รวมทงั้ หมด ๖ ตวั ช้ีวดั
คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ค ๒๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศกึ ษาและฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรอ์ นั ไดแ้ ก่ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การ
สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรูต้ ่างๆ ทางคณิตศาสตร์ และ
การเชอ่ื มโยงคณิตศาสตร์กบั ศาสตรอ์ ื่น ๆ และมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี
การแยกตัวประกอบของพหุนาม การหารพหุนาม ตัวประกอบของพหนุ าม การแยกตัวประกอบ
ของพหุนามโดยใชส้ มบัติการแจกแจง การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดกี รีสองตัวแปรเดยี ว การแยกตัวประกอบ
ของพหุนามดกี รสี องทเ่ี ปน็ กำลงั สองสมบรู ณ์ และการแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดกี รสี องทเี่ ป็นผลตา่ งกำลงั สอง
ทฤษฎีบทพีทาโกรัส ทฤษฎีบทพีทาโกรัส บทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัส การก้ปัญหาหรือ
สถานการณท์ ่ีใช้ทฤษฎีบทพีทาโกรสั และบทกลบั
พื้นที่ผิวและปริมาตร การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ของปริซึม ทรงกระบอก และการนําไปใชใ้ น
การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั พนื้ ท่ผี ิวและปริมาตรในสถานการณต์ า่ งๆ
สถิติ การนำเสนอและการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วย แผนภาพจุด แผนภาพต้น-ใบ ฮิสโทรแกรม
การหาค่ากลางของข้อมูล การเลือกใช้ค่ากลางของข้อมูล การอ่านการแปลความหมายและการวิเคราะห์ข้อมูล
และการนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน
การใชเ้ หตผุ ลเก่ียวกับการสรา้ งทางคณิตศาสตร์ การนำความรู้ทางเรขาคณติ ใชแ้ ก้ปญั หา
โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน
เพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิดคำนวณ แก้ปัญหา การให้เหตุผล และนำความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์
สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบียบ มคี วามรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ และมี
ความเช่ือมนั่ ในตนเอง
การวัดและการประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพที่เป็นจริงสอดคล้อวกับเนื้อหาและ
ทกั ษะท่ีต้องการวัด
ตวั ชีว้ ดั
ค ๑.๒ ม.๒/๒
ค ๒.๑ ม.๒/๑
ค ๒.๑ ม.๒/๒
ค ๒.๒ ม.๒/๑,ม.๒/๕
ค ๓.๑ ม.๒/๑
รวมท้ังหมด ๖ ตวั ช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
ศกึ ษาและฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรอ์ ันไดแ้ ก่ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตผุ ล
การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์
และการเช่อื มโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อ่ืน ๆ และมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ในสาระตอ่ ไปน้ี
พื้นที่ผิวและปริมาตร การหาพื้นที่ผิวและปริมาตรของพีระมิด กรวย ทรงกลม และการ
แกป้ ัญหาโดยใชค้ วามรเู้ กีย่ วกบั พนื้ ที่ผิวและปริมาตรในสถานการณ์ตา่ งๆ
พหุนาม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดย
อาศัยวธิ ีทำเปน็ กำลังสองสมบูรร์หรือใช้ทฤษฎีเศษเหลือ
สมการกำลงั สองตวั แปรดยี ว การแก้สมการกำลังสองตวั แปรดยี วโดยการแยกตวั ประกอบ
การใช้สูตร การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ียวกบั สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว
ฟงั ก์ชันกำลังสอง กราฟของฟังกช์ นั กำลงั สอง และการใช้ฟงั ก์ชันกำลังสองในแกโ้ จทย์ปัญหา
คณติ ศาสตร์
ระบบสมการ ระบบสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร การแกร้ ะบบสมการเชงิ เส้นสองตัวแปรดีกรี
ไม่เกนิ สอง การแกโ้ จทยป์ ญั หาระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปรดีกรไี ม่เกินสอง
วงกลม คอรด์ เสน้ สัมผัสวงกลม ทฤษฏเี ก่ยี วกบั วงกลม และ การใช้ทฤษฏีเกยี่ วกบั วงกลมใน
การแกโ้ จทย์ปัญหาทางคณติ ศาสตร์
โดยจัดประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นควา้ โดยการปฏบิ ัติจริง ทดลอง
สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิดคำนวณ แก้ปัญหา การให้เหตุผล และนำความรู้
ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ และมคี วามเชื่อมนั่ ในตนเอง
การวัดและการประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพที่เป็นจริงสอดคล้อวกับเนื้อหาและ
ทกั ษะทีต่ อ้ งการวัด
ตัวชี้วัด
ค ๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒,
ค ๑.๓ ม.๓/๒, ม ๓/๓
ค ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒,
ค ๒.๒ ม ๓/๓
รวมท้ังหมด ๗ ตวั ช้วี ัด
คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
ค ๒๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาและฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล
การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์
และการเช่อื มโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตรอ์ ืน่ ๆ และมีความคดิ สร้างสรรค์ ในสาระตอ่ ไปนี้
อสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว คำตอบและกราฟแสดงคำตอบของอสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว
การแกอ้ สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียวโดยใช้สมบัติของการไมเ่ ท่ากนั การนำความรเู้ กี่ยวกับอสมการเชงิ เส้นตัวแปร
เดยี วไปใช้แกป้ ัญหาในสถานะการณ์ตา่ งๆ
ความคล้าย รูปสามเหลี่ยมที่คล้ายกัน สมบัติของรูปสามเหลี่ยมที่คล้ายกัน การนำความรู้
เกี่ยวกับความคลา้ ยไปใชใ้ นการแก้ปัญหา
อัตราสว่ นตรโี กณมติ ิ การนำค่าอัตราสว่ นตรีโกณของมมุ ๓๐ องศา ๔๕ องศา ๖๐ องศา
ความน่าจะเป็น เหตุการณ์จากการทดลองสุ่ม ความน่าจะเป็น การนำความรู้เกี่ยวกับความ
นา่ จะเป็นไปใชใ้ นชีวิตจริง
สถิติ การนำเสนอและการวเิ คราะห์ข้อมูล ด้วย แผนภาพกลอ่ ง การอา่ นการแปลความหมาย
การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และการนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง
สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิดคำนวณ แก้ปัญหา การให้เหตุผล และนำความรู้
ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเริ่ ม
สร้างสรรค์ และมคี วามเชื่อมนั่ ในตนเอง
การวัดและการประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพที่เป็นจริงสอดคล้อวกับเนื้อหาและ
ทักษะทต่ี ้องการวัด
ตวั ชวี้ ดั
ค ๑.๓ ม.๓/๑
ค ๒.๒ .ม.๓/๑, ม.๓/๒
ค ๓.๑ ม.๓/๑
ค ๓.๒ ม.๓/๑
รวมท้งั หมด ๕ ตัวชีว้ ัด
รายวิชากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชาพืน้ ฐาน
ระดับชนั้ ประถมศึกษา
ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชั่วโมง
ว ๑2๑๐๑
ว ๑3๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชว่ั โมง
ว ๑4๑๐๑
ว ๑5๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 80 ชัว่ โมง
ว ๑6๑๐๑
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชวั่ โมง
ว 21๑๐๑
ว 21๑๐2 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชั่วโมง
ว 22๑๐1
ว 22๑๐2 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง
ว 23๑๐1
ว 2๓๑๐๒ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลาเรยี น ๖๐ ช่ัวโมง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง
รายวชิ าเพ่ิมเติม
ว ๑42๐๑ ระดับชั้นประถมศึกษา เวลา 40 ชว่ั โมง
ว ๑52๐๑ เวลา 40 ชว่ั โมง
ว ๑62๐๑ ของเล่นเชิงวิทยาศาสตรแ์ ละสนุกกบั โครงงาน เวลา 40 ชั่วโมง
ของเล่นเชิงวิทยาศาสตร์และสนุกกับโครงงาน
ว 212๐๓ เวลาเรียน 2๐ ชว่ั โมง
ว 212๐๔ ของเล่นเชิงวทิ ยาศาสตร์และสนุกกบั โครงงาน เวลาเรียน 2๐ ชว่ั โมง
ว 222๐๓ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น เวลาเรยี น 2๐ ชว่ั โมง
ว 222๐๔ เวลาเรยี น 2๐ ช่วั โมง
ว 232๐๓ โครงงานวิทยาศาสตร์เพอื่ สขุ ภาพ เวลาเรยี น 2๐ ชั่วโมง
ว 2๓2๐๔ เวลาเรียน 2๐ ชัว่ โมง
โครงงานวิทยาศาสตร์กบั ความงาม
โครงงานวทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือสุขภาพ
โครงงานวทิ ยาศาสตรก์ ับความงาม
โครงงานวทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื สุขภาพ
โครงงานวิทยาศาสตร์กับความงาม
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษา
ว ๑๑2๐๑ คอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 1 เวลาเรียน 40 ชัว่ โมง
ว ๑22๐๑
ว ๑32๐๑ คอมพิวเตอรเ์ สริม 2 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง
ว ๑42๐๑
ว ๑52๐๑ คอมพิวเตอร์เสริม 3 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง
ว ๑62๐๑
คอมพวิ เตอรเ์ สริม 4 เวลาเรยี น 8๐ ชว่ั โมง
ว 212๐๑
ว 212๐2 คอมพิวเตอร์เสริม 5 เวลาเรียน 8๐ ชั่วโมง
ว 222๐1
ว 222๐2 คอมพวิ เตอร์เสริม 6 เวลาเรียน 8๐ ชั่วโมง
ว 232๐1
ว 2๓2๐๒ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
คอมพิวเตอรเ์ สริม 1 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง
คอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 2 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง
คอมพวิ เตอร์เสริม 3 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง
คอมพวิ เตอร์เสริม 4 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง
คอมพวิ เตอร์เสรมิ 5 เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง
คอมพวิ เตอรเ์ สริม 6 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง
คำอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหัสวิชา ว 11101 คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 รายวชิ าพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
เวลา 80 ช่ัวโมง
ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะและหน้าที่ของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช
รวมทง้ั การทำหน้าทร่ี ว่ มกนั ของสว่ นต่างๆของร่างกายมนุษย์ ความสำคัญของส่วนตา่ งๆของร่างกายตนเอง และ
การดแู ลส่วนต่างๆอยา่ งถูกตอ้ ง ปลอดภยั และรกั ษาความสะอาดอยเู่ สมอ ชื่อพชื และสตั ว์ท่ีอาศยั อยูบ่ รเิ วณต่างๆ
ในท้องถ่ิน สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมในบรเิ วณที่พืชและสัตว์อาศัยอยู่ สมบัติที่สังเกตได้ของวัสดทุ ี่ใช้ทำวัตถซุ ่ึง
ทำจากวัสดุชนิดเดยี วหรือหลายชนดิ ประกอบกัน ชนดิ ของวัสดุและจัดกลุ่มวัสดตุ ามสมบัตทิ ี่สังเกต การเกิดเสียง
และทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียง ลักษณะภายนอกของหินจากลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกต ดาวที่ปรากฏบน
ทอ้ งฟา้ ในเวลากลางวันและกลางคืน และสาเหตทุ ี่มองไม่เหน็ ดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวัน และแก้ปัญหาโดยใช้
การลองผิดลองถูกการเปรียบเทียบ แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ
สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียนโปรแกรมและใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล รวมทั้งใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลง ในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์
เบอ้ื งตน้ และใชง้ านอยา่ งเหมาะสม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บอก ตระหนัก บรรยาย อธิบาย สร้างแบบจำลอง
เปรยี บเทยี บ ทดลอง แก้ปญั หา โดยการลองผิดลองถูก เขยี นโปรแกรม ใชเ้ ทคโนโลยี ในการสร้าง จัดเก็บข้อมูล
บูรณาการกระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกลุ่ม ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคดิ
Active Learning
เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสัมพันธ์ ระหว่างวิทยาศาสตร์ กับสภาพแวดล้อม
เป็นผู้มีจติ วทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มในการใช้วิทยาศาสตรอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์
ตัวช้วี ดั
ว 1.1 ป.1/1 ป.1/2
ว 1.2 ป.1/1 ป.1/2
ว 2.1 ป.1/1 ป.1/2
ว 2.3 ป.1/1
ว 3.1 ป.1/1 ป.1/2
ว 3.2 ป.1/1
ว 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5
รวมท้งั หมด 15 ตวั ชว้ี ดั
คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
รหสั วิชาว12101 รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 80 ช่ัวโมง
เปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต พืชต้องการแสงและน้ำเพื่อการเจริญเติบโต
ของพืช โดยดแู ลพชื ใหไ้ ด้รับปจั จัยอย่างเหมาะสม วัฏจักรชวี ิตของพืชดอก สมบตั กิ ารดูดซับน้ำของวัสดุ และ
การนำสมบัติการดูดซับน้ำของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวัน สมบัติที่สังเกตได้
ของวัสดุทีเ่ กดิ จากการนำวสั ดุมาผสมกนั เปรยี บเทยี บสมบัตทิ สี่ ังเกตไดข้ องวัสดุ ประโยชน์ของการนำวัสดุที่ใช้
แล้วกลับมาใช้ใหม่ การเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสง การมองเห็นวัตถุและแนวทางการป้องกัน
อนั ตรายจากการมองวัตถุทอี่ ยู่ในบริเวณทม่ี ีแสงสว่างไม่เหมาะสม ส่วนประกอบของดินและชนิดของดิน การ
ใช้ประโยชนจ์ ากดิน การแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สญั ลักษณห์ รือ
ขอ้ ความ การเขยี นโปรแกรมและใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรียกใช้ขอ้ มลู รวมทั้ง
ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัตติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์รว่ มกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์
เบื้องต้น และใช้งานอย่างเหมาะสม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสร้างแบบจำลอง เปรียบเทียบข้อมูล อธิบายสมบัติท่ี
สังเกตได้ เขียนโปรแกรมและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ
บูรณาการกระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกลุ่ม ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้
ตามแนวคดิ Active Learning
เพื่อให้ผู้เรียนแสดงความกระตือรือร้น สนใจ เกิดที่จะเรียนรู้ มีความติดสร้างสรรค์ เกี่ยวกับ
เรื่องที่ศึกษาตามลักษณะของผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้
ในชีวิตประจำวนั
ตัวชี้วดั
