The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แก้วหน้าม้าเป็นวรรณกรรมของไทยโดยผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kamolchanok.1878, 2021-03-16 01:19:08

วรรณกรรมเรื่องแก้วหน้าม้า

แก้วหน้าม้าเป็นวรรณกรรมของไทยโดยผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Keywords: แก้วหน้าม้า

197

๏ ฟงั พาที ภมู เี คอื งขัดอัชฌาสยั
ชีน้ ้วิ กรวิ้ กราดตวาดไป ผวั มงึ อยู่ไหนอกี าลี
เที่ยวทาตอแหลกระแตเต้น หนา้ ราตาเปน็ ไม่บัดสี
ทิง้ ลกู เทีย่ วเลน่ ทาเชน่ นี้ ปรานีกลบั วา่ หนา้ ไม่อาย
ไสหัวมงึ ไปเสียให้พ้น จองหองพองขนไม่รูห้ าย
อปั รยี เ์ วียงวังอีหลังลาย คบชายเปน็ ปีไม่มีตัวฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั สี อะไรน่คี ่อนวา่ นึกน่าหัว
ทาเขามีท้องรอ้ งออกตัว เหน็ รูปชั่วไมร่ ับกลับกลาย
เธอเป็นผัวขา้ ฤาหาไม่ ไดร้ ักใครผ่ ูกพันม่นั หมาย
ข้านี้มิได้คบช้สู ู่ชาย จะเฆี่ยนให้หลงั ลายด้วยอันใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ อกี าลี พาทเี กนิ ตวั หากลวั ไม่
ใครเปน็ ผวั มงึ พดู อึงไป ว่าได้พล่อยพลอ่ ยลอยหน้าตา
เส่ยี งสบั ขบั ไลไ่ สหัวหู ยงั ขืนอยู่รงั ควานดา้ นหน้า
เอาลกู มึงไปอย่าได้มา ยังชดชอ้ ยลอยหน้าวา่ ไรฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ พระองค์ ยืนยนั มนั่ คงก็เป็นได้
ลูกเต้าเขาอนื่ ใครขืนใจ ใหก้ อดจบู ลบู ไลใ้ สเ่ พลา

198

เห็นอย่แู ววแววกับแกว้ ตา ยงั ไมล่ ับกลบั ด่าให้อีกเล่า
เพราะว่ามวี าสนาค้าสาเภา ด่าไดด้ า่ เอาไม่เกรงใจ
วา่ พลางทางชพู ระกมุ าร แกล้งดาเนินเดินผา่ นเข้ามาใกล้

ช่วยทายให้ถกู ว่าลกู ใคร ใช่ฤามใิ ช่พระทรงธรรม์
รปู ร่างจรติ ไม่ผิดพอ่ ปากคอแก้มคางเหมอื นอยา่ งปน้ั

พักตราตาคิ้วผิวพรรณ เหมือนกันฤาไม่จะใคร่ร้ฯู
ฯ ๘ คา ฯ

๏ อีหนา้ เปน็ ล้อเลน่ สดสดไม่อดสู
ยืนยันพันผกู ว่าลูกกู ใครรู้เห็นบ้างฤาอย่างไร
สงสารทารกยกมาดู เหน็ อมุ้ ชูแตม้ ต่อล้อให้
หนา้ มึงถึงจะฟันให้บรรลยั ก็ไมป่ รารถนาคา้ คบ
แต่มาอยู่ร่วมวงั ยังน้ี ยงั หลีกหนที ่องเท่ยี วเลีย้ วหลบ
ยงั่ ยืนขนื เข้ามาเร้ารบ ตตี บไม่เจบ็ เทา่ เลบ็ มือฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ นา่ ขนั กอดกนั คนผู้จะร้หู รือ
ดงั เหมอื นปืนใหญจ่ ะไดฦ้ ๅ จงึ กอดฉนั ด้ันด้ือซึ่งหนา้ ตา
รกั เขาเข้าปลา้ ทาชาเรา จนถงึ มลี กู เต้ามาขายหนา้
จบู ลูกฟอดฟอดกอดกายา เห็นอยู่แก่ตาเป็นชา้ นาน
เกลียดตัวกินไขไ่ มเ่ คยพบ คอยพาลตบค่อนว่าหนา้ ด้าน
ลกู คนนีฤ้ าคอื พยาน เหมือนพระภูบาลฤาเหมือนใคร

199

วา่ พลางทางอุ้มลูกชาย ผันผายกลับมาที่อาศัย
พลบคา่ คล้าแสงอโณทยั กอดลกู หลบั ไปทันทฯี

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั พระโฉมเฉดิ เลศิ ฟ้าราศี
ครน้ั ค่ายา่ ปฐมราตรี บรรทมในท่ีศรไี สยา
คดิ คะนงึ ถงึ องคโ์ อรส ทรงยศย่ิงพะวังกงั ขา
ลูกออี ัปลกั ษณ์พักตรอ์ าชาฤาจะเป็นบุตรานงคราญ
เนตรขนงวงพักตรผ์ วิ พรรณ ไม่คลาดเคล่อื นเหมือนกันท้ังสัณฐาน
ไฉนหนอจะแจ้งแห่งอาการ ภบู าลตรกึ พลางทางถอนใจฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ จาจะลอ่ ลวงดูทว่ งที ให้แจง้ ข้อคดใี ห้จงได้
แมน้ ลกั พามาจรงิ ดังกร่ิงใจจะฆา่ ฟันมันให้มรณา
เลย้ี งแต่โอรสยศยง แล้วจะไปรับองค์ขนษิ ฐา
ตรกึ พลางทางเอนกายา หลบั ไปในราตรีกาลฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครัน้ รุง่ รางสางแสงทนิ กร ภธู รปรดี ์เิ ปรมเกษมสานต์
น่ังเหนือแทน่ รัตนช์ ชั วาล พร้อมสนมนงคราญเรยี งรายฯ
ฯ ๒ คา ฯ

200

๏ บัดนน้ั นางแก้วตัง้ จิตคดิ หมาย
จะว่าพระโฉมงามตามสบาย แล้วโอบอุ้มลกู ชายฉบั พลนั

ออกจากห้องในไสยา ข้นึ สู่ปรางคป์ ราขมขี มนั
แฝงอยดู่ ูองค์ทรงธรรม์ เห็นพร่ังพร้อมพระกานัลนารี

จงึ อุ้มพระลูกยาฝา่ คน เขา้ ในไพชยนต์มณีศรี
น่ังลงตรงสองบตุ รี อัญชุลีพระองคท์ รงชัยฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื นนั้ สองนางนารศี รีใส
ตา่ งกราบกลัวตัวสนั่ พร่นั ใจ มไิ ดผ้ นั แปรแลดู
งกงันขวญั หนีดงั ผสี งิ หมอบนง่ิ ความกลัวเป็นตวั หนู
ต่างหลบลอบหมอบมุดคดุ คู้ ไมผ่ นั แปรแลดสู ่ิงใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นน้ั พระพินทองข้องขัดอชั ฌาสัย
จงึ ถามสองนางนัน้ ทันใด คือใครบังคับบัญชา
ตัวเป็นผูด้ ีมศี กั ดิ์ ไม่ขายพักตรย์ อมตัวเปน็ ข้ีขา้
กราบคนพิกลกิรยิ า สามะย่าตา่ ชา้ กาลี
ชั้นแต่ลกู เลก็ เดก็ ดมมือ กข็ นี้ ช่ือสาเหนียกเรียกอี
ตัวเปน็ ถงึ หม่อมจอมนารี เหน็ ดแี ล้วฤาประการใดฯ

ฯ ๖ คา ฯ

201

๏ เม่อื นั้น สองนางตา่ งกม้ ประนมไหว้
มิรู้ท่ีทูลสารประการใด นงิ่ อยู่มิได้จานรรจาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื น้นั พระพินทองข้องขดั สหสั สา
คร้งั น้ยี กไว้ยังไมว่ า่ เบ้อื งหนา้ ถ้าเป็นเหมือนเช่นน้ี

ขนื กลัวอีแกว้ แล้วไม่ฟัง จะดดุ นั กันบา้ งใหป้ ่นปี้
เหมเ่ หมอ่ หี น้าพาชี มาไยในน้ีใชท่ ที่ าง

ไสหัวออกไปอย่าให้อยู่ สูร่ หู้ นา้ เป็นเท่ียวเลน่ หาง
ชดชอ้ ยลอยพักตรช์ กั ลกู คาง แอบอา้ งอวดตวั ไม่กลัวตาย

ลกู เตา้ อยา่ เอามาไว้น่ี อปั รียเ์ บอื่ หูไม่รูห้ าย
ขนึ้ มาจะฆ่าใหว้ างวาย ใหห้ าคู่ผูช้ ายใหช้ อบใจฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ ฟงั ภธู ร คมค้อนตอบมาหาช้าไม่
หนวกหูหนวกหางช่างเป็นไร ใครใชท่ รงฤทธิ์เปน็ บดิ า
เมยี มถี มไปมิใหเ้ ลย้ี ง มาว่ากลา่ วกา้ วเฉียงเอาแต่ขา้

ว่าพลางทางส่งองค์บุตรา ให้แกส่ องกลั ยาทันที
แลว้ วา่ ขา้ นท้ี ีเ่ มยี หลวง ท้ังปวงย่อมรู้อยู่อึงม่ี
เจา้ เปน็ เมียน้อยอย่าคอยที มานงั่ ทาผดู้ ีอยู่ว่าไร
เลี้ยงลกู ของข้าอย่าให้ออ้ นหาวนอนพาองค์ไปสง่ ให้
วา่ พลางทางทลู พระทรงชัย ฝากลกู นอ้ ยไวก้ ับทรงธรรมฯ์

202

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั หนอ่ กษัตริยเ์ คืองข่นุ หุนหัน
ชนี้ ว้ิ กรวิ้ กราดตวาดพลนั เช้อื วงศพ์ งศ์พันธ์ุกฤู าไร
จองหองพองหัวอีตวั เอก โหยกเหยกพดู จาเหมือนบา้ ใบ้
ตัง้ ตวั เป็นนายไม่อายใจ ล่วงใชค้ นเล่นเช่นเชลย
ลูกเมียของกูรู้ฤาไม่ ข่ไู ด้ขู่เอาแมเ่ จา้ เอ๋ย
ใช้ได้บ่อยบ่อยหน่อยจะเคย ลามเลยใช้เลน่ ไม่เว้นวัน
ลูกมึงอย่าไว้เอาไปเสีย ใชเ้ มยี กูเล่นไม่เหน็ ขนั
วางเสยี สาวน้อยสรอ้ ยสุวรรณ สง่ ให้แมม่ ันคืนไปฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น สองนางนารศี รีใส
ฟงั ตรัสขัดสนจนใจ กลวั องคท์ รงชัยพอประมาณ

