อดีตพทุธ
สญัลกัษณในศิลปะลานนา
SYMBOLICMEANINGSOFTHEBUDDHASOFTHEPASTTHEINLANNAART
อดีตพุทธ สญั ลักษณใ์ นศลิ ปะล้านนา
THE SYMBOLIC MEANINGS OF THE BUDDHAS OF THE PAST IN LANNA ART
อดีตพทุ ธ
สัญลักษณ์ในศลิ ปะล้านนา
ขอ้ มลู บรรณานุกรมของหอสมดุ แหง่ ชาติ
ฉลองเดช คภู านุมาต
อดีตพุทธ สญั ลกั ษณ์ในศลิ ปะลา้ นนา
เชยี งใหม่ : โชตนาพรน้ิ ท,์ ๒๕๖๒
๒๕๔ หนา้
๑. อดีตพทุ ธ ๒. สัญลักษณ์ ๓. ศิลปะล้านนา I.ชอ่ื เร่อื ง
ISBN 978-616-398-411-1
พมิ พค์ รัง้ แรก กรกฎาคม ๒๕๖๒
ISBN 978-616-398-411-1
ออกแบบ/จดั รปู เล่ม STUDIO MINMEAK
พิสูจนอ์ ักษร สุดใจ สาครอร่ามเรอื ง
จดั พมิ พ์โดย ฉลองเดช คภู านมุ าต
พมิ พ์ที่ บริษทั โชตนาพริ้นท์ จำ�กดั
๖๙ ซ.๗ ถ.ช้างเผอื ก ต.ศรภี ูมิ
อ.เมอื ง จ.เชียงใหม่
โทร. ๐-๕๓๒๒-๕๒๓๗, ๐-๕๓๔๑-๐๑๕๐
[email protected]
สโุ ข พทุ ธฺ านมปุ ฺปาโท
สขุ า สทธฺ มฺมเทสนา
สขุ า สงฆฺ สสฺ สามคฺคี
สมคฺคานํ ตโป สุโข ฯ ๑๙๔ ฯ
การเกิดขน้ึ ของพระพทุ ธเจ้าท้งั หลายให้เกดิ สขุ
การแสดงพระสัทธรรมให้เกิดสุข
การพรอ้ มเพรยี งของหมู่ให้เกดิ สุข
ความพยายามของหม่ทู ่ีพร้อมเพรียงกนั ใหเ้ กิดสขุ
Happy is the birth of the Buddha,
Happy is the preaching of the Sublime Dharma,
Happy is the unity of the Sangha,
Happy is the striving of the united ones.
พทุ ธวจนะใน ธรรมบท
สารบญั กลา่ วนำ�
หนา้ ๙-๑๓
๑
ความเปน็ มาของสัญลกั ษณ์พระอดีตพุทธเจา้
หน้า ๑๕-๓๕
๒ สัญลกั ษณ์พระอดตี พุทธเจ้า
พระอดตี พทุ ธเจ้าในวรรณกรรมพทุ ธศาสนา
พระอดีตพทุ ธเจา้ ในวรรณกรรมล้านนา
ความหมายและองคป์ ระกอบของสัญลักษณ์พระอดีตพุทธเจ้า
หน้า ๓๗-๕๓
๓ ความหมายของสญั ลกั ษณพ์ ระอดีตพทุ ธเจ้า
พระอดีตพทุ ธเจา้ พระปจั จบุ ันพุทธเจา้ และพระอนาคตพุทธเจา้
พระปจั เจกพทุ ธเจา้
พระอนาคตพุทธเจา้
สัญลักษณ์พระอดีตพทุ ธเจา้ ในศิลปะล้านนา
หน้า ๕๕-๒๓๕
คตเิ รือ่ งพระอดตี พุทธเจ้าในวัฒนธรรมลา้ นนา
๔ สญั ลกั ษณ์พระพทุ ธเจา้ ๔ พระองค์
สญั ลกั ษณ์พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
สญั ลักษณ์พระพุทธเจา้ ๒๔ พระองค์
สญั ลักษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์
สัญลกั ษณ์พระพทุ ธเจ้า ๒๘ พระองค์
สัญลกั ษณ์พระอนนั ตพทุ ธเจา้
๕ บทสรุป
หนา้ ๒๓๗-๒๔๑
๖ เชิงอรรถ
บรรณานุกรม
ท่ีมาของภาพประกอบ
ประวัติผ้เู ขียน
หน้า ๒๔๒-๒๕๔
สพฺพปาปสสฺ อกรณํ
กสุ ลสฺสูปสมปฺ ทา
สจิตตฺ ปรโิ ยทปนํ
เอตํ พุทธฺ าน สาสนํ ฯ ๑๘๓ ฯ
ไม่ทำ�ความชวั่ ทกุ ชนดิ
ทำ�แต่ความดี
ทำ�ใจใหผ้ อ่ งใส
นเ้ี ป็นคำ�สอนของพระพทุ ธเจา้ ท้ังหลาย
Abstention from all evil,
Cultivation of the wholesome,
Purification of the heart;
This is the Massage of the Buddhas.
พุทธวจนะใน ธรรมบท
8
กล่าวนำ�
9
กล่าวนำ�
คตเิ รอ่ื งพระอดตี พทุ ธเจา้ เปน็ แนวคดิ ทเี่ ขา้ มาพรอ้ มกบั การเผยแผศ่ าสนาพทุ ธในภมู ภิ าค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแต่สมัยโบราณ ปรากฏหลักฐานในงานพุทธศิลป์รูปแบบต่าง ๆ
เปน็ จ�ำนวนมาก ตามวดั วาอารามทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และในประเทศเพือ่ นบา้ น อาทิ
พม่า ลาว และกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างย่ิงงานพุทธศิลป์ในเขตวัฒนธรรมล้านนาหรือบริเวณ
ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาที่มีความเจริญรุ่งเรือง
สืบเน่อื งมาอย่างยาวนาน ทงั้ น้ี พระไตรปฎิ ก อรรถกถา และวรรณกรรมพทุ ธศาสนาทมี่ เี นอื้ หา
เก่ียวกับคติเรื่องพระอดีตพุทธเจ้า พระปัจจุบันพุทธเจ้า และพระอนาคตพุทธเจ้า ซ่ึงพระภิกษุ
ไดร้ จนาคัมภรี ต์ า่ ง ๆ ไว้ก็มีหลักฐานปรากฏอยู่เปน็ จ�ำนวนมาก
ส่วนงานศิลปกรรมล้านนาที่เน่ืองในพระพุทธศาสนาส่วนใหญ่ ก็จะอาศัยเรื่องราวและ
สญั ลกั ษณท์ เี่ กดิ จากการตคี วามเนอ้ื หาสาระจากแนวคดิ พระอดตี พทุ ธเจา้ นำ� มาเปน็ แรงบนั ดาลใจ
ในการสรา้ งสรรค์ผลงานพทุ ธศิลปแ์ ขนงตา่ ง ๆ ยกตัวอย่างเชน่ พระพทุ ธรูป ๔ องค์ที่ประดิษฐาน
เป็นพระประธานอยู่ภายในวิหารและอุโบสถวัดภูมินทร์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดน่าน และวิหาร
พระเจ้าพันองค์ วัดปงสนุก จังหวัดล�ำปาง ที่สะท้อนความหมายสัญลักษณ์พระพุทธเจ้าท้ัง ๔
พระองค์ ทีไ่ ดเ้ สด็จมาอุบตั ิแล้วในภัทรกปั หรือกปั ปจั จบุ ัน
สัญลกั ษณ์พระอดตี พทุ ธเจ้า ๕ พระองค์ ที่ปรากฏในงานจติ รกรรมฝาผนงั ล้านนา เช่น
ภาพพระพทุ ธเจา้ ๕ พระองค์ จติ รกรรมฝาผนงั ภายในวหิ ารลายคำ� วดั พระสงิ ห์ อำ� เภอเมอื ง เรอื่ งราว
ตำ� นานแม่กาเผือกในจติ รกรรมฝาผนงั วหิ ารวัดท่าขา้ ม อำ� เภอแมแ่ ตง จังหวดั เชียงใหม่ รวมท้ัง
พระบฏ พระพุทธเจ้า ๕ พระองคศ์ ิลปะลา้ นนา ทจ่ี ดั วางองค์ประกอบให้ดา้ นลา่ งของภาพแสดง
เรอ่ื งราว พุทธประวัติ ตอน พระพุทธเจา้ เสดจ็ ลงจากสวรรค์ช้นั ดาวดึงส์ เปน็ ต้น
10
สว่ นงานศลิ ปะลา้ นนาทส่ี ะทอ้ นความหมายสญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๔ พระองค์ พบไดเ้ พยี ง
แห่งเดยี ว คือ จติ รกรรมฝาผนงั และจิตรกรรมบนแผงไม้คอสอง ภายในวหิ ารวดั หนองบัว ซงึ่ เป็น
