รวมเล่มบทสรุปผู้บริหารโควิด 19

-2 -
กำรฉดี วคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 28 มิ.ย. 64) รวม 9,416,972 โดส
แบ่งออกเป็นจานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 6,721,038 โดส ความครอบคลุม จานวนผู้ได้รับวัคซีน
เขม็ ท่ี 2 จานวน 2,695,934 โดส
 การให้บรกิ ารวัคซนี ป้องกนั โควดิ -19 ณ ศูนยว์ คั ซีนกลางบางซอื่ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
28 มิ.ย. 64 จานวน 516,397 โดส
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบคณะทางานวิชาการ กรมควบคุมโรค รวบรวมและศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนจากบริษัท
Pfizer เพอื่ ฉดี กลมุ่ เปา้ หมายอายุตา่ กวา่ 18 ปี เพ่ือวางแผนการบรหิ ารจัดการวัคซนี ให้เกิดประโยชน์สงู สดุ
สถำนกำรณแ์ ละกำรจัดกำรโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำ COVID-19 เขตสขุ ภำพท่ี 6 :
 สถานการณ์การติดเชือมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึน โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี
ควรมกี ารเฝ้าระวงั และควบคุมโรคอย่างใกลช้ ิดในทุกจังหวดั และเรง่ ดาเนนิ การฉดี วคั ซีนตามกลมุ่ เสี่ยง และกลมุ่ เปา้ หมาย
 จังหวัดสมุทรปราการจัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เพ่ิม พร้อมเพิ่มศักยภาพ
โรงพยาบาลชุมชนใหส้ ามารถดูแลผ้ปู ว่ ยกล่มุ สเี หลอื ง
 การบูรณาการระบบการส่งต่อ การบริหารจัดการทรัพยากร และการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์
รว่ มกันภายในเขตสุขภาพที่ 6
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณาการระดมทีมสอบสวนควบคุมโรคจากจังหวัดภายในเขตสุขภาพ เพ่ือให้สามารถควบคุม
และกากับอยา่ งรวดเรว็ ในแคมป์ก่อสรา้ ง และสถานประกอบการ ร่วมกบั การฉดี วคั ซนี ในกลมุ่ เส่ยี ง
รำยงำนสถำนกำรณ์ COVID-19 ระลอกเมษำยน 64 เขตสุขภำพที่ 12 :
 สถานการณ์การติดเชือยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึน โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี ปัจจัยเส่ียง
ต่อการแพร่ระบาดคือ การรวมกลุ่มกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย การรับประทานอาหารร่วมกัน ติดเชือภายใน
ครอบครวั และทากิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน
 ทุกจังหวัดจัดทาแผนปฏิบัติการเปิดจังหวัด 120 วัน แผนการบริหารความเส่ียง โดยแต่ละจังหวัด
พจิ ารณาการเปิดทังจงั หวดั หรือเปิดเฉพาะพืนท่ี
 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปิดจังหวัดคือ ประชาชนได้รับวัคซีนครบโดส ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล
มาตรการสังคม และมาตรการองค์กรอย่างเคร่งครัด มีระบบการเฝ้าระวัง การควบคมุ โรค และระบบการรักษา
ผ้ปู ่วยอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
แนวทำง Home and Community Isolation :
 เกณฑก์ ารพจิ ารณา Home Isolation ได้แก่ ผู้ติดเชือที่ ไม่มีอาการ (asymptomatic cases) อายุ
น้อยกว่า 60 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง พักอาศัยคนเดียวหรือมีผู้อยู่ร่วมท่ีพักไม่เกิน 1 คน ไม่มีภาวะอ้วน
(ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย > 30 กก./ม.2 หรอื นาหนกั ตัว > 90 กก.) และไม่มีโรคร่วม
 เกณฑ์การพิจารณา Community Isolation กรณีที่มีผู้ติดเชือในชุมชนจานวนมาก การจัดระบบ
การดูแลรักษาในชุมชนเพ่ือการวินิจฉัยได้เร็ว ลดการเสียชีวิต และลดการแพร่ระบาดของโรคในชุมชนปรับ
บางสว่ นในชมุ ชนให้เปน็ สถานพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม และลดการเคล่ือนย้ายเขา้ ออกในชุมชนนนั
ข้อเสนอแนะจำกท่ปี ระชมุ :
 พิจารณาหลักเกณฑ์การเบกิ จ่ายของผปู้ ่วยทีท่ า Home Isolation ระหว่างรอการจัดสรรเตียง
 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกพิจารณาการใช้ยาสมุนไพรสาหรับผู้ติดเชือ
และจดั ทาข้อเสนอรวมกบั แนวทางของกรมการแพทย์ขา้ งต้น
สถำนกำรณ์เตยี งรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 พบอตั ราการครองเตียงเพิม่ ขึน

- ภาครฐั : เตยี งระดบั 1 : 4,585 เตียง เตยี งระดบั 2 : 4,272 เตียง และเตียงระดับ 3 : 433 เตียง
- ภาคเอกชน : เตียงระดบั 1 : 9,493 เตยี ง เตียงระดับ 2 : 7,003 เตยี ง และเตียงระดับ 3 : 858 เตยี ง
 ระบบ Co-Link วันที่ 28 มิ.ย. 64 จานวน 2,039 ราย Admit แล้ว 321 ราย จัดสรรแล้ว
รอดาเนนิ การ 1,718 ราย (สีเขยี ว 1,376 ราย, สีเหลือง 338 ราย, สีแดง 4 ราย)
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 28 มิ.ย. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บรกิ ารสะสม 4,232 ราย จานวนผูป้ ว่ ยวันนี 44 ราย
กำรปฏิบัตกิ ำรนำส่งผปู้ ว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ กุ เฉินแห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 28 มิ.ย. 64 สามารถนาส่งได้ 154 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการ
นาส่ง 1 ราย อื่นๆ 1 ราย จานวนปฏิบตั กิ าร 79 เท่ยี ว จานวนทมี ปฏบิ ตั กิ าร 31 ทมี แบง่ เปน็ EMS ในระบบ/
อาสา 30 ทมี กลาโหม 1 ทมี

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏิบตั ิกำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ท่ี 258
ประจำวันท่ี 30 มถิ ุนำยน 2564 เวลำ 07.30 – 09.05 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศร์ จิต ปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคัญ
เรือ่ วงันเทพ่ี่ือ2ท9รำมบิถุน:ายน 2564 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงตรวจเย่ียม
และให้กาลังใจบุคลากรที่ปฏบิ ัตงิ าน ณ ศูนยแ์ รกรบั -ส่งต่อ นิมิบตุ ร กรุงเทพมหานคร
 มอบภารกิจวิชาการและกรมควบคุมโรคศึกษาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนอายุ
12 – 17 ปี ของประเทศอินโดนีเซีย เพือ่ เปน็ กรณีศึกษาในประเทศ และศกึ ษาความเป็นไปได้ในการฉดี วัคซีนเข็ม
ที่ 3 เพือ่ เพ่ิมประสิทธิภาพการป้องกันโรคโควดิ -19
 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้จัดทาคู่มือในตรวจ Rapid Test สาหรับการตรวจโรคโควิด–19 เพ่ือเป็น
แนวปฏบิ ัติในการตรวจประชาชน
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 พบการระบาดของโรคมีแนวโน้มสูง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
พบผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้ป่วยเสียชีวิตเพ่ิมข้ึนต่อเน่ือง โดยเฉพาะศูนย์ดูแลผู้สูงอายุภาคเอกชน เสนอพิจารณา
ประสานงานกรุงเทพมหานครและปริมณฑลควบคุมกากับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สาหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
อยา่ งครอบคลุม รวมทั้งเน้นยา้ IC-Protocol แกบ่ ุคลากรการแพทย์และบุคลากรสนับสนนุ ในสถานพยาบาล

- ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นคัดกรองผู้เดินทางมาจากพ้ืนท่ีระบาด/พ้ืนที่เส่ียง
โดยเฉพาะจังหวดั ท่ีมีการเดินทางเข้าออกจานวนมาก รวมท้ังเฝ้าระวัง Sentinel และกลมุ่ เส่ยี ง

- ภาคใต้ พบการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน และชมุ ชน
- จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไดย้ กระดับการเฝ้าระวัง คดั กรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัด พรอ้ มทงั้ สุ่มตรวจ
สายพันธุ์ของเช้ือโควิด-19
- ภาคตะวันออก และภาคกลาง พบจังหวัดที่มีสถานประกอบการโรงงาน แคมป์คนงาน และชุมชน
โดยรอบ พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในกลุ่มแรงงานต่างด้าวกระจายไปยังชุมชนใกล้เคยี ง รวมท้งั ติดตามมาตรการ
BB&S และการกักตวั ให้ครบ 14 วนั
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เนน้ ย้ากับประชาชนเร่ืองการปฏบิ ตั ิตามหลักสุขอนามัย การใส่หนา้ กากอนามัย การล้างมอื การใช้ช้อน
กลาง การเวน้ ระยะหา่ ง และหลกี เลยี่ งพนื้ ทช่ี ุมชน
กำรฉีดวัคซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 29 มิ.ย. 64) รวม 9,672,706โดส แบ่ง
ออกเป็นจานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 6,910,169 โดส ความครอบคลุม จานวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2
จานวน 2,762,537 โดส

-2 -

 จานวนความครอบคลุมการรับบริการวคั ซีนโควิด-19 ของกรุงเทพมหานคร (28 ก.พ. – 28 มิ.ย. 64)
รวม 65,925 โดส เป็นวคั ซนี เข็มที่ 1 จานวน 51,561 โดส เขม็ ท่ี 2 จานวน 14,364 โดส

 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. – 29
มิ.ย. 64 จานวน 528,711 โดส

สถำนกำรณแ์ ละกำรจดั กำรโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ COVID-19 เขตสขุ ภำพท่ี 4 :
 ทุกจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 4 เตรียมความพร้อมและเปิดโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งเขต เพิ่มเตียง
กลุม่ สีเขียว กว่า ๑,๐๐๐ เตยี ง
 เพ่ิมศักยภาพโรงพยาบาลนนทบุรี โดยการพูดคุยกับเครือข่ายแพทย์อายุรกรรมทั้งเขต และจัดหา
ทรัพยากรที่ขาดตามที่ Clinician ต้องการ โดยสามารถเปิดให้บริการเตียง ใน ICU และ RCU ร่วมกับการปรับ
isolate room ให้สามารถรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่มได้มากกว่า 50 เตียงทั้งเขตจนปัจจุบันดูแลได้มากกว่า 120 ราย
ในปจั จุบนั
 ประสานความร่วมมือ กบั โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในเขต ไดแ้ ก่ ธรรมศาสตร์ มศว.และรพ.ชลประทาน
เพื่อการรับผูป้ ่วยวิกฤต พร้อมวางแผนการส่งต่อผู้ปว่ ยระหว่างจังหวดั
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอเรง่ ดาเนนิ การเปดิ ICU เพ่อื รองรบั ผปู้ ว่ ยในเขตสุขภาพ
รำยงำนกำรบรหิ ำรจดั กำรสถำนกำรณโ์ รคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) กรงุ เทพมหำนคร :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 ของกรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเช้ือจานวน 1,998 ราย เสียชีวิต 35 รายพบ
การระบาดของโรคต่อเนื่อง และมีแนวโนม้ สงู ขึ้น
 เร่งรัดการป้องกันโรคและส่งเสริมการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นท่ีเฉพาะ เพ่ือป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง
และการเสยี ชีวิต ในกลมุ่ เปราะบางและสูงอายุ,กลุ่มก้อนการระบาดท่ีเกิดข้ึนใหม่ และมีความชุกการติดเชือ้ ในพื้นท่ี
วงการระบาดน้อยกว่าร้อยละ 3-5,กลุ่มกอ้ นการระบาดท่ีมขี นาดประชากรไมเ่ กนิ 2,000 คน และพน้ื ทเ่ี ฉพาะใดๆ
หรือ Setting ที่ต้ังอยู่ในพ้ืนที่ควบคุมสูงสุดแต่ยังไม่มีผู้ป่วย อาทิ ร้านอาหาร บ้านพักคนงานนอกแคมป์ ตึกแถว
บ้านพัก ทต่ี ้งั อยูใ่ นพ้ืนที่ระบาด
ข้อเสนอแนะจำกทปี่ ระชมุ :
 เร่งดาเนินการยุทธศาสตร์“ขนมครก”เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร
โดยสุ่มตรวจชมุ ชนเปน็ จดุ เลก็ ๆ พรอ้ มดาเนนิ การควบคมุ โรคดว้ ยวคั ซีน
สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 สถานการณเ์ ตยี งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวโน้มตึงตัวมากขนึ้

- ภาครฐั : เตยี งระดบั 1 : 6,062 เตียง เตยี งระดับ 2 : 5,142 เตียง และเตียงระดับ 3 : 465 เตียง
- ภาคเอกชน : เตยี งระดับ 1 : 11,342 เตียง เตียงระดบั 2 : 7,640 เตียง และเตยี งระดบั 3 : 852 เตยี ง
 ระบบ Co-Link วันท่ี 29 มิ.ย. 64 จานวน 2,256 ราย Admit แล้ว 347 ราย จัดสรรแล้ว
รอดาเนินการ 1,909 ราย (สีเขยี ว 1,558 ราย, สเี หลอื ง 347 ราย, สแี ดง 4 ราย)
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 29 มิ.ย.64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บรกิ ารสะสม 4,272 ราย จานวนผูป้ ่วยวนั นี้ 40 ราย
กำรปฏิบัติกำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 29 มิ.ย. 64 สามารถนาส่งได้ 132 ราย ผปู้ ว่ ยปฏเิ สธการนาส่ง
7 ราย อน่ื ๆ 3 ราย จานวนปฏบิ ตั กิ าร 59 เทย่ี ว จานวนทีมปฏิบัติการ 28 ทมี แบง่ เป็น EMS ในระบบ/อาสา
27 ทมี กลาโหม 1 ทีม

*******************

บทสรปุ ผ้บู รหิ าร

ประจำเดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2564

-1 -
บทสรุปสำหรับผบู รหิ าร
การประชุมศนู ยปฏบิ ัติการฉุกเฉนิ ด้านการแพทยและสาธารณสขุ
กรณี โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 259
ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เวลา 07.30 – 08.50 น.
ประธำน : นำยแพทยส์ รุ ะ วิเศษศักด์ิ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคญั
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 พบแนวโน้มการระบาดสูง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ป่วย
อาการรนุ แรงและผู้ป่วยเสยี ชวี ิตเพม่ิ ขึ้นต่อเนอ่ื ง โดยเฉพาะศูนย์ดูแลผสู้ ูงอายภุ าคเอกชน

- ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นคัดกรองผู้เดินทางมาจากพ้ืนที่ระบาด/พื้นท่ีเส่ียง
โดยเฉพาะจงั หวดั ทีม่ กี ารเดินทางเขา้ ออกจานวนมาก รวมท้ังเฝา้ ระวงั Sentinel โดยเฉพาะโรงเรยี น

- ภาคใต้ พบการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน และชุมชนโดยรอบ
- จังหวัดชายแดนใต้ ยกระดับการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัด พร้อมท้ังสุ่มตรวจ
สายพันธุข์ องเชื้อโควิด-19 ตามระบบ
- ภาคตะวนั ออก และภาคกลาง พบจังหวดั ท่มี ีสถานประกอบการ โรงงาน แคมป์คนงาน และชมุ ชน
โดยรอบพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และกระจายไปชุมชนใกล้เคียง รวมท้ังติดตาม
มาตรการ Bubble & Sealed และมาตรการกกั ตัวให้ครบ 14 วนั
 ดาเนินการเชิงรุก การเดินทางกลับภูมิลาเนา ส่ือสารทุก จังหวัด เฝ้าระวัง ลดความเส่ียง ป้องกัน
การแพรเ่ ช้อื ในพืน้ ท่ี การรักษาพยาบาล ความพรอ้ มของชดุ ปอ้ งกัน
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาสอ่ื สารและเนน้ ยา้ มาตรการป้องกันควบคมุ โรคแก่การอบรมข้าราชการตารวจและทหารใหม่
 สื่อสารมาตรฐาน/แนวปฏิบัติการเดินทางกลับต่างจังหวัดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณี ผู้ป่วย
กลบั ไปรกั ษา ณ ภมู ลิ าเนา ทง้ั ประชาชนท่ัวไป และแรงงานจากแคมปก์ ่อสร้าง
 มอบกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถอดบทเรียนสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลัสเตอร์สนามมวย ตลาดกลางกุ้ง และสถานบันเทิง ประเด็นขนาดของ
การแพรร่ ะบาด และระยะเวลาในการบรหิ ารจัดการ เพอ่ื เป็นข้อมลู ประกอบการบรหิ ารจดั การทรัพยากร
 มอบคณะทางานกลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์หารือร่วมกับทีมโฆษก
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ถึงยุทธศาสตร์การส่ือสารความเสี่ยง เพื่อสร้างความเข้าใจแก่
ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
 เรง่ ดาเนินการเชงิ รุกเพือ่ คน้ หาผูป้ ว่ ยเพอ่ื ใหส้ ามารถเขา้ รบั รักษาได้อย่างรวดเร็ว

-2 -
กำรฉดี วัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซนี สะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 30 มิ.ย. 64) รวม 9,927,698 โดส แบ่งออกเป็น
จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 7,110,854 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 9.87 จานวนผู้ได้รับวัคซีน
เข็มที่ 2 จานวน 2,816,844 โดส ความครอบคลุม รอ้ ยละ 3.91
 การใหบ้ รกิ ารวัคซนี ปอ้ งกันโควดิ -19 ณ ศูนย์วคั ซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซนี สะสม 24 พ.ค. 64 –
30 ม.ิ ย. 64 จานวน 540,428 โดส
สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 พบอัตราการครองเตียงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 83.1 สถานการณ์เตียงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ยังมีแนวโนม้ ตงึ ตวั มากข้นึ ตามจานวนผูป้ ่วยท่เี พมิ่ ขึ้น
 ระบบ Co-Link วันท่ี 30 มิ.ย. 64 จานวน 2,633 ราย Admit แล้ว 498 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนินการ 2,135 ราย (สีเขยี ว 1,703 ราย, สีเหลือง 429 ราย, สแี ดง 3 ราย)
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 30 มิ.ย. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารบั
บรกิ ารสะสม 4,351 ราย จานวนผ้ปู ว่ ยวนั นี้ 80 ราย
 พื้นท่ีกรุงเทพมหานคร เปิด Hospitel เพิ่มจานวน 4 แห่ง และรพ.เอกชนแห่งหน่ึงอยู่ระหว่าง
ดาเนินการเปิด รพ.สนาม จากตัวอย่างโรงพยาบาลบุษราคัม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
เนน้ การดแู ลผปู้ ่วยสีเขียว
 กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน และสานกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ
(สปสช.) พิจารณาการ Home Isolation สาหรับรพ.เอกชน โดยสอดคลอ้ งระบบ UCEP รปู แบบเดิม
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 การดูแลรักษาแบบ Home Isolation และการกลับไปรักษา ณ ภูมิลาเนา อาจสามารถบรรเทา
ความตึงตัวของสถานการณ์เตยี งได้ ทงั้ นีใ้ หแ้ ตล่ ะจังหวดั เฝา้ ระวงั และดาเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค
 มอบกองสาธารณสุขฉุกเฉิน กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง พิจารณา
แนวทางการสง่ ต่อผู้ป่วยไปยังพื้นทตี่ ่างจงั หวดั
แนวทางท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนด หรือต้องดาเนินการตาม มาตรการป้องกันโรคสาหรับผู้เดิน
ทางเขา้ มาในราชอาณาจักร แนบท้ำยคำสง่ั ศูนยบ์ ริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ
2019 (โควดิ -19) ที่ 7/2564 (ฉบบั ที่ 11) ลงวันท่ี 29 มิถนุ ำยน 2564 :
 เพิ่มกลุ่มท่ี 12) ผู้ซ่ึงได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพ้ืนท่ีที่กาหนดใหเ้ ป็นจงั หวดั
นาร่องด้านการทอ่ งเที่ยว เพื่อประโยชน์ดา้ นเศรษฐกจิ การทอ่ งเท่ยี ว หรือกิจกรรมอืน่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล
 ประเดน็ ทีก่ ระทรวงสาธารณสขุ รับผดิ ชอบตามขอ้ กาหนด

- ตรวจสอบเอกสารรบั รองการได้รบั วัคซนี (Certificate of Vaccination)
- กาหนดมาตรการดา้ นสาธารณสขุ
- การจดั ทาแผนเผชญิ เหตุ และเกณฑ์การยุตโิ ครงการ
- กากับ ดูแล และประเมินการจัดการด้านการแพทย์ในสถานประกอบการ สถานท่ีท่องเท่ียว โรงแรมที่พัก
ใหป้ ฏิบัตติ ามมาตรการป้องกันโรคท่ที างราชการกาหนด
 พื้นท่ีที่กาหนดให้เป็นจังหวัดนาร่องด้านการท่องเท่ียวเพ่ือประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเท่ียว
หรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ต้องประเมินตนเองสาหรับจังหวัดที่กาหนดเป็นพ้ืนท่ี โดยมี
เปา้ หมาย คือ สถานการณโ์ รคอยู่ภายใต้การควบคมุ และความครอบคลุมของวคั ซนี ประชากรเป้าหมายเพียงพอ
 มาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจกั รหรือจังหวดั นาร่อง
- ตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวธิ ี RT-PCR Day 12 และ Day 13 ของผเู้ ดนิ ทาง
- Sentinel Surveillance สุม่ ตรวจผใู้ ห้บริการในโรงแรมท่ีมีผเู้ ดินทางเข้าพกั
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พจิ ารณา ประเมิน ตดิ ตามและเฝา้ ระวังผลกระทบทกุ ดา้ นเพอ่ื ประสิทธภิ าพของการดาเนนิ งาน
กำรปฏิบตั ิกำรนำส่งผูป้ ่วย COVID-19 สูโ่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 30 มิ.ย. 64 สามารถนาส่งได้ 149 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธ
การนาส่ง 14 ราย อื่นๆ 1 ราย จานวนปฏิบัติการ 62 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 33 ทีม แบ่งเป็น EMS
ในระบบ/อาสา 31 ทมี กลาโหม 2 ทีม

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉินด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ท่ี 260
ประจำวันที่ 2 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศร์ จิตร ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรอ่ื งเพอ่ื ทรำบ
 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นท่ีตรวจเย่ียมโครงการ Phuket sandbox
รว่ มกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งการดาเนินการเปน็ ไปดว้ ยความเรียบร้อย
 ขอให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องส่ือสารทาความเข้าใจเร่ืองการเล่ือนฉีดวัคซีนของโรงพยาบาล
และบรหิ ารจดั การเพือ่ การจดั สรรวัคซีนอยา่ งเหมาะสม
 แจ้งจานวนวัคซีนในประเทศ ณ ปัจจุบัน ประมาณ 10 ล้านโดส ท้ังน้ีการแพร่ระบาดไม่ได้ลดลง
จงึ เหน็ ควรให้หนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้องปฏิบัติตามมาตรการเพ่ือรองรับการระบาดอย่างเข้มข้น พรอ้ มเร่งดาเนินการ
มาตรการ Home isolation
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลมุ่ ภำรกิจตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 พบแนวโน้มการระบาดสูง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ป่วย
อาการรนุ แรงและผปู้ ่วยเสียชวี ิตเพ่ิมขึน้ ต่อเนื่อง โดยเฉพาะศูนย์ดูแลผสู้ ูงอายุภาคเอกชน

- ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นคัดกรองผู้เดินทางมาจากพ้ืนท่ีระบาด/พ้ืนท่ีเส่ียง
โดยเฉพาะจงั หวัดทม่ี กี ารเดนิ ทางเข้าออกจานวนมาก รวมท้ังเฝา้ ระวงั Sentinel โดยเฉพาะโรงเรยี น

- ภาคใต้ พบการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน และชมุ ชนโดยรอบ
- จังหวัดชายแดนใต้ ยกระดับการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัด พร้อมทั้งสุ่มตรวจ
สายพนั ธ์ุของเช้ือโควิด-19 ตามระบบ
- ภาคตะวันออก และภาคกลาง พบจังหวัดที่มีสถานประกอบการ โรงงาน แคมป์คนงาน และชุมชน
โดยรอบ พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และกระจายไปชุมชนใกล้เคียง พิจารณา
ประกาศใช้มาตรการ Bubble & Sealed ในโรงงานทย่ี ังไมพ่ บผตู้ ิดเช้อื และกักตัวใหค้ รบ 14 วนั
 เน้นย้ามาตรการหลัก “Home isolation/ Q” โดยมีทีมติดตามและ เพิ่มการตรวจคัดกรองสาหรับ
กลุม่ เส่ียง พรอ้ มสื่อสารประชาสมั พันธ์แก่ประชาชน
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พจิ ารณาเร่งการฉีดวัคซีนในผ้สู ูงอายุ ผปู้ ว่ ยโรคเรือ้ รังและกล่มุ เปราะบาง
 พิจารณาทบทวนกลยุทธ์การควบคุมโรคระบาดแบบ Pandemic เป็น Endemic (โรคประจาถ่ิน)
และควรฉีดวัคซีนให้ครบครอบคลุมทั้งประเทศ

