กิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการเรียนการสอน รายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล
แนวทางการดำเนินกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับ การเรียนการสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนา ที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา
1. ความเป็นมาของปัญหาและปัญหา ประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการช่วยผลักดันการ เปลี่ยนแปลงที่สำคัญของประเทศเพื่อก้าวข้ามกับดักปัญหาความยากจนของงประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมให้เจริญก้าวหน้ารวมทั้งการสร้างเสริมขีดความสามารถของประเทศในการแข่งขันระดับนานาชาติ จึงจำเป้นต้องอาศัยปัจจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามา เพื่อให้สามารถพัฒนาความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ปัจจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วย ยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น ดังนั้น การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จึงมีบทบาทสำคัญในการ พัฒนาบุคคลให้มีทักษะกระบวนการทางวิยาศาสตร์ มีทักษะด้านกระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะในการค้นคว้าหาความรู้ทักษะในการสื่อสาร และที่สำคัญคือ การพัฒนาคนในสังคมให้มีความรู้ความ เข้าใจทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งในด้านการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และนำ ความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม การศึกษาของประเทศไทยจึงได้มีการปฏิรูปการศึกษา โดยราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 ซึ่งให้นิยามของพื้นที่ นวัตกรรมการศึกษา (Education Sandbox) หมายถึง พื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นพื้นที่ปฏิรูป การบริหารและการจัดการศึกษาเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมการศึกษาโดยให้อำนาจแก่สถานศึกษาในการ บริหารงานได้อย่างอิสระ และจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนา คุณภาพการศึกษาและสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเป้าหมายการศึกษาที่กำหนดไว้ โดยมีหน่วยงาน ส่วนกลางให้การสนับสนุนทั้งในด้านทรัพยากรและกลไกการหนุนเสริมแก่โรงเรียนในพื้นที่อย่างเหมาะสม ผ่าน การมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของพื้นที่ การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง “Independent Study : IS” เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งที่ใช้กัน อย่างกว้างขวางในการพัฒนาผู้เรียน เพราะเป็นการเปิดโลกกว้างให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระในเรื่อง หรือประเด็นที่ตนสนใจ เริ่มตั้งแต่การกำหนดประเด็นปัญหาและดำเนินการค้นคว้าแสวงหาความรู้จาก แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย มีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การ สรุปองค์ความรู้ จากนั้นหาวิธีการที่เหมาะสมในการสื่อสารนำเสนอให้ผู้อื่นได้รับทราบและสามารถนำความรู้ที่ ได้จากการศึกษาค้นคว้าไปทาประโยชน์แก่สาธารณะ โดยมีกระบวนการที่สำคัญในการจัดการเรียนรู้คือ บันได 5 ขั้น ของการพัฒนาผู้เรียนสู่มาตรฐานสากล (Five Steps for Student Development) ซึ่งจัดแบ่งเป็น สาระการเรียนรู้ 3 สาระ ประกอบด้วย IS 1- การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation) เป็นสาระที่มุ่งให้ผู้เรียนกำหนดประเด็นปัญหา ตั้งสมมุติฐาน ค้นคว้า แสวงหา ความรู้และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้IS 2- การสื่อสารและการนาเสนอ (Communication and Presentation) เป็นสาระที่มุ่งให้ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้รับ มาพัฒนาวิธีการการ ถ่ายทอด/สื่อสารความหมาย/แนวคิด ข้อมูลและองค์ความรู้ ด้วยวิธีการนำเสนอที่เหมาะสม หลากหลาย รูปแบบ และมีประสิทธิภาพ IS 3- การนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity) เป็นสาระที่ มุ่งให้ผู้เรียน นำ/ประยุกต์องค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติ หรือนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เกิดบริการ สาธารณะ (Public Service) สะเต็มศึกษา หรือ STEM Education เป็นคำย่อมาจากวิทยาศาสตร์(Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรม (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เป็นการจัดการเรียนรู้ที่มีการ บูรณาการระหว่างสาขาวิชา ให้มีความเชื่อมโยงกับชีวิตจริงในการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพเพื่อให้ ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในชั้นเรียนกับบริบทโลกของ
ความเป็นจริง เกิดทักษะสำคัญเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมและการนำมาซึ่งการสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงาน ใหม่ๆ หรือนวัตกรรม ซึ่งสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียน โดยนำสิ่งที่เรียนรู้ในระบบโรงเรียนไปใช้ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพได้นอกจากนี้การจัดการศึกษาแบบบูรณาการ STEM Education ยังเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่ตอบสนองต่อการเตรียมคนไทยรุ่นใหม่ในศตวรรษที่ 21 เพราะ ธรรมชาติของทั้ง 4 วิชานี้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้และความสามารถที่จะดำรงชีวิตได้ดีในศตวรรษที่ 21 สามารถพัฒนาให้ผู้เรียนนำความรู้ทุกแขนงทั้งด้านความรู้ทักษะการคิด และทักษะอื่นๆ มาใช้ในการแก้ปัญหา ค้นคว้า สร้าง และพัฒนาคิดค้นสิ่งต่างๆ ในโลกปัจจุบันการเน้นความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง การมีส่วนร่วมของ ผู้เรียนกับข้อมูลเครื่องมือทางเทคโนโลยีการสร้างความยืดหยุ่นในเนื้อหาวิชา ความท้าทาย ความสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่และการแก้ปัญหาในโลกอนาคตได้อย่างแท้จริง การศึกษา STEAM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะ และคณิตศาสตร์) เป็นการ พัฒนามาจากแนวความคิดจาก STEM Education โดยเพิ่มตัว A ซึ่งมาจากคำว่า ART แปลว่าศิลปะ เป็นอีก หนึ่งสาขาวิชาที่ถูกนำมาเป็นทักษะเพิ่มเข้าไปใน STEM ด้วยความก้าวหน้าสู่สังคมในศตวรรษที่ 21 การจัดการ ศึกษาจึงจำเป็นต้องสร้างความคิดสร้างสรรค์และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณให้ผู้เรียน โดยผู้สอน พยายามสอดแทรกองค์ประกอบ ที่มีมนุษยธรรม เข้าไปในรูปแบบการจัดการเรียนรู้ของSTEM กับ ประสบการณ์ของมนุษย์และความท้าทายทางสังคม การผสมผสานของศิลปะกับสาขาวิชา STEM ช่วยให้ นักเรียนสามารถเข้าถึงปัญหาด้วยความคิดและการเอาใจใส่หลายแง่มุม ทั้ง STEM และ STEAM มีเป้าหมาย เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่ครอบคลุม ซึ่งเตรียมผู้เรียนให้พร้อมสําหรับความท้าทายของโลกสมัยใหม่ การ เลือกระหว่าง STEM และ STEAM มักจะสะท้อนถึงวัตถุประสงค์ทางการศึกษา โดย STEAM ให้ความสําคัญ กับการบูรณาการการแสดงออกทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ภายในหลักสูตรและ STEM ในการคิด วิเคราะห์ การบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้และแนวคิดSTEAMEDUCATION ต้องจัดทำโดยคำนึงถึงความ หลากหลายของสาขาวิชากิจกรรมและวิธีการประเมินผลการเรียนโดยต้องเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เอารายวิชา ต่างๆมาบูรณาการในการเรียนการสอนผ่านกิจกรรมการเรียนที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเพื่อมุ่งเน้นให้ ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิดและใช้การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ความรู้เพื่อนำมาประเมินในการเลือก เครื่องมือที่เหมาะสมในการแก้ปัญหารวมไปถึงกระบวนการในการจัดหรือสร้างสถานการณ์ที่ท้าทายเพื่อช่วย กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการค้นพบสิ่งต่างๆ ทั้งจากการค้นคว้าหรือการทำงานร่วมกัน การบูรณาการหลักสูตร STEAM EDUCATION สามารถทำได้โดยครูผู้สอนพิจารณาการจัดการเรียนรู้โดยการรวมหลักสูตรจากผลการ เรียนรู้ที่คาดหวังเข้าด้วยกันโดยครูเป็นผู้พิจารณานำรายวิชาหรือบางส่วนของเนื้อหาสาระเข้ามาบูรณาการและ วางแผนการจัดการศึกษาร่วมกัน กำหนดเป็นปัญหาหรือคำถามให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคำตอบของปัญหาผ่าน กระบวนการต่างๆ ผู้เรียนต้องศึกษาค้นคว้าหารายละเอียดและแก้ปัญหาการเรียนรู้ โดยวางแผนขั้นตอนและ กระบวนการในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ผลงานหรือนวัตกรรม (Arts Integration) ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา นั้นๆ เป็นหลักสูตรและครูผู้สอนต้องให้ความสำคัญกับความสนใจ การตั้งคำถามและกระบวนการในการ สำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นและตรวจสอบวิธีการหรือผลลัพธ์ที่ใช้ในการแก้ปัญหานั้นๆ ได้ BCG Model เป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับ ความยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติโดยนำองค์ความรู้มาต่อยอดฐานความเข้มแข็งภายในของประเทศไทย คือ ความหลากหลายทางชีวภาพและผลผลิตทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์พร้อมกับปรับเปลี่ยนระบบการผลิต ไปสู่การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อรักษาความมั่นคงทางวัตถุดิบ สมดุลของสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการ อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG มี 3 องค์ประกอบสำคัญด้วยกันคือ
B = Bioeconomy เศรษฐกิจชีวภาพ คือ การนำทรัพยากรชีวภาพมา “ผลิตให้คุ้มค่าที่สุด” ควบคู่กับการ รักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าและบริการให้มีนวัตกรรมและ มีมูลค่าสูง C = Circular economy เศรษฐกิจหมุนเวียน มีแนวทางคือ “การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด” ของ ที่ใช้ในการผลิตต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Recycle, Upcycle) G = Green economy เป็นระบบ เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นการสร้างนวัตกรรมรวมถึงการจัดการสภาพสังคมให้ “กระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อย ที่สุด (Zero-Waste)” โดยการพัฒนา BCG จะมุ่งเน้นการพัฒนาจากทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เพื่อ สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านกระบวนการผลิต และในการนำไปใช้ ซึ่งจะเน้นเป้าหมาย รูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างก้าวกระโดด และช่วยต่อยอด อุตสาหกรรมเดิม เพิ่มรายได้ของประชากรได้มากขึ้น ที่เรียกว่า New S-Curve กับอุตสาหกรรม 4 ด้าน ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร นับเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงไป เราคงต้อง ปรับตัว และตัวแปรที่จะพาไทยไปได้คือเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ด้านการเกษตร อาจนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ให้เกิดความแม่นยำมากขึ้นเพื่อเพิ่มผลผลิตจากการเพาะปลูก สำหรับด้านอาหาร อาจมองไปถึงการพัฒนา อาหารเสริมสุขภาพเฉพาะบุคคล เป็นต้น อุตสาหกรรมพลังงานและเคมีชีวภาพ หนึ่งสิ่งที่หลายภาคส่วน พยายามทำ คือ การใช้เทคโนโลยีแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งเป็นพลังงานชีวภาพ หรือนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ทาง การแพทย์อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ เช่น การพัฒนาสมุนไพรที่มีอยู่ในประเทศให้มีคุณภาพมากขึ้น และปลอดภัย หรือต่อยอดการแพทย์ปัจจุบัน เช่น การนำเทคโนโลยีเข้ามาตรวจพันธุกรรมเพื่อให้เกิดความ แม่นยำมากขึ้นและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มุ่งเน้นให้เกิดการเติบโตของภาคท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน คือ เกิด การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม และคำนึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น โดยมี เป้าหมายคือลดความเหลื่อมล้ำและมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน หรือส่งเสริมการ ท่องเที่ยวเมืองรอง จากข้อมุลข้างต้นพบว่ารูปแบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันมีความหลากหลายภายใต้หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเดียวกัน ดังนั้นโรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา จึงเล็งเห็นความสำคัญใน การดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยนำเอานโยบาย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ต่างๆ มาบูรณาการจัดการ เรียนการสอนด้วยกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการเรียนการสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองภายใต้ กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) โดยกำหนดให้ครูผู้สอน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีการจัดการเรียนการสอนกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการ เรียนการสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนา ที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะในการ แก้ปัญหา ทักษะด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม ส่งเสริมให้ผู้เรียนให้มีทักษะด้านอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในโลกแห่งศตวรรษที่ 21 ลดความเหลื่อมล้ำทางการ ศึกษา ลดภาระงาน ลดการบ้าง ด้วยการบูรณาการสอนทั้งในการบูรณาการภายในกลุ่มวิชาหรือสาขาวิชา เดียวกันและการบูรณาการระหว่างวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะ สมรรถนะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 2.2 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาหรือพัฒนาชุมชนใน ท้องถิ่นของผู้เรียน 2.3 เพื่อบูรณาการการเรียนการสอนระหว่างวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
