ค่มู อื สง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา
ประเภทลูกเสอื วสิ ามญั
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี 1
สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
คมู่ ือส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลูกเสอื วสิ ามญั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 1
ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ 1
ค่มู อื ส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา
ประเภทลกู เสือวิสามญั
ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1
ปีที่พิมพ ์ พ.ศ. 2562
จำ�นวนพมิ พ์ 200 เล่ม
จดั ทำ�โดย ส�ำ นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
พิมพท์ ี่ โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำ กดั
79 ถนนงามวงศว์ าน แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรงุ เทพมหานคร 10900
โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101
นายโชคดี ออสุวรรณ ผูพ้ มิ พ์ผู้โฆษณา
คำนิ ยม
นับว่าเป็นโอกาสและประโยชน์ที่สาคัญ อีกเร่ืองหน่ึงที่สานักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการ
นักเรียน ซึ่งเป็นหน่วยงานหน่ึงในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผลิตตารา
ในลักษณะคู่มือส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษาชุดน้ีข้ึน ซ่ึงมีเนอื้ หาท่ีสอดคลอ้ ง
กับปัญหาตามวัยและพัฒนาการของผู้เรียน และมีการบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอน เข้ากับวิธีการ
ลูกเสอื ครู อาจารย์ ผู้กากับลูกเสือ และบุคลากรทางการลูกเสอื จะได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ประเทศไทยกาลังกา้ วสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ดังนัน้ ความถกู ต้องและชัดเจนในเรื่องการจัด
กจิ กรรมลูกเสอื จึงเป็นตาราและคู่มือทางการวิชาการ สาหรับกิจกรรมลูกเสือเพื่อจะใชเ้ ป็นเครื่องมอื ในการ
พัฒนาเยาวชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดี มีความรอบรู้ สามารถช่วยตนเองได้ อันจะเป็นแรงผลักดันให้การศึกษาของ
ประเทศไทยมคี วามเจรญิ เท่าเทียมกับประเทศสมาชิกอาเซยี น และอารยประเทศอน่ื ๆ ท่ัวโลก ขอขอบคุณ
และให้กาลงั ใจตอ่ ผู้ทรงคุณวุฒิทางการลกู เสือ และผ้มู ีสว่ นรว่ มในการจัดทาคมู่ อื ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรม
ลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาเล่มนี้ทุกท่าน ที่ได้เสียสละ กาลังความคิด จนทาให้เสร็จส้ินโดยสมบูรณ์
อันจะเป็นประโยชน์ต่อกจิ การลกู เสืออย่างมาก ทั้งในปจั จุบนั และอนาคต
(นายการณุ สกุลประดษิ ฐ)์
ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
นายการุณ สกุลประดษิ ฐ์
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
คำนิ ยม
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา เป็นเคร่ืองมือสาคัญสาหรับ
ครูผู้สอน ลูกเสือ เนตรนารี ท่ีจะใช้สาหรับวางแผนการสอน การวัดและการประเมินผู้เรียน จัดทาขน้ึ โดยมี
เป้าหมายสาคัญ คือ เสนอแนวทางท่ีเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ สาหรับ
ครูผู้สอนนาไปใช้เป็นหลักการในการจัดการเรียนการสอน โดยสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้ดีข้ึนตาม
ความรู้ ความสามารถของครผู ู้สอน ตามบรบิ ทแตล่ ะภูมภิ าค
หลักสาคัญของเอกสารชุดนี้ นอกเหนือจากเสนอแนวทางด้านเนื้อหาสาระสาคัญ วิธีสอน
ท่ีเหมาะสม การวัดและประเมินผล ตัวอย่างแบบทดสอบ วิธีทดสอบ แล้วยังสามารถต่อยอดทางความคิด
ของครูผู้สอนได้ เน่ืองจากเป้าหมายท่ีต้องการคือ การนาเอากระบวนการลูกเสือมาจัดการเรียนรู้ให้แก่
ผู้เรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ในการทากิจกรรมอย่างครบวงจร เพื่อให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม
ตามกระบวนการของลกู เสือ จงึ เชอื่ ได้ว่า หากผู้เรยี นเข้าใจและปฏบิ ัตไิ ดแ้ ลว้ จะเปน็ คนดีในสงั คมตอ่ ไป
ขอขอบคุณ ผู้ร่วมดาเนินการในการจัดทาคู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิต
ในสถานศึกษาทุกภาคส่วน ท่ีเล็งเห็นประโยชน์ในการทาเอกสารชุดน้ีจนสาเรจ็ เรียบร้อย สามารถเผยแพร่ได้
ซ่งึ นา่ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ เด็กและเยาวชนในทส่ี ดุ
เลรขอางธนปกิ าลายดัรปกสเรลาระนะขเรทกัสาอรธงร(งาวฐิกินปนงาาบศลลรยึกุญดูกัสปษเก�เสำรรานรือือะธะกัเแงกิทสงหารรารง่วฐินชงลาบศกูตญุกึ ิเสษเรอืาอื แธงหกิ )าง่ รชาติ
คำ�นำ�
ส�ำนกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น ส�ำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารรว่ มกบั สมาคม
วางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
พฒั นาโครงการสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื เสรมิ สรา้ ง
ทกั ษะชวี ติ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนในสถานศกึ ษาดว้ ยกระบวนการลกู เสอื โดยใหเ้ ดก็ และเยาวชนลงมอื ปฏบิ ตั ิ
ดว้ ยตนเอง ในการท�ำกจิ กรรมอยา่ งครบวงจร ตงั้ แต่การศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ติ ามแผน ประเมนิ
และปรบั ปรงุ การจดั กจิ กรรม รวมถงึ การท�ำงานเป็นระบบหมตู่ ามกระบวนการลกู เสอื ซง่ึ กจิ กรรมดงั กลา่ ว
เป็นการพฒั นาความเป็นมนุษยแ์ บบองคร์ วม ทงั้ ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ท�ำใหเ้ ดก็ และ
เยาวชนมรี ะเบยี บวนิ ยั มจี ติ ส�ำนึกในการท�ำความดเี พอ่ื ท�ำประโยชน์ใหก้ บั ครอบครวั ชุมชน สงั คม และ
ประเทศชาติ ตอ่ ไป
เรม่ิ จากการศกึ ษาความเป็นไปได้ ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทงั้ ในและต่างประเทศ
จดั ประชมุ ผเู้ ชย่ี วชาญทงั้ ดา้ นลกู เสอื ดา้ นทกั ษะชวี ติ รวมทงั้ ดา้ นการพฒั นาเดก็ และเยาวชน เพอ่ื ก�ำหนด
กรอบโครงสรา้ งหลกั สตู รลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการดา้ นตา่ ง ๆ
ของลกู เสอื แต่ละประเภท
คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต ฉบับทดลอง สมาคมวางแผนครอบครวั
แหง่ ประเทศไทยฯ ไดเ้ รมิ่ ใชใ้ นปี พ.ศ. 2553 มโี รงเรยี นจากทกุ ภมู ภิ าคของประเทศเขา้ รว่ มโครงการ จ�ำนวน
26 โรงเรยี น โดยไดด้ �ำเนนิ การควบคไู่ ปกบั การวจิ ยั และประเมนิ ผลการใชค้ มู่ อื และท�ำการปรบั ปรงุ คมู่ อื ครงั้
แรกเมอ่ื เมษายน พ.ศ. 2554 โดยไดเ้ พมิ่ เตมิ เพลง เกม นิทาน เรอ่ื งสนั้ และเน้ือหาใหค้ รบถว้ นยงิ่ ขน้ึ
การปรบั ปรงุ ครงั้ ทส่ี อง มถิ ุนายน พ.ศ. 2559 เกดิ ขน้ึ ตามขอ้ เสนอแนะจากการประชมุ ปฏบิ ตั กิ าร
“การขบั เคลอ่ื นกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นดว้ ยกระบวนการลกู เสอื ” ซง่ึ จดั โดยส�ำนกั การลกู เสอื ยวุ กาชาด และ
กิจการนักเรียน ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ โดยยึดข้อบงั คบั คณะลูกเสอื แห่งชาติว่าด้วย
การปกครอง หลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื และเพมิ่ จ�ำนวนแผนการจดั กจิ กรรมให้ครบ 40 ชวั่ โมง
เพอ่ื ครอบคลมุ สาระทจ่ี �ำเป็นอยา่ งครบถว้ น เป็นการเตรยี มการขยายผลในโรงเรยี นสงั กดั ส�ำนกั งานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (สพฐ.) ทวั่ ประเทศ และไดแ้ บ่งคู่มอื ออกเป็น 11 เล่ม ส�ำหรบั ลูกเสอื แต่ละชนั้ ปี
เพอ่ื ความสะดวกของผสู้ อน รวมทงั้ ทางส�ำนกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี นไดด้ �ำเนินการวจิ ยั
และประเมนิ ผลการใชค้ มู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ จ�ำนวน 53 โรงเรยี น คขู่ นานกบั
สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ ดว้ ย
ส�ำนกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น และสมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ
ขอขอบพระคณุ หน่วยงานและบุคลากรทุกทา่ นทม่ี สี ว่ นรว่ มในโครงการใหส้ �ำเรจ็ ลุล่วง ณ โอกาสน้ี ตงั้ แต่
การริเร่ิมโครงการการจดั ท�ำหลกั สูตรและคู่มือ การทดลองวิจยั และประเมินผลการใช้คู่มือ รวมทงั้
การปรบั ปรงุ คมู่ อื ทงั้ 2 ครงั้ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ คมู่ อื ชดุ น้ีจะชว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ จิ การลกู เสอื ของประเทศไทย
ซง่ึ ด�ำเนินมาครบวาระ 108 ปี ในปี พ.ศ. 2562 น้ี ไดเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ส�ำคญั และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ
ต่อการพฒั นาเดก็ และเยาวชนของชาตติ อ่ ไป
สำ� นักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนักเรียน
สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
สารบัญ หนา้
2
คานิยม 4
คานา 8
คาช้แี จงการใชค้ ู่มือ 11
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื วสิ ามัญ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4
และประกาศนียบัตรวชิ าชพี 1 14
หนว ยที่ 1 ปฐมนเิ ทศ 16
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 1 การปฐมนเิ ทศ
39
หนว ยท่ี 2 กิจการของการลูกเสือ และบทบาทของตนเองทเ่ี ป็นลกู เสือวิสามญั
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 2 ขบวนการลูกเสอื โลก ลกู เสือไทย ธรรมเนยี ม 67
และกจิ การลูกเสือวสิ ามญั 75
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 3 กิจการของคณะลูกเสอื ไทยและลูกเสอื โลก 78
84
หนวยท่ี 3 คําปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 4 คาํ ปฏิญาณและกฎของลกู เสอื 90
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 5 การคบเพือ่ น
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 6 การสรา฿ งสัมพนั ธภาพและการส่อื สาร 120
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 7 การเรยี นร฿ูเบญจภมู ิ
125
หนว ยท่ี 4 ระเบียบแถว
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 8 ระเบียบแถวลูกเสอื 130
หนวยท่ี 5 กางและรอ้ื เต็นททโ ี่พักแรม 134
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 9 การกางและรอ้ื เต็นททโ ่ีพักแรม
149
หนวยที่ 6 การบรรจุเครือ่ งหลัง
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 10 การบรรจเุ ครือ่ งหลงั
หนว ยที่ 7 กอ และจุดไฟกลางแจ฿ง
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 11 การกอ ไฟและปรุงอาหาร
หนว ยที่ 8 แผนท่ีและเข็มทิศ
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 12 แผนท่แี ละเขม็ ทิศ
หนวยท่ี 9 การผกู เงอื่ นและประโยชนโของเงอ่ื น
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 13 เงือ่ นเชือก
6 ค่มู ือสง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื วสิ ามญั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4
ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ 1
สารบญั (ต่อ)
หน้า
หนวยท่ี 10 การปฐมพยาบาล
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 14 กูภ฿ ยั ใกล฿ตวั และการปฐมพยาบาล 164
หนว ยที่ 11 ความปลอดภัยในการปฏบิ ัติกิจกรรมของลูกเสอื วสิ ามญั
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 15 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมและประกอบอาชพี 170
ในสถานประกอบการ
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 16 สายไปเสยี แล฿ว 178
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 17 ภัยใกลต฿ ัวหนมุ สาว 184
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 18 สรา฿ งวกิ ฤตใิ หเ฿ ป็นโอกาส 190
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 19 สารเสพตดิ 193
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 20 ปอฺ งกันไว฿กอ น 196
หนวยที่ 12 การฝึกอบรมรวมกันทั้งกอง
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 21 การฝึกอบรมรว มกนั ทง้ั กอง 202
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 22 การสาํ รวจชมุ ชนวิถไี ทยและภมู ิปัญญาท฿องถน่ิ 215
หนว ยท่ี 13 ประเมินผล
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 23 การประเมนิ ผล 222
หนวยที่ 14 พิธีการ
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 24 พธิ ีเขา฿ ประจาํ กองลกู เสือวสิ ามัญ 235
ภาคผนวก 252
ภาคผนวก ก แนวคดิ เรอ่ื งทักษะชวี ติ
ภาคผนวก ข กิจกรรมลกู เสือเสรมิ สรา฿ งทกั ษะชวี ติ 263
บรรณานุกรม 266
ค่มู อื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื วสิ ามัญ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 7
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 1
คาชแี้ จงการใชค้ มู่ ือ
คู่ม ือส่งเสริมิมแแลละะพพัฒัฒนนาากกิจิจกกรรรมมลลูกูกเสเือสทือทักษักษะชะีวชิตีวใิตนใสนถสาถนาศนึกศษึกาษชาุดชนุดี้ นจ้ี ัดจทัดําทข�ำ้ึนขส้ึนําสห�ำรหับรผับู฿
กผํากู้ ก�ำกับบัลูกลกูเสเสืออืใชใชเ฿ ปเ้ ป็น็นแแนนววททาางงใในนกกาารรจจดั ดั กกิจจิ กกรรรรมมลลกู กู เเสสืออื มมจี จีํา�นำนววนน111เลเมล่มแยแกยตกาตมาชมั้นชปนั้ ี สปาํี หสร�ำับหลรบัูกลเสกู ือเส4อื
ป4รปะรเภะเทภทคอื คอลื กู ลเกูสเือสสอื ําสร�อำรงอลงูกลเกูสเือสสอื าสมาัญมญั ลูกลเกู สเือสสอื าสมาญัมญัรุนรในุ่ หใหญญ แ่ ลแะลละูกลเกู สเอืสวอื สิวาสิ มามญั ญั
หลกั สตู รลกู เสือเสริมสร฿างทักษะชีวิต มีเนื้อหาท่ีสอดคล฿องกับปัญหาตามวัยและพัฒนาการ
ด฿านตาง ๆ ของลูกเสือแตละประเภท นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาครบถ฿วน เป็นไปตามข฿อบังคับคณะ
ลูกเสอื แหง ชาติ วาด฿วยการปกครองหลกั สูตรและวิชาพเิ ศษลูกเสอื สาํ รอง ลกู เสือสามญั ลูกเสือสามัญ
รนุ ใหญ และลกู เสือวสิ ามัญ อีกด฿วย
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร฿างทักษะชีวิตในคูมือชุดนี้ ได฿ออกแบบโดยบูรณาการ
กิจกรรมที่เสริมสร฿างทักษะชีวิตเข฿ากับวิธีการลูกเสือ คือการใช฿ระบบหมูหรือกลุมยอย โดยให฿เด็กเป็น
ศนู ยกโ ลาง และมีผใู฿ หญท าํ หน฿าทชี่ วยเหลอื และสง เสริมให฿เกิดกระบวนการเรยี นรู฿ในกลุม แนะนํา สั่งสอน
และฝึกอบรมให฿สามารถพ่งึ ตนเองได฿ มีจิตอาสา รับผิดชอบตอสวนรวม ยึดมั่นในคําปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสือ เสรมิ สรา฿ งคุณคา ในตนเอง รวมท้ังใชร฿ ะบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณโทางลูกเสือและเคร่ืองหมาย
วิชาพิเศษ เป็นแรงกระตน฿ุ ไปสเู ปาฺ หมายในการพัฒนาตนเอง
การเรยี งลําดบั แผนการจดั กจิ กรรม จัดเรยี งลาํ ดบั เนอื้ หาสาระตามหลักสูตรในข฿อบังคับคณะ
ลกู เสือแหง ชาติ วาดว฿ ยการปกครองหลักสตู รและวชิ าพิเศษลกู เสอื สํารอง ลูกเสือสามัญ ลกู เสือสามัญ
รนุ ใหญ และลกู เสอื วสิ ามัญ การนําไปใช฿ขน้ึ กับดุลยพินิจของสถานศึกษาในการเลือกวาแผนการจัด
กจิ กรรมใดควรใช฿เมอื่ ใด
องคโประกอบในการประชุมกอง เน฿นการใช฿ชีวิตกลางแจ฿ง นอกห฿องเรียน ใกล฿ชิดธรรมชาติ
เรียนร฿จู ากการลงมอื ปฏบิ ตั ิด฿วยตนเอง เกม และการบริการผู฿อ่ืน ซ่ึงถือเป็นหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ
ทุกประเภท โดยกจิ กรรมท่ีใช฿ แบง ออกเป็น 5 ประเภท คือ การแสดงออก การสํารวจและการรายงาน
การวิเคราะหโและการประเมิน เกมและการแขงขัน การบําเพ็ญประโยชนโ มีการออกแบบกิจกรรม
เพ่ือให฿ลูกเสือได฿ใชก฿ ระบวนการกลุมในการแลกเปลี่ยนประสบการณโ แลกเปล่ียนความคิดความเช่ือ
สร฿างองคโความร฿ูและสรุปความคิดรวบยอด รวมท้ังเปิดโอกาสให฿ลูกเสือได฿ประยุกตโใช฿ส่ิงท่ีได฿เรียนร฿ู
ในชีวติ จรงิ อกี ด฿วย
เน้อื หาสาระในแผนการจัดกจิ กรรมประกอบด฿วย
1. กิจกรรมตามข฿อบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติ (ไมรวมกิจกรรมทดสอบเพื่อรับ
เครอ่ื งหมายหรือสัญลกั ษณโทางลูกเสอื และเครอื่ งหมายวิชาพเิ ศษ)
2. กจิ กรรมตามข฿อบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติที่ชวยเสริมสร฿างทักษะชีวิตด฿านคุณธรรม
จรยิ ธรรม ความภาคภมู ิใจในตนเอง ความรบั ผิดชอบตอสวนรวม
3. กจิ กรรมเสริมสรา฿ งทกั ษะชีวิต เพื่อสร฿างภมู ิคุ฿มกนั ทางสังคมตอเหตุการณแโ ละสภาพปญั หา
ของเดก็ แตละวยั
8 คมู่ อื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื วสิ ามัญ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 1
คู่มปอื สระ่งกเสารศิมนแียลบะพตั ัฒรวนชิ าากชจิ ีพกร1รมลูกเสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามญั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ประกาศนียบตั รวชิ าชพี 1
คมู ือแตละเลม ได฿จดั ทําตารางหนว ยกจิ กรรม และแผนการจัดกจิ กรรม 40 ช่ัวโมง เพอื่ ให฿เหน็
ภาพรวมของการจัดกจิ กรรมลูกเสือเสริมสร฿างทกั ษะชวี ิตของลกู เสือในแตล ะระดบั ชน้ั และมีหมายเหตุ
บอกไวใ฿ นตารางชองขวาสดุ วา เป็นแผนการจดั กิจกรรมเสรมิ สรา฿ งทักษะชวี ิต
แผนการจดั กจิ กรรมประกอบด฿วย จุดประสงคกโ ารเรยี นรู฿ เนอ้ื หา สอ่ื การเรียนร฿ู กจิ กรรม การ
ประเมินผล องคโประกอบทักษะชีวิตสําคัญท่ีเกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด
กจิ กรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความร฿ู เรอื่ งที่เป็นประโยชนโ)
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ผู฿สอนควรทําความเข฿าใจให฿ชัดเจนวาเป็นจุดประสงคโการเรียนร฿ูด฿านความรู฿ เจตคติ หรือ
ทักษะ เพอ่ื จดั กิจกรรมไดต฿ รงตามจุดประสงคโการเรยี นร฿ูแตละดา฿ น
จดุ ประสงคกโ ารเรยี นร฿ูด฿านความร฿ู มีจุดเน฿นที่การต้ังประเด็นให฿วิเคราะหโ สังเคราะหโเนื้อหา
ความรู฿ ใหเ฿ ข฿าใจอยางถอ งแท฿ และสามารถนาํ ไปใช฿ไดใ฿ นชวี ติ จรงิ
จดุ ประสงคโการเรยี นรูด฿ ฿านเจตคติ มจี ุดเน฿นทอี่ ารมณคโ วามร฿ูสึก และการต้ังประเด็นให฿ผ฿ูเรียน
