บทที่ 4 การสอบสวนคดีอุบตั ิเหตุทางถนน
3.2.14 หากผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเป็นจ�ำนวนมาก ควรติดต่อหน่วยพิสูจน์หลัก
ฐานของหนว่ ยงานตำ� รวจ ซ่งึ มคี วามชำ� นาญมาช่วยด�ำเนินการในทนั ที รวมท้ังการรว่ มตรวจที่
เกิดเหตุด้วย
3.2.15 เก็บรักษาทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บที่ไม่ได้สติหรือตาย เพื่อรอส่งมอบญาติ
หรอื คนื ใหก้ ับผบู้ าดเจบ็ เมื่ออาการพน้ ขดี อนั ตรายแล้ว โดยตอ้ งลงบญั ชีทรพั ยส์ ินสว่ นตวั และ
ลงบันทกึ ประจ�ำวนั ของสถานตี ำ� รวจไวเ้ ปน็ หลกั ฐานดว้ ย
3.2.16 ตดิ ต่อแจ้งให้ญาติทราบ เพื่อมาดูแล และชว่ ยเหลือ(ทง้ั น้จี ากการบอกเลา่
ของผู้บาดเจ็บ หรือจากหลักฐานในตัวของผู้บาดเจ็บ ทะเบียนรถฯ ในกรณีท่ีผู้บาดเจ็บยังไม่
ได้สติ)
3.2.17 หากมกี ารตาย ดำ� เนินการตามข้อ 2.2.16 และทำ� การชันสตู รพลกิ ศพตาม
กฎหมาย โดยแจ้งแพทย์มารว่ มชันสตู รพลกิ ศพ แลว้ ทำ� บนั ทกึ การชันสตู รพลกิ ศพรวม 3 ชดุ
(พร้อมส�ำเนา) บันทึกสง่ ศพตรวจท่โี รงพยาบาลโดยละเอียด และเกบ็ รกั ษาศพเพอื่ รอญาติมา
รบั ศพไปจัดการตอ่ ไป
3.2.18 บนั ทกึ สภาพความเสยี หายของรถแตล่ ะคนั ไวโ้ ดยละเอยี ด และถา่ ยรปู หลกั
ฐานในทีเ่ กดิ เหตุ ประกอบไว้ดว้ ย
3.2.19 ทำ� แผนทเ่ี กดิ เหตุ โดยวดั ระยะทาง และบอกทศิ ทาง ตามขอ้ 2.2.10 - 2.2.12
โดยสงั เขปไวช้ นั้ หน่ึง โดยให้แตล่ ะฝ่ายลงนามรับรอง หากมพี ยานกใ็ ห้ลงนามรบั รองด้วย และ
เม่อื กลบั ถึงสถานีตำ� รวจแล้ว จงึ ให้ด�ำเนนิ การท�ำแผนท่โี ดยละเอียดให้ได้ระยะ และอัตราส่วน
ท่ีถูกต้องอีกครั้งหน่ึง แล้วให้แต่ละฝ่ายลงนามรับรอง หากมีฝ่ายหน่ึงฝ่ายใด ไม่ยอมลงนาม
รบั รอง อ้างว่า อย่างใด ใหท้ �ำแผนที่ตามท่ีฝา่ ยนั้นอ้าง และให้ลงนามรับรองไวอ้ ีกแผ่นหน่ึงต่าง
หาก กรณจี ำ� เปน็ อาจจะทำ� แผนทสี่ งั เขปหลายแผน่ กไ็ ดใ้ หผ้ เู้ กยี่ วขอ้ งลงนามรบั รองพรอ้ มทงั้ ลง
นามพนักงานสอบสวน และวันเดอื นปีที่จัดทำ�
3.2.20 ให้รับนำ� คู่กรณีตา่ งๆ กลับสถานีต�ำรวจโดยด่วน
3.2.21 หากเปน็ กรณเี ลก็ น้อย ไม่มีคนตาย เม่อื วัดระยะ หรอื ท�ำเคร่อื งหมายในขอ้
2.2.11 - 2.2.12 แลว้ ควรแยกรถแตล่ ะฝ่ายไปจอดขา้ งทาง และรีบเปิดการจราจร หรือแกไ้ ข
การจราจรทต่ี ดิ ขดั ใหส้ ะดวกรวดเรว็ แลว้ จดั เจา้ หนา้ ทบี่ างสว่ นใหช้ ว่ ยควบคมุ การจราจร ณ จดุ
นน้ั จนกระทงั่ เจา้ หนา้ ทจ่ี ราจร หรอื ตำ� รวจทางหลวงผมู้ หี นา้ ทโ่ี ดยตรง จะมาอำ� นวยการจราจร
ตามหน้าที่ หรอื จนเปน็ ปกติต่อไป
3.2.22 รถทเี่ กดิ อบุ ตั เิ หตใุ หเ้ จา้ หนา้ ทรี่ องๆ ลงมา ชว่ ยแยกรถเขา้ ขา้ งทาง และจดั ให้
รถยกนำ� หรอื ลากไปยงั สถานตี ำ� รวจ เพอ่ื ตรวจหา้ มลอ้ -อปุ กรณ์ ความเสยี หาย ตามระเบยี บตอ่ ไป
100 คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน
3.2.23 เม่ือน�ำรถถึงสถานีต�ำรวจแล้ว มอบให้นายสิบเวรดูแล และแจ้งเจ้าหน้าที่
ต�ำรวจผู้มีหน้าที่ดูแลของกลาง และยามประจ�ำสถานีต�ำรวจทราบ เพ่ือด�ำเนินการดูแลรักษา
ตามระเบยี บ
3.2.24 แยกทรัพยส์ ินผตู้ าย ผบู้ าดเจบ็ ท่ีไม่ไดส้ ติ ทำ� บญั ชที รัพยส์ ินไว้เพือ่ มอบคนื
ญาติ หรอื ผ้บู าดเจบ็ ตอ่ ไป เพือ่ เป็นหลักฐาน ควรลงประจำ� วนั และลงบญั ชที รัพยส์ ว่ นตัวไว้
3.2.25 ระมดั ระวงั ในการเปน็ ผลู้ งประจำ� วนั กลบั จากทเ่ี กดิ เหตุ โดยพนกั งาสอบสวน
ควรจดั ทำ� รา่ งบนั ทกึ ประจำ� วนั (เลม่ เกย่ี วกบั คด)ี ตามขอ้ เทจ็ จรงิ ทต่ี นพบเหน็ ขณะออกไปตรวจ
สถานท่เี กดิ เหต ุทงั้ นี้เพื่อจะไดบ้ ันทกึ ให้ถกู ตอ้ งตรงกบั ความเปน็ จรงิ แล้วให้เจา้ หนา้ ที่ตำ� รวจที่
ท�ำหนา้ ทเ่ี สมียนประจำ� วัน น�ำไปเขยี นลงบนั ทกึ ประจ�ำวนั (เลม่ เกี่ยวกบั คดี) ซึ่งเอกสารรา่ งบัน
ทกั ประจำ� วนั น้ี ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานประกอบไวใ้ นสำ� นวนการสอบสวน(เกบ็ ไวใ้ นคฉู่ บบั สำ� นวน)ดว้ ย
จากนั้น ท�ำการสอบสวน ท�ำการตรวจสภาพรถ ตรวจห้ามล้อและเคร่ืองอุปกรณ์แล้ว คืน
ทรพั ยส์ นิ คนื รถทเ่ี กิดอบุ ัติเหตุ โดยใหถ้ อื ปฏบิ ัตติ ามระเบยี บในการยดึ และคนื ของกลางด้วย
3.3 หัวข้อส�ำคัญที่พนักงานสอบสวนต้องบันทึกจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพ่ือ
ประโยชน์ในการนำ� ไปลงบนั ทกึ ประจ�ำวนั เกย่ี วกับคดี ขอ้ เกดิ เหต/ุ รบั คำ� รอ้ งทกุ ข์
1) ผ้แู จ้ง
2) วนั และเวลารบั แจง้ เหตุ
3) วนั เวลาตรวจทีเ่ กดิ เหตุ วัน เดอื น ปี เวลา........น. ถึงเวลา...........น.
4) วันเวลาทเี่ กดิ เหตุ
5) สถานท่ีเกิดเหตุ (ระบรุ ะหวา่ งหลกั กม.ท่ี.....และ กม.ทด่ี ว้ ย)
6) รถคกู่ รณี (คนั ที่ 1 คนั ท่ี 2 .....)
7) ผ้บู าดเจ็บ/ไม่บาดเจ็บ ถามช่ือ ช่ือสกลุ อายุ ทอ่ี ยู่ (อยา่ ลืม เบอร์โทร.ถามในที่
เกิดเหตุ)
8) ผตู้ าย ตรวจสอบชื่อ ชือ่ สกุล อายุ ท่ีอยู่ (ถามหาญาติผู้ตายในท่เี กดิ เหตุ และ
เบอรโ์ ทรไวด้ ้วย)
9) เจ้าของทรพั ย์สนิ ท่ไี ดร้ บั ความเสียหาย (นอกจากรถหรอื ทรัพย์สนิ ของคกู่ รณ)ี
ถามช่อื ชื่อสกลุ อายุ ทีอ่ ยู่ (อย่าลมื เบอร์โทร.ถามในทเี่ กดิ เหต)ุ
10) สภาพถนนที่เกิดเหตุ (เปยี ก แหง้ ตรง โคง้ กี่ชอ่ งๆ ละกเ่ี มตร ไหล่ทาง กว้าง
เพยี งใด)
11) พฤตกิ ารณ์ (กอ่ น ขณะ หลงั )
คมู่ ือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน 101
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน
3.4 ขอ้ ปฏบิ ัติเมื่อไปถึงท่ีเกดิ เหตุ
1) เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวนต้องเรียกเก็บใบอนุญาตขับข่ีของคู่กรณี
รบี ขดี ลอ้ รถคกู่ รณี และรอยหา้ มลอ้ ตลอดจนรอ่ งรอยหลกั ฐานอนื่ ๆ กนั คนอยา่ ใหล้ งมาในถนน
2) ดลู กั ษณะการชนของรถ พรอ้ มสอบถามเสน้ ทางการเดนิ รถของคกู่ รณแี ละเหตุ
ที่ชนกันจากผู้ขับข่ี ผู้โดยสาร ผู้ที่เห็นเหตุการณ์หากมีเจ้าหน้าที่ต�ำรวจอยู่ในบริเวณนั้นให้
สอบถามด้วย
3) ถามวนั เวลาทเ่ี กิดเหตุ และจดุ ชน
4) ทำ� แผนที่ วัดระยะ รบี แยกรถออกจากกนั
5) ตรวจสอบเคร่อื งหมายจราจร
6) จดช่ือ ทอี่ ยู่ของพยาน พรอ้ มเบอรโ์ ทร.
7) หากมผี บู้ าดเจบ็ อยใู่ นทเ่ี กดิ เหตใุ หจ้ ดชอื่ ทอี่ ยู่ แลว้ รบี สง่ ไปยงั รพ. ทอี่ ยใู่ กลเ้ คยี ง
8) กรณมี คี นตาย ต้องแจ้งผ้ทู ่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การชนั สูตรพลิกศพ
9) กรณมี คี นตาย รถชนกนั เสยี หายมาก หรือจะมีปัญหาต้องถ่ายรปู ไว้
10) ใหค้ ูก่ รณี และพยาน ลงช่อื ในแผนท่เี กดิ เหตุ
11) นำ� รถคกู่ รณไี ปสถานตี ำ� รวจ
3.5 หลักการถ่ายภาพเป็นพยานหลกั ฐานในส�ำนวนการสอบสวนคดจี ราจรทางบก
เมอื่ พนกั งานสอบสวนไปถงึ ทเ่ี กดิ เหตุ ใหต้ รวจดทู เ่ี กดิ เหตกุ อ่ นลงมอื ตรวจทเี่ กดิ เหตุ
และต้องวางแผนตรวจท่ีเกิดเหตุ จากจุดใดไปจุดใด หาจุดยืนส�ำรวจท่ีเกิดเหตุเพื่อความ
ปลอดภยั และตอ้ งวางกำ� ลงั คอยดแู ลรถแลน่ ผา่ นไปมาเพอ่ื ความปลอดภยั จากนน้ั รบี ถา่ ยภาพ
ถา่ ยให้มากทสี่ ุด ทกุ ทศิ ทาง
หลักการถ่ายภาพทเ่ี กิดเหตุ
1) ระยะไกล ให้เห็นสภาพท่วั ไปของทเี่ กิดเหตุ
2) ระยะกลาง จดุ ชน รอยครดู จดุ ทพ่ี บเศษชน้ิ สว่ นรถรถอยู่ จดุ พบศพ พบรอยเลอื ด
ผู้ตาย/ผบู้ าดเจ็บ ต�ำแหน่งรถคู่กรณี แตล่ ะคันหลงั ชน
3) ระยะใกล้ เชน่ ร่องความเสยี หายของรถแต่ละคนั จุดกระทบตรงจากการชนกัน
ใบหน้าศพ ร่องรอยบาดแผล
3.6 หลกั การจดั ท�ำแผนท่ีเกิดเหตุ
3.6.1 ขอ้ แนะนำ� ในการจัดทำ� แผนท่ีเกิดเหตุในคดจี ราจร
1) เมอ่ื ถึงท่เี กดิ เหตใุ หย้ นื ห่างจากบรเิ วณท่รี ถชนกนั ควรยนื ณ บริเวณจุด
กงึ่ กลางถนน หรอื ทางแยกทรี่ ถชนกนั โดยมเี จา้ หนา้ ทตี่ ำ� รวจชว่ ยกนั รถเพอ่ื ความปลอดภยั ตาม
102 ค่มู ือการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอุบตั ิเหตุทางถนน
ควร และอยู่ในทสี่ ามารถ มองเห็นลกั ษณะการชนไดช้ ดั เจน รวมทั้งทิศทางท่ีรถว่งิ ไปชนกัน
2) ยืนหันหน้าไปทางทิศเหนือ วางทิศเหนือให้อยู่ท่ีหัวกระดาษหรือสมุด
และเขยี นทศิ ไว้ด้วยเสมอ
3) ทำ� แผนทโี่ ดยวาดถนนหรอื ซอยทเ่ี กดิ เหตุ ลากเสน้ แนวสมมตุ แิ บง่ กงึ่ กลาง
ถนนและแบง่ ช่องทางเดนิ รถ และวาดรูปรถทช่ี นกันให้ใกลเ้ คยี งความเป็นจรงิ มากทส่ี ุด
4) เขียนจุดชนลงในแผนที่ โดยดูจากเศษหิน เศษดิน เศษกระจกเศษสีที่
ตกอยกู่ ับพนื้ ถนน หรือคู่กรณนี �ำชี้
5) นำ� เทปออกมาวดั ระยะตา่ งๆ ไมค่ วรใชก้ ารกะระยะโดยการกา้ วเทา้ แลว้
นับจ�ำนวนก้าวเพราะจะไมเ่ ท่ียงตรง ระหว่างการวัดระยะต้องไม่เคลื่อนย้ายส่ิงหน่งึ ส่งิ ใด การ
วดั ระยะใหว้ ดั ไปหาวตั ถทุ ไ่ี มเ่ คลอื่ นทถ่ี าวร เชน่ ตน้ ไมย้ นื ตน้ เสาไฟฟา้ มมุ ตกึ ขอบถนน ใชเ้ ปน็
ทีอ่ า้ งถงึ แลว้ ใหร้ ะบุระยะดงั กล่าวลงในแผนท่ี
6) วาดรอยหา้ มล้อ คหู่ รือเดีย่ ว (ถา้ ม)ี
7) วาดรอยครดู (ถ้ามี)
8) หาจุดอ้างอิงในทเี่ กดิ เหตุ เช่น เสาไฟ
9) หากเป็นเวลากลางคืน ถ้ามีเสาไฟฟ้าใหเ้ ขียนลงในแผนทีด่ ว้ ย
10) วาดทางขา้ ม (ถา้ มี)
11) ระบโุ รงเรียน โรงภาพยนตร์ ตลาด (ถ้ามี)
12) ระบทุ ิศทางที่รถว่ิง คนเดนิ
13) วาดปา้ ยสัญญาณจราจร (ถ้าม)ี
14) ระบุทางแยก (ถ้าม)ี
15) จดุ ท่พี ยานอยู่
16) ให้คูก่ รณลี งช่ือในแผนที่
3.6.2 การวัดระยะ
1) ต�ำแหน่งของรถท่ีไปอยู่หลงั จากท่ชี นแลว้
2) ตำ� แหนง่ ผบู้ าดเจบ็ หรอื ตายหลังจากเกิดเหตุ
3) รอยขดี หรือรอยครูดบนผิวถนน
4) รอยห้ามลอ้ บนผิวถนนหรอื ท่ีอืน่
5) ร่องรอยทางเดินรถ รอยขูดขดี และรอยอ่ืนๆ ข้างถนน
6) สงิ่ ของต่างๆ บนถนนหรอื ใกล้ถนนซ่ึงแตกหกั
3.6.3 หลกั การกำ� หนดจุดอ้างอิง
1) จุดอ้างองิ เป็นจุดเดยี วหรอื ส่ิงถาวรท่มี องเหน็ ไดช้ ดั
คูม่ ือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน 103
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน
2) วัตถุน้นั ตอ้ งหาพบไดโ้ ดยง่าย หากมีใครมายังท่เี กิดเหตอุ กี
3.6.4 วธิ ีวัดจากจดุ อา้ งองิ
1) วธิ วี ดั แบบประสานจดุ วดั จากจดุ ทก่ี ำ� หนดไปยงั จดุ ทอ่ี า้ งองิ ในแนวระยะ
ท่ใี กลท้ ส่ี ุด
2) วธิ วี ดั แบบสามเหลย่ี ม วดั จากจดุ อา้ งองิ ทงั้ สองจดุ ไปยงั จดุ ทก่ี ำ� หนดหรอื
ต้องการวดั
3.6.5 หลกั การวัดที่เกิดเหตุ
1) วดั เพ่อื ตรึงสภาพยวดยานท่ชี นกนั ได้แก่
- วัดความกว้างของถนน
- วัดยวดยานแต่ละคนั อยู่ห่างจากขอบถนนเทา่ ใด
2) วัดร่องรอยหลกั ฐานในท่เี กิดเหตุ ไดแ้ ก่
- รอยหา้ มลอ้ รอยครูด
- เศษแก้ว หนิ ดิน สี
3) วัดในประเดน็ วินจิ ฉยั คดี ไดแ้ ก่
- วดั จุดชนหา่ งจากขอบถนนเทา่ ใด
- รถคู่กรณีเลยไปหา่ งจากจุดชนเท่าใด
3.6.6 ชนดิ ของการทำ� แผนท่ี ในคดจี ราจร นยิ มการจัดท�ำแผนทีแ่ บบ Top view,
Over view, Floor Plan หรือ Bird’s Eye view เป็นการวาดแผนทใ่ี นลักษณะมองจากดา้ น
บนลงมา ซง่ึ เป็นการทำ� แผนท่ีทง่ี า่ ยและเปน็ ที่นิยมท�ำมากท่สี ุด
3.6.7 การจัดท�ำค�ำอธิบายในแผนที่เกิดเหตุคดีจราจร ให้จัดท�ำโดยการเขียน
หมายเลขกำ� กบั แล้ววงด้วยหมึกสแี ดง เริ่มตง้ั แตห่ มายเลข 1 ถงึ หมายเลขสดุ ท้าย ท่ีตอ้ งลงใน
แผนท่ี แล้วน�ำหมายเลขดังกล่าวไปเขียนค�ำอธิบายไว้ในช่องอธิบาย หลักการให้หมายเลขใน
แผนทค่ี ดจี ราจร มหี ลักดงั นี้
1) ตอ้ งแสดง “จุดชน” ในแผนท่ีเกิดเหตุ เปน็ จดุ ที่ 1
2) จากจดุ ชนไปยังรถคู่กรณี คนั ที่ 1 กี่เมตร เป็นจุดที่ 2
3) จากจุดชนไปยงั รถค่กู รณี คันที่ 2 ก่เี มตร เปน็ จดุ ท่ี 3
4) ทิศทางรถคกู่ รณคี นั ที่ 1 กอ่ นชน เป็นจุดที่ 4
5) ทศิ ทางรถคู่กรณคี นั ที่ 2 กอ่ นชน เป็นจดุ ที่ 5
6) รอยครูด
104 คูม่ ือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน
7) รอยยาง
8) เศษชิน้ สว่ นรถ
9) รอยเลือด
10) จุดพบศพผู้ตาย
11) ทศิ ทางคูก่ รณขี บั หลบหนหี ลังเกดิ เหตุ (กรณีชนแล้วหน)ี
12) จดุ ใหก้ ำ� เนดิ แสงสวา่ ง (เหตุเกิดกลางคืน) แสงไฟฟา้ (สีขาว เหลือง)
***สาระสำ� คญั ในแผนทีต่ ้องมี 1 - 5 หากมีหลกั ฐานอน่ื ตาม 6 - 12 ก็ลงไป
ตามนนั้
ตัวอยา่ ง : การจัดท�ำแผนทเี่ กดิ เหตุ
ส.46-15
3.6.8 การจดั ทำ� เอกสารประกอบส�ำนวนการสอบสวนในคดีจราจรทางบก
- บันทกึ การตรวจสถานทเี่ กิดเหตุคดจี ราจรทางบก ใช้แบบพมิ พ์ แบบ ส.46-14
ท้ายค�ำสงั่ ตร.ที่ 419/2556 ลงวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2556
- แผนทส่ี งั เขปแสดงสถานที่เกดิ เหตคุ ดจี ราจรทางบก ใช้แบบพิมพ์ แบบ ส.56-
15 ทา้ ยคำ� ส่ัง ตร.ท่ี 419/2556 ลงวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2556
- บันทึกการตรวจสภาพรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ในคดีจราจรทางบก ใช้แบบ
พมิ พ์ แบบ ส.56-24 ท้ายค�ำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 ลงวันท่ี 1 กรกฎาคม 2556
- ใบน�ำสง่ ผบู้ าดเจบ็ ในคดีจราจรทางบก ใชแ้ บบพมิ พ์ แบบ ส.๕๖-๑๗ ทา้ ยคำ�
ส่ัง ตร.ที่ 419/2556 ลงวันท่ี 1 กรกฎาคม 2556
- รายงานการชนั สูตรพลกิ ศพ ในคดีจราจรทางบก ใชแ้ บบพมิ พ์ แบบ ส.56-19
ทา้ ยคำ� ส่งั ตร.ที่ 419/2556 ลงวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2556
คูม่ ือการสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตุทางถนน 105
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน
- บญั ชขี องกลางคดอี าญา ในคดีจราจรทางบก ใช้แบบพมิ พ์ แบบ ส.56-7 ทา้ ย
คำ� สงั่ ตร.ท่ี 419/2556 ลงวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2556 ใชใ้ นกรณี ยดึ รถคกู่ รณเี ฉย่ี วชนและหลบหนี หลงั
เกิดเหตุ และต่อมาตดิ ตามยึดมาได้ ตามมาตรา 78 แห่งพระราชบญั ญตั จิ ราจร ทางบก พ.ศ. 2522
- บันทกึ ค�ำให้การผ้รู อ้ งทกุ ข์ กลา่ วโทษ หรือพยาน ในคดจี ราจรทางบก ใชแ้ บบ