2.4 เพื่อลดภาระงาน การบ้านของผู้เรียน 2.5 เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและส่งเสริมให้ผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่าง เต็มความสามารถ 3 ตัวชี้วัด 3.1 ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาทักษะ สมรรถนะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 3.2 ร้อยละของผลงานนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ต่อจำนวนผู้เรียนที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาทักษะ สมรรถนะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 3.3 ร้อยละของชุมชนที่ได้รับการส่งเสริม พัฒนาและแก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมที่สร้างสรรค์โดยผู้เรียน 3.4 ร้อยละของผู้เรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนหน่วยบูรณาการสูงกว่าร้อยละ 70 3.5 ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มความสามารถผ่านกิจกรรม ISTEAM & BCG 4. แนวทางการดำเนินงาน ภาพที่ 1 แสดงโมเดลขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการเรียนการสอนรายวิชาการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) จากภาพที่ 1 แสดงโมเดลทางการดำเนินกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการเรียนการสอนรายวิชา การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & CG) ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. ขั้นการวิเคราะห์ปัญหา เป็นขั้นตอนที่ครูผู้สอนดำเนินการออกแบบกิจกรรมเพื่อเพิ่มความ ท้า ทายให้นักเรียนได้ลงสำรวจชุมชนในท้องถิ่นของตนเอง ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระในเรื่องหรือ ประเด็นที่ตนสนใจ เริ่มตั้งแต่การกำหนดประเด็นปัญหาและดำเนินการค้นคว้าแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูล ที่หลากหลาย ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) มีการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ปัญหา สาเหตุของปัญหา การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการแก้ปัญหา ปรับปรุง ประยุกต์ พัฒนาแนวทางการแก้ปัญหา ด้วยทักษะการคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างเป็นระบบ คิดอย่างมี วิจารณญาณ 2. ขั้นการแสวงหาและสร้างองค์ความรู้เป็นขั้นตอนการฝึกทักษะให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะ การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งสืบต้นที่น่าเชื่อถืออย่างหลากหลายเป็นขั้นตอนที่มีการบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกับ รายวิชา IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation) ที่มุ่งให้ผู้เรียน กำหนดประเด็นปัญหา ตั้งสมมุติฐาน ค้นคว้า แสวงหาความรู้และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และ สร้างองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษา ค้นคว้าเพื่อนำมาออกแบบนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับชุมชนในท้องถิ่น ของนักเรียน 3. ขั้นการออกแบบวิธีการ เป็นขั้นตอนที่ให้นักเรียนนำผลการสืบค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องจากขั้นตอน ที่ 2 มาสรุปและออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยมีการออกแบบภาพร่างชิ้นงาน เขียนผังงาน (Flow Chart) แสดงการทำงานของระบบหรือวิธีการทำงานขอชิ้นงาน มีการระบุวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ เขียนอธิบาย ขั้นตอนการดำเนินงาน โดยยึดลำดับขั้นตอนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งระบุวิธีการทดสอบการ ทำงานของชิ้นงานเป็นลำดับขั้นตอนอย่างละเอียดและเข้าใจง่าย ซึ่งในขั้นตอนนี้นักเรียนสามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมจากครู ผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษาโครงงาน หรือบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญนั้น ๆ ได้นำข้อมูล ที่ได้ไปประกอบการจัดทำรายงานผลการศึกษาค้นคว้าอิสระในการรายวิชาการสร้างองค์ความรู้ IS 2 การ สื่อสารและการนาเสนอ (Communication and Presentation) 4. ขั้นการลงมือปฏิบัติจากสถานการณ์จริง เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ สร้างสรรค์ชิ้นงาน ตามแนวคิด โมเดลที่ออกแบบไว้อย่างเป็นระบบ มีการมอบหมายยงานกันภายในกลุ่ม มีการนำต้นแบบเข้าสู่ กระบวนการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานในสถานการณ์จริง ตรวจสอบบันทึกผลการทดสอบ ใช้งาน ต้นแบบนวัตกรรมที่สร้างขึ้น โดยมีครูที่ปรึกษาและครูผู้สอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระคอยกำกับติดตาม ความก้าวหน้าของผลงานในคาบกิจกรรม ISTEAM ทุกสัปดาห์ด้วยแบบบันทึกการปฏิบัติกิจกรรม ISTEAM 5. ขั้น สรุป ปรับปรุงและพัฒนา เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นในภาคเรียนที่ 2 เพื่อให้ผู้เรียนได้มีการแสวงหา องค์ความรู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทดสอบการทำงานของชิ้นงานให้มี ประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น นำผลการปรับปรุงพัฒนา สรุปเป็นองค์ความรู้จัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระใน การรายวิชาการสร้างองค์ความรู้ IS 2 การสื่อสารและการนาเสนอ (Communication and Presentation) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอภายในระดับชั้น ระดับโรงเรียนและชุมชนตามลำดับ 6. ขั้นนำเสนอและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนเตรียมความพร้อมและนำเสนอ ผลการดำเนินงาน สร้างชิ้นงานที่เสร็จสมบูรณ์ จัดทำเป็นป้ายนิเทศและสื่อการนำเสนอ Power point แผ่นพับ
รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระตามรูปแบบที่ถูกต้อง นำเสนอข้อมูลผ่านการจัดนิทรรศการนำเสนอผลงานของ กลุ่มตนเองเพื่อรับการประเมินจากครูผู้สอนในแต่ละรายวิชาตามประเด็นการประเมินที่กำหนดไว้ มีการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเวทีนำเสนอระดับห้องเรียน ระดับชั้น ระดับโรงเรียน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่ ชุมชนบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกับรายวิชา IS3 การนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity) ที่มุ่งให้ผู้เรียน นำ/ประยุกต์องค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติ หรือนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เกิด บริการสาธารณะ (Public Service) ภาพที่ 2 แสดงการเปรียบเทียบขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมแนวสะเต็มศึกษา กับการเรียนการสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองแบบบันได 5 ขั้น จากภาพที่ 2 เป็นการแสดงการเปรียบเทียบขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมแนวสะเต็มศึกษากับการเรียน การสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองแบบบันได 5 ขั้น พบว่าขั้นตอนการกิจกรรมสะเต็มศึกษาใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 6 ขั้นตอน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำงานอย่างเป็นระบบและถูกนำมา ใข้ในการสร้างสรรค์สนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาตามความต้องการของมนุษย์โดยสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เคยมีมา ก่อนหรือนำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในแต่ละขั้นมีความสอดคล้องกับ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ ซึ่งผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระในเรื่องหรือประเด็นที่ตนสนใจ เริ่มตั้งแต่การกำหนดประเด็นปัญหา ซึ่ง อาจเป็น Public Issue และGlobal Issue และดำเนินการค้นคว้าแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย มีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การสรุปองค์ความรู้ จากนั้นก็หา วิธีการที่เหมาะสมในการสื่อสารนำเสนอให้ผู้อื่นได้รับทราบ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าไป ทาประโยชน์แก่สาธารณะ ดังนั้นจึงได้มีการกำหนดขั้นตอนรูปแบบการดำเนินกิจกรรม สะเต็มศึกษาร่วมกับ การเรียนการสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การ พัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) ดังภาพที่ 3