ว 1.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3
ว 1.3 ป.2/1
ว 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
ว 2.3 ป.2/1 ป.2/2
ว 3.2 ป.2/1 ป.2/2
ว 4.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
รวมทงั้ หมด 16 ตวั ชีว้ ดั
คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
รหสั วชิ า ว 13101 รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 80 ชว่ั โมง
ศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยท่ีจำเปน็ ต่อการดำรงชีวิต และการเจริญเตบิ โตของมนุษย์และสัตว์ ประโยชน์
ของอาหาร น้ำ และอากาศ วัฏจักรชีวิตของสัตว์ คุณค่าของชีวิตสัตว์ วัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อยๆ
สามารถแยกออกจากกนั และประกอบกนั เป็นวัตถุชิ้นใหม่ การเปล่ียนแปลงของวสั ดุเมอ่ื ทำให้ร้อนขึ้นหรือทำ
ให้เยน็ ลง แรงท่มี ีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลง แรงสมั ผัสและแรงไม่สัมผัสท่มี ีผลต่อการเคล่ือนที่ของวตั ถุ แรงดึงดูด
ของวัตถุและแรงแม่เหล็ก การเปลี่ยนแปลงพลังงาน ส่วนประกอบของอากาศ และความสำคัญของอากาศ
ผลกระทบของมลพิษทางอากาศตอ่ สิ่งมีชีวิต การเกดิ ลม ประโยชน์และโทษของลม การเกดิ ปรากฏการณ์การ
ขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ความสำคัญและประโยชน์ของดวง
อาทติ ย์ตอ่ สิ่งมชี วี ิต การแสดงอัลกอรทิ ึมในการทำงานหรอื การแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์หรือ
ข้อความ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายและใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ รวบรวม ประมวลผลและนำเสนอ
ข้อมูล รวมทัง้ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใช้อนิ เทอรเ์ นต็
โดย ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสร้างแบบจำลอง อธิบายการเปลี่ยนแปลงชองวัตถุ
ระบุผลของแรง เปรียบเทียบและยกตัวอย่าง จำแนกวัตถุ บรรยายการทำงาน อธิบายสาเหตุต่าง ๆ
จากแบบจำลอง แสดงอัลกอริทึมในการทำงาน เขียนโปรแกรมและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้อินเทอร์เน็ต
บูรณาการการบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการกลมุ่ ผ่านการจดั การเรยี นรู้ตามแนวคดิ Active Learning
เพ ื ่ อ ให้ ผู ้ เร ีย นตระหนั กถึง ปร ะโย ชน์ ขอ งการใช้ ความ รู ้และกร ะบว นก าร ทางวิ ทยาศาสตร์
ในการดำรงชีวิต ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมสำหรับทำโครงงานหรือชิ้นงานตามความสนใจด้วยความมุ่งมั่น
รอบคอบ ประหยัด ซอื่ สตั ย์และทำงานร่วมกับผู้อ่ืนอย่างมีความสขุ
ตัวชว้ี ดั
ว 1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4
ว 2.1 ป.3/1 ป.3/2
ว 2.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4
ว 2.3 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3
ว 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3
ว 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4
ว 4.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5
รวมทง้ั หมด 25 ตวั ชี้วัด
คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
รหสั วชิ า ว 1๔101 รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา 80 ช่วั โมง
ศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างและหนา้ ทีข่ องราก ลำตน้ ใบ และดอกของพชื ดอก ความแตกต่างลกั ษณะ
ของสิ่งมีชวี ติ ออกเป็นกลุ่มพชื กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ พืชดอกและพืชไม่มีดอก สัตว์มีกระดูก
สันหลงั และสตั วไ์ ม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะเฉพาะท่สี งั เกตได้ของสัตว์มีกระดกู สนั หลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์
สะเทินน้ำสะเทินบก กลมุ่ สตั ว์เลื้อยคลาน กลมุ่ นก และกล่มุ สัตว์เล้ียงลูกดว้ ยนม ทดลอง เปรียบเทียบสมบัติ
ของวสั ดุ ดา้ นความแขง็ สภาพยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดุ สมบัติของสสารและการ
ใช้เครื่องมือเพื่อวัดมวลและปริมาตรของสสารทั้ง 3 สถานะ แรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุ มวลที่มีผลต่อการ
เปลย่ี นแปลงการเคล่อื นท่ขี องวตั ถุ วตั ถุที่เปน็ ตัวกลางโปรง่ ใส โปรง่ แสง และวัตถทุ ึบแสง การข้ึนและตกของ
ดวงจนั ทร์ การเปล่ยี นแปลงรปู รา่ งปรากฏของดวงจันทร์ ระบบสุริยะและคาบการโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆ
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ การออกแบบ
และการเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟแวร์ ศึกษาการใช้อินเทอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ การประเมินความ
น่าเชื่อถือของข้อมูล และการรวบรวมข้อมูล ประเมินทางเลือก พร้อมทั้งการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตาม
ความเหมาะสม ศึกษาการใชซ้ อฟตแ์ วรเ์ พ่ือแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการบรรยายลักษณะเฉพาะ เปรียบเทียบสมบัติ
ทางกายภาพ แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกวัตถุ สร้างแบบจำลอง ใช้เหตุผลเชิง
ตรรกะในการแกป้ ญั หา ออกเขยี นและเขียนโปรแกรม ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือ ของข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ บูรณาการกระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกลุ่ม ผ่านการ
จัดการเรยี นรู้ ตามแนวคิด Active Learning
เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนแสดงความรับผดิ ชอบดว้ ยกระบวนการทำงานทีร่ บั มอบหมายอย่างรอบคอบ ประหยัด
ซื่อสัตย์ จนงานลุล่วงเป็นผลสำเร็จ แสดงความคิดเห็นของตนเองยอมรับในข้อมูลที่มีหลักฐานอ้างอิง และ
ทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื อย่าง
ตัวชีว้ ดั
ว 1.2 ป.4/1
ว 1.3 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4
ว 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4
ว 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ว 2.3 ป.4/1
ว 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ว 4.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5
รวมทงั้ หมด 21 ตัวชีว้ ัด
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
รหัสวิชา ว 1๕101 รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา 80 ชวั่ โมง
ศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตในท้องถิ่น
(จังหวัดปทุมธานี) ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่ ความสัมพันธ์ระหว่าง
สิง่ มชี วี ติ กับสง่ิ มีชีวิต และส่งิ มีชวี ติ กับส่งิ ไมม่ ชี วี ติ โซอ่ าหาร บทบาทหน้าท่ขี องผู้ผลติ และผู้บรโิ ภคส่ิงแวดลอ้ ม
ท่ีมผี ลต่อการดำรงชวี ติ ของสง่ิ มชี ีวิต ลกั ษณะทางพันธุกรรมทีม่ กี ารถา่ ยทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และ
มนุษย์ การเปล่ยี นสถานะของสาร การละลายของสาร การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลง ท่ีผันกลับ
ไดแ้ ละผันกลบั ไม่ได้ การหาแรงลพั ธ์ แรงท่ีกระทำต่อวัตถใุ นแนวเดียวกันและแรงลพั ธท์ ่กี ระทำตอ่ วัตถุ การใช้
เครื่องชั่งสปริงในการวัดแรงที่กระทำต่อวัตถุ แรงเสียดทาน การได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง ทดลอง อธิบาย
ลกั ษณะการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ เสยี งดงั เสยี งค่อย ระดับเสียง แนวทาง ในการหลกี เลี่ยง และลดมลพิษทาง
เสียง ปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง ปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ แนวทางการใช้น้ำอย่าง
ประหยัดและการอนุรักษ์น้ำ วัฏจักรน้ำ การเกิดเมฆ หมอก น้ำค้างและน้ำค้างแข็ง การเกิดฝน หิมะ และ
ลกู เหบ็ ความแตกตา่ งของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ การขนึ้ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟา้ การใช้แผนท่ี
ดาว การศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ การ
ออกแบบและการเขียนโปรแกรมทีม่ ีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ศึกษาการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล
ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล และการรวบรวมข้อมูล ประเมิน
ทางเลอื ก พรอ้ มท้ังการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตามความเหมาะสม ศึกษาการใช้ซอฟต์แวร์เพ่ือแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจำวัน และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาทเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสิทธิของผอู้ นื่
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการบรรยายโครงสรา้ ง อธิบายความสัมพันธ์ วิเคราะห์การ
เปลี่ยนแปลง เขยี นแผนภาพ ใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุตวั แปรทดลอง ออกแบบการทดลอง ใช้แผนที่ดาว
ใช้แบบจำลอง ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา ออกแบบละเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตใช้เทคโนโลยี บูรณาการกระบวนการวิเคราะห์
กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกลุ่ม ผา่ นการจัดการเรียนรูต้ ามแนวคิด Active Learning
เพอื่ ให้ผเู้ รยี นแสดงความมุง่ ม่นั สนใจท่จี ะเรียนรู้ มีความคิดสรา้ งสรรค์ เกยี่ วกับเรอ่ื ง ท่ีจะศึกษา โดย
ตระหนักในคณุ ค่าของความร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ความรู้และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการ
ดำรงชวี ติ แสดงความชน่ื ชม ยกยอ่ ง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น และศกึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติมด้วย
การทำโครงงานหรือชิ้นงานตามความสนใจ
ตวั ชี้วดั
ว 1.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4
ว 1.3 ป.5/1 ป.5/2
ว 2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4
ว 2.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 2.3 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 3.1 ป.5/1 ป.5/2
ว 3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
ว 4.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5
รวมทัง้ หมด 32 ตวั ชวี้ ดั
คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
รหัสวิชา ว 1๖101 รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลา 80 ชัว่ โมง
ศึกษาวิเคราะห์ สารอาหาร ประโยชน์และความสำคัญของสารอาหาร แนวทางในการเลือก
รับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความปลอดภัย
ต่อสุขภาพ หน้าที่และความสำคญั ของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร การย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
แนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ การแยกสารผสม โดยการหยบิ ออก
การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน รวมทั้งวิธีแก้ปัญหา
ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการแยกสาร การเกิดและผลของแรงไฟฟ้าที่เกิดจากวัตถุที่ผ่านการขัดถู
ส่วนประกอบ และหนา้ ทข่ี องวงจรไฟฟา้ อย่างง่าย การตอ่ วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย ทดลอง อธบิ าย
และบอกประโยชน์ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน
ประโยชน์ ข้อจำกัดของการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้งการประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจำวัน การเกิดเงามืดเงามัว กระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร วัฏจักรหิน
การใช้ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจำวัน การเกิดซากดึกดำบรรพ์และการคาดคะเนสภาพแวดล้อม
การเกดิ ลมบก ลมทะเล และมรสมุ รวมทง้ั ผลที่มีต่อสิง่ มชี ีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม ผลของมรสุมตอ่ การเกิดฤดูของ
ประเทศไทย ลกั ษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถลม่ แผ่นดินไหว สนึ ามิ ผลกระทบ
ของภัยธรรมชาตแิ ละธรณีพิบัติภัย แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและ
ธรณีพบิ ัติภยั ที่อาจเกดิ ขนึ้ ในทอ้ งถ่ิน การเกดิ ปรากฏการณ์เรอื นกระจก และผลของปรากฏการณเ์ รอื นกระจก
ต่อสิ่งมีชีวิต แนวทางการปฏิบัติตนเพื่อลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก การเกิดปรากฏการณ์
สุริยุปราคาและจันทรุปราคา พัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และการนำมาใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน
การศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบาย และออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน การ
ออกแบบและการเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล
อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสิทธขิ องผู้อืน่
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการบอกแนวทางในการเลือก อธิบายเปรียบเทียบ
เขียนแผนภาพ ต่อวงจร ออกแบบการทดลอง สร้างแบบจำลอง อธบิ ายพฒั นาการ อธบิ ายผลท่ีเกิดจากข้อมูล
ที่รวบรวม บรรยายลักษณะและผลกระทบ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ออกแบบและเขียนโปรแกรม
ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ และเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยความเข้าใจ
เพื่อให้ผู้เรียนซาบซึ้ง ห่วงใย ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า
นำความรู้ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชวี ิต เคารพสทิ ธิและหน้าท่ีของตนเองและของผู้อื่นกับ
ผอู้ น่ื อย่างสร้างสรรค์
ตวั ช้วี ัด
ว 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5
ว 2.1 ป.6/1
ว 2.2 ป.6/1
ว 2.3 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 ป.6/7 ป.6/8
ว 3.1 ป.6/1 ป.6/2
ว 3.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 ป.6/7 ป.6/8 ป.6/9
ว 4.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4
รวมทัง้ หมด 30 ตัวชี้วัด
คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
