300 การประเมินประสิทธิภาพของอาหาร ประสิทธิภาพของอาหาร (Feed efficiency , FE) ค านวณจากสูตร FE = น้ าหนักปลาที่เพิ่มขึ้น น้ าหนักอาหาร (แห้ง) ที่ปลากิน (เวียง , 2528) การประเมินประสิทธิภาพของการใช้โปรตีนในอาหาร ประสิทธิภาพของการใช้โปรตีนในอาหาร (Protein efficiency ratio , PER) ค านวณจากสูตร PER = น้ าหนักปลาที่เพิ่มขึ้น น้ าหนักโปรตีนที่ปลาได้รับ (เวียง , 2528) จากสูตรที่ได้กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการวัดอิทธิพลการตอบสนองของปลาเพื่อประเมิน คุณภาพของอาหารนั้น สามารถที่จะใช้วิธีประเมินได้หลายวิธีโดยปกติทั่วไปการประเมินนั้นอาจ กระท าได้ทันทีที่เก็บข้อมูลได้ในแต่ละช่วง หรือเก็บข้อมูลจนสิ้นสุดการทดลองแล้วจึงค่อยน าข้อมูลมา ประเมินภายหลัง ซึ่งวิธีแรกนี้ถ้าผู้เลี้ยงมีเวลาพอที่จะน าข้อมูลมาประเมินทันทีได้ก็จะท าให้เกิดความ สะดวกในการคิดค่าน้ าหนักต่างๆ ตลอดจนรวมอาหารที่ใช้ได้สะดวก ถูกต้องและแม่นย ากว่า ทั้งนี้ เพราะผู้เลี้ยงยังจ าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงระหว่างการเลี้ยงที่ผ่านมาได้ดี เช่น สมมุติสัปดาห์ที่ผ่าน มาปลาเริ่มป่วยให้อาหารลดลง 50 % ฉะนั้นผู้เลี้ยงก็สามารถรวมอาหารได้ถูกต้องแม่นย ากว่า แต่ถ้าผู้ เลี้ยงเก็บข้อมูลจนสิ้นสุดการทดลองแล้ว จึงค่อยน าข้อมูลมาประเมินภายหลังวิธีนี้ก็สามารถกระท าได้ แต่ผู้เลี้ยงจะต้องเก็บบันทึกรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทุกๆระยะในช่วงระหว่างการเลี้ยง โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับการปรับเพิ่มลดปริมาณอาหารในช่วงระหว่างของการเลี้ยง ซึ่งวิธีนี้ถ้าผู้ เลี้ยงไม่บันทึกข้อมูลไว้ก็อาจจะเกิดการหลงลืมได้ และเมื่อน าข้อมูลมาประเมินผลก็อาจจะผิดพลาด ไม่ตรงกับข้อมูลเป็นจริง ฉะนั้นการบันทึกข้อมูลต่างๆในช่วงระหว่างการเลี้ยง ถือได้ว่าเป็นหัวใจส าคัญ ในการเลี้ยงปลาเพื่อที่จะน าข้อมูลต่างๆมาประเมินผลผลิตต่อไป ส่วนวิธีการในการคิดหรือวิธีการ ประเมินไม่ว่าจะน าข้อมูลมาประเมินทันทีหรือเก็บข้อมูลจนสิ้นสุดการเลี้ยงแล้วจึงค่อยน าข้อมูลมา ประเมินภายหลัง วิธีการในการประเมินก็ไม่แตกต่างกันใช้หลักวิธีการเดียวกัน
301 สรุป การท าฟาร์มเลี้ยงปลา ผู้เลี้ยงจะต้องมีการค านวณถึงต้นทุนในการผลิตของปลาที่เลี้ยงในแต่ ละรุ่น เพื่อที่จะได้ทราบถึงต้นทุนในการผลิต และทราบถึงผลตอบแทนที่จะได้จากการเลี้ยงปลาว่ามี มากน้อยเพียงใด คุ้มค่ากับการลงทุนต่อไปหรือไม่ และจะสามารถท าการประเมินผลผลิตจากการ เลี้ยงในแต่ละรุ่นได้โดยละเอียด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนในการเลี้ยง และการผลิตในรุ่น ต่อไปได้อย่างเหมาะสม ค าถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 จงตอบค าถามต่อไปนี้ 1. รายจ่ายส าหรับการลงทุน แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้างจงอธิบาย ? 2. รายจ่ายผันแปรที่ใช้ในการด าเนินการผลิต มีอะไรบ้างจงยกตัวอย่าง ? 3. จงบอกวิธีการประเมินผลผลิตในฟาร์มเลี้ยงปลา ?
302 กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ใบงานที่ 15 ชื่อใบงาน การวางแผนเลี้ยงปลาน้ าจืดและการค านวณต้นทุนการผลิต จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถวางแผนในการผลิตปลาน้ าจืดได้ 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถค านวณต้นทุนในการผลิตปลาน้ าจืดได้ เครื่องมือ / อุปกรณ์ 1. เครื่องคิดเลข 2. โจทย์ส าหรับการวางแผนในการผลิตและค านวณต้นทุนการผลิตปลาน้ าจืด 3. กระดาษบันทึก ล าดับขั้นการปฏิบัติงาน 1. ครูก าหนดโจทย์ส าหรับการวางแผนในการผลิตและค านวณต้นทุนการผลิตปลาน้ าจืด ดังนี้ มีบ่อดินพื้นที่ขนาด 1 งาน จ านวน 6 บ่อ ต้องการเลี้ยงปลาทับทิม จ านวน 1 รุ่น ให้ท าการ วางแผนการผลิต และค านวณต้นทุนในการผลิต 2. ให้นักเรียนฝึกวางแผนในการผลิตและค านวณต้นทุนการผลิต การวัดและประเมินผล 1. จากรายงานผลการปฏิบัติงาน 2. จากความถูกต้องของผลงาน
303 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 14 วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง การค านวณต้นทุนการผลิตและการ ประเมินผลผลิต ค าแนะน า ให้นักเรียนอ่านค าถามแล้วกากะบาด (X) ทับข้อค าตอบที่ถูกที่สุดเพียงค าตอบเดียว ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ข้อใดไม่ใช่รายจ่ายคงที่ในฟาร์ม ? ก. ค่าที่ดิน ข. ค่าสิ่งก่อสร้าง ค. ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในฟาร์ม ง. ค่าพันธุ์ปลาที่ซื้อมาเลี้ยง 2. ข้อใดไม่ใช่รายจ่ายผันแปรในฟาร์ม ? ก. ค่าอาหารปลา ข. ค่าดอกเบี้ย ค. ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ง. ค่าอาหารปลา 3. ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในฟาร์ม เช่น เครื่องสูบน้ า ระบบไฟฟ้า เครื่องให้อาหาร อวน กระชัง รถยนต์ ถังล าเลียงสัตว์น้ า จะต้องค านวณค่าเสื่อมราคาปีละอย่างน้อยกี่เปอร์เซ็นต์ ? ก. 5 เปอร์เซ็นต์ ข. 10 เปอร์เซ็นต์ ค. 15 เปอร์เซ็นต์ ง. 20 เปอร์เซ็นต์ 4. ก่อนการค านวณคิดต้นทุนการลงทุนการผลิตควรศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งใดก่อน ? ก. จากผู้ประกอบการที่ท าอยู่ก่อนแล้ว ข. สอบถามข้อมูลจากกรมประมงโดยตรง ค. จากรายงานและหนังสือวารสารต่างๆที่รายงานเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจการเลี้ยงปลา ง. ถูกทุกข้อ
