201 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่าง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง อนุสาวรีย์หมู ใครที่มีโอกาสแวะผ่านไปมาบริเวณริมคลองหลอด เชิงสะพานปีกุน ต้องสะดุดตากับ “อนุสาวรีย์หมู” พร้อม เครื่องเซ่นไหว้ พวงมาลัย ตุ๊กตาหมูน่ารักของผู้ที่เกิดในปีกุนวางเกลื่อนอยู่ที่ฐานด้านล่าง อนุสาวรีย์รูปหมู มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “อนุสาวรีย์สหชาติ” ออกแบบโดยสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ สร้างขึ้นในปี 2456 เป็นอุทกทานที่สร้างขึ้นในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระชนมายุ 50 พรรษา พระองค์ทรงพระราชสมภพในปีกุนเช่นเดียวกับผู้สร้างถวายทั้งสามท่าน คือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ พระยาพิพัฒน์โกษา และพระยาราชสงคราม ส่วน “สะพานปีกุน” สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นก่อนอนุสาวรีย์หมู แต่ ไม่ได้พระราชทานชื่อไว้ ต่อมาเมื่อสร้างอนุสาวรีย์หมูขึ้นแล้วจึงเรียกให้สอดคล้องกันว่าสะพานหมู หรือสะพานปี กุนนั่นเอง เมื่อแรกสร้างใช้แท่งศิลาขนาดใหญ่มาซ้อนกันเป็นฐาน ตัวหมูที่ตั้งอยู่ด้านบนแท่งศิลาหล่อด้วยโลหะ ปัจจุบันฐานศิลาถูกเปลี่ยนมาเป็นปูนซีเมนต์ และก่อยกให้สูงขึ้นกว่าเดิม ลักษณะเหมือนเป็นภูเขา ใครที่เกิดปีกุน หากมีโอกาสแวะไป ควรไปกราบไหว้ขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลก็จะดีไม่น้อย ที่มา หนังสือพิมพ์M2F ฉบับวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
202 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ใบงานที่ 4.7 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริงตามที่สมาชิกกลุ่มสนใจร่วมกัน โดยตั้งชื่อเรื่อง พิจารณาความสอดคล้องของเนื้อหาสาระ การใช้ภาษา การเขียนสะกดคำ การลำดับเรื่อง
203 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ใบงานที่ 4.7 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริงตามที่สมาชิกกลุ่มสนใจร่วมกัน โดยตั้งชื่อเรื่อง พิจารณาความสอดคล้องของเนื้อหาสาระ การใช้ภาษา การเขียนสะกดคำ การลำดับเรื่อง (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
204 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบประเมิน การเขียนเรียงความ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตการเขียนเรียงความของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ถูกต้องตาม หลักการเขียน มี องค์ประกอบ ครบถ้วน การใช้ภาษา ในการเขียน เนื้อหาถูกต้อง ชัดเจน รวม 16 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
205 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร จำนวน ๑๔ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๗ เรื่อง หลักการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก จำนวน ๓ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ม.1/3 เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/5 เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน ม.1/7 เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ ม.1/8 เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน ม.1/9 มีมารยาทในการเขียน ท ๔.๑ ม.1/๑ อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย ม.1/๒ สร้างคำในภาษาไทย ม.1/๓ วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในภาไทย ม.1/๔ วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดภาษาเขียน ม.1/๕ แต่งบทร้อยกรอง ม.1/๖ จำแนกและใช้คำสำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต ๒. สาระสำคัญ การเขียนบรรยายประสบการณ์ เรียงความ ย่อความ จดหมาย รายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน จะต้องมี ความรู้เรื่องหลักการเขียน และมีมารยาทในการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ - การเขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ - ฝึกการเขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน ๓.๓ ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ใช้ถ้อยคำถูกต้องชัดเจนสละสลวยและมีมารยาทในการเขียน
206 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๕. สาระการเรียนรู้ การบรรยายประสบการณ์ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา การเขียนย่อความจากสื่อต่างๆ การเขียนจดหมายส่วนตัว - จดหมายขอความช่วยเหลือ การเขียนจดหมายกิจธุระ - จดหมายสอบถามข้อมูล การเขียนรายงาน ได้แก่ - การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า - การเขียนรายงานโครงงาน ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) ขั้นนำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม จากนั้นครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่นักเรียนประทับใจที่สุด ให้เพื่อนฟัง 2. ครูถามนักเรียนว่า สมาชิกคนใดในกลุ่มเล่าประสบการณ์ได้น่าฟังที่สุด จากนั้นครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การ เล่าหรือการเขียนบรรยายเกี่ยวกับประสบการณ์จะต้องอาศัยการระบุสาระสำคัญและรายละเอียดต่างๆ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การเขียนบรรยาย จากหนังสือเรียน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันอธิบายลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์เรื่อง ล่องแพแม่วัง จากหนังสือเรียน ตามประเด็นที่ครูกำหนด จากนั้นผลัดกันอธิบายในแต่ละประเด็น แล้วสรุปผล
207 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค 2. ครูสุ่มเรียกตัวแทนนักเรียน 2-3 กลุ่ม อธิบายประเด็นความรู้ที่เป็นข้อสรุปของกลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนร่วมกัน สรุปลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์ ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) นักเรียนทำใบงานที่ 4.8 เรื่อง การเขียนบรรยายประสบการณ์ เป็นรายบุคคล เมื่อทำเสร็จแล้วให้ตรวจความ เรียบร้อยและแก้ไขให้สมบูรณ์ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) นักเรียนแต่ละคนนำเสนอผลงานการเขียนบรรยายประสบการณ์ในใบงานที่ 4.8 ครูประเมินผลเป็นรายบุคคล ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ - วิเคราะห์สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่สอดคล้องกัน - ออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด - ใช้เครื่องมือวิธีประเมินที่หลากหลายเหมาะสมกับตัวชี้วัด หลักมีเหตุผล - จัดกระบวนการเรียนรู้ที่คำนึกถึงความรู้ความสามารถของผู้เรียน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัว ที่ดี - ศึกษาเนื้อหาสาระรูปแบบกิจกรรมให้บรรลุตามตัวชี้วัด - จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน การสอนและสามารถนำไปใช้ได้ในกรณีขาดแคลนครูสอน เงื่อนไขความรู้ - อธิบายคุณค่าของจากเรื่องที่อ่านได้ เงื่อนไขคุณธรรม - มีมารยาทในการพูด ฟัง ดู มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๔ มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) สื่อการเรียนรู้ ๑.ใบงาน ๒. หนังสือเรียน ภาษาไทย : ม.๑ ๓. แบบทดสอบหลังเรียน ๔. ใบความรู้ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) -
208 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการ ประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - หลักการเขียน เรียงความเชิงพรรณนา ตามความรู้สึก -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ (P) - ฝึกการเขียน เรียงความเชิงพรรณนา ตามความรู้สึก - หลักการพูด การฟัง การดู -ตรวจสอบจากการพูด รายงาน -แบบประเมินการพูด รายงาน -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ (A) - ใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจนสละสลวยและมี มารยาทในการเขียน -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ลงชื่อ……………………………………………ครูผู้สอน (นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค) ………/…………/…………
209 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบสังเกตพฤติกรรม เลขที่ ชื่อ – สกุล ร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถาม เป็นผู้ฟังที่ดี ร่วมสรุป ความรู้ หลังจากการ เรียน ความ สะอาด เรียบร้อย ส่งงานตรง ตามเวลาที่ กำหนด รวม ๑๐ คะแนน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙.
