พระพทุ ธรูปประธาน
วิหารพระพุทธ วัดพระธาตลุ �ำ ปางหลวง
อำ�เภอเกาะคา จังหวดั ลำ�ปาง
149
สญั ลกั ษณ์พระพุทธเจา้ ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวหิ ารพระพทุ ธ วดั พระธาตลุ ำ�ปางหลวง เมืองลำ�ปาง
ลายค�ำภายในวิหารพระพุทธท่ีสะท้อนสัญลักษณ์พระอดีตพุทธเจ้า ปรากฏอยู่ท่ีฝาไม้
ใตข้ ่ือหลวงด้านหลังพระประธาน และท่ีคอสองชุดบนที่อยู่ใต้แปลานท้ังสองข้าง เม่ือรวมภาพ
พระพทุ ธเจา้ ทอ่ี ยภู่ ายในบรเิ วณหอ้ งทป่ี ระดษิ ฐานพระพทุ ธรปู ประธานนบั ไดท้ งั้ หมด ๒๗ พระองค์
โดยแบง่ ออกเปน็ ๒ สว่ นดว้ ยกนั คอื สว่ นแรก เปน็ ภาพพระอดตี พทุ ธเจา้ บนฝาไมด้ า้ นหลงั พระประธาน
จำ� นวน ๓ พระองค์ มลี กั ษณะเปน็ พระพทุ ธเจา้ ทรงประทบั บนฐานบวั ขดั สมาธเิ พชร ปางมารวชิ ยั
ดา้ นขา้ งมลี ายหมอ้ นำ�้ ปรู ณฆฏะ สว่ นทส่ี อง ปรากฏอยบู่ นแผงไมค้ อสองทท่ี ำ� เปน็ กรอบทง้ั สองดา้ นๆ ละ ๔
กรอบ ในแตล่ ะกรอบมพี ระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ รวมเปน็ ด้านละ ๑๒ พระองค์ รวมท้ังหมดจะมี
ภาพพระอดตี พทุ ธเจา้ บนแผงคอสองจำ� นวน ๒๔ พระองค์ อนั เปน็ สญั ลกั ษณท์ สี่ ะทอ้ นความหมายถงึ
พระอดตี พุทธเจ้า ๒๔ พระองค์ ทีท่ รงมีพทุ ธท�ำนายวา่ พระโพธสิ ตั วจ์ ะไดต้ รัสรู้เป็นพระสมั มาสัม
พทุ ธเจา้ ในอนาคตกาล โดยมพี ระนามวา่ “พระโคตมพทุ ธเจา้ ” โดยเรมิ่ นบั ตง้ั แต่ พระทปี งั กรพทุ ธเจา้
เป็นพระองคแ์ รก เรื่อยมาตามลำ� ดับจนถึงพระกัสสปพุทธเจ้า๗๐
150
สัญลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ 151
ลายค�ำ บนผนงั ไมแ้ ละแผงคอสอง
วิหารพระพทุ ธ วดั พระธาตุลำ�ปางหลวง
สัญลักษณพ์ ระพุทธเจ้า ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวิหารพระพทุ ธ วัดพระธาตุลำ�ปางหลวง เมืองลำ�ปาง
ลายคำ� ภาพพระพทุ ธเจา้ ๓ พระองคบ์ นฝาไมด้ า้ นหลงั พระประธานทเ่ี หลอื อยู่ สนั นษิ ฐาน
วา่ หมายถงึ พระอดตี พทุ ธเจา้ ๓ พระองคใ์ นกปั แรกทม่ี ไิ ดม้ พี ทุ ธพยากรณ์ ไดแ้ ก่ พระตณั หงั กรพทุ ธเจา้
พระเมธังกรพุทธเจ้า และพระสรณังกรพุทธเจ้า นอกจากน้ัน เมื่อน�ำลายค�ำภายในวิหาร
พระพทุ ธทแ่ี สดงสญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ มารวมกบั พระประธานภายวหิ าร ซง่ึ หมายถงึ
พระศากยมนุ พี ระพทุ ธเจา้ องคป์ จั จบุ นั กจ็ ะหมายถงึ สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ในขณะเดยี วกนั
กม็ ชี ดุ ของพระพทุ ธรปู รวม ๔ องค์ บนฐานชกุ ชภี ายในวหิ าร ซง่ึ เปน็ คตเิ รอ่ื งพระพทุ ธเจา้ ในภทั รกปั
ที่มาตรสั รู้แลว้ อกี ประการหนง่ึ ๗๑
152
สัญลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ 153
ลายค�ำ บนผนงั ไมแ้ ละแผงคอสอง
วิหารพระพทุ ธ วดั พระธาตุลำ�ปางหลวง
สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจ้า ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวิหารวิหารจามเทวี วดั ปงยางคก เมืองลำ�ปาง
วหิ ารจามเทววี ดั ปงยางคกไมป่ รากฏประวตั กิ ารสรา้ งทแ่ี นช่ ดั ตามประวตั ขิ องวดั ปงยางคก
มเี รอื่ งราวความเชอื่ สบื ตอ่ กนั มา กลา่ ววา่ ในสมยั พระนางจามเทวปี ฐมกษตั รยิ ข์ องเมอื งหรภิ ญุ ชยั
เสรจ็ มาเยย่ี มเจา้ อนนั ตยศราชบตุ ร ซงึ่ เปน็ เจา้ เมอื งเขลางคน์ ครในเวลานน้ั พระนางเสดจ็ ผา่ นมาและ
ไดป้ ระทบั พกั แรมในบรเิ วณน้ี ในเวลากลางคนื พระนางเหน็ ดวงไฟขนาดใหญพ่ งุ่ ขนึ้ จากบรเิ วณใกล้
ทปี่ ระทบั ชาวลา้ นนามคี วามเชอ่ื วา่ เปน็ พระบรมสารรี กิ ธาตแุ สดงปาฏหิ ารยิ ์ ในวนั รงุ่ ขนึ้ เมอ่ื ชา้ งทรง
