วิศวกรรมจราจร ผนวก ก
กับการแก้ไขอุบัตเิ หตุทางถนน
1. การวเิ คราะห์หาสาเหตขุ องอุบัตเิ หตุ
1. วัตถปุ ระสงค์ของการวเิ คราะหข์ ้อมลู อบุ ัตเิ หตุ
หลกั การวิเคราะห์หาสาเหตจุ ะตอ้ งตอบค�ำถาม 5 W 1H กลา่ วคือจะตอ้ งนำ� ข้อมลู จากพยาน
หลักฐานเพื่อประกอบสาเหตุเกิดอะไรขี้นในการชนหรืออุบัติเหตุ และปัจจัยสาเหตุของอุบัติเหตุน�ำ
ไปสู่อบุ ตั ิเหตุ จงึ ตอ้ งตง้ั คำ� ถามและตอบคำ� ถามดังตอ่ ไปนี้
1) What ? เกดิ อะไรข้ึน
2) Where ? อุบัตเิ หตเุ กิดที่ไหน ระบุตำ� แหน่งสถานท่ี บรเิ วณท่ีเกิดเหตุ
หรือประเภทของบรเิ วณท่เี กดิ เหตุ
3) When ? อบุ ตั ิเหตุเกดิ เมอื่ ไร ระบวุ ัน เวลาท่ีเกดิ อบุ ัตเิ หตุ
4) Who ? ใครบา้ งทีเ่ กยี่ วขอ้ งในอบุ ัติเหตุ ท้งั ยานพาหนะและคน
จ�ำนวนผูบ้ าดเจ็บ หรอื จำ� นวนผเู้ สยี ชีวิต
5) Why? ท�ำไมถงึ เกิดขนึ้
6) How ? และเกดิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร อธบิ ายลำ� ดับการเกิดอุบตั เิ หตุ
ลกั ษณะการชน ระบุสาเหตุของอุบัตเิ หตโุ ดยอาศัยข้อมูลหลกั ฐาน
จากคำ� ถามท่จี ะตอ้ งหาคำ� ตอบมาอธิบายลักษณะของการเกิดอบุ ตั เิ หตุ วิเคราะหห์ าสาเหตุ
ปัจจยั ของอุบตั ิเหตุ เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางแก้ไขปญั หาอบุ ตั ิเหตุ
Why and How ? เปน็ คำ� ถามต้องหาสาเหตุของอุบัติหรอื ปัจจัยทเ่ี สริมใหเ้ กดิ อุบตั ิเหตทุ าง
ถนน ต้องเข้าใจปัจจัยเสริมให้เกิดอุบัติเหตุ ปัจจัยใดที่วิเคราะห์ได้ว่าเพียงพอ หรือบกพร่อง อาจมี
สว่ นไดเ้ กิดอุบัติเหตุ
คมู่ ือการสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตุทางถนน 151
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแก้ไขอุบัตเิ หตทุ างถนน
2. วิศวกรรมการจราจร (ปจั จยั สาเหตุของอบุ ตั เิ หต)ุ
องค์ประกอบของจราจรประกอบและปัจจยั สาเหตขุ องอุบตั ิเหตทุ างถนนมี 4 ประการคอื
1. ปจั จัยคน (Drivers/Pedestrian)
อุบัตเิ หตทุ างถนนเกดิ ขึน้ ได้ 2 กลุม่ คอื ผู้ขับข่ี และคนเดนิ เทา้
(1) พฤตกิ รรมผู้ขบั ขรี่ ถ (Drivers) /ใช้ถนน การเลือกใชค้ วามเร็ว การใชเ้ กียร์ การเบรก การ
เลีย้ ว การให้สญั ญาณ ขับรถผดิ ชอ่ งทาง การเลย้ี วกลับรถ การใชอ้ ปุ กรณค์ วามปลอดภยั
(2) คนเดนิ เทา้ (Pedestrian) เกยี่ วข้องกับอุบัติเหตทุ างถนนในขณะทม่ี ไิ ดข้ บั ขีห่ รอื โดยสาร
พาหนะหรอื สตั วใ์ ดๆคนเดนิ ทางเทา้ กเ็ ปน็ คนใชถ้ นนเหมอื นกนั ทง้ั การเดนิ ตามถนนหรอื เดนิ ขา้ มถนน
ปจั จยั ดา้ นคน (Drives) ท่ีพบว่ามีผลต่ออุบัตเิ หตุทางถนนดงั ตอ่ ไปนี้
1) ประสบการณใ์ นการขบั ขี่ ผบู้ ขบั ขรี่ ถมปี ระสบการณก์ ารขบั ขต่ี า่ งกนั จะมคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั
การเกิดอบุ ัตเิ หตทุ างถนนทแ่ี ตกตา่ งกนั ผู้ท่ีฝกึ หัดขบั รถไมด่ ี ท�ำให้ขาดความรู้ ความชำ� นาญในการ
ใช้รถใชถ้ นน เชน่ ขาดความรู้เรอื่ งการคาดคะเนความเร็ว หรือประมาณระยะทางไม่ถกู ตอ้ งหรือไม่
คนุ้ เคยในเรอื่ งลกั ษณะของยานพาหนะทำ� ใหไ้ มส่ ามารถบงั คบั ได้ เชน่ รถลนื่ ไถลตกถนนหรอื ออกนอก
เส้นทาง เป็นต้น Munden (1962) พบวา่ ผ้ขู ับขที่ ีม่ ีประสบการณระหว่าง 0-3 ปี จะมีอัตราการเกิด
อบุ ัติเหตุสูงท่สี ุด แตอ่ ัตราการเกิดอบุ ัตเิ หตจุ ะลดลง เมอื่ ผู้ขับขี่มีประสบการณ์การขับข่ีเพม่ิ มากขึน้
2) การดม่ื สรุ าหรอื ของมนึ เมา ผขู้ บั ขย่ี านพาหนะ ขณะมนึ เมา เชน่ การดม่ื สรุ า เบยี ร์ ไวน์ และ
เครื่องด่ืมอ่ืนๆที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่สามารถควบคุมสติสัมปชัญญะได้ จากการศึกษาของ
Laphan (1995); Insuranced Institute of Highway Safety(1993) ;Wells ,et al.(1993);Denott
and Hugjher (19983) ;Evans (1990) พบว่าผขู้ บั ขร่ี ถขณะมนึ เมาจะเสีย่ งต่อการเกิดอุบตั ิเหตุสงู
กว่าคนขับท่ีไม่ดื่มของมึนเมา Zador (1991);Zador,et al (2000) พบว่าการเพิ่มข้ึนของระดับ
แอลกอฮอล์ทกุ ๆ รอ้ ย 0.02 จะทำ� ใหจ้ ำ� นวนการเกิดอบุ ตั ิเหตจุ นเสยี ชวี ติ เพมิ่ ข้นึ เปน็ 2 เทา่ นอกจาก
นยี้ ังมผี ลการศกึ ษาของ Perrine (1975) ทพ่ี บอีกว่าอัตราเส่ยี งบของการเกิดอุบัติเหตุจราจรของผทู้ ี่
มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 0.1 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีความเส่ียงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง
กวา่ ผู้บบั รถทมี่ ึนเมาประมาณ 7 เทา่
3) การไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร ผขู้ บั ขยี่ านพาหนะไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎจราจรเกยี่ วกบั สญั ญาณไฟ
จราจร กฎจราจรและการใชส้ ญั ญาณไฟ ทำ� ใหม้ คี วามเสย่ี งตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตสุ งู เนอื่ งจากผขู้ บั ขอ่ี าจ
จะบงั คบั ไปในทศิ ทางหรอื ตำ� แหนง่ ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ ดง้ า่ ย Al-Madani (2000) ไดท้ ำ� การทดสอบ
กลมุ่ ขับข่ใี นประเทศบาหเ์ รน คเู วต โอมาน กาตารฯ์ เกีย่ วกบั ความรู้ ความเขา้ ใจในป้ายจราจร พบ
วา่ คา่ เฉลย่ี ของกลมุ่ ตวั อยา่ ง ผขู้ บั ขม่ี คี รวามเขา้ ใจเพยี งรอ้ ยละ 56 ของปา้ ยจราจรทงั้ หมด ซงึ่ มคี วาม
เสีย่ งต่อการาเกดิ อุบัตเิ หตุทางถนนอย่างมาก
152 คมู่ อื การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแก้ไขอุบตั เิ หตทุ างถนน
4) การใช้ยา ผขู้ ับข่ียานพาหนะที่ใชย้ าบางประเภท เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดควมดัน หรอื ยาอน่ื ๆ
ท่ีมีผลข้างเคียงท�ำให้ง่วงนอน ท�ำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าผู้ขับข่ีรถท่ีไม่
ไดใ้ ช้ยา
5) การใช้ยาเสพติด ผู้ขับข่ียานพาหนะที่ใช้สารเสพติด เช่น ยากล่อมประสาท จะท�ำให้
สมรรถภาพการขบั รถลดลง Skegg,et al.(1972) พบว่าผูข้ ับข่ีรถใช้ยากล่อมประสาทจะมีอตั ราเส่ยี ง
ต่อการเกดิ อบุ ตั ิเหตทุ างถนนมากกว่าผู้ขบั ขที่ ่ีไม่ใช้ยากลอ่ มประสาทประมาณ 5 เท่า
6) พฤตกิ รรมการใช้รถใช้ถนน ผขู้ บั ขยี่ านพาหนะที่มีพฤตกิ รรมการใช้รถใชถ้ นนทเ่ี ส่ยี งตอ่ การ
เกดิ อุบัตเิ หตุทางถนน Harano,et al. (1975) พบวา่ ผู้ขับขท่ี ม่ี ีความผิดพลาดขณะขบั รถ เชน่ การ
เบรก การเล้ียว การใช้สญั ญาไฟ การแซง การใชค้ วามเร็ว การควบคุมรถขับรถผดิ ช่องทาง การเลีย้ ว
กลับรถ ท�ำใหม้ ีโอกาสเกดิ อบุ ตั ทิ างถนนมากกวา่ ผ้ขู บั ขไ่ี ดใ้ ชค้ วามระมัดระวงั
นอกจากน้ี Baxter,et al.(1990) พบว่ากลมุ่ ผ้ขู บั ขี่วัยร่นุ ทง้ั สองเพศชอบขับขร่ี ถเร็วเกนิ กว่าท่ี
กฎหมายก�ำหนด และชอบขบั รถตามคนั หน้าในระยะกระชนั้ ชดิ
7) สภาพรา่ งกาย ผขู้ บั ขย่ี านพาหนะ ขณะรา่ งกายไมพ่ รอ้ ม เชน่ รา่ งกายออ่ นเพลยี จากการขบั
รถเปน็ เวลานาน และการพักผ่อนไมเ่ พียงพอ ท�ำให้มีโอกาสหลับใน หรอื การตดั สินใจของผู้ขับขรี่ ถ
ช้าลง กลุ่มบุคคลเหล่าน้ีมีโอกาสเส่ียงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าผู้ขับข่ีรถท่ีมีร่างกาย
สมบูรณ์กว่า Grandjean (1968) พบว่า ความเหนื่อยล้าเป็นปัจจัยส�ำคัญปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิด
อบุ ตั ิเหตุทางถนน คอื การขบั ขีย่ านพาหนะทตี่ ดิ ตอ่ กันนาน 4 ชั่วโมง จะทำ� ใหร้ ะดบั การตืน่ ตวั ของ
ร่างกายลดลง เป็นสาเหตุท�ำให้เกิดความเส่ียงของการเกิดอุบัติเหตุมากข้ึน Connor,et al.(2002)
พบว่า การง่วงนอน ขณะขับข่ีเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการชน
ของยานพาหนะหรอื รถยนต๋
8) มโี รคประจำ� ตวั ผขู้ บั ขยี่ านพาหนะทมี่ สี ภาวะทางรา่ งกายทไ่ี มส่ มบรู ณ์ Gastaut (1982) พบ
ว่าผ้ขู บั ขร่ี ถที่มโี รคประจำ� ตัว เช่น โรคหวั ใจ โรคไต โรคปอด และโรคลมชกั กลุ่มเหลา่ นม้ี โี อกาสเส่ยี ง
ต่อการเกดิ อุบตั เิ หตุทางถนนมากกว่าผ้ขู บั ข่ีรถท่มี ีรา่ งกายสมบูรณ์
9) ประสาทการรับรู้ ผู้ขับข่ียานพาหนะที่มีปัญหาเกี่ยวกับประสาทการรับรู้ ซ่ึงประกอบด้วย
ลักษณะการมองเห็น กาารได้ยิน การประเมินความเสี่ยงต่อสถานการณ์ต่างๆ ขณะขับรถและการ
ควบคุมการขับรถ Hill (1975) พบวา่ ผู้ขับรถทม่ี สี ตดิ ี หรือมีการรบั รู้ทด่ี ี จะมคี วามปลอดภัยในขณะ
ขบั รถมาก
นอกจากน้ี Hiopia และ Morphew (1968) ยงั พบอกี วา่ ประสาทการรับรดู้ า้ นการมองเห็นมี
ความเกย่ี วขอ้ งกบั การประเมินสถานการณ์ ขณะขับรถประมาณ 90%
คู่มอื การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน 153
ผนวก ก. วศิ วกรรมจราจรกบั การแก้ไขอบุ ัติเหตุทางถนน
2. ปจั จัยยานพาหนะ (Vehicles)
สภาพยานพาหนะ (Vehicles) เป็นปัจจัยที่ส�ำคัญมีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะยาน
พาหนะทไ่ี มไ่ ดม้ าตรฐาน ไมม่ อี ปุ กรณด์ า้ นความปลอดภยั ทด่ี แี ละพอเพยี ง และยานพาหนะทม่ี สี ภาพ
ชำ� รดุ บกพรอ่ งขาดการตรวจสอบและบำ� รงุ รกั ษาทด่ี กี อ่ นนำ� ไปใชง้ าน อาจเปน็ สาเหตใุ หเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตุ
ทางถนนได้ จึงแบง่ ได้ 2 ประเดน็ ดังต่อไปน้ี
1) ยานพาหนะมีอปุ กรณท์ ี่อย่ใู นสภาพไมส่ มบรู ณ์ ช�ำรุด บกพรอ่ ง ไดแ้ ก่
- ระบบหา้ มลอ้ ทำ� งานไมป่ กตดิ เชน่ เบรกแตก และระบบควบคมุ ทศิ ทาง เชน่ คนั ชกั และ
คนั สง่ หลดุ
- สภาพของยาง เชน่ ยางแตก และยางรวั่ ผ่านการใชง้ านมานาน
- ระบบไฟสอ่ งสวา่ งและไฟสญั ญาณ เชน่ ระบบไฟสอ่ งสวา่ งหรือไฟสัญญาณเสีย
- ระบบปดั นำ้� ฝนไมส่ ามารถใชง้ านไดใ้ นขณะฝนตก อาจทำ� ใหท้ ศั นวสิ ยั ในการขบั ขไ่ี มด่ อี นั
ส่งผลให้เกิดอุบตั เิ หตุทางถนนได้
2) ยานพาหนะไมเ่ ปน็ ไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น
- การบรรทกุ ท่ีไมป่ ลอดภยั เช่น บรรทุกนำ้� หนกั เกนิ การบรรทกุ สงู เกิน และการบรรทุก
ย่นื เกนิ อตั ราท่กี ฎหมายกำ� หนด
- มีการปรบั แตง่ สภาพยานพาหนะอนั อาจสง่ ผลตอ่ รความปลอดภยั
- ไม่มีอปุ กรณ์เสรมิ เพ่อื ความปลอดภยั เชน่ หมวกนริ ิภยั เข็มขัดนริ ภัย หรือถุงลมนริ ภัย
หมดสภาพรถใช้มานานเกนิ 10 ปี เปน็ ต้น
จากการทบทวนเอกสารและงานวิจัยพบวา่ หมวกนิรภัย (Helmet) ทำ� หน้าท่ี 2 อยา่ งคือ
(1) ป้องกันแรงกดดันทเี่ กิดจากความเร็ว
(2) ป้องกนั กะโหลกศรษี ะ
จากการศีกษาต่างๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับอบุ ัติเหตุทางถนนและการใช้หมวกนริ ภยั โดย ดเิ รก ปทั มสริ ิ
วฒั น์ (2537) พบวา่ การสวมหมวกนริ ภยั จะชว่ ยลดอตั ราการเจบ็ ทศ่ี รษี ะและอตั ราการตายลงไดอ้ ยา่ ง
มนี ยั สำ� คญั ร้อยละ 40 National Highway Traffic Safety Administration (1995) พบวา่ หมวก
นิรภัยสามารถลดความเส่ียงจากการเสียชวี ิตอัน เนอื่ งจากการบาดเจบ็ ทางศรษี ะลดลงร้อยละ 30
จากการศกึ ษาในสหรฐั อเมริกาพบว่า หลังจากออกกฎหมายใหใ้ ชเ้ ข็มขดั นริ ภยั (Safety belt)
กันอย่างจริงจัง ผู้บาดเจ็บที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จะต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสูงกว่าผู้ที่คาด
เขม็ ขดั นิรภัยถงึ 2 เท่า (Dreghorn,1985) และสถติ ใิ นสหราชอาณาจักรภายหลงั การออกกฎหมาย
บังคับใช้เข็มขัดนิรภัย พบว่า อุบัติเหตุของการบาดเจ็บต่อใบหน้าลดลงจาก 20.9% เป็น 5.9%
(Perkins,1988) และ National Highway Traffic Safety Administration (1995) พบวา่ เขม็ ขัด
154 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตทุ างถนน
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแกไ้ ขอุบตั เิ หตทุ างถนน
นิรภัยลดความเสีย่ งของการบาดเจ็บอยา่ งรนุ แรงและการเสยี ชีวติ ได้ประมาณร้อยละ 40-55 โดยใน
ช่วงปี ค.ศ.1983-1992 สามารถชว่ ยผู้ขบั ขี่ให้รอดจากการเสียชวี ิต ถงึ 35,000 ราย และปอ้ งกันการ
บาดเจ็บระดับปานกลางจนถึงข้ันรุนแรงของผู้ขับขี่ได้ถึง 906,000 ราย อันเนื่องมาจากการออก
กฎหมายบังคบั ใช้ ถงุ ลมนริ ภยั (Air bags) ถงึ แม้จะมีเข็มขดั นริ ภยั ทอี่ อกแบบมาดที ี่สุด ก็ไม่สามารถ
ปกปอ้ งสว่ นของศรษี ะและอกจากการบาดเจบ็ ไดท้ ง้ั หมดจากการชนทางดา้่ นหนา้ อยา่ งรนุ แรง แตถ่ งุ
ลมนิรภัยจะช่วยดูดซับพลังงานกระแทกระหว่างร่างกายส่วนบนของผู้โดยสารกับพวงมาลัย รถ
อปุ กรณแ์ ผงควบคมุ หรอื กระจกหนา้ การศกึ ษาของ Bureau of Transportation Statistics (1995)
พบวา่ อตั ราการเสยี ชวี ติ ของคนขบั จากการชนทางดา้ นหนา้ ในรถทมี่ ถี งุ ลมนริ ภยั ถงึ 20% สว่ นในการ
ชนโดยรวมลกั ษณะการชนทกุ ประเภท ถุงนิรภยั ช่วยลดอตั ราการเสียชีวติ ได้ถงึ 15%
3. ปัจจยั ถนน (Road)
ถนนเปน็ โครงสรา้ งพน้ื ฐานการพฒั นาประเทศ การคมนาคมอำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทาง
บก หลักเกณฑ์ในการออกแบบถนน จะต้องออกแบบแนวทางของถนนใหเ้ ป็นแนวทางตรงมากทีส่ ุด
แต่ในบางพน้ื ทีไ่ ม่สามารถกระท�ำได้
ดงั นน้ั วศิ วกรจราจรจะต้องศึกษาลักษณะการวางแนวถนน (Road Alignment) ลกั ษณะทาง
โค้งตา่ งๆ ตลอดจนระยะมองเหน็ ปลอดภยั (Sight Distance) และลักษณะต่างๆ ของทางแยก (In-
tersection) เพอื่ สามารถออกแบบใหก้ ารใชถ้ นนมคี วามสะดวกและความปลอดภยั มากทสี่ ดุ โดยองค์
ประกอบดา้ นถนนทเ่ี ก่ียวกับการเกิดอบุ ตั ิเหตทุ างถนนซง่ึ มรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้
1) ความกวา้ งชอ่ งจราจร มผี ลตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนน จากผลการศกึ ษาตา่ งประเทศ Ze-
geer,et al.(1981) และ Cirillo และ Council (1986) พบวา่ ความกวา้ งของชอ่ งจราจรระหวา่ ง 3.40-
3.70 เมตร เปน็ ความกวา้ งทเี่ หมาะสมทสี่ ดุ สำ� หรบั ถนนขนาด 2 ชอ่ งจราจร บรเิ วณนอกเมอื งเนอื่ งจาก
มอี ตั ราการเกดิ อบุ ตั เิ หตตุ ำ�่ และมคี วามสมดลุ ระหวา่ งการเคลอ่ื นตวั ของกระแสจราจรกบั ความปลอดภยั
ตอ่ การจราจรมากทส่ี ดุ และผลการศกึ ษาของ Lay (1986) ปรากฎวา่ ถนนมชี อ่ งจราจรกวา้ งนอ้ ยกวา่
3.00 เมตร มอี ทิ ธพิ ลทำ� ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตยุ จราจรแตล่ ะครง้ั มรี ถเกยี่ วขอ้ งมากกวา่ หนง่ึ คนั
2) ความกวา้ งของไหลท่ าง มผี ลกระทบตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนนขนึ้ อยกู่ บั ขนาดความกวา้ ง
และชนิดของผิวไหล่ทาง Ogden (1996) พบวา่ ไหล่ทางชนิดทไี่ ม่ปูผิวจะมีอัตราการเกดิ อบุ ัติเหตุสูง
กว่าชนิดทปี่ ูผิวไหล่ทางอย่างชดั เจน นาย Armour (1984) พบวา่ สัดส่วนการเกิดอบุ ัติเหตุทางถนน
ที่มไี หล่ทางชนดิ ไมป่ ูผวิ กับปูผวิ มคี ่าเทา่ กับ 3:1 และ 4:1 สำ� หรบั กรณีทางตรงทเ่ี ปน็ ทางราบ และ
ทางโคง้ หรอื ทางลาดชนั ตามลำ� ดบั และยงั พบระยะกวา้ งของไหลท่ างทกี่ วา้ ง 0-2 เมตรจะมผี ลตอ่ การ
เกิดอบุ ัตเิ หตทุ างถนนสูง ส�ำหรบั ไหลท่ างที่มมี ากกว่า 2.50 เมตร พบวา่ จะมผี ลตอ่ การเกิดอบุ ตั เิ หตุ
จราจรเพยี งเลก็ น้อย
ค่มู ือการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน 155
ผนวก ก. วศิ วกรรมจราจรกับการแกไ้ ขอบุ ัติเหตทุ างถนน
3) ระยะมองเห็นในโคง้ ราบ จากผลการศึกษาตา่ งประเทศของนาย Glennon (1987) พบว่า
ระยะมองเหน็ ทปี่ ลอดภัยมคี วามสำ� คญั มากสำ� หรบั การควบคุมการขบั ขยี่ านพาหนะให้ปลอดภัยโดย
เฉพาะอยา่ งยงิ่ ของรถยนตบ์ รรทกุ มคี วามตอบสนองตอ่ การเบรกตำ่� จากรายงานของ Federal Highway
Administration (1986) พอสรปุ ไดว้ า่ ระดบั สายตาทผ่ี ขู้ บั ขรี่ ถบรรทกุ สามารถมองเหน็ วตั ถไุ ดส้ งู กวา่
รถยนตป์ ระเภทอนื่ มสี ว่ นชว่ ยในการชดเชยการตอบสนองตอ่ การเบรกตำ่� ของรถบรรทกุ ชนดิ ตา่ งๆ ได้
แต่หลักเกณฑ์นี้อาจไม่สามารถใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ เพราะรถที่มีขนาดใหญ่และบรรทุกน�้ำ
หนักมาก จำ� เป็นตอ้ งใชร้ ะยะทางหยดุ รถทีป่ ลอดภยั ยาวกวา่ รถยนต์ทัว่ ๆ ไป
4) ระยะมองเห็นในโคง้ ดงิ่ จากรายงานของนาย Glennon (1987) พบว่าบนทางหลวงท่มี ีข้อ
จ�ำกัดของระยะมองเห็นทป่ี ลอดภัยท่ีบรเิ วณทางโค้งด่ิงควำ่� (Crest Curve) จะมคี วามถ่ตี อ่ การเกดิ
อบุ ตั ิเหตถุ ีงรอ้ ยละ 52 ของทางโคง้ ดงิ่ หงาย (Sag Cuirve)
5) แนวทางราบ จากรายงานของนาย Glennon (1987) พบวา่ บนทางหลวงจะเกดิ ขน้ึ ทบี่ รเิ วณ
ทางโค้งมากกวา่ บริเวณทางตรงถงึ 3 เท่า โดยสว่ นใหญ่เกิดจากการวิง่ หลดุ ออกจากทางโคง้
นอกจากนี้นาย Meuman,et al.(1983) พบว่ารัศมีความโค้งเป็นปัจจัยหลักท่ีมีผลต่อความ
ปลอดภัยของโค้งราบ ยังพบอีกว่าทางโค้งราบท่ีมีรัศมีความโค้งต�่ำกว่า 600 เมตร จะมีส่วนช่วย
สนับสนุนให้อัตราการเกิดอุบัตเิ หตทุ างถนนเพ่ิมข้นึ
