโ้ี ดยตรง แตม่ ี
ประเด็นทีต่ �ำแหน่งของไฟ กระพรบิ แดง (Flashing Light) ควรตดิ ตัง้ ในตำ� แหนง่ ทที่ ำ� ให้รถที่ก�ำลงั
ออกจากซอยมองเหน็ ไดช้ ดั เจน อยา่ งไรกต็ าม เนอื่ งจากในปจั จบุ นั สองขา้ งทางทางหลวงชว่ งนม้ี สี ภาพ
เป็นชมุ ชนหนาแนน่ แต่ทางหลวงเป็นทางสชี่ ่องจราจรไม่มีเกาะกลาง แบง่ ทศิ ทางจราจรดว้ ยเส้นทึบ
รถใช้ความเร็วสูง มีความขัดแย้งมากระหว่างรถผ่านกับรถเลี้ยวเข้าออกซอย หรือแม้แต่อุบัติเหตุท่ี
รุนแรงมากในลักษณะประสานงาบนทางบอ่ ยครงั้
กรณีการเกดิ การชนประสานงา ตอ้ งคันหนงึ่ คันใดอย่ผู ิดชอ่ ง ต้องหาจดุ ชนอยู่ตรงไหน ถา้ ไป
ทันเหตุการณ์ จะง่ายต่อการพิสูจน์หาสาเหตุการเกิดที่แท้จริง ข้อมูลจากาการบอกเล่าส่วนใหญ่จะ
ไมต่ รงกบั เหตกุ ารณ์จริง

คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน 49


Click to View FlipBook Version