The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แก้วหน้าม้าเป็นวรรณกรรมของไทยโดยผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kamolchanok.1878, 2021-03-16 01:19:08

วรรณกรรมเรื่องแก้วหน้าม้า

แก้วหน้าม้าเป็นวรรณกรรมของไทยโดยผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Keywords: แก้วหน้าม้า

147

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือน้ัน พระพินทองหมองพักตร์หนักหนา
ฟงั สีพ่ ่เี ลยี้ งทูลมา มิไดเ้ ชือ่ วาจาพาที

ลกุ ลงจากเตยี งเมยี งมอง แลว้ ร้องตอบความตามท่ี
ปดกนั เปลา่ เปลา่ คนเหลา่ นี้ จู้จพ้ี ูดจาเป็นน่าชงั
เทวญั ชน้ั ฟ้ามาแตไ่ หน เอออะไรพดู จาเช่นบ้าหลงั
ยักษใ์ ชใ้ หห้ ลอกดอกกระมัง วิง่ มานัง่ อ้อยอ่ิงวิงวอน
ตายแตต่ ัวเจา้ เราไม่เปิด ชั่งเถดิ แตเ่ ราจะเขา้ ซ่อน
ไปเสียใหพ้ ้นคนปากบอน อยา่ มาคอ่ นเกาะแกะแคะไค้ฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ บัดนั้น พระพ่ีเล้ยี งตอบมาหาช้าไม่
อนจิ จาบญั ชาน่าน้อยใจ มิใชพ่ วกพอ้ งของกุมภัณฑ์
เทวาใหม้ าเชิญเสด็จ พระกลบั เหน็ เปน็ เทจ็ เสกสรร

เร็วไวไปเฝ้าทา้ วเทวัญ กุมภัณฑ์จะมาราวีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นั้น พระโฉมยงองคส์ ่นั ขวัญหนี
ร้องตอบไปพลันทนั ที เซ้าซี้เปล่าเปล่าไม่เข้ายา
กลับไปเสยี เถิดไม่เปิดรบั กลัวยกั ษจ์ ักจบั ไปเขน่ ฆ่า
ตายแต่ตวั เจ้าเหล่าโยธา อย่ามาพามว้ ยมอดวอดวายฯ

148

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังตรสั แคน้ ขดั เคอื งหูไมร่ หู้ าย
ต่างคนบ่นว่านินทานาย กลวั ตายจนเกินขนาดไป

จาจะไปทูลเทวัญ เชิญเสด็จผายผนั ใหจ้ งได้
คิดพลางทางพากนั คลาไคล กลบั ไปทูลความตามกจิ จา

บัดนพี้ ระองคท์ รงศักดิ์ ซอ่ นตวั กลวั ยกั ษ์เปน็ หนักหนา
ขา้ ทลู ความตามอรรถสัจจา ผ่านฟ้าไม่เช่ือวาที
เชญิ พระองคผ์ ทู้ รงฤทธริ อน บทจรยงั ท้ายบาหลี
ให้ประสบพบพักตร์พระจักรี เหมอื นประทานชีวีสบื ไปฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น มาณพยิ้มแย้มแจม่ ใส
คิดสงสารผา่ นฟ้ายาใจ จาจะไปเฝา้ องค์ทรงธรรม์
คดิ พลางทางลงจากสดั จอง ย่องย่องจรลีขมีขมัน
พระพ่เี ลีย้ งโดยด่วนชวนกัน ทัง้ สนี่ ายผายผันตามมาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ คร้นั ถงึ จึง่ หยดุ ยนื อยู่ โฉมตรูเย่ียมมองร้องเรียกหา
อยู่ไยในทีศ่ รีไสยา จงออกมาจะช่วยอย่าตกใจฯ

ฯ ๒ คา ฯ

149

๏ เมือ่ นัน้ หน่อกษัตรยิ อ์ กสน่ั หวนั่ ไหว
สะดงุ้ วบั กลบั ตื่นตกใจ แลว้ ลกุ ไปแหวกช่องมองดู

แลเหน็ เปน็ รปู มาณพน้อย ถอื พร้าโต้คอยขยบั อยู่
ยกั ษ์แสรง้ แปลงมาจะฆ่ากู เหน็ จะอยู่แลว้ กระมังคร้ังนี้
กรรมเอ๋ยกรรมกรรมทาอยา่ งไร น้อยใจพีเ่ ล้ียงทัง้ ส่ี

โงเ่ งา่ หนักหนาน่าทบุ ตี นาหนา้ อสุรีมากินกัน
คดิ พลางย่างข้นึ บนแทน่ ทอง กอดเขา่ เศรา้ หมองไม่มขี วัญ

กลัวจะไม่พ้นภัยกมุ ภัณฑ์ ทรงธรรมค์ ลานไพล่เข้าใต้เตยี งฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ เมือ่ นน้ั มาณพน้อยคอยตรับสดับเสยี ง
นยั นต์ าลอดสอดดูหูเอยี ง มองเมยี งแฝงฝาอยู่ชา้ นาน

จวนยกั ษจ์ กั มาไมช่ า้ ได้ ยง่ิ มใี จพะวงสงสาร
ช่วยกนั กึกกักผลักทวาร หา้ คนอลหมา่ นเปน็ สิงคลีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ล่มิ หกั ผลักเผยเข้าไปได้ แลไปไม่เหน็ พระโฉมศรี
มองไปใตแ้ ทน่ รูจี เทวสี รวลสันตจ์ านรรจา

น้องรกั จักชว่ ยพระทรงธรรม์ ให้พน้ ภยั กมุ ภัณฑ์เข่นฆา่
อยไู่ ยในท่ีศรีไสยา เชิญมาเร็วพลันทันใดฯ
ฯ ๔ คา ฯ

150

๏ ฟังพาที ภูมีค่อยท้ังสติได้
น่งิ นึกตรกึ ตรองแลว้ รอ้ งไป ยกั ษ์ฤามิใช่ได้เมตตา
จะออกไปไหวก้ ราบไม่หยาบคาย กลัวนายจะทาโทษา

พร้าโตน้ น้ั โตเต็มประดา วางเสียกอ่ นข้าจึงจะไปฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั พาที มาณพผู้มีอชั ฌาสยั
ยิ้มพลางวางพรา้ แล้วว่าไป เชญิ เถดิ มิใช่อสรุ ีฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือน้ัน หนอ่ นรนิ ทร์พินทองหมองศรี
หวาดหวนั่ พรน่ั ตัวกลวั เตม็ ที ภูมีจาใจไคลคลา
แต่ขยับลับล่อรอร้ัง ค่อยเคลื่อนคล้อยถอยหลังถอยหน้า

พระพีเ่ ล้ยี งทงั้ สป่ี รชี า อตุ ลดุ ฉุดคร่าพัลวนั ฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ออกไดใ้ จคอยังท้อแท้ เหลยี วแลตะลึงพรึงพรนั่
เห็นมาณพคานับอภวิ นั ท์ ทรงธรรม์ค่อยคลายสบายใจ

นง่ั ลงทรงลบู ปฤษฎางค์ ส้นิ ระคางพะวงสงสัย
แก้วตาพ่อมาแตแ่ หง่ ไร ดวงใจจงแจ้งแหง่ คดฯี

ฯ ๔ คา ฯ

151

๏ ฟังถาม โฉมงามบังคมก้มเกศี
ทลู ว่าขา้ ศิษย์พระมนุ ี วันนม้ี าชมพารา
เหน็ หมยู่ ักษาอาธรรม์ ชวนกนั เขา้ ล้อมพรอ้ มหน้า
สงสารพงศ์ภชุ สุดปญั ญา จะขอรบั อาสาทรงชัยฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือนน้ั หน่อนรินทร์พนิ ทองค่อยผ่องใส
ลบู หลงั ลบู หนา้ แล้วว่าไป ขอบใจน้องรกั ท่ภี ักดี
เจา้ จะคดิ บิดผนั ฉนั ใด จะพ้นความบรรลัยเปน็ ผี
ตรสั พลางทางทรงโศกี กลัววา่ ชวี ีจะวางวายฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น มาณพทลู ไปดังใจหมาย
ข้าจะช่วยแก้ไขมิใหต้ าย อยา่ เคืองขนุ่ วุ่นวายวิญญา
วา่ พลางทางเชิญพระโฉมยง ไปยังจตรุ งค์ซา้ ยขวา
กลัวมันทาไมเรง่ ไคลคลา จงู หัตถ์ผ่านฟา้ คลาไคลฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครนั้ ถึงจึงเหน็ อสรุ ี มาณพผู้มอี ัชฌาสัย
รอ้ งถามไปพลนั ทนั ใด เหตุไรมาอย่ใู นนาวฯี

ฯ ๒ คา ฯ

152

๏ บดั น้นั นายรองกองด่านชาญชัยศรี
จงึ ร้องตอบไปพลนั ทนั ที กนู เี้ ป็นข้าราชการ
พระองค์ผู้ดารงนคั รา กระเด่ืองเดชศักดากลา้ หาญ
ใชก้ ผู ูม้ ีปรชี าชาญคุมไพรก่ องดา่ นทัง้ หา้ พัน
มาลอ้ มเหล่านาวีน้ีไว้ มใิ ห้แลน่ ออกนอกเขตขัณฑ์
ครู่หน่งึ พระองค์พงศ์กุมภณั ฑ์ จะยกพวกพลขันธอ์ อกมา

เอง็ นีม้ นี ามกรใด มาถามไถ่ไล่เลยี งยกั ษา
จะจบั ฟัดกัดเล่นเชน่ ปลา ทจ่ี ะคงชวี าน้ันอยา่ คดิ ฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ ไดฟ้ ัง มาณพแค้นค่ังเคืองจิต
ตอบไปดว้ ยใจกาเริบฤทธิ์ มไิ ด้คิดประหว่นั พรั่นใจ
เหวยเหวยกมุ ภัณฑอ์ นั ธพาล ไม่รูจ้ กั พระกาลฤาไฉน
มาลอ้ มเหลา่ นาวนี ี้ไว้ ผิดชอบสง่ิ ใดเร่งว่ามา
พน่ี อ้ งของเราลว้ นเหลา่ กอมิได้ไปฆา่ พอ่ ของยักษา

