The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BeYo, 2022-03-28 22:16:01

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2

9. ครตู รวจแบบฝึกหัด Unit Question เร่อื ง แรงและการเคลอ่ื นท่ี ในสมุดประจำตัวนกั เรยี น
10. ครวู ัดและประเมินผลจากช้นิ งาน/ผลงาน แผนผงั มโนทัศน์ เร่ือง แรงและการเคล่ือนที
11. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปเกีย่ วกบั การเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ ซ่งึ ได้ขอ้ สรปุ ร่วมกันว่า “การเคล่ือนท่ี

เปน็ การเปล่ียนตำแหน่งของวตั ถใุ นชว่ งเวลาหนง่ึ เทียบกบั ตำแหน่งอ้างอิง โดยมีทั้งปรมิ าณสเกลาร์
และปรมิ าณเวกเตอร์มาเกีย่ วข้อง โดยปริมาณสเกลาร์ เป็นปรมิ าณทบี่ อกขนาดเพยี งอยา่ งเดียว
ตวั อย่างเชน่ เวลา ระยะทาง เปน็ ตน้ สว่ นปริมาณเวกเตอร์ เป็นปริมาณท่ีบอกท้งั ขนาดและทศิ ทาง
ตัวอย่างเชน่ การกระจดั ความเรว็ แรง เป็นตน้ ระยะทาง (s) เปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ มหี น่วยเปน็
แเ(มลvตะ)รกหาโนดรกยว่ รยอะเตั ปจร็นดัาสเ(ว่มsนต)รระตมห่อีหววนา่นิ ่วงายรทะเปีย(็นmะทเ/มาsง)ต”กรับโเดวยลอาตั ครือาสอ่วัตนรราะเรห็ววา่(vง)กามรหี กนร่วะยจเดั ปกน็ บั เเมวลตารตค่ออื วินคาวทามี (เmร็ว/s)

7. การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวัด
- ตรวจใบงานที่ 4.6.1 - ใบงานท่ี 4.6.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.2 ประเมินระหวา่ ง - ตรวจสมดุ ประจำตวั - ตรวจสมุดประจำตัว - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การจดั กิจกรรม หรือ แบบฝึกหัด หรอื แบบฝึกหัด
การเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.2 วิทยาศาสตร์ - ระดบั คณุ ภาพ 2
1) การเคลอื่ นทีข่ อง เลม่ 2 ม.2 เลม่ 2 ผ่านเกณฑ์
วตั ถุ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การ
ผลงาน/ผลการปฏิบัติ นำเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2
2) การนำเสนอ กิจกรรม ผ่านเกณฑ์
ผลงาน/ผลการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบัตกิ ิจกรรม การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
3) พฤติกรรมการ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
ทำงานรายบคุ คล - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน
รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ คุณลักษณะ
4) พฤติกรรมการ และมุ่งม่นั ในการ อันพึงประสงค์
ทำงานกลุม่ ทำงาน

5) คณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หนา้ 85

รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
- รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.2 การประเมินหลงั - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรียน หลังเรียน หน่วยการ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 - ระดบั คณุ ภาพ 2
เรยี นรทู้ ่ี 4 แรงและ แรงและการเคลือ่ นที่ ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบ การเคลือ่ นท่ี
หลังเรียน หน่วยการ - แบบประเมินชิน้ งาน/
เรียนรทู้ ี่ 4 แรงและ - ตรวจแผนผังมโนทัศน์ ภาระงาน (รวบยอด)
การเคลื่อนท่ี เรือ่ ง แรงและ
การเคลอื่ นที่
7.3 การประเมนิ ชนิ้ งาน/
ภาระงาน (รวบยอด)

8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 แรงและการเคล่อื นท่ี
2) แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 แรงและการเคล่อื นท่ี
3) ใบความรู้ เร่อื ง อตั ราเรว็ และความเรว็
4) ใบงานที่ 4.6.1 เรอ่ื ง อัตราเรว็ และความเรว็
5) วัสดุอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการปฏิบตั กิ จิ กรรม Fun Science Activity เรอ่ื ง รม่ ชูชีพพยุงตุ๊กตา
6) อปุ กรณส์ าธติ การทดลอง เช่น รถทดลอง และลูกเทนนิส
7) PowerPoint เร่ือง การเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ
8) สลากหมายเลขกลุ่ม 1-5
9) สมดุ ประจำตวั นักเรยี น
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) อินเทอร์เน็ต

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หน้า 86

ใบความรู้
เร่อื ง อัตราเร็วและความเร็ว

∎ อัตราเร็ว (v) หมายถงึ ระยะทางทว่ี ัตถุเคลื่อนท่ีไดใ้ นหน่ึงหนว่ ยเวลา หรอื อัตราการเปลี่ยนแปลง
ระยะทางโดยไม่กำหนดทิศทาง เป็นปริมาณสเกลาร์ มหี นว่ ยเปน็ เมตรต่อวินาที (m/s)

v = s
t

อตั ราเรว็ แบง่ เป็น 2 ลักษณะ ดังน้ี
1. อัตราเร็วขณะใดขณะหนึ่ง (vt ) หมายถึง ระยะทางที่วัตถุเคลอ่ื นที่ได้ ต่อหนึ่งหน่วยเวลาสน้ั ๆ

vt = s
t

2. อัตราเรว็ เฉล่ีย (vav) หมายถึง ระยะทางทีว่ ตั ถุเคล่ือนที่ได้ทงั้ หมดตอ่ ช่วงเวลาท้ังหมด

v av = s
t

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 87

∎ ความเร็ว (v) หมายถงึ การกระจัดท่ีวตั ถุเคลอ่ื นทไี่ ด้ ตอ่ หนง่ึ หน่วยเวลา เปน็ ปริมาณเวกเตอร์
มหี นว่ ยเปน็ เมตรต่อวินาที (m/s)

v = s
t

ความเร็ว แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ( v t ) หมายถึง การกระจดั ต่อหนึ่งหนว่ ยเวลาส้นั ๆ มีทศิ ทาง
1. ความเร็วขณะใดขณะหน่ึง

เดียวกันกบั ทิศการกระจดั ท่เี ปลีย่ นไป

v t = s
t

2. ความเร็วเฉลยี่ (vav ) หมายถึง การกระจดั ลพั ธ์ตอ่ ช่วงเวลาท้ังหมด มที ศิ ทางเดียวกนั กับทิศ
การกระจดั ลัพธ์

vav = s
t

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 88

ใบงานท่ี 4.6.1

เรื่อง อัตราเรว็ และความเร็ว

ตอนท่ี 1
คำชี้แจง : จงอธิบายความหมายและเขยี นสมการต่อไปนี้
1. อตั ราเร็ว คือ ……………………………………………………………………….………………………………………………………….

เขยี นเปน็ สมการได้ว่า……………………………………………………………………….………………………………………
2. อัตราเร็วเฉลยี่ คือ ……………………………………………………………………….………………………………………………….

เขยี นเป็นสมการไดว้ า่ ……………………………………………………………………….……………………………………..
3. อตั ราเร็วขณะใดขณะหน่ึง คือ ……………………………………………………………………….………………………………….

เขยี นเป็นสมการได้ว่า ……………………………………………………………………….……………………………………..
4. ความเร็ว คือ ……………………………………………………………………….………………………………………………………….

เขยี นเปน็ สมการไดว้ า่ ……………………………………………………………………….……………………………………..
5. ความเรว็ เฉลีย่ คือ ……………………………………………………………………….………………………………………………….

เขยี นเป็นสมการไดว้ า่ ……………………………………………………………………….……………………………………..
6. ความเร็วขณะใดขณะหน่ึง คือ ……………………………………………………………………….…………………………………

เขยี นเปน็ สมการไดว้ ่า……………………………………………………………………….………………………………………

ตอนที่ 2
คำชแ้ี จง : จงคำนวณอัตราเรว็ และความเรว็ ทโ่ี จทยก์ ำหนดให้ต่อไปน้ี
1. เครือ่ งบินลำหน่งึ ตอ้ งใชเ้ วลาในการเรง่ เครื่อง 20 วินาที จากหยุดนง่ิ วิ่งเร่งเครื่องบนทางวิง่ ใช้ระยะทาง 400

เมตร กอ่ นท่จี ะบินขึน้ สทู่ ้องฟ้า จงหาอัตราเรว็ ของเครื่องขณะท่ีขึ้นจากทางว่ิง

2. จากภาพการเคล่ือนที่ของวตั ถุ จาก A  B C D จงหาอตั ราเรว็ และความเร็วของการเคลือ่ นทน่ี ้ี

A 4 B 1. อตั ราเรว็ จากระยะ AB เท่ากับ ……… m/s ในเวลา 2 วนิ าที
2. ความเรว็ จากระยะ AB เท่ากับ ……… m/s ในเวลา 2 วินาที

3. อตั ราเรว็ จากระยะ AC เท่ากับ ……… m/s ในเวลา 5 วนิ าที

3 4. ความเรว็ จากระยะ AC เท่ากับ ……… m/s ในเวลา 5 วนิ าที
5. อตั ราเร็ว จากระยะ AD เทา่ กับ ……… m/s ในเวลา 10 วนิ าที

D4C 6. ความเร็ว จากระยะ AD เท่ากับ ……… m/s ในเวลา 10 วินาที

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 89

ใบงานที่ 4.6.1 เฉลย
เร่อื ง อัตราเร็วและความเร็ว

ตอนที่ 1

คำชแี้ จง : จงอธบิ ายความหมายและเขียนสมการต่อไปน้ี

1. อัตราเรว็ คอื ระยะทางที่วัตถเุ คลอื่ นที่ไดใ้ นหนึ่งหนว่ ยเวลา
s
เขียนเปน็ สมการไดว้ ่า v = t

2. อตั ราเร็วเฉลย่ี คอื ระยะทางท่วี ัตถเุ คลอ่ื นท่ีได้ท้ังหมดตอ่ ช่วงเวลาท้งั หมด
s
เขยี นเปน็ สมการได้วา่ vav = t

3. อตั ราเร็วขณะใดขณะหนง่ึ คือ ระยะทางท่วี ตั ถุเคลื่อนท่ีได้ ต่อหนึ่งหนว่ ยเวลาสน้ั ๆ
s
เขียนเป็นสมการไดว้ ่า vt = t

4. ความเเขร็วยี นคเอืป็นกสามรกการระไจดัด้วท่า่ีวตั vถเุ ค=ลื่อstนทไ่ี ด้ ต่อหน่ึงหน่วยเวลา
5. ความเเขร็วียเนฉเลปี่ยน็ สคมอื กากราไรดกว้ รา่ ะจดัvลavัพธ=ต์ อ่ ชst่วงเวลาทัง้ หมด มีทศิ ทางเดียวกบั ทศิ การกระจัดลพั ธ์
6. ความเเขรว็ยี ขนณเปะ็นใดสขมณกาะรหไดนว้ง่ึ า่ คอื vtกา=รกระจstัดต่อหนงึ่ หนว่ ยเวลาส้ัน ๆ มที ศิ ทางเดยี วกบั การกระจดั ที่เปล่ียนไป

ตอนที่ 2

คำชแ้ี จง : จงคำนวณอตั ราเร็วและความเรว็ ทโ่ี จทย์กำหนดใหต้ ่อไปน้ี

1. เครื่องบนิ ลำหนงึ่ ตอ้ งใชเ้ วลาในการเร่งเคร่ือง 20 วนิ าที จากหยุดนง่ิ วง่ิ เรง่ เคร่ืองบนทางวง่ิ ใชร้ ะยะทาง 400

เมตร ก่อนทีจ่ ะบนิ ขน้ึ สทู่ อ้ งฟ้า จงหาอตั ราเรว็ ของเครื่องขณะท่ีขน้ึ จากทางว่ิง
s 400
วธิ ีทำ จากสมการ v = t = 20 = 5 m/s

ดงั น้ัน อตั ราเร็วของเครอื่ งขณะท่ีขน้ึ จากทางวง่ิ มคี า่ เท่ากับ 5 เมตรตอ่ วินาที

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หน้า 90

2. จากภาพการเคลื่อนที่ของวตั ถุ จาก A  B C D จงหาอตั ราเรว็ และความเร็วของการเคล่ือนทน่ี ้ี

A 4 B 1. อัตราเร็ว จากระยะ AB เท่ากบั 1.5 m/s ในเวลา 2 วนิ าที
2. ความเร็ว จากระยะ AB เทา่ กับ 1.5 m/s ในเวลา 2 วนิ าที

3. อัตราเรว็ จากระยะ AC เท่ากับ 1.4 m/s ในเวลา 5 วนิ าที

3 4. ความเร็ว จากระยะ AC เท่ากบั 1 m/s ในเวลา 5 วนิ าที
5. อัตราเร็ว จากระยะ AD เท่ากบั 1.1 m/s ในเวลา 10 วนิ าที

6. ความเร็ว จากระยะ AD เท่ากบั 0.3 m/s ในเวลา 10 วินาที
D4C

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หน้า 91

สลากหมายเลข 2

1



34
5

ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แผนผงั มโนทศั น์
เรือ่ ง แรงและการเคล่อื นท่ี
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นนำความรทู้ ่ไี ด้จากการเรยี นของหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 แรงและการเคลือ่ นที่ มาเขียนสรปุ
เปน็ แผนผงั มโนทศั น์ ลงในกระดาษ A4 พร้อมตกแต่งให้สวยงาม

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 92

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงช่อื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแก้ไข

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 93

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4
แรงและการเคลือ่ นท่ี

เวลา 20 ชัว่ โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด

ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจำวนั ผลของแรงที่กระทำต่อวตั ถุ ลกั ษณะการเคลือ่ นที่
แบบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ว 2.2 ม.2/1 พยากรณก์ ารเคลื่อนท่ีของวตั ถทุ เ่ี ป็นผลของแรงลัพธท์ ีเ่ กดิ จากแรงหลายแรง
ที่กระทำต่อวตั ถุในแนวเดียวกนั จากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
ว 2.2 ม.2/2 เขยี นแผนภาพแสดงแรงและแรงลพั ธ์ทเี่ กดิ จากแรงหลายแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ
ในแนวเดียวกัน
ว 2.2 ม.2/3 ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวิธที ี่เหมาะสมในการอธิบายปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่
ความดนั ของของเหลว
ว 2.2 ม.2/4 วิเคราะห์แรงพยุงและการจม การลอยของวตั ถุในของเหลวจากหลักฐานเชิงประจักษ์
ว 2.2 ม.2/5 เขียนแผนภาพแสดงแรงท่กี ระทำตอ่ วตั ถุในของเหลว
ว 2.2 ม.2/6 อธิบายแรงเสียดทานสถติ และแรงเสยี ดทานจลน์จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
ว 2.2 ม.2/7 ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวธิ ที ีเ่ หมาะสมในการอธิบายปจั จัยท่ีมีผลตอ่
ขนาดของแรงเสยี ดทาน
ว 2.2 ม.2/8 เขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทานและแรงอ่ืน ๆ ท่กี ระทำตอ่ วัตถุ
ว 2.2 ม.2/9 ตระหนักถงึ ประโยชน์ของความรเู้ ร่ืองแรงเสยี ดทาน โดยวเิ คราะห์สถานการณ์ปัญหา
และเสนอแนะวิธีการลดหรือเพิ่มแรงเสียดทานที่เป็นประโยชน์ต่อการทำ

กิจกรรม
ในชีวิตประจำวัน

ว 2.2 ม.2/10 ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวิธีทเี่ หมาะสมในการอธิบายโมเมนต์ของแรง
เม่อื วตั ถอุ ยใู่ นสภาพสมดุลต่อการหมนุ และคำนวณโดยใชส้ มการ M = Fl

ว 2.2 ม.2/11 เปรยี บเทียบแหลง่ ของสนามแม่เหลก็ สนามไฟฟา้ และสนามโนม้ ถ่วง และทศิ ทาง
ของแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถทุ ่อี ยใู่ นแต่ละสนามจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้

ว 2.2 ม.2/12 เขยี นแผนภาพแสดงแรงแม่เหลก็ แรงไฟฟา้ และแรงโน้มถว่ งทกี่ ระทำต่อวัตถุ
ว 2.2 ม.2/13 วิเคราะหค์ วามสมั พันธร์ ะหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโน้มถว่ ง

ท่กี ระทำตอ่ วตั ถทุ ี่อยู่ในสนามนั้น ๆ กับระยะห่างจากแหลง่ ของสนามถงึ วตั ถุ
จากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หน้า 94

ว 2.2 ม.2/14vอ=ธบิ stายแแลละะคำนvว=ณอstัตราจเารกว็ หแลลกัะคฐาวนามเชเริงปว็ ขรอะจงกักาษร์ เคล่ือนทีข่ องวตั ถุ โดยใชส้ มการ
ว 2.2 ม.2/15 เขยี นแผนภาพแสดงการกระจดั และความเรว็

2. สาระการเรยี นรู้
2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1. แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ เมื่อมีแรงหลาย ๆ แรงกระทำต่อวัตถุ แล้วแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีค่า
เปน็ ศูนย์ วตั ถจุ ะไมเ่ ปลยี่ นแปลงการเคลื่อนที่ แตถ่ า้ แรงลพั ธท์ ี่กระทำต่อวตั ถุมีคา่ ไม่เป็นศูนย์ วัตถุจะ
เปล่ียนแปลงการเคลือ่ นท่ี
2. เมื่อวัตถุอยู่ในของเหลวจะมีแรงที่ของเหลวกระทำต่อวัตถุในทุกทิศทาง โดยแรงที่ของเหลวกระทำ
ต้งั ฉากกบั ผิววตั ถตุ ่อหนึ่งหนว่ ยพ้ืนที่ เรยี กวา่ ความดนั ของของเหลว
3. ความดันของของเหลวมีความสมั พนั ธ์กับความลึกจากระดับผวิ หน้าของของเหลว โดยบริเวณท่ีลึกลง
ไปจากระดับผิวหน้าของของเหลวมากขึ้น ความดันของของเหลวจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากของเหลว
ที่อย่ลู กึ กวา่ จะมีนำ้ หนักของของเหลวดา้ นบนกระทำมากกว่า
4. เมื่อวัตถุอยู่ในของเหลว จะมีแรงพยุงเนื่องจากของเหลวกระทำต่อวัตถุ โดยมีทิศขึ้นในแนวดิ่ง
การจมหรือการลอยของวัตถุขนึ้ กบั นำ้ หนักของวัตถแุ ละแรงพยงุ ถ้าน้ำหนักของวตั ถุและแรงพยุงของ
ของเหลวมีคา่ เทา่ กนั วัตถุจะลอยนิง่ อยู่ในของเหลว แต่ถ้าน้ำหนักของวัตถุมีค่ามากกว่าแรงพยงุ ของ
ของเหลววัตถุจะจม
5. แรงเสียดทานเป็นแรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ เพื่อต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้น โดยถ้า
ออกแรงกระทำต่อวัตถุที่อยู่นิ่งบนพื้นผิวให้เคลื่อนที่ แรงเสียดทานก็จะต้านการเคลื่อนที่ของวั ตถุ
แรงเสียดทานที่เกิดข้ึนในขณะท่วี ัตถุยงั ไม่เคล่ือนที่เรียก แรงเสยี ดทานสถิต แต่ถ้าวัตถุกำลังเคล่ือนท่ี
แรงเสยี ดทานก็จะทำใหว้ ัตถุนนั้ เคล่ือนทช่ี ้าลงหรือหยุดนิ่ง เรยี ก แรงเสียดทานจลน์
6. ขนาดของแรงเสยี ดทานระหวา่ งผิวสัมผัสของวตั ถขุ ึน้ กบั ลักษณะผวิ สัมผสั และขนาดของแรงปฏิกิริยา
ตั้งฉากระหว่างผิวสัมผสั
7. กิจกรรมในชีวิตประจำวันบางกิจกรรมต้องการแรงเสียดทาน เช่น การเปิดฝาเกลียวของน้ำ การใช้
แผ่นกันลื่นในห้องน้ำ บางกิจกรรมไม่ต้องการแรงเสียดทาน เช่น การลากวัตถุบนพื้น การใช้
น้ำมนั หลอ่ ลื่นในเคร่ืองยนต์
8. ความรู้เรื่องแรงเสียดทานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั ได้
9. เมื่อมีแรงที่กระทำต่อวัตถุโดยไม่ผ่านศูนย์กลาง มวลของวัตถุจะเกิดโมเมนต์ของแรง ทำให้วัตถุ
หมนุ รอบศนู ยก์ ลางมวลของวตั ถุนนั้
10. โมเมนต์ของแรงเป็นผลคูณของแรงที่กระทำต่อวัตถุกับระยะทางจากจุดหมุนไปตั้งฉากกับแนวแร ง
เมอ่ื ผลรวมของโมเมนต์ของแรงมคี ่าเป็นศูนย์ วัตถจุ ะอยใู่ นสภาพสมดุลต่อการหมุน โดยโมเมนต์ของ
แรงในทศิ ทวนเข็มนาฬกิ าจะมขี นาดเท่ากบั โมเมนต์ของแรงในทศิ ตามเขม็ นาฬิกา

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 95

11. ของเล่นหลายชนิดประกอบด้วยอุปกรณ์หลายส่วนที่ใช้หลักการโมเมนต์ของแรง ความรู้เรื่อง
โมเมนตข์ องแรงสามารถนำไปใช้ออกแบบและประดิษฐข์ องเล่นได้

12. วตั ถทุ มี่ ีมวลจะมีสนามโน้มถว่ งอยู่โดยรอบ แรงโน้มถ่วงทก่ี ระทำต่อวตั ถทุ ่ีอยใู่ นสนามโน้มถว่ งจะมีทิศ
พุ่งเขา้ หาวัตถทุ เ่ี ปน็ แหลง่ ของสนามโน้มถว่ ง

13. วัตถุที่มีประจุไฟฟ้าจะมสี นามไฟฟ้าอยู่โดยรอบแรงไฟฟ้าที่กระทำต่อวัตถุที่มีประจุจะมีทศิ พุ่งเขา้ หา
หรือออกจากวัตถทุ ี่มปี ระจุท่ีเปน็ แหลง่ ของสนามไฟฟ้า

14. วตั ถทุ ี่เปน็ แม่เหล็กจะมสี นามแม่เหล็กอยู่โดยรอบแรงแม่เหล็กทก่ี ระทำต่อข้วั แม่เหล็กจะมีทิศพุ่งเข้า
หาหรือออกจากขัว้ แม่เหล็กท่ีเปน็ แหลง่ ของสนามแมเ่ หล็ก

15. ขนาดของแรงโน้มถว่ ง แรงไฟฟ้า และแรงแม่เหลก็ ท่ีกระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามนั้น ๆ จะมีค่าลดลง
เมือ่ วตั ถุอยูห่ า่ งจากแหลง่ ของสนามนัน้ ๆ มากขึน้

16. การเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุเทียบกับตำแหน่งอ้างอิงโดยมีปริมาณที่
เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ซึ่งมีทั้งปริมาณสเกลาร์และปริมาณเวกเตอร์ เช่น ระยะทาง อัตราเร็ว การ
กระจัด ความเร็ว ปริมาณ สเกลาร์เป็นปริมาณที่มีขนาด เช่น ระยะทาง อัตราเร็ว ปริมาณเวกเตอร์
เปน็ ปรมิ าณทีม่ ีทัง้ ขนาด และทิศทาง เช่น การกระจดั ความเร็ว

17. เขียนแผนภาพแทนปริมาณเวกเตอร์ได้ด้วยลูกศร โดยความยาวของลูกศรแสดงขนาดและ
หัวลกู ศรแสดงทศิ ทางของเวกเตอรน์ ้ัน ๆ

18. ระยะทางเปน็ ปริมาณสเกลลาร์ โดยระยะทางเป็นความยาวของเสน้ ทางท่ีเคลอ่ื นที่ได้
19. การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ โดยการกระจัดมีทิศชี้จากตำแหน่งเริ่มต้นไปยังตำแหน่งสุดท้าย

และมีขนาดเท่ากบั ระยะท่ีส้นั ทีส่ ดุ ระหว่างสองตำแหน่งนน้ั
20. อตั ราเรว็ เป็นปริมาณสเกลาร์ โดยอตั ราเร็วเป็นอตั ราส่วนของระยะทางต่อเวลา
21. ความเร็วปริมาณเวกเตอร์มีทิศเดียวกับทิศของการกระจัด โดยความเร็วเป็นอัตราส่วนของ

การกระจัดต่อเวลา
2.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ

(พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศกึ ษา)

3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ที่มีขนาดและทิศทาง มีหน่วยเป็นนิวตัน เมื่อมีแรงหลายแรงกระทำต่อวัตถุ

แล้วแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีค่าเป็นศูนย์ วัตถุจะไม่เคลื่อนที่ แต่หากแรงหลายแรงกระทำต่อวัตถุ
แลว้ แรงลพั ธท์ ี่กระทำตอ่ วตั ถมุ คี ่าไม่เปน็ ศนู ย์ วตั ถจุ ะไม่เคล่ือนท่ี

แรงดันในของเหลวเป็นแรงที่ของเหลวกระทำตั้งฉากกับผิวของวัตถุต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ เรียกว่า
ความดันของของเหลว ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความลึกจากระดับผิวหน้าของของเหลว โดยบริเวณที่ลึกลงไป
จากผิวหน้าของของเหลวมากขึ้นจะทำให้ความดันของเหลวเพิ่มขึ้น เนื่องจากของเหลวที่อยู่ลึกกว่าจะมี
น้ำหนกั ของของเหลวดา้ นบนกระทำมากกวา่ และเมอื่ วตั ถุอยู่ในของเหลวจะมีแรงพยงุ ซึง่ เปน็ แรงที่ของเหลว
กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในของเหลว มีทิศขึ้นในแนวดิ่ง โดยขนาดของแรงพยุงมีค่าเท่ากับขนาดของน้ำหนัก ของ
ของเหลวที่ถูกวัตถุแทนที่ หากน้ำหนักของวัตถุและแรงพยุงของของเหลวมีค่าเท่ากัน วัตถุจะลอยนิ่งอยู่ใน
ของเหลว แตห่ ากวตั ถุมนี ำ้ หนกั มากกว่าแรงพยงุ ของของเหลววัตถุจะจม

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 96

แรงเสียดทานเป็นแรงที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผิวสัมผัสของวัตถุ เพื่อต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้น มีทิ ศ
ทางตรงข้ามกับการเคลื่อนท่ีของวัตถุ แรงเสียดทาน มี 2 ประเภท ได้แก่ แรงเสียดทานสถิตเกิดข้ึนในขณะที่

วัตถุยังไม่เคลื่อนที่ และแรงเสียดทานจลน์เกิดขึ้นในขณะที่วัตถุกำลังเคลื่อนที่ ความรู้เรื่องแรงเสียดทาน
สามารถนำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั เช่น การลากวัตถบุ นพืน้ การใช้น้ำมันหลอ่ ลนื่ ในเครื่องยนต์

โมเมนต์ของแรงเป็นแรงที่กระทำต่อวัตถุโดยไม่ผ่านศูนย์กลางมวลของวัตถุ ซึ่งทำให้วัตถุหมุนรอบ

ศูนย์กลางมวลของวัตถุ โดยโมเมนต์ของแรงในทิศทวนเข็มนาฬิกาจะมีค่าเท่ากับโมเมนต์ของแรงในทิศตาม
เข็มนาฬกิ า

ในธรรมชาติจะมีแรง 3 แรง ได้แก่ แรงจากสนามโน้มถ่วง เปน็ แรงที่กระทำต่อวัตถุในทิศทางพุ่งเข้าหา

วัตถุที่เป็นแหล่งของสนามโน้มถ่วงส่งผลให้วัตถตุ กจากทีส่ งู ลงมาสู่ที่ตำ่ แรงจากสนามแม่เหล็ก เป็นแรงที่เกิด
กับวัตถุที่มีประจุไฟฟ้า ซึ่งประจุไฟฟ้าจะมีทิศพุ่งเข้าหา หรือออกจากวัตถุที่มปี ระจุเป็นแหล่งของสนามไฟฟา้
และแรงจากสนามแมเ่ หลก็ เปน็ แรงท่เี กดิ จากวัตถุท่ีเป็นแมเ่ หล็ก โดยแรงแมเ่ หลก็ ท่กี ระทำต่อข้วั แม่เหล็กจะมี

ทศิ พ่งุ เขา้ หาหรือออกจากขว้ั แมเ่ หล็กทเี่ ปน็ แหลง่ ของสนามแม่เหลก็
การเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุเทียบกับตำแหน่งอ้างอิง โดยมีปริมาณท่ี

เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่มีทั้งปริมาณสเกลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณที่มีขนาด เช่น ระยะทาง อัตราเร็ว

การกระจัด ความเร็ว และปรมิ าณเวกเตอร์ ซง่ึ เป็นปริมาณทีม่ ีทั้งขนาดและทศิ ทาง เชน่ การกระจดั ความเรว็
4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทกั ษะการวัด 3. ซื่อสัตย์ สุจริต
2) ทักษะการระบุ 4. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
3) ทกั ษะการสงั เกต

4) ทกั ษะการทดลอง
5) ทกั ษะการต้ังสมมติฐาน
6) ทกั ษะการสื่อสาร

7) ทกั ษะการคำนวณ
8) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
9) ทักษะการควบคุมตวั แปร

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 97

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
10) ทกั ษะการเช่ือมโยง
11) ทักษะการนำความรูไ้ ปใช้
12) ทักษะการพยากรณ์หรอื การคาดคะเน
13) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
14) ทกั ษะการตีความหมายขอ้ มูลและลงข้อสรุป
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- แผนผังมโนทศั น์ เรือ่ ง แรงและการเคล่ือนที่
6. การวัดและการประเมินผล

รายการวัด วิธีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
- ระดบั คุณภาพ 2
6.1 การประเมินชน้ิ งาน/ - ตรวจแผนผัง - แบบประเมินชิน้ งาน/
ผ่านเกณฑ์
ภาระงาน (รวบยอด) มโนทัศน์ เรื่อง แรง ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ตามสภาพจริง
และการเคล่ือนท่ี
- ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
6.2 การประเมินก่อนเรียน - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น

กอ่ นเรยี น หนว่ ยการ กอ่ นเรยี น หนว่ ยการ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4

เรยี นร้ทู ่ี 4 แรงและ เรยี นรู้ท่ี 4 แรงและ แรงและการเคลื่อนท่ี

การเคล่ือนท่ี การเคล่อื นที่

6.3 การประเมินระหว่าง

การจัดกิจกรรม

1) การหาแรงลัพธ์ของ - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 - ใบงานที่ 4.1.1

วตั ถุ - ตรวจใบงานท่ี 4.1.2 - ใบงานที่ 4.1.2

- ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมุดประจำตัว หรือ

หรือแบบฝึกหัด แบบฝกึ หดั

วิทยาศาสตร์ ม.2 วทิ ยาศาสตร์

เลม่ 2 ม.2 เลม่ 2

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 98

รายการวัด วธิ ีวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2) ผลบันทกึ การปฏิบัติ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมดุ ประจำตัว
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กจิ กรรมการหา - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ขนาดและทิศทาง - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ของแรงลพั ธ์ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

3) แรงเสียดทาน - ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 - ใบงานท่ี 4.2.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจสมุดประจำตัว - สมดุ ประจำตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

หรอื แบบฝกึ หดั แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 วิทยาศาสตร์

เลม่ 2 ม.2 เล่ม 2

4) ผลบันทึกการปฏิบัติ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมดุ ประจำตัว หรือ

กจิ กรรมการหา หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั

ขนาดของ วิทยาศาสตร์ ม.2 วิทยาศาสตร์

แรงเสียดทาน เล่ม 2 ม.2 เลม่ 2

5) ผลบนั ทึกการปฏิบตั ิ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตัว หรอื

กิจกรรมปัจจยั ที่มี หรือแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด

ผล วทิ ยาศาสตร์ ม.2 วิทยาศาสตร์

ต่อขนาดของ เล่ม 2 ม.2 เลม่ 2

แรงเสยี ดทาน

6) แรงดันในของเหลว - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมดุ ประจำตวั หรือ

และแรงพยงุ หรอื แบบฝึกหดั แบบฝึกหดั

วิทยาศาสตร์ ม.2 วทิ ยาศาสตร์

เลม่ 2 ม.2 เลม่ 2

7) ผลบนั ทกึ การปฏิบตั ิ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมุดประจำตัว หรอื

กจิ กรรมความดนั หรอื แบบฝึกหัด แบบฝึกหดั

ของของเหลว วทิ ยาศาสตร์ ม.2 วิทยาศาสตร์

เลม่ 2 ม.2 เล่ม 2

8) ผลบนั ทกึ การปฏบิ ตั ิ - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมุดประจำตวั หรือ

กจิ กรรมแรงที่ หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั

กระทำตอ่ วตั ถใุ น วิทยาศาสตร์ ม.2 วทิ ยาศาสตร์

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 99

รายการวัด วธิ ีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
ของเหลว เลม่ 2 ม.2 เลม่ 2

รายการวดั วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
9) โมเมนต์ของแรง - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมุดประจำตวั หรือ
- ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หรอื แบบฝึกหัด แบบฝึกหดั
- รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วทิ ยาศาสตร์ ม.2 วิทยาศาสตร์ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

เลม่ 2 ม.2 เลม่ 2 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
10) ผลบนั ทึกการปฏิบตั ิ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรมสมดลุ ต่อ หรือแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด

การหมุนและโมเมนต์ วทิ ยาศาสตร์ ม.2 วทิ ยาศาสตร์

ของแรง เลม่ 2 ม.2 เลม่ 2

11) สนามของแรง - ตรวจใบงานท่ี 4.5.1 - ใบงานที่ 4.5.1

- ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมดุ ประจำตัว หรือ

หรอื แบบฝกึ หดั แบบฝึกหัด

วิทยาศาสตร์ ม.2 วทิ ยาศาสตร์

เลม่ 2 ม.2 เล่ม 2

12) ผลบันทึกการปฏบิ ตั ิ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตวั

กจิ กรรม

สนามโน้มถ่วง

13) ผลบันทึกการปฏบิ ตั ิ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมดุ ประจำตวั

กจิ กรรมสนามไฟฟ้า

14) ผลบนั ทกึ การปฏบิ ตั ิ - ตรวจสมดุ ประจำตัว - สมดุ ประจำตวั

กิจกรรม

สนามแมเ่ หลก็

15) การเคล่ือนทีข่ อง - ตรวจใบงานท่ี 4.6.1 - ใบงานท่ี 4.6.1

วัตถุ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมุดประจำตัว หรือ

หรอื แบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด

วิทยาศาสตร์ ม.2 วทิ ยาศาสตร์

เล่ม 2 ม.2 เลม่ 2

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หนา้ 100

รายการวดั วิธวี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
- ระดบั คณุ ภาพ 2
16) การนำเสนอผลงาน/ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การ ผา่ นเกณฑ์

การปฏบิ ัติกิจกรรม ผลงาน/ผลการ นำเสนอผลงาน - ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ปฏิบัตกิ จิ กรรม

17) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม

ทำงาน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล

รายบุคคล

รายการวดั วธิ วี ดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
- แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
18) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
ทำงาน การทำงานกลุ่ม
- แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2
กลมุ่ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อนั พึงประสงค์
19) คุณลกั ษณะอันพึง - สังเกตความมวี ินยั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบหลังเรยี น
ประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4
แรงและการเคล่ือนท่ี
และม่งุ มน่ั ในการ

ทำงาน

6.4 การประเมินหลังเรยี น

- แบบทดสอบหลงั - ตรวจแบบทดสอบ

เรียน หลังเรยี น หน่วยการ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรยี นรู้ท่ี 4 แรงและ

แรงและการเคลอื่ นที่ การเคลื่อนที่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 101

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

• แผนท่ี 1 : การหาแรงลัพธ์ของวตั ถุ เวลา 4 ชั่วโมง

วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

• แผนท่ี 2 : แรงเสียดทาน เวลา 4 ชั่วโมง

วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

• แผนท่ี 3 : แรงดันในของเหลวและแรงพยุง เวลา 4 ชว่ั โมง

วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

• แผนที่ 4 : โมเมนตข์ องแรง เวลา 2 ชว่ั โมง

วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

• แผนที่ 5 : สนามของแรง เวลา 2 ช่ัวโมง

วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

• แผนท่ี 6 : การเคลื่อนทข่ี องวัตถุ เวลา 4

ชั่วโมง

วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

(รวมเวลา 20 ชว่ั โมง)

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้

1) หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 แรงและการเคลอื่ นที่

2) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 แรงและการเคลอื่ นท่ี

3) ใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง แรง

4) ใบงานท่ี 4.1.2 เร่ือง แรงลัพธ์

5) ใบงานที่ 4.2.1 เรอื่ ง แรงเสยี ดทาน

6) ใบงานท่ี 4.5.1 เร่ือง สนามของแรง

7) ใบความรู้ เรอื่ ง อตั ราเร็วและความเรว็

8) ใบงานที่ 4.6.1 เรอ่ื ง อัตราเร็วและความเร็ว

9) วัสดอุ ปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการปฏิบัติกิจกรรมการหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์

10) วสั ดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการปฏิบัตกิ จิ กรรมการหาขนาดของแรงเสยี ดทาน

11) วสั ดุอปุ กรณท์ ีใ่ ช้ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อขนาดของแรงเสียดทาน

12) วัสดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการปฏิบตั กิ ิจกรรมความดันของของเหลว

13) วสั ดุอุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการปฏิบตั กิ จิ กรรมแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุในของเหลว

14) วัสดอุ ุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมสมดุลต่อการหมุนและโมเมนต์ของแรง

15) วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม Fun Science Activity เรือ่ ง รม่ ชชู พี พยงุ ตุ๊กตา

16) PowerPoint เรอ่ื ง การหาแรงลพั ธ์ของวตั ถุ

17) PowerPoint เรอื่ ง แรงเสียดทาน

18) PowerPoint เรื่อง แรงดันในของเหลวและแรงพยุง

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หนา้ 102

19) PowerPoint เรอื่ ง โมเมนตข์ องแรง
20) PowerPoint เรอื่ ง สนามของแรง
21) PowerPoint เรื่อง การเคลื่อนท่ีของวตั ถุ
22) อปุ กรณ์สาธิตการทดลอง เช่น ลกู บอลยาง
23) อุปกรณ์สาธติ การทดลอง เช่น ผา้ ขนหนู 2 ผนื
24) อปุ กรณส์ าธติ การทดลอง เชน่ บีกเกอร์ จกุ ไม้คอร์ก และก้อนหิน
25) อุปกรณ์สาธิตการทดลอง เช่น เครอื่ งชัง่ สองแขน และเหรียญเงนิ
26) อปุ กรณ์สาธิตการทดลอง เช่น รถทดลอง และลูกเทนนสิ
27) ถงุ ทรายท่ีมขี นาดเทา่ กันและตา่ งกนั
28) หวี
29) ถาด
30) ผงตะไบเหล็ก
31) แท่งแมเ่ หล็ก 2 แท่ง
32) สลากหมายเลขกลุ่ม 1-5
33) QR Code เรอ่ื ง แรงพยุง
34) QR Code เร่ือง แรงจากสนามไฟฟ้า
35) วดี ิทัศนเ์ กย่ี วกับความดันของของเหลว

จาก https://www.youtube.com/watch?v=CSdM7B71BEM
36) วดี ทิ ศั น์เก่ยี วกบั การทดลองแรงดึงดูดของกาลิเลโอ

จาก https://www.youtube.com/watch?v=faSugW_Xefc
37) สมุดประจำตวั นักเรยี น
8.2 แหล่งการเรยี นรู้

1) หอ้ งเรียน
2) ห้องสมุด
3) อินเทอร์เน็ต

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หน้า 103

แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของแรงได้ถกู ต้อง 6. แรงในข้อใดมีผลทำใหต้ กลงจากทีส่ งู
1. แรง เปน็ ปริมาณสเกลาร์ มหี น่วย จูล
2. แรง เปน็ ปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วย จลู 1. แรงพยุง
3. แรง เป็นปริมาณสเกลาร์ มีหน่วย นิวตนั 2. แรงไฟฟ้า
4. แรง เป็นปริมาณเวกเตอร์ มีหนว่ ย นิวตนั 3.แรงโนม้ ถว่ ง
4.แรงเสยี ดทาน
2. แรงลัพธค์ ืออะไร 7. ระยะทางและการกระจดั เป็นปรมิ าณแรง
1. แรงทัง้ หมดทีก่ ระทำต่อวัตถุ แลว้ ทำให้วตั ถุ
เคลอื่ นที่ ชนดิ ใด ตามลำดบั
2. แรงที่มากระทำวัตถุ ส่งผลใหว้ ัตถเุ คลือ่ นที่ไปในทิศ
ทางตรงข้าม 1.เปน็ ปริมาณสเกลาร์ท้ังหมด
3. ผลรวมของแรงทมี่ ากระทำตอ่ วตั ถุ สง่ ผลใหว้ ตั ถุ 2.เป็นปรมิ าณเวกเตอรท์ ้ังหมด
เปล่ียนแปลงสภาพการเคล่ือนท่ี 3.เปน็ ปรมิ าณสเกลาร์และเวกเตอร์
4. ผลรวมของแรงทีม่ ากระทำตอ่ วัตถุ สง่ ผลให้วัตถไุ ม่ 4. เป็นปริมาณเวกเตอร์และสเกลาร์
เปลีย่ นแปลงสภาพการเคล่ือนท่ี 8. ความเรว็ และอตั ราเรว็ เปน็ ปรมิ าณแรงชนิด

3. แรงในข้อใดมผี ลทำใหว้ ัตถลุ อยนำ้ ได้ ใด ตามลำดับ
1. แรงพยุง
2. แรงไฟฟา้ 1.เป็นปรมิ าณสเกลาร์ทั้งหมด
3.แรงโนม้ ถว่ ง
4. แรงเสียดทาน 2.เป็นปริมาณเวกเตอรท์ ั้งหมด

4. ขอ้ ใดคือความหมายของโมเมนตข์ องแรง 3.เป็นปรมิ าณสเกลาร์และเวกเตอร์
1. แรง
2. จุดตรงึ ของคาน 4.เป็นปรมิ าณเวกเตอร์และสเกลาร์
3. ระยะของแรงถึงจดุ หมุน
4. ผลคูณระหวา่ งแรงถงึ จุดหมุน 9. สมปองน่ังรถออกจากบา้ นไปโรงเรียนเปน็

5. ขณะทีเ่ ราลากกระสอบใส่ขา้ วสารไปบนพนื้ คา่ ของแรง เวลา 10 วินาที ซ่งึ โรงเรยี นหา่ งจากบ้าน
เสยี ดทาน จะมากหรอื น้อยขนึ้ อยู่กับขอ้ ใด
1. พน้ื ท่ผี วิ สมั ผสั เป็นระยะทาง 200 เมตร อัตราเร็วมคี ่า
2. นำ้ หนักของกระสอบข้าวสาร, พ้ืนทผ่ี วิ สัมผสั
3. นำ้ หนกั ของกระสอบข้าวสาร, ลกั ษณะของผิวสมั ผัส เทา่ ใด
4. น้ำหนักของกระสอบข้าวสาร, ลักษณะของผิวสมั ผสั ,
พื้นท่ผี วิ สมั ผัส 1. 0.2 m/s 3. 20 m/s

2. 2 m/s 4. 200 m/s

10. สมศรเี ดนิ ทางออกจากบ้านไปธนาคาร โดย

วิ่งไปทางทิศเหนือ 30 เมตร และวิ่งต่อไป

ทางทิศตะวันออก 40 เมตร ใชเ้ วลา

ท้ังหมด 5 วินาที ความเร็วมคี ่าเท่าใด

1. 0.1 m/s 3. 10 m/s

2. 1 m/s 4. 100 m/

เฉลย 1. 4 2. 3 3. 1 4. 4 5. 4 6. 3 7. 3 8. 4 9. 3 10. 3

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 104

แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4

คำช้แี จง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ออกแรงผลักกลอ่ งทหี่ ยุดนิ่งไปทางซ้ายด้วยแรง อ่านข้อความต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำถามข้อ 6-10
สมชายวิ่งจากบ้านไปทางทิศเหนือ 20 เมตร
400 นิวตัน เม่อื เวลาผ่านไปขอ้ ใดถกู ต้อง
แล้วเดนิ ทางไปทางทิศตะวันออกอีก 15 เมตร ใช้
1.วัตถจุ ะหยุดนิ่งเหมือนเดิม เวลา 50 วินาที
2.วัตถจุ ะเคล่ือนที่ไปทางซ้ายด้วยความเร็วคงที่ 6. ระยะทางทส่ี มชายเคลอ่ื นทท่ี ง้ั หมดค่าเท่าใด
3.วตั ถจุ ะเคลื่อนท่ไี ปทางขวาด้วยความเรว็
1. 25 เมตร 2 35 เมตร
ลดลง 3 45 เมตร 4 .55 เมตร
4.วัตถุจะเคล่ือนท่ีไปทางซ้ายด้วยความเร็ว 7. การกระจดั ท่สี มชายเคล่ือนท่ีทง้ั หมดค่าเท่าใด
1. 25 เมตร 2 .35 เมตร
เพ่ิมข้ึน 3.45 เมตร 4. 55 เมตร
8. สมชายวิง่ ดว้ ยอัตราเร็วเฉลย่ี เท่าใด
2. ออกแรงผลกั กลอ่ งทีห่ ยดุ น่ิงไปทางซ้าย 20 นิว 1. 0.4 เมตรต่อวินาที
ตนั และ ออกแรงผลักกลอ่ งไปทางขาว 10 นวิ 2. 0.5 เมตรต่อวินาที
ตนั พรอ้ มกัน จงหาขนาดและทิศทางของแรง 3. 0.6 เมตรต่อวินาที
4. 0.7 เมตรตอ่ วินาที
ลัพธ์ 9. สมชายวง่ิ ดว้ ยความเรว็ เฉลย่ี เท่าใด
1.กลอ่ งไมเ่ คล่ือนที่ 1. 0.4 เมตรตอ่ วนิ าที
2. 10 นวิ ตนั ไปทางขวา 2. 0.5 เมตรตอ่ วินาที
3. 0.6 เมตรตอ่ วนิ าที
3. 10 นิวตัน ไปทางซา้ ย 4. 0.7 เมตรต่อวินาที
4.20 นวิ ตัน ไปทางขวา 10. ถา้ สมชายว่ิงไปทางทิศตะวนั ตก 15 เมตร
3. เม่อื ทศิ ทางของแรงผา่ นจุดหมนุ คา่ โมเมนต์ของ และทศิ ใต้ 20 เมตรด้วย ใช้เวลาเพ่ิมข้ึนอกี 50
วนิ าที สมชายวิ่ง
แรงนนั้ 2. มากทีสุด ด้วยความเรว็ เฉลย่ี เท่าใด
จะมคี ่าเท่าใด 1. 0 เมตรต่อวินาที
1.นอ้ ยท่ีสดุ 2. 0.5 เมตรต่อวนิ าที
3. 0.6 เมตรตอ่ วินาที
3.ไม่แนน่ อน 4.เทา่ กบั ศูนย์ 4. 0.7 เมตรตอ่ วนิ าที

4. ขอ้ ใดไม่เก่ียวข้องกับแรงเสียดทานระหว่างล้อ

กบั ถนน

1.พน้ื ที่หนา้ ยาง 2. น้ำหนักของรถ
3.ลกั ษณะพืน้ ผวิ ถนน 4.ลกั ษณะของดอกยาง

5. ขอ้ กลา่ วไม่ถกู ต้องเก่ยี วกบั สนามของแรง
1.สามารถรับรู้ดว้ ยประสาทสัมผัส
2.บรเิ วณท่ีมีแรงไฟฟา้ กระทำต่อวตั ถุ

3.บริเวณท่ีมีแรงแมเ่ หลก็ กระทำตอ่ วตั ถุ
4.บริเวณใดมีแรง บรเิ วณนั้นย่อมมสี นามของ

แรง

เฉลย 1. 4 2. 3 3. 4 4. 1 5. 1 6. 2 7. 1 8. 4 9. 2 10.

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา1วิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หนา้ 105

แบบประเมนิ ผลงานแผนผงั มโนทัศน์

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงาน/ชิน้ งานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แลว้ ขดี ✓ลงในช่องทตี่ รงกบั

ระดับคะแนน

ลำดับ รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ
ท่ี 4 3 21

1 ความสอดคล้องกับจดุ ประสงคท์ ่ี
กำหนด

2 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา

3 ความคิดสรา้ งสรรค์

4 ความเป็นระเบยี บ

รวม

ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมิน
............../................./................

เกณฑป์ ระเมนิ แผนผังมโนทศั น์

ประเด็นท่ีประเมนิ ระดับคะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4321
จดุ ประสงค์ท่ี
กำหนด ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานไม่สอดคล้อง

2. ผลงานมีความ จดุ ประสงคท์ ุก จุดประสงคเ์ ป็นสว่ น จดุ ประสงค์บาง กบั จุดประสงค์
ถกู ต้องของ
เนอื้ หา ประเด็น ใหญ่ ประเด็น

3. ผลงานมี เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ
ความคดิ
สร้างสรรค์ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเปน็ ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานไม่ถูกต้องเป็น

ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ สว่ นใหญ่

ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมแี นวคิด ผลงานมคี วาม ผลงานไมแ่ สดง

ความคดิ สรา้ งสรรค์ แปลกใหมแ่ ต่ยังไม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไม่มี แนวคิดใหม่

แปลกใหม่และเป็น เปน็ ระบบ แนวคดิ แปลกใหม่

ระบบ

4. ผลงานมคี วาม ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานส่วนใหญไ่ ม่
เปน็ ระเบยี บ เป็นระเบยี บและมขี ้อ
ระเบยี บแสดงออกถงึ ความเป็นระเบียบแต่ ระเบยี บแต่มี บกพร่องมาก

ความประณีต ยังมี ขอ้ บกพร่องบางส่วน

ขอ้ บกพร่องเลก็ น้อย

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หนา้ 106

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

14-16 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ต่ำกวา่ 7 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินการปฏิบตั กิ จิ กรรม

คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินการปฏิบัตกิ ิจกรรมของนกั เรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รง
กับระดับคะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

1 การปฏิบตั ิการทำกิจกรรม
2 ความคล่องแคลว่ ในขณะปฏบิ ัติกิจกรรม
3 การบันทกึ สรุปและนำเสนอผลการทำกจิ กรรม

รวม

ลงชือ่ ................................................... ผ้ปู ระเมิน
................./................../..................

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 107

เกณฑ์การประเมินการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม

ประเดน็ ท่ี ระดบั คะแนน
ประเมนิ
1.การปฏิบตั ิ 4321
กิจกรรม
ทำกจิ กรรมตาม ทำกิจกรรมตาม ตอ้ งให้ความ ต้องให้ความ
2.ความ ขน้ั ตอน และใช้ ข้นั ตอน และใช้
คล่องแคลว่ อปุ กรณ์ได้อย่าง อปุ กรณ์ได้อย่าง ชว่ ยเหลือบ้างในการ ชว่ ยเหลืออย่างมาก
ในขณะ ถูกต้อง ถูกต้อง แต่อาจต้อง
ปฏบิ ตั ิ ไดร้ บั คำแนะนำบ้าง ทำกจิ กรรม และการ ในการทำกิจกรรม
กิจกรรม
ใช้อุปกรณ์ และการใช้อุปกรณ์
3.การบนั ทึก
สรุปและ มคี วามคล่องแคล่ว มีความคล่องแคล่ว ขาดความ ทำกิจกรรมเสรจ็ ไม่
นำเสนอผล
การปฏบิ ตั ิ ในขณะทำกิจกรรม ในขณะทำกจิ กรรม คล่องแคลว่ ในขณะ ทนั เวลา และทำ
กิจกรรม โดยไมต่ อ้ งไดร้ บั คำ แตต่ อ้ งไดร้ ับ ทำกิจกรรมจงึ ทำ อปุ กรณ์เสียหาย
ชแี้ นะ และทำ คำแนะนำบ้าง และ กิจกรรมเสรจ็ ไม่
กิจกรรมเสร็จ ทำกจิ กรรมเสรจ็ ทนั เวลา
ทนั เวลา ทนั เวลา

บันทกึ และสรุปผล บันทึกและสรุปผล ต้องให้คำแนะนำใน ตอ้ งให้ความ

การทำกจิ กรรมได้ การทำกิจกรรมได้ การบนั ทกึ สรปุ และ ชว่ ยเหลอื อยา่ งมาก
ถกู ต้อง รัดกุม ถกู ต้อง แตก่ าร
นำเสนอผลการทำ นำเสนอผลการทำ นำเสนอผลการทำ ในการบันทึก สรุป

กจิ กรรม และนำเสนอผลการ

กจิ กรรมเป็นขั้นตอน กจิ กรรมยงั ไมเ่ ป็น ทำกิจกรรม
ชัดเจน ขัน้ ตอน

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

10-12 ดมี าก

7-9 ดี

4-6 พอใช้

0-3 ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หน้า 108

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน

3 21

1 ความถกู ตอ้ งของเน้ือหา  

2 ความคิดสร้างสรรค์  

3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน  

4 การนำไปใชป้ ระโยชน์  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

ลงชอ่ื ................................................... ผ้ปู ระเมิน
............/................./...................

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 109

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่

ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน

3 21

1 การแสดงความคิดเหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผ้อู ื่น  

3 การทำงานตามหน้าท่ีท่ีไดร้ ับมอบหมาย  

4 ความมีนำ้ ใจ  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมนิ
............/.................../................

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หนา้ 110

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 111

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

คำชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับที่ ชือ่ –สกลุ การ ความมี การมี รวม
ของนักเรยี น การแสดง การ ทำงาน น้ำใจ สว่ นร่วม 15
ในการ คะแนน
ความ ยอมรับฟัง ตามที่ ปรับปรุง
คิดเหน็ คนอน่ื ได้รับ ผลงาน

มอบหมาย กลมุ่

321321321321321

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............./.................../...............
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 112

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ ้าน 321

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้

กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่สี รา้ งความสามัคคีปรองดอง

และเป็นประโยชน์

ต่อโรงเรียน

1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบัติ

ตามหลักศาสนา

1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกี่ยวกบั สถาบันพระมหากษตั รยิ ์

ตามที่โรงเรยี นจดั ขน้ึ

2. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถี่ ูกต้องและเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ัตใิ นสง่ิ ท่ถี ูกต้อง

3. มีวนิ ยั 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของ

รบั ผิดชอบ ครอบครัว

มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน

ชีวติ ประจำวัน

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัตไิ ด้

4.2 รูจ้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เช่ือฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้

4.4 ต้ังใจเรยี น

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 113

5. อย่อู ย่าง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
พอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยัดและรคู้ ุณคา่
5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน
6. ม่งุ มัน่ ใน 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั
การทำงาน
มอบหมาย
7. รักความ 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ าน
เปน็ ไทย
สำเร็จ
8. มีจิต 7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
สาธารณะ
7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรัพย์สมบัติและสิง่ แวดลอ้ มของ

ห้องเรยี นและโรงเรยี น

ลงชื่อ .................................................. ผ้ปู ระเมิน
............/.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ
พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครั้ง ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน 51-60 ดีมาก

41-50 ดี

30-40 พอใช้

ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หน้า 114

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว22102 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 งานและพลังงาน ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน 4 ชั่วโมง

เร่ือง งานและกำลงั ผสู้ อน นางสาวจติ ติญาภรณ์ สรา้ งพล

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด

ว 2.3 ม.2/1 วิเคราะห์สถานการณแ์ ละคำนวณเกีย่ วกับงานและกำลงั ทเ่ี กิดจากแรงที่กระทำต่อวตั ถุ
W
โดยใช้สมการ W= Fs และ P = t จากขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายความหมายของงานและกำลังในทางวิทยาศาสตรไ์ ด้ (K)
2. อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่างงานกับกำลังได้ (K)
3. วเิ คราะหส์ ถานการณ์เกย่ี วกบั งานและกำลงั ได้ (P)
4. คำนวณหาปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานและกำลงั ได้ (P)
5. มีความใฝเ่ รียนรู้และมีความมงุ่ มั่นในการทำงาน (A)

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
• เมื่อออกแรงกระทำต่อวัตถุ แล้วทำให้วัตถุเคลื่อนท่ี
โดยแรงอยู่ในแนวเดียวกับการเคลื่อนที่จะเกิดงาน
งานจะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นกับขนาดของแรง
และระยะทางในแนวเดียวกับแรง

4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
งานเป็นการออกแรงกระทำกระทำต่อวัตถุแล้วทำให้วัตถุเกิดการเคลื่อนที่ไปในแนวเดียวกับทิศทาง

หรือมีการกระจัดตามแนวแรงนั้น งานจะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของแรง และขนาดของ
การกระจัดในแนวเดียวกับแรง และกำลัง เป็นปริมาณที่ใช้บอกความสามารถในการทำงานได้ต่อหนึ่งห น่วย
เวลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หนา้ 115

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. ซ่ือสัตย์ สุจรติ

2) ทักษะการคำนวณ 4. มุง่ มนั่ ในการทำงาน

3) ทักษะการทำงานรว่ มกนั

4) ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้

5) ทกั ษะการเช่อื มโยง

3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
 แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงท่ี 1

ข้นั นำ

ข้ันที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกบั นักเรยี น แล้วแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ จากนัน้ นักเรียนทำ
แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน เพ่อื วัดความรู้เดมิ ของนักเรยี น
ก่อนเข้าสกู่ ิจกรรม
2. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนโดยใช้คำถาม Big Question จากหนงั สือเรียน
วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 และร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอิสระโดยไมม่ ีการเฉลย
วา่ ถูกหรือผดิ ว่า “งานและพลังงาน มคี วามเก่ยี วขอ้ งกับกจิ วัตรประจำวนั ของเราอย่างไร”
(แนวตอบ : ในชีวิตประจำวนั ของเราล้วนประกอบกจิ กรรมตา่ ง ๆ ซง่ึ บางกิจกรรมล้วนก่อใหเ้ กิด
งานในทางฟิสิกส์ กลา่ วคือ เมื่อออกแรงกระทำกบั วตั ถุใหเ้ คล่อื นที่ไปตามแนวแรง ส่วนพลังงาน
เป็นส่ิงที่ไมส่ ามารถมองเหน็ หรอื จบั ตอ้ งได้ แต่สามารถรบั รู้ได้ เชน่ พลงั งานความร้อนจาก

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หน้า 116

ดวงอาทิตย์ พลงั งานงานไฟฟ้าทำให้หลอดไฟสว่าง พลังงานลมช่วยขบั เคลอื่ นเรือสำเภา)
3. นกั เรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเขา้ สู่กิจกรรมการเรยี นการสอน จากกรอบ

Understanding Check ในหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 โดยบันทึกลงในสมุดประจำตัว
นักเรยี น
4. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 เพื่อเป็นการนำเข้าสู่
บทเรยี นว่า “แรงชนิดใดบ้างทสี่ ่งผลให้วตั ถุเคลอื่ นที่ไปตามแนวแรงทม่ี ากระทำ”
(แนวตอบ : แรงโนม้ ถ่วง แรงดงึ แรงผลัก)

ข้นั สอน

ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครนู ำบตั รภาพกจิ กรรมตา่ ง ๆ เช่น นกั กฬี ายกน้ำหนัก คนเขน็ รถยนต์ และเด็กผหู้ ญงิ น่งั เลน่
คอมพวิ เตอร์ มาใหน้ ักเรียนดู จากน้ันครตู ั้งประเดน็ คำถามกระตุ้นความคดิ นักเรียนว่า
“กจิ กรรมใดบ้างท่เี กดิ งานในทางฟสิ ิกส์”
(แนวตอบ : กจิ กรรมท่เี กิดงานทางฟิสิกส์ คือ คนเขน็ รถยนต์ และเดก็ ผ้หู ญิงน่ังเล่นคอมพิวเตอร์)
2. นกั เรียนจบั คเู่ ลขทข่ี องตนเอง เชน่ เลขท่ี 1 จับคูก่ บั เลขท่ี 2 จากนั้นให้นักเรยี นแต่ละครู่ ว่ มกัน
ศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูลเกี่ยวกับ เรอื่ ง งาน เพื่อหาคำนยิ ามคำว่า งาน ในทางวิทยาศาสตร์ จากหนังสือ
เรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 หรือแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด
3. นกั เรยี นแต่ละค่รู ว่ มกนั อภิปรายเรือ่ งท่ีไดศ้ ึกษา จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นสรปุ ความรูท้ ี่ได้
จากการศึกษาคน้ คว้าลงในสมุดประจำตัวนกั เรียน
(หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)

ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาหน้าชัน้ เรยี น ในระหว่างทนี่ กั เรียนนำเสนอครูคอย
ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เพ่ือให้นกั เรยี นมคี วามเข้าใจท่ีถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
5. ครตู ง้ั ประเดน็ คำถามกระตุ้นความคิดนักเรียน โดยให้นักเรยี นแต่ละคนร่วมกนั อภิปราย
แสดงความคิดเห็นเพื่อหาคำตอบ ดังนี้
• งานในความหมายทั่วไปในชีวิตประจำวนั ตา่ งกับงานในทางวทิ ยาศาสตรอ์ ย่างไร
(แนวตอบ : งานในความหมายท่วั ไป หมายถึง การประกอบอาชพี ซงึ่ แตกต่างไปจากความหมาย
ของงานในทางวิทยาศาสตร์ หมายถงึ ผลของแรงและระยะทางท่ีวัตถเุ คล่ือนที่ในแนวเดียวกบั
แรง ดังนน้ั งานจงึ เป็นปริมาณสเกลาร์)
• จากนยิ ามนักเรยี นสามารถคำนวณปริมาณงานได้อยา่ งไร
(แนวตอบ : ผลคูณระหวา่ งแรงกับระยะทางท่ีวัตถุเคลือ่ นที่)
6. ครอู ธิบายเพิม่ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจวา่ “นอกจากงานทเ่ี กดิ ขึ้นในแนวระดบั แลว้ เราสามารถหางานท่ี
เกิดจากแนวดิง่ ได้อกี เน่ืองจากการเคลื่อนที่ของวตั ถลุ งในแนวด่งิ จะมแี รงโนม้ ถว่ งของโลกมากระทำ
ต่อวัตถทุ ี่มมี วล ทำใหเ้ กิดเป็นงานเนอื่ งจากแรงโน้มถว่ งของโลก โดยคำนวณได้จากสมการ W =
mgh”

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หนา้ 117

7. นักเรยี นศกึ ษาตัวอย่างการคำนวณโจทย์ปญั หาจากตัวอย่างท่ี 5.1-5.4 เรอ่ื ง งาน จากหนังสอื เรียน
วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 จากน้ันครูเขียนโจทย์ปญั หาเพ่มิ เติม และแสดงวิธที ำ ให้นักเรยี นดู
บนกระดาน ดงั น้ี

ตวั อย่างโจทย์

ณเดช ยกกลอ่ งขนมท่มี นี ำ้ หนัก 20 นวิ ตัน ข้นึ จากพน้ื ไปวางบนหลังตู้เยน็ ท่ีสูงจากพนื้ 1.5 เมตร

จงหางานที่ณเดชทำได้

วธิ ีทำ จากโจทย์กำหนด F = 20 นวิ ตัน, s = 1.5 เมตร, w = ?)

จากสมการ W = Fxs

W = 20 N x 1.5 m

W = 30 J

ดังน้นั งานทณี่ เดชทำไดม้ ีค่าเทา่ กับ 30 จลู

8. นักเรยี นทำใบงานท่ี 5.1.1 เรอ่ื ง งาน จากนั้นครูสมุ่ เลขทนี่ กั เรยี น จำนวน 4 คน ออกมาเขยี น
คำตอบของตนเองหน้าชน้ั เรียน โดยให้เพือ่ นในชนั้ เรียนรว่ มกนั พิจารณาวา่ คำตอบถูกตอ้ งหรอื ไม่
จากนนั้ ครเู ฉลยคำตอบทถ่ี ูกต้องให้นักเรยี น
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)

ชั่วโมงที่ 2

ขั้นสอน

ขัน้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) (ต่อ)
9. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรียน จากชั่วโมงทผี่ ่านมา จากนั้นครูถามนกั เรยี นว่า “กำลังเก่ียวข้อง
กับงานอย่างไร” โดยให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นเพ่ือหาคำตอบ
(แนวตอบ : งานทที่ ำในหนึ่งหน่วยเวลา เรียกว่า กำลัง ซง่ึ กำลังเปน็ ปรมิ าณสเกลาร์เช่นเดียวกับ
งาน)

10. ครตู ้ังประเด็นคำถามให้นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นว่า “คนสองคนทำงานได้เท่ากัน
แต่ใช้เวลาในการทำงานตา่ งกัน ความสามารถในการทำงานของคนสองคนเหมือน หรือตา่ งกัน
อยา่ งไร” โดยไม่มกี ารเฉลยวา่ ถกู หรอื ผิด จากนนั้ นกั เรียนแต่ละคนศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลเกี่ยวกับ
เร่ือง กำลงั จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 หรอื QR Code เร่อื ง กำลัง

11. นกั เรยี นแตล่ ะคนเขียนสรุปความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาค้นคว้าลงในสมุดประจำตวั นกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 118

ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)
12. นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายเก่ยี วกับ เรอ่ื ง กำลงั ซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกนั ว่า “กำลังเป็นปรมิ าณที่
ใชบ้ อกความสามารถในการทำงานได้ต่อหน่งึ หน่วยเวลา ซ่ึงในทางฟิสิกส์การทำงานเท่ากันในเวลา
ทีแ่ ตกตา่ งกนั เรียกวา่ อัตราการทำงาน หรอื ปริมาณงานทที่ ำไดห้ นึ่งหนว่ ยเวลา”
13. ครูอธิบายเพมิ่ เติมให้นักเรยี นเข้าใจเกย่ี วกับกำลงั ม้าวา่ “หน่วยของกำลงั นอกจากวัตต์แลว้
นยิ มบอกเปน็ แรงม้า เมือ่ เทียบแรงมา้ กับหน่วยเอสไอ (SI unit) จะได้ว่า 1 แรงม้า เทา่ กับ
746 วตั ต์”
14. นกั เรยี นศึกษาตัวอย่างการคำนวณโจทยป์ ญั หาจากตวั อย่างที่ 5.5-5.9 เรื่อง กำลงั จากหนังสือ
เรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 จากน้ันครเู ขยี นโจทย์บนกระดาน โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคน
แสดงวิธีทำลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น ตวั อยา่ งโจทย์ ป้ันจัน่ ยกของมวล 1500 กโิ ลกรัม
ขนึ้ สูง 10 เมตร ในเวลา 20 วินาที จงหากำลังของปน้ั จ่ันในการยกของนี้
15. ครูสมุ่ เลขที่นกั เรยี น จำนวน 2 คน ออกมาเขียนคำตอบของตนเองหนา้ ชัน้ เรียน โดยใหเ้ พ่ือนใน
ชน้ั เรยี นร่วมกนั พจิ ารณาว่าคำตอบถูกต้องหรือไม่ จากนัน้ ครูเฉลยคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งใหน้ กั เรียน

ขั้นที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
16. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามเนอื้ หาเกย่ี วกับ เรือ่ ง งานและกำลัง และให้ความรู้เพ่ิมเตมิ จาก
คำถามของนักเรยี น โดยครูใช้ PowerPoint เรอื่ ง งานและกำลัง ในการอธบิ ายเพม่ิ เติม
17. นกั เรียนจับคูก่ ับเพ่ือนในชัน้ เรียน ตามความสมคั รใจ จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะครู่ ว่ มกันทำ
ใบงานที่ 5.1.2 เร่อื ง กำลัง เมอื่ ทำเสรจ็ แล้วนำสง่ ครทู า้ ยชัว่ โมง
18. ครูสุม่ เลขทน่ี ักเรยี น จำนวน 3 คน ออกมาเขยี นคำตอบของตนเองหนา้ ชัน้ เรียน โดยให้เพื่อนใน
ชัน้ เรียนร่วมกนั พจิ ารณาวา่ คำตอบถูกต้องหรอื ไม่ จากนน้ั ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้องให้นกั เรียน
19. นักเรยี นแต่ละคนทำแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง งานและกำลัง จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2
เป็นการบ้านส่งในช่วั โมงถัดไป

ข้ันสรปุ

ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน
เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรยี นของนักเรยี น
2. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมหน้าชั้นเรยี น
3. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นก่อนเข้าสกู่ จิ กรรมการเรียนการสอน
จากกรอบ Understanding Check ในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น
4. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานท่ี 5.1.1 เรื่อง งาน
5. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานท่ี 5.1.2 เรื่อง กำลงั
6. ครตู รวจแบบฝึกหัด เร่ือง งานและกำลงั จากแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2
7. นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปเก่ยี วกบั งานและกำลัง ซึ่งได้ขอ้ สรปุ ร่วมกันวา่ “งาน เกิดข้ึนเมอ่ื มีแรง

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หนา้ 119

กระทำตอ่ วตั ถุแล้วทำใหว้ ัตถุมีการเคล่ือนท่ีไปในแนวเดยี วกบั ทิศทางของแรง หรือมีการกระจดั

ตามแนวแรง งานเปน็ ปริมาณสเกลาร์ มหี นว่ ยเป็น จลู (J) และกำลงั เป็นปริมาณงานทที่ ำได้ใน

หนึง่ หนว่ ยเวลา หรือปริมาณทีใ่ ช้บอกความสามารถในการทำงานได้ตอ่ หนึง่ หนว่ ยเวลา กำลงั เป็น

ปรมิ าณสเกลาร์ มีหน่วยเป็น วัตต์ (W)”

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 การประเมนิ ก่อน

เรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง

- แบบทดสอบ กอ่ นเรยี น หน่วยการ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5

กอ่ นเรยี น หน่วยการ เรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน

เรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน

งานและพลงั งาน

7.2 ประเมนิ ระหว่าง

การจัดกจิ กรรม - ตรวจใบงานที่ 5.1.1 - ใบงานที่ 5.1.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

การเรยี นรู้ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - สมุดประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

1) งาน หรอื แบบฝึกหดั แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์ ม.2 ม.2 เล่ม 2

เลม่ 2

2) กำลงั - ตรวจใบงานท่ี 5.1.2 - ใบงานที่ 5.1.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

- ตรวจสมุดประจำตัว - สมุดประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หรือแบบฝึกหดั แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 ม.2 เล่ม 2

เล่ม 2

3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดับคณุ ภาพ 2

ผลงาน นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2

ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2

ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์

6) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ รับผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์

และมงุ่ มั่นในการ อนั พึงประสงค์

ทำงาน

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 120

1) หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน
2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 งานและพลงั งาน
3) ใบงานท่ี 5.1.1 เร่อื ง งาน
4) ใบงานท่ี 5.1.2 เร่ือง กำลัง
5) PowerPoint เร่ือง งานและกำลงั
6) บตั รภาพกิจกรรมตา่ ง ๆ
7) QR Code เรอ่ื ง กำลัง
8) สมุดประจำตวั นักเรียน
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) อนิ เทอรเ์ นต็

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 121

ใบงานท่ี 5.1.1

เรอ่ื ง งาน

คำชแ้ี จง : จงแสดงวิธคี ำนวณจากโจทยท์ ่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้

1. เมอื่ ออกแรง 60 นิวตนั ผลกั ตู้หนังสือให้เคล่ือนท่ีไปในระยะทาง 10 เมตร งานทเ่ี กิดขึ้นมีคา่ เท่าใด
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ..............................................

2. นดิ ยกกล่องหนกั 20 นวิ ตัน ขึ้นจากพ้ืนไปวางบนช้ันหนงั สือท่สี ูงจากพน้ื 1.3 เมตร จงหางานทน่ี ดิ ทำได้
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ..............................................

3. ผชู้ ายคนหนึ่งดันตู้ที่มนี ้ำหนัก 1,000 นิวตัน ให้เคลื่อนท่ีไปข้างหนา้ 0.5 เมตร จงคำนวณหางานทช่ี ายคนนี้ทำได้
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ..............................................
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................

4. วเิ ชยี รออกแรงยกกล่องด้วยแรง 30 นิวตนั แลว้ เดินขน้ึ บนั ได 5 ขัน้ แต่ละขน้ั สงู 20 เซนตเิ มตร งานทวี่ เิ ชยี ร
ทำจากการยกกล่องข้นึ บนั ไดมคี า่ เท่าใด3,00

.................................................................................................................................................. ...............................
.................................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
.................................................................................................................................... .......................................
5. ป้ันจน่ั เครื่องหน่งึ ยกหีบสินคา้ มวล 1.5×105 กิโลกรัม ขนึ้ จากทา่ เรือเพื่อวางบนดาดฟา้ เรือ ซงึ่ สงู จากพืน้

ทา่ เรอื 15 เมตร จงหางานในการยกสินคา้ ของปนั้ จั่นในหน่วยจูล
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หนา้ 122

ใบงานท่ี 5.1.1 เฉลย
เรือ่ ง งาน

คำช้ีแจง : จงแสดงวธิ คี ำนวณจากโจทยท์ ่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้
1. เมือ่ ออกแรง 60 นิวตนั ผลักตู้หนังสอื ใหเ้ คลื่อนท่ีไปในระยะทาง 10 เมตร งานท่เี กดิ ขึ้นมคี า่ เท่าใด

วธิ ีทำ จากโจทยก์ ำหนด F = 60 นิวตัน, s = 10 เมตร, W = ?
จากสมการ W = Fs
W = (60 N)(10 m)
W = 600 J

ดงั นน้ั งานท่เี กดิ ขนึ้ มีคา่ เท่ากับ 600 จูล

2. นดิ ยกกลอ่ งหนัก 20 นิวตนั ข้นึ จากพ้นื ไปวางบนช้นั หนังสือทีส่ ูงจากพน้ื 1.3 เมตร จงหางานทนี่ ิดทำได้
วธิ ีทำ จากโจทยก์ ำหนด F = 20 นิวตัน, s = 1.3 เมตร, W = ?
จากสมการ W = Fs
W = (20 N)(1.3 m)
W = 26 J

ดงั นนั้ งานที่นิดทำได้มีคา่ เท่ากบั 26 จูล

3. ผูช้ ายคนหนึ่งดันตู้ที่มีน้ำหนัก 1,000 นิวตัน ใหเ้ คลื่อนที่ไปข้างหนา้ 0.5 เมตร จงคำนวณหางานท่ีชายคนนท้ี ำได้
วธิ ที ำ จากโจทยก์ ำหนด F = 1,000 นวิ ตนั , s = 0.5 เมตร, W = ?
จากสมการ W = Fs
W = (1,000 N)(0.5 m)
W = 500 J

ดงั น้ัน งานที่ชายผู้นท้ี ำได้มีค่าเทา่ กับ 26 จลู

4. วเิ ชยี รออกแรงยกกล่องด้วยแรง 30 นวิ ตัน แล้วเดนิ ข้ึนบนั ได 5 ขัน้ แต่ละขนั้ สูง 20 เซนติเมตร งานท่ี
วเิ ชยี รทำจากการยกกลอ่ งข้ึนบนั ไดมีค่าเทา่ ใด
วิธีทำ จากโจทยก์ ำหนด F = 30 นิวตนั , s = 5 x 20 = 100 เมตร, W = ?
จากสมการ W = Fs
W = (30 N)(100 m)
W = 3,000 J

ดังนัน้ งานที่วิเชียรทำจากการยกกลอ่ งข้ึนบันไดมีค่าเท่ากับ 3,000 จลู

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 123

5. ป้ันจัน่ เครือ่ งหน่ึงยกหีบสนิ คา้ มวล 1.5×105 กิโลกรมั ข้นึ จากท่าเรือเพื่อวางบนดาดฟ้าเรอื ซึ่งสงู จากพ้ืน
ท่าเรือ 15 เมตร จงหางานในการยกสนิ คา้ ของป้นั จ่ันในหนว่ ยจูล
วิธที ำ จากโจทย์กำหนด m = 1.5 × 105 กิโลกรัม, h = 15 เมตร, g = 10 เมตรต่อวินาที2 , W =

?
จากสมการ W = Fs = mgh
W = (1.5  105 kg)(10 m / s2 )(15 m)
W = 225  105 J หรอื 2.25107 J

ดังนั้น งานในการยกสนิ ค้าของป้นั จน่ั มีคา่ เท่ากบั 2.25107 จูล

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หนา้ 124

ใบงานที่ 5.2.1

เรื่อง กำลัง

คำชแ้ี จง : จงแสดงวิธีคำนวณจากโจทย์ทก่ี ำหนดใหต้ ่อไปน้ี

1. จนี ่า หนกั 480 นวิ ตัน ว่งิ ขน้ึ เวที ซ่ึงสูง 5 เมตร ในเวลา 10 วินาที จงหาว่าจีนา่ ต้องใชก้ ำลงั เทา่ ไร
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ..............................................

2. ปัน้ จนั่ อนั ยกนำ้ หนัก 0.5 กโิ ลกรมั ขนึ้ ไปได้สูง 6 เมตร จากพื้นดว้ ยความเร็วคงทีใ่ นเวลา 30 วินาที จงหา
กำลงั ท่ปี นั้ จน่ั ใช้

............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ..............................................

3. หวั จักรคนั หนึง่ มีกำลัง 72 กิโลวัตต์ สามารถออกแรงฉดุ ให้รถเคลอื่ นทไ่ี ดด้ ้วยแรง 3,600 นวิ ตนั
จงหาอตั ราเรว็ เฉลย่ี ของการเคลื่อนท่ีของรถนัน้ เปน็ เมตรต่อวินาที

............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ..............................................
.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................................

4. นายดำแบกกระจาดใสม่ ะม่วงหนกั 20 กโิ ลกรัม เดินขึ้นสะพานลอยหน้าโรงเรียนเป็นเวลา 50 วินาที บนั ได
มคี วามยาว 15 เมตร สะพานสงู 5 เมตร กว้าง 50 เมตร นายดำออกกำลังเทา่ ไร

.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................................
............................................................................................................................. ....................................................
...........................................................................................................................................................................

5. เจา้ หนา้ ท่ดี บั เพลงิ ใชก้ ระเช้าป่ันจน่ั หนกั 1200 นิวตนั ชว่ ยคนตดิ อยู่ในตกึ ลงมาดว้ ยอตั ราเรว็ 3 เมตรต่อ
วนิ าที จงหากำลงั

............................................................................................................................................................................ .....
............................................................................................................................. ..............................................
............................................................................................................................. ....................................................
.............................................................................................................................................................. .............

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หนา้ 125

ใบงานที่ 5.1.2 เฉลย
เรอ่ื ง กำลัง

คำช้แี จง : จงแสดงวธิ คี ำนวณจากโจทยท์ กี่ ำหนดใหต้ อ่ ไปน้ี

1. จีนา่ หนกั 480 นิวตัน วิ่งขึน้ เวที ซง่ึ สูง 5 เมตร ในเวลา 10 วินาที จงหาวา่ จีนา่ ต้องใชก้ ำลงั เท่าไร

วิธที ำ จากโจทย์กำหนด F = 480 นิวตนั , s = 5 เมตร, t = 10 วินาที, P = ?
W Fs
จากสมการ P = t = t

(450 N)(5 m)
P = 10 s

P = 240 J / s

ดังนัน้ จนี ่าตอ้ งใชก้ ำลัง 240 จลู ตอ่ วนิ าที

2. ป้นั จนั่ อันยกนำ้ หนัก 0.5 กิโลกรมั ขึ้นไปไดส้ งู 6 เมตร จากพืน้ ดว้ ยความเรว็ คงทีใ่ นเวลา 30 วินาที

จงหากำลังท่ปี ้นั จ่ันใช้

วิธที ำ จากโจทย์กำหนด m = 0.5 กโิ ลกรัม, h = 6 เมตร, t = 30 วนิ าที

จากสมการ g = 10 เมตรตอ่ วินาที2 , P = ?
P = W = mgh

tt
(0.5 kg)(10 m/ s2 )(6 m)
P = 30 s

P = 1W

ดงั น้ัน กำลังของปั้นจั่นมีค่าเท่ากบั 1 วัตต์

3. หวั จักรคนั หนึง่ มีกำลัง 72 กโิ ลวัตต์ สามารถออกแรงฉดุ ให้รถเคล่ือนที่ไดด้ ้วยแรง 3,600 นิวตนั

จงหาอตั ราเร็วเฉล่ียของการเคลื่อนท่ีของรถน้ันเป็นเมตรตอ่ วินาที

วิธที ำ จากโจทย์กำหนด P = 72 x 103 วัตต,์ F = 3,600 นวิ ตนั , v = ?
Fs s
จากสมการ P = t (เม่อื v = t )

