The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มบทสรุปผู้บริหารโควิด.19 Final Destination

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ub.sriprasert, 2021-10-28 09:27:25

รวมเล่มบทสรุปผู้บริหารโควิด 19

รวมเล่มบทสรุปผู้บริหารโควิด.19 Final Destination

-2 -
 มอบหมายองค์การเภสัชกรรมและสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เร่งจัดหายา Favipiravir
และยาอ่ืนๆที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 รวมท้ังประมาณการการใช้ยาในอนาคต เพ่ือรองรับวิกฤตต่างๆ
ทงั้ นี้ขอให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสขุ ภาพรับทราบข้อมูลการใชย้ าและปญั หาการการจดั สรรยา
ในพื้นท่ี
กำรฉีดวัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซนี สะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 24 ก.ค. 64) รวม 15,869,844 โดส
เพ่ิมขึ้น 128,026 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 16.97 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน
12,226,845 โดส จานวนผู้ไดร้ ับวคั ซนี เข็มที่ 2 จานวน 3,642,299 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
24 ก.ค. 64 จานวน 961,570 โดส เพมิ่ ข้ึนประจาวนั 22,810 โดส
แผนกำรให้บริกำร และกำรกระจำยวคั ซีน Pfizer บรจิ ำคจำกตำ่ งประเทศ :
 จากการประชุมคณะทางานบริหารจัดการให้วัคซีน Pfizer โดยมีนายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เม่ือวันที่ 24 ก.ค. 64 และผู้แทนจากการกระทรวงต่างๆ
ท่ีเก่ียวข้อง พร้อมท้ังผู้เชยี่ วชาญด้านวัคซีนเข้ารว่ มประชุม มีมติให้ปรับยอดการจัดสรรวคั ซีนจากแผนเดิม ดังนี้
บุคลากรด่านหน้าท่ัวประเทศ ปรับเพ่ิมเป็น 7 แสนโดส และเพ่ิมกลุ่มเส่ียงโรคเร้ือรังตั้งแต่อายุ 12 ปีข้ึนไป
พร้อมทง้ั ปรับจานวนลดลงเหลือ 645,000 โดส ในส่วนกลุม่ เป้าหมายอนื่ ๆ ในแผนยังคงเดิม และแผนสามารถ
ปรบั ให้ยืดหยุ่นไดต้ ามความเหมาะสม
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาดาเนินการสื่อสารกับประชาชนให้รวดเร็วและชัดเจน เพื่อเป็นการตอบโต้ข่าวลวง
และควรเพิ่มเติมข้อมูลการรองรับการระบาดของสายพันธุ์ Delta เข้าไปในแผนของกลุ่มเป้าหมายเพื่อสารอง
สาหรับการตอบโต้การระบาดให้ชัดเจนยิ่งข้ึน พร้อมท้ังเตรียมการดาเนินการจัดทาแผนการจัดสรรวัคซีน Pfizer
จานวน 20 ล้านโดส ทีจ่ ะเข้ามาภายหลัง ซง่ึ ในที่ประชมุ ได้มอบหมายกรมควบคุมโรคดาเนนิ การ
 เสนอพิจารณาให้ทุกจังหวัดเร่งรวบรวมข้อมูลบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าท่ีมีความประสงค์
ฉดี วัคซนี Pfizer จากทุกจังหวัด เพอ่ื นามาปรับกรอบจานวนวัคซีนให้สอดคล้องกับข้อมูลท่รี วบรวม
สถำนกำรณ์เตยี งรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เตียงผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงอยู่ระดับวิกฤต
ระบบ Home Isolation ช่วยดูแลกล่มุ ผู้ปว่ ยสเี ขียวได้ดีข้ึน
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอพิจารณาให้มีการประชมุ หารอื การปรับเกณฑก์ ารดูแลผปู้ ่วยที่ใสท่ ่อช่วยหายใจ
 เสนอพิจารณาให้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานครและ
กรมการแพทย์ในเร่ืองการจัดสรรยา Favipiravir และการดูแลผู้ป่วยระบบ Home Isolation ซ่ึงเบ้ืองต้น
กรมการแพทย์แจง้ วา่ ได้จดั สรรยาไปตามสานักอนามัยของกรุงเทพมหานครแลว้
 เสนอพิจารณาปรับเกณฑ์การรักษาให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาและอุปกรณ์การรักษาได้รวดเร็วมากข้ึน
เพื่อปอ้ งกนั มิให้ผูป้ ่วยอาการเปล่ียนแปลง รวมทงั้ การจดั การระบบ Home Isolation อย่างเขม้ แข็ง พร้อมดแู ล
การใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคภายในบ้าน เช่น ยาฟ้าทะลายโจร ยาพาราเซตามอล รวมถึงยาอ่ืนๆ ที่ใช้การรักษา
โรคโควดิ -19

กำรปฏบิ ตั กิ ำรนำสง่ ผู้ป่วย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง โดยศูนย์นเรนทร วันท่ี 25 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 236 ราย ผู้ป่วย
ปฏิเสธการนาส่ง 13 ราย อื่นๆ 23 ราย จานวนปฏิบัติการ 78 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 32 ทีม แบ่งเป็น
EMS ในระบบ/อาสา 31 ทีม กลาโหม 1 ทีม และโดยศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร 459 ราย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 282
ประจำวันที่ 26 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.45 น.
ประธำน : นำยแพทยส์ รุ ะ วเิ ศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เร่ืองเพอื่ ทรำบ :
 วันท่ี 25 กรกฎาคม 2564 พบการแพร่ระบาด Cluster จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเพชรบูรณ์
จากการเดินทางกลับภูมิลาเนาจากพื้นที่ระบาด ขอให้สานักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม
เพื่อปอ้ งกนั และควบคุมโรค
 วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 พบรายงานการฉีดวัคซีน เข็มที่ 3 แก่ประชาชนท่ัวไปในพ้ืนท่ี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้สื่อสารประชาสัมพันธ์ เพ่ือสร้างความเข้าใจกับจังหวัดให้ปฏิบัติตามนโยบาย
การฉดี วคั ซีน เข็มท่ี 3 เฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์กอ่ นเท่านั้น
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงข้ึนในพื้นท่ีต่างจังหวัด จากผู้ติดเช้ือเดินทางกลับภูมิลาเนา
จากพนื้ ท่รี ะบาด
 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวโน้มจานวนผู้ติดเชื้อคงตัว แต่ยังพบผู้เสียชีวิตจานวนมาก
เร่งส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการดูแลรักษาด้วย HI&CI และการจัดการเตียงสาหรับผู้ป่วยอาการหนัก ภาคกลางและ
ภาคตะวันออกยังคงพบผู้ติดเช้ือในโรงงาน สถานประกอบการจานวนมาก ผู้ประกอบการจึงให้พนักงานตรวจ
ATK ภาคใต้และชายแดนใต้พบการระบาดในชุมชนสายพันธ์ุ Beta เสนอพิจารณาฉีดวัคซีนชนิด mRNA
ในกล่มุ เสี่ยง 608 เพื่อควบคุมการระบาดในพ้นื ที่นกี้ อ่ น
 เสนอพจิ ารณาเร่งบริหารจัดการความวิตกกังวลของผูท้ ่ีตรวจพบ ATK เปน็ บวกโดยเฉพาะพนักงานโรงงาน
สถานประกอบการ โดยจะให้ประวัติว่ามอี าการป่วยเพือ่ ขอตรวจ RT-PCR และเข้ารบั การรกั ษาในโรงพยาบาล
 เสนอพจิ ารณายกเลิกมาตรการ ATK ในจังหวัดท่ไี ม่สามารถดาเนินการ BB&S และ HI&CI+CCRT
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ศึกษาข้อมูลในกรณี Freedom Day ของสหราชอาณาจักร ซ่ึงมีมาตรการการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
(Herd Immunity) ดว้ ยวธิ ีผสมผสานระหว่างการฉดี วัคซีน รวมถึงศึกษาความเสีย่ งในการกลายพนั ธุ์ของไวรสั
 พิจารณาการนาเสนอข้อมูลผู้ป่วยติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ท่ีเสียชีวิต กับประวัติการได้รับวัคซีน
เพอื่ สอ่ื สารประชาสมั พันธ์ขอ้ มลู สร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นกบั ประชาชน

-2 -
 พจิ ารณาจดั ทา Flow แนวทางหลังการตรวจด้วย ATK สาหรับประชาชนในการเข้าถงึ ระบบการดแู ลรกั ษา
 พิจารณาจัดทาแนวทางหลังการตรวจด้วย ATK สาหรับสถานประกอบการ โดยร่วมกับ
กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เพ่ือใหม้ ีกลไกการบริหารจดั การทม่ี ีประสิทธิภาพ
 กรมควบคุมโรคพิจารณาประเมินผลการดาเนินงานหลังมาตรการ Lock down เพื่อเสนอมาตรการ
เพมิ่ เติมในการควบคุมโรคให้มีประสิทธภิ าพยิ่งขึน้ และเสนอต่อท่ปี ระชุมศูนย์บริหารสถานการณโ์ ควดิ (ศบค.) ต่อไป
 พิจารณาจัดทาระบบการติดตามมาตรการหลักของกระทรวงสาธารณสุข ดังน้ี การบริหารจัดการเตียง
การจัดสรรยาและการฉีดวัคซีน รวมท้ังติดตามมาตรการ Home Isolation/ Community Isolation และการ
ดาเนนิ งานของทมี CCRT ในพ้ืนทกี่ ารระบาด เพอื่ ควบคุมกากบั การดาเนนิ งานอย่างเปน็ ระบบ
 มอบกรมสนับสนุนบริการสุขภาพพิจารณาการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติมในประเด็นการคุ้มครอง
บุคลากรทางการแพทย์สาหรบั การปฏิบตั ิงานตามข้อส่งั การในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ
กำรฉีดวคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ.–25 ก.ค. 64) รวม 15,960,778 โดส
เพ่ิมข้ึน 90,934 โดส จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 12,307,788 โดส จานวนผู้ได้รับวัคซีน
เขม็ ที่ 2 จานวน 3,652,990 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
25 ก.ค. 64 จานวน 988,788 โดส เพิม่ ขนึ้ ประจาวนั 27,218 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เน้นย้าให้สถานพยาบาลทุกแห่ง ชี้แจงข้อมูลกับประชาชน สาหรับแนวทางและประสิทธิภาพ
การฉดี วคั ซีนแบบสลับ (Sinovac + AstraZeneca) เพื่อสร้างความเข้าใจทถี่ ูกต้องและเข้ารบั การฉีดวัคซีนมากข้ึน
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขกาชับการลงข้อมูลการฉีดวัคซีนในระบบให้สอดคล้องกับ
จานวนวคั ซนี ทีไ่ ด้รบั การจัดสรรรายสปั ดาห์ เพ่ือการบรหิ ารจัดการวคั ซีนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
 สานักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนประจาเดือน และรายงานผลการ
ฉีดวคั ซนี ประจาวัน เพ่อื สรุปผลการดาเนนิ งานของจังหวดั และดาเนินการฉีดวคั ซีนตามเปา้ หมาย
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมข้ึนทุกระดับอย่างต่อเน่ือง เตียงผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงอยู่ระดับวิกฤต
ระบบ Home Isolation ชว่ ยดูแลกลมุ่ ผปู้ ่วยสีเขียวไดด้ ขี นึ้
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวที่บ้าน (Home Isolation) กรมการแพทย์ (25 ก.ค. 64)
ผ้ปู ่วยเขา้ รบั การรักษาใหม่ 178 ราย ผู้ปว่ ยสะสมทัง้ หมด 2,436 ราย
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณาการจัดทา Dash Board รายงานสถานการณ์ประจาวันของเขตสุขภาพทุกแห่ง และเพ่ิมเติม
ข้อมูลจานวนผู้ป่วยท่ีเข้ารับการรักษาท่ีโรงพยาบาลสนาม การตรวจด้วย ATK และผู้ป่วยท่ีดาเนินการตามมาตรการ
Home Isolation/ Community Isolation เพอื่ การบรหิ ารจัดการอยา่ งมีประสิทธิภาพ
 กรมการแพทย์ร่วมกับสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อยู่ระหว่างดาเนินการรวมสายด่วน
Call Center เป็น 1330 เบอร์เดียว เพ่ือปอ้ งกันการสับสนของประชาชน
 กรมการแพทย์พิจารณา กาหนดหลักเกณฑ์ (Trigger point) สาหรับกรณีสถานพยาบาลให้บริการ
เต็มศกั ยภาพในพ้ืนท่ีต่างจังหวดั ใหด้ าเนินการตามแนวทาง Home Isolation/ Community Isolation
 พิจาณาเพิ่มการ walk in สาหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ครอบคลุมทุกจุดบริการฉีดวัคซีน
ทั้ง 25 แหง่ ในพนื้ ทีก่ รุงเทพมหานคร เพ่ือใหส้ ามารถฉีดวัคซนี ได้จานวนมากขน้ึ

กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำสง่ ผปู้ ว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ ุกเฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง โดยศูนย์นเรนทร วันท่ี 25 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 196 ราย
ผปู้ ่วยปฏิเสธการนาส่ง 18 ราย อื่นๆ 3 ราย จานวนปฏิบตั ิการ 62 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 33 ทีม แบ่งเป็น
EMS ในระบบ/อาสา 33 ทีม

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏิบัติกำรฉกุ เฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 283
ประจำวันที่ 27 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศ์รจติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรอ่ื งเพอื่ ทรำบ
 สถานการณก์ รุงเทพมหานครถึงจุดสงู สุดของการแพร่ระบาด คาดการณ์วา่ หลงั จากน้ีจะมีทิศทางท่ีดีขึ้น
ส่วนต่างจังหวัดมีการควบคุมการแพร่ระบาดได้ค่อนข้างดี โดยเตรียมโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วย
และระบบ Home Isolation: HI & Community Isolation: CI จงึ คาดการณ์วา่ จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
 การใช้ Antigen Test Kit: ATK สามารถลดการใช้บริการ ณ จุดตรวจได้ดี ท้ังน้ี กรมควบคุมโรคควรพิจารณา
กาหนดแนวทางการใช้ ATK อาทิ ผลการตรวจเป็น Positive ตอ้ งทาซ้าหรือไม่ และสามารถใช้ต่างชนิดกันได้หรือไม่
รวมถึงกาหนด Criteria การติดเชอื้ จากผลการตรวจ
 ใหพ้ ิจารณาแก้ไขปญั หาจานวนวัคซีนมากกว่าจานวนจดั สรร เน่ืองจากมีการลงข้อมลู ซา้ ซอ้ นระหว่าง
จังหวดั และอาเภอ และปญั หาการไม่ลงขอ้ มลู จานวนการฉีดวคั ซีนในระบบ
 วันน้ี เวลา 11.30 น. ปลดั กระทรวงสาธารณสุข นัดประชุมหารือประเด็นปัญหาอุปสรรคและการแก้ไข
ในการควบคมุ สถานการณ์รว่ มกับผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ ทุกเขตสุขภาพ
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควดิ -19มีแนวโน้มสูงขึ้นในพ้ืนท่ีต่างจงั หวัดจากผู้ติดเชอื้ เดินทางกลับภูมิลาเนาจากพื้นทร่ี ะบาด
เพ่อื เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การระบาดภายในหลายจงั หวดั ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ อยู่ในการควบคมุ
 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวโน้มจานวนผู้ติดเชื้อคงตัว แต่ยังพบผู้เสียชีวิตจานวนมาก
เร่งส่งผูป้ ว่ ยเข้ารบั การดแู ลรักษา ดว้ ย HI & CI และการจดั การเตียงสาหรบั ผูป้ ว่ ยอาการหนัก
 ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังพบผู้ติดเช้ือในโรงงาน สถานประกอบการจานวนมาก ผู้ประกอบการ
ให้พนักงานตรวจ ATK เร่งสื่อสารให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แรงงาน-อุตสาหกรรมจังหวัด สร้างความเข้าใจกับ
ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ จ.ฉะเชงิ เทรา และ จ.ชลบรุ ี
 ภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง พบผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มมากขึ้น เน้นกากับการกักตัวผู้เดินทาง
เข้าจังหวัดให้เข้มขึ้น และกักตัวผู้ลักลอบเข้าประเทศ รวมทั้งส่ือสาร Bubble & Sealed: BB & S โรงงาน
ใกลเ้ คียงในพ้ืนที่ จ.เพชรบรู ณ์
 ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในชุมชน ตอ่ เนอื่ ง
 ประสาน ศปก.ศบค. ให้หน่วยงานที่เก่ียวข้อง อาสาสมัครร่วมกันจัดหาอาหารและยาให้กับกลุ่ม
เปราะบาง 608 รวมท้งั ประสานเพอื่ ใหไ้ ด้รบั การฉีดวัคซีนครบถว้ น
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เนอ่ื งจากพบปัญหาการบันทึกข้อมูลผปู้ ่วยทน่ี าสง่ กลับไปรักษาภมู ิลาเนาซ้าซ้อนระหวา่ งต้นทางและปลายทาง
ให้พจิ ารณาตรวจสอบขอ้ มลู และนาเขา้ ขอ้ มลู ท่ชี ัดเจน
 ประสาน จ.ภูเก็ต รวบรวมและบันทึกข้อมูลจานวนนักท่องเที่ยวท่ีเข้าจังหวัด ได้แก่ จานวนผู้ได้รบั วคั ซีน
จานวนเขม็ ชนิดวคั ซนี และจานวนผูต้ ิดเช้ือ เพอื่ ศกึ ษาและวิเคราะห์ข้อมูล

-2 -
 สานักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสื่อสารกับผู้ว่าราชการจังหวัด และสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ
ในการควบคมุ การแพร่ระบาดตามมาตรการ BB & S
 ผ้ปู ่วยท่ีกลบั ไปรักษาภูมลิ าเนาให้เข้ารับบรกิ าร ณ จุดแรกรบั /ระบบ CI ก่อนทกุ จังหวดั เพือ่ ลดการแพร่ระบาด
วนั นี้ เวลา 15.30 น. ปลัดกระทรวงสาธารณสุขนดั ประชุมกับจังหวัด กรณี ทบทวนการนาส่งผปู้ ่วยกลับภูมิลาเนา
 พิจารณากาหนด Protocol การเดินทางกลับบ้าน ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และ อสม.
ดาเนินการตรวจสอบ คัดกรองผูเ้ ดนิ ทางมาจากต่างถิ่นให้กักตวั และปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครดั
 กรุงเทพมหานคร เร่งรัดการตรวจ ATK เชิงรุกให้ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยยุทธศาสตร์ “ตรวจให้เจอ
แยกผู้ป่วยให้ได้ จ่ายยาในรายท่ีเหมาะสม และฉีดวัคซีน” เป้าหมายประชากรไม่น้อยกว่า 500,000 คน
มอบกรมควบคุมโรค สนับสนุนวคั ซนี สาหรับการดาเนินงาน
 จัดทาความสมั พันธข์ อง Timeline จานวนผปู้ ว่ ยกบั อัตราการฉดี วคั ซนี และมาตรการทางสาธารณสุข
กำรฉดี วคั ซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 26 ก.ค. 64) รวม 16,099,670 โดส
ความครอบคลุม ร้อยละ 17.26 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 12,429,925 โดส
จานวนผูไ้ ด้รับวคั ซีน เข็มท่ี 2 จานวน 3,669,745 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
26 ก.ค. 64 จานวน 1,018,800 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 กรมควบคุมโรคกาหนดเป้าหมายการฉีดวัคซนี ตามยทุ ธศาสตร์การฉดี วัคซีนใหไ้ ด้ 50% ภายใน 30
ส.ค. 64 เพื่อใหจ้ งั หวดั กากับตดิ ตามการฉีดวัคซนี ตามเป้าหมาย
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมข้ึนทุกระดับสีอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยสีเหลืองและแดงอยู่ในระยะวิกฤติ
ระบบ Home Isolation ช่วยดูแลกลุม่ ผู้ป่วยสเี ขยี วได้ดีขนึ้
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค. 64) จานวนผู้ป่วยใน
ทัง้ สน้ิ 206 ราย ผปู้ ว่ ยเข้ารบั บริการสะสม 6,693 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวท่ีบ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 26 ก.ค. 64) เขา้ รับการรกั ษาใหม่วนั น้ี 162 ราย ผู้ปว่ ยสะสมทัง้ หมด 2,598 ราย
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบกรงุ เทพมหานคร นาเสนอข้อมลู จานวน ปัญหาอปุ สรรค และข้อดีของการทาระบบ CI
 วันน้ี เวลา 14.00 น. นายกรฐั มนตรี เชญิ ผเู้ กีย่ วขอ้ งประชุมผา่ นทางออนไลน์ กรณี ศนู ย์ฉีดวคั ซนี กลางบางซื่อ
คณะกรรมการยาฟ้าทะลายโจรแห่งชาติ โดย กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก :
 นายกรัฐมนตรี อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพ่ือศึกษาการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19
โดยมอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
และใหบ้ รู ณาการการดาเนนิ งานระหว่างกระทรวงยตุ ิธรรมและกระทรวงสาธารณสขุ
กำรติดตำมสถำนกำรณ์ COVID-19 รำยจงั หวัด ตำมยทุ ธศำสตร์กำรจัดกำรกำรระบำดของ COVID-19
สัปดำห์ท่ี 31 (16 - 22 ก.ค. 64) :
 Detected Cases ทงั้ ประเทศ 9.42% และ Death Cases ทั้งประเทศ 0.86%
กำรวิเครำะหแ์ นวโน้มสถำนกำรณแ์ ละกำรคำดประมำณผลกระทบจำกมำตรกำรควบคุมโควดิ -19 :
 ในระดับประเทศ แนวโน้มจานวนการติดเช้ือมีจานวนสูงขึ้นแต่อัตราช้าลง ค่า Reproductive
number ยังสูงกว่าหนึ่ง โดยมาตรการฉีดวัคซีนกลุ่มสูงอายุจะช่วยลดการเสียชีวิตลงได้ดีท่ีสุด สาหรับการลด
จานวนผตู้ ดิ เชื้อรายวัน กลยทุ ธ์การฉดี วัคซีนจะไมไ่ ดท้ าให้เห็นผลเร็ว และต้องรอเวลาไปอกี ระยะหนง่ึ พอสมควร
 หากเพ่มิ เติมมาตรการการควบคุมโรคอ่นื ๆ รวมทงั้ มาตรการลดการสัมผัสให้มีประสทิ ธิภาพสูงข้นึ จะช่วยลด
จานวนผู้ติดเชื้อใหม่ และผู้เสียชีวิตได้เร็วข้ึนกว่าเดิม โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครท่ีขณะน้ีภาระการดูแลผู้ป่วยอาการ
รุนแรงและผ้ปู ่วยท่ัวไปเกินศักยภาพระบบสาธารณสุขที่รองรับ แม้วา่ พืน้ ทต่ี า่ งจังหวดั จะไดช้ ่วยแบ่งเบาภาระไปแลว้
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาจัดทา Infographic การคาดการณ์สถานการณ์ การฉีดวัคซีนใน 608 เพ่ือลดการเสียชีวิต
และการตดิ เชื้อ สาหรับสอื่ สารประชาสมั พนั ธ์ขอความร่วมมือประชาชนใหก้ ารปฏบิ ัติตามมาตรการภาครัฐ
กำรปฏิบัติกำรนำส่งผ้ปู ว่ ย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทย์ฉกุ เฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการนาส่งรพ.ปลายทาง วันท่ี 26 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 125 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
16 ราย อน่ื ๆ 1 ราย จานวนปฏิบตั กิ าร 51 เท่ียว
 ผลการนาส่งกลบั ภมู ลิ าเนา (21 - 26 ก.ค. 64) สง่ กลบั สาเร็จ 30 ราย รอนาสง่ 357 ราย ปฏเิ สธ 155 ราย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏิบัตกิ ำรฉุกเฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 284
ประจำวนั ท่ี 28 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.45 น.
ประธำน : นำยแพทยย์ งยศ ธรรมวุฒิ รองปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคญั
เรื่องเพื่อทรำบ
 มอบนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ประสานงานหลักในการ
จัดทา Protocol การนาส่งผู้ปว่ ยกลบั ภูมิลาเนาอยา่ งปลอดภัย
 ทบทวนการเพ่ิมจุดฉีดในกรุงเทพมหานคร และปรับระบบการรับวัคซนี ที่ศูนย์ฉีดวคั ซีนกลางบางซื่อ
เพอื่ ลดความแออัด
 ดาเนินการปรับปรงุ ความสะอาดห้องนาของโรงพยาบาลบุษราคมั
 การเพิ่มค่าตอบแทนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ท่ัวประเทศ มอบรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ทเ่ี กย่ี วข้องดาเนนิ การ
 ดาเนนิ การปรบั ปรุงแนวทางการใช้ Antigen Test Kit: ATK ให้ชดั เจน
 ศาสตราจารย์ คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ได้เสนอให้จัดทามติที่ประชุม EOC
และส่อื สารเพือ่ ให้การปฏิบตั งิ านเป็นไปในทศิ ทางเดียวกัน
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลมุ่ ภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงขึนในพืนที่ต่างจังหวัด ซึ่งมาจากผู้ติดเชือเดินทางกลับ
ภูมิลาเนาจากพืนท่ีมีการระบาด ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังพบผู้ติดเชือในโรงงาน ภาคเหนือพบผู้ป่วย
อาการหนักเพ่ิมขึน เน้นกากับการกักตัวผู้เดินทางและผู้ลักลอบเข้าประเทศ พร้อมทังรองรับผู้ป่วยที่เดินทาง
กลับภูมิลาเนา ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในชุมชนต่อเน่ือง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีรายงานจานวนผู้ติดเชือเพิ่ม และพบการเสียชีวิตในกรุงเทพมหานคร ต้องเร่งส่งผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาด้วย
Home Isolation: HI & Community Isolation: CI และการดแู ลผปู้ ่วยผ้ปู ่วยตดิ เตียง
 เสนอแนวทาง “จัดกลุ่ม คุมไว ลดกระจาย รายได้ไม่สูญเสีย” เพื่อควบคุมโรคในโรงงานและสถาน
ประกอบการ
กำรฉีดวัคซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวคั ซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 28 ก.ค. 64) รวม 16,427,059 โดส
เพิ่มขึน 327,389 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 17.65 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน
12,714,312 โดส จานวนผ้ไู ด้รบั วัคซีน เขม็ ท่ี 2 จานวน 3,712,747 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
28 ก.ค. 64 จานวน 1,050,473 โดส เพิม่ ขนึ ประจาวนั 31,670 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาการจัดทา Protocol เพ่ือควบคุมการระบาดในสถานประกอบการ พร้อมเร่งฉีดวัคซีน
ในพนื ทร่ี ะบาดใหไ้ ดม้ ากกวา่ ร้อยละ 60 พร้อมทงั กาหนดแนวทางการจ่ายยาแกก่ ลุ่ม Home Isolation: HI ใหช้ ัดเจน