จะจบั ฟัดกดั เลน่ เช่นปลา ดังวา่ พวกนี้ใม่มีมือ
อวดกล้ามาต่อฤทธิไกร ให้เลือ่ งลือช่ือไว้เปน็ ไรหรือ

โกฏิแสนแนน่ ไปก็ไม่ครือ ดีหรือมาดูให้รู้กนั
ว่าพลางชูพรา้ อาจารย์ นกึ เอาบริวารศรพระขรรค์
พาชีมเี ดชดงั ไฟกลั ป์ กบ็ งั เกิดมาพลันทันใดฯ

ฯ ๑๐ คา ฯ

153

๏ จบั ศรทรงอลงกรณ์ เข้ายืนเคยี งอัสดรหาช้าไม่
แลว้ ส่ังรปู นมิ ิตฤทธิไกร จงตงั้ ใจรกั ษานาวี

กบั พวกพลท้งั หลายนายไพร่ อยา่ ให้เป็นภักษย์ ักษี
สง่ั พลางทางน้อมอินทรยี ์ อัญชลุ ที ลู องคท์ รงธรรม์
พระองค์จงอยู่ในเภตรา อยา่ ได้กลวั ชีวาอาสัญ
น้องรกั จักรบกมุ ภัณฑ์ อยา่ คะนึงพรึงพรน่ั วิญญาฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ น้ัน พระหน่อนาถสุริย์วงศ์พงศา
ความกลัวตัวสนั่ ดังตีปลา สวมกอดอนุชาไวแ้ นบกาย

น้องรักจักพรากจากพ่ี อสุรจี ะรบิ ฉบิ หาย
ใครจะช่วยชีวีพ่ชี าย เปน็ ตายจะตามเจ้าทรามวยั

ว่าพลางทางทรงโศกา ชลนาแถวถั่งหล่ังไหล
สวมสอดกอดองคพ์ ระน้องไว้ พระครวญครา่ ร่าไรโศกาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เม่อื นัน้ มาณพสรวลสนั ต์ราพนั ว่า
น้องรกั จักข่ีอาชา เหาะเหินเดินฟา้ ด้วยฤทธี
แมน้ พระองค์ทรงนามตามไป จะเป็นห่วงบว่ งใยไม่พอที่
จงอย่ใู นเภตรานาวี คร่หู นง่ึ นอ้ งนจ้ี ะกลับมาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

154

๏ ฟังห้าม พระโฉมงามโศกศลั ยร์ าพนั ว่า
พ่อผ้เู พื่อนชีวพี ่ยี า จงเมตตาอย่าสลดั ตัดรอน
ไปไหนจะไปดว้ ยน้องแก้ว ไม่อยู่แลว้ ร้อยช่งั อย่าสงั่ สอน

ตรัสพลางทางกอดกุมกร วงิ วอนร่าวา่ พาทีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื น้ัน มาณพยิ้มแย้มแจม่ ศรี
จึงอมุ้ องค์ทรงธรรมพ์ นั ปี ข้ึนทรงพาชีฉบั พลัน
ข้นึ น่งั หนา้ นรนิ ทร์พินทอง พระกรสองสวมสอดกอดมั่น
รอ่ นเลาะเหาะมาหนา้ กมุ ภัณฑ์ ผัดผนั เลน่ ล่อรอราฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นนั้ นายรองกองด่านหาญกล้า
ผาดแผลงสาแดงเดชา เข้าโถมถาประชิดตดิ พนั
โจมจับสัประยุทธชิงชัย เคล่าคลอ่ งว่องไวดังจักรผัน
แกวง่ คทาถาโถมโรมรนั เสยี งสนั่นท่วั ท้องโพยมมานฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นัน้ มาณพฤทธิไกรใจหาญ
กลอกกลับรบั รนั ประจัญบาน แกว่งศรรอนราญอสรุ ี
ผกผนั หนั เหยี นเวยี นวง คอยระวงั ทัง้ องค์พระโฉมศรี

ฟนั ฝา่ ยนายกองอสุรี ตกกลางธรณีบรรลัยฯ

155

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นนั้ นายดา่ นครัน้ แจ้งแถลงไข
โกรธาตาแดงดงั แสงไฟ ตอ้ นไพร่เข้ากลมุ้ รมุ รันฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ มาณพฤทธแิ รงแขง็ ขนั
ขับม้ารารับจบั ประจัญ ฟาดฟนั พลตายกระจายไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นั้น กมุ ภกาศขุนมารด่านใหญ่
มงุ่ เขม้นเหน็ หมูพ่ ลไกร บรรลัยยับย่นไมท่ นทาน
โลดโผนโจนจบั สปั ระยุทธ์ ไม่กลวั ความม้วยมดุ สังขาร
สองหตั ถ์กวัดแกวง่ คทาธาร เขา้ ตีต้อนรอนราญราวฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือน้ัน พระพินทองมองเหน็ ยักษี
ตวั สนั่ ขวญั บนิ น้อมอินทรยี ์โศกสี ารภาพกราบกราน
ร้องขอโทษตวั กลัวแลว้ พ่อ อยา่ หักคอใหส้ น้ิ สังขาร
จะกินใครไม่ขัดทัดทาน ไดย้ กโทษโปรดปรานปรานีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

156

๏ เม่ือน้ัน มาณพนึกแค้นแสนบดั สี
ควรจะชิงชยั กบั ไพรี อัญชุลอี สรุ าวา่ ไร
เปน็ ชายไมอ่ ายอดสู มาไหว้กราบศตั รูก็เปน็ ได้
พดู กนั ไมเ่ ช่อื น่าเบ่ือใจ นานไปจะขวา้ งเสียกลางคนั

นอ้ งนไ้ี ม่มีชวี ติ ฤา จึงด้านดอ้ื รบสูค้ ู่ขัน
อยา่ วอนวิงจะกล้งิ ลงกลางคนั จงกอดไว้ใหม้ ัน่ เถิดภูมี

วา่ พลางทางขับมโนมยั เขา้ รกุ ไลส่ ปั ระยทุ ธ์ยกั ษี
ฟาดฟันบั่นเศยี รอสุรี ตกกลางปัถพีบรรลัยลาญฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ แลว้ ชกั พาชีลีลา ลงยงั โยธาทวยหาญ
พกั ร้อนผอ่ นพอสาราญ คอยเจ้ากรุงมารชาญชัยฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้ัน อสรุ เี หลือตายนายไพร่
บ้างหลีกลี้หนตี ัวกลัวภัย บ้างไปทูลท้าวเจา้ พาราฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถึงจง่ึ ผ่อนร่อนลง เห็นเตรยี มหมจู่ ตรุ งค์พร้อมหน้า
ขนุ ยักษ์ศกั ด์ิสิทธ์ิฤทธา ลลี าเขา้ เฝ้าเจ้าธานฯี
ฯ ๒ คา ฯ

157

๏ หมอบลงตรงพักตรแ์ ลว้ กราบทูล พนาสูรทรงศักดย์ิ ักษี
บัดนี้เสียด่านชาญบุรี ด้วยมนุษยห์ นึ่งมีมาแตไ่ กล

รูปทรงองอาจโอโ่ ถง ดูดงั เจา้ นายโรงฝกึ ใหม่
ล้างสองกองดา่ นชาญชัย ท้งั พวกไพร่วอดวายหลายพนั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังทลู พนาสรู เคืองขนุ่ หนุ หัน
เขย้ี วงอกออกขาวยาวครันดุดนั ตาแดงแกวง่ ศาสตรา
ดูดู๋กูลอ้ มมนษุ ย์ไว้ มารุกราชอาจใจหนกั หนา

ไว้ตัวไมก่ ลวั ศักดา เข่นฆ่าผ้คู นจนปน่ ไป
เทวามนษุ ย์ฤาครุฑนาค มาลอ่ ปากยักษ์เลน่ ก็เปน็ ได้

เหวยเหวยเสนาช้าอยไู่ ย กูจะไปตอ่ สู้ดดู ีฯ
ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นน้ั อามาตย์รับส่งั ใสเ่ กศี
กม้ เกลา้ กราบงามสามที มาจัดพลตามมบี ัญชาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวพาลราชยักษา
พรั่งพร้อมพหลโยธา จึงลลี ามาสรงสาครฯ

ฯ ๒ คา ฯ

158

โทน

๏ ไขพุ่มประทุมท่อธาร หอมหวานกลวั้ กลนิ่ เกสร
สคุ นธาทิพย์ประทิน่ กล่นิ ขจร สนบั เพลาเชงิ งอนอาไพ
ภูษติ พื้นแดงแย่งครุฑเครือกระหนกเฝือเดน่ ดวงมว่ งไหม
ฉลององค์เจยี ระบาดตาดอุไร เกราะนวมสวมใส่กระสันทรวง
คาดปนั้ เหน่งเปล่งเมด็ เพชรพราว เขียวขาวพวยพุ่งรุ้งร่วง

ตาบทศิ กุดนั่ เดน่ ดวง ทับทรวงกดุ ั่นบรรจง
ทองกรพาหุรัดตรสั เตรจ็ ธามรงคพ์ ื้นเพชรงามระหง
แล้วสอดสวมมงกุฎภุชงค์ หตั ถท์ รงมหาคทาธารฯ