6) แนวทางดงิ่ โดยทว่ั ไปแลว้ ทางโคง้ ดงิ่ หงาย (Sag Cuirve) จะมปี ญั หาระยะมองเหน็ ปลอดภยั
ไมม่ ากนกั ในขณะทท่ี างโคง้ ดง่ิ ควำ�่ (Crest Curve) จะมขี อ้ จำ� กดั ของระยะมองเหน็ ปลอดภยั มากกวา่
ส�ำหรับชว่ งลาดของถนนน้ัน
จากรายงานของ Organization for Economic Cooperation (1986) พบวา่ อตั ราการเกิด
อุบตั ิเหตุและความรนุ แรงจะมคี า่ เพ่มิ ขึ้นตามลำ� ดบั ความลาดและความชนั ของถนน
Zegeer,et al.(1992) พบว่าถนนในทิศทางระดับลาดลงมีปัญหาความปลอดภัยมากกว่าใน
ทิศทางทีช่ นั ขึน้ ซึง่ จะมผี ลมากส�ำหรับการเดนิ ทางของรถบรรทกุ ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะท่ีระดบั ลาด
ชนั มากกวา่ 6% พบว่าอตั ราการเกิดอบุ ตั ิเหตทุ างถนนเพ่ิมขนึ้
นอกจากน้ี Pakpoy และ Kneebone (1988) ไดร้ ายงานวา่ บรเิ วณทางโคง้ ราบและระดบั ความ
ชนั มาก จดั เปน็ จดุ อนั ตรายสำ� หรบั ถนนบรเิ วณนอกเมอื ง ขนาด 2 ชอ่ งจราจร เนอื่ งจากผลการศกึ ษา
ยงั พบวา่ มคี รวามถก่ี ารเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนนสงู ดงั นน้ั การออกแบบทางหลวงใหม้ คี วามปลอดภยั ควร
จะตอ้ งพิจารณาการออกแบบทางโค้งแนวราบ และทางโคง้ แนวดิง่ ควบค่กู ันไป
7) จำ� นวนชอ่ งจราจร จากการศกึ ษาสถติ อิ บุ ตั เิ หตทุ างถนนของวศิ วกรรมจราจร กรมทางหลวง
(2540) พบวา่ อบุ ตั เิ หตทุ างถนนบนเสน้ ทางหลวงแผน่ ดนิ และทางหลวงจงั หวดั มกั เกดิ บนทางตรงมาก
ทส่ี ุด โดยเฉพาะสภาพเส้นทางทด่ี เี รียบ มักท�ำให้ผขู้ ับขีใ่ ชค้ วามเร็วสงู และขาดความระมัดระวงั และ
156 คู่มือการสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน
ผนวก ก. วศิ วกรรมจราจรกับการแกไ้ ขอุบัตเิ หตทุ างถนน
ถนนท่ีมี 2 ช่องจราจร เกิดอบุ ัตเิ หตุทางถนนมากกว่าถนนท่ีมี 4 ช่องจราจร
8) อปุ กรณ์ก้นั ข้างทาง คือ อปุ กรณ์ที่ตดิ ตงั้ เพื่อปอ้ งกันมใิ ห้รถทเ่ี กิดอุบัตเิ หตวุ ง่ิ ออกนอกถนน
โดยทวั่ ไปจะตดิ ตง้ั ไวบ้ รเิ วณทเี่ ปน็ จดุ เสย่ี งและจดุ อนั ตรายหรอื เกดิ อบุ ตั เิ หตบุ อ่ ยครง้ั เชน่ บรเิ วณทาง
โค้ง สะพานและจดุ เสย่ี งอน่ื ๆ ยกตวั อย่างของอุปกรณข์ า้ งทางเพือ่ ความปลอดภัย ได้แก่ ราวกนั ตก
(Guard rail) และกำ� แพงคอนกรตี เป็นต้น
9) เครอื่ งหมายจราจรา หมายถงึ เครอ่ื งมอื บอกขอ้ มลู ดา้ น การหา้ ม การเตอื น และการแนะนำ�
ทส่ี ำ� คัญสำ� หรบั ผ้ใู ชร้ ถใชถ้ นนเพือ่ ชว่ ยให้การขับข่ีมคี วามปลอดภยั มากขนึ้ ลักษณะของเครอ่ื งหมาย
จราจรจ�ำเป็นตอ้ งเขา้ ใจง่าย มองเหน็ ไดท้ ัง้ กลางวนั และกลางคืน ตำ� แหนง่ เครอ่ื งหมายจราจรมีความ
เหมาะสมต่อผู้ขับขี่และคนเดินเท้าที่จะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนไม่ลบเลือนหายไปตัวอย่างเช่น
ทางม้าลาย เส้นแบง่ จราจร เส้นแบ่งทิศทางการเดนิ รถ ลกู ศร และขอ้ ความเตือนต่างๆ
10) ป้ายจราจร หมายถึง เครือ่ งมอื ท่ีชว่ ยบอกขอ้ มลู ด้าน การห้าม การบังคับ การเตอื น และ
การแนะน�ำท่ีส�ำคัญส�ำหรับผู้ใช้ถนนเพ่ือช่วยให้การขับข่ีมีความปลอดภัยมากขึ้น ป้ายจราจรจ�ำเป็น
ตอ้ งเขา้ ใจงา่ ย สงั เกตไดช้ ดั เจนทงั้ กลางวนั และกลางคนื ตำ� แหนง่ ปา้ ยมคี วามเหมาะสมตอ่ ผขู้ บั ขแ่ี ละ
คนเดนิ เทา้ ทจี่ ะสามารถมองเหน็ ไดช้ ดั เจนไมล่ บเลอื นหายไป หรอื ไมม่ ตี น้ ไมบ้ ดบงั ปา้ ยจราจรตวั อยา่ ง
ของป้ายจราจรบรเิ วณแยกสญั ญาณจราจร เช่น ปา้ ยหยดุ ปา้ ยหา้ มเลี้ยวขวา เป็นตน้
11) สญั ญาณไฟจราจร หมายถงึ เครอื่ งมอื ควบคมุ การจราจรทม่ี คี วามสำ� คญั โดยเฉพาะบรเิ วณ
ทางแยกทม่ี ปี รมิ าณจราจรมากถงึ จดุ ทต่ี อ้ งตดิ ตง้ั สญั ญาณไฟจราจร ตำ� แหนง่ การตดิ ตง้ั ระบบสญั ญาณ
ไฟควรให้ผู้ขบั ข่ีแกละคนเดินเท้าสามารถมองเหน็ ได้อย่างชดั เจนและต้องไม่ถกู บดบงั จากสภาพแวด
ลอ้ มอ่นื ๆ เช่น ก่งิ ไม้
12) สงิ่ อำ� นวยความสะดวกคนเดนิ ทางเทา้ หมายถงึ อปุ กรณห์ รอื เครอื่ งมอื ดา้ นความปลอดภยั
ท่ีจัดเตรียมไว้ ส�ำหรับคนเดินเท้า ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของระบบการจราจร เช่น ทางเท้าสะพานลอย
สำ� หรบั คนเดินเท้า และสัญญาณไฟคนเดินเท้า เป็นต้น
13) สภาพผิวถนน ผิวจราจรที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานหรือมีอุปสรรคการแล่นผ่านของผู้
ขับข่ยี านพาหนะ เช่น พื้นผวิ ถนนขขุ ระ พ้ืนผิวถนนมีความเสียดทานนอ้ ย ถนนเป็นหลุมเปน็ บอ่ มี
โคลนตม ถนนขาด ถนนทรดุ ถนนก�ำลังซ่อมบำ� รุง เปน็ ต้น ข้อบกพรอ่ งหรืออุปสรรคตา่ งๆ กอ่ ใหเ้ กิด
อบุ ตั เิ หตทางถนนได้
จากรายงานของคณะกรรมการความปลอดภยั ดา้ นการจราจรแหง่ ชาตขิ องประเทศสหรฐั อเมรกิ า
(National Highway Traffic Safety Board,1980) ได้ท�ำการศึกษาถึงวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง
ในการท�ำถนนในรฐั ยูทาห์ เปน็ ถนนทม่ี คี ่าสัมประสทิ ธิ์ความฝืดต�่ำ ทำ� ให้เกดิ การล่นื ไหลได้ง่าย แสดง
ให้เห็นว่าสภาพผิวถนนท่ีมีความฝืดน้อยจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนโดยเฉพาะเวลาฝนตก
ถนนลื่น
คมู่ อื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน 157
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแก้ไขอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
14) ไฟฟา้ สอ่ งสวา่ งบนถนน แสงสว่างในถนนมคี วามส�ำคญั อย่างมากในการเกดิ อบุ ตั ิเหตทุ าง
ถนน เพราะเก่ียวกับความสามารถมองเห็น การจดั แสงสว่างทเ่ี พยี งพอจะช่วยลดอุบัตเิ หตทุ างถนน
ได้เพราะจะลดการใช้ไฟสูง ซึ่งแสงไฟสูงจากรถสวนมาอาจส่งผลให้คนขับข่ีสายตาพร่ามัวได้ ท�ำให้
การมองไม่เหน็ ทางเป็นอันตรายต่อการขบั รถ
จากรายงานอบุ ตั เิ หตทุ างถนนของคณะกรรมการปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ยั แหง่ ชาติ (วจิ ติ ร บณุ ยะโหตระ,
2536) กลา่ ววา่ ในสหรฐั อเมริกาเกอื บ 60 % ของอุบัติเหตทุ ม่ี ีผเู้ สยี ชวี ติ จะเกดิ ขึน้ ในเวลากลางคืน
มากกว่ากลางวัน นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ถ้าแสงสว่างบนถนนเพียงพอสามารถช่วยลดอุบัติเหตุลง
เนือ่ งจากผู้ขบั ข่ีจะเปิดไฟสงู ลดน้อยลง
4. ปัจจยั สภาพแวดล้อม(Enviroment)
ปจั จัยด้านสภาพแวดล้อม (Enviroment) เปน็ ปัจจัยที่สำ� คญั ต่อการเกดิ อุบัติเหตุทางถนนส่วน
มากจะเกิดปัจจัยทางธรรมชาติเป็นส�ำคัญ เช่น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของแต่ละพ้ืนที่สภาพดินฟ้า
อากาศ นอกจากน้ยี ังเกิดจากมนษุ ยเ์ ปน็ ผกู้ ระท�ำได้อกี ดว้ ย ได้แก่ การเผาไฟ การปลูกสร้างสิง่ บดบงั
สายตา เป็นตน้ สง่ิ แวดลอ้ มหรอื สภาพแวดล้อมของถนน อาจเปน็ สาเหตุใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตทุ างถนนได้
องค์ประกอบที่เกีย่ วข้องกบั สภาพแวดล้อมของถนนมี 2 ประเดน็ ดังน้ี
1) อปุ สรรคทางธรรมชาติ หมายถึง สิ่งท่ีบ่ันนทอนความสามารถในการขับขใี่ ห้ลดลงที่มผี ลมา
จากอปุ สรรคทางธรรมชาติ เช่น ฝนตก หมอกปกคลมุ หรือมีฝุ่นมาก ตน้ ไม้บดบังป้ายหรือสญั ญาณ
ไฟจราจร ซ่งึ ส่งิ เหล่านีท้ ำ� ใหท้ ัศนวสิ ยั ผขู้ ับข่ีลดลง และอาจสง่ ผลตอ่ อุบัตเิ หตุทางถนนได้
จากรายงานของ National Transportation System Board (1981) พบว่าในระหว่างปี
1978-1979 มผี เู้ สยี ชวี ติ จากการขบั รถชนตน้ ไมเ้ ปน็ จำ� นวน 2,900 รายจากมผี เู้ สยี ชวี ติ ทง้ั หมด 3,280
ราย และสรปุ จากการส�ำรวจโดย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA)
และ Fatal Accident Reporting System (FARS) ในรายงานฉบับเดียวกนั พบวา่ ผู้ขับข่รี ถท่ีมาชน
ต้นไม้ จะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตถงี 61.2% และ National Transportation System Board
(1972) พบว่าหมอกเป็นสาเหตุส�ำคัญท่ีท�ำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและ
ทรัพยส์ นิ
2) อปุ สรรคเกิดจากการกระทำ� ของมนษุ ย์ หมายถงึ สิ่งทบี่ ่ันทอนความสามารถในการขบั ข่ีให้
ลดลงทมี่ ผี ลมากจากการกระทำ� ของมนษุ ย์ เชน่ การเผาขยะ หรอื หญา้ รมิ ถนน เสยี งและควนั ดำ� จาก
ท่อไอเสียของรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ การติดต้ังปา้ ยโฆษณาขนาดใหญ่ ตู้โทรศพั ทห์ รอื สง่ิ ปลกู
สรา้ งอ่นื ๆ บดบงั ป้ายและสัญญาณไฟจราจร เปน็ ตน้
158 คู่มอื การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน
ผนวก ก. วศิ วกรรมจราจรกับการแก้ไขอุบตั ิเหตุทางถนน
3. แนวทางแกไ้ ขปญั หาอุบัติเหตุทางถนน
ความเป็นมา
ปัญหาอุบัติเหตุจราจรทางบกเป็นปัญหาท่ีส�ำคัญท�ำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียท้ังชีวิตและ
ทรพั ยส์ นิ ของประชาชนไปเปน็ จำ� นวนมาก และแนวโนม้ ของปญั หาทวคี วามรนุ แรงเพมิ่ มากขน้ึ เรอ่ื ยๆ
และการแก้ปัญหาไม่สามารถด�ำเนินการได้เพียงหน่วยงานเดียวจ�ำเป็นต้องร่วมมือกันระหว่างหน่วย
งานและใช้แรงผลกั ดันจากรัฐบาลในการขบั เคลอื่ นการแกไ้ ขปัญหา
ในอดตี การแกไ้ ขปญั หาเปน็ ไปแบบตา่ งคนตา่ งทำ� ในทศิ ทางทต่ี า่ งกนั ตามภารกจิ หลกั ของแตล่ ะ
หน่วยงานขาดการประสานแผนงานอย่างจริงจังมีการประชุมและจัดท�ำแผนซ้�ำซ้อนกันตลอดจนมี
แผนหลายรปู แบบทไ่ี ดร้ บั การนำ� เสนอไปยงั ผบู้ รหิ ารในระดบั ตา่ งๆซง่ึ ทกุ แผนลว้ นเปน็ แผนทด่ี ที ง้ั สนิ้
แต่สดุ ท้ายก็ตอ้ งสน้ิ สดุ ทีไ่ ม่สามารถด�ำเนนิ การไดอ้ ย่างจริงจังและตอ่ เนือ่ งและในบางคร้ังมี การรวม
แผนเขา้ ด้วยกนั อย่างเฉพาะกจิ ขาดเปา้ หมาย และการท�ำงานทเี่ ปน็ ระบบ
คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขได้เล็งเห็นถึงสภาพปัญหานี้จึงได้แต่งต้ังคณะอนุกรรมาธิการ
ศกึ ษาการปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรทางบกขน้ึ เพอื่ ศกึ ษาเปน็ การเฉพาะโดยมเี ปา้ หมายเพอ่ื ชว่ ยชป้ี ญั หา
และแนวทางแกไ้ ขทถี่ กู ตอ้ งโดยมงุ่ ประเดน็ ไปทว่ี ธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาแบบภาพรวมเนน้ การทำ� งาน ทเี่ ปน็
ระบบและมงี บประมาณในการสนบั สนนุ ทเ่ี พยี งพอเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั ผดิ ชอบไดป้ ฏบิ ตั งิ านอยา่ งตอ่ เนอ่ื งอนั
เปน็ หวั ใจของการแกไ้ ขปญั หางานอบุ ตั เิ หตทุ ส่ี ำ� คญั สำ� หรบั รายละเอยี ดวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นพน้ื ท่ี ทางคณะอนุ
กรรมาธิการจะไมข่ อนำ� เสนอเนอ่ื งจากมีความซำ้� ซอ้ นกับหนว่ ยงานตา่ งๆ ท่เี คยท�ำมา แลว้
สรปุ ปญั หาอบุ ตั ิเหตจุ ราจรทางบกในประเทศไทย
1. ขาดองคก์ ารทร่ี บั ผดิ ชอบและชดั เจนโดยตรง เนอื่ งจากในสถานการณป์ จั จบุ นั มหี ลายหนว่ ย
งานท่ีรบั ผดิ ชอบดา้ นอบุ ัติเหตุ เชน่ กปอ. สจร. ส�ำนกั งานต�ำรวจแห่งชาติ กรมขนสง่ กรมทางหลวง
ฯลฯ ท�ำให้ไมม่ รี ะบบขอ้ มูลพ้นื ฐานดา้ นอุบัติเหตุ จราจรทางบกที่น่าเชื่อถือ
2. งบประมาณในการดำ� เนนิ การทเี่ ปน็ อยู่ ในแตล่ ะหนว่ ยงานจะนำ� งบประมาณปกตมิ าใชใ้ น
การด�ำเนินการท�ำให้งานป้องกันอุบัติเหตุท่ีผ่านมาไม่ได้ผลเท่าท่ีควรถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีแผน
แมบ่ ททไี่ ดจ้ ดั ทำ� ขน้ึ แตข่ าดการสนบั สนนุ ดา้ นกจิ กรรมทน่ี ำ� มาซงึ่ ความปลอดภยั ทางถนนไมไ่ ดผ้ ลเทา่
ทค่ี วร
3. ปจั จยั ในการเกดิ อบุ ตั เิ หตจุ ราจรทางบก สว่ นใหญก่ วา่ รอ้ ยละ 80 ของอบุ ตั เิ หตจุ ราจรทาง
บก เกิดจากรถจกั รยานยนต์ ตามด้วยรถปิกอัพ รถยนตน์ งั่ และรถบรรทกุ ตามลำ� ดบั โดยแบ่งเป็น
สาเหตุ หลักได้ ดงั นี้
3.1 ผขู้ บั ขยี่ านพาหนะ ทด่ี มื่ สรุ าหรอื ยาเสพสารกระตนุ้ (กวา่ รอ้ ยละ 40) รวมทง้ั มพี ฤตกิ รรม
เสี่ยงเช่นขับรถเร็วกว่ากฎหมายก�ำหนดฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรหรือเครื่องหมายจราจร ขับตามใน
คูม่ อื การสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน 159
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกับการแก้ไขอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
ระยะกระช้ันชิด แซงในทีข่ ับขัน ฯลฯ นอกจากนี้ยงั พบวา่ กวา่ รอ้ ยละ 50 ของผูข้ ับขรี่ ถจักรยานยนต์
ไมม่ ใี บอนุญาตขับขยี่ านพาหนะ และไมร่ หู้ ลักขบั ขีท่ ่ปี ลอดภยั
3.2 ปัจจัยด้านยานพาหนะ มักเกิดจากการบ�ำรุงรักษาโดยเฉพาะระบบเบรกไฟหน้าไฟ
ทา้ ย และไฟเล้ยี ว
3.3 ปจั จยั ดา้ นสิ่งแวดลอ้ มและถนน ซงึ่ มีสว่ นรว่ มในอุบตั ิเหตจุ ราจรกวา่ รอ้ ยละ 16
3.4 เครื่องป้องกัน โดยเฉพาะหมวดนิรภัยส�ำหรับผู้ขับข่ีรถจักรยานยนต์ ซ่ึงผู้ขับข่ีไม่ได้
สวมหมวกนริ ภยั กวา่ รอ้ ยละ 50 โดยเฉพาะในสว่ นภมู ภิ าค และผสู้ วมหมวกยงั ขาดความรคู้ วามเขา้ ใจ
ในการสวมอย่างถูกต้อง ส�ำหรับรถยนต์ รถปิกอัพ ยังมีผู้ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัยเป็นจำ� นวนมาก ถึงแม้
เคร่ืองป้องกันดังกล่าวไม่มสี ่วนในการเกดิ อุบัติเหตุ แต่เป็นส่งิ ทช่ี ว่ ยปอ้ งกันหรือลดความรนุ แรงของ
การบาดเจ็บลงได้
4. การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย ถงึ แมก้ ฎหมายทม่ี อี ยใู่ นปจั จบุ นั จะครอบคลมุ สาระสว่ นใหญ่ แตก่ าร
บังคบั ใชย้ ังไม่ท่วั ถึง และเป็นจดุ ออ่ นทส่ี ำ� คญั ท�ำให้สามารถลดอตั ราการเกดิ อบุ ตั เิ หตลุ งได้
คณะอนกุ รรมการ จงึ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอุบตั เิ หตจุ ราจรทางบก ดังน้ี
1. จัดตั้งองคก์ รทีร่ ับผิดชอบชัดเจน เพอื่ ท�ำหนา้ ที่ประสานระหว่างหนว่ ยงานตา่ งๆ โดยมนี โย
บายงบประมาณทต่ี อ่ เนอ่ื ง ตวั อยา่ ง เชน่ ศนู ยป์ ลอดภยั คมนาคม ทเี่ ปน็ หนว่ ยงานหนงึ่ ในปจั จบุ นั เปน็
องค์กรหลักในการป้องกันและลดจ�ำนวนอุบัติเหตุลง และให้การสนับสนุนวิจัยศึกษาด้านความ
ปลอดภยั
2. งบประมาณ ควรจะนำ� มาจากแหลง่ เงนิ ไดร้ บั ประโยชนห์ รอื ผผู้ ลติ สนิ คา้ ทท่ี ำ� ใหร้ ฐั บาลตอ้ ง
แกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ อาทเิ ชน่ ภาษจี ากยานพาหนะ และภาษจี ากเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์ เงนิ สนบั สนนุ
จากกองทนุ ผู้ประสบภยั และจากบริษัทประกนั ภัย เป็นตน้
3. จัดตง้ั ระบบการจดั เก็บข้อมูลอบุ ัติเหตุจราจรทางบก เพอ่ื ใช้ในการวางแผนเกีย่ วกับความ
ปลอดภัย และการออกแบบถนนใหม้ มี าตรฐานย่งิ ข้ึน
4. การบงั คับใชก้ ฎหมายอย่างจรงิ จงั ใหป้ ระชาชนปฏิบตั ติ ามกฎหมายอยา่ งเคร่งครัด แก้ไข
ระบบออกใบอนุญาตขับข่ียานพาหนะควบคู่กับการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องกฎจราจร ความรู้ในการ
ขบั ขีป่ ลอดภัยและการออกแบบถนนให้มีมาตรฐานย่งิ ข้ึน
สาเหตขุ องการเกดิ อุบัติเหตจุ ราจรทางบก
1. กลมุ่ ปัจจยั ด้านคน
เป็นกลุ่มปัจจัยหลักที่ท�ำให้เกิดอุบัติเหตุถึง 82% จากรายงานของศูนย์ข้อมูลข้อสนเทศ
(ศขส.) ส�ำนักงานตำ� รวจแหง่ ชาติ ยอ้ นหลงั จากปี พ.ศ. 2539 - 2543 พบว่า สาเหตุส�ำคัญ 3 อนั ดบั
160 คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน
ผนวก ก. วศิ วกรรมจราจรกับการแก้ไขอบุ ัติเหตทุ างถนน
แรกที่ท�ำใหเ้ กิดอบุ ัตเิ หตุ คอื อนั ดับ 1 ขบั รถเรว็ เกินอัตราทีก่ ำ� หนด อนั ดับ 2 ตัดหน้ากระชน้ั ชิด และ
อันดับ 3 แซงรถผดิ กฎหมาย จากรายงานของกองระบาดวิทยา ยงั พบข้อมูลเกีย่ วกับปจั จยั ด้านคนที่
สำ� คัญอีกวา่ ผูท้ ไี่ ด้รับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เปน็ นักเรียน นกั ศึกษา วัยรุ่น หนมุ่ สาว อายรุ ะหว่าง 15 - 24
ปี เปน็ เพศชายมากกวา่ เพศหญงิ อตั ราการสวมหมวกนริ ภยั ในผขู้ บั ขร่ี ถจกั รยานยนตน์ อ้ ยมาก มกี าร
ดม่ื สิ่งทท่ี �ำใหเ้ กิดความมนึ เมา โดยเฉพาะเครือ่ งด่มื แอลกอฮอลถ์ ึง 40% ซึ่งเป็นสาเหตุสำ� คัญท่ที ำ� ให้
เกดิ การบาดเจ็บและเสียชวี ติ นอกจากน้ี จากรายงานของกรมขนส่วน พบว่า ผขู้ บั ข่รี ถจักรยานยนต์
นน้ั ละเลยตอ่ กฎระเบียบ ข้อบงั คับจราจร และการขออนุญาตใบขับขี่มากทส่ี ดุ
2. กลุ่มปจั จัยด้านยานพาหนะ
สาเหตทุ ่ีพบบ่อย คอื รถขาดมาตรฐาน บรรทกุ เกนิ อตั รา และอปุ กรณช์ �ำรดุ ยานพาหนะท่ี
เกดิ อบุ ตั ิเหตมุ ากทส่ี ุด คือ รถจักรยานยนตม์ ีมากถึงร้อยละ 80 รองลงมาคอื รถปกิ อัพ โดยเฉพาะท่ี
ใชบ้ รรทกุ ผโู้ ดยสารเป็นร้อยละ 12 ในปี พ.ศ. 2544 ประเทศไทยมีรถจำ� นวนท้ังสนิ้ 21.7 ล้านคนั แต่
เปน็ รถจักรยานยนต์เฉลีย่ ถึงปลี ะ 1 ลา้ นคัน และพบวา่ มหี ลายสง่ิ ท่นี ่าจะปรบั ปรงุ สิง่ ท่ีเกยี่ วขอ้ งการ
เกดิ อุบัตเิ หตุ เช่น การลืมเอาขาตั้งขึน้ การดดั แปลงรถ การถอดอุปกรณท์ ี่ส�ำคญั เชน่ กระจกรถ ไฟ
เล้ยี วของรถ เปน็ ต้น
3. กลุ่มปัจจยั ด้านถนน
จากขอ้ มลู กรมทางหลวงปี พ.ศ.2544 ถนนในประเทศไทยมีความยาวทงั้ สนิ้ 227,940 กม.