304 5. ข้อใดไม่ใช่วิธีการประเมินอัตราการเจริญเติบโตของปลาที่นิยมใช้ ? ก. น้ าหนักเพิ่ม ข. น้ าหนักเฉลี่ย ค. อัตราการกินอาหาร ง. อัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะ 6. การคิดมูลค่าทรัพย์สินและค่าเสื่อมของทรัพย์สินทุกชนิดจะคิดได้จากข้อใด ? ก. คิดตามมูลค่าในตลาด ข. คิดตามต้นทุนซื้อมา ค. คิดจากมูลค่าต้นทุนการผลิตของฟาร์ม ง. ถูกทุกข้อ 7. ทรัพย์สินที่มีอายุยาวนาน เช่น ที่ดินจะคิดมูลค่าทรัพย์สินและค่าเสื่อมของทรัพย์สินเป็นแบบใด ? ก. คิดมูลค่าทรัพย์สินจากผลตอบแทน ข. คิดตามต้นทุนซื้อมา ค. คิดจากมูลค่าต้นทุนการผลิตของฟาร์ม ง. คิดตามมูลค่าในตลาด 8. ค่าสิ่งก่อสร้างที่จ่ายเพียงครั้งเดียวตอนเริ่มสร้างครั้งแรกในปีต่อไปอาจจะต้องมีการซ่อมแซมและ ปรับปรุง จึงควรค านวณเผื่อรายจ่ายไว้กี่เปอร์เซ็นต์ในปีที่สอง ? ก. 3 เปอร์เซ็นต์ ข. 5 เปอร์เซ็นต์ ค. 7 เปอร์เซ็นต์ ง. 9 เปอร์เซ็นต์ 9. ประโยชน์ของการค านวณต้นทุนการผลิตและการประเมินผลผลิตข้อใดส าคัญที่สุด ? ก. เพื่อทราบถึงต้นทุนในการท าฟาร์ม ข. เพื่อทราบถึงผลก าไรที่ได้รับ ค. เพื่อประกอบการวางแผนการผลิตในรุ่นต่อไป ง. เพื่อเป็นข้อมูลส าหรับตัดสินใจขยายหรือลดก าลังการผลิต 10. ค่าใช้จ่ายส าหรับการเลี้ยงปลาในกระชังช่วงเริ่มต้นจะเป็นเรื่องใดมากที่สุด ? ก. ค่าอาหารปลา ข. ค่าพันธุ์ปลา ค. ค่าท ากระชัง ง. ค่าแรงงาน
305 แผนการจัดการเรียนรู้ประจ าหน่วยการเรียนรู้ที่ 15 เรื่อง การบันทึกข้อมูลและการท าบัญชี 1. สาระส าคัญ : การท าฟาร์มเลี้ยงปลาโดยทั่วไป การบันทึกข้อมูลงานฟาร์มและการจัดท าบัญชีมีความส าคัญ เป็นอย่างมาก เนื่องจากจะท าให้เจ้าของกิจการได้ทราบถึงข้อมูลในการด าเนินงานโดยละเอียด ทราบถึงค่าใช้จ่ายในการท าฟาร์ม และผลตอบแทนที่ได้รับ การศึกษาถึงการบันทึกข้อมูลและการท า บัญชี จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถน าไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการงานฟาร์มได้อย่างถูกต้อง 2. สมรรถนะประจ าหน่วยการเรียนรู้: 1. มีความรู้เกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลและการท าบัญชี 2. สามารถปฏิบัติการบันทึกข้อมูลและการท าบัญชีฟาร์มเลี้ยงปลา 3. มีกิจนิสัยในการท างานอย่างเป็นระบบด้วยความรับผิดชอบ ขยัน อดทน 3. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง : 1. สามารถฝึกปฏิบัติการบันทึกข้อมูลฟาร์มเลี้ยงปลาได้อย่างถูกต้อง 2. สามารถฝึกปฏิบัติท าบัญชีฟาร์มเลี้ยงปลาได้อย่างถูกต้อง 4. ความรู้ที่ต้องได้รับ : 1. จุดประสงค์ของการบันทึกข้อมูลฟาร์มเลี้ยงปลาและการน าข้อมูลไปใช้ประโยชน์ 2. การบันทึกข้อมูลการจัดการฟาร์ม 3. การท าบัญชีฟาร์ม 5. ทักษะทางปัญญาที่ต้องการพัฒนา : การคิดอย่างเป็นระบบ มีทักษะทางการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่า 6. คุณธรรมจริยธรรมที่ต้องการ : 1. มีใจรักและศรัทธาในวิชาชีพ 2. มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร 3. มีความซื่อสัตย์ 4. มีความสนใจใฝ่รู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
306 7. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องการ : 1. มีความรับผิดชอบตรงต่อเวลา 2. มีมนุษย์สัมพันธ์ 3. การรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถท างานร่วมกับผู้อื่น 5. การบริการสังคมและชุมชน 6. ความปลอดภัย 8. กิจกรรมการเรียนการสอน : 1. ศึกษาเนื้อหาในหัวเรื่องที่ 1-3 2. การท าแบบทดสอบก่อนการเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 3. การบรรยายประกอบการยกตัวอย่าง 4. การฝึกปฏิบัติในการบันทึกข้อมูลและการท าบัญชีในการเลี้ยงปลา 5. การท าแบบทดสอบหลังการเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 6. การท าแบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 7. การจัดท าบันทึกการเรียนรู้ 8. การเก็บรวบรวมผลงานการเรียนรู้เพื่อจัดท าแฟ้มสะสมผลงาน 9. จ านวนชั่วโมงที่สอน : จ านวน 6 ชั่วโมง 10. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ : 1. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 14 2. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนประจ าหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 3. แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 4. เอกสารใบงานเรื่อง การบันทึกข้อมูลและการท าบัญชี 5. แบบบันทึกการเรียนรู้ 11. วิธีการประเมินผล : 1. การวัดความสามารถด้านพุทธิพิสัย : โดยการสังเกตพฤติกรรมในการท างานร่วมกัน การ วางแผนในการท างานร่วมกัน และความสามารถในการท างานส าเร็จอย่างมีคุณภาพตามเวลาที่ มอบหมาย
307 2. การวัดความสามารถด้านทักษะพิสัย : โดยการสังเกตพฤติกรรมในการท างานร่วมกัน การ วางแผนในการท างานร่วมกัน และความสามารถในการท างานส าเร็จอย่างมีคุณภาพตามเวลาที่ มอบหมาย 3. การวัดความสามารถด้านจิตพิสัย : โดยการสังเกตจากพฤติกรรมในขณะด าเนินกิจกรรม การเรียนการสอนว่า ให้ความสนใจในการเรียนรู้ การมีวินัย การตรงต่อเวลา การมีส่วนร่วมในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชั้นเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14 การบันทึกข้อมูลและการท าบัญชี ความส าเร็จของการจัดการธุรกิจฟาร์มเลี้ยงปลาคือการด าเนินการทางธุรกิจที่บรรลุเป้าหมาย ตามที่ก าหนดไว้หรือได้รับผลก าไรสูงสุด โดยเป้าหมายหรือผลก าไรนั้นต้องวัดค่าได้ ความส าเร็จของ การจัดการนิยมวัดจากผลสัมฤทธิ์เปรียบเทียบกับเป้าหมายว่าบรรลุผลต่ ากว่า หรือเกินเป้าหมาย ดังกล่าว แม้ความส าเร็จของการจัดการธุรกิจใดๆก็ตาม จะเริ่มต้นจากการวางแผนและการจัดการ ระบบองค์กรที่ดี แต่การไปสู่ความส าเร็จต้องมาจากการด าเนินการให้งานต่างๆเป็นไปตามแผนที่วาง ไว้อย่างดีแล้ว และผลนั้นจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการท าหน้าที่การจัดการ ทั้งส่วนของการอ านวยการและ การควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ส่วนผลการด าเนินงานจะไปถึงเป้าหมายนั้นหรือผลเกินเป้าหมาย ทราบจากการตรวจสอบและวัดผล การตรวจสอบและวัดผลการด าเนินการเป็นกิจกรรมหนึ่งของหน้าที่ควบคุม ซึ่งเป็นหนึ่งใน หน้าที่การจัดการโดยส่วนของงานการควบคุมต้องจัดท าระบบสัญญาณเตือนภัยทางธุรกิจ (Monitoring system) ข้อมูลที่ใช้เตือนท าให้ทราบผลการด าเนินงานเป็นไปตามแผน หรือผลการด าเนินตามแผนมี แนวโน้มจะไม่บรรลุถึงเป้าหมาย การจัดระบบสัญญาณเตือนภัยทางธุรกิจเริ่มต้นจากจัดท าฐานข้อมูล ฟาร์มและระบบบัญชีของฟาร์มเลี้ยงปลา ก าหนดวิธีการบริหารข้อมูล การประมวลและประเมินผล และการสรุปผลให้ข้อแนะน าใช้ประกอบการตัดสินใจส าหรับการจัดการ สถานการณ์ของธุรกิจที่ด าเนินการโดยปราศจากข้อมูลใดๆ หรือมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยอาจ เปรียบได้ดังเช่นล่องลอยกลางทะเลโดยปราศจากหางเสือหรืออุปกรณ์ช่วยเดินเรือ การขาดข้อมูล เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ข้อมูลเกี่ยวกับการด าเนินการของระยะเวลาย้อนหลัง บันทึกผลของ การด าเนินงานและปัญหาหรืออุปสรรค ท าให้ขาดข้อมูลใช้บอกให้ทราบประเด็นปัญหาและสถานการณ์ ทางธุรกิจที่ก าลังด าเนินการอยู่ตลอดถึงแนวโน้มในอนาคต ผู้จัดการจะไม่มีความมั่นใจในผลการ ตัดสินใจเพราะขาดข้อมูลแนะน า บัญชีและบันทึกกิจการฟาร์มเลี้ยงปลาทั้งหลายเป็นเครื่องมือที่ ผู้จัดการใช้เป็นกุญแจดอกส าคัญในการก าหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ถูกต้อง รวมทั้งพิจารณา และตัดสินใจปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้บรรลุเป้าหมาย (อุธร , 2548) จุดประสงค์ของการบันทึกข้อมูลฟาร์มเลี้ยงปลาและการน าข้อมูลไปใช้ประโยชน์ การบันทึกข้อมูลฟาร์มนับเป็นสิ่งจ าเป็นดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อการจัดการ ในทางอื่นหลายประการ การบันทึกข้อมูลฟาร์มเลี้ยงปลามีจุดประสงค์อย่างน้อย 6 ประการ ดังนี้ (อุธร , 2548) 1. วัดผลก าไรและสถานการณ์ทางการเงินของฟาร์มเลี้ยงปลา 2. จัดท าข้อมูลส าหรับวิเคราะห์สถานภาพทางธุรกิจ
309 3. ให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาขอเงินกู้ 4. ใช้วัดผลก าไรของกิจการแต่ละกิจการ 5. ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายการลงทุน 6. ใช้จัดท าข้อมูลเพื่อการเสียภาษีรายได้ จุดประสงค์ที่ได้ก าหนดไว้6 ข้อ เป็นเพียงส่วนเดียวที่ใช้แสดงเหตุผลความจ าเป็นต้องจัดท า ข้อมูลฟาร์มและน าข้อมูลนั้นไปใช้ประโยชน์ ส่วนจุดประสงค์อื่นที่ส าคัญรองลงมาได้แก่ ข้อมูล น าไปใช้ท าประกันภัยในทรัพย์สินหรือผลผลิต ข้อมูลใช้เป็นหลักฐานประกอบการวางแผนการ ด าเนินงานและการผลิต รวมทั้งแผนการพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น อย่างไรก็ตามจุดประสงค์พื้นฐาน 6 ข้อดังกล่าว นับว่ามีความส าคัญมากที่สุดและกล่าวอย่างละเอียดได้ดังนี้(อุธร , 2548) 1. การวัดผลก าไรและสถานการณ์ทางการเงิน เหตุผลของการจัดท าข้อมูลทั้ง 2 ประการนี้ นับว่ามีความส าคัญมากผลก าไรของธุรกิจประมาณค่าโดยการวิเคราะห์บัญชีก าไรขาดทุน 2. การจัดท าข้อมูลส าหรับวิเคราะห์สถานภาพทางธุรกิจหลังจากจัดท าบัญชีก าไร ขาดทุน และงบดุลขั้นต่อมาใช้ข้อมูลจากบัญชีวิเคราะห์สภาพธุรกิจ ทั้งผลก าไรของธุรกิจ ความสามารถในการ ท าผลก าไรของฟาร์ม และความมีเสถียรภาพทางการเงิน ข้อมูลจากผลการวิเคราะห์น าไปใช้ในการ ตัดสินใจ แก้ปัญหา วางแผน ท างบประมาณ หรือควบคุมและด าเนินธุรกิจฟาร์มเลี้ยงปลาหรืองาน ประจ าให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และได้ผลดี 3. การใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาขอเงินกู้ สถาบันการเงินต้องการข้อมูลทางการเงิน ของธุรกิจฟาร์มเลี้ยงปลาที่แสดงเจตจ านงของสินเชื่อเพื่อการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้ สินเชื่อ หากฟาร์มเลี้ยงปลาให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ สถาบันการเงินก็ย่อมตัดสินใจให้สินเชื่อได้โดย ไม่ยาก 4. การวัดผลก าไรของกิจการแต่ละกิจการ ธุรกิจฟาร์มที่มีกิจการหลายอย่างรวมกันเน้น จุดประสงค์เพิ่มผลก าไรหรือลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ของราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอน ผลก าไรของ ธุรกิจทั้งหมด เกิดจากผลรวมก าไรของทุกกิจการ หากไม่จ าแนกผลก าไรของแต่ละกิจการอย่างชัดเจน ก็ยากที่บอกได้ว่า กิจการใดประสบผลส าเร็จในการจัดการซึ่งได้รับผลก าไรมาก กิจการใดประสบ ปัญหาการขาดทุนต้องแก้ไขหรือปรับปรุงแผนการผลิต ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงปลาที่มีหลายกิจการ จะต้อง จัดท าระบบบันทึกฟาร์มระบบบัญชี และจัดท างบประมาณแยกกัน ผลผลิตของกิจการหนึ่งน าไปใช้ เป็นปัจจัยการผลิตของอีกกิจการหนึ่ง ต้องตัดต้นทุนของกิจการหนึ่งให้เป็นรายได้ของอีกกิจการหนึ่ง การวิเคราะห์ผลก าไรสถานภาพทางการเงินต้องแยกจากกันด้วยเช่นเดียวกัน 5. การตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายการลงทุน การตัดสินใจเพิ่มทุนเพื่อขยายกิจการ นับว่ามีความยุ่งยากในการคาดคะเนถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ผลส าเร็จของ การลงทุนคือผลตอบแทนที่มากกว่าต้นทุน โอกาสแห่งความส าเร็จไม่อาจคาดเดาได้ก่อนการลงมือ