รหสั วิชา ว 2110๒ รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา ๖0 ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาและเรียนรู้สมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ จุดเดือด
จุดหลอมเหลวของ สารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม
การใช้เครื่องมือเพื่อวัดมวลและปริมาตรของสารบริสุทธิ์และสารผสม ความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม
ธาตุ และสารประกอบ โครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนโดย การจัดเรียง
อนุภาค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค และการเคลื่อนที่ของอนุภาคของสสารชนิดเดียวกันในสถานะของแข็ง
ของเหลว และแก๊ส รูปร่างและโครงสร้างของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ หน้าที่ของผนังเซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์
ไซโทพลาสซึม นิวเคลียส แวคิวโอล ไมโทคอนเดรียและคลอโรพลาสต์ การใชก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ใช้แสงศึกษาเซลล์
และโครงสรา้ งต่างๆ ภายในเซลล์ การจดั ระบบของสงิ่ มีชวี ิต โดยเร่ิมจากเซลล์เน้ือเย่อื อวัยวะ ระบบ อวัยวะ จน
เป็นสิ่งมีชีวิต กระบวนการแพร่และออสโมซิส ปัจจัยที่จำเป็นในการสังเคราะห์ด้วยแสงและผลผลิต การ
สังเคราะห์ด้วยแสงของพืชต่อสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ลักษณะ หน้าที่และทิศทางการลำเลียงสารของ
ไซเล็ม และโฟลเอ็ม การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศของพืชดอก ลักษณะโครงสร้างของดอก
การปฏิสนธิของพืชดอก การเกิด ผลและเมล็ด การกระจายเมล็ด และการงอกของเมล็ด ธาตุอาหารบางชนิด
ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช วิธีการขยายพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับความต้อง
การของมนษุ ย์ การเพาะเล้ยี งเนื้อเย่ือพืชในการใช้ประโยชนด์ า้ นตา่ ง ๆ
โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ
วิเคราะห์ แปลความหมายขอ้ มูล คำนวณ สรา้ งแบบจำลอง ออกแบบ เลอื กใชแ้ ละสรา้ งอุปกรณ์เพ่ือแก้ปัญหาใน
ชวี ิตประจำวนั บรู ณาการกระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้าง
ความตระหนกั กระบวนการสืบเสาะ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ตามแนวคดิ Active Learning
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจลักษณะและองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์สิ่งมีชีวิต องค์ประกอบและสมบัติของ
ธาตุ สารละลาย สารบริสุทธิ์ สารผสม การถ่ายโอนพลังงาน สมดุลความร้อน และให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่า
ของความรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศกึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติม หรือสรา้ งชนิ้ งาน แสดงความชืน่ ชมยกย่อง และ
เคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ และรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และ
ส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถน่ิ
ตวั ชว้ี ัด
ว ๑.2 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/๑0
ม.1/1๑ ม.1/๑2 ม.1/๑3 ม.1/๑4 ม.1/15 ม.1/๑6 ม.1/๑7 ม.1/๑8
ว 2.1 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/๑0
ว ๔.๑ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5
ว ๔.๒ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
รวมทงั้ หมด ๓๗ ตวั ชว้ี ัด
คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
รหัสวชิ า ว 2110๒ รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา ๖0 ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศกึ ษาและเรียนร้คู วามสัมพันธร์ ะหว่างพลังงานความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสสาร ความสัมพันธ์
ระหว่างความดันอากาศกับความสูงจากพื้นโลก การคำนวณปริมาณ ความร้อนที่ทำให้ สสารเปลี่ยน อุณหภูมิ
และ เปลี่ยนสถานะ โดยใช้สมการ การใช้เทอร์มอมิเตอร์ในการวัด อุณหภูมิของ สสาร
การถ่ายโอนความร้อน การคำนวณปริมาณความร้อนที่ถ่ายโอนระหว่างสสารจนเกิดสมดุลความร้อน การถ่าย
โอนความร้อนโดยการนาความร้อน การพาความร้อน การแผ่รังสีความร้อน การแบ่งชั้นบรรยากาศและ
เปรียบเทียบประโยชน์ของบรรยากาศ ปัจจัยที่มีผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ การเกิด
พายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อนและผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และการพยากรณ์อากาศ
การเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศโลก
โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ
วิเคราะห์ แปลความหมายขอ้ มูล คำนวณ สรา้ งแบบจำลอง ออกแบบ เลือกใชแ้ ละสร้างอปุ กรณเ์ พ่ือแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจำวนั บูรณาการกระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้าง
ความตระหนัก กระบวนการสบื เสาะ ผา่ นกระบวนการเรียนรู้ตามแนวคิด Active Learning
เพือ่ ให้ผู้เรยี นเขา้ ใจการถ่ายโอนพลังงาน สมดุลความร้อน ลกั ษณะของชนั้ บรรยากาศ องคป์ ระกอบและ
ปัจจัยที่มีผลต่อลมฟ้าอากาศ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภมู ิอากาศโลก และให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่าของ
ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือสร้างชิ้นงาน แสดงความชื่นชมยกย่อง และ
เคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ และรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่งิ แวดลอ้ มในทอ้ งถิน่
ตวั ชว้ี ัด
ว 2.2 ม.1/๑
ว 2.3 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7
ว 3.2 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7
ว ๔.๑ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5
ว ๔.๒ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
รวมท้ังหมด ๒๔ ตัวชว้ี ดั
คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
รหสั วชิ า ว 22101 รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา ๖0 ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
ศึกษาและเรียนรู้เก่ียวกบั อวัยวะและหน้าที่ของอวยั วะที่เก่ียวข้องในระบบหายใจ กลไกการหายใจเขา้
และออก กระบวนการแลกเปลีย่ นแก๊ส อวัยวะในระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสียทางไต บรรยายโครงสรา้ ง
และหนา้ ทขี่ องหวั ใจ หลอดเลือด และเลือด การทำงานของระบบหมนุ เวียนเลือด การเปรยี บเทียบอตั รา การ
เตน้ ของหวั ใจขณะปกตแิ ละหลังทำกจิ กรรม อวัยวะและหนา้ ท่ีของอวัยวะในระบบประสาทส่วนกลาง ในการ
ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย การป้องกันการกระทบกระเทือนและอันตรายต่อสมองและไขสันหลัง
อวัยวะและหนา้ ที่ของอวัยวะในระบบสบื พนั ธ์ขุ องเพศชายและเพศหญงิ ผลของฮอรโ์ มนเพศชายและเพศหญิงที่
ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว การตกไข่ การมีประจำเดือน การปฏิสนธิ และการ
พัฒนาของไซโกต จนคลอดเป็นทารก การเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำหนด การแยก
สารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทำ
ละลาย การแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และ
วศิ วกรรมศาสตร์ ผลของชนิดตัวละลาย ชนดิ ตวั ทำละลาย อุณหภูมิและความดนั ที่มีต่อสภาพละลายได้ของสาร
ปริมาณตัวละลายในสารละลายในหน่วยความเขม้ ข้นเปน็ ร้อยละ ปริมาตรต่อปริมาตร มวลต่อมวล และมวลตอ่
ปริมาตร
โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ
วิเคราะห์สถานการณ์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง พยากรณ์ ออกแบบการทดลองและ
ทดลอง เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกล่มุ กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการสบื เสาะ ผา่ น
กระบวนการเรยี นรู้ตามแนวคดิ Active Learning
เพื่อให้ผู้เรียนตระหนกั ในคณุ ค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้
และกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชวี ิตและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรอื สร้างชิ้นงาน
แสดงความช่นื ชมยกยอ่ ง และเคารพสทิ ธใิ นผลงานของผคู้ ิดค้น แสดงถึงความซาบซ้ึง หว่ งใย มี
พฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการดูแล
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมในทอ้ งถ่นิ
ตัวช้ีวดั
ว ๑.2 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/๑0
ม.2/11 ม.2/๑2 ม.2/๑3 ม.2/๑4 ม.2/15 ม.2/๑6 ม.2/๑7
ว 2.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6
ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
รวมทงั้ หมด 32 ตัวชว้ี ัด
คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
รหัสวิชาว 22102 รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 เวลา ๖0 ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาและเรียนร้เู กย่ี วกบั การเคลื่อนทข่ี องวตั ถุท่ีเป็นผลของแรงลพั ธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงที่กระทำต่อ
วัตถุในแนวเดียวกัน แรงและแรงลัพธ์ที่เกิดจากแรงหลายแรงที่กระทำต่อวัตถุในแนวเดียวกัน ปัจจัยที่มีผลต่อ
ความดันของของเหลว แรงพยุงและการจม การลอยของวัตถใุ นของเหลว แรงเสียดทานสถติ และแรงเสียดทาน
จลนป์ ัจจัยทม่ี ีผลตอ่ ขนาดของแรงเสียดทาน โมเมนต์ของแรงเม่อื วัตถุอยู่ในสภาพสมดุลต่อการหมุนและคำนวณ
โดยใช้สมการ แหล่งของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง และทิศทางของแรงทกี่ ระทำตอ่ วัตถุท่ีอยู่
ในแต่ละสนาม แรงแม่เหล็กแรงไฟฟ้าและแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุ ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรง
แม่เหลก็ แรงไฟฟา้ และแรงโนม้ ถ่วงท่ีกระทำต่อวัตถุทีอ่ ยู่ในสนามน้นั ๆ กบั ระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุ
อัตราเร็วและความเร็วของการเคลื่อนท่ีของวัตถุ การกระจัดและความเร็ว งานและพลังงาน การทำงาน
ของเครื่องกลอย่างงา่ ยจาก ปัจจัยที่มีผลตอ่ พลังงานจลน์และพลังงานศกั ย์โน้มถ่วง การเปลี่ยนและการถา่ ยโอน
พลังงานโดยใชก้ ฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน การใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ซากดึกดาบรรพ์ ขอ้ ดีและข้อจำกัดของพลงั งานทดแทนแต่
ละประเภท แนวทางการใช้พลงั งานทดแทนท่ีเหมาะสมในท้องถิ่น โครงสร้าง ภายในโลก ตามองคป์ ระกอบ ทาง
เคมี กระบวนการผุพังอยู่กับที่ การกร่อน และการสะสมตวั ของตะกอน ชน้ั หน้าตัดดินปัจจัยที่ทำให้ดินมีลักษณะ
และสมบตั แิ ตกต่างกนั สมบตั บิ างประการของดิน การใชป้ ระโยชนด์ นิ ปัจจยั และกระบวนการเกิดแหลง่ น้ำผิวดิน
และแหล่งน้าใต้ดิน การใช้น้ำ แนวทางการใช้น้ำอย่างยั่งยืนในท้องถิ่นของตนเอง และกระบวนการเกิดและ
ผลกระทบของน้ำท่วม การกดั เซาะชายฝ่งั ดนิ ถลม่ หลมุ ยุบ แผน่ ดนิ ทรดุ
โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ
วิเคราะห์สถานการณ์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง พยากรณ์ ออกแบบการทดลองและ
ทดลอง เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสืบเสาะ ผา่ น
กระบวนการเรยี นรู้ตามแนวคิด Active Learning
เพื่อให้ผู้เรยี นตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้
และกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชวี ิตและศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือสร้างช้ินงาน
แสดงความชนื่ ชมยกย่อง และเคารพสิทธใิ นผลงานของผูค้ ิดค้น แสดงถงึ ความซาบซึง้ ห่วงใย มี
พฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการดูแล
ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมในท้องถ่นิ
ตวั ชว้ี ัด
ว 2.2 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/๑0
ม.2/11 ม.2/๑2 ม.2/๑3 ม.2/๑4 ม.2/15
ว 2.3 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6
ว 3.2 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/๑0
ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
รวมทง้ั หมด 40 ตัวช้ีวดั
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
รหัสวิชา ว 23101รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เวลา ๖0 ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ รูปแบบความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ
สิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆ ในแหล่งที่อยู่เดียวกัน การถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร ความสัมพันธ์ของผู้ผลิต
ผู้บริโภคและผู้ย่อยสลาย สารอินทรีย์ในระบบนิเวศ การสะสมสารพิษในสิ่งมีชีวิตในโซ่อาหาร ความสัมพันธ์
ระหว่าง ยีน ดเี อน็ เอ และโครโมโซม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมจากการผสมโดยพิจารณาลักษณะเดียว
ท่ีแอลลีลเดน่ ขม่ แอลลีลดอ้ ยอย่างสมบรู ณ์ การเกดิ จีโนไทป์และฟีโนไทปข์ องลูก การคำนวณอตั ราส่วนการเกิดจี
โนไทป์และฟโี นไทป์ของรุ่นลูก การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิส การเปลี่ยนแปลงของยนี หรือโครโมโซม
อาจทำใหเ้ กดิ โรคทางพนั ธุกรรม การใช้ประโยชนจ์ ากสง่ิ มีชวี ิตดัดแปรพันธกุ รรมและผลกระทบท่ีอาจมีต่อมนุษย์
และสิ่งแวดลอ้ ม ประโยชน์และผลกระทบของสิง่ มชี ีวิตดัดแปรพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพในระดับ
ชนิดสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศต่าง ๆ ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีผลต่อ การรักษาสมดุลของ
ระบบนิเวศและต่อมนุษย์ สมบตั ทิ างกายภาพและการใชป้ ระโยชนว์ สั ดปุ ระเภทพอลิเมอร์ เซรามกิ สแ์ ละวัสดุผสม
การเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี การจัดเรยี งตวั ใหม่ของอะตอมเม่อื การเกิดปฏกิ ิริยาเคมีกฎทรงมวล ปฏิกิริยาดูดความร้อน
และปฏิกิริยาคายความร้อน พลังงานความรอ้ นของปฏกิ ิริยา ปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรด
กับโลหะ ปฏิกิริยาของกรดกับเบส และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ ปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดฝนกรด การ
