291 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 5 รหัสวิชา อ33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาและเรียนรู้การใช้ทักษะทางภาษาในการพูด การฟัง การอ่านและการเขียนแสดง ความต้องการ การเสนอตอบรับ ปฏิเสธ การสนทนาในการให้ข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน เช่น ศึกษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายในสมัยนิยม ศึกษาเกี่ยวกับโรคภัยการทำงาน ของสมองการสูญเสียความจำ ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยี และคำกล่าว แสดงความเสียดายโอกาสหรือความเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีต และเรียนรู้ปรากฏการณ์ ธรรมชาติ สำนวนภาษา สุภาษิตบรรยายความรู้สึก จากข่าว และเหตุการณ์ ประสบการณ์ในท้องถิ่น และสังคม ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การสนทนา การ อภิปราย และการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต อธิบายและเขียนประโยค ตีความถ่ายโอนข้อมูล ข้อความ ให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งจับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ แสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดี และบันเทิงคดี อธิบายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ ที่มาของขนบธรรมเนียม ประเพณี ของเจ้าของภาษา และเข้าร่วม แนะนำ จัดกิจกรรม ทางภาษา และวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม วิเคราะห์ อภิปราย ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล ค้นคว้า สืบค้น บันทึก สรุป และ แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆและ นำเสนอด้วยการพูดและการเขียน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความรู้ความเข้าใจในทักษะทางภาษาการฟัง การพูด การอ่านและการ เขียน เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำ ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการ ทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ต1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4 ต1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5 ต1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/3 ต2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3 ต2.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2 ต3.1 ม.4-6/1 ต4.1 ม.4-6/1 ต4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2 รวม 18 ตัวชี้วัด
292 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 รหัสวิชา อ33102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาและเรียนรู้การใช้ทักษะทางภาษาในการพูด การฟัง การอ่านและการเขียนแสดง ความต้องการ การเสนอตอบรับ ปฏิเสธ การสนทนาในการให้ข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน เช่น ศึกษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายในสมัยนิยม ศึกษาเกี่ยวกับโรคภัยการทำงาน ของสมองการสูญเสียความจำ ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานและนาโนเทคโนโลยี และคำกล่าว แสดงความเสียดายโอกาสหรือความเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้วหรือไม่ได้ทำในอดีต และเรียนรู้ปรากฏการณ์ ธรรมชาติ สำนวนภาษา สุภาษิตบรรยายความรู้สึก จากข่าว และเหตุการณ์ ประสบการณ์ในท้องถิ่น และสังคม ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การสนทนา การ อภิปราย แลการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต อธิบายและเขียนประโยค ตีความถ่ายโอนข้อมูล ข้อความให้ สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งจับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ แสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดี และบันเทิงคดี อธิบายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ ที่มาของขนบธรรมเนียม ประเพณี ของเจ้าของภาษา และเข้าร่วม แนะนำ จัดกิจกรรม ทางภาษาและ วัฒนธรรมอย่างเหมาะสม วิเคราะห์ อภิปราย ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล ค้นคว้า สืบค้น บันทึก สรุป และแสดง ความคิดเห็น เกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆและนำเสนอ ด้วยการพูดและการเขียน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความรู้ความเข้าใจในทักษะทางภาษาการฟัง การพูด การอ่านและการ เขียน มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการ แก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถ นำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และ ทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ต1.1 ม. 4-6/1, ม. 4-6/4 ต1.2 ม. 4-6/1, ม. 4-6/2, ม. 4-6/3, ม. 4-6/4, ม. 4-6/5 ต1.3 ม. 4-6/1, ม. 4-6/3 ต2.1 ม. 4-6/1, ม. 4-6/3 ต2.2 ม. 4-6/1, ม. 4-6/2 ต3.1 ม. 4-6/1 ต4.1 ม. 4-6/1 ต4.2 ม. 4-6/1, ม. 4-6/2 รวม 17 ตัวชี้วัด
293 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 รหัสวิชา อ21201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ใช้ภาษาท่าทางสื่อสารตามมารยาทสังคมในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ขอและให้ข้อมูลความ ช่วยเหลือและบริการผู้อื่น สื่อความหมาย และถ่ายโอนข้อมูลที่ได้ฟังและอ่าน อ่านออกเสียง คำ วลี สำนวนง่ายๆ ประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ข้อความ ข้อมูล บทอ่าน เรื่องราวสั้นๆ ทั้งที่เป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียง แล้วถ่ายโอนเป็นถ้อยคำของตนเองในรูปแบบต่างๆ สรุป แสดงความคิดเห็น ความรู้สึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของ ตนเอง ข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญต่างๆในชีวิตประจำวัน เหตุการณ์ส่วนตัว การศึกษา การทำงาน เทคโนโลยี งาน ประเพณี วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การสนทนา การ อภิปราย แลการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถ ในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. เข้าใจภาษาท่าทาง น้ำเสียง ความรู้สึกของผู้พูด คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบายที่พบในสื่อจริง 2. เข้าใจ และตีความสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆ แล้วถ่ายโอนเป็นข้อความที่ใช้ถ้อยคำของตนเองได้ 3. เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ข้อความ ข้อมูล ข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ ในชีวิตประจำวัน 4. ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสามารถดำเนินการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษา 5. ใช้ภาษาเพื่อแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนทางภาษาและผลจากการฝึกทักษะต่างๆ 6. นำเสนอข้อมูล เรื่องราวสั้นๆ หรือกิจวัตรประจำวัน 7. นำเสนอบทเพลง เหตุการณ์ หรือข้อมูลจากสื่อประเภทต่างๆ ตามความสนใจด้วยความสนุกสนาน 8. ใช้ภาษาและท่าทางในการสื่อสารได้เหมาะสมกับบุคคล และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 9. รู้ที่มาและเหตุผลของประเพณี วันสำคัญของชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 10. เข้าใจความแตกต่างระหว่างเจ้าของภาษาอังกฤษกับภาษาไทย ในเรื่อง คำ วลี สำนวน ประโยคง่ายๆ และ นำไปใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม 11. เห็นคุณค่าและเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ 12. ตระหนักในคุณค่าของภาษาและวัฒนธรรมที่เรียน นำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรม มา ประยุกต์ในการพัฒนาตนเอง 13. ใช้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นด้วยวิธีการที่หลากหลาย 14. ใช้ภาษาอังกฤษเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของชุมชนและท้องถิ่น รวม 14 ผลการเรียนรู้
294 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 1 รหัสวิชา อ21202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต อ่านออกเสียง คำ วลีประโยคสั้นๆ นิทาน บทอ่าน ถ่ายโอนข้อมูลที่ได้จากบทอ่านสั้นๆจาก สื่อสิ่งพิมพ์ที่อยู่ในความสนใจทั้งที่เป็นความเรียง และไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆ เขียนเรื่องราว เกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน สถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศในการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้อง กับกลุ่มสาระอื่น ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างมีความสุข เห็นคุณค่าของการเรียน ภาษาอังกฤษ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างมีความสุข โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การ สนทนา การอภิปราย แลการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่า ของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มี คุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. อ่านออกเสียงบทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการอ่านเสียงและเหมาะสมกับเนื้อหาที่อ่าน 2. เข้าใจและตีความสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆโดยถ่ายโอนข้อความที่ใช้ถ้อยคำของตนเอง 3. นำเสนอข้อมูล เรื่องราวสั้นๆ กิจวัตรประจำวัน สถานศึกษา 4. ใช้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นด้วยวิธีการที่ หลากหลาย 5. เห็นคุณค่าและเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ รวม 5 ผลการเรียนรู้
295 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 รหัสวิชา อ22201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ใช้ภาษา น้ำเสียง ท่าทางในการสนทนาโต้ตอบ สอบถามข้อมูลที่ต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ให้ เหมาะสม ถูกต้องตามหลักภาษา และมารยาททางสังคม อ่านสื่อต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อเทคโนโลยีที่ เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น สุขภาพ อนามัย อาหาร การท่องเที่ยว เขียนบรรยาย บันทึก จดหมาย และ ความเรียงจากแผนภูมิ ตาราง สัญลักษณ์ต่างๆ โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสม สนใจและจัดกิจกรรมที่ หลากหลาย อ่านออกเสียง คำสั่ง สำนวนง่ายๆ ประโยค คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบาย ข้อความที่ซับซ้อน ข้อมูล บทอ่านเรื่องราวสั้นๆ ทั้งที่เป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียงจากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แล้วถ่ายโอนเป็นถ้อยคำของตนเองในรูปแบบต่างๆ สรุปความคิดเห็นความต้องการ ความรู้สึกเกี่ยวกับ ประสบการณ์ของตนเอง บทกวีบทเพลง บทละครสั้น เปรียบเทียบข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญต่างๆ ใน ชีวิตประจำวัน ท้องถิ่น และสังคม ประสบการณ์ส่วนตัว การศึกษา การทำงาน เทคโนโลยี ประเพณีวัน สำคัญของชาติ ศาสนา วัฒนาธรรมไทยและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การสนทนา การ อภิปราย แลการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำ ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการ ทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. ฟังบทสนทนาตามสถานการณ์ต่างๆ แล้วจับใจความได้ 2. ฟังข้อมูลส่วนตัว คำอธิบาย เพลง โฆษณา ข่าว การเล่านิทาน การพยากรณ์อากาศ แล้วสรุป ใจความสำคัญหรือความคิดรวบยอดได้ 3. พูดตามสถานการณ์ที่กำหนดได้ เช่น การแนะนำตัวเอง เรื่องส่วนตัว ฯลฯ 4. สนทนา โต้-ตอบ หรือสอบถามข้อมูลในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ไปซื้อของ ถามทาง สมัครงาน 5. อ่านบทสนทนา นิทาน บทความ บทเพลง ข่าว แล้วจับใจความได้ 6. อ่านสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์สื่อเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น จดหมาย สัญลักษณ์ ต่างๆ แล้วสรุปใจความสำคัญได้ 7. พูดแสดงความคิดเห็น ความคิดรวบยอดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่กำหนดหรือเหตุการณ์ประจำวัน ได้ 8. เขียนข้อความแสดงความคิดเห็น ความคิดรวบยอดจากบทอ่านต่างๆ ที่กำหนดหรือตามความ ถนัดและความสนใจของผู้เรียนได้ 9. แสดงบทบาทจำลองตามสถานการณ์ต่างๆ ตามความถนัด และความสนใจของผู้เรียนได้เหมาะสม รวม 9 ผลการเรียนรู้
296 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวิชา อ22203 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ใช้ภาษา น้ำเสียงและท่าทางสื่อสารตามมารยาทสังคม และภาษาในการสื่อสารโดยใช้ เทคโนโลยีในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในการเรียน การทำงาน การสมัครงาน ขอและให้ ข้อมูลความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น ถ่ายโอนข้อมูลที่ได้ฟังและอ่าน อ่านออกเสียง คำ วลี สำนวน ง่ายๆ ประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบาย ข้อความ ข้อมูล บทอ่าน เรื่องราวสั้นๆ ทั้งที่เป็น ความเรียงและไม่ใช่ความเรียง จากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แล้วถ่ายโอนเป็นถ้อยคำของ ตนเองในรูปแบบต่างๆ สรุป แสดงความคิดเห็น ความต้องการ ความรู้สึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของ ตนเอง ข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ท้องถิ่นและสังคม ประสบการณ์ส่วนตัว การศึกษา การทำงาน เทคโนโลยี งานประเพณี วันสำคัญของชาติ ศาสนา วัฒนธรรมไทย และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมและเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การ สนทนา การอภิปราย แลการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่า ของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มี คุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. เข้าใจภาษาท่าทาง น้ำเสียง ความรู้สึกของผู้พูด รวมทั้งเข้าใจ คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบายที่พบในสื่อจริง 2. อ่านออกเสียงบทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียงและเหมาะกับเนื้อหาที่อ่าน 3. เข้าใจ และตีความสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆ โดยถ่ายโอนเป็นข้อความที่ใช้ถ้อยคำของ ตนเอง ได้และถ่ายโอนข้อความเป็นสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบอื่น 4. ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสามารถดำเนินการสื่อสาร ได้อย่าง ต่อเนื่องโดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษา 5. ใช้ภาษาเพื่อแสดงความคิดเห็น แสดงความต้องการของตน เสนอความช่วยเหลือและบริการผู้อื่น และวางแผนในการเรียน โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษา 6. ใช้ภาษาเพื่อขอหรือให้ข้อมูล อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ประสบการณ์ของตนเอง และสิ่งที่ตนสนใจ สร้างองค์ความรู้โดยใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนทาง ภาษาและผลจากการฝึกทักษะต่างๆ
297 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 7. ใช้ภาษาเพื่อแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้ง ให้เหตุผล โดยใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนทางภาษา และผลจากการฝึกทักษะต่างๆ รวมทั้ง แสวงหาวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับตนเอง 8. นำเสนอข้อมูล เรื่องราว รายงานเกี่ยวกับประสบการณ์ และเหตุการณ์หรือเรื่องทั่วไป 9. ใช้ภาษาและท่าทางในการสื่อสารได้เหมาะสมกับบุคคล และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 10. รู้ที่มาและเหตุผลของงานประเพณี วันสำคัญของชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 11. เห็นคุณค่าและเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ 12. เข้าใจและถ่ายทอดเนื้อหาสาระภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ จาก แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย 13. ใช้ภาษาอังกฤษตามสถานการณ์ต่างๆภายในสถานศึกษาและชุมชนด้วยวิธีการและรูปแบบที่ หลากหลาย 14. ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารในการทำงาน และสมัครงานในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์ จริง 15. ใช้ภาษาอังกฤษเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของชุมชน ท้องถิ่นหรือประเทศชาติใน การ ส่งเสริมหรือการร่วมมือทางสังคม รวม 15 ผลการเรียนรู้
298 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการนำเสนอ รหัสวิชา อ20205 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาคำศัพท์และสำนวนที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ในการนำเสนอ เทคนิคการนำเสนอและ วิธีการ รวยภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง รวมถึงการใช้สื่อต่างๆ ในการนำเสนอ โดยผ่านการเรียนรู้จากสื่อที่หลากหลายทันสมัย แล้วจากเทคนิคการนำเสนอรูปแบบ ต่างๆ กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญ สถานการณ์ กระบวนการคิดแก้ปัญหา มีการประเมินผลการเรียนรู้ตลอดระยะเวลาเรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การสนทนา การอภิปราย และการสืบค้นข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้ เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำ ภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. ใช้คำศัพท์ และสำนวนต่างๆ ในการนำเสนอได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 2. ใช้เทคนิคการนำเสนอที่เหมาะสม และมีขั้นตอนการนำเสนอที่ถูกต้อง 3. นำเสนอข้อมูลต่างๆ โดยใช้สื่อที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม 4. มีเจตคติที่ดีต่อการนำเสนอข้อมูลด้วยภาษาอังกฤษ รวม 4 ผลการเรียนรู้
299 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาการสื่อสารภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ20202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ใช้ภาษาสื่อสารโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม ใน สถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคมเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ชีวิตความเป็นอยู่ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมตามความสนใจ เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยค ชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและของไทย และชีวิต ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่นเป็นภาษาต่างประเทศ ค้นคว้า รวบรวมและ สรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเชิงรุก กระบวนการ วิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสื่อสาร และกระบวนการกลุ่ม รวมทั้งใช้เทคโนโลยีฝึก ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนสื่อความ การสนทนา การอภิปราย การทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการคิดจากสื่อประเภทต่างๆ ช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นและมีความพร้อมในการใช้ ภาษาเพื่อการสื่อสาร การสืบค้นข้อมูลจากจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจสิ่งที่กระทำ ใช้กระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงสร้างองค์ความรู้ใหม่ นำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ โดย สามารถนำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ และทักษะด้านสังคมไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและ การประกอบอาชีพได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา โดยใช้ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน บทบาทสมมุติ ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม การสนทนา การอภิปราย และการสืบค้นข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถใน การแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจต คติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. ใช้ภาษาสื่อสาร โต้ตอบ ข้อมูล ข่าวสารเรื่องราวต่างๆที่อยู่ในความสนใจของสังคม 2. ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้น ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้ข้อมูลต่างๆ และสามารถเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ได้ 3. ใช้ภาษาอังกฤษในการค้นคว้า รวบรวม ข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียน รู้อื่น 4. ใช้ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม สนทนา อภิปราย สืบค้นข้อมูล และนำเสนอข้อมูล 5. เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันรวมทั้งมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ 6. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรม เพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง ระหว่างของเจ้าของภาษากับของไทย
300 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 รวม 6 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 รหัสวิชา อ31201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต เข้าใจน้ำเสียง ความรู้สึกของผู้พูด คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ความแตกต่างด้านภาษา วัฒนธรรม ประเพณี อ่านออกเสียง บทอ่าน ได้ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียงและเหมาะสมกับ เนื้อหาที่อ่าน ตีความ วิเคราะห์ข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความ สารคดี สาระบันเทิง สื่อที่เป็นความ เรียงและที่ไม่เป็นความเรียงในแบบต่างๆ จากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับ ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เวลาว่าง สวัสดิการ การศึกษาและอาชีพ การซื้อขาย ลมฟ้าอากาศ การเดินทางท่องเที่ยว การบริการ สถานที่ ภาษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคม โดยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แสดงความคิดเห็น ความต้องการ อธิบาย บรรยาย แลกเปลี่ยนความรู้และให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ เหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบันและอนาคต โดยใช้ ประโยชน์จากสื่อเทคโนโลยี สื่อการเรียนทางภาษาและผลจากการฝึกทักษะต่างแสวงหาวิธีการเรียนที่ เหมาะสมกับตนเอง สามารถนำเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอด และความคิดเห็น เจรจาโน้มน้าวต่อรอง เกี่ยวกับประสบการณ์ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถิ่นด้วยวิธีการที่หลากหลายอย่างสร้างสรรค์และมี ประสิทธิภาพ นำเสนอบทกวีหรือบทละครสั้น โดยใช้เค้าโครงตามแนวคิดของเจ้าของภาษาด้วยความ เพลิดเพลิน เข้าร่วมกิจกรรมเปรียบเทียบและนำความรู้เรื่องภาษาและวัฒนธรรม ประเพณีความเชื่อ ไปใช้อย่ามีวิจารณญาณ เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้เพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย การเข้าสู่สังคมและอาชีพ สามารถใช้ภาษา สื่อสารในรูปแบบต่างๆ ตาม สถานการณ์ในสถานศึกษาและชุมชน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. เข้าใจน้ำเสียง ความรู้สึกของผู้พูด คำสั่ง คำขอร้อง คำชี้แจง คำบรรยาย คำแนะนำ สารสนเทศ และคู่มือต่างๆ 2. อ่านออกเสียงบทอ่านได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเนื้อหาที่อ่าน 3. เข้าใจ ตีความ หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อที่เป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียง แล้วถ่าย โอนเป็นถ้อยคำของตนเอง 4. เข้าใจ ตีความ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ข้อความ ข้อมูล ข่าวสาร ข้อความ สาร คดี สาระบันเทิง จากสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
301 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 5. ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสามารถดำเนินการสื่อสาร ได้อย่างต่อเนื่องและเหมาะสมโดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและนอก สถานศึกษา 6. ใช้ภาษาเพื่อแสดงความคิดเห็น แสดงความต้องการ เสนอบริการ เจรจาต่อรอง และวางแผนใน การเรียน จากสื่อที่มีอยู่ได้ทั้งในและนอกสถานศึกษา 7. ใช้ภาษาเพื่อให้หรือขอข้อมูล อธิบาย แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับประเด็นปัญหา เหตุการณ์ ต่างๆ ในชุมชนและสังคม สร้างองค์ความรู้จากสื่อการเรียนทางภาษาและผลจากการฝึกทักษะ ต่างๆ รวมทั้งวางแผนการเรียนและอาชีพ 8. ใช้ภาษาเพื่อแสดงความรู้สึกของตนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้ง ให้เหตุผล โดยใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนทางภาษา และผลจากการฝึกทักษะต่างๆ รวมทั้ง แสวงหาวิธีเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับตนเอง 9. นำเสนอความคิดเห็นที่มีต่อเหตุการณ์ กิจกรรม สินค้าในท้องถิ่นด้วยวิธีการที่หลากหลายได้ อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ 10.นำเสนอบทกวี หรือบทละครสั้นๆ โดยใช้เค้าโครงตามแนวคิดของเจ้าของภาษาด้วยความ เพลิดเพลิน 11.ใช้ภาษาและท่าทางในการสื่อสารได้เหมาะสมกับบุคคล กาลเทศะและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา 12.เห็นคุณค่าและจัดกิจกรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ 13.วิเคราะห์และสังเคราะห์เนื้อหาภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ 14.ใช้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นเพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายรูปแบบต่างๆ 15.ใช้ภาษาอังกฤษในรูปแบบต่างๆ กับบุคคลในสถานศึกษาและชุมขน 16.ใช้ภาษาอังกฤษในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขโดยรู้จักควบคุมตนเอง รับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น แสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างเหมาะสม เจรจาโน้มน้าวต่อรองอย่าง มีเหตุผล รวม 16 ผลการเรียนรู้
302 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการขาย รหัสวิชา อ30203 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาและปฏิบัติการใช้ภาษาในการต้อนรับลูกค้า การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ การต่อรอง ราคา การแนะนำและการสาธิตการใช้สินค้า การรับคืนและการเปลี่ยนสินค้า การ ร้องเรียนจากลูกค้าและการกรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ โดยใช้กระบวนการฝึก ปฏิบัติการใชภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในงานบริการ เนนการสนท นา (dialogue) ตามสถานการณ คําศัพท ประโยค วลี ที่ใชในการบริการ มารยาท การกล่าวทักทาย เสนอความช่วยเหลือลูกคา หรือการรับฟังข้อปญหาและขอรองเรียน และการนําเสนอสินคา เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. ใช้ภาษาอังกฤษสำหรับงานบริการตามสถานการณ์ต่าง ๆ 2. นำเสนอสินค้าและบริการเป็นภาษาอังกฤษได้ รวม 2 ผลการเรียนรู้
303 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการโรงแรม รหัสวิชา อ30204 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับคำศัพท์ สำนวนพื้นฐานเพื่อการโรงแรม การฝึก ฟัง พูด อ่าน เขียน การให้ ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่พักและแหล่งท่องเที่ยว การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว โดยเน้นการฝึกทักษะการฟัง การพูด เน้นคำศัพท์เฉพาะในงานโรงแรม และสำนวนการ สนทนาที่ใช้ในแผนกต่างๆ ฝึก ปฏิบัติการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการโรงแรมและการท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์สํานวน พื้นฐานเพื่อการโรงแรม 2. สามารถใช้ภาษาอังกฤษในธุรกิจโรงแรมทั้งในรูปแบบเอกสารต่าง ๆ และการสื่อสารที่ เกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมได้ 3. สามารถพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรม 4. ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการโรงแรมตาม มาตรฐานสากล รวม 4 ผลการเรียนรู้
304 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการ ท่องเที่ยว 1 รหัสวิชา อ30205 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาคำศัพท์ สำนวน ภาษาที่ใช้ในการ อธิบายข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยว ประโยค ภาษาที่ ใช้ในการอธิบายข้อมูล สำหรับการท่องเที่ยว บทสนทนาที่ใช้ในการอธิบายข้อมูล สำหรับการ ท่องเที่ยว การทักทาย (Greeting) การกล่าวลา (Good bye) การขอบคุณ (Thank you) การแนะนำ ตัวเอง (Introducing) การขอร้อง (Request) การขอและให้คำแนะนำปรึกษา (Asking and Giving Advice) การถามทิศทาง (Asking for - Direction) การเจรจาต่อรอง - การบรรยาย ลักษณะสิ่งของ (Describing things) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (Currency rate) และ อื่น ๆ แนะนำสถานที่ ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในท้องถิ่น โดยฝึกทักษะ และพัฒนาการฟัง และการพูด สนทนาโต้ตอบในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยว พูด แนะนำข้อมูล แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในท้องถิ่น สรุป ใจความสำคัญ ตีความ สิ่งที่ฟัง และถ่ายโอนเป็นภาษาที่ใช้โครงสร้างทางภาษา คำศัพท์ สำนวน ที่ เหมาะสมกับระดับชั้น เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ 2. พูดบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ น่าสนใจ เล่าประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตุผล 3. สรุปใจความสำคัญ ตีความ และวิเคราะห์สิ่งที่ฟัง และอ่าน ถ่ายโอนข้อมูลใช้โครงสร้าง ทาง ภาษา คำาศัพท์ สำนวน ที่เหมาะสมกับระดับชั้น 4. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา วัฒนธรรม และเชื่อมั่นในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสาร และ แสวงหาความรู้ น าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้อย่างเหมาะสม 5. ใช้ภาษาอังกฤษในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในท้องถิ่น รวม 5 ผลการเรียนรู้
305 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการ ท่องเที่ยว 2 รหัสวิชา อ30206 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ฝกทักษะการสื่อสารในการท่องเที่ยว โดยเนนทักษะการฟังและการพูด โดยใชภาษาอังกฤษที่ ถูกตอง การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม การจัดการท่องเที่ยว การจองแพ็กเกจ ท่องเที่ยวในวันหยุด การให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเตรียมไป วิธีการชำระเงิน ธรรมเนียมการ ปฏิบัติท้องถิ่น การไปเยือนสถานที่ต่างๆ การจัดการเกี่ยวกับทัวร์ การเช่ารถ การซื้อของในร้านปลอด ภาษี การทำตามคำร้องขอเรื่องที่นั่งบนเครื่องบิน การเช็กอินเที่ยวบินให้ผู้โดยสาร การพาผู้โดยสาร ผ่านจุดตรวจเช็กความปลอดภัย การให้บริการบนเครื่องบิน การเตรียมตัวก่อนเครื่องบินลงจอด การ อธิบายขั้นตอนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง การรับสัมภาระ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเชิงรุก กระบวนการ วิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสื่อสาร และกระบวนการกลุ่ม รวมทั้งใช้เทคโนโลยี ฝึกทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนสื่อความ การสนทนา การอภิปราย การ ทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการคิดจากสื่อประเภทต่างๆ ช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นและ มีความพร้อมในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การสืบค้นข้อมูลจากจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ทำให้มี ความรู้ความเข้าใจสิ่งที่กระทำ ใช้กระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงสร้างองค์ความรู้ใหม่ นำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ โดยสามารถนำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ และทักษะ ด้านสังคมไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. สามารถบอก อธิบายคำศัพท์ ความหมายและประโยคเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ 2. สามารถ โต้ตอบการสนทนาที่เกี่ยวข้อง กับการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม 3. บอกอธิบายและเลือกใช้รูปแบบการใช้งานหน้าที่ทางภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ 4. อ่าน บอกและอธิบายนำไปใช้ในสถานการณ์จริง 5. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและกิริยาท่าทางเหมาะสมกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม 6. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมด้วยการร้องเพลง
306 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 7. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียงและกิริยาท่าทางเหมาะสมกับระดับของบุคคลโอกาสและสถานที่ ตามมารยาทและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 8. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมด้วยการเล่นเกมทางภาษาอธิบาย/เปรียบเทียบ ความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค 9. บอกความหมายของ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตบทกลอนของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย รวม 9 ผลการเรียนรู้
307 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ รหัสวิชา อ30207 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา ปฏิบัติ สำนวนภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทางธุรกิจ ฝึกการอ่าน เอกสารทางธุรกิจ โฆษณา ประกาศ ตาราง กราฟ กำหนดการ สืบค้นข้อมูลทางธุรกิจจากสื่อต่าง ๆ การเขียนโต้ตอบทางธุรกิจ การบันทึกข้อความ การบันทึกโทรศัพท์ การเขียนจดหมายแสดงความยินดี ในโอกาสต่าง ๆ การเขียนบัตรอวยพรในเทศกาลต่าง ๆ การติดต่อธุรกิจผ่านทางอินเตอร์เน็ต ecommerce โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเชิงรุก กระบวนการ วิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสื่อสาร และกระบวนการกลุ่ม รวมทั้งใช้เทคโนโลยี ฝึกทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนสื่อความ การสนทนา การอภิปราย การ ทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการคิดจากสื่อประเภทต่างๆ ช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นและ มีความพร้อมในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การสืบค้นข้อมูลจากจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ทำให้มี ความรู้ความเข้าใจสิ่งที่กระทำ ใช้กระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงสร้างองค์ความรู้ใหม่ นำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ โดยสามารถนำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ และทักษะ ด้านสังคมไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. อ่าน สรุปใจความสำคัญจากการอ่านข้อมูลทางธุรกิจ 2. เขียนจดหมายธุรกิจ และกรอกแบบฟอร์มทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ 3. เขียนข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล สินค้า และบริการ สัญลักษณ์ ตัวย่อ 4. สนทนาโต้ตอบทางธุรกิจตามสถานการณ์ต่าง ๆ 5. บูรณาการเรียนรู้ในชั้นเรียนกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง สืบค้นข้อมูลทางธุรกิจจากแหล่งสื่อ ต่าง ๆ รวม 3 ผลการเรียนรู้
308 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 1 รหัสวิชา อ30201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต เลือกใช้ภาษาน้ำสียงและกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับบุคคล โอกาสและที่ตามมารยาท สังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นใน ห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชนและสังคม อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่านรวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆให้สัมพันธ์กับ ประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ เรื่องและประเด็นต่างๆที่อยู่ในความสนใจของสังคม แสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับและ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม สนทนาและ เขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเชิงรุก กระบวนการ วิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสื่อสาร และกระบวนการกลุ่ม รวมทั้งใช้เทคโนโลยี ฝึกทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนสื่อความ การสนทนา การอภิปราย การ ทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการคิดจากสื่อประเภทต่างๆ ช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นและ มีความพร้อมในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การสืบค้นข้อมูลจากจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ทำให้มี ความรู้ความเข้าใจสิ่งที่กระทำ ใช้กระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงสร้างองค์ความรู้ใหม่ นำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ โดยสามารถนำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ และทักษะ ด้านสังคมไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการ ดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของการนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชา ภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. ใช้ภาษา ท่าทาง น้ำเสียง ในการสื่อสาร ให้เหมาะสมกับระดับบุคคล โอกาส และมารยาท ทางสังคม ในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จำลอง 2. ระบุ อธิบาย สื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความ 3. นำเสนอ โต้ตอบ ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์เหตุการณ์ และเรื่องราวต่างๆ ที่อยู่ใน ความสนใจของสังคม 4. แสดงความต้องการ เสนอตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ในสถานการณ์จำลอง หรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม รวม 4 ผลการเรียนรู้
309 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2 รหัสวิชา อ31202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความและแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่าน เรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ ข้อมูล บรรยาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่าน อย่างเหมาะสม สรุปใจความสำคัญแก่นสารที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์และ สถานการณ์ตามความสนใจ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุป ความรู้/ ข้อมูลต่างๆ จากสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ บันทึกและแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการ เขียน อธิบายเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้าง ประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและ บทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเชิงรุก กระบวนการ วิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสื่อสาร และกระบวนการกลุ่ม รวมทั้งใช้เทคโนโลยีฝึก ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนสื่อความ การสนทนา การอภิปราย การทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการคิดจากสื่อประเภทต่างๆ ช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นและมีความพร้อมในการใช้ ภาษาเพื่อการสื่อสาร การสืบค้นข้อมูลจากจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจสิ่งที่กระทำ ใช้กระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงสร้างองค์ความรู้ใหม่ นำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ โดย สามารถนำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ และทักษะด้านสังคมไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและ การประกอบอาชีพได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถใน การสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของ การนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. จับใจความสำคัญ สรุปความ ตีความ วิเคราะห์ความ และแสดงความคิดเห็น จากการฟังและอ่าน เรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดีได้ 2. ขอและให้ข้อมูล บรรยาย เปรียบเทียบ เกี่ยวกับเรื่องราว หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ฟังหรืออ่านอย่าง เหมาะสม 3. ใช้ภาษาอังกฤษ ในการสืบค้น ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้ จากสื่อและแหล่งการ เรียนรู้ต่างๆ 4. อธิบาย เปรียบเทียบ ความแตกต่าง ระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาอังกฤษกับของไทย รวม 4 ผลการเรียนรู้
310 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเรียนรู้อาเซียน รหัสวิชา อ30208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาความหมายของการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน ความเป็นมาของอาเซียนและการก่อตั้ง ความหมายสัญลักษณ์ ความสำคัญของอาเซียน กฎบัตรอาเซียน 3 เสาหลักอาเซียน แผนที่อาณาเขตที่ตั้ง และประเทศสมาชิกอาเซียน ข้อมูลพื้นฐานทั่วไปที่จำเป็นของประเทศสมาชิกอาเซียน การเมืองการ ปกครอง ศาสนา ภูมิศาสตร์ ทรัพยากร ธุรกิจการค้าขาย การทักทาย การแต่งกาย อาหารประจำชาติ ระบบเงินตรา กีฬาประจำชาติ สถานที่ท่องเที่ยวเมืองสำคัญ วัฒนธรรม และประเพณีที่ควรรู้ของ 10 ประเทศของประชาคมอาเซียน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเชิงรุก กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสื่อสาร และกระบวนการกลุ่ม รวมทั้งใช้เทคโนโลยีฝึกทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนสื่อความ การสนทนา การอภิปราย การทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการคิด จากสื่อประเภทต่างๆ ช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นและมีความพร้อมในการใช้ภาษาเพื่อการ สื่อสาร การสืบค้นข้อมูลจากจากแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจสิ่งที่กระทำ ใช้ กระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงสร้างองค์ความรู้ใหม่ นำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ โดย สามารถนำความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ และทักษะด้านสังคมไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและ การประกอบอาชีพได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ รู้จักการแก้ปัญหา มีสมรรถนะสำคัญด้านความสามารถใน การสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เห็นคุณค่าของ การนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิติประจำวัน มีเจตคติ และทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. อ่านบทความ ความเรียง โฆษณา ข้อมูลสถิติ แผนภูมิ สิ่งตีพิมพ์ที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สังคม ประเทศอาเซียน แล้วแสดงความคิดเห็นได้ 2. ศึกษาสื่อ สิ่งพิมพ์ที่หลากหลายสาระแล้วสามารถเขียนย่อความ และสรุปความคิดรวบยอดสร้าง แผนภูมิความคิดได้ 3. สามารถอธิบายความหมายของคำศัพท์จากบริบท ตีความ เข้าใจความหมายเชิงอุปมาอุปมัย และเปรียบเทียบประเมินค่าเรื่องที่อ่านได้ 4. สรุปใจความสำคัญ แสดงความคิดเห็น ความประทับใจ ในประเทศอาเซียนได้ 5. อ่านเรื่องราวต่างๆ แล้วสามารถถ่ายโอนข้อมูล นำเสนอ รายงานเผยแพร่ด้วยวิธีการที่ หลากหลายและมีความคิดสร้างสรรค์ 6. เข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีประเทศอาเซียนและเปรียบเทียบความ เหมือนความแตกต่างกับวัฒนธรรมไทยได้ 7. มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้อาเซียนได้อย่างเข้าใจ รวม 7 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน วัตถุประสงค์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนา อย่างรอบด้าน เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้าง ให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อ สังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารสวน จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ดังนี้ โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม ได้จัดกิจกรรมให้นักเรียนพัฒนาตนเองโดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะดังต่อไปนี้ 1. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ อันจะ นำไปสู่สมรรถนะที่สำคัญ 5 ประการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ นำไปบูรณาการ ในการจัดกิจกรรมตามลักษณะของกิจกรรมแนะแนว ที่ระบุไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานพุทธศักราช 2551 อีกทั้งพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะชีวิต โดยมุ่งจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับ สภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ธรรมชาติ ของผู้เรียน วิสัยทัศน์ของสถานศึกษา ที่ ตอบสนองจุดมุ่งหมายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ให้ครอบคลุมทั้ง ด้านการศึกษา การงานและอาชีพ รวมทั้งชีวิตและสังคมเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผู้เรียนมีอิสระใน การคิด การตัดสินใจ เรียนรู้ด้วยตนเองด้วยการปฏิบัติจนกระทั่งเกิดทักษะชีวิตหรือการเรียนรู้ ตลอดจนครูทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมโดยมีครูแนะแนวหรือครูที่ปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงผู้ ประสานงาน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมแนะแนวมีดังนี้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จักเข้าใจ รัก และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น 2. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมทั้งการดำเนิน ชีวิตและสังคม 3. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่าง เหมาะสม และอยู่กับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ขอบข่าย การจัดกิจกรรมแนะแนวมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ด้านการศึกษา ให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มศักยภาพ รู้จัก แสวงหาละใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนและการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยใฝ่ เรียนรู้ มีวิธีการเรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรียนและศึกษาต่อได้อย่างเหมาะสม 2. ด้านการงานและอาชีพ ให้ผู้เรียนรู้จักตนเองในทุกด้าน รู้จักและเข้าใจโลกของ งานอาชีพอย่างหลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อ ประกอบอาชีพตามที่ตนเองถนัดและสนใจ
312 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 3. ด้านชีวิตและสังคม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง และผู้อื่น รักษ์สิ่งแวดล้อม มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดีต่อการมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพ มีทักษะและ สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว 20 ชั่วโมงต่อภาคเรียน แนวการจัดกิจกรรมแนะแนว 1. สำรวจสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ และธรรมชาติของผู้เรียน เพื่อใช้ เป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว 2. ศึกษาวิสัยทัศน์ของโรงเรียน และวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล หรือการสำรวจเพื่อ ทราบปัญหา ความต้องการและความสนใจ เพื่อนำไปกำหนดสาระและรายละเอียดของกิจกรรมแนะ แนว 3. กำหนดสัดส่วนของกิจกรรมด้านการศึกษา การงานและอาชีพ รวมทั้งชีวิตและ สังคมให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม โดยยึดสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ตลอดจนธรรมชาติ ของผู้เรียนเป็นหลัก ทั้งนี้ครูและผู้เรียนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม 4. กำหนดแผนปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว โดยในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นได้จัดเป็น รายภาค เมื่อกำหนดสัดส่วนของกิจกรรมในแต่ละด้านแล้ว จะต้องระบุว่าจะจัดกิจกรรมแนะแนวใน ด้านใด จำนวนกี่ชั่วโมง พร้อมทั้งจะต้องกำหนดรายละเอียดของแต่ละด้านให้ชัดเจนว่าควรมีเรื่อง อะไรบ้างเพื่อจะได้จัดทำรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมย่อยต่อไป 5. การจัดทำรายละเอียดของแต่ละแผนปฏิบัติกิจกรรม เริ่มตั้งแต่การกำหนดชื่อ กิจกรรม จุดประสงค์ เวลา เนื้อหา / สาระ วิธีการ ดำเนินกิจกรรม สื่อ / อุปกรณ์ และการ ประเมินผล 6. ปฏิบัติตามแผนการปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว วัดประเมินผล และสรุปรายงาน การประเมินผลการจัดกิจกรรม ในการประเมินผลการจัดกิจกรรมแนะแนว ครูผู้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมแนะ แนวผู้เรียน และผู้ปกครองมีภารกิจที่รับผิดชอบดังนี้ 1. ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนว 1.1 จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่สถานศึกษากำหนดตามสภาพความต้องการและปัญหาของผู้เรียน 1.2 รายงานเวลาและพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม 1.3 ศึกษา ติดตาม และพัฒนาผู้เรียนในกรณีที่ผู้เรียนไม่เข้าร่วมกิจกรรม 1.4 ประเมินผลผู้เรียนโดยดูจากพัฒนาการของผู้เรียนตามวัตถุประสงค์ที่ กำหนดเป็นสำคัญ ในกรณีที่ผลการประเมินยังไม่ผ่านให้ครูผู้จัดกิจกรรมดำเนินการซ่อมเสริมโดย
313 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมซ้ำหรือปฏิบัติกิจกรรมเพิ่มเติม จนกระทั่งผู้เรียนบรรลุคุณลักษณะตาม วัตถุประสงค์ของกิจกรรมหรือผ่านเกณฑ์ประเมนตามที่สถานศึกษากำหนด 1.5 บันทึกผลการติดตามและประเมินผลผู้เรียนไว้เป็นหลักฐาน 2. ผู้เรียน 2.1 มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนวตามที่สถานศึกษากำหนด โดยมี หลักฐานแสดงเวลาเข้าร่วมกิจกรรม 2.2 ปฏิบัติกิจกรรมตามที่ครูผู้รับผิดชอบมอบหมายถ้าไม่ผ่านให้ปฏิบัติ กิจกรรมซ้ำ หรือปฏิบัติเพิ่มเติม และมีชิ้นงาน/ผลงาน/คุณลักษณะตามที่ครูผู้จัดกิจกรรมมอบหมายให้ ปฏิบัติ 3. ผู้ปกครอง ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการประเมินผลการพัฒนาการของผู้เรียน และมี การบันทึกสรุปพัฒนาการ และการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน 2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามความถนัด และความสนใจ โดยเน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความมีระเบียบวินัย ไม่เห็นแก่ตัว มีความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี มีความรับผิดชอบ ทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจ ความมีเหตุผล การ ช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ การจัดกิจกรรมดำเนินการดังนี้ 1. จัดให้สอดกคล้องกับความสามารถและความสนใจของผู้เรียน 2. เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน 3. เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะ ของผู้เรียน ตลอดจนบริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีระเบียบวินัย เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี และมีความรับผิดชอบ 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการทำงานร่วมกัน รู้จักการแก้ปัญหา มีเหตุผล ตัดสินใจที่เหมาะสม ช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ 3. ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจ ขอบข่าย กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย 1. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และนักศึกษาวิชาทหาร
314 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 2. กิจกรรม ชุมนุม 1.1 กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี กระบวนการลูกเสือ คือ กระบวนการที่พัฒนาเยาวชน มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรม ให้การศึกษาและพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองดี โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา ทั้งนี้เป็นไปตาม ความมุ่งประสงค์ หลักการและวิธีการ ซึ่งลูกเสือโลกได้กำหนดไว้ ปัจจุบันกระบวนการลูกเสือเป็นกระบวนการทางการศึกษาส่วนหนึ่งมุ่งพัฒนา สมรรถภาพของบุคคลทั้งทางสมอง ร่างกาย จิตใจ ศีลธรรม เพื่อให้เป็นบุคคลที่มีความประพฤติดีงาม ไม่กระทำตนให้เป็นปัญหาต่อสังคม และดำรงชีวิตอย่างมีความหมายและสุขสบาย หลักการ กระบวนการลูกเสือมีหลักการสำคัญดังนี้ 1. มีศาสนาเป็นหลักยึดทางจิตใจ จงรักภักดีต่อศาสนาที่ตนนับถือ และพึงปฏิบัติ ศาสนกิจด้วยความจริงใจ 2.จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศชาติของตน พร้อมด้วยการส่งเสริมและ สนับสนุนสันติและสันติภาพ ความเข้ใจที่ดีซึ่งกันและกัน และความร่วมมือซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ระดับ ท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ 3. เข้าร่วม พัฒนาสังคม ยอมรับ และให้ความเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้อื่น และเพื่อมนุษย์ทกคน รวมทั้งธรรมชาติและสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก 4. มีความรับผิดชอบต่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 5. ลูกเสือทุกคนต้องยึดมั่นในกฎและคำปฏิญาณ วัตถุประสงค์ พระราชบัญญัติลูกเสือพุทธศักราช 2551 มาตรา 8 ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของ การฝึกอบรมลูกเสือ เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจ ศีลธรรมให้เป็นพลเมืองดีมีความ รับผิดชอบ และช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสามัคคี และมีความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้เพื่อความ สงบสุขและความมั่นคงของประเทศตามแนวทางดังนี้ 1. ให้มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง 2. ให้มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก เห็นใจผู้อื่น 3. ให้รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ 4. ให้รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. ให้รู้จักรักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของ ประเทศชาติ
315 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 ขอบข่าย การจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี เป็นกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังระเบียบวินัยและ กฎเกณฑ์เพื่อการอยู่ร่วมกัน ให้รู้จักการเสียสละและบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและวิถีชีวิตในระบอบ ประชาธิปไตย ซึ่งการจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสำนักงานลูกเสือ แห่งชาติ รวมทั้งให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดย กำหนดหลักสูตรในโรงเรียนเป็น 2 ประเภทดังนี้คือ 1. ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1–3 2. ลูกเสือวิสามัญ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4–6 แนวการจัดกิจกรรม การจัดกิจกรรมลูกเสือเนตรนารีมีแนวการจัดกิจกรรมตามวิธีการลูกเสือ (Scout Method) มีองค์ประกอบ 7 ประการคือ 1. คำปฏิญาณและกฎ ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะ ปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ กฎของลูกเสือมีไว้ให้ลูกเสือถือเป็นหลักปฏิบัติ ไม่ได้ “ห้าม” ทำหรือ “บังคับ” ให้ทำ แต่ถ้า “ทำ” ก็จะทำให้เกิดผลดีแก่ตนเอง เป็นคนดี ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีเกียรติ เชื่อถือได้ ฯลฯ 2. เรียนรู้จากการกระทำ เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของ ผลงานอยู่ที่การกระทำของตนเอง ทำให้มีความรู้ที่ชัดเจน และสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเองได้ และท้าทายความสามารถของตนเอง 3. ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือ เป็นพื้นฐานการอยู่ร่วมกัน การ ยอมรับซึ่งกันและกัน การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการเรียนรู้การ ใช้ประชาธิปไตยเบื้องต้น 4. การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือ เนตรนารี ด้วยการใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ได้แก่ เครื่องแบบ เครื่องหมาย การทำความเคารพ รหัส คำ ปฏิญาณ กฎ คติพจน์ คำขวัญ ธง เป็นต้น วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจ ในการ เป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือแห่งโลก ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วโลก และเป็นองค์กรที่มีสมาชิกมากที่สุดใน โลก 5. การศึกษาธรรมชาติ คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในกิจการลูกเสือ ธรรมชาติอัน โปร่งใสในชนบท ป่าเขา ป่าละเมาะ และพุ่มไม้ เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งในการไปทำกิจกรรม กับ ธรรมชาติ การปีเขา ตั้งค่ายพักแรมในสุดสัปดาห์ หรือตามวาระของการอยู่ค่ายพักแรมตาม กฎระเบียบ เป็นที่เสน่ห์หาแก่เด็ก ๆ ทุกคน ถ้าขาดสิ่งนี้แล้ว ก็ไม่เรียกว่าใช้ชีวิตแบบลูกเสือ 6. ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดให้นักเรียนต้องให้ มีความก้าวหน้า และดึงดูดใจ สร้างความกระตือรือร้น อยากที่จะทำและวัตถุประสงค์ในการจัดแต่ละ อย่าง ให้สัมพันธ์กับความหลากหลายในการพัฒนาตนเอง เกมการเล่นที่สนุกสนาน การแข่งขัน กันก็ เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นการจูงใจที่ดี
316 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 7. การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็ก เพื่อให้ เขาเกิดความมั่นใจที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไปทั้งคู่มีความต้องการซึ่งกันและกัน เด็กก็ต้องการ ผู้ใหญ่ช่วยชี้นำ ผู้ใหญ่เองก็ต้องการนำพาไปสู่หนทางที่ดี ให้ได้รับการพัฒนาที่ถูกต้องและดีที่สุด จึง เป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย เงื่อนไข 1. เวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม - กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ จัดในระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษาปีที่ 1–3 จัดชั่วโมงสุดท้ายของวันพุธจำนวน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ -การจัดกิจกรรมลูกเสือวิสามัญจัดในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาปีที่ 4–6 จัดชั่วโมงสุดท้ายของวันพุธ1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 2. การจัดกิจกรรม 2.1 การจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ และ ลูกเสือวิสามัญ จัดตามหลักสูตร โดยให้มีการเปิดประชุมกองทุกครั้ง เพื่อเป็นการฝึกความมีระเบียบวินัยในตนเอง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ 2.1.1 พิธีเปิด (ชักธงขึ้น สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2.1.2 เกมหรือเพลง 2.1.3 เรียนตามหลักสูตร 2.1.4 การเล่าเรื่องสั้นที่เป็นประโยชน์ 2.1.5 พิธีปิด (นัดหมาย ตรวจ ชักธงลง เลิก) 2.2 กิจกรรมการอยู่ค่ายพักแรม การเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรม มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกให้ ลูกเสือมีความอดทน อยู่ในระเบียบวินัย รู้จักช่วยตนเอง รู้จักอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น ตลอดจน เรียนวิชาลูกเสือเพิ่มเติม ผู้บังคับบัญชาลูกเสือจำเป็นต้องนำลูกเสือ เดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรม ให้พร้อมก่อนแต่เนิ่น ๆ ดังนั้นบทบาทผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อลูกเสือ ต่องาน การอยู่ค่ายพักแรม ตามหน้าที่ของตนเอง จึงจำเป็นต้องหาโอกาสให้ลูกเสือของตนได้มีโอกาสอยู่ค่าย พักแรมเสมอ ให้ผู้กำกับลูกเสือนำลูกเสือไปฝึกเดินทางไกล และอยู่ค่ายพักแรมปีหนึ่งไม่ น้อยกว่า 1 ครั้ง ครั้งหนึ่งให้อยู่ค่ายพักแรมไม่น้อยกว่า 1 คืน 2.3 กิจกรรมพิธีการ โรงเรียนไดจัดกิจกรรมพิธีการลูกเสือ เช่น พิธีเข้า ประจำกอง พิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม พิธี ถวายราชสดุดี พิธีประดับเครื่องหมายต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อให้ลูกเสือมีความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าของลูกเสือ 2.4 กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ โรงเรียนได้จัดส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้ ลูกเสือได้บำเพ็ญประโยชน์ตามอุดมการณ์ของลูกเสือ 3. ผู้บังคับบัญชาลูกเสือควรผ่านการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้เบื้องต้น ในแต่ละประเภท
317 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 4. สถานศึกษาควรให้มีการตั้งกลุ่มหรือกองลูกเสือตามข้อบังคับของคณะลูกเสือ แห่งชาติ การประเมินผลกิจกรรม การประเมินผลกิจกรรมลูกเสือเนตรนารี เป็นกระบวนการทดสอบความสามารถ และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียน ลูกเสือ เนตรนารี ซึ่งนอกจากพิจารณาความรู้ตามทฤษฎีแล้ว ต้องพิจารณาความประพฤติ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมที่เน้นทักษะและการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วย วิธีการประเมินที่หลากหลายและประเมินตามสภาพจริง ซึ่งแบ่งการประเมินออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. กิจกรรมบังคับ เป็นการประเมินผลกิจกรรมตามหลักสูตร เพื่อให้ผู้เรียนผ่านเกณฑ์การ ตัดสินเลื่อนชั้นหรือจบหลักสูตร โดยการเข้าร่วมกิจกรรมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด มีการประเมินผลตลอดภาคเรียน/ปี โดยวิธีการสังเกตการณ์เข้าร่วมกิจกรรม การซักถาม การทดสอบภาคทฤษฎี และปฏิบัติ โดยกำหนดเกณฑ์การประเมิน เป็น “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเรียนเข้าร่วมกิจกรรมครบร้อยละ 80 ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ปฏิบัติกิจกรรม และ มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเรียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ปฏิบัติกิจกรรม และ มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษากำหนด 2. วิชาพิเศษ การประเมินผล วิชาพิเศษในแต่ละวิชา ใช้วิธีการทดสอบทั้ง ภาคทฤษฎี และปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ 1.2 กิจกรรมนักศึกษาวิชาทหาร กิจกรรมนักศึกษาวิชาทหาร เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนมีระเบียบวินัย เชื่อฟังและ ปฏิบัติตามคำสั่ง ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของประเพณีและวัฒนธรรมทีดี และมีสุขภาพและพลานามัยที่ แข็งแรง หลักการ กิจกรรมนักศึกษาวิชาทหาร เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามความสามารถ ความถนัด และ ความสนใจของผู้เรียน มีหลักการดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามความสมัครใจของผู้เรียน 2. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนตระหนักว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของชาติ จึงต้องมีความรัก ความหวงแหน สามารถที่จะเสียสละ อุทิศชีวิตให้กับชาติ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแต่อย่างใด
318 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 3. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนมีความรู้และประสบการณ์ในวิชาทหารที่เหมาะสม มี ทัศนคติที่ดี เชื่อมั่นและศรัทธาในกองทัพ และมีความพร้อมที่จะรับใช้ชาติ ในฐานะกำลังพลสำรองที่มี คุณภาพของกองทัพ เมื่อสำรวจการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรด้วยความเต็มใจ 4. เป็นกิจกรรมที่เป็นสื่อกลางสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างทหารกับประชาชน รวมทั้งสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนในสังคม โดยเฉพาะการรณรงค์เพื่อป้องกันและ ต่อต้านยาเสพติด วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้สอดคล้องกับความถนัด ความสามารถ และความสนใจของผู้เรียน 2. เพื่อให้นักเรียนทั้งชายและหญิงที่สมัคร มีความรู้วิชาทหารทั้งในทางเทคนิคและ ทางยุทธศาสตร์ 3. เพื่อปลูกฝังให้มีอุดมการณ์ เทิดทูน ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พรมหากษัตริย์ และ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีจิตสำนึกในเรื่อง ชาตินิยม 4. เพื่อเสริมสร้างให้เป็นผู้มีระเบียบวินัย ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของประเพณีและ วัฒนธรรมที่ดีของชาติ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง มีความอดทนและอดกลั้น 5. เพื่อส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ และดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อ สาธารณะชนอย่างกว้างขวาง จริงจัง และต่อเนื่อง 6.เพื่อเสริมสร้างให้มีความรักและสามัคคีในหมู่คณะด้วยกัน รวมทั้งให้มีสำนึกใน ภาระหน้าที่ของตนในบังเกิดเป็นรูปธรรมและเป็นระบบโดยต่อเนื่อง ขอบข่าย นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 และ 2 ศึกษาวิชาทหารเบื้องต้นในระดับลูกแถว บังเกิดความมีระเบียบวินัยเสริมสร้างบุคลิกลักษณะนิสัย สามารถใช้อาวุธประจำกาย และทำการยิง อย่างได้ผล นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 ศึกษาวิชาทหารในระดับผู้บังคับหมวดและผู้บังคับหมู่ รองผู้บังคับหมวด มีความพร้อมในการควบคุมบังคับบัญชาหน่วยในการปฏิบัติรบทั้งในแบบและนอก แบบ แนวการจัดกิจกรรม การสมัครเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาวิชาทหาร ต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติ ดังนี้ 1. มีชายหรือหญิงที่มีสัญชาติไทย 2. ไม่พิการ ทุพพลภาพ หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ ตามกฎหมาย ว่าด้วยการรับราชการทหาร
319 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 3. มีขนาดรอบตัว น้ำหนัก และความสูงตามสัดส่วนสัมพันธ์ดังนี้ อายุ ชาย หญิง ความขยายของอก(ซม.) น้ำหนัก (กก.) ความสูง (ซม.) น้ำหนัก (กก.) ความสูง (ซม.) หายใจเข้า หายใจออก ไม่เกิน 15 75 72 42 155 41 148 16 76 73 44 156 42 149 17 77 74 46 158 43 150 18 78 75 48 160 44 151 19 ถึง 22 79 86 49 161 54 152 4. มีความประพฤติเรียบร้อย 5. กำลังศึกษาในสถานศึกษาที่หน่วยบัญชาการกำลังสำรองเปิดทำการฝึกทหาร 6. สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3หรือเทียบเท่าขึ้นไป และมีผล การศึกษาของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าตั้งแต่ 1.00 ขึ้นไป หรือนักเรียนที่เคยเป็นลูกเสือ สามัญรุ่นใหญ่ และสอบได้วิชาพิเศษไม่น้อยกว่า 8 วิชา จะต้องมีผลการศึกษาของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าตั้งแต่ 1.50 เว้นแต่ผู้สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าขึ้น ไป และกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนช่างฝีมือทหารของกระทรวงกลาโหม หรือกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียน ที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ไม่ต้องมีผลการศึกษาของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไม่ต้องมีผลการศึกษา ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าตามที่กองทัพบกกำหนด 7. นักศึกษาวิชาทหารจะต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายตามที่กำหนด ดังนี้ 7.1.1 ลุกนั่ง 34 ครั้งภายในเวลา 2 นาที 7.1.2 ดันพื้น 22 ครั้งไม่จำกัดเวลา 7.1.3 วิ่งระยะทาง 800 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที 15 วินาที 8. นักศึกษาวิชาทหารหญิง จะต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายตามที่ กำหนด ดังนี้ 7.1.1 ลูกนั่ง 25 ครั้งภายในเวลา 2 นาที 7.1.2 ดันพื้น 15 ครั้งภายในเวลา 2 นาที 7.1.3 วิ่งระยะทาง 800 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 4 นาที
320 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 เงื่อนไข 1. เป็นผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. สถานศึกษาที่เปิดรับนักศึกษาวิชาทหาร ต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยบัญชาการ กำลังสำรอง กองทัพบก กระทรวงกลาโหม 3. การจัดกิจกรรมนักศึกษาวิชาทหารในสถานศึกษาก่อนจะมีการปฏิบัติกิจกรรม ควรมีการปฏิบัติดังนี้ - พิธีเปิด รวมพลเข้าแถวตอน ชักธงชาติ สวดมนต์ ปฏิญาณตน แยกแถวทำ กิจกรรม - รวมพลเข้าแถวตอน นัดหมาย ชักธงลง และเลิก 4. เวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม สถานศึกษาอาจจัดเวลาได้ตามความเหมาะสม สำหรับการฝึกภาคสนาม สถานศึกษาควรส่งเสริมให้มีการฝึกโดยใช้เวลาเรียนปกติหรือนอกเวลาเรียน ตามความเหมาะสม 5. ผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรของกองบัญชาการ สำรอง กองทัพบก กระทรวงหลาโหม 6. การขอเปิดสถานศึกษาวิชาทหาร การฝึก การสอบ และการปกครองให้เป็นไป ตามระเบียบของหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง กองทัพบก กระทรวงกลาโหม การประเมินผลกิจกรรม เป็นการประเมินผลกิจกรรมเป็นกระบวนการทดสอบความสามารถและพัฒนาการ ด้านต่าง ๆ ของนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งนอกจากพิจารณาความรู้ตามทฤษฎีแล้วยังต้องพิจารณาด้าน ความประพฤติ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ที่เน้นทักษะและการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยวิธีการประเมิน ที่หลากหลายและการประเมนตามสภาพจริง โดยกำหนดเกณฑ์การประเมิน เป็น “ผ่าน” และ “ไม่ ผ่าน” ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเรียนเข้าร่วมกิจกรรมครบร้อยละ 80 ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ปฏิบัติกิจกรรม และ มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเรียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ปฏิบัติกิจกรรม และ มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษากำหนด
321 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 2. กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมชุมนุมหรือชมรมเป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนรวมกลุ่มกันจัดขึ้น ตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน เพื่อเติมเต็มความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ ทักษะ เจตคติ เพื่อพัฒนาตนเองตามศักยภาพ หลักการ กิจกรรมชุมนุม ชมรม มีหลักการที่สำคัญดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมที่เกิดจากการสร้างสรรค์และออกแบบกิจกรรมของผู้เรียนตามความ สมัครใจ 2. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนร่วมทำงานเป็นทีม ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และช่วยกัน แก้ปัญหา 3. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน 4. เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของผู้เรียน รวมทั้งทั้งบริบทของ สถานศึกษาและท้องถิ่น วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน 2. เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้ เกิดประสบการณ์ทั้งทางวิชาการและวิชาชีพตามศักยภาพ 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม 4. เพื่อให้ผู้เรียนทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ตามวิถีประชาธิปไตย ขอบข่าย กิจกรรมชุมนุม ชมรม มีขอบข่ายดังนี้ 1. เป็นกิจกรรมจัดตามความสนใจของผู้เรียน 2. เป็นกิจกรรมที่จัดเสริมหลักสูตรสถานศึกษาในด้านความรู้ ทักษะปฏิบัติของ ผู้เรียน 3. สามารถจัดได้ทั้งในและนอกสถานศึกษา และทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน แนวการจัดกิจกรรมชุมนุม ชมรม 1.สถานศึกษาสามารถบริหารการจัดการให้ผู้เรียนดำเนินกิจกรรมได้หลากหลายทั้ง รูปแบบภายในหรือภายนอกห้องเรียน และระยะเวลาการจัดกิจกรรม เช่น ระยะเวลา 1 ภาคเรียน กิจกรรมระยะเวลา 1 ปีการศึกษา และกิจกรรมระยะเวลา 1 ปีการศึกษา 2. กรณีสถานศึกษามีการจัดตั้งชุมนุม หรือชมรมอยู่แล้ว สถานศึกษาควรสำรวจ ความสนใจของผู้เรียนในการเลือกเข้าชุมนุม ชมรม
322 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 3. กรณีสถานศึกษายังไม่มีการจัดตั้งชุมนุม ชมรม ควรให้ผู้เรียนร่วมกันจัดตั้งชุมนุม ชมรม และเชิญครูเป็นที่ปรึกษา โดยร่วมกันดำเนินกิจกรรมชุมนุม ชมรม ตามระเบียบปฏิบัติตามที่ สถานศึกษากำหนด 4. ถอดประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพร่กิจกรรม 5. ครูที่ปรึกษากิจกรรมประเมินตามกิจกรรมประเมินผล เงื่อนไข 1. การจัดกิจกรรมชุมนุม ชมรม ในแต่ละระดับชั้น ได้จัดให้เป็นไปตามโครงสร้าง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2. สมาชิกของชุมนุม ชมรมต้องเข้าร่วมกิจกรรม ร่วมปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงาน/ ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามที่สถานศึกษากำหนด 3. โรงเรียนมีระบบกำกับติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของชุมนุมแต่ละ ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง การประเมินผล เป็นการประเมินผลกิจกรรมเป็นกระบวนการทดสอบความสามารถและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ซึ่งนอกจากพิจารณาความรู้ตามทฤษฎีแล้วยังต้องพิจารณาด้านความประพฤติ พฤติกรรมการเข้าร่วม กิจกรรม ที่เน้นทักษะและการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยวิธีการประเมินที่หลากหลายและการประเมนตาม สภาพจริง โดยกำหนดเกณฑ์การประเมิน เป็น “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเรียนเข้าร่วมกิจกรรมครบร้อยละ 80 ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ปฏิบัติกิจกรรม และ มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเรียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ปฏิบัติกิจกรรม และ มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษากำหนด 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตน ให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติในลักษณะอาสาสมัครเพื่อช่วยขัดเกลา จิตใจของผู้เรียนให้มีความเมตตากรุณา มีความเสียสละ และมีจิตสาธารณะเพื่อช่วยสร้างสรรค์สังคม ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
323 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 หลักการ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรมจริยธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ ผู้เรียนคิดสร้างสรรค์ออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อย่างหลากหลายรูปแบ เพื่อแสดงถึงความ รับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสา วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวโรงเรียนชุมชน สังคม และ ประเทศชาติ 2.เพื่อให้ผู้เรียนออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและความสนใจในลักษณะจิตอาสา 3.เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 4.เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรมจริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. เพื่อให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ขอบข่าย เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมในลักษณะกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และกิจกรรมอาสาโดย ผู้เรียนดำเนินการด้วยตนเองในลักษณะจิตอาสาสมัครเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความ เสียสละต่อสังคมมีจิตอาสา และจิตสาธารณะ แนวการจัดกิจกรรม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เน้นให้ผู้เรียนร่วมกันสำรวจและวิเคราะห์ สภาพปัญหาร่วมกันออกแบบกิจกรรม วางแผนการจัดกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรมตามแผน ร่วมสรุปและ ประเมินผลการจัดกิจกรรม ร่วมรายงานผล พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลการจัดกิจกรรม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์สามารถเลือกจัดกิจกรรมหรือเข้าร่วม กิจกรรมได้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ดังนี้ 1.จัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียน เอง โดยผู้เรียนสามารถจัดกิจกรรมตามองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้และประสบการณ์ซึ่งสามารถจัด กิจกรรมได้ดังนี้ 1.1จัดกิจกรรมภายในโรงเรียน 1.2จัดกิจกรรมภายนอกโรงเรียน
324 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 2. จัดกิจกรรมลักษณะโครงการ โครงงาน หรือกิจกรรม หมายถึง กิจกรรมที่ผู้เรียนนำเสนอ การจัดกิจกรรมต่อโรงเรียนเพื่อขอความเห็นชอบจากโครงการ โครงงาน หรือกิจกรรม ซึ่งมีระยะเวลา เริ่มต้นและสิ้นสุดที่ชัดเจน โดยสามารถจัดกิจกรรมดังนี้ 2.1จัดกิจกรรมในโรรงเรียน 2.2จัดกิจกรรมนอกโรงเรียน 3.จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรอื่นหมายถึง กิจกรรมที่ผู้เรียนอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ หน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ ที่จัดกิจกรรมในลักษณะเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์โดยผู้เรียน สามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมได้ดังนี้ 3.1ร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เข้ามาจัดกิจกรรมในโรงเรียน 3.2ร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เข้ามาจัดกิจกรรมนอกโรงเรียน เงื่อนไข เวลาเข้าร่วมกิจกรรม ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ทุกภาคเรียน / ปี โดยขึ้นอยู่กับการบริหารการจัดการของสถานศึกษา เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้จัดกิจกรรมด้วยตัวเองทุกขั้นตอนและต่อเนื่อง โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา กิจกรรม ผู้เรียนจะจัดกิจกรรมหรือแสดงพฤติกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในเวลา สถานที่ หรือ รูปแบบของกิจกรรมใดก็ได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมตามบริบทของแต่ละสถานศึกษาและขึ้นอยู่กับ การบริหารจัดการของสถานศึกษา การประเมินผลกิจกรรม การประเมินผลกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมให้ครบ ตามกรอบเวลาในโครงสร้างของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551ดังนี้ 1. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม. 1 – ม. 3) มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม 45ชั่วโมง/ ปี 2.ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.4 – ม. 6) มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม 60ชั่วโมง/ ปี ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมครบตามเวลา ปฏิบัติกิจกรรมและมี ผลงาน/ ชิ้นงาน/ คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมครบไม่ตามเวลา ปฏิบัติกิจกรรมและมี ผลงาน/ชิ้นงาน/ คุณลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด ในกรณีที่ผู้เรียนไม่ผ่านครูที่ปรึกษาต้องให้ผู้เรียนซ่อมเสริมการทำกิจกรรมให้ครบตามกรอบ เวลาที่กำหนดในโครงสร้างของหลักสูตร
325 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 การวัดและประเมินผลการเรียน เกณฑ์การจบหลักสูตร เกณฑ์การจบหลักสูตรการจบการศึกษา โรงเรียนได้กำหนดเกณฑ์การจบหลักสูตรให้ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง 2560) แยกตามระดับการศึกษาดังต่อไปนี้ เกณฑ์การจบหลักสูตร ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม ตามที่สถานศึกษากำหนด 2. ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พื้นฐาน 66 หน่วยกิต และเป็นรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต 3. ต้องผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 4. ต้องผ่านการประเมินผลการอ่าน คิด วิเคราะห์ เขียนสื่อความ 5. ต้องผ่านการประเมินผล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ต้องมีเวลาทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ ไม่น้อยกวา 45 ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1. เรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติม ตามที่สถานศึกษากำหนด 2. ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พื้นฐาน 41 หน่วยกิต และเป็นรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต 3. ต้องผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 4. ต้องผ่านการประเมินผลการอ่าน คิด วิเคราะห์ เขียนสื่อความ 5. ต้องผ่านการประเมินผล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ต้องมีเวลาทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ ไม่น้อยกวา 60 ชั่วโมง 5.3 การตัดสินผลการเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดหลักเกณฑ์ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียน ดังนี้ 1) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้นๆ 2) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด 3) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา 4) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนดในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
326 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนช่องแมววิทยาคม เป็นหลักสูตรอิงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มี มาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นเป้าหมาย สำคัญสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน และที่สำคัญในการออกแบบแนวทางการจัดการเรียนรู้หากมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความ สอดคล้องและเกิดประสิทธิผลในการนำไปใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) จึงกำหนดเป้าหมายและจุดเน้นหลาย ประการที่ผู้สอนควรตระหนักและทำความเข้าใจทั้งนี้เพื่อให้การจัดการเรียนรู้สัมฤทธิ์ผลตามที่กำหนด ไว้ในหลักสูตรผู้สอนควรศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องต่อไปนี้ การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในศตวรรษที่21 (1 มกราคม ค.ศ. 2001 ถึง 31ธันวาคมค.ศ. 2100) โลกมีการ เปลี่ยนแปลงในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจสังคมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีส่งผลให้จำเป็นต้องมีการเตรียมผู้เรียนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้สอนจึงต้องมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความรู้ในวิชาหลัก (core subjects) มีทักษะการเรียนรู้ (learning skills) และพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21ไม่ว่าจะเป็นทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทักษะการคิดและการแก้ปัญหาทักษะการสื่อสาร และทักษะชีวิตทั้งนี้เครือข่าย P21 (Partnership for 21st Century Skills)ได้จำแนกทักษะที่ จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ออกเป็น 3 หมวดได้แก่ 1. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills) ได้แก่การคิด สร้างสรรค์และนวัตกรรม (creativity and innovation) การคิดแบบมีวิจารณญาณและการ แก้ปัญหา (critical thinking and problem-solving) การสื่อสาร (communication) และการ ร่วมมือ (collaboration) 2. ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี (Information, Media, and Technology Skills) ได้แก่การเท่าทันสารสนเทศ (information literacy) การรู้เท่าทันสื่อ (media literacy) การรู้เท่าทันเทคโนโลยีและการสื่อสาร ริเริ่มและกำกับดูแลตัวเองได้ (initiative and self-direction) ทักษะสังคมและเข้าใจใน ความต่างระหว่างวัฒนธรรม (social and cross-cultural skills) การเป็นผู้สร้างผลงานหรือผู้ผลิต และมีความรับผิดชอบเชื่อถือได้(productivity and accountability) และมีภาวะผู้นำและความ รับผิดชอบ(leadership and responsibility) ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่21ต้องมี การเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมบริบททางสังคมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้สอนต้องออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยให้ผู้เรียนได้เรียนจากสถานการณ์ใน ชีวิตจริงและเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองมีผู้สอนเป็นผู้จุดประกายความสนใจใฝ่รู้อำนวยความ สะดวกและสร้างบรรยากาศให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
327 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 การใช้เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การใช้เทคโนโลยีมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้เรียนและผู้สอนในศตวรรษที่21 ผู้สอน และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาควรบูรณาการและใช้เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสามารถปฏิบัติงานได้(information, communication, and technology literacy 3. ทักษะชีวิตและอาชีพ (Life and Career Skills) ได้แก่ความยืดหยุ่นและความสามารถ ในการปรับตัว (flexibility and adaptability) มีความคิดหลากหลายตลอดจนสามารถ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพการสอนคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตาม หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขนพนฐานพุทธศักราช2551ได้เน้นการใช้เทคโนโลยีทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดย บูรณาการกับการจัดการเรียนรู้และเน้นให้เกิดทักษะดังนี้. 1. ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ เนื่องจากการเรียนรู้ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็น การศึกษาเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากขึ้นและเน้นการนำไปประยุกต์ในชีวิตจริงดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ใน การเรียนการสอนจะช่วยลดเวลาลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและเพิ่มเวลาในการมุ่งเน้นให้ผู้เรียนบรรลุ เป้าหมายของการเรียนเช่น 2. ใช้เทคโนโลยีเป็นแหล่งการเรียนรู้ ในโลกการศึกษาปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียนการสอนมากมายไม่ได้มีเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้นผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูล ต่างๆทั้งที่เกี่ยวกับเนื้อหาและการประยุกต์ได้ในอินเทอร์เน็ตหรือแหล่งเรียนรู้อื่นเช่นเว็บไซต์ต่างๆ สารานุกรมออนไลน์หรือหนังสือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เป็นต้นซึ่งผู้เรียนสามารถค้นคว้าหา ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วดังนั้นผู้สอนควรนำเทคโนโลยีเหล่านไปใช้ประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์โดยผ่าน กระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล 3. ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารจะทำให้การสอน คณิตศาสตร์มี่ประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ของผู้เรียนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนเช่นการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการนำเสนอ ข้อมูลส่งงานส่งการบ้านหรือเป็นช่องทางการสอนแบบไม่เป็นทางการนอกห้องเรียน เป็นต้น 1. หลักการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตาม ธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้น ให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรม
328 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 2. กระบวนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เป็นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็น สำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการเยนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จาก ประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรุ้ของตนเอง กระบวนการพัฒนาลักษณะนิสัย กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝนพัฒนา เพราะจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอน จึง จำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัด กระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ชี้วัด สมรถนะ สำคัญของผู้เรียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แล้วจึงพิจารณาออกแบบการเรียนรู้ โดยเลือกใช้วิธีสอน และเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพ และบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนด 4. บทบาทของผู้สอนและผู้เรียน การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและ ผู้เรียนควรมีบทบาท ดังนี้ 4.1 บทบาทของผู้สอน 1) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้วางแผนการจัดการ เรียนรู้ ที่ท้าทายความสามารถของผู้เรียน 2) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะ กระบวนการ ที่เป็นความคิดรวบยอด หลักการและความสัมพันธ์ รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล และพัฒนาการทางสมอง เพื่อนำผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย 4) จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ 5) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน 6) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติ วิชาและระดับพัฒนาการของผู้เรียน 7) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่องเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งการ จัดการเรียนการสอนของตนเอง
329 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 4.2 บทบาทของผู้เรียน 1) กำหนดเป้าหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง 2) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ 3) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ต่าง ๆ 4) มีปฏิสัมพันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มและครู 5) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง สื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึง ความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มีหลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรม สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และ เครือข่ายการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีในท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับ พัฒนาการและลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของผู้เรียน การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้สอนและผู้เรียนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุง เลือกใช้สื่ออย่างมีคุณภาพ จากสื่อต่าง ๆ ที่มีสื่อรอบตัว เพื่อนำมาใช้มาประกอบการจัดการเรียนรู้ที่ สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อ พัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้ จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานควรดำเนินการ ดังนี้ 1. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย การเรียนที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก 2. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหาสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ 3. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการเรียนรู้ ธรรมชาติและสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคลของ ผู้เรียน 4. ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ที่เลือกใช้อย่างเป็นระบบ 5. ศึกษา ค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนเรียนรู้ของผู้เรียน 6. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม การประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้ สื่อการเรียนรู้เป็นระยะ ๆ และสม่ำเสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควร คำนึงถึงหลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่นความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้อง และทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง รูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และน่าสนใจ
330 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารที่สำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่ เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้ 1 เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด 1.1) ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของผู้เรียนตาม รายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออก เอกสารนี้ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา(ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6) จบการศึกษาภาคบังคับ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) หรือ เมื่อลาออกจากสถานศึกษาในทุกกรณี 1.2) ประกาศนียบัตร เป็นเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพื่อรองรับศักดิ์และสิทธิ์ของผู้จบการศึกษา ที่สถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้จบการศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.3) แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อและข้อมูลของผู้จบ การศึกษาระดับประถมศึกษา(ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6) จบการศึกษาภาคบังคับ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) 2 เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลที่ สำคัญเกี่ยวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวของนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียน ประจำ รายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรียน และเอกสารอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการนำเอกสาร ไปใช้ การเทียบโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่าง ๆ ได้แก่การย้าย สถานศึกษา การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางครันและขอกลับเข้ารับ การศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถเทียบ โอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ จากแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การจัดการศึกษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน หรือต้นภาคเรียนที่ สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ผู้เรียนที่ไดรับการเทียบโอนผลการเรียน ต้องศึกษา ต่อเนื่องในสถานศึกษาที่รับโอนอย่างน้อย 1 ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบ โอนควรกำหนดรายวิชา/จำนวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอน ตามความเหมาะสม
331 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดำเนินการได้ ดังนี้ 1. พิจารณาจากหลักสูตรการศึกษา และเอกสารอื่น ๆ ที่ให้ข้อมูล แสดงความรู้ความสามารถ ของผู้เรียน 2. พิจารณาจากความรู้ความสามารถของผู้เรียน โยการทดสอบด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งภาค ความรู้และภาคปฏิบัติ 3. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัติในสภาพจริง การเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศ หรือแนวปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับการเทียบโอนเข้าสู่การศึกษาในระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำเนินการตามแนว ปฏิบัติเกี่ยวกับการเทียบโอนผลการเรียนเข้าสู่การศึกษาในระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การบริหารจัดการหลักสูตร ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการ พัฒนาหลักสูตรนั้น หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึง ระดับสานศึกษา มีบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และ พัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตร สถานศึกษา มี ประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามาตรฐานการเรียนรู้ ที่กำหนด ไว้ในระดับชาติ ระดับท้องถิ่นได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานที่มี บทบาทในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาเป็นตัวกลาง ที่จะเชื่องโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานที่กำหนดในระดับชาติที่สอดคล้องกับสภาพและความต้องการขอท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำ หลักสูตรของสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษาให้ประสบ ความสำเร็จ โดยมีภารกิจสำคัญ คือกำหนเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในระดับ ท้องถิ่น โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระการเรียนรู้ ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตร ด้วยการ วิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามประเมินผล วิเคราะห์และรายงาน คุณภาพของผู้เรียน สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและการ ดำเนินการใช้หลักสูตร ด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร จัดทำระเบียบการ วัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และรายละเอียดที่เขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ ในระดับท้องถิ่นได้จัดทำเพิ่มเติม รวมทั้งสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาใน ชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความต้องการของผู้เรียน โดยทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมใน การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
332 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 ภาคผนวก
333 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 คำสั่ง โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม ที่ 202/ 256๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปรับปรุงหลักสูตร โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพื่อให้การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 4 มาตรา 27 ที่ กำหนดให้สถานศึกษา ขั้นพื้นฐานมีหน้าที่จัดทำสาระการเรียนรู้ของหลักสูตรเพื่อความเป็นไทย ความ เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ การดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ในส่วนที่ เกี่ยวกับสภาพปัญหาของชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อเป็น สมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและ ประเทศชาติ อาศัยอำนาจตามมาตรา 25 แห่ง พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2534 กระทรวงศึกษาธิการ จึงออก ระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 อาศัยอำนาจตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และ งานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 ข้อ 9 กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการเรียกว่า “คณะอนุกรรมการระดับกลุ่มวิชา” จำนวน 9 คณะ เรียกชื่อคณะอนุกรรมการตามชื่อกลุ่มวิชาใน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน แต่งตั้งโดยผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อให้การบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ ของ สถานศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ในหลักสูตรโรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รับผิดชอบกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ดังนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษา 1. นายธีรยุทธ ตะวัน ผู้อำนวยการสถานศึกษา ประธานกรรมการ 2. นายกลวัชร อึ่งสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา รองประธาน กรรมการ 3. นายรัชศักดิ์ นาคินชาติ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา กรรมการและ เลขานุการ 1. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประกอบด้วย 1.1 นางพรรัชดา พงษ์วรรัศม์ ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 1.2 นางชื่นจิตร ปักการะนัง ครู กรรมการ 1.3 นางณัฐษยาณ์ ประสงค์สันต์ ครู กรรมการและเลขานุการ
334 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 2. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 2.1 นางสาวกฤตพร พงษ์เสดา ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 2.2 นางศิรีกานต์ งามพิพัฒนพงษ์ ครู กรรมการ 2.3 นายแทนชัย นามศิริ ครู กรรมการ 2.4 นางสาวนิรชา ปักกะโต ครู กรรมการ 2.5 นางสาวศุภพิชญ์กร จันทร์นามเขตต์ ครู กรรมการและเลขานุการ 3. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 3.1 นางสาวธรพร โชติชุ่ม ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 3.2 นางกมลพร จรูญกิจพิศาล ครู กรรมการ 3.3 นางสมพิศ สมอ่อน ครู กรรมการ 3.4 นายนิวัติ สุวรรณศรี ครู กรรมการ 3.5 นายชินาพัฒน์ งามพิพัฒนพงษ์ ครู กรรมการ 3.6 นางปรานี คำภิระ ครู กรรมการ 3.7 นางบำรุงรัตน์ ราตรี ครู กรรมการ 3.8 นายจรูญ ศรีรักษา ครู กรรมการ 3.9 นางสาวนิตติญา วาจาจิตร ครู กรรมการ 3.10 นางสาวสภัสวรรณ รื่นอายุ ครู กรรมการ 3.11 นายศิริชัย เพ็ญสุข ครู กรรมการ 3.12 นางสาวอริสา อินทะโส ครู กรรมการและเลขานุการ 4. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศาสนาและวัฒนธรรม ประกอบด้วย 4.1 นายประสิทธิ์ เฉลยพจน์ ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 4.2 นางชนณิศา บุญจันทร์ ครู กรรมการ 4.3 ว่าที่ รต.จตุรงค์ แฉขุนทด ครู กรรมการ 4.4 นางเพ็ชรชุมพวง สุวรรณศรี ครู กรรมการและเลขานุการ 5. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประกอบด้วย 5.1 ชัยสิทธิ์ พิมละมาศ ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 5.2 นายคมสันต์ เขตนอก ครู กรรมการและเลขานุการ 6. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ประกอบด้วย 6.1 นายธีระพันธุ์ วงค์ธนา ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 6.2 นายนิตินันท์ เชื้อสนิท ครู กรรมการและเลขานุการ 7. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ประกอบด้วย 7.1 นางณัฐวดี พิมละมาศ ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 7.2 นางวิลาวัณย์ ศิริพันโนน ครู กรรมการ
335 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 7.3 นายณัทพล บุญจันทร์ ครู กรรมการ 7.4 นางนิตยา เชื้อสนิท ครู กรรมการและเลขานุการ 8. คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย 8.1 นางสาววนิดา ริมไธสง ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 8.2 นางสาวรสกร ศรีเตชะ ครู กรรมการ 8.3 นางสาววิภารัตน์ ยวงสร้อย ครู กรรมการ 8.4 นางสาวอัญชลี บุราคร ครู กรรมการ 8.5 นางพจนา นวลไธสง ครุ กรรมการและเลขานุการ 9. คณะกรรมการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ประกอบด้วย 9.1 นางชนณิศา บุญจันทร์ ครู หัวหน้ากลุ่มสาระ 9.2 นางชื่นจิตร ปักการะนัง ครู กรรมการ 9.3 นางสาวอัญชลี บุราคร ครู กรรมการและเลขานุการ ให้คณะอนุกรรมการมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดสัดส่วนสาระการเรียนรู้กลุ่มวิชา และพัฒนาหลักสูตรรายวิชาของกลุ่มวิชา ใน สาระการเรียนรู้เรียนรู้พื้นฐาน และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมตามหลักสูตรการศึกษาขั้น พื้นฐานตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. ดำเนินการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่สุดและ การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้รายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แสดงความสามารถที่แท้จริงของ นักเรียน 3. พัฒนาแผนการสอนรายวิชาที่เป็นมาตรฐานกลาง เพื่อให้ผู้สอนสามารถปรับใช้ตาม ความเหมาะสมและให้การสอนนำไปสู่การเรียนรู้มากที่สุด 4. พัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญที่สุด 5. กำหนดแนวทางพัฒนาเครื่องมือ และกำกับ ติดตามการดำเนินการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ของนักเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มวิชาที่กำหนด 6. วิเคราะห์พัฒนาการของนักเรียนเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม 7. ดำเนินการวิจัยการศึกษาในชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการ วัดและประเมินผล 8. นิเทศภายใน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการ สอน และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน 9. รวบรวมข้อมูลเพื่อการปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรรายวิชาและการจัดกระบวนการ เรียนรู้ตลอดจนตรวจสอบและประเมินการบริหารหลักสูตรรายวิชาและกลุ่มวิชาในภาค เรียนที่ผ่านมาและ วางแผนพัฒนาการบริหารหลักสูตรในภาคเรียนต่อไป
336 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม พุทธศักราช 2565 10.รายงานผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของครู– อาจารย์และผลการ บริหารหลักสูตรของกลุ่มวิชาโดยเน้นผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนต่อคณะกรรมการบริหาร หลักสูตรและงาน วิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้เกี่ยวข้อง 11.ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความรู้ความสามารถ เป็นไปตามบทบาทหน้าที่ที่ กำหนดให้และให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสถานศึกษา สั่ง ณ วันที่ ๒๑ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 256๕ (นายธีรยุทธ ตะวัน) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนสาหร่ายสาหร่ายวิทยาคม