ได฿แลกเปลี่ยนและตรวจสอบความคิดความเชอื่ ของตนเองกบั สมาชิกกลมุ คนอื่น ๆ
จดุ ประสงคโการเรยี นร฿ดู า฿ นทกั ษะ เน฿นที่การทําความเข฿าใจในขั้นตอนการลงมือทําทกั ษะ และ
ได฿ทดลองและฝึกฝนจนชาํ นาญ
บางแผนการจัดกิจกรรมมีจุดประสงคโการเรียนร฿ูซ฿อนกันมากกวา 1 ด฿าน ให฿เน฿นด฿านที่เป็น
จดุ ประสงคโหลกั ของแผนการจัดกิจกรรม
เน้อื หา
เป็นผลการเรียนรู฿ท่ีเกิดขึ้นหลังการสอน ผู฿สอนควรตรวจสอบวาผู฿เรียนได฿เน้ือหาครบถ฿วน
หรือไม
สอื่ การเรยี นรู้
เป็นส่ือ อุปกรณโ ที่ใชใ฿ นการจดั กจิ กรรม เชน แผนภมู ิเพลง เกม ใบงาน ใบความร฿ู และเร่ืองท่ี
เป็นประโยชนโ ซึง่ มรี ายละเอียดอยใู นภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม
กจิ กรรม
กิจกรรมลูกเสือยังคงแบบแผนของลูกเสือไว฿ คือ การเปิดประชุมกอง/ปิดประชุมกอง และ
เพลง เกม นทิ าน เรือ่ งท่เี ปน็ ประโยชนโ ซ่งึ ใสไว฿ในทุกแผนการจัดกจิ กรรม โดยผู฿กํากบั ลูกเสอื สามารถ
ปรับเปลย่ี นไดต฿ ามความเหมาะสม ผ฿ูสอนควรจดั กจิ กรรมตามทไี่ ดอ฿ อกแบบไว฿เรียงตามลําดับข้ันตอน
การจัดกจิ กรรม นอกจากน้กี อ นการจัดกิจกรรมควรศึกษาแผนการจัดกิจกรรมให฿เข฿าใจอยางถองแท฿
ทุกข้นั ตอน ศกึ ษาใบความรสู฿ ําหรบั ผู฿สอน และใบงานสําหรบั ผูเ฿ รียน เพ่ือท่ผี ฿ูสอนจะไดจ฿ ัดกิจกรรมการ
เรยี นการสอนให฿ไดเ฿ นอื้ หาตรงตามจุดประสงคโการเรียนรู฿มากที่สดุ
ทงั้ นี้ผ฿ูกาํ กับควรทาํ ความเขา฿ ใจแนวคดิ เรอ่ื งทกั ษะชีวิต และกิจกรรมลกู เสือเสรมิ สรา฿ งทกั ษะชีวติ
ให฿ถองแทด฿ ว฿ ย โดยศึกษาได฿จากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข
ค่มู ือสง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสือวสิ ามัญ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 9
คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื ปวสิราะมกญัาศชนน้ัียมบธั ัตยรมวศชิ กึ าษชาีพป1ที ี่ 4
2 ประกาศนยี บัตรวิชาชพี 1
การประเมินผล
สามารถประเมินได฿ทั้งระหวางการจัดกิจกรรม และหลังการสอนจบแล฿ว ตามแนวทางที่ได฿ให฿ไว฿
ในแตล ะแผนการจดั กิจกรรม
องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิตสาคญั ที่เกดิ จากกิจกรรม
ทักษะชีวิตเกิดขึ้นได฿หลายองคโประกอบในการจัดกิจกรรมแตละคร้ัง ในที่น้ีได฿ระบุเพียง
องคโประกอบทักษะชีวิตสําคัญท่เี กิดข้นึ เทา นนั้
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรม
เปน็ สอื่ อปุ กรณโ ตามรายการท่ีระบุไว฿ในส่ือการเรียนรู฿ เชน เพลง เกม บัตรคํา ใบงาน ใบความรู฿
และเร่ืองท่ีเป็นประโยชนโ ฯลฯ หากมีขอ฿ เสนอแนะเพอื่ การปรบั ปรงุ คมู อื ชุดน้ี กรุณาติดตอที่
• สสเสล��มำำขนนาทกกััคี่กงม8าาวนรวาลปภิงกูลแาเดผัวสกดนอื รีรคะยังรทสวุ อิตรกบวาค4งชศ4ราวักึดแษแแหขลางธวะปกกงิ ลรจาิ ะารกเดาทกรยรศนาะไกวัททเรรยเวยีขงฯนตศจกึ ตษุจากัธรกิ ากรรุงเทพฯ 10900
ถโทนรนศรัพาชทดโ �ำ0เ-น2ิน9น41อ-ก23เข2ต0ดสุตติอ ก1ร5งุ1เทโพทฯรส1า0ร3000-2561-5130
โทรศพั ท์ 02-628-6365 โทรสาร 02-628-6402
10 คมู่ ือสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลูกเสอื วสิ ามญั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 3
คมู่ ปอื สระง่ กเสารศมิ นแยีลบะพตั ฒัรวนิชาากชิจีพกร1รมลูกเสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือวสิ ามญั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี 1
แผนการจดั กิจกรรม
เตรียมลกู เสือวสิ ามัญ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1
11 คูม่ อื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชีวติ ในสถานศึกษา ลูกเสือวสิ ามัญ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4
ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ 1
คมู่ อื ส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือวสิ ามญั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
4 ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวสิ ามัญ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 และ ปวช.1
ชือ่ หน่วยกิจกรรมตามขอ้ บังคับ ช่อื แผนการจัดกิจกรรม จานวน หมายเหตุ
คณะลกู เสอื แห่งชาติ ช่วั โมง
1.ปฐมนิเทศ
1. ปฐมนิเทศ 2.ขบวนการลกู เสือโลก ลกู เสอื ไทย 1
2. กจิ การของการลกู เสอื และ ธรรมเนียมและกิจการลกู เสอื วิสามญั
บทบาทของตนเองท่เี ปน็ ลกู เสือ 3.กิจการของคณะลูกเสอื ไทย และ 2
วิสามัญ ลกู เสอื โลก
3. คาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ 4.คาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 2
5.การคบเพื่อน
4. ระเบยี บแถว 6.การสร฿างสัมพันธภาพและการส่อื สาร 2
5. กางและรื้อเตน็ ทท์ พ่ี ักแรม 7.การเรียนร฿เู บญจภมู ิ 1 ทกั ษะชวี ติ
6. การบรรจุเครื่องหลงั 8.ระเบยี บแถวลกู เสือ 1 ทักษะชวี ิต
7. ก่อและจุดไฟกลางแจง้ 9.การกางและรอ้ื เต็นททโ ่ีพักแรม 2 ทักษะชวี ติ
8. แผนท่ีและเข็มทิศ 10. การบรรจเุ คร่ืองหลงั 4
9. การผูกเงอื่ นและประโยชน์ 11.การกอ ไฟและปรุงอาหาร
ของเงอ่ื น 12.แผนท่ีและเขม็ ทศิ 1
10. การปฐมพยาบาล 13.เงอื่ นเชือก
11. ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิ 1
กิจกรรมของลูกเสอื วิสามัญ 14.กภ฿ู ยั ใกล฿ตัวและการปฐมพยาบาล
15.ความปลอดภยั ในการปฏิบัติ 2
12. การฝกึ อบรมร่วมกนั ท้ังกอง กิจกรรมและประกอบอาชพี ในสถาน
ประกอบการ 4
16.สายไปเสียแลว฿
17.ภัยใกลต฿ วั หนมุ สาว 1
18.สร฿างวิกฤตใิ ห฿เป็นโอกาส
19.สารเสพตดิ 1
20.ปอฺ งกนั ไว฿กอน 1
21.การฝึกอบรมรวมกนั ท้ังกอง
22.การสํารวจชุมชนวถิ ีไทยและภมู ิ 2 ทักษะชวี ติ
ปัญญาท฿องถน่ิ
1 ทักษะชีวิต
2 ทักษะชวี ติ
1 ทกั ษะชวี ิต
1 ทักษะชวี ิต
3
2
12 คู่มือสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสือวสิ ามญั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 5
คปมู่ รือะสกง่าเศสนริมยี แบลัตะรพวฒั ิชนาชาีกพิจ1กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสือวสิ ามัญ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4
ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ 1
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสือวสิ ามัญ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 และ ปวช.1
ชื่อหนว่ ยกิจกรรมตามขอ้ บังคับ ชื่อแผนการจัดกจิ กรรม จานวน หมายเหตุ
คณะลูกเสอื แห่งชาติ ชวั่ โมง
23.การประเมินผล
13. ประเมนิ ผล 24.พิธเี ขา฿ ประจํากองลกู เสอื วสิ ามญั 1
14. พธิ ีการ 1
รวม 24 แผนการจัดกจิ กรรม
รวม 14 หน่วยกิจกรรม 40
คมู่ ือสง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลูกเสอื วสิ ามัญ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 13
คู่มอื ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื วิสามญั ปชรนั้ะกมาัธศยนมศียกึบษตั ารปวีทิชี่า4ชีพ 1
6 ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื วิสามัญ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4, ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช. 1)
หน่วยที่ 1 ปฐมนิเทศ เวลา 1 ชว่ั โมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 1 ปฐมนเิ ทศ
1. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1.1 ลูกเสือสามารถบอกความสําคัญของการเปน็ ลกู เสอื วสิ ามญั ได฿
1.2 ลกู เสือเป็นสมาชิกท่ีดขี องกองลกู เสือวสิ ามญั ได฿
1.3 ลกู เสอื สามารถปฏิบตั ิกจิ กรรมตามหลกั การลกู เสือวสิ ามัญไดอ฿ ยา งมปี ระสิทธภิ าพ
2. เนอ้ื หา
2.1 การเขา฿ เปน็ ลูกเสอื วสิ ามัญ
2.2 การจดั กองลกู เสอื วสิ ามัญ
2.3 เคร่ืองแบบลูกเสอื และกจิ กรรมลูกเสอื วสิ ามญั
3. สื่อการเรียนรู้
3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 เร่อื งสน้ั ท่ีเป็นประโยชนโ
4. กิจกรรม
4.1 ผกู฿ ํากบั ลกู เสือและลูกเสอื รวมกันร฿องเพลงพระมงกุฎราํ ลกึ
4.2 ผก฿ู ํากับลูกเสอื และลูกเสือสนทนาเก่ยี วกับความสาํ คญั ของกิจการลกู เสอื
4.3 ผูก฿ าํ กับลูกเสอื เสนอแนะให฿ลกู เสือรวมกันแบง สมาชิกเปน็ หมู หมลู ะ 4-6 คน
4.4 ใหล฿ กู เสอื เลอื กนายหมูแ ละรองนายหมู
4.5 ผูก฿ ํากบั ลูกเสอื บรรยายหลกั การของการเปน็ ลูกเสือวสิ ามญั หลักสตู รการฝกึ อบรม การแตง
เครือ่ งแบบและการปฏิบตั ิกจิ กรรมลกู เสอื วิสามญั
4.6 ผก฿ู าํ กบั ลูกเสอื และลูกเสือรว มกันอภิปรายขอ฿ ตกลงในการฝกึ อบรม การประเมนิ ผล และ
การจดั กจิ กรรมลกู เสอื วิสามัญ
4.7 ผู฿กาํ กบั ลูกเสือและลกู เสือสรปุ และนดั หมาย
5. การประเมินผล
5.1 สงั เกตความรว มมอื ในการปฏิบัติกจิ กรรม
5.2 สังเกตความพรอ฿ มในการแตงเคร่ืองแบบลกู เสือ
14 คูม่ ือสง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือวสิ ามญั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 7
คปมู่ รอื ะสกง่ าเสศรนิมียแบลัตะพรวฒั ชิ นาาชกีพจิ ก1รรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื วสิ ามัญ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนียบัตรวิชาชพี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 1
เพลง
พระมงกฎุ ราลึก
1. พวกเราภูมใิ จในพระมงกฎุ คิดไดถ฿ กู ตอ฿ ง คดิ ไดถ฿ กู ตอ฿ ง คิดได฿ถูกต฿อง
พวกเราภมู ิใจในพระมงกุฎ คดิ ได฿ถูกต฿อง คิดไดถ฿ ูกตอ฿ ง แลว฿ เอย
2. พวกเราภมู ใิ จในพระมงกฎุ ใจครองต้งั ม่นั ใจครองตัง้ มัน่ ใจครองตงั้ มั่น
พวกเราภมู ิใจในพระมงกุฎ ใจครองตั้งมนั่ ใจครองตง้ั ม่ันแล฿วเอย
3. พวกเราภูมิใจในพระมงกฎุ เดนิ ไปดว฿ ยกนั เดนิ ไปด฿วยกัน เดินไปด฿วยกนั
พวกเราภูมิใจในพระมงกฎุ เดินไปดว฿ ยกนั เดนิ ไปด฿วยกนั แล฿วเอย
4. พวกเราภมู ใิ จในพระมงกฎุ คิดไดถ฿ กู ตอ฿ ง ใจครองต้งั มน่ั เดนิ ไปด฿วยกัน
พวกเราภมู ิใจในพระมงกฎุ ใจครองตง้ั มั่น มารว มใจสามคั คี
ค่มู อื สง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสอื วสิ ามญั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 15
คมู่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามัญปชรั้นะมกัธายศมนศียกึ บษตั ารปวที ชิ ี่ า4ชีพ 1
8 ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ 1
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือวสิ ามญั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4, ประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช. 1)
หนว่ ยท่ี 2 กจิ การของการลูกเสอื และบทบาทของตนเองที่เป็นลกู เสอื วสิ ามญั
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 2 ขบวนการลูกเสอื โลก ลกู เสือไทย ธรรมเนยี ม และกจิ การลูกเสอื วสิ ามญั
เวลา 2 ช่วั โมง
1. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ลกู เสือสามารถเลา ประวัติ ลอรดโ เบเดน –โพเอลลโ (บี.-พ.ี ) กิจการลกู เสอื โลกพอสงั เขปได฿
1.2 ลูกเสอื สามารถเลาพระราชประวตั พิ ระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล฿าเจา฿ อยหู วั และพฒั นาการ
ของกจิ การลกู เสือไทยจนถึงปัจจบุ นั พอสังเขปได฿
1.3 ลูกเสือสามารถอธิบายธรรมเนยี มของลูกเสอื วสิ ามญั ได฿
1.4 ลูกเสอื สามารถอธบิ ายความก฿าวหนา฿ ของกจิ การลูกเสอื วสิ ามัญ โดยเนน฿ กจิ กรรมกลางแจง฿
และการบรกิ ารได฿
2. เนื้อหา
2.1 ประวตั ขิ องลอรดโ เบเดน – โพเอลลโ (Baden Powell) โดยสังเขป
2.2 ประวตั ขิ องการลูกเสอื โลกโดยสังเขป
2.3 ประวตั ิของพระผพ฿ู ระราชทานกําเนดิ ลกู เสอื ไทยโดยสังเขป
2.4 ประวตั ิลูกเสอื ไทยและประวตั ิลูกเสือวิสามญั โดยสังเขป
2.5 ธรรมเนยี มและกจิ การของลูกเสือ
3. ส่อื การเรยี นรู้
3.1 แผนภมู เิ พลง
3.2 ใบความร฿ู
3.3 รูปภาพ เชน รปู ภาพของ บ.ี -พ.ี พระบรมฉายาลักษณโ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล฿า
เจ฿าอยหู ัว และรูปภาพทเ่ี กีย่ วกับประวัติลูกเสอื โลกและลกู เสือไทย
3.4 แบบทดสอบ
3.5 เรอื่ งสั้นท่ีเปน็ ประโยชนโ
4. กิจกรรม
4.1 พธิ ีเปดิ ประชุมกอง (ชักธงข้นึ สวดมนตโ สงบนิ่ง ตรวจ แยก)
4.2 เพลงหรือเกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคกโ ารเรยี นรู฿
1) ผูก฿ ํากับลกู เสอื นําเขา฿ สบู ทเรยี น โดยนาํ รปู ของบี.-พ.ี มาใหล฿ ูกเสอื ดู สนทนากบั ลกู เสือวา
รจ฿ู กั บคุ คลน้หี รอื ไม และใหล฿ กู เสอื รว มรอ฿ งเพลง B.- P.Spirit
2) ผู฿กาํ กบั ลกู เสอื บรรยายประวตั ิของ บี.-พ.ี และประวัตกิ ารลูกเสอื โลกโดย แสดง
ภาพประกอบ
16 คมู่ อื สง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสอื วสิ ามญั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 9
คปู่มรือะสกง่ าเสศรนมิ ยี แบลตัะพรวัฒชิ นาาชกีพจิ ก1รรมลกู เสือทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามัญ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี 1
3) ผูก฿ าํ กับลูกเสอื นําสนทนาเกย่ี วกับพระราชประวตั ิ และพระราชกรณียกิจของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล฿าเจา฿ อยหู ัว
4) ผู฿กาํ กบั ลูกเสอื บรรยายประวตั ิลูกเสอื ไทย และประวตั ลิ กู เสอื วสิ ามญั โดย แสดง
ภาพประกอบ
5) ผก฿ู าํ กับลกู เสอื อธิบายประกอบสาธิตการทาํ ความเคารพแบบตาง ๆ ใหล฿ กู เสือ
ปฏิบัติตาม
6) ผ฿ูกํากับลูกเสอื บรรยายเรอื่ งการแตง เครอื่ งแบบลกู เสอื วสิ ามัญและเคร่ืองหมายท่ี
เก่ยี วขอ฿ ง
7) ผก฿ู าํ กบั ลกู เสอื สรุปบทเรยี น และทดสอบ
4.4 ผ฿กู ํากบั ลูกเสือเลา เรอื่ งสน้ั ท่เี ปน็ ประโยชนโ
4.5 พิธปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ )
5. การประเมินผล
5.1 สงั เกตความรว มมอื ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม
5.2 สงั เกตกระบวนการคิดจากการอภิปราย
5.3 ตรวจผลแบบทดสอบหลงั เรยี น
คูม่ อื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ลูกเสอื วสิ ามญั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 17
คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื วิสามญั ปชรน้ั ะมกธัายศมนศยี กึ บษตั ารปวีทชิ ่ี า4ชีพ 1
10 ประกาศนยี บัตรวิชาชพี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 1
เพลง
B. P. Spirit
1. I’ve got that B.P. Spirit. Right in my head, Right in my head,Right in my head,
I’ve got that B.P. Spirit . Right in my head, Right in my head to stay.
2. I’ve got that B.P. Spirit. Deep in my heart, Deep in my heart, Deep in my heart,
I’ve got that B.P. Spirit. Deep in my heart, Deep in my heart to stay.
3. I’ve got that B.P. Spirit. All round my feet, All round my feet, All round my feet,
I’ve got that B.P. Spirit. All round my feet, All round my feet to stay.
4. I’ve got that B.P. Spirit. Right in my head, Deep in my heart, All round my feet,
I’ve got that B.P. Spirit. All over me All over me to stay
ลกู เสือไมจ่ บั มือขวา
ลกู เสือเขาไมจ ับมอื ขวา ยน่ื ซ฿ายมาจบั มอื กันมน่ั
มอื ขวาใช฿เคารพกนั (ซ้าํ ) ยน่ื มอื ซา฿ ยออกมาพลนั จับมอื จับมือ
จบั มือนั้นหมายถงึ มติ ร เหมือนญาตสิ นทิ ควรคดิ ยึดถอื
ยม้ิ ด฿วยเม่ือยามจบั มอื (ซาํ้ ) เพราะพวกเราคอื ลกู เสือดว฿ ยกนั
18 คู่มอื สง่ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือวสิ ามัญ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 11
คปมู่ รอื ะสกง่ าเสศรนมิ ียแบลตัะพรวฒั ชิ นาาชกีพจิ ก1รรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือวสิ ามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1
ใบความรู้ ความรเู้ กย่ี วกับขบวนการลกู เสือโลกและลกู เสอื ไทย
ประวัตผิ ู้ให้กาเนดิ ลูกเสอื โลก และประวัตขิ องการลกู เสือโลกโดยสังเขป
ลอรดโ เบเดน โพเอลลโ เป็นผใ฿ู หก฿ าํ เนดิ ลูกเสอื โลก ชื่อเตม็ ของทาน โรเบิรโต สตีเฟนสัน สมิท เบเดน
เพาเวลลโ* (Robert Stephenson Smyth Beden Powell) โดยท่ัวๆ ไปเรามักจะเรียกทานยอๆ วา บี.-พี.
(B.-P.)
ทานเกดิ เมอื่ วนั ท่ี 22 กมุ ภาพนั ธโ ค.ศ.1875 (พ.ศ. 2400) บิดาชื่อ เอช.ยี.เบเดน โพเอลลโ (H.G.
Beden Powell) เป็นพระทางคริสตโศาสนา เป็นศาสตราจารยโในมหาวิทยาลัยอเอกฟอรโด (Oxford
University) มารดาชื่อ เฮนริต฿า สไมธโ (Henritla Smyth) เป็นบุตรีของนายพลเรือแหงราชนาวีอังกฤษ
ครอบครวั มสิ ู฿จะรา่ํ รวยนัก บดิ าเสียชวี ิตเมือ่ บ.ี -พี. อายุได฿ 3 ขวบ
บี.-พี. มีลักษณะเป็นคนรางเล็ก แตรางกายแข็งแรง สุขภาพดี มีความถนัดในการวาดเขียน
สามารถใช฿มือซ฿ายขวาได฿ถนัดท้ังสองมือเทาๆ กัน และมักจะทําเสียงนกหรือเลียนเสียงสัตวโร฿องให฿
เพ่ือนๆ ฟังทําใหเ฿ พอื่ นสนกุ สนานขบขัน
ชวี ติ ในวยั เรียน
บี.-พี. ได฿เข฿าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาช่ือ โรสฮิลลโ (Rose Hell) ในกรุงลอนดอน ประเทศ
อังกฤษ และเข฿าเรียนตอช้ันมัธยมศึกษาที่โรงเรียนชาเตอรโ เฮาสโ (Charter house) บี.-พี. มิได฿เป็น
นกั เรยี นทเ่ี รยี นเกง นัก แตเมื่อเขา฿ รว มกจิ กรรมใดๆ ของโรงเรียนแล฿ว มกั จะทําอยา งเอาจรงิ เอาจงั
ในขณะท่ี บ.ี พ.ี เรยี นอยใู กลโ฿ รงเรยี น มีปาู อยูแ หงหนงึ่ นกั เรยี นถกู หา฿ มมิให฿เขา฿ ไปเทีย่ วเลนในปูา
นี้ แตป าู น้ยี ัว่ ยวนใจนักเรยี นท่ชี อบผจญภัยให฿เข฿าไปเทยี่ วเลนมาก บี.-พี. แอบหนีไปเท่ียวในปูาน้ีบอยๆ
จับกระตายทําเป็นอาหารโดยใช฿ไฟมิให฿เกิดควัน เพื่อปกปิดครูมิให฿ร฿ู สัตวโปูาเป็นที่ดึงดูดใจของ บี.-พี.
มากเขามกั ซมุ ตวั อยูนานๆ เพ่อื ศึกษาธรรมชาติของสตั วโ
เม่ืออายุ 19 ปี บ.ี -พี. ไมแนใจวาชวี ติ ของเขาต฿องการเป็นอะไรดี เขาชอบเดนิ ทางไปตางประเทศ
แตม ารดาอยากให฿เรียนทีม่ หาวิทยาลัยอเอกฟอรโด (Oxford University) แตเม่ือไปโรงเรียนมัธยมแล฿ว
บ.ี -พี. กลับไปสอบเข฿าเปน็ นักเรียนนายร฿อยแซนดโเฮสิ ตโ เพราะได฿เหน็ ประกาศติดไวข฿ า฿ งถนน และบ.ี -พี.