-2 -
 สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนเพ่ิม ให้สอดคล้องกับจานวนวัคซีนท่ีมีอยู่ปัจจุบัน
โดยส่ือสารกับประชาชนให้เกิดความเชื่อมั่น รวมถึงประชาสัมพันธ์การดาเนินการของกระทรวงให้รวดเร็วขึ้น
ทั้งข้อมูลเชงิ บวกและเชิงลบ
 พิจารณาช่องทางสาหรับหาเตียงรองรับผู้สูงอายุติดเช้ือ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตท่ีบ้าน ซึ่งจะมี
ประชุมหารือในลาดบั ต่อไป
 การศึกษาประสิทธภิ าพการฉีดวัคซีนเข็มท่ี 1 และ 2 ในระยะเวลาต่างๆ เพ่ือให้เกิดภูมิคุ้มกันในระดับสงู
และการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 อยูร่ ะหว่างการศกึ ษา
กำรฉีดวคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 1 ก.ค. 64) รวม 10,227,183 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 7,364,585 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 10.22
จานวนผู้ได้รบั วัคซนี เข็มท่ี 2 จานวน 2,862,598 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 3.97
 การใหบ้ ริการวคั ซนี ป้องกนั โควดิ -19 ณ ศนู ย์วคั ซนี กลางบางซือ่ ยอดฉีดวคั ซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
1 ก.ค. 64 จานวน 544,271 โดส
สถำนกำรณ์โรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 เขตสุขภาพท่ี 5 :
 สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในภาพรวมมีจานวนเพิ่มข้ึน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจากรระบบบริการ และ
มีรูปแบบการระบาดที่แตกต่างกัน จ.สมุทรสาครและ จ.นครปฐมได้รับผลกระทบจากการระบาดจาก Cluster
กรุงเทพมหานครมากท่ีสุด ส่วนการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ครอบคลุมประชากรร้อยละ 5.46 ซึ่งถือว่าน้อย
เมื่อเทียบกบั สถานการณก์ ารระบาด
สถำนกำรณ์โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 เขตสขุ ภาพที่ 11 :
 สถานการณ์การระบาดมีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 6,580 ราย จากผู้สัมผัสเส่ียงสูง 35,257 ราย
จานวน Cluster การระบาด 24 Cluster สถานการณ์ทรัพยากร Favipiravir คงเหลอื 20,378 เมด็ สามารถ
ใช้ได้ 12-13 วัน กลไกในการควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิภาพเกิดจากความเข้มแข็งในการตัดสินใจ
ของผูว้ ่าราชการจงั หวัด
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ระมัดระวังในการรับแรงงานตา่ งดา้ วผดิ กฎหมายเขา้ มาทางานในพื้นที่
 กาหนดเปา้ หมายจานวนนกั ทอ่ งเท่ยี วที่สามารถรองรบั ไดแ้ ละไม่ก่อใหเ้ กิดระบาด
 โปรแกรมการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลก่อนเข้าพ้ืนที่เกาะสมุย มีประสิทธิภาพดี สามารถควบคุมการ
เข้าออกของแรงงานได้ แต่เสนอเพ่ิมการตรวจสอบเส้นทางการเข้าประเทศทางน้าเพ่ือป้องกันการลักลอบของ
แรงงานผดิ กฎหมาย
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันท่ี 1 ก.ค. 64 จานวน 2,638 ราย Admit แล้ว 557 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนินการ 2,081 ราย (สีเขียว 1,632 ราย, สเี หลือง 448 ราย, สแี ดง 1 ราย)
 มาตรการ Home isolation ได้เริ่มดาเนินการนาร่องท่ี โรงพยาบาลราชวิถี ซ่ึงอยู่ระหว่างรวบรวม
ข้อมูลผลการดาเนินงานเพ่ือนาเสนอ รวมถึงการดาเนินการประชาสัมพันธ์แนวทาง Home isolation
ทาง Facebook วันที่ 2 ก.ค. 64 เวลา 13.30 น.
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาตรวจสอบจานวนคนไข้ท่ีรอเตียงท่ีไม่สามารถเข้ารักษาในระบบได้ และตรวจสอบข้อมูล
ความสมั พันธร์ ะหว่างผปู้ ว่ ยรอเตียงกบั ขอ้ มูลผู้ปว่ ยตดิ เชื้อเสียชีวติ ท่บี ้าน
กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำส่งผู้ป่วย COVID-19 สูโ่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 1 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 186 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธ
การนาส่ง 42 ราย อ่ืนๆ 28 ราย จานวนปฏิบัติการ 79 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 35 ทีม แบ่งเป็น EMS
ในระบบ/อาสา 35 ทีม

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏิบัติกำรฉุกเฉินด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ที่ 261
ประจำวันท่ี 5 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศร์ จิตร ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคญั
เร่ืองเพอื่ ทรำบ
 เน้นย้ำกลุ่มภำรกิจสื่อสำรควำมเสี่ยงและประชำสัมพันธ์ต้องมีกำรสื่อสำรนโยบำย กำรชีแจงข้อมูล
ส้ำคัญ ตำมกลยุทธ์ของกระทรวงสำธำรณสุขอย่ำงรวดเร็ว ทันต่อสถำนกำรณ์ และจัดกำรแถลงข่ำวเพื่อสื่อสำร
ประชำสมั พนั ธ์ข้อมลู ณ กระทรวงสำธำรณสขุ และ ณ ทำ้ เนยี บรฐั บำล
 สถำนกำรณ์กำรระบำด ปัจจุบันกระทรวงสำธำรณสุขต้องปรับกลยุทธ์ มำตรกำรเพ่ิมเติม
เพื่อสอดคล้องกับนโยบำยของรฐั บำล และสนับสนนุ ทรัพยำกร อำทิ บุคลำกรทำงกำรแพทย์ (แพทย์ พยำบำล)
เตียงส้ำหรับรองรับผู้ป่วยวิกฤต (ICU) จ้ำนวน 132 เตียง โรงพยำบำลบุษรำคัมเพิ่มเตียงส้ำหรับผู้ป่วย
กลุ่มสีเหลืองจ้ำนวน 1,500 เตียง และเตียงส้ำหรับรองรับผู้ป่วยวิกฤต (ICU) จ้ำนวน 12 เตียง เพ่ือรองรับ
ผู้ป่วยในพืนที่กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล และประสำนควำมร่วมมือจำกกรมกำรแพทย์ และสำยด่วน
1669 เพือ่ บรหิ ำรจัดกำรเตียงและจัดสง่ ผปู้ ว่ ยให้ไดร้ ับจัดสรรเตียงอย่ำงรวดเร็ว
 กรมควบคุมโรคน้ำเสนอข้อมูล cross vaccination ของวัคซีนที่มีอยู่ส้ำหรับกำรฉีดให้กับประชำชน
เพื่อให้เกิดประสิทธิภำพสูงสุด มอบฝ่ำยวิชำกำรศึกษำข้อมูลดังกล่ำว และศึกษำข้อมูลกำรฉีดวัคซีนเข็มที่ 3
เพือ่ เตรียมควำมพรอ้ มรองรบั ตอ่ สถำนกำรณ์ตอ่ ไป
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลุ่มภำรกิจตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถำนกำรณ์โรคโควิด-19 พบแนวโน้มกำรระบำดสูง ในกรุงเทพมหำนครและปริมณฑล พบกำร
ระบำดในครอบครัว ชุมชน ตลำด และกลุ่มอำชีพเสี่ยง ทังนีได้เพิ่มศักยภำพเตียงรองรับผู้ป่วยอำกำรหนัก
เพ่ือเร่งกำรควบคุมกำรระบำดในพืนที่ ลดจ้ำนวนผู้ป่วยหนักรำยใหม่ ในพืนท่ีต่ำงจังหวัดพบผู้ติดเชือเดินทำง
กลบั ภูมลิ ้ำเนำอย่ำงต่อเนอ่ื ง และพบผ้สู มั ผสั ในครอบครัวตดิ เชอื
 จ้ำเป็นต้องเพิ่มกำรตรวจคัดกรองเรว็ และเข้ำรับกำรรักษำได้เร็ว ปรับกำรสอบสวนโรคเฉพำะกลุม่
Super-spreading กำ้ กับ ติดตำมกำรควบคุมกำรระบำดในโรงงงำน และแคมป์คนงำน ด้วยมำตรกำร Bubble
& Sealed อยำ่ งต่อเน่อื ง
 พืนที่ต่ำงจังหวัดต้องเร่งควบคุมกำรระบำดในสถำนประกอบกำร โรงงำน ท่ีระบำดเกินกว่ำ 2 สัปดำห์
เพอ่ื ปรับภำระงำนใหเ้ หมำะสมกบั กำรตดิ ตำมกำ้ กับผู้เดินทำงกลับภูมลิ ำ้ เนำ และกำรเรง่ ฉีดวคั ซีนโควิด-19
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจำรณำจดั ท้ำแนวทำง/คำ้ แนะนำ้ กำรปฏิบัตติ วั ส้ำหรับผ้เู ดินทำงจำกพืนท่ีเสย่ี งสงู ไปในพืนท่ีตำ่ งจังหวดั

-2 -
 ประสำนงำนส้ำนักงำนสำธำรณสุขจงั หวัดทุกแห่งเตรียมควำมพร้อมรองรับสถำนกำรณ์กำรเดินทำง
ข้ำมจงั หวัดของประชำชน อำทิ ทรพั ยำกร ระบบกำรส่งตอ่ ผูป้ ว่ ย
 มอบฝ่ำยวิชำกำร ศึกษำข้อมูลควำมส้ำเร็จกำรด้ำเนินงำนโมเดลกำรเปิดของประเทศสิงคโปร์
เพอ่ื เตรียมควำมพรอ้ มส้ำหรับประเทศไทยต่อไป
กำรฉีดวัคซีนโควิด-19 :
 จ้ำนวนกำรได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 4 ก.ค. 64) รวม 10,777,748 โดส
แบ่งออกเป็น จ้ำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จ้ำนวน 7,804,654 โดส ควำมครอบคลุม ร้อยละ 10.83
จ้ำนวนผไู้ ด้รบั วคั ซนี เข็มที่ 2 จำ้ นวน 2,973,094 โดส ควำมครอบคลมุ ร้อยละ 4.13
 กำรใหบ้ ริกำรวัคซีนป้องกนั โควิด-19 ณ ศูนย์วคั ซนี กลำงบำงซ่อื ยอดฉีดวคั ซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
4 ก.ค. 64 จำ้ นวน 605,093 โดส
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันท่ี 4 ก.ค. 64 จ้ำนวน 2,537 รำย Admit แล้ว 586 รำย จัดสรรเตียงแล้ว
รอด้ำเนินกำร 1951 รำย (สีเขยี ว 1,493 รำย, สีเหลอื ง 437 รำย, สแี ดง 21 รำย)
 รำยงำนสถำนกำรณ์เตียง

- ภำครฐั : เตียงระดบั 1 : 6,532 เตียง เตยี งระดับ 2 : 5,253 เตยี ง และเตยี งระดับ 3 : 466 เตียง
- ภำคเอกชน: เตยี งระดบั 1 : 11,750 เตียง เตยี งระดับ 2 : 8,294 เตยี ง และเตยี งระดบั 3 : 876 เตียง
 สถำนกำรณเตียงในกรงุ เทพมหำนครและปริมณฑลยังมแี นวโน้มยังคงตึงตัว ดำ้ เนินกำรเพมิ่ ศกั ยภำพ
จ้ำนวนเตียงทัง 3 ระดับ ลดกำรให้บริกำรในระบบบริกำรปกติ และเตรียมน้ำเสนอเร่ือง Community Isolation
ในคณะกรรมกำรโรคตดิ ตอ่ แห่งชำติ
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 สื่อสำรประชำสัมพันธ์ในทุกช่องทำง และสำยด่วน 1668 จัดส่งผู้ป่วยท่ีอยู่ระหว่ำงรอจัดสรรเตียง
เข้ำรับกำรรกั ษำท่ีศูนยแ์ รกรบั และส่งต่อนมิ บิ ุตร
 พิจำรณำกำรจัดสรรเตียงส้ำหรับผู้ติดเชือกลุ่มผู้ท่ีเส่ียงป่วยรุนแรง/กลุ่มผู้สูงอำยุ และส้ำหรับ
กล่มุ ผู้ติดเชือที่ไม่มีอำกำร/กลุม่ วยั แรงงำน ด้ำเนนิ กำรดแู ลรักษำโดยตำมแนวทำง Home Isolation
Scenario projection for intervention strategies :
 กรณีท่ี 1 ใช้กลยุทธ์ฉีดวัคซนี โดยไม่มีมำตรกำรอื่นๆ เพ่ิมเติม โดยฉีดในกล่มุ ผ้ทู ี่มีอำยุ 60 ปีขึนไปสำมำรถ
ลดอัตรำกำรตำยได้ และกำรฉดี วคั ซีนในกลมุ่ ทุกอำยุสำมำรถลดอัตรำกำรติดเชือได้ แต่ไมส่ ำมำรถลดอัตรำกำรตำย
 กรณีที่ 2 ใช้กลยุทธ์ฉีดวัคซีนร่วมกับมำตรกำรควบคุมโรคอ่ืนๆ เพิ่มเติม สำมำรถลดอัตรำกำรตำย
และลดอัตรำกำรตดิ เชอื ได้
ข้อเสนอปรับกลยทุ ธ์และเป้ำหมำยกำรควบคุมโรคโควิด - 19 :
 เป้ำประสงค์ คือกำรลดกำรเสียชีวิตจำกโควิด-19 และลดจ้ำนวนผู้ป่วยอำกำรหนักให้อยู่ในระดับ
ที่ระบบสำธำรณสุขรองรับได้ควบคุมกำรแพร่ระบำดทังจุดเส่ียงกำรแพร่วงกว้ำงในชุมชน และกำรแพร่
ในครวั เรอื นที่เนน้ ปกปอ้ งผู้สงู อำยแุ ละเสย่ี งกับกำรป่วยหนกั หรืออำกำรรนุ แรง
 ปรับมำตรกำร TTI (Test Trace Isolate) ปรับวิธีกำรค้นหำผู้ติดเชือมำเข้ำสู่กำรรักษำ แยกกัก
และควบคมุ โรคท่ีเน้นปกป้องผูส้ ูงอำยุและผเู้ ส่ียงป่วยรุนแรง
 ปรับมำตรกำรทำงกำรแพทย์ ปรับระบบกำรรักษำและกำรเชอื่ มต่อเม่ือพบผ้ตู ิดเชือใหส้ อดคลอ้ งกบั
ควำมเรง่ ดว่ นโดยเน้นที่ลดกำรเสียชีวติ
 ปรับมำตรกำรวคั ซนี ระดมฉดี วคั ซนี ให้ผู้สูงอำยุและผทู้ เี่ สี่ยงปว่ ยรนุ แรง ทังจุดฉีดในโรงพยำบำลนอก
สถำนที่ และบรกิ ำรเคลือ่ นที่ ใชว้ ัคซนี ชว่ ยควบคมุ กำรระบำดโดยเฉพำะในจดุ เสย่ี งกำรระบำดวงกวำ้ ง
 ยกระดับมำตรกำรสังคมและองค์กรก่อนเข้ำสู่ new normal ยกระดับมำตรกำรจ้ำกัดกำรเดินทำง
และปดิ /จ้ำกัดกำรใช้สถำนทส่ี ำธำรณะในพืนที่ บังคบั มำตรกำร Work from Home ในสถำนท่ีหน่วยงำนรำชกำร
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เห็นชอบตำมข้อเสนอดังกล่ำว มอบกรมควบคุมโรคจดั ทำ้ แนวทำง/คำ้ แนะน้ำเผยแพร่ต่อไป
กำรปฏิบัติกำรนำสง่ ผปู้ ่วย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชำติ :
 ยอดกำรขอน้ำส่ง รพ.ปลำยทำง วันท่ี 4 ก.ค. 64 สำมำรถน้ำส่งได้ 177 รำย ผู้ป่วยปฏิเสธ
กำรน้ำส่ง 23 รำย อื่นๆ 1 รำย จ้ำนวนปฏิบัติกำร 56 เท่ียว จ้ำนวนทีมปฏิบัติกำร 19 ทีม แบ่งเป็น EMS
ในระบบ/อำสำ 14 ทมี กลำโหม 5 ทมี

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏบิ ัตกิ ำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังที่ 262
ประจำวันที่ 6 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.20 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศ์รจิตร ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคญั
เรอ่ื งเพอ่ื ทรำบ
 นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุข บริหารจัดการยาฟ้าทะลายโจร จัดหาชุด PPE
เพิ่มเติม และจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอ เน้นคัดกรองเชิงรุก และเข้มงวดมาตรการต่าง ๆ พร้อมทั้งเตรียม
มาตรการลดการเคลือ่ นที่ของประชากรเพ่ือลดอัตราการแพรก่ ระจายเชอื้
 วันนี้ (6 มิถุนายน 2564) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหาร
เตรียมลงพน้ื ที่จงั หวัดสมุทรปราการ เหตุโรงงานสารเคมรี ะเบิด ถนนกง่ิ แก้ว
 ปลัดกระทรวงสาธารณ สุข หารือวิธีการตรวจ self test สาหรับประชาชน โดยมอบ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะทางานวิชาการ ศกึ ษาวเิ คราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม รวมท้งั จดั ทา Flow Chart
และคลิปวิดีโอ เพ่ือให้ประชาชนเข้าใจวิธีการตรวจด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง พร้อมมอบสานักงาน
คณะกรรมการอาหารและยา พิจารณาการนาเข้าเครื่อง Fuji Lab จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมความพร้อม
รบั สถานการณ์ตอ่ ไป
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กล่มุ ภำรกิจตระหนกั รู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 พบแนวโน้มการระบาดสูง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบการ
ระบาดในครอบครัว ชุมชน ตลาด และกลุ่มอาชีพเส่ียง ท้ังน้ีได้เพ่ิมศักยภาพเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนัก
เพ่ือเร่งการควบคุมการระบาดในพื้นที่ ลดจานวนผู้ป่วยหนักรายใหม่ ในพื้นที่ต่างจังหวัดพบผู้ติดเชื้อเดินทาง
กลับภูมิลาเนาอย่างต่อเนื่อง และพบผู้สัมผสั ในครอบครัวตดิ เชื้อ
 จาเป็นต้องเพิ่มการตรวจคัดกรอง และเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว กากับ ติดตามการควบคุม
การระบาดในโรงงงาน และแคมป์คนงาน ด้วยมาตรการ Bubble & Sealed อยา่ งต่อเนอ่ื ง
 จงั หวัดทมี่ ีสนามบนิ เรง่ เฝ้าระวังคัดกรองผู้เดนิ ทางทางอากาศ และทราบที่อยใู่ นจงั หวดั เพอ่ื มีการติดตามได้
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เน้นย้าให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนด เพื่อลดการติดเชื้อ
ในครอบครัว และกากับติดตามให้โรงงาน สถานประกอบการต่าง ๆ ใช้มาตรการ BB&S เพื่อป้องกันการแพร่
ระบาดของโควดิ -19 พร้อมเร่งดาเนินการฉดี วคั ซีนให้ครอบคลมุ ทุกกลมุ่ เป้าหมาย
กำรฉีดวัคซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 5 ก.ค. 64) รวม 11,058,390 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 8,022,029 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 11.14
จานวนผูไ้ ด้รับวัคซนี เขม็ ที่ 2 จานวน 3,036,361 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 4.22

-2 -
 การให้บริการวัคซนี ป้องกันโควดิ -19 ณ ศูนย์วคั ซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค.64 –
5 ก.ค. 64 จานวน 620,977 โดส
สถำนกำรณโ์ รคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) เขตสขุ ภำพที่ 2 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 5 ก.ค. 64) รวม 331,318 โดส แบ่งออกเป็น จานวน
ผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 232,487 โดส จานวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จานวน 98,831 โดส โดยพบอาการ
ไมพ่ ึงประสงค์ภายหลงั ได้รบั วคั ซนี จานวน 934 ราย เสยี ชีวติ และมปี ระวัติไดร้ ับวัคซีนใน 30 วนั จานวน 11 ราย
 ภาพรวมเขต 2 ยังมีภัยคุกคามโดยเฉพาะพ้ืนที่ตามแนวชายแดนที่มีแรงงานต่างด้าว รวมถึงมีผู้ติดเชื้อ
กลับมาจากพืน้ ที่ทม่ี ีการระบาด
 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คือ จังหวัดตาก พบ Cluster ในชุมชนและโรงงานต่อเนื่อง และ
พบ Serious AEFI เพ่ิมขึ้น
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบกรมควบคมุ โรค พจิ ารณาจดั สรรวคั ซีนใหเ้ ขตสขุ ภาพท่ี 2 อย่างเพยี งพอ
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันท่ี 5 ก.ค. 64 จานวน 2,859 ราย Admit แล้ว 640 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนนิ การ 2,219 ราย (สีเขียว 1,772 ราย, สีเหลอื ง 435 ราย, สีแดง 12 ราย)
 รายงานสถานการณ์เตียง

- ภาครฐั : เตยี งระดับ 1 : 6,460 เตยี ง เตยี งระดบั 2 : 5,333 เตียง และเตยี งระดับ 3 : 519 เตียง
 สถานการณ์เตียงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น ได้ดาเนินการเพ่ิม
ศกั ยภาพจานวนเตยี งทัง้ 3 ระดบั ดาเนนิ การ Home Isolation ในภาครัฐ และเตรียม Community Isolation
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ) หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร และ
หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือหาแนวทางแก้ปัญหาการเสียชีวิต ณ ท่ีพักอาศัยและการบริหารจัดการเตียง
ในกรุงเทพมหานคร
กำรบริหำรจดั กำรยำและเวชภณั ฑ์ กรณกี ำรแพรร่ ะบำดโรคติดเช้ือไวรัสโครนำ 2019 (COVID-19) :
 ยา Favipiravir 200 mg คงเหลือ จานวน 3,527,486 เม็ด และยา Remdesivir 100 mg
คงเหลือ จานวน 2,451 Vial
 ปรับแผนการจัดซ้ือเวชภัณฑ์บางรายการ และดาเนินการจัดส่งเวชภัณฑ์ทุก 2 สัปดาห์ เพ่ือให้
เพียงพอตอ่ การใช้งาน
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ทป่ี ระชมุ รบั ทราบ
กำรติดตำมสถำนกำรณ์ (COVID-19) รายจังหวัด ตามยุทธศาสตร์การจัดการระบาดของ COVID-19
ระลอกใหม่ สัปดำหท์ ี่ 28 (25 ม.ิ ย. – 1 ก.ค. 64) :
 ได้จดั ทามาตรการสาธารณสขุ (Detect) มาตรการการแพทย์ (Response) มาตรการทางสังคม (Prevent)
และการสนับสนุน (Support) โดยให้จังหวัดเตรียมความพร้อมและทรัพยากร และเตรียมรับสถานการณ์
ผตู้ ิดเช้อื ทเ่ี ดินทางออกจากกรงุ เทพมหานครและปริมณฑล พรอ้ มกากับ ตดิ ตาม และสนบั สนุนในภาพเขตสุขภาพ
 จังหวัดควรเลือกใช้แนวทาง/มาตรการได้มากกว่า 1 แนวทาง และการควบคุมโรคในกรุงเทพมหานคร
ตอ้ งปรบั มาตรการให้เขม้ งวดมากขนึ้ และเตรียมเตียงรองรบั ผู้ปว่ ย
 กล่มุ Logistic เตรียมแผนสนบั สนนุ ทรพั ยากรตามความเหมาะสม
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบกองยุทธศาสตรแ์ ละแผนงาน จัดทา total case การระบาดทงั้ 3 ระลอก และจัดทามาตรการ
สว่ นบุคคลเพิ่ม
กำรปฏบิ ตั กิ ำรนำส่งผปู้ ่วย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทย์ฉุกเฉินแหง่ ชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วนั ที่ 5 ก.ค.64 สามารถนาส่งได้ 206 ราย ผู้ปว่ ยปฏิเสธการนาส่ง
8 ราย อ่ืนๆ 1 ราย จานวนปฏิบตั ิการ 73 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 36 ทีม แบง่ เป็น EMS ในระบบ/อาสา
26 ทมี กลาโหม 10 ทมี

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรบั ผบู้ ริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏบิ ัตกิ ำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ท่ี 263
ประจำวนั ท่ี 7 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.50 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศ์รจติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคญั
เร่อื งเพอื่ ทรำบ
 เม่ือวาน วันที่ 6 ก.ค. 64 ศ.เกียรตคิ ณุ นพ.อดุ ม คชนิ ทร ทป่ี รึกษาศนู ย์บริหารสถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) สื่อสารประชาสัมพันธ์การให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์แก่บุคลากรทางการแพทย์
 ท่ีประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ โดยให้
อธบิ ดกี รมควบคมุ โรคลงนามในสัญญา และดาเนนิ การในสว่ นทเ่ี กยี่ วข้อง สาหรับวคั ซนี Moderna เป็นวัคซนี ทางเลือก
 เม่อื วาน วนั ที่ 6 ก.ค. 64 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ และปลดั กระทรวง
สาธารณสุข พร้อมด้วยคณะทางาน ลงพ้ืนที่ตรวจเย่ียมและเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนเหตุการณ์โรงงานผลิต
เม็ดโฟมพลาสติกระเบิด ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยจัดรถตรวจเช้ือชีวนิรภัยมาประจาเพ่ือตรวจประชาชน
และจดั สรรวคั ซนี โควิด-19 เพอ่ื ควบคุมการแพร่ระบาด
 การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ระดับสูง ณ อาคารสนามบินสุวรรณภูมิ SAT1 จานวน 5,000 เตียง
คาดการณเ์ สรจ็ สิน้ ภายใน 2 สปั ดาห์ เพอ่ื รองรบั ในกรณี รพ.บุษราคมั หมดสัญญา
 มอบกรมควบคุมโรค ศึกษาและเตรียมการล่วงหน้า กรณีการปรับโรค COVID-19 เป็นโรคประจาถ่ิน
(Endemic) จากกรณศี กึ ษาประเทศสงิ คโปร์
 มอบกรมการแพทย์ จัดทาคาสั่งแต่งต้ัง กรณีการบริหารจัดการเตียง โดยอธิบดีกรมการแพทย์
เปน็ ผูบ้ ญั ชาการเหตุการณ์ เพอ่ื ให้เกดิ single command
 เนน้ ย้าการฉีดวคั ซนี ในกรุงเทพมหานคร แกผ่ สู้ งู อายุ เพอื่ ลดอตั ราการเสียชีวติ ของผปู้ ว่ ยกลุม่ ดังกล่าว
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ COVID-19 ในกรุงเทพมหำนครและปริมณฑล :
 ผู้ป่วยคงค้างสะสม (6 ก.ค. 64) จานวน 8,734 ราย นาส่งผู้ป่วยโดยศูนย์เอราวัณ และสถาบัน
การแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชาติ 500 ราย/วนั
 พิจารณากาหนดให้ศูนย์เอราวัณ เป็นผู้ประสานส่งต่อสถานพยาบาลทันที กรณีไม่สามารถหา
สถานพยาบาลได้ ให้ส่งต่อ รพ.บุษราคัม และกรณีไม่สามารถติดต่อ 1669 ได้ให้ติดต่อศูนย์นเรนทร เพื่อแจ้งเคส
และรายละเอยี ดทางวิทยเุ พื่อตดิ ต่อกลบั
ขอ้ เเหส็นนอชแอนบะจแำลกะทมี่ปอรบะกชรุมมก: ารแพทย์ พิจารณาเร่งรัดหารือร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เพื่อบริหาร
จดั การผู้ปว่ ยคงค้าง จัดเตรียมเตยี งและสถานพยาบาลเพ่ือรองรับ และพยายามใชท้ รพั ยากรทอ่ี ยู่อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
กำรบริหำรจดั กำรสถำนกำรณ์โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID - 19 ) กรุงเทพมหำนคร :
 สถานการณ์การระบาดตามเหตุการณ์ (Event-based data) (2– 6 ก.ค. 64) จานวน 118 Clusters
 รายงานผลการฉดี วคั ซนี ป้องกัน COVID-19 สะสมต้งั แต่ 28 ก.พ. 64 จานวน 3,712,952 โดส
ข้อเเนส้นนอยแ้านและจะำเรก่งทรี่ปัดรกะาชรุมฉีด: วัคซีนแก่ผู้สูงอายุและผู้ดูแลและผู้ที่มีโรคประจาตัวมากข้ึน รวมถึงกลุ่ม
อาสาสมคัรสมามี ธตาทิ ร่ีชณดั สเจุขนกสราุงหเทรพบั มกาหราดนาคเนรนิ โกดายรมHอoบmกeรมIsคoวlaบtคioุมnโรโดคยใพหจิ ้ผา่ารนณคาณจะดั กสรรรรมวกัคารซโนี รคใหต้แิดกต่ก่อรกงุรเุงทเทพพมมหหาานนคครร