ฯ ๘ คา ฯ

๏ ครั้นเสรจ็ เสดจ็ ยรุ ยาตร องอาจเหิมศึกฮึกหาญ
สง่ั ฝงู สาวศรบี รวิ าร บทมาลยย์ งั เกยรจู ีฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ทรงนัง่ เหนอื หลังคเชนทร พรงั่ พร้อมนิกรยกั ษี
ไลฤ้ กษเ์ ลกิ โหส่ ามที เคลื่อนคลโี่ ยธาคลาไคลฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครน้ั ถึงจึงเหน็ นาวี ยักษีเสียดายน้าลายไหล
จงึ พกั พวกพหลพลไกร ปักธงลงไว้ดงั จนิ ดาฯ

159

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ พระพินทองสุรยิ ์วงศ์พงศา
มงุ่ เขม้นเหน็ ยักษ์หนักมา วญิ ญาไมเ่ ปน็ สมประดี
สวมสอดกอดนอ้ งแลว้ รอ้ งไห้ ยกั ษใ์ หญ่มาแลว้ นะแกว้ พ่ี
จะผันแปรแก้ไขฉันใดดี พน่ี ี้ขัดสนพ้นปัญญาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนั้น มาณพอภวิ ันทร์ าพนั วา่
กลัวไยกับอา้ ยอสุรา เหมอื นแมงเม่าเขา้ มาในเพลงิ กาล
ว่าพลางทางชวนพระโฉมยง แลว้ ขึน้ ทรงอาชากลา้ หาญ
เหาะเหนิ เดนิ โดยโพยมมาน ร่อนลงตรงด่านทนั ใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เขา้ ยืนตรงหน้าทา้ วกุมภณั ฑ์ ไม่คะนงึ พรึงพร่ันหวน่ั ไหว
จงึ รอ้ งถามไปพลันทนั ใด มาไยหนักหนานึกน่ากลวั
รปู ร่างโตใหญท่ ง้ั ไพร่นาย กลวั ตายขนพองสยองหวั

คดิ จะเขา้ เกลี้ยกล่อมยอมตวั กน็ กึ กลวั จะฟดั กัดกนิ ฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อน้ัน พระยายักษ์โกรธาบา้ บิน่
น้อยฤาคอ่ นว่าเปน็ ราคิน เลน่ ล้นิ ล่อยกั ษ์ออกศักดา

160

เอง็ ฤาคนดีมฝี ีมือ ด้านดื้อเหิมฮึกศกึ อาสา
จะเคี้ยวเล่นเช่นหมูปูปลา จงเรง่ มารบสูด้ ูดี
รปู รา่ งจิ๋วหลวิ เทา่ นิว้ กอ้ ย จะมาพลอยเป็นภักษย์ ักษี
เหวยเหวยอามาตยม์ นตรี เร่งจับอ้ายไพรีมัดมาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นน้ั หม่มู ารทหารซ้ายขวา
คานบั รบั สัง่ อสรุ า แผลงอิทธิ์ฤทธาเขา้ ราญรอนฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื น้นั มาณพน้อยคอยแกว่งแสงศร
รบั รองปอ้ งกนั ฟันฟอน ม้วยมรณว์ นิ าศขาดไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื น้นั พระยายักษ์โกรธเหลอื จนเหงื่อไหล
เหน็ พวกพลกมุ ภณั ฑ์นนั้ บรรลัย ผาดแผลงฤทธไิ กรเป็นโกลา

โลดโผนโจนจับสปั ระยทุ ธ์ ด้วยกาลังฤทธริ ทุ รแกล้วกลา้
ล่นั เล่อื นสะเทือนพสธุ า เงอ้ื งา่ ตะบองจ้องตฯี
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั มาณพหลบเลย่ี งเบี่ยงหนี
ผดั ผันหันล่อรอรี ต่อตปี ระจญประจัญบาน

161

แกวง่ ศรรอนรนั ฟันฟาด ดว้ ยอานาจเดชากลา้ หาญ
ตัดกรซ้ายขวาพญามาร ตกพ้ืนสธุ าธารทันใดฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ นนั้ พระยายักษ์ไม่พรน่ั หว่นั ไหว
ดารงกายรา่ ยเวททันใด กรติดสนิทได้ดงั จนิ ดาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ผาดแผลงสาแดงฤทธิรงค์ เหาะตรงข้นึ ไปในเวหา
โลดโผนโจนจับอาชา สองตาแดงดังอัคคีฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนน้ั อาชากล้าหาญชาญชยั ศรี
เผ่นผกหกหันผันอินทรยี ์ ชกกัดอสรุ ีพัลวนั
หันเหียนเวยี นวนคารนร้อง เคล่าคล่องเรว็ แรงแข็งขัน
หางฟดั ปากกดั กมุ ภณั ฑ์ เสยี งสะเทอื นเล่อื นลนั่ เปน็ โกลาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั มาณพเหนอ่ื ยพักหนักหนา
จ่ึงกง่ ศรพาดสายหมายตา มิชา้ ก็ผาดแผลงไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

162

๏ ศรทรงตอ้ งองค์อสรุ นิ ทร์ ตกต้องปถั พนิ หว่ันไหว
แล้วขว้างพร้าอาจารยช์ าญชยั ตัดเศียรยกั ษ์ใหญท่ นั ทฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นนั้ โยธาบรรดายกั ษี
แลเหน็ เจา้ นายวายชวี ี อสรุ ีกลัวกราบราบไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือน้ัน มาณพชน่ื แชม่ แจม่ ใส
จึงรีบชักมิ่งมา้ คลาไคล ลงไปยังด่านชานชาลาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถึงจึงทลู พระภมู ี อสุรีสุดสน้ิ สังขาร์
พระองคจ์ งลืมนยั นา ดศู พอสรุ าทีบ่ รรลัยฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้นั พระทรงโฉมประโลมพสิ มัย
ไดฟ้ งั ยังแหนงแคลงใจ ยงั สวมสอดกอดไว้ไมว่ างกร
เนตรหลบั ขยบั ขยิกกอด แอบหลังนั่งทอดฤทยั ถอน

ตอ่ มาณพรบเร้าเฝา้ วอน ภธู รจึงลืมนัยนา
เหน็ ศพราพณ์ร้ายก่ายกนั คดิ คะนงึ พรงึ พรัน่ หนักหนา
จะเผน่ โผนโจนจากอาชา ก็อายมาณพนอ้ ยกลอยใจ

163

จงึ ถามว่ามาไยทีน่ ี้ อสรุ ยี ังอยดู่ ูไม่ได้
เมตตาจงพาพ่ีไป ส่งในนาวีพ่ชี ายฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ ฟังบญั ชา นกึ น่าอดสูไมร่ ู้หาย
ยม้ิ พลางทางทลู บรรยาย ชา่ งกลวั ตายยงิ่ กวา่ นารี
กุมภณั ฑ์บรรลยั ไดบ้ า้ นเมือง จะฟ้งุ เฟ่ืองงามพักตรศ์ ักดิ์ศรี
ยงั แตบ่ า่ วไพร่ใช่ไพรี ภูมจี งทราบพระบาทา
ทูลพลางทางสั่งพวกกมุ กณั ฑ์ เรง่ เกณฑก์ นั พรอ้ มพรัง่ หลงั หน้า
เราจะไปในกรุงอสรุ า กบั ทงั้ พระเชษฐาชาญชยั

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั น้นั กุมภณั ฑ์กราบก้มประนมไหว้
ลนลานคลานคล้อยถอยไป มาเกณฑ์พลไกรพรอ้ มกันฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นน้ั มาณพปรดี ์เิ ปรมเกษมสนั ต์
เชญิ เสดจ็ พระองค์ทรงธรรม์ ผายผนั เข้าส่บู ูรฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ คร้ันถงึ จงึ พักพลไกร ประทบั กับเกยชัยเฉลมิ ศรี
ท้ังสององคล์ งจากพาชี เข้าพระโรงรจู ีทนั ใดฯ

164

ฯ ๒ คา ฯ

๏ นั่งเหนอื แทน่ รตั นช์ ชั วาล พร้อมขา้ ราชการน้อยใหญ่
หมอบเมยี งเคียงกนั เปน็ หลั่นไป ไม่มีใครกงั ขาราคีฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นน้ั โฉมยงองค์มิ่งมเหสี
แจง้ วา่ อสรุ าสามี พา่ ยแพ้ฤทธบี รรลยั
โฉมยงทรงโศกโศกา ปิม้ ประหนงึ่ ชวี าจะตักษัย
กอดสองพระธิดายาใจ ทรามวัยโศกาจาบลั ย์ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ แล้วเอื้อนอรรถตรัสปลอบบตุ รี บัดนี้บิดาก็อาสัญ
ท้งั สองกษตั รยิ ์ทรงธรรม์ ผายผันมาอยพู่ ระโรงชยั
จาจะฝากกายถวายตวั เกรงกลวั พระอาญาไมฆ่ า่ ได้
ว่าพลางทางชวนนางกานัลใน นาสองทรามวัยลลี ามาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครัน้ ถงึ จึงคลานเขา้ ไป บังคมไทธิราชนาถา
หมอบเรยี งเคียงคอยบัญชา ก้มหน้านง่ิ อยไู่ ม่ดไู ปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

165

๏ เมื่อน้นั มาณพผู้มอี ชั ฌาสัย
จงึ ทูลพระโฉมยงทรงชัย ซงึ่ ในเขตแดนอสรุ า
น้องเปน็ ชาวดงพงไพร มิไดม้ ุ่งมาดปรารถนา
เสร็จสรรพจะกลับพนาวา ขอถวายผา่ นฟา้ ทุกประการ
ตวั ข้าจะลาไปแดนดง โดยจิตจานงเกษมสานต์
จงึ ตรสั กับนางกษัตรยิ ์จดั การ โดยแบบบุราณสบื มาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น พระพินทองฟังนอ้ งเสนห่ า
จงึ ไถถ่ ามตามจติ กจิ จา นางพระยาอยา่ ร้อนฤทยั
เราไม่คิดฉนั ทาพยาบาท อย่าหวน่ั หวาดพะวงสงสยั

