แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรภู้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔
รายวิชา ภาษาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ท๓๐๒๐๓
ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
นางสาวเพยี งพิศ สริ ธิ นพงศ์
ตำแหน่ง ครู
โรงเรยี นหนองบัวพิทยาคาร
สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาเลย หนองบัวลำภู
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
การปฏบิ ตั งิ านท้ังปวงนนั้ กล่าวโดยหลกั การ ต้องอาศยั ปจั จยั พ้นื ฐาน ประกอบ
กันทั้งสองอย่าง อย่างหนึ่ง ได้แก่ความรู้ความสามารถโดยเบ็ดเสร็จของผู้
ปฏิบัติ อีกอย่างหนึ่ง ได้แก่ ระเบียบแบบแผนและวิธีการที่กำหนดไว้ให้ใช้
ในการปฏิบัติงานนั้น ๆ เมื่อใดปัจจัยทั้งสองประกอบพร้อมกัน เมื่อนั้นงานก็
ดำเนนิ ไปได้ แตโ่ ดยความจรงิ ทปี่ รากฏ งานทีอ่ าศัยเฉพาะปจั จยั สองประการน้ัน
ไม่แนว่ า่ จะสำเร็จผลดไี ดเ้ สมอไป อาจไมส่ ำเรจ็ ผลสมบรู ณด์ ังตอ้ งการ หรือไม่
สำเรจ็ ผลเลย ก็เป็นได้ ทัง้ นเี้ พราะงานทกุ อย่างมีบคุ คล ซ่ึงมชี ีวติ จติ ใจ มคี วาม
นึกคดิ เป็นผู้กระทำ ถ้าผู้ทำมจี ิตใจไม่พรอ้ ม จะทำงาน เช่น ไม่ศรทั ธาในงาน
ไม่สนใจผูกพันกับงาน ผลงานที่ทำก็ย่อมบกพร่องไม่คงที่ต่อเมื่อผู้ปฏิบัติ
มีศรัทธา เข้าใจซึ้งถึงประโยชน์ของงาน พร้อมใจและพอใจที่จะขวนขวาย
ปฏิบัติงานโดยเต็มกำลังความสามารถ งานจึงจะดำเนินไปได้โดยราบร่ืน
และบรรลผุ ลตามที่มงุ่ หมาย เหน็ ไดว้ า่ การปฏิบตั งิ านท้งั ใหญ่นอ้ ย ทกุ ประเภท
ทุกสาขา จำเป็นต้องอาศัยปัจจัย ส่วนความรู้สึก นึกคิด เข้าประกอบเกื้อกูล
ด้วยเสมอ
ท่านทั้งหลายจะต้องทำงานต่อไปอีกมากมายตลอดชีวิต ขอให้พยายาม
ขดั เกลานิสัยให้เข้มแขง็ สจุ ริตเท่ยี งตรง มีศรัทธา และคณุ สมบัตขิ องนักปฏิบัติงาน
พร้อมสมบูรณ์ แล้วท่านจะสามารถปฏิบัติภาระหน้าที่ทุกอย่าให้บรรลุผลสำเร็จ
ได้อยา่ งดเี ลศิ สมความประสงค์
ผู้ประกอบวิชาชีพครู ต้องปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน
ดังต่อไปนี้
(๑) ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมทางวชิ าการเก่ยี วกบั การพฒั นาวิชาชีพครอู ยูเ่ สมอ
(๒) ตดั สินใจปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ โดยคำนงึ ถงึ ผลทจ่ี ะเกิดแกผ่ ู้เรยี น
(๓) ม่งุ มน่ั พฒั นาผ้เู รยี นใหเ้ ตม็ ตามศักยภาพ
(๔) พัฒนาแผนการสอนใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิไดเ้ กดิ ผลจรงิ
(๕) พัฒนาสอ่ื การเรยี นการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
(๖) จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน โดยเน้นผลถาวรทเี่ กดิ แก่ผู้เรียน
(๗) รายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพของผเู้ รยี นได้อยา่ งมรี ะบบ
(๘) ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอยา่ งทด่ี แี ก่ผู้เรยี น
(๙) รว่ มมือกับผอู้ ่นื ในสถานศึกษาอย่างสรา้ งสรรค์
(๑๐) ร่วมมอื กบั ผู้อน่ื ในชุมชนอยา่ งสรา้ งสรรค์
(๑๑) แสวงหาและใชข้ ้อมลู ขา่ วสารในการพฒั นา
(๑๒) สร้างโอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้เรยี นรใู้ นทุกสถานการณ์
จรรยาบรรณต่อตนเอง
๑. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ
บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
อยเู่ สมอ
จรรยาบรรณตอ่ วิชาชีพ
๒. ผู้ประกอบวิชาชพี ทางการศึกษา ตอ้ งรกั ศรทั ธา ซอื่ สัตยส์ จุ ริต รบั ผิดชอบตอ่ วชิ าชีพ
และเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีขององค์กรวิชาชีพ
จรรยาบรรณต่อผู้รบั บริการ
๓. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม
ให้กำลงั ใจแกศ่ ิษย์ และผรู้ บั บรกิ าร ตามบทบาทหนา้ ท่โี ดยเสมอหน้า
๔. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัย
ที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถด้วยความ
บรสิ ทุ ธใิ์ จ
๕. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
ทง้ั ทางกาย วาจา และจติ ใจ
๖. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญ
ทางกาย สติปญั ญา จติ ใจ อารมณ์ และสงั คมของศษิ ย์ และผู้รับบริการ
๗. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค
โดยไมเ่ รียกรับหรอื ยอมรบั ผลประโยชน์จากการใชต้ ำแหน่งหน้าที่โดยมชิ อบ
๘. ผปู้ ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา พงึ ช่วยเหลือเก้ือกูลซ่งึ กันและกนั อย่างสร้างสรรค์
โดยยึดมั่นในระบบคณุ ธรรม สรา้ งความสามคั คีในหมคู่ ณะ
จรรยาบรรณต่อสงั คม
๙. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์
และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์
ของ ส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมขุ
คำนยิ ม
พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ ไดร้ ะบคุ วามมงุ่ หมายและหลกั การ
จัดการศึกษาในมาตรา ๖ ว่าจะต้องเปน็ ไปเพื่อพัฒนาคนไทยใหเ้ ปน็ มนุษยท์ ่ีสมบูรณ์ท้งั ทางร่างกาย
และจติ ใจ สติปญั ญา ความรูแ้ ละคุณธรรม มีจริยธรรม และวฒั นธรรมในการดำรงชวี ติ สามารถ
อยรู่ ว่ มกบั ผ้อู ่นื ได้ อย่างมีความสขุ
ดงั นัน้ การจดั การศึกษาจงึ ต้องมุง่ เนน้ ดา้ นคุณภาพใหม้ ีมาตรฐานเปน็ ท่พี งึ พอใจของสงั คม
โดยรวมหนว่ ยงานต้นสังกัด และสถานศึกษาจดั ให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาและให้
ถือว่า การประกันคณุ ภาพในสถานศกึ ษาเปน็ ส่วนหน่งึ ของกระบวนการบรหิ ารการศึกษาทีต่ อ้ งดำเนินการ
อย่างต่อเนอ่ื ง โดยใหม้ ีการจดั ทำรายงานประจำปเี สนอตอ่ หน่วยงานต้นสงั กดั หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วข้อง
และเปดิ เผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสูก่ ารพฒั นาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาและเพอ่ื รบั รอง
การประกนั คุณภาพจากหน่วยงานภายนอก
การจดั ทำแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู ลม่ น้ี คุณครูเพียงพิศ สิริธนพงศ์ ได้จดั ทำขน้ึ
เพ่อื ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนในรายวิชา ภาษาและวัฒนธรรม รหสั วิชา ท๓๐๒๐๓
โดยใชม้ าตรฐานคุณภาพการศึกษาของสำนักงานรบั รองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษา
เป็นเกณฑ์มาตรฐานในการปฏิบตั กิ ิจกรรม
โรงเรียนขอขอบคุณครูเพยี งพศิ สริ ิธนพงศ์ ทไี่ ด้จดั ทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ ลม่ นี้
เพ่ือเปน็ ประโยชนต์ ่อการพัฒนาการศกึ ษาทีจ่ ะเกิดผลดตี ่อนักเรยี นตอ่ ตนเองและเพอื่ นร่วมงานซึ่งถอื ว่า
เป็นแบบอย่างท่ดี ีในการปฏิบัติงาน
(นายสขุ เกษม พาพินิจ)
ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองบวั พิทยาคาร
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาและวัฒนธรรม ได้จัดทำขึ้น
เพ่อื ใชเ้ ป็นเคร่ืองมอื ประกอบการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔
ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยเปน็ ที่ทราบกันดีว่า เป็นสาระ
การเรียนรู้ท่ยี ากสำหรับนักเรยี น นักเรยี นมักมปี ญั หาเรื่องทักษะการเขยี น การอา่ นไมถ่ ึงเกณฑท์ ่นี ่าพอใจ
และสาเหตุของปัญหาคอื นกั เรียนได้รบั การฝึกทักษะท่ีไมเ่ พียงพอ จากสาเหตดุ งั กล่าวผู้จัดทำตระหนกั ดจี ึง
ไดจ้ ัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ขนึ้ เพ่อื พฒั นา
ทกั ษะทง้ั ๔ ด้าน อันไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั พดู อ่านและเขยี น และผู้จดั ทำมคี วามมงุ่ หวงั ให้นกั เรียนได้รับ
การฝึกทักษะทั้ง ๔ ดา้ น ตลอดจนทำใหก้ ารจดั กิจกรรมการเรียนการสอนของครูประสบผลสำเร็จ ตาม
จุดมุ่งหมายของหลักสูตร
ในการจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ผู้จดั ทำขอขอบพระคณุ ผูอ้ ำนวยการ
โรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และนกั เรยี นทุกทา่ นทใ่ี ห้คำแนะนำ ใหค้ ำปรกึ ษาและใหค้ วาม
รว่ มมือในการจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย จนสำเรจ็ ลลุ ว่ งไปด้วยดี
เพียงพศิ สริ ธิ นพงศ์
สารบัญ หน้า
เรอื่ ง ๑
พระบรมราโชวาท ๒
คำนิยม ๓
๔
คำนำ ๕
สารบญั ๖
๗
บทนำ ๑๕
คณุ ภาพผู้เรียน ๒๐