-2 -
สถสำถนากนำกราณรณภ์ ำ์โรพครโวคมวขิดอ-1ง9ปรพะบเทกาศรไรทะยบา:ดของโรคมีแนวโน้มคงตัวระดับสูงอีกระยะในกรุงเทพมหานคร
และปรมิ ณฑล ตา่ งจังหวดั พบผ้ตู ิดเชอ้ื เดินทางกลับภูมลิ าเนาอยา่ งต่อเน่ือง และพบผู้สมั ผัสในครอบครัวติดเชอ้ื ตามมา
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบการระบาดในครอบครัว ชุมชน ตลาด และกลุ่มอาชีพเสี่ยง
ศูนย์ดแู ลผ้สู งู อายุ
- ภาคเหนือและภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เน้นคัดกรองผูเ้ ดนิ ทางจากพ้ืนท่ีระบาด/พื้นทเ่ี สย่ี ง รวมท้ัง
เฝ้าระวัง Sentinel โดยเฉพาะกลุ่มนกั เรียน นักศกึ ษาจากการฝกึ งานในสถานประกอบการ โรงงาน
- ภาคใต้ พบการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน และชมุ ชนโดยรอบ
- ภาคตะวนั ออก และภาคกลาง พบจังหวัดทม่ี ีสถานประกอบการ โรงงาน ตลาดและชมุ ชนโดยรอบ
และพบผู้ติดเชอ้ื เดนิ ทางเข้าจังหวดั
- จังหวัดชายแดน ยกระดับการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศทุกประเภท พร้อมทั้งสุ่ม
ตรวจสายพนั ธ์ุของเชอ้ื โควิด-19 ตามระบบเฝา้ ระวงั
ข้อพเสบนบอุคแลนาะกจรำหกทล่ีาปยรหะชนุม่วย:งานในกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี และหน่วยงานโดยรอบ ติดเชื้อ
เพิม่ ข้ึน เสนพอิจใหา้กรณาราจสัดื่ออสบารรมปทรีมะชCาDสCัมUพปันรธะ์ แจนาหวนท่วายงงกาานรสเพ่งกอ่ื ลเฝับา้ ผรู้ตะวิดงั เสชอ้ือบไปสรวักนษโราคใไนดภ้ ูมิลาเนา ผ่านสายด่วน
สานกั งานหขลอักปใหร้จะังกหนั วสัดุขมภีคาวพาแมหพ่งชร้อาตมิใ(น1ก3า3ร0รับ) มแือละสผาหา่ นรสับากนากัรงราับนผสู้ปา่วธยากรณลับสไุขปจรงั ักหษวัดาใ(นปภลูมาิลยทาเานงา) และเน้นย้า
การฉดี วคั ซนีพมใอิจหาบรค้ กณรรอามซบคักควซลบ้อุมคมใุมนแโลกระลคทุม่ บพเสทิจ่ียวานงรมณาตารนกาาเรสทนางอกยาุทรแธพศทายส์แตลระ์กสางั รคฉมีดใวนัคกซลีน่มุ บในุคทลาี่ปกรระทชางุมกศาูรนแยพ์ปทฏยิบ์แลัตะิกสาารธฉารุกณเฉสินุข
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
กำจราฉนดี ววนคักซารนี ไดโค้รบัววิดคั-1ซ9นี ส:ะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 6 ก.ค. 64) รวม 11,328,043 โดส แบง่ ออกเป็น
จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 8,245,297 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 11.45 จานวนผู้ได้รับวัคซีน
เข็มท่ี 2 จากนาวรนให3บ้ ,0ร8ิกา2ร,7วัค4ซ6นี โปดอ้ สงกคนัวาโมคควดิรอ-1บ9คลณุม รอ้ ยละ 4.28
ศูนย์วคั ซนี กลางบางซ่อื ยอดฉีดวคั ซนี สะสม 24 พ.ค. 64 –
6 ก.ค. 64ผจู้ทาี่นไดว้รนับ6ก3าร5ฉ,6ีด7วัค2ซโีนดสเข็มที่ 1 Sinovac เข็มท่ี 2 AstraZeneca (1 มี.ค. - 5 ก.ค. 64) จานวน
1,102 ราย บางรายมอี าการขา้ งเคียงเลก็ น้อย ไม่พบอาการรุนแรง (Severe) และไมม่ รี ายงานการเสียชีวติ
ข้อพเสิจนารอณแานเะจจาะำเกลทอื ด่ีปผรู้ทะชไ่ี ดุม้รับ:การฉีดวคั ซนี เข็มที่ 1 Sinovac เข็มท่ี 2 AstraZeneca เพอื่ ตรวจหา Antibody
สถสำถนากนำกราณรณ์เตเ์ ตยี งยี รงใอนงกรรับุงเCทOพมVหIDาน-1ค9รแกลระงุ ปเทรมิพณมหฑำลนยังคมรีแแนลวะโปนร้มิมตณึงตฑัวลลด(ลขง้อเลมก็ ูลนจ้อำยกรดะาบเนบนิ Cกาoร-มWาaตrรdก)าร:
เรง่ นาผู้ปว่ ยรเขะ้าบสบรู่ ะCบoบ-กLiาnรkรักวษันาที่แ6ละกเพ.ค่ิม.ก6าร4เขจ้าาถนึงกวานรต3ร,0วจ1ว9ินิจรฉายัยโดAยdเmฉพitาแะลใน้วก5ล4ุ่มท8ี่มรีอาายกาจรัดแสลระรกเตลีมุ่ยเงสแีย่ ลง้ว
รอดาเนนิ กาศรูน2ย์,แ4ร7ก1รับรแาลยะ(สส่งีเขตีย่อวน2ิม,ิบ0ุต0ร5กรราะยท, รสวีเหงสลาือธงา4รณ51สุขรา(ขย้อ, มสีแูลดณง 15 ราย)
บริการสะสม 4,912 ราย จานวนผปู้ ว่ ยวนั น้ี 166 ราย วันท่ี 6 ก.ค. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารับ

กาจรตานรววจนหC้อOงVแIลD็บ-เ1ค9รือทขา่างยหท้อั้งงหปมฏดิบัต3ิก3า1ร แจหำก่ง ขC้อoม-Lูลaกbาร-2ตร:วจท้ังหมดสะสม (19 เม.ย. - 7 ก.ค. 64)
2,376,79ข8้อมตูลัวอCยo่า-งLink เชอ่ื มจากขอ้ มูล Co-Lab-2 และทกุ หน่วยงานสามารถเข้าดขู ้อมูลเพ่อื นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้

การเตรียมการจัดต้ังโรงพยาบาลสนาม ระดับสูง ณ อาคารสนามบินสุวรรณภูมิ SAT1 :
 อาคาร 4 ชน้ั จานวน 5,000 เตียง ช่องทางเข้าออกมคี วามเหมาะสม ไม่เสยี ค่าเชา่ คา่ ไฟ สามารถ
ใช้ไดอ้ ยา่ งนใ้อชย้ระ1ยะปเีวลาดาเนินการเสร็จสิน้ อยา่ งนอ้ ย 3 สปั ดาห์
ขอ้ เเหส็นนอชแอนบะกจาำรกจทัดี่ปตร้ังะโรชงุมพย: าบาลสนาม ระดับสูง ณ อาคารสนามบินสุวรรณภูมิ SAT1 และเตรียม
แผนการยา้ ยมมออออบบกกสจารานมกสักรนงพาับน.บสปษุนลนุรัดาบกครรมั กิ ะาทรรสวุขงภสาาพธาอรณอกสแขุ บสบนแับลสะนดุนางเบนปนิ กระามรจาัดณตแัง้ ละดาเนินการตอ่ ไป

กำยรปอฏดกบิ าัตรกิ ขำอรนนาำสส่งง่ ผร้ปูพว่.ปยลCายOทVาIDง -ว1ัน9ทสี่ 6โู่ รงกพ.คย.ำ6บ4ำลสปาลมำายรทถำนงาสโดง่ ยไดส้ถ1ำ7บ5นั กรำารยแพผปู้ทย่วยฉ์ ปกุ ฏเฉเิ สนิ ธแกหาง่ รชนำาตสิ ง่ :
26 ราย อื่นๆ 5 ราย จานวนปฏิบัติการ 67 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 28 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
20 ทมี กลาโหม 8 ทีม

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผบู้ ริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏิบัติกำรฉุกเฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 264
ประจำวนั ที่ 8 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.20 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศ์รจติ ร ปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคญั
เร่ืองเพื่อทรำบ
 เน่ืองจากสถานการณป์ จั จุบันมผี ้ตู ิดเชอ้ื เพ่ิมมากขนึ้ ขอให้ทบทวนมาตรการตา่ ง ๆ ตามหลกั ระบาดวิทยา
เพือ่ ให้สามารถควบคมุ โรคไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งที
 เม่ือวันท่ี 7 มิถุนายน 2564 ได้ประชุมหารอื วธิ ีการตรวจ Rapid Antigen test เพ่ือลดระยะเวลารอคอย
ผลการตรวจโควดิ -19
 กรณีประกาศใช้มาตรการ Home Isolation พิจารณาการใช้ยา Favipiravir และยาฟ้าทะลายโจร
แก่ผู้ป่วย ซง่ึ ในเดอื นกรกฎาคมน้ี กระทรวงสาธารณสขุ มแี ผนนาเข้ายา Favipiravir จานวน 21 ล้านเม็ด
 วันน้ี (8 มิถุนายน 2564) จะมีการหารือมาตรการรองรับเช้ือกลายพันธ์ุ สายพันธ์ุแลมบ์ดา ซ่ึงพบ
ผตู้ ดิ เช้อื กว่า 30 ประเทศ
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อเพ่ิมข้ึนอย่างรวดเร็ว
และพบการระบาดของโรคมแี นวโนม้ สูงขนึ้ เรื่อยๆ
 พิจารณาใช้มาตรการลงทะเบียนคัดกรองด้วย Antigen test ในวงกว้าง พร้อมท้ังมีมาตรการ
Home Isolation คุณภาพในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
 คาดการณ์สถานการณ์โรคอาจพบผู้ติดเช้ือสูงถึง 10,000 ราย/วัน หรือสะสมมากกว่า 100,000 ราย
ใน 2 สปั ดาห์ หรือมผี ู้เสยี ชีวิตเกิน 100 ราย/วัน
 จาเป็นต้องจากัดการรวมกลุ่มไม่เกิน 5 คน จากัดการเดินทาง ปิดสถานท่ี-ขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัด
ระยะไกล และ WFH อยา่ งนอ้ ย 70% หรอื Seal route การเดนิ ทางของพนกั งาน
 เร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ และโรคเร้ือรังในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และ
ปทมุ ธานี ใหไ้ ด้ 100% ภายในเดอื นกรกฎาคม 2564
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ดาเนินมาตรการ Home Isolation ทงั้ ในกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล และต่างจังหวดั
 เน้นย้าให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการทางสังคม เช่น ลดกิจกรรมภาครัฐ, WFH 80%, ลดการ
เดินทางข้ามจังหวัด, มาตรการความปลอดภยั ด้านสาธารณูปโภค และปิดสถานที่เสี่ยงทุกแหง่ เพ่อื เสนอ ศบค. ตอ่ ไป

-2 -

กำรฉดี วคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวคั ซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 7 ก.ค. 64) รวม 11,619,933 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รบั วัคซนี เขม็ ท่ี 1 จานวน 8,494,230 โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 11.79
จานวนผ้ไู ด้รบั วคั ซนี เข็มที่ 2 จานวน 3,125,388 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 4.34
 การให้บรกิ ารวคั ซนี ปอ้ งกันโควิด-19 ณ ศนู ยว์ ัคซนี กลางบางซอ่ื ยอดฉดี วัคซนี สะสม 24 พ.ค. 64 –
7 ก.ค. 64 จานวน 652,655 โดส
กำรดำเนนิ งำนของโรงพยำบำลบษุ รำคมั กระทรวงสำธำรณสขุ :
 แนวทางแนะนาการนาส่งผู้ป่วยโรงพยาบาลบุษราคัมด้วยตนเอง ภายหลังจากได้รับการประสาน
ยนื ยันจากศูนยส์ ง่ ต่อ ไดแ้ ก่ 1) รถส่วนตัวทม่ี ีการแบง่ แยกสว่ นระหวา่ งคนขับกับผปู้ ่วย 2) รถแท็กซโ่ี ควิด 3)
รถส่วนราชการอื่น ๆ และ 4) สาหรับคนขบั รถให้สวมใส่หน้ากากอนามัยปดิ ขอบหรือใสห่ นา้ กากผ้าทับหน้ากาก
อนามัย และปดิ แอร์
 แนวทางการจาหน่ายผูป้ ่วยโควิด-19 กรณีไมม่ อี าการ ให้พกั ในโรงพยาบาล 10 วนั และกลบั ไปกักตัวต่อ
ที่บ้านอีก 4 วัน จนครบ 14 วันนับจากวันท่ีตรวจพบเช้ือ และกรณีที่มีอาการน้อย หากครบ 10 วัน ยังมีอาการ
ให้อยู่ในโรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นอย่างน้อย 24-48 ช่ัวโมง และกลับไปกักตัวต่อท่ีบ้านอีก 4 วัน จนครบ 14 วัน
นับจากวันทม่ี ีอาการ
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นผู้ประสานงานหลักในการรับ-ส่งต่อผู้ป่วย ในโรงพยาบาล
สนามทุกแห่ง
สถำนกำรณ์เตียงรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันท่ี 7 ก.ค. 64 จานวน 3,274 ราย Admit แล้ว 650 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนินการ 2,624 ราย (สีเขียว 1,107 ราย, สเี หลอื ง 507 ราย, สีแดง 10 ราย)
 รายงานสถานการณ์เตยี ง

- ภาครฐั : เตยี งระดบั 1 : 6,463 เตยี ง เตียงระดบั 2 : 6,823 เตียง และเตยี งระดบั 3 : 517 เตยี ง
 สถานการณ์เตียงในกรงุ เทพมหานครและปริมณฑลยังมีแนวโน้มตงึ ตัวมากข้ึน ได้ดาเนนิ การเพ่ิมศักยภาพ
จานวนเตยี งทงั้ 3 ระดับ ดาเนนิ การ Home Isolation ในภาครัฐ และเตรียม Community Isolation
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 คาดการณ์การใช้ออกซิเจนโรงพยาบาลทุกแห่ง เพ่ือเตรียมความพร้อมสาหรับ Home Isolation และ
Community Isolation
เสนอกำรใช้ Rapid Antigen Test สำหรับสถำนกำรณ์ทม่ี ีกำรติดเช้ือในชุมชนวงกวำ้ ง :
 การเก็บตัวอย่าง ใช้ nasopharyngeal หรือ swab nasal swab ตามเอกสาร ใช้เพ่ือคัดกรอง
เบ้ืองตน้ และควรได้รับการตรวจยนื ยนั ดว้ ย RT-PCR และสถานที่รับตรวจ Rapid Antigen Test ตอ้ งมีชอ่ งทาง
ด่วนใหผ้ ู้ท่รี ูผ้ ล Antigen บวก ไดร้ บั การตรวจยืนยันดว้ ย RT-PCR
 เตรียมพร้อมระบบทางการแพทย์ การจัดการกระบวนการรับการรักษา การคัดแยกความรุนแรง
ชอ่ งทางดว่ นใหผ้ ้สู งู อาย/ุ เส่ยี งปว่ ยหนกั และการทา Home Isolation กับผ้ทู ีไ่ มม่ ีอาการ/อาการน้อย
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ที่ประชุมเห็นชอบในร่างดังกล่าว เร่งดาเนินการประกาศใช้และส่ือสารให้ประชาชนเข้าใจวิธีการ
ตรวจดว้ ยตนเองได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
 เน้นย้าให้ใช้มาตรการ Home Isolation ควบคู่กับ Community Isolation โดยจัดท้าคลิปวีดีโอ
ประชาสัมพนั ธ์ใหป้ ระชาชนรับทราบทกุ ชอ่ งทาง
กำรปฏบิ ตั กิ ำรนำส่งผ้ปู ่วย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ กุ เฉนิ แห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 7 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 207 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
42 ราย อ่ืนๆ 7 ราย จานวนปฏิบัติการ 80 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 28 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
27 ทมี กลาโหม 1 ทมี

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏิบัตกิ ำรฉุกเฉินด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 265
ประจำวนั ท่ี 9 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.50 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศร์ จติ ร ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เรอื่ งเพือ่ ทรำบ
 เม่ือวันท่ี 8 ก.ค. 64 กระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวเร่ืองการใช้ Rapid test ในโรงพยาบาล
แผนการจัดสรรวัคซีนของกรุงเทพมหานคร รวมถึง มาตรการ Home Isolation ที่จะดาเนินการร่วมกับระบบ
บริการปฐมภูมิ
 กระทรวงสาธารณสุขนาเสนอมาตรการทางสังคมท่ีสาคัญต่อ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
(ศบค.) รวมถึงการเสนอปรับพื้นที่เสีย่ งเพือ่ พิจารณาดาเนนิ การจานวน 14 วัน ซง่ึ ตอ้ งเฝา้ ระวังสถานการณ์และ
ทบทวนมาตรการอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
 ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดในพื้นที่ภูมิภาค ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะประชุมหารือร่วมกับพื้นท่ี
เพ่ือกาหนดแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ในวันนี้ (9 ก.ค. 64) เวลา 15.30 น.
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ติดเช้ือเพิ่มข้ึนอย่างรวดเร็ว
และพบการระบาดของโรคมีแนวโนม้ สูงข้ึนเรอื่ ย ๆ
 พิจารณาใช้มาตรการลงทะเบียนคัดกรองด้วย Antigen test ในวงกว้าง พร้อมท้ังมีมาตรการ
Home Isolation คณุ ภาพในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
 คาดการณ์สถานการณ์โรคอาจพบผู้ติดเช้ือสูงถึง 10,000 ราย/วัน หรือสะสมมากกว่า 100,000 ราย
ใน 2 สัปดาห์ หรือเสียชวี ิตเกนิ 100 ราย/วัน
 จาเป็นต้องจากัดการรวมกลุ่มไม่เกิน 5 คน จากัดการเดินทาง ปิดสถานท่ี-ขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัด
ระยะไกล และ WFH อยา่ งนอ้ ย 70% หรือ Seal route การเดินทางของพนักงาน
 เร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรังในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี
ใหไ้ ด้ 100% ภายในเดือนกรกฎาคม 2564
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ตั้งข้อสังเกตยอดผู้ติดเชื้อของประเทศอังกฤษท่ีมีผู้ติดเช้ือจานวนมาก แต่อัตราการเสียชีวิตไม่มาก
เนอื่ งจากมีการระดมฉดี วัคซนี
 จดุ ฉีดวคั ซนี 25 จุด ทช่ี ะลอบรกิ าร จะกลับมาใหบ้ รกิ ารอีกครั้ง และจะเพ่ิม Mobile team สาหรับ
การฉดี ผู้วัคซนี แกผ่ ู้สงู อายุท่ไี มส่ ะดวกในการเดนิ ทาง

-2 -
 พิจารณาเสนอให้เร่งดาเนินการเสนอมาตรการควบคุมโรคอยา่ งเข้มข้นต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
(ศบค.) เพ่ือการควบคุมการระบาดอยา่ งทันท่วงที
กำรฉดี วคั ซนี โควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 8 ก.ค. 64) รวม 11,975,996 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 8,800,155 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 12.22
จานวนผไู้ ด้รับวคั ซีนเข็มท่ี 2 จานวน 3,175,841 โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 4.41
 การให้บริการวคั ซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์วัคซนี กลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
8 ก.ค. 64 จานวน 670,472 โดส
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันที่ 8 ก.ค.64 จานวน 3,488 ราย Admit แล้ว 449 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนนิ การ 2,999 ราย (สเี ขยี ว 2,402 ราย, สีเหลอื ง 582 ราย, สีแดง 15 ราย)
 รายงานสถานการณเ์ ตียง

- ภาครัฐ: เตียงระดบั 1 : 6,470 เตยี ง เตยี งระดับ 2 : 6,851 เตยี ง และเตียงระดับ 3 : 505 เตียง
 สถานการณ์เตียงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังมีแนวโน้มตึงตัวมากข้ึน ได้ดาเนินการเพ่ิม
ศักยภาพจานวนเตียงทั้ง 3 ระดับ ดาเนินการ Home Isolation ในภาครัฐ และเตรียม Community
Isolation
กำรดำเนินงำนของโรงพยำบำลบษุ รำคัม กระทรวงสำธำรณสขุ :
 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยประจาวันที่ 7 ก.ค. 64 ยอดนอนโรงพยาบาลสะสม 2,883 ราย
แบ่งเป็น สีเหลืองอ่อน 2,384 ราย สีเหลือง 409 ราย สีแดง 90 ราย ยอดรับผู้ป่วยใหม่ 484 ราย ส่งต่อ 2 ราย
จาหน่าย 184 ราย
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาเพิ่มสัดส่วนการดาเนินมาตรการ Home Isolation เพ่ือให้จานวนเตียงในระบบเพิ่มข้ึน
โดยมอบหมายนายแพทย์ธงชยั กรี ตหิ ัตถยากร ดาเนนิ การ
 เสนอพิจารณาตรวจสอบจานวนเตียงในระบบกับจานวนเตียงจริงในกรุงเทพมหานครเพ่ือรับผู้ป่วยเข้า
ระบบการรักษาพยาบาล
เสนอร่ำงแนวทำง Home Isolation :
 โดยมกี ารพิจารณาผู้ปว่ ยใหม่และผปู้ ่วยท่ีรอเตียงครบกาหนดหลังรกั ษา 7 – 10 วัน ให้จาหน่ายเข้า
สู่ระบบแยกกักตนเองที่บ้าน ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาตามดุลยพินิจของแพทย์ และมีเกณฑ์พิจารณาดังนี้
1) ผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อย 2) อายนุ ้อยกว่า 60 ปี 3) สุขภาพแข็งแรง 4) อาจมโี รคร่วม แต่รักษาอย่างควบคุม
5) อยูบ่ ้านคนเดยี วหรอื มีห้องแยกถ้าอยูห่ ลายคน
 ขั้นตอนการเข้ารับ home isolation ดังนี้ 1) ลงทะเบียนเข้าระบบ 2) รับอุปกรณ์ในการรักษา
3) พบทีมแพทย์ทาง telemedicine เพ่อื ประเมนิ อาการ หากอาการแย่ตอ้ งสง่ ต่อโรงพยาบาล เม่ือครบกาหนด
แพทย์จะจาหน่ายออกจากระบบ
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอปรับเกณฑ์อายุ เน่ืองจากอาจมผี ู้ทีอ่ ายมุ ากกวา่ 60 ปี แตย่ ังแขง็ แรง
 อาจปรับมาตรการให้ใช้ได้กบั แพทยป์ ฐมภูมแิ ละคลินิกชุมชน กรณีผูป้ ่วยจานวนมาก พิจารณาเสนอ
ให้สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปรับให้คลินิกชุมชนสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาได้
และดาเนินการวางระบบรองรบั ในกรณีทปี่ ระชาชนโทรเข้ามา เมื่อเกิดสถานการณฉ์ ุกเฉิน เพ่ือความเชอ่ื มั่นของ
ประชาชน

