คำนำ
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดอัยยิการามได้ดำเนินการปรับปรุงตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ สพฐ.1239/2560 สั่ง ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วดั กลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. 30/2561 เรื่องใหเ้ ปล่ียนแปลง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
เรื่อง การบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดย
กำหนดให้สถานศึกษาดำเนินการนำมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชี้วัดไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ และ
บรหิ ารจัดการหลักสตู รใหเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ กับผ้เู รียน ในสาระสำคัญ ดงั น้ี
1. นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
มาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (โครงสร้างเวลาเรียนและโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี) และนำเสนอ
คำอธิบายรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระ
การเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2. ปรบั ชื่อหลักสูตรสถานศึกษา เป็น “หลักสตู รโรงเรยี นวัดอยั ยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
และกำหนดเป้าหมายการนำไปใช้ ดังนี้
ปีการศึกษา 2561 ใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับช้ัน
ประถมศึกษาปีท่ี 1 , ประถมศึกษาปที ี่ 4 , มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 และ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
ปีการศึกษา 2562 ใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับชั้น
ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-2 , ประถมศกึ ษาปที ี่ 4-5 , มัธยมศกึ ษาปีที่ 1-2 และ มัธยมศึกษาปีที่ 4-5
ปีการศกึ ษา 2563 ใชห้ ลักสูตรโรงเรียนวดั อัยยิการาม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ทุกชน้ั เรยี น
ขอขอบคุณผู้ท่มี ีส่วนร่วมท้ังบุคคลภายในและภายนอกสถานศึกษา รวมทั้งผูป้ กครองนกั เรยี น ศิษย์เก่า
และศิษย์ปัจจุบัน ที่ช่วยให้การปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาฉบับนี้ มีความสมบูรณ์และเหมาะสมต่อ
การจัดการศกึ ษาอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
นายสุเทพ รจุ วิ ิทยากุล
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดอัยยกิ าราม
เมษายน 2565
ประกาศโรงเรยี นวัดอยั ยิการาม
เร่อื งให้ใช้หลกั สูตรโรงเรียนวัดอัยยิการาม พทุ ธศักราช 2561
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
ปรับปรงุ ตวั ช้ีวดั กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สาระภูมิศาสตร์ ในกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
....................................................................................................................
ด้วยกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการทบทวน
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อปรับปรุงเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและ
ลดความซ้ำซ้อนในเน้ือหาวิชา โดยไดก้ ำหนดคำสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ.1239/2560 สั่ง ณ วันที่ 7
สิงหาคม 2560 เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
คำสั่งกระทรวงศึกษาธกิ ารที่ สพฐ. 30/2561 เรอื่ งให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้ีวัดกลุ่มสาระ
การเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดยกำหนดให้สถานศกึ ษาดำเนินการนำมาตรฐานการเรยี นรู้
และตัวช้ีวัดไปสูก่ ารปฏิบตั ิอยา่ งมีประสิทธภิ าพ และบริหารจัดการหลักสูตรใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ กับผู้เรียน
สถานศึกษาจงึ นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
มาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (โครงสร้างเวลาเรียนและโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี) และนำเสนอ
คำอธิบายรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระ
การเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ทัง้ นหี้ ลักสตู รโรงเรียนวัดอัยยิการาม ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบริหารโรงเรียน เมื่อวันท่ี
4 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ.2561 จึงประกาศให้ใชห้ ลกั สูตรโรงเรียนตั้งแตบ่ ัดน้ีเปน็ ต้นไป
(นางสาวสายสดุ า หลักทรัพย์) (นายสเุ ทพ รจุ วิ ิทยากลุ )
ประธานคณะกรรมการโรงเรียนวดั อัยยกิ าราม ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั อัยยิการาม
ความนำ
สืบเนื่องจากการที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ได้ดำเนินการทบทวนหลักสตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อปรับปรุงเป้าหมายในการพัฒนา
คุณภาพผู้เรียนและลดความซ้ำซ้อนในเนื้อหาวิชา โดยได้กำหนดคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ.
1239/2560 สั่ง ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. 30/2561 เรื่องใหเ้ ปลี่ยนแปลง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรื่องการ
บริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดยกำหนดให้
สถานศึกษาดำเนินการนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ และบริหาร
จัดการหลักสตู รให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ กับผ้เู รยี น
โรงเรียนวัดอัยยิการาม จึงนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) มาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (โครงสร้างเวลาเรียนและโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี)
และนำเสนอคำอธิบายรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รวมทั้งปรับชื่อหลักสูตรสถานศึกษา เป็น
“หลักสูตรโรงเรียนวัดอยั ยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)” โดยกำหนดเปา้ หมายในการนำไปใช้ดังนี้
ปีการศึกษา 2561 ใช้หลักสูตร โรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับชั้น
ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 , ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 , มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 และ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ปีการศึกษา 2562 ใช้หลักสูตร โรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับชั้น
ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 2 , ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 5 , มธั ยมศึกษาปีที่ 1 - 2 และ มัธยมศึกษาปีที่ 4 - 5
ปีการศึกษา 2563 ใชห้ ลกั สตู ร โรงเรียนวัดอัยยกิ าราม ( (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ทุกชน้ั เรียน
วสิ ัยทัศนโ์ รงเรยี น
“โรงเรียนวดั อยั ยกิ าราม” บริหารจดั การแบบมีส่วนรว่ ม เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน พฒั นานักเรียน
ให้มีคุณธรรม มีความรู้ ความสามารถเต็มตามศักยภาพ รู้จักใช้และอดออม มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
เห็นคุณค่าพัฒนาสิ่งแวดล้อม และ สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ก้าวไกลทันเทคโนโลยี ใช้อย่างมีคุณภาพ
ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข บุคลากรมีความรู้ความสามารถ
ในการจัดการเรียนร้แู ละศรทั ธาในวชิ าชีพครู”
พันธกจิ
๑. ผู้เรียนในเขตบริการได้รับโอกาสทางการศึกษาทง้ั ในระดบั ปฐมวัยและระดับการศึกษา
ขั้นพน้ื ฐาน
๒. วางรปู แบบการบรหิ ารแบบมีส่วนรว่ มตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
(School Based Management : SBM)
๓. สง่ เสริมและพัฒนาโรงเรียนใหเ้ ป็นแหล่งเรียนรทู้ ี่มีคณุ ภาพของชุมชน
๔. พัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ คนดมี ีคณุ ธรรม จริยธรรม นำความรู้ มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี
ร้คู ุณคา่ การใช้และการออม เหน็ คุณค่าพฒั นาสิง่ แวดลอ้ มและสบื สานศิลปวฒั นธรรมไทย
๕. สง่ เสรมิ พฒั นาการจัดการเรยี นการสอนที่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ
๖. สง่ เสรมิ การนำเทคโนโลยที างการศึกษาและระบบเครือข่ายสารสนเทศมาใช้ในการบรหิ ารและ
จัดการเรยี นการสอน
๗. พัฒนาบคุ ลากรให้มคี วามรู้ความสามารถทันต่อการเปล่ียนแปลงและศรทั ธาในวชิ าชีพครู
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นหลักสูตรการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน มุ่งใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังน้ี
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัด
และลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง
ตลอดจนการเลือกใช้วธิ กี ารสื่อสาร ท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่มี ตี ่อตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้
หรือสารสนเทศเพ่ือการตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์
และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและ
แก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม
และสิง่ แวดลอ้ ม
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม
ด้วยการสรา้ งเสริมความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง
ประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การทำงาน การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รยี น 8 ประการ
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หมายถงึ คณุ ภาพของผู้เรยี นด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมท่ีกำหนดขึ้น
โดยพิจารณาจากสภาพของสังคม และการเปลย่ี นแปลงของโลกยุคปัจจบุ นั ซง่ึ ทำให้มคี วามจำเป็นต้องเน้นและ
ปลูกฝังลักษณะดังกล่าวให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนทุกคนเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาในองค์รวมทั้งด้าน
สตปิ ัญญา และคณุ ธรรม อันจะนำไปสู่ความเจริญกา้ วหน้าและความม่ันคงสงบสุขในสังคม ดังนี้
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซื่อสัตยส์ ุจรติ
3. มวี ินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
ประกอบดว้ ยตัวชี้วัด 4 ข้อ ไดแ้ ก่
1.1 เป็นพลเมืองดีของชาติ พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติและอธิบาย
ความหมายของเพลงชาตไิ ด้ถูกตอ้ ง
1.2 ธำรงไว้ซึ่งความเป็นไทย พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความ
สามัคคี ปรองดองที่เปน็ ประโยชนต์ ่อ โรงเรียน ชุมชนและสังคม
1.3 ศรัทธา ยึดมั่น ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา
ท่ีตนเองนับถือ (ศาสนาพุทธ) และปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนาทตี่ นนบั ถือ
1.4 เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ พฤติกรรมบ่งช้ี เช่น มีส่วนรว่ มหรือจดั กิจกรรมท่ีเกีย่ วกับ
สถาบันพระมหากษัตริย์
2. ซื่อสตั ย์สจุ รติ
ประกอบด้วยตัวชี้วดั 2 ข้อ ได้แก่
2.1 ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองทั้งทายกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น ให้ข้อมูล
ที่ถูกต้องและเป็นจริงปราศจากความลำเอียง และปฏิบัติตนโดยคำนึงถึงความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัว
ตอ่ การกระทำผิดและปฏบิ ัตติ ามคำม่ันสัญญา
2.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงต่อผ้อู นื่ ท้ังทายกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ เชน่ ไมถ่ อื เอาส่ิงของ
