The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แก้วหน้าม้าเป็นวรรณกรรมของไทยโดยผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kamolchanok.1878, 2021-03-16 01:19:08

วรรณกรรมเรื่องแก้วหน้าม้า

แก้วหน้าม้าเป็นวรรณกรรมของไทยโดยผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Keywords: แก้วหน้าม้า

วรรณคดสี ำหรับงำนนำฏยศลิ ป์ เรอ่ื ง แก้วหน้ำมำ้

นางสาวกมลชนก คาภาผง
รหัสประจาตัวนักศึก6181163017

รายงานนเ้ี ปน็ ส่วนหนึง่ ของการศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชานาฏยศลิ ปศ์ ึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏบ้านสมเด็จเจา้ พระยา

ปกี ารศึกษา2563




คำนำ

รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาวรรณกรรมสาหรับนาฏยศิลป์ศึกษา รหัสวิชา
2151301 เพื่อใช้เป็นสื่อประกอบการเรียนและการนาเสนอภายในรายวิชานี้ ซึ่งในรายงานเล่มนี้มีเนื้อหา
สาระเกี่ยวกับวรรณกรรมวรรณคดีไทย เรื่องแก้วหน้าม้า เพื่อให้บุคคลากรและผู้ท่ีสนใจได้เรียนรู้มีความเข้าใจ
ในส่วนของเนื้อเรื่องแก้วหน้าม้าผู้จัดทาขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายที่ได้คอยให้คาแนะนาและ
คาปรึกษาสาหรบั การทารายงานเล่มน้ี

ผู้จัดทาหวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ในการเรียนการสอนรายวิชาดังกล่าวและสามารถ
นาความรทู้ ่ไี ด้ไปใช้ในการเรยี นการสอนตอ่ ไป

กมลชนก คาภาผง
ผจู้ ัดทา




กติ ตกิ รรมประกำศ
รายงานวรรณกรรมเรือ่ งแกว้ หนา้ ม้านี้สาเร็จลุลว่ งได้ดว้ ยความกรณุ าช่วยเหลอื แนะนา ใหค้ าปรึกษา
ตรวจสอบแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ดว้ ยความเอาใจใสอ่ ยา่ งดยี ่ิงจาก อาจารยร์ ณกฤต เพชรเกลีย้ ง ครผู สู้ อน
รายวชิ าวรรณกรรมสาหรบั นาฏยศิลปศ์ กึ ษา 2151301 ผู้จดั ทารายงานกราบขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูง

ขอขอบคุณแม่ และญาตพิ นี่ ้องทุกคนที่ช่วยเหลอื สนับสนุนทั้งด้านกาลังใจด้วยดีตลอดมา
นอกจากน้ียงั มผี ้ทู ่ีใหค้ วามร่วมมือช่วยเหลืออกี หลายท่าน ซึง่ ผเู้ ขียนไม่สามารถกล่าวนามในทน่ี ้ีได้หมด จึง
ขอขอบคุณทุกท่านเหล่านนั้ ไว้ ณ โอกาสนด้ี ้วย

คณุ คา่ ทัง้ หลายทไี่ ดร้ บั จากรายงานการศึกษาความเรยี งขน้ั สูงฉบบั นี้ ผเู้ ขยี นขอมอบเป็น
กตัญญูกตเวทแี ดบ่ ิดามารดา และบูรพาจารย์ทเี่ คยอบรมส่งสอน รวมทงั้ ผ้มู พี ระคุณทกุ ท่าน

กมลชนก คาภาผง
ผจู้ ดั ทา




สำรบัญ

เรอื่ ง หนำ้
คานา..................................................................................................................................................ก
กิตตกิ รรมประกาศ.............................................................................................................................ข
สารบญั ..............................................................................................................................................ค
ประวัติความเปน็ มาของวรรณคดีเรอ่ื งแก้วหนา้ มา้ ............................................................................1
ประวตั ิผู้แตง่ ………………………………………………………………………………………………………………………2
เนื้อเรอื่ งย่อ………………………………………………………………………………………………………………………..3
บทประพนั ธ์……………………………………………………………………………………………………………………….6
ถอดบทประพนั ธ์…………………………………………………………………………………………………………….....250
ตวั ละคร……………………………………………………………………………………………………………………………294
วเิ คราะห์ตัวละคร………………………………………………………………………………………………………………294
เอกสารอ้างองิ …………………………………………………………………………………………………………………..297
ภาคผนวก………………………………………………………………………………………………………………………..298
ประวัตินกั ศึกษา………………………………………………………………………………………………………………..299


1

ควำมเป็นมำของวรรณคดเี ร่อื ง

แก้วหน้าม้า เป็นละครนอกแบบหลวงที่เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่ 2 พระนิพนธ์ในกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ นับเป็นละครนอกที่ได้รับความนิยมมากที่สาคัญบท
ละครนอกเร่ืองน้ีได้รับความนิยมมาแต่โบราณเรื่องหน่ึง เน้ือหาโดยรวมสนุกสนาน ชวนติดตาม มลี ักษณะเดน่ ที่
แปลกไปกว่าบทละครนอกเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาระการสร้างตัวละครให้นางเอกในเรื่องเป็นสตรีปัญญาไว มีไหว
พริบ ฉลาดในการแก้ปัญหา อีกทั้งมีความสามารถในการศึกสงคราม เป็นผู้ช่วยเหลือสามีให้รอดพ้นจาก
อันตรายไดท้ ุกคร้งั

ภาพนางแก้วหน้าม้าหรือนางมณี นางเอกของเร่ืองจึงการเป็นตัวละครที่ตรึกตาตรึงใจทั้งผู้ที่อ่านบท
ละครนี้ รวมถงึ ผ้ทู เี่ คยชมจากละครโทรทัศน์ กระทัง่ มีการนากลบั มาสรา้ งใหมแ่ ล้วทาซา้ อีกหลายครง้ั

ดังที่รับรูปกัน ละครนอกนั้นเป็นมหรสพสาคัญอย่างหนึ่งของไทย นิยมแสดงมาแต่ช้านานตั้งแต่สมัยกรุงศรี
อยุธยาเป็นราชธานี เนื้อหาที่นามาแต่งเป็นบทละครนอกจะเป็นเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ พระเอกของเรื่องส่วนใหญ่
จะต้องมีเหตุการณ์พลดั พรากจากบา้ นเมือง มีการตอ่ ส้ผู จญภัย ในทส่ี ุดก็ไดพ้ บกับนางเอก

แม้ชื่อของบทละครนอกเรื่องแก้วหน้าม้า จะไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวรรณคดีเอก แต่หาก
ด้วยความนิยมที่ปรากฏตลอดมาของบทละครนอกเรื่องนี้ก็มีอะไรให้น่าสนใจศึกษาอยู่ไม่น้อย นับแต่ในเรื่อง
ขนบในการแต่ง โดยเฉพาะวิธีในการดาเนินเรื่องตั้งแต่เปิดบทโดยการเปิดฉากที่พระเจ้าแผ่นดินทรงพระนาม
อะไรครองกรุงอะไร และมีสภาพเป็นอย่างไหร่เป็นต้น จากนั้นก็ดาเนินเรื่องและเปิดตัวละครอย่างมีชั้นเชิง
สนุกสนาน และที่สาคญคือชวนติดตามจนผู้อ่านไม่อาจมองผ่านในแต่ละบทแต่ละตอนไปได้ บทละครนี้ยัง
สอดแทรกขนบธรรมเนยี มประเพณีความเชื่อ ตลอดจนคา่ นยิ มของสังคมไทยในสมัยน้ันไวด้ ว้ ย


2

ประวตั ิผูแ้ ต่ง

ผูแ้ ตง่ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าทนิ กร กรมหลวงภูวเนตรนรนิ ทรฤทธิ์
พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธ์ิ พระนามเดิม พระองค์เจ้าทนิ กร พระราชโอรสพระองค์ที่
35 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัย ประสูตแิ ต่เจ้าจอมมารดาศลิ า (ราชินิกุลบางช้าง) เมื่อวนั ท่ี 24
พฤษภาคม พ.ศ. 2344
ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดาริว่า พระเจ้าพี่ยาเธอ พระองค์เจ้า
ทินกรทรงพระปรีชารอบรู้ในราชกิจต่าง ๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นพระเจ้าพี่ยาเธอ กรม
หลวงภูวเนตรนรนิ ทรฤทธิเ์ มอ่ื พ.ศ.2394 โปรดใหว้ ่าราชการกรมพระนครบาลอยู่ระยะหนึ่ง
กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ทรงนิพนธ์โคลงและกลอนไว้หลายเรื่อง แต่มีผู้รู้จักพระองค์ในฐานะกวีน้อยมาก
เนื่องจากพระนิพนธ์ไม่ได้รับการเผยแพร่เท่าที่ควร และพระนิพนธ์หลายเรื่องเป็นเพียงต้นฉบับตัวเขียนอยู่ใน
ห้องเอกสารโบราณของหอสมุดแห่งชาติ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทราบจานวนพระนิพนธ์แน่ชัด แต่ที่มีจานวนมากที่สุด
คอื พระนิพนธ์บทละครนอก
กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 4 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2399 พระชนมายุได้
56 ปี ทรงเป็นต้นราชสกุลทนิ กร


3

เนอ้ื เรื่องย่อ

ณ เมืองมิถิลา ท้าวภูวดลกับพระนางนันทาครองเมืองมีโอรสชื่อ พระปิ่นทอง ที่ดื้อมากจนพี่เลี้ยงต่างพากัน
เอือมระอา ท้าวภูวดลกับมเหสีหนักใจมากกับโอรสจอมซน พระปิ่นทองมาขอออกไปเล่นว่าวนอกวังและ
รับปากว่าจะไม่ทาเรื่องเดือดรอ้ นอกี ท้าวภูวดลจึงให้ไปพร้อมท้ังให้ทหารตามเสด็จมากมาย พระปิ่นออกไปเล่น
ว่าวนอกวังใกล้ๆกับหมู่บ้านแก้ว ขณะท่ีแก้วออกไปช่วยแม่เลี้ยงม้า เทวดาเห็นว่าพระป่ินทองกับแก้วเป็นเน้ือคู่
จึงหาทางใหท้ งั้ สองได้พบกัน ขณะท่พี ระปิน่ ทองกาลงั เล่นวา่ ว เทวดากเ็ นรมิตลมตวี า่ วพัดหลุดลอยออกไป