ภาพที่ 3 แสดงการบูรณาการขั้นตอนสะเต็มศึกษากับขั้นตอนการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองจนนำไปสู่ โมเดลทางการดำเนินกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการเรียนการสอนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG)
5. ข้อกำหนดของการจัดกิจกรรมการบูรณาการขั้นตอนสะเต็มศึกษากับขั้นตอนการศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเองจนนำไปสู่ โมเดลทางการดำเนินกิจกรรมสะเต็มศึกษาร่วมกับการเรียนการสอนรายวิชาการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (ISTEAM & BCG) 1. ครูผู้สอน STEAM และ วิชา IS วางแผนการจัดกิจกรรม 20 สัปดาห์ของแต่ละภาคเรียนร่วมกัน โดย กำหนดให้กิจกรรมแต่ละสัปดาห์ต้องสอดคล้องกัน 2. แบ่งกลุ่มนักเรียนแต่ละห้อง กลุ่มละ 5 คน มีครูที่ปรึกษากิจกรรม STEAM อย่างน้อย 1 คน/ห้อง 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มคิดหัวข้อ STEAM จากการลงสำรวจชุมชนในท้องถิ่นที่สอดคล้องกับ BCG จำนวน1 เรื่อง/กลุ่ม 4. ในรายวิชา IS และ สะเต็ม นักเรียนต้องเป็นกลุ่มเดียวกันและมีหัวข้อเดียวกัน 5. ครูสะเต็มจัดการเรียนการสอนและประเมินผลนักเรียนผ่านกิจกรรมชุมนุมสะเต็ม 6. ครูวิชาIS ประเมินผลตามหน่วยการเรียนรู้ในรายวิชา IS 7. ครูแต่ละรายวิชาของระดับม.2 และ ม.5 ประเมินในหน่วยบูรณาการสะเต็ม 10 คะแนน ตามแผนการ จัดการเรียนรู้หน่วยบูรณาการของรายวิชานั้น และใช้เวลาประเมินในคาบสอนของตนเอง
แผนผังหน่วยบูรณาการการเรียนรู้ตามแนวคิดเศรษฐกิThe PThai tEnviสืบสานชสิ่งวิทยาเทนวัตกรรสังคมศึกษวัฒฉลาดคิการงานอาชีพ วัตถุดิบในท้องถิ่นดีสู่ วิถีพอเพียง ศิลปะ ออกแบบโลโก้ ผลิตภัณฑ์จาก ธรรมชาติในท้องถิ่น สุขศึกษาและพลศึกษา การวางแผนดูแลสุขภาพ เพื่อพัฒนาสมถภาพ ร่างกาย
กิจ ISTEAM&BCG ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 reservation tradition & ironment ชุมชนวิถี ใส่ใจ แวดล้อม ศาสตร์และ ทคโนโลยี รม BCG สู่วิถี ชุมชน คณิตศาสตร์ คิดคํานวณค่าสถิติ ภาษาไทย นวัตกรรม ISTEAM เพื่อ การเรียนรู้สู่ สังคม ภาษาต่างประเทศ ภาษาเพื่อาชีพและ ทักษะชีวิต ษา ศาสนาและ ฒนธรรม คิด ฉลาดใช้
แผนผังหน่วยบูรณาการการเรียนรู้ตามแนวคิดเศรษฐกินวัตกรรม BThe Innovto the wวิทยาศเทคนวัตกรรมชุสังคมศึกษวัฒฉลาดคิการงานอาชีพ ทักษะการทํางาน ศิลปะ สุนทรียภาพชุมชน สุขศึกษาและพลศึกษา รักษ์สุขภาพ
กิจ ISTEAM&BCG ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 BCG สู่วิถีชุมชน vation of BCG way of life ศาสตร์และ คโนโลยี มISTEAM สู่ ชุมชน คณิตศาสตร์ Maths in daily life ภาษาไทย มรดกไทย มรดกโลก ภาษาต่างประเทศ The Unique Songkhla ษา ศาสนาและ นธรรม ด ฉลาดใช้
แผนผังหน่วยการเรียนรู้รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์คชื่อบูรISISTหน่วรู้จัก STEAหน่วยที่ 4 Summarise & Publish หน่วยที่ 5 บูรณาการสะเต็ม
ความรู้ด้วยตนเอง (IS1) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 5 ณาการ S1 EAM วยที่ 1 AM &BCG หน่วยที่ 2 Star to searching หน่วยที่ 3 Searching for my STEAM
แผนผังหน่วยการเรียนรู้รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์คชื่อบูรISISTหน่วเรียนรู้กหน่วยที่ 4 บอกกล่าวสู่สังคม หน่วยที่ 5 บูรณาการสะเต็ม
ความรู้ด้วยตนเอง (IS2) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 และ 5 ณาการ S2 EAM วยที่ 1 การเขียน หน่วยที่ 2 แลกเปลี่ยนแนวคิด หน่วยที่ 3 พินิจเรื่องราว
ปฏิทินดำเนินการกิจกรรมการจัดการเรียนรู้กิจกรรมสะเต็มศึกษาบูรณ8ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ……. ภาคเโรงเรียนวรนารีเฉลิสัปดาห์ ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ISTEM ที่ปฏิบัติ 1 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) กิจกรรม “จัดกลุ่มนักเรียน” 2 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) กิจกรรม “รู้จัก STEAM BCG” 3 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) กิจกรรม “BCG ในชุมชนของฉัน” (แลกเปลี่ยนในคาบ) 4 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification กิจกรรม“สำรวจชุมชนเบื้องต้น” (เก็บข้อมูล/แลกเปลี่ยนใ5 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) กิจกรรม “สำรวจปัญหาและความต้องการของชุมชน โดยเศรษฐกิจพอเพียง” 6 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) กิจกรรม วิเคราะห์จุดเด่นของชุมชน 7 ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) กิจกรรม กำหนดกลุ่มเป้าหมาย/ระบุปัญหา 8 ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาInformation Search) กิจกรรม สืบค้นสู่การปฏิบัติ
ณาการร่วมกับการจัดการเรียนรู้รายวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ (IS) เรียนที่ 1 ปีการศึกษา……………………. ลิม จังหวัดสงขลา กิจกรรม IS ที่ปฏิบัติ ปฐมนิเทศ รู้จัก IS STEAM กับ BCG สรุปองค์ความรู้ STEAM กับ BCG ในคาบ) ฝึกวิเคราะห์ปัญหาและตั้งคำถามด้วยหลัก 5W 1H ยใช้หลักปรัชญาของ ฝึกวิเคราะห์ปัญหาและตั้งคำถามด้วยหลัก 5W 1H ฝึกวิเคราะห์ปัญหาและตั้งคำถามด้วยแผนผังก้างปลา ฝึกวิเคราะห์ปัญหาและตั้งคำถามด้วยแผนผังก้างปลา า (Related กำหนดการแสวงหาสารสนเทศจากหัวข้อที่สนใจ
สัปดาห์ ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ISTEM ที่ปฏิบัติ 9 ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาInformation Search กิจกรรม รวบรวมข้อมูล 10 ขั้นที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (Solution Design)กิจกรรม วางเงื่อนไขในการแก้ปัญหา 11 ขั้นที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (Solution Design)กิจกรรม ออกแบบภาพร่างนวัตกรรม 12 ขั้นที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (Solution Design)กิจกรรม จัดหาวัสดุในชุมชน 13 ขั้นที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (Solution Design)กิจกรรม สร้างโมเดล/ต้นแบบ 14 ขั้นที่ 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (PlanningDevelopment) กิจกรรม ประดิษฐ์ชิ้นงาน 15 ขั้นที่ 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (Planning aDevelopment) กิจกรรม ประดิษฐ์ชิ้นงาน 16 ขั้นที่ 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (Planning aDevelopment) กิจกรรม ประดิษฐ์ชิ้นงาน 17 ขั้นที่ 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (Planning aDevelopment)
กิจกรรม IS ที่ปฏิบัติ า (Related แสวงหาสารสนเทศจากหัวข้อ STEAM&BCG แสวงหาสารสนเทศจากหัวข้อ STEAM&BCG กระบวนการสร้างองค์ความรู้ กระบวนการสร้างองค์ความรู้ กระบวนการสร้างองค์ความรู้ and กระบวนการแสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาจากการปฏิบัติจริง and กระบวนการแสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาจากการปฏิบัติจริง and กระบวนการแสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาจากการปฏิบัติจริง and กระบวนการแสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาจากการปฏิบัติจริง
สัปดาห์ ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ISTEM ที่ปฏิบัติ กิจกรรม ประดิษฐ์ชิ้นงาน 18 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvกิจกรรม ทดสอบชิ้นงานเพื่อเพิ่มคุณภาพ 19 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม นำเสนอแลกเปลี่ยน 20 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรมการ สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ผลงาน STEAM
กิจกรรม IS ที่ปฏิบัติ การแก้ปัญหาหรือ vement) กระบวนการแสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาจากการปฏิบัติจริง หรือชิ้นงาน นำเสนอ สรุปองค์ความรู้ หรือชิ้นงาน ม.2 และ ม.5 นำเสนอ สรุปองค์ความรู้
ปฏิทินด ำเนินกำรกจิกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้กิจกรรมสะเต็มศึกษำบูรระดับชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ ……. ภำคเรียโรงเรียนวรนำรีเฉลิสัปดาห์ ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ISTEM ที่ปฏิบัติ 1 ปฐมนิเทศ STEAM 2 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม นำเสนอและวิพากษ์ผลงาน S3 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม นำเสนอและวิพากษ์ผลงาน S4 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม ทดสอบ ประเมิน และดำเนินการแก้ปัญหา 5 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม วิเคราะห์ อภิปรายผลการทดสอบ 6 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม ทดสอบ ประเมิน และดำเนินการแก้ปัญหา
รณำกำรร่วมกบักำรจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำกำรศึกษำค้นคว้ำอสิระ(IS) ยนที่ 2 ปี กำรศึกษำ……………………. ลิม จังหวัดสงขลำ กิจกรรม IS ที่ปฏิบัติ ปฐมนิเทศ รู้จัก IS หรือชิ้นงาน STEAM BCG” เชื่อมโยงความรู้เบื้องต้น หรือชิ้นงาน STEAM BCG” ความหมายและความสำคัญ การแก้ปัญหา องค์ประกอบรายงานเชิงวิชาการ การแก้ปัญหา เขียนโครงร่างรายงาน การแก้ปัญหา เขียนโครงร่างรายงาน
สัปดาห์ ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ISTEM ที่ปฏิบัติ 7 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม วิเคราะห์ อภิปรายผลการทดสอบ 8 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม ทดสอบ ประเมิน และดำเนินการแก้ปัญหา 9 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม วิเคราะห์ อภิปรายผลการทดสอบ 10 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม แต่งเติมความสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าแก่ผลงาน 11 ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีกหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) กิจกรรม วิเคราะห์ อภิปรายผลการเพิ่มมูลค่าผลงาน 12 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม การเขียนรายงานบทความ IS
กิจกรรม IS ที่ปฏิบัติ การแก้ปัญหา การเขียนองค์ประกอบของรายงาน ส่วนนำ เนื้อเรื่อง ส่วนท้าย การแก้ปัญหา การเขียนองค์ประกอบของรายงาน ส่วนนำ เนื้อเรื่อง ส่วนท้าย การแก้ปัญหา การเขียนองค์ประกอบของรายงาน ส่วนนำ เนื้อเรื่อง ส่วนท้าย การแก้ปัญหา การเขียนองค์ประกอบของรายงาน ส่วนนำ เนื้อเรื่อง ส่วนท้าย การแก้ปัญหา มารย่าทในการเขียนรายงาน หรือชิ้นงาน นำเสนอการดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงผ่านสื่อต่างๆ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น
สัปดาห์ ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ISTEM ที่ปฏิบัติ 13 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม นำเสนอแลกเปลี่ยน การเขียนบทความ IS 14 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา(Presentation) กิจกรรม ออกแบบและสร้างโปสเตอร์อย่างไรให้น่าสนใจ 15 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม ออกแบบและสร้างโปสเตอร์อย่างไรให้น่าสนใจ 16 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม นำเสนอผลงานภายในระดับชั้17 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม นำเสนอผลงานภายในระดับชั้18 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรมการ สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ผลงาน STEAM xและ ม.5 19 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม ถอดบทเรียนจากการดำเนินกิ20 ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาห(Presentation) กิจกรรม ถอดบทเรียนจากการดำเนินกิจกรรม
กิจกรรม IS ที่ปฏิบัติ หรือชิ้นงาน นรายงาน แลกเปลี่ยนประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์ผลงาน าหรือชิ้นงาน มารยาทในการพูดและการฟัง หรือชิ้นงาน สะท้อนคุณธรรมของการมีงานทำ มีอาชีพและเป็นพลเมืองดี หรือชิ้นงาน ชั้น นำเสนอผลงานผ่านสื่อต่างๆ หรือชิ้นงาน ชั้น นำเสนอผลงานผ่านสื่อต่างๆ หรือชิ้นงาน x BCG ม.2 นำเสนอผลงานผ่านสื่อต่างๆ หรือชิ้นงาน กิจกรรม นำเสนอผลงานในกิจกรรม Oneclass one project โดยนำผลงานนำเสนอตอบแทนสู่ชุมชนเป้าหมายที่ต้องการแก้ปัญหา หรือชิ้นงาน วิพากษ์การนำเสนอผลงาน
คำอธิบายรายหน่วยบูรณาการระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สำรวจและศึกษาประเด็นปัญหาในสังคม ชุมชน วิเคราะห์หาสาเหตุ ออกแบบแนวคิด พัฒนา ผลงาน แนวคิดที่นักเรียนสนใจเกี่ยวกับโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ (BCG Economy Mode) โดยนำขั้นตอนการบูรราการการเรียนรู้ ISTEAM 6 ขั้นตอนบูรณาการร่วมกับทักษะ ความรู้ ประสบการณ์จากรายวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระได้แก่กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่ม สาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มาบูรณาการร่วมกัปรับปรุงหรือพัฒนา หรือสร้างนวัตกรรม BCG ที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน โรงเรียน ของผู้เรียน พร้อมสู่เผยแพร่ นวัตกรรมดังกล่าวสู่ชุมชน โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) กระบวนการ STEAM กระบวนการบันได 5 ขั้น และใช้กระบวนการตามแนวทางศาสตร์พระราชา โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มา เป็นฐานในการพัฒนาชิ้นงานเป็นแนวปฏิบัติการทำงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้มีสมรรถนะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามแนวทาง ศาสตร์พระราชา ที่นำไปสู่โลกอาชีพ เพื่อการมีงานทำของผู้เรียน ตัวชี้วัด ว 4.1 ท2.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/6 ส3.1 ม.2/2 ต1.2 ม.2/1 ต1.3 ม.2/3 พ3.1 ม.2/1,2/4 พ3.2 ม.2/2,2/3 รวมทั้งหมด ตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ 1.วิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นแนวทางการ แก้ปัญหา พัฒนางานหรือนวัตกรรม 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่น เพื่อพัฒนางานอาชีพ สรุปกรอบของ ปัญหารวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโดยคำนึงถึงความถูกต้องด้าน ทรัพย์สินทางปัญญา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิค หรือวิธีการที่หลากหลายวางแผนขั้นตอนการทำงานและดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็น ขั้นตอน 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้ กรอบเงื่อนไข พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุง แก้ไข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา
คำอธิบายรายหน่วยบูรณาการระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สำรวจและศึกษาประเด็นปัญหาในสังคม ชุมชน วิเคราะห์หาสาเหตุ ออกแบบแนวคิด พัฒนา ผลงาน แนวคิดที่นักเรียนสนใจเกี่ยวกับโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ (BCG Economy Mode) โดยนำขั้นตอนการบูรราการการเรียนรู้ ISTEAM 6 ขั้นตอนบูรณาการร่วมกับทักษะ ความรู้ ประสบการณ์จากรายวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระได้แก่กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่ม สาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มาบูรณาการร่วมกัปรับปรุงหรือพัฒนา หรือสร้างนวัตกรรม BCG ที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน โรงเรียน ของผู้เรียน พร้อมสู่เผยแพร่ นวัตกรรมดังกล่าวสู่ชุมชน โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) กระบวนการ STEAM กระบวนการบันได 5 ขั้น และใช้กระบวนการตามแนวทางศาสตร์พระราชา โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มา เป็นฐานในการพัฒนาชิ้นงานเป็นแนวปฏิบัติการทำงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้มีสมรรถนะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามแนวทาง ศาสตร์พระราชา ที่นำไปสู่โลกอาชีพ เพื่อการมีงานทำของผู้เรียน ตัวชี้วัด ว 4.1 ท2.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/6 ส3.1 ม.2/2 ต1.2 ม.2/1 ต1.3 ม.2/3 พ3.1 ม.2/1,2/4 พ3.2 ม.2/2,2/3 รวมทั้งหมด ตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ 1.วิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นแนวทางการ แก้ปัญหา พัฒนางานหรือนวัตกรรม 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่น เพื่อพัฒนางานอาชีพ สรุปกรอบของ ปัญหารวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโดยคำนึงถึงความถูกต้องด้าน ทรัพย์สินทางปัญญา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิค หรือวิธีการที่หลากหลายวางแผนขั้นตอนการทำงานและดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็น ขั้นตอน 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้ กรอบเงื่อนไข พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุง แก้ไข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา
โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ISTEAM&BCG ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2,5 สู่โลกอาชีพตามศาสตร์พระราชา ปีการศึกษา 2566
โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ ISTEAM&BCG ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด/ ทักษะ/ สมรรถนะ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สาระสำคัญ /ความคิดรวบยอด ชิ้นงาน / ภาระงาน เวลา ชั่วโมง นวัตกรรม BCG สู่วิถี ชุมชน มาตรฐาน. ว4.1, ว4.2 วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี ความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม (STEM Education) ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และการจัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มที่ได้ มีการบูรณาการร่วมกัน หน่วยบูรณาการของ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามแนวสะเต็มศึกษา เป็นการ สร้างชิ้นงานแบบสะเต็มศึกษา โดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และให้ข้อมูล ย้อนกลับ (Feedback) สำหรับการจัดการ เรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระการ เรียนรู้ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้รู้ เข้าใจ ตระหนัก ได้ สร้างแรงจูงใจ และเปลี่ยนพฤติกรรมในการ ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม 1. รายงาน การศึกษา ค้นคว้าด้วย ตนเอง 2. โปสเตอร์ นำเสนอ ผลงาน 3.ผลงาน นวัตกรรม ISTEAM 2 บูรณาการ สืบสาน ชุมชนวิถี ใส่ใจ สิ่งแวดล้อ ม ผลการ เรียนรู้ข้อ 1- 4 คณิตศาสตร์ ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการสู่โลกอาชีพ ของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามแนวสะเต็มศึกษาเป็นการ สร้างชิ้นงานแบบสะเต็มศึกษาโดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และการให้ ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการ จัดการเรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระ การเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนไปสู่โลกอาชีพ 1. รายงาน การศึกษา ค้นคว้าด้วย ตนเอง 2. สมุด บันทึกการทำ กิจกรรม 2
ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด/ ทักษะ/ สมรรถนะ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สาระสำคัญ /ความคิดรวบยอด ชิ้นงาน / ภาระงาน เวลา ชั่วโมง นวัตกรรม ISTEAM เพื่อการ เรียนรู้สู่ สังคม ท2.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/6 ภาษาไทย ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการการเขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า และการพูดรายงาน การศึกษาค้นคว้า ดังนั้น การรับสารหรือองค์ ความรู้ด้วยการค้นคว้าจึงจำเป็นต้องรับมาผ่าน กระบวนการคิด วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง และไตร่ตรองอย่างมีวิจารณญาณเพื่อที่จะ สามารถนำคุณค่าหรือข้อคิดที่มีประโยชน์จาก สารนั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ 1. รายงาน การศึกษา ค้นคว้าด้วย ตนเอง 2. การพูด รายงานหน้า ชั้นเรียน 2 ฉลาดคิด ฉลาดใช้ ส3.1 ม.2/2 สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการใน ท้องถิ่นของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การ จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามแนวสะเต็ม ศึกษาเป็นการสร้างชิ้นงาน (สินค้าและบริการ) แบบสะเต็มศึกษาโดย สามารถนำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และ การให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการจัดการเรียนรู้ในรายวิชา ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อพัฒนา กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในท้องถิ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทน 1. การผลิต สินค้าและ บริการใน ท้องถิ่น 2 สืบสาน ชุมชนวิถี ไทย ใส่ใจ สิ่งแวดล้อ ม ต1.2 ม.2/1 ต1.3 ม.2/3 ภาษาต่าง ประเทศ การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นสิ่งที่มี ความจำเป็นและสำคัญในการประกอบอาชีพ ดังนั้นการได้ฝึกสนทนาและฝึกเขียนบรรยาย เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันตาม สถานการณ์ต่างๆ จะช่วยสร้างความรู้ความ เข้าใจในสถานการณ์ที่พบได้และช่วยพัฒนา 1.คำศัพท์ และการเขียน อธิบาย เกี่ยวกับ สิ่งของต่างๆที่ ใช้ในการ สร้าง 2
ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด/ ทักษะ/ สมรรถนะ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สาระสำคัญ /ความคิดรวบยอด ชิ้นงาน / ภาระงาน เวลา ชั่วโมง ทักษะการพูดและเขียนให้มีประสิทธิภาพมาก ขึ้น นวัตกรรม ISTEAM 2.คลิปวีดีโอ แนะนำชุมชน เป็น ภาษาอังกฤษ 3.เรียงความ ภาษาอังกฤษ บรรยาย เกี่ยวกับ โครงงานและ ประโยชน์ ของโครงงาน วางแผน ดูแล สุขภาพ เพื่อ พัฒนา สมรรถภา พร่างกาย พ3.1 ม. 2/1,2/4 พ3.2 ม. 2/2,2/3 สุขศึกษาและ พลศึกษา ความรู้ความเข้าเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) โดยใช้บูรณาการ เข้ากับการบริหารร่างกาย เป็นพื้นฐานสำคัญ สำหรับการเรียนการสอนทักษะบาสเกตบอล เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้นักเรียนมีความรู้ และเข้าใจ เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการ ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาบาสเกตบอลได้ อย่างมีประสิทธิภาพและยังทำให้ร่างกายมี สมรรถภาพทางกายและจิตใจดีด้วย โดยตาม แนวสะเต็มศึกษาเป็นการสร้างชิ้นงาน (สินค้า และบริการ) แบบสะเต็มศึกษาโดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และการให้ ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการ จัดการเรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระ การเรียนรู้เพื่อพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจใน ท้องถิ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทน ผลงาน นวัตกรรม ISTEAM 2
โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ ISTEAM&BCG ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด/ ทักษะ/ สมรรถนะ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สาระสำคัญ /ความคิดรวบยอด ชิ้นงาน / ภาระงาน เวลา ชั่วโมง นวัตกรรม BCG สู่วิถี ชุมชน มาตรฐาน. ว4.1, ว4.2 วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี ความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม (STEM Education) ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และการจัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มที่ได้ มีการบูรณาการร่วมกัน หน่วยบูรณาการของ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามแนวสะเต็มศึกษา เป็นการ สร้างชิ้นงานแบบสะเต็มศึกษา โดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และให้ข้อมูล ย้อนกลับ (Feedback) สำหรับการจัดการ เรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระการ เรียนรู้ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้รู้ เข้าใจ ตระหนัก ได้ สร้างแรงจูงใจ และเปลี่ยนพฤติกรรมในการ ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม 1. รายงาน การศึกษา ค้นคว้าด้วย ตนเอง 2. โปสเตอร์ นำเสนอ ผลงาน 3.ผลงาน นวัตกรรม ISTEAM 2 บูรณาการ สืบสาน ชุมชนวิถี ใส่ใจ สิ่งแวดล้อ ม ผลการ เรียนรู้ข้อ 1- 4 คณิตศาสตร์ ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการสู่โลกอาชีพ ของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามแนวสะเต็มศึกษาเป็นการ สร้างชิ้นงานแบบสะเต็มศึกษาโดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และการให้ ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการ จัดการเรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระ การเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนไปสู่โลกอาชีพ 1. รายงาน การศึกษา ค้นคว้าด้วย ตนเอง 2. สมุด บันทึกการทำ กิจกรรม 2
ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด/ ทักษะ/ สมรรถนะ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สาระสำคัญ /ความคิดรวบยอด ชิ้นงาน / ภาระงาน เวลา ชั่วโมง นวัตกรรม ISTEAM เพื่อการ เรียนรู้สู่ สังคม ท2.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/5 ท3.1 ม.2/6 ภาษาไทย ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการการเขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า และการพูดรายงาน การศึกษาค้นคว้า ดังนั้น การรับสารหรือองค์ ความรู้ด้วยการค้นคว้าจึงจำเป็นต้องรับมาผ่าน กระบวนการคิด วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง และไตร่ตรองอย่างมีวิจารณญาณเพื่อที่จะ สามารถนำคุณค่าหรือข้อคิดที่มีประโยชน์จาก สารนั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ 1. รายงาน การศึกษา ค้นคว้าด้วย ตนเอง 2. การพูด รายงานหน้า ชั้นเรียน 2 ฉลาดคิด ฉลาดใช้ ส3.1 ม.2/2 สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการใน ท้องถิ่นของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การ จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามแนวสะเต็ม ศึกษาเป็นการสร้างชิ้นงาน (สินค้าและบริการ) แบบสะเต็มศึกษาโดย สามารถนำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และ การให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการจัดการเรียนรู้ในรายวิชา ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อพัฒนา กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในท้องถิ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทน 1. การผลิต สินค้าและ บริการใน ท้องถิ่น 2 สืบสาน ชุมชนวิถี ไทย ใส่ใจ สิ่งแวดล้อ ม ต1.2 ม.2/1 ต1.3 ม.2/3 ภาษาต่าง ประเทศ การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นสิ่งที่มี ความจำเป็นและสำคัญในการประกอบอาชีพ ดังนั้นการได้ฝึกสนทนาและฝึกเขียนบรรยาย เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันตาม สถานการณ์ต่างๆ จะช่วยสร้างความรู้ความ เข้าใจในสถานการณ์ที่พบได้และช่วยพัฒนา 1.คำศัพท์ และการเขียน อธิบาย เกี่ยวกับ สิ่งของต่างๆที่ ใช้ในการ สร้าง 2
ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด/ ทักษะ/ สมรรถนะ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ สาระสำคัญ /ความคิดรวบยอด ชิ้นงาน / ภาระงาน เวลา ชั่วโมง ทักษะการพูดและเขียนให้มีประสิทธิภาพมาก ขึ้น นวัตกรรม ISTEAM 2.คลิปวีดีโอ แนะนำชุมชน เป็น ภาษาอังกฤษ 3.เรียงความ ภาษาอังกฤษ บรรยาย เกี่ยวกับ โครงงานและ ประโยชน์ ของโครงงาน วางแผน ดูแล สุขภาพ เพื่อ พัฒนา สมรรถภา พร่างกาย พ3.1 ม. 2/1,2/4 พ3.2 ม. 2/2,2/3 สุขศึกษาและ พลศึกษา ความรู้ความเข้าเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) โดยใช้บูรณาการ เข้ากับการบริหารร่างกาย เป็นพื้นฐานสำคัญ สำหรับการเรียนการสอนทักษะบาสเกตบอล เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้นักเรียนมีความรู้ และเข้าใจ เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการ ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาบาสเกตบอลได้ อย่างมีประสิทธิภาพและยังทำให้ร่างกายมี สมรรถภาพทางกายและจิตใจดีด้วย โดยตาม แนวสะเต็มศึกษาเป็นการสร้างชิ้นงาน (สินค้า และบริการ) แบบสะเต็มศึกษาโดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และการให้ ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการ จัดการเรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระ การเรียนรู้เพื่อพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจใน ท้องถิ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทน ผลงาน นวัตกรรม ISTEAM 2
แผนผังมโนทัศน์หน่วยการเรียนรู้ISTEAM&BCG ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2,5