หรอื ผลงานของผอู้ ื่นมาเปน็ ของตนเอง ปฏิบตั ิตนตอ่ ผู้อน่ื ด้วยความซื่อตรงและไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถกู ต้อง
3. มวี ินยั
ประกอบดว้ ยตวั ชี้วัด 1 ข้อ ไดแ้ ก่
3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม
พฤตกิ รรมบง่ ชี้ เชน่ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสังคม ไม่
ละเมดิ สิทธิของผู้อื่น และตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่างๆในชวี ติ ประจำวันและรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
4. ใฝเ่ รยี นรู้
ประกอบดว้ ยตวั ชีว้ ดั 3 ข้อ ได้แก่
4.1 ต้งั ใจเพียรพยายามในการเรยี น และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบง่ ชี้ เชน่ ต้ังใจเรียน
เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ และสนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ
4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ งๆท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใช้ส่ืออย่าง
เหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สื่อ เทคโนโลยีต่าง ๆ
แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สื่อได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์
ตรวจสอบจากสิ่งที่เรียนรู้ สรุปเป็นองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยวิธีการต่างๆเพื่อนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวนั
5. อยู่อยา่ งพอเพียง
ประกอบด้วยตวั ช้วี ดั 2 ขอ้ ได้แก่
5.1 ดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม พฤติกรรมบ่งชี้
เช่น ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น เงิน สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษา
ดแู ลอย่างดี รวมท้ังการใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรักษา
ดูแลอย่างดี ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผลและไม่เอาเปรียบผู้อื่นและไม่ทำให้
ผู้อื่นเดือดรอ้ น พรอ้ มให้อภัยเม่ือผอู้ ืน่ กระทำผิด
5.2 มีภมู คิ ุ้มกันในตัวท่ีดี ปรบั ตวั เพอ่ื อยู่ในสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ เช่น วางแผนการ
เรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวนั บนพน้ื ฐานของความรู้ ข้อมูล ข่าวสารและรูเ้ ท่าทันการเปล่ียนแปลง
ของสังคมและสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตัวเพอื่ อยูร่ ่วมกบั ผู้อ่นื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
6. มุง่ มั่นในการทำงาน
ประกอบด้วยตัวชี้วัด 2 ขอ้ ไดแ้ ก่
6.1 ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ที่การงาน พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติ
หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ และปรับปรุงและพัฒนาการทำงานด้วย
ตนเอง
6.2 ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้
เชน่ ทุ่มเททำงาน อดทน ไมย่ ่อท้อต่อปญั หาและอุปสรรคในการทำงาน พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการ
ทำงานใหส้ ำเรจ็ และชื่นชมผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ
7. รกั ความเป็นไทย
ประกอบด้วยตัวชีว้ ัด 3 ข้อ ได้แก่
7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทยและมีความกตัญญูกตเวที
พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น แต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วขอ้ งกับประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรมไทย และชกั ชวน แนะนำใหผ้ ู้อ่ืนตามขนบธรรมเนียม
ประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย
7.2 เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น
ใช้ภาษาไทยและเลขไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสมและชักชวน แนะนำใหผ้ ู้อื่นเห็นคุณค่าของการ
ใช้ภาษาไทยทีถ่ ูกตอ้ ง
7.3 อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทย พฤติกรรมบง่ ชี้ พฤติกรรมบง่ ชี้ เช่น นำภูมิปัญญาไทยมาใช้
ให้เหมาะสมในวิถีชีวิต ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทยและแนะนำ มีส่วนร่วมในการสืบทอดภูมิ
ปัญญาไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
ประกอบด้วยตัวชวี้ ัด 2 ขอ้ ไดแ้ ก่
8.1 ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจและพึงพอใจโดยไม่หวังผลตอบแทน พฤติกรรมบ่งช้ี
เช่น ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูทำงานด้วยความเต็มใจ อาสาทำงานให้ผู้อื่นด้วยกำลังกาย กำลังใจ
และกำลงั สตปิ ญั ญาโดยไม่หวงั ผลตอบแทนและแบ่งปันสง่ิ ของ ทรัพยส์ นิ และอ่นื ๆและช่วยแกป้ ัญหาหรือสร้าง
ความสุขให้กับผอู้ ่ืน
8.2 เข้ารว่ มกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชนและสงั คม พฤตกิ รรมที่บง่ ช้ี เชน่ ดูแลรักษา
สาธารณสมบัติและสิ่งแวดล้อมด้วยความเตม็ ใจ เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชนและสงั คม
และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามของส่วนรวมตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความ
กระตอื รอื รน้
โครงสร้างหลักสตู รสถานศกึ ษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้/ ป.1 ป.2 เวลาเรยี น ป.5 ป.6
กิจกรรม ระดับประถมศกึ ษา
200 200 ป.3 ป.4 160 160
กลุม่ สาระการเรียนรู้ 200 200 160 160
ภาษาไทย ๘0 ๘0 200 160 ๘0 ๘0
คณติ ศาสตร์ 200 160
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖๐ ๖๐ ๘0 ๘0 ๖๐ ๖๐
๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐
วิทยาศาสตร์ ๖๐ ๖๐
วิทยาการคำนวณ 120 120 ๒๐ ๒๐ 120 120
สังคมศกึ ษา ศาสนา 40 40 120 120 40 40
และวฒั นธรรม
80 80 40 40 80
ประวตั ศิ าสตร์
ศาสนาศลี ธรรม จริยธรรม 80 80 80
หน้าทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม
และการดำเนินชวี ิตในสังคม
เศรษฐศาสตร์
ภมู ศิ าสตร์
สุขศึกษาและพลศกึ ษา 40 40 40 80 80 80
ศลิ ปะ 40 40 40 80 80 80
การงานอาชพี และเทคโนโลยี 40 40 40 80 80 80
ภาษาต่างประเทศ 120 120 120 80 80 80
รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 840 840 840 840 840 840
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ /กจิ กรรม ไม่น้อยกวา่ 40 ชม. / ปี
ภาษาจนี - - - 40 40 40
ของเล่นเชงิ วทิ ยาศาสตร์ และ - - - 40 40 40
สนุกกับโครงงาน
ภาษาองั กฤษแสนสนุก ๔๐ ๔0 ๔0 - - -
อา่ นออก เขียนได้ ลายมอื สวย ๔๐ ๔0 ๔0 - - -
ภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร - - - 40 40 40
คอมพิวเตอร์ 40 40 40 40 40 40
รวมเวลาเรยี น (เพิ่มเตมิ ) 120 120 120 160 160 160
กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน
กิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน
- ลูกเสอื - เนตรนารี 120 120 120 120 120 120
- ชุมนมุ
- ลดเวลาเรียน - เพมิ่ เวลารู้
กิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์
รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 120 120 120 120 120 120
รวมเวลาทง้ั หมด ไม่น้อยกวา่ 1,000 ช่วั โมง ไม่น้อยกวา่ 1,000 ชั่วโมง
โครงสร้างเวลาเรียนระดบั ประถมศึกษาโรงเรยี นวดั อยั ยกิ าราม
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา
โครงสร้างเวลาเรยี นระดบั มธั ยมศึกษาโรงเรียนวัดอัยยิการาม
เวลาเรยี น
กลุม่ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
ม.1 ม.2 ม.3
กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
คณติ ศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
วิทยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐
วทิ ยาการคำนวณ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สังคมศกึ ษา ศาสนา
และวฒั นธรรม 160 (4 นก.) 160 (4 นก.) 160 (4 นก.)
ประวัติศาสตร์ 40 40 40
ศาสนาศลี ธรรม จริยธรรม
หน้าที่พลเมอื ง วัฒนธรรม
และการดำเนินชวี ติ ในสังคม
เศรษฐศาสตร์ ๘0 ๘0 ๘0
ภมู ศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.)
ศิลปะ 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.)
ทัศนศิลป์
นาฏศลิ ป์
การงานอาชพี และเทคโนโลยี 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.)
ภาษาตา่ งประเทศ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
รวมเวลาเรยี น (พื้นฐาน) 880 (22 นก) 880 (22 นก) 880 (22 นก)
รายวิชาเพิ่มเตมิ
- โครงงานวทิ ยาศาสตร์เพ่ือสุขภาพ 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ภาษาจีน 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ดนตรสี ากล - 40 (1 นก.) -
- คอมพวิ เตอร์ 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ดนตรีไทย 40 (1 นก.) - 40 (1 นก.)
รวมเวลาเรียน (เพมิ่ เติม) 200 (5 นก.) 200 (5 นก.) 200 (5 นก.)
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรยี น
- ลูกเสอื - เนตรนารี 120 120 120
- ชุมนุม / ลดเวลาเรียน - เพม่ิ เวลารู้ 120 120 120
ไมเ่ กนิ 1,200 ชวั่ โมง
กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและ
สาธารณประโยชน์
รวมเวลากิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
รวมเวลาเรียนท้ังหมด
โครงสรา้ งหลกั สูตรชนั้ ปี
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน (ชม./สัปดาห์)
840 ชม./ปี
5
รหสั วิชา รายวชิ าพน้ื ฐาน 5
2
ท 11101 ภาษาไทย 200 ๒
๑
ค 11101 คณติ ศาสตร์ 200 1
1
ว 11101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 1
3
ส 11101 สงั คมศกึ ษา ๘0 21
ส 1110๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ ไม่น้อยกวา่ 40 ชม./ปี
พ 11101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 ๑
๑
ศ 11101 ศลิ ปะ 40 1
3
ง 11101 การงานอาชพี 40 (120) ชม./ปี
1
อ 11101 ภาษาอังกฤษ 120
1
รวมเวลาเรียนพ้นื ฐาน 840 1
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ผนวกในกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี
ว 11201 คอมพิวเตอร์ ๔0 (27)
อ 11๒0๑ ภาษาอังกฤษแสนสนกุ ๔๐
ท 1120๑ อ่านออก เขียนได้ ลายมอื สวย 40
รวมเวลาเรยี นเพม่ิ เติม 120
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
๏ กิจกรรมแนะแนว 40
๏ กิจกรรมนกั เรยี น
- ลกู เสือ/เนตรนารี ๓0
- ชมรม/ชมุ นมุ ๔0
๏ กจิ กรรมเพือ่ สังคมและ 10
สาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนท้ังสิ้นตามโครงสรา้ งหลักสตู ร ( 1,080)
ชม./ปี
กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร
โครงสร้างหลกั สตู รช้นั ปี (ตอ่ )
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2
รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./สปั ดาห์)
840 ชม./ปี
5
รหสั วชิ า รายวชิ าพน้ื ฐาน 5
2
ท 12101 ภาษาไทย 200 ๒
๑
ค 12101 คณิตศาสตร์ 200 1
1
ว 12101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 1
3
ส 1๒101 สังคมศกึ ษา ๘0 21
ส 1๒10๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ ไม่นอ้ ยกว่า 40 ชม./ปี
พ 12101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 40 ๑
๑
ศ 12101 ศลิ ปะ 40 1
3
ง 12101 การงานอาชีพ 40 (120) ชม./ปี
1
อ 12101 ภาษาอังกฤษ 120
1
รวมเวลาเรยี นพน้ื ฐาน 840 1
รายวชิ าเพิม่ เตมิ ผนวกในกจิ กรรมลกู เสือ/เนตรนารี
ว 1๒201 คอมพวิ เตอร์ ๔๐
อ 1๒๒0๑ ภาษาอังกฤษแสนสนกุ ๔0
ท 1๒20๑ อา่ นออก เขยี นได้ ลายมอื สวย 40
รวมเวลาเรยี นเพิม่ เติม 120
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
๏ กจิ กรรมแนะแนว 40
๏ กิจกรรมนกั เรียน
- ลูกเสอื /เนตรนารี ๓0
- ชมรม/ชุมนุม ๔0
๏ กิจกรรมเพอื่ สังคมและ 10
สาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทงั้ สนิ้ ตามโครงสร้างหลกั สตู ร ( 1,080) (27)
ชม./ปี
กิจกรรมเสรมิ หลักสูตร
โครงสร้างหลักสูตรชน้ั ปี (ต่อ)
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3