จิตรกรรมลา้ นนาสกลุ ช่างไทลื้อ จากอำ� เภอทา่ วงั ผา จงั หวัดน่าน ส่วนสัญลกั ษณ์พระพุทธเจ้า ๒๗
พระองค์ พบไดใ้ นงานศลิ ปะลา้ นนา ประเภทลายคำ� หรอื ลายปดิ ทองรอ่ งชาดในวหิ ารลา้ นนา ๓ แหง่
ซงึ่ อยใู่ นจงั หวดั ลำ� ปาง ไดแ้ ก่ ลายคำ� ภายในวหิ ารพระพทุ ธ วดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง อำ� เภอเกาะคา
ลายค�ำภายในวิหารวัดปงยางคก อ�ำเภอห้างฉัตร และลายค�ำภายในวิหารวัดเวียง อ�ำเภอเถิน
สว่ นงานพทุ ธศลิ ปล์ า้ นนาทสี่ ะทอ้ นสญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ พบในงานลายคำ� ภายใน
วิหารวัดคะตึกเชียงมั่น อ�ำเภอเมือง จังหวัดล�ำปาง และพบได้ในรูปแบบพระพิมพ์บนแผงไมท้ ่ี
วิหารพระเจ้าพันองค์ วัดปงสนุก เป็นต้น นอกจากน้ี งานศิลปะล้านนาท่ีสะท้อนสัญลักษณ์
พระอดตี พทุ ธเจา้ ซ่งึ แสดงจำ� นวนพระพทุ ธเจ้ามากกว่า ๒๘ พระองค์ขน้ึ ไป จะหมายถึง คตเิ รอื่ ง
พระอนนั ตพทุ ธเจา้ คอื พระพทุ ธเจา้ จำ� นวนมากทม่ี าตรสั รแู้ ลว้ ทงั้ ในอดตี ปจั จบุ นั และจะมมี าตรสั รู้
ในอนาคต ซึ่งมีจ�ำนวนมากมายจนไม่อาจนับได้ จะพบได้ในงานศิลปะล้านนาท่ีมีรูปแบบต่าง ๆ
เปน็ จำ� นวนมากทส่ี ดุ ยกตวั อยา่ งเชน่ จติ รกรรมฝาผนงั ภายในวหิ ารวดั ชา้ งคำ้� อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั นา่ น
งานลายคำ� ภายในวหิ ารวดั ปราสาท อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งใหม่ พระแผง ภายในวหิ ารวดั ตน้ เกวน๋
และวัดหางดง อ�ำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้ง พระพุทธรูปที่ประดิษฐานในซุ้มจระน�ำ
สุวรรณเจดีย์ วดั พระธาตหุ รภิ ุญชยั และ เจดยี ์กู่กดุ วดั จามเทวี อ�ำเภอเมือง จังหวดั ล�ำพูน เปน็ ตน้
11
หนงั สือ อดตี พทุ ธ สญั ลักษณใ์ นศิลปะลา้ นนาเลม่ นี้ เป็นผลการศกึ ษาคน้ คว้า รวมรวม
ข้อมูล ทั้งจากภาคเอกสารและภาคสนามตามพุทธสถานตา่ ง ๆ แล้วจึงนำ� มาเรยี บเรียงขน้ึ อยา่ ง
เป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะน�ำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมา คติความเชื่อ
เรื่องพระอดีตพุทธเจ้าท่ีปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมล้านนา ด้วยการศึกษาข้อมูลจากพระไตรปิฎก
และวรรณกรรมพทุ ธศาสนา ตลอดจนผลงานศลิ ปกรรมลา้ นนาทสี่ ะทอ้ นสญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจา้
อันประกอบด้วย แนวคิดเชิงสัญลักษณ์และรูปแบบทางศิลปกรรมแขนงต่าง ๆ เช่น จิตรกรรม
ประตมิ ากรรม สถาปตั ยกรรม เปน็ ตน้ ทง้ั นี้ ผเู้ ขยี นหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ เนอ้ื หาสาระเกยี่ วกบั คตเิ รอื่ ง
พระอดตี พุทธเจ้า และสญั ลักษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจา้ ทปี่ รากฏอยใู่ นงานศลิ ปะล้านนา อนั มีบอ่ เกดิ
มาจากพลังความศรัทธา ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการจะมีส่วนช่วยให้ผู้อ่านได้รับความรู้
ความเข้าใจถึงวัฒนธรรมวิธีคิดของชาวพุทธในท้องถ่ิน รวมท้ังยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจใน
การอนุรักษ์และสืบสานศิลปะอันทรงคุณค่าของล้านนา ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
จากบรรพชนได้อยา่ งย่งั ยนื สืบไป
12
ผู้เขยี นขอกราบขอบพระคณุ บดิ า มารดา ท่านอาจารยป์ ฐม พัวพนั ธส์ กลุ ศาสตราจารย์
เกยี รตคิ ณุ ชลดู นมิ่ เสมอ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ ดร.สนั ติ เลก็ สขุ มุ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ สรุ พล
ดำ� รหิ ก์ ลุ ศาสตรเมธนี นธวิ รรธน์ จนั ทนะผะลนิ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ ปรชี า เถาทอง ศาสตราจารย์
วิโชค มุกดามณี ศาสตราจารย์เกียรติคุณปริญญา ตันติสุข อาจารย์ ดร.สุนันทา เอ่ียมส�ำอางค์
อาจารย์ ดร.ประมวล เพง็ จนั ทร์ และครอู าจารยท์ กุ ทา่ นทม่ี ไิ ดเ้ อย่ นาม ซงึ่ เปน็ ผมู้ คี วามกรณุ าอบรม
สง่ั สอน ถา่ ยทอดความรแู้ ละประสบการณ์ ตลอดจนใหค้ �ำปรึกษาชแ้ี นะแนวทางในการสรา้ งสรรค์
งานศลิ ปะ และการศกึ ษาวจิ ยั แกผ่ เู้ ขยี นตลอดระยะเวลาทผี่ า่ นมา รวมทงั้ ขอขอบคณุ คณะวจิ ติ รศลิ ป์
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมท่ ไี่ ดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ ทนุ วจิ ยั เรอื่ ง แนวคดิ พระอดตี พทุ ธเจา้ ในงานพทุ ธศลิ ป์
ลา้ นนาเพอื่ การสรา้ งสรรค์ศลิ ปะร่วมสมยั อันเปน็ ทม่ี าของขอ้ มูลและองค์ความรูท้ ผ่ี ู้เขยี นนำ� มาใช้
ประกอบในการเรยี บเรยี งหนงั สอื ฉบบั นี้
รองศาสตราจารย์ ดร.ฉลองเดช คูภานมุ าต
คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
13
กิจฺโฉ มนสุ ฺสปฏิลาโภ
กิจฉฺ ํ มจฺจาน ชีวติ ํ
กจิ ฺฉํ สทธฺ มมฺ สฺสวนํ
กจิ โฺ ฉ พุทฺธานมุปปฺ าโท ฯ ๑๘๒ ฯ
ยาก ที่จะได้เกดิ มาเปน็ มนษุ ย์
ยาก ท่ชี วี ติ สัตว์จะอยสู่ บาย
ยาก ที่จะได้ฟงั ธรรมของสตั บุรษุ
ยาก ทพ่ี ระสัมพทุ ธจะอบุ ัตมิ า
Hard is it to be born as a man,
Hard is the life of mortals,
Hard is it to hear the Truth Sublime,
Hard as well is the Buddha’s rise.