สอบไดท฿ ่ีดีจนเปน็ ท่ีแปลกใจของตนเองและคนรูจ฿ กั และไดร฿ บั การยกยอง มิต฿องเข฿ารับการฝึกอบรมตาม
ข้นั ตอนธรรมดาของนกั เรียนนายรอ฿ ย เมอื่ จบการศึกษาได฿รับการแตง ตงั้ ยศเปน็ ร฿อยตรี
*เอกสารอา฿ งอิง หนังสือสาํ นักงาน ก.ค. ที่ ศธ 1502 (สมค) / 14079 ลงวันที่ 21 พฤศจกิ ายน 2538
ชีวติ ทหาร
คูม่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือวสิ ามัญ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 19
คมู่ อื ส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื วิสามญัปรชะกั้นามศธั นยมยี ศบกึ ตั ษราวปิชีทาชี่ 4ีพ 1
12 ประกาศนียบตั รวิชาชพี 1
*เอกสารอา฿ งองิ หนงั สือสํานักงาน ก.ค. ท่ี ศธ 1502 (สมค) / 14079 ลงวนั ท่ี 21 พฤศจกิ ายน 2538
ชวี ติ ทหาร
(Husar) ใแนลปะีปคฏค.มู่ศบิ ือ.ัต1สหิ8่งเ7นส6รา฿ ิมทแถี่อลยูกะพาสัฒงงขนไยาปกนั ปิจขกรนัระรจแมําขลท็งกู ่ีเปสรอื ะทเกั ทษศะชอีวินิตใเนดสียถาโนดศยึกปษราะลจูกําเสกือาวรสิ อามยปญั รูทะ่ีกกชาอ้ันศมงนรัธยี ฿อยบมยัตศทรกึ วี่ษิช1าา3ปชีพีท่ี อ4ุสชาร1โ 9
ในปี ค.ศ.1884 ได฿รับคาํ สั่งให฿กลบั องั กฤษ บ.ี -พ.ี รสู฿ ึกชวี ติ ในกรมกองทหารนา เบือ่ มาก 1
ในปี ค.ศ.1887 ลุงของ บ.ี -พี. ไดร฿ ับคําสงั่ ของกองทพั บกใหไ฿ ปประจาํ การที่ แคพ ทราวนโ (Cape
Town) ในแอฟรกิ า ได฿นาํ บ.ี -พ.ี ไปเปน็ ทหารคนสนิท
ในปี ค.ศ.1888 ความยุงยากได฿เกิดข้ึนกับพวกซูลู (Zulu) บี.-พี. ได฿เข฿ารวมกับกองกําลังทหาร
องั กฤษ ล฿อมจบั หัวหน฿าเผาซลู ชู อื่ ดินิ ซลู ู (Dini Zulu) ได฿ ในโอกาสนั้น บี.-พี. ได฿รับลูกปัดสายคล฿องคอ
(Neck lace) จากหัวหน฿าเผาซูลู หลายปีตอมา บี.-พี. ได฿มอบลูกปัดคล฿องคอน้ีให฿แก กิลเวลลโ ปารโค
(Gilwell Park) ซ่ึงเปน็ เครอ่ื งหมายวดู แบคจตโ อ มาจนถึงปัจจบุ นั นี้
ในปี ค.ศ.1895 บ.ี -พ.ี ได฿รับมอบหมายเดินทางไปยังเมืองอาชันติ (Ashanti) แอฟริกาตะวันตก
เพ่ือปราบ คงิ สโ เปรมเปหโ (King Peempeh) ในการเดินทางไปท่ีเมืองอาชันติคร้ังนี้ ได฿มีส่ิงเกี่ยวข฿องกับ
กิจการลกู เสือ ซ่ึงควรจะนาํ มากลา วอยู 3 ประการ คอื
1. หมวกปีกในเมืองอาชันติ (Ashanti) บี.-พี. ได฿สวมหมวกปีก หรือหมวกคาวบอย (Cowboy)
เป็นคร้ังแรก และได฿สวมเป็นประจําอยูตลอดมา เพราะเหตุน้ีชาวเมืองจึงเรียก บี. -พี. วา คันตะโก
(Kantankye) คนหมวกใหญ
2. ไมพ฿ ลอง บ.ี -พี. สงั เกตวา หวั หนา฿ วิศวกรท่ีควบคุมการทําถนนและสร฿างที่พักจากฝั่งแอฟริกา
ตะวันตกไปยงั เมืองหลวงอาชนั ติ (Ashanti) นัน้ มักถือไม฿พลองยาวมีเครื่องหมายใช฿วัดความลึกของบึง
นํ้ากไ็ ด฿ ใช฿เป็นเครอ่ื งหมายวัดสว นสูงกไ็ ด฿
3. การจบั มือซา฿ ย บ.ี -พี. ได฿รับความรู฿ด฿วยวาการจับมือซ฿ายน้ันชาวเมืองถือวาเป็นเคร่ืองหมาย
แหงความเป็นมติ ร
บ.ี -พ.ี กลับประเทศอังกฤษ พร฿อมดว฿ ยชื่อเสยี งดียง่ิ ขน้ึ และได฿เล่อื นยศทหารดว฿ ย
ในปี ค.ศ. 1899 บี.-พี. ได฿รับอนุญาตให฿ลาพักและเดินทางกลับอังกฤษ เมื่อไปถึงอังกฤษเขามี
หนงั สือเลม หนง่ึ ช่ือ สิง่ สนบั สนนุ กิจการสอดแนม (Aids to Scouting) ซึง่ ได฿เขยี นขณะท่พี กั ผอนในแคว฿น
แคช็ เมยี รโ (Kashmir) หนังสอื เลมน้วี า ด฿วยวธิ ีการสอดแนมสําหรับทหาร บ.ี -พ.ี ต้ังใจให฿หนังสือเลมน้ีเป็น
คูมอื ของทหาร อาจใช฿ได฿ทุกเวลา แตหนังสือเลมน้ีกลับไปเป็นที่สนใจของเยาวชนวัยรุนด฿วย ซ่ึงจะเป็น
เด็กชายผ฿ูสอดแนม (Boy Scout) ตอ ไป
การไปแอฟรกิ าใต้ (South Africa)
บี.-พี. ไปอยูท่ีประเทศอังกฤษได฿ไมนานนัก สงครามก็เกิดขึ้นในแอฟริกาใต฿ระหวางประเทศ
องั กฤษกบั พวกโบเออรโ (Boers) โบเออรโ คือ พวกดัช ทไี่ ดอ฿ พยพไปตั้งถิน่ ฐานอยูใ นแอฟรกิ าใต฿
บี.-พี. ได฿รับคําส่ังให฿เดินทางไปแอฟริกาใต฿ให฿จัดกองทหารขึ้น เพื่อปฺองกันดินแดนด฿านเหนือ
และด฿านตะวนั ออกเฉยี งเหนือ บ.ี -พ.ี ไปถึงเมอื งเคป ทาวนโ (Cape Town) เดือนกรกฎาคม 1899
ศึกเมืองมาฟอคี งิ (Mafeking)
20 ปคคู่มรู่มะือือกสสาง่ง่ศเเสนสรรียิมิมบแแัตลลระะวพพชิ ัฒัฒาชนนีพาากก1ิจิจกกรรรรมมลลูกกูเสเสอื ทือักทษักะษชะีวชติ ีวใิตนใสนถสาถนาศนกึ ศษกึาษปาระลเกูภเทสลอื ูกวเสสิ ือามวิสญั าปมรชญั ะน้ั กมชา้ันธัศมยนัธมยี ยบศมตัึกศรษกึวาษิชปาาีทชปี่พีีท4ี่ 4 13
1
และด฿านตะวันออกเฉียงเหนอื บี.-พี. ไปถึงเมืองเคป ทาวนโ (Cape Town) เดอื นกรกฎาคม 1899
ศึกเมืองมาฟอีคิง (Mafeking)
โบ20เออรโ เ(คปดBู่มรือoะอื นกeสาตrง่ ศsเุลส)นารยีมคมิ บีทแมัตลหระ1วาพชิ8รฒัา9ชน99ีพา,0ไก1ด0ิจก0฿มรปี รคมรนละกูกเเดาสศินอื สททกังัพษคะเรขชาวี฿ามิตบรใุนกะหสเมถวาือา นงงศอมึกงั าษกฟาฤอลษูกีคกเิงสบั อื (วพMสิ วาaกมfeัญโkบinชเอั้นgอม) ัธรเยพโ (มรBศาoึกะeษคrาsิดป)ทีวขี่า4อองยฮูในอลทัน่ีราดบา
อาจบุกไดง฿ ายและไมมกี ารปฺองกนั ทเี่ ขม฿ แข็ง
บี.-พ.ี มีทหารประมาณ 1,000 คน ไมมีประสบการณใโ นการทาํ สงครามมากอ น มพี ลเมืองในมาฟ
อีคิง (Mafeking) ประมาณ 8,000 คน แตพลเมืองไมรวมมือในการทําสงครามด฿วยอาวุธปืน กระสุนก็
ล฿าสมัย ฝาู ยพวกโบเออรโ (Boers) มีอาวธุ ทท่ี นั สมยั
ทําไม มาฟอีคงิ (Mafeking) จึงสามารถตอต฿านข฿าศกึ ไดถ฿ งึ 7 เดือน เพราะ บี.-พี. เป็นผู฿รอบร฿ู มี
ใจราเริง ไมย อ ท฿อตอ ความยากลาํ บากและมไี หวพริบปฏภิ าณ และการแก฿สถานการณตโ า งๆ อยางดเี ยี่ยม
พวก โบเออรโ ไมรูว฿ า บี.-พ.ี คิดจะทาํ อะไรตอไป พวกโบเออรโ ต฿องคาดคะเนอยูตลอดเวลา บี.-พี. ไมได฿
นัง่ อยเู ฉยๆ บี.-พี. ร฿ูดีวาการปฺองกนั ทด่ี คี อื การรุก บ.ี -พ.ี ร฿ูดว฿ ยการวา ให฿ทุกคนมีงานทําขวัญของเขาจะดี
เม่ือผจญภยั ข฿าศกึ
แผนกลยุทธโบางอยางของ บี.-พี. เป็นแผนลวง เชน ฝังทุนระเบิดหลอกรอบเมืองมาฟอีคิง
(Mafeking) ประดิษฐโไฟฉายเคล่ือนท่ีด฿วยแกเสอเซทิลีน (Acetylene) ทําให฿พวกโบเออรโ คิดวาในเมือง
มาฟอีคิง (Mafeking) มีไฟใช฿รอบเมือง ทําลวดหนามปลอมล฿อมเมือง โดยให฿ทหารทําทาเดินข฿ามโดย
ก฿าวสงู ๆ หลอกพวกโบเออรโ นึกวา มีลวดหนามรอบเมืองมาฟอคี ิง (Mafeking)
ทุกคืน บี.-พี. ออกจากเขตเมืองเพ่ือดูวาปืนข฿าศึกอยูท่ีไหน พวกโบเออรโ เคล่ือนท่ีเข฿ามาใกล฿
เมืองหรือเปลา บี.-พี. ไมได฿หลับนอนในเวลากลางคืน แตเขาจะนอนเวลากลางวัน วันคืนผานไป
สถานการณโภายในเมอื งคับคง่ั มากข้ึน อาหารเร่ิมขาดแคลนมากขึ้นทุกวัน ม฿า ลา ถูกกินเป็นอาหารไป
มาก แนวรบขยายวงกวา฿ งออกไป ทหารตายมากข้นึ พลรบลดจาํ นวนน฿อยลง คณะเสนาธิการของ บี.-พี.
คดิ จะใชเ฿ ด็กหนมุ ชาวเมอื งให฿เป็นผส฿ู ่อื ขา วทาํ หน฿าท่ีบุรุษพยาบาล จึงหาเครื่องแบบสีกากี และหมวกปีก
กว฿าง (หมวกคาวบอย) พับปีกให฿พวกเด็กหนุมและมอบให฿เด็กหนุมผ฿ูหน่ึงชื่อ กูเด เยียรโ (Good Year)
เป็นผ฿นู าํ
ตอนแรกเด็กหนุมเหลานี้ใช฿ลาเป็นพาหนะ แตตอมาลาถูกฆาเป็นอาหารหมด เด็กหนุมจึงใช฿
จกั รยานแทน สมรรถภาพและความกล฿าหาญใจรา เรงิ ของเดก็ หนุมเหลา นป้ี ระทับใจ บี.-พี. มาก
วันหนึ่งเด็กหนุมคนหน่ึงขี่จักรยานฝูากระสุนข฿าศึกซ่ึงยิงตอส฿ูกันเข฿ามาหา บี.-พี. บี.-พี.พูดกับ
เด็กคนน้นั วา ถา฿ เธอขจี่ กั รยานเชนนีใ้ นขณะที่มีการยิงตอส฿ูกัน เธอจะถูกยิงสักวันหน่ึง เด็กหนุมตอบวา
“ผมถีบรถเร็วมากครับเขาคงยิงไมถกู ผม” ในท่ีสดุ ขาวที่วาจะมีกองทัพทหารอังกฤษมาชวย ก็มาถึงเม่ือ
วันที่ 16 พฤษภาคม 1900 เมืองมาฟอีคิง (Mafeking) ได฿ยืนหยัดส฿ูพวกโบเออรโถึง 217 วัน ขาวนี้ได฿
แพรไปถึงเมอื งลอนดอน ชาวองั กฤษดใี จมาก บี.-พ.ี ได฿กลายเป็นวรี บุรษุ ไปโดยฉบั พลนั
กาเนดิ กิจการลูกเสือ
เมอื่ เสร็จศึกเมืองมาฟอีคิง (Mafeking) บี.-พี. กลับถึงอังกฤษเขาแปลกใจที่ได฿เห็นหนังสือคูมือ
ทหารสิ่งสนบั สนนุ กจิ การสอดแนม (Aids to Scouting) ของเขาได฿นํามาใช฿ฝึกอบรมเด็กชายในโรงเรียน
และในสโมสรเยาวชนตางๆ
14 คมู่ อื ส่งคเสู่มรือมิ สแง่ ลเะสพรมิัฒแนลาะกพิจฒักรนรามกลจิูกกเสรือรทมักลษูกะเสชอืวี ติทใักนษสะถชาวีนติ ศใึกนษสาถปารนะศเภึกทษลากู ลเสูกือเสวสิือาวมสิ ญัามชัญั้นมชัธั้นยมมศัธึกยษมาศปึกีทษ่ี า4ปีที่ 4 21
ประกาศนียบัตรวิชาชพี 1 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1
วันที่ 16 พฤษภาคม 1900 เมืองมาฟอีคิง (Mafeking) ได฿ยืนหยัดสู฿พวกโบเออรโถึง 217 วัน ขาวน้ีได฿
แพรไ ปถงึ เมืองลอนดอน ชาวองั กฤษดใี จมาก บี.-พี. ได฿กลายเป็นวรี บรุ ษุ ไปโดยฉบั พลัน
กาเนดิ กิจการลูกเสือ
เมือ่ เสร็จศึกเมืองมาฟอีคิง (Mafeking) บี.-พี. กลับถึงอังกฤษเขาแปลกใจที่ได฿เห็นหนังสือคูมือ
ทหารสงิ่ สนบั สนุนกจิ การสอดแนม (Aids to Scouting) ของเขาได฿นํามาใช฿ฝึกอบรมเด็กชายในโรงเรียน
และในสโมสรเยาวชนตา งๆ
จาํ นวน 2เพ0ื่อคนนๆคซูม่ ไ่ึงอื ดเสป่ง฿แเ็นนสบระิมตุนแรําลขะใอพหัฒง฿ เบนพาี.ื่อก-พิจนกี.บรเร฿าขมนียลแกู นลเสหะือเนทปังัก็นสษเืะอดชนีว็กติ้ีเจสใานียกสใถสหาโนมมศ สึกเรพษเา่ือยลใาชกู วเ฿อชสบือนวรสิบมา฿ามเปงยญั รไาะปกวชาอน้ัชศยมนนัธูคียยบาบมยัตี.ศ-รทกึพว่ีษเิชี.กาาจปชาีพึีทะงบ่ีน14รําาเดวซ็ก2ี 1
(Brown Sea Island) ในอาวพลู (Poole) เมืองบูรเนเมาซ (Bournemouth) ในระหวางวันที่ 31
กรกฎาคม ถึงวนั ท่ี 9 สงิ หาคม 1907
บ.ี -พี. แบงเดก็ 20 คน เปน็ 4 หมู เรยี กช่ือวา วูลฟโ (Wolves) = สุนัขปูา,
เคอลสิ (Curlews) = นกชนดิ หน่ึง, บูลสโ (Bulls) = ววั ตัวผู฿ และเรเวน็ ส (Revens) = นกจําพวกกา
นับวาเปน็ กองลกู เสอื สามญั กองแรกท่ีเกิดขน้ึ
ภายหลังจากการนําเด็กไปอยูคายพักแรกท่ีเกาะบราวซี (Brown Sea) แล฿ว บี.-พี. ได฿เขียน
หนังสือการลูกเสือสําหรับเด็กชาย (Scouting for Boys) จนเสร็จสิ้น ได฿พิมพโเป็น 6 ตอน ออกพิมพโ
จําหนายหางกันทุก 2 สัปดาหโ ราคาเลมละ 4 เพนนี เลมแรกออกจําหนายในเดือนมกราคม 1908
จําหนายได฿ดีมาก เยาวชนอานมาก เยาวชนเหลาน้ีรวมกันเป็นหมูข้ึน แล฿วไปชักชวนผู฿ใหญที่เห็นวา
เหมาะสมท่จี ะเป็นผูน฿ ําหรอื ผ฿ูกาํ กับลกู เสอื ได฿
กิจการลูกเสือน้ีไดก฿ ระจายและมีจํานวนทวีมากขึน้ อยา งรวดเรว็ นอกจากอังกฤษและประเทศใน
เครือจักรภพ ชลิ เี ป็นประเทศแรกที่รบั เอากิจการลกู เสอื ไปตงั้ ในปคี .ศ.1908 อเมริกาเป็นประเทศท่ีสอง
(ปี ค.ศ.1910) และไทยเป็นประเทศท่ีสาม(ปี ค.ศ.1911) และมอี ีกหลายประเทศจัดกจิ การลูกเสอื ขยายไป
เกอื บท่ัวโลก
ปี ค.ศ.1909 ลกู เสือในราชอาณาจักรมาชมุ นุม (Rally) กนั เป็นครัง้ แรกจาํ นวนนับหมื่นคน บี.-พี.
ไปรวมชุมนมุ ด฿วย เดก็ หญงิ กลมุ หนึง่ สวมหมวกลกู เสอื แบบเชน เดก็ ชาย เดก็ หญงิ เหลานน้ั อธบิ ายตอ บี.-
พ.ี วา ตอ฿ งการเป็นลกู เสือเชนเดียวกับพี่ชายของเธอ กจิ การลูกเสอื หญิง (Girl Guide) จึงไดเ฿ กิดข้นึ ในปนี ้ี
ระหวางปี ค.ศ.1914 -1918 เป็นปีระหวางสงครามโลกคร้ังท่ี 1 บี.-พี. มอบลูกเสือให฿ทําหน฿าท่ี
ชวยราชการทหารรกั ษาสะพาน และสายโทรศัพทโ ทําหน฿าท่ีผ฿ูสื่อขาวชวยเหลืองานในโรงพยาบาล เป็น
ต฿น
ปี ค.ศ.1916 ไดจ฿ ัดต้ังกองลกู เสือสํารอง (Cub Scout) ข้นึ
ปี ค.ศ.1918 ได฿จัดตั้งกองลูกเสอื วสิ ามัญ (Rever Scout) ขึน้
ปี ค.ศ.1919 มิสเตอรโ เดอบัวสโ แมคลาเรน (Mr. W.de Boir Maclaren) ชาวสกเอตแลนดโ มอบ
กิลเวลลโปารโค (Gilwell Park) ให฿แกคณะลูกเสืออังกฤษ เพื่อใช฿เป็นสถานท่ีอยูคายพักแรมของลูกเสือ
และใชเ฿ ป็นคา ยฝกึ อบรมผบ฿ู งั คบั บัญชาลกู เสอื
ปี ค.ศ.1920 ได฿มีการชุมนุมลูกเสือโลกคร้ังแรก จัดข้ึนที่โอลิมเปีย (Olympia) กรุงลอนดอน
(London) ประเทศองั กฤษ มลี ูกเสอื มาชุมนมุ ประมาณ 30,000 คน จาก 21 ประเทศ ในการชุมนุมครั้งนี้
บี.พี. ได฿รับการประกาศแตงต้ังจากคณะลูกเสือท่ีไปชุมนุมเป็นประมุขลูกเสือโลก (Chief Scout of the
World)
ใช฿อบรมปส่ังี คคสู่ม.ออืศสน.ง่1ลเ9สูกร2เิม2สแือลบะวี.พ-ิสพฒั าี.นมาไัญกดจิ เ฿ กขรียรมนลหูกเนสือังทสกั อื ษชะื่อชีวกิตาใรนทสถอางนเศทกึ ย่ีษาวสปคูระวเภาทมลสกู ําเสเอื รว็จสิ า(ปมRรัญะoกvชาe้ันศมrนiัธยีnยบgมัตศtรoกึวษิชSาาชปuพีทีc่ีc14ess) เ1พ5ื่อ
ปี ค.ศ.1919 มิสเตอรโ เดอบัวสโ แมคลาเรน (Mr. W.de Boir Maclaren) ชาวสกเอตแลนดโ มอบ
กิลเวลลโปารโค (Gilwell Park) ให฿แกคณะลูกเสืออังกฤษ เพื่อใช฿เป็นสถานท่ีอยูคายพักแรมของลูกเสือ
และใชเ฿ ปน็ คายฝกึ อบรมผู฿บังคบั บัญชาลูกเสอื
ปี ค.ศ.1920 ได฿มีการชุมนุมลูกเสือโลกครั้งแรก จัดขึ้นท่ีโอลิมเปีย (Olympia) กรุงลอนดอน
(London) ประเทศองั กฤษ มลี ูกเสอื มาชมุ นุมประมาณ 30,000 คน จาก 21 ประเทศ ในการชุมนุมครั้งนี้
บี.พี. ได฿รับการประกาศแตงตั้งจากคณะลูกเสือที่ไปชุมนุมเป็นประมุขลูกเสือโลก (Chief Scout of the
World)
ปี ค.ศ.1922 บี.-พี. ได฿เขียนหนงั สือชือ่ การทองเทย่ี วสคู วามสําเร็จ (Rovering to Success) เพ่ือ
ใช฿อบรมส่งั สอนลกู เสอื วิสามญั
ปี ค.ศ.1929 พระเจ฿ายอรชโ ท่ี 5 พระราชทานบรรดาศักดิ์ขั้นบารอนให฿แก บี.-พี. เรียกชื่อเต็มวา
ลอรโด เบเดน โพเอลลโ แหง กิลเวลลโ
หล2มุ 2ฝงั ศบพี.พคปอมู่รยี.ะือทูกถสาเ่ีึงง่ ศมเแสนอื กรยี งิมอบไแนัตนลริจโะวรพกิชบัฒารชีรนีพมากท1ิจ่ีปกรรระมเลทูกศเสเคอื ทนักยษาะช(วี Kิตeในnสyถaา)นเศมึกื่อษวาันลทูกเี่ ส8อื วมสิ ากมรญั าคชมั้นม1ัธ9ย4ม1ศึกษในาปทที วี่ 4ีปแอฟริกา
ความสาคัญในสาส์นฉบบั สดุ ทา้ ยของ บี.-พี. ท่ีเขียนถงึ ลกู เสอื
1. จงทําตนใหม฿ ีอนามัยดี และแขง็ แรงในขณะทเ่ี ป็นเดก็
2. จงมคี วามพอใจในสง่ิ ท่ีเธอมอี ยู และทาํ ส่งิ นนั้ ใหด฿ ีทส่ี ดุ
3. จงมองเรื่องราวตางๆ ในแงดี แทนท่จี ะมองในแงร า฿ ย
4. ทางอันแท฿จรงิ ทจ่ี ะหาความสขุ คือ โดยการให฿ความสุขผ฿ูอนื่
5. จงพยายามปลอยอะไรทงิ้ ไวใ฿ นโลกนด้ี ีกวา ท่ีเธอไดพ฿ บ
6. จงยึดมน่ั ในคาํ ปฏิญาณของลูกเสือของเธอมไี วเ฿ สมอ
16 คมู่ ือสง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลกู เสือวิสามญั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
ประกาศนียบัตรวชิ าชพี 1
ความรเู้ ก่ียวกับขบวนการลูกเสอื ไทย
พระราชประวตั ิผู้พระราชทานกาเนิดกิจการลกู เสอื ไทยโดยสงั เขป
พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา฿ เจ฿าอยหู วั เปน็ ผพ฿ู ระราชทานกําเนิดกิจการลูกเสือไทย พระองคโ
ทรงเป็น็ พระะรราาชชโโออรรสสใในนพพรระะบบาาททสสมมเดเดจ็ จ็พพระรจะลุจจุลอจมอเมกเลกา้ ลเ฿าจเา้ จอา฿ ยอหู่ ยวัหู กัวบั กสบั มสเดมจ็เดพจ็ รพะศรระพีศรชั พีรนิัชทรินราทบรรามบรรามชรนิ านี ชาินถี
นทารถงพทรระงรพาชรสะมราภชพสวมนั ภทพ่ี ว1ันมทก่ี ร1ามคกมร2าค42ม32ไ4ด2ร้3บั ไพดร฿ระับราพชรพะราะรชาทชาทนานนานมาวมาวส่ามสมเดเด็จจเ็ จเจ฿าา้ฟฟฺา้าววชริรชิ าาววุธุธตตอ่อมมาา
ทรงได฿รับการสถาปนาเปน็ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมงกุฎราชกุมารพระชนมายุได฿ 14 พรรษา
ทรงเสด็จไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ท่ีมหาวิทยาลัยอเอกฟอรโด และศึกษาวิชาการทหารที่โรงเรียน
แซนดโเฮิสตโจนจบการศึกษา เสด็จกลับพระนครเมื่อ พ.ศ. 2445 ตอ่ มาไดดเ้฿เสสดดจ็ ็จเถเถลลงิ ิงถถววลั ัลยราชสมบบตัตติ ตอ่ อ
จากสมเด็จพระบรมชนกนาถ ขณะน้ันพระองคมโ ีพระชนมายไุ ด฿ 30 พรรษา ทรงประกอบพระราชพิธีบรม
ราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตราธิราช พระองคโที่ 6 แหงราชวงศโจักรี พระองคโได฿ทรงพระราชทานนาม
กําเนิดลูกเสือแหงประเทศไทย เมื่อวันท่ี 1 กรกฎาคม 2454 โดยพระองคโทรงดําเนินด฿วยพระองคโเอง
และทรงดํารงตําแหนงสภานายกในรชั กาลของพระองคโทาน บ฿านเมืองเจริญรุงเรืองมาก ทรงรเิ ริ่มกิจการ
หลายอยา ง เชน ทรงต้งั กองเสือปูา ทรงต้ังกองลูกเสือ แตเป็นท่ีนาเสียดายท่ีรัชสมัยพระองคโสั้นเกินไป
ทรงอยูในราชสมบัตเิ พยี ง 15 ปี ก็เสดจ็ สวรรคตเม่ือวนั ที่ 25 พฤศจกิ ายน 2468 แมว฿ าพระองคโจะไดเ฿ สด็จ
สวรรคตไปแล฿ว แตส่ิงที่พระองคโได฿ทรงริเร่ิมข้ึนมาก็เจริญรุงเรือง โดยเฉพาะกิจการลูกเสือไทย ได฿
เจรญิ รุง เรอื งเป็นลําดับจนถงึ ปัจจุบนั
ประวตั ิลกู เสือไทยโดยสังเขป
เริม่ ตัง้ แต พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา฿ เจา฿ อยูหัว ทรงสถาปนาคณะลกู เสอื ไทยขน้ึ มาเมื่อวันที่
1 กรกฎาคม 2454 โดยทรงพระกรณุ าโปรดเกล฿าฯ ให฿ตราข฿อบังคับคณะลูกเสือและจัดตั้งสภากรรมการ
ลกู เสือขึ้น โดยพระองคทโ รงดํารงตาํ แหนงสภานายก และเรมิ่ ต฿นกองลกู เสือกองแรก ทโี่ รงเรยี นมหาดเลก็
หลวง (โรงเรียนวชิราวธุ วทิ ยาลยั ) ทรงพระราชทานคติพจนโ ให฿แกคณะลูกเสือแหงชาติวา “เสียชีพอยา
เสียสัตยโ” ผู฿ได฿รับการยกยองวาเป็นลูกเสือคนแรกคือ นายชัพนโ บุญนาค ซึ่งตอมาได฿รับพระราชทาน
บรรดาศักด์ิเป็น นายลิขิตสารสนอง กิจการลูกเสือได฿เจริญรุงเรืองอยางมาก ตอมาได฿มีการจัดตั้งกอง
ลกู เสอื เพิม่ ขนึ้ ในโรงเรยี นตางๆ
พ.ศ. 2456 ทรงโปรดเกลา฿ ให฿กองลกู เสือหลวง (โรงเรียนมหาดเล็กหลวง ภายหลังเป็นโรงเรียน