โดยแบ่งเป็นถนนทางหลวงที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง และได้รับการพัฒนาให้เป็น
ถนนปลอดภัยมาตรฐาน จ�ำนวน 583,436 กม. คดิ เป็นร้อยละ 23.44 และทเ่ี หลอื เปน็ ถนนรองหรอื
ถนนท่ีไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ร้อยละ 76.56) ได้แก่ ถนน รพช. ถนน
กรมชลประทาน ถนนเทศบาล ถนนสุขาภิบาล กรมทางพเิ ศษ ถนนโยธาธิการ ซึ่งเป็นถนนเช่ือมตอ่
ระหว่างจังหวัด อ�ำเภอ และถนนในเมือง จึงเห็นได้ว่าประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาเร่ืองความ
ปลอดภัยเท่าท่ีควร และถนนส่วนใหญ่มีหลายหน่วยงานท�ำหน้าท่ีรับผิดชอบ ซ่ึงเป็นถนนรองท่ีมัก
เกดิ อุบัตเิ หตุมากท่สี ดุ ทง้ั นีม้ ีสาเหตุอยู่หลายประการ อาทิ เช่น
- ขาดการบำ� รงุ รกั ษาพ้ืนท่ผี วิ จราจร ทีเ่ ป็นหลุม บ่อ ขนาดเล็กใหญ่ สัญญาณไฟชำ� รุด
- ทางโค้งที่ขาดเครื่องหมายเตือน หรือเครื่องหมายสะท้อนข้างทาง การออกแบบเกาะ
กลางถนนทไี่ ม่ถูกตอ้ งตามหลักวชิ า
- พื้นทเ่ี กาะกลางถนนท่พี ุ่มไมส้ ูงกว่า 1 เมตร ท�ำใหป้ ดิ กั้นทัศนวสิ ยั ของผู้ขบั ขท่ี ี่ตอ้ งการ
จะเลี้ยวหรือผู้ทข่ี บั ขี่ท่ีว่งิ ตรงมา
4. กล่มุ ปจั จยั ดา้ นสงิ่ แวดล้อม
ปัจจัยด้านถนนและส่ิงแวดลอ้ มมีสว่ นใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตุไดก้ ว่ารอ้ ยละ 16 ทัง้ น้ีมีสาเหตหุ ลาย
ประการ เช่น
คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน 161
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกับการแก้ไขอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
- ส่ิงกอ่ สร้างบนผวิ จราจรและบรเิ วณแยกและขาดเครอื่ งหมายหรอื สญั ญาณเตือนผขู้ ับขี่
ยาน ยนต์ทผ่ี ่านไปมา
- การติดตั้งตู้โทรศัพท์ไปรษณีย์เครื่องหมายจราจรป้ายโฆษณาตลอดจนการปลูกต้นไม้
ขนาดใหญท่ ปี่ ากซอยดา้ นขวามอื มกั จะปดิ กน้ั ทศั นวสิ ยั ระหวา่ งผขู้ บั ขที่ ว่ี ง่ิ ตรงมาหรอื จะเลยี้ วซา้ ยเขา้
ซอยกบั ผูท้ ีจ่ ะขบั ออกมาจากซอย
- การติดตัง้ แผน่ เหล็กสะท้อนแสงขนาดใหญ่ (Raised Reflector) บนพื้นผิวจราจรเพอื่
ใช้ในการแบง่ ช่องจราจร มักเปน็ อันตรายต่อรถขนาดเลก็ โดยเฉพาะรถจักรยานยนตท์ ่เี กิดพลกิ คว่�ำ
ได้ง่ายเมื่อลอ้ รถไปกระแทกกับแผน่ เหล็กดงั กลา่ ว
สรุปแล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากลุ่มปัจจัยด้านคนและยานพาหนะที่เป็นสาเหตุของการเกิด
อบุ ตั ิ เหตุมีแนวโน้มลดลง แตก่ ล่มุ ปจั จัยดา้ นสง่ิ แวดล้อมกลบั มปี ญั หาเพมิ่ ขึน้
4. ยทุ ธศาสตรห์ ลกั ในการปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรทางบกและหนว่ ยงานปฏบิ ตั ทิ เ่ี กยี่ วขอ้ ง
การป้องกันอบุ ัติเหตมุ ีหน่วยงานทร่ี บั ผิดชอบคอ่ นขา้ งมากมาย แบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้
1. ยทุ ธศาสตรด์ า้ น Engineering
ยทุ ธศาสตรด์ า้ นวศิ วกรรมทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั งานดา้ นความปลอดภยั ทางทอ้ งถนน ประกอบดว้ ย
ความปลอดภยั ของยานพาหนะ และความปลอดภยั ของถนน ซง่ึ ทงั้ สององคป์ ระกอบมสี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง
กบั สาเหตุของการเกิดอุบตั ิเหตุถงึ ร้อยละ 36
ด้านยานยนต์ มักเก่ียวข้องกับการขาดการบ�ำรุงรักษาหรือการดัดแปลงเครื่องยนต์ โดย
เฉพาะรถขนสง่ ขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทกุ ทวั่ ไป
ด้านถนน ขาดระบบการจัดเก็บข้อมูลต�ำแหน่งท่ีเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบก ขาดการ
วเิ คราะห์ ซงึ่ จดุ อนั ตรายทเ่ี กดิ อบุ ตั เิ หตบุ อ่ ยครง้ั ขาดการบงั คบั ใชก้ ฎหมายวา่ ดว้ ยการกอ่ สรา้ งบนพนื้
ผวิ ขาดระบบการตรวจสอบความปลอดภยั ในการวางแผน การออกแบบ การกอ่ สรา้ งและการใชง้ าน
ของพน้ื ผิวจราจร
กลุ่มแผนงานทม่ี ีความเปน็ ไปได้ในการดำ� เนินการ
- การทบทวน ปรับปรุงข้อบังคับทางเทคนิคของยานพาหนะประเภทต่างๆ บนพ้ืนฐานของ
มาตรฐานสากล และแกไ้ ขใหเ้ หมาะสมกบั ประเทศไทย อาทเิ ชน่ การตดิ ตง้ั ระบบไฟหนา้ เปดิ อตั โนมตั ิ
สำ� หรบั รถจกั รยานยนต์ การตดิ ตง้ั ระบบเบรค ABS สำ� หรบั รถบรรทกุ และรถโดยสาร การใชร้ ถปกิ อพั
ในการขนส่งผู้โดยสารโดยขาดอุปกรณ์ความปลอดภัย และมาตรฐานของรถขนส่งสาธารณะขนาด
ใหญ่ คือ รถบรรทกุ รถบรรทุกพ่วง รถบรรทกุ สารเคมี น�้ำมนั หรอื วัตถุอนั ตราย
162 คูม่ อื การสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน
ผนวก ก. วศิ วกรรมจราจรกบั การแกไ้ ขอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
- การจัดเตรียมหน่วยงานอิสระเพื่อการตรวจสอบมาตรฐานการผลิตหมวกนิรภัยที่จ�ำหน่าย
ใน ทอ้ ง ตลาด
- การจดั ท�ำระบบตรวจสอบ และควบคมุ คณุ ภาพสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)
- การสุม่ ตรวจสภาพยานพาหนะริมถนน
- การวเิ คราะหแ์ ละแก้ไขจดุ อนั ตรายบนถนนและทางหลวง
- การทบทวนมาตรฐานการออกแบบระบบการตรวจสอบความปลอดภยั ของถนนมาใชใ้ นขนั้
ตอนต่างๆ ต้งั แต่ การวางแผน การออกแบบ การก่อสรา้ ง และการใช้งาน
- การปรับปรงุ มาตรฐานอุปกรณ์ควบคมุ การจราจรทม่ี ีประสิทธิภาพ ตลอดจนปรับปรงุ และ
ตดิ ตั้งเครอ่ื งหมายหรือสญั ญาณไฟจราจรให้ได้มาตรฐาน
- การเขม้ งวดในการกอ่ สรา้ งบนพนื้ ผวิ จราจร เชน่ การตดิ ตง้ั เครอื่ งหมายและสญั ญาณไฟเตอื น
หา้ มการทิ้งกองดนิ ทราย บนพ้ืนผิวถนน
หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวง
ศกึ ษาธิการ (ทบวงมหาวทิ ยาลัย)
2. ยทุ ธศาสตร์ด้าน Education
ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการรณรงคใ์ หค้ วามรแู้ กผ่ ใู้ ชร้ ถใชถ้ นน เปน็ งานดา้ นความปลอดภยั ทางถนน
ทสี่ ำ� คญั เนอ่ื งจากคนเปน็ องคป์ ระกอบทส่ี ำ� คญั เกย่ี วขอ้ งกบั การ เกดิ อบุ ตั เิ หตถุ งึ รอ้ ยละ 95 และครบ
ทกุ เพศทกุ วยั ตอ้ งเปน็ ผใู้ ชร้ ถใชถ้ นนประเภทใดประเภทหนงึ่ ตลอดเวลาอาทคิ นเดนิ เทา้ คนขบั รถยนต์
คนโดยสารเปน็ ตน้ การใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจถงึ ความเสย่ี ง ตา่ งๆ บนทอ้ งถนน และการสรา้ งจติ สำ� นกึ
ทดี่ ี จะชว่ ยลดความเสยี่ งต่างๆ และลดการเกิดอุบตั เิ หตุ หรือลดความรนุ แรงของอุบตั เิ หตุได้ดีที่สดุ
กลมุ่ แผนงานที่มคี วามเปน็ ไปไดใ้ นการด�ำเนินการ อาทิ
- การรณรงคใ์ ห้ใชอ้ ปุ กรณน์ ริ ภัยต่างๆ อาทิ หมวกนิรภยั เขม็ ขัดนิรภัย เบาะทน่ี ง่ั ส�ำหรบั
เดก็ ในรถยนต์ เปน็ ต้น
- การรณรงคใ์ นพฤตกิ รรมเสยี งตา่ งๆ อาทิ โครงการเมาไมข่ บั การใชค้ วามเรว็ สงู เกนิ ระดบั
ความปลอดภัย การขับขีต่ ิดรถคนั หน้าแบบกระชั้นชิด การแซงรถในท่ีคับขัน
- การให้ความรู้และฝึกฝนทักษะด้านต่างๆ ในการเป็นผู้ใช้รถใช้ถนนท่ีดีแก่เด็กนักเรียน
นักศึกษาในสถานศึกษา โดยเร่ิมตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก จนถึงระดับอุดมศึกษา ระดับอาชีวะ ตามความ
เหมาะสม
- การฝึกอบรมผูข้ บั ข่รี ถยนต์ กอ่ นท่ีจะไปทดสอบเพ่อื ขอรับใบอนญุ าตขบั ขรี่ ถยนต์ รวม
ถึงมาตรฐานของโรงเรียนสอนขบั ข่ีรถยนต์ทยี่ งั ตอ้ งปรบั ปรงุ อีกมาก
- การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างจิตส�ำนึกและความร่วมมือในการลดการป้องกันอุบัติเหตุ
จราจรกบั ผ้ใู ชร้ ถใชถ้ นน และประชาชนกลมุ่ ตา่ ง ๆ
คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตุทางถนน 163
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแกไ้ ขอบุ ัตเิ หตุทางถนน
หนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณ สขุ
กระทรวงมหาดไทย สำ� นักงานตำ� รวจแห่งชาติ และสมาคมเอกชนตา่ ง ๆ
3. ยุทธศาสตร์ดา้ น Enforcement
ประเด็นด้านการบังคับใช้กฎหมายเป็นงานด้านความปลอดภัยที่ส�ำคัญท่ีสุดซึ่งหากด�ำเนิน
การควบคู่ไปกับงานด้านการรณรงค์ให้ความรู้จะเป็นปัจจัยท่ีส่งเสริมซึ่งกันและกันและให้ผลลัพธ์ท่ี
เหน็ ไดช้ ัดเจนในระยะเวลาอนั ส้นั
กล่มุ แผนงานทมี่ คี วามเปน็ ไปไดใ้ นการด�ำเนินการ อาทิ
- การปรับปรุงรวบรวมกฎหมายทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับจราจรทีม่ ีอยอู่ ยา่ งน้อย 4 ฉบับ โดยแยก
พระราชบญั ญตั อิ อกตามความรับผิดชอบภายใต้ 2 กระทรวงหลกั ให้อยใู่ นฉบบั เดียวกนั เพอื่ ใหก้ าร
บังคับใชก้ ฎหมายมคี วามเป็นเอกภาพ
- การเข้มงวดการขนส่งสนิ คา้ อันตราย
- การเพ่ิมการตรวจตราด้านการจราจรอย่างเข้มงวดเพื่อบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะ
อยา่ งย่ิงในประเดน็ ท่ที �ำการรณรงคไ์ ปพร้อมๆ กนั เชน่ การบังคับใชอ้ ปุ กรณ์นริ ภัย โครงการเมาไม่
ขบั การตรวจจับความเรว็ เป็นตน้
- การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ต�ำรวจจราจรและตำ� รวจทางหลวงทกุ ระดบั โดยเร่ิมจากขนั้ พื้น
ฐาน จนถงึ การวางแผนการตรวจตราอยา่ งเปน็ ระบบ พรอ้ มทง้ั กำ� หนดหมายเลขโทรศพั ทท์ จ่ี ะรบั แจง้
เหตผุ ู้ขบั ขท่ี มี่ พี ฤติกรรมเส่ยี ง
หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ สำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงอุตสาหกรรม
4. ยุทธศาสตรด์ า้ น Emergency Services
ยุทธศาสตร์ด้านการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุ เป็นงานด้าน
ความปลอดภัยทางถนนในเชิงรับที่ส�ำคัญท่ีจะช่วยบรรเทาความรุนแรงจากผลพวงของอุบัติเหตุซึ่ง
ประเทศไทยยังไม่มีระบบการให้ความช่วยเหลือแบบเป็นศูนย์รวมท�ำให้การด�ำเนินงานบางคร้ังซ�้ำ
ซอ้ นในบางกรณลี า่ ชา้ และสว่ นใหญบ่ คุ ลากรทเ่ี ปน็ อาสาสมคั รยงั ขาดทกั ษะในการปฐมพยาบาลทถ่ี กู
ตอ้ ง การใหค้ วามชว่ ยเหลอื รกั ษาผปู้ ระสบภยั อยา่ งถกู ตอ้ งในเวลาอนั รวดเรว็ จะทำ� ใหผ้ ปู้ ระสบภยั มี
โอกาสรอดชีวิตสูง และลดความเสี่ยงจากการพิการ ซ่ึงในทางการแพทย์เรียกช่วงเวลา หลังเกิด
อบุ ตั ิเหตนุ ี้ว่า “ชว่ั โมงทอง” (Golden Hour) นอกจากนี้ การจัดการจราจรในสถานทเ่ี กดิ เหตุ จะ
ช่วยให้การชว่ ยเหลือเป็นไปอย่างรวดเรว็ และลดความเสีย่ งจากเหตุทอี่ าจเกิดข้ึนซ้�ำซอ้ น
กลุม่ งานที่มีความเป็นไปไดใ้ นการด�ำเนนิ การ อาทิ
- การฝึกอบรมทักษะการช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลแก่เจ้าหน้าท่ีกู้ภัย เจ้าหน้าท่ี
164 คมู่ ือการสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกับการแกไ้ ขอุบัตเิ หตุทางถนน
อาสาสมัครต่าง ๆ
- การปรับปรงุ ระบบการรบั แจ้งเหตุ และการเรียกรถพยาบาล
- การปรบั ปรงุ การประสานงานของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทที่ ำ� งานดา้ นการใหค้ วามชว่ ยเหลอื
โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในกรณสี าธารณภยั หรืออุบัตเิ หตุขนาดใหญ่
- การจดั เตรยี มยานพาหนะและอปุ กรณช์ ว่ ยชวี ติ เบอ้ื งตน้ ทเี่ หมาะสม และมปี ระสทิ ธภิ าพ
สูงต่อการใหบ้ รกิ ารช่วยเหลือฉุกเฉนิ แก่ผูป้ ระสบภยั จากอบุ ตั เิ หตุจราจร
หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ กระทรวง
มหาดไทย กระทรวงคมนาคม
5. ยทุ ธศาสตร์ดา้ น Efficiency of Transport System
การจดั การระบบการขนส่งให้มีประสิทธภิ าพ อาจพจิ ารณาไดจ้ ากหลายแงม่ ุม อาทิ ระดับ
การใหบ้ รกิ าร ราคาคา่ โดยสารและคา่ ขนสง่ ทย่ี อ่ มเยา ความสะดวกรวดเรว็ การประหยดั และอนรุ กั ษ์
พลังงานและความปลอดภัยจากการขนส่ง การก�ำหนดนโยบายการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานของ
ประเทศและชมุ ชนเมอื งตา่ งๆ การใหค้ วามส�ำคญั กบั การขนสง่ สาธารณะ ในรูปแบบตา่ งๆ ก็มสี ว่ น
สำ� คัญที่จะชว่ ยกำ� จดั ปัญหาอบุ ัติเหตจุ ราจรต้ังแตต่ ้นตอ คือ ลดจ�ำนวนยานพาหนะบนทอ้ งถนน
กลมุ่ แผนงานท่มี ีความเปน็ ไปไดใ้ นการดำ� เนนิ การ อาทิ
- มาตรการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น การพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่ง
สาธารณะอย่างจรงิ จงั การปรับลดค่าโดยสาร โดยการสนบั สนนุ ค่าโดยสารบางส่วนจากภาครฐั การ
ปรับปรุงคณุ ภาพการบรกิ าร การปรบั ปรงุ จดุ เชอ่ื มต่อการเดนิ ทางของระบบขนส่งสาธารณะ
- การวางผงั เมอื ง ผงั การใชท้ ดี่ นิ และผงั โครงขา่ ยคมนาคมใหเ้ หมาะสมกจ็ ะชว่ ยลดปรมิ าณ
การเดนิ ทาง รวมท้งั ลดความเส่ยี งจากการปะปนกันของการจราจรประเภทตา่ ง ๆ
6. ยุทธศาสตร์ด้าน Evaluation
งานดา้ นความปลอดภยั ทางถนน เปน็ งานทีต่ อ้ งดำ� เนนิ การเป็นเวลานาน ไมม่ ที ีส่ ้นิ สุด การ
ตดิ ตาม การตรวจสอบ และประเมนิ ผลจงึ ถอื เปน็ เรอ่ื งสำ� คญั ตอ้ งมกี ารตดิ ตามปรบั ปรงุ แผนงานตา่ งๆ
ตลอดเวลา สว่ นแผนงานทท่ี ำ� สำ� เรจ็ แลว้ กค็ วรนำ� มาขยายฐานใหก้ วา้ งขน้ึ และแผนงานใดทลี่ ม้ เหลว
กค็ วรนำ� มาปรบั ปรงุ และใชเ้ ปน็ บทเรยี น เพอื่ หลกี เลย่ี งความผดิ พลาดทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ อกี ในอนาคต การ
ตรวจวัดและประเมินผลกิจกรรม ควรท�ำการเปรียบเทียบสภาพก่อนและหลังการด�ำเนินการมาใช้
วเิ คราะห์ผลประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั คอื การด�ำเนินการในหลายกรณี อาจใช้ขอ้ มลู ตัวแทนในการประเมิน
ผล ซง่ึ ข้อมูลท่ีควรพิจารณา ไดแ้ ก่
- การเปล่ยี นแปลงความเรว็
- การเปลยี่ นแปลงความเส่ยี ง
คมู่ ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน 165
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแก้ไขอบุ ตั เิ หตุทางถนน
- การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรม
- การสญู เสยี ทล่ี ดลง
- จิตส�ำนึกทีด่ ีขน้ึ
แผนแมบ่ ทและแผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นความปลอดภยั ทางถนน
คณะรัฐมนตรีได้มมี ติเหน็ ชอบกบั แผนแม่บทฯ 9 แผ่น เมอ่ื วันท่ี 22 กันยายน 2541 โดยมีเป้า
หมายในการลดจ�ำนวนอุบตั เิ หตแุ ละผเู้ สยี ชีวิตลงร้อยละ 10 งบประมาณ 9,850 ล้านบาท ประกอบ
ดว้ ยแผนแมบ่ ทฯ 9 แผน คอื
1. การจัดต้ังองค์กรและก�ำหนดนโยบาย จัดต้ังหน่วยงานเฉพาะกิจเพ่ือรับผิดชอบ การ
ประสานงาน และปฏิบตั กิ ารตามแผนแม่บท
- จัดตง้ั คณะกรรมการด�ำเนินการแผนแมบ่ ทฯ เพื่อกำ� หนดนโยบาย
- จดั ตง้ั หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบในการรณรงค์ ประชาสมั พนั ธเ์ พอื่ พฒั นาความปลอดภยั ทางถนน
2. การปรบั ปรงุ แก้ไขกฎหมาย ระเบยี บข้อบงั คับต่าง ๆ และการบงั คบั ใช้กฎหมาย
- ปฏิรูปกฎหมายทุกฉบับท่ีเก่ียวข้องกับการจราจรและปรับปรุงให้เป็นกฎหมายฉบับเดียวที่
มเี นื้อหาสอดคลอ้ งและไดม้ าตรฐานนานาชาติ
- การตรวจตราจราจรอยา่ งเขม้ งวด เช่น การตรวจจับความเรว็ การขับขร่ี ถขณะมึนเมา การ
บังคับใชเ้ ขม็ ขดั และหมวกนิรภยั
- ก�ำหนดนโยบายการตรวจตราจราจร
- จดั ซ้ืออปุ กรณเ์ ครือ่ งมอื เครอ่ื งใช้ให้เพยี งพอ
3. การวเิ คราะห์และการวิจยั การเกิดอุบตั ิเหตุ
- รเิ รมิ่ ระบบการรายงานอบุ ตั ิเหตจุ ราจรแบบใหม่อย่างเปน็ ข้ันตอน
- ใช้ประโยชน์จากขอ้ มลู อุบัติเหตจุ ากฐานขอ้ มูลอ่ืนนอกเหนอื จากข้อมูลของต�ำรวจ
- เรม่ิ งานวิจยั ดา้ นความปลอดภัยบนถนนแบบสอดประสาน
4. การฝกึ อบรมและปรับปรงุ วิธกี ารออกใบอนญุ าตขบั รถ
- ปรบั ปรุงกฎระเบยี บเกี่ยวกับการฝึกอบรมและการออกใบอนญุ าตขบั รถ
- ริเรมิ่ ระบบใหม่ของการฝกึ หดั ผ้ขู บั ขี่ การทดสอบและการออกใบอนุญาตขบั รถ
5. การฝึกอบรมเยาวชนในสถานศึกษา
- จดั ระบบการฝกึ อบรมและเยาวชนทกุ วยั ในโรงเรยี น โดยเนน้ ทคี่ วามสามารถในการประเมนิ
ความเส่ยี งและวธิ หี ลกี เลีย่ งภยั บนท้องถนน