พทุ ธวจนะใน ธรรมบท
14
ความเป็นมาของสญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พุทธเจา้
15
สัญลกั ษณ์พระอดีตพุทธเจา้
แนวคดิ พระอดีตพทุ ธเจา้
แนวคิดเร่ืองพระอดีตพุทธเจ้า พระปัจจุบันพุทธเจ้า และพระอนาคตพุทธเจ้า
ปรากฏทง้ั ในคตขิ องพทุ ธศาสนามหายานและเถรวาท แต่มีรายละเอียดทแี่ ตกต่างกันเรอื่ ง
จ�ำนวนของพระอดีตพุทธเจ้า กล่าวคือ คติในฝ่ายมหายานถือว่ามีพระพุทธเจ้าในรูป
สมั โภคกาย ซงึ่ สถติ อยใู่ นพทุ ธเกษตรตา่ ง ๆ ทอ่ี ยหู่ อ้ มลอ้ มสขุ าวดพี ทุ ธเกษตรของพระพทุ ธเจา้
อมิตาภะที่มีจ�ำนวนมากมายจนไม่อาจนับได้ และมีพระพุทธเจ้าในรูปนิรมานกายที่เคย
เสดจ็ อบุ ตั มิ าแลว้ กอ่ นหนา้ พระศากยมนุ พี ทุ ธเจา้ และทจี่ ะเสดจ็ มาอบุ ตั ติ อ่ ไปในกาลขา้ งหนา้
ซึ่งมีจ�ำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วนอีกเช่นเดียวกัน ส่วนคติในฝ่ายเถรวาทน้ันก็ถือว่า
พระพทุ ธเจา้ ในอดตี มจี ำ� นวนมากมายไมต่ า่ งจากคตแิ บบพทุ ธมหายาน แตม่ รี ายละเอยี ดของ
เนอื้ หาสาระเก่ยี วกบั พระอดีตพทุ ธเจา้ ทแี่ ตกต่างกนั กล่าวคือ มีพระอดตี พุทธเจ้าบางองค์
เทา่ นน้ั ทมี่ คี วามสำ� คญั เปน็ พเิ ศษ ซง่ึ เกยี่ วขอ้ งสมั พนั ธใ์ นทางใดทางหนงึ่ กบั พระโคตมพทุ ธเจา้
องคป์ ัจจบุ นั เชน่ คติเร่อื งพระพทุ ธเจ้า ๕ พระองคท์ ีเ่ สดจ็ มาอุบตั ิในภทั รกัปเดยี วกัน ได้แก่
พระกกสุ นั โธ พระโกนาคม พระกสั สปะ พระโคตม และพระศรอี ารยิ เมตไตรย๑ หรอื พระอดตี
พุทธเจ้า ๒๔ พระองค์ ซ่ึงเริ่มนับจากพระพุทธเจ้าทีปังกรในล�ำดับท่ี ๔ ในสารมัณฑกัป
ซ่ึงพระโพธิสัตว์ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากพระอดีตพุทธเจ้าทุกพระองค์ว่าจะได้ตรัสรู้
เปน็ พระพทุ ธเจา้ ศากยมนุ ี และพระอดตี พทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ โดยเรมิ่ นบั จากพระพทุ ธเจา้
ตณั หงั กโร พระพทุ ธเจา้ เมธงั กโร และพระพทุ ธเจา้ สรณงั กโร ในสารมณั ฑกปั ทพ่ี ระโพธสิ ตั ว์
ทรงศกึ ษาในสำ� นกั อดตี พทุ ธเจา้ ทงั้ ๓ องคแ์ รก แตย่ งั ไมไ่ ดร้ บั พทุ ธพยากรณว์ า่ จะไดเ้ สดจ็ มา
ตรสั รเู้ ปน็ พระพทุ ธเจา้ ในอนาคต แลว้ นำ� มารวมกบั จำ� นวนพระอดตี พทุ ธเจา้ อกี ๒๔ พระองค์
ทีม่ ีพทุ ธพยากรณ์ จงึ รวมเป็นพระอดตี พุทธเจา้ ๒๗ พระองค์ เปน็ ต้น๒
สญั ลกั ษณ์พระอดีตพทุ ธเจ้า
วหิ ารวดั ชเวยันเป
16 เมืองยองชเว ประเทศเมียนมา
17
สญั ลักษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจ้าในงานศลิ ปกรรม
คติเรื่องพระอดีตพุทธเจ้า เป็นแนวคิดท่ีเข้ามาพร้อมกับการเผยแพร่พระพุทธศาสนาใน
ภมู ภิ าคอษุ าคเนย์ มาแตส่ มยั โบราณ ปรากฏหลกั ฐานในงานพทุ ธศลิ ปร์ ปู แบบตา่ ง ๆ เปน็ จำ� นวนมาก
เชน่ พระมหาธาตเุ จดยี ช์ เวดากอง เมอื งยา่ งกงุ้ วหิ ารอนนั ทเจดยี ์ เจดยี ธ์ รรมยะสกิ ะ จติ รกรรมฝาผนงั
ท่วี ัดปะยาตองสู เมอื งพุกาม จติ รกรรมทีเ่ พดานซ้มุ หลงั คาของระเบยี งทางเดนิ ดา้ นทิศตะวนั ออก
ของวัดมหามัยมุนี เมืองอมรปุระ พระพุทธรูป ๘๔,๐๐๐ องค์ท่ีวัดซิตตอง และพระพุทธรูป
๙๐,๐๐๐ องคท์ ว่ี ดั โกตอง เมอื ง มรคั อู รฐั ยะไข่ วหิ ารเจดยี ว์ ดั ชเวนนั แป เมอื งยองชเว และพระเจา้
๕ พระองคแ์ หง่ วดั พองดออู ในทะเลสาบอนิ เล เมอื งตองยี ประเทศพมา่ พระพทุ ธรปู ในวดั สสี ะเกด
เมอื งเวยี งจนั ทน์ สญั ลกั ษณร์ ปู อดตี พทุ ธเจา้ ภายในสมิ วดั แสนสขุ าราม วดั คลี ี วดั ใหมส่ วุ นั นะพมู าราม
และวัดปากคาน เมืองหลวงพระบาง ในประเทศลาว เป็นตน้
สญั ลักษณ์พระอดตี พทุ ธเจ้า
วิหารวัดชเวยนั เป
18 เมืองยองชเว ประเทศเมียนมา
19
สัญลักษณพ์ ระอดีตพทุ ธเจ้าในงานศิลปะไทย
ผลงานพทุ ธศลิ ปท์ สี่ ะทอ้ นแนวคดิ พระอดตี พทุ ธเจา้ ในประเทศไทย กม็ ปี รากฏอยู่
ทว่ั ทกุ ภมู ภิ าคเชน่ กนั อาทิ จติ รกรรมเรอ่ื งอดตี พทุ ธทถี่ ำ�้ ศลิ ป์ จงั หวดั ยะลา และในคหู าปรางค์
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีอายุราวปลายพุทธศตวรรษท่ี ๑๘ หรือ
ต้นพุทธศตวรรษท่ี ๑๙ รวมทั้งจิตรกรรมที่วัดเจดีย์เจ็ดแถว เมืองศรีสัชนาลัย จังหวัด
สุโขทัย จิตรกรรมบนผนังคูหาปรางค์ประธานวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดราชบุรี
และในกรุปรางค์วัดราชบูรณะ จิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถ วัดใหม่ประชุมพล จังหวัด
พระนครศรอี ยุธยา จิตรกรรมฝาผนงั อุโบสถวดั ปราสาท จังหวัดนนทบุรี จติ รกรรมฝาผนัง
อุโบสถวัดช่องนนทรี กรุงเทพฯ จิตรกรรมฝาผนัง อุโบสถวัดเกาะแก้วสุทธาราม จังหวัด
เพชรบุรี และจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถวัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี เป็นต้น ส่วนในงาน
ประตมิ ากรรมนน้ั สญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจา้ ปรากฏอยใู่ นงานพระพมิ พ์ จากเมอื งฟา้ แดดสงยาง
จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ และเมอื งนาดนู จงั หวดั มหาสารคาม พระพมิ พว์ ดั พระศรมี หาธาตุ จงั หวดั
สโุ ขทยั งานสลกั หนิ ทบั หลงั ประดบั ปรางคพ์ รหมทตั ปราสาทหนิ พมิ าย จงั หวดั นครราชสมี า
และพระพทุ ธรปู ประธานในอโุ บสถ วดั อปั สรสวรรคว์ รวหิ าร กรงุ เทพฯ เปน็ ตน้ นอกจากนี้
คติการสร้างรอยพระพุทธบาทพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ ก็แพร่หลายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค
เช่น รอยพระพุทธบาทในพระปรางค์ทิศตะวันตก วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพฯ
รอยพระพุทธบาท วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดพิษณุโลก รอยพระพุทธบาท
วัดป่าโมกข์วรวิหาร จังหวัดอ่างทอง และรอยพระพุทธบาทวัดบางกระพ้อม จังหวัด
สมุทรสงคราม เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างย่ิงงานพุทธศิลป์ในเขตวัฒนธรรมล้านนาหรือ
บริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาที่มี
ความเจรญิ รุ่งเรอื งสืบเนอื่ งมาอย่างยาวนาน
พระอดีตพุทธเจ้า
จติ รกรรมฝาผนัง พระอโุ บสถวดั คงคาราม
20 อำ�เภอโพธาราม จงั หวดั ราชบรุ ี
21
22
พระอดีตพทุ ธเจา้ ในวรรณกรรมพทุ ธศาสนา
พระอดีตพุทธเจา้ ในพระไตรปิฎก
คติความเชื่อเร่ืองพระอดีตพุทธเจ้าท่ีมีปรากฏในพระไตรปิฎก อรรถกถา รวมท้ังคัมภีร์
ภาษาบาลขี องพทุ ธศาสนาแบบเถรวาท ซง่ึ มคี วามสำ� คญั หลายฉบบั ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ คมั ภรี พ์ ทุ ธวงศ์
นิทานกถา ชินกาลมาลีปกรณ์ และมธุรัตถวิลาสินี โดยเนื้อหาสาระในคัมภีร์แต่ละฉบับล้วนมี
ความคลา้ ยคลงึ กนั โดยเฉพาะเรอ่ื งราวเกยี่ วกบั พระอดตี พทุ ธเจา้ ในพระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย
พทุ ธวงศ์ พทุ ธวงั สะ (วงศแ์ หง่ พระพทุ ธเจา้ ) ในเรอ่ื งพทุ ธวงศแ์ บง่ ออกเปน็ ๒๘ หวั ขอ้ ใหญ่ คอื หวั ขอ้ แรก
วา่ ดว้ ยรตนจงกรม คอื ท่เี สด็จจงกรมแก้ว หัวขอ้ ท่ี ๒ ถึง ๒๖ วา่ ด้วยเรอ่ื งราวรายละเอียดเกยี่ วกับ
พระพุทธเจ้า ๒๕ พระองค์ เร่ิมต้นด้วยพระทีปังกรพุทธเจ้า จนถึงพระโคตมพุทธเจ้า โดยเรียง
ตามลำ� ดบั ได้ ดงั น้ี ทปี งั กรพทุ ธวงศ์ โกณฑญั ญพทุ ธวงศ์ มงั คลพทุ ธวงศ์ สมุ นพทุ ธวงศ์ เรวตพทุ ธวงศ์
โสภติ พทุ ธวงศ์ อโนมทัสสีพุทธวงศ์ ปทมุ พุทธวงศ์ นารทพทุ ธวงศ์ ปทุมตุ รพทุ ธวงศ์ สุเมธพทุ ธวงศ์
สชุ าตพทุ ธวงศ์ ปยิ ทสั สพี ทุ ธวงศ์ อตั ถทสั สพี ทุ ธวงศ์ ธรรมทสั สพี ทุ ธวงศ์ สทิ ธตั ถพทุ ธวงศ์ ตสิ สพทุ ธวงศ์
ปุสสพุทธวงศ์ วปิ ัสสพี ุทธวงศ์ สขิ พี ทุ ธวงศ์ เวสสภูพทุ ธวงศ์ กกุ กสุ นั ธพุทธวงศ์ โกนาคมนพุทธวงศ์
กัสสปพุทธวงศ์ และโคตมพุทธวงศ์ หัวข้อท่ี ๒๗ เป็นหมวดเบ็ดเตล็ดเก่ียวกับพระพุทธเจ้า
แสดงเรอ่ื งราววา่ กปั ไหน มพี ระพทุ ธเจา้ องคใ์ ดเสดจ็ มาอบุ ตั บิ า้ ง ในตอนตน้ แสดงวา่ ในกปั เดยี วกนั กบั
พระทปี งั กรพทุ ธเจา้ นนั้ ยงั มพี ระพทุ ธเจา้ มาอบุ ตั อิ กี ๓ พระองค์ ไดแ้ ก่ พระตณั หงั กร พระเมธงั กร
พระสรณังกร และพระทีปังกรเป็นองคส์ ุดทา้ ย จึงรวมมพี ระพทุ ธเจ้า ๔ พระองค์ในกัปนนั้ ๓
พระพทุ ธรูปศิลปะพม่า-ไทยใหญ่ 23
วิหารวัดอินทรบ์ ปุ ผาราม
เมอื งเชียงตงุ ประเทศเมยี นมา
พระอดตี พุทธเจ้าในพระไตรปฎิ ก
เรอ่ื งราวเกีย่ วกบั พระอดตี พทุ ธเจ้าปรากฏอยู่ใน มหาปทานสตู ร พระไตรปิฎกเล่มท่ี ๑๐
พระสตุ นั ตปฎิ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค มเี นอื้ หากลา่ ววา่ ในสมยั ทพี่ ระพทุ ธองคท์ รงประทบั ณ กเรรกิ ฎุ ี
(กุฎีมณฑปท�ำดว้ ยไมก้ ่มุ ตัง้ อย่เู บื้องหนา้ ) ในเชตวนารามของอนาถปณิ ฑิกเศรษฐี ใกลก้ รุงสาวตั ถี
พระพทุ ธเจา้ ไดต้ รสั กบั ภกิ ษุท้ังหลายผสู้ นทนากนั ถึงเร่ือง “ปุพเพนวิ าส” คือ ความเป็นไปในชาติ
ก่อน โดยทรงเล่าเรื่องพระพุทธเจ้าในอดีต ๖ พระองค์ รวมทั้งพระองค์เองด้วย รวมเป็น ๗
พระองค์ ไดแ้ ก่ พระวปิ สั สี พระสขิ ี พระเวสสภู พระกกสุ นั ธะ พระโกนาคมนะ พระกสั สปะ พระโคตมะ๔
ตลอดจนมเี นอ้ื หาธรรมะทเี่ กย่ี วเนอื่ งกบั พระอดตี พทุ ธเจา้ ซงีึ่ พระพทุ ธองคไ์ ดท้ รงตรสั ไวห้ ลายแหง่
ดังตวั อยา่ ง ความวา่
“…ดกู ่อนภกิ ษุทั้งหลาย พระอรหันตสมั มาสมั พุทธเจา้ เหลา่ ใดเหลา่ หนึ่งในอดีตกาล ได้ตรัสรูแ้ ล้ว
ตามความเป็นจริง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดน้ัน ได้ตรัสรู้แล้วซ่ึงอริยสัจจ์ ๔ ตาม
ความเป็นจริง ถึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหน่ึงในอนาคตกาล จักตรัสรู้ตาม
ความเป็นจริง ถึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบัน ตรัสรู้อยู่ตาม
ความเปน็ จรงิ พระอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทง้ั หมดนนั้ ตรสั รอู้ ยซู่ ง่ึ อรยิ สจั จ์ ๔ ตามความเปน็ จรงิ ...”
“...ศีลเป็นเบ้ืองตน้ เปน็ ท่ีตั้ง เป็นบ่อเกิดแหง่ คุณความดีทง้ั หลาย เปน็ ประธานแหง่ ธรรมท้ังปวง
เพราะฉะนั้น พึงช�ำระศีลให้บริสุทธิ์ สังวรศีล เป็นเครื่องก้ันทุจริต ท�ำจิตให้ร่าเริง และเป็นท่า
ส�ำหรับหย่ังลงมหาสมุทรคือนิพพานของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เพราะฉะน้ัน ควรช�ำระศีล
ให้บริสทุ ธ์…ิ ”๕
จติ รกรรมฝาผนงั
พระอโุ บสถ วดั เกาะแก้วสุทธาราม
24 อ�ำ เภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
25
พระอดีตพุทธเจา้ ในคัมภรี น์ ิทานกถา
คมั ภรี ์นทิ านกถา พระพทุ ธประวัติตอนต้น ฉบบั พระพทุ ธโฆสเถระ แบง่ เน้ือหา
ออกเปน็ ๓ ตอน ไดแ้ ก่ ตอนที่ ๑ ทเุ รนทิ าน (นทิ านในระยะกาลไกล) เรมิ่ ตงั้ แตส่ เุ มธดาบส
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ธิ รรมจนได้ฌานสมาบัตแิ ละอภิญญาปรารถนาพุทธภูมิ รวมทั้งการอบุ ัติ
เปน็ พระโพธสิ ตั วบ์ ำ� เพญ็ พระบารมเี กดิ เปน็ คนและสตั วใ์ นชาตติ า่ ง ๆ ตอนที่ ๒ อวทิ เู รนทิ าน
(นิทานระยะกาลไม่ไกล) พระพุทธเจ้าทรงอุบัติข้ึนในโลก บ�ำเพ็ญพระบารมี บรรลุ
พระสพั พญั ญตุ ญาณ ตอนที่ ๓ สนั ตเิ กนทิ าน (นทิ านในระยะกาลใกล)้ ทรงเผยแผศ่ าสนา
และเสด็จสวรรคตดับขันธปรินิพาน รวมท้ังมีเนื้อหากล่าวถึง พระพุทธเจ้าทั้งในอดีต
ปจั จุบัน และอนาคต รวม ๒๘ พระองค์ โดยเริ่มตน้ ที่พระพุทธเจา้ ทีปงั กรตามลำ� ดับมา
จนถงึ พระพทุ ธเจา้ กสั สปะ จากนนั้ จงึ ไดก้ ลา่ วถงึ พระพทุ ธเจา้ ตณั หงั กร พระพทุ ธเจา้ เมธงั กร
และพระพุทธเจ้าสรณังกรในตอนท้าย นอกจากน้ี ยังมีเนื้อหาเก่ียวกับพุทธประวัติของ
พระพุทธเจ้าโคตม ซ่ึงเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน นับตั้งแต่ทรงเป็นเทพบุตรอยู่บน
สวรรค์ชน้ั ดสุ ิต จนกระทั่งถึงตอนทอ่ี นาถบณิ ฑกิ เศรษฐไี ดถ้ วายพระเชตวันมหาวิหาร๖
พระพทุ ธรปู ในเจดยี ์
วดั ร้างในทะเลสาอินเล
26 รัฐฉาน ประเทศเมียนมา
27
28
พระอดีตพุทธเจ้าในคมั ภีร์พุทธวงศ์
คมั ภรี พ์ ทุ ธวงศ์ มเี นอื้ หากลา่ วถงึ เรอ่ื งราวพทุ ธประวตั อิ ยา่ งพสิ ดารของพระพทุ ธเจา้ ทง้ั ๒๕ พระองค์
ทเ่ี สดจ็ มาอบุ ตั บิ นโลกมนษุ ยใ์ นชว่ งเวลา ๔ อสงไขยแสนกปั กอ่ นภทั รกปั น้ี เนอื้ หาในคมั ภรี พ์ ทุ ธวงศเ์ ปน็ เรอื่ งราว
ที่พระศากยโคดมตรัสเล่าแก่พระสารีบุตร ซ่ึงได้ทูลถามเก่ียวกับพระบารมีอันยิ่งใหญ่ที่พระโพธิสัตว์ทรง
บ�ำเพ็ญเพียรมาในอดีตชาติ แบ่งเนื้อหาออกเป็น ๒๙ บท บทแรกว่าด้วยรัตนจงกรมกัณฑ์ เป็นตอนท่ี
พระศากยโคดมเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อโปรดพุทธบิดา หลังจากทรงแสดงธรรมเรื่องเวสสันดรชาดกแล้ว
ทรงเสด็จจงกรมรอบเรือนแก้วที่พระองค์ทรงเนรมิตขึ้น และทรงแสดงปาฏิหาริย์อันเกิดจากการที่
ทรงบำ� เพญ็ บารมตี า่ ง ๆ มาแลว้ ในอดตี ชาตขิ องพระองค์ บทที่ ๒-๒๗ วา่ ดว้ ยเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั พระพทุ ธเจา้
๒๕ พระองค์ ไดแ้ ก่ พระอดตี พทุ ธเจา้ ๒๔ พระองคแ์ ละพระปจั จบุ นั พทุ ธเจา้ โดยชอื่ พทุ ธวงศจ์ ะตรงกนั กบั
พระนามของพระพทุ ธเจา้ แตล่ ะพระองค์ โดยเรยี งตามลำ� ดบั ดงั น้ี พระทปี งั กรพทุ ธเจา้ พระโกณฑญั ญพทุ ธเจา้
พระมังคลพุทธเจ้า พระสุมนพุทธเจ้า พระเรวัตตพุทธเจ้า พระโสภิตพุทธเจ้า พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า
พระปทุมพุทธเจ้า พระนารทพุทธเจ้า พระปทุมุตรพุทธเจ้า พระสุเมธพุทธเจ้า พระสุชาตพุทธเจ้า
พระปยิ ทสั สพี ทุ ธเจา้ พระอตั ถทสั สพี ทุ ธเจา้ พระธรรมทสั สพี ทุ ธเจา้ พระสทิ ธตั ถพทุ ธเจา้ พระตสิ สพทุ ธเจา้
พระปุสสพุทธเจ้า พระวิปัสสีพุทธเจ้า พระสิขีพุทธเจ้า พระเวสสภูพุทธเจ้า พระกุกกุสันธพุทธเจ้า
พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า และพระโคตมพุทธเจ้า บทที่ ๒๘ ว่าด้วยพุทธปกิณกกัณฑ์
แสดงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั พระพทุ ธเจา้ เนอ้ื หาในบทนยี้ งั กลา่ วถงึ พระอดตี พทุ ธเจา้ อกี ๓ พระองค์ ทท่ี รงอบุ ตั ิ
กอ่ นพระทปี งั กรพทุ ธเจา้ ไดแ้ ก่ พระตณั หงั กร พระเมธงั กร และพระสรณงั กร ทง้ั ๓ พระองคท์ รงอบุ ตั ใิ นกปั
เดยี วกบั พระทปี งั กร แตม่ ไิ ดท้ รงมพี ทุ ธพยากรณแ์ กพ่ ระโพธสิ ตั วว์ า่ จะไดต้ รสั รเู้ ปน็ พระพทุ ธเจา้ พระนามวา่
ศากยโคดม ตอนท้ายได้กล่าวถึงพระอนาคตพุทธเจ้า คือ พระศรีอาริยเมตไตรย บทท่ี ๒๙ ว่าด้วย
เรอ่ื งธาตภุ าชนยี กถา เปน็ เรอ่ื งการแจกพระบรมสารรี กิ ธาตไุ ปยงั สถานทต่ี า่ ง ๆ และแสดงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั
พุทธบรขิ ารต่าง ๆ๗
พระอดีตพุทธเจา้ 29
ศิลปะพม่าสกลุ ชา่ งไทยใหญ่
รฐั ฉาน ประเทศเมียนมา
พระอดตี พทุ ธเจ้าในวรรณกรรมล้านนา
ชนิ กาลมาลปี กรณ์
คมั ภรี ช์ นิ กาลมาลปี กรณ์ เปน็ คมั ภรี ภ์ าษาบาลี ทแี่ ตง่ โดยพระรตั นปญั ญาเถระ พระภกิ ษสุ งฆ์
ผู้เป็นปราชญ์ชาวเมืองเชียงใหม่ เม่ือระหว่าง พ.ศ.๒๐๖๐-๒๐๗๑ ต่อมาพระบาทสมเด็จ
พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช รชั กาลที่ ๑ แห่งราชวงศจ์ กั รี ทรงโปรดให้ราชบณั ฑติ ๕ ทา่ น
ช่วยกันแปลเป็นภาษาไทย มีเนื้อหากล่าวถึง ในสมัยท่ีพระโพธิสัตว์จุติจากสวรรค์ช้ันดุสิตลงมา
อุบัติในโลกมนุษย์ รวมทั้งการบ�ำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ในอดีตชาติท่ีเกิดในยุคสมัยของ
พระอดีตพุทธเจ้า ๒๗ พระองค์ เริ่มต้ังแต่พระพุทธเจ้าตัณหังกร ตามล�ำดับมาจนกระทั่ง
ถึงพระพุทธเจ้ากัสสปะ ตลอดจนกล่าวถึงพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าศากยโคดม ซ่ึงเป็น
พระพทุ ธเจ้าองค์ปัจจุบนั ตัง้ แตต่ อนประสตู ิ ตรสั รู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน๘
จติ รกรรมสมดุ ภาพไตรภมู ิ
30 ฉบับอกั ษรธรรมลา้ นนา
31
ตำ�นานแมก่ าเผือก
เร่ืองต�ำนานแม่กาเผือกในวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งมีเนื้อหาโดยสังเขป กล่าวว่า ในครั้ง
พทุ ธกาล มพี น่ี อ้ งสองคนเปน็ พอ่ คา้ จากเมอื งอตุ ตรธญั ญวตนิ คร จะนำ� ขา้ วสารไปขายยงั เมอื งสวุ ณั ณภมู ิ
แต่หลงทางในป่าจนได้มาพบกับพระพุทธเจ้า จึงเกิดศรัทธาน�ำอาหารมาถวาย พระพุทธเจ้า
ไดป้ ระทานเสน้ พระเกศาแกพ่ อ่ คา้ คนละ ๔ เสน้ แลว้ ใหน้ ำ� ไปบชู าไวท้ ่ี ดอยสงิ คตุ ตระ อนั เปน็ ทซี่ งึ่
พระพุทธองค์และพี่น้องรวม ๕ คนได้ท�ำสัจจาอธิษฐานกันไว้ จึงได้มาเกิดเป็นลูกแม่กาเผือก
ในสมัยเร่ิมต้นกัปใหม่ ในครั้งน้ันแม่กาเผือกท�ำรังอยู่บนต้นมะเดื่อใกล้ฝั่งแม่น�้ำคงคา แม่กาได้
ออกไขไ่ ว้ ๕ ฟอง อยมู่ าวันหนึ่งขณะออกไปหาอาหาร ได้เกิดพายใุ หญ่ลมฝนพดั ไข่ทงั้ หมดตกลง
ในแม่น�้ำ กระแสน้�ำพัดพาไปคนละทิศละทาง เม่ือแม่กากลับมาท่ีรังไม่พบลูก จึงได้เท่ียวตามหา
กไ็ มพ่ บ ดว้ ยความเศรา้ โศกจงึ ตรอมใจตายดว้ ยความรกั ความเมตตาอนั บรสิ ทุ ธแ์ิ ละบญุ บารมขี อง
แม่กานน้ั จงึ เป็นเหตใุ ห้ไปจตุ ิยังพรหมโลกชนั้ สุทธาวาส มนี ามวา่ ฆตกิ ามหาพรหม สว่ นไขท่ ง้ั ๕
ฟองก็ได้รับการอุปการะเล้ียงดูจากสัตว์ท่ีมาพบ ได้แก่ แม่ไก่ช่ือ กกุสันธตาทิสวาที แม่นาคช่ือ
โกนาคมโน แม่เต่าช่อื กัสสโป แมโ่ คชอ่ื โคตโม และแมร่ าชสีห์ชอื่ อรยิ เมตไตยโย โดยไข่ทั้งหมด
ฟกั ออกเปน็ เดก็ ชาย ในกาลตอ่ มา ดว้ ยผลบญุ กศุ ลทไ่ี ดส้ งั่ สมไว้ เดก็ หนมุ่ ทงั้ ๕ กเ็ ตบิ โตขน้ึ จนอายไุ ด้ ๑๒ ปี
ก็มีจติ คิดออกบวชเป็นฤาษีในป่า แม่เลย้ี งทั้ง ๕ ต่างเข้าใจในปณธิ านอนั แนว่ แนข่ องลกู ทต่ี อ้ งการ
บ�ำเพ็ญบารมีพระโพธิญาณ เพ่ือตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า โปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์
แม่เล้ียงจึงขอฝากนามของตนไว้กับลูกเพ่ือเป็นอนุสรณ์ในภายภาคหน้า เมื่อลูกได้ตรัสรู้เป็น
พระพุทธเจ้าแล้ว โดยเรียงล�ำดับพระนามของพระพุทธเจ้าท้ัง ๕ พระองค์ ดังน้ี พระกกุสันโธ
พระโกนาคม พระกัสสปะ พระโคตม และพระศรีอริยเมตไตรย๙
จิตรกรรมฝาผนังเรื่อง แมก่ าเผอื ก
วหิ ารวัดท่าขา้ ม อำ�เภอแมแ่ ตง
32 จงั หวดั เชียงใหม่
33
34
สญั ลักษณ์พระอดีตพุทธเจ้า
วหิ ารวดั ชเวยันเป
เมืองยองชเว ประเทศเมียนมา 35
ยสฺส ชติ ํ นาวชยี ติ
ชติ มสสฺ โน ยาติ โกจิ โลเก
ตํ พทุ ฺธมนนฺตโคจรํ
อปทํ เกน ปเทน เนสฺสถ ฯ ๑๗๙ ฯ
พระพุทธเจา้ พระองค์ใด
ทรงชนะกเิ ลสได้เด็ดขาด
กเิ ลสทท่ี รงชนะแลว้ ไมต่ ดิ ตามพระองค์ไปอีก
พระพทุ ธเจ้าพระองคน์ นั้
ทรงมพี ระสพั พญั ญตุ ญาณหาท่ีสุดมไิ ด้
ไมไ่ ปตามทางของกเิ ลสแลว้
พวกเธอจะนำ�ทา่ นไปตามทางไหนเล่า
Whose conquest is not turned into defeat,
Whom not even a bit of conquered passion follows -
That trackless Buddha of infinite range,
By which way will you lead him?
พุทธวจนะใน ธรรมบท
36
ความหมายและองคป์ ระกอบของสัญลักษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจ้า
37
ความหมายของสัญลักษณ์พระอดตี พทุ ธเจา้
แนวคดิ พระอดีตพุทธเจ้า
แนวคิดพระอดีตพุทธเจ้า หมายถึง คติในพระพุทธศาสนาเก่ียวกับเรื่องพระพุทธเจ้าที่
เสดจ็ มาตรสั รกู้ อ่ นพระศากยโคดมหรอื พระพทุ ธเจา้ องคป์ จั จบุ นั ๑๐ ตามคตคิ วามเชอื่ ในพระพทุ ธศาสนา
ไดก้ ล่าวถึงเร่ืองราวของพระพุทธเจา้ ท่ีอุบัตขิ ้นึ ในกาลกอ่ น และมจี �ำนวนมากมายทเี่ สดจ็ มาตรัสรู้
ก่อนพระพทุ ธเจา้ องคป์ ัจจุบัน ท้ังนี้ องคพ์ ระสมั มาสัมพทุ ธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าท่ีเสดจ็ มา
ตรสั รใู้ นแตล่ ะกปั นนั้ มจี ำ� นวนมากจนไมอ่ าจจะประมาณได้ เปรยี บเหมอื นกบั จำ� นวนเมด็ ทรายใน
มหาสมุทร หรือเรียกว่า คติความเช่ือเรื่อง อนันตพุทธเจ้า๑๑ ตามเน้ือหาจากพุทธประวัติของ
พระโคตมพุทธเจา้ กอ่ นที่พระองค์จะเสด็จมาเสวยพระชาติเป็นเจา้ ชายสิทธตั ถะ จนกระทง่ั เสด็จ
ออกผนวชจนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ พระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์
ร่วมยุคสมัยกับพระอดีตพุทธเจ้าท้ังหลายมาก่อน ซ่ึงปรากฏเน้ือหาในคัมภีร์พุทธวงศ์ กล่าวว่า
พระพุทธองค์ตรัสเล่าแก่พระสารีบุตร ท่ีทูลถามถึงพุทธบารมีอันยิ่งใหญ่ที่ทรงได้บ�ำเพ็ญมาใน
อดตี ชาต๑ิ ๒ นอกจากน้ี ยงั มีคตเิ รื่องพระอนาคตพุทธเจ้า หมายถึง พระพทุ ธเจ้าองค์ทจี่ ะมาตรัสรู้
ตอ่ ไปภายภาคหนา้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในภทั รกปั น้ี ยงั มพี ระศรอี ารยิ เมตไตรยพทุ ธเจา้ จะเสดจ็ มา
ตรัสรเู้ พ่อื โปรดสัตว์ต่อจากพระโคตมพทุ ธเจ้าซึ่งเป็นพุทธเจ้าองค์ปัจจบุ นั
สญั ลกั ษณพ์ ระอดีตพุทธเจา้
พระอุโบสถวัดแสนสขุ าราม
38 เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
39
พระอดตี พุทธเจา้
จิตรกรรมฝาผนัง พระอุโบสถวัดประตสู าร
40 อ�ำ เภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ความเหมือนและความแตกต่างของพุทธเจา้ แตล่ ะพระองค์
เร่อื งราวของพระอดตี พุทธเจ้าท่ีปรากฏในคมั ภีร์พทุ ธวงศ์ มีจำ� นวน ๒๘ พระองค์ ไดแ้ ก่
พระตณั หงั กโร เรยี งมาตามลำ� ดบั จนถงึ พระกสั สโป มจี ำ� นวน ๒๗ พระองค์ เมอ่ื รวมกบั พระพทุ ธเจา้
องคป์ จั จบุ นั คอื พระศากยโคดม จงึ รวมไดจ้ ำ� นวน ๒๘ พระองค์ แตก่ ารเรยี งลำ� ดบั เนอ้ื หาในคมั ภรี ์
พทุ ธวงศ์ ไดเ้ รยี งลำ� ดบั โดยเรม่ิ ตน้ จากพระทปี งั กร ตามลำ� ดบั มาจนถงึ พระกสั สโป โดยทง้ั ๒๔ องค์
ได้มีพุทธพยากรณ์ว่าพระโพธิสัตว์จะได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จากน้ันจึงเป็น
พระศากยโคดม แลว้ จงึ ปดิ ทา้ ยดว้ ยพระอดตี พทุ ธเจา้ ๓ องคแ์ รกทไี่ มไ่ ดม้ พี ทุ ธพยากรณ์ เนอื่ งจาก
พระพทุ ธเจา้ องคป์ จั จบุ นั ไดเ้ สวยพระชาตเิ ปน็ พระโพธสิ ตั วแ์ ละทรงไดศ้ กึ ษาในสำ� นกั ของพระอดตี
พทุ ธเจ้าทง้ั ๒๗ พระองค์ พระอดตี พทุ ธเจา้ ๓ พระองคแ์ รกทม่ี ไิ ดม้ พี ุทธทำ� นาย ถงึ แมว้ า่ พระอดีต
พุทธเจ้าท่ีเคยมีมาในแต่ละกัปนั้นมีจ�ำนวนมากมายจนไม่อาจนับได้ แต่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ลว้ นมพี ระจรยิ าวตั รและการปฏบิ ตั ธิ รรมดา้ นตา่ ง ๆ คลา้ ยคลงึ กนั เชน่ ความสมบรู ณใ์ นการบำ� เพญ็
บารมี มหาปุริสลกั ษณะ ๓๒ ประการ การเสด็จออกบวช(มหาภเิ นษกรมณ)์ การตรสั รู้ การแสดง
ปฐมเทศนา การปรินิพพาน การมีอัครสาวก อัครสาวิกา และการมีพุทธอุปัฏฐาก เป็นต้น
โดยพทุ ธจรยิ าตา่ ง ๆ มเี รอื่ งราวไมแ่ ตกตา่ งกนั กบั พทุ ธประวตั ขิ องพระพทุ ธเจา้ องคป์ จั จบุ นั แตก่ ม็ สี ง่ิ ที่
แตกต่างกันอยู่บ้างบางประการในส่วนท่ีเป็นรายละเอียด เช่น ชื่อสถานท่ีในเหตุการณ์ต่าง ๆ
ในพทุ ธประวตั ิ ความยาวนานของระยะเวลาในการครองเรอื น การบำ� เพญ็ เพยี ร ขนาดความสงู ใหญ่
ของพระวรกาย อายุขยั เปน็ ตน้ ๑๓
41
องค์ประกอบของสญั ลกั ษณ์พระอดตี พทุ ธเจา้
๑. สัญลักษณ์พระพทุ ธเจา้ ๔ พระองค์ หมายถงึ พระพทุ ธเจา้ ๔ พระองค์ในกปั (ยุค)
ปจั จบุ นั เรยี กวา่ “ภทั รกปั ” ซง่ึ เสดจ็ มาตรสั รธู้ รรมแลว้ ประกอบดว้ ยพระอดตี พทุ ธเจา้ ๓ พระองค์
ได้แก่ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า และพระโคตมพุทธเจ้า
ซง่ึ เป็นพระพุทธเจ้าองคป์ ัจจบุ ันอกี ๑ พระองค์
๒. สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๕ พระองค์ มคี วามหมายเชน่ เดยี วกนั กบั กลมุ่ ทมี่ พี ระพทุ ธเจา้
๔ พระองค์ ประกอบด้วย พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า
และพระโคตมพทุ ธเจา้ โดยเพมิ่ พระศรอี ารยิ เมตไตรยพทุ ธเจา้ ผเู้ ปน็ พระอนาคตพทุ ธเจา้ เขา้ ไวด้ ว้ ย
๓. สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๔ พระองค์ หมายถงึ พระอดตี พทุ ธเจา้ ๒๔ พระองคท์ ท่ี รงมี
พุทธท�ำนายว่าพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้เป็นพระโคตมพุทธเจ้า บางครั้งอาจเพ่ิมพระโคตมพุทธเจ้า
เข้าไปในกลมุ่ ด้วย ทำ� ใหม้ พี ระพุทธเจา้ ๒๕ พระองค์
๔. สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ มีความหมายเชน่ เดียวกบั กลมุ่ ที่มีพระพุทธเจา้
๒๕ พระองค์ หากแตไ่ ดเ้ พม่ิ พระอดตี พทุ ธเจา้ ๓ พระองคแ์ รกทไี่ มไ่ ดม้ พี ทุ ธทำ� นายวา่ พระโพธสิ ตั ว์
จะตรสั รเู้ ปน็ พระโคตมพทุ ธเจา้ เขา้ ไปดว้ ย ทำ� ใหพ้ ระพทุ ธเจา้ กลมุ่ นปี้ ระกอบดว้ ยพระอดตี พทุ ธเจา้
๒๗ พระองค์
๕. สญั ลักษณ์พระพทุ ธเจ้า ๒๘ พระองค์ มีความหมายเชน่ เดยี วกบั กลุ่มทม่ี ีพระพุทธเจ้า
๒๕ องค์ หากแต่ได้เพ่ิมพระอดีตพุทธเจ้า ๓ พระองค์แรกท่ีไม่ได้มีพุทธท�ำนายว่าพระโพธิสัตว์
จะตรสั รเู้ ปน็ พระโคตมพทุ ธเจา้ เขา้ ไปดว้ ย ทำ� ใหพ้ ระพทุ ธเจา้ กลมุ่ นป้ี ระกอบดว้ ยพระอดตี พทุ ธเจา้
๒๗ พระองค์ และพระปัจจบุ นั พทุ ธเจา้ ๑ พระองค ์
๖. สัญลกั ษณพ์ ระอนันตพทุ ธเจา้ เปน็ กลุม่ ทม่ี ีพระพุทธเจา้ มากกว่า ๒๘ พระองคข์ ้ึนไป
ซงึ่ หมายถงึ จำ� นวนทนี่ บั ไมถ่ ว้ น กลา่ วคอื พระพทุ ธเจา้ จำ� นวนมากทตี่ รสั รมู้ าแลว้ ทงั้ ในอดตี ปจั จบุ นั
และจะมาตรัสรู้ต่อไปในอนาคตอย่างมากมายจนไม่อาจนับได้ อุปมาดังเม็ดทรายในแม่น�้ำคงคา
หรอื เรียกวา่ พระอนนั ตพทุ ธเจ้า
42
แผงพระพิมพ์
สัญลกั ษณพ์ ระอนันตพุทธเจ้า
43
พระอดีตพทุ ธเจ้า พระปัจจบุ ันพทุ ธเจ้า พระอนาคตพทุ ธเจ้า
รายนามพระอดีตพทุ ธเจา้ ๒๔ พระองค์
๑) พระทีปังกรพทุ ธเจา้
๒) พระโกทญั ญพุทธเจา้
๓) พระมงั คลพุทธเจ้า
๔) พระสมุ นพุทธเจ้า
๕) พระเรวัตตพทุ ธเจ้า
๖) พระโสภิตพทุ ธเจา้
๗) พระอโนมทสั สีพุทธเจ้า
๘) พระปทุมพุทธเจ้า
๙) พระนารทพุทธเจา้
๑๐) พระปทมุ ตุ รพทุ ธเจา้
๑๑) พระสเุ มธพทุ ธเจ้า
๑๒) พระสชุ าตพทุ ธเจา้
๑๓) พระปยิ ทสั สพี ุทธเจ้า
๑๔) พระอัตถทสั สพี ทุ ธเจ้า
๑๕) พระธรรมทสั สีพุทธเจา้
๑๖) พระสทิ ธตั ถพุทธเจา้
๑๗) พระติสสพุทธเจ้า
๑๘) พระปสุ สพทุ ธเจา้
๑๙) พระวิปสั สพี ทุ ธเจ้า
๒๐) พระสขิ พี ทุ ธเจ้า
๒๑) พระเวสสภูพุทธเจา้
๒๒) พระกกสุ นั ธพทุ ธเจา้
๒๓) พระโกนาคมนพทุ ธเจา้
44 ๒๔) พระกัสสปพทุ ธเจ้า
รายนามพระอดีตพทุ ธเจ้า ๒๗ พระองค์ 45
๑) พระตัณหงั กรพทุ ธเจ้า
๒) พระเมธงั กรพุทธเจา้
๓) พระสรณังกรพุทธเจ้า
๔) พระทปี ังกรพุทธเจ้า
๕) พระโกทัญญพทุ ธเจ้า
๖) พระมังคลพทุ ธเจ้า
๗) พระสมุ นพุทธเจา้
๘) พระเรวตั ตพทุ ธเจ้า
๙) พระโสภิตพทุ ธเจ้า
๑๐) พระอโนมทสั สีพทุ ธเจา้
๑๑) พระปทุมพุทธเจา้
๑๒) พระนารทพุทธเจ้า
๑๓) พระปทุมตุ รพุทธเจ้า
๑๔) พระสเุ มธพทุ ธเจ้า
๑๕) พระสชุ าตพุทธเจ้า
๑๖) พระปิยทัสสีพทุ ธเจา้
๑๗) พระอัตถทสั สีพุทธเจา้
๑๘) พระธรรมทัสสีพทุ ธเจ้า
๑๙) พระสทิ ธัตถพทุ ธเจา้
๒๐) พระตสิ สพทุ ธเจ้า
๒๑) พระปุสสพุทธเจ้า
๒๒) พระวปิ ัสสพี ุทธเจา้
๒๓) พระสิขพี ุทธเจ้า
๒๔) พระเวสสภพู ุทธเจ้า
๒๕) พระกกุสันธพุทธเจ้า
๒๖) พระโกนาคมนพุทธเจ้า
๒๗) พระกสั สปพทุ ธเจ้า
รายนามพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ในภัทรกปั
๑) พระกกุสนั ธพทุ ธเจ้า
๒) พระโกนาคมนพุทธเจา้
๓) พระกัสสปพุทธเจ้า
๔) พระโคตมพทุ ธเจา้
๕) พระศรอี าริยเมตไตรยพทุ ธเจา้
รายนามพระอนาคตพทุ ธเจ้า ๑๐ พระองค์
๑) พระศรอี าริยเมตไตรยพุทธเจ้า
๒) พระรามพุทธเจ้า
๓) พระธรรมราชาพุทธเจ้า
๔) พระธรรมสามีพุทธเจา้
๕) พระนารทพทุ ธเจา้
๖) พระรงั สีมนุ ีพทุ ธเจ้า
๗) พระเทวเทพพทุ ธเจ้า
๘) พระสีหพทุ ธเจา้
๙) พระตสิ สพทุ ธเจ้า
๑๐) พระสมุ งคลพุทธเจ้า
พระอดีตพุทธเจา้
ศลิ ปะพมา่ สกลุ ชา่ งไทยใหญ่
46 รัฐฉาน ประเทศเมยี นมา
47
พระปัจเจกพุทธเจา้
ความหมายของพระปจั เจกพุทธเจ้า
พระปจั เจกพทุ ธเจา้ หมายถงึ พระพทุ ธเจา้ ประเภทหนง่ึ ทที่ รงตรสั รไู้ ดเ้ ฉพาะตวั ไดบ้ รรลธุ รรม
มีโพธิญาณ มปี ัญญาบารมี ที่ผู้อน่ื ไมอ่ าจเทยี บเทา่ ได้ นอกจากพระสมั มาสมั พุทธเจ้าเทา่ น้ัน ท้ังน้ี
เนอ่ื งจากพระองคท์ รงบรรลธุ รรมไดเ้ ฉพาะพระองคเ์ อง มไิ ดม้ กี ารประกาศพระศาสนาเทศนาสง่ั สอน
ผอู้ น่ื จงึ ไดช้ อื่ วา่ “ปจั เจก” ทแ่ี ปลวา่ เฉพาะตน พระปจั เจกพทุ ธเจา้ มมี ากมายมาตง้ั แตใ่ นอดตี กาล
ตามประวตั ิ จะมลี กั ษณะเปน็ นกั ปราชญ์ ผมู้ ปี ญั ญาแกก่ ลา้ มคี วามสนั โดษ เมอื่ ตรสั รไู้ ดเ้ ฉพาะตน
แลว้ มไิ ดส้ ง่ั สอนผใู้ ด จงึ ทำ� ใหไ้ มม่ พี ระสาวก พระปจั เจกพทุ ธเจา้ ไดบ้ ำ� เพญ็ บารมยี าวนาน ๒ อสงไขยแสนกปั
และตรัสรู้อริยสัจ ๔ ด้วยพระองค์เองเช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่จะเสด็จมาตรัสรู้
ในคราวท่โี ลกวา่ งเว้นศาสนาพทุ ธ และมาตรสั รูไ้ ด้หลายพระองค์ในสมัยเดียวกัน
ลักษณะพิเศษส�ำคัญอีกประการหนึ่งของพระปัจเจกพุทธเจ้าท่ีกล่าวไว้ในวรรณคดี
พระพทุ ธศาสนา คอื การดำ� เนนิ ชวี ติ อยเู่ พยี งลำ� พงั แตพ่ ระปจั เจกพทุ ธเจา้ กต็ อ้ งมาประชมุ พรอ้ มกนั
ในวันท่ีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้นและในวันอุโบสถ ในพระไตรปิฎกมีเน้ือหากล่าวถึง
ประวัติของพระปัจเจกพทุ ธเจา้ อย่เู สมอ บางแห่ง ๕ พระองค์ หรือ ๘ พระองค์ก็มี โดยเฉพาะใน
บทธรรมซึ่งเป็นนิทานส�ำคัญ กล่าวว่า ได้มีพระปัจเจกพุทธเจ้าคราวเดียวกันถึง ๕๐๐ พระองค์
พุทธประวัติของพระปัจเจกพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน กล่าวคือ
เป็นเร่ืองราวเกี่ยวกับกษัตริย์ในอดีตกาลท่ีทรงเบ่ือหน่ายในโลกิยสมบัติ จึงเสด็จออกบวช
แลว้ ศกึ ษาพระธรรมดว้ ยตนเองจนไดส้ ำ� เรจ็ เปน็ พระอรหนั ต์ แตม่ ไิ ดส้ ามารถสงั่ สอนถา่ ยทอดธรรมะ
ท่ีทรงได้ตรัสรู้ให้แก่ผู้ใด ทั้งน้ี เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงบรรลุพระโพธิญาณแล้ว จะเหาะไป
ชมุ นมุ กนั บรเิ วณเขาคณั ธมาทนใ์ นปา่ หมิ พานต์ โดยมชี า้ งฉทั ทนั ตค์ อยเฝา้ ปรนนบิ ตั ริ บั ใชอ้ ยเู่ สมอ๑๔
48