ของพระนางผ่านมาบริเวณที่พบเห็นดวงไฟใหญ่ ช้างได้คุกเข่าลงแสดงอาการคารวะ ด้วยเหตุน้ี
พระนางจามเทวจี งึ โปรดใหส้ รา้ งวดั และเจดยี ใ์ นบรเิ วณดงั กลา่ ว วดั แหง่ นจ้ี งึ มชี อ่ื วา่ วดั ปงชา้ งนบ
นับแต่นน้ั มา๗๒
154
วิหารจามเทวี วดั ปงยางคก 155
อำ�เภอหา้ งฉัตร จงั หวดั ลำ�ปาง
สัญลกั ษณ์พระพทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวิหารวิหารจามเทวี วดั ปงยางคก เมอื งลำ�ปาง
ตอ่ มาในชว่ งปลายพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๓ วดั แหง่ นย้ี งั ไดม้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งกบั เจา้ หนานทพิ ยช์ า้ ง
หรอื พระยาสุลวะฤาไชยสงคราม วีรบุรุษผนู้ �ำการกอบกู้เอกราชจากพม่า และเป็นเจา้ ผคู้ รองนคร
ล�ำปางในเวลาต่อมา ซงึ่ เปน็ ต้นตระกูลเชอื้ สายเจ้าเจด็ ตนทีค่ รองเมืองเชียงใหม่ ในสมยั ทีม่ ฐี านะ
เปน็ ประเทศราชของสยาม ตามประวัติกลา่ วว่าเจา้ หนานทิพย์ชา้ งไดใ้ ชบ้ ริเวณวัดแหง่ นี้ รวบรวม
ไพรพ่ ลเพอ่ื ขบั ไลท่ หารพมา่ ออกไปจากวดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง ภายหลงั จากไดร้ บั ชยั ชนะสงครามแลว้
คงมกี ารบูรณะซอ่ มแซมวดั และสร้างวหิ ารขึน้ ภายหลงั ๗๓
ลายค�ำ ศิลปะล่้านนา
วหิ ารจามเทวี วดั ปงยางคก
156 อำ�เภอหา้ งฉัตร จงั หวดั ลำ�ปาง
157
สัญลักษณพ์ ระพุทธเจา้ ๒๗ พระองค์
ลายคำ�บนแผงไมค้ อสอง
158 วหิ ารจามเทวี วดั ปงยางคก
สญั ลักษณ์พระพุทธเจา้ ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวหิ ารวหิ ารจามเทวี วดั ปงยางคก เมอื งลำ�ปาง
งานศิลปะลายค�ำที่ประดับอยู่ภายในวิหารจามเทวีน้ัน พบอยู่ในแทบทุกองค์ประกอบ
ส�ำคัญของวหิ าร ตัง้ แต่หนา้ บนั หน้าบนั ปีกนกด้านในทัง้ ดา้ นหนา้ และด้านหลัง อดุ จั่ว อดุ ปีกนก
แผงคอสองทงั้ ตอนบนและตอนลา่ ง ผนงั ปนู ในหอ้ งทา้ ยวหิ าร เสาหลวง และโครงสรา้ งไมเ้ ครอ่ื งบน เชน่
ข่อื ดัง้ แป และกลอน๗๔ ท้ังนี้ ลายค�ำภาพสญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจา้ ท่ีปรากฏในวิหารสามารถ
แบ่งออกได้ ๓ ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกอยู่บริเวณช่องลูกฟักของหน้าบันด้านในของห้องท้ายวิหาร
ตอนล่างมีภาพพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์ และบริเวณแผงไม้คอสองช่วงบนในห้องท้ายวิหารมี
ภาพพระพุทธเจา้ ประทบั นั่งเรียงเป็นแถว แสดงปางมารวชิ ยั ด้านละ ๖ พระองค์ รวมทัง้ สองดา้ น
เป็น ๑๒ พระองค์ สว่ นท่ี ๓ อยู่บริเวณแผงคอสองตอนล่างของห้องท้ายวิหาร มภี าพพระพุทธเจา้
ประทบั นง่ั เรยี งเปน็ แถว แสดงปางมารวชิ ยั ดา้ นละ ๖ พระองค์ รวมทงั้ สองดา้ นเปน็ ๑๒ พระองค์
ดงั นน้ั ลายคำ� ภาพพระอดตี พทุ ธเจา้ ภายในวหิ ารจามเทวรี วมทงั้ หมด ๒๖ พระองค์ มขี อ้ สนั นษิ ฐานวา่
แต่เดมิ คงจะมภี าพพระอดตี พทุ ธเจ้าครบทงั้ ๒๗ พระองค์ โดยเรม่ิ ตน้ จากพระตณั หังกรพทุ ธเจา้
เร่ือยมาจนถึงพระกัสสปพุทธเจ้า ตามคติเรื่องพระอดีตพุทธเจ้าของพุทธศาสนาแบบเถรวาทใน
ลา้ นนา แต่อาจจะช�ำรดุ สูญหายไปในระหว่างการบรู ณะซ่อมแซมวิหารภายหลัง๗๕
159
สญั ลักษณ์พระพทุ ธเจ้า ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวิหารวัดเวียง เมืองลำ�ปาง
วัดเวียงเป็นวัดโบราณที่สร้างอยู่ภายในเวียงเถิน ประวัติความเป็นมาของการสร้างวัด
ปรากฏอยู่ในพงศาวดารเมืองเถิน กล่าวว่า พระมหาเถรสังฆทิตย์ สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเม่ือปี พ.ศ.