เวลาเรียน
รายวิชา/กิจกรรม 840 (ชม./สัปดาห์)
ชม./ปี 5
5
รหสั วชิ า รายวชิ าพน้ื ฐาน 2
๒
ท 13101 ภาษาไทย 200 ๑
1
ค 13101 คณติ ศาสตร์ 200 1
1
ว 13101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 3
21
ส 1๓101 สังคมศึกษา ๘0
ไมน่ อ้ ยกวา่ 40 ชม./ปี
ส 1๓10๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
๑
พ 13101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 40 ๑
1
ศ 13101 ศลิ ปะ 40 3
(120) ชม./ปี
ง 13101 การงานอาชีพ 40 1
อ 13101 ภาษาอังกฤษ 120
รวมเวลาเรียนพ้ืนฐาน 840
รายวิชาเพ่ิมเติม
ว 1๓201 คอมพวิ เตอร์ 40
อ 1๓๒0๑ ภาษาอังกฤษแสนสนกุ ๔0
ท 1๓20๑ อ่านออก เขียนได้ ลายมือสวย 40
รวมเวลาเรยี นเพิ่มเติม 120
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
๏ กิจกรรมแนะแนว 40
๏ กิจกรรมนักเรียน
- ลกู เสือ/เนตรนารี ๓0 1
1
- ชมรม/ชมุ นุม ๔0
ผนวกในกจิ กรรมลูกเสอื /เนตรนารี
๏ กิจกรรมเพ่ือสงั คมและ 10
สาธารณประโยชน์ (27)
รวมเวลาเรยี นทั้งสิ้นตามโครงสร้างหลกั สตู ร (1,080)
ชม./ปี
กิจกรรมเสริมหลักสูตร
โครงสร้างหลักสูตรช้ันปี (ตอ่ )
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน ชม./สปั ดาห์)
(840) ชม./ปี
4
รหัสวชิ า รายวชิ าพน้ื ฐาน 4
2
ท 14101 ภาษาไทย 160 ๒
๑
ค 14101 คณติ ศาสตร์ 160 2
2
ว 14101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 2
2
ส 1๔101 สังคมศึกษา ๘0 21
ส 1๔10๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐ ไม่น้อยกว่า 40 ชม./ปี
พ 14101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80 1
ศ 14101 ศิลปะ 80 1
ง 14101 การงานอาชีพ 80 1
1
อ 14101 ภาษาองั กฤษ 80
รวมเวลาเรียนพืน้ ฐาน 840
รายวิชาเพิม่ เติม
จ 14201 ภาษาจีน 40
ว 1420๒ ของเลน่ เชิงวิทยาศาสตร์ และ 40
สนกุ กบั โครงงาน
อ 14201 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สาร 40
ว 14201 คอมพิวเตอร์ 40
รวมเวลาเรียนเพิม่ เตมิ 160 4
(120) ชม./ปี
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
1
๏ กิจกรรมแนะแนว 40
1
๏ กิจกรรมนักเรียน 1
ผนวกในกิจกรรมลกู เสือ/เนตรนารี
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๓0
๒๘
- ชมรม/ชมุ นมุ ๔0
๏ กิจกรรมเพอื่ สงั คมและ 10
สาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนท้ังสน้ิ ตามโครงสร้างหลักสูตร (1,120)
ชม./ปี
กิจกรรมเสริมหลกั สูตร
โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี
(ต่อ)
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5
รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน ชม./สัปดาห)์
(84) ชม./ปี
4
รหสั วชิ า รายวชิ าพ้ืนฐาน 4
2
ท 15101 ภาษาไทย 160 ๒
๑
ค 15101 คณิตศาสตร์ 160 2
2
ว 15101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 2
2
ส 1๕101 สงั คมศกึ ษา ๘0 21
ส 1๕10๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ไม่นอ้ ยกวา่ 40 ชม./ปี
พ 15101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80 1
ศ 15101 ศิลปะ 80 1
ง 15101 การงานอาชีพ 80 1
อ 15101 ภาษาองั กฤษ 80
รวมเวลาเรยี นพื้นฐาน 840
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ
จ 1๕201 ภาษาจนี 40
ว 1๕20๒ ของเล่นเชิงวทิ ยาศาสตร์ และ 40
อ 1๕201 สนกุ กบั โครงงาน 40
ภาษาอังกฤษเพ่อื การสอ่ื สาร
ว 1๕201 คอมพวิ เตอร์ 40 1
4
รวมเวลาเรยี นเพ่มิ เติม 160 (120) ชม./ปี
1
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
1
๏ กจิ กรรมแนะแนว 40 1
๏ กจิ กรรมนกั เรียน ผนวกในกจิ กรรมลูกเสือ/เนตรนารี
- ลูกเสือ/เนตรนารี ๓0 ๒๘
- ชมรม/ชมุ นุม ๔0
๏ กิจกรรมเพื่อสังคมและ 10
สาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรยี นทั้งส้นิ ตามโครงสร้างหลักสตู ร (1,120)
ชม./ปี
กิจกรรมเสริมหลกั สูตร
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6
รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน ชม./สปั ดาห์)
( 840 )ชม./ปี 4
4
รหสั วิชา รายวิชาพ้ืนฐาน 2
๒
ท 16101 ภาษาไทย 160 ๑
2
ค 16101 คณิตศาสตร์ 160 2
2
ว 16101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 2
21
ส 1๖101 สังคมศกึ ษา ๘0
ไมน่ ้อยกว่า 40 ชม./ปี
ส 1๖10๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
1
พ 1๖101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80
ศ 16101 ศลิ ปะ 80
ง 16101 การงานอาชพี 80
อ 16101 ภาษาอังกฤษ 80
รวมเวลาเรียนพืน้ ฐาน 840
รายวิชาเพมิ่ เติม
จ 1๖201 ภาษาจีน 40
ว 1๖20๒ ของเลน่ เชิงวทิ ยาศาสตร์ และ 40 1
สนุกกับโครงงาน
อ 1๖201 ภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร 40 1
ว 1๖201 คอมพวิ เตอร์ 40 1
รวมเวลาเรียนเพ่ิมเติม 160 4
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน (120) ชม./ปี
๏ กจิ กรรมแนะแนว 40 1
๏ กิจกรรมนักเรียน
- ลกู เสอื /เนตรนารี ๓0 1
- ชมรม/ชมุ นมุ ๔0 1
๏ กิจกรรมเพ่ือสังคมและ 10 ผนวกในกิจกรรมลูกเสอื /
สาธารณประโยชน์ เนตรนารี
รวมเวลาเรียนทัง้ สิ้นตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร (1,120) ๒๘
ชม./ปี
กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร
โครงสร้างหลักสูตรช้นั ปี (ตอ่ )
โครงสร้างหลักสูตรชนั้ ปี (ตอ่ )
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2
รายวชิ า/กิจกรรม
หนว่ ยกิต/ รายวชิ า/กิจกรรม หน่วยกิต/
รายวิชาพื้นฐาน ชั่วโมง
ชว่ั โมง 11.0
ท 21101 ภาษาไทย (440)
ค 21101 คณติ ศาสตร์ 11.0 รายวชิ าพ้นื ฐาน
ว 21101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.5 (60)
ส 21101 สงั คมศึกษา (440) 1.5 (60)
ส 21103 ประวัติศาสตร์ 1.5 (60)
พ 21101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 1.5 (60) ท 21102 ภาษาไทย 1.5 (60)
1.5 (60) ค 21102 คณิตศาสตร์ 0.5 (20)
1.0 (40)
1.5 (60) ว 21102 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.5 (60) ส 21102 สงั คมศึกษา
0.5 (20) ส 21104 ประวตั ศิ าสตร์
1.0 (40) พ 21102 สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ศ 21101 ศลิ ปะ ๑.๐ (๔0) ศ 21102 ศลิ ปะ ๑.๐ (๔0)
ง 21101 การงานอาชพี 1.0 (40) ง 21102 การงานอาชพี 1.0 (40)
อ 21101 ภาษาองั กฤษ 1.5 (60) อ 21102 ภาษาอังกฤษ 1.5 (60)
2.5 (100) รายวชิ าเพิ่มเตมิ 2.5 (100)
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ 0.5 (20) ว 2120๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์กับความงาม 0.5 (20)
ว 2120๓ โครงงานวิทยาศาสตร์เพือ่ สขุ ภาพ 0.5 (20) อ 21202 องั กฤษแสนสนุก 0.5 (20)
อ 21201 อังกฤษแสนสนุก 0.5 (20)
0.5 (20) ศ 2120๒ ดนตรไี ทย 0.5 (20)
ศ 21201 ดนตรีไทย 0.5 (20) จ ๒๑๒๐๒ ภาษาจีน 0.5 (20)
จ ๒๑๒๐๑ ภาษาจนี 0.5 (20) ว 2120๒ คอมพิวเตอร์
ว 2120๑ คอมพิวเตอร์ 60
60 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 20
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 20 กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมแนะแนว 15
กิจกรรมนกั เรยี น กิจกรรมนกั เรียน 20
15 - ลูกเสอื /เนตรนารี 5
- ลกู เสอื /เนตรนารี 20 - ชมรม/ชุมนมุ 600
- ชมรม/ชมุ นุม 5 กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 600 รวมเวลาเรียน
รวมเวลาเรยี น
โครงสร้างหลักสูตรช้นั ปี (ตอ่ )
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2
ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2
รายวชิ า/กิจกรรม
หน่วยกติ / รายวชิ า/กจิ กรรม หน่วยกิต/
รายวิชาพนื้ ฐาน ช่ัวโมง
ช่วั โมง 11.0
ท22101 ภาษาไทย (440)
ค22101 คณิตศาสตร์ 11.0 (440) รายวิชาพนื้ ฐาน 1.5 (60)
ว22101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.5 (60)
ส22101 สังคมศึกษา 1.5 (60) ท22102 ภาษาไทย 1.5 (60)
ส22103 ประวัติศาสตร์ 1.5 (60) ค22102 คณิตศาสตร์ 1.5 (60)
พ22101 สุขศึกษาและพลศึกษา 1.5 (60) ว22102 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 0.5 (20)
ศ22101 ศลิ ปะ 1.5 (60) ส22102 สงั คมศึกษา 1.0 (40)
ง22101 การงานอาชีพ 0.5 (20) ส22104 ประวัตศิ าสตร์ ๑.๐ (๔0)
อ22101 ภาษาองั กฤษ 1.0 (40) พ22102 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 1.0 (40)
๑.๐ (๔0) ศ22102 ศิลปะ 1.5 (60)
รายวิชาเพม่ิ เตมิ 1.0 (40) ง22102 การงานอาชพี 2.5 (100)
ว 2๒20๓ โครงงานวิทยาศาสตร์เพอื่ สุขภาพ 1.5 (60) อ22102 ภาษาองั กฤษ 0.5 (20)
อ 2๒20๑ อังกฤษแสนสนุก 2.5 (100) รายวชิ าเพ่มิ เติม 0.5 (20)
ศ 2๒20๑ ดนตรสี ากล 0.5 (20) ว 2๒20๔ โครงงานวิทยาศาสตร์กับความงาม 0.5 (20)
จ ๒๒๒๐๑ ภาษาจนี 0.5 (20) อ 2๒20๒ อังกฤษแสนสนุก 0.5 (20)
ว 2๒20๑ คอมพิวเตอร์ 0.5 (20) ศ 2๒20๒ ดนตรสี ากล 0.5 (20)
0.5 (20) จ ๒๒๒๐๒ ภาษาจนี 60
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 0.5 (20) ว 2๒20๒ คอมพิวเตอร์ 20
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน 60 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 15
20 กิจกรรมแนะแนว 20
- ลูกเสือ/เนตรนารี กจิ กรรมนักเรียน 5
- ชมรม/ชุมนุม 15 600
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 20 - ลูกเสอื /เนตรนารี
5 - ชมรม/ชุมนุม
รวมเวลาเรยี น 600 กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรยี น
โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ ปี (ต่อ)
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2
รายวิชา/กิจกรรม หน่วยกติ /ชว่ั โมง รายวชิ า/กจิ กรรม หนว่ ยกิต/ชวั่ โมง
รายวชิ าพื้นฐาน
ท 23101 ภาษาไทย 11.0 (440) รายวิชาพนื้ ฐาน 11.0 (440)
ค 23101 คณิตศาสตร์
ว 23101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.5 (60) ท 23102 ภาษาไทย 1.5 (60)
ส 23101 สงั คมศกึ ษา 1.5 (60)
ส 23103 ประวตั ศิ าสตร์ 1.5 (60) ค 23102 คณิตศาสตร์ 1.5 (60)
พ 23101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 1.5 (60)
ศ 23101 ศิลปะ 1.5 (60) ว 23102 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 0.5 (20)
ง 23101 การงานอาชพี 1.0 (40)
อ 23101 ภาษาอังกฤษ 1.5 (60) ส 23102 สงั คมศึกษา ๑.๐ (๔0)
รายวิชาเพ่ิมเตมิ 1.0 (40)
ว 2320๓ โครงงานวิทยาศาสตร์เพือ่ สขุ ภาพ 0.5 (20) ส 23104 ประวตั ิศาสตร์ 1.5 (60)
อ 2320๑ องั กฤษแสนสนุก 2.5 (100)
จ ๒๓๒๐๑ ภาษาจนี 1.0 (40) พ 23102 สุขศึกษาและพลศึกษา 0.5 (20)
ศ 2๓20๓ ดนตรไี ทย 0.5 (20)
ว 2๓20๑ คอมพิวเตอร์ ๑.๐ (๔0) ศ 23102 ศลิ ปะ 0.5 (20)
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 0.5 (20)
กจิ กรรมแนะแนว 1.0 (40) ง 23102 การงานอาชพี 0.5 (20)
กิจกรรมนักเรียน
- ลูกเสือ/เนตรนารี 1.5 (60) อ 23102 ภาษาองั กฤษ 60
- ชมรม/ชมุ นมุ 20
กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ 2.5 (100) รายวิชาเพิม่ เติม
รวมเวลาเรียน 15
0.5 (20) ว 2320๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์กบั ความงาม 20
5
0.5 (20) อ 2320๒ อังกฤษแสนสนุก 600
0.5 (20) จ ๒๓๒๐๒ ภาษาจนี
0.5 (20) ศ 2๓20๔ ดนตรไี ทย
0.5 (20) ว 2๓20๒ คอมพวิ เตอร์
60 กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน
20 กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมนกั เรยี น
15 - ลูกเสือ/เนตรนารี
20 - ชมรม/ชมุ นุม
5 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
600 รวมเวลาเรียน
รายวชิ ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
รายวิชาพื้นฐาน
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ระดบั ช้นั ประถมศึกษา
ท ๑2๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง
ท ๑3๑๐๑ ภาษาไทย
ท ๑4๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง
ท ๑5๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง
ท ๑6๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง
ท 21๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง
ท 21๑๐2 ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง
ท 22๑๐1 ภาษาไทย
ท 22๑๐2 ภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ท 23๑๐1 ภาษาไทย เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ท 2๓๑๐๒ ภาษาไทย เวลาเรยี น ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
เวลาเรียน ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
เวลาเรยี น ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
เวลาเรียน ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
คำอธบิ ายรายวชิ า
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
รหัส ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง จำนาน ๕ หน่วยกติ
ศึกษาวิธกี ารอา่ นออกเสียงและบอกความหมายของคำ คำคลอ้ งจอง และข้อความส้ัน ๆ การ
อ่านคำท่ีมรี ปู วรรณยุกต์ การอ่านคำที่มตี วั สะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา การอ่านคำท่มี ีพยัญชนะ
ควบกล้ำ การอ่านคำที่มีอักษรนำ การอ่านจับใจความสำคัญจากนิทาน บทร้องเล่นและบทเพลง เรื่องจาก
บทเรียน การเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจและหนังสือที่ครูกำหนดให้อ่าน การอ่านเครื่องหมายและ
สญั ลกั ษณ์ตา่ ง ๆ ท่พี บในชีวติ ประจำวนั มมี ารยาทในการอ่าน
การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การเขียนสะกดคำ การเขียนประโยค การเขียนข้อความ มี
มารยาทในการเขยี น
การปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำง่าย ๆ การจับใจความสำคัญจากเรื่องที่ฟังและดู การพูดแนะนำ
ตนเอง การพูดขอความช่วยเหลือ การกล่าวขอบคุณ การกล่าวคำขอโทษ การพูดแสดงความคิดเห็นและ
ความรสู้ กึ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด
ศึกษาวิธีการเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย การสะกดคำ การแจกลูก มาตราตัวสะกดท่ี
ตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา การผนั อกั ษร ความหมายของคำ การแตง่ ประโยค การใชค้ ำคล้องจอง
บอกขอ้ คดิ จากวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรบั เดก็ ทอ่ งจำอาขยานตามที่กำหนดและตาม
ความสนใจ
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการฝกึ ทกั ษะทางภาษา การปฏบิ ตั ิจรงิ กระบวนการกล่มุ
เพอื่ ให้เกดิ ทักษะในการใช้ภาษาเพือ่ การสื่อสารในชวี ิตประจำวนั มนี ิสัยใฝ่เรยี นรู้ รักความเป็นไทย
และมีคณุ ธรรม จริยธรรมทเ่ี หมาะสม
ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓, ป. ๑/๔, ป. ๑/๕, ป. ๑/๖, ป. ๑/๗, ป. ๑/๘
ท ๒.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓
ท ๓.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓, ป. ๑/๔, ป. ๑/๕
ท ๔.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓, ป. ๑/๔
ท ๕.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒
รวมทงั้ หมด ๒๒ ตัวช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวชิ า
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลาเรียน ๒๐๐ ช่ัวโมง จำนวน ๕ หน่วยกติ
__________________________________________________________________
ศึกษาการอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ
การอ่านคำที่มีรูปวรรณยุกต์ และไม่มีรูปวรรณยุกต์ การอ่านคำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม
มาตรา การอ่านคำท่ีมีพยัญชนะควบกล้า การอ่านคำที่มีอักษรนำ การอ่านคำที่มีตัวสะกดและที่ไม่ออกเสียง
การอ่านจับใจความสำคัญจากนิทาน เรื่องเล่า บทร้อยกรอง เรื่องจากบทเรียน การอ่านคำแนะนำการใช้
เครอ่ื งใช้ทจ่ี ำเป็นในบ้านและในโรงเรียน การอ่านคำแนะนำในการใชส้ ถานที่สาธารณะ มนี สิ ยั รกั การอ่านและมี
มารยาทในการอ่าน
การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย การเขียนตามประสบการณ์
และจนิ ตนาการอย่างมีมารยาท
การฟังและปฏิบัติตามคำสั่งที่ซับซ้อน การจับใจความสำคัญจากเรื่องที่ฟังและดู การพูดแสดงความ
คิดเห็น และความรู้สกึ จากเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู การพูดขอรอ้ งในโอกาสตา่ ง ๆ การเล่าประสบการณใ์ นชวี ิตประจำวัน
ไดอ้ ยา่ งมีมารยาท
ศกึ ษาสว่ นประกอบของคำ การสะกดคำ การแจกลูก มาตราตวั สะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม
มาตรา การผนั อกั ษร ๓ หมู่ คำท่มี ีตวั การนั ต์ คำทมี่ ีพยญั ชนะ ควบกล้ำ คำท่มี อี กั ษรนำ คำที่มีความหมายตรง
ข้ามกัน คำท่มี ี รร ความหมายของคำ การแตง่ ประโยคและการเรียบเรยี งประโยคเป็นขอ้ ความ การใช้คำคล้อง
จอง ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ
บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก แล้วนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั ฝกึ รอ้ งบทรอ้ งเลน่ สำหรับเด็กในท้องถ่ิน ทอ่ งจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนดและบทร้องกรองตาม
ความสนใจ
โดยใช้กระบวนการคิด การฝกึ ทักษะทางภาษา การปฏิบัติจรงิ กระบวนการกลุ่ม
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรูแ้ ละทกั ษะในการใชภ้ าษาเพ่อื การส่ือสารในชวี ิตประจำวนั มนี สิ ยั
ใฝเ่ รยี นรู้ รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ
รหสั ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕, ป. ๒/๖, ป. ๒/๗, ป. ๒/๘
ท ๒.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔
ท ๓.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕, ป. ๒/๖, ป. ๒/๗
ท ๔.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕
ท ๕.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓
รวมทัง้ หมด ๒๗ ตวั ชี้วดั
คำอธิบายรายวิชา
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลาเรียน ๒๐๐ ช่ัวโมง จำนวน ๕ หน่วยกิต
________________________________________________________________
ฝกึ อา่ นออกเสียงคำ ขอ้ ความ เร่อื งสั้น ๆ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ อธบิ ายความหมายของคำและ
ขอ้ ความที่อ่าน ต้ังคำถาม ตอบคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตกุ ารณ์ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ สรุปความรู้ ขอ้ คดิ จาก
เร่ืองที่อา่ น เพือ่ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เลือกอา่ นหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอ เร่อื งที่
อา่ น อา่ นขอ้ เขียนเชงิ อธิบาย และปฏบิ ตั ติ ามคำส่ังหรือข้อแนะนำ อธิบายความหมายของข้อมูลจาก แผนภาพ
แผนท่ี และแผนภมู ิ มีมารยาทในการอ่าน
ฝึกคดั ลายมอื ด้วยตวั บรรจงเต็มบรรทัด เขยี นบรรยาย เขยี นบันทึกประจำวนั เขยี นเรือ่ งตาม จินตนาการ มี
มารยาทในการเขียน
ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสำคญั ต้งั คำถาม ตอบคำถาม พดู แสดง
ความคิดเหน็ ความรสู้ กึ พดู สื่อสารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มมี ารยาทในการฟัง การดูและการ พูด
ฝกึ เขยี นตามหลกั การเขียน เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ระบชุ นิด หน้าท่ขี องคำ ใช้ พจนานุกรม
คน้ หาความหมายของคำ แตง่ ประโยคงา่ ย ๆ แต่งคำคล้องจองและคำขวญั เลอื กใช้ภาษาไทย มาตรฐานและ
ภาษาถ่ินได้เหมาะสมกับกาลเทศะ
ระบุข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากการอ่านวรรณกรรม เพอื่ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ร้จู กั เพลงพ้ืนบา้ น เพลง กลอ่ ม
เด็ก เพือ่ ปลกู ฝงั ความช่นื ชมวัฒนธรรมท้องถ่ิน แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับวรรณคดีทีอ่ ่าน ทอ่ งจำ บทอาขยาน
ตามที่กำหนดและบทรอ้ ยกรองที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการ เขียน
กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสอื่ ความ กระบวนการ
แกป้ ญั หา การฝกึ ปฏบิ ัติ อธบิ าย บันทึก การต้งั คำถาม ตอบคำถาม ใชท้ กั ษะการฟงั การดแู ละ การพดู พดู
แสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สอ่ื สารได้ถูกตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการอนุรกั ษ์
ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
และสามารถนำไปประยุกต์ใชก้ ับชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
รหสั ตัวชี้วดั
ท 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9
ท 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 5.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
รวมทง้ั หมด ๓๑ ตวั ชี้วัด
คำอธิบายรายวชิ า
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาเรียน ๑๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๔ หนว่ ยกติ
___________________________________________________________________________
ศึกษาการอา่ นร้อยแกว้ และร้อยกรองและบอกความหมายของคำ ประโยคและขอ้ ความจากเร่อื งท่ีอ่าน
การอ่านคำที่มี ร ล เป็นพยัญชนะต้น การอ่านคำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ การอ่านคำที่มีอักษรนำ การอ่านคำ
ประสม การอา่ นอักษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน การอา่ นประโยคทม่ี ีสำนวนเปน็ คำพังเพย สภุ าษติ ปริศนา
คำทาย และเครอ่ื งหมายวรรคตอน การอ่านบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ การอา่ นจบั ใจความจากเร่ืองตา่ ง ๆ
ทีห่ ลากหลาย มีนสิ ัยรกั การอ่านและมีมารยาทในการอา่ น
การคดั ลายมือตัวบรรจงครงึ่ บรรทัด การเขียนคำขวญั และคำแนะนำ การเขียนแผนภาพโครงเร่ืองและ
แผนภาพความคิด การเขียนยอ่ ความจากสอ่ื ทห่ี ลากหลาย การเขยี นจดหมายถงึ เพอื่ นและบดิ ามารดา การเขยี น
บันทึกและเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า การเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ มีนิสัยรกั การเขยี นและมีมารยาทใน
การเขียน
การจับใจความสำคัญ การแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น จากเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อต่าง ๆ ที่
หลากหลาย การพูดรายงานลำดับขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน การพดู รายงานตามลำดบั เหตกุ ารณ์ มีมารยาทในการ
ฟงั การดู และการพดู
ศึกษาคำในแม่ ก กา มาตราตัวสะกด การผันอกั ษร คำเป็นคำตาย คำพอ้ ง คำนาม
คำสรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ การใช้พจนานุกรม การแต่งประโยคสามัญ วิเคราะห์ส่วนประกอบของ
ประโยค ๒ ส่วน และ ๓ ส่วน การแต่งกลอนสี่ การแต่งคำขวัญ การใช้สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต
ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ิน
บอกและอธิบายขอ้ คิดจากวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่น เพื่อนำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ฝึก
ร้องเพลงพ้ืนบ้าน ทอ่ งจำบทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่มี คี ุณค่าตามท่กี ำหนดและตามความสนใจ
โดยใชก้ ระบวนการคิด การฝึกทักษะทางภาษา การปฏิบัติจรงิ กระบวนการกล่มุ
เพอ่ื พัฒนาทักษะทางภาษาในการเรียนรู้ และการส่อื สารในชีวติ ประจำวัน เห็นความสำคัญของการใช้
ภาษาไทยถูกตอ้ ง มีจิตสาธารณะ และมคี ณุ ธรรมจริยธรรมทีเ่ หมาะสม
รหสั ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑… ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕, ป. ๔/๖, ป. ๔/๗, ป. ๔/๘
ท ๒.๑… ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕, ป. ๔/๖, ป. ๔/๗, ป. ๔/๘
ท ๓.๑… ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕, ป. ๔/๖
ท ๔.๑… ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕, ป. ๔/๖, ป. ๔/๗
ท ๕.๑… ป. ๔/๑, ป. ๔/๒, ป. ๔/๓, ป. ๔/๔