กลัวนางสัปดนเป็นพนั คิด สดุ จติ สดุ จักทาหักหาญ
โอบอมุ้ จมุ พิตพระกุมาร ดว้ ยแจง้ การทุกสง่ิ จรงิ ใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นั้น นางแก้วย้ิมน้อยยม้ิ ใหญ่
นง่ั ลงตรงพักตรภ์ ูวไนย ทูลวา่ ข้าไซรเ้ ปน็ คนจน
รับหนา้ วา่ เมียจะเสียยศ ไม่งามงดเทียมเขาจึงเฝ้าบน่
แตเ่ ลือดเนื้อของเธอเออชอบกล ใช้คนกว็ า่ น่าเจบ็ ใจ

203

เพยี งเอย๋ ผีสางเทวดา ชว่ ยชุบอหี น้ามา้ ขึ้นเสียใหม่
ให้เน้ือหนงั ดงั ทองยองใย จะเลน่ ตัวเสียให้เต็มประดา

ถงึ แม้นวา่ จะวอนงอนง้อ จริงจริงไมข่ อเสนหา
นงั่ ไหนจะคอยลอยหนา้ ตาไมแ่ ต่งขันหมากมาไม่ไยดี
หนอ่ ยหนึ่งจะไพล่เข้าไกลเ่ กลี่ย ว่าเนอ้ื เย็นเปน็ เมียของพี่

ลกู ถ่อยลอยฟา้ บดิ ามี อัปรียจ์ ะสาบสญู ไป
วา่ พลางทางแกล้งเลียนล้อสา่ ยพักตร์ยักคอตามวสิ ยั
จะส้นิ เคราะห์สักวันม่ันใจ ชุบตัวเสียใหม่ดงั วา่ มาฯ

ฯ ๑๒ คา ฯ

๏ อหี น้าเปน็ พดู เลน่ ตามใจดงั ใบ้บา้
เมืองนี้ไม่มเี ทวดาอินทราอยถู่ งึ ชัน้ ตรึงษไ์ ตร
อยากงามจงตามไปให้ถึง ยังพภิ พดาวดึงสจ์ งึ จะได้
ชุบรูปหลอ่ กูดนู า้ ใจ จะรักมงึ ฤาไม่ไดเ้ ห็นดี
บอกขาดไมป่ รารถนาคบ เกลียดมงึ ดงั ศพซากผี
ถึงจะงามลอยฟ้าดังวาที ชาตนิ ้ีเห็นกจู ะสู้ตายฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ นอ้ ยฤาน่นั ประมาทหน้าวา่ กนั ง่ายงา่ ย
เห็นเหาะมิได้ใชผ่ ชู้ าย จึงบน่ บ้าทา้ ทายสบายใจ
ว่าพลางทางเดินออกมา เทียวเล่นเช่นประสาบา้ ใบ้

ร้องราทาเพลงคร้ืนเครงไปมไิ ดม้ าดพู ระกุมารฯ

204

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระพินทองวอ่ งไวใจหาญ
เห็นนางแก้วลลี าช้านาน จติ สงสารโอรสยศยง
พระจงึ เสด็จดาเนนิ มา อมุ้ เอาลกู ยาโดยประสงค์
สั่งฝงู สรุ างคน์ างอนงค์ เรง่ ผูกอูใ่ ห้องค์กุมารฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนนั้ เถ้าแก่กานลั ถว้ นหน้า
เร่งรีบผกู เปลเห่ชา้ แกว่งไกวไปมาเป็นสิงคลฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื นั้น หน่อนรนิ ทร์พินทองผอ่ งศรี
เลีย้ งลกู ผูกจติ คดิ ปรานี มิไดม้ ีรงั เกียจเกลียดอาย
น่งั เยี่ยมปากเปลช่วยเหก่ ลอ่ ม ชาววงั นั่งลอ้ มเหลอื หลาย
ชิงกันอมุ้ ชไู มด่ ูดาย ดว้ ยเจา้ นายเมตตาอาลยั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแกว้ หน้ามา้ อชั ฌาสัย
เทยี่ วเล่นเป็นสุขสนุกใจ เนนิ่ นานมิได้นาพา
เบี่ยงบ่ายชายแสงทินกร นึกถงึ จงึ ย้อนเข้าไปหา
แอบมองตามชอ่ งทวารา เห็นผ่านฟ้าเชดิ ชูกุมาร

205

แย้มสรวลดว่ นเดินเขา้ ไปใกล้ นงั่ ยกมือไหวแ้ ลว้ วา่ ขาน
น่บี ุตรของพระองค์ฤาวงศว์ าน กระหม่อมฉันพึง่ รู้จักพักตราฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ฟงั ถาม พระโฉมงามสะเท้นิ เมินหน้า
ทิง้ ลูกลงพลนั มทิ นั ช้า กมุ าราร้องอึงคะนงึ ไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นัน้ นางแก้วคอยขยบั รบั ไว้ได้
รบั ขวญั ลูกยาแล้ววา่ ไป ลูกคนเขญ็ ใจจงึ อยา่ งน้นั
ท้ิงลงแม้นปลงชวี าลยั จะตอ้ งทาลกู ใชใ้ หห้ มอ่ มฉนั
แล้วผินหน้าวา่ กับสรอ้ ยสุวรรณ เดย๋ี วนีไ้ ม่กลวั กันฤาว่าไร

ฤาลบหลู่ดูถกู ว่าลูกเรา นเี่ กิดกับเจ้าฤามิใช่
ถือตวั ไม่กลวั เกรงใคร เลีย้ งไม่คุมร้องทั้งสองราฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นน้ั สองนางประนมก้มหน้า
ตวั สั่นขวัญหนีดังตปี ลา กม้ หนา้ ไม่ตอบวาทฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น พระโฉมยงทรงสวัสดร์ิ ัศมี
เหน็ นางสรอ้ ยสุวรรณอญั ชลุ ี พระภูมีกริ้วตรัสขดั ใจ

206

ดดู ู๋สร้อยสวุ รรณจนั ทร ไมก่ ลัวความมว้ ยมรณ์ฤาไฉน
เราสิหา้ มเจ้าเปน็ เท่าไร ยังขนื ไหวก้ ราบอกี าลลี าม
คดิ เห็นเป็นไฉนอย่างไรนน้ั นงิ่ ใหม้ นั จ้วงจาบหยาบหยาม
ฤาคดิ ถอ่ มยอมตัวกลวั ความ ให้มนั ลามล่วงหลู่ดูเบา
ยิ่งว่ากล่าวดูราวกับแกล้งยุจะตอ้ งดุสกั คร้งั บ้างแลเจา้
กลวั อหี นา้ มา้ ยิ่งกวา่ เรา ใจเจา้ คิดเหน็ เป็นอย่างไรฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมือ่ นน้ั สองนางอกสน่ั หว่นั ไหว
กราบพลางทางทรงโศกาลยั มิไดท้ ลู พิดกจิ จาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแก้วยมิ้ ละไมในหนา้
แลว้ กราบทลู ไปพลันมิทนั ชา้ อนจิ จารกั เมียไมเ่ หมอื นกัน

ข้าเป็นเมยี หลวงมาล่วงดา่ สอนให้เมียวา่ ทุกสง่ิ สรร
ถือทา้ ยย้ายหัวตัวอาธรรม์ ดดุ นั ด่าทอให้พอแรง
ชะนางคนโปรดเป็นโสดสบ ทรุดซบแอบองค์ทรงกนั แสง
พระสามีโกรธาตาแดง ฟุบแฝงโศกาอยวู่ า่ ไร
ไม่ขน้ึ หน้าด่าทอพ้อตัด คาดหมัดเข้ามาไม่ช้าได้

น่งั บบี นา้ ตาช้าอยู่ไย ไวไวมาส้ไู ด้ดูดฯี
ฯ ๘ คา ฯ

207

๏ เมอื่ นั้น สองนางกราบนบซบเกศี
มิอาจตอบวาจาพาที โศกไี ม่เงยพักตราฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ พระพินทองข้องขดั ตรัสว่า
ดดู พู๋ ่นี ้องสองสดุ ากลัวอีหน้าม้ากว่าเจ้านาย
แม้นไม่ดา่ มนั วันน้ี จะถงึ ท่ีเราริบฉิบหาย
ดอื้ ดึงหนักหนาพาเราอาย กลัวตายเร่งดา่ ใหส้ าใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแก้วยิม้ แย้มแจม่ ใส
ชดช้อยลอยหน้าแลว้ วา่ ไป ฉาตา้ หนา้ ไหนจะด่าทอ
อแี กว้ สปั ดนจะบนผี อวดดดี า่ มาขา้ ไมข่ อ
บอกขาดชาตนิ ไี้ ม่มีง้อ ดา่ ทอเถิดคะไม่ละกนั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนนั้ สองนางตา่ งกลวั จนตัวสัน่
กราบพลางทางทลู ทรงธรรม์ ชวี ันอยู่ใต้บาทา

จะใชส้ อยส่งิ ใดไม่ขดั ซง่ึ ตรัสจะใหด้ า่ ว่า
ข้อน้ขี ัดสนพ้นปญั ญา ผา่ นฟา้ ไดโ้ ปรดปรานฯี

ฯ ๔ คา ฯ

208

๏ เมื่อนั้น หนอ่ นรนิ ทร์พนิ ทองผอ่ งศรี
ทรงฟังค่งั แค้นแสนทวี จึงมีสงิ หนาทตวาดไป
ดูดไู๋ วต้ วั ไม่กลวั ตาย ขดั ขืนเจา้ นายก็เป็นได้
กลวั อีสัปดนคนจังไร ไม่อาลัยยศศักด์เิ สียพักตรา

มาตรแม้นไมด่ า่ ครานี้ ชีวจี ะมว้ ยสงั ขาร์
แมน้ สมัครรักตัวกลัวอาญา เรง่ ด่าให้สมอารมณ์มันฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ สองนางนารีไม่มีขวญั
ก้มกราบบาทบงสุ์ทรงธรรม์ ตัวส่ันไม่เป็นสมประดี

ความกลวั นางแกว้ หน้าม้า กลวั ทั้งอาญาพระโฉมศรี
หมอบนิง่ ไม่ติงอินทรยี ์ โศกกี าสรดสลดใจฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นัน้ นางแก้วกลัน้ ยิ้มมใิ คร่ได้
ครน้ั จะทูลเลยี นล้อต่อไป กส็ งสารทรามวยั ทั้งสองรา

น้อมกายถวายอภิวาท อ้มุ โอรสราชเสนห่ า
ออกจากปรางคช์ ัยมิได้ชา้ กลบั มาห้องหับฉบั พลันฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ นน้ั หนอ่ กษัตริยเ์ คืองขนุ่ หนุ หัน
ต้งั กระทูข้ ่สู องแจม่ จันทร์ กลวั มนั ด้วยกจิ ประการใด