166 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแก้ไขอบุ ตั เิ หตุทางถนน
6. การรณรงคแ์ ละประชาสมั พันธ์
- รณรงค์และประชาสมั พนั ธ์ต่อผ้ใู ชร้ ถใช้ถนนใหเ้ ข้าใจถึงรูปแบบ สาเหตขุ องอุบตั ิเหตุ ตลอด
จนข้อกฎหมายและระบบใหมๆ่ ทจ่ี ะน�ำมาบังคบั ใช้
7. การกำ� หนดมาตรฐานดา้ นความปลอดภยั ของยานพาหนะ
- ริเรมิ่ ใชข้ อ้ ก�ำหนดมาตรฐานนานาชาติด้านความปลอดภัยของยานพาหนะ
- ตดิ ตั้งอุปกรณ์ตรวจสภาพรถยนต์แบบทนั สมยั ในสถานตรวจสภาพแห่งใหม่
- กอ่ สร้างศนู ยฝ์ ึกอบรมผ้ตู รวจสอบสภาพรถยนต์
8. การปรับปรุงถนนใหเ้ กดิ ประสทิ ธิภาพและปลอดภยั
- รเิ ริ่มการใช้ระบบการตรวจสอบการออกแบบถนน (Road Safety Audit)
- แกไ้ ขจดุ ทเ่ี กิดอบุ ตั เิ หตุบ่อยครั้งบนถนนอยา่ งเปน็ ระบบ
- จัดท�ำแนวทางการวางผังเมืองและการจราจรใหม่
9. การชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอุบตั ิเหตุ
- รเิ รมิ่ ใชร้ ะบบศนู ยค์ วบคมุ และสง่ั การอบุ ตั เิ หตเุ พอ่ื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
- จัดหาอปุ กรณก์ ารปฐมพยาบาลฉกุ เฉินไวป้ ระจ�ำรถพยาบาลหรือรถชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัย
- ให้การศึกษาหรือฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าท่ีหรือบุคคลท่ีเก่ียวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบ
อบุ ัตเิ หตุ
หน่วยท่เี ก่ยี วข้อง ไดแ้ ก่
- กระทรวงคมนาคม สำ� นกั งานปลดั กระทรวงคมนาคม กรมการขนสง่ ทางบก กรมทางหลวง
- กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธกิ าร กรมการเรง่ รดั พฒั นาชนบท กรงุ เทพมหานคร กรมการ
ผังเมือง
- กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์นเรนทร
- กระทรวงศึกษาธกิ าร
- กระทรวงยตุ ิธรรม สำ� นกั งานอัยการสูงสดุ
- กระทรวงพาณิชย์ กรมการประกันภยั
- สำ� นักงานต�ำรวจแหง่ ชาติ
- ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกนั อุบัติภัยแห่งชาติ
- กรมประชาสัมพันธ์
- หนว่ ยงานต่างๆ ท่ีเกย่ี วข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
คู่มือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน 167
ผนวก ก. วิศวกรรมจราจรกบั การแก้ไขอุบัติเหตทุ างถนน
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาอบุ ัติเหตุทร่ี ัฐบาลพงึ จดั การ
1. แตง่ ตงั้ องคก์ รท่รี บั ผดิ ชอบงานป้องกันอุบตั เิ หตุในภาพรวมท้ังหมดใหช้ ัดเจน และมอบการ
กำ� หนดนโยบาย ตดิ ตาม ควบคมุ กำ� กบั และงบประมาณใหพ้ อเพยี ง มอี �ำนาจสามารถแกก้ ฎตา่ งๆ
ใหส้ อดคลอ้ งกบั การแกป้ ัญหาได้
2. จัดหางบประมาณใหต้ ่อเนือ่ งและเพยี งพอ โดยนำ� เงินมาจากสนิ คา้ ที่มีผลกระทบกบั ปญั หา
โดยตรง เชน่ ภาษียานพาหนะ ภาษีเหลา้ เป็นต้น
3. ปรับปรุงแผนแม่บทและแผนปลอดภัยด้านความปลอดภัยทางคมนาคมให้ชัดเจน และ
สอดคลอ้ งกบั ปจั จบุ นั และนำ� ไปสภู่ าคปฏบิ ตั ใิ หต้ อ่ เนอื่ ง รวมถงึ การควบคมุ กำ� กบั ตดิ ตามแผนแมบ่ ท
อยา่ งจริงจัง
4. ท�ำให้แผนในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเป็นจริง ควบคู่ไปกับการรณรงค์ อาจ
เพิ่มผู้บังคับการใช้กฎหมายให้เป็นบุคคลอ่ืนอีกนอกจากต�ำรวจ เช่น ทหาร ข้าราชการพลเรือนที่
เกยี่ วขอ้ ง เป็นต้น
5. ควรปรับปรุงกฎหมาย ใหอ้ ยใู่ นทิศทางเดียวกัน (ปจั จุบันมอี ยู่ 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.จราจร
พ.ร.บ.ขนสง่ ทางบก พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ร.บ.รถยนต์
(การประชมุ วฒุ ิสภา ครง้ั ที่ 21 (สมัยสามญั นิตบิ ัญญตั ิ) (เป็นพิเศษ), วนั จันทร์ที่ 27 ตลุ าคม 2546
เวบ็ ไซต์ http://www.senate.go.th/senate/report_detail.php?report_id=36, วันสืบคน้ วัน
ที่ 24 พฤษภาคม 2559)
168 คู่มือการสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน
เอกสารประกอบ ผนวก ข
การบรรยาย
โครงการพฒั นาการปฏบิ ัตงิ านของเจาหนาทต่ี ํารวจเพ่อื ลดอุบตั เิ หตุทางถนน
“การอบรมวิทยากรการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน”
หัวขอ “การบรหิ ารจัดการการทําสํานวนการสอบสวน ” และ
“ฝกปฏิบัตกิ ารบริหารและจัดทาํ สํานวน
การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตทุ างถนน จากกรณีศึกษา”
จดั ทําเอกสารประกอบการบรรยาย โดย
พ.ต.อ.ดร.สมชาย วอ งไวเมธี (ผกก.กลมุ งานวิชาการ 1 สบส.) 081-616-5937
พ.ต.อ.ชยั ณรงค รัตนผล (ผกก.(สอบสวน) กลุมงานสอบสวน บก.น. 6 บช.น.) 082-362-3555
ร.ต.ท.นราธปิ เสนานุช (รอง สว.กลมุ งานวชิ าการ 1 สบส.) 095-668-0506
ค่มู ือการสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน 169
ผนวก ข. ตัวอยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถ2นน
หลกั การวินิจฉยั คดีจราจรเบ้ืองตน้
เมื่อเกิดอุบตั ิเหตุจราจรทางบกข้ึน ไม่วา่ เกิดจากรถยนต์
รถจกั รยานยนต์ รถจกั รยาน รถบรรทุก รถโดยสาร ตลอดจนยานพาหนะทาง
บกทุกชนิด เม่ือเกิดการชนกนั หรือชนกบั วตั ถุอื่นใดในทาง หรือชนคนเดินเทา้
คนโดยสาร กต็ าม ยอ่ มจะมีผไู้ ดร้ ับความเสียหายและผกู้ ระทาํ โดยประมาท
พนกั งานสอบสวนมีหนา้ ที่รับแจง้ เหตุและรวบรวมพยานหลกั ฐาน โดยบุคคล
ที่เก่ียวขอ้ งที่จะตอ้ งมาใหป้ ากคาํ แก่พนกั งานสอบสวน เช่น ผขู้ บั ขี่ ผโู้ ดยสาร
และเจา้ ของรถ เป็นตน้
ท้งั น้ี กฎหมายใหอ้ าํ นาจแก่พนกั งานสอบสวนมีหนา้ ท่ีทาํ การ
สืบสวนสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุจราจรทางบก ดว้ ยการแสวงหาขอ้ เทจ็ จริงและ
หลกั ฐานไปตามอาํ นาจหนา้ ท่ี เพือ่ จะทราบรายละเอียดแห่งความผิด และ
รวบรวมพยานหลกั ฐานตลอดจนการดาํ เนินการท้งั หลายอ่ืนซ่ึงพนกั งาน
สอบสวนไดท้ าํ ไปเก่ียวกบั ความผิดท่ีกล่าวหา เพอ่ื ท่ีจะทราบขอ้ เทจ็ จริงหรือ
พิสูจน์ความผดิ และเพ่อื จะเอาตวั ผกู้ ระทาํ ผดิ มาฟ้ องลงโทษ โดยในคดีจราจร
ทางบกใหถ้ ือวา่ รัฐเป็นผเู้ สียหาย ดงั น้นั เม่ือพนกั งานสอบสวนไดร้ ับแจง้ เหตุ
คดีจราจร ทาํ การตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลกั ฐานแลว้
พนกั งานสอบสวนจะเป็นผกู้ ล่าวหาในความผดิ ดงั กล่าวเอง โดยท่ีคู่กรณีท่ี
พิพาทกนั ไม่จาํ ตอ้ งเป็นผกู้ ล่าวหาในคดีจราจรทางบก ส่วนฝ่ ายไหนจะเป็น
ผเู้ สียหายหรือเป็นผตู้ อ้ งหา กข็ ้ึนอยกู่ บั การวนิ ิจฉยั คดีเบ้ืองตน้ ของพนกั งาน
สอบสวน โดยจะตอ้ งมีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลกั ฐานเบ้ืองตน้
ก่อนทุกคร้ัง
170 คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน
ผนวก ข. ตัวอย่างสำ� นวนการสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน
3
การแสวงหาเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่ึงขอ้ เทจ็ จริงและพยานหลกั ฐาน
สามารถหาไดจ้ ากแหลง่ ขอ้ มูลดงั ต่อไปน้ี
๑. สถานท่เี กดิ เหตุ ดว้ ยการเดินทางไปตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ จะ
ทาํ ใหท้ ราบเก่ียวกบั รายละเอียด ดงั น้ี
- ลกั ษณะของถนน มีสภาพเป็นทางหลวง ทางลกู รัง ทางตรง
ทางโคง้ หรือทางร่วมทางแยก มีความกวา้ ง พ้นื ผวิ ถนน ความลาดเอียง เป็นตน้
- ร่องรอยบนถนน มีรอยลอ้ รอยยาง รอยครูด รอยเลือด ฝ่ ุน
โคลน เศษวตั ถุหรือชิ้นส่วนของรถท่ีตกอยู่ เป็นตน้
- ลกั ษณะเครื่องหมายจราจร สญั ญาณไฟจราจร โดยสงั เกต
จากสญั ญาณไฟจราจรสีต่างๆ ในทางร่วมทางแยกแต่ละดา้ นวา่ การ
เปล่ียนแปลงใชร้ ะยะเวลาเท่าใด และใหส้ ัญญาณแก่รถเคล่ือนตวั ไปทิศทางใด
ตามลาํ ดบั ลกั ษณะป้ ายจราจร ป้ ายบงั คบั ป้ ายเตือน ป้ ายแนะนาํ หรือ
เคร่ืองหมายจราจรบนพ้นื ทางและขอบทางเทา้ เสน้ แบ่งช่องเดินรถ ทิศทางการ
เดินรถ เสน้ ขอบทาง เสน้ แนวหยดุ เสน้ ทแยงสาํ หรับทางแยก และลกั ษณะ
ลกู ศรบนถนนกาํ หนดทิศทาง เป็นตน้
- สภาพการจราจร มีรถพลุกพล่าน การจราจรติดขดั ยา่ น
ชุมนุมชน เขตก่อสร้าง มีสิ่งกีดขวาง ค่อนขา้ งเปลี่ยว หรือรถสามารถเคล่ือน
ดว้ ยความเร็วได้ เป็นตน้
- ลกั ษณะภูมิอากาศ มีฝนตก ถนนล่ืน ความมืด ความสวา่ ง มีฝ่ นุ ควนั
เป็ นตน้
๒. คาํ ให้การของพยานบุคคล ซ่ึงจะเลา่ ใหท้ ราบถึงรายละเอียด
ต่าง ๆ ต้งั แต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลงั เกิดเหตุ มีดงั ต่อไปน้ี
ค่มู อื การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน 171
ผนวก ข. ตวั อยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน
4
- บุคคลท่ีเก่ียวขอ้ งก่อนหรือในขณะเกิดเหตุ ไดแ้ ก่ ผขู้ บั รถ
ผโู้ ดยสาร ผปู้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีประจาํ รถ ผเู้ ห็นเหตุการณ์ ผอู้ ยใู่ กลเ้ คียงที่เกิดเหตุ
เป็ นตน้
- บุคคลท่ีเกี่ยวขอ้ งหลงั เกิดเหตุ ไดแ้ ก่ พนกั งานสอบสวน
แพทย์ เจา้ พนกั งานพิสูจน์หลกั ฐาน เจา้ ของรถ บิดามารดาของผเู้ ยาว์ ญาติของ
ผตู้ าย เป็นตน้
๓. สภาพความเสียหายของรถ ทาํ ใหท้ ราบลกั ษณะทิศทางการชน
ของรถ ความเร็วของรถ ความแรงของการชน สีของรถคนั ที่ชนติดอยู่ ระดบั
ความสูงต่าํ หรือตาํ แหน่งท่ีชนกนั คราบเลือดหรือชิ้นเน้ือ เส้นผมของผบู้ าดเจบ็
ท่ีติดอยู่ ร่องรอยความเสียหายของรถแต่ละคนั ท่ีชนกนั ซ่ึงเมื่อนาํ รถค่กู รณีมา
วางเทียบตาํ แหน่งเขา้ ดว้ ยกนั แลว้ พิจารณาประกอบกบั ร่องรอยบนถนนแลว้ จะ
สามารถบอกทิศทางการชนกนั ของรถได้
๔. ลกั ษณะอาการบาดเจบ็ ลกั ษณะของบาดแผลที่เกิดข้ึนกบั
อวยั วะต่างๆ ของร่างกาย ความรุนแรงจนเกิดการแตกหกั ของกระดูก รอย
ถลอก ทาํ ใหท้ ราบทิศทางการชนของรถ ความเร็วรถ ทิศทางการลม้ หรือ
กระแทกระหวา่ งร่างกายกบั อุปกรณ์ส่วนควบของรถหรือกบั พ้ืนถนน เป็นตน้
๕. ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผทู้ ี่มีความรู้ มีความเช่ียวชาญในดา้ นต่างๆ
เช่น ในทางวิทยาศาสตร์ การตรวจพิสูจน์หลกั ฐาน การแพทย์ การช่างซ่อมตวั
รถ หรือเคร่ืองยนตข์ องรถ และความเห็นของผนู้ ้นั อาจมีประโยชน์ในการ
วนิ ิจฉยั คดีในการสอบสวนหรือพิจารณาคดี
๖. แหล่งอนื่ เช่น กลอ้ งวงจรปิ ดที่ติดต้งั อยตู่ รงทางร่วมทางแยก
กลอ้ งวดี ิโอติดหนา้ รถยนต์ เป็นตน้
172 คมู่ อื การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน
ผนวก ข. ตัวอย่างส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน
5
พนกั งานสอบสวนตอ้ งรวบรวมพยานหลกั ฐานจากแหลง่ ต่างๆ ที่
กลา่ วมาขา้ งตน้ โดยอาศยั ขอ้ มูลจากคาํ ใหก้ ารของผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งในท่ีเกิดเหตุ
ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากความเสียหายที่เกิดข้ึน
ท่ีตวั รถ ขอ้ มูลจากการตรวจรักษาผบู้ าดเจบ็ หรือการชนั สูตรพลิกศพผเู้ สียชีวติ
มาประกอบการพิจารณาวา่ มีความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งไร ซ่ึงจะทาํ ใหท้ ราบถึง
ช่วงวนั เวลาที่เกิดเหตุ รถที่ขบั มามีทิศทางการเดินรถจากท่ีใดมุ่งหนา้ ไปทิศทาง
ใด และทราบถึงทิศทางการชนกนั ในทาง ดงั น้นั การรักษาสถานท่ีเกิดเหตุ
เบ้ืองตน้ จึงเป็นเรื่องสาํ คญั ที่จะทาํ ใหพ้ นกั งานสอบสวนไดท้ ราบถึงพฤติการณ์
ในการขบั รถและวนิ ิจฉยั คดีไดถ้ กู ตอ้ ง สามารถช้ีใหเ้ ห็นวา่ ฝ่ ายใดเป็นฝ่ ายท่ีขาด
ความระมดั ระวงั ในการขบั รถมากกวา่ กนั เมื่อเกิดอุบตั ิเหตุข้ึนจึงไม่ควร
เคล่ือนยา้ ยรถหรือสิ่งอื่นใดจนกวา่ พนกั งานสอบสวนจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ
เวน้ แต่ การเคล่ือนยา้ ยผบู้ าดเจบ็ นาํ ส่งโรงพยาบาล หรือมีการจราจรติดขดั มาก
กใ็ หถ้ า่ ยภาพและทาํ เคร่ืองหมายไวก้ ่อนกไ็ ด้
หลกั ในการวินิจฉัยคดเี บอื้ งต้น
ลาํ ดบั แรก ใหพ้ ิจารณาเร่ืองสิทธิการใชท้ าง ยกตวั อยา่ งเช่น ผขู้ บั ขี่
ตอ้ งไดร้ ับสัญญาณไฟจราจรสีเขียวใหไ้ ปก่อนจึงจะมีสิทธิก่อน เวน้ แต่มีเจา้
พนกั งานจราจรใหไ้ ปก่อนกใ็ หป้ ฏิบตั ิตามคาํ ส่งั ของเจา้ พนกั งานจราจร สิทธิ
การใชท้ างยอ่ มเป็นของผขู้ บั ขี่ฝ่ ายที่ไดร้ ับสญั ญาณจราจรท่ีใหเ้ คล่ือนรถไปได้
ถา้ ไม่มีสญั ญาณจราจรแต่มีรถอยใู่ นทางร่วมทางแยกซ่ึงหมายถึงมีรถอยใู่ น
พ้ืนที่ท่ีทางเดินรถตดั กนั กใ็ หร้ ถในพ้ืนที่ทางร่วมทางแยกน้นั ผา่ นไปก่อน ถา้
รถมาถึงพร้อมกนั ซ่ึงหมายถึงมาชนกนั ในพ้ืนที่ตดั กนั ของทางร่วมทางแยก
พอดี สิทธิในการใชท้ างยอ่ มเป็นของผขู้ บั ขี่รถในทางเอกน้นั มีสิทธิผา่ นไป
ก่อน ถา้ เป็นทางร่วมทางแยกที่ไม่มีทางเอกตดั กบั ทางโท กต็ อ้ งใหส้ ิทธิแก่รถที่
ค่มู อื การสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน 173
ผนวก ข. ตวั อยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
6
อยทู่ างซา้ ยมือผา่ นไปก่อน นอกจากน้ี ผขู้ บั ข่ีตอ้ งระวงั ไม่ใหร้ ถไปชนหรือโดน
คนเดินเทา้ ซ่ึงหมายถึงสิทธิของคนเดินเทา้ ดีกวา่ หรือกรณีผขู้ บั ขี่ตอ้ งขบั รถให้
ห่างจากคนั ขา้ งหนา้ พอสมควรที่จะหยดุ รถไดท้ นั เมื่อจาํ เป็นตอ้ งหยดุ รถซ่ึง
หมายถึงรถคนั หนา้ มีสิทธิการใชท้ างดีกวา่ เป็นตน้ รถที่ไม่มีสิทธิใชท้ างดีกว่า
ยอ่ มมีพฤติการณ์น่าเชื่อวา่ ขบั รถโดยประมาท
ลาํ ดบั ท่ีสอง ใหพ้ ิจารณาเรื่องการฝ่ าฝืนกฎหมาย ยกตวั อยา่ งเช่น ฝ่ า
ฝืนสญั ญาณไฟจราจร ฝ่ าฝืนเครื่องหมายจราจรใหเ้ ดินรถทางเดียว ฝ่ าฝืน
เคร่ืองหมายจราจรหา้ มแซง หา้ มเล้ียว ฝ่ าฝื นกฎหมายโดยขบั รถในขณะเมาสุรา
หรือของเมาอยา่ งอ่ืน ขบั รถในขณะหยอ่ นความสามารถในอนั ท่ีจะขบั ฝ่ าฝืน
ไม่ลดความเร็วรถในทางร่วมทางแยก เป็นตน้ ยอ่ มมีพฤติการณ์น่าเชื่อวา่ ขบั รถ
โดยประมาท ส่วนกรณีผขู้ บั ขี่ไม่มีใบอนุญาตขบั ข่ีแต่มีความชาํ นาญในการขบั
รถแลว้ การฝ่ าฝืนกฎหมายเพราะไม่มีใบขบั ขี่น้นั ไม่ไดเ้ ป็นสาเหตุของการขบั
รถโดยประมาท
ลาํ ดบั ท่ีสาม ใหพ้ จิ ารณาเร่ืองปัจจยั เส่ียงใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุ เช่น มี
สาเหตุปัจจยั เร่งรัดท่ีทาํ ใหผ้ ขู้ บั ข่ีตอ้ งขบั รถเร็วมากเป็นพิเศษจนขาดความ
ระมดั ระวงั การขาดสมาธิในการขบั รถ หรือสภาพถนนเปี ยก ลื่น เป็นหลุมบ่อ
หรือมีสิ่งกีดขวาง แสงสวา่ งที่ไม่เพยี งพอ ทางโคง้ อนั ตราย หรืออุปกรณ์ส่วน
ควบของรถเสียหายในขณะขบั รถ เป็นตน้ ผทู้ ี่มีปัจจยั เส่ียงดงั กลา่ ว ยอ่ มมี
พฤติการณ์น่าเชื่อวา่ ขบั รถโดยประมาท
เม่ือพจิ ารณาตามลาํ ดบั ข้นั ตอนท้งั สามแลว้ จะสามารถวนิ ิจฉยั คดี
เบ้ืองตน้ ไดว้ า่ คู่กรณีฝ่ ายใดน่าจะเป็นฝ่ ายขบั รถโดยประมาท หมายความวา่ ขบั
รถโดยปราศจากการระมดั ระวงั ซ่ึงในภาวะเช่นน้นั จกั ตอ้ งมีตามวสิ ัยและ
พฤติการณ์ที่ผขู้ บั ข่ีอาจใชค้ วามระมดั ระวงั เช่นวา่ น้นั ได้ แต่หาไดใ้ ชใ้ หเ้ พียงพอ
174 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน
ผนวก ข. ตวั อย่างสำ� นวนการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
7
ไม่ เมื่อชงั่ น้าํ หนกั จากพยานหลกั ฐานเบ้ืองตน้ แลว้ พนกั งานสอบสวนจึงแจง้
ขอ้ กล่าวหาใหฝ้ ่ ายท่ีน่าเชื่อวา่ เป็นฝ่ ายกระทาํ โดยประมาทใหท้ ราบ ซ่ึงอาจจะ
เป็นฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงหรือท้งั สองฝ่ ายกไ็ ด้ ผทู้ ่ีถกู กล่าวหายอ่ มมีสิทธิท่ีจะต่อสูค้ ดี
ในกรณีท่ีไม่เห็นพอ้ งดว้ ยกบั การวินิจฉยั เบ้ืองตน้ หรือหากยอมรับตามคาํ
วินิจฉยั กจ็ ะเป็นแนวทางใหค้ ู่กรณีสามารถตกลงประนีประนอมยอมความเร่ือง
ค่าเสียหายกนั ไดง้ ่ายข้ึน เมื่อตกลงเรื่องค่าเสียหายกนั ได้ คดีความยอ่ มยตุ ิลง
โดยง่ายเช่นกนั .