จะพักพอสบายคลายใจ จะลาไปมิถิลาธานีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือนนั้ นางสร้อยสมุ ณฑามารศรี
นอ้ มกายถวายอัญชลุ ี เทวีจงึ ทูลทรงธรรม์
ข้านอ้ ยตกต่ากาพร้า พระสามชี ีวาอาสญั
ขอถวายพระธดิ าวิลาวัณย์ ท้ังเขตขณั ฑน์ ิเวศเวียงชยั
พระองค์จงทรงพระเมตตาประทานศพยักษาที่ตกั ษยั
ทาผดิ ชวี ติ จงึ บรรลัย เผาเสียอย่าให้เวทนาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

166

๏ เมอื่ นั้น พระพินทองสุริยว์ งศ์พงศา
ฟงั คาชาเลืองนยั นา ดสู องพระธิดานารี
ทรวดทรงโสภาน่ารัก ผิวพักตร์ผดุ ผอ่ งท้ังสองศรี
พระแย้มยิ้มพริ้มพกั ตร์พาที ลกู เมยี เรามีมากมาย
มาตรแม้นโฉมยงจงจิต จะใคร่คดิ เปน็ เนอื้ เชือ้ สาย
จะขอบุตรสี องใหน้ อ้ งชาย ใหส้ บื สายสรุ ยิ ว์ งศ์พงศ์พันธ์ุ
ซงึ่ ซากศพอสรุ าสามี เรานี้ไม่รังเกียจเดยี ดฉันท์
เผาเสยี วันนีจ้ ะดคี รนั จะได้คดิ ผ่อนผนั สบื ไป
ตรสั พลางทางชวนอนชุ า ทง้ั เสนานบั รอ้ ยน้อยใหญ่
สามนางทางตามเสดจ็ ไป นางในพรง่ั พร้อมลอ้ มลลี าฯ

ฯ ๑๐ คา ฯ

๏ หา้ องคท์ รงรถเรียงรัน พลขันธแ์ ห่แหนแนน่ หนา
ออกจากวังในไคลคลา บ่ายหนา้ สดู่ า่ นชานบรุ ฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ คร้ันถึงจงึ พักพลไกร ตรงหนา้ ด่านใหญ่ชัยศรี
นางกษัตรยิ ต์ รัสชวนบุตรี มายงั ศพสามีทนั ใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ แลเห็นศพอสรุ นิ ทร์ กลงิ้ กลางดนิ ดอนตักษยั
สามนางต่างทรงโศกาลยั วิง่ ไปสวมกอดทอดกายาฯ

167

ฯ ๒ คา ฯ

๏ โอว้ ่าพระทลู กระหม่อมแกว้ ทิ้งลูกเมยี เสียแลว้ ทง้ั วงศา
มาสน้ิ บญุ สูญรา่ งกลางสธุ ายงิ่ กวา่ คนผู้ทง้ั บรุ ี
เสยี แรงเรอื งฤทธาสามารถองอาจดังไกรสรสหี ์

ควรฤามาเปน็ เช่นนี้ เทวรี า่ พลางทางโศกาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั ค่อยคลายโศกศลั ย์รันทด จึงกราบเบอื้ งบงกชยักษา
สามนางตา่ งง้อขอสมา โศกาไม่เป็นสมประดี
ทงั้ หมแู่ สนสาวชาวใน ร้องไห้กราบศพท้าวยักษี
ญาติวงศ์พงศาเสนี โศกีอ้ือองึ คะนึงไปฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนัน้ มาณพผู้มอี ัชฌาสยั
กรก่งศรสิทธฤิ์ ทธไิ กร แลว้ น้าวสายแผลงไปฉับพลนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บงั เกิดขนึ้ เป็นพระเมรทุ อง แสงประเทืองเรืองรองเฉดิ ฉนั
จงึ ส่ังให้ยกศพทา้ วกุมภณั ฑ์ วางเหนอื เมรสุ ุวรรณทันทีฯ

ฯ ๒ คา ฯ

168

๏ เมื่อนัน้ โฉมยงองคพ์ ระมเหสี
จึงชวนสองธดิ านารี เสนสี าวสรรกานลั ใน
ตา่ งจดุ ธปู เทยี นชวาลา ถวายเพลงิ อสุราแล้วรา่ ไห้
แซเ่ สยี งโศกาอาลัย ท่วั ในบริเวณเมรทุ องฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ น้นั พระโฉมยงทรงศรีไม่มีสอง
ชวนมาณพน้อยนวลละออง แผลงศรไปต้องศพมารฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ศรชยั เปน็ ไฟลามลน ไหมศ้ พกุมภณั ฑ์ทส่ี ังขาร
รุง่ โรจนโ์ ชตชิ ว่ งชชั วาล ไหมศ้ พขุนมารเป็นจณุ ไปฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อนนั้ สามนางต่างทรงกนั แสงไห้
เก็บธาตุพระยามารชาญชยั ใส่ในโกศสุวรรณบรรจง

แลว้ ทูลพระพ่ีน้องสองรา เชิญเขา้ พาราดังประสงค์
ทงั้ ธดิ าข้าพเจ้าเผ่าพงศ์ ขอเป็นทาสบาทบงสุ์ทรงธรรมฯ์

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นั้น มาณพดุษฎขี มีขมัน
ตัวข้าจะลาจรจรัล ทรงธรรมจงสุขสถาพร

169

ถิ่นฐานบ้านเมอื งอสุรา ถวายพระผา่ นฟา้ ทรงศร
มาช่วยชนมพ์ อพ้นมว้ ยมรณ์ เสรจ็ แล้วจะจรเขา้ พงพีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั หน่อนรนิ ทรพ์ นิ ทองผ่องศรี
ฟังองค์อนชุ าพาที ภูมีสวมสอดกอดไว้
ตรสั ว่าแกว้ ตาจะลาจร จะมีความอาวรณ์ก็หาไม่
รกั เจ้าเทา่ ดวงฤทยั จะชวนไปธานพี ่ยี าฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังตรสั ชลุ ีหตั ถ์ทลู เหตุเชษฐา
นอ้ งนีม้ ีกจิ ด้วยสิทธา อยู่ช้าจะโกรธติโทษทัณฑ์
ไปแล้วน้องแกว้ ไม่อยู่ช้า จะตามไปมถิ ิลาเขตขัณฑ์
คร้ังนปี้ ลอ่ ยให้ไปอารญั สบิ ห้าวันจะติดตามไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั นอ้ งรัก ทรงศักดิ์ทอดถอนใจใหญ่
จงึ มพี ระบญั ชาด้วยอาลยั สายใจพอ่ จะจรลี
จงนาสองธดิ ายาจติ ไปเป็นมิ่งมิตรจาเริญศรี
อย่าขนื ขัดตดั อาลยั ไมตรี ควรแลว้ แก้วพ่จี ะครองกนั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

170

๏ เม่อื นั้น พระพินทองว่องไวใจหาญ
วา่ กบั นางพระยาไม่ชา้ นาน อยา่ ราคาญขนุ่ ข้องหมองใจ

จะขอสองพระธิดานารี เทวจี ะว่าเปน็ ไฉน
เมยี ของเรานมี้ ีถมไป ขอให้กับพระอนชุ าฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น นางกษตั รยิ ์บังคมก้มหน้า
สดุ จิตสดุ จนพน้ ปญั ญา ตรึกตราแลว้ ทลู ทนั ที
เปน็ สดุ แลว้ แต่องค์พระทรงฤทธิ์ จะทรงคิดโปรดเกลา้ เกศี
ขา้ เปน็ เกือกทองรองธุลี ทั้งนไี้ ม่ขัดบัญชาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ น้ัน พระพินทองสุรยิ วงศ์พงศา
ฟังนางสนองตอ้ งวญิ ญา จึงตรสั กบั อนุชาชาญชยั
แกว้ ตาจงพาพระบตุ รี ไปเพ่ือนองค์พงพีตามวสิ ยั

เจ้าจงสวสั ดมี ีชยั อย่าได้มเี หตุเภทพาลฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้ัน มาณพคานบั รับบรรหาร
แล้ววันทาลาองคน์ างมาร ทาอาการแย้มพรายชายตาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

171

๏ เม่ือนน้ั พระบตุ รีพีน่ ้องเสนห่ า
ต่างองคท์ รงโศกโศกา กราบกบั บาทาชนนี
ครน้ั จะถว่ งหน่วงหนกั ชักชา้ กค็ ิดเกรงอาญาพระโฉมศรี

แขง็ ขืนฝืนใจจรลี มทิ นั ได้พาทีประการใดฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ คร้นั ถึงจงึ ลงในสดั จอง ทงั้ พีน่ ้องครวญคร่าร่าไห้
มาณพชักยนต์ลว่ิ ปลิวไป พระพนิ ทองกลับเข้าในพาราฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครนั้ ถึงศาลาอาศรม พระโคดมทรงญาณฌานกลา้
ร่อนลงตรงพื้นพสธุ า นาสองกัลยาเข้ากุฎีฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถึงจงึ กราบลงกับบาท อยั กาธริ าชฤาษี
ทลู ความตามจริงทุกส่ิงมี แล้วกลายเป็นนารฉี บั พลนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ กอดกุมอุ้มองค์พระลกู รัก โลมลบู จูบพักตรเ์ กษมสันต์
ใหเ้ สวยนมนางพลางราพัน รบั ขวญั กล่อมใหไ้ สยาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