พระปิ่นทองรีบวิ่งตามว่าวท่ีลอยออกไป ว่าวตกลงมาบริเวณที่แก้วเลี้ยงม้า แก้วจึงเก็บไว้ พระปิ่นทองเข้ามาขอ
ว่าวคนื พร้อมท้ังพุดจาดถู ูกแก้วท่ีริอ่านมาเก็บว่าวของตน แกว้ เลยไมย่ อมให้ พระป่ินทองใหท้ หารว่ิงตามวา่ วคืน
มาจากแก้ว แกว้ รีบนาว่าววิ่งหนีไป พวกทหารตามไป 2-3 คน พวกมา้ เหน็ ท่าไม่ดีเลยช่วยแก้วเอาไวใ้ ห้หนพี วก
ทหารได้ ทุกคนสะบกั สะบอม พระปิ่นทองเหน็ ท่าไม่ดจี งึ นึกอุบายข้ึนมาได้ พระป่ินทองของเจรจากับแก้ว ว่าจะ
ให้แก้วแหวนเงินทองแต่แก้วไม่สนใจ พระปิ่นทองเลยโกหกว่าให้ว่าวจะรับเป็นมเหสี แก้วดีใจมากรีบคืนว่าวไป
ปิ่นทองย้ิมน้อยยิ้มใหญ่ บอกกับทหารคนสนิทว่าหลอกเล่น แก้วกลับมาบ้าน บอกแม่ว่าจะไปเป็นมเหสี พ่อแม่
ไม่มีใครเชื่อ แก้วนั่งฝันว่าจะได้เข้าไปเป็นมเหสีในวัง องค์รักษ์แอบมารายงานว่าพระปิ่นทองสัญญาอะไรเอาไว้
ทา้ วภูวดลให้ทหารเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเพราะกลวั ว่าพระนางนันทาจะรู้และ จะต้องรักษาสญั ญา แก้วรอให้
พระปิ่นทองมารับเป็นมเหสี แต่ก็ไม่มาจนผ่ายผอม พ่อกับแม่เริ่มเช่ือ เลยสอบถามชาวบ้านได้ความว่าพระปิ่น
ทองพูดจริง แม่กับพ่อตัดสินใจพาแก้วเข้าวังเพื่อทวงสัญญา สามพ่อแม่ลูกจึงได้เข้ามาอยู่ในวัง ท้าวภูวดลทราบ
เรือ่ งจึงกร้ิวมาก สั่งประหารสามแม่ลูก

พระนางนันทามาพอดีจึงสอบถามเรื่องราวจนทราบเร่ืองและ บอกให้ท้าวภูวดลรักษาสัญญาถ้าพระป่ินทองพูด
จริงต้องรักษาสัญญา พระปิ่นทองบอกว่าพูดเล่นไม่สนใจ ท้าวภูวดลรู้เข้าจึงต้องยอมรักษาสัญญา พระปิ่นทอง
ตกใจมาก จาต้องรักษาสัญญาด้วยการไปรับแก้วเข้าวัง แก้วเล่นตัวไม่ยอมเข้าวัง ถ้าไม่มีวอมารับ พระปิ่นทอง
จาต้องส่งวอมารับ แก้วนั่งวอเข้าวังด้วยความยินดีของชาวบ้าน พิธีอภิเษกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พระปิ่นทองอับ
อายมาก พระนางนันทาเห็นแก้วก็รู้สึกเอ็นดู จัดห้องหับให้แก้ว พระปิ่นทองทาท่ารังเกียจไม่ยอมออกมาพบกับ
แกว้ ทาให้แก้วไม่พอใจมาก แก้วจึงต้องบุกเขา้ ไปหาพระปิ่นทองเอง สร้างความชุลมุนวนุ่ วายทั้งวัง พระป่ินทอง
ต้องสั่งให้มีเวรยามเฝ้าไม่ให้แก้วหน้าม้าออกมาอาละอาด ท้าวภูวดลรู้เข้าก็อับอาย จึงคิดอุบายหาทางกลั่น
แกล้งแก้ว ท้าวภูวดลหาทางแกล้งแก้วด้วยการให้ไปยกเขาพระสุเมรุให้ได้ภายในเจ็ดวัน ถ้ายกไม่ได้จะถูก
ประหาร แก้วตกใจมาก แก้วออกเดินทางไป ตามหาเขาพระสุเมรุ แก้วเข้าไปในป่าแล้วอธิษฐานว่าตนเป็น เนื้อ
คู่พระปิ่นทองขอให้พบเขาพระสุเมรุ แก้วเดินทางไปเจอสัตว์ร้ายในป่าที่จ้องจะมาทาร้าย ก่อนที่แก้วจะถูกทา
รา้ ย ฤาษีมาพบเข้าและช่วยไว้ พระฤาษีเมื่อได้ทราบเร่ืองราวจึงช่วยถอดหน้าม้าให้กลายเป็นสาวสวย พร้อมเสก
เรือเหาะและมดี อีโต้วิเศษให้เป็นอาวุธ นางแก้วกราบลาพระฤาษีพร้อมสวมหน้าม้าดังเดิม น่ังเรอื เหาะไปจนเจอ


4

เขาพระสุเมรุ แก้วกาลังจะไปยกเขาพระสุเมรุ ก็พบยักษเ์ ฝ้าอยู่ ยักษ์บอกว่าแก้วตอ้ งแก้ปริศนาให้ได้ก่อน จึงจะ
ตัดเขาไปได้ พร้อมกับให้ปริศนาสามข้อ แก้วคิดปริศนาไม่ออก เลยฉวยโอกาสยักษ์เผลอ ตัดเขาเหาะหนีไปเลย
แก้วเหาะแบกเขามาจนถึงเมืองมิถิลา ชาวบ้านพากันแตกต่ืน เมื่อเห็นเขาลอยมาท้ังลูก ท้าวภูวดลมั่นใจว่าแก้ว
ตอ้ งถูกประหารแน่ๆ แต่แก้วก็ต้องผิดหวังเม่ือแก้วยกเขามาได้ ทา้ วภูวดลแค้นใจ จึงหาทางเลี่ยงสัญญาดว้ ยการ
ใหพ้ ระปิน่ ทองหนีออกประภาสตา่ งเมือง และหาทางกลัน่ แกลง้ แกว้ อกี

ก่อนออกเดินทางพระปิ่นทองสั่งนางแก้วว่าถ้ากลับมานางยังไม่มีลูกจะต้อง ถูกปรหาร แก้วคิดหาวิธีมีลูกกับ
พระป่ินทอง แก้วคิดอะไรได้ นางแก้วจึงนั่งเรือเหาะไปดักรอพระปิ่นทองระหว่างทางพร้อมทั้งถอดหน้าม้าออก
พระปิ่นทองได้เจอแก้วที่ถอดรูปแล้ว ถึงกับตะลึง พระปิ่นทองได้เห็นนางแก้วจึงนึกรัก สั่งให้ทหารตามมาพบ
พระป่ินทองขอแก้วเป็นชายา แกว้ ถามถึงมเหสีพระป่นิ ทองบอกวา่ มีหนา้ เป็นม้า น่าเกลยี ด แกว้ รู้สึกไม่พอใจ จึง
หาทางกลั่นแกล้งพระปิ่นทองจนพอใจ แก้วยอมอยู่กินกับพระปิ่นทองแก้วเริ่มตั้งครรภ์ พระปิ่นทองขอให้แก้ว
กลับไปอยู่ในวังด้วยกัน แก้วหาข้ออ้างไม่ไป พระป่ินทองจึงให้แหวนไว้ เพื่อมอบให้ลูกที่กาลังจะเกิดขึ้นมาเพื่อ
เป็นหลักฐานว่าเป็นลูกตน พระปิ่นทองกลับเมือง แก้วรีบตามไปดักหน้า แก้วมาถึงวังก่อนพระปิ่นทอง รีบ
เตรียมตัวต้อนรับพระปิ่นทองกลับมา นางแก้วแกล้งถามว่าไปเจอสาวที่ไหนมาหรือเปล่า พระปิ่นทองรีบโกหก
วา่ ไม่เจอใคร พรอ้ มทวงสัญญาว่าแก้วจะต้องตั้งครรภ์ แกว้ รีบแสดงตัวว่าต้ังครรภ์ สร้างความดีใจให้กบั พระนาง
นนั ทา พระป่ินทองไม่รู้จะทาอย่างไรต่อไป จึงคิดหนีไปต่างเมืองโดยไม่ยอมให้แก้วไปดว้ ย พระปิ่นทองถูกพวก
ยักษ์เล่นงานจับตัวเอาไว้ ฝ่ายนางแก้วได้คลอดลูกออกมาเป็นชาย นางแกว้ คิดจะไปหาพระปน่ิ ทองจึงไดฝ้ ากลูก
ไว้กับฤาษีระหว่างทางที่ผ่าน ฤาษีตั้งชื่อให้เด็กว่า "พระปิ่นแก้ว" พระปิ่นทองหายไป สร้างความเป็นห่วงให้ท้าว
ภูวดลและมเหสีเป็นอันมาก แก้วรู้สึกเป็นห่วง แก้วไปถามฤาษี ฤาษีทราบด้วยญาณว่า พระปิ่นทองตกอยู่ใน
อันตรายจึงบอกนางแก้ว นางแก้วจึงนั่งเรือเหาะไปช่วยพระปิ่นทอง โดยไม่ให้พระองค์รู้ แก้วจึงแปลงตัวเป็น
ชาย พระปิ่นทองถูกจับตัวไปให้ท้าวพาลราชกิน แต่แก้วได้แปลงตัวเป็นชายเข้ามาช่วยต่อสู้กับท้าวพาลราช
แก้วฆ่าท้าวพาลราชตาย พวกยักษ์ที่เหลือต่างพากันยอมสยบ แก้วบอกให้พวกยักษ์ยกให้พระปิ่นทองครอง
เมืองแทนมิฉะนั้นจะพังเมือง พวกยักษ์หลงเชื่อจนยอมตาม พระปิ่นทองทาท่าจะสนใจลูกสาวยักษ์สองคนคือ
เจ้าหญิงสร้อยสุวรรณและเจ้าหญิงจันทร แก้วรู้เข้าจึงรีบไปตีสนิท และพาไปหาฤาษี แก้วพาสองเจ้าหญิงมาหา
ฤาษีและบอกเรื่องราวที่แท้จริงว่าตนเป็นใคร เจ้าหญิงทั้งสองได้รู้เรื่องราวของแก้ว และสัญญาจะเก็บเป็น
ความลับ ก่อนท่ีจะกลับไปสู่เมืองยักษ์ แก้วพาสองธิดากลับมายกให้พระป่ินทอง พระปิ่นทองเริ่มคิดถึงบ้าน จึง
ชวนสองธิดายักษ์กลับเมืองมิถิลา แก้วรู้เข้ารีบสวมหน้าม้าขึ้นเรือเหาะไปดักหน้า แก้วมารอพระปิ่นทองพร้อม
กับอุ้มลูกที่ฤาษีตั้งชื่อไว้ว่าพระปิ่นแก้ว พระปิ่นทองหาว่าแก้วหลอกว่าเป็นลูกตนแต่เมื่อเห็นแหวนที่ตนให้ไว้ก็
พูดไม่ออก กล่าวถึงท้าวกายมาต ที่เป็นญาติกับท้าวพาลราชท่ีถูกแก้วสังหาร เม่ือทราบเร่ืองก็เกิดความแค้นยก
ไพร่พลยักษ์มาล้อมเมืองมิถิลา พระปิ่นทองทาอะไรไม่ถูก คิดแต่ว่าจะต้องเสียเมืองใหย้ ักษ์แน่นอน ธิดายักษ์ทั้ง