209

อแี กว้ สปั ดนคนน้ี เขาเรียกอแี ซ่หรู ู้ฤาไม่
ใจจิตคดิ เหน็ เป็นอย่างไร เลา่ ไปให้แจง้ กจิ จา
แมน้ ไมช่ ้ีแจงแพร่งพราย จะตอ้ งวายชีวังสงั ขาร์
บอกความตามจรงิ อย่านงิ่ ช้า กม้ หนา้ อยู่ไยเรง่ ให้การฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เม่ือนนั้ สองนางทางทูลเฉลยสาร
เหตลุ กึ ล้นพ้นประมาณ ภบู าลจงโปรดปรานี
ครั้นข้าจะทลู ความตามจริง กเ็ กรงกรง่ิ บรรดาทาสี
จะล่วงรู้กจิ จาพาที ข้านจ้ี ะเกิดอันตราย
พระองคจ์ งทรงพระเมตตาขับฝูงกลั ยาท้ังหลาย
จะกราบทูลขอ้ ขันบรรยายอยา่ ใหแ้ จ้งแพร่งพรายสืบไปฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ฟงั วาจา ผ่านฟา้ ยิง่ พะวงสงสยั
จงึ ขบั ฝงู สาวสรรทันใด ออกไปจากปรางคร์ ตั นา
แล้วทรงศักดิซ์ ักไซ้ไถถ่ าม ขอ้ ความไฉนให้เร่งวา่
แมน้ ยอ้ นยอกไม่บอกกจิ จา ชีวาจะมว้ ยวายชนมฯ์

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนั้น สองนางต่างทลู อนุสนธ์ิ
นางมปี ญั ญาย่ิงกว่าคน จุมพลไม่แจง้ แหง่ คดี

210

ซง่ึ มาณพเรอื งอิทธฤิ ทธา ผลาญชีพบดิ าข้าเปน็ ผี
พระโปรดปรานประทานขา้ นี้ พาไปกฎุ ีแดนดง
กลายเป็นนารมี โี อรส อย่ดู ้วยดาบสดงั ประสงค์

งามเลิศเฉดิ ฉันบรรจง ดังอนงค์นางฟ้ายาใจ
ผกู เปลเหก่ ลอ่ มพระลกู ยา แลว้ หยิบรูปหน้ามา้ สวมใส่
แลว้ กาชบั กาชาขา้ ไว้ พบปะทีไ่ หนใหเ้ กรงกลวั

แมน้ มวิ ันทาจะฆา่ ตี มใิ หท้ ูลคดีพระอยหู่ ัว
แลว้ จาแลงแปลงองคส์ ่งตวั ขา้ จึงไดเ้ กรงกลัวกราบกรานฯ

ฯ ๑๐ คา ฯ

๏ เม่ือนั้น พระพินทองวอ่ งไวใจหาญ
นงิ่ นั่งฟังความตามอาการ ภูบาลอั้นอึง้ ตะลงึ ไป
ถ้อยคาร่าว่ามาทุกสงิ่ ยังตรกึ กริง่ พะวงสงสยั
จงึ ซักสองนางงามทรามวยั รูปร่างอยา่ งไรเรง่ ว่ามา
ซึง่ สวมหนา้ พาชนี ี้เลา่ จริงฤาปดเรากระมังหนา
ที่แปลงเปน็ รปู บุรุษสดุ โสภา คือนางหน้ามา้ น่ีฤาไรฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อน้นั สองนางตา่ งทูลเฉลยไข
มน่ั คงองค์น้ีไมม่ ีใคร จาไดแ้ มน่ ยาสาคญั
เบ้อื งหนา้ ถ้าแมน้ ไมเ่ หมือนคา พระจงทาโทษาให้อาสัญ
รปู ทรงโสภาวิลาวัณย์ ทรงธรรมจ์ งทราบพระบาทาฯ

211

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังทลู เพ่ิมพูนภิรมย์หรรษา
พระนงิ่ นึกตรึกไตรไปมา อนิจจาไม่ควรเล่นเช่นนี้
น้อยฤายอกย้อนซ่อนกล แยบยลกลบั กลอกหลอกพี่
ช่างผันแปรแกเ้ ผด็ เมด็ ดี เพราะกระนจี้ ึงกล้าท้าทาย
กรรมเอยกรรมกรรมทาอยา่ งไร จะครอบเมยี เกลยี่ ไกลใ่ หห้ าย
พระนิง่ นึกตรึกตราหาอบุ าย พลางภปิ รายกบั สองกลั ยา
การนลี้ ่วงรู้อย่แู ตเ่ จ้า จงคิดเอาความสบายภายหน้า
ทาคณุ อยา่ สูญซึง่ ศรัทธา อาสาวา่ วอนหล่อนสักที
ถา้ ถอดรปู หนา้ มา้ เวลาไร จงลักเอาเผาไฟให้ป่นปี้
ทั้งพี่ท้ังนอ้ งสองนารี จะใหย้ ศศักด์ิศรีสืบไปฯ

ฯ ๑๐ คา ฯ

๏ เม่ือนนั้ สองนางต่างทูลเฉลยไข
จะอาสาวา่ วอนทรามวัย เห็นจะได้ดังจติ จินดา
แต่จะเป็นวนั ไรไมร่ ู้ ด้วยโฉมตรูไม่ไว้ใจขา้
แม้นเสร็จอารมณ์จินดา จึงจะมาทลู องค์ทรงธรรม์ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือน้นั หน่อกษัตรยิ ป์ รีด์ิเปรมเกษมสันต์
ตรัสกับสาวน้อยสร้อยสวุ รรณ จงพากันพากเพยี รเวยี นไป

212

รบั องคโ์ อรสธิบดี มาเลย้ี งไว้ในน้ีอย่าขาดได้
ราตรีจงพากันคลาไคล ปลอบให้ถอดรปู โฉมยง
แม้นมาตรยนิ ยอมพรอ้ มใจมาบอกให้รู้ความตามประสงค์
ตรัสพลางทางถอดธามรงค์ ประทานท้ังสององค์ทนั ทีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ น้นั สองนางประณตบทศรี
คลานคลอ้ ยถอยมาไม่ช้าทีจรลีลงจากตาหนกั จันทน์ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครั้นถึงห้องนางสัปดน ตา่ งคนปรีดิ์เปรมเกษมสนั ต์
จึงเขา้ ไปเคารพอภวิ นั ท์ ชวนกนั อุ้มองค์กุมารา
โลมลูบจบู พักตรด์ ้วยรักใคร่ มใิ ห้พะวังกังขา
ผกู เปลเห่ใหไ้ สยา แกวง่ ไกวไปมาอยสู่ องคนฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแกว้ แค้นค่งั นงั่ บน่
ผวั เจา้ ห้ามปรามตามยุบล ซุกชนเซอ่ ซ่าลงมาไย
หนอ่ ยรู้จะขเู่ ข่นฆา่ อย่ามาเลยเราไมช่ ว่ ยได้
สององคจ์ งชวนกนั ด่วนไป กลวั ภัยผา่ นฟา้ จะฆ่าตฯี

ฯ ๔ คา ฯ

213

๏ เมอื่ น้ัน นวลนางพ่นี ้องสองศรี
กราบลงตรงหนา้ แล้วพาที บดั นท้ี รงชัยเข้าไสยา
มจี ติ คิดถึงพระกมุ าร เคล่อื นคลาดราชการจงึ มาหา
แมน้ ทราบถึงพระองคว์ ่าลงมา จะสู้รบั อาญาให้ฆา่ ฟนั
เจา้ นายของขา้ จงึ มาเฝา้ หนักเบาอย่างไรไฉนนัน่
ไมอ่ าลยั ในดวงชวี ัน จะกม้ หน้าพากนั ตายไป
วา่ พลางทางทามารยา นง่ั บีบนา้ ตาสะอนื้ ไห้
เพราะตกยากจากเมืองเคอื งใจ จึงเกดิ เข็ญเปน็ ไปดังนี้ฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ บดั นน้ั นางแกว้ ตอบความตามที่
รักเจา้ เราว่าดว้ ยปรานี กลวั จะเสียชีววี างวาย
เจา้ อย่าประมาทราชกิจ ทรงฤทธ์มิ นุ่ มุดใุ จหาย
ขนื มาไมฟ่ ังหลังจะลาย วุ่นวายสมเพชเวทนา
บุญเรายังน้อยถอยศักด์ิ จงออมอดรักชวี ีดีกว่า
แม้นวันใดได้ดีปรดี า จึงจะใหพ้ ่ึงพาสืบไปฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อนนั้ สองนางวนั ทาอชั ฌาสยั
กราบแล้วกราบเล่าเฝ้าพิไร ขา้ ไซร้ยอมกายถวายตวั

ขอเปน็ ข้าไทใตบ้ าท สทิ ธข์ิ าดสดุ แต่แม่อยู่หวั
ท้งั รกั ท้ังยาเยงเกรงกลัว ฝากตัวเปน็ ข้ากว่าจะตาย

214

วา่ พลางต่างคนเข้ากอดบาท วงิ วอนอภิวาทนางโฉมฉาย
เจา้ ประคุณทูลเกล้าเจ้านาย พริ้มพรายเฉิดฉนั ขวัญตา

ข้าพระพน่ี ้องทั้งสองน้ี ยงั ถวิลยนิ ดอี ยหู่ นักหนา
ทาไฉนจะได้ทัศนา พระแมจ่ งเมตตาปรานฯี

ฯ ๘ คา ฯ

๏ บัดนน้ั นางแกว้ ยม้ิ แย้มแจ่มศรี
ตรึกพลางทางกล่าววาที สามใี ชม้ าฤาว่าไร
บอกความตามจริงอย่าน่งิ ชา้ เจา้ รบั สินบนมาฤาไฉน
รู้เทา่ เจา้ ดอกมาหลอกใคร โง่แล้วบรรลยั เพราะมือมารฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น สองนางนบนอบตอบสาร
แมอ่ ย่าเพ่อกรวิ้ โกรธจงโปรดปราน พระภูบาลไม่แจ้งแพร่งพราย

ข้าบาทพีน่ ้องทงั้ สองน้ี เฝ้าจงรักภักดไี มร่ หู้ าย
ก็หวังว่าขา้ เจ้าบ่าวนาย จะมว้ ยมอดวอดวายด้วยอาญา
ว่าพลางสองนางเขา้ วงิ วอน กอดบาทบังอรท้งั ซา้ ยขวา

โฉมยงจะทรงพระเมตตา ถอดให้ทศั นาให้อิ่มใจฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั น้ัน นางแกว้ ฟังวอนค้อนให้
น่าเบ่อื หนกั หนาว่าร่าไร จงกลับไปห้องหับหลบั นอน