172

๏ ขวญั ออ่ นนอนเถิดจะกล่อมเจ้า ขวัญช้าวอย่าทรงกันแสงหา
ปา่ นน้ีองค์ทรงฤทธ์ิบดิ า ครองกรุงอสรุ าสาราญใจ
ขวญั แกว้ แววตายาจิต จงสถิตอูท่ องผ่องใส
อย่าเท่ียวชมพนมพนาลัย ดวงใจจงสุขสวัสดฯี
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครน้ั โอรสระงบั หลบั แลว้ ผอ่ งแผ้วปรดี ิเ์ ปรมเกษมศรี
ชวนสองธิดานารี ราตรรี ะงบั หลบั ไปฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ คร้นั รุ่งรางสร่างแสงสรุ ิยง โสรจสรงลกู รักให้ผ่องใส
จงึ หยิบรูปหน้ามา้ มาบัดใจแลว้ โฉมยงทรงใสก่ ายาฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ กลายเป็นนางแกว้ สัปดน วปิ รติ ผดิ คนหนักหนา
แล้วว่ากบั พน่ี ้องสองธดิ า น่ีแลคอื ว่าเป็นเจา้ นาย

พบปะท่ไี หนไม่คานบั จะเส่ยี งสับรอ้ื รบิ ให้ฉิบหาย
ผา่ อกสาวไส้เสยี ใหต้ าย วางวายชวี ติ เหมือนบดิ าฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมือ่ นัน้ สองนางประนมก้มเกศา
กราบแลว้ กราบเล่าเฝ้าวันทา วิญญาไมเ่ ป็นสมประดีฯ

173

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแกว้ ย้ิมแย้มแจ่มศรี
แลว้ อมุ้ องค์โอรสธบิ ดี เขา้ ไปอญั ชลุ ีพระอาจารย์
ทลู ว่าตัวขา้ จะไปส่ง สองนางโฉมยงยังสถาน
ขอฝากลูกยาไมช่ ้านาน บ่ายสนธยากาลจะกลับมาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บัดนัน้ พระมหาดาบสพรตกล้า
รับเอาพระกุมารหลานยา พระสิทธาถวลิ ยินดีฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นั้น นางแกว้ ปรีดิ์เปรมเกษมศรี
จงึ ถอดรูปเสยี พลันทนั ที เลยจาแลงอนิ ทรยี ์ทนั ใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ กลายเป็นมาณพแนง่ น้อย ทรงสร้อยโสภาจะหาไหน
ชวนสองพระธิดายาใจ ข้ึนเรอื น้อยลอยไปยังพาราฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครู่หนงึ่ ถงึ กรุงอสุรี จึงสงั่ สองบุตรีเสน่หา
สิ่งใดอย่าไดพ้ ูดจา ชวี าจะมว้ ยวายชนม์ฯ

174

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือนัน้ สองนางต่างแจง้ อนุสนธ์ิ
กราบพลางทลู ความตามยบุ ล ข้าทงั้ สองคนไมแ่ พรง่ พราย
เบ้ืองหนา้ ถ้าแมน้ ไมเ่ หมือนคา จงึ คอ่ ยทาโทษริบให้ฉิบหาย
จะขอพึ่งบุญญากว่าจะตาย พระโฉมฉายอย่าพะวงสงกาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื นน้ั มาณพสรวลสันตห์ รรษา
จึงยน่ วนแวะนาวา ลีลาส่ทู ้องพระโรงธารฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ จงึ ชวนสองนารี ลงจากนาวเี กษมสานต์
กรายกรยา่ งเย้ืองบทมาลย์เขา้ ปราสาทสรุ ยิ ก์ าญจนท์ ันใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมื่อน้นั หน่อนรนิ ทรพ์ นิ ทองผอ่ งใส
แลเหน็ อนุชามาแต่ไกล พระวิ่งไปต้อนรบั ฉบั พลัน
จงู กรมาณพนวลละออง มานัง่ บนแทน่ ทองเฉดิ ฉนั
จึงถามวา่ พาสองแจ่มจันทร์ ไปแลว้ ผายผนั มาไยฯ

ฯ ๔ คา ฯ

175

๏ เมื่อนัน้ มาณพนบนิ้วสนองไข
สองนางต่างทรงโศกาลัย ไม่สมคั รรักใคร่น้องน้ี
ปลูกเรือนต้องตามใจผ้อู ยู่ สดุ ร้ทู ี่จะโลมโฉมศรี
คนื ถวายทรงธรรม์พันปี นอ้ งนีจ้ ะลาไปอารญั ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังเอยฟงั น้องรัก ทรงศกั ดิ์สารวลสรวลสนั ต์
จงึ ตรัสว่าหนมุ่ สาวคราวกนั ไมผ่ กู พนั พูดจาวา่ วอน

เชน่ นีจ้ ะมีที่ไหนได้ ไมเ่ อาใจนารีฟังพี่สอน
เมือ่ ไมร่ กั จักส่งองค์บังอร ขวัญออ่ นจะรักสิง่ อันใด
จงเลือกตามประสงคจ์ งจติ เวน้ แต่ดวงชวี ติ ปลิดไม่ได้
นอกนน้ั ไมข่ ดั ตัดอาลัย จะตามใจน้องแกว้ แววตาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อน้ัน มาณพยิ้มพลางทางว่า
น้องไซม้ ิใชเ่ จตนาปรารถนาเขา้ ของสิง่ ใด
สารพดั ทรพั ย์สินจินดา แมน้ ไม่มว้ ยมรณาหาได้
จะขอทาไมตรีพระพี่ไว้ สืบไปจนตายวายปราณ
จะรับเอาเขา้ ของไมต่ ้องท่ี ไมตรีจะห่างทางสมาน
ไปเบอ้ื งหนา้ ถา้ น้องจะต้องการ จงึ จะมารบั พระทานภมู ีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

176

๏ เม่ือน้นั หนอ่ นรนิ ทรพ์ ินทองผ่องศรี
ย้มิ พลางทางตอบวาที พ่นี ้รี กั เจา้ เทา่ ชีวา
จะชวนน้องไปครองพระนิเวศ ไดต้ า่ งเนตรพช่ี ายทงั้ ซ้ายขวา
คุณเจา้ เท่าพื้นแผน่ พสธุ า จะรักร่วมชีวาจนวนั ตายฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟงั บญั ชา วนั ทาทูลไปดงั ใจหมาย
ซึ่งรกั นอ้ งปองเลี้ยงเคียงกาย คงสมหมายสักวันมั่นคง
กลวั แตน่ านไปจะไมร่ กั ดว้ ยต่าศกั ดิ์เหมือนกาฝ่าฝูงหงส์

วา่ รักดงั ชีวิตจติ จง ขอ้ น้ีอย่าหลงลืมสัญญา
เชญิ เสด็จภูวไนยไปก่อน แล้วนอ้ งรักจักจรไปหา
ครงั้ น้จี าใจครรไลลา ผ่านฟา้ จงอยู่สวสั ดี
ว่าพลางทางกม้ กราบกราน แทบเบอ้ื งบทมาลย์พระโฉมศรี

ลงจากแท่นรตั น์รูจี จรลีมายงั สดั จองฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ ชักสายยนต์นอ้ ยลอยเล่ือน คล้อยเคลื่อนเหาะหนั ผันผยอง
ทกั ษิณครบสามตามทานอง ลอยล่องดน้ั กลบี เมฆาฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครั้นถึงกฎุ ีท่ีอาศยั อโณทัยบา่ ยบังพฤกษา
โฉมยงลงจากนาวา ลีลาเขา้ เฝ้าพระมุนฯี

177

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครนั้ ถึงจึงก้มกราบกราน องค์พระอาจารย์ชาญชัยศรี
แปลงกายกลายเพศเป็นนารี สวมรปู หน้าพาชีฉบั พลันฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ กราบลงตรงพักตร์พระสทิ ธา หลานรักจกั ลาไปเขตขัณฑ์
พรุง่ นแี้ ตร่ ่งุ สุรยิ ัน ทรงธรรม์จงอยู่สถาพรฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั น้ัน พระนักสิทธก์ ลา่ วความตามนุสรณ์
ผวั เจ้าเขาจะคนื นคร รีบจรไปให้ถึงจงึ จะดี

โอนอ่อนผ่อนผันกนั เถิดหวา อย่ารักรปู หน้ามา้ บดั สี
ให้ลูกน้อยพลอยยนั อัปรีย์ คนดที าบา้ กนู า่ ชงั

ตรัสพลางทางส่งโอรส แล้วดาบสอวยพรสอนสัง่
ลกู รกั เตบิ ใหญ่อย่าไวว้ งั กจู ะสง่ั สอนให้คงได้ดฯี

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดนนั้ นางแก้วประณตบทศรี
รบั พรพระคณุ มนุ ี มายงั กฎุ ีทีน่ อน

ผูกเปลเห่กล่อมพระลูกแกว้ หลบั แล้วมีจติ สโมสร
ลลี าส่ทู ่าชโลทร หาบคอนน้าท่าให้อาจารย์ฯ

178

ฯ ๔ คา ฯ

๏ จัดสรรสรรพเสร็จสาเรจ็ แล้ว ผอ่ งแผว้ ปรีดเิ์ ปรมเกษมสานต์
กอดกมุ อมุ้ องค์พระกมุ าร นงคราญระงบั หลบั ไปฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ ใกล้รุ่งสุริยาการ้อง แสงทองไตรตรสั จารัสไข
จึงวันทาอาจารย์ชาญชยั ทรามวยั อุ้มองคพ์ ระลูกยา
จูบกระหม่อมจอมเกลา้ เมาลี รบี ออกจากทด่ี ้วยหรรษา
น่ังลงตรงกลางนาวา ชกั สายยนต์พาปลิวไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เบย่ี งบา่ ยชายแสงทนิ กร ลถุ งึ พระนครหาชา้ ไม่
ร่อนลงตรงนอกพระเวียงชยั ซอ่ นนาวาไว้ใหล้ ับตา
โอบอุ้มโอรสยศยง เล่นองค์ไมน่ ้อยเดินลอยหน้า

เขา้ ในบุรีดว้ ยปรีดา ตรงมานิเวศบวรฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครั้นถงึ วังในดงั ใจจง ขนึ้ ปราสาทมาตุรงค์ทรงศร
อุ้มองคโ์ อรสบทจร ขนึ้ เฝ้าพระมารดรทนั ใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