5

สองกลัวว่าพระปิ่นทองจะพ่ายแพ้แก่ยักษ์ จึงบอกความจริงว่าแก้วคือใคร พระปิ่นทองไปง้อให้แก้วมาช่วย แต่
แก้วไมย่ อม

พวกยักษ์เริ่มบุกเมือง แก้วเป็นห่วงบ้านเมืองและพระนางนันทา จึงได้แปลงกายเป็นชายออกสู้กับยักษ์ทันที
แก้วสู้กับท้าวกายมาต แต่อีโต้วิเศษทาอะไรไม่ได้ แก้วกาลังจะเสียทีท้าวกายมาต แก้วเหาะข้ามหัวทาให้มนต์
ยักษ์เสื่อม และฆ่าท้าวกายมาตได้สาเร็จ ท่ามกลางความยินดีของชาวมิถิลา พระปิ่นทองเริ่มสงสัยว่า ชายหนุ่ม
ท่ีมาช่วยต้องเป็นแก้วแน่ๆ พระปิ่นทองตามไปง้อนางแก้ว แต่แก้วก็ยังเล่นตัว จนพระป่ินทองทาท่าจะเชือดคอ
ตายแก้วจึงยอมถอดหน้าม้า สร้างยินดีให้กับทุกคน พิธอี ภิเษกสมรสจัดข้ึนอย่างเอิกเกริก ไม่นานแก้วก็ต้ังครรภ์
ท้าวประกายกรดรู้ข่าวท้าวประกายมาตถูกฆ่าตายก็แค้น คิดจะบุกเมืองมิถิลา ท้าวประกายกรดบุกเมืองมิถิลา
ประชาชนแตกต่ืนกนั ท่ัว พระป่นิ แก้วยกทพั ไปสูก้ ับพวกยักษแ์ ต่สไู้ ม่ได้ ต้องถอยร่น แก้วจาต้องออกไปสู้กับยกั ษ์
ทั้งๆที่ตั้งครรภ์ แก้วที่ท้องแก่สู้กับท้าวประกายกรด ถูกท้าวประกายกรดถีบ แก้วเจ็บท้อง คลอดพระธิดา
ออกมา 3 องค์ ท้าวประกายกรดตกใจมากที่รู้ว่าแก้วเป็นหญิง แก้วใช้ผ้าเปื้อนเลือดฟาดเข้าใส่ ทาให้มนต์ยักษ์
เสอ่ื ม ทา้ วประกายกรดถูกฆา่ ตาย เมอื งมิถิลากลบั สูค่ วามสงบตง้ั แต่นั้นมา


6

บทประพันธ์ ละครนอกเร่ืองแกว้ หน้ำม้ำ
๏ มาจะกลา่ วบทไป ถงึ ท้าวมงคลราชเรืองศรี
ครองกรุงมิถลิ าธานี เปรมปรดี ์ิภริ มย์ฤทัย

ท้าวมีอคั เรศชายา ชอ่ื มณฑาเทวีศรีใส
พร้อมพรง่ั สุรางคน์ างใน นับได้ถว้ นหมืน่ หกพนั
ร้อยเอด็ นัคเรศบุรรี มย์ มาบงั คมทรงเดชทุกเขตขัณฑ์
มโี อรสยศยงทรงธรรม์ นามน้นั นรนิ ทร์พนิ ทอง
พรั่งพร้อมพหลมนตรี มิไดม้ ีทุกขท์ นหม่นหมอง
เกษมสุขภริ มย์สมปอง ท่ัวทอ้ งประเทศธานฯี

ฯ ๘ คา ฯ

ร่าย

๏ ครัน้ เวลาสางสายพรายพรรณ สรุ ิยันแจม่ จรัสรัศมี
มาโสรจสรงคงคาวารี จรลยี งั ชอ่ งบัญชรชัยฯ
ฯ ๒ คา ฯ

สามเส้า

๏ คร้นั ถงึ จึงเผยพระแกลยล เสนาสามนตห์ มอบไสว
พระบญั ชาวา่ ขานการเวียงชัย ถามไถ่ถ้อยความตามมฯี

ฯ ๒ คา ฯ


7

รา่ ย

๏ บัดนนั้ อามาตยจ์ ัตสุ ดมภท์ ั้งส่ี
ตา่ งทูลถ้อยความตามคดี ถ้วนถ่โี ดยแบบบรุ าณมาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น พระองค์ทรงภพนาถา
สายแสงสมควรจวนเวลา ไคลคลาเข้าทป่ี ระทมในฯ

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ เมือ่ นั้น พระพนิ ทองผอ่ งเพียงแขไข
เสดจ็ ออกมุขมาศปราสาทชัย หฤทยั เกษมเปรมปรีดฯิ์

ฯ ๒ คา ฯ

รา่ ย

๏ ครน้ั บา่ ยชายแสงทนิ กร เร่ารอ้ นหฤทยั พระโฉมศรี
กรายกรยา่ งเย้ืองจรลี มาเข้าทีโ่ สรจสรงคงคาฯ

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

โทน


8

๏ ไขสุหร่ายสายชลปนปรงุ เปน็ ฝอยฟงุ้ เย็นซาบอาบมงั สา
แล้วผลัดภูษาทรงอลงการ์ สคุ นธาหอมหวนยวนใจ

สอดสนบั เพลาพรายชายกนก ภูษายกพ้ืนตองผ่องใส
ฉลององค์เจยี ระบาดตาดอุไร ป้ันเหน่งเพชรอาไพพรรณราย

กรองศอแสงแก้วแวววิจิตร ตาบทิศทับทรวงช่วงฉาย
ทองกรธามรงคเ์ รยี งราย มงกุฎเกจ็ เพชรพรายเพราตา
ฯ ๖ คา ฯ

ร่าย

๏ ขัดพระขรรค์บรรจงทรงศร บทจรจากปรางค์ทางฝ่ายหน้า
พรง่ั พร้อมพเี่ ล้ยี งโยธา ลีลายังเกยรจู ฯี
ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ พระองคท์ รงมิ่งมโนมัย พลไกรบังคมก้มเกศี
บ้างแบกหามวา่ วยาวรี จรลีมายังสนามชัยฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชดิ

๏ คร้นั ถงึ ซง่ึ หนา้ จักรวรรดิ หนอ่ กษัตริยย์ ินดจี ะมไี หน
เคล่ือนองคล์ งจากมโนมยั สง่ั ใหช้ ักว่าวขนึ้ ฉบั พลนั ฯ
ฯ ๒ คา ฯ


9

๏ บดั นัน้ โยธพี ่เี ล้ียงแขง็ ขัน
ชลุ มนุ วุ่นวง่ิ ชงิ กันส่งว่าวใหท้ นั ทว่ งที
พวกเหลา่ วา่ วคุลากลา้ ขนั ต่อ พวกปักเป้าเขา้ ล่อไมห่ ลีกหนี
โห่ร้องก้องพืน้ ปฐั พี เปน็ ท่สี ขุ เกษมเปรมปราฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ น้นั พระพนิ ทองวอ่ งไวใจกล้า
ทรงวา่ วอยูห่ ว่างกลางโยธา ทอดควา้ ประจบสบที
ตดิ ปกั เป้าเขา้ จาปาควา้ ไขว่ ปักเป้าไลจ่ ะประกบไมห่ ลบหนี

วิง่ รอกชุลมนุ วนุ่ เต็มที พอลมตีขาดลิว่ ปลวิ ไปฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแก้วสัปดนคนไพร่
หน้าตาเหมือนม้ามโนมยั เข็ญใจทีส่ ดุ บุตรยายตา
นางเป็นสาวศรีไม่มผี ัว หนา้ เป็นเล่นตวั หนกั หนา
เหน็ วา่ วตกลงตรงท้องนา จ่ึงเอามาซ่อนไว้ในเรือน
เอาผา้ ปกคลมุ ห้มุ ไว้ มใิ หใ้ ครรู้กระแสแง่เง่ือน
แกลง้ ดาเนินเดนิ เลยเฉยเชือน บดิ เบือนบังบานทวารไวฯ้

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น พระทรงโฉมประโลมพิสมัย


10

เห็นวา่ วขาดลวิ่ ปลิวไป อาลัยเปน็ พ้นพันทวี
พระโฉมยงขึน้ ทรงอาชา ลลี าเลย้ี วลัดตดั วถิ ี
เสาะหาแห่งใดก็ไมม่ ี รีบเร่งจรลฉี ับพลนั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ เชิด

๏ ครน้ั ถงึ บา้ นนางสัปดน เมอื่ ยนักพักพลอยทู่ น่ี ัน่
ร้องถามวา่ วา่ วของเรานั้น ใครได้ใหป้ นั แตโ่ ดยดฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแกว้ ตอบความไปตามที่
วา่ วของทรงธรรม์พันปี ข้านไ้ี ด้แจ้งแหง่ กิจจา
จะกราบทูลขอ้ ความตามตรง พระองคจ์ ะใหส้ ่ิงใดข้า
วา่ พลางชม้ายชายตา เสนหาในองค์พระทรงธรรม์ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้ัน พระพเี่ ล้ียงลนิ้ ลมคมสนั
จ่งึ รอ้ งตอบวาจามาพลนั จะรางวัลเงนิ ทองของดฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแกว้ ยม้ิ แย้มแจ่มศรี
นง่ิ นึกตรกึ ไตรในคดี คร้ังน้ลี าภล้นพน้ ประมาณ
จะเอาพระโฉมตรเู ปน็ คู่ครอง รว่ มห้องภริ มย์สมสมาน


11

คดิ พลางทางตอบพจมาน ทรพั ย์สินศฤงคารไม่ชอบใจ
แมน้ ยอมเปน็ ภัสดาสามี วา่ วของพันปจี ะคืนให้

สงิ่ อ่ืนหม่นื แสนทั้งแดนไตร ขา้ ไมช่ อบใจอย่าเจรจาฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นน้ั พระพเ่ี ลย้ี งยม้ิ พลางทางวา่
คนใดใจเจา้ เจตนา จงเลอื กตามจินดานารีฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนั้น นางแก้วตอบวา่ นา่ บดั สี
จะใหเ้ ราเลือกหาสามี กว็ า่ วทขี่ าดนเี้ ป็นของใครฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนัน้ มหาดเล็กตอบมาหาช้าไม่
ว่าวของพระองค์ทรงชัย จะใหฤ้ ามิให้เรง่ วา่ มาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นนั้ นางแก้วยม้ิ พลางทางว่า
คอื ใครเป็นเจา้ ว่าวคุลา เราจะเป็นภรรยาของผู้นั้นฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้ัน พระพี่เล้ยี งสรวลเสเฮล่ัน


12

จง่ึ รอ้ งตอบวาจามาพลนั เออื้ มถึงดวงจนั ทร์ไม่เจยี มใจ
ตัวนางเหมอื นอยา่ งแผ่นดินดอน จะเคยี งพ้ืนอัมพรผดิ วสิ ัย