เขียนโดย พ.ต.อ.อภิรักษ์ นกั ไร่
ค่มู ือการสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน 175
ผนวก ข. ตัวอยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตทุ างถนน
8
ตัวอยา ง สํานวน คดี จร. คําใหก ารผตู อ งหา
ใบแดง น.ส.สภุ าพร ขบั รถยนตโดยประมาท
มีผูรับอันตรายสาหสั
176 คมู่ ือการสอบสวนคดีอุบตั ิเหตุทางถนน
ผนวก ข. ตวั อยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน
9
0OA
สาํ นกั งานตํารวจแหง่ ชาติ
บนั ทกึ คําให้การของผรู้ อ้ งทกุ ข์ ผ้กู ล่าวโทษ หรือพยาน
คําใหก้ ารของพ.ต.ท. สถานตี ํารวจนครบาลบางยี�ขนั เขต บางพลดั จงั หวัด กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ๒๕๕๓
ชยั ณรงค์ รัตนผล วันท�ี ๓ เดอื น ธนั วาคม
ผกู้ ลา่ วหา
เป็น ผู้กล่าวหา พ.ต.ท. ชยั ณรงค์ รัตนผล
O0A
คดีระหวา่ ง
น.ส.สุภาพร บงค์สุวรรณ ผูต้ ้องหา
ต่อหน้า พ.ต.ท.วโิ รจน์ ทองประไพ พนักงานสอบสวน (สบ ๓) สน.บางย�ขี ัน
สอบสวนที� สถานีตํารวจนครบาลบางยีข� ัน
ช�อื พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รตั นผล อายุ ๕๓ ปี
เช�อื ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
อาชีพ (ลงให้ชดั เจนวา่ อาชพี ชนดิ ใด ถา้ เป็นขา้ ราชการให้ปรากฏว่าในหรือนอกราชการ มีเบย�ี หวดั
หรอื มบี าํ เหน็จหรือบาํ นาญ ให้ลงตามประเภททีร� ับ)
รับราชการตาํ รวจ
ต�ังบ้านเรือนอยู่บา้ นเลขท�ี หม่ทู ี� ตําบล
ชื�อผใู้ หญบ่ า้ น ชื�อกํานนั
อําเภอ จังหวดั
ชื�อบดิ า ช�อื มารดา
เกี�ยวขอ้ งเปน็ อะไรกบั คกู่ รณี ไม่เกี�ยวขอ้ ง สาบานตนแลว้
ขอให้ถอ้ ยคําวา่ ขา้ ฯ ขอใหก้ ารตอ่ หนา้ พนักงานสอบสวนดว้ ยความสัตยจ์ รงิ ดงั ต่อไปน�ี
ถาม ทา่ นรบั ราชการตาํ รวจ มียศ ตาํ แหนง่ หนา้ ทอี� ย่างไร
ตอบ ข้าฯรับราชการตาํ รวจยศพนั ตํารวจโท ตําแหน่งพนกั งานสอบสวน (สบ ๓) สถานตี ํารวจ
นครบาลบางยขี� ัน ปฏิบตั หิ นา้ ที� เปน็ พนักงานสอบสวนฯ มีหน้าท�ี รบั แจ้งความรับคําร้อง
ทุกข์ดาํ เนินคดีอาญาตอ่ ผูต้ ้องหาในความผดิ ตาม ประมวลกฎหมายอาญาและความผิด
ตามพระราชบัญญัติท�ีมโี ทษทางอาญาตามกฎหมาย สืบสวนจับกมุ ผูก้ ระทาํ ความผดิ
ตามกฎหมายและปฏิบตั ติ ามคาํ สง�ั ของผ้บู งั คบั บัญชาเหนอื ตนทีช� อบด้วยกฎหมาย
ค.๑๓๘-ต.๘๕
คู่มอื การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน 177
ผนวก ข. ตัวอย่างส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน
10
ถาม ทา่ นรเู้ หน็ หรอื เกยี� วขอ้ งกับคดนี �ีอย่างไร
ตอบ ข้าฯเปน็ พนักงานสอบสวนในคดี จร.ที� ๔๘๙/๒๕๕๓ ตาม ปจว.ขอ้ ๑ เวลา ๒๔.๐๐ น.ในคดนี ี�
ถาม ขอทราบรายละเอยี ดในคดนี ท�ี �ีเกิดข�นึ
ตอบ กล่าวคือ เม�อื วนั ท�ี ๒ ธนั วาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๑.๑๐ น. ขณะทข�ี า้ ฯปฏบิ ตั ิหน้าท�ี
พนกั งานสอบสวนเวรคดี จราจร อยทู่ ี� สน.บางยขี� ัน น�ัน ไดแ้ จ้งว่ามีเหตุรถยนต์เฉ�ียวชนกันที�
บนสะพานสมเดจ็ พระปิ�นเกลา้ (ฝงั� สมเดจ็ พระปนิ� เกล้า ขาเข้า) จงึ ไดเ้ ดนิ ทางไปตรวจสอบ
สถานที�เกดิ เหตุตามทไ�ี ดร้ บั แจ้ง เมือ� ไปถึง บรเิ วณทเี� กดิ เหตุ ตามท�ไี ด้รับแจ้งพบรถยนตค์ ู่-
กรณี ในคดีเกิดเหตุ ดงั น�ี คอื ( รถยนต์ค่กู รณี ๓ คนั )
๑. รถยนต์ น�งั ส่วนบุคคล แวน ย�ีห้อ อีซูซุ แอดเวนเจอร์ สีเทา หมายเลขทะเบยี น
ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร จอดอยู่บนสะพาน (ดา้ นซา้ ยสุด ขาออก ขวาสุดขาเข้า) หน้า
ไดร้ ับความเสยี หายจากการถกู ชน อย่างมาก ไมส่ ามารถขับได้ ผขู้ ับรถทราบชอ�ื ตอ่ มาวา่
น.ส.ชตุ กิ าญจน์ เสารแ์ กว้ อายุ ๔๘ ปี ภมู ิลาํ เนาอยู่บา้ นเลขที� ๑๖๐/๖๔๓ หมู่ ๑๓
ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร (บาดเจบ็ เลก็ นอ้ ย)
นางพยงุ พึ�งสายยนั อายุ ๕๒ ปี ผทู้ ี�นงั� โดยสารมาในรถยนต์ คนั หมายเลขทะเบยี น
ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ทเ�ี บาะหนา้ ดา้ นซา้ ย หลังเกิดเหตมุ พี ลเมอื งดนี ําตัวสง่ โรง-
พยาบาลเจ้าพระยา (ได้รบั อนั ตรายสาหัสฯ)
นายสมพงษ์ เสาร์ แกว้ อายุ ๖๒ ปี ผทู้ น�ี ั�งโดยสารมาในรถยนต์ คันหมายเลข
ทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ท�เี บาะดา้ นหลังขา้ งซา้ ย (บาดเจ็บเลก็ นอ้ ย)
๒. รถยนต์ น�งั สว่ นบคุ คล ยี�ห้อ ฮอนดา้ ซติ ี� สีเทา หมายเลขทะเบยี น วล ๒๖๑๔
กรงุ เทพมหานคร หนา้ รถเสยี หายชนทา้ ยติดอย่ทู ้ายรถยนต์ หมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔
กรงุ เทพมหานคร จอดอยบู่ นสะพานสมเด็จพระปิ�นเกลา้ ขาออก เลนซา้ ยสดุ ผู้ขบั ขี�ทราบชือ�
ต่อมาว่า นายธรี นาถ ใจชนื� อายุ ๓๔ ปี บาดเจบ็ เลก็ นอ้ ย
สว่ นรถยนต์ คกู่ รณี เจา้ พนกั งานจราจร สน.บางยขี� นั ไดพ้ ่นสสี เปร รอบลอ้ รถไวแ้ ล้ว
ยกรถฯออกให้พน้ ชอ่ งทางจราจร เนอ�ื งจากการจราจรรถตดิ มาก ทราบตอ่ มาวา่ เป็นรถยนต์
นัง� ส่วนบุคคล ย�หี อ้ นิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน สร ๙๒๑ กรงุ เทพมหานคร หนา้ รถเสยี
หายมาก หลังเกดิ เหตุ ถอยออกจากกนั เนื�องจากแรงกระแทกกนั อย่างแรง จอดอยู่บนสะพาน
สมเด็จพระปน�ิ เกลา้ ช่องซ้ายสุดขาเขา้ ( ตามภาพในแผนท�เี กดิ เหตุ ) ผู้ขบั ขี�ทราบชือ� ตอ่ มา
วา่ น.ส.สุภาพร บงคส์ ุวรรณ บาดเจ็บเล็กนอ้ ย
ต่อจากนัน� จงึ ไดถ้ า่ ยรูปท�ีเกิดเหตุ และจัดทาํ แผนท�ีเกดิ เหตุโดยสงั เขปไว้แล้ว แยก
รถยนตค์ กู่ รณคี ันดงั กล่าว ออกจากทเ�ี กดิ เหตุใหพ้ ้นช่องทางเดนิ รถ แลว้ เดินทางกลับ สน.-
อา่ นใหฟ้ งั แล้วรบั ว่าถูกต้อง
ลงชอื� พ.ต.ท. ผ้กู ล่าวหา
ลงชอ�ื พ.ต.ท. สอบสวน,พิมพ,์ อา่ น
178 คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
ผนวก ข. ตัวอย่างส�ำนวนการสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน
11
ใบต่อคําใหก้ าร พ.ต.ท. ชัยณรงค์ รัตนผล ผูก้ ล่าวหา แผ่นท�ี ๑
บางยีข� ัน ลงบนั ทึกประจาํ วัน รับคําร้องทกุ ข์ไว้ตามคดี จราจรที� ๔๘๙/๒๕๕๓ ตามปจว.
ข้อ ๑ เวลา ๒๔.๐๐ น. ลงวนั ท�ี ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓
ถาม สภาพการจราจรเปน็ อย่างไร มีแสงสวา่ งหรอื ไม่
ตอบ สภาพการจราจร รถหนาแน่น มรี ถยนต์ว�ิงมงุ่ หน้าจะไปทาง สนามหลวง ฝง�ั พระนคร จาํ นวนมาก
ถนนแหง้ มีแสงสว่างจากไฟฟ้าประจาํ ทาง มองเห็นไดช้ ัดเจนในระยะประมาณ ๓๐-๔๐ เมตร
ถนนด้านขาเข้า เปดิ ให้รถวง�ิ ข้ามสะพานสมเด็จพระป�นิ เกล้า ไปฝัง� สนามหลวง ได้ ๒ ชอ่ งทาง
ดา้ นซา้ ย มไี ฟจราจรสี เขียว เปิดคา้ งไว้ ๒ ดวง ส่วนเลนดา้ นขวาสดุ ขาเขา้ เปิดสญั ญาณไฟจรา
จรสีแดงคา้ งไว้ด้านขาเขา้ ไปทางสนามหลวง แตเ่ ปิดไฟจราจรสีเขยี ว เปดิ ชอ่ งทางพิเศษ ช่วงเวลา
เร่งดว่ น ใหร้ ถวง�ิ สวนทางข้ามมาจาก ฝ�งั สนามหลวง ม่งุ หน้าข้ามสะพานสมเดจ็ พระป�นิ เกล้า ออก
มาทาง ฝัง� ป�นิ เกล้า ส�แี ยก อรุณอมรนิ ทร์ ดังกลา่ ว
ถาม เหตเุ กดิ ท�ไี หน เม�อื ใด
ตอบ เหตุเกดิ ที� บนสะพานสมเด็จพระป�นิ เกลา้ (ฝง�ั สมเด็จพระปิน� เกล้า ขาเขา้ ) แขวงอรณุ อมรนิ ทร์
เขตบางกอกนอ้ ย กรุงเทพมหานคร เม�ือวันท�ี ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
ถาม เคยรู้จัก หรอื เคยมสี าเหตุโกรธเคืองกบั ผใู้ ดมากอ่ นหรอื ไม่
ตอบ ไมเ่ คย
อ่านใหฟ้ ังแลว้ รบั วา่ ถกู ต้อง
ลงช�ือ พ.ต.ท. ผูก้ ล่าวหา
ลงชื�อ พ.ต.ท. สอบสวน,พมิ พ,์ อา่ น
ค.๓-ต. ๖๗
คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน 179
ผนวก ข. ตวั อยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
12
ใบตอ่ คําให้การ สอบสวนเพม�ิ เติม พ.ต.ท. ชยั ณรงค์ รัตนผล ผู้กล่าวหา แผ่นที� ๒
สถานตี ํารวจนครบาลบางย�ีขัน
วันท�ี ๑๗ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๔
พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รตั นผล พงส.(สบ ๓) สน.บางยี�ขัน ขอให้การเพิม� เตมิ ตอ่ หนา้ พ.ต.ท.
วโิ รจน์ ทองประไพ พงส.(สบ ๓) สน.บางยข�ี นั วา่ จะใหก้ ารเพ�ิมเตมิ ดว้ ยความสัตย์จรงิ โดยสาบาน
วา่ จะให้การเพ�ิมเติมด้วยความสัตยจ์ รงิ
ถาม ท่านทราบหรอื ไม่ว่า สาเหตขุ องการเฉยี� วชนเกดิ จากอะไร และการเฉีย� วชนเกดิ จากความประมาท
ของผู้ใด
ตอบ คดีน�ี จากการสอบสวนแลว้ สรปุ ไดค้ วามว่า ตามวันเวลาทีเ� กิดเหตุ น.ส.สภุ าพร บงคส์ วุ รรณ ได้ขับ
รถยนต์คนั หมายเลขทะเบียน สร ๙๒๑ กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนสมเดจ็ พระปิน� เกล้า (ขาเขา้ )
ดว้ ยความประมาทเลนิ เล่อปราศจากความระมัดระวงั ฝา่ ฝนื สญั ญาณจราจรสแี ดง ในช่องขวาสุดข�ึน
สะพานสมเด็จพระปิ�นเกล้า เขา้ ชนรถยนต์ คกู่ รณที �ี ๑ คันหมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพฯ
ท�วี ิ�งสวนทางไปในช่องทางพเิ ศษ ใหร้ ถวง�ิ สวนทางออกได้ ชว่ งเวลาเรง่ ดว่ นดังกล่าวไดร้ ับความเสยี
หาย และเปน็ เหตใุ ห้ รถยนต์ คันหมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ถอยไปชนรถยนต์
ค่กู รณีที� ๒ หมายเลขทะเบียน วล ๒๖๑๔ กรุงเทพมหานคร ทว�ี งิ� ตามหลงั มาได้รบั ความเสียหายและ
เหตใุ ห้ นางพยุง พง�ึ สายยนั ซ�ึงน�งั โดยสารมาในรถยนต์ คนั หมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพฯ
ท�เี บาะหลังดา้ นหน้าข้างซ้ายไดร้ ับอันตรายสาหัส ( ปรากฎตามผลการตรวจชันสตู รบาดแผลของ
แพทย)์ คนอื�นๆ ได้รับอนั ตรายแกก่ ายหรือจติ ใจ
ถาม มรี อ่ งรอยใดๆ หรือไม่ มรี อยเบรคหรอื รอยครดู หรอื ไม่ ระยาเทา่ ใด ขอทราบจุดชนอยบู่ ริเวณใด
ตอบ ไมม่ รี อ่ งรอยเบรค มีแต่เศษชน�ิ สว่ นของรถยนต์ ท�ีเสียหายตกอยู่บนพนื� ทางฯ
ถาม ท่านได้แจ้งขอ้ กล่าวหาผู้ใดหรอื ไม่ ถ้าแจง้ ขอ้ หา แจง้ ขอ้ หาว่าอย่าไร
ตอบ ข้าฯไดแ้ จ้งข้อกล่าวหาให้แก่ น.ส.สภุ าพร บงค์สุวรรณ ผขู้ บั ขรี� ถยนต์ คันหมายเลขทะเบยี น สร-
๙๒๑ กรุงเทพมหานคร โดยกลา่ วหาว่า " ขบั รถโดยประมาทเปน็ เหตใุ หเ้ ฉยี� วชนรถผอู้ น�ื เสยี หาย
และผอู้ น�ื รบั อนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ , รับอนั ตรายสาหัส " น.ส.สุภาพร บงคส์ ุวรรณ ผู้ตอ้ งหา
ทราบขอ้ กลา่ วหาแลว้ ให้การรบั สารภาพตลอดขอ้ กล่าวหา
ถาม เรือ� งค่าเสยี หายตกลงกนั ไดห้ รอื ไม่
ตอบ เร�อื งคา่ เสียหาย ไดจ้ ัดทําบนั ทกึ ไว้แลว้ ยังตกลงกนั ไมไ่ ด้
ถาม ท่านมีอะไรจะใหก้ ารอกี หรอื ไม่
ตอบ ไม่มี
อ่านใหฟ้ ังแล้วรับว่าถกู ตอ้ ง
(ลงชื�อ) พ.ต.ท. ผกู้ ลา่ วหา
(ลงชื�อ) พ.ต.ท. สอบสวน,พิมพ,์ อา่ น
ค.๓-ต. ๖๗
180 คมู่ อื การสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน
ผนวก ข. ตัวอยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตุทางถนน
13
A0O
สาํ นักงานตํารวจแห่งชาติ
บันทกึ คําให้การของผรู้ ้องทุกข์ ผกู้ ล่าวโทษ หรือพยาน
คาํ ใหก้ ารของ น.ส. สถานตี าํ รวจ นครบาลบางย�ีขัน เขต บางพลดั จังหวัด กรงุ เทพมหานคร
ชตุ กิ าญจน์ เสาร์แก้ว วันที� ๓ เดอื น ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เปน็ พยาน AO0 พนั ตาํ รวจโท ชยั ณรงค์ รัตนผล ผกู้ ลา่ วหา
คดีระหวา่ ง
น.ส.สภุ าพร บงคส์ ุวรรณ ผู้ต้องหา
ต่อหน้า พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รัตนผล พนกั งานสอบสวน (สบ ๓) สน.บางย�ีขัน
สอบสวนที� สถานีตาํ รวจนครบาลบางย�ีขัน
ชื�อ น.ส.ชุตกิ าญจน์ เสาร์แก้ว อายุ ๔๘ ปี
เช�อื ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
อาชพี (ลงใหช้ ัดเจนว่าอาชพี ชนิดใด ถา้ เปน็ ขา้ ราชการให้ปรากฏว่าในหรอื นอกราชการ มเี บีย� หวัด
หรอื มบี าํ เหนจ็ หรอื บํานาญ ให้ลงตามประเภทท�ีรับ)
คา้ ขาย โทร.๐๘๑-๘๗๐๘๗๘๓
ต�ังบ้านเรือนอยู่บ้านเลขที�๑๖๐/๖๔๓ หมู่ ๑๓ ตําบล สวนหลวง
เลขประจาํ ตวั ประชาชนชอื� ผใู้ หญ่บา้ น ชื�อกาํ นัน
อาํ เภอ กระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร
ชือ� บิดานาย เทศ ชอื� มารดานาง กวา
เก�ียวขอ้ งเป็นอะไรกับคกู่ รณี ไมเ่ กีย� วข้อง สาบานตนแล้ว
ขอให้ถอ้ ยคาํ ว่า ข้า ฯ ขอใหก้ ารต่อหน้าพนกั งานสอบสวนดว้ ยความสตั ย์จรงิ ดังต่อไปน�ี
พ.ต.ท. บนั ทกึ ถาม พยานมีภูมลิ ําเนาอยทู่ �ใี ด ประกอบอาชพี อะไรอยทู่ ใี� ด
ตอบ ขา้ ฯมีภูมลิ าํ เนาและพกั อาศยั อยูท่ ี�บ้านเลขท�ดี ังกล่าวมาแล้วข้างต้นข้าฯประกอบอาชีพ
ค้าขาย สลากกินแบ่งรัฐบาล อยูท่ ี� ศนู ยจ์ ําหน่ายสลากกินแบง่ รฐั บาล มีรายไดเ้ ดอื นละ
ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ บาท หากข้าฯย้ายที�อยเู่ มอื� ใดจะแจ้งให้พนกั งานสอบสวนทราบ
ค.๑๓๘-ต.๘๕
ค่มู ือการสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน 181
ผนวก ข. ตัวอยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
14
ถาม ท่านรู้เห็น หรอื เก�ยี วข้องกบั คดนี ี�อยา่ งไร
ตอบ ข้าฯเปน็ ผู้ท�ี ขับรถยนต์ ยหี� ้อ อีซูซุ แอดเวนเจอร์ สบี รอนเงิน หมายเลขทะเบียน ศค-๙๒๙๔
กรุงเทพมหานคร คกู่ รณีในคดีนี�
ถาม เหตุเกดิ ทีไ� หนเม�อื ใด
ตอบ เหตุเกิด บนสะสานสมเดจ็ พระปน�ิ เกลา้ (ขาเขา้ ) แขวงอรุณอมั รินทร์ เขตบางกอกน้อย
กรงุ เทพมหานคร เมอื� วนั ท�ี ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
ถาม ขอทราบรายละเอยี ดในคดนี ี�ท�เี กิดขึ�น
ตอบ กลา่ วคอื ตามวนั เวลาทเี� กิดเหตุดงั กลา่ ว ข้าฯได้ขับรถยนต์ คนั ดงั กล่าวมาแล้วข้างตน้ มา
ตามถนน สมเดจ็ พระปนิ� เกล้า (ขาออก) เน�ืองจากทางฝั�ง สน.ชนะสงคราม มีกรวยต�ังแบง่
ช่องทางเดนิ รถใหร้ ถวงิ� ในชอ่ งทางพเิ ศษ สวนทางได้ ในชอ่ งทางช่องท�ี ๓ ขาเข้าไปทาง
สนามหลวง มาถงึ ที�เกดิ เหตุ เป็นทางลงจากสะพาน ด้วยความเรว็ ประมาณ ๔๐ กม./ชม.