215

สนธยาจงมาหาเรา ให้ผัวเจา้ ระงบั หลบั เสียกอ่ น
อย่าตะบอยอ้อยองิ่ วิงวอน เห็นแล้วอยา่ บอนทัง้ สองราฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นั้น สองนางสรวลสนั ต์หรรษา
เขา้ กอดจบู ลูบสองบาทา ลลี าจากหอ้ งท้ังสององค์ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถงึ จึงคลานเขา้ เฝ้า น้อมเกลา้ ทลู ความตามนสุ นธิ์
ขา้ ไปอ้อนวอนผ่อนปรน นฤมลนัดมาวา่ ราตรี

แม้นพระองคท์ รงชัยไสยาสน์ ใหข้ ้าบาทพ่นี ้องทั้งสองศรี
ลอบออกไปหาดังวาที จะถอดหนา้ พาชีฉับพลนั ฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนน้ั หนอ่ กษัตริย์สารวลสรวลสันต์
จึงตรสั เรียกสรุ างค์นางกานัล จงพากันน่ังยามตามไฟ
เราวงิ เศียรเวยี นเกลา้ เมามัว ครนั่ ตวั ร้อนรนหม่นไหม้
อยา่ พดู จาวา่ กลา่ วฉาวไป เราจะนอนหลับใหลใหส้ าราญฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นัน้ นางกานัลคานบั รบั บรรหาร
ออกไปส่ังกันมทิ ันนาน ภบู าลเขา้ ท่ีไสยา

216

ใครใครอยา่ ไดอ้ ื้ออึง ทราบถงึ จะลงโทษา
ทว่ั ทุกสาวสรรกัลยา บอกแจ้งกจิ จาทุกคนไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้ัน หน่อนรินทร์พนิ ทองผ่องใส
ครนั้ ลว่ งปฐมยามชยั หฤทัยเกษมเปรมปรีด์ิ
จึงตรสั ชวนนวลนางพีน่ อ้ ง ลอบออกจากหอ้ งปราสาทศรี
สามองค์ทรงเสด็จจรลี แฝงเงาอัคคีไคลคลาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ พระจึงหยุดอยู่ รมิ ประตลู บั แลงแฝงฝา
สองนางต่างรบี ลีลา เข้าหอ้ งกัลยาทนั ใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ จึงตรงเข้ากราบกราน แสนสาราญย้มิ แยม้ แจ่มใส
บอกวา่ วันน้ดี สี ุดใจ ภวู ไนยเข้าทไี่ สยา

ไลเ่ หล่าสาวสรรกานัลใน ขา้ นี้ดีใจเป็นหนกั หนา
โฉมยงจงทรงพระเมตตา ถอดให้ทัศนาให้อม่ิ ใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นน้ั นางแกว้ ลุม่ หลงไม่สงสัย
ผนิ พกั ตร์ซักสองทรามวยั แกลง้ ใช้ให้มาหลอกดอกกระมัง

217

พลบลงเมอื่ กผ้ี ดิ ทนี ัก ฤาจะลกั บอกนายภายหลัง
มาตรแม้นไมซ่ ่ือถือสจั จัง จะตอ้ งทาโทษท้ังสองราฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื นน้ั สองนางบงั คมก้มเกศา
เสแสรง้ แกล้งกล่าววาจา ตัวขา้ ซ่ือตรงจงรัก
ความนีม้ ไิ ด้พรายแพรง่ ทลู แถลงพระองค์ทรงศักด์ิ
ขอเชิญโฉมยงนงลักษณ์ นานนกั จักไดไ้ สยาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนั้น นางแกว้ ได้ฟังไม่กงั ขา
ยมิ้ พลางทางกล่าววาจา จงเร่งปดิ ทวาราเร็วพลนั

ช่องคอู ยู่ไหนจงไปปดิ ดดั จรติ อย่ไู ยไฉนนน้ั
ครั้งเดยี วเจยี วว่าสญั ญากัน อยา่ ราพันกวนก่อตอ่ ไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ สองนางยนิ ดีจะมีไหน
ชงิ กนั ปิดบานทวารชัย เอาผา้ ไปปิดป้องตามช่องคู
บา้ งยกชวาลามาแต่ง จัดแจงเสียใหไ้ ฟหรุบหรู่
ถอดแล้วจะไดต้ ้งั ใจดู แกล้งจดุ จูเ่ พลงิ ดบั ฉบั พลนั
แล้วแกลง้ ทาตระหนกตกใจ เปิดมาหาไฟขมีขมัน
พระพนิ ทองเขา้ ห้องเรว็ พลนั นางน้นั จง่ึ ได้ไฟมาฯ

218

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ จึงปิดทวารชัย จัดแจงจดุ ไฟไว้ท่า
น่ังยิม้ อ่มิ ใจอยู่ไปมา ผ่านฟา้ แฝงอยดู่ เู ทวฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นั้น นางแก้วหา้ มปรามตามท่ี
เพราะเราคิดเมตตาปรานี จะถอดครั้งเดียวนใ้ี หช้ มเชย

ถอดแลว้ นิ่งไวใ้ นอุรา อยา่ พดู จาชเู ชิดเปดิ เผย
การนี้โด่งดังไมฟ่ ังเลย จะชวดเชยผวั ขวัญมนั่ คง
วา่ พลางวางองค์พระลกู แก้ว หลบั แล้วชื่นชมสมประสงค์
แล้วดาเนินเดนิ ไปใหล้ บั องค์ แล้วถอดรปู โฉมยงทันทฯี

ฯ ๖ คา ฯ

๏ กลายเป็นนางงามทรามวยั ทรงลักษณว์ ิไลเฉลิมศรี
นาฏกรออ่ นคอจรลี มายังสองนารีทนั ใดฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ คร้ันถงึ จงึ นง่ั ลงตรงหนา้ แยม้ พรายชายตาแลว้ ปราศรยั
ทงั้ คจู่ งดูให้อ่มิ ใจ เบือ้ งหนา้ อยา่ ได้รบกวนกนั ฯ
ฯ ๒ คา ฯ

219

๏ เมอ่ื นั้น สองนางตา่ งเปรมเกษมสันต์
กราบลงตรงพักตรแ์ จ่มจันทร์ ชวนกนั เข้ากอดเอาบาทา
เจ้าประคุณบุญสรา้ งไว้อย่างไร จึงเฉดิ โฉมวไิ ลดังเลขา

สมควรเปน็ เจ้าชาวพารา ใตฟ้ า้ ไม่เอยี่ มเทยี มทรง
วา่ พลางลูบไลไ้ ปมา จบู สองบาทานวลระหง
พดู พลอดกอดกระหวดั รัดองค์ มใิ ห้นางโฉมยงรู้ทีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื นั้น พระพินทองมองเหน็ พระโฉมศรี
แมน่ แท้อนงค์องคม์ ณี ภูมรี นั ทดสลดใจ

ขนงเนตรเกศกรอ่อนช้อย แนง่ นอ้ ยงามขายังจาได้
ชา่ งยอกย้อนซ่อนกลเปน็ พ้นไป ทาใหด้ ่าทอพอการ

คร้ังนี้ถงึ ทีจ่ ะงอนง้อ จะตัดพ้อผัวนกั หักหาญ
ชลนัยนไ์ หลหล่อดงั ทอ่ ธารคิดสงสารลูกน้อยกลอยใจ
พระครวญพลางทางนกึ ตรึกตรา จะเผารูปหน้ามา้ เสยี ให้ได้
คิดพลางทางองค์พระทรงชัย ฉวยได้รูปรบี จรจรัลฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมือ่ นั้น โฉมยงหลงเปรมเกษมสันต์
เหลียวสบพบพักตร์พระทรงธรรม์ พารูปนางนนั้ ออกไป
ยงั สุดแสนเสยี ดายไมว่ ายรกั พลิกผลกั สองราไมป่ ราศรัย

สองนางต่างรัดกระหวัดไว้ ทรามวยั วิ่งผลุนหมนุ มา

220

ตรงเข้าอุตลดุ ฉุดชงิ พระวางว่งิ หนีนางไปข้างหน้า
ท้ิงเข้าเพลิงพลันมทิ ันช้า รูปนางหน้ามา้ กส็ ญู ไปฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ เม่อื น้นั นางมณโี กรธาน้าตาไหล
จะโลดโผนโจนเข้ากองไฟ พระรวบรัดรบั ไวท้ นั ที
ตา่ งองคอ์ ุตลดุ ฉดุ ครา่ สองนางต่างพากนั หลีกหนี
พระโฉมยงกับองค์นางมณีปล้าปลกุ คลกุ คลีพัลวนั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื นนั้ นางมณเี คอื งขุ่นหนุ หนั
ผินหน้าวา่ กับพระทรงธรรม์ มาทาข่มเหงกันดว้ ยอนั ใด

เหตเุ หน็ เปน็ เจา้ ชาวบุรี ข้าน้จี ะทาอะไรได้
ฉกลกั รูปเขามาเผาไฟ เหตผุ ลกลใดจงบอกมาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือนัน้ พระพนิ ทองยม้ิ พลางทางวา่
รปู นไ้ี ม่มีอัธยา ปิดบงั เมยี ข้าไวใ้ นน้นั

แค้นนกั จงึ ลักมาจนได้ เผาให้สาสมทคี่ มสัน
จับได้ไม่โกรธปรบั โทษทณั ฑ์ เผาเสยี อย่างนน้ั สนุกใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

221

๏ อดสู ไหนชู้เมยี ท่านนา่ หมัน่ ไส้
พูดเลน่ พล่อยพล่อยอร่อยใจ จะระคายอายใครก็ไม่มี

อแี ก้วสัปดนคนสาธารณ์ มารกวงั รงั ควานอย่ทู ี่นี่
เคอื งขายบาทาพาอัปรยี ์ พระตรสั ดงั อย่างนี้ทกุ ววี่ นั
เขายอ่ มรอู้ ยทู่ ่ัวทุกตวั ตน ว่าเป็นคนจังไรไอศวรรย์
ยใุ หเ้ มยี ดา่ คดิ ฆา่ ฟนั ลืมแล้วฤานนั่ เร่งบอกมาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ น้องแก้ว ผดิ แล้วอยา่ ถอื โทษา
พี่นี้โง่เง่าเยาว์ปัญญา ชวั่ ช้าทกุ ส่ิงจริงจงั
พ่งึ ประจักษแ์ จ้งใจได้เห็น แตน่ ไี้ ปไมเ่ ป็นเช่นแตห่ ลัง
อยา่ เง้างอนค้อนติงชงิ ชงั จงปรานีพ่ีบา้ งเถิดดวงใจ
ตรสั พลางทางโอบอุ้มกมุ กร จะชาเลอื งเคืองค้อนไปถึงไหน
พีข่ อเชญิ โฉมงามทรามวัย ไปเนาในปรางคศ์ รใี หป้ รีดาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั นางมณยี ้ิมพลางทางว่า
กยุ๋ เก้อละเมอเจรจา นกึ มาน่าอัปยศอดอาย
ตวั ขา้ กาดาต่าศักด์ิ ไมค่ วรเคยี งเรยี งพักตร์พระโฉมฉาย
แตร่ ว่ มวังยงั แค้นแสนอาย หญิงชายชาววงั จะเล่อื งลอื
จะชวนให้ไปอย่เู ปน็ คู่เคล้าไมก่ ลัวเขาหัวเราะเยาะเล่นหรือ
ว่าพลางสะบัดปดั มอื แยง่ ยอ้ื ฉดุ ครา่ ไว้ว่าไร