๒๑๙๒๗๖ ส่วนวิหารของวัดไม่มีบันทึกว่าสร้างขึ้นเม่ือใด วิหารวัดเวียงมีลักษณะเป็นวิหารโถง
ผงั รปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผา้ มยี กเกจ็ ดา้ นหนา้ ๑ ชว่ ง ดา้ นหลงั ๒ ชว่ ง หลงั คาดา้ นหนา้ ซอ้ น ๓ ชนั้ ดา้ นขา้ ง
แต่เดิมมีหลังคาลดระดับ ๒ ตับ ต่อมามีการต่อเติมเพิ่มหลังคาเป็น ๓ ตับ เป็นการเพ่ิมพื้นท่ี
ใชส้ อยภายในวหิ ารใหม้ ากย่งิ ข้นึ พืน้ วหิ ารเตี้ยเหมอื นกับวิหารสว่ นใหญ่ในเมอื งล�ำปาง๗๗ ภายใน
วหิ ารมมี ณฑปขนาดใหญ่ ภาษาล้านนาเรยี กว่า “โขงพระเจ้า” ทั้งนี้ ภายในเขตพุทธาวาสของวัด
ประกอบดว้ ยส่ิงก่อสร้างท่ีสำ� คญั ไดแ้ ก่ ซุ้มประตูโขง วหิ าร และพระเจดีย์ ดว้ ยการวางผังให้เป็น
องค์ประกอบเดียวกันตามแบบแผนของงานศิลปสถาปัตยกรรมลา้ นนา๗๘
160
วิหารวดั เวยี ง
อำ�เภอเถิน จงั หวัดลำ�ปาง 161
สญั ลักษณพ์ ระพทุ ธเจ้า ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวหิ ารวดั เวียง เมอื งลำ�ปาง
ภายในวหิ ารวดั เวยี ง ปรากฏภาพลายคำ� ประดบั อยใู่ นสว่ นตา่ ง ๆ
ของวิหาร ได้แก่ ไม้โครงสรา้ งเครือ่ งบน เสาหลวง คอสอง อดุ จวั่ ปกี นก
หน้าบันด้านใน และผนังปูนด้านท้ายของวิหาร รูปแบบลวดลาย
ท่ีประดับเสาหลวง ภาพสัตว์ในช่องลูกฟักของโครงสร้างม้าตั่งไหม
ลายช่อดอกไม้ ลายกระหนกหัวม้วนโค้งปลายแหลม และลายหน้า
กระดานหลายแบบ ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ ลายทมี่ ปี รากฏอยใู่ นวหิ ารพระพทุ ธ
และวิหารน�้ำแต้ม วัดพระธาตุล�ำปางหลวง เมืองล�ำปาง จึงเป็นการ
สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ การสืบทอด และความตอ่ เนือ่ งของงานศลิ ปะลายคำ�
ในล้านนาไดเ้ ป็นอยา่ งดี
162
ลายคำ�ศิลปะลา้ นนา 163
วหิ ารวัดเวียง อ�ำ เภอเถนิ จังหวดั ล�ำ ปาง
สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจ้า ๒๗ พระองค์
ลายคำ�ภายในวิหารวดั เวียง เมอื งลำ�ปาง
ลายคำ� ทแี่ สดงภาพสญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พทุ ธเจา้ ปรากฏอยใู่ นพนื้ ที่ ๓ สว่ น คอื สว่ นแรกอยใู่ น
ชอ่ งลกู ฟกั ของหนา้ บนั ดา้ นในทา้ ยวหิ าร มภี าพพระอดตี พทุ ธเจา้ ๓ พระองค์ สว่ นทสี่ อง อยบู่ นผนงั
ปนู ทา้ ยวหิ าร บรเิ วณใตข้ อื่ หลวงดา้ นหลงั ซมุ้ ปราสาทมภี าพพระอดตี พทุ ธเจา้ ๒ พระองค์ สว่ นทส่ี าม
อยบู่ นผนงั ปนู ทา้ ยวหิ ารบรเิ วณใตห้ นา้ บนั ปกี นกดา้ นทศิ ใต้ มภี าพพระอดตี พทุ ธเจา้ ประทบั นง่ั บน
ฐานบวั แสดงปางมารวชิ ยั มปี ระภามณฑลลอ้ มรอบพระวรกาย เรยี งกนั เปน็ แถวรวม ๑๒ พระองค์
ดังนน้ั จงึ มภี าพพระอดีตพทุ ธเจ้าท่ีปรากฏอยรู่ วมท้งั สิ้น ๑๗ พระองค์ สนั นษิ ฐานวา่ แตเ่ ดิมเมือ่
แรกสร้างวิหารน้ัน น่าจะมีภาพพระอดีตพุทธเจ้าครบท้ัง ๒๗ พระองค์ ตามคติเร่ืองพระอดีต
พทุ ธเจา้ ของพทุ ธศาสนาแบบเถรวาทในลา้ นนา โดยเรมิ่ ตน้ จากพระตณั หงั กรพทุ ธเจา้ เรอ่ื ยมาจนถึง
พระกัสสปพุทธเจ้าเป็นองค์สุดท้าย แต่อาจจะลบเลือนไปเน่ืองจากความช�ำรุดเสียหายใน
ช่วงเวลาต่อมา๗๙
164
สัญลักษณ์พระพทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ 165
ลายค�ำ บนผนังดา้ นท้ายวหิ ารวัดเวียง
อ�ำ เภอเถนิ จงั หวดั ลำ�ปาง
สญั ลกั ษณ์พระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์
สัญลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ในงานศิลปะลา้ นนา
สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ มคี วามหมายเชน่ เดยี วกบั กลมุ่ ทมี่ พี ระพทุ ธเจา้ ๒๕
พระองค์ หากแตไ่ ด้เพ่มิ พระอดตี พุทธเจา้ ๓ พระองค์แรกทไี่ มไ่ ด้มพี ุทธทำ� นายวา่ พระโพธสิ ัตว์จะ
ตรัสรู้เป็นพระโคตมพุทธเจ้าเข้าไปด้วย ท�ำให้พระพุทธเจ้ากลุ่มน้ีประกอบด้วยพระอดีตพุทธเจ้า
๒๗ พระองค์ และพระปัจจุบันพุทธเจา้ ๑ พระองค์
งานศิลปกรรมล้านนาที่สะท้อนแนวคิดสัญลักษณ์พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ได้แก่
ลายค�ำ วหิ ารวัดคะตกึ เชียงมัน่ อำ� เภอเมือง จังหวัดลำ� ปาง
แผงพระพมิ พ์ พระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์ วัดปงสนุกเหนือ อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั ลำ� ปาง