ปรากฎวา่ มรี ถยนตค์ ูก่ รณี เปน็ รถยนต์เกง๋ สีขาว ย�ีนิสสนั ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
ทราบต่อมาว่า หมายเลขทะเบียน สร-๙๒๑ กรงุ เทพมหานคร ว�งิ สวนทางขนึ� มาจากทาง
สแ�ี ยกบรมราชชนนี ในช่องทางเดนิ รถพเิ ศษ ช่องท�ี ๓ ของคกู่ รณี ซงึ� ถนนมี ๓ เลน ใหร้ ถ
สวนทางได้ ๑ ช่องทาง (ชอ่ งท�ี ๓ จากซ้ายขาขน�ึ ) ด้วยความเรว็ สูง ไม่ต�าํ กว่า ๑๐๐ กม./
ชม. ขา้ ฯมองเห็นว่าเขาขบั แซงรถแท็กซี� ข้าฯมองเหน็ ในระยะเกิน ๑๐๐ เมตร ขณะนนั�
รถคล่องตวั รถไม่ติด แม้มีรถเยอะก็ตาม ข้าฯกแ็ ตะเบรครอ คดิ ว่ารถคันดงั กล่าวจะหลบ
ไปพ้น ข้าฯขับรถวิง� ไปชา้ ๆ แต่รถคู่กรณวี �ิงพุง่ เข้าชนรถยนตค์ ันท�ีข้าฯขับมาดังกลา่ ว
อยา่ งแรง แล้วรถคกู่ รณกี ็ถอยหลังไปอยู่ฝงั� ตรงขา้ ม และรถยนตค์ นั ที�ข้าฯขับมาก็ถอยไป
กระแทกรถยนตท์ �ีว�งิ มาทางดา้ นหลงั เป็นรถยนต์เกง๋ ย�ีหอ้ ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน
วล-๒๖๑๔ กรุงเทพมหานคร ซึ�งจอดอยู่ ด้านหลงั รถข้าฯดังกลา่ ว ได้รับความเสียหาย
ตวั ขา้ ฯเองไดร้ บั บาดเจบ็ ท�หี น้าอกด้านซ้าย และแขนซ้าย ถลอก เลก็ น้อย สว่ นอ�นื ไมม่ ี
บาดเจ็บ และมผี ทู้ ีน� ัง� โดยสารมาในรถยนต์ดว้ ย ๒ คน คือ
๑. นางพยงุ พ�ึงสายนั อายุ ๕๓ ปี ภูมิลําเนาอย่บู า้ นเลขท�ี ๑๖๐/๖๔๓ หมู่ ๑๓
ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมทุ รสาคร นั�งมาท�ี เบาะดา้ นหน้า ข้างซ้าย ได้รบั บาด
เจบ็ ท�ขี าและหลงั กระดูกสะโพกเคลื�อน เขา้ โรงพยาบาลเจา้ พระยา
๒. นายสมพงษ์ เสารแ์ กว้ อายุ ๖๒ ปี บา้ นเลขที� ๑๓๐/๔ หมู่ ๔ ต.ทา่ งิว� อ.
บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ นัง� มาทเ�ี บาะดา้ นหลังข้างซา้ ย ได้รับบาดเจบ็ ที�ขาหน้าแขง้
ด้านซ้ายแตก เยบ็ ๔ เข็ม เจบ็ ท�หี น้าอก
ถาม พยานมใี บอนญุ าตขับรถยนต์ หรอื ไม่ และ มี พ.ร.บ.คมุ้ ครองผปู้ ระสบภยั จากรถหรอื ไม่
ตอบ ข้าฯมีใบอนญุ าตขบั ขี� รถยนต์ ส่วนบุคคล ชนิดช�ัวคราว ยงั ไมห่ มดอายุ รถข้าฯมีประกัน
ภัย ชน�ั ๑ ของ บริษทั ฯวริ ิยะประกนั ภยั
182 คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน
ผนวก ข. ตวั อย่างสำ� นวนการสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน
15
ใบตอ่ คําใหก้ าร น.ส.ชุติกาญจน์ เสาร์แกว้ พยาน แผ่นที� ๒
ถาม รถยนต์ ยี�หอ้ อีซซู ุ แอดเวนเจอร์ สีบรอนเงนิ หมายเลขทะเบยี น ศค-๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร
เป็นของผใู้ ด
ตอบ รถยนต์ ยห�ี ้อ อีซูซุ แอดเวนเจอร์ สบี รอนเงิน หมายเลขทะเบียน ศค-๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร
เปน็ รถของขา้ ฯเอง
ถาม ขณะทเ�ี กดิ เหตุมแี สงสวา่ งหรือไม่ สภาพถนนและสภาพการจราจรเป็นอยา่ งไร
ตอบ ขณะทเ�ี กดิ เหตุมแี สงจากไฟฟ้าประจาํ ทาง มองเหน็ ได้ในระยะ ประมาณ ๔๐-๕๐ เมตร
และไฟสอ่ งสว่างของรถยนตข์ า้ ฯ ถนนแหง้ ฝนไมต่ ก มรี ถขาออกเยอะ แต่ขาเขา้ น้อย ไม่มี
เจ้าพนักงานจราจรโบกรถตามทาง
ถาม พนักงานสอบสวนให้ดูแผนท�ีเกิดเหตแุ ลว้ ถูกต้องหรือไม่
ตอบ ข้าฯดูแผนสงั เขปทเี� กิดเหตุทพี นกั งานสอบสวนทําข�นึ และใหข้ ้าฯดแู ลว้ ถกู ตอ้ งตรงกบั ความเป็นจริง
ถาม ท่านเคยรู้จกั หรอื เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผูใ้ ดมากอ่ นหรือไม่
ตอบ ข้าฯไมเ่ คยมสี าเหตุโกรธเคอื งกบั ผ้ใู ดมากอ่ น
อ่านให้ฟังแล้วรับว่าถูกตอ้ ง
(ลงช�ือ) พยาน
(ลงช�ือ) พ.ต.ท. สอบสวน,พมิ พ,์ อา่ น
ค. ๓-ต. ๖๗
คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน 183
ผนวก ข. ตัวอยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดีอุบัตเิ หตุทางถนน
16
0OA
สาํ นกั งานตํารวจแห่งชาติ
บนั ทึกคาํ ใหก้ ารของผูร้ ้องทุกข์ ผูก้ ลา่ วโทษ หรือพยาน
คาํ ใหก้ ารของ นาง สถานีตาํ รวจ นครบาลบางย�ีขัน เขต บางพลัด จังหวดั กรงุ เทพมหานคร
พยงุ พงึ� สายนั วนั ที� ๙ เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
เป็น พยาน
พันตาํ รวจโท ชยั ณรงค์ รตั นผล ผู้กล่าวหา
A0O
คดีระหวา่ ง
น.ส.สภุ าพร บงคส์ ุวรรณ ผ้ตู อ้ งหา
ตอ่ หนา้ พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รัตนผล พนกั งานสอบสวน (สบ ๓) สน.บางยี�ขัน
สอบสวนท�ี สถานตี าํ รวจนครบาลบางย�ขี นั
ชื�อ นางพยงุ พ�ึงสายนั อายุ ๕๒ ปี
เชอ�ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
อาชพี (ลงให้ชัดเจนวา่ อาชพี ชนดิ ใด ถ้าเปน็ ขา้ ราชการใหป้ รากฏว่าในหรอื นอกราชการ มเี บี�ยหวดั
หรอื มบี ําเหน็จหรือบาํ นาญ ใหล้ งตามประเภทที�รับ)
คา้ ขาย โทร.๐๘๑-๘๑๓๖๔๙๔
ตั�งบ้านเรือนอยบู่ า้ นเลขที�๑๓๔/๒ หมู่ ๖ ตําบล บ้านแดน
เลขประจําตวั ประชาชนชื�อผ้ใู หญ่บา้ น ช�ือกํานัน
๕ ๖๐๐๕ ๐๐๐๖๔ ๐๗ ๑อําเภอ บรรพตพสิ ยั จังหวัด นครสวรรค์
๒๘ ต.ค.๕๒ ออกบัตร ชอื� บิดานาย เทศ ช�อื มารดานาง กวา
๓๐ มี.ค.๕๙ หมดอายุ เกี�ยวข้องเปน็ อะไรกับค่กู รณี ไม่เกีย� วขอ้ ง สาบานตนแลว้
ขอให้ถอ้ ยคําว่า ขา้ ฯ ขอให้การตอ่ หนา้ พนกั งานสอบสวนดว้ ยความสัตย์จริงดังต่อไปน�ี
พ.ต.ท. บันทกึ ถาม พยานมภี มู ลิ าํ เนาอยทู่ �ีใด ประกอบอาชีพอะไรอยทู่ �ใี ด
ตอบ ข้าฯมภี ูมิลําเนาเดมิ อยทู่ บ�ี า้ นเลขทีด� ังกลา่ วมาแล้วขา้ งต้น ปัจจบุ ัน ข้าฯพักอาศัยอยู่ท�ี
บ้านเลขที� ๑๖๐/๖๔๓ หมู่ ๑๐ ต.สวนหลวง อ.กระทมุ่ แบน จ.สมทุ รสาคาร ประกอบ
อาชพี ขายสลากกินแบ่งรฐั บาล มีรายไดไ้ มแ่ นน่ อน
ค.๑๓๘-ต.๘๕
184 ค่มู อื การสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน
ผนวก ข. ตวั อย่างสำ� นวนการสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตทุ างถนน
17
ถาม ท่านรเู้ ห็น หรือ เกยี� วข้องกบั คดนี �ีอยา่ งไร
ตอบ ขา้ ฯเปน็ ผูท้ �ี นง�ั โดยสารมาในรถยนต์ ยีห� อ้ อซี ูซุ แอดเวนเจอร์ สบี รอนเงิน หมายเลข
ทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ทเี� บาะด้านหนา้ ข้างซ้าย และเฉย�ี วชนกบั รถยนต์
คู่กรณีในคดีน�ี ทวี� ิง� สวนทางกัน ทราบตอ่ มาวา่ เปน็ รถยนต์ เกง๋ สีขาว หมายเลขทะ-
เบียน สร ๙๒๑ กรุงเทพมหานคร ขณะเกดิ เหตุ
ถาม เหตุเกิดทไี� หนเมือ� ใด
ตอบ เหตุเกิด บนสะสานสมเด็จพระป�ินเกลา้ (ขาเข้า) แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกนอ้ ย
กรงุ เทพมหานคร เมอื� วันที� ๒ ธนั วาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
ถาม ขอทราบรายละเอียดในคดีน�ีท�เี กิดขึน�
ตอบ กลา่ วคือ ตามวนั เวลาท�ีเกดิ เหตุดงั กลา่ ว ข้าฯได้นงั� โดยสารมาในรถยนต์ คนั หมายเลข
ทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ท�ี เบาะดา้ นหน้าขา้ งซ้าย และโดย มี น.ส.
ชตุ ิกาญจน์ เสาร์แกว้ เปน็ ผูข้ ับขี� มาตามถนนจาก สนามหลวง ขา้ มสะพานสมเดจ็ พระ
ปนิ� เกลา้ ดว้ ยความเรว็ ประมาณ ๔๐ กม./ชม. โดยรถยนต์ ว�ิงข้ามสะพานฯ ในช่องทาง
พเิ ศษ เลนซ้ายสุด (ขาออก) มี ๓ ชอ่ งทาง จากทาง สนามหลวง มงุ่ หน้าขา้ มไป ป�ิน-
เกลา้ ขณะท�ีรถวิ�งไปถึงท�ีเกิดเหตุ คอ่ นมาทางฝั�งปนิ� เกลา้ ได้มีรถยนต์ ค่กู รณี วิง� สวน
ทางกนั วิง� เข้าชนประสานงา กบั รถยนต์คนั ท�ีขา้ ฯนงั� โดยสารมาดังกลา่ ว อยา่ งแรง และ
ปรากฎวา่ มรี ถยนตเ์ กง๋ ว�งิ ตามหลังรถยนต์คนั ท�ขี า้ ฯนง�ั โดยสารมาดังกล่าวได้วิง� ชนทา้ ย
รถยนตค์ ันทข�ี ้าฯนง�ั อยอู่ ยา่ งแรงพร้อมๆกนั ส่วนรถเก๋ง คกู่ รณี หลงั เกดิ เหตุไดถ้ อยห่าง
ออกไปด้านหน้า ฝ�ังถนนตรงข้าม ห่างไปประมาณ ๖ เมตร ตวั ข้าฯเองได้รบั บาดเจ็บมี
แผลถลอกช�าํ ทหี� น้าผาก , ขอ้ สะโพกบวมชา�ํ ผดิ รูป , กระดกู ต้นขาขวาหกั , กระดกู เบ้า
สะโพกขวาหกั ฯลฯ รบั บาดเจบ็ สาหสั ยงั อยู่ระหวา่ งการรกั ษาฯ ของแพทย์ ยงั ไมห่ าย
เปน็ ปกติ สว่ น น.ส.ชตุ ิกาญจน์ เสาร์แก้ว ผขู้ ับขร�ี ถฯ ไดร้ ับบาดเจ็บไม่มากนกั เนอ�ื งจาก
คาดเขม็ ขัดนริ ภยั โดยหลงั เกดิ เหตุ ขา้ ฯ และ นายสมพงษ์ เสารแ์ กว้ มีพลเมืองดนี าํ ตวั ไป
ส่งที� โรงพยาบาลเจา้ พระยา ขา้ ฯก็รเู้ ห็นเหตุการณท์ เ�ี กดิ ขึน� เพยี งเทา่ น�ี
ถาม เร�ืองคา่ เสียหาย ตกลงกันไดห้ รือไม่
ตอบ ยงั ตกลงกนั ไมไ่ ด้
ถาม เคยรู้จัก หรอื เคยมสี าเหตโุ กรธเคืองกันมาก่อนหรอื ไม่
ตอบ ข้าฯไมเ่ คยรจู้ ัก หรือเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกบั ผขู้ ับขีร� ถยนต์ คกู่ รณแี ตอ่ ยา่ งใด
อ่านใหฟ้ ังแล้วรบั วา่ ถกู ต้อง
(ลงช�ือ) พยาน
(ลงช�ือ) พ.ต.ท. สอบสวน,พิมพ,์ อ่าน
คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ัติเหตทุ างถนน 185
ผนวก ข. ตัวอยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดีอุบตั ิเหตทุ างถนน
18
0AO
สํานักงานตํารวจแหง่ ชาติ
บันทกึ คําใหก้ ารของผรู้ อ้ งทกุ ข์ ผกู้ ลา่ วโทษ หรือพยาน
คาํ ใหก้ ารของ นาย สถานีตํารวจ นครบาลบางยีข� นั เขต บางพลดั จงั หวัด กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ๒๕๕๔
สมพงษ์ เสารแ์ ก้ว วันท�ี ๒๗ เดอื น มกราคม
ผู้กล่าวหา
เป็น พยาน พันตํารวจโท ชัยณรงค์ รัตนผล
OA0
คดรี ะหวา่ ง
น.ส.สุภาพร บงค์สวุ รรณ ผู้ตอ้ งหา
ต่อหน้า พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รตั นผล พนกั งานสอบสวน (สบ ๓) สน.บางยขี� นั
สอบสวนที� สถานีตํารวจนครบาลบางย�ีขัน
ช�ือ นายสมพงษ์ เสาร์แกว้ อายุ ๖๑ ปี
เชือ� ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ
อาชพี (ลงใหช้ ัดเจนว่าอาชีพชนดิ ใด ถา้ เปน็ ขา้ ราชการใหป้ รากฏวา่ ในหรือนอกราชการ มเี บย�ี หวดั
หรอื มบี าํ เหนจ็ หรอื บาํ นาญ ให้ลงตามประเภทที�รบั )
เลขประจาํ ตัวประชาชน ต�ังบ้านเรือนอยบู่ า้ นเลขที�๑๓๐/๔ หมู่ ๔ ตาํ บล ท่าง�วิ
๓ ๖๐๐๕ ๐๐๓๖ ๙๓ ๗ ชอ�ื ผ้ใู หญบ่ ้าน ช�ือกาํ นนั
๑๐ ม.ค.๕๐ ออกบัตร อําเภอ บรรพตพิสยั จงั หวัด นครสวรรค์
๓๑ ธ.ค.๕๖ หมดอายุ ชือ� บดิ านาย เทศ ชอื� มารดานาง กวา
อ.บรรพต ออกบัตร เก�ียวข้องเปน็ อะไรกับคูก่ รณี ไมเ่ กี�ยวข้อง สาบานตนแล้ว
พ.ต.ท. บนั ทกึ ขอให้ถ้อยคาํ ว่า ขา้ ฯ ขอให้การต่อหนา้ พนักงานสอบสวนดว้ ยความสัตยจ์ รงิ ดงั ตอ่ ไปน�ี
ถาม พยานมีภมู ลิ าํ เนาอย่ทู ใี� ด ประกอบอาชีพอะไรอยทู่ �ใี ด
ตอบ ข้าฯมีภมู ลิ ําเนาอยทู่ ี�บ้านเลขที�ดังกลา่ วมาแล้วขา้ งตน้ ข้าฯประกอบอาชพี ทาํ นา
เกษตรกรรม ทบ�ี ้านขา้ ฯดงั กลา่ วข้างตน้ มรี ายได้ไมแ่ น่นอน
ค.๑๓๘-ต.๘๕
186 คูม่ ือการสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตุทางถนน
ผนวก ข. ตัวอยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตทุ างถนน
ถาม ทา่ นรูเ้ หน็ หรือ เก�ยี วขอ้ งกบั คดีน�อี ย่างไร 19
ตอบ ขา้ ฯเป็นผทู้ ี� น�ังโดยสารมาในรถยนต์ ยหี� อ้ อีซซู ุ แอดเวนเจอร์ สบี รอนเงิน หมายเลข
ทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ที�เบาะหลงั ข้างซา้ ย และเฉีย� วชนกบั รถยนต์
คู่กรณีในคดีน�ี ท�วี �งิ สวนทางกนั ทราบต่อมาว่า เป็นรถยนต์ เก๋ง สีขาว หมายเลขทะ-
เบียน สร ๙๒๑ กรุงเทพมหานคร ขณะเกดิ เหตุ
ถาม เหตุเกดิ ทีไ� หนเมอ�ื ใด
ตอบ เหตเุ กดิ บนสะสานสมเดจ็ พระป�ินเกล้า (ขาเข้า) แขวงอรณุ อมั รินทร์ เขตบางกอกนอ้ ย
กรุงเทพมหานคร เมอื� วนั ท�ี ๒ ธนั วาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
ถาม ขอทราบรายละเอียดในคดีนท�ี เี� กดิ ขึน�
ตอบ กลา่ วคือ ตามวันเวลาท�ีเกิดเหตดุ งั กลา่ ว ข้าฯไดน้ �ังโดยสารมาในรถยนต์ คนั ดงั กล่าวมา
โดยมี นางพยุง พงึ� สายัน นง�ั โดยสารมาในรถฯ ท�ี เบาะดา้ นหนา้ ขา้ งซ้าย และ มี น.ส.