แม้นแต่เพียงโยธาขา้ ไท เห็นจะได้ดังจติ เจตนาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั แล้ว นางแก้วค้อนควักชกั หน้า
ตอบไปด้วยใจโกรธา เหวยอยา่ มาล้อไม่ขอฟงั
หน้าตาเช่นเจ้าเราไม่คบ อยา่ หลู่หลบใช่วา่ เปน็ บา้ หลัง
แมน้ มิรบั เราเขา้ ในวัง อยา่ มาน่งั งอนง้อไม่พอใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั น้นั พระพเี่ ลี้ยงผมู้ ีอัชฌาสัย
คอ่ ยกระซบิ ทลู องคพ์ ระทรงชัย จงปราศรยั ลวงลอ่ ง้องอน

ทาเปน็ ทรงสมัครรักใคร่ ให้มันใหว้ ่าวคลุ ามาเสยี ก่อน
ไดแ้ ลว้ จงึ สลัดตัดรอน ผนั ผ่อนพูดจาพาทฯี
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ น้ัน หนอ่ นรนิ ทร์พนิ ทองผอ่ งศรี
เหน็ ชอบตอบนางไปทนั ที ซงึ่ เทวีรกั ชอบขอบใจ
แม้นจะเปน็ เมียเราเหมือนเจา้ ว่า จงคนื ว่าวคุลามาให้
อยา่ ค้อนควักชกั หน้าเรง่ คลาไคล เอาว่าวมาใหเ้ สียเร็วพลันฯ

ฯ ๔ คา ฯ


13

๏ ฟังบัญชา กัลยาสารวลสรวลสันต์
เมนิ ชมา้ ยอายเอยี งเมยี งมัน อภิวันทแ์ ลว้ ทลู ไปทันที

จริงฤาบญั ชาวา่ จะเลี้ยง ตรสั แล้วอยา่ เล่ียงหลีกหนี
สักสีว่ ันเวลาราตรีพระภมู ิจะมาพาไปฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นั้น หนอ่ กษัตริย์ย้ิมย่องสนองไข
อกี สามวันสัญญาว่าไว้ จะรับเจ้าเข้าไปในวังฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนนั้ นางแก้วชน่ื ชมสมหวัง
ดีใจจะได้เป็นชาววัง ถวายบงั คมคลั ทนั ที
จงึ่ เขา้ ไปในห้องเคหา ยกว่าวคลุ ามาจากที่
น่งั ลงตรงพักตรพ์ ระภูมี อญั ชลีแย้มยม้ิ พรม้ิ พรายฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นัน้ พระพเ่ี ล้ียงช่ืนชมสมหมาย
พูดจาคารวะอภปิ ราย อย่าเอื้อนอายส่งวา่ วเรามาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแกว้ แค้นขัดสะบัดหน้า


14

ค้อนพลางทางกล่าววาจา นี่เป็นองค์เจ้าฟา้ ฤาว่าไร
องอาจประมาทหม่นิ เรา เป็นหา้ มแหนเจ้าฤามใิ ช่
มาน่ังเรียงเคยี งขา้ งไม่ชอบใจ ถอยไปให้พน้ เจ้าคนดี
ว่าวนเ้ี ราจาเพาะเจาะถวาย พระฦๅสายผเู้ ฉดิ โฉมศรี
ใช่การของเจ้าอย่าเซา้ ซ้ี ให้ภมู ที รงรับกับพระกร
ว่าพลางนางถวายว่าวคลุ า แล้ววนั ทาทูลองค์พระทรงศร
พระอย่าลมื สัญญาว่าวอน เร่งรับขา้ พาจรดังวาจาฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เม่อื นนั้ พระโฉมเฉดิ เลศิ ล้าเลขา
ฟงั คาจารบั วาจา หยบิ เอาว่าวมาให้โยธี
นึกชงิ ชังรังเกียจเกลียดคาย พวกชายสรวลสนั ต์สนั่นมี่
พระโฉมยงข้ึนทรงพาชี กลับสู่บรู ีทันใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ เชิด

๏ ครนั้ ถงึ จงึ ลงอัสดร ทินกรเลย้ี วลบั เหล่ยี มไศล
พระนวยนาดยาตรเย้ืองครรไล เขา้ ในปราสาทรจู ีฯ

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ บัดนน้ั ฝ่ายวา่ ตายายทง้ั สองศรี
เป็นคนเล้ียงนางหนา้ พาชี ไปปา่ พนาลกี ลับมา
เก็บได้ฟืนผกั ฟกั แฟง เต้าแตงแพงพวยรวยหนักหนา


15

ผกู มดั รดั รงึ ตรึงตรา แล้วคนื สู่เคหาทนั ทีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั ถงึ จึงวางหาบคอน ลา้ เรอื่ ยเหนื่อยอ่อนท้งั สองศรี
อาบนา้ ชาระอนิ ทรีย์ นงั่ ท่นี อกชานสาราญใจฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นนั้ นางแก้วหนา้ มา้ อชั ฌาสัย
แลเหน็ ยายตามาแต่ไพร จ่ึงออกไปบอกเลา่ เฒ่าชรา
ครงั้ น้ีลูกจะได้อยู่ในวัง สมดังมุ่งมาดปรารถนา

แล้วเลา่ ความตงั้ แตห่ ลงั มาผัวข้าเปน็ เจา้ ชาวบุรี
รูปโฉมโนมพรรณสณั ฐาน งานปานเทวาในราศี
อกี สามวนั สัญญาพาที จะให้เปน็ มเหสีทรงธรรมฯ์

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ฟงั เอยฟงั เลา่ สองเฒา่ สารวลสรวลสันต์
ลูบหลงั ลูบหนา้ แลว้ วา่ พลัน ทา่ นนนั้ เปน็ เจ้าชาวพารา

เราคนเข็ญใจไร้ทรัพย์ ยากยับร่างรา้ ยขายหน้า
ผดิ คนพกิ ลกิริยา ไมค่ วรปรารถนาให้เกินกาย

หาเชา้ กินคา่ ก็ลาบาก อดอยากซุกซนขวนขวาย
อย่าพูดถึงบตุ รทา้ วเจ้านาย หลงั จะลายเสียเปลา่ ไม่เขา้ การฯ

ฯ ๖ คา ฯ


16

๏ บัดนนั้ นางแก้วหน้าม้ากลา้ หาญ
จึงตอบความตามจติ คิดการ อนั กษัตริย์มหาศาลเลศิ ไกร
ได้ออกโอษฐ์สัญญาจะมารับ จะย้อนยอกกลอกกลับกระไรได้

รูปรา่ งอยา่ งนี้ไมม่ ีใคร จะเข้าไปเป็นห้ามตามปญั ญา
ว่าพลางทางเข้าในห้องนอน มัดฟูกผกู หมอนผอ่ นผา้

ชอบกันที่ไหนก็ไปลา น่ังนบั วนั ท่าพระภมู ี
ครนั้ ครบสามวันดังสญั ญา คอยหาไมเ่ ห็นพระโฉมศรี
เขา้ ไปหาตายายทนั ที โศกวี อนว่าประสาใจฯ

ฯ ๘ คา ฯ โอด

๏ แม่เจ้าประคุณของลกู อา อายชาวพาราอยไู่ มไ่ ด้
เอน็ ดูลูกยาจงคลาไคล เข้าไปเตือนองค์พระทรงธรรม์ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนั้น สองเฒา่ สารวลสรวลสันต์
สวมกอดกัลยาแลว้ วา่ พลันจอมขวัญของแม่อยา่ อาวรณ์
ท่านเปน็ ลูกเจา้ ท้าวพระยา ฤาจะมารว่ มเรยี งเคยี งหมอน

ห้ามแหนแน่นน่ังดงั กินนร ภธู รยังไม่ไยดี
รูปเราชั่วช้าน่าเกลยี ดกลวั จะมีผัวเกินพักตรศ์ ักดศิ์ รี
จะโศกาอาลยั ทาไมมี อยูท่ น่ี ่ยี ากเยน็ ไดเ้ ห็นกันฯ

ฯ ๖ คา ฯ


17

๏ บดั นั้น นางแก้วสัปดนคนขยนั
ฟังคายายตาวา่ ราพัน รุมรนั อกพลางทางราไรฯ

ฯ ๒ คา ฯ

โอ้

๏ โอแ้ ม่เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย ไฉนเลยช่างสลัดตดั ได้
จะอย่เู รือนรุงรังจังไร อายใจเปน็ พ้นคณนา
ถงึ กระไรไปเตอื นดูสกั ครงั้ จะรับสง่ั อย่างไรก็ให้ว่า
ซงึ่ จะนง่ิ ทนทุเรศเวทนา ลูกน้ีชีวาคงวายปราณ

วา่ พลางกลง้ิ เกลือกเสอื กกาย ฟมู ฟายชลนานา่ สงสาร
ครวญครา่ รา่ วา่ ชา้ นาน กราบกรานสองเฒ่าเฝา้ วงิ วอนฯ

ฯ ๖ คา ฯ โอด

ร่าย

๏ บดั นน้ั สองเฒา่ ฟังไปก็ใจอ่อน
มริ ูท้ ่จี ะสลัดตดั รอน เทพซ่ึงสงั หรณใ์ หง้ งงวย
ตา่ งคนผินหน้าปรกึ ษากัน ผ่อนผันพาทยี ินดีด้วย
แมน้ ลกู เราเป็นห้ามงามจะรวย ฟมุ่ ฟวยเทียมหนา้ ชาวธานี
คดิ พลางทางปลอบลูกนอ้ ย อยา่ รอ้ นเรง่ เศร้าสรอ้ ยหมองศรี


18

จะไปออ้ นวอนว่าเจ้าธานี ตามที่ไดส้ ัญญาวา่ กนั
ปลอบพลางจดั แจงแตง่ กายา ลงจากเคหาขมขี มนั

มุ่งเมิลเดินด่วนชวนกัน งกงันมายังวงั ในฯ
ฯ ๘ คา ฯ เชิด

๏ คร้นั ถงึ พระโรงรจู ี พร่งั พร้อมเสนนี ้อยใหญ่
ฝ่ายตาฝ่าคนซนเข้าไป หมอบราบกราบไว้กษตั ราฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอื่ นัน้ พระองค์ทรงภพนาถา
แลเหน็ สองเฒา่ เขา้ มา จ่ึงมบี ัญชาถามไป
ยายตามานี่มีกงั วล ร้อนรนทุกขเ์ ขญ็ เปน็ ไฉน
จงแจ้งความตามจริงทุกส่ิงไป อย่าไดเ้ อาเท็จมาพาทีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้นั สองเฒ่าอกส่ันขวญั หนี
ก้มเกลา้ กราบงามสามที ทูลความตามมีแต่ต้นมา
บดั นี้ธดิ าข้าพเจา้ รอคอยสรอ้ ยเศร้าเป็นหนักหนา
ขอพระองค์จงให้ไปรับมา ตามพระโอรสาสัญญาไวฯ้

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังเอยฟงั ความ ดังเพลงิ ลามเลยี ลนหมน่ ไหม้


19

พระมีสิงหนาทตวาดไป น้อยฤาพูดได้ไม่เกรงกลวั
ชาตหิ ญงิ แพศยาอาธรรม์ จะผกู พนั ลูกเราเอาเปน็ ผวั

โอหงั จงั ไรไวต้ วั นา่ ตัดหัวใหส้ าแก่อารมณ์
แต่ได้ว่าวเขาตกกย็ กข้อ ขันขอเป็นหมอ่ มจอมสนม