พระพมิ พ์ซาวแปด กรุวดั มหาวัน อำ� เภอเมือง จงั หวดั ลำ� พูน
166
พระบฏ
สัญลักษณพ์ ระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์
167
สญั ลกั ษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์
ลายคำ�ภายในวิหารวัดคะตึกเชยี งมน่ั เมอื งลำ�ปาง
ประวตั กิ ารสร้างวัดคะตึกเชียงม่ันไม่ปรากฏอยู่ในเอกสารอย่างชดั เจน แต่สนั นิษฐานว่า
นา่ จะสรา้ งขน้ึ เมอ่ื ราวกลางพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๔ อนั เปน็ ชว่ งเวลาของการสรา้ งนครลำ� ปางแหง่ ใหม่
บนฝั่งตะวันออกของแม่น้�ำวัง แต่เดิมวัดแห่งน้ีมีชื่อว่า วัดคะตึก และวัดเชียงม่ัน เป็นวัดสองวัด
ทอี่ ยตู่ ดิ กนั ตอ่ มาเมอื่ ราวกลางพทุ ธศตวรรษที่ ๒๕ ไดม้ กี ารรวมวดั ทง้ั สองเขา้ ดว้ ยกนั จงึ เรยี กรวมวา่
วดั คะตกึ เชยี งมนั่ ๘๐ จากหลกั ฐานจารกึ ดา้ นหลงั วหิ ารระบวุ า่ สรา้ งขนึ้ เมอื่ พ.ศ.๒๓๗๕ โดยคณะศรทั ธา
ชาวบ้านร่วมกบั คณะสงฆ์ มีพระมหาปัทมบวรศรัทธาเปน็ ประธาน ทัง้ นี้ วหิ ารวดั คะตึกสรา้ งขน้ึ
ราวปี พ.ศ. ๒๓๗๔ ผังวิหารเป็นรูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้า ยกฐานสูงกว่าวิหารจามเทวี วัดปงยางคก
และวหิ ารนำ้� แตม้ วดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง กน้ั ฝาผนงั ดา้ นหลงั และดา้ นขา้ งบางสว่ น หลงั คาซอ้ นกนั
๓ ชนั้ ด้านข้างซอ้ น ๒ ตบั ๘๑
ลายค�ำ ศลิ ปะล้านนา
วหิ ารวัดคะตกึ เชียงมัน่
168 อำ�เภอเมอื ง จงั หวดั ล�ำ ปาง
169
สญั ลกั ษณพ์ ระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์
ลายคำ�ภายในวหิ ารวดั คะตึกเชยี งมนั่ เมอื งลำ�ปาง
ลายคำ� ภาพพระอดตี พทุ ธเจา้ ทป่ี ระดบั อยใู่ นวหิ ารวดั คะตกึ เชยี งมนั่ ปรากฏอยบู่ นแผงไม้
คอสองช่วงบน ลกั ษณะทีพ่ ิเศษแตกต่างจากลายค�ำในวหิ ารล้านนาแห่งอืน่ ๆ คอื การแสดงภาพ
พระพุทธเจ้าทรงประทบั ยืนและทรงพระดำ� เนินเรียงต่อกันเป็นแถว มจี ำ� นวนทั้งส้ิน ๓๐ พระองค์
โดยแบง่ ออกเปน็ สองรปู แบบ ไดแ้ ก่ รปู แบบแรก เปน็ ภาพพระอดตี พทุ ธเจา้ ประทบั ยนื บนดอกบวั
และมกี ระหนกดอกไม้ ใบไมข้ นาดเลก็ ประกอบอยโู่ ดยรอบพระวรกาย ประดบั อยบู่ นแผงคอสอง
ของห้องด้านหน้าวิหาร รวมทั้งหมด ๑๒ พระองค์ รูปแบบที่สอง เป็นภาพพระอดีตพุทธเจ้า
ทรงพระดำ� เนนิ สลบั กับพระสาวกพนมมอื ประดบั อยู่ในแผงคอสองในห้องอ่นื ๆ ของวิหาร ท้งั นี้
จำ� นวนของภาพพระพุทธเจ้าและพระสาวกในแต่ละห้องมีจ�ำนวนแตกต่างกัน แต่เม่ือน�ำมารวม
กันแล้วจะได้ภาพพระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์และพระสาวก ๒๘ พระองค๘์ ๒
170
สัญลักษณพ์ ระพทุ ธเจ้า ๒๘ พระองค์ 171
ลายค�ำ บนแผงไม้คอสอง
วิหารวัดคะตึกเชียงม่ัน
สญั ลักษณ์พระพทุ ธเจ้า ๒๘ พระองค์
แผงพระพิมพ์ศลิ ปะล้านนา
แผงพระพมิ พ์ หรอื เรยี กวา่ พระแผง เปน็ พระพทุ ธรปู ทช่ี าวพทุ ธในลา้ นนานยิ มสรา้ งขน้ึ
เพอื่ ประดษิ ฐานไวภ้ ายในวหิ าร มลี กั ษณะเปน็ แผงไมแ้ กะสลกั แลว้ นำ� พระพมิ พอ์ งคข์ นาดเลก็ มาตดิ เรยี ง
เป็นแถวจนเตม็ พ้นื ท่ี แผงพระพิมพ์บางช้ินเจาะเป็นชอ่ ง เพ่อื นำ� พระพิมพ์มาบรรจไุ วภ้ ายในช่อง
เหล่าน้ัน ทั้งนี้ จ�ำนวนของพระพิมพ์จึงเป็นส่ิงที่ก�ำหนดช่ือเรียกอีกด้วย เช่น แผงพระพิมพ์
พระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค ์ ซง่ึ มที มี่ าจากคตคิ วามเชอ่ื เรอื่ งพระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ อนั ประกอบดว้ ย
พระอดตี พทุ ธเจา้ จำ� นวน ๒๔ พระองคท์ ท่ี รงมพี ทุ ธทำ� นายวา่ พระโพธสิ ตั วจ์ ะตรสั รเู้ ปน็ พระโคตมพทุ ธเจา้
และเพมิ่ พระอดตี พทุ ธเจา้ อกี ๓ พระองคแ์ รกทไี่ มไ่ ดม้ พี ทุ ธพยากรณ์ รวมทง้ั พระสมณโคดมพทุ ธเจา้
ทำ� ใหพ้ ระพทุ ธรปู กลมุ่ นป้ี ระกอบดว้ ยพระอดตี พทุ ธเจา้ ๒๗ พระองค์ และพระปจั จบุ นั พทุ ธเจา้ ๑
พระองค์ รวมเปน็ พระพทุ ธเจา้ ทง้ั หมด ๒๘ พระองค์ นอกจากน้ี ชาวลา้ นนายงั มคี ตคิ วามเชอ่ื เรอ่ื ง
การสรา้ งพระแผงให้มจี ำ� นวนเทา่ กบั อายขุ องผูส้ รา้ ง หรอื เทา่ กับตัวเลขศกั ด์สิ ทิ ธิ์ที่มีความสำ� คัญ
ในทางพุทธศาสนา เชน่ พระแผง ๑๐๘ และพระแผง ๕๐๐ เป็นต้น อยา่ งไรก็ตาม ถา้ จำ� นวน