222

ลูกรักจักทรงโศกี ดว้ ยบิดาหามีเหมือนเขาไม่
ลูกทางกลางป่าพนาลยั เลี้ยงไวท้ บุ เล่นเช่นปลา
วา่ พลางค้อนควักผลกั กัด เบือนสะบัดสะเทน้ิ เมนิ หน้า
คืนเขา้ ห้องในไสยา แกลง้ ปดิ ทวาราฉับพลันฯ

ฯ ๑๐ คา ฯ

๏ เมอ่ื นนั้ หนอ่ กษัตรยิ เ์ พราเพริศเฉิดฉัน
ตามนางยา่ งเย้ืองจรจรัล ทรงธรรมผ์ ลกั บานทวารชยั
แล้วตรสั ปลอบโฉมยงนงลักษณ์ นอ้ งรักผยู้ อดพิสมยั
เจา้ ลนั่ กลอนซ่อนตัวกลัวใคร ดวงใจจงรับเรยี มรา
ขอ้ คิดผิดพลั้งแต่หลังนั้น จะทาขวญั ม่ิงมติ รขนิษฐา
โฉมเฉดิ จงเปิดทวารา อย่าโกรธาสลัดตัดรอนฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ นนั้ โฉมยงองคม์ ณีศรีสมร
ฟังตรสั มธุรสสนุ ทร นางยิ้มย้อนทูลองคท์ รงชยั
พระอย่าแกลง้ แต่งข้อล่อลวง ซาบทรวงพ่ีแสนพสิ มยั

ไม่เกลยี ดอีหน้าม้าฤาวา่ ไร เชญิ ไปเมืองโรมบรุ ฯี
ฯ ๔ คา ฯ

๏ แสนคม ลิ้มลมละเมียดเสียดสี
เรยี มรักนักแตแ่ ม่มณี การนีย้ อ่ มรู้อยู่ด้วยกนั

223

เดมิ ทตี ัวพสี่ ญั ญาไว้ จะรักใคร่แก้วตาจนอาสญั
กส็ มหวังดงั จิตคิดกัน สาวสวรรค์จงไดเ้ มตตา
ว่าพลางทางผลกั ประตหู ้อง เสียงพิลกึ กึกก้องหนักหนา
คกึ คักผลกั ไสกนั ไปมา ทวาราหกั พบั ยบั ไปฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ โฉมยงจึงตรงเข้าหยิกตี จะมีความปรานีกห็ าไม่
คอ้ นเคืองเยื้องย่องเข้าหอ้ งใน ผนิ หลงั นัง่ ไกวพระกุมารฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอื่ นั้น พระพินทองว่องไวใจหาญ
ต้องหยกิ ตีป้ปี ่นสทู้ นทาน แลว้ ตามองค์นงคราญเข้ามา
ลงน่ังแนบแอบองิ พิงพาด เพราะความแสนพศิ วาสหนกั หนา

โฉมเฉิดเลิศล้ากลั ยา อนิจจาขัดเคืองพเ่ี ร่ืองไร
จากเจ้าเศร้าทรวงเป็นหว่ งหนกั จนเผอื ดพักตร์ตรมตรอมผอมไผ่

พงึ่ พบแกว้ แววตายาใจ ประหนึง่ ได้ดอกฟา้ มณฑาทอง
จงคิดถงึ ความหลังคร้งั นัน้ อยา่ ดดุ ันขวยเขนิ เมนิ หมอง
ตรสั พลางเชยช้อนกรตระกอง นวลละอองจงไดเ้ มตตาฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ บัดสี ช่างพาทงี ่ายงา่ ยไม่อายหนา้
ไม่เคยครู่ ู้จักพักตรา พระอยา่ มาโลมเลา้ เคล้าคลึง

224

ชาติอหี นา้ มา้ ตาจระเข้ เสเพลไม่เยีย่ มขึ้นเทียมถงึ
ฟุ้งเฟ่ืองเล่ืองลอื ออกอ้ือองึ กูมึงทั้งเมืองเครื่องอัปรีย์
ความหลงั อย่างไรไม่ประจักษ์ พระอย่าพักเกลีย่ ไกลใ่ สส่ ี
ทราบแต่ถงึ วังครัง้ น้ี พันปีกร้ิวโกรธคมุ โทษทณั ฑ์
บัญชาวา่ แมน้ จะมว้ ยมิด ไมข่ อคดิ ปลักปลอมกับหม่อมฉัน
ถึงจะชุบตัวใหม่วิไลวรรณ ทรงธรรม์กไ็ ม่อยากไยดี
ชาววงั ท้ังส้นิ ไดย้ นิ ทวั่ เกลยี ดกลวั อบั อายจนหน่ายหนี
มทิ นั ลว่ งเวลาราตรี มาเปน็ เช่นนอ้ี นาถใจ
เขฬะพระถม่ ลงจมดิน จะกลับคืนกลืนกินกระไรได้

เชิญเสดจ็ ผ่านฟา้ คลาไคล คนจนจะไดไ้ สยาฯ
ฯ ๑๒ คา ฯ

๏ แสนคม ลนิ้ ลมแหลมหลกั หนกั หนา
ใครใช้ใหแ้ สร้งแปลงกายา อนจิ จาไม่แจ้งแพรง่ พราย
ผดิ พลั้งครงั้ ก่อนมางอนง้อ ยงั เคอื งขดั ตดั พอ้ ไมร่ ู้หาย
โฉมยงจงล้างให้วางวาย จะยอมอยูส่ ตู้ ายไม่กลับไป
พี่กับทรามเชยเคยเปน็ คู่ จะขม่ ขตู่ ะบึงไปถึงไหน

ผวั เก่าเมียเขาเคยเขา้ ใจ เยื่อใยยังติดสนิทดี
ว่าพลางเลีย้ วลอดกอดรดั อะไรเจา้ เฝ้าสะบดั เบือนหนี
แตพ่ ลดั พรากจากมากวา่ ปีแกว้ พีจ่ งหย่อนผอ่ นปรนฯ

ฯ ๘ คา ฯ

225

๏ ฟงั บัญชา วนั ทาทลู ความตามนุสนธ์ิ
น้องน้ีสุดเสงย่ี มเจยี มตน ยากจนขายเบื้องพระบาทา
จะละโบมโลมเลี้ยงเคยี งพักตร์ ตา่ ศกั ด์ิไมส่ มวาสนา

เมยี รู้จะจูจ่ รมา ฝ่ายข้าสาหรับจะอบั อาย
พระองค์จงย้ังหยุดคิด โดยระบอบชอบผิดทง้ั หลาย
ขา้ บาทไมอาจออกกาย ให้เคืองขายบาทาฝ่าธุลฯี

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ยอดม่ิง ความจริงไม่แจง้ แสร้งใส่สี
ถงึ โฉมยงองค์พระบุตรี แต่เจา้ มยี ศถายง่ิ กว่าคน
หนงึ่ แก้วมคี ุณแกผ่ วั แกว้ ควรแลว้ จะรกั เปน็ พักผล
นางอะไรหม่นื แสนแดนสกล ไมเ่ หมือนม่ิงนฤมลอยา่ เจรจา
จะถนอมกล่อมเกลี้ยงเลีย้ งเจา้ ประเทยี บเท่าดวงเนตรเชษฐา
ขอเชญิ โฉมอรไทไคลคลา ไปนทิ ราปรางค์ศรีกับพ่ชี าย
ตรัสพลางทางอุม้ เอาลูกรักพศิ พักตร์สายใจพระทยั หาย
ชลนัยน์ไหลหลงั่ พร่งั พราย รับขวญั บรรยายไปมา
โอ้ลกู น้อยกลอยใจนยั น์เนตร บิตเุ รศโงเ่ งา่ เขลาหนักหนา

ไม่ร้จู ักพกั ตร์แกว้ แววตา ช่ัวชา้ ทุกสงิ่ จริงจัง
ว่าพลางทางอุ้มพระลูกชาย ดว่ นเสดจ็ ผันผายโดยหวัง

นางมณโี กรธเกรีย้ วเหน่ียวร้งั ออื้ องึ ตงึ ตังตามไปฯ
ฯ ๑๒ คา ฯ

226

๏ ครัน้ ถงึ ซึ่งปรางคร์ ัตนา พระเรยี กสองกลั ยามาใกล้
ส่งลูกให้พลนั ทันใด จงู หัตถท์ รามวัยเขา้ ห้องทองฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ น่งั เหนอื แท่นรัตน์ชชั วาลย์ แสนสาราญเกลยี วกลมสมสอง
เอนแอบแนบเน้ือนวลละออง ต่างปรองดองระงับหลบั ไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ รงุ่ รางส่างแสงสรุ ยิ ง พระชวนองค์นางมณศี รีไส
มาโสรจสรงทรงเครือ่ งอาไพ นงั่ ในแทน่ รตั นร์ จนาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นั้น สาวสนมกานลั ถ้วนหนา้
ถึงเวลาเฝ้ากเ็ ขา้ มา หมอบเมียงเรยี งหน้านารี
ผนั แปรแลเหน็ พระโฉมยง น่ังแนบแอบองค์มณีศรี
งามดงั สรุ ยิ งทรงฤทธี เคยี งองค์จันทรีในอัมพร
ตา่ งคดิ พิศวงหลงใหล รักใคร่พุ่มพวงดวงสมร
ตา่ งเขา้ น้อมกายถวายกร วงิ วอนงอนง้อขออภัย
โฉมยงจงทรงพระเมตตา อยา่ ได้ถอื โทษาบา่ วไพร่
ผิดพล้งั บังอาจประมาทใจ ทรามวัยจงโปรดปรานฯี