ดถู ูกจองหองพองลม โงง่ มลบหลดู่ ูแคลน
ทัง้ พ่อแม่ก็ถ่อยน้อยฤา ซมซานด้านดื้อนี่เหลอื แสน
มาอา้ งอิงพูดจานา่ แคน้ กระทืบแทน่ เง้ืองา่ จะฆ่าตีฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมอ่ื นั้น โฉมนางมณฑามารศรี
น่ิงนกึ ตรึกไปในคดี เทวที ลู พลนั ทันใด
ลกู เราไดส้ ญั ญาว่ากับเขา จะกลบั คาซา้ เล่าหาควรไม่
ฝ่ายเราเปน็ ชายจะอายไย เขามใี จจงรักภกั ดี
ควรให้ไปรับมาเลย้ี งดู ฉนั หม่บู รจิ าทาสี

ด้วยมนั จงรกั ภักดีไม่ควรมโี มโหโกรธา
การนมี้ ิใช่ปัจจามิตร จะได้คิดเคี่ยวเข็ญเขน่ ฆ่า
ชาวเมอื งท้งั สิ้นจะนนิ ทา ประทานโทษยายตาอย่าฆ่าฟันฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้ัน ท้าวมงคลราชรงั สรรค์
ฟงั นางทัดทานราคาญครัน จาต้องหย่อนผ่อนผนั ฤทัย

นัง่ ลงทรงนกึ ตรึกตรา จะพาลผิดคิดฆา่ เสยี ให้ได้


20

พระจง่ึ มบี ัญชาว่าไป เหวยเฒา่ จงั ไรทรลกั ษณ์
ซ่ึงลกู สาวสมัครรักใคร่ อยากจะให้ปรากฏยศศักดิ์

ตรองเหน็ เปน็ มาสามิภกั ดิ์ กค็ งจกั รบั ไว้เปน็ ไรมี
แมน้ จะใครเ่ ปน็ หา้ มตามเกณฑ์ จงชะลอพระสุเมรุคีรีศรี

โชติชว่ งดงั ดวงจนิ ดาดี เปน็ ท่เี ฉลิมโลกา
มาไดจ้ ะใหเ้ ป็นนางห้าม สมความมุ่งมาดปรารถนา
แม้นมิไดโ้ ดยในสญั ญา จะเขน่ ฆ่าสน้ิ วงศ์พงศพ์ นั ธ์ุ
เร็วไวไปบอกลูกสาวศรี เรานไ้ี มร่ ังเกียจเดียดฉันท์
คาดความสามเดอื นไมเ่ ลื่อนวัน ไมท่ นั จะลา้ งให้วางวายฯ

ฯ ๑๒ คา ฯ

๏ บดั นน้ั สองเฒา่ อกสัน่ ขวญั หาย
ตาเฒา่ เข้ากอดเอาท่านยาย ฟูมฟายน้าตาไม่พาทฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนน้ั ท้าวมงคลราชเรืองศรี
ผูกจติ คดิ แค้นแสนทวี จงึ่ ตรัสสัง่ เสนีทนั ใด
เร่งเร็วฉดุ ครา่ พาตวั ไสหวั ยายตาหนา้ ไพร่
ใหต้ ะบอยลอยหน้าอยู่ว่าไร ไล่ไปให้พน้ อย่าชา้ การฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้ัน เสนาคานับรับบรรหาร


21

ฉุดคร่าพาตนไปลนลาน ตา่ งคนอลหมา่ นเปน็ สิงคลฯี
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนน้ั สองเฒา่ เวยวายตะกายหนี
ออกจากวงั พลนั ทันที โศกไี ปตามมรคาฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชิด

๏ ครน้ั ถึงจ่งึ เข้าไปในห้อง ทงั้ สองเสยี ใจร้องไห้จ้า
ท่านยายตะกายเข้ากอดตา โศกาอ้ืออึงคะนึงไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ โอด

๏ บัดนนั้ นางแก้วแปลกจิตคดิ สงสยั
น่งั แนบแอบข้างพลางถามไป เหตุใดโศกาจาบัลยฯ์

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนน้ั สองเฒา่ เลา่ พลางทางโศกศลั ย์
บดั นพี้ ระองค์ทรงธรรม์ ดุดนั ดา่ วา่ สารพดั
ว่าเราเป็นไพร่ไมเ่ จียมกาย มุ่งหมายเกนิ พักตร์ศักดิ์กษตั ริย์
หากพระนางอนกุ ลทลู ทัด จ่งึ ไม่ตดั เกศาฆ่าตี
ให้เจ้าไปเอาพระเมรุมา ถวายพระผา่ นฟ้าเรืองศรี
แมน้ มไิ ด้ไม่ไวช้ วี ี จะฆา่ ตสี ิ้นวงศ์พงศ์พนั ธ์ุ
พระเมรทุ องถงึ ห้องนภาลยั เหาะได้ฤาจนบนสวรรค์


22

เพราะลูกตัวชวั่ ช้าอาธรรม์ จะพากนั ม้วยมอดวอดวาย
ร่าพลางต่างคนโศกา ครงั้ น้ชี วี าจะฉิบหาย

ไหนจะคิดปลดปลอดรอดตาย ฟูมฟายนา้ ตาโศกาลยั ฯ
ฯ ๑๐ คา ฯ โอด

๏ บัดน้นั นางพกั ตราพาชีศรีใส
ฟงั คายายตาแล้วว่าไป จะตีตวั ก่อนไข้ไมเ่ ข้ายา
เพียงน้ีมิพอเป็นไรนัก ลกู รกั จกั เท่ยี วแสวงหา
บญุ แลว้ กแ็ คล้วพระอาญา โศกาครวญคร่าไปทาไม
วา่ พลางทางลงจากเรือน จะแชเชือนชักชา้ ก็หาไม่
รบี ออกนอกทวารเวยี งชยั บ่ายหนา้ เข้าในพนาลฯี

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เดินไพรมาไดส้ ิบห้าวัน ถงึ เขาอัญชันคีรีศรี
เห็นศาลาอาศรมพระมุนี อยเู่ ชงิ คีรเี รียงรัน
ดีใจด่งั ได้พระเมรธุ ร มาวางไว้ในกรสาวสรร
เสาะสอยพฤกษาพนาวัน จรจรัลเขา้ ในกฎุ ีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครัน้ ถึงจึงคลานเข้าไป หมอบราบกราบไหวพ้ ระฤาษี
แกลง้ ทาสารวมอินทรยี ์ อยู่ท่ีตรงพักตร์พระนักธรรม์ฯ

ฯ ๒ คา ฯ


23

๏ บดั นัน้ พระนักสิทธป์ ลิดหาพฤกษาฉัน
เห็นสีกามาเคารพอภวิ ันท์ ทรงธรรม์มุ่งมองป้องพักตรา

ไอกระแอมแยม้ เยื้อนพาที ใครนมี้ าไยทใี่ นปา่
กงั วลกลใดไขวาจา ประสกฤาสีกาประการใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั น้ัน นางแกว้ หนา้ มา้ อัชฌาสัย
กราบพลางทางทลู เป็นมลู ไป ขา้ ไซร้ซนมาเปน็ นารี
แลว้ เลา่ ความตามหลงั คร้งั เกณฑ์ ให้ชะลอพระเมรุครี ศี รี

โชตชิ ่วงดงั ดวงมณี มไิ ดช้ วี จี ะวายปราณ
บญุ สบพบพระอยั กา ได้เมตตาโปรดด้วยช่วยหลาน
ท่านจะล้างร่างกายวายปราณ พระทรงญาณเมตตาปรานีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นั้น พระมหาดาบสฤาษี
ฟงั นางหนา้ ม้าพาที พระจ่ึงมสี นุ ทรวาจา
ดดู อู๋ าจหาญชาญชยั คนเดยี วมาได้ในป่า
บุญกายไมว่ ายชวี า จึง่ มาประสบพบกู
ซ่ึงธรุ ะประสงคจ์ งใจ เห็นพอจะชว่ ยได้บ้างอยู่
เป็นหญงิ วงิ่ มานา่ เอ็นดู ปะปู่แลว้ เห็นไมเ่ ป็นไร
ว่าพลางทางเดนิ ออกมา จากท่ศี าลาอาศัย


24

โอมอา่ นพระเวทเรอื งชัย บดั ใจบงั เกิดเป็นนาวีฯ
ฯ ๘ คา ฯ ตระ

๏ พรอ้ มสายยนตย์ าวสาวเหาะ เหมาะเจาะแน่งน้อยเฉลิมศรี
ค้อนสว่ิ พร้อมหมดลว้ นกรดดี สาหรบั ที่ชะลอพระเมรธุ ร

บอกกบั นางแก้วสปั ดน จงชักยนต์ยังเนินสิงขร
ทรงอานวยอวยชัยให้พร ช้ีทศิ ทางจรบัดใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ เจรจา

๏ บัดนน้ั นางแกว้ ยินดีจะมีไหน
กราบกับบาทาแลว้ คลาไคล น่งั ลงตรงในสดั จอง
ชกั สายยนตน์ ้อยลอยเล่ือนคลอ้ ยเคลื่อนเหาะหันผันผยอง
ทักษิณครบสามตามทานอง ลอยลอ่ งเข้ากลีบเมฆาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครูห่ นึ่งถึงเชิงเมรุมาศ โอภาสสว่างเวหา
แสงแก้วแวววับจบั ตา กัลยาถวิลยินดี
จงึ่ รอเรียงนาวาคลาไคล เจา้ ไปรมิ เชงิ คีรีศรี
เอาสิ่วกรดจดเจาะเคาะครี ีตอกตีชลุ มุนวุ่นวายฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดเด๋ียวก็ได้ดังใจปอง ยกใสส่ ดั จองผนั ผาย


25

ลอยลว่ิ ปลิวตามพระพาย ชกั บ่ายรอ่ นลงตรงกุฎฯี
ฯ ๒ คา ฯ

๏ คร้นั ถงึ จึง่ ลงจากนาวา เข้าไปวนั ทาพระฤาษี
ทูลแถลงแจ้งความตามมี เปรมปรดี ภ์ิ ริ มยฤ์ ทยั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นนั้ พระนักสทิ ธ์คิดพะวงสงสัย
เล็งดรู ู้แจง้ ไม่แคลงใจ แย้มยิม้ ละไมอยู่ไปมา
แล้วตรัสมธั รุ สสุนทร ดูก่อนหลานน้อยเสน่หา
สมหวงั ดงั จติ จนิ ดา อยา่ ชา้ เรง่ กลบั ไปฉับพลนั
นาวีน้ีไซรใ้ ห้กับเจา้ ขีเ่ ขา้ นิเวศน์เขตขัณฑ์
ไปดอี ยา่ มีภยั ยนั ตร์ สมจติ เจ้านน้ั ทกุ ประการฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแกว้ ปรีดิ์เปรมเกษมสานต์
กราบกับบาทบงสุ์พระทรงญาณ สาราญฤทยั พันทวี