210 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เลขที่ ชื่อ – สกุล ร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถาม เป็นผู้ฟังที่ดี ร่วมสรุป ความรู้ หลังจากการ เรียน ความ สะอาด เรียบร้อย ส่งงานตรง ตามเวลาที่ กำหนด รวม ๑๐ คะแนน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐. ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............................../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน ไม่ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรม ให้ ๐ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๗ – ๑๐ ดี ๓ - ๖ พอใช้ ต่ำกว่า ๒ ปรับปรุง
211 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบประเมินการพูดรายงาน เลขที่ ประเด็น/คะแนน ชื่อ - สกุล ความถูกต้อง ความคล่องแคล่ว การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบการ พูด รวมคะแนน ๘ ๘ ๔ ๒๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. .................
212 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เกณฑ์การให้คะแนนการพูด ระดับ คะแนน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ ความสำคัญ คะแนน รวม ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้อง ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องตามหลัก การออกเสียง ออกเสียงเน้น หนักในคำ/ ประโยคอย่าง สมบูรณ์ ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องตาม หลักการออก เสียงมีเสียง เน้นหนักในคำ/ ประโยคเป็น ส่วนใหญ่ ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ขาดการออก เสียงเน้นหนัก ออกเสียงคำ/ ประโยคผิด หลักการออก เสียงทำให้ สื่อสารไม่ได้ ๒ ๘ ความคล่องแคล่ว พูดต่อเนื่อง ไม่ติดขัด พูดชัดเจน ทำให้สื่อสารได้ พูดตะกุก ตะกักบ้าง แต่ ยังพอสื่อสารได้ พูดเป็นคำๆ หยุดเป็นช่วงๆ เพื่อทำให้ สื่อสารได้ไม่ ชัดเจน พูดได้บางคำ ทำให้สื่อ ความหมาย ไม่ได้ ๒ ๘ การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบ การพูด แสดงท่าทาง และพูดด้วย น้ำเสียง เหมาะสมกับบท บรรยาย พูดด้วยน้ำเสียง เหมาะสมกับ บทบรรยาย แต่ไม่มีท่าทาง ประกอบ พูดเหมือนอ่าน ไม่เป็นธรรมชาติ ขาดความ น่าสนใจ พูดได้น้อยมาก ๑ ๔ รวม ๕ ๒๐
213 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค บันทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ๑๗ ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม.๑/……… สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก .............................................................................................................................................................................................................. ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........ ......................... ได้แก่ ...................................................................................................................... ............................................................................. ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่ ............................................................................................................................................................ ........................................ ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้……………………….............................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.................ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................. ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่นๆ .................................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................. ................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค)
214 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………… ……… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………….…………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
215 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่าง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก วันที่ 2 มกราคม 2551 เป็นวันแห่งการสูญเสียใหญ่หลวงของปวงชนชาวไทย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้า ฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 2 นาฬิกา 54 นาที ตามแถลงการณ์ สำนักพระราชวัง ยังความวิปโยคโศกเศร้าอาลัยอย่างสุดซึ้งบังเกิดแก่พสกนิกรทั่วไป ทั้งภายในและนอกประเทศ พอรุ่งสางข่าวได้แพร่สะพัดไปอย่างเร็ว แม้จะเป็นที่คาดหมายกันล่วงหน้าจากที่ติดตามแถลงการณ์สำนัก พระราชวังโดยตลอดก็ตาม ไม่นานนักบริเวณโรงพยาบาลศิริราชก็คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่ทยอยกันไปเพื่อรอถวาย ความเคารพพระศพ สีดำของเสื้อผ้าที่ผู้คนสวมใส่ ใบหน้าที่หมองคล้ำ นัยน์ตาที่หล่อรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาบอกให้รู้ ว่าทุกดวงใจในที่นั้นหมองเศร้าเพียงใด นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชาวไทยรู้สึกสูญเสีย แต่ในความสูญเสียนั้นเราได้เห็น พลังและความจงรักภักดีที่คนไทย มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกคนอยากจะแบ่งเบาความโทมนัสพระทัยจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว*และอยากถวายกำลังใจแด่พระองค์ การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ครั้งนี้ ถือเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของพสกนิกรชาวไทย ดังที่มีผู้ถ่ายทอดความรู้สึกถึงพระองค์ไว้ว่า อาลัยพระเสด็จด้าว แดนสวรรค์ ปวงประชาโศกศัลย์ ทั่วหล้า ตะวันลับดับคงผัน คืนรุ่ง อรุณแฮ สูญพระองค์ลับฟ้า ลับแล้วลาไกล หฤทัยปลงเปี่ยมเศร้า โศกสลด หมองหม่นพ้นพากย์พจน์ เทียบแท้ วรกายมิปรากฏ แก่เนตร นรานา พระเกียรติพระคุณแล้ อยู่ยั้งยืนนิรันดร์ (สโมสรสมานมิตร : คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ, นิตยสารสกุลไทย) * “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ในที่นี้หมายถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
216 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ใบงานที่ 4.5 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึกในเรื่องที่ตนเองสนใจ
217 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ใบงานที่ 4.5 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึกในเรื่องที่ตนเองสนใจ (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
218 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ใบงานที่ 4.6 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามเรื่องที่กำหนด คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเกี่ยวกับ “สังคมไทย มารยาทไทย และมารยาทของเด็กไทย” โดยตั้งชื่อเรื่องให้เหมาะสม และใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษา
219 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ใบงานที่ 4.6 การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามเรื่องที่กำหนด คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเกี่ยวกับ “สังคมไทย มารยาทไทย และมารยาทของเด็กไทย” โดยตั้งชื่อเรื่องให้เหมาะสม และใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษา (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