ฯ ๘ คา ฯ

227

๏ เม่ือนนั้ โฉมยงองค์นางมณีศรี
ยิ้มพลางทางตอบวาที สาวศรีอย่ารอ้ นวญิ ญา
ไมช่ ิงชังรังเกียจเดยี ดฉันท์ จงเป็นพ่ีนอ้ งกนั ไปวนั หน้า
ขา้ กรมเดยี วกนั ไม่ฉันทา รักกนั ดีกว่าเปน็ ไรมฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดน้นั สาวสรรบังคมก้มเกศี
ชื่นใจในรสวาที ต่างมเี สนหาอาลัย
พร้อมพรัง่ น่ังพิศรูปโฉม แลประโลมเลศิ ล้าตา่ ใต้
ชนื่ ชมสมภารสาราญใจ หฤทัยเกษมเปรมปรีด์ิฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ นั้น นวลนางพ่ีนอ้ งสองศรี
เลยี้ งพระหน่อไทธบิ ดี อย่ทู ่หี ้องในไสยา
พวยพ่งุ ร่งุ แสงสรุ ยิ ง โสรจสรงเสรจ็ พลันหรรษา
โอบอุ้มจุมพติ พกั ตรา พามาเฝา้ องค์ทรงธรรม์ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั ถงึ จึงคลานเขา้ ไป กราบไหวเ้ ทวขี มขี มัน
ทูลวา่ ขา้ รบั โทษทัณฑ์ ชวี นั อยใู่ ต้บาทา
เลย้ี งไว้จะได้เป็นเกือกทองพน่ี อ้ งจะพน้ โทษา

แม้นมเิ ลย้ี งไว้ใต้บาทา เห็นวา่ จะไมป่ ลอดรอดตาย

228

มิทูลจาทลู พระทรงฤทธ์ิ เพราะจะลา้ งชวี ติ ใหฉ้ ิบหาย
ทูลพลางทางอุ้มพระลูกชาย ถวายนางโฉมฉายทนั ทีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมือ่ นนั้ โฉมเฉลาเยาวยอดนารีศรี
รับโอรสาแลว้ พาที เจ้านีป้ ระมาทอาจอง
เดิมเราสญั ญาวา่ ไว้ มใิ ห้ทลู ความตามประสงค์
เจา้ รับคาสาคัญม่นั คง เหตุไรไม่คงสจั จา
ฤาเห็นเราสถุลบุญน้อย ตา่ ต้อยไมม่ วี าสนา
พันปีเธอมีพระอาญา กลัวกวา่ เราฤาประการใดฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ นัน้ สองนางอกสน่ั หวน่ั ไหว
สุดคิดสดุ จนเป็นพน้ ไป มิได้โตต้ อบวาที
กราบแล้วกราบเล่าเฝา้ กราบกราน ตวั สน่ั สะท้านดงั ลงผี
หมอบนงิ่ ไมต่ ิงอนิ ทรีย์ ความกลัวชวี ีวายชนม์ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื น้นั หนอ่ กษัตรยิ ต์ รัสตอบอนสุ นธิ์
ซึง่ นารีพี่น้องสองคน โทษใหญ่หลวงลน้ จะราพัน
ผัวรักจักขอชวี ิตไว้ เจ้าอยา่ ได้เคืองขุ่นหุนหัน

เหตเุ พราะพี่ยาจะฆา่ ฟนั นางน้ันจงึ แจง้ แหง่ คดี

229

คณุ โทษนน้ั ครง่ึ ก่ึงกนั จอมขวญั หยุดยั้งฟงั พ่ี
แม้นทหี ลงั ยงั เปน็ เช่นนี้ จะฆา่ ตีไม่ห้ามตามใจ
ตรัสพลางทางอุม้ พระลูกรัก กอดจูบลูบพกั ตร์พสิ มยั
แลว้ ตรัสสงั่ ท้าวนางข้างใน เรง่ ไปจดั สรรทันที
แมน่ มพี่เลี้ยงเคยี งประคองอู่ทองอา่ งสรงวารีศรี
ให้พ่นี อ้ งทง้ั สองนารี ใหญก่ วา่ นารที งั้ วงั ใน
แลว้ ภูบาลประทานเคร่ืองทรง ต้งั เป็นจอมอนงคน์ ้อยใหญ่
ใหเ้ ปน็ คนสาหรับรับใช้ อยใู่ นโฉมยงนงคราญฯ

ฯ ๑๒ คา ฯ

๏ บัดนั้น ทา้ วนางคานบั รบั บรรหาร
ออกจากไพชยนต์ลนลาน จัดการตามมีบญั ชามาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนนั้ พระพินทองสุรยิ ว์ งศ์พงศา
นั่งแนบแอบชดิ พนดิ า ชชู ่ืนวญิ ญาพันทวี
คลงึ เคล้าเฝ้าชมสมสวาดิ แอบอิงพิงพาดเกษมศรี
แล้วชวนแกว้ กัลยานารี จรลขี น้ึ เฝ้าท้าวไทฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั ถึงซึ่งปรางคม์ รกต เข้าไปประณตประนมไหว้
อุ้มองค์พระกมุ ารชาญชยั ถวายสองท้าวไทฉับพลนั ฯ

230

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมือ่ นน้ั สองกษัตรยิ ์ธริ าชรังสรรค์
รบั องค์นดั ดามาพลนั ทรงธรรมม์ ุง่ มองป้องพกั ตรา

พศิ ดูรูปร่างนางมณี เลศิ ล้านารีในแหลง่ หลา้
จึงเออื้ นอรรถตรัสถามลูกยา เมียมาตามฤาประการใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ นน้ั พระโอรสยิม้ แย้มแจ่มใส
กราบพลางทางทลู ฉลองไป มใิ ช่ชาวโรมบุรี
โฉมตรอู ยกู่ รุงมิถลิ า ผา่ นฟ้าไม่ทราบบทศรี
ทลู พลางทางถวายอัญชลุ ี ภมู ีแยม้ ยิ้มพริม้ พรายฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือน้นั สองกษัตริยต์ รัสไปดังใจหมาย
อยนู่ ี่ท่ไี หนไมเ่ หน็ กาย โฉมฉายซอ่ นซนอยู่หนใด
รปู ทรงโสภายาจิต พกั ตร์พิศดงั ดวงแขไข
น่ฤี าคือบุตรของทรามวัย เหมอื นลกู อีจงั ไรสปั ดนฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ น้ัน พระโอรสทูลแจ้งแหง่ นุสนธ์ิ
สององค์ทรงภพจบสกล มไิ ดแ้ จง้ ยบุ ลตน้ ปลาย

231

ซ่งึ นวลนางโฉมยงองคน์ ้ี เป็นท่ีผูกพนั มน่ั หมาย
ทลู ความตามขนั บรรยาย ให้ทรงแจง้ แพร่งพรายทุกประการฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อน้นั สองกษัตริยป์ รดี เิ์ ปรมเกษมสานต์
ลงจากแทน่ ที่ตะลีตะลาน สวมกอดเยาวมาลย์แล้วตรสั มา

ดดู ู๋ยอกย้อนซ่อนรปู ทรง พอ่ นีโ้ งง่ งเปน็ หนักหนา
ได้ลบหลู่ดถู ูกลูกยา อย่าถือผดิ บิดาเลยดวงใจ
นอ้ ยฤารูปราวสาวสวรรค์ น่าชมสมกันจะหาไหน
สวมรูปหน้ามา้ ไวว้ า่ ไร น้อยใจหนกั หนาเป็นน่าชัง
มารดรกรกอดศรสี ะใภ้ ทรามวยั กอดจูบลูบหลัง
นอ้ ยฤาดวงจิตชา่ งบิดบงั ลูกนอ้ ยร้อยชง่ั ระกากายฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น นางมณีทูลไปดงั ใจหมาย
รูปน้เี กิดกับสาหรับกาย จงึ มคี วามเสยี ดายเปน็ พน้ ไป
ซึ่งขอ้ คิดปดิ บงั ทั้งน้ี เพราะมีความสมัครรักใคร่

จึงลูกไม่ผูกโพยภยั ชวี ติ อยใู่ ตพ้ ระบาทาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื นั้น บิตุรงค์ทรงพระสรวลสารวลรา่
แม่เจ้าเขาดีมีปญั ญา ตรึกตราถูกตอ้ งทานองใน

232

บุญคุณของเจ้าเทา่ แผน่ ภพ ช่วยรบแกผ้ วั เอาตวั ได้
จะเลย้ี งแกว้ แววตายาใจ เปน็ ใหญย่ ิ่งกวา่ ทุกนารี
ว่าพลางทางอมุ้ พระนัดดา จุมพิตพักตราเกษมศรี
หลานเอย๋ คดิ มานา่ ปรานี ปูน่ ้ชี ว่ั ช้าสารพัน
ละเลยเจ้าไว้ให้ได้ยาก ท่ลี าบากตกต่าจะทาขวญั

ทนี ้ปี ระจักษจ์ ะรักกนั ตรัสพลางสรวลสนั ต์สน่นั ไปฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมอื่ น้นั หน่อนรนิ ทรพ์ ินทองผ่องใส
จึงชวนโฉมนางงามทรามวยั ทลู ลาคลาไคลยังปรางคป์ ราฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถงึ จงึ เข้าในห้องทอง นั่งแนบแอบน้องเสนหา
กอดเกยเชยชมภิรมยา ถอ้ ยทีปรดี าสาราญฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระองคผ์ ู้ดารงราชฐาน
เนาในปรางค์รัตนช์ ัชวาลย์ เบิกบานในราชหฤทัย
คดิ จะเสกเอกองค์โอรส ให้ลอื นามงามยศเปน็ ใหญ่
ควรจะคดิ ไวว้ างต่างใจ จึงปรกึ ษาทรามวยั ทนั ทฯี

ฯ ๔ คา ฯ

233

๏ จะเสกพระโอรสยศยง ครองกรงุ กบั องค์มณีศรี
ตวั เราแก่เฒ่าลงทุกที นบั ปีจะม้วยมรณา

จะฝากซากศพพระลูกรัก พร้อมพักตรอ์ ยนู่ ด่ี ีหนักหนา
ไปอยู่ต่างเวยี งชัยไกลตา มารดาจะเห็นเปน็ อยา่ งไรฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นนั้ นางมณฑาเทวศี รใี ส
กราบพลางทางทลู ทันใด พระตรึกไตรต้องอย่างทางธรรม์

ถึงนวลนางมณนี ้เี ล่า ใช่พงศ์เผา่ กษตั ริย์รงั สรรค์
บญุ มเี ป็นท่ีอศั จรรย์ กมุ ภณั ฑย์ ังแพ้ฤทธา
ควรจะอภเิ ษกเอกฉตั ร ผา่ นสมบัติสบื วงศพ์ งศา
ชว่ ยชีพกษตั ริย์ภัสดา มีคณุ ลกู ขา้ เปน็ พ้นไป
รู้ถงึ เมืองโรมบรุ ี จะวา่ กลา่ วเรานีก้ ็มิได้

คเู่ สกเขารักกนั ร่วมใจ โอรสยศไกรเป็นประธานฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ ฟงั เมียรัก ทรงศักดส์ิ รวลสันตแ์ ลว้ บรรหาร
ทา่ นแมผ่ ัวตวั ดีปรีชาชาญ กล่าวการตามธรรมเนียมมา
หมื่นแสนแมน้ จะเป็นสะใภ้ เห็นจะไม่มุง่ มาดปรารถนา