วชิราวุธราชวิทยาลัย) จัดสงผู฿แทนพร฿อมทั้งผู฿บังคับบัญชา เข฿าสมทบกับกองเสือปูาเสือหลวงรักษา
พระองคโ ในการฝกึ ซอ฿ มเดนิ ทางไกลแรมคืนและการซ฿อมรบเสือปูา และในปีเดียวกันนี้เสือปูาและลูกเสือ
เดินทางไกลจากพระราชวังสนามจนั ทรโ จังหวดั นครปฐม ไปยังอําเภอดอนเจดียโ จงั หวัดสุพรรณบรุ ี เนอื่ ง
ในพิธีสมโภชพระเจดียยโ ทุ ธหัตถี
พ.ศ. 2457 พระราชทานเหรยี ญราชนยิ มให฿แกล ูกเสอื โท ฝฺาย บุญเลย้ี ง
พ.ศ. 2563 สงผูแ฿ ทนไทย 4 คน ไปรวมการชมุ นมุ ลูกเสอื โลกครง้ั แรก ณ โอลมิ เปีย กรุงลอนดอน
ประเทศองั กฤษ โดยมีนายสวสั ด์ิ สมุ ิตร เป็นหัวหนา฿ คณะ
24 คูม่ อื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือวสิ ามัญ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 17
คปมู่ รอื ะสก่งาเสศรนมิ ยี แบลตัะพรวฒั ชิ นาาชกีพิจก1รรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือวิสามัญ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ประกาศนียบัตรวชิ าชพี 1
พ.ศ. 2465 สมัครเปน็ สมาชกิ ของสมัชชาลูกเสือโลก ซึ่งมีท้ังส้ิน 31 ประเทศ และถือวาประเทศ
ไทยเป็นสมาชกิ ผ฿รู ิเร่มิ ในการจัดต้ังองคกโ ารลูกเสอื โลก (Foundation Member)
พ.ศ. 2486 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล฿าเจ฿าอยูหัว พระองคโทานทรงดํารงตําแหนง
สภานายกสภากรรมการจดั การลกู เสือแหงชาติ
พ.ศ. 2470 มีการชมุ นุมลกู เสอื แหง ชาติครง้ั ที่ 1 ณ พระราชอุทยานสราญรมยโ จังหวดั พระนคร
พ.ศ. 2472 สงผ฿แู ทนไปรว มการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 3 ณ ประเทศองั กฤษ
พ.ศ. 2473 มีการชมุ นุมลกู เสือแหงชาติ ครัง้ ท่ี 2 ณ พระราชอทุ ยานสราญรมยโ จงั หวดั พระนคร
โดยมผี ฿แู ทนคณะลกู เสอื ญปี่ ุูนเขา฿ รว มชมุ นมุ ดว฿ ย
พ.ศ. 2474 ไทยสงผู฿แทนไปรวมการชุมนุมลูกเสือวิสามัญครั้งแรกแหงโลก ณ เมืองคานเดอส
เต็ก ประเทศสวิตเซอรแโ ลนดโ โดยมีนายอภยั จนันททวรมิวลมิ ลเปเ็นปห็นวัหหัวนห้านค฿าณคะณะ
พ.ศ. 2476 มีการจดั ต้งั กรมข้นึ ใหมใ นกระทรวงธรรมการ คอื กรมพลศกึ ษาซึ่งมีกองลูกเสืออยูใน
สังกัดดว฿ ย และไดจ฿ ัดสงผู฿แทนไปรวมการชุมนมุ ลกู เสือโลกครัง้ ท่ี 4 ณ ประเทศฮงั การี
พ.ศ. 2478 สงผแู฿ ทนไปรว มการชุมนมุ ลกู เสือวิสามัญครั้งท่ี 2 ณ ประเทศสวีเดน โดยมีนายกอง
วิสทุ ธารมณโ เป็นหวั หนา฿ คณะ
พ.ศ. 2482 ประกาศใชพ฿ ระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2482 ในปีนี้ได฿เกิดสงครามโลกคร้ังที่ 2 ซึ่ง
ตรงกบั รชั สมัยของสมเด็จพระเจ฿าอยูหัวอนันทมหิดล ระยะนี้กิจการลูกเสือในประเทศไทยซบเซาลงไป
บ฿าง เนื่องจากประเทศไทยอยูในภาวะสงคราม กิจการลูกเสือบางสวนยังคงดําเนินการอยู และในบาง
จงั หวัดได฿จดั กิจการลูกเสืออยา งเข฿มแข็ง เชน จังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุบลราชธานี ได฿จัดให฿มีการ
ชุมนมุ ลูกเสือข้ึนในระยะนี้
พ.ศ. 2489 เรมิ่ รชั สมยั พระเจ฿าอยหู ัวภูมพิ ลอดลุ ยเดช กจิ การลกู เสือเรม่ิ ฟนื้ ตวั ขนึ้
พ.ศ. 2490 มีพระราชบัญญัตลิ กู เสือ พ.ศ. 2490
พ.ศ. 2496 เริ่มดําเนินการสร฿างคายลูกเสือวชิราวุธบริเวณหลังเขาซากแขก ตําบลบางพระ
อําเภอศรีราชา จงั หวดั ชลบุรี เน้อื ที่ 88 ไร 58 ตารางวา
พ.ศ. 2497 มีการชมุ นมุ ลกู เสอื แหง ชาติ ครง้ั ที่ 3 ณ สนามกฬี าแหงชาติ จงั หวดั พระนคร
พ.ศ. 2500 สงผ฿ูแทนประเทศไทย ไปรวมการชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งท่ี 9 ณ ประเทศอังกฤษ
(เพือ่ เฉลิมฉลองอายุครบ 100 ปี ของ ลอรโด เบเดน โพเอลล)โ โดยมนี ายสวา ง วิจักขณะ เป็นหวั หนา฿ คณะ
พ.ศ. 2501 จดั ต้งั กองลูกเสอื สํารองกองแรกในประเทศไทย เมือ่ วนั ท่ี 5 สงิ หาคม 2501
พ.ศ. 2502 สงผ฿ูแทนไปรวมการชุมนุมลูกโลก คร้ังที่ 10 ณ ประเทศฟิลิปปินสโ โดยมีนายอดุล
สุวรรณบล เปน็ หวั หนา฿ คณะ
พ.ศ. 2504 มีการชุมนุมลูกเสือแหงชาติ คร้ังที่ 4 ณสวสนวลนมุ ลพมุ ีนพี จนิ งัี จหงั วหดั วพดั รพะรนะคนรคร
พ.ศ. 2506 จัดตัง้ กองลูกเสือวิสามัญเป็นคร้ังแรกในประเทศไทย เมอ่ื วันท่ี 7 มีนาคม 2506
พ.ศ. 2507 ประกาศใช฿พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2507 โดยพระราชบัญญัติน้ีกําหนดให฿
พระมหากษัตรยิ ทโ รงเป็นพระประมุขของคณะลูกเสอื แหงชาติ
คู่มอื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื วสิ ามัญ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 25
คมู่ ือส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลกู เสือวสิ ามญั ปชรนั้ ะมกัธายศมนศยี ึกบษัตารปวีทิชี่ า4ชีพ 1
18 ประกาศนยี บตั รวิชาชพี 1
พ.ศ. 2508 มีการประชุมสภาลูกเสือแหงชาติครั้งแรก ณ ศาลาสันติธรรม จังหวัดพระนคร
(ระหวางวันท่ี 1-3 กรกฎาคม 2508) และมีการชุมนุมลูกเสือแหงชาติคร้ังท่ี 5 ณ คายลูกเสือวชิราวุธ
จงั หวัดชลบรุ ี และนายอภัย จันทวิมล ไดร฿ ับเลอื กใหเ฿ ป็นกรรมการลูกเสอื โลก
พ.ศ. 2509 คณะลกู เสือไทยบริจาคเงนิ สรา฿ งพุทธศาสนา ณ กลิ เวลลโปารโค ประเทศอังกฤษ ในปี
นีม้ กี ารจดทะเบยี นกองลกู เสือสามญั รนุ ใหญกองแรก ณ โรงเรียนเทพศิรินทรโ (เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธโ
2509) และมีการจดทะเบียนลูกเสือสามัญเหลาอากาศกองแรก ณ ศูนยโพัฒนาเคร่ืองบินเล็ก (เมื่อวันท่ี
10 พฤศจิกายน 2509)
พ.ศ. 2512 มีการชุมนมุ ลกู เสอื แหงชาติครั้งท่ี 6 ณ คา ยลูกเสือวชิราวธุ จังหวดั ชลบุรี
พ.ศ. 2514 มีการชุมนุมลูกเสือแหงชาติครั้งท่ี 7 ณ คายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็น
การเฉลมิ ฉลองคณะลูกเสือมีอายคุ รบ 60 ปี ในปนี ก้ี ารชมุ นุมลูกเสือวิสามญั คร้งั ที่ 1 ณ จังหวัดนครปฐม
สงให฿ผ฿ูแทนไปรวมการชุมนุมลูกเสือโลกคร้ังท่ี 13 ณ ประเทศญี่ปูุน โดยมีนายสวาง วิจักขณะ เป็น
หวั หนา฿ คณะ และมีการอบรมลกู เสือชาวบ฿านเปน็ คร้ังแรก ทบ่ี ฿านเหลากอหก ตําบลแสงพา ก่งิ อาํ เภอนา
แห฿ว อําเภอดานซ฿าย จงั หวดั เลย
พ.ศ. 2516 กระทรวงศึกษาธิการมีคําสั่งลงวันที่ 4 เมษายน 2516 ให฿นําวิชาลูกเสือเข฿าอยูใน
หลักสูตรของโรงเรียน ในปีนี้มีการชุมนุมลูกเสือแหงชาติคร้ังท่ี 8 ณ คายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี
และมีการชุมนุมลูกเสือวิสามญั คร้ังที่ 2 ณ คา ยลกู เสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี
พ.ศ. 2518 มกี ารสงผ฿แู ทนไปรว มการชุมนมุ ลกู เสือโลกครั้งที่ 14 ณ ประเทศนอรโเวยโ และในปีน้ี
มีการชุมนุมลูกเสือวสิ ามัญคร้ังท่ี 3 ณ คา ยลกู เสือเจา฿ สามพระยา จังหวัดชยั นาท
พ.ศ. 2519 มีการจัดตั้งสมาคมสโมสรลูกเสือวิสามัญแหงประเทศไทย เม่ือวันท่ี 12 เมษายน
2519
พ.ศ. 2520 ออกกฎกระทรวงดว฿ ยเครอ่ื งแบบลูกเสอื ฉบบั ท่ี 3 มีการชมุ นมุ ลูกเสอื แหงชาติ คร้ังท่ี
9 ณ คายลูกเสอื วชริ าวุธ จงั หวดั ชลบุรี และในปนี ้มี ีการชมุ นุมลกู เสือวิสามัญคร้ังท่ี 4 ณ จงั หวัดขอนแกน
พ.ศ. 2522 มีการชมุ นมุ ลกู เสอื วิสามญั ครง้ั ที่ 5 ณ จังหวดั เชยี งใหม
พ.ศ. 2523 มกี ารชมุ นุมลูกเสือแหงชาติครั้งที่ 10 ณ คายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี เป็นการ
เฉลมิ ฉลองวันพระราชสมภพครบรอบ 100 ปี ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล฿าเจ฿าอยูหัว พระผู฿ทรง
พระราชทานกําเนิดลกู เสอื ไทย
พ.ศ. 2526 มกี ารชมุ นมุ ลกู เสอื สามัญรุน ใหญแหงชาติคร้ังท่ี 1 ณ คายมฤคทายวัน อําเภอชะอํา
จงั หวดั เพชรบุรี มีการชุมนุมลกู เสือวสิ ามญั แหง ชาตคิ รั้งท่ี 7 ณ คา ยวดั อรัญญกิ จงั หวดั พิษณโุ ลก และสง
ผูแ฿ ทนไปรว มการชมุ นุมลกู เสอื โลกครั้งท่ี 15 ณ ประเทศแคคนนานดาาดา
พ.ศ. 2527 มีการชุมนุมลูกเสือ-เนตรนารี เหลาสมุทรคร้ังแรก ณ โรงเรียนสิงหโสมุทร อําเภอ
สตั หีบ จังหวัดชลบุรี ระหวางวนั ที่ 24 – 27 ตุลาคม 2527
พ.ศ. 2529 ออกกฎกระทรวง วาด฿วยเคร่ืองแบบฉบับที่ 4 (พ.ศ.2529) กําหนดให฿ลูกเสือสํารอง
และสามัญมีเคร่ืองแบบลําลองอีกชนิดหน่ึง และได฿รับประกาศใช฿ข฿อบังคับลูกเสือแหงชาติ วาด฿วยการ
26 คูม่ อื สง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลูกเสือวสิ ามญั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 19
คปมู่ รือะสก่งาเสศรนิมยี แบลตัะพรวฒั ิชนาาชกีพิจก1รรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื วิสามัญ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ 1
ปกครองหลักสูตรพิเศษลูกเสือวิสามัญ และมีการชุมนุมลูกเสือวิสามัญแหงชาติคร้ังที่ 8 ณ คายลูกเสือ
จังหวดั ระยอง ระหวา งวนั ที่ 25 – 29 ตลุ าคม 2529
พ.ศ. 2530 ไดม฿ ีการออกพระราชบัญญตั ิลูกเสือ (ฉบับท่ี 4) พ.ศ.2530 โดยมหี ลกั การท่ีสําคัญคือ
กําหนดใหม฿ ีเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณโ อันเปน็ สริ ิยง่ิ ราวมมกกรี รี ตตลิ ลิ กู กู เเสสอื ือสสดดดุ ุดี ี ชั้นพิเศษ เพ่ิมอีกหน่ึงเหรียญและ
ได฿จัดสร฿างพระบรมราชอนุเสาวรียโ รัชกาลที่6 ณ คายลูกเสือหลวงบ฿านไร อําเภอโพธาราม จังหวัด
ราชบรุ ี
พ.ศ. 2533 มีการชุมนมุ ลูกเสือวิสามัญแหงชาติคร้ังท่ี 10 ณ เขื่อนแกงกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ระหวางวนั ท่ี 24 – 28 มนี าคม 2533
พ.ศ. 2534 ผู฿แทนไปรวมการชุมนุมลูกเสือโลกคร้ังที่ 17 ณ เชิงเขาชอรัก จังหวัดกิงวอนโอ
สาธารณรัฐเกาหลี ระหวางวันท่ี 8 – 16 สิงหาคม 2534 และมีการชุมนุมลูกเสือแหงชาติครั้งท่ี 13 ณ
คายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี ระหวางวันที่ 1 – 7 กรกฎาคม 2534 มีวัตถุประสงคโเพ่ือเฉลิมฉลอง
ครบรอบ 80 ปี กจิ การลูกเสือ
พ.ศ. 2535 สงผ฿ูแทนไปรวมการชุมนุมลูกเสือวิสามัญโลกคร้ังท่ี 9 ณ เมืองคานเดอสเต็ก
ประเทศสวิสเซอรโแลนดโ ระหวา งวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 6 สิงหาคม 2535 โดยมนี ายปรดี า รอดโพธ์ิทอง
เป็นหัวหนา฿ คณะ และมีการชมุ นมุ ลูกเสือวสิ ามัญแหงชาตคิ ร้งั ที่ 11 ณ เขอื่ นเขาแหลม อําเภอทองผาภูมิ
จงั หวัดกาญจนบรุ ี ระหวา งวนั ที่ 24 – 28 ตุลาคม 2535 และมีการชมุ นุมลูกเสอื ชาวบ฿านแหง ชาติคร้ังที่ 1
ณ คา ยลูกเสือวชริ าวุธ จงั หวัดชลบุรี ระหวางวันท่ี 28 พฤศจกิ ายน ถึง 3 ธันวาคม 2535
พ.ศ. 2536 ประเทศไทยได฿รบั เกยี รตใิ ห฿เป็นเจ฿าภาพ จัดการประชุมสมัชชาลูกเสือโลกครั้งที่ 33
ณ โรงแรมอิมพีเรียลควีนสโปารโค กรุงเทพมหานคร ระหวางวันที่ 19 – 23 กรกฎาคม 2536 และมีการ
ชุมนมุ ลูกเสือแหงชาติครั้งท่ี 14 ณ คา ยลูกเสอื วชิราวธุ จังหวดั ชลบุรี ระหวา งวันที่ 22 – 29 พฤศจิกายน
2536
พ.ศ. 2537 มีการชุมนมุ ลูกเสอื วิสามัญแหง ชาติครัง้ ที่ 12 ณ ศนู ยกโ ฬี า จังหวัดลําปาง
พ.ศ. 25235939มกี มารีกชามุ รนชุมมลนกู ุมเสลอืูกวเสิ าือมวญัิสาแมหัญง่ ชแาหตงคิ ชรงาั้ ทต่ีิค1ร3้ังณที่ อ13า่ งเกณบ็ นอ้�ำากงรเกะเ็บสนยี ้ํวากจรงั ะหเวสดัียว จังหวัด
สุพรรณบุรี
พ.ศ. 2540 มีการชมุ นมุ ลูกเสือแหง ชาตคิ รั้งท่ี 15 ณ คา ยลกู เสอื วชริ าวุธ ระหวา งวันท่ี 21 - 27
พฤศจกิ ายน 2540 ฉลองงพพระรชะชนนมมายาุยุ สมเดจ็ พระเจ฿าภคนิ เี ธอ เจา฿ ฟฺาเพชรรัตนราชสดุ าสิรโิ สภาพัณณวดี
องคอโ ุปถัมภคโ ณะลูกเสือแหงชาติ ครบ 6 รอบปนี ักษตั ร
พ.ศ. 2541 มีการชุมนุมลูกเสือวสิ ามัญแหง ชาตคิ รัง้ ที่ 14 ณ คายหลวงบา฿ นไร จงั หวดั ราชบุรี
พ.ศ. 2543 มีการชุมนุมลกู เสอื วสิ ามญั แหงชาตคิ ร้งั ที่ 15 ณ คา ยหลวงบ฿านไร จงั หวดั ราชบุรี
พ.ศ. 2544 เฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปลี ูกเสือไทย เตรียมการจดั งานชุมนมุ ลกู เสอื โลก มกี าร
จัดงานชมุ นมุ ลกู เสือแหง ชาติ ครัง้ ที่ 16 ณ หาดยาว จ.ชลบรุ ี ระหวา งวนั ที่ 28 ธันวาคม 2544 - 4
มกราคม 2545
พ.ศ. 2546 เป็นเจ฿าภาพจดั งานชมุ นุมลกู เสอื โลก ครง้ั ที่ 20 (20th World Scout Jamboree) และ
มีการชมุ นุมลูกเสอื วสิ ามญั แหงชาตคิ ร้ังที่ 16 ณ คายเจษฎาราชเจา฿ จงั หวัดชลบุรี
คมู่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือวสิ ามญั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 27
ค่มู อื ส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวสิ ามัญปชรนั้ ะมกัธายศมนศยี กึ บษัตารปวีทชิ ่ี า4ชีพ 1
20 ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1
พ.ศ. 2548 มกี ารชุมนมุ ลกู เสอื แหงชาตคิ ร้งั ที่ 17 ณ หาดยาว จ.ชลบรุ ี ระหวา งวนั ที่ 25 - 31
กรกฎาคม 2548 เป็นเจ฿าภาพจดั งานชมุ นมุ ลกู เสอื ภาคพนื้ เอเชีย-แปซฟิ ิก ครัง้ ท่ี 25 (25th Asia -
Pacific Regional Scout Jamboree) และมีการชมุ นุมลูกเสือวสิ ามัญแหงชาตคิ ร้ังที่ 17 ณ คา ยลูกเสอื
แกน นคร จงั หวัดขอนแกน
พ.ศ. 2551 มกี ารประกาศใช฿พระราชบญั ญัตลิ ูกเสือ พ.ศ.2551 และมกี ารชมุ นมุ ลกู เสอื วสิ ามัญ
แหงชาติครง้ั ที่ 18 ณ ศนู ยพโ ฒั นาบุคลากร จงั หวัดเพชรบุรี
พ.ศ. 2552 มกี ารชมุ นมุ ลกู เสือแหง ชาตคิ รงั้ ท่ี 18 ณ คายลกู เสือไทยเฉลมิ พระเกยี รติ จ.ตรงั
ระหวา งวนั ที่ 25 - 30 เมษายน 2552
พ.ศ. 2553 มีการชุมนมุ ลูกเสอื วิสามัญแหง ชาตคิ ร้ังที่ 19 ณ คายบุรฉัตร จังหวดั ราชบรุ ี
พ.ศ. 2554 เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปกี ารลูกเสอื ไทย
พ.ศ. 2555 มกี ารชุมนมุ ลกู เสอื แหง ชาติครง้ั ท่ี 19 ณ คา ยลกู เสอื วชิราวุธ ระหวา งวันที่ 19 - 25
พฤศจิกายน 2555
พ.ศ. 2557 มกี ารชมุ นมุ ลูกเสอื วสิ ามญั แหงชาตคิ ร้งั ที่ 20 ณ คายลกู เสอื วชิราวุธ จังหวัดชลบุรี
พ.ศ. 2558 มีการชุมนมุ ลกู เสอื แหง ชาตคิ รง้ั ท่ี 20 ณ คายลกู เสือวชิราวธุ ระหวา งวนั ท่ี 4 - 6
เมษายน 2558 เนอ่ื งในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯสยามบรม
ราชกุมารี
“ลกู เสอื บใ ชเ สอื สตั วไโ พร
เรายืมชอ่ื มาใช฿ดว฿ ยใจกลา฿ หาญปานกัน
ใจกล฿าใชก ลา฿ อาธรรมโ
เชนเสืออรญั สัญชาตชิ นคนพาล
ใจกลา฿ ต฿องกลา฿ อยางทหาร
กล฿ากอปรกจิ การแกชาตปิ ระเทศเขตตน”
พระราชนิพนธใโ นพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา฿ เจ฿าอยหู ัว
ธรรมเนยี มของลกู เสอื และบทบาทของลูกเสอื วสิ ามญั
28 คู่มือสง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือวสิ ามญั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 21
คปมู่ รือะสกง่ าเสศรนิมยี แบลตัะพรวฒั ชิ นาาชกีพิจก1รรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื วิสามญั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนยี บัตรวิชาชพี 1
ธรรมเนียมของลกู เสือและบทบาทของลูกเสอื วิสามัญ
จ2ึง8หมายธปคถู่มรรงึ ะือรกแสมาง่บศเเสบนนรียอียมิ บยแมัตาลรงะวหพหิชมฒัารชาือนีพายแกบ1ถจิ บึกงรแรแผมบนลูกบทเอส่ลี ือูกยทเาสักงษอื ทะนชี่นิยีวิยติมใมในชกส฿กถันันานมแศาบึกจษบนาแถลผงึูกปเนสจั อืทจว่ีนุบสิ าิยนั มมญั ไใดชช฿แ฿นั้กกมัน ัธมยมาศกึธษรารปมีทเ่ี 4นียมลูกเสือ
เคร่ืองแบบลกู เสอื และเนตรนารีวสิ ามัญ
องคโประกอบสําคัญอยางหน่ึงของการลูกเสือ คือ เคร่ืองแบบ เพราะเครื่องแบบเป็นส่ิงที่อยู
ภายนอก สามารถมองเห็นได฿โดยทั่วไป และในการตัดสินวากิจการลูกเสือจะมีคุณภาพหรือไมบุคคล
ทั่วไปจะตัดสินด฿วยสง่ิ ที่เขาเหน็ คือเครอื่ งแบบ และเคร่อื งแบบจะเปน็ สว นหน่งึ ทจ่ี ะสงเสรมิ ให฿เกิดวินัยท่ีดี
ได฿ เครื่องแบบลูกเสือมีความหมายและสําคัญกวาลูกเสือประเทศอื่นๆ เพราะเครื่องแบบลูกเสือได฿รับ
พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา฿ เจา฿ อยหู วั เครอ่ื งแบบลูกเสอื จึงเป็นเคร่ืองหมายท่ีมีเกียรติ
เป็นท่รี ฿จู กั กนั ท่ัวโลกและเป็นเครื่องหมายแหง คณุ งามความดี ในการแตง เครอ่ื งแบบลูกเสือหรือเนตรนารี
วิสามญั จะต฿องแตง เครื่องแบบใหถ฿ ูกตอ฿ งเรียบรอ฿ ยอยเู สมอ
เครอ่ื งแบบลกู เสือวิสามัญประกอบดว้ ย
1. หมวก เป็นหมวกทรงออ นสีเขยี ว มตี ราหน฿าหมวกรูปตราคณะลกู เสอื แหงชาตทิ ําด฿วยโลหะสี
ทอง (เวลาสวมให฿ตราหน฿าหมวกอยูเหนอื คิ้วซา฿ ย)
2. เส้อื สีกากแี ขนส้ัน แบบขา฿ ราชการ
3. อนิ ทรธนูสีเขียว ที่ปลายอินทรธนูมีอกั ษร ล.ว. สเี หลือง
4. ผา฿ ผกู คอ สีตามเขตการศึกษาและมีตราจงั หวดั ตดิ ท่มี มุ ผา฿ ผกู คอตรงข฿ามด฿านฐาน (เวลาสวม
ควรมว฿ นให฿เรยี บร฿อยเหลอื ชายหลงั ไว฿ราว 1 ฝูามอื )
5. หวงสวมผ฿าผูกคอต฿องไมใชหวงหนังกิลเวลลโ (การสวมควรกะให฿พอดี คือระยะหางจากใต฿
คาง ถึงหวงสวมผา฿ ผูกคอประมาณ 1 กํามือ)
6. ปฺายชอื่ ติดท่อี กเสอ้ื ดา฿ นขวา
7. เครือ่ งหมายหมูเ ตรยี มลูกเสอื วสิ ามัญตดิ แถบ 2 สี สเี ขียวกบั สีเหลอื ง ลกู เสือวิสามญั แถบ3 สี
สเี ขยี ว สีเหลอื ง สแี ดง (ติดทีแ่ ขนเส้อื ใต฿ตะเข็บไหลซ฿ายประมาณ 1 ซม.)