310 ระบบบัญชี ด าเนินการ การลงทุนที่มีโอกาสประสบผลส าเร็จอย่างสูงต้องมีข้อมูลที่จ าเป็นมากเพียงพอส าหรับการ วิเคราะห์ศักยภาพการขยายขนาดธุรกิจ และความสามารถท าผลก าไรได้ในอนาคต ได้แก่ข้อมูลผล ด าเนินกิจการที่ผ่านมา สถานภาพทางการเงิน และผลก าไร 6. การจัดท าข้อมูลเพื่อการเสียภาษี ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงปลาที่ไม่เป็นธุรกิจในครอบครัว ลักษณะการจัดการองค์กรธุรกิจแบบหุ้นส่วนหรือบริษัทจ ากัดต้องเสียภาษีรายได้ ซึ่งการเสียภาษีนั้น ฟาร์มเลี้ยงปลาต้องแสดงยอดรายรับรายจ่าย และรายได้สุทธิต่อกรมสรรพากร เอกสารต่างๆที่แสดง รายละเอียดเกี่ยวกับการเสียภาษีได้จากการสรุปบัญชีรายรับรายจ่าย และบัญชีแสดงผลประกอบการ อื่น และได้รับการรับรองจากผู้ตรวจสอบบัญชี กิจกรรมทางธุรกิจของฟาร์มเลี้ยงปลา การจัดท าระบบบัญชีฟาร์มให้ข้อมูลเกี่ยวกับการด าเนินงาน และแสดงผลประกอบการทั้งใน ด้านผลก าไร ความสามารถในการเพิ่มรายได้ สถานภาพทางการเงินและทรัพย์สิน จะต้องน าข้อมูล กิจกรรมทางธุรกิจทั้ง 3 ส่วน ซึ่งได้แก่กิจกรรมทางการผลิต กิจกรรมทางการลงทุน และกิจกรรม ทางการเงิน รวมเข้าในระบบบัญชีดังแสดงในแผนภาพ กิจกรรมทางการผลิต กิจกรรมทางการลงทุน กิจกรรมทางการเงิน แผนภาพแสดงกิจกรรมทางธุรกิจของฟาร์มเลี้ยงปลาถูกรวมเข้าไปในระบบบัญชี 1. กิจกรรมทางการผลิต ระบบบัญชีจะเชื่อมโยงกับกิจกรรมการผลิต รายได้จากการขาย ผลผลิต หรือรายได้อื่นต่อเนื่องจากการผลิต และค่าใช้จ่ายที่มีผลท าให้เกิดรายได้ เช่น อาหาร ปุ๋ย พลังงาน สารเคมี ดอกเบี้ย แรงงาน ข้อมูลเหล่านี้จะต้องจดบันทึกในบัญชี 2. กิจกรรมทางการลงทุน สัมพันธ์กับค่าใช้จ่าย ค่าเสื่อม การลงทุน ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง เครื่องมือทุ่นแรง ต้องบันทึกเกี่ยวกับทรัพย์สินนี้ ราคาที่จัดซื้อ วันที่จัดซื้อ ค่าเสื่อมแต่ละปี มูลค่า ทรัพย์สินตามราคาในบัญชี ณ วันส ารวจ และมูลค่าตามราคาตลาด 3. กิจกรรมทางการเงิน การลงทุนที่ใช้บริการสินเชื่อ มีกิจกรรมทางการเงินที่บันทึกคือ เงิน ต้น และดอกเบี้ย
311 การบันทึกข้อมูลการจัดการฟาร์ม เพื่อความสะดวกในการจัดการฟาร์มเลี้ยงปลานั้นควรมีการบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้น าไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการพิจารณาปรับปรุงการเลี้ยงในคราวต่อๆไป ข้อมูล ที่ส าคัญและจ าเป็นนั้นเริ่มจากการปล่อยปลาลงบ่อ การให้อาหาร การตรวจน้ าหนักเพื่อดูความ เจริญเติบโตเป็นครั้งคราว การใส่ปุ๋ย การจับครั้งสุดท้าย ตลอดจนข้อมูลอื่นๆซึ่งปรากฏเป็นครั้ง คราว เช่น โรคปลา ปลาตาย ปลาขาดออกซิเจน ฯลฯ ประโยชน์ที่จะได้รับจากข้อมูลดังกล่าว เช่น ท าให้รู้ถึงสภาวะของบ่อที่จะให้ผลผลิตในการ เลี้ยงปลาชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิดในบ่อเดียวกัน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ปริมาณการให้ อาหารในช่วงระยะเวลาการเลี้ยง อัตราการแลกเนื้อ (Feed conversion ratio , FCR) อัตราการ รอด ผลก าไร ฯลฯ ตัวอย่าง การบันทึกข้อมูลการจัดการฟาร์มเลี้ยงปลา (เกรียงศักดิ์, 2547) 1. ข้อมูลฟาร์ม 1.1 พื้นที่น้ าทั้งฟาร์ม (ไร่) 1.2 จ านวนบ่อในฟาร์ม (บ่อ) 2. ข้อมูลเบื้องต้น 2.1 บ่อที่ , พื้นที่ กว้าง x ยาว x ลึก (ตารางเมตร , ลูกบาศก์เมตร) 2.2 วันที่ปล่อยลงเลี้ยง 2.3 วันที่จับส่งตลาด 2.4 จ านวนที่ปล่อยลงเลี้ยง (ตัว) , น้ าหนักตัว (กรัม/ตัว) , ซื้อจากไหน 2.5 จ านวนที่จับส่งตลาด (กิโลกรัม) , ขายให้ใคร 2.6 จ านวนอาหาร (กิโลกรัม) , ซื้ออาหารจากร้านใด 2.7 ขนาดที่จับส่งตลาด (ตัว/กิโลกรัม) 2.8 ราคาที่จับส่งตลาด (บาท/กิโลกรัม) 3. วิเคราะห์ผลการเลี้ยง 3.1 ระยะเวลาเลี้ยง (วัน) 3.2 ความหนาแน่น (ตัว/ตารางเมตร) 3.3 เปอร์เซ็นต์การเลี้ยงรอด 3.4 ผลผลิต (กิโลกรัม/ตารางเมตร , ลูกบาศก์เมตร) 3.5 อัตราแลกเนื้อ (FCR) 3.6 อัตราการเจริญเติบโต (กรัม/ตัว/วัน)
312 4. วิเคราะห์ต้นทุนขั้นต้น 4.1 ค่าลูกปลา (บาท) 4.2 ค่าอาหารเม็ดทั้งหมด (บาท) 4.3 ค่าเตรียมบ่อ (บาท) 4.4 ค่ายา + ปูนขาว + เกลือ (บาท 4.5 รวมต้นทุนขั้นต้น (บาท) 4.6 ขายปลาได้เงิน (บาท) 4.7 ก าไรขั้นต้น (บาท) 4.8 ก าไรขั้นต้น (บาท/กิโลกรัม) 4.9 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก าไรขั้นต้น (%) 4.10 ต้นทุนค่าอาหารต่อกิโลกรัม (บาท)
ตัวอย่างสมุดบันทึกประจ าฟาร์ม (กรมประมง , 2551) ข้อมูลทั่วไป 1. เกษตรกร 1. ชื่อ นาย/นาง/นางสาว..........................................นามสกุล....................................... 2. อายุ.................ปี 3. การศึกษา............................................................... 4. ประสบการณ์ในด้านประมง..................ปี 5. จ านวนแรงงานที่ใช้ในฟาร์ม..................คน 2. ประเภทการเลี้ยง 1. ( ) บ่อดิน 2. ( ) กระชัง 3. ( ) บ่อพลาสติก 4. ( ) บ่อซีเมนต์ 5. ( ) อื่นๆ ระบุ 3. ชนิดการเลี้ยง 1. ( ) ปลาน้ าจืด 2. ( ) ปลาทะเล 3. ( ) สัตว์น้ าอื่นๆ 4. พื้นที่การเลี้ยง .....................ไร่....................งาน....................ตรม. จ านวน..................บ่อ 5. ผลผลิตปีที่ผ่านมา..................................กิโลกรัม/ไร่
314 การปล่อย บ่อที่................ขนาดบ่อ.................................ไร่.................งาน.................ตรม. ว/ด/ป การเตรียมบ่อ ชนิดปลา ขนาด (ซม.) น้ าหนัก (กรัม) จ านวน ปลา (ตัว) ระยะเวลา การเลี้ยง (เดือน) ปูนขาว (กก.) ปุ๋ยคอก (กก.) การเลี้ยง/การให้อาหาร บ่อที่................ขนาดบ่อ.................................ไร่.................งาน.................ตรม. ว/ด/ป ชนิดปลา จ านวน อาหารที่ ให้ (กก.) ผลการเจริญเติบโต (สุ่ม) ระยะเวลา (วัน) อัตราการ เจริญเติบโต (กรัม/วัน) น้ าหนัก (กรัม) ความยาว (ซม.)