พิมพ์ แบบ ส.56-4 ทา้ ยคำ� สั่ง ตร.ท่ี 419/2556 ลงวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2556
- บันทึกคำ� ให้การผู้ตอ้ งหา ในคดจี ราจรทางบก ใชแ้ บบพิมพ์ แบบ ส.56-5 ทา้ ย
คำ� สง่ั ตร.ที่ 419/2556 ลงวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2556
- บนั ทกึ ใบตอ่ คำ� ใหก้ าร ทง้ั ของผกู้ ลา่ วหา ผตู้ อ้ งหา และพยาน ในคดจี ราจรทาง
บก ใช้แบบพิมพ์ แบบ ส.56-6 ท้ายค�ำสงั่ ตร.ที่ 419/2556 ลงวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2556
ดงั นนั้ ในแบบฟอรม์ ขอ้ มลู ทพ่ี นกั งานสอบสวนเคยใชก้ อ่ นมคี ำ� สงั่ ตร.ท่ี 419/2556
ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ในปัจจบุ ัน พนกั งานสอบสวนควรปรับแก้ไขรหัสเอกสารใหถ้ กู ต้องตาม
แบบพิมพ์ท้ายค�ำสั่งดังกลา่ ว
3.7 หลกั การลงบนั ทึกประจำ� วนั ในคดีจราจรทางบก
เม่ือกลับจากการตรวจท่ีเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งเหตุและออกไปตรวจที่เกิด
เหตุ ต้องกลับมาจัดท�ำร่างบันทึกเหตุการณ์และข้อเท็จจริงที่ได้จากการออกไปตรวจท่ีเกิดเหตุและ
ทำ� การสอบสวนเบอื้ งตน้ เพอื่ นำ� ใหเ้ จา้ หนา้ ทต่ี ำ� รวจทที่ ำ� หนา้ ทเ่ี สมยี นประจำ� วนั คดั ลอกลงในบนั ทกึ
ประจำ� วนั เลม่ เก่ียวกบั คดี (เลม่ สชี มพ)ู เพ่อื รบั คำ� ร้องทุกข์ (ออกเลขสารบบคดีจราจร เลม่ สนี �ำ้ เงนิ )
เพ่ือท�ำการสอบสวนต่อไป พนักงานสอบสวนไม่ควรเล่าเหตุการณ์แล้วให้เสมียนประจ�ำวันเขียนไป
เองโดยลำ� พงั เพราะอาจคลาดเคลอ่ื นไปจากขอ้ เท็จจรงิ ทไี่ ดจ้ ากการสอบสวน ท�ำให้มีผลกระทบตอ่
ความน่าเช่อื ถอื ของพนกั งานสอบสวนในสำ� นวนการสอบสวน
หลักฐานบันทึกรายงานประจ�ำวันในคดีนี้จราจรทางบก เป็นพยานหลักฐานต้ังต้นแห่ง
คดีท่ีพนักงานสอบสวนใช้เป็นแนวทางในการต้ังรูปคดีไว้ท�ำการสอบสวนต่อไป ดังน้ัน จึงมีความ
ส�ำคัญมาก
ความส�ำคัญของหลักฐานบันทึกรายงานบันทึกประจ�ำวัน คู่กรณีสามารถคัดส�ำเนาเป็น
พยานหลักฐานยนื่ ต่อบรษิ ทั ประกันภัย ภาคบงั คบั (ประกนั ภัยตามพระราชบัญญตั ผิ ูป้ ระสบภยั จาก
รถ พ.ศ. 2535) คู่กรณีสามารถคัดไปเปน็ พยานหลกั ฐานในการฟ้องร้องเพื่อบงั คับตามสิทธิของตน
ไมว่ า่ ทางแพง่ และทางอาญา และหลกั ฐานบนั ทกึ รายงานบนั ทกึ ประจำ� วนั มคี วามสำ� คญั ตอ่ พนกั งาน
สอบสวนที่จะใช้เป็นข้อมูลในการจัดท�ำบันทึกค�ำให้การของตัวพนักงานสอบสวนในฐานะผู้กล่าวหา
ซง่ึ เปน็ คนเปดิ คดใี นคดจี ราจรทางบก นำ� ไปใชเ้ ปน็ บนั ทกึ ในบนั ทกึ พนกั งานสอบสวน และใชเ้ ปน็ บนั ทกึ
เหตกุ ารณใ์ นการตรวจทเ่ี กดิ เหตแุ ละเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ตลอดจนขอ้ สนั นษิ ฐานเบอ้ื งตน้ ในบนั ทกึ การ
ตรวจสถานท่ีเกดิ เหตุด้วย
106 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน
หลกั การบนั ทกึ รายงานประจำ� วนั ใหบ้ นั ทกึ เหตกุ ารณต์ ามลำ� ดบั ตง้ั แตร่ บั แจง้ เหตเุ มอ่ื วนั
เวลาใด และเวลาใดออกไปตรวจทเี่ กดิ เหตุ เรมิ่ ตรวจทเ่ี กดิ เหตเุ วลาใด ถงึ เวลาใด จากการตรวจทเี่ กดิ
เหตุ พบรถคู่กรณี เป็นรถรถใด ให้ระบุ ชนิด/ลักษณะรถ (รถยนต์ กระบะ เก๋ง บรรทุก หรือรถ
จกั รยานยนต์) ยหี่ ้อ รุน่ สี และหมายเลขทะเบียน ผขู้ ับขเี่ ปน็ ผใู้ ด ใหบ้ อก ช่ือ ชื่อสกุล อายุ ท่ีอยู่ บ้าน
เลขท่ี ตรอก/ซอย หมทู่ ี่ ตำ� บล อ�ำเภอ จงั หวดั เบอร์โทรศพั ท(์ ถา้ มี) และชอ่ื ผู้บาดเจ็บหรอื ผโู้ ดยสาร/
พยานเห็นเหตกุ ารณ์ ชอ่ื ชือ่ สกุล อายุ ท่อี ยู่ บ้านเลขที่ ตรอก/ซอย หม่ทู ี่ ต�ำบล อำ� เภอ จงั หวดั เบอร์
โทรศพั ท์ (ถ้าม)ี เชน่ เดียวกัน
ขอ้ ดีของการระบุชอื่ คนขับ คนเจบ็ โดยละเอยี ด ถอื เปน็ การบรกิ ารประชาชน ท่ีไมต่ อ้ ง
ไป สภ./สน. หลายคร้ัง สามารถคัดส�ำเนาบันทึกประจ�ำวันไปในสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตาม
พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ได้ทันที ซึ่งหากไม่ลงให้ละเอียด ก็ต้องมีการมาแจ้งและลง
บันทึกประจ�ำวันเพ่ิมเติม ซ่ึงหากประชาชนคนนั้น มาตรงกับวันที่พนักงานสอบสวนคนน้ัน ปฏิบัติ
หนา้ ทอี่ ยทู่ ี่ สภ./สน. กส็ ามารถใหบ้ รกิ ารไดท้ นั ที แตห่ ากไมอ่ ยู่ เชน่ ออกเวร ไปศาลฝากขงั หรอื พยาน
ศาล หรือมีกิจธุระอื่น ก็ไม่สามารถด�ำเนินการให้บริการแก่ประชาชนได้ทันท่วงที จึงเป็นภาระแก่
ประชาชนตอ้ งมา สภ./สน.หลายครง้ั ซงึ่ ไมเ่ ปน็ ผลดตี อ่ ภาพลกั ษณข์ องพนกั งานสอบสวนและองคก์ ร
สำ� นกั งานตำ� รวจแห่งชาติ
เมอ่ื ระบคุ กู่ รณแี ตล่ ะฝา่ ยและผเู้ กยี่ วขอ้ งแลว้ ดวู า่ “จดุ ชน” อยตู่ รงจดุ ใดของถนนสายเกดิ
เหตุ หา่ งจากจดุ ใด (จดุ อ้างองิ ) ไปทางทิศใด ประมาณกี่เมตร จากจุดชนไปยังรถคกู่ รณีแต่ละคันหา่ ง
กนั ระยะกเี่ มตร (ตอ้ งมกี ารวดั ระยะแนน่ อนขณะทำ� การตรวจสถานทเี่ กดิ เหต)ุ จากจดุ ชนพบรอยคราบ
โลหิตคนเจบ็ /คนตาย กี่เมตร หรือหา่ งจากศพก่ีเมตร หรือหากมีคนตายหลายคน ใหจ้ ัดล�ำดบั ศพที่
1 ศพท่ี 2.... ตามลำ� ดบั หรือกรณรี ถเฉ่ยี วชนกนั หลายคัน กใ็ หจ้ ดั ล�ำดบั รถคันที่ 1 คนั ท่ี 2 คันท่ี 3....
ตามล�ำดับ เพ่ือใหก้ ารสื่อสารใหก้ บั ผอู้ า่ นไม่วา่ จะเปน็ ค่กู รณี พนกั งานสอบสวน อัยการ ศาล เขา้ ใจ
ได้ง่าย หลังจากทบ่ี นั ทกึ ไล่เลยี งลำ� ดับขัน้ ตอน เหตกุ ารณ์ในการตรวจทีเ่ กิดเหตุดงั กลา่ วแลว้ กบ็ นั ทกึ
ให้ปรากฏว่า พนักงานสอบสวนได้จัดท�ำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ(เม่ือจัดท�ำเอกสารน้ีเข้า
สำ� นวน ให้ระบุใน รายการสถานท่บี ันทึกในแบบบันทกึ การตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ(แบบ ส.56-14) วา่
“สถานท่ีบันทกึ กลับมาบนั ทกึ ท่ี สภ..../สน.......” ทำ� แผนทเ่ี กดิ เหตุ(ตามแบบ ส.56-15) และถ่าย
ภาพท่เี กิดเหตไุ ว้แล้ว
รายการเอกสารใดท่ีต้องลงเลขสารบบ เชน่ เลขคดจี ราจร (เลขสารบบคด)ี ,เลขรายงาน
ชนั สูตรพลิกศพ หรอื เลขบันทึกยดึ ส่ิงของเป็นของกลางทตี่ อ้ งลงในบญั ชขี องกลางคดีอาญา (แบบ ส.
56-7) กใ็ ห้ลงเลขสารบบทกุ รายการ ในบันทึกประจ�ำวนั ข้อดงั กล่าวน้ี
เมอื่ ลงรายการดงั กลา่ วครบถว้ นแลว้ อยา่ หลงลมื รายการตอ่ มา คอื สถานท่ี วนั และเวลา
ทเี่ กดิ เหตุ ตอ้ งบนั ทกึ ใหป้ รากฏ เพราะรายการสถานทเี่ กดิ เหตุ เปน็ พยานหลกั ฐานแสดงถงึ เขตอำ� นาจ
คู่มอื การสอบสวนคดีอุบัตเิ หตทุ างถนน 107
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตทุ างถนน
สอบสวน ของพนักงานสอบสวน เขตอ�ำนาจฟ้องคดีของอัยการ และเขตอ�ำนาจการพจิ ารณาคดีของ
ศาล ส่วนวนั เดือนปี และเวลาท่เี กิดเหตุ เปน็ พยานหลักฐานบอกอายคุ วามสอบสวน และอายุความ
ฟอ้ งร้องคดี
สถานท่เี กิดเหตุ พนักงานสอบสวนต้องจดบนั ทึกรายละเอียด ของช่อื ถนนสายใด เส้นใด
ระหวา่ งหลกั กโิ ลเมตร หมทู่ ี่ แขวง/ตำ� บล อำ� เภอ/เขต จงั หวดั ใหช้ ดั เจน หากไมส่ ามารถบอกระหวา่ ง
หลักกโิ ลเมตรใดได้ กใ็ หร้ ะบุในวงเลบ็ เชน่ เหตุเกดิ ท่ี บนถนนสายบา้ นหาร-หาดใหญ่ (บรเิ วณหนา้ ที่
ท�ำการเทศบาลต�ำบลบ้านหาร) หม่ทู ี่ 4 ตำ� บลบา้ นหาร อ�ำเภอบางกล�ำ่ จังหวดั สงขลา
วันและเวลาที่เกิดเหตุ ก็ให้ลงวัน เดือน ปีก่อน แล้วตามด้วยเวลา ซึ่งเวลานั้น ใช้ค�ำว่า
ประมาณเสมอ เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้รบั แจ้งหลงั เกิดเหตุ กวา่ จะแจ้งเหตุหลังเกิดเหตุ เวลา
เกดิ เหตอุ าจจะไมแ่ นน่ อนตายตวั เชน่ เหตเุ กดิ ที่ บนถนนสายบา้ นหาร-หาดใหญ่ (บรเิ วณหนา้ ทท่ี ำ� การ
เทศบาลตำ� บลบา้ นหาร) หมทู่ ่ี 4 ตำ� บลบา้ นหาร อำ� เภอบางกลำ่� จงั หวดั สงขลา เมอ่ื วนั ท่ี 10 กมุ ภาพนั ธ์
2562 เวลาประมาณ 17.00 นาฬกิ า
หลงั จากทพ่ี นกั งานสอบสวนลงบนั ทกึ รายงานประจำ� วนั เกยี่ วกบั คดี รบั คำ� รอ้ งทกุ ขส์ ารบบ
คดีเรยี บรอ้ ยแลว้ พนกั งานสอบสวนผแู้ จ้ง/ผู้รบั ผิดชอบสอบสวน ลงชื่อให้เรยี บรอ้ ย หากมคี กู่ รณี/ผู้
ต้องหาก็ให้ลงชื่อให้เรียบร้อย ซึ่งหากมีตัวผู้ต้องหาและมีการแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาและควบคุมตัวผู้
ตอ้ งหาอยา่ ลมื แจง้ สทิ ธผิ ตู้ อ้ งหาตามกฎหมายใหป้ รากฎในบนั ทกึ รายงานประจำ� วนั นดี้ ว้ ย แลว้ นำ� รา่ ง
ประจ�ำวันที่เสมียนประจ�ำวันลงเลขข้อประจ�ำวันและหรือ จัดให้เสมียนประจ�ำวัน คัดถ่านส�ำเนา
ประจำ� วนั มาเขา้ สำ� นวนตอ่ ไป โดยจดั ทำ� ปกสำ� นวนใชค้ ลปิ หนบี กระดาษ(ดเู อกสารปกสำ� นวนตวั อยา่ ง
ที่ 4) ตงั้ เปน็ สำ� นวนคดีนนั้ ไวท้ ำ� การสอบสวนต่อไป
กรณีเหตุรถเฉ่ียวชนกัน มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หลังจาก
พนักงานสอบสวนกลับจากตรวจท่ีเกิดเหตุและเรียกคู่กรณีท�ำการสอบสวนเบ้ืองต้นทุกฝ่ายแล้ว คู่
กรณีตกลงกันได้ และฝ่ายผิดยินยอมช�ำระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ พนักงาน
สอบสวนก็สามารถลงบันทึกรายงานประจ�ำวันเปรียบเทียบปรับในข้อเดียวกัน หากท�ำการเปรียบ
ปรับจบในวันเดียว ไม่จำ� ตอ้ งออกเลขสารบบคดไี ว้ท�ำการสอบสวนอกี ก็ได้ (แต่ปัจจุบนั แนวทางของ
ส�ำนกั งานต�ำรวจแห่งชาติ ใหพ้ นักงานสอบสวนออกเลขสารบบคดีทุกคดี เพ่อื ตอ้ งการทราบสถิติคดี
จราจรเกดิ แตล่ ะปี ทง้ั ประเทศทถี่ กู ตอ้ งจำ� นวนเทา่ ใด เพอ่ื นำ� ไปคำ� นวณเรอื่ งของบประมาณประจำ� ปี
และก�ำหนดอตั ราก�ำลงั และมาตรการป้อง แก้ไข และกวดขันวินยั จราจรตอ่ ไป) แต่ถา้ ไมจ่ บภายใน
วนั เดยี วกัน ใหอ้ อกเลขสารบบคดีไวท้ �ำการสอบสวนต่อไป
108 คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
4. หลักการสอบสวนผู้กลา่ วหา ผู้ตอ้ งหา และพยานในคดีจราจร
4.1 การสอบสวนผู้กล่าวหา
หลักการสอบสวนปากค�ำพนักงานสอบสวนผรู้ บั ผดิ ชอบในฐานะผกู้ ล่าวหา ถอื หลักตาม
ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา มาตรา 123 วรรคสอง “คำ� รอ้ งทุกขน์ น้ั ตอ้ ง
ปรากฏชอ่ื และทอ่ี ยขู่ องผรู้ อ้ งทกุ ข์ ลกั ษณะแหง่ ความผดิ พฤตกิ ารณต์ า่ งๆ ทค่ี วามผดิ นน้ั ไดก้ ระทำ�
ลง ความเสียหายท่ีไดร้ ับและช่ือหรอื รปู พรรณของผ้กู ระท�ำผดิ เทา่ ทจี่ ะบอกได้
วรรคสาม “ค�ำร้องทกุ ข์น้จี ะทำ� เปน็ หนังสือหรอื ร้องด้วยปากก็ได้ ถา้ เปน็ หนังสือต้องมวี ัน
เดอื นปี และลายมอื ชอื่ ของผรู้ อ้ งทกุ ข์ ถา้ ร้องดว้ ยปาก ให้พนกั งานสอบสวนบนั ทึกไว้ ลงวันเดอื นปี
และลงลายมือช่อื ผบู้ นั ทกึ กบั ผรู้ อ้ งทุกขใ์ นบนั ทกึ นั้น”
ตามประมวลระเบียบการตำ� รวจเก่ยี วกับคดี ลกั ษณะ 8 บทท่ี 5 ขอ้ 246 มหี ลกั การถาม
ดงั นี้
1) วันเดอื นปีเวลากับสถานทีเ่ กดิ เหตุ ตำ� บลอ�ำเภอโดยชัดแจง้
2) มอี าการและกริ ยิ าของผกู้ ลา่ วหาและผกู้ ระทำ� นน้ั อยา่ งไร ตลอดจนพฤตกิ ารณต์ า่ งๆ
อันเกยี่ วเนอ่ื งแก่เหตกุ ารณน์ น้ั ๆ
3) ใครเปน็ ผกู้ ระทำ� รจู้ กั หรอื เพยี งแตจ่ ำ� ไดห้ รอื จำ� ไมไ่ ดเ้ ลย ถา้ รจู้ กั ชอ่ื ใหร้ ะบไุ วใ้ หช้ ดั เจน
หากมีหลายช่อื ใหร้ ะบุไว้ทกุ ชอื่ ถา้ ไมร่ ูช้ ื่อต้องถามรูปพรรณของผูก้ ระท�ำผิดไวใ้ หล้ ะเอียดเทา่ ท่ีจะได้
ถา้ สามารถระบชุ ือ่ บดิ า มารดา ภรยิ า บตุ รหรือญาตขิ องผกู้ ระทำ� ผดิ ได้ยิ่งดี
4) เหตทุ ร่ี ูจ้ กั และจำ� ได้ อาศยั เหตผุ ลอย่างไร
5) ทรัพย์ท่ีต้องเสียหายนั้นอะไรบ้าง รวมราคาเท่าใด (จดรูปพรรณโดยละเอียดเท่าที่
จ�ำได้ เพอื่ ประโยชนใ์ นการพจิ ารณาเมอ่ื พบทรัพยท์ ี่หายในภายหลัง)
6) ถ้าผู้กล่าวหามีบาดเจ็บจะต้องสอบสวนด้วยว่า ได้ถูกท�ำร้ายด้วยอาวุธอย่างใด มี
บาดแผลมากนอ้ ยเท่าใด
7) ไดม้ ใี ครรเู้ หน็ ในเมื่อเวลามีเหตุนนั้ บ้าง และมใี ครอยใู่ กลเ้ คียงทเ่ี กิดเหตุบ้างหรอื อา้ ง
วัตถุ เอกสาร พยานอยา่ งไรบา้ ง
8) ถ้าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงตายได้ ต้องรีบสอบถามถ้อยค�ำไว้ให้ได้ เพื่อเป็นหลัก
ด�ำเนินคดีต่อไป
ค�ำร้องทุกข์หรือค�ำกล่าวโทษ ซ่ึงอาจเป็นผู้เสียหายหรือมิใช่ก็ได้ แต่ในทางปฏิบัตินิยม
ใช้ เจ้าพนักงานของรัฐ คือ พนักงานสอบสวนเป็นผู้กล่าวหา เพราะเป็นผู้เสียหายในความผิดตาม
คู่มือการสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน 109
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน
พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ ท้ังกรณีชนเสียหาย-เจ็บ-เจ็บสาหัส-ตาย และเป็นผู้กล่าวโทษใน
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา อีกทั้งเป็นผู้ท่ีทราบเรื่องดีที่สุด เน่ืองจากเป็นผู้รับแจ้งเหตุ
และสอบสวนคดีนั้น
การสอบสวนผกู้ ลา่ วหาในคดจี ราจร แนวทางในการเปดิ คดแี ละการตง้ั รปู คดี เรม่ิ ดว้ ยการ
สอบสวนพนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งเหตุหรือรับผิดชอบสอบสวนร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานะผู้กล่าว
หาในคดี โดยให้พนกั งานสอบสวนท้องทีเ่ กิดเหตุท�ำการสอบสวน
หลกั การทำ� “คำ� ใหก้ าร” ของพนกั งานสอบสวนผรู้ บั ผดิ ชอบในฐานะผกู้ ลา่ วหานน้ั สำ� คญั
มาก ข้อเท็จจริงในค�ำให้การต้องเหมือนกันและสอดคล้องต้องกับบันทึกรายงานประจ�ำวันเก่ียวกับ
คดี ทไ่ี ดก้ ลา่ วไวใ้ นขอ้ 3.7 แลว้ นำ� ขอ้ เทจ็ จรงิ ในบนั ทกึ ประจำ� วนั ดงั กลา่ วมาเปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ในคำ� ใหก้ าร
ของผกู้ ลา่ วหา แตส่ าระสำ� คญั ของคำ� ใหก้ ารของผกู้ ลา่ วหาตอ้ งมขี อ้ พจิ ารณาและความเหน็ ของผกู้ ลา่ ว
หาว่า การกระท�ำของผตู้ ้องหาเปน็ ความผิดฐานประมาทอย่างไร ข้อกฎหมายใด ให้ชดั เจน เช่น
ตวั อย่าง : “...(ข้อเท็จจริงจากการตรวจที่เกดิ เหตแุ ละทำ� การสอบสวนเบ้อื งตน้ )............