179

๏ ครน้ั ถึงจึงก้มกราบกราน วางองค์พระกุมารไว้ให้
ยอกรวันทาแลว้ คลาไคล ออกไปเทยี่ วเล่นเช่นเดิมมาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนั้น ชาววงั น่งั เล่นพอเห็นหนา้
ถามอึงมงึ ไปข้างไหนมา กคู ิดวา่ มว้ ยมอดวอดวายฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้ัน นางแกว้ ตอบไปดังใจหมาย
กูไปทาลกู ไวใ้ หเ้ จา้ นาย พูดพลางย้ิมพรายไปมาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นั้น สาวสาวชาววงั ฟังวา่
ต่างคนสรวลสันตจ์ านรรจา ลกู ยาอยู่ไหนไม่เห็นมี
หาคล่องจรงิ จรงิ หญิงฤาชาย ง่ายดายนักหนาเจียวฟ้าผี่

พ่อมนั อยู่ไหนไม่เห็นมี ไพร่ฤาผู้ดปี ระการใดฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นัน้ นางแก้วตอบมาหาชา้ ไม่
รูปร่างช่างงามทรามวัย กลัวจะหามาไมเ่ หมือนเรา
พ่อมันไมร่ ดู้ ูแต่ลูก จะบอกให้ไม่ถูกเสยี แลว้ เจ้า
กลัวไปจะไม่เหมือนเช่นเรา คนอยา่ งหน้าเจ้าอยา่ เจรจา

180

พดู พลางลดเลีย้ วเท่ยี วเลน่ โลดเต้นออ้ื องึ ประหน่ึงบ้า
ทงิ้ ลูกจนค่าไม่นาพา วง่ิ ไปวิ่งมาเป็นสิงคลฯี

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื นนั้ ท้าวมงคลราชเรอื งศรี
ท้งั นางนันทานารี จิตใจไม่มีปรีดา

แลเหน็ นางแกว้ สปั ดน ร้อนรนฤทยั หนักหนา
กรงุ กษัตรยิ จ์ งึ มีบญั ชา ตรองตรึกปรึกษานางเทวี
อแี ก้วสปั ดนคนจังไร สญู กายหายไปจากกรุงศรี
คดิ ว่าลม้ ตายวายชีวี บดั นกี้ ลับมานา่ ราคาญ

เอาลกู ของใครท่ีไหนมา โสภารูปทรงสงสถาน
ตรสั พลางทางดูพระกุมาร เทวญั บนั ดาลดลใจ
สององค์ทรงพจิ ารณา ใหม้ ีจิตเมตตารักใคร่
กุมารนี้ลูกเต้าเหลา่ ใคร จึงเฉิดฉนั วไิ ลลาวณั ย์
ต่ออีอปั ลักษณ์พกั ตร์อาชาจะขโมยเขามาเปน็ แมน่ ม่ัน
รูปร่างจรติ จึงผิดกัน มิใชล่ ูกของมนั เป็นแน่ใจฯ

ฯ ๑๒ คา ฯ

๏ เมือ่ นน้ั โฉมนางนันทาอชั ฌาสัย
ตรกึ พลางทางทูลฉลองไป ขา้ ประหลาดหลากใจเป็นพน้ นัก

เน้อื นมมนั มิใชส่ าว เร่อื งราวอยา่ งไรไม่ประจักษ์
แต่คดิ เหน็ ไมเ่ ปน็ ฉดุ ลัก ฤาพ่อดมี ีศกั ดดิ์ อกกระมงั ฯ

181

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื น้ัน กรุงกษัตรยิ ต์ รัสไปดังใจหวงั
รูปนั้นชวั่ ช้านา่ ชงั ใครบ้างรักษาชา่ งพาที

คดิ มากน็ ่าใคร่สงสาร แตก่ ุมารแนง่ นอ้ ยมศี รี
เกลียดอีแพศยากาลี จะมาเฝา้ เซ้าซี้สืบไป
ตรัสพลางลบู ไล้ไปมา สองกษัตริยเ์ มตตารักใคร่
เรียกเหลา่ สาวสรรกานลั ใน มาผูกเปลเหใ่ หไ้ สยาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแกว้ แสร้งซ้าทาบา้
เยน็ รอนอ่อนแสงสรุ ยิ า รบี เขา้ มาเฝา้ พระชนนฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมือ่ นนั้ นางกษัตริยส์ ะบัดเบือนหนี
เสอื กลูกให้พลนั ทันที เทวีเมนิ พักตร์ไม่นาพาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดน้นั นางแกว้ ย้มิ ละไมในหนา้
แลดูรูท้ ีด้วยปรีชารบั เอาลกู มาทันใด

อมุ้ ให้ทรามเชยเสวยนม เชยชมตามจิตพสิ มัย
แลว้ วันทาลาสองท้าวไท กลบั ไปหอ้ งหบั หลบั นอนฯ

182

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือน้ัน พระพนิ ทองสรุ ยิ ์วงศ์ทรงศร
เนาในสามญั พระนคร ภธู รเกษมเปรมปรดี ์ิ
เนิน่ นานประมาณเดือนเศษ ทรงเดชคะนึงถงึ กรุงศรี

คิดจะใคร่ไปสู่บูรี พระจงึ มสี ุนทรวาจา
สั่งนางสรอ้ ยสุวรรณจันทร จงแจง้ การมารดรเสนหา
จะครรไลไปกรงุ มถิ ิลา สุรยิ าฤกษ์รุ่งเรว็ พลนั ฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมื่อนนั้ พี่นอ้ งสองนางสาวสรร
นอ้ มกายถวายบังคมคลั ชวนกนั เร่งรบี จรลฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ครัน้ ถึงจึงก้มกราบลง ตา่ งทรงโศกเศรา้ หมองศรี
ทลู วา่ เวลาพรุ่งน้ี พนั ปจี ะคืนเวียงชัยฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั องค์พระชนนศี รีใส
ฟังสองพระธดิ ายาใจ อาลัยสวมกอดเอาลูกยาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

183

๏ โอ้ว่าเจ้าดวงนยั นเ์ นตร บิตุเรศชีวงั สังขาร์
เหน็ แต่พักตร์พ่ีน้องสองรา ค่อยสวา่ งวญิ ญาอาวรณ์
เจ้าพลัดพรากจากไปไกลทรวง ดังเดด็ ดวงชีวังสังหรณ์
ใครจะสังสการมารดร ทกุ ขร์ ้อนขุกเข็ญจะเห็นใคร
รา่ พลางทางทรงโศกา ประหนง่ึ ว่านงลักษณจ์ ะตักษยั
สวมสอดกอดสองธิดาไว้ ทรามวยั โศกศัลย์พนั ทวีฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ นัน้ สองราชธิดามารศรี
กอดบาทนฤมลชนนี โศกีครวญครา่ ราพนั ฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ โอว้ ่าอนิจจาพระแมเ่ จ้า พระบาทเคยปกเกล้ากระหม่อมฉัน
เล้ยี งลูกทงั้ สองครองกัน เกษมสุขทกุ วันเวลา

จนเติบใหญม่ าได้ถึงเพียงนี้ ไมโ่ บยตีแสนรักหนักหนา
จะจากไปไกลบาทมุลิกา ประหนึง่ เหย่ยี วเฉยี่ วคว้าพาจร

โอ้นับปจี ะมแี ต่ความทกุ ข์ ไปไกลถน่ิ สนิ้ สุขสโมสร
ใครจะอภิบาลเหมอื นมารดร ทุกข์ร้อนยุคเขญ็ ไม่เหน็ กัน

ร่าพลางทางทรงโศกา เพยี งดับดวงชวี าอาสญั
สองกรข้อนทรวงรมุ รัน แจ่มจันทร์ไม่เปน็ สมประดฯี

ฯ ๘ คา ฯ

184

๏ ครนั้ คอ่ ยเคลอ่ื นคลายวายโศกา พระมารดาลบู โลมโฉมศรี
กรรมแลว้ ลูกแกว้ อย่าโศกี บญุ มไี ม่ตายคงกลายไป
สององค์จงฟังแมส่ ่งั สอน อย่าเงา้ งอนจงสมัครรักใคร่
พ่จี งรักน้องครองใจ นอ้ งไซร้จงมีอารรี กั
สงั่ สอนผ่อนผนั กนั ท้ังคู่ จงรว่ มรู้ใหง้ ามตามยศศักดิ์
ระวงั ผดิ ควรคิดสามภิ ักด์ิ เหมือนดารงวงศ์ศักดิ์สบื ไป

ตรสั พลางนางสอนพระบตุ รี ออกจากปรางค์มณศี รีใส
พรงั่ พร้อมสุรางคน์ างใน ข้ึนไปเฝ้าองค์พระทรงธรรมฯ์
ฯ ๘ คา ฯ

๏ ครั้นถึงซึง่ ปรางค์รัตนา ชวนสองพระธิดาสาวสรร
สามนางต่างขึน้ อัฒจนั ทร์ เข้าในหอ้ งสุวรรณทันใดฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ น่งั ลงตรงพักตรพระภูมี ทั้งสองพระบุตรีกราบไหว้
น่ังเรยี งเคยี งกันเปน็ หล่ันไป คอยฟังภูวไนยบญั ชาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นน้ั พระพินทองสรุ ิยว์ งศท์ รงยศถา
ผันแปรแลเห็นนางพระยา จึงเลอ่ื นองค์ลงมาทันที
แล้วยมิ้ พร้มิ พักตรส์ ุนทร ขอวันทาลาจรจากกรุงศรี