พระพมิ พท์ น่ี ำ� มาบรรจหุ รอื ตดิ บนแผงไมม้ จี ำ� นวนมากกวา่ ๒๘ องคข์ นึ้ ไป กจ็ ะเปน็ สญั ลกั ษณข์ อง
พระพุทธเจา้ ท่ีจะไดม้ าตรสั รู้ทั้งในอดีต ปจั จบุ นั และอนาคต ซึง่ มีจำ� นวนมากมายจนไม่อาจนับได้
เรียกว่า พระอนนั ตพทุ ธเจ้า๘๓
172
แผงพระพมิ พ์
พระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์ 173
สัญลักษณพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์
แผงพระพมิ พ์ วดั ปงสนกุ เหนอื เมืองลำ�ปาง
แผงพระพมิ พ์
พระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์
วัดปงสนกุ อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดลำ�ปาง
แผงพระพิมพพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ เปน็ ซุ้มโขง สว่ นตัวแผงเป็นเสาขอมซ้อนกนั ๒
ชน้ั สว่ นยอดมลี กั ษณะเปน็ ซมุ้ โคง้ ไมม่ ยี อดแหลมปลายทงั้ สองขา้ งเปน็ รปู พมุ่ ขา้ วบณิ ฑ์ ตกแตง่ ดว้ ย
การแกะสลกั ไม้ ทาพน้ื ดว้ ยสเี ทาตกแตง่ ดว้ ยสแี ดง และปดิ ทอง ปดิ ทองลายฉลุ ภายในตดิ พระพมิ พ์
ท�ำจากตะกว่ั ลงรักปดิ ทอง จ�ำนวน ๒๘ องค์
174
แผงพระพมิ พ์
พระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์
วัดปงสนุก อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวัดลำ�ปาง
แผงพระพมิ พพ์ ระพทุ ธเจา้ ๒๘ พระองค์ เป็นแผงพระที่ทำ� จากไม้ ฐานแกะเปน็ บวั ควำ�่
ตัวแผงเป็นลักษณะซุ้มเสาขอม ส่วนยอดมีลักษณะเป็นเรือนแก้ว เทคนิคการตกแต่งเป็นงาน
แกะสลักไม้ ลงรกั ปดิ ทองและประดับดว้ ยกระจกจืน และเทคนิคปดิ ทองลายฉลุ ภายในแผงพระ
ติดพระพุทธรปู ปางมารวิชยั ในซ้มุ เรอื นแกว้ จำ� นวน ๒๘ องค์ ทส่ี ร้างดว้ ยตะกว่ั ลงรกั ปิดทอง
175
สญั ลกั ษณพ์ ระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
พระพิมพ์ซาวแปด เมืองลำ�พูน
พระพมิ พ์ เปน็ ชอ่ื เรยี กพระพทุ ธรปู ทไ่ี ดจ้ ากเทคนคิ การสรา้ ง แตเ่ ดมิ ชาวลา้ นนาไมน่ ยิ มเรยี ก
พระพมิ พ์ ในอดตี เมอ่ื ชาวพทุ ธนำ� พระพมิ พไ์ ปจดั เรยี งไวบ้ นแผงไมแ้ ลว้ จะนยิ มเรยี กรวมใหเ้ ปน็ ชอื่
พระพทุ ธรปู องคเ์ ดยี ว คอื พระแผง พระพมิ พส์ ว่ นใหญเ่ ปน็ พระพมิ พห์ รภิ ญุ ชยั เชน่ พระรอด พระคง
และพระพมิ พเ์ มอื งพะเยา ไดแ้ ก่ พระยอดขนุ พลเมอื งพะเยา เปน็ ตน้ สว่ นพระพมิ พท์ สี่ ะทอ้ นความหมาย
สญั ลกั ษณพ์ ระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์ คือ พระเชยี งแสนซาวแปด๘๔
176
พระพิมพ์ซาวแปด
สญั ลักษณพ์ ระพุทธเจา้ ๒๘ พระองค์ 177
สัญลกั ษณพ์ ระอนันตพุทธเจ้า
สัญลกั ษณพ์ ระอนนั ตพุทธเจา้ ในงานศลิ ปะลา้ นนา
สญั ลกั ษณพ์ ระอนันตพทุ ธเจา้ เปน็ กลุ่มที่มีจ�ำนวนพระพุทธเจ้ามากกวา่ ๒๘ พระองค์
ขน้ึ ไป จะมีความหมายถึงพระพุทธเจ้าจ�ำนวนมากท่ีตรัสรู้มาแล้วในอดีต ปัจจุบัน และจะตรัสรู้
ต่อไปในอนาคตอยา่ งมากมายนบั ไมถ่ ้วน อปุ มา “ดังเมด็ ทราย” ในแมน่ ำ้� คงคา
งานศลิ ปกรรมล้านนาทสี่ ะทอ้ นแนวคิดสัญลกั ษณพ์ ระอนนั ตพุทธเจา้ ได้แก่
จิตรกรรมฝาผนัง เจดียว์ ัดอุโมงค์ อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดเชียงใหม่
จติ รกรรมฝาผนงั วหิ ารวัดชา้ งคำ�้ อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดน่าน
จติ รกรรมบนคอสอง วหิ ารวัดไหลห่ ิน อำ� เภอเกาะคา จงั หวัดลำ� ปาง
ลายค�ำวิหารวัดปราสาท อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดเชียงใหม่
ลายค�ำวหิ ารและอโุ บสถ วัดภูมินทร์ อำ� เภอเมือง จังหวัดนา่ น
พระแผง วหิ ารวดั หางดง อำ� เภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
พระแผง วิหารวัดต้นเกว๋น อำ� เภอหางดง จังหวัดเชยี งใหม่
พระแผง วิหารพระเจ้าพนั องค์ วัดปงสนุก อำ� เภอเมือง จังหวัดล�ำปาง
แผงพระพิมพ์ วัดปราสาท อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
แผงพระพิมพ์ วัดพระธาตลุ ำ� ปางหลวง อ�ำเภอเกาะคา จงั หวัดล�ำปาง
แผงพระพมิ พ์ วดั พระสิงห์ อำ� เภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่
แผงพระพิมพ์ วดั ผ้าขาว อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งใหม่