พิจารณาแล้วเหตุเฉี่ยวชนคร้ังน้ีเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุท่ี
ขบั ขรี่ ถในทางแลว้ เลย้ี วกลบั รถตดั ชอ่ งทางรถอนื่ โดยไมจ่ อดรอใหร้ ถของผตู้ ายซง่ึ กำ� ลงั แลน่ อยใู่ นทาง
ผ่านไปก่อน แล้วผ้ตู ้องหาจึงจะขบั ข่ีผ่านไปไดโ้ ดยความปลอดภัย คงจะไม่เกิดเหตุเฉยี่ วชนกนั เชน่ น้ี
ซึ่งตามวิสัยและพฤติการณ์ผู้ขับข่ีรถยนต์บรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้น
ได้ แตห่ าไดใ้ ชเ้ พยี งพอไม่ และภายหลงั เกดิ เหตยุ งั ไดห้ ลบหนี ไมแ่ สดงตวั และแจง้ เหตตุ อ่ พนกั งานเจา้
หนา้ ทท่ี ใี่ กลเ้ คยี งทนั ที การกระทำ� ของผตู้ อ้ งหาดงั กลา่ วเปน็ ความผดิ อาญาฐาน “ขบั รถโดยประมาท
เป็นเหตุให้ผู้อ่ืนถึงแก่ความตายและทรัพย์สินของผู้อ่ืนเสียหายและขับรถในทางก่อให้เกิดความ
เสยี หายแกบ่ คุ คลหรอื ทรพั ยส์ นิ ของผอู้ นื่ แลว้ ไมห่ ยดุ ชว่ ยเหลอื แสดงตวั และแจง้ เหตตุ อ่ พนกั งาน
เจ้าหนา้ ทที่ ี่ใกล้เคยี งทนั ท”ี จงึ ขอร้องทกุ ข์กล่าวโทษ ผู้ขบั ข่ีรถยนตบ์ รรทกุ สบิ ลอ้ ทห่ี ลบหนดี งั กล่าว
ไวเ้ ป็นผู้ตอ้ งหาในข้อหาความผิดดงั กล่าวไว้ดำ� เนนิ คดตี ามกฎหมายตอ่ ไป และยดึ รถไวเ้ ป็นของกลาง
ในคดีตอ่ ไป”
การท�ำค�ำให้การในฐานะผู้กล่าวหา ต้องจัดท�ำในวันเกิดเหตุหรือไม่ น้ัน ขึ้นอยู่กับความ
ชดั เจนของพยานหลกั ฐาน หากชัดเจน ก็สามารถกลา่ วโทษไดเ้ ลย แตห่ ากยงั ไมช่ ัดเจน ก็ยังไม่ต้อง
กลา่ วโทษกอ่ น ให้สอบสวนค่กู รณแี ตล่ ะฝ่ายในฐานะพยานก่อน และรวบรวมหลกั ฐานอ่ืนประกอบ
ดงั นนั้ พนกั งานสอบสวนอยา่ ไปสบั สนกบั เรอ่ื งการออกเลขสารบบคดไี วท้ ำ� การสอบสวน เรอ่ื งการออก
เลขคดีเม่ือพนักงานสอบสวนออกไปตรวจที่เกิดเหตุและท�ำการสอบสวนเบ้ืองต้นพบว่า มีคดีอาญา
เกิดเหตุ อ้าง เช่ือว่าได้เกิดในเขตอ�ำนาจของตน ก็รับเป็นเลขสารบบคดี(ออกเลขคดี) น�ำคดีเข้าสู่
กระบวนการยุตธิ รรม เขา้ ส่มู าตรการตรวจสอบ ควบคมุ เรง่ รัดการสอบสวน โดยผ้บู ังคบั บญั ชาตาม
ลำ� ดบั ชัน้
110 ค่มู อื การสอบสวนคดีอุบัตเิ หตุทางถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
หลกั การทำ� คำ� ใหก้ ารในฐานะผกู้ ลา่ วหา ยดึ หลกั ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา
มาตรา 134 วรรคสอง กลา่ วคอื ตอ้ งมีพยานหลกั ฐานตามสมควรว่า ผ้ตู ้องหากระทำ� ผดิ ตามขอ้ หา
หากยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ พนักงานสอบสวนจ�ำต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ทั้งน้ี จะตอ้ งอยภู่ ายในกรอบระยะเวลาการสอบสวนคดแี ต่ละประเภท ตามคำ� สั่ง ตร.ที่ 419/2556
ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เม่ือมพี ยานหลักฐานตามสมควร ตอ้ งจดั ทำ� ค�ำใหก้ ารในฐานะผูก้ ลา่ วหา
และตอ้ งจดั ท�ำก่อนมีการแจ้งขอ้ หาแก่ผู้ตอ้ งหาด้วย
ประเดน็ การสอบสวนคดจี ราจรทางบก
- วนั เวลาท่ีเกิดเหตุ และผู้ขบั รถคนั ทเ่ี กดิ เหตุขบั รถจากท่ีใดไปท่ใี ด มีใครโดยสารหรือ
ร่วมทางไปในรถบา้ ง
- ยานพาหนะทขี่ บั หมายเลขทะเบียน ประเภทรถ ใบอนุญาตขับรถ
ตลอดจนวนั เดอื น ปแี ละสถานทอี่ อก วนั สิ้นอายุ
- ทศิ ทางการเดนิ รถ
- ความเร็วของรถ กอ่ นและขณะถึงทเี่ กิดเหตุ
- ลักษณะการชน ระยะรถอยหู่ ่างจากจดุ ชน ความรุนแรงของการชน
- ผลการชน ทรัพย์สินเสียหายเท่าใด มีผู้ได้รับอันตราย-สาหัส-ตาย หรือไม่ อยู่ท่ีโรง
พยาบาลใด
- ประเด็นท่ีกล่าวหาว่าผู้ต้องหาประมาท (การใช้ความระมัดระวังปกติต้องใช้ความ
ระมดั ระวงั อย่างไร เพราะเหตุใดจึงไม่ใช)้
- ถา้ ผขู้ บั มใิ ชเ่ จา้ ของรถ สอบใหป้ รากฏวา่ เปน็ ลกู จา้ ง หรอื ตวั แทนของผใู้ ด ไดร้ บั คา่ จา้ ง
ค่าตอบแทน หรอื ถกู วานใชอ้ ย่างไร
- กรณีชนแลว้ หนี สอบตำ� หนริ ูปพรรณคนและรถโดยละเอยี ด
- กรณียอมรบั ผิด ชดใชค้ ่าเสียหายแกก่ นั อยา่ งไร จำ� นวนเท่าใด
- การสอบสวนปากค�ำ พงส.ผ้รู ับผดิ ชอบในฐานะผู้กล่าวหา ใชแ้ บบพิมพ์ ส.56-4
- หากข้อเท็จจรงิ ไมช่ ดั แจง้ วา่ ใครเปน็ ฝา่ ยประมาท อยา่ เพิง่ กลา่ วหา
- หลักการกล่าวหา ควรยดึ หลกั ป.วิ.อ. มาตรา 123 และ 134 วรรคสอง
- เม่อื บรรยายข้อเทจ็ จรงิ การสอบสวนแล้ว ความเหน็ ของ พงส. พเิ คราะหแ์ ล้ว เห็นวา่
ผู้ตอ้ งหามีความประมาทอย่างไร ให้ชดั
- ต้องระบุฐานความผิดให้ปรากฏในค�ำให้การผู้กล่าวหาให้ชัดเจนว่า พฤติการณ์การก
ระทำ� ของผ้กู ล่าวหา เป็นความผิดฐานใด
คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน 111
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตุทางถนน
4.2 การสอบสวนปากค�ำผู้เสยี หาย
ถา้ ผู้เสียหายเป็นเดก็ อายุไม่เกิน 18 ปี ใหถ้ ามปากคำ� และแจ้งสิทธิตามประมวลกฎหมาย
วธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 133 ทวิ
การบันทึกปากค�ำผู้เสียหายท่ีจะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทน ให้แจ้งสิทธิ ตามประมวล
กฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา 44/1
การบันทึกปากค�ำผู้กล่าวหาหรือพยาน กรณีที่มีผู้ร่วมถามปากค�ำให้บันทึกรายละเอียด
ชอ่ื ช่ือสกุล สถานภาพ ทีอ่ ยู่ของผรู้ ่วมถามปากคำ� โดยละเอยี ดชัดเจน เพียงพอทจ่ี ะสามารถตดิ ตาม
ตัวในภายหลงั ได้
ประเดน็ การสอบปากคำ� ผู้เสยี หาย/คนเจ็บ
- ทราบและรเู้ ห็นเหตุการณข์ ณะเกิดเหตหุ รอื ไม่
- หากเปน็ ผ้ขู บั ขี่ มีใบอนญุ าตขบั ขี่หรือไม่ ชนดิ ประเภทใด ขบั ข่ีรถชนิด ประเภท นัน้
มานานเพียงใด
- ใชเ้ ส้นทางถนนสายเกดิ เหตุมานานเพียงใด
- ก่อนขบั ข่ไี ด้ดม่ื สรุ าหรือของมนึ เมาอยา่ งไรมาก่อนหรือไม่
- ก่อนขับรถไดพ้ กั ผ่อนหรืออดหลบั นอนมาหรอื ไม่
- รถคนั เกดิ เหตทุ พ่ี ยานขบั ขเ่ี ปน็ ของผใู้ ด มคี มู่ อื ทะเบยี น และชำ� ระภาษปี ระจำ� ปถี กู ตอ้ ง
หรือไม่ มปี ระกนั ภัยหรือไม่ ประเภทใด
- ตามวนั เวลาที่เกดิ เหตุ พยานขบั รถคันดังกลา่ วจากท่ใี ด จะไปท่ีใด ดว้ ยความเร็วเพียง
ใด/ขบั ขี่จากต้นทางถงึ ทเ่ี กดิ เหตุใช้เวลานานเพียงใด
- เกดิ เหตุเฉยี่ วชนกนั ในทีเ่ กดิ เหตไุ ด้อย่างไร
- ก่อนเกดิ เหตุเฉ่ยี วชน เห็นรถค่กู รณมี าก่อนหรอื ไม่ เหน็ ระยะกีเ่ มตร
- ก่อนชนได้มีการหา้ มลอ้ หรอื ใหส้ ัญญาณไฟหรอื สญั ญาณเสยี งแตรหรอื ไม่
- พยานไดร้ บั บาดเจบ็ เพยี งใด หลงั เกดิ เหตเุ ขา้ รบั การรกั ษาพยาบาลทใ่ี ด นอนพกั รกั ษา
เป็นเวลากว่ี ัน และขณะนี้อาการบาดเจบ็ เปน็ อย่างไร
- รถพยานได้รับความเสยี หายอย่างไรบ้าง ประเมนิ ค่าเสียหายเพียงใด และมีทรพั ย์สิน
ใดสูญหาย เสียหายจากเหตุครง้ั น้ีหรอื ไม่ กี่รายการ อะไรบา้ ง คิดเปน็ มลู ค่าเพียงใด
- เคยรู้จักและเคยมสี าเหตโุ กรธเคอื งกบั คู่กรณีมาก่อนหรอื ไม่
4.3 การสอบสวนปากคำ� ผู้ตอ้ งหา
1) หลกั การแจง้ ข้อหา คอื จะต้องมพี ยานหลักฐานตามสมควรว่า ผู้นน้ั น่าจะได้กระทำ�
ความผิดตามขอ้ หานน้ั
112 คมู่ ือการสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตุทางถนน
2) การแจง้ ขอ้ จะตอ้ งบนั ทกึ รายละเอยี ดการกลา่ วหาวา่ ผตู้ อ้ งหาทำ� อะไร ทไี่ หน เมอื่ ไร
อยา่ งไร อนั เปน็ เรอ่ื งราวหรอื เหตกุ ารณท์ ผ่ี ตู้ อ้ งหาไดก้ อ่ ขนึ้ และยนื ยนั ใหผ้ ตู้ อ้ งหาทราบดว้ ยวา่ การก
ระทำ� ของผูต้ อ้ งหาน้นั เขา้ ขา่ ยเป็นความผิดฐานใด
ตวั อย่าง : การแจ้งขอ้ เท็จจริงและขอ้ หาในคดจี ราจร
“..........เมอ่ื วนั ท่ี 8 เมษายน 2556 เวลาประมาณ 15.17 นาฬิกา ผตู้ อ้ งหาได้ขบั ข่ีรถยนต์บรรทุกสบิ
ลอ้ ยห่ี อ้ ฮโี น่ สขี าว หมายเลขทะเบยี น 80-3807 นราธวิ าส ลากรถพว่ ง หมายเลขทะเบยี น 80-5578
นราธวิ าส โดยประมาทปราศจากความระมดั ระวงั ไปตามถนนสายกาญจนวนชิ ฝง่ั มงุ่ หนา้ ไปหาดใหญ่
ทศิ ทางจากทศิ ใต้ (อำ� เภอสะเดา) มงุ่ หนา้ ไปทศิ เหนอื (อำ� เภอหาดใหญ)่ ในชอ่ งเดนิ รถชอ่ งท่ี 2 นบั จาก
ซา้ ยมอื ถงึ ทเี่ กดิ เหตเุ ฉยี่ วชนกบั รถจกั รยานยนต์ ยหี่ อ้ ฮอนดา้ รนุ่ เวฟ 125 ไอ สดี ำ� หมายเลขทะเบยี น
คธฉ 42 สงขลา โดยมี นาย เอ อายุ 50 ปี เป็นผขู้ ับข่ี ขณะขบั ขี่อยูใ่ นชอ่ งเดนิ รถที่ 1 ติดกับช่องที่ 2
มงุ่ หนา้ ไปทศิ เดยี วกนั เปน็ เหตใุ หร้ ถจกั รยานยนตค์ นั ดงั กลา่ วไดร้ บั ความเสยี หาย และโดยรถยนตเ์ กง๋
ยหี่ ้อโตโยต้า รุ่นโคโรนา่ สบี รอนด์ฟ้า หมายเลขทะเบยี น กร 1045 สงขลา ของ นายบี อายุ 39 ปี
ซง่ึ จอดอยรู่ ิมถนนในช่องเดนิ รถท่ี 1 ฝ่งั เดยี วกัน ไดร้ ับความเสยี หาย และ นายเอ ไดร้ ับบาดเจ็บและ
ถงึ แกค่ วามตายทนั ทใี นทเ่ี กดิ เหตุ เหตเุ กดิ ที่ ถนนกาญจนวนชิ (หนา้ ทที่ ำ� การไปรษณยี บ์ า้ นพร)ุ ตำ� บล
บา้ นพรุ อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา การกระทำ� ของผตู้ อ้ งหาดงั กลา่ วเปน็ ความผดิ อาญาฐาน “ขบั
รถโดยประมาทเปน็ เหตใุ หผ้ อู้ น่ื ถงึ แกค่ วามตายและทรพั ยส์ นิ ของผอู้ น่ื เสยี หาย” อนั เปน็ ความผดิ ตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบญั ญตั ิจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4),
157 และ พระราชบญั ญัติจราจรทางบก (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2535 มาตรา 27....