220 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบประเมิน การเขียนเรียงความ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตการเขียนเรียงความของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ถูกต้องตาม หลักการเขียน มี องค์ประกอบ ครบถ้วน การใช้ภาษา ในการเขียน เนื้อหาถูกต้อง ชัดเจน รวม 16 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
221 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร จำนวน ๑๔ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๘ เรื่อง หลักการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง จำนวน ๓ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ม.1/3 เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/5 เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน ม.1/7 เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ ม.1/8 เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน ม.1/9 มีมารยาทในการเขียน ท ๔.๑ ม.1/๑ อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย ม.1/๒ สร้างคำในภาษาไทย ม.1/๓ วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในภาไทย ม.1/๔ วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดภาษาเขียน ม.1/๕ แต่งบทร้อยกรอง ม.1/๖ จำแนกและใช้คำสำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต ๒. สาระสำคัญ การเขียนบรรยายประสบการณ์ เรียงความ ย่อความ จดหมาย รายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน จะต้องมี ความรู้เรื่องหลักการเขียน และมีมารยาทในการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ - การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ - ฝึกการเขียนการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน ๓.๓ ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ใช้ถ้อยคำถูกต้องชัดเจนสละสลวยและมีมารยาทในการเขียน ๔. สมรรถนะของผู้เรียน
222 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๕. สาระการเรียนรู้ การบรรยายประสบการณ์ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา การเขียนย่อความจากสื่อต่างๆ การเขียนจดหมายส่วนตัว - จดหมายขอความช่วยเหลือ การเขียนจดหมายกิจธุระ - จดหมายสอบถามข้อมูล การเขียนรายงาน ได้แก่ - การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า - การเขียนรายงานโครงงาน ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ ขั้นนำ ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู้ 1. ครูนำตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง มาแจกให้นักเรียนอ่าน จากนั้นให้นักเรียน แต่ละ กลุ่มวิเคราะห์ตัวอย่างเรียงความ ตามประเด็นที่ครูกำหนด 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์ตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม จากนั้นร่วมกันสืบค้นเกี่ยวกับผลงานเรียงความดีเด่นที่ชนะการประกวด โดยเลือก มาเป็นแบบ กลุ่มละ 1 เรื่อง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาวิธีการเขียนเรียงความที่เลือกมาเป็นแบบแล้ววิเคราะห์ลักษณะและส่วนประกอบของการ เขียนเรียงความ จากนั้นให้ฝึกเขียนเรียงความตามแบบ เมื่อเขียนเสร็จแล้วให้สมาชิกในกลุ่ม ผลัดกันอ่านเพื่อ ร่วมกันติชม และเสนอแนะข้อบกพร่องเพื่อให้แก้ไขให้สมบูรณ์
223 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริงตามที่สมาชิกกลุ่มสนใจ โดยตั้งชื่อเรื่องเอง จากนั้นให้ตรวจสอบงานเขียน และปรับปรุงให้ชัดเจน ถูกต้องแล้วบันทึกลงในใบงานที่ 4.7 เรื่อง การเขียนเรียงความ เชิงพรรณนาตามความเป็นจริง เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ 1. ครูตรวจผลงานการเขียนเรียงความในใบงานที่ 4.7 จากนั้นประเมินผล แล้วเสนอแนะให้นักเรียนนำไปปรับปรุง แก้ไขเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ 2. ครูประเมินผลการเขียนเรียงความของนักเรียนอีกครั้ง และคัดเลือกผลงานการเขียนเรียงความที่ดีเด่น จัดแสดงบนป้ายนิเทศ ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ - วิเคราะห์สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่สอดคล้องกัน - ออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด - ใช้เครื่องมือวิธีประเมินที่หลากหลายเหมาะสมกับตัวชี้วัด หลักมีเหตุผล - จัดกระบวนการเรียนรู้ที่คำนึกถึงความรู้ความสามารถของผู้เรียน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัว ที่ดี - ศึกษาเนื้อหาสาระรูปแบบกิจกรรมให้บรรลุตามตัวชี้วัด - จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน การสอนและสามารถนำไปใช้ได้ในกรณีขาดแคลนครูสอน เงื่อนไขความรู้ - อธิบายคุณค่าของจากเรื่องที่อ่านได้ เงื่อนไขคุณธรรม - มีมารยาทในการพูด ฟัง ดู มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๔ มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) สื่อการเรียนรู้ ๑.ใบงาน ๒. หนังสือเรียน ภาษาไทย : ม.๑ ๓. แบบทดสอบหลังเรียน ๔. ใบความรู้ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) -
224 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการ ประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - หลักการเขียน เรียงความเชิงพรรณนา ตามความเป็นจริง -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ (P) - ฝึกการเขียน เรียงความเชิงพรรณนา ตามความเป็นจริง - หลักการพูด การฟัง การดู -ตรวจสอบจากการพูด รายงาน -แบบประเมินการพูด รายงาน -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ (A) - ใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจนสละสลวยและมี มารยาทในการเขียน -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ลงชื่อ……………………………………………ครูผู้สอน (นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค) ………/…………/…………
225 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบสังเกตพฤติกรรม เลขที่ ชื่อ – สกุล ร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถาม เป็นผู้ฟังที่ดี ร่วมสรุป ความรู้ หลังจากการ เรียน ความ สะอาด เรียบร้อย ส่งงานตรง ตามเวลาที่ กำหนด รวม ๑๐ คะแนน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙.
226 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เลขที่ ชื่อ – สกุล ร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถาม เป็นผู้ฟังที่ดี ร่วมสรุป ความรู้ หลังจากการ เรียน ความ สะอาด เรียบร้อย ส่งงานตรง ตามเวลาที่ กำหนด รวม ๑๐ คะแนน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐. ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............................../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน ไม่ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรม ให้ ๐ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๗ – ๑๐ ดี ๓ - ๖ พอใช้ ต่ำกว่า ๒ ปรับปรุง
227 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบประเมินการพูดรายงาน เลขที่ ประเด็น/คะแนน ชื่อ - สกุล ความถูกต้อง ความคล่องแคล่ว การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบการ พูด รวมคะแนน ๘ ๘ ๔ ๒๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. .................
