The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การคิด ประถม สังคมศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การคิด ประถม สังคมศึกษา

การคิด ประถม สังคมศึกษา

สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏบิ ตั ติ นเปน็ ศาสนกิ ชนทดี่ ี และธำรงรกั ษาพระพทุ ธศาสนา


หรือศาสนาทต่ี นนบั ถือ


ตัวช้วี ัด
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคิด
ช้นิ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู


สาระท่ี ๑
ศาสนกิ ชนทด่ี ี ๑. ความรู้
๑. ทกั ษะ
๑. นิทรรศการ
๑. รวบรวมข้อมูล
ศาสนา ศีลธรรม มหี นา้ ที่ในการ เบ้อื งต้นเกยี่ วกบั การสำรวจค้นหา
“ศาสนสถานของ คน้ หา และศึกษา

จรยิ ธรรม
ปฏิบัติตนใน สถานที่ตา่ ง ๆ ๒. ทกั ษะ
ศาสนาทน่ี บั ถอื ”
เขตพทุ ธาวาส

มาตรฐาน ส ๑.๒
ศาสนสถาน
ภายในวดั เชน่ การรวบรวม ๒. ค่มู ือการ เขตสงั ฆาวาส

๑. อธบิ ายความร ู้ อย่างถกู ตอ้ ง
เขตพทุ ธาวาส ขอ้ มูล
ปฏิบัติตนตาม ศาสนสถานของ
เกยี่ วกบั
และเหมาะสม สังฆาวาส
๓. ทักษะ
มารยาทของ ศาสนาที่นบั ถอื

สถานทตี่ ่าง ๆ รกั ษาศาสนา
๒. การปฏบิ ตั ิตน การวเิ คราะห์
ศาสนกิ ชน
๒. สงั เกต วิเคราะห์
ในศาสนสถาน ทต่ี นนบั ถอื
ท่ีเหมาะสม ๔. ทกั ษะ
ในศาสนสถาน สังเคราะหต์ ่าง ๆ
และปฏิบตั ิตน
ภายในวดั
การสังเคราะห
์ ของศาสนา
เพ่อื ให้เกิดความร
ู้
ไดอ้ ยา่ ง

๓. มรรยาทของ
ทนี่ ับถอื
ที่ชัดเจน

เหมาะสม

ความเป็น

๓. อธบิ ายความร
ู้
๒. มีมรรยาท

ศาสนิกชน


ให้กระจ่างชดั เจน

ของความเปน็
- การถวายของ

๔. จัดนิทรรศการ
ศาสนิกชนท่ดี ี
แกพ่ ระภิกษ


“ศาสนสถานของ
ตามทีก่ ำหนด

- การปฏิบตั ิตน

ศาสนาทน่ี ับถอื ”



ในขณะฟงั

๕. จดั ทำคมู่ ือ



ธรรม


การปฏบิ ัติตน



- การปฏิบตั ิตน

ตามมารยาท



ตามแนวทาง

ของศาสนิกชนทด่ี ี



ของพทุ ธ-

ในศาสนสถานของ


ศาสนิกชน

ศาสนาที่นับถือ



เพอ่ื ประโยชน์



ตอ่ ศาสนา


292 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ตวั ชวี้ ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นรู
้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร้


สาระท่ี ๑
การเขา้ รว่ ม
๑. ทบทวน
๑. ทักษะ
การนำเสนอ ๑. ศกึ ษาและ
ศาสนา ศลี ธรรม ในศาสนพธิ ี
การอาราธนาศีล การนำความร
ู้ ประสบการณ
์ รวบรวมขอ้ มลู

จรยิ ธรรม
พีธีกรรม
อาราธนาธรรม ไปใช้
ของตนเองในการ เกี่ยวกบั การประกอบ
มาตรฐาน ส ๑.๒
และกจิ กรรม
และอาราธนา ๒. ทกั ษะ
ประกาศตนเป็น พิธกี รรมทางศาสนา

๓. อธบิ าย ในวันสำคัญ
พระปรติ ร
การวเิ คราะห
์ พุทธมามกะ
๒. วเิ คราะหห์ า
ประโยชน
์ ทางศาสนาดว้ ย ๒. พิธที อดผ้าปา่
๓. ทกั ษะ
หรอื ศาสนิกชน
สาเหตทุ ่ีทำให้คน

ของการ
ความถูกต้อง ๓. พธิ ที อดกฐนิ
การเชอ่ื มโยง
ของศาสนา
เขา้ รว่ มพิธีกรรม

เข้าร่วมใน เปน็ การแสดง ๔. ระเบียบพธิ
ี ๔. ทกั ษะ
ทีต่ นนบั ถือ หรือ ทางศาสนาและ
ศาสนพิธ ี
การยอมรับ
ในการทำบุญ
การสรุปอา้ งอิง
การเขา้ รว่ ม
ประโยชน์ของ

พธี กี รรม
ในหลักการ
งานอวมงคล
๕. ทักษะ
ในศาสนพธิ ี การเขา้ ร่วมพธิ ีกรรม
และกจิ กรรม ของศาสนา
๕. การปฏิบัตติ น การสงั เคราะห
์ พิธกี รรมและ ทางศาสนา

ในวนั สำคญั ท่ถี ูกตอ้ ง
กจิ กรรมในวนั ๓. อธบิ ายสาเหตุ
ทางศาสนา ในศาสนพิธี สำคัญทางศาสนา
และประโยชน์ของ
ตามที่กำหนด พธิ กี รรม และ
การเข้ารว่ มพิธีกรรม
และปฏบิ ัติตน วนั สำคัญ
โดยเช่ือมโยงกับ
ได้ถกู ต้อง
ทางศาสนา เช่น ขอ้ มลู ท่ีไดศ้ ึกษาและ
๔. แสดงตนเป็น วันมาฆบชู า
ประสบการณ์

พุทธมามกะ วนั วิสาขบชู า
๔. ทบทวนความรู้
หรือแสดงตน วันอัฐมีบชู า
เก่ียวกบั การแสดง
เปน็ ศาสนกิ ชน
วนั อาสาฬหบชู า ตนเป็นพุทธมามกะ
ของศาสนา
วันธรรมสวนะ
หรอื ศาสนิกชนของ
ท่ตี นนบั ถอื
๖. ประโยชน
์ ศาสนาทต่ี นนับถอื

ของการเขา้ ร่วม ๕. แสดงบทบาท

ในศาสนพธิ ี/ สมมติในการ
พิธกี รรม และ
ประกาศตนเปน็

วันสำคญั
พุทธมามกะหรือ
ทางศาสนา
ศาสนกิ ชนของ
๗. การแสดงตน ศาสนาทตี่ นนบั ถอื

เปน็ พุทธมามกะ
๖. รวบรวมและ

ข้ันเตรยี มการ
นำเสนอประสบการณ

ขน้ั พิธกี าร
ของตนเองในการ

แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา
293
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ตวั ช้ีวัด
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชิน้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร้

ประกาศตนเป็น

พุทธมามกะหรือ
ศาสนกิ ชนของ
ศาสนาทต่ี นนับถอื

หรอื การเขา้ ร่วม

ในศาสนพิธ ี

พธี ีกรรม และ
กจิ กรรมใน

วันสำคญั ทางศาสนา




294 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พือ่ พฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

สาระท่ี ๒ หน้าทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม

มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และ

ธำรงรักษาไว้ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย


ทรงเป็นประมขุ


ตวั ชว้ี ัด
ความคิด
สาระ
ทักษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร
ู้

สาระท่ี ๒
องคก์ รปกครอง
๑. บทบาทหน้าท่ี ๑. ทักษะ
๑. ตาราง
๑. รวบรวมและ
หน้าที่พลเมือง สว่ นทอ้ งถน่ิ
ขององค์กร การรวบรวม เปรียบเทยี บ ศึกษาข้อมูลเก่ยี วกับ
วัฒนธรรม และ อย่ภู ายใต้
ปกครอง
ขอ้ มูล
บทบาทหนา้ ท
ี่ บทบาทหนา้ ท่ีของ
การดำเนินชวี ิต การดแู ล
สว่ นท้องถนิ่
๒. ทกั ษะ
ขององคก์ ร องคก์ รปกครองส่วน
ในสังคม
ของรัฐบาล
และรฐั บาล
การเปรียบเทียบ
ปกครอง
ท้องถ่นิ และรัฐบาล
มาตรฐาน ส ๒.๒
มีบทบาทหน้าที่ ๒. กจิ กรรมตา่ ง ๆ
๓. ทักษะ
ส่วนทอ้ งถิ่น
โดยการสังเกตจุ าก
๑. เปรยี บเทยี บ ในการชว่ ยเหลือ เพ่ือสง่ เสรมิ การสรปุ อา้ งอิง
กบั รัฐบาล
ส่งิ ท่สี ัมผสั ใน

บทบาท รฐั บาลและร่วม
ประชาธปิ ไตย
๔. ทกั ษะ
๒. นทิ รรศการ
ชีวิตประจำวนั และ

หนา้ ที่ของ กิจกรรมต่าง ๆ
ในท้องถ่นิ
การนำความรู
้ ใหค้ วามรู้เกยี่ วกับ ใหข้ อ้ มลู

องคก์ ร ที่สง่ เสริม และประเทศ
ไปใช
้ บทบาทหนา้ ทีข่ อง ๒. เปรียบเทยี บ
ปกครอง
ประชาธปิ ไตย
๓. การมสี ว่ นร่วม
๕. ทกั ษะ
องคก์ รปกครอง บทบาทหน้าทข่ี อง
ส่วนท้องถนิ่ ในระดับท้องถน่ิ ในการออก การระบ
ุ ส่วนท้องถนิ่
องค์กรปกครอง

และรัฐบาล
และประเทศ
กฎหมาย
และรัฐบาล
ส่วนท้องถน่ิ และ
๒. มีสว่ นร่วม ระเบยี บ กติกา รฐั บาล

ในกจิ กรรม การเลอื กตงั้
๓. ศึกษาหนา้ ที่

ตา่ ง ๆ
๔. สอดสอ่ ง
ขององค์กรปกครอง
ท่ีส่งเสริม ดูแลผู้มี ส่วนทอ้ งถิ่นในส่วน

ประชาธปิ ไตย พฤตกิ รรม
ทเี่ ก่ียวข้องกับการ

ในท้องถนิ่
การกระทำผิด
สง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย
และประเทศ
การเลือกตัง้
ในท้องถิ่น

๓. อภิปราย ๕. ตรวจสอบ ๔. ชว่ ยกันอภปิ ราย
บทบาท
คุณสมบตั
ิ และสรุปบทบาท
ความสำคัญ
๖. การใชส้ ิทธิ หน้าท่ขี ององคก์ ร
ในการใชส้ ทิ ธ ิ ออกเสยี ง
ปกครองส่วนท้องถิ่น
ออกเสยี ง เลอื กต้งั
ในการร่วมกจิ กรรม
เลือกตัง้
ตามระบอบ ส่งเสริมการปกครอง
ตามระบอบ ประชาธิปไตย
ส่วนท้องถิ่น

ประชาธิปไตย


แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
295
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตวั ชี้วดั
ความคิด
สาระ
ทักษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนร
ู้

๕. ร่วมกันจดั
นทิ รรศการใหค้ วามรู้
เกย่ี วกบั บทบาท
หน้าทข่ี ององค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่นิ
และรฐั บาลและ

สง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย
ขององคก์ รปกครอง
สว่ นทอ้ งถิน่


296 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา

กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร

มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้


ทรัพยากรท่ีมีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการ

ของเศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ การดำรงชวี ติ อย่างมดี ุลยภาพ


ตวั ชว้ี ัด
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนรู้
ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร้


สาระท่ี ๓ ผู้ผลติ ทม่ี
ี ๑. บทบาท
๑. ทกั ษะ
๑. แผนผงั
๑. รวบรวมข้อมลู
เศรษฐศาสตร
์ ความรับผดิ ชอบ ของผผู้ ลติ
การรวบรวม
ความคิดผผู้ ลติ
เก่ียวกับ

มาตรฐาน ส ๓.๑
ต่อสงั คม
ทมี่ คี ณุ ภาพ
ขอ้ มูล
ที่มีความ
- บทบาทของ

๑. อธบิ าย ต้องคำนึงถึง เชน่ คำนงึ ถงึ
๒. ทกั ษะ
รับผิดชอบและ
ผู้ผลิตทมี่ คี วาม

บทบาท
จรรยาบรรณ
สิ่งแวดล้อม
การวเิ คราะห
์ ผู้บริโภค
รับผดิ ชอบตอ่ สงั คม

ของผู้ผลติ
และส่ิงแวดล้อม มจี รรยาบรรณ
๓. ทกั ษะ
ทรี่ ู้เทา่ ทนั
- บทบาทของ

ทมี่ คี วาม
ผู้บริโภคต้องรู้ ความรับผดิ ชอบ การระบ
ุ ๒. โครงงาน ผู้บรโิ ภคท่รี เู้ ทา่ ทนั

รบั ผดิ ชอบ
เท่าทนั ในการ ต่อสังคมวางแผน
๔. ทักษะ
“ทรัพยากร
๒. แยกแยะ
๒. อธบิ าย บริโภค ซ่ึงสง่ ผล
กอ่ นเร่มิ ลงมอื ทำ การเชอ่ื มโยง
ในทอ้ งถนิ่ และ พฤตกิ รรมของ

บทบาท
ใหก้ ารบรหิ าร กจิ กรรมต่าง ๆ
๕. ทกั ษะ
การใชป้ ระโยชน์ ผู้ผลติ และผบู้ รโิ ภค
ของผูบ้ ริโภค
จดั การทรพั ยากร เพือ่ ลดความ
การสรุปอ้างอิง
อยา่ งคุ้มค่า”
ตามเกณฑ์

ที่ร้เู ทา่ ทนั
เป็นไปอย่างมี ผิดพลาดและ
๖. ทักษะ

- บทบาทของ

๓. บอกวธิ แี ละ ประสทิ ธิภาพ การสูญเสยี ฯลฯ
การนำความร้

ผผู้ ลิตที่มคี วาม

ประโยชนข์ อง และคุม้ คา่
๒. ทัศนคต
ิ ไปใช้

รับผดิ ชอบต่อสงั คม/
การใช ้
ในการใช้

ไม่รบั ผดิ ชอบ

ทรัพยากร
ทรัพยากร


- บทบาทของ

อย่างยง่ ยนื

อยา่ งมี

ผบู้ ริโภคที่รู้เทา่ ทัน/


ประสิทธิภาพ


และรู้ไมเ่ ท่าทัน



และประสิทธิผล


๓. สรุปความร
ู้


๓. ประโยชน


- บทบาทของ



ของการผลิต

ผผู้ ลติ ทม่ี ีความ



สินคา้ ทมี่


รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม



คุณภาพ


- บทบาทของ



๔. คุณสมบตั


ผู้บริโภคที่รู้เทา่ ทนั



ของผบู้ ริโภคทดี่


๔. จดั ทำแผนผัง


๕. พฤติกรรม


ความคิดบทบาท



ของผ้บู ริโภค


ของผูผ้ ลิตท่ีมีความ



ท่บี กพร่อง


รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
และบทบาทของ


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา
297
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตวั ชีว้ ัด
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชิ้นงาน/
แนวการจัด


รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนร
ู้


๖. คณุ คา่ และ ผบู้ ริโภคท่รี ู้เท่าทัน



ประโยชน์


ทมี่ ตี ่อตนเอง


ของผู้บริโภค


ครอบครัวและสังคม



ท่ีรเู้ ทา่ ทนั


๕. ศกึ ษาและระบุ


ทม่ี ีต่อตนเอง

ทรัพยากรในทอ้ งถ่นิ


ครอบครัวและ

ท่ีใช้ในการดำเนิน


สงั คม


ชีวติ ประจำวัน




๖. วเิ คราะห




เชื่อมโยงและระบุ


ทรพั ยากรในทอ้ งถิน่


ท่ีใช้ในการผลิต



และบรโิ ภค



๗. อภิปรายหา


แนวทางในการใช้


ทรัพยากรท่มี



อยา่ งยง่ั ยนื และคมุ้ คา่



๘. สรุปวิธีการและ


ประโยชน์ของการใช้


ทรพั ยากรอย่างคมุ้ ค่า


และยง่ั ยืน



๙. ทำโครงการ


“ทรพั ยากรในทอ้ งถนิ่


และการใชป้ ระโยชน์


อย่างคมุ้ คา่ ”




298 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พือ่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์

มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ


และความจำเปน็ ของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก


ตวั ชวี้ ัด
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนรู้
ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร้


สาระที่ ๓ ผู้ผลิต ผ้บู ริโภค ๑. ความสัมพันธ์ ๑. ทักษะ
๑. แผนผังแสดง ๑. ศกึ ษาและ
เศรษฐศาสตร์
ธนาคารและ ระหว่างผู้ผลติ
การจดั โครงสรา้ ง
ความสมั พันธ
์ รวบรวมความร
ู้
มาตรฐาน ส ๓.๒
รัฐบาลมคี วาม ผ้บู รโิ ภค ๒. ทกั ษะ
ของหนว่ ย เกี่ยวกับบทบาท
๑. อธิบาย
สัมพันธ์กันและ
ธนาคาร
การรวบรวม เศรษฐกิจ
หน้าท่ีของผผู้ ลิต

ความสมั พนั ธ์ มีความสำคัญ
และรัฐบาล
ขอ้ มูล
๒. นิทรรศการ ผ้บู รโิ ภค ธนาคาร
ระหวา่ ง
ตอ่ การบริหาร ทีม่ ีต่อระบบ ๓. ทกั ษะ
“กลุม่ เศรษฐกิจ และรัฐบาล

ผผู้ ลิต
จัดการเพอ่ื เศรษฐกจิ
การให้เหตุผล
ในชมุ ชนของเรา”
๒. ศกึ ษา

ผบู้ รโิ ภค ประสาน อย่างสงั เขป เช่น


ความสมั พนั ธ์
ธนาคาร
ประโยชน์
การแลกเปลย่ี น

ระหวา่ งผผู้ ลิต

และรัฐบาล
ในทอ้ งถิน่
สินคา้ และบริการ


ผบู้ ริโภค ธนาคาร
๒. ยกตวั อย่าง
รายไดแ้ ละ


และรฐั บาล

การรวมกลมุ่
รายจา่ ย การออม

๓. อธบิ าย

ทางเศรษฐกิจ
กับธนาคาร


ความสมั พนั ธข์ อง

ในทอ้ งถ่นิ

การลงทนุ


ผู้ผลติ ผูบ้ รโิ ภค


๒. แผนผงั แสดง

ธนาคาร และรัฐบาล



ความสมั พนั ธ์

๔. รวบรวมปัญหา


ของหนว่ ย

และแนวทางแก้ไข


เศรษฐกิจ


การผลิตและ



๓. ภาษแี ละ

การบรโิ ภคทเ่ี กิดจาก


หน่วยงาน


ธนาคารและรฐั บาล


ที่จดั เกบ็ ภาษี


ในทอ้ งถนิ่



๔. สทิ ธิของ


๕. รวบรวมข้อมลู


ผู้บริโภค


เก่ยี วกับการรวมกลุ่ม


และสิทธิของ


ทางเศรษฐกจิ



ผู้ใช้แรงงาน


ในท้องถ่นิ



ในประเทศไทย


๖. นำเสนอขอ้ มูล
๕. การหารายได้ เก่ียวกบั การรวมกลุม่
รายจา่ ย การออม
ทางเศรษฐกจิ

การลงทุน
ในทอ้ งถิ่นในรปู
แผนผัง


แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นาทักษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา
299
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตัวชี้วดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจดั


รวบยอด
การเรียนรู
้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนร
ู้


๗. อธบิ ายใหเ้ ห็น


ซ่ึงแสดง

ความสอดคล้อง



ความสัมพนั ธ์
ของเหตแุ ละผล



ระหวา่ งผ้ผู ลิต

ของการรวมกลุม่



ผู้บริโภค

ทางเศรษฐกจิ


และรฐั บาล

ในท้องถิน่




๘. จดั นทิ รรศการ
“กลมุ่ เศรษฐกิจ


ในชุมชนของเรา”






300 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พือ่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

สาระท่ี ๔ ประวตั ศิ าสตร

มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร ์


สามารถใช้วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะห์เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ


ตวั ช้วี ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชิ้นงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นรู
้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้


สาระที่ ๔
วธิ กี ารทาง ๑. ความหมาย ๑. ทักษะ
การนำเสนอ ๑. ทบทวน

ประวัตศิ าสตร
์ ประวัติศาสตร์ และความสำคญั การรวบรวม ขอ้ มูลทาง ความร้เู ดมิ เก่ียวกบั
มาตรฐาน ส ๔.๑
เปน็ วธิ ีการเรยี นรู้ ของวธิ ีการทาง ข้อมูล
ประวตั ศิ าสตร
์ ความสำคัญ

๑. อธิบาย
อารยธรรม
ประวตั ิศาสตร์ ๒. ทกั ษะ
ท่ีได้จากหลักฐาน และวิธีการ

ความสำคัญ วถิ ชี ีวติ ของคน
อยา่ งง่าย ๆ
การแปลความ
ทางประวตั ศิ าสตร์ ทางประวัติศาสตร

ของวธิ ีการทาง ในอดีต โดย ทเ่ี หมาะสม
๓. ทกั ษะ
พรอ้ มวิธกี าร
๒. ศกึ ษาเร่ืองราว
ประวัตศิ าสตร ์ อาศยั การศกึ ษา กับนกั เรียน
การตีความ
ทางประวตั ศิ าสตร
์ ทางประวตั ศิ าสตร์
ในการศกึ ษา หลักฐาน
๒. การนำ
๔. ทกั ษะ
ที่ใช้ในการตอบ
โดยใช้วิธีการ
เรอื่ งราวทาง วธิ กี าร และ วิธกี ารทาง การระบ
ุ ประวตั ิศาสตร์

ประวัติศาสตร ์ แหลง่ ขอ้ มลู ทาง ประวตั ิศาสตร
์ ๕. ทกั ษะ
๒.๑ ตง้ั ประเด็น
อย่างง่าย ๆ
ประวัติศาสตร์
ไปใชศ้ กึ ษา
การสรุปอา้ งองิ
คำถามเก่ยี วกบั
๒. นำเสนอ

เร่ืองราว
๖. ทักษะ
ประวัติศาสตร์

ข้อมลู จาก
ในท้องถน่ิ
การนำความรู้ไปใช
้ ของชมุ ชน ท่ศี กึ ษา

หลกั ฐาน
๓. ตวั อย่าง
๒.๒ รวบรวม
ทหี่ ลากหลาย หลักฐาน
ข้อมูลหลกั ฐาน

ในการทำ
ทเ่ี หมาะสม
ทางประวตั ศิ าสตร์
ความเขา้ ใจ กับผ้เู รยี น
เพ่อื นำไปใช

เรอ่ื งราว ทนี่ ำมาใช้
ในการพสิ จู นค์ ำตอบ

สำคญั ในอดีต
ในการศกึ ษา ๒.๓ แปลความ
เหตกุ ารณส์ ำคญั ตคี วามหลักฐาน/
ในประวัติศาสตร์ ข้อมูลเพอื่ หาคำตอบ
ไทยสมัย ของคำถาม

รัตนโกสนิ ทร
์ ๒.๔ สรุปและ
๔. สรปุ ขอ้ มลู
ระบุขอ้ มลู ท่ีได้จาก
ที่ได้จากหลักฐาน
หลกั ฐานโดยอ้างอิง
ท้งั ความจรงิ และ แหลง่ ความรู/้ หลกั
ขอ้ เท็จจริง
ฐานในการศึกษา


แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
301
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตวั ชีว้ ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ช้ินงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนร
ู้
๓. ตรวจสอบ

๕. การนำเสนอ ความสอดคล้อง

ขอ้ มูลท่ีได้จาก ของข้อมลู กับคำตอบ
หลกั ฐานทาง จากหลักฐานทาง
ประวตั ศิ าสตร์
ประวตั ศิ าสตร์

ดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ
๔. นำเสนอขอ้ มูล
ทางประวัตศิ าสตร

ที่ได้จากหลักฐาน

ทางประวัตศิ าสตร์
พรอ้ มวธิ ีการ

ทางประวัติศาสตร์

ที่ใช้ในการตอบ






302 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา

กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร

มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ


และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญ


และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ


ตัวชว้ี ัด
ความคิด
สาระ
ทักษะการคดิ
ชิน้ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนร้
ู ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู


สาระที่ ๔ การรวมกลุ่ม ๑. ใช้แผนท่ี ๑. ทักษะ
๑. รายงาน
๑. ศึกษาและ
ประวัติศาสตร์
อาเซียนมผี ล
แสดงที่ต้งั และ การรวบรวม
สภาพสังคม รวบรวมขอ้ มูล

มาตรฐาน ส ๔.๒
ตอ่ การพฒั นา อาณาเขต
ขอ้ มลู
เศรษฐกจิ และ เก่ยี วกบั ความเปน็ มา
๑. อธิบาย
สังคม เศรษฐกิจ ของประเทศ ๒. ทกั ษะ
การเมือง
และพัฒนาการ

สภาพสังคม การเมอื ง
เพอ่ื นบา้ น
การวิเคราะห์
ของประเทศ ของกลมุ่ อาเซยี น
เศรษฐกจิ
ของไทยและ ๒. พฒั นาการทาง ๓. ทักษะ
เพ่อื นบา้ น
และสภาพสังคม
และการเมอื ง ประเทศสมาชิก
ประวัตศิ าสตร์
การเชอ่ื มโยง
๒. แผนผงั
เศรษฐกจิ และ
ของประเทศ ของประเทศ ๔. ทักษะ
มโนทัศนเ์ กี่ยวกบั การเมืองของ
เพ่ือนบ้าน
เพือ่ นบ้าน
การสรุปยอ่
ความสมั พนั ธข์ อง
ประเทศเพอื่ นบา้ น
ในปัจจุบนั
โดยสงั เขป
กลุม่ อาเซยี น
๒. วเิ คราะห

๒. บอกความ เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจ
ดา้ นสงั คม ความสมั พนั ธ

สัมพนั ธ์ของ สภาพปัจจุบนั
เศรษฐกิจ และ ดา้ นสภาพสังคม
กลุ่มอาเซยี น ของประเทศ
การเมือง
เศรษฐกิจและ
โดยสงั เขป
เหลา่ น้นั

๓. สภาพ
การเมืองของแตล่ ะ
สงั คม
ประเทศท่สี ง่ ผล

เศรษฐกจิ และ
ต่อประเทศไทย

การเมือง
๓. สรุปสภาพ

ของประเทศ
สังคม เศรษฐกจิ

เพ่อื นบ้าน
และการเมือง

ของไทย
ของประเทศ

ในปจั จุบัน
เพือ่ นบ้านร่วมกนั
โดยสังเขป
โดยการเชอ่ื มโยง
๔. ความเปน็ มา ผลทเ่ี กดิ กับ

ของกลุม่
ประเทศไทยท่ีได

อาเซียน
จากการเข้ารว่ ม

โดยสังเขป
กลุม่ อาเซียน


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
303
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตวั ชว้ี ัด
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรียนร้

๔. สรปุ ความ
๕. สมาชกิ
สัมพนั ธข์ อง

ของอาเซียน
ประเทศไทย

ในปัจจุบนั
กับประเทศ

๖. ความสมั พันธ์ กลุ่มอาเซยี น

ของกลุ่มอาเซียน โดยทำแผนผงั

ทางเศรษฐกิจ มโนทศั นเ์ กี่ยวกบั

และสงั คม
ความสัมพันธ

ในปจั จบุ นั
ของกลุ่มอาเซียน
โดยสงั เขป
ดา้ นสงั คม

เศรษฐกิจ และ
การเมอื ง





304 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

สาระท่ี ๔ ประวัติศาสตร์

มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก


ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย


ตัวช้ีวดั
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนร
ู้

สาระท่ี ๔ การเรยี นรู้ ๑. การสถาปนา ๑. ทักษะ
๑. สมุดภาพ
๑. ศึกษาอาณาจักร
ประวตั ิศาสตร์
พฒั นาการ
อาณาจักร การสำรวจคน้ หา
เกยี่ วกบั การพฒั นา
รัตนโกสินทร

มาตรฐาน ส ๔.๓
ความเจริญ
รตั นโกสินทร
์ ๒. ทกั ษะ
ดา้ นสังคม ประเดน็

๑. อธิบาย รงุ่ เรือง
โดยสังเขป
การวเิ คราะห์
เศรษฐกจิ การสถาปณา

พฒั นาการ ทางเศรษฐกจิ ๒. ปัจจัย
๓. ทกั ษะ
การเมือง
ปัจจยั ส่งเสริม

ของไทยสมยั การปกครอง
ทส่ี ่งเสรมิ
การเชื่อมโยง
สมัยรัตนโกสินทร์
ความเจรญิ รงุ่ เรือง
รัตนโกสินทร์ และภูมิปัญญา
ความเจริญ ๔. ทกั ษะ
๒. แผนผัง
ทางเศรษฐกิจ

โดยสังเขป
สมัย รุ่งเรืองทาง การตคี วาม
มโนทศั นเ์ กีย่ วกบั การปกครอง

๒. อธบิ ายปัจจยั
รัตนโกสินทร์ เศรษฐกิจและ
๕. ทักษะ
ปัจจยั ท่สี ่งเสรมิ
๒. จดั กระทำ

ทส่ี ง่ เสริม
ทำใหเ้ หน็ คณุ คา่ การปกครอง
การสรปุ
ความร่งุ เรือง
ขอ้ มูลด้วยวิธีการ

ความเจรญิ เกิดความ
ของไทย ในสมัย ลงความเหน็
สมัยรตั นโกสินทร
์ ทางประวตั ศิ าสตร์

รงุ่ เรอื งทาง
ภาคภมู ิใจ
รัตนโกสนิ ทร์
๖. ทกั ษะ
๓. สมุดเล่มใหญ่ ๓. วิเคราะห์

เศรษฐกิจและ ในการอนุรกั ษ์
๓. พฒั นาการ
การตัง้ คำถาม
เก่ยี วกบั ประวตั ิ ใหค้ วามเหน็ ร่วมกัน
การปกครอง
ดา้ นต่าง ๆ
๗. ทักษะ
และผลงาน
โดยการเชอื่ มโยง
ของไทยสมยั การสรปุ อา้ งอิง
ความดขี อง
การใชเ้ หตผุ ล

ของไทยสมัย
รตั นโกสินทร์
รัตนโกสินทร์ พระมหากษัตรยิ ์
และการอ้างอิง

๓. ยกตัวอย่าง โดยสงั เขป
ทท่ี รงม
ี จากหลักฐาน

ผลงานของ ตามช่วงเวลา
พระมหากรุณา
และข้อมลู อนื่ ๆ

บคุ คลสำคญั ตา่ ง ๆ เชน่
ตอ่ แผ่นดิน
๔. วางแผนการ

ด้านต่าง ๆ สมยั รตั นโกสนิ ทร
์ ๔. การจดั จัดทำสมุดภาพ

สมัย ตอนต้น
นทิ รรศการ
เกี่ยวกับการพัฒนา

รัตนโกสินทร์
สมยั ปฏิรปู
ผลงานการศึกษา
ดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ
๔. อธิบาย
๔. ผลงานของ
การเมอื ง

ภูมิปญั ญาไทย บคุ คลสำคัญ

ท่ีสำคัญสมยั ทางด้านตา่ ง ๆ
สมัยรัตนโกสินทร

๕. นำเสนอผล

รัตนโกสนิ ทร
์ ในสมัย
การวเิ คราะห์ สรุป

ท่นี า่ ภาคภมู ิใจ รตั นโกสนิ ทร ์
ทำแผนผงั มโนทศั น

และควรค่าแก ่ ๕. ภมู ปิ ญั ญาไทย เก่ียวกบั ปัจจัย

การอนุรกั ษ์ไว้
สมัยรตั นโกสนิ ทร์
ทสี่ ง่ เสรมิ


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา
305
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ตวั ชี้วดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชน้ิ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนรู
้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู

ความรุง่ เรอื ง

สมยั รตั นโกสินทร

๖. ศกึ ษาเหตกุ ารณ

ทีเ่ กดิ ข้นึ สมยั

รัตนโกสินทร

จากสอ่ื ตา่ ง ๆ

๗. วเิ คราะห์ผลงาน/
เหตกุ ารณ์และ

วรี กรรมเหล่านัน้

ทสี่ ่งผลตอ่ ความเปน็
ชาติไทย

๘. เลือกพิจารณา

จุดเด่นของผลงาน
หรือวรี กรรมของ
บคุ คลสำคญั คนอน่ื

๙. ทำสมุดเลม่ ใหญ่
ประวตั แิ ละ

ผลงานความด

พระมหากษตั รยิ ท์ ่ี
ทรงมีพระมหากรณุ า
ต่อแผ่นดนิ

๑๐. ศึกษา

วรรณกรรมสมยั
รตั นโกสินทร

๑๑. วิเคราะห์

ภมู ปิ ัญญาทป่ี รากฏ
ในวรรณกรรม

ยุคสมัยรัตนโกสนิ ทร

ตามประเด็นท่สี นใจ

๑๒. นำเสนอผลการ
วิเคราะหว์ รรณกรรม

ภมู ปิ ัญญาอื่นใน

รปู แบบทตี่ นเองถนดั


306 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร

มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพและความสัมพันธ์ของสรรพส่ิง ซึ่งมีผล


ต่อกันและกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์


ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และใชข้ ้อมลู ภมู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ


ตัวชว้ี ัด
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคดิ
ชนิ้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นรู
้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร
ู้

สาระที่ ๕ เคร่ืองมอื
เครือ่ งมอื
๑. ทักษะ
การอธบิ ายวิธกี าร
๑. สร้างความสนใจ
ภมู ศิ าสตร์
ทางภมู ศิ าสตร์ ทางภมู ิศาสตร
์ การสำรวจคน้ หา
ใช้เคร่อื งมอื
ดว้ ยคำถาม

มาตรฐาน ส ๕.๑
เป็นสิง่ ที่นำไปสู่ (แผนที่ ภาพถ่าย ๒. ทกั ษะ
ทางภมู ศิ าสตร์
เร้าความสนใจ

๑. ใช้เครือ่ งมือ
การค้นหา ชนดิ ตา่ ง ๆ)
การคัดแยก
ใหส้ อดคล้อง
ในการศึกษา

ทางภมู ิศาสตร์ ลักษณะสำคัญ ท่ีแสดงลกั ษณะ ๓. ทกั ษะ
กบั ลักษณะ
บทเรียน

(แผนท่ี ทางกายภาพ
ทางกายภาพ
การนำความรู
้ สำคญั ทาง ๒. กำหนดหวั ข้อ

ภาพถา่ ย
และสงั คมของ ของประเทศ
ไปใช
้ กายภาพและ วธิ กี ารสำรวจ

ชนดิ ตา่ ง ๆ) ประเทศ


สังคม
และค้นหาขอ้ มลู

ระบุลักษณะ



ทางลกั ษณะ

สำคญั ทาง



ทางกายภาพ
กายภาพ




ลกั ษณะทางสงั คม
และสงั คม




โดยใชเ้ ครอื่ งมอื

ของประเทศ




ทางภูมศิ าสตร์





๓. ร่วมกนั อธบิ าย




และลงข้อสรปุ





ในรายงาน





ผลการสืบค้น





๔. รายงานผล





หนา้ ชนั้ เรียน





๕. ประเมนิ ด้วย




กระบวนการตา่ ง ๆ


แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา
307
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตัวชี้วัด
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคิด
ช้นิ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู


สาระท่ี ๕ ลักษณะ
๑. ความสัมพันธ์
๑. ทกั ษะ
การอธิบาย ๑. ทบทวน

ภมู ิศาสตร์
ทางกายภาพ
ระหวา่ งลกั ษณะ การใหเ้ หตผุ ล
สมั พนั ธข์ อง ความร้เู ดมิ

มาตรฐาน ส ๕.๑
มผี ลต่อ ทางกายภาพกับ ๒. ทักษะ
ปรากฏการณ์
ด้วยคำถามเก่ียวกับ
๒. อธิบาย
ปรากฏการณ์ ปรากฏการณ์ การสรปุ อ้างองิ
ทางธรรมชาต
ิ ความสมั พนั ธ์
ความสมั พนั ธ ์ ธรรมชาติ
ทางธรรมชาติ กับลกั ษณะ
ระหวา่ งลกั ษณะ

ระหว่าง ของประเทศ
ของประเทศ ทางกายภาพ ทางกายภาพ

ลักษณะทาง เช่น อุทกภยั
พรอ้ มทง้ั อธบิ าย
กบั ปรากฏการณ์

กายภาพกบั แผ่นดินไหว
สาเหตุทีท่ ำให้
ทางธรรมชาติ

ปรากฏการณ์ วาตภัย
เกดิ ปรากฏการณ
์ ของประเทศ เช่น
ทางธรรมชาต ิ ๒. ภมู ิลกั ษณ
์ ทางธรรมชาต
ิ อุทกภัย

ของประเทศ
ทม่ี ีต่อภมู ิสังคม ของประเทศ
แผ่นดนิ ไหว

ของประเทศไทย
วาตภยั


๒. วางแผนสืบค้น
ความสมั พันธ์
ระหว่างลักษณะ

ทางกายภาพ

กบั ปรากฏการณ

ทางธรรมชาต

ของประเทศ

๓. รว่ มกันสรุปและ

อธบิ ายความสัมพันธ์
ของปรากฏการณท์ าง
ธรรมชาตกิ บั ลกั ษณะ

ทางกายภาพ

พร้อมทง้ั อธิบาย
สาเหตุท่ีทำให

เกดิ ปรากฏการณ์

ทางธรรมชาติ

ของประเทศ


308 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

สาระที่ ๕ ภูมศิ าสตร

มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด


การสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสำนึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร

และส่งิ แวดลอ้ ม เพื่อการพฒั นาท่ยี ่ังยนื


ตัวชีว้ ัด
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร
ู้
๑. กำหนดกรณี
สาระที่ ๕ สิ่งแวดลอ้ ม
๑. สง่ิ แวดลอ้ ม ๑. ทักษะ
ภาพวาด
ตวั อยา่ งเก่ียวกับ

ภมู ศิ าสตร์
ทางธรรมชาติ ทางธรรมชาติ การระบ
ุ ผลท่เี กิดจาก
การเปลีย่ นแปลง

มาตรฐาน ส ๕.๒
ทำใหเ้ กดิ
กบั สงิ่ แวดล้อม ๒. ทกั ษะ
สง่ิ แวดล้อม
ทางธรรมชาต ิ

๑. วเิ คราะห ์ ส่ิงแวดล้อม
ทางสังคม
การเปรยี บเทยี บ
ทางธรรมชาติ
๒. ตงั้ วัตถปุ ระสงค์
ความสัมพันธ์ ทางสงั คม
ในประเทศ
๓. ทกั ษะ
กับสิง่ แวดล้อม กำหนดเกณฑ์

ระหวา่ ง
ในประเทศ
๒. ความสัมพนั ธ ์ การคดั แยก
ทางสังคม
ในการวิเคราะห

ส่ิงแวดลอ้ ม
และผลกระทบ


๓. แสดงความเหน็
ทางธรรมชาติ



แยกแยะ

กับส่ิงแวดลอ้ ม




ความสัมพนั ธ์
ทางสังคม




ระหว่างสง่ิ แวดลอ้ ม
ในประเทศ




ทางธรรมชาติ






กับสิ่งแวดล้อม






ทางสังคม






ในประเทศ พรอ้ มทง้ั






ให้เหตุผลประกอบ





๔. สรปุ สาระสำคัญ






ของความสมั พนั ธ






ของสง่ิ แวดล้อม






ทางธรรมชาต






กบั สิ่งแวดล้อมทาง





สังคมในประเทศ






๕. วาดภาพ






ผลที่เกิดจาก






สงิ่ แวดล้อม






ทางธรรมชาติ






กบั สิ่งแวดล้อม






ทางสังคม








แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา
309
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตวั ช้ีวดั
ความคิด
สาระ
ทักษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร
ู้

สาระที่ ๕ การดัดแปลง
ผลท่ีเกิดจาก
๑. ทักษะ
๑. รายงานผล ๑. กระบวนการ

ภูมิศาสตร
์ หรอื ปรบั เปล่ยี น การปรบั เปลย่ี น การรวบรวม
การสืบค้น
ตง้ั ประเด็น

มาตรฐาน ส ๕.๒
สภาพธรรมชาต
ิ หรือดดั แปลง ข้อมูล
เก่ียวกับสภาพ คำถามเก่ยี วกับ

๒. อธิบายการ มผี ลตอ่
สภาพธรรมชาติ ๒. ทกั ษะ
การเปลย่ี นแปลง การเปล่ียนแปลง
แปลง สภาพ เศรษฐกิจ
ในประเทศ
การสรปุ ความ
ทางสภาพ ธรรมชาต

ธรรมชาติใน สังคม อาชีพ จากอดีตถงึ
ธรรมชาติจาก ๒. กระบวนการ
ประเทศไทย วฒั นธรรม
ปจั จุบนั และ

อดีตถงึ ปัจจบุ ัน
วางแผนสบื คน้

จากอดตี ถงึ และประชากร
ผลทเี่ กิดขน้ึ
๒. การโตว้ าท
ี เกีย่ วกบั สภาพ

ปัจจุบนั และ ในประเทศไทย
(ประชากร
ผลท่ีเกดิ ทง้ั
การเปลย่ี นแปลง

ผลทเี่ กิดขึ้น จากอดีต
เศรษฐกิจ

ทางบวกและ
ทางสภาพธรรมชาติ
จากการ ถงึ ปัจจบุ นั
สังคม อาชีพ
ทางลบ ทาง
จากอดตี ถึงปจั จบุ นั

เปล่ยี นแปลง
และวัฒนธรรม)

สภาพธรรมชาติ ๓. กระบวนการสรุป
นั้น



จากอดตี ถงึ ความเก่ยี วกับผล




ปจั จุบัน
ของการเปลีย่ นแปลง





ทางสภาพธรรมชาติ





จากอดตี ถงึ ปัจจุบนั






๕. จดั กิจกรรม






การโต้วาทแี ละ






ทำรายงาน

สาระที่ ๕ การวางแผน
๑. แนวทาง
๑. ทักษะ
แผนการใช้ ๑. กระบวนการ
ภมู ิศาสตร
์ การใชท้ รพั ยากร การใช้ทรัพยากร การรวบรวม
ทรพั ยากร
วางแผนสืบค้น

มาตรฐาน ส ๕.๒
บคุ คลอยา่ งมี ของคนในชมุ ชน ข้อมลู
ในชมุ ชน
การใช้ทรัพยากร

๓. จดั ทำ
จิตสำนึกให้เกิด ให้ใช้ได้นานขนึ้ ๒. ทักษะ
ของตนเอง
๒. กระบวนการ

แผนการใช ้ ประสิทธภิ าพ
โดยมีจิตสำนกึ การสรุปความ
อยา่ งคุ้มค่า
สรปุ ความเป็นไปได้
ทรพั ยากร
รคู้ ณุ คา่ ของ ๓. ทกั ษะ
ในการวางแผน

ในชุมชน
ทรัพยากร
การนำความรู
้ การใชท้ รัพยากร


๒. แผนอนรุ ักษ์ ไปใช้
๓. กระบวนการนำ
ทรพั ยากร

ความรูท้ ี่ได้จากการ
ในชุมชน หรอื สืบค้นและสรุปความ

แผนอนุรักษ์
๔. จัดทำแผนการใช้

ทรัพยากรในชมุ ชน
ของตนเองอยา่ ง

คมุ้ คา่


310 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู


ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ เป็นการนำผลการวิเคราะห์การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนา
ทักษะการคิดใน ๖ ประเด็น คือ ตัวช้ีวัดที่นำมาจัดกิจกรรมร่วมกัน ความคิดรวบยอด สาระ

การเรียนรู้ ทักษะการคิด ช้ินงาน/ภาระงาน และแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นำมาจัดทำ

หนว่ ยการเรียนรู้ใน ๓ ขน้ั ตอน ดงั น้ ี

● การกำหนดเปา้ หมายการเรยี นร
ู้
● การกำหนดหลกั ฐานการเรยี นร
ู้
● การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ในทางปฏิบัติ สามารถจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ได้โดยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์/เช่ือม
โยงของแตล่ ะตวั ชวี้ ดั ทจี่ ะนำมาจดั กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ไดภ้ ายในกลมุ่ สาระการเรยี นรเู้ ดยี วกนั
ด้วยการวิเคราะห์ตัวช้ีวัดภายในสาระเดียวกันหรือระหว่างสาระ นอกจากน้ียังสามารถวิเคราะห์
ความสัมพันธ์/เช่ือมโยงของแต่ละตัวช้ีวัดที่จะนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่าง

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ได้อีกด้วย

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม


ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔





สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร

มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้


ทรัพยากรท่ีมีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการ

ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอื่ การดำรงชวี ติ อย่างมีดุลยภาพ


ตวั ช้ีวัด
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชนิ้ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู


๑. ระบปุ ัจจยั
การตัดสนิ ใจ ๑. สนิ ค้าและ ๑. ทกั ษะ
๑. การนำเสนอ ๑. สำรวจ

ที่มผี ลตอ่ เลอื กซอื้ สินคา้ บริการทมี่ อี ยู่ การสำรวจ
ปัจจัยท่ีมผี ล
ความคิดเห็นเกยี่ วกับ

การเลือก และบริการ
หลากหลาย
๒. ทักษะ
ตอ่ การเลอื กซ้อื การเลือกซอ้ื สนิ คา้
ซอ้ื สนิ ค้า เป็นสทิ ธิพ้ืนฐาน ในตลาดทม่ี ี
การจำแนก สินคา้ และบรกิ าร และบริการในชมุ ชน

และบริการ
ของผบู้ รโิ ภค
ความแตกต่าง ประเภท
ตามสทิ ธิพ้ืนฐาน ๒. จำแนกปจั จัย

๒. บอกสทิ ธ ิ ด้านราคาและ ๓. ทกั ษะ
และรกั ษา
ทม่ี ีผลตอ่ การ

พืน้ ฐาน คณุ ภาพ
การนำความร
ู้ ผลประโยชน์
เลอื กซอื้ สนิ คา้ และ
และรกั ษา ๒. ปัจจยั ทีม่ ผี ล ไปใช
้ ของตนในฐานะ
บริการแต่ละประเภท

ผลประโยชน์ ตอ่ การเลอื กซือ้ ผู้บรโิ ภค
๓. ศึกษาค้นคว้า

ของตนเอง สินค้าและบริการ
๒. นทิ รรศการ เกย่ี วกบั สทิ ธปิ ระโยชน์
ในฐานะ
ทีม่ ีมากมาย
“ผูบ้ ริโภครอบร้”ู
ของผ้บู ริโภคใน

ผ้บู รโิ ภค
ซึ่งขึน้ อยกู่ ับผู้ซือ้
ผู้ขาย และ
การเลอื กซื้อสินค้า

ตวั สินคา้ เชน่
และบรกิ าร

ความพึงพอใจ ๔. อภิปรายและสรปุ
ของผ้ซู ้ือ
ความรูเ้ กี่ยวกบั สทิ ธิ
ราคาสนิ ค้า
พืน้ ฐานและการรักษา
การโฆษณา ผลประโยชน

คณุ ภาพของสินค้า
ของตนเองในฐานะ

๓. สิทธพิ ืน้ ฐาน ผู้บรโิ ภค


ของผบู้ รโิ ภค


312 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ตวั ชีว้ ดั
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชนิ้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู้

๔. สนิ ค้าและ ๕. วางแผนและ

บริการที่มี นำเสนอปจั จัยที่มีผล

เครอื่ งหมาย ตอ่ การเลอื กซอ้ื สนิ คา้
รบั รองคุณภาพ
และบริการ สทิ ธิ

๕. หลกั การและ พ้นื ฐานและการรกั ษา
วธิ ีการเลอื ก ผลประโยชนข์ อง
บริโภค
ตนเองในฐานะ

ผู้บริโภค

๖. จดั นิทรรศการ

“ผูบ้ ริโภครอบรู้”




แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพือ่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
313
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชอื่ หน่วย ผ้บู ริโภครอบรู ้ หนว่ ยการเรียนรู้
เวลา ๖ ชัว่ โมง


กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔



๑. เปา้ หมายการเรยี นรู

๑.๑ ความเขา้ ใจท่ีคงทน

การตดั สินใจเลือกซ้ือสินค้าและบริการ เป็นสทิ ธพิ ้นื ฐานของผบู้ รโิ ภค

๑.๒ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั

สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร

มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและ

การบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการ

ดำรงชีวติ อย่างมดี ลุ ยภาพ

ตวั ชี้วดั

ส ๓.๑ ป.๔/๑ ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลต่อการเลือกซอื้ สินคา้ และบรกิ าร

ส ๓.๑ ป.๔/๒ บอกสิทธิพ้ืนฐานและรักษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะ

ผบู้ รโิ ภค

๑.๓ ความคดิ รวบยอด

ผู้บริโภคมีสิทธิพ้ืนฐานในการเลือกซ้ือสินค้าและบริการ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมี
ดลุ ยภาพ

๑.๔ สาระการเรียนร้

๑.๔.๑ สินค้าและบริการท่ีมีอยู่หลากหลายในตลาดท่ีมีความแตกต่างด้านราคาและ
คุณภาพ

๑.๔.๒ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเลือกซ้ือสินค้าและบริการท่ีมีมากมาย ซ่ึงขึ้นอยู่กับผู้ซ้ือ

ผขู้ าย และตวั สนิ คา้ เช่น ความพึงพอใจของผ้ซู ื้อ ราคาสนิ ค้า การโฆษณา คณุ ภาพของสนิ ค้า

๑.๔.๓ สทิ ธพิ ้ืนฐานของผ้บู ริโภค

๑.๔.๔ สินค้าและบรกิ ารท่มี เี ครือ่ งหมายรับรองคณุ ภาพ

๑.๔.๕ หลักการและวิธกี ารเลอื กบรโิ ภค


314 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือพฒั นาทักษะการคดิ ระดับประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๑.๕ ทกั ษะการคิด

๑.๕.๑ ทกั ษะการสำรวจคน้ หา

๑.๕.๒ ทักษะการจำแนกประเภท

๑.๕.๓ ทักษะการนำความรู้ไปใช

๑.๖ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑.๖.๑ ใฝเ่ รียนรู

๑.๖.๒ มวี นิ ัย



๒. หลักฐานการเรยี นรู้

๒.๑ ชนิ้ งาน/ภาระงาน

๒.๑.๑ การนำเสนอปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซ้ือสินค้าและบริการ สิทธิพ้ืนฐานและ
การรักษาผลประโยชนข์ องตนในฐานะผูบ้ รโิ ภค

๒.๑.๒ นิทรรศการ “ผบู้ ริโภครอบรู้”

๒.๒ การวดั และประเมินผล

๒.๒.๑ การวดั และประเมนิ ผลระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

๑) สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

๒) คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค

๒.๒.๒ การวัดและประเมินผลเมอ่ื ส้นิ สดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

๑) การนำเสนอปัจจัยท่ีมีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการตามสิทธิพื้นฐาน
และรักษาผลประโยชนข์ องตนในฐานะผบู้ ริโภค
๒) นทิ รรศการ “ผบู้ ริโภครอบรู้”



๓. การจดั กิจกรรมการเรยี นร
ู้
๓.๑ สำรวจความคดิ เห็นเกยี่ วกบั การเลือกซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ ารในชมุ ชน

๓.๒ จำแนกปจั จัยท่มี ผี ลต่อการเลอื กซื้อสนิ ค้าและบรกิ ารตามประเภทของสนิ คา้ และบริการ

๓.๓ ศกึ ษาคน้ คว้าเกยี่ วกับสิทธิพ้นื ฐานของผู้บรโิ ภคในการเลอื กซือ้ สนิ คา้ และบรกิ าร

๓.๔ อภิปรายและสรุปความรู้เก่ียวกับสิทธิพ้ืนฐานและการรักษาผลประโยชน์ของตน

ในฐานะผ้บู รโิ ภค

๓.๕ วางแผนการนำเสนอและนำเสนอปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การเลอื กซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ ารสทิ ธพิ นื้ ฐาน

และการรกั ษาผลประโยชน์ของตนในฐานะผู้บรโิ ภค

๓.๖ จดั นิทรรศการ “ผู้บริโภครอบรู้”




แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา
315
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

เกณฑก์ ารประเมิน

๑) การเขียนรายงานการเลือกซ้ือสนิ คา้ และบรกิ าร


ประเด็น

ระดับคะแนน

คะแนน

การประเมิน



เนอื้ หา


ระบุปัจจยั ทม่ี ีผล ระบุปจั จยั ทม่ี ผี ล ระบปุ ัจจยั ท่มี ีผล ระบุปจั จยั ท่มี ีผล ๓


ตอ่ การเลือกซื้อ ต่อการเลอื กซ้อื ต่อการเลือกซ้อื ต่อการเลือกซ้ือ


สนิ ค้าและบรกิ าร สินคา้ และบรกิ าร สนิ คา้ และบรกิ าร สนิ ค้าและบรกิ าร


บอกหลักและ
บอกหลกั และ
บอกหลกั และ
บอกหลกั และ



วธิ ีการเลอื กบริโภค วิธีการเลือกบริโภค วธิ ีการเลอื กบริโภค วธิ ีการเลือกบริโภค


บอกสิทธิพนื้ ฐาน บอกสทิ ธิพื้นฐาน บอกสิทธพิ น้ื ฐาน บอกสิทธิพื้นฐาน


ของผู้บริโภค
ของผบู้ รโิ ภค
ของผบู้ รโิ ภค
ของผู้บริโภค



ได้ถูกต้องครบถว้ น
ได้ถกู ตอ้ ง
ได้ถกู ต้อง
ได้ถูกตอ้ ง




เป็นสว่ นใหญ่
แต่ไมค่ รบถว้ น
เปน็ ส่วนใหญ





และไม่ชดั เจน
ไมค่ รบถว้ น


การใช้ภาษา



และไม่ชัดเจน



ภาษาถูกต้อง ภาษาถูกต้อง
ภาษายังไม่
ภาษายงั ไม่



ทง้ั หมดมีการ
เป็นสว่ นใหญ ่
ถูกตอ้ งขาด
ถูกตอ้ งขาด



เช่ือมโยงไดด้ ี
มกี ารเช่ือมโยงไดด้ ี การเชือ่ มโยง
การเชอ่ื มโยง



ส่อื ความหมาย ส่ือความหมาย
และส่อื ความหมาย
และส่อื ความหมาย


การนำเสนอ
เข้าใจง่าย
เข้าใจง่าย
ไม่ชดั เจน
ไม่ชดั เจน


นำเสนอขอ้ มูล
นำเสนอข้อมูล
นำเสนอขอ้ มลู
นำเสนอข้อมูล


ถูกตอ้ งตามขน้ั ตอน ถกู ต้องตามขนั้ ตอน ไม่ถกู ตอ้ งตาม
ไม่ถกู ตอ้ งตาม


เสียงดังชดั เจน แต่เสยี งเบา ท่าทาง
ข้นั ตอน เสียงดัง ขน้ั ตอน เสียงเบา

ทา่ ทางมน่ั ใจ
ไม่มั่นใจ
ท่าทางไมม่ นั่ ใจ
ทา่ ทางไมม่ น่ั ใจ


รวม
๒๐


เกณฑ์การตดั สิน/ระดับคณุ ภาพ

คะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ดีมาก

คะแนน ๑๔ - ๑๕ หมายถงึ ดี

คะแนน ๑๒ - ๑๓ หมายถงึ พอใช้

คะแนน ๕ - ๑๑ หมายถงึ ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผา่ น คอื พอใช


316 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๒) นทิ รรศการ “ผู้บริโภครอบรู้”


ประเด็น

ระดับคะแนน

คะแนน

การประเมนิ




เน้อื หา
ระบปุ ัจจยั ที่มี
ระบุปจั จยั ท่ีม
ี ระบุปจั จยั ท่มี ี
ระบปุ จั จัยที่ม
ี ๓


ผลตอ่ การเลอื กซอ้ื ผลต่อการเลอื กซอื้ ผลตอ่ การเลอื กซ้ือ ผลต่อการเลอื กซ้ือ


สนิ ค้าหลักการและ สนิ ค้าหลักการและ สินคา้ หลักการและ สนิ คา้ หลกั การและ


วิธีการเลือกซือ้ วธิ ีการเลือกซอื้ วธิ ีการเลอื กซือ้ วิธกี ารเลอื กซอื้


สินคา้ ของผ้บู รโิ ภค สินค้าของผ้บู ริโภค สนิ คา้ ของผบู้ รโิ ภค สนิ คา้ ของผ้บู รโิ ภค


ครอบคลุม
ครอบคลุม
ครอบคลมุ
ไมค่ รอบคลุม



ครบถ้วน ถูกตอ้ ง ครบถ้วน แตม่
ี ครบถ้วน แต่มี
ไมช่ ัดเจน



ชดั เจน
ข้อบกพรอ่ ง
ข้อบกพร่องมาก
มขี ้อบกพร่องมาก




เลก็ น้อย




ความคดิ การออกแบบใหม่ การออกแบบใหม่ การออกแบบใหม่ การออกแบบ


สรา้ งสรรค
์ ไมเ่ หมือนใคร
มกี ารเลียนแบบ
การเลียนแบบผอู้ ่ืน เลียนแบบผอู้ ื่น


สีและขนาด
บา้ งเล็กนอ้ ย
เปน็ สว่ นใหญ ่
ท้ังหมด สแี ละ



ตัวอักษรเหมาะสม สแี ละขนาด
สแี ละขนาด
ขนาดตวั อกั ษร



สวยงาม
ตวั อักษรเหมาะสม ตวั อกั ษรเหมาะสม
ยังไมห่ มาะสม




สวยงาม




ความคมุ้ ค่า
ใชว้ ัสด
ุ ใชว้ ัสด
ุ ไม่ใชว้ สั ดุ
ไม่ใช้วสั ด
ุ ๑

ในท้องถ่ินราคา ในท้องถ่นิ ราคา ในท้องถิ่นราคา ในทอ้ งถนิ่


ประหยดั
ประหยัด
ประหยดั
ไม่มีความคงทน

มีความคงทนถาวร
มีความคงทนถาวร
มีความคงทนถาวร ถาวร สรา้ งปัญหา


ไมส่ ร้างปญั หา
ไมส่ ร้างปัญหา
ไม่สรา้ งปญั หา
สิง่ แวดล้อม


ส่ิงแวดลอ้ มสะดวก
สิ่งแวดลอ้ ม
สง่ิ แวดลอ้ ม
แต่ไมส่ ะดวก


ตอ่ การนำเสนอ
แต่ไมส่ ะดวก
แต่ไมส่ ะดวก
ต่อการจดั เก็บ


และการจัดเก็บ
ตอ่ การนำเสนอ
ต่อการจดั เก็บ


และการจัดเก็บ


รวม
๒๐


เกณฑก์ ารตดั สนิ /ระดับคณุ ภาพ

คะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ดีมาก

คะแนน ๑๔ - ๑๕ หมายถึง ดี

คะแนน ๑๒ - ๑๓ หมายถึง พอใช้

คะแนน ๕ - ๑๑ หมายถึง ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผา่ น คอื พอใช


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา
317
กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม


ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖


สาระท่ี ๙ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม

มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา

หรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดม่ัน และปฏิบัติ


ตามหลกั ธรรมเพือ่ อยู่รว่ มกันอย่างสนั ติสขุ


ตวั ชว้ี ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชนิ้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนร้
ู ภาระงาน
กจิ กรรมการเรียนรู


สาระที่ ๑
ศาสนาทุกศาสนา
๑. พระพุทธ ๑. ทกั ษะ
๑. การนำเสนอ ๑. รวบรวมและ
ศาสนา ศลี ธรรม มคี วามสำคัญ
ศาสนาในฐานะ การวิเคราะห์
วิเคราะห
์ ศึกษาข้อมลู ท่ีแสดง
จรยิ ธรรม
ตอ่ ผนู้ ับถอื
เปน็ ศาสนา
๒. ทักษะ
ความสำคญั
ให้เห็นถึงความสำคัญ
มาตรฐาน ส ๑.๑
การสวดมนตแ์ ละ ประจำชาติ เช่น การประยุกต
์ ของพทุ ธศาสนา
ของพระพทุ ธศาสนา

๑. วเิ คราะห
์ การแผเ่ มตตา เป็นเอกลกั ษณ์ ใชค้ วามรู้
ที่มอี ิทธิผลต่อ ในฐานะเปน็ ศาสนา
ความสำคญั เปน็ การบรหิ ารจติ ของชาติไทย

การดำเนินชีวติ ประจำชาติหรอื

ของพระพทุ ธ และเจริญปญั ญา เปน็ รากฐานทาง
ของชาวไทย
ความสำคญั ของ
ศาสนา
ตามหลกั ธรรม วัฒนธรรมไทย
ในประเดน็
ศาสนาท่ตี นนบั ถือตอ่

ในฐานะ
ของพทุ ธศาสนา เปน็ ศูนย์รวม
- เอกลักษณ์ ชาตไิ ทย

เป็นศาสนา ที่พุทธศาสนิกชน จติ ใจ เป็นมรดก
ของชาตไิ ทย
๒ วิเคราะห

ประจำชาติ นบั ถอื เปน็ แนวทาง ทางวฒั นธรรม
- รากฐานและ ความสำคัญของ
หรอื ความ ปฏิบัติ เพือ่
ไทย และเปน็
มรดกทาง พระพุทธศาสนา

สำคัญของ เปน็ มรดกทาง หลักในการ
วัฒนธรรม
ในประเดน็

ศาสนาทตี่ น วฒั นธรรม
พัฒนาชาตไิ ทย

- ศนู ย์รวมจติ ใจ
๑) เป็นเอกลกั ษณ์

นับถอื
และเป็นหลกั
๒. สวดมนต

- การพัฒนา
ของชาติไทย

๖. เห็นคุณคา่ ในการพฒั นาตน
ไหว้พระ
ชาตไิ ทยตาม
๒) เป็นรากฐาน
และสวดมนต ์
พฒั นาชาต
ิ สรรเสริญ

แนวทางของ
มรดกทางวัฒนธรรม

แผเ่ มตตา
คุณพระรัตนตรัย
พระพทุ ธ
๓) เป็นศูนยร์ วม
และบริหารจติ

และแผเ่ มตตา

ศาสนา
จิตใจ

เจริญปญั ญา

- รคู้ วามหมาย
- ศาสนา
๔) เปน็ หลกั ใน
มีสตทิ ่ีเป็น

ของสติ

ประจำชาติ
การพฒั นาชาตไิ ทย

พ้นื ฐาน

สัมปชัญญะ
๒. คมู่ อื
๕) เป็นศาสนา

ของสมาธ

สมาธแิ ละ
การดำเนนิ ชวี ติ
ประจำชาต

ในพระพุทธ
ปัญญา

ตามแนวทางของ ๓. วเิ คราะห

ศาสนา หรือ
- รู้วธิ ปี ฏบิ ัต ิ
ศาสนาทีน่ บั ถือ
การกระทำ/พฤตกิ รรม/
การพัฒนาจิต
และประโยชน์

การปฏบิ ตั ขิ องตนเอง





318 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ตัวชีว้ ัด
ความคิด
สาระ
ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร
ู้
ใน ๑ วันวา่ มี
ตามแนวทาง
ของการ

พฤตกิ รรมใดบา้ ง

ของศาสนา

บรหิ ารจติ และ

ทเี่ ป็นพฤติกรรม

ท่ตี นนับถอื
เจริญปญั ญา


ที่ไดร้ บั อิทธพิ ล

ตามท่ีกำหนด

- ฝกึ การยืน


จากศาสนา

การเดิน


๔. วเิ คราะห์

การนัง่ และ

ประโยชน์และคุณค่า

การนอน


ของการสวดมนต์

อยา่ งมสี ต ิ


แผเ่ มตตา และ

- ฝกึ การกำหนด

บริหารจติ เจริญ

รู้ความรสู้ ึก

ปัญญาตามแนวทาง

เม่อื ตาเห็นรปู

ของศาสนาทน่ี บั ถือ


หฟู งั เสียง

๕. สรุปผลการ

จมกู ดมกลนิ่

วเิ คราะห์ข้อมูล


ล้นิ ลม้ิ รส


ในรูปของตาราง

กายสัมผสั


วเิ คราะห์ความสำคัญ


ส่งิ ทมี่ ากระทบ

ของพทุ ธศาสนา


ใจรับรู้

ทม่ี อี ทิ ธิผลต่อ


ธรรมารมณ


การดำเนนิ ชีวติ ของ

- ฝึกใหม้ สี มาธิ

ชาวไทยในประเดน็


ในการฟัง


ทกี่ ำหนด


การอ่าน


๖. สรปุ หลกั ธรรม

การคิด และ

ทางศาสนาทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

การเขยี น

และเปน็ แนวทาง



การดำเนนิ ชวี ิต


ประจำวนั ของชาวไทย


นำมาจัดทำค่มู ือ

การดำเนินชีวติ

ตามแนวทางของ
ศาสนาทตี่ นนับถือ

๗. ปฏิบัตกิ จิ กรรม
การพัฒนาจติ และ
เจริญปัญญา

ตามแนวทางของ
ศาสนาที่ตนนบั ถอื


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา
319
กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

หน่วยการเรียนรู


ชอื่ หนว่ ย ศาสนาและหลักธรรมนำความสุข เวลา ๑๐ ชัว่ โมง

สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖



๑. เปา้ หมายการเรยี นร
ู้
๑.๑ ความเข้าใจท่คี งทน

ความศรัทธายึดม่ันและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาท่ีตนนับถือ ทำให้ชีวิต
และสงั คมมคี วามสุข

๑.๒ สาระมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรยี นร
ู้
สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม

มาตรฐาน ส ๑.๑ รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา

หรือศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้องยึดม่ัน

และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรม เพอื่ อยู่รว่ มกนั อยา่ งสันตสิ ขุ

ตัวชี้วัด

ส ๑.๑ ป.๖/๑ วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนา

ประจำชาติ หรือความสำคัญของศาสนาทีต่ นนับถือ

ส ๑.๑ ป.๖/๖ เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตาและบริหารจิตเจริญปัญญา

มีสติท่ีเป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนา

จติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถอื

๑.๓ ความคิดรวบยอด

ศาสนาทุกศาสนามีความสำคัญต่อผู้นับถือ การสวดมนต์แผ่เมตตาเป็นการบริหารจิต
เจริญปัญญาตามหลักธรรมของพุทธศาสนาท่ีพุทธศาสนิกชนควรยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติเพ่ือเป็น
มรดกทางวัฒนธรรมและเปน็ หลักในการพฒั นาชาต


320 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอื่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๑.๔ สาระการเรยี นร้

๑.๔.๑ พระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ เชน่ เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย
เปน็ รากฐานและมรดกทางวฒั นธรรมไทย เป็นศูนย์รวมจติ ใจและเป็นหลักในการพฒั นาชาติไทย

๑.๔.๒ สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั และแผเ่ มตตา

- รูค้ วามหมายของสติสมั ปชญั ญะ สมาธิ และปญั ญา

- รูว้ ิธีปฏิบตั แิ ละประโยชน์ของการบรหิ ารจติ เจริญปญั ญา

- ฝึกการยนื การเดนิ การนง่ั และการนอนอยา่ งมีสต

- การฝึกกำหนดความรู้สึกเมื่อตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกล่ิน ล้ินล้ิมรส

กายสมั ผัส ส่ิงทีม่ ากระทบใจรบั รู้ธรรมารมณ์

- ฝกึ ให้มีสมาธิในการฟงั การอา่ น การคิด และการเขียน

๑.๕ ทกั ษะการคดิ

๑.๕.๑ ทกั ษะการวเิ คราะห์

๑.๕.๒ ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู

๑.๖ คุณลักษณะอันพึงประสงค

๑.๖.๑ ใฝ่เรียนร
ู้
๑.๖.๒ มีวินัย



๒. หลักฐานการเรยี นรู้

๒.๑ ชนิ้ งาน/ภาระงาน

๒.๑.๑ การนำเสนอผลการวิเคราะห์ความสำคัญของพุทธศาสนาท่ีมีอิทธิพลต่อ

การดำเนนิ ชีวติ ของชาวไทยในประเดน็

๑) เอกลักษณ์ของชาตไิ ทย

๒) รากฐานมรดกทางวัฒนธรรม

๓) ศนู ย์รวมจติ ใจ

๔) การพัฒนาชาติไทยตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนา

๕) ศาสนาประจำชาติ

๒.๑.๒ คู่มอื การดำเนินชีวติ ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถอื


แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา
321
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๒.๒ การวดั และประเมินผล

๒.๒.๑ การวัดและประเมินผลระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นร
ู้
๑) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

๒) คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

๒.๒.๒ การวัดและประเมินผลเม่ือส้ินสดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร
ู้
๑) การนำเสนอผลการวิเคราะห์ความสำคัญของพุทธศาสนาที่มีอิทธิพลต่อ

การดำเนนิ ชีวติ ของชาวไทยในประเดน็

๑.๑ เอกลักษณ์ของชาตไิ ทย

๑.๒ รากฐานมรดกทางวัฒนธรรม

๑.๓ ศนู ย์รวมจติ ใจ

๑.๔ การพัฒนาชาติไทยตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนา

๑.๕ ศาสนาประจำชาติ

๒) คูม่ ือการดำเนินชีวิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถอื



๓. การจัดกิจกรรมการเรียนร้

๓.๑ รวบรวมและศึกษาข้อมูลท่ีแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะ

เป็นศาสนาประจำชาตหิ รือความสำคัญของศาสนาท่ตี นนับถือ

๓.๒ วิเคราะหค์ วามสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในประเด็น

๑) เอกลกั ษณข์ องชาติไทย

๒) รากฐานมรดกทางวัฒนธรรม

๓) ศนู ย์รวมจิตใจ

๔) การพัฒนาชาตไิ ทยตามแนวทางของพระพุทธศาสนา

๕) ศาสนาประจำชาต

๓.๓ วิเคราะห์การกระทำและหรือการปฏิบัติของตนเองในหน่ึงวัน ว่ามีพฤติกรรมใดบ้าง

ท่เี ป็นอิทธิพลจากศาสนา

๓.๔ วิเคราะห์ประโยชน์และคุณค่าของการสวดมนต์ แผ่เมตตาและบริหารจิตเจริญปัญญา
ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ

๓.๕ สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางวิเคราะห์ความสำคัญของพุทธศาสนา

ทมี่ อี ิทธิพลตอ่ การดำเนินชวี ิตของชาวไทยในประเด็นท่กี ำหนด

๓.๖ สรุปอา้ งอิงเอาหลกั ธรรมทางศาสนาท่ีเก่ียวข้องกบั การดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั ของชาวไทย
มาจดั ทำค่มู อื การดำเนนิ ชวี ิตตามแนวทางของศาสนาท่ีนบั ถือ

๓.๗ ปฏบิ ัติกิจกรรมตามคมู่ ือการดำเนินชวี ิตตามแนวทางของศาสนาท่นี บั ถือ


322 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่ือพฒั นาทักษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

เกณฑก์ ารประเมินภาระงาน/ชิ้นงาน

๑. การนำเสนอผลการวเิ คราะหค์ วามสำคญั ของพทุ ธศาสนาทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การดำเนนิ ชวี ติ ของ

ชาวไทยในประเดน็

๑.๑ เอกลกั ษณข์ องชาตไิ ทย

๑.๒ รากฐานมรดกทางวฒั นธรรม

๑.๓ ศนู ย์รวมจิตใจ

๑.๔ การพัฒนาชาตไิ ทยตามแนวทางของพระพุทธศาสนา


๑.๕ ศาสนาประจำชาติ

ประเด็น
ระดับคะแนน

การประเมิน



น้ำหนัก


คะแนน


๑. สาระสำคญั
มกี ารสรปุ สาระสำคญั มกี ารสรปุ สาระสำคญั มกี ารสรปุ สาระสำคญั มกี ารสรปุ สาระสำคญั ๔

ของประเด็น
ของประเด็นที่ ของประเดน็ ที่ ของประเด็นที่ ของประเด็นท่ี
ท่ีวเิ คราะห
์ วเิ คราะหค์ รบถว้ น วิเคราะห์ครบถว้ น วิเคราะห์ไดช้ ัดเจน วิเคราะห์ไม่ครบ

ชดั เจนและ
สอดคลอ้ ง เชอ่ื มโยงกนั แต่ไมค่ รบทกุ ประเดน็
ทกุ ประเด็น

มคี วามสอดคล้อง บางประเดน็
และไม่ชดั เจน

เชอ่ื มโยงกนั

ทุกประเด็น


๒. ความคิด
นำเสนอผลงาน นำเสนอผลงาน
นำเสนอผลงาน
นำเสนอผลงาน


สร้างสรรค
์ ดว้ ยวิธีการ
ด้วยวธิ ีการ
ดว้ ยวิธกี ารและ
ด้วยวธิ ีการและ

ทีแ่ ปลกใหม ่
ท่แี ปลกใหม
่ รปู แบบมีความ รปู แบบมีความ
รปู แบบมคี วาม
รปู แบบมีความ คลา้ ยคลงึ กบั ผลงาน คลา้ ยคลงึ กับ

แตกตา่ งจากผลงาน คลา้ ยคลงึ กบั ผลงาน ท่ีผา่ นมา สีและ ผลงานท่ีผ่านมา
ทีผ่ า่ นมา สีและ ทผี่ ่านมา สแี ละ ขนาดตวั อกั ษร ขาดความสวยงาม
ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตัวอกั ษร เหมาะสม
และไมน่ า่ สนใจ

เหมาะสมสวยงาม
เหมาะสมสวยงาม


คะแนนรวม
๒๐


เกณฑ์การตัดสิน/ระดับคะแนน

คะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ดีมาก

คะแนน ๑๑ - ๑๕ หมายถงึ ดี

คะแนน ๖ - ๑๐ หมายถงึ พอใช้

คะแนน ๑ - ๕ หมายถึง ปรับปรุง

เกณฑ์การผา่ น คือ พอใช


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ พือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
323
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

เกณฑก์ ารประเมินภาระงาน/ชิ้นงาน


๒. คมู่ อื การดำเนินชีวิตตามแนวทางของศาสนาท่ตี นนับถอื

ประเดน็
ระดบั คะแนน

การประเมนิ
น้ำหนกั





คะแนน


๑. สาระสำคัญของ
ค่มู ือการดำเนินชีวติ สาระสำคัญของ สาระสำคญั ของ สาระสำคัญของ ๘

คู่มอื การดำเนนิ
มีความเหมาะสม ค่มู อื การดำเนนิ ชวี ติ คมู่ อื การดำเนนิ ชวี ิต คูม่ อื การดำเนินชวี ิต
ชวี ติ ครอบคลมุ /
กับวัยและ มีความเหมาะสม
มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสม

เหมาะสม
ครอบคลุม
แต่ไมค่ รอบคลมุ
บางประการ


๒. วิธีการนำเสนอ
มวี ธิ กี ารนำเสนอ มีวธิ ีการนำเสนอ มีวิธีการนำเสนอ มวี ิธกี ารนำเสนอ


เป็นลำดบั ขนั้ ตอน
เป็นลำดับขัน้ ตอน เปน็ ลำดบั ขนั้ ตอน ไมเ่ ปน็ ลำดบั ขนั้ ตอน
ทชี่ ดั เจน โดดเด่น ชดั เจนเนอ้ื หาสาระ และเน้อื หาสาระ
และเนอ้ื หาสาระ

เนอ้ื หาสาระเขา้ ใจงา่ ย เขา้ ใจง่าย สามารถ ไม่ชดั เจน สามารถ ไมช่ ดั เจน ไมส่ ามารถ
สามารถนำไป นำไปปฏิบตั ิตาม
นำไปปฏิบัติตามได้ นำไปปฏบิ ัติตามได้

ปฏิบัตติ ามได้
ไดบ้ า้ ง
ค่อนข้างยาก


๓. ความคดิ
นำเสนอผลงานดว้ ย นำเสนอผลงานดว้ ย นำเสนอผลงานด้วย นำเสนอผลงานด้วย ๔

สร้างสรรค์
วิธีการท่แี ปลกใหม่ วิธกี ารที่แปลกใหม่ วธิ กี ารและรูปแบบ วิธกี ารและรปู แบบ
รูปแบบมคี วาม
รูปแบบมคี วาม มคี วามคล้ายคลึง มีความคลา้ ยคลงึ
แตกตา่ งจากผลงาน คลา้ ยคลงึ กบั ผลงาน กบั ผลงานท่ผี า่ นมา
กับผลงานทผี่ า่ นมา

ที่ผา่ นมา สีและ ทผี่ ่านมา สแี ละ สแี ละขนาดตวั อกั ษร ขาดความสวยงาม
ขนาดตวั อักษร ขนาดตวั อักษร เหมาะสม
และน่าสนใจ

เหมาะสมสวยงาม
เหมาะสมสวยงาม


คะแนนรวม
๒๐


เกณฑ์การตดั สิน/ระดับคะแนน

คะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ดมี าก

คะแนน ๑๑ - ๑๕ หมายถงึ ด

คะแนน ๖ - ๑๐ หมายถึง พอใช้

คะแนน ๑ - ๕ หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การผ่าน คือ พอใช


324 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พอื่ พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค

๑. ใฝเ่ รยี นร
ู้

ตัวช้ีวัดที่ ๑.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรม

ระดับคะแนน

รายการพฤตกิ รรม





(ดีเย่ียม)
(ดี)
(ผา่ น)

๑. ตั้งใจเรียน






๒. เอาใจใส่และมคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นรู





๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรูต้ า่ ง ๆ







ตัวช้ีวัดที่ ๑.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน

ว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ สามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได

ระดบั คะแนน

รายการพฤตกิ รรม





(ดีเย่ยี ม)
(ดี)
(ผา่ น)

๑. ศึกษาค้นคว้าหาความรูจ้ ากหนงั สือ เอกสาร สงิ่ พมิ พ์

สอ่ื เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหลง่ เรียนรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน





และเลอื กใชส้ ื่อไดอ้ ยา่ งเหมาะสม


๒. บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ขอ้ มูล จากส่งิ ที่เรยี นรู้ สรปุ เป็นองค์ความร
ู้




๓. แลกเปลี่ยนเรยี นร้ดู ว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ และนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน







เกณฑ์การตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพรายการพฤติกรรม

ระดบั ดีเยีย่ ม หมายถงึ ปฏิบัตติ ามรายการพฤติกรรมทุกกรณีอย่างสมำ่ เสมอ

ระดับ ด ี หมายถึง ปฏิบตั ติ ามรายการพฤตกิ รรมทกุ กรณีบอ่ ยคร้งั


ระดบั ผ่าน หมายถงึ ปฏิบตั ิตามรายการพฤตกิ รรมทกุ กรณเี ป็นบางครง้ั (สว่ นนอ้ ย)

ระดบั
เกณฑก์ ารพิจารณา

ดเี ยีย่ ม (๓)
ไดผ้ ลการประเมินระดับดเี ยย่ี มทุกตวั ช้วี ัด


ดี (๒)
๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ยีย่ ม จำนวน ๑ ตัวชว้ี ดั และระดับดี ๑ ตัวชวี้ ัด

๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดที ุกตัวชว้ี ดั


ผา่ น (๑)
๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่านทุกตวั ช้ีวดั

๒. ไดผ้ ลการประเมินตง้ั แต่ระดับดขี นึ้ ไป จำนวน ๑ ตวั ชวี้ ดั และระดบั ผ่าน ๑ ตวั ช้ีวดั


แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู พือ่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา
325
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๒. มวี ินัย

ตัวช้ีวัดท่ี ๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน

ละสังคม

ระดบั คะแนน

รายการพฤตกิ รรม





(ดีเยย่ี ม)
(ด)ี
(ผ่าน)

๑. ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คับของครอบครวั




โรงเรียน และสงั คมไมล่ ะเมิดลิทธิของผอู้ ่ืน


๒. ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั




และรับผดิ ชอบในการทำงาน


เกณฑก์ ารตดั สินระดับคณุ ภาพรายการพฤตกิ รรม

ระดับ ดเี ยี่ยม หมายถงึ ปฏิบตั ิตามรายการพฤติกรรมทกุ กรณีอยา่ งสมำ่ เสมอ

ระดบั ดี หมายถงึ ปฏิบตั ิตามรายการพฤติกรรมทกุ กรณบี อ่ ยครั้ง

ระดบั ผ่าน หมายถึง ปฏิบัติตามรายการพฤตกิ รรมทุกกรณีเปน็ บางครัง้ (สว่ นนอ้ ย)



ระดับ
เกณฑก์ ารพิจารณา

ดเี ยย่ี ม (๓)
ได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยย่ี ม


ดี (๒)
ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับด


ผ่าน (๑)
ได้ผลการประเมนิ ระดับผา่ น






























แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

326 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๓. มจี ิตสาธารณะ


ัวชีว้ ัดท่ี ๑ ช่วยเหลือผู้อนื่ ดว้ ยความเต็มใจและพงึ พอใจ





พฤติกรรมบง่ ช้
ี (ดีเยยี่ ม)
(ดี)
(ผ่าน)


๑.๑ ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครทู ำงานด้วยความเตม็ ใจ




๑.๒ อาสาทำงานใหผ้ ู้อ่นื ด้วยกำลังกาย กำลงั ใจ และกำลงั สตปิ ญั ญา

ด้วยความสมัครใจ

๑.๓ แบง่ ปันสิง่ ของ ทรพั ย์สนิ และอน่ื ๆ และช่วยแก้ปัญหา

หรือสร้างความสุขใหก้ ับผู้อ่ืน





ตวั ชีว้ ัดที่ ๒ เข้าร่วมกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม





พฤติกรรมบง่ ช
้ี (ดเี ย่ยี ม)
(ด)ี
(ผ่าน)


๒.๑ ดูแลรักษาสาธารณสมบัติและสง่ิ แวดลอ้ มด้วยความเต็มใจ




๒.๒ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชุมชน และสังคม

๒.๓ เข้าร่วมกจิ กรรมเพือ่ แกป้ ญั หาหรือรว่ มสรา้ งสงิ่ ท่ดี งี ามของ

ส่วนรวมตามสถานการณ์ทเ่ี กิดขึ้นดว้ ยความกระตือรอื รน้




เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดับคุณภาพรายการพฤติกรรม

ระดับ ดีเยีย่ ม หมายถงึ ปฏบิ ัติตามรายการพฤตกิ รรมทุกกรณีอยา่ งสม่ำเสมอ

ระดบั ด ี หมายถงึ ปฏบิ ตั ิตามรายการพฤตกิ รรมทกุ กรณบี ่อยครั้ง

ระดบั ผา่ น หมายถงึ ปฏิบัติตามรายการพฤตกิ รรมทุกกรณเี ปน็ บางคร้ัง (ส่วนน้อย)



ระดบั
เกณฑ์การพจิ ารณา

ดีเยีย่ ม (๓)
ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดเี ย่ยี ม


ดี (๒)
ได้ผลการประเมนิ ระดับด


ผ่าน (๑)
ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน











แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
327
กล่มุ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๔. มีความรับผดิ ชอบ (จุดเน้นของพ้ืนทีก่ ารศึกษา/สถานศกึ ษา)
ระดบั คะแนน


รายการพฤตกิ รรม





๑. การเตรียมความพร้อมในการเรียนและการปฏิบตั ิงาน
(ดเี ย่ียม)
(ดี)
(ผา่ น)







๒. ปฏิบตั ิงานดว้ ยความต้ังใจ





๓. ปฏบิ ตั งิ านด้วยความละเอยี ดรอบคอบ





๔. ปฏบิ ัติงานที่ไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกำหนด







เกณฑ์การตัดสนิ ระดบั คุณภาพรายการพฤตกิ รรม

ระดบั ดีเยี่ยม หมายถงึ ปฏบิ ตั ติ ามรายการพฤติกรรมทุกกรณีอย่างสมำ่ เสมอ

ระดับ ด ี หมายถึง ปฏบิ ัตติ ามรายการพฤติกรรมทกุ กรณบี ่อยครง้ั

ระดบั ผา่ น หมายถงึ ปฏิบตั ิตามรายการพฤติกรรมทกุ กรณเี ปน็ บางคร้ัง (สว่ นนอ้ ย)



ระดับ
เกณฑ์การพิจารณา

ดเี ยีย่ ม (๓)
ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ยี่ยมทกุ ตัวชี้วดั


ดี (๒)
๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ยี ม จำนวน ๑ ตวั ชวี้ ัด และระดับดี ๑ ตัวชว้ี ัด

๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีทกุ ตัวช้ีวดั


ผ่าน (๑)
๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผา่ นทุกตัวชี้วดั

๒. ได้ผลการประเมินตงั้ แตร่ ะดบั ดขี น้ึ ไป จำนวน ๑ ตัวชี้วดั และระดบั ผา่ น ๑ ตวั ช้วี ัด


328 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ภาคผนวก




ทกั ษะการคิดทนี่ ำมาใช้ในการพัฒนาผู้เรียน

ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑



ทักษะการคดิ ทน่ี ำมาใช้ในการพฒั นาผเู้ รียน

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑





ทักษะการคิดท่ีนำมาพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ได้ใช้กรอบด้านกระบวนการในการคดิ ประกอบดว้ ย

๑. ทักษะการคิดข้ันพื้นฐาน ซึ่งเป็นทักษะท่ีสำคัญและจำเป็นต่อการคิดทั่ว ๆ ไปใน

ชีวิตประจำวัน และเป็นทักษะท่ีเป็นพ้ืนฐานของการคิดข้ันสูงที่ซับซ้อนขึ้น ทักษะการคิดข้ันพื้นฐาน

จดั เปน็ ๒ กลุ่ม ได้แก่ ทกั ษะการคิดท่ีใช้ในการส่อื สาร และทักษะการคิดทเี่ ป็นแกน

๒. ทักษะการคิดขั้นสูง จัดเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ ทักษะการคิดท่ีซับซ้อน ทักษะพัฒนา

ลักษณะการคดิ และทกั ษะกระบวนการคดิ

สำหรับแนวทางการพัฒนาทักษะการคิด มุ่งเน้นการนำกระบวนการที่ใช้ในการคิดบูรณาการ

เข้ากับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และเพอื่ ใหค้ รผู สู้ อนไดม้ คี วามชดั เจน
ต่อการนำทักษะการคิดสู่การปฏิบัติ ได้นำเสนอความหมายของทักษะการคิดท่ีนำมาใช้ในการพัฒนา

ผเู้ รียนไวด้ งั น้ี


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
331
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ทักษะการคิดขน้ั พน้ื ฐาน




ทักษะการคิดที่ใช้ในการสอ่ื สาร

ทักษะการคิด
ความหมาย

๑. การฟัง
การรับร้คู วามหมายจากเสยี งที่ได้ยิน การไดย้ นิ เป็นความสามารถท่ีจะได้รับร้สู งิ่ ที่ได้ยนิ
ตีความ และจบั ใจความสงิ่ ท่รี บั รนู้ ัน้ เข้าใจและจดจำไว


๒. การพดู
การใชถ้ ้อยคำ นำ้ เสยี ง รวมท้ังกริ ิยาอาการถ่ายทอดความรู้ ความคิด และความรสู้ กึ

ของผพู้ ดู ใหผ้ ฟู้ ังได้รับร้แู ละเกิดการตอบสนอง


๓. การอา่ น
การรับรูข้ อ้ ความในการเขยี นของตนเองหรอื ของผูอ้ น่ื รวมถงึ การรับรคู้ วามหมาย

จากเคร่อื งหมายและสัญลกั ษณ์ตา่ ง ๆ เช่น สัญลักษณ์จราจร


๔. การเขยี น
การถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความร้สู ึก และความต้องการของบคุ คลออกมาเป็น

ลายลกั ษณอ์ กั ษร เพือ่ สอื่ ความหมายให้ผู้อืน่ เขา้ ใจ





ทกั ษะการคดิ ทเี่ ปน็ แกน

ทกั ษะการคดิ
ความหมาย

๑. การสังเกต
การรับรูแ้ ละรวบรวมข้อมลู เก่ยี วกับสิง่ ใดสง่ิ หนง่ึ โดยใชป้ ระสาทสัมผัสท้ังหา้

เพอ่ื ให้ไดร้ ายละเอียดเกย่ี วกบั ส่ิงน้ัน ๆ ซง่ึ เป็นข้อมูลเชงิ ประจกั ษ์

ที่ไมม่ ีการใชป้ ระสบการณ์ และความคิดเห็นของผสู้ งั เกตในการเสนอข้อมลู

ขอ้ มลู จากการสังเกตมีทงั้ ข้อมูลเชงิ คุณภาพและขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ


๒. การสำรวจ
การพจิ ารณาตรวจสอบสงิ่ ที่สงั เกตอยา่ งมจี ุดมุง่ หมายเพื่อให้ไดข้ ้อเทจ็ จริง

และความคิดเห็นเกย่ี วกบั สง่ิ น้ัน


๓. การสำรวจค้นหา
การค้นหาส่ิงใดส่ิงหนง่ึ ที่ยังไม่รู้หรือร้นู ้อยมากอยา่ งมจี ดุ หมายดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ

เพอ่ื ให้ไดข้ อ้ มูลมากท่ีสดุ


๔. การต้ังคำถาม
การพดู หรือการเขียนส่งิ ทสี่ งสยั หรอื สง่ิ ที่ต้องการรู้


๕. การระบุ
การบง่ ชี้ส่ิงต่าง ๆ หรือบอกส่วนตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็นองคป์ ระกอบหรือลักษณะของสงิ่ ท่ศี กึ ษา


๖. การรวบรวมขอ้ มูล
การใช้วิธีการตา่ ง ๆ เก็บข้อมลู ที่ตอ้ งการรู้


๗. การเปรียบเทียบ
การจำแนกระบุสิ่งของหรือเหตกุ ารณต่์ า่ ง ๆ ในสิ่งท่ีเหมือนกันและสง่ิ ทีต่ า่ งกนั


๘. การคดั แยก
การแยกสง่ิ ทม่ี ีลกั ษณะตา่ งกนั ตง้ั แต่ ๑ อยา่ งข้ึนไปออกจากกนั


๙. การจัดกลุ่ม
การนำสง่ิ ตา่ ง ๆ ท่มี ีคุณสมบตั เิ หมอื นกนั ตามเกณฑ์มาจัดเป็นกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่ม

มเี กณฑต์ า่ งกนั


๑๐. การจำแนกประเภท
การนำสงิ่ ตา่ ง ๆ มาแยกเป็นกลมุ่ ตามเกณฑ์ท่ีได้รับการยอมรบั ทางวชิ าการ

หรอื ยอมรบั โดยทวั่ ไป


332 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ทกั ษะการคดิ
ความหมาย

๑๑. การเรียงลำดับ
การนำสิง่ ตา่ ง ๆ มาจัดเรียงไปในทิศทางเดยี วกนั โดยใช้เกณฑก์ ารจัด

เกณฑ์ใดเกณฑ์หน่งึ


๑๒. การแปลความ
การเรียบเรียงและถา่ ยทอดข้อมลู ในรูปแบบ/วธิ ีการใหมท่ แ่ี ตกต่างไปจากเดมิ

แต่ยังคงสาระเดมิ


๑๓. การตคี วาม
การบอกความหมายหรือความสัมพนั ธข์ องข้อมลู หรอื สาระทแี่ ฝงอยู่ไม่ปรากฏใหเ้ ห็น
อย่างชดั เจน โดยการเชอ่ื มโยงกบั บริบทความรู้/ประสบการณ์เดมิ หรือขอ้ มูลอ่นื ๆ


๑๔. การเชอ่ื มโยง
การบอกความสัมพันธร์ ะหว่างขอ้ มูลอย่างมีความหมาย


๑๕. การสรุปย่อ
การจับเฉพาะใจความสำคัญของเร่อื งท่ตี อ้ งการสรปุ และนำมาเรยี บเรยี งใหก้ ระชับ


๑๖. การสรปุ อ้างอิง
การนำความรหู้ รือประสบการณเ์ ดิมมาใช้ในการสรปุ ลงความเหน็ เก่ยี วกับข้อมูล


๑๗. การใหเ้ หตผุ ล
การอธิบายเหตุการณห์ รือการกระทำตา่ ง ๆ โดยเชอื่ มโยงใหเ้ หน็ ถงึ สาเหต

และผลทเี่ กดิ ขน้ึ ในเหตกุ ารณ์หรือการกระทำนนั้ ๆ



๑๘. การนำความรู้ไปใช้
การนำความรทู้ เ่ี กดิ จากความเข้าใจไปใช้เพื่อให้เกิดความชำนาญ


ทกั ษะการคดิ ขนั้ สงู




ทกั ษะการคดิ ทซี่ ับซ้อน

ทักษะการคดิ
ความหมาย

๑. การทำให้กระจา่ ง
การใหร้ ายละเอียดหรือคำอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับส่งิ ทีส่ งสยั หรือคลุมเครือ

เพื่อใหเ้ กิดความชดั เจน


๒. การสรปุ ลงความเหน็
การให้ความคิดเห็นเก่ียวกับขอ้ มูล/เร่อื งท่ศี กึ ษา โดยการเชอ่ื มโยงและอ้างอิงจาก

ความร้หู รือประสบการณเ์ ดมิ หรอื จากขอ้ มูลอืน่ ๆ รวมทัง้ เหตผุ ล


๓. การให้คำกำจัดความ
การระบลุ ักษณะเฉพาะทส่ี ำคญั ของสิง่ ใดส่ิงหนงึ่ ท่ีตอ้ งการนยิ าม


๔. การวเิ คราะห
์ การจำแนกแยกแยะสง่ิ ใดสง่ิ หน่ึง/เรื่องใดเรื่องหนึง่ เพื่อค้นหาองคป์ ระกอบ

และความสัมพนั ธ์ระหวา่ งองคป์ ระกอบเหล่าน้ัน เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในเร่ืองนน้ั


๕. การสงั เคราะห
์ การนำความรู้ท่ผี ่านการวเิ คราะห์มาผสมผสานสรา้ งสง่ิ ใหมท่ ่ีมีลกั ษณะตา่ งจากเดิม


๖. การประยกุ ต์ใชค้ วามร
ู้ การนำความรู้ทีม่ ีไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ที่มีลักษณะแตกตา่ งไปจากเดมิ


๗. การจัดระเบียบ
การนำข้อมูลหรือสง่ิ ตา่ ง ๆ มาจัดให้เปน็ ระเบยี บในลักษณะใดลกั ษณะหน่ึง

เพอ่ื ใหส้ ะดวกแก่การดำเนนิ การ


๘. การสร้างความร้
ู การสรา้ งความร้ขู องตนเองจากการทำความเข้าใจเชอื่ มโยงขอ้ มูลใหม่กับขอ้ มูลเดิม


๙. การจดั โครงสร้าง
การนำความรู้มาจัดใหเ้ หน็ เปน็ โครงสรา้ งทแี่ สดงความสัมพนั ธ์ของข้อมลู /ขอ้ ความร้ ู

ซง่ึ เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างนน้ั ๆ





แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
333
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ทกั ษะการคิด
ความหมาย

๑๐. การปรับโครงสรา้ ง
การนำขอ้ มูลมาปรบั /เปลย่ี น/ขยายโครงสรา้ งความรูเ้ ดิม


๑๑. การหาแบบแผน
การหาชดุ ความสัมพันธข์ องลักษณะหรอื องค์ประกอบในสง่ิ ใดสง่ิ หน่ึง


๑๒. การพยากรณ์
การคาดคะเนสง่ิ ทจ่ี ะเกิดขน้ึ ล่วงหนา้ โดยอาศยั การสังเกต ปรากฏการณ์ที่เกดิ ข้ึนซำ้ ๆ
หรอื ใช้ความรู้ท่ีเปน็ หลักการ กฎ หรือทฤษฎีในเรือ่ งนัน้ มาช่วยในการทำนาย


๑๓. การหาความเช่ือ การใช้หลักเหตุผลคน้ หาความเชอ่ื ท่กี ำหนดการกระทำของบคุ คลน้ัน

พ้นื ฐาน


๑๔. การตง้ั สมมติฐาน
การคาดคะเนคำตอบทีย่ ังไม่ได้พิสูจน์ บนฐานขอ้ มูลจากการสงั เกตปรากฏการณค์ วามรู้
และประสบการณ์เดิม


๑๕. การพสิ จู น์ความจริง
การหาข้อมูลท่เี ชอื่ ถือได้มาสนับสนุนข้อสรปุ หรือคำตอบวา่ เป็นจริง


๑๖. การทดสอบ การหาขอ้ มูลทเี่ ปน็ ความรู้เชงิ ประจกั ษ์เพือ่ ใช้สนับสนนุ หรือคดั คา้ นคำตอบล่วงหน้า

สมมติฐาน
ทค่ี าดคะเนไว้ หรอื เพอื่ ยอมรับหรือปฏิเสธคำตอบท่ีคาดคะเนไว้


๑๗. การตงั้ เกณฑ์
การบอกประเดน็ /หวั ขอ้ ท่ีใช้เป็นแนวทางในการประเมิน


๑๘. การประเมนิ
การตดั สินคณุ คา่ หรือคุณภาพของสิ่งใดสง่ิ หน่ึงโดยการนำผลจากการวดั ไปเทยี บกับ
ระดับคุณภาพทก่ี ำหนด




ทักษะพฒั นาลักษณะการคิด

ลกั ษณะการคิด
ความหมาย

๑. คิดคลอ่ ง
การให้ไดข้ ้อมูลจำนวนมากอยา่ งรวดเรว็


๒. คดิ หลากหลาย
การให้ได้ข้อมูลหลายประเภท


๓. คดิ ละเอียด
การให้ไดข้ อ้ มลู ท่เี ปน็ รายละเอยี ดของส่งิ ทตี่ ้องการคิด


๔. คิดชดั เจน
การคดิ ทผี่ คู้ ดิ รวู้ า่ ตนรแู้ ละไมร่ อู้ ะไร เขา้ ใจและไมเ่ ขา้ ใจอะไร และสงสยั อะไรในเรอ่ื งทค่ี ดิ


๕. คิดอย่างมีเหตผุ ล
การใชห้ ลกั เหตผุ ลในการคิดพจิ ารณาเรื่องใดเรอ่ื งหนึง่


๖. คดิ ถกู ทาง
การคิดท่ีทำให้ไดค้ วามคดิ ท่ีเป็นประโยชนต์ ่อสว่ นรวมและเปน็ ประโยชน์ระยะยาว


๗. คิดกว้าง
การคดิ พจิ ารณาถึงองคป์ ระกอบ/แงม่ ุมตา่ ง ๆ ของเรอ่ื งทค่ี ดิ อยา่ งครอบคลมุ


๘. คดิ ไกล
การคิดที่ทำใหส้ ามารถอธิบายเหตุการณ์ในอนาคตได


๙. คิดลึกซงึ้
การคดิ ท่ีทำให้เขา้ ใจความซับซอ้ นของโครงสร้างและระบบความสัมพันธเ์ ชิงสาเหต

ในโครงสรา้ งของเร่อื งทคี่ ดิ





334 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนร้เู พ่อื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ทกั ษะกระบวนการคิด

ทกั ษะกระบวนการคดิ
ความหมาย

๑. กระบวนการคิด
การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณเป็นกระบวนการคิดเพ่ือให้ไดค้ วามคดิ ที่รอบคอบ

อย่างมีวจิ ารณญาณ
สาเหตุทจี่ ะเชื่อหรอื จะทำโดยผา่ นการพิจารณาปจั จัยรอบด้านอย่างกวา้ งไกล ลกึ ซ้งึ
และผ่านการพจิ ารณากลัน่ กรอง ไตร่ตรอง ทัง้ ทางด้านคณุ -โทษ และคณุ ค่าทีแ่ ทจ้ รงิ
ของสิง่ น้นั มาแล้ว


๒. การะบวนการคิด
การตัดสินใจเปน็ กระบวนการที่ใช้ในการพจิ ารณาเลือกตัวเลือกทม่ี ีตั้งแต่

ตัดสินใจ
๒ ตวั เลอื กขึน้ ไป ทางเลอื กนน้ั อาจจะเป็นวตั ถสุ ่งิ ของ หรือแนวปฏิบัติต่าง ๆ

ที่ใช้ในการแกป้ ญั หา หรือดำเนินการเพือ่ ให้บรรลตุ ามวัตถุประสงคท์ ี่ตัง้ ไว

๓. กระบวนการคิด
กระบวนการแกป้ ัญหาท่ัวไป

แก้ปัญหา
การแก้ปัญหาเป็นข้ันตอน การเผชิญฝ่าฟันอุปสรรค และแก้ไขสถานการณ ์

เพื่อใหป้ ัญหานน้ั หมดไป

กระบวนการแก้ปญั หา (เฉพาะโจทยป์ ัญหาตวั เลข)

การแกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ หมายถงึ ขน้ั ตอนในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา


๔. กระบวนการวิจัย
ขน้ั ตอนท่ีใชห้ าคำตอบของปญั หาเปน็ ผลใหพ้ บองคค์ วามรู้ใหม ่

ขนั้ ตอนท่ีใชแ้ กป้ ญั หานน้ั มคี วามเปน็ ลำดบั ขน้ั ตอนอยา่ งเปน็ ระบบ


๕. กระบวนการคดิ ความคิดท่แี ปลกใหม่ที่จะนำไปสู่ส่ิงตา่ ง ๆ ผลผลิตใหม่ ๆ ทางเทคโนโลย

สร้างสรรค์
และความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นสง่ิ แปลกใหม


๖. กระบวนการคดิ
การคิดค้นหาปัญหาอย่างแทจ้ ริง ชดั เจน เปิดรับขอ้ มูล ความคดิ พสิ จู น์ แยกแยะ

แกป้ ญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค
์ ให้ไดค้ วามคิดเหน็ ทด่ี ที ่ีสุด และแปลงความคดิ ไปสกู่ ารปฏิบัติอย่างสร้างสรรรค์





ทมี่ าของขอ้ มลู

เอกสาร

ทศิ นา แขมมณี และคณะ ๒๕๔๙ : การนำเสนอรปู แบบเสรมิ สรา้ งทกั ษะการคดิ ขน้ั สงู ของนสิ ติ นกั ศกึ ษา

ครู ระดบั ปรญิ าตรสี ำหรบั หลกั สตู รครศุ กึ ษา : รายงานการวจิ ยั . คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .

(เอกสารเย็บเล่ม)

เวบ็ ไซต

http://www.wikipedia.org/wiki

http://www.wangnoi-nfe/index.file/Page1181.html

http://www.kku.ac.th/thai416102/SubjectWeb/Critical-Reading_meaning.htm

http://www.e-learning.mfu.ac.th/mflu/1001/chapter31.htm




แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พือ่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา
335
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

คณะทำงาน





ที่ปรกึ ษา


๑. นายชินภทั ร ภูมิรตั น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน


๒. นางเบญจลักษณ์ นำ้ ฟา้ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน


๓. นางสาววีณา อคั รธรรม ผ้อู ำนวยการสำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา





ผู้ทรงคณุ วฒุ


๑. รศ.ดร.ทิศนา แขมมณ


๒. ดร.เพญ็ นี เหล่าวฒั นพงษา





ผูก้ ำหนดกรอบแนวคิด


๑. นางเบญจลักษณ์ น้ำฟา้ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน


๒. นางสาวกญั นกิ า พราหมณ์พทิ กั ษ์ รองผอู้ ำนวยการสำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา





ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ


กลุ่มพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา


๑. นางสาวกัญนกิ า พราหมณพ์ ิทักษ์ รองผอู้ ำนวยการสำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา


๒. นางสาวศรินทร เศรษฐการณุ ย ์ นักวิชาการศึกษา


๓. นางสาววรณัน ขนุ ศรี นักวิชาการศกึ ษา


๔. นางผาณิต ทวีศกั ดิ ์ นักวิชาการศึกษา


๕. นางบุษรนิ ประเสรฐิ รตั น์ นกั วชิ าการศกึ ษา


๖. นางสาวเปรมวดี ศรีธนพล นักวิชาการศึกษา


336 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพฒั นาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๗. นางสาวภัทรา สุวรรณบัตร นกั วิชาการศึกษา


๘. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง นกั วชิ าการศกึ ษา





คณะทำงาน ครั้งที่ ๑


การวิเคราะห์ตวั ช้วี ดั สกู่ ารพัฒนาทกั ษะการคดิ


๑. นางสุคนธ์ สนิ ธพานนท์ ขา้ ราชการบำนาญ


๒. นายชยั วุฒิ โสภัย ศึกษานิเทศก์


สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาสกลนคร เขต ๑


๓. นางสาวปราณี คงพิกลุ ศึกษานเิ ทศก


สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาสระแก้ว เขต ๑


๔. นางสาวประทุมวัน ดอมไธสง ศกึ ษานิเทศก์


สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษานครราชสีมา เขต ๖


๕. นางวรรณี สุวรรณมาลยั ศึกษานเิ ทศก


สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาปราจีนบรุ ี เขต ๑


๖. นางปานทิพย์ จตุรานนท์ นักวิชาการศึกษา


สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา


๗. นางศจุ ีภรณ์ อทู่ องทรพั ย ์ หัวหนา้ กลมุ่ พัฒนาและสง่ เสริมการวัด


และประเมินผลการเรียนร
ู้

สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา


๘. นางสาววันเพ็ญ สทุ ธากาศ นักวิชาการศึกษา


สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา


๙. นางระววิ รรณ ภาคพรต นกั วิชาการศึกษา


สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา
337
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๑๐. นายอนุจนิ ต์ ลาภธนาภรณ ์ นักวชิ าการศึกษา


สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา


๑๑. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง นกั วชิ าการศึกษา


สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา





คณะทำงาน คร้งั ท่ี ๒


การจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พอื่ พัฒนาทกั ษะการคิด


๑. นางสุคนธ์ สนิ ธพานนท ์ ขา้ ราชการบำนาญ


๒. นางแมน้ เดอื น สขุ บำรุง ขา้ ราชการบำนาญ


๓. นางสาวปราณี คงพกิ ลุ ศกึ ษานิเทศก์


สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาสระแก้ว เขต ๑


๔. นางสาวประทุมวนั ดอมไธสง ศกึ ษานเิ ทศก์


สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษานครราชสีมา เขต ๖


๕. นางวรรณี สุวรรณมาลัย ศกึ ษานเิ ทศก ์


สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาปราจนี บุรี เขต ๑


๖. นายชัยวุฒิ โสภยั ศกึ ษานเิ ทศก์


สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาสกลนคร เขต ๑


๗. นางสาวรุ่งทวิ า จนั ทรว์ ฒั นวงศ ์ ศึกษานิเทศก ์


สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาอดุ รธานี เขต ๓


๘. นางสริ มิ า กลิน่ กุหลาบ ครโู รงเรยี นไทรใหญ ่


สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษานนทบรุ ี เขต ๑


๙. นางจริ กานต์ แกว้ มชี ยั ครโู รงเรยี นบา้ นเกศการสร


สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษากำแพงเพชร เขต ๑


338 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๑๐. นายไพศาล เรียนทพั ครโู รงเรยี นกำแพงเพชรพิทยาคม

สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษากำแพงเพชร เขต ๑

๑๑. นายปฏิพัทธ์ ม่นั ชำนาญ ครโู รงเรียนวงั นำ้ เยน็ พิทยาคม

สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาสระแก้ว เขต ๑

๑๒. นางสาวธราเนาว์ สัตยพานชิ ครโู รงเรียนไชยปราการ

สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาเชียงใหม่ เขต ๓

๑๓. นางปานทพิ ย์ จตรุ านนท์ นักวชิ าการศกึ ษา

สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา

๑๔. นางศจุ ีภรณ์ อูท่ องทรพั ย์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและสง่ เสรมิ การวดั

และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา

๑๕. นางสาววันเพญ็ สุทธากาศ นกั วชิ าการศกึ ษา

สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา

๑๖. นางวรรณา ช่องดารากุล นกั วิชาการศกึ ษา

สำนักพฒั นานวตั กรรมการจดั การศึกษา

๑๗. นายอนจุ นิ ต์ ลาภธนาภรณ ์ นักวิชาการศกึ ษา

สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา

๑๘. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง นักวชิ าการศึกษา

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา




แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
339
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

คณะทำงาน คร้ังที่ ๓


บรรณาธกิ ารการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พื่อพฒั นาทักษะการคดิ


๑. นางสุคนธ์ สินธพานนท์ ข้าราชการบำนาญ


๒. นางแมน้ เดอื น สขุ บำรงุ ข้าราชการบำนาญ


๓. นางสาวปราณี คงพิกลุ ศึกษานิเทศก์


สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาสระแกว้ เขต ๑


๔. นางสาวประทมุ วนั ดอมไธสง ศกึ ษานเิ ทศก ์


สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสมี า เขต ๖


๕. นางวรรณี สุวรรณมาลัย ศึกษานเิ ทศก ์


สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาปราจีนบุรี เขต ๓


๖. นายชยั วุฒิ โสภัย ศึกษานเิ ทศก ์


สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาสกลนคร เขต ๓


๗. นางสาวรงุ่ ทวิ า จนั ทร์วฒั นวงศ ์ ศกึ ษานเิ ทศก์


สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาอุดรธานี เขต ๓


๘. นางสิริมา กลิ่นกหุ ลาบ ครูโรงเรยี นไทรใหญ ่


สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษานนทบุรี เขต ๑


๙. นายไพศาล เรยี นทพั ครูโรงเรียนกำแพงเพชรพทิ ยาคม


สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษากำแพงเพชร เขต ๑


๑๐. นางสาวธราเนาว์ สตั ยพานชิ ครูโรงเรยี นไชยปราการ


สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาเชียงใหม่ เขต ๓


๑๑. นางสาวจรูญศรี แจบไธสง นักวชิ าการศึกษา


สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา





340 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

คณะทำงาน ครั้งที่ ๔


บรรณาธกิ ารเอกสารแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พ่อื พฒั นาทักษะการคิด


๑. นายชยั วุฒิ โสภยั ศกึ ษานเิ ทศก์


สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาสกลนคร เขต ๑


๒. นางสาวปราณี คงพิกลุ ศึกษานเิ ทศก ์


สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาสระแก้ว เขต ๑


๓. นางสาวประทุมวัน ดอมไธสง ศกึ ษานิเทศก ์


สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษานครราชสีมา เขต ๖


๔. นางวรรณี สุวรรณมาลัย ศึกษานิเทศก ์


สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาปราจีนบรุ ี เขต ๑


๕. นางสาวรงุ่ ทิวา จันทรว์ ฒั นวงศ์ ศึกษานเิ ทศก์


สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาอุดรธานี เขต ๓


๖. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง นักวชิ าการศึกษา


สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา





คณะทำงาน ครง้ั ที่ ๕


บรรณาธกิ ารหลงั ทดลองใชเ้ อกสารแนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาทักษะการคดิ


๑. นายชัยวุฒิ โสภัย ศกึ ษานิเทศก


สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสกลนคร เขต ๑


๒. นางสาวประทุมวนั ดอมไธสง ศึกษานเิ ทศก์


สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต ๖


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา
341
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม


Click to View FlipBook Version