3) การแจ้งสทิ ธผิ ตู้ ้องหาในชนั้ สอบสวน ต้องแจ้งตาม ป.วิ.อ.มาตรา 134/4 วรรคหน่งึ
ไมใ่ ช่แจง้ ตาม มาตรา 7/1
ตวั อยา่ ง : การแจ้งสทิ ธิในชนั้ สอบสวน
(๑) ผตู้ อ้ งหามสี ทิ ธทิ จี่ ะใหก้ ารหรอื ไมก่ ไ็ ด้ ถา้ ผตู้ อ้ งหาใหก้ าร ถอ้ ยคำ� ทผี่ ตู้ อ้ งหาใหก้ าร
นัน้ อาจใช้เปน็ พยานหลกั ฐานในการพจิ ารณาคดไี ด้
(๒) ผู้ตอ้ งหามสี ทิ ธิใหท้ นายความหรอื ผูซ้ ่งึ ตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำ� ตนได้
คูม่ อื การสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน 113
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน
4) ประเด็นการสอบสวนผตู้ อ้ งหา
ถาม ตามข้อเท็จจริงและข้อหาความผิดที่พนักงานสอบสวนแจ้งให้ทราบแล้วน้ัน ผู้
ตอ้ งหาทราบและเขา้ ใจข้อหาแล้วหรือไม่ จะใหก้ ารอย่างไร (หากผตู้ อ้ งหาใหก้ ารรบั สารภาพ จะตอ้ ง
ตอ่ ดว้ ยสำ� นวนภาษาวา่ “ขา้ ฯทราบขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ หาความผดิ ทพี่ นกั งานสอบสวนแจง้ ใหท้ ราบดี
โดยตลอดแลว้ ขอใหก้ ารรบั สารภาพตลอดขอ้ กลา่ วหา ดว้ ยความเตม็ ใจของขา้ ฯเอง ดว้ ยความเตม็ ใจ
ของข้าฯเอง ไมม่ ผี ้หู นง่ึ ผู้ใดมาใหค้ ำ� มนั่ สัญญา ขเู่ ขญ็ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำ� ลงั บังคับ หรือกระท�ำ
โดยมิชอบประการใดๆ เพอื่ จงู ใจให้ขา้ ฯใหก้ ารอย่างใดๆ ในเรอ่ื งท่ขี ้าฯต้องหาน้ี หากผู้ต้องหาใหก้ าร
ปฏิเสธไมต่ อ้ งมขี ้อความดังกลา่ วต่อท้ายคำ� ว่าปฏเิ สธ
ถาม ผู้ต้องหาจะใหก้ ารรับสารภาพหรอื ปฏิเสธอยา่ งไร
ถาม ผู้ตอ้ งหามใี บอนญุ าตขบั ขีห่ รือไม่ ชนดิ ประเภทใด ขบั ข่รี ถชนิด ประเภท น้นั มา
นานเพียงใด
ถาม ผู้ต้องหาใช้เสน้ ทางถนนสายเกิดเหตุมานานเพยี งใด
ถาม ก่อนขบั ขีไ่ ด้ดืม่ สรุ าหรือของมึนเมาอยา่ งไรมาก่อนหรือไม่
ถาม กอ่ นขบั รถไดพ้ ักผอ่ นหรอื อดหลบั นอนมาหรือไม่
ถาม รถคนั เกดิ เหตทุ ผ่ี ตู้ อ้ งหาขบั ขเ่ี ปน็ ของผใู้ ด มคี มู่ อื ทะเบยี น และชำ� ระภาษปี ระจำ� ปี
ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ มีประกันภัยหรอื ไม่ ประเภทใด
ถาม ตามวนั เวลาทเ่ี กดิ เหตุ ผตู้ อ้ งหาขบั รถคนั ดงั กลา่ วจากทใ่ี ด จะไปทใ่ี ด ดว้ ยความเรว็
เพยี งใด/ขบั ขจี่ ากต้นทางถึงท่เี กดิ เหตุใชเ้ วลานานเพยี งใด
ถาม เกิดเหตเุ ฉี่ยวชนกันในทเี่ กิดเหตไุ ด้อยา่ งไร
ถาม กอ่ นเกดิ เหตเุ ฉย่ี วชน ผูต้ ้องหาเห็นรถคู่กรณีมากอ่ นหรือไม่ เห็นระยะก่ีเมตร
ถาม ก่อนชนได้มีการห้ามล้อ หรือใหส้ ญั ญาณไฟหรือสญั ญาณเสยี งแตรหรอื ไม่
ถาม ผตู้ อ้ งหาไดร้ บั บาดเจบ็ เพยี งใด หลงั เกดิ เหตเุ ขา้ รบั การรกั ษาพยาบาลทใี่ ด นอนพกั
รกั ษาเปน็ เวลากวี่ ัน และขณะนี้อาการบาดเจบ็ เป็นอยา่ งไร
ถาม รถผู้ต้องหาได้รับความเสียหายอย่างไรบ้าง ประเมินค่าเสียหายเพียงใด และมี
ทรัพย์สินใดสูญหาย เสียหายจากเหตคุ ร้งั นี้หรอื ไม่ กรี่ ายการ อะไรบา้ ง คดิ เป็นมลู ค่าเพยี งใด
ถาม แสงสวา่ งขณะเกิดเหตุในท่ีเกดิ เหตุเปน็ อย่างไร และก่อนเกิดเหตุ ผตู้ ้องหาเปิดไฟ
หน้ารถหรือไม่ หากเปิดไฟสูง/ไฟต่�ำ ส่องไปเบ้ืองหน้าได้ไกลประมาณก่ีเมตร (กรณีเหตุเกิดในเวลา
กลางคนื )
ถาม เคยรจู้ ักและเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับคกู่ รณีมากอ่ นหรือไม่
114 คู่มอื การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน
4.4 การจดั ทำ� เอกสารในส�ำนวน
1) จัดทำ� เอกสารหลกั ฐานให้เป็นไปตามแบบฟอรม์ ของชนิดและประเภทเอกสาร ตาม
ท่กี �ำหนดไว้ในท้ายคำ� สั่ง ตร.ท่ี 419/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556
2) การจดั ทำ� ภาพถา่ ยทเ่ี กดิ เหตคุ ดจี ราจร ใหถ้ า่ ยภาพทเ่ี กดิ เหตุ มมุ กวา้ ง ใหเ้ หน็ สภาพ
ท่ัวไปของสถานที่เกิดเหตุ และเม่ือน�ำมาจัดท�ำภาพถ่ายประกอบส�ำนวน ให้อธิบายให้ปรากฏด้วย
จากภาพถา่ ยทเี่ กดิ เหตุ ถา่ ยจากทศิ ทางใด หนั หนา้ ไปทางทศิ ใด เพอ่ื ใหพ้ นกั งานอยั การหรอื ศาลเขา้ ใจ
ภาพสถานทเ่ี กิดเหตุ ใหด้ ตู าม รปู แบบตามเอกสารตัวอย่างท่ี 5
3) การถา่ ยภาพรถคนั เกดิ เหตุ ใหถ้ า่ ยจดุ กระทบตรงของรถทงั้ สองขณะชนกนั วา่ อยตู่ รง
จดุ ใด และใหถ้ า่ ยใหเ้ หน็ สภาพความเสยี หายของรถจากเหน็ เฉยี่ วชนครง้ั นี้ ถา้ มวี ตั ถพุ ยานใดเปน็ ชนิ้ ๆ
เล็ก ช้ินนอ้ ยเวลาถา่ ยภาพให้วางสเกลเพ่อื จะไดท้ ราบขนาดของวัตถุพยานชิน้ นนั้ ดว้ ย
4) การถา่ ยภาพศพผตู้ ายใหถ้ า่ ยภาพมมุ กวา้ งใหเ้ หน็ ทา่ ทางศพขณะพบศพในทเ่ี กดิ เหตุ
ถ่ายร่องรอยบาดแผล ตามเนื้อตัวร่างกาย โดยเฉพาะบาดแผลท่ีท�ำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ถ่าย
บาดแผล ควรวางสเกลไวด้ ว้ ย เพือ่ ทราบขนาดของบาดแผล และภาพศพทกุ คดตี ้องถ่ายภาพใบหนา้
ตรงของศพ เพอื่ ให้เหน็ ตำ� หนริ ูปพรรณใบหนา้ ผูต้ าย การตรวจสอบว่าเวลาถา่ ยภาพใบหน้าตรงหรอื
ไม่ ต้องดภู าพทกี่ ลอ้ งถา่ ยภาพวา่ เห็นใบหทู ้งั สองข้างหรอื ไม่ หากเห็นใบหศู พทงั้ สองข้าง แสดงวา่
ใบหนา้ ตรงแล้ว จงึ กดชารต์ เตอรถ์ ่ายภาพ นำ� ไปประกอบสำ� นวนการสอบสวน
4.5 แนวทางในการเจรจาชดใชค้ ่าเสยี หายทางแพ่งประกอบคดจี ราจร
การเจรจาชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี อย่าได้ปัดหรือ
ปฏเิ สธทีจ่ ะดำ� เนินการ เพราะเห็นเรอ่ื งทางแพ่ง ไมใ่ ชห่ น้าทขี่ องพนกั งานสอบสวนหรือต�ำรวจ แตใ่ ห้
มีจิตส�ำนึกในวิชาชีพในบทบาทหน้าท่ีอ�ำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ดังนั้น พนักงานสอบสวน
ต้องใสใ่ จบริการ ส�ำหรับในคดจี ราจร หลงั จากทพ่ี นักงานสอบสวนได้ทำ� การสอบสวนรวบรวมพยาน
หลกั ฐาน ทราบวา่ ฝา่ ยใดเปน็ ฝ่ายต้องรับผิดและตกเป็นผตู้ ้องหา และรสู้ ทิ ธริ ู้หน้าที่ว่า ฝ่ายใดเป็น
ฝ่ายมีสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้ละเมิด และฝ่ายใดเป็นผู้มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในมูลหนี้
ละเมดิ ดงั นนั้ จงึ เปน็ หนา้ ทขี่ องพนกั งานสอบสวนในการใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชน โดยการเรยี กคกู่ รณี
ทง้ั สองฝา่ ยหรอื มากกวา่ นนั้ ใหม้ าเจรจาชดใชค้ า่ เสยี หายในทางแพง่ ซง่ึ คกู่ รณเี จรจาตกลงยตุ ทิ างแพง่
กนั ในชนั้ สอบสวนโดยการชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนกนั จนเปน็ ทพ่ี อใจของฝา่ ยผเู้ สยี หายแลว้ เปน็ ดตี อ่
ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาไปฟ้องเรยี กรอ้ งทางศาลอกี ยังผลใหป้ ระชาชนเชอื่ ม่ัน ศรัทธา ในบทบาท
หนา้ ทขี่ องพนกั งานสอบสวนในการอำ� นวยความยตุ ธิ รรม และเปน็ การสรา้ งภาพลกั ษณท์ ดี่ แี กอ่ งคก์ ร
ตำ� รวจดว้ ย และเมอ่ื ผลการเจรจาตกลงชดใชค้ า่ เสยี หายเปน็ ประการใด พนกั งานสอบสวนตอ้ งจดั ทำ�
บันทึกการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง (ดูตัวอย่างท่ี 3) ไว้เป็นหลักฐานประกอบส�ำนวนการ
สอบสวนดว้ ย
คูม่ อื การสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตุทางถนน 115
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน
หลักส�ำคัญการเรียกคู่กรณีมาตกลงเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย ควรท�ำหลังจากที่ได้รวบรวม
พยานหลกั ฐานชดั เจนวา่ ฝา่ ยใดเปน็ ฝา่ ยตอ้ งรบั ผดิ ในมลู ละเมดิ จากเหตรุ ถเฉยี่ วชนกนั ในครง้ั นน้ั และ
แนะนำ� วา่ ควรจดั ใหม้ กี ารเจรจาชดใชค้ า่ เสยี หายหลงั จากทแี่ จง้ ขอ้ หาแกผ่ ตู้ อ้ งหาแลว้ กเ็ ปน็ ผลดเี ชน่
กัน เพราะทางบรษิ ัทประกันภยั ฯ หรอื ค่กู รณีแต่ละฝ่ายจะได้รู้สิทธิรู้หน้าท่ี ทำ� ให้การเจรจาชดใช้คา่
เสยี หายจบง่ายขน้ึ
จากประสบการณก์ ารทำ� คดจี ราจรของผเู้ ขยี น เหน็ วา่ มลู เหตแุ หง่ การทพ่ี นกั งานสอบสวน
ถกู ประชาชนคกู่ รณีในคดจี ราจร ร้องเรยี น ส่วนใหญ่มาจากพนกั งานสอบสวนไม่ด�ำเนินการในเรื่อง
ทางแพ่งซึ่งเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ในการได้รับการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายจากคู่
กรณี ดงั นน้ั พนกั งานสอบสวนจงึ ควรทำ� การเจรจาชดใชค้ า่ เสยี หายใหก้ บั คกู่ รณที งั้ สองฝา่ ยประกอบ
สำ� นวนไวท้ กุ คดี และสามารถทำ� การเจรจาไดเ้ รว็ เทา่ ใดยงิ่ เปน็ ผลดตี อ่ ประชาชนผไู้ ดร้ บั ความเสยี หาย
4.5 การปฏบิ ตั เิ กย่ี วกับรถของกลางในคดจี ราจรทางบก
4.5.1 ระเบียบการตำ� รวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะ 15 บทท่ี 9
“รถ” หมายถงึ รถยนต์ รถจกั รยานยนต์ รถพว่ ง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ รถใช้
งานเกษตร รถจกั รยาน เกวยี น รถลาก รถจา้ ง
“รถของกลาง” หมายถงึ รถซง่ึ ตกมาอยใู่ นความคมุ้ ครองของเจา้ หนา้ ที่ โดยอำ� นาจ
แห่งกฎหมายหรือโดยหน้าท่ีในทางราชการและยึดไว้เพื่อพิสูจน์ในทางคดี หรือจัดการอย่างอื่นตาม
หน้าท่ีราชการ
การจะใชอ้ ำ� นาจยดึ รถของกลางไมว่ า่ ในกรณใี ด เจา้ หนา้ ทตี่ ำ� รวจจะตอ้ งคำ� นงึ ดว้ ย
ว่ามีกฎหมายให้อ�ำนาจหน้าที่จะยึดไว้เป็นรถของกลางได้เพียงใดหรือไม่ ในกรณีที่มีการโต้แย้ง
กรรมสทิ ธริ์ ถของกลาง เจา้ หนา้ ทต่ี ำ� รวจไมค่ วรยดึ รถของกลางไว้ แตใ่ หแ้ นะนำ� คกู่ รณดี ำ� เนนิ การฟอ้ ง
รอ้ งกนั เองทางศาล สำ� หรบั รถของกลางนน้ั ใหพ้ นกั งานสอบสวนบนั ทกึ เหตไุ มย่ ดึ รถของกลาง รวมทงั้
พฤตกิ ารณ์แห่งเรื่องไว้ใหป้ รากฏในรายงานบันทกึ ประจ�ำวันเกยี่ วกบั คดีไว้
พนกั งานสอบสวนใชอ้ ำ� นาจยดึ รถทไี่ ดใ้ ชใ้ นการกระทำ� ความผดิ หรอื เกยี่ วกบั การก
ระท�ำความผิดไว้เป็นของกลาง เพ่ือเป็นพยานหลักฐาน รวมท้ังเพื่อตรวจสภาพรถ ตามประมวล
กฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา มาตรา 85, มาตรา 131, มาตรา 132 และพระราชบัญญัตจิ ราจร
ทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78
การเกบ็ รกั ษาและจำ� หนา่ ยรถของกลาง ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บการตำ� รวจเกยี่ วกบั
คดลี ักษณะ 15 บทท่ี 9 และหนังสอื ตร. ที่ 0004.6/12112 ลงวันท่ี 26 กันยายน 2545
ผู้มีหนา้ ท่เี ก็บรักษารถของกลางทีส่ ถานตี �ำรวจ เป็นหน้าทขี่ องหัวหน้าสถานี
116 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตุทางถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน
กรณีที่หมดความจ�ำเป็นท่ีจะเก็บรักษาไว้ ให้แจ้งผู้มีสิทธิมารับรถคืนไปหรือเป็น
กรณที จี่ ะตอ้ งทำ� การจำ� หนา่ ย กใ็ หด้ ำ� เนนิ การจำ� หนา่ ยแลว้ เกบ็ รกั ษาเงนิ ไว้ โดยใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ
การตำ� รวจเกย่ี วกบั คดี ลกั ษณะ 15 บทท่ี 9 ขอ้ 11, 12, 13 และ 14
การคนื รถของกลางท่ีชนแล้วหลบหนี ใหป้ ฏบิ ตั ิตามหนังสือ ตร.ท่ี 0503/21923
ลงวนั ที่ 18 สิงหาคม 2523
4.6 การรับคำ� ร้องทุกขแ์ ละการเปรยี บปรบั ในชัน้ สอบสวน
1) คดจี ราจรทางบกทส่ี ามารถเปรยี บเทยี บปรบั ไดใ้ นวนั ทร่ี บั แจง้ เหตไุ ดแ้ ก่ กรณี รถชน
เสยี หาย รถชนบาดเจบ็ ธรรมดาไมส่ าหสั พนกั งานสอบสวนไมต่ อ้ งบนั ทกึ การรบั คำ� รอ้ งทกุ ขล์ งในสมดุ
สาระบบการด�ำเนนิ คดีจราจรทางบก (ไมต่ ้องรับเลขคด)ี
2) คดจี ราจรทางบกท่ีไมส่ ามารถเปรยี บเทยี บปรบั ได้ในวนั ท่รี ับแจง้ เหตุ เชน่ ผ้ตู อ้ งหา
ไมย่ นิ ยอมให้เปรียบเทียบ ผูบ้ าดเจ็บไม่ยินยอม กรณี รถชนมีคนเจบ็ สาหัส รถชนมคี นตาย พนกั งาน
สอบสวนตอ้ งบันทึกรบั คำ� รอ้ งทุกข์ลงในสมุดสาระบบการ ด�ำเนินคดจี ราจรทางบก (รับเลขคด)ี ใน
ทันที
3) คดีจราจรทางบกที่อยู่ในอ�ำนาจเปรียบเทียบปรับของพนักงานสอบสวน ได้แก่
ชนเสียหายชนบาดเจ็บ หลังจากเปรียบเทียบปรับแล้วให้ส่งบันทึกเปรียบการเทียบไปยังพนักงาน
อัยการเพอ่ื พจิ ารณา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 142 วรรคท้าย
4) คดจี ราจรทางบกทบี่ นั ทกึ การรบั คำ� รอ้ งทกุ ขล์ งในสมดุ สาระบบการดำ� เนนิ คดจี ราจร
ทางบก (รบั เลขคด)ี ไวแ้ ลว้ ตอ่ มาเปรยี บเทยี บปรบั ใหส้ ง่ บนั ทกึ การเปรยี บเทยี บ พรอ้ มหลกั ฐานตา่ งๆ
ที่รวมรวมไว้ไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณา โดยกฎหมายไม่ได้บัญญัติให้มีความเห็นทางคดี จึง
ไม่ต้องสรุปส�ำนวนมคี วามเห็นทางคดแี ตอ่ ย่างใด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.142 วรรคท้าย “แต่ถ้าเป็นความผิดซ่ึง
พนกั งานสอบสวนเปรียบเทียบไดแ้ ละผกู้ ระท�ำความผดิ ไดป้ ฏบิ ัตติ ามเปรียบเทียบนนั้ แล้ว ใหบ้ ันทึก
การเปรยี บเทยี บน้ันไว้ แล้วส่งไปใหพ้ นักงานอยั การพร้อมด้วยสำ� นวน”
ประมวลระเบยี บเกีย่ วกับคดี ลกั ษณะ 9 บทท่ี 1 ข้อ 300 “คดใี ดทพ่ี นักงานสอบสวนได้
รวบรวมพยานหลกั ฐานไวแ้ ลว้ กอ่ นทจ่ี ะมกี ารเปรยี บเทยี บ ใหน้ ำ� หลกั ฐานดงั กลา่ วนนั้ มารวมกบั บนั ทกึ
และสำ� นวนคดเี ปรียบเทียบด้วย บนั ทกึ และสำ� นวนคดีเปรียบเทียบนใ้ี หส้ ่งไปยงั พนักงานอยั การโดย
ไม่ชักชา้ ”
4.7 การทำ� สำ� นวนฟอ้ งวาจา (สำ� นวนฟ้องใบแดง)
การจดั ท�ำส�ำนวนการสอบสวนคดีจราจร กรณฟี อ้ งดว้ ยวาจา เป็นกรณี รถเฉยี่ วชนผู้เสยี
หายได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย คู่กรณีตกลงกันได้ และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตุทางถนน 117
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตทุ างถนน
พนกั งานสอบสวนตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั จิ ดั ตงั้ ศาลแขวงและวธิ พี จิ ารณาความอาญาในศาล
แขวง พ.ศ. 2499 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาใน
ศาลแขวง (ฉบบั ท่ี 6) พ.ศ. 2556 มาตรา 20 และ มาตรา 7
มาตรา 20 บัญญัติว่า “ในคดีอาญาท่ีอยู่ในอ�ำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาได้
ถ้าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหาต่อพนักงานสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนน�ำผู้ต้องหา
มายังพนักงานอัยการหรือส่ังให้ผู้ต้องหาไปพบพนักงานอัยการในกรณีที่ผู้ต้องหามิได้ถูกควบคุมตัว
เพ่อื ฟ้องศาลโดยมติ อ้ งทำ� การสอบสวน และใหฟ้ อ้ งด้วยวาจา....”