สังเคราะห์ด้วยแสง ประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม วิธีการป้องกันและ
แก้ปัญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมี เข้าใจระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต กับสิ่งมีชีวิต และ
ความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่งิ มชี ีวิตกบั ส่งิ มชี ีวิตตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลังงาน การเปล่ียนแปลงแทนท่ีใน
ระบบนิเวศ ปรากฏของดวงอาทิตย์ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ วัสดุ
ประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสม แรงที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน และเข้าใจสมบัติของสสาร
องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค
หลกั และธรรมชาติ ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนกราฟ
ความสัมพันธ์ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง ออกแบบการทดลอง
และทดลอง เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิด
วิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสืบเสาะ
ผา่ นกระบวนการเรียนร้ตู ามแนวคดิ Active Learning
เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการดำรงชีวิต และการ
ประกอบอาชพี แสดงความชืน่ ชมยกยอ่ ง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น เขา้ ใจผลกระทบท้ังด้านบวกและ
ด้านลบของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ต่อสิ่งแวดล้อมและต่อบริบทอื่น ๆ และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำ
โครงงานหรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้
และรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คณุ ค่า มีส่วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดล้อมในท้องถิ่น
ตวั ชี้วัด
ว ๑.1 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
ว ๑.3 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/๑0
ม.3/11
ว 2.1 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8
รวมท้งั หมด ๒๔ ตัวชวี้ ดั
คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
รหสั วิชา ว 2310๒ รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา ๖0 ชั่วโมง
ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์กระแสไฟฟ้า
และความต้านทาน การใช้โวลตม์ ิเตอร์ แอมมเิ ตอร์ในการวัดปริมาณทาง ไฟฟ้า การต่อตวั ต้านทานแบบอนุกรม
และ ขนาน การทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อยา่ งง่ายในวงจร คำนวณค่าไฟฟ้าของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบา้ น
การเกิดคล่นื และบรรยายส่วนประกอบของคลน่ื คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ และสเปกตรัมคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า ประโยชน์
และอนั ตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ การอธบิ ายกฎการสะท้อนของแสง การเคลือ่ นทีข่ องแสงแสดงการเกิด ภาพ
จากกระจกเงา การหักเหของแสงเมื่อผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน การกระจายแสงของแสงขาวเมื่อ ผ่าน
ปรซิ ึม การเคล่อื นที่ของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์บาง แสงและการทำงานของทัศนอุปกรณ์ การเคล่ือนที่
ของแสงแสดงการเกดิ ภาพของทัศนอุปกรณ์และเลนสต์ า ความสว่างท่ีมีตอ่ ดวงตา การโคจรของดาวเคราะห์รอบ
ดวงอาทติ ย์ การเกิดฤดูและการเคล่ือนท่ีปรากฏของดวงอาทิตย์ การเกิดขา้ งข้นึ ข้างแรม การ เปลี่ยนแปลงเวลา
การขึน้ และตกของดวงจนั ทร์ และการเกิดน้ำขนึ้ น้ำลง การใชป้ ระโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศ และความกา้ วหนา้
ของโครงการสำรวจอวกาศ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์
ระหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชีวิตประจำวนั ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกีย่ วขอ้ งกับเสียง แสง
และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมท้ัง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ กระบวนการเกิด และววิ ัฒนาการ
ของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์และระบบสรุ ิยะ รวมท้ังปฏิสัมพนั ธภ์ ายในระบบสรุ ิยะ ทส่ี ง่ ผล
ตอ่ สง่ิ มีชีวติ และการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ
โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนกราฟ
ความสัมพันธ์ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง ออกแบบการทดลอง
และทดลอง เลือกใชแ้ ละสร้างอปุ กรณ์เพอื่ แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั ตงั้ คำถามหรอื กำหนดปัญหาที่เช่ือมโยงกับ
พยานหลักฐานหรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่มีการกำหนดและควบคุมตัวแปร คิดคาดคะเนคำตอบหลาย
แนวทาง สร้างสมมติฐานที่สามารถนำไปสู่การสำรวจ ตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบ
โดยใช้วสั ดุและเครื่องมอื ท่ีเหมาะสม เลอื กใชเ้ ครอื่ งมือ และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสมในการเก็บรวบรวม
ข้อมูล บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความ
ตระหนัก กระบวนการสบื เสาะ ผ่านกระบวนการเรยี นร้ตู ามแนวคิด Active Learning
เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการดำรงชีวิต
และการประกอบอาชพี แสดงความช่นื ชมยกยอ่ ง และเคารพสทิ ธใิ นผลงานของผู้คิดค้น เข้าใจผลกระทบทั้งด้าน
บวกและด้านลบของการพัฒนาทางวทิ ยาศาสตร์ ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มและต่อบริบทอ่ืน ๆ และศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติม
ทำโครงงานหรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้
และรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอ้ มในท้องถนิ่
ตัวช้วี ัด
ว 2.3 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/๑0
ม.3/11 ม.3/12 ม.3/13 ม.3/14 ม.3/15 ม.3/16 ม.3/17 ม.3/18 ม.3/19
ม.3/20 ม.3/21
ว 3.1 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวชีว้ ดั
คำอธิบายรายวิชาเพิม่ เตมิ
รหัสวิชา ว 11201 รายวิชา คอมพิวเตอร์เสริม 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ศึกษาการแก้ปัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูก เปรยี บเทียบแสดงลำดบั ข้นั ตอนการทำงาน
หรอื การแก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์
หรอื สื่อ ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จดั เกบ็ เรียกใชข้ อ้ มลู ตามวัตถปุ ระสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภยั ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ว่ มกัน ดูแลรกั ษาอุปกรณเ์ บ้ืองตน้ ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม
โดยใช้การแก้ปัญหาอย่างง่ายตามขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ
ซอฟตแ์ วร์พนื้ ฐานรวมถึงการส่ือสารเบื้องต้น
เพอื่ ให้ผู้เรียนมีความกระตือรือรน้ สนใจทจี่ ะเรียนรู้ มคี วามคดิ สร้างสรรคเ์ ก่ยี วกับเร่ืองที่จะศกึ ษา
ตามทกี่ ำหนดให้หรอื ตามความสนใจ มสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็น และยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ผู้อื่น
แสดงความรับผิดชอบดว้ ยการทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายอยา่ งม่งุ มัน่ รอบคอบ ประหยดั ซอ่ื สัตย์ จนงานลลุ ่วง
เป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื อยา่ งมคี วามสุข
ผลการเรยี นรู้
1. บอกวิธีการแก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้การลองผิดลองถูกการเปรียบเทยี บ
2. บอกลำดับข้นั ตอนการทำงานหรอื การแก้ปญั หาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณห์ รือข้อความ
3. เขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สอื่
4. ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเกบ็ เรยี กใช้ขอ้ มลู ตามวัตถุประสงค์
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดแู ลรักษาอุปกรณ์
เบื้องตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม
6.บอกประโยชน์ ความหมาย ส่วนประกอบ และหน้าที่ ของอุปกรณเ์ ทคโนโลยี
7. ปฏบิ ตั ิ ตามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์ร่วมกนั ดูแล รกั ษาอุปกรณ์เบื้องต้นและใช้งานอย่างเหมาะสม
8. สามารถเรียกใชโ้ ปรแกรมประมวลคำได้
9. อธิบาย เครอ่ื งมอื ของโปรแกรมประมวลคำได้อย่างถูกตอ้ ง
10. สรา้ งเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word ได้
รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เติม
รหัสวิชา ว 12201 รายวิชา คอมพวิ เตอรเ์ สริม 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ศกึ ษาและเขยี นแสดงลำดับขนั้ ตอนการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์
หรอื ขอ้ ความ เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสอื่ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จดั เกบ็ เรียกใช้ขอ้ มูลตามวตั ถปุ ระสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงในการใชค้ อมพิวเตอรร์ ่วมกนั ดูแลรักษาอปุ กรณ์เบอ้ื งตน้
ใช้งานเบ้อื งตน้
โดยใช้การแกป้ ญั หาอย่างง่ายตามขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการส่ือสารเบื้องต้น รวมถึงการใชซ้ อฟตแ์ วร์พ้ืนฐานในการสรา้ งชิ้นงานและนำเสนอขอ้ มูลอย่างเหมาะสม
เพ่ือให้ผู้เรียนมีความกระตอื รอื รน้ สนใจทจี่ ะเรียนรู้ มีความคิดสรา้ งสรรค์เกย่ี วกบั เร่อื งท่ีจะศกึ ษา
ตามที่กำหนดให้หรอื ตามความสนใจ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ และยอมรบั ฟังความคิดเห็นผู้อื่นแสดง
ความรบั ผดิ ชอบดว้ ยการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมายอย่างมุ่งม่ัน รอบคอบ ประหยัด ซ่ือสตั ย์ จนงานลลุ ่วง
เปน็ ผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผ้อู ืน่ อยา่ งมีความสขุ
ผลการเรียนรู้
1. บอกลำดับข้นั ตอนการทำงานหรอื การแกป้ ัญหา อย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพ สญั ลักษณ์หรือขอ้ ความ
2. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื ส่ือ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
3. ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่คน้ หา จัดเก็บ เรยี กใชข้ อ้ มูลตามวตั ถปุ ระสงค์
4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ตั ิ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์รว่ มกัน ดูแล รกั ษาอุปกรณ์
เบ้ืองต้น ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม
5. บอกชอ่ื และหน้าทข่ี องอปุ กรณพ์ ้ืนฐาน และหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้
6. ใชโ้ ปรแกรมประมวลคำในการสรา้ งชิ้นงานและนำเสนอข้อมลู ได้
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
รหสั วิชา ว 13201 รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต
ศึกษาแนวคดิ หลกั ของการแก้ปญั หาโดยใช้เหตผุ ล เงื่อนไข กฎเกณฑ์ วิธีการ และการใชอ้ ัลกอริทึม
ในการเรยี งลำดับขนั้ ตอนของการแก้ปญั หา การใช้เกมการแก้ปัญหา เพอื่ ฝึกการแก้ปญั หาอย่างเปน็ ระบบการ
ทำงานของคอมพวิ เตอร์ เครือ่ งมอื สำหรบั การเขยี นโปรแกรม การตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมการเขยี น
โปรแกรม การคน้ หาข้อมูลโดยใชเ้ ครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ การสบื คน้ ขอ้ มลู ผ่าน Search Engineการพจิ ารณาขอ้ มูล
ความน่าเช่อื ถือ เปรยี บเทยี บข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การกำหนดหัวข้อและอุปกรณ์ในการรวบรวมข้อมูล การใช้
ซอฟต์แวรน์ ำเสนอข้อมลู ในการทำงานตา่ ง ๆ การใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำ การใช้ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงาน การใช้
ซอฟตแ์ วรใ์ นการนำเสนอข้อมลู และแนวคดิ ที่เกีย่ วขอ้ งกับการใชเ้ ทคโนโลยีอย่างปลอดภัย โดยคำนงึ ถึงประโยชน์
และผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และข้อปฏบิ ัติในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ โดยใชก้ ารแกป้ ัญหาอย่าง
ง่ายตามข้นั ตอนการแก้ปญั หา มีทกั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่ือสารเบอ้ื งตน้
เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมคี วามกระตือรือร้น สนใจท่จี ะเรยี นรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เก่ียวกับเร่ืองท่ีจะศึกษาตามท่ี
กำหนดให้หรอื ตามความสนใจ มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ผู้อื่นแสดงความ
รับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนงานลุลว่ งเป็นผลสำเรจ็
และทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นอยา่ งมคี วามสขุ
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายขัน้ ตอนอลั กอรทิ ึมในการทำงานหรอื การแกป้ ญั หา อย่างง่ายโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณห์ รือข้อความ
2. เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรือส่ือ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
3. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้
4. ใช้ซอฟตแ์ วร์ รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มูล
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏบิ ัติ ตามขอ้ ตกลงในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็
6. อธิบายเครอ่ื งมือต่างๆ ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้
7. ใช้โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูล สรา้ งชนิ้ งานได้อย่างเหมาะสม
รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้
คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ
รหัสวชิ า ว 14201 รายวิชา คอมพิวเตอรเ์ สริม 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ศึกษาการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา การทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธจ์ ากปัญหาอยา่ งง่าย
ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแกไ้ ข การใช้