สมตรกึ นึกไว้ได้หน้าตา ตรสั พลางผา่ นฟา้ จรลีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

234

๏ คร้นั ถงึ พระโรงเรืองรอง น่ังบนแทน่ ทองผอ่ งศรี
พร้อมหมูอ่ ามาตยม์ นตรี ภมู ีตรสั ถามโหรา
วนั ใดจะได้ฤกษ์เอก เราจะอภิเษกโอรสา

สมโภชท้ังหน่อกษัตรยิ น์ ดั ดา เรง่ ดูฤกษเ์ วลานาทฯี
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั น้ัน โหรเฒ่ารบั สัง่ ใส่เกศี
นงิ่ นับจบั ยามตามคัมภีร์ แลว้ ชลุ ที ลู องคท์ รงธรรม์
ฤกษ์ยามสามค่าเป็นกาหนด ปลอดปลดทกั ทนิ ยมขันธ์
บ่ายเบิกฤกษด์ ีตรจี นั ทร์ ทรงธรรมจ์ งทราบพระบาทาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังทลู เพ่ิมพนู ภิรมย์หรรษา
จงึ เออื้ นอรรถตรสั ส่งั เสนา เรง่ ปลกู โรงมหาพิธีการ
แลว้ ชวนกันเรง่ รดั จัดแจง ตกแตง่ จงรอบราชฐาน
สงั่ เสร็จเสดจ็ บทมาลย์ เขา้ ปราสาทสรุ กานตท์ ันใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั น้นั เสนีผ้มู อี ัชฌาสัย
ต่างเร่งรีบร้อนไมน่ อนใจ มาเกณฑ์ไพร่ระดมสมทบ
ทาการอุตลดุ ไมห่ ยุดยั้ง กรมวงั กรมนามาบรรจบ
แบง่ ปันกนั ทาจนคา่ พลบ แตง่ ตามขนบธรรมเนยี มมาฯ

235

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครั้งถึงกาหนดสยมุ พร รบี ร้อนมายังขา้ งหนา้
เร่งรัดจัดกระบวนโยธา เส้ือผา้ หลายอย่างต่างกัน

บา้ งถือธงเทยี วเขียวแดง สีแสงสลับขบขนั
พรอ้ มพรัง่ หลงั หน้าหา้ พนั ชวนกันรอรบั พระทรงชัย
บ้างเทยี มรถสรุ กานต์ยานมุ าศ เกล่ือนกลาดคู่แหแ่ ลไสว
ค่ังคบั สบั สนปนไป นายไพร่พรอ้ มพรั่งระวังการฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อนน้ั พระพนิ ทองวอ่ งไวใจหาญ
ครั้งรงุ่ รางสางแสงสุรยิ ์กานต์ ภูบาลถวิลยินดี
จงึ เอ้อื นอรรถตรสั ชวนนวลละออง เสด็จออกจากห้องมณศี รี
กรายกรย่างเยื้องจรลี มาเขา้ ที่โสรจสรงคงคาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ลูบไล้เครอ่ื งต้นสุคนธธ์ าร หอมหวานซบั ซาบมงั สา
พระสวมสอดสนบั เพลาพราวตา นางนุง่ ผ้าจัดกลีบจบี ประจง

พระนงุ่ ยกกรองทองระยับ นางช่วยจบั ไวว้ างหางหงส์
พระเสร็จสวมตาดทองฉลององค์ นางโฉมยงทรงสะพักอาไพ
พระเสรจ็ เจียระบาดคาดเขม็ ขัด นางทรงผดั พักตรแ์ ลดังแขไข
พระทรงตาบทบั ทรวงดวงวิไล นางทรงนวมสวมใสส่ ังวาลวลั ย์

236

พระทรงทองกรแกว้ แววไวนางสอดใสธ่ ามรงค์เฉดิ ฉนั
พระสวมทรงมงกฎุ พรายพรรณ นางทรงรดั เกล้ากดุ น่ั จินดาดีฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ ครน้ั เสรจ็ เสด็จยรุ ยาตร นาองค์อคั รราชนารีศรี
ออกจากห้องสุวรรณทันที จรลขี น้ึ เฝา้ พระบิดาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื นนั้ กรุงกษัตรยิ ์ช่ืนแช่มแจม่ ใส
จงึ ตรัสกบั ลกู รักร่วมใจ พ่อไซรถ้ วิลจนิ ดา
โฉมยงองค์นางมณีนาฏ จะเป็นองค์อัครราชเสนห่ า
ท้งั เกิดบตุ รสดุ สายกษตั รา ยายตาควรคงเป็นพงศ์พันธ์ุ
พอ่ จะใหไ้ ปรับเขา้ มาดว้ ย จะไดช้ ว่ ยทามิ่งสิ่งขวัญ
เพราะลูกหลานว่านเครอื เจือกัน เจ้านัน้ จะเห็นเปน็ อย่างไรฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เม่ือนน้ั พระทรงโฉมประโลมพสิ มัย
จึงนบน้ิวทูลพลันทันใด ซึง่ ตรสั มานไี้ ซรเ้ ห็นควรนัก
พระองค์จงใหไ้ ปรบั มา ถึงแมน้ ว่าบุญน้อยถอยศักด์ิ

บตุ รมี คี ุณการุญรกั ควรจกั คานับรบั พรฯ
ฯ ๔ คา ฯ

237

๏ ฟงั โอรส ทรงยศมีความสโมสร
จึงตรัสส่งั สุรางค์นางนกิ ร รบี ร้อนผายผันใหท้ ันที
จงนาวอช่อฟ้าคลาไคล ออกไปยังบ้านท่านเศรษฐี
พรายแพร่งแจ้งความตามคดี เชิญมาบดั นอ้ี ยา่ นอนใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนั้น สาวสรรรบี ส่ังไมย่ ั้งได้
ชวนกันวันทาคลาไคล ออกไปเรียกวอจรจรัลฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ได้พร้อมก็ชวนกนั ดว่ นจร รีบร้อนจากท่ีขมีขมัน
เลี้ยวลัดรัถยามาพลนั บ้างหามวอสวุ รรณตามมาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถงึ จงึ ข้ึนบนบนั ได กราบไหว้เศรษฐีมียศถา
ท้าวนางต่างแจ้งกิจจา พระธิดาท่านไซร้ได้ดี
สองกษัตรยิ ส์ รุ ิยว์ งศท์ รงชัย จะเสกให้เปน็ ม่งิ มเหสี
กาหนดจะทาขวญั วันน้ี ให้เชิญทา่ นจรลที ง้ั สองราฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นัน้ สองเฒา่ ได้ฟังไม่กงั ขา
ชนื่ ชมสมใจได้หนา้ ตา ลุกเข้าเคหาทนั ใด

238

ทา่ นตานงุ่ ผา้ ลายฉลาง ยายนุ่งตารางแกมไหม
ห่มผา้ มสั รดู่ วู ิไล แล้วออกจากหอ้ งในฉบั พลนั
ยืนอย่ดู ูวอช่อฟ้า ขึน้ หน้าเป็นเหมเกษมสันต์
เปรมปร่ิมย้มิ เยื้อนเตือนกนั ใหน้ ง่ั ในวอสุวรรณทนั ใด
ยองยองมองซา้ ยมองขวา กอดอกตกประหม่าจนเหง่ือไหล
กลัวตกงกงนั พรัน่ ใจ โขลนจา่ พาไปทนั ทีฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ ครั้นถึงจึงลงจากวอทองทงั้ สองมหาเศรษฐี
ท้าวนางต่างนาจรลี เข้าเฝา้ พันปีฉับพลนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ กราบลงตรงพักตรภ์ มู ี ทา่ มกลางนารสี าวสรร
ไม่รู้จักธิดาลาวณั ย์ ชวนกันหมอบน่งิ ไมต่ งิ กายฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือนนั้ หน่อกษัตรยิ เ์ พราเพรศิ เฉดิ ฉาย
ยกกรวันทาท่านตายาย โฉมฉายเข้ากราบกับบาทา
สองนางต่างอุ้มพระโอรส เข้าไปประณตตรงหนา้

นางโฉมยงรับองคล์ กู ยา สง่ ให้เจ้าขรวั ตาทันทฯี
ฯ ๔ คา ฯ

239

๏ บัดน้ัน ยายตามหาเศรษฐี
ชอู งค์พระหน่อธิบดี มริ ทู้ ่ีจะวางลงอย่างไร
เหน็ ธิดามายอบหมอบคลาน ลนลานพงั พาบลงกราบไหว้
ทาเหลียวหลังเหลยี วหน้าแล้ววา่ ไป แมโ่ ฉมงามนามใดนะทรามเชย
เราเปน็ คนยากเย็นเขญ็ ใจ มาวนั ทาข้าไยนะแม่เอย
ไหนออแก้วลูกขา้ ไมม่ าเลยชะแง้เงยแลหาตาเหลือกลานฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื นน้ั กรุงกษัตรยิ ์สรวลสนั ต์แลว้ บรรหาร
นนั้ และคือองค์นางนงคราญ พระกมุ ารหน่อกษัตรยิ เ์ ป็นนดั ดา

แลว้ เล่าความตามต้นแตห่ นหลงั ทรงพระสรวลเสียงดังร่าร่า
เราเป็นเกีย่ วดองกันนะท่านตา จงเชยชมธิดาใหอ้ ิม่ ใจ

รปู หลอ่ นแต่ก่อนกบั เดี๋ยวนี้ สองเศรษฐีจะเห็นเปน็ ไฉน
จะเสกสองใหค้ รองพระเวียงชัย เราจะได้ฝากชีพชวี นั ฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดน้นั สองเศรษฐีปรีดเ์ิ ปรมเกษมสนั ต์
สวมกอดธิดาวลิ าวัณย์ ชวนกันกอดจูบลบู พกั ตร์
น้อยฤารปู รา่ งดงั นางฟ้า จนมารดาแปลกไปไมร่ ู้จกั
ชงิ กันชมพระกมุ ารหลานรัก เฝา้ สอบซกั ปราศรัยกันไปมา

ฯ ๔ คา ฯ

240

๏ เมื่อนัน้ ทา้ วมงคลราชนาถา
ครน้ั เบ่ยี งบ่ายชายแสงสุริยา จงึ ตรสั ชวนสุนสิ านารี
ทงั้ นงลกั ษณอ์ ัคเรศโอรสราช พวกพระญาตเิ กีย่ วดองสองเศรษฐี