-2 -
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มขึนทุกระดับสีอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงอยู่ในระยะวิกฤติ
เร่งเชื่อมข้อมลู ผลการตรวจ Antigen Test Kit: ATK และจานวนผู้ป่วย Home Isolation: HI & Community
Isolation: CI ในระบบ Co-link และระบบ Coward เบืองต้นได้มีการจัดทาแนวทางการบูรณาการข้อมูล เพ่ือ
การควบคมุ และรักษาพยาบาล และประสานศนู ย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สานักงานปลัดกระทรวง
สาธารณสขุ เพ่อื ดาเนินการ
จากปฏิบัติการแพทยช์ นบทบกุ กรุง สูบ่ ทบาท สธ. ในการกกู้ รงุ เทพมหานคร :
 ได้มีการปฏิบัติการร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันท่ี 14-16 ก.ค. และ 21-23 ก.ค. 64
มีแผนปฏิบัติการวันที่ 4-10 ส.ค. 64 โดยได้ดาเนินการลงพืนที่ในการตรวจเชิงรุกด้วย Rapid Test
ในชุมชนแออัด เร่งรักษา ทาการ Lockdown บางจุด และให้วัคซีนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผลท่ีได้ คือ ทาให้พบจุด
ทร่ี ะบาดและพบผ้ปู ว่ ยไดเ้ ร็ว สามารถลดอัตราการใชเ้ ตยี ง ลดอตั ราผู้ป่วยอาการรนุ แรง ลดอตั ราผ้เู สียชวี ติ ได้
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 กรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์พรอ้ มสนบั สนนุ การตรวจสอบการเกดิ False Negative
 เสนอพิจารณาให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องจัดทาเกณฑ์การจ่ายยา Favipiravir เพ่ือการรักษาท่ีมี
ประสิทธิภาพและไม่เกดิ ภาวะดือยา
รำยงำนกำรบริหำรจดั กำรสถำนกำรณโ์ รคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร :
 สถานการณ์ปัจจุบันยังพบการระบาดในพืนที่จานวน 105 Cluster การทา Home Isolation: HI
ให้มีการส่งอาหารและยารักษาโรคไปตามบ้านผู้ป่วย และ Bangkok CCR-Team ท่ีดาเนินการตรวจเชิงรุก
ฉีดวัคซีน ให้ความรู้ จ่ายยารักษาโรคให้กับผู้ป่วยและผู้กักตัวตามบ้าน ซึ่งลงพืนท่ีในชุมชนสะสม จานวน
1,599 แหง่ จากแผน 1,878 แห่งของเดือน ก.ค. นี มผี ไู้ ด้รบั บริการแลว้ จานวน 75,074 ราย
 สรุปผลการตรวจประเมินแคมป์ก่อสร้าง พบว่า ตรวจสอบแคมป์จานวน 426 แห่ง จากจานวน
621 แหง่ ผ่านเกณฑ์ 361 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 65 แหง่
 รายงานการฉีดวัคซีนในพืนที่กรุงเทพมหานคร (28 ก.พ.–28 ก.ค. 64) จานวนผู้ได้รับวัคซีน
เขม็ ท่ี 1 จานวน 4,540,215 โดส จานวนผไู้ ดร้ ับวคั ซนี เขม็ ท่ี 2 จานวน 1,013,191 โดส
เสนอแนวทางการดาเนนิ งาน Comprehensive Covid-19 Response Team (CCR team) :
 การดาเนินงานมีภารกิจดังนี ลงพืนที่ดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว และผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดงท่ีกลับจาก
โรงพยาบาล ให้การรักษา ค้นหาคัดกรอง และฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง ซึ่งในทีมประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล
นักวิชาการสาธารณสุข เครือข่ายประชาชน เจ้าหน้าท่ีกรุงเทพมหานคร และทหาร กาหนดเป้าหมายให้มี
CCR team จานวน 10 ทีม หน่วยบริการปฐมภูมิ จานวน 178 ทีม และคลินิกชุมชนอบอุ่น ต้องการงบประมาณ
และการสนบั สนนุ ทรัพยากรยาและเวชภัณฑต์ ่างๆ จากสานกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ (สปสช.)
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ขอสนับสนนุ ทมี แพทย์เพ่ิมเติมเพอ่ื รองรับการดแู ลกลุ่ม Home Isolation: HI ทเ่ี พม่ิ จานวนขึน
 เสนอใหก้ รงุ เทพมหานครรายงานความคบื หนา้ การดาเนนิ งาน CCR team สปั ดาหล์ ะ 2 ครงั
 ให้ดาเนินการประชาสัมพันธ์การดาเนินงานของ CCR team แก่ประชาชน และดาเนินการจัดทา
Community Isolation: CI เพอ่ื รองรบั ผูป้ ่วยท่ีไม่สามารถทา Home Isolation: HI ได้
คำดกำรณสถำนกำรณกำรระบำด COVID-19 ของประเทศไทย ระหว่ำง ส.ค. – ธ.ค. 2564 :
 สรุปผลการศึกษาการคาดการณ์การระบาดทัง 6 ฉากทัศน์ พบว่า นโยบาย Lockdown ส่งผลต่อ
การลดผู้ติดเชือใหม่ในระยะยาว การ Lockdown 1 เดือน คาดว่าจะชะลอการใช้ทรัพยากรสูงสุดถึงต้นเดือน
ต.ค. ส่วนการ Lockdown 2 เดือน คาดว่าจะชะลอการใช้ทรัพยากรสูงสุดถึงต้นเดือน พ.ย. หากมาตรการ
Lockdown ได้ผล จะสามารถชะลอจุดสูงสุดการใช้ทรัพยากรได้ประมาณ 2 สัปดาห์ และถ้าร่วมกับการ
ฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจต่ากว่า 1,500 เคร่ืองต่อวัน
และผู้เสียชีวิตไม่เกนิ 200 คนต่อวนั ไปถึงเดือน ธ.ค.
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอพิจารณาขยายเวลาการ Lockdown พร้อมทังเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมาย ยกระดับความ
เขม้ ข้นของมาตรการในโรงงานใหเ้ ขม้ งวด
 ตรวจสอบติดตามความสอดคล้องผลการดาเนินงานในการควบคุมโรคกับฉากทัศน์ พร้อมทัง
ประชาสมั พนั ธ์แกป่ ระชาชน เพอ่ื ความร่วมมือในการควบคุมโรค
กำรปฏบิ ัติกำรนำสง่ ผู้ป่วย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 27 ก.ค. 64 นาส่งได้ 166 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 3 ราย
อื่นๆ 2 ราย จานวนปฏิบัติการ 50 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 10 ทีม ผลการส่งกลับภูมิลาเนา นาส่งสาเร็จ
56 ราย ผ้ปู ่วยปฏิเสธการนาสง่ 315 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ัตกิ ำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ท่ี 285
ประจำวนั ท่ี 29 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศร์ จติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคญั
เรื่องเพื่อทรำบ
 วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 นายกรัฐมนตรีหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพ้ืนท่ีสีแดงเข้มและ
ควบคมุ สงู สุด 13 จงั หวัด พร้อมให้กาลังใจ และสนบั สนุนงบประมาณอย่างเตม็ ที่
 วันท่ี 30 กรกฎาคม 2564 วคั ซนี Pfizer 1.5 ล้านโดสจะมาถงึ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียติ ชี้แจงเกณฑพ์ จิ ารณาไม่ใส่ทอ่ ช่วยหายใจผปู้ ว่ ยโควดิ -19
เพ่ือเป็นการปรบั เข้ากับสภาพทรพั ยากรที่มีอยู่อยา่ งจากัด โดยจะใช้ผ้ปู ่วยที่มลี กั ษณะเฉพาะเท่าน้นั
 พิจารณาจัดลาดับความสาคัญในการฉีดวัคซีน ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ (Central Vaccination
Center) โดยเรง่ ฉดี ในกลมุ่ ผู้สูงอายุ และกลมุ่ โรคเรอื้ รงั 7 โรค
 พิจารณาการเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (Covax) โดยตามหลักเกณฑ์ของปี 2564 ประเทศไทยเป็น
ประเทศรายได้ปานกลางถึงสูง หากจะเขา้ รว่ มต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยจะมีการประชมุ ปรึกษาหารือกนั ภายในวนั น้ี
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงข้ึนในพ้ืนที่ต่างจังหวัด จากผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลาเนา
จากพ้ืนท่รี ะบาด เพื่อเข้ารบั การรกั ษาในโรงพยาบาล
 กรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล มรี ายงานจานวนผูต้ ิดเชอ้ื เพ่ิมขึน้ แนวโน้มยังอยใู่ นเกณฑส์ งู คงตวั
 เรง่ กากับติดตามมาตรการการรวมกลมุ่ คนมากกวา่ 5 คน ในพน้ื ท่ีควบคมุ สงู สุดแลเข้มงวด รวมทัง้
มาตรการ DMHTT ณ สถานท่ีฉีดวัคซนี
 ภาคกลางและภาคตะวันออก ยงั พบผู้ติดเช้ือในโรงงาน สถานประกอบการจานวนมาก เสนอใช้
มาตรการทางกฎหมาย เพื่อการปอ้ งกันควบคมุ โรคในสถานประกอบการ พรอ้ มทีมให้คาแนะนา BB&S
 ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง พบผู้ป่วยอาการหนักเพ่ิม
มากขึ้นเนน้ กากบั การกักตวั ผเู้ ดนิ ทางเข้าจังหวัดใหเ้ ขม้ ข้นึ รวมทั้งเตรียมรองรบั การเดนิ ทางของผปู้ ่วยอาการ
ปานกลางกลับไปรักษาพยาบาลเพมิ่ ข้นึ
 ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในตลาด ชุมชนตอ่ เนอื่ ง
ข้อเสนอแนะจำกทีป่ ระชุม :
 เสนอเพอ่ื การควบคุมโรคในโรงงาน และสถานประกอบการ ด้วยมาตรการ BB&S + Early Control
(จดั กลมุ่ -คมุ ไว-ลดกระจาย-รายได้ไมส่ ูญเสีย)
 ส่งเสริม สนับสนุน อุปกรณ์และงบประมาณ สาหรับโรงงานขนาดเล็ก หรือโรงงานท่ีมีมาตรการ
ควบคมุ โรคท่ีดี ภายใต้การกากับดูแลของทมี พเ่ี ลี้ยง

-2 -
กำรฉดี วคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 28 ก.ค. 64) รวม 16,591,329 โดส
เพ่ิมขึ้น 164,270 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 17.85 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน
12,858,570 โดส จานวนผู้ได้รับวัคซนี เขม็ ที่ 2 จานวน 3,732,759 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
28 ก.ค. 64 จานวน 1,075,304 โดส เพ่ิมข้ึนประจาวัน 24,831 โดส
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาเร่ืองการติดธงขาวบริเวณบ้าน สาหรับผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้วัคซีน เพ่ือเพ่ิมความรวดเร็ว
ในการดาเนินงานของเจ้าหน้าที่
สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผูป้ ่วยเพิ่มขึ้นทุกระดับสอี ย่างตอ่ เนื่อง จานวนเตียงแดงและเหลอื งอยู่ในภาวะวกิ ฤต
ดาเนินการรวบรวมจานวนผู้ป่วย Probable cases และ Confirmed cases ในระบบ Home Isolation และ
Community Isolation เพือ่ ใหท้ ราบถึงสถานการณ์ทแ่ี ทจ้ ริง
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 28 ก.ค. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารับ
บรกิ ารสะสม 6,841 ราย จานวนผปู้ ่วยวนั น้ี 70 ราย
ผลการสารวจทศั นคติความเหน็ ของประชาชน DDC Poll เรือ่ งวคั ซนี โควดิ -19 ในพนื้ ท่ีกรุงเทพมหานคร :
 ผู้ตอบแบบสารวจร้อยละ 76.5 ได้รับวัคซีนแล้วและมีอีกร้อยละ 23.5 ยังไม่ได้รับวัคซีนโดยเป็น
วัคซีนเข็ม 1 ร้อยละ 44, ครบ 2 เข็ม ร้อยละ 32.3 และ เข็ม 3 ร้อยละ 0.3 โดยผู้ที่ได้ฉีดแล้ว 47.3%เปน็
AstraZeneca 28.3%เป็น Sinovac และ 1% เปน็ Sinopharm
 การเข้าถึงบริการฉีดวัคซีนผา่ นทางช่องทางดังน้ี ประกันสังคม/โควตาหน่วยงานร้อยละ 32.1 หมอ
พร้อมร้อยละ 19.5 และไทยร่วมใจ ร้อยละ 11.4 ซึ่งกว่าครึ่งได้ตอบแบบสอบถามว่าเข้าระบบการจองยาก
(59.1%)และมอี กี สว่ นหนึ่งยังไมไ่ ด้ลองเข้าไปทาการจองฉีด (22%)
 เม่ือถามถึงชนิดวัคซีนท่ีคนกรุงเทพต้องการ มากสุด (46.3%) เป็น Pfizer,อันดับสองคือ
Moderna(27.5%),อันดับสาม คือ Johnson&Johnson(9.3%) ที่เหลือคือย่ีห้ออะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีดใน
สถานการณ์ทีค่ นติดเชอ้ื มปี รมิ าณมาก(2.8%)
 ผู้ตอบแบบสอบถาม79 % จะไปฉีดวัคซีนเนื่องจาก 1)เพื่อให ต้ ัวเองมีภูมิคุ้มกัน 2)กลัวติดเช้ือโควิด
3)อยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ4)กลัวป่วยแล้วรัฐไม่ช่วยและ 5)ลงทะเบียนโอนเงินไปแล้ว อีก 21% ที่ไม่อยากไปฉีด
สาเหตจุ าก 1)กลวั ผลขา้ งเคียงของวัคซีนท่ีมีอยู่ 2)อยากฉดี วคั ซีนทางเลือกทม่ี ีประสิทธิภาพแตย่ งั ไมเ่ ข้ามาในไทย
 ความวิตกกังวล ในสถานการณ์ของการระบาดในขณะนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 80% มีความวิตก
กังวลมากโดยสาเหตุ ได้แก่ กลัวติดโควิด รายได้ลดลง ด้านการเรียนไม่ต่อเน่ือง กังวลเร่ืองผลข้างเคียงวัคซีน/ได้
วคั ซนี ที่ไม่มปี ระสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอแนะให้ดาเนินการสารวจความเห็นของประชาชนเร่ืองวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 สัปดาห์/ครั้ง
เพ่อื การจัดการข้อมลู ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ
ขอ้ เสนอแผนการจัดสรรวัคซีนโควิด - 19 เดือนสิงหาคม 2564 :
 เป้าหมายให้บริการวัคซีน 10 ล้านโดส ในเดือนสิงหาคม 2564 โดยพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับ
ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยโรคเร้ือรัง/หญิงต้ังครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ข้ึนไปเป็นเป้าหมายหลักเพื่อลดอัตราการ
ปว่ ยรุนแรงและเสียชวี ติ
 จานวนประชากรที่นามาคานวณมาจากฐานข้อมลู ประชากรจากทะเบียนบ้านและประชากรแฝง
 มีเปา้ หมายฉดี ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของจานวนประชากรจากทะเบยี นบ้านและประชากรแฝง
ทกุ กลุ่มอายุในแต่ละจังหวัด ท้งั ผ้มู สี ัญชาติไทยและไมม่ ีสญั ชาตไิ ทย ภายในปี 2564
 เป้าหมายใหบ้ ริการวคั ซีน 10 ลา้ นโดส ในเดือนสงิ หาคม 2564 โดยจดั ลาดบั ความสาคญั เร่งฉีดใน
กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มโรคเร้ือรัง 7 โรค และหญิงต้ังครรภอ์ ายุครรภ์ 12 สัปดาห์ข้ึนไป เพื่อลดการป่วยรุนแรงและ
เสยี ชีวิต และเพ่ิมกลุ่ม อาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมบู่ ้าน (บุคลากรดา่ นหนา้ )
 กรณีจดั หาวคั ซีนไดน้ ้อยกวา่ 10 ล้านโดส จานวนทจ่ี ดั สรรจะลดลงตามสดั ส่วนวัคซนี ทจ่ี ดั หาได้
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 แผนการจัดสรรวัคซีนลงพื้นท่ีข้ึนกับสถานการณ์การระบาดของโรคและปริมาณวัคซีนท่ีส่งมอบจาก
บริษัทผู้ผลิต เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนท่ีมีมีประสิทธิภาพรวดเร็วและท่ัวถึง ซ่ึงจะนาข้อมูลเร่ืองนี้ไปนาเสนอใน
ท่ีประชมุ ศนู ย์บรหิ ารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ตอ่ ไป
กำรปฏิบตั กิ ำรนำส่งผปู้ ่วย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 28 ก.ค. 64 นาส่งได้ 232 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 3 ราย
อื่นๆ 1 ราย จานวนทีมปฏิบัติการ 79 ทีม ผลการส่งกลับภูมิลาเนา นาส่งสาเร็จ 85 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
24 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏิบตั ิกำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังท่ี 286
ประจำวันที่ 30 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.55 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศร์ จิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคญั
เรือ่ งเพื่อทรำบ
 วนั ที่ 30 กรกฎาคม 2564 ประเทศไทยไดร้ บั วคั ซีน Pfizer จานวน 1.5 ลา้ นโดส และมอบกรมควบคุมโรค
ใหค้ าแนะนาวธิ ีการฉดี วัคซีนดังกล่าว
 วันท่ี 29 กรกฎาคม 2564 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หารือ
ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดังนี้ 1) จัดทาแอพพลิเคช่ัน Exposure Notification Express
(ENX) เพือ่ ติดตามและแจง้ เตอื นเมอื่ ใกลช้ ิดกับผตู้ ิดเชื้อในพน้ื ท่ีดังกล่าว 2) ทบทวนการใช้มาตรการ BB&S และ
3) เสนอให้กระทรวงสาธารณสขุ จดั สรรวัคซนี ให้กบั สภาอุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทยเพิ่มเติม
 วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขหารอื ร่วมกับผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวง
สาธารณสุข เพ่ือพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัดอย่างเหมาะสม โดยภายในเดือน ส.ค. 64 กระทรวง
สาธารณสขุ มแี ผนนาเขา้ วัคซนี จานวน 10 ล้านโดส
 เรง่ ประชาสัมพนั ธใ์ ห้ประชาชนเขา้ ใจแนวโนม้ สถานการณ์ปจั จุบนั เพอ่ื ลดความตน่ื ตระหนก
 วันน้ี (30 กรกฎาคม 2564) เวลา 10.00 น. ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะประชุมทางไกลกับ
ภมู ภิ าค เพ่อื เตรียมรับสถานการณก์ ารแพร่ระบาด การควบคุมโรค ป้องกัน รกั ษา การบริหารจัดการวคั ซีน และ
การฉดี วัคซนี ใหก้ ับประชาชน
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงขึ้นในพ้ืนท่ีต่างจังหวัด จากผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลาเนา
จากพ้ืนที่ระบาด เพอ่ื เขา้ รบั การรักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
 กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล แนวโน้มยังพบผตู้ ิดเชื้อรายใหม่อยใู่ นเกณฑส์ ูงคงตวั
 เร่งกากับติดตามมาตรการการรวมกลุ่มคนในพ้ืนท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมท้ังมาตรการ
DMHTT ณ สถานทฉี่ ดี วคั ซีน
 ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังพบผู้ติดเช้ือในโรงงาน สถานประกอบการจานวนมาก เสนอใช้
มาตรการทางกฎหมาย เพ่อื การป้องกันควบคมุ โรคในสถานประกอบการ พร้อมทมี ให้คาแนะนา BB&S
 ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในตลาด ชุมชนต่อเนื่อง, Phuket & Samui sandbox เน้น
มาตรการตรวจคดั กรอง และควบคมุ การเขา้ ออกพน้ื ที่ของคนไทย
ข้อเสนอแนะจำกทีป่ ระชุม :
 ขอใหภ้ มู ภิ าคดาเนินการตามนโยบาย การให้ยาฟา้ ทะลายโจรและยา Favipiravir ตงั้ แต่เร่มิ มีอาการ
เพอ่ื ลดอตั ราการปว่ ยรุนแรงและการเสียชวี ิต
 พบปัญหาการนาส่งผู้ป่วยกลับภูมิลาเนา โดยขอความร่วมมือปรับปรุงข้อมูลจานวนผู้ป่วยให้เป็น
ปจั จบุ ัน และประสานผ่านชอ่ งทางท่ีกาหนด

-2 -
กำรฉีดวัคซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวคั ซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 29 ก.ค. 64) รวม 17,011,477 โดส
ความครอบคลุมร้อยละ 18.36 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 13,225,223 โดส
จานวนผูไ้ ด้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จานวน 3,786,244 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
29 ก.ค. 64 จานวน 1,099,121 โดส เพิ่มขึ้นประจาวนั 23,817 โดส
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกระดับสีอย่างต่อเน่ือง จานวนเตียงสีแดงและสีเหลืองอยู่ในภาวะวิกฤต
ดาเนินการรวบรวมจานวนผู้ป่วย Probable cases และ Confirmed cases ในระบบ Home Isolation และ
Community Isolation เพือ่ ใหท้ ราบถงึ สถานการณท์ ีแ่ ทจ้ รงิ
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 29 ก.ค. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารับ
บริการสะสม 7,007 ราย จานวนผปู้ ว่ ยวนั น้ี 166 ราย
การบริหารจัดการยาและเวชภณั ฑ์ กรณีการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) :
 ยา Favipiravir 200 mg คงเหลือ จานวน 6,821,276 เม็ด และยา Remdesivir 100 mg
คงเหลือ จานวน 9,127 vail และมปี ริมาณการใชย้ า Favipiravir 626,385 เมด็ /วนั
 เร่งจดั ซื้อเวชภณั ฑ์บางรายการ เพอื่ ใหเ้ พยี งพอตอ่ การใช้งาน
 คาดการณ์ความต้องการใช้ยาใน 30 วันข้างหน้า ยา Favipiravir ประมาณ 38 ล้านเม็ด และยา
Remdesivir ประมาณ 63,000 vial โดยคานวณตามค่า R naught และภายในเดือน ส.ค. - ก.ย. 64 มีแผน
จดั หายา Favipiravir จานวน 80 ล้านเม็ด
 แบบเสนอคาของบกลางเพ่ือจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาในการรักษาผู้ป่วยติดเช้ือโควิด-19
รวมเปน็ เงินทง้ั สิน้ 9,663,650,000 ลา้ นบาท
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ท่ีประชุมรับทราบ และขอให้ใช้ยาในผู้ป่วยอย่างระมัดระวังและเหมาะสม และเสนอให้สารองยา
Favipiravir ในเดือน ส.ค. 64 เพ่มิ เพื่อรองรับจานวนผู้ปว่ ยท่ีเพ่ิมมากข้ึน
 เสนอให้จัดทีมวิชาการ/ผู้เช่ียวชาญ ศึกษาประสิทธิผลของการใช้ยาฟ้าทะลายโจร เพื่อสร้างความ
เช่ือม่นั ใหก้ บั ประชาชน
 ควรศึกษาประสิทธภิ าพของยาชนิดอ่ืน ๆ เพ่อื นามาประกอบการพจิ ารณาในการรักษาผูป้ ว่ ยติดเชอื้ โควิด-19
รา่ งข้อเสนอแนวปฏิบตั ิ Sandbox Safety Zone in School :
 จานวนติดเช้ือสะสมของครูและนักเรียน ประมาณร้อยละ 15 ซึ่งพบปัจจัยที่ทาให้เกิดการติดเช้ือ
ได้แก่ 1) การน่ังใกล้ชิดกันในห้องเรียน และ 2) การไปในพื้นท่ีแออัดข้างนอกโรงเรียน โดยพบว่าครู และ
บุคลากร ไดร้ ับวัคซนี ครบ 2 เข็ม ร้อยละ 73
 รา่ งขอ้ เสนอแนวปฏบิ ัติ Sandbox Safety Zone in School กรณีของโรงเรียนประจา

- กาหนดรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบ Hybrid คือ แบบ Online และ OnSite โดยมีการ
ตรวจคัดกรองด้วย ATK และให้นักเรียนเข้ามาอยู่ในโรงเรียน 14 วัน/1 เดือน และทากิจกรรมร่วมกัน เป็น
Sandbox แบบ Seal route

- ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน (3T1V) ดังนี้ 1) โรงเรียน เข้ม Thai Stop Covid Plus (44 ข้อ)
2) นักเรียน ครู บุคลากร ทา TST เป็นประจา 3) ตรวจ Antigen Test Kit และ 4) ฉีด Vaccine ครู 100%
นอกจากนี้ให้มีระบบการติดตามเข้มงวดของครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเฝ้าระวังสุ่มตรวจ ทุก 14 วัน/
1 เดือน ตอ่ ภาคการศกึ ษา

ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ที่ประชุมเห็นชอบในร่างดังกล่าว และขอให้พิจารณาดาเนินการแบบระมัดระวัง เพื่อลดผลกระทบ
ท่จี ะตามมา
กำรปฏิบัตกิ ำรนำสง่ ผูป้ ว่ ย COVID-19 โดย สถำบันกำรแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 29 ก.ค. 64 นาส่งได้ 170 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 16 ราย
จานวนเท่ียวปฏบิ ัตกิ าร 60 เท่ยี ว ผลการสง่ กลบั ภมู ิลาเนา นาส่งสาเร็จ 98 ราย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผู้บริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ท่ี 287
ประจำวันที่ 31 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศ์รจิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรอื่ งเพ่ือทรำบ
 ประเทศไทยมีผลการฉีดวัคซนี เพมิ่ มากขน้ึ หลงั จากเร่งรัดการดาเนนิ การให้มีการฉีดวัคซีนเพ่มิ มากขึ้น
 วันที่ 30 ก.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขหารือร่วมกับภูมิภาค เรื่อง การคาดการณ์สถานการณ์
เน้นย้าการฉดี วัคซีนใหเ้ รว็ และมากท่สี ดุ รวมถงึ มอบนโยบายเรอื่ ง การใหย้ า Favipiravir แก่ผู้ป่วยโดยเร็วทสี่ ดุ
 วันที่ 30 ก.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวช้ีแจงรายละเอียดการคาดการณ์สถานการณ์
เพ่ือการเตรียมตัวและปรับตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสมของประชาชน และแถลงขา่ วกรณีวัคซีน Pfizer
 มอบกรมการแพทย์ปรับ CPG ในรายละเอียดการให้ยา Favipiravir แก่ผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด
ไม่รับประทานยา Favipiravir พร้อมกับยาฟ้าทะลายโจร การให้ยา Remdesivir ที่ได้ผลดี และเน้นการใช้
ยาฟ้าทะลายโจร สาหรบั ผปู้ ่วยในระบบ HI และ CI สว่ นการรักษาในโรงพยาบาลตามดลุ ยพินจิ ของแพทย์
 ศนู ย์บรหิ ารสถานการณโ์ ควิด-19 (ศบค.) เหน็ ชอบใหฉ้ ดี วคั ซีน Pfizer เป็นเขม็ ท่ี 3 สาหรับบุคลากร
ทางการแพทย์ด่านหนา้ , กลุม่ 608, ชาวต่างชาตโิ ดยเฉพาะสญั ชาติอเมรกิ ัน, การฉดี เพอ่ื ควบคมุ โรค และเพ่อื การศึกษาวจิ ัย
 วันที่ 30 ก.ค. 64 เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี ประชุมทางไกลผ่าน Tele Conference ร่วมกับ
โรงพยาบาลเอกชน 21 แห่ง เพื่อให้กาลังใจและหารือการยกระดับระบบบริการ การบริหารจัดการเตียง
การบรหิ ารจดั การวัคซีนและการเข้าถึงยา กาหนดเปา้ หมายเพอ่ื ลดอตั ราป่วย และฉีดวัคซนี ให้ได้มากทสี่ ดุ
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัด จากผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลาเนา
จากพ้ืนทร่ี ะบาด โดยเฉพาะพื้นทีภ่ าคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนน้ กากับการกกั ตัวผู้เดินทางเข้าจังหวัด
ใหเ้ ขม้ ขึ้น รวมท้ังเตรียมเตียงรองรบั และ HI&CI เพิ่มข้ึน
 เสนอพจิ ารณายกระดบั มาตรการควบคมุ โรคในจงั หวดั ท่มี ีโรงงาน และสถานประกอบการขนาดใหญ่
 กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล แนวโนม้ ยงั พบผู้ติดเช้อื รายใหม่อยู่ในเกณฑส์ งู คงตัว สว่ นใหญ่อาศัย
ในพนื้ ที่ระบาดไมส่ ามารถระบุแหล่งโรคไดช้ ัดเจน
 เร่งกากับติดตาม มาตรการการรวมกลุ่มคน ในพื้นท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งมาตรการ
DMHTT ณ สถานทฉี่ ดี วคั ซีน อาจพิจารณาความจตุ ามขนาดพ้ืนทด่ี ว้ ย
 ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังพบผู้ติดเช้ือในโรงงาน สถานประกอบการจานวนมาก เสนอใช้
มาตรการทางกฎหมาย เพอ่ื การป้องกนั ควบคมุ โรคในสถานประกอบการ พรอ้ มทีมให้คาแนะนา BB&S
 ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในตลาด ชุมชนต่อเนื่อง, Phuket & Samui sandbox เน้น
มาตรการตรวจคัดกรอง และควบคุมการเขา้ ออกพน้ื ที่ของคนไทย

-2 -
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ปลดั กระทรวงสาธารณสุข กลา่ วขอบคุณพ้ืนที่ทส่ี ามารถดาเนินการการป้องกนั ควบคุมโรคได้เป็นอย่างดี
 มอบกรมสุขภาพจิต สื่อสารประชาสัมพันธ์ประเดน็ การให้กาลังใจ การสรา้ งความเข้มแข็งแก่ประชาชน
และสังคม ผา่ นการพูดคุย หรอื สรา้ ง Digital Forum Group เพื่อใหป้ ระชาชนมีกาลังใจและสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์
ข้อเสนอในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) :
 รา่ งข้อเสนอการยกระดับของพนื้ ทีส่ ถานการณย์ ่อยในพน้ื ท่ที วั่ ราชอาณาจักร แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดงั นี้

1) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 14 จังหวัด, พื้นท่ีควบคุมสูงสุด (ข้ันสูงสุดทุกโรงงานและสถาน
ประกอบการ) 12 จังหวดั , พ้ืนท่คี วบคุมสูงสุด 40 จังหวดั และพื้นท่ีควบคมุ 11 จังหวัด

2) พนื้ ท่คี วบคุมสูงสดุ และเข้มงวด 26 จงั หวดั , พ้ืนที่ควบคมุ สงู สดุ 40 จงั หวัด และพ้นื ท่ีควบคุม 11 จงั หวัด
 ให้จงั หวัดกาหนดพ้ืนทยี่ ่อยให้เขม้ กวา่ ทีศ่ บค.กาหนดได้ ตามสถานการณ์ของจังหวดั
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 นาเสนอสถานการณ์ปัจจุบนั และการประเมนิ ประสิทธผิ ลในการ Lockdown ในทป่ี ระชมุ ศบค.
 สนับสนนุ การนาเสนอร่าง 2 ในทป่ี ระชุม ศบค. แตป่ รับเพ่ิมพ้ืนท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอีก 4 จงั หวัด
ไดแ้ ก่ จ.สงิ ห์บุรี จ.นครนายก จ.อา่ งทอง และ จ.สมทุ รสาคร จงึ เป็นพ้นื ท่ีควบคมุ สงู สดุ และเขม้ งวด 30 จงั หวดั ,
พนื้ ที่ควบคมุ สูงสุด 36 จังหวัด และพน้ื ท่ีควบคุม 11 จังหวดั
 พิจารณากาหนดมาตรการเสรมิ อย่างเขม้ ขน้ เมื่อมีการยกระดับ และจดั สรรวัคซนี อย่างครอบคลุม
 สบื เนอ่ื งจากการประชมุ ศปก.ศบค. วนั ท่ี 20 และ 22 ก.ค. 64 มขี ้อเสนอให้กรุงเทพมหานครและ
ปริมณฑล อาจมีการผ่อนคลายมาตรการสาหรับร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ขายแบบออนไลน์ ให้กรม
ควบคมุ กาหนดมาตรการฯ ไว้ก่อน
กำรฉดี วัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 30 ก.ค. 64) รวม 17,491,632 โดส
ความครอบคลุม ร้อยละ 18.94 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 13,640,179 โดส
จานวนผูไ้ ดร้ บั วัคซนี เข็มท่ี 2 จานวน 3,851,453 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
30 ก.ค. 64 จานวน 1,136,721 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 สนับสนุนข้อมูลประสิทธิภาพในการสร้างภมู ิคุ้มกันของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 sinovac และเข็มที่ 2
AstraZeneca เพ่อื สร้างความมั่นใจแกป่ ระชาชน
 พิจารณาวิเคราะห์แนวโน้มการฉีดวัคซีนไปอีก 2 สัปดาห์ หากผลการฉีดไม่ถึงเป้าหมายกาหนด
เห็นควรพิจารณาจัดต้ังจดุ ฉดี วคั ซนี กลางประจาจังหวดั เพื่อรองรับการจัดสรรวคั ซีนที่เพิ่มขึ้น
 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แจ้งผลการวิจยั กรณีการฉดี วัคซีนแบบสลบั ชนิดสามารถเพ่มิ ประสทิ ธิภาพไดด้ ี
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมข้ึนทุกระดับสอี ย่างต่อเนอ่ื ง จานวนเตียงแดงและเหลอื งอยู่ในภาวะวกิ ฤติ
ดาเนินการรวบรวมจานวนผปู้ ่วย Probable cases และ Confirmed cases ในระบบ HI&CI เพอ่ื ใหท้ ราบถึงสถานการณท์ ่ีแท้จริง
มำตรกำรกำรป้องกันควบคุมโรคในพืน้ ที่เฉพำะ Bubble and Seal :
 วัตถุประสงค์เพ่ือป้องกัน และควบคุมการแพร่เช้ือในพ้ืนที่ รวมถึงไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปสู่ชุมชน
รวมถึงป้องกันการเสียชีวิต และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมจากการหยุดดาเนินกิจการ ภายใต้หลักการ
“จัดกลมุ่ คุมไว ลดแพร่กระจาย รายได้ไม่สญู เสยี ”
 มาตรการ: มาตรการป้องกัน และมาตรการดา้ นสังคม โดยเนน้ การปอ้ งกันสว่ นบุคคล (สวมหนา้ กาก
อนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย คัดกรองไข้/อาการ) การจัดสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการควบคุมโรค การจัด
กลุม่ กจิ กรรม การฉดี วคั ซนี และการจดั สิ่งสนับสนุนท่จี าเป็น
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีหลักสูตรการอบรมออนไลน์เรื่องการใช้ ATK และสามารถดาเนินการ
รว่ มกบั การอบรมเรอ่ื ง Bubble and Seal ได้
 เรง่ รัดดาเนินการเพ่อื ลดการแพร่ระบาด และการบรหิ ารจัดการระบบการส่งต่อทดี่ ีจะสามารถลดการเสยี ชีวิตได้
 กรมควบคมุ โรค พจิ ารณาสอ่ื สารแนวทางการดาเนินงานของสถานประกอบการ 2 รูปแบบ คือ การ
ปอ้ งกันเมอ่ื ไมม่ ผี ู้ตดิ เชื้อ และมผี ู้ติดเชื้อ
 จัดทาข้อกาหนดและรายละเอียดการดาเนินการ อาทิ จัดตั้งทีม Coaching และ Supervisor
การฉดี วคั ซนี บทบาทของผู้ประกอบการ การกากับติดตามการดาเนนิ งาน เพอื่ สนบุ สนนุ การดาเนนิ การใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ
 ขับเคล่ือนการดาเนนิ การโดยการออกประกาศจาก ศบค. เพ่อื ใหส้ ถานประกอบการดาเนนิ การตามข้อกาหนด

*******************

บทสรปุ ผ้บู รหิ าร

ประจำเดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2564

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏบิ ัติกำรฉุกเฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 288
ประจำวันท่ี 1 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.35 น.
ประธำน : นำยแพทยย์ งยศ ธรรมวฒุ ิ รองปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เรอ่ื งเพื่อทรำบ
 วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 จากประเด็นที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์
การฉีดวัคซีน Pfizer เข็มที่ 3 สาหรับกลุ่มบุคลากรทางแพทย์ด่านหน้า มอบกรมควบคุมโรคศึกษาข้อมูล
ทางวิชาการเพมิ่ เตมิ ในกรณกี ารฉีดวัคซนี แบบต่างๆ เพื่อจดั ทาหลกั เกณฑ์เพ่มิ เติมให้เกิดประโยชน์สูงสดุ
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงข้ึนในพื้นท่ีต่างจังหวัด จากผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลาเนา
จากพื้นที่ระบาด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการระบาดในโรงงาน
สถานประกอบการ ในพืน้ ทีภ่ าคกลาง และภาคตะวันออก
 เสนอพิจารณายกระดับมาตรการควบคมุ โรคในจังหวัดทมี่ ีโรงงาน และสถานประกอบการขนาดใหญ่
 กรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล แนวโนม้ ยังพบผตู้ ดิ เชอื้ รายใหม่อยู่ในเกณฑส์ งู คงตวั สว่ นใหญอ่ าศัย
ในพื้นที่ระบาดไม่สามารถระบุแหล่งโรคได้ชัดเจน เน้นปรับความเชื่อมต่อระหว่างการตรวจ ATK และการนา
เขา้ สรู่ ะบบ Home Isolation & Community Isolation ให้เพยี งพอและทนั เวลา เพ่อื ลดการเสียชีวติ ทีบ่ ้าน
 จัดระบบการติดตาม ดูแลผู้ติดเช้ือเข้าข่าย ตามรูปแบบคอนโด บ้านเช่า แฟลต หอพัก ชุมชน
พิจารณาพัฒนาระบบอาสาสมัครประจาหน่วยท่ีพัก และเช่ือมต่อกับศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร
และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลในพน้ื ที่ปริมณฑล
 เร่งกากับติดตาม มาตรการการรวมกลุ่มคน ในพื้นท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมท้ังมาตรการ
DMHTT ณ สถานทฉ่ี ดี วัคซนี อาจพิจารณาความจตุ ามขนาดพ้นื ท่ีดว้ ย
 ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในตลาด ชุมชนต่อเนื่อง, Phuket & Samui sandbox
เน้นมาตรการตรวจคัดกรอง และควบคมุ การเข้าออกพนื้ ท่ีของคนไทย
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอกรุงเทพมหานคร รว่ มกบั สานกั งานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติจัดสรรยา Favipiravir สาหรบั
ผูป้ ว่ ยทเี่ ขา้ สู่ระบบ Home Isolation ในพ้นื ท่ี เพื่อใหผ้ ู้ปว่ ยสามารถเข้าถึงยาไดอ้ ย่างรวดเร็ว
 มอบกรมควบคุมโรค รวบรวมแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการ Bubble and Seal สาหรับสถาน
ประกอบการ และโรงงาน และจัดทาเปน็ คมู่ ือส่ือสารประชาสมั พันธ์ เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจมากยง่ิ ขนึ้
 กรมควบคุมโรค เพ่ิมเติมสาระสาคัญสาหรับการดาเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal
ในสถานประกอบการและโรงงาน ประเด็นการควบคุมและป้องกันโรคระยะก่อนเกิดการระบาด และระหว่าง
การระบาด และกาหนดให้ดาเนินการตามมาตรการควบคุมโรค หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติท่ีกระทรวง
สาธารณสุขกาหนดในข้อกาหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉกุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับท่ี ๒๕)

-2 -
กำรฉดี วคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 1 ส.ค. 64) รวม 17,685,974 โดส
จานวนผไู้ ด้รบั วคั ซีน เข็มท่ี 1 จานวน 13,802,916 โดส จานวนผไู้ ดร้ ับวคั ซีน เขม็ ท่ี 2 จานวน 3,883,058 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
1 ส.ค. 64 จานวน 1,167,521 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบกรมควบคุมโรค เร่งรัดการพิจารณาจัดทาหลักเกณฑ์เพิ่มเติมสาหรับการฉีดวัคซีน Pfizer
เขม็ ที่ 3 ในกล่มุ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพ่ือสร้างความเข้าใจ ส่ือสารและประชาสมั พันธ์อยา่ งรวดเร็ว
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมข้ึนทุกกลุ่ม ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ Home Isolation &
Community Isolation ได้ ให้มีการบูรณาการข้อมูลและการดูแลผู้ป่วย เร่ิมขยายศักยภาพเตียงรองรับผู้ป่วย
กล่มุ สีเหลอื งเพิ่มขนึ้ และทบทวนการใชท้ รพั ยากรทีม่ จี ากดั ในการดูแลผู้ปว่ ยกลมุ่ สแี ดง
 ศนู ยแ์ รกรับและสง่ ต่อ นิมิบตุ ร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมลู ณ วนั ท่ี 31 ก.ค. 64) ผู้ปว่ ยทเี่ ขา้ รบั
บริการสะสม 7,377 ราย จานวนผปู้ ว่ ยวันนี้ 174 ราย
 รายงานสถานการณ์ผู้ปว่ ย COVID-19 โรงพยาบาลบษุ ราคัม (ข้อมลู ณ 31 ก.ค. 64) ผูป้ ว่ ยเข้ารบั
บรกิ ารสะสม 13,196 ราย อยู่ระหวา่ งการรกั ษา 3,417 ราย
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และภาคประชาสังคม สามารถบูรณาการการ
ดาเนินงานเชิงรุกด้วยการตรวจ ATK และกาหนดแนวทางการแยกผู้ป่วยเข้าสู่ระบบ Home Isolation
& Community Isolation และการสง่ ตอ่ เขา้ สรู่ ะบบบรกิ ารในพืน้ ที่
 เสนอพิจารณาการจัดตั้งโรงพยาบาลสาหรับการดูแลรักษาเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสีแดง เพ่ือการบูรณาการ
ทรพั ยากรร่วมกนั
กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำส่งผู้ป่วย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 31 ก.ค. 64 นาส่งได้ 179 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 8 ราย
จานวนเท่ียวปฏบิ ตั กิ าร 64 เทีย่ ว ผลการสง่ กลบั ภมู ิลาเนา นาสง่ สาเรจ็ 181 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังที่ 289
ประจำวันที่ 2 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทย์เกยี รติภมู ิ วงศ์รจติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรื่องเพ่ือทรำบ
 วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุม ศบค. เพ่ือรายงานสถานการณ์
ปัจจุบัน โดยท่ีประชุมมีมติให้ยกระดับมาตรการทางสังคม เพ่ิมจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 29 จังหวดั
ขยายระยะเวลาล็อคดาวน์ ซ่ึงจะมีผลบังคับใช้วันอังคารท่ี 3 สิงหาคม 2564 เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อเพิ่ม
ประสทิ ธภิ าพในการป้องกันและควบคุมโรค
 วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริม
ภูมิคุ้มกันโรค ครั้งท่ี 4/2564 เพ่ือหารือหลักเกณฑ์เพิ่มเติมสาหรับการฉีดวัคซีน Pfizer เข็มท่ี 3 ให้กับ
บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า จานวน 7 แสนโดส โดยเร่งสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ใหป้ ระชาชนเข้าใจตอ่ ไป
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลมุ่ ภำรกจิ ตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควดิ -19 มแี นวโน้มสงู ขึน้ ในพน้ื ท่ีต่างจงั หวดั ทัง้ จากผตู้ ดิ เช้ือเดนิ ทางกลับภูมิลาเนา
จากพนื้ ทรี่ ะบาด และพบการระบาดในโรงงาน สถานประกอบการ
 กรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล แนวโนม้ ยงั พบผตู้ ิดเชอ้ื รายใหม่อยู่ในเกณฑส์ งู คงตัว สว่ นใหญอ่ าศัย
ในพื้นท่ีระบาดไม่สามารถระบุแหล่งโรคได้ชัดเจน เน้นปรับความเชื่อมต่อระหว่างการตรวจ ATK และการนา
เข้าสรู่ ะบบ Home Isolation & Community Isolation ใหเ้ พยี งพอและทนั เวลา เพื่อลดการเสียชวี ิตท่บี า้ น
 จัดระบบการติดตาม ดูแลผู้ติดเช้ือเข้าข่าย ตามรูปแบบคอนโด บ้านเช่า แฟลต หอพัก ชุมชน
พิจารณาพัฒนาระบบอาสาสมัครประจาหน่วยท่ีพัก และเช่ือมต่อกับศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร
และโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบลในพืน้ ท่ีปริมณฑล
 จังหวัดพ้นื ที่ควบคุมสงู สดุ และเข้มงวด 29 จังหวดั กากับการยกระดบั มาตรการ BB&S แบบ Tailor
made และอาจพจิ ารณาการจดั สรรวคั ซีนสาหรบั ผสู้ ูงอายุเป็น 70%
 เร่งกากับติดตาม มาตรการการรวมกลุ่มคนในพื้นท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมท้ังมาตรการ
DMHTT ณ สถานทฉี่ ีดวัคซีน อาจพิจารณาความจตุ ามขนาดพ้นื ทดี่ ว้ ย

-2 -
 ภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในตลาด ชุมชนต่อเน่ือง, Phuket & Samui sandbox
เนน้ มาตรการตรวจคัดกรอง และควบคุมการเข้าออกพ้นื ท่ขี องคนไทย

ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :

 มอบกรมควบคมุ โรค จัดทารายงานการเสยี ชวี ิตในกลุ่ม 608 ใหช้ ัดเจน โดยจดั ทาข้อมูลเป็นแบบร้อยละ
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพ จัดสรรวัคซีนแต่ละจังหวัดอย่างเหมาะสม
โดยให้รายงานข้อมูลรายวันในท่ีประชุม ศปก.สธ. ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ และรายงานข้อมูลเขต/
จงั หวัด ในที่ประชุม ศปก.สธ. สปั ดาห์ละ 3 วนั
 เร่งสื่อสาร ประชาสัมพันธใ์ ห้ประชาชนรับทราบและเข้าใจผลการประเมินการล็อคดาวน์ 2 สัปดาห์
ท่ีผ่านมา เพอ่ื ใหเ้ หน็ แนวโน้มและประสิทธิผลของการล็อคดาวน์เพ่มิ ขึน้
 เสนอให้วิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิด/ การฉีดแต่ละแบบเพิ่มเติม เพ่ือสร้างความเข้าใจ
ให้กับประชาชน

กำรฉดี วัคซีนโควิด-19 :

 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 1 ส.ค. 64) รวม 17,866,526 โดส
จานวนผู้ได้รบั วัคซนี เขม็ ท่ี 1 จานวน 13,955,087 โดส จานวนผไู้ ดร้ บั วคั ซีน เข็มท่ี 2 จานวน 3,911,439 โดส

 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
1 ส.ค. 64 จานวน 1,173,450 โดส

ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :

 มอบกรมควบคุมโรค เร่งรัดการพิจารณาจัดทาหลักเกณฑ์เพ่ิมเติมสาหรับการฉีดวัคซีน Pfizer
เขม็ ที่ 3 ในกลมุ่ บคุ ลากรทางการแพทยด์ ่านหนา้ เพ่อื สร้างความเข้าใจ สือ่ สารและประชาสมั พนั ธ์อย่างรวดเร็ว

สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :

 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนทุกกลุ่ม ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ Home Isolation &
Community Isolation ได้ ให้มีการบูรณาการข้อมูลและการดูแลผู้ป่วย และเร่งดาเนินการ CCRT ในช่วง
Lockdown เพ่ือคน้ ห้าผ้ปู ว่ ยในชมุ ชน

 ศูนย์แรกรบั และส่งตอ่ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสขุ (ข้อมูล ณ วันท่ี 1 ส.ค. 64) ผปู้ ว่ ยทีเ่ ขา้ รบั
บริการสะสม 7,576 ราย จานวนผู้ป่วยวันน้ี 199 ราย

 รายงานสถานการณ์ผู้ปว่ ย COVID-19 โรงพยาบาลบุษราคัม (ข้อมลู ณ วันท่ี 1 ส.ค. 64) ผูป้ ่วยเข้ารบั

บรกิ ารสะสม 13,351 ราย อยู่ระหว่างการรกั ษา 3,328 ราย

คำแนะนำกำรให้วคั ซนี โควิด-19 ของ Pfizer ในบคุ ลำกำรทำงกำรแพทย์และสำธำรณสุข :

 ดาเนินการปรับหลักเกณฑ์ตามมติท่ีประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งท่ี
4/2564

ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :

 ที่ประชมุ เหน็ ชอบ โดยเร่งสอ่ื สาร ประชาสัมพันธ์ การจัดสรรวคั ซีนและหลกั เกณฑ์การใหค้ าแนะนา
การใหว้ คั ซนี Pfizer สาหรับบคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขให้ประชาชนเข้าใจอย่างรวดเรว็

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏิบัตกิ ำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ท่ี 290
ประจำวันท่ี 3 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศร์ จิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคัญ
เร่ืองเพ่อื ทรำบ
 วันท่ี 2 ส.ค. 64 แถลงการณ์ความคืบหน้าการประเมินการ Lockdown พบประสิทธิภาพร้อยละ 20
ถา้ หากประสทิ ธภิ าพเพิม่ เปน็ ร้อยละ 25 สถานการณ์จะดีขึ้น จึงตอ้ งเขม้ งวดมาตรการเพ่มิ ขน้ึ
 วนั ที่ 2 ส.ค. 64 มีการแถลงข่าวแผนการจัดสรรวัคซนี Pfizer ให้กบั บคุ ลากรทางการแพทย์แก่ประชาชน
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มผู้ติดเช้ือคงท่ีในพื้นท่ีกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมี
แนวโน้มสูงขึ้นในพื้นท่ีต่างจังหวัดจากผู้ติดเช้ือเดินทางกลับภูมิลาเนา และการระบาดในสถานประกอบการ
ผู้ป่วยหายกลับบ้านเพ่ิมข้ึน ในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมทั้งพ้ืนท่ีควบคุมสูงสุดเข้มงวด
28 จงั หวัด ยงั ตอ้ งเร่งกากับการยกระดับมาตรการ BB&S แบบทางเลือกและเรง่ การฉีดวัคซีนในกลุ่มเปา้ หมาย
ภายใน 4 สัปดาห์ ส่วนภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดในตลาด ชุมชนต่อเนื่อง ให้เน้นมาตรการการ
ตรวจคัดกรอง การควบคุมการเข้าออกพ้ืนท่ี มีข้อเสนอเพ่ือการควบคุมโรคในโรงงาน และสถานประกอบการ
ด้วยมาตรการ BB&S + Early Control (จัดกลมุ่ -คมุ ไว-ลดกระจาย-รายไดไ้ ม่สูญเสยี )
สถำนกำรณภ์ ำพรวมของตำ่ งประเทศ :
 ประเทศที่มีจานวนผู้ติดเช้ือรายใหม่สูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล และประเทศท่ีมี
จานวนผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงสุด ได้แก่ อินโดนีเชีย รัสเซีย ซึ่งการเปรียบเทียบอัตราป่วยและอัตราตายต่อ
ประชากร 1 ล้านคน ประเทศไทยอยู่ในอนั ดบั ท่ี 42 ของโลก ประเด็นที่นา่ สนใจ ประเทศจีนมกี าร Lockdown
เพอ่ื ควบคมุ สายพันธ์ุเดลตา
กำรฉดี วคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ.– 2 ส.ค. 64) รวม 18,198,825 โดส
เพ่ิมขึ้น 332,299 โดส แบ่งออกเป็น ผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 14,207,477 โดส ผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 2
จานวน 3,991,348 โดส ประเทศไทยฉดี วคั ซนี เป็นอันดับ 4 ของภูมภิ าคอาเซียน
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 การเพ่ิมมาตรการแนวทางการฉีดวัคซีนให้รวดเร็วและเข้าถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ซง่ึ เบ้ืองต้นจะให้นารอ่ งฉีดท่ีโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบลแล้วจงึ ขยายผลต่อไป
ปฏิบัติกำร CCRT สธ. ก้ภู ยั โควดิ กรงุ เทพมหำนคร 4-10 สงิ หำคม 2564 :
 แผนปฏิบัติการกรุงเทพหานคร ครั้งท่ี 3 ดาเนินการดังนี้ Rapid Testing Tracing Treatment
Target Vaccination Target Lockdown Target Healing โดยภาคีเครือข่ายของการดาเนินการประกอบด้วย
กระทรวงสาธารณสุข และ 39 ทีมภูธร กรุงเทพมหานคร ชมรมแพทย์ชนบท ทีมอาสาของกลุ่มเภสัชกร
แพทย์เวชศาสตร์ เทคนคิ การแพทย์ โควดิ ชมุ ชน สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รวมท้งั ภาคเอกชน

-2 -
ซึ่งเป้าหมายการดาเนินงาน คือ ลดการตาย ลดการใช้เตียง อุปสรรคการดาเนินการ คือ ความเพียงพอของยา
favipiravir ซง่ึ ประมาณการความต้องการ จานวน 6 แสนเม็ด และการนาผูต้ ิดเช้ือเข้าระบบ Home Isolation
คาดวา่ คดั กรองไดว้ นั ละ 35,000 ราย

ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เปน็ การดาเนนิ การทจ่ี ะลดปัญหาการระบาดไดจ้ ริง โดยวันที่ 4 ส.ค. 64 ปลดั กระทรวงสาธารณสุข
จะรว่ มลงพ้ืนที่เพ่อื ให้กาลังใจ และการหารือรว่ มกนั ระหว่างกองบริหารสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครในการ
แก้ปัญหาการระบาดโดยการใช้ยา favipiravir เพื่อการรักษาอย่างรวดเร็ว การนาข้อมูลการใช้ ATK มาศึกษา
และเผยแพรใ่ ห้เกิดประโยชน์
ความครอบคลุมการฉดี วคั ซีน COVID-19 กลุ่ม 60 ปีและกลุม่ โรคเร้ือรงั :
 จากเป้าหมาย 190,000 คนต่อวัน ปัจจุบันฉีดได้ 58,700 คนต่อวัน และจังหวัดท่ีมีร้อยละ
ผสู้ ูงอายุ 60 ปที ่ีไดร้ ับวคั ซีนแลว้ มากกวา่ ร้อยละ 50 ไดแ้ ก่ ระนอง พงั งา กรุงเทพมหานคร ภเู ก็ต ร้อยละ 26-
50 จานวน 20 จงั หวัด ต่ากวา่ ร้อยละ 25 จานวน 53 จงั หวัด จังหวัดทมี่ รี อ้ ยละผปู้ ่วยโรคเร้อื รัง 7 กลุ่มโรคที่
ได้รับวัคซีน มากกว่าร้อยละ 50 ได้แก่ ระนอง ปทุมธานี สมุทรปราการ ร้อยละ 26-50 จานวน 13 จังหวัด
นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 25 จานวน 61 จังหวดั เพ่ือความครอบคลมุ ทั้งประเทศในกลุ่ม 607 ควรจดั สรรวัคซนี เพ่มิ ให้
พืน้ ทจ่ี านวน 9.95 ล้านโดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เร่งดาเนนิ การตรวจสอบวัคซนี คงเหลือท่ีอยใู่ นพนื้ ที่
แผนกำรจดั สรรวคั ซนี Pfizer ลอ็ ตบริจำค 1.5 ล้ำนโดส สำหรบั บคุ ลำกรทำงกำรแพทย์และสำธำรณสขุ ดำ่ นหนำ้ :
 โดยจะมีการสารวจความต้องการรับวัคซีน โดยใชฐ้ านข้อมูลจาก MOPH IC เป็นเกณฑ์การจดั สรร ดงั น้ี
1) ความต้องการน้อยกว่าร้อยละ 50 ของจานวนบุคลากร จัดสรรให้ร้อยละ 50
2) ความต้องการมากกวา่ รอ้ ยละ 50 แต่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 75 ของจานวนบคุ ลากร จัดสรรใหต้ ามจานวนท่แี จ้ง
3) ความต้องการมากกวา่ ร้อยละ 75 จดั สรรให้ร้อยละ 75 จะจัดสรรเพ่ิมเติมเมื่อฉีดวัคซีนหมด
 วนั ท่ี 3 ส.ค. 64 จะมีการประชุมออนไลนร์ ่วมกับพนื้ ทเ่ี พ่ือชีแ้ จงการจดั สรรต่อไป
พระรำชกำหนดจำกัดควำมรับผิดชอบสำหรับบุคลำกรสำธำรณสุขในกำรดูแลรักษำพยำบำลผู้ป่วย
โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) :
 ข้อกาหนดท่ีปรับปรุงเพ่ิมเติม จะคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลท่ีปฏิบัติงาน
ตามข้อสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายรวมถึงผลสืบเน่ืองจากการปฏิบัติงาน
และไมต่ ดั สทิ ธ์ขิ องบุคลากรในการรบั การชว่ ยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบกรมสนับสนุนบริการสขุ ภาพเพ่ิมเติมความค้มุ ครองใหค้ รอบคลุมถึงคณะทางานเจรจาเพ่ือจัดหาวัคซีน
Update รำ่ ง CPG COVID-19 ฉบบั ปรับปรงุ วนั ท่ี 3 สงิ หำคม 2564 :
 โดยปรับปรุงแนวทางการจัดบริการ กรณี ATK ผลเป็นบวก และแนวทางการให้ยา ดังน้ี ผู้ติดเชื้อ
เข้าขา่ ย(ผลตรวจ ATK ผลเปน็ บวก) ให้เขา้ ระบบ Home Isolation หรือเซน็ ใบยินยอมเพื่อเข้ารกั ษาในโรงพยาบาล
Community Isolation และ Hospitel มีการตรวจ RT-PCR คู่ขนานและแยกกักผู้ป่วยระหว่างรอผล ซ่ึงผู้ป่วย
ยืนยันแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.Asymptomatic เพิ่มเติมพิจารณาการให้ยาฟ้าทะลายโจรตามดุลพินิจของแพทย์
ซึ่งไม่ให้ยาฟ้าทะลายโจรกับยาต้านไวรัสพร้อมกัน 2.Mild symptoms ภาพถ่ายรังสีปอดปกติ พิจารณาให้
favipiravir เ ร่ิ ม เ ร็ ว ที่ สุ ด 3. Mild symptoms ที่ มี ปั จ จั ย เ ส่ี ย ง โ ร ค ร่ ว ม แ ล ะ ห รื อ มี ป อ ด อั ก เ ส บ
4. Pneumonia หรือมภี าวะออกซิเจนในเลือดน้อยกว่าร้อยละ 96
 ขอ้ บง่ ชก้ี ารพจิ ารณาการใหย้ า Remdesivir กรณที ี่ปอดอักเสบรนุ แรงภายใน 48 ชม. หญิงตง้ั ครรภ์ท่ีมี
ปอดอักเสบ และผู้ท่ีมีข้อห้ามบริหารยาทางปากหรือมีปัญหาการดูดซึม โดยให้เลือกใช้ favipiravir
หรือ Remdesivir อย่างใดอยา่ งหนงึ่
 ยากลุ่มอ่ืนที่มีการวิจัยเพื่อการรักษาโรค ได้แก่ Ivermectin มีการศึกษาวิจัยและได้รับการตีพิมพ์
Fluvoxamine ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอในการสนับสนุนวิจัย ควรศึกษานาร่องและติดตามก่อน Cyproheptadine
และ Niclosamide มีรายงานการใช้ แตก่ ารศกึ ษาการใชใ้ นคนยังไม่มีงานวิจัยแบบ randomized control trials
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาเตรียมความพร้อมรองรับจานวนผู้ป่วยท่ีมากข้ึนจากการตรวจแบบ ATK ในด้าน
ทรัพยากรยาและงบประมาณ มอบกองบริหารการสาธารณสขุ ดแู ลดา้ นทรัพยากรยา
 เสนอพิจารณาปรับเกณฑ์ช่วงอายุน้อยว่า 70 ปี เพ่ือเข้ารับการรักษาแบบ Home Isolation และ
ขน้ึ อยู่กับดุลยพินจิ ของแพทย์
กำรปฏบิ ตั กิ ำรนำส่งผ้ปู ว่ ย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทย์ฉุกเฉินแห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 2 ส.ค. 64 นาส่งได้ 194 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 27 ราย
อื่นๆ 1 ราย จานวนเท่ยี วปฏิบัติการ 91 เท่ยี ว ผลการสง่ กลบั ภมู ลิ าเนา นาส่งสาเรจ็ 52 ราย สะสม 743 ราย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉนิ ดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังท่ี 291
ประจำวนั ท่ี 4 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศร์ จติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคัญ
เร่อื งเพ่ือทรำบ
 กระทรวงสาธารณสุขแสดงจุดยืนสร้างความสามัคคี และเป็นหน่ึงเดียว เพื่อสร้างความเชื่อม่ันและ
ช่วยเหลอื ประชาชนในการต่อสู้กับโรคโควิด-19
 เร่งการกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมพ้ืนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล (รพ.สต.) เพ่ือความรวดเร็ว
และมีประสทิ ธิภาพในการเข้าถึงกลมุ่ ผสู้ ูงอายุ และกลุม่ โรคเรือ้ รัง 7 โรค มากยิง่ ข้ึน
 ยนื ยนั ข้อมูลเรอ่ื งวัคซีน Pfizer 1 ขวด สามารถผสมฉดี วัคซีนได้จานวน 6 โดส โดสละ 0.3 มลิ ลลิ ิตร
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT)

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณโ์ รคโควิด-19 พบผู้ตดิ เชื้อ ในกรงุ เทพมหานครเพ่ิมขน้ึ มาก ขณะท่ีปริมณฑลอยู่ในเกณฑ์
คงตัว ผู้ป่วยหายกลับบ้านในทุกชนิดการดูแลรักษาเพิ่มต่อเนื่อง พ้ืนที่ต่างจังหวัด มีแนวโน้มสูงข้ึนต่อเนื่อง
จังหวดั พ้ืนท่คี วบคมุ สงู สดุ และเข้มงวดอีก 29 จังหวัดเร่งกากับการยกระดบั มาตรการ Bubble and Seal แบบ
Tailor made และเร่งการฉีดวัคซีนสาหรับผสู้ ูงอายุให้ครบตามเป้าหมายภายใน 4 สัปดาห์ และส่ือสาร ยืนยัน
การฉีดวคั ซนี ทุกชนดิ ให้ครบตามเกณฑ์ชว่ ยลดอาการปว่ ยรุนแรง และการเสยี ชีวิต
ข้อเสนอแนะจำกทีป่ ระชุม :
 เสนอเพ่ือการควบคุมโรคในโรงงาน และสถานประกอบการ ด้วยมาตรการ Bubble and Seal +
Early Control (จัดกลมุ่ -คมุ ไว-ลดกระจาย-รายได้ไมส่ ญู เสีย)
กำรฉดี วคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ.– 3 ส.ค. 64) รวม 18,578,096 โดส
เพ่ิมข้ึน 379,271 โดส แบ่งออกเป็น ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 14,492,385 โดส ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2
จานวน 4,085,711 โดส ประเทศไทยฉีดวคั ซนี เปน็ อันดับ 4 ของภูมภิ าคอาเซียน
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
3 ส.ค. 64 จานวน 1,192,152 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 การเพ่ิมมาตรการแนวทางการฉีดวัคซีนให้รวดเร็วและเข้าถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ซ่งึ เบ้อื งตน้ จะให้นาร่องฉีดท่ีโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบล (รพ.สต.) แล้วจึงขยายผลต่อไป
 เสนอให้มีการฉีดวัคซีน Pfizer เข็มแรกของประเทศ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าท่ีอยู่ใน
พืน้ ทภี่ มู ิภาค พรอ้ มแถลงข่าวประชาสมั พนั ธ์

-2 -
กำรดำเนนิ งำนควบคมุ ปอ้ งกนั โรค COVID-19 ในเขตสขุ ภำพที่ 1-12 :
 ข้อเสนอการบริหารจัดการ 1) หน่วยงานส่วนกลางควรคาดการสถานการณ์ของจานวนผู้ป่วยที่คาดว่า
จะมีการส่งกลับไปยังพื้นที่เพ่ือจะได้มีการเตรียมการให้เพียงพอ 2) การส่งบุคลากรมาช่วยเหลือโรงพยาบาล
บุษราคัม คาดว่าจะเป็นปัญหาในอนาคตเน่ืองจากมีการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาในพ้ืนท่ีมากข้ึน ดังนั้น ควรมีการ
จ้างบุคลากรท่ีปฏิบัตงิ านในกรุงเทพมหานครมาปฏบิ ัติงานแทน ท้ังแพทย์และพยาบาล เนื่องจากค่าใช้จ่ายท่ีใช้
ไม่ต่างกัน 3) การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น High flow oxygen, Respirator ให้กับภูมิภาคเพื่อ
เพม่ิ ประสิทธภิ าพในการทางาน 4) บางเขตสุขภาพต้องการการสนบั สนนุ จาก UHosNet โดยเฉพาะภาคอีสาน
 กลุ่มที่สาคัญในการควบคุมโรคในพ้ืนที่ 1) โรงงานทุกประเภท 2) ตลาด 3) โรงเรียน โดยเฉพาะ
โรงเรียนประจา 4) กล่มุ ขนสง่ Logistics ท้งั ภายในและขา้ มจังหวัด 5) กลมุ่ เสีย่ งอนื่ ๆ ตามบรบิ ทของพ้นื ที่
 ปัญหาอุปสรรค 1) Lagtime ของการจัดสรรวัคซีนลงพื้นท่ี จะมีระยะเวลา 3-5 วัน ทาให้มี Stock
ไม่ตรงกัน 2) Stock ใน MophIC ไม่ตรงกับความเป็นจริง เน่ืองจากมีการนับซ้อนเม่ือมีการกระจายวัคซีน
ลงพน้ื ท่ี 3) Stock จากหนว่ ยงานอน่ื ทฝี่ าก เช่น Sinopharm/ ประกันสังคม ซึ่งมีเป้าหมายทชี่ ดั เจนทาให้มียอด
คงคา้ งในระบบ 4) ความกังวลและความเช่ือมน่ั ในวัคซีน
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ใหม้ กี ารจดั สรรวัคซนี อย่างสม่าเสมอทุกสปั ดาห์ โดยอาจใชเ้ ปา้ หมายกลุ่ม 608 เปน็ ฐานในการจัดสรร
 ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการวัคซีนในระดับเขตสุขภาพ
โดยให้ปรับเกลยี่ ภายในเขตสขุ ภาพ ก่อนจัดสรรกระจายลงไปในพืน้ ที่
มาตรการการปอ้ งกนั ควบคุมโรคในพนื้ ท่ีเฉพาะ Bubble and Seal :
 กลไกด้านการส่ือสารทาความเข้าใจ 1) คู่มือมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพ้ืนท่ีเฉพาะ (Bubble
and Seal) 2) แบบ Checklist สาหรับทีมผู้ประเมินกากับมาตรการทีมจังหวัด 3) คลิปสื่อสารมาตรการ
Bubble and Seal ก่อนการระบาดและเมือ่ เกดิ ระบาด
 กลไกด้านการให้คาแนะนาและระบบพี่เล้ียง ท่ีปรึกษา (Coaching) 1) ทีมส่วนกลางประกอบด้วย
กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2) ทีมระดับเขต
ประกอบด้วย สานักงานป้องกันควบคุมโรค ศูนย์อนามัย ศูนย์สุขภาพจิต 3) ทีมระดับจังหวัด ประกอบด้วย
สานักงานสาธารณสุขจังหวัด อตุ สาหกรรมจังหวัด สวัสดิการแรงงาน สานกั งานประกันสังคม สภาอตุ สาหกรรมจงั หวดั
หอการค้าจงั หวดั มหาดไทย หรือหน่วยงานอ่นื ภายใตค้ าส่งั แตง่ ตงั้ และมติคณะกรรมการโรคตดิ ต่อจงั หวัด
 กลไกดา้ นกากบั ประเมนิ ผล 1) ทมี สว่ นกลาง 2) ทีมเขต 3) ทมี บูรณาการระดบั จังหวัด
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอให้ทีมเช่ียวชาญเฉพาะด้านลงไปดาเนินการเรื่อง Bubble and Seal เพ่ือนาร่องจังหวัด
ใหด้ าเนินการได้ถกู ตอ้ ง ตามมาตรฐานที่กาหนดไว้
กำรจัดทำระบบบริหำรจัดกำรขอ้ มลู เพอื่ สนับสนนุ กำรบรหิ ำรเชงิ นโยบำย กรณี COVID-19 :
 Detect คือข้อมูล CO-LAB ท่ีมาจากหน่วยงาน LAB ที่เป็นมาตรฐานของ RT-PCR และ ATK
โดยจะดาเนนิ การสง่ ขอ้ มลู นี้ใหก้ บั หน่วยงานควบคุมโรคทัว่ ประเทศ รวมทั้งสาธารณสุขจงั หวดั
 Recovery จะนาข้อมลู มาจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม รวมถงึ Hospitel ทใ่ี ห้การรกั ษาพยาบาลทง้ั หมด
 Response ระบบจะดึงข้อมูลมาและไปรวมท่ีระบบ Co-Link และจะกระจายข้อมูล ให้จัดหาเตียง
Co-Novel และ Co-Ambulance
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เร่งตรวจสอบพสิ ูจน์ตัวตนคนต่างดา้ วไรส้ ิทธิ์
 จดั ต้งั คณะกรรมการกาหนดนโยบาย ในการบรหิ ารจดั การและบรู ณาการระบบขอ้ มูล
 ควรบรหิ ารจัดการมาตรฐานข้อมลู กาหนดหน้าท่ีและอานาจท่ีทชี่ ัดเจน
กำรปฏบิ ัติกำรนำสง่ ผูป้ ่วย COVID-19 โดย สถำบันกำรแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 3 ส.ค. 64 นาส่งสาเรจ็ 15 ราย สะสม 758 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรบั ผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏบิ ัติกำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ท่ี 292
ประจำวันท่ี 5 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศ์รจติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคญั
เรื่องเพือ่ ทรำบ
 วันท่ี 4 สิงหาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับชมรมแพทย์ชนบทได้จัดหน่วย CCRT
โดยบุคลากรสาธารณสุขจิตอาสาหลายสาขาวิชาชีพในภูมิภาค ร่วมดาเนินการเชิงรุกในพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล จานวน 30 ทีม ระหว่างวันท่ี 4-10 สิงหาคม 2564 โดยเข้าไปตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อ
ในชุมชนด้วยชุดตรวจ ATK หากพบผู้ติดเชื้อนาเข้าสู่ระบบ HI ให้ยารักษา และฉีดวัคซีน หากมีอาการรุนแรง
จะสง่ ตอ่ สถานพยาบาล
 วันท่ี 4 สิงหาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ร่วมกับ CCRT ในชุมชนทางรถไฟมักกะสัน
ซ่ึงเป็นชุมชนแออัด ระบบระบายอากาศไม่ดี และมีช่องทางเข้าออกหลายทาง โดยเข้าไปตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อ
ในชมุ ชนด้วยชุดตรวจ ATK พบผลบวกประมาณร้อยละ 10 และดาเนินการตามมาตรการดูแลรักษา
 พิจารณาการคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK เม่ือผลเป็นบวก อาจจะไม่ต้องยืนยันด้วยการตรวจด้วย
RT-PCR ใน 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) กลุ่มที่เป็นผลบวกแล้วมีอาการแสดง 2) กลุ่มที่อยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วยที่ตรวจ
RT-PCR ผลเปน็ บวก 3) กลมุ่ วยั แรงงานทม่ี ีรา่ งกายแข็งแรง
 โรงพยาบาลบุษราคมั ดาเนนิ การจัดสรรเตียงสาหรับผู้ปว่ ยวิกฤต (ICU) จานวน 17 เตยี ง โดยจดั ตั้ง
แยกจากพ้ืนทเ่ี ดมิ พร้อมทัง้ เตรียมทรพั ยากร และบคุ ลากรอย่างเพยี งพอ
 วันท่ี 4 สิงหาคม 2564 ได้รับรายงานการฉีดวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 2 ในพื้นท่ีจังหวัดลพบุรี
มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขดาเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจกับสานักงานสาธารณสุขจังหวัด
ใหป้ ฏิบัติตามนโยบายการฉดี วคั ซนี
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลมุ่ ภำรกิจตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT)

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 พบผู้ติดเช้ือ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพ่ิมขึ้น แนวโน้มในเกณฑ์
คงตวั ผ้ปู ่วยหายกลับบ้านในทุกชนิดการดูแลรักษาอยใู่ นระดับสูง
 พ้ืนที่ต่างจังหวัด มีแนวโน้มสูงข้ึนต่อเนื่อง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ติดเช้ือ
ในครอบครัวจากผู้เดินทางกลับภมู ิลาเนาจากพืน้ ทรี่ ะบาด ภาคกลาง ภาคตะวนั ออก และภาคใต้มกี ารระบาดใน
โรงงาน สถานประกอบการ ตลาดสด และตลาดคา้ ส่ง
 กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล ยังมแี นวโน้มสูงคงตัว และจงั หวัดพื้นท่ีควบคมุ สูงสุดและเข้มงวดอีก
28 จังหวัดเร่งกากับการยกระดับมาตรการ Bubble and Seal แบบ Tailor made และเร่งการฉีดวัคซีน
สาหรับผ้สู ูงอายใุ หค้ รบตามเปา้ หมายภายใน 4 สปั ดาห์

-2 -
ขอ้ เสนอแนะจำกทปี่ ระชุม :
 มอบกรมควบคุมโรคพิจารณา ปรับวิธีการรายงานจานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจาวัน โดยแบ่งแยก
ผลการตรวจ RT-PCR และ ATK เพอื่ สร้างความเขา้ ใจกับประชาชน
 พจิ ารณาการจัดหายาเพือ่ การดแู ลรกั ษาผูต้ ดิ เชื้อเพ่ิมมากขนึ้ ใหท้ ันต่อสถานการณ์ อาทิ Remdesivir
 พิจารณาการจัดต้ังศูนย์การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด–19 ท่ีมีโรคไตเร้ือรัง เพ่ือการดูแลรักษาผู้ป่วย
อกี ทงั้ พจิ ารณาเพมิ่ ศกั ยภาพพยาบาลโดยการจัดอบรมระยะสั้นในการดแู ลผูป้ ว่ ยโรคไต
กำรฉดี วัคซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 4 ส.ค.64) รวม 18,961,703 โดส
เพิ่มข้ึน 383,607 โดส แบ่งออกเป็น ผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 14,783,001 โดส ผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 2
จานวน 4,178,702 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
4 ส.ค. 64 จานวน 1,201,568 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 กรมควบคุมโรค เสนอปรับเกณฑ์การฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มท่ี 2 เร็วข้ึนเป็น 10 สัปดาห์
สาหรบั กลุม่ ผูส้ ูงอายุ และกล่มุ เสย่ี งในพ้ืนทที่ มี่ กี ารระบาด
 พิจารณารายงานจานวนการฉีดวัคซนี สาหรับกลุ่ม Organization รวมท้ังกลุ่มพนักงานส่งอาหาร (Rider)
รำยงำนกำรบรหิ ำรจดั กำรสถำนกำรณแ์ ละแผนกำรดำเนนิ งำนกรุงเทพมหำนคร :
 การดาเนินการ CCRT ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (15 - 31 ก.ค. 64) จานวน 2,043 แห่ง ซึ่งมีแผน
ดาเนนิ การลงพืน้ ที่ในเดือนสิงหาคม 2564 จานวน 536 แห่ง
 ผลการตรวจ ATK (15 ก.ค. – 3 ส.ค. 64) จานวน 23,859 ราย พบการตดิ เชื้อ 2,857 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ปว่ ยด้วยบริการแยกตวั ทบ่ี า้ น (Home Isolation: HI) พ้ืนทก่ี รุงเทพมหานคร
วนั ที่ 4 ส.ค. 64 จานวน 3,815 ราย
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ประสานสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประเด็นการเพิ่มจานวนคู่สาย และเพิ่มจานวนคน
สาหรับการรับสายจากสายด่วน 1330 และประสานความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์เข้ามาช่วยดาเนินการ
แบง่ คสู่ ายและรับสาย เพือ่ ใหส้ ามารถบริหารจดั การได้รวดเร็วยงิ่ ขึน้
CCRT ปฏิบตั กิ ำร สธ.กู้ภัยโควดิ -19 พ้นื ท่ีกรุงเทพมหำนคร และปริมณฑล :
 ผลการดาเนินงาน วันที่ 4 ส.ค.64 ทีมร่วมปฏิบัติการจานวน 24 ทีม พ้ืนที่ดาเนินการ 40 ชุมชน
ในกรุงเทพมหานคร จ.นครปฐม จ.สมุทรปราการ และ จ.ปทุมธานี ดาเนินการตรวจด้วย ATK จานวน 14,002 ราย
พบผลบวกจานวน 1,930 ราย ส่งตรวจยืนยัน RT-PCR จานวน 1,777 ราย ดาเนินการดูแลรักษาตามมาตรการ
และจดั สรรยา Favipiravir ใหผ้ ู้ปว่ ยจานวน 760 ราย รวมจานวน 38,000 เมด็
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณาให้ชุมชนในพ้ืนท่ีกรุงเทพและปริมณฑลท่ีได้การตรวจคัดกรองเชิงรุก ปฏิบัติตามมาตรการ
Bubble and Seal เพ่ือการปอ้ งกนั และควบคุมโรค
การยกระดบั มาตรการปอ้ งกันการตดิ เชื้อ COVID – 19 ในสถานดูแลผู้สูงอายุ :
 การปอ้ งกันควบคุมโรคให้ปฏบิ ัติตามมาตรการของสถานดูแลผ้สู ูงอายุ และประเมินตนเองใน T8C+,จัดหา
วัคซีนสาหรับผูส้ งู อายุและผดู้ ูแล, บคุ ลากรประเมินความเส่ียงทกุ วัน กรณีเสยี่ งให้ตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน
 มาตรการเม่ือมีผู้ติดเช้ือในสถานดูแลฯ ทาความสะอาดสถานท่ี, เฝ้าระวังและค้นหาผู้เสี่ยงติดเช้ือ
รายใหม่ด้วย ATK ,ประเมินตนเองซ้าใน T8C+ ,กรณีมีความพร้อมจัดตั้ง Organization Isolation ประสาน
โรงพยาบาลหลกั เพ่อื ใหค้ าปรกึ ษาและชว่ ยเหลือ
มติจำกที่ประชุม :
 เหน็ ชอบแนวทางการยกระดับมาตรการปอ้ งกันการตดิ เชื้อ COVID – 19 ในสถานดูแลผสู้ งู อายุ
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นทุกกลุ่ม ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ HI&CI ได้ ให้มีการ
บรู ณาการขอ้ มูลและการดูแลผปู้ ่วย เรง่ ดาเนนิ การ CCRT ในช่วง lockdown เพอื่ คน้ หาผปู้ ว่ ยในชมุ ชนมากขน้ึ
 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19 โรงพยาบาลบุษราคัม (ข้อมูล ณ 4 ส.ค. 64) ผู้ป่วยเข้ารับ
บริการสะสม 14,393 ราย อยรู่ ะหว่างการรกั ษา 3,537 ราย
กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำสง่ ผ้ปู ว่ ย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาสง่ รพ.ปลายทาง วันที่ 4 ส.ค. 64 นาส่งได้ 211 ราย ผู้ปว่ ยปฏเิ สธการนาส่ง 26 ราย
จานวนเท่ียวปฏบิ ัตกิ าร 72 เทยี่ ว ผลการสง่ กลบั ภูมลิ าเนา นาส่งสาเรจ็ 47 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏิบตั กิ ำรฉกุ เฉนิ ดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ที่ 293
ประจำวันที่ 6 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.30 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศร์ จติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคัญ
เร่อื งเพ่อื ทรำบ
 วันที่ 5 ส.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ร่วมกับ CCRT ในชุมชนทางรถไฟมักกะสันซ่ึงเป็น
ชุมชนแออดั ระบบระบายอากาศไม่ดี และมชี ่องทางเขา้ ออกหลายทาง พรอ้ มท้ังการลงพ้นื ท่ี Community Isolation
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT)

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 พบผู้ติดเช้ือในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มข้ึน แนวโน้มในเกณฑ์
คงตวั ซึ่งมาจากมาตรการเชิงรุก ผูป้ ว่ ยหายกลับบ้านในทุกชนิดการดูแลรักษาอยู่ในระดับสูง และพบการติดเชื้อใน
ผู้มีอายุน้อยกว่า 15 ติดเช้ือร้อยละ 9-10 ของประชากรเด็กในประเทศ ส่วนใหญ่มีโรคประจาตัวและ
ติดเชื้อในครอบครวั จงึ จาเป็นตอ้ งการสื่อสารมาตรการป้องกันสว่ นบุคคล การเร่งค้นหาเคสในชุมชน
 พื้นที่ต่างจังหวัด มีแนวโน้มสูงข้ึนต่อเนื่อง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ติดเช้ือ
ในครอบครัวจากผู้เดินทางกลับภูมิลาเนาจากพ้ืนท่ีระบาด ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีการระบาด
ในโรงงาน สถานประกอบการ ตลาดสด และตลาดค้าสง่
 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีแนวโน้มสูงคงตัว และจังหวัดพ้ืนท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
28 จังหวัด เร่งกากับการยกระดับมาตรการ Bubble and Seal แบบ Tailor made และเร่งการฉีดวัคซีน
สาหรบั ผสู้ ูงอายใุ ห้ครบตามเปา้ หมายภายใน 4 สัปดาห์
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ปี ระชมุ :
 ให้ดาเนินการฉีดวัคซีน Pfizer ในกลุ่มเด็กท่ีมีโรคประจาตัว เสนอให้รายงานผู้เสียชีวิตที่ติดเช้ืออายุ
18 ปี เปรยี บเทียบกบั ชว่ งอายุอ่นื เพื่อสนับสนุนการฉีดวคั ซีนผู้ที่อายตุ า่ กวา่ 18 ปี
 เสนอพิจารณาการทาข้อมูลเปรียบเทียบความรุนแรงของการระบาดแต่ละจังหวัด โดยพิจารณาจาก
จานวนผู้เสียชวี ิตและจานวนทรพั ยากรทางการแพทย์ในจังหวัดนัน้ ๆ
กำรฉีดวคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ.– 5 ส.ค. 64) รวม 19,632,537 โดส
เพิ่มข้ึน 607,834 โดส แบ่งออกเป็น ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 15,108,276 โดส ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2
จานวน 4,277,071 โดส เขม็ ท่ี 3 จานวน 175,190 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค.64 –
5 ส.ค. 64 จานวน 1,213,152 โดส เพ่มิ ขนึ้ 11,584 โดส

-2 -
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ประสานความร่วมมือในการเก็บรักษาและเร่งการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม พร้อมทั้งการลงข้อมูล
การฉดี วคั ซีนในระบบให้ครบถ้วน
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :
 ข้อมูล วันท่ี 5 ส.ค. 64 การครองเตียง 37,047 ราย Discharge 3,749 ราย Admit 2,620ราย
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนทุกกลุ่ม เร่งนาผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ HI & CI
และอย่รู ะหว่างการบูรณาการข้อมลู และการดูแลผปู้ ่วย ตดิ ตามการเพ่มิ เตียงสเี หลืองและสีแดง
 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19 โรงพยาบาลบุษราคัม (ข้อมูล ณ 5 ส.ค. 64) ผู้ป่วยเข้ารับ
บรกิ ารสะสม 14,750 ราย อยรู่ ะหว่างการรักษา 3,629 ราย
ขอ้ เสนอแนะจำกทีป่ ระชมุ :
 ทบทวนหลักการการรับคนไข้ท่ีตรวจ ATK มีผลบวก เข้าในระบบการรักษา เพ่ือความชัดเจน
และง่ายต่อการปฏิบัติ และตรวจสอบการเข้าถึงชุดตรวจ ATK ของประชาชน รวมถึงช้ีแจงแนวทางปฏิบัติเม่ือ
ใช้ชุดตรวจ ATK กับประชาชนให้ชัดเจน
กำรจดั กำรสนบั สนุนด้ำนกำรภำรกิจเตำเผำศพ :
 เป็นการดาเนินการร่วมกันระหว่างกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและกรมอนามัย ในการลงพ้ืนท่ีสารวจ
เตาเผาศพ จากกลุ่มเป้าหมายจานวน 189 วัด มีวัดที่รับเผาศพ จานวน 31 วัด ซ่ึงสามารถเผาศพได้สูงสุดวดั ละ
4 ศพ จากการเก็บข้อมูลบริษัทผลิตและจาหน่ายเตาเผา มีทั้งหมด 7 บริษัท ข้อมูลบริษัทผู้ผลิตและจาหน่าย
ตคู้ อนเทนเนอร์ จานวน 5 บริษทั
 เสนอข้อพิจารณา ดงั น้ี ให้ความร้แู ละแนวทางปฏบิ ัตงิ านแก่ผู้ปฏบิ ตั ิงานท่วี ัด สนับสนุนอุปกรณ์ปอ้ งกันส่วน
บุคคลและวัคซีนให้กับผู้ปฏิบัติงาน สนับสนุนเช้ือเพลิง การกระจายศพผู้เสียชีวิตไปตามวัดต่างๆ โดยการ
ดาเนินการต่างๆต้องมีการร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ในเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมหารือ
ร่วมกันระหวา่ ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม สานกั งานตารวจแห่งชาติ สถาบัน
นติ ิเวชวทิ ยา สานักงานพระพทุ ธศาสนา ตวั แทนจากมลู นิธิ รวมถงึ การช่วยเหลอื จากวิศวกรอาสา
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอการประชาสัมพนั ธ์การบริหารจัดการศพและความเขา้ ใจท่ีถูกต้องเรอ่ื งการจัดการศพแก่ประชาชน
โรงพยาบาล บรู พาบุษราคัม-WHA :
 เสนอให้มีการจัดต้ังโรงพยาบาลขนาดจานวนเตียง 792 เตียง ใช้งบประมาณท้ังสิ้น 64 ล้านบาท
เป็นการดาเนินการโดยใช้แบบจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยโรงพยาบาลจุฬารัตน์ และบริษัท True
ดาเนินการในส่วนการดูแลรักษาเองท้ังหมด กาหนดการเปิดวันท่ี 1 ก.ย. 64 ซ่ึงจะดาเนินการแต่งต้ังคณะทางาน
เพ่อื กาหนด MOU และคณะทางานรว่ มซง่ึ ประกอบด้วยรัฐและเอกชนเพื่อกากับติดตามการดาเนนิ งาน
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ให้มกี ารจดั ทา MOU การบริหารจดั การโรงพยาบาลระหวา่ งหนว่ ยงานเอกชนให้ชัดเจน
การดาเนนิ งานควบคมุ ป้องกันโรค COVID-19 ในเขตสขุ ภำพที่ 1-12 :
 การรับกลับไปรักษา (Import case) ตั้งแต่วนั ท่ี 1 ก.ค. 64 จานวน 102,476 ราย ส่วนใหญ่เปน็
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คดิ เป็นร้อยละ 60 และภาคเหนือร้อยละ 20
 ภาพรวมการรับวัคซนี ทุกเขตสขุ ภาพ รบั วัคซีนสะสม 14,467,569 โดส ยอดฉดี กลุ่มเสี่ยง จานวน
183,010 โดส เพ่อื ให้บรรลุเปา้ หมายการฉีดวคั ซนี ของกลมุ่ เสย่ี ง ต้องฉีดวัคซนี ให้ถงึ 7 แสนโดส สว่ นในเขต
สุขภาพที่ 12 พนื้ ท่ีควบคมุ สูงสุดเข้มงวด ฉีดกลุ่มเส่ยี งได้ร้อยละ 70 จากกลุ่มเปา้ หมาย
 เสนอแนวทางเพ่ือการป่วยหนักและการเสียชีวิต ดังนี้ โดยการค้นหาเชิงรุกเพื่อการรักษาท่ีเร็ว
จัดเตรยี มทรพั ยากรและอุปกรณก์ ารแพทยใ์ หเ้ พยี งพอ เรง่ กระจายวัคซีนใหก้ ลุ่มเปราะบาง
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ในการฉีดวัคซีนแนะนาให้ฉีดสูตร SA เป็นหลักเพื่อสอดคล้องในการจัดสรรวัคซีน และกรมควบคุมโรค
จะดาเนินการจดั สรรวคั ซนี Pfizer ให้กับภาคใตภ้ ายในสปั ดาหห์ นา้
 มอบผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้บรหิ ารจดั การวัคซีนและจดั สรรวัคซนี ไปจงั หวดั ตา่ งๆ
กำรปฏบิ ตั ิกำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 โดย สถำบันกำรแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 5 ส.ค. 64 นาส่งได้ 178 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 19 ราย
อนื่ ๆ 2 ราย จานวนเท่ียวปฏบิ ตั กิ าร 72 เทย่ี ว ผลการส่งกลับภมู ลิ าเนา นาส่งสาเร็จ 46 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏบิ ัตกิ ำรฉกุ เฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 294
ประจำวนั ท่ี 7 สงิ หำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.40 น.
ประธำน : นำยแพทยส์ รุ ะ วิเศษศกั ด์ิ รองปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคญั
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพ่ิมขึ้นตามที่คาดการณ์ ท้ังในพื้นท่ี
กรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และต่างจังหวดั และผปู้ ว่ ยหายกลบั บ้านใกลเ้ คยี งกบั จานวนผตู้ ดิ เชื้อรายใหม่
 ยกระดับมาตรการ Bubble & Seal แบบ Tailor made และเร่งการฉีดวัคซีนสาหรับผู้สูงอายุให้ครบ
ตามเป้าหมายภายใน 4 สปั ดาห์
 จังหวดั พื้นท่ีควบคุมสูงสุด 36 จงั หวดั หลายจงั หวัดยังพบผ้ตู ิดเชื้อเพ่ิมข้ึนต่อเนื่อง เร่งกากบั การกักตัว
ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว สถานที่ทางาน และควบคุมการระบาดในชุมชนท่ีเป็นกลุ่มก้อน รวมท้ังบูรณาการ
หนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ป้องกันการรวมกลุม่ ทากจิ กรรมในพ้ืนท่ี
 ลดการสอบสวนโรคเฉพาะราย ตามแบบฟอร์ม Novel 3 เพ่ือลดภาระงาน โดยเน้นกรณี Cluster หรอื เสยี ชวี ิต
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 นาเสนอจานวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนและจานวนผู้เสียชีวิตสัปดาห์ละครั้ง รวมถึงวิเคราะห์ผล
การดาเนนิ การฉดี วัคซนี ปลายเดือนสงิ หาคม
 ส่ือสารประชาสมั พนั ธ์เนน้ ยา้ การฉีดวัคซนี เพอื่ ลดการอัตราการเสยี ชวี ิต
 กากับติดตาม จานวนคงคลัง และเวชภัณฑ์ท่ีเก่ียวข้อง อาทิ ยาต้านไวรัส ยาต้านเชื้อราสาหรับผู้ป่วย
Pneumonia อาการรุนแรง และการติดเชอื้ ราในปอด
 การดาเนินการระบบ CI & HI จะข้ึนอยู่กับบริบทของแต่ละพ้ืนที่ ถึงแม้ระบบ CI จะสามารถกากับ
ดแู ลและควบคุมโรคได้ดกี วา่ ระบบ HI
กำรฉดี วัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 6 ส.ค. 64) รวม 20,280,108 โดส
ความครอบคลุม ร้อยละ 21.8 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 15,687,291 โดส
จานวนผ้ไู ดร้ บั วคั ซนี เข็มท่ี 2 จานวน 4,406,723 โดส เข็มที่ 3 จานวน 186,094 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
6 ส.ค. 64 จานวน 1,227,466 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 วันที่ 4 - 6 ส.ค. 64 วัคซนี Pfizer จานวน 441,660 โดส จัดส่งถึงโรงพยาบาล 170 แห่งทว่ั ประเทศ
แสดงให้เห็นจากรายงานจานวนการฉีดวคั ซนี เขม็ ท่ี 3 สาหรับบคุ ลากรทางการแพทย์
 จากกรณี Fake news เรื่องการฉีดวัคซีน Pfizer กรมควบคุมโรคยืนยันการฉีดวัคซีนสาหรับ
กลมุ่ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหนา้ จรงิ
 พิจารณาจัดสรรวัคซีน Pfizer สาหรับนักศึกษาแพทยช์ นั้ ปที ี่ 6

-2 -
สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม ผู้ป่วยสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ HI & CI ได้ ให้มีการ
บูรณาการขอ้ มูลและการดูแลผู้ป่วย เรง่ ดาเนนิ การ CCRT ในชว่ ง lockdown เพอ่ื คน้ หาผ้ปู ว่ ยในชุมชนมากขึ้น
CCRT ปฏบิ ัติการ สธ. ก้ภู ยั โควิด-19 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (4 - 10 ส.ค. 64) :
 กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนกลุ่ม 608,
ตรวจด้วย ATK สะสม 56,834 ราย Positive 6,079 ราย คิดเป็น 10.7% ส่งตรวจ RT-PCR 5,515 ราย
คดิ เปน็ 90.7% และให้ยา Favipiravir สะสม 2,545 ราย คดิ เป็น 47.2%
 พรุ่งนี้ วันท่ี 8 ส.ค. 64 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะทางาน
มีกาหนดการลงตรวจเย่ยี มการดาเนินงานร่วมกบั ทีมในพนื้ ที่กรุงเทพมหานคร
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พจิ ารณาเนน้ การเชอ่ื มระบบบริการ การดแู ลในชมุ ชน และการฉดี วัคซีน
 กรงุ เทพมหานคร พิจารณาถอดบทเรียนจากการดาเนนิ การและทาเปน็ ตน้ แบบเพ่ือพัฒนาต่อไป
 ทุกหนว่ ยงานพิจารณาติดตามสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติอย่างใกล้ชดิ
การบรหิ ารจัดการยาและเวชภัณฑ์กรณกี ารแพร่ระบาดโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) :
 สถานการณ์ยาสาหรับรักษาโรค COVID-19: อัตราส่วนผู้ป่วยใช้ยา Favipiravir ต่อผู้ป่วยติดเช้ือ
COVID-19 รายเดือน มีจานวนสูงข้ึน ปริมาณการใช้ยาต่อวัน เฉล่ีย 6-8 เม็ดต่อผู้ป่วย 1 ราย การจัดสรรและ
กระจายยา Favipiravir 20,580,674 (7 ก.ค. – 4 ส.ค. 64)
 แนวทางการจัดหาและกระจายยา Favipiravir: องค์การเภสัชกรรม (GPO) จัดหา, กองบริหาร
การสาธารณสขุ สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ จดั ซ้อื และดาเนินการจัดส่งโดยองคก์ ารเภสัชกรรม (GPO)
 สถานการณ์เวชภัณฑ์สาหรับป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 : เร่งรัดการนาเข้าและจัดส่ง Leg Cover,
Hood Cover, Face Shield และ Coverall & Gown ภายในเดอื นสิงหาคม 64
 สถานการณ์จัดซ้ือยา-เวชภัณฑ์ งบกลาง/งบเงินกู้: เร่งรัดดาเนินการจัดหาและจัดซื้อเวชภัณฑ์ จานวน
1,178.67 ล้านบาท ภายในเดือนส.ค. 64 การจัดซื้อยา Favipiravir จานวน 8,820 ล้านบาท ประมาณ 98
ลา้ นเม็ด และเพม่ิ การจัดซอื้ ยา Remdesivir จานวน 100,000 vial ตามแผนทีก่ าหนดไว้
 จากการวิเคราะห์สถานการณ์ช่วงปลายเดือนก.ย. 64 คาดการณ์ปริมาณผู้ป่วยวนั ละ 50,000 คน
จานวนการใช้ยาประมาณ 2 ล้านเม็ด
 ตัง้ แต่เดือนสิงหาคม 64 เปน็ ตน้ ไป องค์การเภสชั กรรม (GPO) เร่มิ ดาเนนิ การผลติ ยาเอง คาดการณ์
สถานการณ์ยาภายในประเทศจะดขี ้ึน
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 หากมีการปรับ CPG การใช้ยา กรมการแพทย์จะดาเนินการหารือกบั กลุ่มภารกจิ สารองเวชภณั ฑ์
 เตรียมแผนการจัดหาและสารองเวชภัณฑ์ ณ คลังในพ้ืนท่ีต่างจังหวัด กรณี ปัญหาการกระจายยาล่าช้า
จากระบบการขนสง่
 กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ วางแผนประชุมหารือเตรียมความพร้อม เร่ือง Home Oxygen therapy
ร่วมกับกองบรหิ ารการสาธารณสุข และกรงุ เทพมหานคร
 เห็นชอบมอบ GPO จัดหายา favipiravir (ต.ค. – ธ.ค. 64) เดือนละ 100 ล้านเม็ด และจัดหายา
Remdesivir เพิม่ เตมิ จานวน 100,000 vial
กำรปฏิบัติกำรนำส่งผู้ปว่ ย COVID-19 โดย สถำบันกำรแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการนาส่งรพ.ปลายทาง วันที่ 6 ส.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 249 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
25 ราย อื่นๆ 4 ราย จานวนปฏิบัตกิ าร 87 เทย่ี ว
 ผลการนาส่งกลับภูมลิ าเนา (21 ก.ค. - 6 ส.ค. 64) สง่ กลบั สาเรจ็ สะสม 929 ราย

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉุกเฉินดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ท่ี 295
ประจำวันที่ 8 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.50 น.
ประธำน : นำยแพทยณ์ รงค์ สำยวงศ์ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรือ่ งเพอ่ื ทรำบ :
 วันท่ี 7 สิงหาคม 2564 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขลงพ้ืนที่อาเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี และอาเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
ตรวจเยี่ยมการดาเนินงานควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด
พบ ว่ า จั งห วั ด มีคว า ม พร้ อมแล ะ มี ศักย ภ า พส า มา ร ถบ ริ ห า ร จั ด กา ร แล ะคว บ คุมกา ร แพร่ ร ะบ า ด ได้ อย่ า ง
มีประสิทธภิ าพ สามารถรองรับและดแู ลรกั ษาผปู้ ว่ ยทเี่ ดนิ ทางจากพนื้ ที่ทมี่ กี ารระบาดได้
 เน้นย้าการตรวจสอบรายงานจานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจาวัน เพื่อป้องกันความซ้าซ้อนของการ
รายงานจานวนผู้ติดเช้อื รายใหม่ทีเ่ ดินทางกลับจากพ้ืนที่กรงุ เทพมหานครและปริมณฑลไปยงั ตา่ งจังหวดั
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กล่มุ ภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเช้ือและเสียชีวิตเพ่ิมขึ้นตามที่คาดการณ์ ท้ังในพ้ืนที่
กรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และตา่ งจังหวดั และผู้ป่วยหายกลับบ้านใกล้เคยี งกับจานวนผู้ติดเช้ือรายใหม่
 ยกระดับมาตรการ Bubble & Seal แบบ Tailor made และเร่งการฉีดวัคซีนสาหรับผู้สูงอายุให้ครบ
ตามเปา้ หมายภายใน 4 สัปดาห์
 ต่างจังหวัดยังพบผู้ติดเช้ือเพิ่มข้ึนต่อเน่ือง เร่งกากับการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว สถานที่
ทางาน และควบคุมการระบาดในชุมชนที่เป็นกลุ่มก้อน รวมท้ังบูรณาการหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ป้องกัน
การรวมกลุ่มทากจิ กรรมในพนื้ ที
 เสนอถอดบทเรียน และพิจารณาพัฒนางานด้านการแพทย์ปฐมภูมิ ในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล โดยใหม้ ีผปู้ ฏิบตั ิงานไดเ้ พยี งพอตามสดั ส่วนประชากรและรวมประชากรแฝงด้วย
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 กรมควบคุมโรคพิจารณาเพ่ิมเติมการรายงานความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียชีวิตจากการติดเช้ือโควิด-19
กับการไดร้ บั หรือไมไ่ ด้รบั วัคซนี รายงานเปน็ ประจาทุกสปั ดาห์
 กรมควบคุมโรคพิจารณาการรายงานข้อมูลพื้นท่ีท่ีมีการระบาดรุนแรง โดยกาหนดจากอัตราป่วย
ของประชากรต่อจานวนทรัพยากรในพื้นที่ เพ่ือกาหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
และจัดสรรทรัพยากรอยา่ งเหมาะสมกับสถานการณ์ในพนื้ ที่
 กรมอนามยั พิจารณามาตรการปอ้ งกันและควบคุมโรคในพ้ืนทตี่ ลาดอยา่ งเข้มงวด

-2 -
กำรฉดี วคั ซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 7 ส.ค. 64) รวม 20,478,635 โดส
เพิ่มขึ้น 198,527 โดส แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 15,843,283 โดส จานวน
ผไู้ ด้รบั วัคซีน เข็มท่ี 2 จานวน 4,438,168 โดส เขม็ ที่ 3 จานวน 197,184 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
7 ส.ค. 64 จานวน 1,244,380 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 กรมควบคุมโรคพิจารณาวางแผนการจัดสรรวัคซีน AstraZeneca แก่ประชาชนเพ่ือรองรับ
สถานการณ์การฉีดวัคซนี ในระยะตอ่ ไป
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ทาความเข้าใจกับหนว่ ยงานระดับจังหวัดเร่ืองการจดั สรร
วัคซีน Pfizer โดยแบ่งเป็นการจัดสรรระยะแรกสาหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยกรมควบคุมโรค
จะเร่งดาเนนิ การจัดสง่ ให้ครบตามแผนทกี่ าหนด
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยยังคงเพ่ิมข้ึนทุกกลุ่ม ผู้ป่วยสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ HI & CI ได้ ให้มีการ
บรู ณาการข้อมลู และการดแู ลผู้ป่วย เร่งดาเนินการ CCRT ในช่วง lockdown เพอ่ื คน้ หาผู้ปว่ ยในชมุ ชนมากขึ้น
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ระบบการดูแลรักษาและการจัดส่งยาสาหรับผู้ป่วยท่ีเข้าระบบ HI จะดาเนินการโดยโรงพยาบาลหรือ
คลินิกอบอุ่นใกล้บ้าน ซ่ึงระยะแรกอาจมีความล่าช้า ท้ังน้ีสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่ระหว่าง
ดาเนินการเพิ่มจานวนทีมโทรประสานผปู้ ่วยในระบบทั้งหมด เพอ่ื ให้ได้รบั การดูแลรักษาและจดั สรรยาอย่างครบถว้ น
 สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกแห่ง ดาเนินการจัดระบบการ
ดแู ลรกั ษา การจดั ส่งยา และการส่งต่อสาหรบั กลุ่มผปู้ ว่ ยที่เขา้ สรู่ ะบบ HI & CI เพ่อื ให้มกี ารดูแลรักษาอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
 พิจารณาระบบการจดั ตั้งจดุ รบั ยาเพม่ิ เติม เพ่อื ให้ญาตสิ ามารถมารับยาแทนผู้ปว่ ยทเ่ี ขา้ ระบบ HI
 บางพื้นท่ีในกรุงเทพมหานครดาเนินการจัดต้ังกลุ่ม Palliative care in COVID-19 สาหรับการดูแล
กล่มุ ผู้ป่วยระยะสดุ ท้ายท่ีต้องการกลับไปรกั ษาตัวทีบ่ ้าน
CCRT ปฏบิ ัติกำร สธ. กภู้ ัยโควิด-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (4 - 10 ส.ค. 64) :
 กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลลงพื้นที่ วันที่ 7 ส.ค. 64
ฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 สะสม 1,838 ราย, ตรวจด้วย ATK สะสม 69,115 ราย Positive 7,227 ราย คิดเป็น
10.5% ส่งตรวจ RT-PCR 6,667 ราย คดิ เป็น 92.3% และให้ยา Favipiravir สะสม 3,724 ราย คิดเปน็ 50.5%
กำรบริหำรจัดกำรยำ Favipiravir กรณีกำรแพรร่ ะบำดโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) :
 การกระจายยา Favipiravir tablet 200 mg วันที่ 8 ส.ค. 64 จานวน 3.41 ล้านเม็ดแบ่งออกเป็น
เขตสุขภาพท่ี 1-12 จานวน 1.8 ล้านเม็ด และกรุงเทพมหานคร จานวน 1.2 ล้านเม็ด และกลุ่มอ่ืนๆ CCRT ฯลฯ
จานวน 410,000 เมด็
 แผนการจัดหาและส่งมอบ Favipiravir tablet 200 mg ภายในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2564
จดั หายาจานวน 120 ล้านเม็ด และในเดือนตลุ าคม – ธันวาคม 2564 จัดหายาจานวน 100 ล้านเมด็ ต่อเดือน
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชมุ :
 กองบริหารการสาธารณสุข ร่วมกับสานักงานคณะกรรมการอาหารและยาและองค์การเภสัชกรรม
พิจารณาปรับแผนการจัดส่งยาให้รวดเรว็ เพอ่ื รองรบั จานวนผู้ป่วยท่มี ีแนวโนม้ เพ่มิ มากขึ้น
 กองบริหารการสาธารณสุข พิจารณาวางแผนการจัดสรรยาให้กับส่วนภูมิภาคตามอัตราการใช้จริง
เพอ่ื ใหเ้ พียงพอสาหรบั การรกั ษาผูป้ ่วยในแตล่ ะพ้นื ที่
 พิจารณาดาเนินการศึกษาประสิทธิผลการใช้ยาชนิดต่างๆ อาทิ Favipiravir สาหรับการดูแลรักษา
ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งผลระยะสั้น ผลระยะยาว และผลข้างเคียงของยาในระยะท่ีผ่านมา และนาเสนอต่อ
ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ตอ่ ไป

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉุกเฉินด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 296
ประจำวันท่ี 9 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.05 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศร์ จิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรือ่ งเพื่อทรำบ :
 กรณีที่โซเชียลมีเดียได้มีการนาภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโพสต์พร้อมระบุข้อความว่า
การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์เปน็ ผลงานของรองนายกรัฐมนตรีน้ัน เป็นขา่ วลวงซึ่งสรา้ งความเข้าใจผดิ แก่ประชาชน
 เน้นย้าเรื่องการกระจายวัคซนี และการฉีดวคั ซีนสูตรผสม Sv+Az (ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า)
ซง่ึ พบวา่ ช่วยกระตุ้นให้ภมู คิ ุม้ กนั ขนึ้ ได้
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลมุ่ ภำรกิจตระหนักรูส้ ถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเช้ือและเสียชีวิตเพ่ิมข้ึนตามท่ีคาดการณ์ ทั้งในพื้นท่ี
กรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และต่างจงั หวดั และผู้ปว่ ยหายกลับบา้ นใกล้เคยี งกบั จานวนผูต้ ดิ เชอ้ื รายใหม่
 ยกระดับมาตรการ Bubble & Sealed แบบ Tailor made และเร่งการฉีดวัคซีนสาหรับผู้สูงอายุให้
ครบตามเป้าหมายภายใน 4 สปั ดาห์
 ต่างจังหวัดยังพบผู้ติดเช้ือเพ่ิมขึ้นต่อเนื่อง เร่งกากับการกักตัวผู้สัมผัสเส่ียงสูงในครอบครัว สถานท่ี
ทางาน และควบคุมการระบาดในชุมชนที่เป็นกลุ่มก้อน รวมทั้งบูรณาการหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ป้องกัน
การรวมกลมุ่ ทากิจกรรมในพนื้ ที่
 เสนอถอดบทเรียน และพิจารณาพัฒนางานด้านการแพทย์ปฐมภูมิ ในพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล โดยให้มีผปู้ ฏบิ ัติงานได้เพยี งพอตามสัดส่วนประชากรและรวมประชากรแฝงดว้ ย
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ประเมนิ ปจั จยั หลักควบคุมการระบาด จากัดการเดินทางข้ามจงั หวัด คดั กรองเขา้ -ออก และงดรวมกลุม่
กำรฉีดวัคซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 8 ส.ค. 64) รวม 20,669,780 โดส
เพ่ิมขึ้น 191,145 โดส แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 15,986,354 โดส จานวน
ผู้ไดร้ ับวัคซนี เขม็ ที่ 2 จานวน 4,461,861 โดส เขม็ ท่ี 3 จานวน 221,565 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
8 ส.ค. 64 จานวน 1,261,506 โดส

-2 -
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พจิ ารณาการรับวคั ซนี เขม็ ท่ี 3 สาหรับผู้ท่ีฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มแลว้ เพ่ือเพ่ิมประสิทธภิ าพ
ภมู คิ ้มุ กันใหส้ ูงข้ึน
 พจิ ารณาการฉีดวัคซีนสาหรับหญิงตั้งครรภ์ในวันแม่ เพื่อเทดิ พระเกียรติ 12 สิงหา พระพันปีหลวง
กำรดำเนนิ งำนควบคุมป้องกนั โรค COVID-19 ในเขตสขุ ภำพที 1-12 :
 แนวทางการฉดี วัคซนี ในกลมุ่ 608 ให้เปน็ ไปตามนโยบาย เขตสุขภาพที่ 7 จังหวัดขอนแกน่ ใชย้ ทุ ธ
ศาตร์เชิงรุก Mobile Vaccination ลงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ชุมชน และองค์กรท่ีมีพนักงานใน
กลุ่ม 608 จังหวัดร้อยเอ็ดเพ่ิมจุดฉีด เพ่ิมการเข้าถึง สะดวก ลดข้ันตอน และแคมเปญรณรงค์ “เดือนวันแม่
ฮักพ่อ-ฮักแม่ รักแท้ต้องพาไปฉีดวัคซีน”ทั้งเดือนสิงหาคม จังหวัดกาฬสินธุ์ เชิญชวน “พาผู้สูงอายุ 60 หรือ
ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคมาฉีด ฟรี 1 สิทธิ์” จังหวัดมหาสารคาม มีข้อสั่งการให้ฉีดในวันเสาร์-อาทิตย์ ด้วย และมีการ
ส่ือสารความเส่ียงเชิญชวนให้มาฉีดดว้ ยการประชาสมั พนั ธ์การทา Info graphic
 รายงานการใช้ยา Favipiravir เขตสุขภาพท่ี 7 จังหวัดขอนแก่น รวมจานวนท่ีใช้ 14,253 เม็ด
จงั หวดั มหาสารคาม 6,702 เม็ด จังหวดั กาฬสินธุ์ 6,609 เมด็ จังหวดั ร้อยเอ็ด 9,118 เมด็ รวม 36,682 เม็ด
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอให้เพิม่ อัตรากาลังในพนื้ ท่ี
 เสนอเร่ืองการรักษาในกรณีผปู้ ่วยเดนิ ทางกลับมารักษาที่ภมู ิลาเนา ขอใหไ้ ดร้ บั ยา Favipiravir ทันที
 สนับสนุนวัคซีนใหเ้ พยี งพอ ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสขุ
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยยังคงเพ่ิมขึ้นทุกกลุ่ม ผู้ป่วยสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ Home Isolation &
Community Isolation เร่งนาผู้ป่วยสีเหลืองเข้า Community Plus, Hospitel, โรงพยาบาลสนาม และเพ่ิม
ทางเลือกการรักษาแบบประคับประคองในผูป้ ่วยสแี ดง
CCRT ปฏบิ ตั กิ ำรสำธำรณสขุ กู้ภัยโควิด-19 กรุงเทพมหำนครและปรมิ ณฑล (4 - 10 ส.ค. 64) :
 กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลลงพ้ืนที่ วันที่ 8 ส.ค. 64
ฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 สะสม 3,047 ราย, ตรวจด้วย ATK สะสม 87,300 ราย Positive 9,263 ราย คิดเป็น
10.6% ส่งตรวจ RT-PCR 8,698 ราย คิดเปน็ 93.9% และให้ยา Favipiravir สะสม 4,708 ราย คิดเปน็ 54.4%
โรงพยาบาลสนามราชานุกลู เพ่ือเด็กพเิ ศษและครอบครวั :
 วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามราชานุกูล เพ่ือเด็กพิเศษและครอบครัว จัดต้ังระบบบริการ
การดูแลรักษาพยาบาลเฉพาะกลุ่มเด็กและครอบครัว, กลุ่มเด็กพิเศษ (พิการประเภทท่ี 5) อายุ 2- 13 ปี และ
ครอบครัว, รับผู้ป่วย ATK ผลเป็นบวกจากชมุ ชนไวด้ ูแลรักษา (PUI, เขียว และเหลือง), รับส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการคงท่ี
จากโรงพยาบาลซง่ึ ดแู ลผปู้ ว่ ยพ้นภาวะเฉยี บพลนั หรือวิกฤต
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอื่ งสถานพยาบาลอ่ืนซงึ่ ได้รับการยกเวน้ ไมต่ อ้ งอย่ใู นบงั คบั ตามกฎหมาย
ว่าด้วยสถานพยาบาลเฉพาะผ้ปู ่วยโรคตดิ ต่ออนั ตรายตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรคตดิ ต่อ กรณีโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา
2019 หรอื โรคโควดิ -19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ณ ทพ่ี านกั ของผู้ปว่ ย เปน็ การช่วั คราว :
 Home Isolation ได้แก่ บ้านหรือที่พักอาศัยของผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วย
โรคตดิ ต่อ กรณีโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โรคโควดิ -19
 Hotel Isolation ได้แก่ โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม หอพักตามกฎหมาย ว่าด้วยหอพัก
อพาร์ตเมนท์ หรือสถานท่ีอ่ืนท่ีมีความเหมาะสมตามท่ีกรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ
หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องกาหนด
ข้อเสนอแนะจากทปี่ ระชุม :
 เป็นทางเลือกท่ีดีในการช่วยเหลือเศรษฐกิจภาคธุรกิจ สาหรับคนท่ีต้องการเปิดกิจการที่พัก ในการ
ช่วยเหลือประชาชน
การปฏิบตั กิ ารนาสง่ ผู้ป่วย COVID-19 โดย สถาบันการแพทยฉ์ ุกเฉินแหง่ ชาติ :
 ผลการนาส่งรพ.ปลายทาง วันที่ 8 ส.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 259 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
6 ราย อื่นๆ 0 ราย จานวนปฏบิ ัตกิ าร 69 เท่ยี ว
 ผลการนาส่งกลับภมู ลิ าเนา (21 ก.ค. - 8 ส.ค. 64) สง่ กลบั สาเรจ็ สะสม 980 ราย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏบิ ัติกำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 297
ประจำวนั ท่ี 10 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.20 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศร์ จติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคัญ
เรอ่ื งเพอื่ ทรำบ :
 เม่ือวันท่ี 9 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. เป็นประธานการประชุมทางไกล (Web Conference)
รว่ มกบั สว่ นภูมิภาค เพอื่ ทาความเขา้ ใจแนวทางการบรหิ ารจัดการวคั ซีน Pfizer และการฉดี วคั ซนี หลักให้แกป่ ระชาชน
 กระทรวงสาธารณสุขเตรียมออกพระราชกาหนดจากัดความรับผิดสาหรับบุคลากรทางการแพทย์
และสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แก่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงคณะผู้เกี่ยวข้องกับการจัดหาและบริหาร
วัคซีน โดยเร่งประชาสัมพนั ธ์เพื่อความเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ ง
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลมุ่ ภำรกจิ ตระหนักรูส้ ถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเช้ือและเสียชีวิตเพิ่มข้ึนตามที่คาดการณ์ ทั้งในพ้ืนท่ี
กรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และต่างจงั หวัด และผปู้ ่วยหายกลบั บ้านใกล้เคยี งกับจานวนผ้ตู ดิ เชื้อรายใหม่
 เสนอให้ทุกจังหวัด ประเมินผลการควบคุมการระบาดและรวบรวมส่งให้ส่วนกลาง พิจารณาครบ
Lockdown 14 วนั
 เสนอถอดบทเรียน และพิจารณาพัฒนางานด้านการแพทย์ปฐมภูมิ ในพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล โดยให้มผี ปู้ ฏบิ ัติงานได้เพียงพอตามสดั สว่ นประชากรและรวมประชากรแฝงดว้ ย
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เน้นยา้ ใหป้ ระชาชนปฏบิ ัตติ ามมาตรการ DMHTT เน่ืองจากจานวนผู้ปว่ ยติดเชื้อจากท่ีบ้านและ ใน
ท่ที างานเพมิ่ ขึ้นอย่างต่อเน่อื ง
กำรฉีดวัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 9 ส.ค. 64) รวม 21,171,110 โดส
เพ่ิมขึ้น 501,330 โดส แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 16,336,743 โดส จานวน
ผู้ได้รับวคั ซนี เขม็ ท่ี 2 จานวน 4,566,345 โดส เข็มที่ 3 จานวน 268,022 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
9 ส.ค. 64 จานวน 1,275,037 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เร่งดาเนินการฉีดวัคซีนในพ้ืนที่ภาคใต้ พร้อมรายงานข้อมูลการได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ เข็มท่ี 2
ให้เปน็ ปัจจุบนั เพื่อวางแผนสารองวัคซีนอยา่ งเพียงพอ พรอ้ มเนน้ การฉีดวัคซีนเข็มท่ี 1 Sinovac และ เข็มที่ 2
AstraZeneca เปน็ วคั ซนี หลัก

-2 -
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :

 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มข้ึนทุกกลุ่ม ผู้ป่วยสีเขียวส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบ Home Isolation &
Community Isolation เร่งนาผู้ป่วยสีเหลืองเข้า Community Plus, Hospitel, โรงพยาบาลสนาม และเพ่ิม
ทางเลือกการรักษาแบบประคบั ประคองในผู้ปว่ ยสแี ดง

CCRT ปฏบิ ัตกิ ำรสำธำรณสุขก้ภู ัยโควดิ -19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (4 - 10 ส.ค. 64) :
 กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลลงพ้ืนท่ี วันที่ 9 ส.ค. 64
ฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 สะสม 2,017 ราย, ตรวจด้วย ATK สะสม 114,867 ราย Positive 11,961 ราย คิดเป็น
10.6% ส่งตรวจ RT-PCR 11,961 ราย คิดเปน็ 95.8% และให้ยา Favipiravir สะสม 5,946 ราย คดิ เปน็ 48.7%

Centralized lab COVID-19 4 มุมเมือง :

 เสนอแนวคิดการจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง (Centralized lab) 4 ศูนย์ ซึ่งจะมีความสามารถ
ในการตรวจ RT-PCR ประมาณ 5,000 ราย ต่อวัน ต่อห้องปฏิบัติการ รวมท้ังเพ่ิมศักยภาพการตรวจ
จานวน 20,000 รายต่อวัน และทาเป็น One-stop service โดยมีการเก็บตัวอย่าง ทดสอบทางห้องปฏิบัติการ
และรายงานผล ซ่งึ มรี ะยะเวลาตัง้ แต่เร่ิมตรวจจนได้ผล น้อยกวา่ 24 ช่ัวโมง

 พื้นทีน่ าร่องโซนกรงุ เทพฯ เหนอื : คลงั สนิ ค้า ท่าอากาศยานดอนเมอื ง

ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :

 ให้พิจารณากลุ่มบุคคลที่สมควรได้รับการตรวจ และทบทวนแนวทางในการจัดต้ังห้องปฏิบัติการกลาง
ในการตรวจโรคโควิด 19 (Central COVID-19 rRT-PCR Laboratoty)

สถานการณ์และแผนการดาเนินงานกรงุ เทพมหานคร :

 ผปู้ ว่ ยติดเชอ้ื รายใหม่ จานวน 3,114 ราย ผ้ปู ว่ ยยนื ยันสะสม จานวน 185,104 ราย
 การดาเนินงาน CCRT ในพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร (วันท่ี 15 ก.ค. – 8 ส.ค. 64) ทีมหลัก จานวน

163 ทีม ทีมสนับสนุน จานวน 97 ทีม ลงพื้นที่สะสม จานวน 2,395 แห่ง มีผู้รับบริการสะสม จานวน

129,954 ราย
 ผลการตรวจ ATK (วันท่ี 15 ก.ค. – 8 ส.ค. 64) จานวน 29,758 ราย พบการติดเชื้อ จานวน

3,458 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยดว้ ยบริการแยกตวั ท่บี ้าน (Home Isolation : HI) พ้ืนท่กี รงุ เทพมหานคร

วนั ท่ี 9 สิงหาคม 2564 จานวน 2,801 ราย
 การดาเนินงาน Community Isolation ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 9 สิงหาคม 2564

เปิดดาเนินการแล้ว 53 แห่ง จานวนเตยี ง 6,359 เตียง
 จานวนผู้ได้รับวัคซีนสะสมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (วันท่ี 28 ก.พ. – 8 ส.ค. 64) จานวนผู้ได้รับ

วคั ซนี เขม็ ที่ 1 จานวน 5,460,638 ราย จานวนผูไ้ ด้รับวคั ซีน เข็มที่ 2 จานวน 1,242,842 ราย

ข้อเสนอแนะจากที่ประชุม :

 ให้ทบทวนจานวนสตรมี ีครรภ์ในพื้นทก่ี รุงเทพฯ และควรรบี ฉีดวัคซีนในเขม็ ท่ี 2

ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
 เรื่องการฉีดวัคซีน Pfizer ใน Health care worker ของคลินิกเอกชนกับผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ
ในพื้นท่ีกรุงเทพฯ ที่ยังขาดข้อมูลอยู่ ซ่ึงเดิมกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นผู้รวบรวมอยู่ กรมควบคุมโรคขอ
อนุญาตประสานเพื่อไปช่วยรวบรวมข้อมลู

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครงั้ ที่ 298
ประจำวันที่ 11 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.30 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคัญ
เร่อื งเพ่อื ทรำบ
 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 64 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข
เร่ือง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่าย
ในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 ประกอบด้วย ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย เคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
การพฒั นาโรงพยาบาลสนาม จานวนเงนิ ทง้ั ส้นิ 12,669,218,318 บาท
 พ.ร.ก. จากัดความรับผิดบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ว่าเป็นไปเพื่อสร้างความ
มั่นใจและปกป้องบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโควิด-19 ภายใต้
สถานการณ์แพร่ระบาดและทรัพยากรที่มีจากัด ให้ปฏิบัติงานได้เต็มที่ ไม่วิตกกังวลเมื่อถูกฟ้องร้อง
ท่ีประชุมเห็นชอบการเสนอ พ.ร.ก. ดังกล่าว และมอบกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ปรับรายละเอียดข้อความ
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน รวมถึงเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาสื่อสาร ชี้แจงต่อสาธารณชน
ให้มคี วามเขา้ ใจในทศิ ทางเดียวกัน
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามท่ีคาดการณ์ ทั้งในพ้ืนท่ี
กรงุ เทพมหานคร ปริมณฑล และตา่ งจังหวัด และผูป้ ว่ ยหายกลบั บา้ นใกล้เคียงกบั จานวนผ้ตู ิดเชอ้ื รายใหม่
 พบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ในพื้นท่ีภาคกลาง ภาคตะวันออก ในหลายจังหวัด
ชายแดนใต้พบการระบาดในชุมชนตอ่ เนื่อง
 ภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ พบผู้ตดิ เชือ้ ท้ังจากเดินทางกลบั ภูมิลาเนา ผูส้ มั ผัสในครอบครัว
และคนท่รี ู้จกั กนั เนน้ การกกั ตัวใหค้ รบถ้วน ทัง้ กรณีผสู้ มั ผัสในครอบครวั /ท่ีทางานท่มี ี ATK หรือ RT-PCR พบผลบวก
 การกากบั ตดิ ตาม มาตรการ Lockdown

- เร่งการฉดี วคั ซนี ในกลุ่ม 608 โดยเฉพาะพ้นื ทคี่ วบคุมสูงสดุ และเข้มงวด ใหไ้ ด้ตามเป้าหมาย
- ติดตามมาตรการ Bubble & Seal ในสถานประกอบการ โรงงาน ในจังหวัดทีม่ ีโรงงานขนาดใหญ่
กำรฉีดวคั ซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 10 ส.ค. 64) รวม 21,717,954 โดส
แบ่งออกเป็น เข็มท่ี 1 จานวน 16,701,428 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 42.9 เข็มท่ี 2 จานวน
4,692,030 โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 10.3 เขม็ ที่ 3 จานวน 324,496 โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 0.6

-2 -
ประมำณกำรณ์จำนวนวคั ซนี AstraZeneca สำหรับให้บริกำรประชำชน ต้ังแต่วนั ท่ี 16 ส.ค. - 3 ต.ค. 64 :
 เกณฑ์ในการประมาณการณ์จานวนวัคซีน AstraZeneca เข็มท่ี 2 จากข้อมูลจากระบบกระทรวง
สาธารณสุข (MOPH IC) รวมคาดการณว์ ัคซีนจนถึงเดอื นต.ค. 64 จานวน 12,109,776 โดส
 หากพ้ืนท่ีใดมีการปรับกาหนดการนัดรับเข็มที่ 2 ของวัคซีน AstraZeneca (สูตร AA) เร็วขึ้นกว่า
12 สัปดาห์ อาจส่งผลต่อความต้องการวัคซีน AstraZeneca ที่จะใช้ในการให้บริการตามมา และหากมีการ
กระจายวคั ซีน Sinovac ไปในพ้นื ท่มี ากกว่าสปั ดาหล์ ะ 1 ลา้ นโดส จะส่งผลให้จานวนวัคซีน AstraZeneca เขม็
ที่ 2 ที่ต้องใช้ในแต่ละสัปดาห์เพ่ิมขึ้น ทั้งน้ี จานวนวัคซีนที่จัดสรรขึ้นกับสถานการณ์การระบาดของโรคและ
ปรมิ าณวคั ซนี ที่สง่ มอบจากบรษิ ัทผู้ผลติ
 จากการคาดการณจ์ านวนวัคซนี มคี วามเพียงพอแตต่ ้องตดิ ตามสถานการณ์อย่างใกล้ชดิ
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 สานักงานประกันสังคม จัดทาโครงการ Factory Sandbox เพ่ือควบคุมการระบาดในโรงงานได้
โรงงานตอ้ งมีจานวนวัคซนี ทเ่ี พยี งพอ ประสานโรงพยาบาลคูส่ ญั ญา
 ประเมินมาตรการเพื่อความเหมาะสม
 พจิ ารณาทบทวนความเพยี งพอของจานวนวคั ซนี AstraZeneca และนาจานวนวัคซีน Pfizer มาพจิ ารณารว่ มดว้ ย
CCRT ปฏิบัติการ สธ. กูภ้ ัยโควดิ -19 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (4 - 10 ส.ค. 64) :
 ตรวจดว้ ย ATK สะสม 141,516 ราย Positive 15,588 ราย คดิ เปน็ 11.0% ส่งตรวจ RT-PCR
15,074 ราย คดิ เปน็ 96.7% และให้ยา Favipiravir สะสม 446,950 เมด็
 บทเรียนสาคัญ ไดแ้ ก่ ประชาชนเขา้ ถึงการคัดกรองด้วย ATK ได้งา่ ย ประชาชนไดร้ บั ยา Favipiravir
จากหน่วยตรวจและช่องทางอื่นๆ HI ทาได้ยากมากจึงมีความต้องการศูนย์พักคอย CI หรือโรงพยาบาลสนาม
เป็นจานวนมาก และการฉีดวัคซีนทาให้ครอบคลุมประชากรตามชายชอบกรุงเทพหมานคร ผู้สูงอายุ และผู้ท่ีมี
โรคเร้อื รังมากข้นึ สิง่ ท่ีสาคัญทสี่ ดุ ของการดาเนนิ การคือสร้างความหวงั ให้กับประชาชน สะท้อนจิตวิญญาณของ
บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ไดร้ ับการช่ืนชมของประชาชนเป็นจานวนมาก
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ช่ืนชมการปฏิบัติงานของทีม CCRT ท่ีมาเป็นต้นแบบให้กับกรุงเทพมหานคร สะท้อนให้เห็นการ
ควบคุมโรค การรักษา และการฉดี วคั ซนี ในกลุ่มที่เข้าถึงยาก นอกเหนอื จากระบบ HI & CI ท่ีมอี ยู่
 กรุงเทพมหานคร พิจารณาพัฒนาระบบปฐมภูมิทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้สามารถเข้าถึง
กลมุ่ ชนบทที่ไมส่ ามารถเขา้ ถงึ การบริการทางการแพทย์ได้ เพ่ือเป็นประโยชนใ์ นระยะยาว
การตดิ ตามยทุ ธศาสตร์การจัดการการระบาด COVID-19 สัปดาหท์ ี่ 33 (30 ก.ค. – 5 ส.ค. 64) :
 Severe cases 5,005 ราย คิดเปน็ 3.08%, Death Cases 842 ราย คดิ เปน็ 0.65%
 ข้อเสนอแนะ: จังหวัดเตรียมความพร้อมรองรับผู้ปว่ ย กากับติดตามผู้ป่วย severe เน้นการเข้มงวด
มาตรการมุ่งเป้าหมาย ลดอัตราตาย, เฝ้าระวังการระบาดในโรงงาน ตลาด และชุมชน เข้มงวดมาตรการ
Bubble & Seal, เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ/กลุ่มเสี่ยง ให้ครอบคลุมตามเป้าหมายของพื้นที่ภายใน 30 วัน
(อย่างนอ้ ย 1.9 แสนคน/วัน), ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามกากบั การควบคุมโรค การฉีดวัคซีน
และสนับสนนุ ในเขตสุขภาพ และกล่มุ logistics เตรยี มแผนสนบั สนนุ ทรพั ยากรตามความเหมาะสม
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณานาจานวน Severity Case ประกอบการจัดสรรวัคซนี
 กรมการแพทย์ พิจารณาการออกข้อกาหนดให้จดั สรรและกระจายวัคซีนเชิงรุกลงไปถึงโรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตาบล (รพ.สต.) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และขยายเวลาฉีดออกไปนอกเวลา
ราชการมากขึน้ โดยเฉพาะปรมิ ณฑล
 การผอ่ นคลายมาตรการควรชะลอออกไปก่อน และควรเพ่ิมการฉีดวคั ซีนให้มคี วามครอบคลุมมากท่สี ุด
 พิจารณาประเมินความรุนแรงของสถานการณ์รายพื้นที่กับความครอบคลุมของวัคซีน เพื่อนามา
ประเมินความสอดคล้องกบั นโยบาย และประกอบการพิจารณาการจดั สรรวคั ซีน
แนวทำงกำรใช้วถิ ชี วี ติ ใหม่ กรณีโควดิ -19 สำธำรณรัฐสิงคโปร์ :
 ประเด็นเรียนรู้สกู่ ารประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ดังน้ี ส่ือสารกับประชาชนอยา่ งชดั เจน ถึงการเปล่ียนแปลง
ของโควิด-19 และทางออกในการที่จะอยู่กับโควิด New Normal of Covid-19 และกาหนดกลยุทธ์ใช้วัคซีนเป็นตัว
ขบั เคลอ่ื น, เพิ่มการเข้าถงึ Antigen Rapid Test, การติดตามผู้ติดเชื้อ และ Mutual recognition for international travel
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาหารอื รว่ มกบั หนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้อง และจัดกระบวนการระดมสมอง เร่อื ง แนวทางการใชว้ ถิ ชี วี ิตใหม่
และพิจารณาส่ือสารถงึ สถานการณ์เปลย่ี นแปลงส่วู ถิ ีชวี ติ ใหม่ เพ่ือสรา้ งความรว่ มมอื จากประชาชน
กำรปฏบิ ตั ิกำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 โดย สถำบนั กำรแพทย์ฉกุ เฉนิ แหง่ ชำติ :
 ผลการนาส่งรพ.ปลายทาง วันท่ี 10 ส.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 138 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
17 ราย อืน่ ๆ 2 ราย จานวนปฏบิ ตั กิ าร 56 เทย่ี ว
 ผลการนาส่งกลบั ภมู ิลาเนา (21 ก.ค. - 10 ส.ค. 64) สง่ กลบั สาเร็จสะสม 1,071 ราย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผ้บู ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉกุ เฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังที่ 299
ประจำวนั ท่ี 12 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.25 น.
ประธำน : นำยแพทยณ์ รงค์ สำยวงศ์ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคญั
เรื่องเพอ่ื ทรำบ
 เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 64 มีกลุ่มบุคคล (หมอไม่ทน) ย่ืนข้อเรียกร้องให้ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีน Pfizer
ทงั้ นกี้ ระทรวงสาธารณสุขได้รบั ฟงั และเตรยี มข้อมลู เพื่อชแี้ จงแลว้
 เม่ือวันท่ี 11 ส.ค. 64 จากการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่าย ทุกท่านมี
ความเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่เสนอ พ.ร.ก. จากัดความรับผิดบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโควิด แต่จะ
เสนอให้รัฐบาลพิจารณาดาเนินการหามาตรการในการปกป้องคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนนักวิชาการต่างๆ
เพอ่ื ลดความกังวลและสรา้ งความมั่นใจในการทางาน ทัง้ นี้ไดแ้ ถลงการณ์ออกสู่สาธารณชนแลว้
 เม่ือวันท่ี 11 ส.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขร่วมประชุมกับองค์การเภสัชกรรม เรื่องการจัดซ้ือ
ชุดตรวจ ATK จานวน 8.5 ล้านชุด และได้มอบหมายให้สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบ
ข้อมลู กรณีทพ่ี บว่าชุดตรวจของบรษิ ัทดงั กลา่ วไม่ผา่ นการรบั รองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเช้ือและเสียชีวิตเพ่ิมขึ้นตามที่คาดการณ์ ท้ังในพ้ืนท่ี
กรงุ เทพมหานคร ปรมิ ณฑล และต่างจังหวัด และผปู้ ว่ ยหายกลับบ้านใกล้เคยี งกับจานวนผู้ติดเช้ือรายใหม่
 พบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ในพ้ืนที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ในหลายจังหวัด
ชายแดนใต้พบการระบาดในชุมชนต่อเนื่อง
 ภาคเหนอื ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื พบผตู้ ิดเช้อื ท้งั จากเดินทางกลบั ภูมลิ าเนา ผสู้ มั ผสั ในครอบครัว
และคนที่รู้จักกนั เนน้ การกักตัวใหค้ รบถ้วน ทั้งกรณผี ูส้ มั ผัสในครอบครัว/ที่ทางานที่มี ATK หรือ RT-PCR พบผลบวก
 การกากับ ติดตาม มาตรการ Lockdown เร่งการฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 โดยเฉพาะพื้นที่ควบคุม
สูงสุดและเข้มงวด และเพิ่มการฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ พร้อมทั้งติดตามมาตรการ Bubble & Sealed
ในสถานประกอบการต่างๆ
กำรฉีดวคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 11 ส.ค. 64) รวม 22,288,819 โดส
เพ่ิมขึน้ 570,865 โดส แบ่งออกเป็น เขม็ ท่ี 1 จานวน 17,068,605 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 23.7 เข็มที่ 2
จานวน 4,826,641 โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 6.7 เข็มท่ี 3 จานวน 394,073 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 0.5
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
11 ส.ค. 64 จานวน 1,298,384 โดส เพ่มิ ขึ้น 10,866 โดส

-2 -
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบกรมควบคุมโรคทบทวนแผนจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอ และเสนอพิจารณาประกาศการใช้วัคซีน
Pfizer ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสย่ี ง
 สนับสนุนการใช้ชุดตรวจ ATK โดยมอบกรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์จัดทาแนวปฏิบัติเพื่อให้
ประชาชนเข้าถงึ บรกิ าร และกองบรหิ ารการสาธารณสุขจัดทาแผนจดั สรรชดุ ตรวจให้กับส่วนภูมิภาค
สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ข้อมลู วันท่ี 11 ส.ค. 64 การครองเตยี ง 35,190 ราย Discharge 4,493 ราย Admit 2,737 ราย
 ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวเข้าสู่ระบบ HI & CI และระบบอ่ืนได้มากข้ึน เร่งนาผู้ป่วยสีแดงและสีเหลือง
เข้าสู่ระบบการรกั ษา เรง่ การบรู ณาการขอ้ มูลทุกระบบการรบั เขา้ รักษา
การดาเนินงานควบคุมป้องกันโรค COVID-19 ในเขตสุขภำพที่ 8 :
 การรับกลับไปรักษา (Import case) ทุกเขตสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 จานวน 102,476 ราย
ภาพรวมการรบั วคั ซีนทกุ เขตสขุ ภาพ รบั วคั ซีนสะสม 15,556,024 โดส
 สถานการณ์เขตสุขภาพที่ 8 ติดเชือ้ ยนื ยนั สะสม 20,989 ราย ตดิ เชอ้ื ในพ้ืนท่ี 2,095 ราย นอกพื้นท่ี
18,844 ราย เสียชีวิต 91 ราย ฉีดวัคซีนสะสม 913,936 โดส ดาเนินการประชุมศูนย์ EOC และประชุม
การบรหิ ารจัดการวัคซนี รวมทั้งเพ่มิ หนว่ ยฉีดวัคซีนเชงิ รกุ ตามโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบล (รพ.สต.)
แนวทำงกำรบริหำรจัดกำรขยะมูลฝอยตดิ เชือ้ ในสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโรค COVID-19 :
 ศักยภาพการเผาขยะในปัจจุบันอยู่ที่ 278 ตันต่อวัน ปัจจุบันพบปัญหาขยะตกค้างท่ีแหล่งกาเนิด
การขนส่งขยะ ทาให้เกิดขยะมูลฝอยตกค้างรอการกาจัด โดยได้ดาเนินการเร่งรัดกับบริษัทขนส่งขยะ รวมท้ัง
ประชุมร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงานเพื่อหาแหล่งรับกาจัดขยะเพิ่มเติม ประสาน
กระทรวงกลาโหมขอสนับสนุนกาลังทหารในการขนส่งขยะและพ้ืนท่ีในการพักคอยขยะ ขับเคลื่อนการลดขยะ
ในโรงพยาบาล
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พจิ ารณาดาเนินการทบทวนกฎระเบียบ และหาแนวทางเพ่ือกาจดั ขยะตดิ เชื้อได้มากข้นึ
กำรจดั สภำพแวดล้อมและระบำยอำกำศสำหรับสถำนที่พักคอยในชุมชน (Community Isolation) :
 ลักษณะอาคารควรตั้งอยู่ห่างเขตชุมชนไม่น้อยกว่า 10 เมตร ปฏิบัติตามมาตรการด้านการจัดการ
สิ่งแวดล้อมและมาตรการ DMHTT เพ่ิมการแลกเปลี่ยนอากาศระหว่างภายในภายนอกอาคารให้มากข้ึน
เบ้ืองต้นกรมอนามัยได้จัดทาคาแนะนาให้กับประชาชนและจัดทาหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
เพ่ือช้ีแจงแนวทางเรียบร้อยแลว้
สรปุ ข้อมูลกำรตรวจทำงห้องปฏิบตั ิกำรผ่ำนระบบ Co-Lab :
 จานวนตรวจสะสมทงั้ หมด 4,969,416 ราย แบง่ เปน็ RT-PCR 4,932,481 ราย ATK 36,906 ราย
 ปัจจุบันผู้บริหารสามารถเข้าดูข้อมูล Dashboard แบบ Real time ในระบบได้ โดยข้อมูลจะมีการ
เชอ่ื มระบบจากหอ้ งปฏิบตั ิการทง้ั หมด รวมถึงขอ้ มูลการตรวจ ATK จากสานกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (สปสช.)
กาลังอยู่ระหว่างการประสานเพื่อนาเข้าข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน สามารถเข้าดูผลตรวจและพิมพ์ในระบบได้ ซึ่งอยู่
ในระหว่างการพฒั นาการลงข้อมลู แบบ Personal ATK
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ขอความร่วมมือห้องปฏิบัติการทุกแห่งรายงานผลในระบบภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งในวันที่ 14 ส.ค. 64
จะมีการตรวจสอบข้อมลู ผู้ติดเช้อื ของเขตสุขภาพกบั ระบบข้อมูลทางห้องปฏบิ ตั ิการ
 เสนอพิจารณาศึกษาข้อมูลทางวิชาการเพ่ือหาจานวนเหมาะสมในการตรวจเชื้อให้สอดคล้องกับจานวน
ประชากรของประเทศ
 เสนอพิจารณาการเตรียมข้อมลู ทางวชิ าการเพ่ือยืนยนั การตรวจ ATK สาหรบั อนาคต
โรงพยำบำลสนำมใต้รม่ พระบำรมี (โรงพยำบำลพลังแผ่นดิน แห่งท่ี 3) :
 การจัดต้ังโรงพยาบาลสนาม โดยมีโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ท่าอากาศยานไทย และกรมธนารักษ์
ดาเนนิ การร่วมกัน และไดป้ ระสานกรมการแพทย์เพื่อเปดิ เพิ่ม 2 แหง่ ปัจจุบันอยู่ระหวา่ งเปดิ รบั อาสาสมัคร

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏิบัติกำรฉกุ เฉินดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังที่ 300
ประจำวันที่ 13 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศ์รจิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เรอ่ื งเพ่ือทรำบ
 พิจารณาปรับราคาชดุ ตรวจ ATK เป็น 60 บาท เพอื่ จัดสรรแกโ่ รงพยาบาลในสังกดั กระทรวงสาธารณสุข
และ UHosNet จานวน 600,000 ชุดตอ่ สัปดาห์ เพอื่ การตรวจคัดกรองเป็นระยะ 1 เดือน
 พจิ ารณาตรวจคัดกรองด้วย ATK สาหรบั บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
และ UHosNet เพ่ือป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดภายในโรงพยาบาล โดยพิจารณารูปแบบการตรวจ
คดั กรองและวธิ ีการเก็บข้อมูล เพ่ือการศึกษาต่อไป
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเช้ือและเสียชีวิตเพ่ิมขึ้นตามคาดการณ์ ท่ีมีประสิทธิภาพ
ลดคา่ Rt ได้ 20% ซึ่งจากรายงานข้อมลู ประจาวนั พบผู้ติดเช้อื จากการคดั กรองเชิงรกุ จานวนมาก
 พื้นท่ีกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด และผู้ป่วยหายกลับบ้านใกล้เคียงกับจานวน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้เสียชีวิตในกลุ่มขนส่งสาธารณะ ส่วนใหญ่เป็นแท็กซี่ และ MC รับจ้าง เสนอพิจารณา
การปอ้ งกันโรคในกล่มุ นี้เม่ือผ่อนปรนมาตรการ Lock down
 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อท้ังจากเดินทางกลับภูมิลาเนา ผู้สัมผัสในครอบครัว
และคนท่ีรูจ้ ักกัน เน้นการกกั ตัวให้ครบถว้ น ภาคกลาง ภาคตะวันออก พบการระบาดในสถานประกอบการ แคมปค์ นงาน
 การกากับ ติดตาม มาตรการ Lockdown เร่งการฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 โดยเฉพาะพ้ืนท่ีควบคุม
สูงสุดและเข้มงวดให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมทั้งติดตามมาตรการ Bubble & Sealed ในสถานประกอบการ
โรงงาน ในจังหวดั ท่ีมีโรงงานขนาดใหญ่
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เพิม่ การฉีดวัคซนี สาหรบั ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ และประสานกระทรวงคมนาคมในการปรับ
รถแทก็ ซี่ให้มีฉากกั้นระหว่างคนขบั รถกับผโู้ ดยสาร และพิจารณาเพิม่ มาตรการตรวจคดั กรองด้วย ATK สาหรับ
บริษทั และองคก์ รตา่ งๆ เพอื่ ปอ้ งกันและควบคุมการแพร่ระบาดภายในองค์กร
 ปรับระบบรายงานข้อมูลเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงการรายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบการ
ตรวจ RT-PCR และ ATK
กำรฉดี วคั ซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 12 ส.ค. 64) รวม 22,508,659 โดส
เพมิ่ ขนึ้ 219,840 โดส แบ่งออกเป็น เข็มที่ 1 จานวน 17,239,593 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 23.9 เข็มท่ี 2
จานวน 4,855,000โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 6.7 เข็มท่ี 3 จานวน 414,066 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 0.6
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
12 ส.ค. 64 จานวน 1,308,276โดส เพิม่ ข้นึ 9,892 โดส

-2 -
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณาวางแผนการเร่งการฉีดวัคซีนในจังหวัดที่รายงานอัตราการฉีดวัคซีนต่า เพื่อให้การ
ดาเนนิ งานเป็นไปตามเปา้ หมาย
 พจิ ารณาจดั ต้งั จุดฉดี วัคซนี และจัดระบบลงทะเบียนการฉดี วัคซีนสาหรับกล่มุ พระภิกษสุ งฆ์
 พจิ ารณาเพิ่มหลักเกณฑ์ใหส้ ามารถต้งั จดุ ฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบล
กำรแลกเปล่ียนวคั ซีนโควิด 19 (AstraZeneca) ระหว่ำงรฐั บำลภฎู ำนกบั รัฐบำลไทย :
 การรับมอบวัคซีนจากรัฐบาลภูฏาน โดยรัฐบาลไทยต้องคืนวัคซีนแก่รัฐบาลภูฏานในไตรมาส 4
ปี 2564 จานวน 130,000 – 150,000 โดส ซึ่งวัคซีนจะหมดอายุเดือนตุลาคม 2564 (โดยมีจานวน
19,070 โดส ท่ีจะหมดอายใุ นเดอื นสงิ หาคม 2564)
 รัฐบาลไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายท่ีอาจจะเกิดในกระบวนการขนส่งวัคซีนมายังประเทศไทย
และการส่งกลับคืน รวมถึงการขอยกเว้นภาษีนาเข้าและส่งออก โดยยกเว้น "อากร" ตาม มาตรา 12 ประกาศ
กระทรวงการคลงั แตไ่ มส่ ามารถยกเวน้ "ภาษ"ี 7% ได้
มติท่ปี ระชุม :
 เห็นชอบการรับมอบวัคซีนจากรัฐบาลภูฏาน มอบกรมควบคุมโรคดาเนินการและจัดทาข้อเสนอ
ต่อคณะรฐั มนตรีเพือ่ รบั การสนับสนนุ การขนสง่ วัคซีนจากกองทัพอากาศ
กำรรับบริจำค Monoclonal Antibody (Casirivimab/ Imdevimab) จำกระทรวงสำธำรณสุข
ประเทศเยอรมนี :
 ยาได้รับการอนุมัติ Emergency Use Authorization (EUA) จากคณะกรรมการอาหารและยา
ประเทศสหรัฐอเมริกา และขึน้ ทะเบยี นกับสานักงานคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศไทยแล้ว
 การรับมอบ Monoclonal antibody (Casirivimab/ Imdevimab) จากกระทรวงสาธารณสุข
ประเทศเยอรมนี ของบริษัท Regeneron จานวน 1,000 - 2,000 ชุด โดยรัฐบาลไทยเป็นผู้รับผิดชอบ
ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และมอบแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลเท่านั้น สามารถนาไปใช้ได้เฉพาะในโรงพยาบาลท่ีได้รับ
การจดั สรรยาเทา่ น้นั ไม่สามารถสง่ ต่อโรงพยาบาลอื่นได้
มติท่ีประชุม :
 เหน็ ชอบการรบั บริจาค Monoclonal Antibody จากประเทศเยอรมนี มอบกรมควบคุมโรคดาเนนิ การ
 มอบกรมการแพทย์พิจารณาข้อบง่ ช้ีการใชย้ า และเกณฑ์การจดั สรรยาแกโ่ รงพยาบาล และประสาน
เครอื ขา่ ย UHosNet ดาเนนิ การศึกษาประสิทธผิ ลการใช้ยาดงั กลา่ ว
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :
 ผู้ปว่ ยกล่มุ สีเขียวเขา้ สู่ระบบการรักษา HI&CI และระบบอ่ืนได้มากข้ึน เรง่ นาผู้ป่วยสีแดงและสีเหลือง
เข้าสูร่ ะบบการรักษา เรง่ การบูรณาการเช่อื มโยงข้อมูลทุกระบบ
การดาเนินงานควบคุมป้องกันโรค COVID-19 ในเขตสขุ ภำพที่ 9
 การรบั กลบั ไปรักษา (Import case) ทุกเขตสุขภาพ (1 ก.ค. 64 – 12 ส.ค. 64) จานวน 129,771 ราย
จานวนวคั ซีนทไี่ ดร้ ับจัดสรรทุกเขตสุขภาพ 17,488,160 โดส และมีวัคซนี คงเหลือ 3,309,601 โดส
 สถานการณ์เขตสุขภาพท่ี 9 (วันท่ี 11 ส.ค. 64) ผู้ติดเชื้อสะสม 27,807 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่
1,004 ราย เสียชีวิตสะสม 163 ราย ฉีดวัคซีนสะสม 1,333,162 โดส มีการดาเนินการสนับสนุนการเข้าถึงยา
วัคซีน และชุดตรวจ ATK การสื่อสารที่ชัดเจนและครอบคลุมตามนโยบายหลัก การบูรณาการทรัพยากรระดับ
เขตสขุ ภาพ และการมอง New Normal Scenario แบบบรู ณาการเชิงรุก
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาปรับเพ่ิมการรายงานจานวน Import case โดยนาเสนอข้อมูลจานวนสะสม และข้อมูล
จานวนที่เพมิ่ ข้ึนรายวนั ของทุกเขตสุขภาพ พร้อมทง้ั แนวโน้มประจาสัปดาห์
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามและกาชับการฉีดวัคซีนให้สอดคล้องกับจานวน
ทีไ่ ด้รบั จัดสรรในแต่ละเขตสขุ ภาพ
กำรบริหำรจดั กำรยำ Favipiravir กรณกี ำรแพร่ระบำดโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) :
 สถานการณ์ยาคงเหลือ ณ วันท่ี 11 ส.ค. 64 ยา Favipiravir จานวน 10,365,815 เม็ด และ
ยา Remdesivir จานวน 9,731 vial
 ดาเนินการจัดหายา Favipiravir ในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2564 จัดหายาจานวน 124 ล้านเม็ด
และ Remdesivir เพม่ิ จานวน 100,000 vial ในเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2564 จัดหายาจานวน 300 ล้านเมด็
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาดาเนินการศึกษาประสิทธิผลการใช้ยา Favipiravir และ Remdesivir สาหรับการดูแลรักษาผปู้ ว่ ย
โรคโควดิ -19 ท้งั ผลระยะส้นั ผลระยะยาว และผลข้างเคียงของยา และนาเสนอต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
กำรปฏิบตั กิ ำรนำส่งผู้ป่วย COVID-19 โดย สถำบันกำรแพทยฉ์ ุกเฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 12 ส.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 198 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 10 ราย
จานวนปฏิบัติการ 57 เท่ยี ว ผลการนาสง่ กลับภูมลิ าเนา (21 ก.ค. - 12 ส.ค. 64) ส่งกลับสาเร็จสะสม 1,150 ราย

**********************

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏิบัตกิ ำรฉกุ เฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครงั้ ท่ี 301
ประจำวนั ท่ี 14 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.05 น.
ประธำน : นำยแพทย์ธงชัย กีรตหิ ตั ถยำกร รองปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เร่ืองเพอื่ ทรำบ
 เม่ือวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าพบกับเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์
ประจาประเทศไทย เพ่ือพูดคุยสร้างสัมพันธไมตรี หลังจากที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้มอบชุดตรวจ Antigen
Test Kit จานวน 1.1 ลา้ นชดุ และเคร่ืองชว่ ยหายใจ 102 เครอื่ ง เพ่ือใชต้ อ่ สู้กับสถานการณ์โควดิ -19
 เม่อื วนั ที่ 13 สงิ หาคม 2564 นายกรฐั มนตรีเป็นประธานการประชุมทางไกล (Video Conference)
ร่วมกับส่วนภูมิภาค เพ่ือหารือการบรหิ ารจดั การดูแลผู้ติดเช้อื โควดิ -19 การแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI)
และการแยกกกั ในชมุ ชน (Community Isolation : CI) และการนาสง่ ผูป้ ่วยกลบั ภมู ลิ าเนา
 พิจารณาการใช้ยาแอนติบอดีค็อกเทล “Ronapreve” โดยผลการศึกษาพบว่าสามารถลดอาการ
ป่วยลดลงจาก 14 วัน เป็น 10 วัน ซง่ึ สามารถชว่ ยลดภาระเตยี ง และห้อง ICU ของโรงพยาบาลได้
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ ที่มีประสิทธิภาพ
ลดคา่ Rt ได้ 20% ซึ่งจากรายงานขอ้ มูลประจาวันพบผตู้ ดิ เช้ือจากการคดั กรองเชงิ รุกจานวนมาก
 พื้นท่ีกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด และผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจานวนใกล้เคียงกับ
จานวนผตู้ ิดเชื้อรายใหม่
 พบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ตลาด ในพ้ืนท่ีภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ พบผูต้ ดิ เชือ้ ทง้ั จากเดนิ ทางกลบั ภูมลิ าเนา ผสู้ ัมผสั ในครอบครวั และคนทรี่ จู้ กั กนั
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ควรเน้นการปฏิบัติตัวสาหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ในการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI)
และการแยกกกั ในชมุ ชน (Community Isolation : CI)
 พิจารณาตรวจสอบขอ้ มลู ผู้ป่วยยนื ยันใน กทม. กรณที ่ีข้อมลู มีความซา้ ซ้อนกับผู้ปว่ ยเดนิ ทางกลับภมู ิลาเนา
 เสนอมาตรการเสริมชว่ ง Lockdown อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ในระหวา่ งวนั ท่ี 16-31 สิงหาคม 2564
กำรฉีดวัคซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 13 ส.ค. 64) รวม 23,192,491 โดส
เพ่ิมขนึ้ 683,832 โดส แบ่งออกเป็น เขม็ ที่ 1 จานวน 17,696,114 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 24.6 เขม็ ท่ี 2
จานวน 5,033,568 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 7 เข็มท่ี 3 จานวน 462,809 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 0.6
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
13 ส.ค. 64 จานวน 1,317,769 โดส เพ่ิมขนึ้ 9,493 โดส

-2 -
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งศูนย์ เขตต่างๆ
ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กากับ ติดตาม เร่งดาเนินการฉีดวัคซีน Pfizer ในบุคลากรทางการแพทย์และ
สาธารณสขุ ดา่ นหน้า
 พิจารณากลุ่มเป้าหมายสาหรับบุคคลที่มีความเส่ียงสูง และแนวทางการจัดสรรวัคซีน Pfizer กรณี
วคั ซีนเพียงพอและครอบคลุ มแลว้ จากบคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ดา่ นหนา้
คำแนะนำกำรใหว้ ัคซีนโรงพยำบำลส่งเสริมสขุ ภำพตำบล และนอกสถำนพยำบำล :
 คาแนะนาให้วัคซีน 1. การจัดบริการให้วัคซีนท่ีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล 2. นอก
สถานพยาบาล เป็นการจัดบริการให้วัคซีนโดยทีมบุคลากรทางการแพทย์ ณ สถานที่นอกโรงพยาบาล เช่น วัด
โรงเรียน หรือ อาคารเอนกประสงค์ ฯลฯ ตามบริบท และสถานการณ์ในพื้นท่ี หรือ เป็นการปฏิบัติงานแบบเชงิ รุก
ใหบ้ ริการวคั ซนี ตามบ้าน ที่พกั หรอื รถ Mobile
 ทีมบุคลากรทางการแพทย์ ให้คาแนะนาปรึกษาได้โดยพิจารณาตามดุลยพินิจ และทีมบุคลากรทาง
การแพทย์ประจาจุด พร้อมชุด PPE พิจารณาตามความเสี่ยงและสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์กู้ชีพ กรณี
เกดิ เหตุฉกุ เฉินสามารถนาส่งโรงพยาบาลให้เร็วทสี่ ุด
 ผู้รับวัคซีน ทุกกลุ่มอายุตามนโยบายและดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนกรณีท่ีมีโรคเรื้อรังท่ีการรักษายังไม่
คงท่ใี ห้ปรกึ ษาแพทย์ผดู้ ูแล
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชมุ :
 จดั ระบบการทางานให้รวดเรว็ ปลอดภัย และภายใตผ้ ลลพั ธ์ประชาชนตอ้ งไดร้ ับวคั ซนี ที่รวดเรว็
 เห็นชอบ คาแนะนาการให้วัคซีนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล และนอกสถานพยาบาล
มอบกรมการแพทย์ ดาเนนิ การแจง้ คาแนะนาดงั กลา่ วแกห่ น่วยงานหรือผรู้ ับผดิ ชอบทราบ
มาตรการ “การดแู ลรักษาหญงิ ตัง้ ครรภ์” ในสถานการณโ์ ควิด-19 :
 วิเคราะห์การตายในหญิงตั้งครรภ์ 1. ปัจจัยจากหญิงตั้งครรภ์ ความรู้ความเข้าใจต่อโรค (9%)
2. การเขา้ ถึงบรกิ ารล่าช้า (21%) 3. ความลา่ ช้าของระบบบรกิ าร (70%)
 การยกระดับมาตรการป้องกันและดูแลรักษาหญิงต้ังครรภ์ 1. การป้องกันระดับบุคคลโดยปฏิบัติ
ตามมาตรการ DMHTT ในครอบครัว ท่ีมีความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด กาหนดหรือสนับสนุนมาตรการ WFH ใน
หญิงตั้งครรภ์ และรณรงค์สนับสนุนการฉีดวัคซีน แก่ หญิงต้ังครรภ์ที่คลินิกฝากครรภ์หรือเชิงรุก 2. การดูแล
รักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ โดยพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการดูแลรักษา, จัดให้มี multidisciplinary
consultation ระดับเขต, ยกระดับเครือข่ายระดับเขตในการดูแลรักษาหญิงต้ังครรภ์ท่ีติดเชอื้ , ผลักดันให้หญิง
ตงั้ ครรภ์ทตี่ ดิ เชือ้ ไดเ้ ข้ารบั การดูแลรักษาในโรงพยาบาล
 เสนอเพ่ือพิจารณา 1. เห็นชอบในหลักการ “การยกระดับมาตรการป้องกันและดูแลรักษาหญิงต้ังครรภ์
กรณีโควิด 19” 2. สนับสนุนการจัดลาดับความสาคัญในการฉีดวัคซีนโควิดให้แก่หญิงตั้งครรภ์ 3. มอบกรม
อนามยั เขตสุขภาพและจังหวัด รว่ มรณรงคก์ ารฉีดวคั ซนี โควิดและดาเนนิ การตามมาตรการยกระดบั ฯ 4. มอบ
กรมอนามัย นาเสนอในท่ีประชุม ศปก.ศบค. เพ่ือบูรณาการการปฏิบัติกับหน่วยงาน โรงงาน อุตสาหกรรม
กระทรวงมหาดไทย และองค์การปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น
ขอ้ เสนอแนะ/ มติจำกท่ปี ระชุม :
 เห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว เพื่อยกระดับมาตรการปอ้ งกันและดูแลรักษาหญิงตัง้ ครรภ์ กรณโี ควดิ -19
 เสนอพิจารณาการ WFH กรณีหญิงต้ังครรภ์ และในระหว่างหยุดปฏิบัติงาน สามารถรับเงินเดือน
จากประกันสงั คมได้ และนาเสนอตอ่ ในคณะกรรมการฝ่ายแพทย์ของประกนั สังคม
 มอบกรมอนามยั หารือกบั ราชวิทยาลัยสูตินรแี พทย์แหง่ ประเทศไทย เพอ่ื ประสานกับหมอสูตินรีแพทย์
ทัว่ ประเทศในการชีแ้ จงแนวทางการฉดี วคั ซีนให้แก่หญิงต้ังครรภ์
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :
 ผู้ปว่ ยกลมุ่ สีเขยี วเขา้ สู่ระบบการรักษา HI&CI และระบบอ่ืนได้มากข้ึน เรง่ นาผู้ปว่ ยสีแดงและสีเหลือง
เขา้ สูร่ ะบบการรกั ษา เร่งการบูรณาการเช่ือมโยงข้อมลู ATK, HI, CI, Co-link, Coward
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารับ
บริการสะสม 9,627 ราย จานวนผู้ป่วยวันนี้ 188 ราย

**********************

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏบิ ัตกิ ำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งท่ี 302
ประจำวนั ที่ 15 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศ์รจิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคัญ
เรอื่ งเพอ่ื ทรำบ
 เมอ่ื วันที่ 14 สิงหาคม 2564 รองนายกรฐั มนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเย่ียม
การบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 การแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) และการแยกกักในชุมชน
(Community Isolation : CI) และการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล
เฉลิมพระเกียรติ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซ่ึงเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลแห่งแรกของประเทศไทย
ตามนโยบายกระจายการเขา้ ถงึ วัคซีนให้แก่ประชาชน
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลุ่มภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณโ์ รคโควดิ -19 แนวโนม้ พบผ้ตู ิดเชื้อและเสียชวี ิตอยูใ่ นเกณฑส์ งู คงตัว
 สัดสว่ นผตู้ ิดเชอ้ื รายใหม่ในต่างจังหวดั เริม่ ลดลง แตผ่ ูป้ ว่ ยอาการหนักและเสียชวี ิตในสดั ส่วนเพ่มิ ขน้ึ เลก็ นอ้ ย
 กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีสัดส่วนการฉีดวัคซีนเพ่ิมขึ้นต่อเน่ือง มีสัญญาณการป่วยหนัก/เสียชีวิต
เริ่มลดลงบ้าง และผ้ปู ่วยหายกลับบ้านใกลเ้ คียงกับจานวนผ้ตู ิดเชื้อรายใหม่
 พ้ืนทภ่ี าคกลาง ภาคตะวนั ออก ยงั พบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ตลาด
 ภาคเหนอื ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื พบผูต้ ิดเชือ้ ท้ังจากเดนิ ทางกลับภูมิลาเนา ผู้สมั ผัสในครอบครัว
และเสริมมาตรการช่วง Lockdown ต่อเนื่อง (16-31 ส.ค. 64) ด้วยการคัดกรองในวงกว้างด้วย ATK
เตรียมความพร้อมในสถานประกอบการ หน่วยงานราชการ/ เอกชน และการดูแลรักษาในระบบ HI&CI และ
BB&S with early control
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณาเร่งกระจายวคั ซนี ตามแผนการฉดี วัคซีนของแต่ละจงั หวัด
 ศึกษามาตรการ การจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในต่างประเทศที่มีขนาดใกล้เคียงกับ
ประเทศไทย เชน่ เยอรมนั องั กฤษ และฝร่ังเศส
กำรฉีดวัคซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 14 ส.ค. 64) รวม 23,476,869 โดส
แบ่งออกเป็น เข็มที่ 1 จานวน 17,879,206 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 45.6 เข็มท่ี 2 จานวน
5,073,672 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 10.9 เข็มท่ี 3 จานวน 523,991 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 1.0

-2 -
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
14 ส.ค. 64 จานวน 1,326,950 โดส
ข้อเสนอการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ตอ่ ศูนยบ์ ริหำรสถำนกำรณ์โควิด-19 (ศบค.) :
 หลักการและเหตุผล: จากการประเมินผลมาตรการ ต้ังแต่วันที่ 3 ส.ค. 64 ท่ีผ่านมา ยังพบว่า
สถานการณ์การระบาดของโรคยงั มีแนวโนม้ ไมล่ ดลง ทงั้ กรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และจงั หวัดในพน้ื ทค่ี วบคมุ สูงสุด
และเข้มงวด รวมทัง้ ภูมภิ าคหลายจังหวดั อีกท้ังยังมผี ้ปู ว่ ยหนัก และผเู้ สียชวี ิตอยา่ งต่อเนอ่ื ง
 ขอ้ เสนอของกระทรวงสาธารณสขุ ดังน้ี

1. ทุกพ้ืนทคี่ งระดบั พ้นื ทส่ี ถานการณย์ อ่ ยในพืน้ ท่ีท่ัวราชอาณาจกั ร และตามมาตรการเดิม
2. เพ่ิมมาตรการ และการจัดการของหน่วยงาน ได้แก่ 1. ให้ดาเนินมาตรการ Test - Trace - Isolate
อย่างต่อเน่ือง 2. มาตรการองค์กร พื้นท่ีควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 3. มาตรการควบคุมโรคเฉพาะสถานท่ี
(พนื้ ทจี่ ังหวดั สแี ดงเขม้ ) 4. มาตรการลดการเสียชวี ิต
 ข้อเสนอจากการประชมุ ศปก.ศบค. วันที่ 14 ส.ค. 64 ดังน้ี
1. การจัดหา ATK ในการตรวจ สถานประกอบการหรือหน่วยงานทั้งของรัฐ/เอกชนดาเนินการอยา่ งไร
2. มาตรการท่ีเสนอเพิ่ม จะให้จดั ทาเป็นขอ้ กาหนด หรอื จัดทาเป็นแนวทางการดาเนินงาน
 ขอ้ เสนอจากหน่วยงานต่างๆ ดงั นี้
1. เพ่ิมความเคร่งครดั มาตรการการเดินทางข้ามจงั หวัด พนื้ ท่ีควบคมุ สงู สุด และเขม้ งวด
2. ขอผ่อนคลายมาตรการในพน้ื ทค่ี วบคุมสูงสดุ และเขม้ งวด

2.1 ขอผอ่ นคลายให้มีการเปดิ ใช้สนามกีฬาประเภทกลางแจง้
2.2 กระทรวงพาณิชย์ และ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ขอผ่อนคลายการจาหน่ายสินค้า
จาเป็น/กิจการจาเป็น ในหา้ งสรรพสินคา้ (ธนาคาร/สถาบนั การเงนิ , ธุรกจิ สอ่ื สาร ไอที, ร้านเบ็ดเตล็ด และร้าน
เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ที่จาเป็น) เพ่อื กระจายชอ่ งทางการใชบ้ รกิ าร และอานวยความสะดวกให้ประชาชน
ข้อเสนอแนะ/ มติจำกท่ีประชุม :
 การผ่อนคลายมาตรการสนามกีฬาประเภทกลางแจ้งยังไม่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
แต่ให้มีการเตรยี มการเพ่อื ผ่อนคลายในเดือนกันยายน 2564 ดงั นี้
1. คาแนะนาการปฏบิ ัติส่กู ารผอ่ นคลายมาตรการ อาทิ การปฏิบัติของประชาชนเมอ่ื จะใช้บริการ
2. การใช้ Antigen Test Kit: ATK เพอื่ ใหต้ รวจพบผ้ปู ว่ ยและเขา้ รับการรักษาท่ีรวดเร็วข้นึ ดงั นี้
- หารือราคาทเี่ หมาะสมหรอื อาจจดั สรรสาหรบั ประชาชนทีไ่ มม่ กี าลังซ้อื
- ความหลากหลายของชอ่ งทางจัดจาหน่ายเพอื่ ให้ประชาชนสามารถเขา้ ถึงได้ง่าย
- พิจารณาจดั ทา Protocol การใช้ ATK ทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย
- สามารถปรับบทบาทของบุคลากรทางการแพทย์เนน้ การให้บริการฉดี วัคซนี เพ่มิ มากยง่ิ ขน้ึ ได้
- ระบบ HI&CI ตอ้ งมีความเขม้ แข็งเพื่อรองรบั ผ้ปู ว่ ยทีเ่ พ่มิ มากขน้ึ
3. เสนอ Universal prevention หรอื Micro Lockdown เพือ่ เนน้ ยา้ มาตรการปอ้ งกนั ควบคุมโรคในครวั เรือน
4. เร่งดาเนินการฉดี วคั ซนี ให้ครอบคลมุ โดยปรับเปา้ หมายใหส้ ูงข้ึน
5. ติดตามสถานการณ์การระบาดและสายพันธใุ์ หม่อย่างต่อเนื่อง
 พิจารณาศึกษามาตรการควบคุมป้องกันโรคของต่างประเทศ โดยเปรียบเทยี บข้อแตกต่างของแต่ละ
ประเทศ เพ่อื นามาปรับใช้กบั ประเทศไทย
 มอบกรมควบคุมโรค พิจารณาศึกษามาตรการ Health Pass ของต่างประเทศ เมื่อจะใช้บริการใน
รา้ นอาหารและรา้ นค้า และนามาปรับใชใ้ หม้ คี วามเหมาะสมกบั ประเทศไทยเพ่ือลดผลกระทบด้านเศรษฐกจิ
 เห็นชอบการผ่อนคลายธนาคาร/ สถาบันการเงินในห้างสรรพสินค้า เพื่อลดความแออัดของสาขานอก
ห้างสรรพสนิ ค้า
 พิจารณาวเิ คราะห์ Setting Transmission แหล่งแพรร่ ะบาด เพือ่ ประเมนิ ทศิ ทางของสถานการณใ์ นอนาคต
และคาดการณร์ ะยะเวลาการผ่อนคลายมาตรการ
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปรมิ ณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มผู้ป่วยยังสงู คงตัว เตียงผู้ป่วยสีเหลอื งและแดงยงั คงตึงตวั เร่งให้ยาในระหวา่ งผูป้ ่วยรอเตยี ง
ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

*******************นกำรแพทย์ฉกุ เฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการนาส่งรพ.ปลายทาง วนั ที่ 10 ส.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 138 ราย ผ้ปู ่วยปฏิเส

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผูบ้ ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 303
ประจำวันที่ 16 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.55 น.

ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศร์ จติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ

เรอื่ งเพ่ือทรำบ
 กระทรวงสาธารณสุขได้รับเงินบริจาค จานวน 180 ล้านบาท เพื่อให้จัดซ้ือชุดตรวจ Antigen Test Kit
(ATK) โดยจะจัดสรรให้กับกระทรวงสาธารณสุข และ UHosNet ทั้งนี้ มอบกองบริหารการสาธารณสุข
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ประสานองค์การเภสัชกรรม ดาเนินการจัดซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK)
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลุ่มภำรกิจตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโนม้ พบผู้ติดเช้ือและเสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์สูงคงตวั สดั ส่วนผู้ติดเช้ือรายใหม่
ในต่างจงั หวัดเริ่มลดลง แตผ่ ู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตในสัดส่วนเพ่ิมขน้ึ เล็กน้อย
 กรงุ เทพมหานคร มีสัดสว่ นการฉดี วคั ซีนเพ่มิ ขนึ้ ต่อเนอื่ ง และผปู้ ว่ ยหายกลับบา้ นใกลเ้ คียงกับจานวน
ผู้ติดเช้ือรายใหม่ สาหรับปริมณฑล ยังจาเป็นต้องเร่งการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ ให้ได้ครบตามเป้าหมาย
70% ในอกี 2 สปั ดาห์
 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อท้ังจากเดินทางกลับภูมิลาเนา และพบผู้สัมผัส
ในครอบครวั มีแนวโน้มลดลง ท้งั นีห้ ลายจังหวดั พบการระบาดภายในจังหวัด ชุมชน ควรเรง่ คัดกรอง ATK และเข้า HI&CI
 ภาคกลาง ภาคตะวันออก ยังพบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ตลาด เร่งมาตรการ

ฉดี วัคซนี ในกลุม่ 608 ใหไ้ ดต้ ามเปา้ หมาย 50% พร้อมทั้งเรง่ มาตรการ BB&S ในโรงงาน

ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เรง่ ดาเนนิ การฉดี วคั ซีนเข็มที่ 2 ให้มากที่สดุ
 เสนอให้ขยายมาตรการลอ็ คดาวน์ต่อเน่ือง และพิจารณาผอ่ นคลายมาตรการบางอยา่ งตามความเหมาะสม
 เสนอให้จัดทารายงานอัตราการเสียชวี ติ ในเด็ก อายุระหว่าง 12 - 18 ปี เพ่ือพิจารณาจัดสรร และ
เรง่ ดาเนนิ การฉีดวัคซนี ในกลุ่มดังกลา่ ว และเสนอให้ฉีดวัคซีนสูตร Pfizer ควบคู่กับวัคซีนสูตรอื่นแก่ประชาชนท่ัวไป

กำรฉดี วคั ซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รบั วัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 15 ส.ค. 64) รวม 23,592,227 โดส
แบง่ ออกเป็น เขม็ ที่ 1 จานวน 17,996,826 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 25 เข็มที่ 2 จานวน 5,109,476 โดส
ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 7.1 เข็มที่ 3 จานวน 485,925 โดส ความครอบคลุมรอ้ ยละ 0.9

-2 -
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
15 ส.ค. 64 จานวน 1,336,679 โดส เพิม่ ข้นึ 9,729 โดส
กำรควบคมุ ป้องกนั โรค COVID-19 ในเขตสุขภำพที่ 1 - 12 :

 แนวทางการฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ให้เป็นไปตามนโยบาย เขตสุขภาพที่ 4 มีจานวนผู้ป่วยติดเชื้อ
สะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 14 ส.ค. 64 จานวน 112,136 ราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ร้อยละ
23.55 รักษานอกโรงพยาบาล ร้อยละ 76.45 และมีเตียงว่าง จานวน 13,329 เตียง เข้าระบบ CCC ร้อยละ
43.48 เข้าระบบ HI 56.52 โดยในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบวา่ ความรุนแรงของโรคเริ่มดีขน้ึ ผ้ปู ว่ ยวิกฤติ
ทต่ี อ้ งการเครอ่ื งชว่ ยหายใจต้ังแต่ Higt Flow ขึน้ ไป ลดลงจากร้อยละ 1.24 เหลอื รอ้ ยละ 1.16

 เขตสุขภาพท่ี 4 มีจานวนผู้ป่วยท่ีกลับไปรักษาภูมิลาเนา สะสมตั้งแต่วันท่ี 1 ก.ค. – 15 ส.ค. 64
จานวน 7,305 ราย และผู้ได้รับวัคซีน จานวน 1,537,185 โดส โดยในเดือน ส.ค. 64 มีแผนการฉีดวัคซีน
ในกลมุ่ 608 ใหไ้ ดต้ ามเป้าหมายทีก่ าหนด

ขอ้ เสนอแนะจำกท่ปี ระชุม :
 เสนอให้เขตสุขภาพท่ี 4 เร่งดาเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ให้มากท่ีสุด เพื่อพิจารณาผ่อนคลาย
มาตรการล็อคดาวน์/ มาตรการตา่ ง ๆ และให้รายงานจานวนผู้รบั วัคซีนให้เป็นปจั จุบนั
 พิจารณาและสารวจกลุ่มเปา้ หมายและแนวทางการจัดสรรวัคซีน Pfizer สาหรับเจา้ หน้าท่ีที่ปฏิบัติงาน
ในคลินกิ และโรงพยาบาล UHosNet

สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :

 แนวโน้มผู้ป่วยยังสูงคงตัว เตียงผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงยังคงตึงตัว เร่งให้ยาในระหว่างผู้ป่วยรอ
เตยี งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บริการสะสม 9,951 ราย จานวนผู้ปว่ ยวันนี้ 132 ราย

กำรปฏิบตั ิกำรนำสง่ ผปู้ ่วย COVID-19 โดย สถาบันการแพทยฉ์ กุ เฉนิ แห่งชาติ :

 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 16 ส.ค. 64 นาส่งได้ 143 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 1 ราย
จานวนเท่ียวปฏิบตั กิ าร 41 เที่ยว

**********************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผ้บู ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏิบตั กิ ำรฉกุ เฉินดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 304
ประจำวนั ท่ี 17 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศร์ จิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคญั
เรอ่ื งเพื่อทรำบ
 วันที่ 16 ส.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมกับ US-ASEAN Business Council:
USABC หารือเรอ่ื งการคา้ และการจัดหาวคั ซนี
 วันท่ี 16 ส.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประชุมหารือกับกรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางใน
การบริหารจดั การยา Favipiravir ให้เพยี งพอต่อการใช้ยาวนั ละ 4 แสนเม็ด โดยปรับการขนสง่ ยาให้รวดเร็วขึ้น
พร้อมทั้งมอบกรมการแพทย์ทบทวนปรับแนวทางการใชย้ า Favipiravir อย่างเหมาะสม
 วันที่ 16 ส.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมกับศบค. เพ่ือรายงานความก้าวหน้า
ของสถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน เม่ือเปรียบเทียบกับแบบจาลองการระบาด ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันอยูใ่ น
รปู แบบการ Lockdown รอ้ ยละ 20 ท่ีมีการฉดี วัคซีน โดยต้องเพม่ิ มาตรการในองค์กรต่างๆ เพ่ือให้ผู้เสยี ชีวติ ลดลง
 อนุมัติการส่ังซ้ือวัคซีน Sinovac จานวน 12 ล้านโดส และวัคซีน Pfizer จำนวน 10 ล้านโดส
เพื่อให้วัคซนี ครบ 120 ลา้ นโดส
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลุ่มภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโนม้ พบผู้ติดเช้อื และเสียชวี ติ อยใู่ นเกณฑส์ ูงคงตัว
 กรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล พบผูต้ ดิ เชอ้ื และผเู้ สียชวี ติ อยู่ในเกณฑ์คงตวั สูง
 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อทั้งจากเดินทางกลับภูมิลาเนาและพบผู้สัมผัสใน
ครอบครัว มีแนวโน้มลดลง สองคลอ้ งกบั สถานการณใ์ นกรงุ เทพมหานคร
 ภาคกลาง ภาคตะวันออก ยังพบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ตลาด
เรง่ มาตรการ ฉดี วัคซีนในกลมุ่ 608 ใหไ้ ด้ตามเปา้ หมาย พร้อมทั้งเรง่ มาตรการ BB&S ในโรงงาน
 เนน้ ยา้ ประชาสัมพันธ์ Universal Prevention for COVID 19 (กำรป้องกนั กำรตดิ เชือ้ แบบครอบจกั รวำล)
ใหแ้ ก่ประชำชน
ข้อเสนอแนะ/มติจำกทีป่ ระชุม :
 ดาเนินการจัดทาแนวทางการประชาสัมพันธ์ Universal Prevention for COVID 19 และข้อมูลท่ี
ถกู ตอ้ งในกำรฉีดวคั ซนี แก่ประชำชนให้เขำ้ ใจมำกขนึ้
 เสนอพิจารณาทบทวนแนวทางการประเมนิ สถานการณ์และการประเมินความรนุ แรงของพ้นื ท่ี
 เสนอพิจารณาให้รายงานสถานการณ์พื้นที่ท่ีพบผู้ป่วยอาการรุนแรง เพื่อนาข้อมูลมาใช้ในการวางแผน
การบรหิ ารจดั การสถานการณ์ เชน่ การฉดี วัคซีน และการสารองทรพั ยากรของพืน้ ท่ี

-2 -
กำรฉีดวัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รบั วัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 16 ส.ค. 64) รวม 24,100,631 โดส
เพิ่มขึ้น 508,498 โดส แบ่งออกเป็น เข็มท่ี 1 จานวน 18,370,997 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 25.5
เข็มท่ี 2 จานวน 5,228,157 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 7.3 เข็มที่ 3 จานวน 501,477 โดส ความ
ครอบคลุมรอ้ ยละ 0.7
ข้อเสนอแนะ/มติจำกท่ปี ระชุม :
 ติดตามความเพียงพอในการฉีด AstraZeneca ตามแผนที่ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 15 ล้านโดสต่อเดอื น
และนาฐานขอ้ มลู การฉดี วคั ซีนจากระบบ moph IC มาวางแผนในการฉดี วัคซนี ต่อไป
กำรประเมินประสิทธิผลวัคซีนปอ้ งกันโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ในบคุ ลากรทาง
กำรแพทย์และสำธำรณสขุ ไทยถงึ เดือนกรกฎำคม 2564 :
 ผลการศึกษาการประเมนิ ประสิทธิผลวัคซีน โดยวิธี Matched Case-Control พบว่า
- ประสิทธิผลของการฉีดวัคซีน Sinovac 2 เขม็ ต่อการปอ้ งกนั การตดิ เช้อื โดยรวมอยูท่ ่ี ร้อยละ 72
- ประสิทธิผลของการฉดี วคั ซีน Sinovac 2 เขม็ ต่ออาการป่วยรนุ แรงและเสยี ชวี ติ อยู่ที่ รอ้ ยละ 98
- ประสิทธิผลของการฉีดวัคซีน AstraZeneca 1 เข็ม และ 2 เข็ม ต่อการติดเช้ือโดยรวมอยู่ที่ ร้อยละ 88
และร้อยละ 96 ตามลาดบั
 ควรติดตามข้อมูลประสิทธิผลวัคซีนอย่างต่อเน่ือง ซึ่งในอนาคตจะทาการศึกษาระยะเวลาการฉีดวัคซีน
เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีสมบูรณ์มากขึ้น ท้ังน้ีต้องขอความร่วมมือในการบันทึกการฉีดวัคซีนและการสอบสวนโรคให้
ถูกตอ้ งครบถว้ น
ขอ้ เสนอแนะ/มติจำกที่ประชุม :
 ปรับข้อมลู ให้เนื้อหาสามารถสอ่ื สารแก่ประชาชนให้มีความเขา้ ใจมากขึ้น พรอ้ มทัง้ สอ่ื สารเน้นย้าการ
การปอ้ งกนั ตนเองควบคกู่ บั การดแู ลสุขภาพตนเองให้แขง็ แรงเพ่ือสรา้ งภูมิคุ้มกันในการป้องกนั การตดิ เชือ้
 วันท่ี 17 ส.ค. 64 ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และโรงพยาบาลศิริราชจะมีการนาเสนอผล
การศกึ ษาเบื้องตน้ ของประสิทธิผลการฉีดวคั ซีนไขว้ SA เชน่ กนั ซึง่ คาดวา่ ผลการศึกษาจะสมบูรณภ์ ายใน 4 สัปดาห์
รำยงำนกำรบริหำรจัดกำรสถำนกำรณโ์ รคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหำนคร:
 พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 217,476 ราย พบการติดเชื้อในครอบครัวมากขึ้น อัตราการเสียชีวิตของ
ผู้สูงอายุ (มากกว่า 60 ปี) ลดลง การดาเนินการของ CCRT จานวน 260 ทีม โดยลงพ้ืนท่ีในชุมชนจานวน
3,021 ชุมชน ดาเนินการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกด้วย ATK เฝ้าระวังเชิงรุกในประชากรกลุ่มเส่ียงในจุดคัดกรอง
one stop service และจุดบริการอ่ืนๆในกรุงเทพมหานคร รวมท้ังจุดคัดกรองในโรงพยาบาลและภาคเอกชน
เพอื่ ใหป้ ระชาชนเขา้ ถงึ การรกั ษาท่ีรวดเรว็ ข้ึน
ขอ้ เสนอแนะ/มติจำกที่ประชุม :
 ศึกษาเพม่ิ เติมปจั จยั ที่มกี ารเปลยี่ นแปลงจากการรับวัคซนี
 เพ่มิ ความชัดเจนของขอ้ มูลการใช้ ATK ในสถานประกอบการ
สถำนกำรณ์กำรใช้กำ๊ ซออกซิเจนทำงแพทย์ :
 อัตราการผลติ ในปัจจบุ ัน 670 ตอ่ วนั ความตอ้ งการในประเทศ 1,239 ตันต่อวัน ความตอ้ งการใช้
รักษา 1,123 ตัน/วัน สาหรับผู้ป่วย 2 แสนราย ในภาวะวกิ ฤติคาดว่าจะใชอ้ อกซิเจน 2,565 ตัน จาเป็นต้อง
สารอง 2,723 ตัน รายการเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องดาเนินการขึ้นทะเบียน fast track 7 รายการ
และขอพิจารณาประกาศเป็นสินค้าควบคุมการส่งออก และให้บริษัทรายงานการนาเข้า รวมท้ังให้แต่ละพื้นที่
ติดตามความเพยี งพอของเคร่ืองมือและอปุ กรณ์การแพทย์
 ขอความร่วมมือทุกจังหวัดและพื้นท่ีกรุงเทพมหานครวางแผนความต้องการใช้ออกซิเจน และวางแผน
การติดตั้งถังสารอง ติดตามระบบขนส่ง พร้อมทั้งดูแลระบบควบคุมป้องกันโรคในพ้ืนที่มีแหล่งผลิต บรรจุ ขนส่ง
สนับสนุนวัคซนี ผู้ที่เก่ียวขอ้ ง โดยเบ้อื งตน้ ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้มีการประชุมหารือร่วมกบั กลุ่มภารกิจ
บริหารจัดการทรพั ยากรของแตล่ ะจงั หวัด
ข้อเสนอแนะจำกทีป่ ระชมุ :
 มอบสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยาดาเนินการเพ่ือยกเว้นภาษีนาเข้า Oxygen concentrator
กำรปฏบิ ตั กิ ำรนำส่งผู้ปว่ ย COVID-19 โดย สถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉินแห่งชาติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 16 ส.ค. 64 นาส่งได้ 185 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 2 ราย
จานวนเทยี่ วปฏิบัตกิ าร 58 เทยี่ ว ผลการสง่ กลบั ภูมลิ าเนา นาสง่ สาเรจ็ 31 ราย

**********************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผู้บริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏิบัตกิ ำรฉกุ เฉินด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งท่ี 305
ประจำวันท่ี 18 สิงหำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศ์รจติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เรื่องเพื่อทรำบ
 วันท่ี 17 สิงหาคม 2564 การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดหาวัคซีน Pfizer
เพ่ิมเติมอีก 10 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส เร่ิมส่งมอบปลายเดือนกันยายน – ตุลาคม 2564
และเห็นชอบการจัดหาวัคซีน Sinovac เพ่ิมเติม 12 ล้านโดส เพ่ือการบริหารจัดการวัคซีนท่ีเพียงพอในช่วง
เดือนสิงหาคม – กนั ยายน 2564
 วันท่ี 17 สิงหาคม 2564 นายกรัฐมนตรีเห็นชอบและประกาศเป็นพระราชกาหนด (พ.ร.ก.)
ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อให้สาระของกฎหมายมีความสอดคล้องกับการดาเนินการด้านสาธารณสุขในภาวะ
ฉุกเฉินโรคระบาดมากยิ่งข้ึน โดยต่อไปจะไม่ประกาศใช้พระราชกาหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
(พ.ร.ก.ฉกุ เฉนิ ) ทั้งนี้ ภายหลงั จะมกี ารแก้ไขเพมิ่ เตมิ เปน็ มาตรา 6/1 ในพระราชบญั ญตั ิโรคติดตอ่ พ.ศ. 2558 ต่อไป
 วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมทางไกลผ่านระบบ WebEx
กับส่วนภูมิภาค ช้ีแจงผลการประเมินในการควบคุมโรคตามมาตรการ Lockdown และการฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608
ในระยะทผ่ี ่านมา พบวา่ สามารถลดอตั ราการเสียชีวติ ได้ และคาดการณ์แนวโน้มผตู้ ิดเช้ือรายใหม่จะลดลงในชว่ งเดือน
ตุลาคม 2564 พจิ ารณาดาเนินการวางแผน กาหนดมาตรการเพื่อเตรียมความพรอ้ มสาหรบั การเปดิ ประเทศต่อไป
 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พิจารณาประสิทธิผลรวมถึงประโยชน์ของการใช้ชุดตรวจ Antigen
test kit (ATK) ในการควบคุมโรคสถานการณ์ปจั จุบัน
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลมุ่ ภำรกจิ ตระหนกั รสู้ ถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 แนวโนม้ พบผ้ตู ดิ เชือ้ และเสยี ชวี ติ อย่ใู นเกณฑส์ งู คงตัว
 กรงุ เทพมหานคร พบสัดสว่ นผลบวก ATK อยูใ่ นเกณฑค์ งตวั และมีสดั ส่วนการฉีดวคั ซีนเพิ่มข้นึ ต่อเนื่อง
 ปริมณฑล จาเป็นตอ้ งเร่งการฉีดวัคซีนกลุม่ ผู้สูงอายุ ใหไ้ ด้ครบตามเปา้ หมายรอ้ ยละ 70 ภายใน 2 สปั ดาห์
 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อทั้งจากเดินทางกลับภูมิลาเนาและพบผู้สัมผัสใน
ครอบครวั มีแนวโน้มลดลง สอดคล้องกับสถานการณ์ในกรงุ เทพมหานคร
 ภาคกลาง ภาคตะวันออก ยังพบการระบาดในสถานประกอบการ แคมป์คนงาน ตลาด
เรง่ มาตรการ ฉีดวคั ซีนในกลุ่ม 608 ใหไ้ ด้ตามเปา้ หมาย พรอ้ มทงั้ เร่งมาตรการ BB&S ในโรงงาน
ข้อเสนอแนะ/มติจำกท่ปี ระชุม :
 ดาเนินการส่ือสารและช้ีแจงสาเหตุ ปัจจัยเส่ียงของผู้เสียชีวิตประจาวันท่ี 18 ส.ค. 64 เพ่ือสร้างความ
เขา้ ใจกบั ประชาชน
กำรฉดี วคั ซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 17 ส.ค. 64) รวม 24,618,749 โดส
เพ่ิมข้ึน 518,118 โดส แบ่งออกเป็น เข็มที่ 1 จานวน 18,726,405 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 26 เข็มท่ี 2
จานวน 5,381,676 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 7.5 เขม็ ที่ 3 จานวน 510,668 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 0.7

-2 -
ขอ้ เสนอแนะ/มติจำกท่ีประชุม :
 เน้นย้าเร่งการฉีดวัคซีนในกลุ่มหญิงต้ังครรภ์ และกลุ่มอายุ 12-18 ปีท่ีมีโรคประจาตัว และขอให้ส่วน
ภูมภิ าคดาเนินการสารวจบุคลากรด่านหน้าทกุ กลุม่ อีกคร้งั เพือ่ การบรหิ ารจดั การวคั ซนี Pfizer ให้มีประสิทธิภาพ
 พิจารณาปรับรปู แบบการรายงานจานวนการได้รับวคั ซีนเป็นรปู แบบ Dash Board
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามและกาชับการฉีดวัคซีนให้สอดคล้องกับจานวนที่ได้รับ
จัดสรรในแตล่ ะเขตสุขภาพ โดยเฉพาะเขตสุขภาพที่ 12 พ้ืนท่ี 3 จงั หวดั ชายแดน เรง่ มาตรการฉดี วคั ซีนในกล่มุ 608
ให้ได้ตามเป้าหมาย เพือ่ ป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 สายพันธ์ุเบต้า
โรงพยำบำลบษุ รำคัม กระทรวงสำธำรณสุข :
 รายงานสถานการณผ์ ู้ป่วย COVID-19 วันท่ี 16 ส.ค. 64 ผู้ป่วยสะสม 17,993 ราย ผปู้ ่วยรับใหม่
252 ราย ผู้ป่วยกาลงั รักษาตัว 3,559 ราย จานวนผเู้ สยี ชวี ติ สะสม 175 ราย
 โครงการพัฒนาพ้ืนท่ีดแู ลผู้ป่วยกง่ึ วกิ ฤตทับทิม โรงพยาบาลบษุ ราคัมจานวน 32 เตยี ง งบประมาณทง้ั หมด 18
ล้านบาท แบ่งออกเป็นส่วนโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านบาท และส่วนครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 15 ล้านบาท ระยะเวลา
ดาเนินการ 10 วัน โดยจะมีการติดต้ังห้องความดนั ลบ และระบบไฟฟา้ ตดิ ตง้ั ระบบกา๊ ซทางการแพทย์ ผลทคี่ าดวา่ จะได้รับ
ใน 60 วนั หลังเปดิ ดาเนินการจะสามารถดแู ลผปู้ ่วย 350 คน ลดการใสท่ อ่ ช่วยหายใจ และลดอัตราการเสียชวี ิตของผ้ปู ว่ ย
ข้อเสนอแนะ/มติจำกท่ีประชุม :
 เห็นชอบโครงการพัฒนาพ้ืนที่ดูแลผู้ป่วยก่ึงวิกฤตทับทิม โรงพยาบาลบุษราคัม มอบกรมสนับสนุน
บริการสขุ ภาพดาเนินการตอ่ ไป
 พิจารณาประสานเครือข่าย UHosNet ที่มีการจัดตั้งพื้นที่ดูแลผู้ป่วยกึ่งวิกฤต เข้าร่วมหารือ
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ เพ่ือให้เกดิ การดาเนินงานท่ีมปี ระสิทธภิ าพต่อไป
กำรดำเนินงำนควบคุมป้องกันโรค COVID-19 ในเขตสุขภำพท่ี 5 :
 การรับกลับไปรักษา (Import case) ทุกเขตสุขภาพ (1 ก.ค.64 – 17 ส.ค.64) จานวน 155,119 ราย
จานวนวัคซีนทไ่ี ด้รับจัดสรรทกุ เขตสุขภาพ 19,845,915 โดส และมีวคั ซนี คงเหลือ 3,873,002 โดส
 สถานการณ์เขตสุขภาพที่ 5 (วันท่ี 17 ส.ค. 64) ผู้ติดเชื้อสะสม 153,262 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,433
ราย เสยี ชวี ติ สะสม 850 ราย ฉดี วคั ซนี สะสม 1,642,533 โดส ซ่ึงสถานการณม์ ีความรุนแรงต่อเน่ือง ยงั คงมกี ารระบาด
เป็น Super spreading setting และมคี วามจาเปน็ ต้องดาเนินการป้องกันควบคุมโรคอย่างเขม้ ขน้ อย่างต่อเนื่อง
ควำมกำ้ วหนำ้ กำรดำเนนิ งำนตำมมำตรกำร Bubble and Seal ในสถำนประกอบกิจกำร
 กลไกการดาเนินงานมาตรการ Bubble and Seal ดังน้ี 1) กลไกด้านการส่ือสารทาความเข้าใจ
2) กลไกด้านการให้คาแนะนาและระบบพีเ่ ลี้ยงท่ปี รึกษา (Coaching) และ 3) กลไกด้านกากับประเมนิ ผล
 การรวบรวมการดาเนนิ งานตามมาตรการ มีขอ้ สงั เกตดงั นี้ ในหลายจังหวดั ดาเนินการเม่ืออัตราการติดเช้ือ
มากกว่าร้อยละ 10 ส่วนใหญด่ าเนนิ การในโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ขอ้ จากัดในการดาเนินการ ดา้ นสถานท่ี
โรงงานไมม่ ที ี่พกั หรอื มีไมเ่ พยี งพอ พฤติกรรมส่วนบคุ คลทไ่ี มส่ ามารถปฏิบตั ติ ามมาตรการอย่างเครง่ ครดั
ขอ้ เสนอแนะ/มติจำกทป่ี ระชุม :
 การดาเนินงานตามมาตรการ Bubble and Seal ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่
โดยตอ้ งประสานความร่วมมอื จากผวู้ ่าราชการจงั หวัด และภาคอุตสาหกรรมในการดาเนินงาน
 พิจารณาจัดทาคู่มือถอดบทเรียนการดาเนินงานตามมาตรการ Bubble and Seal เพื่อกาหนดเป็น
แนวทางมาตรการในการปอ้ งกนั โรคสาหรบั สถานประกอบการและโรงงานทุกแหง่
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโนม้ ผู้ป่วยยังสูงคงตัว จานวนเตียงผ้ปู ว่ ยกลุ่มสีเหลือง และกลุ่มสีแดงยังคงตงึ ตัว และเรง่ จัดสรร
ยาสาหรบั ผู้ปว่ ยทอ่ี ยรู่ ะหว่างรอเตยี งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กำรประเมนิ ประสิทธิผลกำรใช้ยำ Favipiravir ในกำรดแู ลรกั ษำผ้ปู ่วยโรคโควดิ -19 :
 จากการศึกษาข้อมูลยังคงให้ใช้ยา Favipiravir ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 และกำลัง
ดำเนินกำรประเมินประสิทธิผลกำรใช้ยำอื่นเพ่ิมเติม ทั้งนี้ พิจำรณำจัดทำ CPG กำรใช้ยำชนิดอ่ืนสำหรับกำร
ดแู ลรักษำผ้ปู ว่ ย
ข้อเสนอแนะ/มติจำกทปี่ ระชุม :
 มอบกรมการแพทย์ ศึกษาประสิทธิผลของการใช้ยา Favipiravir สาหรับการรักษาผู้ป่วยในแต่ละระยะ
และศึกษาประสิทธิผลของการใช้ยาชนิดต่างๆ เช่น Remdesivir ยาพ่น หรือยาชนิดอ่ืนในปัจจุบัน นาเสนอต่อ
ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ เพ่ือใช้วางแผนเตรียมความพรอ้ มสาหรับการเปิดประเทศต่อไป
กำรปฏิบตั ิกำรนำสง่ ผปู้ ่วย COVID-19 โดย สถาบันการแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชาติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 17 ส.ค. 64 นาส่งได้ 129 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง 2 ราย
จานวนเท่ยี วปฏิบัติการ 46 เท่ยี ว ผลการสง่ กลับภมู ลิ าเนา นาสง่ สาเรจ็ 55 ราย

**********************


Click to View FlipBook Version