แผงพระพิมพ์ วัดดอกเอื้อง อำ� เภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พระพทุ ธรูป ซุ้มจระน�ำ เจดีย์เหล่ยี ม วดั กู่คำ� อำ� เภอสารภี จังหวดั เชียงใหม่
พระพุทธรูป ซุ้มจระนำ� เจดีย์วัดตะโปตาราม (รำ่� เปงิ ) อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม่
พระพทุ ธรูป ซุ้มจระนำ� เจดียก์ กู่ ดุ วัดจามเทวี อำ� เภอเมือง จงั หวัดลำ� พนู
พระพทุ ธรปู ซ้มุ จระนำ� สวุ รรณเจดยี ์ วดั พระธาตุหรภิ ุญชยั อำ� เภอเมอื ง จังหวดั ลำ� พนู
178
พระแผง
สญั ลกั ษณพ์ ระอนนั ตพทุ ธเจ้า
วิหารวัดหางดง
อ�ำ เภอหางดง จงั หวดั เชยี งให1ม7่ 9
สัญลักษณพ์ ระอนนั ตพทุ ธเจา้
จติ รกรรมฝาผนัง เจดียว์ ัดอโุ มงค์ เมอื งเชยี งใหม่
วัดอุโมงค์ ต้ังอยบู่ รเิ วณเชงิ ดอยสุเทพ อำ� เภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ ประวตั ิความเป็นมา
ของวดั ตามตำ� นานเมอื งเชยี งใหมก่ ลา่ ววา่ พระเจา้ มงั รายทรงโปรดฯ ใหส้ ถาปนาวดั แหง่ นขี้ นึ้ ในรชั สมยั
ของพระองค์ ต่อมาได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์คร้ังใหญ่ในสมัยพระเจ้ากือนา เพื่อใช้เป็นสถานที่
จ�ำพรรษาของพระเถระผู้ใหญ่ นามว่า มหาเถรจันทร์ และบูรณะอีกคร้ังในสมัยพระเมืองแก้ว
โบราณสถานที่ส�ำคัญภายในวัด ได้แก่ เจดีย์ประธาน องค์เจดีย์มีฐานกลม ๓ ชุด ซ้อนลดหลั่น
ข้ึนไปรับองค์ระฆังทรงกลม ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์สี่เหล่ียม และยอดทรงกรวยประกอบด้วย
ปล้องไฉนและปลียอด๘๕
เจดยี ์วดั อุโมงค์
วดั อโุ มงค์ (สวนพทุ ธธรรม)
180 อ�ำ เภอเมอื ง จังหวดั เชยี งใหม่
181
สญั ลกั ษณ์พระอนันตพุทธเจา้
จติ รกรรมภายในห้องกรุเจดยี ว์ ัดอุโมงค์
182 วัดอโุ มงค์ (สวนพุทธธรรม)
สัญลกั ษณ์พระอนนั ตพุทธเจ้า
จติ รกรรมฝาผนงั เจดยี ว์ ดั อโุ มงค์ เมอื งเชียงใหม่
ภายในหอ้ งกรเุ จดยี ม์ ลี กั ษณะเปน็ หอ้ งสเี่ หลย่ี มจตั รุ สั ประกอบดว้ ยแผน่ หนิ ทรายจำ� นวน
๖ แผ่น ผิวหน้าของผนังทุกด้านมีร่องรอยการปิดทองค�ำเปลวเต็มทั้งผนัง ภาพจิตรกรรมอยู่ใน
สภาพช�ำรุดลบเลือนไปเกือบหมด ส่วนภาพท่ีหลงเหลืออยู่มีรูปแบบเป็นภาพตัดเส้นด้วยพู่กัน
สีแดงชาดเพียงสีเดียวบนพ้ืนสีทอง๘๖ แสดงภาพพระพุทธเจ้าประทับน่ังขัดสมาธิราบ อยู่ในซุ้ม
เรือนแก้วภายใต้โพธิมณฑล เรียงแถวซ้อนกันเป็นช้ัน ๆ ฐานพระเขียนเป็นภาพดอกบัวบาน
อยเู่ หนอื หนา้ กระดานทปี่ ระดบั ดว้ ยลายดอกกลมสลบั กบั สเี่ หลย่ี มขนมเปยี กปนู ภาพพระพทุ ธรปู
มพี ระวรกายผอมบาง ทรงจวี รเฉยี ง สงั ฆาฏพิ าดอยเู่ หนอื พระองั สาดา้ นซา้ ยเปน็ แถบใหญย่ าวลงมา
ถึงพระนาภี กรอบพระพักตร์รูปส่ีเหลี่ยม เม็ดพระศกขมวดเป็นก้นหอยมีขนาดใหญ่ พระรัศมี
ทรงดอกบวั ตมู พระโขนงโก่ง เปลอื กพระเนตรอมู พระเนตรเหลอื บลงต�ำ่ น้วิ พระหตั ถ์เรียวยาวมี
ปลายตดั เสมอกนั นบั รวมไดห้ ลายสบิ พระองค์ สนั นษิ ฐานวา่ เปน็ สญั ลกั ษณห์ มายถงึ พระอนนั ตพทุ ธเจา้ ๘๗
ทั้งน้ี การเขียนภาพจิตรกรรมเรื่องพระอดีตพทุ ธเจ้ามคี วามนยิ มในวัฒนธรรมสโุ ขทัยและล้านนา
สำ� หรบั ทส่ี โุ ขทยั พบหลกั ฐานภายในเจตยิ วหิ ารหลายแหง่ ซง่ึ มอี ายรุ าวกลางถงึ ปลายพทุ ธศตวรรษที่
๑๙ มคี วามเปน็ ไปไดว้ า่ เปน็ อทิ ธพิ ลมาจากการเขยี นภาพประดบั เจตยิ วหิ ารในศลิ ปะพกุ ามของพมา่
ส�ำหรับในวัฒนธรรมล้านนาพบหลักฐานการเขียนภาพจิตรกรรมซ่ึงเก่าแก่มากที่สุด ท่ีแสดง
สัญลักษณ์พระอดีตพุทธเจ้าหลงเหลือปรากฏอยู่เพียงแห่งเดียว คือ บริเวณผนังห้องกรุภายใน
เจดีย์ประธานของวดั อุโมงค์ เชิงดอยสุเทพ เมอื งเชยี งใหม๘่ ๘
183
วัดไหล่หินแก้วช้างยืน
(วดั เสลารัตนปัพพตาราม)
184 อ�ำ เภอเกาะคา จงั หวัดล�ำ ปาง
สญั ลกั ษณ์พระอนนั ตพุทธเจ้า
ลายคำ�และจติ รกรรมบนคอสอง วิหารวดั ไหล่หนิ เมืองลำ�ปาง
วดั ไหลห่ นิ หรอื วดั ไหลห่ นิ แกว้ ชา้ งยนื อำ� เภอเกาะคา จงั หวดั ลำ� ปาง สว่ นชอื่ เปน็ ทางการ คอื
วดั เสลารตั นปพั พตาราม ตงั้ อยบู่ นเนนิ เขาเตย้ี ๆ หา่ งออกไปจากหมบู่ า้ นไหลห่ นิ เลก็ นอ้ ย หลกั ฐาน
การสร้างวัดปรากฏอยูบ่ นแผน่ ไมเ้ ขียนดว้ ยอกั ษรธรรมล้านนา กล่าววา่ พระมหาเกสรปญั โญเป็น
ประธาน ร่วมกับศิษยานุศิษย์ท้ังหลายได้ร่วมกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น เม่ือจุลศักราช ๑๐๔๕ (พ.ศ.