รวมทั้งหมด ๓๓ ตัวช้ีวัด
คำอธิบายรายวิชา
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๑๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๔ หน่วยกิต
_______________________________________________________________________
ศึกษาการอ่านร้อยแก้วและร้อยกรองและบอกความหมายของคำ ประโยค ข้อความจากเรื่องที่อ่าน
การอ่านคำทมี่ ีพยัญชนะควบกลำ้ การอา่ นคำที่มีอักษรนำ การอา่ นคำท่มี ีตัวการันต์
การอา่ นอักษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน การอ่านขอ้ ความทเี่ ปน็ การบรรยายและพรรณนา
การอา่ นขอ้ ความทมี่ ีความหมายโดยนัย การอ่านบทรอ้ ยกรองเป็นทำนองเสนาะ การอา่ นขอ้ ความจากสอื่ ตา่ ง ๆ
การอ่านงานเขยี นเชิงอธบิ าย คำสั่ง ข้อแนะนำและปฏิบัติตาม มมี ารยาทในการอา่ น
การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด การเขียนคำขวัญ คำอวยพร คำแนะนำและคำอธิบายแสดง
ข้นั ตอน การเขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิด การเขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ท่ีหลากหลาย การเขียน
จดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ การเขียนแสดงความรูส้ ึกและความคิดเห็น การกรอกแบบรายการต่าง ๆ การ
เขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ มมี ารยาทในการเขียน
การจบั ใจความสำคัญ วเิ คราะหค์ วามนา่ เชอ่ื ถือ และพูดแสดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งท่ีฟังและดู การพูด
รายงานลำดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน การพูดรายงานตามลำดับเหตุการณ์
บอกชนิดและหน้าท่ีของคำบพุ บท คำสันธาน คำอุทาน แยกสว่ นประกอบของประโยค ร้จู ักภาษาไทย
มาตรฐานและภาษาถิ่น การใช้คำราชาศัพท์ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ การแต่งกาพย์ยานี ๑๑ และใช้
สำนวน สภุ าษติ คำพังเพย ถกู ต้อง
สรุปเนื้อหา บอกความรู้ ข้อคิด และอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไป
ประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
โดยใช้กระบวนการคิด การฝึกทกั ษะทางภาษา การปฏิบตั ิจรงิ กระบวนการกลุ่ม
เพื่อใช้ภ าษ าไ ด้ อย ่าง สร้ าง สรร ค์เป็นประโ ยช น์ ต่ อ ส่วน รวม และ สร ้ างความ สาม ั คคี สอ ดคล้ อ ง กั บ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวฒั นธรรมของชาติ
รหสั ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑… ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘
ท ๒.๑… ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘, ป. ๕/๙
ท ๓.๑… ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕
ท ๔.๑… ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗
ท ๕.๑… ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔
รวมทัง้ หมด ๓๓ ตัวช้ีวัด
คำอธิบายรายวชิ า
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลาเรยี น ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๔ หนว่ ยกิต
___________________________________________________________________________
ศกึ ษาการอา่ นรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง และบอกความหมายของ ประโยค และขอ้ ความทีเ่ ปน็ โวหารจาก
เรื่องท่อี ่าน การอ่านคำท่มี ีพยญั ชนะควบกลำ้ การอา่ นคำทมี่ อี ักษรนำ การอ่านคำทม่ี ตี ัวการันต์ การอา่ นคำที่มา
จากภาษาต่างประเทศ การอ่านอักษรย่อ และเครื่องหมายวรรคตอน การอ่านวัน เดือน ปี แบบไทย การอ่าน
ขอ้ ความท่ีเปน็ โวหารต่าง ๆ การอ่านสำนวนเปรียบเทียบ การอา่ นบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ การอ่านจับ
ใจความจากสื่อที่หลากหลายและนำความรู้และข้อคิดจากเรอ่ื งไปเปน็ แนวทางในการตัดสนิ ใจแก้ปัญหาในการ
ดำเนินชีวิต การอ่านงานเขยี นเชิงอธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำ และปฏิบัติตาม การอ่านข้อมูลจากแผนผัง แผนที่
แผนภมู ิ และกราฟ เลือกอ่านหนงั สือตามความสนใจ มนี สิ ยั รักการอ่านและมารยาทในการอ่าน
การเขียนคำขวัญ คำอวยพร และประกาศ การเขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนความคิด การเขียน
เรียงความ การเขียนย่อความจากสื่อที่หลากหลาย การเขียนจดหมายขอโทษ จดหมายแสดงความขอบคุณ
จดหมายแสดงความเห็นใจ จดหมายแสดงความยินดี การกรอกแบบรายการต่าง ๆ การเขียนเรื่องตาม
จินตนาการ มีนสิ ัยรกั การเขยี น และมมี ารยาทในการเขียน
การพดู แสดงความรู้ ความเข้าใจ จดุ ประสงคข์ องเรือ่ งที่ฟังและดูจากสือ่ สง่ิ พิมพ์และส่ืออิเล็กทรอนิกส์
การวเิ คราะห์ความนา่ เชือ่ ถือจากการฟงั และดูสื่อโฆษณา การพูดรายงานลำดับข้นั ตอนการปฏิบัติงาน การพูด
รายงานตามลำดบั เหตุการณ์ การพูดโนม้ นา้ วในสถานการณ์ต่าง ๆ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู
ศึกษาชนิดและหน้าที่ของคำ ๗ ชนิด คำราชาศัพท์ ระดับภาษา ภาษาถ่ิ น คำที่มาจาก
ภาษาต่างประเทศ ลักษณะของกล่มุ คำหรอื วลี ประโยคสามญั ประโยครวม ประโยคซอ้ น
แสดงความคิดเห็นและอธิบายคุณค่าของวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมพื้นบ้าน เล่านิทาน
พื้นบ้านในท้องถิ่นของตนเอง และนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น และนำข้อคิดไปใช้ในชีวิตจริง ท่องจำบท
อาขยานและบทร้อยกรองทม่ี คี ณุ ค่าตามท่กี ำหนดและตามความสนใจ
โดยใชก้ ระบวนการคิด การฝกึ ทกั ษะทางภาษา การปฏบิ ัตจิ รงิ กระบวนการกล่มุ
เพื่อใช้ภาษาได้อย่างสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและสร้างความสามัคคีสอดคล้องกับ
ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาติ
รหสั ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑… ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔, ป. ๖/๕, ป. ๖/๖, ป. ๖/๗, ป. ๖/๘, ป. ๖/๙
ท ๒.๑… ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔, ป. ๖/๕, ป. ๖/๖, ป. ๖/๗, ป. ๖/๘, ป. ๖/๙
ท ๓.๑… ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔, ป. ๖/๕, ป. ๖/๖
ท ๔.๑… ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔, ป. ๖/๕, ป. ๖/๖
ท ๕.๑… ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔
รวมทงั้ หมด ๓๔ ตวั ช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวิชา
รหสั วิชา ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลาเรยี น ๖๐ ช่วั โมง/ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
__________________________________________________________________________
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟงั การดู และการพูด การวิเคราะห์และประเมินคา่ วรรณคดีและ
วรรณกรรม โดยศกึ ษาเกยี่ วกบั การอ่านออกเสยี ง การอา่ นจับใจความ การอา่ นและปฏบิ ัติตามเอกสารคมู่ ือการ
อา่ นหนังสอื ตามความสนใจ ฝึกทักษะการคัดลายมือ การเขยี นส่อื สาร เขียนบรรยายประสบการณ์ เขียน
เรียงความ เขยี นย่อความ เขยี นแสดงความคดิ เห็น การเขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธรุ ะ การเขยี น
รายงาน การพูดสรุปความ พดู แสดงความรู้ ความคดิ อยา่ งสร้างสรรคจ์ ากเรื่องทฟ่ี ังและดู พูดประเมนิ ความ
นา่ เชือ่ ถือของสอื่ ทม่ี ีเนอื้ หาโนม้ นา้ ว พดู รายงานการศกึ ษาคน้ คว้า และศึกษาลกั ษณะของเสยี งในภาษาไทย การ
สร้างคำประสม คำซำ้ คำซ้อน และคำพ้อง วเิ คราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำ การแต่งบทร้อยกรองประเภท
กาพยย์ านี ๑๑
วเิ คราะห์ ประเมินคา่ และข้อคดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรมเรือ่ ง นริ าศภเู ขาทอง โคลงโลกนิติ สภุ าษิต
พระร่วง ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และบทร้อยกรองที่มคี ณุ คา่ ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรคู้ วามคิดนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชวี ติ
กระบวนการเขยี นเพ่อื การสื่อสารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ กระบวนการฟงั การดู และการพูด สามารถเลอื กฟังและ
ดู และพดู แสดงความรู้ความคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ เพอื่ ให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลกั
ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา พลงั ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะหว์ ิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมอยา่ งเหน็ คณุ ค่านำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ รักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และมนี สิ ัยรักการ
อ่าน การเขียนมมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟงั การดู และการพดู
ตวั ช้ีวัด ม.๑/๑
ท ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙
ท ๒.๑ ม.๑/๖
ท ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕
ท ๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕
ท ๕.๑
รวม ๑๙ ตัวชี้วัด
คำอธบิ ายรายวิชา
รหัสวชิ า ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
__________________________________________________________________________
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ
วรรณกรรม โดยศึกษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียง การอ่านจับใจความ การอ่านและปฏิบัติตามเอกสารคู่มือ
การอ่านหนงั สือตามความสนใจ เขยี นแสดงความคิดเหน็ การเขยี นรายงาน การพูดสรุปความ พดู แสดงความรู้
ความคิดอย่างสรา้ งสรรค์จากเรื่องทีฟ่ ังและดู พดู ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของส่ือทมี่ ีเนอ้ื หาโนม้ น้าว พูดรายงาน
การศึกษาค้นคว้า และศึกษาลักษณะของเสียงในภาษาไทย การสร้างคำประสม คำซ้ำ คำซ้อน และคำพ้อง
วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำ ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน การแต่งบทร้อยกรองประเภท
กาพยย์ านี ๑๑ จำแนกและใช้สำนวนทเี่ ปน็ คำพังเพยและสภุ าษิต
วิเคราะห์ ประเมนิ ค่า และข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่อง กาพย์เร่ืองพระไชยสรุ ยิ า ราชาธิราช
ตอน สมงิ พระรามอาสา กาพย์เหช่ มเคร่อื งคาวหวาน และนิทาน พืน้ บา้ น ทอ่ งจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนด และ
บทร้อยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
กระบวนการเขยี นเพ่ือการส่อื สารอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟงั และ
ดู และพูดแสดงความรู้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลัก
ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมอย่างเห็นคณุ คา่ นำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง รักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ และมีนสิ ัยรักการ
อา่ น การเขียน มมี ารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการพูด
ตัวชีว้ ัด
ท ๑.๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙
ท ๒.๑ ม.๑/๖
ท ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖
ท ๔.๑ ม.๑/๔ ม.๑/๖
ท ๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕
รวม ๒๒ ตัวช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหัสวชิ า ท 22101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรยี น 60 ชวั่ โมง/ภาคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกิต
___________________________________________________________________________
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ
วรรณกรรม โดยศกึ ษาเก่ียวกบั การอา่ นออกเสียง
การเขียนบรรยายและพรรณนา เขยี นเรียงความเกย่ี วกบั ประสบการณ์ เขยี นยอ่ ความ เขียนรายงาน การเขียน
จดหมายกิจธุระ การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้ง และศึกษาลักษณะ