228 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เกณฑ์การให้คะแนนการพูด ระดับ คะแนน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ ความสำคัญ คะแนน รวม ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้อง ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องตามหลัก การออกเสียง ออกเสียงเน้น หนักในคำ/ ประโยคอย่าง สมบูรณ์ ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องตาม หลักการออก เสียงมีเสียง เน้นหนักในคำ/ ประโยคเป็น ส่วนใหญ่ ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ขาดการออก เสียงเน้นหนัก ออกเสียงคำ/ ประโยคผิด หลักการออก เสียงทำให้ สื่อสารไม่ได้ ๒ ๘ ความคล่องแคล่ว พูดต่อเนื่อง ไม่ติดขัด พูดชัดเจน ทำให้สื่อสารได้ พูดตะกุก ตะกักบ้าง แต่ ยังพอสื่อสารได้ พูดเป็นคำๆ หยุดเป็นช่วงๆ เพื่อทำให้ สื่อสารได้ไม่ ชัดเจน พูดได้บางคำ ทำให้สื่อ ความหมาย ไม่ได้ ๒ ๘ การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบ การพูด แสดงท่าทาง และพูดด้วย น้ำเสียง เหมาะสมกับบท บรรยาย พูดด้วยน้ำเสียง เหมาะสมกับ บทบรรยาย แต่ไม่มีท่าทาง ประกอบ พูดเหมือนอ่าน ไม่เป็นธรรมชาติ ขาดความ น่าสนใจ พูดได้น้อยมาก ๑ ๔ รวม ๕ ๒๐
229 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค บันทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ๑๘ ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม.๑/……… สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก .............................................................................................................................................................................................................. ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ................................. ได้แก่ ................................................................................................................................................................................................... ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่ ..................................................................................... ............................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้……………………….............................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.................ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................. ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่นๆ ....................................................................................................................... ............................. ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง .......................................... ................................................................... แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค)
230 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………… ……… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………….…………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
231 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ
232 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ จำนวน ๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๙ เรื่อง หลักการเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความ จำนวน ๒ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ม.๑/๖ เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ ม.1/9 มีมารยาทในการเขียน ๒. สาระสำคัญ การศึกษาสื่อประเภทต่างๆ ต้องเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ และมีมารยาทในการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ - การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อต่างๆ เช่น - บทความ - หนังสืออ่านนอกเวลา - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน - เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ - ฝึกการเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ ๓.๓ ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ใช้ถ้อยคำถูกต้องชัดเจนสละสลวยและมีมารยาทในการเขียน ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
233 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ๕. สาระการเรียนรู้ - การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อต่าง ๆ เช่น - บทความ - หนังสืออ่านนอกเวลา - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน - เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ บรรยาย ขั้นนำ ครูนำข่าว บทความ หรือสารคดีสั้นๆ จากหนังสือพิมพ์รายวันมาอ่านให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนแสดงความ คิดเห็นว่า สิ่งที่ครูอ่านให้ฟังนั้นเป็นเรื่องประเภทใด ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง หลักการเขียนแสดงความคิดเห็น และการเขียนแสดงความคิดเห็นผ่าน สื่อต่างๆ จากหนังสือเรียน และใบความรู้ที่ครูกำหนด 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นความรู้เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อต่างๆ ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ - วิเคราะห์สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่สอดคล้องกัน - ออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด - ใช้เครื่องมือวิธีประเมินที่หลากหลายเหมาะสมกับตัวชี้วัด หลักมีเหตุผล - จัดกระบวนการเรียนรู้ที่คำนึกถึงความรู้ความสามารถของผู้เรียน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัว ที่ดี - ศึกษาเนื้อหาสาระรูปแบบกิจกรรมให้บรรลุตามตัวชี้วัด - จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน การสอนและสามารถนำไปใช้ได้ในกรณีขาดแคลนครูสอน เงื่อนไขความรู้ - อธิบายคุณค่าของจากเรื่องที่อ่านได้ เงื่อนไขคุณธรรม - มีมารยาทในการพูด ฟัง ดู มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน
234 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๔ มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) สื่อการเรียนรู้ ๑.ใบงาน ๒. หนังสือเรียน ภาษาไทย : ม.๑ ๓. แบบทดสอบหลังเรียน ๔. ใบความรู้ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการ ประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - หลักการเขียน หลักการเขียนแสดงความ คิดเห็นจากบทความ -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ (P) - ฝึกเขียนหลักการ แสดงความคิดเห็นจาก บทความ - หลักการพูด การฟัง การดู -ตรวจสอบจากการพูด รายงาน -แบบประเมินการพูด รายงาน -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ (A) - ใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจนสละสลวยและมี มารยาทในการเขียน -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ลงชื่อ……………………………………………ครูผู้สอน (นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค) ………/…………/…………