มาตรา 7 บญั ญตั วิ า่ “ในการสอบสวนคดีอาญาท่อี ยู่ในอ�ำนาจศาลแขวงท่ีจะพิจารณา
พพิ ากษาได้ เมอ่ื มกี ารจบั ตวั ผตู้ อ้ งหาแลว้ ใหพ้ นกั งานสอบสวนผรู้ บั ผดิ ชอบสง่ ตวั ผตู้ อ้ งหาพรอ้ มดว้ ย
สำ� นวนการสอบสวนไปยงั พนกั งานอยั การ เพอื่ ใหพ้ นกั งานอยั การยนื่ ฟอ้ งตอ่ ศาลแขวงใหท้ นั ภายใน
กำ� หนดเวลาสี่สิบแปดช่วั โมงนบั แต่เวลาที่ผู้ตอ้ งหาถกู จับ แต่มใิ ห้นบั เวลาเดนิ ทางตามปกตทิ ี่นำ� ตัวผู้
ต้องหาจากที่จับมายังท่ีท�ำการของพนักงานสอบสวน จากท่ีท�ำการของพนักงานสอบสวนหรือจาก
ทีท่ ำ� การของพนักงานอยั การมาศาลเขา้ ในกำ� หนดเวลาส่ีสบิ แปดชวั่ โมงน้ันด้วย
ในกรณีที่ไม่มีการจับแต่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาแล้ว ให้พนักงาน
สอบสวนผรู้ ับผิดชอบส่งสำ� นวนการสอบสวนไปยงั พนกั งานอัยการพรอ้ มกบั สง่ั ให้ผตู้ ้องหาไปพบ
พนักงานอัยการเพื่อให้พนักงานอัยการย่ืนฟ้องต่อศาลแขวงให้ทันภายในก�ำหนดเวลาส่ีสิบแปด
ชั่วโมงนับแต่เวลาท่ีผู้ต้องหาได้รับแจ้งข้อหา แต่มิให้นับเวลาเดินทางตามปกติจากที่ท�ำการของ
พนกั งานสอบสวนหรอื จากทที่ ำ� การของพนกั งานอยั การมาศาลเขา้ ในกำ� หนดเวลาสสี่ บิ แปดชว่ั โมงนนั้
ดว้ ย”
การทำ� ส�ำนวนฟ้องดว้ ยวาจา หลกั ฐานสำ� คัญ พนักงานสอบสวนผรู้ บั ผิดชอบ ตอ้ งจดั ทำ�
ค�ำให้การของผู้กล่าวหา(ค�ำให้การของพนักงานสอบสวนท่ีรับแจ้งเหตุและท�ำการสอบสวนคดีนี้)ให้
ชดั เจน ตลอดจนหลกั ฐาน บนั ทกึ ตรวจทเ่ี กดิ เหตุ แผนทเ่ี กดิ เหตุ ภาพถา่ ยทเี่ กดิ เหตุ ใบรายงานชนั สตู ร
บาดแผลของแพทย์ และค�ำให้การรบั สารภาพของผตู้ อ้ งหา ตอ้ งชดั เจน เพราะมิฉะนน้ั แล้ว เม่อื ส่ง
สำ� นวนไปอยั การแลว้ ทางอยั การคนื สำ� นวน ซง่ึ หากฟอ้ งไมท่ นั ภายในสส่ี บิ แปดชวั่ โมง กต็ อ้ งคนื สำ� นวน
มาทีพ่ นกั งานสอบสวนเพ่ือดำ� เนนิ แกไ้ ข หากฟ้องไม่ทนั ก็ตอ้ งผัดฟ้อง ซ่ึงเพม่ิ ภาระงานของพนักงาน
สอบสวน ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งรหู้ ลกั และบรหิ ารจดั การใหเ้ รยี บรอ้ ย อยา่ ใหเ้ กดิ ปญั หาตอ้ งตามแกเ้ ปน็ ดที สี่ ดุ
ดูตัวอยา่ งการท�ำส�ำนวนคดจี ราจรฟอ้ งวาจา ตามเอกสารตวั อยา่ งท่ี 7 แนบทา้ ย
4.8 การเรยี งเอกสารในสำ� นวน
4.8.1 การเรยี งเอกสารในส�ำนวนระหวา่ งสอบสวน
1) ควรใหถ้ อื ปฏบิ ัตติ ามคำ� สงั่ ตร.ที่ 419/2556 ลง 1 ก.ค. 2556 ขอ้ 3.8.1
118 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอุบตั ิเหตทุ างถนน
2) การเสนอส�ำนวนการสอบสวน ให้หวั หน้างานสอบสวนตรวจเบือ้ งต้น 3 วัน
15 วนั (ครง้ั ต่อไป) และใหห้ วั หนา้ สถานีตรวจ (30วัน) ให้เสนอพร้อมสมดุ คุมสำ� นวนเล่มประจ�ำตวั
พงส. ทุกครง้ั
4.8.2 การเรยี งเอกสารในสำ� นวนภายหลงั สอบสวน(เย็บสำ� นวน)
1) ค�ำสง่ั ตร.ท่ี 419/2556 ลง 1 ก.ค. 2556 บทท่ี 3 ข้อ 3.8.1 ใชส้ ำ� หรบั คดที ี่
ไมม่ คี วามยงุ่ ยาก ซับซ้อน มีพยานหลักฐานไม่มาก
2) ค�ำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 ลง 1 ก.ค. 2556 บทที่ 3 ขอ้ 3.8.2 ใช้สำ� หรบั คดีที่
มคี วามยุ่งยาก ซับซอ้ น มพี ยานหลกั ฐานจ�ำนวนมาก
4.8.3 การใหห้ มายเลขเอกสารในส�ำนวนการสอบสวน
1) ถอื ปฏบิ ัตติ ามคำ� สัง่ ตร. ท่ี 419/2556 ลง 1 ก.ค. 2556 บทที่ 3 ข้อ 3.8.1.9
วรรคสาม และวรรคสี่
2) การเรยี งเอกสารทีม่ ผี ลการตรวจพสิ จู น์ กับหนังสือสง่ ให้เรียงหนงั สือทีแ่ จง้
ผลพิสจู น์อย่ลู ่าง หนงั สอื น�ำส่งอยู่ด้านบน
4.9 การท�ำรายงานการสอบสวน
สว่ น : หลกั ฐานทางคดแี ละความเหน็ ของพนกั งานสอบสวน
- ย่อหน้าท่ี 1 “คดีนี้ขอ้ เทจ็ จรงิ ฟังไดค้ วามว่า ..................”
- ย่อหนา้ ที่ 2 “ชนั้ สอบสวนผตู้ อ้ งหาใหก้ าร.....................” (กรณมี ตี วั และจบั
ได้)
- ย่อหนา้ ที่ 3 “พเิ คราะหพ์ ยานหลกั ฐานทง้ั พยานฝา่ ยผกู้ ลา่ วหา ฝา่ ยผตู้ อ้ งหา
และพยานหลักฐานท่ีพนักงานสอบสวนรวบรวมได้เองแล้ว เห็นว่า..........................................
ทางคดีมพี ยานหลักฐานเพียงพอยืนยนั การกระท�ำผดิ ของผตู้ ้องหา”
- ยอ่ หนา้ ท่ี 4 “จากพฤตกิ ารณแ์ ละพยานหลกั ฐานดงั กลา่ วเหน็ วา่ เพยี งพอ
ฟอ้ งผู้ตอ้ งหา ในความผิดฐาน “................................” อันเปน็ ความผดิ ตามประมวลกฎหมาย
อาญา.................................และพระราชบัญญตั ิจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4) และ
157............ จงึ เหน็ ควรสั่งฟ้องผ้ตู อ้ งหาตามข้อกลา่ วหาและตัวบทกฎหมายท่อี ้างถงึ ดังกล่าว
จงึ เสนอความเห็นพรอ้ มส�ำนวนการสอบสวนมาเพ่ือโปรดพจิ ารณา”
(ดเู อกสารตวั อย่างท่ี 6 : รายงานการสอบสวนคดจี ราจร)
คูม่ อื การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน 119
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
4.10 หลกั ในการวนิ จิ ฉยั คดเี บ้ืองตน้
หลกั การวินิจฉัยคดีเบอ้ื งต้น มีหลักในการพิจารณา ดงั น้ี
1) เรือ่ งสทิ ธกิ ารใช้ทาง เช่น ผู้ขับขต่ี ้องได้รบั สญั ญาณไฟจราจรสีเขยี วใหไ้ ปกอ่ นจงึ
จะมสี ทิ ธกิ อ่ น เวน้ แตม่ เี จา้ พนกั งานจราจรใหไ้ ปกอ่ นกใ็ หป้ ฏบิ ตั ติ ามคำ� สงั่ ของเจา้ พนกั งานจราจร สทิ ธิ
การใช้ทางยอ่ มเป็นของผู้ขบั ขฝ่ี ่ายทไี่ ดร้ ับสัญญาณจราจรทีใ่ ห้เคลื่อนรถไปได้ ถา้ ไมม่ ีสัญญาณจราจร
แตม่ ีรถอย่ใู นทางร่วมทางแยกซ่งึ หมายถงึ มรี ถอยใู่ นพน้ื ท่ีที่ทางเดินรถตัดกัน กใ็ หร้ ถในพน้ื ท่ีทางรว่ ม
ทางแยกนน้ั ผา่ นไปกอ่ น ถา้ รถมาถงึ พรอ้ มกนั ซง่ึ หมายถงึ มาชนกนั ในพนื้ ทต่ี ดั กนั ของทางรว่ มทางแยก
พอดี สิทธิในการใช้ทางย่อมเป็นของผู้ขับขี่รถในทางเอกน้ันมีสิทธิผ่านไปก่อน ถ้าเป็นทางร่วมทาง
แยกท่ีไม่มีทางเอกตัดกับทางโท ก็ต้องให้สิทธิแก่รถท่ีอยู่ทางซ้ายมือผ่านไปก่อน นอกจากน้ี ผู้ขับข่ี
ตอ้ งระวงั ไมใ่ หร้ ถไปชนหรอื โดนคนเดนิ เทา้ ซง่ึ หมายถงึ สทิ ธขิ องคนเดนิ เทา้ ดกี วา่ หรอื กรณผี ขู้ บั ขตี่ อ้ ง
ขบั รถใหห้ า่ งจากคนั ขา้ งหนา้ พอสมควรทจ่ี ะหยดุ รถไดท้ นั เมอื่ จำ� เปน็ ตอ้ งหยดุ รถซงึ่ หมายถงึ รถคนั หนา้
มสี ทิ ธกิ ารใชท้ างดกี วา่ เปน็ ตน้ รถทไ่ี มม่ สี ทิ ธใิ ชท้ างดกี วา่ ยอ่ มมพี ฤตกิ ารณน์ า่ เชอื่ วา่ ขบั รถโดยประมาท
2) เรื่องการฝ่าฝืนกฎหมาย เชน่ ฝา่ ฝนื สัญญาณไฟจราจร ฝา่ ฝนื เครื่องหมายจราจร
ใหเ้ ดนิ รถทางเดยี ว ฝา่ ฝนื เครอ่ื งหมายจราจรหา้ มแซง หา้ มเลย้ี ว ฝา่ ฝนื กฎหมายโดยขบั รถในขณะเมา
สรุ าหรอื ของเมาอยา่ งอน่ื ขบั รถในขณะหยอ่ นความสามารถในอนั ทจ่ี ะขบั ฝา่ ฝนื ไมล่ ดความเรว็ รถใน
ทางรว่ มทางแยก เปน็ ตน้ ยอ่ มมพี ฤตกิ ารณน์ า่ เชอื่ วา่ ขบั รถโดยประมาท สว่ นกรณผี ขู้ บั ขไ่ี มม่ ใี บอนญุ าต
ขบั ขแี่ ตม่ คี วามชำ� นาญในการขบั รถแลว้ การฝา่ ฝนื กฎหมายเพราะไมม่ ใี บขบั ขนี่ น้ั ไมไ่ ดเ้ ปน็ สาเหตขุ อง
การขับรถโดยประมาท
3) ใหพ้ จิ ารณาเรื่องปัจจยั เสี่ยงใหเ้ กดิ อุบัตเิ หตุ เช่น มีสาเหตปุ จั จยั เร่งรดั ที่ท�ำให้ ผู้
ขบั ขต่ี อ้ งรบี เรง่ ขบั รถเรว็ มากเปน็ พเิ ศษเพอื่ ใหท้ นั เวลานดั หมายจนขาดความระมดั ระวงั การขาดสมาธิ
ในการขบั รถ หรอื สภาพถนนเปยี ก ลนื่ เปน็ หลมุ บอ่ หรอื มสี งิ่ กดี ขวาง แสงสวา่ งทไ่ี มเ่ พยี งพอ ทางโคง้
อนั ตราย หรืออปุ กรณส์ ่วนควบของรถเสยี หายในขณะขับรถ เป็นตน้ ผู้ทม่ี ีปจั จัยเส่ียงดงั กลา่ ว ย่อม
มพี ฤตกิ ารณ์น่าเชอ่ื ว่าขับรถโดยประมาท
4) ให้พจิ ารณาจากทุกปจั จยั ท่ีกล่าวมาแล้วในข้อ 1)- 3) เม่อื พิจารณาตามลำ� ดับ
ขนั้ ตอนทงั้ สามแลว้ กส็ ามารถสรปุ เหตผุ ลและวนิ จิ ฉยั คดเี บอ้ื งตน้ ไดว้ า่ คกู่ รณฝี า่ ยใดนา่ จะเปน็ ฝา่ ยขบั
รถโดยประมาท ความหมายคอื วา่ ขบั รถโดยปราศจากการระมดั ระวงั ซงึ่ ในภาวะเชน่ นน้ั จกั ตอ้ งมตี าม
วสิ ัยและพฤติการณ์ทผ่ี ู้ขับขีอ่ าจใชค้ วามระมัดระวังเชน่ ว่าน้ันได้ แตห่ าไดใ้ ชใ้ ห้เพียงพอไม่ เมือ่ ชัง่ นำ�้
หนกั จากพยานหลกั ฐานเบอื้ งตน้ แลว้ พนกั งานสอบสวนจงึ แจง้ ขอ้ กลา่ วหาใหฝ้ า่ ยทน่ี า่ เชอ่ื วา่ เปน็ ฝา่ ย
กระทำ� โดยประมาทให้ทราบ ซึง่ อาจจะเปน็ ฝา่ ยใดฝา่ ยหนึง่ หรือท้ังสองฝ่ายก็ได้ ผ้ทู ถ่ี ูกกลา่ วหายอ่ ม
มสี ทิ ธทิ จี่ ะตอ่ สคู้ ดใี นกรณที ไี่ มเ่ หน็ พอ้ งดว้ ยกบั การวนิ จิ ฉยั เบอื้ งตน้ หรอื หากยอมรบั ตามคำ� วนิ จิ ฉยั ก็
จะเป็นแนวทางให้คู่กรณีสามารถตกลงประนีประนอมยอมความเร่ืองค่าเสียหายกันได้ง่ายขึ้น เมื่อ
120 คมู่ ือการสอบสวนคดีอุบัตเิ หตุทางถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตทุ างถนน
ตกลงเร่อื งค่าเสยี หายกันได้ คดีความยอ่ มยุติลงโดยงา่ ยเชน่ กัน
4.11 โครงสรา้ งสำ� นวนคดีจราจรทางบก
1) รายงานการสอบสวน
2) ค�ำใหก้ ารผ้กู ลา่ วหา
3) คำ� ให้การผตู้ ้องหา
4) คำ� ให้การพยาน
- ประจักษ์พยาน (ผู้ที่น่ังในรถคันเกิดเหตุ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ คู่กรณีฝ่ายที่
ได้เปรยี บ)
- พยานแวดลอ้ ม
- พยานบอกเล่า
- พยานผู้ชำ� นาญ(แพทย์ ผตู้ รวจสภาพรถ)
- เจา้ หน้าที่ต�ำรวจผจู้ ับกุม
5) บนั ทกึ พนักงานสอบสวน
6) บนั ทกึ การตรวจสถานท่ีเกดิ เหตุคดจี ราจร
7) แผนทีเ่ กิดเหตุ/ภาพถา่ ยทเี่ กิดเหตุ
8) รายงานชันสตู รพลิกศพ/รายงานชนั สตู รบาดแผล
9) หนังสอื สง่ รถไปตรวจสภาพ/ผลการตรวจสภาพ
10) บันทกึ การชี้ตวั /ช้ีรูป/ภาพถา่ ย
11) บันทึกการจบั กุม/บันทึกการแจ้งข้อหา
12) หมายจบั /ต�ำหนิรูปพรรณ/ภาพถ่ายผู้ตอ้ งหา
13) ค�ำร้องขอหมายจับ
14) หมายเรียกผตู้ อ้ งหา
15) หนงั สือขออายัด/ถอนอายัด
16) บันทึกการตรวจคน้ /หมายคน้
17) หมายเรยี กพยาน/หนงั สือแจง้ เหตุขัดขอ้ ง
18) สำ� เนาเอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เชน่ ใบมรณะบตั ร สำ� เนาทะเบยี นบา้ นใบขบั ข่ี ทะเบยี นรถ
19) บนั ทกึ การตกลงคา่ เสียหาย
20) หนังสือขออนมุ ัตคิ ืนรถของกลาง
21) เอกสารโต้ตอบ เชน่ หนงั สอื ขอคัดสำ� เนาทะเบียนบา้ น ทะเบยี นรถ
22) หนังสือมอบอำ� นาจ
23) บนั ทึกการควบคมุ
คูม่ อื การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน 121
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอุบัติเหตทุ างถนน
24) คำ� รอ้ งขอผัดฟอ้ งและฝากขัง/ขอผัดฟอ้ ง/ขอฝากขัง
25) คำ� รอ้ งขอฝากขังทหาร
26) หนังสือแจ้งการจบั กุมผ้ตู อ้ งหาเปน็ เด็กหรือเยาวชน
27) พิมพม์ ือผู้ตอ้ งหา/พมิ พ์มอื ผตู้ าย
28) บัญชีส�ำนวนการสอบสวน
122 คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
ตวั อย่างที่ 1 การร่างลงประจำ� รับค�ำร้องทกุ ขค์ ดจี ราจร
ลง ป.จ.ว.เล่มคดี
26 ส.ค. 2555
ขอ้ ..........เวลา...18.30...น.
พ.ต.ท.กรี ติ ตรวี ยั พงส.ฯ แจ้งว่า วันน้ี (26 ส.ค. 2555) เวลา 17.20 น. ไดร้ บั แจ้งเหตุ
รถจกั รยานยนต์เฉีย่ วชนกบั รถยนต์บรรทกุ สิบล้อ มคี นเสียชีวิตในท่เี กดิ เหตุ เหตเุ กิดท่ี ถนนกาญจน
วนชิ (บริเวณปากทางเข้าเทศบาลตำ� บลพะตง) ต�ำบลพะตง อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา จึงไดเ้ ดิน
ทางออกไปตรวจสถานท่เี กิดเหตุ ถงึ ทีเ่ กดิ เหตุ พบรถคนั เกดิ เหตุ คนั ที่ 1 เปน็ รถจักรยานยนต์ ย่ีหอ้
ซูซูกิ รนุ่ สแมช สีแดง หมายเลขทะเบยี น งงย 503 สงขลา ล้มอยู่ตรงริมถนนปากทางเขา้ ทศิ บาล
ตำ� บลพะตง หวั รถหนา้ ไปทางทศิ เหนอื สภาพไดร้ บั ความเสยี หายทหี่ นา้ รถยบุ เสยี หาย ถดั จากรถคนั
ดังกล่าวไปทางทิศตะวนั ตกเฉยี งเหนือประมาณ 5 เมตร พบศพหญงิ ไทยทราบช่ือ น.ส.เอ อายุ 15 ปี
อยู่บา้ นเลขที.่ ... ถนนเทศบาล 63 ซอย 1 ตำ� บลพะตง อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอนเสียชีวติ
อย่ใู นท่านอนหงาย ศรี ษะหันไปทางทิศเหนือ การต่างกายสวมเส้อื แขนกุดสีชมพู นุง่ กางเกงยีนส์ขา
ยาวสฟี ้าอ่อน ท่ศี พมบี าดแผลที่ศรี ษะถกู ลอ้ รถทบั แบนยุบ สมองกระจายพ้ืนถนน ติดกันรถคันเกดิ
เหตคุ นั ท่ี 2 เป็นรถยนต์บรรทกุ สบิ ลอ้ บรรทุกโครงเหลก็ กระบะท้าย เปน็ รถยนต์ย่ีห้อฮีโน่ สีเทา ไม่
ติดแผ่นป้ายทะเบียน หัวรถหันไปทางทิศตะวันตก ท่ีรถพบมีรอยเลือดติดที่ล้อรถล้อหลังด้านซ้าย
และมีรอยครดู และรอยสีแดงของรถจักรยานยนตช์ นท่ลี ้อหลังซา้ ยคหู่ น้า ในท่ีเกิดเหตุมี นายบี อายุ
51 ปี อยบู่ า้ นเลขท่ี ..... หมทู่ ี่ 9 ตำ� บลโพนทอง อำ� เภอบา้ นแพง จงั หวดั นครพนม แสดงตนเปน็ ผขู้ บั ขี่
จากนัน้ ไดจ้ ดั ท�ำบนั ทึกการตรวจท่เี กิดเหตุ ทำ� แผนทีเ่ กดิ เหตุ และถา่ ยภาพท่ีเกิดเหตุไว้แล้ว ไดร้ ว่ ม
กับ นายแพทย์วิระชัย สมัย แพทย์ประจ�ำโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ชันสูตรพลิกศพผู้ตายตาม
ระเบยี บ ตามคดี ช................./2555 แลว้ มอบศพผตู้ ายใหญ้ าตริ บั ไปจดั การตามประเพณตี อ่ ไป และ
น�ำรถทงั้ สองไป สภ.ฯ เพอื่ ตรวจสภาพท�ำการสอบสวนต่อไป
เหตเุ กดิ ที่ ถนนกาญจนวนชิ (บรเิ วณปากทางเขา้ เทศบาลตำ� บลพะตง) ตำ� บลพะตง อำ� เภอ
หาดใหญ่ จังหวดั สงขลา เม่อื วนั ท่ี 26 สิงหาคม 2555 เวลาประมาณ 17.15 นาฬกิ า
จากการสืบสวนสอบสวนเบ้ืองต้น ข้อเท็จจริงฟังได้ความว่า ตามวันเวลาท่ีเกิดเหตุ ได้มี
น.ส.ซี บ้านเลขท่ี 57/3 หม่ทู ่ี 1 ตำ� บลทุง่ ลาน อำ� เภอคลองหอยโข่ง จงั หวัดสงขลา เปน็ ผขู้ ับขีร่ ถ
จกั รยานยนตค์ ันเกดิ เหตคุ นั ท่ี 1 ดงั กล่าว โดยมี น.ส.เอ ผตู้ ายเปน็ คนซอ้ นท้ายคนที่ 1 และ เด็กหญิง
ดี ปานออ่ น อายุ 13 ปี เป็นคนซอ้ นทา้ ยคนท่ี 2 ไปตามถนนสายเกิดเหตฝุ ง่ั ขาเขา้ หาดใหญ่ ทิศทาง
จากทิศใต้ (สะเดา) มุ่งหนา้ ไปทศิ เหนอื (หาดใหญ่) ในชอ่ งเดินรถซ้าย ถงึ ทีเ่ กิดเหตุ ได้มี นายบี ขบั ข่ี
รถยนต์เกิดเหตุคันท่ี 2 ดังกล่าว ไปตามถนนสายเกิดเหตุ ในช่องเดินรถช่องท่ี 1 จากทิศเดียวกัน
/มุง่ หน้าไป...
คมู่ ือการสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตุทางถนน 123
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอุบัติเหตุทางถนน
-2-
มุ่งหน้าไปทิศเดียวกัน ถึงที่เกิดเหตุได้เล้ียวรถไปทางซ้ายเข้าถนนทางเข้าเทศบาลต�ำบลพะตง ใน
ลกั ษณะตดั ช่องไหลท่ างท่ี น.ส.ซฯี กำ� ลงั ขบั ข่มี าในระยะกระช้ันชดิ จึงเกดิ เหตรุ ถทง้ั สองเฉ่ยี วชนกนั
เปน็ เหตใุ หร้ ถท้งั สองเสียหาย น.ส.ซฯี ได้รับบาดเจบ็ สาหัส น.ส.เอฯ ผู้ตายกระเด็นไปดา้ นหนา้ ขณะ
เกิดเหตุรถท้ังสองชนกัน แล้วล้อรถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุทับศีรษะเป็นเหตุให้ผู้ตายเสียชีวิตในท่ี
เกดิ เหตุ และ ด.ญ.ดีฯ คนนง่ั ซ้อนทา้ ยคนสดุ ทา้ ยไดร้ บั บาดเจบ็ เล็กน้อย พิจารณาแล้ว เหตเุ ฉ่ียวชน
ครงั้ น้ี เกดิ จากความประมาทของ นายบี ผขู้ บั ขร่ี ถคนั ท่ี 2 ทข่ี บั ขร่ี ถในทางเลย้ี วซา้ ยตดั ชอ่ งทางรถอน่ื
ในระยะท่ีไม่ปลอดภัยและโดยไม่ได้ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอโดยการรอให้รถที่แล่นอยู่ในทาง
ขบั ขผี่ า่ นไปกอ่ นแลว้ ตนจงึ ขบั ขผี่ า่ นไปไดโ้ ดยปลอดภยั ซงึ่ ตามวสิ ยั และพฤตกิ ารณเ์ จา้ ตวั อาจใชค้ วาม
ระมัดระวังเชน่ วา่ น้ันได้ แต่หาได้ใชเ้ พียงพอไม่ จงึ กล่าวโทษ นายบี ในฐานะผู้ตอ้ งหาทราบว่า “ขับ
รถโดยประมาทเปน็ เหตุใหผ้ ้อู ่นื ถึงแก่ความตาย ผ้อู ืน่ ได้รับอนั ตรายแก่กายสาหัส ผอู้ ่ืนไดร้ บั อนั ตราย
แกก่ ายและทรพั ยส์ นิ ผอู้ น่ื เสยี หาย” ไวด้ ำ� เนนิ คดตี ามกฎหมาย และไดร้ บั คำ� รอ้ งทกุ ขไ์ วต้ ามคดจี ราจร
ท่ี......................./2555 และพิจารณาแล้วเห็นว่า ทางคดีมีพยานหลักฐานตามสมควรว่า ผู้ต้องหา
กระทำ� ผดิ จรงิ ตามขอ้ หาดงั กลา่ ว และมเี หตเุ ชอื่ วา่ ผตู้ อ้ งหานา่ จะหลบหนี หรอื จะไปยงุ่ เหยงิ กบั พยาน
หลักฐาน จึงได้แจ้งข้อหาดังกล่าวและควบคุมผู้ต้องหาไว้ด�ำเนินคดีในข้อหาความผิดดังกล่าวต่อไป
และแจง้ สิทธิผตู้ อ้ งหาตามกฎหมายใหผ้ ู้ต้องหาทราบดังน้ี
1) ผถู้ กู จบั หรอื ผตู้ อ้ งหาซงึ่ ถกู ควบคมุ หรอื ขงั มสี ทิ ธแิ จง้ หรอื ขอใหเ้ จา้ พนกั งานแจง้ ใหญ้ าติ
หรือผซู้ งึ่ ผ้ถู ูกจับหรือผ้ตู ้องหาไวว้ างใจทราบถึงการถกู จับกมุ และสถานทีท่ ถี่ กู ควบคุมในโอกาสแรก
2) พบและปรึกษาผูซ้ ึ่งจะเปน็ ทนายความเป็นการเฉพาะตัว
3) ให้ทนายความหรือผซู้ ่ึงตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากค�ำตนไดใ้ นชั้นสอบสวน
4) ได้รับการเย่ยี มหรอื ตดิ ตอ่ กับญาติไดต้ ามสมควร
5) ไดร้ บั การรักษาพยาบาลโดยเรว็ เมอื่ เกดิ การเจบ็ ป่วยจะได้ท�ำการสอบสวนตอ่ ไป
(ลงชอื่ ) ผตู้ อ้ งหา
(ลงชื่อ) พ.ต.ท. พงส.ฯ/บนั ทกึ /อ่าน
124 คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน
ตัวอย่างที่ 2 การรา่ งลงประจ�ำวนั เปรียบเทียบปรบั
ลง ปจว.เล่มคดี
30 พ.ค. 2555
ข้อ...............เวลา 21.15 น.
พ.ต.ท.กรี ติ ตรีวัย พงส.ฯ เวรสอบสวน แจง้ วา่ เมื่อวนั น้ี (30 พ.ค. 2555) เวลาประมาณ
20.45 น. ไดร้ บั แจง้ เหตรุ ถยนตเ์ ฉยี่ วชนกบั รถยนตม์ ผี ไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ เหตเุ กดิ ที่ ถนนกาญจนวนชิ (ปาก
ทางเขา้ บ้านคลองปอม) หมูท่ ี่ 8 ต�ำบลบ้านพรุ อ�ำเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา จึงเดินทางออกไป
ตรวจสถานที่เกดิ เหตุ บัดน้ี ได้เดินทางกลับจากตรวจทีเ่ กดิ เหตแุ ล้ว จากการตรวจท่ีเกดิ เหตุ พบรถคู่
กรณี สองคนั ดงั นี้
คนั ท่ี 1 เปน็ รถจกั รยานยนต์ ยห่ี อ้ ฮอนดา้ รนุ่ เวฟ 125 เอส สดี ำ� หมายเลขทะเบยี น คจษ
22 สุราษฎรธ์ านี ลม้ อยู่ในร่องคูน�ำ้ หัวรถหนั ไปทางทิศใต้ สภาพได้รับความเสียหาย ทราบว่าผูข้ ับข่ี
ไดร้ บั บาดเจ็บมพี ลเมืองดีนำ� ส่งโรงพยาบาลแล้ว
คันที่ 2 เป็นรถยนต์เก๋ง ย่ีห้อนิสสัน รุ่นอัลเมล่า สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง
ศ 8540 กรงุ เทพมหานคร จอดอยตู่ รงถนนเขา้ บา้ นคลองปอม จากถนนกาญจนวนชิ ไปทางทศิ ตะวนั
ออกประมาณ 10 เมตร หวั รถหนั ไปทางทศิ ตะวนั ออก สภาพไดร้ บั ความเสยี หายทหี่ วั รถดา้ นหนา้ ยบุ
กนั ชนหนา้ มรี อยครดู ในทเี่ กดิ เหตมุ ี นายขาว อายุ 29 ปี อยบู่ า้ นเลขท.่ี ..................หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลสาม
ต�ำบล อ�ำเภอจุฬาภรณ์ จงั หวัดนครศรีธรรมราช โทร.......................แสดงตนเปน็ ผู้ขับข่ี
จากนั้น จงึ ได้จัดทำ� บันทกึ การตรวจท่เี กิดเหตุ ทำ� แผนท่ีเกิดเหตุ และถ่ายภาพทเ่ี กิดเหตุ
ไวแ้ ล้ว น�ำรถท้งั สองไป สภ.ฯ เพ่ือตรวจสภาพตอ่ ไป
เหตุเกดิ ท่ี ถนนกาญจนวนชิ (ปากทางเขา้ บา้ นคลองปอม) หมูท่ ่ี 8 ตำ� บลบ้านพรุ อ�ำเภอ
หาดใหญ่ จังหวดั สงขลา เมอื่ วันที่ 30 พฤษภาคม 2555 เวลาประมาณ 20.30 นาฬิกา
จงึ รบั ค�ำร้องทุกข์ไวต้ ามคดจี ราจรท่ี................/2555 จะไดท้ �ำการสอบสวนตอ่ ไป
พงส.ฯ/บนั ทกึ
(ลงชื่อ)พ.ต.ท.
ค่มู ือการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน 125
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน
ตัวอยา่ งที่ 2 การรา่ งลงประจำ� วันเปรียบเทยี บปรับ
ลง ป.จ.ว.เล่มคดี
31 พ.ค. 2555
ขอ้ ..........เวลา...12.00...น.
พ.ต.ท.กรี ติ ตรวี ยั พงส.ฯ แจ้งว่า ตาม ปจว.ขอ้ 24 เวลา 21.15 น. ของวนั นี้ (31 พ.ค.
2555) รบั คำ� รอ้ งทกุ ข์คดีจราจรท่ี............/2555 กรณี ได้รับแจง้ เหตรุ ถยนต์เฉ่ยี วชนกับรถยนต์มีผไู้ ด้
รับบาดเจ็บ เหตุเกิด ท่ี ถนนกาญจนวนิช (ปากทางเข้าบา้ นคลองปอม) หม่ทู ่ี 8 ต�ำบลบา้ นพรุ อ�ำเภอ
หาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เมอื่ วนั ที่ 30 พฤษภาคม 2555 เวลาประมาณ 20.30 นาฬิกา นั้น
บดั นี้ ไดท้ ำ� การสอบสวนแลว้ ขอ้ เทจ็ จรงิ ฟงั ไดค้ วามวา่ ตามวนั เวลาทเ่ี กดิ เหตุ นายดำ� อายุ
24 ปี อยูบ่ ้านเลขท.่ี ........ หมู่ท่ี 5 ต�ำบลเกาะทวด อำ� เภอปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช ได้ขบั ขี่
รถจักรยานยนต์ ยหี่ ้อฮอนดา้ ร่นุ เวฟ 125 เอส สดี �ำ หมายเลขทะเบยี น คจษ 22 สุราษฎร์ธานี โดย
มี น.ส.แดง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่........ หมู่ที่ 2 ต�ำบลป่าระก�ำ อ�ำเภอปากพะนัง จังหวัด
นครศรธี รรมราช เปน็ ผนู้ ัง่ ซอ้ นทา้ ย ไปตามถนนสายเกิดเหตุ ฝ่ังทางค่ขู นานทิศตะวนั ออก (ฝัง่ มุ่ง
หนา้ ไปอ�ำเภอสะเดา) ในชอ่ งไหลท่ างซ้ายมอื ดว้ ยความเรว็ ประมาณ 80 กโิ ลเมตรต่อชั่วโมง ถงึ ที่
เกดิ เหตุ ได้มี นายขาว อายุ 29 ปี ขบั ขี่รถยนตเ์ ก๋ง ยีห่ อ้ นิสสัน ร่นุ อัลเมลา่ สีขาว หมายเลขทะเบียน
ป้ายแดง ศ 8540 กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนสายเกดิ เหตุ ทางฝง่ั ทศิ ตะวันตก แล้วเลย้ี วกลบั รถ
ยังจุดกลับรถท่เี กดิ เหตุ มุง่ หน้าไปทางทิศตะวนั ออก เพอ่ื เขา้ ถนนเข้าหมู่บา้ นคลองปอม โดยตดั ช่อง
ไหลท่ างในขณะท่ี นายดำ� ฯ กำ� ลงั ขบั ขร่ี ถคนั ดงั กลา่ วมา ในระยะกระชนั้ ชดิ จงึ เกดิ เหตรุ ถทงั้ สองเฉยี่ ว
ชนกัน เป็นเหตุให้รถทง้ั สองเสยี หาย และ นายด�ำฯ ผขู้ ับข่ี ผ้เู สยี หายท่ี 1 และ น.ส.แดงฯ ผู้นัง่ ซ้อน
ท้าย ผู้เสยี หายท่ี 2 ไดร้ บั บาดเจ็บ พจิ ารณาแล้ว เหตรุ ถเฉีย่ วชนครง้ั นี้ เกดิ จากความประมาทของ
นายขาวฯ ทข่ี บั ขีร่ ถในทางตดั ชอ่ งทางรถอื่น ในขณะที่รถอน่ื กำ� ลังแลน่ มาในระยะที่ไม่ปลอดภัย ซึ่ง
ตามวสิ ยั และพฤตกิ ารณ์ นายขาวฯ อาจใชค้ วามระมัดระวงั เช่นวา่ นั้นได้ แต่หาได้ใชเ้ พียงพอไม่ จึง
แจง้ ขอ้ หาให้ นายขาวฯ ในฐานะผตู้ อ้ งหาทราบวา่ “ขบั รถโดยประมาทเปน็ เหตใุ หผ้ อู้ น่ื ไดร้ บั อนั ตราย
แก่กายและทรัพย์สนิ ผอู้ ่นื เสยี หาย” อนั เปน็ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา
43(4) และ 157 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 และแจ้งสทิ ธติ ามกฎหมายให้ผู้ตอ้ งหา
ทราบแล้ว ผู้ต้องหาทราบแล้วใหก้ ารรบั สารภาพ และคูก่ รณีตกลงกนั ไดแ้ ละยนิ ยอมให้เปรยี บเทยี บ
จึงเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาเป็นเงิน 500 บาท ตามคดีเปรียบเทียบที่............./2555 ลงวันท่ี 31
พ.ค. 2555 ชำ� ระคา่ ปรบั ตามใบเสรจ็ รบั เงนิ เลม่ ท.ี่ ..............เลขท.่ี ..........สว่ นกรณคี า่ เสยี หายทางแพง่
ฝ่ายผู้ต้องหา โดยบริษัทวิริยะประกันภัยจ�ำกัด โดย นายเหลือง อายุ....ปี อยู่ท่ี...........หมู่ท่ี.....
ตำ� บล.......อำ� เภอ..........จงั หวดั ........ โทร..............ตวั แทน บรษิ ทั ฯ ซงึ่ ประกนั ภยั ชนั้ 1 แกร่ ถยนตเ์ กง๋
คันเกิดเหตุที่ผู้ต้องหาขับข่ีดังกล่าว รับผิดชอบชดใช้ค่าซ่อมรถให้ผู้เสียหายให้อยู่ในสภาพใช้การได้
126 คูม่ อื การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตทุ างถนน
-2-
เหมือนเดิม และจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง และค่าสินไหมทดแทนตามใบรับรองของ
แพทย์ และผตู้ อ้ งหาไดช้ ดใชใ้ หผ้ เู้ สยี หายทงั้ สองเพม่ิ เตมิ อกี เปน็ เงนิ 4,500 บาท และไดม้ อบใหผ้ เู้ สยี
หายรับไปเรียบร้อยแล้วแต่เวลานี้ ได้อ่านให้คู่กรณีท้ังทุกฝ่ายฟังแล้วรับว่าถูกต้องให้ลงลายมือชื่อไว้
เป็นหลักฐาน และคนื รถท้งั สองให้คกู่ รณีรบั ไปแตเ่ วลานี้
(ลงช่ือ) ผตู้ อ้ งหา
(ลงช่ือ) ผเู้ สยี หายที่ ๑
(ลงชื่อ) ผ้เู สียหายที่ ๒
(ลงชือ่ ) ตวั แทนบริษัทฯ
(ลงชอ่ื ) พ.ต.ท. พงส.ฯ/บนั ทึก/อา่ น
คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ตั ิเหตทุ างถนน 127
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน
ตวั อยา่ งที่ 3 : บนั ทึกการเจรจาชดใชค้ ่าเสยี หายทางแพ่ง ในคดีจราจรทางบก
บนั ทกึ การเจรจาชดใชค้ ่าเสยี หายทางแพง่
สภ.ทงุ่ ลุง อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา
31 พฤษภาคม 2555
บนั ทึกนี้ ท�ำขนึ้ เพอื่ แสดงว่า วันน้ี (31 พ.ค.2555) เวลา 09.00 น. คกู่ รณีมีดังตอ่ ไปน้ี
1. นาง ก. อายุ 27 ปี อย่บู า้ นเลขที่ ........ หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลควนลงั อำ� เภอหาดใหญ่ จังหวัด
สงขลา ผ้บู าดเจบ็ ฝา่ ยหน่ึง
2. น.ส. ข. อายุ 33 ปี อยูบ่ า้ นเลขที.่ ....... ถนนช่นื อุทศิ แก้วสมทิ พัฒนา ตำ� บลหาดใหญ่
อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา ผลู้ ะเมิดฝา่ ยหนึง่ และบริษัทกรุงไทยพานชิ ประกนั ภัยจำ� กดั ประกนั
ภยั ช้นั 1 แกร่ ถยนตค์ นั เกิดเหตุหมายเลขทะเบียน กร 7923 สงขลา โดยมี นาย จ. อายุ 44 ปี โทร.
........................................เปน็ ตวั แทน ฝา่ ยหนง่ึ ไดพ้ ากนั มาพบ พ.ต.ท.กรี ติ ตรวี ยั พนกั งานสอบสวน
สภ.ทงุ่ ลุง ร้องขอให้บนั ทกึ การเจรจาชดใชค้ า่ เสยี หายทางแพง่ กรณี เมือ่ วันที่ 18 พฤศจกิ ายน 2554
เวลาประมาณ 07.40 นาฬิกา นาง ก. ได้ขับข่ีรถจักรยานยนตค์ นั เกิดเหตุ ยห่ี อ้ ยามาฮา่ รุ่นฟีโน่ สี
เขียวขาว หมายเลขทะเบียน หาดใหญ่ 28137 อีทมี อเตอรเ์ ซลล์ (ป้ายแดง) ไปตามถนนสายเกิดเหตุ
ทศิ ทางจากทศิ ใต้ (บา้ นพร)ุ ม่งุ หนา้ ไปทิศเหนือ(หาดใหญ่) ในชอ่ งเดินรถซ้ายมอื ปกติ ถึงทเี่ กดิ เหตุ
ได้มี น.ส. ข. ใหมง่ าม ขบั ขร่ี ถยนต์คันเกิดเหตุหมายเลขทะเบยี น กร 7923 สงขลา ออกจากซอยทาง
ซ้ายมือออกไปตัดหน้ารถของ นาง ก. ท่กี �ำลงั ขับขี่มาดังกลา่ ว ในระยะกระช้นั ชิด จงึ เกดิ เหตุรถทงั้
สองเฉย่ี วชนกัน เปน็ เหตใุ หร้ ถท้ังสองเสียหาย และ นาง ก. ฯ ไดร้ บั บาดเจบ็ สาหสั รับการรักษาตอ่
เนอื่ งเปน็ เวลาหลายเดอื นจนบดั นี้ ยงั ไมห่ ายเปน็ ปกติ เหตเุ กดิ ที่ ถนนสราญราษฎร์ (ปากซอยหมบู่ า้ น
รม่ เยน็ ) ตำ� บลบ้านพรุ อำ� เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา ภายหลงั เกิดเหตพุ นักงานสอบสวนได้รบั แจง้
เหตอุ อกท�ำการสอบสวนแล้ว เหน็ วา่ เหตเุ ฉ่ียวชนครัง้ น้เี กดิ จากความประมาทของ น.ส. ข. ทีข่ บั ขี่
รถออกจากซอยซึ่งเป็นทางโท ตดั ผ่านถนนสายเกิดเหตุซึง่ เปน็ ทางเอก โดยไมใ่ ช้ความระมดั ระวังให้
รถทางเอกขบั ข่ีผ่านไปกอ่ น แล้วตนจึงขบั ขี่ผ่านไปได้โดยปลอดภัย ซ่งึ ผลการเจรจาชดใช้คา่ เสยี หาย
ทางแพ่งของทั้งสองฝ่ายดังกลา่ ว เปน็ ดงั น.ี้ -
1. ฝา่ ย นาง ก. ไดเ้ รยี กรอ้ งใหผ้ ลู้ ะเมดิ รบั ผดิ ชอบชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทน เนอ่ื งจากผบู้ าด
เจ็บได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเดินได้ตามปกติต้ังแต่วันเกิดเหตุจนถึงบัดน้ี เป็นเงิน 200,000 บาท
(สองแสนบาท)
2. ฝา่ ยผู้ละเมดิ โดยบริษัทกรงุ ไทยพานชิ ประกนั ภัยจ�ำกัด ประกนั ภยั ชนั้ 1 แกร่ ถยนต์
คนั เกดิ เหตหุ มายเลขทะเบียน กร 7923 สงขลา โดยมี นายจ. เปน็ ตัวแทนบริษัทฯ ขอรับขอ้ เสนอ
เรียกร้องตามข้อ 1 ของฝ่ายผู้บาดเจบ็ ไปเสนอใหท้ างบริษัทฯ พจิ ารณาอนมุ ัตติ ่อไป และนดั หมาย
128 คูม่ อื การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน
มาเจรจากนั อกี ครง้ั ในวนั ที่ 8 มถิ ุนายน 2555 เวลา 10.00 นาฬิกา ท่ี สภ.ทุ่งลงุ ต่อหน้าพนักงาน
สอบสวน
3. ผลการเจรจาของคู่กรณีในวนั นี้ ยงั ไม่สามารถตกลงกนั ได้
ได้อ่านบันทึกการเจรจาตกลงข้างต้นให้ทุกฝ่ายฟังแล้ว รับว่าถูกต้อง ให้ลงลายมือช่ือไว้
เปน็ หลกั ฐาน
(ลงชื่อ) ผบู้ าดเจ็บ (ลงชือ่ ) ตวั แทนบริษทั ฯ
(ลงช่ือ) ผลู้ ะเมิด (ลงชอ่ื )พ.ต.ท. พงส./บนั ทึก/อา่ น
คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน 129
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี ุบัติเหตุทางถนน
ตัวอยา่ งท่ี ๔ : ปกส�ำนวนการสอบสวน
ป.จ.ว.ขอ้ ...................
เวลา .......................น.
ลง ...............................
สำ� นกั งานต�ำรวจแห่งชาติ
คดจี ราจรที่ /255.... ปกสำ� นวน
ท่ีทำ� การสอบสวน ......สภ..........................
หาว่ากระท�ำผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินของผู้อื่น
เสียหาย”
ผู้กลา่ วหา...... พันตำ� รวจโท ...................................... (เจา้ พนกั งาน)
ผตู้ ้องหา...... นาย อายุ ปี สญั ชาตไิ ทย
รับแจง้ เหตุวันท.่ี ......./........../.................ของกลางตามบัญชขี องกลางลำ� ดับท.่ี ..................................
เจ้าของส�ำนวน.. พันตำ� รวจโท กรี ติ ตรีวัย...โทร......................................................
การควบคุมตวั ผู้ต้องหา (1) ปลอ่ ยชัว่ คราวแตว่ ันท่ี......../............/..................
(2) ควบคมุ แตว่ นั ท่ี.........../............../........................
ครบวันท่ี............/................./..............................
(3) ศาลส่ังขงั แต่วนั ท่ี.........../.............../....................
ครบวันท่ี............/................./..............................
พยานท่ีอ้าง........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
130 คู่มือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน
วันที่นดั สอบสวน
คร้ังท่หี นง่ึ วันที่........./.............../...................ช่ือพยาน..................................................................
ชอื่ ผู้สอบสวน.................................................................
ครั้งทสี่ อง วันที่........./.............../...................ช่อื พยาน..................................................................
ชอ่ื ผูส้ อบสวน.................................................................
ครัง้ ทีส่ าม วันท.ี่ ......../.............../...................ชื่อพยาน..................................................................
ชอื่ ผูส้ อบสวน.................................................................
ส่งส�ำนวนไปยงั ......................โดยรายงานการสอบสวนท่.ี ...................ลงวนั ท่.ี ......./........../..............
หมายเหต.ุ .............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ค. ๑๗๑ - ต. ๕๖๐
คูม่ ือการสอบสวนคดอี ุบตั ิเหตทุ างถนน 131
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
ตวั อย่างท่ี ๕ : การจดั ท�ำภาพถา่ ยท่ีเกดิ เหตคุ ดจี ราจร
ภาพถ่ายประกอบคดจี ราจรที่ /2555
สภ.ท่งุ ลงุ
1 กรกฏาคม 2554
คด ีอ า ญ า ระ ห ว า่ ง พ.ต.ท.กรี ติ ตรีวัย (เจา้ พนกั งาน) ผู้กล่าวหา
นาย เอ อาย.ุ ...........ปี ผตู้ อ้ งหา
ฐานความผิด “ขบั รถโดยประมาทเปน็ เหตใุ หผ้ อู้ นื่ ถงึ แกค่ วามตายและทรพั ยส์ นิ ของผอู้ น่ื เสยี
หาย และขับรถในทางกอ่ ให้เกิดความเสยี หายแก่บุคคลหรอื ทรัพย์สินผู้อน่ื แล้วไมห่ ยุดช่วยเหลอื
แสดงตวั แจ้งเหตตุ ่อพนักงานเจ้าหน้าทท่ี ่ีใกล้เคียงทันที”
สถานที่เกิดเหตุ และวันเวลาท่ีเกิดเหตุ ท่ี ถนนสายกาญจนวนิช ต�ำบลพะตง อ�ำเภอหาดใหญ่
จังหวดั สงขลา เมือ่ วันท่ี 30 มิถุนายน 2554 เวลาประมาณ 04.00-04.30 นาฬิกา
อธิบายภาพ : ภาพถ่ายสถานท่ีเกิดเหตุ ให้เห็นจุดเร่ิมต้นรอยครูดถนนท่ีเกิดเหตุอยู่ในช่องเดินรถ
ซ้ายมือ (ชอ่ งที่ 1) นบั จากซา้ ยมอื (เมอื่ หันไปทางทิศใต)้ ถา่ ยภาพจากทางทศิ เหนือ(หาดใหญ่) หนั
หน้าไปทางทศิ ใต้ (สะเดา) ถา่ ยภาพขณะออกไปตรวจสถานทเ่ี กิดเหตุเมือ่ วนั ท่ี 30 มิถุนายน 2554
เวลาประมาณ 04.50 นาฬกิ า จงึ บันทกึ ไว้
(ลงช่ือ)พ.ต.ท. จัดท�ำ/บันทึก
พนักงานสอบสวน สภ.ทุง่ ลุง
132 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัตเิ หตุทางถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
ตวั อย่างท่ี 6 : การจัดทำ� รายงานการสอบสวนคดีจราจร
คูม่ อื การสอบสวนคดีอุบัตเิ หตุทางถนน 133
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน
134 ค่มู ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน
ค่มู อื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตุทางถนน 135
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน
136 ค่มู ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน
ค่มู อื การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตุทางถนน 137
บทที่ 4 การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน
138 ค่มู ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
การตรวจพสิ ูจน์หลักฐาน บทท่ี 5
ในคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน
วงจรงานนิติวทิ ยาศาสตร์
ตงั้ แตช่ ว่ งเวลาเกดิ เหตุถงึ เวลาทราบผ้กู ระทำ� ผดิ
1. ข้อมูลและรายละเอียดการประกอบอาชญากรรม (Crime) เช่น แรงจูงใจ, การกระท�ำ
การเตรยี มการณ์ ก่อน ขณะลงมือ หลัง, หลักฐานเฉพาะคดี
2. การตรวจพิสูจน์ท่ีเกิดเหตุอาชญากรรม (Crime Scene Investigation: CSI) อาศัย
กระบวนการทางนติ วิ ทิ ยาศาสตร์ เชน่ งานภาคสนาม, มาตรฐานขนั้ ตอน, เจา้ หนา้ ท,ี่ เครอ่ื งมอื ทกั ษะ
ความรเู้ ฉพาะ และ คำ� ถามท่ตี ้องการในแตล่ ะคดี
3. การตรวจสอบหลักฐานทางห้องปฏิบัติการ (Lab evidence) เช่น งานห้องปฏิบัติการ
เฉพาะ ความเป็นมาตรฐาน ปัจจัยและกระบวนการตา่ งๆ (Input Process Output) กรณีกลุ่มงาน
จราจรจะเกี่ยวกับกลมุ่ งานฟสิ ิกส์ เคมี ซ่ึงตอ้ งมกี ารตรวจทางด้านกายภาพกอ่ น (หรือทเี่ รยี กวา่ ตรวจ
ทางเคมี) หากมหี ลักฐานยนื ยนั ที่แนช่ ัด ก็จะสง่ ผลให้ศาลรบั ฟงั พยานหลักฐานท่เี ก่ยี วขอ้ งมากยงิ่ ขึน้
หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารตอ้ งมกี ารเตรยี มการ และมตี น้ ทนุ ในการตรวจ ฉะนน้ั ผเู้ กย่ี วขอ้ งควรปรกึ ษาผชู้ ำ� นาญ
การหรือผเู้ ชี่ยวชาญให้ละเอียดกอ่ นท่จี ะสง่ พยานหลักฐานไปตรวจสอบ
4. ระบบฐานขอ้ มลู (Database) ระบบฐานขอ้ มลู เชอื่ มโยงสมั พนั ธก์ บั สง่ิ ตา่ งๆ เชน่ วตั ถพุ ยาน,
องคค์ วามรู้ และระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology: IT)
คมู่ ือการสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน 139
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน
วงจรงานนิติวิทยาศาสตร์ (เกดิ เหตุ ถึง ทราบผกู้ ระทำ� ผิด)
1. อาชญากรรม Crime 2. Csi กระบวนการวทิ ย์ 3. Lab evidence 4. Database
เรมิ่ ตน้
- แรงจงู ใจ - งานสนามมาตรฐาน - งานห้องปฏิบัติการ - ฐานขอ้ มลู วตั ถพุ ยาน,
- การกระทำ� การ ขนั้ ตอน เฉพาะมาตรฐาน องคค์ วามรู้
เตรยี มการณ์ กอ่ น - เจา้ หนา้ ท่ี input process output - ระบบ IT
ขณะลงมอื หลงั - เครอื่ งมอื ทกั ษะความ
- หลกั ฐานเฉพาะคดี รเู้ ฉพาะ
- ทราบคำ� ถามแตล่ ะคดี
สอดคลอ้ งกันหรอื ไม่ สรุปจากกระบวนการทางวิทย์
- อ่านเหตุการณใ์ ห้ออก (กอ่ น ขณะ หลัง) วางแผนอนาคต
- บอกใครผดิ -ถูกได้
- ใช้ประโยชนจ์ ากทุกศาสตร์
ข้อสรุปจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- ผวู้ เิ คราะหค์ วรเขา้ ใจถงึ ภาพรวมของเหตกุ ารณ์ (กอ่ น ขณะ หลงั เกดิ เหต)ุ เพอื่ การวางแผนอนาคต
- ขอ้ สรปุ ทีไ่ ดจ้ ะท�ำให้สามารถวเิ คราะห์ได้วา่ ฝ่ายใดผิด ฝา่ ยใดถกู
ผลการใชน้ ติ วิ ทิ ยาศาสตร์
เป็นกระบวนการหน่งึ ท่ีทำ� ให้เกิดการเชือ่ มโยง
พยานหลกั ฐาน สถานท่ีเกิดเหตุ, คน พยานหลกั ฐาน
รถยนตค์ กู่ รณี 1 รถยนต์คูก่ รณี 2
พยานหลกั ฐาน
โดยข้อมูลท้ังการเก็บพยานหลักฐานเบ้ืองต้น และจากการตรวจสอบทางกระบวนการ
วิทยาศาสตร์ ต้องน�ำมาประมวลผลวา่ สอดคล้องกันหรอื ไม่
140 ค่มู ือการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตทุ างถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตทุ างถนน
Locard’s principle
Figure 4.26 Crushing impact of a blunt object on skin supported by bone. such as scalp onskull. The skin is
sandwiched between weapon and bone and this causes a lacerated split that has bruised margins and bridges of
hair and tissue in the wound.