รบี ออกนอกบรรณศาลา น่ังกลางนาวาเกษมศรี
ชักสายยนต์พลนั ทันที นาวีลอยล่วิ ปลิวมาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั ถงึ จง่ึ ผอ่ นร่อนลง กลางดงแดนไพรในป่า


26

เอาเรอื คลมุ ไวใ้ ห้ลบั ตา แบกก้อนศิลาเขา้ เวียงชยั ฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครนั้ ถึงจ่ึงเข้าไปในบ้าน ขนึ้ บนนอกชานหาช้าไม่
แบกก้อนศิลาพาเข้าไป วางไว้ในทบั ฉับพลนั
นงั่ ไหว้ยายตาแลว้ พาที ครง้ั น้ชี ีวาไมอ่ าสญั
จงเร่งเข้าเฝา้ องค์ทรงธรรม์ ถวายของสาคญั ทันที
มิได้ท้าวไทจะลงโทษ ออกโอษฐ์จะลา้ งให้เปน็ ผี
ข้าไปได้มาเหมอื นวาที คร้ังนจี้ ะโปรดประการใดฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดนน้ั สองเฒา่ ยนิ ดีจะมไี หน
สวมกอดลกู ยาแลว้ วา่ ไป บุญแลว้ จ่ึงไดด้ ังจานง
มาตรแมน้ ท้าวไทจะไมร่ ัก ดว้ ยยศศักด์เิ หมือนกากบั หงส์
ขอแตช่ ีวติ อย่าปลิดปลง จะจานงต่อไปไม่ไยดฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั มารดา โกรธาแค้นขัดสะบัดหนี
ตอบวา่ ข้าแคน้ แสนทวี บัดสีแก่เหล่าชาวประชา
มิได้พระเมรดุ งั เกณฑ์การ จะประหารใหส้ ิ้นวงศา

บดั น้ซี นไปไดม้ า จะท้งิ สัตย์สัญญาเสยี อย่างไร
ถงึ รปู ช่วั ตวั ดาต่าศักด์ิ จะร่วมเรยี งเคยี งพักตรใ์ หจ้ งได้


27

ใหล้ อื เลื่องเฟื่องฟุ้งทัง้ กรุงไกร วา่ เข็ญใจเปน็ หม่อมจอมนารฯี
ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นน้ั ยายตาสรวลสันตส์ นัน่ มี่
รอดตายหมายใจคงไดด้ ี เปรมปรีดกิ์ ระหยม่ิ ยิม้ พราย

หามกอ้ นศิลาพากนั รบี เร่งจรจรลั ผันผาย
ล้มลุกคลุกคลานทะยานกาย ตายายตง้ั หน้าคลาไคลฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั ถงึ พระโรงรูจี เสนนี ับรอ้ ยน้อยใหญ่
หามกอ้ นศลิ าพาเข้าไป วางไว้แลว้ กม้ บงั คมคลั
ทลู ว่าข้าได้พระเมรุมา โดยดงั บญั ชาทุกส่ิงสรรพ์
ซึ่งขอ้ คาสญั ญาว่ากัน ทรงธรรมจ์ ะโปรดประการใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ พระองค์ทรงภพเป็นใหญ่
ทอดพระเนตรเลง็ แลแตไ่ กล เห็นแสงแกว้ แววไวจบั ตา

ดใี จด้วยได้พระเมรธุ ร มาไวใ้ นนครเป็นสง่า
ทงั้ เสียใจอาลัยลูกยา จะไดเ้ มียหน้าม้ากาลี
คร้ันจะพูดบดิ เบือนเชือนแช ก็อายแก่เสนาทาสี
จาจะพดู เกลีย่ ไกล่ให้ดี คิดพลางทางมบี ัญชาการ
ยายตาพากันครรไล กลบั ไปสเู่ คหาสถาน


28

วันใดได้ฤกษศ์ ภุ วาร จะไปรับบตุ รทา่ นเขา้ มาฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ บัดน้นั สองเฒ่ากรม่ิ ใจได้หนา้
คานบั รับราชบัญชา ลลี าออกจากวงั ในฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชิด

๏ ครนั้ ถึงบอกนางสปั ดน จุมพลโอภาปราศรยั
แม้นถึงฤกษ์งามยามชยั จะรบั เจ้าเขา้ ในตาหนกั จนั ทน์ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแกว้ ปรีด์เิ ปรมเกษมสนั ต์
ใจจติ ให้คดิ ผูกผนั นับวันเวลาราตรีฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมือ่ นั้น ท้าวมงคลราชเรืองศรี
ทุกข์ร้อนนอนนึกตรึกคดี มไิ ดม้ เี กษมเปรมปรา

เสยี ทีอแี ก้วสัปดนทรพลอบุ าทว์ชาติข้า
ซนไปได้พระสุเมรมุ า จะตอ้ งพามาเล้ยี งในเวยี งวัง

เสยี ดายพระโอรสธิบดี จะราคีคบค้าบา้ หลงั
รูปรา่ งช่วั ช้าน่าเกลียดชงั พระนงิ่ นั่งตรึกตรองหมองใจฯ

ฯ ๖ คา ฯ


29

๏ จึงปรึกษาโฉมยงนงลกั ษณ์ นอ้ งรักจักคิดเปน็ ไฉน
อแี ก้วสัปดนคนจังไร จะเป็นลกู สะใภข้ ายหน้าตา

ฤาอ้อนวอนงอนง้อขอเสีย เงินเบยี้ ล้นเหลือเสือ้ ผา้
รูปรวยช่วยนกึ ตรึกตรา อย่าให้เสียวาจาพาทฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื น้ัน โฉมยงองค์เอกภเิ ษกศรี
ยิม้ พลางทางทูลทันที น้องนฉี้ งนสนเทห่ ์ใจ
อนั เขาเมรุมาศบรรพต โสฬศโลกนห้ี ามีไม่
ล้วนแลว้ ด้วยแกว้ อาไพ พง่ึ ได้ประสบพบพาน
นางแก้วสัปดนคนนี้ ตอ่ จะมเี ดชากล้าหาญ
รู้เหาะเหินเดนิ โดยโพยมมาน จึง่ ไดศ้ ิลาลานพรรณราย
ถงึ รูปชว่ั ตัวดาต่าตอ้ ย ใชส้ อยไดก้ ารประมาณหมาย
พระลูกรักเน้ือเย็นเป็นชายจะเคืองขุ่นวนุ่ วายไปไยมีฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น กรุงกษัตรยิ ข์ ดั ข้องหมองศรี
ทอดถอนวิญญาแล้วพาที พี่นีอ้ ับอายขายหน้าตา
หนงึ่ พระโอรสยศยง เห็นคงจะแคน้ แสนสา
ชาตอิ ีอัปลกั ษณ์พักตร์อาชา จะเหาะเหินเดินฟ้าไปอย่างไร
ดีแล้วจะเท่ยี วหาผวั ยอมตวั อยา่ งนหี้ ามีไม่


30

บญุ ไม่เคยตายก็กลายไป พไี่ ม่อยากคบพบพานฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ ฟังบญั ชา นางพระยานบนอบตอบสาร
พระองค์ทรงศักดจ์ิ กั รพาล คิดการไม่ต้องประเพณี
มาตรแมน้ เขาหามาไม่ได้ พระจะให้ฆา่ ฟันบนั่ เกศี
เสาะหามาไดก้ ็ไม่ดี เช่นน้จี ะทาประการใด

บัญชาว่าแล้วอย่าคนื หลัง จงรบั พามาวังให้ได้
เลีย้ งเป็นบริจาข้าไท อยา่ ให้คนฉินนนิ ทาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้นั พระผูผ้ ่านเขตขัณฑ์หรรษา
ฟงั พระมเหสปี รีชา ตรึกตราเหน็ ชอบระบอบการ

พระจึง่ มบี ัญชาปราศรยั ดวงใจของพช่ี า่ งคิดอา่ น
กับอแี กว้ หน้าม้าสาธารณ์ จะรอฤกษ์ศุภวารไปไยมี
จงจดั ใหไ้ ปรับเข้ามา กนั ความนินทาชาวกรุงศรี
แลว้ สั่งสาวสรรทันที ราตรจี ่ึงพากนั คลาไคลฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นั้น สาวสรรบังคมประนมไหว้
ครั้นคา่ ก็พากนั คลาไคล ออกไปยงั บ้านทา่ นยายตาฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชดิ


31

๏ ครนั้ ถึงโดยดว่ นชวนกัน ผายผนั ข้นึ บนเคหา
น่งั ลงบอกเลา่ เฒ่าสองรา โดยมีบัญชาทุกประการฯ

ฯ ๒ คา ฯ เจรจา

๏ บัดนนั้ สองเฒ่าปรีดิ์เปรมเกษมสานต์
เข้าไปในทับมิทันนาน แจง้ เหตุเภทพานแกล่ ูกยา

บดั น้ีพระองคท์ รงชัย ให้รับเจ้าเข้าไปดงั่ ว่า
ยากจนพน้ ที่อุปมา แกว้ ตาจะคิดประการใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นนั้ นางแก้วยนิ ดจี ะมไี หน
ยม้ิ พลางทางวา่ อยา่ ร้อนใจทรพั ยส์ นิ ทาไมก็ทาเนา
ซึ่งมงั่ มีศรสี ุขทุกคน กุศลสรา้ งไวใ้ ห้แกเ่ ขา
แม้นวาสนาหนุนบุญเรา คงจะเทียมหน้าเขาชาวพารา
ว่าพลางทางเดนิ ออกไป น่ังไหวท้ า้ วนางพลางวา่

ไยไมเ่ อาวอช่อฟ้ารบั ข้าตามอยา่ งทางธรรม์
จะใหเ้ ดนิ เข้าไปไม่ควร ประชาชนจะชวนกันเย้ยหยนั
จงกลบั ไปทูลองค์ทรงธรรม์ ให้เอาวอสวุ รรณมาบัดน้ีฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ บดั นัน้ เถา้ แกโ่ ขลนจ่าทาสี


32

ฟังนางหนา้ มา้ พาที ต้องทธี่ รรมเนียมบรุ าณมา
พศิ ดหู นา้ ตาเหมอื นพาชี แต่พาทีแหลมหลักหนกั หนา

ท้าวนางต่างมวี าจา ใชพ้ วกโขลนจา่ เขา้ ไป
ทลู องค์ทรงธรรม์พนั ปี ตามคาเทวีอย่าชา้ ได้
นาวอช่อฟ้ามาไวไว เร่งไปใหท้ นั ท่วงทฯี

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นนั้ สาวใชไ้ ด้ฟงั ถ้วนถี่
ลงจากเคหาในราตรี ชวนกนั จรลีเข้าวังในฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชิด

๏ ครนั้ ถึงจึ่งคลานเขา้ เฝ้า น้อมเกลา้ บังคมแถลงไข
บัดนที้ ้าวนางขา้ งใน ใชใ้ หม้ าทลู กิจจา