315 ผลการจับ บ่อที่................ขนาดบ่อ.................................ไร่.................งาน.................ตรม. ว/ ด/ ป ชนิด ปลา ผลการจับ จ านวน เลี้ยง (ตัว) ผลการจับครั้งที่ ผลการสุ่ม/ประเมิน น้ าหนัก (กรัม) ความ ยาว (ซม.) 1 (กก.) 2 (กก.) 3 (กก.) รวม (กก.) น้ าหนัก (กรัม) ความ ยาว (ซม.) น้ าหนัก รวม (กก.) % การ สุ่ม รวม น้ าหนัก (กก.) ปัญหาและอุปสรรคที่พบ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ การจัดท าบัญชี ความหมายของการบัญชี การบัญชี หมายถึง การจดบันทึกรายการค้าต่างๆเกี่ยวกับรายรับ รายจ่ายเงินสด เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ทรัพย์สินและเรื่องอื่นๆและแสดงฐานะทางการเงินของธุรกิจไว้ในสมุดบันทึกบัญชีอย่าง สม่ าเสมอ อย่างเป็นระบบ เป็นระเบียบ ถูกต้องตามหลักบัญชี และแสดงผลการด าเนินงานและ ฐานะทางการเงินของกิจการในระยะงวดบัญชี เจ้าของธุรกิจสามารถน าผลของบัญชีฟาร์มต่างๆมาใช้ ในการบริหารและการจัดการธุรกิจ ประโยชน์ของการท าบัญชี การจัดท าบัญชีรายรับ-รายจ่ายแต่ละวันมีประโยชน์ทั้งในการด าเนินชีวิตส่วนบุคคล
316 และครอบครัว ในกรณีที่ท าธุรกิจบ่อเลี้ยงปลาน้ าจืดการจัดท าบัญชียิ่งมีความจ าเป็นอย่างยิ่ง การ จัดท าบัญชีมีประโยชน์ดังนี้(อุธร , 2548) 1. เครื่องช่วยจ ารายการเงินรับและจ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจ าวันของแต่ละครัวเรือน มีรายการมากบ้างน้อยบ้าง ถ้าไม่รู้จักบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเก็บไว้ เมื่อนานวันเข้าก็อาจจะลืม ว่าได้รับเงินอะไรมาบ้างจ่ายอะไรไปบ้าง 2. ช่วยคุมการใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว ท าให้รู้ว่าเงินสดที่เหลืออยู่ในมือนั้นได้มาทาง ไหนบ้าง เป็นเงินเท่าไร แล้วใช้จ่ายเป็นค่าอะไรบ้างเป็นเงินเท่าไร ฟุ่มเฟือยเกินฐานะหรือเงินที่มีอยู่ นั้นหรือไม่ อาศัยตัวเลขข้อมูลที่จดไว้นั้นเตือนตัวเองให้รู้จักใช้เงิน และหาทางลดรายจ่ายที่ไม่จ าเป็น ลง 3. รู้ผลก าไรหรือขาดทุน ถ้าท าธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือกรณีประกอบอาชีพการ เพาะเลี้ยงปลาน้ าจืดก็สามารถรู้ว่ากิจกรรมที่ท าไปนั้นมีก าไรหรือขาดทุน โดยอาศัยการบันทึก ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อหาต้นทุน ซึ่งจะน าไปหักกับรายได้ที่บันทึกไว้ก็จะทราบว่าได้ก าไรหรือขาดทุน เท่าไรบ้าง และมีสาเหตุจากด้านใด 4. ใช้เป็นข้อมูลยืนยัน การบันทึกไว้อย่างเป็นระเบียบ และมีเอกสารหรือใบเสร็จเก็บรักษาไว้ เป็นหลักฐานประกอบการบันทึก นอกจากจะช่วยทบทวนความจ าได้ทันทีและถูกต้องแม่นย าแล้ว รายรับรายจ่ายต่าง ๆ ที่จดไว้สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ด้วย เช่น 4.1 ใช้ยืนยันกับสหกรณ์หรือแหล่งเงินกู้ ให้เห็นประสิทธิภาพการบริหารงานด้าน การเงิน 4.2 ใช้ยืนยันกับคนในครอบครัวและเพื่อนบ้าน เช่น ถ้าคนในครอบครัว หรือ เพื่อนบ้านอยากรู้ว่าแต่ละครอบครัวบริจาคช่วยเหลือกิจการสาธารณะหรืองานท าบุญต่าง ๆ ได้รับเงิน ช่วยเหลือจากโครงการของทางราชการและเอกชนเป็นเงินเท่าไร จะได้ใช้หลักฐานที่จัดท าบัญชีไว้ อย่างละเอียดยืนยันได้ 4.3 ใช้ยืนยันหรือชี้แจงกับหน่วยราชการต่าง ๆ ที่ต้องการรู้ตัวเลขรายได้และ ค่าใช้จ่ายต้นทุนในการด าเนินงานกิจการเพาะเลี้ยงปลาน้ าจืดของเกษตรกร เพื่อทางราชการจะได้น า ตัวเลขเหล่านี้ไปประกอบการก าหนดนโยบาย และแผนงานช่วยเหลือเกษตรกรได้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินธุรกิจ ควรมีการจัดท าบัญชีต่างๆดังนี้ 1. บัญชีรายรับ คือ บัญชีที่บันทึกรายการเกี่ยวกับรายรับที่เป็นตัวเงินที่ฟาร์มได้รับเป็นเงิน สด เช่น การขายปลา 2. บัญชีรายจ่าย คือ บัญชีที่บันทึกรายการเกี่ยวกับรายจ่ายที่เป็นตัวเงิน ซึ่งกิจการฟาร์มได้ จ่ายไปเป็นเงินสด เช่น ค่าแรงงาน ค่าวัสดุการผลิต เป็นต้น
317 3. บัญชีลูกหนี้ คือ บัญชีที่บันทึกรายการที่เกี่ยวกับจ านวนเงินได้ ที่กิจการยังไม่ได้รับจาก การขายผลผลิต (ขายเชื่อ) ซึ่งกิจการถือว่าเป็นทรัพย์สินของกลุ่มผู้ผลิต 4. บัญชีเจ้าหนี้ คือ บัญชีบันทึกรายการเกี่ยวกับจ านวนเงินที่กิจการมีภาระผูกพันที่ต้องจ่าย ให้บุคคลภายนอก (ซื้อเชื่อ) และต้องช าระภายหลัง ซึ่งถือว่าเป็นหนี้สินของกิจการ 5. บัญชีสินทรัพย์ คือ บัญชีที่บันทึกรายการค้าเกี่ยวกับสิ่งที่มีมูลค่าเป็นตัวเงินซึ่งบุคคลหรือ กิจการเป็นเจ้าของ เช่น เงินสด ลูกหนี้ โรงเรือน เป็นต้น บัญชีทรัพย์สินมีไว้เพื่อแสดงรายการ ทรัพย์สินต่างๆของฟาร์มที่ได้มาโดยการซื้อหรือจัดหา เพื่อไว้ส าหรับการด าเนินงานและกิจการต้องมี การคิดค่าเสื่อมราคาในวันสิ้นปี 6. บัญชีค่าแรงงานที่ไม่จ้าง คือ การบันทึกรายการค่าแรงที่เป็นตัวเองที่กิจการไม่ได้จ่ายเป็น ตัวเงิน 7. บัญชีก าไรขาดทุน เป็นบัญชีการเงินที่ท าขึ้นเพื่อแสดงผลของการด าเนินงานในระยะใด ระยะหนึ่ง