8. เครื่องหมายสังกัด ชื่อกลุมหรือกอง ทําด฿วยผ฿าสีแดงรูปสี่เหล่ียมผืนผ฿ายาว 7 ซม.
กวา฿ ง 1.5 ซม. ขลบิ ริมสขี าว มชี ่ือกลุม หรอื กองสขี าวติดโคง฿ ตามไหลเสอื้ ข฿างขวา
9. เครื่องหมายวิชาพิเศษติดท่ีอกเสื้อเหนือกระเปา (ดูรายละเอียดในกฎกระทรวงวาด฿วย
เครอื่ งแบบลกู เสอื )
10. กางเกงสีกากขี าสนั้ เหนอื เขา ประมาณ 5 ซม. สว นกว฿างของขากางเกงเมอ่ื ยืนตรงหางจากขา
ตัง้ แต 8 – 12 ซม.
11. เข็มขัดหนังสีนํ้าตาลกว฿างไมเกิน 3 ซม. ชนิดหัวขัดทําด฿วยโลหะสีทองมีลานดุนรูปตรา
คณะลกู เสือแหงชาติ ภายในกรอบชอ ชยั พฤกษโ
12. ถุงเท฿ายาวสีกากีพับขอบไว฿ใต฿เขา ใต฿พับขอบมีรอยรัดถุงให฿มีพูสีแดงเลือดนกให฿แลบพ฿น
ออกมาประมาณ 1 ซม.
13. รองเท฿าหนังหรอื ผา฿ ใบสนี า้ํ ตาลแก ไมม ีลวดลาย ห฿ุมสน฿ ชนิดผูก
หมายเหตุ สายนกหวีดสเี หลอื งพร฿อมตวั นกหวีด ใช฿เฉพาะนายหมแู ละรองนายหมู
22 คป่มูระือกสาง่ ศคเสน่มู รียอื ิมบสแตั ง่ลรเะสวพริชฒัมิาชแนีพลากะ1พจิ กฒั รนรมาลกูกจิ เกสรอื รทมกั ลษูกะเชสีวือติ ทใักนษสะถชานวี ิตศกึในษสาถปารนะศเภึกทษลาูกลเสูกอื เวสิสอื าวมสิ ัญามปชัญร้ันะมกชธั าัน้ยศมมนศัธยี กึ ยบษมัตาศปรกึ วีทษิช่ี 4าาปชีพที ี่ 4 29
1
เครอ่ื งแบบเนตรนารีวิสามญั ประกอบดว้ ย
1. หมวกปีกแคบสีเขียวแก มีตราหน฿าหมวกรูปเคร่ืองหมายเนตรนารีทําด฿วยโลหะสีทอง
ปกี ด฿านข฿างพบั ข้นึ ปกี หมวกดา฿ นหลังเปน็ ชายมนซอ฿ นกันพับข้นึ ตดิ ดุมหุม฿ ผา฿ สเี ดียวกัน
2. เสื้อคอพับสีเขียวแกแขนส้ัน (ดูรายละเอียดในข฿อบังคับคณะลูกเสือแหงชาติวาด฿วยการ
ปกครองหลกั สตู รวิชาพิเศษ และเครอื่ งหมายของเนตรนาร)ี
3. อินทรธนสู ีเขียว ปลายอนิ ทรธนมู รี ปู เคร่อื งหมายเนตรนารสี ีเหลอื ง
4. ผา฿ ผูกคอเชน เดยี วกับลูกเสอื วสิ ามัญ
5. หวงสวมผา฿ ผกู คอ เชน เดยี วกับลูกเสือวิสามญั
6. ปฺายช่อื ตดิ ที่หน฿าอกเสื้อด฿านขวา
7. เครอื่ งหมายชนั้ เตรยี มเนตรนารวี ิสามญั ทาํ ด฿วยผ฿าสีเหลืองและสีเขียวรูปส่ีเหล่ียมผืนผ฿ายาว
4 ซม. กว฿าง 2 ซม. ขลิบสีขาว เนตรนารีวิสามัญทําด฿วยผ฿าสีเหลือง สีเขียว สีแดง รูป
สี่เหลยี่ มผนื ผ฿ายาว 6 ซม. กวา฿ ง 2 ซม. ขลิบรมิ สขี าว (ตดิ โค฿งตามไหลเสื้อข฿างซา฿ ยใต฿ตะเข็บ
ไหล 1 ซม.)
8. เคร่ืองหมายเนตรนารีวิสามัญทําด฿วยโลหะสีทอง อยูในวงกลมตอนบนมีคําวาวิสามัญ
มขี นาดกว฿าง 2 ซม. ยาว 2 ซม. ใชก฿ ลัดตดิ อกเส้อื ขา฿ งซ฿าย
9. เคร่อื งหมายสงั กดั เชนเดียวกับลูกเสอื วสิ ามัญ
10. เครื่องหมายวิชาพิเศษ ติดท่ีอกเสื้อเหนือกระเปา (ดูรายละเอียดในข฿อบังคับคณะลูกเสือ
แหง ชาตวิ าดว฿ ยการปกครอง หลกั สตู รวิชาพเิ ศษ และเครอื่ งแบบเนตรนาร)ี
11. กระโปรงสีเขียวแกยาวเสมอเขา ด฿านหน฿าและด฿านหลังพับเป็นกลีบหันออกด฿านข฿างๆ ละ
1 กลบี
12. เข็มขัดหนังสีดํากว฿างไมเกิน 3 ซม. หัวรูปสี่เหล่ียมผืนผ฿าทําด฿วยโลหะสีทอง มีลายดุนรูป
เคร่ืองหมายเนตรนารี
13. ถงุ เท฿าสขี าวพบั สั้นเพยี งขอ฿ เท฿า
14. รองเทา฿ หนังสดี ําแบบนกั เรยี น หรือผา฿ ใบสดี าํ ไมมลี วดลาย หุ฿มสน฿ ชนิดผูก
ลกั ษณะการแต่งกายเครอื่ งแบบทีด่ ี
ผมเผา฿ ตอ฿ งเข฿าทาเสอ้ื ผา฿ ตอ฿ งรดั กุมกระดุมต฿องตดิ สายนกหวีดต฿องจดั
เข็มขัดต฿องเงาพไู มย าวถงุ เทา฿ ลายไมป ดั รองเท฿าต฿องขัดและผูกจัดให฿ดที าทตี อ฿ งสงา
ทาความเคารพและการจับมือแบบลกู เสือ
การทาความเคารพ
การทาํ ความเคารพเป็นการแสดงคารวะทผ่ี น฿ู อ฿ ยพงึ มีตอผใ฿ู หญเ ปน็ การทักทายเมื่อพบกัน แสดง
ถึงความมีระเบียบวินัยเป็นผ฿ูมีมารยาท และร฿ูจักเป็นพวกเดียวกัน มีความรักใครนับถือซึ่งกันและกัน
ลกู เสอื วิสามัญมีวิธแี สดงความเคารพดงั น้ี คอื
1. วนั ทยหัตถ์ ใหท฿ าํ วนั ทยหตั ถโ 3 นว้ิ คอื ยกมือขวาข้นึ ให฿น้ิวช้ี นิ้วกลาง นิ้วนางเหยียดชิด
ติดกัน และนําน้ิวหัวแมมือและนิ้วก฿อยพับเข฿าหากัน โดยเอาปลายนิ้วหัวแมมือกดทับ
30 คูม่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลูกเสือวสิ ามัญ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 23
คปู่มรือะสก่งาเสศรนิมียแบลตัะพรวัฒชิ นาาชกีพิจก1รรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื วิสามัญ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ 1
ปลายนิ้วก฿อย แล฿วยกมือขึ้น เอาปลายน้ิวชี้แตะท่ีหางค้ิวขวา ถ฿าหมวกสวมทรงออน
(เบเรห )โ ถา฿ มไิ ด฿สวมหมวกก็ทาํ อยา งเดียวกบั สวมหมวก
หมายเหตุ การทําความเคารพดว฿ ยทา วนั ทยหัตถตโ ามปกติลกู เสือใชท฿ ําความเคารพเป็นการ
สว นตัวตอผ฿บู ังคบั บญั ชาลกู เสอื และเพอ่ื นลูกเสอื โดยไมไดอ฿ ยใู นแถวควบคุม หากอยูในแถว
มผี บู฿ ังคับบญั ชาควบคุมลูกเสือไมตอ฿ งทาํ ความเคารพ จะทําความเคารพได฿ต฿องให฿ผ฿ูควบคุม
แถวสงั่ ให฿ปฏิบัติ และการทาํ ความเคารพด฿วยทาวนั ทยหัตถเโ ม่ือมคี วามจําเป็นก็ใหท฿ าํ จากทา
นงั่ ได฿
2. วันทยาวุธเป็นทาทําความเคารพประกอบอาวุธ (ไม฿งาม) ลูกเสือวิสามัญ เมื่อมีอาวุธ
(ไม฿งาม) ใหท฿ ําความเคารพดว฿ ยทาวันทยาวธุ ดงั น้ี คือ
2.1 เม่ืออยู่กับท่ี มีคําส่ังให฿ทําความเคารพด฿วยทาวันทยาวุธ หรือประสงคโจะทําทา
วันทยาวุธเอง ใหล฿ กู เสอื อยูในทา ตรงเสียกอนแลว฿ ยกแขนซ฿ายข้ึนมาเสมอแนวไหล ศอก
งอไปข฿างหน฿าให฿ต้ังฉากกับลําตัว ฝูามือแบควํ่าราบ นิ้วหัวแมมือกับนิ้วก฿อยชนกันโดย
ใหป฿ ลายนิ้วหัวแมม ือกดทับปลายน้วิ ก฿อย คงเหลือนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางเหยียดตรงชิด
กนั ใหป฿ ลายนิว้ ชแ้ี ตะไมง฿ ามในรอ งไหลขวา
หมายเหตุ ขณะท่อี ยใู นแถวมีผ฿บู งั คบั บัญชาควบคุม ถ฿าไมไ ดค฿ าํ สั่ง “วนั ทยา-วธุ ” ลูกเสือ
จะต฿องอยูในทาเดิมท่ีอยูในแถว หากเป็นการไปตามลําพังหรือไมได฿อยูในควบคุม
ลูกเสือทาํ ทาวนั ทยาวุธเอง ไมต อ฿ งมีคําสง่ั แตถ฿ามีคําสั่งบอก “วันทยา-วุธ” ก็ต฿องมีคําส่ัง
เลิกทาํ ความเคารพใหส฿ ่งั “เรยี บ-อาวธุ ”
2.2 เม่ือขณะท่ีเคลอ่ื นท่ี ถา฿ อยใู นทาแบกอาวุธ (ไม฿งาม) ให฿ลดมือซ฿ายลงชิดลําตัว ไม฿งาม
ตงั้ ตรงอยูใ นรอ งไหลซ า฿ ยและยกแขนขวา ซ่ึงมือจัดนิ้วเหมือนทารหัสของลูกเสือ ฝูามือ
แบคว่ําใช฿ข฿างปลายนว้ิ แตะไมง฿ าม ศอกงอไปข฿างหน฿าและอยูแนวเดียวกับไหล หันหน฿า
ไปยงั ผู฿รบั การเคารพซึ่งยนื หรอื เดินอยู (สวนมาหรือเดนิ ไป) เม่ือผานผู฿รับการเคารพไป
แล฿ว เลิกทําความเคารพโดยใชม฿ อื ซ฿ายดนั ไม฿งามขน้ึ ไปอยูในทา แบกอาวุธดังเดิม พร฿อม
กับหันหน฿าแลตรงลดแขนขวาลง แขนแกวง ไปในทา ตามปกติ
ถา฿ ลกู เสือคอนอาวธุ (ไม฿งาม) ไปโดยลาํ พงั แตผ ู฿เดยี ว เม่อื ผา นการเคารพใหล฿ กู เสือทาํ
ความเคารพด฿วยทาแลขวา (ซา฿ ย) โดยแนบไม฿งามชิดลาํ ตวั แขนไมแกวง เม่อื ผานพ฿น
ผ฿กู ารเคารพไปแล฿วหันหนา฿ แลตรง แขนขวาแกวง ตามสบาย
หมายเหตุ ถ฿าลูกเสอื เคลือ่ นทไี่ ปโดยมผี ูบ฿ ังคบั บญั ชาควบคุม การทําความเคารพขึ้นอยู
ท่ีผ฿คู วบคุมไปสง่ั หากไมม ีคําสั่งไมต ฿องปฏิบตั ิ ใหเ฿ คล่ือนทีไ่ ปตามปกติ
3. การทาความเคารพดว้ ยทา่ ตรง เป็นการทําความเคารพเมื่ออยูในแถวควบคุม และจะ
ทําความเคารพเมือ่ ผูบ฿ งั คับบัญชาสงั่ เทาน้ัน หรือให฿เปน็ ทา ทาํ ความเคารพตามลาํ พังท่ีไม
สามารถทาํ ทาวนั ทยหัตถโ หรือทาวันทยาวุธได฿ เชน เดินถือของผานผู฿บังคับบัญชาหรือ
ขณะถือของผบ฿ู งั คับบญั ชาผา นมาเป็นต฿น
ค่มู ือสง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสือวสิ ามัญ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 31
ค่มู อื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื วสิ ามัญปชร้นั ะมกัธายศมนศยี ึกบษตั ารปวที ิช่ี า4ชีพ 1
24 ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ 1
โอกาสท่ีจะแสดงความเคารพ มีดังต่อไปนี้
1. ตอธงชาติขณะท่ีชักข้ึนลง ธงประจํากองทหาร ธงคณะลูกเสือแหงชาติ ธงลูกเสือประจํา
จังหวัด ธงมหาราช และธงอ่ืนๆ ท่ีเป็นตัวแทนขององคโพระประมุขและสมเด็จ
พระบรมราชนิ นี าถและธงประจาํ พระบรมวงศานวุ งศโ ขณะทีเ่ ชิญผานไป
2. ในขณะบรรเลงเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงมหาฤกษโ เพลงมหาชัย
เพลงสรรเสรญิ เสือปูา เป็นต฿น
3. แดพ ระบาทสมเด็จพระเจ฿าอยูหัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศโช้ันผ฿ูใหญ
ผบบู้ังงคั คับบั บบัญญั ชาลกู เเสสอื ือ บิดามารดา ครู อาจารยโ ญาติผ฿ูใหญท่ีควรเคารพ นายทหารบก
นายทหารเรอื นายทหารอากาศ นายตาํ รวจ ทีแ่ ตงเคร่อื งแบบ
4. ลูกเสือตอลูกเสือด฿วยกันจะเป็นชาติเดียวกันหรือตางชาติ ขณะท่ีพบกันในคร้ังแรกของวัน
หนง่ึ ๆ เปน็ การแสดงวา เป็นพวกเดียวกันเปน็ พี่น฿องลูกเสอื ด฿วยกัน
รหสั ลกู เสอื
คําวา “รหัส” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให฿ความหมายคือ เครื่องหมายหรือ
สญั ญาณลบั ซึ่งรเ฿ู ฉพาะผท฿ู ีต่ กลงกนั ไว฿
รหัส จะเปน็ การแสดงด฿วยกริยา ทา ทาง ด฿วยเสียงหรอื เครอ่ื งหมายใดๆ กไ็ ด฿ ซึ่งให฿รู฿ให฿เข฿าใจซึ่ง
กันและกันในระหวา งพวกเดียวกัน
รหสั ของลกู เสอื เปน็ เครื่องหมายเฉพาะในวงการลกู เสือ ซึ่งลกู เสือรับรู฿และเข฿าใจความหมายซ่ึง
กันและกัน วัตถุประสงคโของการแสดงรหัสของลูกเสือก็เพื่อจะให฿ลูกเสือร฿ูและเข฿าใจวาเราเป็นพวก
เดยี วกนั
วธิ ีแสดงรหัสของลูกเสอื
การแสดงรหัสของลกู เสือ กระทําโดยยกแขนขวาข้ึนให฿ข฿อศอกชิดลําตัว หันฝูามือไปข฿าหน฿าสูง
เสมอไหล ให฿น้ิวหัวแมมือกับนิ้วก฿อยติดกันโดยใช฿นิ้วหัวแมมือทับน้ิวก฿อย อีกสามน้ิวที่เหลือคือ นิ้วช้ี
นิ้วกลาง นวิ้ นาง เหยยี ดขน้ึ ไปตรงๆ และติดกัน
นว้ิ ทัง้ สาม ความหมายถึงคาํ ปฏิญาณของลูกเสือ 3 ข฿อคอื
ขอ฿ 1. ข฿าจะจงรักภกั ดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยโ
ข฿อ 2. ข฿าจะชว ยเหลือผูอ฿ นื่ ทุกเมอ่ื
ข฿อ 3. ขา฿ จะปฏบิ ัติตามกฎของลูกเสอื
โอกาสทจ่ี ะแสดงรหัสของลกู เสอื
1. เมื่อลูกเสือกลาวคําปฏิญาณในพิธีปฏิญาณตน เชน พิธีรับเตรียมลูกเสือวิสามัญและใน
โอกาสทบทวนคาํ ปฏิญาณทกุ ครัง้
2. เม่ือพบกับลูกเสือในประเทศและตางประเทศ เป็นการรับร฿ูวาเป็นพวกเดียวกัน
(นอกเครือ่ งแบบกแ็ สดงรหสั ลกู เสอื ได฿)
หมายเหตุ การใชร฿ หัสเม่ือพบเพอ่ื นลูกเสอื ด฿วยกนั จะประกอบการสมั ผัสมอื ด฿วย
การจับมือแบบลกู เสือ
32 คมู่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศึกษา ลูกเสอื วสิ ามญั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 25
คปู่มรือะสกง่ าเสศรนิมยี แบลัตะพรวัฒชิ นาาชกีพิจก1รรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื วสิ ามัญ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1
2. เมื่อพบกับลูกเสือในประเทศและตางประเทศ เป็นการรับรู฿วาเป็นพวกเดียวกัน
(นอกเคร่อื งแบบกแ็ สดงรหสั ลกู เสอื ได)฿
หมายเหตุ การใชร฿ หสั เมือ่ พบเพ่ือนลูกเสือดว฿ ยกัน จะประกอบการสัมผสั มือด฿วย
การจบั มือแบบลกู เสอื
การจับมือเพ่ือแสดงความยินดีท่ีพบกัน ลูกเสือใช฿จับด฿วยมือซ฿ายและปฏิบัติตอกันเชนนี้ในหมู
ล3กู 2เสอื ทวว่ั ปคธิไูม่รปแี ะอื สกส(ดาใง่ ศนงเสนกทรียามิาบรแงตั จสลรับะังวพคิชมฒัามือชนใทีพาห่ัวก1฿ยไิจนื่ปกรมซรอืมงึ่ ไลซมกู ฿าเใยสชืออลทอูกักกเษสไะปือชแวีเขติลาใว฿ นจจสับับถดามนว฿ ือศยซึกมา฿ษอื ยาขขลวอกู าเง)สอือีกวสิฝาาู มยัญหนชั้นึง่ เมหธั มยมือศนึกกษับาปกีทา่ี ร4จับด฿วยมือ
ขวา และต฿องจับให฿กระชับแนน พอสมควรเป็นการถา ยทอดความรัก ความสนทิ สนม
ประวตั กิ ารจบั มอื
เมอ่ื ปี ค.ศ. 1895 ทานลอรดโ เบเดน โฟเอลลโ (บี.-พ.ี ) ไดถ฿ ูกสงไปเมอื งอาชันติ (Ashanti) ชนเผา
อาชันติเป็นชนเผาอันดุร฿ายเผาหน่ึง ชนเผาอาชันติมีพระเจ฿าแผนดินช่ือ เปรมเปฺ (Prempeh) มีอํานาจ
เด็ดขาดไดย฿ กกองทัพเขา฿ ไปกอ กวนกองทัพขององั กฤษเสมอ บี.พี. ได฿ใช฿กลอุบายล฿อม จนจับคิงสโเปรม
เปฺได฿ บี.พี. ได฿แสดงความจริงใจให฿ คิงสโเปรมเปฺ เห็นวา กองทัพอังกฤษท่ียกมาคร้ังนี้มาอยางมิตร ไม
ได฿มาอยา งศัตรู บี.พี. เขา฿ หา คงิ สโ เปรมเปฺ แตผ ู฿เดียวโดยปราศจากอาวุธ คิงสโ เปรมเปฺ จึงยอมจํานนแต
โดยดที ั้งสองผย฿ู งิ่ ใหญเ ผชญิ หน฿ากนั และยิ้มตอ฿ นรับกนั บ.ี พี. จึงย่ืนมอื ขวาออกไปให฿จับเพ่ือมิตรภาพ แต
คิงสโ เปรมเปไฺ มยอมจับ กลบั ย่ืนมือซา฿ ยออกไปให฿ บี.พี. จับและกลาววา “เราจะเป็นมิตรภาพกันควรจับ
ด฿วยมอื ซ฿ายเพราะเปน็ มอื ทีส่ ะอาด เปน็ มอื ทไี่ มไ ด฿จับอาวธุ ฆา ฟันกบั ใคร สว นมอื ขวาสกปรกเป็นมือท่ีจับ
อาวธุ ประหตั ประหารกัน” บ.ี พ.ี เหน็ ชอบดว฿ ยจงึ เปลย่ี นเปน็ จบั มือซ฿าย และบี.พี. ได฿นําการจับมือซ฿ายมา
ใช฿ในกจิ การลกู เสอื เป็นตน฿ มาจนถึงปัจจุบันน้ี
คตพิ จนข์ องลกู เสือ
คติพจนโ คอื ถ฿อยคาํ ส้ันๆ อันเป็นคติเตือนใจซ่ึงเป็นความจริง อันเป็นแบบอยางที่ดีที่ลูกเสือพึง
รกั ษา และนาํ มาใชเ฿ พื่อยึดถอื ปฏบิ ตั เิ ปน็ การกระต฿นุ เตอื นใจใหล฿ กู เสือระลกึ ถงึ หน฿าทีอ่ ันพึงกระทาํ
คตพิ จน์ของลกู เสอื มดี ังตอ่ ไปน้ี
คตพิ จน์ของลกู เสอื สารอง “ทาํ ดที ีส่ ดุ ” (Do Your Best) หมายความวา การทําเพื่อคนอื่น หรือ
เพื่อสวนรวมเป็นการทาํ ท่ดี ที ่ีสดุ
คตพิ จนข์ องลกู เสือสามัญ “จงเตรียมพร฿อม” (Be Prepared) หมายความวา ลูกเสือต฿องเป็นผู฿
ไมประมาท มีความรอบคอบ เตรียมพร฿อมอยูเสมอท้ังกาย ใจ ที่จะทําความดีเพ่ือสวนรวมท่ีจะปฏิบัติ
หน฿าที่ของตนในการชวยเหลือผ฿ูอ่ืนและกิจกรรมลูกเสือ ด฿วยความหวงใยโดยไมประมาทจนเกิดความ
เสยี หาย
คติพจน์ของลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ “มองไกล” (Look Wide) หมายความวา มองให฿เห็นเหตุผล
มองใหเ฿ ห็นคนอ่นื มองให฿เห็นสว นรวม มิใชม องแตต ัวเองหรอื ผลประโยชนขโ องตนเอง
คติพจนข์ องลกู เสือวสิ ามัญ “บริการ” (Service) หมายความวา เป็นการให฿ความชวยเหลือแก
ผูอ฿ นื่ แกส ว นรวม โดยไมห วงั ผลประโยชนใโ ดๆ ตอบแทน แตส ง่ิ ที่จะได฿จากการให฿บริการคือ การยกยอง
สรรเสรญิ จะทาํ ใหเ฿ กดิ ความภาคภมู ิใจ ลกู เสือวิสามญั ทกุ คนพึงยดึ มน่ั คติพจนโ “บรกิ าร”
คติพจน์ของลูกเสือทุกประเภท ได฿แก “เสียชีพอยาเสียสัตยโ” หมายความวา ลูกเสือจะต฿อง
รกั ษาสัตยโไว฿ยิ่งชวี ติ สัตยโแปลวา ความซื่อตรง จรงิ ใจ ชีพแปลวา ชีวติ ลูกเสอื เมอ่ื พดู อยา งไรแลว฿ ยอมไม
ละความสัตยโ แม฿จะถูกบังคับจนเป็นอันตรายถึงชีวิต ลูกเสือก็ไมละเว฿นความสัตยโ ยอมตายดีกวาจะละ
ความสัตยโ (ถอื สตั ยโในการประพฤติดี มคี ณุ ธรรม)
26 คมู่ ือส่งคเสู่มรือิมสแง่ ลเะสพรมิัฒแนลาะกพจิ ฒักรนรามกลจิูกกเสรือรทมักลษกู ะเสชือวี ิตทใักนษสะถชาีวนิตศใึกนษสาถปารนะศเภึกทษลากู ลเสูกอื เสวสิือาวมสิ ญัามชญั น้ั มชัธน้ั ยมศธั กึยษมาศปึกีทษ่ี า4ปที ี่ 4 33