จะขอสองนิม่ นชุ บุตรี พาไปสูบ่ รุ ีดว้ ยกนั

185

ถนิ่ ฐานบา้ นเมืองนี้ไซร้ มอบให้ท่านส้ินทกุ สิ่งสรรพ์
คงจะไดไ้ ปมาหากนั จงครอบครองเขตขัณฑใ์ ห้ปรีดาฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมือ่ นนั้ นวลนางอสุรีมียศถา
ฟงั ตรสั มธุรสวาจา จงึ สนองพระบญั ชาทนั ใด
ซึง่ พีน่ ้องสององค์นงลกั ษณ์ ถวายองค์ทรงศักด์ติ ามวิสยั

ซ่งึ ขอ้ พระจะพาคลาไคล ขา้ ไม่ขืนขดั ทดั ทาน
แต่จากอกตกต่ากาพร้า พลาดพรากพาราถ่ินฐาน

ขอฝากโฉมยงนงคราญ ไวใ้ ต้บทมาลยภ์ มู ฯี
ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ น้ัน พระฟันทองยิ้มแยม้ แจ่มศรี
จึงปราศรยั ไพเราะวาที ท่านอย่ามพี ะวงสงกา
ซึ่งพี่น้องสององค์นงคราญ คดิ พะวงสงสารหนักหนา
มิให้ฝงู นารนิ นนิ ทา จะเลยี้ งตามวาสนานงเยาว์
จงอยู่ดปี รีดาถาวร อยา่ ทุกข์รอ้ นวิโยคโศกเศรา้
พลง้ั ผดิ จะคิดแบ่งเบา อย่าอาวรณ์ร้อนเร่าฤทัยฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ ฟังตรัส นางกษตั รยิ ์ช่ืนแชม่ แจ่มใส
จงึ กลา่ วคาอานวยอวยชยั ลาไปปราสาทรูจีฯ

186

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมือ่ นนั้ พระโฉมยงทรงสวสั ด์ริ ัศมี
ครัน้ สายแสงสุรยิ นั ทนั ที จรลยี งั ท้องพระโรงธารฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ ลดองคล์ งนง่ั บัลลงั กอ์ าสน์ พรอ้ มหม่อู ามาตย์กาแหงหาญ
จงึ ตรัสส่งั อสรุ ีปรชี าชาญ ตัวทา่ นจงอยู่ดูพารา
ตวั เรากบั เหล่าพลไกร จะลาไปยงั เมอื งมนุสสา
ฤกษ์รงุ่ พรงุ่ นี้จะลีลา ยกพลเภตราคลาไคล

ตรัสพลางทางส่ังพระพ่เี ล้ยี ง จงเรียบเรียงพหลพลไพร่
รบี รดั จดั สรรกันไว้ ใหเ้ สร็จในเวลาราตรฯี
ฯ ๖ คา ฯ

๏ บัดนัน้ พระพี่เลี้ยงบังคมก้มเกศี
คลานคล้อยถอยมาไม่ชา้ ทีส่ังความตามมีบญั ชาการ

บรรทุกเข้าของเสบยี งกรงั อกี ทั้งโภชนาอาหาร
ทั้งตน้ หนคนทา้ ยนายงาน อลหม่านวนุ่ วงิ่ เป็นสิงคลฯี

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื น้นั พระนรินทร์พินทองผ่องศรี
พวยพุ่งรงุ่ หล้าราตรี มาเขา้ ทโ่ี สรจสรงคงคา

187

ประดับองค์ทรงเครื่องเรอื งรอง ชวนพระพี่น้องเสนหา
ท้งั หม่สู าวสรรกลั ยา ออกจากมหาปราสาทชยั ฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ คร้ันถึงจงึ ลงนาวี พร้อมสนมนารศี รีใส
แซ่เสียงสาเนยี งพลไกร นายไพรว่ นุ่ วิง่ พลั วันฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บัดนัน้ ต้นหนคนงานแข็งขัน
ตรวจตราเร่งรดั จดั กนั จดั สรรชลุ มุนว่นุ วาย
บา้ งฉุดโซโ่ ลล้ ากสายสมอ แขง็ ข้อดันดึงท้ึงสาย
บางวางใบถว้ นทัว่ หัวทา้ ย เบยี่ งบ่ายหนั เหเภตรา
ไดฤ้ กษ์อามาตย์ฆาตฆ้อง โห่ร้องเกรยี วกราวฉาวฉ่า
แล่นหลามตามกันเปน็ หลน่ั มา ออกอา่ วพาราฉบั พลนั ฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ คร้ันถงึ ซ่งึ กลางชเลลม พระทรามชมปรีดเ์ิ ปรมเกษมสันต์
ชวนฝงู สุรางค์นางกานลั ชมพรรณมจั ฉาบรรดามีฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บ้างลอ่ งลอยคอยเคียงเคล้าคู่ บ้างแตกหม่กู ลับกลายวา่ ยหนี
ปลาหมดู ูเหมือนสุกรมี หางว่ายวารีมาไรไร

188

เงือกงดู ดู งั นาคราช วงวาดทอ่ งเทย่ี วเลี้ยวไล่
บา้ งวา่ ยแวะแทะหนิ กินไคล เตบิ ใหญ่เท่าลาเภตรา
เหลา่ ละเมาะเกาะเกดิ กลางสมุทร สงู สุดเป็นเวิ้งเพิงผา
วุ้นสาหรา่ ยสายตดิ ศลิ า ผ่านฟา้ ชมพลางทางถอนใจ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ หวนคะนึงถงึ องค์นางมณี ปา่ นฉะน้ีเนื้อเย็นเป็นไฉน
จะนึกนับวันทา่ อาลยั ปางใดจะพบประสบกัน
ถา้ แมน้ แก้วแววตามาดว้ ย จะชมช่นื รืน่ รวยหฤหรรษ์

ครวญพลางย่างเย้ืองจรจรัล ผายผนั เข้าในห้องไสยาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่อื นน้ั พระบุตรีพีน่ อ้ งเสนห่ า
ทั้งเหล่าสาวสรรกัลยา ไม่เคยมานา้ กวา้ งทางไกล

ชวนกันเยยี่ มชอ่ งมองชม มจี ติ ภิรมยแ์ จ่มใส
เพลิดเพลินจาเริญหฤทัย ยั่วหยอกกนั ไปทุกนารีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นั้น ต้นหนคนงานชาญหน้าท่ี
ใช้ใบมาในวนชลธี ลมดพี ดั สง่ สะดวกดาย
โยธไี ม่มีภยนั ต์ ทัง้ กลางคนื กลางวันผันผาย
น่งั ดูชูคอไมถ่ ่อพาย ไพรน่ ายเกษมเปรมปรา

189

บา้ งร้องละครมอญรา บ้างร้องลานาทาท่า
ลางทตี ีกรับขับเสภา ทั้งดอกสร้อยสกั รวาว่าเรื่อยไป

บา้ งสบู ฝิน่ กินบร่นั กญั ชา สรวลเสเฮฮาท้ังนายไพร่
ไดล้ มแลน่ ลอ่ งคล่องใจ มาในหว้ งมหาวารฯี
ฯ ๘ คา ฯ

๏ เดอื นหนึ่งถึงกรุงมิถิลา เภตราประทบั ทอดจอดท่ี
ทอดสมอรอรานาวี ตรงที่ตาหนักชโลธรฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื นน้ั พระพินทองสรุ ยิ ์วงศท์ รงศร
แจ้งว่ามาถงึ พระนคร ภธู รยนิ ดปี รีดา
จึงชวนนางสรอ้ ยสรุ รรณจันทร สาวศรนี ิกรพรอ้ มหน้า
พระโฉมยงลงจากเภตรา ลีลาเขา้ ยังวังในฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ครนั้ ถงึ จึงกราบลงกับบาท สองกษัตรยิ ธ์ ริ าชเป็นใหญ่
หมอบเมียงเคยี งแทน่ อาไพ หฤทยั เกษมเปรมปรีด์ฯิ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอ่ื นั้น สองกษัตริยช์ ่ืนแช่มแจ่มศรี
สวมกอดลูกยาแลว้ พาที กว่าปีแต่พรากจากไป

190

พอ่ น้ีต้ังแตจ่ ะอาดูร เพม่ิ พูนวติ กหมกไหม้
เมียมาดว้ ยฤาหล่อนชอ่ื ไร น่ันฤามิใช่เล่าลูกอาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอื่ นน้ั พระโอรสกราบพลางทางวา่
ถึงลูกไปไกลเบื้องบาทา ทกุ ทวิ าคะนึงถึงพันปี

เกลียดอหี น้าม้าไม่มาได้ จาใจอยโู่ รมวิถี
ต่อพระองคส์ ่งสาส์นไปคร้ังน้ี ลกู จงึ จรลมี าฉับพลนั

ลมซัดพดั เขา้ ในเมืองยักษ์ ลกู รักหวังวา่ จะอาสัญ
ทลู ตามความหลงั ครงั้ น้ัน ให้ทรงธรรม์แจ้งเหตเุ ภทพานฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอ่ื นัน้ สองพระองคท์ รงโศกสงสาร
สวมสอดกอดองค์พระกุมาร ป้มิ ปานจะสนิ้ สมประดี

โอว้ ่านิจจาพระลูกแกว้ บญุ แล้วเนื้อเย็นไม่เปน็ ผี
ซง่ึ ปลดปลอดรอดมาครานี้จะจาเริญสวสั ดสี บื ไป
ดูดยู๋ กั ษาอาธรรม์ ดุดนั หนกั หนาอ้ายหนา้ ไพร่
คุณของมาณพลบแดนไตร ช่วยลูกขา้ ไว้จงึ คงชนม์
รา่ พลางต่างองค์ทรงโศกา ชลนาพรัง่ พรายดังสายฝน
กอดลูกประทับกบั สกนธ์ โศกาบ้าบ่นคะนึงไปฯ