ว่ากิจการฟาร์มมีรายได้ทั้งสิ้นเท่าใด มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นเท่าใด เมื่อน ามาหักลบกลบกัน จะได้ส่วนต่างๆที่แสดงว่ากิจการมีก าไรสุทธิ (รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย) หรือขาดทุนสุทธิจ านวนเท่าใด (รายได้ต่ ากว่าค่าใช้จ่าย) ซึ่งจะแสดงรายการก าไรหรือขาดทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นในรอบการ ด าเนินงานหนึ่งๆ บัญชีก าไรขาดทุนจึงเป็นงบที่แสดงถึงความสามารถของกิจการว่ามีก าไรหรือขาดทุน เท่าใด สมการทางบัญชี สมการทางบัญชี คือสมการที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ (หรือทุน ในกรณีเป็นบุคคลหรือกิจการเจ้าของคนเดียว) สมการทางบัญชีมีรูปแบบง่ายๆ ในการค านวณทางบัญชีที่เขียนเป็นรูปสมการได้ดังนี้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของหรือทุน การบันทึกสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของหรือทุนที่ถูกต้องจะท าให้สามารถวิเคราะห์ สภาพทางการเงินของกิจการค้าได้ การท าความเข้าใจความหมายของสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของ เจ้าของหรือทุน ท าให้เป็นพื้นฐานในการเข้าใจสมการทางบัญชี และน าไปสู่การบันทึกรายการของ กิจการค้าได้อย่างถูกต้อง ความหมายของสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของหรือทุน มีดังนี้ (นิตยา , 2533) สินทรัพย์ หมายถึง เงิน หรือ สิ่งของที่มีมูลค่าเป็นเงิน ซึ่งบุคคลหรือกิจการค้าเป็นเจ้าของ อาจเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตน เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร ลูกหนี้ วัสดุส านักงาน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ อาคาร ที่ดิน เป็นต้น หรือสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน เช่น ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายทางการค้า ค่าความนิยม เป็นต้น
318 หนี้สิน หมายถึง ภาวะผูกพันที่บุคคลหรือกิจการค้าเป็นหนี้บุคคลภายนอก ได้แก่ เจ้าหนี้ เงินกู้ เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. หนี้สินหมุนเวียน เป็นหนี้สินที่มีระยะเวลาในการช าระคืนสั้นภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่น เงินเบิกเกินบัญชี ธนาคาร ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้การค้า เป็นต้น 2. หนี้สินระยะยาว เป็นหนี้สินที่มีระยะเวลาช าระหนี้คืนระยะเวลาเกิน 1 ปี เช่น หุ้นกู้ เงินกู้ยืมระยะยาว เป็นต้น ส่วนของเจ้าของ หมายถึง ส่วนในสินทรัพย์ที่บุคคลหรือกิจการค้าเป็นเจ้าของซึ่งไม่รวม สินทรัพย์ส่วนที่เป็นหนี้สิน ในกรณีที่เป็นบุคคลหรือกิจการเจ้าของคนเดียวอาจเรียกส่วนของเจ้าของ ว่าทุน ดังนั้นฐานะทางการเงินของหน่วยกิจการค้า สามารถอธิบายถึงความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ที่ มีต่อหนี้สินและทุน ในรูปของสมการทางบัญชี ดังแสดงในตัวอย่าง เช่น มีสินทรัพย์รวม 350,000 บาท มีหนี้สินรวม 50,000 บาท และทุน 300,000 บาท การแทนค่าในสมการทางบัญชีจะเป็น ดังนี้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน 350,000 = 50,000 + 300,000 ซึ่งจะเห็นได้ว่าการบันทึกรายการในสมการบัญชี ผลที่ได้จะมีค่าเท่ากันทั้งสองด้าน คือ สินทรัพย์ จะต้องมีค่าเท่ากับหนี้สินและทุนเสมอ การท าบัญชีอย่างง่าย ธุรกิจต่างๆเมื่อมีรายการค้าเกิดขึ้นในแต่ละวัน และรายการต่างๆเหล่านั้นก่อให้เกิดผลการ เปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนทุนของกิจการ นั่นคือท าให้ฐานะการเงินของกิจการ เปลี่ยนแปลงไป หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงในรูปของสมการบัญชีเสมอ ดังนั้นเมื่อมีรายการค้าเกิดขึ้น จ าเป็นต้องมีแบบฟอร์มใช้ในการบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้น เพื่อสะดวกในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ และประหยัดเวลาไม่ต้องท างบดุลใหม่ทุกครั้ง แบบฟอร์มที่ใช้ในการบันทึกบัญชีเรียกว่าบัญชี (Account) ซึ่งจะรวบรวมรายการค้าไว้เป็นหมวดหมู่หรือประเภท และได้ก าหนดให้มีการบันทึก รายการที่เกิดขึ้นในสมุดรายวันและในบัญชีก่อนจะท าการปิดบัญชี ณ วันสิ้นงวดบัญชี แล้วน ามา สรุปผลและจัดท างบการเงิน คือ งบก าไรขาดทุน และงบดุล การท าบัญชีอย่างง่ายสามารถท าได้ดังนี้(นิตยา , 2533) 1. น าข้อมูลทางการเงินของธุรกิจในระหว่างการด าเนินธุรกิจมาแยกประเภท ว่าเป็นรายรับ ที่เป็นเงินสด รายจ่ายที่เป็นเงินสด ลูกหนี้ เจ้าหนี้ สินทรัพย์ หรือค่าแรงที่ไม่จ้าง 2. บันทึกข้อมูลที่แยกประเภทแล้วในบัญชีแต่ละชนิด
