The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เเผนจัดการเรียนรู้ ว21101 วิทยาศาสตร์ 1-2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rsky691, 2022-10-13 11:25:15

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ว 21101 วิทยาศาสตร์

เเผนจัดการเรียนรู้ ว21101 วิทยาศาสตร์ 1-2565

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
รายวชิ า ว 21101 วิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หอ้ ง………ภาคเรียน……………..ปกี ารศึกษา………

กลุ่มท…่ี …………ชอื่ กลุม่ ……………
คำช้แี จง : สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนรายกลมุ่ ในระหว่างเรยี นแล้วทำเครื่องหมาย ✓ ลงช่องท่ตี รงกบั ระดับ
คะแนนที่นกั เรียนปฏิบัติได้

พฤติกรรม รวม

ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตัง้ ใจ การมสี ่วน

ลำ ชื่อ-สกลุ รว่ มมอื ความ ความ ในการ ร่วมในการ
ดบั ท่ี สมาชิกกลุ่ม
คิดเห็น คิดเห็น ทำงาน อภปิ ราย
1. 1
2. 2 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
3. 3
4. 4
5. 5
6. 6
7. 7
8. 8
9. 9
10. 0
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.

พฤตกิ รรม รวม

ความ การแสดง การรับฟงั ความตั้งใจ การมสี ่วน

ลำ ชอื่ -สกลุ ร่วมมือ ความ ความ ในการ รว่ มในการ
ดบั ที่ สมาชกิ กลุ่ม
คิดเหน็ คิดเห็น ทำงาน อภิปราย
19.
20. 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
21.
22.
23.
24.
25.
26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
35.
36.
37.
38.
39.

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ
16-20 อยู่ในระดบั ดมี าก
11-15 อยู่ในระดบั ดี
6-10 อยู่ในระดบั พอใช้
1-5 อย่ใู นระดบั ปรบั ปรงุ

*หมายเหตุ : นกั เรียนสามารถปฏิบตั ใิ นระดับดีข้นึ ไป คะแนนอย่รู ะหวา่ ง 11-15 คะแนน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

ลงชอ่ื ........................................ ผู้ประเมนิ
(…………………………………….……)

รายละเอียดการใหค้ ะแนนการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

ประเดน็ การประเมนิ 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1
ดมี าก 32 ปรับปรุง
1. ความร่วมมือ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติ ดี พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ
ชดั เจนทุกคร้ัง พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิ บางครง้ั
2. การแสดงความ ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชัดเจนและ
คดิ เห็น พฤติกรรมที่ปฏิบัติ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
ชดั เจนทุกครั้ง บอ่ ยครั้ง บางครง้ั
3. การรับฟงั ความ พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
คิดเหน็ พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติ ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชดั เจนและ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ
ชดั เจนทุกคร้งั บางคร้ัง
4. ความตงั้ ใจในการ บอ่ ยครง้ั
ทำงาน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ
ชัดเจนทุกครง้ั ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชัดเจนและ บางครั้ง
5. การมีส่วนรว่ มใน
การอภิปราย พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติ บ่อยครัง้ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
ชดั เจนทุกครัง้ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ บางครั้ง
ชดั เจนและสมำ่ เสมอ ชดั เจนและ

บอ่ ยครั้ง
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิ
ชัดเจนและสมำ่ เสมอ ชัดเจนและ

บ่อยครง้ั

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 4 ด้าน
ชอ่ื ..............................................................นามสกลุ .................................................... .ชน้ั ......……..เลขที.่ ....

คำช้แี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน

สมรรถนะสำคัญที่ประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ
432 1 ผล

1. ความสามารถในการสื่อสาร

1.1 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ

ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม

1.2 ใช้วิธกี ารสอื่ สารที่เหมาะสม

1.3 วิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล

สรุปผลการประเมิน

2. ความสามารถในการคิด

2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์

2.2 มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์

2.3 มีความสามารถในการคดิ อย่างมีระบบ

สรปุ ผลการประเมนิ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชญิ ได้

3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา

3.3 สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย

4 . ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

4.1 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

4.2 สามารถนำเทคโนโลยีไปใชพ้ ฒั นาตนเอง

4.3 มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมในการใชเท้ คโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

สรปุ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายบคุ คล

 ดีมาก  ดี  ปานกลาง  ตอ้ งปรับปรุง

ลงช่อื ........................................ ผู้ประเมนิ

(…………………………………….……)

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชอ่ื ................................................................ชั้น....................เลขที.่ ...................

คำชี้แจง : ให้สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั

คะแนน

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ รายการท่ีประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงค์ 321

1. มวี นิ ัย 1.1 ตรงตอ่ เวลา

1.2 ปฏิบัตงิ านเรยี บรอ้ ยเหมาะสม

1.3 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 กระตือรือรน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู

2.2 มกี ารจดบันทึกความรู้

2.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย

3.2 มีความอดทนและไม่ย่อทอ้ ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบางครง้ั

เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คณุ ภาพ
18-24 อย่ใู นระดับ ดีมาก
13-18 อยู่ในระดบั ดี
7-12 อยใู่ นระดบั ปานกลาง
1-6 อย่ใู นระดับ ปรบั ปรุง

ลงช่ือ..........................................ผปู้ ระเมนิ
(..........................................)

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 วิทยาศาสตร์ (ว 21101) ช้นั ม. 1
บทท่ี 2 เร่อื ง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ผู้สอน ปส. อาซือมัน รูเดง็

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 15

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การดำรงชวี ิตของพชื

รหัสวชิ า ว 21101 วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั
บทที่ 3 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เรอ่ื งที่ 1
ผ้สู อน การลำเลยี งนำ้ ธาตุอาหาร และอาหารของพืช

ธาตุอาหารของพชื จำนวน 1 คาบ

ปส. อาซือมนั รูเดง็ อาจารยพ์ ่เี ลี้ยง อาจารย์นวินดา คงภักดี

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสิ่งมีชีวิต หนว่ ยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์

ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและ
หน้าท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชทท่ี ำงานสมั พันธ์กนั รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชีว้ ดั
ว 1.2 ม. 1/14 อธบิ ายความสำคัญของธาตุอาหารบางชนดิ ทม่ี ีผลต่อการเจริญเตบิ โต และการดำรงชวี ิต
ว 1.2 ม. 1/15 เลอื กใชป้ ยุ๋ ทมี่ ีธาตอุ าหารเหมาะสมกับพืชในสถานการณ์ท่กี ำหนด
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
พืชสามารถผลิตอาหารได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับพืช เพื่อใช้ในการ
เจริญเติบโต เช่น การเพิ่มจำนวนเซลล์ การขยายขนาดของเซลล์ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ไปทำหน้าที่
เฉพาะต่าง ๆ พืชใบเลีย้ งเด่ียว และพืชใบเลี้ยงคู่ มีลักษณะที่แตกต่างกัน เนื่องจากขัน้ ตอนการเจรญิ เติบโตของรากและ
ลำต้นในพืชทั้งสองชนิดแตกต่างกัน นอกจากนี้พืชต้องการธาตุอาหารที่จำเป็นหลายชนิดสำหรับการเจริญเติบโตและ
การดำรงชีวติ ของพชื
3. สาระการเรียนรู้
พชื ต้องการธาตอุ าหารที่จำเปน็ หลายชนดิ ในการเจรญิ เติบโตและการดำรงชีวติ พืชต้องการธาตอุ าหารบางชนิด
ในปริมาณมาก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน ซึ่งในดินอาจมีไม่
เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของพีช จึงต้องมีการให้ธาตุอาหารในรูปของปุ๋ยกับพีชอย่างเหมาะสม ธาตุอาหารที่
จำเป็นสำหรับพืช นอกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน และออกซิเจนที่ได้รับ จากน้ำและอากาศแล้วยังมีธาตุ
อาหารในดินอกี 14 ธาตุ โดยแบง่ ออกเปน็ 3 กลมุ่ คือ ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
ลักษณะการขาดธาตุอาหารของพืช สาเหตุที่ทำให้พืชผิดปกติ มาจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ สภาพแวดล้อม
ผิดปกติ เช่น แดดจัดมาก น้ำขังนาน อากาศหนาวจัด หรืออาจมีการเข้าทำลายของโรค และแมลงและสาเหตุมากจาก
พชื ขาดธาตุอาหารที่จำเปน็ โดยอาการของธาตอุ าหารจะมลี กั ษณะ ดงั น้ี

- อาการที่ใบล่างหรือใบแก่ก่อน แสดงว่าธาตุนั้นมกี ารเคลื่อนย้ายไดด้ ใี นพืช เช่น โพแทสเซียม (K) แมกนีเซียม
(M9) มักพบอาการท่ีปลายใบกอ่ นตามมาที่ขอบใบจงึ ลุกลามเขา้ กลางใบ สใี บจะเร่ิมเหลอื งแล้วเปลี่ยนเปน็ สนี ำ้ ตาล

- อาการที่ใบบนหรอื ใบยอดก่อน แสดงวา่ ธาตนุ นั้ ไมม่ ีความสามารถในการเคลื่อนย้ายภายในพืช คือเคล่ือนย้าย
จากใบลา่ งสู่ใบบนไมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ แคลเซยี ม (Ca) โบรอน (B)

- อาการเกิดที่ใบทั่วลำต้น เกิดทั้งใบแก่และใบอ่อน แม้ว่าใบแก่จะแสดงอาการมากกว่า แต่ไม่แสดงอาการ
ชดั เจนได้แก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และกำมะถัน (S)

อาการขาดธาตุอาหารของพชื
ท่ีมา : https://www.baanlaesuan.com/144574/plant-scoop/

การแก้ปัญหาการขาดธาตุอาหารของพชื
การแก้ปญั หาการขาดธาตุอาหารของพชื มีข้นั ตอนหลัก ๆ คอื สังเกตลกั ษณะอาการ วเิ คราะห์ดิน และวิเคราะห์เน้ือเยื่อ
พืช จากนั้นหาแนวทางการจัดการปรับปรุงดินเพื่อเพม่ิ ธาตุอาหารแก่พืช ทำไดโ้ ดยการใส่ปยุ๋ (fertlizer) ประเภทของปุย
แบง่ ไดด้ ังนี้ ปุย๊ เคมี ปุยอนิ ทรีย์ ปยุ ชวี ภาพ

1. ป้ยุ เคมื คอื ปุย๋ ท่มี าจากสารประกอบทีส่ งั เคราะห์ขน้ึ จะมธี าตอุ าหารทพี่ ชื สามารถดูดนำไปใช้ได้ทันทีปุ๋ยเคมี
มีหลายชนิดแตกต่างกันไปตามลักษณะ สมบัติและการใช้งาน ปุ้ยเคมีที่มีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่จะมีเลขสูตรปุ๋ย
กำกบั ซงึ่ เปน็ เลขท่รี ะบปุ ริมาณของไนโตรเจน ฟอสฟอรสั และโพแทสเซยี มทม่ี ีอย่ใู นปุ๋ยน้ำหนัก 100กโิ ลกรัม เช่น สูตร
30-20-10 หมายถึงปุย 100 กิโลกรัม จะมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมธาตุละ 30 20 และ 10 กิโลกรัม
ตามลำดับ ส่วนอกี 40 กิโลกรัมจะเปน็ สาอน่ื ๆ ท่ีไมใ่ ห้ธาตุอาหารแก่พชื

2. ปุ้ยอินทรีย์ คือ ปุยที่ได้จากการย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุยหมัก ปุ้ยพืชสด ปุ๋ยเหล่าน้ี
นอกจากจะมีธาตุอาหารที่เหลืออยู่ในซากแล้วยงั ช่วยปรับสมบัติทางกายภาพของดินใหด้ ีข้ึน เช่น ระบายน้ำได้ดีอากาศ
ถา่ ยเทไดส้ ะดวก ช่วยให้รากดดู ธาตอุ าหารได้ดีข้ึน

3. ปุ๋ยชีวภาพ คือ ปุ๋ยที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ จุลินทรีย์เหล่านี้มีสมบัติที่สามารถตรึงไนโตรเจน
ในอากาศ หรือเปลี่ยนธาตุอาหารที่อยู่ในรูปที่พืชยงั ไม่สามารถนำไปใช้ได้ให้อยู่ในรปู ที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
ในปัจจุบันมีการใช้ปุ๋ยชนิดนี้เพิ่มขึ้น เช่น การใช้สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่อาศัยอยู่ในโพรงใบแหนแดงมาช่วยในการ
เพิ่มปริมาณไนโตรเจนในนาข้าว การใช้ไมคอร์ไรซ่าช่วยให้ฟอสฟอรัสที่อยู่ในดินละลายออกมาอยู่ในรูปที่พืชนำไปใช้
ประโยชนไ์ ด้
4. สมรรถนะของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 มวี นิ ัย
5.2 ใฝ่เรยี นรู้
5.3 มุ่งมัน่ ในการทำงาน
6. ชิ้นงาน/ภาระงาน
6.1 ใบงานเรื่อง Crossword การขาดธาตอุ าหารของพชื
7. จุดประสงค์การเรียนรู้
7.1 ดา้ นความรู้ (K)

7.1.1 อธบิ ายความสำคญั ของธาตอุ าหารบางชนดิ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวติ ของพืช
ได้

7.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
7.2.1 สังเกตลกั ษณะอาการขาดธาตุอาหารของพืชได้

7.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลักษณะ (A)
7.3.1 รับผดิ ชอบต่อหน้าทแี่ ละงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

8. กิจกรรมการเรียนรู้
8.1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)(10 นาที)
8.1.1 นักเรยี นดภู าพการงอกของเมล็ดสลดั น้ำ (water cress) และตอบคำถามครู ดังน้ี

- พชื ใช้ส่ิงใดบ้างในการสงั เคราะหด์ ้วยแสง และสงิ่ เหล่าน้ันมาจากแหลง่ ใด (แนวคำตอบ แสงจาก
ดวงอาทิตย์ คลอโรฟิลลใ์ นเซลล์พืช แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากอากาศ และนำ้ จากดิน)

- แลว้ พชื ได้รบั น้ำ ธาตุอาหารจากแหลง่ ใด (แนวคำตอบ นักเรียนตอบตามคำเข้าใจ เช่น พืชจะดูด
น้ำและธาตุอาหารจากดนิ และได้รบั อาหารโดยการสรา้ งขึน้ เอง)

- พืชนำน้ำจากดิน และอาหารท่ีสรา้ งข้นท่ีใบไปยังส่วนต่าง ๆ ของพชื ได้อยา่ งไร (แนวคำตอบ
นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ เชน่ ลำเลยี งผ่านลำต้น)

8.1.2 นักเรยี นดูภาพดนิ และส่วนประกอบของดนิ ท่ีเหมาะสมสำหรบั การปลูกพชื

8.1.3 นกั เรยี นตอบคำถามครูดงั น้ี
- ดนิ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง (แนวคำตอบ ดนิ มีสว่ นประกอบ ได้แก่ อนนิ ทรยี วตั ถุ ร้อยละ 45,

อนิ ทรยี วัตถุ รอ้ ยละ 5, นำ้ ร้อยละ 25 และอากาศ ร้อยละ 25)
- อนนิ ทรยี วตั ถุ คืออะไร (แนวคำตอบ อนินทรียวตั ถุ หรอื แร่ธาตุ เป็นสว่ นประกอบท่ีมมี ากทสี่ ุดใน

ดนิ ทวั่ ไป ได้มาจากการผพุ ังและสลายตัวของหินและแร่)

- แรธ่ าตุทพี่ ืชต้องการมีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โพแทสเซยี ม แคลเซยี ม
แมกนีเซียม กำมะถัน เปน็ ต้น)

8.2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (10 นาท)ี
8.2.1 ใหน้ ักเรยี นสบื คน้ โดยใชค้ ำถามชวนคดิ เรื่อง ส่วนประกอบของดนิ ดังน้ี

8.2.2 ให้นักเรียนศกึ ษาเกี่ยวกับธาตุอาหารของพืชและประเภทของปุย๋ จากสไลดป์ ระกอบการสอน
เรื่อง ธาตุอาหารของพชื

8.3 การอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)(20 นาท)ี
8.3.1 นักเรยี นอภิปรายเก่ียวกับธอาหารของพืช เพ่อื ให้ได้ขอ้ สรปุ ว่าธาตุอาหารในดนิ มีความสำคัญต่อ

การเจริญเติบโตของพืช ถ้าพืชขาดธาตุอาหารพืชจะแสดงอาการผิดปกติ จึงจำเป็นต้องให้พืชได้รับธาตุอาหารของพืช
อยา่ งเพียงพอ ถา้ ในดินไม่มีหรือมธี าตุอาหารของพชื น้อยต้องเพิม่ ธาตุอาหารลงในดนิ ในปรมิ าณท่ีเหมาะสม

8.3.2 นกั เรยี นตอบคำถามระหวา่ งเรียน โดยใช้คำถามดงั นี้
- การขาดไนโตรเจน เกี่ยวข้องอยา่ งไรกบั การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื (แนวคำตอบ การขาดธาตุ

ไนโตรเจน ทำใหใ้ บซดี เหลอื งและแห้งเหย่ี ว พน้ื ท่ใี บลดลง ส่งผลให้การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงลดลงด้วย)
- พชื ชนิดหนึ่งแตกใบและออกดอกชา้ มาก เมอ่ื แตกใบและออกดอก ใบใหมแ่ ละดอกจะหงิกงอ พืช

ชนดิ นี้น่าขาดธาตอุ าหารชนิดใด (แนวคำตอบ พชื ชนิดนี้น่าจะขาดธาตแุ คลเซียม)
8.4 การขยายความรู้ (Elaboration)(40 นาที)
8.4.1 นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การแก้ปัญหาการขาดธาตุอาหารของพืช โดยใช้ สไลด์

ประกอบการสอน เรอ่ื ง ธาตอุ าหารของพชื
8.4.2 นักเรยี นดภู าพปยุ๋ เคมี และตอบคำถามดังน้ี

- ปุ๋ยในภาพ 4.23 ทั้ง 2 ถุงมีปริมาณของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหมือนหรือแตกต่าง
กัน อยา่ งไร (แนวคำตอบ ปุ๋ยทง้ั 2 ถงุ มีปรมิ าณของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม หรอื N-P-K แตกตา่ งกัน โดยถุง

แรกมีปริมาณของ N-P-K เทา่ กันคอื ธาตลุ ะ 15 กิโลกรมั แต่ปยุ๋ ในถุงที่ 2 มีปรมิ าณ N-P ธาตลุ ะ 16 กิโลกรมั แต่มีธาตุ K
ถงึ 18 กโิ ลกรัม)

8.5 การประเมินผล/สรุป (Evaluation)(10 นาท)ี
8.5.1 นักเรียนตอบคำถามครู โดยที่ครูจะยกตัวอย่างสถานการณ์การขาดธาตุของพืช แล้วให้นักเรยี น

ร่วมกนั เสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
8.5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุป เรื่อง การขาดธาตุอาหารของพืช โดยใช้ใบงานเรื่อง Crossword

การขาดธาตุอาหารของพืช
9. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้

9.1 หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ ที่ 1
9.2 สไลด์ประกอบการสอน เรอื่ ง ธาตอุ าหารของพืช
9.3 รปู ภาพการงอกของเมลด็ สลดั น้ำ (water cress), รูปภาพดนิ และส่วนประกอบของดินทเ่ี หมาะสมสำหรับ
การปลูกพชื และรูปภาพปุย๋ เคมี
10. การวัดและการประเมนิ ผล

การวัดผลประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารผา่ น

1. ด้านความรู้

1. อธบิ ายความสำคัญของ - ตรวจใบงานเรอ่ื ง - ใบงานเรอื่ ง Crossword - นักเรยี นสามารถปฏบิ ัตใิ น

ธาตุอาหารบางชนิดทีม่ ีผล Crossword การขาดธาตุ การขาดธาตุอาหารของ ระดบั ดีขนึ้ ไป คะแนนอยใู่ น

ต่อการเจริญเติบโตและ อาหารของพืช พืช ระหวา่ ง 9-12 คะแนน ถือวา่

การดำรงชีวิตของพชื ได้ - สงั เกตการตอบคำถาม - ชุดคำถาม ผ่านเกณฑ์

ในชนั้ เรยี น - นกั เรียนสามารถตอบ

คำถามได้ถูกต้องร้อยละ 50

สรุปว่าผา่ นเกณฑ์

2. ด้านทักษะกระบวนการ - ใบงานเรื่อง Crossword - นักเรยี นสามารถปฏิบัตใิ น
1. สงั เกตลกั ษณะอาการ - ตรวจใบงานเรอ่ื ง การขาดธาตุอาหารของ ระดับดีขน้ึ ไป คะแนนอยใู่ น
ขาดธาตอุ าหารของพืชได้ Crossword การขาดธาตุ พชื ระหว่าง 9-12 คะแนน ถือวา่

อาหารของพืช ผ่านเกณฑ์

3. ดา้ นเจตคติ /คณุ ลักษณะ

1. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี - สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤติกรรม - นกั เรียนสามารถเข้ารว่ ม
และงานท่ีได้รับมอบหมาย ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม กจิ กรรมกล่มุ และรับผดิ ชอบ
งานได้ในระดับดีขึ้นไป มี

การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การผ่าน
คะแนนอยรู่ ะหวา่ ง 11-15
สรปุ ว่าผา่ นเกณฑ์

11. บันทกึ หลงั การสอน

ช้นั ม.1/1 ชน้ั ม.1/2 ชน้ั ม.1/3

ผลการสอน - นักเรียนอธิบายความสำคัญ - นักเรียนอธิบายความสำคัญ - นักเรียนอธิบายความสำคัญ
ปัญหา/
ของธาตุอาหารบางชนิดที่มีผล ของธาตุอาหารบางชนิดที่มีผล ของธาตุอาหารบางชนิดที่มีผล

ต่อการเจริญเติบโตและการ ต่อการเจริญเติบโตและการ ต่อการเจริญเติบโตและการ

ดำรงชีวิตของพืชได้ถูกต้อง คิด ดำรงชีวิตของพืชได้ถูกต้อง คิด ดำรงชีวิตของพืชได้ถูกต้อง คิด

เป็นรอ้ ยละ 100 เป็นรอ้ ยละ 100 เป็นร้อยละ 100

- นักเรียนสังเกตลักษณะอาการ - นักเรียนสังเกตลักษณะอาการ - นักเรียนสังเกตลักษณะอาการ

ขาดธาตุอาหารของพืชได้ ขาดธาตุอาหารของพืชได้ ขาดธาตุอาหารของพืชได้

ถูกตอ้ ง คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ถูกตอ้ ง คดิ เป็นร้อยละ 100 ถกู ต้อง คดิ เปน็ ร้อยละ 100

- นักเรียนมีความกระตือรือร้น - นักเรียนมีความกระตือรือร้น - นักเรียนมีความกระตือรือร้น

ในการทำกจิ กรรมกลุ่ม สามารถ ในการทำกิจกรรมกลุ่ม สามารถ ในการทำกจิ กรรมกลุ่ม สามารถ

ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมี

ความรับผิดชอบต่องานที่ได้ ความรับผิดชอบต่องานที่ได้ ความรับผิดชอบต่องานที่ได้

มอบหมายไว้ คิดเป็นร้อยละ มอบหมายไว้ คิดเป็นร้อยละ มอบหมายไว้ คิดเป็นร้อยละ

100 100 100

---

อปุ สรรค

ข้อเสนอแนะ - - -

/แนว

ทางแกไ้ ข

บนั ทึกสำหรบั อาจารย์พี่เล้ียง
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................... .......................................................................................................... ..............
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................

ลงชือ่ ......c........f....u........t.....n.................ผู้สอน ลงชอื่ ............................................................
(อาจารย์นวินดา คงภักดี)
(นายอาซือมัน รูเดง็ ) อาจารยพ์ เ่ี ลีย้ ง
นักศึกษาปฏิบตั ิการสอน
วนั ที่ 12 เดือนกนั ยายน พ.ศ. 2565 วันท่ี 12 เดือนกนั ยายน พ.ศ. 2565

แบบบันทกึ การให้ใบงานเรอื่ ง Crossword การขาดธาตุอาหารของพชื

ช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ห้อง……..

คำชี้แจง : ให้ทำเคร่ืองหมาย  ลงในช่องรายการประเมินใบงานเร่ือง Crossword การขาดธาตอุ าหารของพืชตรงกับ
ระดับคะแนนทน่ี ักเรยี นปฏบิ ัติได้

พฤตกิ รรม
ความถกู ต้อง ความ ความต้ังใจใน การนำเสนอ รวม
ลำ ช่ือ-สกุล ของเน้ือหา สรา้ งสรรค์ การทำงาน
ดับท่ี 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
5. 5
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
21.
22.
23.
24.

พฤติกรรม
ความถูกตอ้ ง ความ ความตงั้ ใจใน การนำเสนอ รวม
ลำ ชอื่ -สกุล ของเนอ้ื หา สรา้ งสรรค์ การทำงาน
ดับที่ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
25.
26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
35.
36.
37.
38.
39.

เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คณุ ภาพ
13-16 อยู่ในระดบั ดมี าก
9-12 อยู่ในระดบั ดี
5-8 อย่ใู นระดบั พอใช้
1-4 อยู่ในระดบั ปรับปรุง

*หมายเหตุ : นักเรยี นสามารถปฏบิ ัติในระดบั ดีขนึ้ ไป คะแนนอยใู่ นระหว่าง 9-12 คะแนน ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
ลงช่ือ...........................................ผสู้ ังเกต
(...............................................................)
........../.........../...........

รายละเอยี ดการให้ใบงานเร่อื ง Crossword การขาดธาตอุ าหารของพืช

ประเด็นการประเมนิ 4 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1
ดมี าก 32 ปรบั ปรุง
1. ความถกู ต้องของ เนื้อหาถูกตอ้ งครบถว้ น ดี พอใช้ เนอื้ หาผดิ พลาด
เนือ้ หา เนอื้ หาครบถ้วนมี เนื้อหาไมค่ รบถ้วน ต้องบอกให้แก้ไข
2. ความคดิ สร้างสรรค์ รปู แบบแปลกใหม่ ผดิ พลาดเลก็ น้อย ผดิ พลาดเล็กน้อย เลียนแบบ
มคี วามแปลกใหม่ ไม่ค่อยแปลกใหม่

3. ความตง้ั ใจในการ พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิ พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติ
ทำงาน ชัดเจนทุกครง้ั ชดั เจนและสม่ำเสมอ ชดั เจนและ บางครง้ั
บ่อยครง้ั
4. การนำเสนอ เมอ่ื นำเสนอถูกตอ้ ง เม่ือนำเสนอถกู ต้อง เม่ือนำเสนอไม่ เมอ่ื นำเสนอ
ครบถว้ น เน้นประเดน็ ครบถว้ น ประเดน็ ผดิ พลาดมาก
สำคญั ไมช่ ัดเจน ค่อยถูกต้อง ไม่มี
สำคญั ประเดน็ ชดั เจน

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
รายวชิ า ว 21101 วิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หอ้ ง………ภาคเรียน……………..ปกี ารศึกษา………

กลุ่มท…่ี …………ชอื่ กลุม่ ……………
คำช้แี จง : สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนรายกลมุ่ ในระหว่างเรยี นแล้วทำเครื่องหมาย ✓ ลงช่องท่ตี รงกบั ระดับ
คะแนนที่นกั เรียนปฏิบัติได้

พฤติกรรม รวม

ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตัง้ ใจ การมสี ่วน

ลำ ชื่อ-สกลุ รว่ มมอื ความ ความ ในการ ร่วมในการ
ดบั ท่ี สมาชิกกลุ่ม
คิดเห็น คิดเห็น ทำงาน อภปิ ราย
1. 1
2. 2 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
3. 3
4. 4
5. 5
6. 6
7. 7
8. 8
9. 9
10. 0
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.

พฤตกิ รรม รวม

ความ การแสดง การรับฟงั ความตั้งใจ การมสี ่วน

ลำ ชอื่ -สกลุ ร่วมมือ ความ ความ ในการ รว่ มในการ
ดบั ที่ สมาชกิ กลุ่ม
คิดเหน็ คิดเห็น ทำงาน อภิปราย
19.
20. 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
21.
22.
23.
24.
25.
26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
35.
36.
37.
38.
39.

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ
16-20 อยู่ในระดบั ดมี าก
11-15 อยู่ในระดบั ดี
6-10 อยู่ในระดบั พอใช้
1-5 อย่ใู นระดบั ปรบั ปรงุ

*หมายเหตุ : นกั เรียนสามารถปฏิบตั ใิ นระดับดีข้นึ ไป คะแนนอย่รู ะหวา่ ง 11-15 คะแนน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

ลงชอ่ื ........................................ ผู้ประเมนิ
(…………………………………….……)

รายละเอียดการใหค้ ะแนนการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

ประเดน็ การประเมนิ 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1
ดมี าก 32 ปรับปรุง
1. ความร่วมมือ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติ ดี พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ
ชดั เจนทุกคร้ัง พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิ บางครง้ั
2. การแสดงความ ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชัดเจนและ
คดิ เห็น พฤติกรรมที่ปฏิบัติ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
ชดั เจนทุกครั้ง บอ่ ยครั้ง บางครง้ั
3. การรับฟงั ความ พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
คิดเหน็ พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติ ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชดั เจนและ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ
ชดั เจนทุกคร้งั บางคร้ัง
4. ความตงั้ ใจในการ บอ่ ยครง้ั
ทำงาน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ
ชัดเจนทุกครง้ั ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชัดเจนและ บางครั้ง
5. การมีส่วนรว่ มใน
การอภิปราย พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติ บ่อยครัง้ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
ชดั เจนทุกครัง้ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ บางครั้ง
ชดั เจนและสมำ่ เสมอ ชดั เจนและ

บอ่ ยครั้ง
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิ
ชัดเจนและสมำ่ เสมอ ชัดเจนและ

บ่อยครง้ั

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 4 ด้าน
ชอ่ื ..............................................................นามสกลุ .................................................... .ชน้ั ......……..เลขที.่ ....

คำช้แี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน

สมรรถนะสำคัญที่ประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ
432 1 ผล

1. ความสามารถในการสื่อสาร

1.1 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ

ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม

1.2 ใช้วิธกี ารสอื่ สารที่เหมาะสม

1.3 วิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล

สรุปผลการประเมิน

2. ความสามารถในการคิด

2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์

2.2 มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์

2.3 มีความสามารถในการคดิ อย่างมีระบบ

สรปุ ผลการประเมนิ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชญิ ได้

3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา

3.3 สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย

4 . ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

4.1 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

4.2 สามารถนำเทคโนโลยีไปใชพ้ ฒั นาตนเอง

4.3 มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมในการใชเท้ คโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

สรปุ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายบคุ คล

 ดีมาก  ดี  ปานกลาง  ตอ้ งปรับปรุง

ลงช่อื ........................................ ผู้ประเมนิ

(…………………………………….……)

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชอ่ื ................................................................ชั้น....................เลขที.่ ...................

คำชี้แจง : ให้สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั

คะแนน

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ รายการท่ีประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงค์ 321

1. มวี นิ ัย 1.1 ตรงตอ่ เวลา

1.2 ปฏิบัตงิ านเรยี บรอ้ ยเหมาะสม

1.3 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 กระตือรือรน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู

2.2 มกี ารจดบันทึกความรู้

2.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย

3.2 มีความอดทนและไม่ย่อทอ้ ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบางครง้ั

เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คณุ ภาพ
18-24 อย่ใู นระดับ ดีมาก
13-18 อยู่ในระดบั ดี
7-12 อยใู่ นระดบั ปานกลาง
1-6 อย่ใู นระดับ ปรบั ปรุง

ลงช่ือ..........................................ผปู้ ระเมนิ
(..........................................)

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 วทิ ยาศาสตร์ (ว 21101) ชั้น ม. 1
บทที่ 3 เร่ือง ธาตุอาหารของพืช ผสู้ อน ปส. อาซอื มัน รเู ด็ง

ใบงาน
เร่ือง Crossword การขาดธาตุอาหารของพชื

คำชี้แจง : ให้นกั เรียนตอบคำถามให้ถูกตอ้ ง (ตอบเป็นภาษาองั กฤษ)

คำถามมีดงั นี้
1. ถา้ ขาดธาตุนี้ชนดิ ใบจะมสี เี หลือง
2. ธาตนุ เี้ ป็นองคป์ ระกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์
3. ถ้าขาดธาตุชนิดนใี้ บจะมีสีเหลอื งซีด และใบเลก็ ลง
4. ถ้าขาดธาตุชนดิ นใ้ี บจะมีสีมว่ งแลว้ กลายเปน็ สนี ้ำตาล
5. ถ้าขาดธาตชุ นิดน้ี ใบจะมีจุดสีน้ำตาลไหม้ท่ีขอบใบ
6. ถา้ ขาดธาตุชนิดน้ี ใบบดิ เบี้ยว มว้ นงอ
7. ปัจจัยในกาสังเคราะหด์ ้วยแสงทพี่ ืชดดู ซึมผา่ นราก

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วทิ ยาศาสตร์ (ว 21101) ช้นั ม. 1
บทที่ 3 เรอ่ื ง ธาตุอาหารของพชื ผ้สู อน ปส. อาซือมนั รูเด็ง

ใบงาน (เฉลย)
เรื่อง Crossword การขาดธาตุอาหารของพชื

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามใหถ้ กู ต้อง (ตอบเปน็ ภาษาอังกฤษ)

คำถามมดี งั นี้
1. ถา้ ขาดธาตุนี้ชนดิ ใบจะมสี เี หลอื ง
2. ธาตนุ เ้ี ป็นองค์ประกอบสำคญั ของคลอโรฟลิ ล์
3. ถา้ ขาดธาตุชนิดนใ้ี บจะมสี ีเหลอื งซดี และใบเล็กลง
4. ถ้าขาดธาตุชนิดน้ีใบจะมีสีม่วงแล้วกลายเปน็ สีนำ้ ตาล
5. ถ้าขาดธาตชุ นดิ น้ี ใบจะมจี ุดสนี ำ้ ตาลไหม้ที่ขอบใบ
6. ถา้ ขาดธาตุชนดิ นี้ ใบบดิ เบี้ยว ม้วนงอ
7. ปจั จัยในกาสังเคราะห์ดว้ ยแสงท่ีพืชดูดซึมผ่านราก

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 16

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การดำรงชวี ิตของพืช

รหัสวิชา ว 21101 วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้น
บทที่ 1 มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
เรื่องท่ี 1
ผู้สอน การลำเลยี งน้ำ ธาตุอาหาร และอาหารของพืช

การลำเลียงในพชื จำนวน 2 คาบ

ปส. อาซอื มนั รูเดง็ อาจารย์พี่เลี้ยง อาจารย์นวินดา คงภักดี

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมชี วี ติ หน่วยพ้นื ฐานของสิง่ มีชวี ิต การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์

ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและ
หนา้ ทข่ี องอวัยวะตา่ ง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสัมพันธก์ ัน รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ดั
ว 1.2 ม.1/9 บรรยายลกั ษณะหน้าท่ขี องไซเลม็ และโฟลเอ็ม
ว 1.2 ม.1/10 เขียนแผนภาพทบ่ี รรยายทิศทาง การลำเลียงสารในไซเลม็ และโฟลเอ็มของพชื
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
พืชมีไซเล็มและโฟลเอ็ม ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อมีลักษณะคล้ายท่อเรียงตัวกันเป็นกลุ่มเฉพาะท่ี โดยไซเล็มทำหน้าท่ี
ลำเลยี งน้ำและธาตุอาหาร มีทศิ ทางลำเลยี งจากรากไปสลู่ ำต้น ใบ และสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช เพอ่ื ใช้ในการสังเคราะห์ด้วย
แสง รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ ส่วนโฟลเอ็มทำหน้าที่ลำเลียงอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสง มีทิศทางลำเลียง
จากบริเวณทีม่ กี ารสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ไปสู่สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื
3. สาระการเรียนรู้
ระบบท่อลำเลียงในพชื ประกอบด้วย 2 สว่ นใหญ่ คือ ท่อลำเลียงน้ำ (Xylem) ท่อลำเลยี งอาหาร (Phloem)

ทม่ี า : https://ngthai.com/science/33440/plant-transport-system

กระบวนการดูดน้ำของพืช
1. ออสโมซสิ เกดิ ตลอดเวลาบริเวณที่ขนราก
2. การดดู น้ำโดยอาศัยแรงดงึ ดูดจากการคายนำ้ ทางปากใบ เมือ่ พชื คายน้ำ จะเกิดแรงดึงบริเวณใบ ทำให้น้ำใน

ทอ่ ลำเลยี งทกี่ ง่ิ ลำต้น ราก ใหเ้ คลอ่ื นตอ่ เนอ่ื งขนึ้ มา เป็นวิธีทพ่ี ชื ดดู น้ำได้มาก และรวดเร็ว เกิดขนึ้ เฉพาะตอนกลางวัน
กระบวนการดดู แรธ่ าตขุ องพืช

1. การแพร่ การเคลือ่ นทขี่ องสารจากดนิ เขา้ สบู่ ริเวณขนราก
2. แอกทีฟทรานสปอร์ต การแพร่ของสาโดยใชโ้ ปรตีนเปน็ ตัวพาและใชพ้ ลังงาน ทำให้อนภุ าคของสารเคล่อื นที่
จากบริเวณทีม่ ีความเขม้ ข้นน้อยส่บู รเิ วณท่มี คี วามเข้มข้นมากกว่าได้

ภาพแสดง ทศิ ทางการลำเลียงน้ำและอาหาร
ท่มี า : https://www.freepik.com/free-photos-vectors
การลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุ
ขนราก (Root hair) เป็นโครงสร้างทีช่ ่วยเพมิ่ พื้นผิวในการดูดซึมน้ำและแรธาตุ เมอื่ นำ้ และแร่ธาตุถูกดูดซึมเข้า
มาแลว้ จะแพรผ่ ่านช้ันต่าง ๆ ของราก จนกระทงั่ ท่อลำเลียงน้ำ (Xylem) กจ็ ะถูกลำเลียงไปยังลำต้น กิง่ ใบซึ่งจะเกิดขึ้น
ในตอนกลางวนั ขณะทม่ี ีการสังเคราะหด์ ้วยแสง และการคายนำ้
การลำเลยี งอาหารในพชื
อาหารที่พืชได้จากการสังเคราะหด์ ้วยแสง คือ น้ำตาลกลูโคส จะถูกลำเลียงไปให้แก่เซลลต์ ่าง ๆ ทั่วลำต้นและ
ราก ผ่านทางท่อลำเลียงอาหาร (Phloem) และอาหารเข้าสู่เซลล์โดยการแพร่ การลำเลียงอาหารเกิดขึ้นตลอดเวลา
เพอื่ นำไปจ่ายให้กับส่วนท่กี ำลังเจริญ เช่น ยอด ปลายราก หรอื นำไปเก็บสะสมอาหาร ได้แก่ ลำตน้ ราก หัว
พืชใบเล้ียงเดี่ยวและพืชใบเล้ยี งคูม่ ีการจดั เรียงตัวของท่อลำเลียงน้ำและท่อลำเลียงอาหารแตกต่างกนั ดงั น้ี
- พืชใบเล้ยี งคู่ ท่อลำเลยี งน้ำและทอ่ ลำเลียงอาหารเรียงตัวเปน็ วงรอบลำตน้
- พชื ใบเลีย้ งเดย่ี ว ทอ่ ลำเลียงน้ำและท่อลำเลียงอาหารกระจายอยทู่ ั่วลำตน้
4. สมรรถนะของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา

4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

5.1 มีวนิ ัย
5.2 ใฝเ่ รียนรู้
5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน
6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
-
7. จุดประสงค์การเรยี นรู้
7.1 ดา้ นความรู้ (K)

7.1.1 อธบิ ายลกั ษณะและหนา้ ทข่ี องไซเล็มและโฟลเอ็มได้
7.1.2 อธิบายทศิ ทางการลำเลียงสารในไซเล็มและโฟลเอ็มของพชื ได้
7.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
7.2.1 เขียนแผนภาพท่บี รรยายทิศทางการลำเลยี งสารในไซเล็มและโฟลเอม็ ได้
7.3 ด้านเจตคติ/คณุ ลักษณะ (A)
7.3.1 รบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่แี ละงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
8.1 ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement)(15 นาท)ี
8.1.1 นักเรียนดูภาพมนั สำปะหลัง และกระตุ้นความสนใจนักเรยี นโดยใช้คำถาม ดังนี้

- นักเรียนเคยสงสัยหรือไม่วา่ มันสำปะหลังมีการสังเคราะห์ด้วยแสงที่ใบ แตะส่งน้ำตาลไปเก็บไว้ที่
รากได้อย่างไร (แนวคำตอบ พืชจะลำเลียงน้ำตาลผ่านทางโฟลเอ็ม (Phloem) อาหารที่สร้างขึ้นจะอยู่นรูปของ
สารละลายน้ำตาลโดยจะลำเลียงจากบรเิ วณใบเก็บสะสมไวต้ ามสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื )

8.1.2 นักเรียนดวู ดี ทิ ัศน์ เรอื่ ง Color Changing Plants - Colorful Chinese Cabbage

ผกั กาดแช่สีผสมอาหาร
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=kwbFBmJzoV
- พชื ใชส้ ว่ นใดในการดดู นำ้ (แนวคำตอบ ราก)
- นกั เรยี นคิดว่าทิศทางการลำเลยี งนำ้ ของผักกาดเปน็ อยา่ งไร (แนวคำตอบ นักเรยี นตอบตามความ
เขา้ ใจ เช่น ผกั กาดจะลำเลียงน้ำจากรากไปยงั ใบ)
8.2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (15 นาท)ี
8.2.1 นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการลำเลียงน้ำ ธาตุอาหารและอาหารของพืช โดยใช้สไลด์ประกอบการ
สอน เรือ่ ง การลำเลยี งนำ้ ในพชื
8.3 การอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)(30 นาที)
8.3.1 นักเรียนร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกบั การลำเลยี งสารในพชื เพ่ือให้ได้ข้อสรุปว่า น้ำเข้าสู่รากพืชโดย
การออสโมซิส ส่วนธาตุอาหารเข้าสู่รากพืชโดยการแพร่หรือการลำเลียงแบบต้องใช้พลังงาน พืชมีไซเล็มทำหน้าที่
ลำเลยี งนำ้ และธาตุอาหารข้ึนไปส่ทู ุกส่วนของพืช และมีโฟลเอม็ ทำหนา้ ท่ีลำเลียงอาหารที่พชื สร้างขนึ้ ที่บริเวณท่ีมีสีเขียว
ไปสทู่ กุ สว่ นของพืช
8.3.2 นักเรียนทำกิจกรรมทิศทางการลำเลียงนำ้ ธาตุอาหาร และอาหาร โดยให้นักเรยี นออกมาเขยี น
หน้ากระดาน
8.3.3 นกั เรียนตอบคำถามครดู ังน้ี
- ถ้าพืชไม่มีขนรากจะมีผลตอ่ การดูดน้ำและธาตอุ าหารของพืชหรอื ไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ ถ้าไม่
มีขนราก พืชอาจจะดดู น้ำและธาตุอาหารจากดินได้น้อยลง เพราะการมีขนรากจะเปน็ การเพ่ิมพื้นท่ีของรากให้สัมผัสกับ
น้ำในดินใหม้ ากขน้ึ ทำให้มโี อกาสดดู น้ำไดม้ าก
8.4 การขยายความรู้ (Elaboration)(20 นาที)
8.4.1 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกีย่ วกับความแตกต่างระหว่างพืชใบเลี้ยงเด่ียวและใบเลี้ยงคู่ โดย
ใช้รปู ภาพ ดังนี้

- พืชใบเลีย้ งคู่ มีมดั ทอ่ ลำเลยี งเรยี งตวั เปน็ วงรอบลำตน้
- พชื ใบเลีย้ งเดย่ี ว มมี ัดท่อลำเลียงกระจายอยูท่ ่วั ลำต้น
8.5 การประเมนิ ผล/สรุป (Evaluation)(20 นาที)
8.5.1 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเนื้อหา เรื่อง การลำเลียงน้ำในพืช โดยใช้ผังมโนทัศน์ การ
ลำเลียงนำ้ ธาตุอาหาร และอาหารของพืช ดงั นี้

8.5.2 นัก

9. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้

9.1 หนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ ที่ 1

9.2 สไลดป์ ระกอบการสอน เรื่อง การลำเลยี งนำ้ ในพชื

9.3 ผังมโนทศั น์ การลำเลยี งน้ำ ธาตอุ าหาร และอาหารของพืช ดงั นี้

10. การวดั และการประเมินผล

การวัดผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การผ่าน

1. ดา้ นความรู้

1. อธิบายลักษณะและ - สงั เกตกจิ กรรมกจิ กรรม - กิจกรรมทศิ ทางการ - นกั เรยี นสามารถตอบ

หน้าที่ของไซเล็มและโฟล ทศิ ทางการลำเลียงนำ้ ลำเลยี งนำ้ ธาตุอาหาร คำถามได้ถูกต้องรอ้ ยละ 70

เอม็ ได้ ธาตุอาหาร และอาหาร และอาหาร สรปุ วา่ ผา่ นเกณฑ์

การวัดผลประเมินผล วิธกี ารวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การผา่ น
- ชดุ คำถาม - นักเรียนสามารถตอบ
2. อธิบายทิศทางการ - สังเกตการตอบคำถาม คำถามไดถ้ ูกต้องร้อยละ 50
- กิจกรรมทศิ ทางการ สรุปวา่ ผา่ นเกณฑ์
ลำเลียงสารในไซเล็ ม ในชัน้ เรียน ลำเลียงนำ้ ธาตอุ าหาร
และอาหาร - นกั เรยี นสามารถตอบ
และโฟลเอ็มของพืชได้ คำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70
- แบบสงั เกตพฤติกรรม สรปุ ว่าผ่านเกณฑ์
2. ด้านทักษะกระบวนการ การทำงานกลุ่ม
- นักเรียนสามารถเข้าร่วม
1. เขยี นแผนภาพท่ี - สังเกตกจิ กรรมกจิ กรรม กิจกรรมกลมุ่ และรบั ผดิ ชอบ
งานได้ในระดับดีขึ้นไป มี
บรรยายทศิ ทางการ ทิศทางการลำเลียงนำ้ คะแนนอย่รู ะหวา่ ง 11-15
สรุปวา่ ผ่านเกณฑ์
ลำเลยี งสารในไซเลม็ ธาตุอาหาร และอาหาร

และโฟลเอ็มได้

3. ด้านเจตคติ /คุณลักษณะ

1. รับผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ี - สังเกตพฤติกรรมการ

และงานที่ไดร้ ับมอบหมาย ทำงาน

11. บนั ทึกหลังการสอน

ช้นั ม.1/1 ชั้น ม.1/2 ชัน้ ม.1/3

ผลการสอน - นักเรียนสามารถอธิบาย - นักเรียนสามารถอธิบาย - นักเรียนสามารถอธิบาย
ปัญหา/
ลักษณะ หน้าที่และทิศทางการ ลักษณะ หน้าที่และทิศทางการ ลักษณะ หน้าที่และทิศทางการ

ลำเลียงของไซเล็มและโฟลเอ็ม ลำเลียงของไซเล็มและโฟลเอ็ม ลำเลียงของไซเล็มและโฟลเอ็ม

ไดถ้ ูกตอ้ ง คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ได้ถูกต้อง คิดเป็นร้อยละ 100 ได้ถกู ตอ้ ง คิดเป็นรอ้ ยละ 100

- นักเรียนเข้าใจและสามารถ - นักเรียนเข้าใจและสามารถ - นักเรียนเข้าใจและสามารถ

เขียนแผนภาพที่บรรยายทิศ เขียนแผนภาพที่บรรยายทิศ เขียนแผนภาพที่บรรยายทิศ

ทางการลำเลียงสารในไซเล็ม ทางการลำเลียงสารในไซเล็ม ทางการลำเลียงสารในไซเล็ม

และโฟลเอ็มได้ถูกต้อง คิดเป็น และโฟลเอ็มได้ถูกต้อง คิดเป็น และโฟลเอ็มได้ถูกต้อง คิดเป็น

ร้อยละ 100 รอ้ ยละ 100 รอ้ ยละ 100

- นักเรียนมีความกระตือรือร้น - นักเรียนมีความกระตือรือร้น - นักเรียนมีความกระตือรือร้น

ในการทำกิจกรรมกลุ่ม สามารถ ในการทำกิจกรรมกลุ่ม สามารถ ในการทำกิจกรรมกลุ่ม สามารถ

ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมี ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมี

ความรับผิดชอบต่องานที่ได้ ความรับผิดชอบต่องานที่ได้ ความรับผิดชอบต่องานที่ได้

มอบหมายไว้ คิดเป็นร้อยละ มอบหมายไว้ คิดเป็นร้อยละ มอบหมายไว้ คิดเป็นร้อยละ

100 100 100

---

อปุ สรรค

ขอ้ เสนอแนะ - - -

/แนว

ทางแกไ้ ข

บันทกึ สำหรบั อาจารย์พ่เี ล้ยี ง

............................................................................................................................. ...............................................................

.................................................................... .......................................................................................................... ..............

............................................................................................................................. ...............................................................

............................................................................................................................. ...............................................................
ลงชอ่ื ........c.......f.....u.......t.....n................ผสู้ อน
ลงชอ่ื ............................................................

(นายอาซอื มนั รเู ด็ง) (อาจารยน์ วนิ ดา คงภักด)ี

นักศึกษาปฏิบัตกิ ารสอน อาจารย์พี่เลีย้ ง

วนั ที่ 15 เดอื นกันยายน พ.ศ. 2565 วนั ที่ 15 เดือนกันยายน พ.ศ. 2565

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
รายวชิ า ว 21101 วทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ห้อง………ภาคเรยี น……………..ปกี ารศกึ ษา………

กล่มุ ท…่ี …………ชอ่ื กลุม่ ……………
คำช้ีแจง : สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นรายกลุม่ ในระหว่างเรียนแลว้ ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงชอ่ งที่ตรงกับระดบั
คะแนนท่ีนกั เรียนปฏบิ ัติได้

พฤติกรรม รวม

ความ การแสดง การรับฟงั ความตัง้ ใจ การมีสว่ น

ลำ ชือ่ -สกลุ รว่ มมอื ความ ความ ในการ ร่วมในการ
ดับที่ สมาชกิ กล่มุ
คดิ เห็น คดิ เห็น ทำงาน อภปิ ราย
1. 1
2. 2 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
3. 3
4. 4
5. 5
6. 6
7. 7
8. 8
9. 9
10. 0
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.

พฤติกรรม รวม

ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตั้งใจ การมีส่วน

ลำ ช่อื -สกลุ รว่ มมอื ความ ความ ในการ ร่วมในการ
ดบั ที่ สมาชิกกลมุ่
คิดเหน็ คิดเหน็ ทำงาน อภปิ ราย
18.
19. 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
20.
21.
22.
23.
24.
25.
26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
35.
36.
37.
38.
39.

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ
16-20 อยู่ในระดบั ดมี าก
11-15 อยู่ในระดบั ดี
6-10 อยู่ในระดบั พอใช้
1-5 อย่ใู นระดบั ปรบั ปรงุ

*หมายเหตุ : นกั เรียนสามารถปฏิบตั ใิ นระดับดีข้นึ ไป คะแนนอย่รู ะหวา่ ง 11-15 คะแนน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

ลงชอ่ื ........................................ ผู้ประเมนิ
(…………………………………….……)

รายละเอียดการใหค้ ะแนนการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

ประเดน็ การประเมนิ 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1
ดมี าก 32 ปรับปรุง
1. ความร่วมมือ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติ ดี พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ
ชดั เจนทุกคร้ัง พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิ บางครง้ั
2. การแสดงความ ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชัดเจนและ
คดิ เห็น พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
บอ่ ยครั้ง บางครง้ั
3. การรับฟงั ความ
คิดเหน็ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ
ชดั เจนทุกครั้ง ชัดเจนและสม่ำเสมอ ชดั เจนและ บางคร้ัง
4. ความตงั้ ใจในการ บอ่ ยครง้ั
ทำงาน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ
ชดั เจนทุกคร้งั ชัดเจนและสม่ำเสมอ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติ บางครั้ง
5. การมีส่วนรว่ มใน ชัดเจนและ
การอภิปราย บ่อยครัง้ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติ
บางครั้ง
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ
ชัดเจนทุกครง้ั ชดั เจนและสมำ่ เสมอ ชดั เจนและ
บอ่ ยครั้ง
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ
ชดั เจนทุกครัง้ ชัดเจนและสมำ่ เสมอ พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิ
ชัดเจนและ
บ่อยครง้ั

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 4 ด้าน
ชอ่ื ..............................................................นามสกลุ .................................................... .ชน้ั ......……..เลขที.่ ....

คำช้แี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน

สมรรถนะสำคัญที่ประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ
432 1 ผล

1. ความสามารถในการสื่อสาร

1.1 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ

ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม

1.2 ใช้วิธกี ารสอื่ สารที่เหมาะสม

1.3 วิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล

สรุปผลการประเมิน

2. ความสามารถในการคิด

2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์

2.2 มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์

2.3 มีความสามารถในการคดิ อย่างมีระบบ

สรปุ ผลการประเมนิ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

3.1 สามารถแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชญิ ได้

3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา

3.3 สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย

4 . ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

4.1 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

4.2 สามารถนำเทคโนโลยีไปใชพ้ ฒั นาตนเอง

4.3 มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมในการใชเท้ คโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

สรปุ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายบคุ คล

 ดีมาก  ดี  ปานกลาง  ตอ้ งปรับปรุง

ลงช่อื ........................................ ผู้ประเมนิ

(…………………………………….……)

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชอ่ื ................................................................ชั้น....................เลขที.่ ...................

คำชี้แจง : ให้สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั

คะแนน

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ รายการท่ีประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงค์ 321

1. มวี นิ ัย 1.1 ตรงตอ่ เวลา

1.2 ปฏิบัตงิ านเรยี บรอ้ ยเหมาะสม

1.3 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 กระตือรือรน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู

2.2 มกี ารจดบันทึกความรู้

2.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย

3.2 มีความอดทนและไม่ย่อทอ้ ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบางครง้ั

เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คณุ ภาพ
18-24 อย่ใู นระดับ ดีมาก
13-18 อยู่ในระดบั ดี
7-12 อยใู่ นระดบั ปานกลาง
1-6 อย่ใู นระดับ ปรบั ปรุง

ลงช่ือ..........................................ผปู้ ระเมนิ
(..........................................)


Click to View FlipBook Version