235 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบสังเกตพฤติกรรม เลขที่ ชื่อ – สกุล ร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถาม เป็นผู้ฟังที่ดี ร่วมสรุป ความรู้ หลังจากการ เรียน ความ สะอาด เรียบร้อย ส่งงานตรง ตามเวลาที่ กำหนด รวม ๑๐ คะแนน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙.
236 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เลขที่ ชื่อ – สกุล ร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถาม เป็นผู้ฟังที่ดี ร่วมสรุป ความรู้ หลังจากการ เรียน ความ สะอาด เรียบร้อย ส่งงานตรง ตามเวลาที่ กำหนด รวม ๑๐ คะแนน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐. ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............................../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน ไม่ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรม ให้ ๐ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๗ – ๑๐ ดี ๓ - ๖ พอใช้ ต่ำกว่า ๒ ปรับปรุง
237 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แบบประเมินการพูดรายงาน เลขที่ ประเด็น/คะแนน ชื่อ - สกุล ความถูกต้อง ความคล่องแคล่ว การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบการ พูด รวมคะแนน ๘ ๘ ๔ ๒๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. .................
238 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค เกณฑ์การให้คะแนนการพูด ระดับ คะแนน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ ความสำคัญ คะแนน รวม ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้อง ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องตามหลัก การออกเสียง ออกเสียงเน้น หนักในคำ/ ประโยคอย่าง สมบูรณ์ ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องตาม หลักการออก เสียงมีเสียง เน้นหนักในคำ/ ประโยคเป็น ส่วนใหญ่ ออกเสียง คำศัพท์และ ประโยคได้ ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ขาดการออก เสียงเน้นหนัก ออกเสียงคำ/ ประโยคผิด หลักการออก เสียงทำให้ สื่อสารไม่ได้ ๒ ๘ ความคล่องแคล่ว พูดต่อเนื่อง ไม่ติดขัด พูดชัดเจน ทำให้สื่อสารได้ พูดตะกุก ตะกักบ้าง แต่ ยังพอสื่อสารได้ พูดเป็นคำๆ หยุดเป็นช่วงๆ เพื่อทำให้ สื่อสารได้ไม่ ชัดเจน พูดได้บางคำ ทำให้สื่อ ความหมาย ไม่ได้ ๒ ๘ การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบ การพูด แสดงท่าทาง และพูดด้วย น้ำเสียง เหมาะสมกับบท บรรยาย พูดด้วยน้ำเสียง เหมาะสมกับ บทบรรยาย แต่ไม่มีท่าทาง ประกอบ พูดเหมือนอ่าน ไม่เป็นธรรมชาติ ขาดความ น่าสนใจ พูดได้น้อยมาก ๑ ๔ รวม ๕ ๒๐
239 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค บันทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ๑๙ ๑. ผลการสอนระดับชั้น ม.๑/……… สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก .............................................................................................................................................................................................................. ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๑.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ................................. ได้แก่ ...................................................................................................................... ............................................................................. ๒.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ........................... ได้แก่ ............................................................................... ..................................................................................................................... ๓.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้……………………….............................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.................ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................. ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่นๆ .................................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ................................................................................................... .......... แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค)
240 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๔.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………… ……… ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………….…………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
241 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค การเขียนแสดงความคิดเห็น ขั้นแรกของการเขียนแสดงความคิดเห็นคือ การเขียนเกริ่นนำ หรืออารัมภบท เท้าความถึงข้อความที่ได้อ่าน หรือได้ยินได้ฟังมา เมื่อสามารถจับประเด็นของเรื่องที่อ่าน ที่จะแสดงความคิดเห็นได้แล้ว ขั้นที่สอง ควรเขียนให้ชัดเจนว่าเห็นด้วยหรือเห็นต่าง สนับสนุนหรือโต้แย้ง ถ้าสนับสนุนก็ต้องเสนอความคิดเห็น คล้อยตาม หรือเพิ่มเติมเพื่อขยายความคิดเห็นให้กว้างขึ้น ละเอียดขึ้นและชัดเจนขึ้น ไม่ใช่เขียนซ้ำซ้อนกับข้อความเดิมที่ มีอยู่แล้ว แต่ถ้าโต้แย้งก็ต้องมีการเสนอความเห็นที่ต่างออกไป โดยชี้ให้เห็นว่า เหตุผลใดจึงไม่เห็นด้วย ดังนั้นจะเห็นว่า การให้เหตุผลหรือการอ้างเหตุผลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ในการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่ใช้อารมณ์ความ รู้สึกแต่เพียงฝ่ายเดียว ขั้นสุดท้าย ขั้นตอนการสรุปรวม ในประเด็นที่แสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นการย้ำให้ผู้อ่านได้เก็บไปคิดไตร่ตรอง ต่อไป การเขียนก็จะมีลักษณะเดียวกัน หากไม่ใช่การนำเสนอข่าวหรือหลักวิชาการที่แน่นอนหรือการบันทึกประจำวัน แล้วนั้น ถ้าผู้เขียนต้องการเสนอความคิดเห็นส่วนตัวในเรื่องใดกับสิ่งที่เขียน ควรจะทำตามหลักการหรือขั้นตอนทั้งสามนี้ เพราะ 1.ประเด็นที่เขียนไม่กลายเป็นประเด็นหัวแตก คือ โยงไปเรื่อยจนสรุปไม่ลง 2.ผู้อ่านได้คิดตามจากสิ่งที่ได้อ่าน และมีการวิเคราะห์ พิจารณาไตร่ตรองข้อมูลที่อ่านด้วยเหตุผล อ้างอิง หรือความรู้ ความเข้าใจ 3.หากมีการแสดงความคิดเห็นกลับมาไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง แบบมีเหตุผล ไม่ใช่การต่อว่ากันจนผิดวัตถุประสงค์ ของหัวข้อประเด็นนั้นๆ ก็ย่อมเป็นการขยายความคิดของผู้เขียนเองได้ด้วย ดังนั้น การเสนอความคิดเห็นใดๆ ควรเป็นไปในรูปแบบของผู้มีเหตุและผล ไม่ใช่การใช้ความคึกคะนองของ ถ้อยคำหรือการใช้อารมณ์ส่วนตัวที่ขาดเหตุผลรองรับมาเผยแพร่จนเกินพอดี ที่มา http://www.showded.com/myprofile/mainblog.php?user=JACKULA&jnId=13066 ใบความรู้