แห่หอ้ มล้อมล้วนแตน่ ารี จรลียังเกยสรุ กานตฯ์
ฯ ๔ คา ฯ เสมอ

๏ ตา่ งองค์ทรงรถเรียงรนั นางกานลั เชิญเคร่ืองเน่ืองขนาน
สองเศรษฐีข่ีวอชัชวาล แหอ่ อกนอกทวารวงั ในฯ
ฯ ๒ คา ฯ กลองโยน

๏ คร้นั ถงึ ซ่งึ โรงพธิ ี ต่างลงจากรถมณีศรใี ส
ดาเนนิ นาลูกยาคลาไคล เข้าในโรงสวุ รรณทนั ทฯี

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ ครนั้ ถึงจงึ จงู พระพนิ ทอง ให้นั่งยงั กองมณศี รี
พระมารดาจูงกรนางมณี ขึ้นนั่งกองทองท่ธี รรมเนยี มมา
สองอนงค์อุ้มองค์พระกุมาร ขนึ้ แท่นรัตนช์ ชั วาลตรงหน้า
ให้ล่ันฆ้องร้องโหข่ ้ึนสามลา พราหมณ์ชราจดุ เทยี นแล้วเวียนไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ เจรจา

๏ เวียนไดเ้ ก้ารอบชอบที พราหมณ์ก็ดับอัคคีเจิมให้
ต่างต่างอานวยอวยชัย ตอ่ ให้จาเรญิ ชนมาน

241

พระบดิ าว่าเจา้ จงครองเมือง ให้รุ่งเรอื งสบื ศักดิ์อคั รฐาน
ชนนวี า่ อย่ามซี งึ่ ภัยพาน ใหส้ าราญรวยรื่นทุกคนื วนั

สองเศรษฐีวา่ จงมีเกยี รตยิ ศ ให้ปรากฏท้งั กุมารหลานขวญั
ราษฎรยอกรบังคมคลั พร้อมกนั อานวยอวยชัยฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ คร้นั เสรจ็ การววิ าหพ์ อราตรี ชนนีกอ็ วยพระพรให้
ชือ่ มณศี รีเมอื งเรอื งฤทธไิ กร ไดเ้ ป็นใหญ่ทท่ี างนางพระยา

ซึ่งพน่ี ้องสองนางนารี ไดเ้ ป็นท่เี อกสนมสมยศถา
สรรพเสรจ็ เสด็จยาตรา แหห่ อ้ มล้อมมาเข้าวงั ในฯ

ฯ ๔ คา ฯ เชดิ

๏ เมอ่ื นั้น นางทัศมาลศี รีใส
แตค่ อยคอยสร้อยเศรา้ เปล่าใจ ไมเ่ ห็นพระผัวนน้ั มาธานี
ฤาสมเดจ็ บติ รุ งค์ทรงศักด์ิ ประชวรหนกั จึงไม่กลบั มากรงุ ศรี

จะนิ่งอยู่ก็ไมร่ ูซ้ ึง่ ร้ายดี จาจะจรลรี ีบไป
คดิ พลางยา่ งเยื้องยุรยาตร ลงจากอาสน์มณศี รใี ส
พร่งั พร้อมสุรางคน์ างใน คลาไคลขน้ึ เฝา้ พระบิดาฯ

ฯ ๖ คา ฯ เพลง

๏ ครัน้ ถงึ จึงประณตบทบงสุ์ ทูลองค์บิตเุ รศนาถา
ลูกรักจักขอบงั คมลา ไปยังเมืองมิถลิ าธานีฯ

242

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือนั้น กรุงกษัตรยิ ์ตอบความไปตามที่
ควรแล้วแกว้ พอ่ จะจรลี ดว้ ยบิดาสามปี ระชวรนัก
เน้ือเย็นเปน็ ท่ีศรีสะใภ้ ควรไปเฝ้าองค์ทรงศกั ด์ิ
เหน็ หายแล้วแกว้ ตาอย่าชา้ นัก จงชวนชกั ภัสดากลบั มาวงั
พระมารดรถอนใจไหส้ ะอน้ื ส้กู ลา้ กลืนกอดจบู ลบู หลัง
กษัตราลลี าจากบลั ลังก์ เสด็จยังพระโรงอันรจู ีฯ

ฯ ๖ คา ฯ เสมอ

๏ จึงตรสั สั่งจตุสดมภก์ รมท่า เรง่ ตบแตง่ เภตราทาสี
รอกเสาเพลาใบทาให้ดี ใหเ้ สรจ็ วันนอี้ ย่านอนใจฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนั้น เสนผี ้มู อี ชั ฌาสยั
รับสั่งบังคมภูวไนย คลาไคลออกจากพระโรงธารฯ

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ ใหถ้ อยลาสาเภาออกจากอู่ คนผ้วู นุ่ จรงิ ว่ิงพลา่ น
จดั แจงแต่งตามพระโองการ มารอรับเยาวมาลย์ทันใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ เจรจา

243

๏ เม่อื นนั้ นางทัศมาลศี รีใส
รงุ่ รางสางแสงอโณทัย ทรามวัยจัดแจงแต่งกายา
พรั่งพร้อมสาวศรีพ่เี ลยี้ ง บงั คมเคยี งเรยี งรายท้ังซา้ ยขวา
ออกจากปรางคท์ องห้องไสยา ลงสู่เภตราทันใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ เพลง

๏ คร้นั ถงึ จึงลงทา้ ยบาหลี นารพี รั่งพร้อมล้อมไสว
นายท้ายบา่ ยลาแล่นไป ออกจากเวียงชยั ฉับพลนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ โล้

๏ เดอื นหนึ่งถึงกรงุ มิถลิ า ประทับทอดจอดท่าแม่นา้ นัน่
พวกตน้ หนคนงานชานาญครัน พลั วนั เล่อื นลดปลดใบฯ

ฯ ๒ คา ฯ เจรจา

๏ บดั น้นั ขุนสมทุ รกองดา่ นทหารใหญ่
เหน็ นาวามาจอดทอดแต่ไกล จงึ รอ้ งทักถามไปดว้ ยทันที
เภตรานีม้ าแต่ไหนน่นั จงบอกกันโดยกระบวนให้ถว้ นถี่

เป็นพอ่ ค้าฤามาเป็นไมตรี ร้ายดจี งแถลงให้แจง้ กจิ จาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนน้ั พวกขุนนางต่างบอกออกความว่า
บัดนโ้ี ฉมยงองคธ์ ิดา อยู่พาราโรมราชบรุ ี

244

มาเฝา้ พระพงศ์นรนิ ทร์พินทอง กษตั รยิ ส์ องจณุ เจิมเฉลมิ ศรี
เอ็นดดู ว้ ยช่วยทูลพระพันปี จะปรานีโปรดปรานประการใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ เจรจา

๏ บดั นน้ั ขุนสมทุ รฟังแจ้งแถลงไข
ร้องเรยี กบ่าวชาวด่านเปน็ การไว ลงเรอื บดแล่นไปในทันทีฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชิด

๏ ครัน้ ถึงจึงจอดทอดทา่ กข็ ึ้นจากนาวาเกษมศรี
เสด็จออกท้องพระโรงอันรจู ี จึงเขา้ อัญชลุ ีฉบั พลนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ คร้นั ถึงจึงกราบบังคมทลู องค์พระนเรนทรส์ รู รังสรรค์
บดั นพ้ี ระธิดาวลิ าวณั ย์ มาตามองค์ทรงธรรมถ์ ึงเวยี งชัย
เภตรามาจอดทอดอยู่ แตเ่ ช้าตรนู่ อกปราการดา่ นใหญ่
ใหท้ ลู เบอ้ื งบาทบงสทุ์ รงชยั ภูวไนยจงทราบบาทาฯ
ฯ ๔ คา ฯ เจรจา

๏ เมอ่ื นนั้ พระทรงโฉมประโลมเสนหา
ฟังทลู โดยมูลกจิ จา พระน่ิงนึกตรึกตราในพระทัย
กรรมกรรมจะทาให้เกดิ เขญ็ คงจะเป็นลุกลามความใหญ่

จึงตรัสสง่ั นายด่านชาญชยั ไปบอกให้เข้ามายงั ธานี

245

เราจับไข้ไมส่ บายมาหลายวัน สดุ จะไปรบั กันใหถ้ ึงท่ี
ตรัสพลางยา่ งเยื้องจรลี เข้าทีต่ าหนักในไสยาฯ
ฯ ๖ คา ฯ เสมอ

๏ นง่ั แนบแอบองคน์ างนงลกั ษณ์ ย้มิ ละไมในพักตรแ์ ลว้ บอกวา่
บัดนี้เมืองโรมพารา ตามมาถึงท้ายเวียงชัยฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ฟงั ตรัส ชุลีหตั ถ์ทลู ความถามไถ่
เมยี มาข้าพรน่ั ประหวน่ั ใจ จะเป็นรองต้องใหด้ อกไม้กระมงั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เจา้ พี่ เจ้าว่าไรอยา่ งนี้นะร้อยชง่ั
เสน่ห์นุชสุดถนอมเปน็ จอมวัง จะมาน่งั น้อยหน้าวา่ กระไร
นางอื่นหม่นื แสนแม้นจะเปรียบ จะเทยี มเทียบแกว้ ตาไม่หาได้

แลว้ จงู กรโฉมงามทรามวยั เข้าในแท่นทศ่ี รีไสยาฯ
ฯ ๔ คา ฯ เสมอ

๏ บัดนนั้ ขุนสมุทรกองด่านทหารกล้า
รบี ชวนเหลา่ บา่ วไพรไ่ คลคลา ลงลานาวาทันใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ เชดิ

246

๏ คร้ันถงึ จงึ จอดทอดประทบั แลว้ บอกกับเสนาหาชา้ ไม่
พระประชวรป่วนปวดพระเศียรไป ใหเ้ ชิญเสด็จเขา้ ในธานฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้ัน อามาตยเ์ มืองโรมวิถี
ฟังบอกออกความตามคดี จรลีมาเฝา้ เยาวมาลยฯ์

ฯ ๒ คา ฯ เสมอ

๏ ครนั้ ถงึ จงึ น้อมศโิ รเพฐน์ทูลองค์อคั เรศยอดสงสาร
พระประชวรป่วนป่ันหลายวนั วาร ใหข้ นุ ด่านนาพาเขา้ ธานฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื นน้ั องค์พระธิดามารศรี
ได้ฟังจึงสั่งแกเ่ สนีใหแ้ ลน่ ลานาวีเขา้ พาราฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั น้ัน อามาตย์บังคมก้มเกศา
มาเร่งรัดจัดกนั มิทันช้า พวกเภตราแลน่ เร่อื ยเฉื่อยไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ โล้

๏ มาถงึ จึงจอดทอดสมอ ตีมา้ ฬ่อเลือ่ นล่นั สนัน่ ไหว
บ้างหยอ่ นสายเชือกลดปลดใบ นายไพร่วุ่นวิง่ เปน็ สิงคลฯี


Click to View FlipBook Version