ชตุ ิกาญจน์ เสารแ์ ก้ว เป็นผูข้ ับข�ี มาตามถนนจาก สนามหลวง ขา้ มสะพานสมเดจ็ พระ
ปนิ� เกล้า ดว้ ยความเร็วประมาณ ๔๐ กม./ชม. โดยรถยนต์ วิง� ขา้ มสะพานฯ ในช่องทาง
พิเศษ เลนซา้ ยสดุ ในทางเดินรถขาเขา้ ซงึ� มี ๓ เลน (จากป�นิ เกลา้ มุง่ หน้าขา้ มไปสนาม
หลวง) ขณะทีร� ถวิง� ไปถึงที�เกดิ เหตุ คอ่ นมาทางฝ�งั ป�นิ เกล้า ได้มีรถยนต์ คู่กรณี ว�งิ สวน
ทางกนั ว�ิงเข้าชนประสานงา กับรถยนต์คันทข�ี า้ ฯนงั� โดยสารมาดงั กลา่ ว อยา่ งแรง และ
ปรากฎวา่ มีรถยนต์ เก๋ง วง�ิ ตามหลงั รถยนต์คนั ทข�ี ้าฯนงั� โดยสารมาดงั กลา่ ว ไดว้ �ิงชนท้าย
รถยนตค์ ันทข�ี ้าฯนงั� อยอู่ ยา่ งแรงพร้อมๆกัน ส่วนรถเก๋ง คกู่ รณี หลังเกดิ เหตไุ ดถ้ อยห่าง
ออกไปดา้ นหนา้ ฝั�งถนนตรงข้าม หา่ งไปประมาณ ๖ เมตร ตวั ข้าฯเองไดร้ บั บาดเจบ็ ที�
ชายโครงขวาฟกช�ํา , มีบาดแผลฉีกขาดขอบไม่เรยี บทีห� นา้ แขง้ ซา้ ย , และมีบาดแผลฉีก
ขาดท�ขี อ้ เทา้ ขวา ไม่บาดเจบ็ สาหัส สว่ น นางพยุง พ�ึงสายัน ท�ีน�ังโดยสารอยู่ท�ีหนา้ รถ
ดา้ นหน้าข้างซา้ ย ไดร้ ับบาดเจบ็ มบี าดแผลถลอกชํา� ที� หนา้ ผาก , สะโพกบวมชา�ํ และ
กระดกู ต้นขวาหกั และมบี าดแผลอีกหลายแห่ง ขา้ ฯไม่ทราบรายละเอียด ส่วน น.ส.ชุติ-
กาญจน์ เสาร์แก้ว ผขู้ ับขี�รถฯ ไดร้ บั บาดเจ็บไมม่ ากนัก เนอ�ื งจากคาดเขม็ ขดั นริ ภยั คน
ขบั ทาํ งาน โดยหลังเกดิ เหตุ ข้าฯ และ น.ส.พยุง พงึ� สายนั มพี ลเมอื งดีนําตวั ไปส่งที�
โรงพยาบาลเจ้าพระยา ขา้ ฯกร็ ู้เห็นเหตุการณท์ �เี กดิ ขึน� เพยี งเทา่ นี�
ถาม เรอื� งคา่ เสยี หาย ตกลงกนั ไดห้ รอื ไม่
ตอบ ยงั ไมไ่ ด้มีการเจรจาตกลงกนั
ถาม เคยรจู้ กั หรือ เคยมีสาเหตโุ กรธเคืองกนั มาก่อนหรอื ไม่
ตอบ ข้าฯไมเ่ คยรูจ้ ัก หรอื เคยมีสาเหตโุ กรธเคืองกับ ผขู้ บั ข�ีรถยนต์ คู่กรณแี ต่อยา่ งใด
อ่านใหฟ้ ังแล้วรับว่าถูกต้อง
(ลงช�ือ) พยาน
(ลงชื�อ) พ.ต.ท. สอบสวน,พิมพ,์ อ่าน
ค่มู ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน 187
ผนวก ข. ตัวอยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
20
OA0
สํานักงานตํารวจแหง่ ชาติ
บันทึกคําใหก้ ารของผรู้ อ้ งทุกข์ ผูก้ ลา่ วโทษ หรอื พยาน
คําให้การของ นาย สถานตี าํ รวจ นครบาลบางยข�ี นั เขต บางพลัด จงั หวัด กรงุ เทพมหานคร
ผกู้ ล่าวหา
ธรี นาถ ใจช�ืน วนั ท�ี ๓ เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เปน็ พยาน
พนั ตาํ รวจโท ชยั ณรงค์ รัตนผล
AO0
คดรี ะหว่าง
น.ส.สุภาพร บงค์สุวรรณ ผู้ตอ้ งหา
ต่อหนา้ พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รตั นผล พนกั งานสอบสวน (สบ ๓) สน.บางยข�ี ัน
สอบสวนท�ี สถานีตาํ รวจนครบาลบางย�ขี นั
ชอ�ื นายธรี นาถ ใจช�ืน อายุ ๓๔ ปี
เชือ� ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ
อาชีพ (ลงให้ชดั เจนว่าอาชพี ชนิดใด ถา้ เป็นขา้ ราชการใหป้ รากฏวา่ ในหรือนอกราชการ มีเบย�ี หวดั
หรือมีบาํ เหน็จหรอื บํานาญ ให้ลงตามประเภทท�ีรับ)
คา้ ขาย โทร.๐๘๓-๓๐๒๒๙๙๑
ต�งั บา้ นเรือนอยบู่ า้ นเลขท�ี๒๒๖ หมู่ - แขวง บ้านพานถม
เลขประจําตัวประชาชน ชือ� ผู้ใหญ่บ้าน ช�อื กาํ นนั
๓ ๑๐๐๑ ๐๐๙๐๘ ๓๓ เขต พระนคร จงั หวดั กรุงเทพมหานคร
๒๕ เม.ย.๔๙ ออกบตั ร ชื�อบิดานาย เกษม ชื�อมารดานาง รัตนา
๑๘ เม.ย.๕๖ หมดอายุ เกี�ยวขอ้ งเป็นอะไรกบั คู่กรณี ไม่เก�ียวข้อง สาบานตนแลว้
เขตหลกั สี� ออกบัตร ขอให้ถอ้ ยคําวา่ ข้า ฯ ขอให้การต่อหน้าพนกั งานสอบสวนด้วยความสัตยจ์ ริงดังตอ่ ไปน�ี
พ.ต.ท. บันทกึ ถาม พยานมีภูมลิ าํ เนาอย่ทู �ีใด ประกอบอาชีพอะไรอยทู่ ใ�ี ด
ตอบ ข้าฯมภี ูมิลําเนาอย่ทู �บี ้านเลขท�ดี งั กลา่ วมาแล้วข้างตน้ ปจั จุบนั ขา้ ฯพัอกอาศยั อยู่
ทีบ� ้านเลขท�ี ๑๗๕/๗ หมู่ ๑ แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ข้าฯประ
กอบอาชีพ คา้ ขาย อปุ กรณ์เคร�อื งเสียงบา้ น มีรายไดเ้ ดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท
ค.๑๓๘-ต.๘๕
188 คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ัตเิ หตทุ างถนน
ผนวก ข. ตวั อย่างสำ� นวนการสอบสวนคดีอุบตั เิ หตทุ างถนน
21
ถาม ทา่ นรูเ้ หน็ หรอื เกีย� วข้องกับคดนี �อี ยา่ งไร
ตอบ ขา้ ฯเป็นผ้ทู ี� ขับรถยนต์ เกง๋ ยห�ี อ้ ฮอนดา้ สบี รอนเงนิ หมายเลขทะเบียน วล-๒๖๑๔
กรงุ เทพมหานคร คกู่ รณีในคดนี ี�
ถาม เหตเุ กดิ ทีไ� หนเมื�อใด
ตอบ เหตเุ กดิ บนสะสานสมเดจ็ พระปน�ิ เกล้า (ขาเข้า) แขวงอรณุ อัมรินทร์ เขตบางกอกนอ้ ย
กรุงเทพมหานคร เมื�อวันที� ๒ ธนั วาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
ถาม ขอทราบรายละเอียดในคดีน�ีทีเ� กิดข�นึ
ตอบ กล่าวคอื ตามวนั เวลาทเ�ี กิดเหตดุ ังกลา่ ว ข้าฯไดข้ ับรถยนต์ คันดังกลา่ วมาแล้วขา้ งตน้ มา
ตามถนน สมเด็จพระปน�ิ เกลา้ (ขาออก) เนอ�ื งจากทางฝ�งั สน.ชนะสงคราม มีกรวยต�งั แบ่ง
ช่องทางเดินรถให้รถวิ�งในช่องทางพเิ ศษ สวนทางได้ ในช่องทางช่องที� ๓ ขาเข้าไปทาง
สนามหลวง มาถึงทเี� กิดเหตุ เปน็ ทางลงจากสะพาน ดว้ ยความเร็วประมาณ ๓๕ กม./ชม.
ตามหลังรถยนต์ย�หี อ้ อซี ซู ุ แอดเวนเจอร์ สีบรอน หมายเลขทะเบยี น ศค-๙๒๙๔ กรุงเทพฯ
หา่ งกันประมาณ ๒๐ เมตร ตอ่ มาได้มีรถยนต์ ค่กู รณีวิ�งสวนทางข�ึนไป ในเลนที� ๓ จาก
ซา้ ย ขา้ เขา้ สนามหลวง (เลนขวาสุด) โดยข้าฯมองเห็นไฟหนา้ รถดงั กลา่ วส่องสวา่ งคล้าย
ไฟซนี ่อน และเห็นไฟทา้ ยรถอีซซู ุคันหนา้ มไี ฟเบรค ขา้ ฯก็ชลอรถแตะเบรคตาม และรถ
คันหนา้ ดังกล่าวยงั ไม่หยดุ และรถคันท�ีข้าฯหยุดแล้ว ปรากฎว่ารถยนต์คนั ทว�ี ิง� สวนทาง
ขึน� ไป วง�ิ ชนประสานงานกับรถยนต์ อซี ซู ุ อย่างแรง แลว้ รถยนต์ อซี ซู ุ ถอยหลงั มากระ
แทกชนหน้ารถยนต์คันทีข� ้าฯขบั ไป ซงึ� รถหยดุ แลว้ ดังกลา่ ว ไดร้ บั ความเสียหาย ขา้ ฯได้
รบั บาดเจ็บท�ีหนา้ แขง้ ซ้าย บวม และหัวแม่มอื ซ้ายเจ็บ สว่ นอืน� ๆ ไม่ไดร้ ับอนั ตรายแต่
อยา่ งไร ตอ่ มากม็ เี จ้าพนกั งานจราจร ไปทเี� กิดเหตุ และฉีดสสี เปร ท�ีรอยรถรถคกู่ รณี
ท�ังสามคนั ไวบ้ นพืน� ถนน ตอ่ จากนัน� ก็มพี นกั งานสอบสวนไปท�ีเกิดเหตุ ถา่ ยภาพทเี� กดิ
เหตุ จัดทาํ แผนทเี� กดิ เหตุไว้แลว้ แยกรถคกู่ รณี คันท�ีข้าฯขับมา และรถยนตอ์ ีซซู ุ มาไว้
ที� สน.บางยข�ี นั ส่วนรถยนต์ คู่กรณี เจ้าพนักงานตาํ รวจ จราจร ไดย้ กรถแยกออกจากท�ี
เกิดเหตไุ ปให้พน้ ชอ่ งทางจราจร เนือ� งจากหลงั เกดิ เหตุรถตดิ มากๆ
ถาม ขณะเกิดเหตุ มีผใู้ ดนัง� โดยสารมาดว้ ยในรถยนต์ คนั ท�ีพยานขับมาหรอื ไม่
ตอบ ขณะเกดิ เหตุ ไมม่ ีผใู้ ดน�ัง โดยสารมาด้วยในรถยนต์ คันทีข� า้ ฯขบั มาแตอ่ ย่างใด ขา้ ฯ
ขบั มาเพยี งคนเดยี ว
ถาม พยานมีใบอนุญาตขับรถยนต์ หรือไม่ และ มี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภยั จากรถหรอื ไม่
ตอบ ขา้ ฯมีใบอนญุ าตขบั ข�ี รถยนต์ ส่วนบุคคล ชนิดตลอดชพี รถข้าฯมีประกนั ประเภท ๓
บริษทั อลิอ�นั ซีพีฯ
อ่านใหฟ้ ังแล้วรับวา่ ถกู ตอ้ ง
(ลงช�อื ) พยาน
(ลงชือ� ) พ.ต.ท. สอบสวน,พิมพ,์ อา่ น
คูม่ อื การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน 189
ผนวก ข. ตวั อยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน
22
ใบตอ่ คําใหก้ าร นายธีรนาถ ใจชนื� พยาน แผน่ ท�ี ๒
ถาม รถยนต์ เกง๋ ยหี� ้อฮอนดา้ สีบรอนเงนิ หมายเลขทะเบียน วล-๒๖๑๔ กรุงเทพมหานคร
เป็นของผูใ้ ด
ตอบ รถยนต์ เก๋ง ยหี� อ้ ฮอนด้า สีบรอนเงนิ หมายเลขทะเบียน วล-๒๖๑๔ กรงุ เทพมหานคร
เปน็ รถของขา้ ฯเอง
ถาม ขณะทเี� กิดเหตมุ แี สงสว่างหรอื ไม่ สภาพถนนและสภาพการจราจรเปน็ อย่างไร
ตอบ ขณะทเี� กิดเหตุมีแสงจากไฟฟา้ ประจาํ ทาง มองเห็นไดใ้ นระยะ ประมาณ ๕๐ เมตร
และไฟสอ่ งสว่างของรถยนต์ขา้ ฯ ถนนแห้ง ฝนไม่ตก มรี ถขาออกเยอะ แตข่ าเขา้ นอ้ ย ไมม่ ี
เจา้ พนักงานจราจรโบกรถตามทาง ดา้ นทางลง บริเวณท�ีเกดิ เหตุ ไม่มกี รวยตั�ง
ถาม พนกั งานสอบสวนให้ดแู ผนท�เี กดิ เหตุแล้วถูกตอ้ งหรอื ไม่
ตอบ ข้าฯดูแผนสงั เขปทเ�ี กดิ เหตทุ ีพนกั งานสอบสวนทําขึ�นและให้ขา้ ฯดูแล้ว ถูกต้องตรงกับความเปน็ จรงิ
ถาม ท่านเคยรู้จกั หรอื เคยมีสาเหตโุ กรธเคืองกบั ผู้ใดมากอ่ นหรือไม่
ตอบ ข้าฯไมเ่ คยมสี าเหตุโกรธเคอื งกับผใู้ ดมาก่อน
อา่ นใหฟ้ ังแลว้ รับว่าถกู ตอ้ ง
(ลงชอื� ) พยาน
(ลงชอื� ) พ.ต.ท. สอบสวน,พมิ พ,์ อ่าน
ค. ๓-ต. ๖๗ ค่มู อื การสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
190
ผนวก ข. ตวั อย่างส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน
23
OA0
สํานกั งานตํารวจแห่งชาติ
บันทกึ คาํ ให้การรับสารภาพของผู้ต้องหา ตามมาตรา ๒๐
พระราชบัญญัตจิ ดั ตง�ั ศาลแขวง ฯ พ.ศ. ๒๔๙๙
สถานีตํารวจ นครบาลบางยีข� ัน เขต บางพลัด จังหวัด กรงุ เทพมหานคร
วนั ท�ี ๑๗ เดือน กุมพาพนั ธ์ พทุ ธศักราช ๒๕๕๔
สอบสวนท�ี สถานตี ํารวจนครบาลบางย�ขี ัน
ชื�อ น.ส.สุภาพร บงคส์ วุ รรณ อายุ ๓๘ ปี
เช�ือชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ อาชพี คา้ ขาย
อย่บู า้ นเลขท�ี ๑๑๑/๕ หมู่ - แขวง วงั บูรพาภิรมย์
เขต พระนคร จังหวัด กรงุ แทพมหานคร
ชือ� บิดา มารดา นายไพฑูรย์ - นางวิภา
เกดิ ท�ตี าํ บลแขวง ป้อมปราบ เขต พระนคร จังหวดั กรงุ เทพมหานคร
กอ่ นแจง้ ขอ้ กลา่ วหาพนกั งานสอบสวนไดแ้ จ้งข้อเท็จจรงิ เกี�ยวกบั การกระทําทกี� ล่าวหาวา่
พฤตกิ ารณ์ กล่าวคอื ตามวันเวลาทีเ� กดิ เหตุ น.ส.สุภาพร บงคส์ วุ รรณ ได้ขบั รถยนต์
คนั หมายเลขทะเบียน สร ๙๒๑ กรงุ เทพมหานคร ไปตามถนนสมเด็จพระปน�ิ เกล้า (ขาเขา้ ) ด้วยความ
ประมาทเลนิ เลอ่ ปราศจากความระมัดระวัง ฝา่ ฝืนสัญญาณจราจรสแี ดง ในช่องขวาสุด ขนึ� สะพานสมเด็จ
พระปน�ิ เกล้า เขา้ ชนรถยนต์คู่กรณที ี� ๑ คันหมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ทวี� �งิ สวนทาง
มาในชอ่ งทางพเิ ศษ ใหร้ ถวิ�งสวนทางออกได้ ชว่ งเวลาเรง่ ด่วน ดังกลา่ ว ได้รบั ความเสยี หาย และเปน็ เหตุ
ให้ รถยนต์ คนั หมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ถอยไปชนรถยนต์คู่กรณีที� ๒ คนั หมาย
เลขทะเบียน วล ๒๖๑๔ กรงุ เทพมหานคร ทว�ี �งิ ตามหลงั มาได้รับความเสียหาย และ เป็นเหตุให้ นางพยุง
พ�งึ สายยนั ซงึ� น�งั โดยสารมาในรถยนต์ คนั หมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ท�เี บาะด้าน
หนา้ ขา้ งซา้ ย ได้รับอันตรายสาหสั (ปรากฎตามผลการตรวจชนั สูตรบาดแผลของแพทย)์ คนอน�ื ๆ ไดร้ บั
อนั ตรายแก่กายหรอื จติ ใจ
ในการถามคาํ ให้การผตู้ ้องหา พนักงานสอบสวนได้แจง้ สทิ ธใิ ห้ผู้ตอ้ งหาทราบก่อนวา่
๑. ผูต้ ้องหามสี ทิ ธทิ �ีจะให้การหรอื ไม่ก็ได้ถา้ ผูต้ อ้ งหาให้การถอ้ ยคําทผี� ูต้ อ้ งหาใหก้ ารนัน� อาจใชเ้ ปน็
พยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้
๒. ผตู้ ้องหามสี ิทธใิ ห้ทนายความ หรอื ผซู้ �ึงตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากตาํ ตนได้
ค่มู อื การสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน 191
ผนวก ข. ตวั อยา่ งสำ� นวนการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน
24
ขา้ พเจา้ ทราบขอ้ หาตลอดแล้ว ขอใหก้ ารดว้ ยความเต็มใจ ดงั ต่อไปนี� คือ
ถาม ผู้ตอ้ งหามที นายความหรือไม่ ถ้าไมม่ แี ละผู้ตอ้ งหาตอ้ งการทนายความ รัฐจะจัดหาทนายความให้
ตอบ ข้าฯไมม่ ีทนายความและไม่ต้องการทนายความหรือใหผ้ ู้หนง�ึ ผู้ใดร่วมฟงั การปากคาํ ข้าฯแตอ่ ยา่ งใด
ถาม ตามข้อกล่าวหาท�พี นักงานสอบสวนแจง้ ใหผ้ ้ตู ้องหาทราบวา่ " ขบั รถยนต์โดยประมาทเปน็ เหตุให้
เฉี�ยวชนรถผู้อื�นเสยี หาย และผอู้ น�ื รับอนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ รบั อันตรายสาหสั " นัน� ผู้ต้องหา
ทราบและเขา้ ใจข้อกล่าวหาดแี ล้วหรอื ไม่ จะใหก้ ารอย่างไร
ตอบ ข้าฯ ทราบและเขา้ ใจขอ้ หาท�พี นกั งานสอบสวนแจง้ ให้ทราบดโี ดยตลอดข้อกลา่ วหาแลว้ ข้าฯขอให้การ
รับสารภาพตลอดขอ้ กลา่ วหา ด้วยความเตม็ ใจของ ข้าฯเองโดยไม่มีผ้หู นงื� ผูใ้ ดบังคับ ข่เู ขญ็ หลอกลวง
หรือใหส้ ญั ญาเพอื� ชักจงู ให้ ข้า ฯ ใหก้ ารเกย�ี วกบั เร�อื งที� ข้า ฯ ต้องหานแ�ี ต่อย่างใด
ถาม ผูต้ ้องหาเคยตอ้ งโทษหรอื ต้องหาคดอี าญามากอ่ นหรือไมอ่ ยา่ งไร
ตอบ ข้าฯไม่เคยต้องหาคดีอาญามาก่อนแต่อยา่ งใด
ถาม ผตู้ ้องหามีภูมิลาํ เนาอยทู่ ีใ� ด และประกอบอาชพี อะไรอยทู่ �ใี ด
ตอบ ข้าฯมีภมู ลิ ําเนาและพักอาศยั อย่ทู ี�บา้ นเลขท�ีดงั กล่าวมาแล้วข้างตน้ ข้าฯประกอบอาชีพ รับจา้ งเปน็ พนัก
งานขาย ร้านดารารัตน์ จําหน่ายเกี�ยวกับอัญมณี เครอ�ื งประดบั หลงั วังบูรพา ข้าฯเรยี นหนังสอื จบชั�น
ปริญญาโท คณะบรหิ ารธรุ กจิ
ถาม เหตเุ กดิ ท�ไี หน เม�อื ใด
ตอบ เหตเุ กดิ ที� บนสะพานสมเด็จพระปน�ิ เกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร
เม�อื วนั ท�ี ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
ถาม ขอทราบรายละเอยี ดและขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ�ี กดิ ขึ�นเปน็ อยา่ งไร
ตอบ กลา่ วคือ ตามวันเวลาท�ีเกดิ เหตดุ งั กลา่ ว ขา้ ฯไดข้ ับรถยนต์ คนั ดังกลา่ วมาแล้วขา้ งตน้ มา
ตามถนน สมเด็จพระป�นิ เกล้า (ขาเข้า) ในชอ่ งทางดา้ นขวาสดุ (เลนท�ี ๓ จากซา้ ย) ดว้ ย
ความเรว็ ไม่น่าจะเกิน ๘๐ กม./ชม. เนอ�ื งจากเป็นขาขนึ� และไมเ่ หน็ วา่ มีกรวย ตั�งไว้และ
ไมเ่ ห็นว่ามีเจา้ พนกั งานตํารวจจราจร ยืนโบกรถแต่อย่างใด และไมได้สงั สังเกตแุ ละไมแ่ น่
ใจว่า ขา้ ฯได้เงยหนา้ ขน�ึ ไปมอง โคมสัญญาณไฟจราจรที�ติดตง�ั ไวด้ ้านบนเหนือระดับถนน
หรือไม่ โดยขา้ ฯขบั รถตามหลงั รถแทก็ ซ�คี นั หนึง� ไป ด้วย แลว้ ปรากฎวา่ รถยนตแ์ ท็กซ�คี ัน
ดงั กลา่ ว ซ�งึ ขา้ ฯไมไ่ ด้สงั เกตแุ ละจดจาํ หมายเลขทะเบยี น หลบไปทางซา้ ย ส่วนขา้ ฯหัก
รถหลบไมท่ นั จงึ วิง� เขา้ ชนประสานงากบั รถยนต์ คันหนา้ ที�ว�งิ สว่ นทางมาอยา่ งแรง ทราบ
ตอ่ มาวา่ เป็นรถยนต์ อซี ูซุ อแวนเจอร์ สีบรอนทอง หมายเลขทะเบยี น ศค-๙๒๙๔ กรุง-
มหานคร ขา้ ฯไมท่ ราบวา่ มีคนขับ และคนโดยสารมาด้วยก�คี น นอกจากน�ัน ยงั มีคกู่ รณที ี�
อีกคนั หนึ�ง ทราบตอ่ มาวา่ เปน็ รถยนต์ เก๋ง ยห�ี ้อ ฮอนดา้ ซติ �ี สบี รอนทอง หมายเลขทะ-
อ่านให้ฟังแลว้ รบั วา่ ถกู ตอ้ ง
(ลงช�ือ) ผตู้ อ้ งหา
(ลงชือ� ) พ.ต.ท. สอบสวน,พมิ พ,์ อ่าน