242 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค บทความ บทความ หมายถึง รูปแบบการเขียนประเภทหนึ่ง ที่ผู้เขียนต้องการสื่อสาร ข้อเท็จจริง และความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งแก่ผู้อ่าน โดยเนื้อหานำเสนอจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่เรื่องแต่งหรือคิดขึ้นเองจากจินตนาการ ประเภทของบทความ แบ่งตามเนื้อหาของบทความ แบ่งได้เป็น 11 ประเภท ได้แก่ 1.บทบรรณาธิการ เป็นบทความแสดงความคิดเห็นลักษณะหนึ่งที่เขียนขึ้นเพื่อเสนอแนวคิดหลักของหนังสือพิมพ์ฉบับ นั้นต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 2.บทความสัมภาษณ์ เป็นบทความที่เขียนขึ้นจากการสัมภาษณ์บุคคลเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือ หลายเรื่อง หรือเกี่ยวกับชีวิตของบุคคล หรือจากการสัมภาษณ์บุคคลหลายคนในหัวข้อเดียวกัน 3.บทความแสดงความคิดเห็นทั่วๆ ไป มีเนื้อหาหลายลักษณะ เช่น หยิบยกปัญหา เหตุการณ์ หรือเรื่องที่ประชาชนสนใจ มาแสดงความคิดเห็น หรือผู้เขียนเสนอความคิดเห็นสนับสนุน หรือคัดค้าน หรือทั้งสนับสนุนและคัดค้านความคิดเห็นใน เรื่องเดียวกันของคนอื่นๆ เป็นต้น 4.บทความวิเคราะห์ เป็นบทความแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง ผู้เขียนจะพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เผยแพร่มาแล้ว อย่างละเอียด โดยแยกแยะให้เห็นส่วนต่างๆ ของเรื่องนั้น ผู้เขียนเสนอความคิด และวิเคราะห์เหตุการณ์เรื่องราวนั้น อย่างละเอียด แสดงข้อเท็จจริง เหตุผล เพื่อให้ผู้อ่านได้ความรู้ ความคิดเห็นเพิ่มเติม เกิดความคิดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แบ่งเป็นบทความวิเคราะห์ข่าว และบทความวิเคราะห์ปัญหา 5.บทความวิจารณ์ เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นในเชิงวิจารณ์เรื่องราวที่ต้องการวิจารณ์ด้วยเหตุผล และ หลักวิชาเป็น สำคัญ เช่น “บทวิจารณ์วรรณกรรม” แสดงความคิดเห็นเชิงวิจารณ์และประเมินค่า โดยใช้หลักวิชา และเหตุผล เพื่อให้ ผู้อ่านได้รู้จักวรรณกรรมเรื่องนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง และ “บทวิจารณ์ศิลปะแขนงอื่นๆ” ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับบทวิจารณ์ วรรณกรรม แต่นำผลงานที่เป็นศิลปะแขนงอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์ ละคร ภาพเขียน ดนตรี มาวิจารณ์ 6.บทความสารคดีท่องเที่ยว มีเนื้อหาแนวบรรยาย เล่าเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงามหรือมี ความสำคัญในด้านต่างๆ เพื่อแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ชักชวนให้สนใจ ไปพบเห็นสถานที่นั้นๆ 7.บทความกึ่งชีวประวัติ เป็นการเขียนบางส่วนของชีวิตบุคคลเพื่อให้ผู้อ่านทราบ โดยเฉพาะคุณสมบัติ หรือผลงานเด่นที่ ทำให้บุคคลนั้นมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จในชีวิต เพื่อชื่นชม ยกย่อง เจ้าของประวัติ และชี้ให้ผู้อ่านได้แง่คิด เพื่อเป็น แนวทางในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ 8.บทความครบรอบปี มีเนื้อหาแนวบรรยายเล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราว เหตุการณ์ พิธีการในเทศกาลหรือวันสำคัญ เช่น วันสำคัญทางศาสนา ทางประวัติศาสตร์ ทางวัฒนธรรม เกี่ยวกับบุคคลสำคัญ เป็นต้น เป็นสิ่งที่ประชาชนสนใจเมื่อ โอกาสนั้นมาถึง เช่น วันวิสาขบูชา เป็นต้น 9.บทความให้ความรู้ทั่วไป ผู้เขียนจะอธิบายให้ความรู้คำแนะนำในเรื่องทั่วๆ ไปที่ใช้ในการดำเนินชีวิต ประจำวัน เช่น มารยาทการเข้าสังคม การแต่งกายให้เหมาะแก่กาลเทศะและบุคลิกภาพ เคล็ดลับการครองชีวิตคู่ เป็นต้น
243 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค 10.บทความเชิงธรรมะ จะอธิบายข้อธรรมะให้ผู้อ่านทั่วๆ ไปเข้าใจได้ง่าย หรือให้คติแนวทางการดำเนินชีวิตตามแนว พุทธศาสนา เสนอหนทางแก้ปัญหาตามแนวพุทธปรัชญา ปัจจุบันบทความลักษณะนี้มีมากขึ้น เพื่อให้ผู้อ่าน มีแนวทาง การดำเนินชีวิตในสังคมที่วิกฤตได้อย่างปกติสุข มากขึ้น 11.บทความวิชาการ มีเนื้อหาแสดงข้อเท็จจริง ข้อความรู้ทางวิชาการเรื่องใดเรื่องหนึ่งในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ ผู้เขียนอาจจะเสนอเฉพาะเนื้อหาสาระทางวิชาการหรือเสนอทั้งเนื้อหาสาระข้อเท็จจริงและแสดงความคิดเห็นในเชิง วิเคราะห์ วิจารณ์ หรืออาจเสนอผลการวิจัย วัตถุประสงค์ของบทความ 1.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 2.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 3.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 4.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 5.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับวิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 6.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 7.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 8.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อแนะนำเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 9.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง บทความ เป็นการสื่อสารด้วยความเรียงประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เดียวหรือหลายจุดประสงค์ เช่น เพื่อนำเสนอ ความรู้ ข้อเท็จจริง ความคิดเห็น ตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์ วิจารณ์ เป็นต้น โดยต้องเขียนอย่างมีหลักฐาน มีเหตุผล น่าเชื่อถือ หากมีข้อเสนอแนะใดๆ ต้องเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ ลักษณะของบทความที่ดี บทความที่ดี ควรมีลักษณะที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1.มีเอกภาพ เนื้อหาของบทความมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีทิศทางของเนื้อหาเป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อมุ่งสู่ ประเด็นหลักที่ต้องการนำเสนอ 2.มีการเน้นข้อความสำคัญ ผู้เขียนต้องเน้นย้ำประเด็นสำคัญให้ชัดเจนว่า ต้องการนำเสนอแนวคิดสำคัญอะไร ด้วย ประโยคใจความสำคัญ หรือสาระสำคัญที่โดดเด่น เนื้อความตลอดเรื่องควรกล่าวย้ำประเด็นหลักของเรื่องเสมอ 3.มีสัมพันธภาพ มีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันโดยตลอด ทั้งในด้านการเรียบเรียงถ้อยคำ ข้อความและการจัด ลำดับเรื่อง ทุกประโยคในแต่ละย่อหน้า และทุกย่อหน้าในแต่ละเรื่องต้องเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ด้วยการใช้คำเชื่อมข้อความ ได้แก่ คำ
244 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค บุพบท เช่น กับ แต่ แด่ เพื่อ คำสันธาน เช่น และ รวมทั้ง ตลอดจน นอกจากนี้ คำประพันธ สรรพนาม เช่น ที่ ซึ่ง อัน เป็นต้น 4.มีความกระจ่าง มีความสมบูรณ์ในด้านเนื้อหา มีเนื้อความชัดเจนกระจ่างแจ้ง อธิบายได้ครอบคลุมความคิดหลักที่ ต้องการนำเสนอ ข้อมูลที่นำเสนอเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หากเป็นความคิดเห็นต้องมีความสมเหตุสมผล นอกจากนี้ต้อง มีความสมบูรณ์ด้านการใช้ภาษา คือ ต้องเลือกใช้ภาษาให้เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายการเขียนประเภทของบทความ เนื้อหาบทความ และกลุ่มผู้อ่านนั่นเอง ที่มา http://www.academic.hcu.ac.th/forum/board_posts.asp?FID=217&UID=