ของประโยคในภาษาไทย การสร้างคำสมาส การรวบรวมและอธิบายความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้
ในภาษาไทย
วิเคราะห์ ประเมินค่า และข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมาและสามัคคีเสวก ศิลาจารึกหลักที่ 1 บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน
นารายณป์ ราบนนทก ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่กี ำหนด และบทรอ้ ยกรองที่มีคณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
กระบวนการเขียนเพ่อื การส่อื สารอย่างมปี ระสิทธิภาพ กระบวนการฟงั การดู และการพดู สามารถเลือกฟังและ
ดู และพูดแสดงความรู้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลัก
ภาษาไทยการเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมอยา่ งเห็นคณุ คา่ นำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง รกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ และมนี สิ ัยรักการ
อ่าน การเขียน มมี ารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพดู
ตวั ช้ีวัด
ท 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/8
ท 2.1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8
ท 3.1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/6
ท 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/5
ท 5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
รวม 21 ตัวชีว้ ัด
คำอธบิ ายรายวิชา
รหสั วชิ า ท 22102 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
___________________________________________________________________________
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ
วรรณกรรม โดยศึกษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียง การอ่านจับใจความ การอ่านตามความสนใจ ฝึกทักษะ
การคัดลายมือ การพูดสรุปความ พูดวิเคราะห์และวิจารณ์จากเรื่องที่ฟังและดู พูดในโอกาสต่างๆ พูด
รายงานการศกึ ษาค้นควา้ การใชค้ ำราชาศัพท์ การแตง่ บทร้อยกรอง ประเภทกลอนสุภาพ
วิเคราะห์ ประเมนิ ค่า และขอ้ คิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเรือ่ ง กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง
โคลงสุภาษติ พระราชนิพนธพ์ ระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ช้า และ
นิราศเมอื งแกลง ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่กี ำหนด และบทรอ้ ยกรองทมี่ คี ณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอา่ นเพอ่ื สร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดำเนินชวี ิต กระบวน
การเขยี นเพอ่ื การสื่อสารอย่างมีประสิทธภิ าพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลอื กฟังและดู และ
พูดแสดงความรู้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลักภาษาไทย
การเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่าง
เหน็ คณุ คา่ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน การเขียน
มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟงั การดู และการพดู
ตวั ช้วี ดั ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8
ท 1.1 ม.2/1
ม.2/1 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6
ท 2.1 ม.2/3 ม.2/4
ท 3.1
ท 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
ท 5.1
รวม 21 ตัวชีว้ ัด
คำอธิบายรายวชิ า
รหสั วิชา ท 23101 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จำนวน 1.5 หน่วยกิต
_________________________________________________________________________
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ
วรรณกรรม โดยศกึ ษาเกยี่ วกบั การอา่ นออกเสียง การอ่านจบั ใจความ การอา่ นตามความสนใจ ฝกึ ทักษะการ
คัดลายมือ การเขียนข้อความตามสถานการณ์และโอกาสต่างๆ เขียนอัตชีวประวัติหรือชีวประวัติ เขียนย่อ
ความ การเขียนจดหมายกิจธุระ เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคิดเห็น และโต้แย้ง เขียนวิเคราะห์วิจารณ์
และแสดงความรคู้ วามคิดเห็น หรือโตแ้ ย้ง จากสือ่ ตา่ งๆ กรอกแบบสมัครงาน เขยี นรายงาน ฝกึ ทกั ษะการพูด
แสดงความคิดเห็นและการประเมินเรื่องจากการฟังและการดู พูดวิเคราะห์วิจารณ์จากเรื่องที่ฟังและดู พูด
รายงานการศึกษาค้นคว้า พูดในโอกาสต่างๆ พูดโน้มน้าว และศึกษาเกี่ยวกับคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน
ภาษาไทย โครงสร้างประโยคซับซอ้ น ระดับภาษา คำทบั ศัพทแ์ ละศพั ทบ์ ัญญตั ิ คำศัพทท์ างวิชาการและวิชาชีพ
การแตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทโคลงส่ีสุภาพ
วิเคราะห์วิถีไทย ประเมินค่า ความรู้และข้อคิดจากวรรณคดี วรรณกรรม อิศรญาณภาษิต บทพากย์
เอราวัณ ท่องจำบทอาขยานทกี่ ำหนดและบทร้อยกรองทีม่ ีคณุ คา่ ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
กระบวนการเขียนเพ่อื การสอ่ื สารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลอื กฟงั และ
ดู และพูดแสดงความรู้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลัก
ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมอย่างเห็นคุณค่านำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ จริง รักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ และมีนิสัยรกั
การอา่ น การเขียน มมี ารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพูด
ตัวชี้วัด ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/10
ท 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/9
ท 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/6
ท 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
ท 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
ท 5.1
รวม 27 ตัวช้ีวดั
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหสั วชิ า ท 23102 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรยี น 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกิต
_________________________________________________________________________
ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ
วรรณกรรมโดยศึกษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียง การอ่านจับใจความ การอ่านตามความสนใจ การเขียน
ข้อความตามสถานการณแ์ ละโอกาสต่างๆ เขียนอตั ชีวประวตั หิ รอื ชีวประวัติ เขียนย่อความ การเขียนจดหมาย
กจิ ธรุ ะ กรอกแบบสมคั รงาน เขยี นรายงาน พูดในโอกาสตา่ งๆ พดู โนม้ น้าว การแต่งบทรอ้ ยกรองประเภท
โคลงสสี่ ภุ าพ
วิเคราะห์วิถีไทย ประเมินค่า ความรู้และข้อคิดจากวรรณคดี วรรณกรรมบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
นทิ านคำกลอนเรอ่ื งพระอภยั มณี ตอนหนีนางผีเส้อื พระบรมราโชวาท ทอ่ งจำบทอาขยานท่ีกำหนดและบทร้อย
กรองที่มีคุณคา่ ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
กระบวนการเขียนเพ่อื การสือ่ สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟงั และ
ดู และพูดแสดงความรู้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลัก
ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมอย่างเห็นคุณค่านำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง รักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และมีนิสัยรัก
การอ่าน การเขยี น มีมารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการพูด
ตัวชี้วัด ม.3/1 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/7 ม.3/9 ม.3/10
ท 1.1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/8 ม.3/10
ท 2.1 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6
ท 3.1 ม.3/1 ม.3/6
ท 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
ท 5.1
รวม 21 ตวั ชว้ี ดั
รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์
รายวิชาพนื้ ฐาน
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ระดับชนั้ ประถมศึกษา
ค ๑2๑๐๑ คณติ ศาสตร์
ค ๑3๑๐๑ คณติ ศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง
ค ๑4๑๐๑ คณติ ศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง
ค ๑5๑๐๑ คณติ ศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง
ค ๑6๑๐๑ คณิตศาสตร์
เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง
ค 21๑๐๑ คณติ ศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง
ค 21๑๐2 คณติ ศาสตร์
ค 22๑๐1 คณิตศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง
ค 22๑๐2 คณติ ศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
ค 23๑๐1 คณิตศาสตร์
ค 2๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
เวลาเรียน ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
เวลาเรียน ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
เวลาเรียน ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
คำอธิบายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง
ศกึ ษา ฝึกทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ ทักษะการแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้
จำนวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ การบอกจำนวน การอา่ นและการเขยี นตวั เลขแสดงจำนวน การ
นบั เพิ่มและนบั ลดทีละ ๑ และทีละ ๑๐ การแสดงจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๒๐ ในรปู ความสมั พันธ์ของจำนวนแบบ
สว่ นยอ่ ย - สว่ นรวม (part - whole relationship) การบอกอนั ดับท่ี
การเขียนในรูปกระจาย การเปรยี บเทียบจำนวน การใชเ้ คร่ืองหมาย = ≠ > < การเรยี งลำดับจำนวน
การบวก การลบ จำนวนนบั ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ ความหมายของการบวก ความหมายของการลบ
การหาผลบวก การหาผลลบและความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ การแก้โจทย์ปญั หาการบวก
โจทย์ปัญหาการลบ และการสร้างโจทยป์ ัญหาพร้อมทง้ั หาคำตอบ
แบบรูป แบบรปู ของจำนวนท่เี พ่ิมขน้ึ หรือลดลงทลี ะ ๑ และทีละ ๑๐ แบบรูปซ้ำของจำนวน รูป
เรขาคณิตและรูปอืน่ ๆ
ความยาว การวดั ความยาวโดยใช้หนว่ ยทีไ่ ม่ใช่หนว่ ยมาตรฐาน การวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตร เป็น
เมตร การเปรียบเทียบความยาวเปน็ เซนติเมตร เปน็ เมตร การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบเกี่ยวกบั ความ
ยาวท่มี หี น่วยเปน็ เซนติเมตร เป็นเมตร
นำ้ หนัก การวดั นำ้ หนกั โดยใชห้ น่วยท่ไี ม่ใชห่ นว่ ยมาตรฐาน การวดั น้ำหนกั เปน็ กิโลกรมั เปน็ ขีด
การเปรยี บเทยี บน้ำหนักเป็นกิโลกรัม เปน็ ขีด การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบเก่ียวกบั นำ้ หนักทม่ี หี นว่ ย
เป็นกโิ ลกรมั เป็นขดี
รปู เรขาคณติ สองมติ แิ ละรูปเรขาคณติ สามมติ ิ ลกั ษณะของทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก กรวย ลกั ษณะของรปู สามเหลีย่ ม รปู สเ่ี หลี่ยม วงกลม และวงรี
การนำเสนอขอ้ มลู การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ การอา่ นแผนภมู เิ กยี่ วกบั ขอ้ มลู ในโรงเรยี นและขอ้ มลู
ในท้องถ่นิ
โดยใช้ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
รจู้ ักใชว้ ิธีการท่หี ลากหลายในการแก้ปัญหา
เพ่ือใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจ มีทกั ษะในการคดิ คำนวณ การแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล การส่ือสาร
สือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนำไปใช้ในการเรียนรสู้ ่ิงต่างๆ และใช้ในชวี ิตประจำวนั อยา่ ง
สร้างสรรค์ มรี ะเบียบ มีความรบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเช่อื มั่นในตนเอง สามารถทำงานอยา่ งเปน็