192 ค่มู ือการสอบสวนคดีอบุ ัติเหตทุ างถนน
ผนวก ข. ตัวอย่างส�ำนวนการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน
25
เบียน วล-๒๖๑๔ กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสยี หายจอดอยู่ทา้ ยรถยนต์ อีซซู ุ ดงั
กลา่ ว สว่ นรถยนต์คันทขี� ้าฯขบั ไปดังกลา่ ว ก็กระดอนถอยหลงั ออกมาจอดอยู่ ในเลนซา้ ย
สุด หน้ารถเฉยี งไปทางขวา ขา้ ฯก็ลงจากรถไปดูรถขา้ ฯ สว่ นรถยนตค์ ู่กรณี ข้าฯกม็ อง
ไปเหน็ กนั ไดแ้ ตข่ ้าฯก็ไม่กลา้ เดินข้ามไปดตู อ่ มากม็ เี จ้าพนกั งานตํารวจจราจร สน.บางยข�ี นั
ไปดูทเี� กดิ เหตุ และฉดี สสี เปร รอบลอ้ รถไวบ้ นพนื� ถนน แลว้ ลากรถยนตข์ องข้าฯไปไว้ฝงั�
สน.ชนะสงครามเพอื� ให้พน้ ช่องทางการจราจร แลว้ ขา้ ฯกเ็ ดนิ มาท�ี สน.บางยีข� ัน แล้วข้าฯ
กไ็ ป โรงพยาบาลธนบรุ ี ตอ่ มากม็ ี เจา้ พนักงานตํารวจ โทรศัพทไ์ ปแจ้งให้ขา้ ฯมาท�ี สน.-
บางยี�ขนั ขา้ ฯกเ็ ดนิ ทางมาทสี� น.บางยีข� ัน และได้ลงลายมือชือ� พร้อมกับคกู่ รณีทใี� น บนั ทกึ
ปจว.ข้อ เกดิ เหตไุ ว้ดว้ ย
ถาม ท่านได้รบั บาดเจ็บ ทีใ� ดบา้ งหรือไม่
ตอบ ข้าฯไดร้ บั บาดเจบ็ ทซ�ี อกคอด้านขวา เปน็ รอยผ�ืนชา�ํ , เจ็บหนา้ ออก ปวดคอ และท�ีขอ้ เทา้
รู้สกึ เจบ็ และบวม แขน ขา มอื เท้าไมห่ กั มีสติดี
ถาม ทา่ นมีใบอนุญาตขบั รถยนต์ หรอื ไม่ และ มี พ.ร.บ.คมุ้ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถหรอื ไม่
ตอบ ขา้ ฯมใี บอนุญาตขับข�ี รถยนต์ ส่วนบคุ คล ชนิดตลอดชีพ รถข้าฯมปี ระกันภัย ช�นั ๑ บริษัท
ประกันคมุ้ ภยั จํากัด (มหาชน)
ถาม รถยนต์ ยหี� อ้ นิสสนั เทียนา่ สีขาว เลขทะเบยี น สร-๙๒๑ กรุงเทพมหานคร เปน็ รถยนตข์ องผู้ใด
ตอบ รถยนต์ ยี�ห้อนสิ สัน เทยี น่า สีขาว เลขทะเบยี น สร-๙๒๑ กรุงเทพมหานคร เปน็ รถยนต์ของขา้ ฯเอง
ถาม ขณะท�ีเกดิ เหตมุ แี สงสว่างหรอื ไม่ สภาพถนนและสภาพการจราจรเปน็ อยา่ งไร
ตอบ ขณะทเ�ี กดิ เหตุมีแสงจากไฟฟ้าประจําทาง มองเหน็ ได้ในระยะ ประมาณ ๔๐-๕๐ เมตร
และไฟสอ่ งสวา่ งของรถยนตข์ า้ ฯ ถนนแห้ง ฝนไม่ตก มีรถขาออกรถมาก แตข่ าเขา้ มีรถ
นอ้ ยกว่า ไม่เจา้ พนักงานจราจรโบกรถตามทาง
ถาม ก่อนเกดิ เหตุ ทา่ นได้ด�มื สรุ า หรือเสพสิ�งมึนเมามาก่อนหรอื ไม่
ตอบ ปกตขิ า้ ฯไมเ่ คยด�ืม เครอ�ื งดมื� มแี อลกอฮอลอ์ ยู่แล้ว และไมไ่ ดด้ ม�ื สุรา หรอื ส�งิ มนึ มามาก่อน
ถาม ทา่ นมีสายตาปกติหรอื ไม่
ตอบ ขา้ ฯมสี ายตาปกติ
ถาม เร�อื งค่าเสยี หายตกลงกันไดห้ รือไม่
ตอบ เร�อื งค่าเสียหาย ให้ บริษัท ประกนั คุม้ ภยั จํากัด (มหาชน) รบั ผดิ ชอบเรอื� งคา่ เสยี หาย
ถาม พนักงานสอบสวนใหด้ แู ผนที�เกดิ เหตุแลว้ ถูกตอ้ งหรอื ไม่
ตอบ ขา้ ฯดแู ผนสงั เขปทเ�ี กิดเหตุท�พี นักงานสอบสวนทําข�ึนและให้ขา้ ฯดแู ล้ว ถกู ตอ้ งตรงกับความจรงิ
ถาม ท่านเคยรู้จกั หรอื เคยมีสาเหตุโกรธเคอื งกับผู้ใดมากอ่ นหรือไม่
ตอบ ข้าฯไมเ่ คยมีสาเหตุโกรธเคอื งกบั ผ้ใู ดมาก่อน
อ่านให้ฟังและให้อา่ นเองแล้วรับว่าถกู ตอ้ งแล้ว
(ลงชอ�ื ) ผู้ตอ้ งหา
(ลงช�ือ) พ.ต.ท. พนักงานสอบสวนฯ
คู่มอื การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน 193
ผนวก ข. ตัวอยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
26
บนั ทึกแจ้งขอ้ กลา่ วหาคดี จร.ท�ี ๔๘๙/๒๕๕๓
สถานท�บี ันทึก สถานาํ ตาํ รวจนครบาลบางย�ขี ัน
วนั ที� ๑๗ เดือน กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
วันน�ีเวลา๐๙.๓๐ น. ได้มผี ู้ต้องหาในคดนี ี� เขา้ มอบตัว ( หรือ เมื�อผตู้ อ้ งหาถูกเรยี ก
หรือส่งตัวมา หรือเข้าหาพนักงานสอบสวนเอง หรอื ปรากฎวา่ ผู้ใดซง�ึ มาอยตู่ อ่ หนา้ พนักงานสอบสวนเปน็ ผ้ตู ้องหา)
พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รัตนผล พนักงานสอบสวน (สบ ๓) สถานีตาํ รวจนครบาลบางยขี� นั พนักงานสอบสวน
จงึ ได้แจง้ ใหผ้ ถู้ กู จับหรอื ผู้ต้องหา ทราบถึงสิทธติ ามกฎหมาย กอ่ นเร�ิมถามคาํ ให้การ ดังตอ่ ไปน�ี.-
ในคดที มี� ีอัตราโทษจาํ คกุ ก่อนเรมิ� ถามคําใหก้ าร พนักงานสอบสวน ไดถ้ ามผูต้ ้องหาว่ามีทนาย
ความหรอื ไม่ ถา้ ไม่มีและผูต้ ้องหาต้องการทนายความ ให้รฐั จดั หาทนายความให้
ผตู้ อ้ งหามสี ทิ ธิใหท้ นายความ หรอื ผู้ซ�งึ ตนไว้วางใจเขา้ ฟังการสอบปากคําตนได้
ในการถามคําให้การผตู้ ้องหา พนักงานสอบสวนไดแ้ จ้งใหผ้ ู้ต้องหาทราบก่อนว่า
( ๑ ) ผตู้ อ้ งหามสี ทิ ธิที�จะให้การหรือไมใ่ หก้ ารก็ได้ ถ้าผตู้ อ้ งหาใหก้ าร ถอ้ ยคาํ ทีผ� ้ตู ้องหาใหก้ าร น�นั
อาจใชเ้ ป็นพยานหลกั ฐานในการพิจารณาคดีได้
( ๒ ) ผู้ตอ้ งหามสี ิทธใิ ห้ทนายความหรอื ผู้ซึ�งตนไวว้ างใจเข้าฟงั การสอบปากคําตนได้
(เมื�อผู้ต้องหาเตม็ ใจให้การอย่างไดก็ให้จดคําให้การไว้ ถา้ ผู้ต้องหาไมเ่ ตม็ ใจใหก้ ารเลยกใ็ ห้บันทกึ ไว้)
แลว้ จงึ เรม�ิ ถามปากคาํ ผตู้ อ้ งหาต่อไป
ชอื� ตวั น.ส.สภุ าพร ช�ือรอง - ชอื� สกลุ บงคส์ ุวรรณ
เชือ� ชาติ/เช�อื ชาติ ไทย - ไท บดิ า-มารดา
นายไพฑรู ย์ - นางวิภา อายุ ๓๘ ปี
อาชีพ คา้ ขาย โทร. ๐๘๓-๘๑๐๒๑๒๑
ภูมิลําเนาอยู่บ้านเลข๑๑๑/๕ หมู่ - ตําบล/แขวง วงั บรู พาภริ มย์
อาํ เภอ/เขตพระนคร จังหวดั กรงุ เทพมหานคร
เกิดท�ี ตาํ บล/แขวง ปอ้ มปราบ อําเภอ/เขต พระนคร จงั หวดั กรุงเทพมหานคร
ไดแ้ จง้ ใหผ้ ูต้ ้องหาทราบถึงขอ้ เท็จจริงเก�ียวกับการกระทําท�ีกล่าวหาว่าไดก้ ระทําความผิดดงั ต่อไปน�ี
พฤติการณ์ กล่าวคอื ตามวันเวลาท�เี กดิ เหตุ น.ส.สภุ าพร บงคส์ ุวรรณ ได้ขบั รถยนต์
คนั หมายเลขทะเบียน สร ๙๒๑ กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนสมเด็จพระปนิ� เกลา้ (ขาเข้า) ดว้ ยความ
ประมาทเลินเล่อปราศจากความระมดั ระวงั ฝ่าฝืนสญั ญาณจราจรสีแดง ในช่องขวาสดุ ขึน� สะพานสมเดจ็
พระปนิ� เกลา้ เขา้ ชนรถยนตค์ กู่ รณที �ี ๑ คันหมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ท�วี งิ� สวนทาง
มาในช่องทางพเิ ศษ ใหร้ ถว�ิงสวนทางออกได้ชว่ งเวลาเร่งด่วน ดงั กล่าว ไดร้ ับความเสียหาย และเป็นเหตุ
ให้ รถยนต์ คันหมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ถอยไปชนรถยนต์ค่กู รณที ี� ๒ คันหมาย
เลขทะเบยี น วล ๒๖๑๔ กรงุ เทพมหานคร ทีว� �ิงตามหลังมาได้รับความเสยี หาย และ เป็นเหตใุ ห้ นางพยงุ
194 คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน
27
ผนวก ข. ตวั อย่างส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน
-๒-
พึ�งสายยัน ซึง� นัง� โดยสารมาในรถยนต์ คนั หมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรุงเทพมหานคร ทเี� บาะหลังดา้ น
หน้าขา้ งซ้าย ไดร้ บั อนั ตรายสาหสั (ปรากฎตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย)์ คนอื�นๆ ได้รับ
อนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ
เหตเุ กิดบนสะพานสมเด็จพระป�ิแกลา้ (ขาเขา้ ) แขวงอรุณอมรนิ ทร์ เขตบางกอกนอ้ ย กรุงเทพฯ
เมอื� วนั ที� ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
พนกั งานสอบสวน สถานีตํารวจนครบาลบางยี�ขนั ไดร้ บั คําร้องทกุ ข์ ไวต้ ามคดี
จราจรท�ี ๔๘๙/๒๕๕๓ ลงวนั ท�ี ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ปจว.ขอ้ ๑ เวลา ๒๔.๐๐ น.
แล้วจึงแจ้งข้อหาใหผ้ ู้ตอ้ งหาทราบวา่ ขับรถยนตโ์ ดยประมาทเปน็ เหตใุ หเ้ ฉยี� วชนรถผู้อ�ืนเสยี หาย
และผู้อื�นรับอันตรายแกก่ ายหรือจติ ใจ , รับอนั ตรายสาหัส
คดีนี� พนักงานสอบสวนไดส้ อบสวนได้รวบรวมพยานหลกั ฐานแลว้ พจิ ารณาเห็นว่า การแจ้งขอ้ กล่าวหา
ดังกลา่ วมาแลว้ ข้างต้น นัน� มีพยานหลักฐานตามสมควรวา่ ผ้ตู อ้ งหานน�ั น่าจะได้กระทาํ ความผิดตามข้อ
กล่าวหานั�น จงึ แจ้งขอ้ กล่าวหาดังกลา่ วข้างต้นให้ผ้ตู อ้ งหาทราบ
ผ้ถู ูกจบั หรือผ้ตู อ้ งหาไดร้ ับทราบขอ้ กล่าวหาแล้วใหก้ ารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
อน�ึงในการแจง้ ข้อกลา่ วหาในครั�งน�ี พนักงานสอบสวนมไิ ด้บงั คบั ขูเ่ ขญ็ ลอ่ ลวงหรือใหส้ ญั ญาแต่อยา่ งใด
อา่ นใหฟ้ งั แลว้ รบั ว่าถกู ตอ้ งจึงลงลายมือชื�อไว้เปน็ หลักฐาน
(ลงชอ�ื ) ผถู้ ูกจบั หรือผู้ต้องหา
(ลงช�อื )พ.ต.ท. ผแู้ จ้งสิทธิ/บันทึก/อ่าน
ตาํ แหนง่ พงส.(สบ ๓) สน.บางย�ขี ัน
(ลงชอ�ื ) พยาน
คู่มอื การสอบสวนคดีอุบัตเิ หตุทางถนน 195
ผนวก ข. ตวั อย่างส�ำนวนการสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน
28
บนั ทึกการตรวจสถานท�ีเกิดเหตคุ ดีจราจรทางบก
สถานทีบ� นั ทกึ สถานีตาํ รวจนครบาลบางยขี� ัน
วันท�ี ๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เจา้ พนกั งานไดต้ รวจสถานทเ�ี กดิ เหตุในคดีนี� ปรากฏรายละเอยี ด ดังน�ี.-
ขอ้ ผู้ตรวจสถานที�เกิดเหตุ พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รตั นผล ตําแหนง่ พนกั งานสอบสวน (สบ ๓)
สถานตี าํ รวจนครบาลบางยี�ขัน
ข้อผ้กู ลา่ วหา พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รัตนผล
ข้อผู้ตอ้ งหา น.ส.สุภาพร บงค์สวุ รรณ
ข้อขอ้ หา ขบั รถยนตโ์ ดยประมาทเปน็ เหตุใหเ้ ฉ�ยี วชนรถผู้อนื� เสยี หาย และผอู้ นื� ได้รบั อันตราย
แก่กายหรอื จิตใจ , รับอันตรายสาหสั
ข้อ ๕. วัน เวลาเกิดเหตุ วันที� ๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๒๐.๔๕ น.
ขอ้ ๖. รบั คําร้องทกุ ข์เม�ือวนั ที� ๒ เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๒๔.๐๐ น.
ป.จ.ว.ขอ้ ๑
ขอ้ ๗. วัน เวลาตรวจสถานทีเ� กดิ เหตุ วนั ที� ๒ เดอื น ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เวลาระหว่าง ๒๑.๔๐ น. ถืง ๒๒.๓๐ น.
ขอ้ สถานทีเ� กิดเหตุ ตรอก/ซอย บนสะพานขา้ มสแี� ยก ถนน บรมราชชนนี
ระหว่าง ถนนบรมราชชนนี กบั ถนนสมเดจ็ พระปน�ิ เกลา้
ตําบล/แขวง อรุณอมั รินทร์ อําเภอ/เขต บางกอกน้อย จังหวดั กรงุ เทพมหานคร
๘.๑ สภาพผวิ จราจร
๘.๑.๑ วตั ถุท�ใี ช้ทําผวิ จราจร คอนกรีต
๘.๑.๒ ลักษณะของผวิ จราจร เรยี บ
๘.๑.๓ ความชนื� ของผวิ จราจร แหง้
๘.๑.๓.๑ ขณะเกดิ เหตุ (ถนนเปยี ก ลน�ื แห้ง) แหง้
๘.๑.๓.๒ ขณะตรวจท�เี กิดเหตุ (ถนนเปียก ลืน� แหง้ ) แหง้
๘.๑.๔ ความกวา้ งของผวิ จราจร ๘ เมตร
๘.๒ ขอบทาง-ทางเท้า มขี อบทาง บนสพาน
๘.๓ ระดับทาง เสมอกัน
๘.๔ ทศิ ทางตรงหรอื โคง้ บนสะพาน - ทางตรง
๘.๕ ทางรว่ มทางแยก ทางตรง ข�ึน - ลง สะพาน
ค.๑๘๘-ต. ๗๖๘
196 คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน
๘.๖ สภาพทางเอกทางโท ๒2ผ9นวก ข. ตัวอยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน
-
๘.๗ เส้นแบ่งช่องทาง มี
๘.๘ เครอ�ื งหมายกําหนดความเรว็ -
๘.๙ เขตเทศบาล -
๘.๑๐ เครื�องหมาย หรอื คําสง�ั อื�น ๆ ของเจ้าพนกั งานจราจร -
ขอ้ ร่องรอยหลกั ฐานในทเี� กดิ เหตุ
๙.๑ รอยห้ามล้อหรือรอยยาง -
๙.๒ อื�น ๆ -
ข้อ๑๐.เหตุการณท์ เ�ี กิดขน�ึ โดยสงั เขป กล่าวคอื ตามวันเวลาทเี� กิดเหตุ น.ส.สภุ าพร บงค์สุวรรณ ได้ขับ
รถยนตห์ มายเลขทะเบยี น สร ๙๒๑ กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนสมเด็จพระปิน� เกลา้ (ขาเข้า)ด้วยความ
ประมาทเลินเล่อปราศจากความระมดั ระวงั ฝ่าฝืนสญั ญาณจราจรสีแดง ในชอ่ งขวาสดุ ข�นึ สะพานสมเดจ็
พระปิ�นเกล้า เขา้ ชนรถยนต์ คู่กรณีที� ๑ คันหมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ท�ีว�ิงสวนทาง
มาในช่องทางพิเศษ ใหร้ ถวงิ� สวนทางออกได้ ช่วงเวลาเรง่ ด่วน ดังกลา่ ว ไดร้ บั ความเสยี หาย และเป็นเหตุ
ให้ รถยนต์ คนั หมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ถอยไปชนรถยนตค์ ูก่ รณีที� ๒ คนั หมาย
เลขทะเบียน วล ๒๖๑๔ กรงุ เทพมหานคร ทวี� ิง� ตามหลังมาไดร้ ับความเสยี หาย และ เป็นเหตใุ ห้ นางพยงุ
พึ�งสายยนั ซึ�งนัง� โดยสารมาในรถยนต์คนั หมายเลขทะเบียน ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร ทีเ� บาะหน้าดา้ น
ซา้ ย ไดร้ บั อันตรายสาหัส คนอ�ืนๆ ได้รบั อนั ตรายแกก่ ายหรือจิตใจ
ขอ้ ๑๑. ความเสยี หายตอ่ ชีวติ รา่ งกายหรือทรพั ยส์ ินทเี� กิดข�นึ
๑๑.๑ รถยนตน์ งั� สว่ นบคุ คล คันหมายเลขทะเบยี น สร ๙๒๑ กรุงเทพมหานคร
รถยนต์คนั หมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร
รถยนต์คนั หมายเลขทะเบียน วล ๒๖๑๔ กรุงเทพมหานคร
ข้อ๑๒. สิ�งของทย�ี ดึ ได้จากท�ีเกดิ เหตุ
๑๒.๑ ( ปรากฎตามขอ้ ๑๑. )
๒๑.๒
ข้อ๑๓. ข้อสันนิษฐานเบอ�ื งตน้ อยู่ระหว่างการสอบสวน
ลงชื�อ พ.ต.ท. ผตู้ รวจ/บนั ทึก
( ชยั ณรงค์ รัตนผล )
ตาํ แหน่ง พงส. (สบ ๓ ) สน.บางยขี� ัน
คู่มอื การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตทุ างถนน 197
ผนวก ข. ตัวอยา่ งส�ำนวนการสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ 3า0งถนน
แผนที�สงั เขปแสดงสถานทีเ� กดิ เหตุคดจี ราจร
คดรี ะหวา่ ง พ.ต.ท.ชยั ณรงค์ รัตนผล ผ้กู ลา่ วหา น.ส.สภุ าพร บงคส์ ุวรรณ ผตู้ อ้ งหา
ฐานความผดิ ขบั รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุใหเ้ ฉย�ี วชนรถผู้อื�นเสยี หาย และผู้อน�ื รบั อันตรายแกก่ าย
หรือจติ ใจ , รับอนั ตรายสาหัส
ทเ�ี กดิ เหตุ สะพานสมเดจ็ พระปน�ิ เกล้า แขวง อรณุ อมรนิ ทร์ เขต บางกอกน้อย จงั หวดั กรุงเทพมหานคร
เมอื� วนั ท�ี ๒ เดือน ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๒๐.๔๕ น.
เหนือ
สะพานสมเดจ็ พระป�นิ เกลา้
๓.
๒ ๒.
๑.
คําอธบิ ายแผนที�
๑. รถยนตน์ �งั ส่วนบุคคล คันหมายเลขทะเบียน สร ๙๒๑ กรงุ เทพมหานคร
๒. รถยนต์คันหมายเลขทะเบยี น ศค ๙๒๙๔ กรงุ เทพมหานคร
๓. รถยนต์คนั หมายเลขทะเบยี น วล ๒๖๑๔ กรงุ เทพมหานคร
( ลงชอื� ) ผกู้ ลา่ วหา
( ลงชือ� ) ผู้ต้องหา
( ลงชอ�ื ) พยาน
( ลงชอื� ) พยาน
( ลงชอ�ื ) พยาน
( ลงชื�อ ) พ.ต.ท. บนั ทึก/อา่ น/จดั ทาํ
198 คู่มือการสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน
ผนวก ข. ตัวอย่างสำ� นวนการสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน
31
เอกสาร หรือสาํ เนาเอกสารต่างๆ เช่น
๑. ภาพถ่ายท�ีเกดิ เหตุ
๒. ภาพถา่ ยรถยนต์ คกู่ รณี
๓. สําเนาทะเบยี นรถยนต์ ค่กู รณี
๔. สาํ เนาใบอนญุ าตให้ขับรถ คู่กรณี
๕. สําเนาบัตรประจาํ ตัวประชาชน คู่กรณี
๖. ใบรายงานการชนั สูตรบาดแผล ผ้ทู ีไ� ดร้ บั บาดเจ็บฯ
๗. ฯลฯ
คมู่ ือการสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตทุ างถนน 199