245 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค สารคดี สารคดี เป็นงานเขียนหรือวรรณกรรมร้อยแก้วในลักษณะตรงข้ามกับบันเทิงคดี (Fiction) ที่มุ่งให้สาระความรู้ แก่ผู้อ่านเป็นเบื้องต้น มีความเพลิดเพลินเป็นเบื้องหลัง ที่มุ่งแสดงความรู้ ความคิด ความจริง ความกระจ่างแจ้ง และ เหตุผลเป็นสำคัญ อาจจะเขียนเชิงอธิบาย เชิงวิจารณ์ เชิงแนะนำสั่งสอน เป็นต้น ลักษณะของสารคดี ถึงแม้ว่างานเขียนสารคดีจะมุ่งให้ความรู้ ข้อเท็จจริง หรือความคิดเห็นแก่ผู้อ่านเป็นสำคัญ แต่ก็ยากที่จะตัดสินว่างาน เขียนชิ้นไหนไม่ใช่สารคดี ลักษณะของงานเขียนสารคดีมีดังนี้ 1.การเสนอข้อมูลหรือเนื้อหาสาระเป็นข้อเท็จจริง โดยเน้นเนื้อหาสาระ เรื่องราว เหตุการณ์ ตัวบุคคล หรือสถานที่ต้อง เป็นข้อเท็จจริง และยังเป็นการเสนอข้อมูลที่ผู้เขียนได้ศึกษา สังเกต สำรวจ หรือวิเคราะห์ตีความเป็น อย่างดีแล้ว 2.มีจุดประสงค์ให้ผู้อ่านได้รับความรู้และความเพลิดเพลินในการอ่าน เป็นสองส่วนที่แยกกันไม่ได้ 3.การเขียนสารคดีอาจใช้จินตนาการประกอบได้ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เป็นการสร้างภาพตามความนึกคิดที่เกิดจาก อารมณ์ความรู้สึกของผู้เขียนเป็นการสร้างภาพที่เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ สังเกต พิจารณาจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง 4.สารคดีต้องเป็นงานเขียนที่สร้างสรรค์ เป็นการนำเสนอความคิดเห็นและทัศนะที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน โดยทั่วๆ ไป ไม่ใช่สร้างสรรค์ให้แก่บุคคลใดโดยเฉพาะ ประเภทของสารคดี 1.ความเรียง เป็นการเขียนสารคดีที่เน้นเรื่องการแสดงความคิดเห็น ซึ่งได้จากประสบการณ์การค้นคว้า หรือ ความคิดของผู้เขียน 1.1ความเรียงแสดงข้อคิด ความเรียงที่ผู้เขียนมุ่งแสดงข้อคิดเป็นหลัก ข้อคิดอันเป็นปรัชญาของชีวิต เป็น แนวทางสร้างสรรค์หรือพัฒนาตนเองและสังคมให้ดีขึ้น ในรูปแบบการนำเสนอแบบบอกเล่า แนะนำ สั่งสอน หรือใช้วิธี ประมวลแนวคิดต่างๆ เสนอแก่ผู้อ่าน เช่น ในท่ามกลางอารยธรรมผุกร่อน ของ พจนา จันทรสันติ โลกทั้งผองพี่น้องกัน ของ มหาตมะ คานธี แปลโดย กรุณา และเรืองอุไร กุศลาสัย พ่อแม่สมบูรณ์แบบ ของ พุทธทาสภิกขุ มุมที่ไม่มีเหลี่ยม ของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นต้น 1.2ความเรียงเบาสมอง เป็นความเรียงที่ผู้เขียนมุ่งให้ผู้อ่านได้รับสาระและความสนุกสนานไปด้วยกัน คล้าย บันเทิงคดี เพียงแต่เนื้อหาสาระเป็นเรื่องจริง เช่น ลูกเล่นลูกฮา ของทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ อารมณ์ขัน ของคึกฤทธิ์ ของ วิลาศ มณีวัฒิ สาวเอยจะบอกให้ ของ นเรศ นโรปกรณ์ เป็นต้น 2.บทความ เน้นข้อเท็จจริงโดยใช้หลักฐานอ้างอิงประกอบในลักษณะวิเคราะห์ปัญหาขัดแย้งต่างๆ หรือในการเสนอ ความเห็นทัศนคติของผู้เขียนต่อเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นหรือต่อเหตุการณ์ที่กำลังอยู่ ในความสนใจของสังคม นิยมใช้ภาษา ที่กระชับ เป็นทางการ สวยงาม เรียบง่าย ชัดเจน บทความบรรยาย เขียนเล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผู้เขียนประสบมา ใช้ภาษาเรียบง่าย
246 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค บทความแสดงความคิดเห็น เสนอความคิดเชิงโต้แย้งหรือสนับสนุน แต่เป็นความคิดที่แปลกใหม่ บทความวิเคราะห์ เขียนเพื่อวิเคราะห์เรื่องราว หรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่ ชัดเจน อ่านเข้าใจง่าย เน้นย้ำประเด็นสำคัญของเรื่อง บทความวิจารณ์ เป็นบทความที่คล้ายคลึงกับบทความประเภทแสดงความคิดเห็น แต่จะเป็น เชิงวิจารณ์ ซึ่ง ผู้เขียนต้องมีความรู้ มีเหตุผลและมีหลักวิชาเพื่อสนับสนุนข้อวิจารณ์นั้นๆ บทความสารคดี สารคดีเป็นชื่อเรียกบทความที่มีเนื้อหาสาระน่าสนใจเป็นพิเศษ ให้ทั้งความรู้และความ เพลิดเพลินแก่ผู้อ่าน โดยเน้นที่ความรู้เป็นสำคัญ ส่วนความเพลิดเพลินเป็นผลจากกลวิธีการเขียน ส่วนมากจึงกลายเป็น หนังสือสารคดี สารคดีมีหลายประเภท เช่น สารคดีชีวประวัติ สารคดีท่องเที่ยว สารคดีบันทึก (จดหมายเหตุ อนุทิน) เป็นต้น บทความวิชาการ เป็นบทความที่ผู้เขียนมุ่งแสดง หรือถ่ายทอดความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยตรงแก่ผู้อ่านในแขนงสาขา ความรู้ต่างๆ และควรมีเชิงอรรถ บรรณานุกรม หรือหนังสืออ้างอิงท้ายเรื่อง ภาษาที่ใช้เป็นภาษาที่เป็น แบบแผน คือ ถูกต้อง กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย อาจมีรูปภาพ ตาราง กราฟ หรือแผนภูมิประกอบเพื่อช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งอาจเป็น ในรูปแบบรายงานทางวิชาการ เป็นรายงานผลการวิจัย หรืออาจเป็นบทความที่พิมพ์ในวารสาร เป็นต้น 3.สารคดีท่องเที่ยว คือ วรรณกรรมร้อยแก้วที่ผู้เขียนบันทึกเรื่องราวที่ได้ประสบในการท่องเที่ยว โดยให้ความรู้ ทางด้านสภาพท้องถิ่น สภาพของคน ความเป็นอยู่ของคน ความรู้ทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ประเพณี วัฒนธรรม การทำมาหากิน หรือที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น แบบเล่าไปเรื่อยๆ มักเล่าเหตุการณ์เป็นลำดับ เช่น ไกลบ้าน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอม-เกล้า เจ้าอยู่หัว ฉากญี่ปุ่น และ ถกเขมร ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช สวรรค์เวียนนา ของ เรือใบร่อนไปไต้หวัน ของ ลมูล อติ พยัคฆ์ เป็นต้น แบบเล่าเป็นเชิงเปรียบเทียบ แสดงข้อเปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อยสถานที่ไปพบ เช่น จดหมายถึงเพื่อน ของ วาณิช จรุงกิจ อนันต์ ปลัดเปล่งเที่ยวรอบโลก ของ เปล่ง วิเทียมลักษณ์ เป็นต้น 4.สารคดีชีวประวัติเป็นงานเขียนที่กล่าวถึงเรื่องราว และพฤติกรรมของบุคคลจริง จะเขียนเน้นด้านบุคลิกภาพ ความรู้ และความคิดเห็นในด้านต่างๆ ตลอดจนผลงานที่น่าสนใจเพื่อนำประวัติชีวิตนั้นมาศึกษาแง่มุมต่างๆ หากเป็นงาน เขียนที่ผู้อื่นเขียนเรียกว่า ชีวประวัติ แต่หากผู้เขียนเขียนเรื่องราวชีวิตตนเองเรียกว่า อัตชีวประวัติ ชีวประวัติแบบจำลองลักษณ์ เป็นการเขียนแบบถ่ายภาพให้เหมือนตัวจริงของเจ้าของชีวประวัติ การเขียนจึงเน้นการ อธิบายรูปร่าง ความคิด รสนิยม และอุปนิสัยอย่างตรงไปตรงมา โดยการใช้ภาษาที่สละสลวยเป็นพิเศษ ชีวประวัติแบบสดุดี หรือชื่นชม มุ่งเน้นการเขียนชีวประวัติบุคคลเพื่อสรรเสริญ จึงเน้นด้านความสำเร็จ ชีวประวัติแบบรอบวง เป็นการเขียนโดยมุ่งให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญของชีวประวัติเพียงด้านใด ด้านหนึ่งโดยเฉพาะ