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผบู้ ริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏิบตั ิกำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 266
ประจำวันท่ี 10 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศร์ จิตร ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคญั
เรอ่ื งเพอ่ื ทรำบ
 นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ประกาศล็อกดาวน์
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 6 จังหวัด และยกระดับมาตรการควบคุมโรครวม 10 จังหวัดที่มีการระบาด
รนุ แรงของโควิด-19 มผี ลอย่างเปน็ ทางการตง้ั แตว่ นั ที่ 12 กรกฎาคม 2564
 เม่ือวันที่ 9 กรกฏาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมการบริหาร
จัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 โดยประชุมหารือร่วมกับส่วนภูมิภาค และได้ติดตามความ
คืบหนา้ ในการดาเนินงานพรอ้ มใหก้ าลงั ใจ
 เน้นย้าให้ใช้มาตรการ Home Isolation ควบคู่กับ Community Isolation โดยจัดทาคลิปวีดีโอ
ประชาสัมพนั ธใ์ หป้ ระชาชนรับทราบทุกช่องทาง
 วคั ซนี ไฟเซอร์จานวน 20 ล้านโดส กลุม่ คนท่ีจะได้รบั การฉีดวัคซีนก่อน ไดแ้ ก่ บคุ ลากรด่านหนา้ เพ่ือ
สร้างขวัญและกาลังใจในการทางาน ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจาตัว ซึ่งเกณฑ์เหล่าน้ีข้ึนอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข
พิจารณาตามจานวนทเี่ หมาะสม
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ผู้เสียชีวิตยังเพ่ิมข้ึนต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกลมุ่ ผสู้ งู อายุ และผู้ท่มี ีโรคเรื้อรัง คาดวา่ วัคซนี ท่ีกาลังจัดสรร ชว่ ยทาใหอ้ ตั ราเร่งของการฉีดวคั ซีนใน
กลุ่มผสู้ งู อายุ ที่ยงั น้อยกว่ากล่มุ อ่ืนๆ เพ่ิมข้ึนได้ในสปั ดาหห์ นา้
 ต่างจังหวัด ยังพบผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภมู ิลาเนา และพบการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน
ตลาดคา้ สง่ ขนาดใหญ่
 ภาคเหนือ หลายจังหวัด พบผู้ติดเช้ือประปราย ยังไม่พบการระบาดในลักษณะ super-spreading
cluster ข้ามจงั หวัด ยงั พบผู้ติดเชื้อต่อเน่ืองในโรงเรียนประจาแหง่ หนึ่ง
 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังพบผู้ติดเชือ้ เดินทางกลบั ภูมลิ าเนาเพิ่มในแถบจังหวัดอสี านใต้
 ภาคกลาง และภาคตะวันออก พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ในโรงงาน สถานประกอบการ และ
ชุมชนต่อเน่ือง หลายโรงงานใช้มาตรการ BB&S ได้ประสิทธิภาพน้อย มีสัดส่วนพนักงานคนไทยมาก ไป-กลับ
ขา้ มจังหวัด เน้นสอื่ สารมาตรการ Self BB&S ควบคไู่ ปด้วย
 ภาคใต้ และชายแดนใต้ พบการระบาดต่อเนื่องในชุมชน โรงงาน และสถานประกอบการ ต่อเน่ือง
เนน้ การคดั กรองผเู้ ดนิ ทางเข้า – ออก จากพน้ื ทร่ี ะบาด และเน้นมาตรการ DMHTTA และ Self BB&S

-2 -
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ตั้งข้อสังเกตสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกมีแนวโน้มคงตัว หลายประเทศในแถบยุโรป
ทป่ี ระชาชนไดร้ ับวัคซนี โควิด-19 มากกว่า 40% พบผ้เู สียชีวติ ลดลง แม้พบผ้ตู ิดเชื้ออยู่ในระดบั สงู
 พิจารณาลดกิจกรรมการรวมกลุ่มทางศาสนาในเทศกาลฮารรี ายอของภาคใต้ เพ่ือลดการแพร่ระบาด
ของเชอื้ โควิด-19
 พิจารณาเสนอให้เร่งดาเนินการเสนอมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้นตอ่ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควดิ -19
(ศบค.) เพ่ือการควบคมุ การระบาดอย่างทนั ท่วงที
กำรฉดี วัคซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 9 ก.ค. 64) รวม 12,375,904 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 9,130,526 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 12.68
จานวนผ้ไู ดร้ บั วคั ซนี เขม็ ท่ี 2 จานวน 3,245,378 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 4.51
 การให้บรกิ ารวัคซนี ป้องกนั โควดิ -19 ณ ศนู ยว์ ัคซีนกลางบางซอื่ ยอดฉดี วัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
9 ก.ค. 64 จานวน 691,395 โดส
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันท่ี 9 ก.ค. 64 จานวน 3,760 ราย Admit แล้ว 529 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนนิ การ 3,231 ราย (สีเขยี ว 2,637 ราย, สเี หลือง 590 ราย, สีแดง 4 ราย)
 รายงานสถานการณเ์ ตียง

- ภาครัฐ: เตียงระดบั 1 : 6,572 เตียง เตยี งระดับ 2 : 6,868 เตียง และเตยี งระดับ 3 : 515 เตยี ง
 สถานการณเ์ ตยี งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังมแี นวโน้มตึงตวั มากข้ึน แนวโนม้ จานวนผู้ป่วย
เพ่ิมขึ้น เกนิ ศักยภาพทจ่ี ะรองรบั ได้ในโรงพยาบาล เร่งดาเนนิ การ Home Isolation & Community Isolation
และจดั การนาส่งผปู้ ่วยเขา้ สู่ระบบโรงพยาบาล
กำรดำเนนิ งำนของโรงพยำบำลบษุ รำคมั กระทรวงสำธำรณสขุ :
 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยประจาวันที่ 9 ก.ค. 64 ยอดนอนโรงพยาบาลสะสม 3,591 ราย
แบ่งเป็น สีเหลืองอ่อน 3,021 ราย สีเหลือง 446 ราย สีแดง 124 ราย ยอดรับผู้ป่วยใหม่ 585 ราย ส่งต่อ 2 ราย
จาหนา่ ย 304 ราย
สถำนกำรณก์ ำรใช้ทรพั ยำกรเตียงทวั่ ประเทศ กรณี โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019
 สรุปสถานการณ์เขต 1 – 12 (ภูมิภาค) เตียงแดง 3,338 ใช้ไป 2,250 (67.41%) เตียงว่าง
1,088 เตียงเหลือง 39,903 ใช้ไป 30,032 (75.26%) เตียงว่าง 9,871 เตียงเขียว 33,693 ใช้ไป
19,812 (58.8%) เตยี งว่าง 13,881
 สรุปสถานการณ์กรุงเทพมหานคร เตียงแดง 1,051 ใช้ไป 932 (88.68%) เตียงว่าง 119 เตียง
เหลือง 10,055 ใช้ไป 9,078 (90.28%) เตียงว่าง 977 เตียงเขียว 18,329 ใช้ไป 14,490 (79.06%)
เตยี งว่าง 3,839
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณาแผนการจัดการเตียงในพื้นท่ีกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาคเพ่ือรองรับจานวนผู้ป่วย
ทเ่ี ข้าระบบการรักษาพยาบาลใหเ้ พยี งพอ
 เน้นย้าให้ใช้มาตรการ Home Isolation ควบคู่กับ Community Isolation ในพื้นท่ีต่างจังหวัด
โดยดูบรบิ ทความเหมาะสมแต่ละพนื้ ท่ีดว้ ย
กำรปฏิบัติกำรนำส่งผปู้ ่วย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทย์ฉุกเฉินแห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 9 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 128 ราย ผู้ปว่ ยปฏเิ สธการนาสง่
8 ราย อื่นๆ 2 ราย จานวนปฏิบัติการ 65 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 32 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
31 ทมี กลาโหม 1 ทีม

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉกุ เฉินด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังท่ี 267
ประจำวันท่ี 11 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศ์รจิตร ปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคัญ
เรือ่ งเพื่อทรำบ
 รัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ เริ่มในวันท่ี 12 กรกฎาคม 2564 เพื่อชะลอการติดเชื้อ
ภายในประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขเร่งวางแผนการดาเนินงานเชงิ รุก อาทิ การจัดทีมในการค้นหาผปู้ ่วย
การตรวจ Antigen test kit ในชมุ ชนเสีย่ ง เพอื่ คดั แยกผู้ปว่ ยและลดการแพร่กระจายเชือ้
 พิจารณาวางแผนการบริหารจัดการทรัพยากร เมื่อเริ่มดาเนินการตามแนวทาง Home Isolation
ให้สามารถเชอื่ มโยงกับระบบบริการสาธารณสุข
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กล่มุ ภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พบผู้ติดเช้ือเพ่ิมข้ึนอีก ผู้เสียชีวิตยังเพิ่มข้ึนต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเร้ือรัง และพบกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ติดเตียง เสียชีวิตท่ีบ้านหลายราย
เนอื่ งจากตอ้ งมีผดู้ ูแลและเขา้ รกั ษาโรงพยาบาลไดย้ าก
 ต่างจังหวัด ยังพบผู้ติดเช้ือเดินทางกลับภมู ิลาเนา และพบการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน
ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ โดยภาคใต้และชายแดนใต้ พบการระบาดต่อเนื่องในชุมชน โรงงาน และสถาน
ประกอบการต่อเน่ือง เน้นการคัดกรองผู้เดินทางเข้า – ออก จากพื้นท่ีระบาด และเน้นมาตรการ DMHTTA
และ Self BB&S รวมทั้งลดกิจกรรมการรวมกลุ่มทางศาสนา และงานประเพณี
 พบผู้ติดเชื้อจากการร่วมกลุ่มทากิจกรรมร่วมกัน เช่น กลุ่มผู้ควบคุมม็อบ สื่อสารขอความร่วมมือ
งดการรวมกลุ่มคนจานวนมาก โดยเฉพาะกิจกรรมท่ีมีโอกาสเส่ียงต่อการคัดกรองตรวจหาเชื้อได้ยาก รวมถึง
ความแออดั ของการรอตรวจหาเชื้อโควิด-19 นอกสถานพยาบาล
กำรฉีดวคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 10 ก.ค. 64) รวม 12,469,188 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 9,213,598 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 12.79
จานวนผไู้ ดร้ บั วคั ซนี เข็มที่ 2 จานวน 3,255,590 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 4.52
 การให้บริการวคั ซนี ป้องกนั โควดิ -19 ณ ศูนยว์ ัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
10 ก.ค. 64 จานวน 712,734 โดส
ข้อเสนอแนะจำกทปี่ ระชมุ :
 มอบกรมควบคุมโรคพิจารณาและเตรียมข้อมูลสาหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สาหรับบุคลากรทาง
การแพทย์ เพ่ือการดาเนนิ การและสอื่ สารประชาสมั พนั ธ์

-2 -
 พิจารณานาเสนอผลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยความ
ระมัดระวังพร้อมคานึงถึงปัจจยั ท่ีเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งระยะเวลาของการได้รบั การฉีดวัคซีน สายพันธุ์ของเชื้อ
ไวรัส และการดาเนินการควบคมุ โรคในปัจจุบัน
รำ่ งแนวทำงกำรประเมนิ แคมป์ :
 วัตถุประสงค์เพ่ือเป็นเครื่องมือในการพิจารณาอนุญาตให้แคมป์และสถานที่ก่อสร้างสามารถ
ปฏิบัติงานได้ ภายใต้มาตรการควบคุมท่ีทางราชการกาหนด โดยมีมาตรการในการควบคุม คือ ด้านการ
สาธารณสุข ด้านการ Bubble & Sealed และดา้ นการรว่ มมือของผู้ประกอบการ
 การดาเนินการประเมินแคมป์ ประกอบด้วย 1) ลักษณะกายภาพของแคมป์ และ Construction
Site 2) ผลตรวจการควบคุมโรค (สัดส่วนผู้ที่ติดเชื้อแล้วกับผู้ท่ีได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยร้อยละ 85 และ
มาตรการการควบคุมโรคของแคมป์) 3) การจัดการของผู้ประกอบการ (มาตรการสาหรับผู้ประกอบการ/
นายจ้าง คนงานและบุคคลในครอบครัว)
 สานักอนามัย กรุงเทพมหานคร จัดทาคู่มือแนวทางการประเมิน และผู้ท่ีรับผิดชอบวางแผนและกากับ
ดแู ลการประเมนิ แคมป์ในพ้นื ท่ี ให้ประเมนิ แคมปใ์ นพ้นื ทก่ี รงุ เทพมหานครคร้งั แรกให้แลว้ เสรจ็ ภายใน 25 ก.ค. 64
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบกรมควบคุมโรคพิจารณา แนวทางการดาเนินงานอย่างการบูรณาการร่วมกับหนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง
อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย เพื่อการปอ้ งกันและควบคุมโรคอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
 เห็นชอบแนวทางการประเมนิ แคมป์ มอบกรมควบคมุ โรคดาเนนิ การ
แนวทำงกำรใช้ Antigen Test Kit สำหรับสถำนกำรณท์ มี่ ีกำรติดเชอื้ โควิด-19 ในชุมชนวงกว้ำง :
 ชุดตรวจท่ีใช้ต้องผ่านการประเมินและข้ึนทะเบียนแล้วกับสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ตัวอย่างที่ใช้ตรวจเก็บจาก nasopharyngeal, oropharyngeal, nasal swab หรือน้าลายตามที่ชุดตรวจ
กาหนดและเป็นไปตามประกาศของสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
 กรณที มี่ ีผูป้ ว่ ยจานวนมากให้พิจารณาใช้ Antigen Test Kit ถ้าใหผ้ ลบวกให้ตรวจยนื ยนั ดว้ ย (RT-PCR)
กรณีท่ีใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit ทาการตรวจด้วยตนเองเม่ือมีผลบวกให้แจ้งสถานบริการท่ีกาหนดใกล้บ้าน
เพอ่ื การดาเนินการอยา่ งเหมาะสม
 การสนับสนนุ และการเบิกจ่ายชดุ ตรวจให้เป็นไปตามท่ีสานกั งานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติกาหนด
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาแนวทางการใช้ Antigen Test Kit ในระบบบริการสุขภาพเป็นลาดับแรก ทั้งศูนย์บริการ
สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และสถานพยาบาลปฐมภูมิส่วนของภูมิภาค เพ่ือการบริหารจัดการทรัพยากร
อย่างเพียงพอ และกาหนดแนวทางระบบการส่งต่อผู้ป่วยอย่างเหมาะสม ท้ังน้ีจะพิจารณาในส่วนของการ
กระจายใหป้ ระชาชนตรวจดว้ ยตนเองในระยะต่อไป
 เสนอจัดทา Info graphic แนวทางการใช้ Antigen Test Kit และการปฏิบัติตัวหลังการตรวจ
เพ่อื สอ่ื สารประชาสัมพันธ์สรา้ งความเขา้ ใจกบั ประชาชน
 สานักงานคณะกรรมการอาหารและยาคาดการณ์จานวนและตรวจสอบมาตรฐานชุดตรวจ (test kit)
ในประเทศไทยใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานสากล
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 ระบบ Co-Link วันท่ี 10 ก.ค. 64 จานวน 3,871 ราย Admit แล้ว 402 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนนิ การ 3,469 ราย (สีเขยี ว 2,806 ราย, สีเหลอื ง 653 ราย, สแี ดง 10 ราย)
 รายงานสถานการณ์เตียง

- ภาครัฐ: เตียงระดบั 1 : 6,505 เตียง เตยี งระดบั 2 : 6,869 เตียง และเตยี งระดับ 3 : 509 เตยี ง
 สถานการณ์เตียงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีความตึงตัว และแนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
เกินศักยภาพที่โรงพยาบาลรองรับได้ เร่งดาเนินการ Home Isolation & Community Isolation และจัดการ
นาสง่ ผู้ปว่ ยเข้าสู่โรงพยาบาลและระบบบริการสาธารณสุข

กำรปฏบิ ตั กิ ำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทย์ฉกุ เฉนิ แห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 10 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 212 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการ
นาส่ง 18 ราย อ่ืนๆ 4 ราย จานวนปฏิบัติการ 83 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 34 ทีม แบ่งเป็น EMS ใน
ระบบ/อาสา 31 ทมี กลาโหม 3 ทมี

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรบั ผ้บู ริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 268
ประจำวันที่ 12 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.30 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภูมิ วงศร์ จติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เร่ืองเพือ่ ทรำบ :
 กระทรวงสาธารณสุข โดยสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติให้โรงพยาบาลทุกแห่ง
ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และคลินิก เตรียมตรวจโรคโควิด-19 ด้วยการใช้ Antigen Test Kit (ATK) ซ่ึงเป็น Home use/
Personal use ให้ประชาชน พิจารณาเร่งรัดดาเนนิ การเพอ่ื ลดการแออัด และรอคอย
 พจิ ารณากาหนดกิจกรรมชว่ งระยะเวลาของการลอ็ กดาวน์
- จัดตั้งทีม Comprehensive COVID-19 Response Team (CCRT) โดยมีบทบาทหน้าท่ีในการ
ให้ข้อแนะนาการปฏิบัติตน Health Literacy, การตรวจคดั กรอง ผ่านการใช้ ATK หรือ RT-PCR, สามารถเช่อื มโยง
กับระบบบริการทางคลินิกในการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพจิต และการทา Primary care อาทิ การให้ยา
การใหค้ าปรึกษาผ่าน Telemedicine รวมถงึ การฉดี วัคซีน (607) พรอ้ มทงั้ ศึกษาชุมชนร่วมดว้ ย
- กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสานักอนามัย กรุงเทพมหานคร จัดทา Mobile supervisor โดยมี
บทบาทหน้าที่บรกิ ารสุขภาพปฐมภูมิ โดยมอบนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กากับ
ตดิ ตาม และใหค้ าแนะนา
 เน้นย้าการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค (607) ให้มากท่ีสุด รวมถึง
การระดมฉดี วคั ซนี ในกรุงเทพมหานคร ให้ได้รอ้ ยละ 70 ไม่ตา่ กวา่ 5 ลา้ นโดส ภายใน 2 เดือน
 พจิ ารณาดาเนนิ การบรู ณาการความร่วมมือกบั ทุกฝา่ ยท่เี ก่ียวขอ้ งทั้งภาครฐั และภาคเอกชน
 มอบกรมการแพทย์ และกรุงเทพมหานคร สื่อสารประชาสัมพันธ์การ Home Isolation ณ จุดบริการ
ตรวจหาเช้อื SAR-CoV-2
 กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร ประสานบูรณาการข้อมูลผู้ติดเช้ือ COVID-19 ใน
กรุงเทพมหานคร รว่ มกบั กระทรวงแรงงาน
 กรุงเทพมหานคร พจิ ารณาชี้แจงโรงพยาบาลเอกชน กรณตี รวจพบผู้ติดเชือ้ ระดบั สเี ขยี ว และสีเหลอื งออ่ น
ให้ดาเนินการ Home Isolation สว่ นสีแดงใหเ้ ขา้ รับการรักษาตามระบบ
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณโ์ รคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล พบผตู้ ิดเชื้อและผเู้ สียชวี ิตจานวนมากต่อเน่ือง
โดยเฉพาะกล่มุ ผสู้ งู อายุ และผูท้ มี่ โี รคเรอ้ื รงั ซึง่ สว่ นใหญต่ ิดเชือ้ จากคนในครอบครวั คนที่รู้จักกนั โดยไม่ทันระมัดระวงั ตวั
 ตลาดไทเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อ ให้พิจารณาสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดเร่งควบคุมผู้ท่ีเดินทาง
มาจากตลาดไท และเรง่ สอื่ สารทาความเข้าใจกับประชาชนเนน้ ยา้ มาตรการการปอ้ งกนั โรคในครอบครวั รวมถึง
ประเดน็ การเดินทางของประชาชนทั่วไป
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พจิ ารณารวบรวมข้อมลู จานวน Home isolation ทั้งกรุงเทพมหานครและภมู ิภาค
 พจิ ารณาเน้นย้าสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน อยู่บา้ นอยหู่ า่ ง หยดุ เชื้อเพอ่ื ชาติ และHome Isolation
 มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมการป้องกันและควบคุมโรค Home Isolation และ
Comprehensive COVID-19 Response Team (CCRT)

-2 -
กำรฉีดวัคซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 11 ก.ค. 64) รวม 12,569,213 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 9,301,407 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 12.91
จานวนผูไ้ ด้รับวคั ซนี เข็มที่ 2 จานวน 3,267,806 โดส ความครอบคลมุ รอ้ ยละ 4.54
 การให้บริการวัคซีนป้องกนั โควดิ -19 ณ ศนู ย์วคั ซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉดี วัคซีนสะสม 24 พ.ค.64 –
11 ก.ค. 64 จานวน 733,764 โดส
 วคั ซนี จัดส่งถงึ ประเทศไทยปลายเดอื นน้ี จานวน 10 ลา้ นโดส
 หลงั จากการประชุมกรรมการโรคตดิ ต่อแห่งชาติ คาดการณว์ า่ สามารถเร่ิมฉดี วัคซีนเข็มท่ี 3 ได้ (Booster Dose)
 กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค จัดสรรวคั ซีนให้กรุงเทพมหานครเพิ่ม จานวน 700,000 โดส
ฉดี สปั ดาห์ละ 100,000 โดส โดยเน้นการฉดี ในกลุ่ม (607)
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 วนั น้ีมกี าหนดการ teleconference รว่ มกับภูมิภาค เวลา 15.00 น. ประเด็นการบรหิ ารจัดการวคั ซีน
 เร่งรดั สารวจจานวนบคุ ลากรดา่ นหนา้ เพ่อื การจดั สรรวัคซนี
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้น เกินศักยภาพท่ีจะรองรับได้ในโรงพยาบาล ส่วนภูมิภาคมีแนวโน้ม
ความต้องการเตียงเพ่ิมสงู ข้ึนเช่นเดียวกัน พิจารณาเรง่ ดาเนินการ Home Isolation & Community Isolation
เรง่ ดาเนนิ การ Antigen Test Kit ทัง้ โดยสถานพยาบาลและ Home use
 ระบบ Co-Link วันที่ 11 ก.ค. 64 จานวน 4,415 ราย Admit แล้ว 662 ราย จัดสรรเตียงแล้ว
รอดาเนินการ 3,753 ราย (สีเขียว 3,100 ราย, สเี หลอื ง 637 ราย, สแี ดง 16 ราย)
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วนั ท่ี 11 ก.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บริการสะสม 5,499 ราย จานวนผูป้ ว่ ยวันน้ี 167 ราย
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาปรับ Guideline CPG ประเดน็ แนวทางระยะเวลาการครองเตียงของผู้ป่วย เพอ่ื ให้สามารถ
รับผู้ปว่ ยสีเหลืองเพม่ิ มากขึ้น: ระดับสเี ขียว ระยะเวลาครองเตยี ง 7 วัน ระดบั สีเหลอื ง ระยะเวลาครองเตยี ง 10 วัน
แนวทางการใช้ Antigen Test Kit สาหรับสถานการณท์ ่ีมีการติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนวงกว้าง :
 Antigen Test Kit เป็น Professional use ซึง่ ไดร้ บั การ Validate จากต่างประเทศเรียบรอ้ ยแลว้
 ผลการทดสอบ: กรณีผลบวก ให้แจ้งหน่วยบริการใกล้บ้านที่ติดต่อได้และแยกกักตัว กรณีผลลบ
หากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง อาจอยู่ในระยะฟักตัว ควรแยกตัวและทดสอบซ้าอีกครั้งภายหลัง และหากปรากฏ
อาการของโรค ควรทดสอบซา้ ทันที หากประวัติเสย่ี งสมั ผสั ควรแยกกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไว้กอ่ น
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 กรณี ความคลาดเคล่ือนของชุดตรวจ ควรพิจารณาให้ข้อแนะนาเพิ่มเติมสาหรับวิธีตรวจ และ
เนอ่ื งจากชุดทดสอบ Low sensitivity ควรกาหนดระยะเวลาในการตรวจให้ชัดเจน
แนวทางการดาเนินงาน Comprehensive Covid-19 Response Team (CCR Team) :
 Comprehensive Covid-19 Response Team (CCR Team) มีเป้าหมายเพื่อลงพ้ืนท่ีเยี่ยมบ้าน
ดูแลประชาชน กรณี COVID-19 ค้นหา ตรวจคดั กรองและฉดี วัคซีนให้กบั กลุ่มเสี่ยง
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เน้นดาเนนิ การในกรณี COVID-19 ทั้งร่างกายและจติ ใจ โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้อง
การเตรยี มครอบครวั กรณีมีผูต้ ้องแยกกักตัวอยูท่ บี่ ้าน Home Isolation :
 การเตรียมบ้าน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ท่ีมีห้องสาหรับแยกกัก ไม่มีห้องสาหรับแยกกัก
และประเภทแฟลต คอนโดมิเนยี ม
 คาแนะนาหลกั สาหรับประชาชนท่ีแยกกักตัวท่บี ้าน ได้แก่ การป้องกันการแพรเ่ ชือ้ การดูแลการเจ็บป่วย
การส่งเสริมสุขภาพ และการอนามยั และสุขาภบิ าล
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ประสานเช่อื มโยงขอ้ มูลร่วมกบั กรมการแพทย์ กรณีระบบการติดต่อประสานการดูแลกับเจา้ หนา้ ท่ี
 พจิ ารณากาหนดให้มีทางเลือก กรณีประเมินบ้านแล้วไม่สามารถใช้เปน็ สถานที่ Home Isolation ได้
 พิจารณาประเดน็ ทางข้อกฎหมาย กรณเี จา้ หนา้ ทส่ี ง่ั ให้แยกกกั ได้

กำรปฏิบตั กิ ำรนำส่งผปู้ ่วย COVID-19 สูโ่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 11 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 101 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
25 ราย จานวนปฏบิ ัติการ 47 เท่ยี ว จานวนทมี ปฏิบตั กิ าร 19 ทีม แบ่งเปน็ EMS ในระบบ/อาสา 19 ทีม

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชุมศูนย์ปฏิบตั ิกำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ที่ 269
ประจำวันที่ 13 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศ์รจติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เร่ืองเพ่อื ทรำบ :
 วันท่ี 12 ก.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขร่วมประชุมกับคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
ซึ่งเหน็ ชอบการใช้ Antigen Test kit มาตรการ Home Isolation และ CCR Team
 วันที่ 12 ก.ค. 64 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประชุมทางไกลกับภูมิภาค ซึ่งพบว่าปัจจุบันจานวนผู้ป่วย
เพิม่ ข้ึน แต่ยงั สามารถบรหิ ารจดั การได้
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล พบผู้ติดเชื้อและผเู้ สยี ชีวิตจานวนมากต่อเน่อื ง
โดยเฉพาะกลมุ่ ผสู้ ูงอายุ และผทู้ ม่ี โี รคเร้อื รัง ซึง่ ส่วนใหญต่ ดิ เช้อื จากคนในครอบครวั คนที่รู้จกั กัน โดยไมท่ นั ระมดั ระวงั ตวั
 ต่างจังหวดั ยังพบผู้ติดเช้ือกลับภมู ลิ าเนา รวมทงั้ การขนแรงงานจากพื้นที่ระบาดตรวจรักษา โดยเฉพาะ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ภาคเหนือ พบการติดเช้ือประปราย ภาคกลางและภาคตะวันออก พบ Cluster ใหม่
ต่อเนื่องในโรงงาน สถานประกอบการ และภาคใต้ บรเิ วณชายแดนใต้ เนน้ ควบคุมโรค Active Cluster
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนเรือ่ งการใช้ Test kit โดยการจัดทาแนวทางการใช้
ให้ชัดเจน
 เสนอพิจารณาหารือเรื่องการควบคุมราคา Antigen Test kit กับกรมการค้าภายใน ว่าควรควบคุม
หรือใหเ้ ป็นไปตามกลไกตลาด
 เสนอพิจารณาดาเนินการจัดทาแนวทางการควบคุมโรคแบบครบวงจรสาหรับสถานประกอบการ
และก่อสร้าง ที่ประชุมมอบหมายนายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดาเนินการร่วมกับ
กระทรวงแรงงานและหน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง
 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพรายงานความคืบหน้าในการสารวจบริษัทผลิตแก๊สทางการแพทย์ คาดว่า
จะสารวจข้อมลู เรียบร้อยภายในสปั ดาห์นี้ รวมถึงการเพมิ่ บทบาทของอสม.
กำรฉดี วคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวคั ซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 12 ก.ค. 64) รวม 12,908,193 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 9,598,949 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 13.33
จานวนผ้ไู ด้รบั วัคซนี เขม็ ที่ 2 จานวน 3,309,244 โดส ความครอบคลมุ ร้อยละ 4.59
 การใหบ้ รกิ ารวคั ซีนปอ้ งกนั โควดิ -19 ณ ศนู ยว์ คั ซนี กลางบางซ่อื ยอดฉีดวคั ซนี สะสม 24 พ.ค. 64 –
12 ก.ค. 64 จานวน 752,029 โดส

-2 -
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 มอบหมายกรมควบคุมโรคในการจัดทาแผนบริหารจัดการการฉีดวัคซีนโดยใช้สูตรการฉีด Sinovac
Astrazeneca รว่ มกัน ซ่งึ คาดการณ์วา่ จานวนวัคซนี มคี วามเพียงพอในการดาเนนิ การ
สถำนกำรณ์เตยี งรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้น เกินศักยภาพท่ีจะรองรับได้ในโรงพยาบาล ส่วนภูมิภาคมีแนวโน้ม
ความต้องการเตียงเพิ่มสูงข้ึนเชน่ เดียวกัน พิจารณาเร่งดาเนินการ Home Isolation & Community Isolation
เรง่ ดาเนนิ การ Antigen Test Kit ทัง้ โดยสถานพยาบาลและ Home use
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ก.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บรกิ ารสะสม 5,567 ราย จานวนผ้ปู ว่ ยวันนี้ 68 ราย
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาให้กรมการแพทยป์ ระสานงานกบั หน่วยงานเอกชนลงขอ้ มูลให้เปน็ ปจั จุบนั
 เสนอพจิ ารณาให้จัดทาแนวทางการรับผูป้ ว่ ยสเี หลืองและผู้ป่วยสีเขยี วกลับเข้าระบบในกรณีท่ีมีอาการ
 เสนอพิจารณาให้กรมการแพทย์ปรับแนวการรกั ษา Hospitel ให้สามารถรองรับผ้ปู ว่ ยสีเหลอื งได้
ร่างแนวทาง CPG COVID-19 ฉบับปรับปรุง :
 เน้ือหาที่มีการปรับปรุง ได้แก่ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซ่ีงเพ่ิมในส่วนการใช้ Antigen Test kit
ในสถานการณ์การระบาด ต้องตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยัน การปรับแนวทางการใช้ยา โดยพิจารณาให้ยาต้านไวรัส
เร็วขึ้นกรณีที่รักษาที่รักษาแบบ Home isolation ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรง และการจาหน่ายผู้ป่วย
ไมม่ อี าการ หรอื มอี าการนอ้ ยใหแ้ ยกกักที่บ้าน หรอื สถานที่รัฐจดั ให้เป็นเวลา 14 วนั
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาวางแผนการใช้ยา Favipiravir เพื่อรองรับการส่ังจ่าย พร้อมปรับเกณฑ์การใช้ยา
เนื่องจากประมาณการใช้เบ้อื งต้นคือ 14 ลา้ นเมด็ ตอ่ เดือน ปจั จบุ ันสามารถจดั หาได้ 10 ลา้ นเมด็ ต่อเดอื น
 เสนอทบทวนการใช้ยา Favipiravir กับยาฟ้าทะลายโจร โดยให้คณะกรรมการศึกษาวิจัยประสิทธิภาพ
ยาฟ้าทะลายโจรร่วมใหข้ ้อมูล
 เสนอพจิ ารณาการเบิกจา่ ยได้ในกรณีที่ต้องมีการตรวจซา้
ผลกำรดำเนินกำรและข้อเสนอกำรขยำยผล First CCR Team (Comprehensive Covid-19
Response Team)
 ดาเนินการในพื้นท่ีด้วยการประชุมสร้างความเข้าใจและประสานกลไกในพื้นที่ ตามแนวทาง ระบบ
บริการปฐมภูมิในเขตเมืองและภาวะวิกฤต โดยดาเนินการค้นหา ตรวจคัดกรอง ฉีดวัคซีนให้กลุ่มเส่ียง ซ่ึงจะมี
การขยายผลไปสู่ 188 ทมี ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร พรอ้ มทง้ั ขอสนับสนุนทรัพยากรและหนว่ ยงาน
ท่ีเก่ียวข้องสนับสนุนในการดาเนินการ และขอให้กระทรวงสาธารณสุขพัฒนาแนวทางมาตรฐาน กาหนดแผน
และตดิ ตามการดาเนนิ งานต่อเนื่อง
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เห็นชอบในหลักการพร้อมสนับสนุนทุกข้อเสนอและให้เร่งการดาเนินการขยายผลและให้
กรุงเทพมหานครเขา้ มาดาเนนิ การรว่ มดว้ ย พรอ้ มทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ งบประมาณ
ในการดาเนินการให้ร่วมกับสานกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (สปสช.)
การสง่ ผตู้ ิดเชื้อโควิด-19 กลับภูมลิ าเนา :
 เป้าหมาย นาผู้ติดเชื้อกลับสู่ภูมิลาเนาและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ณ สถานท่ีท่ีจังหวัด
กาหนดโดยหลักการ ผู้ป่วยต้องมีอาการคงที่ สามารถเดินทางได้ ปลายทางยินยอม ส่งต่อตามมาตรฐานการ
ป้องกนั และควบคุมโรค (Sealed Route)
 ข้อเสนอเพื่อการสั่งการ มอบหมายสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเป็นผู้ประสานงานหลักในการ
วางแผนการส่งต่อผู้ป่วย มอบหมายสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรืองการจัดสรร
งบประมาณ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมอบผู้ประสานหลักจัดหาสถานที่ดูแลผู้ป่วย เสนอ ศปก.ศบค.
เพอื่ ขอการสนบั สนุนจากหน่วยงานภายนอก
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เหน็ ชอบในการหลกั การ
กำรปฏิบตั ิกำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 12 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 103 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
15 ราย จานวนปฏิบัติการ 46 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 23 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา 20 ทีม
กระทรวงกลาโหม 3 ทีม

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรับผ้บู ริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ตั กิ ำรฉุกเฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้ังท่ี 270
ประจำวันท่ี 14 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคญั
เร่ืองเพอ่ื ทรำบ :
 พญ.โสมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก WHO ได้ชี้แจงเพ่ิมเติม
เร่อื งการฉดี วคั ซีนป้องกันโรคโควดิ -19 "สูตรผสม"
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณโ์ รคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร และปรมิ ณฑล พบผู้ตดิ เชือ้ และผูเ้ สียชวี ิตจานวนมากต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ท่ีมีโรคเร้ือรัง ซ่ึงส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนในครอบครัว คนที่รู้จักกันโดยไม่ทันระมัดระวงั
ตัว และเน้นส่อื สารให้คนในครอบครัวเรง่ พาไปฉดี วคั ซนี ในช่วง 2 สัปดาหน์ ี้
 ต่างจงั หวัด ยงั พบผ้ตู ดิ เชอ้ื เดินทางกลับภูมิลาเนา รวมทงั้ ขนแรงงานจากพ้ืนทีร่ ะบาดไปตรวจและรกั ษา
ขนสง่ สินคา้ ค้าปลีก ยงั พบการระบาดในโรงงาน ตลาดและชุมชนโดยรอบ รวมทั้งบุคลากรในโรงพยาบาล
 ภาคเหนือ หลายจงั หวดั พบผตู้ ิดเชื้อประปราย เน้นการสอบสวนโรคเฉพาะราย
 ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ยังพบผู้ตดิ เชอ้ื เดนิ ทางกลับภมู ิลาเนาเพม่ิ ขึ้นมากหลายจังหวดั รวมทงั้ ผูค้ า้
จากตลาดคา้ สง่ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทาให้พบการระบาดในครอบครวั และชมุ ชนหลายแหง่
 ภาคกลาง และภาคตะวันออก พบ Cluster ใหม่ต่อเนื่อง ทั้งในแคมป์คนงาน โรงงาน สถานประกอบการ
ค่ายทหาร เร่งใช้มาตรการ BB&S ส่วนตลาด และชุมชนโดยรอบ การลงทะเบียนผู้ค้าแรงงาน ทาให้ตรวจ RT-PCR มาก
ข้นึ พิจารณาสื่อสารผูป้ ระกอบการในการตรวจด้วย ATK
 ภาคใต้ และชายแดนใต้ เน้นควบคมุ โรค Active cluster ในชุมชน โรงงาน และสถานประกอบการทพ่ี บผู้ติด
เช้ือมากกว่า 14 วัน ทั้งลดการทากจิ กรรมคนจานวนมาก และใชม้ าตรการ DMHTTA และ Self BB&S
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลยั มหิดล เสนอให้เร่งรวบรวม
ข้อมลู วชิ าการเรอื่ งวัคซีน “สูตรผสม” และแจ้งประชาชน ทั้งนขี้ อให้การดาเนนิ การต่างๆ เปน็ ไปในทิศทางเดียวกนั
 ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ท่ีปรึกษากรรมการโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ยืนยันการใช้
วัคซีน “สูตรผสม” ว่ามีประสิทธิภาพ โดยอ้างอิงผลวิจัยจาก นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะ
ทางด้านไวรัสวทิ ยาคลนิ ิก ภาควชิ ากมุ ารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย
 สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เสนอพิจารณาหารือเร่ืองการควบคุมราคา Antigen Test
kit กับกรมการคา้ ภายใน โดยเป็นไปตามกลไกลตลาด ทงั้ นี้ราคาไม่ควรสูงกวา่ 250 บาท

-2 -
กำรฉดี วัคซนี โควิด-19 :

 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 13 ก.ค. 64) รวม 13,230,681 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 9,888,124 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 13.73
จานวนผไู้ ดร้ บั วคั ซนี เข็มที่ 2 จานวน 3,342,557 โดส ความครอบคลุม รอ้ ยละ 4.64

 การใหบ้ รกิ ารวัคซนี ป้องกนั โควิด-19 ณ ศูนย์วัคซนี กลางบางซ่ือ ยอดฉดี วัคซนี สะสม 24 พ.ค.64 –
13 ก.ค. 64 จานวน 769,290 โดส

สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้น เกินศักยภาพท่ีจะรองรับได้ในโรงพยาบาล ส่วนภูมิภาคมีแนวโน้ม
ความต้องการเตียงเพิ่มสูงข้ึนเช่นเดียวกัน และเร่งดาเนินการ ATK, CCRT, HI& CI และเพิ่มศักยภาพเตียงรอง
รบั กล่มุ สีเหลือง (Yellow Hospitel)
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 13 ก.ค. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารบั
บรกิ ารสะสม 5,653 ราย จานวนผปู้ ่วยวนั น้ี 86 ราย
(ร่าง) แนวทางการดาเนินการหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) สาหรับผู้ป่วย COVID-19 มีอาการไม่
รุนแรง ไม่มโี รคร่วม หรือมีโรครว่ มสาคัญท่ีควบคุมได้ :
 เกณฑ์ในการรับผู้ป่วย หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ฉบับปรับปรุง วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
ผู้ติดเชื้อ หรือผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 ท่ีไม่มีอาการหรือมีอาการจัดเป็นกลุ่มเขียว/กลุ่มเหลือง ที่ไม่ต้องการ
ออกซิเจนในการรักษา Oxygen Sat>96% อายุ นอ้ ยกวา่ 65 ปี (กรณีอายนุ ้อยกว่า ๗ ขวบ ควรมผี ปู้ กครองที่
ตดิ เชื้อดแู ล) อาจมีโรคร่วมท่ีควบคมุ ได้ภายใต้การรกั ษาแลว้ มากกว่า 6 เดอื น Step down ไมม่ ีไขม้ ากกว่า 24
ชั่วโมง เอกซเรย์ปอดไม่แย่ลงความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (Oxygen Sat) มากกว่า 96% น้าหนักตัวน้อยกว่า
90 กิโลกรมั หรอื BMI นอ้ ยกวา่ 30 กก./ม.2
 (ร่าง) การดาเนินการของ Hospitel 1. ประเมินความเหมาะสมสาหรบั ผู้ติดเชื้อท่ีมีอาการไม่รุนแรง
2. ลงทะเบยี นผู้ตดิ เช้ือที่เข้าเกณฑ์การรักษาที่หอผู้ปว่ ยเฉพาะกจิ ในระบบของโรงพยาบาล 3. ควรถ่ายภาพรังสี
ทรวงอก (chest X-ray) หากพบความผิดปกติรนุ แรง ใหเ้ ข้ารับการรกั ษาท่โี รงพยาบาลจัดระบบรับ-ส่งต่อผู้ป่วย
ในกรณีผู้ติดเช้ือจาเป็นต้องย้ายเขา้ รับการรักษาต่อในโรงพยาบาล 4. ให้ความม่ันใจในมาตรฐานการดูแลรักษา
ของทีมแพทย์และพยาบาลสาหรบั ผตู้ ิดเชื้อ 5. ให้ผ้ปู ว่ ยลงนามในหนงั สือให้ความยนิ ยอม
Scenario projection for intervention strategies :
 Scenario A ใช้กลยทุ ธฉ์ ดี วคั ซนี โดยไมเ่ พมิ่ มาตรการอื่นๆ กรณีนี้ไวรสั สายพันธ์ุเดลตาแทนที่ (R เป็น 1.1)
การฉีดวัคซีนแบบปูพรมและผู้สูงอายุ จะลดอัตราการตายในผู้สูงอายุได้ดี ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าถ้าดาเนินการตาม
แผนน้ีปลายกรกฎาคมน้ีสถานการณอ์ าจจะดีข้ึน
 Scenario B ใช้กลยุทธ์ฉีดวัคซีน ร่วมกับมาตรการควบคุมโรคอ่ืนๆเพิ่มเติม (R เป็น 1.1) การฉีด
วัคซีนแบบปูพรมและผู้สูงอายุ ร่วมกับมาตรการอ่ืนๆ หากสามารถดาเนินการได้จะลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายวัน
และลดอตั ราการป่วยรนุ แรง โดยขน้ึ อยูก่ ับความสามารถในการเร่งฉดี วคั ซนี ต่อวนั
สถานการณ์และแผนการดาเนินงานกรุงเทพมหานคร :
 แนวทางการดาเนินงาน Covid-19 Comprehensive Response Team (CCRT) 1. สารวจชุมชม
(ผู้ป่วยโควิด ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจาตัว 7 กลุ่มโรค หญิงต้ังครรภ์) 2. การตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19
ในชุมชน ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit 3. ให้การรักษาพยาบาลเบ้ืองต้น ก่อนส่งต่อเข้ารับการรักษาใน
โรงพยาบาล โดยการจ่ายยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และให้คาแนะนาในการแยกกักท่ีบ้าน (HI : Home Isolation)
และมอบชุด HI 4. ดาเนินการกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงท่ีบ้าน มอบชุด HQ : Home Quarantine หรือส่งเข้า LQ :
Local Quarantine 5. ให้บริการฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยง (ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจาตัว 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์)
6. การสอ่ื สารทาความเขา้ ใจ ให้ความรูแ้ กป่ ระชาชนเกยี่ วกับโรคโควดิ -19
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุมเพิ่มเติม :
 เสนอประชาสัมพันธ์ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการใช้ Antigen Test Kit โดยการจัดทาแนวทางการ
ใชใ้ ห้ชัดเจน
 เป้าหมายของจุดจบในการระบาดของเช้ือโควิด–19 จะส้ินสุดได้เมื่อมีการเร่งฉีดวัคซีนแบบปูพรม
ร่วมกับการปฏิบตั ิตามมาตรการ DMHTT
 เสนอให้สานักงานสาธารณสุขจังหวัดเร่งดาเนินการกับผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่อง Logistic ให้
เปน็ ไปในแนวทางทชี่ ัดเจน
 เสนอให้เพ่ิมเกณฑ์การคัดเลอื กผ้ปู ่วย กรณีที่รอเตียงจากทางโรงพยาบาลให้ได้รับการรักษาเบ้ืองตน้
จากทมี แพทย์ Hospitel กอ่ น เพ่อื ผลประโยชน์ของผ้ปู ่วย
กำรปฏบิ ัติกำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 ส่โู รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ ุกเฉินแห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 13 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 65 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
13 ราย จานวนปฏิบัติการ 28 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 19 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา 17 ทีม
กระทรวงกลาโหม 2 ทีม

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏิบัตกิ ำรฉกุ เฉินด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 271
ประจำวนั ท่ี 15 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.25 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศร์ จิต ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคญั
เรอื่ งเพอื่ ทรำบ :
 วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติให้จัดหาวัคซีนสาหรับปี พ.ศ. 2565
จานวน 120 ลา้ นโดส พร้อมทั้งพจิ ารณาวางแผนสาหรบั ปี พ.ศ. 2566 ตอ่ ไป
 เตรียมข้อมูลการให้วัคซีนโควิด-19 แบบสลับชนิด (เข็มท่ี 1 Sinovac ตามด้วยเข็มที่ 2
AstraZeneca) เพือ่ ทาความเขา้ ใจกบั สว่ นภมู ภิ าคดาเนินการในสัปดาห์ต่อไป
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 Rapid prediction of COVID- 1 9 situation in Bangkok Assumption โ ด ย มี Scenario
ใช้มาตรการ Lockdown, TTI (Test-Trace-Isolate)/ Antigen Test Kit, Community Isolation/ Home Isolation
และ Vaccine speed up in seniors ผลการศึกษาพบว่า สามารถลดอัตราการติดเช้ือรายใหม่ ลดอาการ
รุนแรง และลดอัตราการเสยี ชีวิตได้
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มคงตัว และคาดว่าจะพบผู้ป่วยเสียชีวิตจานวน
มากอีก 4 - 6 สัปดาห์ สาหรับจานวนผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยอาการรุนแรง คาดว่าจะเริ่มมีแนวโน้มลดลงในอีก
4 สัปดาห์ ทั้งนี้ผลการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคส่วนบุคคล DMHTT มาตรการควบคุมโรค
ในสถานประกอบการ และมาตรการทางสงั คมมีประสทิ ธิภาพ
 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบผู้ติดเช้ือ และผู้เสียชีวิตจานวนมากในพ้ืนท่ี และพบการระบาดของ
โรคในชมุ ชน ครอบครัวในวงกว้าง พื้นทต่ี ่างจงั หวดั ยังคงพบผตู้ ิดเชื้อจากการเดินทางกลับภมู ิลาเนาอย่างต่อเน่ือง
 แจ้งจังหวัดปรับใช้มาตรการตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit ในชุมชน และช้ีแจงประชาชน
ที่พบผลบวก ต้องลงทะเบียนกับหน่วยบริการเพ่ือเข้า Home Isolation และ Community Isolation
พร้อมท้งั ปรบั การรายงานจานวนผูต้ ดิ เชอื้ เขา้ ขา่ ย
 โรงงาน สถานประกอบการ แคมป์คนงาน เน้นใช้มาตรการ BB&S และให้ปรับการสุ่มตรวจด้วย
Antigen Test Kit หากพบผลบวกตรวจดว้ ย RT-PCR เพื่อยนื ยัน โดยเฉพาะกลุม่ เสี่ยงตอ่ อาการรุนแรง
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาการนาเสนอแผนภูมิเส้นแสดงการฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี และผู้ป่วย 7 กลุ่ม
โรคเรอ้ื รงั ทั้งระดับประเทศ และระดับจงั หวัด เพ่ือการเรง่ การฉีดวคั ซนี แก่กลมุ่ เป้าหมาย
กำรฉีดวคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 14 ก.ค. 64) รวม 14,852,388 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 10,163,340 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 14.11
จานวนผ้ไู ดร้ ับวคั ซีน เขม็ ท่ี 2 จานวน 3,370,377 โดส ความครอบคลุม รอ้ ยละ 4.68

-2 -
 การให้บรกิ ารวัคซีนป้องกนั โควิด-19 ณ ศนู ยว์ คั ซนี กลางบางซื่อ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค.64 –
14 ก.ค. 64 จานวน 786,549 โดส

กำรให้วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 1 เข็มแก่บุคลำกรทำงกำรแพทย์ด่ำนหน้ำท่ีได้รับวัคซีน Sinovac
2 เข็ม และกำรใหว้ ัคซนี โควิด-19 แบบสลับชนิด (Sinovac ตำมดว้ ย AstraZeneca)

 คณะกรรมการโรคติดตอ่ แหง่ ชาติ และคณะกรรมการด้านวชิ าการ ตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
มีมตริ บั รองแนวทางการฉดี วคั ซนี โควิด-19 ดงั นี้

- กรณีได้รบั วคั ซนี Sinovac เป็นเขม็ ที่ 1 สามารถใหว้ ัคซีน AstraZeneca เป็นเขม็ ที่ 2 ภายใน
3-4 สปั ดาห์ (เพื่อให้ Antibody ข้ึนสงู และเรว็ )

- กรณีได้รับวัคซีน Sinovac 2 เข็ม และเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ให้ได้รับ
วัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็มโดยอาจเป็นวัคซีน AstraZeneca หรือวัคซีนชนิด mRNA อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลัง
ฉีดเข็มท่ี 2 (เพอื่ ให้ Antibody สูงต่อเน่ือง)

ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 แนวทางการฉีดวคั ซีนโควิด-19 ในระยะทีม่ ีการแพร่ระบาดของสายพนั ธ์ุ Delta

- การฉีดวัคซีน 2 เข็ม โดยแนวทางมาตรฐาน กรณีฉีด Sinovac - AstraZeneca ฉีดห่างกัน
ท่ี 3-4 สปั ดาห์ กรณฉี ดี AstraZeneca - AstraZeneca ฉีดห่างกันท่ี 10-12 สปั ดาห์ โดยทัว่ ไปจะมีภมู ิคุ้มกัน
เพียงพอหลังจากครบ 2 เข็มแลว้ 2 สัปดาห์ หมายเหตุ การฉดี Sinovac - Sinovac จะฉดี เฉพาะกรณี

- การ Booster dose หลังฉีด Sinovac - Sinovac สาหรับบุคลากรทางการแพทย์ระยะเวลา
อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังฉีดครบ 2 เข็ม จะได้รับการฉีด AstraZeneca หรือ Pfizer 1 เข็ม ทั้งน้ีเมื่อมีวัคซีน
เพียงพอและกลมุ่ เสยี่ งไดร้ บั วคั ซนี แลว้ จะมกี ารพจิ ารณาการฉีด Booster (เข็ม 3) แก่ประชาชนตอ่ ไป

กำรตรวจ Antigen Test Kit ในโรงงำนและสถำนประกอบกำร :
 ประเมินความเส่ียงด้วย “ไทยประเมินเซฟไทย ครัวเรือนปลอดภัยท่ีทางานไร้โควิด” และประสาน
โรงพยาบาลคูส่ ัญญาเพ่อื เตรียมความพร้อมในการตรวจ การดูแลรักษา และระบบการสง่ ต่อ
 กรณีที่มีความเสี่ยงตรวจโดยใช้ Antigen Test Kit หากผลบวกตรวจด้วย RT-PCR เพื่อยืนยัน
และดาเนินการส่งต่อโรงพยาบาลในผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดง และดาเนินการตามแนวทาง Home
Isolation/Community Isolation ในผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว หากผลลบดาเนินการมาตรการ DMHTT หรือกักตัว
สาหรบั ผู้สมั ผัสใกลช้ ิด และกรณไี มม่ คี วามเสย่ี งปฏิบัตติ วั ตามมาตรการ DMHTT
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เห็นชอบในแนวทางการใช้ Antigen Test Kit ระยะแรกดาเนินการตรวจโดยสถานพยาบาล
และในระยะต่อไป ประชาชนสามารถตรวจเองได้ โดยหาซื้อจากคลินิกหรือรา้ นขายยาที่ขน้ึ ทะเบียนไว้ เพอื่ การ
เชอ่ื มโยงขอ้ มูลกับระบบของสถานพยาบาล
Update CPG COVID-19 :
 การปรับเนื้อหาแนวทางการให้ยา ดังน้ี พิจารณาการให้ยาฟ้าทะลายโจรในกลุ่มท่ีไม่มีอาการอ่ืนๆ
ข้ึนกับดุลยพินิจของแพทย์ พิจารณาการให้ยา Favipiravir เร็วที่สุดในผู้ป่วยท่ีมีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอด
อักเสบ ไม่มีปัจจัยเสย่ี งต่อการเป็นโรครนุ แรง/โรคร่วมสาคญั ภาพถ่ายรงั สปี อดปกติ
 การให้ยา Tocilizumab อาจพจิ ารณาเลือกใช้ โดยควรปรึกษาผเู้ ช่ียวชาญ
 ให้ยาต้านแบคทีเรียเม่ือมีข้อมูลที่ชี้วา่ ผปู้ ่วยมกี ารตดิ เช้ือแบคทีเรยี แทรกซอ้ นเท่าน้ัน ไม่ต้องให้ตั้งแต่
แรกรบั ผปู้ ่วยทุกราย
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นทุกระดับสีอย่างต่อเน่ือง เร่งพัฒนาดาเนินการเพ่ิมศักยภาพของ Hospitel
ให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองมากขึ้น เร่งดาเนินการ Home Isolation & Community Isolation ดาเนินการ
CCRT เพื่อคน้ หาผปู้ ว่ ยเชงิ รุกในชุมชน และเร่งดาเนนิ การฉีดวัคซนี ในกลุ่มผ้สู ูงอายุ และกลมุ่ เสย่ี ง 7 โรคเรื้อรัง
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 14 ก.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บริการสะสม 5,713 ราย จานวนผปู้ ว่ ยวนั น้ี 60 ราย

กำรปฏิบัตกิ ำรนำส่งผู้ปว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ กุ เฉินแห่งชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 14 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 112 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
13 ราย จานวนปฏิบัติการ 51 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 25 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา 24 ทีม
กระทรวงกลาโหม 1 ทมี

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรบั ผบู้ ริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏิบัติกำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 272
ประจำวนั ที่ 16 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.30 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กียรติภมู ิ วงศ์รจติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เรื่องเพื่อทรำบ :
 วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ได้รว่ มพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้า
บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาชยั นาทนเรนทร หลงั จากมีผู้ไม่หวังดีบุกเข้ามานาสแี ดงสาดใส่รูปป้ันสาคญั ในกระทรวง
สาธารณสุข ซ่ึงการกระทาดังกล่าวเป็นเรื่องท่ีไม่สมควรกระทาอย่างย่ิง สร้างความเสียใจ และกระทบกับ
ขวัญกาลงั ใจของบุคลากรสาธารณสขุ ที่เป็นอย่างมาก
 เร่งดาเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง ให้ครอบคลุมมากท่ีสุด เพื่อลด
อาการปว่ ยรนุ แรง และเสียชีวิต
 พจิ ารณาการต่อสญั ญาโรงพยาบาลบษุ ราคมั ซึ่งจะมีการพดู คุยหารือกับรองนายกรัฐมนตรีในบ่ายวนั น้ี
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มการระบาดเพ่ิมคงตัว และคาดว่าจะพบผู้ป่วยเสียชีวิตจานวนมาก
อีก 4 - 6 สัปดาห์ สาหรับจานวนผู้ติดเช้ือ และผู้ป่วยอาการรุนแรง คาดว่าจะเร่ิมมีแนวโน้มลดลงในอีก 4 สัปดาห์
ท้ังน้ีผลการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคส่วนบุคคล DMHTT มาตรการควบคุมโรคในสถานประกอบการ
มาตรการทางสงั คม ไดป้ ระสทิ ธิภาพ
 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจานวนมากในพื้นที่ และพบการระบาด
ของโรคในชุมชน ครอบครวั ในวงกว้าง
 ต่างจังหวัด ยังพบผูต้ ดิ เช้ือจากการเดินทางกลบั ภูมลิ าเนาตอ่ เน่ือง
 แจ้งจังหวดั ปรับใชม้ าตรการตรวจคดั กรองดว้ ย ATK ในชมุ ชน และชีแ้ จงประชาชนที่พบ ATK Positive
ลงทะเบียนกับหนว่ ยบริการเพ่ือเขา้ Home Isolation และ Community Isolation พรอ้ มทง้ั ปรับการรายงาน
จานวนผตู้ ิดเชอื้ เขา้ ขา่ ย
 โรงงาน สถานประกอบการ แคมป์คนงาน เน้นใช้มาตรการ BB&S และให้ปรับการสุ่มตรวจด้วย
Antigen Test Kit หากพบผลบวกตรวจด้วย RT-PCR เพื่อยืนยนั โดยเฉพาะกลุม่ เส่ียงทม่ี ีอาการรนุ แรง
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 กรุงเทพมหานคร ยังคงต้องตรวจเข้มเร่ืองแคมป์คนงาน-โรงงาน และเร่งฉีดวัคซีนของระบบไทยร่วมใจ
ทงั้ 25 แห่ง เพอื่ ควบคุมการแพร่ระบาดของเชอื้ โควดิ -19 อยา่ งต่อเนื่อง
 การตรวจ ATK กับระบบ HI&CI เป็นข้อมูลสาคัญในการประสานเชื่อมโยง และเสนอให้แยกข้อมูล
ในการนาเสนอทช่ี ดั เจนในเรอ่ื งนี้

-2 -
กำรฉดี วคั ซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 14 ก.ค. 64) รวม 13,533,717 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 10,163,340 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 14.11
จานวนผู้ได้รับวคั ซนี เขม็ ที่ 2 จานวน 3,370,377 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 4.68
 การให้บรกิ ารวัคซนี ป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อ ยอดฉดี วคั ซนี สะสม 24 พ.ค.64 –
15 ก.ค. 64 จานวน 802,085 โดส
ขอ้ มูลกำรใชย้ ำฟ้ำทะลำยโจรของผปู้ ว่ ยโควิด-19 กอ่ นมำถงึ โรงพยำบำล :
 ฟ้าทะลายโจรป้องกันภาวะปอดบวมในผู้ป่วย COVID-19 ได้ลดลง แต่ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย COVID-19
ที่มีภาวะปอดบวมมีการใช้ฟ้าทะลายโจรก่อนเข้ารับการรักษา แต่ทุกรายเป็นการใช้ไม่ถูกต้องคือได้ขนาดยา
ไมเ่ พียงพอ
 มาตรฐานของยาฟ้าทะลายโจรหลากหลายสุ่มเส่ียงต่อความด้อยประสิทธิผลในการรักษา มีราคาแพงขึ้น
และหาซือ้ ยาก
ข้อเสนอแนะจำกทีป่ ระชมุ :
 ควรมีข้อแนะนาท่ีชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุขในการใช้ยาฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยระยะแรก
(Hit hard, Hit early)
 ควรเสนอข้อมูลการใช้ฟา้ ทะลายโจรท่ถี กู ตอ้ งใหก้ บั แพทย์เพอื่ นาไปสกู่ ารใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ งกับประชาชน
 ควรมีการควบคมุ มาตรฐานและราคาของยาฟ้าทะลายโจร
ควำมคบื หน้ำกำรจดั ตง้ั โรงพยำบำลสนำม ระดับสงู (สนำมบนิ สุวรรณภูม)ิ :
 ตามข้อส่ังการศนู ย์ปฏบิ ัติการฉุกเฉนิ ด้านการแพทย์และสาธารณสขุ (PHEOC) กรณี โรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 ฉบับท่ี 262 วนั ท่ี 7 กรกฎาคม 2564 เหน็ ชอบในหลกั การ “การเตรยี มการจดั ต้ังโรงพยาบาล
สนามระดับสูง (สนามบินสุวรรณภูมิ)” มอบกรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกแบบ และดาเนินการจัดตั้ง
โรงพยาบาลสนามระดบั สูง (สนามบนิ สวุ รรณภูมิ)
ขอ้ เสนอแนะจำกทป่ี ระชมุ :
 เรง่ พิจารณาเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งสอดคลอ้ งกับชว่ งเวลาที่โรงพยาบาลบุษราคัม
ทอี่ ิมแพค เมอื งทองธานี จะหมดสัญญาเชา่ พืน้ ท่ี
สถำนกำรณ์เตียงรองรับ COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 สรุปสถานการณ์ผู้ป่วยและเตียง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลแนวโนมจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนต่อเนื่อง
เรง่ ดาเนินการผ้ปู ่วยสีเหลอื ง สีแดง เขา้ รบั การรกั ษา และเชอ่ื มโยงการตรวจ ATK กบั ระบบ HI&CI
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บริการสะสม 5,882 ราย จานวนผู้ปว่ ยวนั น้ี 59 ราย
สถำนกำรณ์กำรใชท้ รพั ยำกรเตียงทั่วประเทศ กรณี โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 :
 สรุปสถานการณ์เขต 1 – 12 (ภูมิภาค) เตียงแดง 3,657 ใช้ไป 2,624 (71.75%) เตียงว่าง
1,033 เตียงเหลือง 48,018 ใช้ไป 38,570 (80.32%) เตียงว่าง 9,448 เตียงเขียว 42,551 ใช้ไป
25,529 (60%) เตยี งว่าง 17,022
 สรุปสถานการณ์กรุงเทพมหานคร เตียงแดง 1,119 ใช้ไป 989 (88.38%) เตียงว่าง 130 เตียง
เหลือง 10,560 ใช้ไป 9,727 (92.11%) เตียงว่าง 833 เตียงเขียว 21,204 ใช้ไป 16,514 (77.88%)
เตียงว่าง 4,690
กำรปฏิบัตกิ ำรนำส่งผู้ปว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทย์ฉกุ เฉนิ แหง่ ชำติ :
 ยอดการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 15 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 143 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
9 ราย จานวนปฏิบัติการ 68 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 26 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา 24 ทีม
กลาโหม 2 ทมี
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุมเพ่ิมเติม :
 กลุ่มภารกิจ Sat Stag และ Planning ควรร่วมกันจัดทาประเด็นแนวทางการประเมินสถานการณ์
ในอนาคตของโรคโควิด-19 ใหส้ อดคลอ้ งไปกบั บรบิ ทสถานการณ์ปจั จบุ ันและอนาคตให้ชัดเจน
 ควรเร่งมาตรการการจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครอบครัว และชุมชน เพื่อรองรับ
ระบบ HI&CI

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 273
ประจำวนั ท่ี 17 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.10 น.
ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภูมิ วงศร์ จติ ปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคญั
เรอ่ื งเพอื่ ทรำบ :
 กระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พร้อมท้ังเสนอมาตรการ
การควบคุมโรคเพ่ือรับทราบและพิจารณา กรณี การใช้ ATK, HI, CI, การฉดี วัคซีนสลับชนิด, การฉีดวัคซีน Booster
และเสนอใหเ้ พิม่ มาตรการ การ Lockdown พืน้ ท่ีท่ีมกี ารระบาดตอ่ เนือ่ ง ใหเ้ ข้มขน้ มากยงิ่ ข้นึ
 พจิ ารณาข้อเสนอมาตรการต่อศูนยบ์ รหิ ารสถานการณโ์ ควิด-19 (ศบค.) ดังน้ี
- มาตรการ Total Lockdown มอบกรมควบคุมโรค พจิ ารณาทบทวนระดบั ความรนุ แรงของแตล่ ะจงั หวดั
- เน้นย้ามาตรทางสังคม อาทิ การลดการเคลื่อนย้าย การเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชน และ
มาตรการในสถานประกอบการและสถานท่ีทา้ งาน
- มอบกรมอนามยั ทบทวน เนน้ ย้ามาตรการตลาดและโรงงานอุตสาหกรรม/สถานประกอบการ ให้เข้มข้นข้นึ
- พจิ ารณาทบทวน และดา้ เนนิ การตามกลไกหรอื มาตรการท่กี า้ หนดอยา่ งเข้มขน้
 เน่ืองจากอัตราการครองเตียงทั้งกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค เกินร้อยละ 70 จึงพิจารณา
การขยายเตียง ณ โรงพยาบาลสนาม (สนามบนิ สวุ รรณภูม)ิ
 เม่อื วาน วันที่ 16 ก.ค. 64 เร่ิมด้าเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster dose) เปน็ ไปด้วยความเรียบร้อย
 พิจารณาทบทวนและประเมินผลกระทบท่ีอาจจะเกิดข้ึนต่อภูเก็ต Sandbox และเกาะสมุย จากกรณี
สหภาพยุโรป (EU) ประกาศปลดประเทศไทย ออกจากกลมุ่ ประเทศที่มีความปลอดภัยจากโควิด-19
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน และผู้ป่วยเสียชีวิตพบการรายงานเพิ่มขึ้นต่อเน่ือง
ท้งั ส่วนกลาง และต่างจงั หวัด ตอ้ งจ้ากัดการเดินทางขา้ มจงั หวัด

- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวติ จ้านวนมากในพ้ืนท่ีและพบการระบาด
ของโรคในชุมชน ครอบครัว ในวงกว้าง

- ต่างจงั หวัด ยังพบผ้ตู ดิ เช้อื จากเดินทางกลบั ภูมิล้าเนาตอ่ เนือ่ ง และพบผ้ตู ิดเชื้อในครอบครวั บา้ ง
- ภาคกลาง และตะวนั ออก พบการระบาดในโรงงานตอ่ เน่ือง
 เรง่ ใหว้ ัคซนี เขม็ กระต้นุ สา้ หรบั บุคลากรทางการแพทย์ด่านหนา้ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน และ
วคั ซีนส้าหรับผสู้ ูงอายุ และเจ็บป่วยเรอื้ รงั ให้เขา้ ถึงได้งา่ ย
 เร่งจัดระบบการลงทะเบียน HI&CI ส้าหรับผู้ท่ีมีผลตรวจ ATK Positive เพ่ือให้ผู้ป่วยอาการหนัก
หรอื อาการรุนแรงไดร้ ับบรกิ ารเตยี งเหลอื ง-แดง ได้ทนั เวลา

-2 -
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอการตรวจด้วย ATK และใช้มาตรการ BB&S เพื่อการควบคุมโรค ท้ังนี้ ควรพิจารณาวางระบบ
การตรวจด้วย ATK ควรใช้ในพ้ืนท่ีท่ีมีคนอยู่หนาแน่น อาทิ ในสถานประกอบการ ส่วนสถานประกอบการ
ทไี่ มส่ ามารถดา้ เนินการ BB&S พิจารณาเน้นให้พนักงาน WFH ใหม้ ากขึน้
กำรฉดี วัคซีนโควดิ -19 :
 จ้านวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 16 ก.ค. 64) รวม 14,130,489 โดส
ความครอบคลุม ร้อยละ 14.85 แบ่งออกเป็น จ้านวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จ้านวน 10,697,578 โดส
จ้านวนผไู้ ด้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จ้านวน 3,432,911 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศนู ยว์ คั ซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉดี วคั ซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
16 ก.ค. 64 จา้ นวน 819,011 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 การฉดี วัคซีนเขม็ ท่ี 1 Sinovac (Sv) เขม็ ที่ 2 AstraZeneca (Az) สามารถเริ่มด้าเนินการได้
 เรง่ รดั และเนน้ ยา้ การฉดี วัคซนี ในกล่มุ ผ้สู งู อายุ 60 ปขี ้นึ ไป และ 7 โรคเรอื้ รัง ให้ไดม้ ากท่ีสุด
 พิจารณาฉีดวัคซีน Sv-Az ทุกกรณี เน่ืองจากฉีดแล้วภมู ิคุ้มกันข้ึนมากกวา่ Sv-Sv ยกเว้นพื้นที่ที่มีการระบาด
ใหพ้ ิจารณาฉดี วคั ซีน Az-Az ส่วนในกรุงเทพมหานคร ใหฉ้ ีดวคั ซนี ตามแผนเดมิ ไปก่อน
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโนม้ จา้ นวนผปู้ ่วยเพิม่ ขึ้นทุกระดับสีอย่างตอ่ เนอื่ ง ส่วนเตียงในภาครฐั และเอกชนยงั คงตงึ ตัว
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 16 ก.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บรกิ ารสะสม 5,223 ราย จา้ นวนผปู้ ว่ ยวันนี้ 67 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวท่ีบ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 16 ก.ค. 64) เข้ารับการรกั ษาใหม่วนั นี้ 117 ราย ผปู้ ว่ ยสะสมทั้งหมด 602 ราย
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) หารือกับโรงพยาบาลเอกชน กรณี การเลือกรับบริการคนไข้
เฉพาะกรณี ทั้งนี้ สบส. มีขอ้ ก้าหนดในการให้บรกิ ารของโรงพยาบาลเอกชน หากกระท้าความผิดมีบทลงโทษ
 มอบหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ขับเคล่ือนการใช้ระบบ HI&CI ส่วนภูมิภาคให้มี
การด้าเนินการมากท่สี ุด และก้ากับติดตามการฉีดวคั ซนี ในกลุม่ เปา้ หมายให้มากที่สดุ
ความครอบคลุมและแนวทางการเรง่ รัดการฉดี วัคซนี COVID-19 กลุ่ม 60 ปีขึ้นไป และ 7 โรคเรอ้ื รัง :
 ผ้สู ูงอายุ 60 ปขี ้นึ ไป ท้งั ประเทศ เป้าหมาย 50% = 5.76 ล้านคน ยงั ไม่ไดร้ บั วคั ซีน 3.65 ลา้ นคน
 ผ้ปู ่วย 7 โรคเรอื้ รัง ทั้งประเทศ เปา้ หมาย 50% = 3.15 ลา้ นคน ยังไมไ่ ด้รบั วคั ซีน 2.06 ล้านคน
 เปา้ หมาย: ฉีดวคั ซนี 50% ในท้ัง 2 กลมุ่ ภายใน 1 เดือน
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอกรมควบคุมโรค พจิ ารณาจดั สรรวัคซีนใหท้ กุ จังหวัดตามจ้านวนลงทะเบยี นในแอปพลิเคช่ัน “หมอพร้อม”

กำรปฏิบัตกิ ำรนำส่งผูป้ ว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ กุ เฉนิ แหง่ ชำติ :
 ผลการขอน้าส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 16 ก.ค. 64 สามารถน้าส่งได้ 150 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการน้าส่ง
26 ราย อ่ืนๆ 12 ราย จ้านวนปฏิบัติการ 107 เที่ยว จ้านวนทีมปฏิบัติการ 25 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
22 ทีม กลาโหม 3 ทมี

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชุมศนู ย์ปฏิบตั กิ ำรฉุกเฉินด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครงั้ ที่ 274
ประจำวนั ที่ 18 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.40 น.

ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศ์รจติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเดน็ สำคัญ
เรอื่ งเพอื่ ทรำบ :
 เมื่อวันท่ี 17 ก.ค. 64 กรมควบคุมโรค แถลงข่าวการยกระดับมาตรการทางสังคม เพื่อประสิทธิภาพ

ในการป้องกนั และควบคุมโรค
 กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกรุงเทพมหานคร ได้ดาเนินการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case

Finding) โดยตรวจด้วย Antigen Test Kit (ATK) ท้ังนี้กระทรวงสาธารณสุขมีแผนนาเข้า ATK จานวนมาก
ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้มากขึ้น พร้อมเร่งดาเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ
และกลุ่มเสี่ยงควบคกู่ ัน เพือ่ ลดอตั ราการเสยี ชวี ิต

 เนื่องจากอัตราการครองเตียงในส่วนภูมิภาคเพ่ิมข้ึน จึงขอให้ทุกจังหวัดบริหารจัดการเตียงอย่างเพียงพอ
เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแสดงความห่วงใยและให้กาลังใจแก่
คณะผบู้ รหิ ารและบคุ ลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้ปฏิบตั ิงานด้วยความอดทน และเป็นหน่ึงเดียว

 สื่อสารประชาสัมพันธ์ กรณีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย และเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ มีโรคประจาตัว
และหญิงต้งั ครรภ์ สามารถฉดี วัคซีนในประเทศไทยได้

รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และผู้ป่วยเสียชีวิตพบการรายงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งสว่ นกลาง และตา่ งจงั หวัด ต้องจากดั การเดนิ ทางข้ามจังหวดั และให้หน่วยงานภาครฐั และเอกชน WFH 100%

- กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล พบการระบาดใหมใ่ นแคมปก์ อ่ สร้างหลายแหง่
- ภาคเหนือ และภาคอีสาน พบผู้ตดิ เชือ้ จากการเดินทางกลบั ภมู ลิ าเนาอยา่ งตอ่ เนื่อง
- ภาคกลาง และตะวันออก พบการระบาดในโรงงานต่อเนื่อง แจ้งจังหวัดเร่ง BB&S และจากัด
การเดนิ ทางอย่างน้อย 14 วัน
- ภาคใต้ และชายแดนใต้ พบการระบาดในพนื้ ที่
 เร่งจัดระบบการลงทะเบียน HI&CI สาหรับผู้ท่ีมีผลตรวจ ATK Positive เพ่ือให้ผู้ป่วยอาการหนัก
หรอื อาการรุนแรงได้รับบริการเตียงเหลอื ง-แดง ได้ทันเวลา

-2 -
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เหน็ ชอบ การยกระดบั มาตรการตามสถานการณย์ อ่ ยในพนื้ ที่ทว่ั ราชอาณาจักร ปรบั เป็นรปู แบบที่ 1
 ขอความร่วมมือฝ่ายความมั่นคง กากับ ติดตาม และเพิ่มปฏิบัติการควบคุมมาตรการต่าง ๆ
โดยเฉพาะพืน้ ทีค่ วบคุมสุด และเข้มงวด
กำรฉดี วคั ซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 17 ก.ค. 64) รวม 14,223,762 โดส
ความครอบคลุม ร้อยละ 14.97 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จานวน 10,780,432 โดส
จานวนผู้ได้รับวคั ซีน เข็มที่ 2 จานวน 3,443,330 โดส
 การใหบ้ ริการวัคซีนปอ้ งกันโควดิ -19 ณ ศูนย์วัคซนี กลางบางซือ่ ยอดฉดี วัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
17 ก.ค. 64 จานวน 835,779 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เนน้ ยา้ ใหส้ ถาบันบาราศนราดรู เร่งดาเนนิ การฉีดวัคซนี ในกล่มุ ผู้สูงอายุและกลุม่ เสย่ี งใหม้ ากทสี่ ดุ
 พิจารณาฉีดวัคซีน Sv-Az เป็นหลัก ส่วนการฉีดวัคซีน Az-Az ให้พิจารณาเป็นกรณีไป โดยเฉพาะ
พื้นท่ีท่ีมีการระบาดสูง
 ปลายเดือน ก.ค. 64 กระทรวงสาธารณสุขมีแผนนาเข้าวัคซีน Pfizer จานวน 1.5 ล้านโดส เพื่อ
ดาเนินการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มท่ี 3 (Booster dose) แก่บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า
กลุ่มเสี่ยง 7 โรค และหญงิ ตงั้ ครรภ์ ตามลาดับ
สถำนกำรณเ์ ตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนทุกระดับสีอย่างต่อเนื่อง ส่วนเตียงในภาครัฐและเอกชนยังคงตึงตัว
และเร่งดาเนนิ การเพิ่มศักยภาพของ Hospitel ใหส้ ามารถรองรบั ผู้ป่วยสีเหลืองมากข้นึ
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 17 ก.ค. 64) ผู้ป่วยที่เข้ารับ
บรกิ ารสะสม 5,311 ราย จานวนผู้ป่วยวนั นี้ 88 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวที่บ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 17 ก.ค. 64) เข้ารับการรกั ษาใหมว่ ันน้ี 154 ราย ผ้ปู ่วยสะสมท้ังหมด 756 ราย
กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำสง่ ผปู้ ่วย COVID-19 ส่โู รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ ุกเฉินแห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 17 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 171 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
46 ราย อื่นๆ 10 ราย จานวนปฏิบัติการ 66 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 31 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
29 ทีม กลาโหม 2 ทีม

*******************

-1 -
บทสรุปสำหรับผู้บริหำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏบิ ัตกิ ำรฉุกเฉินดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ท่ี 275
ประจำวนั ท่ี 19 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.55 น.

ประธำน : นำยแพทยเ์ กยี รติภมู ิ วงศ์รจติ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคัญ
เรอื่ งเพือ่ ทรำบ :
 นายกรัฐมนตรีสั่งล็อกดาวน์เพ่ิม 3 จงั หวดั ได้แก่ ชลบรุ ี ฉะเชงิ เทรา และพระนครศรีอยุธยา รวมจังหวัด

พ้ืนท่ีสีแดงเข้มเป็น 13 จังหวัด โดยยกระดับมาตรการควบคุม ขยายระยะเวลาห้ามออกนอกเคหะสถานต่อ 14 วัน
มผี ลบังคับใช้ ตัง้ แตว่ ันท่ี 20 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม ๒๕๖๔

 เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 นายกรัฐมนตรี กาชับให้หน่วยให้บริการแต่ละหน่วยเพ่ิมความระมัดระวัง
เรื่องของการจัดคิวและให้ข้อมูลเวลารับวัคซีนแก่ประชาชนอย่างชัดเจน รวมถึงมีมาตรการจัดการในเรื่องการ
เวน้ ระยะหา่ งทางสงั คมทเ่ี ข้มงวด

 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแสดงความห่วงใย ให้กาลังใจแก่คณะผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์
และสาธารณสุข ให้ปฏิบัติงานดว้ ยความอดทน และเปน็ หน่งึ เดียว

รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 เร่งจัดระบบการลงทะเบียน Home Isolation – Community Isolation สาหรับผู้ที่มีผลตรวจ ATK
Positive เพื่อให้ผปู้ ่วยอาการหนกั ไดร้ บั บรกิ ารเตยี งเหลอื ง-แดง ไดท้ นั เวลา
 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบการระบาดใหม่ในแคมป์คนงานหลายแห่ง ภาคกลาง และภาค
ตะวันออก พบการระบาดใหมใ่ นโรงงาน เพิ่มขึน้ ต่อเนอ่ื ง แจง้ จังหวัดเรง่ BB&S และจากดั การเดินทางอยา่ งนอ้ ย 14 วัน
 ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยังพบผู้ติดเชื้อจากเดินทางกลับภูมิลาเนาต่อเน่ือง และพบผู้ติดเชื้อใน
ครอบครวั แจง้ สานกั งานสาธารณสุขจังหวดั คัดกรองชุมชนท่ีพบผตู้ ิดเช้อื เดินทางกลับบ้าน และกักตัวผู้สมั ผสั เส่ียงสูง
 ภาคใต้ และชายแดนใต้ พบการระบาดในพื้นท่ี
กำรฉีดวัคซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 18 ก.ค. 64) รวม 14,298,596 โดส
แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 10,850,099 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 21.7
จานวนผ้ไู ด้รบั วัคซีน เข็มที่ 2 จานวน 3,448,497 โดส ความครอบคลุม รอ้ ยละ 6.9
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
18 ก.ค. 64 จานวน 853,510 โดส

-2 -
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ขณะน้ีรฐั บาลยังคงมีการเจรจาเพ่ิมเติมกับผูผ้ ลติ วัคซนี รายอน่ื เพ่ือเร่งดาเนินการนาเขา้ วคั ซนี ให้มาก
ท่สี ุดเพ่ือมาฉดี ใหก้ ับประชาชน
 เร่งดาเนินการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน เป้าหมายคืออย่างน้อยวันละ ๓๐๐,๐๐๐ โดส โดยมีเป้าหมาย
ฉดี วคั ซนี แก่ประชาชน 50 ล้านคนภายในปนี ี้
รำยงำนควำมก้ำวหน้ำกำรศกึ ษำประสิทธผิ ลของวคั ซนี โควิด-19 จำกกำรใช้จรงิ ในพื้นทป่ี ระเทศไทย :
 การฉีดวัคซีน CoronaVac ครบ 2 เข็ม มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเช้ือทั้งการศึกษาในผู้สัมผัส
เส่ียงสูงท่ีจังหวัดภูเก็ตและสมุทรสาคร ร้อยละ 90 และในบุคลากรสาธารณสุขทั้งในการศึกษาที่จังหวัดเชียงราย
และทง้ั ประเทศจากฐานข้อมูลกรมควบคุมโรค รอ้ ยละ 74-89
 การฉีดวัคซนี CoronaVac ครบ 2 เข็ม มีประสิทธิผลในการป้องกันป่วยรุนแรง (ปอดอักเสบ) ร้อยละ 85
จากการศึกษาที่จังหวัดเชียงราย และข้อมูลเบื้องต้นจากฐานกรมควบคุมโรคสอดคล้องกันในการป้องกันป่วย
รนุ แรงได้สงู กวา่ ร้อยละ ๙๐
 ภายหลังการฉีดวัคซีน Astra Zeneca 1 เข็มเกิน 14 วัน การศึกษาที่จังหวัดเชียงรายพบประสิทธิผล
ในการปอ้ งกันการตดิ เช้ือได้ร้อยละ 84 และไม่พบปอดอักเสบเลยใน 5 รายที่ตดิ เช้อื จาก 50 คนที่ไดว้ ัคซีน
 แม้เดือนมิถุนายน เริ่มมีการระบาดของสายพันธ์ุเดลต้าแล้ว แต่การศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนจาก
ฐานข้อมูลกรมควบคมุ โรค ยังไมเ่ ปลีย่ นแปลงจากเดอื นมิถนุ ายน เปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม (VE 75% vs 71%)
 บุคลากรสาธารณสุขมีความเส่ียงและอัตราการติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 สูง แม้ว่าจะได้มีนโยบาย
สนบั สนุนใหม้ ีการฉีดวัคซนี Booster โดส แต่ไม่มวี ัคซีนชนิดใดทีจ่ ะมีประสิทธิผล ๑๐๐% จึงมีความจาเป็นท่ียังคง
ต้องเข้มงวดมาตรการป้องกันบุคคลแบบครอบจักรวาล และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและควบคุมการติดเช้ือ
ในสถานพยาบาลควบคู่กนั ไปด้วย
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอให้จดั ทาขอ้ มูลรูปแบบ Infographic เพอื่ เป็นการเผยแพร่ต่อไป
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกระดับสีอย่างต่อเนื่อง เร่งนาผู้ป่วยสีแดงเข้าระบบการรักษาในโรงพยาบาล
ขยายพื้นทใี่ นโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยสีเหลอื ง และนารอ่ ง Open Platform สาหรับภาคประชาสังคมรวม HI & CI
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ก.ค. 64) ผู้ป่วยท่ีเข้ารบั
บรกิ ารสะสม 5,477 ราย จานวนผ้ปู ่วยวันน้ี 166 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวท่ีบ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 18 ก.ค. 64) เข้ารับการรักษาใหม่วันนี้ 198 ราย ผู้ปว่ ยสะสมทง้ั หมด 954 ราย
กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำส่งผูป้ ว่ ย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทย์ฉกุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 18 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 125 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
19 ราย อ่ืนๆ 9 ราย จานวนปฏิบัติการ 67 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 32 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
30 ทมี กลาโหม 2 ทมี
ข้อเสนอแนะจำกทปี่ ระชุมเพ่มิ เติม :
 เห็นชอบข้อเสนอยกเลิก “วัดความดันโลหิตก่อนฉีดวัคซีน” เพราะท่ีผ่านมาพบปัญหาหลายคน
มาฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้ฉีด เนื่องจากพบความดันโลหิตสูง ท้ังๆท่ีอาจเกิดจากความต่ืนเต้น กลัวการฉีดวัคซีน
ซงึ่ เรือ่ งน้ีผา่ นการยนื ยันจากสมาคมความดนั โลหิตสงู แหง่ ประเทศไทย

*******************

-1 -
บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉินด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ท่ี 276
ประจำวันท่ี 20 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.20 น.
ประธำน : นำยแพทยส์ รุ ะ วเิ ศษศกั ดิ์ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคัญ
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณ์ภำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควดิ -19 มแี นวโน้มสงู ขึ้นช้าๆ ในช่วง 2 – 3 วันทผี่ ่านมา อาจเป็นผลจากมาตรการ
Semi-Lock down ช่วงสปั ดาห์ที่ผ่านมา และผู้เสียชีวติ นอกสถานพยาบาลมแี นวโนม้ ลดลง

- กรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล พบการระบาดใหมใ่ นแคมป์คนงานหลายแห่ง
- ภาคกลาง และตะวันออก พบการระบาดใหมใ่ นโรงงาน สถานประกอบการ ตลาด และชมุ ชน
- ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยังพบผู้ติดเช้ือจากเดินทางกลับภูมิลาเนาต่อเนื่อง และพบผู้ติดเชื้อ
ในครอบครัวแจง้ สานักงานสาธารณสุขจงั หวดั คดั กรองชมุ ชนท่พี บผ้ตู ิดเชือ้ เดินทางกลบั บ้าน และกกั ตวั ผู้สัมผสั เสย่ี งสงู
- ภาคใต้ และชายแดนใต้ พบการระบาดในพ้นื ท่ี และโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ
 กากับติดตามมาตรการควบคุมโรค งดการเดินทางข้ามจังหวัด ให้ทุกคนอยู่บ้าน และเจ้าหน้าท่ี
หน่วยงานราชการ และพนักงานภาคเอกชน Work From Home 100 %
 เน้น Bubble & Sealed: BB&S, Home Isolation: HI, Community Isolation: CI และการกักตัว
ผสู้ ัมผัสเสยี่ งสงู
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ประสานกรุงเทพมหานคร นาเสนอผลการควบคุมโรค, การใช้ Antigen Test Kit: ATK, การเย่ยี มบ้าน
และการฉดี วคั ซีนเสนอแก่ท่ีประชุม
กำรฉีดวคั ซีนโควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 19 ก.ค. 64) รวม 14,547,244 โดส
ความครอบคลุม ร้อยละ 15.36 แบ่งออกเป็น จานวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มท่ี 1 จานวน 11,067,518 โดส
จานวนผไู้ ด้รับวัคซีน เขม็ ที่ 2 จานวน 3,479,726 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
19 ก.ค. 64 จานวน 864,468 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณากากับติดตามการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และปรับจุดฉีดให้เข้าถึงชุมชนมากขึ้น
โดย CCRT

-2 -
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรบั COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มลู จำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนทุกระดับสีอย่างต่อเน่ือง อัตราการครองเตียงเพ่ิมข้ึน เตรียมแผนการ
ขยายศกั ยภาพของโรงพยาบาล/สถาบนั /สนาม
 ศูนย์แรกรับและส่งต่อ นิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันท่ี 19 ก.ค. 64) จานวนผู้ป่วยใน
ทั้งส้นิ 248 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวที่บ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 19 ก.ค. 64) เข้ารบั การรกั ษาใหมว่ ันน้ี 149 ราย ผู้ป่วยสะสมทงั้ หมด 1,103 ราย
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 พิจารณารวบรวมข้อมูล HI-CI เพ่อื บูรณาการระบบรายงานภาพรวม
 โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมกับโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ จัดตั้ง
โรงพยาบาลสนาม 100 เตียง สาหรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง ณ สนามมวยเยาวชนกองทัพอากาศ สนามกีฬา
กองทัพอากาศ (ธปู ะเตมีย์) เริ่มดาเนินการวนั ที่ 26 ก.ค. 64
 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมหารือร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน เร่ือง การยกระดับ Hospitel
เพ่ือการดแู ลรกั ษาผ้ปู ว่ ยระดับสเี หลอื ง
การเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ระดับสูง อาคารสนามบินสุวรรณภมู ิ SAT 1 :
 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นท่ีอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ SAT 1 เพ่ือเตรียมการจัดตั้ง
โรงพยาบาลสนามระดับสูง จานวน 4,500 เตียง ประมาณราคาก่อสร้าง 236,069,803 ล้านบาท และ
พิจารณาปรบั แบบแปลนตามความเหมาะสม
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เห็นชอบการจัดต้ังโรงพยาบาลสนาม และมอบกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดาเนินการของบกลาง
เพือ่ ดาเนนิ การจดั ตง้ั โรงพยาบาลสนามระดบั สงู SAT 1 ต่อไป
 เห็นชอบให้กองบริหารการสาธารณสุข สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดาเนินการประสาน
โรงพยาบาลในสงั กัดสานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ เพอ่ื ปฏิบตั กิ ารเมอ่ื จดั ต้ังโรงพยาบาลสนาม

กำรปฏิบัติกำรนำส่งผู้ปว่ ย COVID-19 ส่โู รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ ุกเฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 19 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 200 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
21 ราย อื่นๆ 1 ราย จานวนปฏิบัติการ 72 เท่ียว จานวนทีมปฏิบัติการ 32 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
30 ทีม กลาโหม 2 ทีม

*******************

-1 -
สรปุ สำหรบั ผู้บรหิ ำร
กำรประชุมศูนย์ปฏิบัติกำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครงั้ ที่ 277
ประจำวันที่ 21 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.00 น.
ประธำน : นำยแพทยธ์ งชัย กรี ตหิ ตั ถยำกร รองปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคัญ
เรอื่ งเพื่อทรำบ :
 วันท่ี 20 กรกฎาคม 2564 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์รายงานผู้เสียชีวิตจานวน 1 ราย หลังการฉีด
วัคซีนแบบสลับ (Sinovac + AstraZeneca) 1 วัน มอบกรมควบคุมโรคเร่งดาเนินการสอบสวนอาการไม่พึง
ประสงคห์ ลงั ฉดี วัคซีน (AEFI) และชันสตู ร เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชวี ิต
 วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หารือร่วมกับผู้แทนนาเข้าวัคซีนโควิด-19 จานวน 6 บริษัท เพ่ือวางแผนการจัดสรรวัคซีนใน
ระยะต่อไป ซ่ึงการนาเสนอมีวัคซีนหลายชนิดทั้ง mRNA, Viral Vector และวัคซีนเช้ือตาย โดยแต่ละบริษัทรายงาน
ความกา้ วหน้าในส่วนกาลังการผลิตและการพัฒนาปรบั ปรุงวัคซนี รุ่นใหม่ให้มีประสิทธภิ าพต่อเชื้อกลายพนั ธ์ไุ ดม้ ากข้ึน
 นายกรัฐมนตรีสั่งการคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมดูแลพื้นท่ีต่างจังหวัดร่วมกับ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ทั้งในส่วนของระบบการส่งต่อ การจัดการโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel
เพื่อรองรับผ้ตู ดิ เช้ือจากกรงุ เทพมหานคร เดนิ ทางกลับไปรักษาในพ้ืนทต่ี ่างจงั หวัดอย่างปลอดภัยและเหมาะสม
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกิจตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงขึ้นช้าๆ ช่วงสัปดาห์น้ี เน่ืองด้วยมาตรการ ATK + HI/CI +
CCRT ในผู้ป่วยเพิ่มข้ึน ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังพบอยู่นอกสถานพยาบาลในวันน้ี เร่งกากับติดตามมาตรการ CCRT
ในพ้ืนทีป่ รมิ ณฑล รวมทั้งการตรวจ ATK เฉพาะพื้นทร่ี ะบาดหนัก
 เสนอให้จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 20 รายต่อวัน กากับการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทาง และให้
คงมาตรการตรวจยืนยันด้วย RT-PCR ดว้ ย
 กากับติดตามมาตรการควบคุมโรค งดการเดินทางข้ามจังหวัด ให้ทุกคนอยู่บ้าน และเจ้าหน้าที่
หน่วยงานราชการ และพนกั งานภาคเอกชน Work From Home 100%
 เรง่ การคัดกรองผคู้ ้า และแรงงานในตลาด เสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กรงุ เทพมหานคร
และหน่วยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง เรง่ จดั ระบบการเวน้ ระยะหา่ งให้มากขนึ้ โดยเฉพาะตลาดนดั
 เร่งใชม้ าตรการ ATK + HI/CI + CCRT และเร่งให้ยา Flavipiravir เพื่อลดความรุนแรงของโรค
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาการพัฒนาและเช่ือมโยงระบบรายงานข้อมูลสาหรับผู้ติดเช้ือรายใหม่ ผู้ที่หายป่วยแล้ว
ผู้ป่วยท่ีดาเนินการตามมาตรการ Home Isolation: HI /Community Isolation: CI และจานวนเตียงคงเหลือ
แตล่ ะประเภท เพ่ือการควบคุมโรคและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธภิ าพ

-2 -
 ศกึ ษาประสทิ ธิผลของการตรวจด้วย ATK เพิ่มเตมิ ในกรณตี รวจดว้ ย ATK มีผลเปน็ ลบ แลว้ ไปตรวจ
ดว้ ย RT-PCR แล้วไดผ้ ลบวก เพอื่ สรา้ งความเช่อื มัน่ ในการใช้ ATK กบั ประชาชนมากข้ึน
กำรฉดี วัคซีนโควิด-19 :
 จานวนการไดร้ ับวคั ซนี สะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 20 ก.ค. 64) รวม 14,805,120 โดส แบ่งออกเปน็
จานวนผ้ไู ดร้ บั วคั ซนี เขม็ ท่ี 1 จานวน 11,292,579 โดส จานวนผู้ได้รับวัคซีน เขม็ ท่ี 2 จานวน 3,512,541 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
20 ก.ค. 64 จานวน 878,183 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ประชาชนที่เดินทางออกต่างจังหวัดแล้วต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถนัดหมายเข้ารับ
การฉดี วคั ซนี ทีโ่ รงพยาบาลในพ้ืนทขี่ องตนได้
 เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นท่ีกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากข้ึน
และประสานจุดฉดี วัคซีนโดยเฉพาะพ้ืนที่ห้างสรรพสนิ ค้าให้สามารถปฏบิ ัติงานได้อย่างต่อเนอ่ื ง เพื่อรองรับการ
จัดสรรวัคซนี ท่เี พ่ิมมากข้นึ ในระยะต่อไป
รำยงำนสถำนกำรณ์ COVID-19 ในพน้ื ท่ีกรงุ เทพมหำนคร :
 ผลการดาเนินการ Comprehensive Covid-19 Response Team (CCRT) ในพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร
(15 – 20 ก.ค. 64) จานวนทีม CCRT 138 ทีม ลงพ้ืนที่ในชุมชน 139 แห่ง ผู้รับบริการจานวน 4,583 ราย
ผ้ไู ดร้ ับวคั ซีนจานวน 4,070 ราย และการตรวจ ATK 383 ราย
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวท่ีบ้าน (Home Isolation: HI) โดยสานักอนามัย
กรุงเทพมหานคร วันท่ี 20 ก.ค. 64 จานวน 1,548 ราย
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาจัดทามาตรฐาน Home Isolation: HI /Community Isolation: CI เพ่ือสื่อสารประชาสัมพันธ์
ใหห้ น่วยงานท่ีเกยี่ วข้อง และประชาชนปฏิบัตติ ามมาตรฐานอย่างมปี ระสิทธิภาพ
 ดาเนินการจัดทารายช่ือหน่วยบริการที่รับผู้ป่วยจากการตรวจด้วย ATK เผยแพร่บนเว็บไซต์
กระทรวงสาธารณสุข
แผนกำรฉดี วคั ซีนสำหรบั ชำวต่ำงชำติ และหญิงตง้ั ครรภ์ :
 หลักเกณฑ์สาหรับชาวต่างชาติรับบริการฉีดวัคซีนมีดังนี้ มีอายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีถิ่นพานัก
ในประเทศไทย ซ่ึงสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ท่ีศนู ย์ฉดี วัคซนี กลางบางซอื่ และโรงพยาบาลทรี่ บั บริการเป็นประจา
 การเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ และมีคาแนะนาให้สามารถรับวัคซีนเมื่อมีอายุ
ครรภ์มากกว่า 12 สปั ดาห์เปน็ ตน้ ไป
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เห็นชอบตามแผนการฉีดวคั ซนี สาหรับชาวตา่ งชาติ และหญงิ ต้ังครรภ์
แบบจำลองเพอื่ กำรคำดกำรณผ์ ลของมำตรกำร Lockdown และกลยุทธ์ในกำรฉดี วัคซีน :
 การคาดการณผ์ ลของมาตรการ Lockdown และฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปก่อน อย่างครอบคลุม
จะสามารถลดอัตราการเสียชีวติ ไดม้ ากกวา่ การ Lockdown และฉดี วคั ซนี ให้กับทกุ กลุ่มอายุพรอ้ มกนั
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 พิจารณาการจัดทาแบบจาลองฯ เพ่ิมเติม เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เพ่ือดาเนินการวางแผนการบริหารจดั การวคั ซีนในพน้ื ท่ีตอ่ ไป
สถำนกำรณเ์ ตียงรองรับ COVID-19 กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมข้ึนทุกระดับสีอย่างต่อเน่ือง เพ่ิมศูนย์แรกรับและส่งต่อ (Triage Center)
เพอ่ื รองรับผูป้ ว่ ย walk in ที่มีเพ่ิมมากข้นึ ขอความร่วมมือทกุ โรงพยาบาลปรับปรงุ ขอ้ มลู เตียงและจานวนผู้ป่วย
ในระบบ Co-ward ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ัน และยกระดบั บงั คับใชม้ าตรการ Lockdown อย่างจรงิ จัง
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวท่ีบ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 20 ก.ค. 64) เข้ารบั การรักษาใหม่วนั น้ี 215 ราย ผปู้ ่วยสะสมทั้งหมด 1,318 ราย

กำรปฏบิ ตั ิกำรนำส่งผปู้ ว่ ย COVID-19 สโู่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ กุ เฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 20 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 153 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
33 ราย อ่ืนๆ 4 ราย จานวนปฏิบัติการ 67 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 34 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
31 ทีม กลาโหม 3 ทมี

*******************

-1 -
สรปุ สำหรบั ผู้บรหิ ำร
กำรประชุมศูนย์ปฏิบัตกิ ำรฉกุ เฉนิ ด้ำนกำรแพทย์และสำธำรณสขุ
กรณี โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) คร้งั ที่ 278
ประจำวนั ท่ี 22 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.30 น.
ประธำน : นำยแพทยย์ งยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสขุ
ประเด็นสำคญั
เร่ืองเพอ่ื ทรำบ :
 วนั ที่ 21 กรกฎาคม 2564 นายกรฐั มนตรสี ่ังการคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขา้ ร่วม
ดูแลพื้นท่ีต่างจังหวัดร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อนาส่งผู้ป่วยผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานคร
เดินทางกลับไปรักษา ณ ภมู ิลาเนา โดยมีรองนายกรฐั มนตรีและรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข เปน็ Focal point
 วันท่ี 21 กรกฎาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมทางไกลกับส่วนภูมิภาค เพ่ือ
เตรียมรับสถานการณ์การแพร่ระบาด การควบคุมโรค ป้องกัน รักษา แนวทางการฉีดวัคซีนแบบผสม การบริหาร
จดั การเตยี ง และการตรวจ Antigen Test Kit (ATK)
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลมุ่ ภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 กรมราชทัณฑ์ พบผู้ติดเชอื้ โควดิ -19 เพ่มิ ขึ้นในกรุงเทพมหานคร
 สถานการณ์โรคโควดิ -19 มีแนวโนม้ สูงขึ้นช้าๆ ชว่ งสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะพ้นื ที่ต่างจงั หวัดพบผ้ตู ิดเช้ือ
สูงขนึ้ และพบการระบาดในครอบครัวต่อเน่ือง โดยเฉพาะจุดเสี่ยงสาคญั ไดแ้ ก่ ตลาด เร่งการคัดกรองผู้ค้า และ
แรงงานในตลาด
- ภาคกลาง และภาคตะวนั ออก พบการระบาดใหมใ่ นโรงงาน สถานประกอบการ ตลาด และชมุ ชน
- ภาคเหนือ และภาคอีสาน ให้มีการบูรณาการดูแลผู้ติดเชื้อกลับภูมลาเนา และติดตามการกักตัว
ผูส้ ัมผัสเสย่ี งให้สงู ครบ 14 วนั
- ภาคใต้ และชายแดนใต้ พบการระบาดในชุมชนตอ่ เนอื่ ง
 โรงงาน สถานประกอบการ โดยพ้ืนท่ีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เสนอให้สานักงานสาธารณสุขจังหวัด
ประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อออกมาตรการให้ทุกโรงงานใช้มาตรการ BB&S และให้ปิด
สถานประกอบการหากไมส่ ามารถดาเนินการได้
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบกรมการแพทย์ พิจารณาเร่งกระจายยา Favipiravir เพ่ือลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการ
เสยี ชวี ติ และสามารถให้การรักษาผปู้ ่วยติดเชื้อโควดิ -19 ไดอ้ ย่างทันทว่ งที

-2 -
 ขอให้ทุกจังหวัดดาเนินการตามระบบ ARI และ pneumonia ต่อ เพื่อค้นหา Cluster ขนาดใหญ่
และเนน้ สอบสวนโรคในที่ทางานและครอบครวั เพือ่ คน้ หาผสู้ มั ผสั เสี่ยงสงู ต่อไป

กำรฉดี วคั ซีนโควิด-19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 21 ก.ค. 64) รวม 15,084,696 โดส แบง่ ออกเป็น
จานวนผไู้ ดร้ ับวัคซีน เขม็ ที่ 1 จานวน 11,538,866 โดส จานวนผไู้ ดร้ ับวัคซนี เขม็ ท่ี 2 จานวน 3,545,830 โดส
 การให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
21 ก.ค. 64 จานวน 894,003 โดส
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ศึกษาประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนแบบ Sv-Az และการฉีด AstraZeneca เข็มท่ี 1 โดยนาเข้า
คณะทางานวิชาการเพ่ือพิจารณาข้อมูลเพ่ิมเติม และเสนอ ศปก.สธ. ต่อไป ทั้งน้ีเพื่อสร้างความเช่ือมั่นในการ
ฉีดวคั ซนี ให้กบั ประชาชนมากข้นึ

สถำนกำรณ์เตียงรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นทุกระดับสีอย่างต่อเน่ือง เพิ่มศูนย์แรกรับและส่งต่อ (Triage Center)
เพอื่ รองรบั ผู้ปว่ ย walk in ท่ีมีเพ่มิ มากขน้ึ ขอความร่วมมอื ทุกโรงพยาบาลปรับปรุงข้อมูลเตียงและจานวนผู้ป่วย
ในระบบ Co-ward ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ัน และเรง่ ดูแลผู้ป่วยกล่มุ สเี หลือง และสีแดง
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวท่ีบ้าน (Home Isolation: HI) โดยกรมการแพทย์
(3 - 21 ก.ค. 64) เข้ารับการรักษาใหม่วันนี้ 207 ราย ผู้ปว่ ยสะสมทงั้ หมด 1,525 ราย

ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 มอบสถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉินแห่งชาติ เป็นผ้ปู ระสานหลักในการส่งผู้ปว่ ยตดิ เช้อื กลับภูมลิ าเนา ท้ังนี้
สามารถติดต่อผ่านทางศูนย์ COVID-19 จังหวัด/ รพ.ปลายทาง/ 1330 กด 15/ กองสาธารณสุขฉุกเฉิน
สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ

กำรปฏบิ ตั ิกำรนำสง่ ผปู้ ่วย COVID-19 ส่โู รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทยฉ์ ุกเฉินแหง่ ชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันที่ 21 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 246 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
14 ราย อืน่ ๆ 4 ราย จานวนปฏิบตั ิการ 101 เที่ยว จานวนทมี ปฏิบตั ิการ 42 ทมี แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
40 ทีม กลาโหม 2 ทมี

*******************

-1 -
สรุปสำหรบั ผู้บรหิ ำร
กำรประชมุ ศูนย์ปฏิบตั ิกำรฉุกเฉนิ ดำ้ นกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ครง้ั ท่ี 279
ประจำวันท่ี 23 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 09.40 น.
ประธำน : นำยแพทยย์ งยศ ธรรมวุฒิ รองปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคญั
เรื่องเพ่ือทรำบ :
 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมหารือเก่ียวกับวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก โดยกระทรวง
สาธารณสุขได้รับมอบหมายให้เสนอวัคซีนชนิดโปรตีน Sub-Unit เพ่ือจะกาหนดให้เป็นวัคซีนหลักต่อไป
ส่วนวัคซีนทางเลือกยังคงมีอยู่แต่ให้เอกชนเป็นผู้จัดหาโดยจะต้องไม่ปิดกั้นภาครัฐท่ีจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการ
ดาเนนิ การ ซง่ึ ในอนาคตภาครฐั และเอกชนจะดาเนนิ การร่วมกันเพื่อการจดั หาวัคซีนได้มากขึน้
 ให้จัดซื้อจัดหายา Favipiravir ให้มากข้ึน เน่ืองจากปัจจุบันมีการใช้เป็นจานวนมากถึงวันละ 4 แสนเม็ด
องค์การเภสัชกรรมมีกาลังผลิตเบ้ืองต้นเดือนละ 2 ล้านเม็ด พบปัญหาการขาดแคลนยาในบางโรงพยาบาล
เรง่ ดาเนนิ การตรวจสอบจานวนคงคลัง และจัดสรรยาใหต้ รงกับการร้องขอของโรงพยาบาล
 รองนายกรัฐมนตรีได้มีการประสานไปยังสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้
ดาเนนิ การรบั ผปู้ ่วยทกุ คนเขา้ ในระบบการดูแล โดยใหศ้ นู ย์นมิ ิบุตรและโรงพยาบาลสนามบษุ ราคมั รองรบั
 การประชมุ ASEAN Prime Minister โดยมีการนาเสนอความคืบหนา้ ของสถานการณ์ตา่ งๆเกี่ยวกับ
โควิด-19 ซ่ึงหลายประเทศช่ืนชมในการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ของไทย และนานาประเทศร่วมเผยแพร่
ประสบการณใ์ นการแก้ปัญหาโรคโควดิ -19
รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดย กลุ่มภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 ผลการเฝ้าระวังโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ของกลุ่ม ARI และโรคปอดอักเสบ ในทุกจังหวัด
ยกเวน้ จังหวดั สมุทรสาคร พบวา่ ภาพรวมสะสมสปั ดาห์ที่ 7-28 ARI รอ้ ยละ 4.76 โรคปอดอักเสบ ร้อยละ 2.90
 สถานการณโ์ รคโควดิ -19 มีแนวโนม้ สูงขึ้นชา้ ๆ ชว่ งสัปดาห์น้ี โดยเฉพาะพน้ื ท่ตี ่างจังหวัดพบผูต้ ิดเชื้อ
สูงข้ึน และพบการระบาดในครอบครัวตอ่ เนื่อง โดยเฉพาะจุดเสีย่ งสาคัญ ได้แก่ ตลาด เร่งการคัดกรองผู้ค้า และ
แรงงานในตลาด
 โรงงาน สถานประกอบการ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เสนอให้สานักงานสาธารณสุขจังหวัด
ประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อออกมาตรการให้ทุกโรงงานใช้มาตรการ BB&S และให้ปิด
สถานประกอบการหากไมส่ ามารถดาเนนิ การได้
 เสนอให้พิจารณาจัดทาข้อกาหนด มาตรฐาน แนวทางปฏิบัติ ให้ทุกสถานประกอบการ ปรับให้มีระบบ
ฝกึ การอบรม ด้านการป้องกนั การติดเชื้อและกากบั ติดตามผู้ติดเชื้อให้กับผู้รับผิดชอบในหนว่ ยงาน และให้ผู้บริหาร
โรงพยาบาลจดั ใหม้ ีการอบรม Outsource ในโรงพยาบาล เพื่อลดการตดิ เช้อื ในกลมุ่ บคุ ลากรทางการแพทย์

-2 -
กำรฉีดวัคซนี โควดิ -19 :
 จานวนการได้รับวัคซีนสะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 22 ก.ค. 64) รวม 15,084,696 โดส เพ่ิมขึ้น
304,243 โดส ความครอบคลุมรอ้ ยละ 16.39 แบง่ ออกเปน็ จานวนผู้ไดร้ ับวคั ซนี เข็มที่ 1 จานวน 11,805,180 โดส
จานวนผู้ไดร้ บั วัคซนี เข็มที่ 2 จานวน 3,583,759 โดส
 วัคซีนการให้บริการป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –
22 ก.ค. 64 จานวน 915,815 โดส เพมิ่ ขึน้ ประจาวนั 21,812 โดส
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 ควรเร่งดาเนินการจัดทาแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และให้พื้นท่ีเร่งตรวจสอบยอดการฉีดวัคซีน
และเร่งดาเนินการฉดี วคั ซีน พร้อมทง้ั นาเข้าข้อมลู ของการฉดี วัคซีนใหเ้ ปน็ ปัจจบุ นั
แผนกำรให้บริกำร และกำรกระจำยวคั ซีน Pfizer บริจำคจำกตำ่ งประเทศ :
 คาดการณ์วา่ จะไดร้ ับวัคซนี จานวน 1.5 ล้านโดส ในช่วง ก.ค. 64 และในไตรมาส 4 จานวน 20 ลา้ นโดส
 ข้อเสนอแนวทางการบริหารจัดการวัคซีน โดยมีแผนจัดสรร ดังนี้ บุคลากรด่านหน้าทั่วประเทศ
(Booster dose) ผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง ชาวต่างชาติในประเทศไทย เน้นฉีดในผู้สูงอายุ ผู้มีความจาเป็นต้อง
เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อทาการวิจัย สารองไว้ส่วนกลางเพื่อตอบโต้การระบาด โดยข้อเสนอน้ีจะขอความ
เหน็ ชอบในประชุมและนาเสนอต่อ ศนู ยบ์ รหิ ารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ในวันท่ี 23 ก.ค. 64
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอพิจารณาให้ตรวจสอบอายุการเก็บรักษาวัคซีน เน่ืองจากวัคซีนอายุการเก็บรักษาสั้น และ
ไม่ควรสารองไว้ส่วนกลางโดยไม่จาเป็น การสารองควรไปอยู่ในส่วนของ AstraZeneca มากกว่า และการ
สารองน้ี อาจก่อให้เกดิ ประเด็นในสังคมได้ รวมถึงการสอ่ื สารต่อประชาชนให้รวดเรว็ และชัดเจน
 เสนอพิจารณาเพิ่มจุดฉีดวัคซนี โดยให้ทีม CCRT ดาเนินการร่วมกับคลินิกเอกชนขนาดเล็กเพ่ือเพ่ิม
การเขา้ ถงึ วคั ซีน
 มอบหมายกรมควบคุมโรคปรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนตามที่ประชุมเสนอ และแจ้ง
ความคืบหนา้ การนาเสนอแผนตอ่ นายกรฐั มนตรีให้ท่ปี ระชมุ รับทราบต่อไป
สถานการณก์ ารสารองกา๊ ซทางการแพทยข์ องประเทศไทย :
 ในภาวะปกติผลิตก๊าซทางการแพทย์ได้ 900 ตัน/วัน ในสภาวะฉุกเฉินสามารถผลิตเพ่ิมได้เป็น
1,500 ตัน/วัน โดยมีข้อเสนอเพ่ือแก้ปัญหาการสารองก๊าซ ดังน้ี ควรจัดรวมผู้ป่วยไว้ท่ีเดียวกัน เพ่ือลด
อปุ สรรคในการขนส่งกา๊ ซ ควรอนุญาตให้รถบรรทุกวัตถุอันตรายเดินรถในพ้ืนท่ีกรงุ เทพมหานครและทางพิเศษ
การฉีดวัคซีนให้กับพนักงานขนส่งและเจ้าหน้าที่บรรจุก๊าซ อุปกรณ์ท่ีเก่ียวกับระบบก๊าซทางการแพทย์ ควร
นาเขา้ แบบ Fast Track
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ควรจัดแนวทางการใชก้ ๊าซทีป่ ลอดภัยใหก้ บั ผู้ป่วยทใี่ ชก้ ๊าซทบ่ี ้าน
 การจัดทามาตรฐานของอุปกรณ์ท่ีระบบก๊าซทางการแพทย์ เพื่อรองรับการนาเข้าและการบริจาค
รวมถึงการใช้ออกซเิ จนถงั เล็กสาหรับผปู้ ่วยท่ีออกจากโรงพยาบาลแลว้ มีอาการไม่คงท่ี
โรงพยาบาลบุษราคมั กระทรวงสาธารณสขุ :
 เสนอโครงการพัฒนาพ้นื ทด่ี แู ลผู้ป่วยวกิ ฤติของโรงพยาบาลสนามบุษราคัม เนอื่ งจาก มีจานวนผ้ปู ว่ ย
ท่ีมีระดับอาการวิกฤตสีแดงเพิ่มขึ้น โครงสร้างภายในของ Impact Challenger Hall เดิม ไม่เอื้อต่อการ
ปฏิบัติงาน ข้อจากัดกล้อง CCTV ไม่สามารถติดตามอาการ อัตราการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตสีแดงน้อย โดยใช้เวลา
ติดตั้งและประกอบห้องความดันลบ และติดต้ังระบบไฟฟ้าและก๊าซทางการแพทย์ รวม 2 สัปดาห์
ใชง้ บประมาณ 7 ล้านบาท ในทป่ี ระชมุ เห็นชอบและมอบหมายกรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพดาเนินการ
การเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (สโมสรทหารบก) :
 ดาเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามท่ีอาคารสโมสรทหารบก เพ่ือรองรับผู้ป่วย โดยมีเตียงผู้ป่วย
สีเขียว จานวน 167 เตียง ผู้ป่วยสีเหลืองอ่อน 28 เตียง รวมทั้งหมด 195 เตียง อยู่ระหว่างการหารือว่าจะ
เป็นศนู ย์คัดแยกหรอื เปน็ โรงพยาบาลสนาม โดยตอ้ งใหโ้ รงพยาบาลพระมงกฎุ เป็นผตู้ ัดสนิ ในการดาเนินการ
ข้อเสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เนอื่ งจากโรงพยาบาลรองรับคนไข้สีเขยี วและสีเหลอื ง จงึ ไม่แนะนาให้วางระบบก๊าซทางการแพทย์
 เสนอพิจารณาดาเนินการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยขนาดใหญ่ เพ่ือเตรียมการในรองรับโรคระบาดใน
ระยะยาว โดยจัดทาโครงการเพ่ือรองรบั และเสนอโครงการเพ่ือของบประมาณ มอบหมายกรมสนับสนนุ บริการ
สุขภาพดาเนินการ

-3 -
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ข้อมูลจำกระบบ Co-Ward) :
 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนทุกระดับสีอย่างต่อเนื่อง เพ่ิมศูนย์แรกรับและส่งต่อ (Triage Center)
เพื่อรองรับผู้ป่วย walk in ท่ีมีเพิ่มมากข้ึน ขอความร่วมมือทุกโรงพยาบาลปรับปรุงข้อมูลเตียงและจานวน
ผปู้ ่วยในระบบ Co-ward ใหเ้ ป็นปัจจุบนั และเร่งดูแลผปู้ ่วยกลมุ่ สเี หลอื ง และสแี ดง
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอให้บริหารจัดการเรื่องอาหารให้มีประสิทธิภาพเพ่ือรองรับระบบ Home Isolation และ
Community Isolation
การผ่อนคลายมาตรการสาหรับรา้ นอาหารในห้างสรรพสินคา้ แบบออนไลน์ :
 โดยมีมาตรการ ดังนี้ ผู้ประกอบการ จัดทามาตรการ DMHTT สาหรับพนักงาน ไม่รวมกลุ่ม
ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน เดินทางแบบ Seal route ไม่เปิดหน้าร้าน ห้างสรรพสินค้าจัดจุดรอรับอาหาร
พนักงานรับส่งอาหาร สวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา กรณที ม่ี ีอาการและสัมผสั ผตู้ ิดเชอื้ ต้องหยุดทางาน
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 ควรเพ่ิมการกากบั เฝา้ ระวงั ผปู้ ระกอบอาหารในร้านอาหารใหเ้ ข้มงวดมากข้ึน
 เบื้องต้นกรมอนามัยได้ประสานกับภัตตาคารต่างๆ และตลาดกลางในการขนส่งสินค้าข้ามจังหวัด
ในการปฏบิ ตั ิตามมาตรการ ซึง่ หน่วยงานตา่ งๆ พรอ้ มทจี่ ะดาเนินการตามมาตรการ และขอสนับสนนุ วคั ซีนเพ่ือฉีด
ในกลุ่มเป้าหมาย ท่ีประชุมเห็นชอบมอบหมายกรมอนามัยดาเนินการ
กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์จัดฝกึ อบรมบุคลกรจากสภาอุตสาหกรรมในการใช้ Antigen Test Kit :
 มีแผนอบรมการใช้ Antigen Test Kit ผ่านระบบ WebEx ในสัปดาห์หน้า โดยกลุ่มเป้าหมายเป็น
บุคลากรท่ีจะนา Antigen Test Kit ไปตรวจบุคลากรในโรงงาน คุณสมบัติผู้เข้าอบรมต้องเป็นปฏิบัติงานใน
โรงงานอตุ สาหกรรม มวี ฒุ ิการศึกษา ปริญญาตรีสายสุขภาพ
ขอ้ เสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอพิจารณาให้ปรับคุณสมบัติผู้ฝึกอบรมให้เพ่ิมเจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในโรงงาน และเพิ่ม
ความสามารถในการเขา้ ถงึ Antigen Test Kit และการควบคุมราคา
การบรหิ ารจดั การยาและเวชภัณฑ์ กรณกี ารแพรร่ ะบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) :
 ยา Favipiravir 200 mg คงเหลือ 4,101,917 เม็ด และยา Remdesivir 100 mg คงเหลอื 501 Vial
 ปัจจุบันในการจัดหาเวชภัณฑ์ในการป้องกันโรคใช้งบประมาณ 749.13 ล้านบาท มีแผนจัดซื้อเพิ่มใน
เดือน ส.ค. 64 1,178.67 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณโครงการเงินกู้ และมีแผนการจัดซ้ือยา Favipiravir จานวน
98 ล้านเม็ด งบประมาณ 8820 ล้านบาท และ ยา Remdesivir จานวน 1 แสน Vial งบประมาณ 250 ล้านบาท
โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณจากงบกลาง
ข้อเสนอแนะจำกที่ประชุม :
 เสนอพจิ ารณาสนบั สนุนระบบจ่ายยาเพอ่ื รองรับการใช้ยามากขึ้น สาหรบั การดแู ลผู้ปว่ ยแบบ Home
Isolation และ Community Isolation
 เสนอพิจารณาให้องค์การเภสัชกรรมและสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา สารองยาเพื่อ
จัดสรรยาในระบบจา่ ยยาในคลนิ ิกชุมชน
 เสนอพิจารณาให้ลดกระบวนการจ่ายยาของภูมิภาค ซ่ึงการกระจายยาของภูมิภาค ในการกระจาย
ไปตามเขตสขุ ภาพ ซ่งึ ถา้ พ้ืนทีใ่ ดพบปัญหาการสารองยาให้ตดิ ต่อมาท่ีกองบริหารการสาธารณสขุ
 มอบหมายกองบริหารการสาธารณสุขรับข้อสังเกตในที่ประชุมไปปรับการจัดสรรยา สาหรับในพ้ืนท่ี
ภูมภิ าค และกรมการแพทยจ์ ดั สรรการใช้ยาในพนื้ ท่กี รงุ เทพมหานคร เพ่อื การเขา้ ถึงยาของผปู้ ่วยมากข้นึ

กำรปฏบิ ัติกำรนำส่งผปู้ ่วย COVID-19 สู่โรงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบนั กำรแพทยฉ์ กุ เฉนิ แห่งชำติ :
 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วนั ท่ี 2 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 2 ราย ผู้ป่วยปฏเิ สธการนาส่ง 16 ราย
อื่นๆ 8 ราย จานวนปฏิบตั กิ าร 81 เท่ียว จานวนทีมปฏบิ ัตกิ าร 37 ทีม แบง่ เป็น EMS ในระบบ/อาสา 37 ทีม

*******************

-1 -
สรุปสำหรบั ผู้บรหิ ำร
กำรประชุมศูนย์ปฏิบัตกิ ำรฉุกเฉนิ ด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ท่ี 280
ประจำวนั ท่ี 24 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.45 น.

ประธำน : นำยแพทยณ์ รงค์ สำยวงศ์ รองปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ประเด็นสำคญั
เร่ืองเพือ่ ทรำบ :
 นายกรัฐมนตรี กาชบั ใหม้ กี ารเพมิ่ เตยี งเพอื่ ดูแลผปู้ ่วยโควิด-19 พร้อมสนบั สนนุ งบประมาณ
 รองนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019

เนื่องจากในปัจจุบันพบจานวนผู้ติดเช้ือสงู ข้ึน และประชาชนมีความต้องการเดินทางกลบั ไปรักษา ณ ภูมิลาเนา
อย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ดาเนินการจัดทาแผนรับผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลาเนา บริหารจัดการเตียง และระบบ
ดูแลการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการกักตัวในชุมชน (Community Isolation) โดยนา
แนวทางท่สี ว่ นกลางกาหนดปรบั ใชใ้ ห้ตรงกบั บริบทแตล่ ะพ้นื ท่ี

 SE-ED Book Center ชักชวนคนในหมู่บ้าน ร่วมมือร่วมใจกันดูแลเรื่องข้าวของเครื่องใช้ (Covid
Care Box) โดยจะขอคาแนะนาจากกระทรวงสาธารณสขุ ในการดาเนนิ การต่อไป
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลุม่ ภำรกจิ ตระหนักรสู้ ถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณโ์ รคโควิด-19 มีแนวโนว้ สูงข้นึ ชา้ ๆ ชว่ งสปั ดาห์น้ี และพบการระบาดในครอบครวั ชุมชน
ตอ่ เนอ่ื งในหลายพืน้ ท่ี โดยเฉพาะจุดเสย่ี งสาคญั ได้แก่ ตลาด เรง่ การคัดกรองผู้คา้ และแรงงานในตลาด
 ภาคกลาง และตะวันออก พบการระบาดใหมใ่ นโรงงาน สถานประกอบการ ตลาด และชมุ ชน
 ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องจากผู้เดินทางกลับ ให้มีการบูรณาการดูแลผู้ติดเชื้อ
กลับภูมิลาเนา และติดตามการกักตัวผูส้ ัมผัสเสี่ยงสงู ใหค้ รบ 14 วนั
 ภาคใต้ และชายแดนใต้ พบการระบาดในชมุ ชน โรงงาน และสถานประกอบการต่อเน่ือง
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอสานักงานสาธารณสุขจังหวัด หารือคณะกรรมโรคติดต่อจังหวัด ออกมาตรการให้ทุกโรงงานใช้
มาตรการ Bubble and Seal และพิจาณาหยดุ การประกอบการหากไม่สามารถดาเนินการได้
 เสนอข้อกาหนดให้ทุกสถานประกอบการโรงงาน บริษัท ห้างร้าน ท่ีมี Outsource จัดระบบการ
ฝกึ อบรม แตง่ ตั้งผ้รู ับผดิ ชอบด้านการปอ้ งกนั การตดิ เช้อื และติดตามกากบั โดยหนว่ ยงานทีร่ ับผิดชอบ

-2 -

กำรฉดี วัคซนี โควดิ -19 :

 จานวนการไดร้ ับวัคซนี สะสมของประเทศไทย (28 ก.พ. – 23 ก.ค. 64) รวม 15,741,818 โดส
เพิ่มขน้ึ 352,879 โดส ความครอบคลุมร้อยละ 16.81 แบง่ ออกเป็น จานวนผู้ไดร้ บั วัคซนี เข็มท่ี 1 จานวน
12,109,424 โดส จานวนผู้ได้รับวัคซนี เข็มท่ี 2 จานวน 3,632,394 โดส

 วัคซนี การให้บริการป้องกันโควดิ -19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซ่ือ ยอดฉีดวัคซีนสะสม 24 พ.ค. 64 –

23 ก.ค. 64 จานวน 938,760 โดส เพ่ิมข้ึนประจาวนั 22,945 โดส
สถำนกำรณ์เตยี งรองรบั COVID-19 กรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล (ขอ้ มูลจำกระบบ Co-Ward) :

 แนวโน้มจานวนผู้ป่วยเพิ่มข้ึนทุกระดับสีอย่างต่อเน่ือง เพิ่มศูนย์แรกรับและส่งต่อ (Triage Center)

เพ่อื รองรบั ผปู้ ่วย walk in ทีม่ เี พิ่มมากข้นึ และเร่งดแู ลผปู้ ว่ ยกลุ่มสเี หลอื ง และสแี ดง
 สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยด้วยบริการแยกตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) โดยกรมการแพทย์

(3 - 23 ก.ค. 64) เขา้ รับการรักษาใหม่วันน้ี 254 ราย ผปู้ ว่ ยสะสมท้งั หมด 2,020 ราย

กำรปฏบิ ัตกิ ำรนำสง่ ผู้ปว่ ย COVID-19 สูโ่ รงพยำบำลปลำยทำง โดยสถำบันกำรแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชำติ :

 ผลการขอนาส่ง รพ.ปลายทาง วันท่ี 23 ก.ค. 64 สามารถนาส่งได้ 199 ราย ผู้ป่วยปฏิเสธการนาส่ง
75 ราย อ่ืนๆ 5 ราย จานวนปฏิบัติการ 71 เที่ยว จานวนทีมปฏิบัติการ 25 ทีม แบ่งเป็น EMS ในระบบ/อาสา
24 ทมี กลาโหม 1 ทีม

ข้อเสนอแนะจำกทป่ี ระชุมเพม่ิ เติม :
 ควรประสานเรื่องสายด่วน 1668 กับทางคณะกรรมการกจิ การกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เน่อื งจากผู้ป่วยยังต้องเสยี คา่ บริการในการตดิ ตอ่ อยู่
 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพรับประเด็นจาก ศปก.ศบค. เรื่องการบริหารจัดการกาลังคน สาหรับ
โรงพยาบาลสนามในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพ่ือเพ่ิมศักยภาพการดาเนินงานให้มี
ประสิทธภิ าพมากข้ึน พรอ้ มทัง้ เสนอใหม้ ีคณะทางานภายใต้คณะกรรมการรกั ษาพยาบาลในกรุงเทพมหานคร
 เสนอให้สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปรับราคา Antigen Test Kit (ATK) ให้ประชาชน
สามารถเขา้ ถึงได้
 จัดระบบการตรวจ Polymerase Chain Reaction (RT-PCR) และ Antigen Test Kit (ATK) ให้
ชดั เจน และใหม้ ีการส่อื สารประชาสัมพนั ธ์แก่ประชาชน

*******************

-1 -
สรปุ สำหรับผู้บรหิ ำร
กำรประชมุ ศนู ย์ปฏบิ ัติกำรฉุกเฉินด้ำนกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข
กรณี โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ครัง้ ที่ 281
ประจำวันท่ี 25 กรกฎำคม 2564 เวลำ 07.30 – 08.40 น.
ประธำน : นำยแพทยธ์ งชัย กรี ตหิ ัตถยำกร รองปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ
ประเดน็ สำคัญ
เร่อื งเพอื่ ทรำบ :
 ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคล่ือนเพ่ือจัดหาวัคซีนของกระทรวง
สาธารณสขุ มีมติเห็นชอบในการเจรจาทาสัญญาในการจัดหาวัคซีนผ่านโครงการ COVAX และเห็นชอบหลักการ
การแลกเปล่ียนวัคซีนกับประเทศอ่ืนๆ การรบั บริจาควัคซีน การเจรจาในการจัดหาวัคซีนกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน
รวมท้ังเห็นชอบในหลักการในการจัดหาวัคซนี 120 ลา้ นโดส โดยวัคซนี จานวนนจี้ ะครอบคลมุ วัคซีนทกุ รปู แบบ
มากทสี่ ดุ
 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
เรื่องการปรับค่าตรวจ RT-PCR กับสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่วนการตรวจ Antigen
test kit อยรู่ ะหว่างการพจิ ารณาหลกั เกณฑ์
 ขอแสดงความยินดีกับเหรียญทองแรกของไทยในกีฬาโอลิมปิคท่ีประเทศญ่ีปุ่น จากกีฬาประเภท
เทควันโดหญิง
รายงานสถานการณ์ประจำวนั โดย กลมุ่ ภำรกจิ ตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (SAT) :

สถำนกำรณภ์ ำพรวมของประเทศไทย :
 สถานการณ์โรคโควิด-19 มีแนวโน้มสูงข้ึนในพ้ืนที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคกลางกับภาคอีสาน
ภาคตะวันออก เร่งเตรียมการรองรับผู้ป่วยอาการหนักเพิ่ม ภาคเหนือพบผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มข้ึน เน้นกากับ
การกักตัวผู้เดินทาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบการการระบาดในชุมชนและครอบครัว และพบการ
เสียชีวิตในกรุงเทพมหานคร ต้องเร่งส่งผู้ป่วยให้ได้รับการดูแล และติดตามกากับมาตรการให้เข็มข้นขึ้น
พร้อมทงั้ เร่งฉีดวัคซนี ให้ครอบคลมุ กล่มุ เปราะบางและกลุ่มผสู้ ูงอายุอยา่ งต่อเนอื่ ง
ขอ้ เสนอแนะจำกท่ีประชุม :
 เสนอพิจารณาปรับมาตรการ Bubble and sealed ให้เหมาะสมกับประเภทของแรงงาน และอาจ
พิจารณาการใช้ Antigen test kit ร่วมดว้ ย
 เสนอศึกษา เปรยี บเทียบข้อมลู ผ้ไู ด้รับการฉีดวัคซีนและยังไมได้รบั วัคซนี จากจานวนผู้เสียชีวิต โดย
ศกึ ษาขอ้ มลู เพิ่มเติมในผู้ทรี่ บั วัคซนี ครบและไม่ครบท่ีเสยี ชีวิต รวมทง้ั นาข้อมลู ผทู้ เ่ี สยี ชวี ิตท่ีมอี ายุ 40 ปีขนึ้ ไป
มาพจิ ารณาเปน็ เกณฑ์ในการจา่ ยยา Favipiravir ในกลุ่ม Home Isolation