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ๒๒
๓๘
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ๔๘
ผลการเรยี นรู้และสาระการเรียนรู้ ๕๙
๖๘
คำอธบิ ายรายวชิ า ๗๖
การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ๘๕
ตารางวิเคราะหห์ น่วยการเรยี นรู้ ๑๐๔
๑๑๘
การวดั ผลประเมนิ ผล ๑๓๒
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรื่อง ปฐมนเิ ทศการเรียน ๑๔๑
๑๕๑
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่อื ง ทดสอบก่อนเรียน ๑๖๔
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ เรื่อง ภาษาและวฒั นธรรม ๑๗๕
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ เรื่อง ภาษากับประเพณีไทย ๑๘๖
๑๙๘
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรอ่ื ง ภาษากับประเพณไี ทย ๒๑๒
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๖ เรอ่ื ง ภาษากับประเพณีไทย ๒๒๒
๒๔๓
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๗ เรอื่ ง ภาษากับวรรณคดไี ทย ๒๕๔
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๘ เรื่อง ภาษากับวรรณคดีไทย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๙ เรื่อง ภาษากับศลิ ปะแขนงสถาปตั ยกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๐ เรื่อง ภาษากับศลิ ปะแขนงจติ รกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เรอ่ื ง ภาษากบั ศลิ ปะแขนงประตมิ ากรรม
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑๒ เรอ่ื ง ภาษากบั ศลิ ปะแขนงดนตรี
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๓ เรอ่ื ง ภาษากับศิลปะแขนงนาฏศิลป์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๔ เรอ่ื ง ภาษากบั ความเช่อื โชคลาง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑๕ เร่อื ง สำนวน สภุ าษิต คำพงั เพย
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๖ เรอ่ื ง ผญา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๗ เรื่อง ภาษากับการละเล่นพ้นื บ้าน
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑๘ เรอ่ื ง ภาษาถ่ิน
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๙ เรอ่ื ง ภูมิปญั ญาและวฒั นธรรมไทย
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๐ เรอ่ื ง ภาษากบั การสืบทอดวฒั นธรรมไทย
๑
บทนำ
ภาษาไทยเป็นเอกลกั ษณข์ องชาติ เป็นสมบัตทิ างวัฒนธรรมอันก่อใหเ้ กิดความเป็นเอกภาพ
และเสริมสร้างบุคลกิ ภาพของคนในชาติใหม้ ีความเปน็ ไทย เป็นเคร่ืองมือในการตดิ ต่อส่อื สาร เพอ่ื สรา้ ง
ความเขา้ ใจและความสัมพนั ธท์ ดี่ ตี ่อกนั ทำให้สามารถประกอบกจิ ธุระ การงาน และดำรงชีวติ ร่วมกนั
ในสงั คมประชาธิปไตยไดอ้ ยา่ งสันตสิ ขุ และเปน็ เครอื่ งมอื ในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์
จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เพ่ือพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และสร้างสรรค์
ให้ทันตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้
ในการพัฒนาอาชีพให้มคี วามมั่นคงทางเศรษฐกจิ นอกจากนย้ี งั เปน็ สื่อแสดงภูมปิ ัญญาของบรรพบรุ ุษ
ดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี และสุนทรยี ภาพ เป็นสมบตั ิล้ำคา่ ควรแกก่ ารเรยี นรู้ อนุรักษ์ และสืบสาน
ใหค้ งอยู่คชู่ าตไิ ทยตลอดไป
ภาษาไทยเป็นทกั ษะทีต่ ้องฝกึ ฝนจนเกิดความชำนาญในการใชภ้ าษาเพื่อการสอื่ สาร การเรียนรู้
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ และเพ่ือนำไปใช้ในชีวติ จรงิ
• การอา่ น การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพนั ธช์ นดิ ตา่ ง ๆ
การอา่ นในใจเพอ่ื สร้างความเข้าใจ และการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ความร้จู ากส่งิ ทอี่ ่าน เพื่อนำไป
ปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
• การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่าง ๆ
ของการเขียน ซ่ึงรวมถึงการเขยี นเรียงความ ยอ่ ความ รายงานชนดิ ต่าง ๆ การเขยี นตามจินตนาการ
วิเคราะห์วิจารณ์ และเขยี นเชิงสร้างสรรค์
• การฟัง การดู และการพูด การฟงั และดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคดิ เห็น
ความรูส้ ึก พูดลำดับเรื่องราวตา่ ง ๆ อยา่ งเปน็ เหตุเปน็ ผล การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ทงั้ เป็นทางการ
และไมเ่ ป็นทางการ และการพดู เพือ่ โน้มน้าวใจ
• หลกั การใชภ้ าษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑข์ องภาษาไทย การใชภ้ าษาให้ถกู ตอ้ ง
เหมาะสมกบั โอกาสและบคุ คล การแต่งบทประพนั ธ์ประเภทต่าง ๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศ
ในภาษาไทย
• วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมเพ่ือศึกษาข้อมลู แนวความคิด
คณุ ค่าของงานประพันธ์ และความเพลดิ เพลิน การเรียนร้แู ละทำความเข้าใจบทเห่ บทร้องเลน่ ของเด็ก
เพลงพ้นื บา้ นท่ีเป็นภูมิปญั ญาท่ีมคี ณุ ค่าของไทย ซง่ึ ไดถ้ า่ ยทอดความรสู้ ึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนยี ม
ประเพณี เร่ืองราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพ่ือให้เกิดความซาบซ้ึงและภมู ิใจ
ในบรรพบุรุษท่ีไดส้ ง่ั สมสืบทอดมาจนถึงปจั จุบัน
๒
คุณภาพผูเ้ รียน
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
• อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองเป็นทำนองเสนาะไดถ้ ูกตอ้ งและเข้าใจ ตีความ
แปลความ และขยายความเรือ่ งทีอ่ ่านได้ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์เร่อื งที่อ่าน แสดงความคดิ เหน็ โต้แย้งและเสนอ
ความคดิ ใหมจ่ ากการอ่านอยา่ งมีเหตุผล คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่อี ่าน เขยี นกรอบแนวคดิ
ผังความคิด บนั ทึก ย่อความ และเขียนรายงานจากสิง่ ที่อา่ น สงั เคราะห์ ประเมนิ ค่า และนำความรู้
ความคิดจากการอ่านมาพัฒนาตน พัฒนาการเรยี น และพฒั นาความรทู้ างอาชพี และนำความรคู้ วามคดิ
ไปประยุกต์ใชแ้ ก้ปัญหาในการดำเนินชวี ติ มมี ารยาทและมนี สิ ัยรักการอ่าน
• เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ย่อความจากสือ่ ทม่ี ี
รปู แบบและเนอ้ื หาท่ีหลากหลาย เรียงความแสดงแนวคิดเชงิ สรา้ งสรรคโ์ ดยใช้โวหารต่าง ๆ เขยี นบันทึก
รายงานการศกึ ษาคน้ คว้าตามหลักการเขียนทางวิชาการ ใชข้ อ้ มูลสารสนเทศในการอา้ งอิง ผลติ ผลงาน
ของตนเองในรปู แบบต่าง ๆ ทงั้ สารคดแี ละบนั เทิงคดี รวมท้งั ประเมนิ งานเขยี นของผูอ้ ่นื และนำมาพฒั นา
งานเขียนของตนเอง
• ต้งั คำถามและแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเรอ่ื งทฟี่ ังและดู มีวิจารณญาณในการเลอื กเร่อื งทฟ่ี ัง
และดู วิเคราะห์วตั ถุประสงค์ แนวคดิ การใชภ้ าษา ความนา่ เชื่อถือของเรือ่ งทฟี่ งั และดู ประเมนิ สงิ่ ทฟ่ี ัง
และดูแล้วนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำเนินชีวิต มที ักษะการพูดในโอกาสต่าง ๆ ท้ังที่เป็นทางการและไมเ่ ป็น
ทางการโดยใชภ้ าษาที่ถกู ต้อง พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ย้ง โน้มนา้ ว และเสนอแนวคดิ ใหมอ่ ยา่ งมีเหตุผล
รวมทงั้ มมี ารยาทในการฟัง ดู และพดู
• เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษา อิทธิพลของภาษา และลักษณะของภาษาไทย ใช้คำและกลุม่ คำ
สร้างประโยคไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ แตง่ คำประพนั ธ์ประเภท กาพย์ โคลง รา่ ยและฉันท์ ใช้ภาษา
ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและใชค้ ำราชาศพั ทแ์ ละคำสภุ าพได้อย่างถกู ต้อง วิเคราะหห์ ลกั การ สร้างคำ
ในภาษาไทย อทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยและภาษาถิ่น วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ การใชภ้ าษา
จากส่อื ส่ิงพิมพ์และส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์
• วเิ คราะหว์ ิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์วรรณคดีเบอ้ื งต้น รู้และเข้าใจ
ลักษณะเด่นของวรรณคดี ภมู ิปญั ญาทางภาษาและวรรณกรรมพน้ื บ้าน เชื่อมโยงกับการเรยี นรู้
ทางประวัติศาสตร์และวิถีไทย ประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ และนำขอ้ คิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม
ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง
๓
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนเกิดสมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เป็นความสามารถในการรบั และสง่ สาร มวี ฒั นธรรมในการ
ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรูค้ วามเข้าใจ ความร้สู ึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลยี่ นข้อมลู
ขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมทงั้ การเจรจาต่อรอง
เพ่อื ขจัดและลดปญั หาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไมร่ บั ข้อมลู ขา่ วสารดว้ ยหลักเหตุผล
และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ ีการสอ่ื สาร ท่มี ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเอง
และสงั คม
๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคดิ
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้
หรอื สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ
ทเ่ี ผชิญได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เขา้ ใจ
ความสัมพนั ธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรูม้ าใช้
ในการป้องกันและแกไ้ ขปญั หา และมีการตดั สินใจท่มี ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ ขนึ้
ตอ่ ตนเอง สงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เปน็ ความสามารถในการนำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้
ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างต่อเน่ือง การทำงาน และการอยูร่ ว่ มกนั
ในสังคมด้วยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ
อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้ทนั กับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการร้จู กั หลีกเลีย่ ง
พฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพฒั นาตนเองและสงั คม ในดา้ นการเรียนรู้ การสือ่ สาร
การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้
สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ ่นื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๕. อยู่อย่างพอเพียง
๒. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ ๖. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
๓. มีวนิ ยั ๗. รกั ความเป็นไทย
๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๘. มีจติ สาธารณะ
๔
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพื่อนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ
ดำเนินชีวิตและมนี สิ ัยรกั การอา่ น
สาระที่ ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรปู แบบ
ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า
และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง
๕
ผลการเรยี นรู้และสาระการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
วฒั นธรรมในการใช้ภาษา
๑. อธิบายความหมาย ประเภท ความสำคัญของภาษา
และวัฒนธรรมได้ ภาษาสมั พนั ธก์ บั ประเพณี
๒. มอี ธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับประเพณีได้
๓. อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วรรณคดีได้ ภาษาสัมพนั ธก์ ับวรรณคดี
๔. มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษา ความสมั พันธ์ระหวา่ งวรรณคดกี บั ศลิ ปะ
กับศลิ ปะแขนงตา่ ง ๆ แขนงตา่ ง ๆ
๕. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั ความเช่ือ ความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับความเช่อื
ของคนไทยได้ ของคนไทย
ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั คติชาวบ้าน
๖. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั คติชาวบ้านได้
ภาษาถ่นิ
๗. มคี วามรู้ความเขา้ ใจภาษาถนิ่
ภาษากบั การสบื ทอดวัฒนธรรมไทย
๘. รู้จกั ใช้ภาษาในการสืบทอดวฒั นธรรมไทยอยา่ งถกู ตอ้ ง
๖
คำอธิบายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยเพิม่ เตมิ
รายวิชา ภาษาและวฒั นธรรม รหสั วิชา ท๓๐๒๐๓ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง/ภาค (๒ ชว่ั โมง /สัปดาห)์ จำนวน ๑ หน่วยกติ
ศึกษาความหมาย ประเภท ความสำคญั ของภาษาและวัฒนธรรม รวมทง้ั ความสัมพนั ธ์ระหว่าง
ภาษากับประเพณี วรรณคดี ศลิ ปะแขนงต่าง ๆ ความเชือ่ ของคนไทย ภมู ิปญั ญาไทย คติชาวบ้าน ภาษาถ่นิ
และความสำคญั ของภาษาในการสืบทอดวัฒนธรรมไทย
โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการอ่าน ฟัง ดู พูด และเขยี น กระบวนการกลมุ่
แนวทาง การเรยี นรทู้ เี่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ กระบวนการปฏิบตั ิ
เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจและเห็นคุณค่าของภาษาในฐานะทีเ่ ป็นเครอ่ื งมอื รกั ษาและสืบทอดวัฒนธรรมไทย
เกิดและสรา้ งความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสอื่ สารส่งิ ทีเ่ รียนรู้ นำไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หาในการ
ดำเนนิ ชวี ติ มวี จิ ารณญาณในการสื่อสารเร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั
ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง มีทศั นคติทีถ่ ูกตอ้ งตอ่ บา้ นเมือง มพี ้ืนฐานชีวติ ม่นั คง มคี ุณธรรม
จริยธรรมและค่านิยมอันดีงาม มคี วามซือ่ สัตยไ์ ม่ทุจริต และมีมารยาทและนิสยั ท่ีดีในการอา่ น การฟงั
การดู การพูด และการเขียน
การออกแบบ
รายวิชา ภาษาและวัฒนธรรม
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑
เวลา ๓ ช่วั โมง
ผลการ สาระสำคัญ สาระ สมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะ
เรียนรู้ การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์
๑. อธบิ าย ภาษามีหน้าทใี่ นการ ภาษา 1. ความสามารถ ๑. มวี ินัย
ความหมาย ถ่ายทอด และ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้
ประเภท วัฒนธรรม และมี วฒั นธรรม ในการสอื่ สาร ๓. มงุ่ มัน่ ในการ
ความสำคัญ ความสัมพนั ธ์กบั การ
ของภาษา พัฒนาวัฒนธรรม 2. ความสามารถ ทำงาน
และ ให้เจรญิ ๔. รกั ความ
วัฒนธรรมได้ งอกงาม การใช้ ในการคดิ
ภาษาใหถ้ กู ต้อง เปน็ ไทย
๓. ความสามารถ
ตามวฒั นธรรม
จงึ เป็นเครื่องแสดง ในการใชท้ ักษะชวี ิต
ถงึ ความเป็นระเบียบ
เรยี บร้อย
และศีลธรรมอันดี
ของสงั คม อกี ท้งั ยัง
เปน็ การสืบทอด
วฒั นธรรมทางภาษา
๗
บหนว่ ยการเรียนรู้
รหสั วิชา ท๓๐๒๐๓
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔
ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ภาษาและวฒั นธรรม
คะแนนเต็ม ๕ คะแนน
กจิ กรรมการ ส่ือ วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื การวัดผล ชน้ิ งาน
เรียนรู้ การสอน
- การบรรยาย แบบบนั ทกึ ๑. ประเมินการ ๑. แบบประเมินการ แผนภาพ
- กระบวนการ ความรู้ เรอื่ ง นำเสนอผลงาน นำเสนอผลงาน ความคิด
วัฒนธรรม
กลมุ่ กับภาษาไทย ๒. สังเกต ๒. แบบสังเกต
พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมการทำงาน
การทำงาน รายบคุ คล
รายบุคคล
๓. แบบสงั เกต
๓. สังเกต พฤติกรรมการ
พฤตกิ รรม ทำงานกลมุ่
การทำงานกลุม่ ๔. แบบสังเกต
๔. สงั เกต คุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
คณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
๗
รายวิชา ภาษาและวฒั นธรรม การออกแบบ
กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย คุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒
๑. มวี ินัย
เวลา ๖ ชวั่ โมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ม่งุ มั่นในการ
ผลการ สาระสำคญั สาระ สมรรถนะสำคญั
เรยี นรู้ การเรียนรู้ ทำงาน
๔. รักความ
๒. อธบิ าย ภาษาเป็นเคร่ืองมอื ภาษา ๑. ความสามารถ
เป็นไทย
ความสัมพันธ์ ในการบนั ทกึ กบั ประเพณี ในการสอ่ื สาร
ระหวา่ งภาษา ประเพณี ๒. ความสามารถ
กบั ประเพณี เปน็ เครือ่ งมอื ในการ ในการคดิ
ได้ ถ่ายทอดประเพณี ๓. ความสามารถ
จากคนร่นุ หนงึ่ สู่คน ในการใช้ทักษะชวี ิต
อีกรุ่นหนึ่ง เป็น
ส่วนประกอบสำคัญ
ในรายละเอียด
ของประเพณี และ
เปน็ เครอื่ งมอื
สะท้อนใหเ้ ห็นชีวิต