ระบบ รวมทั้งเหน็ คณุ ค่าและมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ คณิตศาสตร์
ตวั ชวี้ ดั
ค ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕
ค ๑.๒ ป.๑/๑
ค ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ค ๒.๒ ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑
รวม ๑๐ ตวั ชว้ี ัด
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง
ศกึ ษาฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณและฝึกทักษะการแกป้ ญั หาในสาระต่อไปน้ีจำนวนนบั ท่ไี มเ่ กิน
หนึ่งพัน และศูนย์ การนับทีละ ๒ ทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ การบอก การอ่านและเขียน ตัวเลขฮินดอู า
รบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือแสดงจำนวน จำนวนคู่ จำนวนคี่ หลักและค่าของตวั เลขโดดในแต่ละหลัก การ
เขยี นในรูปกระจาย การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดบั จำนวน การบวก การลบ การคูณ การหาร และโจทย์ปัญหา
การบวกและการลบ ความหมายของการคณู การหาร การหาผลคูณ ผลหารและเศษ และความสัมพันธ์ของการ
คูณและการหาร การบวก ลบ คูณ หารระคน การแกโ้ จทย์ปญั หา และการสรา้ งโจทย์ปญั หาพรอ้ มท้ังหาคำตอบ
แบบรูป โดยการบอกจำนวนในแบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นและลดลง ทีละ ๒ ทีละ ๕ และทีละ ๑๐๐ และ
แบบรปู ซำ้ ของจำนวน รปู เรขาคณิต และรปู อื่น ๆ การบอกเวลา การวดั ความยาว น้ำหนัก ปริมาตรและความจุ
บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที (ช่วง ๕ นาที) การบอกและการเปรยี บเทียบระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง เป็นนาที การ
อา่ นปฏิทนิ การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร การวัดน้ำหนกั เปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรัมและขีด การ
วดั ปรมิ าตรและความจโุ ดยใช้หน่วยที่ไม่ใชห่ น่วยมาตรฐาน เป็นช้อนชา ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวง ลติ ร การคาดคะเนของ
การวัดความยาว และการวัดนำ้ หนัก การเปรียบเทียบโดยใช้ความสัมพันธ์ของการวัดความยาว การวัดน้ำหนัก
และการวัดปรมิ าตรและความจุ การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั เวลา การวดั ความยาว น้ำหนกั ปริมาตรและความจุ
รูปเรขาคณิตสองมิติ โดยการบอกชนดิ ของรปู เรขาคณิตสองมิติ รปู หลายเหล่ยี ม รูปวงกลม รูปวงรี และเขียนรูป
เรขาคณิตสองมิติ โดยใช้แบบของรูปการนำเสนอข้อมูล การอ่านแผนภูมิรูปภาพ จำนวนครูและนักเรียนใน
โรงเรยี น
โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรใ์ นการแก้ปัญหาในสถานการณต์ ่างๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
รูจ้ กั ใช้วิธีการทห่ี ลากหลายในการแกป้ ัญหา
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสารสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์และสามารถนำไปใช้ในการเรยี นรู้สง่ิ ตา่ งๆและใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่างสร้างสรรค์ มี
ระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ รวมท้งั
เหน็ คณุ ค่าและมีเจตคตทิ ่ีดีต่อคณติ ศาสตร์
ตัวชีว้ ดั
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑
รวม ๑๖ ตวั ชวี้ ดั
รหัสวิชา ค13101 คณิตศาสตร์ คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
เวลา 200 ชว่ั โมง
ศึกษาเกี่ยวกับการอ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนงั สือแสดงจำนวนนับไม่เกนิ
100,000 และ 0 เปรียบเทียบ และเรียงลำดบั จำนวนนับไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ต่างๆ บอก อ่าน
และเขียนเศษส่วนแสดงปริมาณสิ่งต่างๆ และแสดงสิ่งต่างๆ ตามเศษส่วนที่กำหนด เปรียบเทียบเศษส่วนที่ตวั
เศษเทา่ กัน โดยท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรอื เท่ากับตัวส่วน หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก
และประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยค
สญั ลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กับจำนวนไม่เกนิ 4 หลกั และจำนวน 2 หลักกับจำนวน 2 หลัก หา
ค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการหารทีต่ ัวตั้งไม่เกิน 4 หลัก ตัวหาร 1 หลัก หาผลลัพธ์การ
บวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้นั ตอน
ของจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0 หาผลบวกของเศษส่วนท่มี ตี ัวส่วนเทา่ กันและผลบวกไม่เกนิ 1 และหา
ผลลบของเศษส่วนท่ีมตี ัวสว่ นเท่ากนั แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกเศษสว่ นทมี่ ีตัวส่วนเท่ากันและ
ผลบวกไม่เกิน และโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วน ที่มีตัวส่วนเท่ากัน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ
เงิน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับเวลาและระยะเวลา เลือกใช้เครื่องวัดความยาวที่เหมาะสม วัด
และบอกความยาวของสิ่งตา่ งๆ เปน็ เซนตเิ มตรและมลิ ลิเมตร เมตรและเซนตเิ มตร คาดคะเนความยาว เป็นเมตร
และเป็นเซนตเิ มตร เปรยี บเทียบความยาวระหวา่ งเซนติเมตรกบั มิลลิเมตร เมตรกับเซนตเิ มตร กโิ ลเมตรกับเมตร
จากสถานการณ์ต่างๆ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตรและ
มิลลิเมตร เมตร และเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร เลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัด และบอกน้ำหนักเป็น
กิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้ำหนักระหว่าง
กิโลกรัมกับกรมั เมตริกตนั กับกิโลกรมั จากสถานการณ์ตา่ งๆ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับน้ำหนัก
ทมี่ หี น่วยเปน็ กิโลกรัมกบั กรมั เมตริกตนั กับกโิ ลกรัม เลือกใชเ้ ครอื่ งตวงทเี่ หมาะสม วัดและเปรียบเทยี บ ปริมาตร
ความจเุ ป็นลิตรและมิลลลิ ิตร คาดคะเนปรมิ าตรและความจเุ ปน็ ลิตร แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับ
ปริมาตร และความจุทีม่ ีหนว่ ยเป็นลิตรและมิลลิลิตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มแี กนสมมาตรและจำนวนแกน
สมมาตร เขียนแผนภูมิรูปภาพ และใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา เขียนตาราง
ทางเดียวจากขอ้ มูลทเ่ี ป็นจำนวนนับ และใชข้ ้อมูลจากตารางทางเดยี วในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา
โดยใช้กระบวนการทักษะทางคณิตศาสตร์ในการอ่านและเขียน เปรียบเทียบ คาดคะเน เรียงลำดับ
ตวั เลข แสดงจำนวนนับ เศษส่วน หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ หาผลลพั ธ์ แสดงวิธีหาคำตอบ ระบุจำนวนที่หายไปใน
แบบรูป เลือกใช้เครื่องมือวัด ระบุรูปเรขาคณิต เขียนแผนภูมิ เขียนตารางทางเดียว และใช้ข้อมูลจากตาราง
บูรณาการกระบวนการคิดสร้างสรรค์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการวิเคราะห์
กระบวนการสร้างความตระหนัก การให้เหตุผลอิงหลักการ การฝึกปฏิบัติ ผ่านกระบวนการเรียนรูต้ ามแนวคดิ
Active Learning
เพื่อให้ผูเ้ รียนมีทักษะในการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ในสถานการณ์ตา่ งๆ มีความสามารถในการ
คดิ แกป้ ญั หา ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทำงานทางคณติ ศาสตร์ ใชค้ วามร้ทู างคณติ ศาสตรเ์ ป็นเคร่อื งมือในการเรียนรู้
เน้อื หาต่างๆ หรอื ศาสตรอ์ ่ืนๆ และนำทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ไปใช้ในชีวติ จรงิ
ตัวช้วี ัด
ค 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10,
ป.3/11
ค 1.2 ป.3/1
ค 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10,
ป. 3/11, ป.3/12, ป.3/13
ค 2.2 ป.3/1
ค 3.1 ป.3/1, ป.3/2
รวมทงั้ หมด 28 ตัวชี้วัด
คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง
ศึกษาเกี่ยวกับการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับท่ี
มากกว่า 100,000 การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 จากสถานการณ์ต่างๆ
บอก อ่านและเขียนเศษส่วน จำนวนคละแสดง ปริมาณสิ่งต่างๆ และแสดงสิ่งต่างๆ ตามเศษส่วน จำนวนคละที่
กำหนด การเปรียบเทียบ เรียงลำดับเศษสว่ น และจำนวนคละที่ ตัวส่วนตัวหนึ่งเปน็ พหุคูณของอกี ตัวหนึ่ง การ
อ่านและเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง แสดงปริมาณของสิ่งต่างๆ และแสดงสิ่งต่างๆ ตามทศนิยมที่กำหนด
เปรยี บเทียบและเรียงลำดบั ทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำแหน่ง จากสถานการณต์ ่างๆ การประมาณผลลัพธ์ของการบวก
การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ตา่ งๆ อยา่ งสมเหตสุ มผล หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนับท่ีมากกว่า 100,000 และ 0 หาค่าของตวั ไม่
ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวนหลายหลัก 2 จำนวน ที่มีผลคูณไม่เกิน 6 หลัก และ
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตวั ต้ัง ไม่เกิน 6 หลัก ตัวหารไมเ่ กิน 2 หลัก การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ
หารระคนของจำนวนนับ และ 0 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจำนวนนับที่มากกว่า
100,000 และ 0 สร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนบั และ 0 พร้อมทั้งหาคำตอบ หาผลบวก ผลลบ
ของเศษสว่ นและจำนวนคละท่ีตัวส่วนตัวหนงึ่ เป็นพหุคูณของอีกตวั หนง่ึ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการ
บวกและโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนและจำนวนคละทีต่ ัวส่วนตวั หนึ่งเป็นพหุคณู ของอกี ตัวหน่ึง การหาผลบวก
ผลลบของทศนิยม ไม่เกิน 3 ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ 2 ขั้นตอนของ
ทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา วัดและสร้างมุม โดยใช้โพร
แทรกเตอร์ การแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
การจำแนกชนิดของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม การสร้างรูปสี่เหลีย่ มมมุ
ฉากเมื่อกำหนดความยาวของด้าน การใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทาง ในการหาคำตอบของโจทย์
ปัญหา
โดยใช้กระบวนการทักษะทางคณิตศาสตร์ในการอ่านและเขียน จำแนก เปรียบเทียบ เรียงลำดับ
ประมาณผลลัพธ์ หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ หาผลลัพธ์ แสดงวิธีหาคำตอบ สร้างโจทย์ปัญหา วัดและสรา้ งมุม ใช้
ข้อมูลจากแผนภูมิในการหาคำตอบ บูรณาการกระบวนการคิดสร้างสรรค์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการ
กลุ่ม กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสร้างความตระหนัก การให้เหตุผลอิงหลักการ การฝึกปฏิบัติ ผ่าน
กระบวนการเรยี นรูต้ ามแนวคดิ Research Based Learning
เพื่อให้ผูเ้ รียนมีทักษะในการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ในสถานการณ์ต่างๆ มีความสามารถในการ
คิดแก้ปัญหา รับฟังและให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ในการสนับสนุนความคิด ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานทาง
คณิตศาสตร์ ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ หรือศาสตร์อื่นๆ และนำทักษะ
ทางคณิตศาสตร์ไปใชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ชวี้ ัด
ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9,
ป.4/10, ป.4/11, ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/15, ป.4/16
ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2
ค 3.1 ป.4/1
รวม 22 ตัวช้ีวดั
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง
ทศนยิ ม บอกความสัมพันธร์ ะหวา่ งเศษสว่ นและทศนยิ ม ค่าประมาณของทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตำแหน่งที่
เป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม ๑ ตำแหน่ง และ ๒ ตำแหนง่ การใช้เครือ่ งหมาย ≈