ดว้ ยนางสัปดนคนสาคัญ ช่างขงึ ป่ึงปัน้ หนักหนา
จะให้เอาวอชอ่ ฟ้า รับมาตามเลห่ ์ประเพณฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น โฉมยงองคม์ ง่ิ มเหสี
สรวลพลางทางกล่าววาที จ้จู ข้ี ้คี ร้านราคาญใจ
ยศศกั ด์ิหนักหนาเจ้าข้าเอ๋ย ฤาเคยข่ีบ้างแต่ครงั้ ไหน
เร่งนาวอชอ่ ฟ้าพาไป รับมาจะใคร่ดหู น้าตาฯ

ฯ ๔ คา ฯ


33

๏ บัดนั้น สาวสรรบงั คมกม้ เกศา
คานบั รับสงั่ นางพระยา ชวนกันรีบมาทันทีฯ

ฯ ๒ คา ฯ ชบุ

๏ ครัน้ ถงึ จง่ึ แจง้ พนกั งาน ให้จัดวอผูกม่านมศี รี
จะไปรับนางห้ามงามดี เร็วเรว็ บดั นีอ้ ยา่ นอนใจฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นั้น อามาตยร์ าชยานผใู้ หญ่
ครัน้ แจง้ รับส่งั ข้างใน ก็จดั แจงแต่งใหฉ้ บั พลนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นั้น โขลนจ่าบรรดาสาวสรร
ได้แลว้ กร็ บี จรจรลั ผายผันยังบ้านทา่ นยายตาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถึงจึ่งวางวอไว้ ท่รี มิ บนั ไดเคหา
ต่างขึ้นเรือนพลนั มิทันช้า บอกแจ้งกจิ จาทุกประการฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นน้ั นางแก้วหน้าม้าปรีชาหาญ


34

เขา้ ไปในทับมิทันนาน อาบนา้ สาราญอินทรียฯ์
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ขมน้ิ ฝนปนส้มมะขามขัด พักตร์ผัดดินสอพองละอองศรี
นุง่ ผ้าลายฉลางอย่างดี แพรสีชมพูหม่ สมทรง

ใส่แหวนหนา้ กระดานก้านพลูนาก สีผงึ้ ดีสีปากกินหมากสง
นุ่งห่มคมสนั บรรจง แล้วดาเนนิ เดินตรงออกมาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ นง่ั ลงตรงหน้าท่านทา้ วนาง แย้มยม้ิ ปรม่ิ ปรางหรรษา
ยกมือขึ้นไหวย้ ายกะตา ลงมาขน้ึ วอจรลีฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ คร้ันวา่ มาถงึ ทวารวัง หยดุ ย้ังพรอ้ มหน้าทาสี
ลงจากวอสวุ รรณทันที ขนึ้ เผ้าพระชนนฉี บั ไวฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครน้ั ถงึ จ่งึ น้อมศโิ รเพฐน์กราบองคอ์ ัคเรศเป็นใหญ่
หมอบอยูท่ า่ มกลางนางใน มไิ ดป้ ระหวน่ั วญิ ญาฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้นั นางกษัตรยิ ส์ รวลสันตห์ รรษา


35

พศิ ดรู ปู รา่ งอย่างคุลา หน้าตาแมน้ เหมือนพาชี
นงุ่ หม่ ปกุ ปยุ กรุยกราย รปู กายจ้ามา่ ดามิดหมี

ผิดกับคนผ้ทู ้ังบูรี แต่ท่วงทฉี ลาดอาจอง
ดูพลางทางเรียกเอาเงนิ ตรา เสอื้ ผ้างามงามตามประสงค์

จัดแจงหอ้ งให้ดังใจจง โขลนจา่ พาลงไปหลับนอนฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อน้ัน พระโอรสฤทธิรงคท์ รงศร
แจง้ ว่าสมเด็จพระมารดร รับนางแก้วจรมาวังใน
พระสุดแสนแค้นคั่งคลัง่ จิต ดังคมกริชกรดกราดบาดไส้
กรรมเอ๋ยกรรมกรรมทาอย่างไร นอ้ ยใจด้วยพระชนนี
รับอีสัปดนคนสาธารณ์ มาก่อกรรมราคาญไวท้ ีน่ ่ี
อับอายขายหนา้ ชาวธานี สุดที่จะดารงวญิ ญาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ พระอ้ันอัดกลัดกลมุ้ คลุ้มใจ อย่ใู นแท่นรัตนเ์ ลขา
มไิ ด้หลบั สนทิ นทิ รา วิญญาไม่เป็นสมประดี
อยา่ เลยจาเราจะเขา้ ไป กราบทลู ทา้ วไทท้งั สองศรี
ให้ขับหญิงแพศยากาลี คนื ไปอยู่ทเ่ี ดมิ มา
คิดพลางเสด็จยรุ ยาตร ลงจากปราสาทเลขา
พรงั่ พร้อมกานลั กลั ยา ขนึ้ เฝา้ พระมารดาทันใดฯ
ฯ ๖ คา ฯ เพลง


36

๏ ครนั้ ถึงจ่งึ กราบลงกบั บาท ชนนธี ริ าชเป็นใหญ่
กลุ้มจติ คดิ แคน้ แน่นใจ ภวู ไนยก้มพักตร์ไม่พาทฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อน้ัน องค์พระมารดามารศรี
เหน็ พระโอรสจรติ ผดิ ที เทวลี บู ไล้ไปมา
แลว้ เออ้ื นอรรถตรัสถามทรามรัก ไฉนพักตร์ซูบเศรา้ หนักหนา
ฤาทกุ ข์โศกโรคร้อนอุรา แก้วตาจงเล่าให้เข้าใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั มารดา วนั ทาแล้วทลู เฉลยไข
เพราะพระไม่เมตตาอาลัย รับหญิงจงั ไรมาเวยี งวัง
ความลูกอัปยศอดอาย เหมอื นจะวายชวี าเป็นบา้ หลงั
เห็นจะอยมู่ ิได้ในวงั จะเตรจ็ เตรเ่ ซซังซนไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั ลูกรัก กอดจูบลบู พักตร์แลว้ ปราศรยั
นางนีม้ ีอิทธิ์ฤทธไิ กร เล้ียงไว้สาหรบั อบั จน
เจ้ามริ กั ใครก่ ็ไม่ว่า มารดาจะเลยี้ งเลี่ยงกุศล
เมื่อไมม่ ีอนิ ังกังวล จะรอ้ นรนฤทยั ไปไยมฯี

ฯ ๔ คา ฯ


37

๏ ฟังตรัส เคืองขัดทลู ความไปตามท่ี
ถึงมิใช่ภรรยาสามี กเ็ ปน็ ท่ีอัปยศอดอาย
ผูค้ นทั้งปวงจะล่วงรู้ อปั ยศอดสูไม่เสือ่ มหาย
รักอีหนา้ ม้ากวา่ ลกู ชาย จะแกล้งใหว้ อดวายชวี ันฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั ลกู รกั นงลักษณ์สารวลสรวลสันต์
เสแสรงแกลง้ ปลอบให้ชอบธรรม์ จอมขวัญของแม่อย่าอาวรณ์

เรว็ นกั จักไลก่ ็ไมง่ าม ให้มีความผดิ พลง้ั บ้างกอ่ น
จะขบั ไปใหพ้ ้นพระนคร อย่าทุกข์รอ้ นเศร้าสร้อยน้อยใจฯ

๏ เมอ่ื น้ัน หนอ่ นรนิ ทรพ์ ินทองผ่องใส
ฟังพระชนนีค่อยดีใจ ลาไปสปู่ รางค์รจนาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ จง่ึ เข้าห้องทอง เฝา้ ตรึกตรองอบั อายขายหน้า
นง่ิ นอนกรพาดพกั ตรา มิได้ไคลคลาไปแห่งไรฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนน้ั นางพกั ตราพาชีศรีใส
เยน็ รอนอ่อนแสงอโณทัย ลบู ไล้กระแจะจวงจนั ทน์
นุ่งลายอย่างดีห่มสีตอง เดนิ ออกจากห้องขมีขมัน


38

นาดกรอ่อนคอจรจรลั ผายผันข้นึ เฝา้ พระภมู ีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ จง่ึ คลานเข้าไป เฝ้าพระภูวไนยยังแท่นที่
แยม้ พรายชายตาเปน็ ทว่ งที พัดวบี าเรอราชาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือนัน้ พระพินทองข้องขัดสหสั า
ชน้ี ิ้วกร้ิวกราดตวาดมา มิไดเ้ รยี กให้หามาช่วงใช้
ฤาเป็นจอมหม่อมเวรเกณฑ์การ พนกั งานพดั วนี ี่ไฉน
ฤาเปน็ คนรับสั่งรบั ใช้ ช่างเสอื กหน้ามาได้ไมม่ ีอาย
ไสหัวออกไปเสียให้พน้ จองหองพองขนใจหาย
น่ังพัดดัดจรติ กรดี กราย ดา้ นได้ไมอ่ ายหนา้ ตาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ฟงั ตรัส วางพดั เมยี งหมอบตอบวา่
น้อยฤาช่างตรัสรจั นา ไม่อาลัยไวห้ น้าดา่ ทอ
เหตวุ ่ารปู งามมีหา้ มแหน แคะแคน่ ค่อนว่าหนกั หนาหนอ
นานไปจะออ่ นงอนงอ้ ดา่ ทอเถดิ ข้าไม่วา่ ไร
วา่ พลางขนึ้ น่ังบนบลั ลงั ก์ แนบนั่งนวดเพลาเกาให้
รูปร่างอย่างน้ีไม่มีใคร เขา้ กอดจบู ลูบไล้บาทาฯ

ฯ ๖ คา ฯ


39

๏ เมื่อนัน้ พระพินทองข้องขดั ตรสั วา่
ทดุ อีจังไรไว้หนา้ ตา ด่าวา่ ไม่เจบ็ เท่าเลบ็ มอื
นา่ ชังนงั่ เบียดเกลียดจรติ กวนจิตรา่ ไปอย่างไรหรือ
ว่าพลางฮึดฮัดปัดมอื แย่งยื้อฉดุ ครา่ กวู ่าไร

ดดู ดู๋ งึ ดอ้ื ถอื ดี ทุดอแี พศยาหน้าไพร่
ดูหมิ่นถ่ินแคลนนา่ แค้นใจ พระผลักพลัดตกไปทันทีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ พระองค์ พระจงโปรดเกล้าเกศี
ยอมตัวให้ใช้จะได้ดี กลบั มโี มโหโกรธา
เหน็ นอ้ งรปู ช่วั ตวั ดา ชา่ งทากระไรไม่ไวห้ น้า
ใครลบลูด่ ถู ูกลูกพระยา อนิจจาพาโลโพคลุม
วา่ พลางทางขึน้ บนที่ คลกุ คลีเสอื กไสเข้าไปอุม้
สองมือรวบรัดจบั กุม รัดรมุ ปล้าปลกุ คลกุ คลีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

ชาตอิ ีกาลี

๏ อีหน้าเป็น ลอ้ เล่นไม่กลวั ตัวเป็นผี
จองหองพองตวั ไม่กลวั ถูกหวาย
เฆีย่ นให้หลังลาย ไม่อายแล้วไปฯ