อนิ เทอร์เน็ตค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชือ่ ถือของข้อมลู การรวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ
สารสนเทศโดยใชซ้ อฟต์แวรท์ ีห่ ลากหลาย เพอื่ แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวนั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภัย เข้าใจสทิ ธิและหน้าท่ขี องตน การเคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้งผ้เู กี่ยวข้องเมอ่ื พบข้อมูลหรือบุคคลท่ไี ม่
เหมาะสม
โดยใช้การคน้ หาขอ้ มลู อย่างมปี ระสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจเลือกข้อมูลใชเ้ หตุผล
เชิงตรรกะในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการทำงานร่วมกนั
เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามสนใจ มุ่งมน่ั ในสิง่ ท่จี ะเรียนรู้ มีความคดิ สร้างสรรคเ์ กีย่ วกับเร่ืองทีจ่ ะศึกษาตาม
ความสนใจของตนเอง แสดงความคิดเหน็ ของตนเอง ยอมรบั ในข้อมลู ท่ีมีหลักฐานอา้ งองิ และรบั ฟงั ความคดิ เหน็
ผู้อ่ืน แสดงความรับผดิ ชอบด้วยการทำงานท่ไี ดร้ บั มอบหมายอย่างมงุ่ ม่นั รอบคอบ ประหยัด ซื่อสตั ย์ จนงานลลุ ่วง
เป็นผลสำเรจ็ และทำงานรว่ มกับผอู้ ื่นอย่างสร้างสรรค์ ตระหนกั ในคณุ คา่
ผลการเรียนรู้
1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบาย การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหา อย่างง่าย
2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือส่อื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด และแกไ้ ข
3. ใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรแู้ ละประเมิน ความน่าเช่อื ถือของข้อมลู
4. ใชซ้ อฟต์แวร์ที่หลากหลาย ในการรวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เขา้ ใจ สทิ ธแิ ละหนา้ ท่ขี องตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อืน่ แจ้งผู้เก่ียวข้อง
เมอ่ื พบขอ้ มลู หรอื บุคคลท่ี ไม่เหมาะสม
6. บอกประโยชนแ์ ละโทษจากการใช้งานคอมพิวเตอร์
7. บอกชื่ออปุ กรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และหลกั การทำงานของคอมพิวเตอร์ได้
8. สามารถบอกความหมายของโปรแกรมตารางคำนวณได้
9. สามารถปอ้ นขอ้ มลู ในโปรแกรมตารางคำนวณได้
รวมทัง้ หมด 9 ผลการเรยี นรู้
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
รหสั วิชา ว 15201 รายวชิ า คอมพิวเตอร์เสริม 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์จากปัญหา
อย่างง่าย ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอยา่ งง่าย ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้
อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลรวบรวม ประเมิน
นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย เพื่อ
แกป้ ญั หาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพใน
สทิ ธิของผู้อืน่ แจง้ ผ้เู กี่ยวขอ้ งเม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลทไี่ มเ่ หมาะสม
โดยใช้การค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจเลือกข้อมูล ใช้เหตุผลเชิง
ตรรกะในการแก้ปญั หา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการทำงานร่วมกนั
เพื่อให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่
กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น แสดงความ
รบั ผดิ ชอบด้วยการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมายอย่างมุง่ มั่น รอบคอบ ประหยดั ซื่อสตั ย์ จนงานลุล่วงเป็นผลสำเร็จ และ
ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนอย่างมคี วามสุข
ผลการเรียนรู้
1. ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธบิ าย การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหา อย่างงา่ ย
2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผล เชิงตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด และแก้ไข
3. ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตคน้ หาข้อมูล ติดต่อส่อื สาร และทำงานรว่ มกนั ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือ ของข้อมูล
4. ใชซ้ อฟต์แวร์บรกิ ารบนอินเทอร์เน็ตทหี่ ลากหลาย และโปรแกรมตารางทำงาน ในการรวบรวม ประเมิน
นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาในชวี ติ ประจำวัน
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มมี ารยาท เข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ท่ขี องตน เคารพในสทิ ธิของ ผู้อื่น แจ้ง
ผูเ้ ก่ียวขอ้ งเมอื่ พบข้อมูลหรอื บุคคล ทไี่ ม่เหมาะสม
6. ใชโ้ ปรแกรมตารางทำงานนำเสนอขอ้ มูลทเี่ หมาะสม
7. ขนั้ ตอนการใชฟ้ ังก์ชน่ั และใช้สูตรในการคำนวณได้
รวมทัง้ หมด 7 ผลการเรยี นรู้
คำอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม
รหัสวิชา ว 16201 รายวชิ า คอมพวิ เตอร์เสรมิ 6 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกติ
ศกึ ษาการใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตประจำวนั
ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายและตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมใชอ้ นิ เทอร์เน็ตในการค้นหาขอ้ มลู
อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกันอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน
เคารพในสิทธิของผูอ้ ่นื แจง้ ผ้เู กย่ี วข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม
โดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรอื เงือ่ นไขทค่ี รอบคลมุ ทกุ กรณี มาใชพ้ ิจารณาในการ
แก้ปัญหา ใชแ้ นวคิดของการทำงานแบบวนซำ้ ใช้เทคนิคการคน้ หาข้ันสูงในการคน้ หาขอ้ มลู ทร่ี วดเรว็ จาก
แหลง่ ขอ้ มลู ทน่ี า่ เชอ่ื ถอื การกำหนดรหสั ผ่าน กำหนดสิทธ์ิการใช้งาน แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมลั แวร์
และใช้ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ในการนำเสนอขอ้ มูลได้อย่างเหมาะสม
เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีความกระตือรอื รน้ สนใจทจี่ ะเรียนรู้ มคี วามคิดสร้างสรรคเ์ กย่ี วกับเรือ่ งที่จะศึกษาตามที่
กำหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็นและยอมรบั ฟังความคิดเห็นผู้อืน่ แสดงความ
รบั ผิดชอบดว้ ยการทำงานท่ไี ดร้ บั มอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซ่อื สัตย์จนงานลลุ ่วงเปน็ ผลสำเรจ็
และทำงานร่วมกันกับผู้อ่นื อย่างมคี วามสุข
ผลการเรยี นรู้
1. ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบ วิธกี ารแก้ปญั หาทีพ่ บในชวี ติ ประจำวนั
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพือ่ แก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวนั ตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรม
และแก้ไข
3. ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตในการค้นหาข้อมลู อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ
4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกนั อย่าง ปลอดภัย เข้าใจสทิ ธแิ ละหน้าทีข่ องตน เคารพ ในสิทธิของผู้อ่นื
แจง้ ผู้เกีย่ วข้องเมื่อพบข้อมลู หรือบุคคลท่ไี ม่เหมาะสม
5. บอกวธิ ีการใชค้ อมพิวเตอร์ในการค้นหาข้อมูล
6. นำเสนอข้อมูลในรูปแบบทีเ่ หมาะสมโดยเลอื กใชซ้ อฟตแ์ วร์ประยกุ ต์
รวมทง้ั หมด 6 ผลการเรยี นรู้
คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ
รหัสวชิ า ว ๒1๒02 รายวิชาคอมพิวเตอร์เสรมิ 1 กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศกึ ษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวติ ประจำวัน สาเหตุหรือปัจจัยทีส่ ง่ ผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงของ
เทคโนโลยี ปัญหาหรอื ความต้องการในชีวิตประจำวนั แนวคดิ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั ปัญหา วธิ กี ารแก้ปัญหาและการ
วางแผนดำเนนิ การแก้ปัญหา พร้อมทง้ั หาแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข การมีความรเู้ กยี่ วกับวัสดอุ ปุ กรณ์ เคร่ืองมือ
กลไก ไฟฟา้ หรืออเิ ล็กทรอนกิ ส์เพ่อื แกป้ ญั หาได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
การออกแบบอัลกอริทมึ ที่ใชแ้ นวคดิ เชงิ นามธรรมเพือ่ แกป้ ัญหาหรอื การทำงานทพ่ี บในชวี ิตจรงิ การ
ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยเพ่อื แกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ การใช้ซอฟต์แวร์หรือ
บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลายในการรวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอข้อมูล สารสนเทศ
และใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ใชส้ อื่ และแหล่งข้อมลู ตามขอ้ กำหนดและขอ้ ตกลงโดยใชก้ าร
วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสินใจเพือ่ เลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และส่งิ แวดล้อม
ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากรเพ่ือออกแบบและสรา้ งผลงานหรบั การแก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวันหรือ
การประกอบอาชีพ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมท้งั เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมอื ได้อย่าง
ถกู ต้อง เหมาะสม ปลอดภัย รวมท้ังคำนงึ ถงึ ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา
เพ่อื ให้ผู้เรยี นตระหนกั ในคณุ ค่าของความรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจำวนั ใช้ความรู้
และกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชวี ติ และการประกอบอาชพี แสดงความชืน่ ชม ยก
ยอ่ ง และเคารพสทิ ธิในผลงานของผู้คิดค้น เขา้ ใจผลกระทบทั้งดา้ นบวกและดา้ นลบของการพัฒนาทาง
วิทยาศาสตร์ต่อสิง่ แวดล้อมและตอ่ บริบทอ่ืน ๆ และศกึ ษาหาความร้เู พิม่ เตมิ ทำโครงงานหรือสรา้ งช้ินงานตาม
ความสนใจ
ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยใี นชีวิตประจำวัน และวเิ คราะหส์ าเหตหุ รือปจั จัยท่ีส่งผลตอ่ การ
เปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี
2. ระบุปญั หาหรอื ความตอ้ งการในชวี ิตประจำวนั รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูลและแนวคิดทีเ่ กย่ี วขอ้ ง กับปญั หา
3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ และตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มลู ทีจ่ ำเปน็ นำเสนอแนวทางการ
แก้ปญั หาให้ผอู้ น่ื เข้าใจ วางแผนและดำเนนิ การแก้ปญั หา
4. ทดสอบ ประเมนิ ผล และระบุข้อบกพร่อง ท่เี กดิ ข้ึน พรอ้ มทง้ั หาแนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และนำเสนอผล
การแกป้ ญั หา
5. อธิบายความหมายของโปรแกรม Scratch ได้
6. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยดว้ ยโปรแกรม scratch ได้
7.บอกสว่ นประกอบพนื้ ฐานของโปรแกรม แตล่ ะส่วนไดอ้ ย่างถกู ต้อง
8. สรา้ งและใช้ตวั แปรในการเขียนสครปิ ตไ์ ด้
รวมท้งั หมด 8 ผลการเรยี นรู้
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
รหสั วชิ า ว ๒1๒04 รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ สริม 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศกึ ษาการออกแบบอลั กอริทึมทใ่ี ชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพือ่ แก้ปัญหาหรอื อธบิ ายการทำงานทีพ่ บในชีวิต
จริง การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการใช้ตวั แปร เงอื่ นไข วนซำ้ การออกแบบอัลกอริทมึ เพ่อื แก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์อย่างงา่ ย การเขียนโปรแกรมโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ Scratch, python, java และ c
เปน็ ตน้ ศึกษาการรวบรวมข้อมลู จากแหล่งขอ้ มูลปฐมภมู ิ ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล ตลอดจนใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย การจัดการอัตลักษณ์ การพจิ ารณาความเหมาะสมของเน้อื หา ใชส้ อ่ื และ
แหลง่ ข้อมูลตามขอ้ กำหนดและขอ้ ตกลงไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
โดยอาศัยกระบวนการเรยี นรูโ้ ดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) และการเรียนรู้
แบบใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-based Learning) เพ่อื เนน้ ให้ผู้เรียนไดล้ งมอื ปฏบิ ัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญ
สถานการณ์การแก้ปญั หาวางแผนการเรยี นรู้ ตรวจสอบการเรยี นรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หา จนสามารถนำเอาแนวคดิ เชงิ
คำนวณมาประยกุ ต์ใช้ในการสรา้ งโครงงานได้
เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ การนำขอ้ มูลปฐมภมู ิเข้าสรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ วเิ คราะห์ ประเมนิ
นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ได้ตามวัตถุประสงค์ ใช้ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาทีพ่ บในชวี ติ จรงิ
และเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย เพือ่ ช่วยในการแกป้ ญั หา ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอยา่ งรู้เท่าทนั และ
รบั ผิดชอบต่อสงั คม ตลอดจนนำความรคู้ วามเข้าใจในวชิ าวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อ
สงั คม และการดำรงชวี ิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและ
การจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเปน็ ผู้ที่มีจติ วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม
จริยธรรม และคา่ นิยมในการใช้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
ผลการเรียนรู้
1. ออกแบบอัลกอรทิ ึมที่ใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรม เพือ่ แกป้ ญั หาหรอื อธบิ ายการทำงานท่พี บใน ชวี ติ จรงิ
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพอ่ื แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์
3. รวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้
ซอฟต์แวรห์ รือบริการบนอนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลาย
4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ใช้สอ่ื และแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและขอ้ ตกลง
5. รูแ้ ละเข้าใจความหมายและลักษณะสำคัญของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
6. วเิ คราะหล์ ักษณะสำคัญของภาษาไพทอนกับภาษาโปรแกรมอ่นื ๆ ได้
7. ร้แู ละเขา้ ใจพืน้ ฐานการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
8. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยด้วยภาษาไพทอนได้
รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรียนรู้
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รหัสวชิ า ว ๒2๒02 รายวิชาคอมพิวเตอร์เสรมิ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรยี น ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อช่วย
แกป้ ญั หา รู้จกั องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีการสอ่ื สาร ใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบในการสร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ผลงานโดยใช้
กระบวนการแจกแจง การคิดหารปู แบบ การคิดเชงิ นามธรรม การออกแบบขั้นตอนวธิ ี เพื่อให้การแก้ปัญหามี
ประสทิ ธิภาพ ประยุกตใ์ ชง้ านเทคโนโลยกี ารสื่อสารเพ่ือแกป้ ัญหาเบ้อื งตน้ มีความรูพ้ ้นื ฐานภาษาไพธอนซ่ึงเป็น
ภาษาที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากนักพัฒนาโปรแกรมทั่วโลก ส่งผลให้ภาษาไพธอนมีความสามารถสูงและ
รองรับงานด้านตา่ งๆ ได้มากมาย อาทิเช่น ระบบฐานข้อมูล เกม แอพพลเิ คชัน เวบ็ แอพพลเิ คชนั
ผู้เรียนสามารถเลือกใช้แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้เรียน
ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวันใช้ความรู้และกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวติ และการประกอบอาชีพ แสดงความชื่นชม ยกยอ่ ง และเคารพสิทธิ
ในผลงานของผู้คิดค้น เข้าใจผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ต่อสิ่งแวดล้อม
และตอ่ บริบทอน่ื ๆ และศึกษาหาความรู้เพม่ิ เติม ทำโครงงานหรือสรา้ งชิน้ งานตามความสนใจ
ผลการเรยี นรู้
1. คาดการณแ์ นวโนม้ เทคโนโลยที ่ีจะเกิดขึน้ โดยพจิ ารณาจากสาเหตหุ รอื ปัจจยั ท่ีสง่ ผลต่อ การเปลี่ยนแปลงของ
เทคโนโลยีและวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีเกิดข้นึ ตอ่ ชวี ติ สงั คม
และส่ิงแวดล้อม
2. ระบปุ ญั หาหรอื ความต้องการในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่นิ สรุปกรอบของปญั หา รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมลู และ
แนวคดิ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั ปญั หา
3. ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจเลอื กข้อมูลท่จี ำเปน็ ภายใต้เงื่อนไขและ
ทรัพยากรท่มี อี ยู่ นำเสนอ แนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ ู้อื่นเข้าใจ วางแผน ข้ันตอนการทำงานและดำเนินการ
แกป้ ัญหา อยา่ งเป็นขัน้ ตอน
4. ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธบิ ายปัญหาหรอื ข้อบกพร่องท่เี กิดข้ึน ภายใต้กรอบเงอื่ นไข พร้อมทัง้ หาแนว
ทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข และ นำเสนอผลการแก้ปัญหา
5. เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายด้วยภาษาไพทอนได้
6. มคี วามเข้าใจเกยี่ วกับคำสง่ั เลอื กทำและคำสงั่ วนซ้ำในภาษาไพทอน
7. เขียนโปรแกรมท่มี ีการตัดสินใจและทำซ้ำได้
8. เขียนโปรแกรมโดยใชฟ้ งั กช์ นั ได้
รวมทัง้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รหัสวิชา ว ๒2๒04 รายวชิ าคอมพวิ เตอรเ์ สริม 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
อธบิ ายแนวคดิ เชิงคำนวณ การแกป้ ัญหาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ การเขียนโปรแกรมท่มี กี ารใช้
ตรรกะและ ฟงั กช์ ัน องค์ประกอบและหลกั การทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร แนวทางการ
ปฏิบตั ิเมื่อพบเนอื้ หา ทไี่ ม่เหมาะสม การออกแบบกราฟิค และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมคี วาม
รับผิดชอบ วธิ ีการสร้างและกำหนดสิทธิความเปน็ เจ้าของผลงาน
โดยนำความรู้แนวคดิ เชิงคำนวณไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรมหรือการแก้ปญั หาในชีวติ จรงิ
สร้างและกำหนดสทิ ธ์ิ การใชข้ อ้ มูล ตระหนักถงึ ผลกระทบในการเผยแพรข่ อ้ มลู
เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานอยา่ งมรี ะเบียบ รอบคอบ รบั ผดิ ชอบ มีความ
เช่อื มนั่ ในตนเอง มีความซื่อสตั ย์ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มั่นในการทำงาน สมรรถนะสำคัญ ความสามารถในการ
ส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิตความสามารถ
ในการใชเ้ ทคโนโลยี วิสยั ทัศน์ นอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
1. ออกแบบอลั กอรทิ ึมที่ใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณ ในการแกป้ ญั หา หรือการทำงานที่พบในชีวติ จรงิ
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทใี่ ชต้ รรกะ และฟงั กช์ ันในการแก้ปัญหา
3. อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของ ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีการสือ่ สาร เพ่ือประยุกต์ใช้
งานหรอื แก้ปญั หาเบื้องต้น
4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มีความ รับผดิ ชอบ สรา้ งและแสดงสทิ ธิในการเผยแพร่ ผลงาน
5. บอกประโยชน์ของคอมพิวเตอรก์ ราฟิกกับการประยกุ ตใ์ ช้งานด้านต่างๆได้
6. สรา้ งผลงานจากโปแกรม Adobe Photoshop ไดด้ ้วยความประณีต รอบคอบและปลอดภยั ตระหนักถึง
คุณภาพของงาน และมจี ริยธรรมในการออกแบบ
รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรียนรู้
คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม
รหัสวิชา ว ๒3๒02 รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 5 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน ๒๐ ชัว่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
ศึกษาและวิเคราะห์สาเหตุหรอื ปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพนั ธข์ อง
เทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่นเพื่อพัฒนาอาชีพ สรุปกรอบของ
ปัญหา รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มูลและแนวคิดทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับปัญหา ออกแบบวธิ ีแกป้ ญั หา ทดสอบ วเิ คราะห์ และ
ให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพรอ่ งที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบเงื่อนไข พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและ
นำเสนอผลการแกป้ ญั หา
มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ การใช้งานโปรแกรม Web Editor เช่น
Dreamweaver 8 เป็นต้น การสร้างและจัดการขอ้ ความ การใช้และจัดการภาพกราฟิก การสร้าง ตาราง การ
เชื่อมโยง การจัดการเฟรม การสร้างเลเยอร์ การสร้างฟอร์ม การสร้างมัลติมิเดีย การตกแต่ง เว็บเพจ ด้วย
Timeline และ Behaviors และการอัพโหลดเว็บไซต์เข้าสู่อินเตอร์เน็ต อธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ การใช้งานโปรแกรม Web Editor เช่น Dreamweaver 8 เป็นต้น ปฏิบัติทักษะ
การสร้างและจัดการข้อความ การใช้และจัดการ ภาพกราฟิก การสร้างตาราง การเชื่อมโยง การจัดการเฟรม
การสร้างเลเยอร์ การสร้างฟอร์ม การ สร้างมัลติมิเดีย การตกแต่งเว็บเพจ ด้วย Timeline และ Behaviors
และการอัพโหลดเว็บไซต์เข้าสู่ อินเทอร์เน็ต และสร้างสรรค์พัฒนาชิ้นงานด้านเว็บไซต์ได้อย่างน้อย 1 ชิ้นงาน
กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสร้างความตระหนัก
กระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจ การใหเ้ หตุผลองิ หลกั การ และกระบวนการสร้างทักษะการฝกึ ปฏิบัติ ผ่าน
กระบวนการเรียนร้ตู ามแนวคดิ Active Learning
เพื่อใหเ้ ห็นคุณคา่ ของการทำงานเกี่ยวกับเว็บไซต์ สามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ใน ชีวิตประจำวัน
และประยุกต์ใช้กับวิชาอื่น ๆ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมในการทำงาน เกี่ยวกับงานด้าน
เวบ็ ไซต์ และอนิ เทอร์เนต็
ผลการเรยี นรู้
1. วิเคราะหส์ าเหตุ หรอื ปัจจยั ที่ส่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยแี ละความสมั พันธ์ ของเทคโนโลยีกบั
ศาสตรอ์ น่ื โดยเฉพาะ วิทยาศาสตรห์ รือคณติ ศาสตร์เพ่ือเปน็ แนวทาง การแก้ปญั หาหรือพัฒนางาน
2. ระบุปัญหาหรือความตอ้ งการของชุมชนหรอื ท้องถ่ิน เพื่อพัฒนางานอาชพี สรุปกรอบของ ปญั หา รวบรวม
วิเคราะหข์ อ้ มูลและแนวคิด ท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหา โดยคำนงึ ถึงความถูกตอ้ ง ดา้ นทรัพย์สินทางปญั ญา
3. ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สินใจเลือกข้อมลู ทจ่ี ำเป็น ภายใต้เงอ่ื นไขและ
ทรัพยากรทีม่ ีอยู่ นำเสนอ แนวทางการแกป้ ญั หาให้ผ้อู น่ื เข้าใจด้วยเทคนคิ หรอื วธิ ีการที่หลากหลาย วางแผน
ข้ันตอน การทำงานและดำเนนิ การแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ข้ันตอน
4. ทดสอบ ประเมนิ ผล วเิ คราะหแ์ ละให้เหตุผล ของปญั หาหรือข้อบกพร่องท่เี กดิ ขึน้ ภายใต้ กรอบเง่อื นไข พรอ้ ม
ทงั้ หาแนวทางการปรับปรุง แกไ้ ข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา
5. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ความหมาย ความเป็นมาของ Webpage / Web site / Hone page / Web browse
6. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจการทำงานของโปรแกรม Adobe Dreamweaver
7. อธบิ าย ขน้ั ตอนการสรา้ งเวบ็ เพ็จ ดว้ ยโปรแกรม Adobe Dreamweaver และสามารถนำมาประยุกตใ์ ช้
ในการสร้างเวบ็ ไซต์ในชีวิตประจำวันไดป้ ฏบิ ตั กิ ารสร้างเลเยอร์ได้
8. ปฏบิ ตั ิการการตกแตง่ เว็บเพจ ดว้ ย Timeline และ Behaviors ได้
9. ปฏิบตั กิ ารอพั โหลดเวบ็ ไซต์เข้าสู่อินเทอรเ์ น็ตได้
10. สร้างสรรค์พฒั นาชนิ้ งานด้านเว็บไซต์ได้อย่างนอ้ ย 1 ชน้ิ งาน
รวม 10 ผลการเรยี นรู้
คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ
รหัสวชิ า ว ๒3๒04 รายวิชาคอมพิวเตอร์เสรมิ 6 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรียน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศกึ ษาการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ทมี่ ีการบูรณาการกบั วิชาอืน่ อย่างสรา้ งสรรค์ รวบรวมขอ้ มูลประมวลผลประเมนิ ผล
นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย
ประเมินความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล วเิ คราะห์สอื่ และผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิดเพื่อการใช้งานอย่างรู้เท่า
ทัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสทิ ธิ์ของผู้อ่นื โดยชอบธรรม
โดยใช้ขั้นตอนการพฒั นาแอปพลิเคชัน และใช้ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น Python
ใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล
นำเสนอ ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล โดยเทียบเคียงจากข้อมูลหลายแห่ง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมคี วาม
รบั ผิดชอบ โดยไม่กระทำผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ และใชล้ ิขสทิ ธิ์ของผู้อน่ื โดยชอบธรรม
เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมคี วามกระตือรือร้น สนใจท่ีจะเรยี นรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องท่ีจะศึกษาตามที่
กำหนดใหห้ รือตามความสนใจ มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็นและยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ผอู้ น่ื แสดงความ
รับผดิ ชอบดว้ ยการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมายอย่างมุ่งมัน่ รอบคอบ ประหยดั ซื่อสตั ย์จนลุล่วงเปน็ ผลสำเร็จ และ
ทำงานร่วมกับผ้อู ่นื อย่างมีความสขุ
ผลการเรียนรู้
1. พัฒนาแอปพลิเคชนั ที่มีการบูรณาการกบั วชิ าอ่ืน อยา่ งสร้างสรรค
2. รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอ ขอ้ มูลและสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวร์
หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ี หลากหลาย
3. ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของข้อมลู วเิ คราะห์ส่ือ และผลกระทบจากการใหข้ ่าวสารที่ผิด เพ่อื การ ใชง้ านอยา่ ง
รูเ้ ท่าทนั
4. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย และมี ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ปฏบิ ัติตามกฎหมาย เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ใชล้ ิขสิทธ์ิของผูอ้ ืน่ โดยชอบธรรม
5. มีความรู้ ความเข้าใจ อธิบายความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
6. มีความรู้ ความเข้าใจ อธบิ ายองคป์ ระกอบหลักของกิจกรรมโครงงานคอมพวิ เตอร์
7. สามารถบอกขนั้ ตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
8. สามารถจดั ทำชน้ิ งานหรอื โครงงานอย่างง่าย ทม่ี ีการใช้เทคโนโลยีชว่ ยอยา่ งมจี ิตสำนกึ และมีความรับผิดชอบ
รวม ๘ ผลการเรยี นรู้
รายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
รายวิชาพ้นื ฐาน
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษา
ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลาเรยี น 8๐ ชั่วโมง 2 หน่วยกิต
ส ๑2๑๐๑
ส ๑3๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลาเรียน 8๐ ชั่วโมง 2 หน่วยกิต
ส ๑4๑๐๑
ส ๑5๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลาเรยี น 8๐ ชว่ั โมง 2 หน่วยกิต
ส ๑6๑๐๑
ส ๑๑๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลาเรยี น 8๐ ชั่วโมง 2 หนว่ ยกิต
ส ๑๒๑๐๒
ส ๑๓๑๐๒ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลาเรยี น 8๐ ชั่วโมง 2 หน่วยกิต
ส ๑๔๑๐๒
ส ๑๕๑๐๒ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลาเรยี น 8๐ ชว่ั โมง 2 หนว่ ยกิต
ส ๑๖๑๐๒
ประวตั ศิ าสตร์ ๑ เวลาเรยี น 4๐ ชั่วโมง 1 หนว่ ยกิต
ส 21๑๐๑
ส 21๑๐2 ประวตั ศิ าสตร์ 2 เวลาเรยี น 4๐ ชว่ั โมง 1 หนว่ ยกิต
ส 22๑๐1
ส 22๑๐2 ประวัติศาสตร์ 3 เวลาเรียน 4๐ ชั่วโมง 1 หน่วยกิต
ส 23๑๐1