จำนวนนับ และ ๐ การบวก การลบ แกโ้ จทย์ปัญหาโดยใช้บทบัญญัตไิ ตรยางศ์ได้
การบวก การลบ การประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่างๆ
อย่างสมเหตุสมผล การบวก การลบ จำนวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ การคูณจำนวนหลายหลัก ๒
จำนวนทม่ี ผี ลคูณไม่เกนิ ๖ หลกั การหารท่ีตวั ตัง้ เกนิ ๖ หลกั ตวั หารไมเ่ กิน ๒ หลกั การแกโ้ จทย์ปัญหาและการ
สรา้ งโจทย์ปัญหา พร้อมทง้ั หาคำตอบโดยวิธกี ารบวก ลบ คูณ หาร
เศษสว่ น และการบวก การลบ การคณู และการหาร เปรยี บเทียบเศษสว่ นและจำนวนคละ บวก ลบ
คูณ หาร เศษส่วนและจำนวนคละได้ การแกโ้ จทย์ปญั หาเศษสว่ นและจำนวนนับ
การคณู และการหารทศนยิ ม ประมาณผลลพั ธข์ องการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม คูณและ
หารทศนิยมพร้อมทัง้ แกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกบั ทศนยิ มได้
รอ้ ยละหรือเปอร์เซน็ ต์ อ่านและเขยี นร้อยละหรือเปอรเ์ ซ็นต์ และการแกโ้ จทย์ปญั หารอ้ ยละ
ความยาว บอกความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาวเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร
กิโลเมตรกับเมตร โดยใช้ความร้เู ร่ืองทศนิยม พรอ้ มท้งั แก้โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวโดยใช้ความรู้เร่ืองการ
เปลย่ี นหนว่ ยและทศนิยมได้
นำ้ หนัก บอกความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยความยาวกโิ ลกรัมกับกรมั โดยใช้ความรู้เร่ืองทศนยิ ม พร้อม
ท้งั แกโ้ จทยป์ ัญหาเกีย่ วกับนำ้ หนกั โดยใชค้ วามรู้เร่ืองการเปลย่ี นหน่วยและทศนยิ มได้
ปริมาตรและความจุ ปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
บอกความสัมพันธ์ระหว่างมิลลิลิตร ลิตร ลูกบาศก์เซนติเมตรและลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งแก้ปัญหาเกี่ยวกับ
ปริมาตรของทรงส่ีเหล่ียมมมุ ฉากและความจุของภาชนะทรงสีเ่ หล่ียมมุมฉาก
รูปเรขาคณิต เส้นตั้งฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก เส้นขนานและสัญลักษณ์แสดงการขนาน
การสร้างเส้นขนาน มมุ แย้ง มมุ ภายใน และมุมภายนอกที่อยู่บนข้างเดยี วกนั ของเส้นตัดขวาง
รูปเรขาคณิตสองมิติ ความยาวรอบรูปของสี่เหลี่ยม พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรปู สี่เหลี่ยม
ขนมเปียกปูน และแก้ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลี่ยมและพืน้ ที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและ
รูปส่เี หลี่ยมขนมเปยี กปนู บอกชนดิ และสมบัตขิ องรปู สีเ่ หลยี่ ม สรา้ งรูปส่ีเหลี่ยมได้
รปู เรขาคณติ สามมติ ิ บอกลักษณะและส่วนต่างๆของปริซมึ
การนำเสนอข้อมูล การอา่ นและการเขยี นแผนภูมิแทง่ การอ่านกราฟเสน้
ตวั ชวี้ ัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ,ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ,ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวมทง้ั หมด ๑๙ ตัวช้ีวัด
คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง
ศกึ ษาตัวประกอบ จำนวนเฉพาะ และตัวประกอบเฉพาะ การแยกตัวประกอบ ห.ร.ม. ค.ร.น. โจทย์
ปัญหาเกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. การเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การเรียงลำดับเศษส่วนและ
จำนวนคละ การบวก การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก
ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ การแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของเศษส่วน
และจำนวนคละ ความสมั พนั ธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม การหารทศนิยมท่ตี วั หารและผลหารเปน็ ทศนิยมไม่
เกิน 3 ตำแหน่ง โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับทศนิยม อัตราส่วน อัตราส่วนที่เท่ากัน มาตราส่วน โจทย์ปัญหา
อัตราสว่ นและมาตราสว่ น โจทยป์ ัญหารอ้ ยละ ชนิดและสมบัติของรูปสามเหล่ียม การสร้าง รูปสามเหล่ียม
ส่วนต่างๆ ของวงกลม การสร้างวงกลม ความยาวรอบรปู และพื้นที่ของรูปสามเหลีย่ ม มุมภายในของรปู
สามเหลี่ยม ความยาวรอบรปู และพ้ืนทีข่ องรปู หลายเหลยี่ ม โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรปู และพ้ืนที่ของ
รูปหลายเหลี่ยม ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของ
วงกลม ลักษณะของทรงกลม ทรงกระบอก กรวย และพีระมิด รูปคล่ขี องทรงกระบอก กรวย ปรซิ มึ และ
พีระมดิ ปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบด้วยทรงส่เี หล่ยี มมมุ ฉาก โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั ปริมาตรของ
รูปเรขาคณติ สามมิตทิ ีป่ ระกอบดว้ ยทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉาก การแกป้ ญั หาแบบรูป และการนำเสนอข้อมูล
โดยการจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ในชีวิตประจำวนั ที่ใกลต้ ัวให้ผู้เรยี นได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึก
ทักษะ โดยการปฎบิ ัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพฒั นาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การเชี่ยมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้
ความคิด ทกั ษะและกระบวนการท่ไี ด้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิ่งต่างๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่างสรา้ งสรรค์
เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ
รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณ มคี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์และมคี วามเช่อื มน่ั ในตนเอง
ตวั ช้ีวัด
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐,
ป.๖/๑๑, ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑
รวม ๒๑ ตวั ช้ีวดั
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาและฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล
การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์
และการเช่อื มโยงคณติ ศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดสรา้ งสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี
จำนวนตรรกยะ จำนวนเต็มบวก เต็มลบ และศูนย์ การเปรียบเทยี บจำนวนเต็ม จำนวนตรง
ข้าม และคา่ สัมบูรณ์ การบวก การลบ การคูณ และการหารจำนวนเตม็ สมบตั ิของจำนวนเตม็ และการนำไปใช้
ความสัมพันธ์ของเศษส่วนและทศนิยม สมบัติของจำนวนตรรกยะและการนำไปใช้
การสร้างทางเรขาคณิต การสร้างเกย่ี วกับสว่ นของเสน้ ตรง มมุ เส้นตงั้ ฉาก รูปเรขาคณิตสอง
มติ ิ มุมท่มี ขี นาดต่างๆ การสร้างเส้นขนาน และการนำไปใช้
เลขยกกำลงั การเขยี นเลขยกกำลังที่มีเลขชกี้ ำลงั เป็นจำนวนเต็มบวก สมบตั ิของเลขยกกำลังท่ี
มเี ลขชี้กำลังเปน็ จำนวนเต็มบวก และการนำไปใช้
มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ และภาพที่ได้จากการมอง
ด้านหนา้ ดา้ นข้าง ด้านบนของรูปเรขาคณติ สามมิติที่ประกอบขนึ้ จากลกู บาศก์ แบบรปู และความสัมพันธ์
โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง
สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิดคำนวณ แก้ปัญหา การให้เหตุผล และนำความรู้
ความคิด ทกั ษะกระบวนการที่ไดไ้ ปใช้ในชวี ิตประจำวัน
อย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็น
ระบบ มรี ะเบยี บ มคี วามรับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ มคี วามคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ และมีความเช่อื ม่ันในตนเอง
การวัดและการประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพที่เป็นจริงสอดคล้อวกับเนื้อหาและ
ทักษะที่ตอ้ งการวัด
ตัวช้วี ัด
ค ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒
ค ๒.๒ ม.๑/๑ ,ม.๑/๒
รวมทั้งหมด ๔ ตวั ชว้ี ดั
คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ค ๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาและฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล
การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์
และการเชอื่ มโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ ในสาระต่อไปนี้
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว คำตอบของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การแก้สมการเชิงเสน้ ตัว
แปรเดียว โดยใชส้ มบตั ิการเท่ากันและสมบัตขิ องจำนวน และการนำไปใช้
อัตราส่วน อัตราส่วนของจำนวนหลายๆจำนวน สัดส่วน การนำความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน
สัดสว่ นและรอ้ ยละไปใชใ้ นชีวติ จรงิ
สมการเชิงเสน้ สองตัวแปร กราฟของความสมั พนั ธเ์ ชงิ เส้น สมการเชิงเส้นสองตวั แปร และการ
นำความรู้เกีย่ วกับสมการและกราฟของความสมั พันธ์ไปใช้ในชวี ิตจรงิ
สถิติ การตั้งคำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การนำเสนอข้อมูล ด้วย แผนภูมิรูปภาพ
แผนภูมิแทง่ กราฟเส้น แผนภมู ิวงกลม และการแปลความหมายข้อมูล บคุ คล ทรัพยากร ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
ในทอ้ งถิ่นตลอดจนการนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง
โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง
สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิดคำนวณ แก้ปัญหา การให้เหตุผล และนำความรู้
ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิม
สรา้ งสรรค์ และมีความเช่อื ม่ันในตนเอง
การวัดและการประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพที่เป็นจริงสอดคล้อวกับเนื้อหาและ
ทกั ษะท่ีต้องการวัด
ตวั ช้วี ัด
ค ๑.๑ ม.๑/๓
ค ๑.๓ ม.๑/๑, ม.๑/๒ ,ม.๑/๓
ค ๓.๑ ม.๑/๑
รวมท้ังหมด ๕ ตัวชวี้ ัด
คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
ศึกษาและฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล
การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์
และการเชื่อมโยงคณติ ศาสตร์กับศาสตร์อืน่ ๆและมคี วามคิดสร้างสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี
สมบตั ขิ องเลขยกกาํ ลงั บทนยิ ามและสมบัตอิ ื่นๆ ของเลขยกกําลงั การคณู และการหาร เลขยก
กาํ ลังทีม่ เี ลขช้ีกําลังเป็นจาํ นวนเตม็ และการนําไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาในสถานการณต์ า่ งๆ
ความรู้เบื้องต้นเกีย่ วกับจำนวนจริง จำนวนจริง จำนวนอตรรกยะ รากที่สอง และรากที่สาม
ของจำนวนตรรกยะ เลขยกกาํ ลังที่มเี ลขชี้กาํ ลงั เป็นจํานวนเตม็ และการนําไปใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์
ต่างๆ
พหุนาม หลักการดำเนินการของพหุนาม การบวก การลบ การคูณพหนาม และการหารพหุ
นามด้วยเอกนามที่มีผลหารเป็นพหุนาม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้สมบัติการแจกแจง
กำลังสองสมบรู ณ์ ผลตา่ งของกำลังสอง และการใช้พหุนามในแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์
การแปลงทางเรขาคณิต การเล่อื นขนาน การสะทอ้ น การหมุนและการนำไปใช้
ความเทา่ กนั ทุกประการ สมบัตขิ องความเท่ากันทกุ ประการของสามเหลีย่ ม
โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษาคน้ คว้าโดยการปฏิบัตจิ รงิ ทดลอง
สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิดคำนวณ แก้ปัญหา การให้เหตุผล และนำความรู้
ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ และมคี วามเชอ่ื ม่นั ในตนเอง
เสน้ ขนาน สมบตั ิของเสน้ ขนาน สมบัตขิ องรปู สามเหลี่ยม กรใหเ้ หตผุ ลและการแก้ปัญหาโดย
ใช้สมบตั ขิ องเสน้ ขนานและความเท่ากันทุกประการของรปู สามเหลี่ยม
การวัดและการประเมินผล ใช้วิธีการทีห่ ลากหลายตามสภาพที่เป็นจรงิ สอดคลอ้ งกับเน้ือหาและ
ทกั ษะทีต่ ้องการวัด
ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒
ค ๑.๒ ม.๒/๑
ค ๒.๒ ม.๒/๒
ค ๒.๒ ม.๒/๓
ค ๒.๒ ม.๒/๔