40

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ทรงฤทธ์ิ ก่อกรรมทาผิดเป็นไฉน
พานโกรธโลดไส่ ไมไ่ วห้ น้าตา
ใครใช้เป็นผวั ไมก่ ลวั โทษา
ผัดพอ้ ล่อหนา้ โกรธาทาไมฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ อีบา้ กาม ลวนลามเยา้ ยั่วหากลัวไม่
ผัวมงึ เมือ่ ไร ใส่ไคล้พาที
ดุโดดโลดแลน่ คมุ แคน้ บัดสี
จับไมเ้ รยี วรี่ ไล่ตีออกมาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนนั้ นางแก้วแสรง้ ซา้ ทาวา่
เลยี นลัดพ้อตัดกษตั รา แล้วกลบั มาห้องพลนั ทันใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมือ่ น้ัน พระพินทองข้องขัดอชั ฌาสัย
จงึ่ ตรัสสั่งสาวสรรทนั ใด จงต้งั ใจผลัดเวรเกณฑก์ นั
อย่าให้อแี ก้วสปั ดน เขา้ ในไพชยนตร์ งั สรรค์
แม้นไม่ระวงั สงั่ กนั กจู ะลงโทษทณั ฑท์ ุกนารี


41

ส่ังเสรจ็ เสดจ็ ยรุ ยาตร เข้าในปราสาทมณีศรี
กลุ้มจติ คดิ แคน้ แสนทวี อยู่ในแท่นท่ีไสยาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดนัน้ เถา้ แก่กานัลซา้ ยขวา
ผลดั เวรเกณฑ์เฝ้าทวารา มิใหน้ างหนา้ มา้ เขา้ มาในฯ

ฯ ๔ คา ฯ เพลง

๏ บัดนั้น นางพกั ตราพาชศี รีใส
นอนน่ังตงั้ นึกตรึกไตร จะใคร่ไปเฝ้าองค์ทรงธรรม์
รุ่งรางสางแสงทนิ กร ออกจากห้องนอนขมีขมนั

กรายกรยา่ งเยื้องจรจรัล ผายผนั ไปยงั ทวาราฯ
ฯ ๔ คา ฯ เพลง

๏ คร้ันถึงเหน็ พวกนารี มากมเี รียงรายซา้ ยขวา
มไิ ด้คิดพะวงสงกา ลลี าเขา้ สู่ทวารชัยฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นนั้ ฝงู สนมกานัลน้อยใหญ่
เหน็ นางแก้วหนา้ ม้าคลาไคล กก็ รไู ปป้องกันทนั ที
บ้างร้องห้ามปรามตามรับสัง่ พระทรงฤทธ์กิ าลงั เข้าที่

ถอยไปอยา่ ไดจ้ รลี ใช่ทีท่ างเจ้าอย่าเข้ามาฯ


42

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนน้ั นางแกว้ พดู องึ ประหน่งึ บ้า
จะไปเฝา้ เอางานผ่านฟา้ มากัน้ กางขวางหนา้ ว่าไร
เราเป็นหมอ่ มห้ามตามเกณฑ์ เข้าเวรเชา้ เยน็ เหน็ ฤาไม่
แมน้ โมงยามขาดคา้ งอย่างไร คอื ใครจะรบั พระอาญาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นั้น สาวสรรฟังพลางทางว่า
นฤ่ี าเจา้ จอมหม่อมหน้ามา้ งามกว่าชาววงั ทัง้ ปวง
เราเป็นขา้ ไททา่ นใหเ้ ฝา้ นแ่ี ลเขาเรียกเมียเสยี ขวง
กลวั เจา้ จอมหม่อมหา้ มตามกระทรวง จะลามล่วงเข้าปล้าท่านมดิ ี
เรง่ เรว็ ออกมาเจา้ อยา่ ดื้อ เขา้ จับมือผลักไสก็ไม่หนี
ลอ้ มหลังล้อมหน้าลว้ นนารี องึ ม่ีไปทง้ั วังในฯ

ฯ ๖ คา ฯ เชดิ

๏ บัดน้ัน นางแก้วหน้ามา้ อัชฌาสัย
แจ้งวา่ พระองคท์ รงชยั มใิ ห้เข้าในตาหนกั จันทน์
ครั้นจะดื้อดงึ ขึงขัด ก็เกรงสองกษัตรยิ ร์ งั สรรค์
เดนิ ตรงลงจากอัฒจันทร์ ผายผนั เยื้องย่องมาหอ้ งนอนฯ

ฯ ๔ คา ฯ


43

๏ เมอ่ื นัน้ พระโอรสยศยงทรงศร
ยง่ิ สุดแสนแค้นค่ังน่ังนอน โศกเศรา้ เร่าร้อนอรุ า
แคน้ ด้วยสมเด็จชนนี เล้ียงอคี นรา้ ยขายหนา้
จาจะคดิ ผ่อนผันด้วยปญั ญา แสวงหานุชนางทางไกลฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ อยนู่ อี่ ีแกว้ สปั ดน ซกุ ซนดื้อดันหม่นั ไส้
จะรบเรา้ เย้ายวนกวนใจ ทไ่ี หนจะสุขสาราญ
คิดพลางแต่งองค์ทรงเคร่ือง รงุ่ เรืองจบั แสงสุริยฉ์ าน
พรัง่ พร้อมสนมศฤงคาร บทมาลย์จากปรางคร์ ูจฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ จง่ึ คลานเข้าเฝา้ นอ้ มเกลา้ ประณตบทศรี
กล้มุ จิตคิดแค้นแสนทวี มิไดต้ รสั ร้ายดปี ระการใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื นัน้ กรงุ กษัตรยิ โ์ อภาปราศรัย
ลูกรกั ของพ่อดงั ดวงใจ มาไยแตร่ ุ่งสรุ ิยา
ดูพกั ตร์พกิ ลหมน่ หมอง เคืองขอ้ งสิ่งใดให้เร่งว่า
ฤารญั จวนประชวรโรคา แกว้ ตาจงแจง้ แห่งคดีฯ

ฯ ๔ คา ฯ


44

๏ เมื่อน้ัน หน่อนรนิ ทร์พินทองผอ่ งศรี
กราบลงตรงพักตร์ภมู ี ทลู ตามคดีทุกประการ

บดั น้อี แี กว้ สปั ดน ซกุ ซนประมาทอาจหาญ
ทาเป็นเชน่ พวกพนกั งาน รุกรานเขา้ ในท่ไี สยา
ความช่างรงั เกียจเกลียดจรติ ถา้ มว้ ยมดิ เปน็ ผดี ีกว่า
อบั อายหญงิ ชายชาวพารา จนไมก่ ล้าเที่ยวออกนอกวัง
สอพลอตอแหลกระแตเตน้ หนา้ เปน็ พูดจาเหมือนบ้าหลัง
อายหนา้ ขา้ คนพ้นกาลัง นอนน่ังไมม่ ีปรดี า
พระองคจ์ งโปรดปรานี ปลอ่ ยใหล้ กู นไี้ ปอยปู่ า่

ใหพ้ ้นอีคนชว่ั ชา้ เหน็ วา่ จะรอดตลอดไปฯ
ฯ ๑๐ คา ฯ

๏ ฟงั โอรส ทรงยศสรวลสันตไ์ มก่ ลน้ั ได้
โลมลบู ลูกยาแล้วว่าไป คนมีฤทธิไกรของมารดร
ว่าเขาเท่าไรกไ็ ม่หยดุ รกั สุดโลมเลยี้ งไวเ้ คียงหมอน
เชิดชือ่ ลอื ดงั ท้งั นคร สุดทจ่ี ะผันผอ่ นพูดจา

จนใจได้รับมันมาแลว้ ลกู แก้วจงฟังพ่อวา่
แมน้ มชิ อบใจอยา่ ไปมา จะอับอายขายหน้าไยมีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้นั พระโอรสประนมกม้ เกศี
ทลู ว่าขา้ ไม่ไยดี แตม่ นั เฝา้ เซ้าซี้ให้เคืองใจ


45

ตดี า่ ว่ากล่าวราวกับยุ นา่ มหุ นุ หันหม่นั ไส้
แม้นมใิ ห้ไปดงพงไพร จงหาเมยี เสียใหต้ า่ งพาราฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั ลูกรัก ทรงศักดส์ิ ารวลสรวลรา่
จึ่งตรัสกับอรไทไฉยา จะตรึกตราผ่อนผนั ฉันใด
ลูกรักจักมาให้หาเมยี ไปเสยี ใหพ้ น้ ทนไม่ได้
มารดาจะวา่ ประการใด ช่างรับบา้ มาไว้เวยี งวังฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ น้ัน นางกษตั รยิ ์ทูลไปดงั ใจหวงั
ใช่วา่ ขา้ ทาแต่ลาพัง จะมานง่ั พ้อตัดขัดเคือง
แก้หนา้ รับมาพอเปน็ ที ส้ินราคขี ้อความตามเรอื่ ง
ซง่ึ จะคดิ หานางตา่ งเมือง ก็สุดแท้แตเ่ บอ้ื งบาทาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนั้น ทา้ วมงคลราชนาถา
นง่ิ นึกตรึกไตรไปมา แล้วจง่ึ มีบญั ชาตรสั ไป

เมอื งโรมวถิ ีมธี ดิ า เราว่าเห็นตรงคงจะให้
จะแต่งบรรณาการให้สาส์นไป โดยในธรรมเนียมประเพณี
ตรัสพลางทางปลอบพระโอรส พ่อจะให้งามยศศักด์ิศรี

จะตรึกตรองหมองใจไยมี คงพ้นท่ีอีหน้ามา้ สาธารณ์ฯ


46

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดนนั้ นางแก้วหนา้ ม้ากลา้ หาญ
แจ้งวา่ สมเด็จพระกมุ าร ขน้ึ เฝ้าพระผ้ผู ่านเวียงชยั

ยิ่งถวิลยินดีปรดี าจะไปล้อพ่อตาว่าให้ได้
คิดพลางยา่ งย่องจากห้องใน ยืนแฝงทวารชัยฉับพลนั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ น้ัน พระโอรสปรีดเ์ิ ปรมเกษมสันต์
นอ้ มกายถวายอภิวันท์ ผายผนั มายังปรางค์ปราฯ

ฯ ๒ คา ฯ เพลง

๏ ครั้นถงึ ซงึ่ รมิ ทวารชยั ใหเ้ รา่ ร้อนฤทัยหนกั หนา
ปลดเปลื้องเคร่ืองทรงอลงการ์ แล้วโสรจสรงคงคาวารี

คร้นั เสร็จเสดจ็ ยุรยาตร นวยนาดจากหอ้ งมณศี รี
มิไดร้ รู้ ะคายรา้ ยดี ภมู ีเร่งรบี จรจรลั
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนัน้ นางแกว้ สัปดนคนขยัน
แฝงอยู่ดูองค์พระทรงธรรม์ เห็นเสด็จจรจรัลเขา้ มา

วิง่ วางทางตรงเขา้ กอดรัด โลมลูบจูบหตั ถซ์ า้ ยขวา
พอ่ เจ้าประคุณของเมยี อา พระมังสาหอมระรนื่ ช่ืนใจฯ


Click to View FlipBook Version