ฯ ๘ คา ฯ

191

๏ บัดนั้น นางแกว้ หนา้ ม้าอชั ฌาสัย
ร้วู ่าพระองคท์ รงชัย คืนยังวงั ในกย็ ินดี
โอบอมุ้ โอรสยศยง เดนิ ตรงเขา้ ห้องมณีศรี
น่งั ลงตรงพักตร์พระภูมี อัญชลุ ยี มิ้ พรายชายตา
แล้วนบน้วิ ทูลพลันทนั ใด ขา้ ตงั้ ใจทาลูกไว้ท่า
สมเปน็ ลูกเตา้ ทา้ วพระยา เชญิ ทอดทัศนาใหเ้ ต็มใจฯ

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมอื่ นั้น หนอ่ กษัตริย์ตรัสมาหาช้าไม่
ทาไว้ได้แลว้ ก็แลว้ ไป อีหน้าไพร่อย่ามาพาทฯี

ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั น้ัน นางแก้วยม้ิ แย้มแจ่มศรี
วางลกู ลงพลันทันที จรลีไปมองสองธิดาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เมอื่ นัน้ สองนางพ่นี อ้ งเสนหา
แลเห็นนางแกว้ หนา้ ม้า จึงหมอบลงตรงหนา้ ทนั ใด
ต่างคนบงั คมก้มพักตร์ กลวั หนกั ล้นเหลอื จนเหง่อื ไหล

ตัวสั่นขวญั หนีไมม่ ใี จ มิได้เงยหน้าพาทีฯ
ฯ ๔ คา ฯ

192

๏ เมอื่ น้นั หนอ่ กษัตรยิ ์ตรสั ถามตามที
ดกู รพนี่ ้องสองนารี กราบอหี น้าม้าวา่ กระไร
เจ้าเป็นสรุ ยิ ว์ งศ์พงศพ์ ันธ์ุ ตวั มันต่าชา้ หนา้ ไพร่
ขายพักตร์หนกั หนาน่าขัดใจ กลวั มันทาไมเร่งบอกมาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อน้นั สองนางประนมก้มหนา้
เห็นนางแก้วถลึงขึงตา วันทาแลว้ ทูลทันที
รูปร่างหนา้ ตาน่ากลัว เนอ้ื ตวั ผิดเพื่อนเหมือนหมี

ผดิ กับคนผทู้ ้ังบูรี ข้านีจ้ ึงไดว้ ันทาฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนน้ั นางแก้วยม้ิ ละไมในหนา้
หลีกเลยเฉยไปไมน่ าพา ออกมาว่ิงเต้นเล่นสบายฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่ือนนั้ หนอ่ กษัตรยิ พ์ ริ้งเพรศิ เฉิดฉาย
เห็นนางแกว้ เทย่ี วไปไกลกาย จงึ ค่อยชายเนตรดูกมุ ารา

เฉิดโฉมแฉล้มแชม่ ช้อย แนง่ นอ้ ยนา่ รักหนักหนา
ผิดกับอาการมารดา ผ่านฟ้ากินแหนงแคลงใจ

จึงทูลถามยบุ ลชนนี ลูกน้ีนึกพะวงสงสยั
กมุ ารนีล้ ูกเตา้ เหล่าใคร มิใช่บตุ รอกี าลีลามฯ

193

ฯ ๖ คา ฯ

๏ เมือ่ นนั้ นางกษตั รยิ น์ ง่ิ นั่งฟังถาม
ย้มิ พลางทางแถลงแจ้งความ แต่ตามอนุสนธ์ิตน้ ปลาย

แต่วันเจา้ พรากจากนคร มันหนอี อกซอกซอนสญู หาย
มาถึงเดือนน้ีมีลูกชาย เหตุผลต้นปลายไม่แจง้ ใจฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ ฟังมารดา ย่ิงตรกึ ตราพะวงสงสยั
เฝ้าผินดกู ุมารชาญชัย มใี จเมตตาปรานี
จงึ แลเหน็ ธามรงคว์ งสาคญั ท่ใี หน้ างแจม่ จนั ทรม์ ณีศรี
กับกัมพลภูษาคา่ บรุ ี ภมู ีตะลงึ ทัง้ กายา
เขา้ อุ้มองค์พระกุมารชาญชดิ แลเล็งเพง่ พิศคิดกงั ขา
ผิวพักตรผ์ ดุ ผอ่ งดังทองทา พักตราคล้ายองคน์ งคราญ
ท่วงทอี ีแกว้ สัปดน ซกุ ซนดนั้ ดงึ ไปถึงบ้าน
ลอบลักโฉมยงองค์กุมาร แหวนแกว้ สุรยิ ก์ านต์จึงตดิ มา
คดิ พลางทางทูลชนนี กุมารองค์น้อยน้โี อรสา
ทลู ความตามครงั้ แตห่ ลงั มา ลกู ข้าแน่นักประจักษ์ใจ
ท่วงทีอีแก้วสัปดน ซุกซนลกั พามาได้
ภูษาธามรงค์วงนี้ไซร้ จาได้แนน่ กั ประจักษต์ าฯ

ฯ ๑๒ คา ฯ

194

๏ ฟงั ลูกรกั นงลักษณย์ ่ิงพะวังกังขา
จงึ กล่าวสนุ ทรวาจา มารดายังแหนงแคลงใจ
แม้นมนั ลักลูกเตา้ เจ้านี้ เน้ือนมจะมมี าแตไ่ หน
อย่าเพ่อเคืองขุ่นวุ่นไป คงจะไดเ้ หน็ เสร็จเท็จจรงิ ฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เม่ือนัน้ พระโฉมยงทรงฟังน่ังนง่ิ
นึกแหนงแคลงจิตคดิ ประวิง กริง่ กริ่งตรึกไตรไปมา

เฝา้ พิศดูกมุ ารชาญชัย ย่งิ รักใคร่ผกู พันพรรษา
เห็นนางแก้วดาเนนิ เดนิ มาพระวางองคล์ ูกยาทนั ทีฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ น้อมกายถวายอภิวาท แทบบาททา่ นท้าวทง้ั สองศรี
ชวนสองกัลยานารี จรลีมาสู่ปราสาทชัยฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ น่ังเหนือแทน่ แก้วแพรวพรรณ พรั่งพร้อมกานัลน้อยใหญ่
คิดคะนงึ ถงึ ลูกผูกใจ พระนิง่ นึกตรึกไตรไปมาฯ
ฯ ๒ คา ฯ

๏ บดั นัน้ นางแกว้ แสรง้ ซา้ ทาบ้า
เข้าอุ้มองคล์ กู แกว้ แววตา ตดิ ตามผา่ นฟ้ามาทนั ที

195

วางลงตรงพักตรภ์ ธู ร คมค้อนดาเนนิ เดนิ หนี
แฝงอยู่ดูองค์พระภมู ี จะพูดจาพาทปี ระการใดฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมอ่ื นน้ั พระทรงโฉมประโดมฟิสทัย
คดิ ว่านางหนา้ ม้าคลาไคล จงึ ลงไปอุ้มองคพ์ ระลูกรัก

ยิง่ มจี ติ เมตตาปรานี ภูมียกวางกลางตัก
เหน็ โอรสแย้มยิม้ พรม้ิ พักตร์ ทรงศกั ดส์ิ รวลสนั ต์จานรรจา

เจา้ เปน็ ลกู เต้าเหลา่ ใคร ดเู ราทาไมเป็นหนกั หนา
แม้เจ้าอยู่ไหนได้ลักมา อย่กู บั อหี นา้ มา้ กาลี
ตรัสพลางเชยโฉมโลมลลู คดิ จะจบู กอ็ ายสาวศรี

เย้าหยอกถวิลยินดี เกษมศรสี าราญบานใจฯ
ฯ ๘ คา ฯ

๏ บดั นัน้ นางแกว้ ย้มิ แย้มแจม่ ใส
แลเห็นพระองค์ทรงชัย ลูบไล้ลกู ยาด้วยปรานี
แกลง้ ทากระแอมไอใหเ้ สียง หลกี เลีย่ งหลบพักตร์พระโฉมศรี
ลบั แลงแฝงฝาไม่พาที คอยดภู มู ีไม่พดู จาฯ

ฯ ๔ คา ฯ

๏ เมื่อนนั้ พระโฉมยงทรงลักษณด์ งั เลขา
กอดกุมอมุ้ องค์พระลูกยา เพลนิ พยักพักตราพาที

196

แวว่ เสยี งสาเนยี งกระแอมไอ ตกใจขยดถดหนี
แลหาแหง่ ใดก็ไม่มี รอรเี ข้ากอดเอากมุ าร
ลบู ไลไ้ ปท่วั ทง้ั กายา วญิ ญาพะวงสงสาร
เห็นลบั ตาขา้ สาวนงคราญ ภูบาลกอดจูบลบู ไลฯ้

ฯ ๖ คา ฯ

๏ บดั นั้น นางแก้วแสร้งซ้าทาไถล
นาฏนวลดว่ นเดนิ ดาเนินไป แลว้ แยม้ ยมิ้ ละไมไปมาฯ

ฯ ๒ คา ฯ

๏ เม่อื นนั้ พระทรงโฉมโลมลูบเสนหา
เหลยี วสบพบนางหน้าม้า พระขวยเขนิ เมนิ หนา้ ทนั ที
เสอื กลกู ออกไปให้ไกลกร เคอื งค้อนสะเทิน้ เมนิ หนี

เสดูเฝืองฝาไม่พาที พระโอรสโศกีองึ ไปฯ
ฯ ๔ คา ฯ

๏ บดั นั้น นางแกว้ ยิม้ น้อยย้ิมใหญ่
สวมกอดลกู ยาแล้าวา่ ไป นี่ลกู เต้าเหลา่ ใครหนอราชา

รจู้ กั ฤาไมอ่ ย่างไรนั่น น่าชมคมสันหนักหนา
เหมือนละมา้ ยคล้ายพ่อดงั หล่อมา กลวั แตต่ าจะขาวรอ้ งฉาวไปฯ

ฯ ๔ คา ฯ


Click to View FlipBook Version