๒๒๒๖) ต่อมาไดร้ ับการบูรณะซ่อมแซมอกี หลายครง้ั จนกระท่งั ในปี พ.ศ.๒๔๕๔ เจ้าบญุ วาทย์
วงศ์มานิตย์เจ้าผู้ครองนครล�ำปางได้เป็นประธานในการสร้างพระอุโบสถของวัด และคงได้มี
การบูรณะซ่อมแซมวิหารอีกด้วย วิหารวัดไหล่หินต้ังอยู่ในต�ำแหน่งที่มีความส�ำคัญตามคติ
การสรา้ งวหิ ารลา้ นนา คอื หนั หนา้ วหิ ารไปทางทศิ ตะวนั ออก ดา้ นหนา้ มซี มุ้ ประตโู ขง ดา้ นหลงั วหิ าร
มีพระธาตุเจดีย์ ตามแนวแกนตะวันออก-ตะวันตก ล้อมรอบด้วยระเบียงคดหรือศาลาบาตร
สว่ นอโุ บสถไดส้ รา้ งเพ่ิมเติมข้นึ ภายหลัง๘๙
185
สัญลักษณ์พระอนันตพทุ ธเจา้
ลายคำ�และจิตรกรรมบนคอสอง วหิ ารวัดไหลห่ ิน เมอื งลำ�ปาง
วิหารวัดไหล่หิน มีลักษณะเป็นวิหารโถงขนาดเล็ก ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยกเก็จ
ดา้ นหนา้ ๑ ชว่ ง ดา้ นหลงั ตดั ตรง มผี นงั ปดิ ทบึ ชว่ งหอ้ งทา้ ยวหิ าร หลงั คาลดชน้ั ดา้ นหนา้ ๒ ชน้ั
ดา้ นหลงั ๑ ชน้ั และลดปกี นกดา้ นขา้ ง ๆ ละ ๑ ตบั ซง่ึ เปน็ แบบแผนของวหิ ารลา้ นนา เหมอื นกบั
วหิ ารหลวง วดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง หนา้ บนั เปน็ ตารางหรอื เรยี กวา่ “ภควมั ” และประดบั ดว้ ย
โก่งคิ้ว ช่วงท้ายวหิ ารประดษิ ฐานพระพุทธรูปประธานบนฐานชุกชี ซึ่งมพี ุทธลกั ษณะงดงาม
แบบพืน้ ถน่ิ ประทับนง่ั แสดงปางมารวชิ ัย๙๐
ลายคำ�พระอดตี พุทธเจา้
วหิ ารวัดไหล่หนิ
186 อ�ำ เภอเกาะคา จงั หวัดลำ�ปาง
187
สัญลกั ษณพ์ ระอนนั ตพุทธเจ้า
ลายคำ�บนฝาไมด้ า้ นหลังพระประธาน
188 วิหารวัดไหลห่ นิ อ�ำ เภอเกาะคา จงั หวดั ลำ�ปาง
สญั ลักษณพ์ ระอนันตพทุ ธเจา้
ลายคำ�และจติ รกรรมบนคอสอง วิหารวดั ไหล่หนิ เมืองลำ�ปาง
งานศิลปะลายค�ำทปี่ ระดับภายในวิหารวัดไหล่หิน สามารถจ�ำแนกไดเ้ ป็น ๓ กลุ่ม ไดแ้ ก่
กลมุ่ แรก เปน็ ลายคำ� ทปี่ ระดบั อยบู่ รเิ วณตวั ไมเ้ ครอื่ งบนของวหิ าร กลมุ่ ทส่ี อง เปน็ ลายคำ� ภาพสตั ว์
และสตั วห์ มิ พานต์ กลมุ่ ทสี่ าม เปน็ งานลายคำ� บรเิ วณผนงั ปนู และฝาไมข้ องหนา้ บนั ภายในดา้ นหลงั
พระประธาน ซงึ่ ประกอบดว้ ยลายดอกพดุ ตานและลายมงั กรทไี่ ดร้ บั อทิ ธพิ ลจากศลิ ปะจนี โดยเฉพาะ
อยา่ งยง่ิ ลายคำ� ภาพสญั ลกั ษณพ์ ระอดตี พระพทุ ธเจา้ มปี รากฏอยบู่ รเิ วณชอ่ งลกู ฟกั ของอดุ จวั่ และ
หนา้ บนั แสดงภาพพระพทุ ธเจา้ ประทบั นงั่ ปางมารวชิ ยั อยภู่ ายใตโ้ พธมิ ณฑล จำ� นวน ๙ พระองค์
และขนาบข้างดว้ ยพระพุทธเจ้าประทบั ยืนอีก ๒ พระองค๙์ ๑
189
สัญลกั ษณพ์ ระอนนั ตพุทธเจ้า
ลายคำ�และจติ รกรรมบนคอสอง วิหารวดั ไหล่หนิ เมืองลำ�ปาง
บรเิ วณกรอบคอสองในหอ้ งทา้ ยวหิ ารทางดา้ นทศิ เหนอื ยงั มงี านจติ รกรรมเขยี นดว้ ยสเี หลอื ง
สแี ดง และสดี ำ� ภาพพระพทุ ธเจา้ อยใู่ นทา่ ประทบั นง่ั ปางมารวชิ ยั จำ� นวน ๗ พระองค์ สว่ นกรอบคอสอง
ทางทศิ ใตภ้ าพคอ่ นขา้ งลบเลอื นมาก สนั นษิ ฐานวา่ เปน็ ภาพแสดงพทุ ธประวตั ิ ตอน เสวยวมิ ตุ สิ ขุ
นอกจากนี้ บนแผงคอสองในหอ้ งอน่ื ๆ ของวหิ าร กป็ รากฏจติ รกรรมภาพพระอดตี พทุ ธเจา้ ประทบั นงั่
ปางมารวิชัย ภายใต้โพธิมณฑล เขียนด้วยสีชาดและสีรักด�ำ โดยบางกรอบมีพระพุทธเจ้า ๔
พระองค์ บางมกี รอบ ๕ พระองค์ และลบเลอื นไปอกี สว่ นหนง่ึ ๙๒ ทง้ั นี้ โดยภาพรวมของงานลายคำ�
และจิตรกรรมภาพพระพุทธเจ้าท้ังหมดที่พบภายในวิหารแห่งนี้ จึงพอจะสันนิษฐานได้ว่าเป็น
การสื่อความหมายเชงิ สัญลกั ษณ์ เรอื่ ง พระอนนั ตพุทธเจา้
190
สญั ลักษณพ์ ระอนันตพทุ ธเจ้า 191