ส 2๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ 4 เวลาเรียน 4๐ ชว่ั โมง 1 หนว่ ยกิต
ส 21๑๐๓
ส 21๑๐4 ประวตั ศิ าสตร์ 5 เวลาเรียน 4๐ ชั่วโมง 1 หนว่ ยกิต
ส 22๑๐๓
ส 22๑๐4 ประวตั ิศาสตร์ 6 เวลาเรยี น 4๐ ชั่วโมง 1 หนว่ ยกิต
ส 23๑๐๓
ส 2๓๑๐4 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1 เวลาเรียน 6๐ ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2 เวลาเรียน 6๐ ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 3 เวลาเรียน 6๐ ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 4 เวลาเรียน 6๐ ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 5 เวลาเรยี น 6๐ ช่วั โมง 1.5 หน่วยกิต
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 6 เวลาเรยี น 6๐ ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ประวัตศิ าสตร์ ๑ เวลาเรยี น 2๐ ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ประวัตศิ าสตร์ 2 เวลาเรียน 2๐ ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ประวตั ศิ าสตร์ 3 เวลาเรียน 2๐ ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ประวัตศิ าสตร์ 4 เวลาเรียน 2๐ ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ประวัตศิ าสตร์ 5 เวลาเรยี น 2๐ ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ประวัติศาสตร์ 6 เวลาเรียน 2๐ ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
คำอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
คำอธิบายรายวิชา
รหสั วชิ า ส ๑๑๑๐๑ รายวชิ าพื้นฐานสังคมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา 80 ชว่ั โมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศกึ ษา วเิ คราะห์ พทุ ธประวัติ หรือประวัติของศาสดาท่ีตนนบั ถือ แบบอย่างการดำเนินชวี ิต และข้อคิด
จากประวัตสิ าวก ชาดก/เรือ่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่กำหนด ความหมาย ความสำคญั และเคารพพระ
รัตนตรัย ปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม โอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับถือ สวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติ
บำเพ็ญประโยชน์ต่อวัด แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือศาสนิกชนของศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติในศาสนพิธี
พธิ กี รรมและวันสำคญั ทางศาสนาตามที่กำหนดได้ถูกตอ้ ง ประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ ทด่ี ีของครอบครัว
และโรงเรยี น ความดีและผลจากการกระทำของตนเอง ผอู้ ืน่ โครงสร้าง บทบาท หน้าทีข่ องสมาชิกในครอบครัว
โรงเรยี น บทบาท สิทธิ หน้าทข่ี องตนเองในครอบครวั และโรงเรียน มีสว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจ และทำกิจกรรมใน
ครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย สามารถเลือกสินค้าและบริการที่ใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวัน การใช้จ่ายเงินไม่เกินตัวและประโยชน์ของการออม การใช้ทรัพยากรในอย่างประหยัด ความ
จำเป็นของการทำงานที่สุจริต และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนทราบถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เกิดข้ึนเอง
ตามธรรมชาตแิ ละทีม่ นุษย์สรา้ งข้นึ ความสมั พันธข์ องตำแหนง่ บอก สงั เกต และเปรียบเทียบ การเปล่ียนแปลง
ระยะ ทิศของส่ิงตา่ ง ๆ ใชแ้ ผนผงั แสดงตำแหนง่ ของสิง่ ต่างๆ ในหอ้ งเรยี น การเปล่ยี นแปลงของสภาพอากาศใน
รอบวัน สิ่งแวดล้อมที่เกิดจากธรรมชาติ ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ของสิ่งแวดล้อมเพื่อการปฏิบัติตน
อย่างเหมาะสม มสี ว่ นร่วมในการดแู ลส่งิ แวดลอ้ มท่ีบ้านและหอ้ งเรียน
โดยใช้ทักษะกระบวนการคิด การสอนแบบ Active lernning กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล กระบวนการ
ปฏบิ ตั ิ กระบวนการทางสงั คมกระบวนการกลมุ่ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแกป้ ญั หา
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี
คุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความรับผิดชอบ
รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดำเนินชีวติ อย่างสนั ตสิ ุขในสังคมไทยและสงั คมโลก
ตวั ชว้ี ัด
ส ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ส ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ส ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ส ๕.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
รวม ๒๓ ตัวช้ีวัด
สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
ส ๔.๓ ป. ๑/๒ บอกสถานท่ีสำคัญซ่ึงเป็นแหลง่ วัฒนธรรมในชุมชน เชน่ วัด โบราณสถาน โบราณวัตถุ
เปน็ ต้น
คำอธิบายรายวิชา
รหัสวชิ า ส ๑๑๑๐๒ รายวชิ าพ้ืนฐานประวตั ศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ การนับช่วงเวลาตามปฏิทินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน บอกวัน เดือน ปี และเรียงลำดับ
เหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผู้เกี่ยวข้อง ความ
เปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม สิ่งของ เครื่องใช้ หรือการดำเนินชีวิตสมัยตนเองกับสมัยของพ่อแม่ ปู่ย่า ตา
ยาย เหตุการณ์ที่เกิดขึน้ ในอดีตที่มีผลกระทบต่อปัจจุบัน ความหมายและความสำคัญของสัญลักษณ์สำคัญของ
ชาติไทย และปฏิบัตติ นได้ถูกต้อง ทราบถงึ สถานท่ีสำคัญซงึ่ เป็นแหล่งวฒั นธรรมในชุมชน สามารถระบุส่ิงที่ตนรัก
และภาคภูมิใจในท้องถิ่น
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม
กระบวนการกลมุ่ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปญั หา
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี
คุณลักษณะอนั พึงประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ รักความเป็นไทย มี
จติ สาธารณะ สามารถดำเนินชีวติ อยา่ งสันตสิ ุขในสังคมไทยและสงั คมโลก
ตวั ช้ีวัด
ส ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ส ๔.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ส ๔.๓ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
รวม ๘ ตวั ช้ีวดั
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหสั วิชา ส ๑๒๑๐๑ รายวิชาพืน้ ฐานสังคมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา 80 ช่ัวโมง/ปี
______________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ เรื่องความสำคัญของพระพุทธศาสนา พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติถึงออกผนวช หรือ
ประวัติศาสดาที่ตนนบั ถือ แบบอย่างการดำเนินชวี ติ และขอ้ คิดจากประวัตสิ าวก ชาดก/เรือ่ งเล่าและศาสนิกชน
ตวั อยา่ ง ความสำคญั ของพระรัตนตรัย หลักธรรมโอวาท ๓ หรือหลกั ธรรมของศาสนาทตี่ นนับถือ การทำความดี
ของตนเอง บุคคลในครอบครวั และในโรงเรียน คุณค่าของการสวดมนต์ แผเ่ มตตา การพฒั นาจิตตามแนวทางของ
ศาสนาที่ตนนับถือ ชื่อศาสนา ศาสดา และความสำคัญของคัมภีร์ของศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่นๆ การ
ปฏิบัติตนต่อสาวกของศาสนา ศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนา การปฏิบัติตนตามข้อตกลง กติกา
กฎ ระเบียบและหน้าที่ท่ีต้องปฏิบัติในชีวิตประจำวัน มารยาทไทย พฤติกรรมในการยอมรับความคิด ความเชื่อ
ของบุคคลอน่ื ทีแ่ ตกต่างกันโดยปราศจากอคติ เคารพในสิทธิ เสรภี าพของผอู้ นื่ ผูม้ บี ทบาท อำนาจในการตัดสินใจ
ในโรงเรียน และชุมชน
ความสัมพันธ์ของตนเองต่อสมาชิกในครอบครัว การใช้ทรัพยากรในการผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั ทม่ี าของรายได้และรายจ่ายของตนเองและครอบครวั การบนั ทกึ รายรับรายจ่าย ผลดีของการใช้
จ่ายที่เหมาะสม การแลกเปลี่ยนสินค้าและบรกิ าร ความสัมพนั ธ์ระหว่างผู้ซือ้ และผู้ขาย เรียนรู้สิ่งแวดล้อมทาง
ธรรมชาติ และสิ่งที่มนษุ ย์สร้างข้ึนซึ่งปรากฏระหว่างบ้านกับโรงเรยี น ตำแหน่งและลกั ษณะทางกายภาพของส่ิง
ต่างๆ ที่ปรากฏในแผนผัง แผนที่ รูปถ่าย และลูกโลก ความสัมพันธ์ระหวา่ งโลก ดวงอาทิตย์และดวงจนั ทร์ท่ที ำ
ให้เกดิ ปรากฏการณต์ า่ งๆ ความสำคญั ของสิง่ แวดล้อมทางธรรมชาติและท่ีมนษุ ยส์ ร้างขนึ้ ทรพั ยากรที่ใชแ้ ล้วหมด
ไป และทรัพยากรท่สี รา้ งทดแทนได้ ความสมั พันธข์ องมนุษย์กับฤดกู าล การจัดการส่ิงแวดล้อมในโรงเรยี น
โดยใช้ทักษะกระบวนการคดิ การสอนแบบ Active learning กระบวนการสบื ค้นขอ้ มลู กระบวนการ
ปฏิบัติ กระบวนการทางสงั คมกระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปญั หา
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ได้รับการพัฒนาให้มีทักษะ
กระบวนการ มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรกั ชาติศาสนาพระมหากษัตรยิ ์ มีหลกั ธรรม
ในการดำเนนิ ชีวติ รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และสามารถดำเนินชวี ิตในสังคมไดอ้ ย่างสันติสขุ
ตัวชวี้ ดั
ส ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ส ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ส ๕.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
รวม ๒๘ ตวั ช้วี ัด
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหสั วิชา ส ๑๒๑๐๒ รายวชิ าพ้ืนฐานประวัติศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ การใช้คำระบุเวลาที่แสดงเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ลำดับเหตุการณ์ท่ี
เกิดขึ้นในครอบครัวหรือในชีวิตของตนเองโดยใช้หลักฐานที่เกี่ยวข้อง สืบค้นถึงการเปลี่ยนแปลง ในวิถี
ชวี ิตประจำวนั ของคนในชุมชนของตนจากอดีตถงึ ปัจจุบัน และอธบิ ายผลกระทบของการเปล่ยี นแปลง ที่มีต่อวิถี
ชีวติ ของคนในชุมชน บคุ คลทีท่ ำประโยชน์ต่อท้องถ่นิ หรอื ประเทศชาติ ยกตัวอยา่ งวฒั นธรรม ประเพณี และภูมิ
ปัญญาไทยทภี่ าคภูมิใจและควรอนรุ ักษไ์ ว้
โดยใช้กระบวนการสืบค้นข้อมูล วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม
กระบวนการทางสงั คม
เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตกุ ารณ์ต่างๆ อย่าง
เป็นระบบ ตระหนกั ถึงความสำคญั ของเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ มคี วามรัก ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย สามารถ
ดำเนินชวี ิตอย่างสันติสุขในสงั คมไทยและสังคมโลก
ตัวช้วี ัด
ส ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๔.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒
รวม ๖ ตัวชว้ี ัด
สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ
ส ๔.๓ ป. ๒/๑ ระบุบคุ คลทที่ ำประโยชนต์ ่อทอ้ งถน่ิ หรือประเทศชาติ
คำอธิบายรายวิชา
รหัสวชิ า ส ๑๓๑๐๑ รายวชิ าพ้ืนฐานสังคมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา 80 ชั่วโมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ เรื่องความสำคัญของพระพุทธศาสนา ศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะที่เป็นรากฐานสำคัญ
ของวัฒนธรรมไทย พุทธประวัติตั้งแต่การบำเพ็ญเพียรจนถึงปรินิพพาน หรือประวัติของศาสดาที่ตนนับถือ
แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ความหมาย
ความสำคัญของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาท่ีตนนับถือ การแสดงความเคารพพระรัตนตรัย หลักธรรม
โอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ การสวดมนต์ แผเ่ มตตา การพัฒนาจติ การ
ปฏิบตั ติ นอย่างเหมาะสมตอ่ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล สาวก ของศาสนาอ่ืนและศาสนาทต่ี นนับถือ
การปฏบิ ตั ิตนในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวันสำคัญทางศาสนา การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ หรอื แสดงตนเป็นศา
สนิกชนของศาสนาที่ตนนับถือ ทราบถึงประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและท้องถิ่น การดำเนินชีวิตของ
ตนเอง และผู้อื่นที่อยู่ในกระแสวัฒนธรรมที่หลากหลาย ความสำคัญของวันหยุดราชการที่สำคัญ บุคคลซึ่งมี
ผลงานที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนและท้องถิ่น บทบาทหน้าที่ การมีส่วนร่วมของสมาชิกของชุมชน ตาม
กระบวนการประชาธิปไตยความแตกต่างของกระบวนการการตดั สินใจในชน้ั เรียน/โรงเรียนและชมุ ชนโดยวิธีการ
ออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียง การเปล่ียนแปลงที่เกดิ ขน้ึ จากการตัดสินใจของบุคคลและกลุ่ม
เข้าใจความต้องการและความจำเป็นในการใช้สินค้าและบริการในการดำรงชีวิต การใช้จ่ายของตนเอง การใช้
ทรพั ยากรทีม่ อี ยจู่ ำกัดมีผลตอ่ การผลิตและบริโภคสนิ ค้าและบรกิ าร สินคา้ และบริการทรี่ ัฐจดั หาและให้บริการแก่
ประชาชน ความสำคญั ของภาษีและบทบาทของประชาชนในการเสยี ภาษี เหตผุ ลการแข่งขนั ทางการค้า ท่ีมีผล
ทำให้ราคาสินค้าลดลง ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในโรงเรียน ชุมชน โดยใช้แผนผัง แผนที่ และรูปถ่าย วาดแผนผัง
เพื่อแสดงตำแหน่งที่ตั้ง เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมในอดีตกับปัจจุบัน การใช้ประโยชน์จาก
สิ่งแวดล้อมในการตอบสนองความต้องการของมนุษย์ การประกอบอาชีพ เหตุที่ทำให้เกิดมลพิษ ลักษณะของ
สังคมเมืองและชนบท ลักษณะทางกายภาพต่อการดำเนินชีวิต และการมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมใน
ชุมชน
โดยใช้ทักษะกระบวนการคิด การสอนแบบ Active learning กระบวนการสืบค้นข้อมลู กระบวนการ
ปฏบิ ตั ิ กระบวนการทางสังคมกระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปญั หา
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรม
มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ในด้านรกั ชาติศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ มีหลักธรรมในการดำเนินชีวิต รกั ความเป็น
ไทย มีจิตสาธารณะและสามารถดำเนินชวี ิตในสังคมไดอ้ ยา่ งสนั ติสุข
ตวั ชวี้ ัด ส ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ส ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ส ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗ ส ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
ส ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ส ๕.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.