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1 ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ 1
คาขวัญของลกู เสือ “จงบาํ เพ็ญประโยชนโทกุ วัน”
บทบาท หน้าทขี่ องลูกเสอื ภายในหมขู่ องลูกเสือ
ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมลกู เสือมกั จะปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเป็นหมู โดยถือวาหมูล กู เสือเปน็ หนวยรากฐาน
สําคัญในการดําเนินงานของกองลูกเสือ เป็นการสร฿างคานิยมให฿แกเด็กที่อยูในวัยที่เป็นลูกเสือวิสามัญ
สามารถนําไปใชป฿ ระโยชนโในการฝกึ อบรมในเรือ่ งหน฿าทแ่ี ละความรับผิดชอบไดเ฿ ป็นอยางดี
หมูลูกเสือตามปกติจะเป็นหนวยทํากิจกรรมที่เล็กที่สุดในหมูลูกเสือ หมูลูกเสือวิสามัญตาม
ขอ฿ บังคับคณะลูกเสอื แหงชาตวิ าดว฿ ยการปกครองหลกั สตู รและวิชาชีพพิเศษลูกเสือวิสามัญ (ฉบับท่ี 15)
พ.ศ.2529 กาํ หนดให฿มลี กู เสือวิสามัญหมูละ 4 – 6 คน รวมทัง้ นายหมูและรองนายหมูด฿วยและในกรณีที่
มีกิจกรรมพิเศษ อาจจดั ลกู เสือวสิ ามัญข้ึนเปน็ หนว ยหรอื หมเู ฉพาะกิจได฿
ตําแหนง ภายในหมู หมขู องลูกเสอื วิสามัญมจี ํานวน 4 – 6 คน แบงตําแหนงดงั ตอ ไปน้ี
ถ฿ามีจํานวน 6 คน ถ฿ามจี ํานวน 4 คน
1. นายหมู 1. นายหมู
2. พลาธกิ าร 2. พลาธิการ
3. คนครัว 3. คนครวั
4. คนหานํา้ 4. รองนายหมู
5. คนหาฟืน
6. รองนายหมู
ถ฿าเปน็ หมูเฉพาะกจิ มจี ํานวน 8 คน แบง ตาํ แหนงดงั ตอไปนี้
1. นายหมู
2. พลาธิการ
3. หวั หนา฿ คนครวั
4. ผ฿ชู ว ยคนครัว
5. คนหานํา้
6. คนหาฟนื
7. คนรับใช฿ทั่วไป
8. รองนายหมู
หมายเหตุ ตาํ แหนงตา งๆ ภายในหมู ผก฿ู าํ กบั ลกู เสือวสิ ามัญจะแตง ตงั้ นายหมนู นั้ โดยหารือ
ลกู เสือในหมนู น้ั และแตงตงั้ รองนายหมโู ดยหารือนายหมูของหมนู ้นั สาํ หรับตําแหนงอนื่ ให฿เลอื ก
กันตามความเหมาะสม โดยทาํ หน฿าทใ่ี นตําแหนง ตา งๆ เปน็ การถาวร 1 ภาคเรยี น หรอื 1 ปี
การศกึ ษาแลว฿ แตความเหมาะสม
หน้าท่ีภายในหมู่ลูกเสอื
1. นายหมูม ีหน฿าที่
1.1 เปน็ ผ฿นู ําในหมขู องตน
1.2 ฝึกอบรม ปกครอง ดแู ลและชวยเหลอื ลูกหมูใ หม฿ ีความรกั ความสามคั คี
34 คมู่ อื สง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลูกเสือวสิ ามญั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 27
คปมู่ รอื ะสก่งาเสศรนมิ ยี แบลัตะพรวฒั ิชนาาชกีพิจก1รรมลกู เสือทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื วิสามญั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 1
1.3 วางแผนงานกิจกรรมของหมู
1.4 เปน็ ตวั แทนหมูในการประชุมนายหมู
1.5 เปน็ ประธานทป่ี ระชุมในหมขู องตน
1.6 จดั การงานธรุ การ งานทะเบยี นของหมู
1.7 ชวยเหลอื และแบงเบางานของผก฿ู าํ กับลกู เสอื
2. รองนายหมมู ีหนา฿ ท่ชี วยเหลอื นายหมู และบางครงั้ ทําหนา฿ ทีแ่ ทนนายหมู และเปน็ กรรมการ
ประจาํ กอง
3. พลาธิการ มหี นา฿ ทีด่ ูแลการเจบ็ ไขข฿ องสมาชกิ เตรยี มอุปกรณกโ ารรกั ษาพยาบาลและดูแล
งานสุขาภบิ าลของหมู
4. หวั หน฿าคนครวั มีหนา฿ ที่รบั ผดิ ชอบเรอื่ งอาหาร และงานครัวของหมู
5. ผชู฿ วยคนครวั มหี นา฿ ท่ีชว ยหวั หนา฿ คนครวั ในเรอ่ื งอาหารและงานครวั
6. คนหาน้าํ มีหนา฿ ที่หาน้ําดมื่ และน้าํ ใช฿ ขุดหลมุ เปยี ก ทางระบายนา้ํ
7. คนหาฟืน มหี นา฿ ท่หี าฟนื ขุดหลุมแห฿ง และชว ยคนครวั ในเรอื่ งเตา
8. คนรับใชท฿ ่ัวไป มหี นา฿ ทีร่ บั ใชง฿ านทวั่ ไป ตามท่นี ายหมมู อบหมาย
หมายเหตุ หากมภี ารกจิ อนื่ ๆ ทม่ี ิไดก฿ ําหนดไว฿ ให฿นายหมมู อบหมายสมาชกิ คนใดคนหน่ึง
รบั ผิดชอบเป็นกรณไี ป
บทบาทของลูกเสือวิสามัญ
การท่จี ะสมัครเข฿าเป็นลูกเสือวิสามัญได฿นั้น จะต฿องมีอายุ 16 – 25 ปี หรือกําลังศึกษาอยูในช้ัน
มธั ยมศึกษาตอนปลาย หรือระดบั อาชีวศึกษา หรือระดบั อดุ มศึกษา โดยผท฿ู ่สี มคั รเข฿าเป็นลูกเสือวิสามัญ
จะเคยเป็นลูกเสือหรือไมเคยเป็นมากอนเลยก็ได฿ โดยเฉพาะเยาวชนท่ีเป็นสตรี จะสมัครเป็นเนตรนารี
วิสามัญ หรอื เป็นลกู เสอื วสิ ามัญได฿
ลูกเสือวิสามัญเป็นลูกเสือรุนโตที่สุดในจํานวนลูกเสือ 4 ประเภท ตามจุดมุงหมายของกิจการ
ลกู เสอื วสิ ามัญ เนน฿ ใหล฿ ูกเสอื วิสามญั ใชช฿ วี ิตกลางแจ฿ง ศึกษาดน฿ การอาชีพและให฿บรกิ ารแกผ฿ูอ่ืนโดยมีคติ
พจนโวา “บรกิ าร” (Service) ดงั นนั้ การบริการเปน็ เสมือนหัวใจของการเปน็ ลกู เสอื วิสามญั ลกู เสือวิสามัญ
จะตอ฿ งยึดม่ันการบริการดว฿ ยความเสยี สละและใหเ฿ กดิ ประโยชนโตอสวนรวมให฿มากทส่ี ุด
ความหมายของการบริการ
การบริการในความหมายของลูกเสือไมไดห฿ มายถงึ เป็นผรู฿ บั ใช฿ หรือคนงานอยางที่บางคนเข฿าใจ
การบรกิ ารในความหมายของลูกเสือวิสามัญน้ันปปรระะสสงงคคท์ โทจ่ี ่จี ะอบรมบม นสิ ยั และจิตใจใหล฿ ูกเสือวสิ ามัญรู฿จัก
เสยี สละชว ยเหลือและบําเพ็ญประโยชนแโ กผ ู฿อ่นื และสงั คม เปน็ การสร฿างนิสัยให฿ลูกเสือวิสามัญไมเห็นแก
ตวั พร฿อมท่จี ะเสียสละประโยชนโสว นตนให฿บรกิ ารแกบคุ คลอ่ืนหรือชมุ ชนทอ่ี าศัยอยู ไดร฿ ฿ูจักหาความร฿ูและ
ประสบการณโอันจะเปน็ ประโยชนโตอไปในอนาคต เมื่อลูกเสือวิสามัญเจริญเติบโตเป็นผ฿ูใหญจะสามารถ
ประกอบอาชพี อยใู นสังคมอยา งมคี วามสขุ เพราะรูจ฿ ักเสยี สละไมเอารัดเอาเปรียบคนอน่ื
การบริการและการพฒั นาชุมชน
ค่มู อื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลูกเสือวสิ ามัญ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 35
คู่มือส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื วิสามญั ปชร้นั ะมกัธายศมนศียึกบษัตารปวีทิชี่ า4ชีพ 1
28 ประกาศนียบัตรวชิ าชพี 1
ตัว พร฿อมท่ีจะเสียสละประโยชนสโ วนตนใหบ฿ ริการแกบ คุ คลอนื่ หรอื ชมุ ชนท่ีอาศยั อยู ได฿ร฿ูจักหาความร฿ูและ
ประสบการณอโ นั จะเปน็ ประโยชนตโ อไปในอนาคต เมื่อลูกเสือวิสามัญเจริญเติบโตเป็นผ฿ูใหญจะสามารถ
ประกอบอาชีพอยใู นสงั คมอยา งมคี วามสขุ เพราะร฿จู กั เสียสละไมเอารัดเอาเปรยี บคนอ่นื
การบรกิ ารและการพฒั นาชมุ ชน
วิสามัญ ดคงัอื ทกที่ าครรู่มดาือบาํ สเก่งนันเสินแรกิมลาแ฿วรลวตะา พากัฒมานคราตบกพิริจิกกจรานรรโม“ลคบูกือรเสิกหือาัวทรใัก”จษกขะาอชรวีงบติกใริจนิกกสาถรรารคนมวศลรึกูกคษเาําสนลือกูงึ วเถสิสงึ ือาสวมง่ิสิ ัตญามปอ ัญรดไะปังกชนนาน้ั ศี้ั้นมนัธบยี ยทบมัตบศรกึาวษทิชาาขปชอีพที งี่ 14ลูกเสือ35
1. การบริการตนเอง หมายความวาจะตอ฿ งชวยเหลือตนเองใหไ฿ ดเ฿ สียกอน การชว ยเหลือตวั เอง
คือการเตรียมความพร฿อมด฿านตางๆเชน ด฿านรางกาย จิตใจ หม่ันศึกษาหาความร฿ู และประสบการณโที่
แปลกใหม ในสภาพปัจจุบันลูกเสอื วิสามญั บางคนไดช฿ วยเหลือกจิ การเปน็ อยา งดีไดร฿ ับการยกยองชมเชย
แตถ า฿ ในเรื่องการศกึ ษาเลา เรียนมีปญั หาแสดงวาลกู เสอื วสิ ามัญคนน้ันยงั ต฿องเข฿าใจหลักการบริการดีพอ
การท่เี ราจะใหก฿ ารบรกิ ารแกผ฿อู นื่ ตวั เราตอ฿ งพรอ฿ มเสียกอน ดงั น้นั ลูกเสอื วิสามัญต฿องเตรียมความพร฿อม
ของตนเองเพื่อการบริการผ฿อู นื่ ตอไป
2. การบริการครอบครัว ครอบครวั เป็นหนว ยสังคมท่ีเล็กท่สี ดุ มีความรกั ความผกู พนั มีความ
อบอนุ เอ้อื อาทรกัน ลกู เสอื วสิ ามัญจึงควรชวยเหลือครอบครัวในดา฿ นตางๆ ที่สามารถทําได฿จนครอบครัว
เปน็ สุข แล฿วจงึ ใหบ฿ รกิ ารแกชมุ ชนและสังคม ลกู เสือวิสามัญตอ฿ งคํานงึ ถึงวาพ้ืนฐานท่ีสําคัญคือครอบครัว
ถา฿ ครอบครวั ยังมปี ัญหาไมมคี วามสุขอยาหวังเลยวา เราจะทําใหช฿ มุ ชนและสงั คมมคี วามสขุ
3. การบริการชุมชน ชมุ ชนในความหมายนหี้ มายถงึ สถานท่ี ทอ่ี ยใู กลช฿ ิดกบั เราเป็น็ ชมุ ชชนนทท่ีเรเ่ี ราา
อาศยั อยูเชน โรงเรียน วัด และสถานท่ีตางๆ ท่ีต้ังอยูในชุมชน การบริการชุมชนน้ัน ในฐานะที่เราเป็น
หนวยหน่ึงของชุมชน คงจะต฿องชว ยเหลือพฒั นาชมุ ชนที่เราอาศัยอยูให฿ดีที่สุดเทาที่กําลังความสามารถ
ของเราจะทาํ ได฿
4. การบรกิ ารสังคม สังคมในความหมายนห้ี มายถึงสังคมทัว่ ไปทมี่ ขี อบเขตกวา฿ งขวางกวาชมุ ชน
เชน สังคมในอําเภอ สังคมในจังหวัด การบริการสังคมน้ันนับวาเป็นงานที่กว฿างขวางพอสมควร บาง
กิจกรรมก็สามารถกระทําด฿วยตนเองได฿ บางกิจกรรมต฿องอาศัยความรวมมือรวมใจกันหลายฝูาย การ
บริการสังคมสวนใหญเ ปน็ การขอความชวยเหลือกิจกรรมตางๆ
หลักการสาคญั ในการใหบ้ รกิ ารลูกเสอื วสิ ามญั
1. บรกิ ารดว฿ ยความสมัครใจ คือเตม็ ใจทจ่ี ะให฿บริการไมมีผใู฿ ดบงั คบั ใหก฿ ระทาํ และบรกิ าร โดยไม
หวังผลประโยชนโตอบแทน สิ่งที่จะได฿รับตอบแทนในการให฿บริการคือ เกิดความสุขความภาคภูมิใจใน
การให฿บริการ
2. บรกิ ารสิ่งที่เปน็ ความตอ฿ งการของผรู฿ ับบรกิ าร หมายถึง การบรกิ ารสิ่งใดแล฿วแตจะต฿อง
สอบถามความตอ฿ งการของผ฿ูรับบริการวา มีความประสงคโจะให฿บริการหรอื ไม ในบางครั้งเราบริการให฿แต
ผู฿รับบรกิ ารไมพ งึ ประสงคโ กอ็ าจจะทาํ ใหเ฿ กดิ ปญั หาได฿
3. บรกิ ารในสิง่ ที่มคี วามจาํ เป็นตอ สว นรวม เชน ชวยเหลือในการจราจร การทําความสะอาดวัด
การกาํ จัดผักตบชวา เป็นตน฿
4. บริการตามความสามารถของตนที่สามารถจะทําได฿ คือ ต฿องทราบขีดความสามารถของ
ตนเองวามีความสามารถเพียงใด และในการให฿บริการทุกคร้ังต฿องทําให฿เต็มความสามารถและดีที่สุด
เทาที่จะทําไดท฿ ุกครัง้
ลูกเสือวสิ ามัญควรหาโอกาสให฿บริการเทา ทส่ี ามารถจะทาํ ได฿ โดยคํานงึ ถึงหลกั การทก่ี ลาวไว฿
ขา฿ งตน฿ การบริการ คอื งานของลูกเสอื วสิ ามญั
36 คคูม่ ่มูอื ือสง่สเง่สเรสมิ รแิมลแะลพะัฒพนฒั านกาจิ กจิรรกมรลรมกู เลสูกอื เทสักือษทะกั ชษีวะติ ชในวี ติสถในานสศถึกาษนาศึกปษระาเภลทกู ลเสกู อืเสวอื สิ วาสิ มาัญมญั ชชน้ั ัน้ มมัธัธยยมมศศกึึกษาปีท่ี 4 29
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1 ประกาศนียบัตรวิชาชพี 1
แบบทดสอบ ประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 1
คาสงั่ ใหเ฿ ขยี นเครอื่ งหมายกากบาท ( ) ทับตวั อักษรหน฿าขอ฿ คาํ ตอบท่ีถกู ทสี่ ุด
1. การลกู เสอื โลกได฿เรมิ่ ขึ้นเมื่อปีใด
ก. พ.ศ. 2440 ข. พ.ศ. 2445 ค. พ.ศ. 2450 ง. พ.ศ. 2455
2. กองลกู เสอื ประเภทแรกทไ่ี ด฿รบั การจดั ต้งั คอื
ก. กองลกู เสอื สาํ รอง ข. กองลูกเสือสามัญ
ค. กองลกู เสือสามัญรนุ ใหญ ง. กองลูกเสอื วิสามญั
3. พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา฿ เจา฿ อยหู ัว ทรงพระกรุณาพระราชทานกาํ เนิดลกู เสือไทย เมื่อปีใด
ก. พ.ศ. 2445 ข. พ.ศ. 2450
ค. พ.ศ. 2454 ง. พ.ศ. 2455
4. กองลูกเสอื แหง แรกในประเทศไทย ต้งั ข้ึนทใ่ี ด
ก. โรงเรยี นวชิราวธุ วทิ ยาลัย ข. โรงเรียนพระปฐมวิทยาลยั
ค. โรงเรยี น ภ.ป.ร. ราชวทิ ยาลยั ง. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลยั
5. การฝกึ อบรมผู฿บังคบั บัญชาลกู เสอื วสิ ามัญครั้งแรกในประเทศไทยจดั ขนึ้ ณ ที่ใด
ก. เกาะลอยสวนลมุ พีนี ข. พระราชวังสราญรมยโ
ค. พระราชวังสนามจนั ทรโ ง. คายลกู เสอื วชิราวธุ
6. เข็มขัดลกู เสือวสิ ามญั เหลา อากาศมสี อี ะไร
ก. สกี ากี ข. สดี าํ
ค. สเี ทา ง. สีนาํ้ ตาล
7. เครื่องหมายสังกัดของลกู เสอื วิสามัญตดิ ที่ใด
ก. อกเสอื้ ด฿านซา฿ ย ข. อกเสอ้ื ด฿านขวา
ค. ไหลเ สอื้ ดา฿ นซา฿ ย ง. ไหลเสื้อด฿านขวา
8. การบรกิ ารของลูกเสอื วิสามัญควรบริการในข฿อใดกอน
ก. บรกิ ารตนเอง ข. บริการครอบครัว
ค. บริการชมุ ชน ง. บริการสงั คม
9. ขอ฿ ใด ไมใ่ ช่ หลกั การในการใหบ฿ ริการของลกู เสือวิสามัญ
ก. บริการในสิง่ ทจี่ ําเป็น ข. บรกิ ารด฿วยความสมคั รใจ
ค. บริการตามกําลงั ความสามารถ ง. บริการตามความตอ฿ งการของตนเอง
10. ข฿อใด ไม่ใช่ การบาํ เพ็ญประโยชนตโ อ ชุมชนและสังคมของลกู เสือ
ก. การทาํ ความสะอาด ข. การซอมแซมสถานท่ี
ค. การรณรงคโทางการเมือง ง. การอนุรักษโทรัพยากรธรรมชาติ
คมู่ ือสง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลูกเสอื วสิ ามญั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 37
คูม่ ือสง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามญั ปชร้ันะมกธัายศมนศียกึ บษัตารปวีทชิ ่ี า4ชีพ 1
30 ประกาศนยี บตั รวิชาชพี 1
1. ค 2. ข เฉลยแบบทดสอบ 4.ก 5. ก
6. ข 7. ง 3. ค 9. ง 10. ค
8. ก
เร่อื งส้ันทเ่ี ปน็ ประโยชน์ วนั นที้ ่ีรอคอย
ศริ ิเป็นลกู เสอื สํารอง กําลังเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เขาเห็นลูกเสือรุนพ่ีไปเดินทางไกลและ
แรมคนื ทช่ี ายทุงขา฿ งๆ บ฿านของเขา ลกู เสอื รนุ พ่ีเดินทางไปถึงทแ่ี รมคืน ชว ยกันกางเต็นทโ จัดที่พัก จัดท่ี
หุงหาอาหารกันอยางสนุกสนาน คนท่ีรับผิดชอบกางเต็นทโก็ต้ังใจกางอยางรวดเร็ว เมื่อผู฿กํากับลูกเสือ
เดนิ มาตรวจดคู วามเรียบร฿อยก็เสนอแนะใหห฿ มลู ูกเสอื ชวยกนั ทํารองน้ําเล็ก ๆ รอบเต็นทโ เพราะถ฿ามีฝน
ตกนาํ้ ก็จะได฿จะไดไ฿ หลลงรองนา้ํ นน้ั และตอนกลางคืนใหน฿ ําลูกมะนาววางในเต็นทโปอฺ งกันสัตวโรา฿ ย
ศิรยิ ืนดลู กู เสือ เหลา นนั้ ดว฿ ยความหวงั วา ปหี น฿าเขาเป็นลูกเสอื สามัญเขาจะได฿มีโอกาสกางเต็นทโ
แรมคนื เชน นน้ี บั วนั รอคอยวาถ฿าวนั น้ันมาถึงเขาคงจะสามารถกางเต็นทไโ ด฿
เรอ่ื งนีส้ อนให้รวู้ ่า การรอคอยอยางมคี วามหวงั ยอมทาํ ใหเ฿ กดิ พลงั ทจี่ ะทาํ ดี
ความสาคญั ในสาสน์ ฉบับสุดทา้ ยของ บี-พี
น.ส.จุฑามาส ชุมเมอื งปัก ผ฿ูแตง
ครพู รศักดิเ์ ปน็ ผกู฿ ํากบั ลูกเสอื วิสามัญท่มี ีความมุงมน่ั ในกิจการลูกเสือ ต้ังใจถายทอดความรู฿และ
ประสบการณโให฿แกลูกเสือท่ีตนรับผิดชอบ เขายึดถือความสําคัญในสาสโนฉบับสุดท฿ายของ บี-พี ผ฿ูให฿
กาํ เนดิ ลูกเสือโลกท่ีเขียนถึงลูกเสือ นํามาให฿ลูกเสือได฿เรียนร฿ูและปฏิบัติตาม ข฿อแรกของสาสโนกลาววา
“จงทําตนให฿มอี นามัยดีและแข็งแรงในขณะทเี่ ป็นเด็ก” ดงั นน้ั ครูพาศักดิจ์ งึ ทําตนเปน็ แบบอยางที่ดีในการ
ออกกําลงั กายอยา งสมํา่ เสมอ หลังเลิกเรยี นครูพรศกั ดิ์และลูกศิษยโกลุมหน่ึงจะเลนฟุตบอลด฿วยกันเสมอ
สทิ ธชิ ยั เป็นหนง่ึ ในลกู ทม่ี ารวมกจิ กรรมอยางตอ เนือง รา งกายก็แขง็ แรงฟตุ บอลเปน็ กีฬาที่เลนเป็นทมี
ทําให฿สิทธิชัยร฿ูจักผู฿คนมากขึ้นร฿ูวาเมื่อไรจะพูดอะไรทําอะไร รู฿จักการให฿อภัย การรอคอย และการให฿
โอกาสแกผู฿อื่น ครพู รศกั ด์ิสงั เกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีท้ังด฿านรางกายและจิตใจของสิทธิชัย ครูพา
ศักด์ิก็ย่ิงเห็นด฿วยกับสาสโนฉบับสุดท฿ายข฿อน้ีเป็นอยางยิ่ง ร฿ูสึกขอบคุณทาน บี-พี ที่ให฿ส่ิงท่ีดีงามแก
เยาวชนรนุ หลังไดอ฿ ยา งเปน็ อมตะ
เรื่องนส้ี อนใหร้ ้วู ่า ตวั อยา งและคาํ สอนทดี่ ี มคี ณุ คาตอผู฿ให฿ความศรทั ธาเสมอ
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื วิสามัญชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4, ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ(ปวช.1)
38 คมู่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ลูกเสือวสิ ามัญ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 31
คปู่มรือะสกง่ าเสศรนิมียแบลัตะพรวฒั ชิ นาาชกีพิจก1รรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื วสิ ามัญ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1
เยาวชนรนุ หลังไดอ฿ ยางเป็นอมตะ
เร่ืองนีส้ อนให้ร้วู ่า ตัวอยา งและคําสอนทดี่ ี มคี ณุ คา ตอ ผ฿ใู ห฿ความศรทั ธาเสมอ
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือวสิ ามัญชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4, ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.1)
หน3ว่ 8ยที่ 2คกู่มือิจสก่งาเสรรขมิ อแลงะกพาัฒรนลากกู ิจเกสรือรมแลลกู ะเสบอื ททกับษาะทชีวขติ อในงสตถนานเอศึกงษทาี่เปลกู็นเสลอื ูกวเสิ สามอื ัญวสิ ชาน้ั มมัญธั ยมศึกษาปีที่ 4
แผนการจปดั รกะกจิ ากศนรยีรบมตั ทรว่ี 3ชิ าชกีพิจก1 ารของคณะลกู เสือไทยและลูกเสอื โลก
เวลา 2 ชว่ั โมง
1. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1.1 ลกู เสือสามารถอธิบายกจิ การและวิธกี ารดาํ เนนิ งานของคณะลูกเสือแหงชาตไิ ด฿
1.2 ลูกเสือสามารถอธบิ ายกจิ การขององคโการลกู เสือโลกได฿
2. เนอ้ื หา
2.1 กิจการของคณะลกู เสอื แหง ชาติ
2.2 กิจการขององคกโ ารลูกเสือโลก
2.3 ความสัมพันธรโ ะหวางลกู เสอื นานาชาติ
3. สอื่ การเรียนรู้
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 ใบความร฿ู
3.3 ภาพประกอบ เชน พระบรมฉายาลกั ษณโของพระบาทสมเด็จพระเจ฿าอยหู ัว ทรงฉลอง
พระองคดโ ว฿ ยชุดลูกเสอื ภาพทเ่ี กีย่ วกับกจิ การคณะลกู เสอื แหง ชาติและลูกเสอื โลก ฯลฯ
3.4 แบบทดสอบ
3.5 เรอื่ งส้นั ทเ่ี ป็นประโยชนโ
4. กจิ กรรม
4.1 พธิ เี ปดิ ประชุมกอง (ชกั ธงขนึ้ สวดมนตโ สงบนง่ิ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง “ในหมูลกู เสือ”
4.3 กิจกรรมตามจุดประสงคกโ ารเรียนร฿ู
1) นําเข฿าสบู ทเรยี นโดยนําพระบรมฉายาลกั ษณโพระบาทสมเดจ็ พระเจา฿ อยูหัวฉลอง
พระองคโชุดลกู เสอื โลก มาให฿ผ฿เู รียนชม แล฿วตั้งคําถามวา “พระองคโทรงดาํ รงตาํ แหนง ใดในกิจการลกู เสอื ”
2) ผก฿ู ํากบั ลกู เสอื บรรยายกิจการของคณะลูกเสอื แหงชาตปิ ระกอบพรอ฿ มแสดงโครงสรา฿ ง
ประกอบ
3) ใหล฿ ูกเสือรว มรอ฿ งเพลงทม่ี คี วามเกยี่ วข฿องกบั เน้ือหา โดยผูก฿ าํ กบั ลูกเสอื ร฿องเพลงใหฟ฿ ัง
เปน็ ตัวอยา งแล฿วให฿ลกู เสอื รอ฿ งตาม
4) ผ฿กู าํ กับลูกเสอื บรรยายกจิ การขององคกโ ารลกู เสอื โลกและความสมั พนั ธโระหวา งลูกเสือ
นานาชาติ
5) ผ฿ูกาํ กับลกู เสอื ให฿ผู฿เรียนรวมรอ฿ งเพลงที่มคี วามเกย่ี วขอ฿ งกับเนือ้ หา โดยผ฿กู าํ กบั ลกู เสือ
รอ฿ งเพลงใหฟ฿ งั เป็นตัวอยา ง แลว฿ ใหล฿ กู เสอื รอ฿ งตาม
6) สรุปบทเรยี นโดยใหล฿ กู เสืออธบิ ายกิจการของคณะลูกเสอื แหง ชาติ และลกู เสอื ไทยตาม
ความเขา฿ ใจ แลว฿ ผกู฿ าํ กับลกู เสอื สอนเสริมสว นทย่ี งั ไมส มบรู ณโ
7) ผกู฿ ํากับลกู เสอื มอบหมายงานให฿ลูกเสอื ทดสอบตามแบบทดสอบ
32 คมู่ ือส่งคเสมู่ รือิมสแง่ ลเะสพรมิัฒแนลาะกพจิ ัฒกรนรามกลจิูกกเสรือรทมักลษกู ะเสชือีวติทใักนษสะถชาีวนิตศใกึ นษสาถปารนะศเภึกทษลากู ลเสูกือเสวสิือาวมสิ ัญามชัญน้ั มชัธัน้ ยมศัธึกยษมาศปึกที ษี่ า4ปที ่ี 4 39
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 1
4.4 ผ฿ูกํากับลกู เสือเลา เร่ืองสนั้ ท่ีเปน็ ประโยชนโ
4.5 พธิ ีปิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธงลง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
5.1 สงั เกตความรว มมือในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
5.2 ตรวจผลการแบบทดสอบหลงั เรยี น
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 3
เพลง
ในหม่ลู กู เสอื
ในหมูล กู เสอื ทเี่ รารว มอยู ตางคนตา งรก฿ู นั ดีวาหน฿าที่ทุกอยาง
ต฿องชวยกนั ทาํ ทาํ ไมเ ว฿นวาง งานทุกอยา ง งานทุกอยา ง จะเสร็จโดยงา ยดาย
พี่น้องลูกเสอื
เราเปน็ ลูกเสือ ตอ฿ งชวยเหลือกนั และกัน
ทํางานอะไร ตอ฿ งเข฿าไปชว ยกัน (ซา้ํ ) เพ่อื ความสัมพันธโ
มนี ํา้ ใจไมตรี อยา ทาํ เมนิ เฉย นง่ิ อยูเลย ไมด ี
ตอ฿ งชว ยกันซี พน่ี อ฿ งลูกเสือชวยกนั (ซา้ํ 2 ครง้ั )
40 คู่มือสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลูกเสอื วสิ ามญั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 33
คป่มู รอื ะสก่งาเสศรนมิ ียแบลัตะพรวฒั ิชนาาชกีพจิ ก1รรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามญั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1
ใบความรู้
กจิ การของคณะลกู เสือแห่งชาติ
1.1 คณะลูกเสือแหงชาติ ประกอบดว฿ ย ลูกเสือท้ังปวง ผ฿บู งั คบั บญั ชาลกู เสอื ผ฿ูตรวจการลกู เสอื
กรรมการลกู เสอื และเจ฿าหนา฿ ที่ลูกเสอื
1.2 การดําเนินงานของคณะลูกเสอื แหงชาติ
1.2.1 สภาลูกเสอื แหงชาติ มีนายกรัฐมนตรีเปน็ สภานายก มีอาํ นาจหน฿าที่วางนโยบายและ
พจิ ารณา รายงานประจาํ ปขี องคณะลูกเสอื แหงชาติ ใหค฿ าํ แนะนาํ ในการปฏิบตั งิ านของ
คณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ
1.2.2 คณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติ มรี ัฐมนตรีวา การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารทาํ หนา฿ ที่
ประธานคณะกรรมการฯ มีอาํ นาจหน฿าท่ดี ําเนนิ การตามวตั ถปุ ระสงคขโ องคณะลกู เสอื
แหง ชาติ และ ตามนโยบายของสภาลกู เสอื แหง ชาติ จัดใหม฿ กี ารฝกึ อบรมและการชุมนมุ
ลูกเสอื ผ฿บู ังคบั บัญชาลูกเสือจดั การทรัพยสโ นิ ทาํ รายงานประจําปี วางระเบยี บแบบแผน
กาํ หนดใหม฿ ี สํานกั งานคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ เป็นตน฿
1.2.3 คณะกรรมการลกู เสอื จังหวดั มีผ฿ูวา ราชการจังหวดั ทาํ หนา฿ ที่ ประธานกรรมการฯ มอี ํานาจ
หนา฿ ทีส่ ง เสริมกจิ การลูกเสือของจงั หวัด พิจารณารายงานประจาํ ปขี องลกู เสือจงั หวัด ให฿
คาํ แนะนาํ ในการปฏบิ ตั งิ านลกู เสือ กาํ หนดให฿มสี าํ นกั งานคณะกรรมการลูกเสอื จังหวดั เปน็ ตน฿
คูม่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื วสิ ามญั ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 41
ค่มู ือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื วสิ ามัญปชรั้นะมกธัายศมนศียึกบษตั ารปวที ิชี่ า4ชีพ 1
34 ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี 1
พระราชบัญญตั ิ
ลูกเสือ
พ.ศ. 2551
ภมู พิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ฿ ว฿ ณ วนั ท่ี 26 กมุ ภาพนั ธโ พ.ศ. 2551
เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา฿ ฯ
ใหป฿ ระกาศวา
โดยที่เปน็ การสมควรปรบั ปรุงกฎหมายวา ดว฿ ยลกู เสอื
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล฿า ฯ ให฿ตราพระราชบญั ญตั ขิ ึ้นไวโ฿ ดยคําแนะนาํ และยนิ ยอมของ
สภานิตบิ ัญญัตแิ หง ชาติ ดงั ตอ ไปนี้
มาตรา 1 พระราชบญั ญตั ินเี้ รยี กวา “พระราชบัญญัตลิ กู เสอื พ.ศ. 2551”
มาตรา 2 พระราชบญั ญัตนิ ี้ให฿ใชบ฿ ังคบั ตงั้ แตวันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา
เป็นตน฿ ไป
มาตรา 3 ให฿ยกเลกิ
(1) พระราชบญั ญัติลูกเสือ พ.ศ. 2507
(2) พระราชบัญญตั ิลกู เสือ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2509
(3) พระราชบญั ญัติลกู เสือ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2528
(4) พระราชบญั ญัตลิ ูกเสอื (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2530
มาตรา 4 ในพระราชบัญญตั ิน้ี
“ลูกเสอื ”หมายความวา เดก็ และเยาวชนทัง้ ชายและหญงิ ที่สมคั รเขา฿ เป็นลกู เสอื ทงั้ ใน
สถานศึกษาและนอกสถานศึกษา สวนลกู เสอื ทเี่ ปน็ หญิงใหเ฿ รยี กวา “เนตรนาร”ี
“บคุ ลากรทางการลูกเสอื ”หมายความวา ผู฿บงั คบั บัญชาลกู เสอื ผตู฿ รวจการลกู เสือ กรรมการ
ลูกเสือ อาสาสมคั รลกู เสอื และเจ฿าหน฿าที่ลกู เสอื
“รฐั มนตรี”หมายความวา รัฐมนตรผี ฿รู กั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี
มาตรา 5 ให฿รัฐมนตรีวา การกระทรวงศึกษาธกิ ารรกั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ี้ และใหม฿ ี
อาํ นาจออกกฎกระทรวง เพอ่ื ปฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั ินี้
กฎกระทรวงนน้ั เมอื่ ไดป฿ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว฿ ให฿ใช฿บงั คบั ได฿
42 คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือวสิ ามญั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ 1
คมู่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื วสิ ามญั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 35
ประกาศนียบัตรวิชาชพี 1
หมวด 1
บททั่วไป
มาตรา 6 ให฿มคี ณะลกู เสอื แหง ชาติ ประกอบดว฿ ย บรรดาลกู เสอื ท้ังปวงและบคุ ลากร
ทางการลกู เสือ
มาตรา 7 พระมหากษัตริยทโ รงเปน็ ประมุขของคณะลกู เสอื แหงชาติ
มาตรา 8 คณะลกู เสือแหง ชาติ มวี ัตถุประสงคเโ พอื่ พัฒนาลกู เสอื ทั้งทางกาย สติปัญญา
จติ ใจ และศลี ธรรม ให฿เป็นพลเมอื งดี มคี วามรับผิดชอบ และชว ยสรา฿ งสรรคโสงั คมให฿เกดิ ความสามคั คี
และมคี วามเจริญก฿าวหนา฿ ทัง้ นี้ เพอื่ ความสงบสุข และความม่ันคงของประเทศชาตติ ามแนวทาง
ดงั ตอ ไปน้ี
(1) ให฿มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจาํ เชอ่ื ฟงั และพง่ึ ตนเอง
(2) ใหซ฿ อื่ สตั ยสโ จุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผู฿อนื่
(3) ให฿ร฿จู ักบาํ เพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชนโ
(4) ใหร฿ ู฿จักทําการฝีมอื และฝกึ ฝนให฿ทาํ กจิ การตา ง ๆ ตามความเหมาะสม
(5) ใหร฿ ฿ูจักรกั ษาและสงเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม และความม่นั คงของประเทศชาติ
มาตรา 9 ให฿กระทรวงศกึ ษาธิการ มหี น฿าทสี่ ง เสริมและสนับสนุนงานของคณะลูกเสอื
แหงชาตเิ พ่ือให฿บรรลุวัตถปุ ระสงคโของคณะลูกเสือแหง ชาติ รวมทงั้ สงเสรมิ และสนบั สนนุ
การดาํ เนินการของสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ สาํ นักงานลกู เสอื จงั หวดั สาํ นักงานลูกเสอื เขตพน้ื ที่
การศกึ ษาสถานศกึ ษาและหนว ยงานอ่นื ท่เี กยี่ วข฿อง เพือ่ ให฿การจดั กิจกรรมลกู เสือเปน็ ไปอยา งท่วั ถึงและ
มีประสิทธภิ าพ
มาตรา 10 ให฿กรรมการสภาลูกเสือไทย กรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาติ กรรมการลูกเสือ
จงั หวดั และกรรมการลกู เสอื เขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา ไดร฿ ับเบี้ยประชุมและคา ตอบแทนอน่ื ตามระเบียบ
ทีก่ ระทรวงการคลงั กาํ หนดโดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี
หมวด 2
การปกครอง
สว นที่ 1
สภาลูกเสือไทย
มาตรา 11 ใหม฿ ีสภาลูกเสือไทย ประกอบด฿วย
(1) นายกรฐั มนตรี เปน็ สภานายก
(2) รองนายกรัฐมนตรี เปน็ อปุ นายก
(3) กรรมการโดยตาํ แหนง ไดแ฿ ก รัฐมนตรวี าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรวี า การ
ค่มู อื สง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลูกเสือวสิ ามญั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 43
คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามัญปชร้ันะมกัธายศมนศยี ึกบษัตารปวที ชิ ี่ า4ชีพ 1
36 ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี 1
กระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย ปลัดสาํ นกั นายกรัฐมนตรี ปลดั กระทรวง
ศกึ ษาธิการ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและ
ความมนั่ คงของมนษุ ยโ ผู฿บัญชาการทหารสงู สดุ ผ฿ูบญั ชาการทหารบก ผ฿บู ัญชาการทหารเรอื
ผู฿บญั ชาการทหารอากาศ ผบู฿ ัญชาการตํารวจแหงชาติ เลขาธกิ ารสภาการศึกษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการ
การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เลขาธกิ ารสภากาชาดไทย อธบิ ดกี รมการปกครอง อธิบดกี รมสง เสรมิ การปกครองทอ฿ งถน่ิ
ผ฿วู าราชการกรงุ เทพมหานคร ผ฿วู า ราชการจงั หวดั และผ฿ูอาํ นวยการศูนยปโ ฏบิ ัติการลกู เสอื ชาวบา฿ น
(4) กรรมการผ฿ูทรงคุณวฒุ ิจาํ นวนไมเกินแปดสบิ คนซงึ่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล฿า ฯ แตงตั้ง
ตามพระราชอธั ยาศยั
ให฿เลขาธกิ ารสาํ นักงานลูกเสือแหง ชาติ เปน็ กรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการและผู฿ชวย
เลขาธิการสาํ นกั งานลกู เสือแหง ชาติ เปน็ ผช฿ู ว ยเลขานกุ าร
สภาลกู เสือไทยอาจมสี ภานายกกิตติมศกั ด์ิ อปุ นายกกติ ตมิ ศักดิ์ และกรรมการกิตติมศกั ด์ิ
ซึง่ จะไดท฿ รงพระกรุณาโปรดเกล฿า ฯ แตง ต้งั
มาตรา 12 สภาลกู เสือไทยมีอาํ นาจหน฿าที่ ดังตอ ไปน้ี
(1) วางนโยบายเพอื่ ความม่นั คงและความเจรญิ กา฿ วหนา฿ ของคณะลกู เสือแหงชาติ
(2) ให฿คําแนะนาํ ในการปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการบริหารลกู เสือแหง ชาติ
(3) พิจารณารายงานประจําปขี องคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาติ
มาตรา 13 กรรมการผ฿ทู รงคณุ วฒุ ติ ามมาตรา 11 (4) มวี าระการดํารงตําแหนงคราวละสีป่ ี
นับแตว ันท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกล฿า ฯ แตงตั้ง และเม่อื พน฿ จากตําแหนงอาจทรงพระกรุณาโปรดเกลา฿ ฯ
แตง ต้งั อีกได฿
มาตรา 14 นอกจากการพน฿ จากตาํ แหนงตามวาระตามมาตรา 13 กรรมการผูท฿ รงคุณวุฒิ
ตามมาตรา 11 (4) พน฿ จากตาํ แหนง เมอ่ื
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) เป็นบคุ คลลม฿ ละลาย
(4) เป็นคนไรค฿ วามสามารถหรือคนเสมอื นไรค฿ วามสามารถ
(5) ได฿รับโทษจําคุกโดยคาํ พิพากษาถงึ ทีส่ ุดใหจ฿ าํ คุก
สว นที่ 2
คณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติและสาํ นกั งานลูกเสอื แหงชาติ
มาตรา 15 ใหม฿ คี ณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาตซิ ง่ึ เป็นองคกโ รบริหารของคณะลูกเสอื
แหง ชาติ ประกอบดว฿ ย
(1) รฐั มนตรวี า การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เปน็ ประธานกรรมการ
44 คู่มอื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื วสิ ามัญ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 37
คปมู่ รอื ะสก่งาเสศรนมิ ียแบลตัะพรวฒั ชิ นาาชกีพจิ ก1รรมลูกเสอื ทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื วสิ ามัญ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนียบัตรวชิ าชพี 1
(2) กรรมการโดยตาํ แหนง ได฿แก ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ ารและปลดั กระทรวงมหาดไทย
เปน็ รองประธานกรรมการ เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการสภากาชาดไทย
ผอ฿ู าํ นวยการสํานกั บริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน ผูอ฿ ํานวยการสํานกั บริหารงานคณะกรรมการ
สง เสริมการศกึ ษาเอกชน และผอ฿ู ํานวยการศูนยปโ ฏิบัติการลกู เสอื ชาวบ฿าน
(3) กรรมการผ฿ทู รงคุณวุฒิจํานวนไมเ กนิ สบิ หา฿ คนซง่ึ สภานายกสภาลกู เสอื ไทยแตง ตงั้ โดย
คําแนะนําของกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหง ชาตติ าม (1) และ (2) ซ่งึ ในจํานวนนตี้ ฿องมาจากภาคเอกชน
ไมนอ฿ ยกวากง่ึ หนึง่
ให฿เลขาธกิ ารสาํ นกั งานลูกเสือแหง ชาติ เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร รองเลขาธิการและผู฿ชว ย
เลขาธิการสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ เป็นผ฿ชู วยเลขานกุ าร
มาตรา 16 กรรมการผท฿ู รงคุณวุฒติ ามมาตรา 15 (3) มีวาระการดํารงตําแหนง คราวละสี่ปี
และอาจได฿รบั แตงตงั้ อีกได฿ แตจะแตง ต้ังใหด฿ าํ รงตําแหนงติดตอ กันเกนิ สองวาระมไิ ด฿
ในกรณที ี่กรรมการตามวรรคหนึง่ พน฿ จากตาํ แหนง กอนครบวาระ ใหด฿ ําเนนิ การแตงต้ัง
กรรมการใหมภ ายในเกา฿ สบิ วนั นับแตวนั ทก่ี รรมการพน฿ จากตาํ แหนง และใหผ฿ ซู฿ ึง่ ไดร฿ บั แตง ตง้ั อยูใน
ตาํ แหนง เพยี งเทา วาระทเี่ หลืออยขู องผ฿ซู ึ่งตนแทน แตถ฿าวาระการดาํ รงตาํ แหนง เหลืออยนู ฿อยกวา
หน่งึ ร฿อยแปดสิบวนั จะไมดําเนินการแตง ตง้ั แทนกไ็ ด฿
ใหน฿ ําบทบญั ญัตมิ าตรา 14 มาใช฿บังคบั แกก ารพ฿นจากตําแหนงของกรรมการตามวรรคหนึ่ง
โดยอนุโลม
มาตรา 17 คณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหงชาตมิ ีอํานาจหนา฿ ท่ี ดังตอไปน้ี
(1) ดําเนินการตามวัตถุประสงคโของคณะลูกเสอื แหง ชาตแิ ละตามนโยบายของสภาลกู เสือไทย
(2) สง เสริมความสมั พนั ธกโ บั คณะลกู เสอื นานาชาติ
(3) สนับสนนุ และสง เสรมิ ใหม฿ กี ารพัฒนาบคุ ลากรทางการลูกเสอื
(4) สนบั สนนุ ให฿มกี ารจดั กจิ กรรมอยางตอ เน่ือง
(5) จัดการทรัพยสโ ินของสาํ นักงานลกู เสอื แหงชาติ
(6) ใหค฿ วามเหน็ ชอบในการลงทนุ เพอ่ื ประโยชนโของสาํ นักงานลกู เสือแหง ชาติ
((77))ออออกกขขอ้ อ฿ บบงั ังคคบั ับขขอองงคคณณะกะกรรมรมกการาบรบรหิริหาราลรกูลเกู สเอืสแือหแง่หชง าชตาติ ตาิตมาทมร่ี ทะีร่บะุไบวุไใ้ นว฿ใพนรพะราะชราบชญั บญญั ตั ญนิ ตั้ี ิน้ี
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(8) วางระเบียบและแนวทางปฏิบัตเิ กี่ยวกับกจิ การลกู เสอื
(9) จัดทํารายงานประจาํ ปีเสนอสภาลกู เสอื ไทยพิจารณาตามมาตรา 12 (3)
(10) แตงตง้ั ทีป่ รึกษาคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหงชาติ
(11) แตง ตัง้ คณะอนุกรรมการเพือ่ พิจารณาหรอื ปฏิบตั ิการตามท่คี ณะกรรมการบริหารลกู เสือ
แหง ชาตมิ อบหมาย
(12) กํากับดูแล สนบั สนนุ และสงเสริมกจิ การลกู เสือชาวบา฿ น
คู่มอื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลูกเสอื วสิ ามัญ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 45
คู่มอื สง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือวิสามญั ปชรั้นะมกัธายศมนศยี กึ บษัตารปวที ชิ ี่ า4ชีพ 1
38 ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ 1
(13) จัดตงั้ ตําแหนงกิตตมิ ศักดิ์ และตาํ แหนงอน่ื ใดทมี่ ไิ ดร฿ ะบุไวใ฿ นพระราชบัญญตั นิ ้ี
(14) ปฏบิ ตั ิการอ่ืนใดตามทกี่ ฎหมายกาํ หนดใหเ฿ ปน็ อาํ นาจหนา฿ ท่ขี องคณะกรรมการบรหิ าร
ลูกเสือแหงชาตหิ รอื ตามที่คณะรัฐมนตรมี อบหมาย
มาตรา 18 ให฿มีสาํ นักงานลกู เสอื แหงชาตเิ ปน็ หนว ยงานของรฐั ท่ไี มเปน็ สว นราชการหรอื
รฐั วสิ าหกิจตามกฎหมายวา ดว฿ ยวธิ กี ารงบประมาณหรอื กฎหมายอื่น
ให฿สาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาตมิ ฐี านะเปน็ นติ ิบุคคลและอยูในกาํ กับของกระทรวงศึกษาธกิ าร
การจดั แบง สวนงานภายในของสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาตใิ ห฿เปน็ ไปตามขอ฿ บงั คบั คณะกรรมการ
บรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติ
มาตรา 19 เพื่อประโยชนใโ นการดําเนนิ การของสาํ นกั งานลูกเสือแหงชาติใหร฿ ัฐมนตรแี ตง ตั้ง
รองปลัดกระทรวงศึกษาธกิ ารคนหนง่ึ ทาํ หน฿าท่ีเลขาธกิ ารสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ และแตง ตัง้ ผบ฿ู ริหาร
ระดับสูงอืน่ ในกระทรวงศกึ ษาธกิ ารทาํ หน฿าที่รองเลขาธิการและผ฿ชู ว ยเลขาธกิ ารตามจาํ นวนทเี่ หมาะสม
โดยการเสนอของเลขาธิการสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ
การปฏบิ ัตหิ นา฿ ท่ีของขา฿ ราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารตามวรรคหนึ่ง ใหถ฿ อื เป็นการปฏิบัติราชการดว฿ ย
มาตรา 20 สาํ นกั งานลูกเสือแหง ชาตมิ อี าํ นาจหน฿าทีด่ ําเนนิ การตามวตั ถุประสงคขโ องคณะ
ลูกเสือแหง ชาตแิ ละตามนโยบายของสภาลูกเสอื ไทย รวมทง้ั ใหม฿ ีอาํ นาจหนา฿ ทดี่ ังตอไปนี้
(1) ถือกรรมสิทธิห์ รอื สิทธคิ รอบครองในทรัพยสโ นิ ของคณะลูกเสอื แหงชาตหิ รือดําเนินการใด ๆ
เก่ยี วกบั ทรพั ยสโ ิน
(2) ทาํ นติ กิ รรมสัญญาหรอื ขอ฿ ตกลงอ่นื
(3) รับผิดชอบการดําเนินงานของคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหง ชาติ
(4) ควบคุมดูแลกิจการลกู เสอื ใหเ฿ ปน็ ไปตามกฎหมาย ขอ฿ บงั คับ และระเบยี บของทางราชการ
และคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหง ชาติ รวมทง้ั ถูกตอ฿ งตามแบบธรรมเนยี มของลกู เสอื
(5) จดั ให฿มีการฝึกอบรมหรอื การชมุ นมุ ลูกเสอื ผูบ฿ ังคบั บญั ชาลกู เสือและเจ฿าหน฿าทลี่ ูกเสอื
(6) จดั ทาํ รายงานประจําปพี รอ฿ มงบดุลเสนอคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ
(7) จดั ใหม฿ ีทะเบียนและสถติ ิตาง ๆ เกี่ยวกับลูกเสือ
(8) ประสานและสงเสริมสํานกั งานลูกเสอื จงั หวดั และสํานักงานลกู เสือเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา
(9) ปฏบิ ตั หิ นา฿ ทตี่ ามท่กี าํ หนดไวใ฿ นขอ฿ บงั คับและตามมตขิ องคณะกรรมการบริหารลกู เสอื
แหง ชาติ
มาตรา 21 สาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติมีรายได฿ ดงั ตอไปนี้
(1) เงนิ อุดหนนุ ทั่วไปทร่ี ฐั บาลจดั สรรใหต฿ ามความเหมาะสมเปน็ รายปี
(2) เงินหรือทรพั ยสโ ินทมี่ ีผอ฿ู ทุ ิศให฿
(3) คาบํารงุ คาธรรมเนยี ม และคา บรกิ ารอนื่ ตามขอ฿ บงั คบั คณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ
(4) รายได฿หรือผลประโยชนโทไ่ี ดจ฿ ากการลงทนุ หรอื การรว มลงทุนกบั หนว ยงานและ
บุคคลภายนอก รวมทง้ั ผลประโยชนจโ ากทรพั ยสโ นิ ทางปัญญาของสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ
(5) รายได฿หรอื ผลประโยชนทโ ไ่ี ด฿จากทรพั ยโสนิ ของสาํ นกั งานลกู เสอื แหงชาติ และทรพั ยสโ ินท่ี
46 คู่มอื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสือวสิ ามัญ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 39
คป่มู รอื ะสก่งาเสศรนิมยี แบลัตะพรวัฒิชนาาชกีพิจก1รรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื วสิ ามัญ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ 1
สาํ นักงานลกู เสือแหงชาตปิ กครอง ดูแล บาํ รุงรกั ษา ใช฿ และจัดหาประโยชนโ
(6) รายได฿หรอื ผลประโยชนอโ นื่
มาตรา 22 บรรดาเงนิ หรอื รายได฿ของสาํ นักงานลกู เสือแหง ชาตไิ มเ ป็นเงนิ หรอื รายไดท฿ ตี่ ฿อง
นาํ สงคลงั ตามกฎหมายวา ด฿วยเงินคงคลังและกฎหมายวา ด฿วยวธิ ีการงบประมาณ
การใช฿จายเงนิ หรอื รายไดข฿ องสาํ นักงานลูกเสอื แหง ชาติให฿เปน็ ไปเพ่ือประโยชนแโ กก จิ การ
ลกู เสอื ตามขอ฿ บังคบั คณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติ
มาตรา 23 ใหเ฿ ลขาธกิ ารสาํ นกั งานลูกเสอื แหงชาติเปน็ ผ฿ูรับผดิ ชอบการบรหิ ารงานของ
สํานกั งานลกู เสือแหงชาติและเปน็ ผูบ฿ งั คบั บัญชาพนักงานและลกู จา฿ งในสาํ นกั งาน รวมทง้ั ใหม฿ อี าํ นาจ
หนา฿ ท่ี ดังตอ ไปนี้
(1) ควบคุมดูแลทรพั ยสโ ินของสาํ นกั งานลูกเสือแหงชาติ
(2) เสนอรายงานประจาํ ปเี กยี่ วกับผลการดําเนนิ งานดา฿ นตา ง ๆ ของสาํ นักงาน รวมทั้งการเงนิ
และบัญชี ตลอดจนกระบวนการดาํ เนนิ งาน แผนการเงินและงบประมาณของปีถัดไปตอคณะกรรมการ
บริหารลกู เสอื แหง ชาติ
(3) เสนอความเห็นตอคณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหง ชาติเกี่ยวกบั การปรับปรุงกิจการและ
การดาํ เนนิ งานให฿มีประสทิ ธภิ าพซงึ่ เป็นไปตามวัตถุประสงคขโ องคณะลูกเสือแหง ชาติและตามนโยบาย
ของสภาลูกเสือไทย
(4) บรรจุ แตงตงั้ เลื่อน ลด ตดั เงนิ เดอื นหรอื คา จ฿าง และลงโทษทางวินยั พนักงานและ
ลกู จา฿ ง ตลอดจนใหพ฿ นกั งานและลกู จ฿างออกจากตําแหนง ทั้งนี้ ตามขอ฿ บงั คับคณะกรรมการบริหาร
ลูกเสอื แหง ชาติ
(5) วางระเบยี บเกย่ี วกับการดาํ เนนิ งานของสาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ โดยไมข ัดหรอื แยง฿ กบั กฎหมาย
ขอ฿ บังคับ และระเบียบของทางราชการและคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติ
มาตรา 24 ในกจิ การท่เี กี่ยวกับบคุ คลภายนอก ให฿เลขาธกิ ารสํานกั งานลูกเสอื แหง ชาติ
เปน็ ผแ฿ู ทนของสาํ นักงานลูกเสือแหง ชาติ เพอื่ การน้เี ลขาธกิ ารสํานกั งานลกู เสอื แหงชาตจิ ะมอบอาํ นาจให฿
บคุ คลใดปฏบิ ัตหิ นา฿ ทเี่ ฉพาะอยา งแทนกไ็ ด฿ แตต ฿องเป็นไปตามหลักเกณฑทโ คี่ ณะกรรมการบรหิ าร
ลกู เสือแหงชาตกิ าํ หนด
มาตรา 25 กจิ การของสํานกั งานลกู เสือแหงชาตไิ มอ ยภู ายใต฿บงั คบั แหงกฎหมายวา ด฿วยการ
ค฿ุมครองแรงงาน กฎหมายวา ด฿วยแรงงานสมั พนั ธโ กฎหมายวาด฿วยประกนั สงั คมและกฎหมายวาดว฿ ย
เงินทดแทน
มาตรา 26 การบัญชขี องสาํ นกั งานลกู เสือแหง ชาติ ให฿จดั ทาํ ตามมาตรฐานการบัญชตี าม
กฎหมายวาดว฿ ยการบญั ชี และต฿องจดั ใหม฿ กี ารตรวจสอบเก่ียวกบั การเงิน การบัญชีและการพสั ดุของ
สํานกั งานลูกเสือแหง ชาติ ตลอดจนรายงานผลการตรวจสอบใหค฿ ณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหงชาติ
ทราบอยางน฿อยปีละครง้ั ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑโท่คี ณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาตกิ ําหนด
มาตรา 27 ใหส฿ ํานกั งานลูกเสอื แหงชาติจดั ทํางบการเงนิ ตามกฎหมายวา ด฿วยการบัญชี
สงผ฿ูสอบบัญชีภายในเกา฿ สิบวันนับแตว ันสนิ้ ปงี บประมาณเพื่อตรวจสอบ
คู่มือสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลูกเสือวสิ ามญั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 47
คูม่ ือส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือวิสามัญปชรัน้ ะมกธัายศมนศียึกบษัตารปวที ิชี่ า4ชีพ 1
40 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1
ให฿สํานกั งานการตรวจเงินแผนดนิ หรอื บคุ คลภายนอกตามทค่ี ณะกรรมการบรหิ ารลูกเสือ
แหงชาติแตงตั้งด฿วยความเหน็ ชอบจากสํานกั งานการตรวจเงินแผน ดนิ เปน็ ผู฿สอบบัญชีของสาํ นกั งาน
ลกู เสือแหงชาติ และใหท฿ ําการตรวจสอบรบั รองบญั ชีและการเงินของสาํ นกั งานลูกเสอื แหงชาติทกุ รอบ
ปีงบประมาณ แลว฿ ทาํ รายงานผลการสอบบัญชเี สนอตอ คณะกรรมการบริหารลกู เสือแหง ชาตภิ ายใน
หน่ึงร฿อยแปดสิบวันนบั แตว ันสนิ้ ปงี บประมาณทุกปี
สว่ นท่ี 3
ลกู เสอื จังหวัด
มาตรา 28 ในแตละจังหวัด ให฿จัดระเบยี บการปกครองลกู เสือตามเขตจงั หวัด
สาํ หรบั การจดั ระเบยี บการปกครองลกู เสือในกรงุ เทพมหานครและองคกโ รปกครองสว นท฿องถน่ิ
ทม่ี ีกฎหมายจดั ตัง้ เป็นรปู แบบพเิ ศษให฿เป็นไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง
มาตรา 29 ใหม฿ คี ณะกรรมการลกู เสือจงั หวดั ประกอบด฿วย
(1) ผู฿วา ราชการจงั หวัด เป็นประธานกรรมการ
(2) กรรมการโดยตําแหนง ได฿แก รองผู฿วา ราชการจังหวดั เป็นรองประธานกรรมการ
ปลัดจงั หวดั นายกเหลากาชาดจงั หวดั ผู฿บังคับการตํารวจภูธรจงั หวดั นายกองคโการบริหารสว นจงั หวดั
นายอาํ เภอ นายกเทศมนตรี นายกสมาคมการศึกษาเอกชนจังหวัด และผ฿ูอาํ นวยการสาํ นกั งานเขตพื้นที่
การศกึ ษา
(3) กรรมการประเภทผแ฿ู ทนจาํ นวนหา฿ คน ได฿แก ผูแ฿ ทนสถาบนั อดุ มศกึ ษา ผแู฿ ทนสถานศกึ ษา
อาชีวศกึ ษา ผ฿แู ทนคา ยลกู เสอื จงั หวัด ผ฿ูแทนสมาคมหรอื สโมสรลูกเสอื และผ฿แู ทนจากลกู เสือชาวบา฿ น
ซ่งึ เลอื กกนั เองกลมุ ละหน่ึงคน
(4) กรรมการผทู฿ รงคุณวุฒจิ าํ นวนไมเกินสิบคน ซึ่งประธานกรรมการแตง ตงั้ โดยคาํ แนะนาํ
ของกรรมการลกู เสอื จงั หวดั ตาม (2) และ (3) ในจาํ นวนนจ้ี ะต฿องแตง ต้ังจากภาคเอกชนไมน ฿อยกวา
กงึ่ หน่ึง
ใหผ้฿ อู้฿ �าํ ำนวยกาารรสส�ําำนนกั ักงางนานเขเตขพตพน้ื ทื้นกท่ี าก่ี ราศรกึศษึกาษเาขเตขต1 เ1ปเ็นปก็นรกรมรรกมากรแารลแะเลละขเลานขุากนารกุ าร
ให฿ผู฿อํานวยการศนู ยกโ ารศกึ ษานอกโรงเรียนจงั หวดั เป็นกรรมการและผู฿ชวยเลขานกุ าร
หลักเกณฑโและวิธกี ารในการเลอื กกรรมการตาม (3) ใหเ฿ ปน็ ไปตามข฿อบังคบั คณะกรรมการ
บริหารลูกเสอื แหง ชาติ
มาตรา 30 ให฿นําบทบญั ญัตมิ าตรา 16 มาใช฿บงั คบั กับวาระการดาํ รงตําแหนง และการพน฿
จากตาํ แหนงของกรรมการตามมาตรา 29 (3) และ (4) โดยอนุโลม
มาตรา 31 คณะกรรมการลกู เสอื จังหวดั มอี าํ นาจหนา฿ ทภี่ ายในเขตจงั หวัดดงั ตอ ไปนี้
(1) ควบคมุ ดแู ลกิจการลกู เสอื ให฿เปน็ ไปตามกฎหมาย ข฿อบังคบั และระเบยี บของทาง
ราชการและคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหงชาติ
48 คูม่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือวสิ ามญั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 41
คปู่มรือะสก่งาเสศรนิมยี แบลตัะพรวฒั ิชนาาชกีพิจก1รรมลกู เสือทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลกู เสือวสิ ามัญ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี 1