319 3. เมื่อสิ้นสุดการด าเนินทางธุรกิจให้รวบรวมผลของข้อมูลในบัญชีแต่ละชนิดมาลงในบัญชี ก าไรขาดทุน โดยทวงหนี้จากลูกหนี้ตามบัญชีลูกหนี้ แล้วน าข้อมูลมารวมกับบัญชีรายรับที่เป็นเงินสด ผลรวมนี้ถือเป็นรายการรายรับ และช าระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามบัญชีเจ้าหนี้ แล้วน าข้อมูลมารวมกับ บัญชีรายจ่ายที่เป็นเงินสด ผลรวมนี้ถือว่าเป็นรายการรายจ่าย 4. ข้อมูลบัญชีสินทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน หมายถึง ทรัพยากรที่มีอายุการใช้งาน มากกว่า 1 ปี เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เป็นต้น ให้น ามาค านวณค่าเสื่อมราคา ส่วนนี้ถือเป็น รายการจ่าย การค านวณค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมราคา = ราคาสินทรัพย์ทั้งหมด x จ านวนวันที่ใช้งาน (วัน) อายุการใช้งาน (วัน) มูลค่าสินทรัพย์คงเหลือ = ราคาสินทรัพย์ทั้งหมด – ค่าเสื่อราคา 5. การท างบก าไรขาดทุน เป็นงบที่แสดงถึงผลการด าเนินงานของกิจการค้าในรอบ ระยะเวลาที่แจ้งไว้ในงบนั้น หรือเป็นการเปรียบเทียบผลต่างระหว่างรายได้และค่าใช้จ่าย หาก รายรับมากกว่ารายจ่าย ผลต่างคือก าไรสุทธิ (ขั้นต้น) หากรายรับน้อยกว่ารายจ่ายผลต่างคือขาดทุน สุทธิ (ขั้นต้น) รายได้รวม > ค่าใช้จ่าย = ก าไรสุทธิ รายได้รวม < ค่าใช้จ่ายรวม = ขาดทุนสุทธิ 6. ส าหรับค่าแรงงานที่ไม่จ้าง (หากมี) ให้น ามาใช้เมื่อแบ่งผลประโยชน์จากการด าเนินธุรกิจ ดังนี้ 6.1 หลังจากค านวณหาก าไรหรือขาดทุนสุทธิ (ขั้นต้น) แล้วหากมีผลก าไรให้หักเงิน ลงทุนขั้นต้นที่เป็นค่าหุ้นคืนสมาชิกแต่ละคน หรือคืนโครงการตามข้อก าหนด 6.2 จากนั้นให้ค านวณหายอดค่าแรงงานที่สามารถจ่ายได้ แล้วจ่ายให้สมาชิกตาม ความเหมาะสม ส่วนนี้ถือเป็นรายจ่ายของกิจการให้หักออกจากก าไรสุทธิ (ขั้นต้น)
ตัวอย่างแบบฟอร์มบัญชีแบบต่างๆ แบบฟอร์มบัญชีรายรับ พ.ศ. ...................... ที่เอกสาร รายการรับ (เงินสด) จ านวนเงิน เดือน วันที่ บาท สต. รวมทั้งสิ้น ยอดยกไป แบบฟอร์มบัญชีรายจ่าย พ.ศ. ...................... ที่เอกสาร รายการจ่าย (เงินสด) จ านวนเงิน เดือน วันที่ บาท สต. รวมทั้งสิ้น ยอดยกไป
321 แบบฟอร์มบัญชีลูกหนี้ พ.ศ. ...................... ที่เอกสาร รายการลูกหนี้ จ านวนเงิน เดือน วันที่ บาท สต. รวมทั้งสิ้น ยอดยกไป แบบฟอร์มบัญชีเจ้าหนี้ พ.ศ……….... ที่เอกสาร รายการเจ้าหนี้ จ านวนเงิน ช าระเงิน ยอดคงเหลือ เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต. บาท สต. รวมทั้งสิ้น
322 แบบฟอร์มบัญชีทรัพย์สิน พ.ศ……….. ที่เอกสาร รายการ มูลค่าต้นปี มูลค่าปลายปี เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต. รวมทั้งสิ้น บัญชีค่าแรงงานที่ไม่จ้าง ล าดับที่ รายการ แรงงาน จ านวนชั่วโมง ราคาต่อชั่วโมง (บาท/หน่วย) รวมเงิน บาท สต. รวม
323 งบก าไร-ขาดทุน ส าหรับงวด.........................วัน สิ้นสุดวันที่...................................... หน่วย : บาท รายได้จากการจ าหน่าย .................................................... ต้นทุนวัตถุดิบและวัสดุ .................................................... ค่าใช้จ่ายในการขาย ..................................................... ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ ..................................................... รวมค่าใช้จ่าย ..................................................... ก าไร/ขาดทุนสุทธิ ...................................................... การบันทึกการปฏิบัติงานและการท าบัญชีอาจมีรายละเอียด และรูปแบบแตกต่างกันไปตาม ประเภทของกิจการหรือตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล เมื่อมีการน าข้อมูลที่ท าบัญชีและจดบันทึก ไว้มาสรุป และวิเคราะห์เพื่อพิจารณาผลการด าเนินงาน ทั้งในด้านการผลิต ก าไร ขาดทุนและ ฐานะทางการเงินที่ผ่านมาว่ามีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด มีข้อบกพร่องอะไรบ้างที่ต้องปรับปรุง แก้ไข เพื่อที่จะได้น าไปใช้เพื่อวางแผนงานให้เหมาะสมและมีการพัฒนาในปีต่อๆไป สรุป การจดบันทึกกิจการต่างๆของฟาร์มเลี้ยงปลาลงในบัญชี และสมุดบันทึกกิจการฟาร์มเลี้ยง ปลาอย่างมีระบบแบบแผน และการท าบัญชีนั้นเป็นสิ่งส าคัญ และจ าเป็นอย่างยิ่งของธุรกิจฟาร์ม เลี้ยงปลาสมัยใหม่ เพราะว่าข้อมูลและข่าวสารต่างๆที่จดบันทึกไว้นั้นมีประโยชน์เพื่อน ามาวิเคราะห์ ประเมินผลผลิต และวินิจฉัยสถานภาพทางการเงิน ปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนความส าเร็จใน กิจการฟาร์มเลี้ยงปลา และน ามาประกอบการพิจารณาตัดสินใจแก้ปัญหา และปรับปรุงแผนการ ด าเนินงานธุรกิจฟาร์มเลี้ยงปลาให้บรรลุเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ค าถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 14 จงตอบค าถามต่อไปนี้ 1.จงบอกจุดประสงค์ของการบันทึกข้อมูลฟาร์มเลี้ยงปลาและการน าข้อมูลไปใช้ประโยชน์? 2.ในการบันทึกข้อมูลการจัดการฟาร์มเลี้ยงปลาจะต้องบันทึกในด้านใดบ้างจงอธิบาย ? 3.จงบอกรูปแบบและวิธีการในการท าบัญชีฟาร์ม ?
324 กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ใบงานที่ 16 ชื่อใบงาน การบันทึกข้อมูลและการท าบัญชี จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถท าการบันทึกข้อมูลส าหรับการเลี้ยงปลาได้ 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถท าบัญชีฟาร์มเลี้ยงปลาได้ เครื่องมือ / อุปกรณ์ 1. เครื่องคิดเลข 2. โจทย์ส าหรับการบันทึกข้อมูลและท าบัญชีฟาร์มเลี้ยงปลาน้ าจืด 3. กระดาษบันทึก ล าดับขั้นการปฏิบัติงาน 1. ครูก าหนดโจทย์ส าหรับการบันทึกข้อมูลและท าบัญชีฟาร์มเลี้ยงปลาน้ าจืด 2. ให้นักเรียนฝึกการบันทึกข้อมูลและท าบัญชีฟาร์มเลี้ยงปลาน้ าจืด การวัดและประเมินผล 1. ประเมินจากรายงานผลการปฏิบัติงาน 2. ประเมินจากความถูกต้องของผลงาน
แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 14 วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง การบันทึกข้อมูลและการท าบัญชี ค าแนะน า ให้นักเรียนอ่านค าถามแล้วกากะบาด (X) ทับข้อค าตอบที่ถูกที่สุดเพียงค าตอบเดียว ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. จุดประสงค์ของการบันทึกข้อมูลฟาร์มเลี้ยงปลาข้อใดส าคัญที่สุด ? ก. วัดผลก าไรและสถานการณ์ทางการเงินของฟาร์มเลี้ยงปลา ข. ให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาขอเงินกู้ ค. ใช้วัดผลก าไรของกิจการแต่ละกิจการ ง. ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายการลงทุน 2. ในกิจกรรมทางธุรกิจของฟาร์มเลี้ยงปลาจะมีกิจกรรมทางธุรกิจ 3 ส่วนหลักยกเว้นในข้อใด ? ก. กิจกรรมทางการผลิต ข. กิจกรรมทางการลงทุน ค. กิจกรรมทางสังคม ง. กิจกรรมทางการเงิน 3. ธุรกิจที่ด าเนินการโดยปราศจากข้อมูลใดๆหรือมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยอาจเปรียบได้กับข้อใด ? ก. การล่องลอยกลางทะเลโดยปราศจากหางเสือหรืออุปกรณ์ช่วยเดินเรือ ข. การจับเสือมือเปล่า ค. การขี่ช้างจับตั๊กแตน ง. การงมเข็มในมหาสมุทร 4. ในการบันทึกข้อมูลการจัดการฟาร์มควรจะมีการบันทึกในด้านใดบ้าง ? ก. การปล่อยปลาลงบ่อ การให้อาหาร ข. การตรวจน้ าหนักเพื่อดูความเจริญเติบโตเป็นครั้งคราว ค. การใส่ปุ๋ย การจับครั้งสุดท้าย ง. ถูกทุกข้อ 5. ประโยชน์ที่จะได้รับจากการบันทึกข้อมูลการจัดการฟาร์มข้อใดส าคัญที่สุด ? ก. ท าให้รู้ถึงสภาวะของบ่อที่จะให้ผลผลิตในการเลี้ยงปลา ข. ท าให้รู้ถึงปริมาณการให้อาหารในช่วงระยะเวลาการเลี้ยง ค. ท าให้รู้ถึงอัตราการแลกเนื้อ ง. ท าให้รู้ถึงอัตราการรอด และผลก าไร
326 6. ประโยชน์ของการท าบัญชีฟาร์มข้อใดส าคัญที่สุด ? ก. เป็นเครื่องช่วยจ ารายการเงินรับและรายจ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ข. ช่วยคุมการใช้จ่าย ลดรายจ่ายที่ไม่จ าเป็นลง ค. ท าให้รู้ผลก าไรหรือขาดทุน ง. เป็นข้อมูลยืนยันกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันทางการเงิน 7. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องบัญชีฟาร์ม ? ก. เป็นหลักฐานในการค านวณในด้านก าไรหรือขาดทุนในเวลาสิ้นปีหรือรอบปี ข. ด้านซ้ายเป็นด้านจ่ายหรือใช้จดรายจ่ายต่าง ๆด้านขวาเป็นด้านรับหรือใช้จด รายรับต่าง ๆ ค. ระบบบัญชีส่วนใหญ่เลือกใช้รอบบัญชีตามปีปฏิทิน ง. บัญชีเงินสด บันทึกข้อมูลรายได้และรายจ่ายเมื่อมีรายรับหรือรายจ่ายที่เป็นเงินสด เกิดขึ้น 8. ข้อใดหมายถึงรายรับในระบบของการบัญชี ? ก. เงินที่ขอกู้มาขุดบ่อเลี้ยงปลา ข. เงินจากการขายผลผลิต ค. เงินรางวัล เงินค่าจ้าง รับมรดก ลูกแบ่งให้ใช้ ง. ถูกทุกข้อ 9. ข้อใดหมายถึงรายจ่ายในระบบของการบัญชี ? ก. จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ข. จ่ายเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม ค. การจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ง. ถูกทุกข้อ 10. ผู้จัดการฟาร์มควรมีความรู้ในด้านใดบ้าง ? ก. ความรู้ด้านการบริหารงานและการตลาด ข. ความรู้ด้านการประมง และการเงินการบัญชี ค. ความรู้ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การค้าระหว่างประเทศ ง. ถูกทุกข้อ
327 บรรณานุกรม กรมประมง . 2542 . การเพาะเลี้ยงไรแดง . เอกสารค าแนะน า , กองส่งเสริมการประมง. กรมประมง . 2542 . การป้องกันและก าจัดโรคปลา . เอกสารค าแนะน า , กองส่งเสริมการประมง. กรมประมง . 2542 . การเพาะเลี้ยงปลานิลแปลงเพศ . กองประมงน้ าจืด, กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์. กรมประมง . 2542 . การเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย . เอกสารค าแนะน า , กองส่งเสริมการประมง. กองวิทยาลัยเกษตรกรรม . 2535 . การผสมเทียมปลาน้ าจืดบางชนิด . เอกสารเผยแพร่โครงการ บริการ ทางวิชาการการเกษตรเพื่อชุมชน , กองวิทยาลัยเกษตรกรรม . กรมอาชีวศึกษา. ธรรมนูญ ศิริพันธุ์ . 2535 . การเพาะเลี้ยงลูกปลา . ฝ่ายวิชาการ , วิทยาลัยเกษตรกรรมพัทลุง. ปกรณ์ อุ่นประเสริฐ . 2532 . การเพาะเลี้ยงปลาน้ าจืด . กรุงเทพฯ : โอ.เอส. พริ้นติ้งเฮ้าส์. ประณีต งามเสน่ห์ . 2531 . การผสมพันธุ์ปลา . ภาควิชาเทคโนโลยีทางสัตว์ คณะผลิตกรรมการ เกษตร , สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้. ปภาศิริ ศรีโสภาภรณ์ . 2538 . โรคและพยาธิของสัตว์น้ า . กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์รั้วเขียว. ภาณุ เทวรัตน์มณีกุล และคณะ . 2545 . การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าจืด . ส านักงานฝ่ายฝึกอบรม , ศูนย์ พัฒนาการประมงแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มั่นสิน ตุณฑุลเวศน์ และไพรพรรณ พรประภา . 2533 . การจัดการคุณภาพน้ าและการบ าบัดน้ า เสีย ในบ่อเลี้ยงปลาและสัตว์น้ าอื่น ๆ . โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. วีรพงศ์ วุฒิพันธุ์ชัย . 2536 . อาหารปลา . คณะวิทยาศาสตร์ , มหาวิทยาลัยบูรพา. วีรพงศ์ วุฒิพันธุ์ชัย . 2536 . การเพาะพันธุ์ปลา . คณะวิทยาศาสตร์ , มหาวิทยาลัยบูรพา. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาชีวศึกษา 5 . 2543 . การเพาะพันธุ์สัตว์น้ า . หนังสือประกอบการเรียน,หน่วย ศึกษานิเทศน์ กรมอาชีวศึกษา.
328 สุภาพร สุกสีเหลือง . 2538 . การเพาะขยายพันธุ์ปลา . คณะประมง , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สุภาพร สุกสีเหลือง . 2542 . มีนวิทยา . ภาควิชาชีววิทยา . คณะประมง,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สะเทื้อน ปิ่นน้อย . 2536 . หลักการจัดการฟาร์มสัตว์น้ า . ภาควิชาการจัดการประมง , คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทัยรัตน์ ณ นคร . 2538 . การเพาะขยายพันธุ์ปลา . คณะประมง , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ประวัติผู้เรียบเรียง นางบุญยนุช แก้วมณี การศึกษา - ปวส. เกษตรกรรม วิทยาลัยเกษตรระนอง. - วท.บ. ประมง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล คณะเกษตรศาสตร์บางพระ การท างาน - 2551 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก - 2553-2557 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร - 2542 – 2545 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก - 2546-2550 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม - 2558 – ปัจจุบัน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ประสบการณ์ - 2552 ศึกษาดูงานด้านการเกษตร ณ. ประเทศเวียตนาม - 2558 ศึกษาดูงานด้านมาตรฐานฝีมือแรงงาน ณ ประเทศลาว - มีผลงานการวิจัยจ านวน 10 เรื่อง ประกอบด้วยการวิจัยด้านการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาชุมชน และกระบวนการเรียนรู้ของชุมชน ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก ส านักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ - เรียบเรียงเอกสารประกอบการสอนและการอบรมเรื่อง คู่มือการเลี้ยงกบเชิงพาณิชย์ - เรียบเรียงเอกสารการสอนวิชา การเพาะเลี้ยงปลา - เรียบเรียงเอกสารการสอนวิชา หลักการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ า - เรียบเรียงเอกสารการสอนวิชา การประมงทั่วไป