ส ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔๓
๓/๖
ส ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
รวม ๓๑ ตวั ช้ีวัด
สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ
ส ๔.๒ ป. ๓/๒ สรุปลักษณะที่สำคญั ของขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของชมุ ชน
คำอธิบายรายวิชา
รหัสวชิ า ส ๑๓๑๐๒ รายวิชาพ้ืนฐานประวัตศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วเิ คราะห์ การเทยี บศักราชท่ีสำคญั ตามปฏทิ นิ ที่ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั แสดงลำดบั เหตุการณ์สำคัญ
ของโรงเรียนและชุมชนโดยระบุหลักฐานและแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและ
พัฒนาการของชมุ ชน ลักษณะที่สำคัญของขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมของชมุ ชน ความเหมือนและ
ความต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอ่ืน ๆ ศึกษาเรื่องพระนาม พระราชกรณียกจิ โดยสังเขปของ
พระมหากษัตรยิ ์ไทยที่เปน็ ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย พระราชประวัติและพระราชกรณยี กิจของพระมหากษัตริย์
ในรัชกาลปัจจบุ ัน และวรี กรรมของบรรพบรุ ุษไทยทม่ี ีสว่ นปกปอ้ งประเทศชาติ
โดยใช้กระบวนการสืบค้นข้อมูล วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม
กระบวนการทางสังคม
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ
อย่างเป็นระบบ ตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเป็นไทย
สามารถดำเนินชวี ิตอยา่ งสันติสุขในสังคมไทยและสังคมโลก
ตัวชวี้ ดั
ส ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
ส ๔.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ส ๔.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
รวม ๘ ตัวช้วี ดั
สาระการเรียนร้ทู อ้ งถิ่น
ส ๒.๑ ป. ๓/๔ ยกตัวอยา่ งบคุ คลซ่งึ มผี ลงานทีเ่ ป็นประโยชน์แก่ชุมชนและท้องถิน่ ของตน
คำอธิบายรายวิชา
รหัสวชิ า ส ๑๔๑๐๑ รายวชิ าพน้ื ฐานสังคมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือ พุทธประวตั ิต้ังแต่บรรลุธรรม
จนถึงประกาศธรรมหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือหรือปฏิบัติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก
ประวตั สิ าวก/ชาดก เร่อื งเลา่ และศาสนกิ ชนตวั อย่าง แสดงความเคารพพระรตั นตรัย ปฏบิ ตั ติ ามไตรสิกขาและ
หลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ ชื่นชมการทำความดีของตนเอง
บุคคลในครอบครวั โรงเรยี น และชุมชน ตามหลักศาสนา พร้อมทั้งบอกแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวติ สวดมนต์
แผ่เมตตา มีสติ มีสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏิบัติตนตาม
หลกั ธรรมของศาสนาเพ่ือการอยู่รว่ มกันอย่างสมานฉันท์ มีสว่ นรว่ มในการบำรงุ รักษาศาสนสถาน มีมารยาทของ
ความเปน็ ศาสนกิ ชนที่ดี ในศาสนพธิ ี พิธีกรรมและวันสำคัญทางศาสนา การเป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย
การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี สทิ ธพิ นื้ ฐานทีเ่ ด็กทกุ คนพงึ ไดร้ ับตามกฎหมาย ความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมของกลุ่ม
คนในท้องถิ่น วิธีการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อำนาจอธิปไตยและความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
บทบาทหน้าที่ในกระบวนการเลือกตั้ง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินคา้ และบริการ สิทธิพื้นฐานและรักษา
ผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผู้บริโภค หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ความสัมพันธท์ างเศรษฐกจิ ของคนในชมุ ชน และหนา้ ที่เบือ้ งตน้ ของเงิน ศึกษาขอ้ มูลลกั ษณะทางกายภาพ แหลง่
ทรัพยากร สถานที่สำคัญในจงั หวัดของตนด้วยแผนท่ีและรปู ถ่าย ผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสิง่ แวดล้อม
ทางกายภาพท่ที ำให้เกิดผลกระทบกบั การดำเนนิ ชวี ิต และแนวทางจัดการส่งิ แวดลอ้ ม
โดยใช้ทกั ษะกระบวนการคดิ การสอนแบบ Active learning กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการ
ปฏบิ ัติ กระบวนการทางสังคมกระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแกป้ ญั หา
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี
คุณลกั ษณะอันพึงประสงคใ์ นด้านรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ รกั ความเป็นไทย มี
จิตสาธารณะ สามารถดำเนนิ ชวี ิตอย่างสนั ตสิ ขุ ในสังคมไทยและสังคมโลก
ตวั ช้ีวัด
ส ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ส ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ส ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
ส ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ส ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ส ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ส ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ส ๕.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
รวม ๓๐ ตัวช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวิชา
รหสั วิชา ส ๑๔๑๐๒ รายวชิ าพนื้ ฐานประวัตศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ การนับช่วง เวลา เป็นทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ ตามยุคสมัยในการศึกษา
ประวตั ขิ องมนษุ ยชาติ แยกแยะประเภทหลกั ฐานทใี่ ช้ในการศกึ ษาความเป็นมาของทอ้ งถนิ่ การต้ังหลักแหล่งและ
พฒั นาการของมนุษย์ยคุ ก่อนประวัติศาสตร์และยคุ ประวัติศาสตร์ ตวั อย่างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีแสดงถึง
พัฒนาการของมนุษยชาติ พฒั นาการของอาณาจกั รสโุ ขทยั ประวตั ิและผลงานของบุคคลสำคัญสมยั สุโขทัย ภูมิ
ปญั ญาไทยทส่ี ำคญั ทนี่ า่ ภาคภมู ิใจ และควรคา่ แกก่ ารอนรุ กั ษ์
โดยใช้กระบวนการสืบค้นข้อมูล วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม
กระบวนการทางสงั คม
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ ่างๆอยา่ งเป็น
ระบบ ตระหนกั ถึงความสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ มีความรัก ความภาคภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย สามารถ
ดำเนินชวี ิตอยา่ งสนั ติสุขในสังคมไทยและสังคมโลก
ตัวช้ีวดั
ส ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ส ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ส ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
รวม ๘ ตวั ชี้วดั
สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่
ส ๔.๑ ป. ๔/๓ แยกแยะประเภทหลกั ฐานที่ใช้ในการศึกษาความเปน็ มาของท้องถิ่น
คำอธิบายรายวชิ า
รหสั วิชา ส ๑๕๑๐๑ รายวชิ าพื้นฐานสังคมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๘๐ ชั่วโมง / ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะที่เป็นมรดกทาง
วัฒนธรรมและหลักในการพัฒนาชาติไทย พุทธประวัติตั้งแต่เสด็จกรุงกบิลพสั ดุ์จนถึงพุทธกิจสำคัญ แบบอย่าง
การดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง องค์ประกอบ และ
ความสำคญั ของพระไตรปิฎก หรอื คมั ภีร์ของศาสนาที่ตนนบั ถอื การแสดงความเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบัติตาม
ไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓ หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ การสวดมนต์แผ่เมตตา มีสติที่เป็น
พน้ื ฐานของสมาธิ หรอื การพฒั นาจติ เพ่ือการพัฒนาตนเองและสงิ่ แวดลอ้ ม รูปแบบพิธีกรรม และการปฏิบัติตนที่
ถูกต้องในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนา มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีและอภิปราย
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิเสรีภาพ และหน้าที่ใน
ฐานะพลเมืองดี วิธีการปกป้องคุ้มครองตนเองหรือผูอ้ ืน่ จากการละเมิดสิทธิเด็ก คุณค่าวัฒนธรรมไทยที่มีผลต่อ
การดำเนินชีวติ การอนุรกั ษแ์ ละเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ของชุมชน โครงสร้าง อำนาจ หน้าท่ีและความสำคัญ
ของการปกครองส่วนท้องถนิ่ บทบาทหน้าที่ และวธิ ีการเขา้ ดำรงตำแหนง่ ของผู้บรหิ ารท้องถิน่ ประโยชน์ที่ชุมชน
จะไดร้ ับจากองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินศกึ ษาปัจจัยการผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร แนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว โรงเรียนและชุมชน หลักการสำคัญและประโยชน์ของสหกรณ์
บทบาทหน้าที่เบื้องต้นของธนาคาร ผลดีและผลเสียของการกู้ยืม ศึกษาลักษณะทางกายภาพท่ีส่งผลต่อแหล่ง
ทรัพยากรและสถานที่สำคัญ สิ่งแวดล้อมที่มอี ิทธิพลต่อลกั ษณะการตั้ง และการย้ายถิ่นฐาน วิถีการดำเนินชวี ติ
ผลการรกั ษาและทำลายสิ่งแวดลอ้ ม รวมถึงแนวทางในการจดั การส่ิงแวดล้อมในภูมภิ าคของตน
โดยใช้ทักษะกระบวนการคิด การสอนแบบ Active learning กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการ
ปฏบิ ตั ิ กระบวนการทางสังคมกระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแก้ปัญหา
เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏบิ ัตใิ นการดำเนนิ ชีวติ มคี ุณธรรมจริยธรรม มีคุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มหี ลักธรรมในการดำเนนิ ชวี ิต รักความเป็นไทย มีจิต
สาธารณะ และสามารถดำเนนิ ชวี ิตในสงั คมได้อยา่ งสันตสิ ุข
ตวั ช้ีวดั
ส ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ส ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ส ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ส ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ส ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ส ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ส ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ส ๕.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ รวม ๒๗ ตัวช้วี ดั
คำอธิบายรายวิชา
รหสั วชิ า ส ๑๕๑๐๒ รายวิชาพน้ื ฐานประวัตศิ าสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
_________________________________________________________________________________
ศึกษา วิเคราะห์ ความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้หลกั ฐานท่ีหลากหลาย รวบรวมข้อมูลจากแหล่งตา่ ง ๆ
เพื่อตอบคำถามทางประวตั ิศาสตร์อย่างมเี หตุผล ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกยี่ วกับเร่ืองราว
ในท้องถิ่น อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียและจีนที่มีต่อไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงอิทธิพลของ
วัฒนธรรมต่างชาติที่มีต่อสังคมไทยปัจจุบัน พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรี ปัจจัยที่ส่งเสริมความ
เจริญ รุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการปกครองของอาณาจักรอยุธยา ประวัติและผลงานของบุคคลสำคัญสมัย
อยุธยาและธนบุรี ภมู ิปัญญาสำคญั ท่นี า่ ภาคภูมิใจและควรค่าแกก่ ารอนรุ ักษ์ไว้
โดยใช้กระบวนการสืบค้นข้อมูล วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม
กระบวนการทางสังคม
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตรม์ าวเิ คราะหเ์ หตุการณต์ า่ งๆอยา่ งเป็น
ระบบ ตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ มีความรัก ความภาคภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย สามารถ
ดำเนนิ ชวี ิตอย่างสันตสิ ุขในสังคมไทยและสงั คมโลก
ตัวชี้วดั
ส ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ส ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ส ๔.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
รวม ๙ ตัวชว้ี ัด
สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่
ส ๔.๑ ป. ๕/๑ สบื ค้นความเปน็ มาของทอ้ งถ่ินโดยใช้หลกั ฐานทหี่ ลากหลาย