จิตรกรรมบนแผงไมค้ อสอง
วิหารวดั ไหล่หิน อ�ำ เภอเกาะคา จังหวดั ลำ�ปาง
สญั ลักษณ์พระอนันตพุทธเจา้
จติ รกรรมฝาผนงั อดตี พทุ ธ วิหารวดั ชา้ งค้ำ� เมอื งน่าน
วัดช้างค�้ำวรวิหาร อ�ำเภอเมือง จังหวัดน่าน มีชื่อเรียกท่ีหลากหลาย ได้แก่ วัดช้างค้�ำ
วัดพระธาตุช้างค�้ำวรวิหาร และวัดหลวงกลางเวียง ตามประวัติการสร้างวัดในพงศาวดารน่าน
ระบวุ า่ พระญาภูเขง่ เจา้ ผู้ครองนครน่าน เป็นผสู้ ร้างวัดเมื่อจลุ ศกั ราช ๗๖๘ ตรงกับ พ.ศ.๑๙๔๙
แตเ่ ดมิ วดั ชา้ งคำ�้ เปน็ วดั หลวงประจำ� เมอื ง ทเ่ี จา้ เมอื งใชใ้ นการประกอบพธิ กี รรมทส่ี ำ� คญั ทางพทุ ธศาสนา
และพิธีส�ำคัญของบ้านเมือง ช่ือวัดช้างค้�ำหรือวัดพระธาตุช้างค�้ำ เนื่องมาจากพระเจดีย์หรือ
พระธาตุหลวง ผังรูปสี่เหล่ียมจัตุรัสยกฐานสูง มีประติมากรรมปูนปั้นรูปช้างคร่ึงตัวโผล่ช่วงหน้า
ออกมาโดยรอบพระธาตเุ จดยี ท์ งั้ ๔ ดา้ น ๆ ละ ๖ เชอื ก อากปั กริ ยิ าของชา้ งคลา้ ยกบั การเอาหลงั หนนุ
องค์พระธาตไุ ว้ ชาวบ้านจงึ นิยมเรียกว่า วัดช้างค้ำ� ๙๓
192
วิหารวัดชา้ งค้ำ� 193
อำ�เภอเมอื ง จังหวดั นา่ น
สญั ลกั ษณพ์ ระอนันตพทุ ธเจ้า
จติ รกรรมฝาผนงั อดตี พทุ ธ วหิ ารวดั ช้างค้ำ� เมืองนา่ น
พระวหิ ารหลวงตง้ั อยบู่ รเิ วณหนา้ วดั คกู่ บั หอพระไตรปฎิ กหรอื หอธมั ม์ โดยหนั หนา้ ไปทางทศิ ใต้
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย ลงรักปิดทองขนาดหน้าตักกว้าง
๔ เมตร ๕๐ เซนติเมตร สูงจากฐานถึงยอดพระเกตุมาลา ๖ เมตร เรียกว่า “พระเจ้าหลวง”
ผนงั ภายในวหิ ารเขยี นภาพจติ รกรรมไวเ้ ตม็ ตลอดทงั้ ๔ ดา้ น แตป่ จั จบุ นั ภาพสว่ นใหญล่ บเลอื นไป
เกอื บหมด เหลอื เพยี งผนงั ทางดา้ นทศิ เหนอื ดา้ นหลงั พระประธานเทา่ นน้ั ทยี่ งั พอสงั เกตเหน็ เปน็ ภาพ
พระอดตี พทุ ธเจา้ ประทบั นงั่ แสดงปางมารวชิ ยั เรยี งเปน็ แถวนบั รวมไดจ้ ำ� นวนหลายสบิ พระองค์
อันเปน็ สญั ลักษณ์พระอนตั พทุ ธเจ้า
194
สญั ลักษณพ์ ระอนนั ตพทุ ธเจ้า 195
จิตรกรรมฝาผนัง วิหารวดั ชา้ งคำ�้
อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวัดนา่ น
สญั ลกั ษณพ์ ระอนนั ตพทุ ธเจา้
พระแผง วิหารวดั ปราสาท เมืองเชียงใหม่
สัญลักษณ์พระอนันตพุทธเจ้าท่ีปรากฏภายในวิหารวัดปราสาท บริเวณผนังปูนห้อง
ทา้ ยวิหาร ช่วงระหวา่ งเสากลางวหิ าร ด้วยการน�ำพระพมิ พ์องค์ขนาดเล็กมาเรยี งเป็นแผงติดกบั
ผนงั เปน็ จำ� นวนมาก โดยมตี ำ� แหนง่ อยดู่ า้ นบนกรอบซมุ้ ประตโู ขงจนจดหนา้ แหนบดา้ นหลงั ทเี่ ปน็ ไม้
ในวฒั นธรรมลา้ นนานยิ มสรา้ งแผงพระพมิ พ์ ๒ ลกั ษณะ คอื การสรา้ งเปน็ แผงไมข้ นาดเลก็ รปู แบบ
กรอบซุ้มแลว้ จดั เรียงพระพิมพ์ไว้ภายในกรอบไมน้ น้ั มจี �ำนวน ๒๔ องค์ หรอื ๒๘ องค์ อนั เป็น
สญั ลกั ษณแ์ ทนพระพทุ ธเจา้ ๒๔ พระองคแ์ ละ ๒๘ พระองคต์ ามลำ� ดบั ตอ่ จากนนั้ จงึ นำ� แผงพระพมิ พ์
มาประดษิ ฐานบนฐานชกุ ชภี ายในวหิ าร สว่ นอกี รปู แบบหนง่ึ กค็ อื การสรา้ งแผงพระพมิ พต์ ดิ กบั ผนงั
ของวิหารโดยตรง เรียกว่า พระแผง ทัง้ นี้ นอกจากพระแผงท่วี ิหารวัดปราสาทแล้ว ยงั สามารถ
พบเห็นไดท้ วี่ หิ ารวัดตน้ เกว๋น และวหิ ารวัดหางดง อ�ำเภอหางดง จังหวดั เชียงใหม่๙๔
196
พระแผง
วหิ ารวัดปราสาท
อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดเชยี งใหม่ 197
ลายคำ� สญั ลกั ษณ์พระอนันตพทุ ธเจา้
วหิ ารวดั ปราสาท
198 อ�ำ เภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม่