The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panuwitpadee, 2022-09-12 12:56:09

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)

คูมอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสัตว

แนวการประเมินการเรียนรู

การประเมินการเรียนรขู องนกั เรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรเู ดิมจากการอภปิ รายในชั้นเรียน
2. ประเมนิ การเรียนรูจากคาํ ตอบของนกั เรียนระหวางการจดั การเรียนรแู ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ ละทกั ษะแหง ศตวรรษท่ี 21 จากการทํากิจกรรมของนกั เรยี น

การประเมนิ จากการทาํ กิจกรรมท่ี 1.1 สตั วต อ งการสิ่งใดในการเจรญิ เติบโต
และการดํารงชวี ิต

รหัส สง่ิ ทีป่ ระเมิน คะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสงั เกต
S2 การวดั
S8 การลงความเห็นจากขอมลู
S13 การตคี วามหมายขอมูลและลงขอสรุป

ทกั ษะแหงศตวรรษท่ี 21
C2 การคดิ อยางมีวิจารณญาณ
C4 การสือ่ สาร
C5 ความรวมมือ
รวมคะแนน

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 213

คมู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชีวิตของสตั ว

ตาราง รายการประเมินและเกณฑการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร

ทกั ษะ เกณฑก ารประเมิน
กระบวนการทาง รายการประเมิน
วทิ ยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1)

S1 การสงั เกต การใชป ระสาทสัมผัส สามารถใชประสาท สามารถใชประสาท สามารถใชป ระสาท

เก็บรายละเอียด สัมผัสเกบ็ รายละเอียด สมั ผัสเก็บรายละเอยี ด สัมผัสเก็บรายละเอียด

เก่ียวกับพฤติกรรมและ เก่ียวกับพฤติกรรมและ เก่ียวกับพฤติกรรมและ เก่ียวกับพฤติกรรมและ

การเปลีย่ นแปลงรูปราง การเปล่ยี นแปลงรูปราง การเปล่ยี นแปลงรูปราง การเปล่ยี นแปลงรูปราง

ลักษณะของปลา ลกั ษณะของปลาได ลกั ษณะของปลาได ลกั ษณะของปลาไดเพียง

ถูกตองครบถว นดวย ถูกตองครบถวนจาก บางสวน แมว า จะได

ตนเอง โดยไมเพม่ิ เติม การช้ีแนะของครูหรอื รับคําชแ้ี นะจากครหู รือ

ความคิดเห็น ผูอ ืน่ หรือมกี าร ผอู นื่

เพม่ิ เติมความคิดเหน็

S2 การวัด การใชไ มบ รรทดั วัด สามารถใชไ มบ รรทัด สามารถใชไ มบรรทดั สามารถใชไ มบ รรทดั วดั

ความยาวของปลาและ วัดความยาวของปลา วดั ความยาวของปลา ความยาวของปลา แตไม

ระบุหนว ยได และระบหุ นว ยได และระบุหนว ยได สามารถระบหุ นว ยได

ถกู ตองดวยตนเอง ถูกตองจากการชแี้ นะ ถูกตอง แมวา จะไดร บั คาํ

ของครหู รอื ผูอนื่ ชแ้ี นะจากครหู รือผูอน่ื

S8 การลง การลงความเห็นจากการ สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเห็น สามารถลงความเหน็ จาก
ความเหน็ จาก
ขอ มลู สังเกต การอา น จากการสงั เกต การอา น จากการสังเกต การอาน การสงั เกต การอา น

ใบความรู และดูวดี ทิ ศั น ใบความรู และดูวดี ทิ ศั น ใบความรู และดูวีดทิ ศั น ใบความรู และดวู ดี ิทศั น
เกย่ี วกบั ส่ิงที่จําเปน ตอ เก่ยี วกับสง่ิ ที่จําเปน ตอ เกย่ี วกับส่ิงทจี่ าํ เปน ตอ เกีย่ วกับสิ่งทจี่ ําเปน ตอ
การเจริญเติบโตและการ การเจริญเติบโตและ การเจริญเตบิ โตและการ การเจริญเติบโตและการ
ดาํ รงชวี ติ ของสัตวต า ง ๆ การดํารงชีวิตของสตั ว ดํารงชวี ติ ของสัตวตา ง ๆ ดํารงชีวติ ของสตั วตาง ๆ
รวมท้งั แนวทางการดูแล ตาง ๆ รวมทงั้ แนวทาง รวมทงั้ แนวทางการดูแล
สัตวใหไดรบั สง่ิ ท่จี ําเปน การดูแลสัตวใหไ ดร บั สัตวใหไ ดร บั สิง่ ที่จําเปน รวมทั้งแนวทางการดูแล
ตาง ๆ อยา งเหมาะสม ส่งิ ท่ีจาํ เปน ตา ง ๆ อยาง ตา ง ๆ อยา งเหมาะสม สัตวใหไดร ับสง่ิ ที่จําเปน
เหมาะสมไดถ ูกตอง ไดถ ูกตองจากการ ตา ง ๆ อยา งเหมาะสมได
ดว ยตนเอง ชีแ้ นะของครหู รือผอู ื่น เพียงบางสว นแมว า จะได
รับคาํ ชแ้ี นะจากครูหรอื

ผอู นื่

214 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสัตว

ทกั ษะ เกณฑการประเมนิ
กระบวนการทาง รายการประเมนิ
วทิ ยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1)

S13 การ การตีความหมายขอมลู สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย

ตคี วามหมายขอมลู ที่ไดจ ากการสังเกต ขอ มูลที่ไดจากการ ขอ มลู ท่ีไดจากการ ขอ มูลที่ไดจ ากการสงั เกต

และการลงขอ สรปุ การอานใบความรู การดู สังเกตการเจริญเติบโต สังเกตการเจรญิ เติบโต การเจริญเติบโตและ

วดี ิทศั น และลงขอสรุป และพฤติกรรมของปลา และพฤติกรรมของปลา พฤติกรรมของปลา การ

ไดวา อาหาร นา้ํ และ การอานใบความรู การ การอานใบความรู การ อานใบความรู การดู

อากาศเปนส่ิงท่จี าํ เปน ดวู ดี ทิ ศั น และลง ดวู ดี ทิ ัศน และลง วดี ทิ ศั น และลงขอสรุป

ตอการเจริญเติบโต ขอสรุปไดว า อาหาร ขอสรปุ ไดวาอาหาร นํา้ ไดเพียงบางสว นวา

และการดาํ รงชีวิตของ นํา้ และอากาศเปน และอากาศเปน ส่ิงที่ อาหาร นา้ํ และอากาศ

สัตวชนดิ ตาง ๆ สิง่ ทจ่ี ําเปนตอ การ จาํ เปนตอการ เปน สิ่งทจ่ี ําเปนตอการ

เจรญิ เติบโตและการ เจรญิ เตบิ โตและการ เจรญิ เตบิ โตและการ

ดํารงชวี ิตของสัตว ดาํ รงชวี ติ ของสัตวชนดิ ดาํ รงชวี ติ ของสตั วชนดิ

ชนดิ ตาง ๆ ไดด วย ตาง ๆ ไดจ ากการ ตา ง ๆ ไดเพียงบางสว น

ตนเอง ชแ้ี นะจากครูและผูอื่น แมวา จะไดรับคําชี้แนะ

จากครูหรอื ผูอืน่

ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑการประเมนิ ทักษะแหงศตวรรษที่ 21

ทักษะแหง รายการประเมิน ดี (3) เกณฑการประเมนิ ควรปรบั ปรงุ (1)
ศตวรรษท่ี 21 พอใช (2)

C2 การคิด การวิเคราะหการ สามารถวิเคราะหการ สามารถวิเคราะหการ สามารถวิเคราะหการ

อยา งมี เจริญเติบโตและ เจริญเติบโตและ เจริญเติบโตและ เจริญเติบโตและ

วจิ ารณญาณ พฤติกรรมของปลา พฤติกรรมของปลา พฤติกรรมของปลา พฤติกรรมของปลา

รวมทั้งใชขอมูลท่ีได รวมท้ังใชขอมูลที่ไดจาก รวมทั้งใชขอมูลท่ีไดจาก รวมท้ังใชขอมูลที่ไดจาก

จากการอาน การอานใบความรูและดู การอานใบความรูและดู การอานใบความรูและดู

ใบความรูและดู วีดิทัศนเพื่อสรุป วีดิทัศนเพื่อสรุป วีดิทัศนเพ่ือสรุป

วีดิทัศนเพื่อสรุป เก่ียวกับส่ิงที่จาํ เปนตอ เก่ียวกับส่ิงที่จาํ เปนตอ เกี่ยวกับส่ิงท่ีจาํ เปนตอ

เก่ียวกับส่ิงท่ีจาํ เปน การเจริญเติบโตและ การเจริญเติบโตและ การเจริญเติบโตและ

ตอการเจริญเติบโต การดาํ รงชีวิตของสัตว การดํารงชีวิตของสัตว การดํารงชีวิตของสัตว

และการดาํ รงชีวิต และการดูแลสัตวให และการดูแลสัตวให และการดูแลสัตวให

ของสัตว และการ ไดรับส่ิงท่ีจาํ เปนตาง ๆ ไดรับสิ่งที่จาํ เปนตาง ๆ ไดรับสิ่งท่ีจาํ เปนตาง ๆ

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 215

คมู ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว

ทักษะแหง รายการประเมิน ดี (3) เกณฑการประเมิน ควรปรับปรงุ (1)
ศตวรรษที่ 21 พอใช (2) อยางเหมาะสมไดเ พียง
บางสว น แมว า จะได
ดูแลสัตวใหไดรับสิ่งท่ี อยางเหมาะสมไดถูกตอง อยางเหมาะสมได รับคาํ ช้ีแนะจากครูหรอื
ผอู น่ื
จาํ เปนตาง ๆ อยาง ดว ยตนเอง ถกู ตอง โดยอาศัยการ

เหมาะสม ช้แี นะจากครหู รือผอู ื่น

C4 การสื่อสาร การนาํ เสนอวิธีการ สามารถนาํ เสนอวิธีการ สามารถนําเสนอวิธีการ สามารถนาํ เสนอวิธีการ

C5 ความ เล้ยี งปลา และผลการ เลย้ี งปลา และผลการ เลย้ี งปลา และผลการ เลี้ยงปลา และผลการ
รว มมอื
เลย้ี งปลา โดยเขียน เล้ียงปลา โดยเขียน เลีย้ งปลา โดยเขียน เลี้ยงปลา โดยเขยี น

บรรยายหรอื บรรยาย บรรยายหรือบรรยาย บรรยายหรือบรรยาย บรรยายหรือบรรยาย

ดวยคาํ พูดเพ่ือใหผ ูอ นื่ ดวยคําพูดเพอ่ื ใหผอู ื่น ดว ยคําพูดเพ่อื ใหผ อู ่นื ดวยคําพูดได แตไ ม

เขา ใจ เขาใจไดดว ยตนเอง เขาใจได โดยอาศยั การ ครบถว นสมบูรณ แมวา

ชี้แนะจากครูหรือผูอืน่ จะไดรับคาํ ชี้แนะจากครู

หรือผอู ื่น

การทาํ งานรวมกับ สามารถทาํ งานรวมกบั สามารถทํางานรว มกับ สามารถทาํ งานรวมกับ

ผอู ื่นในการเลีย้ งปลา ผูอื่นในการเล้ียงปลา ผอู ่ืนในการเลย้ี งปลา ผูอื่นในการเลยี้ งปลา

สงั เกตพฤตกิ รรมและ สังเกตพฤตกิ รรมและ สงั เกตพฤตกิ รรมและ สังเกตพฤตกิ รรมและ

การวดั ความยาวของ การวดั ความยาวของปลา การวดั ความยาวของปลา การวดั ความยาวของปลา

ปลา การอภปิ ราย การอภปิ รายเก่ียวกับ การอภปิ รายเกี่ยวกบั การอภิปรายเกยี่ วกบั

เกยี่ วกบั สิง่ ท่จี าํ เปน ส่ิงท่ีจําเปน ตอการ สิง่ ทีจ่ ําเปนตอการ สิ่งทจ่ี ําเปนตอการ

ตอ การเจริญเติบโต เจรญิ เตบิ โตและการ เจรญิ เติบโตและการ เจรญิ เติบโตและการ

และการดาํ รงชีวิตของ ดํารงชีวิตของสตั ว การ ดํารงชวี ติ ของสตั ว การ ดาํ รงชวี ิตของสตั ว การ

สัตว การดแู ลสตั ว ดูแลสัตวชนดิ ตา ง ๆ ให ดูแลสัตวช นดิ ตาง ๆ ให ดแู ลสตั วช นิดตาง ๆ ให

ชนดิ ตา ง ๆ ใหไ ดร ับ ไดร บั ส่งิ ทจ่ี ําเปนเหลา น้นั ไดร ับส่งิ ท่จี ําเปน เหลานัน้ ไดรับสิ่งที่จาํ เปนเหลา นัน้

สง่ิ ท่ีจาํ เปนเหลาน้ัน อยางเหมาะสม รวมทัง้ อยา งเหมาะสม รวมทั้ง อยา งเหมาะสม รวมทัง้

อยา งเหมาะสม ยอมรับความคิดเหน็ ของ ยอมรับความคิดเหน็ ของ ยอมรับความคิดเหน็ ของ

รวมทง้ั ยอมรับความ ผูอื่นตงั้ แตเริ่มตนจน ผูอื่นในบางชวงเวลาทที่ าํ ผอู ่นื เปนบางชว งเวลาท่ี

คดิ เห็นของผอู ่นื สําเรจ็ กจิ กรรม ทํากิจกรรม ท้งั น้ีตอง

อาศัยการกระตุนจากครู

หรอื ผูอนื่

216 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว

กิจกรรมที่ 1.2 มนษุ ยตอ งการสิ่งใดในการเจริญเติบโตและการดาํ รงชีวติ

กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดรวบรวมขอมูลเก่ียวกับ
ส่ิงท่ีจําเปนตอการเจริญเติบโตและการดํารงชีวิตของ
มนุษย จากการช่ังนํ้าหนัก วัดสวนสูง และอานใบความรู
เพื่อบรรยายสิ่งท่ีจําเปนตอการเจริญเติบโตและการ
ดํารงชีวิตของมนุษย รวมท้ังบอกแนวทางในการดูแล
ตนเองใหไดร ับสงิ่ จําเปน ตา ง ๆ อยา งเหมาะสม

เวลา 2 ช่ัวโมง

จุดประสงคก ารเรยี นรู ทักษะแหง ศตวรรษท่ี 21

1. รวบรวมขอมูลและบรรยายส่ิงที่จําเปนตอการ C2 การคิดอยา งมีวิจารณญาณ
C5 ความรว มมือ
เจรญิ เตบิ โตและการดาํ รงชีวิตของมนุษย
สือ่ การเรียนรูแ ละแหลง เรียนรู
2. สบื คน ขอมูลและบอกแนวทางในการดแู ลตนเอง
ใหไดรับสิ่งที่จําเปนตอการเจริญเติบโตและการ 1. หนังสือเรียน ป.3 เลม 1 หนา 85-88
2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.3 เลม 1 หนา 82-85
ดาํ รงชีวติ อยา งเหมาะสม 3. วดี ิทัศนเ รอ่ื งการผจญภัยของขาวตู

วัสดุ อุปกรณส ําหรับทํากจิ กรรม 1 เครอ่ื ง http://ipst.me/10940
1 เครื่อง
ส่งิ ทค่ี รูตองเตรียม/หอง
1. ทีว่ ดั สว นสูง 1 เลม

2. เคร่ืองชั่งนาํ้ หนัก

สิง่ ท่ีครตู องเตรียม/คน
สมุดรายงานสขุ ภาพประจําป

ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร

S2 การวดั

S3 การใชจาํ นวน

S8 การลงความเห็นจากขอ มูล
S13 การตีความหมายขอมลู และลงขอ สรุป

สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 217

คูมือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

แนวการจัดการเรียนรู ในการทบทวนความรูพื้นฐาน
ครูควรใหเวลานักเรียนคิดอยาง
1. ครูทบทวนความรูพ้ืนฐานของนักเรียนเกี่ยวกับส่ิงท่ีจําเปนตอการ เหมาะสม รอคอยอยางอดทน
เจริญเตบิ โตและการดาํ รงชวี ติ ของสัตว โดยใชค ําถามดังตอไปนี้ นักเรียนตองตอบคําถามเหลานี้ได
1.1 สัตวตองการส่ิงท่ีจําเปนใดบางสําหรับการเจริญเติบโตและ ถูกตอง หากตอบไมไดหรือลืม
การดํารงชวี ติ (อาหาร นํ้า และอากาศ) ครตู อ งใหความรทู ่ถี ูกตองทันที
1.2 เราจะดูแลสัตวใหไดรับสิ่งที่จําเปนตาง ๆ อยางเหมาะสมไดอยางไร
(ใหอ าหารทีเ่ หมาะสมกบั ชนดิ และขนาดของสัตว ใหน้าํ สะอาดอยาง ในการตรวจสอบความรูเดิม
เพียงพอ และใหอ ยใู นที่มอี ากาศถา ยเทสะดวก) ครูรับฟงเหตุผลของนักเรียนเปน
สําคัญ ครูยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ
2. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเก่ียวกับส่ิงที่จําเปนตอการ แตชักชวนใหหาคําตอบท่ีถูกตอง
เจรญิ เติบโตและการดาํ รงชวี ิตของมนุษย โดยใชค ําถามดังตอ ไปนี้ จากการทํากจิ กรรม
2.1 นักเรียนคิดวาตัวเรามีการเจริญเติบโตหรือไม รูไดอยางไร (นักเรียน
ตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน ตัวเรามีการเจริญเติบโต รูได
จากน้ําหนักและสวนสงู ทเ่ี พมิ่ ข้นึ ขนาดลาํ ตวั ที่ใหญขนึ้ )
2.2 อะไรคือสิ่งสําคัญที่ชวยใหเราเจริญเติบโตและดํารงชีวิตอยูได
(นักเรียนตอบตามความเขา ใจของตนเอง เชน อาหาร นาํ้ อากาศ)
2.3 ในแตละวันนักเรียนไดรับสิ่งท่ีจําเปนตอการเจริญเติบโตและ
การดํารงชีวิตเหมาะสมหรือไม อยางไร (นักเรียนตอบตามความ
เขาใจของตนเอง เชน เหมาะสม เพราะเรารับประทานอาหารที่มี
ประโยชน ครบถวน ดื่มน้ําอยางเพียงพอ และอยูในที่ท่ีมีอากาศ
ถายเท)

3. ครูเชื่อมโยงความรูเดิมของนักเรียนเขาสูกิจกรรมท่ี 1.2 โดยใชคําถามวา
มนุษยต อ งการสิ่งทจี่ ําเปน ตอการเจรญิ เตบิ โตและการดํารงชวี ิตใดบาง

4. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และทําเปนคิดเปน จากน้ันรวมกันอภิปราย
เพ่ือตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกับจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยใช
คาํ ถาม ดงั นี้
4.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดเรียนเรื่องอะไร (ส่ิงที่จําเปนตอ
การเจรญิ เติบโตและการดํารงชีวติ ของมนุษย)
4.2 นักเรียนจะไดเรยี นรูเ ร่อื งน้ดี วยวิธีใด (การรวบรวมขอมูล)
4.3 เม่ือเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (บรรยายสิ่งท่ีจําเปนตอ
การเจริญเติบโตและการดํารงชีวิตของมนุษย และบอกแนวทาง
ในการดแู ลตนเองใหไ ดรบั สง่ิ ที่จาํ เปน ดงั กลา วอยางเหมาะสม)

5. นักเรยี นบันทึกจุดประสงคล งในแบบบันทึกกจิ กรรม หนา 82

218 สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสัตว

6. นักเรียนอานส่ิงที่ตองใชในการทํากิจกรรม ถานักเรียนไมรูจักวัสดุ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและ
อุปกรณบางอยาง ครูควรนําวัสดุอุปกรณเหลานั้นมาแสดงใหดู หรือถา ทกั ษะแหงศตวรรษที่ 21 ทนี่ ักเรยี นจะไดฝ ก
นักเรยี นไมร ูวธิ กี ารใชอุปกรณ ครคู วรแนะนําและสาธิตวิธกี ารใชอ ุปกรณ
จากการทํากิจกรรม
7. นักเรียนอานทําอยางไรทีละขอ โดยครูใชวิธีฝกการอานท่ีเหมาะสมกับ
ความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบความเขาใจเก่ียวกับ S2 วัดความสูงและชั่งน้ําหนักของตนเอง
วิธีการทํากิจกรรม จนนักเรียนเขาใจลําดับการทํากิจกรรม (ครูอาจเขียน พรอมระบหุ นว ย
ข้นั ตอนการทํากิจกรรมบนกระดาน) โดยครใู ชคําถามดงั นี้
7.1 นักเรียนตองบันทึกขอมูลอะไรบาง (นํ้าหนักและสวนสูงของตนเอง S3 นําคาความสูงและน้ําหนักของตนเองที่
เมือ่ อยูระดับช้นั ป.2) วัดไดในระดับช้ันประถมศึกษาปท่ี 3
7.2 สิ่งที่จะตองทําตอไปคืออะไร (ชั่งน้ําหนักและวัดสวนสูง แลวหา และ 2 มาหาผลตาง
ผลตางของนํา้ หนกั และสว นสูงระหวา งระดบั ชน้ั ป.2 และ ป.3)
7.3 นกั เรยี นตอ งอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องอะไร (สาเหตุทีท่ าํ ใหนํา้ หนักและ S8 ลงความเห็นจากขอมูลเก่ียวกับส่ิงท่ี
สวนสูงของตนเองและเพ่ือนเปลย่ี นแปลงในเวลา 1 ป) จํ า เ ป น ต อ ก า ร เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต แ ล ะ
7.4 นักเรียนตองอานใบความรูเรื่องอะไร (ส่ิงที่จําเปนตอการ การดํารงชีวิตของมนุษย และการดูแล
เจรญิ เตบิ โตและการดํารงชวี ิตของมนษุ ย) ตนเองใหไดรับสิ่งท่ีจําเปนเหลานี้อยาง
7.5 เมื่ออานใบความรูแลว นักเรียนตองทําอะไรตอไป (อภิปรายขอมูล เหมาะสม
จากใบความรูและวิเคราะหวา ในชีวิตประจําวันของเราไดรับสิ่งที่
จําเปนตอการเจริญเติบโตและการดํารงชีวิตเหมาะสมหรือไม และ C2 วิ เ ค ร า ะ ห ส า เ ห ตุ ที่ ทํ า ใ ห นํ้ า ห นั ก
บอกแนวทางในการดแู ลตนเองใหไ ดร บั ส่ิงเหลา นัน้ อยา งเหมาะสม) แล ะสว นสูงเปลี่ยนแปล ง รว มทั้ง
วิเคราะหเพื่อสรุปวาในชีวิตประจําวัน
8. เม่ือนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ใหนักเรียนเร่ิม ตนเองไดรับส่ิงที่จําเปนเหลานี้อยาง
ปฏิบัติตามขน้ั ตอนของกิจกรรม เหมาะสมหรือไม

9. หลังจากทํากิจกรรมแลว ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายผลการทํา C5 ทํางานรวมกับผูอ่ืนในการอภิปราย
กิจกรรม โดยใชคําถามดังตอ ไปนี้ เ ก่ี ย ว กั บ ส า เ ห ตุ ท่ี ทํ า ใ ห น้ํ า ห นั ก แ ล ะ
9.1 จากระดับชั้น ป.2 จนถึงปจจุบัน น้ําหนักและสวนสูงของนักเรียนมี สวนสูงเปลยี่ นแปลง และแนวทางในการ
การเปล่ียนแปลงหรือไม อยางไร (นักเรียนตอบตามความเปนจริง ดูแลตนเองใหไดรับส่ิงที่จําเปนตาง ๆ
เชน น้ําหนักและสวนสูงมีการเปลี่ยนแปลง โดยน้ําหนักและสวนสูง อยา งเหมาะสม
เพ่มิ ขนึ้ จากระดับชัน้ ป.2)
9.2 รางกายของเรามีการเจริญเติบโตหรือไม รูไดอยางไร (นักเรียนตอบ
ตามความเขา ใจของตนเอง เชน มี รไู ดจ ากการมีน้ําหนกั และสวนสูง
เพม่ิ ข้ึน)
9.3 เพราะเหตุใดรางกายของเราจึงมกี ารเจริญเติบโต (นักเรียนตอบตาม
ความเขาใจของตนเอง เชน เพราะเรารับประทานอาหารท่ีมี

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 219

คมู ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชีวิตของสตั ว

ประโยชนอยางครบถวนและหลากหลาย ดื่มนํ้าสะอาดอยาง หากนักเรียนไมสามารถตอบ
เพียงพอ และอยใู นทีท่ ีม่ อี ากาศสะอาดและถายเทสะดวก) คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว
9.4 ส่ิงที่จําเปนตอการเจริญเติบโตและการดํารงชีวิตของเรามีอะไรบาง คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
(อาหาร น้ํา และอากาศ) อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
9.5 อาหารมีประโยชนตอรางกายอยางไร (ชวยใหรางกายเจริญเติบโต แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง
แข็งแรง ซอมแซมสวนที่สึกหรอ ใหพลังงาน และชวยใหรางกาย นกั เรียน
ทาํ งานไดอยางปกต)ิ
9.6 เราควรรับประทานอาหารอยางไรจึงจะเหมาะสมตอการ ถ า ค รู พ บ ว า นั ก เ รี ย น ยั ง มี
เจริญเติบโตและการดํารงชีวิต (เราควรรับประทานอาหารที่มี แนวคิดคลาดเคลื่อนเก่ียวกับ
ประโยชนใหครบถวนและหลากหลายในปริมาณท่ีเหมาะสมกับ ส่ิงที่จําเปนตอการเจริญเติบโต
ความตองการของรางกาย ไมรับประทานอาหารมากหรือนอย และการดํารงชีวิตของมนุษย
เกินไป ไมรับประทานอาหารท่ีมีรสจัด และลดการรับประทาน ใหรวมกันอภิปรายจนนักเรียน
อาหารที่มนี ้ํามนั หรอื ไขมันเปนสว นประกอบ) มแี นวคดิ ทถ่ี ูกตอ ง
9.7 นํ้ามีประโยชนตอรางกายของเราอยางไร (ชวยใหรางกาย
เจริญเตบิ โตและดาํ รงชีวติ ไดอ ยางปกติ)
9.8 เราไดรับนํ้าจากที่ใดบาง (จากการรับประทานอาหารและการด่ืมน้ํา
สะอาด)
9.9 เราควรด่ืมนํ้าตอวันประมาณเทาใดจึงจะเหมาะสม (ประมาณ 6-8
แกว ตอ วนั )
9.10 เด็กชาย A (ช่ือนักเรียนชายท่ีมีรูปรางใหญที่สุดในหอง) กับ
เด็กหญงิ B (ชือ่ นักเรียนหญิงท่ีมรี ูปรา งเลก็ ทสี่ ุดในหอง) ควรดม่ื น้ํา
ในปริมาณเทากันหรือไม เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความ
เขาใจของตนเอง ซ่ึงควรตอบไดวา ไมเทากัน ปริมาณน้ําที่แตละ
คนตองการข้ึนอยูกับปจจัยตาง ๆ เชน สวนสูง นํ้าหนัก กิจกรรม
ตา ง ๆ ที่ทาํ ซึง่ เดก็ ชาย A ควรด่มื น้าํ มากกวา เด็กหญงิ B)
9.11 นอกจากอาหารและนํ้าแลว รางกายของเรายังตองการสิ่งใด
อกี (อากาศ)
9.12 อากาศที่อยูรอบตัวเรามีสิ่งใดท่ีจําเปนตอรางกายของเรา (แกส
ออกซเิ จน)
9.13 ทาํ อยางไรจึงจะไดรับแกส ออกซเิ จนจากอากาศอยางเพียงพอ (อยู
ในสถานทที่ ี่มอี ากาศสะอาดและถา ยเทสะดวก)

220 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว

9.14 นอกจากรางกายไดรับสิ่งที่จําเปนตาง ๆ ดังกลาวแลว เราควรทํา
อยางไรเพื่อใหรางกายแข็งแรงและมีสขุ ภาพดี (ออกกําลังกายและ
พกั ผอนอยางเพียงพอ)

10. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามในสิ่งที่อยากรูเพิ่มเติมเก่ียวกับส่ิงท่ี
จําเปนตอการเจริญเติบโตและการดํารงชีวิตของมนุษย จากนั้นรวมกัน
อภิปรายและลงขอสรุปวา รางกายของเรามีการเจริญเติบโต สังเกตได
จากมีน้ําหนักและสวนสูงเพิ่มข้ึน สิ่งท่ีจําเปนตอการเจริญเติบโตและ
การดํารงชีวิตของมนุษย ไดแก อาหาร น้ํา และอากาศ โดยอาหารชว ย
ใหร า งกายเจริญเตบิ โต แขง็ แรง ซอมแซมสวนทีส่ กึ หรอ และใหพ ลังงาน
แกรางกาย นํ้าและอากาศชวยใหรางกายทํางานไดอยางปกติ ดังน้ันจึง
ควรดแู ลตนเองใหไดร ับสิง่ ท่ีจําเปนเหลานั้นอยางเหมาะสม (S13)

11. นักเรียนตอบคําถามใน ฉันรูอะไร และรวมกันอภิปรายเพ่ือใหไดแนว
คําตอบทถ่ี ูกตอ ง

12. นกั เรียนสรุปสงิ่ ที่ไดเ รยี นรใู นกิจกรรมนี้ จากนั้นครใู หน ักเรยี นอา น ส่ิงท่ี
ไดเรยี นรู และเปรยี บเทยี บกบั ขอสรปุ ของตนเอง

13. ครูกระตุนใหนักเรียนฝกตั้งคําถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู
เพิ่มเติมใน อยากรูอีกวา จากนั้นครูอาจสุมนักเรียน 2-3 คน นําเสนอ
คําถามของตนเองหนาช้ันเรียน และใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
เก่ยี วกับคาํ ถามทีน่ าํ เสนอ

14. ครูนําอภิปรายเพื่อใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรแ ละทกั ษะแหง ศตวรรษที่ 21 อะไรบางและในขน้ั ตอนใด

15. นักเรียนรวมกันอานรูอะไรในเร่ืองนี้ ในหนังสือเรียน หนา 89 ครูนํา
อภิปรายเพ่ือนําไปสูขอสรุปเกี่ยวกับสิ่งท่ีไดเรียนรูในเร่ืองน้ี จากนั้นครู
กระตุนใหนักเรียนตอบคําถามในชวงทายของเนื้อเร่ือง ซ่ึงเปนคําถาม
เพ่ือเช่ือมโยงไปสูการเรียนเน้ือหาในบทถัดไป ดังน้ี “ในขณะท่ีมนุษย
และสัตวเจริญเติบโต รางกายจะมีการเปลี่ยนแปลงอยางไรบาง”
นักเรียนสามารถตอบตามความเขาใจของตนเอง ซึ่งจะหาคําตอบได
จากการเรียนในบทตอ ไป

16. ครูเปดวีดิทัศนเร่ืองการผจญภัยของขาวตู ซ่ึงเปนส่ือประกอบเพ่ิมเติม
เก่ียวกับสิ่งที่จําเปนตอการเจริญเติบโตและการดํารงชีวิตของมนุษย
และสัตวใหแกนักเรียนเพื่อชักชวนสรุปเก่ียวกับสิ่งท่ีจําเปนตอการ
เจริญเติบโตและการดํารงชวี ติ ของมนุษยและสตั วอกี คร้งั

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 221

คูมอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชีวิตของสตั ว

แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม

รวบรวมขอมูลและบรรยายส่ิงทจ่ี าํ เปน ตอ การเจริญเตบิ โตและ
การดาํ รงชีวติ ของมนษุ ย
สืบคนขอมูลและบอกแนวทางในการดแู ลตนเองใหไ ดรบั สง่ิ ทจี่ ําเปนตอ
การเจรญิ เติบโตและการดาํ รงชวี ิตอยางเหมาะสม

คําตอบของนกั เรยี นขน้ึ อยูกับ
ผลการทาํ กิจกรรม

222 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว

นักเรยี นตอบตามผลการอภปิ รายของตนเอง ซ่งึ อาจตอบไดวา
รา งกายมกี ารเปล่ียนแปลง เนอ่ื งจากการกินอาหาร ดื่มนํ้า และไดรบั อากาศ

อาหาร นาํ้ อากาศ

ทําใหรางกายเจริญเติบโต ทําใหรา งกายเจริญเตบิ โต ใชในการหายใจ ชวยให
แข็งแรง ซอ มแซมสวนที่ และดาํ รงชีวติ ไดอยา ง รา งกายดาํ รงชีวิตได
สกึ หรอ ใหพลังงาน และ ปกติ อยางปกติ
ทําใหร างกายทํางานได
อยางปกติ

นักเรียนตอบตามผลการทํากิจกรรมในหองเรียน

รบั ประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชนอ ยา งครบถวนและหลากหลาย ในปริมาณที่
เพียงพอ ด่ืมน้ําสะอาดอยางเพยี งพอ และอยูในท่ีทีม่ ีอากาศสะอาดและถา ยเท
สะดวก

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 223

คมู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

รางกายของเรามกี ารเจริญเติบโต รไู ดจ ากการมีน้ําหนกั และสวนสูงเพมิ่ ขนึ้
จากในระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 2

อาหาร นา้ํ และอากาศ
ดูแลใหร างกายไดร บั ส่ิงทจี่ าํ เปน ตา ง ๆ อยางเหมาะสม โดยรบั ประทาน
อาหารท่ีมีประโยชนอยางครบถวนและหลากหลาย ในปริมาณทีเ่ พยี งพอ
ดม่ื น้ําสะอาดอยางเพียงพอ และอยูใ นที่ทมี่ ีอากาศสะอาดและถายเทสะดวก

นาํ้ หนกั และสวนสงู ของนักเรยี นเพ่ิมข้นึ จากระดบั ชั้น ป.2 เพราะได
รบั ประทานอาหาร ด่ืมนํ้า และไดรับอากาศ

อาหารทาํ ใหรางกายเจรญิ เติบโต แข็งแรง นํ้าทาํ ใหรา งกายเจริญเตบิ โต
และดํารงชวี ติ ไดอยางปกติ และอากาศใชใ นการหายใจ ชวยใหรางกาย
ดาํ รงชวี ติ ไดอยางปกติ

224 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

อาหาร นํ้า และอากาศ เปนส่งิ ทีจ่ ําเปน ตอ การเจริญเติบโตและการดํารงชีวิต
ของมนษุ ย จงึ ควรดูแลตนเองใหไ ดรบั ส่งิ ทีจ่ าํ เปนตาง ๆ อยา งเหมาะสม

คําถามของนกั เรยี นท่ตี ั้งตามความอยากรูข องตนเอง

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 225

คูมอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว

แนวการประเมินการเรียนรู

การประเมนิ การเรยี นรูข องนกั เรยี นทาํ ได ดงั นี้
1. ประเมนิ ความรเู ดิมจากการอภิปรายในช้ันเรียน
2. ประเมินการเรยี นรจู ากคําตอบของนกั เรียนระหวา งการจดั การเรียนรแู ละจากแบบบนั ทึกกจิ กรรม
3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละทกั ษะแหงศตวรรษท่ี 21 จากการทํากิจกรรมของนกั เรยี น

การประเมนิ จากการทาํ กจิ กรรมที่ 1.2 มนุษยต อ งการสิ่งใดในการเจรญิ เตบิ โต
และการดาํ รงชีวติ

รหสั สงิ่ ท่ปี ระเมนิ ระดับ
คะแนน
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S2 การวัด
S3 การใชจาํ นวน
S8 การลงความเหน็ จากขอ มลู
S13 การตคี วามหมายขอ มูลและลงขอสรุป

ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21
C2 การคดิ อยางมวี ิจารณญาณ
C5 ความรว มมือ

รวมคะแนน

226 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร

ทักษะ เกณฑการประเมนิ
กระบวนการทาง รายการประเมิน
วทิ ยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรุง (1)

S2 การวดั การใชเครือ่ งวดั สวนสูง สามารถใชเ ครื่องวดั สามารถใชเ คร่ืองวดั สามารถใชเครื่องวัด

ในการวัดสว นสงู ของ สว นสงู ในการวัดสว นสงู สว นสูงในการวัดสว นสงู สว นสงู ในการวัดสวนสงู

ตนเองและเพ่ือน และ ของตนเองและเพอ่ื น ของตนเองและเพ่อื น และ ของตนเองและเพื่อน

ใชเครอ่ื งชั่งน้ําหนักใน และใชเ คร่ืองชงั่ น้ําหนกั ใชเคร่ืองชงั่ นํา้ หนักในการ และใชเคร่ืองชัง่ นํา้ หนัก

การช่ังนํ้าหนักของ ในการชง่ั นํา้ หนกั ของ ชัง่ น้าํ หนกั ของตนเอง และ ในการช่ังนา้ํ หนกั ของ

ตนเอง และระบหุ นวย ตนเอง และระบหุ นวยได ระบหุ นว ยไดถูกตอง จาก ตนเอง แตระบหุ นว ยไม

ได ถูกตอง ดว ยตนเอง การชี้แนะของครหู รือผูอ่นื ถูกตอง แมวา จะไดรับ

คําช้ีแนะจากครูหรือผูอื่น

S3 การใชจ าํ นวน การหาผลตางของ สามารถหาผลตางของ สามารถหาผลตางของ สามารถหาผลตา งของ

สว นสูงและน้าํ หนกั สว นสงู และนาํ้ หนัก สวนสูงและนาํ้ หนัก สว นสูงและนา้ํ หนกั

ระหวา งระดับช้นั ระหวางระดบั ชั้น ระหวา งระดบั ชัน้ ระหวางระดบั ชั้น

ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 และ ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 และ 2 ประถมศกึ ษาปที่ 3 และ

และ 2 2 ไดถ ูกตอง ดว ยตนเอง ไดถูกตอ ง จากการชี้แนะ 2 ไดถ ูกตองเพียงอยา ง

ของครูหรือผอู นื่ เดยี ว แมว า จะไดร บั คํา

ชี้แนะจากครหู รือผอู น่ื

S8 การลง การลงความเหน็ สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก

ความเหน็ จาก จากขอมูลการ ขอมูลการเปลีย่ นแปลง ขอมลู การเปลยี่ นแปลง ขอ มลู การเปล่ียนแปลง

ขอมูล เปล่ียนแปลงความสูง ความสงู และนํ้าหนักของ ความสูงและน้ําหนักของ ความสงู และนาํ้ หนักของ

และนํ้าหนักของตนเอง ตนเองและเพื่อน และ ตนเองและเพื่อน และจาก ตนเองและเพ่ือน และ

และเพ่ือน และจากใบ จากใบความรูไดวา ใบความรไู ดว า รา งกายมี จากใบความรูไดวา

ความรูไดวา รา งกายมี รา งกายมีการ การเจริญเตบิ โต โดยไดร ับ รา งกายมีการ

การเจรญิ เติบโต โดย เจรญิ เติบโต โดยไดร ับ อาหาร นา้ํ และอากาศ ซง่ึ เจริญเตบิ โต โดยไดรบั

ไดรับอาหาร น้าํ และ อาหาร นาํ้ และอากาศ เปนสิง่ ทจ่ี ําเปน ตอ การ อาหาร น้าํ และอากาศ

อากาศ ซ่ึงเปน สิ่งท่ี ซงึ่ เปน สิง่ ที่จําเปน ตอการ เจรญิ เติบโตของมนษุ ย ซ่งึ เปน สิง่ ทจี่ าํ เปน ตอการ

จําเปนตอ การ เจริญเติบโตของมนษุ ย และบอกไดว าตนเองไดร บั เจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย

เจริญเติบโตของมนษุ ย และบอกไดว า ตนเอง สิ่งที่จาํ เปนเหลานน้ั อยา ง และบอกไดวา ตนเอง

และบอกไดวา ตนเอง ไดร บั สิง่ ทจี่ ําเปนเหลา นน้ั เหมาะสมหรือไม ไดรับสงิ่ ท่จี าํ เปน เหลานัน้

ไดรับสง่ิ ท่จี ําเปน อยา งเหมาะสมหรือไม ไดถูกตอง จากการชีแ้ นะ อยางเหมาะสมหรือไม

ไดถูกตองดว ยตนเอง ของครูหรือผูอ นื่ ไดถ ูกตอ ง แตไมค รบถว น

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 227

คูมือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

ทักษะ เกณฑการประเมนิ
กระบวนการทาง รายการประเมนิ
วทิ ยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)

เหลา น้ันอยาง สมบูรณ แมว า จะได

เหมาะสมหรือไม รบั คาํ ชแ้ี นะจากครหู รือ

ผอู นื่

S13 การ การตีความหมายขอมูล สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย

ตคี วามหมาย ทไ่ี ดจากการสงั เกตการ ขอมูลที่ไดจ ากการสงั เกต ขอมูลที่ไดจากการสงั เกต ขอ มลู ท่ีไดจากการสังเกต

ขอมลู และการลง เจริญเติบโตของตนเอง การเจริญเติบโตของ การเจริญเติบโตของตนเอง การเจริญเติบโตของ

ขอ สรปุ และจากการอาน ตนเองและจากการอาน และจากการอานใบความรู ตนเองและจากการอาน

ใบความรู และลง ใบความรู และลงขอสรุป และลงขอสรุปไดว าอาหาร ใบความรู แตลงขอสรุป

ขอสรุปไดว าอาหาร นาํ้ ไดว าอาหาร นํ้า และ นาํ้ และอากาศเปน ส่งิ ที่ ไดเ พียงบางสว นวา

และอากาศเปนสงิ่ ที่ อากาศเปน สง่ิ ท่จี าํ เปน จาํ เปน ตอ การเจริญเติบโต อาหาร นา้ํ อากาศเปน

จําเปนตอ การ ตอ การเจริญเตบิ โตและ และการดาํ รงชีวติ ของ สงิ่ ท่ีจําเปนตอการ

เจรญิ เติบโตและการ การดาํ รงชีวติ ของมนษุ ย มนษุ ย และควรดแู ล เจรญิ เติบโตและการ

ดํารงชีวติ ของมนุษย และควรดแู ลตนเองให ตนเองใหไดรับสงิ่ ท่จี าํ เปน ดํารงชวี ติ ของมนุษย

และควรดแู ลตนเองให ไดรับสง่ิ ทีจ่ ําเปนเหลา นน้ั เหลาน้ันอยางเหมาะสมได และควรดแู ลตนเองให

ไดรบั สิ่งที่จําเปน อยางเหมาะสมไดถ ูกตอง ถกู ตอง จากการช้แี นะจาก ไดร ับสิ่งทจี่ ําเปนเหลานนั้

เหลานั้นอยา ง ดวยตนเอง ครูและผูอืน่ อยางเหมาะสม แมว าจะ

เหมาะสม ไดร บั คาํ ชี้แนะจากครู

หรอื ผูอ นื่

ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑการประเมนิ ทักษะแหง ศตวรรษที่ 21

ทกั ษะแหง รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑก ารประเมิน ควรปรบั ปรงุ (1)
ศตวรรษท่ี 21 พอใช (2)

C2 การคดิ อยา งมี การวิเคราะห สามารถวิเคราะหสาเหตุ สามารถวิเคราะหสาเหตุที่ สามารถวิเคราะหสาเหตุที่

วจิ ารณญาณ สาเหตุท่ีทาํ ให ท่ีทําใหนา้ํ หนักและ ทาํ ใหนํา้ หนักและสวนสูง ทาํ ใหนํ้าหนักและสวนสูง

น้ําหนักและสวนสูง สวนสูงของตนเองและ ของตนเองและเพ่ือนมีการ ของตนเองและเพ่ือนมกี าร

ของตนเองและเพือ่ น เพ่ือนมกี ารเปล่ียนแปลง เปล่ยี นแปลงเพอ่ื สรุปสงิ่ ท่ี เปลยี่ นแปลงเพือ่ สรุปส่ิงท่ี

มกี ารเปลย่ี นแปลงเพื่อ เพื่อสรปุ สงิ่ ทจี่ ําเปน ตอการ จาํ เปน ตอ การเจริญเติบโตและ จําเปนตอการเจริญเติบโตและ

สรปุ สงิ่ ทีจ่ าํ เปน ตอ การ เจรญิ เตบิ โตและการ การดาํ รงชวี ติ ของมนุษย และ การดํารงชวี ิตของมนษุ ย และ

เจริญเติบโตและการ ดาํ รงชวี ิตของมนุษย และ วเิ คราะหว า ใน ในชีวติ ประจําวันไดร บั สง่ิ ท่ี

ดํารงชีวติ ของมนษุ ย วิเคราะหวา ใน ชวี ิตประจาํ วนั ไดร บั สิง่ ท่ี จําเปน เหลานั้นอยาง

228 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชีวิตของสตั ว

ทกั ษะแหง รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑก ารประเมิน ควรปรบั ปรุง (1)
ศตวรรษที่ 21 ชีวติ ประจาํ วันไดรบั สง่ิ ท่ี พอใช (2) เหมาะสมหรือไม เพื่อบอก
และวเิ คราะหว า ใน จาํ เปน เหลา นั้นอยา ง แนวทางในการดูแล
C5 ความรว มมือ ชวี ิต ประจําวัน เหมาะสมหรือไม เพ่ือ จําเปนเหลานั้นอยาง ตนเองใหไดรับส่ิงที่จําเปน
ไดร ับส่ิงท่จี าํ เปน บอกแนวทางในการดูแล เหมาะสมหรือไม เพื่อบอก ตาง ๆ อยางเหมาะสมได
เหลา นน้ั อยา ง ตนเองใหไดรับสิ่งท่ี แนวทางในการดูแล ไมค รบถวนสมบรู ณ แมวา
เหมาะสมหรือไม จาํ เปนตาง ๆ อยาง ตนเองใหไดรับส่ิงท่ีจาํ เปน จะไดรับคาํ ชี้แนะจากครู
เพื่อบอกแนวทาง เหมาะสมไดถ กู ตองดว ย ตาง ๆ อยางเหมาะสมได หรอื ผอู ื่น
ในการดูแลตนเอง ตนเอง ถูกตอง จากการชแี้ นะจาก
ใหไดรับส่ิงท่ีจําเปน ครหู รือผูอน่ื สามารถทํางานรว มกบั ผอู น่ื
ตาง ๆ อยาง สามารถทํางานรว มกับ ในการอภปิ รายเกีย่ วกบั
เหมาะสม ผูอื่นในการอภปิ ราย สามารถทาํ งานรว มกับผอู ่ืน สาเหตุท่ีทาํ ใหนํา้ หนกั และ
การทาํ งานรว มกับ เก่ียวกบั สาเหตทุ ีท่ าํ ให ในการอภปิ รายเกี่ยวกับ สว นสงู ของตนเองและเพือ่ น
ผอู ่ืนในการอภิปราย นํา้ หนักและสว นสงู ของ สาเหตทุ ่ที าํ ใหนาํ้ หนักและ มีการเปลี่ยนแปลงไป และ
เกี่ยวกับสาเหตุทีท่ ํา ตนเองและเพ่ือนมีการ สวนสงู ของตนเองและเพื่อน บอกแนวทางในการดแู ล
ใหน ํ้าหนักและ เปล่ยี นแปลงไป และบอก มกี ารเปล่ียนแปลงไป และ ตนเองใหไดรบั สง่ิ ทจ่ี าํ เปน
สว นสงู ของตนเอง แนวทางในการดแู ลตนเอง บอกแนวทางในการดูแล ตาง ๆ อยางเหมาะสม
และเพื่อนมกี าร ใหไดร บั สิง่ ทจ่ี ําเปน ตา ง ๆ ตนเองใหไดร ับส่ิงท่จี าํ เปน รวมทั้งยอมรับความ
เปลีย่ นแปลงไป และ อยา งเหมาะสม รวมทั้ง ตา ง ๆ อยา งเหมาะสม คดิ เหน็ ของผอู ืน่ ในบาง
บอกแนวทางในการ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของ รวมทั้งยอมรับความ ชว งเวลาท่ที ํากจิ กรรม
ดูแลตนเองใหไ ดรบั ผอู นื่ ต้ังแตเ รมิ่ ตนจน คดิ เหน็ ของผูอนื่ ในบาง ทง้ั น้ตี อ งอาศัยการกระตุน
สิง่ ท่ีจําเปนตาง ๆ สําเร็จ ชวงเวลาทท่ี าํ กิจกรรม จากครหู รือผูอื่น
อยา งเหมาะสม
รวมทงั้ ยอมรับความ
คดิ เหน็ ของผอู ืน่

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 229

คูมือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว

เรอ่ื งที่ 2 วฏั จักรชีวติ ของสัตว

ในเรื่องนี้นักเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตของ
สัตวชนิดตา ง ๆ และเปรียบเทียบวฏั จักรชวี ิตของสตั วบางชนิด
รวมทั้งการบอกแนวทางที่ไมทําใหวัฏจักรชีวิตของสัตว
เปลี่ยนแปลง

จุดประสงคการเรียนรู

1. รวบรวมขอมูลและสรางแบบจําลองท่ีบรรยาย
วัฏจักรชวี ิตของสัตว

2. เปรยี บเทียบวฏั จักรชีวติ ของสัตวชนดิ ตาง ๆ
3. อภิปรายและบอกแนวทางการไมทําใหวัฏจักรชีวิต

ของสตั วเ ปลยี่ นแปลง

เวลา 3 ชัว่ โมง
วัสดุ อปุ กรณส ําหรบั ทํากิจกรรม

บัตรภาพแสดงการเจริญเติบโตในระยะตาง ๆ ของ
มนุษย ไก และผเี สือ้ ไหม บัตรคาํ

สื่อการเรียนรแู ละแหลงเรียนรู

1. หนงั สือเรียน ป.3 เลม 1 หนา 91-99
2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.3 เลม 1 หนา 86-93

230 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว

แนวการจดั การเรยี นรู (60 นาที)

ข้ันตรวจสอบความรู (10 นาที)

1. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเก่ียวกับวัฏจักรชีวิตของสัตว ในการตรวจสอบความรูเดิม
โดยใชค ําถามดังนี้ ครูรับฟงเหตุผลของนักเรียนเปน
1.1 เม่ือลูกเจ๊ียบฟกออกมาจากไข ลูกเจ๊ียบจะเจริญเติบโตไปเปนอะไร สําคัญ ครูยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน ลูกเจี๊ยบ แ ต ชั ก ช ว น ใ ห ห า คํ า ต อ บ ด ว ย
จะเจรญิ เติบโตไปเปนไกต วั เต็มวยั ) ตนเองจากการอานเนื้อเรื่อง
1.2 ในขณะเจริญเติบโต รางกายของลูกเจ๊ียบมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม
อยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน มีการ
เปลี่ยนแปลง โดยลูกเจ๊ียบจะมีขนาดลําตัวใหญข้ึน ขนแข็งขึ้น สีขน
เปลีย่ นแปลง)
1.3 นักเรียนเคยสังเกตลูกสัตวอื่น ๆ อีกหรือไม และคิดวาลูกสัตว
เหลานนั้ เจรญิ เติบโตไปเปนอะไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของ
ตนเอง เชน เคยเห็นลูกสุนัข โดยลูกสุนัขเจริญเติบโตไปเปนสุนัข
ที่มขี นาดตวั ใหญขนึ้ )

2. ครูเช่ือมโยงความรูเดิมของนักเรียนสูการเรียนเรื่องวัฏจักรชีวิตของสัตว
โดยใชคําถามวา ในขณะเจริญเติบโต รูปรางลักษณะและการดํารงชีวิต
ของสัตวชนดิ ตาง ๆ มีการเปลีย่ นแปลงหรือไม อยา งไร

ขนั้ ฝก ทักษะจากการอา น (40 นาที)

3. ครูใหนักเรียนอานชื่อเรื่อง และคิดกอนอาน ในหนังสือเรียน หนา 91
จากนั้นรวมกนั อภปิ รายเพื่อหาแนวคาํ ตอบและนําเสนอ ครบู นั ทกึ คําตอบ
ของนักเรยี นบนกระดานเพอื่ ใชเปรยี บเทียบคําตอบหลังการอา นเรื่อง

4. นกั เรียนอานคําสําคัญ ทัง้ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียนอาน
ไมได ครูควรสอนอานใหถูกตอง) จากน้ันครูชักชวนใหนักเรียนอธิบาย
ความหมายของคาํ สําคญั ตามความเขา ใจของตนเอง

5. นักเรียนอานเนื้อเร่ืองในหนังสือเรียน หนา 91 โดยครูฝกทักษะการอาน

ตามวิธีการอานท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ครูตรวจสอบ
ความเขา ใจจากการอา น โดยใชค ําถามดังน้ี

5.1 ขา วตูเลี้ยงสตั วช นดิ ใด (สนุ ขั )

5.2 สุนัขของขาวตูมีการเจริญเติบโตหรือไม อยางไร (สุนัขมีการ
เจรญิ เตบิ โต โดยสุนขั มขี นาดลาํ ตวั ใหญขน้ึ )

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 231

คูม อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสัตว

5.3 ขาวตูเล้ียงดูสุนัขอยางไร สุนัขจึงสามารถเจริญเติบโตและดํารงชีวิต หากนักเรียนไมสามารถตอบ
อยูได (ขาวตูใหอาหารและน้ําอยางเพียงพอ และสรางบานใหสุนัข คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว
ในบรเิ วณทมี่ อี ากาศถายเทสะดวก) คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
5.4 ขณะท่ีลูกสุนัขเจริญเติบโต สุนัขมีการเปล่ียนแปลงอยางไรบาง แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง
(สุนัขมีขนาดลําตัวใหญข้ึน เมื่อถึงระยะหน่ึงสุนัขพรอมจะสืบพันธุ นักเรยี น
เพอ่ื มีลูกตอ ไป)

5.5 ผลทีเ่ กิดจากการสืบพันธขุ องสนุ ขั คืออะไร (จะไดลูกสุนขั ตวั เลก็ )
5.6 รูปรางลักษณะของลูกสุนัขเหมือนหรือแตกตางจากสุนัขตัวเต็มวัย

(เหมือนกัน คอื ลูกสนุ ัขจะมรี ูปรางลักษณะเหมือนกบั สุนัขตัวเต็มวัย
แตจะมขี นาดเล็กกวาสนุ ัขตวั เตม็ วัย)
5.7 การเปลี่ยนแปลงของสุนัขขณะเจริญเติบโตเปนวัฏจักรชีวิตหรือไม
อยา งไร (เปน วฏั จักรชวี ติ สนุ ขั ท่เี จริญเติบโตเปนตวั เต็มวยั จะสืบพันธุ
และมีลูก เมื่อลูกสุนัขเจริญเติบโตเปนตัวเต็มวัยก็จะสืบพันธุและมี
ลูกตอไปอีก หมุนเวียนเปนแบบรูปคงที่ซํ้าเดิมอยางตอเนื่องเปน
วฏั จักรชวี ติ ของสนุ ขั )
5.8 นักเรยี นสามารถเขยี นแผนภาพวฏั จกั รชีวิตของสนุ ัขไดอ ยางไร

ลกู สุนัข สุนขั ตวั เต็มวัย

ครูอาจสุมนักเรียน 2-3 คน ออกมาเขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิต
ของสุนัขบนกระดาน ถานักเรียนเขียนไมได ครูควรอธิบายเพ่ิมเติม
เก่ียวกับการเขียนวัฏจักรชีวิต หรืออาจนําแผนภาพวัฏจักรชีวิตของ
พืชทเ่ี คยเรียนผานมาในระดับชั้น ป.2 มาใหนกั เรยี นดอู กี คร้งั
5.9 นอกจากสุนัขแลว สัตวชนิดอ่ืน ๆ มีวัฏจักรชีวิตหรือไม (สัตวชนิด
อื่น ๆ กม็ วี ฏั จกั รชีวติ เชนกนั )

ขั้นสรุปจากการอา น (10 นาที)

6. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปเรื่องที่อาน ซึ่งควรสรุปไดวา ในขณะ
เจริญเติบโต สัตวชนิดตาง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะ
โดยสัตวที่เจริญเติบโตจนเปนตัวเต็มวัยจะมีการสืบพันธุและมีลูก เมื่อลูก
เจริญเติบโตตอไปจนเปนตัวเต็มวัยก็จะสืบพันธุและมีลูกตอไปอีก
หมนุ เวียนเปน แบบรูปคงทีซ่ ้ําเดิมอยางตอเนอ่ื งเปน วฏั จักรชีวติ ของสัตว

232 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

7. นักเรียนตอบคาํ ถามในรูหรอื ยงั ในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หนา 86 การเตรียมตัวลว งหนาสาํ หรับครู
8. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียนใน เพอื่ จดั การเรยี นรูใ นครงั้ ถดั ไป

รูหรือยงั กับคาํ ตอบที่เคยตอบและบันทึกไวใ นคิดกอนอา น ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะไดทํา
9. ครูใหนักเรียนตอบคําถามทายเรื่องท่ีอาน ดังน้ี วัฏจักรชีวิตของสัตว กิจกรรมท่ี 2 วัฏจักรชีวิตของสัตวเปน
อยา งไร โดยครูเตรยี มสอื่ การสอน ดังน้ี
ชนิดตาง ๆ เหมือนหรือแตกตางกันอยางไร (นักเรียนตอบคําถามตาม 1. รูปหนอน 1 รูป เพื่อใชตรวจสอบ

ความเขาใจของตนเอง) ความรูเดิมของนกั เรยี น
2. บัตรภาพแสดงการเจริญเติบโตใน
ครูยังไมเฉลยคําตอบแตชักชวนใหนักเรียนหาคําตอบจากการทํา
กจิ กรรม ระยะตาง ๆ ของมนุษย ไก และ
ผเี ส้ือไหม และบตั รคาํ ซ่ึงครสู ามารถ
ด า ว น โ ห ล ด บั ต ร ภ า พ แ ล ะ
บัตรคําไดโ ดยส แ ก น QR code
ในหนังสือเรียน หนา 93 และนํามา
ตัดเพอื่ ใหน ักเรียนใชท ํากจิ กรรม

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 233

คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว

แนวคําตอบในแบบบนั ทึกกจิ กรรม

เม่ือสัตวเ จรญิ เติบโตข้นึ จนเปนตวั เตม็ วัย จะมีการสบื พันธุ และมลี ูก
เมอื่ ลูกเจริญเติบโตจนเปนตวั เต็มวัยกพ็ รอมที่จะสืบพนั ธุและมลี กู ตอไปไดอ ีก
หมนุ เวียนเปนแบบรูปคงท่ีซ้ําเดิมอยางตอเนือ่ งเปนวัฏจักรชีวิตของสตั ว

จุดประสงคของกจิ กรรมน้ีจะไดเ รยี นตอไปในกิจกรรมที่ 2

234 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว

กิจกรรมท่ี 2 วัฏจกั รชีวิตของสตั วเ ปน อยางไร

กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดสังเกตบัตรภาพแสดง
การเจริญเติบโตในระยะตาง ๆ ของมนุษย ไก และ
ผีเส้ือไหม จับคูบัตรภาพกับบัตรคํา และสรางแบบจําลอง
จากบัตรภาพดังกลาว เพื่อบรรยายและเปรียบเทียบ
วัฏจักรชีวิตของสัตวชนิดตาง ๆ รวมท้ังการอาน
สถานการณเพ่ือบอกแนวทางการไมทําใหวัฏจักรชีวิตของ
สัตวเ ปลี่ยนแปลง

เวลา 2 ช่ัวโมง

จุดประสงคการเรียนรู ทกั ษะแหง ศตวรรษท่ี 21

1. รว บรว มขอมูล แล ะส รางแบบจําล อง ที่ C2 การคดิ อยา งมวี ิจารณญาณ
C4 การสอื่ สาร
บรรยายวัฏจกั รชวี ิตของสัตว C5 ความรว มมือ
C6 การใชเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร
2. เปรียบเทียบวัฏจกั รชีวติ ของสัตวช นดิ ตาง ๆ
3. อภิปรายและบอกแนวทางการไมทําใหวัฏจักร ส่ือการเรยี นรูและแหลง เรียนรู

ชวี ติ ของสัตวเ ปลย่ี นแปลง 1. หนังสอื เรยี น ป.3 เลม 1 หนา 93-96
2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.3 เลม 1 หนา 86-93
วัสดุ อุปกรณส ําหรบั ทํากิจกรรม

สงิ่ ท่ีครูตองเตรยี ม/กลุม

1. บตั รภาพแสดงการเจริญเตบิ โตในระยะตา ง ๆ

ของมนุษย ไก และผีเส้ือไหม 1 ชดุ

2. บตั รคํา 1 ชดุ

ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร

S1 การสังเกต
S6 การจัดกระทําและสอ่ื ความหมายขอมูล

S8 การลงความเห็นจากขอมูล

S13 การตีความหมายขอมลู และลงขอ สรปุ
S14 การสรา งแบบจําลอง

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 235

คมู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสัตว

แนวการจดั การเรียนรู ในการตรวจสอบความรูเดิม ครู
เพียงรับฟงเหตุผลของนักเรียนเปน
1. ครูตรวจสอบความรเู ดิมของนักเรียนเกี่ยวกบั วัฏจกั รชีวติ ของสัตว โดยนํา สําคัญ ครูยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ แต
รูปหนอนชนิดหน่ึงมาใหน ักเรยี นดู จากน้ันอภิปรายโดยใชค ําถามดังน้ี ชักชวนใหหาคําตอบที่ถูกตองจาก
1.1 รูปนี้เปนสิ่งมีชีวิตชนิดใด (นักเรียนตอบตามประสบการณของ การทาํ กจิ กรรม
ตนเอง เชน สตั ว หนอน หนอนผเี ส้ือ)
1.2 หนอนเกิดมาไดอยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง
เชน หนอนฟกออกมาจากไข)
1.3 หนอนมีการเจริญเติบโตหรือไม ถามี เม่ือหนอนเจริญเติบโตจะมี
การเปลี่ยนแปลงอยางไรบาง (นักเรียนตอบตามความเขาใจของ
ตนเอง เชน หนอนมีการเจริญเติบโต โดยเปล่ียนเปนดักแด หรือ
เปลีย่ นเปนแมลงวัน)
1.4 นักเรียนคิดวาหนอนมีวัฏจักรชีวิตหรือไม อยางไร (นักเรียนตอบ
ตามความเขาใจของตนเอง เชน หนอนมีวัฏจักรชีวิต เม่ือหนอน
เจริญเติบโตตอไปจะเปล่ียนเปนดักแด ดักแดเจริญเติบโตไปเปน
ผีเส้ือตัวเต็มวัย เม่ือผีเส้ือตัวเต็มวัยสืบพันธุจะวางไข จากน้ันไขจะ
ฟกออกมาเปนหนอนอีกคร้ัง หมุนเวียนอยางตอเน่ืองเปนวัฏจักร
ชวี ติ )

2. ครูเช่ือมโยงความรูเดิมของนักเรียนเขาสูกิจกรรมท่ี 2 โดยใชคําถามวา
วฏั จกั รชีวติ ของหนอนและสัตวชนดิ อน่ื ๆ เปน อยา งไร

3. นักเรียนอานช่ือกิจกรรม และทําเปนคิดเปน จากน้ันรวมกันอภิปราย
เพ่ือตรวจสอบความเขาใจเก่ียวกับจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยครู
ใชค ําถาม ดงั น้ี
3.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดเรียนเร่ืองอะไร (วัฏจักรชีวิตของสัตวและ
การไมท าํ ใหว ฏั จกั รชีวติ ของสตั วเปลี่ยนแปลง)
3.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเร่ืองนี้ดวยวิธีใด (การรวบรวมขอมูลและ
การสรา งแบบจําลอง)
3.3 เม่ือเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว
เปรียบเทียบวัฏจักรชีวิตของสัตวชนิดตาง ๆ และบอกแนวทางการ
ไมท าํ ใหว ัฏจกั รชีวติ ของสตั วเปล่ยี นแปลง)

4. นักเรียนบันทึกจุดประสงคตอนที่ 1 ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 86
และจดุ ประสงคตอนที่ 2 ลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม หนา 90

5. นักเรียนอานส่ิงที่ตองใชในการทาํ กิจกรรม โดยครูนําวัสดุอุปกรณท่ีใชใ น
กิจกรรมมาแสดงใหน กั เรียนดู

236 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชีวิตของสัตว

6. นักเรียนอานทําอยางไร ตอนที่ 1 ทีละขอ โดยครูฝกการอานตามความ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและ
เหมาะสมกบั ความสามารถของนักเรียน จากนนั้ รว มกนั อภปิ รายเพื่อสรุป ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ทน่ี ักเรียนจะได
ขั้นตอนการทาํ กจิ กรรม โดยครใู ชคาํ ถามตอ ไปน้ี
6.1 นักเรียนตองสังเกตบัตรภาพแสดงการเจริญเติบโตในระยะตาง ๆ ฝก จากการทํากิจกรรม
ของสตั วช นดิ ใดบา ง (มนษุ ย ไก และผเี สือ้ ไหม)
6.2 เม่ือสังเกตบัตรภาพแลว นักเรียนตองทําอะไร (จับคูบัตรภาพแสดง ตอนท่ี 1
การเจรญิ เติบโตของมนุษย ไก และผีเสือ้ ไหม กบั บัตรคํา) S1 สังเกตบัตรภาพแสดงการเจริญเติบโตใน
6.3 เม่ือจับคูบตั รภาพกับบตั รคําแลว นกั เรียนตองอภปิ รายเกยี่ วกบั เร่ือง
อะไร (การเปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และ ระยะตาง ๆ ของมนุษย ไก และผีเส้อื ไหม
แหลงท่อี ยูขณะเจรญิ เติบโตของมนุษย ไก และผีเสอื้ ไหม) S6 นําขอมูลที่ไดจากการสังเกตและจับคู
6.4 นักเรียนตองเขียนแผนภาพและนําเสนอเก่ียวกับเร่อื งอะไร (วัฏจักร
ชวี ิตของมนุษย ไก และผเี สอ้ื ไหม) บัตรภาพกับขอมูลในบัตรคํามาเขียน
6.5 นักเรียนตองอภิปรายและเปรียบเทียบเก่ียวกับเรื่องอะไรบาง แผนภาพวัฏจักรชีวิตของมนุษย ไก และ
(รปู รา งลักษณะ การกนิ อาหาร และแหลง ทอ่ี ย)ู ผีเส้ือไหม
S8 ลงความเห็นขอมูลจากการอภิปราย
7. เม่ือนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ใหนักเรียนเริ่ม เก่ียวกับการเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ
ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนของกิจกรรม การกินอาหาร และแหลงที่อยู ขณะ
เจริญเตบิ โตของมนุษย ไก และผเี สื้อไหม
8. หลงั จากทาํ กิจกรรมแลว ครนู ําอภปิ รายผลการทํากจิ กรรม โดยใชคําถาม S14 สรางแบบจําลองโดยใชขอมูลจาก
ดังตอ ไปน้ี บัตรภาพและขอมูลในบัตรคํามาเขียน
8.1 นักเรียนเขาใจคําวาแรกเกิดวาอยางไร (นักเรียนตอบตามความ แผนภาพวัฏจักรชีวิตของมนุษย ไก และ
เขาใจของตนเอง ถานักเรียนยังตอบไมได ครูอาจใหความรูเพ่ิมเติม ผเี สือ้ ไหม เพือ่ บรรยายวฏั จักรชวี ิต
วา แรกเกิด เปนระยะท่ีมนุษยคลอดออกมาจากทองแม หรือสัตว C2 วิเคราะหเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตของสัตว
ฟกออกมาจากไข หรือสตั วคลอดออกมาจากทอ งแม) ชนิดตาง ๆ รวมท้ังเปรียบเทียบความ
8.2 ลําดับการเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลง แตกตางของวัฏจักรชีวิตของสัตวแตละ
ท่ีอยูของมนุษยเปนอยางไร (มนุษยในวัยแรกเกิดจะเจริญเติบโตข้ึน ชนิด และบรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว
ตามวัยจนเปนมนุษยตัวเต็มวยั ท่สี ามารถสืบพันธุและมีลูกได รูปรา ง ชนิดตาง ๆ
ลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูของมนุษยในแตละระยะจะ C4 เขียนและนําเสนอแผนภาพวัฏจักรชีวิต
คลายกัน แตมนุษยในวัยแรกเกิดจะมีขนาดเล็กกวา ด่ืมนมเปน ของมนุษย ไก และผีเส้ือไหม เพ่ือใหผูอื่น
อาหาร แตเม่ือโตขึ้นจะกินอาหารไดหลากหลายประเภท เขาใจ
เชนเดยี วกับตวั เต็มวยั มบี า นเปน ทีอ่ ยอู าศัย) C5 ทํางานรวมกับผูอื่นในการอภิปรายและ
นําเสนอเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตของสัตว
รวมถึงการอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ
ที่สง ผลตอ วฏั จกั รชวี ติ ของสัตว

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 237

คมู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชีวิตของสัตว
8.3 เขยี นแผนภาพวฏั จกั รชวี ติ ของมนุษยไดอยา งไร

มนุษยต ัวเต็มวัย มนุษยในวัยทารกแรกเกิด

12 ปข ึ้นไป หากนักเรียนไมสามารถตอบ
คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว
8.4 ลําดับการเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และ คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียน
แหลงที่อยขู องไกเ ปน อยางไร (เมอื่ ไกต ัวเต็มวัยสบื พนั ธุ จะวางไขบน คิดอยางเหมาะสม รอคอยอยาง
กองฟางหรือพ้ืนดิน ไขมีรูปรา งคลา ยวงรี ภายในมีตัวออนท่ีมรี ูปราง อดทน และรับฟงแนวความคิด
ลักษณะคลายไกต ัวเตม็ วัย ใชไขแ ดงเปนอาหาร ตอมาตวั ออ นจะฟก ของนกั เรียน
ออกมาเปน ลกู เจี๊ยบและเจรญิ เตบิ โตตอไปเปนไกต วั เตม็ วยั ลูกเจย๊ี บ
มีรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงที่อยูคลายไกตัวเต็มวัย
กินไดท้ังพืชและสัตว คุยเขี่ยหาอาหารบนพื้นดิน แตลูกเจ๊ียบจะมี
ขนาดเล็กกวา )

8.5 เขียนแผนภาพวฏั จกั รชีวิตของไกไ ดอยา งไร

2-4 ป

ไกตัวเต็มวัย ไขไ ก

3-6 เดอื น ลูกเจีย๊ บ 21 วนั

8.6 ลําดับการเปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และ
แหลงที่อยูของผีเสื้อไหมเปนอยางไร (เม่ือผีเสื้อไหมสืบพันธุ
จะวางไข ไขมีลักษณะกลม ขนาดเล็ก ภายในมีตัวออนและอาหาร
สําหรับเล้ียงตัวออน จากน้ันหนอนจะฟกออกมาจากไข มีลําตัว
เปนปลอง กินใบหมอนเปนอาหาร แลวหนอนจะเจริญเติบโตตอไป
เปนดักแด มีลักษณะกลมรี อยูในรังไหม ไมกินอาหาร ตอมาดักแด
จะเจริญเติบโตตอไปเปนผีเส้ือไหม มีลําตัวเปนปลอง มีปก 2 ขาง
ไมกินอาหาร สามารถสืบพนั ธแุ ละวางไขไ ด)

238 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสัตว

8.7 เขียนแผนภาพวัฏจักรชีวติ ของผเี สอ้ื ไหมไดอยา งไร
2-3 วัน ไขไหม 10-12 วัน

ผีเสือ้ ไหม หนอนไหม

10-12 วนั ดักแดไหม 20-25 วัน

8.8 สัตวชนิดใดบางท่ีมีวัฏจักรชีวิตแบบไมมีการเปล่ียนแปลงรูปราง ถ า ค รู พ บ ว า นั ก เ รี ย น ยั ง มี
ลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูในขณะเจริญเติบโตตั้งแต แนวคิดคลาดเคล่ือนเก่ียวกับ
แรกเกดิ จนเปนตัวเตม็ วยั (ไกและมนษุ ย) วัฏจักรชีวิตของสัตว ใหรวมกัน
อภปิ รายจนนักเรียน มีแนวคิดท่ี
8.9 วัฏจักรชีวิตของมนุษยและไก เหมือนและแตกตางกันอยางไร (ส่ิงที่ ถกู ตอง
แตกตางกัน คือ รูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูใน
วัฏจักรชีวิตของมนุษยแตกตางกับวัฏจักรชีวิตของไก แตส่ิงที่ ขอเสนอแนะเพ่ิมเติมสาํ หรับครู
เหมือนกัน คือ ในขณะเจริญเติบโตตั้งแตแรกเกิดจนเปนตัวเต็มวัย
มนุษยและไกจะไมมีการเปล่ียนแปลงรูปรา งลักษณะ การกินอาหาร หลงั จากทํากจิ กรรมท่ี 2 ตอนท่ี 1
และแหลง ท่ีอย)ู เรียบรอยแลว ครูอาจใหนักเรียนอาน
ทําอยางไร ในกิจกรรมที่ 2 ตอนท่ี 2
8.10 วัฏจักรชีวิตของไกและผีเสื้อไหมแตกตางกันอยางไร (รูปราง จากนั้นรวมกันอภิปรายข้ันตอนการทํา
ลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูในวัฏจักรชีวิตของไก กิจกรรม ซึ่งนักเรียนตองไปสืบคน
จะแตกตางกับวัฏจักรชีวิตของผีเสื้อไหม และในขณะเจริญเติบโต ขอมูลเก่ียวกับวัฏจักรชีวิตของปลาทู
ต้ังแตออกจากไขจนเปนตัวเต็มวัย ไกจะไมมีการเปล่ียนแปลง และกบ ครูควรมอบหมายใหนักเรียน
รูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยู แตผีเสื้อไหมมีการ ก ลั บ ไ ป สื บ ค น ข อ มู ล ดั ง ก ล า ว เ ป น
เปลยี่ นแปลงดังกลาว) การบาน แลวกลับมาทํากิจกรรมท่ี 2
ตอนที่ 2 ในชั่วโมงถัดไป
8.11 นอกจากไกและมนุษย นักเรียนคิดวามีสัตวอะไรอีกบางท่ีไมมีการ
เปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงที่อยูต้ังแต
แรกเกิดจนเปนตัวเต็มวัย รูไดอยางไร (นักเรียนตอบตามความคิด
ของตนเอง ซ่ึงครูอาจจะใหนักเรียนยกตัวอยางสัตวท่ีเคยพบเห็น
ในชีวิตประจําวัน เชน สุนัข แมว นก ปลาหางนกยูง โดยรูไดจาก
การท่ีสัตวเหลาน้ันไมมีการเปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะ การกิน
อาหาร และแหลง ที่อยใู นขณะเจริญเตบิ โต ซ่งึ ลูกของสตั วเหลานั้น
มีรปู รางลกั ษณะคลา ยกับสัตวตวั เต็มวัย แตม ีขนาดเลก็ กวา)

8.12 นอกจากผีเสื้อไหม นักเรียนคิดวามีสัตวอะไรอีกบางท่ีมีการ
เปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูต้ังแต
แรกเกิดจนเปนตัวเต็มวัย รูไดอยางไร (นักเรียนตอบตามความคิด

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 239

คมู อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว

ของตนเอง ซ่ึงครูอาจจะใหนักเรียนยกตัวอยางสัตวท่ีเคยพบเห็น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละ
ในชวี ติ ประจาํ วัน เชน ยุง กบ โดยรไู ดจ ากการทสี่ ัตวเ หลาน้ันมีการ ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ทนี่ ักเรียนจะได
เปลยี่ นแปลงรูปรา งลักษณะ การกินอาหาร และแหลง ทีอ่ ยใู นขณะ
เจริญเตบิ โต) ฝก จากการทํากจิ กรรม

เมื่อนักเรียนตอบคําถามขอ 8.11-8.12 แลว ครูอาจจะให S8 ลงความเห็นขอมูลจากการวิเคราะห
นักเรียนเขียนวัฏจักรชีวิตของสัตวท่ีนักเรียนยกตัวอยาง โดยครู สถานการณและอภิปรายเก่ียวกับส่ิงที่
อาจใหคาํ แนะนําเพ่มิ เติมเกีย่ วกบั วฏั จกั รชวี ติ ของสัตวชนดิ นน้ั ๆ สงผลตอวัฏจกั รชีวติ ของสัตว
9. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามในส่ิงท่ีอยากรูเพ่ิมเติมเกี่ยวกับวัฏจักร
ชีวิตของสัตว จากนั้นรวมกันอภิปรายและลงขอสรุปวา สัตวชนิดตาง ๆ C2 วเิ คราะหผ ลกระทบท่ีจะเกิดขนึ้ ตอวัฎจักร
มีวัฏจักรชีวิตท่ีมีลักษณะเฉพาะและแตกตางกัน โดยสัตวบางชนิดจะมี ชวี ิตของสัตวใ นสถานการณท่ีกําหนดให
การเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูในขณะ
เจริญเตบิ โต แตส ตั วบางชนดิ ไมมกี ารเปลีย่ นแปลงดงั กลาว (S13) C4 รวมกันอภิปรายเก่ียวกับสถานการณท่ี
10. นักเรยี นตอบคาํ ถามใน ฉันรอู ะไร ตอนท่ี 1 และรวมกันอภิปรายเพ่ือให สงผลตอวฏั จักรชวี ิตของสตั ว
ไดแนวคาํ ตอบทีถ่ ูกตอง
11. ครูใชคําถามเชื่อมโยงความรูที่ไดจากตอนที่ 1 ไปยังตอนท่ี 2 โดยใช C6 ใ ช เ ท ค โ น โ ล ยี ใ น ก า ร สื บ ค น ข อ มู ล
คําถามวา ถาวัฏจักรชีวิตของสัตวชนิดตาง ๆ ถูกทําลายลง จะเปน เกย่ี วกับวฏั จกั รชวี ิตของกบและปลาทู
อยา งไร
12. นกั เรยี นอา นทําอยา งไร ตอนที่ 2 ทีละขอ โดยครฝู ก การอา นตามความ
เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากน้ันรวมกันอภิปรายเพ่ือ
สรุปข้ันตอนการทาํ กจิ กรรม โดยครใู ชคําถามตอ ไปนี้
12.1 นักเรียนตองสืบคนขอมูลเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตของสัตว
ชนิดใดบา ง (กบและปลาท)ู
12.2 นักเรียนสามารถสืบคนขอมูลไดจากแหลงใด (อินเทอรเน็ต
หนงั สือ สอบถามครูหรอื ผปู กครอง)

ครูสามารถเตรียมแหลงขอมูลสําหรับใหนักเรียนใชสืบคน
ไดดวยตนเอง หรืออาจจะทําเปนใบความรูวัฏจักรชีวิตของกบ
และปลาทูเพ่ือใหนกั เรียนใชส ืบคน
12.3 หลังจากอานสถานการณแลว นักเรียนตองอภิปรายเกี่ยวกับ
เรื่องอะไร (การกระทําในแตละสถานการณมีผลตอวัฏจักรชีวิต
ของสตั วชนิดน้นั หรอื ไม อยา งไร)
13. เม่ือนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ใหนักเรียนเริ่ม
ปฏิบัติตามขั้นตอนของกจิ กรรม

240 สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

14. หลังจากทํากิจกรรมแลว ครูนําอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยใช หากนักเรียนไมสามารถตอบ
คาํ ถามดังตอ ไปนี้ คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว
14.1 วัฏจักรชีวิตของกบเปนอยางไร (เมื่อกบตัวเต็มวัยสืบพันธุจะ คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียน
วางไข ไขกบมีลักษณะกลม สีดํา มีวุนใส ๆ หอหุม เกาะกันเปน คิดอยางเหมาะสม รอคอยอยาง
แพลอยในนํ้า เม่ือไขไดรับการผสมจะเจริญเติบโตเปนลูกออด อดทน และรับฟงแนวความคิด
มีรูปรางยาวเรียว หัวมีขนาดใหญ มีหางสําหรับใชวายนํ้า ของนักเรยี น
กินสาหรายหรอื พืชนํา้ เปนอาหาร จากนนั้ ลกู ออ ดจะเจรญิ เติบโต
ตอไปเปนลูกกบ เร่ิมขึ้นมาอยูบนบก กินแมลงเปนอาหาร ตอมา
ลูกกบจะเจริญเติบโตเปนกบตัวเต็มวัย ซึ่งมีรูปรางลักษณะ การ
กินอาหาร และแหลงที่อยูคลายลูกกบ แตมีขนาดใหญกวา
สามารถสืบพนั ธุ และวางไขตอไปได)
14.2 นักเรยี นเขยี นแผนภาพวัฏจกั รชวี ติ ของกบไดอ ยา งไร

12-14 สปั ดาห

1-3 สัปดาห ลูกออ ด ลูกกบ 2-4 ป
ไขก บ กบตัวเตม็ วัย

5-10 ป

ครูอาจสุมนักเรียนออกมาเขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิตของ
กบบนกระดาน
14.3 วัฏจักรชีวิตของปลาทูเปนอยางไร (เมื่อปลาทูตัวเต็มวัยสืบพันธุ
จะวางไขจํานวนมาก ไขมีลักษณะเปนเม็ดเล็ก ๆ ไขท่ีไดรับการ
ผสมจะเจริญเติบโตเปนลูกปลาทู มีครีบ วายน้ําได กินสัตวน้ํา
ขนาดเล็กเปนอาหาร จากน้ันลูกปลาทูจะเจริญเติบโตตอไปเปน
ปลาทูตัวเต็มวัย ซ่ึงมีรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และ
แหลงท่ีอยูคลายลูกปลาทู แตมีขนาดใหญกวา สามารถสืบพันธุ
และวางไขต อไปได)
14.4 นกั เรียนเขียนแผนภาพวัฏจกั รชวี ติ ของปลาทไู ดอ ยา งไร

10 วัน

ไขป ลาทู ลูกปลาทู

3 ป ปลาทตู วั เตม็ วัย 6-7 เดอื น

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 241

คมู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

ครูอาจสุมนักเรียนออกมาเขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิตของ ถ า ค รู พ บ ว า นั ก เ รี ย น ยั ง มี
ปลาทบู นกระดาน แนวคิดคลาดเคลื่อนเก่ียวกับ
14.5 จากสถานการณท่ี 1 เกิดอะไรข้ึนกับลูกออด (มนุษยจับลูกออด การไมทําลายวัฏจักรชีวิตของ
ไปทาํ อาหาร และแบง ขาย) สัตว ใหรวมกันอภิปรายจน
14.6 การกระทําของมนุษยในสถานการณที่ 1 สงผลตอวัฏจักรชีวิต นกั เรียน มแี นวคิดทถ่ี ูกตอง
ของกบหรอื ไม อยางไร (สง ผล เพราะการจับลูกออ ดไปทําอาหาร
จะทําใหจํานวนลูกออดลดลง จะสงผลใหจํานวนลูกกบ
กบตัวเต็มวัย และไขกบลดลงไปดวย ทําใหวัฏจักรชีวิตของกบ
เปลย่ี นแปลงไป)
14.7 จากสถานการณท ่ี 2 เกิดอะไรขึ้นกับลูกปลาทู (มนษุ ยล กั ลอบจับ
ลูกปลาทูไปทาํ ปลาทตู ากแหง )
14.8 การกระทําของมนุษยในสถานการณท่ี 2 สงผลตอวัฏจักรชีวิต
ของปลาทูหรือไม อยางไร (สงผล เพราะการจับลูกปลาทูไปทํา
ปลาทูตากแหง จะทําใหจํานวนลูกปลาทูลดลง สงผลใหจํานวน
ปลาทูตัวเต็มวัยและไขปลาทูลดลงไปดวย ทําใหวัฏจักรชีวิตของ
ปลาทเู ปล่ยี นแปลงไป)
14.9 ถาสถานการณดังกลาวยังคงดําเนินตอไปเร่ือย ๆ นักเรียนคิดวา
จะเกิดอะไรขึ้นกับกบและปลาทู (กบและปลาทู จะมีจํานวน
ลดลงไปเรอ่ื ย ๆ จนอาจทาํ ใหส ัตวท งั้ สองชนดิ สญู พนั ธุ)
14.10 นักเรียนควรทําอยางไรเพ่ือไมใหวัฏจักรชีวิตของกบและปลาทู
เปล่ียนแปลงไป (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน
ชวยกันดูแล ไมจับลูกออดและลูกปลาทูไปกิน ไปขาย หรือ
ไมทําลายระยะใดระยะหนึง่ ของวฏั จักรชีวิตของกบและปลาท)ู
15. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามในสิ่งท่ีอยากรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ
ไมทําใหวัฏจักรชีวิตของสัตวเปลี่ยนแปลง จากนั้นรวมกันอภิปรายและ
ลงขอสรุปวา การทําลายสัตวในระยะใดระยะหน่ึงของการเจริญเติบโต
จะทําใหวัฏจักรชีวิตของสัตวเกิดการเปล่ียนแปลง ดังน้ันจึงควรชวยกนั
ดูแลและไมทําลายชีวิตสัตว เพ่ือใหวัฏจักรชีวิตของสัตวยังคงดําเนิน
ตอไปได (S13)
16. นกั เรยี นตอบคําถามใน ฉันรอู ะไร ตอนท่ี 2 และรวมกนั อภิปรายเพื่อให
ไดแ นวคาํ ตอบทถี่ ูกตอ ง
17. นักเรียนอาน ส่ิงที่ไดเรียนรู และเปรียบเทียบกับขอสรุปที่ไดจากการ
อภปิ ราย

242 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

18. ครูกระตุนใหนักเรียนฝกตั้งคําถามเกี่ยวกับเรื่องท่ีสงสัยหรืออยากรู
เพิ่มเติมใน อยากรูอีกวา จากน้ันครูอาจสุมนักเรียน 2-3 คน นําเสนอ
คําถามของตนเองหนาช้ันเรียน และใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
เกีย่ วกบั คําถามทนี่ ําเสนอ

19. ครูนําอภิปรายเพื่อใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตรแ ละทกั ษะแหง ศตวรรษที่ 21 อะไรบางและในข้ันตอนใด

20. นักเรียนรวมกันอาน รูอะไรในเร่ืองนี้ ในหนังสือเรียน หนา 97 ครูนํา
อภิปรายเพ่ือนําไปสูขอสรุปเก่ียวกับส่ิงท่ีไดเรียนรูในเรื่องนี้ และให
นกั เรยี นสังเกตวัฏจักรชวี ิตของไกโดยใชแอปพลิเคชนั สําหรับการสังเกต
ภาพเสมือนจริงสามมิติ (AR) เรื่องวัฏจักรชีวิตของไก ในหนังสือเรียน
หนา 98 เปนส่ือประกอบเพิ่มเติม จากนั้นครูกระตุนใหนักเรียนตอบ
คําถามในชวงทายของเน้ือเรื่อง ซ่ึงเปนคําถามเพื่อเช่ือมโยงไปสูการ
เรยี นเนอ้ื หาในบทถัดไป ดงั นี้ “สิง่ ตา ง ๆ รอบตัวเรา ท่ีไมใ ชส งิ่ มีชีวิตก็มี
การเปล่ียนแปลงไดเชนกัน การเปล่ียนแปลงดังกลาวเกิดจากสาเหตุใด
และจะเปลี่ยนแปลงไปอยางไร” นักเรียนสามารถตอบตามความเขาใจ
ของตนเอง ซ่ึงจะหาคาํ ตอบไดจากการเรยี นในบทตอ ไป

21. นักเรียนรวมกันอานเกร็ดนา รู ในหนังสือเรียน หนา 100 และอภิปราย
รว มกนั เกยี่ วกบั ประโยชนของวัฏจกั รชวี ติ ของสัตว

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 243

คมู ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว

ความรเู พมิ่ เตมิ สาํ หรบั ครู

เราสามารถจําแนกสัตวตามการมีกระดูกสันหลังไดเปน 2 กลุม ไดแก กลุมสัตวไมมีกระดูกสันหลัง และ
กลุมสัตวมีกระดูกสันหลัง กลุมสัตวมีกระดูกสันหลังสามารถจําแนกตอไปไดเปน 5 กลุม ไดแก กลุมปลา กลุม
สัตวสะเทินนํ้าสะเทินบก กลุมสัตวเล้ือยคลาน กลุมสัตวปก และกลุมสัตวเล้ียงลูกดวยน้ํานม แตละกลุมจะมี
ลักษณะเฉพาะและแตกตางกัน ดงั น้ี

1. กลุมปลา : มีครีบยื่นออกมาจากลําตัว สวนใหญผิวหนังเปนเกล็ด ดํารงชีวิตอยูในน้ําตลอดชีวิต เม่ือ
เจริญเติบโตเปนตัวเต็มวัยจะออกลูกเปนไขซ่ึงจะฟกออกมาเปนลูกปลาท่ีมีรูปรางลักษณะเหมือน
ตัวเต็มวัย แตมีขนาดเล็กกวา แตมีปลาบางชนิดออกลูกเปนตัว โดยไขจะอยูในทองของเพศเมีย เมื่อไข
ไดรับการผสมกับอสุจิของเพศผูจะเจริญเติบโตและพัฒนาเปนเอ็มบริโออยูในทองของเพศเมีย
เม่ือเจริญเติบโตเต็มท่ีจนเปนลูกปลา ก็จะออกจากทองแม ลูกปลามีรูปรางลักษณะเหมือนกับตัวเต็มวัย
แตม ขี นาดเล็กกวา

2. กลุมสัตวสะเทินนํ้าสะเทินบก : มีผิวหนังเปยกช้ืนตลอดเวลา เมื่อเปนตัวเต็มวัย เพศผูจะปลอยอสุจิ
เพศเมียจะปลอยไขออกมาใหผสมกันในน้ํา จากนัน้ ลูกออดจะฟกออกมาจากไข ลกู ออ ดมีรูปรางลักษณะ
แตกตางจากตัวเต็มวัย ดํารงชีวิตอยูในน้ําตลอดเวลาจนกระท่ังเจริญเติบโตเปนตัวเต็มวัยจึงจะสามารถ
ดาํ รงชวี ติ บนบกได

3. กลุมสัตวเลื้อยคลาน : มีผิวหนังแหง ไมมีขน มีเกล็ดปกคลุมท่ัวตัว อาศัยไดท้ังบนบกและในนํ้า
สัตวบางชนิดในกลุมนี้ออกลูกเปนไข ซ่ึงจะขึ้นมาวางไขบนบก ภายในไขจะมีการพัฒนาของเอ็มบริโอ
จนกระท่ังเอ็มบริโอเจริญเติบโตเต็มท่ีเปนลูกสัตวขนาดเล็ก ก็จะฟกออกมาจากไข ลูกสัตวมีรูปราง
ลักษณะเหมอื นตัวเตม็ วยั แตม ขี นาดเลก็ กวา แตสตั วบ างชนดิ ในกลมุ นจ้ี ะออกลกู เปนตัว

4. กลุมสัตวปก : ผิวหนังมีขนลกั ษณะเปนแผงปกคลุมรางกาย ออกลูกเปนไข ภายในไขจะมีการพัฒนาของ
เอม็ บรโิ อจนกระท่ังเอ็มบริโอเจรญิ เตบิ โตเต็มที่เปนลกู นกขนาดเล็ก กจ็ ะฟก ออกมาจากไข ลกู นกมรี ูปราง
ลกั ษณะเหมือนตวั เตม็ วัย แตม ีขนาดเลก็ กวา

5. กลุมสัตวเล้ียงลูกดวยน้ํานม : ผิวหนังมีขนลักษณะเปนเสนปกคลุมรางกาย ออกลูกเปนตัว โดยไขจะอยู
ในทองของเพศเมีย เมอื่ ไขไ ดรับการผสมกับอสุจิของเพศผู จะเจริญเติบโตและพัฒนาเปนเอ็มบริโออยูใน
ทองของเพศเมีย เม่ือเจริญเติบโตเต็มที่ก็จะคลอดออกจากทองแม รูปรางลักษณะเหมือนตัวเต็มวัย
สัตวกลุมนี้จะเลี้ยงลูกดวยน้ํานม อาศัยบนบก แตยังมีสัตวบางชนิดในกลุมนี้ที่อาศัยอยูในน้ําและออกลูก
เปนไข
หมายเหตุ : ระยะเอ็มบริโอ เปนระยะของส่ิงมีชีวิตที่อาศัยอยูในเยื่อปฏิสนธิ เชน เอ็มบริโอท่ีอยูใน
เปลือกไขของนก ไก หรอื สตั วเลอ้ื ยคลาน

244 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว

ความรเู พม่ิ เตมิ สําหรับครู

วัฏจักรชีวิตของสัตว เปนการเปล่ียนแปลงขณะเจริญเติบโตของสัตวท่ีมีการหมุนเวียนเปนแบบรูปคงที่
ซ้ําเดิมอยางตอเน่ือง การเจริญเติบโตของสัตวจะมีการเพิ่มจํานวนเซลล มีการเปลี่ยนแปลงรูปรางเพื่อทําหนา ท่ี
เฉพาะ และเกิดเปนรูปรางที่แนนอนของส่ิงมีชีวิต ซึ่งการเจริญเติบโตในระยะหลังเอ็มบริโอ (เม่ือสัตวฟกออก
จากไขหรอื คลอดออกจากทองแม) ของสัตวแ ตล ะชนดิ จะมลี ักษณะเฉพาะตวั และแตกตา งกัน ดงั น้ี
1. สัตวบางชนิดไมมีการเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะในขณะเจริญเติบโต เรียกวา Ametamorphosis พบใน

สัตวกลุมปลา กลุมสัตวปก กลุมสัตวเล้ือยคลาน และกลุมสัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานม โดยเมื่อสัตวเหลานี้เกิดมา
(ฟกออกจากไขหรือคลอดออกมาจากทองแม) จะมีรูปรางลักษณะ และการดํารงชีวิต (การกินอาหาร
แหลงที่อยู) เหมือนกับพอและแม แตจะมีขนาดเล็กกวา ตอมาลูกสัตวจะเจริญเติบโตตอไปจนเปน
ตวั เต็มวัย
2. สัตวบางชนิดจะมกี ารเปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะในขณะเจริญเติบโต เรียกวา Metamorphosis พบในสตั ว
กลุมแมลง เชน ผีเสื้อ ยุง แมลงวัน ดวง มด ผ้ึง ตั๊กแตน แมลงปอ แมลงสาบ จิ้งหรีด ปลวก เห็บ โดยใน
แตล ะระยะของการเจรญิ เตบิ โตสัตวจะมรี ูปรางลักษณะและการดํารงชีวิตท่ีแตกตางกัน

การเจริญเติบโตของมนุษยในวัฏจักรชีวิต จะมีหลายชวงอายุ เริ่มตั้งแตกอนคลอดออกมาจากทองแม
จนกระท่ังวัยสูงอายุ ซึ่งในแตละชวงอายุรูปรางลักษณะและการดํารงชีวิตของมนุษยจะไมมีการเปลี่ยนแปลง
สามารถแบง ระยะตา ง ๆ ของการเจรญิ เติบโตของมนษุ ยต ามวยั ไดดงั น้ี

1. กอนคลอด : ระยะท่เี จริญเติบโตอยูในทองแม เมื่อไขของแมและสเปร มของพอผสมกัน จะพัฒนาเปน
ไซโกต (zygote) แลว ไซโกตพัฒนาตอไปเปนเอ็มบรโิ อ (embryo) จากนนั้ เอ็มบรโิ อกพ็ ัฒนาตอไปจน
เขา สูระยะฟตัส (Fetus) และพรอมจะคลอดออกมาจากทองแม

2. วัยทารก : เปนวัยท่ีนับต้ังแตแรกคลอดออกมาจากทองแม จนอายุประมาณ 1 ป วัยนี้ไมสามารถ
พูดได สื่อสารโดยการรองไห รา งกายจะมีพฒั นาการขึ้นเร่ือย ๆ เชน ในอายุ 6-8 เดือน จะสามารถนั่ง
และคลานได ในอายปุ ระมาณ 1 ป จะมีฟน และพยายามพดู

3. วัยเด็ก : อายุต้ังแต 1-12 ป วัยนี้มีอัตราการเจริญเติบโตลดลง สวนตาง ๆ ของรางกายมีการ
เปล่ียนแปลงจากวัยทารกชัดเจนขึ้น สวนตาง ๆ ของรางกายเจริญเติบโตไดมากขึ้น เชน แขน ขายาว
ขึ้น รางกายสูงขน้ึ กระดูกแขง็ แรงข้ึน มีการเคลื่อนไหวไดดขี ึน้

4. วยั รุน : อายตุ ั้งแต 12-20 ป วยั น้มี ีอตั ราการเจริญเตบิ โตอยางรวดเร็ว รางกายมพี ัฒนาการหลายอยาง
ลกั ษณะทางเพศปรากฏใหเหน็ ชดั เจนขึ้น เชน ในเพศหญงิ จะมีเตานม เอวคอด สะโพกผาย ในเพศชาย
เสยี งหาวขน้ึ ไหลข ยายกวาง ซ่งึ รา งกายเรม่ิ มีความพรอมท่จี ะเปนพอ และแม

สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 245

คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

ความรูเพ่ิมเตมิ สําหรบั ครู

5. วัยผูใหญ : อายุตั้งแต 20-60 ป ในชวงตนของวัยจะมีพัฒนาการดานรางกายอยางเต็มท่ี สวนตาง ๆ
ของรางกายมีการเจริญเติบโตอยางสมบูรณ และในชวงทายของวัย รางกายจะเร่ิมเส่ือมสภาพลง
วัยนจ้ี ะมีกระบวนการคิดท่ซี บั ซอ น รูจ กั ไตรต รองมากข้นึ มีบทบาทความเปน พอและแม

6. วัยสูงอายุ : อายุต้ังแต 60 ป ข้ึนไป วัยน้ีเซลลตาง ๆ ของรางกายเริ่มตายลง เซลลใหมเกิดทดแทน
ไดน อ ยและชา รางกายสกึ หรอ เชน ผมหงอก ฟน หลุดรว ง ตาฝาฟาง หูตงึ ผิวหนังเห่ียวยน กลา มเนื้อ
หยอนยาน ถา มอี าการเจบ็ ปว ยจะรกั ษายากกวา วัยอ่นื

246 สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

แนวคาํ ตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม

เม่อื สัตวเ จริญเตบิ โตเปน ตวั เต็มวัย จะมกี ารสบื พนั ธุ และมลี ูก เมอ่ื ลูก
เจรญิ เตบิ โตจนเปนตวั เต็มวัยก็พรอ มที่จะสบื พันธแุ ละมลี ูกตอไปไดอกี

หมนุ เวียนเปน แบบรูปคงท่ีซํ้าเดิมอยา งตอเนอื่ งเปนวฏั จกั รชีวิตของสัตว

รวบรวมขอมลู และสรางแบบจําลองทบ่ี รรยายวฏั จกั รชีวิตของสตั ว
เปรียบเทยี บวัฏจักรชีวติ ของสตั วชนดิ ตาง ๆ

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 247

คมู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

12 ป ขึ้นไป มนษุ ยต ัวเต็มวัย
มนษุ ยในวัยแรกเกิด

21 วัน ลูกเจยี๊ บ 3-6 เดอื น

ไขไ ก ไกตัวเต็มวัย

2-4 ป

20-25 วนั ดักแดไ หม 10-12 วัน

หนอนไหม ผเี สอ้ื ไหม
ไขไหม 2-3 วัน
10-12 วนั

248 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว

√√√
√√√

√√√

√√√
√√√

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 249

คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว

√√√
√√√
√√√
√√√





250 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสัตว

อภปิ รายและบอกแนวทางการไมทําใหวฏั จกั รชวี ิตของสัตว
เปล่ียนแปลง

5-10 ป ไขก บ 1-3 สัปดาห
กบตัวเต็มวัย
2-4 ป ลูกกบ ลกู ออ ด

12-14 สัปดาห

3 ป ไขป ลาทู 10 วนั

ปลาทูตัวเต็มวัย ลกู ปลาทู

6-7 เดือน

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 251

คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

การจับลูกออดไปทําอาหาร จะทําใหจาํ นวนลูกออ ดลดลง
สง ผลใหจํานวนลกู กบ กบตัวเตม็ วัย และไขกบลดลงไปดวย ทาํ ใหวฏั จกั รชีวติ ของกบ
เปลี่ยนแปลงไป ถา จาํ นวนลูกออดยงั คงลดลงเรอ่ื ย ๆ อาจทําใหกบสูญพนั ธุได

ไมจ ับลกู ออดหรือกบตัวเต็มวยั
มาทาํ อาหาร

การจับลูกปลาทูไปทําปลาทูตากแหง จะทาํ ใหจ ํานวนลูกปลาทู
ลดลง สงผลใหจํานวนปลาทูตัวเต็มวัยและไขป ลาทลู ดลงไปดว ย ทาํ ใหวัฏจกั รชีวิตของ
ปลาทูเปล่ียนแปลงไป ถา จํานวนลกู ปลาทูยังคงลดลงเร่อื ย ๆ อาจทาํ ใหป ลาทสู ูญพันธุได

ไมจับลกู ปลาทมู าทําอาหาร
หรือไมจับปลาทูในชวงฤดูวางไข

ผเี ส้ือไหม สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
มนษุ ยและไก

252

คูมอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสัตว

สิ่งท่ีแตกตางกัน คือ รูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูในวัฏจักรชีวิตของ
มนุษยจะแตกตางกับในวัฏจักรชีวิตของไก แตส่ิงที่เหมือนกัน คือ ในขณะเจริญเตบิ โต
ต้ังแตแรกเกิดจนเปนตัวเต็มวัย มนุษยและไกจะไมมีการเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ
การกินอาหาร และแหลงที่อยู

ไกและผีเส้ือไหม มีวัฏจักรชีวิตที่มีลักษณะเฉพาะและแตกตางกัน โดยจะมีรูปรางลักษณะ
การกนิ อาหาร และแหลง ที่อยูในวัฏจักรชีวิตของไกจะแตกตา งกบั ในวฏั จักรชีวติ ของผีเสื้อไหม
และในขณะเจริญเติบโตตั้งแตออกจากไขจนเปนตัวเต็มวัย ไกจะไมมีการเปลี่ยนแปลงรูปราง
ลกั ษณะ การกนิ อาหาร และแหลงทอี่ ยู แตผีเสอ้ื ไหมมกี ารเปลย่ี นแปลงดงั กลา ว

วฏั จักรชีวติ ของสัตวบ างชนิดจะไมมีการเปล่ียนแปลงรูปรา งลักษณะ การกิน
อาหาร และแหลงที่อยูในขณะเจริญเติบโตต้ังแตแรกเกิดจนเปนตัวเต็มวัย
เชน วัฏจักรชีวิตของมนุษยและไก สวนวัฏจักรชีวิตของสัตวบางชนิดจะมี
การเปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูในขณะ
เจรญิ เติบโตตัง้ แตแ รกเกดิ จนเปน ตัวเต็มวัย เชน วัฏจักรชีวิตของผเี สอื้ ไหม

การจบั ลูกออดและลกู ปลาทูมาทาํ อาหาร จะทาํ ใหวัฏจกั รชีวติ ของกบและ
ปลาทเู ปลยี่ นแปลงไป โดยลูกออดและลกู ปลาทูจะมีจาํ นวนลดลง และสงผล
ใหช ีวติ กบและปลาทูในระยะตา ง ๆ มีจํานวนลดลงไปดว ย

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 253

คูม ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

ไมจ ับกบตัวเตม็ วัยหรือลูกออ ดมาทาํ อาหาร หรอื ไมจับลกู ปลาทูหรือปลาทู
ตัวเต็มวัยในชว งฤดวู างไขมาทําอาหาร
การกินลูกออดและลูกปลาทู เปนการทําลายวัฏจักรชีวิตของกบและปลาทู
และถาการทําลายยังคงดําเนินตอไปเรื่อย ๆ จะสงผลใหเกิดการสูญพันธุ
จึงไมค วรทําลายชวี ติ ของลูกออดและลูกปลาทู
สัตวแตละชนิดจะมีวัฏจักรชีวิตท่ีมีลักษณะเฉพาะและแตกตางกัน และ
การทําลายชีวิตสัตวในระยะใดระยะหน่ึงจะสงผลใหวัฏจักรชีวิตของสัตว
เปล่ียนแปลงไปและอาจสูญพันธไุ ด จึงไมค วรทาํ ลายชีวติ ของสตั วในระยะใด
ระยะหน่งึ ของการเจรญิ เตบิ โต

คําถามของนักเรยี นท่ตี ั้งตามความอยากรขู องตนเอง

254 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

แนวการประเมินการเรียนรู

การประเมนิ การเรยี นรูของนักเรียนทําได ดงั น้ี
1. ประเมินความรเู ดิมจากการอภิปรายในชน้ั เรียน
2. ประเมนิ การเรียนรูจากคําตอบของนักเรยี นระหวางการจดั การเรียนรูและจากแบบบันทึกกจิ กรรม
3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรยี น

การประเมนิ จากการทาํ กิจกรรมที่ 2 วัฏจกั รชีวติ ของสัตวเ ปน อยา งไร

รหสั สิ่งทป่ี ระเมิน ระดับ
คะแนน
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสงั เกต
S6 การจัดกระทาํ และส่อื ความหมายขอมลู
S8 การลงความเห็นจากขอ มูล
S13 การตคี วามหมายขอมลู และลงขอ สรปุ
S14 การสรา งแบบจาํ ลอง

ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21
C2 การคดิ อยา งมวี ิจารณญาณ
C4 การสอ่ื สาร
C5 ความรว มมือ
C6 การใชเ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการ

ส่อื สาร
รวมคะแนน

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 255

คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชีวิตของสัตว

ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร

ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑการประเมนิ ควรปรบั ปรุง (1)
ทางวิทยาศาสตร พอใช (2)

S1 การสังเกต การใชประสาทสัมผสั สามารถใชป ระสาท สามารถใชป ระสาท สามารถใชป ระสาท

เกบ็ รายละเอียดของ สัมผสั เก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอยี ด สมั ผสั เกบ็ รายละเอยี ด

สตั วในบตั รภาพ ของสัตวในบตั รภาพ ของสัตวใ นบัตรภาพ ของสตั วใ นบัตรภาพ

แสดงการเจรญิ เติบโต แสดงการเจริญเตบิ โต แสดงการเจริญเตบิ โต แสดงการเจริญเติบโต

ในระยะตา ง ๆ ของ ในระยะตา ง ๆ ของ ในระยะตา ง ๆ ของ ในระยะตาง ๆ ของ

มนุษย ไก และผเี สือ้ มนุษย ไก และ มนุษย ไก และผเี สื้อไหม มนษุ ย ไก และ

ไหม ผีเสอ้ื ไหมไดถ ูกตอ งดว ย ไดถูกตองจากการช้ีแนะ ผเี ส้ือไหมไดถูกตอ ง

ตนเอง โดยไมเพมิ่ ความ ของครหู รอื ผอู ่นื เพียงบางสว น แมวาจะ

คิดเห็น ไดร ับคาํ ช้แี นะจากครู

หรอื ผอู นื่

S6 การจัดกระทํา การนาํ ขอมลู ที่ไดจ าก สามารถนําขอมูลที่ได สามารถนาํ ขอมูลที่ได สามารถนําขอมลู ที่ได

และส่ือความหมาย การสังเกตและจับคู จากการสงั เกตและจับคู จากการสังเกตและจับคู จากการสงั เกตและจบั คู

ขอมลู บัตรภาพกบั ขอมูล บัตรภาพกับขอมูล บัตรภาพกับขอมูล บตั รภาพกบั ขอมลู

ในบตั รคาํ มาเขียน ในบัตรคํามาเขียน ในบตั รคํามาเขียน ในบตั รคาํ มาเขยี น

แผนภาพวฏั จักรชีวติ แผนภาพวัฏจักรชวี ิต แผนภาพวฏั จักรชวี ติ แผนภาพวัฏจักรชวี ติ

ของมนุษย ไก และ ของมนุษย ไก และ ของมนษุ ย ไก และ ของมนษุ ย ไก และ

ผเี สือ้ ไหม และ ผเี สอื้ ไหม และสื่อสาร ผเี ส้ือไหม และส่ือสารให ผเี สือ้ ไหม และส่อื สาร

สอื่ สารใหผ อู ่ืนเขาใจ ใหผ อู ื่นเขาใจไดถูกตอง ผูอ ่นื เขา ใจไดถ ูกตอง ใหผูอ่นื เขา ใจไดถ ูกตอง

ดวยตนเอง จากการชี้แนะของครู เพียงบางสว น แมวา จะ

หรอื ผอู น่ื ไดรบั คาํ ช้ีแนะจากครู

หรอื ผอู ื่น

S8 การลงความเห็น การลงความเห็นขอมูล สามารถลงความเห็น สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเหน็

จากขอ มูล จากการอภิปรายไดว า ขอมูลจากการอภปิ ราย ขอมลู จากการอภิปราย ขอมลู จากการอภิปราย

มนุษยและไกไมม ีการ ไดว า มนษุ ยและไกไ มมี ไดวา มนุษยและไกไมม ี ไดวา มนุษยและไกไมมี

เปลีย่ นแปลงรูปราง การเปลี่ยนแปลงรปู รา ง การเปล่ียนแปลงรูปรา ง การเปล่ียนแปลงรูปราง

ลกั ษณะ การกิน ลักษณะ การกินอาหาร ลกั ษณะ การกินอาหาร ลกั ษณะ การกินอาหาร

อาหาร และแหลง ที่อยู และแหลง ที่อยขู ณะ และแหลงท่ีอยูขณะ และแหลงท่ีอยูขณะ

ขณะเจริญเติบโต แต เจริญเติบโต แตผเี สื้อ เจริญเติบโต แตผีเสื้อไหม เจริญเติบโต แตผ เี สอื้ ไหม

ผีเสือ้ ไหมมีการ ไหมมีการเปลยี่ นแปลง มีการเปลยี่ นแปลง มีการเปล่ยี นแปลง

เปลีย่ นแปลงดังกลาว ดงั กลา ว รวมทั้ง ดังกลา ว รวมทั้ง ดงั กลา ว รวมท้ัง

256 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว

ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑการประเมนิ ควรปรบั ปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร พอใช (2)

รวมทั้งลงความเหน็ ลงความเห็นจากการ ลงความเห็นจากการ ลงความเห็นจากการ

จากการวิเคราะห วิเคราะหสถานการณ วเิ คราะหสถานการณและ วิเคราะหสถานการณ

สถานการณและ และรวมกันอภิปรายได รว มกันอภปิ รายไดว า และรว มกนั อภิปรายได

รว มกันอภปิ รายไดวา วา การกระทําใน การกระทําในสถานการณ วา การกระทําใน

การกระทําใน สถานการณด ังกลาวจะ ดงั กลาวจะสง ผลตอ สถานการณดังกลา วจะ

สถานการณดังกลา ว สง ผลตอวัฏจักรชวี ิตของ วัฏจกั รชีวติ ของสัตว ได สง ผลตอวัฏจักรชวี ติ ของ

จะสงผลตอวัฏจักร สตั วไดถ ูกตองดวย ถกู ตองจากการชี้แนะ สัตวไดถ ูกตองเพียง

ชีวิตของสตั ว ตนเอง ของครูหรือผอู น่ื บางสว น แมวา จะได

รับคําชแ้ี นะจากครหู รอื

ผอู ื่น

S13 ก า ร ตี ค ว า ม การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย

หมายขอมูลแล ะ ขอ มลู ที่ไดจ ากการ ขอมูลท่ีไดจ ากการ ขอ มูลท่ีไดจ ากการ ขอ มูลท่ีไดจากการ