ความเป็นอยู่อัน
เกย่ี วพันกนั กบั
ประเพณี
๘
บหนว่ ยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ท๓๐๒๐๓
กิจกรรมการ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔
เรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ภาษากบั ประเพณี
- การบรรยาย คะแนนเตม็ ๕ คะแนน
- กระบวนการ
สอื่ วธิ ีการวดั ผล เคร่อื งมือการวดั ผล ช้นิ งาน
กลุ่ม การสอน
๑. ประเมินการ ๑. แบบประเมนิ ใบงาน
ใบความรู้ นำเสนอผลงาน การนำเสนอผลงาน
๒. สังเกต ๒. แบบสังเกต
พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมการทำงาน
การทำงาน รายบคุ คล
รายบุคคล ๓. แบบสงั เกต
๓. สังเกต พฤติกรรมการ
ทำงานกล่มุ
พฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม ๔. แบบสงั เกต
๔. สังเกต คณุ ลักษณะ
คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์
อนั พงึ ประสงค์
๘
รายวิชา ภาษาและวฒั นธรรม การออกแบบ
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓
๑. มวี ินัย
เวลา ๕ ชั่วโมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ม่งุ มั่นในการ
ผลการ สาระสำคัญ สาระ สมรรถนะสำคญั
เรียนรู้ การเรยี นรู้ ทำงาน
๔. รักความ
๓. อธิบาย วรรณคดี หมายถงึ ภาษา ๑. ความสามารถ
เป็นไทย
ความสัมพนั ธ์ วรรณกรรม กับวรรณคดี ในการสื่อสาร
ระหวา่ งภาษา หรอื งานเขียน ๒. ความสามารถ
กบั วรรณคดี ทย่ี กย่องกนั ว่าดี ในการคดิ
ได้ มสี าระและมคี ณุ ค่า ๓. ความสามารถ
ทางวรรณศลิ ป์ ในการใชท้ กั ษะชวี ิต
วรรณคดีถือเป็น
วัฒนธรรมทางภาษา
อย่างหนงึ่ ทถี่ ือเป็น
เครื่องสบื ทอด
วฒั นธรรมทางภาษา
โดยตรง วรรณคดีถอื
เป็นกระจกแสดง
วถิ ีชีวติ ของหมู่ชน
ทส่ี ร้างสรรค์
วรรณคดขี น้ึ
๙
บหน่วยการเรียนรู้ รหสั วชิ า ท๓๐๒๐๓
กจิ กรรมการ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔
เรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ภาษากบั วรรณคดี
- การบรรยาย คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน
- กระบวนการ
สือ่ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือการวดั ผล ช้ินงาน
กลุ่ม การสอน
๑. ประเมินการ ๑. แบบประเมิน ตัวอยา่ ง
ใบความรู้ นำเสนอผลงาน
ใบงาน การนำเสนอผลงาน ขอ้ ความ
๒. สังเกต
พฤติกรรม ๒. แบบสงั เกต และความ
การทำงาน
พฤตกิ รรมการทำงาน หมายท่ี
รายบคุ คล
๓. สงั เกต รายบคุ คล แสดงความ
พฤติกรรม ๓. แบบสังเกต สมั พันธ์
การทำงานกลุ่ม
๔. สังเกต พฤติกรรมการ ของภาษา
คุณลกั ษณะ ทำงานกลุ่ม กบั
อนั พงึ ประสงค์
๔. แบบสงั เกต วรรณคดี
คณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์
๙
รายวชิ า ภาษาและวัฒนธรรม การออกแบบ
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔
๑. มวี ินัย
เวลา ๖ ชว่ั โมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ม่งุ มั่นในการ
ผลการ สาระสำคัญ สาระ สมรรถนะสำคัญ
เรียนรู้ การเรียนรู้ ทำงาน
๔. รักความ
๔. มีความรู้ การศกึ ษา ภาษา ๑. ความสามารถ
ความเขา้ ใจ ความสัมพันธ์ กบั ศลิ ปะ ในการสือ่ สาร เป็นไทย
เกี่ยวกบั ระหว่างภาษา แขนงต่าง ๆ
กบั ศิลปะแขนง ๒. ความสามารถ
ความ ตา่ ง ๆ เช่น ในการคดิ
สัมพนั ธ์ สถาปัตยกรรม
ประติมากรรม ๓. ความสามารถ
ระหวา่ ง จติ รกรรม ดนตรี ในการใช้ทกั ษะชีวิต
ภาษากับ
ศิลปะแขนง และนาฏศิลป์
ต่าง ๆ เป็นแนวทางหน่งึ
ของการศกึ ษา
ความเข้าใจภาษา
ในมุมมองที่ลกึ ซ้งึ
มากยงิ่ ขึ้น
เป็นเครือ่ งสะทอ้ น
สังคมและวฒั นธรรม
ธรรมของมนษุ ย์
๑๐
บหนว่ ยการเรียนรู้ รหัสวชิ า ท๓๐๒๐๓
กจิ กรรมการ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔
เรยี นรู้ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ภาษากับศิลปะแขนงตา่ ง ๆ
- การบรรยาย คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน
- กระบวนการ
ส่อื วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื การวดั ผล ชน้ิ งาน
กลมุ่ การสอน
๑. ประเมนิ การ ๑. แบบประเมิน ใบงาน
ใบความรู้ นำเสนอผลงาน การนำเสนอผลงาน
ใบงาน
๒. สังเกต ๒. แบบสงั เกต
พฤตกิ รรม พฤติกรรมการทำงาน
การทำงาน รายบุคคล
รายบุคคล ๓. แบบสงั เกต
๓. สังเกต พฤติกรรมการ
ทำงานกลมุ่
พฤติกรรม
การทำงานกล่มุ ๔. แบบสงั เกต
๔. สงั เกต คณุ ลักษณะ
คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์
อนั พงึ ประสงค์
๑๐
รายวชิ า ภาษาและวฒั นธรรม การออกแบบ
กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕
๑. มวี ินัย
เวลา ๓ ช่ัวโมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มุ่งมนั่ ในการ
ผลการ สาระสำคญั สาระ สมรรถนะสำคญั
เรียนรู้ การเรยี นรู้ ทำงาน
๑. ความสามารถ ๔. รักความ
๕. อธิบาย ความเชือ่ เปน็ ธรรมชาติ ภาษา ในการส่อื สาร
ความ ท่เี กดิ ขึ้นกบั มนษุ ย์ และถอื กบั ความเชือ่ เป็นไทย
สัมพนั ธ์ ว่าเป็นวัฒนธรรม ของคนไทย ๒. ความสามารถ
ของมนษุ ยอ์ ยา่ งหน่ึง ในการคิด
ระหว่าง การดำรงชวี ิตของมนษุ ย์
ภาษากับ ในสมัยโบราณที่มีความ ๓. ความสามารถ
เจรญิ ทางดา้ นวชิ าการ ในการใชท้ กั ษะชีวิต
ความเชือ่
ของคนไทย นอ้ ย ความเชือ่ จงึ เกิดจาก
ได้ การเกิดขนึ้ และการ
เปลยี่ นแปลงของ
ธรรมชาติ ดังนนั้ เมอื่ เกิด
ปรากฏการณ์ ตา่ ง ๆ ขน้ึ
มนษุ ยจ์ งึ พยายาม ท่ีจะคดิ
หาวิธกี ารทจ่ี ะก่อให้เกิดผล
ในทางที่ดี และเกดิ
ความสุขใหก้ บั ตนเอง
เพอื่ กระทำต่อส่งิ ทีม่ ี
อำนาจเหนือธรรมชาติ
เหล่าน้ัน ทำให้เกิดเป็น
แนวทางปฏบิ ตั ิที่เป็น
พธิ กี รรม หรอื ศาสนา
เกิดข้ึน
๑๑
บหนว่ ยการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ท๓๐๒๐๓
กิจกรรมการ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔
เรียนรู้
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ภาษากบั ความเชอ่ื ของคนไทย
- การบรรยาย
- กระบวนการ คะแนนเตม็ ๕ คะแนน
กล่มุ ส่ือ วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือการวัดผล ชน้ิ งาน
การสอน
ใบความรู้ ๑. ประเมนิ การ ๑. แบบประเมนิ ใบงาน
ใบงาน นำเสนอผลงาน การนำเสนอผลงาน
๒. สงั เกต ๒. แบบสงั เกต
พฤติกรรม พฤตกิ รรมการทำงาน
การทำงาน รายบุคคล
รายบุคคล ๓. แบบสังเกต
๓. สังเกต พฤติกรรมการ
พฤติกรรม ทำงานกลุม่
การทำงานกลุม่ ๔. แบบสงั เกต
๔. สงั เกต คณุ ลักษณะ
คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์
อนั พึงประสงค์
๑๑
รายวชิ า ภาษาและวฒั นธรรม การออกแบบ
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๖
๑. มวี ินัย
เวลา ๖ ชั่วโมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ม่งุ มั่นในการ
ผลการ สาระสำคัญ สาระ สมรรถนะสำคัญ
เรียนรู้ การเรียนรู้ ทำงาน
๔. รักความ
๖. อธิบาย คตชิ าวบา้ น ภาษา ๑. ความสามารถ
ความสัมพัน หมายถงึ วถิ ชี ีวิต กับคติ ในการสอ่ื สาร เป็นไทย
ธ์ระหวา่ ง แนวทางหรือสิ่งท่ี ชาวบา้ น
ประพฤติปฏบิ ตั กิ นั ๒. ความสามารถ
ภาษากบั คติ ในกล่มุ ชนทว่ั ไป ในการคิด
ชาวบา้ นได้ ไดแ้ ก่ สำนวน
๓. ความสามารถ
ในการใชท้ กั ษะชวี ิต
สภุ าษติ
เพลงกลอ่ มเดก็
ผญา
นทิ านพื้นบ้าน
ปริศนาคำทาย
ความเช่อื โชคลาง
ถอื เปน็ มรดกสำคญั
ทีเ่ ปน็ วฒั นธรรมของ
ชาติ จึงควรอนุรกั ษ์
ไว้สบื ต่อไป
ในภายภาคหนา้
๑๒
บหนว่ ยการเรยี นรู้ รหัสวิชา ท๓๐๒๐๓
กจิ กรรมการ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔
เรียนรู้ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ภาษากบั คตชิ าวบา้ น
- การบรรยาย คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน
- กระบวนการ
สอื่ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือการวดั ผล ชน้ิ งาน
กลุม่ การสอน
๑. ประเมนิ การ ๑. แบบประเมนิ สมุด
ใบความรู้ นำเสนอผลงาน การนำเสนอผลงาน เลม่ เล็ก
ใบงาน สำนวน
๒. สังเกต ๒. แบบสังเกต สภุ าษติ
พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมการทำงาน
การทำงาน รายบุคคล
รายบุคคล ๓. แบบสังเกต
๓. สังเกต พฤติกรรมการ
ทำงานกลุ่ม
พฤติกรรม
การทำงานกล่มุ ๔. แบบสงั เกต
๔. สังเกต คณุ ลกั ษณะ
คุณลักษณะ อันพึงประสงค์
อนั พึงประสงค์
๑๒
รายวิชา ภาษาและวัฒนธรรม การออกแบบ
กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗
๑. มวี ินัย
เวลา ๓ ชัว่ โมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ม่งุ มั่นในการ
ผลการ สาระสำคญั สาระ สมรรถนะสำคัญ
เรียนรู้ การเรียนรู้ ทำงาน
๑. ความสามารถ ๔. รักความ
๗. มีความรู้ ภาษาถ่ิน เป็นภาษาย่อย ภาษา ในการสื่อสาร
ความเขา้ ใจ ทใี่ ชพ้ ูดจากนั ในทอ้ งถิ่น ถ่นิ เป็นไทย
ภาษาถิ่น ต่าง ๆ ซึ่งเกดิ จากการใช้ ๒. ความสามารถ
ภาษาเพือ่ การสื่อ ในการคิด
ความหมาย ความเข้าใจ
กันระหว่างผคู้ นทอี่ าศยั อยู่ ๓. ความสามารถ
ในการใช้ทักษะชวี ิต
ตามท้องถน่ิ นัน้ ๆ ภาษา
ถิ่นจะแสดงถึงเอกลกั ษณ์
ลกั ษณะความเป็นอยู่
และวถิ ีชีวิตของผคู้ น
ในทอ้ งถน่ิ ของแต่ละภาค
ภาษาถิ่นทกุ ภาษาเปน็
ภาษาทสี่ ำคญั ในสังคมไทย
เป็นภาษาท่บี นั ทกึ
เรอ่ื งราว ประสบการณ์
และวัฒนธรรมทกุ แขนง
ของท้องถิ่น เราจึงควร
รักษาภาษาถิน่ ทุกถ่นิ ไวใ้ ช้
ให้ถูกต้อง เพ่อื เปน็ สมบตั ิ
มรดกของชาติต่อไป
๑๓
บหน่วยการเรยี นรู้ รหสั วิชา ท๓๐๒๐๓
กจิ กรรมการ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔
เรียนรู้ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ภาษาถิ่น
- การบรรยาย คะแนนเต็ม ๕ คะแนน
- กระบวนการ
สือ่ วิธกี ารวัดผล เครื่องมือการวัดผล ชน้ิ งาน
กลุม่ การสอน
๑. ประเมินการ ๑. แบบประเมนิ สมดุ
ใบความรู้ นำเสนอผลงาน การนำเสนอผลงาน เล่มเล็ก
ใบงาน ภาษาถ่นิ
๒. สงั เกต ๒. แบบสังเกต
พฤติกรรม พฤติกรรมการทำงาน
การทำงาน รายบคุ คล
รายบุคคล ๓. แบบสังเกต
๓. สังเกต พฤตกิ รรมการ
ทำงานกลุ่ม
พฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม ๔. แบบสังเกต
๔. สังเกต คณุ ลกั ษณะ
คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์
อันพึงประสงค์
๑๓
รายวชิ า ภาษาและวัฒนธรรม การออกแบบ
กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย คุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๘
๑. มวี ินัย
เวลา ๔ ชั่วโมง ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. ม่งุ มั่นในการ
ผลการ สาระสำคัญ สาระ สมรรถนะสำคัญ
เรียนรู้ การเรยี นรู้ ทำงาน
๑. ความสามารถ ๔. รักความ
๘. รู้จกั ใช้ ภาษาเปน็ เคร่ืองมอื ภาษา ในการส่ือสาร
ภาษาในการ ในการบนั ทกึ ถา่ ยทอด กับการ เป็นไทย
สืบทอด วัฒนธรรมจากอดีต สบื ทอด ๒. ความสามารถ
ถึงปัจจุบันและใน วฒั นธรรม ในการคดิ
วัฒนธรรม อนาคต ฉะนน้ั ภาษา ไทย
ไทยอยา่ ง จึงเป็นหัวใจ ๓. ความสามารถ
ของวฒั นธรรม ในการใช้ทกั ษะชีวิต
ถูกต้อง ถ้าปราศจากภาษา
วฒั นธรรมจะสืบทอด
ไม่ได้และจะสูญหายไป
ภาษาไทยยงั มี
ความสำคญั ยงิ่ ในแง่
เปน็ เครอื่ งมอื
ส่ือความหมาย
ทางวัฒนธรรม
ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ
คุณประโยชน์
เหลือคณานับแก่ชาติ
บ้านเมอื ง
๑๔
บหน่วยการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ท๓๐๒๐๓
กจิ กรรมการ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔
เรียนรู้
ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ ภาษากับการสืบทอดวฒั นธรรมไทย
- การบรรยาย
- กระบวนการ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน
กลมุ่ สอ่ื วธิ กี ารวดั ผล เคร่อื งมอื การวดั ผล ช้นิ งาน
การสอน
ใบความรู้ ๑. ประเมนิ การ ๑. แบบประเมนิ ใบงาน
ใบงาน นำเสนอผลงาน การนำเสนอผลงาน
๒. สงั เกต ๒. แบบสงั เกต
พฤติกรรม พฤติกรรมการทำงาน
การทำงาน รายบุคคล
รายบคุ คล ๓. แบบสงั เกต
๓. สังเกต พฤตกิ รรมการ
พฤติกรรม ทำงานกลุ่ม
การทำงานกลุ่ม ๔. แบบสังเกต
๔. สังเกต คณุ ลักษณะ
คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์
อนั พึงประสงค์
๑๔
๑๕
ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้ รายวิชา เพม่ิ เติม
โครงสรา้ งหลักสูตร
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
รายวิชา ภาษาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า ท๓๐๒๐๓
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น (๒ ช่วั โมง/สัปดาห์)
ท่ี ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรยี น คะแนน
๑. ภาษาและวัฒนธรรม ๑ (ชัว่ โมง) ๕
ภาษามหี น้าที่ในการถ่ายทอด
๒. ภาษากบั ประเพณี ๒ วฒั นธรรม และมี ๓ ๕
ความสมั พนั ธ์กับการพัฒนา
วัฒนธรรมให้เจรญิ ๖
งอกงาม การใช้ภาษา
ให้ถกู ต้องตามวฒั นธรรม
จึงเปน็ เครื่องแสดงถงึ
ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย
และศีลธรรมอนั ดี
ของสงั คม อีกทง้ั ยงั เป็นการ
สบื ทอดวฒั นธรรมทางภาษา
ภาษาเป็นเคร่ืองมือในการ
บันทกึ ประเพณี
เปน็ เครื่องมอื ในการถา่ ยทอด
ประเพณจี ากคนรุ่นหนง่ึ สคู่ น
อกี รุ่นหนง่ึ เป็นส่วนประกอบ
สำคัญในรายละเอียด
ของประเพณี และเปน็
เครอ่ื งมือสะทอ้ นใหเ้ หน็ ชีวิต
ความเป็นอยู่อนั เกีย่ วพนั กัน
กับประเพณี
๑๖
ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
๓. ภาษากับวรรณคดี ๓ (ชวั่ โมง) ๑๐
วรรณคดี หมายถงึ วรรณกรรม
หรอื งานเขยี น ทีย่ กย่องกนั ๕
วา่ ดี มีสาระ และมีคณุ คา่
ทางวรรณศลิ ป์ วรรณคดถี ือ
เป็นวฒั นธรรมทางภาษาอย่าง
หนง่ึ ที่ถือเปน็ เครือ่ งสืบทอด
วฒั นธรรมทางภาษาโดยตรง
วรรณคดีถือเป็นกระจกแสดง
วถิ ีชีวิตของหมชู่ นทส่ี รา้ งสรรค์
วรรณคดีข้ึน
๔. ภาษากบั ศิลปะแขนงต่าง ๆ ๔ การศึกษาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง ๖ ๑๐
ภาษากบั ศิลปะแขนงต่าง ๆ
เช่น สถาปัตยกรรม
ประตมิ ากรรม จติ รกรรม ดนตรี
และนาฏศิลป์ เป็นแนวทางหนึ่ง
ของการศกึ ษาความเข้าใจภาษา
ในมุมมองท่ีลกึ ซง้ึ
มากยง่ิ ขึ้น เปน็ เคร่อื งสะท้อน
สงั คมและวฒั นธรรมธรรม
ของมนษุ ย์
๑๗
ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลาเรยี น คะแนน
๕. ภาษากับความเชอื่ ๕ (ชว่ั โมง)
ของคนไทย ๖ ความเชอ่ื เปน็ ธรรมชาติที่เกดิ ๓ ๕
๖. ภาษากบั คติชาวบ้าน ขนึ้ กบั มนุษย์ และถือวา่ เป็น
วัฒนธรรมของมนุษยอ์ ย่างหนงึ่
การดำรงชวี ิตของมนุษย์ในสมัย
โบราณทม่ี ีความเจรญิ ทางดา้ น
วชิ าการน้อย ความเชื่อจงึ เกิด
จากการเกดิ ข้ึน และการ
เปลยี่ นแปลงของธรรมชาติ
ดังน้นั เม่ือเกดิ ปรากฏการณ์
ตา่ ง ๆ ขน้ึ มนุษย์จงึ พยายาม
ทจ่ี ะคดิ หาวธิ กี ารท่ีจะกอ่ ใหเ้ กดิ
ผลในทางทีด่ ี และเกิดความสุข
ใหก้ ับตนเอง เพอื่ กระทำตอ่ สิ่ง
ทม่ี อี ำนาจเหนือธรรมชาติ
เหล่านน้ั ทำใหเ้ กดิ เป็นแนวทาง
ปฏิบตั ิท่ีเปน็ พิธกี รรม หรอื
ศาสนาเกดิ ขน้ึ
คติชาวบ้าน หมายถงึ วิถีชีวติ ๖ ๑๐
แนวทางหรอื สิง่ ทีป่ ระพฤติ
ปฏิบตั กิ นั ในกล่มุ ชนทว่ั ไป
ได้แก่ สำนวนสุภาษติ
เพลงกลอ่ มเดก็ ผญา
นิทานพ้ืนบ้าน ปรศิ นาคำทาย
ความเช่อื โชคลาง ถือเป็นมรดก
สำคญั ทเ่ี ปน็ วฒั นธรรมของชาติ
จึงควรอนุรกั ษ์ไวส้ ืบตอ่ ไป
ในภายภาคหนา้
๑๘
ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลาเรยี น คะแนน
๗. ภาษาถนิ่ ๗ (ชัว่ โมง) ๕
ภาษาถนิ่ เปน็ ภาษาย่อย
ทใ่ี ช้พูดจากันในทอ้ งถนิ่ ๓
ต่าง ๆ ซงึ่ เกิดจากการใช้
ภาษาเพ่ือการสอ่ื
ความหมาย ความเข้าใจกนั
ระหว่างผ้คู นท่อี าศยั อยู่
ตามท้องถิ่นนัน้ ๆ ภาษาถ่นิ
จะแสดงถงึ เอกลักษณ์
ลกั ษณะความเปน็ อยู่
และวถิ ีชวี ิตของผูค้ น
ในท้องถ่นิ ของแตล่ ะภาค
ภาษาถนิ่ ทกุ ภาษาเปน็ ภาษา
ท่สี ำคญั ในสงั คมไทย
เปน็ ภาษาที่บันทกึ เรือ่ งราว
ประสบการณ์
และวัฒนธรรมทุกแขนง
ของทอ้ งถ่นิ เราจึงควรรักษา
ภาษาถิ่นทุกถ่นิ ไว้ใช้
ให้ถูกตอ้ ง เพอ่ื เปน็ สมบัติ
มรดกของชาตติ ่อไป
๑๙
ท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
๘ (ชั่วโมง) ๑๐
๘. ภาษากบั การสืบทอด ภาษาเปน็ เคร่ืองมอื ในการ
วฒั นธรรมไทย สอบกลางภาค บนั ทึก ถา่ ยทอดวัฒนธรรม ๔ ๒๐
ระหว่างภาค จากอดตี ถงึ ปัจจบุ ันและใน ๖๐
สอบปลายภาค อนาคต ฉะน้นั ภาษา ๒ ๒๐
จึงเป็นหวั ใจของวฒั นธรรม ๓๖ ๑๐๐
รวม ถา้ ปราศจากภาษา ๒
วัฒนธรรมจะสบื ทอดไมไ่ ด้ ๔๐
และจะสญู หายไป
ภาษาไทยยงั มี
ความสำคัญยิ่งในแง่
เปน็ เครอ่ื งมอื ส่ือความหมาย
ทางวัฒนธรรม
ซ่ึงกอ่ ใหเ้ กิดคุณประโยชน์
เหลอื คณานับแกช่ าติ
บา้ นเมือง
ภาระชิ้นงาน
๑. ตวั อยา่ งข้อความและความหมายทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องภาษากับวรรณคดี
๒. ตัวอย่างข้อความและความหมายของผญาทีแ่ สดงความสมั พันธ์ของภาษากับคติชาวบ้าน
๓. สมุดเล่มเล็กสำนวนสุภาษิต
๔. สมุดเลม่ เล็กภาษาถิ่น
เงอื่ นไขการติด ๐ , ร , มส
มีผลการเรียนเป็น ๐ เน่ืองจากคะแนนรวมทง้ั หมดไม่ถงึ ๕๐ คะแนน
มีผลการเรยี นเปน็ ร เน่อื งจากไมส่ ง่ ภาระชิน้ งานตามท่กี ำหนด
มีผลการเรยี นเป็น มส เน่ืองจากเวลาเรยี นไมถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐
๒๐
ผลการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ท ๓๐๒๐๓ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑
๑. อธบิ ายความหมาย ประเภท ความสำคญั ของภาษาและวฒั นธรรมได้
๒. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับประเพณีได้
๓. อธิบายความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวรรณคดีได้
๔. มคี วามรูค้ วามเข้าใจเกย่ี วกับความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับศลิ ปะแขนงต่าง ๆ
๕. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับความเชื่อของคนไทยได้
๖. อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั คติชาวบ้านได้
๗. มีความรคู้ วามเข้าใจภาษาถิน่
๘. รู้จักใชภ้ าษาในการสบื ทอดวัฒนธรรมไทยอยา่ งถกู ตอ้ ง
คะแนนการวดั ผล – ประเมนิ ผล และการตัดสนิ ผลการเรยี น
๑. อัตราสว่ นของคะแนนเกบ็ ระหวา่ งเรยี น : ปลายภาคเรียนเป็น ๘๐ : ๒๐ โดยแยกดงั น้ี
คะแนนผลการเรียนร้จู ากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ๖๐ คะแนน
(คะแนนวดั ผลรายจุดประสงค์กอ่ นและหลังสอบระหวา่ งภาค)
คะแนนทดสอบกลางภาคเรียน ๒๐ คะแนน
คะแนนทดสอบปลายภาคเรยี น ๒๐ คะแนน
รวม ๑๐๐ คะแนน
๒. การตดั สินผลการเรยี นรู้ และระดับผลการเรยี น ดังน้ี
ระดบั คะแนน ๘๕-๑๐๐ คะแนน ระดับผลการเรยี น ๔
ระดับคะแนน ๘๐-๘๔ คะแนน ระดับผลการเรียน ๓.๕
ระดบั คะแนน ๗๐-๗๕ คะแนน ระดับผลการเรียน ๓
ระดบั คะแนน ๖๕-๗๙ คะแนน ระดบั ผลการเรียน ๒.๕
ระดบั คะแนน ๖๐-๖๔ คะแนน ระดับผลการเรียน ๒
ระดบั คะแนน ๕๕-๕๙ คะแนน ระดบั ผลการเรยี น ๑.๕
ระดบั คะแนน ๕๐-๕๔ คะแนน ระดับผลการเรียน ๑
ระดบั คะแนน ๐-๔๙ คะแนน ระดับผลการเรยี น ๐
**เม่ือนกั เรยี นมีเวลาไม่ถึงรอ้ ยละ ๘๐ ผลการเรียน คอื ๐
๒๑
คะแนนการประเมินความสามารถการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และการเขยี นสอื่ ความ
๑. ความสามารถในการคิด ๒๐ คะแนน
- วดั จากชนิ้ งาน ๔ ช้นิ ๆ ละ ๕ คะแนน
๒. ความสามารถในการอา่ น ๒๐ คะแนน
- วดั จากการประเมนิ ข้อเขยี นการอา่ นเกย่ี วกบั ภาษาและวัฒนธรรม ๒๐ คะแนน
๓. ความสามารถในการวิเคราะห์ ๒๐ คะแนน
- วัดจากการบนั ทึกและสรุปการเรียน ๑๐ คะแนน
- วัดจากการอ่านวิเคราะห์เกย่ี วกบั ภาษาและวฒั นธรรม ๑๐ คะแนน
๔. ความสามารถในการเขยี น ๔๐ คะแนน
- วัดจากการเขียนบันทึกแสดงความคิดเหน็ และการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ
รวม ๑๐๐ คะแนน
๒๒
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน ๓ ชั่วโมง
เวลา ๑ ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่ือง ภาษาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง ปฐมนเิ ทศการเรียน
ผลการเรยี นรู้
-
๑. สาระสำคัญ
ความรู้เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกับการเรียนวิชาภาษาและวัฒนธรรม ท๓๐๒๐๓ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน
การเรยี นรู้ คำอธิบายรายวชิ า หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์ การอ่าน คิด วเิ คราะหแ์ ละเขียนสื่อความ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดประเมนิ ผล
ชว่ งชัน้ ที่ ๔ มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมการเรยี นร้โู ดยยึดนกั เรียนเปน็ สำคญั เพือ่ ให้สอดคลอ้ งกบั การปฏิรูป
การศึกษา ๒๕๔๒ แผนจดั การเรยี นรนู้ ้จี ึงไดจ้ ัดกระบวนการเรียนการสอนโดยผ้เู รยี นร่วมสร้างองคค์ วามรู้
และเป็นผ้ลู งมอื ปฏิบัติใหม้ ากทส่ี ดุ การจัดและประเมนิ ผลเนน้ การวัดตามสภาพจริงและเมอ่ื นกั เรยี น
ได้เรียนรตู้ ามกระบวนการแลว้ นักเรยี นจะมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ คอื ดี เก่ง มีความสุข
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
นกั เรยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจความรเู้ บ้อื งตน้ เกี่ยวกับการเรียนภาษาและวฒั นธรรม
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ คำอธบิ ายรายวิชา
๓.๒ หน่วยการเรียนรู้
๓.๓ ผลการเรียนรู้
๓.๔ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
๓.๕ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๓.๖ การอา่ น คิด วิเคราะหแ์ ละเขียนสือ่ ความ
๓.๗ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๓.๘ การวัดประเมนิ ผล
๔. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
๔.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร
๔.๒ ความสามารถในการคดิ
๔.๓ ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
๕. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๕.๑ มีวินัย
๕.๒ ใฝเ่ รียนรู้
๕.๓ มุง่ มนั่ ในการทำงาน
๒๓
๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรียน
๖.๑ ครกู ล่าวทกั ทายและแนะนำตนเองให้นกั เรยี นทราบ
ขนั้ สอน
๖.๒ ใหน้ กั เรยี นแนะนำตนเองโดยบอกช่ือ สกุล ชื่อเล่น และบอกภูมลิ ำเนาเดมิ
๖.๓ ครูเล่าความสำคัญของสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย แลว้ ใหน้ กั เรียนศกึ ษาใบความรู้
เรอื่ งสาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะ
สำคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสือ่ ความ สื่อการเรียนรู้
และการวัดผลประเมินผล
๖.๔ ตวั แทนนกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ในหวั ข้อดงั นี้
๖.๔.๑ เร่อื งทกี่ ำหนดใหเ้ รียนเหมาะสมหรือไมเ่ พียงใด
๖.๔.๒ เวลาที่เรียนสัมพันธก์ ับเรอื่ งเพียงใด
๖.๔.๓ น้ำหนักคะแนนเหมาะสมหรือไมเ่ พยี งใด
๖.๕ ครชู ้แี จงถงึ กระบวนการจัดการเรียนรสู้ าระภาษาไทยและหาข้อตกลงเร่อื งการเข้าเรยี น
และการปฏิบตั ติ นขณะเรียน การส่งงานการวัดและประเมินผล นกั เรยี นอภปิ รายแสดงความคิดเห็น
จนเป็นทีพ่ อใจ ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรุปขอ้ ตกลง
๖.๖ นักเรียนบนั ทกึ ข้อตกลงในสมุดของตน ครลู งลายมอื รบั ทราบ
ขนั้ สรปุ
๖.๗ นกั เรียนตอบแบบสอบถาม ครนู ำข้อมูลมาวเิ คราะหแ์ ยกกลุ่มนกั เรียนที่เรยี นเก่ง
ปานกลาง และออ่ น กลมุ่ นักเรยี นอยปู่ ระจำและไปกลบั และอน่ื ๆ เพอื่ นำไปใช้ในการจดั กล่มุ การเรยี น
การสอน และการวจิ ยั ในช้ันเรยี นต่อไป
๗. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมนกั เรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน รอ้ ยละ ๘๐ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น แบบสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบสังเกตคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์
๒๔
๘. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้
๘.๑ สอ่ื การเรยี นรู้
๘.๑.๑ ใบความรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
๘.๑.๒ ใบความรู้ คำอธบิ ายรายวิชา
๘.๑.๓ ใบความรู้ หน่วยการเรยี นรู้
๘.๑.๔ ใบความรู้ ผลการเรยี นรู้
๘.๑.๕ ใบความรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
๘.๑.๖ ใบความรู้ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๘.๑.๗ ใบความรู้ การอา่ น คิด วเิ คราะหแ์ ละเขียนส่ือความ
๘.๑.๘ ใบความรู้ เกณฑก์ ารวดั ผลประเมนิ ผล
๘.๒ แหล่งเรียนรู้
๙. ภาคผนวก
ใบความรู้
คำอธิบายรายวชิ า
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยเพม่ิ เตมิ
รายวชิ า ภาษาและวัฒนธรรม รหสั วชิ า ท๓๐๒๐๓ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๑
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง/ภาค (๒ ชวั่ โมง /สปั ดาห์) จำนวน ๑ หน่วยกิต
ศึกษาความหมาย ประเภท ความสำคัญของภาษาและวฒั นธรรม รวมทง้ั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง
ภาษากบั ประเพณี วรรณคดี ศลิ ปะแขนงตา่ ง ๆ ความเชื่อของคนไทย ภมู ิปัญญาไทย คติชาวบา้ น ภาษาถน่ิ
และความสำคญั ของภาษาในการสืบทอดวฒั นธรรมไทย
โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา กระบวนการอ่าน ฟงั ดู พูด และเขยี น กระบวนการกลุม่
แนวทาง การเรียนรู้ที่เนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั กระบวนการปฏบิ ตั ิ
เพื่อใหเ้ ขา้ ใจและเห็นคุณค่าของภาษาในฐานะทเี่ ป็นเครือ่ งมอื รักษาและสบื ทอดวัฒนธรรมไทย