แผนผังมโนทัศน์หน่วยการเรียนรู้สู่โลกอาชีพ ตามศาสตร์พระราชา จำนวน 24 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ สู่โลกอาชีพ ตามศาสตร์ พระราชา ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) ปรัชญาและการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานสะเต็มศึกษาที่ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการสู่โลกอาชีพ ของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามแนวสะเต็มศึกษาเป็นการ สร้างชิ้นงานแบบสะเต็มศึกษาโดยสามารถ นำมาวัดประเมินผลการเรียนรู้และการให้ ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) สำหรับการ จัดการเรียนรู้ในรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระ การเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนไปสู่โลกอาชีพ วิทยาศาสตร์กความรู้และทักษะ ทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วย กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดย คำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ สิ่งแวดล้อม ภาษาไทย การเขียนเป็นทักษะสำคัญที่ใช้สำหรับบันทึก รวบรวมและถ่ายทอดข้อมูลเพื่อการ ติดต่อสื่อสารระหว่างกันของบุคคลในสังคม การเขียนจึงควรใช้ถ้อยคำให้เหมาะสมและ ถูกต้อง เพื่อให้การสื่อสารสามารถบรรลุผล ตามที่ต้องการการพูดรายงานเรื่อง/ประเด็นที่ ศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการพูด เพื่อเสนอความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า จำเป็นต้องเลือกใช้ภาษาในการสื่อสารให้ ถูกต้องเหมาะสม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ คณิตศาสตร์ พื้นที่ พื้นที่ผิวและปริมาตรเป็นทักษะ ในการคำนวณที่นำไปสู่การนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันซึ่งจะส่งผลในการมี อาชีพในอนาคต ภาษาต่างประเทศ การติดต่อสื่อสารในยุค Thailand 4.0 ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการที่ใช้ใน การติดต่อสื่อสารในประชาคมโลก ขั้นตอนที่1 การเรียนรู้ตั้งคำถาม หรือขั้นตั้ง คำถาม วิทยากรจุดประกายให้ความรู้ ให้ นักเรียนฝึกสังเกตสถานการณ์ ปรากฏการณ์ต่างๆ จนเกิดความสงสัย จากนั้นฝึกให้เด็กตั้งคำถาม สำคัญ รวมทั้งการคาดคะเนคำตอบ ด้วยการ สืบค้นความรู้จากแหล่งต่างๆ และสรุปคำตอบ ชั่วคราว สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หลักพระพุทธศาสนากับปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน - หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการ พัฒนาอย่างยั่งยืน - หลักธรรมในการพัฒนาตนเพื่อเตรียมพร้อม สำหรับการทำงาน ( ทิฏฐิธัมมิกัตถะ 4) การงานอาชีพแลเทคโนโลยี นักเรียนมีความรู้พื้นฐานในการเลือก อาชีพที่ตนเองชอบและถนัด เพื่อ นำไปสู่การประกอบอาชีพสร้าง รายได้ให้กับตนเองและครอบครัวใน อนาคต เน้นการประกอบอาชีพด้าน การเกษตร ด้านธุรกิจประเภทต่างๆ ศิลปะ สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือที่มนุษย์สร้างขึ้นเกิดจากการ ผสมผสานกันขององค์ประกอบต่างๆ ของทัศนธาตุ โดยมีการจัดวางอย่างลง ตัว จึงทำให้เกิดความสวยงามหรือ งดงาม สามารถบรรยาย อธิบายให้ ผู้อื่นได้รับรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (แนะแนว) การสำรวจอาชีพต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่นครอบครัว ชุมชน ตลอดจนอาชีพที่ ตนเองสนใจ มีความถนัดหรืออาชีพที่เป็น ความต้องการของตลาดแรงงานทำให้เกิดการ เรียนรู้และเข้าใจในอาชีพต่าง ๆมากขึ้น ทำให้ มีการวางแผนการเรียนเพื่อเตรียมตัวสู่อาชีพที่ ตนเองสนใจ ขั้นตอนที่3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ เป็นขั้นตอนที่เด็กมีการคิดวิเคราะห์ข้อมูลเชิง ปริมาณและเชิงคุณภาพ การสื่อความหมายข้อมูล ด้วยแบบต่างๆ หรือด้วยผังกราฟิก การแปรผล จนถึงการสรุปผล หรือการสร้างคำอธิบาย เป็นการ สร้างองค์ความรู้ ขั้นตอนที่4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร คือ ขั้น นำเสนอความรู้ด้วยการมใช้ภาษาที่ถูกต้อง ชัดเจน และเป็นที่เข้าใจ อาจเป็นการนำเสนอภาษา และ นำเสนอด้วยวาจา ขั้นตอนที่5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม เป็นขั้นตอนการฝึกเด็กให้นำความรู้ที่เข้าใจ นำการเรียนรู้ไปใช้ประโยชน์ เพื่อส่วนรวม ด้วยการทำงานเป็นกลุ่ม ร่วมสร้างผลงานที่ได้จากการ แก้ปัญหาสังคมอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งอาจเป็นความรู้ แนวทางสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งอาจเป็นนวัตกรรม ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นการ แสดงออกของการเกื้อกูล และแบ่งปันให้สังคมมีสันติอย่างยั่งยืน ขั้นตอนที่2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ เป็นขั้นตอนการออกแบบ/วางแผนเพื่อรวบรวม ข้อมูล สารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ รวมทั้ง การทดลองเป็นขั้นที่เด็กใช้หลักการนิรภัย (Deduction reasoning) เพื่อการออกแบบข้อมูล กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEP) สุขศึกษาและพลศึกษา อาหารเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการ ดำรงชีวิตของมนุษย์ในการเสริมสร้าง สุขภาพให้ร่างกายเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายและ ดำรงสุขภาพให้เป็นปกติ
แผนผังการบูรณาการการเรียนรู้ด้วยการบูรณากเพื่อลดภาระงานของนักเรีฃ การบูรณาการตามกระบวงานกลุ่ม นอกห้องเรียน 13 ชั่วโมง รายงาน/ป้ายนิทรรศการและ การนำเสนอผลงานนวัตกรรม ISTEAM & BCG วิทยาศาสตร์แคณิตศภาษสังคมศึกษา ศาสกิจกรรมพัฒนาผู้การงานภาษาต่าศิลสุขศึกษาแการนำเสนอเค้าโครงของ ผลงานนวัตกรรม ISTEAM & BCGแต่ละสัปดาห์ Mind map การเรียนรู้เรื่อง ISTEAM & BCG การวิเคราะห์โครงงานตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง
การตามตามกระบวนการเรียนรู้ ISTEAM&BCG รียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วนการเรียนรู้ISTEAM&BCG งานเดี่ยว ในห้องเรียน 16 ชั่วโมง Mind map หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง และเทคโนโลยี ศาสตร์ ษาไทย สนาและวัฒนธรรม ผู้เรียน (แนะแนว) นอาชีพ างประเทศ ลปะ ละพลศึกษา ใบงานรู้จักและสำรวจ ISTEAM & BCG ในชุมชน ของตนเอง
ภาคผนวก ข ใบกิจกรรมภาคเรียนที่ 1
ควำมหมำย ตัวอย่ำง ผลงำน STEAM ใบกิจกรร ู้จักSTSTE
ขั้นตอน / กระบวนกำร ประโยชน์ รรมที่1 TEAM EAM
กิจกรรมที่ 2 ให้นักเรียนท ำ Mind map ควำมรู้ที่ได้จำกกำรฟังบรรยำยเรื่อง เศรษฐกจิพอเพยีง เศรษฐกิจ พอเพียง
ใบกิจกรรมที่3 เรื่อง : สำรวจอาชีพ คำ ชีแ้จง ให้นักเรียนส ารวจอาชีพ ที่อยู่ใกล้ตัวและสรุปอาชีพที่นักเรียนสนใจมา ๑ อาชีพ เพื่อน าเสนอ ........................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .............................................................................. ........................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .............................................................................. ........................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .............................................................................. สรุป...... อำชีพทนี่่ำสนใจ คือ..................................... เพรำะ.......................................................................... ..................................................................................... ......................................................................................