ลงขอสรปุ อภปิ รายเปรียบเทียบ อภิปรายเปรยี บเทยี บ อภิปรายเปรยี บเทยี บ อภิปรายเปรยี บเทียบ

และวเิ คราะห และวิเคราะห และวเิ คราะห และวิเคราะห

สถานการณ และ สถานการณ และ สถานการณ และ สถานการณ และ

ลงขอ สรุปไดว า สตั ว ลงขอสรุปไดวา สตั ว ลงขอ สรุปไดว า สตั วบ าง ลงขอสรุปไดวา สัตว

บางชนดิ มกี าร บางชนดิ มกี าร ชนดิ มีการเปลยี่ นแปลง บางชนดิ มีการ

เปลีย่ นแปลงรปู ราง เปลีย่ นแปลงรปู ราง รปู รา งลกั ษณะ การกิน เปลย่ี นแปลงรปู รา ง

ลกั ษณะ การกนิ ลกั ษณะ การกนิ อาหาร อาหาร และแหลง ทอ่ี ยู ลกั ษณะ การกินอาหาร

อาหาร และแหลง และแหลง ท่ีอยูข ณะ ขณะเจริญเติบโต แต และแหลงท่ีอยูขณะ

ที่อยขู ณะ เจริญเติบโต แตส ตั ว สตั วบ างชนิดไมมีการ เจรญิ เตบิ โต แตสตั ว

เจริญเติบโต แตส ตั ว บางชนิดไมม ีการ เปล่ยี นแปลงดงั กลาว บางชนิดไมม ีการ

บางชนดิ ไมม ีการ เปลี่ยนแปลงดงั กลาว และการทําลายชีวิตสัตว เปลี่ยนแปลงดงั กลา ว

เปล่ยี นแปลงดงั กลา ว และการทําลายชวี ิต ในระยะใดระยะหน่งึ เปน และการทาํ ลายชวี ติ

และการทาํ ลายชีวิต สตั วใ นระยะใดระยะ การทําลายวฏั จักรชีวติ สตั วใ นระยะใด

สตั วใ นระยะใดระยะ หนง่ึ เปน การทาํ ลาย ของสตั วถูกตอ งจากการ ระยะหน่ึงเปน การ

หนงึ่ เปน การทําลาย วฏั จักรชวี ติ ของสัตว ชแ้ี นะของครหู รือผูอ่นื ทําลายวฏั จกั รชวี ิตของ

วฏั จกั รชวี ิตของสัตว ถกู ตองดวยตนเอง สัตว แมว า จะไดร ับคํา

ชี้แนะจากครูหรือผอู ่นื

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 257

คมู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสตั ว

ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑการประเมิน ควรปรับปรุง (1)
ทางวิทยาศาสตร สามารถสรา ง พอใช (2) สามารถสรา ง
แบบจําลองโดยใช แบบจาํ ลองโดยใช
S14 ก า ร ส ร า ง การสรา งแบบจาํ ลอง ขอมูลจากบัตรภาพและ สามารถสรา ง ขอ มูลจากบตั รภาพและ
บตั รคํามาเขยี น แบบจาํ ลองโดยใชข อมูล บัตรคํามาเขยี น
แบบจาํ ลอง โดยใชข อมูลจาก แผนภาพวัฏจกั รชวี ติ จากบัตรภาพและบตั ร แผนภาพวัฏจกั รชีวิต
ของมนุษย ไก และ คาํ มาเขยี นแผนภาพ ของมนษุ ย ไก และ
บัตรภาพและบัตรคํา ผีเส้ือไหม เพอ่ื วัฏจกั รชวี ิตของมนุษย ผเี ส้ือไหม เพื่อ
บรรยายวฏั จกั รชีวติ ไก และผีเส้ือไหม เพ่ือ บรรยายวฏั จักรชวี ติ
มาเขียนแผนภาพ ของสัตวไดถูกตองดวย บรรยายวัฏจกั รชีวติ ของ ของสตั วไ ดถกู ตองเพียง
ตนเอง สตั วไ ดถกู ตองจากการ บางสวน แมว าจะได
วฏั จักรชีวิตของ ชี้แนะของครูหรือผอู ่นื รับคาํ ชี้แนะจากครหู รอื
ผอู นื่
มนุษย ไก และ

ผีเส้ือไหม เพื่อ

บรรยาย วัฏจักรชวี ิต

ของสัตว

ตาราง แสดงการวเิ คราะหท ักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรยี น

ทักษะแหง รายการประเมิน ดี (3) เกณฑการประเมิน ควรปรบั ปรุง (1)
ศตวรรษที่ 21 พอใช (2)

C2 การคดิ การวิเคราะหและ สามารถวิเคราะหและ สามารถวเิ คราะหแ ละ สามารถวเิ คราะหแ ละ

อยา งมี เปรียบเทียบวฏั จักร เปรยี บเทยี บวัฏจกั รชีวิต เปรยี บเทียบวฏั จักรชีวติ เปรยี บเทยี บวัฏจักรชีวติ

วจิ ารณญาณ ชีวิตของสตั วช นดิ ของสัตวชนิดตา ง ๆ และ ของสตั วชนดิ ตา ง ๆ และ ของสตั วชนดิ ตา ง ๆ และ

ตาง ๆ และการ วเิ คราะหส ถานการณท ่ี วิเคราะหส ถานการณท ี่ วิเคราะหส ถานการณท ่ี

วิเคราะห สงผลกระทบตอวัฏจกั ร สงผลกระทบตอวัฏจกั ร สงผลกระทบตอวฏั จกั ร

สถานการณทส่ี ง ผล ชีวิตของสตั วไดถ ูกตอง ชีวติ ของสัตวไดถ ูกตอง ชวี ติ ของสตั วไดถ ูกตอง

กระทบตอวัฏจกั ร ดวยตนเอง จากการช้แี นะของครู เพยี งบางสว น แมวาจะ

ชีวติ ของสตั ว หรอื ผอู นื่ ไดร บั คําช้ีแนะจากครู

หรือผอู น่ื

C4 การสื่อสาร การเขียนแผนภาพ สามารถเขียนแผนภาพ สามารถเขยี นแผนภาพ สามารถเขียนแผนภาพ

และนําเสนอ และนําเสนอแผนภาพ และนาํ เสนอแผนภาพ และนําเสนอแผนภาพ

แผนภาพวัฏจกั รชีวติ วัฏจกั รชีวิตของมนษุ ย วัฏจกั รชวี ิตของมนษุ ย วัฏจกั รชีวิตของมนุษย

ของมนษุ ย ไก และ ไก และผเี ส้ือไหม เพื่อให ไก และผเี ส้ือไหม เพื่อให ไก และผีเส้ือไหมได

ผอู ืน่ เขา ใจไดถูกตองจาก ถกู ตองเพยี งบางสวน

258 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว

ทักษะแหง รายการประเมิน เกณฑก ารประเมนิ
ศตวรรษท่ี 21
ผีเสื้อไหม เพื่อให ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรุง (1)
C5 ความ ผูอน่ื เขา ใจ
รว มมือ การทาํ งานรวมกับ ผอู ืน่ เขาใจไดถ ูกตองดวย การชแ้ี นะของครูหรอื แมวา จะไดร บั คําชแี้ นะ
ผูอน่ื ในการอภิปราย
C6 การใช และนาํ เสนอ ตนเอง ผอู น่ื จากครูหรือผูอืน่
เทคโนโลยี เก่ียวกับวัฏจกั รชีวิต
สารสนเทศ ของสตั ว รวมถงึ การ สามารถทํางานรว มกบั สามารถทาํ งานรวมกับ สามารถทํางานรว มกับ
และการ อภปิ รายเก่ยี วกับ
สอ่ื สาร สถานการณทส่ี งผล ผูอนื่ ในการอภปิ รายและ ผอู น่ื ในการอภิปรายและ ผูอน่ื ในการอภิปรายและ
กระทบตอ
วัฏจักรชีวติ ของสัตว นําเสนอเกีย่ วกบั วฏั จักร นําเสนอเกี่ยวกบั วฏั จักร นาํ เสนอเกย่ี วกับวฏั จักร
รวมทัง้ ยอมรบั ความ
คดิ เห็นของผูอ่นื ชีวติ ของสตั ว รวมถึงการ ชวี ิตของสตั ว รวมถงึ การ ชวี ติ ของสัตว รวมถึงการ

การใชเทคโนโลยีใน อภิปรายเก่ียวกบั อภิปรายเกี่ยวกับ อภปิ รายเก่ียวกบั
การสบื คนขอมูล
เกย่ี วกบั วฏั จักรชีวิต สถานการณทีส่ ง ผล สถานการณทส่ี งผลตอ สถานการณทีส่ งผล
ของกบและปลาทู
กระทบตอวัฏจักรชีวิต กระทบวฏั จกั รชวี ิตของ กระทบตอวัฏจักรชีวติ

ของสัตว รวมทั้งยอมรบั สัตว รวมทัง้ ยอมรบั ของสตั ว รวมทั้งยอมรับ

ความคดิ เห็นของผูอ่ืน ความคิดเห็นของผูอืน่ ใน ความคิดเหน็ ของผูอนื่ ใน

ต้ังแตเ รมิ่ ตน จนสําเร็จ บางชวงเวลาท่ีทาํ บางชว งเวลาของการทํา

กจิ กรรม กิจกรรม ทัง้ น้ีตองอาศยั

การกระตนุ จากครหู รือ

ผูอน่ื

สามารถใชเทคโนโลยีใน สามารถใชเ ทคโนโลยีใน สามารถใชเทคโนโลยใี น

การสืบคน ขอมลู การสืบคน ขอมลู การสืบคนขอมูล

เกีย่ วกับวัฏจักรชีวิตของ เก่ียวกบั วฏั จกั รชวี ติ ของ เกย่ี วกับวัฏจักรชวี ิตของ

กบและปลาทไู ดครบถวน กบและปลาทไู ดครบถว น กบและปลาทไู ดเพียง

ดวยตนเอง จากการชี้แนะของครู บางสว น แมว า จะได

หรือผอู ่ืน รบั คาํ ช้แี นะจากครูหรอื

ผูอ่นื

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 259

คมู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนวยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว

กิจกรรมทา ยบทที่ 2 การดาํ รงชีวิตของสัตว (1 ช่ัวโมง)

1. ครูใหนักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทน้ีตาม
ความเขา ใจของตนเอง ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 94

2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ
การสรุปในหัวขอ รอู ะไรในบทน้ี ในหนงั สือเรียน หนา 101

3. นักเรียนกลับไปตรวจสอบคําตอบของตนเองใน สํารวจความรกู อนเรียน
ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 72-76 อีกคร้ัง ถาคําตอบของนักเรียน
ไมถูกตองใหขีดเสนทับขอความเหลาน้ัน แลวแกไขใหถูกตอง นอกจากน้ี
ครอู าจนาํ คาํ ถามในรูปนาํ บทในหนงั สือเรียน หนา 76 มารว มกนั อภิปราย
คาํ ตอบอีกครง้ั ดงั นี้
3.1 จากรูป นกั ประดานํ้าสามารถอยูใตน ้าํ เปนเวลานานได เพราะเหตใุ ด
(นกั ประดานํ้าใชถังออกซิเจนเพอื่ ชวยใหหายใจในน้ําได)
3.2 นักเรียนจะสามารถอยูใตนํ้าเปนเวลานานไดเชนเดียวกับ
นักประดานํ้าหรือไม อยางไร (ถาไมใชถังออกซิเจน จะไมสามารถ
อยูใตนํ้าเปนเวลานานได แตถาใชถังออกซิเจนจะสามารถอยูใตน้ํา
เปน เวลานานไดเชนเดียวกับนักประดานา้ํ )
3.3 เพราะเหตุใดปลาที่อยูในตูจึงเจริญเติบโตและดํารงชีวิตอยูได (ปลา
ไดรับอาหารจากการที่นกั ประดานํ้าดําลงไปใหอาหาร และในตูมีน้าํ
ซง่ึ ในนา้ํ มีแกสออกซิเจน ทาํ ใหปลาไดรบั น้ําและแกส ออกซเิ จนอยาง
เพียงพอ)
3.4 ปลามีวัฏจักรชีวิตอยางไร (ปลาตัวเต็มวัยจะสืบพันธุแลววางไข
จากน้ันลูกปลาจะฟกออกมาจากไข แลวเจริญเติบโตตอไปจนเปน
ปลาตัวเต็มวัยท่ีสามารถสืบพนั ธุและมลี กู ตอ ไปได)
3.5 วัฏจักรชีวิตของปลาเหมือนและแตกตางกับวัฏจักรชีวิตของสัตว
ชนิดอ่ืนอยางไร (วัฏจักรชีวิตของปลาแตกตางกับสัตวชนิดอื่น คือ
รูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงท่ีอยูในแตละระยะของ
วัฏจักรชีวิตของปลาจะแตกตางกับสัตวชนิดอื่น ซ่ึงสัตวแตละชนิด
จะมีวัฏจักรชีวิตท่ีมีลักษณะเฉพาะและแตกตางกัน สวนสิ่งที่
เหมือนกับสัตวบางชนิด เชน ไก คือ ในขณะเจริญเติบโตต้ังแตออก
จากไขจนเปนตัวเต็มวัย ปลาและสัตวบางชนิดจะไมมีการ
เปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะ การกินอาหาร และแหลงที่อยูในขณะ
เจรญิ เติบโต)

260 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชีวิตของสตั ว

ครูสามารถใหความรูแกนักเรียนเพิ่มเติมไดวา ปลาบางชนิด
เชน ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาเข็ม ออกลูกเปนตัว คือ ปลา
ตัวเต็มวัยจะไมวางไข แตจะออกลูกมาเปนลูกปลาขนาดเล็กท่ีมี
รปู รา งลักษณะเหมือนกับปลาตวั เต็มวยั
4. นักเรียนทํา แบบฝกหัดทายบทที่ 2 การดํารงชีวิตของสัตว ใน
แบบบันทึกกิจกรรม หนา 102 จากนั้นนําเสนอคําตอบหนาชั้นเรียน
ถา คาํ ตอบยังไมถูกตองครูควรนําอภปิ รายหรือใหส ถานการณเ พ่ิมเติมเพ่ือ
แกไ ขแนวคิดคลาดเคลอ่ื นใหถกู ตอง
5. นักเรียนรวมกันทํากิจกรรม รวมคิด รวมทํา โดยรวมกันสืบคนขอมูล
วัฏจักรชีวิตของยุงลาย และใชความรูเก่ียวกับวัฏจักรชีวิตของยุงลาย
มาจดั ทาํ แผนภาพเพอ่ื บอกแนวทางการปองกันโรคไขเ ลือดออก
6. นักเรียนอานและอภิปรายเน้ือเรื่องในหัวขอ วิทยใกลตัว ในหนังสือเรยี น
หนา 104 โดยครูกระตุนใหนักเรียนเห็นความสําคัญของความรูจากสิ่งที่
ไดเ รยี นรใู นหนว ยนี้ วาสามารถนาํ ไปใชประโยชนไดอ ยางไรบา ง
7. นักเรียนรวมกันตอบคําถามสําคัญของหนวยในหนังสือเรียน หนา 44
อีกคร้ัง ดงั น้ี
- ส่ิงมีชีวิตใชสิ่งใดบางในการดํารงชีวิต และใชอยางไร (ส่ิงมีชีวิตใช
อาหาร นํ้า และอากาศในการดํารงชีวิต โดยรับประทานอาหารท่ีมี
ประโยชนอยางครบถวน หลากหลาย และเหมาะสมกับความ
ตองการของรางกาย ด่ืมนํ้าสะอาดอยางเพียงพอ และอยูในท่ีที่มี
อากาศสะอาดและถายเทสะดวก)
ถา คาํ ตอบยังไมถูกตอง ใหนักเรียนอภิปรายรวมกันเพื่อใหไดคําตอบ
ทถี่ ูกตอ ง

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 261

คมู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ป.3 เลม 1 | หนว ยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว

สรุปผลการเรียนรขู องตนเอง

รปู หรือขอความสรปุ ส่ิงทีไ่ ดเรียนรูจ ากบทนต้ี ามความเขาใจของนกั เรยี น

262 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version