P = Fv

(72103 ) = (3,600 N)(v)

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หน้า 126

v = 20 m/ s
ดงั นั้น อตั ราเรว็ เฉลย่ี ของการเคลื่อนท่ีของรถนั้นเป็น 20 เมตรต่อวนิ าที

4. นายดำแบกกระจาดใส่มะมว่ งหนัก 20 กิโลกรมั เดินขนึ้ สะพานลอยหน้าโรงเรียนเป็นเวลา 50 วนิ าที

บันไดมคี วามยาว 15 เมตร สะพานสงู 5 เมตร กว้าง 50 เมตร นายดำออกกำลังเทา่ ไร

วิธีทำ จากโจทยก์ ำหนด m = 20 กโิ ลกรัม, h = 5 เมตร, t = 50 วนิ าที
g = 10 เมตรตอ่ วนิ าที2 , P = ?
W mgh
จากสมการ P = t = t

(20 kg)(10 m / s2 )(5 m)
P = 50 s

P = 20 J/ s

ดังนัน้ นายดำออกกำลงั เท่ากับ 20 จูลต่อวนิ าที

5. เจา้ หน้าทด่ี ับเพลิงใชก้ ระเชา้ ปั่นจน่ั หนกั 1200 นิวตนั ชว่ ยคนตดิ อยู่ในตึกลงมาด้วยอัตราเรว็ 3 เมตรต่อ
วินาที จงหากำลงั
วธิ ีทำ จากโจทย์กำหนด F = 1,200 นวิ ตัน, v = 3 เมตรตอ่ วนิ าที, P = ?
จากสมการ P = Fv

P = (1,200 N)(3 m / s)
P = 3,600 W

ดงั นนั้ กำลงั ทีป่ น้ั จน่ั ใช้มีค่าเท่ากับ 3,600 วัตต์

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 127

บตั รภาพกจิ กรรมต่าง ๆ 

นักกีฬายกนำ้ หนัก

คนเขน็ รถยนต์

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 128

เด็กผู้หญิงนง่ั เลน่ คอมพิวเตอร์

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หน้า 129

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชือ่
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บนั ทึกผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 | หน้า 130

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว22102 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เวลาเรียน 4 ช่วั โมง

เรื่อง เครอื่ งกลอยา่ งงา่ ย ผูส้ อน นางสาวจิตตญิ าภรณ์ สร้างพล

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
ว 2.3 ม.2/2 วิเคราะห์หลักการทำงานของเคร่อื งกลอย่างง่ายจากข้อมลู ที่รวบรวมได้
ว 2.3 ม.2/3 ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องความรขู้ องเครื่องกลอย่างง่าย โดยบอกประโยชน์
และการประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายหลักการทำงานของเคร่อื งมือกลอย่างง่ายได้ (K)
2. บอกประโยชน์และการประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (P)
3. วิเคราะห์หลกั การทำงานของเคร่อื งกลอย่างง่ายจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ (P)
4. ตระหนกั ถึงประโยชน์และนำหลกั การของเครื่องกลอย่างง่ายมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น
สาระการเรียนรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

• งานที่ทำในหน่วยเวลาเรียกว่า กำลัง หลักการของ
งานนำไปอธิบายการทำงานของเครื่องกลอย่างง่าย
ไดแ้ ก่ คาน พน้ื เอียง รอกเดย่ี ว ล่มิ สกรู ลอ้ และเพลา
ซงึ่ นำไปใชป้ ระโยชนด์ ้านตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
หลักการของงานถูกนำมาอธิบายการทำงานของเครื่องกลซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำงานเป็นไป

อย่างสะดวกขึ้น โดยมีแรงพยายาม หรือแรงที่ให้กับเครื่องกล และแรงต้านทาน หรือแรงที่วัตถุกระทำต่อ
เครื่องกลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเครื่องกลอย่างง่ายมี 6 ประเภท ได้แก่ คาน รอก พื้นเอียง สกรู ลิ่ม ล้อและ
เพลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 131

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต

2) ทกั ษะการระบุ 4. มุ่งม่ันในการทำงาน

3) ทกั ษะการคำนวณ

4) ทักษะการทำงานร่วมกนั

5) ทักษะการนำความรูไ้ ปใช้

3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ช่ัวโมงท่ี 1

ขน้ั นำ

ขั้นที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนกั เรียนเกย่ี วกบั เรื่อง งานและกำลงั จากนั้นครูแจง้ จดุ ประสงค์
การเรียนรใู้ ห้นกั เรียนทราบ
2. ครูสนทนากับนักเรยี นว่า “ในชวี ติ ประจำวนั นักเรยี นร้จู ัก และเคยเห็นเครื่องกลชนดิ ใดบา้ ง”
โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นอย่างอิสระโดยไม่มีการเฉลยว่าถูกหรือผดิ
(แนวตอบ : นักเรียนอาจตอบว่า คาน พื้นเอียง เป็นต้น)

ขั้นสอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 | หน้า 132

ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากน้ันใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษา
ค้นควา้ ข้อมูลเกยี่ วกับ เรือ่ ง เคร่อื งกลอยา่ งง่าย และคาน จากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์
ม.2 เล่ม 2 หรือแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต หอ้ งสมุด
2. นักเรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกันอภิปรายเรอ่ื งท่ีได้ศึกษา จากน้นั ให้นกั เรียนแตล่ ะคนเขียนสรปุ ความรู้
ทไ่ี ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ ลงในสมดุ ประจำตัวนักเรียน
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)

ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
3. นักเรียนแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอผลการศึกษาหน้าช้ันเรยี น ในระหว่างทนี่ ักเรียนนำเสนอครูคอย
ให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ เพือ่ ให้นักเรียนมีความเข้าใจที่ถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน)
4. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภปิ รายผลจากการศึกษา ซึง่ ได้ขอ้ สรุปร่วมกนั วา่ “เครอื่ งกลอย่างงา่ ย
เป็นอุปกรณ์ทสี่ รา้ งขึ้นเพื่อช่วยผ่อนแรง หรืออำนวยความสะดวกในการทำงานใหเ้ ปน็ ไปอยา่ ง
สะดวกขน้ึ เคร่ืองกลอย่างง่าย แบง่ ออกไดเ้ ป็น 6 ประเภท ไดแ้ ก่ คาน รอก ลมิ่ พ้ืนเอยี ง สกรู
ล้อและเพลา โดยแตล่ ะประเภทมีหลกั การทำงานที่แตกตา่ งกันเพ่ือช่วยในการผ่อนแรงใน
การทำงาน และแตล่ ะประเภทมีวตั ถุประสงคใ์ นการใช้งานทแ่ี ตกตา่ งกันด้วย”
5. ครอู ธบิ ายให้นกั เรยี นเขา้ ใจเกย่ี วกับคานวา่ “คาน เปน็ เครื่องกลอย่างงา่ ยท่ีมลี ักษณะเป็นทอ่ ยาว
และแข็ง มสี ว่ นประกอบท่สี ำคัญ 3 ส่วน ไดแ้ ก่ จดุ หมุน (F) แรงพยายาม (E) และแรงต้านทาน (E)”
6. ครูนำบตั รภาพอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เช่น กรรไกร ค้อน คีมตัดลวด รถเขน็ ไม้กวาด และพลั่ว
มาใหน้ ักเรยี นดู จากน้นั นกั เรียนวาดภาพอปุ กรณต์ ่าง ๆ จากบตั รภาพ แลว้ เตมิ ตำแหนง่ ของ
จุดหมนุ (F) แรงพยายาม (E) และแรงตา้ นทาน (E) ลงในสมุดประจำตัวนักเรยี น
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)
7. ครูส่มุ นกั เรยี น จำนวน 3 คน ใหจ้ ำแนกประเภทว่าอปุ กรณจ์ ากบตั รภาพเปน็ คานประเภททีเ่ ทา่ ใด
ดงั น้ี
• คนท่ี 1 คานประเภทท่ี 1
• คนที่ 2 คานประเภทท่ี 2
• คนที่ 3 คานประเภทที่ 3

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 | หนา้ 133

ชวั่ โมงที่ 2

ขัน้ สอน

ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) (ต่อ)
8. ครูทบทวนความรู้เดมิ ของนักเรยี นเก่ียวกับ เรื่อง เครื่องกลอย่างง่าย จากนั้นครูต้ังประเดน็ คำถาม
กระต้นุ ความคิดนักเรียน โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพ่ือหาคำตอบ
ดงั น้ี
• เคร่ืองกลอย่างง่าย มจี ดุ ประสงคท์ ่ีเหมือนกันอย่างไร
(แนวตอบ : ใช้ในการผอ่ นแรง)
• เครอ่ื งมือกลอย่างง่ายแบ่งออกไดเ้ ปน็ กป่ี ระเภท อะไรบ้าง
(แนวตอบ : แบ่งออกได้เปน็ 6 ประเภท ไดแ้ ก่ คาน รอก ล่มิ พืน้ เอยี ง สกรู ล้อและเพลา)
9. นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ 5 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน ตามความสมัครใจ จากนน้ั ใหน้ กั เรียนแต่ละ
กลุ่มส่งตวั แทนออกมาจับสลากหวั ข้อท่ีศึกษา โดยให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาค้นคว้าข้อมลู
เกี่ยวกบั เร่อื ง เครือ่ งกลอย่างง่าย กลุ่มละ 1 ประเภท จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2
หรือแหล่งการเรียนรูต้ า่ ง ๆ เช่น อินเทอรเ์ น็ต หอ้ งสมดุ ซง่ึ หวั ข้อประกอบด้วย
• กล่มุ ที่ 1 ศกึ ษา เรื่อง ลิ่ม
• กลมุ่ ท่ี 2 ศึกษา เรอ่ื ง รอก
• กลุ่มที่ 3 ศกึ ษา เร่อื ง พน้ื เอียง
• กล่มุ ท่ี 4 ศึกษา เร่อื ง สกรู
• กลุ่มที่ 5 ศกึ ษา เรอ่ื ง ลอ้ และเพลา
10. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายเร่ืองท่ไี ดศ้ ึกษา จากนัน้ ร่วมกนั สรปุ ความรทู้ ีไ่ ด้จากการศึกษา
คน้ คว้าลงในสมุดประจำตวั นักเรยี น
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ )

ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
11. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการศึกษาหนา้ ชั้นเรยี น ในระหวา่ งท่นี ักเรยี นนำเสนอครคู อย
ให้ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม เพื่อใหน้ ักเรยี นมคี วามเข้าใจที่ถกู ต้อง
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน)
12. ครูตง้ั ประเดน็ คำถามโดยใช้คำถามจากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 ว่า “ถา้ สันของล่มิ
มคี วามกวา้ งมากกว่าความยาวของลม่ิ จะสง่ ผลอย่างไร”
(แนวตอบ : เม่ือออกแรงกระทำ จะทำใหข้ วานเจาะเข้าไปในเนื้อวตั ถุตื้น ส่งผลให้แยกวัตถุออก
จากกันได้ยาก)
13. ครูนำบตั รภาพอุปกรณ์ต่าง ๆ เชน่ กรรไกร ขวาน รอกเดีย่ ว ลกู บดิ ประตู บนั ได และปากกาจบั
ชิน้ งาน มาให้นักเรยี นดู จากน้ันใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันทำใบงานท่ี 5.2.1 เรอ่ื ง เคร่ืองกล
อย่างง่าย โดยเตมิ ชอื่ อปุ กรณ์ ประเภทเครอื่ งกลอย่างงา่ ย และหลกั การทำงาน ให้ตรงกับตาราง
ทีก่ ำหนดให้

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 (ว22102)ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 | หนา้ 134


Click to View FlipBook Version