เกดิ และสรา้ งความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสง่ิ ทเ่ี รียนรู้ นำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการ
ดำเนินชีวติ มีวจิ ารณญาณในการส่ือสารเร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั
ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง มีทศั นคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมอื ง มพี ืน้ ฐานชวี ิตมั่นคง มีคณุ ธรรม จริยธรรม
และคา่ นิยมอันดงี าม มคี วามซ่อื สัตย์ไม่ทุจรติ และมีมารยาทและนสิ ยั ที่ดใี นการอ่าน การฟัง การดู การพูด
และการเขียน
๒๕
โครงสรา้ งหลักสูตร รายวชิ า เพ่มิ เติม
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔
รายวชิ า ภาษาและวฒั นธรรม รหัสวชิ า ท๓๐๒๐๓
จำนวน ๑ หน่วยกติ
จำนวน ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน (๒ ช่วั โมง/สัปดาห์)
ท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
๑. ภาษาและวฒั นธรรม ๑ (ชวั่ โมง) ๕
ภาษามหี นา้ ทีใ่ นการถ่ายทอด
๒. ภาษากับประเพณี ๒ วฒั นธรรม และมี ๓ ๕
ความสมั พันธ์กบั การพฒั นา
วฒั นธรรมใหเ้ จริญ ๖
งอกงาม การใชภ้ าษา
ใหถ้ ูกต้องตามวฒั นธรรม
จงึ เป็นเคร่อื งแสดงถงึ
ความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย
และศลี ธรรมอันดี
ของสงั คม อีกทั้งยังเปน็ การ
สืบทอดวัฒนธรรมทางภาษา
ภาษาเปน็ เครอื่ งมือในการ
บันทึกประเพณี
เป็นเครื่องมือในการถา่ ยทอด
ประเพณีจากคนร่นุ หนึง่ ส่คู น
อีกรนุ่ หนงึ่ เป็นส่วนประกอบ
สำคญั ในรายละเอยี ด
ของประเพณี และเป็น
เครอ่ื งมือสะทอ้ นใหเ้ หน็ ชีวิต
ความเปน็ อยอู่ นั เก่ียวพันกัน
กบั ประเพณี
๒๖
ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
๓. ภาษากับวรรณคดี ๓ (ชวั่ โมง) ๑๐
วรรณคดี หมายถงึ วรรณกรรม
หรอื งานเขยี น ทีย่ กย่องกนั ๕
วา่ ดี มีสาระ และมีคณุ คา่
ทางวรรณศลิ ป์ วรรณคดถี ือ
เป็นวฒั นธรรมทางภาษาอย่าง
หนง่ึ ที่ถือเปน็ เครือ่ งสืบทอด
วฒั นธรรมทางภาษาโดยตรง
วรรณคดีถือเป็นกระจกแสดง
วถิ ีชีวิตของหมชู่ นทส่ี รา้ งสรรค์
วรรณคดีข้ึน
๔. ภาษากบั ศิลปะแขนงต่าง ๆ ๔ การศึกษาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง ๖ ๑๐
ภาษากบั ศิลปะแขนงต่าง ๆ
เช่น สถาปัตยกรรม
ประตมิ ากรรม จติ รกรรม ดนตรี
และนาฏศิลป์ เป็นแนวทางหนึ่ง
ของการศกึ ษาความเข้าใจภาษา
ในมุมมองท่ีลกึ ซง้ึ
มากยง่ิ ขึ้น เปน็ เคร่อื งสะท้อน
สงั คมและวฒั นธรรมธรรม
ของมนษุ ย์
๒๗
ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลาเรยี น คะแนน
๕. ภาษากับความเชอื่ ๕ (ชว่ั โมง)
ของคนไทย ๖ ความเชอ่ื เปน็ ธรรมชาติที่เกดิ ๓ ๕
๖. ภาษากบั คติชาวบ้าน ขนึ้ กบั มนุษย์ และถือวา่ เป็น
วัฒนธรรมของมนุษยอ์ ย่างหนงึ่
การดำรงชวี ิตของมนุษย์ในสมัย
โบราณทม่ี ีความเจรญิ ทางดา้ น
วชิ าการน้อย ความเชื่อจงึ เกิด
จากการเกดิ ข้ึน และการ
เปลยี่ นแปลงของธรรมชาติ
ดังน้นั เม่ือเกดิ ปรากฏการณ์
ตา่ ง ๆ ขน้ึ มนุษย์จงึ พยายาม
ทจ่ี ะคดิ หาวธิ กี ารท่ีจะกอ่ ใหเ้ กดิ
ผลในทางทีด่ ี และเกิดความสุข
ใหก้ ับตนเอง เพอื่ กระทำตอ่ สิ่ง
ทม่ี อี ำนาจเหนือธรรมชาติ
เหล่านน้ั ทำใหเ้ กดิ เป็นแนวทาง
ปฏิบตั ิท่ีเปน็ พิธกี รรม หรอื
ศาสนาเกดิ ขน้ึ
คติชาวบ้าน หมายถงึ วิถีชีวติ ๖ ๑๐
แนวทางหรอื สิง่ ทีป่ ระพฤติ
ปฏิบตั กิ นั ในกล่มุ ชนทว่ั ไป
ได้แก่ สำนวนสุภาษติ
เพลงกลอ่ มเดก็ ผญา
นิทานพ้ืนบ้าน ปรศิ นาคำทาย
ความเช่อื โชคลาง ถือเป็นมรดก
สำคญั ทเ่ี ปน็ วฒั นธรรมของชาติ
จึงควรอนุรกั ษ์ไวส้ ืบตอ่ ไป
ในภายภาคหนา้
๒๘
ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรยี น คะแนน
๗. ภาษาถนิ่ ๗ (ชัว่ โมง) ๕
ภาษาถนิ่ เปน็ ภาษาย่อย
ทใ่ี ช้พูดจากันในทอ้ งถนิ่ ๓
ต่าง ๆ ซงึ่ เกิดจากการใช้
ภาษาเพ่ือการสอ่ื
ความหมาย ความเข้าใจกนั
ระหว่างผ้คู นท่อี าศัยอยู่
ตามท้องถิ่นนัน้ ๆ ภาษาถ่นิ
จะแสดงถงึ เอกลักษณ์
ลกั ษณะความเปน็ อยู่
และวถิ ีชวี ิตของผูค้ น
ในท้องถ่นิ ของแตล่ ะภาค
ภาษาถนิ่ ทกุ ภาษาเปน็ ภาษา
ท่สี ำคญั ในสงั คมไทย
เปน็ ภาษาที่บันทกึ เรื่องราว
ประสบการณ์
และวัฒนธรรมทกุ แขนง
ของทอ้ งถ่นิ เราจึงควรรักษา
ภาษาถิ่นทุกถ่นิ ไว้ใช้
ให้ถูกตอ้ ง เพอ่ื เปน็ สมบัติ
มรดกของชาตติ ่อไป
๒๙
ท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
๘ (ชั่วโมง) ๑๐
๘. ภาษากบั การสืบทอด ภาษาเปน็ เคร่ืองมอื ในการ
วฒั นธรรมไทย สอบกลางภาค บนั ทึก ถา่ ยทอดวัฒนธรรม ๔ ๒๐
ระหว่างภาค จากอดตี ถงึ ปัจจบุ ันและใน ๖๐
สอบปลายภาค อนาคต ฉะน้นั ภาษา ๒ ๒๐
จึงเป็นหวั ใจของวฒั นธรรม ๓๖ ๑๐๐
รวม ถา้ ปราศจากภาษา ๒
วัฒนธรรมจะสบื ทอดไมไ่ ด้ ๔๐
และจะสญู หายไป
ภาษาไทยยงั มี
ความสำคัญยิ่งในแง่
เปน็ เครอ่ื งมอื ส่ือความหมาย
ทางวัฒนธรรม
ซ่ึงกอ่ ใหเ้ กิดคุณประโยชน์
เหลอื คณานับแกช่ าติ
บา้ นเมือง
ภาระชิ้นงาน
๑. ตวั อยา่ งข้อความและความหมายทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องภาษากับวรรณคดี
๒. ตัวอย่างข้อความและความหมายของผญาทีแ่ สดงความสมั พันธ์ของภาษากับคติชาวบ้าน
๓. สมุดเล่มเล็กสำนวนสุภาษิต
๔. สมุดเลม่ เล็กภาษาถิ่น
เงอื่ นไขการติด ๐ , ร , มส
มีผลการเรียนเป็น ๐ เน่ืองจากคะแนนรวมทั้งหมดไม่ถงึ ๕๐ คะแนน
มีผลการเรยี นเปน็ ร เน่อื งจากไมส่ ง่ ภาระชน้ิ งานตามท่กี ำหนด
มีผลการเรยี นเป็น มส เน่ืองจากเวลาเรยี นไมถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐
๓๐
ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายความหมาย ประเภท ความสำคัญของภาษาและวัฒนธรรมได้
๒. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากับประเพณีได้
๓. อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวรรณคดีได้
๔. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั ศิลปะแขนงตา่ ง ๆ
๕. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับความเช่ือของคนไทยได้
๖. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับคติชาวบ้านได้
๗. มคี วามรู้ความเข้าใจภาษาถ่ิน
๘. ร้จู ักใช้ภาษาในการสบื ทอดวฒั นธรรมไทยอยา่ งถูกต้อง
คะแนนการวัดผล – ประเมินผล และการตัดสนิ ผลการเรยี น
๑. อัตราส่วนของคะแนนเกบ็ ระหว่างเรยี น : ปลายภาคเรยี นเปน็ ๘๐ : ๒๐ โดยแยกดังนี้
คะแนนผลการเรยี นรจู้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรม ๖๐ คะแนน
(คะแนนวดั ผลรายจุดประสงค์ก่อนและหลังสอบระหวา่ งภาค)
คะแนนทดสอบกลางภาคเรียน ๒๐ คะแนน
คะแนนทดสอบปลายภาคเรียน ๒๐ คะแนน
รวม ๑๐๐ คะแนน
๒. การตดั สินผลการเรยี นรู้ และระดับผลการเรียน ดงั น้ี
ระดบั คะแนน ๘๕-๑๐๐ คะแนน ระดบั ผลการเรียน ๔
ระดบั คะแนน ๘๐-๘๔ คะแนน ระดับผลการเรียน ๓.๕
ระดบั คะแนน ๗๐-๗๕ คะแนน ระดับผลการเรยี น ๓
ระดบั คะแนน ๖๕-๗๙ คะแนน ระดบั ผลการเรยี น ๒.๕
ระดบั คะแนน ๖๐-๖๔ คะแนน ระดับผลการเรยี น ๒
ระดบั คะแนน ๕๕-๕๙ คะแนน ระดบั ผลการเรียน ๑.๕
ระดบั คะแนน ๕๐-๕๔ คะแนน ระดบั ผลการเรยี น ๑
ระดับคะแนน ๐-๔๙ คะแนน ระดับผลการเรียน ๐
**เมือ่ นกั เรียนมีเวลาไมถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐ ผลการเรียน คอื ๐
คะแนนการประเมินความสามารถการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และการเขียนส่อื ความ
๑. ความสามารถในการคดิ ๒๐ คะแนน
- วัดจากชิน้ งาน ๔ ชิ้น ๆ ละ ๕ คะแนน
๒. ความสามารถในการอ่าน ๒๐ คะแนน
- วัดจากการประเมนิ ข้อเขียนการอา่ นเกยี่ วกบั ภาษาและวฒั นธรรม ๒๐ คะแนน
๓. ความสามารถในการวเิ คราะห์ ๒๐ คะแนน
- วดั จากการบันทกึ และสรปุ การเรยี น ๑๐ คะแนน
- วดั จากการอ่านวิเคราะห์เก่ยี วกบั ภาษาและวัฒนธรรม ๑๐ คะแนน
๔. ความสามารถในการเขียน ๔๐ คะแนน
- วัดจากการเขยี นบันทกึ แสดงความคดิ เห็นและการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ
รวม ๑๐๐ คะแนน
๓๑
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย มุง่ ให้ผเู้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดังนี้
๑. ความสามารถในการส่อื สาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ัฒนธรรมในการ
ใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความร้คู วามเข้าใจ ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองเพือ่ แลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร
และประสบการณอ์ นั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทง้ั การเจรจาต่อรอง เพ่ือขจัด
และลดปัญหาความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ การเลือกรบั หรือไมร่ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถกู ตอ้ ง
ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สาร ทม่ี ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเอง และสงั คม
๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิด
อยา่ งสรา้ งสรรค์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพอ่ื นำไปส่กู ารสร้างองคค์ วามรู้
หรือสารสนเทศเพ่ือการตัดสนิ ใจเกยี่ วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชญิ
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพืน้ ฐานของหลกั เหตผุ ล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสมั พนั ธ์
และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรมู้ าใช้ในการปอ้ งกัน
และแกไ้ ขปัญหา และมีการตัดสนิ ใจท่มี ีประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทีเ่ กิดขนึ้ ต่อตนเอง สงั คม
และสิ่งแวดลอ้ ม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดำเนินชวี ติ ประจำวัน การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรอู้ ยา่ งต่อเน่ือง การทำงาน และการอยู่ร่วมกนั
ในสังคมด้วยการสร้างเสรมิ ความสมั พันธ์อันดีระหว่างบคุ คล การจดั การปัญหาและความขัดแยง้ ต่าง ๆ
อย่างเหมาะสม การปรบั ตัวให้ทนั กบั การเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลีกเล่ียง
พฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ทสี่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีด้านตา่ ง ๆ และมี
ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพือ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรยี นรู้ การส่อื สาร การทำงาน
การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม
๓๒
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ แสดงออกถงึ การเปน็ พลเมอื งดีของชาติ ธำรงไวซ้ ง่ึ ความเปน็ ชาตไิ ทยศรัทธา
ยดึ ม่ันในศาสนา และเคารพเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์
๒. ซ่ือสตั ย์สุจริต แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถกู ตอ้ ง ประพฤติ ตรงตามความเป็นจริงต่อตนเอง
และผูอ้ ื่นทัง้ ทางกาย วาจา ใจและยึดหลักความจริงความถกู ตอ้ งในการดำเนนิ ชีวติ มีความละอาย
และเกรงกลวั ตอ่ การกระทำผดิ
๓. มวี นิ ยั ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คับของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม
เป็นปกตวิ สิ ยั ไม่ละเมดิ สิทธิของผอู้ น่ื
๔. ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน แสวงหาความร้จู ากแหล่งเรยี นรู้
ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง แสดงออกถึงการดำเนนิ ชีวติ อย่างพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบมีคุณธรรม
มีภมู ิค้มุ กันในตวั ทีด่ ี และปรับตัวเพอื่ อยูใ่ นสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ
๖. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน แสดงออกถึงความต้ังใจและรับผิดชอบในการทำหนา้ ท่กี ารงานดว้ ยความเพยี ร
พยายาม อดทน เพ่ือให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย
๗. รกั ความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความภาคภมู ใิ จ เหน็ คุณค่า รว่ มอนรุ ักษ์ สืบทอดภมู ิปัญญาไทย
ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรม ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
๘. มจี ิตสาธารณะ แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมหรือสถานการณ์ท่ีก่อให้เกิดประโยชน์
แกผ่ ู้อื่น ชุมชนและสังคม ดว้ ยความเตม็ ใจ กระตอื รอื รน้ โดยไมห่ วงั ผลตอบแทน
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นความสนใจ (๕) ๓๓
ีมส่วนร่วม (๕)
คำชแี้ จง การวางแผน (๕) คะแนนรวม
๑. ให้ใส่เคร่ืองหมาย / ลงในช่องพฤติกรรมหรือการปฏิบตั ิ ให้ตรงกบั ความเป็นจริงส ้รางสรรค์ (๕)๒๕
๒. แบบที่ ๑ ให้ครูเป็นผบู้ นั ทกึ และสงั เกตีมมารยาท (๕)
๓. แบบท่ี ๒ ให้ตวั แทนนักเรยี นทีไ่ ด้รับมอบหมายเปน็ ผ้สู งั เกตและบนั ทึก
แบบที่ ๑
พฤตกิ รรมทสี่ งั เกต
เลขท่ี ชื่อ – สกลุ
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
รวม
ลงชอ่ื ………............………………………….ผ้สู ังเกต
(…..................….……………………..….)
วันที่……..เดือน………………พ.ศ………..
๓๔
แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ช่ือ..............................................................นามสกุล................................................... เลขท่ี.....
คำชี้แจง :ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน
สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ
ดเี ย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) มผ.(๐)
๑. ความสามารถ ๑.๑ มคี วามสามารถในการรับ – สง่ สาร
ในการสื่อสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด
ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
๑.๓ ใชว้ ิธกี ารสือ่ สารทเ่ี หมาะสม
๑.๔ วเิ คราะห์แสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล
๑.๕ เขียนบันทกึ เหตุการณป์ ระจำวันแลว้ เลา่ ใหเ้ พอื่ นฟังได้
สรุป
๒. ความสามารถ ๒.๑ มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์
ในการคิด ๒.๒ มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
๒.๓ สามารถคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
๒.๔ มีความสามารถในการคิดอย่างมรี ะบบ
๒.๕ ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาเกย่ี วกับตนเองได้
สรุป
๓. ความสามารถ ๔.๑ เรียนรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ในการใชท้ ักษะ ๔.๒ สามารถทำงานกลุ่มร่วมกบั ผู้อ่ืนได้
ชีวติ ๔.๓ นำความร้ทู ไ่ี ด้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั
๔.๔ จัดการปัญหาและความขัดแย้งไดเ้ หมาะสม
๔.๕ หลกี เล่ียงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ สี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง
สรปุ
สรปุ
สรปุ ผลการประเมิน
สรุปผลการประเมนิ ผ่าน ระดบั ดีเยีย่ ม ดี ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมนิ
ไมผ่ ่าน ระดับ ปรบั ปรงุ
๓๕
แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ช่อื – สกุล......................................................เลขท.่ี ..................ชน้ั ...........................ปกี ารศกึ ษา................
-----------------------------------------------
คำช้ีแจง ใหพ้ จิ ารณาตวั ชวี้ ดั ตอ่ ไปน้ีแล้วใหร้ ะดบั คะแนนท่ตี รงกับการปฏบิ ตั ขิ องนักเรยี นตามความเปน็ จริง
ระดับคะแนน ๕ หมายถึง ปฏิบัติเปน็ ประจำทกุ คร้ัง
ระดบั คะแนน ๔ หมายถงึ ปฏบิ ตั บิ ่อยคร้งั
ระดบั คะแนน ๓ หมายถึง ปฏิบตั ิบางครงั้
ระดับคะแนน ๒ หมายถงึ ปฏบิ ตั ิน้อย
ระดับคะแนน ๑ หมายถึง มพี ฤติกรรมไม่ชัดเจนหรอื ไมม่ ีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ
ตวั ชีว้ ัด ๕ คะแนน ๑
๔๓๒
ข้อ ๓ มวี ินัย
๓.๑ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
รวมคะแนน
ขอ้ ๔ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
๔.๒ แสวงหาความรู้จาก แหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการ
เลอื กใชส้ ือ่ อยา่ งเหมาะสม สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้
รวมคะแนน
ขอ้ ๖ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
๖.๑ ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทกี่ ารงาน
๖.๒ ทำงานดว้ ย ความเพียร พยายาม และ อดทนเพือ่ ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย
รวมคะแนน
รวมคะแนนทัง้ หมด
รวมคะแนนทงั้ หมดเฉลีย่ ร้อยละ
ระดับคณุ ภาพ
สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น ระดับ ดีเย่ยี ม ดี ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
ไม่ผ่าน ระดับ ปรับปรุง