247 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค อัตชีวประวัติ เป็นการเขียนเล่าประวัติชีวิตของตนเอง อาจเล่าเรื่องชีวิตของตนโดยตรง หรือเล่าในเชิงบันทึกเหตุการณ์ แล้วแทรกประวัติตนเองลงไปด้วย 5.อนุทิน เป็นการบันทึกความจำ ประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิต เช่น บันทึกรายวัน ของ สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ 6.จดหมาย เป็นจดหมายที่เขียนโต้ตอบกันระหว่างคน 2 คน หรือฝ่ายใดเขียนขึ้นฝ่ายเดียวก็ได้ เช่น ไกล บ้าน ซึ่งเป็นพระราชหัตถเลขาที่พระบาทสมเด็จพระจุลเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเขียนถึงเจ้าฟ้าหญิงนิภานพดลฝ่ายเดียว พ่อ สอนลูก ของ นายทวี บุณยเกตุ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเขียนถึงลูกในขณะลี้ภัยการเมืองอยู่ในปีนัง ส่วนสาส์นสมเด็จเป็น จดหมายโต้ตอบระหว่างสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ และบันทึก ความรู้ เป็นจดหมายโต้ตอบระหว่างสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์กับพระยาอนุมานราชธน เป็นต้น 7.บันทึกและความทรงจำ บันทึก คือ เรื่องราวหรือเหตุการณ์ ที่บุคคลบันทึกระหว่างปฏิบัติงานสำคัญเกี่ยวข้อง กับคนหมู่มาก เช่น บันทึกของทูตไทยของนายบุญชนะ อัตถากร บันทึกไว้ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐ การ (ชื่อกระทรวงสมัยนั้น) และเหตุเกิดในกรุงรัตนโกสินทร์ ของ วิสิษฐ์ เดชกุญชร เป็นต้น ส่วนความทรงจำ คือ เรื่องราวในอดีตที่ผู้แต่งพยายามเขียนเล่าด้วยการนึกทบทวนประสบการณ์ของตนเอง เช่น ความทรงจำ ของ สมเด็จ พระยาดำรงราชานุภาพ และฟื้นความหลัง ของ เสฐียรโกเศศ (พระยาอนุมานราชธน) เป็นต้น 8.จดหมายเหตุเป็นบันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนมากเป็นเรื่องราวของทางราชการ หรือกึ่ง ราชการ เช่น จดหมายเหตุของลาลูแบร์ (เมื่อ พ.ศ.2230) จดหมายเหตุเสด็จประพาสยุโรป ร.ศ.116 ของ พระยา ศรีสหเทพ (เส็ง) และจดหมายเหตุความทรงจำ ของ กรมหลวงนรินทรเทวี เป็นต้น 9.คติธรรม เป็นงานเขียนที่มุ่งสอนจริยธรรม หรือศีลธรรม โดยเรียบเรียงเรื่องธรรมะให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น สนิมใน ใจของ พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ธรรมกับไทย : ในสถานการณ์ปัจจุบันของพระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยุตโต) ตามรอย พระ อรหันต์ ของพุทธทาสภิกขุ และเสียงศีลธรรม ของ แปลก สนธิรักษ์ เป็นต้น 10.บทสัมภาษณ์เป็นงานเขียนที่เกิดจากการสัมภาษณ์บุคคล และมีเนื้อเรื่องเป็นสาระประโยชน์ ที่มา http://www.th.wikipedia.org/wiki
248 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสื่อ จำนวน ๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒๐ เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความแสดงความคิดเห็น จำนวน ๒ ชั่วโมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ม.๑/๖ เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ ม.1/9 มีมารยาทในการเขียน ๒. สาระสำคัญ การศึกษาสื่อประเภทต่างๆ ต้องเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ และมีมารยาทในการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ - การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อต่างๆ เช่น - บทความ - หนังสืออ่านนอกเวลา - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน - เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ - ฝึกการเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ ๓.๓ ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ใช้ถ้อยคำถูกต้องชัดเจนสละสลวยและมีมารยาทในการเขียน ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
249 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค ๕. สาระการเรียนรู้ - การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อต่าง ๆ เช่น - บทความ - หนังสืออ่านนอกเวลา - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน - เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ขั้นนำ ขั้นที่ 1 สังเกต ครูสนทนาซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการรับสารจากสื่อต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จากนั้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับความสำคัญของสื่อ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 อธิบาย นักเรียนอ่านบทความแสดงความคิดเห็น เรื่อง เมื่อผมเป็นออทิสติก แล้วสรุปใจความสำคัญของเรื่อง จากนั้นให้ นักเรียนอธิบายหรือตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ขั้นที่ 3 รับฟัง นักเรียนแต่ละคนรายงานผลเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากความคิดของตน ได้ฟัง และตอบคำถามตามความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยเน้นการปรับเปลี่ยนความคิดอย่างมีเหตุผล ขั้นที่ 4 เชื่อมโยงความสัมพันธ์ นักเรียนเปรียบเทียบความคิดเห็นที่แตกต่างและคล้ายคลึงของเพื่อนๆ ที่มีต่อบทความแสดงความคิดเห็นเรื่อง เมื่อ ผมเป็นออทิสติก จัดกลุ่มความคิดเห็นที่แตกต่างและคล้ายคลึงกัน หาเหตุผลหรือกฎเกณฑ์มาเชื่อมโยงในลักษณะอุปมา อุปมัย ขั้นที่ 5 วิจารณ์ 1. นักเรียนวิเคราะห์บทความแสดงความคิดเห็น เรื่อง เมื่อผมเป็นออทิสติก แล้วให้จำแนกข้อดี ข้อด้อย ส่วน สำคัญ หรือส่วนที่ไม่สำคัญ พร้อมยกเหตุผลและหลักฐานประกอบ
250 แผนการจักการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ครูผู้สอน นางสาวอมรรัตน์ บุนนาค 2. นักเรียนพิจารณาเพื่อหาข้อมูลต่างๆ ที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน แล้วสรุปผลอย่างตรงไปตรงมาตามหลักฐานข้อมูล ขั้นสรุป นักเรียนทำใบงานที่ 5.1 เรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นำส่งครู ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ - วิเคราะห์สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่สอดคล้องกัน - ออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด - ใช้เครื่องมือวิธีประเมินที่หลากหลายเหมาะสมกับตัวชี้วัด หลักมีเหตุผล - จัดกระบวนการเรียนรู้ที่คำนึกถึงความรู้ความสามารถของผู้เรียน หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัว ที่ดี - ศึกษาเนื้อหาสาระรูปแบบกิจกรรมให้บรรลุตามตัวชี้วัด - จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน การสอนและสามารถนำไปใช้ได้ในกรณีขาดแคลนครูสอน เงื่อนไขความรู้ - อธิบายคุณค่าของจากเรื่องที่อ่านได้ เงื่อนไขคุณธรรม - มีมารยาทในการพูด ฟัง ดู มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๔ มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็นต้น) สื่อการเรียนรู้ ๑.ใบงาน ๒. หนังสือเรียน ภาษาไทย : ม.๑ ๓. แบบทดสอบหลังเรียน ๔. ใบความรู้ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการ ประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - หลักการเขียน การเขียนแสดงความ คิดเห็นจากบทความ แสดงความคิดเห็น -สังเกตจากความร่วมมือใน การทำกิจกรรมในชั้นเรียน -แบบบันทึกพฤติกรรม และความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมในชั้นเรียน -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์