• เมื่อวตั ถสุ องชนิ้ สมั ผสั กนั จะมกี ารแลกเปลย่ี นวตั ถุพยานซึง่ กนั และกนั
• ระหว่างคน/ระหว่างคนกบั สตั ว์ ส่ิงของ/ระหว่างคนกับสถานท่ี หรอื ยานพาหนะ
วงจรการเกดิ อบุ ตั เิ หตุจราจร และการพิสจู น์หลักฐาน
• ธรรมชาตขิ องการเกิดเหตจุ ราจร กระบวนการการเกิดเหตุ
• ก่อน ขณะ หลงั เกดิ เหตุ
• กระบวนการทางนิตวิ ทิ ยาศาสตร์หาสาเหตุ Backwards theory (ย้อนรอย)
• จากสถานท่ีเกิดเหตุ CSI (Forensic Science) ได้คำ� ตอบทีต่ ้องการ
ตาราง วงจรการเกดิ อุบตั เิ หตจุ ราจรและการพิสจู นห์ ลักฐาน
1.1 รถชนดิ รุ่นต่างๆ กระบวนการขบั ข่ี ระบบความปลอดภัย
1.2 สถาพถนน
1.3 สิงแวดลอ้ มข้างถนน
1.4 สภาพดนิ ฟา้ อากาศ
1.5 คน ผู้ขบั ขี่ แรงจงู ใจให้เกดิ เหตุ จากประมาท อุบัติเหตุ เจตนา (ฝา่ ผนื ) พฤติกรรม (กอ่ น
ขณะ หลงั เกิดเหตุ)
1.6 สิ่งที่เกยี่ วขอ้ งอื่นๆ / ความรู้ และธรรมชาติ
2.1 ธรรมชาติการชน สามารถอธิบายไดด้ ้วยทฤษฏีทางวทิ ยาศาสตร์
2.2 พฤติการณ์ก่อนชน เช่น รอยหา้ มลอ้ ขณะชน
2.3 รปู แบบตา่ งๆ ในการชน ต�ำแหน่งสุดทา้ ยของรถที่ชน
คมู่ อื การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน 141
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอุบตั เิ หตทุ างถนน
ในการพิสจู น์หลักฐานจะมแี ผน่ วงกลมสเี หลอื ง ในการพสิ จู นห์ าหลกั ฐาน ร่องรอยทไ่ี ม่เก่ยี วกับ
การพสิ จู นห์ ลกั ฐาน คอื รอ่ งรอยในการงดั รถ หรอื กภู้ ยั เปน็ ตน้ ตอ้ งแยกใหอ้ อกวา่ รอ่ งรอยอนั ใดทตี่ อ้ ง
น�ำไปพิสจู น์หลกั ฐาน
การสำ� รวจขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ ดำ� เนนิ การจากกวา้ งไปแคบ นอกไปหาใน แลว้ จะไดค้ ำ� ตอบไปเรอ่ื ยๆ
ว่าลกั ษณะการชนเปน็ เช่นใด ทัง้ นี้ ในการส�ำรวจข้อมูลเบือ้ งต้น จะตอ้ งได้คำ� ตอบแล้วว่ารถอะไรชน
กับอะไร ชนบรเิ วณจดุ ใดของถนน ในทิศทางใด
วงจรการเกดิ อุบตั ิเหตจุ ราจรและการพสิ ูจน์หลักฐาน
ธรรมชาติของการเกิดเหตุจราจร กระบวนการเกดิ เกดิ อบุ ตั เิ หตุ อาจจ�ำแนกไดต้ ามตาราง ดงั นี้
1. ปจั จยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งในการ 2. กระบวนการใน 3. ผลลพั ธห์ ลงั การชน
เกดิ เหตจุ ราจร Input การเฉยี่ วชน process Output
1.1 รถชนิด รุ่นต่างๆ ระบบ 2.1 ธรรมชาติการชน (การ 3.1 ต�ำแหน่งสุดท้ายของรถ
การขบั ขี่ ระบบความปลอดภยั อ ธิ บ า ย ด ้ ว ย ท ฤ ษ ฎี ท า ง และอ่ืนๆ
วทิ ยาศาสตร์)
1.2 สภาพถนน 3.2 วัตถุพยานของคดีท่ีเกิด
2.2 พฤติการณ์ก่อนชน เช่น จากการชนซ่ึงปรากฏที่รถ
1.3 สงิ่ แวดลอ้ มขา้ งถนน การห้ามล้อ/ขณะชน เชน่ เกดิ ถนน สิ่งแวดล้อม รวมท้ังคน
1.4 สภาพดินฟา้ อากาศ การยุบย่นของรถ/พฤติกรรม ร่องรอยก่อน ขณะ หลังชน
1.5 คน ผูข้ ับขี่ แรงจูงใจให้เกดิ หลงั ชน ปะปนกันอยู่
เหตุ จากประมาท อุบัติเหตุ
เจตนา (ฝ่าฝืน) มีพฤติกรรม 2.3 รูปแบบต่างๆในการชน
(กอ่ น ขณะ หลัง) การชนกับรถต่างชนิด ขนาด/
การชนคน/ชนกับวัตถุ/เสีย
1.6 ส่ิงท่ีเก่ียวข้องอน่ื ๆ /ความ หลักคว�ำ่ เอง
รู้ธรรมชาติการท�ำงานของรถ
และอปุ กรณ์ /ยางลอ้ /กระจก/
ถุงลมเสริมความปลอดภัย/
ง า น วิ ศ ว ก ร ร ม จ ร า จ ร /
วิทยาศาสตร์การเคล่ือนท่ีใน
รูปแบบต่างๆ
142 คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ตั ิเหตุทางถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดอี ุบตั เิ หตทุ างถนน
5.7 Database ฐานข้อมูล
องค์ความรู้อื่นๆช่วยสนับสนุน
เช่น
1. ข้อมูลจากหน่วยงานท่ี
เกี่ยวข้อง ใน-นอกหน่วยงาน
ต� ำ ร ว จ / บ ริ ษั ท ผู ้ ผ ลิ ต ร ถ
มหาวิทยาลัย(งานสัมมนา
ศึกษา วิจยั )
2. องคค์ วามรู้ จากการตรวจ
สถานท่ีเกิดเหตุ กรณีศึกษา
แฟ้มคดีลักษณะคล้ายๆกัน
เชน่ ฐานขอ้ มลู ความเรว็ กบั การ
เกดิ เหตุจราจร
5.6 Lab/วัตถุพยานจากการ
ตรวจสถานที่เกิดเหตุกับการ
ตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติ
การ เช่น ตรวจทางเคมี-ฟิสิกส์
สรี ถ
5.5 การใชท้ กั ษะความรวู้ ชิ าการ
อน่ื ๆ ทสี่ นบั สนนุ กบั การตรวจ/
ระบบการท�ำงานกลไกรถ/
วิ ศ ว ก ร ร ม จ ร า จ ร / ข ้ อ มู ล
ความเร็วรถเมื่อถุงลมนิรภัย
ท�ำงาน/การใช้โปรแกรมการ
ย้อนรอยคดี
คู่มอื การสอบสวนคดอี บุ ตั เิ หตุทางถนน 143
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ัติเหตุทางถนน
5.4 การตรวจเหตุในลักษณะ
อื่นๆ เช่น รถชนคน การ
หาความเร็วรถ รถซ่อมแซม
เป็นต้น
5.3 กระบวนการขั้นตอนการ
ตรวจทางวิทยาศาสตร์ในข้อ
5.2 ปรับเข้ากับค�ำถามในการ
ตรวจ ในขอ้ 5.1(การสรา้ ง และ
พิสูจน์สมมติฐาน) ประกอบ
ด้วย /1.หาข้อมูล สำ� รวจเบ้ือง
ต้น ส�ำรวจตรวจสอบจากด้าน
นอกสดู่ า้ นใน ท้ังจากสภาพรถ
ถนนคน แยกแยะความเสีย
หาย วัตถุพยานท่ีเกิดข้ึนก่อน
ขณะและหลังชน รถเป็นวัตถุ
พยานที่น่าสนใจท่ีสุด ได้ค�ำ
ตอบสว่ นใดของรถทช่ี นกนั ชน
บรเิ วณใดของถนน เตรยี มพน้ื ที่
6.7 การรายงานผล ทีม เคร่ืองมือเพ่ือปฏิบัติงาน
6.6 ความเร็วรถกอ่ นชน ต่อไป /2.บันทกึ สภาพสถานที่
เกิดเหตุด้วยวิธีต่างๆ /
6.5 ใครเป็นผูร้ ับผิดชอบ (เชน่ 3 . วิ เ ค ร า ะ ห ์ ส า เ ห ตุ ใ น ร า ย 4.3 หาข้อมูลต่างๆ รวมท้ัง
จากลายน้วิ มอื ) ละเอียด /4.ตรวจเกบ็ รวบรวม วิเคราะห์แยกความเสียหา
6.4 ด้วยสาเหตุใดจากคน รถ วตั ถพุ ยาน /5.สรปุ ผลจากการ ยอื่นๆที่ไม่ได้เก่ียวข้องกับ
ถนนอ่ืนๆ เป็นการประมาท ปฏิบัติ กอ่ นคืนพ้ืนท่ี เหตุการณ์ออกไป(ออกจาก
อุบัติเหตุ 5.2 หลักการบริหารจัดการ เหตุการณก์ อ่ น ขณะ หลงั ชน)
6.3 มีการชนกันในต�ำแหน่งใด สถานทเี่ กดิ เหตุ Crime Scene เช่น การงัดรถช่วยผู้เคราะห์
บนถนน Management (CSM) ตามขนั้ ร้าย การเคลื่อนย้ายรถออก
จากจุดเกิดเหตุ เปน็ ต้น
ตอนมาตรฐาน
144 คู่มือการสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุทางถนน
บทท่ี 4 การสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตทุ างถนน
6.2 รถคนั ใดชนกัน ท่ตี ำ� แหนง่ 5.1 มีการค�ำนึงถึงค�ำถาม 4.2 ป้องกันรักษาสถานที่เกิด
ใดของรถ เป้าประสงค์ในการตรวจจาก เหตุให้ครอบคลุมวัตถุพยาน
กวา้ งไปหาแคบ รถคนั ใดชนกนั (กระบวนการการทาง
6.1 สามารถอ่านสถานท่ีเกิด ท่ีต�ำแหน่งใดของรถ/มีการชน นิติวิทยาศาสตรเ์ ร่ิมต้น )
เหตุออก บอกเหตุการณ์ได้ กันในต�ำแหน่งใดบนถนน/ใคร 4.1 เมือ่ ทราบเหตุ การด�ำเนนิ
(พฤตกิ ารณ์ ก่อน ขณะ หลัง) เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ/ดว้ ยสาเหตใุ ด การทุเลาบรรเทาเหตุสู่สภาวะ
( เ ส มื อ น เ ป ิ ด ย ้ อ น ก ล ้ อ ง (คน รถ ถนน อ่ืนๆ)/พิสูจน์ สงบ
วงจรปดิ ) ทราบความเร็วกอ่ นเขา้ ชน
6. ไดข้ อ้ สรปุ ของคำ� ตอบและ 5. CSI และกระบวนการการ 4. สถานทเ่ี กดิ เหตุ Scene
ความเหน็ ตรวจทางนติ วิ ทิ ยาศาสตร์ สงิ่ ทค่ี วรปฏบิ ตั หิ ลงั เกดิ เหตุ
กระบวนการทางนติ วิ ิทยาศาสตร์หาสาเหตุ Backwards theory (ย้อนรอย)
กรณมี ีเคร่อื งตรวจสี กรณเี กดิ เหตุชนมา จะมเี ครอ่ื งตรวจสอบสี หรือลักษณะของสรี ถที่มกี าร
ปลย่ี นแปลง และดไู ดว้ า่ พนื้ ทใี่ นการซอ่ มแซมสไี ดว้ า่ มคี วามเสยี หายเปน็ บรเิ วณกวา้ งมากนอ้ ยเพยี งใด
กรณีศึกษา
อุบัติเหตุรถยนต์เสียหลัก ขณะเกิดเหตุฝนตกกลางคืนรถเสียหลักลงข้างทาง มีผู้หญิงเสียชีวิต
กระเดน็ ออกนอกตวั รถ รถฝากระโปรงทา้ ยเปดิ รถหงายทอ้ ง ชายผอู้ ยใู่ นเหตกุ ารณแ์ จง้ วา่ หญงิ ผเู้ สยี
ชีวติ ขับมาโดยความเรว็ เจ้าหนา้ ทพ่ี ิสจู นห์ ลกั ฐานเข้าเก็บหลกั ฐาน เพ่อื ปอ้ งกันประเดน็ ทจี่ ะตามมา
เนอื่ งจากมีผเู้ สยี ชีวติ ผลของ DNA ที่พวงมาลยั และเขม็ ขัดนิรภยั โดยไม่ปรากฎหลกั ฐานทาง DNA
เจ้าหน้าท่ีพิสูจน์หลักฐานมีหน้าที่เก็บของเก่าที่เกิดเหตุเพ่ือน�ำมาตรวจหาหลักฐาน ผู้ตรวจ
ตอ้ งหาใหล้ ะเอยี ดวา่ จดุ ใดคอื กอ่ น ขณะ หลัง เกดิ เหตุ เมอื่ ตรวจตามหลกั วิชาการจากดา้ นนอก ไป
ด้านใน และถ่ายรอบรถจาก 4 ด้าน เพ่อื ไม่ให้เลด็ ลอดจดุ ทบ่ี ่งชีท้ อี่ าจเปน็ หลักฐานในการเกดิ เหตุได้
พบเสน้ ผมสน้ั บรเิ วณทน่ี ั่งคนขบั เป็นกระจกุ จำ� นวนมากแต่ตรวจ DNA ไมพ่ บเน่ืองจากขาดราก
ผม เมื่อส่งตรวจรา่ งกายข้อมูลทางการแพทยช์ ว่ ยคดีนี้ได้
ชาย มบี าดแผลทศี่ รษี ะ ซง่ึ ตรงกบั ผมทพี่ บบรเิ วณทน่ี ง่ั คนขบั บาดแผลขอ้ มอื ขวามกี ารบาดเจบ็
• ผลลัพทห์ ลงั การชน เป็นแหลง่ รวมของหลกั ฐานของรถ ถนน คน
คู่มือการสอบสวนคดอี บุ ัติเหตทุ างถนน 145
บทที่ 4 การสอบสวนคดอี บุ ัติเหตุทางถนน
หลกั ฐานบนถนน
1. เศษดนิ สนมิ
2. อปุ กรณ์ชิน้ ส่วนของรถ
3. นำ�้ น�้ำมันเคร่อื ง
4. สิ่งทบี่ รรทุกมากับรถ
5. สงิ่ ทีอ่ ยู่บนถนน
6. รอยครดู บนถนน
7. รอยล้อรถ
8. รอยไถล
9. จดุ สุดทา้ ย
• สถานท่ีเกดิ เหตุ
• CSI และกระบวนการการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์
ข้อปฏบิ ตั ิเม่ือไปถงึ ที่เกดิ เหตุ
1. ตรวจสอบเครอื่ งหมายจราจร
2. จดชอ่ื ท่ีอย่ขู องพยายาน
3. หากมีผ้บู าดเจบ็ อยู่ในทเ่ี กดิ เหตุใหจ้ ดชอ่ื ทอี่ ยู่ แล้วรีบสง่ ไปยงั รพ.ท่อี ยูใ่ กลเ้ คยี ง
4. กรณีมีคนตาย ต้องแจ้งผู้ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การชนั สตู รพลิกศพ
5. กรณมี ีคนตาย รถชนกันเสยี หายมาก หรอื จะมปี ัญหาต้องถ่ายรปู ไว้
6. ให้ค่กู รณี และพยาน ลงชอ่ื ในแผนท่ีเกดิ เหตุ
7. น�ำรถค่กู รณีไปสถานตี ารวจ
การเขียนรายงานการตรวจพสิ ูจน์
1. การรบั แจง้ ส่งิ ทที่ ำ� การตรวจ
2. รถ
3. สถานทเ่ี กดิ เหตุ
4. วตั ถปุ ระสงค์ในการตรวจ
5. ผลการตรวจ
6. สรปุ
7. เปรียบเทียบ
8. ความเหน็
146 คู่มอื การสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน
บรรณานุกรม
หนังสอื ภาษาไทย
เกยี รติขจร วจั นะสวสั ด,ิ์ ค�ำอธิบายกฎหมายอาญา ภาค 1, กรุงเทพฯ, วญิ ญูชน, พ.ศ.2538
เกียรติขจร วจั นะสวัสด์ิ, คำ� อธบิ ายหลักกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา, พิมพ์คร้งั ที่ 6
(กรงุ เทพ:จริ รัชการพมิ พ,์ 2551)
คณิต ณ นคร, กฎหมายวธิ ีพิจารณาความแพง่ ภาคการด�ำเนนิ คดี (กรงุ เทพ : วญิ ญูชน, 2548)
คณติ ณ นคร, กฎหมายอาญาภาคทัว่ ไป, พิมพค์ ร้งั ท่ี 2 (กรุงเทพ : วิญญูชน, 2546)
ค่มู อื แนวทางการดำ� เนนิ การดา้ นการสืบสวนอุบตั เิ หต,ุ โครงการฝกึ อบรม
หลกั สตู รการสบื สวนอุบตั เิ หตุทางถนน (การวเิ คราะหส์ าเหตุอบุ ัตเิ หตทุ างถนน),
สำ� นักการจราจรและขนสง่ กรุงเทพมหานคร, 2522
คำ� บรรยายการสอบสวนคดจี ราจรทางบก, หลกั สตู รพนกั งานสอบสวนผ้ชู �ำนาญการของ
พลตำ� รวจเอก ชัชวาลย์ สขุ สมจิตร,์ 2560
คำ� สงั่ ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ท่ี 419/2556 ลง 1 กรกฎาคม 2556 เรอ่ื ง การอ�ำนวยความยตุ ิธรรม
ในคดีอาญา การทำ� สำ� นวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เรง่ รัดการสอบสวนคดีอาญา
จกั รพงษ์ วิวัฒน์วานชิ , หลกั และทฤษฎีการสอบสวน, พิมพ์ครัง้ ที่ 3 (กรุงเทพ : พมิ พอ์ กั ษร, 2550)
ชาญชัย แสวงศกั ด์ิ, กฎหมายวา่ ด้วยความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท่แี ละความรับชอบ ของรัฐโดย
ปราศจากความผิด, พมิ พ์คร้ังที่ 9, (กรงุ เทพ:วญิ ญชู น, 2558)
ชวลิต สคุ นธวทิ , พลต�ำรวจตรี, ขอ้ แนะน�ำการสอบสวนคดีอาญาตามแนวทางปฏิบัต,ิ (กรุงเทพฯ:
บรษิ ทั เอส.พี.ซี. พริ้นติ้ง จำ� กัด, 2540)
ทศวนิ สินพลู ผล พนั ตำ� รวจโท, ปรชี า ชตู ินนั ท์ รอ้ ยต�ำรวจเอก, แนวทางการสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุ
จราจรทางบก, (กรงุ เทพฯ: สำ� นักกฎหมายและศูนย์ต�ำรานติ ิธนสาสน์ , ม.ป.ป.)
ธานศิ เกศวพิทกั ษ,์ ค�ำอธิบายประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา, พมิ พ์ครั้งที่ 8 (กรงุ เทพฯ:
พลสยามพรนิ้ ตง้ิ , 2554)
คมู่ ือการสอบสวนคดอี ุบัติเหตทุ างถนน 147
บรรณานกุ รม
ธสี ทุ ธ์ิ พนั ธฤ์ ทธ,์ิ การช่ังน้�ำหนกั พยานหลักฐาน (กรงุ เทพ : นิติธรรม, 2549)
นโยบายของรัฐเกย่ี วกบั ความปลอดภัยทางถนนของกรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณะภยั (ป2ี 554)
นยั นา เกิดวชิ ัย, คำ� อธิบายเรียงมาตรา พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522, (นครปฐม: นติ ินัย, 2548)
แนวค�ำวนิ จิ ฉัยของศาลปกครอง เล่ม 7, สวัสดิการสำ� นักงานปกครอง, (กรงุ เทพฯ :บรษิ ัทประชาชน,
2555)
ประมลู สวุ รรณศร, กฎหมายลักษณะพยาน, พมิ พค์ รัง้ ที่ 7 (กรุงเทพ : นติ ิบรรณสาร, 2517)
พิชัย นิลทองคำ� , กฎหมายท่ีใช้ในศาลอทุ ธรณ์และฎกี า, พมิ พ์ครั้งท่ี 2, (กรงุ เทพ:อฑตยา มิเลน็ เนยี ม
จ�ำกดั , 2555)
ระเบยี บการตำ� รวจเกย่ี วกบั คดลี กั ษณะท่ี 8 การสอบสวน บทท่ี 1 หลกั การทวั่ ไปวา่ ดว้ ยการสอบสวน
ข้อ 210.
ระเบียบการตำ� รวจเกีย่ วกบั คดีลกั ษณะท่ี 13 บทท่ี 3 ค�ำร้องทกุ ข์ ข้อ 15.
ระเบียบการตำ� รวจเกยี่ วกับคดีลกั ษณะท่ี 18 กรณบี างเร่ืองท่มี วี ธิ ปี ฏบิ ตั ิเปน็ พิเศษ บทท่ี 3 ขอ้ 498.
วิเชียร ดเิ รกอุดมศักดิ์, พยานพิสดาร, (กรุงเทพฯ: พิมพ์อักษร, 2553)
วฒั นา กฤตยิ ะโชติ, เอกสารคำ� สอนวิชาการสอบสวน 1, (ม.ป.ท., ม.ป.ป.)
ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน, มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย, คู่มือสืบค้นและวิเคราะห์
อบุ ัตเิ หตทุ างถนนตามแนวทางมนษุ ย์ปัจจัย, (ม.ป.ท., ม.ป.ป.)
สนทิ สน่ันศลิ ป,์ ค�ำอธบิ าย ป.วอิ าญา, พิมพค์ รง้ั ท่ี 2 (กรุงเทพฯ : สูตรไพศาล, 2553)
สมศกั ดิ์ เอ่ียมพลับใหญ,่ คดขี ับรถประมาท, พมิ พ์ครงั้ ที่ 3, (กรงุ เทพฯ: นิธิธรรม, 2557)
สรพลจ์ สุขทรรศนยี ์, ค�ำอธิบายกฎหมายลักษณะประกันภัย, พิมพ์ครัง้ ท่ี 13, (กรงุ เทพฯ: วิญญชู น,
2561)
สรุ ยิ า ปานแป้น, คูม่ อื สอบกฎหมายปกครอง, พมิ พค์ รง้ั ที่ 8, (กรงุ เทพฯ: วิญญูชน, 2558)
แสวง ธีระสวสั ด์,ิ หลกั การสบื สวนสอบสวนคดีอาญา, (ม.ป.ท., 2530)
อนันต์ จนั ทรโอภากร, กฎหมายลกั ษณะพยาน (กรงุ เทพ : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2525)
อรรถพล แชม่ สวุ รรณวงศ,์ พลตำ� รวจโท, นติ วิ ทิ ยาศาสตร์ 1 เพอื่ การสบื สวนสอบสวน, พมิ พค์ รงั้ ที่ 2,
(กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั ดาวฤกษ์ จำ� กดั , 2545)
148 คมู่ ือการสอบสวนคดีอุบตั เิ หตุทางถนน
บรรณานกุ รม
หนงั สอื ภาษาองั กฤษ
Expert Group in Accidents in Transport Sector, Road accident investigation in the
European Union- Review and Recommendation, May 11,2006
Northwestern University Center for Public Safety, Traffic Collision Investigation-
Manual, Ninth Edition, Evanston, IIIinois, 2001
River R.W.,Training and Reference Manual on Traffic Accident Investigation, Institute
of Police Technology and Management, University of North Florida, 2 edition,
1995
Van Kirk,D.J,. Vehicular Accident Investigation and Reconstruction, CRC LLC Press,2001
อนิ เทอรเ์ นต็
สมชาย ภคภาสน์วิวฒั น,์ กลยุทธ์การเจรจาตอ่ รอง, สบื ค้นจาก 203.113.25.46/training002/
.../my.../29.กลยทุ ธ์การเจรจา.doc. (20 เมษายน 2559)
สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาต,ิ การประชมุ วฒุ สิ ภา ครงั้ ท่ี 21 (สมยั สามญั นติ บิ ญั ญตั )ิ (เปน็ พเิ ศษ), วนั ที่ 27
ตุลาคม 2546, สืบค้นจาก http://www.senate.go.th/senate/report_detail.php?
report_id=36 (24 พฤษภาคม 2559)
ส�ำนักงานพิสจู น์หลกั ฐานต�ำรวจ, คมู่ ือการตรวจสถานท่เี กิดเหตุ, สบื คน้ จาก
http://www.forensic.police.go.th/FS/html/main.php (21 พฤษภาคม 2558)
อภิรักษ์ นักไร่, พ.ต.อ., หลักการวินิจฉัยคดีจราจรเบื้องตน้ , สืบคน้ จาก
https://apr2945jr.blogspot.com/2016/11/blog-post.html (1 มนี าคม 2562)
คมู่ ือการสอบสวนคดีอบุ ัตเิ หตุทางถนน 149